22563PPT_MIS ปวส.

ภยั คุกคามจากผู้ค้ารายใหม่ Threat of New Entrants ระบบสารสนเทศ องคก์ าร และกลยทุ ธ์

ภัยคกุ คามจากสินคา้ ทดแทน Threat of Substitute ระบบสารสนเทศ องค์การ และกลยทุ ธ์

อานาจการตอ่ รองของลกู ค้า Bargaining Power of Customer ระบบสารสนเทศ องคก์ าร และกลยทุ ธ์

อานาจการต่อรองของผขู้ ายปจั จยั การผลติ Bargaining Power of Suppliers ระบบสารสนเทศ องค์การ และกลยทุ ธ์

การวางแผนกลยทุ ธ์เพอ่ื ชิงความไดเ้ ปรยี บในการแขง่ ขนั ความเป็นผนู้ าดา้ นตน้ ทุน เพม่ิ ต้นทนุ เมือ่ เปล่ยี นไปใช้สินค้าทดแทน ด้านความแตกตา่ ง เจาะตลาดเฉพาะกลมุ่ ด้านนวตั กรรม สร้างสินคา้ และการบรกิ ารใหม่ การเติบโต ปรบั ปรุงสนิ คา้ และบรกิ ารใหด้ ีข้นึ เสาะหาพนั ธมติ รทางธุรกิจ ผูกมัดผขู้ ายปัจจัยการผลติ หรือผซู้ ้อื สรา้ งอุปสรรคแก่ผ้มู าใหม่ มงุ่ ที่ตัวลกู ค้า ระบบสารสนเทศ องค์การ และกลยทุ ธ์

กลยุทธค์ วามเปน็ ผู้นาดา้ นต้นทุน (Look in Suppliers or Buyers Strategy) ระบบสารสนเทศ องคก์ าร และกลยทุ ธ์

กลยทุ ธ์ดา้ นความแตกตา่ ง (Differentiation Strategy) ระบบสารสนเทศ องคก์ าร และกลยทุ ธ์

กลยุทธ์ด้านนวตั กรรม (Innovation Strategy) ระบบสารสนเทศ องคก์ าร และกลยทุ ธ์

กลยทุ ธเ์ พื่อการเติบโต (Growth Strategy) ระบบสารสนเทศ องคก์ าร และกลยทุ ธ์

กลยทุ ธ์เสาะหาพนั ธมิตรทางธุรกิจ (Alliance Strategy) ระบบสารสนเทศ องคก์ าร และกลยทุ ธ์

กลยุทธส์ รา้ งอปุ สรรคแก่ผ้มู าใหม่ (Raise Barriers to Market Entrants Strategy) ระบบสารสนเทศ องค์การ และกลยทุ ธ์

กลยทุ ธเ์ พมิ่ ตน้ ทนุ เมอื่ เปลย่ี นไปใชส้ ินค้าทดแทน (Increase Switching Cost Strategy) ระบบสารสนเทศ องคก์ าร และกลยทุ ธ์

กลยทุ ธ์เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Focus on Market Niche Strategy) ระบบสารสนเทศ องคก์ าร และกลยทุ ธ์

กลยุทธ์สร้างสินคา้ และการบริการใหม่ (Creating New Products and Services Strategy) ระบบสารสนเทศ องคก์ าร และกลยทุ ธ์

กลยุทธป์ รับปรุงสนิ ค้าและบรกิ ารทมี่ อี ยู่ใหด้ ขี ึ้นกวา่ เดมิ (Improving Existing Product Lines and Services Strategy) ระบบสารสนเทศ องค์การ และกลยทุ ธ์

กลยทุ ธผ์ ูกมัดผูข้ ายปัจจัยการผลติ หรอื ผซู้ ื้อ (Look in Suppliers or Buyers Strategy) ระบบสารสนเทศ องค์การ และกลยทุ ธ์

กลยุทธ์ม่งุ ที่ตวั ลูกคา้ (Customer – Orientation Strategy) ระบบสารสนเทศ องคก์ าร และกลยทุ ธ์

กลยทุ ธ์การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศมาใชก้ บั กลยทุ ธ์การแขง่ ขันข้นั พน้ื ฐาน ดา้ นตน้ ทนุ ตา่ „ ใช้ IT เพ่อื ลดตน้ ทนุ กระบวนการธรุ กิจ (Lower Cost) „ ใช้ IT เพ่ือลดต้นทนุ แกล่ ูกคา้ หรือผูข้ ายปจั จยั การผลติ ด้านความแตกต่าง „ พฒั นาคณุ ลกั ษณะเด่นๆทาง IT ใหม้ ีความแตกต่าง (Differentiate) „ ใช้คุณลกั ษณะเด่นๆทาง IT เพื่อลดขอ้ ไดเ้ ปรียบของคูแ่ ข่งขัน ด้านนวัตกรรม „ สรา้ งสินค้าและบรกิ ารใหมๆ่ (Innovation) „ เปลี่ยนแปลงกระบวนการทางธรุ กิจเพอื่ ลดต้นทนุ + คุณภาพ ดา้ นการเติบโต • ใช้ IT เพอ่ื บรหิ ารจดั การธุรกจิ ให้ขยายตัว (Promote Growth) • ใช้ IT ขยายธุรกจิ ไปยงั ธุรกจิ อืน่ ๆทีย่ ังคงเก่ียวขอ้ งกบั ธรุ กิจเดมิ อยู่ ด้านการสรา้ งพันธมติ ร • พฒั นาระบบสารสนเทศทสี่ ามารถเชือ่ มโยงผา่ นอนิ เตอร์เนต็ เพื่อ (Develop Alliances) สนบั สนุนกลยทุ ธ์ทางธุรกจิ ในดา้ นการสร้าระงบคบสวาราสมนเสทศมั อพงคัน์กาธร แ์ ละกลยทุ ธ์

พฒั นาระบบสารสนเทศ

การแขง่ ขนั ระหว่างองคก์ รทางธุรกิจมคี วามเขม้ ข้น ข้อมูลและสารสนเทศเปน็ อาวุธสาคญั ในการ กาหนดกลยุทธ์การแข่งขัน องคก์ รต่างๆ ให้ความสาคญั กบั การพัฒนาระบบ สารสนเทศ

วางแผนระบบสารสนเทศ คือ การคาดการณ์ถึงผลของการนาระบบสารสนเทศ เข้ามาใช้ และวิธีปฏิบัติเพื่อให้การนาระบบสารสนเทศเข้า มาใช้เป็นไปตามเปา้ หมายทอ่ี งค์กรวางไว้

กระบวนการวางแผนระบบสารสนเทศ แบง่ เปน็ 6 ข้นั ตอน หลัก ดงั น้ี กาหนด เป้าหมายและ วตั ถปุ ระสงค์ กาหนด วางแผน แนวทางและ ส่ิงแวดลอ้ ม ข้นั ตอน กาหนด จบั ประเด็นที่ นโยบาย เปน็ กลยทุ ธ์ กาหนด กลยทุ ธ์

กาหนดเปา้ หมายและวัตถุประสงค์  เป็นงานแรกของการวางแผนระบบสารสนเทศ เพื่อยึดเป็น แนวทางในการวางแผนปฏิบัติให้บรรลุตามเป้าหมายและ วตั ถุประสงค์  หลักการสาคัญของการกาหนดเป้าหมาย คือ “มีความชัดเจน ทุกฝา่ ยเขา้ ใจตรงกนั อยู่บนพืน้ ฐานของความจริง ปฏิบัตไิ ด้”

วางแผนสิ่งแวดลอ้ ม • วางแผนส่งิ แวดลอ้ มภายในองคก์ ร (Internal Environment) เป็นการพิจารณาถึงบุคลากรในองค์กรว่ามีความสามารถเพียง พอที่จะใช้ระบบสารสนเทศหรือไม่ เพื่อจะได้จัดอบรมหรือเปิดโอกาสให้ บุคลากรเตรียมตัวศึกษาหาความรู้ และการจัดเตรียมในส่วนของ ค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะเกิดข้ึนจากการนาระบบสารสนเทศเข้ามาใช้

• วางแผนสงิ่ แวดลอ้ มภายนอกองค์กร (External Environment) พจิ ารณาถงึ ปจั จยั ในดา้ นการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีฮารด์ แวร์ ซอฟแวร์ และการขยายระบบในอนาคต หรือปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของ ซอฟตแ์ วร์ซง่ึ ทุกอย่างล้วนเปน็ ค่าใช้จ่ายขององค์กร

จับประเด็นท่ีเป็นกลยทุ ธ์ คือ การเลือกทิศทางท่ีองค์กรต้องการจะก้าวไปในอนาคต หรือในระยะยาวเพื่อให้บรรลุเป้าหมายน้ัน ซึ่งทิศทางนี้จะถูก นามาเป็นประเด็นในการกาหนดกลยทุ ธ์ต่อไป

กาหนดกลยุทธ์ กลยุทธ์เป็นแผนระยะยาวที่องค์กรกาหนดขึ้นเพ่ือกาหนด ทิ ศ ท า ง ก า ร ด า เ นิ น ง า น ข อ ง อ ง ค์ ก ร ใ ห้ บ ร ร ลุ เ ป้ า ห ม า ย แ ล ะ วัตถุประสงค์ทีว่ างไว้

กาหนดนโยบาย นโยบายเป็นแผนปฏิบัติเพื่อให้สอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ที่ วางไว้ (กลยุทธ์เป็นแผนที่บอกถึงทิศทางการดาเนินไปให้ถึง เป้าหมาย แต่นโยบายเป็นแนวทางการปฏิบัติเพื่อให้องค์กร ดาเนินไปตามกลยทุ ธ์)

กาหนดแนวทางและขน้ั ตอน การนานโยบายมาแตกย่อยเป็นวิธีและขั้นตอนในการ ปฏิบัติงานจริง ซ่ึงเป็นงานของผู้บริหารระดับล่างที่จะเป็นผู้ กาหนดแนวทางและข้ันตอนปฏิบัติเพ่ือใช้ควบคุมการทางานของ ผู้ปฏิบตั ิงาน

วางแผนระบบสารสนเทศเชงิ กลยุทธ์ การนาระบบสารสนเทศเข้ามาใช้งานจาเป็นจะตอ้ งกาหนด ทิศทางการใช้ระบบสารสนเทศขององค์กรในระยะยาว (วางแผนระบบสารสนเทศเชิงกลยุทธ์) เพ่ือให้เห็นภาพการนา ระบบสารสนเทศเข้ามาใช้ว่าจะใช้เพื่อดาเนินการในส่วนใด จะ เกดิ ผลหรือให้ประโยชน์กบั องคก์ รอย่างไร

ข้ันตอนการวางแผนระบบสารสนเทศเชิงกลยทุ ธ์ 1. กาหนดภารกิจของหน่วยงานสารสนเทศ - ผู้บริหารระดับสูงจะตอ้ งกาหนดทีมงานและมอบหมายภารกิจใน การวางแผนระบบสารสนเทศให้กบั ทีม 2. ประเมนิ สภาวะแวดลอ้ ม - ประเมินโอกาสและความเสีย่ งของการนาระบบสารสนเทศเขา้ มา ใชใ้ นองคก์ ร

3. กาหนดวตั ถปุ ระสงค์ของระบบสารสนเทศ - วัตถุประสงค์ของระบบสารสนเทศจะต้องสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์ขององค์กร โดยเป็นการกาหนดเป้าหมายของระบบ สารสนเทศที่จะนามาใช้ว่าจะให้ประโยชน์กับองค์กรอย่างไร และมีส่วน ช่วยใหอ้ งค์กรบรรลุวตั ถปุ ระสงค์ได้อยา่ งไร 4. กาหนดแนวทางกลยทุ ธ์ - กาหนดแนวทางการใช้ระบบสารสนเทศในระยะยาวเพื่อให้ สอดคลอ้ งกับวัตถุประสงค์

5. กาหนดนโยบายทางสารสนเทศ - กาหนดแนวทางปฏิบัติเพือ่ ใหส้ อดคล้องกับกลยทุ ธ์ทว่ี างไว้ 6. สรา้ งแผนระยะยาวและระยะส้นั - นานโยบายมาจดั ทาเป็นแผนปฏบิ ตั งิ านระยะยาวและระยะส้ัน 7. ดาเนนิ การตามแผนปฏิบัติงาน - ปฏบิ ตั ิงานใหไ้ ด้ตามแผน

วางแผนระยะยาว แผนระยะยาว หมายถึง แผนงานท่ีจะเกิดข้ึนในช่วงระยะเวลา 3- 5 ปีข้างหน้า การทาแผนระยะยาวของระบบสารสนเทศมีปัจจัยหลาย อย่างที่ต้องพิจารณาให้ครอบคลุม เน่ืองจากแผนระยะยาวมีช่วงระยะ เวลานานจึงตอ้ งใชค้ วามรอบคอบสงู เน้ือหาของแผนระบบสารสนเทศระยะยาวจะต้องครอบคลุม รายละเอยี ดตอ่ ไปนี้ - วัตถปุ ระสงค์พรอ้ มคาอธิบายท่ชี ดั เจน - ประเมนิ สภาพแวดลอ้ มของระบบสารสนเทศในอนาคต - กลยุทธ์เก่ียวกบั ระบบสารสนเทศ

- แผนการพฒั นาระบบ และระบบเดมิ ที่ใชง้ านอยู่ - แผนบุคลากร - งบประมาณและคา่ ใช้จา่ ย - แผนการจดั องคก์ ร - แผนการฝกึ อบรม - แผนการจดั หาฮาร์ดแวร์ - สรปุ ขอ้ เสนอแนะในการดาเนินการ

วางแผนระยะส้ัน แผนระยะสั้น เป็นแผนช่วงเวลา 1-2 ปี เป็นการนาแผนระยะยาว มาแตกย่อยเป็นแผนปฏิบัติงานในแต่ละส่วน แต่ละช่วงเวลา เพ่ือกาหนด ขอบเขตของงานให้ชัดเจนย่ิงขึ้น ซ่ึงจะทาให้ง่ายต่อการดาเนินการตัด งบประมาณและการจดั บคุ ลากร แผนระยะสนั้ จะตอ้ งมเี นื้อหาครอบคลมุ ประเด็นตา่ งๆ ต่อไปนี้ - งบประมาณและทรัพยากรท่ีต้องใช้ ซึ่งรวมถึงการจัดหาอุปกรณ์ ฮาร์ดแวร์และจัดซอื้ ซอฟแวร์ - การปฏิบัตงิ าน เป็นการแสดงรายละเอยี ดของงานท่ตี อ้ งปฏิบตั ิ

- การสนับสนุนด้านเทคนิค อธิบายทรัพยากรที่ต้องใช้เพื่อ สนับสนุนการพัฒนาระบบสารสนเทศ - อัตรากาลัง หมายถึง กาลงั คนท่ีจะตอ้ งใช้ในโครงการ - ฝึกอบรม เป็นรายละเอียดการอบรมพนักงานและเจ้าหน้าท่ีที่ เกีย่ วข้อง - การเงิน เป็นการแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณและ ค่าใชจ้ ่ายในการดาเนนิ งาน - พัฒนาปรับปรุงและดูแลระบบ เม่ือพัฒนาระบบข้ึนมาแล้วต้อง ทาแผนเผื่อในสว่ นของการปรบั ปรุงและดแู ลระบบด้วย

วงจรการพัฒนาระบบ คน้ หาขอ้ มูลระบบ (Research) ความเปน็ ไปได้ วิเคราะหร์ ะบบ (Analysis) ขอ้ มูลเฉพาะของปญั หา ออกแบบระบบ (Design) ขอ้ มูลเฉพาะของการออกแบบระบบ พฒั นาโปรแกรม (Development) นาไปใช้ (Implementation) บารงุ รกั ษา (Maintenance)

คน้ หาข้อมูลระบบ (Research ศกึ ษาข้อมูลการใช้งานของระบบเดิม ปญั หาทีเ่ กิดขึน้ ขอ้ ผดิ พลาดของ ระบบคืออะไร อะไรคือความต้องการเพ่ิมเตมิ วิธแี กป้ ัญหา “พฒั นาระบบสารสนเทศข้ึนมาใหม่” “แก้ไขระบบ สารสนเทศเดิม”

ศึกษาถึงความเป็นไปได้ว่า “การพัฒนาระบบสารสนเทศขึ้นมา ใหม่” หรือ “แก้ไขระบบสารสนเทศเดิม” มีความเป็นไปได้หรือไม่ โดย พจิ ารณาในประเดน็ ต่างๆ ดังนี้ – ความเป็นไปไดท้ างเทคนิค (เช่น อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์เพียงพอสาหรับระบบ สารสนเทศใหม่หรือไม่, ซอฟแวร์ท่ีจาเป็นต้องใช้มีอยู่แล้วหรือต้องซื้อเข้ามาใหม่ หรือไม่) – ความเปน็ ไปไดท้ างบคุ ลากร (เช่น บุคลากรเพียงพอหรือไม่ (ทีมท่ีจะใช้ในการพัฒนาระบบ สารสนเทศใหม)่ , จาเป็นต้องจดั หาเพิ่มมากนอ้ ยเท่าไร)

– ความเปน็ ไปไดท้ างงบประมาณ (เช่น การประเมินถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปในการพัฒนาระบบ สารสนเทศใหม่, เวลาท่ีต้องใช้เทียบกับผลประโยชน์ที่องค์จะได้รับจากระบบ สารสนเทศใหม่เป็นไปตามแผนท่วี างไว้หรอื ไม่)

วิเคราะห์ระบบ (Analysis) - การรวบรวมข้อมูลการทางานของระบบเดิมและศึกษาความ ต้องการท่ีจะให้มีในระบบใหม่ (ศึกษาจากเอกสาร ,รายงานท่ีมีอยู่, จาก การตรวจสอบวธิ กี ารทางาน และสมั ภาษณจ์ ากผูใ้ ชร้ ะบบ) - นามา เขียน เป็นข้อมูลเฉ พาะของปัญหา ( Problem Specification) ประกอบด้วยรายละเอยี ดดงั นี้  จุดแขง็ จดุ ออ่ นของระบบสารสนทศเดมิ  ความต้องการของระบบสารสนเทศใหม่  ขอ้ มูลสาหรบั ระบบใหม่  วิธีการทางานและสง่ิ ทีจ่ ะตอ้ งแก้ไข

หลังจากน้ันนักวิเคราะห์ระบบจะตอ้ งสร้างตวั ตน้ แบบเพื่อนาเสนอ ต่อผู้ใช้เพ่ือให้เห็นว่าระบบจริงท่ีจะพัฒนาขึ้นมานั้นมีหน้าตาเป็นอย่างไร ทางานอะไรไดบ้ ้าง และเป็นไปตามความต้องการของผู้ใชห้ รอื ไม่

ออกแบบระบบ (Design เป็นการนาผลการวิเคราะห์ระบบมาพิจารณาว่าภายในระบบมี ส่วนการทางานใดบ้าง ความสัมพันธ์ระหว่างส่วนการทางานเหล่านั้น โปรแกรมใดบ้างท่ีต้องเขียนขึ้น โครงสร้างของโปรแกรมเป็นอย่างไร และ การเชือ่ มโยงระหว่างโปรแกรม การออกแบบระบบจะประกอบด้วยรายละเอียดการทางานของ ส่วนต่างๆ ในระบบทั้งหมด ดงั น้ี  ส่วนของการนาข้อมูลเขา้ ส่รู ะบบ (เชน่ แบบฟอร์มการ กรอกข้อมลู เขา้ )  ส่วนของการนาขอ้ มูลออกจากระบบ (เชน่ ออกแบบ รายงาน การแสดงผลทางหน้าจอ)

 ส่วนตอ่ ประสานกับผใู้ ช้  ฮารด์ แวร์ ซอฟแวร์ และฐานขอ้ มลู สาหรบั เก็บข้อมลู  เทคโนโลยีการสอื่ สาร  บุคลากร  วธิ ีการทางาน  การทางานร่วมกันขององคป์ ระกอบทง้ั หมด

พัฒนาโปรแกรม (Development) ขั้นตอนนี้เป็นหน้าท่ีของโปรแกรมเมอร์ (Programmer) ท่ีจะ นา System Design Specificationจากการออกแบบระบบไป สร้างออกมาเป็นโปรแกรมใหไ้ ดต้ ามนัน้

นาไปใช้ (Implementation หลังจากที่ระบบผ่านการทดสอบจนแน่ใจแล้วว่าทางานได้ถูกต้อง ตรงตามที่ต้องการ ก็ถึงข้ันตอนของการนาระบบสารสนเทศใหม่มาติดตั้ง เพ่อื ใชใ้ นองค์กร โดยวิธีการท่ีองค์กรสามารถเลือกปฏิบัติเพื่อเปล่ียนแปลงจากการ ใช้ระบบเกา่ ไปส่รู ะบบสารสนเทศใหมม่ ีอยู่ 4 แนวทางดว้ ยกนั ดงั นี้ 1. กระบวนการของ Parallel Conversion - ท้ังสองระบบทางานไปพร้อมๆกัน และนาผลลัพธ์ที่ได้มา เปรยี บเทียบ

2. กระบวนการของ Direct Conversion - ยกเลิกระบบเดิม ติดตั้งระบบใหม่ 3. กระบวนการของ Pilot Conversion - นาระบบใหม่ไปใช้ในส่วนใดส่วนหน่ึงขององค์กร เช่น แผนก ใดแผนกหน่ึง, ถกู ใช้งานในช่วงเวลาหนง่ึ , ประเมินผลการใชง้ าน, หากทางานได้ อยา่ งสมบูรณ์จะถูกนาไปใชใ้ นสว่ นอน่ื ๆหรอื แผนกอน่ื ๆต่อไป 4. กระบวนการของ Phased Conversion - เลือกบางส่วนของระบบใหม่มาแนะนาให้ใช้ก่อน , ประเมินผลการใช้งานในส่วนนั้น, ต่อมาส่วนอื่นๆจะถูกแนะนามาให้ใช้ จนกระทัง่ ทกุ สว่ นของระบบใหมถ่ กู นามาใชง้ าน

บารุงรักษา (Maintenance เม่ือมีการใช้ระบบใหม่ไปสักช่วงระยะเวลาหน่ึงจะพบว่าต้องมีการ บารุงรักษาหรือแก้ไขการทางานของระบบ โดยการบารุงรักษาหรือแก้ไข ระบบเกดิ จากสาเหตใุ หญ่ 2 ประการ ดังน้ี 1. คน้ พบขอ้ ผดิ พลาดในการทางานของโปรแกรม 2. แกไ้ ขเพื่อใหท้ ันต่อการเปลี่ยนแปลงของธรุ กิจ

ทีมงานพฒั นาระบบ • คณะกรรมการดาเนินงาน เป็นผู้วางนโยบายและกลยุทธ์ในการพัฒนา ระบบสารสนเทศให้เป็นไปตามเปา้ หมายขององค์กร • ผูจ้ ดั การระบบสารสนเทศ เป็นผคู้ วบคุมให้ดาเนนิ การไปตามแผนของ โครงการ • นกั วเิ คราะห์ระบบ เปน็ ผทู้ ว่ี ิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบ • โปรแกรมเมอร์ ผู้ท่ีเขยี นโปรแกรมตามระบบท่ีออกแบบมา • วิศวกรระบบ ผเู้ ช่ียวชาญด้านระบบคอมพวิ เตอร์ การสือ่ สาร และเครอื ข่าย คอมพิวเตอร์ • ผูส้ นับสนนุ ฝา่ ยเทคนิค ผู้ที่ช่วยสนบั สนนุ ในด้านเทคนิค เช่น จัดหาหรือ ตดิ ตั้งอปุ กรณฮ์ ารด์ แวรแ์ ละซอฟแวร์ • เจา้ หนา้ ที่รวบรวมขอ้ มูล • ผู้ใช้งานระบบ