Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 7th_Cycle_Birthday_Anniversary_of_Queen

7th_Cycle_Birthday_Anniversary_of_Queen

Published by thanom, 2018-08-14 05:08:26

Description: 7th_Cycle_Birthday_Anniversary_of_Queen ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินีนาถ คู่พระบารมี ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙
สามารถดาวโหลดได้

Keywords: History

Search

Read the Text Version

ด้วยพระราชหฤทัยห่วงใยราษฎรและทรงเป็นนักประชาธิปไตย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถมพี ระราชดำรสั และพระราโชวาททเี่ ปน็ การเสรมิ สรา้ งสทิ ธเิ สรภี าพของสงั คมใหม้ คี วามเขม้ แขง็ ขน้ึ สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจและสรา้ งจิตสำนึกให้แก่สังคมได้ตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิเสรีภาพ อีกท้ังเป็นการกระตุ้นเตือนให้ผู้รับผิดชอบได้พิจารณาถึงการสง่ เสรมิ การสนบั สนนุ การขยายขอบเขตการศกึ ษา การผดงุ รกั ษา การเคารพและยกยอ่ งตอ่ การใชส้ ทิ ธเิ สรภี าพตามกฎหมายภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขให้มีความเจริญก้าวหน้าสถิตสถาพรควบคู่ไปกับการพัฒนาประเทศทางโครงสร้างพื้นฐานและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยพระองค์ได้มีพระวินิจฉัยถึงความสำคัญของระบบกฎหมายท่ีเข้มแข็งสำหรับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนดังพระราชดำรัสในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีเปิดการประชุมการสงั คมสงเคราะห์แหง่ ชาติ ครงั้ ท่ี ๘ ณ สโมสรทหารบก วนั เสารท์ ่ี ๕ เมษายน ๒๕๑๘ ดังน้ี “...ความม่ันคงแห่งชาติจะมีได้ก็เพราะประชาชนอยู่ร่วมกันโดยเรียบร้อย และ สามารถประกอบการงาน อาชีพ เลี้ยงตนได้โดยปรกติสุข ไม่ต้องต่อสู้ ผจญ หรือหวาดระแวง ภัยอันตรายท่ีคอยคุกคามเบียดเบียน ซึ่งข้อนี้ขึ้นอยู่กับการท่ีบ้านเมืองต้องมีข่ือมีแป มีกฎหมาย มีระเบียบวินัยที่ดีงามมั่นคง พอท่ีจะใช้คุ้มครองสิทธิเสรีภาพพร้อมทั้งความปลอดภัยของ ประชาชนสว่ นรวมอยา่ งมีประสิทธิภาพ ...”พระราชกรณยี กิจด้านสทิ ธเิ สรีภาพ องค์ประกอบที่สำคัญของระบอบประชาธปิ ไตยประการหนงึ่ คือ การมสี ทิ ธเิ สรภี าพหรือการไดร้ ับความค้มุ ครองสทิ ธิเสรีภาพของบุคคลตามที่รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอ่ืนกำหนด ด้วยเหตุที่มนุษย์มีสิทธิข้ันพ้ืนฐานในการดำรงชีวิตมาตั้งแต่กำเนดิ ทงั้ ในดา้ นสทิ ธขิ องการครอบครองทรพั ยส์ นิ สทิ ธใิ นการปกปอ้ งคมุ้ ครองชวี ติ และทรพั ยส์ นิ สทิ ธใิ นการเดนิ ทาง สทิ ธใิ นการนับถือศาสนา ฯลฯ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงตระหนักถึงความสำคัญและความมีคุณค่าของสิทธิเสรภี าพและสทิ ธมิ นุษยชนซึ่งเป็นสทิ ธขิ น้ั พนื้ ฐานของมนษุ ย ์ จึงมีพระมหากรณุ าพระราชทานโครงการตามพระราชดำริ รวมทั้งทรงประกอบพระราชกรณียกิจในการดำเนินกิจการต่าง ๆ ที่เป็นการเสริมสร้างความมีสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยเสริมสร้างให้ราษฎรมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และจัดการทรัพยากร การต้ังถิ่นฐาน และดูแลป้องกันแผ่นดินไทยให้มีความสงบรม่ เยน็ เสมอมา ท้ังในฐานะพระบรมราชินนี าถและในฐานะท่ีทรงดำรงตำแหน่งสภานายกิ าสภากาชาดไทย พระองคไ์ ดโ้ ดยเสดจ็พระราชดำเนนิ พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช ไปทวั่ ทกุ หนแห่งบนผืนแผน่ ดินไทย พระราชกรณียกจิ เหลา่ น้ีนับเป็นส่วนหน่ึงของการทรงงานด้านสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาค สิทธิมนุษยชน ผู้ด้อยโอกาส และผู้พิการ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ นี าถ คูพ่ ระบารมี 149

การเสรมิ สรา้ งสทิ ธสิ ตรี ด้วยทรงตระหนักถึงบทบาทหน้าท่ีสิทธิสตรี และคุณค่าของสตรีไทยในการดำรงตนเคียงคู่กับบุรุษด้วยความ เสมอภาคเทา่ เทียมกันอย่างมีคุณค่า ใน พ.ศ. ๒๕๔๖ มพี ระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อม พระราชทานให้วนั ที่ ๑ สิงหาคม ของทกุ ปี เป็น “วันสตรไี ทย” ตามทก่ี ระทรวงมหาดไทย ไดข้ อพระราชทานพระราชานุญาตและคณะรฐั มนตรไี ด้มมี ติรับทราบ ตามท่ีกระทรวงมหาดไทยเสนอในคราวประชุมเม่ือวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๔๖ ทั้งน้ี ได้มีการพระราชทานดอกกล้วยไม้ แคทลียาควีนสิริกิต์ิ เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของวันสตรีไทย พร้อมทั้งพระราชทานแนวการปฏิบัติของสตรีไทยไว้ ๔ ประการ ดังน้ี150 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินีนาถ คพู่ ระบารมี

๑. พึงทำหน้าที่ “แม่” ให้สมบูรณ์ โดยทำให้ครอบครัวบังเกิดความรักและความอบอุ่น มีความเข้าใจและไว้วางใจซ่งึ กันและกนั ๒. พงึ ทำหน้าทข่ี อง “แมบ่ ้าน” ใหด้ ี โดยทำใหบ้ า้ นมคี วามน่าอยเู่ ป็นที่พงึ่ พงิ อันอบอ่นุ ของสมาชิกในครอบครัว ๓. พงึ “รกั ษาเอกลักษณ์ของความเปน็ สตรีไทย” ผ้มู ีความนมุ่ นวล ออ่ นโยน สภุ าพ เมตตา และย้มิ แย้มแจ่มใส ๔. พึง “ฝึกฝนตัวเอง” ให้มีความรู้ความสามารถยิ่งขึ้น ขยัน อดทน มีความประหยัด ซ่ือสัตย์ มีวินัย และรักษาความสามัคคีในหมคู่ ณะไว้ให้มนั่ คง จากแนวทางดังกล่าว ถือเป็นแนวทางพระราชทานให้แก่หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ ในการทำงานเพ่ือส่งเสริมสตรีไทยให้มีศักยภาพ และร่วมเป็นพลังในการพัฒนาประเทศต่อไป (สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว, ๒๕๕๔) อีกท้ังยังทรงสนับสนุนการมีบทบาทขององค์กรกลางสำหรับกิจการสตรีในระดับประเทศที่ไม่เป็นองค์กรของรัฐหรือองค์กรทางการเมอื ง สำหรบั การเชดิ ชู ส่งเสริม สนบั สนนุ การยกระดบั ความเปน็ อยู่ สถานภาพ และสมรรถภาพของสตรีไทย ตลอดจนแสวงหาทางท่ีจะขจดั หรอื แกป้ ัญหาอนั เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสตรี รวมท้งั เปน็ ศูนยก์ ลางประสานงานสง่ เสริมและสนบั สนนุการดำเนินงานขององค์กรสตรีทั่วประเทศ โดยมีพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รับสภาสตรีแห่งชาติไว้ในพระบรมราชินปู ถมั ภ์ เม่ือวันท่ี ๕ พฤษภาคม ๒๕๐๔ และได้รบั ความอนุเคราะหจ์ ากสำนกั งานทรัพยส์ ินส่วนพระมหากษัตริยใ์ ห้เช่าบา้ นพระกรุณานิวาสน์ ซึ่งต้ังอยู่เลขที่ ๒ ถนนพิชัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เป็นที่ตั้งสำนักงานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินปู ถมั ภ์ (สภาสตรแี ห่งชาตใิ นพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์, ม.ป.ป.) นอกจากน้ี ยังทรงสนับสนุนการรวมกลุ่มของสตรเี พอ่ื เสริมสร้างบทบาทของสตรที ั้งในการศาสนา การจดั การวิชาชีพและการสร้างประโยชน์ต่อสังคม เช่น มูลนิธิสถาบันแม่ชีไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ สมาคมสตรีไทยแห่งประเทศไทยในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์ สมาคมบณั ฑติ สตรที างกฎหมายแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์ สมาคมสตรนี กั ธรุ กจิ และวชิ าชพีแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์ สมาคมสตรภี าคพน้ื แปซฟิ คิ และเอเซยี อาคเนยแ์ หง่ ประเทศไทยในพระบรมราชนิ ปู ถมั ภ์และสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นต้น (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย,์ ๒๕๔๗) ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ คู่พระบารมี 151

โครงการราษฎรอาสาสมคั รพทิ กั ษป์ า่ (รสทป.) จากพระราชปณธิ านและความหว่ งใยของสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ ทมี่ พี ระราชประสงคเ์ ปลย่ี นแปลง ทศั นคตแิ ละพฤตกิ รรมของราษฎรจากผบู้ กุ รกุ ทำลายปา่ มาเปน็ ผดู้ แู ลรกั ษาและใชป้ ระโยชนจ์ ากปา่ อยา่ งยง่ั ยนื ได้ โดยใหร้ าษฎร มีความเข้าใจ ในระบบนิเวศวิทยา และใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างถูกวิธี ตระหนักถึงความสำคัญของป่าไม้ ลดการลักลอบ ตัดต้นไม้ทำลายป่า รวมท้ังการสร้างเครือข่ายการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้แพร่หลายยิ่งข้ึน ดังนั้นหน่วยงานที่รับผิดชอบ อาทิ กองทพั บก กรมป่าไม้ กรมอทุ ยานแห่งชาติสัตว์ปา่ และพนั ธพ์ุ ืช และบรษิ ทั ปตท. จำกัด (มหาชน) จึงรว่ มกนั ดำเนนิ การ โครงการราษฎรอาสาสมคั รพทิ กั ษป์ ่า โดยจัดต้ังเป็นองคก์ รราษฎรอาสาสมัครพิทกั ษ์ปา่ ในการพิทกั ษ์ปา่ ไม้ และมีวธิ ีดำเนนิ การ จัดฝึกอบรมให้ราษฎรมีความรู้ความเข้าใจในกฎหมายเก่ียวกับป่าไม้ สร้างความเข้าใจให้แก่ราษฎรในการปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องกับการพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ตลอดจนสามารถประกอบอาชีพอยู่ร่วมกับป่า ได้อย่างยั่งยนื โดยผลท่ไี ดร้ บั คือ การสร้างทัศนคตสิ ำหรับการให้ “คน” กบั “ปา่ ” อยู่รว่ มกันอยา่ งพง่ึ พาอาศยั ซ่งึ กันและกนั การลดความขัดแย้งระหว่างราษฎรกับเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ผู้ผ่านการฝึกอบรมจะถ่ายทอดทัศนคติท่ีดีในการอนุรักษ์ทรัพยากร ปา่ ไมไ้ ปสู่ญาตมิ ติ ร อนั เปน็ การจัดตง้ั องค์กรมวลชนพิทักษป์ า่ ไมข้ องหมบู่ ้านเปา้ หมายทเี่ ขม้ แข็ง และแกไ้ ขปญั หาการทำลายปา่ ส่งเสรมิ ใหเ้ กิดและฟืน้ ฟสู ภาพปา่ ไมใ้ นโอกาสตอ่ ไป สมเด็จพระนางเจา้ สิรกิ ิต์ิ พระบรมราชินนี าถ มพี ระราชปฏิสันถารกับราษฎรอาสาสมัคร พิทักษป์ ่าทไ่ี ด้รับพระราชทานธงพิทกั ษป์ ่า ราษฎรเหล่านไ้ี ดร้ บั การอบรมให้ชว่ ยกนั ดูแล รกั ษาป่า ณ บ้านท่งุ จ้ี หม่ทู ่ี ๘ ตำบลทงุ่ กวา๋ ว อำเภอเมอื งปาน จังหวดั ลำปาง152 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินีนาถ คพู่ ระบารมี

ทั้งน้ี มีการคัดเลือกราษฎรเข้ารับการฝึกอบรมจากราษฎรในหมู่บ้านหรือชุมชนท่ีอยู่โดยรอบพ้ืนท่ีแปลงปลูกป่า โดยมีจำนวนผู้รับการฝึกรุ่นละประมาณ ๑๐๐ – ๑๕๐ คน มีการจัดชุดครูฝึกหรือวิทยากร ดำเนินการฝึกอบรมตามหลักสูตรของโครงการ ฯ ด้วยกระบวนการฝึกอบรมท่ีเน้นการเปล่ียนแปลงทัศนคติของราษฎรท่ีมีต่อทรัพยากรป่าไม้โดยเน้นวิชาการ การให้ความรู้ร้อยละ ๓๐ และกิจกรรมเสริมร้อยละ ๗๐ เพ่ือให้เกิดความอ่อนตัวในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของราษฎร ตามความเหมาะสมของแต่ละพ้ืนท่ีและสถานการณ์ นอกจากน้ี ยังได้มีการจัดตั้งองค์กรมวลชนในระดับพ้นื ท่ขี ้นึ เพ่อื ดูแลรักษาป่าและการป้องกันการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าหลังการฝึกอบรม หลังจากน้ันเมื่อมีการจัดตั้งองค์กรในการดูแลรักษาป่าไม้อย่างได้ผล จะได้รับการพิจารณาให้เข้ารับพระราชทาน “ธงพิทักษ์ป่า เพ่ือรักษาชีวิต”จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพ่ือให้เกิดขวัญและกำลังใจ ในการท่ีจะพิทักษ์ปกป้องผืนป่าให้ยั่งยืนถาวรเป็นสมบตั อิ นั ล้ำค่าของแผ่นดินสืบไป โครงการฝกึ อบรมราษฎรอาสาสมัครพิทกั ษ์ปา่ โครงการราษฎรอาสารกั ษาหมบู่ า้ น (อรบ.) ในการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย บุคคลย่อมมีสทิ ธเิ สรภี าพในชีวติ ร่างกาย และทรพั ย์สิน โดยได้รบั การคมุ้ ครองตามกฎหมายเพ่ือมิให้ผู้ใดละเมิดหรือสร้างความไม่ปลอดภัยได้ ดังนั้น สิทธิในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินด้วยตนเองจึงมีตามสมควรแกก่ รณีภายใตข้ อบเขตท่กี ฎหมายกำหนด เมอ่ื วนั ที่ ๑๐ กนั ยายน ๒๕๔๗ ราษฎรตำบลตนั หยงลมิ อ อำเภอระแงะ จงั หวดั นราธวิ าส เขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ณ วัดตันติการาม เพ่ือกราบบังคมทูลถวายฎีกาถึงความเดือดร้อนจากการก่อความไม่สงบ โดยผู้ไม่หวังดีทำการประทุษร้ายต่อชีวิต ทำลายทรัพย์สินของราษฎรในพื้นท่ีตำบลตันหยงลิมอ อำเภอระแงะและตำบลโตะ๊ เดง็ อำเภอสไุ หงปาดี จงั หวดั นราธวิ าส และนอกจากนยี้ งั มเี หตกุ ารณร์ นุ แรงในพนื้ ทจ่ี งั หวดั ยะลา และจงั หวดั ปตั ตานีนับเป็นภัยคุกคามท่ีทวีความรุนแรงมากขึ้น จนราษฎรไม่สามารถจะอดทนได้อีกต่อไป จึงได้พากันร้องทุกข์ถวายฎีกาขอพระราชทานความชว่ ยเหลอื จากสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ โดยราษฎรอาสาจะรวมพลงั กนั จบั อาวธุ ขน้ึ ตอ่ สู้เพื่อปอ้ งกนั ชีวติ และทรพั ยส์ นิ ของตนเอง โดยขอใหท้ างราชการดำเนนิ การใหท้ หารชว่ ยฝกึ อาวธุ ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินนี าถ คพู่ ระบารมี 153

พลเอก ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ และข้าราชบริพารที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาทที่ได้รับมอบหมายให้ไป ติดตามสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ เล่าว่า “ชาวบ้านถามพระองค์ท่านว่าจะให้พวกฉันอยู่ท่ีน่ี หรือจะให้ไปจากที่นี่ สมเด็จ พระบรมราชินีนาถรับสั่งว่าในเมื่อเราอยู่ที่น่ี เราทำมาหากินที่น่ีมาต้ังแต่ปู่ย่าตายาย แล้วจะอพยพไปท่ีไหนกัน พระองค์ท่าน ก็ทรงพระกรุณาบอกทหารให้ส่งคนมาช่วยฝึกอาวุธให้ ตามที่ชาวบ้านได้ถวายฎีกา และรับส่ังว่าท่ีให้ฝึกน้ันเพ่ือป้องกันตัวเอง ป้องกันทรัพย์สนิ พ่ีนอ้ งเรากนั เอง ไมไ่ ดม้ เี จตนาใหพ้ วกเธอเท่ยี วเอาปนื ไปไล่ฆ่าใครต่อใครเขา ขอให้ทำความเขา้ ใจกันใหถ้ อ่ งแท้ รับสั่งเสมอว่าผู้บรสิ ทุ ธ์มิ ีสิทธิอย่บู นแผ่นดินน้ี มที งั้ พุทธ และมุสลิมไม่ได้แยกเชื้อชาตศิ าสนา ใครขอมาก็ฝึกให้ ครูเองกม็ าขอฝกึ บอกวา่ ฝกึ ให้แต่ชาวบา้ น พวกครูยง่ิ เสีย่ งอันตรายหนักเลย ฝกึ ลักษณะการรวมกล่มุ กัน ใช้อาวธุ เข้าเวรยามในการรักษาหมู่บ้าน ซง่ึ มีผลใหห้ มู่บ้านเกดิ ความปลอดภัยมากขึน้ ” ด้วยเหตุน้ี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กรมราชองครักษ์ อำนวยการประสานงานกับกองทัพ ภาคท่ี ๔ และกรมทหารราบที่ ๓ กองพลนาวกิ โยธินจัดทำโครงการราษฎรอาสารักษาหมูบ่ ้าน (อรบ.) ขึน้ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อรวบรวมสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้านใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เป็นพลังกำลังประชาชนในพื้นที่ป้องกันตนเอง และหมู่บ้าน สนับสนุนการสร้างชุมชนให้เข้มแข็งดำเนินการจัดการฝึกอบรมให้ความรู้ ฝึกทบทวนการใช้อาวุธ และวิธีการ ในการป้องกันตนเอง ป้องกันหมู่บ้าน เพ่ือรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ให้การสนับสนุนกิจกรรมโครงการฟาร์ม ตัวอย่าง และหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ท่ีตั้งอยู่ในพ้ืนท่ี ให้ความร่วมมือกับส่วนราชการ หน่วยงาน และองค์กรเอกชนในพ้นื ท่ดี ้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เพิ่มพูนความรู้พัฒนาส่งเสริม อาชีพ ด้านการเกษตร ปศุสัตว์ และประมง ให้กับราษฎรในพื้นท่ีเพ่ือสร้างงาน สร้างรายได้ยกระดับคุณภาพชีวิต และเพ่ิม ศักยภาพและขีดความสามารถในการดูแลความปลอดภัยให้กับหมู่บ้านชุมชน โดยไม่ละท้ิงถ่ินฐานที่อยู่อาศัย และพื้นท่ี ทำมาหากนิ (โครงการราษฎรอาสารกั ษาหมูบ่ า้ น, ม.ป.ป.) การอบรมอาวุธปืน ระหว่างวันท่ี ๓-๗ เมษายน ๒๕๕๒ ใหแ้ กส่ มาชิกราษฎรอาสารกั ษาหมูบ่ า้ น อนั เน่ืองมาจากโครงการในพระราชดำริของสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ ณ สนามยงิ ปนื คา่ ยจฬุ าภรณ์ จงั หวดั นราธวิ าส154 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ คูพ่ ระบารมี

โครงการหมบู่ า้ นยามชายแดน จากสภาพทางภูมิศาสตร์ของพ้ืนที่บริเวณแนวชายแดนทิศตะวันตกของประเทศไทยท่ีติดกับประเทศพม่าด้านจงั หวัดตาก และจงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน มีสภาพเป็นปา่ รกทึบ ภูเขาสงู สลบั ซบั ซอ้ นและทรุ กนั ดาร เปน็ ทพี่ กั อาศยั และทที่ ำกนิของชาวเขา ตลอดจนเปน็ แหลง่ พกั พงิ ของกองกำลงั ชนกลมุ่ นอ้ ยกลมุ่ ตา่ ง ๆ ทงั้ ตอ่ ตา้ นและสวามภิ กั ดต์ิ อ่ รฐั บาลพมา่ สง่ ผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศไทย ท้ังเรื่องของการค้ายาเสพติด การค้าแรงงานเถื่อน และการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี เป็นต้นรวมถึงความเส่ียงจากพิษภัยของโรคติดต่อร้ายแรงต่าง ๆ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชดำริถึงเรื่องดังกล่าว โดยการให้พิจารณาหาแนวทางในการดำเนินงานจัดตั้งหมู่บ้านในรูปแบบบ้านยามชายแดน ด้านทิศตะวันตกของตัวเมอื งแมฮ่ ่องสอน เพอื่ พัฒนาราษฎรในพ้ืนท่ใี ห้เข้มแข็ง มีส่วนร่วมรักษาอธิปไตยของชาติอยา่ งมรี ะบบ และใหห้ าราษฎรชาวไทยภูเขาที่สมัครใจไปเป็นยามตามแนวชายแดน ด้วยบุคคลมีสิทธิเสรีภาพในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และบุคคลยังมีสิทธิรวมตวั กนั เป็นชมุ ชน เพอื่ สรา้ งความร่วมมอื ต่อการอนุรกั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม ตลอดจนการสรา้ งความรว่ มมือกับภาครัฐในการรักษาอำนาจอธิปไตยและความสงบเรียบรอ้ ยบริเวณชายแดน ในวนั ท่ี ๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๔๒ สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ มพี ระราชเสาวนยี แ์ กผ่ บู้ ญั ชาการทหารบกและคณะทีป่ รกึ ษาสว่ นพระองคใ์ นขณะน้ัน ใหห้ น่วยราชการต่าง ๆ ดำเนนิ การชว่ ยเหลือราษฎรชาวไทยภูเขา ดว้ ยการให้ที่อยู่อาศยั และทำกนิ ในพนื้ ทเ่ี ดมิ โดยไมต่ อ้ งอพยพมายงั พนื้ ทร่ี าบ เพอ่ื ใหส้ ามารถดำเนนิ ชวี ติ ตามวฒั นธรรม ประเพณเี ดมิ ทบี่ รรพบรุ ษุของพวกเขาเหล่านั้นได้ปฏิบัติมาภายใต้การดูแลช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด และให้ความสามารถควบคุมประชากรได้ด้วยการให้ความรู้ การปลูกจติ สำนึกความเป็นไทย และการปฏิบัติตามกฎหมาย ตลอดจนการให้ราษฎรชาวไทยภเู ขาได้มสี ่วนรว่ มในการดูแลรกั ษาปา่ ตน้ นำ้ ลำธารและร่วมมอื กบั ทางราชการด้านความมน่ั คง ครั้นเม่อื วนั ท่ี ๑๑ มนี าคม ๒๕๔๒ พระองคไ์ ด้เสด็จพระราชดำเนนิ เยี่ยมราษฎร ณ บา้ นรวมไทยพฒั นาที่ ๑ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก และมีพระราชเสาวนีย์กับพลตรี ชัยยุทธ เทพยสุวรรณ ผู้บัญชาการกองพลพัฒนา ๓ ในขณะน้ันว่าให้ราษฎรชาวไทยภูเขาที่มีความสมัครใจไปเป็นยามตามชายแดนตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช จึงเป็นจุดเริม่ ต้นของโครงการจดั ตง้ั หมบู่ า้ นยามชายแดน วนั ท่ี ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๔๒ พระราชทานแนวทางการจัดตัง้ หม่บู า้ นเพ่มิ เติมแกก่ องทพั บก คอื ใหม้ ีการจัดต้ังหม่บู า้ นขน้ึ ใหมบ่ นภเู ขาและมคี วามปลอดภยั พอสมควร เปน็ พน้ื ทท่ี ส่ี ามารถทำการเกษตรได้ มแี หลง่ นำ้ และพน้ื ทเ่ี พยี งพอสำหรบั ราษฎร๔๐ ถงึ ๕๐ ครอบครวั ให้ทหารช่วยเหลอื ในการจดั ตง้ั หมบู่ า้ นฝกึ อบรม การระวงั ป้องกนั การรายงานข่าวสาร เพ่ือเป็นหเู ปน็ ตาให้กับทางราชการ ท้ังนี้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพจะช่วยสนับสนุนด้านอาชีพ (ตามหนังสือ ทภ. ๓/กอ.รมน. ภาค ๓ ที่นร ๕๑๐๖/๕๖๑ ลงวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๔๒) ต่อมาเม่ือวันท่ี ๒๒ กันยายน ๒๕๔๒ ผู้บัญชาการทหารบก ประธานคณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาราษฎรชาวไทยภูเขา อันเน่ืองมาจากพระราชดำริ เห็นชอบกับพ้ืนท่ีท่ีคณะกรรมการให้พิจารณาว่าเปน็ พื้นที่เหมาะสมสำหรบั จัดตง้ั โครงการในจงั หวัดแมฮ่ ่องสอน ๑ จุด และจังหวดั ตาก ๑ จุด ไดแ้ ก่ บา้ นมะโอโค๊ะตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก โดยมีราษฎรเข้าร่วมโครงการ จำนวน ๓๗ ครอบครัว ซ่ึงต่อมาได้ขยายเป็น๔๒ ครัวเรือน โครงการได้สนับสนุนให้ราษฎรขุดบ่อเล้ียงปลาขนาดกว้าง ๒ เมตร ยาว ๔ เมตร และปลูกผักสวนครัวซง่ึ บอ่ เลย้ี งปลาขนาดดงั กลา่ วมคี วามเหมาะสมกบั การเลย้ี งปลาดกุ ลกู ผสม (บก๊ิ อยุ ) เนอ่ื งจากเลย้ี งงา่ ยมอี ตั ราการเจรญิ เตบิ โตเรว็มีความอดทนต่อสภาพอากาศได้เป็นอย่างดีให้ผลตอบแทนคุ้มทุน เนื่องจากราคาซ้ือขายในพ้ืนท่ีมีราคาสูงกว่าพ้ืนที่ปกติมากและน้ำจากบ่อเล้ียงปลาเป็นปุ๋ยใช้ในการรดพชื ผกั สวนครวั ทำใหร้ าษฎรทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพยี ง สมเจตนารมณ์ของโครงการ ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินนี าถ คูพ่ ระบารมี 155

โครงการบา้ นยามชายแดน เม่ือ พ.ศ. ๒๕๕๔ กองทัพบกได้ดำเนินการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดน ๕ หมู่บ้าน ได้แก่ ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนมี ๔ หมู่บ้าน คือ บ้านปางตอง และบ้านอาโจ้ อำเภอปางมะผ้า บ้านแม่ส่วยอู อำเภอเมือง และบ้านดอยผักกูด อำเภอปาย และท่ีจงั หวดั ตาก อีก ๑ หมบู่ า้ น คือ บ้านมะโอโค๊ะ อำเภออุม้ ผาง โครงการจัดต้ังหมู่บ้านยามชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริน้ี ได้ดำเนินการตามแนวพระราชดำริในพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดชและสมเดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ิต์ิ พระบรมราชินีนาถ โดยน้อมนำเอา “ปรชั ญาเศรษฐกิจ พอเพียง” เป็นปรัชญานำทาง ทั้งนี้จะต้องคำนึงถึงความเหมาะสม สอดคล้องกับสภาพภูมิสังคม ตลอดจนความสมดุลกับ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของชมุ ชนดว้ ยจดุ มงุ่ หมายการพฒั นาหมบู่ า้ นยามชายแดน เพอ่ื ใหช้ มุ ชนสามารถพง่ึ ตนเองได้ สมาชกิ ในชุมชนมีความสงบสขุ รวมถงึ ส่งผลต่อความยง่ั ยืนของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ มของชุมชนให้อนชุ นรุน่ หลัง สามารถใช้ประโยชน์ได้ตลอดไป จนในท่ีสุดจะเกิดเป็นเครือข่ายชุมชนท่ีมีความเข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกันพร้อมรับผลกระทบจาก วกิ ฤตการณ์ตา่ ง ๆ สามารถปฏบิ ตั ิภารกจิ ของราษฎรอาสาสมัครบา้ นยามชายแดน ได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ (กองทพั บก, ๒๕๕๔) โครงการหมบู่ า้ นเลก็ ในปา่ ใหญ่156 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินีนาถ คูพ่ ระบารมี

บุคคลมีสิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพภายใต้ขอบเขตท่ีกฎหมายกำหนด อีกทั้งบุคคลซึ่งรวมกันเป็นชุมชนชุมชนท้องถิ่น หรือชุมชนท้องถิ่นด้ังเดิม ย่อมมีสิทธิอนุรักษ์และมีส่วนร่วมในการจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากทรพั ยากรธรรมชาติ ส่งิ แวดล้อม รวมทงั้ ความหลากหลายทางชีวภาพอย่างสมดลุ และย่ังยืน รวมไปถงึ สทิ ธขิ องบคุ คลท่จี ะมีส่วนร่วมกับรัฐและชุมชนในการอนุรักษ์ บำรุงรักษา คุ้มครองส่งเสริม และการได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ และการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้อย่างปกติและต่อเนื่องในส่ิงแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิต จึงเกิดแนวคิดในการจัดระเบียบให้ประชาชนอยู่กันเป็นกลุ่ม ๆ โดยรอบป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมท้ังส่งเสริมอาชีพเสริมให้กับประชาชน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีข้ึน มีรายได้เพียงพอตอ่ การเล้ยี งครอบครวั ซงึ่ จะทำใหป้ ระชาชนหยดุ การบุกรุกทำลายป่าไม้ เม่ือวนั ที่ ๔ มีนาคม ๒๕๓๔ สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิติ์ พระบรมราชนิ ีนาถ เสด็จพระราชดำเนนิ ไปทรงเยีย่ มราษฎรที่บ้านห้วยหล่อดูก ตำบลแม่ตื่น อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ได้ทอดพระเนตรเห็นราษฎรในพื้นท่ีส่วนใหญ่มีความเป็นอยู่ยากไร้ พระองค์จึงพระราชทานพระราชดำริให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรในพ้ืนท่ีอยอู่ ยา่ งมคี วามสขุ โดยยดึ หลกั ๓ ประการ คอื ๑) รกั ษาสภาพปา่ ไวม้ ใิ หถ้ กู ทำลาย ๒) ฟน้ื ฟสู ภาพปา่ ใหค้ นื สสู่ ภาพธรรมชาติโดยให้มีทั้งป่าธรรมชาติและป่าไม้ใช้สอย ๓) พัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรให้มีอาชีพและมีท่ีทำกินถาวร ให้คนอยู่กับปา่ ไดอ้ ยา่ งกลมกลนื และเกอ้ื กลู กนั โดยคนเปน็ ผดู้ แู ลรกั ษาปา่ ในลกั ษณะ “บา้ นเลก็ ในปา่ ใหญ”่ รวมทง้ั ทรงยำ้ วา่ การดำเนนิ การอนุรักษ์ฟ้ืนฟูสภาพป่าจะต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้เกิดแก่ราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่น้ัน จึงมีพระราชดำริให้ “อมก๋อย”เป็นหมู่บ้านนำร่องในโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ พระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินการต่าง ๆ เพ่ือแก้ปัญหาความยากจนเสริมสรา้ งสภาพแวดล้อม และฟ้ืนฟูอนรุ ักษ์สภาพปา่ และตน้ น้ำ (สำนกั จดหมายเหตแุ ห่งชาติ, ๒๕๕๘, น.๔๓) นอกจากนี้ ในพน้ื ท่ีตา่ ง ๆ มโี ครงการบา้ นเล็กในปา่ ใหญ่ เกิดขน้ึ หลายแหง่ ในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือและภาคใต้พระราชกรณียกิจดา้ นความเสมอภาค สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ ทรงเสรมิ สรา้ งความเสมอภาคใหเ้ กดิ ขนึ้ ในสงั คมไทย อนั นำมาสคู่ วามรกัความเอ้ืออาทร ความสขุ ให้เกิดข้ึนภายในสังคมซึ่งเป็นการลดความขัดแย้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม พระองค์ทรงเป็นผสู้ รา้ งความเสมอภาคทเี่ ทา่ เทยี มกนั มากทสี่ ดุ มพี ระราชดำรสั และพระบรมราโชวาททพ่ี ระองคท์ รงยกยอ่ งบทบาทการทำหนา้ ที่ของหญิงไทยต้ังแตอ่ ดีตมาถงึ ปจั จบุ ันทส่ี ะทอ้ นถึงความเสมอภาคระหวา่ งชายและหญงิ ดังพระราชดำรัสในโอกาสเสด็จพระราชดำเนนิ ไปทรงเปดิ งานเคหศลิ ป์ ครง้ั ท่ี ๗ ณ สวนลุมพินี วันท่ี ๕ กรกฎาคม ๒๕๑๒ ความตอนหนงึ่ วา่ ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินีนาถ คู่พระบารมี 157

“...งานที่ผู้หญิงไทยของเราทำให้แก่ชาติบ้านเมือง ทำให้ข้าพเจ้าตระหนักดีว่า ผู้หญิงไทยเวลานี้ได้อุทิศตนเป็นอย่างมาก ช่วยในการพัฒนาประเทศ งานของผู้หญิงไทย คงเดินก้าวหน้าอยู่เรื่อย ๆ จนอาจกล่าวได้ว่าทัดเทียมหรือบางคราวอาจจะย่ิงกว่าที่สตรีชาติ อ่นื ปฏิบัติกันในต่างประเทศ ถ้าย้อนไปศึกษาเร่ืองราวในประวัติศาสตร์ พิจารณางานของผู้หญิงไทยในอดีตจะเห็น ได้ว่า ผู้หญิงไทยมีส่วนช่วยบ้านเมืองมาโดยตลอด ถึงคราวจำเป็นต้องออกศึก ผู้หญิงไทยก็ ปฏิบัติได้เป็นอย่างดี นำชื่อเสียงเกียรติคุณมาสู่ประเทศ ผู้หญิงไทยเป็นนักเศรษฐกิจประจำ ครอบครัว ทำงานได้หลายด้านหลายทาง รู้จักปรับตัวให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมตามกาล สมัย ยึดการดำเนินชีวิตในทางสายกลาง จึงไม่ค่อยประสบปัญหาขัดแย้งกับผู้ที่อยู่ใกล้ชิด ไม่ทำให้เกิดความรสู้ ึกว่าตนดอ้ ยกวา่ ผู้ชาย...” เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปสถานท่ีต่าง ๆ ประชาชนจำนวนมากได้ถวายฎีกาเพ่ือขอความช่วยเหลือในเรื่องทาง เศรษฐกิจ ดังน้ัน พระองค์จึงทรงสนับสนุนแนวทางการสร้างความเสมอภาคทางเศรษฐกิจที่เป็นการยกระดับสถานภาพทาง เศรษฐกิจของผู้มีรายได้น้อยหรือผู้ยากไร้ในสังคม ได้มีโอกาสใช้ศักยภาพท่ีมีอยู่ในการประกอบอาชีพท่ีเป็นการพ่ึงพาตนเอง ภายใตก้ ารแนะนำของหน่วยงานรัฐทเ่ี กี่ยวข้อง อนั เปน็ การสรา้ งรายได้เพอ่ื ใหม้ ชี ีวิตทดี่ ีขน้ึ ดงั นี้158 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ นี าถ คู่พระบารมี

โครงการฟารม์ ตวั อยา่ ง พระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต วันอาทิตย์ท่ี ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ความตอนหนึ่งวา่ “...ต่อไปโลกเราน่ีอาหารอาจจะขาดแคลนก็เป็นได้ ก็เลยคิดว่าถ้าแต่ละประเทศ สามารถที่จะผลิตอาหารมากข้ึน ก็จะช่วยมากในอนาคตท่ีจะไม่ให้เกิดมีความอดอยากเกิดข้ึน ข้าพเจ้าก็เลยมีโครงการฟาร์มตัวอย่าง และอีกอย่างราษฎรท่ีมาหา และพูดว่าไม่มีงานจะทำ เรียนจบก็ไม่มีงานจะทำ ก็ได้อาศัยบรรจุเป็นคนงานของฟาร์มตัวอย่าง ในเวลาเดียวกันเขาก็ ได้ดูว่าการเลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ วิธีไหนบ้าง การเล้ียงสัตว์ท่ีถูกต้อง และเม่ือเขาออกไปแล้ว เขาก็ สามารถที่จะเลี้ยงสัตว์ของเขาได้โดยถูกต้อง โครงการฟาร์มตัวอย่างก็อีกละได้รับความ ช่วยเหลือจากองค์การของรัฐบาลมากมาย ทางปศุสัตว์ได้รับความช่วยเหลือมากมาย ก็มีที่ภาคเหนือ คือ บ้านขุนแตะ บ้านแม่ตุงติง ขุนแตะก็อำเภอจอมทอง แม่ตุงติงก็อำเภอ สะเมิงและตอนน้ีพยายามจะเร่ิมทำฟาร์มตัวอย่างที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี หวังให้ เป็นแหล่งผลิตอาหาร เป็นคลังอาหารท่ีจะหล่อเล้ียงคนไทย จะไม่เป็นที่น่าหวาดเกรงว่า ต่อไปอาหารจะแพงมาก และคนท่ียากจนจะลำบาก ถ้าตั้งคลังอาหารขึ้นตามท่ีต่าง ๆ และ อีกอย่างประชาชนก็ดีใจได้มารับจ้างทำงานเป็นจำนวนมากแต่ละฟาร์มตัวอย่าง และเราก็ จ่ายค่าแรงให้เขาดีเชียว เพื่อว่าเขาได้ไปเล้ียงครอบครัว ทีนี้ผู้ช่วยเหลือของข้าพเจ้าก็พูด บอกว่า ถ้าทรงจ่ายอย่างนี้ เด๋ียวจะทำให้มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ฯ ขาดทุน ข้าพเจ้าก็บอกว่า ขออย่ามาพูดกับฉันเร่ืองกำไรขาดทุนในการจัดทำโครงการ เพราะว่าถึงแม้โครงการส่งเสริม ศิลปาชีพนี่จะขาดทุน แต่แผ่นดินจะมีกำไร แผ่นดินไทย เพราะการที่แผ่นดินมีคนท่ีมีงานทำ มปี ระชาชนทีม่ คี วามสขุ มีความเป็นอยทู่ ่ดี ี ก็เป็นของท่พี วกเราต้องการกัน...” พระองคม์ พี ระราชดำรใิ หจ้ ดั ตงั้ โครงการฟารม์ ตวั อยา่ งตามพระราชดำริ ซง่ึ ไดด้ ำเนนิ การมาตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๕๔๐ เปน็ ตน้ มาโดยมีวัตถปุ ระสงค์หลัก ๔ ประการ คือ ๑. เปน็ แหล่งจา้ งงานของชาวบ้านที่ยากจน ๒. เป็นแหลง่ ผลติ อาหารทีป่ ลอดสารพษิ ใหแ้ ก่ชุมชนนน้ั ๆ และชุมชนใกล้เคยี ง ๓. เปน็ แหล่งให้วิชาความรใู้ นการประกอบอาชพี แก่ผทู้ ่เี ข้ามาทำงาน โดยเปน็ การเรยี นร้แู บบ “Learning by doing”เพ่อื ใหบ้ ุคคลเหลา่ นัน้ สามารถนำไปดำเนินการเองได้ในท่ีดนิ ของตนเอง ๔. เปน็ แหล่งทอ่ งเทยี่ วเชงิ เกษตร ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ ค่พู ระบารมี 159

กจิ กรรมทด่ี ำเนนิ งานในชว่ งแรก ๆ จะเกย่ี วกบั การสาธารณปู โภค สงิ่ อำนวยความสะดวก ถนน แหลง่ นำ้ เพอื่ สนบั สนนุกิจกรรมภายในโครงการ ฯ เชน่ ปลกู พืชผักพนั ธุไ์ มผ้ ลชนิดต่าง ๆ การเลีย้ งปศสุ ตั ว์ เป็ด ไก่ หมู และเล้ียงปลา เปน็ ต้น นอกจากนี้ได้ดำเนินการอนุรักษ์สภาพป่าต้นน้ำลำธารธรรมชาติทำให้เกิดความชุ่มชื้นแก่พ้ืนดินและป่าไม้ ทั้งน้ีในบางพ้ืนท่ีได้มีการพระราชทานความชว่ ยเหลอื โดยให้จัดหาพน้ื ทส่ี ำหรับการดำเนนิ โครงการฟารม์ ตวั อยา่ ง พร้อมทั้งมอบหมายใหเ้ จ้าหนา้ ที่สำนักพระราชวังเป็นผ้ปู ระสานงานและดูแลการปฏิบัติงานในพื้นท่ี อาทิ ฟาร์มตัวอย่างหนองหมากเฒ่า ตามพระราชดำริ ซง่ึ ตงั้ อยูท่ ่ีหนองหมากเฒ่า บ้านนาคำ ตำบลหว้ ยยาง อำเภอเมือง จงั หวดั สกลนครป้ายฟารม์ ตวั อยา่ งหนองหมากเฒ่า พน้ื ท่ีภายในฟาร์มตัวอยา่ งหนองหมากเฒ่า160 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินนี าถ คพู่ ระบารมี

นอกจากน้ี พระองคย์ งั มพี ระราชดำรใิ หจ้ ดั สรา้ ง “โครงการหมบู่ า้ นเศรษฐกจิ พอเพยี ง และฟารม์ ตวั อยา่ ง” ขนึ้ ทบี่ า้ นรอตันบาตู ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เพ่ือช่วยเหลือครอบครัวของราษฎร ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไมส่ งบ เริ่มดำเนนิ โครงการตั้งแต่เดือนกนั ยายน ๒๕๔๗ โดยจดั สร้างบ้านพกั ใหแ้ ก่ราษฎรจำนวน ๑๕๐ หลัง พร้อมพนื้ ท่ีทำกินตามโครงการเศรษฐกจิ พอเพยี ง ครวั เรือนละ ๒ ไร่ อีกท้งั ยงั มีฟาร์มตวั อยา่ ง อย่ใู นพื้นท่ตี ่อเน่อื งกัน เพื่อเปน็ แหล่งจ้างงานและฝกึ สอนงานเกษตรกรรมแกร่ าษฎร เนอ่ื งจากราษฎรทเ่ี สยี ชวี ติ ไปนน้ั สว่ นใหญเ่ ปน็ ผชู้ าย ผทู้ ตี่ อ้ งรบั ภาระดแู ลครอบครวั ตอ่ ไปจงึ มกั เปน็ ภรรยาหรอื มารดาดงั นนั้ หมบู่ า้ นทจ่ี งั หวดั สรา้ งขนึ้ เพอ่ื ชว่ ยเหลอื ราษฎรแหง่ นี้ จงึ มผี เู้ รยี กชอ่ื อยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการในระยะแรกวา่ “หมบู่ า้ นแมม่ า่ ย”โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยราชการ ท้ังทหาร ตำรวจและพลเรือนเป็นอย่างดี รวมท้ังมีผู้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินร่วมสร้างบ้านพักให้แก่ผู้ประสบเคราะห์กรรม จึงช่วยให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างรวดเร็ว สามารถผ่อนคลายความเดือดร้อน และความทุกข์ของผู้สูญเสียได้มาก พระองค์มีพระราชดำริให้โครงการฟาร์มตัวอย่างเป็นแหล่งผลิตอาหารให้แก่ประเทศเพื่อไม่ให้มีการขาดแคลนโดยแนะนำการเกษตรกรรมท่ีถูกต้อง รวมท้ังยังเป็นการคล่ีคลายปัญหาการไม่มีงานทำอกี ดว้ ย โครงการธนาคารอาหารชมุ ชน มีพระราชกรณียกิจและพระราชทานโครงการต่าง ๆ ท่ีแสดงให้เห็นถึงพระราชปณิธานที่มีส่วนร่วมต่อการคล่ีคลายปัญหาความแตกต่างของฐานะทางเศรษฐกิจของชนในชาติ โดยเม่ือใดท่ีประเทศประสบปัญหาด้านต่าง ๆ อาทิ ปัญหาเศรษฐกิจหรือปัญหาสาธารณภัย จะยังผลให้ผู้มีรายได้น้อยประสบกับความทุกข์ยากท่ีเกิดข้ึนจากเหตุการณ์เหล่าน้ันเสมอมาทรงมีความห่วงใยสภาพแวดล้อมของโลก และทรงทราบข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติว่า ในอนาคตโลกจะประสบปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น รวมถึงปัญหาการขาดแคลนอาหาร เน่ืองจากการเพิ่มขึ้นของประชากร จึงมีพระราชดำรัสกับคณะทำงานโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ ณ เรือนประทับแรมปางตอง จงั หวัดแม่ฮอ่ งสอนวา่ มีพระราชประสงค์ใหจ้ ังหวัดแมฮ่ อ่ งสอนเปน็ แหลง่ สะสมอาหารตามธรรมชาติ เปน็ ธนาคารอาหารชมุ ชนทมี่ คี วามหลากหลาย ทงั้ พชื ผกั สวนครวั พชื สมนุ ไพรและสตั ว์ป่า ทีร่ วมอยดู่ ้วยกนั ตามความเหมาะสมของพืน้ ท่ี ภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานราชการต่าง ๆ และชมุ ชน ซึ่งเปน็การพัฒนาที่สอดคล้องระหว่างคนกับป่าให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อันจะนำไปสู่การพัฒนาท่ียั่งยืนของชุมชน ซึ่งการดำเนินงานธนาคารอาหารชุมชนน้ัน “นำ้ ” เปน็ สิ่งสำคัญที่สุด แตน่ ้ำจะอดุ มสมบรู ณไ์ ด้ตอ้ งอาศยั “ป่า” ทีส่ มบูรณเ์ พอ่ื ใหส้ ามารถเก็บกกัน้ำไว้ได้ ดังนั้น จึงต้องมีการใช้ประโยชน์จากป่าอย่างเกื้อกูลให้ป่าเป็นแหล่งสะสมอาหารตามธรรมชาติท่ีราษฎรสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์พร้อมกับร่วมดูแลรักษา และให้เป็นแหล่งน้ำเพ่ือหล่อเล้ียงคนทั้งประเทศตลอดไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติท้ังปา่ ไม้ สัตวป์ ่า โดยเฉพาะแหล่งนำ้ ธรรมชาติท่มี นี ำ้ ตลอดปใี นหลายพื้นทีข่ องจงั หวดั แม่ฮ่องสอน ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ คู่พระบารมี 161

โครงการธนาคารอาหารชุมชน (Food Bank) จงึ เป็นโครงการหน่งึ ทเ่ี สริมสรา้ งความเสมอภาคทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ ประชาชนได้ดำรงชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข โดยมีองค์ประกอบที่สำคัญคือ การสร้างแหล่งอาหารในผืนป่าเพ่ือให้เป็น ธนาคารอาหารของชุมชน โดยการปลูกพืชเป็นอาหาร ยารักษาโรค ไม้ใช้สอย และพืชท่ีเป็นอาหารของสัตว์ป่า รวมถึงพืช ท่ีสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อให้เกิดแหล่งพักอาศัยของสัตว์ต่าง ๆ เกิดพืชอิงอาศัยอยู่กันได้ รวมถึงการปลูกพืช เศรษฐกิจร่วมกับป่าและการสร้างแหล่งอาหารในชุมชนและบ้านเรือนท่ีอยู่อาศัย โดยการปลูกพืชท่ีใช้เป็นอาหารในชีวิต ประจำวันภายใต้หลักการ “ปลูกท่ีกิน กินท่ีปลูก” พืชอาหารหลักของคนและสัตว์ ได้แก่ การทำนา การทำไร่ การเล้ียงสัตว์ ท่ใี ชเ้ ปน็ อาหารรอบบรเิ วณบา้ น ภายใต้หลกั การ “เลย้ี งสตั วท์ ่กี ิน กนิ สตั วท์ เ่ี ลย้ี ง และสตั วใ์ หญ่คือแหล่งเงนิ ออม” การสร้าง แหลง่ เกบ็ ออมอาหารในครัวเรอื นและชมุ ชนโดยใช้หลัก “ใหม้ กี นิ ครบ ๑๒ เดือน” ไดแ้ ก่ การเกบ็ ผลผลิตในยุ้งฉาง การแปรรปู และการถนอมอาหาร การมีธนาคารข้าวประจำชุมชน และการประกอบกิจกรรมการเกษตร เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือน โดยเน้นการปลูกตามความเหมาะสมแกพ่ น้ื ท่ีและสภาพตลาด หลกี เลี่ยงการใชส้ ารเคมี จากแนวพระราชดำริเร่ืองโครงการธนาคารอาหารชุมชน ทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้ร่วมกันดำเนินโครงการถวาย สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ณ บ้านนาป่าแปก ตำบลหมอกจำแป๋ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นแหง่ แรก บนพ้นื ท่ี ๑๕๐ ไร่ โครงการธนาคารอาหารชมุ ชนบา้ นนาป่าแปกประสบผลสำเร็จดว้ ยดี และไดข้ ยายผลไปในพืน้ ที่ ตา่ ง ๆ ตอ่ ไป (สำนกั หอจดหมายเหตุแหง่ ชาต,ิ ๒๕๕๘, น. ๓๖-๓๗)162 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ คูพ่ ระบารมี

พระราชกรณยี กิจดา้ นสิทธมิ นษุ ยชน ผดู้ ้อยโอกาสและผพู้ ิการ ตลอดระยะเวลาอันยาวนานท่ีทรงวิริยอุตสาหะตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินไปเย่ียมราษฎรทุกภูมิภาคของประเทศอย่างมิทรงย่อท้อต่อความเหนื่อยยาก ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปแม้ในท้องถิ่นทุรกันดาร เพ่ือให้ทรงทราบถึงปัญหาและความทุกข์ยากของพสกนิกร จากการท่ีทรงได้ทราบทุกข์สุขจากปากคำของราษฎรเอง พระองค์จึงมีพระราชดำริหาทางช่วยเหลือหลายทาง เช่น การศึกษา อนามัย อาชีพ ทรงสละพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ประเดิมในโครงการช่วยเหลือราษฎร ทรงหาแนวทางแก้ไข ขจัดทุกข์ ผดุงสุขแก่พสกนิกรอย่างมิได้ทรงหยุดย้ังมพี ระราชหฤทยั ที่ละเอียดอ่อนลึกซง้ึ ทรงเป็นห่วงแม้เร่ืองกินอยู่ของประชาชนทกุ หมู่เหล่า ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินีนาถ คพู่ ระบารมี 163

ด้วยน้ำพระราชหฤทัยดังกล่าวจึงทรงเป็นที่รักย่ิงของปวงชนชาวไทย กอปรด้วยพระปรีชาในการฟื้นฟูงานศิลปะ ที่สร้างสรรค์อาชีพให้แก่ราษฎร ชาวไร่ ชาวนาผู้ยากไร้ที่ด้อยโอกาส และผู้พิการ จนมีความสามารถปราดเปรื่อง สร้างสรรค์ ผลงานหตั ถศิลปท์ ี่ประณตี บรรจงทงั้ งานปนั้ งานปกั งานวาดเขยี น แกะสลกั ถกั ทอ งานหลอ่ และงานจกั สาน นับเปน็ การสรา้ ง คุณค่าแก่บุคคลและชิ้นงาน ราษฎรในชนบทจึงมีอาชีพเสริม มีรายได้เพ่ิม สามารถจะยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิต ของตน ทรงพระกรณุ าสง่ เสริมศลิ ปาชพี อันเป็นการดำรงรกั ษาเอกลกั ษณศ์ ลิ ปวัฒนธรรมของชาติไทย แสดงถึงพระราชปณธิ าน อนั แนว่ แนท่ ่ที รงอำนวยความสุขแก่วิถีชีวิตของราษฎร พระเมตตาของพระองคแ์ ผ่ไปทั่วแผ่นดนิ ไทย ทกุ ชวี ิตในผนื แผ่นดนิ ไทย ท้ังคนไทยและคนต่างชาติมีสิทธิอนั เท่าเทยี มที่จะได้รับน้ำพระราชหฤทยั จากสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ิติ์ พระบรมราชินีนาถ ดงั นี้ ทรงพระเมตตาตอ่ ประชาชนจากประเทศเพอ่ื นบา้ น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีน้ำพระราชหฤทัยต่อพสกนิกรทั่วไปท้ังคนไทยและ คนต่างชาติ ดังเช่นสมัยท่ีชาวกัมพูชาอพยพหนีสงครามในประเทศของตนเองมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ณ เขาล้าน จังหวัดตราด เม่ือ พ.ศ. ๒๕๒๒ และเป็นข่าวปรากฏไปท่ัวโลก (สภากาชาดไทย, ม.ป.ป.) ในวันท่ี ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๒๒ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรสถานการณ์ และทรงให้เจ้าหน้าท่ี ท่ีเก่ียวข้องปฏิบัติงานช่วยเหลือ ขณะนั้นมีชาวกัมพูชาอพยพประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ คน ต่างอาศัยอยู่ตามร่มไม้ใต้ผ้าพลาสติก ท่ีใชไ้ มป้ ักเป็นหลกั ผกู พอคุ้มแดด เดก็ ออ่ นไมม่ ีนมจะกนิ น้ำและอาหารขาดแคลน ขาดสุขอนามยั อยา่ งย่ิง โรคลงทอ้ งเริ่มระบาด โรงพยาบาลไม่สามารถรับคนไข้ได้เพียงพอ ชาวกัมพูชามีแต่ความส้ินหวัง จึงมีพระราชเสาวนีย์ให้นางพระกำนัลและเจ้าหน้าท่ี กองราชเลขานุการในพระองคส์ มเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ิต์ิ พระบรมราชินนี าถ ชงนมให้เด็กออ่ น จดั หาอาหาร ยารักษาโรคให้แก่ ผู้อพยพเหล่าน้ี และมีพระราชดำริให้สร้างศูนย์กาชาดท่ีตำบลเขาล้าน จังหวัดตราด เพื่อช่วยเหลือให้มีความเป็นอยู่ท่ีถูก สขุ อนามยั (ท่านผหู้ ญงิ เกนหลง สนทิ วงศ์ ณ อยธุ ยา, ๒๕๕๐)164 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ คพู่ ระบารมี

พระราชกรณยี กจิ ดา้ นสทิ ธิมนษุ ยชนขนั้ พน้ื ฐาน พระองคไ์ ดท้ รงปฏบิ ตั พิ ระราชกรณยี กจิ ตา่ ง ๆ มากมายมาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ทรงสง่ เสรมิ อาชพี ความเปน็ อยขู่ องผดู้ อ้ ยโอกาสผพู้ กิ ารและประชาชนในชนบทหา่ งไกล พระองคโ์ ดยเสดจ็ พระราชดำเนนิ ตดิ ตามพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชไปทุกหนแห่งบนผืนแผ่นดนิ ไทยเพอื่ ขจดั ปัดเป่าความทุกข์ยากและเปน็ มิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยอย่างหาทส่ี ุดมไิ ด้ นอกจากนี้พระมหากรุณาธิคุณยังแผ่ไปถึงค่ายอพยพตามแนวชายแดนของประเทศไทยในคราวท่ีประเทศเพ่ือนบ้านประสบทุกข์ภัยจากสงคราม ทรงให้ความช่วยเหลือผู้คนโดยไม่คำนึงถึงเช้ือชาติ ศาสนาและเผ่าพันธุ์ พระองค์จึงได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวลั และปรญิ ญาดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ด์ิ ดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนและสาขามนษุ ยธรรมจากหลายสถาบนั จงึ เปน็ ทป่ี ระจกั ษช์ ดัว่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ทรงให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนขั้นพ้ืนฐาน ศักด์ิศรีและคุณค่าของมนุษย์เพราะสทิ ธมิ นษุ ยชนนน้ั เปน็ สทิ ธขิ องมนษุ ยท์ กุ คนบนโลกทต่ี ดิ ตวั มาตงั้ แตเ่ กดิ และเปน็ สากล ไมแ่ บง่ แยกเชอ้ื ชาติ ชนชาติ ประเทศเพศ ผิวพรรณ ภาษา ศาสนา วัฒนธรรม สติ ปญั ญา ความสามารถ ฐานะทางเศรษฐกจิ และการดำรงชีพทจี่ ะดำเนนิ ชีวติ อยา่ งมีศกั ดศิ์ รี มีอสิ ระ เสรีภาพ เสมอภาค มีชีวติ ทด่ี ี และได้รบั การยอมรับจากสงั คมและการปฏิบัติจากรฐั อยา่ งเหมาะสมและได้รับความคมุ้ ครอง ซง่ึ ปรากฏชดั จากการทรงงานตลอดระยะเวลาอนั ยาวนาน แสดงใหเ้ หน็ บทบาททส่ี ำคญั ในการสง่ เสรมิ ความกา้ วหนา้ทางสงั คมและมาตรฐานแหง่ ชวี ติ ทดี่ ขี น้ึ ของประชาชนชาวไทย ตลอดจนประชาชนของประเทศเพอ่ื นบา้ นทไ่ี ดร้ บั ความทกุ ขร์ อ้ นโดยพระองคไ์ มเ่ ลอื กปฏบิ ตั ติ อ่ บคุ คลเพราะเหตแุ หง่ ความแตกตา่ งในเรอ่ื งถน่ิ กำเนดิ เชอ้ื ชาติ ศาสนา ภาษา เพศ อายุ ความพกิ ารสภาพทางกาย หรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกจิ หรอื สังคม การศกึ ษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองในการทรงงานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ น้ัน พระองค์ทรงไว้ซ่ึงหลักการพ้ืนฐานของสิทธิมนุษยชนในทกุ พระราชกรณยี กิจ ดังนี้ ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ นี าถ คู่พระบารมี 165

ทรงไมเ่ ลอื กบคุ คลและโอกาส ดว้ ยพระราชหฤทยั ทคี่ ำนงึ ถงึ ประชาชนทกุ คนอยา่ งเทา่ เทยี มเตม็ เปยี่ มไปดว้ ยพระมหากรณุ าธคิ ณุ ดงั เมอื่ ครงั้ ทรงไดร้ บั สถาปนาเป็นสมเด็จพระราชนิ ีใหม่ ๆ นน้ั เกิดอุทกภยั วาตภัย และอัคคีภยั ข้นึ ท่จี ังหวัดใด ราษฎรไดร้ บั ความเดอื ดร้อน พระองค์ จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ขา้ ราชบริพารฝ่ายในนำอาหาร เสอื้ ผา้ ยารกั ษาโรค สิง่ ของเคร่อื งใช้ไปแจกจา่ ย ให้แก่ผ้ทู ีป่ ระสบภยั เหล่าน้นั อยา่ งทนั ท่วงที เพอ่ื บรรเทาความเดอื ดรอ้ นในเบอ้ื งตน้ ดังพระราชดำรัสพระราชทานแกค่ ณะบุคคล ต่าง ๆ ทีเ่ ข้าเฝ้าทูลละอองธุลพี ระบาทถวายพระพรชยั มงคลเนอ่ื งในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจติ รลดา วันองั คารที่ ๑๑ สงิ หาคม ๒๕๓๐ ความตอนหนึ่งว่า “ . . . ข้ า พ เจ้ า โช ค ดี ที่ ไ ด้ มี โ อ ก า ส ต า ม เ ส ด็ จ พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เจ้ า อ ยู่ หั ว ทรงเย่ียมราษฎรท่ัวประเทศมานานหลายปี ได้แลเห็นพระวิริยอุตสาหะและพระราชศรัทธาที่ จะทำงานเพ่ือประเทศชาติและประชาชน ทั้งยังทรงสอนเรื่องการทำงานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย ทำให้ข้าพเจ้าซาบซึ้งในพระราชปณิธาน และได้ตั้งใจปฏิบัติงานท่ีทรงมอบหมายมาอย่างสุด ความสามารถ คือ งานด้านสังคมสงเคราะห์ต่าง ๆ ได้แก่ การช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บไข้ได้ป่วย ช่ วยเหลือทา งด้ าน ส วั ส ดิ ก า ร ค ร อ บ ค รั ว แ ล ะ ส่ ง เ ส ริ ม อ า ชี พ ท า ง ด้ า น หั ต ถก ร ร ม . . . เพราะงานเพ่ือประชาชนทั้งหลายมีความสำคัญเสมอกัน ย่อมต้องปฏิบัติไปพร้อม ๆ กัน จะละเว้นทางหนึ่งทางใดเสียมิได้...”166 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินนี าถ ค่พู ระบารมี

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ทรงไม่เลือกปฏิบัติและไม่ทรงละเว้นในเรื่องเดือดร้อนทุกเรื่องท่ีถึงพระเนตร พระกรรณ ทรงพระเมตตาตอ่ ผทู้ ตี่ กทกุ ขไ์ ดย้ าก โดยไมเ่ ลอื กวา่ ผนู้ นั้ จะเปน็ ใคร ชนชาตใิ ด ศาสนาใด ภาษาใด แตท่ กุ คนอยใู่ ตร้ ม่ พระบารมโี ดยแท้ ดังพระมหากรุณาธิคุณทปี่ รากฏตอ่ สายตาของประชาชนท่วั ประเทศ อาทิ กรณีนายจอบิ ชาวกระเหร่ียง เข้ามารับจ้างทำไร่ท่ีจังหวัดราชบุรี ถูกตั้งข้อหาฉกรรจ์ ว่ายิงปืนเข้าไปในรถนักเรียนที่บ้านคา จังหวัดราชบุรี และนักเรียนเสียชีวิต หลังจากถูกจองจำ เพ่ือการพิจารณาสอบสวนนานกว่าสองปีแล้ว ปรากฏว่านายจอบิมไิ ดเ้ ปน็ ผูก้ ระทำผดิ แต่อยา่ งใด จงึ ไดร้ ับการปล่อยตัวเมอื่ วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๔๗ เร่อื งราวของนายจอบไิ ด้ส่อื มวลชนเสนอข่าวอย่างแพร่หลาย และได้รับความสงสารจากคนทั่วไป นายจอบิซ่ึงเคยเป็นคนท่ีแข็งแรงได้มีอาการป่วยจนผ่ายผอมขาลีบท้งั สองขา้ ง ไมม่ ีเร่ียวแรงใกลจ้ ะพิการ เมื่อความทราบฝ่าละอองธลุ พี ระบาท สมเดจ็ พระนางเจ้าสริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้รับนายจอบิเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พร้อมท้ังพระราชทานเงินส่วนพระองคเ์ ปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยในเรอื่ งอาหารและเส้ือผ้าระหวา่ งรกั ษาตวั ทำให้อาการปว่ ยของนายจอบิดีขน้ึ อย่างรวดเร็ว ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินนี าถ ค่พู ระบารมี 167

กรณีปู่เย็นท่ีอาศัยอยู่ในเรือบริเวณเชิงสะพานลำไยในแม่น้ำเพชรบุรี ดำรงชีวิตด้วยการดักอวนหาปลา ถ้าเหลือกิน ก็จะขายให้ในราคาถูก แต่ถ้าใครเอาเงินให้ปู่เย็นฟรี ๆ ท่านจะไม่รับและรู้สึกโกรธ เพราะอุปนิสัยของปู่เย็น คือ ไม่ต้องการ ให้ใครมาสงสาร มีแต่ความสงสารและเกรงใจคนอื่น ๆ จากการที่กระแสความนิยมของปู่เย็นเกิดข้ึนท่ัวประเทศ ช่ือของปู่เย็น จึงได้กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของแม่น้ำเพชรบุรีและจังหวัดเพชรบุรีไปโดยปริยาย และมีคนมาเยี่ยมเยียนท่านอยู่เสมอ ต่อมาปู่เย็นได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ โดยการรับพระราชทานเรือลำใหม่ ซ่ึงทำด้วยไฟเบอร์กลาส เพ่ือใช้แทนเรือเหล็กลำเดิมท่ีอยู่ในสภาพทรุดโทรม เมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๔๘ ซ่ึงปู่เย็นได้อาศัย ในเรอื ลำน้ีมาตลอดจนถงึ วาระสดุ ท้ายของชวี ติ กรณีนายคริสโตเฟอร์ เบญจกุล ประสบอุบัติเหตุโดนรถชนจากการลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยบนท้องถนน คริสเป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอ โดยเฉพาะเร่ืองการทำความดีเขาบอกว่า “ถึงผมจะโดนรถชนจากการลงไปช่วยเหลือคน ก็ไม่ทำให้ผมท้อที่จะทำความดี ผมคิดว่าอย่างน้อยเร่ืองของผมจะทำให้คนท่ีเมาแล้วขับฉุกใจคิดซักนิดว่าถ้าคุณเมาแล้วขับ คุณจะทำให้คนอ่ืนเดือดร้อน เหตุการณ์คร้ังนี้ยังทำให้ผมได้โอกาสที่ดีท่ีสุดในชีวิต นั่นคือผมได้รับพระราชทานพระมหากรุณา จากสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ” ครอบครวั ของครสิ ไดร้ บั โอกาสเขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิติ์ พระบรมราชนิ นี าถ ทกุ ปแี ละทรงรับครสิ เปน็ คนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ กรณเี หตกุ ารณเ์ จา้ หนา้ ทตี่ ำรวจตระเวนชายแดนชดุ พลรม่ พเิ ศษ ๐๑ ของฐานปฏบิ ตั กิ ารตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) มว.รพศ.๑ บา้ นสันติ ๑ ถูกกลุ่มผ้กู ่อความไม่สงบลอบซมุ่ โจมตบี นถนนสายเข่อื นบางลางสนั ติ ๑ หม่ทู ี่ ๒ ตำบลเข่ือนบางลาง อำเภอบนั นงั สตา จังหวดั ยะลา ขณะออกลาดตระเวนพน้ื ทีแ่ ละปะทะกัน เปน็ เหตุให้ ร.ต.ต.กฤตตกิ ุล บญุ ลอื หรอื “หมวดต”ี้ รอง ผบ.ร้อย ตชด.หน่วยเฉพาะกิจ หน่วยรบพิเศษที่ ๑ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุด เสียชีวิตในท่ีเกิดเหตุ และมีเจ้าหน้าท่ีบาดเจ็บ เมอ่ื วนั ท่ี ๒๐ มถิ นุ ายน ๒๕๕๑ สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ มพี ระราชหตั ถเลขา เมอ่ื วนั ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๑ จากพระตำหนักจิตรลดา ฯ พระราชทานแก่ นางพิมพลักษณ์ บุญลือ อาจารย์ประจำโรงเรียนบางปะหัน อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มารดาของ ร.ต.ต.กฤติกุล บุญลือ หรือหมวดตี้ รองผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน หนว่ ยเฉพาะกจิ หนว่ ยรบพเิ ศษท่ี ๑ ซงึ่ เสยี ชวี ติ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ทใ่ี นพน้ื ท่ี โดยพระราชหตั ถเลขา ของสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ มีขอ้ ความว่า ถงึ คุณนรินทร์ และคุณพมิ พลักษณ์ บญุ ลือ เมื่อคร้ังที่ทราบข่าวว่า ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ สละชีวิตเพ่ือปกป้องแผ่นดินไทย ในภารกิจลาดตระเวนพื้นท่ี จังหวัดยะลา เมื่อวันท่ี ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๑ ข้าพเจ้าก็เศร้าเสียใจมากอยู่แล้ว แต่เม่ือมาได้อ่านหนังสืออนุสรณ์งาน พระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ต.กฤตติกุล จึงทราบถึงอุดมการณ์ของเขาท่ีต้องการทำหน้าท่ีอันยิ่งใหญ่ในการพิทักษ์รักษา แผน่ ดนิ แม่ อีกท้งั ร.ต.ต.กฤตตกิ ุล ยังเขียนบันทึกไวด้ ว้ ยวา่ ภมู ิใจที่ได้ทำหน้าทีอ่ ารกั ขาข้าพเจ้า เมอ่ื ปีท่ีแลว้ อนุ่ ใจท่ีไดใ้ ช้ ผ้าเช็ดตัวจากสิ่งของพระราชทาน ซ่ึงข้าพเจ้ามอบให้กองกำลังอารักขาเป็นประจำเสมอมา และดีใจมากท่ีได้ไปร่วม งานเล้ียงอาหารท่ีทักษิณราชนิเวศน์ ทำให้ข้าพเจ้าย่ิงรู้สึกสะเทือนใจ และแสนเสียดายหนักหนาที่ยังไม่เคยมีโอกาสได้ พดู คุยกับวรี บุรุษหนุ่มนอ้ ยผู้นีเ้ ลย168 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ คู่พระบารมี

ร.ต.ต.กฤตติกุล คือลูกไทยผู้มั่นในความซ่ือตรงจงรักภักดีต่อประเทศชาติ นับเป็นโชคดีเหลือล้นท่ีประเทศไทยมีผู้กลา้ หาญทไ่ี มค่ ดิ หลบหลีภยั เมอื่ มีภัยมาถงึ บา้ นเมือง แต่กลบั เลอื กท่จี ะไปเส่ียงชีวิตอยใู่ นดนิ แดนอันตราย เพือ่ ให้พน่ี ้องชาวไทยส่วนใหญ่ได้อยู่รอดปลอดภัย ข้าพเจ้าทราบดีว่าคุณนรินทร์ และคุณพิมพลักษณ์ เสียใจเพียงใดท่ีต้องสูญเสียบุตรชายผเู้ ป็นทร่ี กั แต่ขอให้ท่านทัง้ สองจงภมู ใิ จในสายโลหติ ผขู้ น้ เข้มเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักชาติผู้นเ้ี ถิด เพราะวีรกรรมของเขาจารกึ ไวใ้ นแผน่ ดินไทย และจารกึ อยู่ในความทรงจำของข้าพเจ้าตลอดไป นางพิมพลักษณ์ กล่าวว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าจะได้รับพระราชหัตถเลขา และรู้สึกดีใจท่ีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ มีพระราชหัตถเลขามาถึงตนเองและครอบครัว แม้บุตรชายจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็แสดงให้เห็นว่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ยังทรงเป็นห่วง ซ่ึงจากน้ีไปตนเองและสามี ถือได้ว่ามีกำลังใจในการใช้ชีวิตและจะเป็นครูสอนให้เด็กเป็นคนดีต่อไป พร้อมกันน้ีตนเองไม่มีส่ิงใดจะทดแทนพระมหากรุณาธิคุณครั้งน้ี ขอเพียงแต่ขอให้พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ และพระบรมวงศานวุ งศท์ กุ พระองคม์ พี ระพลานามยั ทส่ี มบรู ณ์แข็งแรง กรณเี ดก็ ชายเคอโิ งะ หรอื เคโงะ ซาโต วยั ๙ ขวบ นกั เรยี น ชน้ั ประถมปที ี่ ๔ โรงเรยี นอนบุ าลเมอื ง (ทา่ หลวงสงเคราะห)์อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร ซ่ึงมารดาเสียชีวิต และอาศัยอยู่กับป้า อาชีพขายไก่ย่างฐานะยากจน หาเลี้ยงตัวเองด้วยการขายอาหารเล้ยี งปลาหน้าวิหารหลวงพอ่ เพชร วัดท่าหลวง อำเภอเมอื งพิจิตร ไดน้ ำรปู ถา่ ยของบิดา เพ่อื ตามหากับนักทอ่ งเท่ียวต่างชาติ เพ่ือสืบหาเบาะแสของบิดาบังเกิดเกล้า จากเร่ืองราวดังกล่าวความได้ทราบถึงใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์และรับส่ังให้ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์ ฯ สอบถามถงึ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื เดก็ ชายเคอโิ งะ และความคบื หนา้ การตดิ ตามหาบดิ าบงั เกดิ เกลา้ และใหร้ ายงานผลการตดิ ตามค้นหา เพอ่ื ทราบถึงใตฝ้ ่าละอองธลุ ีพระบาท ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาท่ีสุดมิได้ ทำให้เด็กชายเคอิโงะได้พบพ่อและรู้สึกปลาบปล้ืมปีติท่ีมีพระเมตตาในการให้ความช่วยเหลือ จึงขอสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีของสังคม และโตขึ้นจะเป็นพลเมืองดีของประเทศไทย ที่ถึงแม้ว่าช่ือจะเปน็ ชาวญป่ี ุน่ แตต่ นกเ็ ปน็ คนไทย และจะไม่ลมื แผน่ ดินเกิดเดด็ ขาด พระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ น้ันมากมายสุดจะพรรณนา นอกจากนี้ ยังเป็นท่ีประจักษ์ว่าพระกรุณาธิคุณไม่เพียงแผ่ปกป้องปวงชนชาวไทยเท่าน้ัน หากแต่ยังทรงแผ่ปกไปถึงประชาชนของประเทศเพ่ือนบ้าน เช่น ชาวกัมพูชาอพยพลี้ภัยเข้ามาพ่ึงพระบรมโพธิสมภารในแดนไทยแถบจังหวัดตราด จันทบุรี และปราจีนบุรีมีพระราชศรัทธาและพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขผู้คนท่ีตกทุกข์ได้ยาก โดยมิได้ทรงเลือกเช้ือชาติศาสนา หรือ เผ่าพันธ์ุ พระปรีชาสามารถ และพระวิริยอุตสาหะที่ทรงทมุ่ เทอทุ ิศกำลังพระวรกาย พระสติปัญญา พระราชทรัพย์ในพระราชกรณียกิจต่าง ๆ เพื่อเกื้อกูลประโยชน์สุขของพสกนิกรน้ัน ได้ด่ืมด่ำอยู่ในหัวใจคนไทยท้ังชาติและหย่ังลึกลงเป็นรากฐานแห่งความจงรักภักดีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์เป็นผลให้เกิดความม่ังคง และนำศานติสุขมาสู่ปวงชนชาวไทย ในยามท่ีประชาชนของพระองค์ทุกข์ร้อนถึงท่ีสุดแม้ในยามเศรษฐกิจตกต่ำและมีคนตกงานจำนวนมาก พระองค์มิได้ทอดทิ้งผู้ใดแม้แต่คนเดียว ดังพระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่าง ๆ ท่ีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลเน่ืองในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดสุ ิดาลัย สวนจิตรลดา วนั เสารท์ ี่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๐ ความตอนหนึง่ วา่ ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินนี าถ คูพ่ ระบารมี 169

“…หลังจาก พ.ศ. ๒๕๔๐ มีประชาชนตกงานกันมาก ข้าพเจ้าได้ขอให้ทางสภาสังคม สงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดเลี้ยงอาหารแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ทำนองเดียวกันกับสมัยพุทธกาล ซึ่งข้าพเจ้าชอบอ่าน ชอบค้นอ่านดูสมัยพุทธกาลทำกัน อย่างไรบ้าง ที่มีผู้ใจบุญจัดตั้งโรงทานเล้ียงอาหารคนยากคนจน สภาสังคมสงเคราะห์ได้ช่วย มากกว่าสมัยพุทธกาล คือ ไปให้การสงเคราะห์ด้านอ่ืน ๆ อีกด้วย เช่น เชิญแพทย์มาตรวจ สุขภาพ มีนักกฎหมายมาให้คำแนะนำปรึกษาเร่ืองกฎหมาย มีบริษัทห้างร้านมารับสมัคร งาน มีบริการตัดผมให้ สภาสังคมสงเคราะห์ต้ังช่ือโครงการน้ีว่าโครงการน้ำพระทัย พระราชทาน มีผู้ใจบุญมาร่วมงานมาก บางคนมีกำลังทรัพย์ ก็ช่วยบริจาคทรัพย์สิ่งของ ท่ีมีกำลังสติปัญญาก็มาให้ความรู้ ให้คำปรึกษา ท่ีอุทิศกำลังกายเข้ามาช่วย มาประกอบ เก่ียวกับทำอาหาร มาล้างจานก็มี ซ่ึงเป็นเร่ืองท่ีน่าชื่นใจ และช่ืนชมในความมีน้ำใจ ไมท่ อดทง้ิ ราษฎรในยามทุกขย์ ากของคนไทย…”170 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ นี าถ ค่พู ระบารมี

สทิ ธใิ นความปลอดภยั และการดำรงชพี ในเดอื นกนั ยายน ๒๕๔๗ ระหว่างท่เี สด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับทพี่ ระตำหนักทักษณิ ราชนเิ วศน์จังหวัดนราธิวาส ทรงทราบว่ามีการก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ชาวสวนในจังหวัดเหล่านี้ ไม่สามารถจำหน่ายผลไม้ได้ ผลไม้เน่าเสียเกิดความเดือดร้อนเป็นอันมาก เพราะเป็นรายได้หลักอย่างเดียวของชาวสวนบางรายในการดำรงชีพ โดยเฉพาะชาวสวนลองกองซึ่งกำลังออกผล พระองค์จึงทรงหาทางช่วยเหลือแก้ไขทันที โดยมีพระราชเสาวนีย์ให้ข้าราชบริพารออกไปซ้ือลองกองถึงสวนของชาวบ้าน มีการประสานงานกับหน่วยงานทหารและหน่วยงานท่ีรับผิดชอบในพื้นท่ีให้ราคาซื้อขายเท่ากับราคาลองกองชนิดคุณภาพดี ชาวสวนต่างมีความยินดีและพยายามคัดลองกองคุณภาพดี ต่อจากนั้นสำนกั งานทรัพย์สินสว่ นพระมหากษตั ริยแ์ ละธนาคารไทยพาณิชย์ จำกดั (มหาชน) ได้เขา้ ชว่ ยเหลอื ซือ้ ลองกองนำมาจำหนา่ ยที่กรุงเทพ ฯ โดยจัดทำเป็นโครงการเฉพาะกิจ ช่ือ “โครงการน้ำพระทัยสู่ ๓ จังหวัดภาคใต้” หน่วยงานด้านส่ือสารมวลชนท้ังโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ต่างช่วยกันประชาสัมพันธ์ ทำให้ลองกองจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามโครงการดังกล่าวจำหน่ายหมดภายในเวลาอันรวดเรว็ ชว่ ยบรรเทาความเดือดรอ้ นของชาวสวนลองกองไปได้ส่วนหน่ึง ครั้งหนึ่งเม่ือสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชประสงค์ให้หมู่บ้านทหารกองหนุนเป็นหมู่บ้านผลิตอาหาร โดยให้สามารถทำการผลิตอาหารเพื่อใช้บริโภคภายในหมู่บ้าน และหากมีเหลือให้นำผลผลิตที่ได้ไปจำหน่ายยังชุมชนข้างเคียงด้วยเพ่ือเกื้อกูลกัน จึงมีพระราชดำริให้หน่วยทหารดำเนินการจัดทำโครงการโดยการปรับปรุงพัฒนาพ้ืนที่บ้านซึง่ อยู่ตดิ แนวชายแดนบรเิ วณลำน้ำเหือง บ้านบอ่ เหมืองนอ้ ย ใหส้ ามารถทำการผลติ อาหาร เพ่อื ใชบ้ ริโภคภายในหมูบ่ ้าน หากมีเหลือก็จะนำผลผลิตท่ีได้ไปจำหน่ายในพื้นที่หรือชุมชนข้างเคียง โครงการน้ีเร่ิมต้นรับสมาชิกจากทหารกองหนุนและราษฎรอาสาสมคั รชายแดน จำนวน๒๐ครอบครวั เขา้ เปน็ สมาชกิ มกี จิ กรรมหลกั คอื ผลติ อาหาร สรา้ งอาชพี ดแู ลรกั ษาปา่ ไมแ้ ละสงิ่ แวดลอ้ มเป็นโครงการที่ให้ราษฎรที่เป็นสมาชิกบริหารงานกันเอง สร้างจิตสำนึกในการเป็นเจ้าของและการมีส่วนร่วมต่อการบริหารโครงการและต่อสังคมรอบตวั จงึ เป็นโครงการท่ีประสบผลสำเรจ็ เปน็ รูปธรรม ปจั จบุ นั สามารถพฒั นาพน้ื ทเี่ ปน็ แหลง่ ผลติ อาหารและสรา้ งรายไดเ้ ปน็ รปู ธรรมแลว้ ในพนื้ ทก่ี องทพั ภาคที่ ๒ มี ๓ แหง่คือ ๑) บ้านบ่อเหมอื งน้อย ตำบลแสงภา อำเภอนาแหว้ จังหวัดเลย ๒) บา้ นไผทรวมพล ตำบลหนองแวง อำเภอละหานทรายจังหวัดบุรีรัมย์ และ ๓) บ้านนักรบไทย ตำบลบุ่งมะแลง กิ่งอำเภอสว่างวีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี (ศปร.กอ.รมน.ภาค ๒ค่ายสรุ นารี อ.เมือง นครราชสมี า, ม.ป.ป.) สทิ ธใิ นการปอ้ งกนั ตนและการไมถ่ กู ทำรา้ ย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเย่ียมทหารท่ีปฏิบัติการสู้รบ ต่อสู้ผู้ก่อการร้ายตามชายแดนถึงฐานปฏิบัติการต่าง ๆ แม้เป็นท่ีเส่ียงภยันตรายก็ทรงพระอุตสาหะเสด็จไปทรงดูแลทุกข์สุขปลอบขวัญถึงฐานปฏิบัติการต่าง ๆ เป็นขวัญกำลังใจ ให้ทหารต่อสู้ปกป้องผืนแผ่นดิน นำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่อาณาประชาราษฎร์ให้สามารถทำมาหากินได้อย่างสงบสุข ตราบจนภัยจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์สลายลงด้วยเดชะพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชและสมเดจ็ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนิ นี าถ น้ันเอง ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ นี าถ คพู่ ระบารมี 171

สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ ไดม้ พี ระราชดำรสั พระราชทานแกค่ ณะลกู เสอื ชาวบา้ น สมาชกิ ไทยอาสา ป้องกันชาติ และสมาชิกราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า และสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา วนั ที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๔๘ ดว้ ยความเปน็ หว่ งเป็นใยประชาชน ตอนหน่งึ ว่า “...พวกเราคนไทยท้ังหลายพลังทั้งหลายเหล่านี้ ช่วยกันรักษากฎหมายให้มีความ ศักดิ์สิทธ์ิได้ โดยไม่ต้องถืออาวุธอะไรเลย เพื่อจะนำความสงบสุขคืนมาสู่พื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้โดยเร็ว ช่วยให้พ่ีน้องคนไทยผู้บริสุทธ์ิได้ประกอบสัมมาอาชีพ และมีชีวิตอยู่ ในแผ่นดินเกิดอย่างปลอดภัย ถ้าทุกคนสามารถทำได้เช่นนี้ รวมใจกันรวมใจรวมหัวคิดรวม พลังกัน ประณามออกไปว่าการกระทำเช่นนี้ เป็นการกระทำที่เราอยู่เฉยไม่ได้ เพราะเป็นการ กระทำท่ีเป็นผลร้ายอย่างสาหัสแก่ประเทศชาติของเรา ซ่ึงพวกท่านท้ังหลายได้สาบานเอาไว้ แล้วว่าจะปกป้องประเทศชาติ ถ้าทุกคนทำได้เช่นนี้ทุกหมู่บ้านก็จะอุ่นใจ เพราะเราต่างดูแลซ่ึง กันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ข้าพเจ้าหวังให้ประเทศไทยของเรากลับเป็นดินแดนแห่ง ความสงบสขุ และมรี อยยม้ิ เหมือนแต่เกา่ ก่อน...” พระราชดำรัสดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงการกระตุ้นเตือนให้คนไทยได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมกันในการปกป้องสิทธิ ของคนไทยในเขตชายแดนภาคใตซ้ งึ่ กำลงั เผชญิ ทกุ ขจ์ ากการกอ่ การรา้ ยอยา่ งไรม้ นษุ ยธรรม ทรงไมแ่ บง่ แยกเชอ้ื ชาตหิ รอื ศาสนา ทุกคนทุกฝ่ายต้องพ่ึงพิงกัน และคนทุกคนมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหน่ึงในการปกป้องประเทศไทย (กระทรวงศึกษาธิการ, พระราชนิ ีของเรา : เรอื่ งเล่าจากแผน่ ดินใต,้ ๒๕๔๘)172 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินนี าถ คู่พระบารมี

พระมหากรณุ าธคิ ณุ แกป่ ระชาชนชาวไทยมสุ ลมิ จากสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ประชาชนมีการฝึกอาวุธ ทำให้ทุกคนระวังตัวหมด ไปไหนก็ไม่กล้าไปเมอ่ื กอ่ นเคยขายของในเมอื ง ไปรบั จา้ งในเมอื ง ตอนนจ้ี ะไปคนเดยี วกไ็ มก่ ลา้ มรี บั สง่ั วา่ จะชว่ ยเขาอยา่ งไรในเรอ่ื งการทำมาหากนิจึงเกิดโครงการฟาร์มตัวอย่างข้ึนมา เพ่ือจะสร้างงานให้กับชาวบ้าน คนไหนไม่กล้าไปทำงานในเมืองก็มาทำในฟาร์มทำการเกษตร ปลกู พชื ผกั สวนครวั เลย้ี งสตั ว์ สตั วป์ กี เชน่ เปด็ ไก่ และกม็ กี ารทำประมงในครวั เรอื น วนั ใดไมม่ กี บั ขา้ วกส็ ามารถชอ้ นปลาเป็นอาหาร นอกจากน้ันมีการเล้ียงแพะนมท่ีมีโปรตีนสูง และให้จ้างคนเข้ามาทำงาน เพื่อจะสอนให้เรียนรู้การทำเกษตรอย่างถกู หลกั วชิ าการ เมอ่ื ทำเปน็ แลว้ กจ็ ะไดน้ ำกลบั ไปทำในพน้ื ทข่ี องตวั เองได้ ผลผลติ เหลอื จากรบั ประทานกน็ ำมาขายใหฟ้ ารม์ รบั ซอ้ื การจัดตั้งฟาร์มน้ันอยู่ใกล้ ๆ กับแหล่งชุมชนเพ่ือท่ีประชาชนจะได้เดินทางมาทำงานง่าย บางแห่งเป็นกลุ่มของไทยพุทธอาศัยอยู่ท่ามกลางกลุ่มไทยมุสลิม ผู้ไม่หวังดีใช้วิธียุยงให้ราษฎรแตกสามัคคีกัน พระองค์พระราชทานความช่วยเหลือโดยชว่ ยใหเ้ ขาทำมาหากนิ ได้ทรงทำอยา่ งตอ่ เนอื่ งเชน่ เรอื่ งนำ้ บางบา้ นขดุ นำ้ ขน้ึ มานำ้ เปน็ สนมิ หากเปน็ หนา้ ฝนจงึ พอบรรเทาไดบ้ า้ ง(สถานีวทิ ยโุ ทรทัศนก์ องทพั บก, พระราชกรณยี กิจใน ๓ จงั หวัดชายแดนภาคใต้, ๒๕๔๕) พระองค์ทรงเมตตาประชาชนคนในชาติไม่ว่าเดือดร้อนมีปัญหาอะไร เช่น โครงการปะการังเทียม อำเภอไม้แก่นจงั หวดั ปัตตานี ชาวบ้านรอ้ งไหว้ ่าทำมาหากินไม่ได้ เคยทำประมงอยูช่ ายฝ่งั ตอนน้ปี ลาไมม่ ี จากนน้ั ตี ๓ พระองคเ์ รยี กประชมุ๒ ชั่วโมงว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไร ซึ่งมีสาเหตุจากอวนลากอวนรุน ต่อมารัฐบาลจึงได้มีการกำหนดระยะของการทำประมง ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ นี าถ ค่พู ระบารมี 173

คือ ระยะ ๕ กิโลเมตร จากชายฝัง่ ใช้เครอื่ งมอื ตกปลาขนาดเล็ก ระยะ ๕ – ๑๐ กิโลเมตร ให้ประมงปัน่ ไฟ และระยะ ๑๐ – ๑๕ กิโลเมตร อวนลากอวนรุนดำเนินการ แล้วทิ้งปะการังเทียมเพื่อป้องกันการใช้อวนท่ีระยะผิดประเภทและให้ปลาได้อาศัย ปะการังเทียมนีเ้ ปน็ ทหี่ ลบยามลมพายุแรง ๆ หรอื ใช้ชัง้ คือ ทางมะพรา้ วถว่ งด้วยปูนซเี มนตเ์ พ่ือใหป้ ลาเกาะอยูช่ ายฝง่ั พระองค์รับสั่งว่าอยากเห็นโครงการน้ีเกิดขึ้นก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ ซึ่งตอนนั้นเป็นวันท่ี ๒๔ กันยายน พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินกลับต้นเดือนตุลาคม ทุกฝ่ายก็รีบดำเนินการ น่ีคือการแก้ปัญหาให้ไทยมุสลิมโดยตรง ในอำเภอไมแ้ กน่ อำเภอสายบุรี อำเภอหนองจกิ อำเภอเมอื ง จงั หวดั ปตั ตานี จนถึงอำเภอตากใบ จังหวัดนราธวิ าส พอผา่ นไป ๖ เดอื น ปลากม็ าวางไข่ ตอนนี้ปลาชุกมาก ชาวบา้ นมกี นิ มใี ช้ สามารถนำปลาไปขายได้ กโิ ลกรัมละ ๒๐๐ – ๓๐๐ บาท พระองค์รับส่ังว่าเขาขาดเสาหลัก ตอนเป็นข้าราชการช้ันผู้น้อยยังไม่ได้สร้างหลักปักฐาน พอสามีตายก็บ้านแตก สาแหรกขาด ไม่รู้จะทำอย่างไรบางคนเป็นแม่บ้าน ตัวอย่างอันน้ีเป็นประจักษ์พยานอย่างเห็นได้ชัด ประธานกลางมุสลิม OIC เห็นแล้วยังเฉลิมพระเกียรติว่าทรงช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม ไม่เลือกชาติศาสนา (กระทรวงศึกษาธิการ, พระราชินีของเรา : เร่อื งเลา่ จากแผ่นดนิ ใต้, ๒๕๔๘) พระราชกรณียกิจเก่ียวกับประชาชนผ้ดู ้อยโอกาส ทรงสรา้ งศลิ ปาชพี ด้วยพระราชหฤทัยทรงห่วงใยประชาชนในชนบท พระองค์มีพระราชดำริที่จะช่วยพสกนิกรให้มีความเป็นอยู่และ คณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ขี น้ึ มรี ายไดเ้ พยี งพอตอ่ การเลย้ี งครอบครวั จงึ ไดพ้ ระราชทานพระราชดำรใิ หป้ ระชาชนในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ทำงานศลิ ปาชพี เพอ่ื เพม่ิ พนู รายได้ โดยไดม้ พี ระราชดำรสั พระราชทานแกค่ ณะบคุ คลตา่ ง ๆ ทเ่ี ขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทถวาย พระพรชัยมงคลในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา วันอาทิตย์ท่ี ๑๑ สิงหาคม ๒๕๓๔ ไว้ตอนหน่งึ ว่า “...ข้าพเจ้าได้ตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงนำของพระราชทาน ไ ป ช่ ว ย เ ห ลื อ ร า ษ ฎ ร มั ก จ ะ เ ป็ น เ ค ร่ื อ ง อุ ป โ ภ ค บ ริ โ ภ ค แ ล้ ว ก็ รั บ สั่ ง กั บ ข้ า พ เจ้ า ว่ า การช่วยเหลือแบบน้ี เป็นการช่วยเหลือเฉพาะหน้า ทรงคิดว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยเหลือ ชาวบ้านเป็นระยะยาว คือ ทำให้เขามีหวังที่จะอยู่ดีกินดีข้ึน ลูกหลานได้เข้าโรงเรียนได้เรียน หนังสือ ซึ่งในเรื่องน้ีรัฐบาลได้พยายามส่งเสริมอยู่แล้ว เขาเพิ่มจำนวนโรงเรียนข้ึนอย่าง สม่ำเสมอ แต่ชาวนาชาวไร่บอกว่า เขาส่งให้ลูกไปเรียนหนังสือไปเข้าโรงเรียนไม่ได้ เพราะ ต้องอาศัยลูกเป็นกำลังช่วยกันทำมาหากิน ดังน้ันจะพบเด็กท่ีอยู่ในวัยเรียนแล้วไม่ได้มาเรียน หนังสืออีกมาก ส่วนมากก็ได้จบ ป. ๔ ซึ่งก็น่าเป็นห่วง ด้วยเหตุผลนั้นข้าพเจ้าจึงเร่ิมคิดหา อาชีพเสริมให้แก่ครอบครัวชาวนาชาวไร่ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงหาแหล่ง น้ำ ให้การทำไร่ทำนาของเขาเป็นผลต่อประเทศชาติต่อบ้านเมือง ทรงพระราชดำเนินไปดู ตามไร่ของเขาต่าง ๆ ทรงคิดว่าน่ีเป็นการให้กำลังใจ และท่ีทรงให้ข้าพเจ้าดูแลพวก ครอบครวั กเ็ ลยเปน็ ที่เกดิ ของมูลนธิ สิ ่งเสริมศิลปาชพี ฯ ...”174 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินนี าถ ค่พู ระบารมี

ตลอดระยะเวลาท่ีโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไปทรงเย่ียมราษฎรทั่วทุกภาคของประเทศ ทรงพบว่าราษฎรสว่ นหนงึ่ ทีม่ าเฝ้าทูลละอองธลุ ีพระบาทน้นั ยากจน ไมม่ ที ี่ทำกนิ ไมม่ อี าชพี ดอ้ ยโอกาสทางการศึกษาไม่มีความรู้เรื่องสุขอนามัย พระองค์จึงทรงมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมอาชีพของราษฎรเพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีข้ึน และมีรายได้พอเลย้ี งครอบครวั ใหม้ คี วามสขุ ทกุ ครงั้ ทเี่ สดจ็ พระราชดำเนนิ ไปทรงเยยี่ มราษฎรจะทรงสงั เกตชวี ติ ความเปน็ อยู่ สขุ ภาพอนามยัการแต่งกาย และส่ิงของท่ีราษฎรนำมาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายว่าจะมีสิ่งใดหรือวิธีใดที่จะทรงหยิบยกขึ้นมาส่งเสริมให้เป็นอาชีพเสริมแก่ราษฎรได้ เช่น ราษฎรแต่งกายด้วยผ้าไหมมัดหมี่ที่ทอใช้กันเองในครัวเรือน ทรงตระหนักว่าหัตถกรรมเหล่านี้มีคณุ ค่าทางศลิ ปะซงึ่ สบื ทอดภมู ปิ ัญญามาจากบรรพบุรษุ สมควรท่จี ะอนรุ ักษ์ไวใ้ หเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ พระราชดำริที่จะพฒั นางานหตั ถกรรมพื้นบ้านต่าง ๆ เชน่ หัตถกรรมทอผ้า เคร่ืองปัน้ ดนิ เผา เครื่องจกั สาน เคร่อื งเงินเคร่ืองทอง เครื่องถม ไม้แกะสลัก เป็นต้น ได้กลายเป็นโครงการศิลปาชีพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระองค์ทรงโปรดให้ชาวบ้านในชุมชนเดียวกันน้ัน หรือชุมชนใกล้เคียงเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ด้านหัตถกรรมทั้งหลายให้แก่ลกู หลาน หรอื เพอ่ื นบา้ นของตน เชน่ การทอผา้ ไหมมดั หม่ี ผา้ ไหมแพรวา ผา้ ไหมและผา้ ฝา้ ยลวดลายดง้ั เดมิ ชนดิ ตา่ ง ๆ การจกั สานเช่น จักสานย่านลิเภา ไม้ไผ่และหวาย เป็นต้น ส่วนงานหัตถกรรมที่ชาวบ้านไม่เคยเรียนรู้มาก่อน เช่น การปั้นตุ๊กตาไทยหรืองานหตั ถกรรมทีต่ อ้ งใชค้ วามสามารถและความอดทนสงู เช่น งานเคร่อื งเงนิ เครอื่ งทอง งานครำ่ งานถมเงินถมทอง ก็โปรดใหแ้ สวงหาครผู ู้มีความสามารถมาถ่ายทอดวชิ าให้ เมอื่ นักเรียนในโครงการมีฝีมอื ดแี ละชำนาญแล้ว ก็จะคดั เลอื กใหเ้ ป็นครตู ่อไปทรงติดตามผลงานจากผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น และพระราชทานคำแนะนำในการพัฒนางานให้สวยงามสมบรูณ์ขึ้น ทรงหาตลาดจำหน่ายผลติ ภณั ฑ์และทรงรบั ซื้อด้วยพระราชทรพั ย์สว่ นพระองค์ ทรงเป็นแบบอยา่ งให้ประชาชนใชผ้ ลติ ภณั ฑศ์ ลิ ปาชพี ทำให้ผลติ ภัณฑเ์ ปน็ ที่นยิ มของคนไทยและชาวตา่ งประเทศ (มูลนธิ ิ ๕ ธนั วามหาราช, พระราชกรณียกิจด้านการศึกษา, ม.ป.ป.) ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินีนาถ คู่พระบารมี 175

พระปรชี าของสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ ิกติ ์ิ พระบรมราชินนี าถ นอกจากจะสง่ ผล ให้สมาชิกในโครงการมีคุณภาพชีวิตท่ีดี ขึ้นแล้ว ยังเป็นการสร้างช่างฝีมือที่ชำนาญ ในศิลปะไทยหลายแขนง เช่น ช่างทอง ช่างเขียน ช่างปั้น ช่างไม้แกะสลัก ฯลฯ ซึ่ ง ล้ ว น แ ต่ เ ป็ น ศิ ล ป ะ ท่ี ป ร ะ ณี ต ง ด ง า ม เป็นเครื่องเชิดชูเกียรติภูมิของไทยอย่างย่ิง ดังมีพระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะ บคุ คลตา่ ง ๆ ทเี่ ขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท ถ ว า ย พ ร ะ พ ร ชั ย ม ง ค ล เ น่ื อ ง ใ น โ อ ก า ส วนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดสุ ิดาลยั สวนจติ รลดา วนั เสารท์ ี่ ๑๑ สงิ หาคม ๒๕๕๐ ความตอนหนึง่ ว่า “...เมื่อคราวเดือนตุลาคม ๒๕๔๖ ประธานาธิบดีปูตินได้มาเยือนประเทศไทยอย่าง เป็นทางการ และแสดงความสนใจขอชมโรงฝึกศิลปาชีพท่ีสวนจิตรลดา ใช้เวลาช่ืนชมอยู่ กว่าชั่วโมง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ เป็นผู้นำชม พอพบกับข้าพเจ้าที่งานพระราชทาน เลี้ยงที่พระที่นั่งจักรี ประธานาธิบดีปูตินก็หันมาพูดกับข้าพเจ้าว่า ท่ีท่านต้ังมูลนิธิส่งเสริม ศิลปาชีพน้ีข้ึนเพ่ือต่อสู้กับความยากจนใช่ไหม ข้าพเจ้าบอกใช่ เพราะว่า เมืองไทยน่ีเด๋ียวน้ี ประชาชนก็มากเหลือเกิน ๖๕ ล้าน แล้วก็รอบ ๆ ตามชายแดนก็ยังมีคนที่ยากจนมาก จึงคิด ว่าต้องพยายามหาอาชีพให้เขาทำ ให้ทุกคนมีงานทำ โดยเสริมสร้างให้เขามีความรู้ความ ชำนาญในการทำศิลปะหลายอย่างท่ีกำลังจะสูญหายไปจากประเทศไทย ซ่ึงเป็นของไทยแท้ ๆ ไม่มีท่ีอ่ืนในโลก ข้าพเจ้าก็คิดว่า พวกสมาชิกศิลปาชีพได้ทำสำเร็จโดยส้ินเชิงแล้ว เพราะ เวลานี้ของเหล่าน้ีได้ไปแสดงอยู่ท่ีมิวนิคที่พิพิธภัณฑ์ที่มิวนิค ประเทศเยอรมนี แล้วก็ได้รับ ข่าวว่ามีคนเข้าไปชมเป็นจำนวนมากตลอดเวลา ก็ทำให้นักเรียนศิลปาชีพซึ่งข้าพเจ้าชวนไป ด้วย ได้ไปเห็นผลงานของเขาท่ีตั้งใจรักษาศิลปะของประเทศให้คงอยู่น้ัน บัดนี้เป็นผลสำเร็จ แล้วด้วยฝีมือของคนไทยแท้ ๆ ชาวต่างประเทศท่ีได้ชมฝีมือของศิลปาชีพจะถามว่าฝีมือ เหล่าน้ีสำเร็จด้วยจากนักเรียนมหาวิทยาลัยศิลปะหรือ ข้าพเจ้าตอบว่าเปล่าเลย คนเหล่านี้ เป็นลกู ชาวไรช่ าวนาท่ียากจนทส่ี ุด…”176 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ นี าถ คพู่ ระบารมี

ทรงนำพระราชินีแหง่ ประเทศสเปนทอดพระเนตรโครงการศลิ ปาชพี ณ พระราชวงั บางปะอนิ จังหวัดพระนครศรอี ยุธยา ประเทศต่าง ๆ ให้ความสนใจและชนื่ ชมในผลติ ภณั ฑศ์ ลิ ปาชพี เชน่ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไปทรงเยือนสหพันธรัฐรัสเซียอย่างเป็นท า ง ก า ร ต า ม ค ำ ก ร า บ บั ง ค ม ทู ล เ ชิ ญ ข อ งนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ระหว่างวันที่ ๒ ถึง ๑๑กรกฎาคม ๒๕๕๐ ประธานาธิบดีได้จัดพิธีรับเสด็จอย่างเป็นทางการ ณ พระราชวังเครมลิน กรุงมอสโก และประเทศไทยได้นำผลติ ภณั ฑ์ศลิ ปาชีพไปจดั แสดงดว้ ย ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ คู่พระบารมี 177

ทรงบำบดั ทกุ ขบ์ ำรงุ สขุ แกป่ ระชาชน พระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะกรรมการอาสาสมัคร และอาสาสมัครสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในโอกาสท่ีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระท่ีน่ังอัมพรสถาน วันท่ี ๒ มีนาคม ๒๕๑๐ ความตอนหน่งึ ว่า “…การที่คนไทยเรายึดหลักอุดมคติว่า ความทุกข์สุขไม่ใช่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลหรือ เฉพาะครอบครัวหนึ่งครอบครัวใดเท่าน้ัน เป็นความคิดที่ทันสมัยในโลกปัจจุบัน เราจะมี ความสุขแต่ลำพัง โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของคนอีกหลายคนท่ีแวดล้อมเราอยู่น้ัน ไม่ได้ ผู้มีเมตตาจิตหวังประโยชน์ส่วนรวม ย่อมรู้จักแบ่งปันความสุขเพ่ือผู้อื่น และพร้อมท่ีจะ ชว่ ยบรรเทาความทุกข์ของผูอ้ ่ืนตามกำลังและโอกาสเสมอ…” ด้วยในพระราชหฤทัยทรงตระหนักถึงความสุขของปวงประชาทั้งผอง ทุกพระราชกรณียกิจจึงล้วนคำนึงถึงสิทธิ ในชีวิตที่ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน มนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ได้และได้รับการคุ้มครองให้ปลอดภัยได้รับการตอบสนองตาม ความต้องการขั้นพื้นฐานของชีวิต เพราะทุกชีวิตล้วนมีคุณค่าด้วยกันท้ังส้ิน ต้องมีที่อยู่อาศัย มีอาหารการกิน มียารักษาโรค178 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ คพู่ ระบารมี

มกี ารศกึ ษา ไมถ่ กู ทาํ รา้ ยและมคี วามปลอดภยั แมพ้ ระองคเ์ องจะตอ้ งเจบ็ ปว่ ยจากการทรงงานหนกั ดงั พระราชดำรสั พระราชทานแกค่ ณะบคุ คลตา่ ง ๆ ทเ่ี ขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทถวายพระพรชยั มงคลเนอ่ื งในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดสุ ดิ าลยัสวนจิตรลดา วันจนั ทรท์ ี่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๒๙ ความตอนหน่งึ วา่ “…แต่ในปีนี้ บังเอิญข้าพเจ้าเจ็บป่วยนาน แม้แต่ตอนหลังน่ีจะค่อยดีขึ้นแล้ว แต่ก็ยัง ไ ป ไ ห น ไ ม่ ค่ อ ย ไ ห ว … ข้ า พ เ จ้ า ล้ ม เ จ็ บ ค รั้ ง น้ี เ ห็ น จ ะ เ ป็ น เ พ ร า ะ ว่ า ฝื น สั ง ข า ร ม า ก เ กิ น ไ ป มุ่งทำงานหนักมากเกินไป จะให้ถึงจุดประสงค์ ต้ังใจจะให้ไปถึงราษฎรยากจนที่ท้องถ่ิน ทุรกันดารให้มากที่สุด ให้มีปัจจัย ๔ ครบ ให้เจริญทันกับส่วนกลางของบ้านเมือง ให้ ลูกหลานเขาได้รับการศึกษา ข้าพเจ้าต้ังใจท่ีจะให้ราษฎรมีหมู่บ้านเบ็ดเสร็จ มีการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ มีธนาคารข้าว เรียกว่าอยู่ดีกินดี แล้วก็พ้นจากการเจ็บป่วยที่มีสาเหตุจากการอด อยากขาดอาหาร ข้าพเจ้าไปดูใกล้ชิดเห็นว่าราษฎรไทยมีความสามารถมาก ชั่วแต่ว่าต้องมีคนท่ีช่วยดึง ความสามารถน่ันออกมาต้องให้เขาใช้ความสามารถท่ีมีอยู่ในตัวทำมาหากิน เพราะการทอผ้า ต่าง ๆ ซ่ึงต่างประเทศเขายกย่องกันว่าเป็นพรอย่างใหญ่หลวง ช่างไม้ ราษฎรไทยมี ความสามารถอยู่ในตัวแล้วโดยที่ไม่ต้องไปเล่าเรียนอะไรอีกและเขามีรายได้ที่น้อย ข้าพเจ้า จึงอยากให้เขาใช้ความรู้ท่ีเขามีอยู่นั้นช่วยตัวเอง ส่งลูกเรียน รู้จักรักษาตัวให้พ้นจาก โรคภัย…” เมอ่ื ครง้ั มกี ารจดั ตงั้ สภาสงั คมสงเคราะหแ์ หง่ ประเทศไทยขนึ้ ใน พ.ศ. ๒๕๐๓ สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถไดเ้ สดจ็ พระราชดำเนนิ ไปทรงเปน็ ประธานเปดิ การประชมุ หลายครงั้ ในวนั ที่ ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๐๕ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงรับสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และพระราชทานทุนทรัพย์ตั้ง “กองทุนเมตตา” ขึ้นเมื่อทรงทราบว่า คนบางคนแม้จะต้ังใจประกอบอาชีพโดยสุจริตด้วยความขยันแล้ว แต่มีรายได้ไมเ่ พยี งพอแกค่ วามจำเปน็ ที่ต้องใชจ้ ่าย จึงเดอื ดรอ้ นดว้ ยประการต่าง ๆ จนมีหนีส้ ินพอกพูนขึ้นเรอ่ื ย ๆ ยากทจี่ ะปลดเปลอ้ื งได้เกิดความเดือดร้อน เป็นความทุกข์ของครอบครัวทับถมซับซ้อน ก่อให้เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น ความเจ็บป่วยด้านจิตใจความเก็บกดหรือการแก้ปัญหาในทางที่ผิดของเยาวชนที่อยู่ในครอบครัวนั้น ๆ ความท้อแท้ที่จะศึกษาเล่าเรียน จนท้ายท่ีสุดกลายเป็นปัญหาของสังคม “กองทุนเมตตา” ได้ขจัดปัดเป่าบรรเทาความทุกข์ยากของผู้ท่ีเดือดร้อนได้ตามวัตถุประสงค์ในเวลานั้น นอกจากน้ีได้พระราชทานพระราชทรัพย์จำนวนหน่ึงให้สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย เป็นทุนริเริ่มกองทุนพระราชทานช่วยเหลือการศึกษาเด็กเยาวชน เพ่ือช่วยเหลือเด็กขาดแคลนให้มีโอกาสได้เล่าเรียน มีความรู้ไปประกอบอาชีพและดำเนินชีวิตในแนวทางท่ีถูกท่ีควร กองทุนน้ีต่อมาได้มีผู้สมทบเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และขยายเป็นทุนอ่ืน ๆ ท่ีมีวัตถุประสงค์ทำนองเดียวกันนอี้ ีกหลายทนุ มีชือ่ ตา่ ง ๆ ไดช้ ่วยสร้างคนให้เปน็ คนที่มคี ุณค่าแกแ่ ผน่ ดินเมอ่ื เตบิ โตข้นึ (มูลนิธิ ๕ ธันวามหาราช,พระราชกรณยี กจิ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชนิ นี าถ ด้านสาธารณสุขและสังคมสงเคราะห์, ม.ป.ป.) ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินีนาถ ค่พู ระบารมี 179

นำ้ พระทยั พระราชทาน สภาสงั คมสงเคราะหแ์ หง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ ไดน้ อ้ มนำแนวพระราชดำรขิ องสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ มาดำเนินการโดยจัดตั้งเป็นโครงการน้ำพระทัยพระราชทานเล้ียงอาหารกลางวันแก่ผู้ตกงาน ผู้ตกทุกข์ ไดย้ ากทงั้ หลายทกุ วนั เวน้ วนั หยดุ ราชการ เรมิ่ ตงั้ แตว่ นั จนั ทรท์ ี่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๔๑ เปน็ ตน้ มา ณ บรเิ วณชนั้ ๑ ตกึ นวมหาราช สภาสงั คมสงเคราะหแ์ หง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทรงหว่ งใยและตดิ ตามการดำเนนิ งานโครงการอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม ใหร้ าชเลขานกุ าร ในพระองค์ ฯ และรองราชเลขานุการในพระองค์ ฯ มาดูแลโครงการน้ำพระทัยพระราชทานเป็นประจำ และได้พระราชทาน เงินส่วนพระองค์ ให้สภาสังคมสงเคราะห์ ฯ ใช้จ่ายในโครงการ ฯ ตลอดมา นอกจากน้ี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานขา้ วสาร อาหารแห้ง ผกั สด และผลไมต้ ามฤดูกาลแกป่ ระชาชนดว้ ย ประชาชนผู้ด้อยโอกาสในบางครั้งเหมือนโชคชะตาช่างโหดร้าย ถึงคราวเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงจึงไม่อาจช่วยเหลือ ตนเองได้เลย แต่น้ำพระทัยอันทรงเปี่ยมเมตตาไหลหล่ังพระราชทานไปยังผู้ป่วยผู้ด้อยโอกาสเหล่าน้ัน “โครงการน้ำพระทัย พระราชทาน” แก่ผู้ด้อยโอกาสที่เจ็บป่วยยังดำเนินการสืบเน่ืองมา ดังพระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่าง ๆ180 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินนี าถ คพู่ ระบารมี

ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดาวันเสารท์ ี่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๐ ความตอนหนง่ึ วา่ “…คณะแพทย์และพยาบาล ของโรงพยาบาลรามาธิบดีได้จัดทำโครงการเปลี่ยนถ่าย ไขกระดูกช่วยเหลือเด็กยากจน ท่ีป่วยเป็นโรคร้ายในกลุ่มโรคเลือดและโรคต่อมน้ำเหลือง หลายโรค ต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๔๗ มาจนถึงปัจจุบัน โดยอุทิศแรงกายแรงใจทำงานกันอย่าง อดทน เพราะแต่ละโรครักษายากทั้งน้ัน โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งเข้าร่วมโครงการผ่าตัด หัวใจเด็กเฉลิมพระเกียรติ ช่วยเหลือเด็กยากจนท่ีต้องรอการผ่าตัดจากโรงพยาบาลของรัฐ นานเป็นปี ๆ และให้ร่นระยะเวลาเข้ามาจนเหลือเวลารอรายละประมาณ ๓ - ๔ เดือน เพ่ือ ไม่ให้สุขภาพของเด็กทรุดโทรมมาก หรือเกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นมาเสียก่อน เท่าท่ีทราบมีเด็ก ได้รับการผ่าตัดไป ๒๐๐ กว่ารายแล้ว น่ีเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของน้ำใจท่ีคนไทยมีให้แก่ กัน และนับเป็นของขวัญวันเกิดท่ีล้ำค่าสำหรับข้าพเจ้า ขอขอบใจแทนคนไทยทุกคนท่ีได้รับ น้ำใจ และความกรุณาจากท่านทั้งหลาย และขออนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศลของทุกท่าน หวังว่าทุกท่านคงจะหายเหนื่อยทันทีที่เห็นคนไข้หายป่วย หรือคนยากคนจนหายหิว อัน นับเปน็ กศุ ลท่ีตอบสนองน้ำใจงดงามของทา่ นอย่างทนั ตาเห็น…” ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินีนาถ คู่พระบารมี 181

พระราชกรณียกจิ เกี่ยวกับประชาชนผูพ้ กิ าร พระราโชวาทในโอกาสเสดจ็ พระราชดำเนนิ ไปพระราชทานประกาศนยี บตั รผดงุ ครรภ์ อนปุ รญิ ญาพยาบาลและอนามยั อนุปริญญาพยาบาลและผดุงครรภ์ และอนุปริญญาพยาบาลสาธารณสุขศาสตร์แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล ณ หอประชุมราชแพทยาลัย โรงพยาบาลศิรริ าช วันพฤหสั บดีที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๑๘ ความตอนหน่งึ วา่ “…ในปัจจุบันน้ี การได้เข้าใกล้ชิดประชาชนเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพราะทำให้ได้รู้ได้เห็น ถึงชีวิตความเป็นอยู่ทุกข์สุขของเขา ที่อาจเป็นอีกอย่างหนึ่งซ่ึงคนในเมืองเช่นเรานึกไปไม่ถึง ข้าพเจ้าได้ตามเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปเย่ียมราษฎรมาทั่วทุกภาค มีโอกาสได้ ทราบว่า ความทุกข์ยากอย่างหน่ึงของประชาชนคือความเจ็บไข้ได้ป่วย ข้าพเจ้าได้เห็นคน เจ็บด้วยโรคต่าง ๆ เป็นอันมากอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน บางคร้ังบางคราวก็ได้เห็นคนที่มี ร่างกายและอวัยวะพิกลพิการมากอย่างที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ถึงเพียงนั้น มีอยู่ราย หนึ่ง ข้าพเจ้าถามพ่อแม่ของคนพิการว่า ลูกอายุเท่าไร เขาตอบว่า ๒๐ ปี มองดูเหมือน เด็กเล็ก ๆ ศีรษะใหญ่มาก แสดงว่าแม้พ่อแม่จะเป็นผู้ด้อยการศึกษาในด้านทฤษฎี แต่มีจิตใจ ที่ได้รับการฝึกฝนจนเจริญและสูงไปด้วยเมตตากรุณา รู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบ อุตส่าห์ อุ้มชูประคับประคองเลี้ยงดูบุตรพิการของตนให้รอดชีวิตอยู่ได้ยาวนาน ท้ังท่ีคนท่ัวไป อาจจะเห็นว่าเด็กคนนี้ไม่มีประโยชน์แก่สังคมอย่างหน่ึงอย่างไรเลย ท้ังนี้ ก็เพราะคนส่วนมาก มักจะคิดช่ังตวงทุกส่ิงทุกอย่างไปในด้านเล็งผลกำไรในด้านวัตถุส่ิงของ ไม่ค่อยสนใจถึงความ มีค่าสูงท่ีจะได้ทางด้านจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่างท่ีมีคำกล่าวว่า เมตตาเป็นเครื่อง คำ้ จุนโลก...”182 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินนี าถ คู่พระบารมี

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีน้ำพระราชหฤทัยเมตตาห่วงใยบุคคลผู้พิการทั้งทางร่างกายและสมอง มีพระราชดำริว่า ผู้พิการควรได้รับความเอาใจใส่ดูแลได้รับการบำบัดรักษาเม่ือป่วยเจ็บเช่นเดียวกันกับบุคคลทั่วไปและควรได้รับการอบรมให้มีอาชีพตามความถนัด เพ่ือจะได้ยังประโยชน์ต่อตนเองและสังคมได้ นอกจากนี้ในสังคมน้ันมีท้ังคนทม่ี ีร่างกายปกติสมบรู ณแ์ ละคนพิการตา่ ง ๆ เชน่ ตาบอด หหู นวก เป็นใบ้ ขาด้วน แขนขาด เปน็ ต้น บางคนพิการมาแต่กำเนิดบางคนมาพิการภายหลังเน่ืองจากประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วย คนพิการน้ัน หากได้รับการส่งเสริมให้สามารถช่วยตนเองได้กจ็ ะไม่เปน็ ภาระแกค่ รอบครวั หรอื สงั คม ทรงใหก้ ารสงเคราะหแ์ กผ่ พู้ กิ าร เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรุนแรงและกระทบกับสถานภาพทางครอบครัวสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงสงเคราะห์คนพิการให้สามารถพ่ึงตนเอง และมีความสุขตามอัตภาพ เช่น ผู้พิการเก่ียวกับขาบางรายถ้ามีไม้ค้ำยัน มีเหล็กประกบขา มีขาเทียม หรือมีรองเท้าพิเศษจะสามารถเดินเองได้ หรือคนพิการหูหนวกแต่มีแขนขาครบบริบูรณ์ย่อมจะทำงานบางประเภท เช่น งานฝีมือ งานศิลปะ เพื่อเล้ียงตัวเองได้ นอกจากนี้ทรงรับมูลนิธิท่ีช่วยเหลือคนพิการไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์หลายมูลนิธิ ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรในภูมิภาคต่าง ๆเม่ือได้ทรงพบราษฎรท่ีมาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เป็นผู้พิการที่หากได้รับการช่วยเหลือจะสามารถดำรงชีวิตต่อไปอย่างมีคุณภาพดขี ึน้ ก็ทรงรับไว้ในพระบรมราชานเุ คราะห์ โดยพระราชทานความชว่ ยเหลอื อย่างเหมาะสม ถ้าเป็นเด็กตาบอด หูหนวกทรงส่งไปเรียนท่ีโรงเรียนสอนคนตาบอด โรงเรียนสอนคนหูหนวก ให้รู้หนังสือ หรือรู้ภาษามือเพื่อการสื่อสาร จะได้ดำรงชวี ติ สะดวกขน้ึ ถา้ พกิ ารทแ่ี ขนหรอื ขา จะพระราชทานอปุ กรณส์ ำหรบั คนพกิ าร หากเปน็ ผทู้ ม่ี ีอายุเลยวัยเรียนแล้ว ทรงส่งไปฝึกอาชีพที่สมาคม มูลนิธิ หรือหน่วยงานตามที่คนพิการสนใจและสามารถทำได้โดยพระราชทานค่าใช้จา่ ยใหด้ ้วย ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ คพู่ ระบารมี 183

ทรงใหอ้ าชพี แกผ่ พู้ กิ าร ทรงให้การฝกึ อาชพี พระราชทานแกค่ นพกิ าร คือ การฝึกสอนการจกั สานย่านลเิ ภาให้แก่ผ้พู กิ าร ณ สถานสงเคราะห์ คนพกิ ารและทพุ พลภาพ พระประแดง ของกรมประชาสงเคราะห์ คนพกิ ารเหลา่ นจี้ ะมีสภาพความพกิ ารมาก คือ เป็นอมั พาต ท่อนล่างจนไม่สามารถเดินได้ ต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดเวลา และส่วนใหญ่ไม่มีญาติมาดูแล เมื่อผู้พิการได้มีหนังสือ กราบบงั คมทลู ขอพระราชทานความชว่ ยเหลอื สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ จงึ ทรงสง่ เจา้ หนา้ ทก่ี องราชเลขานกุ าร ในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถไปเยี่ยม และนำความกราบบังคมทูลรายงาน ในท่ีสุดทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม ให้ส่งครูไปฝึกสอนการจักสานย่านลิเภาแก่ผู้พิการเหล่านี้ เพราะเป็นงานท่ีนอนทำได้ เนื่องจากย่านลิเภา มีน้ำหนักเบาและไม่ต้องใช้อุปกรณ์ประกอบมาก เพียงแต่ต้องใช้เวลานาน ใช้ความละเอียดมาก แต่ผลท่ีได้รับนั้นดีเกินคาด เพราะผพู้ กิ ารสามารถจกั สานยา่ นลเิ ภาไดอ้ ยา่ งสวยงาม ทำใหไ้ ดร้ บั เงนิ พระราชทานไวใ้ ชจ้ า่ ยสว่ นตวั หลายรายไดร้ บั พระราชทาน รางวัลพิเศษเพ่ิม ทำให้ผู้พิการท่ีเป็นสมาชิกจักสานย่านลิเภา รู้สึกภาคภูมิใจในฝีมือของตนและมีกำลังใจที่ต่อสู้ชีวิตต่อไป โดยไม่ทอ้ แท้184 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินนี าถ ค่พู ระบารมี

พระราชทานการศกึ ษาแกน่ กั เรยี นยากจนขาดโอกาสและเดก็ พกิ าร สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ ทรงรบั นกั เรยี นยากจนขาดโอกาสทางการศกึ ษาทท่ี รงพบดว้ ยพระองคเ์ องระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเย่ียมราษฎรไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์เกือบสองพันคน มีพระราชเสาวนีย์ให้กองราชเลขานกุ ารในพระองคส์ มเดจ็ พระบรมราชนิ นี าถตดิ ตามดแู ลความประพฤตแิ ละความเปน็ อยขู่ องนกั เรยี นนสิ ติ นกั ศกึ ษาท่ีได้รับทุนเหล่าน้ีอย่างใกล้ชิด กองราชเลขานุการ ฯ มีหน้าท่ีจะต้องกราบบังคมทูลรายงานให้ทรงทราบทุกเดือน นักเรียนทุนจะมีแฟ้มประวตั ิประจำตัว มีข้อมูลบนั ทกึ ไวค้ รบถว้ น เช่น ประวัติส่วนตัว ประวัติครอบครวั สถานศึกษา รปู ถา่ ย ทอี่ ยู่ท่ีตดิ ตอ่ ได้ผลการเรียน บัญชีค่าใช้จา่ ยที่พระราชทาน จดหมายรายงานความเป็นอยู่ของนกั เรียน ฯลฯ นอกจากนี้ ยังพระราชทานทุนการศึกษาแก่เดก็ พิการใหเ้ ขา้ รบั การศึกษาในโรงเรียนการศึกษาพิเศษ ดงั น้ี โรงเรียนสอนคนตาบอด ได้แก่ โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพมหานคร โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือจังหวดั เชียงใหม่ โรงเรียนสอนคนหูหนวก-หูตึง ได้แก่ โรงเรียนเศรษฐเสถียร ถนนพระราม ๕ โรงเรียนโสตศึกษา ทุ่งมหาเมฆกรุงเทพมหานคร โรงเรียนอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ โรงเรียนโสตศึกษาขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น โรงเรียนโสตศึกษาจงั หวดั สงขลา โรงเรยี นสอนคนปญั ญาออ่ น ไดแ้ ก่ โรงเรยี นกาวลิ ะอนกุ ลู จงั หวดั เชยี งใหม่ โรงเรยี นอบุ ลปญั ญานกุ ลู จงั หวดั อบุ ลราชธานี โรงเรยี นสอนคนพกิ ารแขนขา และลำตวั ได้แก่ โรงเรียนศรีสงั วาลย์ จงั หวดั นนทบรุ ี สมเดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนียใ์ ห้กองราชเลขานุการ ฯ ปฏิบตั เิ ช่นเดยี วกับนกั เรยี นสามัญ มีประวัติและติดตามผลการศึกษาจนจบการศึกษาตามความสามารถ เพ่ือไปประกอบอาชีพเล้ียงตนเองได้ นับเป็นพระมหากรุณาธคิ ุณสูงสุดแก่นักเรยี นผูพ้ กิ ารและการศกึ ษาของชาติอย่างยงิ่ ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินีนาถ คพู่ ระบารมี 185

พระราชทานเลย้ี งวนั ปใี หมแ่ กผ่ พู้ กิ าร นอกจากทรงใหก้ ารสงเคราะห์ ใหอ้ าชพี แลว้ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ ม ใหป้ รบั ปรงุ สภาพความเปน็ อยู่ ของผู้พิการเหล่าน้ีให้ดีข้ึนด้วย และมีพระราชหฤทัยที่ทรงเปี่ยมด้วยเมตตา ทรงพระราชทานเล้ียงอาหารในวันขึ้นปีใหม่ แกผ่ ู้พกิ ารในสวนจิตรลดา พระราชวังดสุ ติ ทรงพระดำเนนิ ดูแลคนพกิ ารด้วยพระองคเ์ อง เม่อื ครั้งทพ่ี ระราชโอรส พระราชธดิ า ทรงพระเยาว์ โปรดให้ช่วยในการบริการคนพิการอย่างใกล้ชิด เช่น ยกอาหารมาวางตรงหน้าผู้พิการท่ีตาบอด พร้อมรับสั่ง ชนิดของอาหารท่ีอยู่ตรงหน้าว่าเป็นอะไร หรือช่วยหยิบช้อน และส่งแก้วน้ำให้ผู้พิการ ต่อมาได้ทรงเปล่ียนวันพระราชทาน เลี้ยงอาหารคนพิการ จากวันปีใหม่และท่ีเคยจัดในสวนจิตรลดามาเลี้ยงในวันคนพิการซ่ึงตรงกับวันเสาร์ท่ี ๒ ของเดือน พฤศจกิ ายนของทกุ ปที สี่ วนอมั พร การพระราชทานเลย้ี งอาหารแตล่ ะปี ไดพ้ ระราชทานเลย้ี งผพู้ กิ ารจำนวนพนั คน ใน พ.ศ. ๒๕๔๗ พระราชทานเลี้ยงอาหารคนพิการเพิ่มมากขึ้นจำนวนถึง ๔,๐๐๐ คน สภาสังคมสงเคราะห์ฯ จึงรับสนองพระราชดำริ โดยจัด งานวนั สังคมสงเคราะห์ขน้ึ เปน็ ประจำทุกปีท่สี วนอัมพร เพอ่ื ใหผ้ ู้พกิ ารได้มารว่ มแสดงความสามารถในดา้ นต่าง ๆ เป็นกำลงั ใจ ใหก้ ันและกัน เผยแพรว่ ทิ ยาการใหม่ ๆ ในการบำบดั รักษาและการฟน้ื ฟสู มรรถภาพคนพกิ าร ตลอดจนใหค้ ำแนะนำแกค่ นพกิ าร ทีต่ อ้ งการคำปรึกษา186 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ ค่พู ระบารมี

ทรงตง้ั มลู นธิ สิ ายใจไทยเพอ่ื สงเคราะหบ์ คุ คลผเู้ สยี สละเพอ่ื ชาติ นอกจากน้ี ยังมีผู้พิการอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีความสำคัญต่อคนไทยทุกคน ที่ต้องเป็นคนพิการเนื่องมาจากการสู้รบเพ่ือป้องกันประเทศชาติ ได้แก่ ทหารและราษฎรอาสาสมัคร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมทหารและตำรวจที่บาดเจ็บในสนามรบและมารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พระองค์มีพระราชเสาวนีย์ให้ข้าราชบริพารฝ่ายในผลัดเปลี่ยนกันไปเยี่ยมเยียนดูแลผู้ท่ีหายป่วยแล้วแต่ยังคงความพิการ ทรงติดตามดูแลช่วยเหลือให้มีอาชีพ ได้ทรงริเริ่มจัดตั้งมูลนิธิสายใจไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ข้ึน เพ่ือสงเคราะห์บุคคลและทหารหาญผู้เสียสละให้กับประเทศชาติรวมท้ังครอบครัว เม่ือวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๑๘ ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกมุ ารี และไดพ้ ระราชทานเงนิ ทนุ แรกเริม่ จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท รวมกบั เงินสว่ นพระองค์ของสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี อกี จำนวน ๕๐,๐๐๐ บาท และทรงมอบใหส้ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ า ฯสยามบรมราชกุมารที รงเปน็ ประธานของมูลนธิ ิ ฯ ทท่ี ำการของมลู นธิ ิสายใจไทย ฯ ตง้ั อยู่ทถ่ี นนศรอี ยธุ ยา เขตพญาไท นอกจากจะชว่ ยเหลอื ค่าใชจ้ ่ายทหาร ตำรวจ ราษฎร อาสาสมัครทเ่ี สียชวี ติ บาดเจบ็ และพิการแลว้ มูลนิธิ ฯ ยงั ฝกึ สอนวิชาชีพใหแ้ ก่ทหารตำรวจและอาสาสมคั รทพ่ี กิ าร และนำผลงานออกจำหน่ายเป็นรายไดด้ ้วย ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ คพู่ ระบารมี 187



พระราชกรณียกิจ การส่งเสริมความเป็นพลเมอื งในวิถีประชาธปิ ไตย

การดำรงตนในวถิ พี ลเมอื งในระบอบประชาธปิ ไตยทสี่ ำคญั ประการหนง่ึ คอื “การเสยี สละ” และถอื วา่ เปน็ กจิ กรรมสำคญั ทดี่ ำรงอยใู่ นสงั คมไทยเสมอมาตง้ั แตอ่ ดตี จนปจั จบุ นั ไมว่ า่ จะเปน็ การเสยี สละความสขุ สว่ นตวั การเสยี สละทนุ ทรพั ยห์ รอื บรจิ าค ทรัพย์เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในยามปกติ เช่น การเสียสละกำลังกาย กำลังทรัพย์ ให้ความช่วยเหลือผู้ท่ีได้รับ ความเดือดรอ้ นในเรอ่ื งปัจจยั สเี่ พอ่ื ให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อยา่ งปกติสขุ หรือสรา้ งสาธารณประโยชน์เพ่อื พัฒนาคุณภาพชวี ติ ของคน ชุมชน ฯลฯ หรอื ในคราวจำเป็น เชน่ การเสียสละกำลังกาย กำลงั ทรัพย์เพือ่ ช่วยเหลือผ้ไู ดร้ ับความเสียหายจากการเกดิ อุทกภัย วาตภัยหรืออัคคีภัย เป็นต้น การเป็นผู้เสียสละจึงเป็นคุณสมบัติประจำตัวของคนไทยที่ได้รับการกล่าวถึงจากนานา อารยประเทศอย่เู สมอ ๆ ดว้ ยเหตทุ ส่ี งั คมไทยไดร้ บั พระมหากรณุ าจากสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ ทดี่ ำรงพระองคเ์ ปน็ แบบอยา่ ง ของ “ผู้เสียสละ” ด้วยพระราชหฤทัยที่งดงามและพระราชปณิธานที่แน่วแน่และมุ่งมั่น ไม่ทรงย่อท้อหรือเหน็ดเหนื่อยต่อวิถี ของการเป็นผู้เสียสละแม้แต่น้อย ดังนั้น จึงไม่เพียงแต่พสกนิกรชาวไทยเท่าน้ันที่ได้เรียนรู้และน้อมรับใส่เกล้าใส่กระหม่อม ถือปฏิบตั ติ ามดว้ ยความปล้มื ปติ ิ พระราชจริยวัตรความโอบออ้ มอารี เอื้อเฟ้ือเผือ่ แผ่และการเสยี สละของพระองค์ยังแผ่ไพศาล ให้สงั คมนานาประเทศแซซ่ อ้ งสรรเสรญิ ตลอดมา190 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ คู่พระบารมี

เมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปในแต่ละแห่ง ทรงจำเรื่องราวของประชาชนได้หมด ทรงพระปรีชาในการสอบถามเร่ืองราวของประชาชนเพ่ือให้การช่วยเหลือได้อย่างถูกวิธี พระองค์มีพระราชปฏิสันถารกับราษฎรเสมอเม่ือเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเย่ียมเยียนพสกนิกร ตลอดระยะเวลาที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไปทรงเยี่ยมราษฎรในภาคต่าง ๆ ทำให้ทรงทราบว่าราษฎรในชนบทจำนวนมากยากจนมีรายได้ไม่พอเลี้ยงชีพและไม่เห็นหนทางท่ีจะแก้ไขความเดือดร้อนด้วยตนเอง ยามเจ็บไข้ไม่มีแพทย์และยารกั ษาโรค คนไทยจงึ ไดป้ ระจกั ษว์ า่ พระองคม์ พี ระราชดำรแิ ละพระราชปณธิ านแนว่ แนท่ จ่ี ะพฒั นาชวี ติ ความเปน็ อยขู่ องราษฎรให้ดีข้ึน เมื่อศึกษาพระราชกรณียกิจที่ได้ทรงบำเพ็ญนานัปการอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าราษฎรในชนบทท่ัวราชอาณาจักรไดร้ ับพระมหากรณุ าธคิ ณุ จากการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยีย่ มของพระองคน์ ับครั้งไม่ถ้วนรวมถงึ การพระราชทานโครงการอันเนือ่ งมาจากพระราชดำริมากมาย ทรงงานดว้ ยความอดทน เสยี สละทั้งพระราชทรัพย์ เวลา และพระวรกายโดยมิไดย้ อ่ ทอ้ดังเช่น ภายหลังเหตุการณ์สึนามิเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๗ มูลนิธิชัยพัฒนาได้สำรวจความเสียหายในพ้ืนท่ีจังหวัดต่าง ๆ พบว่าที่เกาะยาว จังหวัดสตูลเป็นเกาะเล็ก ๆ ในทะเลอันดามัน พรมแดนทางทะเลติดกับประเทศมาเลเซียแม้จะไม่ได้ถูกคลื่นยักษ์โหมกระหนำ่ โดยตรง แตเ่ กดิ ความเสยี หายไมน่ อ้ ย “โรงเรยี นบา้ นเกาะยาว” เปน็ โรงเรยี นระดบั ประถม มนี กั เรยี น ๗๐ คน และครู๖ คน ตัวโรงเรียนทรุดโทรมมาก สีหลุดลอกเกือบหมด พ้ืนไม้ผุพัง นักเรียนต้องน่ังเรียนท่ีระเบียง เม่ือทรงทราบพระองค์ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานเงินแกม่ ูลนธิ ชิ ยั พฒั นา จำนวน ๑๓,๕๘๔,๑๑๖.๒๘ บาท ซึ่งมผี ู้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย และมีพระราชเสาวนีย์ให้ใช้ในการสร้างและซ่อมแซมโรงเรียนดังกล่าว นับเป็นความโชคดีของชาวมุสลิม๗๐๐ คน บนเกาะยาว ที่ทรงพระเมตตาและทรงห่วงใยในความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎรทุกหมู่เหล่า ซึ่งแม้จะเป็นเพยี งโรงเรียนเลก็ ๆ ท่ีห่างไกลกไ็ ม่ทรงทอดท้งิ ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ ีนาถ คูพ่ ระบารมี 191

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ทรงงานหนักและทรงเป็นตัวอย่างของการเสียสละเพ่ือสังคมไทย มาโดยตลอด นอกจากความเสียสละแล้ว สังคมของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ยังต้องการสติปัญญาของประชาชน ในสงั คมมาชว่ ยกนั สรา้ งสรรคป์ ระชาธปิ ไตยเปน็ อยา่ งยงิ่ เพราะปญั ญาของมนษุ ยจ์ ะทำใหเ้ กดิ การพฒั นาสง่ิ ตา่ ง ๆ ใหเ้ จรญิ กา้ วหนา้ มากมาย โดยใช้ปญั ญาค่อยปรับเปลย่ี นค่อยพฒั นาให้ระบอบการปกครองเหมาะสมตามยคุ ตามสมยั มาจนถึงปัจจบุ นั นอกจากใช้สติปัญญาแล้ว ยังจะต้องใช้เหตุผลเข้ามาช่วยในการตัดสินใจในเรื่องที่จะนำมาใช้เป็นหลักเกณฑ์กำหนด ให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เหตุผลเป็นเร่ืองที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเร่ืองสติปัญญา ทั้งสติปัญญาและเหตุผล ต่างก็เปน็ องคป์ ระกอบของกนั และกัน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ทรงใช้กำลังสติปัญญา เหตุผล และความเสียสละประกอบ พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ ซึ่งล้วนแต่เป็นการสร้างความมั่นคง เข้มแข็งต่อวิถีการดำเนินชีวิตอย่างย่ังยืนของ พสกนกิ รท้งั สนิ้ โครงการตา่ ง ๆ ทพี่ ระองค์ทรงสง่ เสรมิ นน้ั นอกจากจะเปน็ การเสรมิ สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกจิ สร้างรายได้ สร้างอาชีพ อนรุ ักษภ์ ูมปิ ญั ญาแล้ว ยังสอดแทรกเสริมสร้างความเปน็ พลเมอื งในวิถปี ระชาธิปไตยด้วย โครงการในพระราชดำรเิ สรมิ สร้างความเปน็ พลเมือง ในวถิ ปี ระชาธิปไตย ตลอดระยะเวลาท่ีผ่านมา โครงการในพระราชดำริ โครงการส่วนพระองค์ท่ีทรงส่งเสริมท้ังหลายน้ัน ล้วนมีหลักคิด เพ่ือพัฒนาพสกนิกรของพระองค์ให้มีความรับผิดชอบ เคารพในศักด์ิศรีของความเป็นมนุษย์ นับเป็นครรลองของระบอบ ประชาธิปไตยและเปน็ การเสรมิ สรา้ งความเป็นพลเมืองในวถิ ปี ระชาธิปไตยอย่างย่งิ192 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินีนาถ ค่พู ระบารมี

จากพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ที่มีพระราชประสงค์ให้ “คน” กับ “ป่า”อยรู่ ว่ มกันไดอ้ ยา่ งสนั ตสิ ุข โดยพง่ึ พาอาศยั ซ่ึงกันและกนั ทำให้ราษฎรทุกหมู่เหล่าต่างสำนึกในพระมหากรณุ าธคิ ุณ ได้รว่ มแรงร่วมใจกันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ใกล้ชุมชน เป็นผลให้ป่าไม้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเร่ิมรักษาไว้ได้มากข้ึน จึงได้พระราชทานแนวพระราชดำริให้ราษฎรอยู่ร่วมกับป่าไม้อย่างสันติสุข พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน โดยชุมชน หมู่บ้าน ได้มีการจดั ตงั้ องคก์ ารในการรว่ มกันดแู ลรกั ษาปา่ และสภาพแวดล้อม แหลง่ ต้นนำ้ ลำธาร ดังนี้ โครงการฝกึ อบรมราษฎรอาสาสมคั รพทิ กั ษป์ า่ โครงการราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) เป็นการฝึกอบรมราษฎร ในชุมชนให้มีความรู้ความเข้าใจต่อการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรปา่ ไม้ ปลกู ฝงั ความรกั และหวงแหนทรพั ยากรปา่ ไมใ้ นทอ้ งถน่ิ ของตน รวมทง้ั คอยดแู ล สอดสอ่ ง มใิ หม้ กี ารบกุ รกุและลักลอบตัดไม้ทำลายป่าแทนเจ้าหน้าท่ีของรัฐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ดำเนินการฝึกอบรมราษฎรตามโครงการดังกลา่ ว นับเปน็ รากฐานของการเขา้ มามีส่วนร่วมของประชาชนอยา่ งแท้จรงิ โครงการธงพทิ กั ษป์ า่ เพอ่ื รกั ษาชวี ติ หมู่บ้านและชุมชนที่ให้ความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในชุมชนของตนเอง ให้มีสภาพอุดมสมบูรณ์ไม่มีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า หรือบุกรุกพ้ืนที่ป่า ซ่ึงคณะอนุกรรมการดำเนินโครงการธงพิทักษ์ป่าเพ่ือรักษาชีวิต คัดเลือกแลว้ ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวายสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ เพอื่ ขอพระราชทานธง “พทิ กั ษป์ า่ เพอื่ รกั ษาชวี ติ ”ให้กบั ชุมชน ลกั ษณะของธงจะปรากฏภาพช้างอยู่ในป่าอยู่ภายใต้พระปรมาภิไธยยอ่ สก. คณะกรรมการโครงการธงพิทักษ์ป่าเพ่ือรักษาชีวิต คัดเลือกชุมชนที่มีผลงานอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้เป็นผลดีเข้ารับพระราชทานธงพทิ กั ษ์ปา่ เพอ่ื รกั ษาชวี ติ ต้งั แต่ พ.ศ. ๒๕๓๙ เปน็ ตน้ มา โครงการบา้ นเลก็ ในปา่ ใหญ่ บ้านเล็กในป่าใหญ่ เป็นการจัดระเบียบให้ประชาชนอยู่กันเป็นกลุ่ม ๆ โดยรอบป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมทั้งส่งเสริมอาชีพเสริมใหก้ ับประชาชนให้มีความเปน็ อย่ทู ดี่ ขี ้นึ มีรายได้เพยี งพอต่อการเล้ยี งครอบครัวอย่างมศี กั ดศ์ิ รี ซ่งึ จะทำให้ประชาชนมีสำนึกรับผิดชอบ หยุดการบุกรุกทำลายป่าไม้ และช่วยดูแลรักษาป่าไม้ให้มีสภาพสมบูรณ์ดังเดิม โดยที่โครงการดังกล่าวนี้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเย่ียมประชาชนบ้านทันสมัย ตำบลมหาชัยอำเภอปลาปาก จงั หวดั นครพนม เมอ่ื เดอื นมถิ นุ ายน ๒๕๓๕ ทรงพบวา่ ประชาชนบา้ นทนั สมยั และหมบู่ า้ นใกลเ้ คยี งมคี วามยากจนและบางส่วนบุกรุกเข้าไปแผ้วถางป่า และตัดไม้ขายในเขตป่าสงวนแห่งชาติโพนสว่าง พระองค์จึงมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดตั้งโครงการสง่ เสรมิ ศลิ ปาชพี ขน้ึ ทบ่ี า้ นทนั สมยั อำเภอปลาปาก จงั หวดั นครพนม โดยมปี ระชาชนจากหมบู่ า้ นตา่ ง ๆ ในตำบลมหาชยัเข้าร่วมเป็นสมาชิกจำนวน ๑๑ หมู่บ้าน พร้อมทั้งมีพระราชดำริในเร่ืองการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำลำธาร การจัดท่ีอยู่ให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบและภายในป่าสงวนแห่งชาติโพนสว่าง โดยจัดระเบียบให้อยู่กันเป็นกลุ่ม ๆ โดยรอบป่า พร้อมทั้งทำการส่งเสริมอาชีพเพ่ิมเติม ให้กับประชาชนท่ีอยู่รอบป่าสงวนแห่งชาติโพนสว่างให้มีความเป็นอยู่ที่ดีข้ึน มีรายได้เพียงพอต่อการเล้ียงครอบครัว เพ่ือที่จะหยุดการบุกรุกทำลายป่า และช่วยดูแลรักษาป่าไม้ให้คงสภาพสมบูรณ์ดังเดิม ซึ่งจากพระราชดำริดังกล่าวพระองค์ทรงจัดต้ังเป็นโครงการนำร่องข้ึนและได้ขยายออกไปยังภาคเหนือในเวลาต่อมา ดังพระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะบคุ คลตา่ ง ๆ ทเ่ี ขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาทถวายพระพรชยั มงคลเนอื่ งในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดสุ ดิ าลยัสวนจิตรลดา วนั อาทิตย์ท่ี ๑๑ สิงหาคม ๒๕๔๕ ความตอนหนึง่ วา่ ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ นี าถ คู่พระบารมี 193

“...ข้าพเจ้าอยากจะเล่าถึงเม่ือที่ข้าพเจ้าไปภาคเหนือคราวที่แล้ว ก็ไปจัดต้ังโครงการ หมู่บ้านบ้านเล็กในป่าใหญ่ เพราะได้ไปเห็นว่าชาวไทยภูเขาตามพื้นท่ีชายแดนต่าง ๆ โดยมากมักจะไม่มีท่ีทำกินหรือว่าไม่มีบ้านพักก็เตร็ดเตร่ไปเร่ือย ๆ ข้าพเจ้าก็เลยขออนุญาต จากกรมป่าไม้ พื้นที่แต่ละแห่งที่เรียกว่าป่า กลายเป็นไม่ใช่ป่าแล้ว ถูกตัดไปหมดแล้วนี่ ขอมาบ้างมาจัดต้ังหมู่บ้านโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ เช่น ได้ตั้งข้ึนท่ีดอยผ้าห่มปก อำเภอ แม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ แล้วก็รับชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ท่ีจะมาอยู่ในบ้านนั้น แล้วเราก็จะสอน ทุกอย่าง วิธีดำเนินชีวิตของเขา ให้เขาเป็นสมาชิกศิลปาชีพ แล้วในท่ีสุดก็ให้เขาเป็นผู้ดูแลป่าไม้ ด้วย ให้เป็นหูเป็นตา และการต้ังหมู่บ้านนี้บางคร้ังก็โชคดี หมู่บ้านชาวเขานั่นน่ะกลายเป็นหู เปน็ ตาในการขัดขวางเสน้ ทางของการคา้ ยาเสพติดด้วย คอื เขากเ็ ปน็ หเู ปน็ ตาให้ …” “...แล้วก็อยู่ที่เดิมดูแลป่าไม้ก็จะดีมาก เขาก็ไม่มาแย่งพ้ืนท่ีทำมาหากินของคน พ้ืนราบ ก็อยู่ด้วยกันด้วยความสงบสุขโดยมากชาวไทยภูเขาที่เขาอาสาข้าพเจ้าขึ้นไปอยู่ใน หมู่บ้านก็จะมีความสามารถ แต่เขาก็จะต้องผ่านการสาบานว่าจะเลิกตัดไม้ทำลายป่า จะเลิก การล่าสัตว์ และทางกรมป่าไม้ก็ช่วยจัดสรรที่ดินท่ีไม่มีป่าแล้วน่ันน่ะให้เขาอยู่ และให้ ครอบครัวละ ๒ ไร่ แล้วก็นักเกษตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเข้าไปอยู่ด้วย ช่วยแนะนำชาวเขาเหล่านั้น แล้วก็นักเกษตรท่ีเก่งของกรมวิชาการเกษตรก็จะไปช่วย ทุกหน่วย ได้ช่วยหมด ก็ได้ใช้พื้นท่ีให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเราจะทดลองปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาว ที่ไม่เคยปลูกได้ในเมืองไทย ได้อยู่แห่งเดียวคือที่อ่างขาง คือโครงการพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อ่างขางท่ีเชียงใหม่ และก็ลองทดลองเลี้ยงสัตว์ที่ทนกับอากาศ หนาวเยน็ ได้ …” สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ ทรงสง่ เสรมิ สำนกึ ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง  ผอู้ นื่ และสงั คม เพราะทรง เห็นว่าหากประชาชนเป็นผู้ที่ใช้สิทธิเสรีภาพแล้ว ต้องตระหนักอยู่เสมอว่าการกระทำใด ๆ ของตนเองย่อมมีผลต่อสังคม และสว่ นรวม ในฐานะท่ี “พลเมอื ง” ตอ้ งรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมและมองตนเองเชอ่ื มโยงกบั สงั คม เหน็ ตนเองเปน็ สว่ นหนง่ึ ของปญั หา และมสี ว่ นร่วมในการแก้ไขปญั หานัน้ โดยเรม่ิ ต้นท่ตี นเอง หรือร่วมแก้ปัญหา ดว้ ยการไม่ก่อปัญหา และลงมอื ทำด้วยตนเอง เชน่ การแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำจืด ดังพระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่าง ๆ ท่ีเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชยั มงคลเนอื่ งในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลาดสุ ดิ าลยั สวนจติ รลดา วนั พฤหสั บดที ี่ ๑๑ สงิ หาคม ๒๕๔๘ ความตอนหนง่ึ ว่า194 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ นี าถ คูพ่ ระบารมี

“...ถ้าเราไม่กำหนดแนวทางบริหาร และจัดการน้ำให้ดี ปัญหาเร่ืองน้ำจืดขาดแคลน ก็จะวนเวียนกลับมาทุกปีและทวีความรุนแรงย่ิงขึ้น ข้าพเจ้าเพ่ิงได้อ่านหนังสือพิเศษของ ทางสหรัฐอเมริกา และผู้เช่ียวชาญต่างประเทศท้ังหลายเขาพูดถึงว่าปีศตวรรษที่ ๒๑ น้ี เรื่องน้ำดื่ม น้ำใช้ น้ำจืด น่าจะเป็นเร่ืองของศตวรรษนี้ ศตวรรษท่ี ๒๑ น้ี เพราะคนเกิดข้ึน มากมาย การใช้น้ำก็มากขึ้นทุกที แต่ดูว่าปัญหาเร่ืองน้ำน่ีจะไม่ใช่เป็นปัญหาในบ้านเรา เท่าน้ัน แม้แต่ต่างประเทศ ต่างก็รวมตัวกัน และยกเร่ืองนี้เรื่องน้ำว่าเป็นปัญหาสำคัญของ ศตวรรษที่ ๒๑ ที่น่าจะช่วยกันพิจารณาค้นคว้าว่าควรจะบริหารในเร่ืองนี้อย่างไร จึงจะมี น้ำใช้ตลอดไป เราไม่ทราบเลยว่าฤดูฝนแต่ละฤดูฝนจะมีฝนตกเท่าไหร่ ทั่วถึงทุกพื้นที่หรือไม่ เพราะเด๋ียวน้ีป่าของเราหมดส้ิน แทบจะเรียกว่าหมดส้ินไปแล้ว เพราะฉะนั้นส่ิงที่จะช่วย ให้สนับสนุนให้มีน้ำน่ีก็น้อยเต็มประดา การใช้น้ำอย่างประหยัดโดยสม่ำเสมอจึงน่าจะเป็นวิธี ท่ีดีท่ีสุด และเมื่อต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำขึ้นมา เราจะได้ปรับตัวได้ง่ายไม่ลำบาก เกินไป ข้าพเจ้าขอร้องให้พวกเราทุกคนช่วยกันถนอมรักษาน้ำจืด ซ่ึงเป็นทรัพยากรสำคัญ ของชาตไิ วเ้ พื่ออนาคตของลูกหลานไทยในภายภาคหนา้ ...” สมเดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ ไดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมใหม้ ีโครงการต่าง ๆ ทงั้ ดา้ นการศึกษา การศาสนา การแพทย์และสาธารณสุข การเกษตรกรรม การอนุรักษ์ ฟ้ืนฟู และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอันเป็นสมบตั แิ ห่งทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญาของภมู ภิ าคต่าง ๆ พระองคพ์ ระราชทานโครงการฟืน้ ฟูดแู ลปกปอ้ งดนิ นำ้ และป่า เพอ่ื ให้ฟน้ื คนืความอดุ มสมบูรณ์ เช่น โครงการบ้านเลก็ ในปา่ ใหญ่ โครงการป่ารักน้ำ โครงการฟาร์มตวั อย่าง โครงการธนาคารอาหารชุมชนและอ่นื ๆ อกี มาก โครงการท้งั หมดลว้ นสง่ เสริมความเป็นพลเมอื งในวิถปี ระชาธปิ ไตย ทั้งนดี้ ว้ ยพระมหากรุณาธคิ ณุ ที่จะให้ราษฎรมีความรู้และมีแหล่งสำหรับประกอบอาชีพให้ได้ผลดี สามารถยกระดับความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้น ซึ่งเป็นการเอื้ออำนวยให้ราษฎรทั้งปวง มีวิถีชีวิตที่ผาสุกและร่มเย็น ปวงอาณาประชาราษฎร์ท่ัวทุกภูมิภาคล้วนประจักษ์ชัดแจ้งในน้ำพระราชหฤทยั เปี่ยมดว้ ยพระเมตตาเอือ้ อาทรในทกุ ขส์ ขุ ของปวงชน ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชนิ นี าถ คู่พระบารมี 195



เพราะพระอจั ฉริยะยิ่งใหญ่ประชาชนไทยจงึ เปย่ี มสขุ

“...ขาดทุนของฉนั คอื กำไรของแผ่นดนิ ...” ทกุ ครงั้ ทส่ี มเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ นี าถ เสดจ็ พระราชดำเนนิ ไปทรงเยยี่ มเยยี นประชาชน พระองคป์ ระทบั ทรงงานตลอดเวลา ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทุกคน ทรงให้ความเสมอภาคแก่ประชาชนทุกหมู่เหล่าของพระองค์ มีพระเมตตาต่อพสกนิกรของพระองค์มาโดยตลอด พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนการศึกษาและการยังชีพ แก่ประชาชนผู้ยากไร้ เหล่าพสกนิกรต่างรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระองค์เปรียบเสมือนพระแม่ของปวงชนชาวไทย ทรงดูแลและพระราชทานความชว่ ยเหลอื เสมอมาเมอ่ื มีเหตเุ ดอื ดร้อนแกป่ ระชาชนของพระองค์198 ๗ รอบ พระชนมพรรษา พระบรมราชินนี าถ คพู่ ระบารมี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook