ตัวชวี้ ัด ความคิด สาระ ทกั ษะการคดิ ช้ินงาน/ แนวการจัด รวบยอด การเรยี นร ู้ ภาระงาน กิจกรรมการเรยี นรู ้ ๓. ทำการสาธติ เพอื่ ให้ เขา้ ใจและเหน็ ชัดเจน โดยการยกตัวอย่าง ใหเ้ ขา้ ใจ ๔. เปน็ ขัน้ ตอนท่ีจะ ตอ้ งคดิ แบบหมวกหกใบ โดยอาศยั ขอ้ มลู ที่ไดร้ บั จากการศกึ ษาคน้ คว้า มาเปน็ ขอ้ มลู ในการคิด และลงมือปฏิบตั ิ ๕. ร่วมกนั สนทนาถงึ การคิดทีม่ ีตอ่ ขอ้ มลู นั้น ๆ เพอ่ื เน้นให้เหน็ ถงึ ความชดั เจนในส่ิง ท่คี ดิ และเพือ่ ป้องกนั การสับสน ๖. รว่ มจัดงาน การแสดงนาฏศิลป ์ ในบทบาทหน้าทตี่ า่ ง ๆ ๗. วิเคราะห ์ เปรียบเทยี บและ เรียบเรยี งความคิด โดยเนน้ ประเด็นสำคัญ เพอื่ ใหเ้ หน็ ผลการคดิ วา่ นาฏศลิ ปแ์ ละการละคร มีองค์ประกอบท่ีมี ความแตกต่างกนั อยา่ งไร ๘. เขียนรายงาน เรอ่ื งองคป์ ระกอบของ นาฏศลิ ป ์ 92 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้เู พ่อื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดับมธั ยมศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
ตวั ชว้ี ัด ความคดิ สาระ ทักษะการคิด ช้นิ งาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรียนรู ้ ภาระงาน กิจกรรมการเรยี นรู ้ ๑. ทบทวนความร้เู ดิม มาตรฐาน ศ ๓.๒ นาฏศลิ ป์ ๑. ทักษะ ๑. รายงานสรุป เกย่ี วกบั นาฏศลิ ป์และ ๒. อธิบายความ และการละคร ๑. ความสำคัญ การนำความรู้ไปใช ้ ความสำคญั การละคร สำคัญ และ ท่ีเป็นมรดก และบทบาทของ ๒. ทักษะ และบทบาท ๒. วางแผนการใช้ บทบาทของ ทางวฒั นธรรม นาฏศิลป์และ การตคี วาม ของนาฏศลิ ป ์ คำถามไว้ล่วงหนา้ นาฏศลิ ปแ์ ละ ของชาตไิ ทย การละครในชีวิต ๓. ทกั ษะ และการละคร โดยใหส้ อดคล้องกับ การละครใน มีคณุ ค่าตอ่ การ ประจำวนั กระบวนการคดิ ๒. จดั บอร์ด ความสำคัญและ ชวี ิตประจำวัน อนุรกั ษ ์ ๒. การอนุรกั ษ ์ อย่างมวี ิจารณญาณ นทิ รรศการ บทบาทของนาฏศิลป์ ๓. แสดงความ นาฏศิลป์ การอนรุ กั ษ ์ และละครในชวี ิต คดิ เหน็ ในการ นาฏศิลป์ไทย ประจำวนั และการ อนรุ ักษ์ อนรุ กั ษ์ไว้ใหช้ ัดเจน ๓. จดั ทำคำถามไวถ้ าม กระตุน้ การคดิ โดยอาจถามด้วยปาก เปลา่ หรอื จัดทำบัตร คำถาม เช่น นาฏศลิ ป์ มคี วามสำคญั อยา่ งไร กบั สังคมไทย หรือ นาฏศิลป์และละครมี บทบาทอย่างไรกบั ชีวิตประจำวันของเรา และเราจะอนุรักษ ์ นาฏศลิ ปแ์ ละละครไว้ หรอื ไม่ เพราะเหตุใด ดว้ ยวธิ ีใด เป็นต้น ๔. นำคำถามตา่ ง ๆ ทเี่ ตรียมไวม้ าใช้ถาม ผู้เรยี น เปน็ รายบคุ คล หรอื รายกลมุ่ หรืออาจใช ้ คำถามใหม่ในขณะนั้น แตต่ อ้ งสอดคล้องกบั วัตถปุ ระสงค์และ เนือ้ หาสาระการเรยี นรู้ นนั้ ๆ และใหร้ ะบุ ประเดน็ ประมวลผล วเิ คราะห์ พิจารณา ทางเลือกโดยหลกั เหตุผล/คณุ คา่ และ ตัดสนิ ใจเกยี่ วกบั ความ สำคญั และบทบาทของ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พอื่ พัฒนาทักษะการคดิ ระดบั มัธยมศกึ ษา 93 กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ
ตัวชี้วัด ความคดิ สาระ ทกั ษะการคดิ ชน้ิ งาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรียนรู ้ ภาระงาน กิจกรรมการเรียนรู้ นาฏศลิ ปแ์ ละการละคร ในชีวติ ประจำวัน ๕. ร่วมกันแสดง ความคิดเห็นในการ อนรุ กั ษ์ และ ประเมนิ ผลตาม สภาพจรงิ โดยร่วมกนั กำหนดเกณฑก์ าร ประเมนิ และประเมนิ อย่างหลากหลาย รูปแบบ ๖. เขียนรายงานสรปุ ความสำคัญและ บทบาทของนาฏศิลป์ และการละคร ในชีวิตประจำวัน ๗. จัดบอร์ด นิทรรศการ การอนุรักษ ์ นาฏศลิ ป์ไทย 94 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พือ่ พัฒนาทักษะการคดิ ระดบั มัธยมศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ิลปะ
™Èนั ¡∏ั ¬¡ศ÷°…าปทï ่ี Ù-ˆ ✦ °าร«‡ิ §ราะÀåตั«™«Èี ัดส°àŸ ารæ≤ั นาทั°…ะ°าร§ดิ ✦ °าร®ัด°®ิ °รร¡°าร‡รี¬นร‡âŸ æ่Õ◊ æั≤นาท°ั …ะ°าร§ดิ
✦ °าร«ิ‡§ราะÀåต«ั ™«Èี ดั ส°àŸ ารæ≤ั นาท°ั …ะ°าร§ิด การวิเคราะห์ตัวชี้วัดสู่การพัฒนาทักษะการคิดเป็นการนำตัวชี้วัด กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปทï ่ี ๔-๖ จาก ๓ สาระ ๖ มาตรฐาน จำนวน ๓๙ ตวั ชว้ี ดั มาวเิ คราะหร์ ายตวั ชว้ี ดั ใน ๔ ประเดน็ คอื ตวั ชวี้ ดั แตล่ ะตวั ผู้เรียนควรมีความรู้อะไรและทำอะไรได้ ทักษะการคิด ช้ินงาน/ภาระงาน และแนวการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ในแต่ละประเด็นจะมี ความสัมพันธเ์ ช่อื มโยงกันและสะท้อนคณุ ภาพผูเ้ รียนตามตวั ช้ีวดั
สาระท่ี ๑ ทศั นศลิ ป์ มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อ งานศลิ ปะอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั ตวั ช้ีวัด ผ้เู รยี นรู้อะไร/ทำอะไรได้ ทักษะการคิด ชนิ้ งาน/ แนวการจดั การเรยี นรู้ ภาระงาน เพือ่ พัฒนาทักษะการคิด ๑. วเิ คราะห ์ ผเู้ รียนรอู้ ะไร ทักษะ รายงาน ๑. ศึกษาขอ้ มูลการใชท้ ศั นธาตุ การใชท้ ัศนธาตุ ทศั นธาตแุ ละหลักการ การวเิ คราะห์ วเิ คราะห์การใช้ และหลกั การออกแบบ และหลกั การ ออกแบบในการสื่อความหมาย ทัศนธาตแุ ละ ๒. กำหนดทศั นธาตุ (เสน้ สี แสง ออกแบบ ผู้เรียนทำอะไรได ้ หลกั การออกแบบ เงา รูปทรง) มาจดั ออกแบบใน ในการส่อื วิเคราะห์การใช้ทัศนธาตุ การส่อื ความหมายรูปแบบตา่ ง ๆ ความหมายใน และหลักการออกแบบ ๓. แยกแยะขอ้ มลู ทศั นธาต ุ รูปแบบตา่ ง ๆ ในการส่อื ความหมาย (เส้น สี แสง เงา รูปทรง) ๔. เช่อื มโยงความสมั พันธ์ ในรูปแบบต่าง ๆ ของการใชท้ ศั นธาตแุ ละ หลักการออกแบบในการ สอ่ื ความหมายในรูปแบบตา่ ง ๆ ๕. อภิปรายผลงานทศั นศิลป์ ในรูปแบบต่าง ๆ ๖. รายงานวเิ คราะห์การใช ้ ทัศนธาตแุ ละหลักการออกแบบ รายงาน ๑. ทบทวนซกั ถามเกย่ี วกบั ๒. บรรยาย ผูเ้ รยี นรู้อะไร ทักษะ จดุ ประสงค์และ การใช้ศัพท์ทางทัศนศิลป ์ จุดประสงค์ ศพั ทท์ างทศั นศิลป์ การนำความร ู้ เน้ือหาของ ๒. อธบิ ายจดุ ประสงคแ์ ละ และเน้อื หาของ ผเู้ รยี นทำอะไรได ้ ไปใช้ งานทศั นศลิ ป ์ เนอ้ื หาของงานทัศนศิลป์ งานทศั นศลิ ป์ บรรยายจดุ ประสงค ์ โดยใชศ้ พั ท ์ โดยใช้ศพั ท์ทางทัศนศลิ ป์ โดยใช้ศัพท ์ และเนื้อหาของงานทัศนศลิ ป์ ทางศิลปะ ๓. นำความรเู้ กยี่ วกบั ศพั ท ์ ทางทัศนศลิ ป์ โดยใชศ้ พั ท์ทางทัศนศลิ ป ์ ทางศิลปะมาบรรยายและ เขียนรายงานจุดประสงคแ์ ละ เนอื้ หาของงานทศั นศลิ ป์ โดยใช้ศัพทท์ างทศั นศลิ ป์ เขียนรายงาน ๑. ศกึ ษาข้อมูลและสงั เกต ๓. วิเคราะห์ ผ้เู รยี นรู้อะไร ๑. ทักษะ ผลการวิเคราะห ์ ความเหมอื น ความต่างของ การเลือกใช้ วัสดุ อุปกรณ์ และเทคนคิ การจัดกลมุ่ การเลือกใชว้ ัสดุ การเลือกใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ วสั ดุ อปุ กรณ ์ ของศลิ ปินในการแสดงออก ๒. ทกั ษะ อุปกรณ์ และ สรา้ งงานทัศนศิลป ์ และเทคนคิ ทางทัศนศิลป์ การวิเคราะห ์ เทคนิคในการ ๒. ตงั้ วัตถปุ ระสงค์ในการ ของศิลปินใน ผเู้ รยี นทำอะไรได ้ การแสดงออก วิเคราะห์ เลอื กใชว้ สั ดุ วเิ คราะห์ข้อมูล ทางทัศนศิลป ์ อปุ กรณ์ และเทคนคิ 98 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพือ่ พฒั นาทักษะการคิด ระดับมัธยมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ิลปะ
ตัวชี้วัด ผเู้ รียนร้อู ะไร/ทำอะไรได ้ ทักษะการคดิ ชนิ้ งาน/ แนวการจดั การเรยี นรู้ ภาระงาน เพอ่ื พัฒนาทกั ษะการคิด ๓. กำหนดเกณฑ์ในการจำแนก ของศิลปินในการแสดงออก สรา้ งงานของ และรวมกลมุ่ ซงึ่ แต่ละกลมุ่ ทางทศั นศิลป์ได้ ศิลปนิ มีเกณฑต์ า่ งกันไป ๔. แยกขอ้ มลู ตามเกณฑท์ กี่ ำหนด ๕. หาความสมั พันธข์ องข้อมูล ในแต่ละองคป์ ระกอบ ๖. นำผลการวเิ คราะหแ์ ละ การจัดกลุม่ มาสรปุ ตอบคำถาม ตามวตั ถปุ ระสงค์ ๗. เขยี นรายงานวิเคราะหก์ าร เลือกใช้วสั ดุ อปุ กรณแ์ ละเทคนิค ในการสร้างงานของศิลปิน ๑. ทบทวนซกั ถามเก่ียวกบั การใช้ ๔. มีทักษะ ผู้เรียนร้อู ะไร ทกั ษะ วาดภาพ วัสดุ อปุ กรณ์ในการสรา้ งงาน และเทคนคิ เทคนคิ วสั ดุ อปุ กรณ์และ การนำความรู้ ระบายสี ทัศนศิลป ์ ในการใชว้ ัสดุ กระบวนการในการสรา้ งงาน ไปใช้ ๒. อธบิ ายความเหมอื นกนั อุปกรณ์ และ ทัศนศลิ ป์ ของงานทัศนศลิ ป์ ด้วยเทคนคิ กระบวนการ ผูเ้ รียนทำอะไรได ้ ในการใช้ วัสดุ อปุ กรณ์และ ท่ีสงู ข้นึ ในการ มีทกั ษะและเทคนิค กระบวนการสรา้ งงาน สรา้ งงาน ในการใชว้ สั ดุ อุปกรณแ์ ละ ๓. อภปิ รายระบุทกั ษะและ ทศั นศลิ ป ์ กระบวนการข้นั สูงในการสรา้ ง เทคนิคในการใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ งานทศั นศลิ ป ์ และกระบวนการสร้างงาน ทัศนศลิ ปช์ น้ั สูง ๔. วาดภาพระบายสีโดยใช้ทักษะ และเทคนคิ ในการใช้วัสดุ อุปกรณ์และกระบวนการชน้ั สงู ๑. ทบทวนความร้เู ดมิ เรื่อง ๕. สร้างสรรค์งาน ผูเ้ รยี นรอู้ ะไร ๑. ทกั ษะ วาดภาพ การสร้างสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ ทศั นศิลป์ด้วย หลักการออกแบบ การนำความร้ ู ระบายสี ๒. เช่อื มโยงความรูท้ กั ษะ เทคโนโลยี และการจัดองค์ประกอบศิลป์ ไปใช้ ประสบการณท์ างศิลปะ ต่าง ๆ โดยเนน้ ดว้ ยเทคโนโลย ี ๒. ทกั ษะ ดว้ ยเทคโนโลยตี า่ ง ๆ หลักการ ผเู้ รียนทำอะไรได ้ กระบวนการ ๓. อธิบายหลักการออกแบบ ออกแบบและ สร้างสรรค์งานทัศนศลิ ป ์ คิดสรา้ งสรรค ์ และการจดั องคป์ ระกอบศิลป์ การจดั ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยเนน้ ด้วยเทคโนโลยตี า่ ง ๆ องคป์ ระกอบ หลักการออกแบบและการจัด ๔. วาดภาพระบายสีด้วย ศลิ ป ์ องค์ประกอบศลิ ป ์ เทคโนโลยตี ่าง ๆ โดยเนน้ หลักการออกแบบและการจดั องคป์ ระกอบศลิ ป ์ แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรูเ้ พือ่ พฒั นาทักษะการคิด ระดบั มัธยมศกึ ษา 99 กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ิลปะ
ตวั ช้วี ดั ผเู้ รยี นร้อู ะไร/ทำอะไรได ้ ทักษะการคิด ชนิ้ งาน/ แนวการจดั การเรียนรู ้ ภาระงาน เพอ่ื พัฒนาทักษะการคิด ๖. ออกแบบ ผเู้ รียนรูอ้ ะไร ทกั ษะ การจัด ๑. ทบทวนความรูเ้ กี่ยวกับ งานทศั นศิลป์ หลกั การออกแบบสร้างงาน การนำความร ู้ นทิ รรศการ การออกแบบงานทัศนศิลป์ ไดเ้ หมาะกับ ทศั นศิลป์ ไปใช ้ ๒. ซักถามความรู้เก่ยี วกบั โอกาสและ ผูเ้ รียนทำอะไรได ้ การจดั นิทรรศการ สถานท่ี ออกแบบงานทศั นศลิ ป์ได้ ๓. เชื่อมโยงความรูแ้ ละ เหมาะกับโอกาสและสถานที ่ ประสบการณ ์ ๔. รว่ มกนั อภปิ รายเกี่ยวกับ การออกแบบการจัดนิทรรศการ ๕. นำความรูท้ ่ีได้ไปประยกุ ต์ใช้ ในการจดั นทิ รรศการใหเ้ หมาะกบั โอกาสและสถานท่ี ๗. วเิ คราะหแ์ ละ ผูเ้ รียนรู้อะไร ทกั ษะ รายงานการ ๑. ศึกษาและรวบรวมขอ้ มลู การ อธบิ าย จดุ มุง่ หมายของศลิ ปิน การวิเคราะห ์ เลือกใช้วัสดุ ใชว้ สั ดุ อุปกรณ์สร้างงานของ จดุ ม่งุ หมาย ในการเลอื กใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ อุปกรณ์ เทคนคิ ศลิ ปิน ของศิลปนิ ใน เทคนิคและเนอ้ื หาในการ และเน้ือหาในการ ๒. กำหนดเกณฑ์ในการจำแนก การเลือกใช ้ สรา้ งสรรค์งานทศั นศลิ ป์ สร้างงานทัศนศลิ ป์ ขอ้ มลู ที่ได้ วสั ดุ อปุ กรณ์ ผู้เรยี นทำอะไรได ้ ของศิลปนิ ๓. แยกแยะข้อมลู ตามเกณฑเ์ พื่อ เทคนคิ และ วเิ คราะหแ์ ละอธบิ าย หาความสมั พันธ์ขององค์ เนือ้ หา เพือ่ จดุ ม่งุ หมาย ของศิลปิน ประกอบและขอ้ มลู สร้างสรรค์ ในการเลือกใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ ๔. อธบิ ายผลการวเิ คราะห์ขอ้ มูล งานทัศนศิลป ์ เทคนคิ และเนอ้ื หา ๕. รว่ มกันอภิปรายสรุปความคิด เพอื่ สร้างสรรค์งานทศั นศิลป ์ เหน็ ข้อมลู การเลือกใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ เทคนิคและเนอ้ื หา ในการสร้างงานทศั นศิลป์ ของศิลปนิ ๖. เขยี นรายงานการเลือกใช้วัสดุ อปุ กรณ์ เทคนคิ และเน้อื หาใน การสร้างงานทัศนศลิ ป์ของศลิ ปนิ ๘. ประเมนิ และ ผู้เรยี นรอู้ ะไร ทักษะ ประเมนิ และ ๑. นำประเดน็ การวจิ ารณ์งาน วิจารณ์งาน การประเมนิ และวจิ ารณง์ าน การประเมนิ วิจารณง์ าน ทศั นศิลป์มากำหนดระดับ ทัศนศิลป์ ทศั นศลิ ป์ โดยใช้ทฤษฎ ี ทศั นศลิ ปโ์ ดยใช้ คณุ ภาพท่ียอมรบั ได้ โดยใช้ทฤษฎี การวิจารณศ์ ลิ ปะ ทฤษฎีการวจิ ารณ์ ๒. นำผลการวจิ ารณม์ าเทียบกับ การวิจารณ์ ผเู้ รยี นทำอะไรได ้ ศลิ ปะ ระดับคณุ ภาพ ศลิ ปะ ประเมนิ และวิจารณง์ าน ๓. ระบรุ ะดบั คุณภาพของผลงาน ทศั นศลิ ปโ์ ดยใชท้ ฤษฎี ๔. ประเมินและวจิ ารณ์งาน การวิจารณ์งานศิลปะ โดยใชท้ ฤษฎีการวิจารณ์ศลิ ปะ 100 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรูเ้ พ่ือพัฒนาทักษะการคิด ระดับมัธยมศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ
ตวั ช้วี ดั ผู้เรยี นรอู้ ะไร/ทำอะไรได้ ทักษะการคดิ ช้ินงาน/ แนวการจัดการเรียนรู้ ภาระงาน เพ่ือพฒั นาทกั ษะการคดิ ๙. จดั กลุ่มงาน ผู้เรยี นร้อู ะไร ทักษะ รายงานผล ๑. สังเกตความเหมอื นความตา่ ง ทัศนศลิ ป ์ การจัดทำแฟม้ สะสมงาน การจัดกลุ่ม การจัดกลมุ่ งาน ของงานทัศนศลิ ป ์ เพอ่ื สะทอ้ น ทัศนศลิ ป์ เพอื่ สะท้อน ทัศนศิลป ์ ๒. กำหนดเกณฑ์การจดั กลมุ่ พฒั นาการและ พัฒนาการและความกา้ วหนา้ งานทศั นศลิ ป์ ความก้าวหนา้ ของตนเอง ๓. จำแนกหรอื แยกงานทศั นศิลป์ ของตนเอง ผู้เรยี นทำอะไรได ้ ๔. เขยี นรายงานอธิบาย จัดกลมุ่ งานทัศนศลิ ป์ ผลการจดั กลุ่มงานทศั นศิลป ์ เพ่อื สะทอ้ นพฒั นาการและ เพอ่ื สะท้อนพฒั นาการและ ความกา้ วหนา้ ของตนเองได ้ ความก้าวหนา้ ๑๐. สร้างสรรค์ ผเู้ รยี นร้อู ะไร ทักษะ วาดภาพตาม ๑. ทบทวนความรู้ในการสรา้ งงาน งานทศั นศิลป ์ การสร้างงานทัศนศิลปจ์ าก การนำความรู้ แนวคดิ ศิลปนิ ทศั นศลิ ป ์ ไทยสากล แนวคิดและวธิ กี ารสรา้ งงาน ไปใช ้ ทช่ี นื่ ชอบ ๒. อภิปรายแนวคิดและวิธสี รา้ ง โดยศึกษาจาก ของศลิ ปนิ งานทัศนศลิ ปท์ ี่ชื่นชอบ แนวคิดและ ผเู้ รยี นทำอะไรได ้ ๓. รวบรวมและสรปุ แนวคิด วิธกี าร สรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลป์ไทย และวธิ กี ารสร้างงานของศลิ ปิน สรา้ งงาน สากล โดยศึกษาจากแนวคดิ ทช่ี ่ืนชอบ ของศิลปนิ และวธิ ีการสร้างงาน ๔. วาดภาพตามแนวคดิ และ ทีต่ นชืน่ ชอบ ของศลิ ปนิ ท่ตี นชืน่ ชอบ วธิ สี ร้างงานของศลิ ปนิ ทช่ี นื่ ชอบ ๑๑. วาดภาพ ผเู้ รยี นรอู้ ะไร ทกั ษะ วาดภาพ ๑. สังเกตภาพการ์ตนู ระบายสเี ป็น การวาดภาพล้อเลียน กระบวนการคิด ระบายสเี ปน็ ภาพ ประเภทต่าง ๆ ภาพล้อเลยี น หรือภาพการต์ นู สามารถ สร้างสรรค์ ล้อเลยี น หรือ ๒. เช่อื มโยงความร้ทู กั ษะ หรือภาพ สอ่ื เร่ืองราวและแสดง ภาพการต์ ูน ประสบการณ์ทางศิลปะสร้างงาน การ์ตูนเพอื่ ความคิดเห็นเก่ียวกบั วาดภาพการ์ตนู ภาพล้อเลยี น แสดงความ สภาพสังคมในปัจจบุ ัน ตามหลักและข้นั ตอน คิดเห็นเกี่ยวกับ ผ้เู รยี นทำอะไรได ้ ๓. วาดภาพ ระบายสีเป็นภาพ สภาพสังคม วาดภาพ ระบายสีเป็นภาพ ลอ้ เลียนหรือภาพการต์ นู ในปจั จบุ ัน ล้อเลียน หรอื ภาพการ์ตนู ที่ ๔. นำเสนอผลงานและใหเ้ หตุผล สะท้อนสภาพสังคมในปจั จบุ ัน ๕. แสดงผลงานตอ่ ชมุ ชน แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ พื่อพัฒนาทักษะการคิด ระดบั มัธยมศกึ ษา 101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
สาระท่ี ๑ ทัศนศลิ ป์ มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมปิ ัญญาไทยและสากล ตวั ชว้ี ดั ผูเ้ รียนร้อู ะไร/ทำอะไรได้ ทกั ษะการคดิ ชิน้ งาน/ แนวการจดั การเรยี นรู้ ภาระงาน เพือ่ พัฒนาทกั ษะการคดิ ๑. วิเคราะห์และ ผเู้ รยี นรอู้ ะไร ทักษะ รายงานการ ๑. สังเกตความเหมอื นความตา่ ง เปรยี บเทียบ งานทศั นศลิ ป์ในรปู แบบ การเปรยี บเทียบ วเิ คราะห์และ ของงานทัศนศลิ ปต์ ะวันออก งานทศั นศลิ ป์ ตะวันออกและรูปแบบตะวนั ตก เปรียบเทยี บงาน และตะวันตก ในรูปแบบ ผู้เรยี นทำอะไรได ้ ทัศนศลิ ป์ในรปู ๒. กำหนดเกณฑ์การจดั กลุ่ม ตะวันออก วิเคราะหแ์ ละเปรียบเทียบ แบบตะวนั ออก ๓. จำแนกหรอื แยกงานทัศนศลิ ป์ และรปู แบบ งานทัศนศิลป์ในรปู แบบ และตะวันตก ในรูปแบบตะวนั ออกและรูปแบบ ตะวนั ตก ตะวันออกและรปู แบบ ตะวนั ตก ตะวันตกได ้ ๔. อธบิ ายความเหมอื นและ ความแตกต่างของงานทศั นศลิ ป์ ในรูปแบบตะวันออกและ รูปแบบตะวนั ตก ๕. เขยี นรายงานการวเิ คราะห์ และเปรยี บเทียบงานทัศนศิลป์ ในรปู แบบตะวนั ออกและรูปแบบ ตะวนั ตก ๒. ระบุงาน ผเู้ รียนรูอ้ ะไร ทกั ษะ รายงาน ๑. สงั เกตงานทัศนศลิ ป์ของ ทัศนศลิ ป์ งานทศั นศลิ ปข์ องศลิ ปนิ การระบ ุ งานทศั นศิลป ์ ศลิ ปินที่มชี ื่อเสยี ง ของศิลปนิ ที่มีช่ือเสียง และบรรยายผล ของศลิ ปนิ ๒. ระบุข้อมูลเกีย่ วกบั ลักษณะ ทมี่ ชี อื่ เสียง ตอบรบั ของสงั คม ที่มชี อื่ เสียง งานทัศนศลิ ปข์ องศลิ ปิน และบรรยาย ผู้เรยี นทำอะไรได ้ ตามทีส่ ังเกตให้ไดม้ ากท่ีสุด ผลตอบรับ ระบงุ านทัศนศิลป์ของ ๓. อธิบายความเหมอื นหรือ ของสงั คม ศิลปนิ ทีม่ ีชือ่ เสยี ง ความต่างของงานทัศนศิลป์ ของศลิ ปนิ ท่ีมีชื่อเสยี งและ บรรยายผลตอบรับของสังคม ๔. เขียนรายงานเกย่ี วกบั งาน ทศั นศิลปข์ องศิลปินทีม่ ีชื่อเสยี ง ๓. อภิปราย ผเู้ รียนรู้อะไร ทกั ษะ รายงาน ๑. ทบทวนซักถามเกี่ยวกับ เก่ียวกบั อทิ ธิพลของวฒั นธรรม การนำความร ู้ อทิ ธพิ ลของ วฒั นธรรมระหว่างประเทศ อทิ ธพิ ลของ ระหว่างประเทศทมี่ ีผล ไปใช้ วฒั นธรรมระหว่าง ทีม่ ีผลตอ่ งานทศั นศิลป์ในสงั คม วัฒนธรรม ต่องานทศั นศิลป ์ ประเทศทม่ี ผี ล ๒. บอกความเหมอื นกันของ ระหว่าง ผ้เู รียนทำอะไรได ้ ต่องานทัศนศลิ ป์ วฒั นธรรมระหวา่ งประเทศ ประเทศ อภปิ รายถึงความสัมพันธ์ ในสงั คม ที่มีผลตอ่ งานทัศนศลิ ป์ในสังคม ที่มผี ลต่องาน อิทธิพลของวฒั นธรรมระหวา่ ง ๓. นำความรเู้ ก่ียวกับอทิ ธพิ ล ทัศนศิลป์ ประเทศทีม่ ีผลตอ่ งานทัศนศลิ ป์ ของวัฒนธรรมแต่ละประเทศ ในสงั คม ในสังคมได ้ ท่มี ตี ่องานทัศนศิลป์มาอภิปราย และเขียนรายงาน 102 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พื่อพัฒนาทักษะการคิด ระดบั มธั ยมศึกษา กลมุ่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ
สาระที่ ๒ ดนตร ี มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ ์ คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึกความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ช่ืนชม และ ประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวช้ีวัด ผู้เรียนรู้อะไร/ทำอะไรได ้ ทกั ษะการคิด ชนิ้ งาน/ แนวการจดั การเรยี นรู ้ ภาระงาน เพือ่ พฒั นาทักษะการคิด ๑. เปรยี บเทยี บ ผู้เรยี นรอู้ ะไร ๑. ทักษะ ผงั มโนทัศน์ ๑. สังเกตภาพรวมส่งิ ท่เี หมอื น รปู แบบของ การจดั วางดนตรี เชน่ การเปรยี บเทยี บ รูปแบบของ และตา่ งกนั บทเพลงและ การใช้เคร่ืองดนตรีในวงดนตรี ๒. ทักษะ เครอ่ื งดนตรีไทย ๒. ร่วมกนั อภปิ รายและกำหนด วงดนตรีแตล่ ะ ประเภทตา่ ง ๆ และบทเพลง การจัดกลุ่ม และเครอ่ื งดนตรี เกณฑท์ ี่ได้รับการยอมรับ ประเภท ทบ่ี รรเลงโดยวงดนตรปี ระเภท สากล ทางวชิ าการหรอื ยอมรับโดยท่วั ไป ตา่ ง ๆ ของรูปแบบของบทเพลง ผเู้ รียนทำอะไรได ้ และวงดนตรแี ตล่ ะประเภท เปรียบเทยี บรูปแบบของ ๓. เปรยี บเทียบและจดั กลุ่มสิ่ง บทเพลงและวงดนตรี ท่มี ีลักษณะเหมอื นกนั ไวด้ ว้ ยกัน แตล่ ะประเภท ๔. อธิบายผลการจดั กลมุ่ พร้อมทั้งเกณฑท์ ่ีใช้ ๕. ทำผงั มโนทศั นเ์ ก่ียวกับ วงดนตรี เครื่องดนตรีไทย และสากล ๖. อภปิ รายเปรยี บเทยี บรปู แบบ ของบทเพลงและวงดนตรี แตล่ ะประเภท ๒. จำแนกประเภท ผเู้ รียนรู้อะไร ทกั ษะ รายงานรปู แบบ ๑. สังเกต ประเภท และรปู แบบ และรูปแบบ ประเภทของวงดนตรีไทย การจำแนก ของวงดนตรีไทย ของวงดนตรีทัง้ ไทยและสากล ของวงดนตรี และวงดนตรีสากล ประเภท และสากล ๒. สังเกตภาพรวม ของสิ่ง ทั้งไทยและ ผ้เู รียนทำอะไรได ้ ท่เี หมือนกัน และส่งิ ที่ตา่ งกัน สากล จำแนกประเภทและรูปแบบ ๓. กำหนดเกณฑท์ ่ีไดร้ บั ของวงดนตรที ง้ั ไทยและสากล การยอมรบั โดยท่วั ไปของประเภท และรปู แบบของวงดนตรีไทย และสากล ๔. แยกสงิ่ ต่าง ๆ ออกจากกัน ตามเกณฑ์ ๕. จัดกลมุ่ สง่ิ ทม่ี ลี กั ษณะ เหมอื นกันไว้ดว้ ยกนั ๖. อธบิ ายผลการจำแนกประเภท และรูปแบบของวงดนตรีไทยและ วงดนตรสี ากลอยา่ งมหี ลักเกณฑ ์ ๗. เขียนรายงานรปู แบบของ วงดนตรีไทยและสากล แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พอื่ พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดับมธั ยมศึกษา 103 กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ
ตวั ชี้วดั ผ้เู รยี นร้อู ะไร/ทำอะไรได้ ทกั ษะการคิด ชิ้นงาน/ แนวการจดั การเรยี นร ู้ ภาระงาน เพอื่ พฒั นาทกั ษะการคดิ ๓. อธิบายเหตผุ ล ผู้เรยี นรูอ้ ะไร ๑. ทักษะ รายงานเร่ือง ๑. กำหนดประเด็นและรวบรวม ท่คี นตา่ ง ปัจจัยในการสร้างสรรค ์ การวเิ คราะห์ งานดนตรีที่มาจาก ขอ้ มลู พร้อมทัง้ สงั เกตภาพรวม วัฒนธรรม ผลงานดนตรีในแต่ละ ๒. ทกั ษะ วฒั นธรรมตา่ งกัน สง่ิ ทเ่ี หมอื นและต่างกัน สร้างสรรค์ วฒั นธรรม ไดแ้ ก่ ความเชื่อ การเปรยี บเทียบ ๒. ค้นหาความหมายร่วมกนั งานดนตร ี ศาสนา วิถีชวี ิตและเทคโนโลย ี อภปิ รายและกำหนดเกณฑ ์ แตกตา่ งกนั ผู้เรียนทำอะไรได ้ ท่ีได้รบั การยอมรบั ทางวชิ าการ อธิบายเหตผุ ลทค่ี นตา่ ง หรือยอมรับโดยท่ัวไปของ วัฒนธรรมสรา้ งสรรค์งานดนตร ี คนต่างวฒั นธรรมสรา้ งสรรค์งาน แตกต่างกนั ดนตรแี ตกต่างกนั และอารมณ์ และความรู้สกึ ท่ีได้รบั จากงาน ดนตรที ี่มาจากวฒั นธรรมตา่ งกัน ๓. เชื่องโยงความรหู้ รือ ประสบการณ์เดมิ กบั ขอ้ มูล ท่ีไดม้ าอยา่ งมีเหตผุ ล ๔. เปรียบเทียบและจัดกลมุ่ สิ่ง ทมี่ ีลกั ษณะเหมือนกันไวด้ ้วยกัน ๕. อธบิ ายผลการเปรยี บเทียบ และจำแนกประเภทอย่างม ี กฎเกณฑ์ ๖. เขยี นรายงานเรื่องงานดนตรี ทม่ี าจากวฒั นธรรมตา่ งกนั ๔. อ่าน เขยี น ผู้เรียนรูอ้ ะไร ทกั ษะ ๑. เขยี นผงั ตาราง ๑. ทบทวนความรูเ้ กีย่ วกบั โนต้ ดนตรีไทย เครือ่ งหมายและสัญลกั ษณ ์ การนำความรู ้ โนต้ ดนตร ี โน้ตดนตรีไทยและสากล และสากล ทางดนตรี เครอื่ งหมายกำหนด ไปใช ้ ๒. อ่าน/เขียนโน้ต ๒. เชอ่ื มโยงความรูเ้ ดิม ในอัตราจังหวะ อตั ราจังหวะ และเครือ่ งหมาย ดนตรีไทยและ กับความรู้ใหม่ใหเ้ ห็นถึง ตา่ ง ๆ กำหนดบันไดเสียง รวมทงั้ โนต้ สากล ความเหมือนและความตา่ ง บทเพลงไทย อตั ราจงั หวะ ๓. อธบิ ายความรู้ใหมแ่ ละ ๒ ชนั้ และ ๓ ชนั้ ประสบการณ์ในการอา่ น ผเู้ รยี นทำอะไรได ้ เขียนโนต้ ไทยและสากล อา่ น เขยี นโนต้ ดนตรีไทย ในอัตราจงั หวะต่าง ๆ และสากลในอตั ราจังหวะต่าง ๆ ๔. เขยี นผงั ตารางโนต้ ดนตรีไทย ได้แก่ เครอื่ งหมายกำหนด และสากล อตั ราจังหวะและเครื่องหมาย ๕. นำความรู้ไปใช้ในการอา่ น กำหนดบันไดเสียงรวมท้ังโน้ต เขียนโนต้ ดนตรีไทยและสากล บทเพลงไทย อัตราจงั หวะ ๒ ชน้ั และ ๓ ชั้น 104 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ พ่อื พัฒนาทกั ษะการคิด ระดบั มัธยมศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ
ตวั ชีว้ ดั ผู้เรยี นรอู้ ะไร/ทำอะไรได้ ทกั ษะการคิด ชนิ้ งาน/ แนวการจดั การเรียนรู้ ภาระงาน เพือ่ พัฒนาทักษะการคดิ ๕. รอ้ งเพลง ผเู้ รยี นรอู้ ะไร ทักษะ รอ้ งเพลงหรอื ๑. ทบทวนความรทู้ มี่ เี ก่ียวกบั หรือเล่นดนตรี เทคนคิ และการถา่ ยทอด การนำความรู้ เลน่ ดนตรีเดี่ยว การร้องเพลงหรือเลน่ ดนตรี เด่ยี วและ อารมณเ์ พลง ดว้ ยการร้องเพลง ไปใช ้ และรวมวง ๒. เชื่อมโยงความรูป้ ระสบการณ์ รวมวงโดยเนน้ บรรเลงเครื่องดนตรีเดี่ยว จากการใช้เทคนิควธิ ีการรอ้ งเพลง เทคนคิ และรวมวง เล่นดนตรีเด่ยี ว รวมวง การแสดงออก ผู้เรียนทำอะไรได ้ ๓. นำความร้ทู ่ีมีไปใชส้ รา้ งสรรค์ และคณุ ภาพ ขับร้องเพลงหรอื เลน่ ดนตรี งานการแสดง เชน่ การรอ้ งเพลง ของการแสดง แบบเดย่ี ว และรวมวงด้วย หรือเล่นดนตรีเด่ยี วและรวมวง เทคนคิ การแสดงทม่ี คี ณุ ภาพ โดยเนน้ เทคนิคการแสดงออก และไพเราะ และคุณภาพของการแสดง ๖. สร้างเกณฑ์ ผ้เู รียนรูอ้ ะไร ๑. ทกั ษะ สร้างเกณฑ์ ๑. ศกึ ษาลักษณะของการ สำหรบั ประเมิน เกณฑ์สำหรบั ประเมนิ การตง้ั เกณฑ์ ประเมนิ คุณภาพ ประพันธแ์ ละการเล่นดนตร ี คณุ ภาพ ผลงานดนตรี ไดแ้ ก่ คุณภาพ ๒. ทักษะ การประพันธ์ ๒. ระบุลกั ษณะของการประพนั ธ ์ การประพันธ์ และคณุ ค่าของผลงาน การประเมนิ และการเล่นดนตรี และการเลน่ ดนตรโี ดยอาศยั และการเลน่ ทางดนตร ี ความรู้และประสบการณ ์ ดนตรีของ ผู้เรยี นทำอะไรได ้ ๓. สร้างเกณฑ์สำหรับประเมนิ ตนเองและ สรา้ งเกณฑส์ ำหรบั ประเมิน คณุ ภาพการประพนั ธแ์ ละ ผู้อืน่ ไดอ้ ย่าง คณุ ภาพการประพนั ธแ์ ละ การเลน่ ดนตรี เหมาะสม การเล่นดนตรีของตนเอง ๔. กำหนดระดับคุณภาพหรอื และผอู้ ่นื ได้อยา่ งเหมาะสม คณุ ค่าทยี่ อมรบั ได ้ ๕. นำผลการวดั มาเทียบระดับ คณุ ภาพ ๖. อภิปรายและสรปุ หลักเกณฑ์ ในการประเมนิ คณุ ภาพการ ประพนั ธแ์ ละการเลน่ ดนตรี ท่เี หมาะสม ๗. เปรยี บเทยี บ ผ้เู รียนรอู้ ะไร ๑. ทกั ษะ ผังมโนทศั น์ ๑. กำหนดประเดน็ และรวบรวม อารมณ์ และ การถา่ ยทอดอารมณ์ การวิเคราะห์ การเปรยี บเทยี บ ข้อมูล พร้อมทงั้ สงั เกตภาพรวม ความรู้สึก และความรูส้ ึกของงานดนตรี ๒. ทกั ษะ อารมณแ์ ละ สง่ิ ท่ีเหมือนและต่างกนั ของงาน ท่ีไดร้ บั จาก ทม่ี าจากวฒั นธรรมตา่ งกนั การเปรียบเทยี บ ความรูส้ ึกที่ไดร้ ับ ดนตรีทม่ี าจากวัฒนธรรมต่างกนั งานดนตรีทมี่ า ผเู้ รียนทำอะไรได ้ จากงานดนตรี ๒. ค้นหาความหมายรว่ มกนั จากวัฒนธรรม เปรียบเทยี บการแสดง ทีม่ าจากวฒั นธรรม อภิปรายและกำหนดเกณฑท์ ่ีได้ ต่างกนั อารมณ์และความรสู้ กึ ท่ีได้รบั ตา่ งกนั รบั การยอมรบั ทางวิชาการหรือ จากงานดนตรที ่ีมาจาก ยอมรับโดยทัว่ ไปของคนตา่ ง วฒั นธรรมตา่ งกนั วฒั นธรรมสร้างสรรคง์ านดนตรี แตกตา่ งกนั และอารมณแ์ ละ ความรู้สกึ ที่ได้รบั จากงานดนตรี ทีม่ าจากวัฒนธรรมตา่ งกัน แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูเ้ พ่อื พัฒนาทักษะการคิด ระดบั มธั ยมศกึ ษา 105 กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ิลปะ
ตัวชี้วดั ผูเ้ รยี นรูอ้ ะไร/ทำอะไรได้ ทกั ษะการคดิ ชนิ้ งาน/ แนวการจดั การเรียนร ู้ ภาระงาน เพ่ือพัฒนาทกั ษะการคิด ๓. เช่อื งโยงความรหู้ รอื ประสบการณเ์ ดมิ กับข้อมลู ท่ีได้มาอยา่ งมีเหตผุ ล ๔. เปรยี บเทียบและจัดกลุ่มสิง่ ที่ มลี ักษณะเหมอื นกนั ไว้ด้วยกัน ๕. อธิบายเปรยี บเทียบอารมณ์ และความรู้สกึ ของงานดนตรีท่มี า จากวัฒนธรรมต่างกันและ จำแนกประเภทอยา่ งมีกฎเกณฑ ์ ๖. เขียนผังมโนทศั น ์ การเปรยี บเทยี บอารมณ ์ ความรู้สึกที่ไดร้ บั จากงานดนตรี ที่มาจากวัฒนธรรมตา่ งกนั ๑. กำหนดประเดน็ และรวบรวม ๘. นำดนตรี ผเู้ รียนรู้อะไร ๑. ทักษะ รายงานเร่ือง ข้อมูลเกีย่ วกบั การแสดงดนตรี ไปประยุกต์ใช ้ การนำดนตรีไปประยกุ ต์ใช ้ การนำความรู ้ การนำดนตรีไป ๒. ค้นหาการแสดงดนตร ี ในงานอื่น ๆ กับงานอื่น ๆ เชน่ ไปใช้ ประยกุ ต์ใช้ ที่เหมาะสมสามารถประยุกต์ใช้ การผอ่ นคลาย การพฒั นา ๒. ทักษะ ในงานอื่น ๆ มนุษย์ การประชาสมั พันธ์ กระบวนการคิด ๓. เช่ือมโยงความรู้หรอื การบำบัดรกั ษา ธุรกิจ สรา้ งสรรค ์ ประสบการณเ์ ดมิ กับขอ้ มูล และการศึกษา ได้มาอยา่ งมเี หตุผล ผู้เรียนทำอะไรได ้ ๔. อภิปรายหาข้อสรปุ ร่วมกัน จัดการนำดนตรีไปประยุกต์ ๕. เลือกนำเสนอการนำดนตรี ใช้กับงานอ่นื ๆ หรือกลมุ่ สาระ ไปประยุกต์ใช้ในงานอนื่ ๆ อนื่ ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม ๖. เขยี นรายงานการนำดนตรี ไปประยกุ ต์ใช้ในงานต่าง ๆ 106 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรูเ้ พ่ือพฒั นาทกั ษะการคดิ ระดบั มธั ยมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรูศ้ ิลปะ
สาระท่ี ๒ ดนตร ี มาตรฐาน ศ ๒.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า ของดนตรีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล ตวั ชว้ี ัด ผู้เรยี นรู้อะไร/ทำอะไรได้ ทกั ษะการคดิ ชนิ้ งาน/ แนวการจดั การเรยี นรู ้ ภาระงาน เพื่อพฒั นาทักษะการคิด ๑ . วิเคราะห ์ ผู้เรยี นรอู้ ะไร ทักษะ รายงาน ๑. ศึกษาและรวบรวมข้อมลู รูปแบบของ รูปแบบของดนตรีไทยและ การวเิ คราะห์ การวเิ คราะห ์ เกยี่ วกับรูปแบบของดนตรีไทย ดนตรีไทยและ ดนตรีสากลในแตล่ ะยุคสมัย รูปแบบของดนตรี และดนตรสี ากลในยุคสมัยต่าง ๆ ดนตรีสากล ผู้เรยี นทำอะไรได ้ ไทยและดนตรี ๒. ต้งั วัตถปุ ระสงค์ในการ ในยุคสมัย วเิ คราะห์รปู แบบของดนตรี สากลในยุคสมยั วิเคราะหข์ อ้ มลู ต่าง ๆ ไทยและดนตรีสากลในยุคสมยั ตา่ ง ๆ ๓. กำหนดเกณฑ์ในการจำแนก ต่าง ๆ ไดอ้ ย่างถูกต้อง ข้อมูล ๔. แยกแยะขอ้ มูลตามเกณฑ์ ทก่ี ำหนด ๕. หาความสัมพันธ์ของ องค์ประกอบและข้อมลู ในแตล่ ะองค์ประกอบ ๖. นำเสนอผลการวิเคราะห ์ ๗. เขียนสรุปรายงานการ วเิ คราะห์รปู แบบของดนตรีไทย และดนตรีสากลในแต่ละยุคสมยั ๒. วเิ คราะห์ ผู้เรียนรอู้ ะไร ๑. ทักษะ รายงานสถานะ ๑. กำหนดประเด็นและรวบรวม สถานะทาง ประวตั ิสังคตี กวี การวิเคราะห ์ ทางสังคมของ ขอ้ มลู พร้อมท้งั สงั เกตภาพรวม สงั คมของ ผเู้ รียนทำอะไรได ้ ๒. ทักษะ นกั ดนตรีใน ส่งิ ท่ีเหมือนและต่างกนั นกั ดนตร ี วิเคราะห์สถานภาพ การเปรยี บเทียบ วัฒนธรรมต่าง ๆ ของนักดนตรีในวฒั นธรรมตา่ ง ๆ ในวัฒนธรรม ทางสงั คมของนักดนตรี ๒. ค้นหาความหมายสถานะทาง ตา่ ง ๆ ในวัฒนธรรมต่าง ๆ สงั คมของนักดนตรีในวัฒนธรรม ต่าง ๆ และลกั ษณะเดน่ ของ ดนตรีในวฒั นธรรมต่าง ๆ ๓. เช่อื มโยงความรหู้ รอื ประสบการณเ์ ดมิ กับขอ้ มลู ท่ีไดม้ าอยา่ งมีเหตุผล ๔. เปรยี บเทียบและจัดกลมุ่ ส่งิ ทีม่ ีลกั ษณะเหมือนกันไวด้ ้วยกนั อยา่ งมกี ฎเกณฑ์ ๕. เขยี นสรปุ รายงานวิเคราะห์ เปรยี บเทียบสถานะทางสังคม ของนักดนตรีในวัฒนธรรมต่าง ๆ แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พื่อพัฒนาทกั ษะการคิด ระดับมธั ยมศกึ ษา 107 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
ตัวชว้ี ัด ผ้เู รยี นร้อู ะไร/ทำอะไรได้ ทกั ษะการคดิ ชน้ิ งาน/ แนวการจดั การเรียนร ู้ ภาระงาน เพ่ือพฒั นาทกั ษะการคิด ๓. เปรียบเทียบ ผู้เรยี นรอู้ ะไร ๑. ทักษะ อภปิ ราย ๑. กำหนดประเด็นและรวบรวม ลกั ษณะเด่น ลกั ษณะเด่นของดนตร ี การวิเคราะห ์ การเปรยี บเทยี บ ข้อมลู พร้อมทง้ั สังเกตภาพรวม ของดนตร ี ในแต่ละวฒั นธรรม เช่น ๒. ทกั ษะ ลักษณะเด่น ส่งิ ทเ่ี หมอื นและตา่ งกัน ในวฒั นธรรม เครอื่ งดนตรี วงดนตรี ภาษา การเปรยี บเทยี บ ของดนตรี ๒. ค้นหาความหมายสถานะทาง ตา่ ง ๆ เพ่อื รอ้ ง สำเนยี ง และ ในวัฒนธรรม สงั คมของนกั ดนตรีในวฒั นธรรม องคป์ ระกอบของบทเพลง ท่ีตา่ งกัน ตา่ ง ๆ และลกั ษณะเด่นของ ผู้เรยี นทำอะไรได ้ ดนตรีในวฒั นธรรมต่าง ๆ เปรียบเทียบลักษณะเดน่ ๓. เชอ่ื มโยงความรหู้ รอื ประสบการณ์ ของดนตรีในวฒั นธรรม เดมิ กบั ขอ้ มลู ท่ีไดม้ าอยา่ งมเี หตผุ ล ท่แี ตกตา่ งกันได้อย่างถกู ต้อง ๔. เปรียบเทียบและจดั กลมุ่ ส่ิง ที่มลี กั ษณะเหมือนกันไวด้ ้วยกนั อยา่ งมกี ฎเกณฑ์ ๕. สรุปและอภิปรายผลการ เปรียบเทียบลักษณะเดน่ ของดนตรีในวฒั นธรรมตา่ ง ๆ ๔. อธิบายบทบาท ผู้เรียนรอู้ ะไร ๑. ทักษะ อธิบายบทบาท ๑. กำหนดประเดน็ และรวบรวม ของดนตรี บทบาทของดนตร ี การวิเคราะห์ ของดนตรที ่ี ขอ้ มลู เกี่ยวกบั บทบาทของดนตร ี ในการสะท้อน ในการสะทอ้ นคา่ นยิ ม ๒. ทักษะ สะทอ้ นความคดิ ที่สะทอ้ นความคิดและคา่ นิยม ความคดิ และความเช่อื ของสังคม การให้เหตุผล และค่านยิ ม ของคนในสังคม และค่านิยม ผูเ้ รยี นทำอะไรได ้ ของคนในสงั คม ๒. คน้ หาสาเหตุของบทบาท ทเี่ ปล่ยี นไป อธบิ ายบทบาทหนา้ ทขี่ อง ดนตรีในการสะท้อนแนวความคดิ ของคนใน ดนตรีในการสะทอ้ นแนวคิด และคา่ นยิ มที่เปล่ียนไปของคน สังคม ค่านยิ มทีม่ กี ารเปล่ียนแปลงไป ในสงั คมโดยอาศยั การยอมรบั ของ ของคนในสงั คม สงั คมหรอื ขอ้ มลู หลกั ฐานสนบั สนนุ ๓. เช่ือมโยงความรหู้ รอื ประสบการณ์เดิมกับข้อมลู ที่ได้มาอย่างมเี หตุผล ๔. อธบิ ายใหเ้ หน็ ความสอดคลอ้ ง ของบทบาทของดนตรีท่สี ะทอ้ น ความคดิ และค่านิยมในสงั คม อยา่ งมกี ฎเกณฑ ์ ๕. นำเสนอ ผู้เรยี นรูอ้ ะไร ๑. ทกั ษะ การจดั ๑. กำหนดประเด็นและรวบรวม แนวทาง แนวทางและวธิ ีการ การนำความรู้ นิทรรศการ ขอ้ มูลการสง่ เสริมและอนุรักษ์ ในการส่งเสริม ในการสง่ เสริมอนรุ กั ษ ์ ไปใช้ การส่งเสริมและ ดนตรี และอนรุ กั ษ ์ ดนตรีไทย ๒. ทกั ษะ อนรุ กั ษ์ดนตรีไทย ๒. คน้ หาแนวทางในการสง่ เสริม ดนตรีในฐานะ ผูเ้ รียนทำอะไรได ้ กระบวนการ และอนรุ ักษด์ นตรีในฐานะมรดก มรดกของชาต ิ นำเสนอแนวทาง คดิ สรา้ งสรรค ์ ของชาต ิ ในการส่งเสรมิ และอนรุ ักษ์ ๓. เชอ่ื มโยงความรูห้ รือ ดนตรีในฐานะมรดกของชาติ ประสบการณเ์ ดมิ กบั ขอ้ มลู ท่ีไดม้ าอยา่ งมีเหตผุ ล ๔. อภปิ รายหาข้อสรุปรว่ มกัน ๕. จดั นทิ รรศการนำเสนอแนวทาง ในการสง่ เสริมและอนุรกั ษด์ นตรี ในฐานะมรดกของชาต ิ 108 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่ือพัฒนาทักษะการคดิ ระดับมธั ยมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรูศ้ ิลปะ
สาระที่ ๓ นาฏศลิ ป์ มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ ์ คุณค่านาฏศลิ ป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคดิ อย่างอิสระ ชืน่ ชม และประยกุ ต ์ ใช้ในชวี ติ ประจำวนั ตัวช้วี ัด ผู้เรยี นรู้อะไร/ทำอะไรได ้ ทกั ษะการคดิ ช้นิ งาน/ แนวการจัดการเรียนรู ้ ภาระงาน เพื่อพฒั นาทกั ษะการคิด ๑. มที ักษะ ผเู้ รยี นร้อู ะไร ทักษะ แสดงระบำ ๑. ทบทวนความรเู้ ดิมเกีย่ วกบั ในการแสดง รปู แบบของการแสดง การนำความรู้ รำฟอ้ น ละคร การแสดงนาฏศลิ ป์รปู แบบต่าง ๆ หลากหลาย ไดแ้ ก่ ระบำ รำ ฟ้อน ไปใช้ ไทย/สากล ๒. เชอื่ มโยงความรู้ ทกั ษะ รปู แบบ การละครไทย/สากล การแสดงพนื้ เมอื ง ประสบการณจ์ ากการ การแสดงพืน้ เมืองต่าง ๆ ตา่ ง ๆ แสดงนาฏศลิ ป ์ ผู้เรยี นทำอะไรได ้ ๓. นำเสนอความเปน็ มา มีทักษะในการแสดง องคป์ ระกอบ และรูปแบบละคร หลากหลายรูปแบบ เช่น ระบำ สรา้ งสรรค ์ รำ ฟ้อน การละครไทย/สากล ๔. แสดงละครสร้างสรรค์ การแสดงพ้ืนเมอื งตา่ ง ๆ และรปู แบบละครสรา้ งสรรค ์ ตามทกี่ ำหนดและสรา้ งข้นึ เอง ๒. สร้างสรรค์ ผเู้ รยี นรู้อะไร ทกั ษะ แสดงละครสัน้ ๑. ทบทวนความร้เู กย่ี วกบั ละครส้นั ละครสรา้ งสรรค ์ การเช่ือมโยง รปู แบบของละครสน้ั ในรปู แบบ ประกอบดว้ ย ความเปน็ มา ๒. เชื่อมโยง ความรู้ ทักษะ ท่ชี ่ืนชอบ องค์ประกอบ และละครพดู และประสบการณท์ างการแสดง เช่น ละครโศกนาฏกรรม นาฏศิลป์เพ่อื สร้างสรรคล์ ะครส้ัน ละครสุขนาฏกรรม ๓. อภปิ ราย วธิ กี ารสรา้ งสรรค์ ละครแนวเหมือนจรงิ และ ละครสน้ั ในรปู แบบท่ชี ่ืนชอบ ละครแนวไมเ่ หมอื นจริง ๔. สรา้ งสรรคง์ านแสดงละครสนั้ ผู้เรยี นทำอะไรได ้ ด้วยความคิดอย่างมคี ณุ ภาพ สร้างสรรคง์ านละครส้นั ในรูปแบบทช่ี ่ืนชอบ เชน่ ละครโศกนาฏกรรม ละครสขุ นาฏกรรม ละครแนวเหมอื นจรงิ และ ละครแนวไม่เหมือนจรงิ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้เพือ่ พฒั นาทักษะการคิด ระดับมัธยมศกึ ษา 109 กลมุ่ สาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ
ตวั ช้วี ดั ผ้เู รยี นร้อู ะไร/ทำอะไรได้ ทักษะการคิด ชิน้ งาน/ แนวการจดั การเรียนร ู้ ภาระงาน เพ่ือพฒั นาทักษะการคิด ๓. ใช้ความคดิ ผเู้ รียนรอู้ ะไร ๑. ทกั ษะ การแสดง ๑. ทบทวนความรู้ในการแสดง ริเริม่ ในการ การประดษิ ฐท์ า่ รำท่เี ปน็ คู่ การนำความรู้ นาฏศิลป์เป็นคู่ นาฏศิลป์ แสดงนาฏศลิ ป ์ และหม่ทู เ่ี กย่ี วกับความหมาย ไปใช้ และหม ู่ ๒. อภปิ รายระดมความคดิ เรอื่ ง เปน็ คูแ่ ละหมู่ ประวตั ิความเป็นมา ทา่ ทาง ๒. ทกั ษะ รปู แบบของการแสดงนาฏศิลป์ ท่ีใช้ในการประดษิ ฐท์ ่ารำ กระบวนการ เป็นคู่และเป็นหม่ ู และเพลงท่ีใช้ คดิ สรา้ งสรรค ์ ๓. เชอ่ื มโยงความรู้ ทักษะ ผู้เรียนทำอะไรได ้ ประสบการณท์ างนาฏศลิ ป ์ สรา้ งสรรคง์ านการแสดง เพอ่ื สรา้ งสรรคก์ ารแสดงนาฏศลิ ป ์ นาฏศิลป์เปน็ คู่ และหมู ่ ๔. รว่ มกันอภปิ รายการใช ้ ท่ีเกี่ยวกบั ความหมาย ประวตั ิ ความคดิ รเิ ริม่ สร้างสรรค์ในการ ความเปน็ มา ทา่ ทางที่ใช้ในการ แสดงนาฏศลิ ปเ์ ป็นคแู่ ละหมู่ ประดษิ ฐท์ ่ารำและเพลงท่ีใช้ อย่างมคี ุณภาพ ๕. แสดงนาฏศิลป์เปน็ คแู่ ละหมู ่ ๖. ประเมินผลงานของตนเอง ๗. เผยแพร่ผลงาน ๔. วิจารณ ์ ผู้เรียนรู้อะไร ทกั ษะ วิจารณ์ ๑. ศกึ ษาขอ้ มูลการแสดงตาม การแสดงตาม หลกั การสรา้ งสรรค์ การวเิ คราะห์ การแสดงตามหลกั หลักนาฏศลิ ป์และการละคร หลกั นาฏศลิ ป์ การวิจารณแ์ ละหลักการ นาฏศลิ ป์และ ๒. วางจดุ มงุ่ หมายในการวเิ คราะห์ และการละคร ชมการแสดงนาฏศิลป ์ การละคร วจิ ารณก์ ารแสดงตามหลกั นาฏศลิ ป ์ และการละคร และการละคร ผ้เู รียนทำอะไรได ้ ๓. วางหลักเกณฑ์การวิเคราะห์ สรา้ งสรรค์ และการวิจารณ์ วิจารณ์การแสดงนาฏศิลป์และ การแสดงตามหลกั การแสดง การละครใหม้ มี าตรฐานชดั เจน นาฏศลิ ป์และการละคร ๔. วจิ ารณ์เปรียบเทยี บการแสดง ตามหลกั การ กระบวนการ นาฏศลิ ป์และการละคร ๕. อธิบายแนวทางในการวิจารณ์ การแสดงตามหลกั นาฏศลิ ป์ไทย และการแสดงละครได้ถกู ตอ้ ง ๕. วเิ คราะหแ์ กน่ ผเู้ รยี นร้อู ะไร ทักษะ รายงานประวตั ิ ๑. ศกึ ษาขอ้ มลู เกย่ี วกบั ประวตั ิ ของการแสดง ประวัตคิ วามเปน็ มา การวิเคราะห ์ ความเป็นมา ความเป็นมาของนาฏศิลป์ นาฏศิลป์ และ ของนาฏศลิ ป์ และการละคร ของนาฏศิลป ์ และการละคร การละครท ี่ ไดแ้ ก่ ววิ ฒั นาการ ความงาม และการละคร ๒. วางจดุ มงุ่ หมายในการวเิ คราะห์ ต้องการสือ่ และคุณคา่ แก่นของการแสดงนาฏศิลป์และ ความหมาย การละคร ในการแสดง 110 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพอื่ พฒั นาทักษะการคดิ ระดับมัธยมศกึ ษา กลุม่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ
ตัวช้ีวัด ผู้เรียนรอู้ ะไร/ทำอะไรได้ ทกั ษะการคดิ ชิ้นงาน/ แนวการจัดการเรียนรู้ ภาระงาน เพอื่ พัฒนาทักษะการคดิ ผู้เรียนทำอะไรได ้ ๓. วางเกณฑ์กำหนดหลักการ วิเคราะห์ประวตั คิ วามเปน็ แสดงนาฏศลิ ป์และการละคร มาของนาฏศิลปแ์ ละการละคร ทส่ี ่อื ความหมายในการแสดง ไดแ้ ก่ ววิ ฒั นาการ ความงาม ได้ถกู ต้องทส่ี ุด และคณุ คา่ ของการแสดง ๔. วเิ คราะห์เปรียบเทียบแก่นแท ้ นาฏศลิ ป์ และการละคร ของการแสดงนาฏศลิ ป์และ ทต่ี อ้ งการส่ือความหมาย การละครเพอ่ื สอ่ื ความหมาย ในการแสดง ๕. อธิบายแกน่ แท้ของการสือ่ ความหมายในทางนาฏศลิ ป์ ไดช้ ดั เจน ๖. เขยี นรายงานประวัตคิ วาม เปน็ มาของนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร ๖. บรรยาย และ ผเู้ รยี นรอู้ ะไร ทักษะ การบรรยาย ๑. สงั เกตุและรวบรวมข้อมูล วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ล เทคนิคการจดั การแสดง การนำความร้ ู การจดั การแสดง เก่ยี วกบั การจัดการแสดง ของเครือ่ ง เชน่ แสง สี เสยี ง ฉาก อปุ กรณ์ ไปใช้ โดยใชเ้ ทคนิค โดยใชเ้ ทคนิค แสง สี เสียง ฉาก แต่งกาย แสง สถานที่ เครอื่ งแตง่ กาย แสง สี เสียง ฉาก อปุ กรณ์ สถานท่ี และเครอ่ื งแตง่ กาย สี เสียง ฉาก ผ้เู รยี นทำอะไรได ้ อุปกรณ์ สถานท่ี ๒. บอกขอ้ มูลของอิทธิพล อปุ กรณ์ และ บรรยายและวิเคราะห์ และเครอ่ื งแตง่ กาย การแต่งกาย แสง สี เสยี ง ฉาก สถานที่ทมี่ ผี ล อิทธพิ ลของเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์ สถานที ่ ตอ่ การแสดง แสง สี เสยี ง ฉาก อุปกรณ์ ๓. นำความร้เู กย่ี วกับเทคนิคการ และสถานท่ที มี่ ผี ลตอ่ จัดการแสดงมาร่วมกนั อภิปราย การแสดง ๔. บรรยายและวเิ คราะห์อทิ ธพิ ล ของเครอ่ื งแตง่ กาย แสง สี เสยี ง ฉาก อุปกรณ์ และสถานท่ ี ที่มีผลตอ่ การแสดง ๗. พฒั นาและ ผู้เรยี นรูอ้ ะไร ๑. ทกั ษะ เกณฑก์ าร ๑. ยกตวั อย่างการประกวดต่าง ๆ ใช้เกณฑ ์ การประเมินคณุ ภาพของ การตง้ั เกณฑ ์ ประเมนิ คณุ ภาพ ทจี่ ดั ข้นึ ร่วมสนทนาแลกเปลี่ยน การประเมนิ การแสดงในด้านการแสดง ๒. ทกั ษะ ของการแสดง ความคิด มุมมองของผูช้ ม ในการประเมนิ และองคป์ ระกอบการแสดง การประเมิน ผแู้ สดง ผปู้ ระกวด คณะกรรมการ การแสดง ผเู้ รยี นทำอะไรได ้ ตดั สนิ เลอื กผู้ชนะ ผูส้ อน พัฒนาและใชเ้ กณฑ์ ใช้คำถาม “กรรมการทต่ี ดั สิน การประเมินในการประเมิน การประกวดใชอ้ ะไรบา้ ง การแสดงในดา้ นการแสดง ในการตัดสิน พิจารณาแลว้ และองค์ประกอบการแสดง ใหผ้ ูเ้ รยี นตอบ แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพือ่ พัฒนาทักษะการคดิ ระดับมธั ยมศกึ ษา 111 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
ตัวช้ีวัด ผ้เู รยี นรอู้ ะไร/ทำอะไรได ้ ทักษะการคิด ช้นิ งาน/ แนวการจัดการเรียนร ู้ ภาระงาน เพ่ือพัฒนาทกั ษะการคดิ ๒. แจง้ จดุ ประสงค์ของบทเรยี น ในเรือ่ งการใช้เกณฑก์ ารประเมิน เพอื่ พฒั นาการแสดง ๓. ศึกษาและรวบรวมข้อมลู ความรู้ หลักการของการแสดง องคป์ ระกอบการแสดง ตวั อยา่ ง การประเมิน ทห่ี ลากหลาย ๔. กำหนดเกณฑ์การประเมนิ และใหผ้ ูเ้ รียนร่วมกันระดมสมอง สืบค้นคน้ หาคณุ ภาพการแสดง และคุณภาพองคป์ ระกอบ การแสดงตามเกณฑ์ เช่น - ความถูกต้อง - ความสวยงาม - คุณคา่ - คุณธรรมจริยธรรม ๕. นำขอ้ มูลทร่ี วบรวมมาพิจารณา แยกแยะสว่ นต่าง ๆ ๖. อภิปรายสรปุ ผลการประเมิน การแสดงจากเกณฑ์ทก่ี ำหนด ๘. วิเคราะห ์ ผเู้ รียนรอู้ ะไร ทักษะ จดั การแสดง ๑. ศึกษาข้อมลู ลักษณะท่าทาง ท่าทาง และ การสรา้ งสรรคผ์ ลงาน การวเิ คราะห ์ ในวนั สำคญั การเคล่อื นไหวของคน การเคล่อื นไหว ได้แก่ การจดั การแสดง ของโรงเรยี น ๒. ตัง้ วัตถุประสงค์ ของผู้คนใน ในวันสำคญั ของโรงเรียน หรอื ชวี ิตประจำวนั ชุดการแสดงประจำโรงเรยี น ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู และนำมา ผูเ้ รียนทำอะไรได ้ ๓. กำหนดเกณฑก์ ารวิเคราะห์ ประยกุ ต์ใช ้ วิเคราะห์ทา่ ทางและ ลักษณะทา่ ทางของคนที่จะนำมา ในการแสดง การเคลือ่ นไหวของผู้คน ใชก้ บั การแสดง ในชีวติ ประจำวันและนำมา ๔. แยกแยะข้อมลู ตามเกณฑ ์ ประยุกต์ใช้ในการแสดง ได้แก่ ท่ีกำหนดเพ่ือให้เห็นองคป์ ระกอบ การจัดแสดงในวันสำคัญ ของสงิ่ ที่วิเคราะห ์ ของโรงเรยี น หรอื ชดุ ๕. หาความสัมพันธ์ของขอ้ มูล การแสดงประจำโรงเรียน ในแตล่ ะองคป์ ระกอบ ๖. นำเสนอผลของการวเิ คราะห ์ มาสรปุ ตอบคำถามตาม วตั ถุประสงค์ ๗. นำความรมู้ าใชจ้ ดั การแสดง ในวนั สำคญั ของโรงเรียน 112 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรเู้ พื่อพัฒนาทกั ษะการคิด ระดับมัธยมศึกษา กล่มุ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ
สาระที่ ๓ นาฏศลิ ป์ มาตรฐาน ศ ๓.๒ เขา้ ใจความสัมพันธร์ ะหวา่ งนาฏศิลป์ ประวตั ิศาสตร์และวฒั นธรรม เหน็ คณุ คา่ ของนาฏศิลป์ท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และสากล ตัวชว้ี ดั ผเู้ รยี นรอู้ ะไร/ทำอะไรได้ ทักษะการคิด ชน้ิ งาน/ แนวการจัดการเรียนร้ ู ภาระงาน เพอื่ พัฒนาทกั ษะการคดิ ๑. เปรยี บเทยี บ ผเู้ รยี นรู้อะไร ทกั ษะ เปรยี บเทยี บ ๑. กำหนดรูปแบบการแสดง การนำการ การแสดงนาฏศิลป ์ การเปรยี บเทยี บ การนำการแสดง นาฏศิลป์ในโอกาสตา่ ง ๆ ใน แสดงไปใช้ใน ในโอกาสตา่ ง ๆ ไปใช้ในโอกาส ความเหมือนและความแตกต่าง โอกาสตา่ ง ๆ ผู้เรียนทำอะไรได ้ ตา่ ง ๆ ๒. นำรปู แบบการแสดงนาฏศลิ ป์ เปรยี บเทยี บและจัด ในโอกาสตา่ ง ๆ ท่จี ะเปรยี บเทยี บ หมวดหมู่ การแสดงนาฏศลิ ป์ มาจัดใหอ้ ยู่บนฐานเดียวกนั ในโอกาสต่าง ๆ ตามเกณฑ์ทีก่ ำหนด ๓. เปรยี บเทียบการนำการแสดง ไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ ๔. อภิปรายนำเสนอผลการ เปรยี บเทียบการแสดงนาฏศิลป์ ในโอกาสท่ีตา่ งกนั ๒. อภิปราย ผู้เรียนรอู้ ะไร ทกั ษะ รายงานบุคคล ๑. กำหนดบทบาทของบคุ คล บทบาทของ บุคคลสำคญั การวเิ คราะห ์ สำคญั ในวงการ สำคญั ในวงการนาฏศลิ ป ์ บคุ คลสำคญั ใน ในวงการนาฏศิลป์ไทย นาฏศิลป์และ การละครของไทยในยุคสมยั วงการนาฏศิลป ์ ในยุคสมยั ตา่ ง ๆ การละคร ตา่ ง ๆ เพ่ือนำไปสำรวจคน้ หา และการละคร ผูเ้ รียนทำอะไรได ้ ๒. กำหนดวธิ ีการท่จี ะสำรวจ เช่น ของประเทศไทย อภปิ ราย บทบาท บทบาทความสำคัญในแตล่ ะ ในยคุ สมัย ของบคุ คลสำคัญในวงการ ยคุ สมัย คุณคา่ ที่ได้รบั ต่าง ๆ นาฏศลิ ป์และการละคร ๓. ใชว้ ธิ ีการท่ีกำหนดในการ ของประเทศไทยในยุคสมัย คน้ หาความตอ้ งการ ตา่ ง ๆ ๔. รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการสำรวจค้นหาจัดทำ เป็นรูปเล่ม ๕. นำเสนอ/อภปิ ราย บทบาท ของบุคคลสำคญั ในวงการ นาฏศลิ ปแ์ ละการละครไทย ในยคุ สมัยต่าง ๆ ๖. เขยี นรายงานเรอ่ื งบคุ คลสำคญั ในวงการนาฏศลิ ปแ์ ละการละคร แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอื่ พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับมัธยมศกึ ษา 113 กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ
ตัวชี้วดั ผู้เรียนรู้อะไร/ทำอะไรได้ ทักษะการคิด ชน้ิ งาน/ แนวการจดั การเรยี นรู ้ ภาระงาน เพื่อพัฒนาทกั ษะการคิด ๓. บรรยาย ผู้เรยี นรู้อะไร ทกั ษะ ๑. บรรยาย ๑. สงั เกตความเหมือน ววิ ัฒนาการ วิวัฒนาการของนาฏศิลป์ การจัดกลมุ่ วิวฒั นาการของ ความแตกตา่ ง และภาพรวม ของนาฏศลิ ป์ และการละครไทย ตงั้ แตอ่ ดตี นาฏศลิ ปแ์ ละ ของววิ ัฒนาการของนาฏศลิ ปแ์ ละ และการละคร จนถึงปจั จุบนั ละคร การละครไทยตง้ั แตอ่ ดตี ถงึ ปจั จบุ นั ไทย ต้ังแต ่ ผู้เรยี นทำอะไรได ้ ๒. จัดป้ายนเิ ทศ ๒. กำหนดเกณฑ์ของรูปแบบ อดตี จนถงึ บรรยายววิ ฒั นาการของ ววิ ัฒนาการของ วิวฒั นาการของนาฏศลิ ป ์ ปจั จบุ ัน นาฏศลิ ป์และการละครไทย นาฏศลิ ป์และ รวมกลมุ่ เดยี วกัน ซึ่งแต่ละกลมุ่ ต้งั แตอ่ ดตี จนถงึ ปจั จบุ นั ละครไทย มเี กณฑต์ ่างกนั ๓. จำแนกหรอื แยกรูปแบบ นาฏศิลป์เข้ากลุ่มตามเกณฑ ์ ท่ีกำหนด ๔. อธิบายผลการจดั กลุม่ วิวฒั นาการรปู แบบของนาฏศิลป์ และการละครไทยต้ังแตอ่ ดตี ถงึ ปจั จบุ นั ๕. บรรยายววิ ัฒนาการของ นาฏศิลปแ์ ละการละครไทย ตง้ั แต่อดตี จนถึงปจั จบุ ัน ๖. ทำป้ายนเิ ทศวิวฒั นาการ ของนาฏศลิ ปแ์ ละละครไทย ๔. นำเสนอ ผู้เรียนรู้อะไร ทักษะ รายงาน ๑. ระบุประเด็นท่ตี อ้ งการอนรุ กั ษ์ แนวคดิ การอนรุ กั ษ์นาฏศิลป์ไทย กระบวนการคิด การอนรุ ักษ ์ นาฏศิลป์ของไทย ในการอนุรักษ ์ ภูมปิ ญั ญาท้องถ่ิน อย่างมี นาฏศิลป์ไทย ๒. ประมวลข้อมูลท่เี ก่ยี วข้อง นาฏศิลป์ไทย ผเู้ รียนทำอะไรได ้ วิจารณญาณ จากการคดิ กว้าง คดิ ลึกซงึ้ นำเสนอแนวคดิ คิดอย่างละเอยี ด และคดิ ใน ในการอนุรกั ษน์ าฏศลิ ป์ไทย ระยะไกลเพอื่ อนรุ กั ษน์ าฏศลิ ป์ไทย - การรักษา ๓. วิเคราะหข์ ้อมูลการอนรุ ักษ์ - การพฒั นา นาฏศลิ ป์ไทย - การสืบสาน ๔. พจิ ารณาการอนุรักษ์ นาฏศลิ ป์ไทยโดยใชเ้ หตุและผล ๕. ลงความเหน็ โดยพจิ ารณาปจั จยั รอบดา้ นและใช้เหตุผลคดิ คณุ ค่า ๖. นำเสนอแนวคิดในการอนรุ ักษ์ นาฏศิลป์ไทย ๗. เขียนรายงานการอนรุ ักษ์ นาฏศิลป์ไทย 114 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นร้เู พอ่ื พฒั นาทักษะการคดิ ระดบั มธั ยมศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ
✦ °าร®ัด°®ิ °รร¡°าร‡ร¬ี นร⟇æ่◊Õæ≤ั นาทั°…ะ°าร§ดิ การจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ พ่อื พฒั นาทกั ษะการคิด เปน็ การวเิ คราะห์ ต่อเนื่องจากการวิเคราะห์ตัวช้ีวัด โดยวิเคราะห์ใน ๖ ประเด็น คือ ความสัมพันธ์/ความเช่ือมโยงของตัวชี้วัดแต่ละตัวที่จะนำมาจัดกิจกรรม การเรียนรู้ร่วมกันได ้ ความคิดรวบยอด สาระการเรียนร ู้ ทักษะการคิด ช้นิ งาน/ภาระงาน และแนวการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
สาระที่ ๑ ทัศนศิลป์ มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อ งานศิลปะอยา่ งอสิ ระ ชน่ื ชม และประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั ตัวชว้ี ัด ความคดิ สาระ ทักษะการคิด ช้นิ งาน/ แนวการจัด รวบยอด การเรียนรู้ ภาระงาน กจิ กรรมการเรยี นร ู้ ส าระท่ี ๑ การใช้ทศั นธาตุ ๑. ทศั นธาตุ ๑. ทักษะ ๑. วิเคราะหก์ ารใช้ ๑. ศึกษาขอ้ มลู การใช้ ทศั นศลิ ป ์ และหลักการ และหลกั การ การวิเคราะห ์ ทัศนธาตุและ ทศั นธาตุและหลกั การ มาตรฐาน ศ ๑.๑ ออกแบบคำศัพท์ ออกแบบ ๒. ทกั ษะ หลักการออกแบบ ออกแบบ ๑. วิเคราะห์การใช ้ ทางทัศนศลิ ป์จะ ๒. ศพั ท์ทาง การนำความรู้ไปใช้ ในการสอื่ ความหมาย ๒. อภิปรายซักถาม ทัศนธาตุ และ ช่วยสอ่ื ความหมาย ทัศนศลิ ป์ ๒. เขยี นรายงาน เกี่ยวกบั ทศั นธาตุ และ หลกั การ ตามจดุ ประสงค์ เกีย่ วกับศพั ท์ หลกั การออกแบบ ออกแบบ และเน้ือหาของ ทางทัศนศลิ ป ์ ๓. กำหนดเกณฑ์ใน ในการสื่อ งานทัศนศิลป ์ การจำแนกทัศนธาต ุ ความหมาย ๔. วิเคราะห์การใช้ ในรูปแบบ ทศั นธาตแุ ละหลกั การ ต่าง ๆ ออกแบบในการสอื่ ๒. บรรยาย ความหมาย จดุ ประสงค์และ ๕. แยกแยะข้อมูล เน้อื หาของงาน ทศั นธาตุ (เส้น สี แสง ทัศนศิลป์ เงา รปู ทรง) โดยใชศ้ พั ท ์ ๖. เชื่อมโยงความ ทางทัศนศลิ ป์ สัมพันธ์ของการใช้ ทัศนธาตแุ ละหลกั การ ออกแบบ ๗. ทบทวนและอธบิ าย จุดประสงค์ เนือ้ หา ของงานทัศนศลิ ป์ ๘. นำความรเู้ กย่ี วกับ การใชท้ ัศนธาตแุ ละ หลกั การออกแบบมา อภปิ รายและเขียน รายงานโดยใช้ศพั ท์ ทางทัศนศิลป ์ 116 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่อื พฒั นาทักษะการคดิ ระดับมธั ยมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ
ตวั ชีว้ ดั ความคดิ สาระ ทักษะการคิด ช้นิ งาน/ แนวการจัด รวบยอด การเรยี นร ู้ ภาระงาน กิจกรรมการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ ๑.๑ การเลือกใช้ ๑. วสั ดุ อุปกรณ์ ๑. ทักษะ ๑. วาดภาพ ๑. ทบทวนความรู้ ๓. วเิ คราะห ์ วสั ดุอุปกรณ์ และเทคนคิ การวิเคราะห ์ ระบายสี เกยี่ วกบั การใชว้ สั ดุ การเลือกใช ้ เทคนิคและ ของศลิ ปนิ ๒. ทักษะ ๒. รายงานการ อปุ กรณ์สรา้ งงาน วสั ดอุ ุปกรณ์ กระบวนการ ในการแสดงออก การจัดกลุ่ม เลือกใชว้ สั ดุ ทศั นศิลป ์ และเทคนิคของ ท่ีสงู ขึ้น จะช่วย ทางทัศนศิลป์ ๓. ทักษะ อปุ กรณ์ในการ ๒. สังเกตและรวบรวม ศิลปนิ ในการ สร้างงานทัศนศิลป ์ ๒. เทคนิค วสั ดุ การนำความรู้ไปใช ้ สร้างงานทศั นศิลป์ ข้อมูลความเหมอื น แสดงออกทาง ของศลิ ปินไดอ้ ย่าง อปุ กรณ์ ความตา่ งของการใช้ ทศั นศิลป์ สรา้ งสรรค ์ กระบวนการ วสั ดุ อปุ กรณ์สร้างงาน ๔. มที ักษะและ ในการสร้างงาน ของศิลปนิ เทคนิคในการ ทศั นศิลป ์ ๓. กำหนดเกณฑ์ ใชว้ ัสด ุ ๓. จุดมงุ่ หมาย จำแนกงานทศั นศลิ ป์ท่ี อปุ กรณ์และ ของศิลปินในการ มเี ทคนิคในการใช้วสั ดุ กระบวนการ เลอื กใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์แตกต่างกนั ทส่ี ูงขึน้ ในการ อปุ กรณ์ เทคนคิ ๔. จำแนกหรือ สรา้ งสรรค์ และเนอ้ื หาในการ แยกแยะข้อมูล งานศลิ ปะ สร้างงานทัศนศลิ ป์ เขา้ กลมุ่ ตามเกณฑ์ มที ักษะและ ทีก่ ำหนด เทคนิคในการใช้ ๕. หาความสมั พนั ธ์ วสั ดุ อุปกรณ์ ของขอ้ มลู ในแต่ละ และกระบวนการ องค์ประกอบ ที่สงู ขน้ึ ในการ ๖. อธิบายผลการ สรา้ งงาน วิเคราะห์ และการจดั ทศั นศลิ ป์ กลุ่มพรอ้ มเกณฑท์ ี่ใช ้ ๗. วิเคราะห์ ๗. สรปุ และอภปิ ราย และอธบิ าย ผลร่วมกนั โดยนำ จุดมงุ่ หมาย ความรทู้ ไ่ี ดม้ าสรา้ งสรรค์ ของศลิ ปิน งานทัศนศิลป ์ ในการเลอื กใช ้ ๘. เขยี นรายงานการ วสั ดุ อปุ กรณ์ เลือกใชว้ สั ดุ อปุ กรณ์ เทคนคิ และ ในการสร้างงาน เนือ้ หา เพือ่ ทัศนศลิ ป์ สรา้ งสรรค์ ๙. วาดภาพระบายสี งานทัศนศลิ ป ์ โดยใชท้ กั ษะและ เทคนคิ ในการใชว้ ัสดุ อุปกรณแ์ ละ กระบวนการที่สูงขนึ้ แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาทักษะการคดิ ระดับมธั ยมศกึ ษา 117 กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ
ตัวชวี้ ดั ความคิด สาระ ทักษะการคิด ชิน้ งาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรียนร้ ู ภาระงาน กิจกรรมการเรยี นร ู้ มาตรฐาน ศ ๑.๑ การใช้ ๑. หลกั การ ๑. ทักษะการนำ การจดั ๑. ทบทวนซกั ถาม ๕. สรา้ งสรรค ์ เทคโนโลยี และ ออกแบบและ ความรู้ไปใช้ นทิ รรศการ ความร้เู กีย่ วกบั งานทศั นศิลป์ หลกั การออกแบบ การจดั องค์ ๒. ทักษะ การออกแบบ ดว้ ยเทคโนโลย ี จะชว่ ยสร้างงาน ประกอบศิลป์ กระบวนการ งานทศั นศิลป ์ ตา่ ง ๆ โดยเน้น ทศั นศิลป์ได้ ดว้ ยเทคโนโลย ี คดิ สรา้ งสรรค์ ๒. เชอื่ มโยงความรู้ หลกั การ เหมาะสมกบั ๒. การออกแบบ และประสบการณ์ ออกแบบและ โอกาสและสถานท ี่ งานทศั นศลิ ป์ ทางศิลปะท่ีใช้ การจัดองค์ เทคโนโลยตี า่ ง ๆ ประกอบศิลป์ ๓. อธิบายหลักการ ๖. ออกแบบงาน ออกแบบและหลักการ ทัศนศิลป์ได้ จดั องค์ประกอบศลิ ป์ เหมาะกับ ๔. รว่ มกันอภปิ ราย โอกาสและ ความเหมาะสมของ สถานท ี่ งานทัศนศิลป์ ๕. นำความรทู้ ่ีได้ไป ประยุกต์ใช้ในการจัด นิทรรศการทเี่ หมาะกบั โอกาสและสถานที ่ มาตรฐาน ศ ๑.๑ การจัดกลุ่มงาน ๑. การจดั ทำ ๑. ทักษะ ๑. ปฏบิ ตั ิการจดั ๑. สังเกตความ ๙. จัดกลุม่ งาน ทศั นศิลปข์ อง แฟ้มสะสม การจัดกล่มุ กลุ่มงานและเขียน เหมือนความตา่ ง ทัศนศลิ ป ์ ศิลปนิ ไทยสากล งานทศั นศลิ ป ์ ๒. ทกั ษะการนำ อธิบายเหตุผล ของงานทศั นศลิ ป์ เพอ่ื สะท้อน ทตี่ นเองชื่นชอบ ๒. การสรา้ งงาน ความรู้ไปใช ้ ๒. วาดภาพตาม ๒. ทบทวนซักถาม พฒั นาการและ จะช่วยพัฒนาการ ทัศนศลิ ป์จาก แนวคิดของศิลปิน ความรู้เกีย่ วกบั ความกา้ วหนา้ และความก้าวหนา้ แนวคดิ และวธิ ีการ ที่ชื่นชอบ งานทศั นศิลป์ไทย ของตนเอง ของตนเอง ของศลิ ปิน และสากล ๑๐. สรา้ งสรรค์ ๓. กำหนดเกณฑ์ งานทศั นศิลป์ การจัดกลุม่ ไทย สากลโดย ๔. จำแนกหรอื ศึกษาจาก แยกงานทัศนศิลป์ แนวคิดและ ๕. เขยี นรายงาน วิธกี ารสรา้ งงาน อธิบายผลการจัดกลุ่ม ของศลิ ปนิ ทต่ี น ตามเกณฑท์ ี่ใช้ ช่ืนชอบ ๖. นำความร้เู ก่ียวกับ งานทศั นศิลป์ไทยและ สากลมาใช้วาดภาพ ระบายสี 118 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พอ่ื พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดบั มธั ยมศึกษา กลุม่ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ
ตวั ช้ีวัด ความคดิ สาระ ทกั ษะการคดิ ชิ้นงาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรียนรู้ ภาระงาน กจิ กรรมการเรียนร ู้ มาตรฐาน ศ ๑.๑ หลกั การ ทฤษฎีการ ทักษะ ประเมินและ ๑. นำประเด็นการ ๘. ประเมนิ วจิ ารณง์ านทศั นศลิ ป ์ วจิ ารณง์ านศิลปะ การประเมิน วจิ ารณ์งาน วจิ ารณ์ งานทัศนศิลป์ และวิจารณง์ าน ควรมเี กณฑ์ ทศั นศิลป์ โดยใช้ มากำหนดระดับ ทศั นศิลป ์ การประเมิน ทฤษฎกี ารวิจารณ์ คุณภาพท่ยี อมรับได้ โดยใชท้ ฤษฎี ท่เี หมาะสมตาม ศลิ ปะ ๒. นำผลการวิจารณ์มา การวิจารณ ์ ทฤษฎีการวจิ ารณ์ เทยี บกบั ระดบั คุณภาพ ศิลปะ ศิลปะ ๓. ระบรุ ะดับคณุ ภาพ ของผลงาน ๔. รว่ มกนั ประเมนิ และ วจิ ารณ์งานทศั นศิลป์ โดยใชท้ ฤษฎกี าร วจิ ารณ์ศิลปะ มาตรฐาน ศ ๑.๑ การวาดภาพ การวาดภาพ ทักษะ วาดภาพ ๑. สงั เกตภาพการต์ นู ๑๑. วาดภาพ ลอ้ เลยี นหรอื ลอ้ เลียนหรือ กระบวนการคดิ ระบายสเี ป็น ประเภทตา่ ง ๆ ระบายสเี ปน็ ภาพการต์ นู ภาพการต์ นู สร้างสรรค ์ ภาพลอ้ เลียนหรอื ๒. เชอื่ มโยงความรู ้ ภาพล้อเลยี น แบบตา่ ง ๆ จะชว่ ย ภาพการต์ นู กบั ประสบการณ ์ หรอื ภาพการ์ตูน สอื่ ความหมายถึง ทางศิลปะ สรา้ งงาน เพื่อแสดง สภาพสงั คม ความคิดเห็น ปัจจุบัน วาดภาพการต์ นู หรอื เกย่ี วกบั สภาพ ล้อเลยี นตามหลกั สงั คมในปจั จบุ นั และขั้นตอน ๓. วาดภาพระบายสี เป็นภาพลอ้ เลยี นหรือ ภาพการ์ตนู ๔. นำเสนอผลงาน และให้เหตุผล ๕. แสดงผลงาน ตอ่ ชุมชน แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรูเ้ พ่อื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดับมัธยมศกึ ษา 119 กลุม่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ
สาระที่ ๑ ทัศนศิลป์ มาตรฐาน ศ ๑.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่างานทัศนศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทย และสากล ตวั ชว้ี ดั ความคิด สาระ ทักษะการคดิ ชิ้นงาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรยี นรู้ ภาระงาน กจิ กรรมการเรยี นร ู้ สาระที่ ๑ งานทศั นศลิ ป์ ๑. งานทศั นศิลป์ ๑. ทักษะ รายงาน ๑. สงั เกตความเหมือน ทศั นศิลป์ แบบตะวนั ออก รปู แบบตะวันออก การเปรียบเทยี บ การวิเคราะหแ์ ละ ความตา่ งของงาน มาตรฐาน ศ ๑.๒ และตะวันตกมี และรปู แบบ ๒. ทกั ษะ เปรียบเทียบงาน ทัศนศิลป์ในรปู แบบ ๑. วิเคราะห์ และ ความแตกตา่ งกนั ตะวันตก การระบุ ทศั นศลิ ป์ใน ตะวนั ออกและ เปรียบเทยี บ ตามลักษณะ ๒. งานทศั นศลิ ป์ รูปแบบตะวนั ออก ตะวันตก และของ งานทัศนศิลป์ ของศิลปนิ ของศลิ ปินทมี่ ี และรปู แบบ ศลิ ปินทมี่ ีชอื่ เสียง ในรปู แบบ ชอ่ื เสยี ง ตะวนั ตก ๒. กำหนดเกณฑ ์ ตะวันออกและ การจดั กลุ่ม ๓. จำแนกและระบุ รูปแบบตะวนั ตก งานทัศนศิลปร์ ปู แบบ ๒. ระบุงาน ตะวนั ออกและตะวนั ตก ทัศนศิลป์ และของศลิ ปนิ ทตี่ า่ งกนั ของศลิ ปินที่ม ี ๔. เขียนรายงาน ชือ่ เสยี ง และ การวเิ คราะห์และ บรรยายผล เปรียบเทียบงาน ตอบรับของ ทัศนศิลป์ในรปู แบบ สังคม ตะวนั ออกและรปู แบบ ตะวนั ตกและยกตวั อยา่ ง งานทศั นศลิ ปข์ อง ศลิ ปินทีม่ ชี ่อื เสียง มาตรฐาน ศ ๑.๒ อทิ ธิพลของ อทิ ธพิ ลของ ทักษะ รายงาน ๑. ทบทวนซกั ถาม ๓. อภิปราย วัฒนธรรมระหวา่ ง วฒั นธรรมระหวา่ ง การนำความรู้ไปใช ้ อิทธพิ ลของ เกย่ี วกบั วฒั นธรรม เก่ยี วกับ ประเทศจะมผี ล ประเทศที่มผี ล วฒั นธรรมระหว่าง ระหว่างประเทศทีม่ ี อทิ ธิพลของ ตอ่ งานทัศนศลิ ป์ ต่องานทศั นศิลป ์ ประเทศท่ีมีผลต่อ ผลต่องานทัศนศิลป ์ วัฒนธรรม ในสงั คม งานทศั นศิลป ์ ในสงั คม ในสงั คม ๒. บอกความเหมือน ระหว่างประเทศ กันของวฒั นธรรม ทมี่ ผี ลตอ่ งานทศั นศิลป ์ ระหวา่ งประเทศทีม่ ตี อ่ งานทศั นศิลป์ในสังคม ในสังคม ๓. นำความรู้เกีย่ วกับ อทิ ธิพลของวัฒนธรรม แต่ละประเทศท่ีมีต่อ งานทศั นศลิ ป ์ มาอภิปรายและ เขยี นรายงาน 120 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาทักษะการคดิ ระดบั มัธยมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศลิ ปะ
สาระที่ ๒ ดนตรี มาตรฐาน ศ ๒.๑ เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ ์ คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ช่ืนชม และ ประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั ตวั ชว้ี ดั ความคดิ สาระ ทักษะการคดิ ชน้ิ งาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรียนร ู้ ภาระงาน กจิ กรรมการเรียนรู ้ สาระที่ ๒ บทเพลงและ ๑. การจัดวงดนตรี ๑. ทักษะ ๑. ผงั มโนทัศน์ ๑. สังเกตภาพรวมส่งิ ดนตร ี วงดนตรที ั้งไทย การใช้เคร่อื งดนตรี การจดั กลมุ่ เกี่ยวกับวงดนตรี ท่ีเหมือนและต่างกัน มาตรฐาน ศ ๒.๑ และสากลมหี ลาย ในวงดนตรี ๒.ทักษะ เครอ่ื งดนตรีไทย ๒. รว่ มกนั อภปิ รายและ ๑. เปรียบเทียบ ประเภท แต่ละ ประเภทตา่ ง ๆ การเปรียบเทียบ และสากล กำหนดเกณฑ์ที่ไดร้ บั รปู แบบของ ประเภทมีรปู แบบ บทเพลงทบ่ี รรเลง ๓. ทกั ษะ ๒. รายงานรปู แบบ การยอมรบั ทางวชิ าการ บทเพลงและ ทแี่ ตกต่างกันไป โดยวงดนตรี การจำแนกประเภท ของวงดนตรีไทย หรอื ยอมรับโดยท่วั ไป วงดนตรแี ต่ละ ประเภทต่าง ๆ และสากล ของรปู แบบของ ประเภท ๒. ประเภทของ บทเพลงและวงดนตรี ๒. จำแนกประเภท วงดนตรี แตล่ ะประเภทและ และรปู แบบ - ประเภทของ รปู แบบของวงดนตรี ของวงดนตร ี วงดนตรีไทย ทงั้ ไทยและสากล ท้งั ไทยและ - ประเภทของ ๓. เปรียบเทยี บและ สากล วงดนตรสี ากล จดั กลุม่ ส่ิงที่มีลักษณะ เหมอื นกนั ไว้ดว้ ยกัน ๔. อธบิ ายผล การเปรียบเทยี บ และจำแนกประเภท อย่างมีกฎเกณฑ ์ ๕. ทำผังมโนทศั น ์ รปู แบบของ เครื่องดนตรีไทย และสากล ๖. เขยี นรายงาน รปู แบบของวงดนตรีไทย และสากล มาตรฐาน ศ ๒.๑ งานดนตรจี าก ๑. ปจั จัยในการ ๑. ทกั ษะ ๑. รายงานเรือ่ ง ๑. กำหนดประเด็น ๓. อธิบายเหตผุ ล ต่างวัฒนธรรม สรา้ งสรรคผ์ ลงาน การวิเคราะห์ งานดนตรีในแตล่ ะ และรวบรวมขอ้ มูล ทค่ี นต่าง มีการสร้างสรรค ์ ดนตรีในแต่ละ ๒. ทักษะ วฒั นธรรม พร้อมทั้งสงั เกต วฒั นธรรม ท่ีแสดงออกทาง วฒั นธรรม การเปรียบเทยี บ ๒. ผงั มโนทศั น์การ ภาพรวม สง่ิ ท่ีเหมอื น สร้างสรรค์ อารมณ์และ - ความเช่อื กบั เปรยี บเทียบงาน และตา่ งกัน แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนร้เู พอ่ื พัฒนาทักษะการคดิ ระดบั มธั ยมศึกษา 121 กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ
ตวั ช้วี ัด ความคิด สาระ ทักษะการคิด ชิน้ งาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรยี นร ู้ ภาระงาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ งานดนตร ี ความร้สู ึก การสร้างสรรค์ ดนตรีท่ีมาจาก ๒. คน้ หาความหมาย แตกต่างกนั แตกต่างกัน งานดนตร ี วฒั นธรรมทีต่ า่ งกนั รว่ มกันอภปิ รายและ ๗. เปรยี บเทยี บ - ศาสนากับ กำหนดเกณฑ์ท่ีไดร้ ับ อารมณ์ และ การสรา้ งสรรค ์ การยอมรบั ทางวชิ าการ ความรสู้ กึ งานดนตรี หรอื ยอมรับโดยท่วั ไป ท่ีได้รบั จาก - วิถีชวี ิตกับการ ของคนต่างวัฒนธรรม งานดนตรีที่มา สรา้ งสรรค์งาน สร้างสรรค์งานดนตรี จากวฒั นธรรม ดนตรี แตกตา่ งกนั และอารมณ์ ตา่ งกัน - เทคโนโลยีกบั และความรู้สึกท่ีไดร้ ับ การสร้างสรรค ์ จากงานดนตรีท่ีมา งานดนตร ี จากวฒั นธรรมต่างกนั ๒. การถา่ ยทอด ๓. เชื่อมโยงความรู้ อารมณ์ ความรู้สึก หรอื ประสบการณ์เดิม ของงานดนตรจี าก กบั ข้อมลู ที่ได้มา แตล่ ะวัฒนธรรม อย่างมเี หตผุ ล ๔. เปรียบเทยี บและ จัดกลุ่มสงิ่ ทมี่ ลี กั ษณะ เหมือนกนั ไว้ด้วยกนั ๕. อธบิ ายผล การเปรียบเทยี บ และจำแนกประเภท อย่างมีกฎเกณฑ ์ ๖. เขยี นผงั มโนทัศน์ งานดนตรีในวฒั นธรรม ที่ตา่ งกัน ๗. เขยี นรายงานเรอ่ื ง งานดนตรีในแต่ละ วฒั นธรรม มาตรฐาน ศ ๒.๑ การอ่าน ๑. เคร่อื งหมาย ทักษะ ๑. เขียนผงั ตาราง ๑. ทบทวนความรทู้ ม่ี ี ๔. อ่าน เขยี น โน้ต เขยี นโน้ต และสญั ลักษณ์ การนำความรู้ไปใช ้ โน้ตดนตรีไทย เกยี่ วกบั โนต้ ดนตรีไทย ดนตรีไทยและ ดนตรีไทยและ ทางดนตรี และสากล และสากล สากลในอตั รา สากลเป็นพื้นฐาน - เครือ่ งหมาย ๒. อา่ น เขียน ๒. เชื่อมโยงความรู้ จังหวะตา่ ง ๆ ของการสร้างสรรค ์ กำหนดอัตรา โน้ตดนตรีไทย เดมิ กบั ความรู้ใหม่ให้ จงั หวะของดนตรี จังหวะ และสากล เห็นถึงความเหมือน - เครื่องหมาย และตา่ งกัน 122 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพ่อื พฒั นาทักษะการคิด ระดบั มธั ยมศกึ ษา กลุม่ สาระการเรียนรศู้ ิลปะ
ตวั ชี้วัด ความคดิ สาระ ทกั ษะการคิด ชิ้นงาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรียนรู ้ ภาระงาน กจิ กรรมการเรยี นร ู้ กำหนดบนั ได ๓. อธบิ ายความรู้ใหม่ เสยี ง และประสบการณ ์ ๒. โนต้ บทเพลง ในการอา่ น เขียนโน้ต ไทยอัตรา ไทยและสากล จงั หวะ ๒ ชั้น ๔. เขยี นผังตารางโน้ต และ ๓ ชนั้ ดนตรีไทยและสากล ๕. นำความรู้ไปใช้อ่าน เขยี น รอ้ งโนต้ ไทยและ โนต้ สากลในอตั รา จงั หวะตา่ ง ๆ มาตรฐาน ศ ๒.๑ การร้องเพลง เทคนคิ และ ทกั ษะ รอ้ งเพลง หรอื ๑. ทบทวนความรู้ที่มี ๕. รอ้ งเพลงหรือ และเลน่ ดนตรี การถ่ายทอด การนำความรู้ไปใช ้ เล่นดนตรีเดีย่ ว เกยี่ วกับการร้องเพลง เลน่ ดนตรีเดีย่ ว แบบเด่ียว หรือ อารมณ์เพลงด้วย และรวมวง หรือเลน่ ดนตร ี และรวมวง รวมวง แต่ละ การรอ้ งบรรเลง ๒. เช่ือมโยงความร ู้ โดยเนน้ เทคนคิ ประเภท เครอ่ื งดนตรีเดี่ยว ประสบการณ์ จากการ การแสดงออก มเี ทคนคิ และรวมวง ใชเ้ ทคนคิ วธิ ีการ และคุณภาพ การแสดงออก รอ้ งเพลงเล่นดนตรี ของการแสดง ท่ีแสดงถงึ คณุ ภาพ เดี่ยวและรวมวง ของงานน้ัน ๓. นำความร้ทู ม่ี ีไปใช้ สรา้ งสรรคง์ านการแสดง เชน่ การร้องเพลงหรอื เลน่ ดนตรีเดีย่ วและ รวมวง โดยเน้น เทคนิคการแสดงออก และคุณภาพของ การแสดง มาตรฐาน ศ ๒.๑ การประเมนิ เกณฑ์ในการ ๑. ทักษะ สร้างเกณฑ์ ๑. นำการประพนั ธ์ ๖. สรา้ งเกณฑ์ คุณภาพด้านการ ประเมนิ ผลงาน การตง้ั เกณฑ์ ประเมินคุณภาพ และการเลน่ ดนตร ี สำหรับประเมิน ประพนั ธ์ และ ดนตร ี ๒. ทักษะการ การประพนั ธแ์ ละ ของตนเองและผูอ้ นื่ คุณภาพ การเลน่ ดนตรี - คุณภาพของ ประเมนิ การเล่นดนตร ี มากำหนดระดบั การประพนั ธ ์ จะตอ้ งมกี าร ผลงานทาง คุณภาพหรือคุณค่า และการเล่น กำหนดเกณฑ ์ ดนตร ี ทีย่ อมรบั ได้ ดนตรีของ เพื่อใช้ในการ - คุณคา่ ของ ๒. นำผลจากการวดั มา ตนเองและผ้อู ่ืน ประเมนิ ผลงานทาง เทยี บระดบั คณุ ภาพ ได้อย่าง ดนตรี ๓. สรา้ งเกณฑส์ ำหรับ เหมาะสม ประเมินคณุ ภาพ แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรูเ้ พ่อื พัฒนาทกั ษะการคิด ระดับมธั ยมศึกษา 123 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
ตวั ช้วี ดั ความคิด สาระ ทักษะการคิด ชนิ้ งาน/ แนวการจัด รวบยอด การเรยี นรู้ ภาระงาน กิจกรรมการเรยี นรู้ การประพันธแ์ ละ การเลน่ ดนตร ี ๔. ระบรุ ะดับคณุ ภาพ หรอื คุณค่าท่ยี อมรบั ได้ ๕. นำผลการวดั มา เทยี บระดับคุณภาพ ๖. อภปิ รายและสรปุ หลกั เกณฑ์ประเมนิ คุณภาพการประพนั ธ์ และการเลน่ ดนตรี ท่ีเหมาะสม มาตรฐาน ศ ๒.๑ ดนตรีมี ๑. ดนตรกี ับ ๑. ทกั ษะ รายงานดนตรี ๑. กำหนดประเดน็ ๘. นำดนตรีไป บทบาท การผอ่ นคลาย นำความรู้ไปใช้ กับการพัฒนา และรวบรวมขอ้ มูล ประยกุ ต์ใช้ในงาน สำคญั ในการ ๒. ดนตรีกับ ๒. ทักษะ มนุษย์ เกย่ี วกบั การแสดง อื่น ๆ ดำเนนิ กจิ กรรม การพัฒนามนุษย ์ กระบวนการคิด ของงานต่าง ๆ ๓. ดนตรกี ับ สรา้ งสรรค์ ดนตร ี การประชาสัมพนั ธ ์ ๒. ค้นหาการแสดง ๔. ดนตรีกบั ดนตรีทเี่ หมาะสม การบำบดั รักษา สามารถประยุกต์ใช ้ ๕. ดนตรีกบั ธรุ กิจ ในงานอนื่ ๆ ๖. ดนตรกี บั ๓. เชอ่ื มโยงความรู้ การศกึ ษา หรือประสบการณเ์ ดิม กับขอ้ มลู ที่ไดม้ า อย่างมีเหตผุ ล ๔. อภปิ รายหาข้อสรปุ รว่ มกนั ๕. เลอื กนำเสนอการนำ ดนตรีไปประยุกต์ใช ้ ในงานอนื่ ๆ ๖. เขียนรายงานการนำ ดนตรีไปประยกุ ต์ใช้ใน งานตา่ ง ๆ เชน่ ดนตรี กับการพัฒนามนษุ ย์ 124 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพอ่ื พฒั นาทกั ษะการคิด ระดับมัธยมศึกษา กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ
สาระที่ ๒ ดนตร ี มาตรฐาน ศ ๒.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่า ของดนตรีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภูมิปัญญาไทยและ สากล ตวั ชว้ี ัด ความคดิ สาระ ทักษะการคิด ชน้ิ งาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรยี นรู้ ภาระงาน กิจกรรมการเรียนร ู้ ๑. ศกึ ษาและรวบรวม สาระท่ี ๒ ดนตรีไทยและ ๑. รปู แบบ ทกั ษะ รายงาน ขอ้ มูลเกย่ี วกับรปู แบบ ดนตร ี ดนตรีสากล บทเพลงและ การวิเคราะห ์ การวิเคราะห์ ของดนตรีไทย มาตรฐาน ศ ๒.๒ มีรูปแบบ วงดนตรีไทย รูปแบบของ และดนตรีสากล ๑. วิเคราะห ์ แตกต่างกัน แตล่ ะยุคสมัย ดนตรีไทยและ ในยคุ สมัยต่าง ๆ รูปแบบของ ตามยุคสมยั ๒. รปู แบบ ดนตรีสากล ๒. ต้ังวตั ถปุ ระสงค์ ดนตรีไทยและ บทเพลงและ ในยคุ สมยั ตา่ ง ๆ ทีจ่ ะวิเคราะห์ขอ้ มูล ดนตรสี ากล วงดนตรสี ากล ๓. กำหนดเกณฑ์ ในยุคสมยั แต่ละยุคสมยั ในการจำแนกข้อมูล ตา่ ง ๆ ๔. แยกแยะข้อมลู ตามเกณฑ์ทีก่ ำหนด ๕. หาความสมั พันธ์ ขององค์ประกอบ และขอ้ มูลในแตล่ ะ องคป์ ระกอบ ๖. นำเสนอผลการ วิเคราะห ์ ๗. เขียนยสรุปรายงาน การวิเคราะหร์ ปู แบบ ของดนตรีไทยและ ดนตรสี ากลในแต่ละ ยุคสมยั แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพฒั นาทักษะการคิด ระดับมัธยมศกึ ษา 125 กลุม่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ
ตวั ชี้วัด ความคิด สาระ ทักษะการคดิ ชนิ้ งาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรยี นรู้ ภาระงาน กิจกรรมการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ ๒.๒ ดนตรีใน ๑. ประวตั ิ ๑. ทกั ษะ ๑. อภิปรายสถานะ ๑. กำหนดประเดน็ ๒. วเิ คราะห ์ วฒั นธรรมต่าง ๆ สังคีตกว ี การวิเคราะห ์ ทางสังคมของ และรวบรวมขอ้ มูล สถานะ มีลกั ษณะเดน่ ๒. ลักษณะเด่น ๒. ทกั ษะ นกั ดนตร ี พรอ้ มทง้ั สงั เกต ทางสังคม เฉพาะตนและ ของดนตรีในแต่ละ การเปรียบเทียบ ๒. รายงานลกั ษณะ ภาพรวม สิ่งทเ่ี หมือน ของนกั ดนตรี นักดนตรกี ็มี วฒั นธรรม เดน่ ของงานดนตรี และต่างกันของ ในวัฒนธรรม สถานะแตกตา่ งกัน ๓. เครื่องดนตรี ในวัฒนธรรม นักดนตรีไทยใน ต่าง ๆ ตามแตล่ ะ ๔. วงดนตร ี ตา่ งกนั วฒั นธรรมต่าง ๆ ๓. เปรยี บเทยี บ วัฒนธรรม ๕. ภาษา เนอื้ ร้อง ๒. ค้นหาความหมาย ลักษณะเดน่ ๖. สำเนยี ง สถานะทางสงั คม ของดนตรี ๗. องคป์ ระกอบ ของนกั ดนตรี ในวฒั นธรรม บทเพลง ในวฒั นธรรมต่าง ๆ ต่าง ๆ และลกั ษณะเด่น ของดนตรีใน วัฒนธรรมตา่ ง ๆ ๓. วิเคราะหแ์ ละ เช่ือมโยงความรหู้ รือ ประสบการณเ์ ดมิ กับ ข้อมลู ท่ีได้มา อย่างมเี หตุผล ๔. เปรียบเทียบและ จดั กลมุ่ สิ่งท่มี ลี กั ษณะ เหมือนกันไวด้ ว้ ยกนั อย่างมีกฎเกณฑ ์ ๕. สรุปและอภปิ ราย สถานะทางสังคมของ นักดนตรแี ละลักษณะ เด่นของดนตรี ๖. เขียนรายงาน ลกั ษณะเด่นของ งานดนตรีใน วฒั นธรรมตา่ ง ๆ มาตรฐาน ศ ๒.๒ ดนตรีมบี ทบาท บทบาทดนตรี ๑. ทักษะ อธิบายบทบาท ๑. กำหนดประเด็น ๔. อธบิ ายบทบาท ในการสะท้อน ในการสะทอ้ น การวิเคราะห ์ ของดนตรี และรวบรวมข้อมลู ของดนตร ี แนวคดิ ค่านิยม สงั คม ๒. ทักษะ ท่ีสะท้อนความคิด เก่ียวกบั บทบาท ในการสะท้อน ของคนไทย - ค่านิยมของ การให้เหตุผล และคา่ นยิ ม ของดนตรที สี่ ะทอ้ น แนวความคดิ ในสังคม สงั คมในผลงาน ของคนในสงั คม ความคดิ และค่านิยม และค่านิยม ดนตร ี ของคนในสังคม 126 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนร้เู พอ่ื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดับมัธยมศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
ตวั ชว้ี ัด ความคดิ สาระ ทกั ษะการคดิ ช้ินงาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรยี นร ู้ ภาระงาน กจิ กรรมการเรียนรู้ ท่เี ปลี่ยนไป - ความเชอ่ื ของ ๒. ค้นหาสาเหตขุ อง ของคนในสงั คม สงั คมในงาน บทบาทของดนตรใี นการ ดนตร ี สะทอ้ นแนวความคิด และคา่ นยิ มทเ่ี ปลยี่ นไป ของคนในสังคม โดยอาศัยการยอมรับ ของสงั คมหรือมขี ้อมูล หลกั ฐานสนบั สนุน ๓. วเิ คราะห์และ เช่ือมโยงความรหู้ รือ ประสบการณ์เดิมกบั ขอ้ มลู ท่ีไดม้ าอย่างมี เหตุผล ๔. อธบิ ายใหเ้ หน็ ความสอดคลอ้ งของ บทบาทของดนตร ี ทีส่ ะท้อนความคดิ อยา่ งมกี ฎเกณฑ์ ๕. นำเสนอ ดนตรีเป็น แนวทางและวธิ ี ๑. ทักษะ การจัด ๑. กำหนดประเด็น แนวทางในการ มรดกของชาติ การในการส่งเสรมิ การนำความรู้ไปใช ้ นิทรรศการ และรวบรวมขอ้ มูล ส่งเสริมและ ควรแก่การส่งเสรมิ อนุรกั ษ์ดนตรีไทย ๒. ทกั ษะ การสง่ เสรมิ และ การส่งเสริม อนุรกั ษ์ดนตรี และอนรุ กั ษ ์ กระบวนการ อนุรักษ์ดนตรีไทย การอนุรักษ์ดนตรี ในฐานะมรดก คดิ สรา้ งสรรค ์ ๒. ค้นหาแนวทาง ของชาติ ในการสง่ เสริมและ สร้างสรรค์วิธีการ อนรุ กั ษด์ นตรีในฐานะ มรดกของชาติ ๓. เชื่อมโยงความรู้ หรือประสบการณ์เดมิ กบั ขอ้ มูลที่ไดม้ า อย่างมเี หตุผล ๔. อภิปรายหาขอ้ สรปุ ร่วมกัน ๕. จัดนิทรรศการ นำเสนอแนวทาง ในการส่งเสริมและ อนุรักษด์ นตรีในฐานะ มรดกของชาติ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพอื่ พฒั นาทักษะการคดิ ระดับมธั ยมศึกษา 127 กล่มุ สาระการเรียนรูศ้ ลิ ปะ
สาระที่ ๓ นาฏศิลป์ มาตรฐาน ศ ๓.๑ เข้าใจและแสดงออกทางนาฏศิลป์อย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ ์ คุณคา่ นาฏศิลป์ ถา่ ยทอดความรู้สึก ความคิดอยา่ งอสิ ระ ช่นื ชม และประยุกต ์ ใช้ในชีวิตประจำวัน มาตรฐาน ศ ๓.๒ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างนาฏศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของนาฏศิลป์ที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ภมู ิปญั ญาไทยและสากล ตัวชว้ี ดั ความคิด สาระ ทกั ษะการคิด ช้นิ งาน/ แนวการจัด รวบยอด การเรยี นรู ้ ภาระงาน กิจกรรมการเรยี นร ู้ สาระท่ี ๓ การแสดง ๑. รูปแบบของ ๑. ทักษะ ๑. แสดงละคร ๑. ทบทวนความรูแ้ ละ นาฏศลิ ป ์ นาฏศิลปแ์ ละ การแสดง การนำความรู้ไปใช้ ๑ ชดุ สนทนาซักถาม มาตรฐาน ศ ๓.๑ ละครเปน็ การ - ระบำ รำ ฟอ้ น ๒. ทกั ษะ ๒. แสดงนาฏศลิ ป์ เก่ียวกับรปู แบบของ ๑. มที ักษะ ถา่ ยทอดความรสู้ ึก - การแสดง การเช่อื มโยง ๑ ชุด การแสดง ในการแสดง จนิ ตนาการ พื้นเมอื ง ๓. ทกั ษะ ๒. เช่ือมโยงความรู้ ทกั ษะและประสบการณ์ หลากหลาย เรอื่ งราวในรปู แบบ ภาคต่าง ๆ กระบวนการ ทางการแสดง รูปแบบ ต่าง ๆ ผู้แสดง - การละครไทย คิดสร้างสรรค ์ เพื่อสรา้ งสรรค์ละคร ๒. สร้างสรรค์ ต้องมที กั ษะ - การละคร ส้นั ท่ชี ืน่ ชอบและการ ละครส้นั ความรู้ ความเขา้ ใจ สากล แสดงนาฏศิลปเ์ ปน็ คู่ ในรปู แบบ โดยการฝึกซ้อม ๒. ละคร และหมู่ ทีช่ น่ื ชอบ เพ่ือให้การแสดง สร้างสรรค ์ ๓. รว่ มกันระดมความ ๓. ใช้ความคิด นนั้ งดงามสมบูรณ์ - ความเปน็ มา คดิ ริเร่ิมในการแสดง ริเริ่มในการ - องค์ประกอบ ละครสัน้ และการ แสดงนาฏศิลป์ ของละคร แสดงนาฏศิลปเ์ ปน็ คู่ เป็นค่แู ละหม ู่ สรา้ งสรรค์ และหมอู่ ย่างมคี ุณภาพ - ละครพดู ๔. อภปิ รายวธิ กี าร ละคร สรา้ งสรรค์ละครสนั้ โศกนาฏกรรม และการแสดง ละคร นาฏศลิ ปเ์ ปน็ คแู่ ละหมู่ สุขนาฏกรรม ๕. แสดงละครสัน้ ละครแนว ในรูปแบบที่ชืน่ ชอบ เหมือนจรงิ ๖. แสดงนาฏศิลป์เปน็ ละครแนว คูแ่ ละหมู ่ ไม่เหมอื นจริง ๗. ประเมินผลงานของ ๓. การประดษิ ฐ์ ตนเอง ทา่ รำท่ีเป็นคู่และ ๘. เผยแพรผ่ ลงาน หม่ ู 128 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พือ่ พัฒนาทกั ษะการคิด ระดบั มัธยมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ
ตวั ชีว้ ัด ความคดิ สาระ ทกั ษะการคิด ชิ้นงาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรยี นร ู้ ภาระงาน กจิ กรรมการเรียนร ู้ มาตรฐาน ศ ๓.๑ การแสดง ๑. เทคนิคการจัด ๑. ทกั ษะ ๑. อภปิ รายการ ๑. ทบทวนความร้แู ละ ๖. บรรยาย และ นาฏศลิ ปเ์ ปน็ แสดง การนำความรู้ไปใช้ จัดการแสดงโดยใช้ สรา้ งความตระหนกั วเิ คราะห ์ การนำภาษาทา่ - แสง สี เสยี ง ๒. ทกั ษะ เทคนิค แสง สี ในการใชเ้ ทคนคิ อิทธิพลของ และนาฏยศพั ท์ - ฉาก อปุ กรณ ์ การวิเคราะห์ เสียง อุปกรณ์ การจดั แสดงแสง สี เคร่ืองแต่งกาย ใชอ้ อกแบบ - สถานที ่ สถานทีแ่ ละ เสียง ฉาก อปุ กรณ์ แสง สี เสียง การแสดงให้ เครอ่ื งแตง่ กาย เคร่อื งแต่งกาย สถานท่ี และ ฉาก อปุ กรณ์ สอดคลอ้ งกบั ๒. การสรา้ งสรรค์ ๒. จดั การแสดง เคร่อื งแตง่ กาย และสถานท ่ี บทเพลง เรอ่ื งราว - ผ - ล งวขแชปกานัอสดุารนระสงกดจ โจำางดัรำครใงโกนแญัเรารส ง รยีเด รนงยี น ในวันสำคัญ ตลอดจนลกั ษณะ ที่มีผลต่อ ต่าง ๆ ทง้ั ในอดีต ของโรงเรยี น ทา่ ทางของคน การแสดง และปัจจุบนั ท่ีให้ ในการจดั แสดง ๘. วเิ คราะห์ ความรู้สกึ และ ๒. ศกึ ษาขอ้ มูลการ ท่าทาง และ สร้างจติ สำนกึ ได ้ จัดการแสดงเพอื่ ระดม การเคลอ่ื นไหว พลงั ความคดิ ในการ ของผคู้ นใน ดงึ ศักยภาพผเู้ รียน ชีวติ ประจำวัน ใหส้ ามารถคน้ หาคำตอบ และนำมา และมสี ่วนรว่ ม ประยุกต์ใช ้ ๓. ต้งั วตั ถุประสงค ์ ในการแสดง ในการวิเคราะห์ข้อมูล ๔. กำหนดเกณฑ์ การวเิ คราะหเ์ ทคนิค การจดั แสดงและ ลกั ษณะทา่ ทางของคน ทจี่ ะนำมาใชก้ บั การแสดง ๕. แยกแยะขอ้ มูล และหาความสมั พนั ธ์ ของข้อมลู ในแตล่ ะ องค์ประกอบ ๖. สรา้ งสรรค์ชนิ้ งาน โดยผา่ นกระบวนการ เรยี นร้คู ดิ หาตำตอบ เกิดจากจินตนาการ ในการสรา้ งสรรค์งาน รปู แบบตา่ ง ๆ ๗. นำเสนอผลงาน โดยการวิพากษ์วจิ ารณ์ แสดงความคิดเหน็ ผลจากการนำเสนอ ๘. ประเมนิ ผลงาน ของตนเองและผอู้ นื่ มีการยอมรบั แก้ไข แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรูเ้ พ่อื พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับมัธยมศกึ ษา 129 กล่มุ สาระการเรยี นรูศ้ ิลปะ
ตวั ชี้วัด ความคิด สาระ ทกั ษะการคิด ช้นิ งาน/ แนวการจัด รวบยอด การเรียนรู้ ภาระงาน กิจกรรมการเรยี นร้ ู ๙. เผยแพร่ผลงาน โดยการจดั การแสดง ในรปู แบบตา่ ง ๆ ในวนั สำคญั ของโรงเรยี น เพอ่ื ให้ผปู้ กครอง ได้ชืน่ ชมผลงาน ๑. รายงานประวตั ิ ๑. เตรียมความรู้ มาตรฐาน ศ ๓.๑ การวจิ ารณ์ ๑. หลกั การ ๑. ทักษะ ความเป็นมาของ พื้นฐานเร่อื งหลักการ ๔. วิจารณ ์ การแสดงอยา่ ง สร้างสรรค์ วเิ คราะห์ นาฏศิลปแ์ ละการ วจิ ารณ์การแสดง การแสดง สร้างสรรคค์ วรมี และการวิจารณ ์ ๒. ทกั ษะ ตามหลักนาฏศลิ ป ์ ตามหลกั ความรคู้ วามเข้าใจ ๒. หลกั การชม การเปรียบเทยี บ ละคร นาฏศลิ ป ์ ในนาฏศลิ ป์ไทย การแสดงนาฏศิลป์ ๒. ผงั มโนทัศน์ และการละครก่อนชม และการละคร และละคร และละคร ตาราง ๓ ช่อง การแสดงนาฏศลิ ป ์ แบบ KWL ชว่ ยกันระดมสมอง ๕. วิเคราะห์แกน่ อย่างถกู ต้อง ๓. ประวัต ิ ในสง่ิ ท่ีไดเ้ รียนร ู้ ของการแสดง ซงึ่ เปน็ พ้นื ฐานของ ความเปน็ มา ๓. การแสดง ในเร่อื งในการชม/ นาฏศลิ ป ์ การชมการแสดง ของนาฏศิลปแ์ ละ นาฏศิลป์ และการละคร นาฏศิลป์ และ การละคร สงิ่ ท่ีได้ ขณะเดยี วกัน ท่ตี ้องการ การละคร - ววิ ฒั นาการ กจ็ ะใหม้ ีการบนั ทกึ สอ่ื ความหมาย - ความงาม ความคดิ เห็นทเี่ กดิ จาก ในการแสดง และคณุ คา่ การระดมสมองและ ชว่ ยกันเขียนผัง มาตรฐาน ศ ๓.๒ ๔. การแสดง มโนทัศน์ในสิง่ ทต่ี นร ู้ ๑. เปรยี บเทียบ นาฏศลิ ป์ในโอกาส ๒. ตงั้ จุดหมาย การนำการ ต่าง ๆ แสดงไปใช้ใน ในการชมการแสดง โอกาสต่าง ๆ เปรียบเทียบคุณคา่ และกระตุ้นความรูเ้ ดิม ซ่งึ นำไปส่จู ดุ มุ่งหมาย ในการเรยี นรู้ในเรือ่ ง - การชมการแสดง แกน่ ของการแสดง นาฏศลิ ป์ - การละครทต่ี อ้ งการ ส่ือความหมาย ในการแสดง - เปรียบเทยี บงาน การนำการแสดง ไปใช้ในโอกาส ต่าง ๆ ผ้สู อนจะใช้ คำถามกระตุน้ เชน่ ต้องการร้อู ะไร 130 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพือ่ พฒั นาทกั ษะการคิด ระดับมัธยมศึกษา กลุม่ สาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ
ตวั ช้วี ดั ความคิด สาระ ทักษะการคิด ช้นิ งาน/ แนวการจัด รวบยอด การเรียนรู้ ภาระงาน กจิ กรรมการเรียนรู้ เพมิ่ เติมในเร่ือง การชมการแสดง ๓. วางหลักเกณฑ์ การวเิ คราะห์ วจิ ารณ์ การแสดงตามหลกั นาฏศลิ ปแ์ ละการละคร ๔. วจิ ารณเ์ ปรยี บเทยี บ การนำการแสดงไปใช้ ในโอกาสตา่ ง ๆ ๕. จดั แสดงนาฏศลิ ป์ ในโอกาสตา่ ง ๆ ๖. ชมการแสดง นาฏศิลป์ไทยและ บนั ทกึ ข้อมูลอืน่ ๆ ทีศ่ ึกษาเพ่ิมเติมได้ โดยใช้ตาราง ๓ ช่อง แบบ KWL ดังน้ี K W L (ผ ู้ (ผ ู้ (ผ ู้ เรยี นร้ ู เรียน เรยี น อะไร) ต้องการ ได้ รอู้ ะไร เรียน บ้าง) อะไร) ๗. หลังจากผเู้ รยี น ไดเ้ รียนรเู้ ขยี นขอ้ มลู K W L ใน ๓ ชอ่ ง แลว้ ใหน้ ำขอ้ มลู ที่ไดม้ า เขยี นแผนผังมโนทัศน์ ตาราง ๓ ช่องแบบ KWL ซง่ึ อาจมกี าร ตดั ทอนเพ่มิ เตมิ หรอื จัดระบบข้อมลู ใหม่ ใหส้ มบรู ณ์ และนำเสนอ โดยใช้วธิ คี ดิ เพอื่ สามารถเผชญิ สถานการณอ์ ยา่ ง เหมาะสม แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พอ่ื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั มัธยมศกึ ษา 131 กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ
ตวั ช้วี ัด ความคดิ สาระ ทกั ษะการคิด ชน้ิ งาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรยี นรู้ ภาระงาน กจิ กรรมการเรียนรู้ ๘. เขยี นรายงาน ประวตั คิ วามเป็นมา ของนาฏศิลป์และ การละคร ๑. ยกตัวอย่าง มาตรฐาน ศ ๓.๑ การประเมิน การประเมนิ ๑. ทักษะ เกณฑ์การ การประกวดต่าง ๆ ๗ . พัฒนาและ การแสดงเปน็ คณุ ภาพของ การประเมนิ ประเมินคุณภาพ ท่ีจดั ขน้ึ ร่วมสนทนา ใช้เกณฑ ์ เครือ่ งช้ีวดั ให้เห็น การแสดง ๒. ทกั ษะ ของการแสดง แลกเปล่ียนความคิด การประเมิน การพัฒนา ๑. คณุ ภาพดา้ น การต้งั เกณฑ ์ มุมมองของผชู้ ม ในการประเมนิ การแสดง การแสดง ผแู้ สดง ผู้ประกวด การแสดง ๒. คณุ ภาพ คณะกรรมการตัดสนิ องคป์ ระกอบ เลือกผูช้ นะ ผ้สู อน การแสดง ใช้คำถาม “กรรมการ ท่ีตดั สินการประกวด ใชอ้ ะไรบา้ งใน การตัดสิน พิจารณา แลว้ ให้ผเู้ รียนตอบ ๒. แจ้งจดุ ประสงค์ ของบทเรียนในเร่อื ง การใชเ้ กณฑ์ การประเมิน เพอื่ พัฒนาการแสดง ๓. ศึกษาและรวบรวม ข้อมูล ความรู้ หลักการของการแสดง องคป์ ระกอบการแสดง ตวั อย่างการประเมนิ ทห่ี ลากหลาย ๔. กำหนดเกณฑก์ าร ประเมินและให้ผู้เรยี น รว่ มกนั ระดมสมอง สบื ค้นคน้ หาคุณภาพ การแสดงและคณุ ภาพ องคป์ ระกอบการแสดง ตามเกณฑ์ เช่น - ความถูกตอ้ ง - ความสวยงาม - คุณค่า 132 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนร้เู พอื่ พัฒนาทกั ษะการคิด ระดับมัธยมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
ตวั ช้วี ัด ความคดิ สาระ ทกั ษะการคิด ช้นิ งาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรียนรู้ ภาระงาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ - คุณธรรมจรยิ ธรรม ๕. นำข้อมลู ท่ีรวบรวม มาพจิ ารณาแยกแยะ สว่ นต่าง ๆ ๖. อภปิ รายสรุปผล การประเมนิ การแสดง จากเกณฑท์ ่ีกำหนด มาตรฐาน ศ ๓.๒ นาฏศิลปแ์ ละ ๑. บุคคลสำคัญ ๑. ทักษะการ ๑. รายงานเรอื่ ง ๑. แบง่ กลมุ่ และสบื คน้ ๒. อภปิ ราย การละครไทย ในวงการนาฏศลิ ป ์ วิเคราะห ์ บุคคลสำคญั ข้อมูลเกี่ยวกับบคุ คล บทบาทของ เป็นมรดกของ และการละคร ๒. ทักษะการสรปุ ในวงการ สำคญั และววิ ฒั นาการ บคุ คลสำคญั ใน ชาตไิ ทยที่มีประวัติ ของไทยในยคุ สมยั ลงความเห็น นาฏศลิ ป์ไทย ของนาฏศลิ ปแ์ ละ วงการนาฏศิลป ์ ความเป็นมาท ี่ ตา่ ง ๆ ๓. ทักษะการคิด ๒. อภปิ ราย การละครของไทย ประเทศไทย แสดงถงึ ความเป็น ๒. วิวัฒนาการ อยา่ งมีวิจารณญาณ ววิ ฒั นาการของ ในยคุ ตา่ ง ๆ ในยุคสมยั ไทยทง้ั ในอดตี ของนาฏศลิ ป ์ นาฏศลิ ป์ไทย ๒. สงั เกตและจำแนก ต่าง ๆ และปัจจบุ ัน และการละครไทย และการละครไทย ข้อมลู เก่ียวกบั บคุ คล ๓. บรรยาย ซ่งึ มคี ณุ ค่าแก่ ตัง้ แตอ่ ดีต พรอ้ มนำเสนอ สำคัญในวงการ วิวัฒนาการ การศึกษาเรยี นรู้ ถึงปจั จบุ ัน แนวคิดในการ นาฏศลิ ป์ไทยและ ของนาฏศิลป์ และอนุรกั ษ์ไว้ให้ ๓. การอนุรกั ษ์ อนุรักษ ์ ความเหมือนและ และการละคร ดำรงอยตู่ ลอดไป นาฏศิลป ์ นาฏศิลป์ไทย ความแตกต่างของ ไทยตัง้ แต่อดีต ภมู ิปัญญาท้องถน่ิ นาฏศลิ ปแ์ ละการละคร จนถึงปจั จุบนั ๓. รว่ มกนั วเิ คราะห์ ๔. นำเสนอ ข้อมูลที่ได้ เพ่ือหา แนวคิดใน ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง การอนรุ ักษ ์ องค์ประกอบตา่ ง ๆ นาฏศิลป์ไทย ๔. นำความรทู้ ่ีไดจ้ าก การสบื คน้ และวเิ คราะห์ มาอภิปรายเพ่ือลง ความเหน็ และพจิ ารณา ถึงปญั หาและอปุ สรรค ทีเ่ กดิ ขน้ึ ในวงการ นาฏศิลป์ ๕. รว่ มกนั อภิปราย แนวคดิ ในการแกป้ ญั หา และอปุ สรรคทีเ่ กดิ ขนึ้ เพ่ือจะอนรุ กั ษ ์ นาฏศลิ ป์ไทยตอ่ ไป ๖. เขยี นรายงานเรือ่ ง บุคคลสำคญั ในวงการ นาฏศิลป์ไทย แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรเู้ พ่ือพัฒนาทกั ษะการคิด ระดับมธั ยมศกึ ษา 133 กลุ่มสาระการเรียนรศู้ ิลปะ
ตัวอยา่ งหน่วยการเรยี นร ู้ ตัวอย่างหน่วยการเรียนรู้ เป็นการนำผลการวิเคราะห์การจัดกิจกรรมการเรียนรู ้ เพื่อพัฒนาทกั ษะการคดิ ใน ๖ ประเดน็ คือ ตวั ชวี้ ัดทีน่ ำมาจัดกจิ กรรมรว่ มกัน ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้ ทักษะการคิด ช้ินงาน/ภาระงาน และแนวการจัดการเรียนรู้นำมาจัดทำ หน่วยการเรียนรู้ ใน ๓ ข้ันตอน ดังน ้ี ● การกำหนดเป้าหมายการเรียนรู ้ ● การกำหนดหลักฐานการเรียนรู้ ● การการจดั กิจกรรมการเรียนร ู้ ในทางปฏิบัติ สามารถจัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้ได้ โดยการวิเคราะห์ความสัมพันธ์/ เชื่อมโยงของแต่ละตัวช้ีวัดท่ีจะนำมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันได้ภายในกลุ่มสาระการเรียนร ู้ เดียวกันด้วยการวิเคราะห์ตัวชี้วัดภายในสาระเดียวกันหรือระหว่างสาระ นอกจากน้ียังสามารถ วิเคราะห์ความสัมพันธ์/เชื่อมโยงของแต่ละตัวชี้วัดท่ีจะนำมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้อกี ด้วย
กล่มุ สาระการเรยี นรศู้ ิลปะ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ สาระท่ี ๑ ทัศนศิลป์ มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห ์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ ช่ืนชม และประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั ตวั ช้ีวดั ความคิด สาระ ทักษะการคิด ช้ินงาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรยี นร้ ู ภาระงาน กจิ กรรมการเรยี นร ู้ สาระท่ี ๑ การวาดภาพ ๑. ความแตกตา่ ง ๑. ทักษะ ๑. วาดภาพระบายสี ๑. ทบทวนความรู้ ทศั นศลิ ป์ แสดงทัศนียภาพ และความคล้ายคลงึ การวเิ คราะห ์ ธรรมชาติและ เกย่ี วกบั งานทศั นศลิ ป์ มาตรฐาน ศ ๑.๑ เป็น ๓ มติ ิ กนั ของทัศนธาตุ ๒. ทักษะ สง่ิ แวดลอ้ ม และส่งิ แวดล้อม ๑. บรรยายความ โดยใชค้ วามรู้ ในงานทัศนศลิ ป์ การนำความรู้ไปใช้ พร้อมเขียน ๒. ศกึ ษาค้นควา้ แตกตา่ งและ เรอ่ื งทัศนธาต ุ และส่งิ แวดลอ้ ม ๓. ทกั ษะ บรรยายใต้ภาพ หาความหมาย ความคล้ายคลงึ สามารถบรรยาย ๒. หลักการ การจำแนก ๒. วาดภาพ ของทศั นธาตุ กันของงาน ความแตกตา่ งและ วาดภาพแสดง ประเภท แสดง ๓ มิติ ทัศนศิลป์ และ ทัศนศลิ ป์และ ความคล้ายคลงึ กัน ทศั นียภาพ ระยะไกลใกล้ สิ่งแวดล้อม สิ่งแวดล้อม ของงานทศั นศิลป ์ เปน็ ๓ มติ ิ ๓. กำหนดเกณฑ์และ โดยใชค้ วามรู้ และสงิ่ แวดล้อม แยกข้อมลู ของ เร่อื ง ทัศนธาตุ ทัศนธาตุทนี่ ำไปใช้ใน ๓. วาดภาพ งานทัศนศลิ ปแ์ ละ ทัศนียภาพ สง่ิ แวดล้อม แสดงให้เหน็ ๔. บรรยายและสรปุ ระยะไกลใกล้ ความแตกต่างและ เป็น ๓ มิต ิ ความคล้ายคลึงกัน ของงานทศั นศิลปแ์ ละ สิ่งแวดลอ้ มทีเ่ ปน็ ธรรมชาติหรือสิง่ แวดลอ้ มทมี่ นุษย์ สรา้ งขึ้นโดยใชค้ วามรู้ เรือ่ งทัศนธาต ุ 136 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เพ่อื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั มธั ยมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ
ตวั ชีว้ ดั ความคดิ สาระ ทักษะการคดิ ชิน้ งาน/ แนวการจดั รวบยอด การเรียนร ู้ ภาระงาน กจิ กรรมการเรียนร้ ู ๕. นำเสนอผลการ วเิ คราะห์ สรุปความรู้ ร่วมกัน ๖. ศึกษาเก่ียวกับ ภาพวาดชนิดต่าง ๆ โดยให้สังเกตสง่ิ ที่ เหมือนกนั และต่างกัน ๗. กำหนดเกณฑ ์ เกยี่ วกบั การจำแนกภาพ ตามลักษณะ/รปู แบบ ของงานทศั นศิลป ์ เปน็ ประเภทของภาพ การใชส้ ี ภาพมีมติ ิ และไมม่ ีมติ ิ ภาพทม่ี ี สว่ นประกอบทาง ทัศนธาตทุ ี่เหมาะสม หรอื ไม่เหมาะสม ๘. คัดแยกวาดภาพ ตามเกณฑ์ทก่ี ำหนด จัดกลุ่มเดียวกนั ไวด้ ้วยกัน ๙. อธบิ ายเหตผุ ล การจำแนก และ เช่ือมโยงความร้/ู ประสบการณ์ถ่ายทอด เป็นผลงานการ วาดภาพระบายสี แสดง ๓ มติ ิ ระยะ ไกลใกล้เปน็ ๓ มติ ิ ๑๐. ใหด้ ูภาพวาด และภาพ ๓ มิติ สงั เกตความแตกต่าง และความคลา้ ยกนั แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนร้เู พอ่ื พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดบั มธั ยมศกึ ษา 137 กลุม่ สาระการเรียนรศู้ ลิ ปะ
ตวั ชี้วดั ความคดิ สาระ ทักษะการคดิ ช้ินงาน/ แนวการจัด รวบยอด การเรยี นรู ้ ภาระงาน กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑๑. เขยี นอธบิ าย และเปรียบเทียบ จำแนกเกี่ยวกบั การนำทศั นธาตุ มาใช้กบั ภาพวาดทั่วไป และวาดภาพ ๓ มิต ิ ๑๒. สรปุ องคค์ วามรู้ รว่ มกนั ๑๓. วาดภาพธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม เป็นภาพ ๓ มิติ ๑๔. นำเสนอผลงาน ของตนเอง 138 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนร้เู พือ่ พัฒนาทักษะการคดิ ระดบั มัธยมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนรูศ้ ิลปะ
ช่ือหน่วย สรา้ งสรรคง์ านศิลป์ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑ เวลา ๖ ชวั่ โมง รายวชิ า ศลิ ปศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ๑. เป้าหมายการเรียนรู้ ๑.๑ ความเข้าใจทค่ี งทน การนำความรู้เรื่องทัศนธาตุ และหลักการวาดภาพมาวาดภาพ ๓ มิติ สามารถนำไป ประยุกต์ใช้ในการสรา้ งงานทศั นศลิ ปแ์ ละสงิ่ แวดล้อมได้ตามจนิ ตนาการ ๑.๒ มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชวี้ ดั สาระที่ ๑ ทศั นศลิ ป์ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ศ ๑.๑ สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ใน ชีวติ ประจำวนั ตัวชว้ี ัด ศ ๑.๑ ม.๑/๑ บรรยายความแตกต่างและคล้ายคลึงกันของงานทัศนศิลป์และ สิ่งแวดล้อมโดยใชค้ วามร้เู รื่องทศั นธาต ุ ศ ๑.๑ ม.๑/๓ วาดภาพทศั นียภาพแสดงใหเ้ ห็นระยะไกลใกล้ เป็น ๓ มิต ิ ๑.๓ ความคดิ รวบยอด วาดภาพแสดงทัศนียภาพเป็น ๓ มิติ โดยใช้ความรู้เรื่องทัศนธาตุ สามารถบรรยาย ความแตกต่าง และความคลา้ ยคลึงกนั ของงานทศั นศิลป์และส่ิงแวดลอ้ ม ๑.๔ สาระการเรียนรู้ ๑.๔.๑ ความแตกต่างและความคล้ายคลึงกันของทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์และ ส่ิงแวดลอ้ ม ๑.๔.๒ หลกั การวาดภาพแสดงทศั นียภาพ ๑.๕ ทกั ษะการคิด ๑.๕.๑ ทักษะการจำแนกประเภท ๑.๕.๒ ทักษะการวเิ คราะห์ ๑.๕.๓ ทกั ษะการนำความรู้ไปใช ้ ๑.๖ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ์ ๑.๖.๑ ใฝเ่ รียนรู้ ๑.๖.๒ มงุ่ ม่ันในการทำงาน แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนร้เู พอ่ื พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับมธั ยมศึกษา 139 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ศิลปะ
๒.หลกั ฐานการเรียนรู้ ๒.๑ ชิ้นงาน/ภาระงาน ๒.๑.๑ ระหวา่ งเรยี น ๑) การเขียนตอบสั้น ๆ เก่ียวกับความหมายของทัศนธาตุ ทัศนศิลป์และ สง่ิ แวดลอ้ ม ๒) การพูดนำเสนอเก่ียวกับความแตกต่างและความคล้ายคลึงกันของ งานทศั นศลิ ป ์ ๒.๑.๒ ชิ้นงาน/ภาระงานรวบยอด วาดภาพทัศนยี ภาพแสดงให้เหน็ ระยะไกลใกล้เปน็ ๓ มติ ิ ๒.๒ การวัดและประเมนิ ผล ๒.๒.๑ การวดั และประเมนิ ผลระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นร ู้ ๑) บรรยายและสรปุ ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละ สงิ่ แวดลอ้ มทมี่ นษุ ยส์ รา้ งขน้ึ โดยใชค้ วามรเู้ รอ่ื งทศั นธาต ุ ๒) การอธบิ ายเหตผุ ลการจำแนก และเชอื่ มโยงความร/ู้ ประสบการณถ์ า่ ยทอดเปน็ ผลงานการวาดภาพทศั นยี ภาพ แสดงใหเ้ หน็ ระยะไกลใกลเ้ ปน็ ๓ มติ ิ ๒.๒.๒ การวดั และประเมนิ ผลเมอ่ื สนิ้ สดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นร ู้ ๑) บรรยายความแตกต่างและความคล้ายคลึงกันของงานทัศนศิลป์และ สงิ่ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรเู้ รอื่ งทศั นธาต ุ ๒) การวาดภาพทศั นยี ภาพแสดงใหเ้ หน็ ระยะไกลใกลเ้ ปน็ ๓ มติ ิ ๓. กจิ กรรมการเรยี นร ู้ ๓.๑ ทบทวนความรเู้ กีย่ วกับงานทศั นศิลป์และส่ิงแวดล้อม ๓.๒ ศึกษาคน้ คว้าหาความหมายของทัศนธาตุ ทัศนศลิ ป์ และสิ่งแวดลอ้ ม ๓.๓ กำหนดเกณฑ์และแยกขอ้ มลู ของทัศนธาตุทน่ี ำไปใช้ในงานทัศนศิลปแ์ ละสงิ่ แวดล้อม ๓.๔ บรรยายและสรปุ ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ทีเ่ ปน็ ธรรมชาตหิ รือสิ่งแวดล้อมทมี่ นษุ ยส์ ร้างข้ึนโดยใชค้ วามร้เู รอื่ งทัศนธาตุ ๓.๕ นำเสนอผลการวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรรู้ ว่ มกนั ๓.๖ ศกึ ษาเกีย่ วกบั ภาพวาดชนดิ ต่าง ๆ โดยใหส้ งั เกตส่งิ ที่เหมอื นกันและตา่ งกนั ๓.๗ กำหนดเกณฑ์เก่ียวกับการจำแนกภาพตามลักษณะหรือรูปแบบของงานทัศนศิลป ์ เป็นประเภทของภาพ การใช้สี ภาพมีมิติและไม่มีมิติ ภาพที่มีส่วนประกอบทางทัศนธาตุท่ีเหมาะสม หรือไม่เหมาะสม 140 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพ่อื พัฒนาทกั ษะการคิด ระดับมัธยมศึกษา กล่มุ สาระการเรียนรู้ศิลปะ
๓.๘ คัดแยกภาพวาดตามเกณฑ์ทีก่ ำหนด จดั กลมุ่ เดียวกนั ไวด้ ว้ ยกนั ๓.๙ อธิบายเหตุผลการจำแนกและเชื่อมโยงความรู้และประสบการณ์ถ่ายทอดเป็นผลงาน การวาดภาพระบายสีแสดง ๓ มิติ ระยะไกล ใกล้ เปน็ ๓ มิต ิ ๓.๑๐ ดูภาพวาดและภาพ ๓ มิติ สังเกตความแตกต่างและความคลา้ ยกัน ๓.๑๑ เขียนอธบิ ายและเปรียบเทียบ จำแนกเก่ยี วกบั การนำทศั นธาตมุ าใช้กบั ภาพวาดทวั่ ไป ๓.๑๒ สรปุ องคค์ วามรูร้ ว่ มกัน ๓.๑๓ วาดภาพธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อมเป็นภาพ ๓ มิติ ๓.๑๔ นำเสนอผลงานของตนเอง แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นร้เู พ่อื พัฒนาทักษะการคดิ ระดับมธั ยมศกึ ษา 141 กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166