198 - การประเมินผลการร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ การร่วมกิจกรรมการเรยี นร้สู ว่ นใหญ่จะมอบหมายภาระงานเป็นกล่มุ กำหนดเกณฑก์ ารประเมนิ ผลการร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ดังน้ี รายการประเมิน ระดับคุณภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา 1. การวางแผน - วางแผนและมอบหมายหน้าที่ความ 3 (ดี) รับผิดชอบให้สมาชิกไมช่ ดั เจน 2 (พอใช้) - วางแผน แตม่ อบหมายหน้าที่ความ 1 (ต้องปรับปรุง) รบั ผิดชอบให้สมาชิกไมช่ ัดเจน - ไมม่ กี ารวางแผน 2. ความร่วมมือใน 3 (ด)ี - ทกุ คนทำงานตามหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบ - สมาชิกสว่ นมากทำงานตามหน้าท่ี กลมุ่ 2 (พอใช)้ - สมาชิกไม่ทำงานตามหนา้ ที่ - ปฏบิ ตั ิไดค้ รบทุกอย่างถกู ต้องเหมาะสม 1 (ต้องปรับปรุง) - ปฏบิ ัตไิ ดค้ รบทกุ ขอ้ แต่ยังมีขอ้ ผดิ พลาดเปน็ บางสว่ น 3. ทักษะการ 3 (ด)ี - ไม่สามารถปฏบิ ตั ิได้ครบทกุ ข้อด้วยตนเองและ มคี วาม ปฏบิ ตั กิ าร 2 (พอใช)้ ผดิ พลาดในการลงขอ้ สรุป 3.1 การสังเกตเพ่ือ 1 (ตอ้ งปรับปรุง) - เขียนรายงานดว้ ยรูปแบบท่ีถกู ต้องเหมาะสม และนำเสนอไดส้ มบรู ณ์ ระบปุ ัญหา - เขยี นรายงานได้ไมส่ มบรู ณ์ - รายงานมีขอ้ ผดิ พลาด หรอื ไม่เขียนรายงาน 3.2 การต้งั สมมติฐาน - ปฏิบัติงานเสรจ็ สมบรู ณต์ ามเวลาที่กำหนด - ปฏิบตั งิ านเสรจ็ ตามเวลาทก่ี ำหนดแตไ่ ม่ 3.3 การรวบรวม สมบูรณ์ - ปฏบิ ัติงานไม่เสรจ็ สมบูรณ์ตามเวลาท่ีกำหนด ขอ้ มลู 3.4 การแปลความ ขอ้ มลู 3.5 การลงข้อสรุป 4. การเขียนรายงาน 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ตอ้ งปรับปรุง) 5. เวลา 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ตอ้ งปรับปรุง)
199 2.2 แฟ้มสะสมงานวิทยาศาสตร์ การประเมนิ ผลแฟม้ สะสมงานวทิ ยาศาสตร์ กำหนดเกณฑ์การประเมิน ดงั น้ี ระดับคุณภาพ เกณฑ์การพจิ ารณา 4 - ผลงานมรี ายละเอยี ดอย่างเพยี งพอท่ีแสดงถึงระดับความร้แู ละ (ดีมาก) พัฒนาการของผเู้ รียนและแสดงถงึ ความเข้าใจในเร่ืองท่ศี ึกษา การ นำเสนอข้อมลู แสดงถงึ การบรู ณาการหรือเชอื่ มโยงมโนทัศน์ตา่ ง ๆ เขา้ 3 ดว้ ยกัน (ด)ี - ผลงานมีรายละเอยี ดอย่างเพียงพอท่ีแสดงถึงระดบั ความรู้และพฒั นาการ ของผู้เรียน ไม่มขี ้อผิดพลาดที่แสดงวา่ ไมเ่ ข้าใจ แต่การนำข้อมูลไม่แสดงถึง 2 การบรู ณาการระหวา่ งขอ้ มูลหรอื มโนทศั นใ์ นเรื่องท่ศี ึกษา (พอใช้) - ผลงานมีรายละเอยี ดแสดงไวใ้ นบนั ทกึ ใหเ้ หน็ ถึงระดับความรู้และ พฒั นาการของผเู้ รียน แต่พบวา่ บางส่วนมคี วามผดิ พลาดหรอื ไมช่ ดั เจนหรือ 1 แสดงถงึ ความไม่เขา้ ใจในเร่อื งท่ีศกึ ษาของผูเ้ รียน (ปรับปรงุ ) - ผลงานมีข้อมูลน้อย ไม่มรี ายละเอียดแสดงไวใ้ นบันทึกหรือแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ระดับความรูแ้ ละพฒั นาการของผ้เู รียน
200 2.3 โครงงานวิทยาศาสตร์ การประเมินผลโครงงานวทิ ยาศาสตร์ กำหนดเกณฑ์การประเมิน ดงั นี้ ระดับคุณภาพ เกณฑ์การพิจารณา 4 - แสดงถึงความเขา้ ใจปัญหาอยา่ งชดั เจน (ดมี าก) - มีความคิดริเริม่ สร้างสรรค์ในการออกแบบโครงงาน 3 - ใช้เทคนคิ วธิ กี ารต่าง ๆ ในการจดั ทำโครงงานจนประสบผลสำเรจ็ (ด)ี - การนำเสนอรายงานเปน็ ลำดบั ข้ันตอนดีมากและใช้เปน็ แบบอยา่ งได้ 2 (พอใช)้ - มีการวางแผนการทำงานเป็นระบบและทำงานเสร็จตามกำหนดเวลาท่ี 1 กำหนด (ปรับปรงุ ) - มกี ารศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู จากแหล่งการเรียนรู้ทีน่ า่ เชอ่ื ถือและ หลากหลาย - แสดงถึงความเข้าใจปัญหา - การออกแบบโครงงานถูกต้องเปน็ บางสว่ น - ใชเ้ ทคนิควิธกี ารในการจัดทำโครงงานใหป้ ระสบผลสำเร็จเพียงบางสว่ น - การนำเสนอรายงานเป็นลำดบั ขั้นตอน - มีการวางแผนการทำงานและทำงานเสรจ็ ตามกำหนดเวลาทกี่ ำหนด - มีการศึกษาคน้ คว้าข้อมูลจากแหลง่ การเรยี นรู้ท่ีหลากหลาย - เขา้ ใจปัญหาแตใ่ ชเ้ วลานานมาก - ตอ้ งอาศยั การแนะนำในการออกแบบโครงงาน - ต้องไดร้ ับคำแนะนำเกี่ยวกับเทคนคิ วธิ กี ารในการจัดทำโครงงาน - ต้องไดร้ ับคำแนะนำในการเขียนรายงาน - มีการวางแผนการทำงาน แตไ่ มช่ ดั เจนและทำงานเสรจ็ ช้ากวา่ ที่กำหนดไว้ - มกี ารศึกษาคน้ ควา้ ข้อมลู นา่ เช่ือถือไดเ้ พยี งบางส่วน - ไมเ่ ข้าใจปัญหา - การออกแบบโครงงานและการทดลองไมถ่ ูกต้อง - ตอ้ งไดร้ บั คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิควิธกี ารในการจัดทำโครงงานทกุ ขัน้ ตอน - การเขยี นรายงานยังมีข้อบกพร่อง - มกี ารวางแผนการทำงาน ไม่เปน็ ระบบและทำงานเสรจ็ ชา้ กวา่ ท่กี ำหนดไว้ - มกี ารศึกษาค้นควา้ ข้อมลู น้อยมากไมส่ ัมพันธก์ บั โครงงานท่ีจดั ทำ
201 2.4 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น การประเมนิ ผลสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ประเมินโดยใช้แบบประเมินสมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น โดยกำหนดเกณฑ์ในการประเมิน ดังนี้ ระดบั คุณภาพ ความหมาย 3 ผู้เรยี นปฏบิ ัตติ นตามสมรรถนะจนเป็นนสิ ยั และนำไปใชใ้ น (ดเี ยย่ี ม) ชีวิตประจำวันเพ่ือ ประโยชน์สขุ ของตนเองและสังคม โดยพิจารณาจากผลการประเมิน ระดบั ดเี ย่ียมจำนวน 3-5 สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะใดได้ผลการ ประเมินต่ำกวา่ ระดับดี 2 ผเู้ รียนมีสมรรถนะในการปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑ์ เพ่อื ให้เป็นการยอมรบั ของ (ด)ี สงั คมโดยพิจารณาจาก 1. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดีเยี่ยม จำนวน 1-2 สมรรถนะ และไมม่ ี สมรรถนะใดได้ผลการประเมินต่ำกวา่ ระดับดี หรือ 2. ไดผ้ ลการประเมินระดับดเี ย่ยี ม จำนวน 2 สมรรถนะ และไม่มสี มรรถนะ ใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ำกว่าระดบั ผ่าน หรือ 3. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดี จำนวน 4-5 สมรรถนะ และไมม่ ีสมรรถนะใด ได้ผลการประเมินต่ำกวา่ ระดับผา่ น 1 ผเู้ รยี นรบั รแู้ ละปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขทสี่ ถานศกึ ษากำหนด โดย (ผา่ น) พจิ ารณาจาก 1. ได้ผลการประเมินระดับผา่ น จำนวน 4-5 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะ ใดได้ผลการประเมินต่ำกว่าระดับผา่ น หรือ 2. ไดผ้ ลการประเมินระดบั ดี จำนวน 2 สมรรถนะ และไมม่ ีสมรรถนะใด ไดผ้ ลการประเมนิ ต่ำกวา่ ระดับผา่ น 0 ผู้เรยี นรับรแู้ ละปฏิบัตไิ ด้ไมค่ รบตามเกณฑแ์ ละเง่ือนไขท่ีกำหนด โดย (ไมผ่ ่าน) พจิ ารณาจากผลการประเมินระดับต้องปรับปรุง ตง้ั แต่ 1 สมรรถนะ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั สิ มำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิบางครั้ง ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัติน้อยครั้ง ให้ 0 คะแนน
202 อภิธานศัพท์ กำหนดปัญหา (Define problem) ระบุคำถาม ประเดน็ หรอื สถานการณ์ ทเ่ี ปน็ ข้อสงสัยเพ่อื นำไปสูก่ ารแกป้ ัญหา หรอื อภปิ ราย รว่ มกัน แกป้ ัญหา (Solve problem) หาคำตอบของปัญหาทยี่ ังไม่รู้วิธีการมากอ่ น ท้ัง ปัญหาทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั วทิ ยาศาสตรโ์ ดยตรง และ ปัญหา ในชวี ิตประจำวนั โดยใชเ้ ทคนิคและวธิ กี ารต่าง ๆ เขียนแผนผัง/ วาดภาพ (Construct diagram/ illustrate) นำเสนอข้อมลู หรือผลการสำรวจตรวจสอบด้วย แผนผงั กราฟ หรือภาพวาด คาดคะเน (Predict) คาดการณ์ผลท่จี ะเกดิ ขึน้ ในอนาคต โดยอาศยั ข้อมูลท่ีสงั เกตได้ และประสบการณท์ ี่มี คำนวณ (Calculate) หาผลลพั ธ์จากขอ้ มูลโดยใช้หลกั การ ทฤษฎี หรอื วธิ ีการทางคณิตศาสตร์ จำแนก (Classify) จัดกลุม่ ของสงิ่ ตา่ ง ๆ โดยอาศัยลกั ษณะที่ เหมือนกันเป็นเกณฑ์ ตั้งคำถาม (Ask question) พูดหรือเขียนประโยค หรือวลเี พ่ือใหไ้ ด้มาซ่ึง การคน้ หำคำตอบท่ีต้องการ ทดลอง (Conduct/ experiment) ปฏบิ ตั ิการเพื่อหำคำตอบของคำถาม หรือปัญหา ในกำรทดลอง โดยต้ังสมมตฐิ านเพือ่ เป็นแนวทาง ใน การกำหนดตวั แปรและวางแผนดำเนินการ เพื่อตรวจสอบสมมตฐิ าน นำเสนอ (Present) แสดงขอ้ มูล เรอ่ื งราว หรอื ความคิด เพื่อใหผ้ ู้อ่ืน รบั ร้หู รือพิจารณา บรรยาย (Describe) ให้รายละเอียดของเหตกุ ารณ์หรอื ปรากฏการณ์ที่ เกิดขึน้ ให้ผ้อู ่ืนได้รบั รดู้ ว้ ยการบอกหรือเขยี น บอก (Tell) ให้ข้อมลู ขอ้ เท็จจรงิ แกผ่ ู้อืน่ ด้วยการพดู หรือเขียน
203 บนั ทึก (Record) เขียนขอ้ มูลท่ีได้จากการสังเกต เพอื่ ชว่ ยจำ หรอื เพ่ือเป็นหลักฐาน เปรียบเทยี บ (Compare) บอกความเหมือน และ/หรือ ความแตกตา่ งของ สิ่งท่เี ทยี บเคียงกัน แปลความหมาย (Interpret) แสดงความหมายของข้อมลู จากหลักฐานที่ปรากฎ เพอื่ ลงข้อสรุป ยกตัวอยา่ ง (Give examples) ใหข้ ้อมูล เหตุการณ์ หรือสถานการณ์ เพ่ือแสดง ความเข้าใจในสิง่ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ ระบุ (Identify) ชบ้ี อกสิ่งต่าง ๆ โดยใช้ข้อมลู ประกอบอย่างเพียงพอ เลอื กใช้ (Select) พิจารณาและตัดสินใจนำวสั ดุ สิ่งของ อปุ กรณ์ หรือวธิ ีการมาใช้ได้อยา่ งเหมาะสม วดั (Measure) หาขนดหรือปริมาณของสิง่ ต่าง ๆ โดยใชเ้ คร่อื งมือ ทเ่ี หมาะสม วิเคราะห์ (Analyze) แยกแยะ จดั ระบบ เปรียบเทียบ จัดลำดบั จัดจำแนก หรือเชื่อมโยงขอ้ มูล สร้างแบบจำลอง (Construct model) นำเสนอแนวคิดหรือเหตกุ ารณ์ในรปู ของ แผนภาพ ชนิ้ งาน สมการ ขอ้ ความ คำพูด และ/หรือใช้ แบบจำลองเพ่อื อธบิ ายความคิด วตั ถุ หรอื เหตุการณ์ต่าง ๆ สังเกต (Observe) หาขอ้ มลู ดว้ ยการใชป้ ระสาทสัมผสั ทั้งหำ้ ที่เหมาะสม ตามข้อเทจ็ จริงทีป่ รากฏ โดยไม่ใช้ ประสบการณ์ เดิมของผสู้ ังเกต สำรวจ (Explore) หาขอ้ มลู เกย่ี วกับส่งิ ต่าง ๆ โดยใชว้ ีธีการและ เทคนิคทีเ่ หมาะสมเพ่ือนำขอ้ มลู มาใช้ตาม วัตถุประสงค์ท่ี กำหนดไว้ สบื ค้นขอ้ มูล (Search) หาข้อมูล หรอื ข้อสนเทศท่ีมผี ู้รวบรวมไว้แล้วจาก แหล่งต่าง ๆ มาใชป้ ระโยชน์
204 ส่อื สาร (Communicate) นำเสนอและแลกเปลยี่ นความคดิ ข้อมลู หรือผล จากการสำรวจตรวจสอบด้วยวิธที ่ีเหมาะสม อธิบาย (Explain) กลา่ วถงึ เรอื่ งราวตา่ ง ๆ อยา่ งมีเหตุผล และมี ข้อมูล หรือประจกั ษ์พยานอา้ งองิ อภิปราย (Discuss) แสดงความคิดเหน็ ตอ่ ประเด็น หรอื คาถามอยา่ ง มเี หตุผลโดยอาศัยความรู้และประสบการณ์ของผู้อภิปรายและ ข้อมูลประกอบ ออกแบบกำรทดลอง (Design experiment) กำหนดและวางแผนวธิ กี ำรทดลองใหส้ อดคลอ้ งกับ สมมติฐานและตัวแปรต่าง ๆ รวมทั้งการบนั ทกึ ขอ้ มลู ศัพท์ทเี่ ก่ียวข้องกบั ตัวชี้วัด สาระเทคโนโลยี การใช้ลิขสิทธิ์ของผู้อ่ืนโดยชอบธรรม (Fair use) การนำสือ่ หรอื ขอ้ มูลทเ่ี ปน็ ลิขสิทธิ์ของผู้อื่นไปใช้โดยชอบดว้ ยกฎหมายภายใต้เง่ือนไขบางประการ เชน่ 1) นำไปใชใ้ นการศึกษา หรือการคำ้ 2) งานนั้นเป็นงานวิชำการ หรอื บันเทงิ 3) คดั ลอกเพียงส่วนนอ้ ย หรอื คัดลอกจานวนมาก 4) ทำให้เจา้ ของเสียผลประโยชนท์ างการเงนิ มากน้อยเพียงใด การตรวจและแกไ้ ขข้อผดิ พลาด (Debugging) กระบวนการในการค้นหาข้อผดิ พลาดของโปรแกรม เพื่อแก้ไขให้ทำงานไดถ้ ูกต้อง การประมวลผลข้อมูล (Data processing) การดำเนินการต่าง ๆ กบั ข้อมูลเพ่อื ให้ไดผ้ ลลัพธ์ท่ีมีความหมาย และมีประโยชนต์ อ่ การนำไปใชง้ าน มากย่งิ ข้นึ การวบรวมข้อมลู (Data collection) กระบวนกรในการรวบรวมข้อมลู ท่ีเก่ยี วข้องจากแหล่งข้อมลู ต่าง ๆ ขอ้ มูลปฐมภมู ิ (Primary data) ขอ้ มลู ท่ีรวบรวมโดยตรงจากแหล่งขอ้ มูลข้นั ต้น โดยอาจใชว้ ธิ กี ารสงั เกต การทดลอง การสำรวจ การ สมั ภาษณ์ เทคโนโลยี (Technology) สงิ่ ทม่ี นษุ ยส์ รา้ ง หรอื พฒั นาขึ้น ซึง่ อาจเปน็ ไดท้ ง้ั ชิน้ งาน หรือวิธีการ เพื่อใชแ้ ก้ปัญหา สนองความ ตอ้ งการ หรือเพ่ิมความสามารถในการทำงำนของมนุษย์
205 แนวคิดเชิงคำนวณ (Computational thinking) กระบวนการในการแกป้ ญั หา การคดิ วิเคราะหอ์ ย่างมเี หตผุ ลเป็นขั้นตอน เพอ่ื หำวิธกี ารแก้ปัญหาใน รูปแบบท่สี ามารถนำไปประมวลผลได้ แนวคดิ เชงิ นามธรรม (Abstraction) การพิจารณารายละเอียดท่สี ำคัญของปัญหา แยกแยะสำระสำคัญออกจากสว่ นทีไ่ มส่ ำคัญ ระบบทางเทคโนโลยี (Technological system) กล่มุ ของส่วนตา่ ง ๆ ต้ังแต่สองสว่ นข้นึ ไปประกอบเข้าด้วยกันและทำงานรว่ มกนั เพื่อใหบ้ รรลุ วัตถุประสงค์ โดยในการทำงานของระบบทางเทคโนโลยจี ะประกอบไปดว้ ย ตัวปอ้ น (input) กระบวนการ (process) และผลผลิต (output) ทสี่ ัมพันธ์กัน นอกจากนี้ระบบทางเทคโนโลยอี าจมีข้อมูลยอ้ นกลบั (feedback) เพ่ือใช้ปรบั ปรุง การทำงานไดต้ ามวัตถุประสงค์ เหตุผลเชงิ ตรรกะ (Logical reasoning) การใช้เหตุผล กฎ กฎเกณฑ์ หรอื เงอื่ นไข ท่เี กยี่ วข้อง เพื่อแกป้ ญั หาไดค้ รอบคลมุ ทกุ กรณี เหตุผลวิบัติ (Logical fallacy) การใช้เหตุผลทีผ่ ดิ พลาด ไมอ่ ยู่บนพืน้ ฐานของความจริง ไม่มนี ำ้ หนักสมเหตุสมผล มาสนับสนุน หรอื ชนี้ ำขอ้ สรปุ ที่ผิดใหด้ นู า่ เชื่อถือ อัตลักษณ์ (Identity) ลกั ษณะเฉพาะ หรือข้อมลู สำคญั ทบ่ี ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของบุคคลหรือส่ิงใดส่งิ หนึ่ง เชน่ ช่อื บญั ชี ผใู้ ช้ ใบหนา้ ลายนว้ิ มือ อัลกอริทึม (Algorithm) ขนั้ ตอนในการแก้ปัญหา หรือการทำงาน โดยมลี ำดับของคำส่ังหรอื วธิ กี ารท่ชี ดั เจน ท่ีคอมพวิ เตอร์ สามารถปฏิบัตติ ามได้ แอพพลิเคชัน (Software application) ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ทที่ ำงานบนคอมพวิ เตอร์ สมารท์ โฟน แท็บเล็ต หรืออปุ กรณ์เทคโนโลยอี นื่ ๆ
206
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209