Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือ_พลังงานทางเลือก

คู่มือ_พลังงานทางเลือก

Published by Phrapradaeng District Public Library, 2019-07-07 09:52:56

Description: คู่มือ_พลังงานทางเลือก

Search

Read the Text Version

คูม่ ือ พลงั งานทางเลือก แนวทางพัฒนาพลงั งานทางเลอื กเพ่ือสขุ ภาพในชมุ ชน ผเู ขยี น ดร.เดชรตั สขุ กําเนดิ นธิ ิวดี มณีวัฒน ดร.สายจติ ร จะวะนะ ดร.ธีระสตู สขุ กําเนดิ ธีวินทร จิตรสถาพ ดวงดาว ธรรมติน ปยะรตั น เซา ซี้ ยวิษฐา พิทักษว ชั ระ อสุ าห บุญบาํ รุง และ ดริ ก สาระวดี

คูม่ ือพลงั งานทางเลือก แนวทางพฒั นาพลงั งานทางเลอื กเพ่ือสขุ ภาพในชมุ ชน เลขมาตรฐานสากล : 978-616-90194-2-8 พิมพค รั้งที่ 1 กรกฎาคม 2553 คณะผเู ขยี น : ดร.เดชรัต สุขกาํ เนิด นิธิวดี มณวี ฒั น ดร.สายจติ ร จะวะนะ ดร.ธรี ะสตู สขุ กําเนดิ ธวี ินทร จิตรสถาพ ดวงดาว ธรรมติน ปย ะรัตน เซา ซ้ี ยวิษฐา พิทกั ษวัชระ อสุ าห บญุ บาํ รุง และ ดิรก สาระวดี กองบรรณาธกิ าร : ดร.เดชรัต สุขกําเนดิ นิธวิ ดี มณีวฒั นา ดร.สายจิตร จะวะนะ ธรี ะสูต สุขกาํ เนิด ธวี ินทร จิตรสถาพ ดวงดาว ธรรมตนิ ปย ะรตั น เซาซ้ี ยวิษฐา พทิ ักษวัชระ อุสาห บญุ บํารุง ดิรก สาระวดี รุงทพิ ย สุขกําเนดิ สรุ พล เหลยี่ มสูงเนนิ ชาตรี เกือ้ ศริ ิกลุ และดวงดาว ธรรมติน พสิ จู นอ กั ษร : รงุ ทพิ ย สุขกําเนิด ดวงดาว ธรรมตนิ ยวษิ ฐา พทิ ักษว ัชระ พัชรา วงศสกุล ออกแบบรปู เลม / กราฟก : นาวนิ โสภาภมู ิ จดั พมิ พโ ดย : มูลนิธนิ โยบายสุขภาวะ 87/495 หมบู า นภัสสรรตั ราธเิ บศร (ซอย 31) ถ.บางกรวย-ไทรนอย ต.บางรักใหญ อ.บางบัวทอง จ.นนทบรุ ี 11110 โทร 0-2920- 9691-2 โทรสาร 02-920 8845 พมิ พท ี่ : อษุ าการพิมพ โทร0-2251-5815 สนบั สนนุ โดย ชุดโครงการสนับสนุน จดั การความรู และประเมนิ ผล โครงการวจิ ยั และพฒั นา “พลงั งานทางเลอื กเพือ่ สุขภาพในชมุ ชน” สํานกั งานกองทนุ สนบั สนุนการเสริมสรา งสขุ ภาพ (สสส.)

คาํ นํา ยทุ ธศาสตรก์ ารสรา้ งความเขม้ แขง็ ของชมุ ชนและการสรา้ งความมนั่ คง ของฐานทรพั ยากรและสงิ่ แวดลอ้ มของประเทศไทย มคี วามสาํ คญั อยา่ งยงิ่ ในการ ขบั เคล่อื นแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 10 พ.ศ. 2550 – 2554 ในสภาวการณ์ทป่ี ระเทศไทยกาํ ลงั ตกอยใู่ นภาวะวกิ ฤตพลงั งาน มภี าระการนําเขา้ พลงั งานทเ่ี พมิ่ ขน้ึ ต่อเน่ือง และวกิ ฤตความขดั แยง้ ของสงั คมอนั เน่ืองจากโครงการ พลงั งานทเ่ี กดิ ขน้ึ เป็นระยะ สาํ นกั งานกองทนุ สนบั สนุนการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) ไดส้ นบั สนุนให้ มลู นิธนิ โยบายสขุ ภาวะ รบั ผดิ ชอบดาํ เนินการ ชุดโครงการสนบั สนุน จดั การความรู้ และประเมนิ ผลโครงการวจิ ยั และพฒั นา “พลงั งานทางเลอื กเพอ่ื สขุ ภาพในชุมชน” และหน่ึงในพนั ธกจิ ทส่ี าํ คญั คอื การจดั ทาํ คมู่ อื พลงั งานทางเลอื กเพอ่ื สขุ ภาพใน ชมุ ชน เพอ่ื ใหส้ ามารถนําความรจู้ ากคมู่ อื ดงั กล่าวไปขยายผลสรา้ งการมสี ว่ นรว่ ม ใหเ้ กดิ การระดมความคดิ เหน็ ระหวา่ งสมาชกิ ในชมุ ชน เพอ่ื ปรบั ปรงุ และพฒั นาตอ่ ยอดภมู ปิ ญั ญาใหส้ อดคลอ้ งกบั บรบิ ทเงอ่ื นไขของชุมชนต่อไป คมู่ อื พลงั งานทางเลอื กเพอ่ื สขุ ภาพในชมุ ชนฉบบั น้ี จงึ ประกอบดว้ ยเน้ือหา ทไ่ี มเ่ พยี งแต่ครอบคลุมถงึ เทคนิควชิ าการเทคโนโลยรี ปู แบบต่างๆ การวเิ คราะหถ์ งึ ความเป็นไปไดใ้ นการลงทุนโครงการ และผลกระทบทางสงิ่ แวดลอ้ มและสขุ ภาพ แต่ยงั ไดก้ ลา่ วถงึ บทบาทขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ กรณศี กึ ษาชุมชน ตน้ แบบ รวมถงึ การประเมนิ ผลโครงการอกี ดว้ ย และเพอ่ื ใหค้ มู่ อื ฉบบั น้ี สามารถใช้ งานไดส้ ะดวกยง่ิ ขน้ึ จงึ ไดม้ กี ารจดั ทาํ แบบจาํ ลองโดยโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ชว่ ย อาํ นวยความสะดวกในการคาํ นวณและวเิ คราะหส์ มดุลพลงั งาน และวเิ คราะหค์ วาม เป็นไปไดข้ องโครงการดา้ นพลงั งานทางเลอื กต่างๆ ทมี งานหวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ คมู่ อื ฉบบั น้ี จะเป็นสว่ นหน่งึ ในการพฒั นา ศกั ยภาพชุมชนและภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ไปพรอ้ มกบั การพฒั นาเทคโนโลยดี า้ น พลงั งานทางเลอื กโดยผา่ นการมสี ว่ นรว่ มระหวา่ งสมาชกิ ในชุมชน และเกดิ การ พฒั นาโครงการพลงั งานทางเลอื กอยา่ งยงั่ ยนื ต่อไป

สารบญั 2 1 11 พลงั งานชมุ ชน: ทางเลือกเพ่ือทางรอด ความเหมาะสมของเทคโนโลยี ☀ ทาํ ไมตอ้ งพฒั นาพลงั งานชมุ ชน 11 พลงั งานทางเลือก 39 ☀ สถานการณ์และปญั หาพลงั งานชุมชน 14 ☀ การจดั การดา้ นความตอ้ งการใชพ้ ลงั งาน 39 ☀ แนวทางการสาํ รวจปญั หาพลงั งานชุมชน 18 ☀ พลงั งานชวี มวล 45 ☀ ก๊าซชวี ภาพ 53 ☀ การวเิ คราะหส์ มดลุ พลงั งานในชุมชน 22 ☀ กงั หนั น้ําขนาดเลก็ ผลติ ไฟฟ้า 73 ☀ พลงั งานแสงอาทติ ย์ 81 ☀ กระบวนการวางแผนพฒั นาพลงั งานชมุ ชน 28 ☀ พลงั งานจากการออกกาํ ลงั กาย 86 ☀ ไบโอดเี ซล 89 ☀ ตวั อยา่ งการพฒั นาพลงั งานชุมชน 33 ☀ ไบโอเอทานอล 93 ในประเทศไทยและตา่ งประเทศ ☀ กงั หนั ลมผลติ ไฟฟ้า 105 3 111 4การวิเคราะหผ์ ลกระทบ 147 การวิเคราะหค์ วามเป็นไปได้ 111 ทางส่ิงแวดล้อมและสขุ ภาพ และความเส่ียงในการลงทนุ 119 129 ☀ การประเมนิ ผลกระทบทางสงิ่ แวดลอ้ มและสขุ ภาพสาํ หรบั ☀ หลกั การลงทุน 133 ☀ การวเิ คราะหค์ วามคมุ้ คา่ 140 การพฒั นาพลงั งานทางเลอื กเพอ่ื ชุมชน 147 ☀ การวเิ คราะหจ์ ุดคุม้ ทุน ☀ การวเิ คราะหผ์ ลการดาํ เนินงาน ☀ การวเิ คราะหค์ วามเสย่ี ง ☀ กระบวนการประเมนิ ผลกระทบทางสงิ่ แวดลอ้ มและ สขุ ภาพ (1) 149 ☀ กระบวนการประเมนิ ผลกระทบทางสงิ่ แวดลอ้ มและ สขุ ภาพ (2) 151 ☀ ปจั จยั ทอ่ี าจสง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ 154 ☀ ตวั อยา่ งการประเมนิ ผลกระทบทางสขุ ภาพ 156 ระดบั ชมุ ชน

สารบญั (ตอ่ ) 5 61 6 181 รปู แบบการลงทนุ และบทบาท 161 ชมุ ชนต้นแบบด้านพลงั งาน ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น ทางเลือกเพ่ือสขุ ภาพ 167 ☀ การมสี ว่ นรว่ มของชมุ ชน ☀ ชวี มวลยคุ ใหม.่ .เผา (เศษ)ไม.้ .ไดม้ ากกวา่ ถา่ น 181 170 186 ☀ การพจิ ารณาเร่อื งทนุ ในโครงการพลงั งานทางเลอื ก 171 ☀ บอ่ ก๊าซสมุ่ ไก่…ไดม้ ากกวา่ จุดไฟจากเตา 191 174 ☀ รปู แบบการลงทุนในโครงการพลงั งานทางเลอื ก 176 ☀ เมอ่ื คนเมอื งชวนพอเพยี ง 196 การเป็นเจา้ ของรายบุคคล ☀ กงั หนั ลมผลติ ไฟฟ้า... 201 การเป็นเจา้ ของรว่ มกนั 177 206 การรว่ มลงทุนจากภายนอก การเรยี นรภู้ าคผจญภยั ของชาวบอ่ นอก 178 ☀ ไบโอดเี ซลจบั ผรู้ า้ ย 212 ☀ ปจั จยั ในการเลอื กรปู แบบการลงทนุ ☀ “กงั หนั น้ําจวิ๋ ” ไฟฟ้าฟรี ฝีมอื ชาวบา้ นครี วี ง 218 ☀ การสนบั สนุนจากองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ☀ จากขห้ี มสู เู่ ตาแก๊ส...พลงั งานฟรี 222 ทบ่ี า้ นสบสาหนองฟาน จ. เชยี งใหม่ 7 235 228 ☀ เสกน้ําเสยี ยางแผน่ …ใหก้ ลายเป็นก๊าซชวี ภาพ การประเมินผลและ การติดตามโครงการ ☀ พฒั นาสาธติ การใชพ้ ลงั งานทางเลอื ก ของเลยทภ่ี หู ลวง ☀ หลกั การประเมนิ ผล 235 ☀ การประเมนิ ผลเพอ่ื เสรมิ พลงั การทาํ งาน 238 ☀ ศนู ยก์ ารเรยี นรคู้ ุณธรรมเศรษฐกจิ พอเพยี ง ☀ การสรา้ งกระบวนการเรยี นรรู้ ว่ มกนั บา้ นโนนแดง 241 จากการประเมนิ ผล 243 8 วิธีใช้แบบจาํ ลอง ☀ การพฒั นากรอบการตดิ ตามและประเมนิ ผล 247 โดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ☀ การสรา้ งองคค์ วามรจู้ ากการประเมนิ ผล ☀ Module 1: โปรแกรมวเิ คราะหส์ มดลุ พลงั งาน 250 ☀ Module 2: โปรแกรมวเิ คราะห์ 251 โครงการรายเทคโนโลยี 252 ☀ Module 3: โปรแกรมวเิ คราะห์ ความเป็นไปไดข้ องโครงการ

สารบญั ภาพ ภาพที่ 1.1 มลู คา่ การนําเขา้ พลงั งานและรอ้ ยละต่อสนิ คา้ นําเขา้ ทงั้ หมดของประเทศไทย 14 พ.ศ. 2531-2551 15 ภาพที่ 1.2 สถติ คิ า่ ใชจ้ า่ ยดา้ นพลงั งานของครวั เรอื นไทยตงั้ แตป่ ีพ.ศ. 2539 – 2551 16 23 ภาพท่ี 1.3 คา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นพลงั งานต่อปี และสดั สว่ นคา่ ใชจ้ า่ ยทงั้ หมดของครวั เรอื นไทย ปี พ.ศ. 2539 – 2551 40 42 ภาพท่ี 1.4 ตวั อยา่ งเสน้ ทางการไหลพลงั งาน และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งขอ้ มลู 43 43 ภาพที่ 2.1 แผนภาพแสดงศกั ยภาพในการประหยดั พลงั งานในภาคบา้ นเรอื นทอ่ี ยอู่ าศยั ของประเทศไทย 44 48 ภาพที่ 2.2 ระบบการแลกเปลย่ี นพลงั งานกบั พน้ื พภิ พ 48 ภาพท่ี 2.3 ระบบการแลกเปลย่ี นพลงั งานกบั พน้ื พภิ พ 49 ภาพที่ 2.4 สวนเกษตรดาดฟ้า แนวทางใหมเ่ พอ่ื ลดโลกรอ้ น 50 54 ภาพที่ 2.5 แผนภาพแสดงการเปรยี บเทยี บสดั สว่ นการเดนิ ทางในเมอื งระหวา่ ง 59 กรงุ เทพมหานคร และมหานครอน่ื ๆ 59 60 ภาพที่ 2.6 เตาเผาแบบไฟโรไลซสี (Pyrolysis Incenerator) ภาพที่ 2.7 เตาเผาแบบ Gasification ภาพที่ 2.8 แสดงผงั การเปลย่ี นชวี มวลใหเ้ ป็นพลงั งานโดยวธิ เี ผาไหมแ้ บบ Pyrolysis และ Gasification ภาพท่ี 2.9 เตาแก๊สพลงั งานแกลบ ภาพท่ี 2.10 ขนั้ ตอนการยอ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ใ์ นสภาวะไรอ้ ากาศ ภาพท่ี 2.11 ระบบบอ่ หมกั ก๊าซชวี ภาพแบบยอดโดม ภาพที่ 2.12 ระบบบอ่ หมกั ก๊าซชวี ภาพแบบ Cover Lagoon ภาพที่ 2.13 บอ่ หมกั ก๊าซชวี ภาพแบบถงั ลอย

สารบญั ภาพ (ตอ่ ) ภาพที่ 2.14 ระบบบอ่ หมกั ก๊าซชวี ภาพแบบยเู อเอสบี ของบรษิ ทั กาญจนา เฟรช พอรค์ 61 (โรงงานแปรรปู เน้ือสตั ว)์ 61 ภาพท่ี 2.15 ระบบบอ่ หมกั ก๊าซชวี ภาพแบบยเู อเอสบขี องฟารม์ ต.ประสพผล (มสี กุ ร 62 6,516 ตวั และมนี ้ําเสยี ประมาณ 200 ลบ.ม./วนั ) 68 ภาพท่ี 2.16 ระบบบ่อหมกั ก๊าซชวี ภาพแบบระบบถงั ปฏกิ รณ์แบบ CSTR 68 ภาพท่ี 2.17 สภาพบอ่ บาํ บดั น้ําเสยี แบบเปิดของฟารม์ ก่อนดาํ เนินการกอ่ สรา้ งบอ่ หมกั ก๊าซชวี ภาพ 69 70 ภาพที่ 2.18 บ่อหมกั ก๊าซชวี ภาพขนาด 100 ลกู บาศกเ์ มตร และการนําก๊าซชวี ภาพใชใ้ น 71 การหงุ ตม้ 71 ภาพท่ี 2.19 การกาํ จดั ขยะเปียกดว้ ยระบบบอ่ หมกั ก๊าซชวี ภาพและการนําก๊าซชวี ภาพมา 73 ใชใ้ นการหงุ ตม้ 75 ภาพท่ี 2.20 ถงั หมกั ก๊าซชวี ภาพ 1 ลกู บาศกเ์ มตร 76 77 ภาพที่ 2.21 บ่อหมกั ก๊าซชวี ภาพ ขนาด 16 ลกู บาศกเ์ มตร 84 84 ภาพที่ 2.22 ถงั หมกั ก๊าซชวี ภาพตน้ แบบของกรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนุรกั ษ์ 87 พลงั งาน 87 87 ภาพท่ี 2.23 สว่ นประกอบของระบบพลงั น้ําผลติ ไฟฟ้าขนาดเลก็ มาก 88 ภาพท่ี 2.24 ประเภทของกงั หนั น้ํา ภาพที่ 2.25 ชว่ งอตั ราการไหล และระดบั หวั น้ําทเ่ี หมาะสมกบั กงั หนั น้ําผลติ ไฟฟ้า ขนาดเลก็ ภาพท่ี 2.26 เครอ่ื งกาํ เนิดไฟฟ้าซงิ โครนสั และเครอ่ื งกาํ เนิดไฟฟ้าเหน่ียวนํา ภาพที่ 2.27 แผน่ รบั แสงแบบแผน่ เรยี บ (Flat Plat Solar Collector) ภาพที่ 2.28 แผน่ รบั แสงแบบหลอดแกว้ สญุ ญากาศ ภาพท่ี 2.29 จกั รยานสบู น้ํา ภาพท่ี 2.30 จกั รยานซกั ผา้ ภาพที่ 2.31 ของเล่นเครอ่ื งสบู น้ํา ภาพที่ 2.32 จกั รยานผลติ กระแสไฟฟ้าท่ี อ.บอ่ เกลอื จ.น่าน

สารบญั ภาพ (ตอ่ ) ภาพท่ี 2.33 ชงิ ชา้ ผลติ กระแสไฟฟ้ามไี ฟสอ่ งสวา่ งไดด้ ว้ ยตนเอง 88 ภาพท่ี 2.34 ภาพการทาํ งานของDance floor Power 88 ภาพที่ 2.35 กระบวนการผลติ น้ํามนั ไบโอดเี ซล 89 ภาพท่ี 2.36 ปรมิ าณการผลติ น้ํามนั ไบโอดเี ซลทวั่ โลกตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2534 ถงึ พ.ศ. 2543 90 ภาพที่ 2.37 แผนยทุ ธศาสตรน์ ้ํามนั ไบโอดเี ซลของประเทศอนิ โดนีเซยี 92 ภาพที่ 2.38 กระบวนการผลติ ไบโอเอทานอลจากมนั สาํ ปะหลงั และกากน้ําตาล/ออ้ ย 97 ภาพที่ 2.39 สว่ นแบง่ การตลาดของเอทานอลและน้ํามนั เบนซนิ ในประเทศบราซลิ 98 ภาพที่ 2.40 การเปรยี บเทยี บความคมุ้ คา่ ทางเศรษฐศาสตรใ์ นการผลติ น้ําตาลและเอทานอล 99 100 ภาพที่ 2.41 ปรมิ าณการผลติ เอทานอลในประเทศสหรฐั อเมรกิ า 100 ภาพท่ี 2.42 ตน้ ทนุ การผลติ เอทานอลตามชนิดของวตั ถุดบิ ภาพที่ 2.43 ศกั ยภาพการผลติ ไบโอเอทานอลจากกากน้ําตาล(ออ้ ย)และมนั สาํ ปะหลงั ของ 102 102 ประเทศไทย 103 ภาพที่ 2.44 ผลผลติ ต่อไรเ่ ฉลย่ี สาํ หรบั ออ้ ยของประเทศไทยและประเทศผผู้ ลติ ออ้ ยทส่ี าํ คญั 114 ภาพที่ 2.45 ยทุ ธศาสตรเ์ อทานอลของประเทศไทย ประกาศในปี พ.ศ. 2548 115 ภาพที่ 3.1 หลกั การตดั สนิ ใจลงทุนโดยยดึ แนวทางความงอกเงย การกระจายและความ 118 148 มนั่ คงปลอดภยั 150 ภาพที่ 3.2 หลกั การตดั สนิ ใจลงทนุ ในโครงการพลงั งานทางเลอื กเพอ่ื ชุมชนอยา่ งยงั่ ยนื ภาพที่ 3.3 ขนั้ ตอนการวเิ คราะหค์ วามเป็นไปไดแ้ ละความเสย่ี ง ภาพท่ี 4.1 การประเมนิ ผลกระทบกบั พลงั งานทางเลอื กชุมชน ภาพที่ 4.2 กระบวนการประเมนิ ผลกระทบ

สารบญั ภาพ (ตอ่ ) ภาพท่ี 4.3 ความมนั่ คงในมติ ติ ่างๆ จากการพฒั นาพลงั งานทางเลอื กเพอ่ื ชุมชน 152 157 ภาพท่ี 4.4 เตาหน่ึงไดส้ ข่ี องอาจารยล์ อื พงษ์ 158 ภาพที่ 4.5 ระบบก๊าซชวี ภาพจากน้ําเสยี ยางแผน่ ของอาจารยว์ กิ านดา 159 ภาพที่ 4.6 ระบบก๊าซชวี ภาพจากขยะชุมชนของ อบต. คลองรี ภาพที่ 5.1 การแบ่งประเภทของทุนในโครงการพลงั งานทางเลอื กเพอ่ื สขุ ภาพสาํ หรบั 167 ชุมชน 170 ภาพท่ี 5.2 รปู แบบการลงทุนทเ่ี ป็นไปไดใ้ นโครงการพลงั งานทางเลอื กเพอ่ื สขุ ภาพใน 171 ชุมชน ภาพท่ี 5.3 การรว่ มลงทุนระหวา่ งชาวบา้ นและโครงการวจิ ยั โรงอบยางพาราพลงั 173 174 แสงอาทติ ย์ จ.เลย ภาพท่ี 5.4 กองทุนหมนุ เวยี นเพอ่ื การพฒั นาเตาอบถา่ น ทบ่ี า้ นบางวนั ทองใน จ. 175 235 สมทุ รสงคราม 237 ภาพที่ 5.5 สหกรณ์ผลติ ไฟฟ้าจากพลงั น้ําขนาดเลก็ บา้ นแมก่ าํ ปอง จ.เชยี งใหม่ 237 ภาพที่ 5.6 ศนู ยก์ สกิ รรมธรรมชาตภิ หู ลวง จ.เลย เป็นศนู ยก์ ารเรยี นรเู้ ศรษฐกจิ พอเพยี ง 242 243 และพลงั งานยงั่ ยนื ภาพที่ 7.1 หลกั การสาํ คญั ของการประเมนิ ผล 244 ภาพท่ี 7.2 ความพยายามสรา้ งความสมดลุ ของการประเมนิ ภายใน ภาพท่ี 7.3 ความสาํ เรจ็ ในการสรา้ งความสมดลุ ของการประเมนิ ภายใน ภาพท่ี 7.4 ผปู้ ระเมนิ ภายในตอ้ งมคี วามอดทนต่อภารกจิ ทย่ี ง่ิ ใหญ่ ภาพที่ 7.5 องคป์ ระกอบของการทาํ Logical Framework ภาพที่ 7.6 การทาํ Logical Framework ทม่ี กี ารกาํ หนดปจั จยั เงอ่ื นไขความสาํ เรจ็ ลงไปใน ทกุ ขนั้ ตอนของการดาํ เนินโครงการ

สารบญั ตาราง ตารางที่ 1.1 ตวั อยา่ งตารางบญั ชพี ลงั งานครวั เรอื นประจาํ ปี ของชุมชนทเ่ี ขา้ รว่ ม 19 โครงการวางแผนพลงั งานกบั กระทรวงพลงั งาน ปี 2550 21 ตารางท่ี 1.2 ขอ้ มลู การใชแ้ ละมลู คา่ พลงั งานประเภทต่างๆ ของบา้ นทุง่ บวั ปี 2547 24 ตารางที่ 1.3 ตวั อยา่ งตารางสมดุลพลงั งาน 25 ตารางที่ 1.4 ตวั อยา่ งของสมดลุ พลงั งาน 47 ตารางที่ 2.1 จาํ นวนโรงไฟฟ้าจากชวี มวลและปรมิ าณกระแสไฟฟ้าทผ่ี ลติ ได้ 51 ตารางที่ 2.2 ผลการทดสอบประสทิ ธภิ าพการตม้ น้ําของเตารนุ่ สองหอ้ งเผาไหม้ 55 ตารางที่ 2.3 เปรยี บเทยี บก๊าซชวี ภาพ 1 ลกู บาศกเ์ มตร เทยี บเทา่ : ทดแทน 75 ตารางท่ี 2.4 ระยะเฮดทเ่ี หมาะกบั กงั หนั น้ําขนาดเลก็ มากประเภทต่างๆ 78 ตารางที่ 2.5 ผลการวเิ คราะหท์ างดา้ นการเงนิ ตารางท่ี 2.6 ตวั อยา่ งการตดิ ตงั้ ระบบกงั หนั น้ําผลติ ไฟฟ้าขนาดเลก็ ในประเทศ 78 85 (<10 kW) 90 ตารางท่ี 2.7 การผลติ ไฟฟ้าจากเซลลแ์ สงอาทติ ยใ์ ชใ้ นกจิ กรรมต่างๆ ของประเทศไทย 93 ตารางท่ี 2.8 ปรมิ าณการผลติ น้ํามนั ไบโอดเี ซล B100 ของสหภาพยโุ รป ตารางที่ 2.9 โรงงานผลติ น้ํามนั ไบโอดเี ซล B100 ในประเทศไทย ณ มถิ ุนายน 2550 104 ตารางที่ 2.10 กาํ ลงั การผลติ เอทานอลของโรงงานทเ่ี ปิดดาํ เนินการแลว้ และทค่ี าดวา่ จะ 240 เปิดดาํ เนินการในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2550 (ขอ้ มลู ณ สงิ หาคม 245 2550) ตารางท่ี 7.1 การเปรยี บเทยี บการประเมนิ ผลแบบเดมิ กบั การประเมนิ ผลเพอ่ื เสรมิ พลงั ตารางท่ี 7.2 ตวั อยา่ ง การวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกโครงการ พลงั งานทางเลอื กเพอ่ื ชมุ ชน

บทที่ 1 พลงั งานชุมชน : ทางเลือกเพ่ือทางรอด 11 บทที่ 1 พลงั งานชมุ ชน : ทางเลือกเพื่อทางรอด กลั ยา นาคลงั กา ทาํ ไมต้องพฒั นาพลงั งานชมุ ชน วิกฤติพลงั งาน ท่ามกลางกระแสการพฒั นาในปจั จุบนั ท่ไี ด้นํา พลังงานจากเช้ือเพลิงซากดึกดําบรรพ์ สัง ค ม ไ ป สู่ ค ว า ม เ จ ริ ญ ก้ า ว ห น้ า ท า ง เ ท ค โ น โ ล ยี อาทิ ถ่านหนิ น้ํามนั ก๊าซธรรมชาติ ท่ีมนุษย์ มากมาย ทงั้ ยงั ใหก้ ่อเกดิ ความสะดวกสบายในการ นํ า ม า ผ ลิต เ ป็ น พ ลัง ง า น ไ ด้ถู ก นํ า ม า ใ ช้อ ย่า ง ดํารงชวี ติ มากขน้ึ จนหลายคนมไิ ดน้ ึกถงึ หรอื ลมื ไป มหาศาล และมีปริมาณลดลงซ่ึงอาจเข้าขัน้ แล้วว่าทรพั ยากรท่ีนํามาบรโิ ภคนัน้ มีจํากดั ซ่ึงเรา วิก ฤ ติข า ด แ ค ล น ไ ด้ใ น อีก ไ ม่ก่ีสิบ ปี ข้า ง ห น้ า อาจจะรูต้ วั อกี ครงั้ กต็ ่อเม่อื เงนิ ในกระเป๋ าหมดไปกบั สําหรบั ประเทศไทยเองความขาดแคลนของ การซอ้ื ความสะดวกสบายเหล่านนั้ มากกวา่ เดมิ เรอ่ื ง ทรัพยากรเหล่าน้ี มีสัญญาณเตือนมากข้ึน น้ีมใิ ช่เป็นการเตือนใจ แต่เป็นสิง่ ท่ีเกิดข้นึ แล้วจรงิ เร่ือยๆ จนส่งผลกระทบให้เกิดเป็ นวิกฤติ โดยเฉพาะเรอ่ื งพลงั งาน ต่อเน่ืองดา้ นต่างๆ 3 ดา้ น ไดแ้ ก่ ดงั จะเหน็ ไดจ้ าก ภาระค่าใชจ้ ่ายดา้ นพลงั งานท่ี วิกฤติด้านเศรษฐกิจ สูงข้ึนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างย่ิงค่าน้ํามัน เช้ือเพลิง รวมไปถึงค่าแก๊สหุงต้ม หรือค่าไฟฟ้ า จากการเตบิ โตทางดา้ นเศรษฐกจิ และ ภาระต่างๆ เหล่าน้ีไม่เพยี งกระทบต่อชวี ติ ประชาชน การเพม่ิ ขน้ึ ของจาํ นวนประชากรสง่ ผลตอ่ การ เทา่ นนั้ แต่น่ีคอื วกิ ฤตริ ะดบั ประเทศเลยกว็ า่ ได้ บรโิ ภคพลงั งานทเ่ี พม่ิ ขน้ึ ในปี 2551 ประเทศ ไทยตอ้ งพง่ึ พาการนําเขา้ พลงั งานจาก ทําไมต้องพฒั นาพลงั งานชุมชน ก่อนจะทราบ ต่างประเทศถงึ รอ้ ยละ 58 ของการใชพ้ ลงั งาน คําตอบนัน้ ควรท่ีจะเข้าใจเร่อื งราวของพลงั งานใน ทงั้ หมด คดิ เป็นมลู คา่ ทงั้ สน้ิ 1.134 ลา้ นลา้ น ฐานะท่ีนําไปสู่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สงั คม และ บาท1 ในขณะเดยี วกนั ประเทศไทยมมี ลู คา่ การ สงิ่ แวดลอ้ ม หรอื ทท่ี ราบกนั วา่ เกดิ วกิ ฤตดิ า้ นพลงั งาน สง่ ออกสนิ คา้ เกษตรหลกั ทส่ี าํ คญั คอื ขา้ วคดิ เป็น ตลอดจนนโยบายพลงั งานของประเทศไทยเสยี กอ่ น มลู คา่ 0.213 ลา้ นลา้ นบาท2 เทา่ กบั เราซอ้ื พลงั งานมาบรโิ ภคไดเ้ พยี ง 2 เดอื นเทา่ นนั้ และ เมอ่ื คา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นพลงั งานสงู ขน้ึ ยอ่ มสง่ ผล กระทบโดยตรงต่อตน้ ทนุ ของสนิ คา้ ทจ่ี ะเพมิ่ ขน้ึ ทาํ ใหร้ าคาสงู ขน้ึ ตามมา 1กรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนุรกั ษพ์ ลงั งาน 2551.รายงานพลงั งานของประเทศไทย 2สาํ นกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร 2552. มลู คา่ สนิ คา้ เกษตรสง่ ออกทส่ี าํ คญั พ.ศ. 2551 – 2552

12 บทท่ี 1 พลังงานชุมชน : ทางเลอื กเพื่อทางรอด วิกฤติด้านสิ่งแวดล้อม การวางแผนพลงั งานยงั รวมอย่ทู ่ี การผลติ ไฟฟ้า เป็นภาคพลงั งานทป่ี ลอ่ ยก๊าซ ศนู ยก์ ลางและผกู ขาด เรอื นกระจกมากทส่ี ดุ โดยเฉพาะก๊าซ คารบ์ อนไดออกไซด์ (CO2) อนั เป็นตน้ เหตุของภาวะ การวางแผนพลงั งานท่ผี ่านมาของประเทศ โลกรอ้ น ในปี 2551 ปล่อยถงึ 83,370 พนั ตนั จาก ไทย ยงั เน้นการกําหนดนโยบายและวธิ ปี ฏบิ ตั จิ าก ทงั้ หมด 198,146 พนั ตนั นอกจาก CO2 แลว้ ยงั บนสลู่ ่าง และมรี ปู แบบการตดั สนิ ใจจากสว่ นกลาง ปลอ่ ยมลพษิ อน่ื ๆ จนเกดิ เป็นผลกระทบทางลบต่อ ทต่ี อ้ งหาพลงั งานมาใหเ้ พยี งพอกบั ความต้องการ สขุ ภาพของประชาชน ทงั้ ต่อสขุ ภาพกาย สขุ ภาพจติ ทเ่ี พม่ิ ขน้ึ ของประชาชน ทําใหต้ ้องแสวงหาแหล่ง ซง่ึ นํามาสวู่ กิ ฤตใิ นดา้ นทส่ี าม คอื วกิ ฤตดิ า้ นสงั คม พลงั งานทงั้ ภายในและภายนอกประเทศมากข้นึ ก่อให้เกิดภาระทัง้ ทางเศรษฐกิจ สังคม และ วิกฤติด้านสงั คม สงิ่ แวดลอ้ ม เพม่ิ ขน้ึ ซ้ําหน่วยการผลติ พลงั งานใน ประเทศไทยยงั เป็นลกั ษณะการผกู ขาดจากผผู้ ลติ การแสวงหาแหล่งพลงั งานดว้ ยการก่อสรา้ ง น้อยราย ฝา่ ยประชาชนเองจงึ ไมม่ สี ่วนร่วมในการ โครงการพลงั งานขนาดใหญ่ ส่งผลต่อการแย่งชิง วางแผนและรบั รขู้ อ้ มลู การผลติ และใชพ้ ลงั งาน ทาํ ทรพั ยากร ดนิ น้ํา ป่า การอพยพยา้ ยถน่ิ ของผคู้ นท่ี ใหไ้ มเ่ ขา้ ใจสถานการณ์ดา้ นพลงั งาน ดงั นนั้ การจดั ต้องเปล่ยี นแปลงสภาพแวดล้อม ทอ่ี ยู่อาศยั อาชพี การพลงั งานระดบั ทอ้ งถนิ่ น่าจะเป็นทางเลอื กหน่ึง ตลอดจนวถิ ที างวฒั นธรรม ทําใหห้ ลายครงั้ นําไปสู่ ทท่ี ําใหป้ ระชาชนไดเ้ ขา้ มามสี ่วนร่วมพจิ ารณาว่า ความขดั แยง้ ต่อประชาชนในพน้ื ท่ี จะนําทรพั ยากรและภูมิปญั ญาท่ีมีอยู่ในท้องถ่ิน มาผสมผสานกบั เทคโนโลยี เพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชน์ นอกจากเร่อื งวกิ ฤตพิ ลงั งานแล้ว นโยบาย สูงสุด มีประสิทธิภาพ และกระทบต่อสภาวะ ด้านพลังงานเป็นเร่ืองสําคัญ ท่ีจะสนับสนุนให้ แวดล้อมหรือวิถีการดําเนินชีวิตให้น้อยท่ีสุดได้ ประชาชนสามารถพง่ึ พาตนเองดา้ นพลงั งานได้ แต่ อยา่ งไรบา้ ง ปจั จบุ นั นโยบายดา้ นพลงั งานของประเทศไทย ยงั มี เง่ือนไขท่ีทําให้ประชาชนต้องผูกติดกับราคาท่ี กําหนดโดยรฐั บาล และช่วยเหลอื ตวั เองได้ลําบาก เ น่ื อ ง จ า ก ก า ร จั ด ก า ร พ ลั ง ง า น ยัง ร ว ม ศู น ย์ อ ยู่ สว่ นกลาง และเป็นเรอ่ื งของการผกู ขาด

บทท่ี 1 พลงั งานชมุ ชน : ทางเลอื กเพื่อทางรอด 13 กระบวนการเลก็ ๆ ก้วู ิกฤติ ความมัน่ คงด้านสิ่ งแวดล้อม ชุมชน สามารถแกไ้ ขปญั หามลพษิ ในชุมชนไดเ้ องเชน่ นํา (ทาํ ไมต้องพฒั นา???) น้ําเสยี หรอื ขยะอนิ ทรยี ์ มลู สตั วเ์ ช่นนํามาผลติ เป็น ก๊าซชวี ภาพ จากทก่ี ล่าวมาจะเหน็ ไดว้ ่าปญั หาพลงั งานเป็น เร่อื งท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั ทงั้ การเมอื ง เศรษฐกจิ สงั คม ความมัน่ คงด้านทรัพยากร การนํ า วฒั นธรรมและสภาพแวดล้อม ซ่งึ การแก้ไขไม่ใช่ แค่การกําหนดนโยบายจากส่วนบนเท่านัน้ แต่ ทรพั ยากรในชุมชนมาผลิตเป็นพลงั งาน ถือเป็น ส่วนทอ้ งถน่ิ กม็ โี อกาสในการแสวงหาทางเลอื กใน การใชอ้ ย่างประหยดั และคุม้ ค่า เช่น เศษวสั ดุทาง การพฒั นาพลงั งานเพ่อื การพ่งึ พาตนเอง โดยใช้ การเกษตร มาทําเป็นถ่านคุณภาพสูง หรอื ใช้กบั ชุ ม ช น เ ป็ น ศูน ย์ก ล า ง สํา ห ร ับ ก า ร เ รีย น รู้ร่ว ม กัน เตาชีวมวล หรือการผลิตไฟฟ้ าจากพลังงานน้ํา ตงั้ แต่การวางแผน ไปสู่การปฏบิ ตั ิ ซง่ึ ถอื เป็นการ ขนาดเล็ก สามารถทําให้คนตระหนักถึงการ กระจายอํานาจสู่ท้องถิ่นอีกด้วย ดังนัน้ จึงเป็น อนุรกั ษ์ป่าต้นน้ํา ถอื เป็นการรกั ษาและฟ้ืนฟูฐาน คําตอบได้ว่าทําไมต้องพัฒนาพลังงานชุมชน ทรพั ยากรได้ นอกจากน้ียงั ทําให้เกิดความมนั่ คงในชีวติ อนั จะ นําไปสสู่ งั คมทอ่ี ยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมคี วามสขุ สงบ หรอื ความมนั่ คงด้านสงั คม เม่อื ชุมชนมีส่วน สงั คมแหง่ สขุ ภาวะ ดงั น้ี ร่วมในการพฒั นาพลงั งานตงั้ แต่เรมิ่ ต้น นอกจาก ความมัน่ คงด้านพลังงาน การพัฒนา จะสร้างความเข้าใจและตระหนักเร่ืองพลังงาน พลงั งานชุมชนสามารถเสริมการผลิตไฟฟ้าของ ตลอดจนเกิดความสามัคคีในชุมชนแล้ว ยัง บางชุมชนได้ และถอื เป็นการพง่ึ พาแหล่งพลงั งาน ก่อให้เกดิ การถ่ายทอดภูมปิ ญั ญาระหว่างรุ่นสู่รุ่น จากทรพั ยากรในทอ้ งถนิ่ อกี ดว้ ย ความมนั่ คงด้านเศรษฐกิจ ภาคครวั เรอื น และภาคการเกษตรสามารถลดภาระค่าใชจ้ า่ ยหรอื ตน้ ทุนดา้ นพลงั งานลง และเป็นการสรา้ งโอกาสใน การเพม่ิ รายได้จากผลผลิตพลงั งาน ก่อเกิดการ จา้ งงานในอนาคต

14 บทท่ี 1 พลังงานชุมชน : ทางเลอื กเพื่อทางรอด สถานการณ์และปัญหาพลงั งานชมุ ชน ความวติ กเรอ่ื งวกิ ฤตพิ ลงั งานดงั ทก่ี ล่าวมาหวั ขอ้ ก่อนหน้าน้ี เป็นผลทส่ี บื เน่ืองจากสถานการณ์ดา้ น พลงั งานในปจั จุบนั ซ่งึ นํามาส่ผู ลกระทบดา้ นต่างๆ ของประเทศ และกระทบต่อชวี ติ ประชาชน ดงั นัน้ จาํ เป็นอยา่ งยง่ิ ทจ่ี ะตอ้ งนําเสนอถงึ สถานการณ์และปญั หาพลงั งาน อนั จะนําไปสคู่ วามตระหนกั และการ เตรยี มรบั มอื กบั วกิ ฤติโดยการมองหาทางเลอื กไว้ สําหรบั ในประเทศไทย มสี ถานการณ์และปญั หา พลงั งานทงั้ ในภาพรวมและชุมชนดงั น้ี ภาพรวมสถานการณ์พลงั งาน สถานการณ์เชื้อเพลิงซากดึกดาํ บรรพท์ ่ีลดน้อยลง ปจั จบุ นั ทวั่ โลกกาํ ลงั ใชพ้ ลงั งานกนั อยา่ งมหาศาล และมคี วามตอ้ งการเชอ้ื เพลงิ ซากดกึ ดาํ บรรพ์ เพมิ่ ขน้ึ ไมว่ า่ จะเป็น น้ํามนั ก๊าซ ถ่านหนิ เป็นตน้ การใชอ้ ยา่ งมากมายน้ีสง่ ผลต่อแหลง่ ทรพั ยากรทต่ี อ้ ง ใชเ้ วลาหลายพนั ลา้ นปีทจ่ี ะสรา้ งมาทดแทนได้ ปจั จบุ นั แหลง่ พลงั งานเหล่าน้ีมปี รมิ าณสาํ รองลดน้อยลง เรอ่ื ยๆ คาดการณ์วา่ เราจะมนี ้ํามนั ใชก้ นั อกี ประมาณ 40 ปี ก๊าซธรรมชาติ 60 ปี และถ่านหนิ 220 ปี3 สง่ิ ต่างๆ เหลา่ น้ีจะสง่ ผลโดยตรงต่อการรบั ภาระคา่ ใชจ้ า่ ยทส่ี งู ขน้ึ ทงั้ ดา้ นพลงั งานและสง่ ผลต่อตน้ ทนุ สนิ คา้ ต่างๆ สถานการณ์การรบั ภาระด้านพลงั งาน ภาระการนําเข้าของประเทศไทย จากขอ้ มลู มลู คา่ การนําเขา้ พลงั งานและรอ้ ยละต่อสนิ คา่ นําเขา้ ทงั้ หมดของประเทศไทย ระหวา่ งปี พ.ศ. 2532 – 2551 สามารถนํามาแสดงใหเ้ หน็ ดงั ภาพ ภาพท่ี 1.1 มลู คา่ การนําเขา้ พลงั งานและรอ้ ยละตอ่ สนิ คา้ นําเขา้ ทงั้ หมดของประเทศไทย พ.ศ. 2531-2551 ทม่ี า: รายงานพลงั งานประเทศไทย 3 กระทรวงพลงั งาน 2552. 2553 อนาคตไฟฟ้าไทย ใน มมุ มองภาครฐั และองคก์ รพฒั นาเอกชน

บทท่ี 1 พลังงานชมุ ชน : ทางเลือกเพ่ือทางรอด 15 จากภาพท่ี 1.1 แสดงให้เห็นถึงมูลค่าการ เฉล่ียเดือนละ 16,205 บาท เป็นค่าใช้จ่ายด้าน นําเขา้ พลงั งาน ทเ่ี พมิ่ มากขน้ึ อย่างต่อเน่ืองมา พลงั งาน 1,638 หรอื ร้อยละ 10.1 ของค่าใช้จ่าย จนถึงปี 2551 ประเทศไทยรบั ภาระการนําเขา้ ทงั้ หมด โดยค่าพลงั งานส่วนใหญ่ ร้อยละ 70.5 คดิ เป็นมลู ค่าทงั้ สน้ิ 1,134 พนั ลา้ นบาท คดิ เป็น เป็นคา่ ใชจ้ า่ ยผลติ ภณั ฑป์ ิโตรเลยี ม (น้ํามนั เบนซนิ รอ้ ยละ 19.1 ของมลู ค่าสนิ คา้ นําเขา้ ทงั้ หมด ซง่ึ ร้อยละ 28.5, น้ํามันดีเซล ร้อยละ 21.1, แก๊ส มสี ดั ส่วนการนําเขา้ เพมิ่ อย่างต่อเน่ืองเช่นกนั โ ซ ฮ อ ล์ ร้อ ย ล ะ 1 0 .7 , น้ํ า มัน เ ค ร่ือ ง แ ล ะ โ ด ย มีก า ร นํ า เ ข้า ปิ โ ต ร เ ลีย ม ม า ก ท่ีสุด เ ท่า กับ น้ํามันหล่อล่ืนอ่ืนๆ ร้อยละ 4.3, ค่าแก๊สใช้ใน 1,093 พนั ล้านบาท รองลงมาคือ ถ่านหนิ 37 ครวั เรอื น ร้อยละ 3.7, ค่าก๊าซ NGV และ LPG พนั ลา้ นบาท และไฟฟ้า 4 พนั ลา้ นบาท ร้อยละ 1.3 และ น้ํามนั ไบโอดีเซล ร้อยละ 0.9) นอกจากน้ีเป็นค่าไฟฟ้า รอ้ ยละ 26.9 และค่าถ่าน ภาระด้านพลงั งานของประชาชน ไมแ้ ละฟืน รอ้ ยละ 2.6 ผลการสํารวจของสํานักงานสถิติแห่งชาติ เร่อื งค่าใชจ้ ่ายพลงั งานของครวั เรอื นในปี 2552 พบวา่ ครวั เรอื นทวั่ ประเทศมคี า่ ใชจ้ า่ ยทงั้ สน้ิ คา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นพลงั งาน น้ํามนั เบนซนิ 10.1 % 16,205 ไฟฟ้า 1,638 ผลิตภณั ฑ์ น้ํามนั ดเี ซล บาท 26.9% บาท ปิ โตรเลียม 70.5 % คา่ ใชจ้ า่ ยทงั้ เดอื น แก๊สโซฮอล์ น้ํามนั เครอ่ื งและ ของแตล่ ะครวั เรอื น น้ํามนั หลอ่ ลน่ื ถ่านไมแ้ ละฝืน อ่นื ๆ 2.6 % คา่ แก๊สใชใ้ นครวั เรอื น คา่ ก๊าซ NGV และ LPG (1.3%) น้ํามนั ไบโอดเี ซล(0.9%) ภาพท่ี 1.2 สถติ คิ า่ ใชจ้ า่ ยดา้ นพลงั งานของครวั เรอื นไทยตงั้ แต่ปีพ.ศ. 2539 – 2551

16 บทที่ 1 พลังงานชมุ ชน : ทางเลอื กเพ่ือทางรอด ภาพท่ี 1.3 คา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นพลงั งานต่อปี และสดั สว่ นคา่ ใชจ้ า่ ยทงั้ หมดของครวั เรอื นไทย ปีพ.ศ. 2539 – 2551 ทม่ี า : สาํ นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ จากสถติ ขิ องคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นพลงั งานของครวั เรอื นไทยตงั้ แต่ปีพ.ศ. 2539 – 2551 จะเหน็ ไดว้ า่ มี แนวโน้มเพม่ิ มากขน้ึ เรอ่ื ยๆ นอกจากน้ีสดั สว่ นของคา่ พลงั งานต่อคา่ ใชจ้ า่ ยทงั้ หมดยงั เพม่ิ ขน้ึ ถงึ รอ้ ยละ 11.2 ในปี 2551 จากขอ้ มลู ดงั กล่าวจะเหน็ ไดว้ า่ หากประชาชนยงั รบั ภาระคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นพลงั งานทเ่ี พมิ่ ขน้ึ เชน่ น้ี และยงั ขาดความตระหนกั ในการใชพ้ ลงั งานอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ยอ่ มสง่ ผลต่อการดาํ รงชวี ติ อยา่ งหลกี เลย่ี ง

บทท่ี 1 พลงั งานชุมชน : ทางเลือกเพ่ือทางรอด 17 ปัญหาพลงั งานชมุ ชน สว่ นทรพั ยากรในชุมชนทม่ี อี ยยู่ งั มกี ารนํามาใช้ ไมเ่ ตม็ ศกั ยภาพ บางครงั้ ถูกละเลยและไมไ่ ด้ จากสถานการณ์ดา้ นพลงั งานในภาพรวมทงั้ ใน นํามาใชป้ ระโยชน์ ทงั้ ๆ ทบ่ี างชมุ ชนมี ระดบั ประเทศและครวั เรอื น แสดงใหเ้ หน็ วา่ พลงั งาน ทรพั ยากรทส่ี ามารถนํามาผลติ เป็นพลงั งานได้ เป็นเรอ่ื งทเ่ี กย่ี วขอ้ งใกลช้ ดิ กบั วถิ ชี วี ติ ของประชาชน น่ีถอื เป็นอกี หน่ึงปญั หา คอื ขาดการจดั การ มาก ดงั นนั้ หากมกี ารเปลย่ี นแปลงดา้ นพลงั งาน เชน่ ทรพั ยากรภายใน เชน่ บางแหง่ มลี าํ ธารไหล ปรมิ าณ ราคา หรอื นโยบาย ยอ่ มสง่ ผลกระทบกลบั มา ผา่ นซง่ึ สามารถนํามาปนั่ กงั หนั น้ําขนาดเลก็ ทป่ี ระชาชนทงั้ สน้ิ จนก่อเกดิ เป็นปญั หาต่างๆ ขน้ึ มา ผลติ ไฟฟ้าได้ บางแหง่ มมี ลู สตั วเ์ หลอื มาก สง่ ได้ ในหวั ขอ้ น้จี ะขอกล่าวถงึ ปญั หาพลงั งานทวั่ ไปท่ี กลน่ิ เหมน็ กส็ ามารถนํามาหมกั เพอ่ื ผลติ เป็น ชมุ ชนเผชญิ อยู่ ไมว่ า่ จะเป็นปญั หาทางเศรษฐกจิ ก๊าซชวี ภาพ หรอื ผลติ เป็นไฟฟ้าได้ เป็นตน้ ปญั หาสงิ่ แวดลอ้ มและสขุ ภาพ ปญั หาดา้ นทรพั ยากร และปญั หาทางสงั คม ด้านสิ่งแวดล้อมและสขุ ภาพ ด้านเศรษฐกิจ ปญั หาดา้ นสงิ่ แวดลอ้ มและสขุ ภาพใน ชมุ ชน บางครงั้ สามารถเชอ่ื มโยงกบั การ ความสะดวกสบายเป็นสง่ิ ทม่ี นุษยต์ อ้ งการ จดั การดา้ นพลงั งานได้ บางชุมชนทท่ี าํ การ เน่ืองจากอยากละทง้ิ ความยงุ่ ยากในชวี ติ ไมแ่ ปลก เพาะเหด็ ตอ้ งมกี ารตม้ น้ํา เพอ่ื นําไอน้ําเขา้ ไป หากมนุษยม์ ที รพั ยากรต่างๆ อยา่ งเหลอื เฟือ ไม่ อบฆา่ เชอ้ื ในโรงเรอื นเพาะเหด็ เกษตรกรบาง จาํ เป็นตอ้ งพง่ึ พาใคร แต่ในความเป็นจรงิ ความสบาย รายใชย้ างรถยนตเ์ กา่ มาเผาตม้ น้ํา สรา้ งกลน่ิ เหล่าน้ีกลบั ทาํ ใหม้ นุษยม์ คี วามสามารถในการพง่ึ พา เหมน็ รบกวนเพอ่ื นบา้ น และเป็นอนั ตรายต่อ ตนเองลดลง เรอ่ื งพลงั งานกเ็ ชน่ เดยี วกนั ไมว่ า่ จะเป็น สขุ ภาพได้ การพง่ึ พาในรปู ของการใชไ้ ฟฟ้า น้ํามนั เชอ้ื เพลงิ แก๊ส หงุ ตม้ ซง่ึ เมอ่ื ราคาคา่ พลงั งานเหลา่ น้ีเพม่ิ สงู ขน้ึ ปัญหาทางสงั คม นอกจากเราจะตอ้ งจา่ ยมากขน้ึ แลว้ คา่ ราคาสนิ คา้ ต่างๆ กท็ ยอยเพมิ่ สงู ขน้ึ อกี ดว้ ย นบั วา่ เป็นการตอก การแสวงหาแหล่งพลงั งานดว้ ยการ ยา้ํ ความขาดแคลน (ยากจน) ของประชาชนยงิ่ ขน้ึ ก่อสรา้ งโครงการขนาดใหญ่ ไดส้ รา้ งความ ขดั แยง้ ระหวา่ งรฐั บาล หน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ด้านทรพั ยากร กบั การผลติ พลงั งาน ภาคธุรกจิ กบั ประชาชน สง่ ผลต่อการดาํ รงอยขู่ องวถิ ชี วี ติ วฒั นธรรม ปญั หาทรพั ยากรจะเหน็ ไดจ้ ากการทต่ี อ้ งพง่ึ พา รากฐานของสงั คมซง่ึ นบั วนั จะแผข่ ยายความ แต่ทรพั ยากรภายนอกชุมชน เชน่ เชอ้ื เพลงิ หรอื รนุ แรงเพม่ิ ขน้ึ พลงั งานทเ่ี ราใชร้ ปู แบบต่างๆ ไมว่ า่ จะเป็นไฟฟ้า น้ํามนั หรอื แก๊ส ซง่ึ มอี ยจู่ าํ กดั และลดปรมิ าณลง ทาํ ใหเ้ ราสญู เสยี เงนิ ออกนอกชุมชนมากขน้ึ เรอ่ื ยๆ

18 บทที่ 1 พลังงานชุมชน : ทางเลอื กเพื่อทางรอด โดยสรปุ จากสถานการณ์และปญั หาพลงั งานชมุ ชนดงั ทไ่ี ดก้ ลา่ วมา จะเหน็ ไดว้ า่ ประเทศไทยยงั ตอ้ ง พง่ึ พาการนําเขา้ พลงั งานคอ่ นขา้ งมาก นอกจากน้ีภาคประชาชนเองยงั ตอ้ งรบั ภาระคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ น พลงั งานทส่ี งู ขน้ึ และตอ้ งเผชญิ กบั ปญั หาทส่ี บื เน่ืองมากจากพลงั งานอกี หลากหลายรปู แบบ ประสบการณ์เชน่ น้ี เป็นผลใหค้ นไทยต่นื ตวั ในการจดั การพลงั งานของตนเองมากขน้ึ หน่วยงาน ภาครฐั โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ กระทรวงพลงั งานไดม้ บี ทบาทในการสนบั สนุนใหช้ ุมชนต่างๆ ทวั่ ประเทศ เรยี นรแู้ ละรว่ มกระบวนการวางแผนพลงั งานของชมุ ชน จนหลายชมุ ชนสามารถประสบความสาํ เรจ็ และ พง่ึ พาตนเองดา้ นพลงั งานได้ อยา่ งไรกต็ าม กอ่ นทจ่ี ะไปสกู่ ารวางแผนพลงั งานในชมุ ชน ควรมกี าร สาํ รวจปญั หาพลงั งานชุมชนเสยี กอ่ น เพอ่ื จะไดเ้ ป็นขอ้ มลู พน้ื ฐานในการรว่ มหาทางเลอื กในการจดั การพลงั งานดงั หวั ขอ้ ถดั ไป แนวทางการสาํ รวจปัญหาพลงั งานชมุ ชน จากสถานการณ์และปญั หาพลงั งานใน สาํ รวจตวั เองกอ่ น สง่ิ แรกทค่ี วรสาํ รวจคอื การใช้ ชมุ ชนดงั ทไ่ี ดก้ ลา่ วมาแลว้ คงทาํ ใหพ้ อมองเหน็ พลงั งาน อาศยั จากการเกบ็ ขอ้ มลู ใหเ้ ป็นระเบยี บ ภาพรวมของสถานะการใชพ้ ลงั งานทอ่ี าจมาก งา่ ยต่อความเขา้ ใจมาชว่ ย นนั่ คอื การทาํ บญั ชี เกนิ ความจาํ เป็น จนเป็นทม่ี าของปญั หาต่างๆ พลงั งานครวั เรอื น เพอ่ื ใหท้ ราบวา่ ภายใน มากมาย ฉะนนั้ หากตอ้ งการวางแผนเรมิ่ ตน้ ใน ครวั เรอื นมกี ารบรโิ ภคพลงั งานประเภทใดบา้ ง การพง่ึ พาตนเองดา้ นพลงั งานแลว้ จาํ เป็นตอ้ ง จาํ นวนเทา่ ใด เสยี คา่ ใชจ้ า่ ยไปเทา่ ไหร่ หากทาํ เรมิ่ ตงั้ แต่การสาํ รวจปญั หาพลงั งานในชมุ ชน เสรจ็ แลว้ จะไดเ้ ป็นแนวทางของครวั เรอื นกอ่ นจะ เสยี ก่อน เพอ่ื จะไดป้ ระเมนิ สถานการณ์ ตดั สนิ ใจเลอื กใชพ้ ลงั งาน หรอื ประหยดั พลงั งาน พลงั งานใหป้ ระชาชนรบั ทราบ อนั จะนําไปสู่ อยา่ งไรบา้ ง ในทน่ี ้ีขอยกตวั อยา่ งตารางการจดั ทาํ ความตระหนกั และเป็นการกระตุน้ การเขา้ มามี บญั ชพี ลงั งานครวั เรอื นของกระทรวงพลงั งาน สว่ นรว่ ม อนั จะนําไปสสู่ งั คมแหง่ การพง่ึ พา ตนเองไดใ้ นทส่ี ดุ แนวทางทวั่ ไปสาํ หรบั การ สาํ รวจปญั หาพลงั งานชมุ ชน ควรทจ่ี ะเรม่ิ จาก

ตารางท่ี 1.1 ตวั อยา่ งตารางบญั ชพี ลงั งานครวั เรอื นประจาํ ปี ของชมุ ชนทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการวางแผนพลงั งานกบั กระทรวงพลงั งาน ปี 2550 บทท่ี 1 พลงั งานชุมชน : ทางเลอื กเพื่อทางรอด การใช้ การใช้ การใช้ การใช้ การใชฟ้ ืน การใช้ การใชน้ ้ํา พลงั งานไฟฟ้า น้ํามนั เบนซนิ น้ํามนั ดเี ซล แก๊สหุงตม้ ถ่านหงุ ตม้ คา่ รถ เดอื น โดยสาร ปรมิ าณ คดิ ปรมิ าณ คดิ ปรมิ าณ คดิ ปรมิ าณ คดิ ปรมิ าณ คดิ ปรมิ าณ คดิ ปรมิ าณ คดิ รวมเงนิ (บาท) (หน่วย) เป็นเงนิ (ลติ ร) เป็นเงนิ (ลติ ร) เป็นเงนิ (ก.ก.) เป็นเงนิ (ก.ก.) เป็นเงนิ (ก.ก.) เป็นเงนิ (ลบ.ม.) เป็นเงนิ คา่ พลงั งาน มกราคม (บาท) (บาท) (บาท) (บาท) (บาท) (บาท) (บาท) กุมภาพนั ธ์ (บาท) มนี าคม เมษายน 19 พฤษภาคม มถิ ุนายน กรกฎาคม สงิ หาคม กนั ยายน ตุลาคม พฤศจกิ ายน ธนั วาคม รวม

20 บทท่ี 1 พลงั งานชุมชน : ทางเลอื กเพื่อทางรอด ตั ว อ ย่ า ง ก า ร ทํ า บัญ ชี พ ลั ง ง า น ใ น ค รัว เ รื อ น ผลสาํ รวจการใช้พลงั งานในชมุ ชน4 สามารถบ่งบอกถึงสถานะการบริโภค ประเภท เช้ือเพลิง ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานท่ีเกิดข้นึ อันจะ ชุมชนบา้ นทงุ่ บวั ต.ผกั ไหม อ.ศขี รภมู ิ นําไปสู่การกระตุ้นเตือนใหเ้ รม่ิ เหน็ ความสําคญั ของ จ.สรุ นิ ทร์ ไดร้ บั การสนบั สนุนจากมลู นิธพิ ฒั นา การวางแผนการใชพ้ ลงั งาน ดงั นนั้ วธิ กี ารเดยี วกนั น้ี อสี านและคณะทาํ งานพลงั งานยงั่ ยนื จงั หวดั จงึ สามารถนําไปใชเ้ พ่อื สํารวจปญั หาพลงั งานชุมชน สรุ นิ ทร์ ใหช้ ุมชนแหง่ น้ีหนั มาใหค้ วามสาํ คญั กบั ไดเ้ ชน่ เดยี วกนั เรอ่ื งพลงั งานใกลต้ วั โดยไดจ้ ดั เวทชี าวบา้ นเพอ่ื พดู คุยและทาํ ความเขา้ ใจเรอ่ื งพลงั งานและ แนวทางการสาํ รวจปญั หาพลงั งานชุมชน จงึ สถานการณ์พลงั งานทงั้ ในระดบั โลก ประเทศ เป็นการสาํ รวจสถานภาพพลงั งานของชุมชน โดย และจงั หวดั สรุ นิ ทร์ และจากการนําเสนอและ ทาํ การศกึ ษารวบรวมและวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง พดู คยุ น้ีเอง ทาํ ใหช้ าวบา้ นทงุ่ บวั มคี วามสนใจท่ี กบั ดา้ นพลงั งานของทอ้ งถนิ่ ไดแ้ ก่ จะรเิ รมิ่ รจู้ กั ตนเองในการบรโิ ภคและจดั การพลงั งานอยา่ งเหมาะสม ทเ่ี รม่ิ มกี ารจดั 1. การบริโภคพลังงานของส่วนต่างๆเช่น สาํ รวจขอ้ มลู การใชพ้ ลงั งานภายในชมุ ชนของ บา้ นเรอื น สถานประกอบการ สถานทร่ี าชการ เป็นตน้ ตนเองทงั้ 157 ครวั เรอื น ก่อนจะรว่ มเขา้ กระบวนการวางแผนพลงั งาน ผลจากการสาํ รวจ 2. ราคาคา่ พลงั งาน น้ี ทาํ ใหช้ าวบา้ นทงุ่ บวั เหน็ มลู คา่ พลงั งานท่ี 3. แหลง่ ผลติ พลงั งานในทอ้ งถนิ่ นนั้ ๆ สญู เสยี ไป และเกดิ ความตระหนกั มากขน้ึ จน 4. ศกั ยภาพของแหลง่ พลงั งานทดแทน เกดิ การหาแนวทางในการประหยดั และการนํา 5. ข้อมูลทวั่ ไปของท้องถ่ินนัน้ ๆ ดา้ นสงั คม เทคโนโลยพี ลงั งานมาใชก้ บั ทรพั ยากรในพน้ื ท่ี เศรษฐกจิ สงิ่ แวดลอ้ ม เพ่อื ใหร้ สู้ ภาพปจั จุบนั อนั จะ มากขน้ึ นําไปสกู่ ารวางแผนดา้ นพลงั งานในอนาคตไดว้ า่ จะมี กจิ กรรมหรอื ทางเลอื กใดไดบ้ า้ ง ทจ่ี ะเหมาะสมกบั การ นํ า ม า ใ ช้ใ ห้เ ห ม า ะ ส ม กับ บ ริบ ท ใ น พ้ืน ท่ีแ ล ะ ต า ม ทรพั ยากรทม่ี อี ยู่ 4 ทุง่ บวั ...ชุมชนแหง่ การเรยี นรพู้ ลงั งานกบั วถิ เี กษตรอนิ ทรยี .์ 2547.

บทท่ี 1 พลงั งานชมุ ชน : ทางเลือกเพื่อทางรอด 21 ตารางท่ี 1.2 ขอ้ มลู การใชแ้ ละมลู คา่ พลงั งานประเภทต่างๆ ของบา้ นทงุ่ บวั ปี 2547 พลงั งาน จาํ นวน (หน่วย) มลู ค่า (บาท) ไฟฟ้า 78,641.88 หน่วย 155,711 น้ํามนั เชอ้ื เพลงิ 73,524 ลติ ร 1,470,480 ก๊าซหงุ ตม้ 3,159.85 กก. 52,138 ฟืน 336,650 กก. 336,650 ถ่าน 66,420 กก. 265,680 รวม 2,280,659 บาท/ปี 1,678,329 บาท/ปี เงินไหลออกชมุ ชน 3,340,140 บาท/ปี รายได้เฉล่ีย จากข้อมูลในตารางท่ี 1.2 จะเห็นได้ว่า จะเห็นได้ว่า การสํารวจปญั หาพลังงาน ชุมชนบ้านทุ่งบวั มรี ายได้เฉล่ียทงั้ ส้นิ 3,340,140 ชุมชนจะทาํ ใหไ้ ดข้ อ้ มลู ดา้ นพลงั งานออกมาใหเ้ หน็ บาท แต่กลับมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานสูงถึง เป็ นรูปธรรมชัดเจน ซ่ึงจะช่วยกระตุ้นความ 2,280,659 บาท จากการใชเ้ ชอ้ื เพลงิ ทห่ี ลากหลาย ต้องการประหยดั และอนุรกั ษ์พลงั งานได้ ขอ้ มูลท่ี ประเภท ตามความต้องการ ได้แก่ ไฟฟ้า น้ํามนั ได้จากการสํารวจน้ีจะเป็ นประโยชน์ต่อการ เชอ้ื เพลงิ ก๊าซหุงตม้ ฟืน และถ่าน โดยมมี ลู คา่ ของ วางแผนพฒั นาพลงั งานเพ่ือชุมชนให้ถูกทิศทาง น้ํามนั เช้ือเพลิงมากท่สี ุดถึง 1,470,480 บาท แต่ ต่อไป โดยจะมกี ารนําขอ้ มูลเหล่าน้ีไปจดั ระเบยี น เน่ืองจากเป็นชุมชนทม่ี วี ถิ แี บบเกษตร จงึ มกี ารใช้ อกี ครงั้ เพ่อื ใหง้ า่ ยต่อการเขา้ ใจและเพ่อื ใหม้ องเหน็ พลงั งานจากฟืนและถ่านคอ่ นขา้ งสงู ภาพรวมของระบบพลงั งานชุมชนหรอื ทเ่ี รยี กกนั วา่ สมดลุ พลงั งาน ดงั จะกล่าวถงึ ในหวั ขอ้ ต่อไป คดิ เป็นมูลค่า 336,650 บาท และ 265,650 บาท ตามลําดับ ทัง้ น้ีหากคิดเป็นมูลค่าการนํา พลงั งานจากภายนอกพน้ื ท่ี ทาํ ใหเ้ งนิ ไหลออกนอก ชุมชนถงึ 1,678,329 บาท ตวั เลขทป่ี รากฏน้ี ทาํ ให้ ชาวบ้านทุ่งบัวได้รับทราบและตระหนักถึงส่ิงท่ี เกิดขน้ึ จนเป็นท่มี าของความร่วมกนั หาทางออก เพอ่ื ใชพ้ ลงั งานอยา่ งยงั่ ยนื ในพน้ื ท่ี

22 บทที่ 1 พลงั งานชุมชน : ทางเลือกเพ่ือทางรอด การวิเคราะหส์ มดลุ พลงั งานในชมุ ชน 2. ประเภทของเทคโนโลยีพลงั งานที่ เมอ่ื ทราบถงึ สถานการณ์และปญั หาดา้ น ใช้งาน (Technologies) : ชนิดของเทคโนโลยี พลงั งานทห่ี ลากหลายแลว้ จาํ เป็นอยา่ งยงิ่ ทจ่ี ะตอ้ ง มกี ารนําขอ้ มลู ทไ่ี ด้ มาประมวลผลใหม้ องเหน็ ห รือ อุ ป ก ร ณ์ จ ะ เ ป็ น ตัว ก ล า ง ใ น ก า ร แ ป ร ห รือ ภาพรวมของทงั้ ระบบพลงั งานในชุมชน เพอ่ื ให้ เ ป ล่ี ย น รู ป พ ลั ง ง า น ไ ป สู่ อี ก รู ป แ บ บ ห น่ึ ง ใ ห้ สามารถพจิ ารณาทางเลอื กทเ่ี หมาะสมไดค้ รบถว้ น เหมาะสมและตรงกบั ความต้องการใชง้ าน เช่น ทกุ ประเดน็ และสามารถวเิ คราะหต์ ่อไปถงึ ประเดน็ เตารีด ซ่ึงเปล่ียนจากพลังงานไฟฟ้ ามาเป็น ผลกระทบต่างๆ ทงั้ ทางเศรษฐกจิ สงิ่ แวดลอ้ ม พลงั งานความรอ้ นทใ่ี ชร้ ดี ผา้ ใหเ้ รยี บ เป็นตน้ สงั คม เทคโนโลยี เครอ่ื งมอื หน่ึงทจ่ี ะชว่ ยในการ สรา้ งภาพรวมใหเ้ หน็ รว่ มกนั ได้ คอื สมดุลพลงั งาน 3 .ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ข อ ง เ ท ค โ น โ ล ยี สมดลุ พลงั งาน จงึ หมายถงึ เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ (Efficiencies) : ตามปกติแล้วอุปกรณ์แต่ละ ในการอธบิ ายภาพรวมของการผลติ การบรโิ ภค และการเปลย่ี นรปู ของพลงั งานในทอ้ งถน่ิ ทแ่ี สดง ชนิดจะมีค่าสมั ประสิทธิของประสิทธิภาพเชิง ถงึ การใชพ้ ลงั งานประเภทต่างๆ กบั อุปกรณ์ พลังงาน ซ่ึงจะมากจะน้ อยข้ึนอยู่กับการ เครอ่ื งใชแ้ ละกจิ กรรมอะไรบา้ ง รวมถงึ ผลกระทบท่ี ออกแบบของเทคโนโลยี,การใช้งาน และ เกดิ ขน้ึ จากการใชพ้ ลงั งานนนั้ ทางสงิ่ แวดลอ้ มและ ความกา้ วหน้าของเทคโนโลยี เศรษฐกจิ โดยอาศยั ขอ้ มลู จากสถานภาพพลงั งาน เพอ่ื นําไปสกู่ ารวเิ คราะหห์ าแนวทางเลอื ก หรอื 4. กิ จกรรมท่ีใช้งาน (End – use) : รปู แบบในการปรบั เปลย่ี นในการจดั การพลงั งานให้ ยงั่ ยนื ต่อไป ไดแ้ ก่ การประกอบอาหาร , แสงสว่าง , อุปกรณ์ ไฟฟ้ าทัว่ ไป , การเกษตร , การขนส่ง และ สาํ หรบั การวเิ คราะหส์ มดลุ พลงั งาน มี อุตสาหกรรม เป็นต้น การท่ีจะรู้ได้ว่าใช้กับ องคป์ ระกอบ 6 สว่ น ดงั น้ี กิจกรรมอะไร ปริมาณแค่ไหนนัน้ ต้องมาจาก ก า ร เ ก็บ ข้อมูล จ ริง ใ น พ้ืนท่ี ห รือ ม าจ าก 1. ใช้เชื้อเพลิงอะไรบ้าง หรือ ประเภท ค่าประมาณการท่ีสามารถยอมรบั ได้ (มแี หล่ง พลงั งานท่ีใช้ (Fuel) : ทวั่ ไปได้แก่ ไฟฟ้า น้ํามนั อา้ งองิ ) ดเี ซล เบนซนิ แกส๊ หงุ ตม้ ถ่าน ฟืน เป็นตน้ ขอ้ มลู 5. ผลกระทบจากการใช้พลงั งาน (Impact) : เหล่าน้ีได้มาจากการจัดเก็บในพ้ืนท่ีหรือขอจาก หน่วยงานต่างๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เป็นขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการคํานวณ ทแ่ี สดงขอ้ มลู เป็น 2 สว่ นยอ่ ย ไดแ้ ก่ 5.1 ผลกระทบทางเศรษฐกิจ เป็นราคา เช้อื เพลงิ ท่ใี ชท้ งั้ หมด แยกออกเป็น 2 ประเภท คอื

บทที่ 1 พลังงานชุมชน : ทางเลือกเพ่ือทางรอด 23 มูลค่าที่ออกนอกชุมชน คอื พลงั งานท่เี ราไม่ ในการคาํ นวณคา่ เหลา่ น้ีจะตอ้ งใชข้ อ้ มลู ท่ี สามารถผลิตหรือหาได้ในชุมชน เช่น ไฟฟ้ า น้ํามนั จาํ เป็นอ่นื ๆ เพม่ิ เตมิ โดยใชข้ อ้ มลู ในสว่ นท่ี 6 แก๊ส เป็นตน้ และมูลค่าท่ีหมนุ เวียนอย่ใู นชุมชน คอื 6 ค่ า อ้ า ง อิ ง (References) : จ ะ พลงั งานท่เี ราผลิตเองได้หรอื หาได้ในชุมชน เช่น ไม้ ถ่าน หรอื น้ํามนั ไบโอดเี ซล เป็นตน้ ประกอบด้วย 3 ค่า คือ อัตราการปล่อยก๊าซ คารบ์ อนไดออกไซด์ (ตนั /หน่วย) , หน่วยราคา 5.2 ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม คอื อตั ราการ ค่าเช้ือเพลิง (บาท/หน่วย) และส่วนท่ีเป็นเงิน หมุนเวยี นในชุมชน (บาท/หน่วย) โดยค่าของแต่ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สู่บรรยากาศ ละตวั จะขน้ึ อยกู่ บั แหลง่ เชอ้ื เพลงิ ชนิดนนั้ ๆ สามารถคํานวณได้จากปริมาณพลังงานท่ีใช้ เช่น น้ํามนั แก๊สหุงต้ม ก๊าซธรรมชาตแิ ละถ่านหนิ เป็นต้น จากส่วนประกอบทงั้ 6 ส่วนท่กี ล่าวมา ส่วนพวก ไม้ หรือ ชีวมวล ชีวภาพ นัน้ ถือว่ามีค่า หากนํามาจดั เรยี งในตาราง Excel จะสามารถเหน็ เทา่ กบั ศนู ยเ์ พราะ ชว่ งการมชี วี ติ ของพวกน้ีสามารถดดู ภาพรวมของเสน้ ทางการไหลของพลงั งาน และ ซบั ก๊าซคารบ์ อนไดออกไซดไ์ ด้ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งขอ้ มลู ดงั น้ี พลงั งานที่สญู เสียไป เชื้อเพลิงที่ใช้ : ไฟฟ้า ประเภทของเทคโนโลยี ระบบ การนําไปใช้งาน เชน่ ประกอบ แก๊ส ไม้ เป็นตน้ และประสิทธิภาพ สายส่ง อาหาร การเกษตร เป็นตน้ ไฟฟ้ า ผลกระทบจาก การใช้พลังงาน ค่าอ้างอิง ภาพท่ี 1.4 ตวั อยา่ งเสน้ ทางการไหลพลงั งาน และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งขอ้ มลู

24 บทท่ี 1 พลงั งานชุมชน : ทางเลือกเพ่ือทางรอด ตวั อย่างการวิเคราะหส์ มดลุ พลงั งาน ตวั เลขท่ปี รากฏในตารางสมดุลพลงั งานนัน้ จะต้องถูกเปล่ยี นใหเ้ ป็นหน่วยเดยี วกนั เสยี ก่อน เพอ่ื งา่ ยต่อการเปรยี บเทยี บ คอื เปลย่ี นเป็น ตนั เทยี บเทา่ น้ํามนั ดบิ (toe : Ton of Oil Equivalent ) ตวั อยา่ งการเปลย่ี นหน่วยและจดั เรยี งขอ้ มลู กอ่ นลงในตารางสมดุลพลงั งาน ตารางท่ี 1.3 ตวั อยา่ งตารางสมดลุ พลงั งาน ชนิด เทคโนโลย/ี กจิ กรรมท่ี ปรมิ าณทใ่ี ชง้ าน คา่ ความรอ้ น ปรมิ าณความ เชอ้ื เพลงิ อุปกรณ์/เครอ่ื มอื ท่ี ใชง้ าน (หน่วย/ปี) สทุ ธิ รอ้ นหลงั เปลย่ี น ใชง้ าน 365 กโิ ลวตั ตช์ วั่ โมง (calorific หน่วย value) toe/ toe/ปี ไฟฟ้า หมอ้ หงุ ขา้ ว หงุ ตม้ Unit 0.031 0.00008521 หลอดไฟฟ้า แสงสวา่ ง 197.10 กโิ ลวตั ตช์ วั่ โมง 0.00008521 0.017 เครอ่ื งทาํ น้ํารอ้ น น้ํารอ้ น 1,277.5 กโิ ลวตั ตช์ วั่ โมง 0.00008521 0.109 ดเี ซล รถอแี ต๋น เกษตร 400 ลติ ร 0.00086198 0.345 360 ลติ ร 0.00086198 0.310 เครอ่ื งสบู น้ํา เกษตร ไมฟ้ ืน เตาฟืน หงุ ตม้ 1825 กโิ ลกรมั 0.00037848 0.691 หมายเหตุ: ตวั อยา่ งการคํานวณเปลย่ี นหน่วยไฟฟ้า เช่นในกรณี หมอ้ หงุ ขา้ วใชพ้ ลงั งาน 365 กโิ ลวตั ต์ ชวั่ โมง/ปี โดยค่าความร้อนของไฟฟ้า 1 กิโลวตั ต์ชวั่ โมงเท่ากบั 0.00008521 toe/กิโลวตั ต์ชวั่ โมง ดงั นนั้ หมอ้ หงุ ขา้ วมกี ารใชพ้ ลงั งานคดิ เป็นคา่ ความรอ้ นเทา่ กบั 365 กโิ ลวตั ตช์ วั่ โมง/ปี x 0.00008521 toe/กโิ ลวตั ตช์ วั่ โมง = 0.031 toe/ปี

บทท่ี 1 พลงั งานชุมชน : ทางเลือกเพ่ือทางรอด 25 ตารางท่ี 1.4 ตวั อยา่ งของสมดลุ พลงั งาน จากตารางของสมดุลพลังงานสามารถใช้ - แยกตามประเภทเชื้อเพลิง พบว่ามี รว่ มกบั การวางแผนพลงั งาน ได้อย่างไร การใชไ้ มม้ ากท่สี ุด 0.691 toe/ปี (C14) หรอื คดิ เป็นรอ้ ยละ 46 รองลงมาคอื ดเี ซล 0.655 toe/ปี ดงั นนั้ เมอ่ื ตอ้ งการวเิ คราะหส์ มดุลพลงั งาน (B14) คิดเป็นร้อยละ 43 และไฟฟ้ า 0.174 จาํ เป็นตอ้ งทราบขอ้ มลู ทงั้ 4 ดา้ นน้ีแลว้ นํามารวม toe/ปี ( A2 ) รอ้ ยละ 11 ไวด้ า้ นน้ีแลว้ นํามารวมไวไ้ ดใ้ นตารางเดยี วกนั เพอ่ื ชว่ ยใหภ้ าพรวมของการใชพ้ ลงั งานอยใู่ น - แยกตามกิจกรรม พบว่าใช้ในการ กระดาษแผน่ เดยี ว สมดุลพลงั งานสามารถสรา้ ง ตงั้ แต่งา่ ยๆ เชน่ ระดบั ครอบครวั ระดบั ตําบล หุงตม้ มากทส่ี ุด 0.168 toe/ปี (N14) คดิ เป็นรอ้ ย จนถงึ สมดลุ พลงั งานทม่ี ขี อ้ มลู มากๆ เชน่ จงั หวดั ละ 48 รองลงมาเพ่ือใช้ในงานเกษตรกรรม และประเทศ เป็นตน้ 0.164 toe/ปี (Q14) รอ้ ยละ 44 ทาํ น้ํารอ้ น 0.106 toe/ปี (P14) รอ้ ยละ 7 และ ใหแ้ สงสวา่ ง 0.017 จากตวั อยา่ งของตารางสมดุลพลงั งาน จะ toe/ปี (M14) รอ้ ยละ 1 เหน็ ไดว้ า่ มกี ารใช้พลงั งานรวม 1.520 toe/ปี ดา้ นมลู คา่ จากการใช้พลงั งานทงั้ หมด (F14) โดยมกี ารใชพ้ ลงั งานแยกตามประเภท เท่ากบั 23,904 บาท/ปี (F16 ) มากทส่ี ดุ คอื ต่างๆ ดงั น้ี ดเี ซล 17,480 บาท คดิ เป็นรอ้ ยละ 73 รองลงมา ไดแ้ ก่ ไฟฟ้า 4,599 บาท คดิ เป็นรอ้ ยละ 19 และ ไม้ มมี ลู คา่ 1,825 คดิ เป็นรอ้ ยละ 8

26 บทที่ 1 พลังงานชุมชน : ทางเลือกเพื่อทางรอด ข้ อ มู ล ตั ว เ ล ข เ ห ล่ า น้ี ทํ า ใ ห้ เ ร า ส า ม า ร ถ เ ห็ น ผลติ ถ่านใหมไ่ ปใชเ้ ตาหงุ ตม้ ประสทิ ธภิ าพสงู และ ภาพรวมและประสทิ ธภิ าพของการใชพ้ ลงั งาน หาก เผาถ่านโดยใชเ้ ตา 200 ลติ รแทน ซง่ึ จะทาํ ใหล้ ด จะมกี ารปรบั เปล่ยี นหรอื ลดการใช้พลงั งานจะทําได้ การใชไ้ มจ้ ากเดมิ ลงไดป้ ระมาณ 30 % ดว้ ยไม้ อย่างไร นัน้ หลกั ท่ีสําคญั เบ้ืองต้นในการพจิ ารณา จาํ นวนน้ีเราสามารถนํามาทาํ เป็นพลงั งานใน การปรบั ลดพลงั งานคอื ตอ้ งรวู้ า่ ในทอ้ งถน่ิ หรอื ชุมชน รปู แบบอ่นื ๆ ไดเ้ ชน่ ความรอ้ น หรอื ไฟฟ้า (กรณมี ี มที รพั ยากรอะไรบ้างท่จี ะสามารถนํามาทดแทนได้ จาํ นวนไมเ้ พยี งพอ และมเี ทคโนโลยรี องรบั ) เทคโนโลยพี ลงั งานทางเลอื กมอี ะไรบา้ ง และสามารถ นํามาใชจ้ รงิ ในทางปฏบิ ตั ใิ นชมุ ชนไดอ้ ยา่ งไร แนวทางที่ 2 คือ รบั น้อยลงแต่ใช้ พลงั งานได้เท่าเดิม คอื ลดการนําเขา้ พลงั งาน แนวทางการปรบั ลดการใช้พลงั งาน จากภายนอก โดยเพม่ิ ศกั ยภาพการใชง้ านให้ สงู ขน้ึ และใชท้ รพั ยากรในทอ้ งถนิ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ จากภาพรวมและประสทิ ธภิ าพของการใช้ สงู สดุ แนวทางน้ีเหมาะกบั ชมุ ชนทม่ี คี วามพรอ้ ม พลงั งาน หากจะมกี ารปรบั เปลย่ี นหรอื ลดการใช้ ทางดา้ นบุคคล และทรพั ยากรทจ่ี ะใชง้ านควรจะ พลงั งานจะทาํ ไดอ้ ยา่ งไร จะขอยกตวั อยา่ งแนวทาง 2 เพยี งพอต่อการบรโิ ภค ตวั อยา่ งเชน่ หากในชมุ ชน แนวทางในการเป็นทางเลอื กของการวางแผน มกี ารเลย้ี งสตั วเ์ ป็นจาํ นวนมาก กจ็ ะสามารถนํามา พลงั งาน ผลติ เป็นพลงั งาน ไฟฟ้า และความรอ้ นได้ หรอื ชุมชนทม่ี วี ตั ถุดบิ ของพชื น้ํามนั เพยี งพอกส็ ามารถ แนวทางที่ 1 คือ รบั เท่าเดิมแต่ใช้พลงั งาน นํามาผลติ เป็นน้ํามนั พชื ทดแทนน้ํามนั ดเี ซลได้ หรอื เปลย่ี นเทคโนโลยที ใ่ี ชง้ านแบบเกา่ มาเป็น ได้มากขึน้ คอื ยงั คงมกี ารนําเขา้ พลงั งานเทา่ เดมิ แต่ เทคโนโลยที ม่ี กี ารประหยดั พลงั งาน อยา่ งใน มกี ารนําไปใชง้ านไดม้ ากขน้ึ แนวทางน้ีเหมาะกบั ตวั อยา่ งของแนวทางท่ี 1 รวมไปดว้ ยกไ็ ดเ้ ชน่ กนั ชุมชนทม่ี อี ตั ราการขยายตวั ของประชากรและ เศรษฐกจิ สงู การปรบั ปรงุ จะมงุ่ เน้นไปทต่ี วั เทคโนโลยี Loss 40 ทใ่ี ชง้ านใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพสงู ขน้ึ แต่ทงั้ น้ีประชาชนก็ ตอ้ งมคี วามรแู้ ละเขา้ ในการใชง้ านเทคโนโลยตี วั นนั้ ดว้ ย ตวั อยา่ งเชน่ เปลย่ี นเตาหงุ ตม้ และกรรมวธิ กี าร Loss 60 Loss 40 Input Input 100 100 Input 80 Use 40 Use 60 Use 60 เดมิ ก่อนทาํ การปรบั ปรงุ แนวทางท่ี 1 แนวทางท่ี 2 ปรบั ปรงุ ประสิทธิภาพ ปรบั ปรงุ ประสิทธิภาพ ใช้พลงั งานได้เท่าเดิมแต่ลดการ ใช้พลงั งานได้มากขึน้ นําเข้าพลงั งาน(ต้นทาง)

บทท่ี 1 พลงั งานชมุ ชน : ทางเลือกเพ่ือทางรอด 27 หลกั สาํ คญั เบอ้ื งตน้ ในการพจิ ารณาปรบั ลดพลงั งานกค็ อื ตอ้ งรวู้ า่ ในทอ้ งถนิ่ มที รพั ยากรอะไรบา้ งทจ่ี ะสามารถนํามาทดแทนได้ ความรใู้ นการใชเ้ ทคโนโลยี หรอื มเี ทคโนโลยที างเลอื กอะไรบา้ ง แนวทางในการปฏบิ ตั เิ ป็นจรงิ แคไ่ หน ทาํ ไดห้ รอื ไมอ่ ยา่ งไร และ สดุ ทา้ ยความคมุ้ ทุนของการลงทนุ วา่ สามารถลดคา่ ใชจ้ า่ ยไดเ้ ทา่ ไร เกดิ การจา้ งงานในชมุ ชนบา้ งหรอื ไม่ เป็นตน้ สมดุลพลงั งาน เป็นเครอ่ื งมอื ทท่ี าํ ใหส้ ามารถวเิ คราะห์ ภาพรวมการใชพ้ ลงั งานในชมุ ชนหรอื พน้ื ทต่ี ่างๆ ไดง้ า่ ยขน้ึ เน่ืองจาก เป็นการนําขอ้ มลู พลงั งานมาจดั ระบบในตาราง ใหอ้ ยใู่ น 1 หน้า ผลจากการวเิ คราะหส์ มดุลพลงั งานทาํ ใหท้ ราบวา่ ชมุ ชนนนั้ ๆ มพี ฤตกิ รรมการบรโิ ภคพลงั งานเป็นอยา่ งไร สรา้ งผลกระทบต่อทงั้ ดา้ นเศรษฐกจิ และสง่ิ แวดลอ้ มอยา่ งไรบา้ ง ทส่ี าํ คญั สมดุลพลงั งานยงั ชว่ ยวางแผนหาทางเลอื กทเ่ี หมาะสมกบั การใชพ้ ลงั งานอยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพในอนาคตไดอ้ กี ดว้ ย เมอ่ื วเิ คราะหท์ างเลอื กแลว้ ต่อไปกจ็ ะเป็นกระบวนการทางดา้ น สงั คมทจ่ี ะเขา้ มารว่ มกนั วเิ คราะหว์ า่ ทางเลอื กนนั้ ๆ สามารถนําไป ปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ หรอื ไม่ ถา้ ทาํ ไดจ้ รงิ จะทาํ อยา่ งไร มขี นั้ ตอนอยา่ งไรบา้ ง เหล่าน้ีคอื กระบวนการวางแผนพฒั นาพลงั งานชมุ ชนดงั จะกล่าวถงึ ใน หวั ขอ้ ถดั ไป

28 บทที่ 1 พลงั งานชมุ ชน : ทางเลือกเพื่อทางรอด กระบวนการวางแผนพฒั นาพลงั งานชมุ ชน จากหวั ขอ้ ท่ีผ่านมา ได้กล่าวถึงการวิเคราะห์ 1. สถานภาพพลงั งาน (Energy สมดุลพลังงาน เพ่ือให้เห็นความสําคัญของการ รวบรวมขอ้ มลู และการจดั ขอ้ มลู ใหเ้ ป็นหมวดหมเู่ ขา้ ใจ Status) ง่าย ซ่ึงทําให้มองเห็นภาพรวมของการใช้พลงั งาน รวมถึงผลกระทบท่ีเกิดข้ึนทัง้ ด้านเศรษฐกิจและ เป็นการศกึ ษารวบรวมและวเิ คราะห์ สง่ิ แวดลอ้ ม การวเิ คราะหส์ มดุลพลงั งานน้ีนําไปส่กู าร ขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั พลงั งานของทอ้ งถน่ิ ซง่ึ หาทางเลอื กทเ่ี หมาะสมต่อไป นอกจากน้ีภาพรวมท่ี ประกอบดว้ ย ปรากฏออกมาจะเป็นตวั ชใ้ี หป้ ระชาชนไดต้ ระหนกั ถงึ การใชพ้ ลงั งานอยา่ งคุม้ ค่าและมปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ การบริโภคพลงั งานของส่วนต่าง ๆ ขนั้ ต่อไปจะเป็นการขบั เคล่อื นแนวคดิ ใหเ้ กดิ เป็นการ เช่น บ้านเรือน สถานประกอบการ ป ฏิบัติใ ห้เ ห็น เ ป็ น รูป ธ ร ร ม นัน่ คือ ก า ร ทํา สถานทร่ี าชการ เป็นตน้ กระบวนการวางแผนพฒั นาพลังงานชุมชน ซ่ึงใน ราคาคา่ พลงั งาน หวั ข้อน้ีจะได้กล่าวถึงความสําคญั ของกระบวนการ แหล่งผลติ พลงั งานในทอ้ งถน่ิ นนั้ ๆ องคป์ ระกอบหลกั ขนั้ ตอน ผลทจ่ี ะไดร้ บั และปจั จยั ใน และศกั ยภาพของแหลง่ พลงั งาน การขบั เคล่อื น จากการวางแผนพลงั งานในชมุ ชน ทดแทน ขอ้ มลู ทวั่ ไปของทอ้ งถนิ่ นนั้ ๆ ดา้ น การวางแผนพฒั นาพลงั งานชมุ ชน สงั คม เศรษฐกจิ สง่ิ แวดลอ้ ม การวางแผนพลงั งานระดบั ชุมชน5 หมายถงึ “กระบวนการสรา้ งการมสี ่วนร่วมของประชาคมใน 2. สมดลุ พลงั งาน (Energy Balance) การจดั การดา้ นพลงั งานในทอ้ งถน่ิ ของตนเอง โดย ผ่านกระบวนการเรยี นรู้เพ่อื ทําความเขา้ ใจเร่อื ง เป็นเคร่อื งมอื ท่ใี ช้อธิบายภาพรวมของ ของ พลงั งาน ศกึ ษาเทคโนโลยพี ลงั งานทางเลอื ก การบรโิ ภคพลงั งานในทอ้ งถน่ิ ทแ่ี สดงถงึ การใช้ รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลในชุมชน รวมทัง้ พลงั งานประเภทต่างๆ กบั อุปกรณ์เคร่อื งใชแ้ ละ ร่วมกันวางแผนปฏิบัติการในการจัดการด้าน กจิ กรรมอะไรบ้าง และผลกระทบท่เี กดิ ขน้ึ จาก พลงั งานและสง่ิ แวดลอ้ ม” ก า ร ใ ช้พ ลัง ง า น นั้น ๆ ใ น ด้า น เ ศ ร ษ ฐ กิจ ดงั นนั้ การวางแผนพฒั นาพลงั งานชมุ ชน จงึ ส่ิงแวดล้อมเป็นอย่างไร โดยอาศัยข้อมูลจาก เป็นเรอ่ื งของประชาชนทุกคน และหน่วยงานในพน้ื ท่ี สถานภาพพลงั งานเพ่อื ใชว้ เิ คราะหห์ าทางเลอื ก ทจ่ี ะมาทาํ งานและเรยี นรรู้ ว่ มกนั ดงั นนั้ แผนทด่ี คี วรมี หรอื รปู แบบในการปรบั เปลย่ี นการใชพ้ ลงั งานให้ องคป์ ระกอบหลกั ดงั น้ี ยงั่ ยนื ต่อไปในอนาคต 5 เดชรตั สขุ กาํ เนิด. 2547. การวางแผนพลงั งานระดบั ทอ้ งถน่ิ จติ สาํ นึกทม่ี าคกู่ บั การเรยี นรแู้ ละการลงมอื ทาํ .

บทท่ี 1 พลังงานชมุ ชน : ทางเลือกเพ่ือทางรอด 29 3. เทคโนโลยีพลงั งานยงั่ ยนื (Sustainable 4. ความพรอ้ มของชมุ ชน Energy Technology) (Community) คอื การคน้ หาเทคโนโลยพี ลงั งานทจ่ี ะเขา้ มา ชุมชนเป็นองคป์ ระกอบทส่ี าํ คญั ในการ ดาํ เนินการในทอ้ งถนิ่ เพอ่ื ปรบั สมดุลพลงั งานใหมท่ ่ี วางแผนพลังงานชุมชน ดังนัน้ ชุมชนต้องมี ดกี วา่ สมดลุ พลงั งานเดมิ มหี ลกั การแหง่ เทคโนโลยี ความพร้อมท่ีจะเข้าร่วมในการวางแผนและ พลงั งานยงั่ ยนื (Sustainable Energy Technology) ดําเนินงานตามแผน ผู้เข้าร่วมวางแผนใน ไดแ้ ก่ ระดับชุมชนจึงควรประกอบด้วยสมาชิกใน ชุมชน ผู้นําทัง้ ท่ีเป็ นทางการและไม่เป็ น สะอาด เป็นมติ รกบั สง่ิ แวดลอ้ ม ไม่ ทางการ กลุ่มแมบ่ า้ นและกลุ่มผปู้ ระกอบการใน รบกวนสมดุลของระบบนิเวศ ท้องถ่ินนัน้ ๆ นอกจากนัน้ องค์กรบริหาร ทดแทนไดใ้ หม่ ใชเ้ ชอ้ื เพลงิ ทส่ี ามารถ สว่ นตําบลขา้ ราชการในทอ้ งถนิ่ และผมู้ อี าํ นาจ จดั การหมนุ เวยี นผลติ และใชไ้ ด้ อยา่ ง ทจ่ี ะสนบั สนุนการดาํ เนินงานของทอ้ งถน่ิ กค็ วร ไมม่ วี นั หมดไป จะไดม้ สี ว้ นรว่ มในกระบวนการวางแผนน้ี พอดี กบั ความตอ้ งการใชง้ านตาม ศกั ยภาพแหง่ ทรพั ยากรและการเรยี นรู้ 5.นักวางแผนพลงั งานชมุ ชน (Local เพอ่ื การจดั การแบบพง่ึ พาตนเองของ Energy Planer) กบั ความสาํ เรจ็ ทเ่ี กดิ จากการ ทอ้ งถนิ่ บนฐานคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี ง พฒั นา “คน” ประสทิ ธภิ าพสงู ประหยดั ทงั้ ทรพั ยากร แรงงานและคา่ ใชจ้ า่ ย เป็นเทคโนโลยที ่ี เป็นกลุ่มคนทค่ี อยกระตุน้ การทาํ งาน ไมซ่ บั ซอ้ น ชุมชนสามารถจดั การเองได้ ดาํ เนินงานของโครงการดา้ นแผนพลงั งาน และควรเป็นเทคโนโลยที างเลอื กสาํ หรบั ชมุ ชน ไมว่ า่ จะเป็นเรอ่ื งพลงั งาน ผลกระทบ ชุมชนเพอ่ื นํามาใชท้ ดแทนเทคโนโลยที ่ี จากการใชพ้ ลงั งานเทคโนโลยพี ลงั งาน การ มอี ยเู่ ดมิ เชน่ เตาหงุ ตม้ ประสทิ ธภิ าพ สรา้ งกระบวนการมสี ว่ นรว่ ม การเป็นวทิ ยากร สงู เตาเผาถ่าน 200 ลติ ร บอ่ หมกั ก๊าซ กระบวนการแบบมสี ว่ นรว่ มเพอ่ื ทจ่ี ะได้ ชวี ภาพ และเครอ่ื งทาํ น้ํารอ้ นพลงั ถ่ายทอดองคค์ วามรตู้ ่างๆ สชู่ มุ ชนต่อไป แสงอาทติ ย์ เป็นตน้

30 บทท่ี 1 พลังงานชุมชน : ทางเลอื กเพ่ือทางรอด ขนั้ ตอนการวางแผนพลงั งานในชมุ ชน ขนั้ ตอนท่ี 6 ศกึ ษาดงู านเทคโนโลยีพลงั งานที่ ยงั่ ยนื ในเรอื่ งท่ีชมุ ชนสนใจ เพอ่ื ใหไ้ ดแ้ ผนทเ่ี หมาะสมออกมาและสามารถ ดาํ เนินการตามแผนปฏบิ ตั กิ ารไดอ้ ยา่ งเป็นขนั้ ตอน จงึ เพอ่ื จดุ ประกายความคดิ และสรา้ งแรง สามารถสรปุ ขนั้ ตอนของการวางแผนพลงั งานชุมชนเป็น บนั ดาลใจในการใชเ้ ทคโนโลยพี ลงั งาน 10 ขนั้ ตอนทส่ี าํ คญั ดงั น้ี ยงั่ ยนื ทส่ี อดคลอ้ งกบั บรบิ ทในพน้ื ท่ี ขนั้ ตอนที่ 1 สรา้ งความเข้าใจรว่ มกนั กบั ชมุ ชน ขนั้ ตอนท่ี 7 ประชมุ ระดมความคิดเหน็ เพอื่ เพอ่ื ใหช้ มุ ชนเขา้ ใจทม่ี าและวตั ถุประสงคข์ อง จดั ทาํ รา่ งแผนพลงั งานระดบั ชมุ ชน โครงการและยอมรบั การเขา้ รว่ มโครงการ เพอ่ื ใหช้ มุ ชนเขา้ ใจเรอ่ื งพลงั งานเบอ้ื งตน้ มากขน้ึ เพอ่ื ใหม้ กี ารวางแผนหาทางออกรว่ มกนั และเกดิ ความตระหนกั ทจ่ี ะแกป้ ญั หารว่ มกนั รเิ รม่ิ การจดั การ เกดิ แผนพลงั งานของ ชมุ ชน ขนั้ ตอนที่ 2 สรา้ งทีมคณะทาํ งานพลงั งานชมุ ชน (สรา้ งทีมตวั แทนอาสาสมคั ร) ขนั้ ตอนท่ี 8 ประชาพิจารณารา่ งแผนพลงั งาน กบั ประชาชนเพอ่ื จดั ทาํ แผนพลงั งานฉบบั เพอ่ื ใหค้ ณะทาํ งานพลงั งานของชมุ ชนมคี วามเขา้ ใจ สมบรู ณ์ และพรอ้ มผลกั ดนั กระบวนการขนั้ ตอนการทาํ งาน ตลอดจนเป้าหมายของโครงการใหส้ มั ฤทธผิ ์ ล เพอ่ื ใหป้ ระชาชนไดร้ บั รู้ และแสดงความ คดิ เหน็ ต่อรา่ งแผนฯ จนเกดิ การยอมรบั ขนั้ ตอนท่ี 3 เกบ็ ขอ้ มลู พลงั งานในพนื้ ท่ี รว่ มกนั จนไดแ้ ผนพลงั งานสมบรู ณ์ เพอ่ื สาํ รวจขอ้ มลู พลงั งานในพน้ื ท่ี โดยพยายามให้ ตวั แทนและเยาวชนมสี ว่ นรว่ มในการสาํ รวจขอ้ มลู ขนั้ ตอนที่ 9 ปฏิบตั ิตามแผนพลงั งานที่วางไว้ พลงั งานของชมุ ชนของตนเอง (โครงการนํารอ่ ง) ขนั้ ตอนท่ี 4 ประมวลผลขอ้ มลู เพอ่ื จดั ทาํ สถานภาพ เพ่อื ดําเนินการตามลําดบั ความเร่งด่วน พลงั งาน โดยอาจเรมิ่ จากแผนทส่ี ามารถดาํ เนินการ ไดเ้ อง หรอื รว่ มทาํ กบั หน่วยงานอน่ื เพอ่ื ชใ้ี หเ้ หน็ ถงึ สถานการณ์พลงั งานทช่ี ดั เจน อนั จะนําไปสกู่ ารเกดิ ความตระหนกั และทางเลอื กใน ขนั้ ตอนที่ 10 สรปุ บทเรยี นการทาํ งานรว่ มกนั การแกไ้ ขปญั หารว่ มกนั เพอ่ื รว่ มกนั ประเมนิ เรอ่ื งปญั หาอุปสรรค ขนั้ ตอนท่ี 5 สะท้อนขอ้ มลู พลงั งานคืนสชู่ มุ ชน ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ผลกระทบและผลทไ่ี ดร้ บั เพอ่ื ใหช้ มุ ชนไดร้ บั รแู้ ละตรวจสอบ ขอ้ มลู พรอ้ มวางแนวทางทาํ งานตอ่ ๆ ไป พลงั งานของชมุ ชนตนเอง ทาํ ใหท้ ราบถงึ ปรมิ าณ การใชพ้ ลงั งาน และสญู เสยี เงนิ ไปกบั การบรโิ ภค พลงั งานเป็นมลู คา่ เทา่ ใด จะทาํ ใหค้ นในชมุ ชนได้ หนั กลบั มามองดวู ถิ กี ารใชพ้ ลงั งานของตนเอง และ ตระหนกั กบั สงิ่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ

บทท่ี 1 พลังงานชมุ ชน : ทางเลอื กเพื่อทางรอด 31 ผลจากพลงั การขบั เคลื่อน ธรรมชาติโดยประชาชนในพ้ืนท่ีเอง มีการ สร้างสรรค์งานใหม่ในท้องถ่ิน ซ่ึงอาจเป็นการ 1.เกิดพลงั ขบั เคลื่อนด้านกระบวนการ จ้ า ง ผ ลิ ต อุ ป ก ร ณ์ เ พ่ือ ก า ร ป ร ะ ห ย ัด พ ลัง ง า น เรียนรู้ด้านพลงั งานและเกิดการปรบั ทศั นคติ เคร่ืองมือทางเทคโนโลยีเพ่ือแปลงพลังงาน และจิตสาํ นึกในการพึ่งพาตนเองด้านพลงั งาน อุปกรณ์ ผลติ พลงั งาน และเทคโนโลยพี ลงั งาน ค น ส่ ว น ใ ห ญ่ ม ัก คิด ว่ า พ ลัง ง า น เ ป็ น เ ร่ือ ง ไ ก ล ตัว หมุนเวยี น ตลอดจนการนําเช้อื เพลงิ ท้องถนิ่ มา ดงั นัน้ ผู้เข้าร่วมวางแผนพลังงานส่วนใหญ่จึงไม่ ใช้ทดแทนพลงั งานท่นี ําเข้าจากภายนอก ทงั้ น้ี ทราบข้อมูลว่าตําบลของตนเองใช้พลังงานไป การนําแรงงานท้องถิ่นและเช้ือเพลิงในท้องถ่ิน เท่าไร ด้านไหนบ้าง เม่อื ได้ทราบขอ้ มูลเหล่าน้ีจงึ มาใช้สะท้อนให้เห็นว่าเงินท่ีลงทุนเพ่ือผลิต ได้ทราบว่าแท้จรงิ แล้ว พลงั งานเป็นเร่อื งใกล้ตัว พลงั งานยงั คงหมุนเวยี นอย่ภู ายใน ทอ้ งถน่ิ และ มากโดยส่งผลกับเศรษฐกิจและส่ิงแวดล้อมของ สิ่ง เ ห ล่ า น้ี จ ะ เ ป็ น พ ล วัต อัน สํา คัญ ย่ิง ต่ อ ค ว า ม ตนเองอย่างชัดเจน ขณะเดียวกันก็เกิดความ มนั่ คงทางเศรษฐกจิ ในระดบั มหภาค ตระหนักว่าปญั หาพลงั งานเป็นปญั หาทส่ี รา้ งวกิ ฤต ต่อเน่ืองไปถ้าไม่แกไ้ ข และการแก้ไขจะเกดิ ขน้ึ ได้ 4. เกิ ดภูมิ ต้านทานในการพึ่งพา จากการลงมอื ทํา และผลจากการ ลงมอื ทํานัน้ ได้ ตนเอง ลดการพ่ึงพาพลังงานนําเข้า ภูมิ สง่ ผลต่อการปรบั เปลย่ี นทศั นคตดิ ว้ ยตวั ของชุมชน ตา้ นทานน้ไี ดช้ ว่ ยกอ่ เกดิ กระบวนการหรอื วธิ กี าร เอง ในการลดหน้ีสนิ ทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ จากภายนอกพน้ื ท่ี และทาํ ใหช้ ุมชนมโี อกาสตดั สนิ ใจดว้ ยตนเองมาก 2. เกิดพลังขบั เคล่ือนในการส่งเสริม ข้ึน เช่น กองทุนเผาถ่านปลดหน้ี หรือการลด ความกินดีอย่ดู ีของคนในพืน้ ท่ี เม่อื คนในพน้ื ทม่ี ี ตน้ ทุนการผลติ โดยการลดตน้ ทุน ค่าใชจ้ ่ายดา้ น ความรู้ความสามารถ มีแหล่งความรู้และปรับ พลงั งาน ประยกุ ตใ์ ชส้ ง่ิ รอบตวั เพอ่ื การผลติ และใชพ้ ลงั งานได้ อย่างเหมาะสมและพอเพยี ง นํามาซ่งึ การยกระดบั 5 . เ กิ ด ภู มิ ต้ า น ท า น ต่ อ ปั ญ ห า ความสามารถในการพ่ึงพาตนเองและทําให้การ สิ่งแวดล้อมและระบบนิ เวศน์โดยรวม เม่ือ ดาํ รงชวี ติ มคี วามสขุ มากขน้ึ ประชาชนได้มีเข้าใจว่าสิ่งรอบตัวนัน้ มีคุณค่า และความหมายอย่างยงิ่ ต่อการดํารงชวี ติ แบบ 3. เกิดพลงั ผลกั ดนั ด้านการสรา้ งงานใน พ่งึ พาตนเอง ทําให้มุมมองและทศั นคติในการ ท้องถิ่ นและนําไปสู่การพัฒนาชนบท จาก หวงแหนและต้องการปกป้องสงิ่ แวดล้อมมมี าก เทคโนโลยที ่เี หมาะสม ชุมชนจดั การได้และทําให้ ข้นึ สงิ่ เหล่าน้ีจะช่วยให้สงั คมอยู่อย่างยงั่ ยนื ได้ ชวี ิตอยู่ดมี สี ุขข้นึ ได้ก่อให้เกิดความต้องการของ แบบพ่ึงพาอาศัยกัน ผลท่ีสุดนํามาซ่ึงการลด เทคโนโลยีเหล่าน้ีมากข้ึน การขยายผล เพ่ือ ปญั หาดา้ นสขุ ภาพและความอยดู่ มี สี ขุ ของชุมชน ผลกั ดนั ใหเ้ กดิ การกอ่ ตวั ดา้ นการตลาดอยา่ งเป็น ดว้ ย

32 บทที่ 1 พลงั งานชมุ ชน : ทางเลือกเพ่ือทางรอด 6. เกิดพลงั ความคิดในการ สรปุ บทส่งท้าย ส่งเสริมและพฒั นาเทคโนโลยีที่เป็น ประโยชน์ต่อพืน้ ท่ี พลงั จากการสรา้ งสรรค์ จากท่ีกล่าวมาทัง้ หมด หวังเพียงเพ่ือให้บาง ความรจู้ ากการวางแผนพลงั งานรวมกนั ภาคส่วนของสงั คม ไดต้ ระหนักถงึ ภาระดา้ นพลงั งาน กอ่ ใหเ้ กดิ นวตั กรรมใหมๆ่ ในชุมชน ไมว่ า่ จะ ในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปญั หาทางด้านเศรษฐกิจ เป็นรปู แบบการจดั การพลงั งานในชุมชน การ สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ ม หรอื ตระหนกั ถงึ ทางเลอื กต่างๆ สนใจ ศลิ ปวฒั นธรรม การประชาสมั พนั ธ์ ในการแก้ไขปญั หา เป็นต้น เพ่อื ให้เห็นความสําคญั นวตั กรรมใหมข่ องเทคโนโลยพี ลงั งานโดย ของการปรบั เปลย่ี นกระบวนทศั น์ใหม่ในการพฒั นาท่ี ชมุ ชน รวมทงั้ อาชพี ใหมก่ เ็ กดิ ขน้ึ สอดคล้องกับการดําเนินชีวิตแบบพอเพียง พ่ึงพา ทรพั ยากรท่มี อี ยู่และใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุด อนั จะ 7.เกิดพลงั ขบั เคลื่อนภาค นําไปสู่การพฒั นาท่ียงั่ ยืนได้ สําหรบั ในการพฒั นา ประชาคมและเกิดเครอื ข่ายด้านพลงั งาน พลังงานชุมชนของประเทศไทย คงไม่มีใครไม่รู้จดั เครือข่ายวิทยากรตวั คณู ด้าน พลงั งาน คณะทาํ งานพลงั งานยงั่ ยนื จ.สุรนิ ทร์ โดยความรว่ มมอื ภาคประชาชน โดยเมอ่ื ชุมชนมคี วามรู้ มี จากสมาคมเทคโนโลยที เ่ี หมาะสม มลู นิธพิ ฒั นาอสี าน ขอ้ มลู และมคี วามตระหนกั ถงึ ผลกระทบท่ี และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ในจงั หวดั สุรนิ ทร์ ใน เกดิ จากการใชพ้ ลงั งานในการมสี ว่ นรว่ มใน ฐานะท่ีร่วมกับประชาชนในการวางแผนพัฒนา การแกป้ ญั หากจ็ ะตามมา พลงั งาน จนประสบผลสําเรจ็ ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2545 เกดิ ชุมชนนําร่องแห่งแรกท่ีชาวบ้านมีส่วนร่วมในการ วางแผนพลงั งาน คอื อบต.อู่โลก ดงั ท่จี ะกล่าวถึงใน บทต่อไป

บทที่ 1 พลงั งานชมุ ชน : ทางเลอื กเพ่ือทางรอด 33 ตวั อย่างการพฒั นาพลงั งานชมุ ชน ขบั เคล่ือนจากสิ่งเลก็ ๆ คณะทํางานฯ ในประเทศไทยและต่างประเทศ ไดป้ รกึ ษากนั ถงึ การทํางานใหเ้ กดิ เป็นรปู ธรรม การพฒั นาพลงั งานชุมชน เป็นเร่อื งท่ีกําลงั ได้รบั มากท่ีสุดผลคือเร่ิมต้นจากการปฏิบัติการใน ความสนใจจากสงั คมมากขน้ึ ทุกขณะ เน่ืองจากทวั่ โลก ระดับตําบล แต่การเริ่มต้นนัน้ ไม่เพียงแต่มี ได้ตระหนักถึงการใช้ทรพั ยากรธรรมชาติท่ีมากเกิน ความรูด้ า้ นวชิ าการเท่านัน้ แต่ต้องใหช้ ุมชนมี ขดี จํากดั และส่งผลกระทบต่อโลกโดยตรง เช่น ภาวะ ความเข้าใจด้วย ดงั นัน้ การรเิ รม่ิ การวางแผน โลกรอ้ น ภาวะเศรษฐกจิ โลก หรอื แมก้ ระทงั่ การแย่งชงิ พลงั งานในชมุ ชนจงึ ตอ้ งเรมิ่ จากการสรา้ งความ ทรัพยากร ด้วยเหตุ น้ี หลายพ้ืนท่ีทัว่ โลกจึงให้ เขา้ ใจก่อน ซ่งึ ชุมชนแรกทไ่ี ดเ้ ขา้ ร่วมวางแผน ความสาํ คญั กบั การพง่ึ พาตนเองดา้ นพลงั งาน ดว้ ยการ ครงั้ น้ีกค็ อื ตําบลอโู่ ลก นนั่ เอง นํ า ท ร ัพ ย า ก ร ใ ก ล้ ตัว ท่ีส า ม า ร ถ ห มุ น เ วีย น ไ ด้ม า ใ ช้ ประโยชน์ ในหวั ขอ้ น้ีจะไดก้ ล่าวถงึ การพฒั นาพลงั งาน เรม่ิ ต้นจากการประชุมชแ้ี จง สรา้ งความ ของชุมชนตวั อย่างทงั้ ในประเทศไทยและต่างประเทศ เขา้ ใจกบั ชุมชน และหาตวั แทนชุมชนเพ่อื เกบ็ เพ่อื จะได้เป็นแนวทางในการศึกษาและพ่งึ พาตนเอง ขอ้ มูลการบรโิ ภคพลงั งาน ใครจะคดิ ว่าตําบล ดา้ นพลงั งานไดต้ ่อไป เล็กๆ มีครัวเรือน 1,090 หลัง ประชากร ประมาณ 5,747 คน แต่กลบั มคี ่าใช้จ่ายด้าน ตวั อย่างการพฒั นาพลงั งานชมุ ชนใน พลงั งานถงึ 14.9 ล้านบาทต่อปี !! ประเทศไทย หากคิดเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ตําบลอู่โลก ปฐมบทแห่งการพึ่งตนเอง ของครวั เรอื นแลว้ สงู ถงึ ประมาณ 14,000 บาท ด้านพลงั งาน ต่อครวั เรือนต่อปี เม่ือเทียบกับรายได้เฉล่ีย การวางแผนพลังงานระดับท้องถิ่นได้ ครวั เรอื น 25,000 บาท จงึ คิดเป็นร้อยละ 56 เรมิ่ ต้นขน้ึ ครงั้ แรกท่จี งั หวดั สุรนิ ทร์ เม่อื ปี พ.ศ. 2547 ของรายได้ของครัวเรือน ทัศนคติท่ีเห็นว่า โดยโครงการพลังงานยัง่ ยืน สมาคมเทคโนโลยีท่ี พลงั งานเป็นเร่อื งไกลตัวของชาวบ้านจึงเร่ิม เหมาะสม ร่วมกบั มูลนิธิพฒั นาอีสาน องค์กรพฒั นา เปลย่ี นไป เอกชน ส่วนราชการ สถาบนั การศึกษา โดยเรม่ิ จาก การสัมนาหาแนวทางร่วมกัน และจัดเก็บข้อมูล ด้ ว ย เ ห ตุ น้ี ชุ ม ช น อู่ โ ล ก จึ ง ข ยับ เ ข้ า สู่ ศักยภาพและการบริโภคพลังงานของจังหวัด ผล ขนั้ ตอนการเรยี นรเู้ ทคโนโลยพี ลงั งานทางเลอื ก ปรากฏว่า ในปี 2542 จงั หวดั สุรินทร์ต้องสูญเสีย ใหม่ๆ มกี ารศกึ ษาดูงาน และอบรมปฏบิ ตั จิ รงิ ค่าใช้จ่ายด้านพลงั งานคิดเป็ นมูลค่า 2,129 ล้าน ตลอดจนมกี ารนําขอ้ มูลพลงั งานของชุมชนมา บาท!! เหตุน้ีจึงเป็นท่ีมาของการร่วมมอื กบั ภาคีภาค วเิ คราะห์สถานการณ์ร่วมกนั เพ่อื คาดการณ์ ส่วนต่างๆ ก่อเป็นคณะทํางานพลงั งานยงั่ ยืนจงั หวดั แนวโน้มในอนาคต โดยใชก้ ารวเิ คราะหส์ มดุล สรุ นิ ทร์ พลงั งาน (Energy Balance)

34 บทที่ 1 พลังงานชมุ ชน : ทางเลอื กเพ่ือทางรอด ขอ้ มูลจากสมดุลพลงั งาน พบว่าประมาณรอ้ ย สิง่ เหล่าน้ี คือ รายจ่ายท่ีลดลงได้ทนั ที ละ 80 ของค่าใช้จ่ายพลังงานของชุมชนนัน้ เป็น หลงั จากการรูจ้ กั ตนเอง และการตงั้ สตกิ บั การ ค่าใช้จ่ายท่ตี ้องจ่ายออกไปนอกตําบลเพ่อื ซ้ือน้ํามนั ใช้ชีวิตของตนเองผ่านการวางแผนพลงั งาน (9.1ลา้ นบาท) ไฟฟ้า (1.4 ลา้ นบาท) แก๊ส (760,000 ระดบั ทอ้ งถนิ่ ทงั้ น้ี ยงั ไม่นับรวมถงึ รายไดท้ จ่ี ะ บาท)และน้ํามันก๊าด (60,000 บาท) แม้กระทัง่ เกิดเพ่มิ ข้นึ จากการเผาถ่าน เพ่ือไปเผาหรือ เชอ้ื เพลงิ ชวี มวล (ฟืน ถ่าน แกลบ) ซง่ึ สามารถหาได้ เพ่อื ตงั้ โชวใ์ นจุดทต่ี ้องการดบั กลน่ิ นอกจากน้ี โดยง่ายในตําบลอู่โลก กลบั พบว่าสมาชกิ ในชุมชน ยงั มีน้ําส้มควนั ไม้ท่ีเกิดจากการกลัน่ ตัวของ ต้องเสียเงินซ้ือหามาถึง 3.1 ล้านบาท ต่อปี (ส่วน ควนั ไฟเป็นน้ําเอนกประสงคใ์ ชใ้ นการดบั กลน่ิ ใหญ่เป็นถ่าน) ชุมชนยงั พบดว้ ยว่า กระบวนการทํา หรอื ขบั ไลแ่ มลงได้ ถ่านในท้องถิ่น ยงั จําเป็นต้องมกี ารตัดต้นไม้มาทํา ถ่าน ขณะเดยี วกนั ประสทิ ธภิ าพของเตาเผาถ่าน และ ผลลพั ธ์ท่ไี ด้อกี ประการหน่ึง คอื การตงั้ เตาถ่านก็ต่ํามาก ทําให้ส้ินเปลืองเงนิ ทอง แรงงาน กฎระเบียบของท้องถ่ิน เพราะการเผาถ่าน และตน้ ไมใ้ นทอ้ งถนิ่ ยอ่ มตอ้ งมคี วนั และยอ่ มตอ้ งใชต้ น้ ไม้ หากไมม่ ี การควบคุมก็อาจสรา้ งผลกระทบทางสุขภาพ น่ีจึงเป็นจุดเร่ิมต้นของการกําหนดมาตรการ และผลกระทบทางสงิ่ แวดล้อมกบั ชาวบ้านได้ ร่วมกนั เพ่อื ใหแ้ ผนนําไปส่กู ารปฏบิ ตั ทิ เ่ี ป็นรปู ธรรม จงึ มกี ารกําหนดพน้ื ทใ่ี นการเผาถ่านไวช้ ดั เจน มากขน้ึ จงึ เรม่ิ จากการรณรงค์เผยแพร่ความรู้เร่อื ง รวมถึงยงั ไม่สนับสนุนการเผาถ่านเชิงธุรกิจ การประหยดั พลงั งาน จดั โครงการบ้านตวั อย่าง จดั เพราะจะเป็นตวั เร่งการใชไ้ มจ้ นอาจควบคุมได้ อบรมการประหยดั พลงั งาน เรยี นรู้เร่อื งการพฒั นา ยาก นอกจากน้ียงั ไดก้ ําหนดใหม้ แี ผนการปลูก และการใชเ้ ตาเผาถ่านประสทิ ธภิ าพสูง จากถงั 200 ต้นไม้เพ่ิมเติมข้ึนไว้ในแผนพลังงานระดับ ลติ ร แทนเตาดนิ ทใ่ี ชอ้ ยู่ สนับสนุนใหม้ กี ารใชเ้ ตาหุง ทอ้ งถนิ่ ดว้ ย ตม้ ประสทิ ธภิ าพสงู จาก “ความคดิ ” มาสู่ “ความร”ู้ เมอ่ื ไดเ้ รม่ิ ลงมอื ป ฏิ บัติ อ ย่ า ง เ ป็ น ขั้น เ ป็ น ต อ น ย่ อ ม นํ า ม า สู่ “ความสามารถ” ผลจากการวางแผนพลงั งานรว่ มกนั ครงั้ น้ีทําให้ตําบลอู่โลกสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ ประมาณ 80,000 หน่วยต่อปี คดิ เป็นเงนิ ประมาณ 180,000 บาทต่อปี (หรอื ประมาณรอ้ ยละ 10 ของท่ี เคยใชเ้ ดมิ ) เตาเผาถ่านและเตาหุงต้มประสทิ ธภิ าพ สูงได้ช่วยให้คนอู่โลกลดการใช้ไม้ในแต่ละปีลงได้ 943,195 กโิ ลกรมั (เทยี บเท่าตน้ ไมป้ ระมาณ 10,000 ตน้ ) หากคดิ เป็น มลู คา่ กเ็ กอื บ 1 ลา้ นบาท

บทที่ 1 พลังงานชุมชน : ทางเลอื กเพื่อทางรอด 35 บทเรียนชาวอู่โลกกบั การวางแผน เรียนรู้การทาํ งานร่วมกนั และประสาน พลงั งาน ทรพั ยากร เน่ืองจากการทํางานย่อมต้องอาศยั จากการสรุปบทเรยี นของชาวอู่โลกในช่วง ความร่วมมอื กบั ภาคส่วนต่างๆ ทงั้ ในชุมชนและ ระยะเวลา 3 ปี (2545-2547) สง่ิ ท่ชี าวอู่โลกได้ นอกชมุ ชน เรียนรู้ ได้ตระหนัก และลงมือปฏิบัติ ถือเป็น ตวั อย่างใหแ้ ก่ชุมชนท่ตี ้องการวางแผนพลงั งาน เรียนร้ผู ลลพั ธ์ของการดาํ เนิ นการ เพ่อื ในบ้านของตวั เองไดเ้ ป็นอย่างดี เน่ืองจากมกี าร วางแผนอย่างเป็นขนั้ เป็นตอน และมีการสรุป ส รุ ป บ ท เ รีย น อัน จ ะ นํ า ไ ป สู่ ก า ร คิด ท บ ท ว น ใ น บทเรยี นถงึ สง่ิ ทช่ี าวอโู่ ลกไดร้ บั คอื มาตรการต่างๆ ก า ร เ รี ย น รู้ขั้น ต อ น ก า ร ว า ง แ ผ น เรียนร้เู ช่ือมโยงพลงั งานกบั วิถีชีวิต การ พลงั งาน เพ่อื สรา้ งความเขา้ ใจและหาเป้าหมาย จั ด ก า ร เ ร่ื อ ง พ ลั ง ง า น ไ ม่ ใ ช่ แ ค่ เ ร่ื อ ง ก า ร ใ ช้ รว่ มกนั เทคโนโลยี หรอื การประหยดั แต่เป็นเร่อื งราวท่ี เรียนรู้การใช้เทคโนโลยี การประหยดั เก่ียวข้องกบั วิถีการดําเนินชวี ิต เรามเี ป้าหมาย การดําเนินชีวิตอย่างไร ก็ย่อมส่งผลต่อการ พลงั งาน ชุมชนได้เรียนรู้วิธีการทําและพฒั นา บรโิ ภคพลงั งานด้วยเช่นเดียวกนั ไม่ยากหากมี จิตสํานึกในการพ่ึงตนเอง เก้ือกูล และการรู้จกั เทคโนโลยพี ลงั งานทเ่ี หมาะสม พอเพียง นัน่ คือรากฐานของเศรษฐกิจพอเพยี ง นนั่ เอง

36 บทท่ี 1 พลงั งานชมุ ชน : ทางเลือกเพื่อทางรอด ตวั อย่างการพฒั นาพลงั งานชมุ ชนใน แมง้ บประมาณจะมไี มม่ าก แต่กม็ กี าร ต่างประเทศ6 แสวงหาความรว่ มมอื จากหน่วยงานท่ี หลากหลาย ทงั้ รฐั เอกชน นกั เรยี น แมก้ ระทงั่ พลงั งานยงั่ ยืน ชมุ ชนยืนนาน บาทหลวง โดยทาํ ความเขา้ ใจทต่ี รงกนั วา่ ... คงมีชุมชนไม่น้อยท่ีต้องการหาทางออกเพ่ือ พวกเรากาํ ลงั รว่ มแรงรว่ มใจกนั ปฏบิ ตั กิ าร การพง่ึ พาตนเอง แต่อยา่ งไรเสยี กต็ อ้ งอาศยั ความรว่ ม “พลงั งาน” เพอ่ื ชุมชนอยา่ งแทจ้ รงิ แรงร่วมใจของคนในชุมชนเป็นปจั จยั หลกั ท่จี ะนําไปสู่ ความสําเรจ็ ดงั ตวั อย่างของชุมชนขนาดย่อม ท่ตี งั้ อยู่ แผนปฏบิ ตั กิ ารชมุ ชนจงึ ถกู คดิ คน้ ขน้ึ เพอ่ื รมิ ชายฝงั่ ทางตอนใตข้ องประเทศองั กฤษทช่ี ่อื ว่า Arun นําไปสคู่ าํ ตอบวา่ ใชพ้ ลงั งานอยา่ งไรใหม้ ี ทไ่ี ดต้ งั้ เป้าหมายว่าจะเป็นชุมชนท่ี “ใส่ใจ” ต่อโลกใบน้ี ประสทิ ธภิ าพสงู สดุ โดยคาํ นึงถงึ ผลกระทบทาง สมาชกิ ของชุมชนจงึ ลุกขน้ึ สรา้ งการเปลย่ี นแปลงโดยมี สงิ่ แวดลอ้ ม และปล่อยก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ “พลงั งานยงั่ ยืน” เป็นหวั ใจสําคญั กระทงั่ ควา้ รางวลั ซง่ึ เป็นสาเหตุสาํ คญั ของภาวะโลกรอ้ นใหน้ ้อย ชมุ ชนยอดเยย่ี มแหง่ ปี 2551 มาครองไดส้ าํ เรจ็ ทส่ี ดุ ซง่ึ ทาํ ใหก้ ารจดั หาอุปกรณ์ต่างๆ ไมเ่ พยี ง ตอ้ งคาํ นึงถงึ ราคา และคณุ ภาพเทา่ นนั้ แต่ยงั เมอื ง Arun นนั้ น่าอยู่ จนตดิ อนั ดบั 1 ใน 10 ตอ้ งพจิ ารณาถงึ แหลง่ ทม่ี า การขนสง่ การกาํ จดั เมอื งในฝนั ทผ่ี เู้ กษยี ณอายอุ ยากไปใชช้ วี ติ ในบนั้ ปลาย เพอ่ื นําปจั จยั ทางสง่ิ แวดลอ้ มเหลา่ น้ีเขา้ มา ฉะนนั้ หลายคนจงึ เรยี ก ชุมชนน้ีวา่ “เมอื งคนแก”่ แต่ถงึ ประกอบการตดั สนิ ใจดว้ ย จะแก่ กย็ งั มไี ฟ นนั่ เป็นเพราะความชาญฉลาดของ ผนู้ ําทอ้ งถนิ่ ทเ่ี ลง็ เหน็ วา่ หากตอ้ งการนําพา สมาชกิ ทงั้ ชมุ ชนใหก้ า้ วไปสกู่ ารมชี วี ติ ทใ่ี สใ่ จ สง่ิ แวดลอ้ มและมสี ขุ ภาพทด่ี ี หวั ใจสาํ คญั ท่ี จะกา้ วไปสเู่ ป้าหมายนนั้ คอื .การใช้พลงั งาน อย่างยงั่ ยืน ปฏบิ ตั กิ ารของชาวบา้ นแหง่ เมอื ง Arun กวา่ 140,000 คน อาศยั อยใู่ นบา้ น 65,000 หลงั ซง่ึ สว่ นใหญ่เป็นคนทอ่ี ายุ มากกวา่ 75 ปี จงึ เรม่ิ ตน้ ขน้ึ อยา่ งเขม้ แขง็ และจรงิ จงั 6 เรยี บเรยี งจาก คอลมั น์ พลงั งานจากต่างแดน .นิตยสาร “พลงั +งาน” ฉบบั ท่ี 2 เดอื น กุมภาพนั ธ์ – เมษายน 2552 และเวบ็ ไซต์ www.ashdenawards.org

บทที่ 1 พลงั งานชมุ ชน : ทางเลอื กเพ่ือทางรอด 37 นอกจากนนั้ ขอ้ มลู เบอ้ื งตน้ ของชุมชนท่ี ไมเ่ พยี งเทา่ นนั้ การใชช้ วี ติ ของชาวเมอื งอรณุ ประกอบไปดว้ ยผคู้ นหลากหลาย ทงั้ ฐานะเศรษฐกจิ กต็ อ้ งเปลย่ี นแปลงตามไปดว้ ย ทงั้ ในบา้ นและนอก ทแ่ี ตกต่างกนั บา้ นพกั อาศยั แบบเดย่ี ว หรอื รถบา้ น บา้ น โดยมกี ารใหข้ อ้ มลู และคาํ แนะนําทกุ ชอ่ งทาง ทเ่ี คล่อื นยา้ ยไปจอดพกั อยตู่ ามสถานทต่ี ่างๆ...ทงั้ ผู้ เพอ่ื กระตุน้ ใหท้ กุ คนต่นื ตวั และลุกขนั้ มาปฏวิ ตั กิ าร ทม่ี กี จิ การสว่ นตวั ลกู จา้ ง และนกั เรยี น...ทงั้ หมดจะ ใชพ้ ลงั งานผา่ นสอ่ื ต่างๆ เชน่ โปสเตอร์ ป้าย ถกู นํามาขบคดิ เพอ่ื วางแผนทงั้ ระบบ ทงั้ ระยะสนั้ อเิ ลค็ ทรอนิกส์ นิตยสารทอ้ งถน่ิ แมก้ ระทงั่ คดิ คน้ กลาง และระยะยาวในอกี 15 ปีขา้ งหน้า เป็นเกมสนุกๆ เพอ่ื สอ่ื สารกบั เดก็ ในทส่ี ดุ เดอื นมนี าคม 2550 แผนปฏบิ ตั ิ ขณะเดยี วกนั สถานทร่ี าชการของเมอื งกม็ ี การพลงั งานยงั่ ยนื ของชุมชน Arun มลู คา่ 87 ลา้ น การรณรงคแ์ ละลงมอื ปฏบิ ตั กิ ารอยา่ งแขง็ ขนั ทงั้ ลด ปอนดก์ ไ็ ดร้ บั การอนุมตั จิ ากสภาทอ้ งถน่ิ โดย การถ่ายเอกสาร ลดการใชก้ ระดาษ ใชพ้ ลงั งาน พจิ ารณาอยา่ งรอบคอบแลว้ วา่ เมด็ เงนิ เหลา่ น้ีจะถกู อยา่ งประหยดั โดยเจา้ หน้าทป่ี ระจาํ สาํ นกั งานเป็น ใชไ้ ปเพอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ กลไกสาํ คญั ของความสาํ เรจ็ ซง่ึ ในอนาคตอนั ใกลก้ ็ จะมกี ารวางระบบการเดนิ ทางเพอ่ื ใหท้ กุ คนหนั มา นบั จากนนั้ การลงมอื เพอ่ื สรา้ งการ ใชร้ ถสาธารณะ รวมทงั้ ใชจ้ กั รยานมากยงิ่ ขน้ึ เปลย่ี นแปลงครงั้ ยงิ่ ใหญ่จงึ ตามมาทนั ที ทงั้ ทล่ี งมอื ทาํ ไดเ้ ลย หรอื วางแผนล่วงหน้าในกรณที จ่ี ะลงมอื แน่นอนวา่ เพยี งแคล่ งมอื ทาํ ผล “กาํ ไร” ทาํ ไดก้ ต็ ่อเมอ่ื มกี ารปรบั ปรงุ อาคารสถานทต่ี าม เบอ้ื งตน้ ทท่ี ุกคนมองเหน็ และจบั ตอ้ งไดก้ ค็ อื คา่ ไฟ เวลาทก่ี าํ หนดไว้ ทล่ี ดลง อกี ทงั้ ทาํ ใหเ้ ศรษฐกจิ ของทอ้ งถนิ่ หมนุ เวยี น และเฟ่ืองฟู ทงั้ น้ีเป็นเพราะแผนปฏบิ ตั กิ ารพลงั งาน ซง่ึ แผนการทว่ี างไวม้ เี งอ่ื นไขหลากหลาย เพอ่ื ชุมชนถูกออกแบบใหใ้ ชว้ สั ดุอุปกรณ์ทห่ี าซอ้ื ได้ รปู แบบ ทงั้ สาํ หรบั เจา้ ของบา้ นเดย่ี ว เจา้ ของอ จากทอ้ งถน่ิ ในราคาถูก โดยรฐั หาเงนิ มาชว่ ย พารต์ เมนท์ และผเู้ ชา่ อกี ทงั้ ยงั มกี ารสนบั สนุน สนบั สนุน แตกต่างกนั ไป ทงั้ แจกฟรสี าํ หรบั ผทู้ ม่ี อี ายุ 60 ปีขน้ึ ไป และรว่ มทนุ กบั เจา้ ของกจิ การ หรอื ใชก้ ารแบ่ง การเปลย่ี นแปลงทเ่ี รมิ่ ตน้ ขน้ึ จากน้ํามอื ของ โซนเป็นเงอ่ื นไขทจ่ี ะใหก้ ารสนบั สนุน เชน่ ยา่ น ทกุ คนในชมุ ชนดว้ ยความกระตอื รอื รน้ และประสบ สถานศกึ ษากจ็ ะใหส้ นบั สนุนรปู แบบทแ่ี ตกต่างจาก ความสาํ เรจ็ อยา่ งเป็นขนั้ เป็นตอนน้ีเอง ทาํ ใหช้ ุมชน ยา่ นธุรกจิ อรณุ ถกู คดั เลอื กใหค้ วา้ รางวลั ชุมชนดเี ดน่ ประจาํ ปี 2552 จาก The Ashden Awards เป็นรางวลั ดๆี ท่ี เพยี งแคเ่ รม่ิ ตน้ ชาวเมอื งอรณุ กเ็ รมิ่ คุน้ เคย มอบสาํ หรบั ชมุ ชนทใ่ี ชพ้ ลงั งานอยา่ งยงั่ ยนื อนั จะ กบั การตดิ ตงั้ อุปกรณ์ชนิดใหมใ่ นบา้ นและสาํ นกั งาน สง่ ผลดตี ่อการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู อิ ากาศโลกทงั้ เพอ่ื ใหใ้ ชพ้ ลงั งานอยา่ งคมุ้ คา่ ทส่ี ดุ ทงั้ การเปลย่ี น ยงั ยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ ของประชาชนในทอ้ งถน่ิ ได้ กระจก 2 ชนั้ ตดิ ฉนวนเพดานเพอ่ื ควบคมุ อณุ หภมู ิ อยา่ งแทจ้ รงิ ในบา้ น ใชร้ ะบบผลติ น้ํารอ้ นจากพลงั งาน แสงอาทติ ย์ และการเปลย่ี นมาใชห้ ลอดไฟประหยดั พลงั งาน ฯลฯ

38 บทที่ 1 พลังงานชมุ ชน : ทางเลอื กเพ่ือทางรอด

บทท่ี 2 ความเหมาะสมของเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก 39 บทที่ 2 ความเหมาะสมของเทคโนโลยีพลงั งานทางเลือก การจดั การด้านความต้องการใช้พลงั งาน โดย ดร.เดชรตั สขุ กาํ เนิด การจดั การด้านความต้องการใช้พลงั งาน การดาํ เนินงานท่ีผา่ นมา เป็นทางเลือกท่สี ําคญั ท่ีสุดทางหน่ึงในการจดั การ ระบบพลงั งาน โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในสถานการณ์ท่ี ประเทศไทยได้เร่ิมดําเนินโครงการการ ความตอ้ งการพลงั งานกําลงั เพม่ิ สงู ขน้ึ อย่างรวดเรว็ จดั การด้านความต้องการใช้พลงั งานมาตงั้ แต่ปี แ ล ะ ก า ร ใ ช้ พ ลัง ง า น ยัง เ ป็ น ไ ป อ ย่ า ง ไ ม่ มี พ.ศ. 2534 โดยเรมิ่ ตน้ จากภาคไฟฟ้า ภายใตก้ าร ประสิทธิภาพ การจดั การความต้องการพลงั งาน ดําเนินงานของการไฟฟ้าฝ่ายผลติ แห่งประเทศ เป็นวธิ กี ารทจ่ี ะลดทอนความต้องการส่วนเกนิ ท่ไี ม่ ไทย ผลการดาํ เนินการในชว่ งแรก (ตงั้ แต่ปี 2536 จาํ เป็นลงมาได้ ดว้ ยการเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการใช้ จนถงึ ปี 2544) พบว่า สามารถลดความต้องการ พลงั งานและการจดั การอย่างถูกต้อง ผลลพั ธ์ของ ใช้ไฟฟ้าลงได้ 638 เมกะวตั ต์ และลดพลงั งาน การลดความต้องการส่วนเกินลงคอื การประหยดั ไฟฟ้าไดถ้ งึ 3,589 ลา้ นหน่วย โดยมตี น้ ทุนในการ การลงทนุ ในการก่อสรา้ งโครงการพลงั งานใหม่ การ ลดความต้องการไฟฟ้ าเท่ากับ 2,404 บาท/ นําเข้าเช้ือเพลิงจากต่างประเทศ และการลด กิโลวัตต์ และหากเทียบเป็ นพลังงานไฟฟ้ า ผลกระทบสงิ่ แวดลอ้ มลงดว้ ย ต้นทุนในการลดพลงั งานไฟฟ้าจะเท่ากบั 0.50 บาท/หน่วย ซ่ึงจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า การ ในบางครงั้ การจดั การดา้ นความต้องการใช้ จดั การดา้ นความตอ้ งการใชไ้ ฟฟ้ามตี น้ ทุนต่ํากว่า พลงั งานจะถูกนิยามในความหมายแคบหมายถึง การกอ่ สรา้ งโรงไฟฟ้าใหมๆ่ เป็นอยา่ งมาก โครงการจดั การดา้ นความต้องการใชไ้ ฟฟ้า หรอื ท่ี รู้จักกันในนาม โครงการ DSM เท่านัน้ โดยไม่ ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2545-2549 การ รวมถึงการเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการใช้พลงั งาน หรอื ไฟฟ้าฝา่ ยผลติ แหง่ ประเทศไทย ไดก้ ําหนดแผนท่ี Energy Efficiency แต่ในรายงานฉบบั น้ี คาํ วา่ “การ จะลดความตอ้ งการใชไ้ ฟฟ้าลงอกี 632 เมกะวตั ต์ จดั การความต้องการใชพ้ ลงั งาน” จะมคี วามหมาย และลดพลังงานไฟฟ้ าท่ีต้องใช้ลง 2,508 ล้าน อยา่ งกวา้ ง ซง่ึ รวมถงึ การดาํ เนินการใดๆ กต็ ามทจ่ี ะ หน่วย นอกจากน้ี Peter du Pont (2005) ยัง ลดความต้องการใช้พลงั งานท่ีไม่จําเป็นหรือไม่มี วเิ คราะหเ์ พมิ่ เตมิ ว่า ในช่วงระหว่างปีพ.ศ. 2549- ประสทิ ธภิ าพลง 2554 ประเทศไทยยงั มศี กั ยภาพในการจดั การ

40 บทที่ 2 ความเหมาะสมของเทคโนโลยพี ลังงานทางเลอื ก ดา้ นความตอ้ งการใชไ้ ฟฟ้าอกี ไมน่ ้อยกว่า 11,181 ลา้ น ผลิตไม่น้อยกว่า 2,459 เมกะวัตต์ และคิดเป็น หน่วย และสามารถลดความตอ้ งการไฟฟ้าสงู สุดลงได้ พลงั งานไฟฟ้าไมน่ ้อยกวา่ 15,820 ลา้ นหน่วย 2,207 เมกะวตั ต์ (ทงั้ น้ีตวั เลขจํานวนน้ีมไิ ด้ถูกรวมอยู่ ในแผน PDP2004) โดยมีต้นทุนในการดําเนินการ ล่าสดุ ดร.ธรี ะ ฟอแรน และคณะ (2009) ได้ เฉล่ยี 0.92 บาท/หน่วย ซ่งึ เป็นทางเลอื กทม่ี ตี ้นทุนถูก คาํ นวณศกั ยภาพในการประหยดั พลงั งานไฟฟ้าใน ทส่ี ดุ ในการจดั การระบบไฟฟ้าไทย ภาคบ้านเรอื นท่อี ยู่อาศยั พบว่า ภาคบ้านเรอื นท่ี อยู่อาศัยของประเทศไทย มีศักยภาพในการ ศกั ยภาพการพฒั นาในอนาคต ประหยดั พลงั งานไฟฟ้าไดม้ ากกว่า 14,000 ล้าน หน่วย/ปี หรอื สามารถประหยดั ไดป้ ระมาณรอ้ ยละ ดังท่ีได้กล่าวไว้แล้วว่า การจัดการด้านความ 29 ของความต้องการใช้ไฟฟ้ าปกติ ซ่ึงเท่ากับ ต้ อ ง ก า ร ใ ช้พ ลัง ง า น เ ป็ น แ น ว ท า ง ก า ร จัด ก า ร ด้า น สามารถลดความจําเป็นในการก่อสรา้ งโรงไฟฟ้า พลงั งานทม่ี ตี ้นทุนถูกทส่ี ุด และสามารถลดผลกระทบ ใหม่ไดป้ ระมาณ 2,600 เมกะวตั ต์ (เทยี บเท่ากบั ทางส่ิงแวดล้อมและสงั คมลงได้เป็นอย่างมาก การ โรงไฟฟ้าถ่านหนิ ขนาด 800 เมกะวตั ต์ อย่างน้อย พฒั นาการจดั การดา้ นความตอ้ งการใชพ้ ลงั งานจงึ ควร 3 โรง) ทําให้ประหยดั เงนิ ลงทุนในการก่อสร้าง จะมีการพฒั นาอย่างเต็มท่ี จากการวิเคราะห์ความ โรงไฟฟ้าไปได้มากกว่า 86,000 ล้านบาท ทงั้ น้ี ตอ้ งการใชไ้ ฟฟ้ารายสาขาของ Peter du Pont (2005) เกอื บรอ้ ยละ 80 ของปรมิ าณไฟฟ้าทม่ี ศี กั ยภาพใน พบวา่ ประเทศไทยมศี กั ยภาพในการจดั การดา้ นความ การประหยดั ได้ มาจากการประหยดั ไฟฟ้าในการ ตอ้ งการใชไ้ ฟฟ้าภายในปี พ.ศ. 2554 คดิ เป็นกาํ ลงั การ ใชเ้ ครอ่ื งปรบั อากาศ 2006 2011 2016 2021 2026 ภาพท่ี 2.1 แผนภาพแสดงศกั ยภาพในการประหยดั พลงั งานในภาคบา้ นเรอื นทอ่ี ยอู่ าศยั ของประเทศไทย ทม่ี า: Tora Foran et al. (2009)

บทที่ 2 ความเหมาะสมของเทคโนโลยพี ลงั งานทางเลอื ก 41 แนวทางการลดความรอ้ นในบา้ นเรอื น นอกจากน้ี ยงั สามารถใชน้ ้ําระบายความรอ้ น ไดด้ ว้ ย โดยการพน่ ละอองน้ําทห่ี ลงั คา (หรอื ลาน เน่ืองจากประเทศไทยเป็นเมอื งรอ้ น การใช้ คอนกรตี ) ทต่ี อ้ งการใหร้ ะบายความรอ้ น น้ําจะดดู เอา พลงั งานเพอ่ื ลดความรอ้ นภายในบา้ นจงึ เป็นการใช้ ความรอ้ นทส่ี ะสมในวสั ดุเพอ่ื ใชใ้ นการระเหยให้ พลงั งานทส่ี าํ คญั ทส่ี ุดของภาคครวั เรอื นไทย ดงั นนั้ กลายเป็นไอ ทาํ ใหบ้ า้ นเยน็ ลง ยง่ิ การพน่ ละอองน้ํามี เ ร า จึง จํา เ ป็ น ต้อ ง เ รีย น รู้วิธีก า ร ล ด ค ว า ม ร้อ น ใ น ขนาดเลก็ เทา่ ไร ยง่ิ ทาํ ใหป้ ระหยดั น้ําและเพม่ิ ครวั เรอื น โดยทวั่ ไป เราสามารถแบ่งแนวทางใน ประสทิ ธภิ าพในการระบายความรอ้ นมากขน้ึ ปจั จบุ นั การรบั มอื กบั ความรอ้ นเป็น 5 หลกั การ ดงั น้ี ในบา้ นเรามกี ารทาํ เครอ่ื งพน่ ละอองน้ําแบบใชโ้ ซลาร์ เซลออกมาขายแลว้ ดว้ ยครบั หน่ึง คือสร้างร่มเงา แดดท่แี ผดเผาเป็น ปจั จัยสําคัญท่ีทําให้เรารู้สึกร้อนจนทนไม่ไหว ล่าสดุ บรษิ ทั บางแหง่ ผลติ บลอ็ กปถู นนท่ี แนวทางรบั มอื ทส่ี าํ คญั คอื กางรม่ ใหบ้ า้ น ซง่ึ วธิ กี าง สามารถดดู น้ําไวใ้ นตวั เพอ่ื ใหด้ ดู ความรอ้ นทส่ี ะสมใน ร่มใหบ้ า้ นทด่ี ที ส่ี ุดคอื การปลูกต้นไม้ แต่หากพน้ื ท่ี คอนกรตี มาใชใ้ นการระเหยน้ําทส่ี ะสมในตวั มนั ปรากฏ ไม่เอ้ืออํานวยก็อาจใช้แผงบังแดดแทนได้ครับ วา่ สามารถลดอุณหภมู ทิ พ่ี น้ื ลานคอนกรตี ไดเ้ กอื บ 10 ปจั จุบันมีการออกแบบแผงบังแดดหลากหลาย องศาเซลเซยี สเลยทเี ดยี ว รปู แบบดสู วยงามทเี ดยี ว สาม คือกนั ความร้อนไม่ให้เข้ามาส่ตู วั บา้ น ทัง้ น้ี จุดสําคัญท่ีจะต้องกางร่มคือ ทิศ ตะวนั ตก และแผงลานคอนกรตี ทงั้ หลาย (รวมถึง แนวทางน้ีคอื การใชฉ้ นวนในการกนั ความรอ้ น ซง่ึ ดาดฟ้า) เพราะเป็นทิศท่รี บั แดดในช่วงบ่าย และ ปจั จุบนั มกี ารพฒั นาฉนวนกนั ความรอ้ นหลากหลาย สะสมความรอ้ นไว้ก่อนท่รี ะบายความรอ้ นออกมา ชนิด โดยใชว้ สั ดุทต่ี ่างกนั (เชน่ ใยแกว้ โฟม ยปิ ซมั่ ) เมอ่ื เรากลบั ถงึ บา้ นในตอนเยน็ และการใชง้ านกต็ ่างกนั ดว้ ย บางชนิดใชภ้ ายในอาคาร (เชน่ ตดิ ตงั้ เหนือฝ้า หรอื ใตห้ ลงั คา) บางชนิดใชภ้ ายใน สําหรับท่านท่ีชอบทําสวน การทําสวน นอกอาคาร บางชนิดใชก้ บั ผนงั (เชน่ อฐิ มวลเบา) และ ดาดฟ้า และสวนแนวตงั้ ก็จะช่วยเป็นร่มเงาใหก้ บั บางชนิดใชก้ บั หลงั คา บ้านได้เป็ นอย่างดี แถมยังช่วยให้มีอาหารท่ี ปลอดภยั ในการบรโิ ภคอกี ดว้ ย ทงั้ น้ี การเลอื กใชว้ สั ดใุ ดควรพจิ ารณาจาก ประสทิ ธภิ าพในการกนั ความรอ้ น ลกั ษณะการใชง้ าน สอง คือระบายความร้อนที่สะสมในตวั ความปลอดภยั ในการใชง้ าน (โดยเฉพาะการลามไฟ และการเกดิ ควนั พษิ ในกรณอี คั คภี ยั ) และงบประมาณท่ี บ้านให้ออกไปภายนอกบ้าน โดยธรรมชาตแิ ล้ว มใี นกระเป๋ า ทา่ นทส่ี นใจในรายละเอยี ดขอใหไ้ ปดาวน์ อากาศรอ้ นย่อมลอยตวั สูงขน้ึ และอากาศเยน็ กจ็ ะ โหลดคาํ แนะนําของกรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและ ไหลมาแทนท่ี ดงั นนั้ แนวทางรบั มอื คอื การเปิดให้ อนุรกั ษ์พลงั งานไดท้ ่ี ลมไหลผ่านตัวบ้าน และระบายอากาศร้อนผ่าน http://www2.dede.go.th/new-homesafe/webban/ ออกไปนอกบา้ น โดยเฉพาะในพน้ื ทใ่ี ตห้ ลงั คา และ actionplan1.htm พ้ืนท่ีชัน้ สอง ซ่ึงหากเราไม่หาทางระบายของ อากาศไว้ อากาศรอ้ นกจ็ ะถกู เกบ็ กกั ไวใ้ นบา้ นแทน

42 บทที่ 2 ความเหมาะสมของเทคโนโลยพี ลังงานทางเลือก สี่ คือ แลกเปล่ียนความรอ้ น ซง่ึ เป็นการ สุดท้ายคือ การนําความร้อนมาใช้ นําความร้อนท่ีมีอยู่ในตัวบ้านไปแลกเปล่ียนกบั ประโยชน์ ในเม่อื อากาศมนั ร้อนนัก เราก็น่าจะ สภาพแวดลอ้ มทม่ี อี ุณหภูมติ ่ํากว่าอากาศเช่น ดนิ หรอื แหล่งน้ํา ดงั นัน้ จงึ ถอื เป็นการใชพ้ ลงั งานจาก นําเอาความร้อนมาใช้ประโยชน์กันบ้างนะครบั พน้ื พภิ พ หรอื Geothermal energy รปู แบบหน่ึง อย่างน้อยทส่ี ุด กใ็ ชก้ ารตากผา้ หรอื ถนอมอาหาร (เช่นหมูแดดเดียว) ซ่ึงถือเป็ นการประหยัด ความน่าสนใจก็คือ การเปล่ียนแปลง พลังงานไปได้ส่วนหน่ึงก็ยังดีนะ หรือ หากจะ อุณหภูมขิ องดนิ จะค่อนขา้ งคงทห่ี รอื เปลย่ี นแปลง ลงทุนตดิ ตงั้ เคร่อื งทาํ น้ําอุ่นพลงั งานแสงอาทติ ย์ ก็ น้อยกว่าอากาศ เพราะฉะนัน้ ในช่วงทอ่ี ากาศรอ้ น จะย่ิงดีครบั เพราะจะลดการใช้พลงั งานได้มาก ดินก็จะเย็น ในขณะท่ีอากาศหนาว ดินก็จะมี ย่งิ ข้นึ บ้านของผมติดตัง้ แล้วน้ําอุ่นถึงใจดีจรงิ ๆ อุณหภูมิสูงกว่าอากาศ ดินและแหล่งน้ํ าจึง เลยครบั ก ล า ย เ ป็ น แ ห ล่ ง แ ล ก เ ป ล่ีย น ค ว า ม ร้อ น สํา ห รับ บา้ นเรอื น โดยการนําอากาศในบ้านเรอื นไปผ่าน ล่ า สุ ด มีก า ร นํ า เ อ า ค ว า ม ร้อ น จ า ก ทอ่ แลกเปลย่ี นความรอ้ นในดนิ หรอื แหล่งน้ํา (ตาม เคร่อื งปรบั อากาศ มาใชใ้ นการทําน้ําอุ่นดว้ ยครบั ภาพ) ถอื เป็นการแลกเปลย่ี นความรอ้ นทช่ี าญฉลาดมาก เพราะเป็นการนําความร้อนเหลือท้ิงมาทดแทน ซง่ึ ในกรณีของประเทศไทย ดนิ หรอื แหล่ง พลังงานไฟฟ้ า ท่านท่ีใช้เคร่ืองปรบั อากาศและ น้ํากจ็ ะกลายเป็นแหล่งดดู ซบั ความรอ้ นและปล่อย สนใจเคร่อื งทาํ น้ําอุ่นแบบน้ีกส็ ามารถหาขอ้ มลู ทาง ความเย็นมาให้แก่บ้านเรอื น ปจั จุบนั ระบบการ อนิ เตอรเ์ น็ตไดเ้ ชน่ กนั แลกเปลย่ี นความรอ้ นกบั พน้ื พภิ พ ยงั ไมเ่ ป็นทร่ี จู้ กั มากนักในเมอื งไทย เท่าท่ีทราบมกี ารนํามาใช้ท่ี ผมหวังว่า ท่านผู้อ่านคงสามารถหา บ้านชีวาทติ ย์ ของ ศ.สุนทร บุญญาธิการ แต่ใน แนวทางท่ีเหมาะสมสําหรับบ้านของท่าน และ สหรฐั อเมริกามีการนํามาใช้กนั อย่างแพร่หลาย สามารถเขยี นมาเล่าหรอื แลกเปลย่ี นประสบการณ์ เรยี กว่า สามารถสงั่ ซ้อื กนั ไดท้ างอนิ เตอรเ์ น็ตเลย กนั ไดค้ รบั ทส่ี าํ คญั ทส่ี ุดทจ่ี ะตอ้ งรกั ษากนั ไวไ้ ม่ให้ ทีเดียว (ลองค้นคําว่า Geothermal energy for รอ้ นตามอากาศ กค็ อื “ใจ” ของเราครบั home ดกู ไ็ ดค้ รบั ) ภาพท่ี 2.2 ระบบการแลกเปลย่ี นพลงั งานกบั พน้ื พภิ พ ทม่ี า: www.geotecspain.com/heating-system- spain.aspx

บทท่ี 2 ความเหมาะสมของเทคโนโลยีพลังงานทางเลอื ก 43 ภาพท่ี 2.3 ระบบการแลกเปลย่ี นพลงั งานกบั พน้ื พภิ พ ภาพท่ี 2.4 สวนเกษตรดาดฟ้า แนวทางใหมเ่ พอ่ื ลด ทม่ี า: deanadventures.com/htms/geothermal.html โลกรอ้ น ทม่ี า: http://www.penbunernag.com/upload_file ก า ร จ ัด ก า ร ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร พ ล ัง ง า น /sug_151108131845.jpg สาํ หรบั ภาคการขนส่ง ในดา้ นภาคการขนสง่ แนวทางการจดั การ สาํ หรบั ภาคการขนส่ง กระทรวงพลงั งาน ดา้ นความตอ้ งการใชพ้ ลงั งานประกอบไปดว้ ย ไดเ้ คยมกี ารกาํ หนดยทุ ธศาสตรก์ ารแกไ้ ขปญั หา แนวทางทส่ี าํ คญั คอื พลงั งานของประเทศไว้ โดยตงั้ เป้าหมายจะลด การใช้น้ํามันในภาคการขนส่งลงร้อยละ 25 ก า ร ส นั บ ส นุ น ใ ห้มีก า ร ล ง ทุ น แ ล ะ ก า ร ใ ช้ร ถ ภายในปี 2552 ดว้ ยการดาํ เนินการใชเ้ ชอ้ื เพลงิ ขนส่งมวลชนหรอื รถสาธารณะ เพราะปจั จุบนั อ่ืน แทนน้ํามนั เช่น NGV แก๊ซโซฮอล์ ไบโอ การเดนิ ทางในเมอื งใหญ่ของประเทศไทยเช่น ดเี ซล และการปรบั ปรุงระบบโลจสิ ตกิ ส์ ขนส่ง กรงุ เทพมหานครยงั คงพง่ึ พารถยนตส์ ว่ นตวั ใน มวลชน และขนสง่ สนิ คา้ และมกี ารตงั้ เป้าหมาย สดั ส่วนท่สี ูงกว่าเมอื งมหานครอ่นื ๆ ดงั แสดง การอนุรกั ษ์พลังงานในแผนผนุรกั ษ์พลังงาน ในภาพท่ี 2.5 ระยะท่ี 3 (ช่วงปีพ.ศ. 2548-2554) ว่าภาคการ การพฒั นาระบบการขนส่งสนิ คา้ ทางเรอื ทาง ขนส่งจะลดพลังงานลงมาได้เท่ากับ 6,269 รถไฟ หรอื ทางท่อ รวมถึงระบบการกระจาย พนั ตนั เทยี บเท่าน้ํามนั ดบิ หรอื คิดเป็นร้อยละ สนิ ค้าท่ีจะช่วยลดต้นทุนและพลงั งานในการ 2 1 ข อ ง ภ า ค ก า ร ข น ส่ ง ภ า ย ใ น ปี 2 5 5 4 ขนสง่ (สาํ นกั งานนโยบายและแผนสงิ่ แวดลอ้ ม, 2549)

44 บทท่ี 2 ความเหมาะสมของเทคโนโลยพี ลงั งานทางเลือก ก า ร พั ฒ น า เ ค รื อ ข่ า ย ก า ร ข น ส่ ง แ บ บ ก า ร ป รั บ ป รุ ง ร ะ บ บ ก า ร จ ร า จ ร ท่ี มี ผสมผสาน (Multi-model) โดยใหผ้ โู้ ดยสาร ประสทิ ธิภาพ และเอ้อื ต่อการเดนิ ทางโดย สามารถใชร้ ะบบการขนสง่ ทเ่ี ช่อื มต่อกนั ได้ ใช้รถขนส่งมวลชนสาธารณะ เช่น การ ระหว่างการขนส่งมวลชนท่ีเป็นแกนหลกั ตดิ ตงั้ กลอ้ งควบคุมจราจร และการใชร้ ะบบ ไปสู่รถเมล์ เรอื รถไฟได้โดยสะดวก เช่น ควบคุมจราจรอตั โนมตั แิ บบบูรณาการ การ การพัฒนาพ้ืนท่ีจอดแล้วจร (Park and ลดจดุ ตดั บรเิ วณทางรว่ มทางแยก Ride Area) เป็นตน้ การพฒั นารปู แบบการวางผงั เมอื งทด่ี ี โดยมี การสนับสนุนให้มีการใช้รถจกั รยานและ เมอื งขนาดเล็กท่ีมคี วามสมบูรณ์ในตวั เอง ทางเดินเท้าท่ีดี ซ่ึงนอกจากจะประหยัด เพ่อื ลดความจําเป็นในการเดนิ ทางเขา้ สู่ใจ พลังงานแล้ว ยังเป็ นผลดีต่อสุขภาพ กลางเมอื ง สงิ่ แวดลอ้ ม และสงั คมอกี ดว้ ย ก า ร ส นั บ ส นุ น ใ ห้ย า น พ า ห น ะ ท่ีป ร ะ ห ย ัด พลังงาน โดยนํ ามาตรการภาษีตาม ประสทิ ธภิ าพการใชพ้ ลงั งานและผลกระทบ ต่อสงิ่ แวดลอ้ มมาใชอ้ ยา่ งจรงิ จงั ภาพท่ี 2.5 แผนภาพแสดงการเปรยี บเทยี บสดั สว่ นการเดนิ ทางในเมอื งระหวา่ งกรงุ เทพมหานคร และมหานครอ่นื ๆ ทม่ี า: Thai energy News; http://www.energynews.in.th/ArticleShowDetail.asp?ObjectID=10

บทที่ 2 ความเหมาะสมของเทคโนโลยพี ลังงานทางเลอื ก 45 พลงั งานชีวมวล โดย ดร.เดชรตั สขุ กาํ เนิด พลงั งานหมนุ เวยี นจากชวี มวลหมายถงึ เทคโนโลยที เ่ี หมาะสมกบั ชนิดของชวี มวล สว่ นชวี มวล พลงั งานจากอนิ ทรยี ว์ ตั ถุทเ่ี ป็นสว่ นของเศษวตั ถุ ชนิดอ่นื ทย่ี งั พอมศี กั ยภาพในการนํามาเป็นเชอ้ื เพลงิ ใน เหลอื ใชจ้ ากการเกษตรและการแปรรปู สนิ คา้ ทาง การผลติ กระแสไฟฟ้า ไดแ้ ก่ ซงั ขา้ วโพดฟางขา้ ว ใบ การเกษตร ซง่ึ อาจอยใู่ นสถานะของของแขง็ เชน่ และยอดออ้ ย แต่การพยามยามนําชวี มวลกลุม่ มาใชย้ งั แกลบ และเศษไม้ หรอื อยใู่ นสถานะของของเหลว มคี วามเป็นไปไดย้ าก เน่ืองจากประสบปญั หาเกย่ี วกบั คอื น้ําเสยี จากอุตสาหกรรมการแปรรปู การเกษตร การจดั เกบ็ และรวบรวม เชน่ การจดั เกบ็ และขนสง่ ฟาง ชวี มวลเหล่าน้ีสามารถนําไปใชเ้ พอ่ื ผลติ พลงั งาน ขา้ ว การเกบ็ เกย่ี วใบและยอดออ้ ย เป็นตน้ โดยตรง หรอื ใชเ้ ป็นเชอ้ื เพลงิ เพอ่ื ผลติ พลงั งานในรปู อ่นื ๆ เชน่ แกลบใชเ้ ป็นเชอ้ื เพลงิ ในการหงุ ตม้ และ ในการผลติ กระแสไฟฟ้าจากชวี มวลพบวา่ นกั ผลติ กระแสไฟฟ้า เป็นตน้ ลงทุนสว่ นใหญ่เลอื กใชเ้ ทคโนโลยกี ารผลติ กระแสไฟฟ้าดว้ ยเครอ่ื งกาํ เนิดไฟฟ้าพลงั งานไอน้ํา เน่ืองจากชวี มวล คอื สารอนิ ทรยี ์ ดงั นนั้ เมอ่ื (steam turbine) โดยมกี ระบวนการดงั น้ี นําชวี มวลทม่ี ี นํามาใชเ้ ป็นเชอ้ื เพลงิ จงึ เป็นการลดการปล่อยก๊าซ คุณสมบตั เิ หมาะสมทจ่ี ะใชเ้ ป็นเชอ้ื เพลงิ เชน่ ขนาด เรอื นกระจกซง่ึ เป็นสาเหตุของปญั หาภาวะโลกรอ้ น และคา่ ความชน้ื เป็นตน้ มาบดใหล้ ะเอยี ดแลว้ พน่ เขา้ เน่ืองจากการปลกู พชื ทดแทนทาํ ใหเ้ กดิ การ เตาเผาไหม้ ชวี มวลจะตดิ ไฟและไหมท้ นั ที ทาํ ใหไ้ ด้ หมนุ เวยี นของก๊าซคารบ์ อนไดออกไซดซ์ ง่ึ เป็นก๊าซ ความรอ้ นเพอ่ื ใชใ้ นการผลติ ไอน้ํา เมอ่ื ไดไ้ อน้ําแรงดนั เรอื นกระจก สงู ไอน้ําน้ีจะสง่ ไปเพอ่ื หมนุ กงั หนั ของเครอ่ื งกาํ เนิด ไฟฟ้าเพอ่ื ผลติ กระแสไฟฟ้าต่อไป สว่ นไอน้ําทผ่ี า่ น ชนิดหน่ึง ด้วยเหตุน้ีจึงถือว่าไม่มีการปล่อย กระบวนการผลติ จะถกู ทาํ ใหเ้ ยน็ ลงดว้ ยกระบวนการ ก๊าซเรือนกระจกจากการนําชีวมวลมาใช้เป็ น ควบแน่น จะไดเ้ ป็นหยดน้ําซง่ึ จะถกู รวบรวมและสง่ เชอ้ื เพลงิ ดว้ ยปมั๊ น้ํา ไปเตมิ ใหก้ บั หมอ้ ตม้ น้ําเพอ่ื ใหห้ มนุ เวยี น กลายเป็นไอต่อไป สว่ นน้ําหลอ่ เยน็ ทใ่ี ชใ้ นการ ชวี มวลทม่ี กี ารใชอ้ ยา่ งแพรห่ ลายในปจั จบุ นั ควบแน่นแลว้ จะมอี ุณหภมู สิ งู ขน้ึ เน่ืองจากไดร้ บั ความ คอื แกลบ และชานออ้ ย ซง่ึ มกี ารใชจ้ นเกอื บเตม็ รอ้ นทถ่ี ่ายเทมาจากไอน้ําจะถูกทาํ ใหเ้ ยน็ ลงโดยใชห้ อ ศกั ยภาพแลว้ ดงั นนั้ ปจั จุบนั จงึ มกี ารศกึ ษาถงึ ความ หล่อเยน็ ระบายความรอ้ นออกจากน้ําหล่อเยน็ สอู่ ากาศ เป็นไปไดใ้ นการนําชวี มวลชนิดอ่นื คอื เศษไม้ เหงา้ สว่ นน้ําทอ่ี ณุ หภมู ลิ ดลงแลว้ กจ็ ะถกู นํามาใชใ้ หมอ่ กี มนั สาํ ปะหลงั กากปาลม์ กะลาปาลม์ และทะลาย ระบบน้ําหล่อเยน็ ชนิดน้ีจงึ เป็นระบบวงจรปิด ปาลม์ มาใชโ้ ดยทาํ การศกึ ษาทงั้ ดา้ นศกั ยภาพและ

46 บทที่ 2 ความเหมาะสมของเทคโนโลยีพลงั งานทางเลือก การพฒั นาเทคโนโลยี ธนาคารหรอื สถาบนั การเงนิ ต่างๆ ใน เร่อื งความสําคญั ของการผลติ ไฟฟ้า โดยใช้ การพฒั นาเกย่ี วกบั การใชพ้ ลงั งานจากชวี มวล เช้ือเพลิงชีวมวล พร้อมทัง้ จะมีการจัดตัง้ เรม่ิ มคี วามชดั เจนขน้ึ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2535 โดยภาครฐั ได้ ศูนย์บริการท่ีทําหน้าท่ีในการให้คําปรึกษา นําเงนิ จากกองทนุ เพอ่ื สง่ เสรมิ การอนุรกั ษพ์ ลงั งาน และใหบ้ รกิ ารขอ้ มลู ในดา้ นต่างๆ (One Stop มาสนบั สนุนทนุ ดาํ เนินงาน ใหก้ บั หน่วยงานต่างๆ Clearing House) ให้กับนักลงทุนและผู้ท่ี เพอ่ื รว่ มกนั พฒั นาเทคโนโลยชี วี มวลใหม้ ี สนใจทวั่ ไปท่ีจะเข้าสู่ระบบการผลิต ไฟฟ้ า ประสทิ ธภิ าพสงู ขน้ึ และใชไ้ ดส้ ะดวกขน้ึ สง่ เสรมิ ใหม้ ี โดยใ ช้เช้ือเพลิงชีวมวล เช่น การให้ การสาธติ เทคโนโลยที ใ่ี ชช้ วี มวลเป็นเชอ้ื เพลงิ เพอ่ื ให้ คําปรึกษาทางเทคนิค การให้คําปรกึ ษาใน สรา้ งความเชอ่ื มนั่ การใชง้ านไดจ้ รงิ ตลอดจนการ ด้านแหล่งเงินทุน และการให้บรกิ ารศึกษา สง่ เสรมิ ใหใ้ ช้ มกี ารใชพ้ ลงั งานหมนุ เวยี นในการผลติ ความเป็นไปได้ในการตัง้ ระบบผลิตไฟฟ้ า ไฟฟ้า โดยการทาํ ใหร้ าคารบั ซอ้ื ไฟฟ้าจาก SPP ทใ่ี ช้ โดยใชเ้ ชอ้ื เพลงิ ชวี มวล เป็นตน้ พลงั งานหมนุ เวยี นเป็นเชอ้ื เพลงิ อยใู่ นระดบั ท่ี เหมาะสมเมอ่ื เทยี บกบั ตน้ ทนุ ในการผลติ (Adder) จงึ ห า ก ภ า ค รัฐ ใ ห้ก า ร ส่ ง เ ส ริม แ ล ะ เป็นแรงจงู ใจใหม้ ผี สู้ นใจลงทนุ ผลติ และขายไฟฟ้าท่ี สนับสนุ นและเร่งให้มีการพัฒนาการใช้ ใชพ้ ลงั งานหมนุ เวยี นเป็นเชอ้ื เพลงิ เพม่ิ มากขน้ึ พลงั งานจากเช้อื เพลงิ ชวี มวล เพ่อื ใหม้ สี ่วน รวมทงั้ ทาํ การประสานงานกบั การไฟฟ้าทงั้ 3 ฝา่ ย ช่วยในการลดการใช้พลงั งานจากเช้อื เพลิง เพอ่ื แกไ้ ขระเบยี บการรบั ซอ้ื ไฟฟ้าจากผผู้ ลติ ไฟฟ้า ฟ อ ส ซิ ล ส า ม า ร ถ ดํ า เ นิ น ง า น ไ ป อ ย่ า ง มี ขนาดเลก็ มาก (VSPP) เพอ่ื ลดตน้ ทนุ คา่ เช่อื มโยง ประสทิ ธิภาพ ก็จะเป็นการกระตุ้นให้มีการ ระบบเขา้ กบั ระบบจาํ หน่ายของการไฟฟ้าก่อใหเ้ กดิ ผลิตไฟฟ้ าจากพลังงานชีวมวลท่ีมีอยู่ใน บรรยากาศทจ่ี งู ใจใหม้ กี ารผลติ พลงั งานไฟฟ้าจากชวี ประเทศมากข้ึน ซ่ึงจะเป็นการช่วยลดการ มวลไดม้ ากขน้ึ ตวั อยา่ งของกระบวนการพฒั นา เชน่ นําเขา้ พลงั งานจากต่างประเทศ และช่วยลด ไดจ้ ดั ตงั้ ศนู ยบ์ รกิ ารขอ้ มลู เพอ่ื สง่ เสรมิ การผลติ ไฟฟ้า การใชพ้ ลงั งานฟอสซลิ ทําใหป้ ญั หามลภาวะ โดยเชอ้ื เพลงิ จากชวี มวล โดยไดร้ บั การสนบั สนุนจาก เป็นพษิ เบาบางลงไป ส่งผลใหค้ ุณภาพชวี ติ Global Environment Facility (GEF) โดยผา่ น และสงิ่ แวดลอ้ มทด่ี ี ไดก้ ลบั คนื มา United Nations Development Programme (UNDP) ในวงเงนิ 6.8 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั เพอ่ื รว่ ม ดาํ เนินการแกไ้ ขและลดปญั หาอุปสรรค ทเ่ี กดิ ขน้ึ ใน การพฒั นาโครงการผลติ ไฟฟ้า โดยใชเ้ ชอ้ื เพลงิ ชวี มวล โดยจะพยายามสรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจกบั

บทท่ี 2 ความเหมาะสมของเทคโนโลยพี ลงั งานทางเลือก 47 สถานภาพของการผลิตพลงั งานจาก ตารางท่ี 2.1 จาํ นวนโรงไฟฟ้าจากชวี มวลและปรมิ าณ กระแสไฟฟ้าทผ่ี ลติ ได้ ชีวมวลของประเทศไทย เชอ้ื เพลงิ จาํ นวน กาํ ลงั การ ขายให้ ปจั จบุ นั พบวา่ ชมี วลหลกั ทถ่ี กู นํามาใชเ้ ป็น โรงไฟฟ้า ผลติ รวม กฟผ. เชอ้ื เพลงิ ในการผลติ กระแสไฟฟ้า คอื แกลบ และชาน (MW) (MW) ออ้ ย จากรายงานของการไฟฟ้าฝา่ ยผลติ ณ วนั ท่ี 31 มนี าคม 2550 พบวา่ มผี ผู้ ลติ ไฟฟ้าขนาดเลก็ จาก แกลบ 21 188.4 137.2 เชอ้ื เพลงิ แกลบจาํ นวน 21 ราย และจากเชอ้ื เพลงิ ชาน ออ้ ยจาํ นวน 32 ราย (ตารางท่ี 2.1) สาํ หรบั เชอ้ื เพลงิ เศษไม้ 3 30.8 27.2 ชวี มวลประเภทอน่ื ไดแ้ ก่ เหงา้ มนั สาํ ปะหลงั เศษไม้ กากปาลม์ ขยะ ซงั ขา้ วโพด และฟางขา้ ว ยงั อยใู่ น ชานออ้ ย 32 641.2 196.8 ระหวา่ งการศกึ ษาถงึ ศกั ยภาพและเทคโนโลยที ่ี เหมาะสมกบั ชวี มวลเหล่าน้ี จากรายงานของการไฟฟ้า กากปาลม์ 4 43.4 31.8 ฝา่ ยผลติ ณ วนั ท่ี 31 มนี าคม 2550 พบวา่ มผี ผู้ ลติ ไฟฟ้าขนาดเลก็ (SPP) ทใ่ี ชช้ วี มวลเป็นเชอ้ื เพลงิ เหงา้ มนั 2 9.0 8.3 จาํ นวน 84 ราย มรี ายละเอยี ดดงั น้ี สาํ ปะหลงั ชวี มวล 21 470.4 157.9 หลายชนิด รว่ มกนั ขยะ 1 2.5 1.0 รวมทงั้ สน้ิ 84 1,385.7 560.2 เตาเผาแบบไพโรไลซีส (Pyrolysis Incinerator ) ไดเ้ ชน่ กนั เชน่ ถา้ ใชก้ ระบวนการน้ีกบั สารอนิ ทรยี ต์ ่างๆ โดยใหค้ วามรอ้ นจนมอี ุณหภมู ิ การกาํ จดั ขยะดว้ ยเตาเผาแบบไพโรไลซสี เป็น ถงึ 500-900 องศาเซลเซยี ส ทค่ี วามดนั ปกตแิ ละ การเผาไหมใ้ นสภาวะไรอ้ ากาศ ดงั นนั้ ใน ไมม่ อี อกซเิ จน จะไดผ้ ลติ ผลสดุ ทา้ ยจะเป็นก๊าซ กระบวนการน้ีชวี มวลจะไมเ่ กดิ การตดิ ไฟ แต่ขยะจะ ของเหลว และกาก การเผาไหมใ้ นลกั ษณะน้ี สลายตวั ดว้ ยความรอ้ น (Thermal Degradation) เรยี กอกี ชอ่ื หน่ึงวา่ destructive distillation โดยใชแ้ หล่งพลงั งานความรอ้ นจากเชอ้ื เพลงิ ทาํ ให้ เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าดดู ความรอ้ น (Endothermic) และเกดิ การเผาไหมแ้ บบไพโรไลซสี เป็นการเผาใน การแตกตวั ของสารประกอบต่างๆ จากนนั้ จะ สภาวะทม่ี อี ากาศน้อย ทาํ ใหเ้ กดิ อากาศเสยี ใน เกดิ ปฏกิ ริ ยิ าควบแน่น (Condensation) ตวั อยา่ งของ ปรมิ าณไมม่ ากนกั เหมาะสมทจ่ี ะใชใ้ นการกาํ จดั การใชก้ ระบวนการเผาแบบไพโรไลซสี ไดแ้ ก่ การทาํ ขยะทม่ี ปี รมิ าณต่ํากวา่ 20 ตนั ต่อวนั เตาเผาแบบ ถ่าน (charcoal) เป็นการใหค้ วามรอ้ นแก่ไมจ้ น น้ีจะใชไ้ ดด้ กี บั มลู ฝอยประเภทกง่ึ เหลวกง่ึ แขง็ อุณหภมู สิ งู ถงึ 250 องศาเซลเซยี ส ทาํ ใหค้ วามชน้ื ใน ผลติ ผลทไ่ี ดจ้ ากกระบวนการเผาไหมแ้ บบไพ ไมร้ ะเหยออกไปหมดและกลายเป็นถ่านทเ่ี ป็นสาร โรไลซสี ประกอบดว้ ย คารบ์ อน นอกจากน้ี กระบวนการน้ียงั ใชใ้ นการทาํ ให้ ขยะชวี มวลเปลย่ี นสถานะไปเป็นก๊าซหรอื ของเหลว

48 บทที่ 2 ความเหมาะสมของเทคโนโลยีพลงั งานทางเลอื ก สว่ นประกอบทเ่ี ป็นก๊าซทไ่ี ดจ้ ากกระบวนการน้ี ภาพท่ี 2.6 เตาเผาแบบไฟโรไลซสี (Pyrolysis Incenerator) คอื มเี ทน (CH4) คารบ์ อนมอนนอกไซด์ (CO) และไอน้ํา ซง่ึ ก๊าซทไ่ี ดน้ ้ีเป็นก๊าซทส่ี ามารถ นํามาทาํ เป็นเชอ้ื เพลงิ ได้ สว่ นประกอบทเ่ี ป็นของเหลว ประกอบดว้ ย น้ํามนั ดนิ น้ํามนั เชอ้ื เพลงิ ซง่ึ มสี ารต่างๆผสม อยู่ ไดแ้ ก่ กรดอะซติ กิ เมธานอล และ สารประกอบไฮโดรคารบ์ อน ของเหลวน้ี สามารถนํามาใชเ้ ป็นเชอ้ื เพลงิ ในการเผาไหม้ ต่อไปได้ หรอื นําไปใชเ้ ป็นเชอ้ื เพลงิ สาํ หรบั ยาน ยนตต์ ่างๆ ได้ สว่ นประกอบทเ่ี ป็นของแขง็ ไดแ้ ก่ เขมา่ ซง่ึ ประกอบดว้ ยคารบ์ อนและสารเฉ่ือยอน่ื ๆ ทไ่ี ม่ สามารถเผาไหมไ้ ด้ เตาเผาแบบ Gasification System การเผาไหมแ้ บบ Gasification เป็น กระบวนการผลติ ก๊าซจากชวี มวล ซง่ึ เกดิ จากการเผา ไหมท้ ม่ี กี ารใชอ้ ากาศหรอื ออกซเิ จนในปรมิ าณน้อยๆ ก๊าซทไ่ี ดจ้ ากกระบวนการน้ีประกอบดว้ ย มเี ทน คารบ์ อนไดออกไซด์ คารบ์ อนมอนอกไซด์ และ ไฮโดรเจน ก๊าซน้ีจะถกู นําไปใชใ้ นการขบั กงั หนั ก๊าซ (gas turbine) เพอ่ื ผลติ ไฟฟ้า หรอื ทาํ ใหเ้ กดิ การ ควบแน่นแลว้ นําไปกลนั่ ใหม้ คี วามบรสิ ทุ ธถิ ์ งึ รอ้ ยละ 98 กจ็ ะไดเ้ ป็นเมทานอล (methanol) ออกมา ภาพท่ี 2.7 เตาเผาแบบ Gasification

บทที่ 2 ความเหมาะสมของเทคโนโลยพี ลงั งานทางเลือก 49 ภาพท่ี 2.8 แสดงผงั การเปลย่ี นชวี มวลใหเ้ ป็นพลงั งานโดยวธิ ี กบั เตาแก๊สหุงต้มท่เี ช้อื เพลงิ มสี ถานะเป็น เผาไหมแ้ บบ Pyrolysis และ Gasification แก๊ส แก๊สกบั อากาศจะผสมกนั ไดด้ ที ําใหเ้ กดิ การ เผาไหม้ท่ีสมบูรณ์ ควันจึงไม่มี ควัน เขม่า ท่ี กรณีตวั อย่าง: เตาแกส๊ เชื้อเพลิงแกลบ เกิดข้นึ เหล่าน้ีเป็นอนั ตรายต่อระบบหายใจของ การเผาไหม้วสั ดุต่างๆ จะต้องใช้อากาศ ผู้ใช้งานโดยเฉพาะแม่ครวั และลูกน้อย เหตุผล เ ห ล่ า น้ี จึง เ ป็ น ท่ีม า ว่า ทํา ไ ม ต้อ ง แ ป ล ง แ ก ล บ ใ ห้ เพ่อื ให้เกิดการเผาไหม้ หากไม่มอี ากาศการเผา กลายเป็นแก๊สก่อนจงึ เผาไหมแ้ ก๊สอกี ครงั้ เพ่อื ใช้ ไหม้จะไม่เกิดข้นึ การผสมคลุกเคล้ากนั ระหว่าง งาน ก็เพราะต้องการให้เกิดการเผาไหม้ท่ี วสั ดุทจ่ี ะเผากบั อากาศจงึ มผี ลต่อประสทิ ธภิ าพการ สมบรู ณ์ ลดควนั ลดผลกระทบต่อสขุ ภาพผใู้ ชง้ าน เผาไหม้ ถ้าผสมกนั ดปี ระสทิ ธภิ าพการเผาไหมก้ ็ นนั่ เอง จะดี เผาไหมไ้ ดส้ มบรู ณ์ ไมม่ คี วนั ยกตวั อยา่ งเช่น การเผาไหมฟ้ ืน (เช้อื เพลงิ แขง็ ) เน้ือไม้จะสมั ผสั เตาแกส๊ พลงั งานแกลบมที งั้ หมด 3 รนุ่ คอื กบั อากาศไดเ้ ฉพาะส่วนท่อี ยู่ผวิ ดา้ นนอกเท่านัน้ รนุ่ หน่ึงหอ้ งเผาไหม้ รนุ่ สองหอ้ งเผาไหมไ้ มม่ ลี น้ิ ชกั จึงเกิดการเผาไหม้ท่ีผิวด้านนอกก่อน ส่วนท่ีไม่ และรุน่ สองหอ้ งเผาไหมม้ ลี น้ิ ชกั (ตามภาพท่ี 2.9) สมั ผสั กบั อากาศ จะเกดิ การเผาไหมท้ ่ไี ม่สมบูรณ์ รุน่ สองหอ้ งเผาไหมท้ งั้ ทม่ี ลี น้ิ ชกั และไม่มเี ป็นรุ่นท่ี เตาฟืนจงึ มคี วนั ระหวา่ งใชง้ าน เมอ่ื เปรยี บเทยี บ พฒั นาต่อยอดจากรุน่ หน่ึงหอ้ งเผาไหม้ เพ่อื แกไ้ ข ขอ้ จํากดั ในการใชง้ านของเตารุน่ หน่ึงหอ้ งเผาไหม้ ทใ่ี ชง้ านในการหงุ ตม้ ได้ 35 นาทเี ทา่ นนั้ ใหส้ ามารถ ใชไ้ ด้นานขน้ึ โดยออกแบบใหม้ หี อ้ งเผาไหมส้ อง หอ้ งในเตาเดยี วกนั และลดความสูงของเตาลงให้ พอเหมาะกบั การประกอบอาหาร การใชง้ านจะจุด ใชง้ านทลี ะหอ้ งเผาไหม้ เม่อื เชอ้ื เพลงิ ในหอ้ งเผา ไหมแ้ รกเผาใชง้ านไปจนหมด จงึ สลบั มาจุดใชง้ าน ในหอ้ งเผาไหมท้ ส่ี อง ซง่ึ เป็นการทํางานในลกั ษณะ กง่ึ ตอ่ เน่อื ง ทาํ ใหส้ ามารถเพม่ิ ระยะเวลาการใชง้ าน ไดเ้ ป็นประมาณ 50 นาที สําหรบั เตารุน่ ทม่ี ลี น้ิ ชกั ซง่ึ เป็นรนุ่ พฒั นาลา่ สดุ เพอ่ื เพม่ิ ความสะดวกในการ นําเถา้ ออก และยงั สามารถสลบั การใชง้ านไดน้ าน กวา่ รนุ่ ไมม่ ลี น้ิ ชกั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook