Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มองอินเดียใหม่

Description: มองอินเดียใหม่

Search

Read the Text Version

สุดท้ายน้ี หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้รับความรู้และเห็นสีสันของอุตสาหกรรม ภาพยนตร์อินเดียท่ีได้ข้ึนชื่อว่าโด่งดังไม่แพ้ฮอลลีวูดของอเมริกาเลยแม้แต่น้อย และ หวงั วา่ เรอ่ื งราวไมว่ า่ จะเปน็ จาก “บอลลวี ดู ” “คอลลวี ดู ” หรอื “ทอลลวี ดู ” จะสรา้ งแรง บันดาลใจให้ท่านท่ีอยู่ในวงการหรือนอกวงการ ให้หันมามองอินเดียใหม่ ในฐานะ แหลง่ ผลติ และตลาดภาพยนตรท์ สี่ ำ� คญั และมผี ลประโยชนใ์ หเ้ อกชนไทยไดล้ องไขวค่ วา้ ไมใ่ ชน่ อ้ ย ตพี ิมพใ์ นหนงั สอื พิมพ์ฐานเศรษฐกิจ เมื่อวนั ท่ี 30 มถิ ุนายน 2556 51

52

เมอื่ ผบู ริโภคอนิ ำเดีย เปล่ยี นำไป CHAPTER3



3.1 เมอื่ ชาวอนิ เดยี เปลียê นไป‰ - โดย คณิน บญุ ญะโสภัต - คนอินเดีย หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่าแขกนั้น เป็นเพื่อนบ้านของเรา มาช้านาน ตัง้ แต่อดีตจนถงึ ปัจจุบนั ชวี ติ คนไทยมีความเกีย่ วขอ้ งกบั เพือ่ นแขกไม่มาก กน็ ้อย ไม่ว่าจะเป็นเวลาซื้อผ้า เวลากินถัว่ หรือแม้แต่เวลาหนีหน้ี ในช่วงไม่ก่ีสิบปีท่ีผ่านมา ส่ือมวลชนท่ัวโลกต่างประโคมข่าวการเติบโตแบบ ก้าวกระโดดของเศรษฐกิจอินเดียอย่างต่อเน่ือง ในขณะที่เมื่อกล่าวถึงประเทศอินเดีย คนไทยส่วนใหญ่ยังใสแ่ ว่นสีเดมิ มองทกุ อยา่ งในแงท่ ่ีไมค่ ่อยจะอภิรมยน์ ัก จงึ มองขา้ ม นัยส�าคัญของพัฒนาการของประเทศอินเดียตรงที่ เมื่อเศรษฐกิจอินเดียเปล่ียนไป คนอินเดียส่วนใหญ่ก็จะเปลี่ยนไปด้วย เราอาจจะไม่เห็นต้นไม้เติบโตแบบชั่วข้ามคืน แต่ต้นไมก้ า� ลงั เตบิ โตขน้ึ ทกุ วนั ชาวอนิ เดยี โดยเฉพาะชนชนั้ กลางและชนชน้ั ลา่ งเพงิ่ ฉลองชยั ชนะกา้ วแรกของ แอนนา ฮาซาเร่ (Anna Hazare) ในการนา� ชาวอนิ เดยี คอ่ นประเทศทส่ี นบั สนนุ เขา กดดนั รฐั บาลและสภาผแู้ ทนราษฎรดว้ ยการประทว้ งอดอาหารเพอ่ื ใหผ้ า่ นรา่ งกฎหมาย Lokpal ซ่ึงเป็นกฎหมายการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันทั้งในการเมืองระดับประเทศและ ขา้ ราชการในระดบั รากหญา้ ดว้ ยการจัดต้ังองคก์ รอิสระเพ่ือการตรวจสอบ ซึ่งเป็นอกี สัญญาณหน่ึงวา่ ความเปลีย่ นแปลงก�าลังก่อตัวอยา่ งแขง็ แกร่งขน้ึ เพราะชนชั้นกลาง และชนช้ันลา่ งที่กลา่ วถึงน้ี หมายถึงประชากรเกอื บร้อยละ 70 ของประเทศ หรอื กว่า 700 ลา้ นคน ไม่นบั รวมเศรษฐีทีม่ ปี ริมาณมากกวา่ คนไทยท้งั ประเทศกวา่ 7 เท่าตวั 55

ในแง่ของตลาด เป็นท่ีแน่นอนว่าก�ำลังซ้ือของคนอินเดียมีมากขึ้นตามล�ำดับ ประกอบกบั การเขา้ มาในอนิ เดยี ของสอ่ื ตา่ งๆ จากตา่ งประเทศ ทงั้ เคเบลิ ทวี แี ละนติ ยสาร หัวนอก ซ่ึงฉาบไปด้วยความหอมหวานของวัฒนธรรมบริโภคนิยมแบบตะวันตก ดังน้ัน จงลืมเสยี เถดิ ภาพคนอนิ เดยี ในประเทศไทย ผูแ้ สวงหาโอกาสเพ่อื ลืมตาอ้าปาก ในชวี ิตดว้ ยการขายผ้า ขายถั่ว และทวงหน้ี ในอนิ เดีย เดมิ ที Money is asset. (เงนิ คอื สินทรัพย)์ คอื มีเกบ็ ไวแ้ ล้วออม อย่างเดยี ว แม้การลงทนุ เพื่อเพม่ิ กำ� ไรให้งอกเงยดว้ ยดอกเบ้ยี ธนาคารยังไมน่ ิยม จนถงึ ขนาดท่ีว่าตายไป ลูกหลานเปิดตู้เก่าๆ ในบ้านมีเงินยัดเป็นฟ่อนกว่าสิบย่ีสิบล้าน ก็มมี าแล้ว ปัจจบุ ันนี้ Money is power. (เงนิ คอื อ�ำนาจ) ไดม้ ากต็ อ้ งใช้จา่ ย และเมื่อ รบั รู้ ว่าโลกไดก้ ้าวไปถึงไหนตอ่ ไหนแลว้ คณุ ภาพของกย็ ิง่ ต้องดี ตอ้ งมีมาตรฐานสากล เปน็ ของทันสมยั ใช้เองอยา่ งเดยี วไม่พอ ต้องเอาไปบอกต่อกบั ญาติพี่น้องทส่ี นทิ สนม เปน็ เครือข่ายการทำ� ตลาดทกี่ ระจายเร็วยงิ่ กว่าการขายตรงของคา่ ยไหนๆ เพราะสงั คม อินเดยี ให้ความส�ำคัญกับครอบครวั เป็นอยา่ งย่ิง คนอินเดียวันนี้ลืมตาอ้าปากได้เอง ไม่รอให้รัฐจัดสวัสดิการ รถรางไฟฟ้า หรือขนสง่ มวลชนใดๆ หากมีเงินแล้ว ก็วางดาวน์ผ่อนรถราคาประหยัดได้ทนั ที รัฐบาล แทบตงั้ ตัวไม่ทัน เนอ่ื งจากคนนิยมใชร้ ถในการเดนิ ทางมากขน้ึ จงึ ต้องขยายถนนเพ่ือ ตอบสนองจ�ำนวนรถราที่แออัด คนอินเดียไม่นิยมการอดทนรอ และแก้ปัญหา เฉพาะหน้าไดเ้ กง่ ดังนน้ั อะไรทีส่ นองความต้องการไดท้ นั ท่วงทีจึงไมร่ รี อที่จะน�ำมาใช้ แนวคดิ Jugaad (จกู ๊าด) ทีแ่ พร่หลายในอินเดยี คอื การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (quick fix) ทป่ี รบั ใช้ไดต้ ัง้ แตเ่ รอื่ งเล็กจนถงึ เรอ่ื งใหญ่ และไมว่ า่ จะยาจกหรอื มหาเศรษฐี สะทอ้ นให้เห็นทกั ษะในการแก้ปัญหาและปรับตัวได้อยา่ งรวดเร็วของคนอนิ เดยี ในเมื่อ ปัญหาเล็กๆ ย่อมแก้ได้โดยวิธีท่ีไม่ต้องลงทุนมาก นับประสาอะไรกับปัญหาธุรกิจ ขนาดใหญ่ อาจจะคล้ายๆ กับที่เราเรียกกนั วา่ คดิ นอกกรอบ อนานด์ กิริทาราดาส (Anand Giridharadas) นักเขียนหนุ่มชาวอินเดีย ท่ีไปเติบโตในอเมริกา เขียนถึงชีวิตชาวอินเดียรุ่นใหม่ท่ีเค้าประสบพบเจอในหนังสือ อนิ เดีย คอลลง่ิ (India Calling) ว่า แม้แต่เมืองในชนบทท่หี ่างไกลความเจรญิ คนหนมุ่ คนสาวอนิ เดียก็เฝา้ ฝันถึงชีวติ ท่ีเขาวาดหวงั วา่ จะเป็นจากในโทรทัศน์ ผ่านตวั ละครคอื ราวนิ ดรา (Ravindra) หนมุ่ บา้ นนอกคนหนง่ึ ซง่ึ เปน็ ตวั อยา่ งของชาวอนิ เดยี รนุ่ ใหมห่ ลายๆ 56

คนทที่ ะเยอทะยานตอ้ งการกา้ วเปน็ ชนชนั้ กลางท่ที ันสมยั ยอมปลดแอกตัวเองดว้ ยการ เปลี่ยนนามสกุลท่ีตราหน้าเขาให้คนทั่วไปรู้ว่าเป็นคนช้ันล่าง ไม่มีโอกาสเลื่อนชั้นทาง สงั คม ปัจจุบันน้ี ส่ิงท่ีเติบโตไม่แพ้ตลาดค้าขายสินค้าและวัฒนธรรมตะวันตกก็คือ โรงเรยี นและสถาบันฝกึ อบรมเพ่อื ให้เปน็ ผบู้ ริหารร่นุ ใหม่ เพ่อื ฝกึ แนวคิด การพูด และ การทา� งานเพ่อื ใหต้ รงตอ่ ความตอ้ งการของตลาดแรงงานทตี่ อ้ งการของตะวนั ตก ราวินดรากับพลังเคล่ือนไหวเบ้ืองหลังแอนนา ฮาซาเร่ คือสัญญาณว่าคน อินเดยี ไมท่ นอีกต่อไป และพรอ้ มแก้ไขและต่อสู้เพื่อโอกาสท่ดี ขี น้ึ ในชีวิต ¹ÒÂÍѹ¨Ù હ CEO Deutshe Bank ªÒÇÍ¹Ô à´ÂÕ วนั นี้ เดก็ นกั ศกึ ษาปี 4 ของอนิ เดยี ถกู จองตวั ตง้ั แตย่ งั เรยี นไมจ่ บ ดว้ ยขอ้ เสนอ จากบริษัทช้ันนา� ระดับโลก หวั กะทิชาวอินเดียหลายคนขยับข้นึ ครองต�าแหนง่ ผูบ้ ริหาร ระดบั สูงในองคก์ รข้ามชาติมากมาย ไม่เชอ่ื ลองไปเปดิ ทา� เนียบผู้บริหารดอยซ์ แบงก,์ เป๊ปซ,ี่ ซติ ีแ้ บงก์ หรือภาควชิ าธรุ กิจของมหาวิทยาลยั ฮารว์ ารด์ ดู แม้แต่ประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้านของเรา ยังเช้ือเชิญบริษัทผลิตยาชั้นน�า ของอินเดยี อยา่ งไบโอคอน (Biocon) ไปต้ังโรงงานพร้อมจีบประธานบรษิ ัท นางคิราน มาซมู ดาร์ ชอว์ (Kiran Mazumdar Shaw) เป็นทป่ี รกึ ษา ในขณะทยี่ อดขายรถในอนิ เดีย ปนี ี้ผ่านหลักกโิ ลท่ี 15.5 ล้านคนั ไปอยา่ งสบายๆ เทยี บกบั ยอดขายรถในประเทศไทย ปที ่ีแลว้ ทง้ั ปที ี่ 800,357 คนั คนอินเดียเปลี่ยนไปแลว้ คนไทยเองหรือเปล่าทย่ี ังไมเ่ ปลีย่ น ตีพิมพใ์ นหนงั สือพิมพ์ฐานเศรษฐกจิ เม่ือวันท่ี 4 กนั ยายน 2554 57

58

3.2 “Keepมiหnาgสเ ศังuรคpษม ฐบwอีรiินโิtภhเด คียtขhยอeคุง ใSหiมn่ghs” - โดย ดร. แจม่ ใส เมนะเศวต - มใี ครเคยเหน็ รถ Aston Martin รนุ่ Vanquish บนถนนหนทางในกรงุ เทพฯ บา้ งหรอื ยงั ทีบ่ อมเบย์แม้วา่ ถนนจะพอเปน็ หลุมเป็นบอ่ อยเู่ ปน็ ชว่ งๆ ถอยรถ Vanquish ออกมาขบั เล่นแถว Marine Drive กนั แล้ว ไมใ่ ชแ่ ต่เพยี ง Aston Martin เท่านัน้ ทเ่ี ข้ามาเปิดโชวร์ ูมในอินเดยี รถสปอร์ตหรู สญั ชาตอิ ิตาเลยี นอย่างเฟอร์รารี่ มสั เซราติ แลมบอร์กินีกแ็ หต่ ามๆ กันมาแลว้ สว่ นรถ โรลส์รอยซ์ เบนทล์ ีย์ นนั้ เปน็ ท่ใี หไ้ ดเ้ ห็นอยา่ งชนิ ตาบนถนนในเดลี หนงั สือพิมพ์ Financial Times รายงานว่า ตลาดรถประเภท luxury ในอนิ เดีย มอี ัตราการเติบโตเรว็ กว่ารถธรรมดา ในปี ค.ศ. 2008 การขายรถประเภทหรู/ฟมุ่ เฟอื ย อยู่ท่ีประมาณ 7 พันคัน คาดว่าภายในปีน้ี โชว์รูม luxury ต่างๆ จะขายรถได้ถึง 3.9 หมื่น ตวั เลขคาดการณว์ า่ ยอดขายจะพุ่งสูงถงึ 8.3 หมน่ื คนั ภายในปิี ค.ศ. 2020 ไมน่ า่ สงสยั เลยวา่ ทา� ไมอนิ เดยี จงึ มสี นามแขง่ รถ Formula One เพราะคนอนิ เดยี ก็รักและหลงใหลรถแพงๆ เปน็ ชวี ติ จติ ใจเช่นเดียวกับสากลโลก ค่ายรถอย่างเฟอร์รารี่หรือแลมบอร์กินีก็ไม่ต้องวิตกท่ีจะต้องเลิกจ้างพนักงาน ขายรถในอติ าลีบา้ นเกดิ ไม่ได้ไมเ่ ปน็ ไร เพราะมแี รงซอื้ จากอนิ เดียมาชว่ ยก้สู ถานการณ์ วิกฤติเงินยโู รให้บริษทั 59

Financial Times ให้ข้อมูลว่า ในปี ค.ศ. 2011 - 2012 อินเดียมีจ�ำนวน มหาเศรษฐที มี่ ที รพั ยส์ นิ สงู กวา่ 4.5 ลา้ นดอลลารส์ หรฐั จำ� นวน 8.1 หมน่ื คน ในอกี 4 ปี ขา้ งหนา้ คาดว่าจะมีมหาเศรษฐใี นกรอบรายไดเ้ ดียวกนั น้สี ูงถึง 2.86 แสนคน เปน็ การ เพม่ิ ขึ้นกวา่ 3 เทา่ ตวั ข่าวดสี ำ� หรบั คนไทยคือ มหาเศรษฐีอินเดยี เหลา่ น้ีก็นิยมชมชอบประเทศไทย มากเช่นกนั ไมน่ านมาน้ี มีเศรษฐีอนิ เดยี บนิ ไปฉลองครบรอบแตง่ งาน 50 ปี ปิดโรงแรม สยามเคมปนิ สกเ้ี ลย้ี งญาตพิ น่ี อ้ งเพอ่ื นฝงู สามวนั สามคนื ผจู้ ดั การใหญส่ ยามเคมปนิ สก้ี ถึงต้องบินมาท�ำโรดโชว์ที่อินเดีย น�ำทีมเซลส์มาท�ำตลาดในหมู่เศรษฐีท้ังเก่าและใหม่ ภายในสัปดาห์เดียว ดุสิตก็จัดโรดโชว์มาตามๆ กัน พาโรงแรมในเครือมาน�ำเสนอ สถานที่ทอ่ งเท่ียวในไทยนอกเหนอื จากกรุงเทพฯ ภูเกต็ และพทั ยา อนั เป็นจุดมงุ่ หมาย ยอดนยิ มของชาวอนิ เดยี การโปรโมทเมอื งไทยใหเ้ ปน็ luxury destination ในกลมุ่ ผมู้ รี ายไดส้ งู ของอนิ เดยี จึงเป็นการตลาดท่เี ราจะต้องต้ังเกมรุก เปน็ ทน่ี า่ ยนิ ดที ห่ี นว่ ยงานของไทยไดห้ นั มาจบั เทรนดน์ ี้ โดย ททท. ณ กรงุ นวิ เดลี ก�ำลังท�ำเคมเปญรุกตลาดชั้นสูงมากขึ้น ควบคู่ไปกับการท�ำตลาดระดับชนชั้นกลาง ในอนิ เดยี ซึ่งปัจจบุ นั เปน็ แหล่งรายได้ส�ำคญั ของการทอ่ งเท่ยี วไทย คุณรัญจวน ทองรุต ผอ. ททท. เดลี เข้าใจเสนห่ ์ของบริการไทยส�ำหรบั สตรี อนิ เดยี ทม่ี รี สนยิ มพรอ้ มรายไดส้ งู รว่ มมอื กบั การบนิ ไทย พานางเอกดาวรงุ่ ของบอลลวี ดู Sonakshi Sinha บนิ ไปถา่ ยแฟชนั่ โชว์ทีภ่ ูเกต็ ลงนติ ยสาร Asia Spa เพ่ือโปรโมทสปาไทย การจับตลาดเศรษฐีนีอินเดียเป็นกลยุทธ์ที่แนบเนียน เพราะเวลาพวกเธอไป เมอื งไทย เธอจะไมใ่ ชไ่ ปแคเ่ พอ่ื พกั ผอ่ น แตม่ เี ปา้ หมายไปชอ็ ปกระจายในเวลาเดยี วกนั เรอ่ื งกำ� ลงั ซอ้ื ไมต่ อ้ งพดู ถงึ ผเู้ ขยี นเคยเหน็ สตรไี ฮโซอนิ เดยี วางกระเปา๋ เบอรก์ น้ิ หนงั จระเข้ บนพืน้ ในร้านอาหาร เปรียบเสมือนใบละไม่ก่ีพันบาท ถ้าเป็นบ้านเราคงต้องเอาผ้ามา ปกู อ่ นอัญเชญิ ข้นึ บนหิ้ง ททท. ไดห้ นั มาเพม่ิ เนื้อที่ในส่ือท่เี จาะลกึ กลมุ่ มหาราชาและมหารานที ั้งหลาย ลงบทความและโฆษณาในนติ ยสาร เชน่ Millionaire, Fortune, และ Audi Magazine สำ� หรบั ผเู้ ปน็ เจา้ ของรถออดโี้ ดยเฉพาะ (ปจั จบุ นั ยอดขายรถออดใ้ี นอนิ เดยี แซงหนา้ เบนซ์ 60

ไปแลว้ ) และในอนาคตจะขยายเข้าสื่อ เชน่ Hello, Elle และ Vogue สง่ เสริมความสวย ความงามแบบไทยๆ ในหมู่แฟช่ันนสิ ต้าอินเดีย คุณรัญจวนให้ข้อมูลเพ่ิมเติมว่า พฤติกรรมการบริโภคในกลุ่มเศรษฐีอินเดีย คอื จะตอ้ งมีอะไรเหมือนๆ กัน ทา� อะไรก็ตอ้ งใหม้ หี น้ามตี าพอๆ กัน ไปเท่ียวที่ไหนก็ ต้องตามกันไป เป็นพฤตกิ รรมคลาสสกิ ทน่ี กั เศรษฐศาสตรฝ์ รง่ั เรยี กวา่ Keeping up with the Joneses (ในอนิ เดียคงต้องเปล่ยี นมาเรยี กว่า Keeping up with the Singhs) ดังน้ัน ถ้าสถานที่ท่องเท่ียวไทยหรือโปรดักส์ไทยไหนเป็นท่ีนิยมในหมู่ ชาวอนิ เดยี รายไดส้ งู กร็ บั รองไดเ้ ลยวา่ เศรษฐคี นอน่ื ๆ กจ็ ะลอกเลยี นแบบ จบั จา่ ยใชส้ อย แขง่ ขันกันตามค่านิยมของสงั คมบริโภค อย่างไรก็ตาม การจะเข้าไปสร้างกระแสในหมู่ไฮโซอินเดียก็มิใช่เรื่องง่ายๆ อย่างทค่ี ิด เพราะทกุ คนต่างเป็นผ้มู กี ารศกึ ษาระดบั สูง สามารถเขา้ ถงึ ข้อมลู และรูด้ ีว่า ความคุ้มค่าของเงนิ ท่จี า่ ยไปน้ันตอ้ งมาพรอ้ มกับเอกสิทธ์พิ เิ ศษไม่เหมือนใคร ดังเช่นบริการของแอสตันมารต์ นิ ในอินเดยี ที่ยินดีขนส่งรถราคาเกนิ ครง่ึ ลา้ น ดอลลาร์ข้ามประเทศ เพ่ือให้เจ้าของได้ไปขับในเมืองตากอากาศโดยไม่ต้องขับผ่าน ทางหลวงทชี่ า� รดุ ทรดุ โทรม หรือส่งชา่ งยนตบ์ นิ ขา้ มเมืองไปซอ่ มรถของคณุ ถงึ บา้ น คุณนิกลาส วอน บูเรน เจ้าของบริษัท Lotus Arts de Vivre ผู้ผลิต เครอื่ งประดบั และเครอื่ งตกแตง่ บา้ นระดบั สงู ของไทย ซง่ึ มคี วามสมั พนั ธก์ บั ตลาดชนั้ สงู ของอนิ เดยี มากกวา่ 15 ปี เหน็ ดว้ ยวา่ ลกู คา้ อนิ เดยี เนน้ ดไี ซนท์ ไ่ี มเ่ หมอื นใครและบรกิ าร ทีเ่ ป็นส่วนตัว ซ่งึ เป็นส่ิงที่คนไทยท�าได้ดี ในภาพรวม คนอนิ เดียเหน็ ว่าผลติ ภัณฑแ์ ละการบรกิ ารของไทยมคี ณุ ภาพสูง จงึ ชืน่ ชอบและนยิ มสนิ คา้ ทีม่ คี วามเปน็ ไทย เศรษฐีอินเดียมีความช่ืนชอบในความประณีตพิถีพิถัน มีความหลงใหลกับ ศิลปะและวัฒนธรรมชั้นสูง ซ่ึงประเทศไทยมีเร่ืองน้ีเป็นทุนอยู่แล้ว หากเราสามารถ โปรโมทผลติ ภณั ฑแ์ ละการบรกิ ารไทยใหต้ ดิ ตลาด luxury ของอนิ เดยี ไดอ้ ยา่ งจรงิ จงั เรา กน็ า่ จะสรา้ งรายไดเ้ ขา้ ประเทศไดม้ ากกวา่ ยอดขายรถเฟอรร์ ารใ่ี นอนิ เดยี ทา� เงนิ ใหอ้ ติ าลี ตพี ิมพ์ในหนงั สอื พิมพฐ์ านเศรษฐกจิ เมอ่ื วนั ที่ 9 กนั ยายน 2555 öËÃÙº¹·ŒÍ§¶¹¹ã¹àÁ×ͧÁÁØ äº 61



3.3 เมอ่ื นักช็อปอนิ เดียเปลยี่ นไป - โดย อดุลย ์ โชตินิสากรณ ์ - แตไ่ หนแตไ่ รมา นกั ชอ็ ปอนิ เดยี สว่ นใหญจ่ ะเกบ็ เงนิ รอไวช้ อ็ ปปง้ิ ในชว่ งเทศกาล ทีส่ �าคัญที่สุด คอื เทศกาลดิวาลี ซ่ึงถอื วา่ เป็นเทศกาลทสี่ �าคัญทีส่ ดุ ของชาวอนิ เดียที่ นบั ถอื ศาสนาฮินดู ซ่งึ ในปีนตี้ รงกับชว่ งวนั ที่ 11 - 15 พฤศจกิ ายน 2555 ท่เี พิง่ ผ่านมา แต่จากการส�ารวจของบริษัทวิจัยตลาดหลายแห่งพบว่า ปัจจุบันพฤติกรรมนักช็อป อินเดียได้เปล่ยี นไปจากอดีตแล้วอย่างสน้ิ เชงิ โดยนกั ชอ็ ปเหลา่ น้ีจบั จ่ายใช้สอยในช่วง เทศกาลส�าคัญนี้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งมีพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยอื่นๆ ทเี่ ปลยี่ นแปลงไปอยา่ งนา่ สนใจ ซงึ่ หนงั สอื พมิ พ์ The Economic Time Magazine ไดส้ รปุ ว่าพฤตกิ รรมนักช็อปที่เปลยี่ นไปนีไ้ ด้รับผลกระทบมาจากปัจจยั สา� คัญ 5 ประการ คือ 1. เทศกาลอนื่ ๆ ไดร้ ับความนิยมจากคนอนิ เดยี มากข้นึ ปัจจุบันนักช็อปอินเดียไม่รอที่จะจับจ่ายใช้สอยในช่วงน้ีมากเหมือนในอดีต แลว้ เนอื่ งจากมเี ทศกาลสา� คญั ๆ อนื่ ไดร้ บั ความนยิ มเพมิ่ ขนึ้ เรอื่ ยๆ เชน่ เทศกาลปใี หม่ เทศกาลครสิ ตม์ าส เทศกาลวาเลนไทน์ รวมไปถงึ อเี วน้ ตต์ า่ งๆ ทบี่ รษิ ทั ตา่ งๆ รว่ มทา� การ สง่ เสรมิ การขายดว้ ย เชน่ รายการฟตุ บอลโลก รายการฟตุ บอลลกี ขององั กฤษ รายการ แขง่ ขนั คริกเก็ต เป็นต้น นักชอ็ ปอินเดยี จึงถกู กระต้นุ ใหจ้ ับจา่ ยใช้สอยอยู่ตลอดเวลา 2. วถิ ีชวี ิตท่เี ปลีย่ นไปของคนอินเดียทา� ใหต้ อ้ งออกไปจับจา่ ยใช้สอยคนเดยี ว มากข้ึน ในอดีตนักช็อปอินเดียจะออกไปจับจ่ายใช้สอยและเลือกซ้ือสินค้าต่างๆ ดว้ ยกนั เปน็ ครอบครวั แตป่ จั จบุ นั มแี นวโนม้ ใหมเ่ กดิ ขน้ึ เนอื่ งจากวถิ ชี วี ติ ของคนอนิ เดยี 63

รนุ่ ใหมม่ คี วามเรง่ รบี และมเี วลาอยกู่ บั ครอบครวั นอ้ ยลง รวมทง้ั นกั ชอ็ ปอนิ เดยี รนุ่ ใหมเ่ รมิ่ มีความเปน็ สว่ นตวั มากขึ้น คอื แต่ละคนเลอื กใช้สินคา้ ทไี่ มเ่ หมือนกัน จึงไม่จ�ำเปน็ ต้อง ออกไปช็อปปิง้ ด้วยกนั ทงั้ ครอบครัวเหมอื นอยา่ งในอดีต 3. การเติบโตของธุรกจิ ค้าปลีกผา่ นระบบอนิ เทอร์เน็ต บริษทั วจิ ัยตลาด Technopak Advisors รายงานว่าปัจจุบนั มูลคา่ การคา้ ปลีก ผ่านระบบอนิ เทอรเ์ น็ตในอนิ เดียมมี ลู คา่ 600 ล้านดอลลารส์ หรัฐ (ประมาณ 18,600 ล้านบาท) ซ่ึงคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.1 ของมูลค่าค้าปลีกรวมของทั้งประเทศ อินเดยี แตค่ าดว่าภายในปี 2563 มูลค่าการคา้ ปลกี ผา่ นระบบอินเทอรเ์ นต็ ของอนิ เดยี จะเติบโตขึ้นเปน็ ร้อยละ 7 - 8 ของมลู ค่าคา้ ปลกี รวมของทั้งประเทศอินเดีย โดยปัจจุบัน นักช็อปอนิ เดียรุน่ ใหม่หนั มานิยมชอ็ ปออนไลน์เพมิ่ ข้ึนอย่างมาก เพราะมคี วามสะดวก มากกว่าและราคาถกู กว่าซอื้ จากรา้ นค้าปกติ 4. รายไดท้ เี่ พ่ิมขนึ้ ทำ� ใหค้ นอินเดยี รุ่นใหม่จับจ่ายใช้สอยงา่ ยขึน้ และมากข้ึน ในช่วง 20 ปีท่ีผ่านมา นักช็อปอินเดียจะเลือกซื้อสินค้าตามความจ�ำเป็น เปน็ หลกั แตใ่ นปัจจุบันนกั ช็อปอนิ เดยี รุ่นใหม่จะซ้ือสินค้าตามความอยากเป็นหลักและ ซอ้ื งา่ ยขนึ้ เนอ่ื งจากมรี ายไดเ้ พมิ่ ขนึ้ โดยรายไดเ้ ฉลยี่ ตอ่ คนตอ่ ปขี องคนอนิ เดยี ไดเ้ พม่ิ ขนึ้ จาก 11,535 รปู ี (ประมาณ 6,921 บาท) ในชว่ งปี 2533 - 2534 เป็นเกอื บ 60,000 รูปี (ประมาณ 36,000 บาท) ต่อคนตอ่ ปีในปัจจุบัน และจากรายงานของบริษทั McKinsey พบว่า ปัจจุบันร้อยละ 36 ของครัวเรือนในประเทศอินเดียมีรายได้เฉล่ียครัวเรือนละ 250,000 - 800,000 รูปีตอ่ ปี (ประมาณ 150,000 - 480,000 บาท) และคาดว่าภายในปี 2563 สดั สว่ นดังกลา่ วจะเพมิ่ ขนึ้ เปน็ ร้อยละ 58 ของจ�ำนวนครวั เรอื นทง้ั หมดในประเทศ อนิ เดีย ซงึ่ ถา้ คดิ เปน็ จ�ำนวนประชากรอินเดียก็ประมาณ 100 ลา้ นคน 5. การสง่ เสรมิ การขายและการลดราคาสินค้าของธรุ กจิ คา้ ปลีก ปัจจุบันอินเดียมีธุรกิจค้าปลีกท่ีเป็นระบบ รวมท้ังธุรกิจค้าปลีกผ่านระบบ อินเทอร์เนต็ เพิ่มมากขึ้น ท�ำใหน้ กั ชอ็ ปอินเดยี ไมส่ ามารถตอ่ รองราคาไดเ้ หมอื นในอดีต ทางออกของนักช็อปอินเดียรุ่นใหม่ก็คือการหาข้อมูลเพ่ือเปรียบเทียบข้อเสนอและการ ลดราคาสนิ คา้ ของรา้ นคา้ ปลกี แตล่ ะแหง่ เพอื่ ทจ่ี ะเลอื กซอื้ สนิ คา้ จากรา้ นคา้ หรอื เวบ็ ไซต์ ทม่ี ขี ้อเสนอทดี่ ีท่ีสดุ และลดราคามากที่สุด น่ันคือ นักชอ็ ปอินเดียรุ่นใหม่จะเป็นผู้ทไ่ี ม่มี ความจงรักภักดีต่อตรายี่ห้อหรือร้านค้าใดเลย เพราะยังให้ความส�ำคัญกับราคาและ โปรแกรมการสง่ เสรมิ การขายเปน็ หลกั 64

จากการส�ารวจของบริษัท Nielsen ในปี 2555 เพ่ือศึกษาถึงแนวโน้มของ นกั ชอ็ ปอนิ เดยี พบวา่ สดั สว่ นของนกั ชอ็ ปอนิ เดยี ทชี่ อบเปลยี่ นรา้ นคา้ ไปยงั อกี ทห่ี นง่ึ ทข่ี ายสนิ คา้ ราคา ถูกกว่าและให้ขอ้ เสนอทีด่ ีกวา่ เพม่ิ ขึน้ เป็นรอ้ ยละ 19 ในปี 2555 เทียบกบั ร้อยละ 13 ในปี 2552 และยงั พบอกี วา่ สดั สว่ นของนกั ชอ็ ปอนิ เดยี รนุ่ ใหมท่ ม่ี งุ่ มนั่ ในการเสาะแสวงหา แหลง่ ขายสนิ คา้ ทใี่ หข้ อ้ เสนอทด่ี กี วา่ และราคาถกู กวา่ เพม่ิ ขนึ้ เปน็ รอ้ ยละ 54 ในปี 2555 เทียบกบั รอ้ ยละ 37 ในปี 2552 ในขณะท่ีนกั ชอ็ ปประเภทนี้ในประเทศไทยมสี ัดส่วนอยู่ รอ้ ยละ 40 และอินโดนีเซยี รอ้ ยละ 48 ในปี 2555 แนวโน้มการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของนักช็อปอินเดียในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ นา่ สนใจและตดิ ตาม เนือ่ งจากพฤตกิ รรมต่างๆ ทเ่ี ปล่ยี นแปลงกา� ลังเป็นไปในทิศทาง เดียวกับกระแสโลก คือ มีความเป็นสากลมากข้ึน ผู้ประกอบการไทยที่สนใจจะเข้า ตลาดอนิ เดยี อยา่ งจรงิ จงั จงึ ตอ้ งมคี วามเขา้ ใจถงึ แนวโนม้ พฤตกิ รรมนกั ชอ็ ปอนิ เดยี รนุ่ ใหม่ เพ่อื จะได้ปรบั กลยุทธ์การตลาดให้สอดคลอ้ งกบั พฤตกิ รรมทก่ี า� ลงั เปลี่ยนไปนี้ ตพี ิมพ์ในหนังสอื พมิ พฐ์ านเศรษฐกิจ เม่อื วนั ท่ี 18 พฤศจิกายน 2555 ªÒÇÍÔ¹à´ÕÂÍÍ¡ÁҨѺ¨‹ÒªçÍ»»œ§ µÒÁËÒŒ §ÊÃÃ¾Ê¹Ô ¤ŒÒÁÒ¡¢é¹Ö 65

66

3.4 ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแตง่ - โดย กนกภรณ์ คณุ วฒั น์ - โบราณว่า “ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” สาวอินเดียจา� นวน 591.4 ล้านคนก็รักสวยรักงามกันเป็นเรื่องธรรมชาตินะคะ โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีฐานะดีหรือ ได้รับการศึกษาจากต่างประเทศมาก็จะให้ความสนใจกับพวกสินค้าเสริมความสวย ความงามและจับจ่ายใช้สอยกับสินค้าประเภทนี้กันอย่างไม่อ้ัน แถมคุณสามีก็มักจะ ตอ้ งตามใจคณุ ภรรยากนั หน่อยล่ะ ตลาดความงามของอนิ เดยี มขี นาดมโหฬาร มีผ้ปู ระกอบการทง้ั ต่างชาตแิ ละ อินเดียเองแบ่งเค้กกันอย่างเป็นล�่าเป็นสัน เป็นผลให้ชาวอินเดียสามารถหาซื้อสินค้า เสริมความงามย่ีห้อดังๆ ของยุโรปและสหรัฐฯ ได้อย่างง่ายดาย แถมราคาสินค้า พวกนีร้ าคาถูกกวา่ ท่ีเมืองไทย และบางคร้งั ยังถูกกวา่ ทยี่ โุ รปหรือสหรัฐฯ เองเสียอกี ว่าแล้วก็จะขอยกตัวอย่างกรณีศึกษาของเคร่ืองส�าอางยี่ห้อ Bourjois ซึ่ง เป็นเคร่ืองส�าอางของฝร่ังเศสที่เป็นบริษัทลูกของ Chanel ย่ีห้อนี้จะขายเคร่ืองส�าอาง ในราคาระดับไม่แพงมากนัก ซ่ึงสามารถหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตในฝรั่งเศสหรือ ตามร้านขายเคร่ืองส�าอางประเภท Sephora แต่ไม่มีขายที่เมืองไทย อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า Bourjois เปน็ หนึ่งในยห่ี อ้ เคร่อื งส�าอางทีส่ ามารถหาซ้ือได้ง่ายมากทีอ่ นิ เดยี ไมว่ า่ จะเป็นในห้างสรรพสินค้าหรอื ในรา้ นขายส่งเคร่อื งสา� อาง แต่ผเู้ ขียนก็ยังไม่เคยได้ ซ้ือเครื่องส�าอางย่ีห้อนี้เป็นเร่ืองเป็นราวท่ีนี่สักทีเพราะคิดว่าคงต้องแพงกว่าที่ฝร่ังเศส หลายเท่าแน่ๆ ก็ข้ามน้�าข้ามทะเลมาเสียไกลขนาดน้ันน่ีนา (ปารีส - มมุ ไบ บินตรง ก็ประมาณ 9 ชัว่ โมงนะคะ) 67

จนวนั หนง่ึ เมอ่ื ไมน่ านมานี้ ไดม้ โี อกาสไปปารสี อยา่ งไมค่ าดฝนั กเ็ ลยวางแผน ว่าจะต้องซื้อยาทาเล็บยี่ห้อนี้จากที่ปารีสให้ได้ แต่ปรากฏว่าท่ีปารีสเจ้ายาทาเล็บขวด เลก็ ๆ นี่ราคาตั้ง 10 ยโู ร (ประมาณ 400 บาท หรือ 680 รูป)ี แพงกว่าท่ีคดิ ไวเ้ อาการ อยู่ แตก่ ต็ ดั ใจซอื้ เพราะคดิ เอาเองวา่ ยงั ไงกน็ า่ จะถกู กวา่ ทอี่ นิ เดยี เมอื่ เดนิ ทางกลบั มาที่ มมุ ไบกไ็ ดเ้ ชค็ ราคาคะ่ ปรากฏวา่ แทบจะเปน็ ลม เพราะวา่ ทน่ี เี่ จา้ ยาทาเลบ็ ขวดเดยี วกนั น้รี าคาแค่ 380 รปู ี (ประมาณ 230 บาท) หรือถา้ ซ้อื ในเวบ็ ไซต์ก็แค่ 295 รปู ี (ประมาณ 180 บาท) เทา่ นั้นเอง โอ้ววววแมเ่ จ้า มันผลิตท่ีฝร่งั เศสแทๆ้ แต่ทำ� ไมราคาถงึ ไดต้ า่ ง กันลบิ ลบั และแล้วก็เลยถึงบางอ้อว่าท�ำไมย่ีห้อฝร่ังเศสเล็กๆ ย่ีห้อนี้ถึงเป็นท่ีนิยมและ วางขายอยตู่ ามหา้ งรา้ นของอนิ เดียทั่วไปได้ ที่แทก้ ็เป็นเพราะวา่ ทางบริษัทได้ปรับราคา ขายใหเ้ ขา้ กบั คา่ ครองชพี ของแตล่ ะประเทศนเ่ี อง สว่ นยห่ี อ้ อน่ื ๆ ของฝรง่ั เศส เชน่ Clarins, Lancôme, L’Occitane, Chanel, Yves Saint Laurent และ Make Up Forever ราคา จะใกล้เคียงหรือแพงกว่าท่ีฝรั่งเศสนิดหน่อยค่ะ ซ่ึงอาจจะเป็นเพราะต้นทุนสูงกว่า และมีภาพลักษณ์ของย่ีห้อออกแนวไฮโซท่ีต้องรักษาระดับเอาไว้ก็เลยต้องพลอยรักษา ระดับราคาที่สูงไปด้วย ซ่ึงอาจเป็นหน่ึงในเหตุผลที่ท�ำให้แบรนด์ Make Up Forever ต้องบอกลาตลาดอินเดียไปเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ได้เปิดร้านขายปลีกร้านแรก ท่หี า้ ง Inorbit ชานเมืองมมุ ไบ เม่ือปลายปี 2553 และอีกเหตผุ ลหนงึ่ อาจจะมาจาก การท่คี ่แู ขง่ เชอ้ื สายแคนาดาของ Make Up Forever คือยหี่ อ้ Mac ประสบความส�ำเร็จ ในทุกๆ ท่ีในอนิ เดียทีไ่ ดไ้ ปเปิดรา้ น และขายราคาพอๆ กับท่แี คนาดาซึง่ ถูกกว่าเมือง ไทยแนน่ อนคะ่ อยา่ งไรกต็ าม แฟนๆ ของแบรนด์ Make Up Forever ก็ยงั สามารถ ตามซื้อสินค้าที่ตนชอบได้ทางเว็บไซต์ของที่นี่ ซ่ึงมีระบบการช�ำระเงินที่สะดวกมากๆ เรยี กวา่ Cash on Delivery หรือการช�ำระเปน็ เงนิ สดใหแ้ ก่คนท่ีมาสง่ ของคะ่ นอกจากย่ีห้อยุโรปและอเมริกันท้ังหลายแล้ว คงจะลืมพูดถึงเครื่องส�ำอาง ของอนิ เดยี เองไมไ่ ดเ้ ชยี วนะคะ เพราะวา่ คนอนิ เดยี ยงั ไงกย็ งั นยิ มใชข้ องอนิ เดยี มากกวา่ ของชาตอิ ื่นอย่แู ลว้ วันยงั ค�ำ่ ซง่ึ คนไทยเราคงจะรู้จกั เพียงแค่ไม่ก่ียห่ี อ้ โดยเฉพาะย่หี ้อ Himalaya แตก่ จ็ ะจำ� กดั อยแู่ คเ่ พยี งสนิ คา้ บางประเภท เชน่ เจลอาบนำ�้ โลชน่ั ทาตวั หรอื ยาสระผม ยงั ไมเ่ หน็ ใครเอาเครอ่ื งสำ� อางของอนิ เดยี ยห่ี อ้ อน่ื เขา้ ไปขายในไทย ทงั้ ๆ ทยี่ งั มียี่ห้อทีเ่ ป็นท่ีนยิ มมากๆ ของทน่ี อ่ี ย่อู กี หลายยี่ห้อดว้ ยกัน เชน่ Biotique, VLCC, Lotus และ Lakmé เป็นตน้ ซึง่ จะขอบอกวา่ ของอินเดียนีเ่ ขาดีจริงๆ นะคะ ราคาก็ถูกกวา่ ของ ยโุ รปและอเมรกิ าหลายเทา่ ตวั แถมยงั เนน้ พวกผลติ ภณั ฑท์ ท่ี ำ� จากธรรมชาตลิ ว้ นๆ และ 68

หมิ าลายา เคร่ืองสำ� อางสมุนไพรอินเดียท่เี ร่ิมไดร้ ับความนยิ มในไทย ผลิตภัณฑ์ท่ีท�ำให้ผิวขาว ที่นี่เค้าก็ชอบเหมือนบ้านเรา เอะอะอะไรก็โฆษณาว่าท�ำให้ ผวิ ขาวไวก้ อ่ นแลว้ จะขายดเี ปน็ เทนำ้� เททา่ เอาเปน็ วา่ ตอ้ งขาวและหนุ่ เพรยี วพอประมาณ ทน่ี เี่ ค้าต้องหุน่ มอี นั จะกนิ นดิ ๆ นะคะ เพราะวา่ ถ้าผอมไปเคา้ จะคดิ ว่าปว่ ย แตเ่ ห็นไหมคะ ไทยกบั อนิ เดยี ก็มคี า่ นยิ มคล้ายๆ กัน ก็น่าแปลกที่ในไทยก็ยัง ไม่ค่อยมีเครื่องส�ำอางของอินเดียเข้าไปขาย และที่อินเดียเองก็ไม่มีเคร่ืองส�ำอางของ ไทยมาขายดว้ ยเชน่ กัน ซ่ึงจริงๆ แล้วภาคเอกชนของทั้งสองประเทศน่าจะใช้ประโยชน์ จากความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน - อินเดีย ในส่วนท่ีเกี่ยวกับสินค้าซึ่งได้มีผล บงั คบั ใชแ้ ลว้ ตง้ั แตป่ ี 2554 และสนิ คา้ ประเภทเครอื่ งสำ� อางกร็ วมอยใู่ นความตกลงนดี้ ว้ ย พูดส้นั ๆ ก็คือ ภาษีศลุ กากรระหวา่ งอนิ เดยี และประเทศอาเซียนส�ำหรบั สนิ ค้าประเภท เคร่ืองส�ำอางจะลดลงเรอ่ื ยๆ จนเหลือศนู ย์เปอร์เซ็นต์ในวันท่ี 31 ธนั วาคม 2556 นี้ จงึ นา่ จะเปน็ โอกาสดที เ่ี ราจะขอแบง่ เคก้ กอ้ นโตของตลาดความสวยความงามของอนิ เดยี มาบ้าง แต่คงจะต้องท�ำการบ้านกันทั้งเร่ืองของรสนิยมของชาวอินเดียเก่ียวกับโทนสี กลน่ิ เนอ้ื ของผลิตภณั ฑ์ และการน�ำผลิตภณั ฑ์ทางธรรมชาติเข้ามาใช้ใหม้ ากท่ีสุดหรอื ถ้านักธุรกิจไทยรายใดใจกล้าจะมาร่วมลงทุนเปิดบริษัทประกอบธุรกิจในสาขานี้กับ ชาวอนิ เดีย ก็ดทู า่ จะอนาคตสดใสอย่ไู มน่ ้อยเชียวนะคะ ตีพิมพใ์ นหนังสือพิมพฐ์ านเศรษฐกิจ เมือ่ วนั ท่ี 19 สิงหาคม 2555 69

Photo70By Baby Chang

3.5 ตลาด ตจว. อินเดยี : โอกาสท่พี ลาดไมไ่ ด้ - โดย อดุลย์ โชตนิ ิสากรณ์- เอ่ยชื่อประเทศอินเดียทีไร คนไทยก็มักจะนึกถึงแต่เมืองใหญ่ๆ อย่างมุมไบ นวิ เดลี บังกาลอร์ ไฮเดอราบาด กลั กัตตา เพราะเมืองใหญ่ๆ เหลา่ นีเ้ ป็นเมอื งท่ีคน ทั่วโลกรู้จักกันดีอยู่แล้ว และประชากรท่ีอยู่ในเมืองใหญ่ๆ เหล่าน้ีก็เป็นที่รู้กันอีกว่า สว่ นใหญเ่ ปน็ คนประเภทมรี ายไดส้ งู ถงึ สงู มากตดิ อนั ดบั โลกเหมอื นกนั กเ็ ลยพาลเขา้ ใจ กันเอาเองว่าจะท�าธุรกิจกับอินเดียก็จะมองแต่เมืองใหญ่ๆ ไม่ยอมชายตามองตลาด ตา่ งจงั หวัดหรอื ตลาด ตจว. กันเลย อาจจะเปน็ เพราะเกรงวา่ ผ้บู ริโภคในตลาด ตจว. จะไมม่ ีก�าลังซอ้ื นน่ั เอง อยากบอกว่าคิดถูกแล้วครับ เพราะผู้บริโภคในเมืองใหญ่ก็ย่อมจะมีรายได้ สูงกว่า ผู้บริโภคในต่างจังหวัดอยู่แล้ว ก�าลังซื้อจึงย่อมจะแตกต่างกันเป็นธรรมดา แตส่ ง่ิ ทจ่ี ะมองขา้ มไมไ่ ดก้ ค็ อื ไมว่ า่ จะจนหรอื รวย ผบู้ รโิ ภคทกุ คนกต็ อ้ งกนิ ตอ้ งใชท้ กุ วนั อยดู่ ี เพยี งแตส่ นิ ค้าท่ีคนในเมอื งกบั คน ตจว. ตอ้ งกินตอ้ งใช้อาจจะมีความแตกตา่ งกนั ไปบา้ ง ไม่ว่าจะเป็นระดับคณุ ภาพ ระดบั ราคา รปู แบบ ขนาด ซ่ึงในทางการตลาดก็สามารถอธิบายได้ว่าลูกค้าสองกลุ่มมีพฤติกรรม การบริโภคท่ีแตกต่างกัน ข้ึนอยู่กับว่ากลุ่มเป้าหมายของบริษัทเป็นผู้บริโภคกลุ่มใด หรือวา่ บรษิ ทั อาจจะจับตลาดทงั้ สองกลุ่มนเ้ี ลยกย็ อ่ มไดเ้ ชน่ กนั แต่ก็ต้องใช้กลยุทธ์การ ตลาดทแี่ ตกตา่ งกัน ถา้ มองในแงก่ า� ลงั ซื้อ กเ็ ป็นท่แี น่นอนวา่ ผูบ้ ริโภคในเมืองใหญ่ยอ่ มมีกา� ลังซ้อื เฉลยี่ สงู กวา่ ผบู้ รโิ ภคใน ตจว. แต่ถา้ มองในแง่จ�านวนผูบ้ ริโภค ตลาด ตจว. ของอินเดีย กลับมีความน่าสนใจท่ีบริษัทใหญ่ๆ ในอินเดียไม่สามารถมองข้ามโอกาสทองนี้ไปได้ 71

เพราะจากจำ� นวนประชากรอนิ เดียทั้งประเทศกวา่ 1,200 ล้านคน เกนิ กว่ารอ้ ยละ 70 เป็นประชากรหรือผู้บรโิ ภคทอี่ ยูใ่ นชนบทหรือในต่างจงั หวัด นอกจากนั้น ในเขตพ้ืนท่ชี นบทของอินเดียยงั มสี ัดส่วนของรายไดป้ ระชาชาติ (National Income) ถงึ รอ้ ยละ 56 รายจ่ายรวม (Total Expenditure) ร้อยละ 64 และ เงินออม (Savings) ถงึ 1 ใน 3 ของทง้ั ประเทศอกี ดว้ ย ภาพลกั ษณ์เดิมๆ ของชนบท อนิ เดยี ทคี่ นสว่ นใหญเ่ ขา้ ใจวา่ เปน็ สงั คมการเกษตรและยากจนนนั้ บดั นไี้ ดเ้ ปลย่ี นแปลง ไปมากแล้ว ต้องขอบอกว่าเด๋ียวนี้เขาพัฒนาแล้วครับ จากท่ีเคยเป็นสังคมการเกษตรมี สดั สว่ นรายได้จากภาคการเกษตรถึงร้อยละ 74 เมอ่ื ปี 2513 พอถึงปี 2551 สัดส่วน รายได้จากภาคการเกษตรไดล้ ดลงเหลอื อยเู่ พยี งรอ้ ยละ 40 เท่านน้ั เอง และมแี นวโน้ม ท่ีจะลดลงเร่ือยๆ ด้วย เพราะแต่ละรัฐมีแผนพัฒนาอุตสาหกรรมขยายเข้าไปในเขต พนื้ ทช่ี นบทกนั ทกุ รฐั ทำ� ใหใ้ นเขตชนบทของอนิ เดยี มกี ารพฒั นาโครงสรา้ งพนื้ ฐานรองรบั การขยายตัวของอุตสาหกรรมกันอย่างคึกคัก มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ท�ำให้ประชากร มรี ายได้เพ่ิมขึน้ และมกี ารศกึ ษาดีขึ้น พฤตกิ รรมการบริโภคกป็ รับตัวทนั สมยั ขึน้ จากรายงานการศกึ ษาเกย่ี วกับตลาด ตจว. หรือตลาดต่างจังหวดั ของอนิ เดีย โดยบรษิ ทั Accenture เมอื่ ปี 2553 พบวา่ ตลาดตา่ งจงั หวดั ของอนิ เดยี มกี ารเปลย่ี นแปลง และขยายตัวอยา่ งมาก จนนกั การตลาดต้องหนั มาใหค้ วามสนใจ ท้งั น้ี สบื เนื่องจาก มีปัจจัยส�ำคัญ คือ รายได้ของคนในชนบทเพิ่มขนึ้ จากการจา้ งงานในภาคอุตสาหกรรม และการค้าขาย ไมใ่ ชร่ ายไดจ้ ากภาคการเกษตรเหมือนในอดีต ส่วนคนท่ียงั อย่ใู นภาคการเกษตรกม็ ีรายได้สูงขึ้น จากโครงการรบั ซื้อผลิตผล การเกษตรในราคาประกันข้ันต่�ำโดยรัฐบาล รวมท้ังรัฐบาลได้เพ่ิมการใช้จ่ายในพื้นที่ ชนบทมากข้นึ จาก 9 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.7 แสนลา้ นบาท) ในปี 2550 เปน็ 16,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4.8 แสนล้านบาท) ในปี 2553 นอกจากนน้ั ยงั เปน็ ผลมาจากการทรี่ ฐั บาลสง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนในพน้ื ทชี่ นบท สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนท่ีเป็นสถาบันการเงินได้มากขึ้นและง่ายข้ึน และที่ส�ำคัญ ทีส่ ดุ คือ โครงการ Mahatma Gandhi National Rural Employment Guarantee Scheme (MGNREGS) ท่ีรัฐบาลรับประกันให้สมาชิกครอบครัว 1 คนจากทุกครัวเรือนในพื้นที่ ชนบทที่เป็นแรงงานไร้ฝีมือได้ท�ำงานก่อสร้างที่ใช้แรงงานเป็นหลักเป็นเวลา 100 วัน ตอ่ ปี ดว้ ยคา่ แรงงานขน้ั ต่ำ� วันละ 120 รูปี (ประมาณ 72 บาท) 72

ซ่ึงในปีงบประมาณ 2553 - 2554 ท่ีผ่านมา รัฐบาลได้ผันเงินลงไปในพื้นที่ ชนบทส�ำหรับโครงการนถี้ ึง 4 แสนลา้ นรูปี (ประมาณ 2.4 แสนลา้ นบาท) แลว้ ดงั นั้น ด้วยปัจจัยต่างๆ เหลา่ นี้ ตลาด ตจว. ของอนิ เดยี จึงรุ่งเรืองเฟ่อื งฟเู ปน็ ทหี่ มายตาของ บรษิ ทั ตา่ งๆ ในอนิ เดยี ขนึ้ มาทนั ที โดยเฉพาะบรษิ ทั ผผู้ ลติ ผจู้ ำ� หนา่ ยสนิ คา้ อปุ โภคบรโิ ภค ซ่ึงจำ� หนา่ ยสนิ ค้าทย่ี ังไงคนก็ตอ้ งกนิ ตอ้ งใช้กันทกุ วันอยู่แลว้ ผลจากการวิจัยของบรษิ ัท Nielsen Retail Audit เม่อื เดอื นกนั ยายน 2554 พบวา่ สินคา้ อปุ โภคบรโิ ภคเปน็ สนิ ค้าทีม่ ีสัดสว่ นยอดขายอยู่ในตลาด ตจว. ของอนิ เดีย ในระดับสูง และมีอัตราการขยายตัวสูงกว่าตลาดในเมือง ซ่ึงสินค้าอุปโภคบริโภค ที่มีสัดส่วนยอดขายในตลาด ตจว. ของอินเดียสูง ได้แก่ เกลือบริโภคผสมไอโอดีน ผงซกั ฟอก สบ่อู าบนำ�้ ขนมปังกรอบ ฯลฯ ซง่ึ ทำ� ใหเ้ ห็นอย่างชัดเจนถึงการปรบั ตวั ของ ผู้บรโิ ภคในตลาด ตจว. ของอนิ เดยี และแสดงให้เหน็ ถงึ ศกั ยภาพและโอกาสในตลาดนี้ ทไี่ มค่ วรพลาดอย่างยิง่ การทบ่ี ริษัทจะสามารถประสบความสำ� เร็จในตลาด ตจว. ของอินเดียได้น้ัน จ�ำเป็นท่ีจะต้องมีความเข้าใจตลาดอย่างถ่องแท้และสามารถก�ำหนดกลยุทธ์การตลาด ทเี่ หมาะสมเพอ่ื ทจ่ี ะสามารถตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคให้ได้มากทส่ี ดุ ท้ังนี้ มรี ายงานการศกึ ษาทนี่ า่ สนใจมากของ FICCI - Nielsen ระบวุ า่ การใชก้ ลยทุ ธก์ ารตลาด แบบดงั้ เดิมทเ่ี น้น 4 Ps เพียงมติ เิ ดยี ว คือ Product, Price, Place และ Promotion นัน้ ยงั ไมเ่ พยี งพอ แตจ่ ะตอ้ งเพิ่ม 4 As เขา้ ไปดว้ ย คอื Awareness, Availability, Affordability และ Acceptability จงึ จะสามารถประสบความสำ� เรจ็ ในตลาด ตจว. ของอินเดยี ได้ ซง่ึ กลยุทธ์การตลาด 4 Ps + 4 As สามารถสรปุ ได้งา่ ยๆ คือ Product : ต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและ ความตอ้ งการของผู้บริโภคในชนบท Price : ตอ้ งกำ� หนดราคาใหอ้ ยู่ในระดับท่ผี ู้บรโิ ภครสู้ กึ ว่าคมุ้ คา่ Place : ตอ้ งพฒั นาชอ่ งทางการจัดจ�ำหน่ายทส่ี ร้างสรรคใ์ หส้ อดคลอ้ งกับวถิ ี ชวี ติ ของผู้บริโภคในชนบท แทนชอ่ งทางการจดั จำ� หน่ายแบบเดมิ ๆ Promotion : การส่งเสริมการตลาดก็ต้องใช้วิธีการที่สร้างสรรค์ เช่น การท�ำการส่งเสริมการขายผ่านร้านค้าปลีกเล็กๆ ในหมู่บ้าน (Haats) ซึ่งมีอยู่ท่ัวไป หรอื การจดั กจิ กรรมแนะนำ� สนิ ค้าในงานแสดงสินคา้ ในหม่บู า้ น (Melas) 73

Awareness : ต้องสื่อสารเพื่อสร้างกระแสให้ผู้บริโภคมีความตระหนักรู้ถึง สินคา้ ของบรษิ ัท Availability : ร้านค้าปลีกเล็กๆ ในหมู่บ้านจะมีปัญหาเรื่องพ้ืนท่ีในการเก็บ สต๊อกสินค้า บริษัทอาจจะต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการลดขนาดกล่องหรือซองของสินค้า ให้เล็กลง หรือเพ่ิมช่องทางในการจ�ำหน่ายแบบเคล่ือนท่ี เช่น ใช้รถสามล้อเป็นร้าน จ�ำหน่ายสนิ ค้าเคลือ่ นท่ี เป็นตน้ Affordability : ลดขนาดกล่องหรือซองของสินค้าให้เล็กลง เพ่ือให้ผู้บริโภค สามารถซอื้ สนิ คา้ ได้ในราคาทยี่ อ่ มเยา Acceptability : จะต้องมีการปรับเปลี่ยนสินค้าให้เป็นท่ียอมรับของผู้บริโภค โดยต้องมกี ารวิจยั ถึงความต้องการของผบู้ รโิ ภคอย่างแม่นยำ� ดแู ลว้ ตลาด ตจว. ของอนิ เดยี เปน็ ตลาดทนี่ า่ สนใจมาก แตส่ ำ� หรบั ผปู้ ระกอบการ ไทยแล้ว วิธีการเข้าตลาดกลับน่าสนใจย่ิงกว่า ว่าจะเข้าไปไขว่คว้าโอกาสทองน้ีได้ อยา่ งไร เทา่ ทพี่ จิ ารณาดแู ลว้ คดิ วา่ การสง่ ออกไมน่ า่ จะเปน็ คำ� ตอบทน่ี ำ� ไปสคู่ วามสำ� เรจ็ เพราะถ้าจะใช้กลยุทธก์ ารตลาด 4 Ps+4 As ผ้ปู ระกอบการไทยควรจะต้องเข้าไปอยู่ ในตลาด คำ� ตอบสดุ ทา้ ยจงึ นา่ จะอยทู่ ย่ี ทุ ธศาสตรก์ ารลงทนุ เพอื่ ผลติ สนิ คา้ เพอื่ จ�ำหนา่ ย ในตลาด ตจว. ของอินเดียมากกวา่ ...ฟันธง !! ตพี ิมพ์ในหนังสอื พิมพก์ รุงเทพธรุ กิจ เมื่อวนั ท่ี 15 สิงหาคม 2555 74

จะเกดิ อะไรขึ้นำ! ถา คนำอนิ ำเดยี 1,200 ลา นำคนำ อยากทานำอาหารไทย CHAPTER4



4.1 ยุทธศาสตร์ครวั ไทยสูอ่ ินเดีย : ตอ้ งเชยี ร์ใหร้ า้ นหรใู ชเ้ ชฟไทยกอ่ น - โดย ศศิริทธิ ì ตนั กุลรัตน์ - เมื่อเร็วนี้ๆ นายกรัฐมนตรีไทยต�าส้มต�าโชว์ชาวออสเตรเลียจนเป็นข่าวดัง ไปทัว่ โลก เป็นการตอกยา้� ความนยิ มอาหารไทยในหมู่ชาวตา่ งชาติ รฐั บาลเหน็ ว่า อาหารไทยเปน็ จดุ แข็งที่ท�ารายไดเ้ ขา้ ประเทศเป็นกอบเปน็ ก�า จงึ มยี ุทธศาสตร์ ครัวไทยสู่ครวั โลก คือการส่งเสริมอาหารไทย เครื่องปรงุ ไทย ให้ฮอต ฮิตติดตลาดต่างประเทศมากกว่าน้ี โดยหวังให้มีการส่งออกสินค้าเกษตร เครื่องปรุง และอาหารเพม่ิ ขน้ึ มีรา้ นอาหารไทยทีไ่ ด้มาตรฐานในตา่ งประเทศมากข้ึน และพอ่ ครวั แม่ครวั ไทยสามารถไปท�างานในต่างประเทศไดอ้ ยา่ งมีรายไดแ้ ละศกั ดศิ์ รี กระทรวงการต่างประเทศก็เป็นหน่วยงานหนึ่งท่ีมีบทบาท โดยใช้สถานทูต สถานกงสลุ ใหญท่ ว่ั โลกใหห้ าขอ้ มลู วา่ ประเทศไหนมชี อ่ งทางทจี่ ะสง่ เสรมิ รา้ นอาหารไทย หรืออาหารไทยประเภทไหน อย่างไร เพื่อให้กระทรวงต้นทางอย่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอตุ สาหกรรม กระทรวงเกษตรฯ ร้วู า่ สินคา้ เครอ่ื งปรุงชนิดไหนทตี่ อ้ งเพิม่ การ ผลติ และการส่งออก ผักผลไมช้ นิดไหนท่ีควรพฒั นาคณุ ภาพ ยกมาตรฐานให้เสมอตน้ เสมอปลาย ประเทศไหนควรสนับสนุนกิจการร้านอาหารไทย หรือส่งออกแรงงาน พอ่ ครัวแม่ครัวไทย แต่ก็ไม่ใช่ว่าอาหารไทยจะเป็นที่นิยมเหมือนกันไปหมดทุกประเทศ และ มาตรการสง่ เสรมิ อาหารไทยกไ็ มไ่ ดม้ สี ตู รสา� เรจ็ การใหต้ ราสญั ลกั ษณร์ บั รองรา้ นอาหาร 77

ไทยทกี่ ระทรวงพาณชิ ยท์ ำ� มาเปน็ สบิ ปี อาจใชไ้ ดผ้ ลนอ้ ยกบั บางประเทศ การจดั เทศกาล อาหารไทยเช่นที่ท�ำติดต่อกันมานานที่โตเกียวสามารถดึงคนมาร่วมหลายแสน แตว่ ธิ กี ารแบบนี้ อาจจะไมช่ ว่ ยใหอ้ าหารไทยหรอื เครอ่ื งปรงุ ไทยขายไดด้ ใี นอนิ เดยี เหมอื น ในญปี่ ุน่ น่าแปลกท่ที �ำไมอินเดยี ประเทศใหญอ่ ันดบั 7 ของโลก ประชากรกว่า 1.2 พันล้านคน บริโภคข้าวราดแกงคล้ายไทย น่าจะเป็นตลาดใหญ่ส�ำหรับอาหารไทยได้ แต่กลบั มีร้านอาหารไทยน้อยมาก เพื่อหาค�ำตอบจากประสบการณ์ตรง สถานทูตไทยในกรุงนิวเดลีจึงเชิญ พอ่ ครวั แมค่ รวั ทท่ี ำ� งานอยใู่ นโรงแรมหา้ ดาวและรา้ นอาหารหรใู นกรงุ นวิ เดลมี าพดู คยุ กนั ทโ่ี ตะ๊ อาหารไทยทท่ี ำ� เนียบทตู สัปดาหก์ ่อน ได้รับฟังเร่ืองราวที่น่าสนใจหลายเร่ือง เช่น ไลฟ์สไตล์ของคนอินเดียท่ีโดย ทั่วไปแล้วยังชอบรับประทานอาหารทบ่ี ้าน กล่มุ ที่เปน็ เปา้ หมายจงึ ตอ้ งเปน็ กลมุ่ เศรษฐี กระเป๋าหนัก โดยเฉพาะคนท่ีเคยไปเท่ยี วเมอื งนอก ถึงจะพาครอบครัวออกไปทานข้าว นอกบา้ น กลมุ่ แมบ่ ้านไฮโซท่ีตอ้ งตระเวนหาร้านดงั เปิดใหม่เป็นทส่ี งั สรรค์ และกล่มุ คน หนุ่มสาวรุ่นใหม่และวัยทำ� งาน ท่ีอยากทดลองรสชาตแิ ปลกใหม่ไม่จำ� เจ คนกลมุ่ นีจ้ ะชอบไปทานอาหารบฟุ เฟต่ ใ์ นโรงแรมท่มี อี าหารหลากหลาย หรอื ร้านที่มีเมนใู หเ้ ลือกหลายประเภท ร้านอาหารไทยโดดๆ อยไู่ มร่ อด ทีเ่ ริม่ เห็นมากขน้ึ คือรา้ นอาหารเอเชยี ท่ีมเี มนูผสมผสาน เรอ่ื งรสชาตอิ าหารกส็ ำ� คญั คนอนิ เดยี ไมท่ านอาหารคาวทมี่ รี สหวาน ไมช่ อบ กล่ินกะปิและน้ำ� ปลา เรอื่ งความเผ็ดไม่ใช่ปัญหา จากค�ำบอกเล่าของพ่อครัวแม่ครัวไทย อาหารยอดนิยมในหมู่ลูกค้าอินเดีย คอื แกงเขยี วหวานไก/่ แกงเขียวหวานเจ ผัดไทเจ/ผดั ไทกุ้ง ส้มต�ำ แกงเผ็ด ตม้ ยำ� ก้งุ / ต้มยำ� เจ ผดั กะเพราไก่/กุ้ง เมนูมังสวิรัติไม่มีไม่ได้ เพราะคนอินเดียร้อยละ 60 เป็นมังสวิรัติ ต้องท�ำ อาหารมงั สวริ ตั ิให้อรอ่ ยถูกปากคนอินเดยี มาถึงช่วงนี้ คุณกรกช ชาตะสิงห์ ผู้จัดการใหญ่การบินไทย สาขานิวเดลี ท่ีรว่ มหารือดว้ ยกป็ ง๊ิ ความคิดวา่ ในเครื่องการบนิ ไทยทบี่ นิ ไปอนิ เดยี วนั ละ 6 จดุ ท่ีมี ชาวอนิ เดียเกือบเตม็ ล�ำทกุ เท่ียว ควรลองเสริ ์ฟแกงเขียวหวานเจดู น่าจะเขา้ ทาง 78

นอกจากอาหารเจทจ่ี ะเปน็ จดุ ขายแลว้ ผลไมไ้ ทยกก็ ำ� ลงั เปน็ ทน่ี ยิ ม กลายเปน็ ของหรู งานเล้ยี งไหนถา้ เจา้ ภาพเสิรฟ์ เงาะ ฝรัง่ แกว้ มังกร มะขามหวาน กลายเปน็ งานมีระดับ ทง้ั หมดนท้ี ำ� ใหส้ ถานทตู ไดข้ อ้ สรปุ วา่ กลยทุ ธส์ ง่ เสรมิ อาหารไทยในอนิ เดยี ตอ้ ง แตกตา่ งจากประเทศอ่นื พอควร การสนับสนุนให้คนไทยไปเป็นเจ้าของกิจการเปิดร้านอาหารไทยในอินเดีย คงยากในสภาพกฎกติกาซับซ้อน การส่งออกเครื่องปรุงก็ยังไม่มีตลาดรองรับมากพอ แถมระบบผกู ขาดยงั แข็งแรงอยู่ บทบาทที่สถานทูตจะช่วยได้มากคือ เชียร์ให้ร้านอาหารระดับบนใช้เชฟไทย แท้เทา่ นน้ั เพอ่ื ใหเ้ ชฟไทยเลอื กใชว้ ตั ถดุ ิบ เครอื่ งปรุง ผัก ผลไมจ้ ากไทยอกี ทอด ในนวิ เดลี โรงแรมหา้ ดาววง่ิ มาหาทตู ไทยเสมอ เพราะมพี ลงั ตอ่ รอง สถานทตู กจ็ ะใชไ้ พ่นใี้ ห้เป็นประโยชน์ โดยการเอาใจโรงแรมทีใ่ ชเ้ ชฟไทยอยแู่ ล้ว อาจจะเสนอ ให้ใบประกาศรับรองโรงแรมท่ีมีเชฟไทยและใช้เครื่องปรุงของไทย ซ่ึงจะดึงดูดลูกค้า เพราะแน่ใจว่าเป็นของแท้ต้นต�ำรับ ท�ำแบบน้ีโรงแรมคู่แข่งท่ีมีเมนูอาหารไทยแต่ไม่ได้ ใช้เชฟไทยกต็ ้องขวนขวายหาใบประกาศบ้าง สถานทูตท�ำกิจกรรมสง่ เสรมิ ให้คนอินเดยี เลือกเขา้ ร้านอาหารทมี่ กี ารจ้างเชฟไทย 79

อาหารไทยกำ� ลังเป็นท่นี ิยมของเศรษฐีอนิ เดีย มกี ารจา้ งเชฟไทยไปท�ำโชว์ตามงานเลี้ยงในสังคมชั้นสูง แผนต่อไป สถานทูตก็จะพาพ่อครัวมือหนึ่งส่ังตรงจากไทยตระเวนไปจัด สัปดาห์อาหารไทยตามโรงแรมอื่นๆ ที่ไม่มีเชฟไทย สาธิตการท�ำอาหารไทยที่ถูกต้อง เป็นการสร้างกระแสวา่ อาหารไทยแท้ตอ้ งปรงุ โดยเชฟไทยแทเ้ ทา่ น้ัน เร่ืองจะให้พ่อครัวไทยสอนเชฟอินเดียท�ำอาหารท่ีท�ำกันอยู่แล้วในหลายเมือง ไม่ได้ผลท่ีน่ี เพราะบรรดาพ่อครัวแม่ครัวยืนยันกับสถานทูตว่า ขนาดสอนลูกมือ ชาวอินเดียอย่ทู ุกวนั ยงั ท�ำเพ้ียน เศรษฐอี ินเดยี กระเปา๋ หนัก ใจถงึ ถา้ ติดใจรสมือพ่อครัวไทยมากๆ นอกจาก จะเป็นขาประจ�ำที่โรงแรมแล้ว ยังอาจสั่งอาหารไทยหรือจ้างเชฟไทยให้ไปโชว์ฝีมือใน งานปารต์ ี้ ทปี่ กตจิ ะจดั กนั แบบไมอ่ น้ั เชฟไทยจากโรงแรมอมั มานเลา่ ใหฟ้ ังวา่ สปั ดาห์ กอ่ นเศรษฐอี นิ เดียจดั ปาร์ตค้ี นื เดียว เนน้ อาหารไทย แขกพันคน จ่ายไปแบบสบายใจ กวา่ สามแสนบาท 80

ตอนนี้การบินไทยมีบริการแอร์คาร์โก้เส้นทางกรุงเทพฯ - อินเดียแล้ว หากจบั โรงแรมหา้ ดาวใหอ้ ยหู่ มดั เจรจาใหส้ ง่ั ซอ้ื เครอื่ งปรงุ วตั ถดุ บิ จากไทย โดยใชค้ ารโ์ ก้ การบินไทยกจ็ ะได้ลูกค้ารายใหญเ่ ป็นขาประจ�ำ บรรดาพอ่ ครวั แมค่ รวั ไทยพดู เปน็ เสยี งเดยี วกนั วา่ ทำ� งานกบั โรงแรมหา้ ดาวใน อนิ เดยี ไมม่ ปี ัญหา นายจา้ งดแู ลดี แถมไมต่ อ้ งปวดหวั เรอ่ื งวซี า่ เพราะอาชพี นไ้ี ดร้ บั การ ยกเวน้ กฎทต่ี อ้ งมเี งนิ เดอื นขน้ั ตำ่� 25,000 ดอลลารส์ หรฐั ตอ่ ปี แตถ่ า้ จะไปทำ� งานกบั รา้ น อาหารโนเนมในอินเดีย สถานทูตไม่แนะนำ� ถา้ สนบั สนนุ อาหารไทยในอนิ เดยี ใหถ้ กู ทาง กค็ งไมใ่ ชเ่ รอ่ื งเกนิ กำ� ลงั ทจ่ี ะทำ� ให้ คนอินเดียหันมาหลงเสน่ห์อาหารไทย ทานแกงเขียวหวาน ผัดไท ต้มย�ำ แทนโรตี แกงไก่กนั มากขน้ึ ตีพิมพ์ในหนงั สือพิมพฐ์ านเศรษฐกิจ เม่ือวนั ท่ี 22 กรกฎาคม 2555 81

82

4.2 ยุทธศาสตรค์ รัวไทยสู่อินเดีย (ตอ่ ) : ใช้อาหารเจเปน็ กุญแจ - โดย ประพันธ์ สามพายวรกจิ - เมื่อเร็วๆ น้ีมีข่าวว่ารัฐบาลเตรียมอัดฉีดเม็ดเงินให้สถานทูตไทยในประเทศ เปา้ หมาย น�าไปโหมจดั เทศกาลอาหารไทยและโครงการสง่ เสรมิ อาหารไทย เพ่ือสร้าง กระแสความนิยมอาหารไทยกันอย่างคึกคัก โดยอินเดียก็เป็นตลาดอีกแห่งหนึ่ง ท่ีกระทรวงการต่างประเทศต้องการผลักดันให้อาหารไทยบุกเข้าไป เพราะเป็นตลาด ทม่ี ีประชากรมากกว่า 1,200 ล้านคน แต่ทา่ นผ้อู า่ นคงยงั พอจ�าบทความ “ยทุ ธศาสตรค์ รวั ไทยสู่อินเดีย : ต้องเชยี ร์ ให้ร้านหรูใช้เชฟไทยก่อน” ท่ีลงตีพิมพ์ในคอลัมน์นี้เมื่อประมาณสองเดือนก่อนได้ ที่สถานทูตไทยในอินเดียได้เชิญพ่อครัวแม่ครัวไทยในนิวเดลีมาช่วยไขข้อข้องใจว่า เหตุใดอาหารไทยที่เป็นท่ีนิยมของคนทั่วโลกกลับยังไม่ประสบความส�าเร็จในประเทศ อนิ เดยี พอ่ ครวั แมค่ รวั ไทยฝมี อื ดกี ลมุ่ นพี้ ดู เปน็ เสยี งเดยี วกนั วา่ พฤตกิ รรมการบรโิ ภค ของชาวอนิ เดยี ทท่ี านอาหารทอ้ งถนิ่ ซา้� ๆ จา� เจ และชาวอนิ เดยี จา� นวนมากเปน็ มงั สวริ ตั ิ ไมว่ า่ จะดว้ ยเหตผุ ลทางศาสนาหรอื ทางสงั คม ทา� ใหอ้ าหารไทยทมี่ รี สจดั จา้ น เนน้ เนอื้ สตั ว์ และมีน�้าปลาเป็นสว่ นประกอบหลกั ยงั ไมเ่ ป็นท่ีนยิ ม แม้จะมเี ศรษฐีใหม่อนิ เดียจ�านวน ไมน่ อ้ ย ทพี่ รอ้ มจะออกไปลองทานอาหารตา่ งชาตนิ อกบา้ น แตก่ ย็ งั จา� กดั การรบั ประทาน อยู่ทอี่ าหารเจ 83

แตน่ ไ่ี มไ่ ดห้ มายความวา่ อาหารตา่ งชาตไิ มม่ ีโอกาสในตลาดอินเดีย เพราะถา้ ดูตัวเลขคนกินมังสวิรัติในอินเดียที่มีอยู่กว่าครึ่งของประชากร จะเห็นว่าตลาดอาหาร มงั สวริ ตั เิ ปน็ ตลาดขนาด 600 ลา้ นคน จงึ เปน็ ตลาดทมี่ ศี กั ยภาพและนา่ สนใจไมใ่ ชน่ อ้ ย ครวั ตา่ งชาตหิ ลายแหง่ มองเหน็ โอกาสตรงนม้ี านานแลว้ โดยเฉพาะรา้ นอาหารอติ าเลยี น และรา้ นอาหารจนี ซง่ึ ไดค้ ดิ คน้ เมนมู งั สวริ ตั แิ ละปรบั รสชาตแิ ละสตู รใหถ้ กู ปากคนอนิ เดยี จนตอนนก้ี ลายเปน็ อาหารตา่ งชาตยิ อดฮติ ของคนอนิ เดยี กอบโกยก�ำไรกนั เปน็ การใหญ่ แมแ้ ตร่ า้ นอาหารฟาสต์ฟู้ดชือ่ ดงั อย่าง McDonald’s ซึ่งปัจจบุ ันถือว่ามสี าขา นอ้ ยมากในอนิ เดยี (ประมาณ 270 สาขา) ยงั เตรยี มจะบกุ ตลาดคนไมก่ นิ เนอ้ื สตั วอ์ ยา่ ง จริงจัง โดยเตรยี มจะเปิดสาขา McDonald’s ท่ีเสิร์ฟอาหารเจอย่างเดยี วเป็นครง้ั แรกใน เมืองอมรติ สาร์ รัฐปัญจาบ เร็วๆ นี้ เห็นเชน่ นแ้ี ล้ว ภาครฐั ไทยท่ีตอ้ งการส่งเสรมิ อาหารไทยในอนิ เดยี ก็คงต้องให้ ความส�ำคัญกับตลาดอาหารเจในอินเดียเป็นพิเศษ และต้องพยายามตอบโจทย์ให้ได้ วา่ ทำ� อยา่ งไรถงึ จะคดิ คน้ และปรบั สตู รอาหารไทยใหเ้ ปน็ มงั สวริ ตั ทิ ม่ี รี สชาตกิ ลมกลอ่ ม เขา้ ตากรรมการ MasterChef อินเดยี เชน่ เดยี วกบั ครัวอิตาเลียนและครัวจนี ได้ และเพ่ือจะตอบโจทย์ที่ส�ำคัญน้ี สถานทูตไทยมีไอเดียท่ีจะจับมือกับสถาบัน ทำ� อาหารช่อื ดังของไทยในการค้นคว้าและคิดคน้ เมนอู าหารมังสวริ ัตไิ ทยจานเด็ด ทจ่ี ะ ยังคงความเป็นไทยไว้ แต่หากคนอินเดียได้ลิ้มรสเมื่อไหร่แล้วจะต้องติดใจ สามารถ ท�ำให้อาหารไทยกลายเป็นส่วนหน่ึงของพฤติกรรมการบริโภคของคนอินเดียที่มีกะตังค์ เชน่ เดยี วกับอาหารไทยในยุโรปใหไ้ ด้ เม่ือได้เมนูจานเด็ดเหล่าน้ีมาแล้ว สถานทูตถึงจะเชิญพ่อครัว/แม่ครัวฝีมือดี มาร่วมเดนิ สายจดั งาน Thai Vegetarian Food Festival ไปยังรฐั ใหญๆ่ ทีเ่ ป็นเป้าหมาย ไม่ว่าจะเปน็ นวิ เดลี รฐั คชุ ราต รัฐอานธรประเทศ หรือรัฐทมิฬนาฑู ลงมอื ท�ำเมนเู ดด็ ขายแขกอนิ เดียในรา้ นอาหารหรตู ามโรงแรม 5 ดาวสักประมาณ 3 เดอื น เพ่อื สรา้ ง กระแสและทำ� ให้อาหารมังสวริ ตั ิไทยติดลมบน งานนี้นอกจากจะเป็นการตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ครัวไทยสู่โลกในบริบทของ อินเดียอย่างตรงเผงแล้ว สถานทูตยังมองไปไกลให้ผู้ประกอบการส่งออกวัตถุดิบและ ผลติ ภัณฑ์อาหารไทยไดอ้ านสิ งส์ เพราะเม่ืออาหารไทยตดิ ตลาดก็ไม่แคลว้ ท่ีคนอนิ เดีย จะว่ิงขวักไขว่หาวัตถุดิบมาท�ำอาหารไทยกัน พ่อครัวและแม่ครัวไทยจะเป็นท่ีต้องการ และน่าจะมโี อกาสหางานรายไดด้ ๆี ไดไ้ มย่ าก 84

áÁጠµá‹ Á¤â´¹ÑÅ´ÂѧµŒÍ§»ÃѺàÁ¹Ù ໚¹Á§Ñ ÊÇÔÃѵàÔ ¾è×Í·Òí µÅÒ´ã¹Í¹Ô à´Õ แม้อาหารมังสวิรัติเชิงพาณิชย์อาจจะยังเป็นสิ่งใหม่ส�าหรับคนไทย เพราะ ส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยกับเทศกาลกินเจที่ปีหน่ึงมีอยู่ไม่กี่วัน แต่ขณะน้ีอาหารมังสวิรัติ เป็นเทรนด์ใหม่ของคนรักสุขภาพ อาหารชีวจิตเร่ิมได้รับความสนใจกันมากข้ึน ในประเทศไทย แสดงว่าอาหารไทยก็มีศักยภาพท่ีจะเป็นอาหารมังสวิรัติที่อร่อยและ สามารถเป็นธุรกิจท่ีท�าก�าไรได้ท้ังในไทยและในต่างประเทศ หากมีการศึกษาและวิจัย ทางการตลาดท่ดี ี ผู้อ่านท่านใดสนใจและก�าลังมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจอาหารไปยัง ตลาดใหม่ๆ ขอแนะนา� ว่า ตลาดอินเดยี เป็นตลาดที่น่าสนใจไมแ่ พ้ประเทศไหน ไม่วา่ จะด้วยจ�านวนประชากร หรือแม้แต่ค่าครองชีพและแรงงานที่ถูกกว่าประเทศไทย ขอให้ติดตามคอลัมน์ของเราและเว็บไซต์ thaiindia.net ทีมงานของเราจะน�าข้อมูล ทเี่ ปน็ ประโยชนม์ ารายงานใหท้ า่ นทราบกันตอ่ ไป ตีพิมพใ์ นหนงั สอื พมิ พฐ์ านเศรษฐกจิ เมื่อวนั ที่ 30 กนั ยายน 2555 85

86

4.3 โอกาสรวยกบั รา้ นอาหารไทยในอินเดยี - โดย ดร. ไพศาล มะระพÄกษ์วรรณ - อาหารไทยเปน็ หนง่ึ ในแบรนดห์ ลักของประเทศทป่ี ักธงอยู่ทว่ั โลก แตท่ ีอ่ นิ เดยี มรี า้ นอาหารไทยอยเู่ พยี ง 60 กวา่ รา้ น นบั ไดว้ า่ เปน็ จา� นวนทน่ี อ้ ยกวา่ ศกั ยภาพทแ่ี ทจ้ รงิ แมจ้ ะมจี ดุ คลา้ ยระหวา่ งอาหารไทยกบั อาหารอนิ เดยี อยทู่ เี่ ครอื่ งเทศ เครอื่ งแกง แต่ก็มีความแตกต่างที่ถึงกับท�าให้รสชาติอาหารเพี้ยนไปเลยทีเดียว น่ันก็คือ น้�าปลา กับเกลอื คนอนิ เดยี ไมบ่ รโิ ภคนา้� ปลา สว่ นคนไทยไมน่ ยิ มใสเ่ กลอื ในอาหารเทา่ ใสน่ า�้ ปลา นอกจากนยี้ งั มรี ายละเอยี ดของสว่ นผสมอยา่ งใบกะเพรา ซงึ่ คนไทยแคไ่ ดเ้ หน็ กะเพราไก่ ไขด่ าวเปน็ ตอ้ งนา�้ ลายสอ แตค่ นอนิ เดยี ถอื วา่ กะเพราเปน็ ใบไมศ้ กั ดส์ิ ทิ ธิ์ ไวบ้ ชู าพระเจา้ ทเ่ี มอื งนวิ เดลปี ลกู ตน้ ขเ้ี หลก็ ในแงข่ องผงั เมอื ง แตห่ ารไู้ มว่ า่ คอื อาหารชน้ั เยย่ี มของคนไทย แกงไทยหากจะมาขายทอ่ี นิ เดยี คงต้องเพิม่ ความขน้ สว่ นขนมหวานทอ่ี นิ เดยี น�้าตาลเรียกพี่ และที่ส�าคัญคนอินเดียส่วนใหญ่เป็นมังสวิรัติ ดังน้ันความสามารถใน การดดั แปลงรปู ลักษณอ์ าหารของไทยน�ามาใช้ได้ ยกครัวตอนเทศกาลกินเจมาได้เลย คนอินเดียชอบความบันเทิง ดังนั้นการสอดแทรกการเดี่ยวขิม เดี่ยวซอ นอกจากจะช่วยสร้างบรรยากาศแล้ว ยังเป็นการแนะน�าศิลปวัฒนธรรมไทยให้ชาว อนิ เดยี ไดร้ ูจ้ กั ด้วย อาหารไทยในความรู้สึกของคนอินเดียถูกยกระดับเป็นอาหารมีระดับ ดังนน้ั หากผู้ประกอบการไทยอยากจะเจาะกล่มุ คนมีฐานะ ควรลองไปทา� ความร้จู กั กับ 87

โรงแรม สถานท่ที ่องเทยี่ วของอนิ เดีย และทส่ี �ำคัญบริษทั รบั จัดงานแตง่ งาน เพราะงาน แตง่ งานเป็นงานส�ำคญั ทส่ี ดุ ในชวี ิตคนอินเดยี ธรุ กจิ รับจัดงานแตง่ งานมีอยทู่ กุ หวั ถนน และการมีอาหารไทยเสริ ฟ์ ในงานแตง่ งานกเ็ ปน็ การตอกย�ำ้ ความมีระดบั ของเจา้ ภาพ นอกจากน้ี จุดเด่นของอาหารไทยยังสามารถท�ำแบรนด์ได้ต่อในเรื่องการ จดั เลีย้ งนอกสถานท่ี บรษิ ทั ใหญๆ่ มกั มีงานเล้ยี งเสมอ ไม่วา่ เลก็ ไมว่ า่ ใหญ่ เพอ่ื แสดง ความมีฐานะ เชน่ งานเปิดตัวสนิ คา้ ใหม่ งานวนั เกิด งานเล้ยี งอำ� ลา ดงั นน้ั การท�ำ ตลาดเจาะไปยังบริษัทไอที ซอฟต์แวร์ บริษัทชาติต่างๆ ที่รู้จักอาหารไทยดีอยู่แล้ว น่าจะเป็นชอ่ งทางทสี่ ดใสทีเดยี ว ในช่วงที่อาหารไทยยังเป็นท่ีรู้จักอยู่เฉพาะกลุ่ม ผู้ประกอบการควรมองหา ท�ำเลท่ีลูกค้ามีก�ำลังซื้อระดับกลาง - สูงเป็นการเฉพาะ ถ้าเป็นมุมไบก็ต้องเป็นแถว ครอว์ฟอร์ดหรือถนนเลียบทะเลสุดโรแมนติก แต่ถ้าเป็นนิวเดลีก็ต้องเป็นแถวๆ ถนน จนั ทรป์ ัต ส�ำหรบั เมืองเจนไนกต็ อ้ งเป็นท�ำเลแถวถนนชาร์เมยี ร์หรอื ถนนตีนาคาร์ ในส่วนของวัตถุดิบ ผู้ประกอบการควรติดต่อกับผู้น�ำเข้าวัตถุดิบจากไทย โดยตรงเพอ่ื ลดตน้ ทนุ การด�ำเนินการ ส�ำหรบั ผนู้ �ำเข้าวัตถดุ ิบและอาหารไทยในอนิ เดยี พอมีบ้างตามเมอื งส�ำคญั ๆ สนใจรายละเอยี ดสอบถามมาได้ทาง thaiindia.net สุดท้ายก็มาถึงเรื่องท่ียาก นั่นคือกฎระเบียบในการเปิดร้านอาหารในอินเดีย เพราะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องมากมายท่ีผู้ประกอบการต้องไปขอ อนญุ าต และท่อี าจจะแวะเวียนมาหาโดยไม่ได้นัดหมาย ในเบ้ืองตน้ ร้านอาหารจะต้อง มีใบอนญุ าต ใบอนุญาตประกอบการปฏิบัติตามพระราชบญั ญัตปิ อ้ งกนั การปลอมปน อาหารปี ค.ศ.1954 ต้องขอขนึ้ ทะเบียนเปิดร้านอาหาร แจ้งฝ่ายต�ำรวจจราจร และอาจ ตอ้ งย่ืนใบคำ� ร้องต่อกรมการทอ่ งเท่ยี วของรัฐบาล และหากตอ้ งการขายสุรา กต็ ้องย่นื ขออนุญาตต่างหาก นอกจากนีย้ งั ตอ้ งยืน่ ใบสมัครประกอบการกับหนว่ ยงานท่คี วบคมุ มลภาวะทางอากาศและนำ�้ และมลภาวะทางเสยี ง ใบอนญุ าตประกอบกจิ กรรมเกย่ี วกบั ดนตรี การขอใชก้ ระแสไฟฟ้าและนำ้� ใบอนุญาตการใช้ลิฟต์ ฯลฯ เรยี กได้ว่าการจะ เปดิ รา้ นอาหารแหง่ หนง่ึ อาจจะตอ้ งมีใบอนญุ าตหลายสบิ ใบ ดงั นน้ั หากผปู้ ระกอบการ สนใจจะเปิดรา้ นอาหารในอนิ เดยี ควรมผี ้รู ่วมทุนเปน็ ชาวอินเดีย เพื่อให้สามารถเขา้ ใจ กฎระเบยี บขอ้ บังคับการเปิดร้านอาหารของอินเดียได้งา่ ยขนึ้ หรือมีทป่ี รกึ ษาทีช่ �ำนาญ ในการทำ� ธุรกิจในอนิ เดีย ก็จะช่วยลดความยงุ่ ยากตา่ งๆ ลงได้มาก ตพี มิ พใ์ นหนงั สอื พมิ พฐ์ านเศรษฐกิจ เม่ือวนั ท่ี 9 ตลุ าคม 2554 88

ÍÒËÒÃä·ÂÁÕâÍ¡ÒÊÁÒ¡ÊÒí ËÃѺ¡ÒèѴàÅÂÕé §¹Í¡Ê¶Ò¹·Õãè ¹ÍÔ¹à´ÂÕ 89

90

4.4 จับผดั ไทยมาใส่สา่ หรี - โดย สรยศ กจิ ภากรณ์ - หลายปีที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศพยายามผลักจุดแข็งด้านอาหาร ของไทยเป็นจุดขายเพื่อส่งเสริมการส่งออกสินค้า บริการ และการท่องเท่ียว โดยมี มาตรการและกิจกรรมต่างๆ ผลัดเปล่ียนหมุนเวียนออกมาสร้างสีสัน กระตุ้นกระแส นิยมอาหารไทยอย่างต่อเน่อื ง ภายใตส้ โลแกน “ครัวไทยสโู่ ลก” สถานกงสลุ ใหญ่ ณ เมืองมุมไบ ก็เปน็ อกี หน่วยงานหนง่ึ ทชี่ ูนโยบายน้ี ล่าสดุ เมื่อเดือนมีนาคมและเมษายนท่ีผ่านมา ก็ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมอาหารไทย ได้แก่ การร่วมกบั Institute of Hotel Management (IHM) สถาบนั การโรงแรมท่มี ีชื่อเสียง ในเมืองออรังกาบาด รัฐมหาราษฏระ เชิญผู้เชี่ยวชาญอาหารไทยจากมหาวิทยาลัย ราชภัฏสวนดุสิตมาจัดสอนท�าอาหารไทยระยะสั้นให้กับนักศึกษาของสถาบัน และจัด งานเทศกาลอาหารไทยทเ่ี มอื งอาหเ์ มดาบัด รฐั คุชราต (รัฐทีเ่ ป็นมงั สวิรัติ) การได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับท้ังผู้ชิมและเชฟชาวอินเดียท่ีมีประสบการณ์ ในด้านอาหารในหลายๆ โอกาสนี้ ก็ท�าให้สถานกงสุลใหญ่พอหาข้อสรุปถึงต�าแหน่ง ของอาหารไทยในอนิ เดียได้ชดั เจนยงิ่ ขึ้น โดยอาจารยเ์ ชฟชาวอินเดียแห่งสถาบัน IHM ซึง่ อยใู่ นเครอื Taj เครือโรงแรมยกั ษ์ใหญ่ของอินเดยี ทม่ี ีโรงแรมกว่า 100 แห่งท่ัวโลก เล่าใหฟ้ ังว่า อาหารไทยท่เี ข้ามาในอนิ เดียเป็นเวลากวา่ 40 ปีแล้ว พรอ้ มๆ กับอาหาร ชาตอิ น่ื ๆ เชน่ จนี เมก็ ซโิ ก ฯลฯ ยงั คงอยใู่ นความนยิ มของชาวอนิ เดยี แมจ้ ะกลายพนั ธ์ุ ไปจนคนไทยจ�ากนั ไม่ไดก้ ต็ าม 91

เชฟชาวอินเดียอีกท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันมีความเข้าใจผิดเก่ียวกับ อาหารไทยทห่ี ยั่งรากลกึ คอื คนอนิ เดียจะเขา้ ใจว่า “พนื้ ฐานของอาหารไทยทกุ อย่างคอื พริกแกงของไทย (Thai curry paste) ซึ่งมี 3 สี คือ แดง เขียว เหลือง” ถ้าหา้ มไมท่ นั วนั นัน้ คงได้ชมิ “ผัดไทยพรกิ แกง” เป็นแน่แท้ โดยร้านสว่ นใหญจ่ ะใช้พริกแกงส�ำเร็จรูป ผเู้ ขยี นเองกเ็ คยไปชมิ อาหารไทยทรี่ า้ นแหง่ หนง่ึ ในเมอื งมมุ ไบ ซงึ่ ขนึ้ ปา้ ยหราวา่ “Specialty : Chinese and Thai” แตอ่ าหารทไ่ี ดผ้ ิดเพ้ยี นทั้งหนา้ ตา กล่นิ และรสชาติ ทอดมนั ปลา กลายเป็นก้อนแปง้ ทอดท่ีมีชิ้นเนอ้ื ปลาเล็กๆ ผสมอย่ปู ระปราย ส่วนขา้ ว ผดั กะเพรากุ้งกลายเปน็ ข้าวผัดน้ำ� มันพริกสีแดงเพลิงใสก่ งุ้ นำ้� มนั เยิม้ และมใี บกะเพรา กรอบโรยหน้าพอให้รู้วา่ ใสก่ ะเพรา สรุปคา่ เสยี หาย 2 จาน 800 รปู ี (500 บาท) เร่ืองนี้สอนให้รู้ว่า ชาวอินเดียส่วนมากยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับอาหาร ไทย แต่อาหารไทยไมว่ ่าจะไทยแทไ้ ทยไมแ่ ท้ลว้ นขายไดร้ าคา โดยปัจจุบันอาหารไทย แท้ๆ ท่ใี ห้บรกิ ารในเมืองมมุ ไบส่วนใหญจ่ ะอยู่ในโรงแรมหรู และยังมจี �ำนวนนอ้ ยมาก ส่วนอาหารไทย (แต่ช่ือ) มีให้เห็นดาษดื่นตามร้านอาหารระดับกลางบน - ระดับบน แตน่ า่ เสยี ดายทีอ่ าหารไทยแท้อร่อยๆ ราคากลางๆ ยงั หายาก แม้คนอินเดียจะเหนียวแน่นอยู่กับอาหารประจ�ำชาติ แต่กระแสโลกาภิวัตน์ ก�ำลังเบิกทางใหอ้ าหารตา่ งชาติ การท่อี าหารไทยยงั ตดิ ชารท์ เหนยี วแน่นอยู่ในรายการ อาหารของร้านในอินเดียมาจนปัจจุบัน ท้ังไทยแท้และไทยเทียม เป็นข้อบ่งช้ีที่ดีว่า อาหารไทยขายได้ในอินเดีย (และได้ราคาดีด้วย) ดังน้ัน อาหารไทยจึงมีอนาคตท่ี ค่อนข้างสดใสในอินเดีย แต่ผู้ที่คิดจะมาบุกตลาดน้ีคงต้องท�ำความเข้าใจเกี่ยวกับ อนิ เดยี ให้ดีด้วย โดยอาจพิจารณาขอ้ แนะนำ� ตอ่ ไปนีเ้ ป็นจุดเรมิ่ ต้น 1. ข้อจำ� กดั ดา้ นพฤตกิ รรมการบรโิ ภค ชาวอินเดียกวา่ รอ้ ยละ 60 รบั ประทาน อาหารมังสวิรตั ิ ไม่รับประทานเน้ือวัวและหมู เนอื่ งจากคนส่วนใหญน่ บั ถอื ศาสนาฮินดู และมีคนมสุ ลิมประมาณ 180 ล้านคน มากพอๆ กับปากีสถานทง้ั ประเทศ แตจ่ าก การจัดเทศกาลอาหารไทยในพ้ืนที่ของชาวมังสวิรัติก็พบว่า มีความต่ืนตัวกับเน้ือสัตว์ แสดงให้เห็นสัญญาณวา่ มีการหันมารับประทานเน้อื สัตว์กันมากขนึ้ 2. รสชาติอาหารไทย รสชาติอาหารไทยยังไม่ถูกปากชาวอินเดียซะทีเดียว ซ่ึงเปน็ เรอื่ งปกติส�ำหรบั อาหารตา่ งชาติไมว่ ่าจะมาจากชาติใด แตช่ าวอินเดยี เหน็ วา่ ใน ภาพรวมอาหารไทยเป็นอาหารทอี่ รอ่ ย มีรสชาติเผด็ ร้อน และดตี อ่ สุขภาพ (ไขมนั นอ้ ย กวา่ อาหารอนิ เดยี ) 92

3. การท�ำธุรกิจในอินเดียไม่ง่าย เร่ืองกฎระเบียบท่ีหลากหลายและซับซ้อน เป็นเร่ืองท่ีต้องค�ำนึง การมีหุ้นส่วนชาวอินเดียที่ไว้ใจได้จึงเป็นประโยชน์มาก ขนาด สตารบ์ ัคสท์ ว่ี า่ แนย่ งั ตอ้ งแบ่งหุน้ 50 : 50 กบั กลุม่ TATA เพอ่ื หยง่ั ขาในแดนโรตี 4. ราคาอสงั หารมิ ทรพั ย์ กำ� ลงั ปรบั ตวั สงู ขนึ้ มาเปน็ ลำ� ดบั เนอื่ งจากเศรษฐกจิ ท่ีเติบโตอย่างต่อเนื่องของอินเดีย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ (Tier I) บางเมือง เช่น กรงุ นวิ เดลี เมอื งมมุ ไบ และบงั กาลอร์ เปน็ ตน้ ดงั นนั้ เมอื ง Tier II นา่ จะเปน็ ทางเลอื กท่ี นา่ สนใจ เชน่ เมอื งอาหเ์ มดาบดั ทส่ี ายการบนิ Thai Smile เพง่ิ เปดิ บนิ ตรงจากกรงุ เทพฯ หรือเมืองออรังกาบาด ทีม่ สี ถานที่ทอ่ งเท่ยี วระดับโลกอย่างถำ�้ Ajanta และ Ellora อยู่ หากใครมคี วามพร้อม มุ่งมน่ั อดทน และขยันท�ำการบ้าน กน็ า่ จะสามารถ แบ่งเค้กขนาด 400 ลา้ นคน (ผ้มู ีรายไดป้ านกลาง - สงู ) ไปรบั ประทานใหห้ ายเหนอื่ ยได้ โดยหน่วยงานราชการไทยในอินเดียพร้อมจับมือภาคเอกชนจัดกิจกรรมเพ่ือเผยแพร่ ประชาสัมพันธอ์ าหารและวัฒนธรรมไทยเพอื่ ขยายผลต่อไป ตีพมิ พใ์ นหนงั สอื พิมพฐ์ านเศรษฐกิจ เมื่อวนั ท่ี 24 พฤษภาคม 2556 93



4.5 ผลไม้ไทยในอนิ เดยี โอกาสสดใส ถ้าไปให้ถกู ทาง - โดย ประพันธ์ สามพายวรกิจ - ช่วงนี้บ้านเราอยู่ในช่วงฤดูฝน ท�าให้มีผลไม้ออกมาให้เกษตรกรได้เก็บเก่ียว นา� ไปขายกันไมข่ าดมอื ถา้ ลองเดินตามตลาดสดกจ็ ะเหน็ ทั้งมังคุด ทุเรียน โดยเฉพาะ เงาะผลใหญส่ ีแดงจัดจ้านวางขายกันใหด้ าษดืน่ ทา� ให้ผเู้ ขยี นอดไม่ไดท้ ี่จะตอ้ งนา� เรือ่ ง ผลไมไ้ ทยมาโยงใยกบั อินเดยี ในคอลัมน์ “มองอนิ เดยี ใหม่” สัปดาหน์ ี้ ผอู้ า่ นหลายทา่ นทยี่ งั ไมเ่ คยมาอนิ เดยี กอ็ าจจะสงสยั วา่ อนิ เดยี ซง่ึ เปน็ ประเทศ ท่ีกว้างใหญ่ไพศาล ภูมิประเทศและภูมิอากาศแตกต่างกันลิบโลดจากเหนือจรดใต้ ตะวนั ออกจรดตะวนั ตก เขามผี ลไม้อะไรวางขายใหท้ านกนั บ้าง และผลไมไ้ ทยจะพอมี โอกาสเข้าไปท�าตลาดในอินเดียไดห้ รอื ไม่ จากการลองเดินส�ารวจตลาดในเมืองต่างๆ ของอินเดียแบบผู้ที่ไม่เช่ียวชาญ เร่ืองผลไม้เท่าไรนักของผู้เขียน ก็พอจะสรุปได้ว่า อินเดียมีผลไม้ท้องถิ่นให้เลือก รับประทานมากมายล้นเหลือจริงๆ มีตั้งแต่ผลไม้เมืองหนาวอย่างแอปเปิล องุ่น และสตรอวเ์ บอร์รี่ ไปจนถงึ ผลไมเ้ ขตรอ้ นอย่างมะมว่ ง (มเี ป็นร้อยๆ พันธ์ุ) มะละกอ หรอื แม้แตล่ ะมดุ และน้อยหนา่ คล้ายบ้านเรา แต่ผลไมไ้ ทยก็ใช่วา่ จะไมส่ ามารถขายไดใ้ นอนิ เดีย เพราะทุกวนั น้เี ร่ิมมีผลไม้ ไทยให้เห็นตามซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ มากข้ึน ซึ่งก็คงเป็นอานิสงส์จากความตกลง เอฟทเี อไทย - อินเดีย ทีร่ วมเอาผลไม้ 8 ชนดิ ไดแ้ ก่ มงั คดุ ทเุ รยี น เงาะ ลา� ไย องุ่น มะมว่ ง แอปเปิล และทบั ทมิ ไวใ้ นรายการสนิ ค้าลดภาษี Early Harvest Scheme (EHS) ประกอบกบั ความพยายามสง่ เสรมิ ผลไมไ้ ทยของหนว่ ยงานราชการไทยในอนิ เดยี 95

โดยเฉพาะส�ำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) ของกระทรวงพาณิชย์ ที่รบั ผิดชอบด้านนโ้ี ดยตรง ทผี่ า่ นมา สคร. กไ็ ดท้ ำ� งานเปน็ ทมี ประเทศไทยกบั ทง้ั สถานทตู และสถานกงสลุ อย่างแข็งขัน จัดกิจกรรมส่งเสริมผลไม้ไทยหลากหลายรูปแบบ ท้ังการน�ำผู้ค้าผลไม้ ร่วมงานแสดงสินค้า การจัด in-store promotion ในซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ รวมถึง การนำ� ผปู้ ระกอบการไทยมาเจรจาซอ้ื ขายกบั ฝา่ ยอนิ เดยี โดยมเี ปา้ หมายรว่ มกนั ทจ่ี ะนำ� ผลไมไ้ ทยบกุ อนิ เดยี เพอื่ ใหผ้ ลประโยชนต์ กไปยงั ผสู้ ง่ ออกและทสี่ ำ� คญั ทสี่ ดุ เกษตรกรไทย แนวทางหนึ่งที่ทีมประเทศไทยในอินเดียใช้ในการส่งเสริมผลไม้ไทยในอินเดีย คือการเพ่ิมคุณค่าและมูลค่าให้กับผลไม้ไทยด้วยการสร้างแบรนด์ความเป็นผลไม้ คุณภาพ แทนการขายแบบยกเข่งเน้นปริมาณแต่ไม่เน้นคุณภาพ ผลไม้ช้�ำนอกช�้ำ ในจากการขนส่งผ่านพ่อค้าคนกลางหลายทอด ราคาขายก็สูงลิ่วเพราะต้องบวกค่า ยี่ปั๊วซาปัว๊ และคา่ ขนส่งยิบยอ่ ยอยา่ งที่เป็นอยทู่ กุ วนั นี้ ตวั อยา่ งเมื่อเรว็ ๆ นีส้ ถานทูตไทยได้ร่วมมอื กบั สถานกงสุลและ สคร. ประจ�ำ เมอื งมุมไบ น�ำบรษิ ทั สวิฟต์ จำ� กดั ซ่งึ เป็นบรษิ ทั สง่ ออกผลไมค้ ุณภาพช้นั น�ำของไทย ทมี่ าจากเครอื ขา่ ยของกรมสง่ เสรมิ การเกษตร มดี กี รเี ปน็ ถงึ ผนู้ ำ� ผลไมไ้ ทยไปขน้ึ หา้ งหรใู น ยโุ รปและญป่ี นุ่ แถมยงั เปน็ องคก์ รทมี่ คี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมเปน็ เลศิ ทำ� คอนแทรก็ ต์ ฟารม์ มงิ่ แบบไมเ่ อาเปรยี บเกษตรกร ไปพบกบั บรษิ ทั คา้ ปลกี และนำ� เขา้ ผลไมย้ กั ษใ์ หญ่ ของอินเดีย ไดแ้ ก่ Future Group และ Reliance Retail ท่ีมมุ ไบ โดย สคร. ใช้เครอื ข่าย ธรุ กิจทีแ่ นน่ ปก้ึ กับบริษัททง้ั สองจัดแจงนดั หมายให้ทง้ั หมด ผลทไี่ ดก้ ็คือ บริษัท Future Group ซึ่งท�ำธรุ กิจค้าปลีกใน 61 เมืองทัว่ อนิ เดีย มีลูกค้ารวม 200 ล้านคนต่อปีเป็นเจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตไฮเอนด์อย่าง Foodhall แสดงความสนใจผลไม้คุณภาพของสวิฟต์ ผู้บริหาร Future Group ตื่นตัวอย่างเห็น ได้ชัด จัดการแนะน�ำให้สวิฟต์รู้จักกับเอเย่นต์น�ำเข้าผลไม้ของ Foodhall เสร็จสรรพ ซ่ึงกห็ วงั ว่าจะน�ำไปสู่การซ้อื ขายกนั ได้ในไมช่ ้า ขณะที่ Reliance Retail ซง่ึ มธี ุรกจิ คา้ ปลีกมูลค่า 2 พนั ล้านดอลลาร์สหรัฐ แมจ้ ะเนน้ ตลาดระดบั ลา่ ง - กลาง ให้ความส�ำคัญกบั ปริมาณมากกว่าคุณภาพ แตก่ าร ท่ีสวิฟต์มโี อกาสได้พูดคยุ กบั ผบู้ ริหาร Reliance Retail กท็ �ำใหเ้ หน็ ชอ่ งทางการค้าใหม่ Reliance Retail สนใจผลิตภณั ฑ์ผลไมแ้ ปรรูปประเภทอบแหง้ ของสวฟิ ต์ ซงึ่ ตอนนอ้ี ยใู่ น ขนั้ เจรจาซอื้ ขายกนั แลว้ และยงั มกี ารพดู คยุ ถงึ การตง้ั โรงงานแปรรปู ผลไมใ้ นอนิ เดยี ดว้ ย 96

สำ� นกั งานส่งเสรมิ การคา้ ฯ เมืองมุมไบจัดกิจกรรมสง่ เสรมิ ผลไมไ้ ทย ท่ี Foodhall ซเู ปอร์มารเ์ กต็ ไฮเอน็ ดข์ องมุมไบ แต่ผลลัพธ์ท่ีส�ำคัญท่ีสุด คือการได้เปิดประตูให้กับบริษัทผลไม้ไทยระดับ คุณภาพให้มีโอกาสเข้าถึงตลาดอินเดียผ่านคู่ค้าท่ีมีระดับและเช่ือถือได้ ที่พร้อมจะ น�ำเสนอผลไม้ไทยในฐานะผลไม้เกรดเอ ซ่ึงก็ตรงตามเป้าของทีมประเทศไทยใน อินเดีย บริษัทสวิฟต์เองก็ยืนยันว่าผลไม้คุณภาพของไทยมีโอกาสสูงในตลาดอินเดีย เพียงแต่ต้องเข้าให้ถูกทางและท�ำการศึกษาตลาดและรูปแบบธุรกิจที่เหมาะสมให้ ละเอียดรอบคอบ งานนี้หน่วยงานไทยในอินเดียจึงนับว่าไม่เสียประโยชน์ที่ใช้ภาษี คนไทยไปช่วยคนไทยดว้ ยกนั การสง่ เสรมิ ผลไมไ้ ทยในอนิ เดยี นน้ั ทำ� ไดห้ ลายทาง แตก่ ารสง่ เสรมิ ผา่ นเอกชน ไทยท่มี ีความโดดเด่นดา้ นคณุ ภาพและมาตรฐาน ท่สี ำ� คญั มคี วามพร้อมที่จะปรบั ตัวให้ เขา้ กบั ตลาดใหมๆ่ นา่ จะเปน็ การ “เดนิ ถกู ทาง” ทจ่ี ะชว่ ยใหเ้ ราสามารถนำ� พาผลไมไ้ ทย ไปสตู่ ลาดโลกไดแ้ บบผปู้ ลกู ได้ ผปู้ ระกอบการได้ ประเทศชาตกิ ไ็ ดป้ ระโยชนก์ นั ถว้ นหนา้ ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพฐ์ านเศรษฐกจิ เมอ่ื วันท่ี 14 กรกฎาคม 2556 97

98

4.6 อินเดีย : ตลาดคนช่างกนิ - โดย อดลุ ย์ โชตินสิ ากรณ ์ - เรอ่ื งกนิ จุบกินจิบนตี่ ้องยกให้อนิ เดยี ครบั ชนะเลศิ จริงๆ อาหารว่างนีเ่ รยี กวา่ ว่างเม่ือไหร่เป็นต้องรับประทานกันตลอด ถ้าเดินไปตามถนนสายหลักย่านชุมชนตาม เมืองใหญ่ในอินเดียจะพบว่ามีร้านเล็กร้านน้อยขายอาหารว่างตลอดทาง ที่พบเห็น เป็นประจา� ก็จะเป็นร้านขายชารอ้ นท่ตี ม้ ดว้ ยนมสดใส่เครอื่ งเทศที่เรยี กว่า Masala Tea ต้มกันตรงนั้น ซ้ือด่ืมกันตรงน้ันเลย ถัดไปนิดหน่ึงก็จะเป็นแผงขาย แซนด์วชิ ปงิ้ บนเตาถา่ น ใกลๆ้ กนั กอ็ าจจะเป็นรถเขน็ ขายอาหารว่างยอดนยิ มทเ่ี รยี กวา่ ปานี ปุรี ซงึ่ เปน็ แป้งทอดกลมๆ ข้างในกลวง เวลาจะรบั ประทานคนขายกจ็ ะเจาะด้วย เล็บมอื แลว้ ใส่ไส้ซึ่งหน้าตาเป็นถัว่ เหลอื งเขา้ ไปขา้ งใน แลว้ ราดด้วยซอสเหลวๆ เขา้ ไป ก่อนรับประทาน ถัดไปก็อาจจะเป็นร้านขายซาโมซ่า ซึ่งเป็นแป้งทอดมีไส้รูปทรง สามเหล่ียม ตรงหัวมุมถนนก็อาจจะมีศิลปินเด่ียวแบกกะละมังมานั่งตักถั่วขาย คนท่ีสญั จรผ่านไปมาแถวนน้ั ภาพเหลา่ นสี้ ะทอ้ นใหเ้ หน็ วา่ คนอนิ เดยี นยิ มรบั ประทานอาหารวา่ งจรงิ ๆ ซงึ่ ปกติ กจ็ ะรบั ประทานกนั ตลอดวันตง้ั แตเ่ ช้าเลย เพราะต้องดืม่ ชารอ้ นตามธรรมเนยี มอังกฤษ อยแู่ ลว้ วนั ละ 2 - 3 ครงั้ โดยเฉพาะในชว่ งบา่ ยระหวา่ งมอ้ื กลางวนั กบั มอื้ คา�่ จะเปน็ ชว่ งที่ ยาวนานมากเพราะคนอนิ เดียจะรับประทานอาหารคา�่ ดึกมากถึงขนาดเลยไป 4 - 5 ทุม่ กันเลยทีเดยี ว ก็เลยต้องหาอาหารว่างมารบั ประทานคัน่ รายการแกห้ ิวไปพลางๆ 99

แม้ว่าวิถีชีวิตของคนอินเดียในการรับประทานอาหารว่างแบบน้ียังด�ำเนินอยู่ แต่ด้วยความท่ีประเทศอินเดียปัจจุบันมีการพัฒนามากข้ึน มีการขยายตัวของเมือง มากขนึ้ อยา่ งรวดเรว็ ผบู้ รโิ ภคมรี ายไดเ้ พมิ่ ขน้ึ และบรโิ ภคเพมิ่ ขน้ึ มรี า้ นคา้ ปลกี ทท่ี นั สมยั เพม่ิ ข้ึน แตใ่ นขณะเดยี วกันผูบ้ รโิ ภคอินเดียรนุ่ ใหมก่ ลบั มีเวลานอ้ ยลง ซึ่งปัจจยั สำ� คญั เหลา่ นสี้ ง่ ผลใหพ้ ฤตกิ รรมผบู้ รโิ ภคอนิ เดยี เปลยี่ นไปดว้ ยการหนั ไปหาอาหารวา่ งสำ� เรจ็ รปู บรรจซุ องแบบทนั สมยั มากขน้ึ เนอื่ งจากสะดวกในการซอ้ื และเกบ็ ไวร้ บั ประทานตอนไหน ก็ได้ ที่ส�ำคัญคือ อาหารว่างหรือสแน็คสมัยใหม่เหล่าน้ีสะอาดถูกอนามัยอีกต่างหาก จงึ ได้รบั ความนยิ มเพม่ิ ข้ึนเรือ่ ยๆ โดยเฉพาะในกลมุ่ ผบู้ ริโภครุ่นใหม่ ส�ำหรับตลาดอาหารว่างของขบเคี้ยวหรือสแน็คสมัยใหม่ในอินเดียเริ่มคึกคัก มาต้ังแตป่ ี 2538 ซ่ึงขณะนั้นมีผ้เู ลน่ เจ้าถ่ินรายใหญ่ 2 รายครองตลาดอยู่ คอื บริษัท Haldiram ซึ่งผลิตสแน็คแบบด้ังเดิมของอินเดียประเภทแป้งทอดและถ่ัวทอดชนิดต่างๆ ย่หี อ้ Haldiram บรรจุในหีบห่อทนั สมยั กับบริษทั Amrit Agro ผผู้ ลิตมนั ฝร่ังทอดย่หี อ้ Uncle Chips จ�ำหนา่ ยอยู่ในตลาดอนิ เดีย และในปี 2538 นี้เองท่ตี ลาดสแนค็ ในอนิ เดยี เร่ิมส่ันสะเทือน เพราะมีบรษิ ทั ยกั ษใ์ หญ่ระดบั โลก คือ PepsiCo เข้าตลาดมาแข่งขนั ดว้ ยการปล่อยสนิ ค้าสแน็ค 2 ตวั ออกมา คอื มันฝรงั่ ทอดยีห่ อ้ Lay’s กับสแน็คย่หี อ้ Cheetos ซึ่งหลังจากนั้นอีก 4 ปี ในปี 2542 PepsiCo กไ็ ด้กลายเป็นผูน้ ำ� ตลาดสแน็ค ของอนิ เดยี ไปเรยี บรอ้ ย แถมถดั ไปอีก 1 ปี คือ ปี 2543 มนั ฝร่งั ทอดยีห่ อ้ Uncle Chips ของบริษัท Amrit Agro กถ็ กู บริษทั Frito - Lay India ของ PepsiCo ซ้อื ไปเรยี บร้อย โรงเรียนเป๊ปซ่อี กี ต่างหาก การเข้าตลาดสแน็คในอินเดียของ PepsiCo ท�ำให้เห็นว่าโอกาสในตลาด มีมากมายมหาศาล โดยในปี 2555 ที่ผ่านมา ตลาดสแน็คในอินเดียมีมูลค่าตลาด ประมาณ 49,000 ล้านบาท มีอตั ราการขยายตัวเฉลย่ี ตั้งแต่ปี 2555 จนถงึ ปี 2560 ในอัตรารอ้ ยละ 23 ซึ่งสำ� หรบั ปี 2556 นีค้ าดวา่ จะมมี ลู ค่าตลาดเพมิ่ ข้นึ เป็นประมาณ 59,400 ลา้ นบาท ทัง้ น้ี บรษิ ทั PepsiCo มสี ว่ นแบ่งตลาดส�ำหรับสินค้าสแนค็ ในอินเดีย ในปี 2555 สงู ถงึ รอ้ ยละ 56.5 แตถ่ า้ เทยี บกบั ปี 2551 ถอื วา่ PepsiCo มสี ว่ นแบง่ ตลาดลดลง เพราะในปี 2551 PepsiCo มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึงร้อยละ 65 เลยทีเดียว แต่ส่ิงที่ นา่ สนใจกค็ อื บริษัทคู่แข่งสำ� คัญของ PepsiCo กลบั เปน็ บริษทั อินเดียล้วนๆ เช่น Balaji, ITC, Haldiram เป็นต้น ซ่งึ สว่ นแบง่ ตลาดน้นี ับรวมสแน็คทุกประเภท โดยสแน็คประเภท มันฝร่งั ทอดมีสัดสว่ นมากทีส่ ุดในบรรดาสแน็คทง้ั หมดในอนิ เดยี คอื ร้อยละ 32 100