หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

148 หน่วย ชื่อหน่วยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนกั ท่ี เรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน 3 我想学太极 1. นกั เรยี นสามารถอา่ น การฟัง พดู อา่ น 12 10 เขียน และออกเสยี งสทั อักษร 拳 ภาษาจีนได้ และเขียนคาศัพท์ 2. เขยี นภาษาจีนได้ถูกตอ้ งตาม สานวนโครงสร้าง ฉนั อยากเรยี นมวย หลกั การเขียน ประโยค บทสนทนา ไทเก็ก 3. ใชป้ ระโยคภาษาจีนเบอ้ื งตน้ แสดงบทบาทสมมุติ ในการฟัง พดู อ่าน เขยี นได้ 4. เรยี นรูแ้ ละเข้าใจความ ในสถานการณ์ จาลองเหตกุ ารณ์ แตกตา่ งและเหมือนวัฒนธรรม เก่ยี วกบั การถาม ไทย – จนี 5. สามารถถา่ ยทอดกจิ กรรมทาง ตอบ บรรยาย ภาษา เป็นภาษาพูด และเขียนได้ 6. ใช้ประโยคสนทนาไดอ้ ย่าง ความคิด ความชอบ ดา้ นศิลปะการแสดง ถกู ตอ้ งไวยากรณ์ และเหมาะสม วัฒนธรรมประเทศ จีนด้วยการส่อื สาร ตามสถานการณไ์ ด้ ภาษาจนี อยา่ งง่ายได้ 4 她学得很好 1. นกั เรียนสามารถอ่าน การฟงั พดู อ่าน 12 10 เขยี น และออกเสียงสัทอักษร หลอ่ นเรยี นไดด้ ี ภาษาจีนได้ และเขยี นคาศัพท์ มาก 2. เขยี นภาษาจีนไดถ้ กู ตอ้ งตาม สานวนโครงสรา้ ง หลักการเขยี น ประโยค บทสนทนา 3. ใช้ประโยคภาษาจีนเบือ้ งต้น แสดงบทบาทสมมตุ ิ ในการฟงั พูด อา่ น เขียนได้ ในสถานการณ์ 4. เรียนร้แู ละเข้าใจความ แตกต่างและเหมือนวฒั นธรรม จาลองเหตกุ ารณ์ ไทย – จนี เกย่ี วกบั การถาม 5. สามารถถ่ายทอดกิจกรรมทาง ตอบ ด้านการเรียน ภาษา เป็นภาษาพูด และเขียนได้ การสอนในห้องเรียน 6. ใชป้ ระโยคสนทนาไดอ้ ย่าง ถกู ต้องไวยากรณ์ และเหมาะสม โดยการใชภ้ าษาจนี ตามสถานการณไ์ ด้ สื่อสารอย่างง่ายได้ เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นขนุ ตาลวิทยาคม

149 หนว่ ย ช่ือหน่วยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก ท่ี เรียนรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 5 田芳去哪儿 1. นกั เรยี นสามารถอา่ น การฟงั พดู อา่ น 12 10 เขยี น และออกเสียงสทั อักษร 了 ภาษาจนี ได้ และเขียนคาศัพท์ 2. เขียนภาษาจนี ได้ถูกต้องตาม สานวนโครงสรา้ ง เถยี นฟังไปท่ีไหน หลกั การเขียน ประโยค บทสนทนา แลว้ 3. ใชป้ ระโยคภาษาจีนเบื้องต้น แสดงบทบาทสมมุติ ในการฟงั พดู อ่าน เขยี นได้ 4. เรียนรู้และเข้าใจความ ในสถานการณ์ แตกต่างและเหมือนวฒั นธรรม จาลองเหตกุ ารณ์ ไทย – จนี เกี่ยวกับการถาม 5. สามารถถ่ายทอดกิจกรรมทาง ตอบ การดาเนิน ภาษา เป็นภาษาพูด และเขยี นได้ ชวี ติ ประจาวันในการ 6. ใช้ประโยคสนทนาไดอ้ ย่าง เดินทางไปสถานท่ี ถกู ตอ้ งไวยากรณ์ และเหมาะสม ตา่ ง ๆ โดยการใช้ ตามสถานการณ์ได้ ภาษาจนี สอ่ื สาร อยา่ งง่ายได้ 6 玛丽哭了 1. นกั เรียนสามารถอ่าน การฟัง พดู อ่าน 12 10 เขียน และออกเสยี งสทั อักษร มาลีร้องไห้แลว้ ภาษาจนี ได้ และเขยี นคาศัพท์ 2. เขยี นภาษาจีนไดถ้ กู ตอ้ งตาม สานวนโครงสร้าง หลกั การเขยี น ประโยค บทสนทนา 3. ใช้ประโยคภาษาจีนเบ้อื งต้น แสดงบทบาทสมมุติ ในการฟงั พดู อ่าน เขยี นได้ 4. เรียนรู้และเข้าใจความ ในสถานการณ์ แตกตา่ งและเหมอื นวฒั นธรรม จาลองเหตกุ ารณ์ ไทย – จนี เกย่ี วกับด้านอารมณ์ 5. สามารถถา่ ยทอดกิจกรรมทาง ของมนุษย์ รกั โลภ ภาษา เป็นภาษาพดู และเขยี นได้ 6. ใชป้ ระโยคสนทนาได้อยา่ ง โกรธ หลง โดยการ ถกู ตอ้ งไวยากรณ์ และเหมาะสม ใชภ้ าษาจีนส่อื สาร อย่างงา่ ยได้ ตามสถานการณไ์ ด้ รวมท้ังสิ้นตลอดภาคเรียน 60 100 หมายเหตุ อัตราส่วนการเก็บคะแนนระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20 เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นขุนตาลวทิ ยาคม

150 ลาดับท่ี 25 ภาคเรียนที่ 1 จานวน 1.0 หน่วยกิต วิชา อ33201 ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาชีพ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 40 ชว่ั โมง / ภาคเรยี น คาอธิบายรายวิชา ศกึ ษาเก่ยี วกบั ข้อมลู คาศพั ท์ สานวน เกย่ี วกับอาชีพต่างๆ ของคนในท้องถ่ิน ชุมชน และสังคม โลก การดารงชีวติ การดารงชพี ตลอดจนวัฒนธรรมต่างๆของคนในชุมชน โดยประมวลเอาความรูเ้ หลา่ นั้น มาประยุกต์ใช้และถ่ายทอดเป็นรายงาน บทความ หรือ โครงงานด้วยถ้อยคาและภาษาท่ีเหมาะสมโดยใช้ กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลุ่ม เพ่ือให้เกิดองค์ความรู้ ความเข้าใจ ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและของไทย ด้วยการถ่าย โอนความร้เู ปน็ ประโยคง่ายๆ และขอ้ ความสั้นๆ เห็นคุณค่าของการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และใช้เป็นเคร่ืองมือในการแสวงหาความรู้ ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีความรับผิดชอบ มีทักษะความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ปฏิบัติงานอย่างเป็น ระบบ รกั และภาคภมู ใิ จในท้องถ่นิ ศิลปวัฒนธรรมประเพณี ผลการเรียนรู้ 1 ใช้ภาษาเพอื่ แสดงความคดิ เห็น แสดงความต้องการของตน เสนอความช่วยเหลือและบรกิ ารแก่ ผอู้ ่นื และวางแผนในการเรียนโดยใช้ส่อื เทคโนโลยีที่มีอยู่ในแหลง่ การเรยี นรทู้ ้ังในและนอกสถานศึกษา 2 นาเสนอความคิดรวบยอดเก่ียวกับเหตุการณต์ ่างๆ กจิ กรรม สนิ ค้าหรอื บริการในท้องถิ่นของตน ด้วยวธิ กี ารหลากหลาย 3 ใช้ภาษาอังกฤษส่ือสารในรปู แบบต่างๆ กบั บุคคลภายในสถานศกึ ษา ชุมชนและสังคม 4 ใชภ้ าษาอังกฤษเพื่อสื่อสารในการทางาน สมัครงานและประกอบอาชีพ รวมท้ังการขอและการ ใหข้ อ้ มลู เกีย่ วกบั อาชีพในสถานการณ์จาลองและ/หรือสถานการณจ์ ริง 5 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและของ ไทย 6 เห็นประโยชน์ของการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เพื่อแสวงหาความรู้ เกิดทักษะในการคิด วเิ คราะห์ มคี วามมน่ั ใจในการเข้าสูส่ ังคม รวมท้ังหมด 6 ผลการเรยี นรู้ เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

151 โครงสรา้ งรายวิชา หนว่ ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั ยที่ การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 1 Occupation 1.ใชภ้ าษาเพอื่ แสดงความ ภาษาที่ใช้ในการแสดง 20 50 คดิ เหน็ แสดงความต้องการ ความต้องการ เสนอและ ของตน เสนอความ ให้ความช่วยเหลือ ตอบ 20 50 ชว่ ยเหลือและบริการแก่ รับและปฏิเสธการให้ 40 100 ผูอ้ ่นื และวางแผนในการ ความช่วยเหลือใน เรยี นโดยใช้สอื่ เทคโนโลยีที่มี สถานการณ์ต่างๆ เช่น อยู่ในแหลง่ การเรียนรู้ทง้ั ใน Please…/…, please./ และนอกสถานศกึ ษา I’d like…/ I 2.นาเสนอความคิดรวบยอด need…/May/Can/Cou เก่ยี วกบั เหตกุ ารณต์ า่ งๆ ld…?/ Yes,../Please กจิ กรรม สนิ คา้ หรือบริการ do./ Certainly./ Yes, ในทอ้ งถน่ิ ของตนด้วยวธิ กี าร of course./ Sure./ Go หลากหลาย right ahead./ Need some help?/ What can I do to help?/ Would you like any help?/ I’m afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc. 2 jobs 3.ใช้ภาษาองั กฤษส่ือสารใน การนาเสนอข้อมลู รปู แบบต่างๆ กับบคุ คล เก่ยี วกบั ตนเอง ภายในสถานศกึ ษา ชมุ ชน ประสบการณ์ ข่าว/ และสงั คม เหตุการณ์ เร่อื งและ 4ใชภ้ าษาองั กฤษเพ่ือส่อื สาร ประเดน็ ที่อย่ใู นความ ในการทางาน สมคั รงาน สนใจของสงั คม เชน่ การ และประกอบอาชีพ รวมทง้ั เดนิ ทาง การรับประทาน การขอและการใหข้ ้อมูล อาหาร การเล่นกีฬา/ เก่ียวกับอาชีพใน ดนตรี การดูภาพยนตร์ สถานการณจ์ าลองและ/ การฟังเพลง การเลี้ยง หรอื สถานการณ์จริง สัตว์การอา่ นหนังสอื การ ท่องเทยี่ ว การศกึ ษา สภาพสงั คม เศรษฐกิจ รวมตลอดภาคเรียน หมายเหตุ อัตราสว่ นการเก็บคะแนนระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นขุนตาลวทิ ยาคม

152 ลาดับที่ 26 ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน 1.0 หนว่ ยกติ วชิ า อ33202 ภาษาองั กฤษเพื่อการศึกษาต่อ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 เวลา 40 ชว่ั โมง / ภาคเรยี น คาอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษา เกี่ยวกับข้อมลู คาศัพท์ สานวน เกีย่ วกับการศึกษาต่อในสาขาวิชาแขนงต่างๆ ควบคไู่ ปกับ การเรียนรู้โครงสร้างไวยากรณ์ ศัพท์และการออกเสียง โดยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะด้านการ ฟัง และจูงใจ ให้นักเรียนได้เรยี นรู้ภาษาต่อๆไปในระดับสูงขึ้น ควบคู่ไปกับการเรียนรู้โครงสร้างไวยากรณ์ ศัพท์และการ ออกเสียง โดยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะด้านการ ฟัง อ่าน เขียน และจูงใจให้นักเรียนได้เรียนรู้ภาษาต่อๆไป ในระดับสูงข้ึนและประมวลเอาความรู้เหล่าน้ันมาประยุกต์ใช้กับตนเองและถ่ายทอดเป็นภาษาอังกฤษใน แนวทางท่ีหลากหลายและใชร้ ปู แบบภาษาท่ีเหมาะสม โดยใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลุ่ม เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ ความเข้าใจ ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและของไทย ด้วยการถ่ายโอนความรู้เป็นประโยคง่ายๆ และขอ้ ความสั้นๆ เห็นคุณค่าของการใช้ภาษาอังกฤษในการส่ือสาร และใช้เป็นเคร่ืองมือในการแสวงหาความรู้ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีความรับผดิ ชอบ มีทักษะความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ปฏิบัตงิ านอย่างเปน็ ระบบ รักและภาคภูมิใจในทอ้ งถนิ่ ศลิ ปวัฒนธรรมประเพณี ผลการเรียนรู้ 1 ใช้ภาษาเพื่อแสดงความรู้สึกของตนเกี่ยวกับเหตุการณ์ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคตพร้อมท้ัง ให้ เหตุผลโดยใช้ประโยชน์จากสื่อการเรียนทางภาษาและผลจากการฝึกทักษะต่างๆ รวมท้ังแสวงหา วธิ ีการเรยี นภาษาองั กฤษทีเ่ หมาะสมกบั ตนเอง 2 เห็นประโยชน์ในการเรยี นรภู้ าษาองั กฤษในการแสวงหาความรู้ การเข้าสู่สังคมและอาชีพ 3 ใช้ภาษาอังกฤษสือ่ สารในรปู แบบตา่ งๆ กับบคุ คลภายในสถานศึกษา ชมุ ชนและสังคม 4 ใช้ภาษาอังกฤษเฉพาะด้านเพ่ือการสื่อสาร การจัดการด้านการเรียน การศึกษาต่อและ/หรือ ด้านอาชพี 5 เข้าใจความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษาและ ของไทย 6 เห็นประโยชนข์ องการใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร เพอื่ แสวงหาความรู้ เกิดทักษะในการคดิ วเิ คราะห์ มคี วามมัน่ ใจในการเข้าสู่สังคม รวมท้ังหมด 6 ผลการเรียนรู้ เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นขนุ ตาลวทิ ยาคม

153 โครงสร้างรายวชิ า หนว่ ย ชือ่ หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก ท่ี การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 1 Comprehensions 4ใชภ้ าษาอังกฤษ -การใช้ภาษาตา่ งประเทศใน 16 40 เฉพาะด้านเพ่ือการ การสบื ค้น/การค้นคว้า สอ่ื สาร การจัดการ ความรู้/ข้อมลู ตา่ งๆ จากส่ือ ดา้ นการเรยี น และแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ การศึกษาต่อและ/ ในการศึกษาต่อและ หรือด้านอาชีพ ประกอบอาชีพ 2 structures 1ใช้ภาษาเพ่ือแสดง -การใชภ้ าษาอังกฤษในการ 17 40 ความรู้สึกของตน เผยแพร่/ประชาสมั พนั ธ์ เก่ียวกับเหตุการณ์ ข้อมูล ขา่ วสารของโรงเรียน ทงั้ ในอดตี ปจั จุบนั ชมุ ชน และท้องถิ่น/ และอนาคตพร้อมท้ัง ประเทศชาติ เชน่ การทา ให้ เหตุผลโดยใช้ หนังสือเล่มเล็กแนะนา ประโยชนจ์ ากสื่อการ โรงเรยี น ชุมชน ท้องถิ่น/ เรยี นทางภาษาและ ประเทศชาติ การทาแผน่ ผลจากการฝึกทักษะ ปลิว ป้ายคาขวัญ คาเชญิ ตา่ งๆรวมทั้งแสวงหา ชวนแนะนาโรงเรยี น สถานที่ วิธกี ารเรียน สาคัญในชุมชนและท้องถน่ิ / ภาษาอังกฤษท่ี ประเทศชาติ การนาเสนอ เหมาะสมกับตนเอง ข้อมลู ข่าวสารในโรงเรียน ชุมชน ท้องถิ่น/ประเทศชาติ เป็นภาษาอังกฤษ 3 Vocabulary 2-.เหน็ ประโยชน์ใน การใชภ้ าษาส่อื สารใน 17 30 การเรียนรู้ สถานการณจ์ ริง/ ภาษาอังกฤษในการ สถานการณจ์ าลองเสมือน แสวงหาความรู้ การ จรงิ ทเ่ี กิดขึน้ ในห้องเรยี น เข้าสู่สงั คมและ สถานศึกษา ชุมชน และ อาชีพ สังคม 3ใชภ้ าษาอังกฤษ ส่อื สารในรูปแบบ ตา่ งๆ กับบคุ คล ภายในสถานศึกษา ชมุ ชนและสังคม รวมตลอดภาคเรียน 40 100 หมายเหตุ อัตราส่วนการเก็บคะแนนระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20 เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

154 ลาดบั ท่ี 27 ภาคเรียนที่ 2 จานวน 0.5 หน่วยกิต วชิ า จ 30205 ภาษาจนี เพื่อการสอื่ สาร 5 ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6 เวลา 20 ชั่วโมง / ภาคเรยี น คาอธบิ ายรายวชิ า อ่าน เขียน สัทอักษรโดยออกเสียงสระ กลุ่มคา และประโยคง่าย ๆ ได้ถูกต้อง เขียนอักษรจีน ถูกต้องตามหลักการเขียน ใช้ทักษะภาษาจีนในการฟัง พูด อ่าน คาอธิบาย บทสนทนา ข้อความท่ีเป็น ความเรียงและไม่เป็นความเรียง ตลอดจนเข้าใจภาษาท่าทางในการส่ือสารตามสถานการณ์ต่าง ๆ แลกเปล่ยี นนาเสนอข้อมูลข่าวสาร ใชป้ ระโยคตามโครงสร้างไวยากรณ์ทีใ่ ช้ส่ือความหมายตามบรบิ ทต่าง ๆ ในการสนทนา ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ และใช้ประโยคง่าย ๆ ได้ถูกต้อง รู้และเข้าใจ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เข้าใจ ตีความ ต่อข้อความ ข้อมูล เกี่ยวกับเร่ืองที่อยู่ในความสนใจเรียนรู้ เศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจาวัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับบุคคลและกาลเทศะและ วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา ผลการเรยี นรู้ 1. นกั เรียนสามารถอา่ น เขยี นและออกเสยี งสัทอักษรได้ 2. เขียนอักษรจนี ได้ถูกต้องตามหลกั การเขียน 3. ใช้ภาษาจีนเบื้องตน้ ในการฟัง พดู อา่ น เขยี น ได้ถูกตอ้ งตามหลกั 4. เรียกชอ่ื ขีดพ้นื ฐานในอกั ษรจนี ไดถ้ ูกต้อง รวมท้ังหมด 4 ผลการเรยี นรู้ เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นขนุ ตาลวทิ ยาคม

155 โครงสร้างรายวชิ า หนว่ ย ชือ่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา น้าหนัก ที่ การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน 1 今天几月几 1. นกั เรยี นสามารถอ่าน การฟงั พดู อ่าน และ 3 10 日 เขยี นและออกเสยี งสทั เขียนคาศัพท์ สานวน วันน้วี นั อะไรเดือน อกั ษรได้ โครงสร้างประโยค บท อะไร 2. เขยี นอักษรจีนได้ สนทนา แสดงบทบาท ถูกต้องตามหลักการเขยี น สมมุติในสถานการณ์ 3. ใช้ภาษาจีนเบือ้ งตน้ ใน จาลองเหตกุ ารณ์ การฟัง พดู อา่ น เขยี น เก่ยี วกบั การถาม และ ไดถ้ ูกต้องตามหลัก ตอบวนั เดอื น ปี ได้ 4. เรยี กชอื่ ขีดพ้นื ฐานใน อย่างถูกต้องเหมาะสม อักษรจีนได้ถูกต้อง 2 明天星期一 1. นักเรียนสามารถอ่าน การฟงั พดู อา่ น และ 3 10 พร่งุ นี้วันจนั ทร์ เขยี นและออกเสียงสทั เขียนคาศัพท์ สานวน อักษรได้ โครงสรา้ งประโยค บท 2. เขียนอักษรจนี ได้ สนทนา แสดงบทบาท ถูกต้องตามหลักการเขียน สมมตุ ิในสถานการณ์ 3. ใช้ภาษาจนี เบอื้ งต้นใน จาลองเหตุการณ์ การฟงั พูด อา่ น เขียน เกย่ี วกับการถาม และ ได้ถูกตอ้ งตามหลกั ตอบวนั เดือน ปี ได้ 4. เรยี กช่อื ขดี พ้ืนฐานใน อย่างถูกต้องเหมาะสม อักษรจีนได้ถูกต้อง 3 现在八点半 1. นักเรยี นสามารถอ่าน การฟงั พูด อา่ น และ 3 10 ตอนน้ี 8.30 น. เขยี นและออกเสยี งสทั เขยี นคาศัพท์ สานวน อกั ษรได้ โครงสรา้ งประโยค บท 2. เขยี นอกั ษรจีนได้ สนทนา แสดงบทบาท ถูกต้องตามหลักการเขียน สมมตุ ิในสถานการณ์ 3. ใช้ภาษาจนี เบอ้ื งต้นใน จาลองเหตุการณ์ การฟัง พดู อ่าน เขียน เก่ยี วกับการถาม และ ไดถ้ ูกต้องตามหลกั ตอบเวลาได้อยา่ ง 4. เรยี กช่อื ขีดพื้นฐานใน ถกู ต้องเหมาะสม อักษรจนี ได้ถูกต้อง 4 今天的天气 1. นักเรียนสามารถอ่าน การฟัง พดู อ่าน และ 3 10 怎么样 เขยี นและออกเสียงสทั เขยี นคาศัพท์ สานวน อากาศของวนั น้เี ปน็ อกั ษรได้ โครงสรา้ งประโยค บท อย่างไรบ้าง 2. เขียนอักษรจีนได้ สนทนา แสดงบทบาท เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นขุนตาลวิทยาคม

156 หน่วย ช่อื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั ท่ี การเรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน ถกู ต้องตามหลักการเขยี น สมมตุ ใิ นสถานการณ์ 3. ใช้ภาษาจนี เบอ้ื งต้นใน จาลองเหตกุ ารณ์ การฟัง พูด อ่าน เขียน เกี่ยวกับการถาม และ ได้ถูกต้องตามหลกั ตอบอุณหภมู ิอากาศใน 4. เรียกชือ่ ขดี พ้นื ฐานใน แตล่ ะวนั ได้อยา่ ง อักษรจีนไดถ้ ูกต้อง ถกู ต้องเหมาะสม 5 北京的四季 1. นกั เรยี นสามารถอ่าน การฟัง พูด อ่าน และ 3 10 4 ฤดูในปักกงิ่ เขยี นและออกเสียงสัท เขยี นคาศัพท์ สานวน อกั ษรได้ โครงสร้างประโยค บท 2. เขียนอกั ษรจีนได้ สนทนา แสดงบทบาท ถกู ต้องตามหลักการเขยี น สมมุติในสถานการณ์ 3. ใช้ภาษาจีนเบอ้ื งต้นใน จาลองเหตุการณ์ การฟงั พูด อา่ น เขยี น เกี่ยวกบั การถาม และ ไดถ้ ูกต้องตามหลกั ตอบฤดตู ่าง ๆ ได้อย่าง 4. เรียกช่อื ขดี พืน้ ฐานใน ถูกต้องเหมาะสม อกั ษรจนี ได้ถูกต้อง 6 陈老师教我 1. นกั เรยี นสามารถอ่าน การฟงั พูด อ่าน และ 3 10 们中文课 เขยี นและออกเสียงสทั เขยี นคาศัพท์ สานวน อาจารยเ์ ฉนิ สอน อักษรได้ โครงสรา้ งประโยค บท ภาษาจีนพวกเรา 2. เขียนอกั ษรจีนได้ สนทนา แสดงบทบาท ถกู ต้องตามหลักการเขยี น สมมตุ ิในสถานการณ์ 3. ใชภ้ าษาจีนเบ้ืองตน้ ใน จาลองเหตกุ ารณ์ การฟงั พูด อ่าน เขยี น เกย่ี วกบั การถาม และ ไดถ้ ูกตอ้ งตามหลัก ตอบการเรียนการสอน 4. เรยี กช่ือขดี พ้ืนฐานใน ในโรงเรียนได้อยา่ ง อกั ษรจีนไดถ้ ูกต้อง ถกู ต้องเหมาะสม รวมท้ังสิ้นตลอดภาคเรยี น 60 100 หมายเหตุ อัตราส่วนการเก็บคะแนนระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

157 ลาดับท่ี 28 ภาคเรียนท่ี 1 จานวน 2.0 หน่วยกิต วชิ า จ 33221 ภาษาจีนอ่าน – เขียน 5 ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 80 ชว่ั โมง / ภาคเรยี น คาอธบิ ายรายวชิ า อ่าน เขียน สัทอักษรภาษาจีนโดยออกเสียงสระ กลุ่มคา และประโยคง่าย ๆ ได้ถูกต้อง เขียน อกั ษรจีนถูกตอ้ งตามหลกั การเขียน ใช้ทกั ษะภาษาจีนในการฟงั พดู อา่ น คาอธิบาย บทสนทนา ขอ้ ความที่ เป็นความเรียงและไม่เป็นความเรียง ตลอดจนเข้าใจภาษาท่าทางในการสื่อสารตามสถานการณ์ต่างๆ แลกเปลี่ยนนาเสนอข้อมูลข่าวสาร ใช้ประโยคตามโครงสร้างไวยากรณ์ที่ใช้ส่ือความหมายตามบรบิ ทต่างๆ ในการสนทนา ทั้งท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการ และใช้ประโยคง่าย ๆ ได้ถูกต้อง รู้และเข้าใจ วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เข้าใจ ตีความ ต่อข้อความ ข้อมูลเกี่ยวกับเร่ืองที่อยู่ในความสนใจเหมาะสม กบั บุคคลและกาลเทศะและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา โดยการฝึกทักษะในการสื่อสารด้านการฟังและการพูดเก่ียวกับการแสดงความคิดเห็นความ ตอ้ งการ การขอและการให้ข้อมลู การอธิบาย การนาเสนอความคิดเห็นที่มีต่อเหตุการณต์ ่าง ๆ ฝึกพูดบท ละครสั้น สนทนาภาษาที่ใช้ในการประกอบอาชีพ และศึกษาต่อ การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของ ชมุ ชน ท้องถิ่น และประเทศชาติ การเข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เพ่ือให้ตระหนักในคุณค่าของภาษาและวัฒนธรรมที่เรียน ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา มีความใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีวินัยในตนเอง มีความซ่ือสัตย์ มุ่งม่ันในการทางาน มีจิตสาธารณะ และนาความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับภาษามาประยกุ ต์ในการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน และสงั คม ผลการเรียนรู้ 1. นักเรยี นสามารถเขยี น อ่านออกเสยี งสทั อักษรภาษาจนี (พนิ อนิ ) และคาศพั ท์ได้ 2. นกั เรยี นอ่าน เขยี นบทสนทนา และไวยากรณ์ได้ถกู ตอ้ งตามหลกั ภาษาจนี 3. นกั เรียนใชภ้ าษาจนี เบือ้ งต้นในการฟงั พูด อ่าน เขยี น ได้ถกู ตอ้ ง 4. นกั เรยี นใช้บทสนทนา และสอ่ื สารอยา่ งงา่ ยได้ รวมท้งั หมด 4 ผลการเรียนรู้ เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นขนุ ตาลวิทยาคม

158 โครงสร้างรายวชิ า ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั (ชว่ั โมง) คะแนน หน่วย ช่ือหน่วย ท่ี การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสามารถเขียน การฟัง พูด อ่าน 12 10 1 我比你更喜 อ่านออกเสยี งสัทอักษร และเขียนคาศัพท์ 10 欢音乐 ภาษาจนี (พนิ อนิ ) และ สานวนโครงสร้าง ฉันชอบดนตรี มากกวา่ เธอ คาศัพทไ์ ด้ ประโยค บทสนทนา 2 我们那儿的 2. นักเรยี นอ่าน เขยี นบท แสดงบทบาทสมมุติ 冬天跟北京 สนทนา และไวยากรณ์ได้ ในสถานการณ์ 一样冷 ถูกต้องตามหลักภาษาจนี จาลองเหตกุ ารณ์ ฤดหู นาวทพ่ี วกเรา อยูน่ ้นั หนาว 3. นักเรยี นใช้ภาษาจีน เกยี่ วกับการถาม เหมือนกบั เมอื ง ปกั ก่งิ เบ้ืองตน้ ในการฟัง พดู อา่ น และตอบ การ เขยี น ได้ถูกต้อง เปรียบเทยี บเกย่ี วกับ 4. นกั เรยี นใช้บทสนทนา ความในสนุ ทรยี ทาง และสื่อสารอย่างง่ายได้ ดา้ นดนตรีได้อยา่ ง ถกู ต้องเหมาะสม 1. นักเรียนสามารถเขียน การฟงั พดู อ่าน 12 อา่ นออกเสยี งสัทอักษร และเขียนคาศัพท์ ภาษาจีน (พนิ อนิ ) และ สานวนโครงสร้าง คาศัพท์ได้ ประโยค บทสนทนา 2. นกั เรียนอ่าน เขียนบท แสดงบทบาทสมมุติ สนทนา และไวยากรณ์ได้ ในสถานการณ์ ถูกต้องตามหลักภาษาจนี จาลองเหตกุ ารณ์ 3. นกั เรียนใชภ้ าษาจนี เก่ียวกบั การถาม เบ้ืองตน้ ในการฟัง พูด อา่ น และตอบ การ เขยี น ไดถ้ ูกต้อง เปรยี บเทียบเก่ียวกบั 4. นักเรยี นใชบ้ ทสนทนา อุณหภูมิอากาศของ และสื่อสารอยา่ งงา่ ยได้ ฤดูตา่ งๆของ เมอื งไทย ตา่ งประเทศ ได้อย่าง ถกู ต้องเหมาะสม เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นขนุ ตาลวทิ ยาคม

159 หนว่ ย ชื่อหน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั ที่ การเรยี นรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน 3 冬天快要到 1. นกั เรยี นสามารถเขียน การฟงั พดู อ่าน และ 12 10 了 อา่ นออกเสียงสัทอักษร เขียนคาศัพท์ สานวน ใกลจ้ ะถึงฤดู ภาษาจนี (พนิ อิน) และ โครงสร้างประโยค บท หนาวแล้ว คาศัพทไ์ ด้ สนทนา แสดงบทบาท 2. นกั เรยี นอา่ น เขยี น สมมตุ ิในสถานการณ์ บทสนทนา และ จาลองเหตกุ ารณเ์ กยี่ วกับ ไวยากรณ์ไดถ้ ูกตอ้ งตาม การถาม และตอบ สภาพ หลักภาษาจนี อากาศ สภาพอุณหภมู ิ 3. นกั เรียนใชภ้ าษาจนี ของฤดูกาลต่าง ๆ ได้ เบื้องต้นในการฟัง พูด อย่างถูกต้องเหมาะสม อา่ น เขียน ได้ถกู ต้อง 4. นักเรียนใชบ้ ทสนทนา และสอ่ื สารอย่างง่ายได้ 4 快上来吧， 1. นกั เรียนสามารถเขยี น การฟัง พูด อา่ น และ 12 10 要开车了 อ่านออกเสยี งสัทอักษร เขยี นคาศัพท์ สานวน รบี ขึ้นมาเถอะ รถ ภาษาจีน (พนิ อิน) และ โครงสร้างประโยค บท จะออกแลว้ คาศัพทไ์ ด้ สนทนา แสดงบทบาท 2. นกั เรยี นอา่ น เขียน สมมุติในสถานการณ์ บทสนทนา และ จาลองเหตุการณเ์ กี่ยวกับ ไวยากรณ์ได้ถูกตอ้ งตาม การถาม และตอบ หลักภาษาจนี คมนาคม การขนสง่ ทาง 3. นกั เรยี นใชภ้ าษาจนี บกของรถสาธารณะได้ เบอ้ื งตน้ ในการฟัง พูด อยา่ งถูกต้องเหมาะสม อ่าน เขียน ได้ถกู ตอ้ ง 4. นกั เรยี นใช้บทสนทนา และสอื่ สารอย่างงา่ ยได้ เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

160 หน่วย ชอ่ื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั ที่ การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน 5 我听过钢琴 1. นกั เรยี นสามารถเขยี น การฟงั พูด อา่ น และ 12 10 协奏曲（黄 อา่ นออกเสยี งสัทอักษร เขยี นคาศัพท์ สานวน 河） ภาษาจนี (พินอิน) และ โครงสรา้ งประโยค บท ฉันเคยฟังดีด คาศัพท์ได้ สนทนา แสดงบทบาท เปยี โนเพลงฮ 2. นกั เรียนอา่ น เขยี น สมมุติในสถานการณ์ วงโห บทสนทนา และ จาลองเหตกุ ารณเ์ กยี่ วกับ ไวยากรณ์ไดถ้ ูกตอ้ งตาม การถาม และตอบ ความ หลักภาษาจีน ไพเราะของเครอ่ื งดนตรี 3. นักเรยี นใชภ้ าษาจีน ในเสยี งเพลงสนุ ทรยี ทาง เบอื้ งต้นในการฟัง พูด ดา้ นดนตรไี ด้อยา่ งถกู ต้อง อา่ น เขียน ได้ถกู ตอ้ ง เหมาะสม 4. นักเรียนใช้บทสนทนา และสือ่ สารอย่างง่ายได้ 6 我是跟旅游 1. นกั เรยี นสามารถเขียน การฟัง พดู อา่ น และ 12 10 团一起来的 อ่านออกเสยี งสัทอักษร เขียนคาศัพท์ สานวน ฉันมาพร้อมกับ ภาษาจีน (พนิ อิน) และ โครงสรา้ งประโยค บท คณะทวั ร์ คาศัพทไ์ ด้ สนทนา แสดงบทบาท 2. นกั เรียนอา่ น เขยี น สมมตุ ิในสถานการณ์ บทสนทนา และ จาลองเหตุการณ์เกย่ี วกับ ไวยากรณ์ไดถ้ ูกตอ้ งตาม การถาม และตอบ การ หลกั ภาษาจนี เดนิ ทางท่องเที่ยวพร้อม 3. นกั เรยี นใชภ้ าษาจนี กับคณะทวั รไ์ ดอ้ ย่าง เบ้ืองต้นในการฟัง พูด ถกู ต้องเหมาะสม อ่าน เขียน ได้ถูกตอ้ ง 4. นกั เรียนใชบ้ ทสนทนา และสื่อสารอย่างง่ายได้ รวมทั้งสิน้ ตลอดภาคเรียน 60 100 หมายเหตุ อัตราสว่ นการเก็บคะแนนระหวา่ งภาค : ปลายภาค = 80 : 20 เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

161 ลาดับที่ 29 ภาคเรยี นท่ี 2 จานวน 2.0 หนว่ ยกติ วิชา จ 33222 ภาษาจนี อา่ น – เขียน 6 ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 80 ช่ัวโมง / ภาคเรียน คาอธบิ ายรายวชิ า อ่าน เขียน สัทอักษรภาษาจีนโดยออกเสียงสระ กลุ่มคา และประโยคง่าย ๆ ได้ถูกต้อง ใช้ทักษะ ภาษาจีนในการฟัง พูด อ่าน เขียน คาอธิบาย บทสนทนา ข้อความที่เป็นความเรียงและไม่เป็นความเรียง ตลอดจนเข้าใจภาษาท่าทางในการสื่อสารตามสถานการณ์ต่าง ๆ โต้ตอบใช้ประโยคตามโครงสร้าง ไวยากรณ์ท่ีใช้สื่อความหมายตามบริบทต่าง ๆ ในบทสนทนา ทั้งท่ีเป็นทางการและไม่เป็นทางการ และใช้ ประโยคง่ายๆได้ถูกต้อง รู้และเข้าใจวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา เข้าใจ ตคี วาม และแสดงความคิดเห็นต่อ ข้อความ ข้อมูล เกี่ยวกับเร่ืองท่ีอยู่ในความสนใจในชีวิตประจาวันได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมาะสมกับ บุคคลและกาลเทศะและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา โดยใช้กระบวนการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และกระบวนการคิดวิเคราะห์ ใช้ภาษาเป็น เคร่ืองมือในการรับสารและสง่ สารไดอ้ ย่างคลอ่ งแคล่วถูกตอ้ ง เข้าถึงสารได้อย่างชดั เจนรวมทั้งกระบวนการ สืบเสาะหาความรู้กระบวนการกลุ่ม การอภิปราย และมีความสามารถในการสืบค้นข้อมูล เพ่ือให้เกิด ความรู้ ความเข้าใจ เกิดเจตคติที่ดีตอ่ ภาษาจีน ตลอดจนวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้อย่าง เหมาะสมตามกาลเทศะ เกดิ ความคดิ รวบยอดนาไปสกู่ ารเชอ่ื มโยงความร้กู ับกลุ่มสาระการเรียนร้อู นื่ มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ ซ่ือสัตย์สุจริต มุ่งมั่นในการทางานและมีจิต สาธารณะ ผลการเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นสามารถอา่ น เขยี น และออกเสียงสัทอักษรภาษาจนี ได้ 2. เขยี นอกั ษรจนี ได้ถกู ต้องตามหลกั การเขยี น 3. ใช้ประโยคสนทนาได้อยา่ งถูกตอ้ งไวยากรณ์และเหมาะสมตามสถานการณ์ได้ 4. รแู้ ละเขา้ ใจวัฒนธรรมไทย – จนี 5. เรียกช่อื ขดี พ้ืนฐานในอกั ษรจีนได้ถกู ตอ้ ง รวมทง้ั หมด 5 ผลการเรยี นรู้ เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นขนุ ตาลวิทยาคม

162 โครงสรา้ งรายวิชา ผลการเรียนรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั 1. นกั เรยี นสามารถอ่าน การฟงั พูด อ่าน และ (ช่ัวโมง) คะแนน หนว่ ย ช่อื หน่วย เขยี น และออกเสยี งสัท เขยี นคาศัพท์ สานวน ท่ี การเรยี นรู้ อักษรภาษาจีนได้ โครงสรา้ งประโยค บท 12 10 1 我的护照你 2. เขยี นอกั ษรจีนได้ สนทนา แสดงบทบาท 12 10 ถกู ตอ้ งตามหลักการเขยี น สมมตุ ใิ นสถานการณ์ 找了没有(1) 3. ใชป้ ระโยคสนทนาได้ จาลองเหตุการณ์ อยา่ งถูกต้องไวยากรณ์และ เกี่ยวกบั การถาม และ พาสปอร์ตเธอหา เหมาะสมตามสถานการณ์ได้ ตอบ การเดนิ ทาง เจอแลว้ หรอื ยงั 4. รแู้ ละเข้าใจวัฒนธรรม ท่องเที่ยวดว้ ย ไทย – จนี พาสปรอ์ต วีซา่ (1) ได้ 2 我的护照你 5. เรยี กชอ่ื ขดี พน้ื ฐานใน อย่างถูกต้องเหมาะสม 找了没有(2) อักษรจีนได้ถูกต้อง พาสปอรต์ เธอหา 1. นกั เรยี นสามารถอา่ น การฟงั พดู อา่ น และ เจอแลว้ หรือยัง เขยี น และออกเสยี งสทั เขียนคาศัพท์ สานวน อกั ษรภาษาจีนได้ โครงสรา้ งประโยค บท 2. เขียนอกั ษรจีนได้ สนทนา แสดงบทบาท ถูกต้องตามหลักการเขียน สมมุตใิ นสถานการณ์ 3. ใชป้ ระโยคสนทนาได้ จาลองเหตกุ ารณ์ อย่างถกู ต้องไวยากรณ์และ เกี่ยวกบั การถาม และ เหมาะสมตามสถานการณไ์ ด้ ตอบ การเดนิ ทาง 4. รูแ้ ละเขา้ ใจวัฒนธรรม ทอ่ งเที่ยวด้วย ไทย – จนี พาสปอร์ต วีซา่ (2) ได้ 5. เรยี กชื่อขดี พื้นฐานใน อย่างถูกต้องเหมาะสม อกั ษรจนี ได้ถูกต้อง 3 我的眼睛摔 1. นกั เรยี นสามารถอ่าน การฟัง พดู อา่ น และ 12 10 坏了 เขียน และออกเสยี งสทั เขยี นคาศัพท์ สานวน แว่นตาของฉัน อักษรภาษาจนี ได้ โครงสรา้ งประโยค บท แตกหักแลว้ 2. เขยี นอกั ษรจนี ได้ สนทนา แสดงบทบาท ถูกตอ้ งตามหลกั การเขียน สมมตุ ิในสถานการณ์ 3. ใชป้ ระโยคสนทนาได้ จาลองเหตกุ ารณ์ อยา่ งถูกต้องไวยากรณแ์ ละ เกย่ี วกบั ส่ิงของตกแตก เหมาะสมตามสถานการณ์ได้ แตกหัก ดว้ ยการ 4. รแู้ ละเข้าใจวฒั นธรรม สื่อสารในชวี ิต ไทย – จนี ประจาวนั ได้อย่างง่าย 5. เรยี กชอื่ ขีดพน้ื ฐานใน อักษรจนี ได้ถูกต้อง เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

163 หนว่ ย ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั ที่ การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน 4 钥匙忘拔下 1. นักเรยี นสามารถอ่าน การฟงั พูด อา่ น และ 12 10 来了(1) เขียน และออกเสยี งสัท เขยี นคาศัพท์ สานวน ลมื ดงึ กญุ แจ อักษรภาษาจีนได้ โครงสร้างประโยค บท ออกมา 2. เขยี นอักษรจีนได้ สนทนา แสดงบทบาท ถูกตอ้ งตามหลักการเขียน สมมตุ ใิ นสถานการณ์ 3. ใชป้ ระโยคสนทนาได้ จาลองเหตกุ ารณ์ อย่างถกู ต้องไวยากรณแ์ ละ เกย่ี วกบั การถาม และ เหมาะสมตามสถานการณ์ได้ ตอบ ลืมสง่ิ ของ 4. รู้และเข้าใจวัฒนธรรม บรรยายถึงส่ิงของทีล่ ืม ไทย – จีน (1) ด้วยการส่ือสารใน 5. เรยี กชื่อขดี พ้ืนฐานใน ชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ ง อักษรจีนได้ถูกตอ้ ง งา่ ย 5 钥匙忘拔下来 1. นกั เรียนสามารถอา่ น การฟัง พดู อ่าน และ 12 10 了(2) เขียน และออกเสียงสัท เขียนคาศัพท์ สานวน ลืมดงึ กุญแจ อักษรภาษาจีนได้ โครงสรา้ งประโยค บท ออกมา 2. เขียนอกั ษรจีนได้ สนทนา แสดงบทบาท ถกู ตอ้ งตามหลักการเขยี น สมมตุ ใิ นสถานการณ์ 3. ใชป้ ระโยคสนทนาได้ จาลองเหตกุ ารณ์ อยา่ งถกู ต้องไวยากรณ์และ เกี่ยวกบั การถาม และ เหมาะสมตามสถานการณ์ได้ ตอบ ลืมส่งิ ของ 4. ร้แู ละเขา้ ใจวฒั นธรรม บรรยายถงึ สงิ่ ของท่ลี ืม ไทย – จนี (2) ดว้ ยการสอื่ สารใน 5. เรยี กชอ่ื ขดี พื้นฐานใน ชีวิตประจาวนั ได้อยา่ ง อักษรจนี ได้ถกู ต้อง งา่ ย 6 会议厅的门 1. นักเรยี นสามารถอา่ น การฟงั พูด อ่าน และ 12 10 开着呢 เขียน และออกเสยี งสทั เขียนคาศัพท์ สานวน ประตูหอ้ งประชมุ อักษรภาษาจนี ได้ โครงสร้างประโยค บท เปิดอยู่ 2. เขียนอกั ษรจนี ได้ สนทนา แสดงบทบาท ถกู ต้องตามหลักการเขยี น สมมตุ ใิ นสถานการณ์ 3. ใช้ประโยคสนทนาได้ จาลองเหตกุ ารณ์ อยา่ งถูกต้องไวยากรณ์ เก่ยี วกับสถานทจ่ี ัด และเหมาะสมตาม งาน การประชุม สถานการณ์ได้ สมั มนา อบรม ด้วย 4. รูแ้ ละเขา้ ใจวัฒนธรรม การสือ่ สารใน ไทย – จีน ชวี ิตประจาวันได้อยา่ ง 5. เรยี กช่อื ขีดพน้ื ฐานใน งา่ ย อกั ษรจีนไดถ้ ูกต้อง รวมทัง้ สนิ้ ตลอดภาคเรยี น 60 100 หมายเหตุ อัตราสว่ นการเก็บคะแนนระหว่างภาค : ปลายภาค = 80 : 20 เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นขนุ ตาลวิทยาคม

164 แนวทางการวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เป็นการวัดและประเมินผลท่ี ครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ด้านทักษะ/กระบวนการ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสอดคล้องกับผล การเรียนรู้ท่ีคาดหวังรายปี และมาตรฐานการเรียนรู้ที่กาหนดไว้ในหลักสูตรสถานศึกษา มุ่งเน้นการวัด สมรรถภาพโดยรวมของผู้เรียนเป็นหลัก โดยมีจุดประสงค์ของการวัดและประเมินผลเพ่ือนาผลการ ประเมินไปใช้ปรับปรุงการเรียนการสอนเพ่ือช่วยพัฒนาผู้เรียนให้สามารถเรียนรู้วิชาภาษาต่างประเทศได้ อย่างมปี ระสิทธิภาพและเต็มตามศักยภาพ และตัดสนิ ผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น คณุ ภาพของผู้เรยี นทีต่ ้องประเมิน 1. กาหนดสดั สว่ นคะแนน ระหว่างเรยี น 80 คะแนน : ปลายภาค 20 คะแนน 2. การกาหนดวิธีการวดั ผล 2.1 ด้านความรู้ ในการวดั และประเมินผลด้านความรู้ ต้องสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนร้ทู ั้ง 4 สาระ การเรยี นรู้ดงั นี้ 2.1.1 ภาษาเพ่อื การสื่อสาร 2.1.2 ภาษาและวัฒนธรรม 2.1.3 ภาษากบั ความสมั พนั ธ์กับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน 2.1.4 ภาษากบั ความสมั พันธ์กับชมุ ชนและโลก โดยในระดับช่วงช้นั ที่ 2 นักเรียนตอ้ งมีความรู้ดา้ นคาศัพท์ตามทีห่ ลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐานพุทธศักราช 2551 ได้กาหนดไว้ ภายในวงคาศพั ท์ ประมาณ 2,100 – 2,250 และโดยในระดับชว่ ง ชัน้ ที่ 3 นกั เรยี นตอ้ งมีความรู้ดา้ นคาศัพทต์ ามทห่ี ลักสตู รได้กาหนดภายในวงคาศพั ท์ ประมาณ 3,600 – 3,750 นักเรียนในระดับช่วงชนั้ ที่ 2 2.2 ด้านทักษะกระบวนการ ในการวดั และประเมนิ ผลด้านทกั ษะ/กระบวนการ เป็นการวัดความสามารถของนักเรยี น ครอบคลุมประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 2.2.1 กระบวนการเรียนภาษา 2.2.2 กระบวนการสร้างความคดิ รวบยอด 2.2.3 กระบวนการกลุ่ม 2.2.4 ทักษะการตีความ 2.2.5 ทกั ษะการแสดงความรูส้ กึ และความเหน็ 22.6 ทกั ษะการนาเสนอข้อมูล 2.2.7 ทักษะการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล 2.2.8 ทกั ษะการเชอื่ มโยงความรู้ เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นขนุ ตาลวทิ ยาคม

165 2.3 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2.3.1 รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2.3.2 ซอื่ สัตยส์ ุจรติ 2.3.3 มีวินัย 2.3.4 ใฝเ่ รยี นรู้ 2.3.5 อยู่อย่างพอเพียง 2.3.6 มุ่งมั่นในการทางาน 2.3.7 รักความเป็นไทย 2.3.8 มีจิตสาธารณะ 2.4 สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น 2.4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 2.4.2 ความสามารถในการคิด 2.4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา 2.4.4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 2.4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

166 เครอ่ื งมือและเกณฑ์การประเมินทักษะทางภาษา 1.เกณฑ์การให้คะแนนการพูด ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน นา้ หนัก/ คะแนน ความสาคั รวม ประเดน็ 4 32 1 การประเมนิ ญ ออกเสยี ง ออกเสียงคา/ ความถูกตอ้ ง คาศัพท์และ ออกเสียง ออกเสยี ง ประโยคผิด ประโยคได้ คาศัพท์และ คาศัพท์และ หลกั การออก ถูกต้องตาม ประโยคได้ ประโยคได้ เสยี งทาให้ หลักการออก ถูกต้องตาม ถูกตอ้ งเป็น สือ่ สารไม่ได้ เสียงออกเสียง หลักการออก ส่วนใหญ่ เน้นหนกั ใน เสียงมีเสียง ขาดการออก 28 คา/ประโยค เนน้ หนักใน เสียงเนน้ หนัก อยา่ งสมบูรณ์ คา/ประโยค เปน็ สว่ นใหญ่ ความคลอ่ งแคลว่ พูดตอ่ เนื่อง พดู ตะกกุ พูดเปน็ คาๆ พูดได้บางคา ไมต่ ิดขดั ตะกักบา้ ง แต่ หยุดเปน็ ชว่ งๆ ทาใหส้ ่อื พดู ชดั เจน ยงั พอสอื่ สาร เพือ่ ทาให้ ความหมาย 2 8 ทาใหส้ ่อื สาร ได้ สื่อสารไดไ้ ม่ ไม่ได้ ได้ ชดั เจน 4 20 การแสดงท่าทาง/ แสดงทา่ ทาง พูดดว้ ย พดู เหมอื น พูดไดน้ ้อยมาก นา้ เสียงประกอบ และพูดดว้ ย น้าเสียง อา่ น การพดู น้าเสยี ง เหมาะสมกบั ไม่เปน็ 1 เหมาะสมกบั บทบรรยาย ธรรมชาติขาด บทบรรยาย แต่ไมม่ ที า่ ทาง ความนา่ สนใจ 5 ประกอบ รวม เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

167 เกณฑ์การใหค้ ะแนนการฟงั ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน น้าหนกั / ความสาคั ประเด็น 4 3 2 1 คะแนน ญ รวม การประเมิน 1 4 ความเข้าใจ สามารถตอบ สามารถตอบ สามารถตอบ ตอบคาถาม 2 8 คาถาม คาถาม คาถาม หลังจากท่ีฟัง การจบั ใจความ หลงั จาก หลังจากที่ฟัง หลงั จากที่ฟัง ได้น้อยมาก 1 4 สาคัญ ที่ฟงั ได้ ไดเ้ ป็นสว่ น ได้เล็กน้อย ท้งั หมด ใหญ่ จบั ใจความ การรู้ จบั ใจความ จับใจความ สาคญั ของ ความหมาย สาคัญของ จับใจความ สาคัญของ เน้ือหาได้ คาศัพท์ เน้อื หาได้ สาคัญของ เน้ือหาได้ นอ้ ยมาก ทั้งหมด เนอ้ื หาได้ เล็กน้อย เกือบ ร้คู วามหมาย รู้ความหมาย ทง้ั หมด รู้ความหมาย คาศัพท์ คาศัพท์ คาศัพท์ เล็กน้อย ทง้ั หมด รู้ความหมาย ทั้งหมด และไม่ คาศัพทโ์ ดย ชัดเจน สว่ นใหญ่ และ ชัดเจน การปฏบิ ัตติ าม ปฏบิ ัติตาม ปฏิบัตติ าม ปฏบิ ตั ิตาม ปฏิบตั ิตาม คาสงั่ คาสง่ั คาส่งั คาสง่ั คาส่งั ได้ถูกต้อง ได้ถูกต้องแต่ ไม่ค่อย ได้ถูกต้อง 1 4 และ คอ่ นข้างชา้ ถูกต้องและ น้อยมาก คล่องแคลว่ คอ่ นข้างชา้ รวม 5 20 เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นขุนตาลวทิ ยาคม

168 3. การอ่านเกณฑ์การให้คะแนนการอา่ น ระดับคะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน นา้ หนกั / คะแนน ประเด็น ความสาคั รวม การประเมนิ 4 32 1 ความเขา้ ใจ ญ ตอบคาถาม ตอบคาถาม การจบั ใจความ หลงั จากที่ ตอบคาถาม ตอบคาถาม หลงั จากที่ 28 สาคญั อา่ นได้ หลงั จากที่ หลังจากที่ อา่ นไดน้ ้อย ทงั้ หมด อ่านได้เกือบ อ่านได้ มาก 28 การรู้ จับใจความ ทงั้ หมด เล็กน้อย จับใจความ ความหมาย สาคัญของ จบั ใจความ สาคัญของ 14 คาศัพท์ เนื้อหาได้ จับใจความ สาคัญของ เน้ือหาได้ 5 20 ทัง้ หมด สาคญั ของ เนื้อหาได้ นอ้ ยมาก รวม เนื้อหาได้ เล็กน้อย เม่ืออ่านพบ เกือบ เมื่ออ่านพบ คาศัพท์ใหม่ ท้งั หมด เมื่ออ่านพบ คาศัพทใ์ หม่ สามารถเดา คาศัพทใ์ หม่ สามารถเดา ความหมาย เม่ืออ่านพบ สามารถเดา ความหมาย คาศัพทจ์ าก คาศัพท์ใหม่ ความหมาย คาศัพท์จาก บรบิ ทได้ สามารถเดา คาศัพท์จาก บริบทได้ ท้ังหมด ความหมาย บริบทได้ นอ้ ยมาก คาศัพท์จาก เล็กน้อย บริบทได้ เกือบ ทงั้ หมด เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

169 4. การเขียน เกณฑ์การให้คะแนนการเขียน ระดับคะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน นา้ หนกั / ความสาคั ประเดน็ 4321 คะแนน การประเมนิ ญ รวม การใช้ภาษา การสะกด การสะกด สะกดคาผิด สะกดคาผดิ 3 12 เนอ้ื หา คาศัพท์ คาศัพท์ผดิ มาก แต่พอ มาก รวม 2 8 ถูกต้อง เล็กน้อย พอ เดา เขียนรูป 5 20 การเลือกใช้ เดาวามหมาย ความหมาย ประโยคไม่ คา ได้เขียนรูป ได้รปู ประโยค ถูกต้อง ไมม่ ี ตรงกบั ประโยคผิด ผิดพลาดมาก เคร่ืองหมาย เนื้อหา หลกั เครื่องหมาย วรรคตอน ประโยค ไวยากรณ์ วรรคตอนไม่ ถกู ต้อง เลก็ น้อย ครบหรือไม่ มี เครื่องหมาย ถกู ต้อง เคร่ืองหมาย วรรคตอนผิด วรรคตอนท่ี เลก็ น้อย ถกู ต้อง มรี ายละเอียด รายละเอียด มรี ายละเอียด มรี ายละเอียด เนือ้ หาตรง ของเนื้อหา ของเนื้อหา ของเนื้อหา กบั ลกั ษณะที่ มากแต่ยังไม่ นอ้ ย นอ้ ยมาก กาหนดมาก ครอบคลุม ท่สี ดุ ท้งั หมด เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

170 5. เกณฑ์การใหค้ ะแนนการทางานกลุ่ม ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน น้าหนัก/ คะแนน ประเด็น 4 3 2 1 ความสาคัญ รวม การประเมนิ ความรว่ มมอื สมาชิกในกลุม่ สมาชิกในกลมุ่ สมาชกิ ในกลุ่ม สมาชิกในกลุ่ม ทกุ คนรว่ มมือ ทกุ คนรว่ มมอื ทุกคนทางานท่ี บางคนไม่ กันทางาน มี กนั ทางาน ไดร้ บั มอบหมาย ทางานกลุ่ม การ สว่ นใหญ่มีการ แตย่ งั ขาดการ ขาดการ ประสานงานที่ ประสานงาน ประสานงานใน ประสานงาน ดีเปดิ โอกาส ทด่ี ี เปดิ โอกาส กลุ่ม เปิดโอกาส สมาชิกกลมุ่ อนื่ 1 4 ใหส้ มาชกิ กลมุ่ ใหส้ มาชกิ กลมุ่ ใหส้ มาชิกกล่มุ ไม่มีโอกาสเขา้ อ่ืน อนื่ มีสว่ นร่วมใน อ่ืนมีสว่ นร่วม ร่วมกิจกรรม มสี ว่ นรว่ มใน กจิ กรรมบาง น้อยมากในช่วง ในช่วงของการ กิจกรรม ชว่ งของการ ของการนาเสนอ นาเสนอ ตลอดเวลาการ นาเสนอ นาเสนอ ข้ันตอนการ มีการกาหนด มีการกาหนด มีการกาหนด มกี ารกาหนด ทางาน ขนั้ ตอนการ ขนั้ ตอนการ ขัน้ ตอนการ ขั้นตอนการ ทางานที่ ทางานค่อนข้าง ทางานแตย่ งั มี ทางานไมช่ ดั เจน ชดั เจนตงั้ แต่ ชดั เจนตัง้ แต่ ความสาเรจ็ ของ ทาให้ผลงานไม่ 2 8 เริม่ ทางาน เร่มิ การทางาน งานไม่คอ่ ย สมบูรณ์ จนกระท่ังเหน็ จนกระท่ังเห็น สมบรู ณ์ ผลงาน ผลงานสมบูรณ์ สมบรู ณ์ การแสดงความ สมาชกิ ทกุ คน สมาชกิ ส่วน สมาชกิ มากกว่า สมาชิกไมใ่ ห้ คดิ เห็น รว่ มแสดง ใหญร่ ว่ มแสดง ครง่ึ ร่วมแสดง ความรว่ มมือใน ความ ความคิดเห็น ความคิดเหน็ การแสดงความ 1 4 คดิ เหน็ คิดเห็น ความรับผิดชอบ สมาชิกทุกคน สมาชกิ สว่ น สมาชิกบางคน สมาชิกไม่มี 1 4 รวม ทางานท่ีไดร้ บั ใหญท่ างานที่ เลย่ี งงาน ไม่ทา ความรบั ผดิ ชอบ 5 20 มอบหมายจน ไดร้ ับมอบหมาย หนา้ ทต่ี ามท่ีได้ ทาใหง้ านไม่ งานเสรจ็ จนเสรจ็ สน้ิ รับมอบหมาย บรรลุเป้าหมาย สมบูรณ์ สมบูรณ์ งานเสรจ็ แต่ไม่ ทันเวลา คอ่ ยสมบูรณ์ ทันเวลา เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นขนุ ตาลวิทยาคม

171 เกณฑ์การให้คะแนนคุณภาพชนิ้ งาน / ภาระงาน ระดบั คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน น้าหนัก/ คะแนน ประเด็น ความสาคั รวม การประเมิน 432 1 ความสมบูรณ์ ญ 12 ของ ชน้ิ งานมรี าย ชิน้ งานมีราย ชน้ิ งานมรี าย ช้นิ งานมรี าย ชนิ้ งาน 3 8 ละเอียด ละเอียด ละเอียด ละเอียด 20 ความคิด 2 สรา้ งสรรค์ ครอบ ครอบ ครอบ ครอบ 5 รวม คลุมวง คลมุ วง คลุมวง คลุมวง คาศัพท์ คาศัพท์ คาศัพท์ คาศัพท์ ที่เรยี น ท่เี รียนเป็น ทเี่ รียนพอ ทีเ่ รยี นน้อย สมบรู ณ์ ส่วนใหญ่ สมควร เป็นชนิ้ งาน เปน็ ช้นิ งาน เป็นช้ินงาน เป็นช้ินงานท่ี ท่แี ปลกใหม่ ที่แปลกใหม่ ที่ปรับปรุง เหมือนกบั คิดข้ึนเอง แต่มี ดดั แปลง ตวั อย่าง ไม่เหมือน บางส่วน เล็กน้อยจาก ตวั อย่าง คล้ายกับ ตวั อย่าง ตวั อย่าง เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

172 การประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 8 ประการ ข้อท่ี ตวั ชี้วัด 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 1. เป็นพลเมอื งดขี องชาติ 2. ซือ่ สัตย์สจุ รติ 2. ธารงไว้ซึ่งความเป็นชาตไิ ทย 3. มวี ินยั 3. ศรทั ธา ยึดมน่ั ปฏบิ ตั ติ นตามหลักศาสนา 4. ใฝห่ าความรู้ 4. เคารพเทิดทนู สถาบนั พระมหากษัตริย์ 5. อยูอ่ ย่างพอเพียง 1. ประพฤติตรงตามความเป็นจริงตอ่ ตนเอง ทง้ั ทางกาย วาจา ใจ 6. มุ่งมน่ั ในการทางาน 2. ประพฤติตรงตามความเป็นจรงิ ตอ่ ผู้อน่ื ท้ังทางกาย วาจา ใจ 7.รกั ความเป็นไทย 1.ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบขอ้ บงั คับของครอบครวั โรงเรียน 8. มีจติ สาธารณะ และสังคม 1. ตงั้ ใจ เพียรพยายามในการเรยี น และเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 2. แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรตู้ ่างๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน ด้วยการเลือกใช้ส่ืออย่างเหมาะสม สรุปเป็นองค์ความรู้ และสามารถ นาไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้ 1. ดาเนนิ ชวี ิตอยา่ งพอประมาณ มีเหตผุ ล รอบคอบ มีคุณธรรม 2. มีภูมคิ ุ้มกนั ในตวั ท่ดี ี ปรบั ตวั เพ่อื อยู่ในสังคมได้อยา่ งมคี วามสขุ 1. ตงั้ ใจและรบั ผิดชอบในการปฏิบัตหิ นา้ ทีก่ ารงาน 2. ทางานด้วยความเพียรพยาม อดทนเพือ่ ใหง้ านสาเร็จตาม เป้าหมาย 1. ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมี ความกตญั ญกู ตเวที 2. เหน็ คุณคาและใชภ้ าษาไทยในการสือ่ สารได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม 3. อนุรักษ์สืบทอดภมู ปิ ญั ญาไทย 1. ช่วยเหลือผู้อนื่ ดว้ ยความเต็มใจโดยไมห่ วงั ผลตอบแทน 2. เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น ชมุ ชน สงั คม เกณฑก์ ารให้คะแนนคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นขนุ ตาลวทิ ยาคม

173 ขอ้ ที่ 1 รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ตวั ชวี้ ัด ระดบั คุณภาพ 1. เป็นพลเมือง ไม่ผา่ น ( 0 ) ผ่าน ( 1 ) ดี ( 2 ) ดเี ย่ยี ม ( 3 ) ดีของชาติ ยนื ตรงเมื่อได้ยินเพลงชาติ ไม่ยนื ตรง ยืนตรงเม่อื ไดย้ ิน ยนื ตรงเมื่อได้ยินเพลง เข้าใจความหมายและร้อง เคารพธงชาติ เพลงชาตไิ ดถ้ ูกตอ้ ง ปฏิบตั ิ เพลงชาตเิ ขา้ ใจ ชาติ เข้าใจความหมาย ตนตามสิทธิและหน้าที่ ของนักเรียน ใหค้ วาม ความหมายและร้อง และรอ้ งเพลงชาติได้ รว่ มมือในการทากจิ กรรม ของโรงเรยี น ชุมชนและ เพลงชาตไิ ด้ถูกต้อง ถกู ต้อง ปฏิบัตติ นตาม สงั คม ปฏิบตั ิตนตามสทิ ธิ สิทธิและหนา้ ทข่ี อง เปน็ ผูน้ าหรอื เป็น แบบอย่างในการจัด และหน้าทีข่ อง นักเรียน ใหค้ วาม กจิ กรรมท่ีเสรมิ สรา้ งความ สามคั คี ปรองดองและเปน็ นักเรียนใหค้ วาม ร่วมมือในการทา ประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น ชุมชนและสงั คม ชน่ื ชม ร่วมมือในการทา กจิ กรรมของโรงเรยี น ปกปอ้ งความเปน็ ชาตไิ ทย เข้ารว่ มกจิ กรรมทาง กจิ กรรมของโรงเรียน และชุมชน ศาสนาที่ตนนบั ถอื ปฏิบัติ ตนตามหลักศาสนาอยา่ ง 2. ธารงไวซ้ ึง่ ไม่เขา้ รว่ ม เขา้ รว่ มกิจกรรม เขา้ ร่วมกจิ กรรม สมา่ เสมอและเปน็ ความเปน็ ไทย กิจกรรม แบบอยา่ งแก่ผอู้ ื่น สว่ นรวมทเ่ี สริมสร้าง สว่ นรวมทเี่ สรมิ สรา้ ง เขา้ ร่วมและมสี ่วนรว่ มใน ส่วนรวมท่ี การจัดกิจกรรมทเ่ี ก่ียวกับ เสรมิ สร้าง ความสามัคคี ความสามคั คี สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ความสามคั คี ตามท่โี รงเรยี นและชมุ ชน ปรองดองและเป็น ปรองดองและเปน็ จัดขน้ึ ชน่ื ชมในพระปรีชา สามารถของ ประโยชน์ต่อ ประโยชนต์ ่อโรงเรียน พระมหากษตั รยิ ์และพระ ราชวงศ์ โรงเรียนและชุมชน ชมุ ชนและสงั คม ชนื่ ชมความเปน็ ชาตไิ ทย 3. ศรทั รา ยึด ไมเ่ ข้าร่วม เขา้ ร่วมกิจกรรมทาง เข้าร่วมกจิ กรรมทาง มั่นและปฏบิ ตั ิ กิจกรรมทาง ตามหลักศาสนา ศาสนาทีต่ น ศาสนาทต่ี นนบั ถอื ศาสนาทตี่ นนบั ถือ นับถอื ปฏิบตั ติ นตามหลัก ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั 4. เคารพ ไม่เข้าร่วม ศาสนาตามโอกาส ศาสนาอยา่ งสมา่ เสมอ เทดิ ทนู สถาบนั กจิ กรรมท่ี พระมหากษัตริย์ เกยี่ วกบั เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ี เข้าร่วมและมสี ว่ นร่วม ในการจัดกจิ กรรมท่ี สถาบนั เก่ยี วกบั สถาบนั เก่ียวกบั สถาบัน พระมหากษัต พระมหากษตั รยิ ์ พระมหากษัตริย์ตามท่ี ริย์ ตามทโี่ รงเรยี นและ โรงเรียนและชมุ ชนจดั ชมุ ชนจดั ข้ึน ข้นึ เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นขนุ ตาลวทิ ยาคม

174 ขอ้ ท่ี 2 ซอ่ื สตั ย์ สุจรติ ระดบั คุณภาพ ตวั ชว้ี ัด ไม่ผา่ น ( 0 ผ่าน ( 1 ) ดี ( 2 ) ดีเยี่ยม ( 3 ) ) 1.ประพฤติตรง ให้ขอ้ มลู ท่ีถูกต้องและ ความเปน็ จรงิ ไม่ให้ข้อมลู ท่ี นาสงิ่ ของของผูอ้ ่ืน ให้ขอ้ มูลทถ่ี ูกตอ้ ง เป็นจรงิ ของตนเอง ต่อตนเองท้ัง ละอายและเกรงกลัวทจี่ ะ รา่ งกาย วาจา ถกู ต้องและ มาเป็นของตนโดย และเปน็ จริงของ กระทาผิด ทาตามสัญญา ใจ ท่ใี ห้ไวก้ บั ทุกคน และ เป็นจรงิ ไมไ่ ด้รบั ตนเอง ละอายและ เป็นแบบอย่างท่ดี ดี า้ น ความซื่อสัตย์ เกย่ี วกับ เกรงกลวั ทจี่ ะกระทา ไมน่ าส่งิ ของหรือผลงาน ของผู้อื่นมาเปน็ ของตน ตนเอง ผดิ ทาตามสัญญาที่ ปฏบิ ตั ิต่อผอู้ ่ืนดว้ ยความ ซอื่ ตรง ไมห่ า ให้ไว้กับทุกคน ผลประโยชนใ์ นทางท่ีไม่ ถกู ต้องและเป็น 2.ประพฤตติ รง ชอบนา ไมน่ าสง่ิ ของหรือ ไมน่ าสิ่งของหรือ แบบอย่างที่ดดี ้านความ ความเปน็ จริง สิง่ ของของ ผลงานของผู้อืน่ มา ผลงานของผู้อื่นมา ซื่อสตั ย์ ตอ่ ผูอ้ ่ืนท้ัง ผู้อื่นมาเปน็ เป็นของตน ปฏบิ ตั ิ เปน็ ของตน ปฏบิ ัติ ร่างกาย วาจา ของตนโดย ต่อผู้อ่นื ด้วยความ ต่อผู้อน่ื ดว้ ยความ ใจ ไม่ได้รบั ซ่ือตรง ซ่อื ตรง ไม่หา อนญุ าต ประโยชนใ์ นทางท่ีไม่ ถูกต้อง ข้อที่ 3 มวี ินัย ตวั ช้ีวัด ระดบั คุณภาพ 1.ปฏบิ ัตติ น ไม่ผ่าน ( 0 ) ผ่าน ( 1 ) ดี ( 2 ) ดีเยย่ี ม ( 3 ) ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ไม่ปฏิบตั ติ น ปฏิบัตติ นตาม ปฏิบัติตนตาม ปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลง ระเบียบ ข้อบังคับของ ตามข้อตกลง ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบียบ ครอบครัว โรงเรยี นและ กฎเกณฑ์ ระเบยี บข้อบงั คับ ระเบยี บข้อบังคับของ ข้อบงั คับของครอบครวั สังคม ระเบยี บ ของครอบครัวและ ครอบครัวและ และโรงเรยี น และ ขอ้ บังคบั ของ โรงเรยี น ตรงตอ่ โรงเรียน และสงั คม สงั คม ไม่ละเมนิ สทิ ธิ ครอบครัวและ เวลาในการปฏิบตั ิ ไม่ละเมนิ สิทธิของ ของผู้อื่น ตรงตอ่ เวลา โรงเรยี น กิจกรรมตา่ งๆ ใน ผูอ้ น่ื ตรงตอ่ เวลาใน ในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ชวี ติ ประจาวันและ การปฏิบตั กิ ิจกรรม ตา่ งๆ ในชีวิตประจาวัน รับผดิ ชอบในการ ตา่ งๆ ใน และรบั ผดิ ชอบในการ ทางาน ชวี ติ ประจาวนั และ ทางาน เปน็ แบบอยา่ ง รบั ผดิ ชอบในการ ที่ดีแก่ผู้อน่ื ทางาน เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

175 ขอ้ ท่ี 4 ใฝเ่ รยี นรู้ ตัวช้ีวัด ระดบั คุณภาพ 1.ต้งั ใจ เพียร ไม่ผ่าน ( 0 ) ผา่ น ( 1 ) ดี ( 2 ) ดเี ย่ียม ( 3 ) พยายามในการ เรยี นและเขา้ ไม่ตัง้ ใจเรยี น เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา รว่ มกิจกรรม เข้าเรยี นสาย เป็นประจา ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ ตงั้ ใจเรยี น เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน และเพียรพยายามใน และเพยี รพยายามใน เอาใจใสแ่ ละเพียร การเรยี นรู้ มีส่วน การเรียนรู้ มสี ว่ นรว่ ม พยายามในการ ร่วมในกจิ กรรมการ ในกจิ กรรมการเรยี นรู้ เรียนรู้ เรียนร้ตู า่ งเป็น ต่างๆ ทง้ั ในและนอก มีส่วนรว่ มใน บางครง้ั โรงเรียนบ่อยครัง้ กิจกรรมการเรียนรู้ ตา่ งๆ ท้ังในและ นอกโรงเรียนเป็น ประจาและเป็น แบบอยา่ งทีด่ ี 2.แสวงหา ไมศ่ ึกษาหา ศึกษา ค้นคว้าหา ศึกษา ค้นควา้ หา ศึกษา คน้ ควา้ หา ความรูจ้ าก ความรู้ แหลง่ เรียนรู้ ความรู้จากหนงั สือ ความรูจ้ ากหนังสือ ความร้จู ากหนังสือ ต่างๆท้ังภายใน และภายนอก เอกสาร ส่งิ พิมพ์ ส่ือ เอกสาร ส่ิงพิมพ์ ส่ือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ โรงเรยี นดว้ ย การเลอื กใชส้ ่ือ เทคโนโลยี แหล่ง เทคโนโลยี แหล่ง ส่ือเทคโนโลยี อยา่ งเหมาะสม เรียนรู้ทง้ั ภายในและ เรียนร้ทู ั้งภายในและ แหล่งเรียนรทู้ ้งั ภายนอกโรงเรียน ภายนอกโรงเรยี น ภายในและ เลอื กใช้สือ่ ได้อยา่ ง เลอื กใชส้ ่ือได้อย่าง ภายนอกโรงเรียน เหมาะสม มีบนั ทึก เหมาะสม มบี นั ทกึ เลอื กใช้สื่อได้อยา่ ง องค์ความร้เู ป็นลาย ความรู้ วิเคราะห์ เหมาะสม ลกั ษณ์อกั ษร ขอ้ มลู สรปุ เป็นองค์ มบี นั ทกึ ความรู้ ความรู้ แลกเปลย่ี น วิเคราะหข์ ้อมูลสรปุ เรยี นรกู้ บั ผู้อื่นและ เปน็ องค์ความรู้ นาไปใชใ้ น แลกเปลยี่ นเรียนรู้ ชวี ิตประจาวันได้ เผยแพรแ่ ก่บุคคล ท่ัวไปและนาไปใช้ ในชีวติ ประจาวนั ได้ เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นขุนตาลวทิ ยาคม

176 ขอ้ ท่ี 5 อยู่อย่างพอเพียง ตวั ชวี้ ัด ระดบั คณุ ภาพ 1.ดาเนินชวี ิตอยา่ ง พอประมาณ มีเหตผุ ล ไมผ่ า่ น ( 0 ) ผา่ น ( 1 ) ดี ( 2 ) ดีเยีย่ ม ( 3 ) รอบคอบ มีคุณธรรม ใชจ่ ่ายเงิน และข้องใช้ ใช้ทรพั ยส์ ินของ ใช้ทรัพย์สินของ ใชท้ รพั ย์สนิ ของ 2.มีภูมคิ มุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี สว่ นตวั อยา่ ง ตนเองและ ปรบั ตวั เพอื่ อยู่ในสังคมได้ ฟมุ่ เฟือย ตนเองและ ตนเองและ ทรพั ยากรของ อย่างมีความสุข สว่ นรวมอยา่ ง ไมว่ างแผนใน ทรัพยากรของ ทรัพยากรของ ประหยดั คุ้มค่า การเรยี นและ เกบ็ รักษาและดูแล การใช้ สว่ นรวมอยา่ ง ส่วนรวมอย่าง อย่างดี ตดั สินใจ ชวี ิตประจาวัน อยา่ งรอบคอบ มี ประหยัดคุ้มค่า ประหยดั คุ้มค่า เหตผุ ลไม่เอา เปรียบผ้อู ่ืนหรอื เกบ็ รักษาและ เก็บรกั ษาและดูแล ทาให้ผ้อู นื่ เดือน รอ้ นและให้อภัย ดแู ลอย่างดี อยา่ งดี ตัดสนิ ใจ เม่ือผอู้ น่ื ทา ผิดพลาด และเปน็ ตดั สนิ ใจอยา่ ง อย่างรอบคอบ มี แบบอยา่ งท่ดี ี รอบคอบ มี เหตุผลไม่เอา ใชค้ วามรขู้ ้อมูล ข่าวสารในการวาง เหตผุ ลไม่เอา เปรยี บผอู้ นื่ หรือ แผนการเรยี น การ ทางานและการใช้ เปรียบผู้อ่นื หรือ ทาใหผ้ ้อู ื่นเดือน ชวี ติ ประจาวนั ยอมรบั การ ทาให้ผู้อื่นเดือน ร้อนและให้อภยั เปลีย่ นแปลงของ ครอบครัว ชุมชน ร้อน เมอื่ ผู้อืน่ ทา สงั คม และ สภาพแวดลอ้ ม ผิดพลาด ปรบั ตวั อยรู่ ว่ มกับ สงั คมได้ ใช้ความรขู้ อ้ มลู ใชค้ วามรู้ข้อมูล ขา่ วสารในการ ขา่ วสารในการวาง วางแผนการ แผนการเรียน การ เรยี น การทางาน ทางานและการใช้ และการใช้ ชีวิตประจาวัน ชีวติ ประจาวนั ยอมรับการ ยอมรับการ เปลี่ยนแปลงของ เปลยี่ นแปลงของ ครอบครัว ชุมชน ครอบครัว ชมุ ชน สงั คม และ สังคม และ สภาพแวดล้อม สภาพแวดลอ้ ม ปรับตวั อยรู่ ่วมกบั ผอู้ น่ื ได้ เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นขนุ ตาลวทิ ยาคม

177 ข้อที่ 6 มุ่งมนั่ ในการทางาน ตัวช้ีวัด ระดับคณุ ภาพ 1.ต้ังใจและรับผดิ ชอบใน หน้าท่กี ารงาน ไมผ่ ่าน ( 0 ) ผ่าน ( 1 ) ดี ( 2 ) ดเี ยี่ยม ( 3 ) 2.ทางานด้วยความเพยี ร ไม่ต้งั ใจปฏิบัติ ต้งั ใจและ ตัง้ ใจและ ต้งั ใจและ พยายามและอดทนเพือ่ ให้ งานสาเร็จตามเป้าหมาย หน้าท่ีการงาน รบั ผดิ ชอบใน รับผดิ ชอบในการ รบั ผดิ ชอบในการ ท่รี บั ผดิ ชอบ การปฏบิ ตั งิ าน ปฏิบัติงานที่ ปฏิบัตงิ านที่ ท่ไี ด้รับ ได้รับมอบหมาย ได้รบั มอบหมาย มอบหมายให้ ใหส้ าเรจ็ มกี าร ใหส้ าเรจ็ มีการ สาเร็จ มีการ ปรบั ปรุงและ ปรับปรงุ และ ปรบั ปรุงและ พฒั นาการ พฒั นาการ พัฒนาการ ทางานให้ดีข้นึ ทางานใหด้ ีขน้ึ ทางานให้ดีขึน้ ด้วยตนเอง ดว้ ยตนเองและ เปน็ แบบอยา่ งที่ ดี ไม่ขยัน ไมม่ ี ทางานดว้ ย ทางานดว้ ยความ ทางานดว้ ยความ ความอดทนใน ความขยนั ขยนั อดทน ไม่ ขยัน อดทน ไม่ การทางาน อดทน ไมย่ ่อท้อ ยอ่ ท้อต่อปัญหา ย่อท้อตอ่ ปัญหา ทางานไมส่ าเร็จ ต่อปญั หาใน ในการทางาน ในการทางาน การทางาน พยายามให้งาน พยายามให้งาน พยายามให้งาน สาเรจ็ ตาม สาเร็จตาม สาเรจ็ ตาม เป้าหมายในเวลา เป้าหมายก่อน เปา้ หมาย ช่ืน ท่กี าหนด ชนื่ ชม เวลาทกี่ าหนด ชมผลงานด้วย ผลงานด้วยความ ชน่ื ชมผลงาน ความภาคภมู ิใจ ภาคภูมใิ จ ด้วยความ ภาคภูมใิ จ เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

178 ขอ้ ที่ 7 รักความเปน็ ไทย ตวั ชว้ี ดั ระดบั คุณภาพ ไมผ่ า่ น(0 ) ผ่าน (1 ) ดี ( 2 ) ดีเยีย่ ม ( 3 ) 1.ภาคภูมใิ จใน ไมม่ ีสมั มาคารวะ ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้ ปฏิบตั ติ นเปน็ ผ้ทู ีม่ ี ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผ้ทู ม่ี ี ขนบธรรมเนยี ม ต่อผใู้ หญ่ ไม่มี ท่มี มี ารยาทแบบ มารยาทแบบไทย มารยาทแบบไทย ประเพณี ศิลปะ มารยาทท่ี ไทย มีสมั มา มสี มั มาคารวะ มสี มั มาคารวะ กตญั ญู วฒั นธรรมไทยและ เหมาะสม คารวะ กตญั ญู กตัญญูกตเวทีตอ่ ผู้ กตเวทีตอ่ ผมู้ ี มคี วามกตัญญู กตเวทีต่อผูม้ ี มพี ระคุณและแตง่ พระคุณและแต่งกาย กตเวที พระคุณและแต่ง กายเรียบร้อยเข้า เรยี บรอ้ ยเขา้ ร่วม กายเรียบร้อย ร่วมและมีสว่ นใน และมสี ว่ นในการจัด เขา้ ร่วมกจิ กรรม การจัดกิจกรรมที่ กจิ กรรมทเี่ กี่ยวขอ้ ง ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั เกีย่ วขอ้ งกบั กับประเพณี ศลิ ปะ ประเพณี ศลิ ปะ ประเพณี ศลิ ปะ วฒั นธรรมอยา่ งสมา่ เสมอ วฒั นธรรมตาม วัฒนธรรมอยา่ ง ชักชวน แนะนาผอู้ นื่ หรือ โอกาส สม่าเสมอ เป็นผนู้ าในการปฏิบัติตาม ขนบธรรมเนียมประเพณี ศลิ ปะและวัฒนธรรมไทย 2.เหน็ คณุ ค่าและใช้ ไมส่ นใจในการ ใช้ภาษาไทย ใชภ้ าษาไทยและ ใชภ้ าษาไทยและเลขไทย ภาษาไทยในการ ใชภ้ าษาไทยท่ี เลขไทย ในการ เลขไทยในการ ในการสอื่ สารไดถ้ กู ตอ้ ง สอื่ สารได้อย่าง ถกู ต้อง สอ่ื สารได้ถูกตอ้ ง สื่อสารได้ถูกต้อง เหมาะสม แนะนาชักชวน ถูกต้องและ เหมาะสม เหมาะสม แนะนา ให้ผู้อน่ื เห็นคุณค่าในการ เหมาะสม แนะนาชักชวน ชักชวนให้ผู้อืน่ ใชภ้ าษาไทยทถี่ กู ตอ้ งเป็น ใหผ้ อู้ ่ืนใช้ เหน็ คุณค่าในการ ประจาและเปน็ แบบอย่าง ภาษาไทยที่ ใชภ้ าษาไทยท่ี ที่ดีดา้ นการใช้ภาษาไทย ถูกตอ้ ง ถูกต้อง 3.อนุรกั ษ์และสบื ไมส่ นใจภูมิ สืบคน้ และเข้า สบื คน้ เขา้ รว่ ม สบื ค้น เข้าร่วมและ ทอดภูมปิ ญั ญาไทย ปัญญาไทย ร่วมกจิ กรรมที่ และชกั ชวนคนใน ชกั ชวนคนในครอบครัว เกยี่ วขอ้ งกับภมู ิ ครอบครวั เขา้ รว่ ม เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ี ปัญญาไทย กิจกรรมที่ เกี่ยวขอ้ งกบั ภมู ิปญั ญา เกย่ี วขอ้ งกับภมู ิ ไทย และแนะนาให้ผู้อ่นื ปัญญาไทยและมี และมีสว่ นรว่ มในการสบื ส่วนรว่ มในการสบื ทอดและเผยแพร่ภูมิ ทอดภูมปิ ัญญา ปญั ญาไทย ไทย เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นขนุ ตาลวทิ ยาคม

179 ขอ้ ที่ 8 มจี ติ สาธารณะ ตวั ช้ีวดั ระดับคณุ ภาพ ไมผ่ า่ น ( 0 ) ผ่าน ( 1 ) ดี ( 2 ) ดเี ย่ียม ( 3 ) 1.ชว่ ยเหลือผ้อู ่ืนด้วย ไม่ชว่ ยเหลือพ่อ ช่วยพอ่ แม่ ชว่ ยพอ่ แม่ ชว่ ยพ่อแม่ ความเตม็ ใจโดยไมห่ วัง แม่ ผู้ปกครอง ผู้ปกครองและครู ผู้ปกครองและครู ผปู้ กครองและครู ผลตอบแทน และครู ทางาน อาสา ทางาน อาสา ทางาน อาสาทางาน ทางาน ช่วยคดิ ทางาน ชว่ ยคิด ช่วยคดิ ช่วยทาและ ช่วยทาและ ชว่ ยทาและ แบ่งปนั ส่ิงของและ แบ่งปนั สิง่ ของให้ แบง่ ปนั สิ่งของ ทรัพย์สนิ อน่ื ๆและ ผู้อื่นด้วยความ และทรัพย์สนิ ชว่ ยแก้ปัญหาหรือ เตม็ ใจ อน่ื ๆและช่วย สรา้ งความสุขให้ แก้ปัญหาใหผ้ ู้อนื่ ผูอ้ ื่นโดยไม่หวัง ดว้ ยความเต็มใจ ผลตอบแทนและ เป็นแบบอยา่ งท่ีดี 2.เขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีเป็น ไม่สนใจดแู ล ดูแลรักษาทรัพย์ ดูแลรักษาทรัพย์ ดแู ลรักษาทรัพย์ ประโยชนต์ ่อโรงเรียน รักษาทรัพย์ สมบตั ิ สมบัติ สมบตั สิ ิง่ แวดลอ้ ม ชมุ ชนและสังคม สมบตั ิและ สง่ิ แวดล้อมของ สงิ่ แวดลอ้ มของ ของ โรงเรยี นและ สงิ่ แวดล้อมของ โรงเรียนและ โรงเรยี นและ ชุมชน เขา้ รว่ ม โรงเรยี น ชุมชน เข้าร่วม ชุมชน เขา้ ร่วม กิจกรรมเพ่ือสังคม กิจกรรมเพ่อื กิจกรรมเพือ่ และสาธารณะ สงั คมและ สังคมและ ประโยชนข์ อง สาธารณะ สาธารณะ โรงเรยี นและชุมชน ประโยชน์ของ ประโยชน์ของ ด้วยความเต็มใจ โรงเรียนดว้ ย โรงเรียนและ และรว่ มแกป้ ัญหา ความเตม็ ใจ ชมุ ชนด้วยความ ตามสถานการณ์ท่ี เตม็ ใจ เกดิ ขน้ึ เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

180 เกณฑพ์ ิจารณาสรุปผลการประเมนิ รวมทุกคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคร์ ายป/ี รายภาค ผู้เรียนรายบคุ คล ดเี ยี่ยม (3) 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดีเยย่ี ม จานวน 5 - 8 คณุ ลักษณะ และ ดี (2) ไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมนิ ต่ากวา่ ระดบั ดี ผ่าน (1) 1. ได้ผลการประเมิน ระดบั ดีเยี่ยม จานวน 1 - 4 คุณลักษณะ และ ไม่ผ่าน (0) บางคุณลกั ษณะใดไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดี หรือ 2. ได้ผลการประเมินระดบั ดี ทงั้ 8 คุณลักษณะ หรือ 3. ได้ผลการประเมินระดบั ดีขึ้นไป จานวน 5 - 8 คณุ ลกั ษณะ และ มบี างคุณลักษณะไดผ้ ลการประเมินระดับผา่ น 1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับผา่ น ทง้ั 8 คณุ ลักษณะ หรือ 2. ไดผ้ ลการประเมนิ ต้งั แตร่ ะดบั ดี จานวน 1 - 4 คณุ ลักษณะ และคุณลักษณะท่เี หลือไดผ้ ลการประเมนิ ระดับผ่าน ได้ผลการประเมินระดบั ไม่ผ่าน ตั้งแต่ 1 คุณลักษณะขึ้นไป การประเมินตวั ช้วี ดั ความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขยี น ตวั ชี้วัดความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์และเขียนระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1-3 1. สามารถคัดสรรสื่อ ท่ีต้องการอ่านเพื่อหาข้อมูลสารสนเทศได้ตามวตั ถุประสงค์ สามารถสร้าง ความเข้าใจและประยกุ ตใ์ ช้ความรจู้ ากการอา่ น 2. สามารถจบั ประเดน็ สาคัญและประเดน็ สนบั สนุน โต้แยง้ 3. สามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ ความสมเหตุสมผล ความน่าเช่ือถือ ลาดับความและความเป็นไป ได้ของเร่อื งทอี่ ่าน 4. สามารถสรุปคณุ คา่ แนวคิด แง่คดิ ท่ีได้จากการอา่ น 5. สามารถสรุป อภิปราย ขยายความแสดงความคิดเห็น โต้แย้ง สนับสนุน โน้มน้าว โดยการ เขียนส่ือสารในรปู แบบตา่ ง ๆ เช่น ผงั ความคิด เปน็ ต้น ตัวช้ีวดั ความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียนระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4-6 1. สามารถอ่านเพื่อการศึกษา ค้นคว้า เพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์และการประยุกต์ใช้ ใน ชีวิตประจาวนั 2. สามารถจับประเด็นสาคญั ลาดับเหตกุ ารณ์จากการอ่านส่ือที่มคี วามซับซ้อน 3. สามารถวิเคราะห์สิ่งท่ีผู้เขียนต้องการส่ือสารกับผู้อ่าน และสามารถวพิ ากษ์ ให้ข้อเสนอแนะใน แงม่ มุ ต่าง ๆ 4. สามารถประเมินความนา่ เช่อื ถอื คณุ คา่ แนวคดิ ทไี่ ดจ้ ากส่ิงท่ีอ่านอยา่ งหลากหลาย 5. สามารถเขียนแสดงความคิดเห็นโต้แย้ง สรุป โดยมีข้อมูลอธิบายสนับสนุนอย่างเพียงพอและ สมเหตุสมผล เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นขนุ ตาลวทิ ยาคม

181 เกณฑก์ ารประเมนิ ความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี น ระดบั เกณฑ์การพจิ ารณา ดีเย่ยี ม (3) มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียนทม่ี ีคุณภาพดเี ลิศอยู่เสมอ ดี (2) มีผลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขยี นที่มีคุณภาพเปน็ ท่ียอมรบั ผ่าน (1) มผี ลงานท่แี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนท่มี ีขอ้ บกพรอ่ งบางประการ ไมผ่ ่าน (0) ไมม่ ผี ลงานที่แสดงถงึ ความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน หรือถา้ มีผลงาน ผลงานนน้ั ยังมีข้อบกพรอ่ งทตี่ ้องไดร้ ับการปรับปรุงแกไ้ ขหลายประการ เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นขุนตาลวิทยาคม

182 เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะสาคญั ด้านความสามารถในการส่อื สาร ตัวช้ีวดั ที่ 1 ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความเขา้ ใจ ความคดิ ความรสู้ ึกและทัศนะของตนเองด้วยการพูดและการเขียน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคณุ ภาพ ดีเยี่ยม ดี พอใช้/ผา่ น ปรบั ปรงุ (3) (2) เกณฑ์ขน้ั ตา่ (1) (0) 1. พดู ถ่ายทอด พดู ถ่ายทอดความรู้ พูดถา่ ยทอดความรู้ พูดถา่ ยทอด พดู ถ่ายทอด ความรคู้ วามเข้าใจ ความเข้าใจจากสารที่ ความเขา้ ใจจากสารท่ี ความรู้ ความ ความรูค้ วาม จากสารท่ีอ่าน อา่ น ฟัง หรอื ดูด้วย อ่าน ฟัง หรอื ดู ด้วย เขา้ ใจจากสารท่ี เขา้ ใจจากสารท่ี ฟัง หรือดู ดว้ ย ภาษาของตนเอง พรอ้ ม ภาษาของตนเอง พร้อม อ่าน ฟัง หรือดู อา่ น ฟัง หรือดู ภาษาของตนเอง ยกตวั อยา่ งประกอบ ยกตัวอยา่ งประกอบ แต่ ด้วยภาษาของ ตามแบบ พรอ้ มยกตัวอย่าง สอดคล้องกบั เร่อื งที่ ไม่สอดคล้องกบั เรื่อง ตนเอง ประกอบได้ ถา่ ยทอด ท่ีถา่ ยทอด 2. พดู ถา่ ยทอด พูดถา่ ยทอดความคดิ พดู ถ่ายทอดความคดิ พดู ถ่ายทอด พดู ถา่ ยทอด ความคดิ ความรูส้ กึ ความรู้สกึ และทศั นะ ความรู้สึกและทศั นะ ความคดิ ความคดิ และทัศนะของ จากสารท่ีอ่านฟงั หรอื จากสารทอ่ี ่าน ฟงั หรอื ดู ความรูส้ กึ และ ความรู้สึกและ ตนเองจากสารท่ี ดดู ้วยภาษาของตนเอง ด้วยภาษาของตนเอง ทศั นะจากสารที่ ทศั นะจากสารท่ี อา่ น ฟงั หรือดดู ้วย พร้อมยกตวั อยา่ พร้อมยกตัวอยา่ ง อ่าน ฟงั หรอื ดู อ่าน ฟงั หรือดู ด้วยภาษาของ ตามแบบ ภาษาของตนเอง ประกอบสอดคล้องกับ ประกอบแต่ไม่ ตนเอง และไมม่ ี พร้อมยกตวั อยา่ ง เรื่องที่ถา่ ยทอด สอดคล้องกบั เร่ืองท่ี ประกอบได้ ถ่ายทอด ตัวอยา่ งประกอบ 3. เขยี นถา่ ยทอด เขยี นถา่ ยทอดความรู้ เขยี นถ่ายทอดความรู้ เขยี นถ่ายทอด เขยี นถา่ ยทอด ความรูค้ วามเข้าใจ ความเข้าใจจากสารที่ ความเขา้ ใจจากสารท่ี ความรู้ ความ ความรู้ความ จากสารทอี่ ่าน อ่าน ฟงั หรือดูด้วย อา่ น ฟงั หรอื ดดู ้วย เขา้ ใจจากสารท่ี เข้าใจจากสารท่ี ฟังหรอื ดูด้วยภาษา ภาษาของตนเอง พรอ้ ม ภาษาของตนเอง พร้อม อา่ น ฟังหรอื ดูดว้ ย อา่ น ฟงั หรือดู ของตนเองพรอ้ ม ยกตวั อย่างประกอบ ยก ตวั อย่างประกอบแต่ ภาษาของตนเอง ตามแบบ ยกตวั อย่าง สอดคลอ้ งกบั เรอ่ื งที่ ไม่สอดคลอ้ งกบั เร่อื ง และไม่มีตวั อยา่ ง ประกอบได้ ถ่ายทอด ที่ถ่ายทอด ประกอบ 4. เขยี นถา่ ยทอด เขียนถา่ ยทอดความคิด เขยี นถ่ายทอดความคดิ เขยี นถ่ายทอด เขยี นถ่ายทอด ความคดิ ความรสู้ กึ ความรูส้ ึกและทัศนะ ความรสู้ กึ และทัศนะ ความคดิ ความคิด และทศั นะของ ของตนเองจากสารท่ี ของตนเองจากสารที่ ตนเองจากสารที่ อ่าน ฟงั หรอื ดู ด้วย อ่าน ฟังหรอื ดดู ว้ ย ความรสู้ กึ และ ความรสู้ ึกและ ทัศนะของตนเอง ทศั นะขอตนเอง อา่ น ฟงั หรอื ดูดว้ ย ภาษาของตนเอง พร้อม ภาษา ของตนเองพรอ้ ม จากสารท่ีอ่าน ฟัง จากสารที่อา่ น ภาษาของ ตนเอง พร้อมยกตัวอย่าง ยกตวั อย่าง ประกอบ ยกตัวอยา่ งประกอบ แต่ หรอื ดู ด้วยภาษา ฟงั หรอื ดู ประกอบได้ สอดคลอ้ งกับเรือ่ งที่ ไมส่ อดคล้องกบั เรอื่ ง ของตนเอง และไม่ ตามแบบ ถ่ายทอด ทีถ่ ่ายทอด มตี ัวอย่าง ประกอบ เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

183 ตวั ชีว้ ดั ท่ี 2 พดู เจรจาต่อรอง พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดี พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ปรับปรงุ (3) (2) ข้นั ต่า (1) (0) 1. พูดเจรจา พดู เจรจา โน้มนา้ ว พูดเจรจา โน้มน้าว พูดเจรจา โนม้ นา้ ว พูดเจรจา โน้มน้าว โนม้ นา้ ว ตอ่ รอง ตอ่ รองเพื่อใหเ้ กิด ตอ่ รองเพ่ือใหเ้ กิด ตอ่ รองเพ่ือใหเ้ กิด ตอ่ รองเพ่ือให้ผูอ้ ืน่ เพ่ือใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ ตนเอง ประโยชน์ตอ่ ตนเอง ประโยชนต์ ่อตนเอง คล้อยตามหรือ ประโยชน์ตอ่ ตนเอง และสงั คมโดยใช้ และสังคมโดยใช้ โดยใช้ภาษาหรือ ปฏิบัติตามไม่ได้ และสงั คม ภาษาหรือถ้อยคาที่ ภาษาหรอื ถ้อยคาท่ี ถอ้ ยคาทีท่ าให้ผูอ้ ่นื หรอื พดู เจรจา สุภาพถูกต้องทาให้ สภุ าพถกู ต้องทาให้ คล้อยตามหรือปฏบิ ตั ิ ต่อรองดว้ ยภาษาท่ี ผอู้ น่ื คล้อยตามทุก ผูอ้ ื่นคลอ้ ยตามหรอื ตาม ไมส่ ุภาพ สถานการณ์ ปฏิบัตติ ามได้บาง สถานการณ์ 2. พดู เจรจา พูดเจรจา เพ่อื ขจดั พดู เจรจา เพ่ือขจัด พูดเจรจา เพือ่ ขจัด พูดเจรจา เพ่อื ขจดั โน้มน้าวตอ่ รอง และลดปญั หา และลดปัญหาความ และลดปญั หาความ และลดปัญหาความ เพอ่ื ขจัดและลด ความขัดแย้งต่าง ๆ ขดั แย้งต่าง ๆทีม่ ีต่อ ขัดแย้งที่มีต่อตนเอง ขดั แย้งต่าง ๆ ไม่ได้ ปัญหาความขัดแย้ง ที่มตี อ่ ตนเองและ ตนเองและสังคมได้ หรอื สงั คมได้สาเร็จ หรือพดู เจรจา ตา่ ง ๆ ที่มีต่อ สงั คมได้ทกุ ครง้ั โดย บางสถานการณ์ โดยใชภ้ าษาหรือ ต่อรองดว้ ยภาษา ตนเองและสงั คม ใชภ้ าษาหรือ โดยใชภ้ าษาหรือ ถอ้ ยคาทส่ี ภุ าพ ท่ไี มส่ ุภาพ ถอ้ ยคาท่สี ุภาพ ถ้อยคาที่สุภาพ ตัวช้ีวัดท่ี 3 เลือกรบั หรอื ไม่รับขอ้ มลู ขา่ วสาร พฤติกรรมบ่งช้ี ระดบั คณุ ภาพ ดเี ยี่ยม ดี พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ ปรบั ปรุง (0) (3) (2) ขัน้ ต่า (1) รับรขู้ ้อมลู ข่าวสาร 1. รบั รขู้ ้อมลู รบั รู้ข้อมูลข่าวสาร รับรูข้ อ้ มูลข่าวสาร รับรู้ขอ้ มลู ข่าวสาร โดยไม่ใช้ วจิ ารณญาณ ขา่ วสารอยา่ ง โดยใช้วจิ ารณญาณ โดยใช้วจิ ารณญาณ โดยใช้ ไตร่ตรองความ ถกู ต้องและ มวี ิจารณญาณ ไตร่ตรองถึงความ ไตร่ตรองถึงความ วจิ ารณญาณ น่าเช่ือถอื ถูกต้องและ ถูกต้องและ ไตรต่ รองถงึ ตัดสินใจเลือกรบั หรอื ไม่รับขอ้ มูล นา่ เช่อื ถอื โดย น่าเช่ือถือโดย ความถูกตอ้ งและ คานงึ ถงึ ประโยชน์ คานงึ ถึงประโยชน์ น่าเช่ือถือ ตอ่ ตนเองและ ต่อตนเองและสังคม สงั คม และสามารถ แนะนาแหล่งขอ้ มูล ข่าวสารแกผ่ ้อู นื่ ได้ 2. ตดั สนิ ใจเลือกรบั ตัดสนิ ใจเลอื กรบั ตดั สนิ ใจเลอื กรบั ตัดสนิ ใจเลอื กรบั หรือไม่รับข้อมูล หรือไมร่ บั ขอ้ มูล หรอื ไม่รับข้อมูล หรือไม่รบั รู้ขอ้ มลู เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขุนตาลวทิ ยาคม

184 พฤติกรรมบ่งช้ี ระดบั คณุ ภาพ ขา่ วสารได้อย่าง ดีเย่ียม ดี พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ปรบั ปรงุ มีเหตุผล (3) (0) (2) ขนั้ ตา่ (1) ขา่ วสารอยา่ งมี ข่าวสารโดย เหตผุ ลโดย ขา่ วสารอย่างมี ข่าวสารไดอ้ ยา่ งมี ไมม่ ีเหตุผล พจิ ารณาถึง คุณภาพ เหตุผล โดย เหตผุ ล ประโยชน์และ ความเหมาะสม พจิ ารณาถงึ รวมทง้ั แนะนา แหล่งข้อมลู คุณภาพ ประโยชน์ ขา่ วสารท่มี ี คุณภาพใหผ้ ู้อนื่ ใช้ และความเหมาะสม บรกิ ารได้ ตวั ชีว้ ดั ท่ี 4 เลอื กใช้วิธกี ารส่ือสาร พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดับคณุ ภาพ ดเี ยี่ยม ดเี ยี่ยม ดเี ยยี่ ม ดเี ย่ยี ม (3) (3) (3) (3) 1. เลือกใช้วธิ ีการ เลอื กใชว้ ธิ กี าร เลือกใชว้ ธิ กี าร เลือกใช้วธิ กี ารสือ่ สาร ไมส่ ามารถเลือกใช้ ส่ือสารท่มี ี สอื่ สารท่ี ส่อื สารที่เหมาะสม ท่ีเหมาะสม กับ วธิ กี ารส่อื สารให้ ประสิทธิภาพ เหมาะสมกบั กับลักษณะของ ลักษณะของข้อมูล เหมาะสมกับ โดยคานึงถึง ลักษณะของข้อมูล ขอ้ มลู ขา่ วสาร โดย ขา่ วสาร ลักษณะของข้อมูล ผลกระทบ ข่าวสาร โดย คานงึ ถึง ขา่ วสาร ทมี่ ีตอ่ ตนเองและ คานึงถงึ คุณภาพ ความสาเร็จ สงั คม และความสาเร็จ ของการสอ่ื สารที่มี ของการสือ่ สารที่มี ตอ่ ตนเองสงั คม ต่อตนเองสงั คม และประเทศชาติ และประเทศชาติ เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นขุนตาลวิทยาคม

185 เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสาคญั ความสามารถในการคดิ ตัวชีว้ ดั ท่ี 1 คดิ พนื้ ฐาน (การคดิ วเิ คราะห์) ระดับคณุ ภาพ ปรับปรุง (0) พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดี พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ (2) ข้นั ต่า (1) มีพฤติกรรมบ่งชี้ ดเี ยยี่ ม พฤติกรรมใด (3) พฤติกรรมหนึ่ง หรือไม่ปรากฏ 1. จาแนก จดั มีพฤติกรรมบ่งชี้ มีพฤติกรรมบ่งชี้ 3 มีพฤติกรรมบง่ ช้ี 2 พฤติกรรม หมวดหมู่จัดลาดับ ใดเลย ความสาคญั และ ดงั นี้ พฤติกรรมในบริบท พฤติกรรม ใน เปรียบเทียบข้อมลู ระบหุ ลักการหรือ ในบริบทต่าง ๆ 1. จาแนกขอ้ มูลได้ ต่างๆได้อย่าง บริบทต่างๆ ได้ แนวคิดท่ีมีอย่ใู น เนอ้ื หาความรหู้ รือ 2. เช่ือมโยงความ 2. จัดหมวดหมู่ เหมาะสมสอดคล้อง อย่างเหมาะสม ขอ้ มลู ต่าง ๆ ทพี่ บ สมั พนั ธ์ ของ เห็นในบรบิ ทตา่ งๆ สว่ นประกอบของ ข้อมลู ได้ กับความ สอดคล้องกับความ ได้ถูกต้องเปน็ ขอ้ มูลในบริบท บางสว่ นและไม่ ตา่ ง ๆ 3. จัดลาดับ เป็นจริง เป็นจรงิ ครบถ้วน ระบุหลักการสาคัญ 3. ระบุหลักการ ความสาคัญของ หรอื แนวคิดใน สาคญั หรือแนวคิด เน้อื หาความรู้หรือ ในเนื้อหาความรู้ ข้อมูลได้ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ ทพ่ี บ ข้อมูลที่พบเห็นใน เห็นในบรบิ ทตา่ งๆ บรบิ ทต่าง ๆ 4. เปรยี บเทยี บ ไมถ่ ูกต้อง ขอ้ มลู ไดใ้ นบรบิ ท ตา่ งๆ อย่าง เหมาะสม สอดคล้องกับความ เป็นจริง ระบคุ วามสัมพันธ์ ระบคุ วามสมั พนั ธ์ ระบุความสัมพนั ธ์ ของส่วนประกอบ ของสว่ นประกอบ ของสว่ นประกอบ ต่างๆ ของข้อมูล ตา่ งๆ ของข้อมลู และ ต่างๆ ของข้อมลู ได้ และสามารถ สามารถเชื่อมโยงกับ ถกู ต้อง แตไ่ ม่ เช่อื มโยงกบั เหตกุ ารณ์ท่ีพบเหน็ สามารถเช่ือมโยง เหตุการณท์ ่ีพบเหน็ ในบรบิ ท กับ เหตกุ ารณ์ท่ีพบ ในในบริบทต่างๆได้ ตา่ งๆ ได้ เหน็ อยา่ งสมเหตุสมผล ในบริบทต่างๆ ได้ ระบุหลกั การสาคญั ระบุหลกั การสาคญั ระบหุ ลักการหรือ หรือแนวคิดใน หรอื แนวคดิ ทีม่ ีอยใู่ น เนอ้ื หาความร้หู รือ แนวคิดในเนอื้ หา เนอื้ หาความร้หู รือ ข้อมูลต่าง ๆท่ีพบ ความรูห้ รอื ข้อมลู ตา่ ง ขอ้ มูลต่าง ๆ ท่พี บ เหน็ ในบรบิ ทต่างๆ ๆ ท่พี บเห็นในบริบท เหน็ ในบรบิ ทตา่ งๆ ได้อย่างถกู ตอ้ งและ ต่างๆ ได้ถกู ต้องแต่ไม่ ได้ถูกตอ้ งเปน็ ครบถว้ น ครบถ้วน บางส่วนและไม่ ครบถว้ น เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

186 ตวั ช้ีวัดที่ 2 คดิ ขั้นสงู (การคดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ คดิ อย่างมีวิจารณญาณ) พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดบั คุณภาพ ดเี ยย่ี ม ดี พอใช้/ผา่ น ปรับปรุง (3) (2) เกณฑ์ขั้นตา่ (1) (0) 1. คิดสงั เคราะห์ รวบรวม จัดกระทา รวบรวม จดั กระทา รวบรวม จดั รวบรวม เพื่อประกอบการ ประมวลผลขอ้ มลู ประมวลผลข้อมูล กระทา จัดกระทา วางแผนออกแบบ วางแผน ออกแบบ วางแผนออกแบบ ประมวลผลข้อมูล ประมวลผล ขอ้ มูล ปรับปรุงคาดการณ์ ปรับปรงุ คาดการณ์ ปรับปรงุ คาดการณ์ วางแผน วางแผน ประเมนิ ผล ขอ้ สรปุ และประเมินลง และประเมนิ ผล ออกแบบปรบั ปรุง ออกแบบ ปรับปรุง และตรวจสอบ ข้อสรปุ ได้ถกู ต้อง ขอ้ สรุปได้ถูกต้อง คาดการณ์ และ คาดการณ์ และ ความเหมาะสมของ ตลอดจนนาผลทไี่ ด้ ตลอดจนนาผล ประเมนิ ลง ประเมนิ ลง ข้อมูลที่พบเหน็ ใน ไปสรา้ งผลงานทีม่ ี ทไ่ี ด้ไปสรา้ งผลงานได้ ขอ้ สรุปได้ถกู ต้อง ขอ้ สรปุ ไมไ่ ด้ บริบทตา่ งๆ คุณภาพ ตัวชว้ี ดั ท่ี 2 คดิ ข้ันสงู (การคดิ สังเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ คดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ) (ต่อ) พฤติกรรมบ่งช้ี ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม ดี พอใช้/ผ่าน ปรบั ปรงุ (3) (2) เกณฑข์ น้ั ต่า (1) (0) 2. คดิ อย่าง คดิ คล่อง คิด คดิ คล่อง คิด คิดคลอ่ ง คดิ คดิ คลอ่ ง คิด สรา้ งสรรค์ เพอื่ นา หลากหลาย หลากหลาย หลากหลายคิดใน หลากหลาย ไปส่กู ารประยกุ ต์ คิดริเรม่ิ แปลกใหม่ คิดรเิ ริม่ แปลกใหม่ ทางบวกและ คดิ ในทางบวกและ สร้างสงิ่ ใหม่ใน คิดในทางบวกและ คดิ ในทางบวก และ ประยกุ ตส์ ร้างสงิ่ ประยุกต์ ทางบวกเก่ียวกบั ประยุกต์สรา้ งสง่ิ ใหม่ ประยกุ ต์สร้างสิง่ ใหม่ ใหม่ได้ สร้างในสง่ิ ใหมไ่ มไ่ ด้ ตนเองและสังคมได้ เกยี่ วกบั ตนเองและ เกย่ี วกับตนเองหรือ อย่างเหมาะสม สังคม สังคม 3. คดิ อย่างมี คิดแบบองค์รวม รอบ คิดแบบองคร์ วม รอบ คดิ แบบองค์รวม คิดแบบองค์รวม วจิ ารญาณเพื่อ ด้านมเี หตผุ ลเชงิ ด้านมีเหตผุ ลเชงิ รอบดา้ นมเี หตผุ ล รอบด้านหรือ มี ตัดสินใจเลอื กทาง ตรรกะตัดสินใจเลือก ตรรกะ และตดั สินใจ เชงิ ตรรกะและ เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ เลือกท่ีหลากหลาย ทางเลือกท่ี เลอื กทางเลอื กโดยใช้ ตัดสินใจเลือก และตดั สินใจเลอื ก โดยใชเ้ กณฑท์ ี่ หลากหลายโดยใช้ เกณฑ์ท่ีเหมาะสม ทางเลอื กโดยใช้ ทางเลอื กโดยใช้ เหมาะสม เกณฑ์ทเ่ี หมาะสม เก่ียว เกณฑ์ทีเ่ หมาะสม เกณฑ์ที่เหมาะสม เก่ียวกบั ตนเองและ กบั ตนเองหรือสงั คม ได้ ไมไ่ ด้ สงั คม เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นขนุ ตาลวทิ ยาคม

187 เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะสาคัญดา้ นความสามารถในการแก้ปัญหา ตวั ชว้ี ัดท่ี 1 ใชก้ ระบวนการแกป้ ญั หาโดยวเิ คราะห์ปญั หา วางแผนในการแก้ปญั หา ดาเนนิ การ แกป้ ญั หา ตรวจสอบและสรุปผล พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คุณภาพ ดเี ยย่ี ม ดี พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ปรับปรุง (3) (2) ขั้นต่า (1) (0) 1. การวิเคราะห์ ระบปุ ญั หาตา่ ง ๆ ท่ี ระบุปญั หาต่าง ๆ ท่ี ระบปุ ัญหาต่าง ๆ ท่ี ระบปุ ญั หาตา่ ง ๆ ที่ ปัญหา เกดิ ข้ึนกับตนเองที่ เกิดขนึ้ กับตนเองท่ี เกดิ ขนึ้ กับตนเองท่ี เกดิ ข้นึ กบั ตนเองท่ี 1.1 ระบปุ ัญหาท่ี ตรงกบั สภาพปัญหา ตรงกบั สภาพปญั หา ตรงกบั สภาพปัญหา ตรงตามสภาพปัญหา เกดิ ข้ึนกับตนเอง ไดม้ ากกวา่ 3 ได้ 3 ปญั หา ได้ 2 ปญั หา ได้ 1 ปัญหา ปัญหา 1.2 ระบุปญั หาที่ ระบุปญั หาต่าง ๆ ท่ี ระบุปัญหาต่าง ๆ ที่ ระบปุ ัญหาตา่ ง ๆ ท่ี ระบุปญั หาตา่ ง ๆ ที่ เกดิ ข้นึ กับบคุ คล เกดิ ข้นึ กบั บุคคล เกิดขน้ึ กับบคุ คล เกิดขึ้นกับบคุ คล เกิดข้ึนกบั บุคคลใกล้ ใกล้ตวั ใกลต้ ัว ท่ีตรงกับ ใกล้ตวั ท่ตี รงกบั ใกล้ตัว ท่ีตรงกบั ตวั ท่ีตรงตามสภาพ สภาพปญั หาได้ สภาพปญั หา ได้ 3 สภาพปญั หา ได้ 2 ปญั หาได้ 1 ปัญหา มากกว่า 3 ปญั หา ปญั หา ปัญหา 1.3 ระบุสาเหตขุ อง ระบสุ าเหตขุ อง ระบุสาเหตุของ ระบุสาเหตขุ อง ระบสุ าเหตุของ ปัญหา ปัญหาตา่ ง ๆ ท่ี ปัญหาต่าง ๆท่ี ปัญหาตา่ ง ๆท่ี ปญั หาตา่ งๆ ท่เี กดิ ข้นึ เกิดข้ึนไดส้ อดคล้อง เกดิ ขนึ้ ได้สอดคล้อง เกิดขึ้นไดส้ อดคลอ้ ง ได้ 1 สาเหตุหรอื ระบุ กับปญั หามากกว่า กบั ปญั หา 3 กับปัญหา 2 สาเหตุ สาเหตไุ ด้แต่ไม่ 3 สาเหตุ สาเหตุ สอดคลอ้ งกบั ปัญหา 1.4 จดั ระบบข้อมลู จาแนกและจัด จาแนกและจัด จาแนกและจัด จาแนกและจัด 1.4.1 จาแนก หมวดหมู่สาเหตุ หมวดหมู่ หมวดหมู่ หมวดหมู่ สาเหตุ และจดั หมวดหมู่ ของปัญหาได้ สาเหตขุ องปัญหา สาเหตขุ องปัญหา ของปญั หาไม่ได้ ถูกต้องทุกสาเหตุ ได้ถูกตอ้ ง 2 ใน 3 ไดถ้ ูกตอ้ ง 1 ใน 3 หรอื ไม่มกี ารจดั สาเหตุ สาเหตุ หมวดหมู่ 1.4.2 จดั ลาดับ มกี ารจดั ลาดบั มีการจดั ลาดับ มกี ารจดั ลาดับ ไม่มีการจดั ลาดบั ความสาคัญ ความสาคัญของ ความ สาคญั ของ ความสาคัญของ ความสาคญั ของ สาเหตขุ องปัญหา สาเหตขุ องปัญหา สาเหตุของปัญหา สาเหตขุ องปัญหา ได้อยา่ ง ไดอ้ ย่างสมเหตุ ไดอ้ ย่าง หรอื จดั ได้ไม่ สมเหตุสมผลทกุ สมผล 2 ใน 3 สมเหตสุ มผล 1 ใน สมเหตุสมผล สาเหตุ สาเหตุ 3 สาเหตุ 1.4.3 เชอ่ื มโยง แสดงการเชอ่ื มโยง แสดงการเช่อื มโยง แสดงการเช่ือมโยง ไม่มีการแสดงการ ความสมั พันธ์ ความสมั พนั ธ์ ความสัมพันธ์ ความสมั พนั ธ์ เชอ่ื มโยง ระหว่างสาเหตุของ ระหวา่ งสาเหตุของ ระหว่างสาเหตขุ อง ความสมั พันธร์ ะหว่าง ปญั หาและผลท่จี ะ ปัญหาและผลท่จี ะ ปญั หาและผลทีจ่ ะ สาเหตุ ของปัญหา เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

188 พฤติกรรมบ่งช้ี ระดบั คณุ ภาพ 1.5 ต้ังสมมตุ ฐิ าน ดเี ยย่ี ม ดี พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ ปรับปรงุ 1.6 กาหนด (3) (2) ขน้ั ต่า (1) (0) ทางเลอื ก เกิดขนึ้ ไดโ้ ดยมี เกดิ ขึ้นไดโ้ ดยมี เกดิ ขนึ้ ไดโ้ ดยมี และผลท่ีจะเกิดข้นึ 1.7 ตดั สนิ ใจ เลอื กวธิ ีการ ขอ้ มลู สนบั สนนุ ขอ้ มลู สนบั สนนุ ข้อมูลสนบั สนนุ 2. การวางแผนใน อย่างสมเหตสุ มผล อย่างสมเหตสุ มผล อยา่ งสมเหตสุ มผล การแก้ปัญหา 2.1 วางแผน ทุกสาเหตุ 2 ใน 3 สาเหตุ 1 ใน 3 สาเหตุ บอกแนวโนม้ ของ บอกแนวโน้มของ บอกแนวโนม้ ของ บอกแนวโนม้ ของ สถานการณ์ที่จะ สถานการณ์ทีจ่ ะ สถานการณ์ สถานการณ์ทจี่ ะ เกดิ ขึ้นไดม้ ากว่า 3 เกิดขนึ้ ได้ 3 ท่จี ะเกิดขนึ้ ได้ 2 เกิดขึ้นได้ 1 สถานการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์ หรือบอกไม่ได้ กาหนดทางเลือกใน กาหนดทางเลือกใน กาหนดทางเลือกใน กาหนดทางเลือกใน การแกป้ ัญหาทมี่ ี การแก้ปัญหาทมี่ ี การแกป้ ัญหาท่มี ี การแกป้ ัญหา มี ความเปน็ ไปได้ ความเป็นไปได้ 3 ความเป็นไปได้ 2 ความเปน็ ไปได้ 1 วิธี มากกว่า 3 วิธี วิธี วิธี หรือกาหนดทางเลอื ก ท่เี ปน็ ไปไมไ่ ด้ ตัดสนิ ใจเลือก ตดั สินใจเลอื ก ตัดสนิ ใจเลือก ตดั สนิ ใจเลอื กวธิ ีการ วิธกี ารแกป้ ญั หา วิธกี ารแกป้ ัญหา วิธกี ารแกป้ ัญหา แก้ปญั หาโดยไม่ โดยพจิ ารณาข้อดี โดยพิจารณาข้อดี โดยพจิ ารณาข้อดี พิจารณาข้อดีและ และข้อจากดั ซึ่งไม่ และข้อจากดั และข้อจากดั ข้อจากัดทาใหเ้ กิดผล เกดิ ผลกระทบ และมีผลกระทบ และมผี ลกระทบใน กระทบในทางลบแก่ ในทางลบ ในทางลบแก่ตนเอง ทางลบแกต่ นเอง ตนเองและผอู้ ่ืน แก่ตนเองและผู้อืน่ และ ผอู้ ืน่ ไมเ่ กิน1 และผู้อ่ืน 2 มากกว่า 2 ประเด็น ประเดน็ ประเด็น มีการวางแผนงาน มกี ารวางแผนงาน มกี ารวางแผนงาน ไมม่ ีการวางแผนและ และออกแบบ และออกแบบวิธีกา และออกแบบ ออกแบบวิธีการ วิธกี ารแก้ปญั หาท่ีมี แก้ปัญหาโดยใช้ วธิ ีการแก้ปัญหา แกป้ ญั หา ความเปน็ ไปได้ ข้อมลู และ โดยใชข้ ้อมูลและ อยา่ งสมเหตสุ มผล รายละเอียด รายละเอียด โดยใช้ขอ้ มลู และ ประกอบ การ ประกอบการ รายละเอยี ด วางแผนมขี ้ันตอน วางแผน มีข้ันตอน ประกอบการ ของแผนงานอย่าง ของแผนงานชดั เจน วางแผนมีขัน้ ตอน ชัดเจน และมีข้อมูล ของแผนงาน เพยี งพอ อยา่ งชัดเจน และมี ขอ้ มูลเพียงพอ เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นขุนตาลวทิ ยาคม

189 พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม ดี พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ ปรับปรงุ (3) (2) ข้ันตา่ (1) (0) 2.2 กาหนดขัน้ ตอน มกี ารกาหนด มีการกาหนด มีการกาหนด ไม่มีการกาหนด ขัน้ ตอนอย่างเปน็ ขั้นตอนการ ขัน้ ตอนการ ข้นั ตอนการ ลาดบั ชัดเจนในการ ดาเนนิ งานตาม ดาเนินงานตาม ดาเนินงานตาม ดาเนินงานตาม ทางเลอื กแต่มีความ ทางเลอื กมคี วาม ทางเลือก ทางเลือก ท่กี าหนด สบั สนบางข้ันตอน สบั สนเกอื บทุก ไว้ ขน้ั ตอน 3. การดาเนินการ ปฏิบตั ิตามแผนการ ปฏิบตั ิตามแผนการ ปฏบิ ัติตามแผนการ ไม่มีการปฏบิ ัตติ าม แก้ปญั หา แกป้ ัญหาท่ีกาหนด แก้ปัญหาที่กาหนด แก้ปญั หาท่ีกาหนด แผนการแกป้ ัญหาที่ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามแผน ไว้ทกุ ขัน้ ตอนมี ไว้ 2 ใน3 ของ ไว้ 1 ใน 3 ของ วางไว้ ข้อมูลสนับสนนุ ข้ันตอนและมี ข้ันตอนและมีขอ้ มูล ครบถว้ นสมบูรณ์ ขอ้ มูลสนบั สนนุ สนบั สนุนสมบูรณ์ สมบรู ณ์ 3.2 ตรวจสอบ มกี ารตรวจสอบ มกี ารตรวจสอบ มกี ารตรวจสอบ ไมม่ ีการตรวจสอบ ทบทวนแผน ทบทวนแผนและมี ทบทวน ทบทวนแผนแต่ไมม่ ี ทบทวน การปรบั ปรงุ แกไ้ ข แผน และมีการ การแก้ไข ขอ้ บกพร่อง แก้ไขข้อบกพรอ่ ง ข้อบกพร่อง ครบถว้ นสมบูรณ์ แต่ไมส่ มบรู ณ์ 3.3 บนั ทกึ ผลการ บนั ทึกผลการ บนั ทึกผลการ มกี ารบันทึกผลการ ไมม่ ีการบันทึกผลการ ปฏบิ ัติ ปฏิบัติงานทุก ปฏบิ ัตงิ านทกุ ปฏบิ ัติงานไม่ครบ ปฏิบตั ิงาน ขนั้ ตอนและมีความ ขั้นตอน แต่ไม่ค่อย ทุกข้นั ตอน ชดั เจน ชัดเจน 4. สรปุ ผลและ มีการสรปุ ผลและ มกี ารสรปุ ผลและ มีการสรปุ ผลและ ไมม่ ีการสรุปและ รายงาน จดั ทารายงานอย่าง จดั ทารายงานอย่าง จัดทารายงาน แต่ จัดทารายงานผล ถกู ต้อง สมบรู ณ์ ถูกต้องสมบรู ณ์ ไมแ่ สดงถึงการนา ชดั เจน มหี ลกั ฐาน ชดั เจน มีหลกั ฐาน ข้อคน้ พบท่ีได้ไป อา้ งอิงอย่าง อา้ งอิงและแสดงถึง ประยกุ ต์ใช้ สมเหตสุ มผลและ การนาข้อคน้ พบที่ ในสถานการณอ์ น่ื แสดงถึงการนาข้อ ได้ไปประยุกต์ คน้ พบที่ได้ไป ใช้ในสถานการณ์ ประยกุ ต์ใช้ใน อ่ืน สถานการณ์อื่น เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นขุนตาลวทิ ยาคม

190 ตัวช้ีวดั ท่ี 2 ผลลัพธ์ของการแกป้ ัญหา ระดับคุณภาพ ปรับปรุง (0) พฤติกรรมบ่งช้ี ดี (2) พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ดีเยีย่ ม (3) ขนั้ ตา่ (1) ผลลพั ธ์ของการ ผลงาน/ชิน้ งานท่ี ผลงาน/ชน้ิ งานที่เกดิ ผลงาน/ชนิ้ งานทเ่ี กิด ผลงาน/ชิ้นงานที่ แกป้ ญั หา เกิดจาก จากการแกป้ ญั หา มี จากการแก้ปัญหามี เกดิ จากการ 1 คุณภาพของ การแกป้ ัญหามี ความถูกต้องตาม ความถูกต้องตาม แก้ปัญหาไม่ ผลงานทเ่ี กดิ ความ หลกั การเหตุผล แต่ หลักการ เหตุผล แต่ ถูกต้องตาม จากการแก้ปญั หา ถูกต้อง ตาม ไมไ่ ดเ้ กิดจากการ การแกป้ ัญหาไม่ หลกั การ เหตุผล หลักการ เหตุผล ดาเนนิ งานตาม เป็นไปตามข้นั ตอนที่ และไมไ่ ด้เกิดจาก 2 ประยกุ ต์ใช้ และเกิดจากการ ขัน้ ตอนท่ีกาหนดไว้ กาหนด การดาเนนิ งาน ดาเนินงานตาม ท้ังหมด ตามขั้นตอนท่ี 3 ผลกระทบเชงิ ขน้ั ตอน ท่กี าหนด นาขอ้ คน้ พบจาก กาหนด สรา้ งสรรค์ อย่างชดั เจน นาข้อค้นพบจาก ผลงาน/ช้นิ งานไป ผลงาน/ชน้ิ งานไป ประยุกต์ใชใ้ นการ ไม่มีการนาข้อ นาขอ้ คน้ พบจาก ประยกุ ตใ์ ชใ้ นการ ป้องกันและแกป้ ัญหา คน้ พบจาก ผลงาน/ ป้องกนั และ ในสถานการณ์อนื่ ผลงาน/ชิน้ งานไป ชิน้ งานไป แก้ปญั หาใน ประยกุ ต์ใชใ้ นการ ประยกุ ต์ใชใ้ น สถานการณ์อ่ืนๆ ได้ ผลจากการนาข้อ ป้องกันแล การป้องกนั และ อย่างสมเหตสุ มผล คน้ พบไปใชเ้ กิด แกป้ ญั หาใน แกป้ ญั หาใน ประโยชนต์ อ่ ตนเอง สถานการณ์อืน่ สถานการณ์อืน่ ๆได้ ผลจากการนาข้อ หรอื ผอู้ ่ืนอย่าง อยา่ งสอดคล้อง ค้นพบไปใชเ้ กดิ สรา้ งสรรค์ โดยออ้ ม ผลจากการนาข้อ ตามหลักเหตผุ ล ประโยชน์ ตอ่ ตนเอง คน้ พบไปใชไ้ ม่เกดิ และคณุ ธรรม หรือผู้อน่ื อย่าง ประโยชน์ตอ่ สร้างสรรค์โดยตรง ตนเองหรอื ผู้อ่ืน ผลจากการนาข้อ ค้นพบไปใช้เกดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง และผู้อ่นื อย่าง สรา้ งสรรค์ท้งั ทางตรง และ ทางอ้อม เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นขนุ ตาลวิทยาคม

191 เกณฑก์ ารประเมนิ สมรรถนะดา้ นความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ตวั ชว้ี ดั ที่ 1 นากระบวนการทหี่ ลากหลายไปใช้ในการดาเนินชีวติ ประจาวนั พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คุณภาพ ดเี ยย่ี ม ดี พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ปรบั ปรุง (3) (2) ขน้ั ตา่ (1) (0) 1. นาความรู้ ทักษะ ผลงาน/โครงงาน ผลงาน/โครงงาน ผลงาน/โครงงาน ผลงาน/โครงงาน และกระบวนการที่ สามารถนาไปใชใ้ น สามารถนาไปใชใ้ น สามารถนาไปใชใ้ น ทส่ี ะท้อนถึงการ หลากหลาย การดาเนนิ การดาเนนิ การดาเนนิ นาความรู้ มาสรา้ งผลงาน/ ชวี ติ ประจาวันและ ชวี ติ ประจาวนั และ ชีวิตประจาวันและ หลักการ โครงงานท่ี สะท้อนถงึ การนา สะท้อนถึงการนา สะทอ้ นถึงการนา และกระบวนการ เปน็ ระบบ มี ความรู้ทกั ษะ และ ความรู้ ทกั ษะ และ ความรู้ทกั ษะ และ เพียงหลกั การใด ขน้ั ตอนชัดเจนและ กระบวนการท่ี กระบวนการที่ กระบวนการที่ หลกั การหน่งึ และ มีประสิทธภิ าพ หลากหลายทีไ่ ด้รับ หลากหลาย หลากหลาย อย่างมี ไมส่ ามารถ ไปใช้ในการดาเนิน จากการเรียนรูแ้ ละ โดยใช้ทกั ษะ เทคนิค ขน้ั ตอนชัดเจนแต่ นาไปใชแ้ กป้ ัญหา ชวี ิตประจาวนั ได้ ศึกษาหาความรู้ และประยุกต์ใชอ้ ย่าง ไมม่ ปี ระสิทธิภาพ ในการดาเนิน อยา่ งเหมาะสม เพ่มิ เติม โดยใช้ทกั ษะ มขี ้ันตอนชัดเจนและ ชีวติ ประจาวันได้ เทคนคิ และ มีประสิทธิภาพ ประยุกตใ์ ช้อยา่ งมี ขน้ั ตอนชัดเจนและมี ประสทิ ธิภาพ ตวั ช้ีวดั ที่ 2 เรียนร้ดู ว้ ยตนเองและเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนื่อง พฤติกรรมบ่งช้ี ระดบั คณุ ภาพ ดีเยย่ี ม ดีเย่ียม ดเี ย่ยี ม ดเี ยยี่ ม (3) (3) (3) (3) 1. มีทักษะในการ สืบค้นความรู้ ขอ้ มลู สืบค้นความรู้ ข้อมลู สบื คน้ ความรู้ คัดลอก ขอ้ มลู แสวงหา ความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร ขา่ วสาร จากแหลง่ ขา่ วสารจากแหลง่ ขอ้ มลู ขา่ วสารจาก ข่าวสารผอู้ ืน่ โดย 2. สามารถ เรียนรตู้ ่างๆได้ถูกต้อง ตา่ ง ๆ ได้ถูกต้อง แหลง่ ตา่ ง ๆ ได้ ไมม่ ีการสืบคน้ เช่อื มโยงความรู้ รวดเร็วกวา่ เวลาท่ี ภายในเวลาที่กาหนด ถกู ต้อง ช้ากวา่ เวลา กาหนดและนาไปใช้ และนาไปใช้ ทีก่ าหนด ประโยชน์ได้อยา่ ง ประโยชน์ได้อย่าง เหมาะสม เหมาะสม นาความรู้ ขอ้ มูล นาความรู้ ข้อมลู นาความรู้ ข้อมูล นาความรู้ ขอ้ มลู ข่าวสารทไี่ ดจ้ ากการ ขา่ วสารทไ่ี ดจ้ ากการ ขา่ วสาร ทไ่ี ดจ้ าก ขา่ วสารทไ่ี ด้จาก สืบค้น เรยี บเรียงเป็น สืบคน้ เรยี บเรียงเปน็ การสืบค้น เรียบ การสืบคน้ มา เอกสารประกอบหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม

192 พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คุณภาพ ดีเยี่ยม ดีเยี่ยม ดเี ยีย่ ม ดเี ย่ียม (3) (3) (3) (3) เน้อื หาใหม่ทเี่ สนอ เนือ้ หาใหม่ท่เี สนอ เรยี งเปน็ เน้ือหาใหม่ เรยี บเรยี งเปน็ แกน่ สาระสาคัญใน สาระสาคญั ใน ได้ เนื้อหาใหม่ไม่ได้ ประเดน็ ทเี่ หมือนกนั ประเดน็ ทีเ่ หมือนกนั และตา่ งกัน โดย และตา่ งกนั ได้ เช่ือมโยงหลักการ ทฤษฎีได้อยา่ ง สอดคลอ้ งน่าเชื่อถือ ตวั ชว้ี ดั ท่ี 2 เรยี นร้ดู ว้ ยตนเองและเรยี นรู้อย่างตอ่ เน่อื ง (ต่อ) พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม (3) ดี (2) พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ปรบั ปรงุ (0) ขั้นตา่ (1) 3. มกี ารเรยี นรู้ มวี ิธกี ารศกึ ษาความรู้ มวี ิธกี ารศกึ ษาหา มีวิธีการศกึ ษาหา มวี ิธกี ารศึกษาหา อยา่ งต่อเน่ือง เพ่มิ เติมอยา่ ง ความรู้เพ่มิ เติมอย่าง ความรเู้ พิม่ เตมิ เพอ่ื ความรเู้ พิม่ เตมิ แต่ หลากหลายเพ่อื ขยาย หลากหลายเพื่อขยาย ขยายประสบการณ์ ไมส่ ามารถขยาย ประสบการณ์ไปสู่ ประสบการณ์ไปสู่ ไปสู่การเรียนรสู้ ่ิง ประสบการณ์ไปสู่ การเรยี นรสู้ ง่ิ ใหม่ ๆ การ ใหม่และสรา้ งองค์ ความรู้ใหม่ได้ และสรา้ งองค์ความรู้ เรียนร้สู ิง่ ใหมๆ่ และ ความร้ตู ามความ ตามความสนใจได้ สร้างองค์ความรตู้ าม สนใจ อยา่ งต่อเนือ่ ง ความสนใจ ตัวชีว้ ดั ที่ 3 ทางานและอยรู่ ่วมกันในสงั คมอยา่ งมีความสุข พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ ดีเยย่ี ม (3) ดี (2) พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ปรบั ปรงุ (0) ข้นั ตา่ (1) 1. ทางานรว่ มกบั แสดงความคดิ เห็นของ แสดงความคิดเห็น แสดงความคิดเห็น ปฏิบัติงานของ ตนเองรับฟังความ ของตนเองรับฟัง ของตน รบั ฟังความ ตนเองได้แต่ไมร่ ับ ผอู้ ่นื อยา่ ง สร้างสรรค์ สามารถ คดิ เหน็ ของผอู้ ืน่ โดย ความคิดเห็นของผู้อืน่ คดิ เห็นของผอู้ ่ืน ฟังความคดิ เห็น แสดงความคิดเห็น สนบั สนนุ หรือคัดคา้ น โดยสนับสนนุ หรือ ตามทตี่ นไดร้ บั ของผู้อ่นื ความคิดเหน็ น้ันด้วย ของตนยอมรับฟัง กริ ิยาวาจาท่สี ุภาพ ให้ คัดคา้ นความคดิ เห็น มอบหมายจาก ความคิดเห็นของ เกยี รติผอู้ ื่นแล นัน้ ด้วยกิริยาวาจาที่ กลมุ่ จนสาเร็จ ผอู้ นื่ ปฏบิ ัติงานทต่ี น สภุ าพ ให้เกยี รติผอู้ น่ื และปฏบิ ตั งิ านท่ตี น เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นขนุ ตาลวิทยาคม

193 พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ ดีเยี่ยม (3) ดี (2) พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ปรบั ปรงุ (0) ขน้ั ต่า (1) 2. ใชภ้ าษา กิริยา รับผิดชอบจนสาเร็จ รบั ผิดชอบจนสาเร็จ มีกิรยิ า วาจา มกี ริ ิยา วาจา ทา่ ทางเหมาะสมกับ เปน็ ท่ีพึงพอใจของกล่มุ ท่าทางหรือแต่งกาย ท่าทางหรือแตง่ บุคคลและโอกาส ไมเ่ หมาะสมเมื่ออยู่ กายไม่เหมาะสม ตามมารยาทสังคม มกี ริ ยิ า วาจา ท่าทาง มกี ริ ยิ า วาจา ทา่ ทาง ต่อหน้าชุมชน ใน ในทกุ โอกาส 3. มีจติ สานึก และแตง่ กายสภุ าพ และแต่งกายสภุ าพ บางคร้งั ไม่ปฏิบัตติ ามกฎ รบั ผดิ ชอบ เหมาะสมกบั บคุ คล เหมาะสมเม่ืออยตู่ ่อ ปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ าของสังคม ปฏบิ ตั ิตามกฎ สถานท่ี ในทุกโอกาส หน้าชมุ ชน กติกาของ หรอื ละเลยใน กตกิ า สทิ ธแิ ละ สงั คมสามารถระบุ สทิ ธแิ ละหน้าท่ี หนา้ ที่ ปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา ปฏิบัติตามกฎ กติกา สทิ ธิและหน้าท่ไี ด้ แต่ละเลยการ ไมป่ รากฏ 4. แสดงออกถงึ ของสังคม สามารถ ของสังคม สามารถ ปฏิบัติเป็นบางครง้ั พฤตกิ รรมท่ี ความรักเอื้ออาทร แสดงออกถึงความ ระบหุ น้าที่ในความ ระบุหน้าท่ีในความ มพี ฤตกิ รรมท่ี รกั เอ้อื อาทร 5. อย่รู ่วมกับผู้อ่นื แสดงออกถงึ ความ ในสงั คมได้อย่างมี รับผิดชอบของตน รบั ผิดชอบของตน รัก เอือ้ อาทร 1 ปลีกตัวออกจาก ความสขุ รายการ กล่มุ หรอื สงั คม และปฏบิ ตั ติ ามสทิ ธิ และปฏบิ ัตติ ามสิทธิ และพอใจกบั การ มีท่าทีเป็นกังวลเมอื่ ทางานคนเดียว และหนา้ ท่ที ส่ี ง่ ผลให้ และหนา้ ท่ีที่ส่งผลให้ ต้องเข้ากลุ่ม หรอื สังคมใหม่ เกิดผลดีตอ่ ตนเอง เกิดผลดีตอ่ ตนเองได้ และสว่ นรวม มพี ฤตกิ รรมที่ มีพฤติกรรมท่ี แสดงออกถึงความรัก แสดงออกถงึ ความรัก เอือ้ อาทร ทกุ รายการ เอ้อื อาทร 2 รายการ 1. ปฏิบตั ิตามที่ผู้อื่น รอ้ งขอด้วยความเตม็ ใจโดยไม่ทาให้ตนเอง หรอื ผู้อนื่ เดือดร้อน 2. ไม่ละเลยหรือ เพกิ เฉยต่อการให้ ความช่วยเหลอื 3. มีความยินดแี ละชนื่ ชมในความสาเร็จของ ตนเองและผูอ้ น่ื พึงพอใจในการรว่ ม รว่ มกจิ กรรมของกล่มุ กิจกรรมโดยปฏิบัตติ น โดยปฏบิ ัตติ นตาม ตามบทบาทและ บทบาทและหน้าที่ใน หน้าทใ่ี นฐานะสมาชิก ฐานะสมาชกิ ทีด่ ีของ ทดี่ ขี องกลมุ่ หรอื สงั คม กลุม่ หรอื สงั คม เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

194 ตวั ชว้ี ัดท่ี 4 จดั การกบั ปญั หาและความขดั แย้งในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้อย่างเหมาะสม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคณุ ภาพ ดีเย่ียม (3) ดี (2) พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ ปรบั ปรุง (0) ข้นั ตา่ (1) รบั รู้ปัญหา/ความ ขดั แยง้ ท่ีกาลงั 1. วิเคราะห์ มีวฒุ ภิ าวะทาง มีวฒุ ภิ าวะทาง ควบคุมตนเองให้ ประสบ แต่ไม่ สถานการณ์ สามารถแก้ไข ปญั หาและมีการ อารมณ์ในการ อารมณ์ในการ รับรู้ปัญหา/ความ ปญั หาได้ จดั การได้ เหมาะสม ควบคมุ ตนเองใหร้ บั รู้ ควบคุมตนเองใหร้ บั รู้ ขดั แยง้ ท่ีกาลัง ปญั หา/ความขัดแยง้ ปัญหา/ความขัดแย้ง ประสบและแก้ไข ทก่ี าลังประสบมกี าร ทีก่ าลังประสบ มกี าร ปญั หาโดยไม่ เก็บข้อมลู เพ่ือ สอบถามหรือเกบ็ ประเมนิ ทางเลือก ประเมนิ ทางเลอื กใน ขอ้ มลู เพื่อประเมนิ ในการ การแก้ปัญหาของ ทางเลือกในการ แก้ปัญหา ตนเองและผู้อนื่ แลว้ แก้ปัญหาของตนเอง จงึ ลงมอื แก้ไขปัญหา หรอื ผู้อน่ื แลว้ จงึ ลง ไดป้ ระสบผล มอื แก้ไขปญั หาได้ สาเร็จ ประสบผลสาเรจ็ ตวั ชว้ี ัดที่ 5 ปรับตัวใหท้ ันกบั การเปล่ยี นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ ม พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดับคุณภาพ ดีเยย่ี ม ดี พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ ปรับปรุง (0) (3) (2) ขนั้ ตา่ (1) 1. ตดิ ตาม ตดิ ตามขา่ วสาร ติดตามข่าวสารจากส่ือ ตดิ ตามขา่ วสารจาก ไมใ่ ส่ใจติดตาม ข่าวสาร เหตกุ ารณ์ปจั จบุ ันหรอื สง่ิ พิมพ์ต่าง ๆ หรือ ส่ือส่ิงพมิ พ์ต่าง ๆ ขา่ วสารเหตกุ ารณ์ เหตุการณป์ จั จบุ ัน แลกเปล่ียนเรยี นรกู้ บั แลกเปลี่ยนเรยี นรกู้ บั หรอื แลกเปล่ียน ปัจจบุ นั ของ ของสงั คม ผ้รู ู้และเสนอความรู้ ผรู้ ู้และเสนอความรู้ เรียนรู้กับผรู้ แู้ ละ สงั คม ประเทศ ประเทศ ขอ้ มูล ขา่ วสาร ท่ีเป็น ข้อมลู ข่าวสารทเี่ ปน็ เสนอความรู้ ขอ้ มลู เพื่อนบา้ น เพื่อนบ้านและ ความร้ใู หมข่ องสงั คม ความรใู้ หม่ของสงั คม ข่าวสารท่เี ปน็ ความรู้ โลก ประเทศเพ่ือนบา้ นและ ประเทศเพ่ือนบา้ น กับ ใหมข่ องสังคม รบั รู้สถานการณ์ท่ี โลกกับบคุ คลอืน่ อยู่ บุคคลอนื่ เปน็ ส่วนใหญ่ ประเทศเพื่อนบา้ น เปลี่ยนแปลงทาง 2. ปรบั ตวั ต่อการ เสมอ กับบุคคลอ่นื บ้างเป็น สงั คมและ เปลย่ี นแปลงทาง ปรบั ตวั เข้ากับการ บางครงั้ สภาพแวดลอ้ มแต่ สังคม ปรับตวั ให้ทนั กับการ เปลี่ยนแปลงของสงั คม ไม่ใส่ใจทจี่ ะปรับตวั สภาพแวดล้อม เปลีย่ นแปลงของสังคม และสภาพแวดลอ้ มได้ ปรบั ตัวเข้ากบั การ และภาพแวดล้อมได้ อย่างเหมาะสม เปลยี่ นแปลงในสังคม อยา่ งเหมาะสมโดยไมม่ ี และสภาพแวดล้อม พฤติกรรมขดั แยง้ กับ วัฒนธรรมของสงั คมไทย เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นขนุ ตาลวทิ ยาคม

195 ตัวชี้วดั ท่ี 6 หลกี เล่ียงพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ทสี่ ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อืน่ พฤติกรรมบ่งช้ี ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดี พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ ปรับปรงุ (0) (3) (2) ข้ันตา่ (1) 1. รู้จกั ปอ้ งกัน ปฏิบตั ิตนเป็นผูม้ ี ปฏบิ ตั ติ นเป็นผมู้ ี ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้มี ปฏิบตั ิตนเปน็ ผ้มู ี หลกี เลีย่ ง พฤติกรรมทพี่ ึง พฤตกิ รรมที่พึง พฤติกรรมเสย่ี ง พฤตกิ รรมทพี่ งึ พฤติกรรมท่พี งึ ประสงค์ ในข้อ 1-4 ประสงค์ ไมค่ รบ ตอ่ สขุ ภาพ ตามขอ้ 1-4 การล่วงละเมิด ประสงค์ ทกุ รายการ ประสงค์ ในขอ้ 1-4 ทางเพศอุบัตเิ หตุ สารเสพตดิ และ 1. หลกี เลีย่ งจากสาร และขอ้ 5-6 ขอ้ ใดขอ้ ความรนุ แรง เสพตดิ ทุกประเภท หนึ่ง 2. ไมใ่ ช้ความรุนแรง ในการแก้ปญั หา 3.ไม่ปรากฏพฤตกิ รรม ล่วงละเมดิ ทางเพศ 4. มคี วามระมัดระวัง ในการเล่นหรอื ทา กิจกรรมใด ๆ ทเี่ สี่ยง ต่ออบุ ตั ิเหตุ 5. รับประทานอาหาร ท่มี คี ณุ ค่าทาง โภชนาการ 6. ออกกาลงั กายเปน็ ประจา ตวั ช้วี ดั ท่ี 6 หลีกเล่ียงพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ท่ีส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อ่นื (ต่อ) พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั คณุ ภาพ ดเี ยีย่ ม ดี พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ปรับปรุง (0) (3) (2) ข้ันตา่ (1) 2. สามารถจัดการ ควบคุมอารมณ์ โดย ควบคมุ อารมณ์ โดย ควบคุมอารมณ์ แสดงความ กับอารมณ์และ ไมแ่ สดงความ ไมแ่ สดงความ โดยไมแ่ สดงความ ฉุนเฉียวหรือไม่ ความเครยี ดได้ ฉุนเฉยี วหรือไมพ่ อใจ ฉุนเฉียวหรอื ไมพ่ อใจ ฉุนเฉียวหรือไม่ พอใจดว้ ยคาพูด อยา่ งถูกต้องและ ด้วยคาพูด กิรยิ า ดว้ ยคาพูด กริ ยิ า พอใจด้วยคาพูด กรยิ าอาการต่อ เหมาะสม อาการต่อหนา้ ผู้อนื่ ใช้ อาการ ตอ่ กริ ยิ าอาการ ตอ่ หนา้ ผูอ้ น่ื เวลาวา่ งในการ หน้าผูอ้ ่นื ใชเ้ วลาว่าง หน้าผู้อ่นื เม่อื มผี ู้ ปฏิบตั กิ ิจกรรมทเ่ี ป็น เพ่ือผ่อนคลาย ช้ีแนะท้วงตงิ ประโยชนเ์ พ่อื ผ่อน ความเครียด คลายความเครียดได้ เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสาคญั ด้านความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เอกสารประกอบหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม

196 ตวั ช้ีวดั ที่ 1 เลือกและใช้เทคโนโลยเี พ่อื พัฒนาตนเองและสังคม พฤติกรรมบ่งช้ี ระดับคณุ ภาพ ดีเย่ียม ดี พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ ปรบั ปรงุ (0) (3) (2) ขั้นตา่ (1) 1. เลือกและใช้ เลือกและใช้ เลือกและใช้ เลือกและใช้ เลอื กและใช้ เทคโนโลยี เทคโนโลยีที่ เทคโนโลยีท่ี เทคโนโลยีในการ เทคโนโลยีในการ ในการเรียนรู้ เหมาะสมในการ เหมาะสมในการ สืบคน้ ค้นคว้า สบื ค้น คน้ คว้า อย่างสรา้ งสรรค์ สืบค้นค้นควา้ สบื คน้ คน้ คว้า รวบรวม และสรุป รวบรวม และสรุป และมีคุณธรรม รวบรวม และสรุป รวบรวม และสรปุ ความรูด้ ้วยตนเอง ความรดู้ ้วยตนเอง ความรดู้ ว้ ยตนเองได้ ความรดู้ ว้ ยตนเองได้ ไดอ้ ย่างถูกต้อง ได้แต่ต้องอาศัย 2. เลอื กและใช้ อย่างถูกต้อง มีความ อย่างถูกต้อง มคี วาม และเป็นประโยชน์ ผแู้ นะนา เทคโนโลยใี นการ หลากหลาย แปลก หลากหลาย แปลก ต่อตนเองหรอื สังคม สื่อสาร อย่าง ใหม่ และเป็น ใหม่ และเป็น เลอื กและใช้ สร้างสรรคแ์ ละมี ประโยชนต์ อ่ ตนเอง ประโยชนต์ ่อตนเอง เลอื กและใช้ เทคโนโลยใี ห้ผู้อื่น คณุ ธรรม และสงั คมโดย หรอื สงั คม เทคโนโลยีในการ เข้าใจได้อยา่ ง สามารถแนะนาผู้อืน่ รับและส่งสารให้ ถูกต้องแต่ไม่ 3. เลือกและใช้ ได้ เลอื กและใช้ ผอู้ ่นื เขา้ ใจได้อย่าง คานึงถึง เทคโนโลยี เทคโนโลยที ่ี ถกู ต้อง โดยไม่ทา ผลกระทบต่อ ในการทางานและ เลือกและใช้ เหมาะสมในการรับ ใหผ้ ้อู ่นื เดือดร้อน ผ้อู ืน่ นาเสนอ เทคโนโลยีท่ี และสง่ สารใหผ้ ู้อืน่ ผลงานอย่าง เหมาะสมในการรับ เข้าใจได้อยา่ งถูกต้อง เลอื กและใช้ เลือกและใช้ สรา้ งสรรค์ และส่งสารใหผ้ ้อู น่ื และมคี วาม เทคโนโลยีเพือ่ เทคโนโลยเี พ่ือลด เข้าใจได้อยา่ งถูกต้อง หลากหลายแปลก ลดขน้ั ตอน เวลา ข้นั ตอน เวลา และมคี วาม ใหม่ โดยไมท่ าให้ ทรัพยากรในการ ทรพั ยากรในการ หลากหลายแปลก ผอู้ น่ื เดอื ดร้อน ทางานและนาเสนอ ทางานและ ใหม่ โดยไมท่ าให้ ผลงานที่เป็น นาเสนอผลงานได้ ผู้อนื่ เดือดร้อน และ เลอื กและใช้ ประโยชน์ตอ่ ตนเอง โดยต้องมีผู้ สามารถแนะนาผู้อ่นื เทคโนโลยที ี่ หรือสังคม แนะนา ได้ เหมาะสมเพ่อื ลด ข้ันตอนเวลา เลอื กและใช้ ทรพั ยากร ในการ เทคโนโลยที ่ี ทางานและนาเสนอ เหมาะสมเพื่อลด ผลงานทเี่ ป็น ข้นั ตอน เวลา ประโยชนต์ อ่ ตนเอง ทรพั ยากร ในการ และสงั คม โดยไม่ทา ทางานและนาเสนอ ผลงานที่เป็น ประโยชนต์ อ่ ตนเอง และสังคมโดยมคี วาม เอกสารประกอบหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวิทยาคม

197 พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดบั คุณภาพ 4. เลือกและใช้ ดีเย่ยี ม ดี พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ ปรับปรงุ เทคโนโลยี ในการแก้ปัญหา (3) (2) ขั้นตา่ (1) (0) อย่างสร้างสรรค์ หลากหลายแปลก ให้ผอู้ ื่นเดือดรอ้ น ไม่ เลอื กและใช้ เลอื กและใช้ ใหม่ นา่ สนใจ ไม่ มผี ลกระทบต่อ เทคโนโลยี ในการ เทคโนโลยี ลอกเลยี นแบบ ไม่ทา สง่ิ แวดล้อม แก้ปัญหาได้ดว้ ย ในการแก้ปัญหา ใหผ้ ู้อนื่ เดอื ดรอ้ น ไม่ ตนเอง ทาใหเ้ กิด ได้โดยตอ้ งมผี ู้ มีผลกระทบต่อ เลอื กและใช้ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง แนะนา สิ่งแวดล้อมและ เทคโนโลยที ่ี หรอื สังคม สามารถแนะนา เหมาะสม ในการ ผูอ้ ่นื ได้ แกป้ ญั หาอยา่ ง สร้างสรรค์ได้ด้วย เลือกและใช้ ตนเองทาใหเ้ กดิ เทคโนโลยที ี่ ประโยชนต์ ่อตนเอง เหมาะสม ในการ และสงั คม แก้ปญั หาอยา่ ง สรา้ งสรรคไ์ ดด้ ว้ ย ตนเองทาใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อตนเอง และสังคม โดยไมท่ า ใหผ้ ู้อืน่ เดอื ดรอ้ น ไม่ มผี ลกระทบต่อ ส่ิงแวดล้อม และ สามารถแนะนา ผู้อื่นได้ ตัวชวี้ ัดที่ 2 มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรงุ (0) พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดี พอใช้/ผ่านเกณฑ์ ดเี ยย่ี ม (2) ขัน้ ตา่ (1) ระบุปญั หาหรือ (3) ความต้องการ ไมไ่ ด้ 1.กาหนดปัญหา ระบปุ ัญหาหรือความ ระบปุ ญั หาหรอื ความ ระบปุ ัญหาหรอื หรอื ความ ตอ้ งการไดช้ ดั เจน ตอ้ งการไดช้ ัดเจน แต่ ความตอ้ งการได้ ใชเ้ ทคโนโลยี ต้องการ ครอบคลุมและตรง ไม่ครอบคลุมและตรง รวบรวมข้อมลู ได้ กบั งานท่ีทา กบั งานท่ีทา ใช้เทคโนโลยี ไม่ตรงกับปญั หา 2. รวบรวมขอ้ มูล รวบรวมขอ้ มูลได้ ใช้เทคโนโลยีรวบรวม ใชเ้ ทคโนโลยรี วบรวม ถกู ต้องแต่ไมเ่ พยี ง ข้อมูลไดถ้ ูกตอ้ ง ขอ้ มลู ได้ถูกตอ้ งตรง น่าเช่อื ถือตรงกบั กบั ปัญหาหรือ ความ เอกสารประกอบหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนขนุ ตาลวทิ ยาคม