Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การบัญชีกิจการพิเศษ 2201-2105

การบัญชีกิจการพิเศษ 2201-2105

Description: หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) 2560
ประเภทวิชาพาณิชยกรรม
สาขาวิชาพณิชยการ
สาขางานการบัญชี
รหัสวิชา 2201 - 2105
ชื่อวิชาการบัญชีกิจการพิเศษ
ทฤษฎี 3 ชั่วโมง/สัปดาห์ ปฏิบัติ 0 ชั่วโมง/สัปดาห์ จำนวน 3 หน่วยกิต

Search

Read the Text Version

การเลกิ สมาคม ตามมาตรา 101 แห่งประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ พ.ศ. 2535 กาหนดให้ สมาคมเลกิ ดว้ ยเหตหุ นงึ่ เหตใุ ด ดงั น้ี (1) เมอื่ มเี หตตุ ามท่ีกาหนดในขอ้ บงั คบั เป็ นการเลกิ ตามเหตทุ ่กี าหนดไวใ้ นขอ้ บงั คบั ของสมาคมนนั้ ๆ และสมาคมไดป้ ฏิบตั ติ ามเหตทุ ี่ กาหนดไวค้ รบถว้ นแลว้ (2) ถา้ สมาคมตง้ั ขนึ้ ไวเ้ ฉพาะเวลาใด เมอื่ สนิ้ ระยะเวลานนั้ เป็ นการเลกิ ตาม กาหนดเวลาที่ตกลงไว้ ซึ่งอาจกาหนดไวใ้ นขอ้ บงั คบั หรอื ในมตทิ ี่ประชมุ จัดตง้ั ก็ได้ (3) สมาคมตงั้ ขน้ึ เพือ่ กระทากจิ การใดเมอื่ กจิ การนนั้ สาเร็จแลว้ เป็ นการกาหนดไว้ เป็ นการเฉพาะกจิ และกจิ การนนั้ ไดก้ ระทาครบถว้ นแลว้ (4) เมอื่ ท่ีประชมุ ใหญม่ มี ตใิ หเ้ ลกิ เป็ นการเลกิ โดยผลจากที่ประชมุ ใหญ่ของสมาคม (5) เมอ่ื สมาคมลม้ ละลาย เป็ นการเลกิ โดยผลทส่ี มาคมถกู ฟ้ องลม้ ละลาย และศาลได้ สงั่ เป็ นท่ีสน้ิ สดุ แลว้ (6) เมอ่ื นายทะเบียนถอนชอ่ื ออกจากทะเบียน ตามมาตรา 102 (7) เมอื่ ศาลสงั่ ใหเ้ ลกิ ตามมาตรา 104

ความแตกต่างระหว่างมลู นิธิและสมาคม 1. เป็ นองคก์ รทีต่ งั้ ขนึ้ และดาเนนิ งานโดยเอกชนหรอื ประชาชน 2. ไมแ่ สวงหาผลกาไร และมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือการกศุ ลและสาธารณประโยชน์ 3. มตี ราสารหรอื ขอ้ บงั คบั มลู นธิ ิจะมตี ราสาร และสมาคมจะมขี อ้ บังคบั ซ่ึงจดทะเบียนไวก้ บั ทางราชการ การดาเนนิ งาน จะตอ้ งเป็ นไปตามตราสาร และขอ้ บงั คบั ที่กาหนดไว้ 4. มคี ณะกรรมการดาเนนิ งาน ตามจานวนท่ีกาหนดไวใ้ นตราสารหรอื ขอ้ บงั คบั และตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รบั ผดิ ชอบในการ ดาเนนิ งานโดยมปี ระธานมลู นธิ หิ รือนายกสมาคม เป็ นประธานคณะกรรมการ และเป็ นผแู้ ทนของมลู นธิ ิและสมาคม ในการทาธรุ กรรมหรอื กิจกรรมตา่ ง ๆ 5. จะตอ้ งจดทะเบยี น เมอื่ ไดร้ บั อนญุ าตแลว้ จะมฐี านะเป็ นนติ บิ คุ คล

สถานท่ีจดทะเบียนมลู นิธิและสมาคม มลู นิธิและสมาคมสามารถจดทะเบียนได้ 2 ท่ี คอื 1. สานกั การสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย 2. กรมสรรพากร ปัญหาเร่อื งการบงั คบั ใชก้ ฎหมายของมลู นธิ ิหรอื สมาคม สามารถแบง่ เป็ น 2 กลมุ่ คือ กลม่ ุ แรก จดทะเบียนกบั กระทรวงมหาดไทย คนท่ีบริจาคเงนิ ใหก้ บั มลู นธิ ิหรือสมาคมกลมุ่ นนี้ าใบเสร็จ รบั เงนิ มาหักภาษไี มไ่ ด้ สว่ นมลู นธิ ิหรอื สมาคมมหี นา้ ที่ตอ้ งเสยี ภาษเี งนิ ไดน้ ติ บิ คุ คล พรอ้ มแนบงบการเงนิ เหมอื น บริษทั หา้ งรา้ นทวั่ ไป ปรากฏว่ามมี ลู นธิ หิ รอื สมาคมประเภทนไ้ี มม่ ายืน่ แบบหรอื หนภี าษี กลม่ ุ ที่ 2 มลู นธิ หิ รือสมาคมท่ีไดร้ ับการยกเวน้ ภาษี ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 13 มนี าคม 2556 ตามประกาศ กระทรวงการคลังว่าดว้ ยการยกเวน้ ภาษีเงินไดแ้ ละภาษีมลู ค่าเพ่ิม ฉบับที่ 2 กาหนดให้ ผทู้ ี่บริจาคเงินใหก้ ับ มลู นธิ ิ หรอื สมาคมกลมุ่ นน้ี าใบเสร็จหักภาษไี ด้ สว่ นตวั องคก์ รไดร้ ับยกเวน้ ภาษเี งนิ ได้และภาษมี ลู ค่าเพิ่ม แตม่ ี ขอ้ แมว้ ่า มลู นิธิหรือสมาคมกล่มุ นี้ตอ้ งส่งรายงานการประชมุ ใหญ่ งบดลุ รายรับรายจ่าย ผ ลการ ดาเนนิ งานของมลู นธิ ิ- สมาคมใหก้ รมสรรพากรตรวจสอบภายใน 150 วัน หากพน้ กาหนดเวลาจะถกู เพิก ถอนรายชื่อออกจากประกาศกระทรวงการคลังฯ กลับไปเป็ นมลู นิธิหรือสมาคม กล่มุ แรก ซ่ึงตอ้ งเสีย ภาษี ตามปกติ

หนา้ ท่ีของมลู นิธิและสมาคมท่ีตอ้ งปฏิบตั ิตาม กฎหมาย

การเสียภาษีเงินไดข้ อง มูล นิ ธิ ห รื อ ส ม า ค ม ที่ ป ร ะ ก อ บ ก า ร มี ร า ย ไ ด้ ห า ก มลู นิธิหรอื สมาคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มิไดป้ ระกาศกาหนดให้เป็ น องคก์ ารหรือสถาน สาธารณกศุ ล ตามมาตรา 47(7)(ข) แห่ง ประมวลรษั ฎากร มหี นา้ ทตี่ อ้ ง นารายไดท้ ี่ไดร้ บั ก่อนหักรายจา่ ยใดๆ มารวมคานวณเพื่อเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล และยื่นแบบแสดง รายการภาษีเงินไดม้ ลู นิธิหรือสมาคม ตามแบบ ภ.ง.ด.55 ภายใน 150 วนั นบั แตว่ นั สดุ ทา้ ยของ รอบระยะเวลาบญั ชี 1. รายไดข้ องมลู นธิ ิหรือสมาคมทจี่ ะตอ้ งเสยี ภาษเี งนิ ได้ ไดแ้ ก่ รายไดจ้ ากการประกอบกิจการ เชน่ ค่าเชา่ รายไดจ้ ากการจาหน่าย สินคา้ และบริการ และรายไดจ้ ากทนุ เช่น ดอกเบี้ย และเงินปันผล เป็ นตน้ มลู นิธิหรือสมาคมจะตอ้ งนารายไดด้ ังกล่าวมาคานวณภาษี เงินไดน้ ิติบุคคลตามอัตรา ท่ีกฎหมายกาหนด โดยไม่มีการหัก คา่ ใชจ้ า่ ยใดๆ ทง้ั สน้ิ

การเสียภาษีเงินไดข้ อง 2. รายไดข้ องมลู นิธิหรือสมาคมที่ไดร้ ับยกเวน้ ภาษีเงินได้ มลู นิธิหรอื สมาคม มลู นธิ หิ รือสมาคมทีไ่ มไ่ ดร้ บั การประกาศกาหนดใหเ้ ป็ นองคก์ ารหรือ สถานสาธารณกศุ ล ตามมาตรา 47(7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร จะไดร้ ับยกเวน้ ไม่ตอ้ งนารายไดด้ งั ต่อไปนี้มาคานวณภาษีเงินไดน้ ิติ บคุ คล ไดแ้ ก่ 1. ค่าลงทะเบยี นหรือคา่ บารงุ ทีไ่ ดจ้ ากสมาชกิ 2. เงนิ หรือทรพั ยส์ นิ ท่ีไดร้ บั จากการบรจิ าค 3. เงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ ที่ไดจ้ ากการใหโ้ ดยเสนห่ า 4. เงินได้จากกิจการโรงเรียนเอกชนของมูลนิธิหรือ สมาคม ซึ่งไดก้ ่อต้ังข้นึ ตามกฎหมายว่า ดว้ ยโรงเรียนเอกชน แต่ไม่ รวมถึงเงินได้จากการขายของ การรับจ้างทาของ หรือการ ใหบ้ รกิ ารอ่นื ใดท่ี โรงเรียนเอกชนซึ่งเป็ นโรงเรียนประเภทอาชวี ศึกษา ไดร้ บั จากผซู้ ึ่งมใิ ชน่ กั เรยี น

อตั ราภาษีและการคานวณภาษี อัตราภาษี มลู นธิ ิหรือสมาคมซ่ึงมีหนา้ ที่เสียภาษีเงนิ ไดน้ ิติบคุ คลจะตอ้ ง เสยี ภาษจี ากยอดรายรบั กอ่ นหักรายจา่ ยในอตั รา ดงั นี้ (ก) เงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ ตามมาตรา 40(1)-(7) แห่งประมวลรษั ฎากร เชน่ เงินไดจ้ ากดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า ค่าสิทธิ ค่านายหนา้ เป็ นตน้ เสียภาษีใน อตั รารอ้ ยละ 10.0 (ข) เงนิ ไดพ้ ึงประเมนิ ตามมาตรา 40 (8) แห่งประมวลรษั ฎากร ซึ่งไดแ้ ก่ เงนิ ไดจ้ ากธรุ กจิ การพาณิชย์ การเกษตร การอตุ สาหกรรม การขนสง่ การขาย อสงั หารมิ ทรพั ย์ หรือการอ่ืนๆ นอกเหนอื จาก(ก) เสยี ภาษใี นอตั รารอ้ ยละ 2 .0

การคานวณภาษี เมื่อมลู นิธิหรอื สมาคมมีรายไดจ้ ากการ ประกอบกิจการจะตอ้ งนารายได้ ซึ่ง ไม่ไดร้ บั ยกเว้น มาคานวณภาษี โดย คานวณจากรายได้ก่อนหักรายจ่าย คณู ดว้ ยอตั ราภาษีรอ้ ยละ 10.0 หรือ รอ้ ยละ 2.0 แลว้ แต่กรณี ผลท่ีได้เป็ น ภาษีที่ตอ้ งเสยี การคานวณภาษีเงินได้ นิ ติ บ คุ ค ลข อ ง มูล นิ ธิ ห รือ ส ม า ค ม จะต้องคานวณตามรอบระยะเวลา บัญชี เช่นเดียวกับ “บริษัทหรือห้าง หนุ้ สว่ นนิติบคุ คล”

มลู นิธิหรอื สมาคมท่ีไดร้ บั การยกเวน้ ภาษี มลู นธิ หิ รอื สมาคมทรี่ ฐั มนตรวี า่ การกระทรวงการคลงั ประกาศกาหนดใหเ้ ป็ นองคก์ าร หรือสถานสาธารณกศุ ล ตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรษั ฎากร จะไดร้ บั ยกเวน้ ภาษเี งนิ ไดน้ ติ ิบคุ คลตามประมวลรษั ฎากร ไมว่ ่าจะมรี ายไดจ้ ากกิจการประเภทใด และผบู้ ริจาคไดร้ ับ สทิ ธิ ดงั นี้ บคุ คลธรรมดาบริจาคเงินใหก้ ับมลู นิธิหรือสมาคม มีสิทธินาเงินบริจาคมาหักเป็ น ค่าลดหยอ่ นได้ ไมเ่ กินรอ้ ยละ 10 ในการคานวณเงนิ ไดส้ ทุ ธิ บริษัทหรือหา้ งหนุ้ ส่วนนิติบคุ คลบริจาคเงินหรือทรัพย์สินใหก้ ับมูลนิธิหรือสมาคม มีสิทธินาเงินหรือทรัพย์สินท่ีบริจาคในส่วนที่ไม่เกินรอ้ ยละ 2 ของกาไรสทุ ธิ มาหักเป็ น รายจ่ายในการคานวณกาไรสทุ ธิ ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษมี ลู ค่าเพิ่ม ประเภทขายสินคา้ นาสนิ คา้ ไปบริจาคใหก้ บั มลู นธิ ิ หรือสมาคม ผปู้ ระกอบกิจการไดร้ ับยกเวน้ ภาษมี ลู ค่าเพ่ิม จึง ไมต่ อ้ งเรียกเก็บภาษมี ลู คา่ เพิ่มจากมลู นธิ ิ หรอื สมาคม

การประกาศใหม้ ลู นิธิหรอื สมาคมที่จะพิจารณาประกาศ กาหนดเป็ นองคก์ ารหรอื สถานสาธารณกศุ ล การท่ีมลู นิธิหรือสมาคมจะไดร้ ับการพิจารณาประกาศกาหนดเป็ นองคก์ ารหรือ สถานสาธารณกศุ ลนน้ั จะตอ้ งเป็ นไปตามประกาศกระทรวงการคลังว่าดว้ ยภาษเี งนิ ได้ และภาษมี ลู คา่ เพมิ่ (ฉบบั ที่ ๑๕๓) เรอ่ื ง หลกั เกณฑก์ ารพจิ ารณาประกาศกาหนดองคก์ าร สถานสาธารณกศุ ล สถานพยาบาล และสถานศึกษา ตามมาตรา ๔๗ (๗) (ข) แห่ง ประมวลรษั ฎากร และมาตรา ๓ (๔) (ข) แห่งพระราชกฤษฎกี า ออกตามความในประมวล รัษฎากร ว่าดว้ ยการยกเวน้ ภาษีมลู ค่าเพ่ิม (ฉบับท่ี ๒๓๙) พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแกไ้ ขเพิ่มเติม โดยพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้น ภาษมี ลู คา่ เพิม่ (ฉบบั ที่ ๒๕๔) พ.ศ. ๒๕๓๕

รายช่ือมลู นิธิหรอื สมาคมท่ีไดร้ บั การกาหนดใหเ้ ป็ น องคก์ ารหรอื สถานสาธารณกศุ ล ตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรษั ฎากร รายชอื่ มลู นธิ หิ รือสมาคมท่ีไดร้ บั การประกาศกาหนดให้ เป็ นองคก์ ารหรอื สถานสาธารณกศุ ล ตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรษั ฎากร รายชอ่ื มลู นธิ ิหรือสมาคมทไ่ี ดร้ บั การประกาศกาหนดให้ เป็ นองคก์ ารหรือสถานสาธารณกศุ ล ตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรษั ฎากร สามารถดรู ายละเอียดไดจ้ ากประกาศ กระทรวงการคลงั ว่าดว้ ยภาษเี งนิ ไดแ้ ละภาษมี ลู คา่ เพ่ิม (ฉบบั ที่ 2) ทางอินเทอรเ์ น็ตที่เว็บไซตข์ องกรมสรรพากร http://www.rd.go.th เลอื กหัวขอ้ บรกิ ารขอ้ มลู

งบการเงินของมลู นิธิหรอื สมาคม วตั ถปุ ระสงคใ์ นการทาบญั ชี งบการเงินของมลู นิธิหรอื สมาคม ของมลู นิธิและสมาคม งบการเงนิ ของมลู นธิ หิ รอื สมาคมประกอบดว้ ย 1. เพ่ือจดบนั ทกึ รายการรบั และจ่ายเงนิ ไวเ้ ป็ น 1. งบรายไดแ้ ละค่าใชจ้ ่าย หลกั ฐานอา้ งอิง 2. งบแสดงฐานะการเงนิ 3. งบแสดงการเปลย่ี นแปลงสว่ นของเจา้ ของ 2. เพอ่ื จดั ทางบประมาณรายรบั – รายจ่าย มลู นธิ ิหรือสมาคมบางแห่งอาจจดั ทางบกระแส ประจาปี เงนิ สดขน้ึ และอาจมกี ารจดั ตงั้ กองทนุ 3. เพ่ือจดั ทางบการเงนิ เพ่อื แสดงยอดเงนิ คงเหลอื ผลการดาเนนิ งานและฐานะการเงนิ 4. เพอ่ื เป็ นการควบคมุ ภายในและป้ องกนั การทจุ รติ 5. เพือ่ เสนอรายงานตอ่ ผทู้ ี่เก่ยี วขอ้ ง 6. เพ่ือวางแผนในการจดั กจิ กรรมเพื่อเพ่มิ รายรบั ใหเ้ พียงพอกบั รายจา่ ย



































สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายและลกั ษณะสาคญั ของสโมสร 2. สมาชกิ ของสโมสร 3. ทะเบยี นสมาชกิ 4. วตั ถุประสงคใ์ นการทาบญั ชแี ละประเภทบญั ชขี องสโมสร 5. สมุดบญั ชที ใ่ี ชแ้ ละการบนั ทกึ บญั ชี 6. งบประมาณรายรบั -รายจา่ ย 7. งบการเงินของสโมสร

ความหมายและลกั ษณะสาคญั ของสโมสร สโมสร (Club) คอื สถาบนั ทตี่ ง้ั ข้นึ โดยคณะบุคคลรว่ มกนั เพื่อดาเนินงาน ซง่ึ เป็นประโยชนก์ บั สงั คมและสมาชกิ โดยไมแ่ สวงหากาไร (Non-profit charitable organization) สโมสรมลี กั ษณะคลา้ ยกบั ชมรม สโมสรถือเป็นกจิ การหรอื องคก์ รทไี่ มม่ ุง่ หวงั กาไรโดยมลี กั ษณะสาคญั ดงั น้ี 1. ไมต่ อ้ งจดทะเบียนเป็นนิตบิ ุคคลเหมือนกบั มลู นิธแิ ละสมาคม 2. มีวตั ถุประสงคใ์ นการดาเนินกิจกรรมทช่ี ดั เจน ไมข่ ดั ตอ่ ศลี ธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี อนั ดงี าม 3. มกี ารกาหนดระเบียบและวธิ ีปฏิบตั ใิ นการบรหิ ารจดั การงาน 4. ดาเนินกิจกรรมทเ่ี ป็นประโยชนตอ่ สงั คม และเป็นสาธารณกุศล 5. เงินทนุ ในการดาเนินกจิ กรรมไดจ้ ากคา่ บารุงสมาชกิ เงินบรจิ าคหรอื หนว่ ยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง 6. สามารถทากจิ กรรมหารายได้ เพ่ือนามาใชจ้ า่ ยในสโมสร

ตวั อย่างสโมสรและวตั ถปุ ระสงคห์ รอื กจิ กรรมท่ีทา

สมาชกิ ของสโมสร สมาชกิ ภาพ สมาชกิ ของสโมสรมีหลายประเภท แตจ่ ะมีสมาชกิ ประเภทใดบา้ งข้นึ อยกู่ บั ลกั ษณะของสโมสร และวตั ถุประสงคใ์ นการดาเนินงาน สมาชกิ โดยทวั่ ไปจะมี 4 ประเภท คอื 1. สมาชกิ สามญั หมายถึง บุคคลทวั่ ไป อายกุ ารเป็นสมาชกิ จะมีระยะเวลาจากดั เชน่ 6 เดอื น 1 ปี เป็นตน้ เมือ่ ส้นิ สุดอายุสมาชกิ สมาชกิ สามารถตอ่ อายสุ มาชกิ ได้ โดยจา่ ยคา่ สมาชกิ ยกเวน้ ผทู้ ี่ ขาดคณุ สมบตั ิ 2. สมาชกิ สามญั ตลอดชพี หมายถึง บุคคลทว่ั ไปเหมอื นกบั สมาชกิ สามญั เพียงแตอ่ ายขุ อง สมาชกิ จะยาวนานตราบเทา่ อายขุ องผเู้ ป็นสมาชกิ และสมาชกิ ไมต่ อ้ งเสยี คา่ ตอ่ อายุสมาชกิ อกี การเป็น สมาชกิ จะส้นิ สุดลงเมื่อสมาชกิ ผนู้ นั้ ถึงแกก่ รรม คา่ สมาชกิ ประเภทน้ีจะสงู กวา่ สมาชกิ สามญั 3. สมาชกิ กติ ติมศกั ด์ิ หมายถึง บุคคลทที่ างสโมสรเชญิ เขา้ เป็นสมาชกิ โดยทว่ั ไปบุคคล ดงั กลา่ วจะเป็นผทู้ ท่ี าประโยชนต์ อ่ สโมสร 4. สมาชกิ สถาบนั หมายถึง นิตบิ ุคคล ซงึ่ ประกอบธุรกจิ ตา่ งๆ สถาบนั การศกึ ษา รวมทงั้ รา้ นคา้ ตา่ งๆ ทงั้ ทเี่ ป็นของเอกชน และของราชการ

ค่าบารงุ สมาชกิ สโมสรจะกาหนดอตั ราคา่ บารุงสมาชกิ ไวอ้ ยา่ งชดั เจน บางแหง่ จะมคี า่ ธรรมเนียมแรกเขา้ และคา่ บารุงสมาชกิ บางแหง่ จะมเี ฉพาะคา่ บารุงสมาชกิ อยา่ งเดยี ว สทิ ธิ 1. สมาชกิ จะไดร้ บั ขา่ วสารจากสโมสรเป็นประจา 2. สมาชกิ สามารถสง่ ขา่ วสารเพ่ือประชาสมั พนั ธเ์ กยี่ วกบั กิจการหรอื สนิ คา้ ในวารสาร ของสโมสรได้ (ถา้ มีการจดั ทา) 3. สมาชกิ มีสทิ ธเิ ขา้ รว่ มสมั มนากจิ กรรมและเขา้ รบั การอบรมตา่ งๆ ทสี่ โมสรจดั ข้นึ โดยไมเ่ สยี คา่ ใชจ้ า่ ยหรอื อาจเสยี ในอตั ราสมาชกิ

หนา้ ท่ีของสมาชกิ 1. ชาระคา่ บารุงสมาชกิ ภายในระยะเวลาทก่ี าหนด (ยกเวน้ สมาชกิ กติ ตมิ ศกั ด)ิ์ 2. เขา้ รว่ มกจิ กรรมตา่ งๆ ทสี่ โมสรจดั ข้นึ ตามควร เพื่อประโยชนข์ องสมาชกิ 3. ใหข้ อ้ เสนอแนะหรอื คาช้แี นะในกิจกรรมตา่ งๆ ทสี่ โมสรควรจะจดั ทาหรอื กจิ กรรมตา่ งๆ ทส่ี โมสรไดท้ าไปแลว้ 4. เขา้ รว่ มประชมุ (ในกรณีทเ่ี ป็นคณะกรรมการ) ตามทสโ่ี มสรกาหนด เพื่อรว่ ม ออกความคดิ เหน็ 5. เขา้ รว่ มประชมุ ใหญต่ ามทส่ี โมสรจดั ข้ึน เพื่อรบั ทราบรายงานผลการ ดาเนินงาน และฐานะการเงินของสโมสร และเลอื กตง้ั คณะกรรมการชุดใหม่

ทะเบยี นสมาชิก (Member Register) ทะเบียนสมาชิก (Member Register) คือ สมุดทใ่ี ชบ้ นั ทึกรายละเอียดเกี่ยวกบั การเขา้ ออกของสมาชกิ ในทะเบยี นจะมีรายละเอยี ดตง้ั แตเ่ ลขประจาตวั สมาชกิ ชอื่ ทอ่ี ยสู่ มาชกิ วนั ทีส่ มคั รเขา้ เป็ นสมาชิก วนั ที่ลาออก และการจา่ ยคา่ บารุงสมาชกิ โดยปกติสโมสรจะเรียก เก็บคา่ สมาชิกเป็ นรายปี และตลอดชีพ แต่สโมสรบางแหง่ อาจจะเรียกเก็บคา่ สมาชิกเป็ นราย เดือนหรือราย 6 เดือน เพ่ือเป็ นการแบ่งเบาภาระของสมาชิก การรบั สมคั รสมาชิกสโมสร บางแหง่ จะเปิดรบั เฉพาะบางชว่ ง เชน่ สโมสรของสถานศกึ ษาอาจจะเปิดรบั สมาชกิ เฉพาะชว่ ง เปิดภาคเรยี นที่ 1 และ 2 บางแหง่ ก็เปิดรบั สมาชกิ ทงั้ ปี

เจา้ หนา้ ทหี่ รอื นายทะเบยี นจะตอ้ งจดั ทาทะเบยี นสมาชกิ ใหเ้ ป็นปัจจบุ นั อยเู่ สมอ ในกรณที ม่ี ีการรบั สมาชกิ อยตู่ ลอดเวลา จะตอ้ งคอยตรวจสอบวนั ส้นิ สุดอายุสมาชกิ และมหี นงั สอื แจง้ ไปยงั สมาชกิ เพ่ือ สอบถามความสมคั รใจในการเป็นสมาชกิ ตอ่ ไปหรอื ไม่ เพื่อจะไดด้ าเนินการตอ่ ไป



วตั ถปุ ระสงคใ์ นการทาบญั ชแี ละประเภทบญั ชขี องสโมสร แมส้ โมสรจะเป็นสถาบนั ทไี่ มแ่ สวงหาหรอื หวงั ผลกาไรตอบแทน แตก่ ็ตอ้ งมีการทาบญั ชี โดยมี วตั ถุประสงคด์ งั ตอ่ ไปน้ี 1. เพ่ือจดบนั ทกึ รายการรบั และจา่ ยเงนิ ไวเ้ ป็นหลกั ฐานอา้ งองิ 2. เพื่อจดั ทางบประมาณรายรบั -รายจา่ ย ประจาปี 3. เพื่อจดั ทางบการเงินเพอื่ แสดงยอดเงินคงเหลอื ผลการดาเนินงานและฐานะการเงิน 4. เพ่ือเป็นการควบคมุ ภายในและป้ องกนั การทจุ รติ 5. เพ่ือเสนอรายงานตอ่ ผทู้ เี่ ก่ยี วขอ้ ง 6. เพื่อวางแผนในการจดั กจิ กรรมเพื่อเพม่ิ รายรบั ใหเ้ พยี งพอกบั รายจา่ ย

ประเภทบญั ชี แบ่งออกเป็ น 5 หมวดเหมือนกบั ธุรกจิ อน่ื ๆ ดงั ตวั อย่าง





สมุดบญั ชที ่ีใชแ้ ละการบนั ทกึ บญั ชี สมุดบญั ชที ่ีใช้ 1. สมุดบนั ทึกรายการขน้ั ตน้ (Book of Original Entry) ถา้ มรี ายการเกดิ ข้นึ ในแตล่ ะ เดอื นเป็นจานวนมากอาจใชส้ มุดรายวนั เงินสด แตถ่ า้ มรี ายการเกดิ ข้นึ ไมม่ ากควรใชส้ มุดเงนิ สด 2 ชอ่ ง และสมุดรายวนั ทว่ั ไป 2. สมุดบนั ทกึ รายการขน้ั ปลาย ใชส้ มุดแยกประเภททว่ั ไป (General Ledger) การบนั ทึกบญั ชี การบนั ทกึ บญั ชขี องสโมสรจะใชห้ ลกั เกณฑเ์ ดยี วกบั กจิ การทหี่ วงั ผลกาไร โดยยดึ หลกั การบญั ชที ร่ี บั รองโดยทวั่ ไป การบนั ทกึ บญั ชเี กยี่ วกบั รายไดค้ า่ บารุงสมาชกิ การบนั ทกึ บญั ชเี ก่ียวกบั รายไดค้ า่ บารุง สมาชกิ จะแบง่ ออกเป็น 2 กรณี คอื

การบนั ทกึ บญั ชเี ก่ียวกบั รายไดค้ า่ บารุงสมาชกิ การบนั ทกึ บญั ชเี กีย่ วกบั รายไดค้ า่ บารุงสมาชกิ จะ แบง่ ออกเป็น 2 กรณี คอื กรณที ี่ 1 กรณีทส่ี โมสรเก็บเงินคา่ บารุงสมาชกิ เป็นเงินสด กรณีน้ีหมายความวา่ สโมสร จะถอื วา่ มีรายไดเ้ กดิ ข้ึนเมอื่ ไดร้ บั เงินจากสมาชกิ ไมว่ า่ จะสมคั รเป็นสมาชกิ ครงั้ แรกหรอื ตอ่ อายุ สมาชกิ การบนั ทกึ บญั ชจี ะเป็นดงั น้ี เดบติ เงินสด/ธนาคาร XX เครดติ รายไดค้ า่ ธรรมเนียมแรกเขา้ (ถา้ ม)ี XX XX รายไดบ้ ารุงสมาชกิ

กรณที ี่ 2 กรณที สี่ โมสรสง่ บลิ หรอื ใบแจง้ หน้ีไปยงั ผทู้ แ่ี จง้ ความจานงหรอื สมคั รเป็นสมาชกิ แลว้ แตย่ งั มิไดช้ าระเงิน หรอื สง่ บลิ หรอื ใบแจง้ หน้ีไปยงั สมาชกิ ทใ่ี กลห้ มดอายกุ ารเป็นสมาชกิ การบนั ทกึ บญั ชจี ะเป็นดงั น้ี 1. เมื่อสง่ บลิ หรอื ใบแจง้ หน้ี เดบติ รายไดค้ า้ งรบั XX เครดติ รายไดค้ า่ ธรรมเนียมแรกเขา้ XX XX รายไดค้ า่ บารุงสมาชกิ หมายเหตุ ก) สโมสรบางแหง่ไมม่ ีการเรยี กเก็บคา่ ธรรมเนียมแรกเขา้ ข) ในกรณที ตี่ อ่ อายสุ มาชกิ จะไมม่ คี า่ ธรรมเนียมแรกเขา้

2. เม่ือรบั เงินจากสมาชกิ XX XX เดบติ เงินสด/ธนาคาร เครดติ รายไดค้ า้ งรบั การบนั ทกึ บญั ชเี กย่ี วกบั รายไดอ้ นื่ ๆ เชน่ การจาหนา่ ยเข็ม/เครอื่ งหมายสมาชกิ / เส้อื สมาชกิ เดบติ เงินสด/ธนาคาร XX เครดติ รายไดจ้ ากการจาหนา่ ยเข็ม/เครอ่ื งหมายสมาชกิ XX XX รายไดจ้ ากการจาหน่ายเส้อื สมาชกิ

การบนั ทกึ บญั ชเี กยี่ วกบั รายไดเ้ งินบรจิ าค เดบติ เงินสด/ธนาคาร XX เครดติ รายไดจ้ ากการบรจิ าค XX การบนั ทกึ บญั ชเี กี่ยวกบั รายไดจ้ ากการจดั งานตา่ งๆ เดบติ เงินสด/ธนาคาร XX เครดติ รายไดจ้ ากการจดั งาน (ระบุชอ่ื ) XX การบนั ทกึ บญั ชเี กยี่ วกบั ดอกเบ้ียรบั XX XX เดบติ เงินสด/ธนาคาร เครดติ ดอกเบ้ยี รบั

การบนั ทกึ บญั ชเี กย่ี วกบั การซ้อื สนิ ทรพั ย์ XX XX เดบติ สนิ ทรพั ย-์ ระบุชอ่ื เครดติ เงินสด/เงินฝากธนาคาร การบนั ทกึ บญั ชเี กีย่ วกบั การจา่ ยคา่ ใชจ้ า่ ย/คา่ ใชจ้ า่ ยคา้ งจา่ ย เดบติ คา่ ใชจ้ า่ ย/คา่ ใชจ้ า่ ยคา้ งจา่ ย-ระบุชอ่ื XX เครดติ เงินสด/เงินฝากธนาคาร XX




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook