1 หนังสือรวมขอ้ สอบ ภาค ข นกั วชิ าการศึกษา หลกั สตู รทใ่ี ช้สอบ ภาค ข ตาแหน่งนกั วชิ าการศกึ ษา (อปท) ปี 2560 / 2562 / 2564 1. พระราชบัญญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ีแกไ้ ขเพิม่ เติม 2. พระราชบญั ญัตสิ ่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั พ.ศ. ๒๕๕๑ 3. พระราชบัญญตั ริ ะเบยี บขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และทแ่ี ก้ไขเพิ่มเติม 4. พระราชบัญญตั กิ ารจัดการศกึ ษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 และทีแ่ กไ้ ขเพ่ิมเติม 5. แผนการศึกษาชาติ พ.ศ. 2560 - 2579 6. ความรเู้ กี่ยวกับงานด้านการศึกษาท้งั ในระบบ นอกระบบ การศกึ ษาพิเศษ การศกึ ษาตาม อัธยาศัย 7. ความรใู้ นการจัดทาแผนงาน/โครงการต่างๆ เพ่อื สง่ เสริมสนบั สนุนการจดั การศกึ ษา ศาสนา ศลิ ปะและวัฒนธรรม 8. ความรใู้ นการวางแผนการศึกษา การจดั พพิ ิธภัณฑ์ทางการศึกษา และจดั ทามาตรฐานสถานศกึ ษา 9. ความรทู้ ี่เกย่ี วกับงานตาม “ลักษณะงานทีป่ ฏิบตั ิ” ของตาแหน่งที่สมคั รสอบ ตาราเล่มนเี้ ปน็ การรวมข้อสอบเรียงตามลาดับหัวขอ้ ทงั้ 9 น้ัน ของ ภาค ข และไดเ้ พ่ิมแนวข้อสอบ ภาค ก แถมให้ด้วย ในสว่ นทคี่ วรจะทาคะแนนได้ดี รวบรวมแนวขอ้ สอบจรงิ ทีอ่ อกปีท่ีผ่านๆมา และเพ่มิ เตมิ แนวข้อสอบสาหรับปีนใ้ี หศ้ ึกษา กอ่ นจะอา่ นตาราขอ้ สอบเล่มนี้ ผอู้ ่านควรมโี อกาสไดศ้ ึกษาเนื้อหาตาราในเล่มสีเหลือง ภาค ข ซ่ึงเปน็ พื้นฐานสาคัญทีส่ ุดมาก่อน และมารวมข้อสอบ รวบยอดกันทเี ดียวในเลม่ น้ี จะดีมากๆ โดยเลม่ นีไ้ ดร้ วมข้อสอบจากเลม่ สเี หลอื งไวใ้ ห้แลว้ เพยี งแตไ่ มไ่ ด้เอาเนอ้ื หาสรุป อธบิ ายดมี าให้ คัดมาเฉพาะสว่ นทเ่ี ป็นขอ้ สอบ ตังเน้อื หาผสู้ นใจ ควรศึกษาจากเล่มน้ันทเ่ี ราได้จาหน่ายก่อนนี้
2 แนวข้อสอบอุน่ เครอื่ งชดุ ท่ี 1 จาลองมาจากข้อสอบจรงิ ปี 2560 / 2562 ถ้าทาคะแนนของขอ้ สอบอนุ่ เร่ืองชุดแรกนีไ้ ดเ้ กนิ 80 % โดยไม่เปิดตาราแสดงว่ามีนยั สาคัญ 1. พระราชบญั ญัตกิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ เปน็ กฎหมายตามขอ้ ใด ก. กฎหมายแมบ่ ททางการศึกษา ข. กฎหมายเพอ่ื การปฏิรูปการศกึ ษา ค. กฎหมายสาหรบั ใช้เปน็ กรอบในการจัดการศกึ ษา ง. กฎหมายเพอ่ื การบรหิ ารจดั การศึกษาอยา่ งมีคณุ ภาพ 2. การแก้ไขพระราชบญั ญัติการศึกษาแหง่ ชาติ ฉบบั ปัจจบุ นั มีสาเหตจุ ากขอ้ ใด ก. การจดั ต้ังสานักงานนโยบายและพัฒนาการศึกษา ข. การยบุ รวมเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาและมัธยมศกึ ษา ค. การเปล่ยี นแปลงจานวนเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาให้สอดคล้องกับปจั จุบัน ง. การแยกสานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาออกจากกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 3. ประธานคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา คอื ใคร ก. นายกรฐั มนตรี ข. รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร ค. ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการศึกษา ง. ผู้ทรงคณุ วุฒิท่คี ณะรัฐมนตรีแต่งตงั้ 4. ประธานคณะกรรมการข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา คือขอ้ ใด ก. ปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ข. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. เลขาธกิ าร กพฐ ง. เลขาธกิ าร ก.ค.ศ 5. ข้อใดไมส่ อดคล้องกบั ความหมายของการศึกษาตามพระราชบญั ญัติการศกึ ษาแห่งชาติ ก. กระบวนการเรยี นรเู้ พอื่ ความเจริญงอกงาม ข. การถา่ ยทอดความรู้ การฝกึ การอบรม การสืบสานทางวฒั นธรรม ค. การจดั การเรียนการสอนตามหลักสูตรทก่ี ระทรวงศึกษาธิการกาหนด ง. การสรา้ งสรรค์องค์ความรู้อันเกิดจากการจดั สภาพแวดล้อมทีเ่ กอ้ื หนุนการเรยี นรู้
3 5. ขอ้ ใดไม่ใชร่ ูปแบบการจัดการศกึ ษาตาม พ.ร.บ.การศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 ก. การศกึ ษาในสถานศึกษา ข. การศึกษานอกโรงเรียน ค. การศึกษาตามอัธยาศยั ง. การศกึ ษาตอ่ เน่อื งตลอดชวี ิต 6. ความมงุ่ หมายแรกสุดของการจัดการศกึ ษา ใหเ้ ป็นไปตามขอ้ ใด ก. พฒั นาการศกึ ษาตลอดชีวิตอยา่ งตอ่ เนื่องใหก้ ับคนทกุ ช่วงวัย ข. พัฒนาคนไทยให้เปน็ มนษุ ย์ทส่ี มบูรณ์ อย่รู ่วมกับผูอ้ ่นื ได้อยา่ งมคี วามสขุ ค. ให้สังคมมีสว่ นรว่ มในการจัดการศึกษา และพฒั นาคนไทยให้เจรญิ งอกงามในทุกมติ ิ ง. พัฒนาสาระการเรยี นรตู้ ่างๆอย่างต่อเนื่อง ทนั สมยั ต่อเหตุการณแ์ ละโลกในศตวรรษท่ี 21 7. ความมงุ่ หมายประการตอ่ มาของการจดั การศึกษามงุ่ ปลูกฝังสิง่ ใด ก. ปลูกฝังคุณธรรมในการดารงชีวิต ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง ข. ปลูกฝังคา่ นยิ มอันดีงามตามวฒั นธรรมของความเปน็ ไทย รู้จักหวงแหนแผน่ ดินเกิด ค. ปลกู ฝงั ความคดิ ในการปรับตวั กับโลกในศตวรรษที่ 21 และรู้จักการใชเ้ ทคโนโลยีดิจิตลั ง. ปลกู ฝงั จิตสานกึ ทถ่ี กู ตอ้ งทางการเมืองการปกครอง รสู้ ทิ ธิ หนา้ ที่ เสรีภาพ เคารพกฎหมาย 8. ผู้ปกครองสามารถจดั การเรียนการสอนทบ่ี า้ นได้จดั เป็นการศึกษารปู แบบใด ก. การศกึ ษาในระบบ ข. การศึกษานอกระบบ ค. การศึกษาตามอัธยาศัย ง. การศึกษาตามความพรอ้ ม 9. การศึกษาในระบบมรี ะดับใดบา้ ง ข. การศึกษาอนบุ าล ประถม มัธยม ก. การศกึ ษาขั้นพืน้ ฐานและระดับอุดมศกึ ษา ง. ประถม / ม.ตน้ / ม.ปลาย ค. การศึกษากอ่ นระดับอุดมศึกษา 10. การศึกษาภาคบงั คบั มีระยะเวลากีป่ ี ระวงั ดๆี เนอ้ ข้อ 10 นะ ขอยา้ ก. เปน็ เวลา 6 ปี จนจบระดับประถมศึกษา เปน็ ข้อที่ง่าย แตแ่ ปลกตรงที่ ข. ไมน่ อ้ ยกว่า 9 ปี จนจบการศึกษาระดบั ม.ต้น คนจานวนมากมกั พลาดข้อนี้ ค. จานวน 9 ปี อายุยา่ งเขา้ ปที ่ี 7 จนย่างเข้าปที ี่ 16 ตัง้ สติ ศกึ ษาโจทย์ดๆี ก่อนทา ง. เป็นเวลาไมน่ ้อยกว่า 12 ปี โดยไมเ่ กบ็ ค่าใชจ้ ่าย
4 11. การศกึ ษาขน้ั พื้นฐานตามพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ หมายถึงข้อใด ก. การศึกษาในระบบ ข. การศึกษากอ่ นระดับอุดมศกึ ษา ค. การศึกษาภาคบังคับและ ม.ปลาย ง. การศึกษา ประถม มัธยม และ ปวช 12. การจดั การศกึ ษาข้ันพนื้ ฐานโดยไม่เก็บค่าใชจ้ า่ ยเปน็ เวลาไม่นอ้ ยกวา่ 12 ปี บงั คบั ใช้เพอ่ื สิทธปิ ระโยชนข์ องประชาชน บัญญตั ไิ วอ้ ยู่ในกฎหมายฉบบั ใด ในปจั จุบนั ก. รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย ข. คาส่งั ม.44 คสช เร่อื งการศกึ ษาฟรี ค. แผนการศกึ ษาแห่งชาติ ง. พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ 13. การติดตามตรวจสอบผลการจัดการศึกษาโดยบุคลากรในสถานศกึ ษาและหน่วยงาน ตน้ สังกดั หมายถงึ อะไร ก. การประกนั คณุ ภาพภายใน ข. การประกันคุณภาพภายนอก ค. การประเมนิ คุณภาพภายใน ง. การประเมนิ คณุ ภาพภายนอก 14. การประเมนิ ภายนอกโดย สมศ. ในปี 2564 – 2568 จดั เปน็ การประเมินรอบทีเ่ ทา่ ไร ก. รอบ 2 ข. รอบ 3 ค. รอบ 4 ง. รอบ 5 15. การประเมินภายนอก โดย สมศ ภายใต้สถานการณ์โควิด19 ในยุคปัจจบุ นั ที่พิจารณาจาก SAR และเอกสารประกอบจาก SAR ให้ผลการประเมินกร่ี ะดบั อะไรบา้ ง ก. 2 ระดบั คอื ผ่าน ไม่ผ่าน ข. 3 ระดบั คือ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ ค. 3 ระดบั คอื ดีเย่ียม พอใช้ ปรับปรุง ค. 4 ระดบั คือ ดเี ยี่ยม ดี พอใช้ ปรับปรุง 16. AQA ในการประกนั คุณภาพทางการศกึ ษา เพ่ือใชใ้ นสถานการณ์โควิด19 โดยการเชื่อมโยง ขอ้ มลู สารสนเทศกับหนว่ ยงานต้นสังกัดและหนว่ ยงานในกระทรวงทีเ่ ก่ยี วข้อง หมายถึงขอ้ ใด ก. ระบบดจิ ติ ัลเพือ่ การประกันคณุ ภาพทางการศกึ ษา ข. ระบบสารสนเทศทใ่ี ช้สาหรบั ประกนั คุณภาพภายใน ค. ระบบสารสนเทศเพ่อื การประเมินคณุ ภาพภายนอก ง. ระบบประเมินผลด้วยเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการประกันคุณภาพ
5 17. คณะกรรมการท่เี ปน็ รปู คณะบคุ คลในกระทรวงศึกษาธกิ ารมีกอี่ งค์กร ก. 2 องค์กรหลัก ข. 3 องคก์ รหลัก ค. 4 องคก์ รหลัก ง. 5 องค์กรหลกั 18. ส่วนราชการหลักในกระทรวงศกึ ษาธิการมีกี่สว่ นราชการ ก. 3 สว่ นราชการ ข. 4 ส่วนราชการ ค. 5 สว่ นราชการ ง. 6 สว่ นราชการ 19. หนว่ ยงานใดมหี นา้ ทีพ่ จิ ารณาเสนอแผนการศึกษาแห่งชาติ ก. สานักงานรฐั มนตรี ข. สานกั งานปลัดกระทรวง ค. สานกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา ง. สานกั งาน ก.ค.ศ. 20. คณะกรรมการใดมอี านาจหนา้ ทใี่ นการกากบั การบรหิ ารงานของสถานศึกษาและสนับสนนุ กิจการของสถานศึกษา ก. คณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน ข. คณะกรรมการสถานศึกษา ค. คณะกรรมการเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษา ง. คณะกรรมการศกึ ษาธิการจงั หวัด 21. ผรู้ ักษาการตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาคือข้อใด ก. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ ข. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ค. เลขาธกิ ารคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ง. เลขาธกิ ารคุรสุ ภา 22. พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา เกีย่ วข้องกบั เรอ่ื งใด ก. การผดงุ วชิ าชีพครู ข. มาตรฐานวชิ าชพี ครู ค. การบรหิ ารงานบคุ คล ง. การบริหารงานดา้ นการเรยี นการสอน 23. พระราชบญั ญัติระเบียบข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ฉบับปจั จุบนั คือขอ้ ใด ก. ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2542 ข. ฉบับท่ี 2 พ.ศ. 2547 ค. ฉบบั ที่ 3 พ.ศ. 2553 ง. ฉบับท่ี 4 พ.ศ. 2562
6 24. ขอ้ ใดไมไ่ ดอ้ ยใู่ นหมวดหมูข่ องระเบยี บขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ก. การบรรจแุ ละแต่งตง้ั ข. มาตรฐานวชิ าชพี ค. วนิ ัยและการรักษาวนิ ยั ง. การอุทธรณแ์ ละการร้องทุกข์ 25. ก.ค.ศ. ย่อมาจากอะไร ก. คณะกรรมการขา้ ราชการครู ข. คณะกรรมการสภาครูและบคุ ลการทางการศึกษา ค. คณะกรรมการขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ง. คณะกรรมการพทิ ักษ์คณุ ธรรมครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา 26. ตาแหนง่ ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาใดเปน็ ตาแหน่งทางวิชาการ ก. นักวชิ าการศกึ ษา ข. ครู ข. ครผู ชู้ ว่ ย ง. อาจารย์ 27. ศกึ ษานิเทศกเ์ ป็นตาแหนง่ ประเภทใด ข. บุคลากรทางการศึกษา ก. ขา้ ราชการครู ง. ผสู้ นบั สนุนการศกึ ษา ค. บคุ ลากรทางการศกึ ษาอื่น 28. วทิ ยฐานะของขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาขอ้ ใดไม่ถกู ตอ้ ง ก. ครูเช่ียวชาญพเิ ศษ ข. รองผอู้ านวยการเชี่ยวชาญพิเศษ ค. ผ้อู านวยการเชี่ยวชาญพเิ ศษ ง. ศกึ ษานิเทศก์เชย่ี วชาญพเิ ศษ 29. ค่าตอบแทนวิทยฐานะชานาญการ รายเดอื น เดอื นละเท่าไหร่ ก. 3,500 บาท ข. 5,600 บาท ค. 9,900 บาท ง. 13,000 บาท 30. ข้อใดกลา่ วถกู ตอ้ ง ก. นายประหยดั ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ชานาญการ ข. นายประหยดั ตาแหนง่ ครู ค.ศ. 3 วทิ ยฐานะ ชานาญการพิเศษ ค. นายประหยดั ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ ง. นายประหยัด ตาแหนง่ ครู อันดบั เงินเดือน ค.ศ.1 วิทยฐานะ ครูชานาญการ
7 31. ขอ้ ใดกลา่ วถึงการลงโทษขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาไม่ถกู ต้อง ก. การลงโทษ ปลดออก ยงั มีสทิ ธิไดร้ บั บาเหนจ็ บานาญเสมอื นวา่ เป็นผลู้ าออก ข. โทษทางวนิ ัยอย่างไม่ร้ายแรง ลดเงินเดือน ปัจจบุ นั ใหป้ รับแก้เปน็ ลดข้นั เงนิ เดอื น ค. โทษทางวินยั มี 5 สถาน คือ ภาคทัณฑ์ ตดั เงนิ เดือน ลดเงนิ เดอื น ปลดออก ไลอ่ อก ง. โทษทางวนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง เมอื่ ขา้ ราชการประพฤตชิ ่ัวอย่างรา้ ยแรง ปลดออก ไล่ออก 32. ความผิดลหุโทษ มีอตั ราการจาคุกไม่เกนิ 1 เดือน และปรบั ไมเ่ กินกบี่ าท ก. ไม่เกิน 500 บาท ข. ไมเ่ กิน 1,000 บาท ค. ไมเ่ กิน 2,000 บาท ง. ไม่เกนิ 10,000 บาท 33. ข้าราชการอยใู่ นสถานท่ีราชการแตไ่ ม่สนใจ ไม่ปฏิบตั ริ าชการตามหน้าท่ี คอื ข้อใด ก. ทอดท้ิงหนา้ ท่ีราชการ ข. ละทง้ิ หนา้ ทร่ี าชการ ค. เพกิ เฉยหนา้ ทรี่ าชการ ง. ไมส่ นใจในหนา้ ที่ราชการ 34. ข้าราชการทีม่ าเซน็ ชอ่ื ปฏิบัตริ าชการ แล้วออกจากบรเิ วณสถานท่รี าชการ กอ่ นทจ่ี ะกลบั เขา้ มาใหม่ในอีกชว่ั โมงถดั ไป เปน็ ความผดิ ลกั ษณะใด ก. ไม่เปน็ ความผิด ข. ทอดทิ้งหน้าทร่ี าชการ ค. ละทิง้ หนา้ ทรี่ าชการ ง. ไมใ่ สใ่ จปฏบิ ัตหิ นา้ ท่รี าชการ 35. ข้าราชการครขู าดราชการติดตอ่ กันเกินกวา่ 15 วนั โดยไม่มเี หตผุ ลอนั สมควร มโี ทษทางวนิ ัยสถานใด ก. ตัดเงินเดือน ข. เพิกถอนใบอนญุ าตประกอบวชิ าชีพ ค. ไลอ่ อก ง. ไมเ่ ป็นโทษทางวนิ ยั เฉลย 1. ก 2. ง 3. ก 4. ข 5. ง 6. ข 7. ง 8. ค 9. ก 10. ค 11. ข 12. ง 13. ก 14. ง 15. ข 16. ค 17. ข 18. ค 19. ค 20. ข 21. ก 22. ค 23. ง 24. ข 25. ค 26. ง 27. ค 28. ข 29. ก 30. ค 31. ข 32. ง 33. ก 34. ค 35. ค 31. ข ผิด เพราะ สลบั กัน ตอ้ งจาก ลดขน้ั เงินเดอื น ปจั จบุ ัน ปรบั แก้เปน็ “ลดเงินเดอื น” 32. มกี ารปรับแกใ้ หม่ สมัยกอ่ น ไมเ่ กนิ 1,000 บาท ปจั จุบัน ใหป้ รับไมเ่ กิน 10,000 บาท 34. ตวั ไม่อยู่ (อยแู่ ต่ลายเซ็น) เจ้าตวั ไปไหนก็ไมร่ ู้ แบบนี้เรยี กว่า “ละทิง้ ”
8 36. พระราชบญั ญตั ิทีเ่ กยี่ วกบั กศน ไดก้ าหนดเก่ียวกบั สานักงาน กศน. ไวต้ ามขอ้ ใดไมถ่ กู ต้อง ก. สานักงาน กศน อยใู่ นสงั กดั สานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ข. สานกั งาน กศน มผี ู้อานวยการ กศน มีฐานะเป็นอธิบดี เปน็ ผ้บู งั คับบญั ชา ค. สานักงาน กศน คือ สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย ง. ถกู ตอ้ งทุกขอ้ ทกี่ ลา่ วมา 37. ใครเปน็ ประธาน กศน จงั หวดั ข. ผ้อู านวยการ กศน จังหวัด ก. ศึกษาธกิ ารจงั หวัด ง. ผทู้ รงคณุ วุฒดิ ้าน กศน ค. ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั 38. กิจกรรมการศึกษาทมี่ กี ลุม่ เป้าหมายผู้รับบริการและวตั ถปุ ระสงคข์ องการเรียนรู้ชดั เจน มีหลักสูตร มกี ารวัดผล ประเมนิ ผล หมายถึงข้อใด ก. การศึกษาในระบบ ข. การศกึ ษานอกโรงเรียน ค. การศึกษานอกระบบ ง. การศกึ ษาตามอัธยาศัย 39. ข้อใดสอดคล้องกับการศึกษาตามอัธยาศัย มากทสี่ ุด ก. กิจกรรมการศกึ ษา – แหล่งเรียนรู้ – หลกั สูตร – สถานศึกษานอกระบบ ข. กจิ กรรมการเรยี นรู้ – แหล่งเรียนรู้ – เรยี นร้ใู นชีวิตประจาวนั – ตามความสนใจ ค. การเรียนรู้ในชวี ติ ประจาวัน – ตามความสนใจ – สถานศึกษานอกระบบ – หลักสูตร ง. การศกึ ษาหาความรู้ – ต่อเน่อื งตลอดชวี ติ – แหลง่ เรียนรู้ – รับรองคณุ วฒุ ทิ างการศึกษา 40. ข้อใดไมต่ อ้ งมคี ณะกรรมการสถานศึกษา ข. สถาบนั การอาชวี ศกึ ษา ก. สถานศึกษาทจี่ ดั การศึกษานอกระบบ ง. ศูนย์พฒั นาเดก็ เลก็ ค. สถานศึกษาขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ เฉลย 36. ข 37. ค 38. ค 39. ข 40. ง 36. ข ผิด เพราะทถ่ี กู ตอ้ งเปน็ “เลขาธกิ าร กศน.” ไม่ใช่ ผูอ้ านวยการ กศน กฎหมายการศกึ ษาทัง้ 40 ขอ้ น้ี ควรจะผดิ ไมเ่ กิน 4 – 5 ขอ้
9 41. แผนการศกึ ษาแห่งชาติ ฉบบั ปัจจบุ ัน เป็นแผนระยะก่ีปี ก. แผนระยะ 5 ปี ข. แผนระยะ 10 ปี ค. แผนระยะ 15 ปี ง. แผนระยะ 20 ปี 42. วสิ ัยทศั น์ของแผนการศกึ ษาแห่งชาติ ไม่ไดก้ ล่าวถงึ ขอ้ ใด ก. ความม่นั คง มงั่ คงั่ และยงั่ ยืน ข. ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ค. การเรยี นรู้ตลอดชวี ิตอย่างมคี ณุ ภาพ ง. การเปลีย่ นแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 43. สภาวการณเ์ ปล่ยี นแปลงของโลกท่ีมผี ลต่อการปรบั ปรุงและเปลี่ยนแปลงแนวทางการ จัดการศกึ ษาใน ศตวรรษที่ 21 ตามแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. การอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ ม ข. ปญั หาสาธารณสุข เช่น โรคโควิด19 ค. การก่อสงครามอุดมการณท์ างการเมอื ง ง. การสือ่ สารร้เู ทา่ ทันข้อมลู โลกออนไลน์ 44. กรอบแนวคดิ ตามแผนการศึกษาแหง่ ชาตมิ ีหลักการต่างๆ ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. หลักการพัฒนาทีย่ ่งั ยนื ข. เศรษฐกิจพอเพยี ง ค. โลกในศตวรรษที่ 21 ง. เทคโนโลยีดิจติ ัล 45. ยุทธศาสตรต์ ามแผนการศกึ ษาแห่งชาติข้อใดกล่าวไมถ่ กู ต้อง ก. มีทั้งหมด 10 ยทุ ธศาสตร์ สอดคลอ้ งกับแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ข. ยทุ ธศาสตรแ์ รกสุดเป็นการจัดการศึกษาเพือ่ ความมน่ั คงของสังคมและประเทศชาติ ค. ยุทธศาสตรท์ ี่สามเนน้ การพฒั นาศกั ยภาพคนทกุ ช่วงวัยและใหเ้ ป็นสังคมแหง่ การเรียนรู้ ง. ไม่มียุทธศาสตรใ์ ดที่กล่าวถงึ การสร้างขีดความสามารถเพ่ือการแขง่ ขนั กบั นานาประเทศ 46. Output ของแผนการศึกษาแหง่ ชาติ คอื ข้อใด ก. คณุ ภาพของผูเ้ รียน ข. เปา้ หมายการจัดการศึกษา ค. การเปลย่ี นแปลงปฏริ ปู การศึกษา ง. การพฒั นากระทรวงศึกษาธกิ าร 41. ง 42. ก 43. ค 44. ง 45. ก 46. ข
10 47. Outcome ซ่ึงเป็นเป้าหมายดา้ นผเู้ รยี น ตามแผนการศกึ ษาแห่งชาติ คือขอ้ ใด ก. คณุ ภาพ ข. การเข้าถึงการศกึ ษา ค. อา่ นออก เขยี นได้ คดิ เลขเป็น ง. ตอบโจทยก์ ารศกึ ษาทเ่ี ปล่ียนแปลง 48. เป้าหมายการจัดการศึกษา (Aspirations) มีกีป่ ระการ ก. 2 ประการ ข. 3 ประการ ค. 4 ประการ ง. 5 ประการ 49. แผนการศึกษาแห่งชาติ ไดก้ าหนดเปา้ หมายเรื่องความเท่าเทียมทางการศกึ ษา ให้ผู้เรยี น ระดับการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน 100 % ไดร้ ับการสนบั สนนุ คา่ ใชจ้ ่ายการศกึ ษา เปน็ เวลาก่ีปี ก. 9 ปี ข. 12 ปี ค. ไม่น้อยกวา่ 12 ปี ง. 15 ปี 50. ชว่ งระยะเวลาของแผนการศึกษาแหง่ ชาติ ข้อใดกล่าวไม่ถูกตอ้ ง ก. ระยะเร่งดว่ น คือ พ.ศ. 2560 – 2562 ข. ในปจั จบุ ันเป็นการดาเนินตามแผนการศึกษาแห่งชาตริ ะยะที่ 2 (ระยะ 5 ปีแรก) ค. แผนการศกึ ษาแห่งชาติแบ่งออกเป็น 5 ระยะ ส้นิ สดุ ระยะสดุ ทา้ ย พ.ศ. 2575 – 2579 ง. ปัจจุบนั การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด16 เขา้ สูแ่ ผนการศกึ ษาแห่งชาตริ ะยะชว่ งหา้ ปที ่ี 2 47. ค 48. ง 49. ง 50. ก ชว่ งระยะของแผนการศึกษาแห่งชาติ ( 5 ชว่ งระยะเวลาของแผนการศึกษาแหง่ ชาต)ิ พ.ศ. 2560 – 2561 ระยะเร่งดว่ น พ.ศ. 2560 – 2564 ระยะในชว่ ง 5 ปีแรก (ปัจจบุ ัน) สังเกต ช่วงระยะที่ 1 และ 2 พ.ศ. 2565 – 2569 ระยะในชว่ ง 5 ปที ่สี อง จะทบั ซอ้ นกนั อยู่ในหว้ ง 5 ปี พ.ศ. 2570 – 2574 ระยะในชว่ ง 5 ปีท่ีสาม ระยะแรกเรยี กวา่ ระยะเรง่ ดว่ น พ.ศ. 2575 – 2579 ระยะในช่วง 5 ปีที่สี่ ระยะที่สองเรียกว่าช่วง 5 ปแี รก
11 51. บุคคลซงึ่ มขี ้อจากดั ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมในชวี ติ ประจาวนั หรือเข้าไปมสี ว่ นรว่ มทางสงั คม เนอื่ งจากมขี ้อบกพร่องทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ พฤตกิ รรม สอดคล้องกบั ข้อใด ก. คนพิการ ข. บุคคลพิเศษ ค. บคุ คลทม่ี ีบญั หา ง. คนท่มี ีความบกพร่อง 52. คนพิการมีก่ปี ระเภท ข. 9 ประเภท ก. 3 ประเภท ง. 15 ประเภท ค. 12 ประเภท 53. สถานศกึ ษาลักษณะประจา ไป กลบั และรบั บรกิ ารท่บี ้าน สาหรบั คนพิการโดยเฉพาะ ซงึ่ เปน็ สถานศกึ ษาของรัฐหรอื เอกชนท่จี ดั การศึกษา หมายถึงข้อใด ก. สถานศกึ ษาเพือ่ ความพกิ าร ข. สถานศึกษาเรยี นร่วม ค. สถานศกึ ษาเฉพาะความพกิ าร ง. ศนู ย์การเรยี นเฉพาะความพิเศษ 54. การจดั การศกึ ษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบทเี่ ปน็ หลกั สูตรระยะสั้น ทีจ่ ดั ตามความ ต้องการ ของกล่มุ เป้าหมายทีม่ เี นอ้ื หาเกีย่ วกบั อาชพี ทกั ษะชีวิตการพฒั นาสงั คมและชุมชน ซง่ึ รวมถงึ การจัดการเรยี นรู้ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และการใช้เทคโนโลยี ซงึ่ นาไปสู่การพฒั นาคุณภาพชวี ติ หมายถึงขอ้ ใด ก. การศึกษานอกโรงเรยี น ข. การศึกษาตามอธั ยาศยั ข. การศึกษาตลอดชวี ติ ง. การศกึ ษาตอ่ เน่ือง 55. ผ้ทู ่ีต้องการเรยี นรเู้ ป็นกลมุ่ ในเร่อื งเดียวกนั ตามหลักสูตรการศกึ ษาต่อเน่ืองในสถานศกึ ษา กศน จัดการศึกษาเป็นกลมุ่ ได้ โดยตอ้ งมผี ้สู นใจศกึ ษากีค่ น ก. การเรียนรูต้ ้ังแต่ 3 คนขน้ึ ไป ข. การเรียนร้ตู ้ังแต่ 6 คนข้นึ ไป ค. การเรยี นรูต้ ัง้ แต่ 9 คนขนึ้ ไป ง. การเรยี นร้ตู ั้งแต่ 12 คนขนึ้ ไป ข้อ 54 – 55 เปน็ เร่ืองเกยี่ วกบั “การศึกษาต่อเนอ่ื ง” ซึง่ เปน็ เนื้อหาและการทางานเก่ียวกับ กศน เปน็ ความร้เู ก่ยี วกบั กศน ทค่ี วรรู้ เรยี กวา่ “การศึกษาต่อเน่ือง” เปน็ แบบตลอดชวี ิต
12 56. ความรอบรู้เกี่ยวกบั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ได้กลา่ วถึง กศช หรอื รา่ งเกี่ยวกบั กศช มีความเกี่ยวขอ้ งกันตามข้อใด ก. เปน็ ส่วนประกอบทจ่ี ะทาให้ กศน จัดการเรยี นร้ไู ด้มคี ุณภาพ ข. เป็นคณะกรรมการย่อยในสานักงาน กศน จัดตง้ั ขนึ้ มาชว่ ยสง่ เสริมงาน กศน ค. เป็นรา่ งพระราชบญั ญัติการศกึ ษาตลอดชีวิตเพื่อนามาใชแ้ ทนการศึกษา กศน ง. เปน็ การจดั การศึกษารูปแบบใหม่ที่ใชค้ วบคู่กบั การศกึ ษาแบบ กศน ในยคุ โควดิ 19 57. ครูการศึกษาพเิ ศษ ครูการศึกษาพเิ ศษกรณเี รียนร่วม ครปู ระจาชน้ั พิเศษกรณีเรยี นร่วม ครูเสริมวิชาการกรณีเรยี นรว่ ม ครปู ระจาชนั้ กรณีเรยี นรว่ ม และครเู ดินสอนกรณีเรยี นรว่ ม ได้รบั เงนิ เพ่ิมจาก 2,000 บาท ในอดีต เพิ่มให้เปน็ 2,500 บาท ตอ่ เดือน คือเงนิ ตามขอ้ ใด ก. เงิน พ.ค.ศ. ข. เงิน ก.ค.ศ. ค. เงิน พ.ก.ช. ง. เงนิ เพม่ิ เตมิ จากวิทยฐานะ 58. การพฒั นาศกั ยภาพเด็กพเิ ศษ ต้องอาศัยความรว่ มมือเป็นสว่ นสาคัญ ยกเวน้ ข้อใด ก. ครูการศึกษาพเิ ศษ ข. ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา ค. แพทย์ ง. พอ่ แม่ 59. ขอ้ ใดคือ expressive language disorder ก. เดก็ ที่มพี ัฒนาการทางภาษาผดิ ปกติ ข. เดก็ พเิ ศษที่ใช้ภาษาไดป้ กติเทียบเท่าเดก็ ท่ัวไป ค. เดก็ พเิ ศษท่ีไมส่ ามารถสอื่ สารภาษาแมไ่ ด้เขา้ ใจ ไมร่ บั ร้ทู า่ ทางและการสอ่ื สาร ง. เด็กพเิ ศษทมี่ คี วามสามารถในการใช้ภาษาสือ่ สารได้เหมอื นผู้ใหญท่ ่ผี ่านการเรียนรู้ 60. ความสามารถรบั การศึกษาของบุคคลท่ีสามารถรบั การศึกษาพเิ ศษสาหรบั เดก็ เรยี นช้าและ ประกอบอาชพี ชา่ งฝมี ือได้ จดั เป็นบคุ คลที่มรี ะดับเชาว์ปัญญาประเภทใด ก. เด็กปัญญาออ่ นพอเรียนได้ ข. เดก็ เรยี นช้า ค. เด็กปัญญาอ่อนปานกลาง ง. เด็กปกตทิ ่ีไม่เขา้ ใจวิชาการ 51. ก 52. ข 53. ค 54. ง 55. ข 56. ค 57. ก 58. ข 59. ก 60. ข
13 61. การวางแผนพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษา อปท ปจั จุบนั เปน็ แผนระยะก่ีปี ก. แผนระยะ 3 ปี ข. แผนระยะ 4 ปี ค. แผนระยะ 5 ปี ง. แผนระยะ 10 ปี 62. ขอ้ ใดเรียงลาดับจากหน่วยหลกั ไปหาย่อยไดถ้ กู ตอ้ ง ก. นโยบาย - โครงการ - แผนงาน ข. นโยบาย - แผนงาน - โครงการ ค. แผนงาน - โครงการ - นโยบาย ง. โครงการ - แผนงาน - นโยบาย 63. ยุทธศาสตรช์ าตซิ ่ึงใช้เปน็ กรอบในการกาหนดการจัดทาแผนงานของส่วนราชการ และ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นใหส้ อดรับกนั ถือเปน็ แผนระดับใด ก. Policy planning ข. Strategic Planning ค. Operation Plan ง. Single Plan 64. โดยปกตแิ ล้วนักวชิ าการศกึ ษาจะไดท้ าแผนลกั ษณะใด ก. แผนระดับนโยบาย ข. แผนกลยุทธ์ ค. แผนปฏิบตั ิการ ง. แผนเฉพาะทาง 65. แผนงานย่อยทีป่ ระกอบดว้ ยกิจกรรมหลายกจิ กรรม เพ่อื ใช้ในการดาเนนิ งานให้บรรลุ เป้าหมาย เปน็ สิ่งแรกท่จี ะนาไปสูแ่ ผนงานทว่ี างไว้ได้ดี คือข้อใด ก. โครงการ ข. แผนงาน ค. กระบวนการ ง. หลักการ 66. การวางแผนหรอื โครงการ (Project) เป็นการวางแผนตามขอ้ ใด ก. มวี ตั ถุประสงค์ที่ชดั เจน ข. มีผูร้ บั ผิดชอบ ค. มรี ะยะเวลาเรม่ิ ตน้ และสน้ิ สดุ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 67. ขน้ั ตอนแรกของการวางแผนโครงการ คอื ขอ้ ใด ก. การกาหนดผู้ประเมนิ โครงการ ข. การดาเนินตามโครงการ ค. การแตง่ ต้งั คณะทางาน ง. การจดั ทารายละเอยี ดโครงการ 61. ค 62. ข 63. ก 64. ค 65. ก 66. ง 67. ค
14 68. บรรทัดแรกสดุ ของการเขียนโครงการคือข้อใด ก. ผ้จู ดั ทาโครงการ ข. ช่ือโครงการ ค. วตั ถปุ ระสงค์ของโครงการ ง. ปีงบประมาณ และส่วนราชการ 69. ข้อใดแสดงแนวคดิ ถึงปญั หาที่ผา่ นมา และแนวทางทจี่ าเปน็ ต้องมกี ารจดั ทาโครงการใดๆ ก. วัตถุประสงค์ ข. ขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน ค. หลกั การและเหตุผล ง. การประเมินผล 70. ข้อใดกลา่ วถกู ต้องเกย่ี วกับระยะเวลาในการทาโครงการ ก. ไม่จาเป็นต้องกาหนดระยะเวลา ข. ระยะเวลาต้องออกแบบมาให้เหมาะสมกบั งบประมาณ ค. ระยะเวลาเริม่ ต้นกาหนดไว้ ระยะเวลาสนิ้ สดุ ให้ขน้ึ อยู่กบั การปฏบิ ตั ิจริง ง. มกี ารกาหนดระยะเวลาเริ่มตน้ และสิน้ สดุ ของการดาเนินโครงการไวช้ ดั เจน 71. การจัดทาโครงการตามแผนงานขององคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ ใครเป็นผ้พู จิ ารณา เพ่ือใหค้ วามเหน็ ชอบ ก. นักวิชาการศึกษา ข. หัวหน้างาน / หวั หน้าแผนก ค. ปลดั ทอ้ งถ่ิน / ผอู้ านวยการกอง ง. ผู้บริหารองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน 72. นายกองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ เป็นลายมือชื่อสดุ ทา้ ยตามขอ้ ใด ก. ผู้ประเมินโครงการ ข. ผู้อนมุ ตั โิ ครงการ ค. ผู้ให้ความเหน็ ชอบโครงการ ง. ผู้รับผิดชอบโครงการ 73. การเปรียบเทียบผลการปฏบิ ัตงิ านกับเปา้ หมายหลังสิ้นสดุ การปฏิบัตติ ามแผนงาน หรอื โครงการ หมายถึงข้อใด ก. การตรวจสอบโครงการ ข. ประเมนิ ผลโครงการ ค. การทบทวนโครงการ ง. การสรุปผลโครงการ 74. การประเมินผลโครงการ หรือแผนงาน มีจดุ มุ่งหมายตามขอ้ ใด ก. เพือ่ สนบั สนุนหรอื ยกเลกิ ข. เพื่อศกึ ษาทางเลือกทีเ่ หมาะสม ค. เพ่ือทราบความก้าวหน้า ง. ถกู ทกุ ขอ้
15 75. การจดั ทาแผนของส่วนราชการในประเทศไทยและแผนงานขององค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ นิยมใช้รูปแบบใด ก. PDCA ข. PAOR ค. SPSS ง. SARS 76. กระบวนการสดุ ทา้ ยของวงจรแบบเดมิ ม่งิ คอื ข้อใด ก. ประเมินผล ข. ปรบั ปรงุ แกไ้ ข พัฒนา ค. รายงานผล สรุปผล ง. ส่งความคิดเห็นสฝู่ ่ายบริหาร 77. การวิเคราะหอ์ งค์กรแบบ SWOT ประกอบดว้ ยสิ่งใด ก. จุดแขง็ จุดเด่น จุดอ่อน อุปสรรค ข. จุดแขง็ จุดออ่ น โอกาส อปุ สรรค ค. จดุ แข็ง จดุ อ่อน ความสาเรจ็ ความลม้ เหลว ง. จดุ แขง็ จดุ ด้อย ความไดเ้ ปรียบ ความเสียเปรียบ 78. ข้อใดคอื การทาโครงการเพอ่ื สนับสนุนการศึกษา ศาสนา วฒั นธรรม ขององคก์ รปกครอง สว่ นทอ้ งถ่ินในปัจจุบัน ก. การเขียนโครงการตามแนวทางพลงั บวร ข. การเขียนโครงการตามมติคณะรัฐมนตรี ค. การเขียนโครงการตามการกาหนดในนโยบายแห่งรัฐ ง. การเขียนโครงการตามการประกาศแผนพัฒนาของรัฐบาล 79. การทาโครงการทีด่ ีต้องเป็นไปตามข้อใด ก. สอดคล้องกบั วตั ถุประสงคท์ ี่วางไว้ ข. ประหยดั งบประมาณ และคมุ้ คา่ ท่ใี ชจ้ า่ ย ค. ตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ ริหารองค์กร ง. ไดร้ บั ความพงึ พอใจจากภาคส่วนตา่ งๆทเ่ี กีย่ วขอ้ ง 80. แผนงานที่เปน็ ไปตามทวี่ างไว้จะนาไปสสู่ ิง่ ใด ข. เป็นไปตามนโยบายที่กาหนดไว้ ก. ความชื่นชอบของผรู้ ับบริการ ง. การจัดสรรงบประมาณปีถัดไปทาไดง้ า่ ย ค. บรรลโุ ครงการทวี่ างไวอ้ ยา่ งมีคณุ ภาพ
16 81. การจัดทาพพิ ธิ ภัณฑเ์ พอื่ การศึกษา เปน็ ไปตามขอ้ ใด ก. สถานศกึ ษา ข. สถานบรกิ ารชุมชม ค. แหลง่ เรียนรตู้ ลอดชวี ติ ง. แหล่งพฒั นาความรู้ 82. การจัดการพิพธิ ภัณฑท์ อ้ งถน่ิ ควรคานึงถงึ แนวคดิ ใด ก. ให้มีความรกู้ ว้างขวาง ครอบคลมุ หลายมติ ิ ข. ประชาชนในชุมชน / ท้องถ่ิน ได้มสี ว่ นร่วม ค. ความเป็นเอกภาพและเอกลักษณข์ องชุมชน ง. การใช้ประโยชน์เพอ่ื การตอ่ ยอดสวู่ ิถชี ีวติ ในอนาคต 83. สพร. ย่อมาจากอะไร ก. สานักงานพฒั นาระบบพิพิธภณั ฑ์ ข. สานักงานสง่ เสรมิ พิพิธภัณฑเ์ พอื่ การเรียนรู้ ค. สถาบันพพิ ิธภณั ฑก์ ารเรียนร้แู หง่ ชาติ ง. สถาบันพฒั นาพิพิธภัณฑแ์ หลง่ เรียนรู้ในชมุ ชน 84. สพร. อยใู่ นกากับของหนว่ ยงานใด ข. สานักงานบรหิ ารและพัฒนาองคค์ วามรู้ ก. โรงเรยี นสวนกหุ ลาบวิทยาลัย ง. สานกั พัฒนาศลิ ปะและวฒั นธรรม ค. สานกั งานบริหารการศึกษาพิเศษ 85. พพิ ธิ ภัณฑท์ างการศกึ ษาในชุมชนยุคปจั จบุ ันควรจัดทาชุดข้อมลู สาเสนอเร่อื งใดมากท่สี ดุ ก. การใช้เทคโนโลยดี ิจติ ลั ข. ความเขา้ ใจในกระบวนการประชาธิปไตย ค. ความรูเ้ กี่ยวกบั โรคโควดิ 19 ง. การรู้เท่าทนั ส่อื ออนไลน์และสงั คมโซเชยี ล 86. พพิ ธิ ภัณฑ์การศกึ ษาแหง่ ชาติ ตงั้ อยู่ทใ่ี ด ก. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. กระทรวงวัฒนธรรม ค. สถาบันพัฒนาพพิ ิธภัณฑ์ ง. โรงเรียนสวนกหุ ลาบวิทยาลยั 87. พิพธิ ภณั ฑก์ ารศึกษาไทย จัดแสดงสิง่ ใด ก. ประวตั ทิ างการศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ าร ข. การดาเนนิ กิจกรรมทางการศึกษาของสถานศึกษา ค. การจดั การเรียนร้ขู องประเทศไทยในศตวรรษาท่ี 21 ง. รปู แบบการจดั การศกึ ษาเพื่อพฒั นาการเรียนรู้ดิจติ ัล
17 88. การจดั พพิ ิธภณั ฑ์เพ่อื สง่ เสริมความรู้ในท้องถิน่ ควรม่งุ เนน้ อะไร ก. การวจิ ยั ข. การจัดนทิ รรศการ ค. การเกบ็ ค่าใช้จา่ ย ง. การสรา้ งงานใหมๆ่ 89. ขอ้ ใดไมใ่ ช่หนา้ ที่ของพิพธิ ภัณฑต์ อ่ ชุมชน ก. การเกบ็ รวบรวม ข. การสะสมประสบการณ์ ค. การอนุรักษ์ ง. การบริการการศกึ ษา 90. พิพิธภัณฑ์ในสถานศกึ ษา สว่ นใหญม่ ุ่งเนน้ ไปทางใด ก. เผยแพรค่ วามรู้ ข. แสดงเกียรตปิ ระวัติของสถานศกึ ษา ค. จดั ใหบ้ รกิ ารประชาชน ง. นาเสนอหลกั สูตรและการเรียนการสอน 91. การจดั ทามาตรฐานสถานศึกษาอย่ใู นขน้ั ใดของ PDCA ก. ขั้นวางแผน ข. ขน้ั ลงมือปฏิบัติ ค. ข้ันตรวจสอบ ง. ขน้ั ปรับปรงุ แกไ้ ข 92. การจัดทามาตรฐานสถานศึกษาตอ้ งกาหนดใหม้ มี าตรฐานจานวนเท่าไหร่ ก. 2 มาตรฐาน ข. 3 มาตรฐาน ค. 4 มาตรฐาน ง. 5 มาตรฐาน 93. การจดั ทามาตรฐานสถานศึกษามีกีข่ ัน้ ตอน ก. 3 ขน้ั ตอน ข. 4 ขัน้ ตอน ค. 5 ข้นั ตอน ง. 7 ขน้ั ตอน 94. ข้นั ตอนแรกสุดของการกาหนดมาตรฐานสถานศกึ ษาคอื ขอ้ ใด ก. สารวจความคิดเหน็ ข. ศกึ ษามาตรฐานการศึกษา ค. วางกรอบของมาตรฐาน ง. เตรยี มความพร้อมของการกาหนดมาตรฐาน 68. ข 69. ค 70. ง 71. ค 72. ข 73. ข 74. ง 75. ก 76. ข 77. ข 78. ก 79. ก 80. ข 81. ค 82. ข 83. ค 84. ข 85. ค 86. ง 87. ก 88. ข 89. ข 90. ข 91. ก 92. ข 93. ค 94. ง
18 95. การจัดทามาตรฐานสถานศึกษาโดยมมี าตรฐานเรอื่ ง “การจดั ประสบการณ์ท่เี น้นเดก็ เป็นสาคญั ” เปน็ มาตรฐานสถานศึกษาของระดับหรอื การศกึ ษาใด ก. การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ข. การศึกษาปฐมวยั ค. การศกึ ษาพิเศษ ง. การศกึ ษาสาหรบั เดก็ ที่มคี วามต้องการพิเศษ 96. ข้อใดไม่ใช่เคร่ืองมอื ในการวิจัย ข. แบบสอบถาม Questionnaire ก. โปรแกรม SPSS ง. แบบวัดมาตราส่วนประมาณค่า Rating Scale ค. แบบทดสอบ Test 97. ข้อใดหมายถึงการคาดคะเนคาตอบของการวิจยั อยา่ งมีเหตุมผี ล ก. การวางเป้าหมายการวิจยั ข. สมมติฐานงานวิจัย ค. ระดบั นัยสาคญั ง. ผลทค่ี าดวา่ จะได้รับ 98. การวิจยั ในชน้ั เรยี นเป็นการวิจัยรปู แบบใด ก. การวิจยั เพ่อื พฒั นา ข. การวิจัยเชิงคน้ ควา้ ค. การวจิ ยั เชิงปฏิบัตกิ าร ง. การวจิ ัยสถาบนั 99. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วิธีการสุม่ เลอื กตัวอยา่ งในการสมุ่ กลมุ่ ตัวอยา่ งงานวิจยั ก. การกาหนดโควตา้ ข. การเลือกแบบบังเอิญ ค. การแบง่ ชนั้ ภมู ิ ง. การคาดคะเน 100. วตั ถุประสงค์ของการวิจัยในชั้นเรียนคือขอ้ ใด ก. เพื่อให้ครูมผี ลงานตามมาตรฐานทกี่ าหนด ข. เพื่อให้ทราบถึงความก้าวหนา้ ในการจดั การศึกษา ค. เพอ่ื แกป้ ัญหาในชน้ั เรยี นและพฒั นาการเรียนการสอน ง. เพอ่ื ปฏิรูปการเรยี นการสอนให้สอดคล้องและเหมาะสมกบั ความเปน็ จริง ขอ้ 96 – 100 เป็นขอ้ สอบจรงิ นกั วิชาการศึกษา อปท พ.ศ. 2562 (ครง้ั ก่อน) ความรู้เก่ยี วกบั ลกั ษณะงานทปี่ ฏิบตั ิ เนน้ ออกเร่ืองวิจยั ทางการศึกษาหลายข้อ เฉลย 95. ข 96. ก 97. ข 98. ค 99. ง 100. ค
19 แนวขอ้ สอบ ภาค ก เนอ้ื หาประเด็นขอ้ สอบสว่ นสาคัญท่คี วรจะทาคะแนนได้ดี 1. รกั ษาการตามพระราชบัญญัตริ ะเบียบบริหารราชการแผ่นดนิ คอื ข้อใด ก. พระมหากษตั รยิ ์ ข. นายกรัฐมนตรี ค. รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ง. ประธานรัฐสภา 2. การบรหิ ารราชการตามพระราชบัญญตั ิระเบียบบริหารราชการแผ่นดินตอ้ งเป็นไปเพอ่ื ขอ้ ใด ก. เพอ่ื ใหเ้ กิดความสะดวกแก่ประชาชน ข. เพ่ือความเป็นอยทู่ ่ดี ขี องประชาชน ค. เพ่ือประโยชนส์ ุขของประชาชน ง. เพอื่ คุณภาพชีวติ ทด่ี ีของประชาชน 3. การบรหิ ารราชการแผน่ ดิน ตามหลกั เกณฑ์วิธีการบริหารกิจการบา้ นเมอื งที่ดียกเวน้ ข้อใด ก. เกิดผลสัมฤทธิต์ อ่ ภารกจิ ของรัฐ ข. เพิ่มขั้นตอนการปฏิบตั งิ านใหร้ ัดกมุ ง. การกระจายภารกจิ และทรพั ยากรใหท้ อ้ งถ่ิน ง. ตอบสนองความตอ้ งการของประชาชน 4. การจัดสรรงบประมาณ และการบรรจุและแตง่ ต้ังบุคคลเข้าดารงตาแหนง่ หรือปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ตี ้อง คานงึ ถงึ หลกั การต่างๆ ยกเว้นขอ้ ใด ก. ความเหมาะสมในภาระหน้าท่ี ข. ความมปี ระสทิ ธิภาพ ค. ความคมุ้ ค่าในเชิงภารกิจแหง่ รัฐ ง. การกระจายอานาจตัดสนิ ใจ 5. การปฏบิ ัตหิ นา้ ทขี่ องสว่ นราชการ ต้องคานงึ ถงึ ขอ้ ใด ก. การมสี ว่ นร่วมของประชาชน ข. การกระจายอานาจให้แกป่ ระชาชน ค. การสร้างประโยชนแ์ ก่ประชาชน ง. การรกั ษาผลประโยชน์แห่งประชาชน 6. ข้อใดไม่ใชก่ ารจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดนิ ก. ระเบียบบรหิ ารราชการส่วนกลาง ข. ระเบยี บบรหิ ารราชการสว่ นภูมภิ าค ค. ระเบียบบริหารราชการสว่ นจังหวดั ง. ระเบียบบริหารราชการสว่ นท้องถ่นิ
20 7. การจดั ระเบยี บบรหิ ารราชการแผ่นดนิ แบง่ เป็นกีส่ ่วน ก. 2 สว่ น ข. 3 สว่ น ค. 4 ส่วน ง. 5 สว่ น 8. ขอ้ ใดไม่ใชร่ าชการส่วนกลาง ง. ทบวง ก. กระทรวง ข. สานักนายกรัฐมนตรี ค. เทศบาล 9. บคุ คลใดรักษาการตามพระราชบัญญัตริ ะเบียบบริหารราชการแผ่นดนิ พ.ศ.2534 ก. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ข. ประธานรัฐสภา ค. ประธานสภาผู้แทนราษฎร ง. นายกรัฐมนตรี 10. ข้อใดกลา่ วถกู ตอ้ งเกี่ยวกับสานกั นายกรฐั มนตรี ก. มีฐานะเปน็ กระทรวง ข. มฐี านะเป็นนิติบุคคล ค. มนี ายกรัฐมนตรเี ปน็ ผู้บงั คบั บัญชา ง. ถกู ทุกข้อ 11. สานักนายกรัฐมนตรี มีฐานะเป็นอะไร ข. กรม ก. กระทรวง ง. สานกั งาน ค. ทบวง การเมอื ง 12. ใครเป็นผู้บงั คับบญั ชาในสานกั นายกรฐั มนตรี ข. เลขาธิการสานกั นายกรัฐมนตรี ก. นายกรฐั มนตรี ค. เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ค. เลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรี 13. สานกั ใดมีหน้าทเี่ กี่ยวกบั ราชการทางการเมืองของสานักนายกรฐั มนตรี ก. สานกั นายกรฐั มนตรี ข. สานักเลขาธิการนายกรฐั มนตรี ค. สานักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ง. สานกั ปลัดนายกรฐั มนตรี
21 14. สานกั งานใดมหี นา้ ทเ่ี กี่ยวกบั ราชการของคณะรฐั มนตรี รัฐสภา และราชการในพระองค์ ก. สานักนายกรัฐมนตรี ข. สานักเลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี ค. สานกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ง. สานักปลดั นายกรัฐมนตรี 15. ราชการทั่วไปท่ีมิได้กาหนดไวเ้ ป็นหน้าทป่ี ระจาของสานกั นายกรัฐมนตรีเป็นหน้าทีข่ องสว่ นใด ก. สานักเลขาธิการนายกรฐั มนตรี ข. สานักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ค. สานักงานปลัดสานกั นายกรัฐมนตรี ง. สานักงานรัฐมนตรี 16. ใครเปน็ ผู้บังคับบญั ชาข้าราชการในสานักเลขาธิการนายกรฐั มนตรี ก. นายกรฐั มนตรี ข. เลขาธิการนายกรฐั มนตรี ค. เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ง. ปลัดสานกั นายกรัฐมนตรี 17. ใครเป็นผบู้ ังคับบญั ชาข้าราชการในสานกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ก. นายกรัฐมนตรี ข. เลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรี ค. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ง. ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี 18. ใครรบั ผดิ ชอบควบคุมราชการประจาในสานักนายกรฐั มนตรี ก. นายกรฐั มนตรี ข. ปลดั สานกั นายกฯ ค. เลขาธิการนายกฯ ง. เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี 19. บคุ คลใดตอ่ ไปนไี้ ม่ใชข่ ้าราชการพลเรอื นสามัญ ก. เลขาธิการคณะรฐั มนตรี ข. เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ค. ผู้ชว่ ยเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ง. ผูช้ ่วยเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี 20. ใครมหี น้าท่กี ากบั โดยทั่วไปซึง่ การบริหารราชการแผ่นดิน ก. นายกรัฐมนตรี ข. ปลัดสานกั นายกฯ ค. เลขาธกิ ารนายกฯ ง. รฐั มนตรีฯ
22 21. การจัดตั้งกระทรวงใหท้ าในลักษณะใด ข. ตราเปน็ พระราชบัญญัติ ก. เขียนบทบัญญตั ิในรฐั ธรรมนญู ง. ออกเปน็ กฎกระทรวง ค. ตราเปน็ พระราชกฤษฎีกา 22. การเปลยี่ นชอ่ื กระทรวงหรอื ทบวงใหท้ าในลักษณะใด ก. เขียนบทบญั ญตั ิในรัฐธรรมนูญ ข. ตราเปน็ พระราชบัญญตั ิ ค. ตราเป็นพระราชกฤษฎกี า ง. ออกเปน็ กฎกระทรวง 23. การยบุ กระทรวงและกรมให้ทาในลักษณะใด ข. ตราเป็นพระราชบญั ญตั ิ ก. เขียนบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ง. ออกเปน็ กฎกระทรวง ค. ตราเปน็ พระราชกฤษฎีกา 24. การแบง่ ส่วนราชการภายในกรมหรอื หนว่ ยงานที่มีชอื่ อยา่ งอ่นื ในระดับกรมให้ทาลกั ษณะใด ก. เขียนบทบัญญัติในรฐั ธรรมนูญ ข. ตราเป็นพระราชบัญญัติ ค. ตราเป็นพระราชกฤษฎกี า ง. ออกเปน็ กฎกระทรวง 25. การจดั ระเบยี บราชการของกระทรวงต้องประกอบดว้ ยสว่ นใดเป็นอย่างนอ้ ย ก. สานกั งานรัฐมนตรีและสานกั งานปลดั กระทรวง ข. สานกั งานรัฐมนตรแี ละกรม ค. กรม และสานกั งานปลดั กระทรวง ง. ทบวงและกรม 26. สานกั นโยบายและแผน ในกระทรวงตา่ งๆ ข้นึ ตรงต่อผู้ใด ก. รัฐมนตรี ข. ผู้อานวยการสานกั ค. ปลัดกระทรวง ง. อธิบดี 27. ผทู้ ร่ี ับผิดชอบในการกาหนดนโยบาย เปา้ หมาย และผลสมั ฤทธิ์ของงานในกระทรวง คอื ข้อใด ก. นายกรัฐมนตรี ข. รฐั มนตรี ค. ปลดั กระทรวง ง. อธิบดี 28. ผู้บังคับบัญชาขา้ ราชการของส่วนราชการในกระทรวงรองจากรัฐมนตรี คือข้อใด ก. เลขาธิการ ข. รัฐมนตรชี ่วย ค. ปลัดกระทรวง ง. อธิบดี
23 29. ผูใ้ ดเปน็ ผบู้ งั คบั บัญชาขา้ ราชการในสานักงานรฐั มนตรขี องแตล่ ะกระทรวง ก. รัฐมนตรวี ่าการกระทรวง ข. เลขานกุ ารรัฐมนตรี ค. เลขาธกิ ารสานักงานรัฐมนตรี ง. ปลัดกระทรวง 30. การแต่งตัง้ ผู้ดารงตาแหน่งเลขาธกิ าร ซงึ่ มีฐานะเทยี บเท่าอธิบดีในแตก่ ระทรวงกระทา ไดต้ ามขอ้ ใด ก. คณะรัฐมนตรใี ห้ความเห็นชอบ นายกรฐั มนตรีแตง่ ตั้ง ข. คณะรัฐมนตรอี นมุ ัติ โดยความเหน็ ชอบของรฐั มนตรีเจา้ กระทรวง ค. รฐั มนตรีเจ้ากระทรวงเปน็ ผู้นาเสนอคณะรัฐมนตรพี ิจารณาอนุมัติ ง. รฐั มนตรีเจา้ กระทรวงเป็นผพู้ จิ ารณาใหค้ วามเห็นชอบและลงนามแตง่ ตงั้ 31. ผดู้ ารงตาแหนง่ อธบิ ดหี รอื ตาแหน่งที่มีช่ือเรียกอยา่ งอน่ื ท่ีเทยี บเทา่ อธิบดใี หเ้ ปน็ ตาแหนง่ ตามขอ้ ใด ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปอ้ งกันและปราบปรามทจุ ริต ก. ผู้ดารงตาแหนง่ ผูอ้ านวยการระดบั สงู ข. ผดู้ ารงตาแหนง่ ระดบั สูง ค. ผู้ดารงตาแหน่งระดับต้น ง. ผู้ดารงตาแหน่งทางการเมอื ง 32. บคุ คลใดต่อไปนี้ไม่ไดเ้ ป็นข้าราชการการเมือง ข. ปลดั กระทรวง ก. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวง ง. ผู้ชว่ ยเลขานกุ ารรฐั มนตรี ค. เลขานุการรัฐมนตรี 33. ใครเปน็ ผู้ช่วยรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงในการสั่งและปฏบิ ัติราชการตามทีร่ ฐั มนตรมี อบหมาย ก. รฐั มนตรชี ่วยวา่ การกระทรวง ข. ปลัดกระทรวง ค. เลขานกุ ารรัฐมนตรี ง. อธิบดหี รือที่มชี ่ือเรยี กอยา่ งอนื่
24 34. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงเปน็ ผู้บงั คับบญั ชาสว่ นราชการระดบั กรม แตม่ ไิ ด้สงั กัดกระทรวง รฐั มนตรสี ามารถมอบหมายใครปฏบิ ัตริ าชการแทนได้ ก. รัฐมนตรีช่วยวา่ การกระทรวง ข. ปลดั กระทรวง ค. ผชู้ ว่ ยรัฐมนตรีวา่ การกระทรวง ง. เลขานกุ ารรฐั มนตรี 35. ใครเปน็ ผู้บังคบั บัญชาขา้ ราชการในสานักงานปลัดกระทรวง ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ข. รัฐมนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวง ค. เลขานุการรัฐมนตรี ง. ปลัดกระทรวง 36. สว่ นราชการซึง่ โดยสภาพและปริมาณงานไม่เหมาะสมทจี่ ะจดั ต้งั เป็นทบวงหรอื ทรวงซง่ึ มี ฐานะเทียบเทา่ กบั กระทรวง จะจัดตง้ั เป็นสานักงานตามขอ้ ใด ก. สานกั งานระดบั กรม ข. ทบวงในสังกัดสานกั นายกรฐั มนตรี ค. ทบวงในสังกดั กระทรวง ง. ทัง้ ข และ ค 37. รฐั มนตรวี ่าการทบวงท่สี ังกัดกระทรวง ให้ปฏิบตั ริ าชการตามข้อใด ก. ปฏบิ ัตริ าชการภายใต้กากบั ของนายกรฐั มนตรี ข. ปฏบิ ัตริ าชการภายใตก้ ากับของคณะรัฐมนตรี ค. ปฏิบัติราชการภายใต้กากับของรฐั มนตรวี ่าการกระทรวง ง. ปฏบิ ัติราชการภายใต้กากับของสานักงานรัฐมนตรีวา่ การกระทรวง 38. สานักงานปลัดทบวง มฐี านะเป็นอะไร ก. กรม ข. ทบวง ค. กระทรวง ง. สานกั งาน 39. การแบง่ ส่วนราชการแรกสุดของกรม คอื ขอ้ ใด ก. กอง ข. สานกั ค. หมวด ง. สานักงานเลขานุการกรม 40. ขอ้ ใดเปน็ ผบู้ งั คับบัญชาขา้ ราชการในกรม ก. เลขาธกิ าร ข. อธบิ ดี ค. ผอู้ านวยการ ง. เลขานุการรัฐมนตรี
25 41. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ งเก่ียวกับการมอบอานาจใหป้ ฏิบัตริ าชการแทน ก. ผู้ดารงตาแหน่งยังคงปฏิบตั ิหน้าท่ี แตเ่ พือ่ ความสะดวกรวดเร็วจึงใหผ้ ูอ้ ่ืนปฏบิ ตั ิราชการแทน ข. ผดู้ ารงตาแหน่งมภี าระงานอยา่ งอนื่ ไมส่ ามารถปฏิบตั หิ นา้ ทไี่ ดจ้ ึงใหผ้ อู้ ื่นปฏิบตั ริ าชการแทน ค. ผู้ดารงตาแหน่งไมอ่ ยู่กรณีฉุกเฉนิ แต่จาเปน็ ตอ้ งดาเนินงานนนั้ จึงใหผ้ ู้อน่ื ปฏบิ ตั ิราชการแทน ง. ผู้ดารงตาแหน่งไมอ่ ยหู่ รืออยแู่ ตไ่ ม่อาจปฏิบัติราชการได้ จงึ ให้ผ้อู ่ืนปฏิบัติราชการแทน 42. กรณที นี่ ายกรฐั มนตรไี ม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ ใหร้ องนายกรัฐมนตรีดาเนินการแทน คอื ขอ้ ใด ก. ปฏบิ ัตริ าชการแทน ข. รักษาราชการแทน ค. ทาหน้าทแ่ี ทน ง. รักษาการ 43. ระเบียบรกั ษาราชการแทนในระเบียบบริหารราชการแผน่ ดนิ ไมส่ ามารถใช้กับกระทรวงใด ก. กระทรวงทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์ ข. กระทรวงเก่ียวกบั งานตา่ งประเทศ ค. กระทรวงท่เี ก่ียวกบั ทหาร ง. กระทรวงที่สาคญั ตอ่ การขา่ ว 44. ผู้รบั นโยบายและคาส่งั จากนายกรฐั มนตรี มาปฏบิ ัติการใหเ้ หมาะสมกบั การปฏิบตั ิราชการใน ตา่ งประเทศ รวมถึงเป็นผ้บู งั คบั บญั ชาบุคคลในคณะผูแ้ ทนและขา้ ราชการฝ่ายพลเรอื นซงึ่ ประจาอยูใ่ นประเทศอ่นื ๆ คอื ขอ้ ใด ก. เอกอคั รราชทูต ข. รฐั มนตรี ค. หวั หน้าคณะผู้แทน ง. กงสลุ 45. ข้อใดคอื การบริหารราชการสว่ นภมู ภิ าค ข. ภาค และ จังหวดั ก. จังหวดั และ อาเภอ ง. เทศบาล และ เมอื งพัทยา ค. จังหวัด อาเภอ และ ตาบล 46. การยบุ และเปลี่ยนแปลงเขตจงั หวัดให้กระทาไดแ้ บบใด ก. เขยี นบทบญั ญัตใิ นรัฐธรรมนญู ข. ตราเปน็ พระราชบัญญตั ิ ค. ตราเป็นพระราชกฤษฎกี า ง. ออกเปน็ ประกาศกระทรวงมหาดไทย
26 47. ผู้ใดเปน็ ประธานคณะกรมการจงั หวัด ข. ผูไ้ ด้รับการแต่งตัง้ จากสภาจังหวดั ก. ผูว้ า่ ราชการจงั หวัด ง. อธบิ ดีกรมการปกครองท้องถน่ิ ค. รัฐมนตรีชว่ ยว่าการกระทรวงมหาดไทย 48. ผูว้ ่าราชการจงั หวดั รองผู้ว่าราชการจังหวดั และผชู้ ่วยผวู้ ่าราชการจังหวดั สังกัดใด ก. กรมการปกครองท้องถิน่ ข. สานกั นายกรฐั มนตรี ค. สานกั งานสว่ นภูมภิ าค ง. กระทรวงมหาดไทย 49. ก.ธ.จ. ยอ่ มาจากอะไร ข. คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ก. คณะกรรมการธารงคณุ ธรรมจงั หวดั ง. คณะกรรมการคณุ ธรรมจงั หวดั ค. คณะกรรมการธรุ การจงั หวดั 50. การตั้ง ยุบ เปล่ียนแปลง เขตอาเภอให้กระทาได้ลกั ษณะใด ก. เขยี นบทบญั ญตั ใิ นรัฐธรรมนญู ข. ตราเปน็ พระราชบัญญตั ิ ค. ตราเปน็ พระราชกฤษฎีกา ง. ออกเปน็ ประกาศกระทรวงมหาดไทย 51. การจดั ระเบยี บราชการสว่ นทอ้ งถิ่นตาม พ.ร.บ. ใด ทไี่ มม่ ีแล้วในปัจจุบนั ก. องคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั ข. เทศบาล ค. สุขาภิบาล ง. องค์การบรหิ ารสว่ นตาบล 52. ก.พ.ร. ย่อมาจากอะไร ก. คณะกรรมการพฒั นาคณุ ธรรมข้าราชการ ข. คณะกรรมการพฒั นาสวัสดกิ ารข้าราชการ ค. คณะกรรมการพทิ กั ษ์คุณธรรมขา้ ราชการ ง. คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ 53. ประธาน ก.พ.ร. คือ ข. รฐั มนตรีคนหน่งึ ก. นายกรัฐมนตรี ง. เลขาธกิ าร ก.พ.ร. ค. ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ
27 54. กรรมการผูท้ รงคุณวฒุ ิ ใน ก.พ.ร. ซึง่ คณะรฐั มนตรแี ตง่ ตั้ง มีกค่ี น ก. ไมเ่ กนิ 5 คน ข. ไม่เกิน 9 คน ค. ไมเ่ กิน 10 คน ง. ไม่เกิน 12 คน 55. ข้อใดกลา่ วไมถ่ กู ต้องเกีย่ วกบั กรรมการผ้ทู รงคุณวฒุ ิใน ก.พ.ร. ก. มีสญั ชาติไทย และไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ข. ไมเ่ ปน็ ผู้ดารงตาแหนง่ ทางการเมือง ค. พ้นจากตาแหน่งแลว้ ได้รบั แตง่ ตงั้ ไดอ้ กี ง. ดารงตาแหนง่ และมีส่วนได้เสยี รัฐวิสาหกิจ 56. กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ใิ น ก.พ.ร. มีวาระคราวละก่ีปี ก. 2 ปี ข. 4 ปี ค. 5 ปี ง. 6 ปี 57. การประชุม ก.พ.ร. ตอ้ งมีคณะกรรมการมารว่ มประชมุ เท่าไร จงึ ถือเปน็ องค์ประชมุ ก. ไม่นอ้ ยกว่าก่ึงหนงึ่ ข. สามในสี่ ค. หนึง่ ในสาม ง. สองในสาม 58. การบริหารกิจการบา้ นเมืองทด่ี ี เพอ่ื ให้บรรลเุ ป้าหมายใด ก. เกดิ ประโยชนส์ ขุ ของประชาชน ข. เกดิ ผลสมั ฤทธ์ติ ่อภารกจิ ของรัฐ ค. ไม่มขี ้ันตอนการปฏบิ ตั งิ านเกินจาเปน็ ง. ถกู ทุกข้อ 59. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเกย่ี วกบั การบรหิ ารราชการเพ่ือให้เกิดประโยชน์สขุ ของประชาชน ก. ใหถ้ อื วา่ ประชาชนเปน็ ศนู ยก์ ลางท่จี ะไดร้ บั บริการจากรัฐ ข. ประชาชนทกุ คนตอ้ งได้รับสิทธท์ิ กุ ประการทร่ี ัฐสามารถจดั หาให้ได้ ค. การกาหนดแผนปฏิบตั ริ าชการให้ส่วนราชการมรี ายละเอยี ดชดั เจน ง. การจัดซอ้ื จัดจ้างใหว้ ิเคราะหผ์ ลเสียทจี่ ะเกดิ สังคม
28 60. สว่ นราชการทาแผนปฏิบตั ิราชการไวล้ ว่ งหน้า จัดเปน็ การบริหารราชการลักษณะใด ก. เพอ่ื ประโยชน์สขุ ของประชาชน ข. เพอ่ื ให้เกดิ ผลสมั ฤทธ์ิต่อภารกจิ ของรัฐ ค. เพื่อใหม้ ีประสทิ ธภิ าพและเกิดความคุม้ คา่ ในเชิงภารกิจของรฐั ง. เพอ่ื ใหม้ ีการปรบั ปรุงภารกจิ ของส่วนราชการให้ทนั ต่อสถานการณ์ 61. แผนบริหารราชการแผ่นดนิ ตลอดระยะเวลาการทางานของคณะรัฐมนตรี เป็นแผนระยะก่ปี ี ก. 2 ปี ข. 4 ปี ค. 5 ปี ง. 8 ปี ข้อมูลควรรู้ ข้อ 61 นเ้ี ป็นเนือ้ หาของพระราชบญั ญัติแรกเรม่ิ และของพระราชกฤษฎีกา ว่าดว้ ยหลักเกณฑ์การบริหารกิจการบา้ นเมืองท่ีดี ฉบบั แรกเรมิ่ ในปี พ.ศ. 2546 แต่วา่ ใน ฉบบั ที่ 2 พ.ศ. 2562 ไดม้ ีการยกเลิกข้อความนั้นแล้ว ยกเลิกทาแผนการบริหารราชการ แผน่ ดินตลอดระยะเวลาของคณะรัฐมนตรี วาระ 4 ปี ยกเลิกไปและให้ทาเปน็ แผนปฏิบตั ิ ราชการของสว่ นราชการนน้ั ๆ โดยให้เป็นแผนปฏบิ ัตริ าชการของส่วนราชการ ระยะ 5 ปี แผนบรหิ ารราชการแผน่ ดิน ระยะ 4 ปี (ยกเลกิ แล้ว พรอ้ มกบั ยกเลกิ แผนนิตบิ ญั ญัติ) แผนปฏบิ ัติราชการของสว่ นราชการ ระยะ 5 ปี (ใช้ในปจั จุบนั ) สังเกตชือ่ แผนให้ดๆี (เพราะบางที ขอ้ สอบอาจถามของเก่ากไ็ ด้ ใครจะไปรู้ ใช่ปะละ) 62. สว่ นราชการจัดทารายงานแสดงผลสมั ฤทธิ์ของแผนปฏิบัติราชการประจาปเี สนอต่อ คณะรฐั มนตรีเม่อื ใด ก. ระหว่างการเร่ิมตน้ ปฏิบัตงิ านประจาปี ข. เม่ือมกี ารจดั ทาโครงการแตล่ ะแผนเสร็จ ค. เมอื่ สน้ิ ปีงบประมาณ ง. เมอื่ คณะรฐั มนตรีรอ้ งขอให้จดั ส่งแผนงาน 63. โดยปกติการสัง่ ราชการกระทาลักษณะใด ข. กระทาโดยวาจา ก. ทาคาสัง่ เปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร ง. ทาโดยการใชบ้ ันทกึ ค. แล้วแตค่ วามเหมาะสม
29 64. หน่วยงานใดต้องร่วมกบั สานกั งบประมาณเพอ่ื ประเมนิ ความคมุ้ ค่าในการปฏิบัติภารกิจของรัฐ ก. สานักงานเลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี ข. สานกั งานคณะกรรมการพัฒนาข้าราชการ ค. สานกั งานประเมนิ การใชจ้ ่ายภาครฐั และรฐั วสิ าหกจิ ง. สานักงานคณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ 65. ส่วนราชการทไ่ี ดร้ บั การตดิ ตอ่ สอบถามเป็นหนงั สอื จากประชาชนต้องตอบคาถามภายในกว่ี นั ก. 7 วนั ข. 10 วนั ค. 15 วัน ง. 30 วัน 66. ศนู ยบ์ ริการรว่ มระดับอาเภอใหจ้ ดั ไว้ท่ีใด ข. สว่ นราชการใดกไ็ ด้ตามความเหมาะสม ก. ทว่ี ่าการอาเภอ ง. หอประชมุ ราชการประจาอาเภอ ค. สานักงานปลัดอาเภอ 67. การทบทวนภารกจิ ของส่วนราชการตอ้ งคานงึ ถึงสง่ิ ใด ก. แผนการบรหิ ารราชการแผน่ ดิน ข. นโยบายของคณะรฐั มนตรี ค. กาลังเงนิ งบประมาณของประเทศ ง. ถกู ทุกข้อ 68. เป็นหน้าทขี่ องผูใ้ ดทตี่ อ้ งจัดใหส้ ่วนราชการภายในกระทรวงรบั ผิดชอบเกย่ี วกบั การบริการ ประชาชนรว่ มกนั จัดตั้งศูนย์บริการร่วม เพอ่ื อานวยความสะดวกแก่ประชาชน ก. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวง ข. เลขานุการรัฐมนตรี ค. ปลัดกระทรวง ง. ผอู้ านวยการสานกั งานบริการร่วม 69. ระบบเครอื ขา่ ยสาระสนเทศกลางมีไว้เพอื่ จดุ ประสงคใ์ ด ก. อานวยความสะดวกและความรวดเร็ว ข. ลดคา่ ใช้จา่ ยในการเดนิ ทางตดิ ตอ่ ราชการ ค. สรา้ งฐานข้อมูลสาหรับเผยแพร่สว่ นงาน ง. แจ้งขา่ วสารแก่ประชาชนให้รบั ทราบกัน
30 70. ส่วนราชการใดดาเนินการใหบ้ รกิ ารท่ีมีคุณภาพและเปน็ ไปตามเป้าหมายส่งผลใหเ้ กิดสงิ่ ใดได้ ก. การเลื่อนขน้ั เงนิ เดอื นของข้าราชการเป็นไปอยา่ งรวดเร็ว ข. หัวหน้าสว่ นราชการจะไดร้ ับการเล่ือนวิทยฐานะหรอื ตาแหนง่ ทางราชการ ค. ข้าราชการจะได้รับเงนิ โบนสั ประจาปเี พิม่ เตมิ เป็นเงินเดือนใหเ้ ปล่า 1 – 3 เดือน ง. ก.พ.ร. เสนอคณะรฐั มนตรจี ดั สรรเงินพเิ ศษเพิ่มเติมเปน็ บาเหนจ็ ความชอบแก่ส่วนราชการ 1. ข 2. ค 3. ข 4. ก 5. ก 6. ค 7. ข 8. ค 9. ง 10. ง 11. ก 12. ก 13. ข 14. ค 15. ค 16. ข 17. ค 18. ข 19. ข 20. ก 21. ข 22. ค 23. ค 24. ง 25. ก 26. ก 27. ข 28. ค 29. ข 30. ค 31. ข 32. ข 33. ก 34. ก 35. ง 36. ง 37. ค 38. ก 39. ง 40. ข 41. ก 42. ข 43. ค 44. ค 45. ก 46. ข 47. ก 48. ง 49. ข 50. ค 51. ค 52. ง 53. ก 54. ค 55. ง 56. ข 57. ก 58. ง 59. ก 60. ข 61. ข 62. ค 63. ก 64. ง 65. ค 66. ก 67. ง 68. ค 69. ก 70. ง
31 สรุปแนวขอ้ สอบ รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 1. รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย ฉบบั ปัจจบุ นั ประกาศลงในราชกิจจานเุ บกษาเมือ่ ใด ก. 1 มกราคม พ.ศ. 2560 ข. 1 มนี าคม พ.ศ. 2560 ค. 6 เมษายน พ.ศ. 2560 ง. 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 2. รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ฉบับปัจจุบนั แบ่งเปน็ ท้งั หมดก่หี มวด ก. 9 หมวด และบทเฉพาะกาล ข. 12 หมวด และบทเฉพาะกาล ค. 16 หมวด และบทเฉพาะกาล ง. 20 หมวด และบทเฉพาะกาล 3. กฎหมายเก่ยี วกบั พระมหากษตั รยิ แ์ ละความมน่ั คงของสถาบันกษัตรยิ ์อยู่ในหมวดใด ก. หมวดที่ 1 ข. หมวดท่ี 2 ค. หมวดท่ี 3 ง. หมวดที่ 4 4. มาตรา 1 ของรา่ งรฐั ธรรมนญู บญั ญตั ิไวป้ ระการใด ก. ประเทศไทยเปน็ ประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ข. ประเทศไทยเปน็ ราชอาณาจักรอันหนึง่ อันเดียว จะแบ่งแยกมไิ ด้ ค. อานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข ง. บคุ คลมีสิทธิเท่าเทียมในศกั ดศ์ิ รีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรภี าพ ความเสมอภาค 5. ประเทศไทยปกครองในระบอบใด ก. ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ข. ระบอบประชาธปิ ไตยของปวงชนชาวไทย ค. ระบอบประชาธิปไตยอันเทยี่ งธรรมเพ่ือประโยชน์สว่ นรวม ง. ระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข
32 6. รัฐธรรมนูญ กาหนดให้อานาจอธิปไตยเป็นของผู้ใด ก. ปวงชนชาวไทย ข. พระมหากษัตรยิ ์ ค. รฐั สภา ง. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 7. พระมหากษัตริย์ทรงใชอ้ านาจอธปิ ไตยผา่ นทางใดตามบทบญั ญตั ิแหง่ รฐั ธรรมนญู ก. รัฐสภา ข. คณะรฐั มนตรี ค. ศาล ง. ถกู ทกุ ข้อ 8. ขอ้ ใดคือกฎหมายสงู สดุ ของประเทศ ข. พระราชบญั ญตั ิ ก. รัฐธรรมนูญ ง. พระราชกาหนด ค. พระราชกฤษฎีกา 9. เมื่อมีกรณเี กิดขนึ้ และไม่มบี ทบญั ญัติแหง่ รัฐธรรมนญู ฉบับนีบ้ ังคับในกรณใี ดน้นั ใหก้ ระทาการน้นั หรอื วนิ จิ ฉยั กรณีนัน้ ตามแบบใด ก. กฎการปกครองในแบบสากล ข. ธรรมเนยี มการปกครองประเทศ ค. ครรลองการปกครองแบบประชาธปิ ไตย ง. ประเพณกี ารปกครองประเทศไทย 10. ข้อใดกลา่ วถกู ตอ้ งเก่ียวกับบทบญั ญัติแหง่ พระมหากษตั รยิ ์ ก. พระมหากษตั รยิ เ์ ปน็ อคั รศาสดาปถัมภก ข. พระมหากษัตรยิ ไ์ ม่ไดท้ รงดารงตาแหน่งจอมทัพไทย ค. พระมหากษัตรยิ ์ทรงดารงอยูใ่ นฐานะอันเปน็ ทเ่ี คารพสักการะ ง. พระมหากษัตรยิ ท์ รงไว้ซึ่งพระราชอานาจในการถอดถอนสมาชกิ รัฐสภา 11. ข้อใดกล่าวไมถ่ กู ต้องในร่างรัฐธรรมนูญฉบับลงประชามติ ก. พระมหากษตั รยิ ์ทรงดารงตาแหนง่ จอมทพั ไทย ข. พระมหากษัตรยิ ์ทางเปน็ พุทธมามกะ และทรงเปน็ อัครศาสนปู ถัมภก ค. บคุ คลสามารถกล่าวหาหรือฟ้องรอ้ งพระมหากษัตรยิ ไ์ ดต้ ามประพฤติ ง. ผู้ใดจะกลา่ วหาหรือฟอ้ งรอ้ งพระมหากษัตรยิ ใ์ นทางใดๆมิได้
33 12. คณะองคมนตรีมีไม่เกินกีค่ น ก. ประธานหนึ่งคนและองคมนตรีอ่ืนอีกไม่เกนิ สบิ ห้าคน ข. ประธานหนึ่งคนและองคมนตรีอน่ื อกี ไม่เกินสิบหกคน ค. ประธานหน่ึงคนและองคมนตรีอ่นื อกี ไมเ่ กนิ สบิ แปดคน ง. ประธานหน่งึ คนและองคมนตรีอ่นื อีกไม่เกนิ ยีส่ ิบคน 13. บุคคลใดเปน็ ผ้ลู งนามรบั สนองพระบรมราชโองการแตง่ ต้งั ประธานองคมนตรี ก. นายกรัฐมนตรี ข. ประธานรัฐสภา ค. ประธานสภานติ บิ ญั ญัติแห่งชาติ ง. เลขาธกิ ารสานกั พระราชวัง 14. บคุ คลใดเปน็ ผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแตง่ ตัง้ ผู้สาเรจ็ ราชการแทน ก. นายกรฐั มนตรี ข. ประธานรัฐสภา ค. ประธานสภานติ บิ ัญญัติแหง่ ชาติ ง. เลขาธิการสานกั พระราชวงั 15. กรณที พี่ ระมหากษัตรยิ ์ไมอ่ าจปฏิบัติภาระงานได้ และไม่ได้แตง่ ตัง้ ผู้สาเรจ็ ราชการแทน ใครจะปฏบิ ัติหนา้ ท่ีผ้สู าเรจ็ ราชการแทนพระองค์ ก. นายกรัฐมนตรี ข. ประธานรฐั สภา ค. ประธานองคมนตรี ง. เลขาธิการสานักพระราชวัง 16. การสืบราชสนั ตติวงศ์ให้เป็นไปตามขอ้ ใด ข. ประเพณกี ารปกครอง ก. กฎหมายรัฐธรรมนญู ง. การประชมุ ของคณะองคมนตรี ค. กฎมณเทยี รบาล 17. กรณที ีร่ าชบลั ลังก์วา่ งลง และพระมหากษัตริย์ทรงแต่งต้ังรชั ทายาทไว้แล้ว ผใู้ ดเป็น ผู้อัญเชิญรชั ทายาทข้ึนทรงราชย์ ก. นายกรัฐมนตรี ข. ประธานสภานติ ิบัญญัติแหง่ ชาติ ค. ประธานรัฐสภา ง. ประธานองคมนตรี
34 18. กรณที ่ีราชบลั ลงั คว์ า่ งลง ระหวา่ งทย่ี ังไม่มีประกาศอัญเชญิ องค์พระราชทายาทหรอื องคผ์ ูส้ ืบราชสนั ตติวงคข์ นึ้ ทรงราชย์ ผใู้ ดสาเร็จราชการแทนพระองคช์ ว่ั คราวก่อน ก. ประธานรัฐสภา ข. ประธานองคมนตรี ค. ผทู้ ี่ไดร้ บั คัดเลอื กจากองคมนตรี ง. นายกรัฐมนตรี 19. ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ กู ต้องเกีย่ วกับสทิ ธิ เสรีภาพ ของประชาชน ก. ชายและหญิงมีสิทธเิ ทา่ เทยี มกนั ข. บคุ คลย่อมมีสิทธิ เสรีภาพในชีวติ และรา่ งกาย ค. การเลือกปฏิบตั ิตอ่ บุคคลด้วยเหตใุ ดๆสามารถทาได้ ง. บคุ คลไดร้ บั ความคุม้ ครองทางกฎหมายเท่าเทยี มกนั 20. ข้อใดกล่าวไมถ่ ูกตอ้ งเกยี่ วกบั การกระทาในคดีอาญา ก. ให้สันนษิ ฐานไว้ก่อนว่าผ้ตู ้องหาหรือจาเลยไม่มคี วามผิด ข. ก่อนมคี าพพิ ากษาถงึ ท่ีสุดไม่สามารถปฏบิ ัติต่อบคุ คลนน้ั เสมือนเป็นผู้กระทาผดิ ค. การควบคุมหรือคุมขังผู้ต้องหาหรือจาเลยใหก้ ระทาอยา่ งแน่นหนาเพือ่ ไมใ่ หห้ ลบหนี ง. ในคดอี าญาจะบังคับใหบ้ คุ คลใหก้ ารเป็นปฏิปักษต์ ่อตนเองมิได้ 21. สอื่ มวลชนมเี สรีภาพในการเสนอข่าวสาร แสดงความคิดเห็นไดต้ ามข้อใด ก. ตามจรยิ ธรรมแห่งวิชาชีพ ข. ตามกฎหมายการเป็นสอ่ื มวลชน ค. ตามประเพณปี ฏิบัติ ง. ตามธรรมเนยี มปฏบิ ตั ขิ องสอื่ มวลชน 22. ข้อใดไมอ่ าจทาไดต้ ามกฎหมายรฐั ธรรมนูญบัญญัตไิ ว้ ก. การเนรเทศบคุ คลสญั ชาติไทยออกนอกราชอาณาจักร ข. การหา้ มไม่ให้ผู้มสี ัญชาติไทยเข้ามาในราชอาณาจกั ร ค. การถอนสญั ชาตขิ องบุคคลซึ่งมีสญั ชาติไทยโดยการเกดิ ง. ไมอ่ าจทาไดใ้ นทกุ กรณี เฉลย 1. ค 2. ค 3. ข 4. ข 5. ง 6. ก 7. ง 8. ก 9. ง 10. ค 11. ค 12. ค 13. ข 14. ข 15. ค 16. ค 17. ค 18. ข 19. ค 20. ค 21. ก 22. ง
35 23. ข้อใดไมอ่ าจทาไดต้ ามกฎหมายรัฐธรรมนูญบัญญตั ไิ ว้ ก. การเนรเทศบคุ คลสญั ชาตไิ ทยออกนอกราชอาณาจักร ข. การห้ามไมใ่ หผ้ มู้ ีสญั ชาติไทยเข้ามาในราชอาณาจกั ร ค. การถอนสัญชาตขิ องบุคคลซึ่งมีสัญชาตไิ ทยโดยการเกดิ ง. ไม่อาจทาได้ในทกุ กรณี 24. ข้อใดไม่ใช่สทิ ธแิ ละเสรภี าพของประชาชนชาวไทย ก. การเข้ารว่ มชุมนมุ ชมรม หรือสมาคมต่างๆ ข. เสนอเรื่องราวร้องทกุ ข์ตอ่ หนว่ ยงานของรฐั ค. อนรุ ักษ์ ฟื้นฟู สง่ เสริม ศลิ ปะ วฒั นธรรม ง. ร่วมมอื และสนับสนุนการอนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ ม 25. การจากัดสิทธเิ สรีภาพในการรวมกนั เปน็ หมคู่ ณะสามารถกระทาได้หรือไม่ เชน่ ไร ก. กระทาไมไ่ ด้ บคุ คลย่อมมีเสรีภาพดงั กลา่ ว ข. กระทามิได้ บุคคลย่อมมเี สรีภาพในการรวมกนั เปน็ หมู่คณะ ค. กระทาได้ โดยอาศัยอานาจแห่งบทเฉพาะกาลในการประกาศควบคมุ การชุมนุม ง. กระทาได้ โดยอาศัยอานาจตามบญั ญัติแห่งกฎหมายท่ตี ราขน้ึ เพือ่ คุ้มครองประโยชน์ สาธารณะ เพ่ือรักษาความสงบเรยี บร้อย หรือศีลธรรมอนั ดีของประชาชน 26. บุคคลและชุมชนมสี ิทธติ ามขอ้ ใดเกยี่ วกบั หน่วยงานของรฐั ก. เขา้ ชอ่ื กนั เพ่ือเสนอแนะตอ่ หนว่ ยงานของรัฐ ข. เขา้ ชือ่ กนั เพื่อถอดถอนบคุ คลในหน่วยงานของรัฐ ค. เขา้ ชือ่ กนั เพอ่ื งดเวน้ การรว่ มกับหน่วยงานของรฐั กระทาการใดๆ ง. เข้าชอ่ื กันเพอ่ื รอ้ งทกุ ข์หรอื อุทธรณต์ อ่ หน่วยงานของรัฐอันเกดิ จากผลกระทบทไ่ี ด้รับ 27. ชมุ ชนจดั ให้มีระบบสวัสดิการของชมุ ชนถอื เป็นขอ้ ใดตามบทบญั ญัติแหง่ รัฐธรรมนูญ ก. หนา้ ทขี่ องชมุ ชน ข. สทิ ธขิ องชุมชน ค. ความรบั ผิดชอบของชุมชน ง. การดาเนินการของชมุ ชน
36 28. องคก์ รของผู้บรโิ ภคทคี่ ุม้ ครองและพิทักษ์สทิ ธขิ องผูบ้ ริโภคเปน็ ไปตามข้อใด ก. เป็นองคก์ ารมหาชน ข. เปน็ นิตบิ ุคคล ค. เป็นหน่วยงานของรฐั ง. เปน็ ไปตามที่กฎหมายบญั ญัติ 29. ข้อใดเป็นหนา้ ท่ขี องรฐั ก. พทิ ักษร์ ักษาไวซ้ ่ึงสถาบนั พระมหากษัตริย์ ข. ดูแลใหม้ ีการปฏิบตั ติ ามและบงั คบั ใชก้ ฎหมายอยา่ งเคร่งครดั ค. ดาเนนิ การใหป้ ระชาชนได้รบั บรกิ ารสาธารณสุขที่มีประสทิ ธภิ าพอยา่ งทว่ั ถึง ง. เปน็ หน้าที่ของรัฐทกุ ขอ้ 30. บคุ คลใดทีม่ รี ายได้ไม่เพียงพอแกก่ ารยังชพี มีสิทธไิ ดร้ ับความชว่ ยเหลือจากรัฐ ก. บคุ คลอายเุ กินหกสิบปี ข. บุคคลผ้ยู ากไร้ ค. บุคคลท่ีว่างงาน ง. ถูกทง้ั ข้อ ก และ ข 31. รฐั ธรรมนูญ หมวดหน้าทีข่ องรัฐ ในด้านการศึกษา ตามาตรา 54 คือขอ้ ใด ก. รฐั ต้องดาเนินการใหเ้ ดก็ ทุกคนไดร้ บั การศึกษาเปน็ เวลาสบิ สองปี ต้งั แตก่ อ่ นวยั เรยี น จนจบการศึกษาภาคบังคับอยา่ งมคี ุณภาพโดยไม่เก็บคา่ ใชจ้ า่ ย ข. รฐั ตอ้ งจัดการศกึ ษาให้บคุ คลมสี ิทธิไดร้ บั การศึกษาโดยเทา่ เทยี มเสมอกนั ไม่น้อยกวา่ สบิ สองปี ค. รัฐต้องจัดการศกึ ษาภาคบังคับไมน่ อ้ ยกว่าเกา้ ปีสาหรับเดก็ ทกุ คน จนสาเร็จการศึกษา มัธยมศกึ ษาตอนตน้ โดยไมเ่ กบ็ ค่าใช้จา่ ย ง. รัฐต้องสง่ เสรมิ และจดั การศกึ ษาให้บคุ คลไมน่ ้อยกว่าสิบสองปี โดยไม่เกบ็ คา่ ใชจ้ ่าย 32. ตามรัฐธรรมนญู 2560 การศึกษาท้ังปวงต้องมุง่ พัฒนาผู้เรยี นให้เป็นเช่นไร ก. ใหเ้ ปน็ คนเกง่ ในศาสตรด์ า้ นต่างๆครอบคลมุ ข. ให้เปน็ คนมีศีลธรรม จรยิ ธรรม และมารยาท ค. ให้เปน็ คนดี มวี ินยั ภูมใิ จในชาติ เช่ยี วชาญได้ตามความถนัดของตน ง. ให้เปน็ คนซ่อื สัตย์ ขยัน มุ่งม่ัน ตัง้ ใจ และเคารพสิทธิ เสรภี าพของคนอ่ืน
37 33. รฐั พงึ จัดใหม้ ีขอ้ ใด เพ่ือเป็นกรอบในการจดั ทาแผนตา่ งๆ ให้สอดคลอ้ งนาไปสู่ เปา้ หมายในการพฒั นาประเทศ ก. ยุทธศาสตร์ชาติ ข. แผนปฏริ ปู แหง่ ชาติ ค. แผนพฒั นาประเทศ ง. นโยบายการบริหารประเทศ 34. ขอ้ ใดไม่ใชแ่ นวนโยบายแหง่ รฐั ก. รฐั พงึ จัดใหม้ ีและสง่ เสรมิ การวจิ ัยและพฒั นาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ข. รฐั พงึ เสริมสร้างความเขม้ แขง็ ของครอบครวั ค. รัฐพงึ ส่งเสรมิ และให้ความค้มุ ครองชาวไทยกลุม่ ชาตพิ ันธ์ต่างๆใหม้ สี ิทธดิ ารงชีวติ ง. รัฐพงึ สนบั สนุน ส่งเสรมิ ใหค้ วามรู้แกป่ ระชาชนถงึ อนั ตรายทีเ่ กดิ จากการทุจรติ 35. รฐั พึงกระทาการตามขอ้ ใดก่อนตรากฎหมายทุกฉบบั ก. จัดให้มกี ารรับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวขอ้ ง ข. ศึกษาขอ้ มูลต่างๆให้รอบดา้ นกอ่ นการผา่ นร่างกฎหมาย ค. วิจยั ขอ้ มูลและปัจจยั ทเี่ ก่ียวขอ้ งกับรา่ งกฎหมายฉบบั น้นั ๆ ง. ทาประชามติจากประชาชนถึงประเดน็ ในการรา่ งกฎหมาย 36. มาตรการที่รัฐพึงจดั ให้ชว่ ยเหลือเกษตรกรคอื ข้อใด ก. กลไกท่ีทาให้เกษตรกรใช้ตน้ ทุนต่า ข. มาตรการท่ีช่วยให้เกษตรสามารถแขง่ ขนั ในตลาดได้ ค. ช่วยเหลอื เกษตรผูย้ ากไร้ใหม้ ที ท่ี ากนิ โดยปฏริ ปู ทดี่ ิน ง. ถูกทกุ ข้อ 37. ในการพัฒนาประเทศ รฐั พึงคานึงถงึ ความสมดุลระหว่างการพัฒนาด้านใด ก. ด้านวตั ถุกบั ด้านจิตใจ ข. ด้านมนษุ ยก์ บั ดา้ นสังคม ค. ด้านการเมอื งกบั ด้านประชาชน ง. ดา้ นกฎหมายกับด้านคณุ ธรรม
38 38. รฐั สภา ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง ข. สภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรี ก. สภาผแู้ ทนราษฎรและวฒุ ิสภา ง. วฒุ สิ ภาและสภานิตบิ ัญญัติ ค. สภาผ้แู ทนราษฎรและสภานติ ิบญั ญัติ 39. บุคคลใดดารงตาแหนง่ ประธานรัฐสภา ข. สมาชิกวฒุ สิ ภาทไ่ี ด้รบั การเลือก ก. นายกรัฐมนตรี ง. ประธานสภาผู้แทนราษฎร ค. ประธานวฒุ สิ ภา 40. รองประธานรัฐสภาคอื ข้อใด ข. ประธานวุฒิสภา ก. บคุ คลผู้มาจากการแต่งตัง้ ง. ประธานสภานติ ิบญั ญัติ ค. ประธานสภาผู้แทนราษฎร 41. กรณที บี่ ุคคลซ่งึ สมควรไดเ้ ป็นประธานรัฐสภาไม่อยู่ หรอื ทาหน้าท่ไี ม่ได้ ใหใ้ ครทาหน้าที่ ประธานรฐั สภาแทน ก. ประธานวุฒิสภา ข. ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร ค. นายกรฐั มนตรี ง. สมาชกิ วุฒสิ ภาทีอ่ ายุมากท่ีสุด 42. สมาชกิ สภาจานวนเทา่ ใดมสี ิทธิเข้าชือ่ รอ้ งใหส้ มาชกิ สภาคนใดพ้นจากสภาพ ก. หนึ่งในสามของสมาชิกทง้ั หมด ข. สามในสี่ของสมาชกิ ทั้งหมด ค. หนง่ึ ในห้าของสมาชกิ ท้งั หมด ง. หนง่ึ ในสิบของสมาชกิ ทั้งหมด 43. รา่ งพระราชบัญญตั ปิ ระกอบรัฐธรรมนญู และรา่ งพระราชบัญญัตจิ ะตราขน้ึ ได้ด้วย คาแนะนาและยินยอมของขอ้ ใด ก. สภาผู้แทนราษฎร ข. วฒุ ิสภา ค. รัฐสภา ง. ศาลรฐั ธรรมนญู 44. สภาผแู้ ทนราษฎร ประกอบด้วยสมาชกิ กค่ี น ข. 400 คน ก. 300 คน ง. 350 คน ค. 500 คน
39 45. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรซ่ึงมาจากการเลอื กต้งั แบบแบง่ เขตมีก่ีคน ก. 150 คน ข. 250 คน ค. 300 คน ง. 350 คน 46. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซงึ่ มาจากบญั ชีรายชื่อของพรรคการเมอื ง กีค่ น ก. 150 คน ข. 250 คน ค. 300 คน ง. 350 คน 47. ข้อใดกล่าวถกู ตอ้ งเกี่ยวกบั รัฐสภาหลงั มกี ารเลอื กต้งั ก. สมาชกิ วฒุ ิสภาวาระเรมิ่ แรกมี 200 คน ตามมาตรา 107 ข. สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรซึ่งมาจากการแบ่งเขตเลือกตัง้ จานวน 500 คน ค. สมาชกิ รฐั สภาวาระเริ่มแรกมจี านวน 750 คน รว่ มเลอื กนายกรัฐมนตรี ง. สมาชกิ รัฐสภาจานวน 250 คน ในวาระเรมิ่ แรก ตามมาตราในบทเฉพาะกาล 48. วฒุ ิสภา ตามรัฐธรรมนูญฯ มาตรา 107 ประกอบดว้ ยสมาชกิ ก่คี น ก. 150 คน ข. 200 คน ค. 250 คน ง. 300 คน 49. ตามรัฐธรรมนูญ ฯ มาตรา 107 สมาชกิ วฒุ ิสภา ไดม้ าอยา่ งไร ก. เลือกกันเองของบคุ คลซ่งึ มีความรู้ ความเชีย่ วชาญ ประสบการณ์ อาชพี ทห่ี ลากหลายของสังคม ข. สภาผูแ้ ทนราษฎรลงมติแต่งตง้ั สมาชกิ วฒุ สิ ภาจากผูล้ งสมัคร ค. ประชาชนลงคะแนนเลือกสมาชิกวฒุ ิสภาและมาจากการสรรหา ง คณะรฐั มนตรีแต่งต้ังขึ้นมาจากผูท้ รงคณุ วฒุ ิตามจานวนที่กาหนด 50. สมาชิกวฒุ ิสภา ทม่ี สี ทิ ธิลงรับสมคั รเลอื กตั้งได้ ตอ้ งมีอายกุ ี่ปี ก. 25 ปี ข. 30 ปี ค. 35 ปี ง. 40 ปี
40 51. ประเด็นคาถามพ่วง คอื ข้อใด ก. ให้สภาผ้แู ทนราษฎรเป็นผอู้ อกเสียงเลอื กนายกรฐั มนตรี ข. ใหส้ มาชกิ วฒุ ิสภาในรฐั สภาร่วมออกเสียงเลือกนายกรฐั มนตรี ค. ใหส้ มาชกิ วุฒสิ ภามีสิทธเิ สนอชอ่ื นายกรฐั มนตรีนอกบญั ชรี ายชื่อพรรคการเมอื ง ง. ให้สมาชิกวฒุ สิ ภามสี ทิ ธิเสนอชอื่ นายกรฐั มนตรี และรว่ มลงมติเลอื กนายกรฐั มนตรี 52. จากประเด็นคาถามพว่ งทผี่ า่ นการลงประชามติ ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกฎหมายใด ก. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพมิ่ จานวนข้นึ ข. สมาชกิ วฒุ สิ ภาจานวน 250 คน ในช่วง 5 ปแี รก เมอ่ื ประกาศใชร้ ัฐธรรมนญู ค. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวฒุ สิ ภาตา่ งเพม่ิ จานวนอกี สภาละ 50 คน ง. สมาชกิ วฒุ ิสภามีสทิ ธิเสนอชือ่ นายกรัฐมนตรชี ่วง 5 ปีแรกหลงั ประกาศใชร้ ัฐธรรมนูญ 53. สรุป คาถามพว่ ง ท่ผี า่ นประชามติของประชาชน ทาให้จานวนสมาชิกในรฐั สภาเป็นเช่นไร ก. 5 ปแี รก ส.ส. 500 คน และ ส.ว. 200 คน ข. 5 ปีแรก ส.ส. 550 คน และ ส.ว. 250 คน ค. 5 ปแี รก ส.ส. 500 คน และ ส.ว. 250 คน ง. 5 ปีแรก ส.ส. 550 คน และ ส.ว. 200 คน 54. ประธานวฒุ ิสภา ไดม้ าอย่างไร ก. พระมหากษตั ริย์ทรงแต่งตัง้ จากสมาชกิ วุฒสิ ภา ตามมติของสภา ข. นายกแตง่ ต้ังโดยสรรหาจากสมาชกิ ในรฐั ธรรม ทงั้ สภาสงู และสภาล่าง ค. ประธานรัฐสภาแต่งตง้ั จากผู้ทรงคุณวฒุ ใิ นวุฒสิ ภาตามมตขิ องสภา ง. สมาชิกวฒุ สิ ภาลงมติเลือกประธานวฒุ สิ ภา นายกรฐั มนตรแี ตง่ ตั้งตามมติ 23. ง 24. ง 25. ง 26. ก 27. ข 28. ง 29. ง 30. ง 31. ก 32. ค 33. ก 34. ง 35. ก 36. ง 37. ก 38. ก 39. ง 40. ข 41. ก 42. ง 43. ค 44. ค 45. ง 46. ก 47. ค 48. ข 49. ก 50. ง 51. ข 52. ข 53. ค 54. ก
41 55. ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร ไดม้ าอยา่ งไร ก. นายกรัฐมนตรีแต่งจากสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎร ตามมติของสภา ข. พระมหากษตั รยิ ท์ รงแตง่ ตง้ั จากสมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร ตามมตขิ องสภา ค. ประธานรฐั สภาแตง่ ตงั้ จากผู้ทรงคุณวฒุ ิในสภาผ้แู ทนราษฎร ตามมติสภา ง. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงมติออกเสยี ง และประธานวฒุ ิสภาแตง่ ตง้ั เฉลย 18. 2 19. 2 20. 1 21. 4 22. 1 23. 2 56. คณะรฐั มนตรี ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอนื่ อกี จานวนเทา่ ไร ก. 30 คน ข. 33 คน ค. ไมเ่ กนิ 35 คน ง. ไม่เกนิ 40 คน 57. รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 นายกรฐั มนตรแี ต่งต้ังมาจากผใู้ ด ก. บคุ คลบัญชหี มายเลขแรกของบญั ชีรายชอื่ ข. บคุ คลซ่งึ สภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบ ค. บคุ คลทร่ี าษฎรเปน็ ผอู้ อกเสยี งเลือกคะแนนสงู สดุ ง. บุคคลท่ีวฒุ ิสภาให้ความเหน็ ชอบจากสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร 58. วาระเรมิ่ แรกของการประกาศใชร้ ัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรแี ต่งตง้ั มาจากผูใ้ ด ก. บุคคลบญั ชหี มายเลขแรกของบญั ชรี ายชือ่ ข. บคุ คลซึง่ สภาผแู้ ทนราษฎรให้ความเหน็ ชอบ ค. บคุ คลซึ่งวุฒสิ ภาออกเสียงลงมติใหค้ วามเห็นชอบ ง. บคุ คลซ่ึงรัฐสภารว่ มออกเสยี งลงมตใิ หค้ วามเห็นชอบ 59. ใครเป็นผ้ลู งนามรบั สนองพระบรมราชโองการแต่งต้ังนายกรฐั มนตรี ก. ประธานสภาผ้แู ทนราษฎร ข. ประธานวฒุ ิสภา ค. ประธานรัฐสภา ง. ประธานสภานิตบิ ัญญตั ิ 60. ในระหว่างทย่ี ังไมม่ สี ภาผู้แทนราษฎร และวฒุ ิสภา ใหส้ ภาใดเปน็ ผูท้ าหนา้ ท่รี ฐั สภา ก. สภานติ ิบัญญัติแหง่ ชาติ ข. สภาปฏริ ูปแหง่ ชาติ ค. สภาขับเคลื่อนการปฏริ ปู ประเทศ ง. สภาความม่ันคงแหง่ ชาติ
42 61. สภาผ้แู ทนราษฎรมีอายุวาระคราวละกปี่ ี ข. 5 ปี ก. 4 ปี ง. เท่ากบั สมาชกิ วฒุ ิสภา ค. 6 ปี 62. วฒุ ิสภา มีอายวุ าระคราวละกป่ี ี ข. 5 ปี ก. 4 ปี ง. เทา่ กับสภาผู้แทนราษฎร ค. 6 ปี 63. สมยั ประชมุ สามญั ของรัฐสภา ในหนึ่งปมี ีกาหนดกสี่ มัย ก. 2 สมยั ข. 4 สมยั ค. ไมน่ ้อยกวา่ 2 สมยั ง. ไม่เกิน 4 สมัย 64. สมัยประชุมสามญั ของรัฐสภาหนง่ึ สมยั มกี าหนดกว่ี นั ก. 45 วัน ข. 60 วนั ค. 90 วัน ง. 120 วนั 65. หากวฒุ สิ ภาไมเ่ หน็ ชอบด้วยรา่ งพระราชบัญญตั จิ ากสภาผแู้ ทนราษฏรให้ ดาเนินการอย่างไร ก. ยับย้ังรา่ งพระราชบัญญัตนิ น้ั ไวก้ ่อน แล้วสง่ คืนกลบั ให้สภาผแู้ ทนราษฎร ข. ใหถ้ ือวา่ ร่างพระราชบัญญัตนิ นั้ เป็นอันตกไป ไม่สามารถใชไ้ ด้ ค. ใหส้ ่งรา่ งพระราชบัญญตั ิเข้าส่รู ฐั สภาเพ่อื พิจารณารว่ มกนั ในขัน้ ตอนสดุ ท้าย ง. ประธานวฒุ ิสภาสง่ ร่างพระราชบญั ญัตใิ ห้กบั นายกรฐั มนตรีทลู เกลา้ ฯ พจิ ารณา 66. บคุ คลมีสิทธิเลอื กตง้ั ตอ้ งมีอายกุ ป่ี ี ข. อายไุ ม่ตา่ กว่า 18 ปี ในวันเลือกตง้ั ก. อายุ 18 ปี ง. อายไุ มต่ า่ กว่า 20 ปี ในวันเลือกตั้ง ค. อายุ 20 ปี
43 67. บคุ คลผูม้ สี ทิ ธเิ ลอื กตงั้ จากการแปลงสัญชาติ ตอ้ งได้สญั ชาติไทยมาแล้วกป่ี ี ก. ไม่นอ้ ยกวา่ 2 ปี ข. ไมน่ ้อยกว่า 4 ปี ค. ไม่น้อยกวา่ 5 ปี ง. ไม่น้อยกวา่ 10 ปี 68. ผู้มสี ทิ ธริ ับสมัครเลือกต้งั เป็นสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร ตอ้ งมอี ายุก่ปี ี ก. ไม่ต่ากว่า 20 ปี นับถึงวนั เลือกตั้ง ข. ไมต่ ่ากวา่ 25 ปี นับถึงวนั เลอื กต้งั ค. ไมต่ า่ กวา่ 30 ปี นบั ถงึ วันเลอื กตง้ั ง. ไม่ต่ากวา่ 35 ปี นับถึงวนั เลอื กต้งั 69. เม่ืออายสุ ภาผแู้ ทนราษฎรส้นิ สุดลงใหม้ ีการเลอื กต้งั ทั่วไปใหม่ ภายในกีว่ นั ก. 30 วนั ข. 45 วนั ค. 60 วัน ง. 90 วัน 70. ผใู้ ดมีอานาจในการยุบสภาผู้แทนราษฎร เพือ่ ใหม้ กี ารเลือกต้ังสมาชกิ สภาฯใหม่ ก. พระมหากษตั รยิ ์ ข. นายกรัฐมนตรี ค. ประธานรัฐสภา ง. ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร 71. การยบุ สภาผแู้ ทนราษฎร และ การเลอื กตั้งสมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ใหท้ าอย่างไร ก. พระราชบัญญัติ ข. พระราชกฤษฎกี า ค. พระราชกาหนด ง. กฎหมายการยุบสภาและเลือกตั้ง 72. รัฐมนตรตี อ้ งมีอายุเท่าไร ข. ไม่ต่ากวา่ 30 ปี ก. ไม่ตา่ กว่า 25 ปี ง. ไม่ตา่ กว่า 40 ปี ค. ไม่ต่ากว่า 35 ปี 73. คณะรัฐมนตรีตอ้ งเข้าแถลงนโยบายตอ่ รฐั สภาภายในกี่วนั ก. ภายใน 7 วันนับตง้ั แตว่ นั เขา้ รบั หนา้ ที่ ข. ภายใน 15 วันนับต้งั แต่วนั เขา้ รบั หนา้ ที่ ค. ภายใน 30 วนั นบั ตงั้ แตว่ นั เขา้ รบั หน้าท่ี ง. ภายใน 45 วันนบั ต้งั แต่วนั เขา้ รบั หนา้ ที่ 55. ข 56. ค 57. ข 58. ง 59. ก 60. ก 61. ก 62. ข 63. ก 64. ง 65. ก 66. ข 67. ค 68. ข 69. ข 70. ก 71. ข 72. ค 73. ข
44 74. ใครมีอานาจในการทาหนงั สือสัญญาสนั ติภาพ สญั ญาสงบศึก และสญั ญาอื่น กบั นานาประเทศหรือกบั องค์การระหวา่ งประเทศ ก. พระมหากษัตรยิ ์ ข. นายกรัฐมนตรี ค. ประธานรฐั สภา ง. ประธานองคมนตรี 75. ใครเปน็ ผู้แต่งต้ังข้าราชการตาแหน่งปลดั กระทรวง อธิบดี และทเ่ี ทยี บเท่า ก. พระมหากษตั ริย์ ข. นายกรัฐมนตรี ค. รฐั มนตรีว่าการกระทรวง ง. ประธาน ก.พ. 76. บรรดาศาลทง้ั หลายจะตง้ั ข้นึ ได้โดยข้อใด ข. พระราชกฤษฏีกา ก. พระราชกาหนด ง. กฎหมายพเิ ศษจดั ตง้ั ศาล ค. พระราชบัญญตั ิ 77. องค์คณะผ้พู ิพากษาแผนกคดีอาญาผ้ดู ารงตาแหนง่ ทางการเมืองมกี ี่คน ก. 5 คน ข. ไมเ่ กนิ 7 คน ค. 9 คน ง. ไม่นอ้ ยกว่า 5 คนแต่ไม่เกิน 9 คน 78. ข้อใดกลา่ วถกู ต้องเกย่ี วกับศาลปกครอง ข. ให้มีศาลปกครองชั้นต้น ก. ใหม้ ีศาลปกครองสงู สุด ง. ขอ้ 1 และ 2 ถกู ตอ้ ง ค. ใหม้ ศี าลปกครองชน้ั กลาง 79. ตลุ ากาลศาลรัฐธรรมนูญ มกี ค่ี น ข. 10 คน ก. 9 คน ง. 15 คน ค. 12 คน 80. คณุ สมบัติของตลุ ากาลศาลรัฐธรรมนูญ ข. อายุ 40 ปี ก. อายุ 35 ปี ง. อายุ 68 ปี ค. อายุ 45 ปี
45 81. ตุลาการศาลรัฐธรรมนญู มวี าระการดารงตาแหนง่ กป่ี ี ก. วาระ 4 ปี ได้สองวาระ ข. วาระ 5 ปีไดว้ าระเดียว ค. วาระ 6 ปี ไดว้ าระเดียว ง. วาระ 7 ปีไดว้ าระเดยี ว 82. ผู้ดารงตาแหนง่ ในองคก์ รอสิ ระตอ้ งมีอายุกปี่ ี ข. ไม่ตา่ กว่า 40 ปี ไมเ่ กิน 60 ปี ก. ไมต่ า่ กว่า 35 ปี ไม่เกนิ 60 ปี ง. ไมต่ า่ กว่า 45 ปี ไม่เกิน 70 ปี ค. ไมต่ า่ กวา่ 45 ปี ไม่เกนิ 60 ปี 83. คณะกรรมการการเลือกตั้งมจี านวนก่ีคน ข. 9 คน ก. 7 คน ง. 15 คน ค. 12 คน 84. คณะกรรมการการเลือกตั้งมีวาระการดารงตาแหน่งกป่ี ี ก. วาระ 4 ปี ได้สองวาระ ข. วาระ 5 ปไี ด้วาระเดยี ว ค. วาระ 6 ปี ได้วาระเดยี ว ง. วาระ 7 ปีไดว้ าระเดียว 85. ผตู้ รวจการแผ่นดินมจี านวนกีค่ น ข. 5 คน ก. 3 คน ง. 9 คน ค. 7 คน 86. ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ มีวาระการดารงตาแหน่งก่ปี ี ก. วาระ 4 ปี ได้สองวาระ ข. วาระ 5 ปไี ด้วาระเดยี ว ค. วาระ 6 ปี ได้วาระเดยี ว ง. วาระ 7 ปไี ด้วาระเดยี ว 87. คณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามทจุ รติ แหง่ ชาติมีจานวนกคี่ น ก. 3 คน ข. 5 คน ค. 7 คน ง. 9 คน
46 88. คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามทจุ ริตแห่งชาติมวี าระการดารงตาแหน่งก่ปี ี ก. วาระ 4 ปี ได้สองวาระ ข. วาระ 5 ปีไดว้ าระเดียว ค. วาระ 6 ปี ได้วาระเดยี ว ง. วาระ 7 ปีได้วาระเดยี ว 89. คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินมจี านวนก่ีคน ก. 3 คน ข. 5 คน ค. 7 คน ง. 9 คน 90. คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดนิ มวี าระการดารงตาแหนง่ ก่ปี ี ก. วาระ 4 ปี ไดส้ องวาระ ข. วาระ 5 ปีไดว้ าระเดียว ค. วาระ 6 ปี ได้วาระเดยี ว ง. วาระ 7 ปีได้วาระเดียว 91. คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแห่งชาตมิ จี านวนกี่คน ก. 3 คน ข. 5 คน ค. 7 คน ง. 9 คน 92. คณะกรรมการสิทธมิ นุษยชนแห่งชาติมีวาระการดารงตาแหนง่ กป่ี ี ก. วาระ 4 ปี ไดส้ องวาระ ข. วาระ 5 ปีไดว้ าระเดียว ค. วาระ 6 ปี ได้วาระเดยี ว ง. วาระ 7 ปไี ด้วาระเดียว 93. ผู้ดารงตาแหนง่ ท่ีมพี ฤตกิ ารณ์ร่ารวยผดิ ปกตจิ ะเป็นหน้าทคี่ วามรับผิดชอบของ องคค์ ณะกรรมการใดในการตรวจสอบ ก. ผ้ตู รวจการแผน่ ดิน ข. คณะกรรมการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ค. คณะกรรมการการเลอื กต้ัง ง. คณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามทจุ ริตแหง่ ชาติ
47 94. การจดั ตัง้ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินในทอ้ งถ่ินใหค้ านงึ ถงึ ข้อใด ก. เจตนารมณข์ องประชาชนในทอ้ งถิ่น ข. ความสามารถในการปกครองตนเองในดา้ นรายได้ ค. จานวนและความหนาแน่นของประชากร ง. ถกู ทกุ ข้อ 95. กฎหมายเกีย่ วกบั การบริหารราชการส่วนทอ้ งถนิ่ ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง ก. ใหอ้ งค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ มีอสิ ระในการบรหิ าร ข. ใหอ้ งคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทาบริการสาธารณะ ค. ให้องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ สง่ เสรมิ สนับสนุนจัดการศึกษา ง. ถูกทกุ ข้อ 96. รัฐต้องดาเนนิ การให้องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ มีรายไดข้ องตนเองโดยลักษณะใด ก. แบ่งสันรายไดข้ องรัฐอดุ หนนุ ท้องถิ่น ข. จดั ระบบภาษหี รือการจัดสรรภาษี ค. ผลักดันใหห้ ารายไดอ้ ยา่ งจริงจัง ง. ส่งเสริมเงนิ กู้จากองค์กรราชการ 97. การได้มาซึง่ สมาชิกสภาท้องถ่ินข้อใดกล่าวถกู ต้อง ก. มาจากการแตง่ ตัง้ ของนายกองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน ข. มาจากการสรรหาของคณะกรรมการบริหารทอ้ งถิ่น ค. มาจากการเลอื กตัง้ ของราษฎรในท้องถิ่น ง. มาจากการเปน็ โดยตาแหนง่ ของผบู้ ริหารหมบู่ ้าน 98. ขอ้ ใดไมใ่ ชเ่ ป้าหมายการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย ก. ประเทศชาตมิ ีความสงบเรียบรอ้ ย ข. ประชาชนมีความสขุ ค. มโี อกาสทดั เทยี มกันขจดั ความเหลอ่ มล้า ง. ประชาชนมีความมัน่ คงในชวี ิต
48 99. คณะรักษาความสงบแห่งชาติยงั คงอยู่ในตาแหน่งเพ่อื ปฏิบตั ิหนา้ ทต่ี ่อไปจนกวา่ เมอื่ ใด ก. คณะรฐั มนตรที ตี่ ้ังข้ึนใหมภ่ ายหลงั การเลอื กตงั้ จะเขา้ รบั หนา้ ที่ ข. เมื่อมีการเลือกต้ังแล้วเสรจ็ และประกาศรายช่ือสมาชิกรฐั สภา ค. เมือ่ ผ่านวาระเริ่มแรกของการบรหิ ารประเทศของรฐั บาลชุดใหมภ่ ายหลังการเลอื กตง้ั ง. เม่ือพิจารณาเหน็ ความสงบเรยี บร้อยแหง่ ชาติ และถึงเวลาสมควรในการยุติบทบาท 100. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกบั วาระเร่ิมแรกของสมาชิกวฒุ สิ ภา ก. พระมหากษตั ริยท์ รงแตง่ ตัง้ ตามที่คณะรักษาความสงบแหง่ ชาตถิ วายคาแนะนา ข. ประธานรฐั สภาแต่งตงั้ ตามที่คณะรักษาความสงบแหง่ ชาตแิ นะนา ค. นายกรฐั มนตรแี ต่งต้ังตามที่รฐั สภาให้คาแนะนา ง. ประธานองคมนตรีแตง่ ตง้ั ตามที่คณะรัฐมนตรีแนะนา 74. ก 75. ก 76. ค 77. ง 78. ง 79. ก 80. ค 81. ง 82. ง 83. ก 84. ง 85. ก 86. ง 87. ง 88. ง 89. ค 90. ง 91. ค 92. ง 93. ง 94. ง 95. ง 96. ข 97. ค 98. ง 99. ก 100. ก
49 วิชาความรูพ้ นื้ ฐานในการปฏบิ ัตริ าชการ 1. มาตรา 1 ของรา่ งรฐั ธรรมนญู บัญญัตไิ ว้ประการใด ก. ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ ข. ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหน่งึ อนั เดยี ว จะแบง่ แยกมไิ ด้ ค. อานาจอธปิ ไตยเปน็ ของปวงชนชาวไทย พระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ง. บคุ คลมสี ทิ ธเิ ท่าเทียมในศักด์ิศรีความเปน็ มนษุ ย์ สทิ ธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค 2. ประเทศไทยปกครองในระบอบใด ก. ระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ข. ระบอบประชาธิปไตยของปวงชนชาวไทย ค. ระบอบประชาธปิ ไตยอนั เท่ียงธรรมเพ่ือประโยชนส์ ่วนรวม ง. ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข 3. พระมหากษตั รยิ ์ทรงใชอ้ านาจอธปิ ไตยผ่านทางใด ก. รฐั สภา ข. คณะรฐั มนตรี ค. ศาล ง. ถูกทุกข้อ 4. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ งเกีย่ วกับรัฐสภาไทยตามรัฐธรรมนญู ก. เปน็ ระบบสภาเดยี่ ว ข. สมาชิกวฒุ สิ ภามีอานาจในการลงมตหิ ลักในสภา ค. รัฐสภา จะประกอบด้วยวุฒสิ ภาและสภาผแู้ ทนราษฎร ง. สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรย่อมมจี านวนน้อยกวา่ สมาชกิ วฒุ ิสภา 5. ข้อใดกลา่ วไมถ่ ูกต้องเกีย่ วกับสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชน ก. ชายและหญงิ มสี ทิ ธเิ ทา่ เทยี มกัน ข. บคุ คลย่อมมีสทิ ธิ เสรภี าพในชวี ติ และรา่ งกาย ค. การเลอื กปฏบิ ัตติ ่อบุคคลด้วยเหตใุ ดๆสามารถทาได้ ง. บุคคลไดร้ ับความคุม้ ครองทางกฎหมายเท่าเทียมกัน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209