สารจาก ดร. อดุ ม หงสช์ าตกิ ลุ 51 The celebrations marking the 80th Birthday of Rev. Brother Prathip Martin Komolmas are in- deed both auspicious and fortuitous. The auspiciousness of the occasion accrues from the leadership that Rev. Brother Martin has provided in the lives of people from all walks of life and literally from many continents accruing from his roles as a Catholic religious, as an educator, administrator, facilitator and builder of the Assumption University which attracts students and faculty from all over the world, through the academic vision which Brother Martin visualized, encapsulated and implemented as one of Thailand’s present day gifted educator. As an octogenarian Brother Martin has lived through the evolution of Thailand as a Kingdom emerging onto the world’s stage as the land of the smiling friendly people. Brother Martin em- bodies this spirit of friendliness and caring in his belief that in this short life, we have so much to appreciate and love in other people. The 80th Anniversary celebrations for Brother Martin are marked by the celebration of the human spirit of love, progress and ascendancy of life and thought something which impacts each of us who know Brother Martin as the “Dreamer” of the better world order through the dignity of human living and the justifiable outcomes of learning through hard work, belief in the dignity of the human and progress.
LETTERS On behalf of the Assumption University Alumni Association (AUAA), association committees, alumni members and other academic, civic and humanitarian organizations pays deep tribute to the life and work of Brother Martin, as we greet him, pay our respect to him and walk along with him into that paradise of exalted living which even surpass the glories of dreams. With Brother Martin we live, we grow, we emerge to be greater for the human cause, excited to be in the world of learning.  (Udom Hongchatikul, Ph.D.) President of Assumption University Alumni Association
53
ชวี ติ อทุ ศิ เพอ่ื พระเจา้ และการศกึ ษา
BIOGRAPHY ชวี ิตอุทิศเพ่ือพระเจา้ และการศึกษา ชว่ งชวี ิตในวัยเด็ก ภราดา ประทีป มาร์ติน โกมลมาศ เอก เอ่ยี มช่ืน) เป็นทหารในกล่มุ “คณะ กบั คณุ ปู่ สว่ นนามสกลุ “โกมลมาศ”บรา เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 18 เดือนธันวาคม กู้บ้านเมือง” ภายหลังถูกจับในข้อหา เดอรม์ ารต์ นิ เปน็ ผตู้ งั้ ขนึ้ มาใชเ้ องในภาย พ.ศ. 2476 เวลาบ่ายสามโมง ที่โรง กบฏเพราะเข้ากับกลุ่มกบฏบวรเดช ท่ี หลัง เนือ่ งจากนามสกลุ “ชมจนิ ดา” มีผู้ พยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานคร แต่ นำ�โดย พลเอกพระวรวงศ์เธอ พระองค์ ใชร้ ่วมเป็นจ�ำ นวนมาก ในทะเบียนของโรงเรียนเซนต์คาเบรียล เจ้าบวรเดช กฤษดากร ในยุคที่มีการ เมอ่ื อายไุ ด้ 2-3 ขวบ ครอบครัวของ บนั ทกึ ผิดเปน็ วันท่ี 22 ธันวาคม 2476 รัฐประหารล้มรัฐบาลของพระยามโน ท่านได้ย้ายตามคุณพ่อไปอยู่ท่ีจังหวัด ท่านจึงใช้วันนั้นเป็นวันเกิดอย่างเป็น ปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรีคนแรก ลำ�ปาง ในช่วงน้ันท่านยังเล็กมากจึงจำ� ทางการนับแตน่ ั้นมา ของไทย (พ.ศ.2476) เมอ่ื คณุ ปถู่ กู จบั ทกุ เร่อื งราวตา่ งๆ ได้เพียงเลอื นลาง แต่พอ ทา่ นเปน็ บตุ รคนเดยี วของ นายสวสั ดิ์ คนในครอบครวั จงึ เปลยี่ นไปใชน้ ามสกลุ อายุ 5 ขวบ ซง่ึ ถงึ วยั จะตอ้ งเรยี นหนงั สอื และนางสังเวียน โกมลมาศ (ชมจินดา) “ชมจินดา” ตามคุณย่า คือ นางสรอ้ ย จงึ กลบั มาอยทู่ ก่ี รงุ เทพฯ กบั คณุ ยา่ เพอ่ื คณุ ปู่ คอื พระยาไตรภพรณฤทธ์ิ (รอ้ ย ชมจนิ ดา เพราะเกรงขอ้ หากบฏเชน่ เดยี ว เรียนหนังสือที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
ในระดบั ชน้ั ประถม 1 ซง่ึ ทา่ นไดศ้ กึ ษาอยู่ ครง้ั เพอ่ื หนภี ยั สงคราม เนอ่ื งจากมเี ครอ่ื งบนิ มาทง้ิ ระเบดิ ไมเ่ วน้ ในโรงเรยี นแหง่ นจ้ี นส�ำ เรจ็ มธั ยม 8 หรอื แตล่ ะวนั และเมอ่ื สงครามระอถุ งึ จดุ สงู สดุ โรงเรยี นทง้ั หลายก็ มธั ยม 6 ในปจั จบุ นั ต้องปิดเรียนเพราะมีการท้ิงระเบิดกันท้ังวันท้ังคืน ด้วยเหตุน้ี ตอนเป็นเด็กท่านนับถือศาสนาพุทธ เองภราดาคณะเซนต์คาเบรียลจึงตัดสินใจย้ายไปประจำ�อยู่ท่ี ตามคณุ แม่ แตเ่ มอ่ื ยา้ ยเขา้ มาอยกู่ บั คณุ ยา่ ซง่ึ นบั ถอื ศาสนาครสิ ต์ คณุ ยา่ มกั จะพร�ำ่ อำ�เภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ทำ�ให้ท้งั โรงเรียนอัสสัมชัญและ 57 สอนเร่ืองศาสนาให้ฟังทุกวัน เพราะ โรงเรียนเซนต์คาเบรียลต้องย้ายนักเรียนไปอยู่ในท่ีเดียวกันท่ี ประสงค์จะให้ท่านเปล่ียนศาสนามา ศรรี าชา ซง่ึ สถานทน่ี น้ั เดมิ เปน็ สวนของชาวตา่ งประเทศทม่ี อบ นบั ถอื ครสิ ต์ โดยเฉพาะเวลากลางคนื กอ่ น ไวใ้ หแ้ กค่ ณะเซนตค์ าเบรยี ลเพอ่ื ใชใ้ นกจิ การการศกึ ษา โรงเรยี น เขา้ นอน คณุ ยา่ มกั จะอา่ นพระคมั ภรี ใ์ หฟ้ งั อัสสัมชญั ศรีราชาจงึ ได้ก่อตง้ั ข้ึนในยุคนั้น ซ่ึงท่านเองก็ช่ืนชอบและสามารถจดจำ� 1. คุณปู่พระยาไตรภพรณฤทธ์ิ (รอ้ ยเอกเอ่ยี มชนื่ ) เรอ่ื งราวตา่ งๆ ในพระคมั ภรี ไ์ ดเ้ ปน็ อยา่ งดี นอกจากน้ี คณุ ยา่ ยงั พาทา่ นไปโบสถเ์ ซนต์ 2. คณุ ยา่ นางสรอ้ ย ชมจินดา ฟรงั ซสี ซาเวยี รท์ กุ วนั โดยใหท้ า่ นตน่ื ตง้ั แต่ 3. คุณพอ่ นายสวสั ด์ิ และ คณุ แมน่ างสังเวียน โกมลมาศ ตี 5 ครง่ึ เพอ่ื ไปโบสถต์ อน 6 โมงเชา้ กลบั จากโบสถแ์ ลว้ จงึ กลบั บา้ นทานขา้ ว กอ่ น จะไปโรงเรยี น เปน็ อยา่ งนเ้ี รอ่ื ยมากระทง่ั ท่านตัดสินใจเปล่ยี นศาสนา และเข้าพิธี รบั ศลี ลา้ งบาป ประกาศตวั เปน็ ครสิ ตศ์ าส นกิ ชนเมอ่ื อายปุ ระมาณ 13-14 ปี ในช่วงวัยเด็กของท่านตรงกับยุคท่ี ประเทศไทยเข้าร่วมสงครามโลกคร้ัง ท่ี 2 ทำ�ให้ท่านต้องย้ายบ้านท่อี ย่หู ลาย
BIOGRAPHY ระหวา่ งทโี่ รงเรยี นปิดประมาณ 1 ปี บราเดอร์มาร์ตนิ มไิ ด้ กระท่ังสมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ในยุคนั้นเกิดการ ย้ายไปศรีราชาแต่ยังอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ กับคุณย่า และได้ เปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมครั้งใหญ่ ผู้ชายต้องนุ่งกางเกงขา เรียนพเิ ศษทบ่ี า้ นครูชอ่ื มาสเตอรน์ พ ประไพทวี่ ัดคอนเซป็ ชัญ ยาวออกจากบ้าน ผ้หู ญงิ กต็ ้องสวมหมวกปกี ใหญ่แบบฝร่งั เศส ตง้ั แต่ 9:00-12:00น.ทกุ วัน ชวี ติ ประจ�ำ วันในชว่ งนน้ั ของท่าน ไม่เว้นแม้แต่เด็กนักเรียนก็ต้องตัดผมเกรียน และสวมเคร่ือง คอื ตอนเช้าเขา้ โบสถ์แล้วจึงไปเรียนพิเศษ สว่ นตอนบ่ายจะไป แบบทหารทงั้ หมด ขณะนนั้ บราเดอร์ มารต์ นิ เรยี นอยชู่ น้ั ประถม รบั จา้ งทำ�ตะปู เพ่อื ส่งให้กับทหารญปี่ ่นุ น�ำ ไปสร้างสะพานข้าม 3 ก็ต้องแต่งตัวแบบยุวชนทหาร และต้องสาบานตนว่าจะรัก แมน่ �ำ้ แคว งานทเี่ ดก็ ๆ สามารถท�ำ ไดค้ อื การเคาะลวดหนามให้ ประเทศไทยทกุ เชา้ เปน็ การปลกู ฝงั ชาตนิ ยิ มตามนโยบายมาลา ตรงแนว ส่วนคนท่ีชำ�นาญก็จะได้ตีเหล็กแหลมให้คมเพ่ือเป็น นำ�ไทย เชื่อผู้น�ำ ชาติพน้ ภยั ตะปแู หลมส�ำ หรบั บราเดอรม์ ารต์ นิ เองทา่ นมคี วามช�ำ นาญมาก ในปี พ.ศ.2494 ซึ่งเป็นปที ี่คณะเซนตค์ าเบรียลมีการฉลอง สามารถท�ำ ตะปูได้ทุกประเภท ครบ 50 ปี ของการเขา้ มาแพร่ธรรมในประเทศไทย ขณะนนั้ ทา่ นกำ�ลงั ศึกษาอยชู่ ้ันมัธยม 8 ทา่ นเจษฎาจารยม์ เิ ชล เลอดุก
(Michel LeDuc) ซง่ึ เดนิ ทางจากประเทศอนิ เดยี มาเยย่ี มชมโรงเรยี นเซนตค์ าเบรยี ล นักบุญมาร์ติน เดอ ตูรส์ คอื ไดเ้ รยี กพบทา่ นและชกั ชวนใหอ้ อกบวช ทา่ นรสู้ กึ ตน่ื เตน้ และฉงนมากแตก่ ไ็ ดต้ ดั สนิ ใจ นักบุญที่เคยเป็นทหารมาก่อน บวชตามคำ�ชักชวนน้นั ในอีกไมก่ ่ีวันต่อมา วนั หนึ่งในฤดหู นาว ขณะทที่ ่าน เม่ือบราเดอร์มาร์ตินตัดสินใจออกบวชแล้ว ท่านเจษฎาจารย์ฮิวเบิร์ต อธิการ ขี่ม้าไปตามทางตอนใต้ของ เจ้าคณะแขวงจึงได้ส่งให้ท่านไปฝึกอบรมในนวกสถาน (Novitiate) ท่ีเมืองคูนูร์ ประเทศฝร่ังเศส ท่านได้พบ (Coonoor) สาธารณรัฐอนิ เดีย (พ.ศ.2495) เมื่อผ่านการฝึกอบรมแล้ว ท่านเจษฎา ขอทานคนหน่ึงยืนหนาวส่ันอยู่ จารยม์ เิ ชล ผเู้ ป็นนวกาจารย์ (Novice Master) ไดจ้ ัดใหม้ พี ธิ ีสวมเสอ้ื นกั บวช ณ ข้างทาง ท่านจึงหยุดม้าและ โบสถ์เซนต์มงฟอร์ต ซ่ึงเป็นโบสถ์ประจำ�โรงเรียน และได้ตั้งศาสนนามให้แก่ท่านว่า กล่าวต่อขอทานว่าท่านไม่มี บราเดอร์ มาร์ติน เดอ ตูรส์ (Brother Martin De Tours) เปน็ นามท่ีมคี วามสำ�คญั เงินทองจะให้ แต่ได้ปลดเส้ือ มาก เพราะเป็นชื่อของหัวหน้าคณะเจษฎาจารย์รุ่นแรกทม่ี าบกุ เบิกในประเทศไทย คลุมของท่านออกแล้วใช้ดาบตัดเส้ือออกเป็น 2 ท่อน ย่ืน ให้ขอทานไปส่วนหนึ่ง สวมไว้เองอีกส่วนหน่ึง แล้วจึงขี่ม้า ต่อมาอีกพักใหญ่จนถึงโบสถ์แห่งหน่ึง ก็เกิดเรื่องอัศจรรย์ ขึ้นเม่ือพบว่าเสื้อคลุมส่วนท่ีท่านตัดแบ่งให้ขอทานไปนั้น ได้มาแขวนคล้องอยู่บนไหล่ของพระรูปพระเยซูในโบสถ์ แห่งนั้น ไม่นานนายทหารผู้น้ีจึงตัดสินใจออกบวชเพื่อรับ ใช้ศาสนา และได้สร้างอารามนักบวชหลายแห่ง กระท่ังได้ เปน็ สงั ฆราชแหง่ เมอื งตรู ส์ ทา่ นไดถ้ งึ แกก่ รรมในปี ค.ศ.394 และไดร้ บั การสถาปนาเปน็ นกั บญุ นามวา่ “มารต์ นิ เดอ ตรู ส”์ กระทง่ั ทุกวันน้ี 1. บราเดอร์ มาร์ตนิ แตง่ ชุดนักเรียนแบบยุวชนทหาร 59 2. บราเดอร์ มารต์ นิ ขณะอบรมในนวกสถาน ทเ่ี มอื งคนู รู ์ สาธารณรฐั อนิ เดยี 3. นกั บญุ มารต์ นิ เดอ ตรู ส์ (ในกรอบสนี �ำ้ เงนิ ) จากหนงั สอื Sister Wendy’s book of Saints จาก Dorling Kindersley Pub. London 4. ทา่ นเจษฎาจารยม์ เิ ชล เลอดกุ ท�ำ พธิ สี วมเสอ้ื นกั บวช 5. หวั หนา้ คณะเจษฎาจารยร์ นุ่ แรกในประเทศไทย มารต์ นิ เดอ ตรู ส์
BIOGRAPHY ชีวติ นกั บวชกบั การท�ำ งาน ข ณ ะ ท่ีท่ า น กำ � ลั ง ศึ ก ษ า ร ะ ดั บ เรียนที่วิทยาลัยโลโยลาอีก 4 ปี บรา อนุปริญญาสายวิทยาศาสตร์ B.Sc. เดอร์มาร์ติน ได้สำ�เร็จการศึกษาเป็น ( a s s o c .) แ ล ะ ป ริ ญ ญ า ต รี ด้ า น บัณฑิตในปี พ.ศ.2501 และได้เดินทาง เศรษฐศาสตร์ B.A. (Economics) ท่ี กลับสู่ประเทศไทย งานแรกในประเทศ วิทยาลัยโลโยลา สาธารณรัฐอินเดียนั้น คือ การเป็นผู้ช่วยอธิการบดีท่ีโรงเรียน อัสสัมชัญ ศรีราชา มีหน้าท่ีอบรมเณร (Loyola College, University of หรือผู้ที่เตรียมตัวเป็นนักบวช รวมทั้ง เป็นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์และศิลป์ Madras) ท่านได้มีโอกาสเริ่มงานสอน หนงั สอื เปน็ ครง้ั แรกทโ่ี รงเรยี นมธั ยมแบบ อยปู่ ระจ�ำ แหง่ หนง่ึ ซง่ึ มชี อ่ื วา่ Montfort European High School โดยสอน วิชาพีชคณิตให้กับนักเรียนชั้นมัธยม 2 ทำ�ให้ท่านซึมซับ และหลงใหลในการ เปน็ ครู ในวิชาชพี ครูมาตง้ั แต่ครง้ั กระน้ัน ภายหลังจากใช้ชีวิตเป็นเวลา 6 ปี ในอนิ เดยี โดยอย่ใู นนวกสถาน 2 ปแี ละ
คำ�นวณในเวลาเดยี วกัน 3 อยา่ งในเวลาเดยี วกนั คอื สอนนกั เรยี น ทีล่ งไปสอนหนังสือดว้ ยตวั เอง เพราะต้องการจะท�ำ ความรู้จัก 61 เม่ือทำ�งานที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ชน้ั ป.1 และ ป.2 อยา่ งท่สี อง คอื สอน กับเด็ก โดยสอนคณิตศาสตร์ในชั้นมัธยม 3 และสอนภาษา ศรีราชาเป็นเวลา 1 ปี ทา่ นไดย้ า้ ยไปที่ คณิตศาสตร์ช้ันมัธยมปลาย และอย่าง อังกฤษในชั้นมัธยม 5 หลักในการทำ�งานที่ท่านปลูกฝังให้กับ โรงเรียนเซนตห์ ลยุ ส์ จังหวัดฉะเชิงเทรา สุดท้าย คือ การดูแลนักเรียนท้ังหมด ครูในโรงเรียนเซนต์คาเบรียลก็คือ ต้องทำ�ความเข้าใจกับเด็ก ทำ � ห น้ า ที่ ส อ น วิ ช า ภู มิ ศ า ส ต ร์ แ ล ะ ทกุ ระดบั ชน้ั และอบรมจริยธรรมให้กับเด็กอย่างสมำ่�เสมอ ไม่ทำ�โทษเด็ก ประวัติศาสตร์อีก 1 ปี ก่อนจะย้ายไปที่ บราเดอร์มาร์ตินทำ�งานอยู่ที่โรง โดยการเฆ่ยี นตี แต่ใหว้ า่ กลา่ วตักเตือน และสนทนาพดู คุยกบั โรงเรยี นอสั สมั ชญั ธนบรุ ี ซง่ึ เปน็ โรงเรยี น เรียนอัสสัมชัญ ธนบุรีเป็นเวลา 4 ปี เด็กนักเรียนให้มาก ทเี่ พง่ิ เปดิ ใหมอ่ ยู่ในพนื้ ทแี่ ละสง่ิ แวดลอ้ ม แล้วจึงย้ายไปเป็นครูใหญ่ท่ีโรงเรียน ท่ียังไม่เจริญมากนัก ถือเป็นครูใหญ่ เซนตค์ าเบรยี ล เปน็ ครใู หญท่ เ่ี ปน็ คนไทย คนแรกและเป็นผู้บุกเบิกงานสอนของ คนที่สองของโรงเรียนน้ี ปกตคิ รใู หญ่จะ 1. บราเดอร์ มาร์ตนิ ในชุดครยุ รับปริญาตรี วทิ ยาลยั โลโยลา โรงเรยี นแหง่ นี้ โดยทา่ นตอ้ งท�ำ หนา้ ทถ่ี งึ ไม่ต้องสอนหนังสือแต่ท่านเป็นครูใหญ่ สาธารณรัฐอนิ เดยี 2. บราเดอร์ มาร์ตนิ สอนคณติ ศาสตร์ ทโ่ี รงเรียนเซนต์คาเบรียล 3. บราเดอร์ มาร์ตนิ ขณะเปน็ ครูใหญ่ สอนหนังสอื และดูแล นักเรยี นท่ี โรงเรียนอสั สมั ชัญธนบุรี (ในกรอบสีเทา)
BIOGRAPHY ท่านปฏิบัติหน้าท่ีหลายอย่าง SIO) แหง่ ประเทศเยอรมนี ให้ไปศึกษา ในระหว่างท่ีท่านศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ดน้ัน กระท่ังได้รับเลือกให้เป็นเจ้าคณะ ในด้านการศึกษาท่ีว่าด้วยการพัฒนา ทา่ นม่งุ ม่นั และทุ่มเทกับการเรียนมาก โดยใชเ้ วลาสว่ นใหญ่ไป เซนต์คาเบรียลแขวงประเทศไทยในปี ระหวา่ งประเทศ M.A. (International กับการอ่านหนังสือและค้นคว้าอยตู่ ลอดเวลา เพราะทา่ นชอบ พ.ศ.2517 เมื่อดำ�รงตำ�แหน่งแล้วท่าน Development Education) และใน บรรยากาศทางวิชาการ และมีหนังสือรวมถึงตำ�รับตำ�ราท่ที ัน มีภารกิจรัดตัวมากจนไม่สามารถเรียน ระหว่างใกล้จะสำ�เร็จการศึกษาท่านได้ สมยั มากมาย ท�ำ ใหป้ ญั หาทางสายตาของทา่ นเรม่ิ แยล่ ง โดยมี ตอ่ ตามทตี่ ั้งใจไว้ ในปี พ.ศ.2519 ท่าน สมัครเรียนปริญญาโทในอีกหลักสูตร อาการตาพรา่ มวั และลานตาแคบมองเหน็ ไดใ้ นบรเิ วณไมก่ วา้ ง จึงตดั สนิ ใจเรียนอธกิ ารใหญ่ ณ กรุงโรม หนึ่งเกี่ยวกับสังคมศาสตร์การศึกษา หมอวนิ จิ ฉยั วา่ เกดิ จากอาการตอ้ หนิ ว่าจะไม่ขอเป็นเจ้าคณะต่อ เพื่อท่ีจะไป ศึกษาต่อระดับปริญญาโท ท่ีมหาวิทยา M.A. (Social Sciences in Educa- ลยั สแตนฟอรด์ สหรัฐอเมริกา โดยทา่ น ไดร้ บั ทนุ จากองคก์ รมสิ เซยี รอิ อร์ (MIS- tion) ท่านจึงได้ปริญญาโทจากมหา วิทยาลยั สแตนฟอร์ดถงึ 2 ใบ
เมอ่ื กลบั จากสหรฐั อเมรกิ าทา่ นไดท้ �ำ งานอยใู่ นประเทศไทย 63 2 ปี แล้วจึงเดินทางไปเรียนที่สมาพันธรัฐสวิตเซอร์แลนด์ อีก 2 เดือน ก่อนจะได้ทุนให้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกท่ี 1. บราเดอร์ มารต์ นิ ในงานวันรับปริญญาทม่ี หาวทิ ยาลยั สแตนฟอร์ด สาธารณรัฐฟิลิปปนิ ส์ ด้านการจัดการองค์กร (Organization 2. บราเดอร์ มาร์ตินในงานวนั รบั ปรญิ ญาเอกทฟ่ี ิลิปปนิ ส์ 3. บราเดอร์มาร์ตินยังได้เข้าร่วมคณะกรรมการวางแผนการศึกษา Management), Southeast Asia Interdisciplinary แห่งชาติ ในปี พ.ศ.2544 Development Institute) ท่ีนั่นท่านได้พบกับ ดร. จอร์จ ซวร์ช นักวิทยาศาสตร์และบาทหลวงชาวเยอรมนี ท่านได้ เรียนรู้กระบวนการสอนวิทยาศาสตร์โดยเน้นการฝึกปฏิบัติ และการทดลอง ซ่ึงท�ำ ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามเข้าใจในทฤษฎีได้อยา่ ง ลึกซึ้ง เป็นแรงบันดาลใจให้ท่านกลับมาปฏิรูปวิธีการสอนใน ประเทศไทย โดยไดค้ ดั ครจู ากโรงเรยี นเซนตค์ าเบรยี ล โรงเรยี น มาร์แตร์เดอี โรงเรียนเซนต์โยแซฟคอนแวนต์ โรงเรียนเซนต์ ดอมินิก และอาจารย์มหาวิทยาลัยจำ�นวนหน่ึงให้ไปศึกษาวิธี การสอนดังกลา่ วโดยออกคา่ ใช้จา่ ยให้ทัง้ หมด ในช่วงปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทย พ.ศ.2520 บรา เดอรม์ ารต์ นิ ไดร้ บั เชญิ ใหเ้ ปน็ หนง่ึ ในคณะกรรมการวางแผนการ ศกึ ษาแหง่ ชาติ ทา่ นไดส้ ง่ เสรมิ ใหป้ ระเทศไทยจดั การศกึ ษาแบบ 6-3-3 คอื ชน้ั ประถมศกึ ษา 6 ปี และมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ 3 ปี มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 3 ปี เพราะทา่ นมแี นวคดิ วา่ จากเดมิ ท่ี มกี ารเรยี นชน้ั มธั ยมเพยี ง 5 ปีน้ันไม่เพียงพอที่จะให้นักเรียนมี ความรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตรอ์ ยา่ งมคี ณุ ภาพเพราะ วิชาเหล่าน้ีจะต้องใช้เวลาในการเรียนทั้งภาคทฤษฎีและภาค ปฏบิ ตั ิจึงจะสัมฤทธผิ์ ล
BIOGRAPHY ความผูกพนั กบั มหาวทิ ยาลยั อสั สัมชญั การเรม่ิ ตน้ ของมหาวทิ ยาลยั อสั สมั ชญั ปรบั ปรุงแก้ไข) มนี าคม 2556 ,หนา้ 18- ยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ นักศึกษาจึง ในระยะแรกตอนที่เริ่มจัดต้ังไม่มีความ 22, 24) วา่ ต้องเรียนโดยอาศัยสถานท่ีของโรงเรียน พร้อมมากนัก จึงเกิดปัญหาหลาย “16 มิถุนายน พ.ศ. 2515 (ค.ศ. ACC ไปก่อนประมาณ 1 ปี ระหว่าง ประการ ท�ำ ใหท้ า่ นตอ้ งเขา้ มาเกย่ี วพนั ใน 1972) กระทรวงศึกษาธิการอนุญาตให้ นั้นการก่อสร้างอาคารเรียนที่หัวหมาก หลายเร่ืองหลายกรณีในแต่ละช่วงเวลา คณะภราดาเปดิ วทิ ยาลยั เอกชนได้ โดยใช้ ดำ�เนินไปอย่างเร่งรีบ โดยภราดาเบอร์ ซึ่งปรากฏรายละเอยี ดทภ่ี ราดา ประทีป ชอ่ื วา่ “วทิ ยาลยั อสั สมั ชญั บรหิ ารธรุ กจิ ” นาร์ดได้นำ�เงินจำ�นวนหน่ึงจากโรงเรียน มาร์ติน โกมลมาศ อธิการบดีกิตติคุณ ภายใต้เง่ือนไขว่าวิทยาลัยต้องไม่เปิดท่ี ACC มาใช้ในการก่อสร้างอาคารหลัง มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้เขียนไว้ใน ACC จะตอ้ งยา้ ยไปเปดิ ทใ่ี หม่ ในการน้ี แรก ซึง่ ต่อมา ข้าพเจ้าได้ตั้งชื่ออาคารน้ี ประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัย ขา้ พเจา้ ไดม้ อบทด่ี นิ ทห่ี วั หมากให้ 10 ไร่ วา่ “ฟลิ ปิ แอนด์ เบอรน์ ารด์ ” อสั สมั ชญั (ประวตั คิ วามเปน็ มาของมหา ในขณะน้ัน วิทยาลัยอัสสัมชัญ ในปี พ.ศ. 2516 (ค.ศ. 1973) เมื่อ วิทยาลยั อสั สัมชัญ พิมพค์ รัง้ ที่ 2 (ฉบับ บริหารธุรกิจ หรือ ABAC ท่หี ัวหมาก อาคารเรียนหลังแรกสร้างเสร็จ จึงย้าย
นักศึกษามาเรียนที่หัวหมาก ในปีนี้เกิด ปี พ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974) เดือนเมษายน ข้าพเจ้า เหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบ มีการเดิน ได้รับการแต่งต้ังให้เป็นเจ้าคณะแขวงเซนต์คาเบรียลแห่ง ขบวนกันทุกวัน ในส่วนของ ABAC ประเทศไทย ในสถานการณ์ดังกล่าว เม่ืออธิการลาออก เองกม็ คี วามไมส่ งบเชน่ กนั เมอื่ หลกั สตู ร ทำ�ให้ ABAC ไม่มีผู้บริหาร ข้าพเจ้าซ่ึงเป็นเจ้าคณะแขวงฯ ASB ไดเ้ ปิดทำ�การมากระทง่ั มีนกั เรยี น เปน็ ร่นุ ที่ 3 แล้ว นกั เรียนเหล่านกี้ ็รอ้ น จึงต้องเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ ต้ังแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 65 ใจ อยากหาหลักฐานเพ่ือพิสูจน์ให้ได้ 2517 (ค.ศ.1974) ข้าพเจ้าเข้ามารักษาการอธิการและมา ว่าเม่ือพวกเขาเรียนจบหลักสูตร ASB แก้ไขปัญหาอยู่ 6 เดือน (ระหว่างเดือนเมษายน – กันยายน แล้วจะได้รับปริญญาตรีจริงตามที่คณะ 2517) ในระหว่างน้นี ักศึกษายังคงก่อความว่นุ วายตลอดเวลา ภราดากล่าวอ้างหรือไม่และเม่ือรู้ว่า กระทรวงฯ อนุญาตใหเ้ ปิด ABAC ได้ 1. ภราดา ฟิลปิ อ�ำ นวย ปน่ิ รตั น์ นักเรียนเหล่าน้ีจึงอยากย้ายมาเรียน 2. อาคารเรยี นหลังแรก “อาคาร ฟิลิป แอนด์ เบอร์นาร์ด” ท่ี ABAC แต่เน่ืองจากกระทรวงฯ 3. ภราดา สมพงศ์ ธีรานนท์ ไม่อนุญาตให้มีการโอนย้ายมาเรียนที่ 4. ภราดา เบอรน์ าร์ด แมร่ี ABAC ได้ นอกเสยี จากวา่ จะสมคั รเขา้ มาเรียนปี 1 ใหม่ นักเรยี นเหลา่ นี้จึงไม่ พอใจ สงิ่ นก้ี อ่ ใหเ้ กดิ ความวนุ่ วายภายใน ACC และ ABAC เป็นอย่างมาก เมอื่ ปัญหารุมเร้ามากข้ึน ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974) ภราดาสมพงศ์ ธรี านนท์ ซงึ่ เปน็ อธกิ าร ABAC ในขณะ นัน้ จึงลาออก
BIOGRAPHY ในเดอื นกนั ยายน 2517 เปน็ ชว่ งสอบของนกั ศกึ ษา นกั ศกึ ษา มาชว่ ยบรหิ ารวทิ ยาลยั ไดแ้ ก่ ดร.มารวย ผดงุ สทิ ธ์ิ ดร.สทุ นิ นพ ประทว้ งไมย่ อมเขา้ หอ้ งสอบ ขา้ พเจา้ ในฐานะนายกสภาวทิ ยาลยั เกตุ ดร.ไพรชั กฤษณมษิ และนายศุภชยั ศริ ิสุวรรณากรู พร้อม จึงเรียกประชุมสภาฯ ซ่ึงในการประชุมมี พลตำ�รวจตรีชัช กบั แตง่ ตงั้ อาจารยว์ นั เพญ็ นพเกตุ เปน็ อธกิ ารในเดอื นกนั ยายน ชวางกูร ภราดาบญั ญัติ โรจนารณุ และภราดาวศิ ษิ ฐ์ ศรีวชิ ยั พ.ศ. 2517 (ค.ศ. 1974) ในชว่ งทอี่ าจารยว์ นั เพญ็ เปน็ อธกิ าร ยงั รัตน์ ร่วมประชมุ ดว้ ย และมีมตสิ ภาฯ ในการประชมุ คราวน้นั เกดิ ความวนุ่ วายไมจ่ บสนิ้ อาจารยว์ นั เพญ็ ตอ้ งท�ำ งานหนกั อยา่ ง ให้จัดการกับนกั ศึกษาท่ีประทว้ งอยา่ งเดด็ ขาด ขา้ พเจ้าจงึ แจง้ มาก ท่านเป็นอธิการอย่ไู ด้ 2 ปี จึงลาออกพรอ้ มกบั ผูเ้ ช่ียวชาญ มติสภาฯ ใหน้ กั ศึกษาทราบว่า หากในวนั รุง่ ขน้ึ ถ้านกั ศึกษาไม่ ทงั้ 4 ท่าน อยา่ งไรก็ตาม ท้งั 5 ท่าน ได้ทำ�คณุ ประโยชนใ์ หก้ บั เข้าห้องสอบ วิทยาลัยจะปิดตัวเอง ไม่มีการเรียนการสอนอีก วทิ ยาลัยเป็นอยา่ งมากในระยะเรม่ิ ตน้ ต่อไป พอวนั รงุ่ ขนึ้ ขา้ พเจา้ จึงพบว่านักศึกษาเข้าหอ้ งสอบโดย ในช่วงเวลาที่อาจารย์วันเพ็ญเป็นอธิการนี้ มีเหตุการณ์ท่ี พร้อมเพรียงกนั ไม่มกี ารประทว้ งใดๆ อกี สำ�คัญ คอื มีการประชมุ สภาวทิ ยาลยั เปน็ คร้ังแรก เพอื่ ศึกษา ตอ่ มา ขา้ พเจา้ ไดเ้ ชญิ ผเู้ ชย่ี วชาญ 4 ท่านจากนิดา้ (NIDA) ขอ้ มูลความขดั แยง้ และแกป้ ัญหาต่างๆ ท่เี กิดขึน้ โดยข้าพเจ้า
ในฐานะนายกสภาฯ ได้เรียกประชุม ซึ่งในการประชุมน้ันมี 1. บณั ฑิตรบั ปริญญารนุ่ แรก 67 อาจารยว์ ันเพ็ญทำ�หน้าท่เี ป็นกรรมการและเลขานกุ าร 2. อาจารย์ วันเพญ็ นพเกตุ ตอ่ มา ขา้ พเจา้ ไดเ้ ชญิ ศาสตราจารย์ ดร.ชบุ กาญจนประกร 3. ศาสตราจารย์ ดร. ชบุ กาญจนประกร ซึ่งกำ�ลังจะเกษียณจากนิด้ามาเป็นอธิการ ในวันท่ี 1 ตุลาคม 4. คณะผูเ้ ชยี่ วชาญจากนิดา้ (NIDA) 2519 ท่านได้สร้างความเจริญให้แก่วิทยาลัยเป็นอย่างมาก A. ดร. มารวย ผดุงสิทธิ์ ทา่ นไดส้ รา้ งระบบการท�ำ งานใหเ้ ปน็ มาตรฐาน ก�ำ หนดระเบยี บ B. ดร. สุทิน นพเกตุ วทิ ยาลยั ฯ วา่ ดว้ ยกจิ การตา่ งๆ อาทิ ระเบยี บวา่ ดว้ ยการปฏบิ ตั ิ C. ดร. ไพรัช กฤษณมษิ งานของผู้สอนและเจา้ หนา้ ที่ เป็นตน้ ท�ำ ใหก้ ารทำ�งานมีระบบ D. คณุ ศภุ ชยั ศริ ิสุวรรณากรู ระเบียบมากขึ้น นับเป็นคุณประโยชน์ต่อการพัฒนาวิทยาลัย เป็นอยา่ งมาก” (ตามคำ�บันทกึ ของ ดร.ชวลิต หม่ืนนชุ )
BIOGRAPHY ยคุ ของภราดามารต์ นิ “ขา้ พเจา้ มคี วามเหน็ วา่ การบรหิ าร สถาบันการศึกษาน้ี ผู้บริหาร จำ�เป็นต้องรู้จักนักศึกษาและผู้ ท่ีเก่ียวข้อง ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้า จึงต้องสอนนักเรียนเองด้วย ซึ่ง ข้าพเจ้าได้เร่ิมมาสอนตั้งแต่คร้ัง แรกทเ่ี ขา้ มารกั ษาการฯ แลว้ เพอื่ จะได้เข้าใจนักศึกษา อาจารย์ เข้าใจในสิ่งท่ีเป็นไปในวิทยาลัย เพื่อจะได้ดูว่าการเรียนการสอน ที่ทำ�กันอยู่น้ันถูกต้องหรือไม่? คุณภาพเป็นอย่างไร? ควรจะ บรหิ ารหรอื ควบคมุ ดูแลอย่างไร?” Br. Martin
ยุคเริ่มต้นการพัฒนาวิทยาลัยอัสสัมชัญ บริหารธุรกิจ ข้าพเจ้าจึงบอกนักศึกษาให้ลงมือทำ�ได้เลย ปรากฏว่าสิ่ง ABAC ในขณะนั้นเป็นช่วงที่นักศึกษายังคงก่อความ ที่นักศึกษานำ�มาเสนอนี้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด โครงการบริษัท วุ่นวายอยู่เสมอ วันหนึ่ง นักศึกษาคนหนึ่งมาหาข้าพเจ้าแล้ว จำ�ลองนี้ ประสบความสำ�เร็จและสร้างประสบการณ์ให้ พูดเสียงดังว่า ที่นี่สอนอะไรก็ไม่รู้ สอนตามตำ�ราหมดเลย นักศึกษาเป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง และทุกวัน ไม่มีภาคปฏิบัติ นักศึกษาบอกว่าเรียนบริหารธุรกิจก็ต้อง นี้มหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทยได้บรรจุโครงการ ลงมือทำ�จริงๆ แล้วแนะนำ�ด้วยว่าควรทำ�อย่างนั้นซิ อย่าง บริษัทจำ�ลองนี้ ให้อยู่ในภาคปฏิบัติของหลักสูตรด้วย สิ่ง นี้ซิ ข้าพเจ้าจึงบอกนักศึกษาว่า ให้ไปเขียนโครงการมา ใน นี้จึงพิสูจน์ได้ว่าที่พวกนักศึกษาทำ�ไปนั้น เขาทำ�ได้ถูกต้อง ไม่ช้านักศึกษาได้นำ�โครงการมาเสนอ นั่นคือ โครงการ การที่นักศึกษาเข้ามาแนะนำ�นั้น เป็นการแนะนำ�อย่าง จัดตั้งบริษัทจำ�ลอง “Dummy Company” นั่นเอง สร้างสรรค์และก็เพื่อความเจริญของวิทยาลัยนั่นเอง ดังนั้น 69 1. บราเดอร์ มารต์ ิน สอนหนังสือที่ห้องเรยี นตกึ “ฟิลปิ แอนด์ เบอรน์ ารด์ ”
BIOGRAPHY สง่ิ ทผ่ี เู้ ชย่ี วชาญขององคก์ าร UNESCO พดู นน้ั ถกู ตอ้ งแลว้ ตอ้ ง ถามผเู้ รยี นกอ่ น ครบู าอาจารยอ์ ยา่ คดิ วา่ ตนเองรหู้ มด ไมน่ านตอ่ มา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ไดเ้ ชญิ ขา้ พเจา้ เขา้ รว่ ม สมั มนาทพ่ี ทั ยา เพอ่ื แบง่ ปนั ประสบการณใ์ นเรอ่ื งการมงี านท�ำ ของนกั ศกึ ษา เนอ่ื งจากเหน็ วา่ ABAC สามารถผลติ นกั ศกึ ษาได้ งานท�ำ แทบทกุ คน ซง่ึ ในสมยั นน้ั บณั ฑติ ทจ่ี บจากมหาวทิ ยาลยั แทบทกุ แหง่ ตกงานมากมาย โดยเฉพาะมหาวทิ ยาลยั ของรฐั เอง บณั ฑติ มงี านท�ำ เพยี ง 49% เทา่ นน้ั สง่ิ ทข่ี า้ พเจา้ ไดแ้ บง่ ปนั ในงานสมั มนา คอื ขา้ พเจา้ กลา่ วถงึ วา่ ควรมีการปรับปรุงหลักสูตรใหม่และนำ� IT หรือคอมพิวเตอร์ เขา้ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเรยี นการสอน ซง่ึ ในยคุ นน้ั เรอ่ื ง IT หรอื คอมพิวเตอร์ดูจะเป็นเร่ืองใหม่มาก นอกจากน้ีจะสังเกตว่า นกั ศกึ ษาเองกร็ อ้ งทกุ ขว์ า่ ควรมกี ารปรบั ปรงุ หลกั สตู รไดแ้ ลว้ ขณะ ทพ่ี ดู นน้ั ดเู หมอื นวา่ ผเู้ ขา้ รว่ มสมั มนาจะไมค่ อ่ ยเขา้ ใจสง่ิ ทข่ี า้ พเจา้ พดู มากนกั เพราะคดิ แตว่ า่ จะใหน้ กั ศกึ ษามงี านท�ำ ไดอ้ ยา่ งไร?
...สงิ่ ที่ผเู้ ชย่ี วชาญขององคก์ าร ในเวลาต่อมา ทบวงมหาวิทยาลัย UNESCO พูดนนั้ ถูกต้องแลว้ ไดท้ �ำ การส�ำ รวจความส�ำ เรจ็ ของบณั ฑติ จากสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและ ต้องถามผู้เรยี นกอ่ น เอกชน ผลการสำ�รวจพบว่า ABAC ครบู าอาจารย์อย่าคดิ ว่า เป็นท่ีนิยมอันดังหน่ึงมีคุณภาพสูง เป็น ยอดปรารถนาของผู้ประกอบการอย่าง ตนเองร้หู มด... มาก ผลการสำ�รวจยังไดพ้ บคุณลกั ษณะ (Characteristics) ของบัณฑิตบาง ประการ ซึ่งข้าพเจ้าได้ใช้เป็นจุดเน้นใน 71 การวางแผนพฒั นาวทิ ยาลยั คณุ ลกั ษณะ ดังกลา่ ว เช่น บัณฑติ ทกุ คนต้องมคี วาม เชี่ยวชาญในภาษาอังกฤษและใช้งาน ได้จริง รู้จักใช้ IT หรือคอมพิวเตอร์ใน การทำ�งาน และมีความเป็นตัวของตัว เอง มคี วามคิดเปน็ เอกเทศ สามารถให้ ขอ้ คดิ ทแ่ี ตกตา่ งจากกลมุ่ ไมถ่ กู ครอบง�ำ แก้ปัญหาเป็น (Troubleshooting) มีทักษะการคิดเชิงบวก (Positive Thinking) เป็นตน้ 1. กลุ่มนักศึกษาในโครงการบริษัทจ�ำ ลอง “Dummy Company” รับ รางวลั “The Best Dummy company” 3 ปีตดิ ตอ่ กันในชว่ งปี พ.ศ.2529 -2531 2. งาน “ABAC Computer Fair” ปี พ.ศ.2529
ฝากไวใ้ นแผน่ ดิน มหาวทิ ยาลัยอัสสมั ชญั ภราดาประทีป มาร์ติน โกมลมาศ ได้รับการแต่งตั้งจาก ทบวงมหาวิทยาลัยให้ดำ�รงตำ�แหน่งอธิการบดี ตั้งแต่วันท่ี 6 กนั ยายน 2522 ท่านไดใ้ ชค้ วามพยายามทกุ วิถที างท่จี ะพัฒนา คุณภาพมาตรฐานการศึกษาของมหาวิทยาลัยในทุกๆ ด้านให้ เปน็ ทยี่ อมรบั ของสงั คมไทยและสงั คมนานาชาติ ผลงานทที่ า่ น ไดส้ รา้ ง ไดป้ ลกู ฝงั และบม่ เพาะมีอยมู่ ากมาย ซ่ึงพอจะจำ�แนก ไดเ้ ป็น 3 มิตทิ ่สี �ำ คัญ คอื 1. มิติของการสร้างคณุ ค่าเชิงปทสั ถาน 2. มิตทิ างวชิ าการ 3. มติ ิทางกายภาพ
มติ ขิ องการสรา้ งคณุ คา่ เชงิ ปทสั ถาน Policies; กระบวนการใหก้ ารศกึ ษาและ มกี ารประชมุ คณาจารยเ์ พอ่ื จดั ท�ำ เปน็ มาตรฐานการศกึ ษาขน้ึ มา 75 อบรม (Formation Process) และ จากการประชมุ ดงั กลา่ ว ดร.พรชยั ศรปี ระไพ ไดท้ �ำ รายงานสรปุ (Normative Value) Vision 2000 ขน้ึ ดงั ปรากฏรายละเอยี ด การประชมุ ในหวั ขอ้ ABAC Academic Standards and the ท่ที ่านกล่าวไว้ใน “ประวัติความเป็นมา Academic Committee” และ อาจารย์ John F. Simmons ภราดาประทีป มีวิสัยทัศน์ และให้ ของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (พิมพ์คร้ัง สรปุ การประชมุ ในหวั ขอ้ “Roles of the Dean” ความสำ�คัญกับคุณภาพการศึกษามาก ท่ี 2 ฉบบั ปรบั ปรงุ แกไ้ ข มนี าคม 2556, ตอ่ มาขา้ พเจา้ เหน็ วา่ มคี วามจ�ำ เปน็ ทม่ี หาวทิ ยาลยั จะตอ้ งมี โดยทา่ นเหน็ วา่ มหาวทิ ยาลยั นา่ จะตอ้ งมี หนา้ 25-30)” โดยละเอยี ด ดงั น้ี ปรชั ญาการศกึ ษา วตั ถปุ ระสงคข์ องการศกึ ษาและนโยบาย จงึ มาตรฐานการศกึ ษาเปน็ ของมหาวทิ ยาลยั “หลังจากกลับมาจากกระทรวงฯ ไดเ้ รยี กประชมุ ผบู้ รหิ ารมหาวทิ ยาลยั เพอ่ื ศกึ ษาในเรอ่ื งน้ี เอง เพอ่ื ท�ำ ใหก้ ารศกึ ษาของมหาวทิ ยาลยั ขา้ พเจา้ จงึ เหน็ วา่ เรานา่ จะมมี าตรฐานการ มีความม่นั คงและมีมาตรฐานมากย่งิ ข้นึ ศกึ ษาของเราเอง เพอ่ื ท�ำ ใหก้ ารศกึ ษาของ 1. มหาวิทยาลัยอสั สมั ชญั วทิ ยาเขตสุวรรณภมู ิ ท่านจึงได้ดำ�เนินการจัดให้มี “ABAC เรามน่ั คงและมมี าตรฐานมากยง่ิ ขน้ึ จงึ ได้ 2. ดร. พรชัย ศรีประไพ 3. อาจารย์ John F. Simmons Academic Standards; Philosophy of Education; Objectives and
WORKS PHILOSOPHY OF EDUCATION NIA VINCIT. แรกแลว้ และยดึ มนั่ การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย ซงึ่ ใช้ The commitment to be a light อบรมสงั่ สอนนกั ศกึ ษาใหร้ จู้ กั ประชาธปิ ไตยทแี่ ทจ้ รงิ เมอื่ เรยี น In loyalty to its Christian mis- that leads men towards the true จบแลว้ จะเปน็ บณั ฑติ ทส่ี ามารถแกป้ ญั หาขอ้ ขดั แยง้ ดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี source of all knowledge and life: ค�ำ ว่า “LABOR OMNIA VINCIT” หมายถึง การให้ sion, Assumption University LUX ET VERITAS. ความสำ�คัญของการทำ�งานซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมประเพณี stands for ปฏิบัติของคณะภราดามาเปน็ เวลาช้านานหลายรอ้ ยปี จ�ำ เปน็ The inculcation of respect for ปรัชญา คือ ปณิธานหรือความเชื่อที่ ต้องอธิบายท่ีมาท่ีไปเป็นอย่างไร ในสมัยก่อนน้ีเมื่อเราพูดถึง the three institutions of the Na- มหาวิทยาลยั มีเปน็ หลกั ความคดิ ดังนี้ ฤาษีของโลกตะวันตก (The Monk of the West) เราหมาย tion, Religion, Country, the King มหาวิทยาลัยมีความจงรักภักดี ถงึ นกั บวชในคณะเบเนดิกติน ผู้มอี ุดมคตทิ ี่ว่า การท�ำ งาน คือ and a democratic way of life. ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ การภาวนา การทำ�งานเป็นการบูชาอันสูงส่งท่ีมนุษย์พึงจะ The belief that a man justifies โดยเฉพาะในราชวงศ์จักรีน้ี ทรงมีพระ กระทำ�เพื่อถวายแด่พระเจ้า สรรเสริญพระเจ้า การทำ�งานยัง himself and his existence by the มหากรณุ าธคิ ณุ กบั ภราดามาตง้ั แตใ่ นยคุ nobility of his work: LABOR OM-
มีความหมายอีกว่า มนุษย์ได้รับเกียรติให้มีส่วนร่วมกับพระผู้ 1. ภราดาประทีป มาร์ตนิ โกมลมาศ ขณะดำ�รงตำ�แหน่งอธิการโรงเรียนเซนตค์ าเบรียล พรอ้ มดว้ ย 77 สร้างในการสรา้ งโลก ยิ่งกวา่ นน้ั การทำ�งานยงั มีคุณค่าของการ คณะกรรมการสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเซนต์คาเบรียล เฝา้ รบั เสดจ็ ฯ พระบาทสมเดจ็ ไถ่บาป (Redemptive Value) เพราะการทำ�งานจะทำ�ให้ พระเจา้ อย่หู ัวภมู พิ ลอดลุ ยเดช ในโอกาสเสดจ็ ฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการทางวทิ ยาศาสตร์ของ มนุษย์หลุดพ้นจากความเกียจคร้าน กิเลส และความช่ัวร้าย โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ณ ตกึ ยอห์น เมร่ี เมอื่ วันท่ี 11 กุมภาพันธ์ 2512 ท้ังปวง การทำ�งานน้ียังเป็นการเสริมสร้างความมีเกียรติและ ศกั ดิ์ศรขี องมนุษย์ ดว้ ยเหตนุ ้ี ในสมัยแรกน้นั คณะภราดาทตี่ ั้ง 2. พิธไี หวค้ รู โรงเรียนในประเทศฝรั่งเศส บางคนจะสอนหนังสือ บางคน 3. ภราดาประทีป มารต์ ิน โกมลมาศ อธิการบดี ขณะเฝา้ รบั เสดจ็ ฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยาม บรมราชกมุ ารี เสด็จพระราชดำ�เนินทรงประกอบพิธีเปิด “อาคารเฉลิมรชั มงคล” และ ทอดพระเนตร นิทรรศการ ณ มหาวทิ ยาลยั อสั สมั ชญั เมื่อวนั พุธท่ี 7 พฤศจกิ ายน 2533 โดยมี ผบู้ ริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนกั ศกึ ษาเฝ้ารบั เสดจ็ ฯ
WORKS ทำ�งานด้านกสิกรรม ท�ำ สวนท�ำ ไร่ และ and his existence by the nobility นี่จึงเป็นอิทธิพลจากความคิดของฤาษี ไปสู่นักบวชทุกคณะ คือ ทุกคนต้อง of his work” ท่านภราดาซรี ลี มีสว่ น OBJECTIVES AND POLICIES ทำ�งาน อันน้ีสืบมาจากประเพณีปฏิบัติ ในการช่วยขดั เกลาภาษาให)้ Assumption University exists ในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก “The commitment to be a for the main purpose of serving เมื่อคณะภราดาเข้ามาเมืองไทย จึงนำ� light…” หมายถงึ บัณฑติ ของ ABAC the nation by providing scien- เจตนารมณ์น้มี าเป็นแนวทางปฏบิ ตั ิ คือ ทุกคน จงทำ�ตนเป็นผู้นำ�และเป็นแบบ tific and humanistic knowledge, การทำ�งาน ชนะทุกอย่าง “LABOR ฉบับที่ดีแก่ผู้อื่น เป็นแสงสว่างเพ่ือนำ� particularly in, business educa- OMNIA VINCIT” (คำ�ว่า “The be- ทุกคนให้รู้จักพระเจ้าและความจริงของ tion and management science ชีวติ (สำ�หรบั ข้อนี้ ศาสตราจารย์ ดร.ชบุ through research, interdisciplinary lief that a man justifies himself กาญจนประกร ขอให้เติมคำ�ภาษา approaches and cybertechnology. ลาตินว่า “LUX ET VERITAS”) To this end, it aims at forming intellectually component gradu- ates who: • are morally sound, committed to acting justly, and open for further growth. • appreciate freedom of ex-
pression, and are imbued กันและศึกษาจากเอกสารขององค์การ Education is the most effective means to liberate man with right attitudes and ide- UNESCO กวา่ จะเขยี นจดุ มงุ่ หมายการ from ignorance and poverty. ologies through carefully in- ศกึ ษาของมหาวทิ ยาลัยอัสสัมชัญ The fundamental aim of education is to develop and tegrated curriculum of ethics จดุ มงุ่ หมายอนั แทจ้ รงิ ของการศกึ ษา integrate man’s physical, intellectual, emotional and moral and science, languages and น้นั คือ การพัฒนาและการบูรณาการ faculties to their fullest potential without extinguishing the business management. (Develop and Integrate) 4 สมรรถนะ creative spark in him. This integration processed through • achieve academic excellence ของมนุษย์ ได้แก่ ร่างกาย ปัญญา the proper exercise of personal freedom will ultimately through hard work, critical อารมณ์ และจติ ใจ ซง่ึ 4 สมรรถนะนรี้ วม lead to the formation of a complete man, bearing in thinking, and effective deci- กันจึงเป็นมนุษย์ข้ึนมา และต้องมีการ mind that man’s existence is an unending process of sion-making. พัฒนาและการบูรณาการจนกระทั่งถึง completion and learning. ขดี สงู สดุ ของศกั ยภาพของผเู้ รยี น โดยไม่ A man thus formed is capable of becoming responsible ในการเขยี นวตั ถปุ ระสงค์และนโยบายน้ี ท�ำ ใหเ้ ขาสญู เสยี ความเปน็ ตวั ของเขาเอง to himself and to the society in which he lives. ข้าพเจ้าได้นำ�ข้อความบางส่วนมาจาก กระบวนการให้การศึกษาและ เหตุผลในการเสนอเปิดหลักสูตรครั้ง อบรมนี้ ต้องอยู่ในบรรยากาศท่ีผู้เรียน Br. Martin แรกของ ABAC ในสมยั ภราดา สมพงศ์ มอี สิ รภาพและเสรีภาพในการเลอื ก เขา ธรี านนท์ จึงจะบรรลุซ่ึงความสมบูรณ์ของความ 79 เป็นมนษุ ย์ กระบวนการใหก้ ารศกึ ษาและอบรม นักวิทยาศาสตร์ชาวฝร่งั เศส ดูรนุย (Pierre Lecomte du Nouy) ผ้ไู ดร้ ับ (Formation Process) รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ เขียนหนังสือ ช่ือ “Human Destiny” ในปี 1947 กระบวนการให้การศึกษาอบรม เช่อื ว่าในตวั มนุษยท์ กุ คนนีม้ ี “สะเก็ดไฟ (Formation Process) เพอ่ื ใหบ้ รรลถุ งึ ของพระเจา้ ” สถติ อยู่ (Divine Spark) ความเปน็ มนษุ ยท์ สี่ มบรู ณ์ (Complete Man) ตามหลกั ครสิ ต์ธรรม ข้าพเจา้ ได้ ปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญหลายท่านด้วย
WORKS ซง่ึ เราอาจจะเรยี กวา่ “สะเกด็ ไฟแหง่ การ ข้ันพื้นฐานท่ีผู้เรียนทุกคนควรต้องรู้ กระบวนการทไ่ี มร่ จู้ บสนิ้ ของการทดลอง สร้างสรรค์” ก็ได้ (Creative Spark) และนา่ จะไดศ้ กึ ษามาอยา่ งดแี ลว้ เมอื่ จบ การเรียนรู้และการเติมเต็ม จนกระท่ัง หรือในปัจจุบันองค์การ UNESCO มัธยมศึกษาตอนปลาย ครูบาอาจารย์ เขาไดบ้ รรลถุ งึ ความเปน็ มนษุ ยท์ สี่ มบรู ณ์ เรยี กวา่ “ขมุ ทรพั ยใ์ นตน” ดังนน้ั เราจะ ต้องเน้นจุดน้ีให้ได้ ต้องทำ�ให้ผู้เรียน ดังน้ัน จุดมุ่งหมายของการศึกษา ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนมีการพัฒนา โดย เข้าใจอยา่ งถอ่ งแท้ ต้องสะท้อนให้เห็นเป้าหมายปลายทาง เฉพาะอย่าทำ�ให้สะเก็ดไฟน้ีดับลง แต่ ดังน้ัน ครูบาอาจารย์ต้องคอยส่ง ของชีวิตว่าเกิดมาทำ�ไม? มีชีวิตอยู่เพ่ือ ต้องทำ�ให้ลุกโชติช่วงอยู่ตลอดไปไม่ดับ เสริมให้มีการปฏิสัมพันธ์อาจารย์กับ อะไร? แล้วท้ายที่สุดแล้วไปไหน? นี่คือ สูญ ผู้เรียนสามารถใช้อิสรภาพส่วนตัว ศิษย์ ศิษย์กับอาจารย์ อาจารย์กับ กระบวนการให้การศึกษาและอบรมท่ี ดับสะเก็ดไฟนี้ก็ได้ และน่ันหมายถึง อาจารย์ เพราะว่าตามความเห็นของ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญสนใจเป็นพิเศษ ชะตากรรมชวี ติ ของผนู้ นั้ จอหน์ ดวิ อ้ี (John Dewey) ทเ่ี นน้ เรอื่ ง ใหแ้ กผ่ เู้ รยี นของเรา ในกระบวนการให้การศึกษาและ “Learning by Doing” และ ชอง เปีย อบรมน้ีครูบาอาจารย์ต้องทราบดีว่าใน เจต์ (Jean Piaget) นนั้ ใหค้ วามเห็น ...จดุ มุง่ หมายของ การอบรมเพ่ือช่วยผู้เรียนให้พัฒนาได้ ว่าการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนหรือ การศึกษาต้องสะทอ้ น ผู้เรียนต้องมีทักษะข้ันพ้ืนฐาน (Basic Two Developing Minds จะก่อให้ ให้เห็นเปา้ หมาย Skill คอื การอา่ น การเขยี น คณติ ศาสตร์ เกิดปัญญาและวุฒิภาวะเชิงศีลธรรม ปลายทาง... การฟัง และการพูด) ทักษะการคิด (Moral Maturity) ข้ึนมาในตัวเขา (Thinking Skill คือ คิดสร้างสรรค์ คดิ กระบวนการใหก้ ารศกึ ษาและอบรม แก้ปัญหา) และคิดแบบใช้สายตาของ น้ี ครูบาอาจารย์ต้องเข้าใจว่าเป็นกระ ปัญญามอง ทักษะทั้งสามนี้เป็นทักษะ บวนการที่ยาวนาน ไม่มีที่สิ้นสุด เป็น
OPEN FOR FURTHER GROWTH IN THE THIRD 1Cybertechnology (ความคิดทจี่ ะน�ำ คอมพวิ เตอร์ 81 MILLENIUM มาใชใ้ นการเรยี นการสอนและการบรหิ าร มมี าตง้ั แตส่ มยั ดร.ชบุ กาญจนประกร เป็นอธิการ โดยมี ดร. ศรีศักดิ์ นี่คือ “อัตลกั ษณ์ของมหาวทิ ยาลยั อัสสมั ชญั ” จามรมาน และ ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ร่วม กันเปิดหลักสูตร Business Computer เป็นแห่ง Significant meaning แรกของประเทศ ซึ่งต่อมามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ 1. In praise of the Virgin…Sedes Sapientiae มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมาก จนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญเป็น 1 ใน 12 2. F.Hilaire “วชิ าเหมือนสินคา้ อันมีคา่ อยู่เมอื งไกล…” แหง่ ทร่ี ว่ มกอ่ ตง้ั สมาคมอนิ เทอรเ์ นต็ ของโลก โดยมี ศ.ดร. ศรศี กั ด์ิ จามรมาน เปน็ ผรู้ เิ รม่ิ ) 3. Star of the Sea and Voyage 4. D†S: God Alone Vision 2000 ASSUMPTION UNIVERSITY OF THAILAND ENVISIONS ITSELF AS: • An International community of scholars, • Enlivened by Christian inspiration, • Engaged in the pursuit of Truth and Knowledge, • Serving human society, especially through the creative use of interdisciplinary approaches and cybertechnology1.
WORKS VISION 2000 FOR ASSUMPTION UNIVERSITY นอกจากนี้ท่านได้ริเริ่มให้มีการ จนกว่าจะสำ�เร็จการศึกษา เนื้อหา GRADUATES จัดการเรียนการสอนในวิชาสัมมนา สาระของวิชานี้เน้นย้ำ�ให้นักศึกษา Assumption University of Thailand envisions its จรยิ ธรรมทางธรุ กจิ (Business Ethics เข้าใจอย่างถูกต้องถ่องแท้เกี่ยวกับ graduates as: Seminar) เปน็ แหง่ แรกในประเทศไทย จริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาชีพ • Healthy2 and open-minded persons, character- ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญในปี 2522 การเรียนการสอนวิชาสัมมนาจริยธรรม เป็นวิชาที่ไม่มีหน่วยกิต แต่นักศึกษา ทางธุรกิจน้ี เน้นย้ำ�ให้นักศึกษาได้ ized by personal integrity, an independent mind, ต้องลงทะเบียนเรียนทุกภาคการศึกษา ตระหนกั ในคณุ คา่ ความดี ความงามของ and positive thinking, • Professionally competent, willing to exercise responsible leadership for economic progress in a just society, • Able to communicate effectively with peo- ple from other nations and to participatein globalization.” 2mens sana in corpore sano (คำ�ว่า “healthy and open- minded persons” ศ. นพ. บญุ สม มารต์ นิ อดตี รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ ารใหใ้ สค่ �ำ นไ้ี ว)้
ศลิ ปวฒั นธรรม และสงิ่ แวดลอ้ ม อกี ดว้ ย วัตถุประสงค์ และวิธีการจัดการศึกษา ของโลกให้นักศึกษา คณาจารย์ และ เชน่ การรกั ษาสาธารณสมบตั ิ มารยาท ซ่ึงส่ิงเหล่าน้ีเปรียบเสมือนโครงสร้าง ผู้สนใจได้ศึกษา เรียนรู้ หรือเกิดความ ผู้ดี การตรงต่อเวลา การรักษาความ พ้ืนฐานที่จำ�เป็นอันจะนำ�ไปสู่ความ คดิ อยากรอู้ ยากเหน็ (Curiosity) และ สะอาด ความมีระเบียบเรียบร้อย การ สำ�เร็จ หรือสัมฤทธิ์ผลทางการศึกษา ศึกษาต่อไปว่ารูปปั้นเหล่านี้คืออะไร มี มีวินัย และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ของนักศึกษา คณาจารย์ และของ ความสำ�คัญอย่างไร บรรยากาศและสิ่ง และกติกาของสังคม การแต่งกายให้ มหาวิทยาลัยในท้ายท่สี ดุ แวดล้อมแบบนี้ที่ท่านเชื่อว่าจะทำ�ให้ เหมาะสมกบั กาลเทศะ เป็นตน้ นอกจากน้ี ภราดาประทปี ยงั ได้ นักศึกษาเกิดลักษณะที่ท่านเรียกว่า มิติของการสร้างคุณค่าเชิงปทัส สร้างวัฒนธรรมและประเพณีที่สะท้อน ถานในเรื่องต่างๆ ดังท่ีกล่าวมาข้างต้น ถึงการเป็นชุมชนหรือสังคมนักวิชาการ “Open for further growth in the ท่ีภราดาประทีป ได้คิดและจัดทำ�ขึ้น (Community of Scholars) ดว้ ยการ นั้นมีความสำ�คัญต่อการบริหารจัดการ ประดษิ ฐ์และติดตั้งข้อความ รปู ป้นั ของ Third Millennium” และเพ่ือสะทอ้ น ศกึ ษาใหม้ คี ณุ ภาพเปน็ อยา่ งมาก เพราะ นกั คดิ นกั ประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ นัก ถึงบุคลิกลักษณะของมหาวิทยาลัยอัส ประกอบดว้ ยวสิ ยั ทศั น์ ปรชั ญา นโยบาย ปราชญ์ นกั บญุ และนกั ดนตรี คนส�ำ คญั สัมชัญที่ว่า “The Land of Tradition and Innovation” 83 1. การเรียนการสอนในวชิ าสมั มนาจริยธรรมทางธรุ กิจ Business Ethics Seminar เป็นแหง่ แรกในประเทศไทยทีม่ หาวทิ ยาลัยอสั สมั ชญั ในปี 2522
WORKS มติ ทิ างวชิ าการ ที่ 18 ธันวาคม 2523 ได้อนุมตั ิในหลกั อังกฤษธุรกิจ และสาขาวิชาภาษา ในยุคสมัยที่ท่านดำ�รงตำ�แหน่ง การใหพ้ ฒั นาหลกั สตู ร MBA ตอ่ ไป จน ฝรั่งเศสธุรกิจ อันเป็นหลักสูตรแรก อธิการบดี ท่านได้ริเริ่ม บุกเบิก และ สามารถเปิดดำ�เนินการได้เป็นแห่งแรก ของประเทศไทยท่ีมุ่งผลิตบัณฑิตให้มี พัฒนาด้านวิชาการของมหาวิทยาลัย ของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนไทย โดย ความสามารถทางภาษา และทางธุรกิจ อย่างกว้างขวางและหลากหลาย ซึ่ง เปิดด�ำ เนนิ การตง้ั แต่วันที่ 20 สิงหาคม ประกอบกัน และต่อมาได้เปิดเพิ่มใน ในหลายๆ เร่ือง มหาวิทยาลัยอัส 2528 สาขาวชิ าภาษาจนี ธรุ กจิ และภาษาญป่ี นุ่ สัมชัญกลายเป็นผู้นำ�หรือเป็นสถาบัน 2. เปิดดำ�เนนิ การ “คณะบริหาร ธรุ กิจ ธรุ กจิ ซงึ่ ไดร้ บั ความนยิ มไมแ่ พส้ าขาวชิ า อุดมศึกษาเอกชนแห่งแรกที่ดำ�เนินการ ความเส่ียงและประกันภัย” ในสาขา ภาษาองั กฤษธุรกิจ ดงั น้ี วิชาการประกันชีวิต สาขาวิชาการ 4. ปี 2531 เปิดดำ�เนินการ 1. มีดำ�ริให้เปิดดำ�เนินการในหลักสูตร ประกันภัยท่ัวไป และสาขาวิชาการ • หลกั สูตรพยาบาลศาสตรบณั ฑิต บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA) โดย ประกนั วนิ าศภยั ระดบั ปรญิ ญาตรี ตง้ั แต่ • หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขา ได้รับความร่วมมือจาก De La Salle ปี 2528 ต่อมาไดเ้ ปิดดำ�เนินการเพิม่ ใน University ประเทศฟิลิปปินส์ในการ สาขาวิชาการประกันภัยทางทะเลและ วิชาการจัดการโรงแรม และสาขา จัดทำ�การศึกษาความเป็นไปได้ (Fea- ทางเครือ่ งบิน วิชาการจัดการโฆษณา sibility Study) โดยสภามหาวิทยาลยั 3. ปี 2529 เปิดดำ�เนนิ การในหลักสตู ร • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต ในการประชุมคร้ังท่ี 4/2523 เม่ือวัน ศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษา สาขาวชิ าระบบสารสนเทศคอมพวิ เตอร์
5. ปี 2533 เปิดด�ำ เนนิ การ เตอร์ และสาขาวิชา การจัดการงาน 85 • หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต คอมพิวเตอร์และวิศวกรรม สาขาวิชาวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์ 7. ปี 2535 เปดิ ด�ำ เนนิ การ และสาขาวชิ าวิศวกรรมไฟฟา้ • หลกั สูตรนติ ศิ าสตรบณั ฑติ • หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขา • หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขา วชิ าวทิ ยาการคอมพวิ เตอร์ และสาขา วิชาการโฆษณา วชิ าเทคโนโลยีสนเทศศาสตร์ • หลักสูตรศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต • หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขา สาขาวชิ าออกแบบนิเทศศลิ ป์ วชิ าการจดั การธรุ กจิ ระหวา่ งประเทศ • หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต • ห ลั ก สู ต ร วิ ศ ว ก ร ร ม ศ า ส ต ร ม ห า สาขาวชิ าศาสนศกึ ษา และสาขาวชิ า บัณฑิต สาขาวิชาการจัดการงาน ปรชั ญา คอมพวิ เตอร์และวิศวกรรม • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต 6. ปี 2534 เปดิ ด�ำ เนนิ การ สาขาวิชาจติ วิทยาการให้ค�ำ ปรึกษา • หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต 8. ปี 2536 เปิดดำ�เนินการหลักสูตร สาขาวชิ าวิศวกรรมคอมพวิ เตอร์ วทิ ยาศาสตรบณั ฑติ สาขาวชิ าเทคโนโลยี • หลักสูตรวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต การอาหาร และ สาขาวิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาระบบสารสนเทศคอมพิว- การเกษตร 1. การเปิดดำ�เนินการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตเป็นแห่งแรกของ สถาบันอดุ มศึกษาเอกชนในประเทศไทย
WORKS 9. ปี 2538 เปิดดำ�เนินการหลักสูตร • หลกั สตู รสถาปตั ยกรรมศาสตรบณั ฑติ • หลกั สตู รวศิ วกรรมศาสตรมหาบณั ฑติ วิทยาศาตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการ สาขาวิชาสถาปตั ยกรรมศาสตร์ และ สาขาวชิ าระบบอตุ สาหกรรมอตั โนมตั ิ คอมพวิ เตอร์ สาขาวิชาสถาปัตยกรรมภายใน และ อเิ ล็กทรอนิกสก์ �ำ ลงั 10. ปี 2539 เปดิ ด�ำ เนินการ • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต • หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต • หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขา สาขาวิชาเทคโนโลยสี นเทศศาสตร์ สาขาวชิ าหลักสูตรและการสอน และ • หลกั สตู รวศิ วกรรมศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าบรหิ ารการศกึ ษา วชิ าวทิ ยาการโทรคมนาคม สาขาวิชาระบบส่ือสารแถบความถ่ี • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขา • ห ลั ก สู ต ร ก า ร จั ด ก า ร ม ห า บั ณ ฑิ ต กวา้ ง วิชาปรัชญา สาขาวชิ าการพฒั นาองคก์ ารและการ 12. ปี 2541 เปิดด�ำ เนินการ 13. ปี 2542 เปดิ ด�ำ เนนิ การ จดั การ • หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต • หลกั สตู รบรหิ ารธรุ กจิ บณั ฑติ (หลกั สตู ร 11. ปี 2540 เปิดด�ำ เนินการ สาขาวิชาวศิ วกรรมโทรคมนาคมและ ตอ่ เนอ่ื ง 2 ป)ี สาขาวชิ าการตลาด สาขา • หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขา อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ วชิ าการจดั การ สาขาวชิ าการเงนิ และ วิชาการจัดการอุตสาหกรรม และ • หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต การธนาคารสาขาวชิ าคอมพวิ เตอรธ์ รุ กจิ สาขาวิชาธรุ กจิ อสงั หารมิ ทรัพย์ สาขาวชิ าวทิ ยาการโทรคมนาคม และ สาขาวิชาการส่อื สารการตลาดแบบ • หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขา สาขาวิชาการจัดการโทรคมนาคม บูรณาการ และสาขาวิชาการจัดการ วิชาสถติ ิประยุกต์ ธรุ กจิ ระหวา่ งประเทศ
• หลกั สตู รวทิ ยาศาสตรมหาบณั ฑติ สาขา และสาขาวิชาการจัดการและการ 87 วชิ าการจดั การเทคโนโลยี วิเคราะห์ขอ้ มูล • หลกั สตู รศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑติ สาขา • หลกั สตู รนติ ศิ าสตรมหาบณั ฑติ สาขา วชิ าการจดั การทอ่ งเทย่ี ว สาขาวชิ าการ วชิ ากฎหมายธุรกจิ สอน ภาษาองั กฤษ • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขา 14. ปี 2543 เปิดดำ�เนินการหลักสูตร วิชาวทิ ยาการโทรคมนาคม วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา นอกเหนือจากการเปิดดำ�เนินการ เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตและพาณิชย์ ในหลักสูตรสาขาวิชาต่างๆ ทั้งในระดับ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ ปริญญาตรี โท และเอกแล้ว ภราดา 15. ปี 2544 เปิดดำ�เนินการ ประทีปได้ส่งเสริม และพัฒนาด้าน • หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต วิชาการด้วยการสนับสนุนให้ทุนการ สาขาวชิ าครศุ ึกษา ศกึ ษาอาจารยแ์ ละเจา้ หนา้ ทไ่ี ปศกึ ษาตอ่ • หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต ในระดับปริญญาโท และปรญิ ญาเอกใน สาขาวิชาภาษาองั กฤษและวรรณคดี สาขาวชิ าตา่ งๆ ทม่ี หาวทิ ยาลยั อสั สมั ชญั • หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขา เปิดดำ�เนินการสอนอยู่อย่างต่อเน่ืองทั้ง วิชาศาสนศึกษา และสาขาวิชา ในประเทศ และต่างประเทศ บุคลากร วิทยาการคอมพิวเตอร์ เหล่านั้นได้สำ�เร็จการศึกษากลับมาช่วย • ปี 2545 เปิดด�ำ เนินการ พัฒนาด้านวิชาการของมหาวิทยาลัย • ห ลั ก สู ต ร วิ ท ย า ศ า ส ต ร บั ณ ฑิ ต จนถึงปัจจุบันน้ี นับเป็นพ้ืนฐานของ สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยี การพัฒนาด้านวิชาการที่สำ�คัญของ มหาวิทยาลยั อีกสว่ นหนงึ่ 1. อาคาร Montfort del Rosario School of Architecture and Design
WORKS มติ ทิ างกายภาพ การจดั ตง้ั หนว่ ยงาน 4. จลุ สารมหาวทิ ยาลยั อสั สมั ชญั (ABAC ผลงานของภราดาประทปี ในมติ ทิ าง 1. ABAC Press จัดต้ังเมื่อปี 2523 Newsletter) จัดพิมพ์เป็นภาษาไทย กายภาพในที่นี้ขอนำ�เสนอเป็นสามด้าน เพอ่ื เป็นหน่วยงานจัดพมิ พเ์ อกสาร และ โดยเร่ิมจัดพิมพ์ต้ังแต่ปี 2522 เพื่อเผย คือ ด้านการจัดตั้งหน่วยงาน ด้านการ วารสารต่างๆ ของมหาวิทยาลัย จน แพร่ข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหว ขยายพื้นท่ีบริเวณและท่ีดิน และด้าน กลายเป็นศูนย์การพิมพ์ท่ีทันสมัยใน ต่างๆ ไปยังศิษย์เก่า สถาบันการศึกษา การก่อสร้างอาคารและถาวรวัตถุ เพ่ือ ปจั จบุ ัน และองคก์ ารตา่ งๆ ทวั่ ไป รองรับการพัฒนาและการขยายตัวเป็น 2. ABAC Journal เปน็ วารสารส�ำ หรบั 5. โครงการการศึกษาต่อเนื่อง (Con- มหาวทิ ยาลยั ทส่ี มบรู ณแ์ บบ (Compre- เผยแพรผ่ ลงานทางวิชาการ ซ่งึ จดั พมิ พ์ tinuing Education Program) จดั ตง้ั hensive University) ซงึ่ ผลงานในสว่ น เป็นภาษาอังกฤษ เร่ิมจัดพิมพ์มาต้ังแต่ ขน้ึ เมอ่ื ปี 2524 เพอ่ื ใหบ้ รกิ ารทางวชิ าการ นี้ได้สรุปผลงานบางส่วนที่ปรากฏ และ เดอื นธันวาคม 2523 จนถงึ ปจั จุบนั เปน็ แกส่ งั คม ดว้ ยการจดั หลกั สตู รพเิ ศษตา่ งๆ รายงานไปแล้วในหนังสือ “ครู อาจารย์ ทเี่ ชอ่ื ถอื และ ยอมรบั ใน แวดวงวชิ าการ 6. ศูนย์วิจัยธุรกิจ (Center for Re- นกั บรหิ ารการศกึ ษา และนกั บรหิ ารการ ที่นักวิชาการต่างๆ ส่งผลงานมาตีพิมพ์ search in Business) จัดต้ังเม่ือปี พฒั นา: ภราดา ดร.ประทปี ม. โกมลมาศ” จากทัว่ โลก 2525 โดยมีวัตถุประสงค์ท่จี ะให้บริการ ท่ีจัดพิมพ์ในวาระฉลองอายุครบ 60 ปี 3. ABAC Today เป็นจุลสารท่ีเสนอ วิจัยทางธุรกิจแก่บริษัทหน่วยงาน และ เมอื่ ปี 2536 โดยได้สรุปรวบรวมและนำ� ข่าวความเคล่ือนไหวต่างๆ เก่ียวกับ ภาคอุตสาหกรรมท้งั ในประเทศและต่าง มารายงานตอ่ ในที่นี้บางส่วน ดงั นี้ มหาวิทยาลยั เปน็ ภาษาอังกฤษ เรม่ิ จดั ประเทศ และยงั ใชเ้ ปน็ ศนู ยฝ์ กึ งาน ภาค พิมพ์ตัง้ แต่เดือนธนั วาคม 2529 ปฏบิ ตั ทิ างวจิ ยั ธรุ กจิ ของนกั ศกึ ษาอกี ดว้ ย
7. ศนู ยว์ จิ ยั สถาบนั (Center for Insti- งานประจำ� และการวางแผนระยะยาว รวมถึงการส่งเสริมให้ 89 tutional Research) ปจั จบุ นั ไดพ้ ฒั นา คณาจารยไ์ ดท้ �ำ การศกึ ษาวจิ ยั พน้ื ฐานทางอดุ มศกึ ษา ขยายกา้ วหนา้ เปน็ “สถาบนั วจิ ยั ” แลว้ 8. ศูนย์ไทยศึกษา (Thai Studies Center) จดั ตง้ั เมอ่ื ปี 2530 1. ABAC Journal, ABAC TODAY, จดั ตง้ั เมอ่ื ปี 2525 เพอ่ื เกบ็ รวบรวมและ เปน็ ศนู ยท์ ร่ี วบรวมขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วกบั ศลิ ปวฒั นธรรมของไทย และ จุลสารมหาวทิ ยาลัยอัสสัมชัญ วิเคราะห์ข้อมูลเก่ียวกับการดำ�เนินงาน ประวตั ศิ าสตรข์ องไทย เพอ่ื ประโยชนใ์ นการศกึ ษาคน้ ควา้ ของ ของมหาวทิ ยาลยั เพอ่ื ใหไ้ ดม้ าซง่ึ ขา่ วสารท่ี นกั ศกึ ษาไทยและตา่ งชาตทิ ศ่ี กึ ษาอยทู่ ม่ี หาวทิ ยาลยั จ�ำ เปน็ ส�ำ หรบั การตดั สนิ ใจในการบรหิ าร
WORKS 9. ศนู ยศ์ ลิ ปวฒั นธรรม (Thai Cultural Arts Center) จดั ตง้ั เมอ่ื ปี 2530 เพอ่ื เกบ็ รวบรวมเกย่ี วกบั ศลิ ปวฒั นธรรมไทย ซง่ึ ขณะนม้ี พี พิ ธิ ภณั ฑเ์ รอื โบราณของไทย และพพิ ธิ ภณั ฑเ์ ครอ่ื งเบญจรงค์ 10. ศูนย์คอมพิวเตอร์ (Comput- ing Center) จดั ตง้ั เมอ่ื ปี 2531 เพอ่ื สนบั สนนุ ทางดา้ นการเรยี นการสอน และ การบรหิ าร 11. ศนู ยภ์ าษา (English Language Center) จดั ตง้ั เมอ่ื ปี 2534 เพอ่ื ใหบ้ รกิ าร การสอนวิชาภาษาอังกฤษแก่นักศึกษา ของมหาวทิ ยาลยั รวมถงึ บคุ คลภายนอก และหน่วยงานธุรกิจต่างๆ ปัจจุบันได้ พัฒนาก้าวหน้าเป็น “สถาบันภาษา องั กฤษ”
12. ศนู ยพ์ ฒั นาบคุ ลากร (Human Re- และวศิ วกรรม จดั พมิ พเ์ ปน็ ภาษาองั กฤษ source Development Center) จดั เรมิ่ ฉบับแรกเดอื นมกราคม 2536 ตง้ั เมอ่ื ปี 2534 เพอ่ื จดั การอบรมสมั มนา 16. จุลสารปรัชญาและศาสนา (Phi- ให้กับบุคคลภายนอก ทางด้านธุรกิจ losophy & Religion) จัดพิมพข์ น้ึ เมอ่ื คอมพวิ เตอร์ และอน่ื ๆ ปี 2536 เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางด้าน 13. Computing Lab I จัดต้ังเม่ือ ปรัชญาและศาสนา จัดพิมพ์เป็นภาษา ปี 2535 เพ่ือใช้ในการเรียนการสอน อังกฤษท้ังหมด ปัจจุบันได้กลายเป็น ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะ วารสารวิชาการทางด้านปรัชญาและ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ศาสนาในชื่อว่า “Prajna Vihara” ท่ี 14. Computing Lab II จดั ตั้งเมื่อปี เคยได้รับเงินสนับสนุนการจัดพิมพ์จาก 2536 เพ่ือใช้ในการเรียนการสอนของ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา คณะบริหารธรุ กิจโดยเฉพาะ (สกอ.) ตดิ ตอ่ กันถงึ 3 ปี และอยู่ในราย 15. IJCEM (International Journal ชอ่ื วารสารของ TCI ดว้ ย of Computer and Engineering 91 Management) เป็นวารสารวิชาการ ทางด้านการจัดการงานคอมพิวเตอร์ 1. หอ้ งแสดงเรอื ไม้จำ�ลองในพิพิธภัณฑ์
WORKS ...ทจ่ี ะชว่ ยหลอ่ หลอม การขยายพน้ื ทบ่ี รเิ วณและทด่ี นิ ครบู าอาจารย์ นกั ศึกษา และ ในช่วงทศวรรษแรกที่ภราดาประทีป มาดำ�รงตำ�แหน่ง ทกุ ชีวติ ในมหาวิทยาลัยให้มี อธิการบดี ท่านได้พัฒนาและสร้างมหาวิทยาลัยให้เจริญ กา้ วหนา้ อยา่ งไมห่ ยดุ ยงั้ มกี ารกอ่ สรา้ งอาคารและพฒั นาสถาน ความสุขกับการเรยี น ท่อี ย่างต่อเนอ่ื ง มจี �ำ นวนนักศกึ ษาเพิ่มมากข้ึนทุกปี จนอาคาร การสอน... และสถานที่อันเป็นท่ีตั้งของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญที่แขวง หวั หมาก เขตบางกะปิ กรงุ เทพมหานคร มคี วามแออดั อนั เปน็ อุปสรรคต่อการพัฒนาให้เป็นมหาวิทยาลัยที่มีความสมบูรณ์ ในทุกๆ ด้าน (Comprehensive University) ได้ ท่านจึง ได้แสวงหาท่ีดินเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาและขยายมหาวิทยาลัยให้ สามารถตอบสนองแรงบันดาลใจของท่านที่ต้องการจะสร้าง “มหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพ” ท่ีมีอาคารสถานที่เพียงพอ มี บรรยากาศของชีวติ มหาวทิ ยาลยั (Campus Life) ท่จี ะชว่ ย หลอ่ หลอมครบู าอาจารย์ นกั ศกึ ษา และทกุ ชวี ติ ในมหาวทิ ยาลยั ให้มคี วามสขุ กับการเรียนการสอน และการปฏบิ ตั ิหน้าที่ รวม ถึงการมพี ื้นทีเ่ พียงพอทจ่ี ะกอ่ สรา้ งอาคาร และจดั กิจกรรมสง่ เสรมิ คณุ ภาพการศึกษาอน่ื ๆ เพมิ่ เติมอย่างเพียงพอ ทา่ นจงึ ได้ เสนอขออนุมัติจากสภามหาวิทยาลัย จัดหาท่ีดินเพิ่มเติมตาม ลำ�ดับ ดังน้ี
1. ปี 2528 ซ้ือทดี่ นิ เพิ่มจ�ำ นวน 13 ไร่ 3 5. ปี 2534 ไดร้ บั บรจิ าคทด่ี นิ จากบรษิ ทั 93 งาน 8 ตารางวา ณ ส่ีแยก อสมท. ถนน แก้วกาญจน์ เรียล เอสเตตส์ จำ�กัด พระราม 9 ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร จำ�นวน 222 ไร่ 2 งาน 91 ตารางวา ที่ 2. ปี 2533 ซ้ือท่ีดินเพ่ิมจำ�นวน 3 ต.วังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ไร่ 91 ตารางวา ที่หัวหมาก บางกะปิ 6. ปี 2535 ไดร้ บั บรจิ าคทด่ี นิ จากบรษิ ทั ก รุ ง เ ท พ ม ห า น ค ร ซ่ึ ง อ ยู่ ติ ด กั บ สวนบางนา จำ�กัด จำ�นวน 50 ไร่ ที่ มหาวทิ ยาลัยทางดา้ นทิศใต้ ถ.บางนา-ตราด กม.26 ต.บางเสาธง 3. ปี 2534 ซื้อที่ดนิ พร้อมสิ่งปลูกสรา้ ง อ.บางเสาธง จ.สมทุ รปราการ เป็นอาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็ สงู 4 ชนั้ 7. ปี 2535 ซื้อที่ดินเพ่ิมจำ�นวน 65 ในท่ดี ิน 75 ตารางวา เพอ่ื ใช้เป็นสโมสร ไร่ 81 ตารางวา ที่ ถ.บางนา-ตราด นักศกึ ษา กม. 26 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง 4. ปี 2534 ซ้ือที่ดินเพิ่มจำ�นวน 5 จ.สมุทรปราการ ไร่ ที่ ต.กระทุ่มราย อ.หนองจอก 8. ปี 2536 ซอื้ ทดี่ นิ เพ่ิมจ�ำ นวน 342 ไร่ กรุงเทพมหานคร เพื่อปลูกบ้านพัก ท่ี ถ.สายบ้านเก่า ต.หนองบัว อ.เมือง คนงานของมหาวิทยาลัย และใช้เป็นท่ี จ.กาญจนบุรี เพาะชำ�ตน้ ไม ้ 1. สโมสรนกั ศึกษา ท่วี ทิ ยาเขตหวั หมาก
WORKS 9. ปี 2536 ได้รับบริจาคที่ดินเพ่ิมจากบริษัท สวนบางนา จ�ำ กดั จำ�นวน 10 ไร่ ท่ี ถ.บางนา-ตราด กม. 26 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมทุ รปราการ 10. ปี 2536 ซ้อื ที่ดนิ เพม่ิ จ�ำ นวน 25 ไร่ ที่ ถ.บางนา-ตราด กม. 26 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 11. ปี 2537 ถงึ ปี 2545 ซอื้ ทดี่ นิ เพม่ิ เตมิ ทวี่ ทิ ยาเขตสวุ รรณภมู ิ ถ.บางนา-ตราด ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมทุ รปราการ รวม 227 ไร่ 2 งาน 55 ตารางวา
การกอ่ สรา้ งอาคารและถาวรวตั ถุ 2. โบสถป์ ระจ�ำ มหาวทิ ยาลยั “Annunciation Chapel” 95 1. อาคารอสั สมั ชญั ร.ศ. 200 เพือ่ ใช้ในการประกอบศาสนกิจ สรา้ งเม่อื ปี 2525 เปน็ สว่ น อาคารสูง 12 ช้ัน ประกอบด้วย หน่งึ ของอาคารอัสสมั ชัญ ร.ศ. 200 ห้องเรียน สำ�นกั งาน หอ้ งประชมุ หอ้ ง 3. ดร.ชบุ พลาซา (Dr. Choop Plaza) รับรอง ห้องทำ�งานอาจารย์ สร้างเม่ือ เปน็ สถานทใ่ี ชส้ �ำ หรบั การแสดงกจิ กรรมและนนั ทนาการของ ปี 2525 เป็นการร่วมเฉลิมฉลองครบ อาจารย์ นกั ศกึ ษา และเจา้ หนา้ ทข่ี องมหาวทิ ยาลยั ดร.ชบุ พลาซา 200 ปีของกรุงรัตนโกสินทร์ ปัจจุบัน สรา้ งขน้ึ เมอ่ื ปี 2525 เพอ่ื เปน็ อนสุ รณแ์ ดท่ า่ นศาสตราจารย์ ดร.ชบุ ใช้ในการจดั การเรยี นการสอน ในระดับ กาญจนประกร อดตี อธกิ ารบดี (สมยั นน้ั เรยี กวา่ “ผอู้ �ำ นวยการ”) บณั ฑติ ศกึ ษา คนท่ี 3 ของมหาวทิ ยาลยั 1. การก่อสร้าง มหาวทิ ยาลัยอสั สัมชญั วิทยาเขตสวุ รรณภูมิ 2. อาคารอัสสมั ชญั ร.ศ. 200 3. ภราดาประทปี ม. โกมลมาศ ในพิธีเสกหอธรรม จดั ข้นึ ณ โบสถ์แมพ่ ระรับสาส์น วทิ ยาเขตหวั หมาก โดยมีพระคาร์ดินลั ไมเคลิ มชี ยั กจิ บญุ ชู เป็นผู้กระท�ำ เม่ือวันที่ 22 กนั ยายน 2527
WORKS 4. International Center ของพอ่ ขนุ รามค�ำ แหงมหาราช พระมหา จัดต้ังขึ้นเม่ือปี 2525 เพ่ือใช้เป็น กษัตริย์ไทยผู้ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทย สำ�นักงานและสถานที่สำ�หรับประสาน ขน้ึ ใชเ้ ปน็ ครงั้ แรกในปพี ทุ ธศกั ราช 1826 งาน และให้บริการแก่ชาวต่างชาติ ซึ่ง และปีพุทธศักราช 2526 เป็นปีเฉลิม ประกอบด้วยนักศึกษาและอาจารย์ ฉลองครบรอบ 700 ปีลายสือไทย St. ตลอดจนนักศึกษาไทยที่ต้องการจะ Mary’s Square นกี้ อ่ สรา้ งเมอ่ื ปี 2526 ทราบข้อมูลต่างๆ เพ่ือการศึกษาต่อ 6. อาคารมารต์ นิ เดอ ตรู ส์ ต่างประเทศทั่วโลก นอกจากน้ัน ศูนย์ อาคารสูง 6 ช้ัน ใช้เป็นสำ�นักงาน นานาชาติยังเป็นที่ศึกษาแลกเปลี่ยน ห้องเรียน หอ้ งปฏิบตั กิ าร ห้องพยาบาล ศิ ล ป วั ฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ต่ า ง ๆ ห้องทำ�งานอาจารย์ และคณะพยาบาล อกี ดว้ ย ศาสตร์ อาคารหลังนี้ก่อสร้างเม่ือปี 5. St. Mary’s Square 2529 ก่อสร้างขึ้นเพ่ือเป็นการระลึกถึงปี 7. Plaza Notre Dame de ศักดิ์สิทธ์ิ (The Holy Year of Re- demption) และ พระมหากรณุ าธคิ ุณ L’Assomption สถานที่สำ�หรับประดิษฐานแม่พระ
แห่งมหาวทิ ยาลัยอสั สัมชญั สรา้ งข้นึ เมื่อปี 2529 เพื่อระลกึ ถึง พระคุณความดีของพระแม่มารีผู้เป็นพระมารดาของพระเยซู เจ้า และเพอ่ื ความเป็นสิริมงคลแกม่ หาวิทยาลยั อสั สัมชญั และ ชาวเอแบค 97 1. Plaza Notre Dame de L’Assomption 2. St. Mary’s Square 3. Dr. Choop Plaza
WORKS 8. The Forum Luceat Lux Vestra 10. Information Center เวทกี ลางแจง้ สำ�หรับการแสดงของนกั ศกึ ษา อาจารย์ และ ศูนย์ข้อมูลข่าวสาร เป็นอาคาร เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย ก่อสร้างเม่ือปี 2529 ตั้งอยู่ใน สูง 3 ชั้น ใช้เป็นท่ีทำ�การของฝ่าย บริเวณ ดร.ชบุ พลาซา ประชาสัมพนั ธ์ กอ่ สร้างเมอ่ื ปี 2531 9. อาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรมไทยและอาคารศูนย์ไทย 11. อาคารเฉลมิ รชั มงคล (Corona- ศกึ ษา สำ�นักงานศิลปวัฒนธรรมไทย พิพิธภัณฑ์เรือโบราณ tion Hall) พิพิธภัณฑ์ถ้วยชามเบญจรงค์ ศูนย์ไทยศึกษา ศูนย์นานาชาติ ชมรมดนตรีไทย และศูนย์นันทนาการของนักศึกษา สร้าง อาคารเอนกประสงค์สูง 15 เม่ือปี 2530 ซ่ึงปัจจุบันวัตถุส่ิงของในศูนย์ได้ถูกย้ายไปอยู่ใน ช้ัน ประกอบด้วยห้องเรียน ศูนย์ พพิ ธิ ภัณฑ์ทว่ี ทิ ยาเขตสวุ รรณภูมิ คอมพิวเตอร์ ห้องประชุม ศูนย์วิจัย ธรุ กจิ ศูนยว์ ิจยั สถาบัน หอ้ งปฏิบตั ิการ ภาษา คณะศิลปศาสตร์ ห้องทำ�งาน
อาจารย์ ภัตตาคาร ห้องพัก (Hotels) สร้างเมอ่ื ปี 2532 12. Gate of Wisdom ก่ อ ส ร้ า ง ใ น ปี 2 5 3 3 โ ด ย มี วัตถุประสงค์ คือ เพ่ือระลึกถึงพระ มหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช แหง่ พระบรมราชจกั รวี งศ์ ทท่ี รงเปน็ พระ 1. The Forum Luceat Lux Vestra 2. อาคารเฉลมิ รชั มงคล 3. Gate of Wisdom
WORKS มหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐของพสกนิกรชาวไทย 13. ศนู ยภ์ าษา ในวโรกาสมหามงคลสมัยเฉลมิ พระชนมพรรษา 5 รอบ ในวนั อาคารสงู 4 ชนั้ สรา้ งเมอ่ื ปี 2534 ใชเ้ ปน็ ศนู ยภ์ าษาองั กฤษ ที่ 5 ธนั วาคม 2530 และเปน็ พระมหากษตั รยิ ไ์ ทยทค่ี รองราชย์ (English Language Center) บรกิ ารสอนวชิ าภาษาองั กฤษ ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย เพ่ือระลึกถึงวโรกาส ให้แก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัย บุคคลภายนอก และหน่วย ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จมา งานธุรกิจต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ เปน็ องคป์ ระธานในพธิ เี ปดิ อาคารเฉลมิ รชั มงคล (Coronation ภาษา ส�ำ นักงาน หอ้ งทำ�งานของอาจารย์ สำ�นกั งาน ABAC- Hall) ของมหาวทิ ยาลยั อสั สมั ชญั เมอื่ วนั ท่ี 7 พฤศจกิ ายน 2533 เพ่ือเตือนใจให้ชาวเอแบคทุกคนได้ตระหนักและเห็นถึงความ Loyola Center สำ�คัญของการใฝ่หาความรู้ให้ทุกคนมีความเข้มแข็ง อดทน มานะ พากเพยี รในการศึกษาหาความรูอ้ นั เปน็ ทางน�ำ ไปสูแ่ สง 14. สโมสรนกั ศกึ ษา สวา่ งทางปญั ญา เพือ่ นำ�ไปใชใ้ นการประกอบอาชีพ และสร้าง เป็นอาคาร 4 ชั้น สร้างเมื่อปี 2534 ประกอบด้วย ห้อง ความสำ�เรจ็ ให้แกต่ นในอนาคต ทำ�งานของอาจารย์ที่ปรึกษา สโมสรนักศึกษา ที่ทำ�การของ สโมสรนกั ศึกษา และชมรมต่างๆ และ ABAC Cafeteria
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212