Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การออกแบบการจัดการเรียนรู้

การออกแบบการจัดการเรียนรู้

Published by KruYuyah MIN, 2020-12-22 01:57:42

Description: การออกแบบการจัดการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

1 การออกแบบการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท๑๔๑๐๑ กลุม่ สาระการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ จัดทำโดย นำงสำวยลู ยี ะห์ แม้เร๊ำะ ตำแหน่ง ครูชำนำญกำรโรงเรียนบ้ำนย่ีงอ โรงเรียนบ้านย่งี อ สานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษานราธิวาส เขต 1 กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

2 บันทกึ การอนุมัติแผนการจัดการเรียนรู้ ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ............................................................................................... ........................................................ ..................... ................................................................................................. ............................................................................. .............................................................................................................................................................................. ................................................................................................... ........................................................................... ลงชอ่ื (...........................................................) หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย …...../……………./....…… ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะ .......................................................................................... ................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ........................................................................................................ ...................................................................... ลงช่อื (นางสาวฮารมูนี อบิ นูอบั ดลุ มาญดี ) รองผ้อู านวยการโรงเรยี นบ้านยง่ี อ .…...../..…….……/……… ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................ .................................................................. ........................................................................................................ ...................................................................... ลงชอื่ (นายมะนาเซร์ แมแล) ผู้อานวยการโรงเรยี นบ้านย่ีงอ .…...../..…….……/………

3 คานา การจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท๔๑๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ภาคเรียนที่ ๑และภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ ท่ีได้จัดทาขึ้นจากการ วิเคราะห์หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด เพื่อจัดทาคาอธิบาย รายวชิ า โครงสรา้ งรายวิชา และออกแบบการจัดการเรียนรู้ ใหส้ อดคล้องกับหลกั สูตรสถานศกึ ษาและหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พ.ศ.2551 การจัดทาแผนจัดการเรียนรู้คร้ังนี้ ได้จัดกิจกรรมการเรียนรู้เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ และวางแผนสร้าง เคร่ืองมือการวัดและประเมินผลประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ใหบ้ รรลเุ ป้าหมายของหลักสูตร ลงช่ือ........................................................... (นางสายูลียะห์ แมเ้ รา๊ ะ) ครูชานาญการโรงเรียนบ้านยีงอ

4 สารบญั หนา้ บนั ทกึ ขออนุมตั แิ ผนการจดั การเรยี นรู้ คานา สารบญั แบบวเิ คราะหห์ ลักสตู ร มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ัด คาอธบิ ายรายวชิ า โครงสร้างรายวชิ า โครงสร้างการจดั หน่วยการเรียนรู้ ตารางวิเคราะห์แผนการจัดการเรียนร้รู ายชัว่ โมงกับมาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ชี้วดั กลุ่มสาระการเรียนรู้ การออกแบบการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ มาตรา ก กา...จาไวห้ นาไม่มตี ัวสะกด หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ มาตราตัวสะกด...มีท้งั หมด ๘ มาตรา หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๓ ไตรยางศ.์ ..สร้างคา หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ คาเปน็ คาตาย...ดูงา่ ยไมย่ าก หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๕ วรรณยกุ ต์...สง่ิ สาคัญผันอักษร หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๖ คาพ้อง...ต้องพจิ ารณา หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๗ คานาม...ใชเ้ รยี กตามชื่อ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๘ คาแทนชื่อ...น้คี ือสรรพนาม หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๙ คากรยิ า...สื่ออาการ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑๐ คาวเิ ศษณ์...ขยายคา จาใหแ้ ม่น หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑๑ อ่านเขยี นอยา่ งไร...ต้องใชพ้ จนานุกรม หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๒ ภาษาไทยน่าเรียน...ฝึกเขยี นดว้ ยประโยค หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑๓ กลอนส่.ี ..วรรคละส่ีคา จาไดง้ า่ ย หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๔ คาขวัญเตอื นใจ...ให้ทาความดี หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๕ คาพังเพยและสภุ าษติ ...ให้ข้อคดิ สอนใจ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๖ ภาษาไทยมาตรฐาน-ภาษาถ่ิน...บอกความเป็นไทย หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี ๑๗ อา่ นไดค้ ลอ่ ง...ตอ้ งรู้วธิ ี หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๑๘ เขียนชานาญ...งานสร้างสรรค์ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๑๙ ฟงั ดู รู้สนทนา...ภาษาสอื่ สาร การวเิ คราะหผ์ ูเ้ รยี น ตวั อย่างแผนการจดั การเรียนรู้หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ มาตราตัวสะกด...มีท้ังหมด ๘ มาตรา บนั ทึกผลหลงั จดั การเรียนรู้ บนั ทึกซ่อมเสริม

5 แบบวิเคราะห์หลักสตู ร มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชวี้ ัด รายวชิ าภาษาไทย รหัส ท๔๑๑๐๑ จานวน ๑๖๐ ชัว่ โมง กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรียนที่ ๑,๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ สำระและมำตรฐำนกำรเรยี นรู้ ตัวชี้วัดชน้ั ปี สำระที่ ๑ กำรอำ่ น มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้ ๑. อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ และความคิดเพื่อนาไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปัญหา ถูกตอ้ ง ในการดาเนินชวี ิตและมนี สิ ยั รกั การอ่าน ๒. อธบิ ายความหมายของคา ประโยค และสานวนจาก สำระที่ ๒ กำรเขียน เร่อื งท่อี ่าน มำตรฐำน ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียน เขียนสอื่ สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความและ ๓. อ่านเรอ่ื งส้นั ๆ ตามเวลาท่ีกาหนดและตอบคาถาม เขียนเร่อื งราวในรปู แบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู จากเรื่องท่อี า่ น สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่าง มีประสทิ ธภิ าพ ๔. แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเห็นจากเร่อื งทีอ่ า่ น ๕. คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่านโดยระบุเหตผุ ล ประกอบ ๖. สรปุ ความรู้และขอ้ คดิ จากเรอื่ งที่อา่ นเพื่อนาไปใช้ ในชีวติ ประจาวัน ๗. อา่ นหนงั สือท่มี ีคณุ ค่าตามความสนใจอยา่ ง สม่าเสมอและแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั เร่ืองท่ีอา่ น ๘. มีมารยาทในการอา่ น ๑. คดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั และครึ่งบรรทัด ๒. เขยี นส่อื สารโดยใชค้ าได้ถูกตอ้ ง ชดั เจน และ เหมาะสม ๓. เขยี นแผนภาพโครงเรือ่ งและแผนภาพความคดิ เพ่ือใชพ้ ัฒนางานเขียน ๔. เขียนยอ่ ความจากเรื่องสนั้ ๆ ๕. เขียนจดหมายถงึ เพ่อื นและบดิ ามารดา ๖. เขียนบันทึกและเขยี นรายงานจากการศกึ ษาค้นควา้ ๗. เขียนเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ ๘. มีมารยาทในการเขียน

6 สำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้ ตัวชีว้ ัดชน้ั ปี สำระท่ี ๓ กำรฟงั กำรดู และกำรพูด มำตรฐำน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดูอยา่ งมี ๑. จาแนกขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องท่ีฟงั และดู วจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และ ๒. พดู สรุปความจากการฟังและดู ความร้สู กึ ในโอกาสต่างๆอยา่ งมีวจิ ารณญาณและ ๓. พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น และความรสู้ กึ สร้างสรรค์ เกี่ยวกับเรือ่ งทฟี่ ังและดู สำระที่ ๔ หลกั กำรใชภ้ ำษำไทย ๔. ตัง้ คาถามและตอบคาถามเชิงเหตผุ ลจากเรื่องท่ีฟงั มำตรฐำน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและ หลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลงั และดู ของภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษา ๕. รายงานเรื่องหรือประเดน็ ท่ีศกึ ษาค้นคว้าจากการฟงั ภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชาติ การดู และการสนทนา สำระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม ๖. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู มำตรฐำน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ งเหน็ ๑. สะกดคาและบอกความหมายของคาในบริบทต่างๆ คณุ คา่ และนามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๒. ระบชุ นิดและหน้าท่ขี องคาในประโยค ๓. ใชพ้ จนานุกรมค้นหาความหมายของคา ๔. แตง่ ประโยคได้ถกู ต้องตามหลกั ภาษา ๕. แต่งบทรอ้ ยกรองและคาขวัญ ๖. บอกความหมายของสานวน ๗. เปรยี บเทยี บภาษาไทยมาตรฐานกบั ภาษาถิ่นได้ ๑. ระบุข้อคิดจากนิทานพ้ืนบ้านหรอื นิทานคตธิ รรม ๒. อธิบายขอ้ คดิ จากการอา่ นเพ่อื นาไปใช้ในชีวติ จริง ๓. รอ้ งเพลงพืน้ บ้าน ๔. ทอ่ งจาบทอาขยานตามที่กาหนด และบทร้อยกรอง ทม่ี ีคณุ คา่ ตามความสนใจ ทม่ี า : หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กระทรวงศึกษาธิการ

7 ท ๑๔๑๐๑ ภำษำไทย คาอธิบายรายวชิ า ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ ๔ กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย เวลำเรียน ๑๖๐ ชั่วโมง ศึกษาและฝกึ อา่ นออกเสยี งและอธบิ ายความหมายของบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรอง อา่ นจบั ใจความ จากสอ่ื ตา่ ง ๆ ตามเวลาท่ีกาหนด แลว้ สามารถตอบคาถามจากเรื่องที่อา่ น แยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็น คาดคะเนเหตุการณ์โดยระบุเหตผุ ลประกอบ สรปุ ความรูแ้ ละข้อคิดเพ่ือนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวัน อ่านหนงั สือที่ มีคุณคา่ ตามความสนใจอย่างสมา่ เสมอและแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับเรื่องที่อ่าน และมีมารยาทในการอา่ น คัด ลายมือตัวบรรจงเตม็ บรรทดั และครงึ่ บรรทัดตามรปู แบบการเขยี นตวั อักษรไทย เขยี นคาขวญั และคาแนะนา โดยใช้คาได้ถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดเพื่อใชพ้ ัฒนางานเขียน เขียนย่อความจากเรือ่ งส้ัน ๆ เขียนจด หมายถึงเพื่อนและบดิ ามารดา เขียนบนั ทกึ และเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า เขยี นเรอ่ื งตามจินตนาการ และมมี ารยาทในการเขียน จาแนกข้อเท็จจรงิ และข้อคิดเหน็ จากเรือ่ งที่ฟังและดูในชีวติ ประจาวัน จบั ใจความ ของเรื่องที่ฟงั และดจู ากส่ือต่าง ๆ แลว้ พดู สรุปความ พูดแสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรู้สึก ตั้งคาถาม และตอบคาถามเชงิ เหตุผลจากเรอื่ งท่ฟี งั และดู รายงานเร่ืองหรอื ประเด็นทศ่ี ึกษาค้นควา้ จากการฟงั การดู การ สนทนาและมีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู สะกดคาและบอกความหมายของคาในบริบทตา่ ง ๆ ใช้ พจนานุกรมค้นหาความหมายของคา ระบชุ นดิ และหนา้ ท่ขี องคานาม คาสรรพนาม คากริยา และคาวิเศษณใ์ น ประโยค แตง่ ประโยค ๒ ส่วน และประโยค ๓ สว่ นได้ถูกต้องตามหลกั ภาษา แต่งกลอนส่แี ละคาขวญั บอก ความหมายของ คาพังเพยและสุภาษิตและเปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถิ่นได้ ระบุข้อคิดจากนิทานพื้นบ้านหรือ นิทานคติธรรม อธิบายข้อคิดจากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนาไปใช้ในชีวิตจริง ร้องเพลงพ้ืนบ้าน และทอ่ งจาบทอาขยานตามทกี่ าหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคณุ ค่าตามความสนใจ กิจกรรมการเรยี นรเู้ นน้ ให้ผู้เรียนประมวลคา แต่งประโยค เขยี นข้อความ และสรา้ งสรรค์ผลงาน หลากหลายรปู แบบ ฝึกให้สังเกตคา ประโยค และขอ้ ความ เพอื่ สร้างองค์ความรดู้ ว้ ยตนเอง มกี ารแสดงบทบาท สมมตุ เิ พื่อฝกึ ทักษะการใช้ภาษา และการเรียนรู้ด้วยเกม เพือ่ ฝกึ การทางานกล่มุ การวางแผน และพฒั นา กระบวนการคิด เพอื่ ให้เกดิ ความเข้าใจหลกั ภาษา เกิดทักษะในการใช้ภาษาเพ่ือการสอ่ื สาร สามารถนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวนั ได้ มคี วามชนื่ ชม เหน็ คณุ คา่ ภูมิปญั ญาไทยและภูมใิ จในภาษาประจาชาติ รหัสตวั ช้ีวดั ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘ ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖ ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗ ท ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔ รวมทั้งหมด ๓๓ ตัวชี้วัด

โครงสร้ำงรำยวิชำพื้นฐำน ภำษำไทย 8 รำยวิชำ ภาษาไทย รหัส ท๔๑๑๐๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภาษาไทย นำ้ หนัก ช้ันประถมศึกษำปที ี่ ๔ ภำคเรียนท่ี ๑,๒ ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๓ คะแนน เวลำ ๔ ช่ัวโมงตอ่ สปั ดาห์ ครูผ้สู อน นางสาวยูลียะห์ แมเ้ ร๊าะ ลำดับ ช่ือหน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำร สำระสำคญั เวลำเรียน ท่ี เรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด (ชว่ั โมง) หลกั ภำษำและ ท ๔.๑ ป.๔/๑ คาที่ไม่มตี วั สะกดทุกคา จัดเป็น ๔ กำรใชภ้ ำษำไทย คาในมาตรา ก กา ๑ มาตรา ก กา... จาไว้หนาไม่มตี ัวสะกด ๒ มาตราตวั สะกด... ท ๔.๑ ป.๔/๑ ตัวสะกดเปน็ สว่ นประกอบหน่ึง ๔ มีท้งั หมด ๘ มาตรา ท ๔.๑ ป.๔/๑ ของคา เสยี งตวั สะกดมี ๘ ๔ ท ๔.๑ ป.๔/๑ มาตรา บางมาตรามีพยญั ชนะท่ี ๔ ๓ ไตรยางศ.์ ..สรา้ งคา เปน็ ตัวสะกดตัวเดยี ว บาง มาตรามีพยญั ชนะที่เปน็ ๔ คาเปน็ คาตาย... ตัวสะกดหลายตัว ดูง่ายไม่ยาก พยัญชนะไทย ๔๔ ตวั แบ่งตาม ระดับเสียงของพยัญชนะได้เป็น อักษรสงู อกั ษรกลาง และอักษร ต่า ซงึ่ เปน็ หลักเกณฑห์ น่งึ ท่ีใช้ ในการผนั อักษร คาทีไ่ มม่ ีตวั สะกดและประสม สระเสียงสัน้ กบั คาทม่ี ตี ัวสะกด อยใู่ นมาตรา กก กด กบ ทุกคา เรียกวา่ คาเปน็ ส่วนคาท่ีไมม่ ี ตัวสะกดและประสมสระ เสยี งยาวรวมท้งั คาทีป่ ระสมสระ -ำ ใ- ไ- เ-า กบั คาทม่ี ตี วั สะกด อยใู่ นมาตรา กง กม เกย เกอว กน ทกุ คาเรียกวา่ คาตาย

9 ลำดบั มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ นา้ หนัก ที่ ชื่อหน่วยกำรเรยี นรู้ เรียนร/ู้ ตัวชว้ี ดั เรยี น คะแนน วรรณยุกตม์ ที ้ังเสียงและรูป (ช่ัวโมง) ๕ วรรณยุกต.์ ..สง่ิ ท ๔.๑ ป.๔/๑ คาทุกคา มีเสยี งวรรณยุกต์แม้จะ ๔ สาคญั ผนั อักษร ไม่มีรปู วรรณยุกต์ ปรากฏ การผนั คาตามเสียงวรรณยกุ ต์ ๔ ๖ คาพ้อง... ท ๔.๑ ป.๔/๑ จะทาให้คาเดมิ มเี สยี งเปลย่ี นไป ตอ้ งพจิ ารณา และความหมายกเ็ ปล่ยี นไปดว้ ย ๔ คาพ้องมีท้ังคาท่ีเขียนเหมอื นกนั ๔ ๗ คานาม...ใช้เรยี ก ท ๔.๑ ป.๔/๒ และอา่ นออกเสยี งเหมือนกัน ตามช่ือ การฝกึ อ่านและเขยี นเป็นประจา ๔ จะทาให้อา่ น เขยี น และใช้คา ๘ คาแทนชื่อ...น้ีคอื ท ๔.๑ ป.๔/๒ ต่าง ๆ ส่อื สารได้ถกู ต้อง สรรพนาม คาทใี่ ช้เรียกชื่อคน พืช สตั ว์ สิง่ ของ สถานที่และส่งิ ต่าง ๆ ๙ คากริยา...สื่ออาการ ท ๔.๑ ป.๔/๒ จัดเปน็ คานาม คาทใี่ ช้เรยี กแทนคานามในการ สนทนา จัดเป็นคาสรรพนาม ซึ่ง มที ั้งคาสรรพนาม สาหรับใช้ แทนผู้พดู ผู้ฟัง และผู้ท่ีกลา่ วถงึ คาสรรพนามช่วยใหก้ ารส่ือสาร กระชับ เพราะไม่ต้องกล่าว คานามนนั้ ซา้ คาท่ีแสดงอาการหรือการกระทา ของนามและสรรพนามซึ่งเปน็ ประธานของประโยค เรียกว่า คากรยิ า คากริยาบางคามี ใจความสมบรู ณ์ในตัว ไมต่ ้องมี กรรมมาต่อทา้ ย แต่คากริยาบาง คาตอ้ งมกี รรมมาต่อทา้ ยจงึ จะได้ ใจความสมบูรณ์

10 ลำดับ มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ นา้ หนัก ที่ ชือ่ หน่วยกำรเรยี นรู้ เรียนรู้/ตัวชวี้ ัด เรียน คะแนน คาทีท่ าหนา้ ท่ขี ยายคากรยิ า (ชั่วโมง) ๑๐ คาวิเศษณ.์ .. ท ๔.๑ ป.๔/๒ ให้มีความหมายชัดเจนขน้ึ ๔ เรยี กว่า คาวิเศษณ์ คาวิเศษณ์ ขยายคาจาให้แมน่ มักจะอยหู่ ลังคากรยิ าท่ีขยาย ๔ ถ้าเปน็ คากริยาสกรรม คาวเิ ศษณ์ ๑๑ อ่านเขียนอยา่ งไร... ท ๔.๑ ป.๔/๓ จะอย่หู ลงั คานามท่ีทาหน้าท่ีเป็น ๔ ต้องใช้พจนานุกรม กรรมของคากริยานัน้ ๔ พจนานกุ รมใช้อ้างอิงการเขียน ๑๒ ภาษาไทยนา่ เรยี น... ท ๔.๑ ป.๔/๔ สะกดคา การอ่านคา ๔ ฝกึ เขยี นดว้ ย ความหมายของคา รวมท้งั ชนิด ประโยค และที่มาของคา ๔ ประโยคเกดิ จากการนาคาหรือ ๑๓ กลอนส่ี...วรรคละ ท ๔.๑ ป.๔/๕ กลมุ่ คา มาเรียบเรยี งใหไ้ ด้ สีค่ า จาไดง้ า่ ย ใจความเพื่อใช้ส่อื สาร กลอนสเ่ี ป็นบทร้อยกรองที่มี ๑๔ คาขวญั เตือนใจ... ท ๔.๑ ป.๔/๕ ๔ วรรค วรรคละ ๔ คา ให้ทาความดี บทรอ้ ยกรองจะมีสมั ผัสระหว่าง วรรคและระหวา่ งบททาใหเ้ กิด ๑๕ คาพงั เพยและ ท ๔.๑ ป.๔/๖ ความไพเราะ สภุ าษิต...ใหข้ อ้ คิด คาขวัญเปน็ ถ้อยคาท่มี ีเสยี ง สอนใจ คล้องจอง ทาให้ไพเราะ และมี ความหมายกนิ ใจ สามารถจดจา ได้ง่าย คาพังเพยและสภุ าษิตเปน็ สานวนท่ใี หข้ ้อคดิ คตสิ อนใจใน การดาเนนิ ชีวิต ถ้อยคามี ลกั ษณะกระชบั กนิ ใจ ไพเราะ

11 ลำดับ มำตรฐำนกำร สำระสำคญั เวลำ นำ้ หนกั ที่ ชือ่ หน่วยกำรเรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั เรียน คะแนน ภาษาถน่ิ เปน็ ภาษาทใี่ ชส้ ื่อสาร (ชั่วโมง) ๑๖ ภาษาไทยมาตรฐาน- ท ๔.๑ ป.๔/๗ เฉพาะท้องถนิ่ คาท่มี ีความหมาย ๔ ภาษาถิน่ ...บอก อย่างเดยี วกัน อาจใช้คาแตกต่าง ความเป็นไทย กันในแต่ละถิน่ การเขา้ ใจ ๙ ความหมายของภาษาถนิ่ ทาให้ ๑๗ อา่ นได้คลอ่ ง... ท ๑.๑ ป.๔/๑, การส่ือสารกบั คนในท้องถิน่ ๒๕ ต้องรวู้ ิธี ป.๔/๒, ป.๔/๔, ดีขน้ึ ป.๔/๘ การอ่านบทรอ้ ยแก้วได้ถูกต้อง ท ๓.๑ ป.๔/๑ ชัดเจน จะทาให้การอา่ นมี ประสทิ ธภิ าพ ผอู้ ่านสามารถ ๑๘ เขยี นชานาญ... ท ๒.๑ ป.๔/๑, จับใจความได้ถูกต้อง การอา่ น งานสร้างสรรค์ ป.๔/๒, ป.๔/๓, ออกเสยี งบทร้อยกรองต้องแบ่ง ป.๔/๔, ป.๔/๕, จังหวะใหถ้ ูกต้อง การอา่ นตอ้ งมี ป.๔/๖, ป.๔/๗, เสยี งสูงตา่ หนกั เบา ป.๔/๘ เอื้อนเสยี งเพ่ือความไพเราะ การ แยกข้อเทจ็ จริง และข้อคิดเห็น ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง จะชว่ ยให้เปน็ คนมีเหตผุ ล ไมห่ ลงเชอ่ื ส่ิงตา่ ง ๆ ไดง้ า่ ย การ มีมารยาทในการอ่าน ชว่ ยใหเ้ ปน็ ผูอ้ า่ นท่ดี ี และ การอ่านมีประสิทธภิ าพ การคดั ลายมือได้ถูกตอ้ งตาม หลักการเขยี นตัวอกั ษรไทยและ สวยงามช่วยให้อา่ นง่าย และ เป็นการเชดิ ชูภาษาไทย การเขยี นสือ่ สารต้องใช้คาให้ ถูกต้องเหมาะสม สามารถส่ือ ความหมายไดช้ ัดเจน การเขยี น แผนภาพโครงเร่ือง

12 ลำดบั มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ นำ้ หนกั ที่ ช่อื หน่วยกำรเรยี นรู้ เรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด เรยี น คะแนน และแผนภาพความคิด เป็น (ชั่วโมง) การจัดข้อมูลอย่างมีระบบ ทาให้เข้าใจเรอื่ งราวไดด้ ียง่ิ ข้นึ การเขียนย่อความเป็นการสรุป ใจความสาคญั จากเร่ืองท่ีอ่าน จะทาใหเ้ ขา้ ใจเนื้อเรือ่ งชดั เจน การเขียนจดหมายถึงเพ่ือนและ บดิ ามารดา ควรใช้ภาษาให้ ถกู ต้องเหมาะสม การเขยี น บันทึกจากการศึกษาคน้ ควา้ ช่วยใหม้ คี วามรู้และ ประสบการณ์ในการเขยี น เพ่มิ มากข้ึน การเขียนรายงาน เป็นการนาเสนอขอ้ มลู จาก การศกึ ษาค้นควา้ การเขียนได้ ถกู ต้องครบถว้ นจะทาให้ รายงานมคี วามน่าเชอื่ ถือ ผ้อู า่ น เข้าใจได้งา่ ย การเขียนเรอ่ื งตาม จนิ ตนาการเป็นการฝกึ ความคิด ริเริม่ สรา้ งสรรค์ และจนิ ตนาการ การมีมารยาท ในการเขยี นจะชว่ ยให้การ ถา่ ยทอดความรู้ และความคดิ ของผเู้ ขียนไปสู่ผอู้ ่านอยา่ งมี ประสทิ ธภิ าพ

13 ลำดบั มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ เวลำ นำ้ หนกั ท่ี ช่ือหน่วยกำรเรยี นรู้ เรียนรู้/ตัวชีว้ ัด เรยี น คะแนน นิราศเดือนของนายมี เป็น (ชั่วโมง) ๕ นิราศเดอื น ท ๑.๑ ป.๔/๓, วรรณคดี ท่ีกลา่ วถงึ ประเพณี ๖ ไทยท้งั ๑๒ เดือน โดยบรรยาย ป.๔/๔, ป.๔/๖, ให้เหน็ ถึงวถิ ีชวี ิตและความ ๔ เป็นไทย ป.๔/๗ ความดที เี่ รากระทาไว้ จะทาให้ ผอู้ น่ื จดจาเราตลอดไป ท ๕.๑ ป.๔/๒, ป.๔/๔ ๖ คาประพนั ธ์สภุ าษติ ท ๑.๑ ป.๔/๓, ...ให้ข้อคิดสอนใจ ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗ ท ๕.๑ ป.๔/๒, ป.๔/๔ ๗ บทละครพูดคา ท ๑.๑ ป.๔/๓, บทละครพดู คากลอนเรื่อง ๖ พระร่วง พระราชนพิ นธใ์ น กลอน เรือ่ ง พระร่วง ป.๔/๕, ป.๔/๖, พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ - ๔ เกล้าเจ้าอยหู่ ัว เป็นวรรณคดีที่มี ๔ ป.๔/๗ เนื้อหายกย่องวีรบรุ ษุ ปลูกฝัง ๑๖๐ ความรกั ชาตแิ ละแสดงให้เห็น ท ๕.๑ ป.๔/๑, พลังของความสามคั คี ป.๔/๒, ป.๔/๔ เพลงพ้นื บ้านจะใชค้ าภาษาถ่ิน เป็นเน้อื รอ้ ง ซง่ึ เป็นเอกลกั ษณ์ ๘ เพลงพนื้ บ้าน ท ๕.๑ ป.๔/๓ ประจาถ่ิน ๙ บทอาขยาน ท ๕.๑ ป.๔/๔ การทอ่ งจาบทอาขยาน นอกจากจะชว่ ยฝึกความจา แลว้ ยงั เปน็ การปลูกฝงั ความคิด และคาสอนดี ๆ ให้ฝงั แน่นอยู่ใน ตวั เราด้วย รวม

โครงสร้ำงกำรจดั หนว่ ยกำรเรียนรู้ 14 กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย ช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๔ เวลำเรียน ภำคเรยี นที่ ๑ เวลำเรียน ๘๐ ชัว่ โมง (ช่วั โมง) หน่วยกำรเรียนรู้ ๑ ๑ หลักภำษำและกำรใช้ภำษำไทย ๑ หนว่ ยกำรเรยี นรูท้ ี่ ๑ มำตรำ ก กำ... จำไวห้ นำไมม่ ีตัวสะกด ๑ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑ ลักษณะของคาในมาตรา ก กา ๔ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๒ คามาตรา ก กา ท่ีใช้ในชีวติ ประจาวนั แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ ก กา...มหาสนกุ ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๔ ความหมายของคาในมาตรา ก กา ๑ ๑ รวม ๑ หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๒ มำตรำตวั สะกด... มที ้ังหมด ๘ มำตรำ ๔ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑ ลกั ษณะของคาในมาตรา กง กม เกย เกอว ๑ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๒ ลกั ษณะของคาในมาตรา กก กด กน กบ ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ ความหมายของคาท่ีมีตวั สะกดในมาตราต่าง ๆ ๑ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๔ มาตราตวั สะกด จดจาไดห้ มด ใชไ้ ดถ้ ูกต้อง ๑ ๔ รวม หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี ๓ ไตรยำงศ.์ ..สรำ้ งคำ ๑ ๑ แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๑ อักษร ๓ หมู่ ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ อักษรคู่ อักษรเด่ียว ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ อักษรคู่ เรียนรู้ไมย่ าก ๔ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๔ ครบเคร่ืองเร่ืองไตรยางศ์ รวม หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ ๔ คำเปน็ คำตำย...ดงู ำ่ ยไม่ยำก แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๑ ลักษณะของคาเปน็ คาตาย แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒ ลักษณะที่ตา่ งกนั ของคาเป็นและคาตาย แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓ ความหมายของคา นาปัญญา แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๔ ครบเคร่ืองเรอ่ื ง คาเปน็ คาตาย รวม

หนว่ ยกำรเรียนรู้ 15 หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ ๕ วรรณยกุ ต์...สิง่ สำคญั ผันอักษร เวลำเรียน แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑ วรรณยุกต์สร้างคา (ชั่วโมง) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ ผนั อกั ษร ผนั คา แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ ผนั เสยี งอกั ษรสูง-ตา่ ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๔ ครบเครื่องเรื่องวรรณยุกต์ ๑ ๑ รวม ๑ หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี ๖ คำพ้อง...ต้องพจิ ำรณำ ๔ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑ คาพอ้ งเสยี ง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒ คาพ้องรปู ๑ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ คาพอ้ งอะไร สังเกตใหด้ ี ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๔ คาพ้องมคี ุณค่า ๑ รวม ๑ ๔ หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี ๑๑ อำ่ นเขียนอยำ่ งไร...ต้องใช้พจนำนุกรม แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑ ประโยชน์ของพจนานุกรม ๑ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๒ อ่านเขียนคาคลอ่ ง ต้องหม่ันฝึกฝน ๑ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓ ฝึกอ่านเขียนคา จดจาความหมาย ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๔ พจนานกุ รมมีประโยชน์ ๑ รวม ๔ หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี ๑๖ ภำษำไทยมำตรฐำน-ภำษำถ่ิน...บอกควำมเป็นไทย ๑ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑ ความหมายของภาษาไทยมาตรฐาน และภาษาถ่นิ ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ ความหมายของคาในภาษาถ่ินตา่ ง ๆ ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ ใชภ้ าษาถิ่นใหถ้ กู ต้อง ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๔ รภู้ าษาไทย เข้าใจภาษาถิน่ ๔ รวม

หนว่ ยกำรเรียนรู้ 16 หนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี ๑๗ อ่ำนไดค้ ล่อง...ตอ้ งรู้วธิ ี เวลำเรียน เร่ืองที่ ๑ กำรอ่ำนออกเสียงบทร้อยแก้ว (ชั่วโมง) แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ (๑) ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ การอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้ว (๒) ๑ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๓ การอ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ (๓) ๑ เรื่องท่ี ๒ กำรอำ่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองเปน็ ทำนองเสนำะ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑ การอา่ นออกเสยี งบทร้อยกรองเป็นทานองเสนาะ (๑) ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒ การอา่ นออกเสียงบทร้อยกรองเปน็ ทานองเสนาะ (๒) ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓ การอ่านออกเสียงบทร้อยกรองเปน็ ทานองเสนาะ (๓) ๑ เรือ่ งท่ี ๓ กำรแยกข้อเท็จจริงและข้อคดิ เหน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ การแยกข้อเทจ็ จรงิ และข้อคิดเห็น (๑) ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ การแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น (๒) ๑ เรอ่ื งท่ี ๔ มำรยำทในกำรอ่ำน แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอื่ ง อา่ นอย่างมารยาท ๑ รวม ๙ หนว่ ยกำรเรียนร้ทู ี่ ๑๘ เขียนชำนำญ...งำนสรำ้ งสรรค์ ๑ เรื่องที่ ๑ กำรคดั ลำยมือ ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑ การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด ๑ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๒ การคัดลายมอื ตวั บรรจงครง่ึ บรรทัด ๑ เร่ืองที่ ๓ กำรนำแผนภำพโครงเร่ืองและแผนภำพควำมคิดไปพัฒนำงำนเขียน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑ แผนภาพโครงเร่ือง ๑ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๒ แผนภาพความคิด ๑ เรือ่ งท่ี ๕ กำรเขียนจดหมำยถึงเพ่อื นและบดิ ำมำรดำ ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑ การใชค้ าในการเขียนจดหมาย ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ การเขียนจา่ หนา้ ซองจดหาย แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ การเขยี นจดหมายถงึ เพ่ือน แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๔ การเขยี นจดหมายถงึ บิดามารดา

หนว่ ยกำรเรยี นรู้ 17 เรือ่ งท่ี ๘ กำรเขียนเรื่องตำมจินตนำกำร เวลำเรียน แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑ ความหมายและขัน้ ตอนการเขยี นเรื่องตามจินตนาการ (ช่ัวโมง) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒ การเขยี นเรื่องตามจนิ ตนาการ (๑) แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓ การเขียนเร่ืองตามจินตนาการ (๒) ๑ ๑ เร่ืองที่ ๙ มำรยำทในกำรเขยี น ๑ แผนการจดั การเรียนรู้ เรอื่ ง มารยาทในการเขียน ๑ รวม ๑๒ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๑๙ ฟัง ดู รู้สนทนำ...ภำษำสื่อสำร ๑ เรือ่ งที่ ๑ กำรพดู สรุปควำมจำกกำรฟังและดู ๑ ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ การพดู สรปุ ความจากการฟังและดู (๑) แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ การพูดสรปุ ความจากการฟังและดู (๒) ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓ การพูดสรปุ ความจากการฟังและดู (๓) ๑ เร่อื งที่ ๓ กำรต้ังคำถำมและตอบคำถำมเชงิ เหตุผลจำกเร่ืองท่ีฟงั และดู ๕ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑ การตง้ั คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเร่ืองท่ฟี ังและดู (๑) แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒ การตงั้ คาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเรอ่ื งทฟ่ี ังและดู (๒) ๑ ๑ รวม ๑ ๑ วรรณคดแี ละวรรณกรรม ๑ หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ ๑ บทละครเร่ือง เงำะปำ่ ๑ ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ ความเป็นมาและเนื้อเร่ืองย่อ ๑ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ ตอนชมปา่ ๘ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๓ ตอนพิธีแตง่ งาน แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๔ ตอนโศกนาฏกรรม แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๕ การเขยี นแผนภาพโครงเร่ือง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๖ การคาดคะเนเหตุการณ์จากเรือ่ ง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๗ คุณค่าของบทละครเรื่องเงาะปา่ (๑) แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๘ คณุ ค่าของบทละครเรื่องเงาะปา่ (๒) รวม

หน่วยกำรเรยี นรู้ 18 หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี ๔ บทเหก่ ลอ่ มพระบรรทม เหเ่ ร่ือง จับระบำ เวลำเรียน แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑ ตานานเมขลากบั รามสรู (ชว่ั โมง) แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ เมขลา แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๓ รามสูร ๑ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๔ การแต่งเรื่องจากคาท่ีกาหนด ๑ ๑ รวม ๑ หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๖ คำประพนั ธส์ ภุ ำษิต...ให้ข้อคิดสอนใจ ๔ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑ พฤษภกาสร (๑) แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒ พฤษภกาสร (๒) ๑ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๓ ปากเปน็ เอก เลขเปน็ โท หนงั สือเป็นตรี ช่วั ดเี ป็นตรา (๑) ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๔ ปากเปน็ เอก เลขเปน็ โท หนังสอื เป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา (๒) ๑ ๑ รวม ๔ หน่วยกำรเรียนรูท้ ี่ ๘ เพลงพ้ืนบ้ำน ๑ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๑ ลักษณะของเพลงพ้ืนบา้ น ๑ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๒ เพลงพน้ื บ้านของแต่ละภาค ๑ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ เพลงพวงมาลัย (๑) ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๔ เพลงพวงมาลยั (๒) ๔ รวม ๑ ๑ หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๙ บทอำขยำน ๒ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑ ลักษณะและคุณคา่ ของบทอาขยาน ๘๐ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๒ บทอาขยานสยามานสุ สติ รวม รวมท้ังหมด

โครงสรำ้ งกำรจัดหนว่ ยกำรเรียนรู้ 19 กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๔ เวลำเรียน ภำคเรยี นท่ี ๒ เวลำเรยี น ๘๐ ชัว่ โมง (ชัว่ โมง) หนว่ ยกำรเรียนรู้ ๑ ๑ หลกั ภำษำและกำรใชภ้ ำษำไทย ๑ หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ ๗ คำนำม...ใชเ้ รยี กตำมช่ือ ๑ ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑ ลักษณะและชนิดของคานาม ๔ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ ชนิดและหน้าทข่ี องคานาม แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๓ การใชค้ านาม ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๔ สรุปความรูเ้ รอ่ื งคานาม ๑ ๑ รวม ๑ ๔ หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๘ คำแทนชื่อ...นีค้ ือสรรพนำม แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑ ลกั ษณะและชนดิ ของคาสรรพนาม ๑ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๒ การใช้คาบุรษุ สรรพนาม ๑ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๓ ชนิดและหน้าทขี่ องคาสรรพนามในประโยค ๑ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๔ สรปุ ความรูเ้ ร่ืองคาสรรพนาม ๑ รวม ๔ หน่วยกำรเรียนรูท้ ี่ ๙ คำกริยำ...ส่อื อำกำร แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑ ลักษณะและชนดิ ของคากริยา แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๒ คากรยิ าชนดิ ใด ดไู ดไ้ มย่ าก แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ คากรยิ ามีมากมาย เลือกใชใ้ ห้ถูกต้อง แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔ ใช้คากริยาสร้างประโยค รวม

หน่วยกำรเรียนรู้ 20 หนว่ ยกำรเรยี นรูท้ ี่ ๑๐ คำวิเศษณ์...ขยำยคำ จำใหแ้ ม่น เวลำเรียน แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑ ลกั ษณะและหน้าท่ีของคาวเิ ศษณ์ (ชัว่ โมง) แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ รคู้ วามหมาย ใชไ้ ด้ถูกต้อง แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๓ ฉนั รหู้ น้าที่...ฉันมคี ุณค่า ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๔ ประโยชนล์ า้ ...คาวเิ ศษณ์ ๑ ๑ รวม ๑ หนว่ ยกำรเรยี นรูท้ ี่ ๑๒ ภำษำไทยนำ่ เรยี น...ฝกึ เขยี นด้วยประโยค ๔ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑ ลกั ษณะของประโยค แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๒ สว่ นประกอบของประโยค ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓ การแต่งประโยคแตล่ ะชนิด ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๔ เขา้ ใจความหมายของคา นามาใช้แตง่ ประโยค ๑ รวม ๑ ๔ หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ ๑๓ กลอนส่ี...วรรณละสีค่ ำ จำได้งำ่ ย แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑ ลกั ษณะของกลอนส่ี ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒ ฝกึ แตง่ กลอนสี่ ๑ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๓ มาแต่งกลอนสี่ ใหม้ คี วามสขุ ๑ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๔ การแตง่ กลอนสี่ให้ไพเราะ ๑ รวม ๔ หน่วยกำรเรียนรูท้ ี่ ๑๔ คำขวญั เตือนใจ...ให้ทำควำมดี ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑ ลักษณะของคาขวญั ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ ประโยชนข์ องคาขวญั ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ ฝกึ แต่งคาขวญั ๑ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๔ การแต่งคาขวัญใหไ้ ด้ใจความ ๔ รวม

หนว่ ยกำรเรยี นรู้ 21 หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๑๕ คำพังเพยและสุภำษิต...ให้ขอ้ คดิ สอนใจ เวลำเรียน แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๑ ความหมายของคาพงั เพย สุภาษิต (ชว่ั โมง) แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒ สานวนมมี ากมาย ศึกษาใหเ้ ขา้ ใจ ใชใ้ ห้ถูกตอ้ ง แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ เขา้ ใจความหมาย ใชส้ านวนได้ถูกต้อง ๑ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๔ คุณค่าของคาพังเพย และสุภาษิต ๑ ๑ รวม ๑ หน่วยกำรเรยี นร้ทู ี่ ๑๘ เขยี นชำนำญ...งำนสรำ้ งสรรค์ ๔ เรอ่ื งที่ ๒ กำรเขยี นส่ือสำร ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑ ลักษณะการเขียนส่ือสาร ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ วิธกี ารเขยี นขอ้ แนะนาการปฏบิ ตั งิ าน ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ การเขยี นแนะนาการปฏบิ ตั ิงาน เร่ืองท่ี ๔ กำรเขียนยอ่ ควำม ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑ หลักการย่อความ ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒ รปู แบบการยอ่ ความ ๑ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓ การย่อความนิทาน เรื่องที่ ๖ กำรเขยี นบนั ทกึ จำกกำรศึกษำคน้ ควำ้ ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑ การเขยี นบันทึก (๑) ๑ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒ การเขยี นบันทึก (๒) เร่ืองท่ี ๗ กำรเขยี นรำยงำน ๑ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๑ ความหมายและส่วนประกอบของรายงาน ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๒ การเขียนปกรายงาน ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ การเขียนสารบัญและบรรณานกุ รม ๑ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๔ การเขียนรายงาน (๑) ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๕ การเขียนรายงาน (๒) ๑๓ รวม

22 หน่วยกำรเรยี นรู้ เวลำเรียน (ช่ัวโมง) หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ ๑๙ ฟัง ดู รสู้ นทนำ...ภำษำสอ่ื สำร เรอ่ื งที่ ๒ กำรพูดแสดงควำมรู้ ควำมคดิ และควำมรู้สึกเก่ียวกบั เร่ืองท่ีฟงั และดู ๑ ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๑ การพูดแสดงความรู้เกีย่ วกับเรื่องที่ฟงั และดู ๑ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๒ การพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเร่อื งที่ฟงั และดู ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๓ การพูดแสดงความร้สู ึกเกี่ยวกับเรือ่ งท่ีฟงั และดู ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๔ การพูดแสดงความรู้ ความคิดเห็น และความรู้สึกเกย่ี วกับเรื่องท่ีฟังและดู เรอ่ื งที่ ๔ กำรพูดรำยงำน ๑ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑ ประเภทของการพูดรายงาน ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒ หลกั การพูดรายงาน ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ การพูดรายงานเด่ยี ว (๑) ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๔ การพดู รายงานเด่ยี ว (๒) ๑ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๕ การพดู รายงานกล่มุ (๑) ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๖ การพดู รายงานกลุม่ (๒) เร่ืองท่ี ๕ มำรยำทในกำรฟัง กำรดู และกำรพูด ๑ แผนการจัดการเรียนรู้ เร่อื ง มารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๑๑ รวม ๑ ๑ วรรณคดแี ละวรรณกรรม ๑ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๒ พระอภัยมณี ตอน กำเนิดสดุ สำคร ๑ ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑ เรอ่ื งย่อพระอภัยมณี ตอน กาเนดิ สุดสาคร ๑ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๒ กาเนดิ สุดสาครถงึ สุดสาครจบั ม้านิลมังกร (๑) ๖ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๓ กาเนดิ สดุ สาครถึงสดุ สาครจบั ม้านลิ มังกร (๒) แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๔ สดุ สาครเข้าเมอื งการะเวก (๑) แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๕ สุดสาครเข้าเมอื งการะเวก (๒) แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๖ ขอ้ คิดจากเร่อื งพระอภยั มณี ตอน กาเนิดสุดสาคร รวม

หน่วยกำรเรยี นรู้ 23 หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ี่ ๓ นทิ ำนเทียบสภุ ำษิต เรอื่ ง นำ้ ผง้ึ หยดเดยี วก่อเหตุ เวลำเรียน แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑ อ่านนิทานเทียบสภุ าษติ (ช่วั โมง) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒ เขียนแผนภาพลาดับเหตุการณ์จากเร่อื งที่อ่าน แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๓ การวิเคราะห์ความหมายของขอ้ ความ ๑ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๔ ข้อคิดที่ได้จากนิทานเทียบสุภาษติ ๑ ๑ รวม ๑ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๕ นริ ำศเดือน ๔ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ เดือนหา้ ประเพณีสงกรานต์, เดอื นเจ็ด ประเพณีสลากภัด แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ เดือนสิบ ประเพณีสารทไทย ๑ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๓ เดือนแปด ประเพณีเขา้ พรรษา, เดอื นสบิ เอ็ด ประเพณที อดกฐนิ ๑ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๔ เดอื นสิบสอง ประเพณีลอยกระทง ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๕ การใช้คาสมั ผสั คลอ้ งจอง ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๖ การเล่นคา ๑ รวม ๑ ๖ หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ ๗ บทละครพดู คำกลอน เร่อื ง พระร่วง แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑ พระร่วง (๑) ๑ แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๒ พระรว่ ง (๒) ๑ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๓ พระร่วง (๓) ๑ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๔ พระร่วง (๔) ๑ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๕ พระรว่ ง (๕) ๑ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๖ ขอ้ คดิ จากบทละครพูดคากลอน เรอ่ื ง พระร่วง ๑ รวม ๖ หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี ๙ บทอำขยำน ๑ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ วธิ ที ่องจาบทอาขยาน ๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔ บทอาขยานจากเร่อื งพระอภยั มณี ๒ รวม ๘๐ รวมทั้งหมด

ตารางวเิ คราะห์แผนการจัดการเรียนรู้รายชั่ว กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาระที่ ๑ การอ่าน สาระ ท ๑.๑ ๑๒๓๔๕๖๗๘๑๒๓ หลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย มาตราตวั สะกด หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ มาตรา ก กา...จาไวห้ นาไมม่ ีตวั สะกด หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ มาตราตวั สะกด...มีท้งั หมด ๘ มาตรา การผนั อกั ษร หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ ไตรยางศ.์ ..สร้างคา หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๔ คาเป็น คาตาย...ดูง่ายไมย่ าก หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ วรรณยกุ ต.์ ..สิ่งสาคญั ผนั อกั ษร คาพ้อง หน่วยการเรียนรู้ที่ ๖ คาพอ้ ง...ตอ้ งพิจารณา

24 วโมงกบั มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ดั ย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๔ ะท่ี ๒ การเขยี น สาระที่ ๓ การฟัง การดู และ สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย สาระที่ ๕ วรรณคดี การพดู และวรรณกรรม ท ๒.๑ ท ๓.๑ ท ๔.๑ ท ๕.๑ ๔๕๖๗๘๑๒๓๔๕๖๑ ๒๓๔๕๖ ๗๑ ๒๓๔      

สาระท่ี ๑ การอ่าน สาระที่ ๒ ท ๑.๑ ท ๑ ๒๓๔๕๖๗๘๑๒๓๔ ชนิดของคา หน่วยการเรียนรู้ที่ ๗ คานาม...ใชเ้ รียกตามช่ือ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๘ คาแทนช่ือ...น้ีคือสรรพนาม หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๙ คากริยา...สื่ออาการ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๐ คาวเิ ศษณ์...ขยายคา จาใหแ้ ม่น พจนานุกรม หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๑ อ่านเขียนอยา่ งไร...ตอ้ งใชพ้ จนานุกรม ประโยค หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๒ ภาษาไทยน่าเรียน...ฝึ กเขียนดว้ ยประโยค บทร้อยกรองและคาขวญั หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๓ กลอนส่ี...วรรคละส่ีคา จาไดง้ ่าย

25 ๒ การเขียน สาระท่ี ๓ การฟัง การดู สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย สาระท่ี ๕ วรรณคดี และการพูด และวรรณกรรม ท ๒.๑ ท ๓.๑ ท ๔.๑ ท ๕.๑ ๔๕๖๗๘๑๒๓๔๕๖๑๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๑ ๒ ๓ ๔       

สาระท่ี ๑ การอ่าน สาระท่ี ๒ ก ท ๑.๑ ท ๒. ๑ ๒ ๓ ๔๕๖๗ ๘ ๑๒๓ ๔๕ หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๑๔ คาขวัญเตือนใจ...ใหท้ าความดี สำนวน หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี ๑๕ คาพังเพยและสุภาษติ ...ใหข้ อ้ คดิ สอนใจ ภำษำถน่ิ หนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี ๑๖ ภาษาไทยมาตรฐาน-ภาษาถ่นิ ...บอกความ เปน็ ไทย กำรอ่ำน   หนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี ๑๗   อ่านไดค้ ล่อง...ต้องรู้วธิ ี  เร่ืองที่ ๑ การอ่านออกเสยี ง บทรอ้ ยแก้ว เรื่องท่ี ๒ การอ่านออกเสยี ง บทรอ้ ยกรองเปน็ ทานองเสนาะ เร่ืองที่ ๓ การแยกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็น เรอ่ื งท่ี ๔ มารยาทในการอา่ น 

การเขยี น สาระท่ี ๓ การฟัง การดู สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย 26 และการพูด ท ๔.๑ สาระที่ ๕ วรรณคดี ๑๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ และวรรณกรรม .๑ ท ๓.๑ ท ๕.๑ ๕๖๗๘๑ ๒๓๔๕๖ ๑ ๒ ๓๔    

สาระท่ี ๑ การอ่าน สาระที่ ๒ ก การเขยี น ท ๑.๑ ท ๒. ๑๒๓๔๕๖๗๘๑ ๒ ๓ ๔ ๕ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๘ เขียนชานาญ...งานสร้างสรรค์  เรื่องที่ ๑ การคดั ลายมือ  ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั และคร่ึงบรรทดั เรื่องท่ี ๒ การเขียนสื่อสาร  เรื่องท่ี ๓ การนาแผนภาพ  โครงเร่ืองและแผนภาพความคิดไปพฒั นา  งานเขียน เร่ืองท่ี ๔ การเขียนยอ่ ความ เรื่องท่ี ๕ การเขียนจดหมายถึงเพอ่ื นและ บิดามารดา เรื่องท่ี ๖ การเขียนบนั ทึกจากการศึกษา คน้ ควา้ เร่ืองที่ ๗ การเขียนรายงาน เร่ืองที่ ๘ การเขียนเร่ืองตามจินตนาการ เรื่องที่ ๙ มารยาทในการเขียน

27 การเขยี น สาระที่ ๓ การฟัง การดู สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย สาระที่ ๕ วรรณคดี และการพูด และวรรณกรรม .๑ ท ๓.๑ ท ๔.๑ ท ๕.๑ ๕ ๖ ๗ ๘ ๑๒๓๔๕๖๑๒ ๓ ๔ ๕ ๖๗๑ ๒ ๓ ๔         

สาระท่ี ๑ การอ่าน สาระที่ ๒ การเข ท ๑.๑ ท ๒.๑ ๑๒๓๔๕๖๗๘๑ ๒ ๓ ๔ ๕ การฟัง การดู และการพูด หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๙ ฟัง ดู รู้สนทนา...ภาษาส่ือสาร เรื่องท่ี ๑ การพดู สรุปความจากการ ฟังและดู เรื่องท่ี ๒ การพดู แสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึกเก่ียวกบั เรื่องท่ีฟังและดู เร่ืองท่ี ๓ การต้งั คาถามและตอบ คาถามเชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและ ดู เร่ืองท่ี ๔ การพดู รายงาน เร่ืองที่ ๕ มารยาทใน การฟัง การดู และการพดู

28 ขยี น สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และ สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย สาระที่ ๕ การพูด วรรณคดแี ละ วรรณกรรม ท ๓.๑ ท ๔.๑ ท ๕.๑ ๖ ๗ ๘ ๑๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๑๒ ๓ ๔ ๕ ๖๗๑๒๓๔     

สาระที่ ๑ การอ่าน สาระที่ วรรณคดแี ละวรรณกรรม ท ๑.๑ ท หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ ๑๒๓ ๔๕ ๖ ๗ ๘๑๒๓๔ บทละครเรื่อง เงาะป่ า หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒   พระอภยั มณี ตอน กาเนิดสุดสาคร   หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ นิทานเทียบสุภาษิตเรื่อง   น้าผ้ึงหยดเดียวก่อเหตุ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔   บทเห่กล่อมพระบรรทม เห่เรื่อง   จบั ระบา   หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๕ นิราศเดือน หน่วยการเรียนรู้ที่ ๖ คาประพนั ธ์สุภาษิต...ใหข้ อ้ คิด สอนใจ

29 ๒ การเขยี น สาระที่ ๓ การฟัง การดู สาระที่ ๔ หลกั การใช้ สาระที่ ๕ วรรณคดี และการพูด ภาษาไทย และวรรณกรรม ท ๒.๑ ท ๓.๑ ท ๔.๑ ท ๕.๑ ๔๕๖๗๘๑๒๓๔๕๖๑๒๓๔๕๖๗๑ ๒ ๓๔       

สาระที่ ๑ การอ่าน สาระท่ี ๒ ท ๑.๑ ท ๑๒๓ ๔๕ ๖ ๗ ๘๑๒๓๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๗   บทละครพดู คากลอน เรื่อง พระร่วง หน่วยการเรียนรู้ที่ ๘ เพลงพ้ืนบา้ น หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๙ บทอาขยาน สรุป

30 ๒ การเขยี น สาระที่ ๓ การฟัง การดู สาระท่ี ๔ หลกั การใช้ สาระท่ี ๕ วรรณคดี และการพูด ภาษาไทย และวรรณกรรม ท ๒.๑ ท ๓.๑ ท ๔.๑ ท ๕.๑ ๔๕๖๗๘๑๒๓๔๕๖๑๒๓๔๕๖ ๗๑ ๒ ๓ ๔    

กำรออกแบบกำร รำยวิชำภำษำไทย กลมุ่ สำ หน่วยที่ ๑ เรือ่ ง มำตรำ ก กำ.จำไว้หน ท่ี ชอ่ื หน่วย มำตรฐำน/ จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ ส กำรเรียนรู้ ตวั ช้ีวัด/ผล กำรเรียนรู้ ๑ มาตรา ก กา. มำตรฐำน นกั เรยี นสามารถสรุปไดว้ ่า คาที่ไม่มตี วั สะกดทกุ ค จาไว้หนาไม่มี กำรเรยี นรู้ คาจดั เป็นคาในมาตรา ก กา ตวั ตวั สะกด มำตรฐำน คา ท ๔.๑ เข้าใจ คา ธรรมชาติของ ภาษาและ หลกั ภาษาไทย การ เปล่ียนแปลง ของภาษา และพลงั ของ ภาษา ภมู ิ ปญั ญาทาง ภาษา และ รกั ษา ภาษาไทยไว้

31 รจดั กำรเรียนรู้ ำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย นำไม่มตี ัวสะกด จำนวน ๔ ชว่ั โมง สำระกำร ภำระงำน กำรจัดกำรเรยี นรู้ วิธีกำรวัด สอื่ /แหลง่ กำร เรียนรู้ และ เรียนรู้ คาทไ่ี ม่มี ๑. เร่อื งท่ีแตง่ ๑. ใหน้ ักเรียนอา่ นบทร้อย ประเมินผล วสะกดทุก โดยใชค้ าใน กรอง “ไหวผ้ ูม้ ีพระคุณ” า จัดเปน็ มาตรา ก กา สงั เกตคาทีค่ รูกาหนด ใบงานที่ ๑ ๑.บทร้อยกรอง าในมาตรา ๒. ใบงาน จากน้ันช่วยกัน เรอื่ ง การ “ไหว้ผ้มู ี ก กา เรอื่ ง การ จาแนกส่วนประกอบของคา เขยี นคาใน พระคุณ” มาตรา ก กา ๒. ปริศนาคา เขียนคาใน แลว้ สรปุ ขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการ และอธบิ าย ทาย มาตรา ก กา สงั เกต ความหมาย ๓. กระดาษ และอธบิ าย ๒. ให้นกั เรียนสงั เกตชือ่ เลน่ ความหมาย ตนเอง แลว้ จัดกลมุ่ ตาม สาหรับทา กิจกรรม ส่วนประกอบของช่ือ ๔. ใบข้อความ ๓. ใหน้ กั เรียนช่วยกันสรุป ๕. คาประพนั ธ์ ส่วนประกอบของคาท่ีไม่มี ๖. สานวนไทย ตวั สะกด ๗. แถบ ๔. ให้นักเรยี นศึกษาความรู้ ประโยค เรื่อง มาตรา ก กา เพ่ิมเติม ๘. ใบงานที่ ๑ แล้วสรปุ ความเขา้ ใจอกี คร้ัง ๕. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุม่

เปน็ สมบัติ ของชาติ ตวั ชี้วดั ท ๔.๑ ป. ๔/ ๑ สะกดคา และบอก ความหมาย ของคาใน บรบิ ทต่าง ๆ

32 สงั เกตส่งิ แวดล้อมรอบตวั แลว้ เขียนคาท่ีอยู่ในมาตรา ก กา นาคาทั้งหมดมารวบรวมและ อา่ นออกเสยี งพร้อมกนั ๖. ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันคดิ หา สานวนไทยที่นาส่งิ รอบตวั มา เปรยี บเทยี บ แลว้ จาแนกคา ในมาตรา ก กา จากสานวน นัน้ ๗. ให้นกั เรยี นคดิ คาใน มาตรา ก กา ท่ีเป็นช่ือผัก ผลไม้ ดอกไม้ หรอื สัตว์ แล้ว แบง่ กลุ่มตามประเภทของคา จากน้ันนาคามาแตง่ เรื่อง ๘. ให้นักเรียนอ่านประโยค จากแถบประโยค สงั เกตคาที่ ครูกาหนด แลว้ ช่วยกัน อธบิ ายความหมายของคา ตามความเข้าใจ จากนั้น ชว่ ยกนั ยกตวั อย่างคาใน มาตรา ก กา แล้วอธบิ าย ความหมายของคาที ยกตวั อย่าง ๙. ให้นกั เรียนทาใบงานที่ ๑

กำรออกแบบกำร รำยวชิ ำภำษำไทย กลมุ่ สำ หน่วยที่ ๒ เรือ่ ง มำตรำตวั สะกด…มที ที่ ชอ่ื หน่วย มำตรฐำน/ จุดประสงค์ สำระกำรเรยี นรู้ ภำระง กำรเรียนรู้ ตัวชวี้ ดั /ผล กำรเรียนรู้ กำรเรยี นรู้ ๒ มาตราตวั สะกด… มำตรฐำนกำร นกั เรยี น มาตราตัวสะกด ใบงานเร่ือ มีท้ังหมด๘ เรยี นรู้ สามารถสรุปได้ เขียนคาตา มาตรา มำตรฐำน ว่าตัวสะกดเป็น บอกและอ ท ๔.๑ เขา้ ใจ สว่ นประกอบ ความหมา

33 เร่อื ง การเขียนคาในมาตรา ก กา และอธิบายความหมาย จากน้ันออกมานาเสนอ ผลงานให้ทุกคนไดร้ ว่ มแสดง ความคิดเหน็ และปรบั ปรงุ ผลงานของตนเอง ๑๐. ใหน้ กั เรียนและครู ร่วมกันสรปุ ความรู้ ดังน้ี ๏ คาทไี่ ม่มีตวั สะกดทกุ คา จัดเป็นคาในมาตรา ก กา รจัดกำรเรียนรู้ วธิ กี ำรวัดและ สื่อ/แหลง่ กำร ำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย ทัง้ หมด๘ มำตรำ จำนวน ๔ ชัว่ โมง งำน กำรจัดกำรเรยี นรู้ ประเมินผล เรียนรู้ อง การ ๑.ใหน้ กั เรียนอา่ นบทร้อยกรอง “อานภุ าพ กำรประเมินผล ๑. บทร้อยกรอง ามคา เสียงปี่ของพระอภยั มณี” แล้วสงั เกตคาท่ี ตัวชี้วัด “อานภุ าพเสียงป่ี อธิบาย ครูกาหนดจากน้นั ชว่ ยกันจาแนก ใบงานท่ี ๒ เรอื่ ง ของพระอภัยมณี” ายของ สว่ นประกอบของคา แล้วสรปุ ขอ้ มูลที่ได้ การเขียนคาตาม ๒. เรือ่ ง อีสป

ธรรมชาตขิ อง หนึ่งของคา คา ภาษาและหลกั เสียงตวั สะกดมี ภาษาไทย การ ๘ มาตรา บาง เปลีย่ นแปลง มาตรามี ของภาษาและ พยญั ชนะที่เปน็ พลงั ของภาษา ตัวสะกดตัว ภูมิปัญญาทาง เดียวบาง ภาษา และ มาตรามี รกั ษา พยัญชนะทเ่ี ป็น ภาษาไทยไว้ ตัวสะกดหลาย เป็นสมบัติของ ตวั ชาติ ตวั ชวี้ ดั ท ๔.๑ ป. ๔/๑ สะกดคาและ บอก ความหมาย ของคาใน บรบิ ทต่าง ๆ

จากการสงั เกต คาบอก และ 34 ๒.ให้นักเรยี นแบ่งกลมุ่ อ่านเรื่อง อีสป อธิบาย ๓. ปริศนาคาทาย ๔. บตั รคา ภาพ จากนัน้ ช่วยกนั เลอื กคาท่ีมีเสียงตัวสะกด ความหมายของ แถบประโยค ๕. กระดาษสาหรบั ต่าง ๆ เขยี นบันทึกไว้ คา ทากิจกรรม ๖. หนังสือพิมพ์ ๓.ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันนาคาท่ี ๗. ฉลาก ๘. ใบงานที่ ๒ บันทึกมาจัดกลมุ่ ตามเสียงตวั สะกดและ คดิ คาที่มเี สียงตัวสะกดเหมือนกันเพ่ิมเติม ๔. ใหน้ กั เรยี นสังเกตภาพและบอกคาจาก ภาพ จากนั้นสง่ ตัวแทนออกมาเขียนคา บนกระดานนักเรยี นทุกคนสังเกตตวั สะกด ของคาแล้วช่วยกันจาแนกบตั รคาทมี่ ี ตวั สะกดเหมือนกนั (กจิ กรรมนใ้ี ช้เฉพาะคา ท่ีอยู่ในมาตรา กง กม เกย เกอว) ๕.ให้นกั เรยี นนาคาที่จัดกลุ่มไวใ้ นกจิ กรรม ท่ี ๓ มาจดั กล่มุ รวมกนั จากน้นั ร่วมกัน สรปุ ความรู้จากข้อมลู ที่ไดล้ งในแผนภาพ ความคิด ๖.ให้นกั เรยี นสังเกตภาพและบอกคาจาก ภาพ จากนั้นส่งตัวแทนออกมาเขียนคา บนกระดาน นักเรียนทุกคนสงั เกตเสียง ตัวสะกดของคา แลว้ ชว่ ยกนั จาแนกบตั ร คาทมี่ เี สียงตวั สะกดเหมือนกัน (กิจกรรมนี้ ใช้เฉพาะคาที่อย่ใู นมาตรา กก กด กน กบ) ๗.ให้นกั เรียนนาคาที่จัดกล่มุ ไว้ในกิจกรรม



35 ท่ี ๓ มาจัดกล่มุ รวมกนั จากน้ันร่วมกัน สรุปความรจู้ ากข้อมูลที่ไดล้ งในแผนภาพ ความคดิ ๘.ให้นักเรยี นศกึ ษาความรเู้ ร่ืองมาตรา ตวั สะกดเพ่ิมเติม แลว้ สรุปความเข้าใจ อกี คร้ัง ๙.ให้นกั เรยี นช่วยกนั คิดคาตามมาตรา ตวั สะกดท่ีกาหนด ๑๐. ใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ ๒ เรื่อง การ เขยี นคาตามคาบอกและอธิบาย ความหมายของคาจากนน้ั ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๑๑. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดงั น้ี ๏ ตัวสะกดเปน็ ส่วนประกอบหนง่ึ ของคา เสียงตัวสะกดมี ๘ มาตรา บางมาตรามี พยญั ชนะท่ีเป็นตวั สะกดตัวเดียวบาง มาตรามีพยัญชนะที่เปน็ ตวั สะกดหลายตัว ๑๒.ให้นักเรียนเขียนแผนภาพความคิด สรปุ ความรเู้ ร่อื ง มาตราตวั สะกด

กำรออกแบบกำร รำยวชิ ำภำษำไทย กล่มุ สำ หนว่ ยท่ี ๓ เรื่อง ไตรยางศ์… ที่ ชอ่ื หน่วย มำตรฐำน/ จุดประสงค์ สำระกำรเรียนรู้ ภำระง กำรเรยี นรู้ ตวั ชี้วัด/ผล กำรเรียนรู้ กำรเรียนรู้ ๓ ไตรยางศ์…สร้าง มำตรฐำนกำร นกั เรียน ไตรยางศ์ ใบงานเร่อื คาอักษรค คา เรยี นรู้ สามารถสรุปได้ มาตรฐาน ท วา่ พยัญชนะ ใช้แตง่ ประ

36 รจัดกำรเรยี นรู้ วิธีกำรวัดและ ส่ือ/แหลง่ กำร ำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย …สร้างคา จำนวน ๔ ช่ัวโมง งำน กำรจัดกำรเรยี นรู้ ประเมินผล เรยี นรู้ อง คิด ๑. ให้นกั เรยี นอ่านเรอื่ ง “หง่ิ ห้อยกบั ต้น กำรประเมนิ ผล ๑. เรอื่ ง “ห่งิ หอ้ ย คู่แล้ว ลาพู” แลว้ สงั เกตพยัญชนะตน้ ของคาทค่ี รู ตวั ช้ีวัด กับตน้ ลาพู” ะโยค กาหนด ใบงานที่ ๓ เรอ่ื ง ๒. ปริศนาคาทาย

๔.๑ เขา้ ใจ ไทย ๔๔ ตวั ธรรมชาติของ แบง่ ตามระดับ ภาษาและหลัก เสียงพยัญชนะ ภาษาไทย การ ไดเ้ ปน็ อักษร เปล่ียนแปลง สงู อกั ษรกลาง ของภาษาและ และอักษรตา่ พลงั ของภาษา ซึง่ เป็น ภมู ิปัญญาทาง หลกั เกณฑห์ น่ึง ภาษา และ ทใ่ี ช้ในการผนั รกั ษา อักษร ภาษาไทยไว้ เปน็ สมบตั ขิ อง ชาติ ตวั ชี้วดั ท ๔.๑ ป. ๔/๑ สะกดคาและ บอก ความหมาย ของคาใน บรบิ ทต่าง ๆ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook