คู่มือประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา

กำรใชข้ ้อมูลเพือ่ พฒั นำคุณภำพกำรศึกษำ การใช้ข้อมูลเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา เป็นกระบวนการนาข้อมูลสารสนเทศ ที่สถานศึกษามีอยู่ไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในด้านต่างๆ โดยข้อมูลสารสนเทศเหล่าน้ีได้มาจาก ผลการประเมินจากแหล่งต่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกสถานศึกษา เช่น ผลการประเมินพัฒนาการของ ผู้เรียน ผลการประเมินผู้เรียนตามหลักสูตร ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพ้ืนฐาน (O-NET) การทดสอบการศึกษาระดบั ชาติ ด้านพระพุทธศาสนา (B-NET) ผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา เป็นต้น แบ่งการดาเนนิ งานเปน็ 3 ระยะ ดงั นี้ ระยะท่ี ๑ • กำรจดั เตรียมข้อมลู ระยะที่ ๒ • วำงแผนกำรใช้ข้อมูล ระยะท่ี ๓ • กำรลงมอื ปฏบิ ตั งิ ำน ระยะที่ 1 กำรจัดเตรียมข้อมูล เป็นระยะท่ีสถานศึกษาจัดทาข้อมูลพ้ืนฐานด้านต่าง ๆ สาหรับใช้ใน การพัฒนาคณุ ภาพการศึกษา เชน่ ข้อมูลการบรหิ ารจดั การ ข้อมลู นกั เรียน ขอ้ มลู การจดั การเรียนรู้ เป็นต้น ระยะที่ 2วำงแผนกำรใช้ข้อมูล เป็นระยะที่สถานศึกษากาหนดรูปแบบ หาแนวทาง และแบบแผน เพ่ือนาข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในด้านต่างๆ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามบริบทของ สถานศึกษา ระยะท3่ี กำรลงมอื ปฏิบตั งิ ำน เปน็ ระยะท่ีสถานศึกษาปฏบิ ตั ิงานตามแนวทางและแบบแผนที่กาหนด ไว้ในระยะท่ี 2 เพื่อให้บรรลุผลตามที่กาหนดไว้ ระยะน้ีสถานศึกษาสามารถนาผลท่ีได้จากการปฏิบัติงานไปใช้ สะท้อนกลบั (reflect) เพ่อื ปรบั ปรุงจดุ ด้อยของการดาเนินงานในระยะแรกเพื่อให้เกิดเป็นวงจรของการพัฒนา คุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง 94 อบครมมู่ เือชกิงปารฏปบิ รัตะกิ การนั โคคุณรงภกาารพสภ่งาเสยรใมินแสลถะาพนัฒศนกึ าษราะบโรบงปเรรยีะกนนัพครุณะปภราพิยตักาิธรรศรกึมษแาผโนรงกเสรียานมพัญรศะกึปษริยาัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา ๙๕

ตวั อย่ำงกำรใชข้ อ้ มูลเพ่อื พัฒนำคณุ ภำพกำรจัดกำรเรียนรู้ของครู ระยะที่ 1 กำรจดั เตรียมขอ้ มูล รวบรวมข้อมูลที่จะนามาใช้ในการพัฒนาผู้เรยี นด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการจัดการเรียนรู้ ด้านการ ประเมินผลการเรียนรู้ของผเู้ รยี น เป็นต้น ระยะที่ 2 วำงแผนกำรใช้ข้อมลู วิเคราะห์ข้อมูลท่ีรวบรวมได้จากระยะท่ี 1 เก่ียวกับความรู้ความสามารถของผู้เรียน ทั้งในด้าน จุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา รวมทั้งมีการตรวจสอบ และประเมนิ ผลการจัดการเรยี นการสอนของตน เพอื่ นาข้อมูล ไปใช้ในการวางแผนพัฒนาผู้เรียนอยา่ งรอบดา้ น ระยะที่ 3 กำรปฏิบตั ิงำนตำมแผน พฒั นารูปแบบ วธิ กี าร หรือแนวทางการพัฒนาผเู้ รียน ซึ่งอาจจัดทาเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ หรือ แผนปฏิบัติงานของครูท่ีสอดคล้องกับข้อมูลด้านคุณภาพของผู้เรียนท่ีได้วิเคราะห์ไว้แล้วจึงจัดการเรียนการ สอน/ปฏบิ ัตงิ านตามแผนท่กี าหนดไว้ ดาเนินการประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียน เพือ่ ให้ได้ขอ้ มูลสารสนเทศ ของผเู้ รียน แลว้ นาขอ้ มลู ดงั กลา่ วไปใช้ในการพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาตามวงจรคณุ ภาพตอ่ ไป สรุป กระบวนการใช้ข้อมูลเพ่ือพัฒนาคุณภาพการศึกษา เป็นกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ท้ังโรงเรียน ทตี่ อ้ งอาศยั ความรว่ มมอื รวมพลงั จากครู และบคุ ลากรทกุ ฝ่าย โดยการสร้างวฒั นธรรมการใชข้ ้อมูล ให้เกดิ ข้นึ ในสถานศกึ ษา และเน้นจุดท่คี วรพัฒนาอยู่ท่คี ุณภาพของผู้เรียนเป็นสาคัญ ผบู้ ริหารถือเป็นกลไกหลัก ในการสนับสนนุ ส่งเสริม และเป็นผนู้ าในการดาเนินงาน เพื่อให้เกดิ การพฒั นาอยา่ งต่อเนื่องและยั่งยนื 95อบรมเชงิ ปฏบิ ัติการโครงการส่งเสคร่มู ิมือแกลาะรพปฒั รนะากรนั ะคบณุบปภราะพกภนั คายุณใภนาสพถกาานรศศกึกึ ษษาาโโรรงงเรเรียยีนนพพระรปะรปิยรัติยธิ ตัรรธิ มรรแมผนแกผสนากมสญั าศมกึ ญั ษศากึ ษา ๙๖

กำรจัดกำรควำมรู้ (Knowledge Management) การจดั การความรู้ หมายถึง การรวบรวมองค์ความรู้ท่ีมีอยู่ในองค์กร ซ่งึ อาจอยู่ในตัวบุคคล หรือ เอกสารมาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้ รวมทง้ั ปฏบิ ตั ิงานได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ทีจ่ ะส่งผลใหอ้ งคก์ รมีความเขม้ แขง็ การจัดการความรู้สามารถทาได้หลายกรณี ทั้งด้านการพัฒนาผู้เรียน ด้านการจัดการเรียนรู้ของ ครู สาหรบั ในกรณีของสถานศึกษา ถอื ว่าเป็นการสร้างและใช้ความรู้ท่ีมอี ยู่รอบด้าน เพอื่ กาหนดแผนปฏบิ ัตงิ าน ประจาปี และการปฏบิ ัติงานตามวงจรคุณภาพทีน่ าไปสู่การบรรลเุ ป้าหมายการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษา และ เมือ่ นาความรู้มาใช้แลว้ พบว่า การดาเนินงานไม่บรรลุเปา้ หมายหรอื บรรลุบางส่วนแต่ไมเ่ ป็นไปตามเป้าหมายทีต่ ั้ง ไว้ ก็จะต้องมีการคิดวิเคราะห์ แลกเปล่ียนเรียนรู้ เพ่ือให้เกิดความรู้ที่สามารถอธิบายถึงวิธีการท่ีทาให้บรรลุ เป้าหมายและไม่บรรลุเป้าหมายน้ัน การวิเคราะห์สังเคราะห์จนเกิดความรู้ใหม่อีกคร้ังก็คือการวนกลับไปยังการ สร้างความรู้ใหม่อกี รอบ เปน็ วงจรไม่มีทสี่ นิ้ สุด กระบวนกำรจัดกำรควำมรู้ การจัดการความรู้เป็นกระบวนการพัฒนาคน เพ่ือให้คนใช้ความรู้ในการพัฒนางาน ให้มีช้ินงาน หรอื มผี ลงานทีม่ คี ณุ ภาพและประสทิ ธิภาพ มแี นวทางดังน้ี ข้นั ท่ี 1 กำรสร้ำงควำมรู้ (Knowledge Creation)เป็นขั้นการดาเนนิ การเพ่ือใหไ้ ด้ความรทู้ ี่จะ นาไปใช้โดยการประชุม การพบปะพูดคุย การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันตลอดจนการค้นคว้าจาก ตารา เอกสาร งานวิจัย และรายงานผลการประเมินด้านตา่ งๆ เป็นตน้ ข้ันท่ี 2 กำรจดั เก็บควำมรู้ (Knowledge Storage) เป็นขัน้ การจัดเก็บและรักษาองค์ความรู้ที่ ได้จากการสร้างความรใู้ นขั้นที่ 1ให้อยใู่ นรปู แบบท่ีเหมาะสม สามารถสืบค้นหรือนามาใช้ ได้สะดวก เช่น การ จัดเก็บในรูปรายงาน การจัดทาแฟ้มเอกสาร การบันทึกข้อมูลในรปู แบบต่างๆ หรือความรู้ที่อยู่ในตัวคน เป็น ตน้ ข้ันที่ 3 กำรถำ่ ยทอดควำมรู้ (Knowledge Transfer)เป็นขนั้ การเขา้ ถงึ ข้อมูลหรอื การเผยแพร่ ข้อมูลท่ีอยู่ในรปู แบบต่าง ๆ ด้วยการแลกเปล่ียนเรียนรู้ การประชุม การนาเสนอผลงานผ่านระบบเทคโนโลยี สารสนเทศ ส่ือ หรือกระบวนการทางการศึกษา เปน็ ตน้ 96 อบรคมู่มเชอื งิกปาฏรบิปัตระิกการันโคครณุ งกภาารพสภ่งเาสยรใิมนแสลถะาพนฒั ศนึกาษระาบโบรงปเรระยี กนันพครุณะภปารพิยกัตาิธรรศรกึ มษแาผโรนงกเรสียานมพัญรศะปึกรษิยาตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา ๙๗

ขัน้ ที่ 4 กำรใช้ควำมรู้ (Knowledge Utilization) เป็นการนาความรู้ท่ีสรา้ งขึ้นไปใชป้ ระโยชน์ ขนั้ ท่ี ๑. กำรใช้ กำรจัดกำรควำมรู้ท้ัง 4 ขั้นดังกล่าว ควำมรู้ จะ ด าเนิ น ก าร ห รื อ ป ฏิ บั ติ เป็ น วั ฏ จั ก ร (Knowledge ต่อเนื่อง และเมื่อดาเนินการหรือปฏิบัติ Utilization) ครบท้ัง 4 ขั้น กจ็ ะได้ผลท่ีสะท้อนให้เห็น ว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ หรือไม่ จากน้ันต้องมีการแลกเปลี่ยน ขนั้ ท่ี 4 กำรใช้ การจดั การ ข้นั ที่ ๒.กำรใช้ เรียนรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ หรือหา ควำมรู้ ความรู้ ควำมรู้ ข้อมูลใหม่เพิ่มเติมเพื่อมาสนับสนุนหรือ (Knowledge (Knowledge อธิบายผลท่ีเกิดข้ึนท้ังท่ีเป็นปัญหาและที่ Utilization) Utilization) ขั้นที่ 3 กำร ประสบความสาเร็จ การอธิบายผลที่ ถ่ำยทอดควำมรู้ เกิดขึ้นก็คือความรู้ใหม่ที่เกิดขึ้นน่ันเอง (Knowledge เม่ือมีการนาความรู้ใหม่ท่ีเกิดขึ้นนี้ไปผ่าน ขั้นตอนต่าง ๆ ของการจัดการความรู้อีก Transfer) เพือ่ ใหบ้ รรลุเป้าหมายขององค์กรหรอื การบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคท์ ่ตี ้ังไว้ ครั้ง และเป็นวงจรต่อเน่ือง ถือเป็นการ พฒั นางานอย่างตอ่ เนอ่ื งนน่ั เอง ประเด็นสาคัญของการจัดการความรู้ คือ คนในองค์กรซึ่งถือเป็นบุคคลที่มีความสาคัญที่สุด ท่ีจะเป็นผู้ขับเคล่ือนให้การจัดการความรู้บรรลุวัตถุประสงค์ หรือเป้าหมาย ต้องเป็นคนที่ใจกว้าง ยอมรับฟัง ความคิดเห็นของคนอ่ืนๆ เน่ืองจากกระบวนการท่ีสาคัญของการจดั การความรู้ให้ประสบความสาเรจ็ คือ การ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน ด้วยวิธีการต่าง ๆ และนาผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันน้ีผ่านข้ันตอน ต่าง ๆ ของการจัดการความรู้จนกระท่ังนาความรู้ไปใช้งานและกลับมาสู่การแลกเปล่ียนเรียนรู้กันใหม่ ตอ่ เน่ืองกนั 97คมู่ ือการประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา๙๘ อบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารโครงการส่งเสรมิ และพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศกึ ษา โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา

ส่วนท่ี ๕ การเตรยี มความพรอ้ มของสถานศึกษา เพือ่ รับการประเมินคณุ ภาพภายนอก

การเตรียมความพรอ้ มของสถานศึกษาเพอื่ รับการประเมินคุณภาพภายนอก ความหมาย หลกั การ แนวคิดและวัตถปุ ระสงคข์ องการประเมินคุณภาพภายนอก พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๔๙ กำ�หนดให้สถานศึกษาทุกแห่งต้องรับ การประเมินคุณภาพภายนอกอย่างน้อย ๑ คร้ัง ในทุก ๕ ปี นับต้ังแต่การประเมินครั้งสุดท้าย และเสนอผล การประเมินต่อหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องและสาธารณชน ซึ่งสำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นำ�เสนอแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกเป็นหลักการสำ�คัญที่สำ�นักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ได้กำ�หนดความหมาย หลักการ แนวคิดสำ�คัญและแนวทางการประเมิน คณุ ภาพภายนอก ในการประเมินคณุ ภาพภายนอกรอบสี่ ไว้ดังน้ี ความหมายของการประเมินคณุ ภาพภายนอก การประเมนิ คณุ ภาพภายนอก หมายถึง การประเมนิ คณุ ภาพการจดั การศกึ ษา การติดตาม การตรวจ สอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา โดยผู้ประเมินภายนอกที่ได้รับการรับรองจากสำ�นักงาน รบั รองมาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษา (องคก์ ารมหาชน) เพอื่ เปน็ การประกนั คณุ ภาพและใหม้ กี ารพฒั นา คุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาให้มคี ณุ ภาพดยี ง่ิ ข้ึน ผ้ปู ระเมินภายนอกมีความเป็นอสิ ระ และ เป็นกลางไม่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกับการประเมินคุณภาพภายนอกจะนำ�ไปสู่การเข้าถึงคุณภาพการศึกษาด้วย ความเป็นกลาง เพ่อื สรา้ งสรรค์พัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐานการศกึ ษาอยา่ งแทจ้ รงิ หลกั การ สำ�นักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) กำ�หนดหลักการสำ�คัญ ของการประเมนิ คุณภาพภายนอกไว้ ๒ ประการ ได้แก่ ๑. การประเมินคุณภาพภายนอกต้องมีความเช่ือมโยงกับระบบประกันคุณภาพภายในของสถาน ศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัด ท่ีจะต้องรับผิดชอบให้บรรลุถึงเป้าหมายในการจัดการศึกษา และร่วมรับผิดชอบ (Accountability)ตอ่ ผลการจัดการศึกษาที่เกดิ ขึน้ ๒. การประเมินคุณภาพภายนอกต้องมีความท้าทายและช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและยกระดับ คุณภาพของสถานศึกษาสู่สากลให้เป็นไปตามนโยบายปฏิรูปการศึกษาของประเทศ บรรลุเป้าหมายท้ังใน ระดับชาติ และระดบั นานาชาติ แนวคดิ ส�ำ คญั การประเมนิ คณุ ภาพภายนอก มแี นวคิดส�ำ คญั ๔ ประการ คือ ๑. ใช้กลไกการประเมินคุณภาพภายนอกเพ่ือกระตุ้นและจูงใจให้เกิดการพัฒนาและยกระดับคุณภาพ การศกึ ษา ทสี่ อดคล้องกบั ความต้องการจำ�เป็นและยทุ ธศาสตรข์ องประเทศ ๒. เน้นการประเมินเพื่อยืนยันคุณภาพของระบบประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาเพื่อส่งเสริม ให้สถานศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัด รับผิดชอบในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐาน การศกึ ษาชาติ ตามจดุ มงุ่ หมายของหลกั สูตร และมีความพรอ้ มในการแข่งขันในระดบั สากล ๓. ใหค้ วามส�ำ คญั กบั การประเมนิ ทม่ี งุ่ สกู่ ารพฒั นาแบบยง่ั ยนื เพอื่ สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นมสี มรรถนะทจ่ี �ำ เปน็ สำ�หรับการดำ�เนินชีวิตในอนาคต และสถานศึกษามีขีดสมรรถนะสูง สามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่องใน อนาคต คูม่ ือการประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรียนพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา 99

๔. เปิดโอกาสให้สถานศึกษาสร้างความโดดเด่น หรือเป็นต้นแบบในการพัฒนาในระดับภูมิภาค ระดบั ชาติ และระดบั นานาชาติ วตั ถุประสงค์ของการประเมินคุณภาพภายนอก ๑. เพื่อตรวจสอบยืนยันสภาพจริงในการดำ�เนินงานของสถานศึกษา และประเมินคุณภาพการศึกษา ตามมาตรฐานการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพตามกรอบแนวทางและวิธีการท่ีสำ�นักงานรับรองมาตรฐาน และประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา (องคก์ ารมหาชน) กำ�หนด และสอดคลอ้ งกบั ระบบประกนั คุณภาพภายใน ๒. เพ่ือให้ได้ข้อมูลซึ่งช่วยสะท้อนให้เห็นจุดแข็งจุดอ่อนของสถานศึกษา เงื่อนไขของความสำ�เร็จ และสาเหตขุ องปญั หา ๓. เพื่อช่วยเสนอแนะแนวทางปรับปรุงและพฒั นาคุณภาพการศึกษา ๔. เพ่อื ส่งเสรมิ ใหม้ กี ารพฒั นาคุณภาพและประกนั คณุ ภาพภายในอย่างตอ่ เนือ่ ง ๕. เพ่ือรายงานผลการประเมินคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาต่อหน่วยงานที่ เก่ยี วขอ้ งและสาธารณชน กรอบแนวทางการประเมนิ คุณภาพภายนอก การประเมินคุณภาพภายนอก สำ�นักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การ มหาชน) ได้ก�ำ หนดกรอบแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกไว้ ๒ สว่ น ไดแ้ ก่ การประเมินคุณภาพมาตรฐาน และการประเมนิ ความโดดเดน่ โดยมรี ายละเอียดการพจิ ารณาดงั น้ี ส่วนท่ี ๑ การประเมินคุณภาพมาตรฐาน เป็นการประเมินตามพันธกิจและบริบทของสถานศึกษา โดยเชื่อมโยงกับการประกันคุณภาพภายใน และประเด็นที่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานต้นสังกัด หรือหน่วยงาน ท่ีก�ำ กบั ดแู ล ดังน้ี ตารางแสดงกรอบแนวทางการประเมินคณุ ภาพภายนอก ระดบั การจดั การศกึ ษา แนวทางพจิ ารณาคุณภาพ ปฐมวัย ขั้นพ้ืนฐาน ๑. คณุ ภาพของเดก็ หรอื ดา้ นอืน่ ตาม ๑. คุณภาพของผู้เรียน หรือด้านอื่น  ความเหมาะสม เป็นไปได้ ชอ่ื ทส่ี ถานศกึ ษาก�ำ หนด ตามชือ่ ที่สถานศึกษาก�ำ หนด  ความเชือ่ ถือได้  ประสทิ ธิผล ๒. กระบวนการบริหารและการ ๒. กระบวนการบริหารและการ  ความเป็นระบบ จัดการ หรือด้านอ่ืนตามชื่อที่สถาน จัดการ หรือด้านอ่ืนตามชื่อที่  ความเชอื่ ถือได้ ศึกษากำ�หนด สถานศกึ ษากำ�หนด  ประสิทธผิ ล ๓. การจัดประสบการณ์ท่ีเน้นเด็ก ๓. กระบวนการจัดการเรียนการ  ความเป็นระบบ เปน็ ส�ำ คญั หรอื ดา้ นอน่ื ตามชอื่ ทสี่ ถาน สอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำ�คัญ หรือ  ความเชอ่ื ถอื ได้ ศึกษาก�ำ หนด ดา้ นอน่ื ตามชอ่ื ทส่ี ถานศกึ ษาก�ำ หนด  ประสทิ ธผิ ล 100 คมู่ ือการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษา โรงเรียนพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา

แนวทางการเตรียมความพรอ้ มของสถานศึกษา เพ่อื เขา้ รบั การประเมนิ คุณภาพภายนอก ชว่ งท่ี ๑ กอ่ นการรับประเมินคุณภาพภายนอก ๑. ด้านบุคลากร การเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรน้ัน ผู้บริหารจัดให้มีการประชุมชี้แจงให้กับผู้เกี่ยวข้องให้รับทราบ ถึงแนวทางวิธีการประเมินภายนอก พร้อมมอบหมายบทบาทหน้าท่ี ซักซ้อม ทำ�ความเข้าใจในการนำ�เสนอ ข้อมลู ข้อเทจ็ จรงิ ใหต้ รงกันในแต่ละประเดน็ และผู้ประเมนิ ภายในโดยตรวจสอบรายงานการประเมินตนเองของ สถานศกึ ษา (SAR) รวมทัง้ หลกั ฐานรอ่ งรอยเชงิ ประจกั ษ์ ตามมาตรฐานประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ให้ครบถ้วน ติดตาม ตรวจสอบงาน ตามภาระงานท่ีมอบหมายไว้ สำ�หรับครูและบุคลากรในสถานศึกษาท่ี เกย่ี วข้องรวมใหข้ อ้ มูลเพิ่มเตมิ ในเรื่องทรี่ ับผิดชอบ และเปน็ ผูถ้ ูกประเมินภายใน ตลอดจนซกั ซอ้ มการถาม-ตอบ คำ�ถาม ในแต่ละประเด็นพิจารณาร่วมกัน นอกจากน้ีควรมีการเตรียมความพร้อมกับนักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา หรอื ผู้ให้ข้อมูลเพิม่ เติมให้เขา้ ใจตรงกนั ๒. ดา้ นอาคารสถานท่ี การเตรียมความพร้อมด้านอาคารสถานที่เป็นการพัฒนาสภาพแวดล้อม อาคาร สถานที่ ให้เอื้อต่อ การพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน ให้มีความปลอดภัยกับผู้เรียน เช่น การจัดภูมิทัศน์ อาการ สถานท่ี การจัด ห้องเรยี นการจัดหอ้ งปฏิบตั กิ าร รวมทั้งแหล่งเรยี นรู้ภายใน เช่น ห้องสมดุ สวนวทิ ยาศาสตร์ แปลงเกษตร ฯลฯ (ทะเบยี นแหลง่ เรยี นรภู้ ายใน) ใหม้ คี วามสะอาด พรอ้ มในการใชง้ านส�ำ หรบั เปน็ แหลง่ เรยี นรู้ รวมทง้ั จดั ท�ำ ระเบยี บ แหลง่ เรยี นรู้ภายนอก เชน่ พิพิธภัณฑ์ สถานท่ีสำ�คัญในชุมชน ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ ฯลฯ ๓.ดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ เตรียมความพร้อมด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เอกสารในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เป็นร่องรอย หลักฐานที่แสดงถึงความพร้อมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของครูผู้สอน และบันทึกการนิเทศชั้นเรียนของ ผู้บริหารสถานศึกษาในรอบปีท่ีผ่านมา เช่น หลักสูตรการศึกษา หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้หน่วยแผนการ จัดประสบการณ์ หน่วยแผนการจัดการเรียนรู้ส่ือการสอน เครื่องมือวัดและประเมินผลเคร่ืองมือนิเทศ และ รายงานผลการนเิ ทศ ฯลฯ ๔. ดา้ นเอกสารหลักฐานร่องรอย การเตรียมความพร้อมด้านเอกสาร หลักฐาน ร่องรอย ที่เกี่ยวข้องเป็นการเตรียมการตรวจสอบความ ถูกต้องครบถ้วนของเอกสารที่สถานศึกษาจัดทำ�ข้ึนระหว่างการดำ�เนินการพัฒนาสถานศึกษาในรอบ ๑ ปี ท่ีผ่านมา เช่น ประกาศมาตรฐานและตั้งค่าเป้าหมายของสถานศึกษาที่มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาการ จัดการศึกษาแผนปฏิบัติการประจำ�ปี และจัดทำ�สารสนเทศสถานศึกษา ตลอดจนเตรียมส่ือเทคโนโลยีให้มี ความเปน็ ปจั จบุ ันและพรอ้ มใช้งาน ฯลฯ คมู่ อื การประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา โรงเรยี นพระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา 101

ชว่ งท่ี ๒ ระหวา่ งรบั การประเมินคุณภาพภายนอก ๑. อำ�นวยความสะดวกแก่คณะกรรมการประเมินตามความเหมาะสม เช่น เตรียมแหล่งข้อมูล หลักฐานเชิงประจักษ์ ผู้ประสานงานกบั ผู้ประเมินเตรยี มห้องส�ำ หรบั ประชุมย่อยของผูป้ ระเมนิ ๒. นำ�เสนอข้อมูลตามมาตรฐานและประเด็นการพิจารณา อาจนำ�เสนอโดยการบรรยายประกอบ Power Point หรือ VTR โดยผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ควรกระชับไม่ควรใชเ้ วลายาวนานมาก ๓. ประสานงานขอความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้อง เช่น กรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง ตัวแทน นกั เรยี น ตัวแทนต้นสังกัด องคก์ รภาครฐั และเอกชน ๔. รว่ มรบั ฟงั การน�ำ เสนอผลการประเมนิ ดว้ ยวาจาและใหข้ อ้ มลู เพมิ่ เตมิ ผเู้ ขา้ รว่ มรบั ฟงั ประกอบดว้ ย ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ครูผสู้ อน ตวั แทนนักเรยี น กรรมการสถานศึกษา ผูป้ กครองนกั เรยี น ตัวแทนต้นสงั กดั ๕. ในช่วงรับการประเมินภายนอก สถานศึกษามีการจัดการเรียนการสอนตามปกติตามตารางสอน และตารางกจิ กรรมทก่ี �ำ หนดไว้ ชว่ งท่ี ๓ หลังเสรจ็ ส้ินการประเมินคณุ ภาพภายนอก ๑. ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากรท่ีเก่ียวข้องร่วมกันตรวจสอบรายงานผลการประเมิน คุณภาพภายนอกตามท่ีสำ�นักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) แจ้งผล การประเมนิ ๒. สถานศึกษาสามารถโต้แย้งผลการประเมินคุณภาพภายนอกได้ โดยทำ�เป็นลายลักษณ์อักษร ซงึ่ สมศ.จะสง่ ผลการพจิ ารณา (รา่ ง) รายงานการประเมนิ คณุ ภาพภายนอกสถานศกึ ษาระดบั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน ใหส้ ถานศึกษาพจิ ารณา โดยมผี ลการพิจารณา ๓ ประเภท ดงั นี้ ๑) เห็นชอบและยอมรบั ผลการประเมนิ ตามทคี่ ณะผู้ประเมนิ เสนอ ๒) เหน็ ชอบและยอมรับผลการประเมิน ตามที่คณะผู้ประเมินเสนอ โดยมีขอ้ แก้ไข ดงั นี้ .....(อธบิ ายขอ้ ทต่ี อ้ งการแก้ไข ) ๓) ไม่เห็นชอบผลการประเมิน เพราะเหตุใด อธิบายพร้อมแนบเอกสาร/หลักฐานประกอบ (สมศ.จะนำ�เร่อื งเขา้ คณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป) โดย สมศ. มแี บบตรวจสอบคุณภาพ รายงานการประเมินคุณภาพภายนอก (สำ�หรับสถานศึกษา) ให้สถานศึกษากรอกและส่งคืน ผ้ปู ระเมิน เพื่อจัดส่งให้ สมศ.ตอ่ ไป ๓. วิเคราะห์ผลการประเมินคุณภาพภายนอกเพือ่ การพัฒนาปรับปรุง แก้ไข ตามความจ�ำ เป็นเร่งด่วน ปกติ หรอื ก�ำ หนดลงในแผนพัฒนาการจดั การศกึ ษาของสถานศกึ ษาระยะยาว 102 คูม่ ือการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา โรงเรียนพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา

ด้วยบทบาทหน้าที่ของ สมศ. ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ทก่ี �ำ ลังระบาดอยู่ ณ ขณะน้ี ทำ�ให้หน่วยงานตา่ งๆ รวมถงึ สถานศึกษาจ�ำ เปน็ ต้องมกี ารปรับ เปล่ียนการดำ�เนินงานและรูปแบบการเรียนการสอน (New Normal) เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ให้ได้มากที่สุด ส่งผลให้การประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. ไม่สามารถดำ�เนินการได้ตาม แนวทางเดมิ ทเ่ี คยปฏบิ ตั ิมา สมศ. จึงได้ดำ�เนินการพัฒนาหลักเกณฑ์และแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกภายใต้สถานการณ์ การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา่ 2019 (COVID-19) ภายใตห้ ลกั การ “กลั ยาณมติ ร คณุ ภาพ จรยิ ธรรม คุณธรรม” ท่ี ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบนโยบาย แกผ่ ู้บรหิ ารและเจ้าหนา้ ท่ี สมศ. ในโอกาสเข้าสปู่ ีทสี่ องณ หอ้ งประชมุ สนั ถวมิตร ชัน้ 24 อาคารพญาไทพลาซ่า โดยพิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงทางบริบทการจัดการเรียนการสอนและการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ยึดหลักการลดภาระและไม่ให้กระทบต่อสถานศึกษา รวมทั้งคำ�นึงถึงความปลอดภัยของผู้บริหาร ครู นักเรียน ผู้ประเมินภายนอก และทุกฝ่ายท่ีเกี่ยวข้องควบคู่ไปกับพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือรองรับการ ประเมนิ คุณภาพภายนอกไดแ้ ก่ Mobile Application ส�ำ หรับการเก็บรวบรวมข้อมูลในขณะลงพนื้ ท่ตี รวจเยยี่ ม สถานศึกษาของผู้ประเมินภายนอก การพัฒนาระบบบริหารจัดการ และการจัดส่งรายงานการประเมินตนเอง ผา่ นระบบออนไลน์ ซ่ึงขณะนี้ สมศ. ได้ประเมิน SAR สถานศึกษาเรียบร้อยแล้วจำ�นวน 3,752 แห่ง แบ่งเป็นระดับ ปฐมวัยจำ�นวน 1,482 แห่ง ระดับข้ันพ้ืนฐาน 2,071 แห่ง และด้านการอาชีวศึกษา 199 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 16 มีนาคม 2564) จากนี้ สมศ. จะส่งหนังสือเพื่อแจ้งรายช่ือของสถานศึกษาท้ังหมดที่ได้รับการ ประเมิน SARให้แก่หน่วยงานต้นสังกัด เพื่อรับทราบก่อนที่จะแจ้งผลการประเมินให้สถานศึกษาต่อไป ทงั้ นถี้ า้ สถานศกึ ษาผา่ นการประเมนิ SARแลว้ ถอื วา่ ผา่ นการประเมนิ คณุ ภาพภายนอกตามพ.ร.บ.การศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 49 ท่ีระบุให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาทุกแห่งอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ในทุกห้าปี สถานศึกษาได้รับรายงานผลการประเมิน SAR แล้วก็อาจไม่ขอรับการประเมินแบบตรวจเยี่ยม (Site Visit) หรือสามารถยน่ื เรอ่ื งแจง้ ความประสงคข์ อให้ สมศ. ไปตรวจเยี่ยมแบบ Site Visit ได้ ในช่วงสถานการณ์ COVID-19 สมศ. พร้อมที่จะไปตรวจเยี่ยมสถานศึกษา เพราะท่ีผ่านมาได้มี การเตรียมความพร้อมให้แก่ผู้ประเมินภายนอกท่ีจะไปประเมิน โดยยึดหลักการเว้นระยะห่างทางสังคม หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกัน ใช้หน้ากากอนามัยและถุงมือตลอดเวลา เน้นการตรวจหลักฐานที่ไม่ใช่บุคคล ยกเว้นกรณีจำ�เป็น ตรวจหลักฐานตามตารางนัดหมาย ไม่มีการประชุมสรุปผลการประเมินด้วยวาจาที่ สถานศึกษา อย่างไรก็ตามสถานการณ์ COVID-19 ยังมีการแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ สมศ. ได้ปรับเปล่ียน การประเมินแบบตรวจเยีย่ มแบบ Site Visit เป็นการตรวจเย่ยี ม Online คมู่ ือการประกันคณุ ภาพภายในสถานศึกษา โรงเรยี นพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา 103

ตัวอย่างแนวทางการเตรยี มขอ้ มูล/รอ่ งรอยหลกั ฐานเชิงประจักษ์ สถานศึกษาทง้ั ระดับปฐมวยั ระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน และระดับการศึกษาข้ันพนื้ ฐานศูนย์การศึกษา พิเศษ ควรมีการเตรียมการรับการประเมินคุณภาพภายนอก ซ่ึงสำ�นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้นำ�เสนอเป็นตัวอย่างการเตรียมข้อมูลเอกสารหลักฐานท่ีเกิดจากการปฏิบัติงานตามปกติให้สถานศึกษา ไดน้ ำ�ไปปรบั ใชต้ ามบรบิ ทของตนเอง ระดบั การศึกษาขนั้ พื้นฐาน ด้าน แนวทางพจิ ารณา ข้อมลู /รอ่ งรอยหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ด้านท่ี ๑ - ความเหมาะสม/เปน็ ไปได้ ๑. ศึกษาเอกสาร/ผลงาน/รางวลั คณุ ภาพของผเู้ รยี น - ความเชอ่ื ถอื ได้ - ประกาศมาตรฐานและกำ�หนดคา่ เป้าหมาย หรือด้านอน่ื ๆ - ประสิทธผิ ล - แผนพฒั นาการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษา แผนปฏิบัติ ตามทสี่ ถานศึกษา การประจ�ำ ปี กำ�หนด - หลกั สตู รสถานศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน - รายงานการประเมนิ โครงการ/กิจกรรม - รายงานผลการประเมนิ คุณภาพภายนอกในรอบทีผ่ ่านมา - สารสนเทศของสถานศกึ ษาดา้ นผเู้ รยี น เชน่ ผลการทดสอบ ระดบั ชาติ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น การประเมนิ คณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และ เขียนการสอบวดั ความสามารถการอ่าน (RT) การประเมนิ สมรรถนะผูเ้ รียน - สถติ ิ/ผลการช่งั นำ้�หนักวัดส่วนสงู ตามเกณฑม์ าตรฐาน - แฟม้ สะสมผลงานนักเรยี นรายบุคคล - ผลงาน/นวตั กรรม/แบบอยา่ งท่ีดใี นแต่ละกลมุ่ สาระ การเรยี นร้รู างวัลต่าง ๆ ของผ้เู รยี น ๒. สังเกต - พฤตกิ รรมของผู้เรียนในชน้ั เรียนและนอกช้ันเรยี น เช่น พฤติกรรมการเรยี นรู้ การค้นควา้ หาความรู้ด้วยตนเอง การมคี ณุ ลกั ษณะและคา่ นยิ มทด่ี ตี ามทส่ี ถานศกึ ษาก�ำ หนด การใช้ส่ือเทคโนโลยี และแหล่งเรยี นรู้ ทกั ษะทางสังคม การท�ำ งานเป็นทีม การอยรู่ ่วมกันบนความแตกต่าง ระหวา่ งบคุ คล ฯลฯ - สภาพการจัดการชนั้ เรียนท่ีสง่ ผลต่อการเรยี นรู้ที่มี ประสิทธภิ าพ - การตอบค�ำ ถาม แลกเปล่ยี นความคดิ เห็นของผู้เรียน ๓. สัมภาษณ์ (กระบวนการ/วิธีการ/กิจกรรมตา่ งๆ) นกั เรียน ครู ผบู้ รหิ ารผู้ปกครอง ผู้ทีม่ ีสว่ นเกี่ยวขอ้ ง เชน่ คณะกรรมการสถานศกึ ษา องคก์ รตา่ ง ๆ ฯลฯ 104 คมู่ อื การประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรียนพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา

ด้าน แนวทางพจิ ารณา ข้อมลู /รอ่ งรอยหลกั ฐานเชิงประจักษ์ ดา้ นท่ี ๒ - ความเป็นระบบ ๑. สงั เกต กระบวนการ - ความเช่ือถอื ได้ - สภาพแวดลอ้ มและภูมทิ ศั นบ์ รบิ ทท่ัวไปของสถานศึกษา บริหารและ - ประสิทธผิ ล - อาคารสถานที่ ห้องเรียนและห้องปฏิบัติการต่าง ๆ การจดั การ - ระบบความปลอดภัยในชั้นเรยี นและนอกช้ันเรยี น ๒. สมั ภาษณ์ นักเรียน ครู ผู้บริหารผู้ปกครอง ผู้ท่ีมีส่วนเก่ียวข้อง เช่น คณะกรรมการสถานศึกษา องคก์ รต่าง ๆ ฯลฯ ๓. ศึกษาเอกสาร - ประกาศมาตรฐานและก�ำ หนดคา่ เปา้ หมายของสถานศกึ ษา - แผนพฒั นาการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา แผนปฏิบตั ิ การประจำ�ปี - หลักสูตรสถานศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน - รายงานการประเมนิ โครงการ/กจิ กรรม - รายงานผลการประเมินคุณภาพภายนอกในรอบทผ่ี า่ นมา - รายงานการบรหิ ารจัดการของสถานศกึ ษา - คู่มือการปฏิบตั งิ านของสถานศกึ ษา คมู่ อื นักเรียน - รายงานการพัฒนา/ใช้/ประเมนิ หลักสตู รสถานศกึ ษา ขน้ั พืน้ ฐาน - คมู่ ือ/แนวทางการนเิ ทศภายในสถานศกึ ษาและรายงาน การนเิ ทศภายในของสถานศกึ ษา - สารสนเทศของสถานศึกษา ครู นักเรยี น สอ่ื เทคโนโลยี นวตั กรรม แหลง่ เรียนรู้ภายในและภายนอก ฯลฯ - รายงานการพฒั นาครแู ละบคุ ลากรในสถานศกึ ษา ID Plan ของครู รายงานผลการพฒั นาตนเอง - รายงานการใชง้ บประมาณประจ�ำ ปี - ภาพถา่ ยกิจกรรม - รายงานการดำ�เนนิ งานระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรียน - ผลงาน/นวตั กรรมของ/แบบอยา่ งทด่ี ใี นการบรหิ ารจดั การ ของผู้บริหาร - หลักฐานร่องรอยทแ่ี สดงถงึ การมีสว่ นร่วมของผ้ปู กครอง หนว่ ยงาน หรอื บุคคลภายนอก เชน่ บันทกึ การประชุม ผปู้ กครอง หนงั สอื เชญิ ผปู้ กครอง ผนู้ �ำ ชมุ ชน องคก์ รตา่ ง ๆ คมู่ อื การประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา 105

ด้าน แนวทางพจิ ารณา ข้อมลู /รอ่ งรอยหลกั ฐานเชิงประจักษ์ ดา้ นท่ี ๓ - ความเปน็ ระบบ ๑. สังเกต กระบวนการ - ความเช่อื ถือได้ - วิธีการ/กระบวนการจดั การเรียนรใู้ นชน้ั เรียนท่สี อดคลอ้ ง จดั การเรียนการ - ประสทิ ธิผล กับแผนการจดั การเรยี นรู้ สอนที่เนน้ ผู้เรยี น - การใช้สอื่ เทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้ ภูมิปญั ญาทอ้ งถ่นิ เป็นส�ำ คญั - การจัดช้นั เรียนและการบรหิ ารจัดการช้ันเรยี น และ สภาพแวดล้อมที่สง่ เสริมการเรยี นรู้ของผ้เู รยี น - เทคนิคการสอน และ ฯลฯ ๒. สมั ภาษณ์ นักเรยี น ครู ผ้บู รหิ ารผปู้ กครอง ผูท้ มี่ ีสว่ นเก่ียวข้อง เช่น คณะกรรมการสถานศกึ ษา องค์กรต่าง ๆ ฯลฯ ๓. ศกึ ษาเอกสาร - ประกาศมาตรฐานและก�ำ หนดคา่ เปา้ หมายของสถานศกึ ษา - แผนพัฒนาการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษา แผนปฏิบัติ การประจ�ำ ปี - หลักสตู รสถานศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน - รายงานการประเมินโครงการ/กิจกรรม - รายงานผลการประเมนิ คุณภาพภายนอกต่อสำ�นกั งาน รับรองมาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศกึ ษา (องค์การ มหาชน) - รายงานการพฒั นาครแู ละบคุ ลากรในสถานศกึ ษา ID Plan ของครู รายงานผลการพัฒนาตนเอง - หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ แผนการ จัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการคดิ และปฏบิ ตั ิจรงิ ใหเ้ ปน็ ปจั จุบนั - เอกสารหลกั ฐานรอ่ งรอยท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั การประเมนิ ในช้ันเรียนตามทส่ี ถานศกึ ษากำ�หนด เชน่ แบบบันทกึ ผล การเรยี น แบบประเมินการอ่าน ตารางการจดั การ เรยี นรู้ ฯลฯ - ค�ำ สัง่ ระเบยี บ หรอื เอกสารที่เกยี่ วขอ้ งกบั การประเมนิ - ผลงาน/นวตั กรรม/การปฏบิ ตั ิท่ีเปน็ เลิศของ ครู และนักเรยี น - สารสนเทศช้ันเรียน 106 คูม่ ือการประกันคณุ ภาพภายในสถานศึกษา โรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

ดา้ น แนวทางพจิ ารณา ขอ้ มูล/ร่องรอยหลักฐานเชิงประจกั ษ์ - เครอ่ื งมือการวดั ประเมินผลทสี่ อดคลอ้ งกบั มาตรฐาน และตัวชีว้ ดั - สอื่ เทคโนโลยี และการใชแ้ หลง่ เรยี นรภู้ ายในและภายนอก ประกอบการจัดการเรยี นรู้ - ทะเบียนการใช้สื่อและแหลง่ เรียนรู้ - ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ รายงานวธิ กี าร/การวจิ ยั ในการแกป้ ญั หา และพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน - ขอ้ มลู ผลการวเิ คราะห์ผูเ้ รียนรายบุคคล - เอกสารหลักฐานการศกึ ษาตามทกี่ ระทรวงศกึ ษาธิการ กำ�หนด (ปพ.๑– ๓) และเอกสารการศกึ ษาตามท่ี สถานศกึ ษากำ�หนด - ทะเบียนคมุ สื่อการสอน - บันทกึ การพฒั นาผเู้ รียน - ค�ำ สั่งตา่ ง ๆ ทเี่ กี่ยวขอ้ ง เช่น แตง่ ตง้ั ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ/ กจิ กรรม - ภาพถา่ ย/วดี ที ศั น์ - ร่องรอยหลักฐานที่แสดงใหเ้ หน็ ว่ามีการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ โดยใชก้ ระบวนการชมุ ชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวชิ าชพี (PLC) - หลกั ฐานร่องรอยทแี่ สดงถงึ การมีสว่ นรว่ มของผู้ปกครอง หน่วยงาน หรอื บคุ คลภายนอก เช่น บนั ทึกการประชมุ ผปู้ กครอง หนงั สอื เชญิ ผปู้ กครอง ผนู้ �ำ ชมุ ชน องคก์ รตา่ ง ๆ คมู่ ือการประกันคณุ ภาพภายในสถานศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา 107

โดยแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอก ภายใต้สถานการณ์ COVID-19 แบ่งเป็น 2 ระยะ ประกอบดว้ ย ระยะแรก เป็นการรับการประเมินคุณภาพภายนอกอย่างน้อย 1 ครั้ง ในทุก 5 ปี ตามมาตรา 49 แห่ง พระราชบัญญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 การประเมนิ ระยะแรกนีจ้ ะเป็นการประเมนิ จากผลการวเิ คราะห์ รายงานประเมนิ ตนเองของสถานศกึ ษา (SAR) ซงึ่ สง่ ผา่ นหนว่ ยงานตน้ สงั กดั ตามกฎกระทรวงการประกนั คณุ ภาพ การศึกษา พ.ศ. 2561 โดย สมศ. พิจารณาจากสิ่งที่ปรากฏใน SAR และเอกสารประกอบที่แนบมากับ SAR เท่าน้ัน (โดยไม่ขอเอกสารเพ่ิมเติมจากสถานศึกษา เพื่อลดภาระของสถานศึกษา) โดยผลการประเมิน SAR จะมีระดับคุณภาพ 3 ระดับ แยกเป็นรายมาตรฐานตามระบบการประกันคุณภาพภายในหรือ IQA คือ “ด”ี “พอใช”้ และ “ปรับปรุง” ซงึ่ มีข้นั ตอนดงั นี้ 1. การสง่ SAR และการประเมิน SAR 1.1 กรณศี นู ย์พัฒนาเดก็ และสถานศกึ ษาขั้นพื้นฐานท่วั ไป มขี ้ันตอนการด�ำ เนนิ การประเมิน ดังน้ี • สถานศึกษาส่ง SAR ให้หน่วยงานต้นสงั กัด • หน่วยงานต้นสงั กดั ตรวจสอบ กำ�หนดประเด็น และส่ง SAR ให้ สมศ. ผ่านระบบ E-SAR • สมศ. รบั SAR ของสถานศกึ ษาผา่ นหนว่ ยงาน ตน้ สังกดั ในระบบ E-SAR • สมศ. ส่ง SAR ให้หน่วยประเมนิ บรหิ ารจัดการ ตามขนั้ ตอนการประเมินที่ สมศ. ก�ำ หนด 1.2 กรณสี ถานศึกษาระดับ/ประเภทอน่ื สมศ. ประสานงานกบั ผู้ประเมนิ ให้เขา้ ระบบสารสนเทศ เพ่ือการประเมินคุณภาพภายนอก (AQA) เพื่อ Download SAR และข้อมลู ที่เกี่ยวข้อง ไปด�ำ เนนิ การประเมนิ SAR ตามขน้ั ตอนที่ สมศ. ก�ำ หนด 2. คณะผปู้ ระเมินจดั ท�ำ รายงานการประเมนิ SAR และจดั ส่งใหห้ นว่ ยประเมินตรวจสอบความถกู ต้อง 3. คณะผู้ประเมินจัดส่งรายงานการประเมิน SAR ให้สถานศึกษาพิจารณาความถูกต้อง ตามเวลาท่ี กำ�หนด หลังจากนัน้ สถานศกึ ษาสง่ รายงานพร้อมผลการพิจารณาใหค้ ณะผู้ประเมิน 4. หนว่ ยประเมนิ ตรวจสอบความถกู ต้อง และจัดส่ง รายงานการประเมนิ SAR ฉบับสมบูรณ์ ให้ สมศ. (กรณีท่เี ป็น โรงเรียนวัตถุประสงคพ์ เิ ศษและอาชวี ศึกษา คณะผปู้ ระเมิน ดำ�เนนิ การตรวจสอบความถกู ต้อง) 5. สมศ. เสนอผลการประเมนิ SAR ตอ่ คณะกรรมการ ทเี่ กี่ยวข้อง ก่อนสง่ ใหส้ ถานศึกษา หนว่ ยงาน ต้นสงั กดั และเผยแพร่ ตอ่ สาธารณชน ระยะท่สี อง การประเมินจากการตรวจเยยี่ ม (Site Visit) เปน็ ไปตามความสมัครใจของสถานศึกษา มรี ะดบั คณุ ภาพ 5 ระดบั แยกเป็นรายมาตรฐาน (ตาม IQA) คือ “ดเี ยี่ยม” “ดมี าก” “ด”ี “พอใช้” และ “ปรับปรงุ ” แต่เนื่องจากสถานการณ์การระบาดโรคติดเช้ือไวรัสโคโรน่า 2019 ระลอกใหม่ ทำ�ให้ สมศ. ต้องปรับเปลี่ยนการประเมินระยะ ที่สอง ให้เป็นการตรวจเยี่ยม Online ซึ่ง สมศ. ได้มีการกำ�หนด รูปแบบ และวิธีการให้ผู้ประเมินภายนอกวีดิโอคอนเฟอร์เรนซ์ (Video Conference) ไปยังสถานศึกษาท่ียื่นคำ�ขอให้ สมศ. ลงพ้ืนท่ีตรวจเย่ียม โดยผู้ประเมินจะตรวจสอบหลักฐานเชิงประจักษ์ ที่สถานศึกษาระบุไว้ใน SAR รวมท้ังเอกสาร หลักฐานเชิงประจักษ์ ที่สอดคล้องตามเกณฑใ์ นการประเมนิ จากการตรวจเย่ียม ตามหลกั เกณฑ์ ท่ี สมศ. ก�ำ หนดไว้ โดยเป็นไปตามทผ่ี ปู้ ระเมิน และสถานศึกษาได้มกี ารตกลงร่วมกนั ตามทแ่ี จ้งในตารางนัดหมาย 108 คูม่ ือการประกันคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา

โดย สมศ. ได้ดำ�เนินการสร้างความรู้เก่ียวกบั การประเมิน การตรวจเย่ียม Online ให้กับสถานศกึ ษา ผา่ นโครงการสง่ เสรมิ สถานศกึ ษาและประสานความรว่ มมอื กับหน่วยงานต้นสังกัด เพ่ือสรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจ เก่ียวกับแนวทางการประเมินคุณภาพ ภายนอกภายใต้สถานการณ์ COVID-19 ให้กับสถานศึกษา การศึกษา ปฐมวัย (ศูนย์พฒั นาเดก็ ) ระดับการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน ระดบั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐานตามประเภทวตั ถปุ ระสงค์พิเศษ ด้านการ อาชีวศึกษา และการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เป็นการส่งเสริมแบบออนไลน์ท่ี สถานศึกษาสามารถสแกนคิวอาร์โค้ด เพื่อรับชมวีดิทัศน์และดาวน์โหลดไฟล์เอกสารแนะนำ�การประเมินฯ ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประเมินภายนอกอย่าง เข้มข้น ด้วยการฝึกอบรมในรูปแบบออนไลน์ เชน่ กัน อาทิ การใช้งาน ระบบ Automated QA (AQA) การใชร้ ะบบ ONESQA-V ในรปู แบบของ Mobile Application และระบบปฏิบัติการอ่ืนๆ พร้อมท้ังได้มีการเตรียมความพร้อมของอุปกรณ์ และระบบต่างๆ เพื่อให้การประเมินคุณภาพภายนอกภายใต้สถานการณ์ COVID-19 เป็นการประเมินคุณภาพภายนอกใน รูปแบบออนไลนท์ ่สี มบรู ณ์แบบ มากย่งิ ขึ้น นอกจากนี้ การส่งเสริมให้สถานศึกษานำ�ผลการประเมิน ภายนอกไปใช้ยังเป็นอีกหนึ่งภารกิจท่ีสำ�คัญ ของ สมศ. เชน่ กนั เน่อื งจากสถานศกึ ษาจ�ำ นวนมากทีไ่ ดร้ บั การประเมินคุณภาพภายนอก ในรอบท่ผี ่านมาและ นำ�ข้อเสนอแนะไปปรับใช้ จนสถานศึกษา เกิดผลลัพธ์ด้านการพัฒนามากขึ้น โดยเฉพาะผลลัพธ์ท่ีเกิดกับ ตัวผู้เรยี น ดังนั้นในการประเมนิ คณุ ภาพภายนอกภายใต้สถานการณ์ COVID-19 นี้ สมศ. ม่นั ใจว่าจะได้รับการ ตอบรับจากสถานศึกษา ทั่วประเทศ และภายหลังการประเมินคุณภาพภายนอกแล้ว สถานศึกษาและหน่วย งานต้นสังกัดจะสามารถนำ�ผลการประเมิน ของ สมศ. ไปปรับใช้ เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาและคุณภาพ ของผเู้ รียนเพ่อื ให้สอดรับกั บการพัฒนาทกั ษะใหม่ ๆ ท่ี จำ�เปน็ ส�ำ หรับการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 ต่อไป ค่มู อื การประกันคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรียนพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา 109

บรรณานกุ รม กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร.(2561).กฎกระทรวงการประกันคณุ ภาพการศกึ ษา พ.ศ. 2561 ประกำศวนั ท่ี 20 กุมภาพันธ์ 2561. ม.ป.ป. (เอกสำรอดั สำเนำ) _______________. (25๖๑).มำตรฐำนกำรศึกษำ ระดับปฐมวัย ระดับกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน และระดับ กำรศึกษำขั้นพน้ื ฐำนศูนยก์ ำรศกึ ษำพิเศษ ฉบับลงวันที่ 6 สงิ หำคม พ.ศ. 2561 สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน. แนวปฏิบัติกำรดำเนินงำนประกันคุณภำพกำรศึกษำ ระดับ กำรศึกษำขั้นพ้นื ฐำน พ.ศ.๒๕๖๑ ฉบบั ลงวันท่ี 6 สิงหำคม พ.ศ. 2561 สำนกั ทดสอบทำงกำรศึกษำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขน้ั พ้นื ฐำน กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร. (2561). แนวทางการประเมินคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา การศึกษาระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน และระดบั การศึกษาข้ันพืน้ ฐาน.กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์กำรเกษตรแหง่ ประเทศไทย. สำนักทดสอบทำงกำรศกึ ษำ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพนื้ ฐำน กระทรวงศกึ ษำธิกำร.(25๖๓). แนวทางการพฒั นาระบบการประกันคณุ ภาพการศึกษา ตามกฎกระทรวงการประกันคณุ ภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ (เล่ม ๑).กรงุ เทพฯ : โรงพิมพห์ ำ้ งหนุ้ สว่ นจำกัด เอน็ .เอ.รัตนะเทรดดง้ิ ____________________________________________________________________. (25๖๓). การกาหนดมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษา (เล่ม ๒).กรุงเทพฯ : โรงพมิ พห์ ้ำงหนุ้ สว่ นจำกัด เอ็น.เอ. รตั นะเทรดดิง้ . ____________________________________________________________________. (25๖๓). การจดั ทาแผนพฒั นาการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษา (เลม่ ๓).กรุงเทพฯ : โรงพิมพห์ ำ้ งหุ้นสว่ นจำกดั เอ็น.เอ. รตั นะเทรดด้งิ . ____________________________________________________________________. (25๖๓). การจดั ทารายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา(เล่ม ๔)กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พห์ ำ้ งหนุ้ สว่ นจำกดั เอน็ .เอ. รตั นะเทรดดงิ้ . ____________________________________________________________________. (25๖๓). การเตรียมความพรอ้ มของสถานศึกษาเพื่อรบั รองการประเมนิ คณุ ภาพนอก (เลม่ ๕)กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ หำ้ งหุน้ ส่วนจำกดั เอน็ .เอ.รตั นะเทรดดิง้ . 110 คูม่ อื การประกันคณุ ภาพภายในสถานศึกษา โรงเรยี นพระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

ภาคผนวก



ภาคผนวก ก ตัวอยา่ ง การกาหนดมาตรฐานการศึกษาและค่าเป้าหมายความสาเรจ็ ของสถานศกึ ษา ระดบั การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ตรา โรงเรียน ประกำศโรงเรยี น................................... เร่อื ง กำรใชม้ ำตรฐำนกำรศึกษำและกำรกำหนดค่ำเป้ำหมำยตำมมำตรฐำนกำรศึกษำ ของสถำนศกึ ษำ ระดับกำรศึกษำข้นั พ้นื ฐำน เพื่อกำรประกันคุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ พระรำชบัญญัติกำรศึกษำแห่งชำติ พ.ศ.๒๕๔๒ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ มำตรำ ๙ กำรจัดระบบ โครงสร้ำง และกระบวนกำรจัดกำรศึกษำ ให้ยึดหลักสำคัญในข้อ (๓) มีกำรกำหนดมำตรฐำน กำรศึกษำ และจัดระบบประกันคุณภำพกำรศึกษำ ทุกระดับและประเภทกำรศึกษำ และมำตรตำ ๔๘ ให้ หน่วยงำนต้นสังกัดและสถำนศึกษำจัดให้มีระบบกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำภำยในสถำนศึกษำ และถือว่ำ กำรประกันคุณภำพภำยในเป็นส่วนหนึ่งของกำรบริหำรกำรศึกษำท่ีต้องดำเนินกำรอย่ำงต่อเนื่อง โดยมีกำร จัดทำรำยงำนประจำปีเสนอต่อหน่วยงำนต้นสังกัด หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง และเปิดเผยต่อสำธำรณชน เพ่ือ นำไปสกู่ ำรพฒั นำคุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำ และเพอ่ื รองรบั กำรประกันคณุ ภำพภำยนอก มีกำรประกำศใช้กฎกระทรวงกำรประกันคุณภำพกำรศึกษำ พ.ศ.๒๕๖๑ เรื่อง ให้ใช้มำตรฐำน กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน เพื่อกำรประกันคุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ เม่ือวันที่ ๒๐ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๑ และ นโยบำยกำรปฏิรูปกำรศึกษำในทศวรรษที่สองท่ีกำหนดเป้ำหมำยและยุทธศำสตร์อย่ำงชัดเจนในกำรพัฒนำ คุณภำพ คนไทยและกำรศึกษำไทยในอนำคต ประกอบกับมีนโยบำยให้ปฏิรูประบบกำรประเมินและกำร ประกันคุณภำพภำยในและภำยนอกทุกระดับก่อนมีกำรประเมินคุณภำพในรอบต่อไป รวมท้ังอัตลักษณ์และ จุดเน้นของสถำนศึกษำ โรงเรียน............................................จึงปรับมำตรฐำนกำรศึกษำ ของสถำนศึกษำ ระดับกำรศึกษำข้ันพ้ืนฐำน โดยควำมเห็นชอบของคณะกรรมกำรสถำนศึกษำขั้นพ้ืนฐำน และกำรมีส่วนร่วม ของผูเ้ ก่ียวข้อง ท้ังบุคลำกรทุกคนในโรงเรียน ผู้ปกครอง และประชำชนในชุมชน ให้เหมำะสมและสอดคล้อง กันเพ่ือนำไปสู่กำรพัฒนำคุณภำพและมำตรฐำนกำรศึกษำ กำรพัฒนำระบบประกันคุณภำพภำยในของ สถำนศกึ ษำ และเพื่อรองรับกำรประเมินคุณภำพภำยนอก โรงเรียน...........................................................จึงประกำศกำรใช้มำตรฐำนกำรศึกษำและกำร กำหนดค่ำเป้ำหมำยตำมมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ ระดับกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน เพ่ือกำรประกัน คุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ ตำมเอกสำรแนบท้ำยประกำศนี้ เพ่ือเป็นเป้ำหมำยในกำรพัฒนำคุณภำพ มำตรฐำนกำรศึกษำ ประกำศ ณ วนั ท่.ี .........เดอื น พฤษภำคม พ.ศ. ................ (..................................................) (..................................................) ผู้อำนวยกำรโรงเรียน...................................... ประธำนคณะกรรมกำรโรงเรียน ............................... ค่มู อื การประกันคณุ ภาพภายในสถานศึกษา โรงเรยี นพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา 113

มำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศกึ ษำ แนบท้ำยประกำศโรงเรียน.................................... ฉบบั ลงวันที่ .............เดอื น พฤษภำคม พ.ศ. ......... เรอ่ื ง กำรใช้มำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศึกษำ ระดับกำรศกึ ษำข้นั พน้ื ฐำน เพ่อื กำรประกนั คุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ -------------------------------------------------- มำตรฐำนกำรศึกษำขนึ้ พื้นฐำนเพอ่ื กำรประกันคุณภำพภำยในของสถำนศึกษำ พ.ศ. .... ประกอบด้วย ๓ มำตรฐำน ดงั น้ี มำตรฐำนท่ี ๑ คุณภำพของผ้เู รียน ๑.๑ ผลสัมฤทธท์ิ ำงวชิ ำกำรของผูเ้ รียน ๑.๒ คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ของผเู้ รยี น มำตรฐำนที่ ๒ กระบวนกำรบริหำรและกำรจดั กำรของผ้บู ริหำรสถำนศึกษำ มำตรฐำนท่ี ๓ กระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนทเ่ี นน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคญั โดยแตล่ ะมำตรฐำนมีรำยละเอยี ด ดงั น้ี มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผู้เรยี น ๑.๑ ผลสมั ฤทธท์ิ ำงวิชำกำรของผ้เู รยี น ๑) มีควำมสำมำรถในกำรอำ่ น กำรเขียน กำรส่ือสำรและกำรคดิ คำนวณ ๒) มีควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์ คิดอย่ำงมีวจิ ำรณญำณ อภปิ รำย แลกเปลย่ี นควำมคิดเหน็ และแก้ปญั หำ ๓) มคี วำมสำมำรถในกำรสร้ำงนวัตกรรม ๔) มคี วำมสำมำรถในกำรใช้เทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสอ่ื สำร ๕) มีผลสัมฤทธ์ทิ ำงกำรเรยี นตำมหลักสูตรสถำนศึกษำ ๖) มคี วำมรู้ ทกั ษะพ้ืนฐำน และเจตคตทิ ี่ดตี อ่ งำนอำชีพ ๑.๒ คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงคข์ องผู้เรียน ๑) กำรมคี ุณลักษณะและค่ำนยิ มท่ีดีตำมที่สถำนศึกษำกำหนด ๒) ควำมภมู ใิ จในท้องถน่ิ และควำมเปน็ ไทย ๓) กำรยอมรบั ที่จะอยรู่ ่วมกันบนควำมแตกต่ำงและหลำกหลำย ๔) สุขภำวะทำงร่ำงกำยและลักษณะจิตสังคม มาตรฐานท่ี ๒ กระบวนการบรหิ ารและจดั การของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ๒.๑ มีเป้ำหมำย วิสยั ทัศน์ และพนั ธกจิ ทสี่ ถำนศึกษำกำหนดชัดเจน ๒.๒ มรี ะบบบรหิ ำรจดั กำรคุณภำพของสถำนศึกษำ ๒.๓ ดำเนินงำนพัฒนำวิชำกำรท่ีเนน้ คณุ ภำพของผู้เรยี นรอบดำ้ นตำมหลักสตู ร สถำนศกึ ษำ และทุกกลมุ่ เป้ำหมำย ๒.๔ พัฒนำครแู ละบคุ ลำกรให้มคี วำมเชย่ี วชำญทำงวชิ ำชพี ๒.๕ จดั สภำพแวดล้อมทำงกำยภำพและสงั คมที่เอื้อตอ่ กำรจัดกำรเรียนรอู้ ย่ำงมี คุณภำพ ๒.๖ กำรจดั ระบบสำรสนเทศเพ่อื สนับสนนุ กำรบรหิ ำรจัดกำรและกำรจัดกำรเรยี นรู้ 114 ค่มู ือการประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจดั การเรียนการสอนทีเ่ น้นผูเ้ รยี นเป็นสาคญั ๓.๑ จัดกำรเรียนรู้ผ่ำนกระบวนกำรคดิ และปฏิบัตจิ ริง และสำมำรถนำไป ประยกุ ตใ์ ช้ไดใ้ นชีวิตประจำวัน ๓.๒ ใช้สอ่ื เทคโนโลยีสำรสนเทศ และแหลง่ เรียนรู้ทเี่ อื้อต่อกำรเรียนรู้ ๓.๓ มกี ำรบรหิ ำรจัดกำรชน้ั เรียนเชงิ บวก ๓.๔ ตรวจสอบและประเมนิ ผเู้ รียนอยำ่ งเป็นระบบ และนำผลมำพัฒนำผเู้ รยี น ๓.๕ มกี ำรแลกเปลี่ยนเรียนร้แู ละให้ข้อมูลสะท้อนกลบั เพื่อพฒั นำและปรบั ปรุง กำรจัดกำรเรียนรู้ คมู่ อื การประกันคณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา 115

ตัวอยา่ ง แนบทำ้ ยประกำศโรงเรียน.................................... ลงวันท่ี พฤษภำคม พ.ศ. ......... เรอื่ ง กำรกำหนดค่ำเป้ำหมำยตำมมำตรฐำนกำรศึกษำของสถำนศกึ ษำ ระดับกำรศกึ ษำข้ันพนื้ ฐำน เพื่อการประกันคณุ ภาพภายในของสถานศึกษา คำ่ เป้ำหมำย มำตรฐำน/ ประเดน็ พิจำรณำ มำตรฐำนท่ี ๑ คณุ ภำพของผู้เรียน ๑.๑ ๑ผล. สมัมีคฤวาทมธสแิ์ทานำมบงาวทริชำ้ถำยในกปำกรราะขรกออำา่งศนผโรู้เกรงียาเรรนียเขนยี .น....ก..า..ร..ส..่ือ...ส..า.ต.ร.วัแ..อ.ล..ยะ..่าก..งา..ร..ค..ดิ ลคงาวนันวทณี่ พฤษภำคม พ.ศ. ......... ๒. มเคีร่ือวางมกสำารมกาำรหถนในดกคาำ่ รเคปดิ ำ้ วหิเมคำรายะตหำ์มคมดิ ำอตยรา่ ฐงำมนวี กิจาำรรณศึกญษาำณขอองภสปิ ถรำานยศแึกลษกำเปรละี่ยดนับคกวำารมศกึ ษำขัน้ พื้นฐำน คิดเห็น และแกป้ ัญหา เพอื่ การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา ๓. มีความสามารถในการสร้างมนำวตัตรกฐรำรนม/ ประเดน็ พจิ ำรณำ คำ่ เป้ำหมำย มำตรฐำ๔น.ทคี่ ว๑ามสคาณุ มภารำถพใขนอกงาผรใ้เู รชยีเ้ ทนคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร ๑.๑ ผ๕ล. สผมัลสฤมัทฤธททิ์ ธำทิ์งวางชิ กำากรำเรรขยี นอตงผามู้เรหียลนักสูตรสถานศึกษา ๑๖. มีความรสู้าทมกั าษรถะใพน้ืนกฐาารนอ่าแนละกเาจรตเขคียตนิที่ตกอ่ างราสน่ืออสาาชรีพและการคดิ คานวณ ๑.๒ ค๒ุณ. มลีคักวษาณมสะาทมีพ่ าึงรปถใรนะกสางรคค์ขิดอวงิเผคู้เรรายี ะนห์ คิดอย่างมวี ิจารณญาณ อภปิ ราย แลกเปล่ียนความ ๑คิด. เกหาน็ รมแคี ลุณะแลกั ้ปษัญณหะแาละค่านิยมท่ีดตี ามท่ีสถานศกึ ษากาหนด ๓๒. มควีคาวมามภสูมาใิ จมใานรทถใ้อนงกถา่ินรแสลระ้าคงนวาวมตั เกปรน็ รไมทย ๓๔. คกาวรายมอสมามรบัารทถ่จี ใะนอกยารู่ ว่ใชม้เกทันคบโนโคลวยาีสมาแรตสกนตเา่ทงศแแลละะหกลาารกสหื่อลสายร ๕๔. ผสลขุ ภสมัาวฤะททธาิท์ งารง่ากงากราเยรียแนลตะาจมิตหสลงั ักคสมตู รสถานศึกษา มำตรฐำ๖น.ทมี่ ๒คี วการมะรบู้ ทวกั นษกะำพรบืน้ ฐรหิานำรแแลละะเกจำตรคจตดั ิทก่ีตำอ่ รงานอาชีพ ๑.๒ ๒คณุ.๑ลมกั เีษปณา้ หะมทาพ่ี ยึงวปิสรยัะทสัศงคน์ขแอลงะผพูเ้ รนั ียธนกจิ ทส่ี ถานศึกษากาหนดชัดเจน ๒๑.๒กามรีรมะีคบณุ บลบักรษหิ าณระจแดั ลกะาครา่คนุณิยภมาทพีด่ ขีตอางมสทถส่ีาถนาศนกึ ศษึกาษากาหนด ๒.๓ควดาามเนภินูมงใิ าจนในพทฒั ้อนงาถวนิ่ ชิ แาลกะาครวทาเ่ี มนเ้นปค็นุณไทภยาพผู้เรียนรอบดา้ นตามหลักสูตรสถานศึกษา ๒๓.๔กาพรฒั ยอนมาครับรูแทลี่จะบอคุยลรู่ ่วามกรกในั หบ้มนีคคววาามมเชแย่ีตวกชตาา่ ญงแทลาะงหวิชลาชกพีหลาย ๒๔.๕สขุจภดั าสวภะาทพาแงวรด่างลกอ้ ามยทแางลกะาจยิตภสาังพคแมละสังคมทเ่ี อื้อตอ่ การจัดการเรยี นรู้อย่างมคี ุณภาพ มำตรฐำ๒น.ท๖ี่ ๒จัดกรระะบบบวเนทกคำโนรบโลรยิหีสำารรแสลนะเกทำศรเพจัด่ือกสำนรบั สนุนการบริหารจดั การและการจัดการเรียนรู้ มำตรฐำ๒น.ท๑่ี ๓มเี กปร้าะหบมวานยกวำิสรยั จทัดศั กนำ์รแเลรียะนพกนั ำธรกสจิ อทนี่สทถาี่เนน้ศผึกเู้ษรายี กนาเหปน็นดสชำัดคเญั จน ๓๒.๑๒ มจัดีระกบารบเบรยีรนหิ ราผรู้ จา่ ดันการระคบุณวนภกาาพรขคอิดงแสลถะาปนฏศบิกึ ษตั ิจารงิ และสามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตได้ ๒๓.๓๒ ดใชาส้เนอื่ ินเงทาคนโพนัฒโลนยาีสวาชิ ราสกนาเรททศี่เนแ้นลคะุณแหภลาง่พเรผยีูเ้ รนียรนู้ทรีเ่ อบื้อตด่า้อนกตาราเมรหียลนกัรสู้ ตู รสถานศึกษา ๓๒.๓๔ พมกีฒั านราบครริหูแาลระจบดั ุคกลาราชกั้นรใเหรยีม้ นคี เวชาิงมบเวชกี่ยวชาญทางวชิ าชีพ ๓๒.๔๕ จตดัรวสจภสาอพบแแวลดะลป้อรมะทเามงนิ กผาู้เยรภยี นาพอแยลา่ งะเสปัง็นครมะทบี่เบอื้อแตลอ่ ะกนาารผจลัดมกาพรเฒั รยีนนาผรู้อเรยยี า่ นงมีคุณภาพ ๓๒.๖๕ จมัดกี ราะรแบลบกเทเปคลโน่ยี นโลเรยยีสนารสู้แนละเทใหศข้เพ้อ่ือมสลู นสับะสทน้อุนกาลรับบเพริห่ือาพรัฒจัดนกาแารลแะลปะรกับาปรรจุงัดกกาารรจเดัรยีกนารเู้ รียนรู้ มำตรฐำนที่ ๓ กระบวนกำรจัดกำรสเรยีปุ นระกดำบัรสคอณุ นภทำ่เี พน้นขผองู้เรสยี ถนำเนปศ็นึกสษำำคญั ๓.๑ จดั การเรยี นรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ 116๓.๒ ใชค้สูม่ อื่ อื กเาทรคปโรนะกโนัลคยุณสี ภาารพสภนาเยทในศสถแาลนะศแกึ หษาล่งโรเงรเียรยีนนรพู้ทรเี่ะอปื้อรยิตัต่อิธกรรามรเแรผยี นนกสราู้ มญั ศึกษา ๓.๓ มกี ารบรหิ ารจัดการช้นั เรียนเชงิ บวก

ภาคผนวก ข ตัวอย่าง แนวการจัดทาแผนพัฒนาการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา ระดบั การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ๑. การกาหนดวสิ ยั ทัศน์ พนั ธกิจ เปา้ หมาย และกลยุทธ์ ๑.๑ วสิ ยั ทัศน์ ภำยในปีกำรศึกษำ................. โรงเรียน............................................ กำรจัดกำรศึกษำสู่ มำตรฐำนกำรศกึ ษำ ก้ำวหนำ้ ทำงกำรเรียนรู้ ควบคคู่ ณุ ธรรม มคี วำมเป็นสำกลบนพ้ืนฐำนของวถิ ีไทย (ภายในปี.....โรงเรียน............ก้าวหน้าทางการเรียนรู้ควบคู่คุณธรรม มีความเป็นสากลบนพ้ืนฐานของวิถี ไทย) ๑.๒ พนั ธกจิ วิสัยทศั น์ พันธกิจ ภำยในปกี ำรศกึ ษำ..................................... ๑. สง่ เสริมพัฒนำกำรจดั กำรเรียนรู้ และกิจกรรมพฒั นำ โรงเรยี น........................................................... ผูเ้ รยี น ใหม้ ผี ลสมั ฤทธ์ิทำงกำรเรียนสูงขน้ึ ในกำรดำเนินงำน กำรจัดกำรศกึ ษำ ๒. พฒั นำกำรจดั กิจกรรมใหผ้ ู้เรียนมลี ักษณะอันพึงประสงค์ ส่มู ำตรฐำนกำรศึกษำ ก้ำวหนำ้ ทำงกำรเรียนรู้ ๓. พฒั นำกระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจดั กำรศึกษำของ ควบคู่คุณธรรม มีควำมเป็นสำกลบนพน้ื ฐำน โรงเรยี น ของวิถีไทย ๔. พัฒนำกระบวนกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนท่เี น้นผู้เรียน ตวั อย่าง เปน็ สำคญั ๑. ภายในปี.......โรงเรียน..............ก้าวหนา้ ๕. พฒั นำกำรจดั กำรเรียนรู้ โดยกำรบูรณำกำรกำรใช้ ทางการเรยี นรู้ ควบคคู่ ุณธรรม มีความเป็น ภำษำอังกฤษและภำษำจนี ในกำรส่อื สำร สากลบนพื้นฐานของวิถีไทย ๖. ส่งเสรมิ กำรจัดกำรเรียนรแู้ ละกิจกรรมพฒั นำผเู้ รยี น เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นปฏบิ ตั ติ นและดำเนินชวี ติ ตำมวถิ ไี ทย คมู่ อื การประกันคณุ ภาพภายในสถานศึกษา โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามัญศึกษา 117

๑.๓ เป้าหมาย พันธกิจ เปา้ หมาย ๑. สง่ เสรมิ พัฒนำกำรจดั กำรเรียนรู้ และกิจกรรมพฒั นำ ๑. ผู้เรียนมีผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรียนสงู ข้ึน ผู้เรียน ให้มผี ลสมั ฤทธท์ิ ำงกำรเรียนสูงขึน้ ๒. พัฒนำกำรจัดกจิ กรรมให้ผู้เรียนมีลักษณะอันพงึ ๒. ผูเ้ รียนมีคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงคต์ ำมเกณฑท์ ี่ ประสงค์ โรงเรยี นกำหนด ๓. พัฒนำกระบวนกำรบรหิ ำรและกำรจัดกำรศึกษำของ ๓. โรงเรียนมีกระบวนกำรบริหำรและกำรจดั โรงเรยี น กำรศกึ ษำที่มปี ระสิทธภิ ำพ ๔. พัฒนำกระบวนกำรจัดกำรเรียนกำรสอนทเี่ นน้ ๔. ครูมีควำมรู้ และจดั กำรเรียนรู้ทีเ่ น้นผเู้ รียนเป็น ผเู้ รยี นเป็นสำคญั สำคญั ๕. พัฒนำกำรจดั กำรเรียนรู้ โดยกำรบรู ณำกำรกำรใช้ ๕. ผเู้ รียนสำมำรถใช้ภำษำอังกฤษและภำษำจนี ใน ภำษำองั กฤษและภำษำจนี ในกำรสือ่ สำร กำรสอ่ื สำรได้ตำมศักยภำพ ๖. ส่งเสริมกำรจดั กำรเรยี นรแู้ ละกจิ กรรมพัฒนำผู้เรียน ๖. ผู้เรียนปฏบิ ตั ติ นและดำเนนิ ชีวิตตำมวิถไี ทยได้ เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นปฏิบัตติ นและดำเนนิ ชีวิตตำมวิถีไทย ๑.๔ กลยุทธ์ กลยุทธ์ เปำ้ หมำย ๑.พัฒนำคณุ ภำพผ้เู รียน ๑. ผเู้ รียนมีผลสัมฤทธท์ิ ำงกำรเรียนสงู ขึน้ ๒. ผเู้ รียนมีคุณลกั ษณะที่พึงประสงคต์ ำมเกณฑ์ที่โรงเรยี นกำหนด ๓. โรงเรียนมกี ระบวนกำรบริหำรและกำรจัดกำรศึกษำทีม่ ีประสิทธิภำพ ๒.พฒั นำกระบวนกำรบรหิ ำรและ ๔. ครมู คี วำมรู้ และจดั กำรเรียนรทู้ ่เี นน้ ผ้เู รยี นเปน็ สำคญั กำรจัดกำรศกึ ษำ ๕. ผเู้ รยี นสำมำรถใชภ้ ำษำองั กฤษและภำษำจนี ในกำรส่ือสำรได้ตำม ๓.พัฒนำกำรจดั กำรเรยี นรู้ทเ่ี น้น ศักยภำพ ผู้เรยี นเป็นสำคัญ ๖. ผู้เรียนปฏบิ ัติตนและดำเนินชวี ิตตำมวถิ ไี ทย ๔.พัฒนำตำมมำตรกำรสง่ เสริม 118 คมู่ อื การประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา โรงเรยี นพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา

๒. การกาหนดตวั ชี้วดั ความสาเรจ็ ของเป้าหมายตามกลยทุ ธ์ กลยุทธ์ เปา้ หมาย ตวั ชว้ี ดั ความสาเร็จ ๑.คุณภำพ ๑. ผเู้ รียนมีผลสัมฤทธ์ิทำงกำร ผเู้ รียน เรยี นสงู ขน้ึ ๑. ร้อยละของผเู้ รียนมีควำมสำมำรถในกำรอำ่ น เขยี น กำร ส่ือสำร และกำรคิดคำนวณตำมเกณฑ์ ๒. ผ้เู รยี นมคี ุณลักษณะท่ีพงึ ๒. รอ้ ยละของผเู้ รยี นมีควำมสำมำรถในกำรคิดวเิ ครำะห์ คิด ประสงคต์ ำมเกณฑท์ โี่ รงเรยี น วิจำรณญำณ อภปิ รำย แลกเปล่ียนควำมคิดเหน็ และแก้ปญั หำ กำหนด ๓. รอ้ ยละของผเู้ รียนมคี วำมสำมำรถสรำ้ งนวัตกรรม ๔. ร้อยละของผเู้ รียนมีควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี สำรสนเทศ และกำรสื่อสำร ๕. รอ้ ยละของผเู้ รยี นมผี ลสมั ฤทธท์ิ ำงกำรเรยี นตำมหลักสตู ร สถำนศกึ ษำสูงขึน้ ๖. คำ่ เฉลีย่ ผลกำรทดสอบระดบั ชำติของโรงเรียนสูงขนึ้ ๗. รอ้ ยละของผเู้ รยี นมีควำมพร้อมในกำรศึกษำต่อ กำรฝกึ งำน หรอื กำรทำงำน ๑. ร้อยละของผเู้ รยี นมีคณุ ลักษณะและคำ่ นิยมทด่ี ตี ำมท่ีโรงเรยี น กำหนด ๒. ร้อยละของผูเ้ รียนมีควำมภมู ิใจในทอ้ งถนิ่ และควำมเป็นไทย ๓. ร้อยละของผูเ้ รียนยอมรับทีจ่ ะอยรู่ ่วมกนั บนควำมแตกตำ่ ง และควำมหลำกหลำย ๔. ร้อยละของผู้เรยี นมสี ุขภำวะทำงร่ำงกำย และลักษณะจติ สังคม ๒. กระบวนกำร ๓. โรงเรยี นมีกระบวนกำรบริหำร ระดับคณุ ภำพของกำรบริหำรและกำรจดั กำรศึกษำของโรงเรยี น บรหิ ำรและ และกำรจดั กำรศึกษำทมี่ ปี ระสิทธภิ ำพ กำรจัดกำร ร้อยละของครทู มี่ คี วำมรู้ ควำมสำมำรถและจัดกำรเรยี นรทู้ ่ีเนน้ ศกึ ษำ. ผ้เู รยี นเป็นสำคัญ ๓.กำรจดั กำร ๔. ครูมคี วำมรู้ และจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี รอ้ ยละของผเู้ รยี นทม่ี ีควำมสำมำรถในกำรใช้ ภำษำองั กฤษ เรียนร้ทู ีเ่ น้น เน้นผูเรียนเปน็ สำคัญ ภำษำจีนในกำรส่ือสำรไดต้ ำมศักยภำพ รอ้ ยละของผเู้ รียนปฏิบัตติ นและดำเนนิ ชีวติ ตำมวถิ ไี ทย ผู้เรยี นเปน็ สำคญั ๔.มำตรกำร ๕. ผู้เรยี นสำมำรถใชภ้ ำษำองั กฤษ สง่ เสริม และภำษำจนี ในกำรสอ่ื สำรได้ตำม ศักยภำพ ๖. ผู้เรยี นปฏิบตั ิตนและดำเนิน ชีวติ ตำมวิถีไทยได้ คมู่ อื การประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา 119

๓. การกาหนดโครงการ กิจกรรมตามเปา้ หมายและตัวช้ีวัดความสาเร็จ ตวั ชว้ี ัดความสาเรจ็ เปา้ หมาย (ของเป้าหมาย) โครงการ กิจกรรม ๑. ผู้เรยี นมีผลสมั ฤทธ์ิทำงกำร ๑. ร้อยละของผู้เรยี นมคี วำมสำมำรถในกำรอำ่ น โครงกำรบรู ณำกำรกำรอำ่ น เขยี น กำรสอ่ื สำร และกำรคดิ คำนวณตำมเกณฑ์ กำรเขียน กำรสอื่ สำร และคดิ เรียนสูงขนึ้ คำนวณตำมกลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ๒. ร้อยละของผู้เรยี นมีควำมสำมำรถในกำรคดิ โครงกำรพัฒนำกำรจดั กำรเรยี นรู้โดย วิเครำะห์ คดิ วจิ ำรณญำณ อภิปรำย แลกเปลยี่ น ใชน้ วัตกรรมและเทคโนโลยี ควำมคิดเห็นและแก้ปญั หำ โครงกำรยกระดับผลสมั ฤทธิท์ ำง ๓. ร้อยละของผู้เรยี นมีควำมสำมำรถสรำ้ งนวตั กรรม กำรเรยี น ๔. ร้อยละของผู้เรยี นมคี วำมสำมำรถในกำรใช้ เทคโนโลยสี ำรสนเทศ และกำรสื่อสำร ๕. ร้อยละของผู้เรยี นมผี ลสัมฤทธท์ิ ำงกำรเรียนตำม หลักสตู รสถำนศกึ ษำสูงข้ึน ๖. ค่ำเฉลี่ยผลกำรทดสอบระดบั ชำติของโรงเรียน สูงข้ึน ๗. รอ้ ยละของผู้เรยี นมีควำมพร้อมในกำรศึกษำต่อ โครงกำรส่งเสริมกำรศกึ ษำต่อสอู่ ำชพี กำรฝกึ งำน หรือกำรทำงำน ๒. ผู้เรยี นมคี ณุ ลักษณะท่ีพงึ ๑. รอ้ ยละของผู้เรยี นมีคณุ ลักษณะและคำ่ นิยมท่ดี ี โครงกำรพฒั นำคณุ ลักษณะที่ ประสงค์ตำมเกณฑท์ ีโ่ รงเรยี น ตำมท่โี รงเรยี นกำหนด พงึ ประสงค์และค่ำนยิ มท่ีดี กำหนด ๒. ร้อยละของผเู้ รียนมีควำมภมู ใิ จในทอ้ งถ่ิน และ ควำมเป็นไทย ๓. ร้อยละของผู้เรียนยอมรับทจ่ี ะอยูร่ ่วมกนั บนควำม โครงกำรสร้ำงควำมสมั พนั ธบ์ นควำม แตกตำ่ งและควำมหลำกหลำย แตกต่ำง ๔. ร้อยละของผ้เู รียนมสี ุขภำวะทำงรำ่ งกำย และ โครงกำรพัฒนำสุขภำวะทำงกำย ลักษณะจิตสงั คม และจติ สังคม ๓. โรงเรียนมีกระบวนกำร ระดบั คณุ ภำพของกำรบริหำรและกำรจดั กำรศึกษำ โครงกำรพัฒนำระบบกำรบรหิ ำรของ บรหิ ำรและกำรจัดกำรศึกษำที่มี ของโรงเรียน สถำนศกึ ษำ ประสทิ ธภิ ำพ ๔. ครูมคี วำมรู้ และจดั กำร ร้อยละของครทู ม่ี คี วำมรู้ และจดั กำรเรยี นรู้ทีเ่ น้น โครงกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ี่เนน้ ผเู้ รียน เรยี นรู้ทเี่ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ผ้เู รยี นเปน็ สำคัญ เป็นสำคญั ๕. ผเู้ รียนสำมำรถใช้ รอ้ ยละของผเู้ รียนทม่ี คี วำมสำมำรถในกำรใช้ โครงกำรพฒั นำกำรใช้ภำษำอังกฤษ ภำษำองั กฤษ ภำษำอังกฤษ ภำษำจนี ในกำรสื่อสำรไดต้ ำมศักยภำพ และภำษำจนี เพ่อื กำรส่อื สำร และภำษำจนี ในกำรส่ือสำรได้ ตำมศกั ยภำพ ร้อยละของผเู้ รียนปฏบิ ตั ติ นและดำเนินชีวติ ตำมวถิ ี โครงกำรสง่ เสรมิ วถิ ีไทย ๖. ผูเ้ รียนปฏิบัติตนและดำเนนิ ไทย ชวี ิตตำมวิถีไทยได้ 120 คูม่ อื การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา

๔. การกาหนดแผนการดาเนนิ งาน และงบประมาณ กลยทุ ธท์ ่ี ๑ พฒั นาคุณภาพของผู้เรียน เปา้ หมาย ตวั ช้ีวัดความสาเร็จ ตัวชี้วดั ความสาเรจ็ โครงการ กิจกรรม งบประมา สนอง ฝา่ ย (ของเป้าหมาย) (ของเป้าหมาย)รายปี ณ มาตรฐาน รบั ผดิ ชอบ ปี ...... ปี ...... ปี ...... การศึกษาของ สถานศกึ ษา คู่มือการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา 121 ๑. ผู้เรียนมผี ลสัมฤทธิ์ทำงกำร ๑. รอ้ ยละของผ้เู รียนมี ร้อยละ รอ้ ยละ ร้อยละ โครงกำรบรู ณำกำรกำรอ่ำน ๕,๐๐๐ มำตรฐำนท่ี ๑ กลุม่ งำน เรียนสูงขึ้น ควำมสำมำรถในกำรอ่ำน ๘๐ ๘๕ ๙๐ กำรเขียน กำรสอื่ สำร และคิดคำนวณตำม วชิ ำกำร เขียน กำรสอ่ื สำร และ กำรคิดคำนวณตำมเกณฑ์ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ ๑๕,๐๐๐ มำตรฐำนที่ ๑ กลุ่มงำน ร้อยละ ร้อยละ โครงกำรพัฒนำกำรจดั กำรเรยี นรู้โดยใช้ วิชำกำร ๒. รอ้ ยละของผเู้ รยี นมี ร้อยละ ๘๕ ๙๐ นวัตกรรมและเทคโนโลยี ควำมสำมำรถในกำรคดิ ๘๐ ๑๐,๐๐๐ มำตรฐำนท่ี ๑ วเิ ครำะห์ คดิ วจิ ำรณญำณ รอ้ ยละ รอ้ ยละ อภปิ รำย แลกเปลี่ยนควำม รอ้ ยละ ๘๕ ๙๐ คดิ เห็นและแก้ปัญหำ ๘๐ ร้อยละ ร้อยละ ๓. รอ้ ยละของผู้เรียนมคี วำม รอ้ ยละ ๘๕ ๙๐ สำมำรถสรำ้ งนวตั กรรม ๘๐ ร้อยละ รอ้ ยละ โครงกำรยกระดับผลสมั ฤทธ์ทิ ำง ๔. ร้อยละของผเู้ รยี นมี รอ้ ยละ ๕๒ ๕๕ กำรเรยี น ควำมสำมำรถในกำรใช้ ๕๐ เทคโนโลยีสำรสนเทศ และ กำรสอื่ สำร ๕. ร้อยละของผูเ้ รยี นมี

122 คู่มอื การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา เปา้ หมาย ตัวชวี้ ดั ความสาเร็จ ตัวช้ีวดั ความสาเรจ็ โครงการ กจิ กรรม งบประมา สนอง ฝา่ ย (ของเปา้ หมาย) (ของเป้าหมาย)รายปี ณ มาตรฐาน รบั ผดิ ชอบ ปี ...... ปี ...... ปี ...... การศึกษาของ สถานศึกษา ผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรียนตำม หลักสตู รสถำนศึกษำสงู ข้ึน ร้อยละ รอ้ ยละ ร้อยละ ๕๐ ๕๒ ๕๕ ๖. คำ่ เฉล่ียผลกำรทดสอบ ระดับชำตขิ องโรงเรยี นสูงขึน้ ๒. ผู้เรียนมีคณุ ลักษณะท่ี ๗. ร้อยละของผู้เรียนมี ร้อยละ ร้ยอละ ร้อยละ โครงกำรส่งเสริมกำรศกึ ษำต่อสู่อำชีพ ๕,๐๐๐ มำตรฐำนที่ ๑ กลมุ่ งำน พึงประสงค์ตำมเกณฑ์ที่ ควำมพร้อมในกำรศึกษำ ๘๐ ๘๕ ๙๐ โรงเรยี นกำหนด ต่อ กำรฝกึ งำน หรอื กำร วชิ ำกำร ทำงำน ร้อยละ ร้อยละ รอ้ ยละ โครงกำรพฒั นำคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ ๙๐ ๙๓ ๙๖ และคำ่ นยิ มที่ดี ๑๐,๐๐๐ มำตรฐำนท่ี ๑ กลุ่มงำน ๑. รอ้ ยละของผ้เู รยี นมี รอ้ ยละ รอ้ ยละ รอ้ ยละ คุณลักษณะและค่ำนยิ มท่ดี ี ๙๐ ๙๓ ๙๖ วชิ ำกำร ตำมทโี่ รงเรยี นกำหนด ๒. ร้อยละของผูเ้ รียนมคี วำม ภูมใิ จในท้องถนิ่ และควำมเป็น ไทย

คู่มือการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา 123 เปา้ หมาย ตวั ชวี้ ัดความสาเร็จ ตวั ชีว้ ดั ความสาเร็จ โครงการ กจิ กรรม งบประมา สนอง ฝ่าย (ของเป้าหมาย) (ของเป้าหมาย)รายปี ณ มาตรฐาน รับผิดชอบ ปี ...... ปี ...... ปี ...... การศกึ ษาของ สถานศึกษา ๓. รอ้ ยละของผเู้ รยี นยอมรบั ท่ี ร้อยละ ร้อยละ รอ้ ยละ โครงกำรสร้ำงควำมสัมพนั ธ์บนควำม ๕,๐๐๐ มำตรฐำนที่ ๑ กลมุ่ งำน จะอย่รู ว่ มกันบนควำมแตกต่ำง ๙๐ ๙๓ ๙๖ แตกตำ่ ง และควำมหลำกหลำย วิชำกำร ๔. ร้อยละของผ้เู รยี นมีสขุ ภำวะ ร้อยละ ร้อยละ รอ้ ยละ โครงกำรพัฒนำสุขภำวะทำงกำย และ ๕,๐๐๐ มำตรฐำนท่ี ๑ กลมุ่ งำน ทำงร่ำงกำย และลกั ษณะจิต ๙๐ ๙๓ ๙๖ จิตสงั คม วิชำกำร สังคม

124 คู่มอื การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา กลยทุ ธท์ ี่ ๒ พัฒนากระบวนการบรหิ ารและการจดั การศึกษา ตวั ชี้วัดความสาเรจ็ สนอง (ของเป้าหมาย)รายปี มาตรฐาน ตัวชว้ี ดั ความสาเรจ็ การศกึ ษา ฝ่าย เปา้ หมาย (ของเป้าหมาย) โครงการ กิจกรรม งบประมาณ รบั ผดิ ชอบ ปี...... ปี...... ป.ี ..... ของ สถานศกึ ษา ๓. โรงเรียนมกี ระบวนกำร ระดับคุณภำพของกำร รอ้ ยละ รอ้ ยละ ร้อยละ โครงกำรพัฒนำระบบกำรบริหำร ๑๐,๐๐๐ มำตรฐำนที่ ๒ กลมุ่ บริหำรและกำรจัดกำรศึกษำท่มี ี บรหิ ำรและกำรจดั ๘๐ ๘๕ ๙๐ ของสถำนศึกษำ บรหิ ำรงำน ประสิทธภิ ำพ กำรศกึ ษำของโรงเรยี น ทว่ั ไป กลยทุ ธท์ ี่ ๓ พฒั นาการจดั การเรียนรู้ท่ีเน้นเป็นผู้เรยี นเป็นสาคญั ตวั ชว้ี ดั ความสาเรจ็ สนอง (ของเปา้ หมาย)รายปี มาตรฐาน ตวั ชวี้ ัดความสาเร็จ การศกึ ษา ฝา่ ย เป้าหมาย (ของเปา้ หมาย) โครงการ กิจกรรม งบประมาณ รับผดิ ชอบ ปี ...... ปี ...... ปี ...... ของ สถานศึกษา ๔. ครูมคี วำมรู้ และจดั กำร ร้อยละของครูทีม่ ี ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ โครงกำรจัดกำรเรียนรู้ทเ่ี นน้ ๑๐,๐๐๐ มำตรฐำนท่ี ๓ กลุ่มงำน เรียนรูท้ เี่ น้นผู้เรยี นเป็นสำคญั ควำมรู้ และกำรจัดกำร ๘๕ ๙๐ ๙๕ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญ บรหิ ำรงำน เรยี นร้ทู ่ีเน้นผเู้ รยี นเป็น บุคคล สำคญั

กลยทุ ธ์ท่ี ๔ พฒั นาตามมาตรการส่งเสริม ตวั ชวี้ ัดความสาเร็จ ตวั ช้วี ัดความสาเร็จ สนองมาตรฐาน ฝา่ ย (ของเป้าหมาย) (ของเป้าหมาย)รายปี การศกึ ษาของ รับผิดชอบ เป้าหมาย ปี ...... ปี ...... ปี ...... โครงการ กจิ กรรม งบประมาณ สถานศกึ ษา ร้อยละ ร้อยละ ร้อยละ กลมุ่ คู่มือการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา 125 ๕. ผเู้ รยี นสำมำรถใช้ ร้อยละของผ้เู รยี นที่มี ๗๐ ๗๕ ๘๐ โครงกำรพฒั นำกำรใช้ ๑๐,๐๐๐ - บริหำรงำน ภำษำองั กฤษและภำษำจนี ควำมสำมำรถในกำรใช้ ภำษำอังกฤษและภำษำจีนเพื่อกำร ในกำรสอื่ สำรไดต้ ำม ภำษำองั กฤษ ภำษำจีน สือ่ สำร ทั่วไป ศกั ยภำพ ในกำรสื่อสำรได้ตำม ศักยภำพ รอ้ ยละ ร้อยละ ร้อยละ โครงกำรส่งเสริมวิถไี ทย ๕,๐๐๐ - กลมุ่ ๖. ผู้เรยี นปฏบิ ัตติ นและดำเนนิ ร้อยละของผเู้ รียน ๘๐ ๘๕ ๙๐ บรหิ ำรงำน ชวี ิตตำมวิถีไทยได้ ปฏิบัตติ นและดำเนนิ ท่ัวไป ชีวติ ตำมวถิ ไี ทย

ภาคผนวก ค ตวั อย่าง โครงการ /กิจกรรม ๑.ชื่อโครงการ ยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรศึกษำระดบั ชำติ ด้ำนพระพทุ ธศำสนำ (B-NET) แผนงาน งำนบริหำรวิชำกำร สอดคล้องกับมาตรฐาน มำตรฐำนท่ี ๑ คุณภำพของผเู้ รยี น สนองยทุ ธศาสตร์ (พศ) ขอ้ ที่ ๑ พัฒนำกำรศึกษำสงฆ์ สนองยทุ ธศาสตร์ เขต........ ขอ้ ท่ี ๒ พฒั นำศำสนทำยำทให้มีคุณภำพตำมมำตรฐำนกำรศึกษำ หลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พน้ื ฐำน และมีคุณลกั ษณะปริยัติ สำมญั ตำมทพี่ ึงประสงค์ สนองกลยทุ ธ์โรงเรยี น กลยุทธท์ ี่ ๑ พฒั นำคุณภำพของผู้เรยี น ลกั ษณะโครงการ โครงกำรตอ่ เน่ือง หน่วยงานท่รี ับผิดชอบ กลุ่มงำนบริหำรวชิ ำกำร ผรู้ ับผิดชอบโครงการ ชอ่ื -สกลุ ............................................................................. ระยะเวลาดาเนินการ ปีกำรศึกษำ................ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๒. หลกั การและเหตุผล กำรจัดกำรศึกษำต้องยึดหลักว่ำ ผู้เรียนทุกคนมีควำมสำมำรถเรียนรู้และพัฒนำตนเองได้และถือ ว่ำผู้เรียนสำคัญท่ีสุด กระบวนกำรจัดกำรศึกษำต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสำมำรถพัฒนำตำมธรรมชำติ และเต็มตำม ศกั ยภำพ (พระรำชบญั ญตั ิกำรศึกษำแหง่ ชำติ พ.ศ. ๒๕๔๒ หมวดที่ ๔ แนวทำงจดั กำรศกึ ษำ มำตรำที่ ๒๒) ผลกำร ประเมนิ คณุ ภำพภำยนอกรอบสำมโดยสำนกั งำนรบั รองมำตรฐำนและประเมินคณุ ภำพกำรศึกษำ (องค์กำรมหำชน) (พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๕๘)ได้ให้ข้อเสนอแนะแก่โรงเรียนในมำตรฐำนที่ ๕ ผู้เรียนควรได้รับกำรพัฒนำด้วยกิจกรรมที่ หลำกหลำยท่ีส่งเสริมให้มีควำมรู้และทักษะในทุกกลุ่มสำระกำรเรียนรู้เพิ่มขึ้น กำรทบทวนควำมรู้หรือสอนเสริม และสอนซ่อมเสริมอยำ่ งสม่ำเสมออยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง จนมีผลสมั ฤทธิ์เพมิ่ ขึน้ กวำ่ เดิม พร้อมทั้งพัฒนำในด้ำนควำมรู้และ ทักษะท่ีจำเป็นตำมหลักสูตรโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสำมัญศึกษำ ประกอบด้วย ๑.วิชำภำษำบำลี, ๒.วิชำ พทุ ธประวัติ และศำสนพิธี, ๓.วิชำธรรม ๔.วิชำวินัย รวมถึงพัฒนำควำมสำมำรถในกำรคิดวิเครำะห์ คิดสังเครำะห์ มีวจิ ำรณญำณ ควำมคิดสรำ้ งสรรค์ และเปน็ ศำสนทำยำททดี่ ีของพระพุทธศำสนำ โรงเรียน................................................... ได้นำขอ้ เสนอแนะจำกกำรประเมนิ คุณภำพภำยนอก รอบสำมเพอ่ื นำมำพัฒนำผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรียนท้ังภำยในสถำนศึกษำและระดบั ชำติ โดยดำเนนิ กจิ กรรมหลัก คือ กำรยกระดบั ผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรียนและกำรพัฒนำทักษะกำรคดิ ของผเู้ รียนในระดับกำรคิดขน้ั สงู จึงได้จัดทำ โครงกำรยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทำงกำรเรยี นนขี้ ึน้ ๓. วัตถุประสงค์ ๒. เพื่อยกระดับคุณภำพทำงกำรศกึ ษำ ระดบั ชำติ ด้ำนพระพุทธศำสนำ (B-NET) ใหส้ ูงข้นึ ๓. เพอ่ื ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี น ดำ้ นพระพุทธศำสนำใหส้ ูงขึน้ ทุกรำยสำระวชิ ำ ๑. เพื่อพฒั นำทักษะควำมสำมำรถด้ำนกำรคดิ ขัน้ สงู ของนักเรยี นให้สูงขึ้น 126 คู่มอื การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศกึ ษา

๔๔. เ.ปเป้าหา้ หมามยาย ๔๔.๑.๑เชเิงชปงิ ปริมราิมณาณ ๔๔๑๑.๑.๑รอ้รยอ้ ลยะละ๘๘๐๐ขอขงอนงักนเักรเียรนียรนะรดะับดบัชนั้ชัน้มัธมยัธมยศมกึศษึกษำ ำมผีมลผี สลมัสฤมั ทฤทธ์ทิธ์ทิำงำกงำกรำทรทดสดอสบอบ กำกรำศรึกศษกึ ษำ ำระรดะบัดบัชำชตำิตดิ ำ้ดนำ้ พนพระรพะพทุ ทุธศธำศสำนสนำ ำ(B(-BN-NETE)Tส) งูสขูงึน้ขร้นึ อ้รยอ้ ลยะละ๕๕ ๔๔.๑.๑.๒.๒ร้อรยอ้ ลยะละ๘๘๐๐ขอขงอนงกันเกั รเียรนยี รนะรดะบัดบัชั้นชัน้มัธมยัธมยศมึกศษึกษำ ำมีผมลผี สลัมสฤัมทฤทธ์ิทธิ์ทำงำกงำกรำเรรเียรนียน ด้ำดนำ้ พนพระรพะพทุ ทุธศธำศสำนสนำ ำสงูสขงู ึน้ขทึ้นทุกรุกำรยำสยำสรำะรวะิชวำิชำ ๔๔.๑.๑.๓.๓ร้อร้ยอลยะละ๙๙๐๐ขอขงอนงันกัเกรเียรีนยนระรดะับดับชั้นชั้นมัมธยัธมยมศึกศึษกษำเำขเ้ำขร้ำ่วรม่วมกิจกกิจรกรมรมแลแะลไะดไ้รดับ้รับกำกรำพรพัฒัฒนนำ ำ ททกั ษักษะคะวคำวมำสมำสมำำมรำถรดถ้ำดนำ้ กนำกรำคริดคขิดน้ัขสน้ั ูงสขงู อขงอนงักนเักรเียรนียนใหให้สงูส้ ขงู ึ้นขึ้น ๔๔.๒.๒เชเงิชคงิ ุณคณุ ภภาพาพ ๔๔.๒.๒.๑.๑นักนเกั รเยีรนียรนะรดะับดับช้ันชมัน้ ธัมยัธมยศมกึศษึกษำรำอ้รย้อลยะละ๘๘๐๐มผีมลีผสลัมสฤมั ทฤทธิ์ทธิท์ำงำกงำกรำทรทดสดอสบอบคุณคุณภภำพำพ กำกรำศรกึศษกึ ษำ ำระรดะบัดับชำชตำิตดิ ำ้ดนำ้ พนพระรพะพุททุธศธำศสำนสนำ ำ(B(-BN-NETE)Tใ)นใรนะรดะับดบัดีดี ๔๔.๒.๒.๒.๒นักนเกั รเียรนียรนะรดะบัดับชั้นชม้ันัธมยัธมยศมึกศษกึ ษำรำ้อรยอ้ ลยะละ๘๘๐๐มผีมลผี สลัมสฤัมทฤทธิ์ทธิท์ำงำกงำกรำเรรเยีรนยี น ดำ้ดนำ้ พนพระรพะพทุ ุทธศธำศสำนสนำ ำสูงสขูงึ้นขทึ้นทกุ รกุ ำรยำสยำสรำะรวะชิวำชิ ำในใรนะรดะบัดบัดีดี ๔๔.๒.๒.๓.๓นักนเักรเียรนยี รนะรดะับดบัชน้ัชม้นั ัธมยธั มยศมกึศษึกษำเำขเ้ำขรำ้ ว่รมว่ กมิจกกจิ รกรมรแมลแะลพะพัฒฒั นำนทำทกั ษักษะคะวคำวมำสมำสมำำมรำถรดถ้ำดน้ำน กำกรำคริดคขดิ ั้นขส้นั งูสไูงดไ้ใดน้ใรนะรดะบัดบัดีดี ๕๕. ว. ิธวีดิธาดี เานเนิ ินกากราร ขัน้ขตนั้ อตนอนกำกรำดรำดเำนเินงนิ ำงนำ/นก/ิจกกิจรกรมรสมำสคำัญคัญ ระรยะะยเะวเลวำลำ งบงบปประรมะำมณำณ ผู้รผับู้รบัผิดผชดิ อชบอบ ๑๑.ข.น้ัขั้นวาวงาแงผแนผน(P()P) เมเ.มย..ย..... .. -- ช่อืช-ือ่ ส-กสลุกุล ๑๑) ศ) ึกศษกึ ษำแำลแะลวะิเวคิเรคำระำหะห์ข้อข์ ม้อลูมผลู ลผสลัมสฤัมทฤทธิ์ทธทิ์ำงำกงำกรำร เมเ.มย..ย.... .. ชอื่ช-อ่ื ส-กสลุกลุ เรเียรนียนกำกรำทรทดสดอสบอบข้อขเ้อสเนสนอแอนแะนจะำจกำตกน้ตสน้ งัสกงั ัดกแดั ลแะละ พพ.ค..ค.... .. -- ผูป้ผ้ปูระรเะมเินมภนิ ภำยำนยอนกอรกอรบอบสำสมำม พพ.ค..ค.... .. -- ๒๒) จ) ัดจทดั ทำรำำรยำลยะลเะอเียอดียขดอขงอโงคโรคงรกงำกรำ/รก/ิจกกจิ รกรมรม พพ.ค..ค... .. -- ๓๓) เ)สเนสนอขออขอนอมุนตัมุ โิตั คิโรคงรกงำกรำ/รก/จิกกจิ รกรมรม ๒๒๐๐,๐,๐๐๐ ๔๔) แ) ตแ่งตตง่ งั้ตคงั้ ณคณะกะรกรมรกมำกรำบรบริหริหำรำโรคโรคงรกงำกรำร มิ.มย.ิ .ย....-. -ม.ีมคี..ค.... ๒๒.ข.้ันข้ันดาดเานเนิ นิกากราร(D(D) ) ม.ิมย.ิ .ย....-. -มี.มคี..ค..... กจิกกจิ รกรมรทมท่ี ๑่ี ๑ยกยรกะรดะับดบัผลผสลมัสฤัมทฤทธทิ์ธิท์างากงากราเรรเยีรนียน ดา้ดน้านพพระรพะพุทุทธศธาศสานสนาาสงูสขูง้นึขึน้ททุกรกุ ารยาสยาสราะรวะิชวาชิ า ม.ีมค.ี .ค..... - -วิเวคเิ รคำระำหะห์นน์กั เักรเียรนียนรำรยำบยบุคคุ ลคล - -วเิวคิเรคำระำหะห์ ์หลักลสักตูสรูตแรลแะลจะดัจทัดทำหำหลักลสกั ตูสรตู ชร้นัชนั้ เรเยีรนยี นตำตมำตมวัตชวั ้วีชัด้วี ทัดท่นี ่นีักเกั รเยีรนยี นต้อตง้อรง้แูรลูแ้ ะลคะวครวรู้รู้ - -ออกอแกบแบบกำกรำจรดัจกดั ำกรำเรรเยีรนยี นร้ตูรำู้ตมำคมวคำวมำม แตแกตตก่ำตงำ่ รงะรหะหวำ่วงำ่ บงบุคคุ ลคล - -นนกั เักรเยีรนยี นฝึกฝทกึ ทำขำ้อขส้ออสบอบแบแบบคูข่คนขู่ นำนำนททุกวกุ นัวันๆๆ ละละ๒๒-๓-๓ข้อขอ้ - -นนกั เักรเยีรนียนททดสดอสบอบตำตมำรมำรยำตยวัตชัว้วีชัดวี้ ัด - -นนกั เกั รเียรนยี นปประรเะมเินมินผลผกลำกรำเรรเียรนยี นภภำคำเครเียรนียนละละ ๑๑ครค้งั รง้ั คูม่ ือการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามัญศึกษา 127

กิจกรรมท่ี ๒ ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ทางการ พ.ค..... ๑๐๐,๐๐๐ ช่อื -สกลุ ศกึ ษาระดบั ชาติ ด้านพระพุทธศาสนา (B-NET) ชอ่ื -สกุล มิ.ย.... - มี.ค.... ๑๐๐,๐๐๐ - วิเครำะหน์ กั เรียนเป็นรำยบคุ คล มิ.ย..... - ม.ี ค.... - ศึกษำTest Blueprint จำก สทศ. ๒,๐๐๐ - ออกแบบข้อสอบคู่ขนำนตำมตัวชี้วัดและให้ ธ.ค..... - นักเรยี นไดฝ้ กึ ทำข้อสอบอำทิตย์ละ๑ ครั้ง - สอดแทรกข้อสอบตำมตวั ชวี้ ดั ในกำรสอน พ.ค..... ปกตวิ นั ละ ๑ ขอ้ - ตวิ ข้อสอบก่อนกำรทดสอบจริง หลังเลิก ม.ิ ย..... เรียนวันละ ๑ ชม. หรือ วันเสำร์-อำทติ ย์ มิ.ย.... - ม.ี ค.... - นกั เรียนเขำ้ คำ่ ยติวข้อสอบจำกวทิ ยำกร ภำยนอก ม.ค... กจิ กรรมที่ ๓ กจิ กรรมและพฒั นาทักษะ มี.ค.... ความสามารถดา้ นการคิดขัน้ สูง เม.ย.... - วิเครำะห์นักเรยี นเปน็ รำยบุคคล - ศึกษำหลกั กำรและทฤษฏีทีน่ ำมำใช้ในกำร พัฒนำทักษะกระบวนกำรคิดขนั้ สงู - ออกแบบข้อสอบตำมระดบั กำรคดิ โดยใช้ กระบวนกำรคดิ ตำมแนวทำงทฤษฎกี ำรเรียนรู้ของ Bloom (Bloom’s Taxonomy) - นักเรยี นฝกึ ทำแบบทดสอบโดยใชท้ ักษะกำร คดิ ขน้ั สงู - ค่ำยฝึกทกั ษะกำรคิดข้ันสงู ของนักเรยี นโดย กำรเชญิ วิทยำกรภำยนอกให้ควำมรู้ ๓.ขน้ั สรุปและประเมินผล(C) - สรปุ โครงกำร/กิจกรม และประเมนิ ผลกำร ดำเนินงำน ๔.ขัน้ ปรบั ปรุงผลการดาเนินงาน (A) -ประชมุ เพื่อปรบั ปรงุ จำกข้อเสนอแนะในกำรจดั โครงกำร/กจิ กรรมในครั้งต่อไป และนำผลกำร ดำเนนิ งำนพฒั นำนักเรียนให้เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ ต่อไป ๖. ระยะเวลา ตลอดปกี ำรศึกษำ ......... ๗. งบประมาณรายจา่ ย จำนวน ๒๒๒,๐๐๐ บำท ๘. หน่วยงาน / ผทู้ ่ีเกีย่ วขอ้ ง - นักเรียนระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษำทกุ คน 128 คู่มอื การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา

- พร-ะอพำรจะำอรำยจ์/ำครรยู /์ ครู - ผบู้ -รหิผู้บำรรหิ ำร - คณ-ะคกณรระมกกรำรรมบกรำิหรบำรโหิ รำงรเรโยีรงนเรียน - วทิ -ยำวกทิ รยภำำกยรนภอำยกนอก - ตวั แ- ทตนัวแผทู้ปนกผคปู้รอกงครชอุมงชนชุมชน ๙. ส๙ถ.านสทถาด่ี นาทเนีด่ นิ ากเนารินการ - ห้อ-งปหร้อะงชปุมรโะรชงมุเรโยีรงนเรียน - หอ้-งเหรอ้ียงนเรยี น - หอ้ -งปหรอ้ ะงชปุมรภะชำยมุ นภอำยกนโรองกเรโียรงนเรยี น ๑๐.๑ก๐า.รปกราะรเปมรนิ ะผเมลินโคผรลงโกคารรงการ ตวั ชตว้ี ดัวชคี้วดัามคสวาเมรสจ็ าเร็จ วิธกี าวรธิ ปกี ราะรเปมรนิ ะเมิน เคร่ือเงคมรือ่ งมือ ๑. รอ้๑ย. ลระอ้ ย๘ล๐ะ ข๘อ๐งนขักอเงรนียักนเระียดนับระชด้นั ับมชัธยัน้ มศัธยึกมษศำึกษำ- วิเค-รวำิเะคหร์นำะักหเรน์ ยี กั นเรำียยนบรุคำยคบลุคคล- แบ-บแวบิเคบรวำเิะคหรน์ำะักหเร์นียักนเรยี น มีผลสมมัผี ฤลทสมัธท์ิฤทำงธกิ์ทำำรงทกดำสรทอบดสคอุณบภคำุณพภกำรพศกึกำษรศำึกษำ -วเิ คร-วำิเะคหรห์ำะลหกั ห์สตูลรกั สูตร รำยบรุคำยคบลคุ คล ระดบัระชดำตับิชดำ้ำตนิ พดำ้รนะพทุระธพศำุทสธนศำส(Bน-ำN(EBT-N) สETูงข) ึ้นสูงข้นึ -ออก-แอบอกบแกบำรบจกัดำกรำจรดั กำร -แบบ-แวบิเคบรวำเิะคหรห์ำะลหัก์หสูตลรกั สูตร ร้อยลระอ้ ย๕ละ ๕ เรียนเรู้ียนรู้ -แผน-แกผำรนจกัดำกรำจรัดเกรยีำรนเรู้ียนรู้ -ทดส-ทอบดสแอบบแคบู่ขบนคำนู่ขนำน -ทดส-ทอบดสตอำมบรตำำยมตรวัำชย้ีวตัดวั ช้ีวดั -แบบ-แทบดบสทอบดสแอบบแคบ่ขู บนคำนขู่ นำน -แบบ-แทบดบสทอบดสตอำมบรตำำยมตรวัำชยว้ีตดั ัวช้ีวัด ๒. ร้อ๒ย. ลระอ้ ย๘ล๐ะ ข๘อ๐งนขักอเงรนียักนเระยี ดนับระชด้ันบัมชัธย้ันมศธั ึยกมษศำึกษำ- วเิ ค-รวำิเะคหร์นำะกั หเร์นียกั นเรำยี ยนบรุคำยคบลุคคล- แบ-บแวบิเคบรวำิเะคหรน์ำะกั หเรน์ ียกั นเรียน มผี ลสมัมีผฤลทสัมธิท์ฤทำงธกิท์ ำำรงเกรียำรนเรดยี ้ำนนพด้ำรนะพทุระธพศำุทสธนศำสนำ -ทดส-ทอบดสตอำมบรตำำยมตรัวำชยวี้ตดั ัวชว้ี ัด รำยบรุคำยคบลคุ คล สงู ข้ึนสทูงขุก้นึรำทยกุ สรำรยะสวำชิ รำะวิชำ -ประ-เปมรนิ ะพเมฤินตพกิ รฤรตมกิ กรำรรมกำร -แบบ-แทบดบสทอบดสตอำมบรตำำยมตรวัำชย้ีวตดั ัวชว้ี ดั เรยี นเรู้ียนรู้ -แบบ-แปบรบะเปมรินะพเมฤนิ ตพิกรฤรตมิกกรำรรมกำร -บนั ท-บกึ ันกทำรึกเกขำ้ รตเิวขข้ำอตงวิ ของ เรยี นเรู้ียนรู้ นักเรนยี ักนเรยี น -แบบ-แบบันบทบกึ นักทำรึกตกิวำขรอตงวิ นขักอเงรนียกั นเรยี น -ประ-เปมรนิ ะคเมวำนิ มคพวำงึ พมพอใงึ จพอใจ -แบบ-แปบรบะเปมรนิ ะคเมวำนิ มคพวึงำพมพอใึงจพอใจ ๓ รอ้ ๓ยลระอ้ ย๙ล๕ะ ข๙อ๕งนขกัอเงรนยี ักนเระยี ดนบัระชดัน้ ับมชัธยัน้ มศธั ยึกมษศำึกษำ - วเิ ค-รวำเิะคหรน์ำะกั หเร์นยี ักนเรียน - แบ-บแวบิเคบรวำิเะคหร์นำะักหเรน์ ยี กั นเรียน เขำ้ รเ่วขมำ้ กริจ่วกมรกรจิ มกแรลระมไแดล้ระับไกดำ้รรบั พกัฒำรนพำฒั นทำกั ษทะกั ษะ รำยบรุคำยคบลคุ คล รำยบรุคำยคบลุคคล ควำมคสวำมำสรำถมดำ้ำรนถกดำ้ รนคกดิ ำขรั้คนิดสขูงข้ันอสงงู นขักอเงรนียักนเใรหีย้นให้ -ทดส-ทอบดสทอักบษทะักษำระคกดิ ำรคิด -แบบ-แทบดบสทอบดสทอักบษทะักษำระคกิดำรคดิ สูงขนึ้ สูงข้ึน -ประ-เปมรนิ ะคเมวำนิ มคพวำงึ พมพอใึงจพอใจ -แบบ-แปบรบะเปมรินะคเมวำินมคพวึงำพมพอใึงจพอใจ ๑๑.๑ผ๑ล.ทผคี่ ลาทดวคี่ า่ จดะวไา่ ดจร้ ะบั ได้รบั ๑. ผ๑ู้เร.ียผน้เู มรยีคนวำมมคี รวู้แำลมะรทู้แลักะษทะกัตษำมะมตำตมรมฐำำตนรหฐลำนกั หสูตลรกั โสรตู งรเรโยีรงนเพรียรนะปพรยิะตัปิธรรยิ รัตมิธรแรผมนแกผสนำมกัญสำศมกึ ัญษศำึกษำ ๒. ผ๒ู้เร.ียผนเู้ มรยีผนลสมัมผี ฤลทสัมธิ์กฤำทรธทิก์ ดำสรทอบดสทอำบงกทำำรงศกึกำษรศำรึกะษดำบัระชดำตับิชดำ้ำตนิ พด้ำรนะพุทระธพศำทุ สธนศำสหนรำอื หBร-อืNEBT-NET สงู ข้นึ สงู ข้นึ ๓. ผ๓เู้ ร.ยี ผนเู้ มรยีผนลสมัมผี ฤลทสัมธท์ิฤทำงธกิท์ ำำรงเกรำียรนเทรยีกุ นกทลุ่มกสกำลรุม่ ะสวำิชรำะพวรชิ ะำพุทระธพศุทำสธนศำสสนูงำขนึ้ สงู ขน้ึ คมู่ อื การประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา โรงเรยี นพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศกึ ษา 129

ผเู้ สนอโครงกำร (....................................................) หวั หนำ้ กลุม่ บรหิ ำรงำน................... / คร.ู ......................... ผู้เหน็ ชอบโครงกำร (.............................................) รองผู้อำนวยกำรกล่มุ ................................ ผู้อนุมตั ิโครงกำร (……………………………………….) ผ้อู ำนวยโรงเรียน........................................................ 130 คมู่ อื การประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษา โรงเรยี นพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา

ภาคผนวก ง ตัวอยา่ ง เคร่อื งมอื ประเมนิ ผลการดาเนินโครงการ กจิ กรรม กำรประเมินผลกำรดำเนินโ ครงกำร กิจกรรม ต้องสร้ำงเคร่ืองมือให้สอดคล้องกับ เป้ำหมำยและตัวช้ีวัดควำมสำเร็จของโครงกำร กิจกรรม เพ่ือให้สอดคล้องตำมวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้จำกตัวอย่ำง โครงกำรยกระดับผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน สำมำรถสร้ำงเคร่ืองมือประเมินผลกำรดำเนินโครงกำร กิจกรรม ตำมเปำ้ หมำยและตวั ชวี้ ัดควำมสำเรจ็ ได้ดงั น้ี ตัวชีว้ ดั ความสาเร็จท่ี ๑ ร้อยละ ๘๐ ของนักเรยี นระดบั ชั้นมัธยมศึกษำ มีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรทดสอบคุณภำพ กำรศึกษำ ระดับชำติ ด้ำนพระพทุ ธศำสนำ (B-NET) สงู ข้นึ รอ้ ยละ ๕ เครอ่ื งมือฉบับที่ ๑ แบบวเิ ครำะหผ์ เู้ รยี นเป็นรำยบุคคล กำรแบง่ กลุ่มผเู้ รยี นตำมระดับผลสมั ฤทธ์ติ ำม รำยกลุม่ สำระกำรเรียนรู้ การวเิ คราะหผ์ เู้ รยี นรายบุคคล กำรวเิ ครำะหผ์ ูเ้ รยี นเพ่อื ศกึ ษำผู้เรียนเป็นรำยบุคคล มีควำมสำคัญและจำเป็น เพื่อนำข้อมูล ไป ช่วยเหลือ แก้ไข ส่งเสริม และสนับสนุนให้ผู้เรียนมีกำรพัฒนำได้อย่ำงเหมำะสม เต็มศักยภำพ ของแต่ละบุคคล และมีควำมสุขในกำรเรียน ชว่ ยใหค้ รผู สู้ อนนำข้อมลู มำใชใ้ นกำรวำงแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ท้ำทำยควำมสำมำรถ ของผู้เรียน ออกแบบกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ตอบสนองควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคลและพัฒนำกำรทำงสมองเพ่ือนำ ผเู้ รยี นไปสู่เปำ้ หมำย ผสู้ อนได้รับมอบหมำยใหส้ อน รำยวิชำ.................................................................................... ชั้นมัธยมศึกษำปีที่................. ผู้สอนจึงได้ดำเนินกำรวิเครำะห์ผู้เรียนที่รับผิดชอบ เพื่อให้ทรำบข้อมูลพ้ืนฐำนของ ผู้เรียน เพือ่ นำไปวำงแผนในกำรจัดกจิ กรรมเพือ่ พฒั นำผู้เรยี น และจัดกระบวนกำรเรียนรู้ไดอ้ ยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ กำรวิเครำะห์ผู้เรียนรำยบุคคล ช้ันมัธยมศึกษำปีที่..................ห้อง................ ในภำคเรียนท่ี................ปี กำรศึกษำ..................ได้วิเครำะห์ข้อมูลนักเรียนทั้งหมด..................รูป โดยวิเครำะห์ตำมประเด็นกำรวิเครำะห์ ผเู้ รยี นรำยบุคคล ซง่ึ แบ่ง ๓ ตอน ดงั นี้ ตอนท่ี ๑ ด้ำนผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรยี น ตอนท่ี ๒ ดำ้ นควำมสนใจและควำมสำมำรถพเิ ศษ ตอนที่ ๓ ด้ำนควำมพรอ้ มของผเู้ รียน ได้แบ่งกำรนำเสนอ ดังนี้ ตอนที่ ๑ ขอ้ มลู ดำ้ นผลสมั ฤทธท์ิ ำงกำรเรียน ผลกำรเรยี นรำยวิชำ ............................................................ภำค เรยี นท่.ี ................ปกี ำรศกึ ษำ................. จำนวนนกั เรยี นทั้งหมด..................รูป ระดบั ผลกำรเรยี น ตำ่ กวำ่ ๑.๐๐ ๑.๐๐ – ๑.๕๐ ๒.๐๐ – ๒.๕๐ ๓.๐๐ – ๔.๐๐ ชน้ั /หอ้ ง จำนวน จำนวน จำนวน จำนวน (รปู ) รอ้ ยละ (รูป) รอ้ ยละ (รปู ) รอ้ ยละ (รปู ) ร้อยละ รวม คูม่ ือการประกันคณุ ภาพภายในสถานศึกษา โรงเรยี นพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา 131

การจาแนกผเู้ รยี นตามกลุ่ม ๑. กลมุ่ เกง่ หมำยถงึ นกั เรยี นท่ีมีผลกำรเรยี นในระดับมำกกว่ำ ๓.๐๐ มีควำมรูพ้ นื้ ฐำนพร้อมในกำร พัฒนำกำรเรียนรำยวิชำนี้อย่ำงเตม็ ควำมสำมำรถมจี ำนวน...............รูป คิดเปน็ รอ้ ยละ................. แนวทำงกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน สำหรบั นกั เรียนกลุ่มเกง่ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................... ๒. กล่มุ พอใช้ หมำยถงึ นักเรยี นท่มี ีผลกำรเรียนในระดับ ๒.๐๐ – ๓.๐๐ มีควำมรูพ้ นื้ ฐำนในระดบั หน่ึง พรอ้ มในกำรพฒั นำในกำรเรียนรำยวิชำนี้ มีจำนวน...................รปู คิดเป็นร้อยละ.................. แนวทำงกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นกำรสอน สำหรบั นกั เรียนกลมุ่ พอใช้ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................... ................ ................................................................................................................... ..................................................... ๓. กลุ่มเนน้ กำรพัฒนำ หมำยถึง นกั เรียนท่มี ีผลกำรเรียนในระดับตำ่ กว่ำ ๒.๐๐ มคี วำมรู้พ้นื ฐำนไม่ถึง เกณฑ์ที่กำหนด ต้องเน้นพฒั นำในกำรเรยี นรำยวิชำน้ี มีจำนวน..............รปู คดิ เป็นรอ้ ยละ................ แนวทำงกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนกำรสอน สำหรับนกั เรียนกลุ่มเนน้ กำรพฒั นำ ............................................................................................................................. ............................................... ........................................................................................................................................ ............................................ .................................................................................................................................................................................... ตอนท่ี ๒ ข้อมูลด้ำนควำมสนใจและควำมสำมำรถพิเศษ จำนวนนกั เรียน ทง้ั หมด.................รูป จานวนนกั เรยี น ข้อมูล รายการ (รูป) รอ้ ยละ ๑. วิชำท่ีชอบทส่ี ดุ ๒. ควำมสำมำรถพเิ ศษ ๒.๑ ดำ้ นกีฬำ ๓. อำชพี ทีใ่ ฝฝ่ ัน ๒.๒ ด้ำนดนตรี ๔. กำรศกึ ษำ ๒.๓ ด้ำนศิลปะ ๒.๔ ดำ้ นคอมพิวเตอร์ ๒.๕ อืน่ ๆ ๓.๑ รบั รำชกำร ๓.๒ พนกั งำนบริษทั ๓.๓ อำชีพอิสระ ๓.๔ อน่ื ๆ ๔.๑ ศกึ ษำต่อ ๔.๒ ประกอบอำชพี /ไม่ศึกษำตอ่ 132 คู่มือการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรียนพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา

จำกตำรำง พบวำ่ ๑. วิชำทชี่ อบท่สี ุด อนั ดบั ที่ ๑ .........................ร้อยละ............อนั ดบั ท่ี ๒.........................ร้อยละ.............. อนั ดบั ท่ี ๓..........................ร้อยละ............อนั ดับท่ี ๔..........................ร้อยละ............ อันดบั ท่ี ๕..........................ร้อยละ............ ๒. ควำมสำมำรถพิเศษ อนั ดบั ที่ ๑ .........................ร้อยละ...........อันดบั ท่ี ๒......................รอ้ ยละ............ อนั ดบั ที่ ๓..........................ร้อยละ............อนั ดับที่ ๔..........................รอ้ ยละ............ อันดบั ที่ ๕..........................ร้อยละ............ ๓. อำชีพที่ใฝ่ฝนั อนั ดบั ท่ี ๑ ..........................รอ้ ยละ............อนั ดบั ท่ี ๒.........................รอ้ ยละ.............. อันดบั ท่ี ๓..........................รอ้ ยละ............อันดับที่ ๔..........................ร้อยละ............ อันดบั ท่ี ๕..........................รอ้ ยละ............ ๔. กำรศกึ ษำ อนั ดบั ที่ ๑ ..........................รอ้ ยละ............อนั ดบั ท่ี ๒.........................รอ้ ยละ.............. ผลการวเิ คราะห์ผเู้ รยี นแยกเปน็ รายบุคคล ชัน้ ........./........... จำนวนผ้เู รียน ...................รูป ตอนท่ี๓ เลขท่ี ด้ำนท่ี ๑ ด้ำนที่ ๒ ด้ำนที่ ๓ ด้ำนท่ี ๔ ด้ำนที่ ๕ ๑.๑ ๑.๒ ๑.๓ ๒.๑ ๒.๒ ๒.๓ ๓.๑ ๓.๒ ๓.๓ ๓.๔ ๔.๑ ๔.๒ ๔.๓ ๕.๑ ๕.๒ ๕.๓ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ คมู่ อื การประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามญั ศึกษา 133

ตตออนนทที่่ี ค๑๒ด๓๑๓๑๑๑๒๓คค๒๒๒๒ค๑ด๓๓๓้ำ้ำวววว))))))))))))))))นนำำำำคกคคกคคคคคกคคคคกดดมมมมคคำำำำววววววววววววพพพพ้ำำ้ววรรรรำำำำำำำำำำำำนนำำแคคแรรรรมมมมมมมมมมมมมม้ออ้ออ้้สสววสรมสคสสสคมรสคครรมมมมบบู้พูพ้ดดำนนำำำิดิดีเเีววคคูู้้หหมมมมดดดดงงคคนื้ื้นรรใใำำรรววออตตจจำำำำ้้้้ำำำำิเเิุมุมำำฐฐมมรรำำออรรรรนนนนผผุุยยออำำมมแแ่ิ่ิมมพพถถถถกกลลสสพพนนกกำำลลสสสสใใใใรรตตรรำำฤฤนนนนะะรรำำ้้ออมมรริปปิตต้ำำ้มมสสกกกกววณณมมญญััิกิกงงมมำำำำำำเเิิ สสคครรขขรรรรรร์์ำำญญรรรรถถเอเอรรธธออรรรรำำมมำำแแใิิใำ่ำ่ งงยยีีคคนนะะนนลลผผนน์์หหกกะะูเู้เ้รรำำ์ผผ์ปปรรูู้้รรเเูู้้ยียีรรรรเเะะรรนนีียยสสยยีี นนนนบบจจกกำำำำนนรรววณณนน์์ นนกัักเเรรยียี นนรรททปปูู ง้ั้งั ดดหหีมีมมมำำรรกกดดลล้ออ้ ..ะะ....ยย............ผผ....รรลล..รรกกูปูปููปปำำรรววดดผผเิเิ คคีีรรลลลลรร้ออ้กกำำะะะะำำยยหหรรววผผ์์ เิเิเูเู้้ คครรรรยยีีรรปปููนนปปำำะะำำ((นนจจหหกกำำ์ขข์ นนรรลล้้ลลออววำำอ้อ้ มมนนงงะะยยลููลรรปปููผผ))เูู้้เรรรรีียยปปูปปูนนรรับับปปดดรรัังงุุงงรรนนแแลล้อ้อกก้ีี้ ะะไไ้้ยยขข ลลำำททดด่ีี่ บัับ ๑๑ ๒๒ ๓๓ ๔๔ คค๑๓๔๔๓๑วว))))))ำำคคคสคสมมขุุขววววพพำำำำภภรรมมมมำำอ้อ้มรรมพพมมับับงุุ่่งรรมมดดผผำ่่ำำ้ำ้ั่น่ันดิดิงงนนกกชชำำรรออออยยำ่ำ่ บบดดงงสสททกกมมำำนนบบยยูรรู แแขขณณลลยย์์ะะนันั จจหหตติิ นนใใจจั่นั่นเเพพยีียรร ๓๓๒๒)))) คคกกววำำำำรรมมเเสสจจมมรรบบิญิญูรูรเเณณตต์ท์ทิบบิ ำำโโงงตตดดตตำ้ำ้ ำำนนมมสสววุขุขยยััภภำำพพจจิติต ๕๕ คคววำำมมพพรรอ้อ้ มมททำำงงสสงัังคคมม ๑๑)) กกำำรรปปรรับับตตัวัวเเขข้ำำ้ กกับับผผูอู้้อ่ืนื่น ๒๒)) กกำำรรเเสสียียสสลละะ ไไมมเ่่เหห็นน็ แแกกตต่่ ัวัว ๓๓)) มมีรรี ะะเเบบียียบบววนิินัยัย เเคคำำรรพพกกตตกิกิ ำำ จจำำกกตต๒๒11ำำ....รรำำคคดด๑๑๑๑๑๑๒๒๒๒๒๒งง้ำำ้วว............๑๑๒๒๓๓๑๑๒๒๓๓นนำำพพมมคคคคคคคคบบพพคคคคคคววววววววววำำรรววววววำำำำำำำ่่ำมม้้ออำำำำำำมมมมมมมมมมมมรรมมคคมมสสูคคู้้รสรสสสดดำำดิดิเเีี ูู้พ้พววำำนนหห้ำ้ำมมรรำำมมนนน้ืน้ืใใตตำำเเิิ มมจจรรำำสสฐฐรรผผุุ สสแแรริิม่ม่ ถถำำตตลลถถำำลลสสนนใใปิปิ มมใในนะะรรนนััญญสสำำำ้ำ้สสกกสสกก่ว่วรรงงญญมมำำวว่่นนสสถถำำรรำำนนำำรรแแรรใใเเธธรรหหออรรใใลลิใใิ หหยีียคค่ำ่ำนนญญะะนนญญนน์์กกปปออ่่ รรสสำำอ่อ่รรยยูู้้รรสส่วว่ะะยยสสใูู่่ใเเนนนนสสว่่ว่ใใูู่่ว่วรรนนนนบบใใรรีียยนนหหรระะใในนกกใใหหะะญญดดหหำำดดญญบับัรรญญอ่่อสสบบััณณ..อ่อ่ยย่่ออวว่่......ยยูใใู่่..์์นน..ยย....นน..รูู่ร่..ใใู่ใใู่....รร..ะะหหนน......ะะ....ดดรรญญ......ดด..บับัะะ....่ออ่....บัับดด............ยย......บบัั..........ูใ่ใู่................นน......................รร....................ะะ....................ดด..............................ัับบ..............................................................................................................................................................................คคคคคคคคดิิดดดิิคคดิดิคคิิดดเเเเดิิดเเดดิิปปปปปปเเเเปปเเน็็นปป็น็น็็นนปป็นน็ รรรรน็็นรร็นน็ รร้ออ้อ้อ้้ออ้รรรร้ออ้ ยยยยยยอ้อ้อ้อ้ ยยลลลลลลยยยยลละะะะะะลลลละะ......ะะ..ะะ........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 134 คู่มอื การประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา

๓. ๓ค.วำคมวพำรม้อพมรด้อำ้ มนดพำ้ ฤนตพิกฤรตริกมรรม ๓.๑๓ก.๑ำรกแำสรดแงสอดองกออสก่วนสใ่วหนญใอ่หยญูใ่ ่อนยรใู่ะนดรบั ะ.ด...ับ...................................................ค..ดิ...เคปดิ็นเรป้อ็นยรลอ้ ะย..ล..ะ.................... ๓.๒๓ก.๒ำรกคำวรบคควมุ บอคำมุ รอมำณร์มณส่ว์ นสใ่วหนญใ่อหยญู่ใ่อนยรใู่ะนดรับะ.ด...บั ..........................................ค..ิด...เคปดิ็นเรปอ้ น็ ยรล้อะย..ล..ะ..................... ๓.๓๓ค.๓วำคมวมำุ่งมมมน่ั ่งุ มอั่นดทอนดทขนยันขหยมันน่ั หเมพัน่ ียเรพยี สร่วนสใว่หนญใอ่หยญูใ่ ่อนยรใู่ะนดรบั ะ.ด...บั ..............ค..ิด...เคปิด็นเรป้อน็ ยรล้อะย..ล..ะ.................... ๓.๔๓ค.๔วำคมวรำับมผริดบั ชผอิดบชอสบ่วนสใว่หนญใอ่หยญู่ใ่อนยรใู่ะนดรับะด.ับ.............................................ค..ดิ..เคปดิน็ เรป้อน็ ยรล้อะย..ล..ะ....................... ๔. ๔ค. วำคมวพำรม้อพมรด้อำ้ มนดรำ้ ่ำนงกร่ำงยกแำลยะแจลิตะใจิตใจ ๓.๑๓ส.๑ขุ ภสำขุ พภรำ่ำพงกรำ่ งยกสำมยบสูรมณบ์รู ณส่ว์ นสใว่หนญใ่อหยญใู่ ่อนยร่ใูะนดรบั ะ.ด...บั ...............................ค..ิด...เคปิด็นเรป้อ็นยรลอ้ ะย..ล..ะ......................... ๓.๒๓ก.๒ำรกเจำรญิเจเรติญบิ เโตติบตโำตมตวำยั มวสัยว่ นสใ่วหนญใ่อหยญู่ใ่อนยร่ใูะนดรับะ.ด...ับ................................ค..ิด...เคปดิ็นเรปอ้ น็ ยรลอ้ ะย..ล..ะ......................... ๓.๓๓ค.๓วำคมวสำมมบสูรมณบ์ทรู ณำงท์ดำ้ งนดส้ำุขนภสำุขพภจำติ พจสิตว่ นสใ่วหนญใ่อหยญู่ใอ่นยรู่ใะนดรับะ.ด...ับ.................ค..ดิ...เคปดิน็ เรปอ้ น็ ยรลอ้ ะย..ล..ะ.......................... ๕. ๕ค. วำคมวพำรม้อพมรท้อำมงทสำังงคสมังคม ๓.๑๓ก.๑ำรกปำรรบั ปตรัวบั เขต้ำัวกเขับำ้ ผกู้อับน่ื ผู้อส่นื ว่ นสใว่หนญใ่อหยญู่ใอ่นยรู่ใะนดรับะ.ด...ับ...........................ค..ดิ...เคปิดน็ เรปอ้ ็นยรลอ้ ะย..ล..ะ.............................. ๓.๒๓ก.๒ำรกเสำียรเสสลยี ะสลไะมเ่ หไม็น่เแหกน็ ่ตแัวกต่ สัวว่ นสใ่วหนญใ่อหยญ่ใู อ่นยรใู่ะนดรับะ.ด...บั ......................ค..ิด...เคปดิ็นเรปอ้ น็ ยรลอ้ ะย..ล..ะ.............................. ๓.๓๓ม.๓ีระมเบีระียเบบวยี นิ บยั วินเัยคำรเคพำกรตพิกกำตกิ สำ่วนสใ่วหนญให่อยญู่ใอ่นยรู่ใะนดรบั ะ.ด...ับ...................ค..ิด...เคปิดน็ เรป้อน็ ยรลอ้ ะย..ล..ะ.............................. เครื่อเคงรมื่ออื งฉมบอื ับฉทบ่ีบั ๒ท่ี แ๒บบแทบดบสทอดบสคอูข่ บนคำขู่ นนำดน้ำนดพ้ำรนะพพรทุ ะธพศทุ ำธสศนำำสนปำีกำปรีกศำกึ รษศำกึ ษ๒ำ๕๖๒๕๖ คู่มอื การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา 135

136 คู่มอื การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา

แบบรายงานผลการทดสอบตามตัวช้ีวัด คาชแี้ จง กรอกผลคะแนนการประเมินตามตัวชว้ี ดั ของนักเรียนเปน็ รายบุคคล ที่ ชอื่ -สกลุ ผลการทดสอบตามตัวช้ีวดั สรปุ ผลการประเมิน ตชว.ที่ ตชว.ที่ ตชว.ท่ี ตชว.ท่ี ตชว.ท่ี (ผา่ น/ไมผ่ ่าน) .... .... .... .... .... ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ รวมเฉลีย่ จำกผลกำรทดสอบตำมตวั ชี้วดั ระดับมธั ยมศึกษำตอนตน้ (ม.๓) ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๒ พบวำ่ มนี กั เรยี นชั้น มัธยมศึกษำตอนตน้ (ม.๓) ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๒ นกั เรยี นจำนวน ๑๒๐ รูป มีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรทดสอบตำมตัวชี้วัด ผำ่ นเกณฑต์ ำมท่สี ถำนศึกษำกำหนด จำนวน ๙๘ รปู คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๘๑.๖๖ ซ่งึ บรรลตุ ำมเป้ำหมำยและตัวช้วี ดั ควำมสำเร็จตำมทส่ี ถำนศึกษำกำหนดไว้ เคร่ืองมอื ฉบบั ที่ ๓ แบบรำยงำนผลสมั ฤทธ์ทิ ำงกำรทดสอบคณุ ภำพกำรศกึ ษำ ระดบั ชำติ ด้ำนพระพทุ ธศำสนำ (B-NET) ปกี ำรศึกษำ ๒๕๖๒ คาชแี้ จง : ขอควำมรว่ มมือครปู ระจำชนั้ กรอกผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรทดสอบคุณภำพกำรศึกษำ ระดับชำติ ด้ำนพระพุทธศำสนำ (B-NET) ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๒ รำยงำนผลกำรทดสอบทำงกำรศกึ ษำระดบั ชำติดำ้ นพระพทุ ธศำสนำ (B-Net) ระดับมัธยมศกึ ษำตอนตน้ (ม.๓) ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๒ ที่ ชอ่ื -สกลุ คะแนนเฉล่ยี วิชาพุทธประวตั ิ วชิ าศาสนาปฏบิ ัติ วิชาภาษาบาลี และพระธรรมวินัย ๑ ๒ ๓ รวมเฉล่ยี จำกผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดับชำติด้ำนพระพุทธศำสนำ (B-Net) ระดบั มัธยมศึกษำตอนต้น (ม.๓) ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๒ พบว่ำ มีนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำตอนต้น (ม.๓) ปีกำรศึกษำ ๒๕๖๒ นักเรียน จำนวน ๑๒๐ รูป มีผลสัมฤทธิ์ทำงกำรทดสอบคุณภำพกำรศึกษำ ระดับชำติ ด้ำนพระพุทธศำสนำ (B-NET) สูงขึ้น ร้อยละ ๕ จำนวน ๙๕ รูป คิดเป็นร้อยละ ๗๙.๑๗ ซ่ึงไม่บรรลุตำมเป้ำหมำยและตัวช้ีวัดควำมสำเร็จตำมท่ี สถำนศึกษำกำหนดไว้ ตัวชว้ี ดั ความสาเร็จ รอ้ ยละ ๘๐ ของนักเรียนระดบั ช้ันมธั ยมศึกษำ มีผลสมั ฤทธ์ิทำงกำรเรยี น ดำ้ นพระพทุ ธศำสนำ สงู ขน้ึ ทุกรำยสำระวชิ ำ คู่มือการประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา 137

แบบประเมินความพงึ พอใจของผู้เขา้ รว่ มกิจกรรม (ช่ือโครงกำร/งำน/กจิ กรรม)................................ (สถำนที)่ .............................. (วัน/เดือน/ปี)..................... ตอนท่ี ๑ ข้อมูลทวั่ ไป ๑. เพศ  ชำย  หญิง ๒. อำยุ  ๑๒-๑๕ ปี  ๑๕-๑๘ ปี  มำกกว่ำ ๑๘ ปี ๓. สถำนภำพ  ๑) ผูบ้ รหิ ำรสถำนศึกษำ  ๒) ครู  ๓) นักเรยี น  ๔) คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำ  ๕) ผ้ปู กครอง  ๖) อ่นื ๆ ระบุ ........................ ตอนท่ี ๒ กำรประเมินควำมพึงพอใจของผ้เู ขำ้ รว่ มกิจกรรม กรุณำขดี เครือ่ งหมำย  ลงในช่องที่ทำ่ นเหน็ ว่ำตรงกบั ควำมคดิ เห็นของท่ำนมำกที่สดุ เพียงชอ่ งเดยี ว ที่ ระดับควำมพึงพอใจ ความพงึ พอใจของผ้รู ่วมกิจกรรม มำก มำก ปำน นอ้ ย นอ้ ย ทส่ี ดุ กลำง ท่สี ดุ ๑ กำรจัดกจิ กรรมในคร้ังน้มี ีประโยชน์ตอ่ ทำ่ น ๒ ทำ่ นไดม้ ีส่วนรว่ มในกำรจัดกจิ กรรม ๓ ท่ำนไดร้ บั ควำมรู้/ประโยชนจ์ ำกกำรเขำ้ ร่วมกิจกรรมเพื่อไป ปรบั ใชไ้ ด้ ๔ รูปแบบ/หัวข้อ ในกำรจดั กิจกรรมมคี วำมเหมำะสม ๕ ระยะเวลำในกำรจดั กจิ กรรมมีควำมเหมำะสม ๖ กำรประชำสัมพันธ์กำรจัดกิจกรรม ๗ สถำนทจ่ี ดั กจิ กรรมมีควำมเหมำะสม ๘ เจ้ำหน้ำท่สี ำมำรถใหข้ ้อมูล หรอื ตอบข้อซักถำมได้เป็นอย่ำงดี ๙ เจ้ำหน้ำที่มีควำมสุภำพ เป็นมิตร และเปน็ กันเอง ๑๐ ภำพรวมควำมพึงพอใจในกำรจดั กจิ กรรมคร้ังนี้ ขอ้ คิดเหน็ อืน่ ๆ ........................................................................................................................... ………………….………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..  ขอบคุณท่ใี ห้ควำมรว่ มมือในกำรตอบแบบสอบถำม  138 คมู่ อื การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศกึ ษา

จำกแบบประเมินควำมพึงพอใจของผู้เขำ้ รว่ มกิจกรรม ปกี ำรศึกษำ ๒๕๖๒ พบว่ำ นกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษำ (ม.๑-๖) ปีกำรศกึ ษำ ๒๕๖๒ มจี ำนวนนกั เรียนทั้งหมด ๑๒๐ รูป มผี ลกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจในระดบั มำกท่ีสดุ ร้อยละ ๘๑ รองลงมำ คือ ระดับมำก รอ้ ยละ ๘ ระดบั ปำนกลำง ร้อยละ ๔ ระดับน้อย ร้อยละ ๔ ตำมลำดับ และนอ้ ยทีส่ ดุ คือ ร้อยละ๓ ซง่ึ บรรลุตำมเป้ำหมำยและตวั ช้วี ัดควำมสำเร็จตำมทส่ี ถำนศึกษำกำหนดไว้ ตัวชว้ี ดั ความสาเรจ็ รอ้ ยละ ๙๐ ของนกั เรยี นระดับชั้นมัธยมศึกษำเข้ำร่วมกจิ กรรมและได้รบั กำรพฒั นำ ทกั ษะควำมสำมำรถดำ้ นกำรคิดขัน้ สูงของนักเรยี นให้สงู ข้นึ เคร่อื งมือฉบบั ที่ ๑ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น ดำ้ นที่ ๑ ทกั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ ด้ำนที่ ๒ กำรเรียนรดู้ ้วยตนเองและ ดำ้ นที่ ๓ กำรคดิ เชงิ เหตุผลทำงวิทยำศำสตร์ และคิดรวบยอด คาชี้แจง ๑. ศึกษำพฤติกรรมของนักเรียนตำมรำยกำรประเมนิ และเกณฑก์ ำรประเมินที่ระบุไว้ ดงั น้ี ท่ี รายการประเมนิ เกณฑ์การประเมิน ๑ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แบง่ เปน็ ๓ ระดับ ดังนี้ ๑.๑ การสังเกต -ระดับคุณภำพ ๓ หมำยถึง ปฏิบัติได้ -ระดบั คุณภำพ ๒ หมำยถงึ ปฏิบตั ไิ ด้ - บอกส่ิงที่พบเห็นได้ตรงกับควำมเปน็ จริง บำงคร้ัง ๑.๒ การพยากรณ์ -ระดบั คุณภำพ ๑ หมำยถึง ควรเสริม - กำรทำนำยหรอื คำดคะเนสิง่ ท่จี ะเกิดขน้ึ จำกกำรทดลอง ๑.๓ การทดลอง - ดำเนินกำรทดลองตำมขนั้ ตอนทคี่ รแู นะนำ ๑.๔ การลงความเหน็ จากข้อมูล - บอกผลทเี่ กดิ จำกกำรสังเกตและทดลองได้ ๒. การเรียนรู้ด้วยตนเอง - บอกวธิ กี ำรและขน้ั ตอนกำรทดลองได้ ๓. การคิดคิดเชงิ เหตผุ ลทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละคดิ รวบยอด ๓.๑ เปรยี บเทยี บขอ้ มลู จำกกำรสงั เกตได้อยำ่ งมีเหตผุ ล ๓.๒ บอกผลกำรทดลองของตนเองได้ คมู่ ือการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา 139

๒. โปรดขดี √ ลงในตำรำงตำมระดับคุณภำพกำรประเมินที่นกั เรียนปฏิบัติได้ตำมควำมเปน็ จรงิ ๓. ๑. ๒. กำรคิดเชงิ เหตผุ ลทำ ทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์และคิดรวบยอด ๑.๑ ๑.๒ ๑.๓ ๑.๔ กำรเรยี นรู้ ๓.๑ ๓.๒ กำรสังเกต กำร กำร กำรลง ดว้ ยตนเอง เปรียบเทยี บอกผล ลำดบั ชื่อ – สกุล พยำกรณ์ ทดลอง ควำมเห็น บขอ้ มลู จำก จำกข้อมูล กำรสังเกต กำรทดลอง ของตนเอง ๓ ๒ ๑๓๒๑ ๓๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๑ พระภกิ ษุ ๒ สำมเณร ๓ สำมเณร ๔ สำมเณร ฯลฯ ฯลฯ ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เติม .................................................................... ............................................................................................ .............. ............................................................................................................................. ................................................. ผลการประเมินความสาเรจ็ ตามเป้าหมายและตัวชว้ี ดั ความสาเร็จ ตำรำงท่ี ๑ แสดงคำ่ ร้อยละของจำนวนนักเรยี นทเ่ี ข้ำรว่ มกิจกรรม ช้ัน จำนวนเดก็ ท้งั หมด จำนวนเด็กที่เขำ้ รว่ มกิจกรรม คิดเป็น หมำยเหตุ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๑ ๒๕ ๒๕ รอ้ ยละ มธั ยมศึกษำปีท่ี ๒ ๒๕ ๒๔ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๓ ๒๐ ๑๘ ๙๖.๖๖ เดก็ ๒ รปู เข้ำร่วม มธั ยมศกึ ษำปีที่ ๔ ๑๕ ๑๕ กิจกรรมเพียงบำง มธั ยมศกึ ษำปที ่ี ๕ ๒๐ ๑๙ กิจกรรมและอกี มธั ยมศึกษำปที ี่ ๖ ๑๕ ๑๕ ๒ รูป ลำปว่ ย ๑๒๐ ๑๑๖ รวม จำกตำรำง พบว่ำ มีนักเรยี นช้ันมธั ยมศึกษำปีที่ ๑-๖ จำนวนทั้งหมด ๑๒๐ รูป ได้เขำ้ ร่วมกิจกรรม จำนวน ๑๑๖ คิดเปน็ ร้อยละ ๙๖.๖๖ ซง่ึ บรรลุตำมเป้ำหมำยและตัวช้วี ดั ควำมสำเร็จตำมทส่ี ถำนศึกษำกำหนดไว้ 140 คมู่ ือการประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปริยัตธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา

ตาตราตงราทารง่ี า๒ทงี่ท๒แ่ี ๒สแดสงแดคสงา่ดครง้อ่าครยา่ ้อลรยะ้อลขยะอลขงะอจขงาอจนงาวจนนาวนนวักนเรักนยี เกัรนเยี ทรนียเ่ ขทน้าีเ่ทขรเ่ีว้าขรม้า่วกรมิจว่ กมกิจรกกริจมรกรรแมรลมแะลมแะีทลมะักีทมษกัีทะษักะษรกะรบกะวรบนะวบกนวากรนทากราทงรวาททิงาวยงทิ าวยศทิ ายศสาาตศสราต์สเรกต์ ิดรเก์ เดิ กิด กากรเากรรายี เรนเยี รนู้ดียร้วนู้ดยรว้ตดู้ ยน้วตยเอนตงเนอสเงอางสมาสมราถามรคาถดิรคถวดิเคควดิ ริเวคาิเะรคาหระแ์าหะลแ์หะลก์แะาลกระคากริดาคเรชดิ คิงเิดชเหเิงชตเงิหุผเตหลผุ ตทลุผาทงลวาทิทงาวยงทิ าวยศิทายศสาาตศสราตแ์สรลตแ์ ะรลคแ์ ะิดลคระิดวครบิดวยรบอวยบดอยไดอ้เไดหดไ้เมดหา้เมหะาสมะมาสะมสม วิธีควิดิธีควิดธคี ิด (100(*130()01+*0(310)6*+*3(2)1+)6+(*1(206)*+12(0)+)*/(1300=*)1/1300=)/.1361=601.1606.66 110.16160*1.16060.*6/16101*061/=01091/561.=149605=.9450.40 จานจวาจนาวนนวน ผลผกลาผรกลปากราปะรเรปมะินรเมะเินมิน เด็กเดทเ็ก่ีเดขทก็้าี่เทขี่เา้ ขา้ ค่ าคเ่ ฉาคเ่ลาฉี่ ยเลฉี่ ยลี่ ย ที่ ท่ี ท่ี รายรการยาารกยปากราปะรเรมปะนิรเมะเินมนิ ร่วมร่วรมว่ ม ๓ ๓ ๓ ๒ ๒ ๒ ๑ ๑ ๑รอ้ ยร้อลรยะ้อลยะละ ๑ ๑ ๑ ทักทษักะทษกักระษะกะบรกะวรบนะวกบนาวรกนทากราาทงรวาททิงาวยงทิาวศยทิ ายสศาตาศสรา์ตสรต์ ร์ กิจกจิรกรกิจมรกรรมรม ๑.๑๑.๑.๑การกสากังราเสกรงั สตเกังเตกต ๙๒๙.๔๒๙๖.๒๔.๖๔๖ - บ-อบก-อสบก่งิ อทสกพ่ีิงสทบ่ิงพ่ี เทหบพ่ี น็ เบหไดเน็ หต้ ไน็ ดรไงต้ ดกรต้บังรกคงับวกาคบั มวคเาปวมาน็ เมปจเน็รปงิจน็ รจงิ รงิ ๑๑๑๖๑๖๑๖๑๐๑๐๐๑๐๐๐๑๖๑๖๑๖ - - - ๙๕๙.๔๕๙๐.๕๔.๐๔๐ ๑.๒๑.๑๒.๒การกพากรยาพารกยพรายณการ์กณรณ์ ์ ๑๑๑๖๑๖๑๖ ๙๘๙๘๙๘ ๑๘๑๘๑๘ - - - ๙๔๙.๘๔๙๒.๔๘.๒๘๒ - ก-ารก-ทากราาทนราทยนาหานยราหอื ยครหอืารดคอื คาคดะาคเดนะคสเะน่งิ ทเสน่ีจิงสทะ่งิ เจี่ ทกะ่จีดิ เกะขเิดึ้นกขจดิ ้ึนาขกจึน้ กาจกาารกกทากรดาทลรดอทลงดอลงอง ๑๑๑๖๑๖๑๖ ๙๕๙๕๙๕ ๑๑๑๑๑๑๑๐๑๐๑๐๙๑๙.๑๑๙๐.๑.๐๑๐ ๑๑๑๖๑๖๑๖ ๙๔๙๔๙๔ ๑๐๑๐๑๐ ๖ ๖ ๖ ๘๘๘.๕๘๘๑.๘๕.๑๕๑ ๑.๓๑.๑๓.๓ การกทากรดาทลรดอทลงดอลงอง - ด-าเด-นาดินเนากเินานรกนิ ทากรดาทลรดอทลงดตอลางอมตงขาตมน้ั าขตมัน้อขตนั้นอทตน่คีอทรนูแ่คี ทนรี่คูแะรนูแะานนะานา ๑.๔๑.๑๔.๔การกลากงราคลรวงลคางมวคาเวหมาน็ เมหจเ็นาหกจ็นขาจก้อาขมกอ้ลูขม้อลู มูล - บ-อบก-อผบกลอผทกล่เี ผกทลดิ เ่ี ทกจเี่ดิากกจดิ กาจกาารกกสากงัราเสกรังตสเกแงั เตลกแะตทลแะดลทละดอทลงดไอลดงอ้ ไดงไ้ ด้ ๒ ๒ ๒ การกเารกรยี าเนรยีเรรนดู้ ยี ้วรน้ดูยร้วตดู้ ยนว้ ตเยอนตงเนอเงอง ๙๐๙.๘๐๙๑.๐๘.๑๘๑ - บ-อบก-อวบิธกอกีวกาธิ วรีกธิแากีลราแะรขลแ้นัะลขตะัน้อขตน้นั อกตนาอรกนทากรดาทลรดอทลงดไอดลงอ้ ไดงไ้ ด้ ๑๑๑๖๑๖๑๖ ๙๓๙๓๙๓ ๑๔๑๔๑๔ ๙ ๙ ๙ ๙๐๙.๘๐๙๑.๐๘.๑๘๑ ๓ ๓ ๓ การกคากิดราคริดคคเิดชดิ คิงเดิเชหเิงชตเหิงุผเตลหุผทตลาุผทงลวาททิงาวยงทิาวศยิทายสศาตาศสราแ์ตสลรต์แะรคลแ์ ดิะลคระวดิ คบรดิ วยรบอวยดบอยดอด ๘๔๘.๘๔๘๐.๔๘.๐๘๐ ๓.๑๓.๓๑.๑เปรเปียเบรปียเรทบียยี เบทบเยีขทบ้อียขมบอ้ลู ขมจอ้ ลูามกจลู กาจกาารกกสากังราเสกรงั ตสเกไงั ดเตก้อไตดยไอ้า่ ดงยอ้ม่ายเีงห่ามงตีเมหุผีเตลหุผตลผุ ล ๑๑๑๖๑๖๑๖ ๘๒๘๒๘๒ ๑๖๑๖๑๖๑๘๑๘๑๘๘๒๘.๑๒๘๙.๒๑.๙๑๙ ๓.๒๓.๓๒.๒บอบกอผบกลอผกกลาผรกลทากรดาทลรดอทลงดขอลองอขงงตอขนงอตเงอนตงเไนอดเงอ้ ไดงไ้ ด้ ๑๑๑๖๑๖๑๖ ๘๐๘๐๘๐ ๒๒๒๒๒๒๑๔๑๔๑๔๘๗๘.๔๗๘๒.๗๔.๒๔๒ รวมรเวฉรมวลเมฉยี่ เลฉีย่ ล่ีย - - - - - - - - - - - - ๘๙๘.๓๙๘๖.๙๓.๖๓๖ จาจกาตจกาตรกาตงราารงพางบพวบพ่าวบนา่ วกั า่นเรกันยี เกัรนเยี มรนยีทมนักีทมษักทีะษักะษรกะรบกะวรบนะวบกนวากรนทากราทงรวาทิทงาวยงิทวายศิทายศสาาตศสราต์สเรตก์ ริดเก์กเิดกากริดเากรราียเรนเียรนีู้ดยร้นวู้ดยร้วตูดยน้วตยเอนตงเนอสเงอางสมาสมราถามราถรถ คดิ คเชดิ คงิเิดชเหเิงชตเงิหผุ เตหลุผตทลผุาทงลวาทิทงาวยงิทาวยศิทายศสาาตศสราต์สแรตล์ รแะ์ ลคแะิดลคระดิวครบดิ วยรบอวยบดอยไดอ้ไดคดไิด้ ดคเ้ปิดค็นเดิปรเ็นป้อรยน็ อ้ ลรยะ้อลย๘ะล๙ะ๘.๓๙๘๖.๙๓.๖๓๖ เม่ือเมพเ่ือมิจพื่อาิจพราณิจราณรเปณา็นเาปรเ็นปารย็นาดรย้าดนย้าดนพ้าบนพวบพ่าวบน่าวัก่านเรักนียเักรนเียรมนียทมนักีทมษักีทะษักดะษ้าดนะ้าดกน้รากนะรบกะวรบนะวบกนวากนราทกราทงรวาทิทงาวยงิทวายิศทายศสาาตศสราต์สครติด์ รคเ์ ปิดค็นเิดปรเ็นป้อร็นย้อลรย้อะลยะละ ๙๒๙.๔๒๙๖.๒๔.โ๖๔ด๖ยโดนโยดักนยเรกันยี เกัรนเียมรนยีทมนกั ทีมษักีทะษกั ะษากระสากรังาสเรกงั สตเังกรเตอ้กรยต้อลรยะอ้ ลย๙ะล๕ะ๙.๔๕๙๐.๕๔.ก๐๔า๐กรพากรยาพารยกพารยกณารก์รณร้อณ์รย้อล์รยะ้อลย๙ะล๔ะ๙.๘๔๙๒.๔๘.ก๒๘า๒กรทากรดาทรลดทอลดงอรล้องอรยง้อลรย้อะลย๙ะล๑ะ๙.๑๑๙๐.๑.ก๐๑า๐กรากราร ลงลคงวลคางมวคาเวหมา็นเมหจเ็นหาจก็นาขจกอ้าขมก้อขูลม้อรูล้อมรยลู อ้ ลรยะ้อลย๘ะล๘ะ๘.๕๘๘๑.๘๕.ด๑๕้า๑ดน้ากดนา้ กรนเากรรายี เรนเียรนู้ดียร้วนดู้ยร้วตดู้ ยน้วตยเอนตงเนอนเงอกั งนเรักนยี เักรนเียบรนยีอบนกอบวกธิอวกี ธิาวีกรธิ แากี รลาแะรลขแะั้นลขะตั้นขอตั้นอตกนอากรนทากรดาทลรดทอลดงอไลดงอ้ไงคดไิด้ ดค้ ิดคิด เป็เนปรเ็นป้อร็นย้อลรย้อะลย๙ะล๐ะ๙.๘๐๙๑.๐๘.๑ด๘้า๑ดน้าดกน้ากนรากรากราคกริดาครเชิดคิงเิดชเเหิงชเติงหุผเตหลุผตทลุผาทลงวาทิงทาวยงิทวายิทศายศสาาตศสราต์สแรตล์ รแะ์ ลแคะลิดคะริดควรบิดวยรบวอยบดอยคดอิดคเปิดค็เนิดปรเ็นป้อร็นย้อลรย้อะลยะ๘ล๔ะ๘.๘๔๘๐.๔๘.๐๘๐โดโยดโยดย นักนเรักนียเักรนเียรเนปียรเนปียเรปบียรเทบียียเบทบเียทขบีย้อขบม้อขูลม้อจูลมาจกูลากจกากรกาสกรังาสเรกังสตเังกไเตดก้อไตดยไ้อด่ายง้อม่ายงีเ่าหมงีตเมหุผีเตหลุผตรลุผ้อลรย้อลรย้อะลย๘ะล๒ะ๘.๑๒๘๙.๒๑.แ๙๑ล๙แะลบแะลอบะกอบผกอลผกลผากรลาทกรดาทรลดทอลดงอขลงอขงอตขงนอตเงอนตงเนอไเดงอ้ไงดไ้ ด้ ร้อรยอ้ ลรยะ้อลย๘ะล๗ะ๘.๔๗๘๒.๗๔.๒๔๒ คูม่ ือการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศึกษา โรงเรยี นพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา 141

แบบประเมนิ กำรเขำ้ รว่ มโครงกำร.................................... วันท่ี ……….. เดือน .......................... พ.ศ.๒๕...... ช่ือ-สกุล ..................................................................................ช้นั ........................ คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้ประเมิน ประเมนิ พฤติกรรมของผ้เู รยี นแต่ละดา้ น โดยทาเครื่องหมาย  ทส่ี อดคล้องกบั พฤตกิ รรมของผู้เรียน คุณลักษณะ/พฤติกรรมบ่งช้ี การมสี ว่ นรว่ มในการ ได้รบั ประสบการณ์ตรงท่ี หลากหลายสามารถนาเป็น ลาดับท่ี ช่ือ-สกุลผู้เรียน ระดับช้นั ทากิจกรรม แนวทางในการดาเนินชีวติ ดชั นชี ว้ี ัด ของโครงการ ร่วมกับผ้อู ืน่ ในสงั คมอยา่ งมี ความสขุ ๔ ๓ ๒๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๑. รอ้ ยละ ๘๐ ของผเู้ รยี นมี สว่ นร่วมในการทากจิ กรรม ๒. ร้อยละ ๘๐ ของผูเ้ รยี น ได้รบั ประสบการณ์ตรงที่ หลากหลายสามารถนาเปน็ แนวทางในการดาเนินชวี ิต ร่วมกับผ้อู ืน่ ในสงั คมอย่างมี ความสุข รวม ระดบั ดีขึ้นไป คดิ เปน็ รอ้ ยละ เฉล่ยี คิดเปน็ ร้อยละ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ๔ หมายถึง ผเู้ รยี นมีคณุ ลักษณะ/พฤติกรรมบ่งช้ี อยู่ในระดับ ดมี าก ๓ หมายถงึ ผู้เรยี นมคี ณุ ลกั ษณะ/พฤติกรรมบ่งช้ี อยใู่ นระดบั ดี ๒ หมายถึง ผู้เรยี นมีคณุ ลักษณะ/พฤตกิ รรมบ่งชี้ อยใู่ นระดบั ปานกลาง ๑ หมายถึง ผ้เู รยี นมีคณุ ลักษณะ/พฤตกิ รรมบง่ ชี้ อยู่ในระดบั ปรบั ปรงุ ลงชื่อ…………………………………ผูป้ ระเมิน (………………………..……….) 142 คูม่ อื การประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรยี นพระปรยิ ัติธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา

แแบบบบบบันันททึกึกกาารรสสัมัมภภาาษษณณ์ ์ สัมสภัมาภษาณษ์ณ์ครคั้งรทั้งี่…ท…่ี…………….…. ผูร้ ผับูร้ กบั ำกรำสรมั สภมั ำภษำณษ์ณช์ ื่อช–อ่ื น–ำนมำสมกสลุ ก…ลุ …………………………………….….…..………………………………………………………………………….….ช.นั้.ช…น้ั …………………………… สถสำถนำทนส่ี ทัมีส่ ภัมำภษำณษ์…ณ…์…………………………………………………………….…. ทำทกำกรำสรมั สภัมำภษำณษ์ณเม์ ื่อเมว่ือันวทัน่ี…ท…ี่……….…เด.อืเดนอื …น………………………….….พ..ศพ….ศ……………….….เว..ลเวำล…ำ………………………….…น.นถ.งึ ถ…งึ ……………………………………น….น. วัตวถัตุปถรปุ ะรสะงสคง์ใคนใ์กนำกรำร สมั สภมั ำภษำณษ์…ณ…์…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…. .. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อขมอ้ ลู มทูลส่ี ทรส่ีุปรไุปดไ้จดำ้จกำกกำกรำร สัมสภมั ำภษำณษ์…ณ…์…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…. .. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อขคอ้ ิดคเหิดเน็ ห…น็ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…. .….………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…. .. กำกรำนรัดนหัดมหำมยำคยรคั้งรตั้งอ่ ตไอ่ปไปวันวทัน่ี…ท…ี่…………….….เด..อืเดนอื …น…………………………………….…พ.ศพ….ศ………………………………… เวลเวำล…ำ…………………………………………………………น….น. บันบทนั กึ ทพึกฤพตฤิกตรกิรรมรนมกั นเรกั ยีเรนยี เนปเ็นปร็นารยาบยุคบคุคลคล ชือ่ ช-อ่ืส-กสุลกุล(พ(รพะร/พะ/รพะรมะหมาห/สา/าสมาเณมเรณ)ร.)..........................................ช..้นั.ช..้นั ...........ห..อ้ หงอ้..ง......ป..ีกปาีกราศรึกศษึกาษ..า..............ภ..า.ภคาค เรยีเรนยี ทน่ี ท๑่ี ๑ พฤพตฤกิ ตริกรรมรทม่ีพทงึ ่ีพปึงรปะรสะงสคง์ ค์ แนแวนทวาทงากงากราสรง่ สเส่งรเสิมร/มิ / พฤพตฤิกตรกิรรมรทม่ีไทมีไ่พมงึ ่พปึงรปะรสะงสคง์ ค์ แนแวนทวาทงากงากราแรกแไ้ กข้ไข พัฒพนฒั านา ภาภคาเรคียเรนียทนี่ ท๒่ี ๒ พฤพตฤิกตริกรรมรทม่ีพทงึ ่ีพปงึ รปะรสะงสคง์ ค์ แนแวนทวาทงากงากราสร่งสเสง่ รเสมิ ร/มิ / พฤพตฤิกตรกิรรมรทมไ่ี ทมี่ไพมึง่พึง แนแวนทวาทงากงากราแรกแไ้ กข้ไข พัฒพนัฒานา ปรปะรสะงสคง์ ค์ คมู่ ือการประกนั คุณภาพภายในสถานศกึ ษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามญั ศึกษา 143