Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานการอบรมการคัดกรองนักเรียนพิการทางการศึกษา 9 ประเภท

รายงานการอบรมการคัดกรองนักเรียนพิการทางการศึกษา 9 ประเภท

Published by ธีรเกียรติ์ ขันคำ, 2023-02-07 04:26:42

Description: การอบรมคัดกรองนักเรียนพิการทางการศึกษา 9 ประเภท

Search

Read the Text Version

รให้ผู้รับการปรึกษาได้มีเวลาคดิ ดในส่ิงทีจ่ ะพดู ต่อไป ก เพอื่ ให้ผ้รู ับการปรึกษาได้ อง อาจสะท้อนโดยใช้คาพูดท่ี ามท่ผี ้รู ับการปรึกษาได้พูดมาแล้ว ” การสรุปคาพูดของผู้รับการ ห้ข้อมูลย้อนกลบั แก่ผู้รับ

7. การยกตัวอย่าง เ ประสบการณ์ของตนเอ ผ้รู ับคาปรกึ ษารู้สึกวา่ ป ปญั หาทเ่ี กิดขึน้ ได้ แล เช่นกัน 8. การสนบั สนุน เป คาปรึกษาและเปน็ การ ไดท้ าน้ันเป็นสิง่ ท่ีถกู ต้อ นบั วา่ เป็นการเสยี สละ

เป็นการยกตัวอยา่ ง องหรือผู้อน่ื เพอ่ื ให้ ปัญหาทต่ี นพบนน้ั เปน็ ละผู้อนื่ ก็เคยประสบมา ปน็ การพูดให้กาลงั ใจแกผ่ ้รู ับ รยืนยันว่าสิ่งท่ผี ้รู ับคาปรกึ ษา อง เชน่ “ส่ิงท่ีคณุ ทานนั้ ะอยา่ งมาก”

ความหมายของก การประสานงาน คือ กา หน่วยงานในองค์กร ทา หน่วยงานอ่ืนเพอ่ื ให้บรร มีลกั ษณะเป็ นกระบวนก ต่อเน่ือง สอดคล้องกนั ไ อย่างมีประสิทธิภาพ

การประสานงาน ารท่บี ุคคลหรือ างานร่วมกบั บุคคลและ รลุจุดมุ่งหมายร่วมกัน การทต่ี ้องกระทา ไปเพอื่ ให้งานสาเร็จ

วตั ถุประสงค์ข 1. เพอ่ื แจ้งให้ผู้มสี ่วนเก 2. เพอ่ื รักษาไว้ซึ่งความ 3. เพอ่ื ขอคายนิ ยอมหร 4. เพอื่ ขอความช่วยเหล 5. เพอื่ ขจดั ข้อขัดแย้งท 6. เพอ่ื ให้งานสาเร็จตาม 7. เพอ่ื ให้งานมคี ุณภาพ

ของการประสานงาน กย่ี วข้องทราบ มสัมพนั ธ์อนั ดี รือความเห็นชอบ ลอื ทอ่ี าจมขี นึ้ มเป้ าหมาย พตามมาตรฐานที่กาหนดไว้

ประโยชน์ของ 1. ช่วยให้การทางานบรรลเุ ป 2. ช่วยประหยดั เวลาและทร 3. ช่วยให้ทุกผ่ายเข้าใจถึงนโ องค์การ 4. ช่วยสร้างความสามัคคแี ล 5. เสริมสร้างขวญั ของผู้ปฏบิ 6. ลดอนั ตรายจากการทางาน

งการประสานงาน ป้ าหมายได้อย่างราบรื่นรวดเร็ว รัพยากรในการปฏบิ ัตงิ าน โยบายและวตั ถุประสงค์ของ ละความเข้าใจในหมู่คณะ บัตงิ าน นให้น้อยลง

ประโยชน์ของ 7. ช่วยลดข้อขัดแย้งในก 8. ช่วยให้ปฏบิ ัตงิ านเป็ น ผลสาเร็จของงาน 9. ช่วยเกดิ ความคิดใหม่ 10. ป้ องกนั การทางานซ 11. การดาเนนิ งานเป็ นไ

งการประสานงาน การทางาน นหมู่คณะและเพมิ่ มๆและปรับปรุงอย่เู สมอ ซ้าซ้อน ไปอย่างมปี ระสิทธิภาพ

ประเภทของ 1. การประสานงานอย่างเ ทางการ 2. การประสานงานภายใน องค์การ 3. การประสานงานในแน Bottom-up) และแนวรา

งการประสานงาน เป็ นทางการและไม่เป็ น นองค์การและภายนอก นวดงิ่ (Top- Down าบ

เทคนิคการป • กาหนดเป้ าหมายในการประส • เตรียมข้อมูลท่จี ะใช้ในการป ครอบคลุม • ศึกษาข้อมูลของบุคคลหรือห • วางแผนการประสานงานท่ีส ระยะเวลา • เตรียมตนเองให้พร้อม ตามก ใช้ภาษาพดู ทีเ่ หมาะสมกบั บุค

ประสานงาน สานงานให้ชัดเจน ประสานงานให้ครบถ้วน หน่วยงานจะประสานงานด้วย สอดคล้องกบั เป้ าหมายและ กาลเทศะ เช่น การแต่งกาย การ คคลท่ีประสานงาน

เทคนิคการประ •เคารพและให้เกียรตผิ ทู้ รวมทง้ั เปิดโอกาสใหม้ สี ความคดิ เห็น •ประเมินผลการสือ่ สารแ •ปรับปรงุ และพัฒนาแน จากผลการประเมินทุกค

ะสานงาน(ต่อ) ท่ีประสานงานดว้ ย สว่ นร่วมในการแสดง และประสานงานทุกคร้ัง นวทางการประสานงาน ครั้ง













 แผนการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล ให้สอดคล้องกบั ความต้องการพิเศษของค ร่วมของผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง จัดแผนการศึกษาให้คนพิการเป็ นลา ความสามารถในปัจจุบัน เป้ าหมายระยะ และวธิ ีการวดั ประเมนิ ผล กาหนดสิ่งอานว สะดวก สื่อ บริการและความช่วยเหลอื อ่ืน ปรับปรุงแผนตามความเหมาะสม

หมายถงึ แผนการจัดการศึกษาท่ีจัดทาขึ้น คนพกิ ารรายบุคคลโดยเฉพาะ โดยการมสี ่วน ครูและคณะสหวชิ าชีพที่เกยี่ วข้องร่วมกัน ายลักษณ์อักษร ซ่ึงในแผนจะต้องระบุ ยาว ๑ ปี จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม เกณฑ์ วยความสะดวก เทคโนโลยีสิ่งอานวยความ นใดทางการศึกษา ตลอดจนมีการทบทวน

๑. กฎกระทรวงกาหนดหลกั เกณฑ์และวธิ กี ความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเ แก้ไข๒๕๕๐ กาหนดให้มกี ารจัดทา IEP ๒. เพือ่ ประกนั ความเหมาะสมในการจดั การ ความต้องการจาเป็ นพเิ ศษทางการเรียน ๓. เพอ่ื ประกนั ว่าได้มกี ารจัดบริการทางการ ใน IEP จริง ๔. เพอื่ เป็ นแนวทางในการดาเนนิ การควบค

การให้คนพิการมสี ิทธไิ ด้รับส่ิงอานวย เหลอื อน่ื ใดทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๕ P. รศึกษาให้แก่เด็กพกิ าร ซึ่งจะต้องจดั ตาม นรู้ของเด็กแต่ละบุคคล รศึกษาพิเศษและบริการอน่ื ตามทร่ี ะบุไว้ คมุ และตดิ ตามผลการให้บริการ

หลกั การจดั ทาแผนการจ  ๑. เดก็ ทุกคนต้องได้รับการศึกษา (Zer  ๒. การไม่เลอื กปฏบิ ตั ใิ นการตรวจวดั แ identification and evaluation  ๓. การให้บริการทางการศึกษาแบบให้เ Education : FAPE)  ๔. การจัดการศึกษาในสภาพแวดล้อม Environment : LRE)  ๕. การพิทกั ษ์สิทธใิ นการรับบริการ (P  ๖. การมสี ่วนร่วมของผู้ปกครองและคน Participation)

จดั การศึกษาเฉพาะบุคคล ro reject) และประเมนิ (Nondiscriminatory n) เปล่าทเี่ หมาะสม (Free Appropriate Public มทมี่ ขี ีดจากดั น้อยทสี่ ุด (Least Restrictive Procedural Due Process) นพิการ (Parental and Student

วตั ถปุ ระสงค์ของการจดั ทาแผน  ๑. เพอื่ ให้คนพกิ ารได้รับการจัดการศกึ ษา เป็ นรายบุคคล  ๒. เพอ่ื ใช้เป็ นกระบวนการจัดการเรยี นรู้  ๓. เพอื่ ให้ผู้บริหารสถานศึกษา ผ้ปู กครอง การวางแผนการจดั การศึกษาให้คนพกิ าร  ๔. เพอื่ ให้สถานศึกษาสามารถวางแผนจดั

นการจดั การศึกษาเฉพาะบุคคล าให้สอดคล้องความต้องการพเิ ศษ ง ครู และคณะสหวชิ าชีพ มสี ่วนร่วมใน ร ดบริการทางการศึกษา

องค์ประกอบของแผนการจ  กระทรวงศึกษาธิการได้ออกประกาศกระทร การศึกษาเฉพาะบุคคลระดับการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พ  ๑. ข้อมูลทั่วไป  ๒. ข้อมูลด้านการแพทย์ หรือด้านสุขภาพ  ๓. ข้อมูลด้านการศึกษา  ๔. ข้อมลู อนื่ ๆที่จาเป็ น  ๕. การกาหนดแนวทางการศึกษาและการวา  ๖. ความต้องการด้านสิ่งอานวยความสะดวก และความช่วยเหลอื อื่นใดทางการศึกษา  ๗. คณะกรรมการจดั ทาแผน  ๘. ความเห็นของบิดามารดาผู้ปกครองหรือ

จดั การศึกษาเฉพาะบุคคล รวงเร่ืองหลกั เกณฑ์และวิธีการจัดทาแผนการจัด พ.ศ.๒๕๕๒ โดยมีองค์ประกอบดงั ต่อไปนี้ างแผนการจดั การศึกษาพิเศษ ก เทคโนโลยีสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ บริการ อผู้เรียน

กล่มุ เป้ าหมายท จากแผนการจดั การ  ๑. ประโยชน  ๒. ประโยชน  ๓. ประโยชน  ๔. ประโยชน  ๕. ประโยชน  ๖. ประโยชน

ทไ่ี ด้รับประโยชน์ รศกึ ษาเฉพาะบุคคล น์ต่อผู้เรียน น์ต่อครูผู้สอน น์ต่อผ้ปู กครอง น์ต่อสถานศึกษา น์ต่อผ้บู ริหาร น์ต่อคณะสหวชิ าชีพ

กระบวนการจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบ ๑.ข้นั เตรียมการ ๑ ๒.ข้ันการจดั ทาแผน ๒.๑ แต่ง การจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคล ๒.๒ ตรวจสอ ทบทวน ๒.๓ จดั ทาแผ / ๓.ขน้ั การนาแผนการจดั ปรับปรุง การศกึ ษาเฉพาะบคุ คลไปใช้ แผน ๔.ขัน้ การประเมนิ ผล ๔ ตามแผนการจัดการศึกษา เฉพาะบคุ คล ๕.ขั้นการสรปุ และ รายงานผล ๔ ๖.ขนั้ การส่งต่อ

บุคคล ๑.๑ การรวบรวมข้อมูล ๑.๒ การคดั กรองประเภทความพิการทางการศึกษา งตง้ั คณะกรรมการจัดทาแผนการจดั การศึกษาเฉพาะบคุ คล(IEP) S : ผเู้ รยี น E : ส่งิ แวดลอ้ ม อบหรือการประเมนิ ความสามารถพื้นฐาน T : กิจกรรม ผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล(IEP) T : สือ่ ๓.๑ การจัดทาแผนการสอนเฉพาะบคุ คล(IIP) ๓.๒ การนาแผนการสอนเฉพาะบุคคลไปใช้ ๔.๑ ประเมนิ ผลการสอนตามแผนการสอนเฉพาะบุคคล ๔.๒ ประเมนิ ผลตามจุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม ๔.๓ ประเมนิ ผลตามเป้าหมายระยะยาว ๑ ปี ๔.๔ ประเมินผลตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบคุ คล ๔.๕ การตัดสนิ ระดับผลการเรยี นรู้

แผนการจัดการศกึ ษาเ สาหรับนักเรียนป นักเรียนทมี่ คี วามบกพร่องม มคี วามต้องการจาเป็ นทแ่ี ตกต่างกนั เช นกั เรียนหูหนวกต้องเรียนรู้ภาษามอื น กายภาพบาบดั เป็ นต้น ฉะน้ัน เมอื่ ค จัดทา IEP จะต้องคานงึ ถึงความต้อง ละประเภทความบกพร่อง และนอกจ บุคคลมคี วามต้องการจาเป็ นแตกต่างก

เฉพาะบคุ คล (IEP) ประเภทต่าง ๆ มหี ลายประเภท แต่ละประเภท ช่น นกั เรียนตาบอดต้องเรียนรู้อกั ษรเบรลล์ นกั เรียนร่างกายพกิ ารอาจต้องการ ครูและทป่ี ระชุมเด็กรายกรณปี ระชุมเพ่อื งการจาเป็ นทแ่ี ตกต่างกนั ของนกั เรียนแต่ จากนยี้ งั ต้องตระหนกั ด้วยว่านกั เรียนแต่ละ กนั อกี ด้วย

IE สาหรับนักเรียนทมี่ คี วา โดยทวั่ ไปจะพิจารณาความต บกพร่องทางการเห็น เมอ่ื ต้องการ ประเภทนี้ 1. การใช้เครื่องช่วยการเห็น (Vi 2. ทกั ษะทางการได้ยนิ (โดยต้อง 3. การอ่านและเขียนอกั ษรเบรลล 4. การทาความค้นุ เคยกบั สภาพแ 5. ทกั ษะทางวชิ าการ

EP. ามบกพร่องทางการเห็น ต้องการต่อไปนขี้ องนกั เรียน ทมี่ คี วาม รกาหนดเป้ าหมายระยะยาวให้กบั เดก็ isual aids) งการพฒั นาให้มปี ระสิทธิภาพมากขนึ้ ) ล์ แวดล้อมและการเคลอื่ นไหว

IE สาหรับนักเรียนทม่ี ีควา อาจใช้ความต้องการจาเป็ นพเิ ได้ยนิ ต่อไปนเี้ ป็ นแนวทางในการก 1. การอ่านคาพูด (คอื การอ่านร reading) 2. การพูดและภาษา 3. ภาษามอื 4. การใช้เครื่องช่วยฟังหรือเครื่อ

EP. ามบกพร่องทางการได้ยนิ เศษของนักเรียนทม่ี คี วามบกพร่องทางการ กาหนดเป้ าหมายระยะยาว ริมฝี ปาก และสีหน้าท่าทาง : speech องขยายเสียงอนื่ ๆ

IE สาหรับนกั เรียนท่ีมคี วาม

EP. มบกพร่องทางสติปัญญา

IE สาหรับนักเรียนที่มคี ว หรือการเคลอื่ น เนอ่ื งจากนกั เรียนทมี่ คี วามบกพร่อ ในลกั ษณะของความบกพร่อง ในระดบั ของค มจี งึ ทาให้การกาหนดเป้ าหมายระยะยาว สาห ด้านและเกย่ี วข้องกบั บริการสนบั สนุนของน ได้แก่ ครูปกติ ครูการศึกษาพเิ ศษ นกั กายภ โรงเรียน นักสังคมสงเคราะห์ ครูแนะแนว (ทสี่ ามารถปรับพลศึกษาให้กบั นักเรียนทม่ี คี ต้น

EP. วามบกพร่องทางร่างกาย นไหวหรือสุขภาพ องประเภทนี้ จะมคี วามแตกต่างกนั หลากหลาย ความรุนแรง และความบกพร่องร่วมทน่ี ักเรียน หรับ IEP. ของนกั เรียนกลุ่มนี้ อาจมหี ลาย นักอาชีพหรือผ้เู ช่ียวชาญสาขาอน่ื ๆ หลายสาขา ภาพบาบัด นักกจิ กรรมบาบดั พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญทางภาษาและการพูด ครูพลศึกษา ความบกพร่องได้) และผ้แู นะแนวอาชีพ เป็ น

IE สาหรับนกั เรียนท่ีมคี วาม

EP. มบกพร่องทางการเรียนรู้

IE สาหรับนกั เรียนที่มีความบก โดยทว่ั ไปนักเรียนทม่ี คี วามบกพร่องป เรียนปกตเิ ตม็ เวลา โดยได้รับความช่วยเหลอื นอกจากนนี้ ักเรียนประเภทนมี้ กั มปี ฏสิ ัมพัน ทอดทงิ้ และเพ่ือน ๆ ไม่ชอบตน ฉะน้นั การกา คานงึ ถงึ ความบกพร่องของนักเรียน รวมท้งั ค