Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore e-book Budget

e-book Budget

Published by SPM42 Policy and Plan, 2018-06-22 04:05:44

Description: e-book Budget

Search

Read the Text Version

สำนักงบประมาณอาจกำหนดหลักเกณฑ์หรือวิธีปฏิบัติเพ่ือกำหนดขอบเขตหรือข้อจำกัดการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดรายการงบประมาณตามความจำเป็น เช่น การเปลี่ยนแปลงสถานท่ีดำเนินการถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่อสาระสำคัญของรายการ ต้องทำความตกลงกับสำนักงบประมาณพร้อมช้แี จงเหตุผลความจำเป็น ทั้งน้ี การโอนจัดสรรงบประมาณรายจ่ายให้หัวหน้าส่วนราชการเร่งดำเนินการโอนจัดสรรงบประมาณรายจ่ายไปยังสำนักเบิกส่วนภูมิภาคโดยเร็ว อย่างช้าไม่เกิน 15 วัน นับแต่วันท่ีได้การจัดสรรงบประมาณจากสำนักงบประมาณตามรายการดงั น้ี 1) แผนงบประมาณหรอื แผนงบประมาณในเชิงบรู ณาการ 2) ผลผลิตหรือโครงการ 3) กิจกรรม 4) ประเภทงบรายจา่ ย 5) รายการในงบรายจ่าย 6) จำนวนเงินงบประมาณรายจ่ายของแต่ละผลผลิต โครงการ กิจกรรม หรือรายการตามวงเงินที่ไดร้ ับการจดั สรรงบประมาณ 7) ต้องสอดคลอ้ งกับแผนการปฏิบตั ิงานและแผนการใชจ้ ่ายงบประมาณ ยกเว้น งบบุคลากรประเภทเงินเดือนและค่าจ้างประจำไม่ต้องโอนจัดสรรงบประมาณรายจ่ายไปสว่ นภมู ภิ าค ท้งั นี้ การโอนจดั สรรงบประมาณรายจา่ ยให้จัดทำและรบั สง่ ขอ้ มลู ดว้ ยระบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ภาครฐั(GFMIS)แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ 247 ของสำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา

2. การใช้รายจา่ ยจากงบประมาณรายจ่าย การใช้รายจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีท่ีได้รับการจัดสรรงบประมาณหรือ การโอนและหรือเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายในแต่ละงบรายจ่ายของแต่ละผลผลิตหรือโครงการ ภายใต้แผนงบประมาณเดยี วกนั จำแนกได้ 5 ประเภทงบรายจ่าย และให้ใชจ้ ่ายตามหลกั เกณฑ์ ดังนี้ 1) งบบุคลากร ให้ใช้จ่ายเป็นรายการใดๆ ที่กำหนดไว้ในหลักการจำแนกประเภทรายจ่าย ตามงบประมาณหรอื ตามที่สำนกั งบประมาณกำหนดว่าเปน็ รายจ่ายในงบรายจ่ายนี้ และใหถ้ วั จ่ายกันได้ 2) งบดำเนินงาน ให้ใช้จ่ายเป็นรายการใดๆ ท่ีกำหนดไว้ในหลักการจำแนกประเภท รายจา่ ยตามงบประมาณหรือตามท่ีสำนักงบประมาณกำหนดว่าเปน็ รายจา่ ยนแ้ี ละใหถ้ ัวจ่ายกนั ได้ ยกเวน้ รายจา่ ยประเภทค่าสาธารณูปโภคใหน้ ำไปใชจ้ า่ ยในประเภทอน่ื ภายในงบรายจ่ายน้ไี ด้ หากไม่มีหน้คี ่าสาธารณปู โภคคา้ งชำระ 3) งบลงทนุ ให้ใช้จา่ ยเปน็ รายการใดๆ ทีก่ ำหนดไวใ้ นหลกั การจำแนกประเภทรายจา่ ยตาม งบประมาณหรือตามท่ีสำนักงบประมาณกำหนดว่าเป็นรายจ่ายในงบรายจ่ายน้ี ทั้งน้ี ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และเงอ่ื นไขทก่ี ำหนดไว้ในแผนการปฏิบัตงิ านและแผนการใชจ้ า่ ยงบประมาณด้วย 4) งบเงินอดุ หนุน ใหใ้ ชจ้ ่ายเงินรายการใดๆ ที่กำหนดวา่ เปน็ รายจ่ายงบรายจา่ ยน้ี ดังน้ี ก. ประเภทเงินอุดหนุนท่ัวไป ให้ใช้จ่ายตามรายการและจำนวนเงินท่ีกำหนดในการ จัดสรรงบประมาณ หรือการโอนและหรือเปลยี่ นแปลงรายการงบประมาณรายจา่ ย ข. ประเภทเงนิ อดุ หนนุ เฉพาะกจิ ใหใ้ ช้จา่ ยตามรายการ จำนวนเงินและรายละเอยี ดอ่นื ใดท่ีกำหนดในการจดั สรรงบประมาณ หรอื การโอนและหรือเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณรายจ่าย 5) งบรายจ่ายอื่น ให้ใช้จ่ายเป็นรายการใดๆ ท่ีกำหนดว่าเป็นรายจ่ายงบรายจ่ายน้ี และ ให้เบิกจ่ายตามรายการและจำนวนเงินที่กำหนดในการจัดสรรงบประมาณหรือการโอนและหรือเปลี่ยนแปลง รายการงบประมาณรายจ่าย248 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา

3. การโอนเปลย่ี นแปลงงบประมาณรายจ่าย โดยปกติงบประมาณรายจ่ายท่ีกำหนดให้ส่วนราชการไว้ในรายการใดตามเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีหรือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพ่ิมเติมได้จัดทำมาจากแผนปฏบิ ตั ิราชการประจำปีที่สอดคลอ้ งกบั แผนปฏบิ ตั ิราชการ 4 ปี จงึ ไม่สมควรโอนหรือนำไปใชใ้ นรายการอน่ืแต่เน่ืองจากกระบวนการของการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีต้องใช้เวลาในการจัดทำล่วงหน้า ดังนั้นเม่ือถึงเวลาได้รับการจัดสรรงบประมาณเพ่ือนำไปใช้จ่ายในการดำเนินงานตามท่ีขออนุมัติไว้กับรัฐสภาสถานการณ์ต่างๆ เช่น ความจำเป็น เป้าหมายการให้บริการ กลยุทธ์และหรือประมาณการค่าใช้จ่ายในการดำเนินการตามแผนได้เปลี่ยนแปลงไปจนทำให้ต้องมีโอนเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายที่กำหนดไว้ในรายการตา่ งๆ เพือ่ ใหส้ ามารถดำเนินงานได้สอดคลอ้ งกับสถานการณท์ ี่เปลย่ี นแปลงไปได้ ตามระเบยี บว่าดว้ ยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 23 จึงกำหนดให้มีกรณีการโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจา่ ยได้ แตท่ ง้ั นตี้ อ้ งเปน็ การเปล่ยี นแปลงตามหลกั เกณฑ์ดังตอ่ ไปนี้ 1) เพือ่ แก้ไขปญั หาในการดำเนินการ 2) เพอ่ื เพม่ิ ประสิทธิภาพการใหบ้ รกิ าร 3) เพือ่ เพิม่ คณุ ภาพการให้บรกิ าร 4) เพื่อพัฒนาบุคลากร 5) เพือ่ พฒั นาเทคโนโลยี 6) เพือ่ สนบั สนุนการบริหารงานตามแผนยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาจงั หวดั รวมทง้ั ต้องมีความสอดคล้องกับ 1) เปา้ หมายการให้บรกิ ารกระทรวง 2) เปา้ หมายยุทธศาสตรร์ ะดบั ชาติ โดยคำนึงถงึ 1) ประโยชนข์ องประชาชน 2) ความประหยัด 3) ความคุ้มค่า 4) ความโปร่งใส และต้องไมท่ ำให้ 1) เป้าหมายผลผลิตหรือโครงการตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือแผนงบประมาณในเชิงบูรณาการเปล่ยี นแปลงไปในทางทล่ี ดลงในสาระสำคัญ 2) คา่ สาธารณปู โภคคา้ งชำระเมอื่ ส้ินปงี บประมาณ การโอนเปลย่ี นแปลงงบประมาณรายจ่าย ส่วนราชการสามารถดำเนนิ การได้ด้วยวธิ กี าร 3 วธิ ี - ตามอำนาจของหัวหนา้ ส่วนราชการ - ต้องขอตกลงกบั สำนกั งบประมาณ - ตอ้ งได้รับอนุมตั จิ ากคณะรัฐมนตรกี ่อนแนวทางการจัดทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ 249 ของสำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา

การโอนเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายตามอำนาจของหวั หนา้ สว่ นราชการ อำนาจการโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายของหัวหน้าส่วนราชการ มี 3 ลักษณะ ดังนี้ 1. การโอนเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณรายจ่าย ระหว่างงบรายจ่าย และระหว่าง ผลผลติ หรอื โครงการภายใต้แผนงบประมาณเดยี วกนั (ตามระเบียบข้อ 24) ประกอบด้วย 1) การโอนงบประมาณรายจ่ายของผลผลิตหรือโครงการใดไปผลผลิตหรือโครงการอ่ืน ภายในงบรายจ่ายเดียวกนั ภายใต้แผนงบประมาณเดียวกัน ตวั อยา่ ง โรงเรียน ง. ไดร้ ับงบประมาณปี 2553 แผนงานขยายโอกาสและพฒั นาการศกึ ษา ผลผลติ ผู้จบ การศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย งบลงทุน ท่ีดิน/สิ่งก่อสร้าง ส่ิงก่อสร้างราคาต่อหน่วยต่ำกว่า 10 ล้านบาท รายการค่าปรับปรุงบริเวณโรงเรียน จำนวนเงิน 70,000 บาท โรงเรียนมีความจำเป็นต้องจัดซ้ือครุภัณฑ์เคร่ือง ถา่ ยเอกสาร จำนวน 70,000 บาท ดังนนั้ เปน็ การโอนเปลย่ี นแปลงงบประมาณภายใต้แผนงบประมาณเดยี วกนั งบรายจ่ายเดียวกัน คือ งบลงทุน แต่ต่างผลผลิต ต้องโอนงบประมาณไปต้ังจ่าย ผลผลิตผู้จบการศึกษา ภาคบงั คบั โดยดำเนนิ การ ดังนี้ จากเดมิ แผนงาน : ขยายโอกาสและพฒั นาการศกึ ษา ผลผลติ ผูจ้ บการศกึ ษามัธยมศกึ ษาตอนปลาย งบลงทนุ ท่ดี นิ /สง่ิ ก่อสร้าง ส่ิงกอ่ สร้างราคาตอ่ หนว่ ยต่ำกว่า 10 ล้านบาท จำนวน 70,000 บาท (คา่ ปรบั ปรงุ บรเิ วณโรงเรียน) เปน็ แผนงาน : ขยายโอกาสและพฒั นาการศึกษา ผลผลิต ผจู้ บการศกึ ษาภาคบงั คบั งบลงทนุ ค่าครุภัณฑ์ ครภุ ณั ฑ์ราคาตอ่ หนว่ ยตำ่ กวา่ 1 ล้านบาท จำนวน 70,000 บาท (เครือ่ งถ่ายเอกสารความเรว็ 20 แผน่ ตอ่ นาที 1 เครอ่ื ง)250 แนวทางการจัดทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนักงานเขตพนื้ ที่การศึกษามัธยมศึกษา

2) การโอนเงินต่างงบรายจ่ายในผลผลิตหรือโครงการเดียวกันภายใต้แผนงบประมาณเดียวกัน ได้แก่ การโอนงบประมาณจากงบรายจ่ายต่างๆ ทุกงบรายจ่ายและโอนระหว่างกันได้ภายใต้ผลผลติ หรือโครงการเดยี วกนั ตัวอย่าง โรงเรียน ส. ได้รับงบประมาณปี 2553 แผนงานขยายโอกาสและพัฒนาการศึกษา ผลผลิตผู้จบการศึกษาภาคบังคับ งบดำเนินงาน จำนวน 100,000 บาท มีความประสงค์จะเปล่ียนแปลงงบประมาณเพ่ือเบิกถอนคนื เงนิ รายได้แผน่ ดนิ ภายใตแ้ ผนงบประมาณ ผลผลิตเดยี วกนั แต่ตา่ งงบรายจ่าย คอื งบรายจ่ายอ่ืนจำนวน 20,000 บาท โดยดำเนินการ ดังนี้ จากเดมิ แผนงาน : ขยายโอกาสและพฒั นาการศึกษา ผลผลิต ผจู้ บการศึกษาภาคบงั คับ งบดำเนินงาน จำนวน 20,000 บาท เปน็ แผนงาน : ขยายโอกาสและพัฒนาการศกึ ษา ผลผลิต ผจู้ บการศึกษาภาคบงั คบั งบรายจา่ ยอ่ืน จำนวน 20,000 บาท เบิกถอนคืนเงนิ รายได้แผ่นดิน 3) การเปล่ียนแปลงรายการและหรือจำนวนเงินของรายการที่กำหนดไว้ภายใต้งบรายจ่ายของผลผลิตหรือโครงการ ภายใตแ้ ผนงบประมาณเดียวกัน ได้แก่ 3.1 ไปสมทบเป็นรายการครุภัณฑ์ท่ีมีวงเงินต่อหน่วยต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท หรือสิ่งก่อสร้างที่มีวงเงินต่อหน่วยต่ำกว่าสิบล้านบาท กรณีโรงเรียนได้รับจัดสรรงบประมาณค่าครุภัณฑ์ซ่ึงมีวงเงินต่อหน่วยต่ำกว่าหนึ่งล้านบาทหรือสิ่งก่อสร้างที่มีวงเงินต่อหน่วยต่ำกว่าสิบล้านบาท เม่ือดำเนินการหาผู้รับจ้างได้แล้ว และได้ทำสัญญาแล้ว แต่มีความจำเป็นต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญาจ้างตามระเบียบสำนักนายกรฐั มนตรวี ่าด้วยการพสั ดุ พ.ศ. 2535 และทแี่ กไ้ ขเพ่มิ เติม ขอ้ 136 ซึ่งกำหนดใหส้ ัญญาหรือข้อตกลงเปน็ หนงั สอืท่ีได้ลงนามแล้วจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงมิได้เว้นแต่การแก้ไขน้ันจะเป็นความจำเป็นโดยไม่ทำให้ทางราชการต้องเสียประโยชน์ หรือเป็นการแก้ไขเพ่ือประโยชน์แก่ทางราชการให้อยู่ในอำนาจของหัวหน้าส่วนราชการท่ีจะพิจารณาอนุมัติให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ แต่ถ้ามีการเพิ่มวงเงินจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณแนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 251 ของสำนกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษา

ตวั อยา่ ง โรงเรียน จ. ได้รับงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารเรียนแบบ 108 ล. วงเงิน 4,376,000 บาท โรงเรียนได้ดำเนินการหาผู้รับจ้างได้ในวงเงินและก่อสร้างโดยการตอกเสาเข็ม ปรากฏว่าเสาเข็มความยาว เพ่มิ ขึ้นจากท่ีได้กำหนดไว้ในแบบ เช่น จาก 21 เมตร เป็น 30 เมตร และตอ้ งเพมิ่ เงินค่ากอ่ สร้างอกี 200,000 บาท โรงเรยี น จ. จะตอ้ งแก้ไขสัญญาตามระเบยี บสำนกั นายกรฐั มนตรีว่าดว้ ยการพสั ดุ พ.ศ. 2535 และแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ ก่อนและให้ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้รับมอบอำนาจจาก เลขาธิการ กพฐ. ตามคำสั่งท่ี 22/2546 สั่ง ณ วันท ี่ 8 กรกฎาคม 2546 เป็นผู้พิจารณาอนุมัติให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ ซ่ึงกรณีน้ีจะต้องเพ่ิมเงินให้แก่ผู้รับจ้างอีก 200,000 บาท สามารถท่ีจะโอนและหรือเปลี่ยนแปลงรายการในระหว่างรายการค่าก่อสร้างได้ เช่น นำค่าปรับปรุงพฒั นาภายใตแ้ ผนงบประมาณเดียวกันมาเปลี่ยนแปลงเป็นเงนิ สมทบคา่ ก่อสร้างทเี่ พมิ่ ขนึ้ ได้ 3.2 ไปกำหนดเป็นรายการครุภัณฑ์ท่ีมีวงเงินต่อหน่วยต่ำกว่าหน่ึงล้านบาท และ รายการสงิ่ ก่อสรา้ งทมี่ ีวงเงนิ ตอ่ หนว่ ยตำ่ กวา่ สิบล้านบาท ตัวอย่าง โรงเรียน ส. ได้รับงบประมาณค่าก่อสร้างแฟลตภารโรง 12 หน่วย พร้อมครุภัณฑ์ 1 หลัง วงเงิน 2,964,000 บาท แต่เน่ืองจากแฟลตภารโรง โรงเรียนได้ใช้งบเหลือจ่ายปีที่แล้วดำเนินการแล้ว โรงเรียน มีความจำเป็นท่ีจะต้องก่อสร้างร้ัว เพ่ือป้องกันทรัพย์สินของทางโรงเรียน เน่ืองจากไม่มีรั้วจึงขอเปลี่ยนแปลง เปน็ คา่ ก่อสรา้ งรัว้ ทึบสลับโปร่ง ความยาว 400 เมตร เป็นเงนิ 2,964,000 บาท สามารถเปลีย่ นแปลงรายการ งบประมาณให้แก่โรงเรียนได้ เพอ่ื แกไ้ ขปญั หาในการดำเนินการ 3.3 สมทบวงเงินค่าจัดหาครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้าง ซ่ึงเป็นรายการงบปีเดียวและไม่ สามารถหาผู้รับจ้างได้ กรณีโรงเรียนได้รับงบประมาณค่าครุภัณฑ์ต่อหน่วยไม่เกินหน่ึงล้านบาทและสิ่งก่อสร้าง ต่อหน่วยไม่เกินสิบล้านบาท สามารถเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณจากงบลงทุนรายการใดรายการหนึ่งไป เพ่ิมวงเงินรายการครุภัณฑ์หรือสิ่งก่อสร้างได้ไม่ว่าเงินท่ีสมทบจะเกินร้อยละสิบของวงเงินที่ได้รับจัดสรร งบประมาณหรอื ไม่252 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษา

ตัวอย่าง โรงเรียน ค. ได้รับงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารฝึกงานในวงเงิน 1,200,000 บาท โรงเรียนได้ดำเนินการหาผู้รับจ้างแล้วหลายครั้ง ไม่สามารถหาได้ในวงเงินท่ีได้รับ ซึ่งได้ในวงเงิน 1,400,000 บาท เกินงบประมาณ จำนวน 200,000 บาท เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ สามารถโอนและหรือเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณในระหว่างค่าก่อสร้างได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้แผนงบประมาณเดียวกัน เช่น นำเงินค่าปรับปรุงพัฒนามาเปลยี่ นแปลงเปน็ เงนิ สมทบวงเงินค่าจดั หาครภุ ณั ฑ์หรือสิง่ กอ่ สรา้ งได้ การโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณประจำปี ตามระเบียบข้อ 24 นี้ เป็นการมอบอำนาจการบริหารงบประมาณรายจ่ายเพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการ (เลขาธิการ กพฐ.) หรือผู้ว่าราชการจังหวัดนน้ั ๆ ทไี่ ดร้ บั มอบอำนาจ มีความยืดหยนุ่ และคล่องตวั สงู ในการ 1. จัดทำผลผลิตหรือโครงการตามเป้าหมายท่ีระบุในเอกสารประกอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายหรือพระราชบัญญตั งิ บประมาณรายจ่ายเพม่ิ เติม (การจัดทำรายการใหม่) 2. เพื่อเพิ่มเติมเป้าหมายผลผลิตหรือโครงการเดิมให้บรรลุเป้าหมาย (การเพิ่มเติมรายการเดมิ ขอเงินเพมิ่ ) ยกเวน้ - ตอ้ งไม่เปน็ รายการคา่ จดั หาครุภัณฑ์ยานพาหนะ - ต้องไม่ก่อใหเ้ กดิ รายการก่อหนผี้ กู พนั ขา้ มปีงบประมาณ - ต้องไม่เปน็ การกำหนดอัตราบคุ ลากรตง้ั ใหม่ - ตอ้ งไม่เป็นรายการค่าทด่ี ิน เช่น ซือ้ ทีด่ นิ - ตอ้ งไมเ่ ป็นคา่ ใชจ้ ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ - ในกรณที ี่เป็นค่าครภุ ณั ฑ์ ราคาต่อหนว่ ยตอ้ งตำ่ กว่า 1 ลา้ นบาท - ในกรณที เ่ี ป็นค่าส่ิงกอ่ สรา้ ง ราคาตอ่ หน่วยต้องตำ่ กวา่ 10 ล้านบาทแนวทางการจัดทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ 253 ของสำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา

4. การโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายที่เหลือจ่ายภายใต้แผนงบประมาณ เดียวกัน (ตามระเบียบ ข้อ 25) การใช้งบประมาณรายจ่ายเหลือจ่าย เป็นหลักการตามระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน ตามยุทธศาสตร์ ซึ่งหากหัวหน้าส่วนราชการมีกลยุทธ์และความสามารถในการบริหารงบประมาณรายจ่ายโดย การประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลงได้หรือจัดซื้อจัดจ้างได้ในราคาท่ีถูกลง หรือการดำเนินการมี ประสิทธิภาพทำให้เกิดการประหยัด หัวหน้าส่วนราชการสามารถนำงบประมาณที่เหลือจ่ายไปใช้ได้ โดยใน ปัจจบุ นั อาจนำไปกำหนดเปน็ กิจกรรมรายการใหมเ่ ปน็ ค่าครุภัณฑ์หรอื คา่ สิ่งก่อสร้างใหม่ได้ ซง่ึ ในอนาคตอาจนำ ไปใช้จ่ายเป็นเงินรางวัลแก่บุคลากรของหน่วยงานตามแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติราชการท่ีบัญญัติไว้ใน พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 ก็ได้ โดยหัวหน้า ส่วนราชการสามารถนำเงินเหลือจ่ายไปใช้ได้อย่างคล่องตัวโดยไม่ต้องรอสรุปผลการใช้จ่ายเม่ือสิ้นปีงบประมาณ ดังนั้น หัวหน้าส่วนราชการจึงมีอำนาจโอนและหรือเปลี่ยนแปลงเงินเหลือจ่ายไปใช้จ่ายเป็นรายจ่ายใดๆ ได้ด้วยตนเองภายใตแ้ ผนงบประมาณเดียวกนั ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี าร ดังนี้ 1. ต้องเป็นรายการงบประมาณรายจ่ายท่ีได้รับการจัดสรรงบประมาณหรือได้รับอนุมัติให้ โอนเปลย่ี นแปลงรายการแล้ว 2. ได้ดำเนนิ การจนบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้าหมายแล้ว 3. ได้ดำเนินการจดั ซื้อจัดจ้างแลว้ 4. สามารถนำไปใชจ้ ่ายเป็นรายการใดๆ กไ็ ด้ ยกเวน้ หรือห้าม - มิให้นำไปใช้จ่ายเปน็ รายการอัตราบุคลากรตง้ั ใหม่ - ต้องไม่เป็นรายการค่าทด่ี ิน - ต้องไมเ่ ปน็ รายการกอ่ หนผ้ี กู พันข้ามปีงบประมาณ - มิใหน้ ำไปใชจ้ า่ ยหรอื สมทบจ่ายเปน็ ค่าใชจ้ า่ ยในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ - ตอ้ งไม่มีหนคี้ า่ สาธารณูปโภคคา้ งชำระเมอ่ื ส้ินปีงบประมาณ - ตอ้ งไม่มคี ่าใช้จ่ายท่จี ำเปน็ ต้องจา่ ยตามข้อผูกพันสญั ญา เช่น ค่า K254 แนวทางการจัดทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา

ทั้งนี้ 1. การจัดหาครภุ ัณฑ์ต้องมีวงเงนิ ตอ่ หน่วยตำ่ กวา่ หนึ่งล้านบาท 2. การจดั หาสิง่ ก่อสร้างต้องมวี งเงนิ ตอ่ หนว่ ยต่ำกวา่ สิบลา้ นบาท 3. การจดั หาครุภัณฑ์ยานพาหนะตอ้ งเปน็ การจัดหาเฉพาะเพ่อื ทดแทนครภุ ณั ฑ์ยานพาหนะเดิม อนึ่ง การขอใช้เงินเหลือจ่ายจากค่าก่อสร้างอาคารเรียน อาคารประกอบท่ีเป็นงบปีเดียวใช้ได้ทั้งผลการจัดซือ้ จัดจา้ งและการงดตอกเสาเขม็ กรณีงบผูกพนั (2 ปีขึน้ ไป) ใชไ้ ด้เฉพาะการงดตอกเสาเข็มเทา่ น้ันและให้ใช้ได้ในปีสุดท้ายของงบประมาณ ท้ังน้ี การขอใช้เงินเหลือจ่าย ส่วนราชการจะต้องคำนึงถึงคา่ สาธารณปู โภคเป็นลำดับแรก หากมีเงินเหลือให้นำไปใช้เป็นคา่ K คา่ เช่าบ้าน และรายการอื่นท่จี ำเป็น กรณีขอใช้เงินเหลือจ่ายซ้ือครุภัณฑ์ที่เป็นมาตรฐานให้ใช้ราคามาตรฐานตามท่ีสำนักงบประมาณกำหนด ถ้าไม่ใช่ราคามาตรฐานใหส้ ถานศึกษาแนบใบเสนอราคาอย่างน้อย 3 ราย 5. การโอนเปล่ียนแปลงเพิ่มวงเงินค่าครุภัณฑ์ และส่ิงก่อสร้างท่ีไม่สามารถจัดหาได้ ภายใต้แผนงบประมาณเดยี วกัน (ตามระเบียบขอ้ 26) ในกรณีที่ส่วนราชการได้รับงบประมาณค่าครุภัณฑ์ หรือสิ่งก่อสร้างเป็นรายการงบปีเดียว ซึ่งมวี งเงินงบประมาณรายจา่ ยราคาตอ่ หนว่ ยเกินกว่า 1 ลา้ นบาท และ 10 ล้านบาท ตามลำดบั เม่อื หาผรู้ บั จ้างแลว้ผลการจัดซ้ือจัดจ้างมีราคาสูงกว่าวงเงินงบประมาณ หัวหน้าส่วนราชการสามารถบริหารงบประมาณรายจา่ ยเพื่อจดั ซื้อจดั จา้ งไดด้ ้วยตนเองตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปน้ี 1. ต้องเป็นรายการครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างท่ีได้รับการจัดสรรงบประมาณ หรือได้รับอนุมัติใหโ้ อนเปล่ยี นแปลงแลว้ 2. ต้องไมเ่ ป็นรายการก่อหน้ผี ูกพันข้ามปงี บประมาณ 3. ตอ้ งดำเนินการจดั ซ้อื จัดจ้างแล้ว แตไ่ มอ่ าจจัดหาไดด้ ว้ ยเหตใุ ดๆ ก็ตาม 4. รายการท่จี ัดซ้อื จัดจา้ ง ให้หมายถึง ครภุ ัณฑห์ รอื สิ่งกอ่ สรา้ งหน่งึ หนว่ ยเปน็ หนง่ึ รายการ 5. ให้โอนเปลี่ยนแปลงฯ เพิ่มวงเงินได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของวงเงินที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 6. วงเงินงบประมาณท่ีจะโอนเปล่ียนแปลงฯ มาเพิ่มต้องเป็นงบรายจ่ายต่างๆ ของผลผลิตหรือโครงการใดๆ ภายใตแ้ ผนงบประมาณเดียวกนั 7. ในกรณีที่จะนำเงินนอกงบประมาณมาเพิ่ม ให้เพิ่มได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของวงเงินที่ได้รับจัดสรรงบประมาณแนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ 255 ของสำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา

ตัวอย่าง โรงเรยี น ม. ได้รบั งบประมาณครุภัณฑเ์ ครือ่ งวัดการดดู กลนื แสง 1 เครื่อง จำนวน 1,006,300 บาท จัดซ้ือได้ในราคา 1,106,930 บาท สูงกว่าวงเงินท่ีได้รับจัดสรรงบประมาณ ร้อยละ 10 เป็นจำนวนเงิน 100,630 บาท หากจะโอนเปลย่ี นแปลงงบรายจา่ ยตา่ งๆ ของผลผลติ หรือโครงการใดๆ ภายใตแ้ ผนงบประมาณ เดียวกันมาเพ่ิมก็สามารถเพ่ิมได้ในวงเงิน 100,630 บาท หรือหากมีเงินนอกงบประมาณมาเพ่ิม ก็สามารถ เพม่ิ ไดใ้ นวงเงิน 100,630 บาท เช่นเดยี วกัน 8. ในกรณที ่รี ายการครภุ ณั ฑ์ หรือสิ่งกอ่ สร้างท่ไี ม่สามารถจดั หาไดน้ น้ั มีเงนิ นอกงบประมาณ สมทบอยู่แล้วใหใ้ ช้เงินนอกงบประมาณไปเพิ่มได้ไม่เกนิ ร้อยละ 10 ของวงเงนิ รายการนนั้ ตวั อย่าง จากข้อ 7 ครุภัณฑ์ดังกล่าวได้รับจัดสรรวงเงิน 1,006,300 บาท โดยใช้งบประมาณ จำนวน 906,930 บาท และเงนิ นอกงบประมาณสมทบ จำนวน 99,370 บาท หาผู้รับจา้ งไดใ้ นวงเงิน 1,106,930 บาท เกินงบประมาณจำนวน 100,630 บาท (10%) จะใช้เงินนอกสมทบได้อีก 100,630 บาท รวมเงินนอก งบประมาณสมทบท้งั ส้ิน 200,000 บาท (99,370 + 100,630) 9. แต่หากเงินนอกงบประมาณมีไม่เพียงพอและจะใช้เงินงบประมาณไปเพิ่มให้เพิ่มได้ไม่เกิน ร้อยละ 10 ของวงเงนิ ในสว่ นที่เป็นงบประมาณรายจา่ ยรายการน้ัน ตวั อยา่ ง จากตัวอย่างข้อ 7 วงเงินจัดสรร จำนวน 1,006,300 บาท งบประมาณ 906,930 บาท เงินนอกงบประมาณสมทบ 99,370.- บาท หาผู้รับจา้ งไดใ้ นวงเงนิ 1,106,930.- บาท เงนิ นอกไม่เพยี งพอใชเ้ งิน งบประมาณสมทบจะใชส้ มทบได้ ร้อยละ 10 ของวงเงินทเี่ ปน็ เงนิ งบประมาณ 906,930 x 10% = 90,693 บาท รวมเงินงบประมาณท้ังส้ิน 906,370 + 90,693 = 997,623 บาท และใช้เงินนอกงบประมาณสมทบอีก 9,937 บาท รวมเงนิ นอกงบประมาณ 99,390 + 9,937 = 109,307 บาท ทั้งน้ีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้มอบอำนาจการเปล่ียนแปลง งบประมาณให้สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ศูนย์การศึกษาพิเศษและสถานศึกษา สังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานท่ีตง้ั อยใู่ นจังหวัดนนั้ ใหผ้ ูว้ ่าราชการจงั หวดั ดำเนินการแทน ตามระเบยี บวา่ ด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2548 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2554 ข้อ 18 ข้อ 24 ข้อ 25 และข้อ 26 ตามคำส่ังมอบอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ 1262/2554 ลงวันที่ 12 กนั ยายน 2554256 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา

6. การโอนเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายทต่ี ้องขอตกลงกบั สำนักงบประมาณ รายการที่ต้องขอทำความตกลงกบั สำนักงบประมาณ ไดแ้ ก่ 1. การขอเพิ่มวงเงนิ คา่ ครุภณั ฑ์ หรือสง่ิ กอ่ สร้างท่ีมวี งเงินเกิน 1 ล้านบาท และ 10 ลา้ นบาทตามลำดับ กรณีหาผู้รบั จา้ งแลว้ เกิน 10% ของงบประมาณและเป็นงบปเี ดยี ว 2. รายการผูกพันขา้ มปีงบประมาณคา่ กอ่ สรา้ งอาคารเรยี น อาคารประกอบ 3. การนำเงินงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณปัจจุบันไปสมทบกับเงินงบประมาณรายจ่ายในปที ลี่ ่วงมาแลว้ ทไี่ ด้รบั อนุมตั จิ ากกระทรวงการคลงั ให้กนั เงินไวเ้ บิกจ่ายเหลื่อมปงี บประมาณ 4. การขอเปลย่ี นแปลงรายการเพ่ือจดั ซื้อยานพาหนะ หากส่วนราชการมีความจำเป็นต้องโอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณโดยขอทำความตกลงกบั สำนกั งบประมาณ จะต้องดำเนนิ การตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารดังน้ี 1. วิเคราะห์ความจำเป็นในการขอโอนเปล่ียนแปลงรายการให้สอดคล้องกับหลักการสำคัญของการโอนเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณรายจา่ ย 2. ในกรณีที่การโอนเปล่ียนแปลงมีผลทำให้ต้องปรับปรุงแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณด้วย ก็ให้ดำเนนิ การขอทำความตกลงกับสำนกั งบประมาณไปพร้อมกนั 3. ให้จัดทำและรับส่งข้อมูลการปรับปรุงแผนและการโอนเปล่ียนแปลงรายการด้วยระบบอเิ ล็กทรอนกิ สภ์ าครฐั (GFMIS) พรอ้ มจดั ทำเปน็ หนงั สอื และส่งเพ่อื ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณด้วย 4. การให้ความเห็นชอบแผนปฏบิ ตั ิการ และการอนุมัติโอนเปลย่ี นแปลงรายการงบประมาณสำนกั งบประมาณจะทำเป็นหนงั สือ และจดั สง่ ข้อมูลดว้ ยระบบอิเล็กทรอนิกสภ์ าครฐั (GFMIS) 5. การพิจารณาให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการ และการอนุมัติโอนเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณ สำนักงบประมาณจะต้องวิเคราะห์ความจำเป็นให้สอดคล้องกับหลักการสำคัญของการโอนเปลยี่ นแปลงรายการงบประมาณแนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 257 ของสำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา

7. การโอนเปล่ยี นแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายท่ีตอ้ งได้รับอนุมตั จิ ากคณะรัฐมนตรกี อ่ น การโอนเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณรายจ่ายที่ต้องได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีก่อน คือการโอนเปล่ยี นแปลงรายการดังต่อไปนี้ 1. การโอนเปล่ยี นแปลงรายการที่เป็นผลทำให้เกดิ รายจ่ายประเภทเงินราชการลับ 2. การโอนเปลี่ยนแปลงรายการข้ามแผนงบประมาณ สาเหตุเนื่องจากตามนัยพระราช บัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่นำเสนอต่อรัฐสภาได้ใช้ “แผนงบประมาณ” เป็นรายการขออนุมัติการใช้จ่ายเงินแผ่นดินแทน “แผนงาน” ซึ่ง “แผนงบประมาณ” น้ัน มีความเช่ือมโยงกับ “ประเด็นยุทธศาสตร์หลัก” ของแผนการบริหารราชการแผ่นดิน 4 ปี ของรัฐบาลตามมติคณะรัฐมนตรี ดังนั้น ในกรณีการโอนเปล่ียนแปลงรายการข้าม “แผนงบประมาณ” ในระเบยี บนี้จึงเปน็ การโอนเปล่ียนแปลงรายการ ที่มีผลกระทบต่อเป้าหมายของประเด็นยุทธศาสตร์หลักท่ีคณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้ จึงต้องขออนุมัติจาก คณะรัฐมนตรีก่อน 3. การโอนเปลี่ยนแปลงรายการที่เป็นผลทำให้เกิดรายจ่ายประเภทโครงการใหม่พิเศษ ท่ีเกดิ ขน้ึ จากนโยบายใหมท่ ีไ่ ม่ไดก้ ำหนดไว้ในแผนปฏิบัตริ าชการประจำปี เม่ือส่วนราชการหรือผู้ว่าราชการจังหวัดได้โอนเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณแล้ว ให้จัดทำและส่งรายงานการโอนเปล่ียนแปลงรายการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (GFMIS) โดยไม่ชักช้า แตอ่ ยา่ งช้าต้องไม่เกิน 15 วนั นับแต่วันท่ีโอนเปล่ียนแปลงรายการงบประมาณรายจา่ ย 258 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษามัธยมศกึ ษา

8. การบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง งบประมาณรายจ่ายงบกลาง เป็นรายการงบประมาณรายจ่ายที่แยกต่างหากจากงบประมาณรายจา่ ยสำหรับส่วนราชการ โดยปกตกิ ำหนดไวเ้ พื่อใชจ้ ่ายในหลายกรณี เช่น 1) กรณีเป็นงบบุคลากรที่ทุกหน่วยงานใช้จ่ายในรายการเดียวกันร่วมกัน เช่น เงินเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ เงินชว่ ยเหลือขา้ ราชการ ลกู จ้าง และพนกั งานของรัฐ เป็นตน้ 2) เป็นค่าใช้จ่ายตามนโยบายและโครงการพิเศษของรัฐบาล เช่น ค่าใช้จ่ายในการชำระหนี้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ค่าใช้จ่ายการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาศักยภาพหมูบ่ ้านและชมุ ชน เป็นตน้ 3) เป็นค่าใช้จ่ายในกรณีท่ียังไม่สามารถกำหนดเป้าหมายหรือวงเงินค่าใช้จ่ายไว้ล่วงหน้าได้เช่น เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณฉี กุ เฉนิ หรือจำเป็น ค่าใช้จ่ายตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปน็ ตน้ 4) เป็นค่าใช้จ่ายในการปรับยุทธศาสตร์และนโยบายเพื่อตอบสนองให้ทันกับสถานการณ์ทเี่ ปลีย่ นแปลง เชน่ ค่าใช้จา่ ยเพอ่ื ปรบั กลยุทธแ์ ละรองรับการเปล่ียนแปลง เปน็ ต้น โดยปกติงบประมาณรายจ่ายงบกลางไม่ได้กำหนดไว้สำหรับส่วนราชการใดโดยเฉพาะ ดังน้ันเม่ือส่วนราชการใดมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการใดๆ ให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณเป็นกรณีไป และเม่ือได้รับอนุมัติให้ใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลางใดแล้ว ส่วนราชการน้ัน ต้องรับผิดชอบในการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการน้ันรวมทั้งต้องมีการลงทะเบียนทรัพย์สิน และบำรุงรักษา หรือดำเนินการอื่นใดตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีและหลักเกณฑ์ต่างๆ เช่นเดยี วกับการบริหารงบประมาณรายจา่ ยสำหรับส่วนราชการน้นั ๆ ทุกประการแนวทางการจัดทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ 259 ของสำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา

การบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลางได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการบริหารงบ ประมาณรายจา่ ยงบกลางไวด้ ังน้ี 1.1 การจดั สรรงบประมาณรายจา่ ยงบกลาง 1.2 การใช้รายจ่ายงบกลาง 1.1 การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง การจดั สรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง จำแนกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการที่ต้องจ่ายตามสิทธิของบุคลากรภาครัฐ (ขอ้ 29) ได้แก่ 1) เงินเบี้ยหวดั บำเหน็จ บำนาญ 2) เงินช่วยเหลือขา้ ราชการ ลูกจา้ งและพนักงานของรฐั 3) เงินเลื่อนเงนิ เดอื นและเงนิ ปรับวฒุ ขิ า้ ราชการ 4) เงินสำรอง เงนิ สมทบและเงนิ ชดเชยของข้าราชการ 5) เงินสมทบของลกู จ้างประจำ 6) ค่าใช้จา่ ยในการรกั ษาพยาบาลขา้ ราชการ ลกู จ้างและพนกั งานของรฐั 7) คา่ ใช้จา่ ยการปรบั เงินค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐ 2. งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการอ่นื ๆ ตามระเบยี บฯ ข้อ 30 หากส่วนราชการ มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการใด ให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ โดยให้แสดงรายละเอยี ด ดงั น้ี 1) ชื่อรายการงบประมาณรายจ่ายงบกลางที่จะขอใช้ 2) ชอื่ แผนงบประมาณ 3) ช่ือผลผลิต หรือโครงการ หรอื รายการ 4) งบรายจ่ายท่จี ะใชจ้ ่าย 5) จำนวนเงนิ ท่จี ำเปน็ ต้องใช้จา่ ย 6) เป้าหมายการใหบ้ ริการกระทรวง 7) แผนงบประมาณในเชิงบรู ณาการ (ถ้ามี) 8) แผนการใชจ้ า่ ยเงนิ งบกลางเปน็ รายเดือนอยา่ งชัดเจน 9) เหตผุ ลความจำเป็น 10) รายละเอียดอ่ืนใดตามที่สำนักงบประมาณกำหนดเพ่ิมเติม เพ่ือประกอบการ พจิ ารณาไดอ้ ย่างถูกต้องย่ิงข้ึนตามความจำเป็น 11) สำนกั เบกิ ทจี่ ะเบกิ จา่ ย260 แนวทางการจัดทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ ของสำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา

ให้หัวหน้าส่วนราชการท่ีขอใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลางรับผิดชอบดำเนินการอย่างเคร่งครัดด้วย ทั้งน้ี หมายถึง การดำเนินการเตรียมความพร้อมในการใช้จ่ายหรือก่อหนี้ผูกพันไว้ล่วงหน้าตามสมควรเช่นเดียวกับงบประมาณรายจ่ายสำหรับส่วนราชการด้วย ท้ังนี้ สำนักงบประมาณจะจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลางให้ส่วนราชการท่ีสำนักเบิกที่ขอเบิกจ่าย โดยจะจัดทำเป็นหนังสือและจัดส่งด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (GFMIS) และให้ถือว่าวันที่ได้จัดส่งเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวเป็นวันท่ีได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง 1.2 การใช้รายจา่ ยงบกลาง การบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง ให้ส่วนราชการนำเอาความในส่วนที่เกี่ยวข้องมาบังคับใชก้ บั การบรหิ ารงบประมาณรายจา่ ยงบกลาง ได้แก่ 1) ลกั ษณะ 1 บททวั่ ไป 2) ลกั ษณะ 2 การบรหิ ารงบประมาณรายจ่ายสำหรบั ส่วนราชการ หมวด 2 การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย หมวด 3 การใช้รายจ่ายงบประมาณรายจา่ ย หมวด 4 การโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจา่ ย ยกเวน้ งบประมาณรายจ่ายงบกลางที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณท่ีเหลือจ่ายจากการใช้จ่ายจนบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายผลผลิต โครงการหรือรายการ และหรือหลังจากการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว ให้นำส่งคืนคลัง เวน้ แต่ ในกรณีที่มีความจำเป็นจะต้องนำไปใช้ในรายการอ่ืนๆ ให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณกอ่ นแนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 261 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

9. การกอ่ หน้ผี ูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามระเบียบการกอ่ หนผี้ กู พันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. 2534 และที่แก้ไขเพ่มิ เติม พ.ศ. 2549 ข้อ 7 กำหนดให้การเปล่ียนแปลงรายการ วงเงิน ระยะเวลา หรือรายละเอียดของรายการก่อหน้ีผูกพัน ขา้ มปงี บประมาณท่ีไดร้ บั อนมุ ตั ิจาก ครม. แล้ว ใหด้ ำเนนิ การดังนี้ 1) เปล่ียนแปลงรายละเอียดของรายการไม่เพิ่มวงเงิน ให้ทำความตกลงกับสำนัก งบประมาณ 2) ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันไม่เพ่ิมวงเงิน ให้เสนอขออนุมัติรัฐมนตรีเจ้าของสังกัดและ รายงานสำนกั งบประมาณ ภายใน 15 วัน 3) เปลี่ยนแปลงรายละเอียดและเพ่ิมวงเงิน ให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณและ คณะรฐั มนตร ี 10. การกันเงินไวเ้ บิกเหล่อื มปแี ละ/หรอื การขยายเวลาเบกิ จา่ ยเงิน ณ 30 กันยายน 10.1 การกนั เงนิ ไวเ้ บิกเหลอื่ มปี กรณีมีหน้ผี ูกพัน ระดับสำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษา 1. ก่อนส้นิ เดอื นกันยายนใหท้ ำการตรวจสอบรายการบัญชจี ดั สรรทกุ รายการ ทีไ่ ดร้ ับ ของสำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาและที่ไดจ้ ดั สรรให้กับโรงเรียนในสงั กัดทุกแหง่ (ทไี่ ม่ไดเ้ ปน็ หน่วยเบิก) 2. มีหนังสือแจ้งโรงเรียนทุกโรงให้เร่งรัดดำเนินการจัดซื้อ/จัดจ้าง และการจัดทำ ใบส่ังซ้ือ/สั่งจ้าง หรือสัญญาหรือข้อตกลงให้แล้วเสร็จทุกรายการท่ีได้รับจัดสรร พร้อมให้จัดส่งใบส่ังซ้ือ/ส่ังจ้าง หรือสัญญาหรือข้อตกลง และเอกสารข้อมูลหลักผู้ขายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาก่อนสิ้นเดือนกันยายน ของทกุ ป ี 3. นำใบสั่งซ้ือ/สั่งจ้าง หรือสัญญาหรือข้อตกลง พร้อมเอกสารข้อมูลหลักผู้ขายของ สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษาและของโรงเรยี นทไ่ี ด้รับ สรา้ งใบสัง่ ซอื้ /สั่งจ้าง (PO) ในระบบ GFMIS ใหท้ ันภายใน 30 กนั ยายนของแต่ละปี 4. รวบรวมและจดั เกบ็ เอกสารตามข้อ 3 ทัง้ หมดไว้ตรวจสอบ กรณีใบส่ังซื้อ/ส่ังจ้างหรือสัญญาหรือข้อตกลง ท่ีมีวงเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป เม่อื จดั ทำ PO ในระบบ GFMIS เรียบร้อยแลว้ และมูลค่ารวมตอ่ PO 1 ฉบับ มีมูลค่าตั้งแต่ 50,000 บาทข้นึ ไป ให้ถือ PO ดังกล่าวเป็นใบขอกันเงินไว้เบิกเหล่ือมปี ซ่ึงระบบจะกันเงินไว้เบิกเหล่ือมปีให้โดยอัตโนมัติไม่ต้องส่ง แบบขอกนั เงนิ มาทสี่ ำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน262 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา

สำหรับการบันทึกสัญญาท่ีมีค่างานมากกว่า 1 งวด ให้บันทึก PO เพียง 1 ฉบับ โดยแบ่งงวดงานตามสญั ญา และมลู ค่ารวมเต็มตามสัญญา กรณใี บสั่งซื้อ/ส่ังจ้างหรือสญั ญาหรอื ขอ้ ตกลง ทม่ี ีวงเงินต่ำกว่า 50,000 บาท ให้สถานศึกษาและสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาเร่งดำเนินการเบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ (30 กันยายน)หากเบิกจา่ ยไมท่ ันเงนิ งบประมาณน้ันตอ้ งพับไป ระดับสถานศกึ ษา 1. ตรวจสอบทุกรายการที่ได้รับแจ้งจัดสรรให้ถูกต้อง และเร่งรัดดำเนินการจัดซ้ือ/จดั จา้ ง พรอ้ มจดั ทำใบสงั่ ซ้ือ/สัง่ จา้ งหรอื สญั ญาหรอื ข้อตกลงใหแ้ ลว้ เสรจ็ ก่อนสน้ิ เดอื นกนั ยายน (อย่างช้าไม่ควรเกินวนั ที่ 15 ของเดอื นกันยายนของทกุ ปี) 2. จัดส่งสำเนาใบสั่งซ้ือ/สั่งจ้างหรือสัญญาหรือข้อตกลง พร้อมเอกสารข้อมูลหลักผู้ขาย ให้สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษาเพ่อื จดั ทำใบส่ังซ้อื /ส่ังจา้ ง (PO) ในระบบ GFMIS กรณีไม่มีหน้ผี กู พัน ระดบั สำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษา 1. ก่อนส้ินเดือนกันยายนให้ทำการตรวจสอบรายการบัญชีจัดสรรที่ได้รับทุกรายการของสำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษาและทีไ่ ดจ้ ัดสรรใหก้ บั โรงเรียนในสังกดั ทกุ แห่ง (ที่ไมไ่ ด้เปน็ หน่วยเบิก) 2. มีหนังสือแจ้งโรงเรียนในสังกัดทุกแห่งให้ทำการตรวจสอบรายการท่ีได้รับแจ้งจัดสรร ทุกรายการ พร้อมเร่งรัดดำเนินการจัดซื้อ/จัดจ้างให้แล้วเสร็จ กรณีที่ไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อ/จัดจ้างและจัดทำใบส่ังซ้ือ/สั่งจ้างหรือสัญญาหรือข้อตกลงได้ทันภายในวันท่ี 30 กันยายน และมีความจำเป็นต้องกันเงินไว้เบิกเหล่ือมปีให้จัดทำแบบแจ้งขอให้สร้างเอกสารสำรองเงิน (เอกสารแบบ 2) พร้อมช้ีแจงเหตุผลความจำเป็น 3. รวบรวมแบบแจ้งขอให้สร้างเอกสารสำรองเงิน (เอกสารแบบ 2) พร้อมเหตุผลความจำเป็นสง่ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐานเพือ่ ขอกันเงนิ ระดับสถานศึกษา 1. ทำการตรวจสอบรายการท่ไี ดร้ บั จัดสรรทุกรายการ 2. รวบรวมรายการท่ีไม่สามารถดำเนินการจัดซ้ือ/จัดจ้างได้ทันภายในวันที่ 30กันยายน และมีความจำเป็นต้องกันเงินไว้เบิกเหล่ือมปีจัดทำแบบแจ้งขอให้สร้างเอกสารสำรองเงิน (เอกสารแบบ 2) พรอ้ มช้แี จงเหตผุ ลความจำเปน็ 3. จัดส่งแบบแจ้งขอให้สร้างเอกสารสำรองเงิน (เอกสารแบบ 2) ไปยังสำนักงาน เขตพนื้ ที่การศึกษามธั ยมศึกษาในสงั กัดเพื่อขอกนั เงนิ แนวทางการจัดทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 263 ของสำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษา

10.2 การขยายเวลาเบิกจา่ ยเงนิ กรณมี หี นผ้ี ูกพนั ระดบั สำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา 1. ตรวจสอบและเร่งรัดดำเนินการเบิกจ่ายเงินในรายการท่ีขอกันเงินไว้เบิกจ่าย เหลอ่ื มปใี หท้ นั ภายใน 30 กันยายน 2. หากมีความจำเป็นที่ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว โดยให้แจ้งรายละเอียดเลขที่ PO ตามรายละเอียดการขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณ (แบบ ขย.1) พร้อมช้แี จงเหตผุ ลความจำเป็น 3. รวบรวมรายละเอียดการขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณ (แบบ ขย.1) พร้อมเหตุผลความจำเป็นส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพ่ือขอทำความตกลงกับ กรมบัญชีกลางตอ่ ไป ระดบั สถานศึกษา 1. เร่งรัดดำเนินการเบิกจ่ายเงินในรายการท่ีได้ขอกันเงินไว้เบิกจ่ายเหล่ือมปีให้ทัน ภายใน 30 กนั ยายน 2. กรณีมีความจำเป็นไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้แจ้งรายละเอียดการขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณ (แบบ ขย. 1) พร้อมเหตุผลความจำเป็นส่ง ให้สำนักงาน เขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาในสังกัดเพ่ือให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานขอ ทำความตกลงกบั กรมบัญชีกลางต่อไป กรณไี ม่มหี น้ผี ูกพนั ระดบั สำนักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา 1. ก่อนสิ้นเดือนกันยายนให้ทำการตรวจสอบรายการบัญชีจัดสรรที่ได้รับทุกรายการ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาและที่ได้แจ้งจัดสรรให้กับโรงเรียนในสังกัดทุกแห่ง (ท่ีไม่ได้เป็น หน่วยเบิก) 2. มีหนังสือแจ้งเร่งรัดโรงเรียนในสังกัดทุกแห่งให้ทำการตรวจสอบทุกรายการ ที่ไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อ/จัดจ้างและจัดทำใบส่ังซื้อ/สั่งจ้างหรือสัญญาหรือข้อตกลงได้ทันภายในวันท ่ี 30 กันยายน และมีความจำเป็นต้องขยายเวลาให้จัดทำรายละเอียดเลขที่เอกสารสำรองเงิน ตามแบบแจ้ง รายละเอยี ดการขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน (แบบ ขย. 4) พรอ้ มเหตผุ ลความจำเป็นในการขยายเวลาเบิกจ่าย 3. รวบรวมแบบแจ้งรายละเอียดการขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน (แบบ ขย. 4) พรอ้ มเหตผุ ลความจำเป็นของสำนักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษาและของโรงเรยี นในสงั กดั จดั สง่ สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐานเพ่อื ขอกันเงนิ 264 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา

ระดบั สถานศึกษา 1. ก่อนส้ินเดือนกันยายนให้ทำการตรวจสอบทุกรายการที่ไม่สามารถดำเนินการจัดซอ้ื /จดั จ้างและจัดทำใบสง่ั ซ้อื /ส่ังจา้ งหรอื สัญญาหรือข้อตกลงไดท้ ันภายในวันท่ี 30 กันยายน 2. มีหนังสือแจ้งสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาพร้อมจัดส่งแบบแจ้งรายละเอียดการขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน (แบบ ขย. 4) พร้อมเหตุผลความจำเป็นส่งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในสงั กัด 11. การกันเงินและขยายเวลาเบิกจา่ ยเงนิ ณ 31 มนี าคม กรณมี ีหนผ้ี ูกพนั ระดบั สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษา 1. ตรวจสอบและเร่งรัดดำเนินการเบกิ จ่ายรายการท่ีขอกันเงนิ ไว้ใหท้ ันภายใน 31 มนี าคม 2. หากมีความจำเป็นท่ีไม่สามารถเบิกจ่ายได้ทันภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้แจ้งรายละเอียดเลขที่ PO ตามรายละเอียดการขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณ (แบบ ขย. 1) พร้อมเหตุผลความจำเป็น 3. รวบรวมรายละเอียดการขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณ (แบบ ขย. 1) พร้อมเหตุผลความจำเป็นให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน เพ่ือขอทำความตกลงกับกรมบัญชีกลางต่อไป กรณไี มม่ ีหนผ้ี ูกพนั ระดบั สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา 1. ให้เร่งดำเนินการก่อหนี้ผูกพันให้ทันภายในวันท่ี 31 มีนาคม หากไม่สามารถก่อหน้ีผูกพันได้ทันภายในเวลาดังกลา่ ว อาจไม่ได้รบั การพจิ ารณาใหข้ ยายเวลาเบกิ จา่ ยเงนิ ต่อไปอีก 2. สำหรับรายการท่ีไม่สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในวันที่ 31 มีนาคม และมีความจำเป็นต้องขยายเวลา ให้แจ้งรายละเอียดเลขท่ีเอกสารสำรองเงิน ตามแบบแจ้งรายละเอียดการขยายเวลาเบกิ จา่ ยเงิน (แบบ ขย. 4) พรอ้ มเหตุผลความจำเป็น ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ทั้งน้ีกรณีการขอขยายเวลาเบิกจ่ายเงินจะต้องเป็นรายการท่ีได้ขอตกลงเพ่ือขอกันเงินไว้เบิกเหล่ือมปีและ/หรือขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน ณ 30 กันยายน และกรมบัญชีกลางอนุมัติรอบ 30 กันยายนแล้วเท่านัน้ กฎหมาย ระเบียบ หนงั สือและเอกสารทีเ่ กี่ยวขอ้ ง 1. หนังสือกระทรวงการคลงั ด่วนท่ีสุด ที่ กค 0406.6/ว 95 ลงวนั ที่ 13 กนั ยายน 2553 2. หนงั สือกระทรวงการคลงั ดว่ นทีส่ ดุ ที่ กค 0406.6/ว 101 ลงวันที่ 17 กนั ยายน 2551 3. พระราชบัญญัตวิ ธิ กี ารงบประมาณ พ.ศ. 2502 และทีแ่ กไ้ ขเพม่ิ เตมิ 4. ระเบยี บการเบิกจ่ายเงนิ จากคลัง การเกบ็ รักษาเงินและการนำเงนิ ส่งคลัง พ.ศ. 2551แนวทางการจัดทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 265 ของสำนักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา

12. การเบกิ จา่ ยเงนิ จากคลงั การเก็บรกั ษาเงิน และการนำเงนิ ส่งคลัง ตามระเบียบการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การเก็บรักษาเงินและการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2551 ไดก้ ำหนดสาระสำคญั ท่ีควรรู้ไวด้ งั นี้ 1) การขอเบิกเงินทกุ กรณใี ห้ระบวุ ัตถปุ ระสงค์ทีจ่ ะนำเงินน้ันไปจ่าย หา้ ม ขอเบิกเงนิ จนกว่า จะถึงกำหนด หรือใกลจ้ ะถึงกำหนดจา่ ยเงนิ 2) ค่าใช้จ่ายท่ีเกิดข้ึนในปีงบประมาณใด ให้เบิกเงินจากงบประมาณรายจ่ายของปีนั้น ไปจ่าย กรณีมีเหตุจำเป็นไม่สามารถเบิกเงินงบประมาณรายจ่ายของปีนั้นได้ทัน ให้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ รายจ่ายของปีงบประมาณถัดไปได้ แต่ค่าใช้จ่ายน้ันจะต้องไม่เป็นการก่อหนี้ผูกพันเกินงบประมาณรายจ่าย ท่ไี ด้รับอนมุ ัติ และให้ปฏิบัติตามวธิ ที ี่กระทรวงการคลังกำหนด 3) การขอเบิกเงนิ ทกุ กรณจี ะต้องหักภาษีใดๆ ไว้ ณ ที่จา่ ย ใหบ้ ันทกึ ภาษีเปน็ รายได้แผน่ ดิน ไวใ้ นคำขอเบิกเงินน้นั ด้วย เวน้ แตไ่ ด้มีการหกั ภาษไี ว้แล้ว 4) วิธีการเบิกเงินจากคลัง ใหห้ น่วยงานผู้เบกิ ปฏบิ ตั ิดังน้ี 1) เปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารท่ีเป็นรัฐวิสาหกิจ สำหรับเงินงบประมาณหนึ่งบัญชี และเงนิ นอกงบประมาณหนึง่ บัญชี 2) นำข้อมูลของหน่วยงานผู้เบิก หรือของเจ้าหน้ีหรือผู้มีสิทธิรับเงินสร้างเป็นข้อมูล หลกั ผู้ขายในระบบ GFMIS 3) ตรวจสอบความถูกต้องครบถ้วนของคำขอเบิกเงินก่อนส่งคำขอเบิกเงินไปยัง กรมบัญชกี ลางหรอื สำนกั งานคลังจังหวดั แล้วแตก่ รณี 4) ตรวจสอบการจ่ายเงินของกรมบัญชีกลางให้กับหน่วยงานผู้เบิกหรือจ่ายเงินตรง แกเ่ จ้าหนี้ หรือผมู้ สี ทิ ธิรบั เงินตามคำขอเบิกเงินจากรายงานในระบบ GFMIS 5) การขอเบิกเงินของส่วนราชการสำหรับการซ้ือทรัพย์สิน จ้างทำของ หรือเช่าทรัพย์สิน ตามระเบียบพสั ดุฯ ให้ปฏิบตั ิดังน ้ี 1) กรณีมีใบส่ังซ้ือ ส่ังจ้าง สัญญาหรือข้อตกลงมีวงเงินต้ังแต่ ห้าพันบาท ข้ึนไป ใหจ้ ดั ทำหรือลงใบสง่ั ซอ้ื หรือใบสัง่ จ้างเพื่อทำการจองงบประมาณในระบบ GFMIS 2) การซื้อทรัพย์สิน จ้างทำของ หรือเช่าทรัพย์สิน ให้ขอเบิกเงินจากคลังโดยเร็ว อย่างช้า ไม่เกิน หา้ วนั ทำการ นบั จากวันทีไ่ ดต้ รวจรับทรพั ย์สิน หรือตรวจรบั งานถูกตอ้ งแล้ว หรือนับจากวนั ที่ ไดร้ ับแจ้งจากหน่วยงานย่อย266 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา

การใชจ้ ่ายงบประมาณ 1. คา่ ใช้จ่ายในการบรหิ ารงานของสว่ นราชการ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเก่ียวกับค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของส่วนราชการ พ.ศ. 2553 ได้กำหนดค่าใช้จา่ ยท่ีเบิกจา่ ยจากเงนิ งบประมาณท่เี กิดจากการดำเนนิ งานตามภารกิจปกติของส่วนราชการ ได้แก่ งบดำเนินงาน ลักษณะค่าตอบแทนใช้สอยและวัสดุ ค่าสาธารณูปโภค และ งบรายจ่ายอ่ืน ท่ีเบิกจ่ายในลักษณะเดียวกัน ให้เป็นไปตามหลักการจำแนกประเภทรายจ่ายตามงบประมาณ(ฉบับปรับปรุง) ตามหนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร 0704/ว 33 ลงวันท่ี 18 มกราคม 2553 ท่ีสำนักงบประมาณกำหนด สาระสำคญั ที่ควรรู้ 1. ค่าใช้สอยบางรายการที่เบิกไมไ่ ด้ ไดแ้ ก่ 1) คา่ จดั ทำสมุดบันทึก สมุดฉีก หรอื ของชำรว่ ย เนอ่ื งในโอกาสต่างๆ 2) ค่าจัดพิมพ์ ค่าจัดส่ง ค่าฝากส่งเป็นรายเดือนสำหรับบัตรอวยพรในเทศกาลต่างๆ และคา่ จดั พิมพน์ ามบตั รให้กบั บุคลากรภายในส่วนราชการ 3) ค่าพวงมาลัย ดอกไม้ หรือของเยี่ยมผู้ป่วย เพื่อมอบให้กับส่วนราชการหน่วยงานของรัฐหน่วยงานเอกชน บคุ คล เนื่องในโอกาสต่างๆ 4) คา่ ทปิ 5) เงินหรือสิง่ ของบรจิ าค 6) ค่าใช้จา่ ยในการจัดสวัสดกิ ารหรือการจัดกิจกรรมนันทนาการภายในส่วนราชการ 2. ค่าตอบแทนการปฏบิ ตั งิ านนอกเวลาราชการ ด้วยกระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลางได้กำหนดระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจา่ ยเงนิ ตอนแทนการปฏบิ ตั ิงานนอกเวลาราชการ พ.ศ. 2550 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตงั้ แต่วนั ท่ี 1 กมุ ภาพนั ธ์ 2550ดงั นี้ “เงินตอบแทน” หมายความว่า เงินท่ีจ่ายให้แก่ข้าราชการท่ีปฏิบัติงานตามหน้าที่ปกติ โดยลักษณะงานส่วนใหญ่ต้องปฏิบัติงานในท่ีตั้งสำนักงานและได้ปฏิบัติงานนั้นนอกเวลาราชการในท่ีต้ังสำนักงานหรือโดยลักษณะงานส่วนใหญ่ต้องปฏิบัติงานนอกท่ีต้ังสำนักงานและได้ปฏิบัติงานน้ันนอกเวลาราชการนอกท่ีต้ังสำนักงาน หรือโดยลักษณะงานปกติต้องปฏิบัติงานในลักษณะเป็นผลัดหรือกะและได้ปฏิบัติงานน้ันนอกผลัดหรอื กะของตน “เวลาราชการ” หมายความว่า เวลาระหว่าง 08.30 – 16.30 น. ของวันทำการ และให้หมายความรวมถึงช่วงเวลาอ่ืนที่ส่วนราชการกำหนดให้ข้าราชการในสังกัดปฏิบัติงานเป็นผลัดหรือกะหรือเป็นอยา่ งอ่นื ด้วย แนวทางการจัดทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 267 ของสำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษา

“วันทำการ” หมายความว่า วันจันทร์ถึงวันศุกร์ และให้หมายความรวมถึงวันทำการ ท่สี ว่ นราชการกำหนดเป็นอย่างอ่ืนด้วย “วนั หยดุ ราชการ” หมายความวา่ วันเสาร์และวนั อาทิตย์ หรือวนั หยดุ ราชการประจำสัปดาห์ ท่ีส่วนราชการกำหนดไว้เป็นอย่างอ่ืน และให้หมายความรวมถึงวันหยุดราชการประจำปีหรือวันหยุดพิเศษอื่นๆ ทค่ี ณะรัฐมนตรกี ำหนดให้เป็นวนั หยดุ ราชการนอกเหนือจากวนั หยุดราชการประจำปี การปฏิบัตงิ านนอกเวลาราชการตอ้ งได้รับอนุมัติจากหวั หน้าสว่ นราชการ เจา้ ของงบประมาณ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายก่อนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ โดยให้พิจารณาเฉพาะช่วงเวลาที่จำเป็นต้องอยู่ ปฏิบัตงิ านนอกเวลาราชการในคร้ังน้นั ๆ เพื่อประโยชนข์ องงานราชการเปน็ สำคญั และใหค้ ำนึงถงึ ความเหมาะ สมและสอดคลอ้ งกับระบบและวธิ กี ารจดั การงบประมาณแบบมงุ่ เน้นผลงานตามยทุ ธศาสตร์ของ ส่วนราชการ กรณีท่ีมีราชการจำเป็นเร่งด่วนต้องปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ โดยยังไม่ได้รับการอนุมัต ิ ให้ดำเนนิ การขออนุมัติจากผมู้ อี ำนาจโดยไม่ชกั ชา้ และใหแ้ จ้งเหตแุ ห่งความจำเปน็ ทีไ่ ม่อาจอนุมัติก่อนได้ กรณีข้าราชการได้รับคำส่ังให้เดินทางไปราชการไม่มีสิทธิได้รับเงินตอนแทน เว้นแต่ ได้รับ อนุมัติ ให้ปฏิบัติงานนอกเวลาราชการก่อนการเดินทาง เมื่อการเดินทางไปราชการนั้นเสร็จส้ินและกลับถึงที่ต้ัง สำนักงานในวนั ใด หากจำเป็นตอ้ งปฏิบตั ิงานนอกเวลาราชการในแตล่ ะวนั น้นั ให้เบิกเงินตอบแทนได้ 3. หลกั เกณฑ์และอัตราการเบิกเงนิ ตอบแทน มดี ังนี้ 1) การปฏิบัติงานนอกเวลาราชการในวันทำการ ให้มีสิทธิเบิกเงินตอบแทนได้ไม่เกินวันละ 4 ชว่ั โมง ในอตั ราชวั่ โมงละ 50 บาท 2) การปฏิบัติงานในวันหยุดราชการ ให้มีสิทธิเบิกเงินตอบแทนได้ไม่เกินวันละ 7 ช่ัวโมง ในอตั ราช่วั โมงละ 60 บาท 3) กรณีมีความจำเป็นต้องปฏิบัติงานซ่ึงเป็นภารกิจหลักของหน่วยงานเป็นคร้ังคราวหรือ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่มอบหมายให้หน่วยงานปฏิบัติ โดยมีกำหนดระยะเวลาแน่นอนและมีลักษณะ เร่งด่วน เพ่ือมิให้เกิดความเสียหายแก่ราชการและประโยชน์สาธารณะ หัวหน้าส่วนราชการอาจส่ังการ ให้ปฏิบัติงานนอกเวลาราชการติดต่อกัน โดยให้สิทธิเบิกเงินตอบแทนเป็นรายครั้งไม่เกินครั้งละ 7 ชั่วโมง ในอัตราชั่วโมงละ 60 บาท 4) การปฏิบัติงานนอกเวลาราชการหลายช่วงเวลาภายในวันเดียวกัน ให้นับเวลาปฏิบัติงาน นอกเวลาราชการทุกชว่ งเวลารวมกนั เพ่อื เบกิ เงนิ ตอบแทนสำหรับวนั นัน้ 5) การปฏิบัติงานนอกเวลาราชการที่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนอื่นของทางราชการสำหรับ การปฏิบตั ิงานนนั้ แล้วใหเ้ บิกไดท้ างเดยี ว268 แนวทางการจัดทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ ของสำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษา

4. การปฏิบตั ิงานท่ไี มอ่ าจเบกิ เงนิ ตอบแทนได้ มีดังน้ี 1) การอยู่เวรรักษาการณ์ตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติหรือตามระเบียบหรือคำสั่งอนื่ ใดเกีย่ วกับการรกั ษาความปลอดภัยสถานทร่ี าชการ ไม่มสี ทิ ธิเบิกเงนิ ตอบแทน 2) การปฏบิ ตั งิ านนอกเวลาราชการ ไม่เต็มจำนวนช่วั โมง 5. การควบคมุ ดแู ลการปฏบิ ัติงานนอกเวลาราชการ ใหป้ ฏิบัตดิ ังนี้ 1) กรณีผู้ปฏิบัติงานนอกเวลาราชการร่วมกันหลายคน ให้ผู้ปฏิบัติงานคนใดคนหน่ึง เป็นผ้รู ับรองการปฏบิ ัตงิ าน หากเป็นการปฏบิ ัตงิ านเพยี งลำพงั คนเดยี ว ใหผ้ ู้ปฏบิ ตั งิ านเปน็ ผู้รบั รอง 2) ให้รายงานผลการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการต่อผู้มีอำนาจอนุมัติภายใน 15 วัน นับตง้ั แตว่ ันที่เสรจ็ สิ้นการปฏิบัติงาน 2. ค่าใช้จา่ ยในการเดนิ ทางไปราชการในราชอาณาจกั ร การเบิกค่าใชจ้ ่ายในการเดนิ ทาง ใหเ้ ป็นไปตามระเบียบ ดังน้ี 1) ระเบียบกระทรวงการคลังวา่ ดว้ ยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดนิ ทางไปราชการ พ.ศ. 2550และฉบับท่ี 2 พ.ศ. 2554 2) พระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ.2526 และท่ีแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 7 พ.ศ. 2548 และฉบบั ท่ี 8 พ.ศ. 2553 คา่ ใช้จา่ ยในการเดนิ ทางไปราชการชั่วคราว ไดแ้ ก่ 1) คา่ เบี้ยเลี้ยงเดินทาง 2) ค่าเชา่ ทพ่ี กั 3) คา่ พาหนะ 4) คา่ ใชจ้ ่ายอื่นท่ีจำเป็นตอ้ งจา่ ยเนือ่ งในการเดินทางไปราชการ ค่าเบยี้ เลีย้ งเดนิ ทาง การนับเวลา คำนวณเบีย้ เล้ียง - ออกจากบ้านพกั หรือที่ทำงานปกตจิ นกลบั ถงึ บา้ นพักหรอื ท่ที ำงานปกติ - กรณีพักแรม ใหน้ ับ 24 ช่ัวโมง เป็น 1 วนั เศษเกนิ 12 ชว่ั โมง นับเป็น 1 วัน - กรณีไม่พักแรม ให้นับเวลาเกิน 12 ช่ัวโมง เป็น 1 วัน แต่ไม่ถึง 12 ช่ัวโมง แต่เกิน 6 ช่ัวโมง นบั เปน็ ครง่ึ วนั แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ 269 ของสำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา

ค่าเบี้ยเล้ยี งเดินทาง เบกิ ในลกั ษณะเหมาจ่าย อตั รา (บาท : วนั : คน) ข้าราชการ 240 - ประเภททัว่ ไประดับอาวโุ สลงมา - ประเภทวชิ าการระดับชำนาญการพเิ ศษลงมา - ประเภทอำนวยการระดบั ตน้ 270 - ตำแหน่งระดบั 8 ลงมา หรือตำแหน่งที่เทยี บเท่า - ประเภททั่วไประดับทักษะพเิ ศษ - ประเภทวชิ าการระดบั เชี่ยวชาญข้ึนไป - ประเภทอำนวยการระดับสงู - ประเภทบรหิ าร - ตำแหนง่ ระดับ 9 ขนึ้ ไปหรอื ตำแหนง่ ที่เทยี บเทา่ หมายเหตุ : การเทียบตำแหนง่ พนกั งานขับรถยนต์ ลกู จ้าง พนกั งานราชการ เบิกคา่ เบยี้ เลี้ยงเดินทางใหเ้ บิกได้ ในอตั รา 240 บาท ตอ่ วนั ยกเว้นบคุ ลากรทีเ่ กิดจากการจา้ งเหมาบริการใหเ้ ป็นไปตามสัญญาจา้ ง270 แนวทางการจัดทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษา

ค่าเชา่ ทพ่ี ัก - เบิกลกั ษณะจา่ ยจริง - เบิกลักษณะเหมาจา่ ย ถ้าเดินทางไปราชการเป็นหมคู่ ณะตอ้ งเลือกเบิกค่าเชา่ ทพี่ ักในลกั ษณะเดยี วกนั ทัง้ คณะ บาท : คน : วนั ขา้ ราชการ จ่ายจริง เหมาจ่าย พกั เดย่ี ว พกั คู่ - ประเภทท่ัวไประดบั อาวุโสลงมา - ประเภทวชิ าการระดบั ชำนาญการพเิ ศษลงมา 1,500 850 800 - ประเภทอำนวยการระดับตน้ - ตำแหน่งระดับ 8 ลงมา หรอื ตำแหน่งท่เี ทยี บเทา่ (กรณีเดินทางไปราชการเปน็ หมู่คณะใหพ้ ักรวมกนั สองคนตอ่ หน่ึงห้อง) 2,200 1,200 1,200 - ประเภททว่ั ไประดับทกั ษะพิเศษ - ประเภทวิชาการระดบั เชี่ยวชาญ - ประเภทอำนวยการระดบั สูง 2,500 1,400 1,200 - ประเภทบริหารระดับตน้ - ตำแหน่งระดบั 9 หรือเทียบเท่า (จะเบกิ ในอตั ราหอ้ งพักเด่ยี วหรือพกั คกู่ ไ็ ด้) - ประเภทวชิ าการระดับทรงคณุ วุฒ ิ - ประเภทบรหิ ารระดับสูง - ตำแหน่งระดบั 10 ขึน้ ไปหรอื เทยี บเทา่ แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 271 ของสำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา

ค่าพาหนะ สิทธิการเบิกค่ายานพาหนะประจำทาง รถไฟ ให้เบกิ เท่าที่จา่ ยจริง - รถด่วน/ด่วนพิเศษ ชั้น 1 น่ังนอน ปรับอากาศ (บน อ.ป) เบิกได้เฉพาะผู้ดำรงตำแหน่ง ระดบั 6 ขนึ้ ไปหรอื เทยี บเท่า รถโดยสารปรับอากาศ ให้เบิกได้เท่าท่ีจ่ายจริง ไม่เกินอัตราที่คณะกรรมการควบคุม การขนส่งทางบกกลางกำหนด หลกั เกณฑค์ ่าพาหนะรับจ้าง (TAXI) 1) ไม่มพี าหนะประจำทาง 2) มพี าหนะประจำทาง แต่มีความจำเป็นเรง่ ด่วนเพื่อประโยชนข์ องทางราชการ 3) ระดบั 6 ขึน้ ไป - ไป-กลับ ระหวา่ งทพี่ ัก หรอื ที่ทำงานกับสถานี/สถานทจ่ี ัดยานพาหนะ - ไป-กลับ ระหว่างที่พักกับสถานที่ปฏิบัติราชการภายในเขตจังหวัดเดียวกัน วันละไมเ่ กินสองเทย่ี ว (ยกเว้นการเดินทางไปสอบคัดเลือก) - ไปราชการในเขต กทม. 4) ระดับ 5 ลงมา ต้องมีสมั ภาระหรอื ส่ิงของของทางราชการไปด้วย ค่าพาหนะรบั จา้ งข้ามจงั หวัด สถานท ี่ กค.กำหนด มาตรการ สพฐ. - เขตติดตอ่ กทม. กบั - เท่าทีจ่ า่ ยจรงิ ไม่เกนิ - เท่าท่ีจ่ายจรงิ ไม่เกนิ จงั หวัดอน่ื เท่ียวละ 600 บาท เทย่ี วละ 400 บาท - กทม./เขตตดิ ต่อ กทม. - เท่าทจี่ า่ ยจรงิ ไม่เกนิ ถงึ สุวรรณภูม ิ เท่ียวละ 500 บาท - ข้ามเขตจังหวดั อน่ื ๆ - เท่าที่จ่ายจริง ไมเ่ กิน - เทา่ ท่ีจา่ ยจริง ไมเ่ กนิ เทยี่ วละ 500 บาท เทีย่ วละ 300 บาท272 แนวทางการจัดทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา

นอกเหนือจากมาตรการท่ี สพฐ. กำหนด ให้เสนอเลขาธกิ าร กพฐ. ให้ความเหน็ ชอบ พาหนะส่วนตัว - เบกิ เงินชดเชย - รถยนต์ กม. ละ 4 บาท - ระยะทางตามท่ีกรมทางหลวงกำหนด เครอ่ื งบิน กค.กำหนด มาตรการ สพฐ.- ระดบั 6 ข้ึนไป = ชน้ั ประหยดั - ระดบั 6 สายการบนิ ตน้ ทุนต่ำหรือการบินไทย- ระดบั 9 ข้นึ ไป = ช้นั ธุรกิจ - ระดับ 7 ชน้ั ประหยดั อตั รา Fix Flight Fix cost- ระดบั 10 ขึน้ ไป = ชั้นหนง่ึ - ระดบั 8 - ระดับ 9 = ชน้ั ประหยดั หลักฐานการเบกิ ค่าเคร่ืองบนิ 1) กรณมี ีหนังสือให้บรษิ ัทออกบัตรโดยสารใหก้ ่อน ใหใ้ ช้ใบแจ้งหน้เี ปน็ หลักฐานในการเบิกเงิน 2) กรณจี ่ายเปน็ เงนิ สด ใหใ้ ชห้ ลักฐาน - ใบเสรจ็ รับเงิน และ - กากบัตรโดยสาร 3) กรณซี ือ้ E-Ticket ให้ใชใ้ บรบั เงินท่ีแสดงรายละเอยี ดการเดนิ ทาง (Itinery Receipt) 3. การยมื เงินในการเดินทางไปราชการชวั่ คราว มีเอกสารและข้นั ตอนการดำเนนิ การดงั น้ี 1) จัดทำบันทึกขออนุญาตการเดินทางไปราชการต่อผู้มีอำนาจอนุมัติ โดยระบุรายละเอียดทีส่ ำคัญ ไดแ้ ก่ 1.1 ช่อื ผขู้ ออนญุ าตเดนิ ทางไปปฏิบตั ิราชการ 1.2 วนั ที่ไปปฏิบตั ิราชการ (รวมวนั เดินทางไป-กลบั ด้วย) 1.3 สถานทข่ี อไปปฏิบตั ริ าชการ 1.4 กรณีเดินทางไปปฏิบัติราชการโดยรถของทางราชการให้ขออนุญาต โดยระบุหมายเลขทะเบยี นและพนกั งานขับรถยนตไ์ ว้ดว้ ย แนวทางการจัดทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ 273 ของสำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา

1.5 กรณีเดนิ ทางไปปฏบิ ตั ริ าชการโดยพาหนะส่วนตวั ให้ระบกุ ารขอใช้รถยนตส์ ่วนตวั ด้วย 1.6 ระบวุ งเงินงบประมาณท่ีต้องใช้ 2) จัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ ได้แก่ ค่าเบ้ียเลี้ยง ค่าท่ีพัก ค่าพาหนะ ฯลฯ 3) จัดทำสัญญายืมเงิน 2 ฉบับ ตามแบบทีก่ ระทรวงการคลังกำหนด โดยกรอกรายละเอียด การยืมเงนิ ให้ครบถ้วน 4) เจ้าหน้าท่ีการเงินตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ตาม ข้อ 1-3 และทำบันทึกเสนอ ผูม้ ีอำนาจเพอ่ื อนมุ ัติยมื เงิน 5) การจา่ ยเงนิ ยืม จะจ่ายเมอ่ื ใกลถ้ งึ กำหนดเดนิ ทางไปราชการ 4. ค่าใช้จา่ ยในการฝกึ อบรม การฝึกอบรม หมายความว่า การอบรม การประชุมทางวิชาการหรือเชิงปฏิบัติการ การสัมมนาทางวิชาการหรือเชิงปฏิบัติ การบรรยายพิเศษ การฝึกศึกษา การดูงาน การฝึกงาน หรือท่ีเรียกชื่อ อย่างอ่ืนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีโครงการหรือหลักสูตรและช่วงเวลาจัดที่แน่นอนที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาบุคคลหรือเพ่ิมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โดยไม่มีการรับปริญญาหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ ไม่ใชห่ ลักสูตรการเรยี นการสอน การศึกษาต่อไมใ่ ชก่ ารประชมุ หารอื ประชมุ คณะกรรมการ คณะอนกุ รรมการ ผู้เข้ารับการฝึกอบรม หมายถึงบุคลากรของรัฐ ได้แก่ ข้าราชการทุกประเภท รวมท้ัง พนักงาน ลกู จ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรอื หน่วยงานอ่ืนของรัฐ หรอื บุคคลซ่ึงไม่ใช่บคุ ลากรของรฐั การฝกึ อบรมแบง่ เป็น 3 ประเภท 1) การฝึกอบรมประเภท ก. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเกินก่ึงหนึ่งเป็นบุคลากรของรัฐ ซ่ึงเป็น ข้าราชการตำแหน่งประเภท ประเภททัว่ ไป ระดับทักษะพเิ ศษ ประเภทวิชาการ ระดับเชีย่ วชาญ/ระดับทรงคุณวฒุ ิ ประเภทอำนวยการ ระดบั สงู ประเภทบรหิ าร ระดบั ตน้ /ระดับสงู 2) การฝึกอบรมประเภท ข. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเกินกึ่งหน่ึงเป็นบุคลากรของรัฐ ซ่ึงเป็น ขา้ ราชการตำแหนง่ ประเภท ประเภทท่วั ไป ระดับปฏบิ ตั งิ าน/ระดับชำนาญงาน/ระดับอาวุโส ประเภทวชิ าการ ระดบั ปฏิบตั ิการ/ระดบั ชำนาญการ/ระดับชำนาญการพเิ ศษ ประเภทอำนวยการ ระดบั ตน้ 274 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา

3) การฝกึ อบรมบุคคลภายนอก ผูเ้ ขา้ รบั การฝึกอบรมเกินก่ึงหนึง่ มิใชบ่ คุ ลากรของรฐั บคุ คลที่จะเบิกคา่ ใชจ้ ่ายในการฝกึ อบรม ไดแ้ ก่ 1. ประธานในพิธีเปดิ -ปิด การฝกึ อบรม แขกผ้มู เี กียรตแิ ละผตู้ ิดตาม 2. เจา้ หนา้ ที่บุคลากรของรัฐที่ได้รบั แต่งตงั้ ให้ปฏบิ ัติงาน 3. วทิ ยากร 4. ผเู้ ข้ารับการฝกึ อบรม 5. ผสู้ ังเกตการณ์ ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมท่ีไม่ต้องทำตามระเบียบพัสดุ ได้แก่ ค่าอาหารว่างและเครื่องด่ืม ค่าอาหาร คา่ เชา่ ทพ่ี ัก หลักฐานทจี่ ะต้องใชใ้ นการเบกิ จ่าย ได้แก่ ใบเสร็จรบั เงนิ ใบรับรองการจา่ ยเงนิ ใบสำคัญรับเงนิ หลกั เกณฑ์การจ่ายคา่ สมนาคุณวทิ ยากร 1) การฝกึ อบรมทม่ี ลี กั ษณะเปน็ การบรรยายให้จา่ ยคา่ สมนาคุณวิทยากรไดไ้ ม่เกนิ 1 คน 2) การฝึกอบรมที่มีลักษณะเป็นการอภิปรายหรือสัมมนาเป็นคณะให้จ่ายค่าสมนาคุณวทิ ยากร ไม่เกิน 5 คน 3) การฝึกอบรมที่มีลักษณะเป็นการแบ่งกลุ่มฝึกภาคปฏิบัติ แบ่งกลุ่มอภิปรายหรือสัมมนาหรอื แบ่งกลุม่ ทำกจิ กรรม ใหจ้ า่ ยค่าสมนาคณุ วทิ ยากรไดไ้ มเ่ กนิ กลุ่มละ 2 คน กรณี วิทยากรในการฝึกอบรมเกินกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ ให้เฉล่ียจ่ายค่าสมนาคุณวิทยากรได้ภายในจำนวนเงนิ ทีจ่ า่ ยได้ตามหลักเกณฑ์ การนบั เวลาเพ่ือจา่ ยค่าสมนาคุณวทิ ยากร - นับตามเวลาทกี่ ำหนดในตารางการฝึกอบรม - ไมต่ อ้ งหกั เวลาทพ่ี ักรับประทานอาหารวา่ งและเครื่องดมื่ - แต่ละชว่ั โมงการฝึกอบรมต้องไมน่ อ้ ยกว่า 50 นาที - ช่ัวโมงการอบรมไม่ถึง 50 นาที แต่ไม่น้อยกว่า 25 นาที ให้เบิกค่าสมนาคุณวิทยากรไดก้ ึ่งหนงึ่ แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ 275 ของสำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา

อัตราค่าสมนาคณุ วิทยากร ประเภท ข อตั รา (บาท : ช่วั โมง) ประเภท ก ประเภทวิทยากร ระดับตน้ / ประเภท ข ระดบั สงู บุคคลภายนอก ระดบั กลาง 1. วทิ ยากรเปน็ บุคลากรของรัฐ ไม่เกนิ 800 2. วทิ ยากรทมี่ ิใช่บคุ ลกรของรฐั ไมเ่ กิน 600 ไม่เกนิ 600 ไมเ่ กิน 1,600 ไม่เกิน 1,200 ไม่เกนิ 1,200 - กรณีจำเป็นต้องใช้วิทยากรท่ีมีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์เป็นพิเศษ จะจ่าย สูงกว่าอัตราทก่ี ำหนด อยู่ในดลุ พินิจของหวั หนา้ ส่วนราชการเจ้าของงบประมาณ - วิทยากรสังกัดส่วนราชการเดียวกับผู้จัดให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าส่วนราชการผู้จัดท่ีจะ จา่ ยไดแ้ ต่ไม่เกนิ อตั ราท่ีกำหนด การฝึกอบรมกรณีทผ่ี ู้จดั อบรมได้จัดอาหารให้แก่บคุ คลผู้เข้ารับการฝึกอบรม ใหเ้ บกิ ค่าอาหาร เทา่ ทจ่ี า่ ยจรงิ แตไ่ ม่เกนิ อัตราท่ีกำหนด การฝกึ อบรมจัดในสถานที่สว่ นราชการ ในประเทศ ต่างประเทศ ระดับการฝกึ อบรม ครบม้อื ไม่ครบมือ้ ไม่เกนิ 2,500 ประเภท ข ไมเ่ กิน 2,500 ระดบั ตน้ /กลาง/บุคคลภายนอก ไมเ่ กิน 500 ไมเ่ กนิ 300 ประเภท ก ระดับสงู ไมเ่ กนิ 700 ไม่เกนิ 500 การฝึกอบรมจดั ในสถานท่ีเอกชน ในประเทศ ตา่ งประเทศ ครบมื้อ ไม่ครบมือ้ ไม่เกิน 2,500 ระดับการฝกึ อบรม ไมเ่ กิน 2,500 ไมเ่ กนิ 800 ไมเ่ กิน 600 ประเภท ข ระดับตน้ /กลาง/บคุ คลภายนอก ไมเ่ กิน 1,000 ไมเ่ กนิ 700 ประเภท ก ระดบั สงู 276 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษา

สำหรับค่าอาหารว่างและเคร่ืองดื่มกระทรวงการคลังไม่ได้กำหนดอัตราไว้ ท้ังน้ี สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดหลักเกณฑ์ การเบิกจ่ายค่าอาหาร ค่าอาหารว่างและเคร่ืองด่ืมตามาตรการประหยัดเพ่อื ใหส้ อดคล้องกบั มตคิ ณะรัฐมนตรี โดยให้เบิกจ่ายในอัตราตอ่ ไปนี ้ จดั อาหาร จดั ฝกึ อบรมในสถานท่ี จดั ฝึกอบรมในสถานท่ี รายการ ราชการ/รฐั วิสาหกิจ เอกชน 1 มอ้ื (อัตรา/คน/ม้อื ) (อัตรา/คน/ม้อื ) ค่าอาหาร 2 ม้ือ 3 มอื้ มอ้ื ละไม่เกนิ ไม่เกนิ 350 บาท 150 บาท ไม่เกิน 550 บาท ค่าอาหารว่างและเคร่อื งดืม่ ไม่เกิน 750 บาท ไมเ่ กิน 25 บาท ไมเ่ กนิ 25 บาท การจัดฝึกอบรมกรณีที่ผู้จัดอบรม ได้จัดท่ีพักและออกค่าเช่าที่พักให้จะเบิกค่าท่ีพักได้เท่าที่จา่ ยจริง แตไ่ มเ่ กินอตั ราตามระเบียบฝกึ อบรมท่กี ำหนด ตอ่ วนั : คน ดงั น้ี ค่าเชา่ ห้องพกั คนเดยี ว ค่าเชา่ ห้องพกั คู่ ระดับการฝกึ อบรม อตั รา มาตรการ อตั รา มาตรการ กระทรวงการคลัง สพฐ. กระทรวงการคลงั สพฐ.1. ประเภท ข ไมเ่ กนิ 1,200 ไม่เกิน 900 ไม่เกิน 750 ไมเ่ กิน 500 ระดับตน้ /กลาง/บคุ คลภายนอก ไมเ่ กิน 1,100 -2. ประเภท ก ไมเ่ กนิ 2,000 - ระดับสงู แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 277 ของสำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษา

หลกั เกณฑก์ ารจดั ที่พกั 1. ผูเ้ ข้ารบั การฝึกอบรมประเภท ข (ระดบั ต้น ระดับกลาง) และการฝกึ อบรมบคุ คลภายนอก ใหพ้ กั รวมกันต้ังแต่ 2 คนขึน้ ไป โดยใหพ้ กั หอ้ งพักคู่ เว้นแต่ กรณีไมเ่ หมาะสมหรอื มีเหตุจำเปน็ ไมอ่ าจ พักรวม กันได้ หัวหน้าส่วนราชการผูจ้ ดั ฝึกอบรมอาจจัดใหพ้ กั ห้องพกั คนเดยี วได้ 2. ผ้สู ังเกตการณห์ รอื เจ้าหน้าท่ีซึ่งมรี ะดับตำแหนง่ ไม่สูงกวา่ ระดบั 8 (เดิม) หรือเทียบเท่าให้ พักรวมกันต้ังแต่ 2 คนข้ึนไป โดยให้พักคู่ เว้นแต่กรณีที่ไม่เหมาะสมหรือเหตุจำเป็นไม่อาจพักรวมกับผู้อื่นได้ หวั หนา้ สว่ นราชการผ้จู ดั การฝึกอบรมอาจจัดให้พกั หอ้ งพักคนเดยี วได้ 3. ผู้สังเกตการณ์หรือเจ้าหน้าที่ซ่ึงมีระดับตำแหน่งตั้งแต่ระดับ 9 (เดิม) หรือเทียบเท่าขึ้นไป จะจดั ให้พกั หอ้ งพักคนเดียวกไ็ ด้ การคำนวณเบีย้ เล้ยี ง กรณีการฝึกอบรมมีการจัดอาหาร 1. ให้นับเวลาต้ังแตอ่ อกจากท่อี ย่/ู ทีท่ ำงาน จนกลบั ถึงที่อย/ู่ ทท่ี ำงาน 2. 24 ชัว่ โมง คิดเปน็ 1 วัน หรอื เกินกวา่ 12 ชวั่ โมง คิดเป็น 1 วัน 3. ใหห้ ักค่าเบ้ยี เล้ียงทีค่ ำนวณได้ม้อื ละ 1 ใน 3 ของอัตราเบ้ยี เลย้ี งเดนิ ทางเหมาจ่ายต่อวัน กรณีการจัดฝึกอบรมบุคคลภายนอกและส่วนราชการไม่จัดอาหาร/ท่ีพัก/ยานพาหนะท้ังหมด หรือบางส่วน ใหจ้ า่ ยเงนิ ใหแ้ กผ่ ู้เขา้ ฝกึ อบรมทมี่ ใิ ช่บคุ คลากรของรัฐ ดังน้ี 1. คา่ เบยี้ เลี้ยง ไม่จัดอาหารทั้ง 3 มื้อ จ่ายไม่เกนิ 120 บาท/วัน/คน จัดอาหารให้ 2 มือ้ จา่ ยไมเ่ กิน 40 บาท/วัน/คน จัดอาหารให้ 1 มื้อ จ่ายไม่เกิน 80 บาท/วัน/คน 2. ค่าเชา่ ที่พกั เหมาจ่ายไมเ่ กนิ 500 บาท/วัน/คน 3. ค่าพาหนะ (ยกเว้นค่าโดยสารเครื่องบิน) จะจ่ายจริงหรือเหมาจ่าย อยู่ในดุลพินิจของ หัวหน้าส่วนราชการผจู้ ัด กรณีจา้ งจดั ฝกึ อบรมต้องปฏิบัติตามระเบยี บพัสดุ โดย 1) แจกแจงค่าใช้จ่ายที่ต้องเบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์และอัตราค่าใช้จ่ายตามระเบียบ เช่น ค่าอาหาร คา่ วทิ ยากร ค่าทพี่ กั เปน็ ตน้ 2) ให้ใชใ้ บเสรจ็ รบั เงนิ ของผู้รบั จ้างจัดฝกึ อบรมเป็นหลักฐานการเบกิ จา่ ย278 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา

การยมื เงินในการฝกึ อบรม มขี ้นั ตอนและเอกสารประกอบ ดังนี้ 1. เจ้าของโครงการจัดทำบันทึกพร้อมแนบโครงการ/หลักสูตรการฝึกอบรมที่ได้รับการอนุมัติ เพื่อขออนุมัติจากผู้มีอำนาจตามคำส่ังมอบอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานโดยโครงการต้องมสี าระสำคญั ดังนี้ 1.1 เหตผุ ลความจำเปน็ ที่ต้องดำเนนิ โครงการ 1.2 ชอื่ โครงการ 1.3 รายชอ่ื ผู้เขา้ รบั การอบรม 1.4 วนั เวลา สถานท่ีตารางการฝกึ อบรม 1.5 วงเงนิ งบประมาณทใี่ ช้ ฯลฯ 2. จัดทำประมาณการค่าใช้จ่ายต่างๆ เพ่อื ขอยมื เงนิ เช่น คา่ เบย้ี เล้ียง ที่พกั พาหนะ อาหารอาหารว่างและเครื่องดื่ม ค่าตอบแทนวิทยากร ค่าวัสดุเร่งด่วน (หมายถึง วัสดุท่ีมีความจำเป็นต้องใช้ใน ขณะดำเนินการจัดฝึกอบรม โดยไม่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า หรือวัสดุที่จัดซื้อไว้ใช้ในโครงการแล้วไม่เพียงพอ ซึง่ เป็นวงเงินจำนวนไมม่ าก) 3. จดั ทำสัญญายมื เงิน 2 ฉบบั ตามประมาณการทจ่ี ดั ทำไว้ 4. แนบเอกสารท่ีเกี่ยวข้องประกอบการยืมเงิน เช่น หนังสือเชิญวิทยากร บันทึกอนุญาตการใช้รถราชการ เปน็ ต้น 5. เจ้าหน้าท่ีการเงินตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร ตามข้อ 1-4 เสนอผู้มีอำนาจอนุมัติการยมื เงนิ กรณีหากมีการเช่าเหมารถ เช่าอุปกรณ์ต่างๆ ต้องดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ พ.ศ. 2535 และทีแ่ ก้ไขเพม่ิ เตมิ 6. การเบกิ จา่ ยเงนิ ยมื จะจา่ ยเมื่อใกล้ถงึ กำหนดวันจัดอบรมแนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 279 ของสำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษา

5. คา่ ใชจ้ า่ ยในการจัดงาน การพิจารณาจัดงาน หรือกิจกรรมต่างๆ ต้องเป็นไปตามแผนงานโครงการตามภารกิจปกติ ของแต่ละหน่วยงาน หรือตามนโยบายของทางราชการ เช่น การจัดงานวันคล้ายวันสถาปนาของส่วนราชการ พิธีเปิดอาคารท่ีก่อสร้างใหม่ของส่วนราชการ การจัดงานนิทรรศการ การจัดการประกวดหรือ การแข่งขัน การจัดงานแถลงข่าว การจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เป็นต้น ให้เบิกค่าใช้จ่ายในการ จดั งานไดเ้ ทา่ ทีจ่ ่ายจรงิ ตามความเหมาะสม จำเป็นและประหยดั ตามเกณฑ์ดงั นี้ 1. คา่ ใชจ้ า่ ยพิธีทางศาสนา 2. คา่ อาหารว่างและเคร่ืองดืม่ ไมเ่ กินคนละ 50 บาทตอ่ วนั 3. ค่าอาหารและเคร่ืองด่ืมท่ีไม่มีแอลกอฮอล์สำหรับการจัดงาน ไม่เกินคนละ 200 บาท ตอ่ วัน และให้งดเบิกคา่ เบย้ี เลยี้ งเดนิ ทาง 4. ค่าเช่าท่ีพักเหมาจ่ายสำหรับครูและนักเรียน ให้เบิกได้ตามท่ีหน่วยงานให้บริการท่ีพัก เรียกเก็บ กรณีครูใช้สิทธิเบิกค่าเช่าที่พักตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 และท่แี กไ้ ขเพม่ิ เติม ให้งดเบิกคา่ เช่าทีพ่ กั เหมาจา่ ยที่หนว่ ยงานใหบ้ ริการท่พี ักเรียกเก็บ 5. ค่าพาหนะสำหรับนักเรียน ให้เบิกจ่ายได้ตามสิทธิของข้าราชการระดับ 1 หรือเทียบเท่า ตามพระราชกฤษฎกี าค่าใชจ้ ่ายในการเดนิ ทางไปราชการ พ.ศ. 2526 และ ท่ีแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ 6. ค่าจ้างเหมาพาหนะสำหรับ รับ-ส่ง ครู และนักเรียนไปร่วมงาน/ขนส่งอุปกรณ์ท่ีใช้ในการ จัดงาน 7. คา่ ใชจ้ ่ายเก่ียวกับการใชส้ ถานทจ่ี ดั งาน 8. ค่าจ้างเหมารกั ษาความปลอดภยั 9. ค่าจ้างเหมาทำความสะอาด 10. คา่ สาธารณูปโภค 11. ค่าใชจ้ า่ ยเกย่ี วกบั การใชบ้ รกิ ารสขุ า ให้เบิกได้ตามอตั ราที่หน่วยงานที่ใหบ้ รกิ ารเรียกเก็บ 12. ค่าใช้จา่ ยเก่ยี วกบั การใช้บริการพยาบาลให้เบิกได้ตามอัตราทหี่ น่วยงานท่ใี หบ้ ริการ เรยี กเกบ็ 13. คา่ วัสดุตา่ งๆ ทใี่ ชใ้ นการจัดงาน 14. คา่ ยาและเวชภณั ฑ์ 15. ค่าสมนาคุณวิทยากร/พิธีกร/ผู้ทำหน้าท่ีดำเนินรายการในการจัดงานให้ถือตามหลักเกณฑ์ และอัตราเดียวกันกับคา่ ใช้จา่ ยในการฝึกอบรม โดยอนโุ ลม280 แนวทางการจัดทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษา

16. ค่าใช้จ่ายในการจดั ประกวด หรอื การแขง่ ขนั ต่างๆ 16.1 คา่ ตอบแทนกรรมการตดั สิน 1. กรรมการท่ีเปน็ บคุ ลากรของรัฐ เบิกจา่ ยไดใ้ นอตั ราไมเ่ กินคนละ 400 บาท ตอ่ วนั 2. กรรมการที่มไิ ด้เปน็ บุคลากรของรฐั เบิกจา่ ยไดใ้ นอัตราไมเ่ กินคนละ 800 บาทต่อวัน 16.2 ค่าโล่ หรือถ้วยรางวัล หรือของรางวัลที่มอบให้ผู้ชนะการประกวดหรือแข่งขัน เพอื่ เปน็ การประกาศเกียรตคิ ณุ ชิ้นละไม่เกิน 1,500 บาท 16.3 เงนิ หรอื รางวลั ผชู้ นะการประกวดหรอื การแขง่ ขัน 17. คา่ ใช้จา่ ยในการโฆษณาประชาสัมพนั ธ์การจดั งาน 18. คา่ ใช้จ่ายอนื่ ที่จำเป็นในการจัดงาน กรณีส่วนราชการประสงค์จะจ้างดำเนินการ ก็ให้ดำเนินการได้ปฏิบัติตามระเบียบพัสด ุ โดยอยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณหรือผู้ได้รับมอบอำนาจ โดยให้ใช้ใบเสร็จรับเงินของผรู้ ับจา้ งในการจัดงานเปน็ หลกั ฐานการจ่าย การเบิกค่าใช้จ่ายในการจัดงานท่ีกำหนดไว้ในระเบียบนี้ หากไม่สามารถปฏิบัติได้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของหัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณหรือผู้ได้รับมอบอำนาจ โดยคำนึงถึงความจำเป็นเหมาะสมและประหยัด โดยยดึ ถอื ประโยชนข์ องทางราชการเปน็ หลัก 6. การยมื เงนิ การยืมเงินแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท 1. เงนิ ยืมราชการ 2. เงินยืมทดรองราชการ สาระสำคัญของการเงินยมื ที่ควรรู ้ 1. การจ่ายเงินยืมจะจ่ายได้แต่เฉพาะท่ีผู้ยืม ได้ทำสัญญาการยืมเงินและผู้มีอำนาจได้อนุมัติใหจ้ ่ายเงินยืมตามสญั ญาการยมื เงนิ เท่านัน้ 2. การยืมเงินให้ยืมเงินได้เท่าที่จำเป็นและห้ามอนุมัติให้ยืมเงินรายใหม่เม่ือยังไม่ชำระคืนเงินยมื รายเกา่ ใหเ้ สรจ็ สนิ้ ก่อน 3. การยืมเงินนอกงบประมาณให้ยืมได้เฉพาะตามวัตถุประสงค์ของเงินนอกงบประมาณประเภทนั้นหรอื กรณีอ่ืนซึ่งจำเป็นและเรง่ ด่วนแก่ราชการและได้รับอนญุ าตจากผมู้ อี ำนาจ 4. ใหผ้ ยู้ มื ทำสญั ญาการยมื เงนิ 2 ฉบับ ฉบบั หนง่ึ เก็บไวท้ ี่ส่วนราชการ อีกฉบับหน่งึ เก็บไวก้ บัผู้ยมื พรอ้ มทง้ั ลงลายมือชื่อในการรบั เงนิ ในสญั ญายืมเงินท้ัง 2 ฉบบั แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 281 ของสำนักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา

7. การเบกิ จา่ ยเงนิ ยืม กรณีท่ีผู้ยืมเงินไปราชการที่ติดต่อคาบเกี่ยวกันจากปีงบประมาณปัจจุบันไปถึงปีงบประมาณ ถัดไป ให้เบกิ เงนิ ยมื งบประมาณในปีปจั จุบนั ดังนี้ 1. กรณกี ารยมื เงินสำหรับคา่ ใช้จ่ายในการเดนิ ทางไปราชการคาบเกย่ี วกนั ให้จ่ายไดไ้ มเ่ กิน 90 วัน นบั แต่วนั เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ 2. กรณีการยืมเงินสำหรับราชการอ่ืนๆ ให้จ่ายได้ไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันเร่ิมต้น ปงี บประมาณใหม่ เชน่ การยมื เงินไปจดั อบรมสัมมนาในชว่ ง กนั ยายน – ตุลาคม การจ่ายเงินยืมให้แก่บุคคลใดในสังกัดเพ่ือยืมไปปฏิบัติราชการ ทำได้เฉพาะงบรายจ่ายหรือ รายการดังตอ่ ไปนี้ 1. รายการค่าจ้างช่ัวคราว สำหรับค่าจ้างซ่ึงไม่มีกำหนดจ่ายเป็นงวดแน่นอนเป็นประจำ แต่จำเป็นตอ้ งจา่ ยให้ลูกจา้ งแตล่ ะวนั หรอื แต่ละคราวเมือ่ เสรจ็ งานที่จา้ ง 2. รายการค่าตอบแทนใชส้ อยและวัสดุ 3. รายการคา่ สาธารณูปโภค เฉพาะค่าบริการไปรษณยี โ์ ทรเลข 4. งบกลาง เฉพาะท่ีจ่ายเป็นเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตรหรือเงินสวัสดิการ เกี่ยวกับเงินเพ่ิมค่าครองชีพชั่วคราว สำหรับลูกจ้างชั่วคราวซ่ึงไม่มีกำหนดจ่ายค่าจ้างเป็นงวดแน่นอน เป็นประจำ แตจ่ ำเปน็ ต้องจ่ายแตล่ ะวันหรือแตล่ ะคราวเมอ่ื เสรจ็ งานทจี่ ้าง 5. งบรายจ่ายอื่น ท่จี ่ายลกั ษณะเดียวกับ (1) (2) หรอื (3) 282 แนวทางการจัดทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ ของสำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา

8. การส่งใช้เงินยมื เม่ือผู้ยืมเงินไปราชการหรือไปปฏิบัติราชการอื่นได้เสร็จส้ินภารกิจแล้ว ให้ผู้ยืมส่งหลักฐานการจา่ ยเงินและเงนิ เหลอื จ่ายที่ยมื ไป (ถ้ามี) ภายในกำหนดระยะเวลาดงั นี้ 1. กรณีเดินทางไปประจำต่างสำนักงาน หรือเดินทางไปราชการประจำในต่างประเทศหรือเดนิ ทางกลบั ภมู ลิ ำเนาเดิม ให้สง่ คนื เงินยมื ภายใน 30 วัน นบั จากวันท่ีไดร้ ับเงนิ โดยสง่ ทางไปรษณียล์ งทะเบยี นหรอื ธนาณัตใิ ห้แก่สว่ นราชการผใู้ ห้ยมื เงนิ 2. กรณีเดินทางไปราชการชั่วคราวทั้งภายในประเทศและต่างประเทศให้ส่งคืนเงินยืมภายใน15 วนั นบั จากวนั ทีก่ ลับมาถึง 3. กรณียืมเงินไปเพ่ือปฏิบัติราชการนอกเหนือจาก (1) หรือ (2) ให้ส่งคืนเงินยืมภายใน 30 วนั นับจากวนั ทีไ่ ด้รบั เงิน เม่ือผู้ยืมเงินได้ส่งหลักฐานการจ่ายเงินและมีเงินเหลือจ่ายที่ยืมไป (ถ้ามี) แล้ว ให้เจ้าหน้าที่ผู้รับคืนเงินยืมบันทึกการรับคืนไว้ในสัญญาการยืมเงินพร้อมทั้งออกใบเสร็จรับเงินหรือใบรับใบสำคัญตามแบบที่กรมบัญชีกลางกำหนดให้ผู้ยืมเงินไว้เป็นหลักฐาน หากผู้ยืมเงินไม่ได้ชำระคืนเงินยืมภายในระยะเวลา ที่กำหนดให้ผู้อนุมัติติดตามเรียกให้ชดใช้เงินยืมตามเง่ือนไขในสัญญาโดยเร็วอย่างช้าไม่เกิน 30 วัน นับจากวันครบกำหนด อน่ึง การยืมเงินทดรองราชการ กรมบัญชีกลางได้อนุมัติให้สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษามีวงเงินทดรองราชการ เขตละ 300,000 บาท และให้เก็บรักษาเงินทดรองราชการเป็นเงินสด ณ ท่ีทำการเขตละ 200,000 บาท โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการพ.ศ. 2547 และหนงั สอื กรมบญั ชีกลาง ท่ี กค 0423.3/ว 439 ลงวนั ที่ 2 ธันวาคม 2552 โดยเคร่งครัดแนวทางการจัดทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 283 ของสำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา

คา่ เชา่ บ้าน ระเบียบและเอกสารทเี่ ก่ยี วข้อง - ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. 2547 - ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ พ.ศ. 2549 - ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเก่ียวกับการเบิกจ่ายเงินค่าเช่าบ้าน ข้าราชการ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2552 - หนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนท่ีสุด ท่ี กค 0422.3/ว 8 ลงวันที่ 19 มกราคม 2553 เร่ือง พระราชกฤษฎีกาค่าเช่าบ้านข้าราชการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2552 และหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติในการ เบกิ จ่ายค่าเชา่ บา้ นตามพระราชกฤษฎกี ารคา่ เชา่ บ้านข้าราชการ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2552 - หนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนท่ีสุด ที่ กค 0422.3/3 ว 442 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2553เรอ่ื ง ซ้อมความเขา้ ใจเกยี่ วกับการเบิกจ่ายค่าเชา่ บา้ นข้าราชการกรณเี กดิ ภัยพิบัติน้ำทว่ ม - ตัวอยา่ งการตอบข้อหารอื เก่ยี วกับสิทธิการเบกิ ค่าเช่าบา้ นขา้ ราชการ * หนงั สือกรมบญั ชกี ลาง ท่ี กค 0409.5/17118 ลงวนั ท่ี 16 มถิ นุ ายน 2546 * หนงั สือกรมบญั ชีกลาง ที่ กค 0422.3/04149 ลงวนั ท่ี 18 กมุ ภาพนั ธ์ 2551 * หนงั สือกรมบญั ชีกลาง ที่ กค 0422.3/05316 ลงวนั ท่ี 3 มนี าคม 2551 * หนังสอื กรมบญั ชกี ลาง ท่ี กค 0422.3/09287 ลงวนั ท่ี 18 เมษายน 2551 * หนังสอื กรมบญั ชีกลาง ท่ี กค 0422.3/11078 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2551 * หนงั สือกรมบญั ชีกลาง ท่ี กค 0422.3/14366 ลงวนั ท่ี 4 มิถนุ ายน 2551 * หนงั สอื กรมบัญชีกลาง ที่ กค 0422.3/20983 ลงวนั ท่ี 7 สิงหาคม 2551 * หนงั สือกรมบัญชกี ลาง ที่ กค 0422.3/27667 ลงวนั ที่ 14 ตลุ าคม 2551 * หนังสือกรมบญั ชีกลาง ที่ กค 0422.3/29554 ลงวันท่ี 5 พฤศจิกายน 2551 * หนังสอื กรมบัญชีกลาง ท่ี กค 0422.3/16961 ลงวันที่ 7 สงิ หาคม 2552 * หนังสือกรมบัญชีกลาง ท่ี กค 0422.3/32136 ลงวนั ที่ 11 ธันวาคม 2552 * หนังสือกรมบญั ชกี ลาง ที่ กค 0422.3/32230 ลงวันท่ี 14 ธนั วาคม 2552 * หนงั สอื กรมบัญชกี ลาง ท่ี กค 0422.3/04163 ลงวันที่ 10 กมุ ภาพนั ธ์ 2553 * หนงั สอื กรมบัญชีกลาง ที่ กค 0422.3/04188 ลงวนั ที่ 10 กุมภาพนั ธ์ 2553284 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษามัธยมศึกษา

การใชเ้ งนิ อุดหนนุ ของสถานศกึ ษา งบเงนิ อุดหนนุ ทีส่ ถานศกึ ษาได้รบั ประเภทเงนิ อุดหนุนทัว่ ไป มรี ายการทีส่ ำคญั ต่อการจัดการเรยี นการสอนของนกั เรียน ไดแ้ ก่ 1. เงนิ อุดหนุนคา่ ใช้จ่ายในการจัดการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน 1.1 เงินอดุ หนุนค่าใช้จา่ ยรายหวั 1.2 เงนิ อดุ หนุนปจั จยั พ้นื ฐานสำหรบั นักเรียนยากจน - คา่ หนังสอื และอุปกรณ์การเรียน - คา่ เสอื้ ผา้ และวสั ดุเครอ่ื งแต่งกาย - ค่าอาหารกลางวนั - ค่าพาหนะในการเดินทาง 2. เงินอุดหนุนค่าอาหารนกั เรียนประจำ 3. เงนิ อุดหนุนค่าอาหารนกั เรียนไป-กลับ 4. เงนิ อดุ หนนุ ให้เป็นปัจจัยพนื้ ฐานสำหรบั นักเรยี นประจำ - ค่าเครื่องแต่งกายนกั เรียน - ค่าเครื่องใชส้ ่วนตวั การใช้จ่ายเงินงบประมาณงบเงินอุดหนุนรายหัวสำหรับสถานศึกษาในสังกัด สพม. สถานศึกษาตอ้ งถอื ปฏิบัตทิ ่ีกระทรวงการคลังกำหนด ตามหนังสอื กระทรวงการคลัง ด่วนท่สี ุด ที่ กค 04009.6/ว 126 ลงวันท่ี 7 กันยายน 2548 และตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานกำหนดตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ท่ี ศธ 04006/2279 ลงวันท่ี 16 ธันวาคม 2548เร่อื ง หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัตกิ ารใชจ้ ่ายงบประมาณ งบเงนิ อดุ หนนุ ดังน้ีแนวทางการจัดทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 285 ของสำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษามัธยมศึกษา

สาระสำคัญทีค่ วรทราบ 1. เมื่อสถานศึกษาได้รับเงินอุดหนุนรายหัวเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของสถานศึกษาเรียบร้อยแล้ว สถานศึกษาต้องใช้จ่ายเงินภายในปีงบประมาณ กรณีมีเงินเหลืออยู่และยังไม่ส้ินสุดโครงการให้รีบดำเนินการให้ เสร็จส้ินอย่างช้าภายในปีงบประมาณถัดไป ตัวอย่างเช่น ได้รับเงินงบประมาณปี 2554 สถานศึกษาสามารถใช้ จา่ ยได้ 2 ปีงบประมาณ (หมายถึง ภายในปงี บประมาณ 2554 และปงี บประมาณ 2555) 2. สถานศกึ ษาใช้จา่ ยเงนิ ไม่หมดตามระยะเวลาข้อ 1 เงินทีเ่ หลือต้องสง่ คืนคลังเป็นรายไดแ้ ผ่นดนิ 3. ดอกเบ้ยี ท่เี กดิ จากเงินฝากธนาคารสถานศกึ ษาต้องนำสง่ คนื คลังเป็นรายไดแ้ ผน่ ดนิ 4. การจดั ซอ้ื /จดั จา้ ง ปฏิบตั ิตามระเบยี บสำนกั นายกรฐั มนตรีว่าด้วยการพสั ดุ 5. บันทึกการรับ-จ่ายเงินตามระบบบัญชีของหน่วยงานย่อย หรือการควบคุมการเงินของ หนว่ ยงานยอ่ ย 6. การใชจ้ ่ายเงนิ ต้องเกดิ ประโยชน์ตอ่ นกั เรยี นเป็นลำดบั แรกและใชจ้ า่ ยให้เปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ ท่ีสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พนื้ ฐานกำหนด 7. หลกั ฐานการใชจ้ า่ ยเงนิ สถานศกึ ษาเก็บไวเ้ พ่อื ใหต้ รวจสอบได้ 286 แนวทางการจัดทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา

หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน (เงินอุดหนุนคา่ ใชจ้ ่ายรายหวั ) แนวทางการใชง้ บประมาณ เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณของเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนท่ัวไป รายการเงินอุดหนุนค่าใชจ้ า่ ยในการจดั การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน (เงินอุดหนนุ ค่าใช้จ่ายรายหัว) ให้เกิดประโยชนต์ ่อการเรียนการสอนได้มากท่สี ุด จงึ กำหนดแนวปฏิบัติ ดังน้ี 1. ให้สถานศึกษาจัดทำแผนปฏิบัติงานประจำปีของสถานศึกษาที่สอดคล้องกับนโยบาย และจุดเนน้ ของสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน 2. เสนอแผนปฏิบัติงานประจำปีของสถานศึกษาผ่านความเห็นชอบต่อคณะกรรมการสถานศกึ ษา 3. รายงานผลการดำเนนิ งานของสถานศกึ ษาให้สาธารณชนได้รบั ทราบ 4. การใช้จา่ ยงบประมาณต้องสอดคล้องกบั แผนปฏบิ ตั งิ านประจำปขี องสถานศกึ ษา ลักษณะการใช้งบประมาณ ใช้งบประมาณงบเงินอุดหนุน ประเภทเงินอุดหนุนทั่วไป รายการเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจดั การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (เงินอดุ หนุนคา่ ใชจ้ า่ ยรายหัว) ใหป้ ฏบิ ตั ติ ามระเบียบของทางราชการท่ีเกีย่ วขอ้ ง โดยให้ใช้ในลักษณะ 3 ประเภทงบรายจา่ ย ดังน้ี 1. งบบคุ ลากร ไดแ้ ก่ ค่าจ้างชวั่ คราว ค่าจา้ งครอู ัตรารายเดอื น พนกั งานขบั รถ ฯลฯ 2. งบดำเนนิ งาน 2.1 คา่ ตอบแทน เช่น ค่าตอบแทนวทิ ยากร คา่ ตอบแทนวทิ ยากรวิชาชีพทอ้ งถน่ิ ฯลฯ 2.2 ค่าใชส้ อย เช่น คา่ เบย้ี เล้ยี ง ค่าเชา่ ท่ีพกั คา่ พาหนะ คา่ จ้างซอ่ มแซม คา่ จา้ งเหมาบริการ ค่าพาหนะนักเรยี นไปทศั นศกึ ษาแหล่งเรียนรู้ ฯลฯ 2.3 คา่ วสั ดุ เชน่ คา่ วสั ดุการศึกษา คา่ เคร่อื งเขียน ค่าวัสดเุ วชภัณฑ์ ค่าซอ่ มแซมบำรุงรักษาทรัพยส์ นิ ฯลฯ 2.4 คา่ สาธารณูปโภค เช่น คา่ น้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ ฯลฯ 3. งบลงทุน 3.1 ค่าครภุ ัณฑ์ เช่น จดั ซอื้ อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ เคร่อื งถา่ ยเอกสาร ฯลฯ 3.2 ค่าท่ีดินและสิ่งก่อสร้าง รายจ่ายเพ่ือประกอบ ดัดแปลง ต่อเติม หรือปรับปรุงท่ีดินหรือส่ิงกอ่ สร้างทม่ี ีวงเงนิ เกินกว่า 50,000 บาท เช่น ค่าจดั สวน ค่าถมดิน ถนน รว้ั สะพาน บอ่ นำ้ ฯลฯแนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ 287 ของสำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา

เงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐาน (เงินอุดหนุนปัจจัยพ้ืนฐานสำหรับ นักเรยี นยากจน) นยิ าม เป็นงบประมาณท่ีจัดสรรให้แก่สถานศึกษาท่ีมีนักเรียนยากจน เพ่ือจัดหาปัจจัยพ้ืนฐานที่จำเป็น ต่อการดำรงชีวิต และเพ่ิมโอกาสทางการศึกษา เป็นการช่วยเหลือนักเรียนท่ียากจนในช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 ถงึ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ใหม้ ีโอกาสได้รับการศกึ ษาในระดับที่สงู ขึน้ นกั เรยี นยากจน หมายถงึ นักเรยี นท่ีผปู้ กครองมรี ายไดต้ ่อครัวเรอื น ไม่เกิน 40,000 บาทต่อปี เกณฑก์ ารจัดสรร จัดสรรให้นักเรียนท่ียากจนในช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ถึงช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ของสถานศึกษา ในสังกดั สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน ลกั ษณะการจดั สรรงบประมาณ ให้ใช้ในลักษณะแบบ ถัวจ่าย ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน ค่าเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย นักเรียน (นอกเหนือจากเงินอุดหนุนในโครงการเรียนดีฯ ท่ี สพฐ. จัดสรร) ค่าอาหารกลางวัน และค่าพาหนะ ในการเดินทาง การใชจ้ า่ ยเงินงบประมาณ สถานศึกษาสามารถเลือกวิธีดำเนินการจ่ายหรือจัดหาปัจจัยพ้ืนฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต และเพ่ิมโอกาสทางการศึกษาใหแ้ กน่ กั เรียนยากจนไดต้ ามความเหมาะสม ดังน้ี 1. ค่าหนังสือและอปุ กรณก์ ารเรยี น - จดั ซื้อแจกจ่ายใหน้ ักเรยี นหรือใหย้ มื ใช้ 2. ค่าเสอื้ ผ้าและวัสดเุ ครื่องแต่งกายนักเรยี น - จดั ซอ้ื หรอื จัดจ้างผลติ แจกจ่ายให้แก่นักเรยี น 3. คา่ อาหารกลางวนั - จัดซ้ือวัตถุดิบมาประกอบอาหาร หรือจ้างเหมาทำอาหาร หรือจ่ายเป็นเงินสดให้แก่ นกั เรียนโดยตรง 4. ค่าพาหนะในการเดนิ ทาง - จ่ายเปน็ เงนิ สดให้แกน่ กั เรียนโดยตรง หรอื จา้ งเหมารถรบั -สง่ นกั เรียน กรณีการดำเนินการจัดซ้ือ-จัดจ้าง-จัดหา ต้องดำเนินการตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี วา่ ด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และทแ่ี กไ้ ขเพมิ่ เตมิ กรณีจ่ายเป็นเงินสดให้แก่นักเรียนโดยตรง ให้สถานศึกษาแต่งต้ังคณะกรรมการอย่างน้อย 3 คน รว่ มกันจา่ ยเงิน โดยใช้ใบสำคญั รับเงนิ เป็นหลักฐาน 288 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ ของสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา

แนวทางการดำเนินงาน 1. ระดบั สถานศึกษา 1.1 สำรวจข้อมูลนักเรียนยากจนและรายงานสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาเพ่ือเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ 1.2 จัดสรรและใชจ้ ่ายงบประมาณใหเ้ ป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์ 1.3 ดำเนนิ การจัดกิจกรรมและควบคมุ ดูแลนกั เรียนยากจน 1.4 รายงานผลการดำเนินงาน 2. ระดบั สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษา 2.1 รวบรวมข้อมูลจำนวนนักเรียนยากจนจากสถานศึกษา และรายงานสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน 2.2 แต่งต้ังคณะกรรมการกล่ันกรอง ตรวจสอบข้อมูลและพิจารณาจัดสรรงบประมาณประกอบด้วย ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ หรือผู้แทนสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้แทนผูบ้ รหิ ารสถานศึกษาทจี่ ัดการเรยี นการสอนแตล่ ะช่วงช้ันตามความเหมาะสม 2.3 กำกบั ตดิ ตาม ตรวจสอบ และรายงานผลการดำเนินงานแนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ 289 ของสำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา

เงนิ อดุ หนุนคา่ ใช้จา่ ยในการจัดการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน (ค่าอาหารนกั เรยี นประจำพกั นอน) นยิ าม เป็นงบประมาณที่จัดสรรให้แก่สถานศึกษาท่ีได้ดำเนินการจัดท่ีพักให้แก่นักเรียนซึ่งมีถิ่นท่ีอยู่ ไม่สะดวก ห่างไกล กันดารไว้สำหรับพักอาศัย ท้ังท่ีจัดในและนอกสถานศึกษา โดยสถานศึกษาได้ดำเนินการ ควบคมุ ดแู ลและจัดระบบแบบเตม็ เวลา เกณฑ์การจดั สรร จัดสรรให้แก่นักเรียนที่มีถิ่นที่อยู่ไม่สะดวก ห่างไกล กันดาร ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง ไป-กลับ ระหวา่ งถิน่ ท่อี ยู่กับสถานศึกษาจำเป็นตอ้ งพกั อาศัยในสถานที่ทสี่ ถานศกึ ษาจดั ใหห้ รือทีอ่ ืน่ ทีส่ ถานศกึ ษา สามารถดำเนินการควบคุมดูแลไดใ้ นช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ถงึ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ยกเว้น 1. นักเรียนในสถานศึกษาท่ัวไปแบบประจำ ได้แก่ โรงเรียน ภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย โรงเรียน จฬุ าภรณร์ าชวิทยาลัย โรงเรยี นประชามงคล โรงเรยี นเฉลมิ พระเกียรติฯจังหวัดน่าน ฯลฯ 2. สถานศึกษาที่ได้ดำเนินการจัดหอพักในสถานศึกษา และได้เรียกเก็บเงินค่าอาหารนักเรียน ประจำพักนอนทุกคนแล้ว กรณีท่ีได้เรียกเก็บเงินไม่ครบทุกคน สามารถจัดสรรให้ได้เฉพาะจำนวนนักเรียน สว่ นทเ่ี หลือ และตอ้ งเปน็ นกั เรียนทเ่ี ป็นไปตามหลักเกณฑท์ กี่ ำหนด ลักษณะการใช้งบประมาณ ใช้เป็นค่าอาหารนักเรยี นประจำพักนอน การใช้จา่ ยงบประมาณ 1. ให้สถานศึกษาจ่ายหรือจัดอาหารให้แก่นักเรียนประจำพักนอน โดยสามารถเลือกวิธีดำเนินการ ได้ดังน้ี 1.1 จัดซ้ือวัตถุดิบประกอบอาหารหรือจ้างเหมาทำอาหาร โดยให้ดำเนินการตามระเบียบ สำนักนายกรัฐมนตรีวา่ ด้วยการพสั ดุ พ.ศ. 2535 และทแ่ี ก้ไขเพิ่มเติม 1.2 จ่ายเป็นเงินสดให้แก่นักเรียน โดยให้สถานศึกษาแต่งต้ังคณะกรรมการอย่างน้อย 3 คน รว่ มกันจ่ายเงิน โดยใช้ใบสำคญั รับเงินเป็นหลักฐาน 2. หากมีเงินงบประมาณคงเหลือ สามารถนำไปใช้จ่ายในรายการอ่ืนที่เกี่ยวข้องกับการ จัดทำ อาหารใหแ้ กน่ ักเรยี นได้290 แนวทางการจัดทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษา

แนวทางการดำเนินงาน 1. ระดบั สถานศกึ ษา 1.1 สำรวจข้อมูลจากโครงการนักเรียนประจำพักนอน และรายงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เพอ่ื เสนอขอรบั การสนับสนนุ งบประมาณ 1.2 จัดสรรและใช้จา่ ยงบประมาณให้เปน็ ไปตามวตั ถปุ ระสงค์ 1.3 ดำเนนิ การจัดกจิ กรรมและควบคุมดูและนกั เรียนประจำพักนอน 1.4 รายงานผลการดำเนนิ งาน 2. ระดับสำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษา 2.1 รวบรวมข้อมูลจำนวนนักเรียนประจำพักนอนจากสถานศึกษา และรายงานสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน 2.2 แต่งต้ังคณะกรรมการกล่ันกรอง ตรวจสอบข้อมูลและพิจารณาจัดสรรงบประมาณประกอบด้วย ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่หรือผู้แทนสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา และผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้แทนผู้บรหิ ารสถานศึกษาทมี่ นี ักเรยี นพักนอนตามความเหมาะสม 2.3 กำกบั ติดตาม ตรวจสอบ และรายงานผลการดำเนินงานแนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 291 ของสำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา

แนวทางดำเนนิ งานเบกิ จา่ ยเงนิ อดุ หนนุ การดำเนินงานเบิกจ่ายเงินอุดหนุนของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน สถานศึกษาต้องดำเนินการตามระเบียบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และแนวปฏิบัติท่ีทางราชการกำหนด เพอื่ ให้การใช้จ่ายเงนิ ถกู ตอ้ งตามระเบยี บและวตั ถุประสงค์ รวมทงั้ เกดิ ประโยชน์สงู สุดกับผเู้ รยี น จงึ ได้สรุปขั้นตอน และแนวทางการดำเนินงานเบิกจ่ายเงินอุดหนุนในรายการท่ีสำคัญเพื่อให้สถานศึกษาได้ศึกษาและใช้เป็นแนวทาง ในการดำเนนิ งานตอ่ ไป ดังน้ี 1. การเบกิ จ่ายค่าจา้ งชวั่ คราว 2. การเบิกจ่ายคา่ ตอบแทน 3. การเบกิ ค่าใช้จา่ ยในการเดินทางไปราชการชั่วคราว 4. การเบกิ คา่ ใชจ้ ่ายในการฝึกอบรม 5. การเบิกจ่ายคา่ ใชจ้ ่ายในการจัดงาน 6. การเบิกจ่ายค่าอาหารนักเรยี น 7. การเบิกจ่ายคา่ พาหนะนกั เรยี น 8. การเบิกจา่ ยคา่ จา้ งเหมาบริการ 9. การเบิกจา่ ยค่าสาธารณูปโภค 10. การเบกิ จา่ ยค่าวัสดุและครุภณั ฑ์ 11. การเบิกจา่ ยค่าปรับปรุงอาคารหรอื สง่ิ กอ่ สรา้ ง 12. การยมื เงนิ อดุ หนุน 292 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา

1. การเบิกจ่ายค่าจ้างช่ัวคราว การเบิกจ่ายค่าจ้างลูกจ้างชั่วคราวในลักษณะงบบุคลากร หมายถึง การที่สถานศึกษาสรรหาบุคคลากรโดยการจ้างเป็นลูกจ้างชั่วคราว เพ่ือให้ปฏิบัติงานในหน้าที่ครูผู้สอนหรือปฏิบัติงานอื่นๆ ในสถานศึกษา เชน่ ครจู า้ งสอน พนักงานขบั รถ ยาม คนสวน เป็นตน้ โดยสถานศกึ ษาต้องคำนงึ ถึงความจำเปน็ทีต่ อ้ งจ้างและมเี งนิ เพยี งพอท่จี ่าย ดงั นี้ ค่าจ้างลูกจ้างช่ัวคราวตามสัญญาจ้าง จ่ายในลักษณะงบบุคลากร เงินสมทบทุนกองทุนประกันสังคมในฐานะนายจ้าง ตามพระราชบัญญตั ปิ ระกนั สงั คม พ.ศ. 2533 จา่ ยในลกั ษณะงบดำเนนิ งาน ขั้นตอนการดำเนนิ การ 1. ดำเนนิ การสรรหาและจ้างลกู จ้างช่วั คราวตามระเบียบกระทรวงการคลัง 2. เม่อื ถึงกำหนดการจา่ ยเงิน เจา้ หน้าทก่ี ารเงินของสถานศกึ ษามหี นา้ ที่ 2.1 บันทึกเสนอผู้อำนวยการโรงเรียนเพ่ือขออนุมัติเบิกเงินอุดหนุนเป็นค่าจ้างลูกจ้างชวั่ คราวเพ่อื จา่ ยเงนิ ให้ลกู จ้าง โดยหกั เงนิ สมทบกองทุนประกันสงั คมของลูกจา้ งแตล่ ะคนในอตั ราร้อยละ 5 ของค่าจา้ ง เกบ็ ไวเ้ พื่อนำสง่ พรอ้ มกับเงินสมทบส่วนของนายจา้ ง 2.2 บันทกึ เสนอผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อขออนมุ ัตเิ บกิ เงนิ อุดหนนุ เปน็ เงินสมทบกองทนุประกันสงั คมในสว่ นของนายจา้ ง ใหก้ ับลกู จา้ งแต่ละคนในอตั รารอ้ ยละ 5 ของคา่ จ้าง 2.3 กรอกแบบรายการแสดงการนำเงินสมทบตามแบบสำนักงานประกันสังคมกำหนด (แบบ สปส. 1-10) จำนวน 2 ชดุ เพ่อื นำส่งสำนกั งานประกนั สังคม 1 ชุดทกุ เดือนอย่างช้าไมเ่ กนิ วันที่ 15 ของเดอื นถัดไป และเกบ็ ไวเ้ ป็นหลกั ฐานการเบิกพรอ้ มกับใบเสร็จรับเงินของสำนกั งานประกันสงั คม ณ สถานศึกษา1 ชดุ เอกสารประกอบการเบิกจ่ายคา่ จา้ งลูกจ้างชว่ั คราวและเงนิ ประกันสงั คม 1. คำส่งั สถานศกึ ษาจา้ งลูกจา้ งชว่ั คราวและบญั ชรี ายละเอยี ดการจ้างแนบทา้ ย 2. บันทกึ การขออนุมตั ิเบิกเงินค่าจ้างลกู จา้ งช่ัวคราวและเงินประกนั สงั คม 3. หลักฐานการจา่ ยเงินคา่ จ้างลูกจ้างรายเดือน 4. แบบรายการแสดงการนำเงนิ สมทบ 5. ใบเสรจ็ รับเงนิ ของสำนกั งานประกนั สงั คมแนวทางการจัดทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ 293 ของสำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา

ระเบยี บและเอกสารทเี่ กีย่ วข้อง - หนงั สือกระทรวงการคลงั ที่ กค 0415/ว 31 ลงวันท่ี 26 เมษายน 2542 เรอ่ื ง หลักเกณฑ์ และวธิ ปี ฏบิ ตั เิ ร่อื งการบริหารงานบคุ คลลกู จา้ งช่วั คราว - หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ปี ฏบิ ัติการจ้างลูกจ้างช่วั คราวจากเงินงบประมาณ - หลักเกณฑ์และวิธปี ฏิบตั ิการจ้างลูกจา้ งช่ัวคราวจากเงนิ นอกงบประมาณ - หนงั สอื กระทรวงการคลัง ท่ี กค 0415/ว 23 ลงวนั ที่ 20 มีนาคม 2546 เรอ่ื ง หลักเกณฑแ์ ละวิธีปฏบิ ตั เิ กี่ยวกบั การจา้ งลูกจา้ งช่ัวคราวจากเงนิ นอกงบประมาณ - หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติการจ้างลูกจ้างผู้ท่ีมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์แล้วเป็นลูกจ้าง ช่วั คราว - หลักเกณฑ์และวิธปี ฏบิ ตั ิการจา้ งลกู จา้ งชาวตา่ งประเทศทมี่ ีสญั ญาจ้าง - หนังสอื กระทรวงการคลัง ที่ กค 0428/ว 40 ลงวนั ที่ 27 เมษายน 2554 เรือ่ ง การปรับ บัญชีโครงสรา้ งอตั ราค่าจา้ งลูกจ้างชาวตา่ งประเทศที่มีสญั ญาจา้ ง - คำสงั่ สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน ที่ 53/2546 เรอ่ื ง มอบอำนาจปฏิบตั ิ ราชการแทนเกี่ยวกบั ลกู จา้ งชว่ั คราว ส่งั ณ วนั ท่ี 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 2. การเบกิ จ่ายคา่ ตอบแทน ค่าตอบแทนวิทยากรบุคคลภายนอก หมายถึง เงินท่ีจ่ายเป็นค่าตอบแทนให้บุคคลภายนอก ท่สี อนในวชิ าที่สถานศึกษาขาดแคลนตามหลักสตู รการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ค่าตอบแทนการสอนพิเศษและค่าสอนเกินภาระงานที่สอนในสถานศึกษา หมายถึง เงินท่ีเบิกจ่ายให้กับครูท่ีสอนนอกเวลาการเรียนการสอนปกติในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษา ตอนปลายหรือเทียบเท่าตามหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐาน ซ่ึงมิใช่การสอนในภาคฤดูร้อนหรือหลักสูตรเสริม พิเศษเฉพาะด้าน อน่งึ การสอนดงั กล่าว 1 หน่วยชัว่ โมงตอ้ งมีเวลาไมน่ อ้ ยกวา่ 50 นาที ข้นั ตอนการดำเนนิ การ 1. จดั ทำโครงการ 2. กำหนดตารางสอนและแผนการจัดการเรียนรู้ 3. หนังสือเชิญวิทยากรบุคคลภายนอกหรือบคุ ลกรในสถานศกึ ษา 4. จัดทำบัญชีลงเวลาปฏบิ ัตงิ าน 5. จัดทำหลักฐานการเบิกจ่ายเงินค่าสอนพิเศษและค่าสอนเกินภาระงานสอนในสถานศึกษา ตามแบบทีก่ ระทรวงการคลงั กำหนด 294 แนวทางการจดั ทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ ของสำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา

เอกสารประกอบการเบิกจา่ ย 1. บันทึกการขออนมุ ตั ิการเบกิ จา่ ย 2. โครงการ/ตารางสอน/แผนการสอน 3. หนงั สอื เชิญวิทยากร 4. บญั ชลี งเวลาปฏิบัตงิ าน 5. หลักฐานการเบิกจ่ายเงินค่าสอนพเิ ศษและค่าสอนเกนิ ภาระงานสอนในสถานศกึ ษา 6. ใบสำคัญรับเงิน ระเบยี บและเอกสารทเ่ี กี่ยวข้อง - หนังสือกรมบัญชีกลาง ท่ี กค 0409.7/2198 ลงวันท่ี 27 มกราคม 2547 เรื่อง คา่ ตอบแทนวทิ ยากรภายนอก เบกิ จา่ ยไดใ้ นอตั ราชวั่ โมงละ 200 บาท - ระเบียบกระทรวงการคลังวา่ ด้วยการเบิกจ่ายเงินคา่ สอนพเิ ศษและค่าสอนเกิน ภาระงานสอนในสถานศกึ ษาและสถาบันอุดมศกึ ษา พ.ศ. 2551 เบิกจา่ ยไดใ้ นอัตราช่วั โมงละ 200 บาท - ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ พ.ศ. 2550 3. การเบกิ คา่ ใชจ้ า่ ยในการเดินทางไปราชการชว่ั คราว การเดินทางไปราชการชั่วคราว หมายถึง การได้รับอนุมัติจากผู้อำนวยการโรงเรียนให้ไปปฏิบตั ิราชการนอกท่ตี ง้ั สำนกั งาน (สถานศกึ ษา) สทิ ธกิ ารเบกิ คา่ ใช้จา่ ย คือ - คา่ เบีย้ เล้ยี งเดนิ ทาง - คา่ เช่าทีพ่ ัก - ค่าพาหนะ - คา่ ใชจ้ า่ ยอ่ืนๆ ท่จี ำเป็นตอ้ งจา่ ย เน่ืองจากการเดนิ ทางไปราชการ ขน้ั ตอนการดำเนนิ การ 1. บันทึกการขออนุญาตเดินทางไปปฏิบัติราชการต่อผู้อำนวยการโรงเรียน โดยระบุรายละเอยี ดที่สำคญั ได้แก่ 1.1 ช่ือผู้ขออนญุ าตเดนิ ทางไปปฏบิ ัติราชการ 1.2 วนั ที่ไปปฏิบตั ิราชการ (รวมวันเดนิ ทางไป-กลับดว้ ย) 1.3 สถานท่ีขอไปปฏบิ ัติราชการแนวทางการจัดทำงบประมาณและบริหารงบประมาณ 295 ของสำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา

1.4 กรณีเดินทางไปปฏิบัติราชการโดยรถของทางราชการ ให้ขออนุญาตโดยระบุ หมายเลขทะเบียนรถและพนกั งานขับรถไวด้ ว้ ย 1.5 กรณีเดินทางไปปฏิบัตริ าชการโดยพาหนะสว่ นตัว ใหร้ ะบขุ อใช้รถยนต์ส่วนตวั ด้วย 2. เม่ือเดินทางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ท่ีโรงเรียน ให้เขียนรายงานการเดินทางไปราชการตามแบบ ที่กระทรวงการคลังกำหนด (แบบ 8708) และแนบเอกสารประกอบ (ถ้ามี) เช่น การเบิกค่าน้ำมันรถกรณี เดินทางไปโดยรถของทางราชการ กากต๋วั โดยสารเคร่ืองบิน เปน็ ต้น 3. บันทึกขอเบิกเงนิ พรอ้ มหลกั ฐานตอ่ เจ้าหนา้ ท่กี ารเงนิ 4. เจ้าหน้าท่ีการเงิน ตรวจสอบความถูกต้อง และเสนอผู้อำนวยการโรงเรียนอนุมัติและ จา่ ยเงนิ ให้ผ้มู ีสิทธิ เอกสารประกอบการเบิกจา่ ย 1. บันทกึ ขออนมุ ตั เิ บิก 2. แบบรายงานการเดินทางไปราชการ 3. สำเนาหนังสือ/คำสั่งใหไ้ ปราชการ ระเบียบและเอกสารทเี่ ก่ยี วข้อง - พระราชกฤษฎีกาค่าใชจ้ ่ายในการเดนิ ทางไปราชการ (ฉบบั ที่ 8) พ.ศ. 2553 - ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2550 และฉบบั ท่ี 2 พ.ศ. 2554 - หลักเกณฑ์การเบิกค่าพาหนะรับจ้างข้ามเขตจังหวัด เงินชดเชย และค่าใช้จ่ายอ่ืน ท่ีจำเป็นต้องจ่ายเนื่องในการเดินทางไปราชการ ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0409.6/ว 42 ลงวนั ที่ 26 กรกฎาคม 2550 - มาตรการประหยัดงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2550 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขน้ั พ้นื ฐาน - คำส่ังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ที่ 1216/2549 เร่ือง มอบอำนาจ การอนุมตั กิ ารเดินทางไปราชการ สง่ั ณ วนั ที่ 20 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2549 296 แนวทางการจัดทำงบประมาณและบรหิ ารงบประมาณ ของสำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook