Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สืบสานศิลป์ในแผ่นดิน_1

สืบสานศิลป์ในแผ่นดิน_1

Published by Phrapradaeng District Public Library, 2019-04-08 12:27:56

Description: สืบสานศิลป์ในแผ่นดิน_1

Search

Read the Text Version

ค�ำนยิ ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม การเสดจ็ สู่สวรรคาลยั ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช เมือ่ วันท่ี ๑๓ ตุลาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๙ คอื มหาวปิ โยคของปวงชนชาวไทยทส่ี ดุ จะพรรณนา ในวาระครบรอบ ๑ ปขี องการเสดจ็ สสู่ วรรคาลยั กระทรวงวฒั นธรรมนอ้ มสำ� นกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ เปน็ ลน้ พน้ ทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร มหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานไว้แก่ชาติและประชาชนชาวไทย ในด้านศิลปวัฒนธรรมและ สถาปัตยกรรมทรงเป็น “อัครศิลปินยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดินไทย” กระทรวงวัฒนธรรมซึ่งเป็นหน่วยงานที่ มีหน้าท่ีส่งเสริมและสนับสนุนงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย จึงมีด�ำริให้จัดท�ำหนังสือเพ่ือน้อมร�ำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณในดา้ นศิลปวัฒนธรรมขึ้น กระทรวงวัฒนธรรมได้มอบหมายให้ส�ำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยร่วมกับกลุ่มแลลอดเลนส์ซึ่ง เป็นกลุ่มกิจกรรมภายใต้ชมรมน้องใหม่จุฬาฯ ๒๕๑๐ จดั ทำ� หนงั สอื สมุดภาพศาสนสถาน ชอื่ “สบื สานศลิ ป์ ในแผ่นดินพระทรงธรรม” หนงั สอื สมดุ ภาพ “สบื สานศลิ ป์ ในแผน่ ดนิ พระทรงธรรม” เปน็ หนงั สอื ทบี่ นั ทกึ ภาพอยา่ งประณตี ศลิ ป์ ด้วยมุมมองเชิงสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมท่ีโดดเด่นและงดงาม พร้อมด้วยข้อมูลส�ำคัญของศาสนสถาน ๕ แห่ง ท่พี ระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจา้ อยู่หวั โปรดเกลา้ ฯ ใหส้ รา้ ง และพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทร มหาภูมิพลอดุลยเดชโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ร่วมกับเงินทุนสนับสนุนจาก ภาครัฐและเอกชนในการบูรณปฏิสังขรณ์ ได้แก่ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามซ่ึงเป็นวัดประจ�ำรัชกาลท่ี ๕ วดั เทพศิรินทราวาส วดั เบญจมบพติ รดุสติ วนาราม วัดนเิ วศธรรมประวัติ ทบี่ างปะอนิ และวัดอษั ฎางคนิมิตร ที่เกาะสีชัง นอกจากน้ียังรวมถึงวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งเป็นพระอารามท่ีมีสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน อันงดงาม และเป็นท่ีประทับของพระมหากษัตริย์ท่ีเสด็จออกทรงผนวชทุกพระองค์ ต้ังแต่รัชกาลท่ี ๔ ตอ่ เน่อื งจนถึงรชั กาลปจั จุบนั การจัดท�ำหนังสือเล่มนี้เพื่อเทิดพระเกียรติและเผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของ สมเด็จพระมหาราชทง้ั สองพระองค์ และเปน็ การเผยแพร่องคค์ วามรเู้ กย่ี วกบั ประวตั ิความเป็นมา ตลอดจน ลกั ษณะทางสถาปตั ยกรรมและศลิ ปกรรมโดยยอ่ ของศาสนสถานทง้ั ๖ แหง่ กระทรวงวฒั นธรรมหวงั เปน็ อยา่ ง ยิง่ ว่า ภาพถ่ายและขอ้ มลู ของหนังสือเล่มนี้จะเปน็ แรงบันดาลใจให้เยาวชน คนรนุ่ ใหม่ และผสู้ นใจตระหนัก ถึงคุณคา่ ซาบซง้ึ และสบื สานศิลปวฒั นธรรมไทยทมี่ ีเอกลักษณส์ ถาปตั ยกรรมโดดเด่นสืบไป (นายวีระ โรจน์พจนรตั น)์ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงวัฒนธรรม 2

คำ� นยิ ม ผู้อำ�นวยการสำ�นกั งานศลิ ปวัฒนธรรมรว่ มสมยั หนังสือสมุดภาพ สืบสานศิลป์ ในแผ่นดินพระทรงธรรม เป็นหนังสือที่รวบรวมภาพถ่ายแห่งความ งดงามและองค์ความรู้เก่ียวกับสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมอันล�้ำค่าของศาสนสถาน ๕ แห่งท่ีพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ พร้อมกับเงินทุนของภาครัฐ เอกชนและองค์กรต่างๆ ร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ คือ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดเทพศิรินทราวาส วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดนิเวศธรรมประวัติ และวัดอัษฎางคนิมิตร รวมทั้งวัดบวรนิเวศวิหารซ่ึงเป็นศาสนสถานท่ีมีสถาปัตยกรรมไทย แบบประเพณนี ยิ มผสมจนี ทง่ี ดงาม และเปน็ ทป่ี ระทบั ของพระมหากษตั รยิ ท์ เี่ สดจ็ ออกทรงผนวชทกุ พระองค์ ตง้ั แต่ รัชกาลที่ ๔ ต่อเน่ืองจนถึงรชั กาลปจั จุบัน ภาพและข้อมูลต่างๆ ในหนังสือสมุดภาพท่ีจัดท�ำอย่างประณีตล้วนแสดงร่องรอยทางประวัติศาสตร์ สะท้อนภูมิปัญญา และความมีอารยะของบรรพชนไทย เป็นสถาปัตยกรรมท่ีงดงามวิจิตรด้วยฝีมืออันประณีต ของบรรดาชา่ งเมอ่ื ครง้ั อดตี ซงึ่ ตา่ งอทุ ศิ ตนเพอื่ เนรมติ รงั สรรคส์ ดุ ยอดศลิ ปกรรมอนั เปน็ เกยี รตยิ ศประดบั แผน่ ดนิ ถือเปน็ มรดกอันล้ำ� ค่าของชาติและสมประสงคก์ ารใชป้ ระโยชนจ์ นถงึ ปจั จบุ ัน ส�ำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรมมีภารกิจที่ส�ำคัญประการหนึ่งคือ เพื่อต่อยอด ภูมิปัญญาทางศิลปวัฒนธรรมจากอดีต และปรับเปลี่ยนตามองค์ประกอบของสังคมปัจจุบัน จึงเห็นความส�ำคัญ และสนับสนุนเงินทุนในการจัดพิมพ์เผยแพร่หนังสือสมุดภาพ สืบสานศิลป์ ในแผ่นดินพระทรงธรรม ของกลุ่มแลลอดเลนส์ ซ่ึงเป็นกลุ่มกิจกรรมภายใต้ชมรมน้องใหม่จุฬาฯ ๒๕๑๐ เพื่อเทิดพระเกียรติและ ส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งทรงสร้างสรรค์และทรงอนุรักษ์ผลงานด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม ที่ทรงคุณค่าเพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาแก่ประชาชนชาวไทยสืบมาตราบจนปัจจุบัน และ หวังเป็นอย่างย่ิงว่า การเผยแพร่ผลงานของหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เยาวชน คนรุ่นใหม่ และผู้สนใจเห็นคุณค่า เกิดความซาบซ้ึงและหวงแหนมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาที่บรรพชนไทยได้สร้างสรรค์ และถ่ายทอดไว้ ใหช้ นรุ่นหลังไดส้ ืบทอดและอนรุ กั ษอ์ ารยธรรมของแผ่นดนิ ไทยต่อไป (นางสาววมิ ลลกั ษณ์ ชชู าต)ิ ผ้อู ำ� นวยการส�ำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมยั กระทรวงวัฒนธรรม 3

ค�ำน�ำ หนังสือสมดุ ภาพ สืบสานศิลป์ ในแผ่นดนิ พระทรงธรรม เปน็ ผลงานของกลุม่ แลลอดเลนสซ์ ึ่งเปน็ กลมุ่ กจิ กรรมภายใต้ชมรมน้องใหมจ่ ุฬาฯ ๒๕๑๐ ได้ น�ำเสนอความวจิ ิตรงดงามท่ที รงคุณค่า ประวัติความเป็นมาและองคค์ วามรู้เกยี่ วกับสถาปัตยกรรมและศลิ ปกรรมของศาสนสถาน ๕ แห่งที่พระบาทสมเดจ็ พระ จุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั โปรดเกล้าฯ ให้สรา้ ง และได้รับการบูรณะในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ไดแ้ ก่ วดั ราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดเทพศิรนิ ทราวาส วัดเบญจมบพิตรดสุ ติ วนาราม วัดนเิ วศธรรมประวตั ิ อ�ำเภอบางปะอนิ จงั หวัดพระนครศรีอยธุ ยา และวัดอษั ฎางคนิมติ ร ทีเ่ กาะสีชงั จังหวดั ชลบรุ ี รวมทงั้ วดั บวรนเิ วศวหิ ารซง่ึ เปน็ พระอารามทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และพระบรมวงศานวุ งศเ์ สดจ็ ออกผนวชเปน็ สามเณรและพระภกิ ษุ ตามโบราณราชประเพณสี บื มาถงึ รชั กาลปจั จบุ นั โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื เทดิ พระเกยี รตแิ ละสำ� นกึ ในมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดชในโอกาสทีจ่ ุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัยครบรอบ ๑๐๐ ปีแหง่ การการสถาปนามหาวทิ ยาลยั ใน พ.ศ. ๒๕๖๐ และเปน็ ปที นี่ สิ ติ เกา่ จฬุ าฯ รนุ่ นอ้ งใหมป่ กี ารศกึ ษา ๒๕๑๐ ไดเ้ ขา้ ศกึ ษาครบ ๕๐ ปี โดยไดร้ บั ทนุ สนบั สนนุ การพมิ พจ์ ากสำ� นกั งานศลิ ปวฒั นธรรมรว่ มสมยั กระทรวง วฒั นธรรม ในนามของกลมุ่ แลลอดเลนสแ์ ละชมรมนอ้ งใหมจ่ ฬุ าฯ ๒๕๑๐ ขอขอบพระคณุ ทา่ นรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงวฒั นธรรม นายวรี ะ โรจนพ์ จนรตั น์ และนางสาว วมิ ลลักษณ์ ชชู าติ ผอู้ �ำนวยการส�ำนกั งานศลิ ปวฒั นธรรมรว่ มสมัย กระทรวงวฒั นธรรม เป็นอย่างสงู ท่ีใหก้ ารสนับสนนุ เงนิ ทนุ ในการจดั พิมพ์เผยแพร่หนังสือสมดุ ภาพนี้ หนงั สอื สมดุ ภาพฉบบั นปี้ ระสบความสำ� เรจ็ สมบรู ณง์ ดงามทง้ั เชงิ ศลิ ปแ์ ละศาสตรแ์ หง่ การถา่ ยภาพ ตลอดจนขอ้ มลู ความรทู้ ส่ี ำ� คญั ควรคา่ แกก่ ารบนั ทกึ ดว้ ย ความรว่ มมอื รว่ มใจของทกุ ฝา่ ยจงึ ขอขอบคณุ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.วงเดอื น นาราสจั จ์ ผเู้ ขยี นและบรรณาธกิ ารของหนงั สอื สมดุ ภาพฉบบั น้ี ผรู้ วบรวมขอ้ มลู เกยี่ ว กบั พระอารามทง้ั หกแหง่ ทง้ั ในเชงิ สถาปตั ยกรรมและประวตั ิ นำ� มาเรยี บเรยี งบนั ทกึ ลงไวป้ ระกอบภาพถา่ ยอยา่ งสมบรู ณ์ นายวรพจน์ จริ ะวฒั นพ์ งศา บรรณาธกิ าร ภาพ และช่างภาพทกุ ทา่ นซง่ึ เปน็ กลุม่ นิสติ เกา่ จฬุ าฯ ๒๕๑๐ จากหลายคณะทไ่ี ด้ร่วมกันถ่ายภาพและสะทอ้ นเอกลกั ษณ์โดดเด่นของพระอารามแตล่ ะแห่งซ่งึ เปน็ ศนู ยก์ ลางของงานสถาปัตยกรรมและศลิ ปกรรมสมัยรชั กาลที่ ๕ นางสปุ าณี รชั ไชยบญุ ผปู้ ระพนั ธบ์ ทร้อยกรอง ตลอดจนคณะกองบรรณาธิการทุกท่าน รวมท้งั เจ้าหนา้ ทีท่ ุกฝ่ายของโรงพิมพ์รุ่งศิลปก์ ารพิมพ์ ที่ช่วยใหก้ ารจดั พิมพห์ นงั สือสมุดภาพ สืบสานศลิ ป์ ในแผ่นดนิ พระทรงธรรม ฉบับนส้ี �ำเรจ็ เรยี บร้อยด้วยดี พงศ์โพยม วาศภูติ (ประธานชมรมน้องใหมจ่ ุฬาฯ ๒๕๑๐) พรรณทพิ า บุณยเกยี รติ (ประธานกลุ่มแลลอดเลนส)์ จากบรรณาธิการ หนังสือสมดุ ภาพ สบื สานศิลป์ ในแผ่นดนิ พระทรงธรรม คอื คำ� ตอบวา่ ๑ ปีครึ่งท่ีผา่ นมา กลุ่มแลลอดเลนส์ เขาทำ� อะไรกนั จะเหน็ ผลงานไหม หนงั สอื เลม่ นใ้ี ช้เวลาปีเศษในการรวบรวมภาพของแตล่ ะวัดให้ครบท้ัง ๖ วดั ก่อนจะมีการประชุมช่างภาพหลายครง้ั เพ่ือคัดเลือกภาพ และหารอื เรอื่ งทุน และงบประมาณการจัดพมิ พ์ จากนั้นจงึ สง่ ไมต้ ่อใหก้ ับบรรณาธกิ ารซง่ึ ทำ� หน้าท่แี บบเหมารวม โดยเปน็ ทัง้ ผเู้ ขยี น ผู้ดแู ลคำ� อธบิ ายประกอบภาพ และการคดั เลอื ก ภาพใหส้ อดคล้องกับเนื้อเรื่อง รวมท้ังการตรวจปรู๊ฟต้นฉบับ จงึ ไม่ใชเ่ รือ่ งงา่ ยส�ำหรับบรรณาธิการทจี่ ะผลกั ดนั ใหภ้ ารกจิ นีล้ ลุ ว่ งภายในเวลาอันจ�ำกัด โดยไมม่ ที ่ตี ิ การจัดท�ำหนังสือสมุดภาพฉบับนี้ได้รับความร่วมมือและตั้งใจจริงจากคณะช่างภาพกลุ่มแลลอดเลนส์ที่ร่วมกันถ่ายภาพและคัดสรรภาพต่างๆ จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสน้ี ขอขอบคุณ คณุ พรรณทพิ า บณุ ยเกียรติทใี่ ห้ค�ำแนะนำ� และออกแบบปก คณุ วรพจน์ จิระวัฒนพ์ งศาที่ชว่ ยรวบรวมภาพถ่ายและ ถ่ายภาพเพิ่มเติม คุณดาราณีย์ ตันชัยสวัสด์ิที่ให้ค�ำแนะน�ำและตรวจทานต้นฉบับ และคุณถิรวัฒ พรรคกลินท่ีช่วยค้นคว้าข้อมูลและค�ำอธิบายภาพ รวมทั้ง คณุ ชาตชิ าย พทุ ธรกั ษา คณุ ธรรมกิ า นาถชยั โย และคณุ มนสั นนั ท์ ฤทธชิ ยั จากบรษิ ทั รงุ่ ศลิ ปก์ ารพมิ พ์ ทชี่ ว่ ยเหลอื ในการออกแบบจดั ทำ� ตน้ ฉบบั และการประสานงาน ท้ายที่สดุ ขอขอบคุณสปริ ิตของน้องใหม่จฬุ าฯ ๒๕๑๐ ทุกคนท่ที ำ� ให้ภารกจิ ของแลลอดเลนสบ์ รรลเุ ปา้ หมายและพันธกจิ อย่างสมบรู ณ์ วงเดอื น นาราสจั จ์ 4

สารบัญ ๘ ๔๖ ๗๔ วดั ราชบพิธสถติ มหาสีมาราม วัดเทพศริ นิ ทราวาส วดั นเิ วศธรรมประวตั ิ ๑๐๖ ๑๓๐ ๑๖๔ วัดอัษฎางคนมิ ิตร วัดเบญจมบพติ รดุสิตวนาราม วดั บวรนเิ วศวหิ าร 5

6

ปฐมบท สืบสานศลิ ป์ในแผ่นดินพระทรงธรรม พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงมพี ระราชศรทั ธาในพระพทุ ธศาสนาเปน็ ทยี่ ง่ิ นอกจากทรงมพี ระราชดำ� รใิ หส้ อบสวนและจดั พมิ พพ์ ระไตรปฎิ กเพอื่ เปน็ หลกั แหง่ พระพทุ ธศาสนา และจัดระเบยี บสงฆ์เพื่อวา่ “...พระพทุ ธศาสนาในสยามประเทศกจ็ ะมีความไพบูลย์มิได้เสอ่ื มถอย ...” แล้ว พระองค์ยังทรงมีพระราชศรัทธาแรงกล้าในการสร้างวัดและบูรณปฏิสังขรณ์วัดส�ำคัญ อนื่ ๆ ในรชั สมยั ของพระองค์ เพอื่ สบื ทอดความเจรญิ รงุ่ เรอื งของพระพทุ ธศาสนาและการสรา้ งสรรค์ งานศิลปกรรมในรัชสมัยของพระองค์ท่ีเร่ิมปรับเปลี่ยนจากศิลปะไทยแบบเดิมที่ได้รับอิทธิพลจาก อารยธรรมตะวันออกเป็นการประยุกต์ศิลปะแบบตะวันตกมากข้ึน ด้วยความสนพระทัยศิลปะ แบบตะวันตก ทง้ั ดา้ นสถาปัตยกรรม ประติมากรรม จิตรกรรม และศลิ ปวัตถุต่างๆ งานศลิ ปกรรม เหล่านี้ได้รับการสืบสานต่อเนื่องถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วย การอนุรักษ์และบูรณปฏิสังขรณ์เพ่ือคงความเป็นมรดกของวัฒนธรรมไทยท่ีเจริญรุ่งเรืองทัดเทียม อารยประเทศ ตลอดรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชศรัทธาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดส�ำคัญในสถานที่ต่างๆ ทั้งในเขตพระนครและต่างจังหวัด รวม ๕ วัด ประกอบด้วย วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดนิเวศธรรมประวัติ วัดเทพศิรินทราวาส วัดอัษฎางคนิมิตร และ วดั เบญจมบพติ รดสุ ติ วนาราม นอกจากนี้ ยงั ทรงมพี ระราชศรทั ธาในการทำ� นบุ ำ� รงุ วดั บวรนเิ วศวหิ าร ซึ่งเป็นวัดท่ีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จออกผนวช เป็นสามเณรและพระภิกษุตามโบราณราชประเพณี โดยแต่ละวัดต่างเป็นศูนย์กลางของงาน ศิลปกรรมสมัยรัชกาลท่ี ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นงดงาม เป็นมรดกทาง วัฒนธรรมท่ีล�้ำคา่ คู่กบั สังคมตราบจนปัจจบุ นั รชั สมัยพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้มี การอนรุ กั ษแ์ ละปฏสิ งั ขรณว์ ดั สำ� คญั ตา่ งๆ ทง้ั ในกรงุ เทพมหานครและตา่ งจงั หวดั ทงั้ ดว้ ยพระราชทรพั ย์ ส่วนพระองคแ์ ละทนุ สนบั สนุนจากภาครัฐ เอกชน ตลอดจนองคก์ รตา่ งๆ โดยเฉพาะการท�ำนบุ �ำรุง วัดท่ีสร้างโดยพระราชด�ำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นับเป็นการสืบสาน ศิลปกรรมไทยจากสมัยรัชกาลท่ี ๕ ที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของศิลปกรรมไทยในช่วงการ ปรบั ตัวของสงั คมไทยในสมยั การปฏริ ปู ประเทศเพื่อความกา้ วหนา้ หนังสือสมดุ ภาพ สบื สานศิลป์ ในแผ่นดินพระทรงธรรม จึงไม่เพียงสะท้อนเอกลักษณ์อันโดดเด่นของงานศิลปกรรมในแผ่นดิน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หากยังเป็นร่องรอยทางประวัติศาสตร์ท่ีทรงคุณค่า แกก่ ารศกึ ษา 7

8

วัดราชบพธิ สถิตมหาสีมาราม 9

พระบรมรปู พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงเครื่องบรมขัตตยิ ราชภษู ติ าภรณ์ ประทับเหนือพระท่ีน่งั พดุ ตานกาญจนสิงหาสน์ 10

ภายนอกวัด ลวดลายเดน่ เป็นไทยแท้ เม่อื ลอดแล ภายในสรรค์ ตะวนั ตก งามวิเศษ ดุจเขตทพิ เกินหยบิ ยก เลิศดลิ ก เมืองฟา้ อา่ อมร 11

12

วดั ราชบพธิ สถิตมหาสมี าราม วดั ราชบพธิ สถติ มหาสมี ารามหรอื วดั ราชบพธิ เปน็ พระอารามหลวงชนั้ เอก ชนดิ ราชวรวหิ าร และเป็นพระอารามแห่งแรกที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างข้นึ เพ่อื เปน็ วัดประจ�ำรัชกาลตามโบราณราชประเพณีนยิ มที่สมเดจ็ พระบรมราชบุพพการี ทรงสถาปนาวัดประจ�ำรัชกาลสืบมาตั้งแต่แรกสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี นอกจากนี้ วัดราชบพิธยังเป็นวัดประจ�ำรัชกาลท่ี ๗ เนื่องด้วย มิได้ทรงสร้างวัดประจ�ำรัชกาลแต่ได้ทรงท�ำนุ และบูรณปฏสิ งั ขรณ์วัดราชบพธิ ครัง้ ใหญใ่ น พ.ศ. ๒๔๖๗ ด้านหน้าพระอโุ บสถ ตกแต่งสถาปตั ยกรรมไทยประเพณี มีศาลาราย ๒ หลงั ตั้งอยู่ดา้ นหน้าบนฐานไพที 13

14

ภาพถา่ ยทางอากาศ มองเห็นมมุ สูงของ วัดราชบพธิ สถิตมหาสมี าราม ประกอบด้วย พระเจดยี ์ พระอโุ บสถ และพระวหิ าร ถา่ ยภาพโดย มร.วิลเลยี ม ฮนั ท์ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๘๙ ทม่ี า : หอจดหมายเหตุแหง่ ชาติ ในพ.ศ. ๒๔๑๒ พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั โปรดเกลา้ ฯ พระราชทานเงนิ หลวง ใหก้ รมพระนครบาลจดั ซอ้ื ทีด่ ินรมิ คลองคูเมอื งเดิม (คลองหลอด) บริเวณตรงข้ามวดั ราชประดิษฐ์ สถติ มหาสีมาราม ซ่ึงเคยเปน็ วังเดิมของพระเจ้าราชวรวงศ์เธอ กรมหมน่ื อักษรสาสนโสภณ (ตอ่ มา ได้เล่ือนเป็นพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงบดินทรไพศาลโสภณ) และซ้ือบ้านของข้าราชการ รวมทงั้ ราษฎร พรอ้ มคา่ รอ้ื เรอื น (รวมทงั้ คา่ รอื้ สง่ิ กอ่ สรา้ งในทด่ี นิ ทมี่ ผี ถู้ วายเพม่ิ ) รวมเปน็ เงนิ ทง้ั สนิ้ ๓๕ ชั่ง ๑ ตำ� ลึง ๒ บาท ๑ สลงึ ๑ เฟอ้ื ง (๒,๘๐๖ บาท ๓๗ สตางค์) และมพี ระบรมราชโองการ พระราชทานวิสุงคามสีมาให้สร้างพระอารามถวายแก่ พระสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย โดยโปรดเกล้าฯ ใหพ้ ระวรวงศ์เธอ พระองค์เจา้ ประดิษฐวรการ นายช่างเอกผู้ทรงก�ำกับกรมช่างสิบหมเู่ ปน็ แม่กอง อำ� นวยการกอ่ สรา้ งในปลายปนี น้ั แตส่ นิ้ พระชนมล์ งใน พ.ศ. ๒๔๒๘ จงึ โปรดฯ ใหพ้ ระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ เป็นแม่กองต่อ แต่ก็สิ้นพระชนม์ลงอีกในพ.ศ. ๒๔๖๒ โดยท่ีการ ก่อสร้างวัดยังไม่แล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยา ธรรมาธิกรณาธิบดี (ม.ร.ว.ปุ้ม มาลากุล) เม่ือคร้ังด�ำรงต�ำแหน่งพระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียรเป็น แมก่ องอำ� นวยการก่อสร้างจนแลว้ เสรจ็ แผนท่แี สดงท่ตี ง้ั ของวัดราชบพิธ ใน พ.ศ. ๒๔๓๐ ทีม่ า : แผนที่กรุงเทพ จ.ศ. ๑๒๔๙ 15

เมอ่ื เร่ิมกอ่ สร้างวดั ราชบพิธ มีการตง้ั มหาสีมาศลิ าทั้ง ๘ ทศิ เปน็ มหาสีมาตามแบบวัดราช กำ� แพงรอบวดั และสีมาหนิ ประดษิ ฐส์ ถติ มหาสมี ารามซง่ึ เปน็ วดั ประจำ� รชั กาลท่ี ๔ และเปน็ ทมี่ าของการพระราชทานนามวดั วา่ ที่ตอนบนทำ� เป็นรูปเสมาธรรมจกั ร “วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม” ซ่ึงมีความหมายว่า พระอารามที่พระเจ้าแผ่นดินทรงสร้างให้ ประกอบก�ำแพงวัดทง้ั ๘ ทิศ เป็นที่ตั้งสีมาอันใหญ่ หลังจากน้ันได้เริ่มสร้างต�ำหนักอรุณเพ่ือเป็นที่ประทับของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ท่ีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ซ่ึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวโปรดฯ ให้เชิญเสด็จจากวัดโสมนัสวิหารมาประทับเป็นเจ้าอาวาสพระองค์แรกของ วัดราชบพิธ พร้อมด้วยพระสงฆ์จากวัดโสมนสั วิหารรวม ๒๐ รูป 16

ซมุ้ ประตูทางเข้าเขตสงั ฆาวาส บานประตไู ม้แกะสลักเปน็ ทวารบาล แต่งกายอยา่ งเทศ 17

18

พน้ื ที่ดา้ นเหนอื ของวัดราชบพิธเปน็ เขตพุทธาวาส ประกอบดว้ ยส่งิ กอ่ สร้าง บนฐานไพทีหรือพน้ื ที่ยกสูงกว่าระดับพืน้ ท่ีปกตแิ ละปดู ้วยหนิ อ่อน ไดแ้ ก่ พระเจดีย์ พระอุโบสถ พระวิหาร พระวิหารทิศหรือพระวิหารมุข และศาลาเล็กหรือ ศาลารายบนก�ำแพงแก้วทั้ง ๔ ทิศ รวม ๘ หลัง นอกจากน้ียังมีสิ่งก่อสร้าง บนพ้ืนท่ีระดับพ้ืนท่ีท่ัวไป ได้แก่ ศาลาใหญ่ติดก�ำแพงวัดท้ังด้านหน้าและด้านข้าง พระอุโบสถ ก�ำแพงรอบวัดและสีมาหินท่ีตอนบนท�ำเป็นรูปเสมาธรรมจักร ประกอบกบั ก�ำแพงวดั ทง้ั ๘ ทิศ ซุ้มประตูตามกำ� แพงวดั ท้ัง ๔ ดา้ น รวม ๘ ประตู ก�ำแพงก้ันเขตพุทธาวาสและสังฆาวาส พลับพลาเปล้ืองเคร่ืองและเกย และ ศาลาการเปรยี ญ ภมู ิทศั นโ์ ดยรอบพระอโุ บสถ ซมุ้ ประตดู า้ นทศิ เหนือ ฝงั่ ซา้ ย ด้านหน้ามองเหน็ พระเจดยี ์ เมือ่ มองเข้าไปจะพบกับพระบรมราชานสุ าวรีย์ ซ่งึ เปน็ อาคารประธานของวัด พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว พระผูท้ รงสถาปนาวัดราชบพิธสถติ มหาสมี าราม 19

ซุ้มประตวู ัดดา้ นทศิ ตะวนั ออก ฝง่ั ขวา เปน็ ซมุ้ ปูนปัน้ ศิลปะไทยประเพณที รงบนั แถลง ที่มคี วามวิจติ รพสิ ดารกว่าท่ใี ด 20

ซุม้ ประตูด้านทิศตะวันตก ทม่ี องออกมาจากระเบยี งคด 21

ด้านหลังพระอุโบสถ ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลอื บเบญจรงค์ ทถ่ี ือวา่ เปน็ หน่ึงเดียวในสยาม 22

ศลิ ปกรรมส�ำคัญภายในวดั ราชบพิธสถติ มหาสมี าราม วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามเป็นพระอารามหลวงท่ีมีพ้ืนท่ีจ�ำกัด แต่เป็นศูนย์รวมของ ผลงานศิลปกรรมที่ล�้ำเลิศแห่งยุคจากลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยและสถาปัตยกรรม ตะวันตก ฝีมือของสถาปนิกและจิตรกรซ่ึงได้รับยกย่องว่าเป็นผู้มีฝีมือยอดเยี่ยมแห่งแผ่นดินสยาม ซ้มุ ประตพู ระอโุ บสถ ทรงมณฑป ปูนปน้ั ปดิ ทองประดับกระจก ด้านข้างตกแตง่ เป็นรูปเซ่ียวกางแตง่ กายอย่างไทย 23

รปู แบบของศิลปกรรม พระเจดีย์ การสร้างพระเจดีย์ของวัดราชบพิธใช้หลักการเดิมของการสร้างวัดแบบโบราณ คือการสถาปนาพระมหาเจดีย์เป็นหลักหรือเป็นประธานของวัด และล้อมรอบด้วยระเบียง พระอโุ บสถ พระวหิ าร และพระวหิ ารคด องคพ์ ระเจดยี เ์ ปน็ ทรงระฆงั กลมตง้ั อยบู่ นฐานประทกั ษณิ ความสูงประมาณ ๔๓ เมตร ฐานคูหาประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ตลอดทั้งองค์ โดยพระอาจารย์แดงซ่ึงเป็นช่างเขียนท่ีมีชื่อเสียงในสมัยนั้นเป็นผู้ออกแบบลายกระเบ้ือง แล้วส่งไปท�ำเป็นกระเบ้ืองเคลือบที่ประเทศจีน ส่วนเหนือฐานพระเจดีย์ยังมีซุ้มคูหาประดิษฐาน พระพทุ ธรูปปางต่างๆ และรปู หล่อของพระเถระส�ำคัญ รวม ๑๔ ซุ้ม ภายในพระเจดยี ์มฐี านชกุ ชี ประดษิ ฐานพระพุทธรปู ศิลา ปางนาคปรก ศลิ ปะลพบุรี รวม ๔ องค์ แต่ละองคผ์ ินพระพักตร์ไป ทางทศิ ทั้ง ๔ ส่วนบนยอดปลีของพระเจดยี เ์ ป็นลูกแกว้ กลม ครอบผอบทีบ่ รรจพุ ระบรมสารรี ิกธาตุ ๖,๐๑๘ องค์ การตกแตง่ พระเจดีย์ ดว้ ยกระเบี้องเคลือบเบญจรงค์ กระเบอื้ งเบญจรงค์ ทีต่ กแต่งภายในพระอาราม 24

พระเจดีย์ ทต่ี กแต่งด้วยกระเบ้ืองเคลอื บ ซุ้มคหู าด้านทศิ ตะวนั ตก ประดิษฐานพระรูป พระเจา้ วรวงศ์เธอ กรมหลวงชนิ วรสิรวิ ัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจา้ เจ้าอาวาสยุคที่ ๒ 25

พระพุทธรปู ศิลาปางนาคปรก ภายในพระเจดยี ์ 26

พระเจดีย์ประดบั ดว้ ย กระเบ้ืองเคลอื บเบญจรงค์ ตลอดท้งั องค์ 27

หน้าบนั พระอุโบสถ ประดบั ลายปูนปน้ั รูปชา้ ง ๗ ชา้ ง เชิญพระเกีย้ วบนพานแวน่ ฟ้า เคียงข้างดว้ ยพระแสงขรรคท์ ัง้ สองฝ่ัง แวดลอ้ มราชสหี แ์ ละคชสหี ์ประคองฉตั ร 28

พระอุโบสถ ต้ังอยู่ทางทิศเหนือของพระเจดีย์ เป็นอาคารทรงไทยฝีมือช่างสมัย รัชกาลที่ ๕ ด้านหน้ามีมุขเด็จ หลังคาลด ๒ ช้ัน มุงด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์ ประดับ ด้วยช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบันพระอุโบสถประดับปูนปั้นรูปพระเกี้ยวบนพานแว่นฟ้า ท่ีประดิษฐานเหนือช้างเจ็ดช้าง ส่วนหน้าบันมุขเด็จจ�ำหลักรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ ประตูและ หน้าต่างพระอุโบสถมีซุ้มยอดมณฑปประดับลายปูนปั้นปิดทอง บานประตูและบานหน้าต่าง พระอุโบสถด้านนอกประดับมุกลวดลายไทย จ�ำลองรูปดวงตราเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ชั้นหนึ่ง รวม ๕ ดวง คอื นพรตั นร์ าชวราภรณ์ มหาจกั รบี รมราชวงศ์ ปฐมจลุ จอมเกลา้ ประถมาภรณช์ า้ งเผอื ก และประถมาภรณ์มงกุฎไทย เป็นฝีพระหัตถ์ประดับมุกของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นทิวากร วงศป์ ระวตั ิ ลายประดบั มกุ ดงั กลา่ วไดร้ บั ยกยอ่ งวา่ เปน็ ศลิ ปะชน้ิ สำ� คญั ชน้ิ หนง่ึ ของกรงุ รตั นโกสนิ ทร์ ส่วนบานประตูและหน้าต่างพระอุโบสถด้านในเขียนลายรดนำ�้ พุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่ง ส่วนภายใน พระอุโบสถ ทั้งผนังใต้ช่องหน้าต่าง เพดาน เสา และลวดลายประดับผนังตกแต่งแบบตะวันตก การใหส้ ภี ายในพระอโุ บสถมีความประณีตงดงาม พระพทุ ธรปู สำ� คญั ในพระอโุ บสถ มพี ระพทุ ธรปู สำ� คญั คอื พระพทุ ธองั ครี ส และพระนริ นั ตราย ซมุ้ ประตทู ิศตะวันออก ฝงั่ ขวา มองไปจะเหน็ วหิ ารทิศตะวันออก และพระเจดีย์อาคารประธาน ของพระอาราม สถาปัตยกรรมพระอุโบสถ มกี ารตกแตง่ เป็นแบบไทยประเพณี ผังเปน็ รปู ส่ีเหลี่ยมผนื ผา้ หลงั คาลด ๒ ชั้น มุงกระเบอื้ งเคลอื บสี ประดบั ชอ่ ฟา้ ใบระกา หางหงส์ 29

ซมุ้ หน้าตา่ งพระอโุ บสถ ทรง มณฑป ประดับดว้ ยปูนปั้นปดิ ทอง ประดบั กระจก ดา้ นหนา้ พระอุโบสถ มมี ขุ เดจ็ ท่มี ีลกั ษณะคลา้ ยคลงึ กับ พระวิหารหลวงวดั ราชประดิษฐฯ ซง่ึ เปน็ พระอารามประจ�ำรชั กาลท่ี ๔ 30

31

หนา้ บนั มุขเดจ็ พระอโุ บสถ จำ� หลักไม้เปน็ รปู นารายณท์ รงสบุ รรณ (พระนารายณท์ รงครฑุ ) ปิดทองประดับกระจก 32

บานประตูและหน้าตา่ งพระอโุ บสถ แต่เดมิ เป็นบานพระทวาร และบานพระบัญชรของ พระพุทธปรางค์ประสาท หรือ ปราสาทพระเทพบดิ ร ได้เชิญมา หลงั จากเกดิ เหตเุ พลงิ ไหม้เม่ือ พ.ศ. ๒๔๔๖ เป็นบานประดับมกุ ท้งั ชุด ประดับเป็นลวดลายดาราและ สายสะพายเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณ์ ตระกูลตา่ งๆ ท่สี ถาปนาขึน้ ในรชั กาลท่ี ๕ 33

พระพุทธอังคีรส เป็นพระประธานในพระ อุโบสถวัดราชบพิธ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ขัดสมาธิราบ หล่อโลหะสัมฤทธ์ิ กะไหล่ทองเน้ือแปด หนัก ๑๘๐ บาท จากทองค�ำเครื่องแต่งพระองค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อทรง พระเยาว์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าประดิษฐวรการทรง หล่อพระพุทธรูปในเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๔๑๕ เพ่อื นำ� ไปประดิษฐานที่พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม แต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน ต่อมาเมื่อมีการสถาปนาวัด ราชบพิธ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าหัวจึง โปรดเกลา้ ฯ ใหอ้ ญั เชญิ มาประดษิ ฐานเปน็ พระประธาน ของวัดราชบพธิ เมื่อวันท่ี ๑๒ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๑๕ และพระราชทานนามวา่ “พระพทุ ธอังครี ส” ซ่ึงมคี วามหมายว่า พระพทุ ธรูปที่มีพระรัศมีแผซ่ า่ น ออกจากพระวรกาย หลังจากนัน้ ไดโ้ ปรดเกลา้ ฯ ให้หล่อฐานบลั ลงั ก์กะไหล่ทอง เน้ือหก หนัก ๔๘ บาทเพ่อื รองรบั องค์พระพทุ ธรปู ซ่ึงประดษิ ฐานบนชุกชีหนิ อ่อนจากประเทศอติ าลี สว่ นเศวตฉัตร กั้นเหนือองค์พระพุทธรูปแต่เดิม เป็นนพปฎลมหาเศวตฉัตรก้ันพระโกศพระบรมศพของพระบาท สมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ตอ่ มาเศวตฉตั รนน้ั ชำ� รดุ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ล อดลุ ยเดชจึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างใหมถ่ วายใน พ.ศ. ๒๕๒๕ พระนิรันตราย เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิเพชร ท่ีพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกลา้ ฯ ให้หล่อดว้ ยทองสมั ฤทธิก์ ะไหลท่ อง มีเรอื นแก้วเปน็ พ่มุ มหาโพธิ์ ส�ำหรบั พระราชทาน พระอารามต่างๆ ในคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย พระนิรันตรายประดิษฐานอยู่บนชุกชีซึ่งเคยเป็น พระเบญจาซีกเล็ก ประดับบนพระเมรุ ในงานพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระนางเจ้า สุนันทากมุ ารรี ตั น์ พระบรมราชเทวี และสมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรตั น์ 34

35

การตกแตง่ ภายในพระอุโบสถ เปน็ การผสมผสานระหวา่ งศิลปะไทยกับศลิ ปะตะวนั ตก ทำ� ผนงั เหนือหนา้ ตา่ งและเพดานแบบนีโอโกธิก (Neo-Gothic) มลี กั ษณะเด่น คือ ซุม้ ยอดแหลมสูงจดเพดาน รองรับด้วยเสาองิ สงู เพรียว ประดับลายปูนปั้นปดิ ทอง เรียกอย่างลำ� ลองวา่ “นอกไทยในฝร่ัง” 36

มมุ ของพระอโุ บสถประดับดว้ ย กระเบ้อื งเคลอื บเบญจรงค์ เหลีย่ มเสาเปน็ ลายปูนปั้นประดับกระจกสี 37

พระวิหาร ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระเจดีย์ มีรูปทรงแบบเดียวกับพระอุโบสถท้ังภายนอก ภายในพระวิหาร และภายใน ขอ้ แตกต่างคอื บานประตแู ละบานหนา้ ตา่ งของพระวหิ ารสลักดว้ ยไม้ จำ� หลกั เป็นรูป ประดษิ ฐานพระพุทธประทีปวโรทยั ดวงตราเครือ่ งอิสริยาภรณ์ชั้นหนึ่ง รวม ๕ ดวง ลงรักปิดทองและลงสงี ดงาม ส่วนภายในวิหารใช้ พระประธานประจำ� พระวหิ าร สชี มพซู ง่ึ เปน็ สปี ระจำ� วนั พระราชสมภพพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั พระประธานใน และพระไตรปิฎก พระวหิ ารคอื พระประทปี วโรทยั ซ่ึงเป็นพระพทุ ธรปู เกา่ ปางมารวชิ ัยทซี่ ่อมขน้ึ ใหม่ และเศวตฉัตร ก้ันเหนือองค์พระเป็นเศวตฉัตรก้ันพระโกศพระบรมศพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในรัชกาลท่ี ๙ ส่วนด้านหลังพระประธานท�ำเป็นตู้พระไตรปิฎกขนาดใหญ่ ๓ ตู้ และเนื่องจาก วัดราชบพิธไม่มหี อไตร พระวิหารจงึ เป็นหอไตรของวดั ด้วย 38

บานประตแู ละหนา้ ต่างพระวิหาร เป็นมา่ นจำ� หลกั ไมล้ งสี และลงรักปดิ ทองเป็นรูปดารา และสายสะพายเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์ ตระกลู ต่างๆ ๕ ตระกลู ท่ีสถาปนาในรชั สมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัว 39

พระวิหารทิศหรือพระวิหารมุข อยู่ทางทิศตะวันออกและตะวันตกของพระเจดีย์ มีรูปแบบและองค์ประกอบเหมือนกัน คือเป็นทางเข้าสู่บริเวณภายในพระระเบียงคดรอบองค์ พระเจดีย์ มีรูปทรงคล้ายพระวิหาร แต่ขนาดเล็กกว่า มีมุขด้านหน้า หลังคาซ้อนสามช้ัน หนา้ บนั ประธานและมขุ เดจ็ ผกู ลายเดยี วกบั หนา้ บนั พระอโุ บสถ ซมุ้ ประตทู างเขา้ เปน็ ทรงยอดมณฑป ครึ่งซกี ส่วนบานประตูภายนอกเป็นภาพเขียนสีรปู เซ่ยี วกางตามคตินยิ มแบบจีน หัวเสาใหญบ่ รเิ วณฐานไพที ด้านหนา้ วหิ ารทิศ 40

ใน พ.ศ. ๒๔๒๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัวได้พระราชทานกัปปิยภูมิอุปจาร อนสุ าวรีย์รงั ษีวฒั นา ครง้ั ท่ี ๑ ซง่ึ ไดแ้ กท่ อี่ ปุ จารชานกำ� แพงวดั ราชบพธิ ดา้ นตะวนั ตก และในพ.ศ. ๒๔๔๓ ไดพ้ ระราชทาน กัปปิยภูมิอุปจารครั้งท่ี ๒ ได้แก่ที่ว่างที่ต่อเนื่องกับที่ดินท่ีพระราชทานกัปปิยอุปจารครั้งท่ี ๑ ซึ่ง 41 เรียกรวมว่า “สุสานหลวง” ประกอบด้วยเจดีย์ พิหารน้อยและอนุสาวรีย์ที่บรรจุพระสรีรังคาร พระอังคาร และอังคารของพระมเหสี พระอคั รชายา พระราชชายา พระบรมวงศานวุ งศ์ เจ้าจอม มารดา เจา้ จอม ตลอดจนบคุ คลทเี่ กยี่ วเนอื่ งในราชตระกลู และพน้ื ทสี่ ว่ นทเี่ ปน็ สวน แลว้ ทรงพระราช อุทิศถวายเป็นที่สงฆ์กัปปิยภูมิของวัดราชบพิธ นอกจากนี้ ในพ.ศ. ๒๔๓๗ พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังถวายตึกแถวถนนเฟื่องนครรวม ๘ คูหาท่ีทรงซื้อด้วยพระราชทรัพย์ สว่ นพระองคเ์ ปน็ เงนิ ๔๘ ชัง่ ๔๐ บาท (๓๘๘๐ บาท) แกว่ ัดราชบพิธ เพอ่ื ใหเ้ ก็บค่าเชา่ ส�ำหรบั บำ� รงุ พระอารามต่อไป

ใน พ.ศ. ๒๔๙๒ ได้เชิญพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าหัว ซึ่งเสด็จสวรรคต ณ ประเทศอังกฤษ กลับมาบรรจุไว้ใต้ฐานชุกชีของพระพุทธอังคีรสใน พระอุโบสถวัดราชบพิธ หลังจากน้ันได้เชิญพระราชสรีรางคารของสมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชนิ ใี นพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ มาบรรจุไว้ดว้ ยกนั ในพ.ศ. ๒๕๒๘ ซา้ ย : พระปรมาภไิ ธยยอ่ ปปร ขวา : พระนามาภิไธยยอ่ รพ 42

หอระฆัง ยอดพระเก้ยี ว ประดับดว้ ยกระเบอื้ งเคลอื บสี ต้งั อย่ใู นเขตสังฆาวาส 43

ด้านใต้ของวัดราชบพิธเป็นเขตสังฆาวาส ประกอบด้วย หมู่กุฎิสงฆ์และถาวรวัตถุ โดย ตำ� หนกั อรุณ แบ่งเป็น ๓ คณะ ได้แก่ คณะนอก คณะใน และคณะกลาง สิ่งก่อสร้างส�ำคัญในเขตสังฆาวาส ท่ีประทบั สมเดจ็ พระอริยวงศาคตญาณ นอกเหนือจากหมู่กุฏิสงฆ์ ได้แก่ ต�ำหนักอรุณ และพระท่ีนั่งสีตลาภิรมย์ หรือ “พระที่น่ังเย็น” สมเด็จพระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดฯ ให้ร้ือพระท่ีนั่งบริเวณต�ำหนักสมเด็จ (อมฺพรมหาเถร) เจา้ อาวาสพระองคป์ จั จุบนั พระเทพศริ ินทราบรมราชินใี นรชั กาลท่ี ๔ ในเขตพระราชฐานชนั้ ในมาปลูกชิดกับต�ำหนักอรุณเพอื่ (พ.ศ. ๒๕๖๐) เป็นเสนาสนะส�ำหรับเจ้าอาวาสวัดราชบพิธองค์ต่อๆ มา นอกจากนี้ในเขตสังฆาวาสยังมีหอระฆัง และหอกลองดว้ ย 44

พระที่นั่งสตี ลาภริ มย์ ทปี่ ระทับ ของสมเดจ็ พระเทพศริ ินทราบรมราชินี พระราชชนนีในรัชกาลท่ี ๕ ไดย้ ้ายมาไว้ ทว่ี ดั ราชบพิธสถติ มหาสีมาราม 45

46


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook