Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

Published by rbanditaektrakul, 2022-01-28 13:29:37

Description: หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

Search

Read the Text Version

98 คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ ว 23201 เทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ศึกษาความหมาย ความสำคัญ ประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ลักษณะการเชื่อมต่อของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ประเภทของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ช่องทางการ สื่อสารในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ความหมายของอินเทอร์เน็ต กำเนิดของอินเทอร์เน็ตอินเทอร์เน็ตใน ประเทศไทย ข้อดีและข้อจำกัดของอินเทอร์เน็ต เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะอินเตอร์เน็ต เบอ้ื งต้น ใช้โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ในการสืบค้นข้อมูล ใช้งานจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ใช้งานสังคมเครือข่าย เขยี นภาษา HTML เบอื้ งต้น สรา้ งเวบ็ ไซตข์ องตนเองจากผใู้ ห้บรกิ ารฟรี สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ เลือกใช้เทคโนโลยีและเทคโนโลยีสารสนเทศได้เหมาะสมกับงานอย่าง ถูกต้อง มีคุณธรรม ทำงานด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ มีระเบียบ สะอาด ประหยัด ใช้พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างคุ้มค่าถูกวิธี ทำงานกลุ่มได้ แก้ไขปัญหาการทำงานได้ มีความ มุ่งมั่นในการทำงาน ทำงานอย่างมีความสุข นอกจากนี้ยังมุ่งปลูกฝังนสิ ัย การพึ่งตนเองและมีวัฒนธรรมในการ อยู่ร่วมกับผู้อืน่ ตัวช้ีวัด 1. รูแ้ ละเขา้ ใจความหมาย ความสำคญั ประโยชน์ของเครือขา่ ยอินเตอร์เน็ตเบื้องตน้ 2. รแู้ ละเขา้ ใจระบบเครือขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ตในปัจจบุ นั 3. รแู้ ละเข้าใจความหมายของอินเทอร์เน็ต กำเนิดของอินเทอรเ์ น็ตอนิ เทอร์เนต็ ในประเทศไทย ข้อดี และข้อจำกดั ของอินเทอร์เนต็ กับการสรา้ งเวบ็ 4. สร้างเว็บไซต์ดว้ ยภาษา HTML เบอ้ื งต้น รวม 4 ตัวชวี้ ดั

99 คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ ว 23202 เทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 20 ช่ัวโมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ศึกษาความหมาย ความสำคัญ ประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ลักษณะการเชื่อมต่อของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ประเภทของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ช่องทางการ สื่อสารในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ความหมายของอินเทอร์เน็ต กำเนิดของอินเทอร์เน็ตอินเทอร์เน็ตใน ประเทศไทย ข้อดีและข้อจำกัดของอินเทอร์เน็ต เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ และมีทักษะอินเตอร์เน็ต เบื้องตน้ ใช้โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ในการสืบค้นข้อมูล ใช้งานจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ใช้งานสังคมเครือข่าย เขียนภาษา HTML เบ้ืองต้น สรา้ งเว็บไซต์ของตนเองจากผ้ใู หบ้ รกิ ารฟรี สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ เลือกใช้เทคโนโลยีและเทคโนโลยีสารสนเทศได้เหมาะสมกับงานอย่าง ถูกต้อง มีคุณธรรม ทำงานด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์ มีระเบียบ สะอาด ประหยัด ใช้พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างคุ้มค่าถูกวิธี ทำงานกลุ่มได้ แก้ไขปัญหาการทำงานได้ มีความ มุ่งมั่นในการทำงาน ทำงานอย่างมีความสุข นอกจากนี้ยังมุ่งปลูกฝังนิสยั การพึ่งตนเองและมีวฒั นธรรมในการ อย่รู ว่ มกับผู้อ่นื ตัวชวี้ ดั 1. รู้และเขา้ ใจ ส่วนประกอบของเว็บไซค์ 2. รแู้ ละเขา้ ใจ การสรา้ งหนา้ เว็บไซค์ 3. รู้และเขา้ ใจ โปรแกรมท่ีช่วยในการออกแบบหน้าเวบ็ ไซค์ 4. การพัฒนาเว็บไซค์ รวม 4 ตวั ช้วี ัด

100 คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ รายวิชา การสืบค้นข้อมลู รหสั วิชา ว21202 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ชั่วโมง ศึกษากระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูล ความสำคัญและประโยชน์ของการ สืบค้น การเลือกเครื่องมือในการสืบค้นข้อมูล การใช้ตรรกบูลีน การกำหนดรูปแบบในการสืบค้นข้อมูล พระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จรรยาบรรณในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอรเ์ น็ต การอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ ปฏิบัติการเลือกเครื่องมือในการสืบค้นข้อมูล โดยการใช้ตรรกบูลีน การกำหนดรูปแบบในการสืบค้น ข้อมูล ปฏิบัติสร้างงานจากการสืบค้นข้อมูล โดยใช้กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วยกระบวนการ กลุ่ม มีทักษะการทำงานอย่างเป็นระบบ ใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอรเ์ น็ตตามจรรยาบรรณ ใช้อย่างมีจิตสำนึก และมีความรับผิดชอบและปฏิบตั ติ ามพระราชบัญญตั กิ ารกระทำความผดิ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เพ่อื ให้มีเจตคติท่ดี ตี ่อการใช้งานคอมพิวเตอร์และอนิ เทอร์เนต็ มคี วามซอ่ื สตั ย์สุจรติ มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ มี ความมงุ่ มน่ั ในการทำงาน มีจิตสำนึก มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีคุณธรรม จิรยธรรม และมีค่านิยมท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายความหมาย ความสำคัญและประโยชน์ของการสืบค้นข้อมูล 2. ปฏิบัติการสืบค้นข้อมูลโดยใช้ตรรกบูลีนและการกำหนดรูปแบบในการสืบค้นข้อมลู 3. อธิบายความหมายของโซเชียลเนต็ เวิร์คได้ 4. อธบิ ายความหมายของคณุ ธรรม จรยิ ธรรมในการใช้อนิ เทอร์เน็ต 5. สามารถใช้โซเชียลเน็ตเวริ ค์ ได้อยา่ งมคี ุณธรรมและจริ ยธรรม รวมท้งั หมด 5 ผลกำรเรียนรู้

101 คำอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเตมิ รายวิชา การสบื ค้นข้อมลู รหัสวิชา ว21204 กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 2 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ช่ัวโมง ศึกษากระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมลู การเลือกใช้รูปแบบในการสืบค้นให้ ได้ข้อมูลตรงกับความต้องการ แนวปฏิบัติตนตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ปี 2560 การอ้างอิงข้อมูลที่ได้ จากการสืบค้นจรรยาบรรณในการใช้คอมพิวเตอรแ์ ละอินเทอร์เนต็ ปฏิบัติการเลือกเคร่ืองมือในการสืบค้นข้อมูล การกำหนดรูปแบบในการสืบค้นข้อมูลให้ได้ตรงความ ต้องการ ปฏิบัติสร้างงานจากการสืบค้นข้อมูล ปฏิบัติตนตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ปี 2560 โดยใช้ กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ดว้ ยกระบวนการกลุ่ม มที ักษะการทำงานอยา่ งเปน็ ระบบ เพ่ือให้มีเจตคตทิ ีด่ ตี ่อการใชง้ านคอมพิวเตอร์และอนิ เทอร์เนต็ มีความซื่อสตั ย์สุจริต มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ มี ความมุ่งม่ันในการทำงาน มจี ติ สำนึก มีความรับผดิ ชอบ มคี ุณธรรม จริยธรรม และมีค่านิยมท่เี หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. บอกกระบวนการทางเทคโนโลยสี ารสนเทศในการสบื ค้นขอ้ มลู 2. เลอื กใชร้ ปู แบบในการสืบคน้ ขอ้ มูลให้ตรงความตอ้ งการได้ 3. ปฏบิ ัตกิ ารสืบค้นขอ้ มูลโดยใช้ช่องทางทีห่ ลากหลายและเหมาะสมได้ 4. บอกและสามารถปฏบิ ตั ติ นตามพระราชบัญญตั ิคอมพิวเตอร์ 2560 ได้ 5. สามารถใช้โซเชยี ลเน็ตเวิร์คได้อย่างมีคุณธรรมและจริ ยธรรม รวมท้งั หมด 5 ผลกำรเรียนรู้

102 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม รายวิชา การสบื ค้น รหสั วชิ า ว22202 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชั่วโมง ศกึ ษาหลักการใช้อินเทอร์เน็ตในการคน้ คว้าหาความรู้ให้ตรงกับความต้องการ หลกั การรวบรวมข้อมูล สารสนเทศเพื่อการนำมาใช้ให้เกดิ ประโยชน์ ปฏิบัตกิ ารใช้อนิ เทอร์เน็ตในการคน้ คว้าหาความรู้ให้ตรงกบั ความต้องการ ให้ถูกต้องการตามหลักการ รวบรวมขอ้ มูลสารสนเทศ และให้เกิดประโยชนส์ ูงสุด โดยใชอ้ ยา่ งมคี ุณธรรม และตระหนักถงึ ประโยชน์ที่ได้รับ จากการใช้อินเทอร์เนต็ เพอื่ ให้มเี จตคตทิ ด่ี ีตอ่ การใชง้ านคอมพวิ เตอรแ์ ละอนิ เทอรเ์ นต็ มคี วามซื่อสตั ยส์ ุจริต มีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ มี ความมุ่งม่ันในการทำงาน มีจติ สำนึก มคี วามรับผดิ ชอบ มคี ุณธรรม จริ ยธรรม และมคี ่านิยมที่เหมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. รแู้ ละเข้าใจหลกั การใช้อินเทอร์เนต็ ในการคน้ หาความรู้ 2. ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ในการสบื คน้ ข้อมลู ไดต้ รงกบั ความต้องการ 3. รแู้ ละเข้าใจหลกั การรวบรวมข้อมูลสารสนเทศเพอื่ การนำมาใช้ให้เกดิ ประโยชน์ 4. รวบรวมข้อมูลสารสนเทศและนำมาใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ 5. ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตอยา่ งมีคณุ ธรรม และตระหนกั ถึงการใช้เพ่อื ให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสุด รวมท้งั หมด 5 ผลกำรเรียนรู้

103 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ รายวิชา การสบื คน้ ข้อมูล รหสั วชิ า ว22204 กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ชั่วโมง ศกึ ษาการใช้เทคโนโลยีการส่ือสารในยุคปัจจุบนั ในการค้นควา้ ข้อมูล ดว้ ยแอปพลเิ คชันหรือบริการอ่ืน ๆ ทีห่ ลากหลายให้ไดข้ ้อมูลทตี่ รงกับความตอ้ งการและเกิดประโยชนส์ ูงสุด พร้อมทัง้ การนำเสนอข้อมูล น้นั ด้วยเทคโนโลยีส่อื สาร ปฏิบัติการใชแ้ อปพลิเคชันหรอื บรกิ ารอืน่ ๆ ที่หลากหลายจากเทคโนโลยีสือ่ สารในยุคปัจจุบัน ในการ ค้นคว้าข้อมูลให้ตรงกับความต้องการและเกิดประโยชน์สูงสุดอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม และการนำเสนอ ข้อมลู ผ่านเทคโนโลยกี ารสอ่ื สารที่เหมาะสม เพื่อใหม้ ีเจตคติท่ดี ีต่อการใช้งานเทคโนโลยีส่ือสารในยุคปัจจบุ ัน มคี วามซื่อสัตยส์ ุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มีความมงุ่ มน่ั ในการทำงาน มจี ติ สำนกึ มีความรบั ผดิ ชอบ มคี ุณธรรม จริ ยธรรม และมคี ่านยิ มทีเ่ หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. บอกแอปพลิเคชันหรอื บรกิ ารอ่นื ๆ ในการสืบค้นขอ้ มลู สารสนเทศ 2. สามารถสืบค้นข้อมูลดว้ ยแอปพลิเคชนั หรอื บริการทหี่ ลากหลายและตรงกับความต้องการ 3. บอกความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยีการส่ือสารกบั การค้นคว้าหาความร้ใู นยคุ ปัจจุบันและประยุกต์ ใช้ได้ 4. ใชเ้ ทคโนโลยกี ารส่อื สารในปจั จบุ ันใชใ้ นการนำเสนอขอ้ มลู 5. ใช้เทคโนโลยีการสื่อสารอยา่ งมคี ณุ ธรรมและเกิดประโยชนส์ ูงสดุ รวมท้งั หมด 5 ผลกำรเรียนรู้

104 คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ รายวชิ า การสืบคน้ ข้อมูล รหสั วชิ า ว23202 กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 จำนวน 0.5 หน่วยกิต เวลา 20 ชั่วโมง ศึกษาความหมายและความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญา การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ปลอดภัย วิธีการเผยแพร่ผลงานโดยใช้สื่อเทคโนโลยีการปกป้องข้อมูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ และการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั ปฏิบัติการค้นคว้าและนำเสนอความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ปลอดภัย เผยแพรผ่ ลงานโดยใช้สอื่ เทคโนโลยี ปกป้องขอ้ มลู ส่วนตัวบนโลกออนไลน์ เพื่อให้มีเจตคติที่ดีต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีความซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่ เรียนรู้ มีความมุ่งมั่นในการทำงาน มีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบ มีคุณธรรม จิรยธรรม และมีค่านิยมท่ี เหมาะสม ผลการเรยี นรู้ 1. รู้และเขา้ ใจความหมายและความสำคญั ของทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา 2. บอกวิธกี ารและปฏิบตั กิ ารใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอยา่ งปลอดภัย 3. บอกวิธกี ารและปฏบิ ตั ิการเผยแพรผ่ ลงานโดยใช้สื่อเทคโนโลยี 4. รู้ เข้าใจและสามารถปกป้องขอ้ มูลส่วนตัวบนโลกออนไลน์ 5. ตระหนกั ถึงการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย รวมท้งั หมด 5 ผลกำรเรียนรู้

105 คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเตมิ รายวิชา การสบื ค้นข้อมูลรหัสวชิ า ว23204 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 0.5 หน่วยกติ เวลา 20 ช่ัวโมง ศึกษากระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศในการสืบค้นข้อมูล การเลือกใช้แอพลิเคช่ันท่ีเหมาะสม และหลากหลายในการสืบค้นให้ได้ข้อมูลตรงกับความต้องการ การสร้างชิ้นงานที่ได้จาการสืบค้นข้อมูล การ ปฏบิ ตั ิตนตามพระราชบัญญัติคอมพวิ เตอร์ 2560 ปฏิบัติการเลือกเครื่องมือในการสืบค้นข้อมูล แอพลิเคชั่นในการสืบค้นในรูปแบบที่เหมาะสม ปฏิบัติ สร้างงานจากการสืบค้นข้อมูล โดยใช้กระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้วยกระบวนการกลุ่ม มีทักษะ การทำงานอย่างเป็นระบบ ใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตตามจรรยาบรรณ ใช้อย่างมีจิตสำนึกและมีความ รบั ผิดชอบและปฏบิ ตั ติ ามพระราชบัญญตั ิการกระทำความผดิ เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์ เพ่อื ใหม้ ีเจตคตทิ ่ีดตี อ่ การใชง้ านคอมพวิ เตอรแ์ ละอินเทอร์เนต็ มีความซ่อื สัตยส์ จุ รติ มวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ มี ความมงุ่ มนั่ ในการทำงาน มจี ิตสำนกึ มคี วามรบั ผดิ ชอบ มีคณุ ธรรม จิรยธรรม และมีคา่ นิยมทเ่ี หมาะสม ผลการเรียนรู้ 1. รู้ เข้าใจองค์ประกอบ กระบวนการทำงานของอุปกรณ์ไอโอที และประโยชนข์ องไอโอที 2. บอกแนวทางการพัฒนาแอปพลิเคชันไอโอทจี ากกรณีศึกษาท่กี ำหนด 3. ออกแบบและประยกุ ต์ใช้ Scratch ในการพฒั นางานอยา่ งงา่ ยอย่างมคี วามคดิ สร้างสรรค์ 4. รูเ้ ทา่ ทนั เทคโนโลยีในยคุ ปัจจบุ นั และใชเ้ ทคโนโลยีใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ รวมท้งั หมด 4 ผลกำรเรียนรู้

ว 11101 วิทยาศาสตร์ 106 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 โครงสรา้ งรายวชิ า กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เวลา 80 ช่ัวโมง/ปี หน่วย ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี เรียนรู้ เรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั (ชวั่ โมง) คะแนน 1. ตัวเรา ว 1.2 ป.1/1 ว 1.2 ป.1/2 รา่ งกายของคนเรามอี วัยวะภายนอกและอวยั วะ 12 10 ภายในทีสำคญั อวัยวะ แตล่ ะอวยั วะมหี น้าทแี่ ตกต่าง กนั แตอ่ วยั วะทัง้ หมดทำงานสมั พนั ธ์กนั เป็นระบบ เรา จงึ ต้องดแู ลและรกั ษาอวัยวะต่างๆ ใหบ้ าดเจบ็ หรือ เปน็ อนั ตราย 2. พชื และสตั ว์น่ารู้ ว 1.2 ป.1/1 สัตวก์ ับพชื เปน็ สิ่งมชี ีวิตเหมอื นกนั โดยมี 12 10 ว 1.2 ป.1/2 ลกั ษณะเฉพาะท่เี ปน็ สง่ิ มชี ีวติ คอื มีการหายใจ 12 10 กินอาหาร สืบพันธุ์ มีลูกหรอื ขยายพันธุ์ 12 10 3. พชื และสตั ว์กับ ว 1.1 ป.1/1 เจรญิ เตบิ โต ขบั ถา่ ยของเสีย และตอบสนอง บรเิ วณทอี่ ยู่ ว 1.1 ป.1/2 ตอ่ ส่งิ ท่ีมาสมั ผสั ได้ อาศยั บรเิ วณต่างๆในท้องถิน่ จะพบพชื และสตั ว์ หลายชนดิ ซึง่ สภาพแวดล้อมในแต่ละบรเิ วณ 4. วัสดุและสมบตั ิ ว 2.1 ป.1/1 จะมีความเหมาะสมตอ่ การดำรงชวี ิตของพืช และสัตว์แตกตา่ งกันไป ของวัสดุ ว 2.1 ป.1/2 ของเล่นและของใช้ตา่ งๆรอบตวั เรา เป็นสิ่งของท่มี รี ูปรา่ งลักษณะแตกต่างกนั ซึ่ง เราเรียกว่า วตั ถุ โดยวัตถุอาจทำมาจากวัสดุ ชนดิ เดียวกนั หรอื แตกต่างกัน เราเรียกสง่ิ ที่ทำ วัตถุตา่ งๆวา่ วสั ดุ ซง่ึ วสั ดุมหี ลายชนดิ ทมี่ ี ลกั ษณะเหมือนกันและแตกต่างกนั และมีสมบตั ิ แตกต่างกนั ไป

107 หนว่ ย ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ เรียนร/ู้ ตัวชว้ี ัด (ชัว่ โมง) คะแนน เสียงเปน็ พลงั งานรปู หน่งึ ทีส่ ามารถรบั รู้ไดโ้ ดย 5. เสียงรอบตวั เรา ว 2.3 ป.1/1 การฟังผ่านทางหขู องเราเสียงเกดิ จากการ 12 10 สน่ั สะเทอื นของวัตถตุ ่างๆที่ทำใหเ้ กดิ เสยี งได้ เสยี งจะเคลอ่ื นทแี่ ละแผก่ ระจายออกจาก แหล่งกำเนิดเสยี งไปไดท้ ุกทิศทาง 6. หนิ ในธรรมชาติ ว 3.2 ป.1/1 หนิ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีลกั ษณะ 10 10 7. ท้องฟา้ ของเรา เปน็ กอ้ นแขง็ หินมหี ลายชนิดและหลาย 10 10 ว 3.1 ป.1/1 ขนาด พบได้ตามแหลง่ ต่างๆ มีลกั ษณะ ว 3.1 ป.1/2 ภายนอกทเี่ หมือนกันหรอื ต่างกนั ข้นึ อยู่ กบั สมบัติของหินเหล่านั้น บนทอ้ งฟา้ มีดวงอาทติ ย์ ดวงจนั ทรแ์ ละ ดวงดาวต่างๆ ในเวลากลางวันท้องฟ้ามคี วาม สวา่ งเพราะไดร้ ับแสงจากดวงอาทติ ย์ สว่ นใน เวลากลางคนื ทอ้ งฟ้าจะมืดและเราจะมองเหน็ ดวงจนั ทรแ์ ละดวงดาว รวมระหว่างภาค 70 สอบปลายภาค 30 80 100 รวมท้ังสินตลอดปี

108 ช่ือรายวชิ า วิทยาศาสตร์ โครงสร้างรายวิชา ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหสั ว12101 เวลา 80 ชว่ั โมง หนว่ ยที่ ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั 1 สงิ่ แวดล้อมรอบตัว ตวั ชี้วัด (ชั่วโมง) คะแนน ว 1.3 ป.2/1 2 ชวี ติ พชื น่ารู้ สิง่ ต่างๆ ทอ่ี ยูร่ อบตวั เรา มีทั้งสงิ่ มีชวี ติ และ 15 12 3 วัสดุในชีวติ ประจำวัน ว 1.2 ป.2/1 ป.2/2 ส่ิงไมม่ ชี ีวติ ซ่ึงในการสงั เกตว่าสง่ิ ใดเปน็ ป.2/3 20 ส่งิ มีชีวิตนั้น สามารถสงั เกตได้จากลักษณะ ว 2.1 ป.2/1 ป.2/2 สำคัญต่าง ๆ เนอื่ งจากสง่ิ มชี ีวิตต้องการ 18 ป.2/3 ป.2/4 อากาศ อาหาร และน้ำ เพื่อการดำรงชวี ติ และส่งิ มีชีวติ ยงั สามารถเคลือ่ นทีห่ รือ เคลื่อนไหวได้เอง รวมทงั้ สามารถสบื พนั ธุ์และเจริญเติบโตได้ น้ำ แสง ถอื เป็นปจั จยั หลกั และเป็นปจั จยั 25 ท่จี ำเปน็ ตอ่ การเจริญเติบโตและการ ดำรงชวี ติ ของพืช ซึง่ การเจริญเตบิ โตของ พชื จะมีการเปลีย่ นรูปรา่ งลักษณะท่เี ป็น แบบรปู หมนุ เวยี นตอ่ เนื่องกนั เปน็ วัฎจกั ร วัสดุแต่ละชนิดมีสมบัติการดูดซับน้ำที่ 20 แตกต่างกัน จึงนำไปทำเป็นวัตถุเพื่อใช้ ประโยชน์ได้แตกต่างกัน ซึ่งวัสดุบางชนิด เมื่อนำมาผสมกันแล้ว วัสดุที่ได้อาจมี สมบัติเปลี่ยนไปจากเดิม ทำให้เหมาะสม กับการใช้งาน ในการเลือกวัสดุเพื่อนำไป ทำเป็นวัตถุเพื่อใชป้ ระโยชน์ ต้องพิจารณา จากสมบัติของวัสดุนั้นๆ วัสดุบางอย่างที่ ใช้แล้วสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่าง ค้มุ คา่ 4 แสงในชวี ิตประจำวนั ว 2.3 ป.2/1 แสงมีลักษณะการเคล่ือนท่เี ป็นเส้นตรง 10 10 ป.2/2 จากแหล่งกำเนิดแสงทุกทิศทาง แสงช่วย ในการมองเห็นสง่ิ ตา่ งๆ การมองเห็นวตั ถทุ ี่ มีแสงสวา่ งไม่เหมาะสมจะเป็นอนั ตรายต่อ ตา ดงั นน้ั การทำกิจกรรมตา่ งๆ ใน ชวี ิตประจำวันต้องทำในบรเิ วณทม่ี แี สง สวา่ งเหมาะสมกับกจิ กรรมนน้ั ๆ

109 หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู/้ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนัก 5 มหศั จรรยเ์ รือ่ งดนิ ตวั ช้ีวดั (ช่วั โมง) คะแนน ว 3.2 ป.2/1 ดนิ สามารถจำแนกออกเปน็ ประเภทใหญ่ๆ 10 10 ป.2/2 ไดแ้ ก่ ดนิ รว่ น ดินเหนยี ว และดินทราย 70 30 ตามลกั ษณะทีแ่ ตกตา่ งกันในด้านของสเี น้ือ 100 ดิน การอุ้มน้ำและการจับตวั ของดิน ซึง่ ดนิ แตล่ ะประเภทสามารถนำมาใชป้ ระโยชน์ ได้แตกตา่ งกนั ตามสมบตั ิของดนิ รวมระหว่างปี ทดสอบปลายปี รวมทั้งสิน้ ตลอดปี 80

110 โครงสรา้ งรายวิชา ว 13101 วิทยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 80 ชั่วโมง/ปี หนว่ ย ช่ือหนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี เรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั (ชั่วโมง) คะแนน 1 อากาศและชวี ิตของ ว1.2 ป.3/1 มนุษย์และสตั วต์ ้องการอาหาร น้ำ และอากาศเพ่ือการ 25 26 สตั ว์ ว1.2 ป.3/2 ดำรงชวี ิตและการเจริญเติบโต อาหารชว่ ยใหร้ า่ งกายแข็งแรง และเจริญเติบโต น้ำชว่ ยให้รา่ งกายทำงานได้อย่างปกติ ว1.2 ป.3/3 อากาศใช้ในการหายใจ ประกอบดว้ ย แก๊สไนโตรเจน แกส๊ ว1.2 ป.3/4 ออกซเิ จน แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ แก๊สอ่ืนๆ มีความสำคญั ตอ่ สิ่งมชี ีวิต ลมคอื อากาศท่ีเคลอ่ื นที่ ลมสามารถนำมาใช้เป็น ว 3.2 ป.3/1 แหล่งพลงั งานทดแทนในการผลติ กระแสไฟฟา้ และนำไปใช้ ว 3.2 ป.3/2 ประโยชนใ์ นการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ของมนษุ ย์ ควรคำนึงถึง ว 3.2 ป.3/3 แนวทางการปฏิบัติตนเพือ่ ลดการปล่อยมลพิษทางอากาศ สัตวแ์ ละมนุษยม์ ีวัฏจกั รชีวิตทเ่ี ฉพาะและแตกตา่ งกัน มนุษย์ ว 3.2 ป.3/4 จึงควรตระหนักถึงคณุ ค่าชวี ติ สัตว์ โดยไมท่ ำให้มวี ฏั จกั รชวี ติ ของสตั ว์เปลีย่ นแปลง 2 การเปลยี่ นแปลง ว 2.1 ป.3/1 วตั ถอุ าจทำจากชน้ิ สว่ นย่อย ๆ ซึง่ แตล่ ะชนิ้ มลี กั ษณะ 10 9 ของวัตถแุ ละวสั ดุ ว 2.1 ป.3/2 เหมือนกันมาประกอบเขา้ ด้วยกนั เมอื่ แยกช้นิ สว่ นยอ่ ยๆ แต่ ละชนิ้ ของวัตถุออกจากกันสามารถนำช้ินส่วนเหลา่ นน้ั มา ประกอบเปน็ วตั ถชุ น้ิ ใหมไ่ ด้ เมอื่ ให้ความเย็น วสั ดจุ ะเกดิ การ เปล่ียนแปลงได้ วสั ดแุ ตล่ ะชนิดมีสมบตั ทิ างกายภาพแตกตา่ ง กัน ดังน้ันจึงอาจนำสมบัตติ า่ ง ๆ มาพิจารณาเพื่อใชใ้ น กระบวนการออกแบบชน้ิ งานเพื่อใช้ประโยชนใ์ น ชีวิตประจำวัน 3 แรงใน ว 2.2 ป.3/1 การดึงหรอื การผลกั เป็นการออกแรงกระทำต่อวัตถุ แรงมีผล 20 14 ชีวติ ประจำวัน ต่อการเคลื่อนทขี่ องวัตถุ แรงแมเ่ หล็กสามารถดงึ ดูดสาร ว 2.2 ป.3/2 แม่เหล็กได้ เป็นแรงไมส่ มั ผสั แรงโนม้ ถ่วงของโลกเปน็ แรง ว 2.2 ป.3/3 ดึงดูดทโ่ี ลกกระทำต่อวัตถุ มีทศิ ทางเข้าสู่ศูนยก์ ลางโลก เปน็ ว 2.2 ป.3/4 แรงไมส่ มั ผสั

111 หน่วย ชอื่ หนว่ ยการ มาตรฐานการ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี เรียนรู้ เรียนรู้/ตวั ช้วี ดั (ชัว่ โมง) คะแนน ว 2.3 ป.3/1 พลังงานเปน็ ปริมาณที่แสดงถึงความสามารถในการทำงาน 4 พลังงานกบั ชีวติ ว 2.3 ป.3/2 พลังงานมหี ลายแบบ พลังงานสามารถเปลย่ี นจากพลังงานหนึง่ 25 21 ว 2.3 ป.3/3 ไปเป็นอกี พลงั งานหนึง่ พลงั งานไฟฟา้ มคี วามสำคัญตอ่ ว 3.1 ป.3/1 ชวี ิตประจำวัน การใชไ้ ฟฟ้านอกจากตอ้ งใชอ้ ยา่ งถูกวิธี ว 3.1 ป.3/2 ประหยดั และคุ้มคา่ แลว้ ยงั ตอ้ งคำนึงถึงความปลอดภยั ดว้ ย ว 3.1 ป.3/3 พลงั งานแสงอาทิตย์มปี ระโยชน์ตอ่ ส่ิงมชี ีวิต คนบนโลกมองเห็น ดวงอาทติ ย์ปรากฏข้ึนทางดา้ นหนง่ึ และตกทางอีกด้านหน่ึงทุก วันหมนุ เวยี นเปน็ แบบรปู ซำ้ ๆ โลกกลมหมนุ รอบตัวเองขณะ โคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำใหเ้ กดิ กลางวนั และกลางคืน รวมระหว่างปี 70 ทดสอบระหว่างปี 30 รวมท้ังส้นิ ตลอดปี 80 100

112 โครงสร้างรายวิชา ว 14101 วทิ ยาศาสตร์ 4 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 120 ชว่ั โมง น้ำหนกั 3.0 หนว่ ยกติ หนว่ ย ช่อื หน่วย ชอ่ื บท มาตรฐาน สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ การเรียนรู้ การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง) คะแนน /ตวั ชว้ี ดั 1 ความ บทท่ี 1 ว 1.3 สิง่ มีชีวติ มหี ลายชนิด โดยแต่ 15 10 หลากหลาย ความ ป.4/1 ละชนิดจะมลี ักษณะสำคัญ ของ หลากหลาย ป.4/2 บางอย่างเหมือนกนั หรอื แตกต่าง ส่งิ มีชีวิต ของ กันไป ซึง่ สามารถใชเ้ ป็นเกณฑ์ใน ส่ิงมชี ีวติ ป.4/3 การจัดกล่มุ ส่งิ มชี วี ิตออกเปน็ ป.4/4 กลมุ่ พชื กลุ่มสัตว์ และกลุ่มที่ ไมใ่ ชพ่ ืชและสัตว์ ในการจำแนก พืชสามารถใชล้ ักษณะการมีดอก ของพชื เป็นเกณฑ์ และในการ จำแนกสัตวส์ ามารถใช้การมี กระดูกสนั หลงั ของสตั วเ์ ปน็ เกณฑ์ได้ สัตวม์ ีกระดกู สันหลัง แบง่ ออกได้ 5 กลุ่ม ซ่ึงสตั ว์มี กระดูกสันหลังแตล่ ะกลมุ่ จะมี ลกั ษณะเฉพาะทสี่ ังเกตได้ แตกตา่ งกัน บทท่ี 2 ว 1.2 พืชดอกมสี ่วนต่าง ๆ ที่สำคัญ 12 4 หน้าท่ีของ ป.4/1 ได้แก่ ราก ลำต้น ใบ ดอก ผล สว่ น และเมลด็ ซง่ึ ส่วนตา่ ง ๆ เหล่าน้ี จะทำหนา้ ที่ต่างกันไป ตา่ ง ๆ ของ พืช

113 หนว่ ย ชื่อหน่วย ช่ือบท มาตรฐาน สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรียนรู้ การเรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน /ตวั ชีว้ ดั 2 แรงโน้ม บทที่ 1 ว 2.2 แรงโน้มถ่วงของโลก เป็นแรง 10 7 ถ่วงของ ป.4/1 ดึงดดู ที่โลกกระทำต่อมวลของ โลกและ แรงโนม้ ตัวกลาง ถว่ งของ วัตถุทกุ ชนิดที่อยู่บนโลกและที่ ของแสง ป.4/2 อย่ใู กล้โลก ซึ่งมีทศิ ทางเข้าสู่ โลก ป.4/3 ศนู ยก์ ลางของโลก ทำใหว้ ตั ถุมี น้ำหนักและตกลงสูพ่ ื้นโลก เรา สามารถวดั นำ้ หนกั ของวัตถไุ ด้ โดยใชเ้ ครือ่ งช่งั สปรงิ มวลของ วัตถุต่างๆ มผี ลตอ่ การ เปลี่ยนแปลงการเคลื่อนทข่ี อง วัตถุ วตั ถทุ ม่ี มี วลมากจะ เปล่ียนแปลงการเคล่ือนท่ีไดย้ าก กว่าวัตถุทีม่ มี วลน้อย บทที่ 2 ว 2.3 เมื่อมองสง่ิ ตา่ ง ๆ โดยมีวตั ถุ 3 3 ป.4/1 ตา่ งชนิดมากน้ั แสง จะทำให้ ตัวกลาง ของแสง มองเหน็ สิ่งน้นั ๆ ชัดเจนแตกตา่ ง กันไป จึงจำแนกวตั ถุท่ีนำมาก้ัน แสงไดเ้ ป็นตวั กลางโปรง่ ใส ตัวกลางโปรง่ แสง และวตั ถุทึบ แสง 3 วสั ดแุ ละ บทท่ี 1 ว 2.1 วสั ดุต่าง ๆในชวี ติ ประจำวัน 15 6 สสาร วัสดใุ นชีวติ ป.4/1 มีหลายชนดิ มสี มบตั ทิ าง กายภาพตา่ งกัน เช่นสมบัติด้าน ประจำวัน ป.4/2 ความแข็ง สภาพยืดหยนุ่ การนำ ความร้อน และการนำไฟฟา้

114 หนว่ ย ช่ือหน่วย ชื่อบท มาตรฐาน สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรียนรู้ การเรยี นรู้ (ชั่วโมง) คะแนน /ตัวชี้วัด บทที่ 2 ว 2.1 สสารในชวี ติ ประจำวนั มี 13 7 สถานะของ ป.4/3 หลายชนิด แต่ละชนิดอาจอยู่ใน สถานะของแขง็ ของเหลว หรอื สสาร ป.4/4 แก๊ส ซึง่ สสารแต่ละสถานะอาจมี สมบัติบางประการเหมือนกัน หรือต่างกัน โดยสังเกตได้จาก การมีมวล การต้องการท่อี ยู่ การ มรี ูปร่างและปริมาตรของสสาร ซึง่ เราสามารถใชเ้ ครอ่ื งมอื ในการ วดั มวลและปริมาตรของสสารได้ 4 ระบบสุริยะ บทท่ี 1 ว 3.1 ระบบสรุ ิยะนั้นเป็นระบบที่มี 6 5 และการ ระบบสรุ ิยะ ป.4/3 ดวงอาทติ ย์เปน็ ศนู ยก์ ลาง และมี ปรากฏของ ดาวบริวารต่างๆ โคจรอยู่ ดวงจันทร์ โดยรอบ ประกอบดว้ ยดาว เคราะห์8 ดวง รวมท้งั ดวงจันทร์ บริวารของดาวเคราะห์ตา่ ง ๆ ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์ น้อย ดาวหาง และวัตถุขนาดเล็ก อื่น ๆ โคจรอยรู่ อบดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ทโ่ี คจรรอบดวง อาทิตยแ์ ตล่ ะดวงจะมีขนาดของ ดาว ระยะหา่ งจากดวงอาทติ ย์ และคาบการโคจรรอบดวง อาทติ ย์แตกต่างกนั ไป

115 หนว่ ย ชอื่ หน่วย ชอื่ บท มาตรฐาน สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนัก ที่ การเรียนรู้ การเรียนรู้ (ช่ัวโมง) คะแนน /ตวั ช้ีวดั บทที่ 2 ว 3.1 ดวงจนั ทรโ์ คจรรอบโลกพร้อม 6 5 ป.4/1 กบั หมนุ รอบตวั เอง ในขณะทโี่ ลก การปรากฏ ของดวง หมนุ รอบตวั เองจะทำใหเ้ รา จันทร์ ป.4/2 มองเหน็ ดวงจนั ทร์ปรากฏข้นึ ทางดา้ นทิศตะวันออกและตก ทางด้านทิศตะวันตก ซง่ึ หมุนเวยี นเป็นแบบรูป ซ้ำ ๆ ดวงจันทร์น้ันเป็นทรง กลม แต่รูปร่างของดวงจันทร์ท่ี ปรากฏในแตล่ ะวันจะแตกต่าง กนั ดวงจันทรจ์ ะมีรูปรา่ งปรากฏ เป็นเสี้ยวโดยจะมขี นาดเพิม่ ขึ้น ในแต่ละวนั จนเตม็ ดวง และมี ขนาดลดลงจนมองไม่เหน็ จากน้นั รูปรา่ งปรากฏของดวง จันทร์จะเปน็ เสี้ยวใหญ่ขึ้นจน สว่างเต็มดวงอีกคร้งั และเกดิ การเปลี่ยนแปลงเชน่ นเี้ ป็นแบบ รูปซำ้ ๆ ทกุ เดือน 5 เทคโนโลยี - ว 4.2 เหตผุ ลเชงิ ตรรกะกับการ 40 23 ป.4/1 แกป้ ัญหา การออกแบบและ เขียนโปรแกรมอย่างง่ายโดยใช้ ป.4/2 ซอฟต์แวร์หรือสอื่ และตรวจหา ป.4/3 ข้อผิดพลาดและแก้ไข การใช้ อินเทอร์เนต็ ค้นควา้ หาความรู้ ป.4/4 เป็นและประเมินความน่าเชอื่ ถือ

116 หน่วย ชอื่ หน่วย ชอื่ บท มาตรฐาน เวลา นำ้ หนัก ท่ี การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด (ชว่ั โมง) คะแนน /ตวั ชวี้ ดั ป.4/5 การรวบรวม ประเมิน นำเสนอ 120 70 ข้อมูลและสารสนเทศโดยใช้ ซอฟตแ์ วรท์ ่ีหลากหลายเพอ่ื แก้ปญั หาในชวี ิตประจำวนั การ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง ปลอดภัย เข้าใจสทิ ธิและหนา้ ที่ ของตน เคารพในสิทธิของผอู้ ื่น แจง้ ผเู้ กีย่ วข้องเมื่อพบข้อมูลท่ีไม่ เหมาะสม เป็นสง่ิ ทค่ี วรปฏบิ ตั ิ รวมระหว่างภาค ทดสอบปลายภาค 30 รวมทั้งส้ินตลอดภาคเรียน 120 100

117 โครงสรา้ งรายวิชา ว15101 วิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 เวลาเรยี น 120 ชว่ั โมง น้ำหนกั 3.0 หน่วยกติ หน่วย ช่อื หน่วยการ ท่ี เรยี นรู้ มาตรฐาน สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั การเรยี นรู้ (ช่วั โมง) คะแนน 1 เรยี นรู้แบบ /ตวั ชวี้ ดั นักวทิ ยาศาสตร์ - การใช้วธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์ และใช้ทกั ษะ 44 2 ส่ิงมีชวี ิตกบั ส่ิงแวดล้อม กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการแสวงหาความรู้ ว 1.1 สิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์ล้วนต้องปรับตัวด้าน 18 9 ป.5/1 โครงสร้างและลักษณะให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม ป.5/2 และแหล่งทีอ่ ยอู่ าศัยเพ่ือใหส้ ามารถดำรงชีวิตอยู่รอด ป.5/3 ได้ในแต่ละแหล่งที่อยู่สิ่งมีชีวิตจะมีความสัมพันธ์กับ ป.5/4 สิ่งมีชีวิตด้วยกันเองและมีความสัมพันธ์กับ ว 1.3 สิ่งแวดลอ้ มคือสิง่ ไมม่ ีชีวิตความสัมพันธข์ องสิง่ มชี วี ติ ป.5/1 รูปแบบหนึ่งได้แก่การกินอาหารตอ่ กันเป็นทอดทอด ป.5/2 และการถ่ายทอดพลังงานจากผู้ผลิตไปยังผบู้ ริโภคใน รูปแบบของโซ่อาหารและสายใยอาหาร สิ่งมีชีวิตทุกชนิดทั้งพืช สัตว์และมนุษย์ ล้วน ได้รับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ โดยลูกท่ีเกิดมาจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับพ่อแม่ ลักษณะทางพันธุกรรมของพืช ไดแ้ ก่ สีรูปร่างขนาด ลักษณะของใบ ดอก ผล เมล็ด รสชาติของผล สัตว์ ที่มีการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่เห็นได้ชัด เช่น สีและลักษณะของขน ลักษณะของหู ขนาด ลำตัว สำหรับมนุษย์มีลักษณะทางพันธุกรรมท่ี ถ่ายทอดสู่รุ่นลูก รุ่นหลาน ได้แก่ สีผิว และลักษณะ ของเส้นผม ลักษณะของติ่งหู ลักษณะของหนังตา เชิงผมที่หน้าผาก ลักยิ้ม การห่อลิ้น การงอ นวิ้ หวั แม่มือ

118 หนว่ ย ช่ือหนว่ ยการ มาตรฐาน สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี เรยี นรู้ การเรยี นรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน /ตัวชี้วัด 7 3 แรงใน ว 2.2 แรงเป็นสิ่งที่ทำให้วัตถุเกิดการเปลี่ยนแปลง แรงลัพธ์ 8 8 ชวี ติ ประจำวนั ป.5/1 เป็นผลรวมของแรงที่กระทำต่อวัตถุ โดยแรงลัพธ์ของแรง 2 10 ป.5/2 แรงที่กระทำต่อวัตถุเดียวกันจะมขี นาดเทา่ กับผลรวมของแรง ป.5/3 ท้ังสอง เม่ือแรงท้งั สองมีทศิ ทางเดยี วกัน และมขี นาดเท่ากับ ป.5/4 ผลต่างของแรงทั้งสองเมื่อแรงทั้งสองมีทิศทางตรงข้าม ป.5/5 กนั สำหรับวตั ถุทอี่ ยนู่ ่งิ แรงลพั ธ์ท่ีกระทำต่อวัตถุ มีค่าเท่ากับ ศูนย์ แรงเสียดทานเป็นแรงที่เกิดขึ้นระหว่างผิวสัมผัสของ วตั ถุ เพือ่ ต้านการเคล่ือนที่ของวตั ถนุ ้ัน ถา้ ออกแรงกระทําต่อ วัตถุนั้นที่อยู่นิ่งบนพื้นผิวหนึ่งให้เคลื่อนที่ แรงเสียดทานจะ ทำให้วตั ถุน้ันเคลอ่ื นที่ชา้ ลงหรอื หยดุ นิง่ 4 เสียงรอบตวั เรา ว 2.3 เสียงเป็นพลังงานรูปหนึ่ง ที่เกิดจากการสั่นสะเทือนของ 10 ป.5/1 วัตถุ การได้ยินเสียงต้องอาศัยตัวกลางอาจเป็น ของแข็ง ป.5/2 ของเหลว หรืออากาศ เสียงจะส่งผ่านตัวกลางมายังหูเสียงท่ี ป.5/3 ได้ยินมีระดับสูง ต่ำต่างกัน ขึ้นอยู่กับความถี่ของการสั่นของ ป.5/4 แหล่งกำเนิดเสียง เมื่อสั่นด้วยความถี่ต่ำจะเกิดเสียงต่ำถ้าส่ัน ป.5/5 ด้วยความถี่สูงจะเกิดเสียงสูง ส่วนเสียงดังและเสียงค่อยเกิด จากพลังงานในการส่ันของแหล่งกำเนิดเสียง เม่ือแหล่งกำเนิด เสียงสั่นด้วยพลงั งานมากเสียงจะดัง แต่ถ้าแหลง่ กำเนิดเสียง สั่นด้วยพลังงานน้อยเสียงก็จะค่อย เสียงที่ดังมากๆเป็น อันตรายตอ่ หู และกอ่ ให้เกิดความรำคาญเปน็ มลพษิ ทางเสียง 5 สารและการ ว 2.1 สสารมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางกายภาพและทางเคมีการ 16 เปลี่ยนแปลง ป.5/1 เปลี่ยนแปลงทางกายภาพเป็นการเปลี่ยนแปลงลักษณะ ป.5/2 ภายนอก เช่นการละลาย การเปลี่ยนสถานะ ซึ่งการเปลี่ยน ป.5/3 สถานะนั้นมีหลายลักษณะ ได้แก่การหลอมเหลว การ ป.5/4 กลายเป็นไอ การควบแน่น การแข็งตัว การระเหยและการ ระเหิดกลับ ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางเคมีเป็นการ เปลี่ยนแปลงที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนสมบัตขิ องสารไปจากเดิม เช่น มีสีเปลี่ยน มีกลิ่น เกิดฟองเกิดตะกอน เปลี่ยนแปลงไป แลว้ เปล่ียนกลับคนื ไม่ได้ เชน่ การเผาไหม้ตา่ งๆ การเกดิ สนมิ

119 หน่วย ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ที่ เรียนรู้ การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน 6 แหลง่ นำ้ และ /ตัวชวี้ ดั ลมฟ้าอากาศ 6 ว 3.2 น้ำทั้งหมดของโลกแบ่งออกเป็นน้ำเค็ม และน้ำจืด 14 7 ปรากฏการณ์ 5 ของดวงดาว ป.5/1 ปริมาณน้ำจืดที่มนุษย์สามารถนำมาใช้ได้มีปริมาณน้อยมาก 21 8 เทคโนโลยี ป.5/2 จึงควรใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่าน้ำมีการหมุนเวียน 70 ป.5/3 เปน็ วฏั จกั รตอ่ เน่อื งกันจงึ ทำให้ไม่หมดไปจากโลกเรา 30 100 ป.5/4 กระบวนการเกิด ได้แก่เมฆ หมอก น้ำค้าง และน้ำค้าง ป.5/5 แข็ง และ กระบวนการเกดิ ฝน ไดแ้ ก่ หมิ ะ และลกู เหบ็ ว 3.1 ดาวที่มองเห็นบนท้องฟ้ามีทั้งดาวฤกษ์ดาวเคราะห์ดาว 10 ป.5/1 ฤกษ์เป็นแหล่งกำเนิดแสงจึงสามารถมองเห็นได้การมองเห็น ป.5/2 กลุ่มดาวฤกษ์มีรูปร่างต่างๆเกิดจากจินตนาการของผู้สังเกต โดยกลุ่มดาวท่ปี รากฏในทอ้ งฟา้ แตล่ ะกลุม่ มีดาวฤกษ์เรียงกันที่ ตำแหน่งคงที่และมีเส้นทางการข้ึนและตกตามเส้นทางเดิมทุก คืนซึ่งสามารถสังเกตได้โดยใช้แผนที่ดาวพี่ระบุมุมทิศและมุม เงยที่กลุ่มดาวนั้นปรากฏไว้ส่วนดาวเคราะห์ไม่ใช่แหล่งกำเนิด แสงแต่สามารถมองเห็นได้เนื่องจากแสงจากดวงอาทิตย์ตก กระทบดาวเคราะห์แลว้ สะท้อนเขา้ สู่ตา ว 4.2 ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยีเป็นทักษะที่สามารถ 40 ป.5/1 พัฒนาผู้เรียนในการแก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างสร้างสรรค์ ป.5/2 ผ่านกระบวนการลงมือทำเพื่อฝึกทักษะทางเทคโนโลยี ได้แก่ ป.5/3 การค้นหาข้อมูลการประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล การ ป.5/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การแก้ปัญหาการรวบรวมข้อมูล ป.5/5 การสร้างทางเลอื กการนำเสนอขอ้ มูล และการเขยี นโปรแกรม ซึ่งทักษะสำคัญของเทคโนโลยีได้แก่ ทักษะการคิดเชิงระบบ คิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ วิเคราะห์การทำงาน รว่ มกนั และการสื่อสาร และการคิดเชิงคํานวณ รวมระหว่างภาค 120 ทดสอบปลายภาค รวมท้ังส้ินตลอดภาคเรียน 120

120 โครงสร้างรายวชิ า ว16101 วทิ ยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เวลาเรยี น 120 ชวั่ โมง น้ำหนัก 3.0 หน่วยกติ หน่วย ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน ท่ี /ตัวช้วี ัด 1 วิทยาศาสตรน์ า่ รู้ - วิทยาศาสตร์เป็นการศึกษาเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆที่ 4 3 อยู่รอบตัวเรา วิธีการและขั้นตอนเพื่อตอบปัญหาข้อ สงสยั เรียกวา่ วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ ในการสืบเสาะหาความรู้อย่างเป็นระบบ ผู้เรียน ควรฝกึ ฝนทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ให้เกิด ความชำนาญ เพื่อให้สามารถค้นคว้าหาคำตอบได้ อยา่ งถูกต้อง เมื่อทำการศึกษาและแสวงหาความรู้โดยใช้ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ผู้เรียนจะเกิดจิต วทิ ยาศาสตร์ 2 ร่างกายของเรา ว 1.2 มนุษย์มีการเจริญเติบโตและเปลี่ยนแปลง 14 9 ป.6/1, ทางด้านร่างกาย ตั้งแต่เกิดจนเป็นผู้ใหญ่ จึง จำเป็นต้องบริโภคอาหารเพื่อให้ได้สารอาหารต่าง ๆ ป.6/2, ในสัดส่วนที่พอเหมาะกับเพศและวัย รวมทั้งต้อง ป.6/3, พักผ่อนและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จึงจะทำ ป.6/4, ให้รา่ งกายเจริญเตบิ โตและสขุ ภาพดี ร่างกายของมนุษย์ประกอบด้วยระบบตา่ ง ๆ เช่น ป.6/5 ระบบย่อยอาหารประกอบด้วย ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก ตับ และตับอ่อน ซึ่งทำหน้าร่วมกันในการย่อยและดูดซมึ สารอาหารเข้าสรู่ า่ งกายสว่ นต่าง ๆ

121 หน่วย ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนัก การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน เรยี นรู้ ท่ี /ตวั ชี้วัด 9 3 แรงไฟฟ้าและ ว 2.2 เมื่อขูดวัตถุบางชนิดแลว้ นำไปเข้าใกล้กัน จะทำ 16 4 6 พลงั งานไฟฟา้ ป.6/1 ให้เกิดแรงดึงดูด และแรงผลักกัน ขึ้นอยู่กับชนิด 8 ของวตั ถทุ ีน่ ำมาขดั ถูและนำมาใกล้กัน แรงท่ีเกิดขึ้น ว 2.3 น้เี รียกว่า แรงไฟฟ้า ซ่ึงเป็นแรงไมส่ มั ผสั ป.6/1 วงจรไฟฟ้าอย่างง่ายประกอบด้วยแหล่งกำเนิด ป.6/2 ไฟฟ้า สายไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ ไฟฟ้าที่ต่อเข้ากันเป็นวงจรปิด ซึ่งวงจรไฟฟ้า มี 2 ป.6/3 แบบคอื แบบอนกุ รมและแบบขนาน ป.6/4 ป.6/5 ป.6/6 4 แสงและเงา ว 2.3 แสงเกิดจากแหล่งกำเนิดแสง โดยเคลื่อนที่ออก 4 ป.6/7 จากแหล่งกำเนดิ แสงทกุ ทิศทุกทางเป็นแนวเส้นตรง เมื่อนำวัตถุทึบแสงมากั้นทางเดินแสงจะเกิดเงาข้ึน ป.6/8 บนฉากรับแสง โดยเงาจะมีรูปร่างคล้ายกับวัตถุที่ ทำให้เกิดเงา เงาแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ เงามืด และเงามัว 5 สารและการจำแนก ว 2.1 สารรอบตัวเราส่วนใหญ่เป็นสารผสม ซึ่ง 8 ป.6/1 สามารถแยกสารผสมเหล่านั้นได้หลายวิธีเช่น การ หยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็กดึงดูด การริน ออก การกรอง และการตกตะกอน เรานำวิธเี หลา่ น้ี ไปใช้แยกสารในชวี ิตประจำวันได้ 6 หินและซากดกึ ดำ ว 3.2 หินเป็นทรัพยากรธรรมชาติประเภทหนึ่ง หิน 12 บรรพ์ ป.6/1 แบ่งตามการเกิดได้ 3 ประเภท คือ หินอัคนี หิน ตะกอนและหนิ แปร ซง่ึ หนิ แต่ละประเภทมีลักษณะ ป.6/2 ต่างกัน จึงนำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ป.6/3 ตา่ งกนั

122 หนว่ ย ชอื่ หน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั การเรยี นรู้ (ชว่ั โมง) คะแนน เรยี นรู้ ที่ /ตัวช้วี ดั 7 ปรากฏการณท์ าง ว 3.2 ลมบก ลมทะเล และมรสุมเกิดจากอุณหภูมิ 14 7 ธรรมชาติ และธรณี พบิ ตั ภัย ป.6/4 เหนือพื้นดิน และพื้นน้ำแตกต่างกัน จึงทำให้ อากาศบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำ เครื่องที่ไปยังบริเวณ ป.6/5 ท่ีมอี ุณหภูมิสงู ป.6/6 น้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถล่ม ป.6/7 แผ่นดินไหว และสึนามิ เป็นภัยธรรมชาติที่มี ลักษณะการเกิดและมีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวติ และ ป.6/8 ส่ิงแวดลอ้ มแตกต่างกนั เราจงึ ควรเรียนรู้วิธีปฏิบัติ ป.6/9 ตนเพ่ือให้เกิดความปลอดภัยจากภัยธรรมชาติ เหล่านน้ั ปรากฏการณ์เรือนกระจกมผี ลทำให้อุณหภมู ิ บนโลกเหมาะสมต่อการดำรงชีวิต หากเกิด ปรากฏการณ์เรือนกระจกมากขึ้นส่งผลต่อการ เปลย่ี นแปลงอณุ หภมู ิของโลก 8 ดาราศาสตร์และ ว 3.1 โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์จะ 8 4 เทคโนโลยอี วกาศ ป.6/1 โคจรรอบโลก เมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และโลก โคมาอยู่ในระนาบเดียวกัน ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ป.6/2 การบดบังกันระหว่างดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และ โลก เรียกการเกิดปรากฏการณ์นี้ว่า การเกิด สรุ ิยปุ ราคาและจันทรปุ ราคา พัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศมีความสำคัญ ต่อการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ บนโลก เพื่อให้เกิด ประโยชน์ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ เทคโนโลยี อวกาศบางประเภทมนุษย์สามารถนำมา ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวนั ได้

123 หนว่ ย ชือ่ หน่วย มาตรฐาน สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั การเรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน การเรียนรู้ ท่ี /ตวั ชว้ี ัด 9 เทคโนโลยี การใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในการอธิบายและออกแบบ 40 20 วธิ ีการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวติ ประจำวนั การออกแบบและเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย การใช้ อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูล การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ ทำงานรว่ มกันอย่างปลอดภัย เข้าใจสทิ ธิและหนา้ ทข่ี องตน เคารพในสิทธขิ องผู้อื่น รวมระหว่างภาค 120 70 ทดสอบปลายภาค 30 รวมทั้งส้ินตลอดภาคเรยี น 120 100

124 โครงสร้างรายวชิ า ว 21101 วิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรยี น 60 ช่ัวโมง น้ำหนัก 1.5 หน่วยกติ หนว่ ย ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี /ตวั ชวี้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน 1 สารบรสิ ทุ ธ์ิ ว 2.1 ม.1/4, ม.1/5, - สารบริสุทธิ์ประกอบด้วยสาร 24 27 ม.1/6, ม.1/7,ม.1/8, ม.1/1,ม.1/2, ม.1/3 เพียงชนิดเดียว ส่วนสารผสม ประกอบดว้ ยสารตัง้ แต่ 2 ชนิดข้ึน ไป สารบริสุทธิ์แต่ละชนิดมีสมบัติ บางประการที่เป็นค่าเฉพาะตัว เช่น จุดเดือดและจุดหลอมเหลว คงท่ี แต่สารผสมมจี ุดเดอื ดและจุด หลอมเหลวไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับชนิด และสัดส่วนของสารที่ผสมอยู่ ด้วยกัน - สารบริสุทธิ์แต่ละชนิดมีความ หนาแน่น หรือมวลต่อหนึ่งหน่วย ปริมาตรคงที่ เป็นค่าเฉพาะของ สารนั้น ณ สถานะและอุณหภูมิ หนึ่ง แต่ละสารผสมมีความ หนาแน่นไม่คงที่ขึ้นอยู่กับชนิด และสัดส่วนของสารอยดู่ ว้ ยกัน -สารบริสุทธิแ์ บ่งออกเป็นธาตุและ สารประกอบธาตุประกอบด้วย อนภุ าคทีเ่ ลก็ ท่ีสดุ ทยี่ งั แสดงสมบัติ ของธาตุนั้นเรียกว่าอะตอม ธาตุ แต่ละชนิด ประกอบด้วยอะตอม เพียงชนิดเดียวและไม่ สามารถ แยกสลายเป็นสารอื่นได้ด้วยวิธี ทางเคมีธาตุเขียนแทนด้วย สัญลักษณ์ธาตุ สารประกอบ เกิด จากอะตอมของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิด ข้ึนไป

125 หน่วย ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ /ตัวช้วี ดั (ช่วั โมง) คะแนน 1 สารบรสิ ทุ ธ์ิ รวมตัวกันทางเคมีในอัตราส่วน 24 27 คงที่มีสมบัติแตกต่างจากธาตุท่ี เป็นองค์ประกอบสามารถแยก เป็นธาตไุ ดด้ ้วยวธิ ีทางเคมีธาตุและ สารประกอบสามารถเขยี นแทนได้ ด้วยสูตรเคมี - อะตอมประกอบด้วยโปรตอน นวิ ตรอนและ อิเล็กตรอนโปรตอน มีประจุไฟฟ้าบว กธ าตุช นิด เดียวกันมีจำนวนโปรตอนเท่ากัน และเป็นค่าเฉพาะของธาตุน้ัน นิวตรอนเป็นกลางทางไฟฟ้าส่วน อิเล็กตรอนมีประจุไฟฟ้าลบเมื่อ อะตอมมีจำนวนโปรตอนเท่ากับ จำนวนอิเล็กตรอนจะเป็นกลาง ทางไฟฟ้าโปรตอนและนิวตรอน รวมกันตรงกลางอะตอมเรียกว่า นิวเคลียส ส่วนอิเล็กตรอน เคลือ่ นท่อี ยู่ในทวี่ ่างรอบนิวเคลยี ส - ธาตุแต่ละชนิดมีสมบตั ิเฉพาะตวั และมีสมบัติทางกายภาพบาง ประการเหมือนกันและบาง ประการต่างกนั ซ่ึ ง ส า ม า ร ถ นำมาจัดกลุ่มธาตุ เป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ธาตุโลหะมี จุดเดือด จุดหลอมเหลวสูง มีผิว มันวาวนำความร้อนนำไฟฟ้า ดึง เป็นเสน้ หรอื ตีเปน็ แผ่นบาง ๆ ได้ และมีความหนาแน่นทั้งสูงและต่ำ ธ า ต ุ อ โ ล ห ะ ม ี จ ุ ด เ ด ื อ ด จุ ด หลอมเหลวต่ำ ผิวไม่มันวาวไม่นำ ความรอ้ น

126 หนว่ ย ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ /ตัวชวี้ ดั (ช่ัวโมง) คะแนน 2 หน่วยพนื้ ฐานของสงิ่ มีชวี ิต ว 1.2 ม.1/1, ม.1/2, - เซลล์เป็นหน่วยพื้นฐานของ 14 16 ม.1/3, ม.1/4,ม.1/5 สิ่งมีชีวิตสิ่งมีชีวิตบางชนิดมีเซลล์ เพยี งเซลลเ์ ดียว เชน่ อะมบี า พารามีเซียม ยีสตบ์ างชนิดมีหลาย เซลล์ เช่น พชื สตั ว์ - โครงสร้างพื้นฐานที่พบทั้งใน เซลล์พืชและเซลล์สัตว์ และ สามารถสังเกตได้ด้วยกล้อง จุลทรรศน์ใช้แสง ได้แก่ เยื่อหุ้ม เซลลไ์ ซโทพลาซึม และนิวเคลยี ส โครงสร้างที่พบในเซลล์พืชแต่ไม่ พบในเซลล์สัตว์ได้แก่ผนังเซลล์ และคลอโรพลาสต์ -โครงสร้างต่างๆของเซลล์มีหน้าท่ี แตกต่างกัน -ผนังเซลล์ทำหน้าที่ให้ความ แขง็ แรงแกเ่ ซลล์ - เยื่อหุ้มเซลล์ทำหน้าที่ห่อหุ้ม เซลล์และควบคุมการลําเลียงสาร เขา้ และออกจากเซลล์ - นิวเคลียส ทำหน้าที่ควบคุมการ ทำงานของเซลล์ - ไซโทพลาซึม มอี อรแ์ กเนลล์ท่ีทำ หน้าทแี่ ตกตา่ งกัน - แวคิวโอล ทำหน้าที่เก็บน้ำและ สารตา่ ง ๆ - ไมโทคอนเดรีย ทำหน้าที่ เกี่ยวกับการสลายสารอาหาร เพื่อให้ไดพ้ ลงั งานแกเ่ ซลล์ - คลอโรพลาสต์เป็นแหล่งที่เกิด การสังเคราะหด์ ว้ ยแสง

127 หน่วย ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ /ตัวชี้วัด (ชั่วโมง) คะแนน 2 หนว่ ยพื้นฐานของส่งิ มชี ีวิต -เซลล์ของสิ่งมีชีวิตมีรูปร่าง ลกั ษณะ ทีห่ ลากหลายและมคี วาม เหมาะสมกับหน้าที่ของเซลล์น้ัน เช่นเซลล์ประสาทส่วนใหญ่ มี เส้นใยประสาทเป็นแขนงยาว นำกระแสประสาทไปยังเซลล์ อื่น ๆ ที่อยู่ไกลออกไป เซลล์ขน ราก เป็นเซลล์ผิวของรากที่มีผนัง เซลล์และเยื่อหุ้มเซลล์ยื่นยาว อ อ ก ม า ล ั ก ษ ณ ะ ค ล ้ า ย ข น เ ส้ น เล็ก ๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวในการดูด นำ้ และธาตุอาหาร - พืชและสัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตหลาย เซลล์มีการจัดระบบ โดยเริ่มจาก เซลล์ไปเป็นเนื้อเยื่อ อวัยวะ ร ะ บ บ อ ว ั ย ว ะ แ ล ะ ส ิ ่ ง ม ี ช ี วิ ต ตามลำดับ เซลล์หลายเซลล์มา รวมกันเป็นเนือ้ เย่ือ เนื้อเยื่อหลาย ชนิดมารวมกันและทำงานร่วมกัน เป็นอวัยวะอวัยวะต่างๆทำงาน ร่วมกันเป็นระบบอวัยวะ ระบบ อวัยวะทุกระบบทำงานร่วมกัน เป็นสงิ่ มชี ีวติ เซลลม์ ีการนําสารเข้า สเู่ ซลลเ์ พอ่ื ใชใ้ นกระบวนการ ต่าง ๆ ของเซลล์และมีการขจัดสาร บางอย่างที่เซลล์ไม่ต้องการออก นอกเซลล์การนําสารเข้าและออก จากเซลล์มีหลายวิธีเช่น การแพร่ เป็นการเคลื่อนที่ของสารจาก บริเวณท่ีมีความเข้มข้นของสารสูง ไปสู่บริเวณที่มีความเข้มข้นของ สารต่ำส่วนออสโมซิส เป็นการ แพร่ของน้ำผ่านเยื่อหุ้มเซลล์จาก ด้านที่มีความเข้มข้นของ สารละลายต่ำไปยังด้านที่มีความ เขม้ ข้นของสารละลายสูงกวา่

128 หน่วย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ /ตัวชว้ี ัด (ชั่วโมง) คะแนน 3 การดำรงชวี ติ ของพืช ว 1.2 ม.1/6, ม.1/7, -พืชดอกทุกชนิดสามารถสืบพันธุ์ 22 27 ม.1/8, ม.1/9,ม.1/10, ม.1/11,ม.1/12, แบบอาศัยเพศได้และบางชนิด ม.1/13,ม.1/14, ม.1/15,ม.1/16, สามารถสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ ม.1/17,ม.1/18 ได้ - การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศเป็น การสืบพันธุ์ที่มีการผสมกันของ สเปิร์มกบั เซลลไ์ ขก่ ารสบื พันธุ์ แบบอาศัยเพศของพืชดอกเกิดข้ึน ที่ดอกโดยภายในอับเรณูของส่วน เกสรเพศผ้มู เี รณซู ึง่ ทำหนา้ ท่ี สร้างสเปิรม์ ภายในออวุลของส่วน เกสรเพศเมียมีถุงเอ็มบริโอ ทำ หนา้ ที่สร้างเซลล์ไข่ - การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ เป็นการสืบพันธุ์ที่พืชต้นใหม่ไม่ได้ เกิดจากการปฏิสนธิระหว่าง สเปิร์มกับเซลล์ไข่แต่เกิดจากส่วน ต่าง ๆ ของพืช เช่นราก ลำต้น ใบ มีการเจริญเติบโตและพัฒนาข้ึน มาเปน็ ต้นใหม่ได้ - การถ่ายเรณูคือ การเคลื่อนย้าย ของเรณูจากอับเรณูไปยังยอด เกสรเพศเมีย ซ่งึ เกี่ยวขอ้ งกบั ลักษณะและโครงสร้างของดอก เช่น สีของกลีบดอก ตำแหน่งของ เกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย โดย มีสิ่งที่ช่วยในการถ่ายเรณูเช่น แมลง ลม - การถ่ายเรณูจะนําไปสู่การ ปฏิสนธิซงึ่ จะเกิดข้ึนท่ีถุงเอ็มบริโอ ภายในออวุล หลังการปฏิสนธิจะ ได้ไซโกต และเอนโดสเปิร์ม ไ ซ โ ก ต จ ะ พ ั ฒ น า ต ่ อ ไ ป เ ป็ น เอ็มบริโอ ออวุลพัฒนาไปเป็น เมล็ด และรงั ไขพ่ ฒั นาไปเปน็ ผล

129 หน่วย ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ /ตัวชีว้ ัด (ชว่ั โมง) คะแนน 3 การดำรงชวี ติ ของพืช - ผลและเมล็ดมีการกระจายออก 22 27 จากต้นเดิม โดยวิธีการต่าง ๆ เมื่อ เมล็ดไปตกในสภาพแวดล้อมท่ี เหมาะสมจะเกิดการงอกของเมล็ด โดยเอ็มบริโอภายในเมล็ดจะเจริญ ออกมา โดยระยะแรกจะอาศัย อาหารที่สะสมภายใน เมล็ ด จนกระทั่งใบแท้พัฒนา จน สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงได้ เต็มที่และสร้างอาหารได้เอง ตามปกติ - มนุษย์สามารถนําความรู้เรื่อง การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและไม่ อาศัยเพศ มาใช้ในการขยายพันธุ์ เพื่อเพิ่มจำนวนพืช เช่น การใช้ เมล็ดที่ได้จากการสืบพันธุ์แบบ อาศัยเพศมาเพาะเลีย้ งวิธีการนี้จะ ได้พืชในปริมาณมาก แต่อาจมี ลักษณะที่แตกต่างไปจากพ่อแม่ ส่วนการตอนกิ่ง การปักชํา การ ต่อกิ่ง การติดตา การทาบกิ่ง การ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เป็นการนํา ความรู้เรื่องการสืบพันธุ์แบบไม่ อาศัยเพศของพืชมาใช้ในการ ข ย า ย พ ั น ธ ุ ์ เ พ่ื อ ใ ห ้ ไ ด ้ พ ื ช ท ี ่ มี ลักษณะเหมือนต้นเดิมซึ่งการ ขยายพันธุ์ แต่ละวิธีมีขั้นตอน แตกต่างกัน จึงควรเลือกให้ เหมาะสมกับความต้องการของ มนุษย์โดยต้องคำนึงถึงชนิดของ พืชและลักษณะการสืบพันธุ์ของ พืช

130 หนว่ ย ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ท่ี /ตวั ชี้วดั (ชัว่ โมง) คะแนน 3 การดำรงชวี ิตของพชื - เทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ 22 27 พืช เป็นการนําความรู้เกี่ยวกับ ปัจจัยที่จําเป็นต่อการเจริญเติบโต ของพชื มาใช้ในการเพ่ิมจำนวนพืช และทำให้พืชสามารถเจริญเติบโต ได้ในหลอดทดลอง ซึ่งจะได้พืช จำนวนมากในระยะเวลาสั้น และ สามารถนําเทคโนโลยีการ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อมาประยุกต์เพ่ือ ก า ร อ น ุ ร ั ก ษ ์ พ ั น ธ ุ ก ร ร ม พื ช ปรับปรุงพันธุ์พืชที่มีความสำคัญ ทางเศรษฐกิจการผลิตยาและ สารสำคัญในพชื และอืน่ - กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ของพืชที่เกิดขึ้นในคลอโรพลาสต์ จ ำ เ ป ็ น ต ้ อ ง ใ ช ้ แ ส ง แ ก๊ ส คาร์บอนไดออกไซด์คลอโรฟิลล์ และน้ำ ผลผลิตที่ได้จากการ สังเคราะห์ด้วยแสง ได้แก่ น้ำตาล และแก๊สออกซเิ จน - การสังเคราะห์ด้วยแสง เป็น กระบวนการที่สำคัญต่อสิ่งมีชีวิต เพราะเป็นกระบวนการเดียวท่ี สามารถนําพลังงานแสงมา เ ป ล ี ่ ย น เ ป ็ น พ ล ั ง ง า น ใ น รู ป ส า ร ป ร ะ ก อ บ อ ิ น ท ร ี ย ์ แ ล ะ เ ก็ บ สะสมในรูปแบบต่าง ๆ ใน โครงสรา้ งของพืช พืชจงึ เป็นแหล่ง อ า ห า ร แ ล ะ พ ล ั ง ง า น ท ี ่ ส ำ คั ญ ข อ ง ส ิ ่ ง ม ี ช ี ว ิ ต อ ื ่ น น อ ก จ า ก นี้ กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ยังเป็นกระบวนการหลักในการ ส ร ้ า ง แ ก ๊ ส อ อ ก ซ ิ เ จ น ใ ห ้ กั บ บรรยากาศเพื่อให้สิ่งมีชีวิตอื่น ใช้ ในกระบวนการหายใจ

131 หน่วย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ท่ี /ตวั ช้วี ัด (ช่วั โมง) คะแนน 3 การดำรงชวี ิตของพชื - พืชมีไซเล็มและโฟลเอ็ม ซึ่งเป็น 22 27 เนอ้ื เยอ่ื มีลกั ษณะคลา้ ยท่อเรียงตัว 70 10 กันเป็นกลุ่มเฉพาะที่โดยไซเล็มทำ 20 100 หนา้ ทีล่ ําเลียงนำ้ และธาตุอาหาร มีทิศทางลําเลียงจากรากไปสู่ ลำต้น ใบ และส่วนต่างๆของพืช เพื่อใช้ในการสังเคราะห์ด้วยแสง รวมถึงกระบวนการอื่น ๆ ส่วน โฟลเอ็มทำหน้าที่ลําเลียงอาหารท่ี ได้จากการสังเคราะห์ด้วยแสงมี ทิศทางลําเลียงจากบริเวณที่มีการ สงั เคราะหด์ ว้ ยแสงไปสสู่ ่วนต่าง ๆ ของพืช - พืชต้องการธาตุอาหารที่จําเป็น หลายชนิดในการเจริญเติบโตและ การดำรงชีวติ - พืชต้องการธาตุอาหารบางชนิด ในปริมาณมากได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซี ยมแล ะ กํามะถัน ซึ่งในดินอาจมีไม่ เพียงพอ สำหรับการเจริญเติบโต ของพืช จงึ ต้องมกี ารใหธ้ าตุอาหาร ในรูปของปุ๋ยกับพืชอย่าง เหมาะสม รวมระหว่างภาค 60 ทดสอบกลางภาค ทดสอบปลายภาค รวมทั้งส้ินตลอดภาคเรียน 60

132 โครงสรา้ งรายวชิ า ว 21103 วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลาเรยี น 60 ชั่วโมง นำ้ หนัก 1.5 หนว่ ยกติ หนว่ ย ช่อื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี /ตัวชวี้ ัด (ชั่วโมง) คะแนน 4 พลงั งานความร้อน ว 2.1 ม.1/9 , ม.1/10 - อธิบายและเปรียบเทียบการ 33 40 จัดเรียงอนุภาค แรงยึดเหนี่ยว ระหว่างอนุภาคและการเคลื่อนที่ ข อ ง อ น ุ ภ า ค ข อ ง ส ส า ร ช นิ ด เดียว กันในสถ าน ะ ข อ ง แ ข็ ง ข อ ง เ ห ล ว แ ล ะ แ ก ๊ ส โ ด ย ใ ช้ แบบจำลอง - อธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง พลังงานความร้อนกับการเปลี่ยน สถานะของสสาร โดยใช้หลักฐาน เชงิ ประจกั ษ์และแบบจำลอง - วเิ คราะห์ แปลความหมายข้อมูล และคำนวณปริมาณความร้อนที่ ให้สสารเปลี่ยนอุณหภูมิและ เปล่ยี นสถานะโดยใชส้ มการ Q = mcΔt และ Q = mL - ใช้เทอร์มอมิเตอร์ในการวัด อณุ หภมู ขิ องสสาร - สร้างแบบจำลองที่อธิบายการ ขยายตัวหรือหดตัวของสสาร เนื่องจากได้รับหรือสูญเสียความ ร้อน - ตระหนักถึงประโชน์ของความรู้ ของการหดและขยายตวั ของสสาร เนื่องจากความร้อนโดยวิเคราะห์ สถานการณ์ปัญหาและเสนอแนะ วิธีการนำความรู้มาแก้ปัญหาใน ชีวติ ประจำวัน - สร้างแบบจำลองที่อธิบายการ ถ่ายโอนความร้อนโดยการนำ ความร้อนพาความร้อนและการ แผร่ ังสคี วามรอ้ น

133 หนว่ ย ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี /ตวั ชวี้ ัด (ชั่วโมง) คะแนน 4 พลังงานความร้อน - ออกแบบ เลือกใช้ และสร้าง 33 40 อุปกรณ์เพื่อแก้ปัญหาใน 27 30 ช ี ว ิ ต ป ร ะ จ ำ ว ั น โ ด ย ใ ช ้ ค ว า ม รู้ เก่ียวกับการถ่ายโอนความรอ้ น - สร้างแบบจำลองที่อธิบายการ แบ่งชั้นบรรยากาศ และ เปรียบเทียบประโยชน์ของ บรรยากาศแต่ละชน้ั - อธิบายปัจจัยที่มีผลต่อการ เปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของลม ฟ้าอากาศ จากข้อมลู ที่รวบรวมได้ 5 กระบวนการเปล่ยี นแปลง ว 2.2 ม.1/1 - สร้างแบบจำลองที่อธิบายการ ลมฟ้าอากาศ ว 2.3 ม.1/1 , ม.1/2 , แ บ ่ ง ช ั ้ น บ ร ร ย า ก า ศ แ ล ะ ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5, เปรียบเทียบประโยชน ์ข อ ง ม.1/6 , ม.1/7 บรรยากาศแตล่ ะช้ัน ว 3.2 ม.1/1 , ม.1/2 , - อธิบายปัจจัยที่มีผลต่อการ ม.1/3 , ม.1/4 , ม.1/5, เปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของลม ม.1/6 , ม.1/7 ฟ้าอากาศ จากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้ - สรา้ งแบบจำลองทอี่ ธิบายความ สัมพันธ์ระหว่างความดันอากาศ กับความสูงจากพื้นโลก - อธิบายการพยากรณอ์ ากาศและ พยากรณ์อากาศอย่างง่ายจาก ขอ้ มูลทีร่ วบรวมได้ - ตระหนักถึงคุณค่าของการ พยากรณอ์ ากาศ โดยนำเสนอแนว ท า ง ก า ร ป ฏ ิ บ ั ต ิ ต น แ ล ะ ก า ร ใ ช้ ประโยชน์จากคำพยากรณอ์ ากาศ - เปรียบเทียบกระบวนการเกิด พายุฝนฟ้าคะนองและพายุหมุน เขตร้อนและผลที่มีต่อสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อมรวมทั้งนำเสนอ แ น ว ท า ง ก า ร ป ฏ ิ บ ั ต ิ ต น ใ ห้ เหมาะสม และปลอดภัย

134 หนว่ ย ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ที่ /ตัวชี้วัด (ชว่ั โมง) คะแนน 6 กระบวนการเปลี่ยนแปลง - อธิบายสถานการณ์และ 27 70 10 ลมฟ้าอากาศ ผลกระทบการเปลี่ยนแปลง 60 20 60 100 ภ ูมิอากาศโลกจากข้อมูลท่ี รวบรวมได้ - ตระหนักถึงผลกระทบของการ เปล่ยี นแปลงภมู ิอากาศโลกโดยนำ เสนอแนวทางการปฏิบัติตน ภายใต้การเปลีย่ นแปลงภูมิอากาศ โลก รวมระหว่างภาค สอบกลางภาค ทดสอบปลายภาค รวมท้ังสิน้ ตลอดภาคเรียน

135 โครงสรา้ งรายวิชา ว 22101 วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรียน 60 ชั่วโมง น้ำหนัก 1.5 หนว่ ยกิต หนว่ ย ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี /ตวั ชว้ี ดั (ชว่ั โมง) คะแนน 1 สารละลาย ว 2.1 ม2/4,ม2/5, - สารละลายอาจมีสถานะเป็นของแขง็ 15 6 ม2/6 ของเหลวและแก๊ส สารละลาย ประกอบด้วยตัวทำละลายและตัว ละลาย กรณีสารละลายเกิดจากสารท่ี มีสถานะเดียวกัน สารที่มีปริมาณมาก ที่สุดจัดเป็นตัวทำละลาย กรณี สารละลายเกิดจากสารที่มีสถานะ ต่างกัน สารที่มีสถานะเดียวกันกับ สารละลายจดั เปน็ ตัวทำละลาย - สารละลายที่ตัวละลายไม่สามารถ ละลายในตัวทำละลายได้อีกที่อุณหภูมิ หนง่ึ ๆ เรยี กว่าสารละลายอิ่มตัว - สภาพละลายได้ของสารในตัวทำ ละลาย เปน็ คา่ ท่ีบอกปรมิ าณของสารที่ ละลายได้ในตัวทำละลาย๑๐๐ กรัม จนได้สารละลายอิ่มตัว ณ อุณหภูมิ และความดันหนึ่ง ๆ สภาพละลายได้ ของสารบ่งบอกความสามารถในการ ละลายได้ของตัวละลายในตัวทำ ละลาย ซ่ึงความสามารถในการละลาย ของสารขึ้นอยู่กับชนิดของตัวทำ ละลายและตัวละลาย อุณหภูมิ และ ความดัน - สารชนิดหนึ่ง ๆ มีสภาพละลายได้ แตกต่างกันในตัวทำละลายที่แตกต่าง กัน และสารต่างชนิดกนั มสี ภาพละลาย ไดใ้ นตัวทำละลายหนงึ่ ๆ ไมเ่ ทา่ กนั - เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น สารส่วนมาก สภาพละลายได้ของสารจะเพิ่มขึ้น ยกเว้นแก๊สเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นสภาพ การละลายได้จะลดลง ส่วนความดันมี ผลต่อแก๊ส โดยเมื่อความดันเพิ่มขึ้น สภาพละลายไดจ้ ะสูงข้ึน - ความรู้เกี่ยวกับสภาพละลายได้ของ สาร เมื่อเปลี่ยนแปลงชนิดตัวละลาย ตัวทำละลาย และอุณหภูมิ สามารถ นำไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตประจำวนั

136 หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ /ตวั ชี้วัด (ชวั่ โมง) คะแนน ว 1.2 ม2/1, ม2/2, - ร้อยละโดยปริมาตรต่อปริมาตร เป็น 34 ม 2/3,ม2/4,ม2/5, ม 2/6 ,ม2/7,ม2/8, การระบุปริมาตรตัวละลายใน ม2/9,ม2/10, ม 2/11, ม 2/12,ม 2/13, สารละลาย 100 หน่วยปริมาตร ม 2/14,ม 2/15, ม 2/16,ม 2/17 เดียวกัน นิยมใช้กับสารละลายที่เป็น ของเหลวหรือแกส๊ - ร้อยละโดยมวลต่อมวล เป็นการระบุ มวลตัวละลายในสารละลาย 100 ห น่ วย ม วล เ ด ี ย วกั นน ิ ย ม ใ ช ้ กั บ สารละลายทมี่ ีสถานะเป็นของแข็ง - ร้อยละโดยมวลต่อปริมาตร เป็นการ ระบุมวลตัวละลายในสารละลาย 100 หน่วยปริมาตรนิยมใช้กับสารละลายที่ มีตัวละลายเป็นของแข็งในตัวทำ ละลายที่เป็นของเหลว - การใช้สารละลาย ในชีวิตประจำวัน ควรพิจารณาจากความเข้มข้นของ สารละลาย ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของ การใช้งาน และผลกระทบต่อสิ่งชีวิต และสิ่งแวดล้อม 2 ร่างกายมนุษย์ - ระบบหายใจมีอวัยวะต่าง ๆ ที่ 22 เกี่ยวขอ้ งไดแ้ ก่จมกู ทอ่ ลมปอดกะบังลม และกระดกู ซโี่ ครง - มนุษย์หายใจเข้า เพื่อนำแก๊ส ออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพื่อนำไปใช้ใน เซลล์ และหายใจออกเพื่อกำจัดแก๊ส คารบ์ อนไดออกไซด์ออกจากร่างกาย - อากาศเคลอ่ื นที่เข้าและออกจากปอด ได้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงปริมาตร และความดันของอากาศภายในชอ่ งอก ซ่ึงเก่ยี วขอ้ งกบั การทำงานของกะบงั ลม และกระดูกซีโ่ ครง - การแลกเปลี่ยนแก๊สออกซิเจนกับ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกาย เกิดขึ้นบริเวณถุงลมในปอดกับหลอด เลือดฝอยที่ถุงลม และระหว่างหลอด เลอื ดฝอยกบั เนื้อเยือ่ - การสูบบุหรี่ การสูดอากาศที่มีสาร ปนเปื้อน และการเป็นโรคเกี่ยวกับ ระบบหายใจบางโรคอาจทำให้เกิดโรค ถุงลมโปง่ พอง ซึ่งมีผลใหค้ วามจอุ ากาศ

137 หนว่ ย ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี /ตวั ชวี้ ดั (ช่วั โมง) คะแนน - ระบบขับถ่ายมีอวัยวะทีเ่ กี่ยวข้อง คือ ไต ท่อไตกระเพาะปัสสาวะ และท่อ ปัสสาวะ โดยมีไตทำหน้าที่กำจัดของ เสีย เช่น ยูเรีย แอมโมเนีย กรดยูริก รวมทั้งสารที่ร่างกายไม่ต้องการออก จากเลือด และควบคุมสารที่มีมากหรือ น้อยเกินไปเช่น น้ำ โดยขับออกมาใน รปู ของปัสสาวะ - การเลือกรับประทานอาหารท่ี เหมาะสม เช่นรบั ประทานอาหารที่ไม่มี รสเค็มจัด การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เปน็ แนวทางหน่งึ ที่ช่วยใหร้ ะบบขับถ่าย ทำหน้าท่ไี ด้อย่างปกติ - ระบบหมุนเวียนเลือดประกอบด้วย หัวใจหลอดเลอื ด และเลือด - หัวใจของมนุษย์แบ่งเป็น 4 ห้อง ไดแ้ ก่ หัวใจห้องบน 2 ห้อง และห้องล่าง 2 ห้อง ระหว่างหัวใจห้องบนและหัวใจ หอ้ งล่างมีลิ้นหัวใจกั้น - หลอดเลือด แบ่งเป็น หลอดเลือดอาร์ เตอรี หลอดเลือดเวน หลอดเลือดฝอย ซึ่งมโี ครงสรา้ งต่างกัน - เลือด ประกอบด้วย เซลล์เม็ดเลือด เพลตเลตและพลาสมา - การบีบและคลายตัวของหัวใจทำให้ เลือดหมุนเวียนและลำเลียงสารอาหาร แก๊ส ของเสีย และสารอื่น ๆ ไปยัง อวัยวะและเซลลต์ า่ ง ๆ ท่ัวร่างกาย - เลือดที่มีปริมาณแก๊สออกซิเจนสูงจะ ออกจากหัวใจไปยังเซลล์ต่างๆ ทั่ว ร ่ า ง ก า ย ข ณ ะ เ ด ี ย ว ก ั น แ ก๊ ส คาร์บอนไดออกไซด์จากเซลล์จะแพร่ เข้าสู่เลือดและลำเลียงกลับเข้าสู่หัวใจ และถูกส่งไปแลกเปลีย่ นแกส๊ ท่ปี อด - ชพี จรบอกถงึ จงั หวะการเตน้ ของหัวใจ ซึ่งอัตราการเต้นของหัวใจในขณะปกติ และหลังจากทำกิจกรรมต่าง ๆ จะ แตกต่างกันส่วนความดันเลือด ระบบ หมุนเวียนเลือดเกิดจากการทำงานของ หวั ใจและหลอดเลือด

138 หนว่ ย ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ท่ี /ตวั ชวี้ ดั (ช่วั โมง) คะแนน - การออกกำลังกาย การเลือก รับประทานอาหารการพักผ่อน และ การรักษาภาวะอารมณ์ให้เป็นปกติ จึง เป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลรักษา ระบบหมนุ เวียนเลอื ดใหเ้ ปน็ ปกติ - ระบบประสาทส่วนกลาง ประกอบด้วยสมองและไขสันหลัง จะ ทำหน้าที่ร่วมกับเส้นประสาทซึ่งเป็น ระบบประสาทรอบนอก ในการควบคุม การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ รวมถึง การแสดงพฤติกรรม เพือ่ การตอบสนอง ต่อสงิ่ เรา้ - เมื่อมีสิ่งเร้ามากระตุ้นหน่วยรับ ความรู้สึก จะเกิดกระแสประสาทส่งไป ตามเซลล์ประสาทรับความรู้สึกไปยัง ระบบประสาทสว่ นกลาง แลว้ สง่ กระแส ประสาทมาตามเซลล์ประสาทสั่งการ ไปยงั หนว่ ยปฏบิ ตั งิ าน เชน่ กล้ามเน้ือ - ระบบประสาทเป็นระบบที่มีความ ซับซ้อนและมีความสัมพันธ์กับทุก ระบบในร่างกาย ดังนั้นจึงควรป้องกัน การเกิดอุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนต่อ สมอง หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด หลีกเล่ียงภาวะเครียด และรับประทาน อาหารที่มีประโยชน์เพื่อดูแลรักษา ระบบประสาทใหท้ ำงานเป็นปกติ - มนุษย์มีระบบสืบพันธุ์ที่ประกอบดว้ ย อวัยวะตา่ ง ๆ ทท่ี ำหน้าทเ่ี ฉพาะ โดยรัง ไข่ในเพศหญิงจะทำหน้าที่ผลิตเซลล์ไข่ สว่ นอัณฑะในเพศชายจะทำหนา้ ทสี่ รา้ ง เซลลอ์ สจุ ิ - ฮอร์โมนเพศทำหน้าที่ควบคุมการ แ ส ด ง อ อ ก ข อ ง ล ั ก ษ ณ ะ ท า ง เ พ ศ ที่ แตกต่างกัน เมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาวจะมี การสร้างเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิ การตก ไข่การมรี อบเดอื น และถ้ามีการปฏิสนธิ ของเซลล์ไข่และเซลล์อสุจิจะทำให้เกิด การต้ังครรภ์ - การมีประจำเดือน มคี วามสมั พันธก์ บั การตกไขโ่ ดยเป็นผลจากการเปลย่ี น แปลงของระดบั ฮอร์โมนเพศหญิง

139 หนว่ ย ช่อื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ท่ี /ตัวชีว้ ดั คะแนน (ชัว่ โมง) 3 การเคลื่อนทแี่ ละแรง ว 2.2 ม2/1, ม2/2, 30 ม 2/3,ม2/4,ม2/5, จนกระทั่งคลอดเป็นทารก แต่ถ้าไม่มี ม 2/6, ม2/7,ม2/8, การปฏิสนธิเซลล์ไข่จะสลายตัว ผนัง ม2/9,ม2/10, ม2/11, ด้านในมดลูกรวมทั้งหลอดเลือดจะ ม2/12,ม2/13,ม2/14, สลายตัวและหลุดลอกออก เรียกว่า ม2/15 ประจำเดอื น - การคุมกำเนิดเป็นวิธีป้องกันไม่ให้เกดิ การตั้งครรภ์โดยป้องกันไม่ให้เกิดการ ปฏิสนธิหรือไม่ให้มีการฝังตัวของ เอ็มบริโอ ซึ่งมีหลายวิธี เช่น การใช้ ถุงยางอนามัย การกนิ ยาคุมกำเนดิ - แรงเป็นปริมาณเวกเตอร์ เมื่อมีแรง 23 หลาย ๆ แรงกระทำต่อวัตถุ แล้วแรง ลพั ธท์ ีก่ ระทำตอ่ วตั ถุมีคา่ เปน็ ศูนย์ วัตถุ จะไม่เปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่แต่ถ้า แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวัตถุมีค่าไม่เป็น ศูนยว์ ตั ถุจะเปล่ียนแปลงการเคลอ่ื นท่ี - เมื่อวัตถุอยู่ในของเหลวจะมีแรงท่ี ของเหลวกระทำต่อวัตถุในทุกทิศทาง โดยแรงที่ของเหลวกระทำต้ังฉากกับผิว วัตถตุ อ่ หน่ึงหน่วยพน้ื ทเี่ รยี กว่าความดนั ของของเหลว - ความดนั ของของเหลวมคี วามสัมพันธ์ กับความลึกจากระดับผิวหน้าของ ของเหลว โดยบริเวณที่ลึกลงไปจาก ระดับผิวหน้าของของเหลวมากข้ึน ค ว า ม ด ั น ข อ ง ข อ ง เ ห ล ว จ ะ เ พ ิ ่ ม ขึ้ น เนื่องจากของเหลวที่อยู่ลึกกว่า จะมี น้ำหนักของของเหลวด้านบนกระทำ มากกว่า - เมื่อวัตถุอยู่ในของเหลว จะมีแรงพยงุ เนื่องจากของเหลวกระทำต่อวัตถุ โดย มีทิศขึ้นในแนวดิ่งการจมหรือการลอย ของวตั ถุขึน้ กับนำ้ หนักของวัตถแุ ละแรง พยุง ถ้าน้ำหนักของวัตถุและแรงพยุง ของของเหลวมีค่าเท่ากัน วัตถุจะลอย นิ่งอยู่ในของเหลว แต่ถ้าน้ำหนักของ วัตถุมคี ่ามากกวา่ แรงพยุงของของเหลว วัตถจุ ะจม - แรงเสียดทานเป็นแรงที่เกิดขึ้น ระหว่างผวิ สัมผัสของวัตถุ เพื่อต้านการ เคลื่อนท่ขี องวัตถุนน้ั โดยถ้าออกแรง

140 หนว่ ย ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนัก ท่ี /ตัวช้ีวดั คะแนน (ชว่ั โมง) เรียก แรงเสียดทานสถิต แต่ถ้าวัตถุ กำลังเคลื่อนที่ แรงเสียดทานก็จะทำให้ วตั ถุนนั้ เคลือ่ นทช่ี า้ ลงหรอื หยดุ น่ิง เรยี ก แรงเสยี ดทานจลน์ - ขนาดของแรงเสียดทานระหว่าง ผิวสัมผัสของวัตถุขึ้นกับลักษณะ ผิวสัมผัสและขนาดของแรงปฏิกิรยิ าตง้ั ฉากระหว่างผิวสมั ผัส - กิจกรรมในชีวิตประจำวันบาง กิจกรรมต้องการแรงเสียดทาน เช่น การเปิดฝาเกลียวขวดน้ำการใชแ้ ผ่นกนั ลื่นในห้องน้ำ บางกิจกรรมไม่ต้องการ แรงเสียดทาน เช่น การลากวัตถุบนพื้น การใชน้ ้ำมนั หล่อลนื่ ในเครอื่ งยนต์ - ความรู้เรื่องแรงเสียดทานสามารถ นำไปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวนั ได้ - เมื่อมีแรงที่กระทำต่อวัตถุโดยไม่ผ่าน ศูนย์กลางมวลของวัตถุ จะเกิดโมเมนต์ ของแรง ทำให้วัตถุหมุนรอบศูนย์กลาง มวลของวตั ถุน้ัน - โมเมนต์ของแรงเป็นผลคูณของแรงที่ กระทำต่อวตั ถกุ ับระยะทางจากจุดหมนุ ไปตั้งฉากกับแนวแรง เมื่อผลรวมของ โมเมนต์ของแรงมีคา่ เปน็ ศูนยว์ ตั ถุจะอยู่ ในสภาพสมดุลต่อการหมนุ โดยโมเมนต์ ของแรงในทิศทวนเข็มนาฬิกาจะมี ขนาดเทา่ กับโมเมนต์ของแรงในทิศตาม เขม็ นาฬิกา - ของเล่นหลายชนิดประกอบด้วย อปุ กรณ์หลายส่วนทีใ่ ชห้ ลักการโมเมนต์ ของแรง ความรู้เรื่องโมเมนต์ของแรง สามารถนำไปใช้ออกแบบและประดิษฐ์ ของเล่นได้ - วัตถุที่มีมวลจะมีสนามโน้มถ่วงอยู่ โดยรอบแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อวัตถุที่ อยู่ในสนามโน้มถ่วงจะมีทิศพุ่งเข้าหา วัตถุท่ีเป็นแหลง่ ของสนามโน้มถว่ ง - วัตถุที่มีประจุไฟฟ้าจะมีสนามไฟฟ้า อยู่โดยรอบแรงไฟฟ้าทีก่ ระทำต่อวัตถทุ ่ี มปี ระจจุ ะมที ศิ พุ่งเข้าหาหรอื ออกจาก

141 หน่วย ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ /ตัวชีว้ ัด (ชวั่ โมง) คะแนน - วัตถุที่เป็นแม่เหล็กจะมีสนามแม่เหล็ก อยู่โดยรอบแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อ ขั้วแม่เหล็กจะมีทิศพุ่งเข้าหาหรือออก จากขั้วแม่เหล็กที่เป็นแหล่งของ สนามแม่เหล็ก - ขนาดของแรงโน้มถ่วง แรงไฟฟ้า และ แรงแม่เหล็กที่กระทำต่อวัตถุที่อยู่ใน สนามนนั้ ๆ จะมคี ่าลดลงเมอื่ วัตถุอยู่ห่าง จากแหลง่ ของสนามนัน้ ๆ มากขึน้ - การเคลื่อนที่ของวัตถุเป็นการเปลี่ยน ตำแหน่งของวัตถุเทียบกับตำแหน่ง อ้างอิง โดยมีปริมาณที่เกี่ยวข้องกับการ เคลื่อนที่ซึ่งมีทั้งปริมาณสเกลาร์และ ปรมิ าณเวกเตอร์ เชน่ ระยะทางอตั ราเร็ว การกระจัด ความเร็ว ปริมาณสเกลาร์ เป็นปริมาณที่มีขนาด เช่น ระยะทาง อตั ราเรว็ ปรมิ าณเวกเตอร์เปน็ ปริมาณท่ีมี ทั้งขนาดและทิศทาง เช่น การกระจัด ความเรว็ - เขียนแผนภาพแทนปริมาณเวกเตอรไ์ ด้ ด้วยลูกศรโดยความยาวของลูกศรแสดง ขนาดและหัวลูกศรแสดงทิศทางของ เวกเตอร์นน้ั ๆ - ระยะทางเป็นปริมาณสเกลาร์ โดย ระยะทางเป็นความยาวของเส้นทางท่ี เคลือ่ นทีไ่ ด้ - การกระจัดเป็นปริมาณเวกเตอร์ โดย การกระจัดมีทิศชี้จากตำแหน่งเริ่มต้นไป ยังตำแหน่งสุดท้ายและมีขนาดเท่ากับ ระยะทส่ี ้นั ท่ีสดุ ระหวา่ งสองตำแหนง่ น้นั - อัตราเร็วเป็นปริมาณสเกลาร์ โดย อัตราเร็วเป็นอัตราส่วนของระยะทางต่อ เวลา - ความเรว็ ปริมาณเวกเตอร์มีทิศเดยี วกับ ทิศของการกระจัด โดยความเร็วเป็น อัตราสว่ นของการกระจดั ต่อเวลา รวมระหว่างภาค 60 70 ทดสอบกลางภาค 10 ทดสอบปลายภาค 20 รวมท้ังสิน้ ตลอดภาคเรยี น 60 100

142 โครงสรา้ งรายวิชา ว 22103 วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลาเรียน 60 ช่ัวโมง น้ำหนัก 1.5 หนว่ ยกติ หนว่ ย ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี /ตวั ชว้ี ัด (ชัว่ โมง) คะแนน 4 งานและพลังงาน ว 2.3 ม2/1, ม2/2, - เมือ่ ออกแรงกระทำตอ่ วตั ถุ แล้วทำให้ 15 22 ม 2/3,ม2/4,ม2/5, ม 2/6 วัตถุเคลื่อนที่ โดยแรงอยู่ในแนว เดียวกับการเคลื่อนที่จะเกิดงาน งาน จะมีค่ามากหรือน้อยขึ้นกับขนาดของ แรงและระยะทางในแนวเดียวกับแรง - งานที่ทำในหนึ่งหน่วยเวลาเรียกว่า กำลัง หลักการของงานนำไปอธิบาย การทำงานของเครื่องกลอย่างง่าย ได้แก่ คาน พื้นเอียง รอกเดี่ยว ลิ่ม สก รู ล้อและเพลา ซี่งนำไปใช้ประโยชน์ ด้านต่าง ๆในชีวติ ประจำวัน - พลังงานจลน์เป็นพลังงานของวัตถุที่ เคลื่อนที่พลังงานจลน์จะมีค่ามากหรือ น้อยขึ้นกับมวลและอัตราเร็ว ส่วน พลังงานศักย์โน้มถ่วงเกี่ยวข้องกับ ตำแหนง่ ของวตั ถุ จะมีค่ามากหรือน้อย ขึ้นกับมวลและตำแหน่งของวัตถุ เม่ือ วัตถุอยู่ในสนามโน้มถ่วง วัตถุจะมี พลังงานศักย์โน้มถว่ งพลังงานจลนแ์ ละ พลังงานศักย์โน้มถ่วงเปน็ พลงั งานกล - ผลรวมของพลังงานศักย์โน้มถ่วงและ พลังงานจลน์เป็นพลังงานกล พลังงาน ศักย์โน้มถ่วงและพลังงานจลน์ของวัตถุ หนึ่ง ๆ สามารถเปลี่ยนกลับไปมาได้ โดยผลรวมของพลังงานศักย์โน้มถ่วง และพลังงานจลน์มีค่าคงตัว นั่นคือ พลงั งานกลของวตั ถุมีคา่ คงตวั - พลังงานรวมของระบบมีค่าคงตัวซึ่ง อาจเปลี่ยนจากพลังงานหนึ่งเป็นอีก พลังงานหนึ่ง เช่นพลังงานกล เปลี่ยนเปน็ พลังงานไฟฟา้ พลังงานจลน์ เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนพลังงาน เสียง พลังงานแสง เนื่องมาจากแรง เสียดทาน พลังงานเคมีในอาหาร เ ป ล ี ่ ย น เ ป ็ น พ ล ั ง ง า น ท ี ่ ไ ป ใ ช้ ใ น ก า ร ทำงานของสิ่งมีชวี ติ

143 หนว่ ย ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ /ตัวชว้ี ัด (ชว่ั โมง) คะแนน ว 2.1 ม2/1, ม2/2, - นอกจากนี้พลังงานยังสามารถถ่าย 16 ม 2/3, ม2/4 โอนไปยังอีกระบบหนึ่งหรือได้รับ พลังงานจากระบบอื่นได้เช่น การถ่าย โอนความร้อนระหว่างสสารการถ่าย โอนพลงั งานของการสน่ั ของแหล่งการ กำเนิดเสียงไปยังผู้ฟัง ทั้งการเปลี่ยน พลังงานและการถ่ายโอนพลังงาน พลังงานรวมทั้งหมดมีค่าเท่าเดิมตาม กฎการอนรุ ักษ์พลงั งาน 5 การแยกสาร - การแยกสารผสมให้เป็นสารบริสุทธิ์ 15 ทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับสมบัติของสาร นัน้ ๆ การระเหยแหง้ ใชแ้ ยกสารละลาย ซ ึ ่ ง ป ร ะ ก อ บ ด ้ ว ย ต ั ว ล ะ ล า ย ท ี ่ เ ป็ น ของแขง็ ในตัวทำละลายท่ีเป็นของเหลว โดยใช้ความร้อนระเหยตัวทำละลาย ออกไปจนหมดเหลือแต่ตัวละลาย การ ต ก ผ ล ึ ก ใ ช ้ แ ย ก ส า ร ล ะ ล า ย ที่ ประกอบด้วยตัวละลายที่เป็นของแข็ง ในตัวทำละลายที่เป็นของเหลว โดยทำ ให้สารละลายอิม่ ตัวแล้วปลอ่ ยให้ตัวทำ ล ะ ล า ย ร ะ เ ห ย อ อ ก ไ ป บ า ง ส ่ ว น ตั ว ละลายจะตกผลกึ แยกออกมา การกล่ัน อ ย ่ า ง ง ่ า ย ใ ช ้ แ ย ก ส า ร ล ะ ล า ย ท่ี ประกอบด้วยตัวละลายและตัวทำ ละลายที่เป็นของเหลวที่มีจุดเดือด ต่างกันมาก วิธีนี้จะแยกของเหลว บริสุทธิ์ออกจากสารละลายโดยให้ ความร้อนกับสารละลายของเหลวจะ เดือดและกลายเป็นไอแยกจาก สารละลายแล้วควบแน่นกลับเป็น ของเหลวอีกครง้ั ขณะทีข่ องเหลวเดือด อุณหภูมิของไอจะคงที่ โครมาโทกราฟี แบบกระดาษเป็นวิธกี ารแยกสารผสมที่ มีปริมาณนอ้ ยโดยใช้แยกสารทมี่ ีสมบัติ การละลายในตัวทำละลายและการถูก ดูดซับด้วยตัวดูดซับแตกต่างกัน ทำให้ สารแต่ละชนิดเคลื่อนที่ไปบนตัวดูดซับ ได้ต่างกัน สารจึงแยกออกจากกันได้ อัตราส่วนระหว่างระยะทางที่สาร องค์ประกอบแต่ละชนดิ เคล่ือนท่ไี ด้บน ตัวดดู ซบั กับระยะทางท่ีตัวทำละลาย

144 หนว่ ย ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ท่ี /ตวั ชวี้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน ละลายในตัวทำละลายที่ต่างกัน โดย ชนิดของตัวทำละลายมีผลต่อชนิดและ ปริมาณของสารที่สกัดได้การสกัดโดย การกลัน่ ด้วยไอนำ้ ใช้แยกสารท่รี ะเหย ง่าย ไม่ละลายน้ำ และไม่ทำปฏิกิริยา กับน้ำออกจากสารทีร่ ะเหยยาก โดยใช้ ไอน้ำเป็นตวั พา - ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการ แยกสารบูรณาการกับคณิตศาสตร์ เทคโนโลยี โดยใช้กระบวนการทาง วศิ วกรรม สามารถนำไปใชแ้ ก้ปญั หาใน ชีวิตประจำวันหรือปัญหาที่พบใน ชุมชนหรือสร้างนวัตกรรม โดยมี ขน้ั ตอน ดังน้ี - ระบุปัญหาในชีวิตประจำวันที่ เกี่ยวกับการแยกสารโดยใช้สมบัติทาง กายภาพ หรือนวัตกรรมที่ต้องการ พัฒนา โดยใช้หลกั การดังกลา่ ว - รวบรวมข้อมูลและแนวคิดเกี่ยวกับ การแยกสารโดยใช้สมบัติทางกายภาพ ที่สอดคล้องกับปัญหาที่ระบุ หรือ นำไปสกู่ ารพฒั นานวัตกรรมนั้น - ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา หรือ พัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวกับการแยก สารในสารผสม โดยใช้สมบัติทาง กายภาพ โดยเชื่อมโยงความรู้ด้าน วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และกระบวนการทางวศิ วกรรม รวมท้งั กำหนดและควบคุมตัวแปรอย่าง เหมาะสม ครอบคลมุ - วางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา หรือพัฒนานวัตกรรม รวบรวมข้อมูล จัดกระทำข้อมูลและเลือกวิธีการส่ือ ความหมายที่เหมาะสมในการนำเสนอ ผล -ทดสอบ ประเมินผล ปรับปรุงวิธีการ แก้ปัญหาหรือนวัตกรรมที่พัฒนาข้ึน โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ที่รวบรวม ได้ - นำเสนอวิธีการแก้ปญั หา หรอื ผลของ นวัตกรรมท่ีพฒั นาข้นึ และผลท่ไี ด้ โดย

145 หน่วย ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา น้ำหนกั ที่ /ตวั ช้ีวดั (ชั่วโมง) คะแนน 6 โลกและการเปลยี่ นแปลง ว 3.2 ม2/4,ม2/5, - โครงสร้างภายในโลกแบ่งออกเป็นชนั้ 23 26 ม 2/6,ม2/7,ม2/8, ม2/9,ม2/10 ตามองค์ประกอบทางเคมี ได้แก่ เปลือก โลก ซึ่งอยู่นอกสุด ประกอบด้วย สารประกอบของซิลิกอนและ อะลูมิเนียมเป็นหลัก เนื้อโลกคือส่วนท่ี อยู่ใต้เปลือกโลกลงไปจนถึงแก่นโลก มี องค์ประกอบหลกั เปน็ สารประกอบของ ซิลิกอน แมกนีเซียมและเหล็ก และ แก่นโลกคอื สว่ นที่อยู่ใจกลางของโลก มี องค์ประกอบหลักเป็นเหล็กและนกิ เกิล ซึง่ แตล่ ะชนั้ มีลักษณะแตกตา่ งกนั - การผุพังอยู่กับที่ การกร่อน และการ สะสมตัวของตะกอน เป็นกระบวนการ เปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา ที่ทำให้ผิว โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงเปน็ ภูมิลกั ษณ์ แบบต่าง ๆ โดยมีปัจจัยสำคัญ คือน้ำ ลม ธารน้ำแข็ง แรงโน้มถ่วงของโลก สิ่งมีชีวิตสภาพอากาศ และปฏิกิริยา เคมี - การผุพังอยู่กับที่ คือ การที่หินผุพัง ทำลายลงดว้ ยกระบวนการตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ลมฟ้าอากาศกับน้ำฝน และรวมทั้งการ ก ร ะ ทำ ของต ้ นไม ้ กับ แ บ คทีเรีย ตลอดจนการแตกตัวทางกลศาสตร์ซึ่งมี ก า ร เ พ ิ ่ ม แ ล ะ ล ด อ ุ ณ ห ภ ู ม ิ ส ล ั บ กั น เป็นต้น - การกร่อน คือ กระบวนการหนึ่งหรือ หลายกระบวนการที่ทำให้สารเปลือก โลกหลดุ ไปละลายไปหรือกรอ่ นไปโดยมี ตัวนำพาธรรมชาติคือ ลม น้ำ และธาร นำ้ แขง็ ร่วมกับปจั จัยอ่นื ๆได้แก่ ลมฟ้า อากาศ สารละลาย การครูดถกู ารนำพา ทั้งนี้ไม่รวมถึงการพังทลายเป็นกลุ่ม ก้อน เช่น แผ่นดนิ ถล่ม ภเู ขาไฟระเบดิ - การสะสมตัวของตะกอน คือ การ สะสมตัวของวัตถุจากการนำพาของน้ำ ลม หรือธารน้ำแข็ง - ดินเกิดจากหินที่ผุพังตามธรรมชาติ ผสมคลุกเคล้ากับอินทรียวัตถุที่ได้จาก การเน่าเปื่อยของซากพืชซากสัตว์ทับ ถมเปน็ ช้ัน ๆ บนผวิ โลก ช้นั ดนิ แบ่ง

146 หนว่ ย ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด เวลา นำ้ หนกั ท่ี /ตวั ชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน และลักษณะอื่น ๆ เช่น สี โครงสร้าง เนื้อดิน การยึดตัวความเป็นกรด-เบส สามารถสังเกตได้จากการสำรวจ ภาคสนาม การเรยี กชื่อช้ันดนิ หลกั จะใช้ อักษรภาษาองั กฤษตัวใหญ่ ไดแ้ ก่ O, A, E, B, C, R - ชั้นหน้าตัดดิน เป็นชั้นดินที่มีลักษณะ ปรากฏใหเ้ หน็ เรยี งลำดบั เปน็ ชัน้ จากชั้น บนสดุ ถึงชั้นลา่ งสดุ - ปัจจัยที่ทำให้ดินแต่ละท้องถิ่นมี ลักษณะและสมบัติแตกต่างกัน ได้แก่ วัตถุต้นกำเนิดดิน ภูมิอากาศสิ่งมีชีวิต ในดนิ สภาพภูมิประเทศ และระยะเวลา ในการเกิดดินสมบัติบางประการของ ดิน เช่น เนื้อดิน ความชื้นดินค่าความ เป็นกรด -เบส ธาตุอาหารในดิน สามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจถึงแนว ทางการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยอาจ นำไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตรหรือ อื่น ๆ ซึ่งดินที่ไม่เหมาะสมต่อการทำ การเกษตร เช่น ดินจืด ดินเปรี้ยว ดิน เค็มและดินดาน อาจเกิดจากสภาพดิน ตามธรรมชาติหรือการใช้ประโยชน์ จะต้องปรับปรุงให้มีสภาพเหมาะสม เพ่อื นำไปใช้ประโยชน์ - แหล่งน้ำผิวดินเกิดจากน้ำฝนที่ตกลง บนพื้นโลกไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำด้วย แรงโน้มถ่วง การไหลของน้ำทำให้พ้ืน โลกเกิดการกัดเซาะเป็นร่องน้ำเช่น ลำ ธาร คลอง และแม่น้ำ ซึ่งร่องน้ำจะมี ขนาดและรูปร่างแตกตา่ งกัน ขึ้นอยู่กับ ปริมาณน้ำฝนระยะเวลาในการกดั เซาะ ชนิดดินและหิน และลักษณะภูมิ ประเทศ เช่น ความลาดชัน ความสูงตำ่ ของพืน้ ท่ี เม่อื น้ำไหลไปยังบริเวณท่ีเป็น แอ่งจะเกิดการสะสมตัวเป็นแหล่งน้ำ เช่น บึง ทะเลสาบทะเล และมหาสมุทร - แหล่งน้ำใต้ดินเกิดจากการซึมของน้ำ ผิวดินลงไปสะสมตัวใต้พื้นโลก ซึ่ง แบ่งเป็นน้ำในดินและน้ำบาดาล น้ำใน ดนิ เป็นน้ำทีอ่ ยรู่ ่วมกับอากาศตาม

147 หน่วย ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนัก ท่ี /ตัวชีว้ ัด (ช่ัวโมง) คะแนน - แหล่งน้ำผิวดินและแหล่งน้ำใต้ดินถูก นำมาใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ส่งผลต่อการจัดการการใช้ประโยชน์น้ำ และคุณภาพของแหล่งน้ำเนื่องจากการ เพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรการใช้ ประโยชน์พื้นที่ในด้านต่าง ๆ เช่นภาค เกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และการ เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ลุ่ม น้ำและแหล่งน้ำผิวดินไม่เพียงพอ สำหรับกิจกรรมของมนุษย์ น้ำจาก แหล่งน้ำใต้ดินจึงถูกนำมาใช้มากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำใต้ดินลดลงมากจึง ต้องมีการจัดการใช้น้ำอย่างเหมาะสม และยั่งยืนซึ่งอาจทำได้โดยการจัดหา แหล่งน้ำเพื่อให้มีแหล่งน้ำเพียงพอ สำหรับการดำรงชีวิต การจัดสรรและ การใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การ อนุรักษ์และฟื้นฟูแหล่งน้ำ การป้องกัน และแก้ไขปัญหาคณุ ภาพนำ้ - น้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง ดินถล่ม หลุมยุบแผ่นดินทรุด มีกระบวนการเกดิ และผลกระทบที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจ สร้างความเสียหายรา้ ยแรงแก่ชวี ิต และ ทรพั ยส์ นิ - น้ำท่วม เกิดจากพื้นที่หนึ่งได้รับ ปริมาณน้ำเกินกว่าที่จะกักเก็บได้ ทำให้ แผ่นดินจมอยู่ใต้น้ำ โดยขึ้นอยู่กับ ปรมิ าณน้ำและสภาพทางธรณวี ทิ ยาของ พนื้ ที่ - การกัดเซาะชายฝั่ง เป็นกระบวนการ เปลี่ยนแปลงของชายฝั่งทะเลที่เกิดข้ึน ตลอดเวลาจากการกัดเซาะของคล่ืน หรือลม ทำให้ตะกอนจากที่หนึ่งไปตก ทับถมในอกี บรเิ วณหนึ่ง แนวของชายฝ่ัง เดิมจึงเปลี่ยนแปลงไป บริเวณที่มี ตะกอนเคล่ือนเข้ามาน้อยกว่าปริมาณที่ ตะกอนเคลื่อนออกไปถือว่าเป็นบริเวณ ท่ีมกี ารกัดเซาะชายฝง่ั - ดินถล่ม เป็นการเคลื่อนที่ของมวลดิน หรอื หนิ จำนวนมากลงตามลาดเขา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook