Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผลในการบริหารสถานศึกษา

ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผลในการบริหารสถานศึกษา

Published by nuttee.k, 2021-10-08 02:16:09

Description: ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผลในการบริหารสถานศึกษา

Search

Read the Text Version

๔๖ บุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนขนาดเล็ก สพป.สมุทรสาคร ด้านการเป็นผู้สร้างความสัมพันธ์เชิง บวก (Building a positive relationship) ในภาพรวมอยูใ่ นระดบั มาก (������̅ = 4.41 , S.D = 0.66) เรยี งตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 อันดบั แรก คอื ให้ความเป็นกนั เองกบั ผู้ใต้บังคับบัญชา อยู่ในระดับ มากที่สุด (������̅ = 4.57 , S.D = 0.57) ส่งเสริมให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เช่น การเลื่อนวิทยฐานะเลื่อนให้สูงขึ้นฯ อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅ = 4.52 , S.D = 0.61) สร้าง ความม่ันใจในการปฏิบตั ิงานใหก้ บั ผูใ้ ตบ้ ังคับบัญชา อยใู่ นระดบั มาก (������̅ = 4.46 , S.D = 0.65) ใช้ วิธี การสร้างแรงจูงใจกับผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยวิธีการที่หลากหลาย อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.37 , S.D = 0.70) ให้ความสนใจและช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา ได้อย่างเหมาะสม อยู่ใน ระดับมาก (������̅ = 4.36 , S.D = 0.67) ให้ความรู้ ข้อมูลและข่าวสารที่ถูกต้อง ทันสมัยแก่ ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างสม่ำเสมอ อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.38 , S.D = 0.65) ให้การสนับสนุน งบประมาณ วสั ดอุ ุปกรณแ์ ละครุภณั ฑส์ ำหรับการปฏบิ ัตงิ านอยา่ งเหมาะสมและเพียงพอ อยู่ในระดับ มาก (������̅ = 4.37 , S.D = 0.69) มีการสร้างบรรยากาศในการทำงานทีก่ ่อให้เกิดความเกื้อกูลเหน็ อกเหน็ ใจซง่ึ กันและกนั อยใู่ นระดับมาก (������̅ = 4.42 , S.D = 0.66) มีการประเมินผลการปฏิบัตงิ าน ตามความสามารถและขอบข่ายของงานที่ได้รับมอบหมาย อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.42 , S.D = 0.64) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ มอบหมายงานให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาตามความสามารถและ ทักษะของแต่ละบุคคล อยใู่ นระดับมาก (������̅ = 4.30 , S.D = 0.72) ตาราง 4.7 แสดงค่าเฉลี่ยค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และอันดับความคิดเห็น ภาวะผู้นำการ เปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากร ทางการศึกษา โรงเรียนขนาดเล็ก สพป.สมุทรสาคร ด้านความเป็นมืออาชีพของภาวะผู้นำ (Leadership) ความเป็นมืออาชีพของภาวะผู้นำ (Leadership) ระดบั ความคิดเหน็ ระดับ อันดับ ������̅ S.D 1. มคี วามสามารถในการตดิ ต่อส่ือสารไดเ้ หมาะสม 4.35 0.65 มาก 6 ตามความคิดเห็นที่แตกตา่ งกันของแต่ละบคุ คล 2. สามารถประยกุ ต์ใช้หลักการ ทฤษฎตี ่าง ๆ มาใช้ ในการบริหารจดั การสถานศึกษาได้อยา่ งมี 4.26 0.69 มาก 8 ประสทิ ธภิ าพ 3. ให้ความรู้ ข้อมูล ข่าวสารที่ทันสมัยแก่ 4.35 0.64 มาก 6 ผูใ้ ต้บงั คับบญั ชาไดอ้ ย่างถกู ต้อง 4. สามารถสร้างบรรยากาศในการทำงานให้เกิด 4.43 0.63 มาก 2 ความเก้อื กูลและสามคั คีกัน 5. มีการจัดเกบ็ ข้อมลู ข่าวสารทั้งภายในและภายนอก 4.30 0.70 มาก 7 อย่างเป็นระบบ

๔๗ ความเป็นมืออาชีพของภาวะผนู้ ำ (Leadership) ระดบั ความคดิ เห็น ระดับ อันดบั ������̅ S.D 6. ส่งเสริมให้บุคลากรมีการแสดงความคิดเห็นอย่าง 4.46 0.68 มาก 1 เปดิ กวา้ งและให้การยอมรบั ในเหตผุ ลนัน้ ๆ 7. บริหารองค์กรโดยไมย่ ึดตดิ กับหลักการหรือทฤษฎี 4.40 0.65 มาก 3 จนเกินไป 8. สามารถปรับความเชื่อ ความคิดและค่านิยม ส่วนตัวให้สอดคลอ้ งกบั ความเปลีย่ นแปลงขององค์กร 4.35 0.64 มาก 6 ได้ 9. สามารถแกไ้ ขปัญหาตา่ ง ๆ ด้วยการใช้ 4.39 0.66 มาก 4 วจิ ารณญาณอย่างมเี หตุผล 10. สามารถนำพาองค์กรไปส่เู ปา้ หมายความสำเรจ็ 4.38 0.71 มาก 5 ทีต่ ้ังไว้ได้ รวมเฉลีย่ 4.37 0.67 มาก จากตาราง 4.7 คา่ เฉล่ยี ค่าความเบ่ียงเบนมาตรฐาน และอนั ดบั ความคดิ เหน็ ภาวะผนู้ ำการ เปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากร ทางการศึกษา โรงเรียนขนาดเล็ก สพป.สมุทรสาคร ด้านภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Leadership) ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.37 , S.D = 0.67) เรียงตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 อันดับ แรก คอื ส่งเสริมให้บุคลากรมีการแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดกว้างและใหก้ ารยอมรับในเหตุผลนัน้ ๆ อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.46 , S.D = 0.68) สามารถสร้างบรรยากาศในการทำงานให้เกิดความ เกื้อกูลและสามัคคีกัน อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.43 , S.D = 0.63) บริหารองค์กรโดยไม่ยึดติดกับ หลักการหรือทฤษฎจี นเกินไป อยู่ในระดบั มาก (������̅ = 4.40 , S.D = 0.65) สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ดว้ ยการใช้วิจารณญาณอยา่ งมีเหตผุ ล อย่ใู นระดับมาก (������̅ = 4.39 , S.D = 0.66) สามารถนำพา องค์กรไปสู่เป้าหมายความสำเร็จที่ตั้งไว้ได้ อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.38 , S.D = 0.71) มี ความสามารถในการติดต่อสื่อสารได้เหมาะสมตามความคิดเห็นที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล อยู่ใน ระดับมาก (������̅ = 4.35 , S.D = 0.65) ให้ความรู้ ข้อมูล ข่าวสารที่ทันสมัยแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ อย่างถูกต้อง อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.35 , S.D = 0.64) สามารถปรับความเชื่อ ความคิดและ ค่านิยมส่วนตัวให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงขององค์กรได้ อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.35 , S.D = 0.64) มีการจดั เกบ็ ข้อมูลขา่ วสารท้งั ภายในและภายนอกอย่างเป็นระบบ อย่ใู นระดบั มาก (������̅ = 4.30 , S.D = 0.70) และดา้ นที่มคี ่าเฉลย่ี ตำ่ สุด คอื สามารถประยุกตใ์ ช้หลักการทฤษฎีต่าง ๆ มาใช้ใน การบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ อยใู่ นระดับมาก (������̅ = 4.26 , S.D = 0.69) ตอนที่ 3 ข้อมูลประสิทธิผลการบริหารสถานศึกษา กรณีโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า

๔๘ (Rating scale) 5 ระดับ วิเคราะห์โดยใช้วิธีการหาค่าเฉลี่ย (Mean : ������̅) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation : S.D ) ดา้ นภาพรวม ผูว้ ิจัยใชว้ ธิ กี ารวิเคราะหจ์ ากคา่ เฉล่ีย (������̅ ) และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน (S.D) ดังปรากฏตามตาราง4.8 แสดงค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความคิดเห็นของผู้บริหาร สถานศกึ ษา ครู และบคุ ลากรทางการศึกษาในภาพรวม ตาราง 4.8 แสดงค่าเฉลี่ยค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และอันดับความคิดเห็น ภาวะผู้นำการ เปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากร ทางการศกึ ษา โรงเรียนขนาดเล็ก สพป.สมุทรสาคร ในภาพรวม ประสทิ ธิผลของการบริหารสถานศกึ ษา ระดบั ประสิทธผิ ล ระดับ อันดบั ������̅ S.D 1. ประสทิ ธผิ ลการบริหารระดบั บุคคล 4.36 0.61 มาก 2 2. ประสทิ ธิผลการบริหารระดบั องค์กร 4.50 0.57 มาก 1 4.43 0.59 มาก รวมเฉล่ยี จากตาราง 4.8 ประสิทธิผลของการบริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร สถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนขนาดเล็ก สพป.สมุทรสาคร ในภาพรวมอย่ใู น ระดับมาก (������̅ = ๔.๔๓, S.D = ๐.๕๙) เรียงตามลำดับ ดังนี้ ประสิทธิผลการบริหารระดับองค์กร อยู่ ในระดบั มาก (������̅ = ๔.๕๐, S.D = ๐.๕๗) และประสิทธิผลการบริหารระดับบุคคล อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๓๖, S.D = ๐.๖๑) ตามลำดบั ตาราง 4.9 แสดงค่าเฉลี่ยค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และอันดับความคิดเห็น ภาวะผู้นำการ เปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากร ทางการศกึ ษา โรงเรียนขนาดเล็ก สพป.สมุทรสาคร ในดา้ นประสทิ ธผิ ลการบรหิ ารระดับบุคคล ประสิทธิผลการบริหารระดบั บุคคล ระดับประสิทธิผล ระดบั อนั ดบั ������̅ S.D 1. บุคลากรสามารถปรบั ความคดิ ความเช่ือม่นั และคา่ นิยม สว่ นตวั ใหส้ อดคล้องกบั ความเปล่ยี นแปลงตา่ ง ๆ ของ 4.28 0.60 มาก 6 สถานศกึ ษา 2. บคุ ลากรทำงานโดยไมย่ ึดติดกับหลกั การหรือทฤษฎี 4.30 0.56 มาก 5 จนเกนิ ไป 4.28 0.69 มาก 6 3. ผ้ใู ต้บงั คบั บัญชาทุกคนมน่ั ใจในการปฏบิ ตั งิ าน 4.30 0.64 มาก 5 4. ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาไดท้ ดลองปฏบิ ัตเิ พ่ือคน้ หาวธิ ีการใหม่ๆ ในการทำงานอยู่เสมอ 4.38 0.63 มาก 4 5. บคุ ลากรไดแ้ ลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ และข้อมูลข่าวสาร ในการปฏิบัตงิ านร่วมกนั

๔๙ ประสทิ ธผิ ลการบริหารระดบั บคุ คล ระดับประสิทธิผล ระดับ อนั ดับ ������̅ S.D 6. ผูใ้ ต้บงั คับบญั ชาไดร้ ับความสำเรจ็ และเกิดความภาคภูมิใจ 4.42 0.60 มาก 2 กับงานที่ได้ปฏิบตั ิ 7. วสิ ัยทัศน์ขององค์กรมาจากบคุ ลากรท้งั หมด 4.38 0.60 มาก 4 8. วสิ ัยทัศนข์ ององคก์ รเป็นสิ่งที่สามารถนำมาปฏิบัติไดจ้ รงิ 4.42 0.60 มาก 2 9. วิสยั ทศั นส์ ามารถปรับเปลีย่ นไดต้ ามสถานการณ์และบริบท 4.43 0.64 มาก 1 ของสถานศกึ ษาท่ีเปลี่ยนแปลงไป 10. บุคลากรปฏบิ ัตติ ามวสิ ยั ทศั นท์ ี่กำหนดไว้ 4.41 0.58 มาก 3 รวมเฉล่ยี 4.36 0.61 มาก จากตาราง 4.9 ประสิทธิผลของการบริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของของผู้บริหาร สถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศกึ ษา โรงเรยี นขนาดเล็ก สพป.สมุทรสาคร ในด้านประสิทธผิ ล การบรหิ ารระดบั บคุ คล อยู่ในระดบั มาก (������̅ = ๔.๓๖, S.D = ๐.๖๑) เรียงตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 อันดับแรก คือวิสัยทัศน์สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์และบริบทของสถานศึกษาท่ี เปลี่ยนแปลงไป อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๔๓, S.D = ๐.๖๔) วิสัยทัศน์ขององค์กรเป็นสิ่งที่สามารถ นำมาปฏิบัติได้จริง อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๔๒, S.D = ๐.๖๐) บุคลากรปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ที่ กำหนดไว้ อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๔๑, S.D = ๐.๕๘) บุคลากรทำงานโดยไม่ยึดติดกับหลักการหรอื ทฤษฎจี นเกนิ ไป อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๓๐, S.D = ๐.๕๖) ผใู้ ตบ้ ังคบั บญั ชาได้ทดลองปฏบิ ตั ิเพ่ือ ค้นหาวิธีการใหม่ๆ ในการทำงานอยู่เสมอ อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๓๐, S.D = ๐.๖๔) บุคลากรได้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลข่าวสารในการปฏิบัติงานร่วมกัน อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๓๘, S.D = ๐.๖๓) ผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับความสำเร็จและเกิดความภาคภูมิใจกับงานที่ได้ปฏิบัติ อยู่ใน ระดับมาก (������̅ = ๔.๓๖, S.D = ๐.๖๐)วิสัยทัศน์ขององค์กรมาจากบุคลากรทั้งหมด อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๓๘, S.D = ๐.๖๐) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือบุคลากรสามารถปรับความคิด ความ เชอื่ มน่ั และคา่ นิยมส่วนตัวใหส้ อดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของสถานศึกษา อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๒๘, S.D = ๐.๖๐)ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนมั่นใจในการปฏิบัติงานอยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๒๘, S.D = ๐.๖๙) ตาราง 4.10 แสดงค่าเฉลี่ยค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และอันดับความคิดเห็น ภาวะผู้นำการ เปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากร ทางการศกึ ษา โรงเรยี นขนาดเล็ก สพป.สมุทรสาคร ในดา้ นประสทิ ธิผลการบรหิ ารระดับองค์กร ประสิทธิผลการบริหารระดบั องค์กร ระดับประสิทธิผล ระดบั อันดบั ������̅ S.D 1. บุคลากรมีสว่ นรว่ มในการสร้างสรรค์ความสำเรจ็ ให้กบั องค์กร 4.48 0.57 มาก 6 2. สถานศกึ ษามรี ะบบการประกันคุณภาพภายในที่ดำเนนิ งาน 4.46 0.56 มาก 7 อยา่ งต่อเน่ือง

๕๐ ประสิทธผิ ลการบริหารระดับองคก์ ร ระดบั ประสิทธิผล ระดบั อนั ดับ ������̅ S.D มากที่สดุ 3. สถานศกึ ษามีมาตรฐานการศึกษาทเ่ี ป็นเอกลกั ษณ์ของ 4.51 0.56 3 สถานศึกษา มาก 8 4. สถานศกึ ษามีระบบสารสนเทศ สนบั สนนุ การประเมิน 4.45 0.59 มาก 5 มาตรฐานการศึกษา มากทีส่ ดุ 3 5. สถานศกึ ษามีคณะกรรมการระบบประกนั คุณภาพภายในตาม 4.49 0.61 มากท่ีสุด 1 กฎกระทรวง มากทส่ี ดุ 2 6. คณะกรรมการระบบประกันคณุ ภาพภายในมีการดำเนินงาน 4.51 0.56 มาก 5 ระบบการประกนั คณุ ภาพภายใน อย่างต่อเนอ่ื ง มาก 4 7. มีการรายงานการประเมินตนเอง (SAR) ประจำปี เพื่อ 4.57 0.58 มาก รายงานตอ่ ต้นสงั กดั และเผยแพร่ตอ่ สมรรถนะ 8. มีการนำผลการประเมินกจิ กรรม/โครงการ มาใชพ้ ฒั นา 4.54 0.54 คุณภาพการศึกษาอยา่ งต่อเน่ือง 9. มกี ารพฒั นาระบบการประกนั คณุ ภาพภายในของสถานศึกษา 4.49 0.56 มาใช้เปน็ แนวทางในการพฒั นาการศึกษาอย่างต่อเนือ่ ง 10. มีการนำผลการประเมินคณุ ภาพภายนอกมาใชป้ รับปรงุ 4.50 0.56 พัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา 4.50 0.57 รวมเฉลยี่ จากตาราง 4.10 ประสิทธิผลของการบริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร สถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนขนาดเล็ก สพป.สมุทรสาคร ในด้าน ประสิทธิผลการบริหารระดับองค์กร ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.50, S.D = ๐.57) เรียง ตามค่าเฉลี่ยจากมากไปน้อย 3 อันดับแรก คือ มีการรายงานการประเมินตนเอง (SAR) ประจำปีเพื่อ รายงานต่อต้นสังกัดและเผยแพร่ต่อสาธารณชน อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅ = ๔.57, S.D = ๐.58) มี การนำผลการประเมินกิจกรรม/โครงการมาใช้พฒั นาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง อย่ใู นระดับมากท่ีสุด (������̅ = ๔.54, S.D = ๐.54) คณะกรรมการระบบประกันคุณภาพภายในมีการดำเนินงานระบบการ ประกันคุณภาพภายในอย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅ = ๔.51, S.D = ๐.56) บุคลากรมี ส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ความสำเร็จให้กับองค์กร อยู่ในระดับมาก ������̅ = ๔.48, S.D = ๐.57) สถานศึกษามีระบบประกันคุณภาพภายในที่ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.46, S.D = ๐.56) สถานศึกษามีมาตรฐานการศึกษาที่เป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา อยใู่ นระดับมากทส่ี ุด ������̅ = ๔.51, S.D = ๐.56) สถานศึกษามีคณะกรรมการระบบประกันคุณภาพภายในตามกฎกระทรวง อยู่ใน ระดับมาก (������̅ = ๔.49, S.D = ๐.๖1) มีการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในของ สถานศึกษามาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการศึกษาอย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.49, S.D = ๐.56) มีการนำผลการประเมินคุณภาพภายนอกมาใช้ปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการศึกษาของ สถานศึกษา อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.50, S.D = ๐.56) และด้านที่มคี ่าเฉล่ียต่ำสุด คือ สถานศึกษามี

๕๑ ระบบสารสนเทศ สนับสนุนการประเมินมาตรฐานการศึกษา อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.45, S.D = ๐. 59) ตอนที่ 4 ขอ้ มลู สภาพปญั หา และขอ้ เสนอแนะ ภาวะผนู้ ำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผล ของการบริหารสถานศึกษา กรณีศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศกึ ษาสมุทรสาคร 1. ข้อมูลสภาพปญั หา และข้อเสนอแนะ ภาวะผูน้ ำการเปล่ียนแปลง 1.1 การเป็นผู้มีบารมี - ปัญหา 1. การปฏิบัติตามค่านิยมของตนเองมากเกินไป ขาดความยืดหยุ่นในการ ทำงาน 2. ขาดวยั วฒุ ิ และวุฒภิ าวะทางอารมณ์ 3. ทำให้ผูใ้ ต้บงั คบั บญั ชา ไม่กล้าที่จะขอคำปรึกษา 4. ผใู้ ต้บงั คบั บัญชาขาดความเขา้ ใจตอ่ ผบู้ ังคบั บัญชา 5. เมื่อเกิดสถานการณก์ ดดนั ไมส่ ามารถควบคุมอารมณ์ได้ 6. การสือ่ สารไม่ครบถ้วน ชัดเจน เกิดความเขา้ ใจไม่ตรงกนั 7. ผบู้ ริหารขาดความเข้าใจในการบรหิ ารงานโรงเรียนขนาดเลก็ 8. ผู้บริหารขาดประสบการณ์ในการบรหิ ารสถานศึกษา 9. ผู้บรหิ ารควรให้ความเห็นใจ ดว้ ยความจริงใจกับผู้ใตบ้ งั คับบัญชา 10. ผู้ใต้บังคับบัญชามีความหลากหลายบางคนมีวิทยฐานะสูงกว่า ผบู้ ังคับบัญชา บางคนมอี ายุมากกว่าผูบ้ ังคับบญั ชาจงึ ตอ้ งใช้เวลาและการกระทำในการสรา้ งบารมี 11. ขาดภาวะผู้นำ สง่ ผลใหไ้ ม่เป็นท่ียอมรับของผรู้ ว่ มงาน - ขอ้ เสนอแนะ 1. สร้างบารมใี หต้ อ่ เนอื่ ง 2. สะสมประสบการณจ์ ากสภาพปัญหาต่างๆ จากการบริหารให้ดขี ึ้น 3. ผบู้ งั คับบญั ชาให้ความเปน็ กันเอง เพอ่ื ท่ีจะกลา้ ขอคำปรกึ ษา และพูดคยุ 4. โรงเรียนขนาดเล็ก มีการดูแลซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือการทำงานด้วย ความเต็มใจ 5. การสร้างบารมีต้องใช้เวลา และสร้างคุณงามความดีให้เห็นผลเชิง ประจักษ์ 6. ผูบ้ ังคับบัญชาควรสร้างแรงศรัทธาให้เกดิ ตอ่ ผใู้ ตบ้ งั คับบญั ชา 7. ใช้หลกั ธรรมาภิบาลในการบริหารภายในสถานศึกษา 8. พูดคุยสอบถาม เสนอแนะรว่ มกนั กับบคุ ลากรอย่างสม่ำเสมอ 9. พยายามฝึกสมาธิ ฝึกความอดทน และสื่อสารภายใต้เหตุผล และยึด ระเบยี บเพอ่ื ความถูกต้อง 10. พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาและหาแนวทางแก้ไขที่ดี นำไปสู่การแก้ไขและ พัฒนาทด่ี ีของชมุ ชนและสงั คม

๕๒ 11. ผบู้ รหิ ารควรทราบเกี่ยวกบั บริบทของสถานศึกษา 12. ผู้บรหิ ารปฏบิ ตั ิตนเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นท่ยี อมรบั ของ ผใู้ ต้บังคบั บญั ชา 13. ตำแหน่งผู้บริหารควรมาจากตำแหนง่ รองผู้บริหาร เพ่ือใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจ และประสบการณ์ในการบริหารงาน 1.2 การเป็นผู้สร้างแรงบนั ดาลใจ - ปญั หา 1. ขาดการกระตุ้นครู ให้พัฒนาตนเองและกำกับติดตาม ครูต้องพัฒนา ตนเอง สร้างแรงบนั ดาลใจให้ตนเอง 2. ขาดแรงบันดาลใจในการทำงาน 3. ครอู าวุโสส่วนใหญย่ งั ยึดรูปแบบการทำงานแบบเดิม 4. ผ้ใู ต้บงั คับบญั ชาขาดกำลังใจในการทำงาน 5. บุคลากรมีจำนวนน้อยในการจัดการเรียนการสอน และยังได้รับ มอบหมายงานในด้านอน่ื ๆเพม่ิ ทำใหม้ ภี าระงานมากเกนิ ไป 6. ผใู้ ต้บงั คับบัญชาขาดความเขา้ ใจในการมอบหมายงานของผบู้ งั คับบญั ชา 7. ยึดติดผลประโยชนส์ ่วนตนมากกวา่ ส่วนรวม 8. การสื่อสารไมต่ รงกัน ก่อให้เกิดความขัดแย้งในการทำงาน 9. ขาดประสทิ ธภิ าพในการแก้ไขปัญหา - ข้อเสนอแนะ 1. ผู้บรหิ ารควรให้คำแนะนำแก่ครูทุกคน เพอื่ สรา้ งเปา้ หมายร่วมกันพัฒนา ไปพร้อมกัน 2. เมื่อทำงานสำเร็จ ควรสร้างแรงจูงใจ โดยการสร้างขวัญกำลังใจให้ ลูกนอ้ ง 3. ผบู้ ังคับบัญชาสามารถช่วยแก้ไขปญั หา และให้คำปรึกษาได้ 4. ร่วมคิด ร่วมพัฒนาเนน้ การทำงานเปน็ ทีม 5. ผู้บังคับบัญชาควรมีวิธีการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเห็นคุณค่าของงาน และ เน้นประโยชน์ของสว่ นรวม 6. สรา้ งความสามัคคใี หเ้ กดิ กบั องค์กร 7. ผบู้ งั คับบัญชาควรชีแ้ จงขอ้ มลู ในการทำงาน 8. ผูบ้ ริหารงานมีวิสยั ทัศน์ท่ชี ัดเจนในการบริหารองคก์ ร 1.3 การเป็นผกู้ ระตุ้นใหใ้ ชส้ ติปัญญา - ปญั หา 1. กระตุ้นให้ผ้บู ังคบั บญั ชาเปลยี่ นแปลงการทำงาน 2. ขาดการกระต้นุ การใชส้ ติปัญญา 3. ผู้ใต้บังคับบัญชามอบหมายงานที่มากเกินไป บางทีไม่เหมาะสมกับ ความร้คู วามสามารถ

๕๓ 4. ครูและบุคลากรมีความกังวลในความสามารถและสติปัญญาของแต่ละ บคุ คล 5. ครูที่อาวุโสไม่กระตือรือร้น ไม่แสวงหา ไม่ยอมรับนวัตกรรมและ เทคโนโลยีใหม่ๆ - ข้อเสนอแนะ 1. เน้นกระบวนการกลมุ่ ให้ทำงานร่วมกนั 2. มอบหมายใหค้ ณะทำงานทำในสง่ิ ทร่ี ับผิดชอบให้สำเร็จลุลว่ ง 3. ผ้ใู ตบ้ งั คับบัญชาควรกระตุ้นตนเองด้วยการฝกึ ฝน พฒั นาตนเองอย่เู สมอ 4. ผูน้ ำกระต้นุ ให้ผรู้ บั ผดิ ชอบงานใหม่ไดเ้ รยี นรู้ และแก้ไขปัญหาดว้ ยตัวเอง 5. เสนอแนวทางท่ีสามารถนำมาใชแ้ กป้ ญั หาได้ 6. มอบหมายงานให้เหมาะสมต่อความรคู้ วามสามารถของบุคคล 7. พยายามกระตุ้นให้ผู้บังคับบัญชา ใช้สติปัญญาและสมาธิในการแก้ไข ปญั หาอย่างรอบคอบ 8. สนบั สนนุ ใหค้ รูทกุ คนเข้ารับการอบรม สัมมนา เพือ่ พฒั นาวชิ าชีพ 1.4 การเปน็ ผสู้ รา้ งความสัมพนั ธ์เชงิ บวก - ปญั หา 1. บคุ ลากรอาจมีปญั หาที่ไม่ทราบมาก่อน จงึ ไม่สามารถชว่ ยแก้ปัญหาได้ 2. ครูและบุคลากรมีความกังวลในประสบการณ์ และขาดปฏิสัมพันธ์กับ เพื่อนรว่ มงาน 3. ครูอาวุโสบางคนมอี ัตราสงู เขา้ กับเพ่อื นร่วมงานได้ยาก 4. ผใู้ ต้บังคบั บัญชาขาดความกระตือรือรน้ ในการพัฒนาตนเอง และพัฒนา วิชาชีพ - ข้อเสนอแนะ 1. ควรมีการประชุมปรกึ ษาหรอื กันในการทำงาน 2. สร้างความเป็นกันเอง ความเชื่อมั่น ความโปร่งใส และรักษาสิทธิ ประโยชน์ ของแต่ละบคุ คล 3. เน้นกจิ กรรมร่วมกนั ช่วยเหลือเกือ้ กลู กนั วางตัวเปน็ กันเอง 4. ผู้บังคับบัญชาควรเข้าใจความแตกต่างระหว่างบุคคล และประพฤติตน เป็นแบบอยา่ งทีด่ ี 5. สนบั สนุน สง่ เสรมิ บคุ ลากรให้เขา้ รับการอบรมเพอ่ื พฒั นาตนเอง 6. ผบู้ ริหารควรมปี ฏิสัมพนั ธ์ที่ดี เป็นกลั ยาณมิตรต่อผู้ใต้บังคับบญั ชา 1.5 ความเป็นมืออาชพี ของภาวะผูน้ ำ - ปญั หา 1. ขาดการตัดสนิ ใจทเี่ ดด็ ขาด ไมม่ คี วามมัน่ ใจในตนเอง 2. ผู้บังคับบัญชาบางท่านขาดประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถไม่ เพยี งพอ

๕๔ 3. ผบู้ งั คับบญั ชาขาดภาวะความเปน็ ผูน้ ำ 4. ขาดประสบการณ์ในการบริหารงาน 5. ขาดความสามคั คีในหมคู่ ณะ 6. ไมย่ อมรับการเปลย่ี นแปลง เอาความคดิ ของตัวเองเปน็ ใหญ่ 7. ผู้บริหารขาดภาวะผู้นำ ไม่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เอาแต่ใจตัวเอง เอา ความคิดตวั เองเป็นใหญ่ ไมย่ อมรับฟงั ความคิดเห็นของผอู้ นื่ - ขอ้ เสนอแนะ 1. ใชเ้ วลาในการพัฒนาและสง่ั สมประสบการณ์ 2. เมื่อมปี ัญหาผ้ใู ตบ้ งั คบั บญั ชา สามรถปรกึ ษาปัญหาต่างๆจาก ผบู้ งั คบั บัญชาได้ 3. นำเสนอสิ่งท่ีเป็นประโยชน์และสร้างทัศนคตทิ ่ีดตี ่อองค์กร 4. ผ้บู ังคบั บัญชาควรใช้ทั้งศาสตร์และศลิ ป์ในการบริหารจดั การ 5. ศกึ ษาหาความรู้ และพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนือ่ ง 6. อบรมและใหข้ ้อคดิ โดยยดึ ระเบียบคุณธรรม ให้คำนงึ ถึงส่วนรว่ ม 7. ทำงานดว้ ยความตง้ั ใจและเตม็ ใจ ยอมรับผลการกระทำของตนเอง 2. ขอ้ มูลสภาพปญั หา และขอ้ เสนอแนะ ประสทิ ธิผลของการบรหิ ารสถานศกึ ษา - ปัญหา 1. การกำกบั ติดตาม นเิ ทศ ไมเ่ ป็นไปตามแผน 2. ขาดแคลนบุคลากรในการทำงาน 3. บคุ ลากรขาดความเชือ่ มัน่ ในตนเอง และมคี วามกังวลในการจัดการศกึ ษา 4. โรงเรยี นไดร้ ับความช่วยเหลือจากทกุ ภาคสว่ น 5. โรงเรียนมีผลสัมฤทธ์ทิ ดี่ ี 6. นโยบายเก่ยี วกบั โรงเรียนไม่ชดั เจน เปลยี่ นแปลงบอ่ ยขาดความตอ่ เน่อื ง 7. ขาดความรคู้ วามสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. โรงเรียนขนาดเล็กบางแห่งขาดตำแหน่งผู้บริหาร ทำให้เป็นการเพิ่มภาระงานแก่ ครูผู้สอน 9. สถานศึกษามีระบบสารสนเทศไม่มีประสิทธิภาพ - ข้อเสนอแนะ 1. มีปฏทิ นิ การนเิ ทศ และดำเนนิ งานตามปฏทิ นิ 2. ของบประมาณจากหนว่ ยงานที่เกีย่ วขอ้ ง เพอื่ จดั หา จัดจ้างบคุ ลากรเพ่ิมเตมิ 3. ใหท้ กุ คนเหน็ คุณค่า เชือ่ ม่นั ในความสามารถของตนเอง 4. ให้บุคลากรยึดระบบการจัดการศึกษาตามมาตรฐานการประกันคุณภาพของ สถานศึกษา 5. ผู้บริหารควรเคารพสิทธิ์และความเปน็ ส่วนตวั ของผู้ใต้บังคับบัญชาให้เกยี รติและ ไว้วางใจ 6. ขาดแคลนบุคลากรในการบรหิ ารงาน

๕๕ ปฏบิ ัติงาน 7. ปรับทัศนคตเิ ชงิ บวกใหเ้ กดิ ประสิทธผิ ลในการทำงาน บาล 8. จดั หาบคุ ลากรให้เพยี งพอต่อการบริหารงาน 9. พฒั นาตนเองท้งั ทางด้านวชิ าการ พัฒนาสิง่ แวดลอ้ มทง้ั ในและนอกห้องเรียน 10. ส่งเสริมความรู้ความสามารถของบุคลากรและสร้างขวัญกำลังใจในการ 11. ควรมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาคนพัฒนางานพัฒนาองค์กรโดยใช้หลักธรรมาภิ

บทที่ 5 สรปุ อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผล ในการบริหารสถานศึกษา กรณีศึกษา : โรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาคร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูใน โรงเรียนขนาดเลก็ สังกดั สำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ปกี ารศกึ ษา 256๓ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 25 คน ครู จำนวน 111 คน รวมทั้งสิ้น 136 คน และเนื่องจากผู้วิจัย สนใจศึกษากรณีโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ซึ่งมีจำนวนไม่มากจึงใช้ประชากรทั้งหมดเป็นกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลวิจัยในครั้งนี้ ใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น โดยอาศัย แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับภาวะผู้นำการ เปลี่ยนแปลงกับประสิทธิภาพในการบริหารสถานศึกษา กรณีศึกษา : โรงเรียนขนาดเล็ก สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถาม จำนวน 1 ฉบับ สำหรบั เก็บรวบรวมข้อมลู ลักษณะของแบบสอบถามเปน็ แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ แบ่งออกเป็น 4 ตอน ดังนี้ ตอนที่ 1 แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบ แบบสอบถามเป็นแบบสำรวจรายการ (Check List) ตอนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลความ คิดเห็นภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผลของการบริหารโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับของลิเคอร์ท (Likert) ตอนที่ 3 ข้อมูลประสิทธิผลการบริหารสถานศึกษา กรณโี รงเรยี นประถมศึกษาขนาดเล็ก สงั กัดสำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ซ่ึง เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ ของลิเคอร์ท (Likert) และ ตอนที่ 4 ข้อมูล สภาพปัญหา และข้อเสนอแนะ ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง กับประสิทธิผลของการบริหาร สถานศึกษา โรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สมุทรสาคร เป็นคำถามแบบปลายเปิด สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย (������̅) และส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) สรปุ ผลการประเมิน ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผล ในการบริหาร สถานศึกษา กรณีศึกษา : โรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สมทุ รสาครดงั น้ี 1. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 90 คน คิดเป็นร้อยละ 66.18 รองลงไปเป็นเป็นเพศชาย จำนวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 33.82 อายุของผู้ตอบแบบสอบถาม สว่ นใหญ่ อายุ 30 – 40 ปี จำนวน 49 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 36.03 รองลงมาอายนุ อ้ ยกวา่ 30 ปี

๕๗ จำนวน 41 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 30.15 อายุ 50 – 60 ปี จำนวน 22 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 16.18 อายุ 41 – 50 ปี จำนวน 21 คน คิดเป็นร้อยละ 15.44 และ อายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 2.21 ระดับการศึกษา ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่จบปริญญาตรี จำนวน 105 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 77.21 รองลงมาจบปรญิ ญาโท จำนวน 29 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 21.32 และ ต่ำกว่าปรญิ ญาตรี จำนวน 2 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 1.47 ตำแหนง่ ในสถานศึกษาผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่เป็นครผู ู้สอนจำนวน 111 คน คิดเป็นร้อยละ 81.62 เป็นผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา จำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 13.97 เป็นรักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 6 คน คดิ เป็นร้อยละ 4.41 2. ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษาเกี่ยวกับภาวะผู้นำการ เปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผลของการบริหารโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาครในภาพรวมอยู่ในระดบั มาก (������̅ = 4.40 , S.D = 0.65) เรียงตามลำดับดังน้ี ด้านการเป็นผู้มีบารมี อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.44 , S.D = 0.62) ด้านการเป็นผู้สร้างแรงบันดาล ใจ อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.43 , S.D = 0.63) การเป็นผู้สร้างความสัมพันธ์เชิงบวก อยู่ในระดับ มาก (������̅ = 4.41 , S.D = 0.66) ด้านความเป็นมืออาชีพของภาวะผู้นำ อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.37 , S.D = 0.67) และด้านการเป็นผู้กระตุ้นให้ใช้สติปัญญา อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.35 , S.D = 0.67) ตามลำดับ 3. ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และอันดับความคิดเห็น ภาวะผู้นำการ เปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากร ทางการศึกษา โรงเรียนขนาดเล็ก สพป.สมุทรสาคร ด้านการเป็นผู้มีบารมี (Power) ในภาพรวมอยู่ ในระดบั มาก (������̅ = 4.44 , S.D = 0.62) เรยี งตามลำดบั ดงั นี้ คำนงึ ถึงประโยชนส์ ว่ นรวมมากกว่า ส่วนตัว อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅ = 4.61 , S.D = 0.56) ให้ความเป็นมิตรแสดงน้ำใจและความ เปน็ กันเองกบั ผู้ใต้บังคบั บัญชา อยใู่ นระดบั มากทีส่ ุด (������̅ = 4.56 , S.D = 0.58) ให้ความสำคัญของ การมีความรู้สึกต่อภารกิจร่วมกัน อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.46 , S.D = 0.63) สามารถควบคุม อารมณ์ตนเองได้ในสถานการณ์วิกฤต อยู่ในระดับ มาก (������̅ = 4.46 , S.D = 0.57) ปฏิบัติตน สอดคล้องกับค่านิยมที่แสดงไว้ อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.42 , S.D = 0.59) กระตุ้นให้ ผู้ใต้บังคับบัญชาเกิดความกระตือรือร้นในการทำงานอยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.41 , S.D = 0.64) แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตนเอง อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.40 , S.D = 0.69) ประพฤติตนให้ ผ้ใู ต้บังคับบญั ชาเกดิ ความภาคภูมใิ จ อยู่ในระดบั มาก (������̅ = 4.36 , S.D = 0.63) แสดงจุดยืนอยา่ ง มีเหตุผลในการแสดงความคิดเห็นต่อปัญหาหรือข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้น อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.35 , S.D = 0.66) และระบุจุดประสงค์หลกั ในการปฏิบัตงิ านของผู้ใต้บังคบั บัญชาได้ชดั เจน อยู่ในระดบั มาก (������̅ = 4.32 , S.D = 0.64) ตามลำดับ 4. ค่าเฉล่ยี ค่าความเบย่ี งเบนมาตรฐาน และอันดบั ความคิดเห็น ภาวะผนู้ ำการเปลยี่ นแปลง ของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา โรงเรยี นขนาดเล็ก สพป.สมทุ รสาคร ดา้ นการเปน็ ผสู้ รา้ งแรงบนั ดาลใจ (Inspiration) ในภาพรวม อยู่ในระดับ มาก (������̅ = 4.43 , S.D = 0.63) เรียงตามลำดับ ดังนี้ สนับสนุนผู้ใต้บังคับบัญชาให้

๕๘ พัฒนาตนเองโดยมีการประชุม อบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน ฯ อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅ = 4.57 , S.D = 0.57) มีความกระตือรือร้นที่จะทำงานให้มคี วามสำเร็จตามเปา้ หมายที่ตั้งไว้ อยู่ในระดับมาก ที่สุด (������̅ = 4.51 , S.D = 0.62) ใช้หลักการบริหารงานแบบมีส่วนร่วม อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.41 , S.D = 0.65) ให้กำลังใจและดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในเรื่องส่วนตัวและการทำงาน อยู่ในระดับ มาก (������̅ = 4.39 , S.D = 0.68) และมอบหมายงานตามความสามารถและความสนใจของแต่ละ บคุ คล อย่ใู นระดับมาก (������̅ = 4.29 , S.D = 0.65) ตามลำดบั 5. ค่าเฉลีย่ ค่าความเบ่ยี งเบนมาตรฐาน และอนั ดบั ความคิดเห็น ภาวะผนู้ ำการเปลี่ยนแปลง ของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา โรงเรยี นขนาดเลก็ สพป.สมทุ รสาคร ดา้ นการเป็นผู้กระตนุ้ ใหใ้ ชส้ ตปิ ญั ญา (Intellect) ในภาพรวม อยใู่ นระดบั มาก (������̅ = 4.35 , S.D = 0.67) เรียงตามลำดับ ดงั นี้ ชักชวนให้ผใู้ ต้บังคับบญั ชารู้จัก ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.49 , S.D = 0.63) ไม่วิพากษ์วิจารณ์ความเห็น ของผู้ใต้บังคับบัญชาในทางลบ อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.42 , S.D = 0.59) กระตุ้นให้ ผใู้ ต้บังคบั บญั ชาร้สู ึกว่าตอ้ งมกี ารเปล่ียนแปลงการทำงานในหนว่ ยงาน อยใู่ นระดบั มาก (������̅ = 4.35 , S.D = 0.64) แนะวิธีการและแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในหน่วยงาน อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.29 , S.D = 0.73) และกระตุ้นให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานแบบใหม่ใช้เวลา น้อยแตไ่ ด้ผลงานมาก อยู่ในระดบั มาก (������̅ = 4.18 , S.D = 0.73) ตามลำดับ 6.ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และอันดับความคิดเห็น ภาวะผู้นำการ เปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากร ทางการศึกษา โรงเรียนขนาดเล็ก สพป.สมุทรสาคร ด้านการเป็นผู้สร้างความสัมพันธ์เชิงบวก (Building a positive relationship) ในภาพรวมอยูใ่ นระดับมาก (������̅ = 4.41 , S.D = 0.66) เรยี ง ตามลำดับ ดังนี้ ให้ความเป็นกนั เองกบั ผู้ใต้บังคับบัญชา อยู่ในระดับมากท่ีสุด (������̅ = 4.57 , S.D = 0.57) ส่งเสริมให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เช่น การเลื่อนวิทยฐานะเลื่อน ให้สูงขึ้น ฯ อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅ = 4.52 , S.D = 0.61) สร้างความมั่นใจในการปฏิบัติงาน ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.46 , S.D = 0.65) มีการสร้างบรรยากาศในการ ทำงานที่ก่อให้เกิดความเกื้อกูลเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน อยู่ในระดับ มาก (������̅ = 4.42 , S.D = 0.66) มีการประเมินผลการปฏิบัติงานตามความสามารถและขอบข่ายของงานที่ได้รับมอบหมาย อยใู่ นระดับมาก (������̅ = 4.42 , S.D = 0.64) ใชว้ ิธีการสรา้ งแรงจูงใจกับผใู้ ตบ้ งั คับบญั ชาดว้ ยวิธีการที่ หลากหลาย อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.37 , S.D = 0.70) ให้ความสนใจและช่วยแก้ปัญหาให้กับ ผู้ใต้บังคับบัญชา ได้อย่างเหมาะสม อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.36 , S.D = 0.67) ให้ความรู้ ข้อมูล และขา่ วสารทถี่ ูกต้อง ทันสมยั แก่ผูใ้ ต้บงั คับบัญชาอย่างสม่ำเสมอ อยใู่ นระดับมาก (������̅ = 4.38 , S.D = 0.65) ให้การสนับสนุนงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์และครุภัณฑ์สำหรับการปฏิบัติงานอย่าง เหมาะสมและเพียงพอ อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.37 , S.D = 0.69) และมอบหมายงานให้กับ ผู้ใต้บังคับบัญชาตามความสามารถและทักษะของแต่ละบุคคล อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.30 , S.D = 0.72) ตามลำดับ

๕๙ 7. ค่าเฉลี่ย ค่าความเบ่ียงเบนมาตรฐาน และอนั ดับความคดิ เหน็ ภาวะผนู้ ำการเปลี่ยนแปลง ของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนขนาดเล็ก สพป.สมุทรสาคร ด้านภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง (Leadership) ในภาพรวม อยู่ในระดับ มาก (������̅ = 4.37 , S.D = 0.67) เรียงตามลำดับ ดังนี้ ส่งเสริมให้บุคลากรมกี ารแสดง ความคิดเห็นอย่างเปิดกว้างและให้การยอมรับในเหตุผลนั้น ๆ อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.46 , S.D = 0.68) สามารถสร้างบรรยากาศในการทำงานให้เกิดความเกื้อกูลและสามัคคีกัน อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.43 , S.D = 0.63) บริหารองค์กรโดยไมย่ ึดติดกับหลักการหรือทฤษฎีจนเกินไป อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.40 , S.D = 0.65) สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยการใช้วจิ ารณญาณอย่างมีเหตุผล อยู่ใน ระดับมาก (������̅ = 4.39 , S.D = 0.66) สามารถนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายความสำเร็จที่ตั้งไว้ได้ อย่ใู นระดบั มาก (������̅ = 4.38 , S.D = 0.71) ใหค้ วามรู้ขอ้ มลู ข่าวสารท่ีทันสมยั แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ อย่างถูกต้อง อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.35 , S.D = 0.64) มีความสามารถในการติดต่อสื่อสารได้ เหมาะสมตามความคิดเห็นที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.35 , S.D = 0.65) สามารถปรับความเชื่อ ความคิดและค่านิยมส่วนตัวให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของ องค์กรได้ อยู่ในระดับ มาก (������̅ = 4.35 , S.D = 0.64) มีการจัดเก็บข้อมูลข่าวสารทั้งภายในและ ภายนอกอย่างเป็นระบบ อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.30 , S.D = 0.70) และสามารถประยุกต์ใช้ หลักการ ทฤษฎีต่าง ๆ มาใชใ้ นการบริหารจดั การสถานศึกษาได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ อย่ใู นระดบั มาก (������̅ = 4.26 , S.D = 0.69) ตามลำดบั 8. ประสิทธิผลของการบริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและ บุคลากรทางการศึกษาในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๔๓, S.D = ๐.๕๙) เรียงตามลำดับ ดังนี้ ประสิทธิผลการบริหารระดับองค์กร อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๕๐, S.D = ๐.๕๗) และประสิทธิผลการ บริหารระดบั บคุ คล อยูใ่ นระดบั มาก (������̅ = ๔.๓๖, S.D = ๐.๖๑) ตามลำดับ 9. ประสทิ ธิผลของการบริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และ บุคลากรทางการศึกษา ในด้านประสิทธิผลการบริหารระดับบุคคล อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๓๖, S.D = ๐.๖๑) เรียงตามลำดับดังนี้ วิสัยทัศน์สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์และบริบทของ สถานศึกษาทีเ่ ปลย่ี นแปลงไป อยู่ในระดบั มาก (������̅ = ๔.๔๓, S.D = ๐.๖๔) วสิ ยั ทศั นข์ ององค์กรเป็น สิ่งที่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริง อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๔๒, S.D = ๐.๖๐) ผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับ ความสำเร็จและเกิดความภาคภูมิใจกับงานที่ได้ปฏิบัติ อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๓๖, S.D = ๐.๖๐) บุคลากรปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๔๑, S.D = ๐.๕๘) บุคลากรได้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลข่าวสารในการปฏิบัติงานร่วมกัน อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๓๘, S.D = ๐.๖๓) วิสัยทัศน์ขององค์กรมาจากบุคลากรทั้งหมด อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๓๘, S.D = ๐.๖๐ ) บคุ ลากรทำงานโดยไมย่ ดึ ติดกบั หลักการหรอื ทฤษฎจี นเกินไป อยใู่ นระดับมาก (������̅ = ๔.๓๐, S.D = ๐.๕๖) ผ้ใู ตบ้ งั คับบญั ชาไดท้ ดลองปฏิบัติเพ่ือคน้ หาวธิ ีการใหม่ ๆ ในการทำงานอยเู่ สมอ อยู่ใน ระดับ มาก (������̅ = ๔.๓๐, S.D = ๐.๖๔) บุคลากรสามารถปรับความคิดความเชื่อมั่นและค่านิยม สว่ นตวั ใหส้ อดคล้องกบั ความเปล่ยี นแปลงต่าง ๆ ของสถานศึกษา อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๒๘, S.D

๖๐ = ๐.๖๐) และผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนมั่นใจในการปฏิบัติงาน อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๒๘, S.D = ๐.๖๙) ตามลำดบั 10. ประสทิ ธผิ ลของการบรหิ ารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา ในด้านประสิทธิผลการบริหารระดบั องค์กร ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.50, S.D = ๐.57) เรียงตามลำดบั ดังนี้ มกี ารรายงานการประเมินตนเอง (SAR) ประจำปีเพื่อ รายงานต่อต้นสังกัดและเผยแพร่ต่อสาธารณชน อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅ = ๔.57, S.D = ๐.58) มีการนำผลการประเมินกิจกรรม/โครงการมาใช้พัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับมาก ท่สี ุด (������̅ = ๔.54, S.D = ๐.54) คณะกรรมการระบบประกันคุณภาพภายในมีการดำเนนิ งานระบบ การประกันคุณภาพภายในอย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅ = ๔.51, S.D = ๐.56) สถานศึกษามีมาตรฐานการศึกษาที่เป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา อยู่ในระดับมากที่สุด (������̅ = ๔.51, S.D = ๐.56) มีการนำผลการประเมินคุณภาพภายนอกมาใช้ปรับปรุงพัฒนาคุณภาพการศึกษาของ สถานศึกษา อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.50, S.D = ๐.56) สถานศึกษามีคณะกรรมการระบบประกัน คุณภาพภายในตามกฎกระทรวง อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.49, S.D = ๐.๖1) มกี ารพัฒนาระบบ การประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษามาใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการศึกษาอย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.49, S.D = ๐.56) บุคลากรมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ความสำเร็จให้กับ องค์กร อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.48, S.D = ๐.57) สถานศึกษามีระบบประกันคุณภาพภายในที่ ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.46, S.D = ๐.56) และสถานศึกษามีระบบ สารสนเทศ สนับสนุนการประเมินมาตรฐานการศึกษา อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.45, S.D = ๐.59) ตามลำดับ ขอ้ มูลสภาพปญั หา และขอ้ เสนอแนะ ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง 1.1 การเป็นผู้มีบารมี - ปญั หา 1. การปฏบิ ัตติ ามค่านิยมของตนเองมากเกินไป ขาดความยืดหยนุ่ ในการทำงาน 2. ขาดวยั วฒุ ิ และวุฒภิ าวะทางอารมณ์ 3. ทำใหผ้ ใู้ ต้บังคับบัญชา ไม่กล้าทจ่ี ะขอคำปรกึ ษา 4. ผ้ใู ตบ้ งั คับบัญชาขาดความเข้าใจตอ่ ผ้บู งั คับบัญชา 5. เมื่อเกดิ สถานการณ์กดดนั ไมส่ ามารถควบคุมอารมณ์ได้ 6. การสอ่ื สารไมค่ รบถ้วน ชัดเจน เกดิ ความเข้าใจไม่ตรงกนั 7. ผบู้ รหิ ารขาดความเข้าใจในการบรหิ ารงานโรงเรยี นขนาดเลก็ 8. ผบู้ รหิ ารขาดประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษา 9. ผู้บรหิ ารควรให้ความเห็นใจ ด้วยความจรงิ ใจกบั ผใู้ ตบ้ งั คบั บัญชา 10. ผู้ใต้บังคับบัญชามีความหลากหลายบางคนมีวิทยฐานะสูงกว่าผู้บังคับบัญชา บางคนมอี ายุมากกว่าผบู้ งั คับบญั ชาจึงตอ้ งใช้เวลาและการกระทำในการสร้างบารมี 11. ขาดภาวะผ้นู ำ ส่งผลให้ไม่เป็นทีย่ อมรับของผู้ร่วมงาน

๖๑ - ขอ้ เสนอแนะ 1. สร้างบารมีให้ต่อเนื่อง 2. สะสมประสบการณ์จากสภาพปัญหาตา่ งๆ จากการบริหารให้ดขี ึน้ 3. ผู้บงั คบั บัญชาให้ความเปน็ กันเอง เพอื่ ที่จะกล้าขอคำปรึกษา และพดู คุย 4. โรงเรยี นขนาดเลก็ มีการดูแลซ่งึ กนั และกนั ชว่ ยเหลือการทำงานด้วยความเตม็ ใจ 5. การสรา้ งบารมีต้องใชเ้ วลา และสรา้ งคุณงามความดีให้เห็นผลเชิงประจักษ์ 6. ผบู้ งั คบั บัญชาควรสรา้ งแรงศรทั ธาใหเ้ กิดตอ่ ผู้ใตบ้ งั คบั บญั ชา 7. ใชห้ ลักธรรมาภิบาลในการบรหิ ารภายในสถานศึกษา 8. พดู คยุ สอบถาม เสนอแนะร่วมกันกบั บคุ ลากรอย่างสมำ่ เสมอ 9. พยายามฝึกสมาธิ ฝึกความอดทน และส่ือสารภายใตเ้ หตุผล และยดึ ระเบียบเพ่ือ ความถกู ตอ้ ง 10. พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาและหาแนวทางแก้ไขที่ดี นำไปสู่การแก้ไขและพัฒนาที่ดี ของชมุ ชนและสังคม 11. ผู้บรหิ ารควรทราบเกี่ยวกบั บรบิ ทของสถานศึกษา 12. ผู้บริหารปฏิบัตติ นเปน็ แบบอยา่ งที่ดี เป็นท่ยี อมรับของผ้ใู ต้บงั คบั บัญชา 13. ตำแหน่งผู้บรหิ ารควรมาจากตำแหนง่ รองผบู้ ริหาร เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ในการบริหารงาน 1.2 การเปน็ ผู้สร้างแรงบันดาลใจ - ปญั หา 1. ขาดการกระตุ้นครู ใหพ้ ัฒนาตนเองและกำกับติดตาม ครูตอ้ งพัฒนาตนเอง สร้าง แรงบันดาลใจให้ตนเอง 2. ขาดแรงบันดาลใจในการทำงาน 3. ครูอาวโุ สสว่ นใหญ่ยงั ยึดรูปแบบการทำงานแบบเดมิ 4. ผู้ใตบ้ งั คับบัญชาขาดกำลังใจในการทำงาน 5. บคุ ลากรมีจำนวนน้อยในการจัดการเรียนการสอน และยงั ไดร้ ับมอบหมายงานใน ดา้ นอื่นๆเพม่ิ ทำให้มภี าระงานมากเกนิ ไป 6. ผ้ใู ต้บังคบั บัญชาขาดความเขา้ ใจในการมอบหมายงานของผ้บู ังคับบญั ชา 7. ยดึ ตดิ ผลประโยชนส์ ว่ นตนมากกว่าสว่ นรวม 8. การสือ่ สารไม่ตรงกนั ก่อใหเ้ กิดความขดั แยง้ ในการทำงาน 9. ขาดประสทิ ธิภาพในการแก้ไขปญั หา - ข้อเสนอแนะ 1. ผบู้ ริหารควรใหค้ ำแนะนำแกค่ รทู ุกคน เพือ่ สร้างเปา้ หมายรว่ มพัฒนาไปพรอ้ มกัน 2. เมอ่ื ทำงานสำเร็จ ควรสรา้ งแรงจงู ใจ โดยการสร้างขวัญกำลงั ใจใหล้ ูกน้อง 3. ผู้บังคบั บญั ชาสามารถช่วยแกไ้ ขปัญหา และให้คำปรึกษาได้ 4. รว่ มคดิ ร่วมพฒั นาเนน้ การทำงานเป็นทีม

๖๒ 5. ผู้บังคับบัญชาควรมีวิธีการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเห็นคุณค่าของงาน และเน้น ประโยชน์ของสว่ นรวม 6. สร้างความสามคั คีให้เกิดกบั องค์กร 7. ผบู้ งั คับบัญชาควรช้ีแจงขอ้ มลู ในการทำงาน 8. ผู้บริหารงานมวี ิสัยทศั น์ทีช่ ัดเจนในการบรหิ ารองค์กร 1.3 การเป็นผ้กู ระตนุ้ ใหใ้ ช้สตปิ ญั ญา - ปญั หา 1. กระตุ้นให้ผ้บู งั คับบัญชาเปลยี่ นแปลงการทำงาน 2. ขาดการกระตุน้ การใชส้ ติปญั ญา 3. ผู้ใต้บังคับบัญชามอบหมายงานที่มากเกินไป บางทีไม่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถ 4. ครูและบุคลากรมคี วามกงั วลในความสามารถและสติปัญญาของแตล่ ะบคุ คล 5. ครูท่ีอาวุโสไม่กระตอื รือร้น ไม่แสวงหา ไม่ยอมรบั นวตั กรรมและเทคโนโลยีใหมๆ่ - ข้อเสนอแนะ 1. เนน้ กระบวนการกลุ่มให้ทำงานรว่ มกนั 2. มอบหมายให้คณะทำงานทำในส่ิงท่รี ับผดิ ชอบใหส้ ำเร็จลลุ ว่ ง 3. ผ้ใู ต้บงั คบั บญั ชาควรกระตุน้ ตนเองด้วยการฝกึ ฝน พัฒนาตนเองอย่เู สมอ 4. ผูน้ ำกระตนุ้ ให้ผู้รบั ผดิ ชอบงานใหมไ่ ด้เรียนรู้ และแก้ไขปัญหาดว้ ยตวั เอง 5. เสนอแนวทางท่ีสามารถนำมาใชแ้ ก้ปญั หาได้ 6. มอบหมายงานใหเ้ หมาะสมต่อความรู้ความสามารถของบุคคล 7. พยายามกระตุ้นใหผ้ ู้บังคับบัญชา ใช้สติปญั ญาและสมาธิในการแก้ไขปัญหาอย่าง รอบคอบ 8. สนับสนนุ ให้ครทู กุ คนเขา้ รับการอบรม สัมมนา เพือ่ พัฒนาวิชาชพี 1.4 การเป็นผู้สรา้ งความสัมพันธเ์ ชิงบวก - ปัญหา 1. บคุ ลากรอาจมปี ัญหาที่ไมท่ ราบมากอ่ น จงึ ไมส่ ามารถช่วยแกป้ ัญหาได้ 2. ครูและบุคลากรมีความกังวลในประสบการณ์ และขาดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน รว่ มงาน 3. ครอู าวุโสบางคนมีอัตราสูง เข้ากับเพื่อนรว่ มงานไดย้ าก 4. ผ้ใู ตบ้ งั คบั บัญชาขาดความกระตือรอื ร้นในการพัฒนาตนเอง และพัฒนาวชิ าชพี - ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรมกี ารประชมุ ปรึกษาหรอื กันในการทำงาน 2. สร้างความเป็นกันเอง ความเชื่อมั่น ความโปร่งใส และรักษาสิทธิประโยชน์ ของ แต่ละบุคคล 3. เน้นกจิ กรรมร่วมกนั ชว่ ยเหลือเกือ้ กูลกัน วางตัวเป็นกันเอง

๖๓ 4. ผู้บังคับบัญชาควรเข้าใจความแตกต่างระหว่างบุคคล และประพฤติตนเป็น แบบอย่างทีด่ ี 5. สนบั สนนุ ส่งเสริมบุคลากรให้เข้ารับการอบรมเพ่อื พัฒนาตนเอง 6. ผู้บรหิ ารควรมีปฏิสัมพันธท์ ี่ดี เป็นกลั ยาณมิตรตอ่ ผ้ใู ต้บงั คบั บัญชา 1.5 ความเป็นมืออาชพี ของภาวะผูน้ ำ - ปญั หา 1. ขาดการตดั สนิ ใจที่เดด็ ขาด ไมม่ คี วามมั่นใจในตนเอง 2. ผ้บู ังคับบญั ชาบางทา่ นขาดประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถไม่เพยี งพอ 3. ผบู้ งั คบั บญั ชาขาดภาวะความเปน็ ผู้นำ 4. ขาดประสบการณใ์ นการบรหิ ารงาน 5. ขาดความสามคั คีในหม่คู ณะ 6. ไมย่ อมรับการเปลยี่ นแปลง เอาความคดิ ของตัวเองเป็นใหญ่ 7. ผู้บริหารขาดภาวะผู้นำ ไมเ่ ห็นอกเห็นใจผู้อ่นื เอาแตใ่ จตัวเอง เอาความคิดตัวเอง เปน็ ใหญ่ ไม่ยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่น - ข้อเสนอแนะ 1. ใช้เวลาในการพฒั นาและส่ังสมประสบการณ์ 2. เม่ือมีปญั หาผู้ใตบ้ ังคบั บญั ชา สามรถปรกึ ษาปัญหาต่างๆจากผบู้ ังคบั บัญชาได้ 3. นำเสนอส่งิ ทเี่ ป็นประโยชน์ และสร้างทัศนคติท่ีดีต่อองค์กร 4. ผ้บู งั คับบัญชาควรใช้ทั้งศาสตร์และศิลปใ์ นการบริหารจัดการ 5. ศกึ ษาหาความรู้ และพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนอื่ ง 6. อบรมและใหข้ ้อคิด โดยยดึ ระเบียบคุณธรรม ให้คำนงึ ถึงส่วนรว่ ม 7. ทำงานดว้ ยความตง้ั ใจและเต็มใจ ยอมรบั ผลการกระทำของตนเอง ขอ้ มูลสภาพปัญหา และข้อเสนอแนะ ประสิทธิผลของการบริหารสถานศึกษา - ปญั หา 1. การกำกบั ตดิ ตาม นิเทศ ไม่เป็นไปตามแผน 2. ขาดแคลนบุคลากรในการทำงาน 3. บคุ ลากรขาดความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง และมคี วามกงั วลในการจดั การศึกษา 4. โรงเรยี นได้รับความชว่ ยเหลอื จากทกุ ภาคสว่ น 5. โรงเรียนมผี ลสมั ฤทธทิ์ ่ีดี 6. นโยบายเกย่ี วกับโรงเรยี นไมช่ ดั เจน เปลี่ยนแปลงบอ่ ยขาดความต่อเนื่อง 7. ขาดความร้คู วามสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. โรงเรียนขนาดเล็กบางแห่งขาดตำแหน่งผู้บริหาร ทำให้เป็นการเพิ่มภาระงานแก่ ครผู ู้สอน 9. สถานศึกษามีระบบสารสนเทศไมม่ ปี ระสทิ ธภิ าพ - ข้อเสนอแนะ 1. มปี ฏิทินการนิเทศ และดำเนินงานตามปฏทิ ิน

๖๔ สถานศึกษา 2. ของบประมาณจากหน่วยงานที่เกีย่ วข้อง เพือ่ จดั หา จดั จา้ งบคุ ลากรเพมิ่ เติม ไว้วางใจ 3. ให้ทกุ คนเหน็ คณุ คา่ เช่อื มนั่ ในความสามารถของตนเอง 4. ให้บุคลากรยึดระบบการจัดการศึกษาตามมาตรฐานการประกันคุณภาพของ ปฏิบตั ิงาน 5. ผ้บู ริหารควรเคารพสทิ ธ์ิและความเป็นส่วนตวั ของผ้ใู ตบ้ งั คับบัญชา ให้เกียรติและ 6. ขาดแคลนบคุ ลากรในการบริหารงาน 7. ปรับทัศนคติเชงิ บวกใหเ้ กิดประสทิ ธิผลในการทำงาน 8. จดั หาบุคลากรใหเ้ พยี งพอตอ่ การบริหารงาน 9. พฒั นาตนเองท้งั ทางดา้ นวิชาการ พฒั นาสง่ิ แวดล้อมทง้ั ในและนอกห้องเรียน 10. ส่งเสริมความรู้ความสามารถของบุคลากร และสร้างขวัญกำลังใจในการ 11. ควรมีวิสัยทศั นใ์ นการพัฒนาคน พฒั นางาน พัฒนาองค์กร โดยใช้หลกั ธรรมาภบิ าล อภิปรายผล ผลการวิเคราะห์ข้อมูลการภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผล ในการบริหาร สถานศึกษา กรณีศึกษา : โรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาคร ของผบู้ รหิ ารสถานศึกษา ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา มีดงั น้ี 1. ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษาเกี่ยวกับภาวะผู้นำการ เปลี่ยนแปลงกับประสทิ ธิผลของการบริหารโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเลก็ สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.40 , S.D = 0.65) เรียง ตามลำดบั ดังน้ี ดา้ นการเป็นผ้มู บี ารมี อย่ใู นระดบั มาก (������̅ = 4.44 , S.D = 0.62) ด้านการเปน็ ผู้สร้าง แรงบันดาลใจ อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.43 , S.D = 0.63) ด้านการเป็นผู้กระตุ้นให้ใช้สติปัญญา อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.35 , S.D = 0.67) การเป็นผู้สร้างความสัมพันธ์เชิงบวก อยู่ในระดับมาก (������̅ = 4.41 , S.D = 0.66) และดา้ นความเปน็ มืออาชีพของภาวะผู้นำ อย่ใู นระดับมาก (������̅ = 4.37 , S.D = 0.67) ตามลำดับ ทั้งนี้เพราะว่าผู้บริหารสถานศึกษา คือผู้ชี้นำองค์กรไปสู่ความสำเร็จ ฉะนั้น ผบู้ รหิ ารจงึ ต้องเป็นผู้มบี ารมี เปน็ ผสู้ รา้ งแรงบันดาลใจ เปน็ ผูก้ ระตุ้นใหใ้ ชส้ ติปญั ญา เปน็ ผู้สร้าง ความสัมพันธ์เชิงบวก และความเป็นมืออาชีพของภาวะผู้นำ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของพรศิษฐ์ รอด (2549 : บทคดั ยอ่ ) ได้ศึกษาความสมั พันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลย่ี นแปลงกับประสิทธิภาพ การบริหารงานตามบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) ผู้บรหิ ารสถานศึกษา สงั กัดสำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาจนั ทบรุ ี เขต 1 มีภาวะผนู้ ำการเปลีย่ นแปลง อยู่ในระดับมาก 2) ประสิทธิภาพการบริหารงานตามบทบาท ของผู้บริหารสถานศึกษาโดยใช้

๖๕ โรงเรียนเป็นฐาน โดยรวมอยู่ในระดับมาก 3) ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษา โดยภาพรวมและรายด้านมีความสัมพันธ์ทางบวกกับ ประสิทธิภาพการบริหารงานตามบทบาทของ ผู้บริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และในทำนอง เดียวกัน ยังสอดคล้องกับวันเพ็ญ ผลชนะ (2551 : บทคัดย่อ) ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำของ ผู้บริหารโรงเรียนกับประสิทธิผลของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ปราจนี บุรี ผลการวจิ ัย พบวา่ ภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่ การศึกษาปราจีนบุรี อยูใ่ นระดบั มาก และประสทิ ธิผลของโรงเรยี นมธั ยมศึกษา สงั กัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี อยู่ในระดับมาก ส่วนภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนในภาพรวม มี ความสัมพันธ์กับประสิทธิผลของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรี ในระดับสูง (.627) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และสอดคล้องกับจันธิดา ผ่านสอน (2553 : บทคัดย่อ) ความสัมพนั ธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับ ประสทิ ธภิ าพในการบริหาร ของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้อยเอ็ด ผลการวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำ การเปลยี่ นแปลงของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา สังกัดสำนกั งานเขตพ้นื ที่ การศึกษาร้อยเอ็ด โดยรวมและ รายต้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงสำหรับค่าเฉลี่ยสูงสุดลงมา คือ ด้านการมีอิทธิพลอย่างมี อดุ มการณ์หรอื ภาวะผู้นำเชงิ บารมี ด้านการกระตนุ้ ทางปญั ญา ด้านการสรา้ งแรงบนั ดาลใจ และดา้ น การคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล ส่วนประสิทธิผลของผู้บริหาร โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดบั มาก โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยสูงสุดลงมา คือ ด้านความสามารถ ในการพัฒนานักเรียนให้มีทัศนคติใน ทางบวก ด้านความสามารถในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาโรงเรียน ด้านความสามารถในการ แก้ปัญหาภายในโรงเรียนและภาวะผู้นำ การเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษามีความสัมพันธ์ ทางบวกกับประสิทธิผลในการบริหารงานของผู้บริหารสถานศึกษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2. ประสิทธิผลของการบริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา ครู และบคุ ลากรทางการศึกษาในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๔๓, S.D = ๐.๕๙) เรยี งตามลำดับ ดงั นี้ ประสิทธิผลการบริหารระดับบุคคล อยู่ในระดับมาก (������̅ = ๔.๓๖, S.D = ๐.๖๑) และประสิทธิผลการ บรหิ ารระดับองค์กร อย่ใู นระดับมาก (������̅ = ๔.๕๐, S.D = ๐.๕๗) ทั้งนเ้ี พราะว่า ผู้บริหารสถานศึกษาจะ มุ่งพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษาในภาพรวม เน้นความสำเร็จในระดับองค์กรมากกว่าในระดับ บุคคล จึงทำให้ประสิทธิผลการบริหารระดับองค์กร สูงกว่าประสิทธิผลการบริหารระดับบุคคล ซึ่ง สอดคล้องกับงานวิจัยของอัจฉรา วรฤทธิ์ (2553 : บทคัดย่อ) ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการ เปลี่ยนแปลงของผู้บริหารโรงเรียนกับประสิทธิผลของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาเลย เขต 1 - 3 ผลการวิจัย พบว่า ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีความคิดเห็นเกี่ยวกับ

๖๖ ประสทิ ธผิ ลของ โรงเรยี นภาพรวม อยใู่ นระดับมาก เม่ือพจิ ารณาเป็นรายด้าน พบวา่ มคี วามคดิ เห็น อยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยด้านทีม่ ีคา่ เฉลี่ยสูงสุด คือ ความสามารถในการปรับเปลี่ยนและพัฒนา โรงเรียนรองลงมา คือ ด้านความสามารถผลิตนักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง และด้านที่มี ค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านความสามารถในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียนส่วนความสัมพันธ์ระหว่าง ภาวะผู้นำการเปลีย่ นแปลงของผู้บริหารโรงเรียนกบั ประสทิ ธิผลของโรงเรียน พบว่า มีความสมั พันธ์ กันทางบวกอย่างมีนยั สำคญั ทางสถิติท่รี ะดับ .01 เป็นไปตามสมมตฐิ านที่ตงั้ ไว้ 3. ข้อมลู สภาพปญั หาและขอ้ เสนอแนะภาวะผนู้ ำการเปลยี่ นแปลง 3.1 การเปน็ ผู้มีบารมี สามารถสรุปปัญหา ได้ดังน้ี ผู้บริหารขาดความเข้าใจในการบริหารงานโรงเรียน ขนาดเล็ก ขาดประสบการณ์ในการบริหารสถานศึกษา ขาดวัยวุฒิ และวุฒิภาวะทางอารมณ์ ปฏิบัติ ตามค่านิยมของตนเองมากเกินไป ขาดภาวะผู้นำ ส่งผลให้ไม่เป็นที่ยอมรับของผู้ร่วมงาน ขาดความ ยืดหยุ่นในการทำงาน ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่กล้าที่จะขอคำปรึกษา ผู้ใต้บังคับบัญชาขาดความ เข้าใจต่อผู้บังคับบัญชา เมื่อเกิดสถานการณ์กดดัน ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ การสื่อสารไม่ ครบถ้วน ชัดเจน ทำให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกัน ผู้ใต้บังคับบัญชามีความหลากหลายบางคนมี วิทยฐานะสูงกว่าผู้บังคับบัญชา บางคนมีอายุมากกว่าผู้บังคับบัญชาจึงต้องใช้เวลาและการกระทำใน การสร้างบารมี ข้อเสนอแนะสรุปได้ ดงั นี้ ตำแหนง่ ผู้บริหารควรมาจากตำแหน่งรองผู้บริหาร เพื่อให้ มีความรู้ ความเข้าใจ และประสบการณ์ในการบริหารงาน ผู้บริหารควรให้ความเห็นใจ ด้วยความ จริงใจกับผู้ใต้บังคับบัญชาสร้างบารมีให้ต่อเนื่อง ให้ความเป็นกันเอง เพื่อที่จะกล้าขอคำปรึกษา และ พูดคุยมีการดูแลซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือการทำงานด้วยความเต็มใจ ควรสร้างแรงศรัทธาให้เกิดต่อ ผใู้ ต้บงั คับบัญชา พูดคุยสอบถาม เก่ียวกบั ปญั หาและหาแนวทางแก้ไขทดี่ ี นำไปสู่การแก้ไขและพัฒนา ท่ีดีของชุมชนและสังคม เสนอแนะร่วมกันกับบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ พยายามฝึกสมาธิ ฝึกความ อดทน และสอ่ื สารภายใต้เหตุผล และยึดระเบียบเพื่อความถูกต้อง ปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นที่ ยอมรับของผู้ใต้บังคับบัญชา ทราบเกี่ยวกับบริบทของสถานศึกษา สะสมประสบการณ์จากสภาพ ปัญหาต่างๆ จากการบริหารให้ดีขึ้น ใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารภายในสถานศึกษาการสร้าง บารมตี ้องใชเ้ วลา และสรา้ งคณุ งามความดีใหเ้ หน็ ผลเชิงประจกั ษ์ 3.2 การเป็นผูส้ ร้างแรงบันดาลใจ สามารถสรุปปัญหา ได้ดังนี้ ผู้บริหารยึดติดผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม ขาด ประสิทธิภาพในการแก้ไขปญั หา ขาดการกระตุ้นครู ให้พัฒนาตนเองและกำกบั ติดตาม ครูต้องพัฒนา ตนเอง สรา้ งแรงบนั ดาลใจให้ตนเองและขาดแรงบันดาลใจในการทำงานจากผู้บรหิ าร ผู้ใตบ้ ังคบั บญั ชา ขาดความเข้าใจในการมอบหมายงานของผู้บังคับบัญชา การสื่อสารไม่ตรงกัน ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ในการทำงาน ครูอาวุโสสว่ นใหญ่ยงั ยดึ รูปแบบการทำงานแบบเดมิ บุคลากรมีจำนวนน้อยในการ จดั การเรยี นการสอน และยงั ไดร้ บั มอบหมายงานในด้านอน่ื ๆเพิ่ม ทำให้มภี าระงานมากเกนิ ไป ข้อเสนอแนะสามารถสรุปได้ ดังนี้ ผู้บริหารควรมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการบริหาร องค์กร ควรชี้แจงข้อมูลในการทำงาน ให้คำแนะนำแก่ครูทุกคน เพื่อสร้างเป้าหมายร่วมกันพัฒนาไป

๖๗ พร้อมกัน เมื่อทำงานสำเร็จ ควรสร้างแรงจูงใจ โดยการสร้างขวัญกำลังใจให้ลูกน้อง ร่วมคิด ร่วม พัฒนาเน้นการทำงานเป็นทีม สามารถช่วยแก้ไขปัญหา และให้คำปรึกษาได้ ควรมีวิธีการให้ ผู้ใต้บังคับบัญชาเห็นคุณค่าของงาน และเน้นประโยชน์ของส่วนรวม สร้างความสามัคคีให้เกิดกับ องค์กร 3.3 การเปน็ ผู้กระต้นุ ให้ใชส้ ติปัญญา สามารถสรุปปัญหาไดด้ ังนี้ ผูบ้ ังคบั บญั ชามอบหมายงานที่มากเกินไป บางทีไม่เหมาะสม กับความรู้ความสามารถ ขาดการกระตุ้นการใช้สติปัญญาและเปลี่ยนแปลงการทำงาน ครูและ บุคลากรมีความกังวลในความสามารถและสติปัญญาของแต่ละบุคคล ครูที่อาวุโสไม่กระตือรือร้น ไม่ แสวงหา ไมย่ อมรับนวตั กรรมและเทคโนโลยีใหมๆ่ ขอ้ เสนอแนะสามารถสรปุ ได้ดงั นี้ เน้นกระบวนการกลุ่มใหท้ ำงานรว่ มกนั มอบหมายงาน ให้เหมาะสมต่อความรู้ความสามารถของบุคคลมอบหมายให้และกระตุ้นให้คณะทำงานทำในสิ่งที่ รับผิดชอบให้สำเร็จลุล่วง ผู้ใต้บังคับบัญชาควรกระตุ้นตนเองด้วยการฝึกฝน พัฒนาตนเองอยู่เสมอ ผู้นำกระตุ้นให้ผู้รับผิดชอบงานใหม่ได้เรียนรู้ และแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง เสนอแนวทางที่สามารถ นำมาใช้แก้ปัญหาได้ สนับสนนุ ให้ครูทุกคนเข้ารับการอบรม สัมมนา เพื่อพัฒนาวิชาชีพ และพยายาม กระตนุ้ ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชา ใชส้ ตปิ ญั ญาและสมาธิในการแก้ไขปญั หาอย่างรอบคอบ ๓.4 การเปน็ ผู้สร้างความสัมพันธเ์ ชงิ บวก สามารถสรุปปัญหาได้ดังนี้ ผู้ใต้บังคบั บัญชาขาดความกระตือรือร้นในการพัฒนาตนเอง และพัฒนาวิชาชีพ ครูอาวุโสบางคนมีอัตตาสูง เข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ยาก บุคลากรในสถานศึกษา อาจมีปัญหาที่ไม่ทราบมาก่อน จึงไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ ครูและบุคลากรมีความกังวลใน ประสบการณ์ และขาดปฏิสมั พันธ์กับเพอื่ นร่วมงาน ข้อเสนอแนะสรุปได้ ดังนี้ ผู้บังคับบัญชาควรเข้าใจความแตกต่างระหว่างบุคคล และ ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ควรมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี เป็นกัลยาณมิตรต่อผู้ใต้บังคับบัญชา สร้างความ เป็นกนั เอง ความเชื่อม่ัน ความโปร่งใส และรกั ษาสทิ ธิประโยชน์ ของแต่ละบคุ คล เนน้ กจิ กรรมรว่ มกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน วางตัวเป็นกันเอง ควรมีการประชุมปรึกษาหรือกันในการทำงาน สนับสนุน สง่ เสรมิ บคุ ลากรใหเ้ ข้ารับการอบรมเพ่ือพัฒนาตนเอง ๓.5 ความเป็นมืออาชพี ของภาวะผู้นำ สามารถสรุปปัญหา ได้ดังน้ี ผู้บริหารขาดภาวะผู้นำ ไม่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น เอาแต่ใจ ตัวเอง เอาความคดิ ตัวเองเปน็ ใหญ่ ไม่ยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผู้อ่ืน ขาดการตัดสินใจทเ่ี ด็ดขาด ไม่ มีความมั่นใจในตนเอง ขาดประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถไม่เพียงพอ ความสามคั คีในหมู่คณะ. ไมย่ อมรับการเปลี่ยนแปลง เอาความคดิ ของตัวเองเป็นใหญ่ ข้อเสนอแนะสามารถสรุปได้ดงั นี้ ผู้บงั คบั บญั ชาควรใชท้ ้ังศาสตร์และศิลป์ในการบริหาร จดั การ ศึกษาหาความรู้ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ือง ทำงานดว้ ยความต้ังใจและเต็มใจ ยอมรับผล การกระทำของตนเอง อบรมและให้ข้อคิด โดยยดึ ระเบียบคณุ ธรรม ให้คำนึงถึงส่วนรว่ ม นำเสนอสิ่งท่ี เป็นประโยชน์ และสร้างทัศนคติที่ดีต่อองค์กร ใช้เวลาในการพัฒนาและสั่งสมประสบการณ์ เมื่อมี ปัญหาผ้ใู ตบ้ ังคับบัญชา สามรถปรึกษาปัญหาตา่ งๆจากผูบ้ งั คบั บญั ชาได้ ขอ้ มูลสภาพปัญหา และขอ้ เสนอแนะ ประสทิ ธผิ ลของการบริหารสถานศกึ ษา

๖๘ สภาพปัญหาสามารถสรุปได้ดังนี้ สถานศึกษามีระบบสารสนเทศไม่มีประสิทธิภาพ การกำกับติดตาม นิเทศ ไม่เป็นไปตามแผน บุคลากรขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ขาดความรู้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีและมีความกังวลในการจัดการศึกษา ขาดแคลนบุคลากรในการ ทำงาน นโยบายเกี่ยวกับโรงเรียนไม่ชัดเจน เปลี่ยนแปลงบ่อยขาดความต่อเนื่อง โรงเรียนขนาดเล็ก บางแห่งขาดตำแหนง่ ผบู้ ริหาร ทำใหเ้ ป็นการเพ่ิมภาระงานแก่ครูผู้สอน ข้อเสนอแนะสามารถสรุปได้ ดงั นี้ ผบู้ รหิ ารควรเคารพสทิ ธแิ์ ละความเปน็ ส่วนตัวของ ผู้ใต้บังคับบัญชา ให้เกียรติและไว้วางใจ ส่งเสริมความรู้ความสามารถของบุคลากร และสร้างขวัญ กำลังใจในการปฏิบัติงาน ควรมีวิสัยทัศน์ในการพัฒนาคน พัฒนางาน พัฒนาองค์กร โดยใช้ หลักธรรมาภิบาล จัดทำปฏิทินการนิเทศ และดำเนินงานตามปฏิทิน ให้บุคลากรยึดระบบการจัด การศึกษาตามมาตรฐานการประกันคุณภาพของสถานศกึ ษา ของบประมาณจากหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวข้อง เพื่อจดั หา จัดจ้างบุคลากรเพิม่ เติม ปรับทศั นคติเชิงบวกใหเ้ กิดประสิทธิผลในการทำงานให้ทุกคนเห็น คุณค่า เชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง พัฒนาตนเองทั้งทางด้านวิชาการ พัฒนาสิ่งแวดล้อมทั้งใน และนอกห้องเรียน ทั้งนี้เพราะว่า ผู้บริหารสถานศึกษาควรแสดงพฤติกรรมภาวะของผู้นำการ เปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการ กล่าวคือ ผู้บริหารต้องแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมความเป็นผู้นำใน การจัดการหรอื การทำงาน กระบวนการที่มีอทิ ธิพลต่อผูร้ ่วมงาน โดยเปลี่ยนแปลงความสามารถของ ผู้ร่วมงานไปสู่ระดับที่สูงขึ้น และมีศักยภาพทำให้เกิดความตระหนักรู้ในภารกิจหน้าที่ และการ กำหนดวสิ ัยทศั นข์ องกลุ่ม การจงู ใจใหผ้ ูร้ ่วมงานมองกว้างไกลเกินความสนใจของตนเองไปสู่ประโยชน์ ของกลุม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสภาวะทีก่ ำลังต้องการเปลี่ยนแปลงหรือการปฏิรูปการศึกษาอย่างใน ปัจจุบัน ซึ่งผลของภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษา จะทำให้เกิดผลในด้าน คุณภาพของสถานศึกษาหลาย ๆ ด้าน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของนิรันดร์ ต้นจ้อย (2553 : บทคัดย่อ) ได้ศึกษาเรื่อง ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษานครนายก ผลการวิจัยพบว่า ระดับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร สถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษานครนายก โดยภาพรวมและรายดา้ นอยู่ในระดับมาก ส่วนเปรียบเทียบภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร สถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษานครนายก จำแนกตามเพศ อายุ ระดับการศกึ ษา ประสบการณใ์ นการทำงาน และขนาด ของโรงเรียนที่สังกัด จำแนกตามเพศ ระดับการศึกษา ประสบการณ์ในการทำงาน และขนาดของ โรงเรียน โดยภาพรวมแตกต่างอย่างไมน่ ัยสำคัญทางสถิติ และเม่ือจำแนกตามอายุ พบความแตกต่าง อย่างมนี ยั สำคญั ทางสถิติทีร่ ะดับ .01 และในทำนองเดียวกัน ยงั สอดคล้องกับบัวย้อย กันนิตา (2553 : บทคัดย่อ) ความสมั พันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของ ผูบ้ รหิ ารสถานศึกษากบั ประสิทธิผล การบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ผลการวิจัย พบว่า 1) ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ี การศึกษาสุรินทร์ เขต 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2) สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงาน เขตพื้นทกี่ ารศึกษาสรุ นิ ทร์ เขต 3 โดยภาพรวม มปี ระสทิ ธิผลการบริหารสถานศึกษาอย่ใู นระดบั ผ่าน เกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำ 3) ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษามีความสัมพันธ์กับ ประสิทธผิ ลการบรหิ ารสถานศึกษา อยา่ งไม่มีนยั สำคัญทางสถิตทิ รี่ ะดับ .05 และสอดคล้องกับ อารี กังสานุกูล (2553 : บทคัดย่อ) ได้ศึกษาเรื่อง ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร สถานศึกษา

๖๙ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาชลบุรี เขต 2 ผลการวิจัยพบว่า ภาวะผู้นำการเปลีย่ นแปลงของ ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาชลบรุ ี เขต 2 โดยรวมและรายด้าน อยู่ใน ระดับมาก ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ชลบุรี เขต 2 จำแนกตามเพศของครู โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสมิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นด้านการ ให้การสนับสนุนผู้ตามเป็นรายบุคคลแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ภาวะผู้นำการ เปลีย่ นแปลงของผู้บริหาร สังกัดสำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาชลบุรี เขต 2 จำแนกตามประสบการณ์ ของครูโดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็น รายด้านพบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นด้านการเป็นแบบอย่างที่เหมาะสม และ ด้านการคาดหวัง ผลการปฏิบัติงานของผู้ตามในระดับสูง แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนภาระผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชลบุรี เขต 2 จำแนกตามวุฒิการศึกษาของครู โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นด้านการ เป็นแบบอย่างท่เี หมาะสม และดา้ นการคาดหวงั ผลการปฏิบตั ิงานของผูต้ ามในระดับสูง แตกต่างกัน อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสติ และยังสอดคล้องกับ แบส (Bass. 1997 : 120) ได้ทำการวิจัยและ ยืนยันว่าผู้นำการเปลี่ยนแปลงมีความขยันหมั่นเพียรในการทำงาน มีผลงานดีเด่น มีความผูกพันต่อ งานและต่อองค์การ ได้สรุปผลการวิจัยพบว่า ผู้ตามจะเชื่อถือ ศรัทธา ภูมิใจ และเชื่อใน ความสามารถของผู้นำที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ด้วยปัญญาผู้ตามเห็นว่าผู้นำทำให้ตนมีความ กระตอื รอื รน้ ต่องานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายคลใจใหเ้ กดิ การภกั ดี ผูน้ ำมีพรสวรรคท์ จ่ี ะขดุ ประกายเปา้ หมาย ให้ผู้ตามเห็นช่องทางในการนำไปสู่เป้าหมายนั้น และยังสอดคล้องกับ ดูเนิร์ท และลิวิส (Kuhnert and Lewis, 1987 : 650) ได้ศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง และภาวะผู้นำแบบแลกเปลี่ยน พบวา่ ภาวะผู้นำการเปลยี่ นแปลงจะอยู่ในระดับท่ีมีค่าสูงกว่าภาวะผนู้ ำการแลกเปลย่ี น คือ ผู้นำใน ลกั ษณะของผูน้ ำการแลกเปลยี่ นจะมีลกั ษณะการทำงานดว้ ยแรงจูงใจ เพอ่ื ผลประโยชน์ทง้ั สองฝ่ายใน ขณะที่ผู้นำการเปล่ียนแปลงจะอยู่ในระดับพฒั นาการสงู ข้นึ ไป จะไมส่ นใจต่อความต้องการของตนเอง แต่จะเริ่มเห็นคุณค่าของหมู่คณะ และหน่วยงานซึ่งเป็นคุณค่าหรือคุณธรรมที่สูงกว่าผู้นำเพื่อการ เปลย่ี นแปลง จะสละผลประโยชน์ของตนเองก้าวเข้าถึงจติ ใจของผู้ตาม กระตุน้ ให้ลูกน้องเห็นคุณค่า ของความมีอุดมคติ ศักดิ์ศรี เพื่อที่จะไม่ทำงานตามหน้าที่เพียงเพื่อเงินเดือนหรือผลตอบแทนใดไป วัน ๆ อกี ทั้งพยายามเปลี่ยนทัศนคติ และความเชอื่ ของผู้ใต้บงั คับบัญชาให้เกดิ การยอมรับและทำงาน จนบรรลเุ ปา้ หมายทย่ี าก จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่า ภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษามีความสำคัญ และจำเป็นในการขับเคลื่อนและพัฒนาการจัดการศึกษาในทุกระดับ และผู้บริหารสถานศึกษาที่มี ภาวะผ้นู ำ ย่อมนำพาให้สถานศึกษา ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาดำเนินงาน กจิ กรรมตา่ งๆ ได้บรรลุ จดุ มงุ่ หมายจนได้รับรางวัลและความภาคภมู ิใจในระดับประเทศ ดังน้ี 1. รางวลั ของสถานศกึ ษา 1.1 โรงเรียนบ้านคลองแค ได้รับรางวัลชมเชย การประกวด Video Clip การจัด กิจกรรมส่งเสริมการอ่านตามรอยพระจริยวัตร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ

๗๐ รัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ปงี บประมาณ 2563 ให้ไว้ ณ วนั ท่ี 13 พฤศจกิ ายน 2563 จาก สำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรสาคร 1.2 โรงเรียนบ้านดอนไก่ดี ได้รับรางวัลระดับดีเยี่ยม ในการขับเคลื่อนศูนย์ครอบครัว พอเพียงดีเด่น ระดับประถมศึกษาศึกษา ประจำปีการศึกษา 2562 ให้ไว้ ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 จากสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน 1.3 โรงเรียนวัดใหญจ่ อมปราสาท ได้รับรางวัล รองชนะเลิศ อันดับ 2 การแข่งขันกีฬา กระโดดเชือกจังหวัดสมุทรสาคร ประเภท ทีมว่องไวหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ประจำปีการศึกษา 2563 ให้ไว้ ณ วันท่ี 16 ธันวาคม 2563 จากสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน 1.4 โรงเรียนวัดสามัคคีศรัทธาราม ได้รับรางวัลโรงเรียนดีไม่มีอบายมุข ประจำปี การศึกษา 2563 เนื่องในวันครูแห่งชาติ พ.ศ.2564 ให้ไว้ ณ วันที่ 16 มกราคม 2564 จาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน 1.5 โรงเรียนวัดเจริญสุขาราม ได้รับรางวัลโรงเรียนดีไม่มีอบายมุข ประจำปีการศึกษา 2563เนื่องในวันครูแห่งชาติ พ.ศ.2564 ให้ไว้ ณ วันที่ 16 มกราคม 2564 จากสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน 2. รางวลั ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา 2.1 นายเกษม เสือสีนวล โรงเรียนบ้านดอนไก่ดี ได้รับรางวัลพระพฤหัสบดี ประเภท บุคคล กลุ่มผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารการศึกษา ระดับจังหวัด โครงการรางวัลพระพฤหัสบดี ประจำปี พ.ศ.2563 ให้ไว้ ณ วันที่ 16 มกราคม 2564 จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม สวสั ดิการและสวัสดิภาพครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา (สกสค.) กระทรวงศกึ ษาธิการ 2.2 นางสาวสายรุ่ง พุทธา โรงเรียนสามัคคีศรัทธาราม ได้รับรางวัลครูดีไม่มีอบายมุข ประจำปี การศึกษา 2563 เนื่องในวันครูแห่งชาติ พ.ศ.2564 ให้ไว้ ณ วันที่ 16 มกราคม 2564 จากสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน 2.3 นายไพบูรณ์ อ่อนสนิท โรงเรียนบ้านปลายคลองน้อย ได้รับรางวัลครูดีไม่มี อบายมุข ประจำปี การศกึ ษา 2563 เนอื่ งในวนั ครูแหง่ ชาติ พ.ศ.2564 ให้ไว้ ณ วนั ท่ี 16 มกราคม 2564 จากสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน 2.4 นายประการณ์ จันพุฒ โรงเรียนวัดโคกขาม ได้รับรางวัลครูดีไม่มีอบายมุข ประจำปี การศึกษา 2563 เนื่องในวันครูแห่งชาติ พ.ศ.2564 ให้ไว้ ณ วันที่ 16 มกราคม 2564 จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน 2.5 นางอรอุมา แจ่มเจ็ดริ้ว โรงเรียนบ้านอ้อมโรงหีบ(เล็ก-นิ่ม อนุสรณ์) ได้รับรางวัล สวุ รรณหงสท์ องคำ ประจำปี พ.ศ.2564 ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ 3 เมษายน 2564 จากองคก์ รกลุม่ นำวิถีไทย สสู่ ากลองค์กรเครือข่ายวฒั นธรรมสรา้ งเสริมความดีเพ่ือแผ่นดิน สภาองค์กรวฒั นธรรมไทย – อาเซียน องคก์ รส่งเสริมวฒั นธรรมไทยอาเซยี นและชมรมทดแทนบญุ คุณแผน่ ดนิ เกิด 3. รางวลั ของครูและบุคลากรทางการศกึ ษา 3.1 นางสาวสทุ ธพิ รรณ แก่นคำ โรงเรยี นวัดเจรญิ สขุ าราม ไดร้ บั รางวลั เปน็ ผู้มีสว่ นรว่ ม ในการส่งเสริมจรรยาบรรณของวิชาชีพครู โดยการแบ่งปันเรื่องราวความประทับใจที่มีต่อครูดีผ่าน

๗๑ ภาพถ่าย หรอื คลิปวดี ีโอ ตามโครงการจรรยาบรรณสู่ครูดี...เพ่ือเด็กดี ประจำปี พ.ศ.2563 กิจกรรม “คาราวะครูผู้สรา้ ง ผนู้ ำทางชวี ิต ให้ไว้ ณ วันที่ 29 ตลุ าคม 2563 จากสำนกั งานเลขาธกิ ารคุรสุ ภา 3.2 นางนงลักษณ์ สุขสมศักดิ์ โรงเรียนอนุบาลบ้านแพ้ว (วันครู 2500) ได้รับรางวัล เป็นครูที่ตั้งใจ งดเหล้า เบียร์ ตลอดชีวิต ในกิจกรรมโพธิสัตว์น้อย ลูกขอพ่อแม่เลิกเหล้า(จดหมายส่ือ รัก) ภายใต้โครงการโรงเรียนคำพ่อสอน พลังแห่งศีลธรรมที่ปฏิบัติ จะทำให้ครูเจริญทั้งทางโล กและ ทางธรรม ประจำปี พ.ศ.2563 ให้ไว้ ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2563 จากสำนักงานเครือข่ายองค์กรงด เหลา้ สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษา ขนั้ พืน้ ฐาน 3.3 นางสาวทิพย์วิมล สุขเสาร์ โรงเรียนวัดบางหญ้าแพรก ได้รับรางวัลชนะเลิศ ชนิด กีฬาเปตอง ประเภทคู่ รนุ่ อายไุ ม่เกิน 12 ปี หญิง การแขง่ ขันกฬี าเปตอง จงั หวัดสมุทรสาคร ประจำปี พ.ศ.2563 ให้ไว้ ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2563 จากสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัด สมทุ รสาคร สมาคมกีฬาแห่งจงั หวัดสมทุ รสาคร 3.4 นางธญั นนั ทน์ มาลสทุ ธ์ิ โรงเรยี นวดั ท่าเสา(อาทรราษฎรอ์ ุปถมั ภ์) ไดร้ ับรางวลั ครูดี ไม่มีอบายมุข ประจำปี การศึกษา 2563 เนื่องในวันครูแห่งชาติ พ.ศ.2564 ให้ไว้ ณ วันที่ 16 มกราคม 2564 จากสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน 2.5 นายทินกร แจ่มเจ็ดริ้ว โรงเรียนวัดนางสาว ได้รับรางวัลสุวรรณหงส์ทองคำ ประจำปี พ.ศ.2564 ให้ไว้ ณ วันที่ 3 เมษายน 2564 จากองค์กรกลุ่มนำวิถีไทยสู่สากลองค์กร เครือข่ายวัฒนธรรมสร้างเสริมความดีเพื่อแผ่นดิน สภาองค์กรวัฒนธรรมไทย – อาเซียน องค์กร สง่ เสริมวฒั นธรรมไทยอาเซียนและชมรมทดแทนบุญคณุ แผ่นดนิ เกิด 4. รางวัลของนักเรียน 4.1 เดก็ หญงิ ณัฐธิพร นามีผล โรงเรยี นบา้ นอ้อมโรงหีบ(เล็ก-น่ิม อนุสรณ์) ได้รับรางวัล อันดับ3 คำคม เกมตอ่ อกั ษรภาษาไทย รนุ่ มัธยมศึกษาตอนต้น รายการแมก็ ซ์พลอยส์ ครอสเวิร์ดเกม เอแม็ท คำคม และซูโดกุ เอ็ดดูเคชั่นนอล สปอร์ต ชาเลนจ์ 2020 ให้ไว้ ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2563 จากแมก็ ซพ์ ลอยส์ 4.2 เด็กหญิงสิรามล แซ่จ๋าว โรงเรียนบ้านอ้อมโรงหีบ(เล็ก-นิ่ม อนุสรณ์) ได้รับรางวัล ชนะเลศิ การแข่งขัน Crossword Game ครง้ั ท่ี 10 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น งานเกษตรกำแพงแสน ประจำปี พ.ศ.2563 ให้ไว้ ณ วันที่ 8 ธันวาคม 2563 จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต กำแพงแสน 4.3 นางสาวอัญมณี ไตรศรี โรงเรียนวัดสามัคคีศรัทธาราม ได้รับรางวัลเด็กและเยาวชน ดีเด่นคณะกรรมการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2564 ให้ไว้ ณ วันที่ 9 มกราคม 2564 จากกระทรวงศึกษาธกิ าร 4.๔ เด็กหญิงนิศามณี สุขสำราญ และ เด็กหญิงสลิตา ชูทัน โรงเรียนวัดบางหญ้า แพรก ได้รับรางวัลชนะเลิศ ชนิดกีฬาเปตอง ประเภทคู่ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี หญิง การแข่งขัน กีฬาเปตอง จังหวัดสมุทรสาคร ประจำปี พ.ศ.2563 ให้ไว้ ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2563 จาก สำนักงานการกฬี าแหง่ ประเทศไทยจังหวดั สมทุ รสาคร สมาคมกฬี าแหง่ จังหวดั สมทุ รสาคร 4.๕ เด็กชายศุภรากร ทองสิมา โรงเรียนบ้านคลองตัน ได้รับรางวัลการแข่งขันกีฬา กระโดดเชือกจังหวัดสมุทรสาคร ประเภททีมว่องไวชาย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ประจำปี พ.ศ.2563

๗๒ ให้ไว้ ณ วันที่ 16 ธันวาคม 2563 จากสมาคมกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานการกีฬาแห่ง ประเทศไทยจงั หวัดสมุทรสาคร และชมรมกฬี ากระโดดเชอื กจงั หวัดสมทุ รสาคร ขอ้ เสนอแนะ จากผลการวิจยั ครัง้ นี้ ผ้รู ายงานมขี ้อเสนอแนะเพือ่ ประโยชน์กบั หนว่ ยงานทางการศึกษา ดงั น้ี 1. ขอ้ เสนอแนะสำหรับการนำผลการวจิ ัยไปใช้ 1.1 ผู้บริหารสถานศึกษาอื่น ๆ สามารถนำรูปแบบการศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับ ประสทิ ธิผลในการบรหิ ารสถานศึกษา กรณีศึกษา : โรงเรยี นประถมศึกษาขนาดเล็ก สงั กัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ไปประยุกต์ใช้โดยเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องร่วมกำหนด ยทุ ธศาสตรใ์ นการดำเนินงาน 1.2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ควรมอบนโยบาย แนวทาง วิธีการบริหารจัดการ สถานศึกษาอยา่ งมคี ณุ ภาพ ให้แกผ่ ูบ้ ริหารสถานศึกษาและผ้ทู เ่ี ก่ียวข้อง 1.3 สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา ควรมีระบบนเิ ทศกำกบั ติดตามประสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผล ในการบริหารจดั การสถานศึกษาของผ้บู ริหารสถานศึกษาอย่างต่อเนอื่ ง 2. ขอ้ เสนอแนะสำหรับการทำวจิ ยั ครัง้ ตอ่ ไป 2.1 ควรศึกษาการการศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผลในการบริหาร สถานศกึ ษา กับสถานศึกษาในสงั กัดทกุ ขนาดขนาด 2.2 ควรนำปัญหา และข้อเสนอแนะที่ได้จากการศึกษาในครั้งนี้ ไปใช้ในการกำหนดนโยบาย ยทุ ธศาสตรใ์ นการพัฒนาสถานศกึ ษาของสำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาต่อไป

บรรณานกุ รม กุลรัศมิ์ สริ กิ รวฒุ ิพงศ.์ (2553). ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาวะผูน้ ำของผูบ้ ริหารกบั ความพงึ พอใจ ในการปฏบิ ตั งิ านของครูโรงเรยี นในเครอื สารสาสน.์ วิทยานพิ นธ์ ศษ.ม. (การบรหิ ารการศึกษา). กรุงเทพฯ : บัณฑิตวทิ ยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. คม ชดั ลกึ . สพฐ.เปิดตัวเลข‘ยุบรวม’รร.ขนาดเล็กแล้วนับพนั แห่ง ปรับแผนจัดสรรอัตราคร.ู ออนไลน.์ แหลง่ ท่ีมา: https://www.naewna.com/local/470779. สบื ค้นเม่อื 16 กุมภาพนั ธ์ 2564. คารมณ์ เพียรภายลุน. ความเปน็ ผู้บริหารมืออาชีพ. ออนไลน.์ แหล่งทมี่ า: https://www.kroobannok.com/23691. สืบคน้ เมือ่ 16 กุมภาพันธ์ 2564. จรัส อติวทิ ยาภรณ.์ (2554). หลักการและทฤษฎกี ารบริหารการศกึ ษา. สงขลา : มหาวิทยาลัยทักษิณ จันทรานี สงวนนาม. (2551). ทฤษฎีและแนวปฏิบัตใิ นการบรหิ ารสถานศึกษา. กรงุ เทพฯ : บคุ๊ พอยท์ จันธดิ า ผา่ นสอน. (2553). ความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธผิ ล ในการบรหิ ารของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ในสงั กัดสำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษารอ้ ยเอด็ . วิทยานิพนธ์ กศ.ม (การบริหารการศกึ ษา). มหาสารคาม : บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั สารคาม. ณัฏฐพันธ์ เขจรนนั ท์. (2551). พฤติกรรมองคก์ าร. กรุงเทพฯ : ซเี อด็ ยูเคชั่น ดงั ตฤน. (มถิ นุ ายน 2553). “หลักธรรมของผู้นำ” จำข้ึนใจ. 5(6) : 4. ทพิ ยวรรณ ปณุ ณินท์. (2551). อทิ ธพิ ลของผูน้ ำการเปลี่ยนแปลงของผู้บรหิ ารตอ่ ประสทิ ธิผล ของโรงเรยี นคาทอลกิ สงั กัดฝ่ายการศกึ ษาอคั รสงั ฆมณฑล. วิทยานพิ นธ์ ศศ.ม. (การบริหารการศกึ ษา). กรงุ เทพฯ : บณั ฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ธร สนุ ทรายุทธ. (2551). การบริหารจัดการเชิงปฏิรปู . กรงุ เทพฯ : เนตกิ ุลการพิมพ์. นิตย์ สมั มาพนั ธ.์ (2548). ภาวะผนู้ ำ : พลังขบั เคลอ่ื นองคก์ รสูค่ วามเปน็ เลศิ . กรุงเทพฯ : อินในกราฟฟิกส์ นิรนั ดร์ ตันจ้อย. (2551). ภาวะผ้นู ำการเปลี่ยนแปลงของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา สังกดั สำนกั งาน เขตพื้นทกี่ ารศกึ ษานครนายก. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (การบริหารการศึกษา). ปทุมธานี : บัณฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัยอีสเทิรน์ . บวั ย้อย กนั นติ า. (2553). ความสัมพนั ธ์ระหว่างภาวะผู้นำการเปล่ยี นแปลงของผูบ้ ริหาร สถานศึกษากับประสิทธิผลการบริหารสถานศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน สำนักงานเขตพ้ืนที่ สรุ ินทร์ เขต 3. วทิ ยานพิ นธ์ ค.ม.(การบริหารการศึกษา). เชยี งราย: บัณฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเชียงราย.

๗๔ ปกรณ์ ประจันบาน. (2552). สถิตขิ ัน้ สูงสำหรับการวจิ ยั และประเมิน (Advanced Statistics for Research and Evaluation). พิมพค์ รัง้ ที่ 3. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร. ปรชั ญา มะลิหวล. (2555). การศึกษาความสัมพันธ์ระหวา่ งภาวะผู้นำการเปล่ยี นแปลงกับ ประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศกึ ษาในสังกดั สำนักงาน คณะกรรมการอาชวี ศึกษา จังหวัดนครราชสีมา. วิทยานพิ นธ์ กศ.ม. (การบรหิ ารการศึกษา). มหาสารคาม:บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม. ปรุ ะชัย เปี่ยมสมบรู ณ.์ (2550). ผ้นู ำทด่ี ีไม่มเี สอ่ื ม. กรุงเทพฯ:อนิเมทกรุ๊ป. ______. (2556). คุณธรรมจริยธรรมกับผู้นำการเปล่ียนแปลง. (ออนไลน)์ . แหล่งที่มา: http://www.manager.co.ttr%2C/LocaUViewNews.aspx? สืบคน้ เมอ่ื 16 ธันวาคม 2556. พณพร เกษตรเวทิน. (2554). ภาวะผ้นู ำการเปล่ยี นแปลงของผู้บริหารทีส่ ่งผลต่อประสิทธผิ ล ของสถานศึกษาในกลมุ่ อำเภอสตกึ สังกดั สำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษา บรุ รี ัมย์ เขต 4. วทิ ยานิพนธ์ กศ.ม. (การบรหิ ารการศกึ ษา). ชลบุรี: บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา. พรศิษฎ์ คำรอด. (2549). การบริหารงานตามบทบาทของผบู้ ริหารสถานศึกษาโดยใช้โรงเรียน เปน็ ฐาน. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (การบรหิ ารการศกึ ษา). ชลบรุ ี: บัณฑติ วิทยาลยั มหาวิทยาลยั บูรพา. ภารดี อนันตน์ าวี. (2551). หลักการ แนวคิด ทฤษฎที างการบริหารการศกึ ษา. ชลบุรี: ภาควชิ าบรหิ ารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบรู พา. ______. (2553). หลักการ แนวคิด ทฤษฎีทางการบริหารการศึกษา. ชลบรุ :ี มนตรี. ยงยุทธ วงศภ์ ิรมยศ์ านต.์ (2550). การพฒั นาระบบการจดั การทางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน. กรุงเทพฯ: กระทรวงสาธารณสุข. วรนารถ แสงมณ.ี (2553). องค์การ: ทฤษฎี การออกแบบและการบริหารจดั การเชงิ กลยุทธ์. กรุงเทพฯ: ดารณี สนามเต๊ะ วนั เพ็ญ ผลชนะ. (2551). ). ความสมั พันธ์ระหวา่ งภาวะผู้นำของผบู้ ริหารโรงเรียนกับประสทิ ธิผล ของโรงเรยี นมัธยมศึกษา สังกดั สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาปราจนี บุรี. วทิ ยานิพนธ์ กศ.ม. (การบริหารการศกึ ษา).ชลบรุ :ี บณั ฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยบูรพา. วเิ ชยี ร วทิ ยอดุ ม. (2548). ภาวะผู้นำ ฉบับกา้ วล้ำยคุ . กรุงเทพฯ: ธีระฟิลม์ และไซเท็กซ์. สภาขบั เคล่ือนการปฏิรปู ประเทศ. การบริหารจดั การศกึ ษาโรงเรียนขนาดเล็ก. ออนไลน์. แหล่งทีม่ า: https://library2.parliament.go.th/giventake/content_nrsa2558/d051659- 01.pdf สืบค้นเมื่อ 16 กุมภาพนั ธ์ 2564 สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามธั ยมศกึ ษาเขต 17. (2558). ข้อมูลสารสนเทศปกี ารศกึ ษา 2558. จนั ทบรุ ี: กลมุ่ นโยบายและแผน. สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน. (2550). แนวทางการกระจายอำนาจการบริหาร และการจดั การการศกึ ษา. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย

๗๕ สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน.์ (2550). ภาวะผนู้ ำ ทฤษฎี และปฏิบัติ: ศาสตรแ์ ละศิลปส์ ่คู วามเป็นผูน้ ำ ทสี่ มบูรณ์. พมิ พ์ครัง้ ที่ 2. กรุงเทพฯ: วริ ตั นเ์ อ็ดดูเคชัน่ . ______. (2550). ภาวะผู้นำ: ทฤษฎี และปฏบิ ตั ิ. เชียงราย: สถาบนั ราชภฏั เชียงราย. สุนทร โคตรบรรเทา. (2551). ภาวะผ้นู ำในองคก์ ารการศกึ ษา. กรงุ เทพฯ: ปัญญามหาชน อมรรตั น์ เตชะนอก และคณะ. การจดั การศกึ ษาในศตวรรษที่ 21. แหลง่ ท่ีมา: https://so03.tci- thaijo.org/index.php/JMND/article/download/246719/166655/. สืบคน้ เม่อื 16 กมุ ภาพนั ธ์ 2564. อจั ชรา วรีฤทธ์ิ. (2553). ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งภาวะผู้นำการเปลีย่ นแปลงของผู้บริหารโรงเรียน กบั ประสิทธิผลของโรงเรียน สังกดั สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาเลย เขต 1-3. วทิ ยานพิ นธ์ กศ.ม. (การบริหารการศึกษา). ชลบรุ ี: บัณฑิตวทิ ยาลยั มหาวิทยาลัยบรู พา. อารี กงั สานุกลู . (2553). ภาวะผ้นู ำการเปลยี่ นแปลงของผู้บรหิ ารสถานศึกษา สงั กัดสำนักงาน เขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาชลบรุ ี เขต 2. วิทยานพิ นธ์ กศ.ม. (การบริหารการศึกษา). ชลบรุ ี: บณั ฑติ วทิ ยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา. Bass, B. M. ( 1997). \"Does the Transactional - Transformational Leadership Paradigm Transcend Organizational and National Boundaries,\" American Psychologist. 5 (3) :27. Bass, B. M. and Avolio, B. J. (1990). Manual for the Multifactor Leadership Questionnaire. Califormia : Consulting Psychologists Press. Blake, R. R. and Mouton, T. S. (1964). The Managerial Grid. Houston Tex : Gulf Publishing Co. Daft, R. L. (2003). Management. NewYork: Thomson. Fiedler, F. E. (1971). A Theory of Leadership Ellectiveness. New York : McGraw-Hilt. Gibson, J. H. and James H. D. (1982). Orgrnizations : Behavior Structure and Processes. 4 th ed. TX : Business Publications. Hersey, P. and Blanchard, K. H. (1998). Management of Organizational Behavior: Utilizing Human Resources. 6 th ed. Englewood Cliffs. NJ : Prentice Hall. Hoy, W. K. and Furguson, J. (1985). \"Theoretical Framework and Exploration Organization Effectiveness of Schools,\" Educational Administrators Quarterly. 59 (3\\ : 732-A. Hoy, W. K. and Miskel, C. G. (2008). Education Administration : Theory, Research, and Practice. Singapore : McGraw - Hill.

๗๖ Kuhnert, K.W. and Lewis P. (1987). \"Transactional and Transformational Leadership: A Constructive Development Analysis,\" Academy of Management Review. 12 (15): 648 - 657. Mott, P. E. (1972). The Characteristic ofEffective Organization. NewYork: Harper and Row. Robbins, S. P. (2001). Organizational Behavior. N.J. :Prentice-Hall. Schein, E. H. (1970). Organizational Psychology. N.J. : Prentice-Hall. Seashore, S. E. and Yuchtman E. (1967). \"Factorial analysis of Organizational Performance,\" Administrative Science Quarterly. 12 (32) :377 - 395. Tuker, R. (1992). \"Transformational Leadership and the Performance ofResearch and Development Project Group,\" Journal of Msnagement. 9 (14) : I l2 - 135. Zamuta, R. F. ( l99l ). Organization Theory and Design. New York : State University of New York.

ภาคผนวก

๗๘ ภาคผนวก ก หนังสอื เชิญผเู้ ชย่ี วชาญตรวจสอบเครอ่ื งมอื วิจัย

๗๙ รายนามผู้ทรงคุณวุฒิ 1. นายไทยศักด์ิ วงศ์คำ รองผู้อำนวยการสำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษา ประถมศึกษาสมุทรสาคร 2. นางอรอุมา แจ่มเจด็ รว้ิ ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบ้านอ้อมโรงหบี 3. นางเกษฎาพร วรี ะกลุ ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นคลองตัน 4. นายวรี ะยุทธ ครรชิตชยั วาร ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดปากบอ่ (เหลืองราษฎร์บำรุง) 5. วา่ ทีร่ ้อยตรีเกียรตศิ ักดิ์ เริงชยั ภูมิ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดใตบ้ ้านบอ่

๘๐ ท่ี ศธ 04152/ว748 สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสมุทรสาคร ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จงั หวดั สมทุ รสาคร 74000 8 มีนาคม 2564 เร่อื ง ขอเชิญผู้เชย่ี วชาญตรวจสอบเคร่อื งมอื วจิ ัย จำนวน 1 ชดุ จำนวน 1 ชุด เรียน นายไทยศกั ด์ิ วงศค์ ำ สิ่งท่สี ง่ มาด้วย 1. แบบสอบถามเพ่ือการวจิ ัย 2. แบบสรุปการหาค่า IOC เน่ืองด้วย นายปัญจพล แสงคำไพ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาคร ได้จัดทำการวิจัย เร่ือง การศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผลการ บริการสถานศึกษา กรณีศึกษา : โรงเรียนขนาดเล็กสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา สมทุ รสาคร เพอ่ื พฒั นาระบบการบรหิ ารงานบุคคลของสำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษา ทางสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร จึงขอเชิญท่านเป็นผู้เช่ียวชาญ ตรวจสอบเครื่องมือการวิจัยในคร้ังน้ี ผลการตรวจสอบแก้ไขเป็นประการใด ขอความอนุเคราะห์ท่านแจ้ง สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาสมทุ รสาครด้วย จกั เปน็ พระคณุ ยิ่ง จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดพจิ ารณาอนุเคราะห์ ขอแสดงความนับถอื (นายปญั จพล แสงคำไพ) ผู้อำนวยการสำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรสาคร งานเลขานุการ โทร 08-6499-9653

๘๑ แบบตอบรบั เป็นผเู้ ชี่ยวชาญเคร่ืองมือวิจัย การจดั ทำผลงานทางวชิ าการ เพ่อื ประเมนิ สัมฤทธผิ ล ในตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการสำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ชื่อ นายไทยศักดิ์ วงศ์คำ ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร สถานที่ทำงาน สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสมุทรสาคร อำเภอเมืองฯ จงั หวดั สมุทรสาคร สังกัด สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาสมทุ รสาคร สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ ขา้ พเจา้ ( ✓ ) ยนิ ดใี นการเปน็ ผูเ้ ช่ียวชาญ ( ) ขดั ข้องในการเปน็ ผเู้ ช่ียวชาญ เนื่องจาก ................................................ ใหก้ ับ นายปญั จพล แสงคำไพ ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการสำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาสมุทรสาคร ลงชอื่ ................................................... (นายไทยศักด์ิ วงศ์คำ) ตำแหน่ง รองผ้อู ำนวยการสำนักงานเขพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร

๘๒ ที่ ศธ 04152/ว748 สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาสมุทรสาคร ตำบลทา่ ทราย อำเภอเมืองสมทุ รสาคร จังหวัดสมุทรสาคร 74000 8 มีนาคม 2564 เรอ่ื ง ขอเชิญผเู้ ชย่ี วชาญตรวจสอบเคร่ืองมอื วิจัย จำนวน 1 ชุด จำนวน 1 ชดุ เรียน นายไทยศักดิ์ วงศค์ ำ ส่งิ ท่ีสง่ มาด้วย 1. แบบสอบถามเพ่ือการวิจัย 2. แบบสรปุ การหาค่า IOC เน่ืองด้วย นายปัญจพล แสงคำไพ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาคร ได้จัดทำการวิจัย เร่ือง การศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผลการ บริการสถานศึกษา กรณีศึกษา : โรงเรียนขนาดเล็กสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา สมุทรสาคร เพ่ือพัฒนาระบบการบริหารงานบุคคลของสำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษา ทางสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร จึงขอเชิญท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบเคร่ืองมือการวิจัยในคร้ังนี้ ผลการตรวจสอบแก้ไขเป็นประการใด ขอความอนุเคราะห์ท่านแจ้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาสมุทรสาครด้วย จกั เป็นพระคณุ ย่ิง จึงเรียนมาเพ่อื โปรดพจิ ารณาอนุเคราะห์ ขอแสดงความนับถือ (นายปญั จพล แสงคำไพ) ผ้อู ำนวยการสำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาสมทุ รสาคร งานเลขานุการ โทร 08-6499-9653

๘๓ แบบตอบรบั เปน็ ผเู้ ชี่ยวชาญเคร่อื งมือวจิ ยั การจัดทำผลงานทางวิชาการ เพอ่ื ประเมนิ สัมฤทธิผล ในตำแหน่งผูอ้ ำนวยการสำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ชอื่ นางอรอุมา แจ่มเจด็ ร้ิว ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นอ้อมโรงหบี (เลก็ -นม่ิ อนุสรณ)์ สถานทที่ ำงาน โรงเรียนบ้านออ้ มโรงหบี (เล็ก-นม่ิ อนุสรณ)์ อำเภอเมืองฯ จงั หวัดสมุทรสาคร สงั กดั สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร ขา้ พเจา้ ( ✓ ) ยนิ ดีในการเปน็ ผเู้ ช่ยี วชาญ ( ) ขัดขอ้ งในการเป็นผู้เชีย่ วชาญ เนอ่ื งจาก ................................................ ใหก้ ับ นายปัญจพล แสงคำไพ ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการสำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาสมทุ รสาคร ลงชอื่ ................................................... (นางอรอุมา แจ่มเจด็ ร้ิว) ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านอ้อมโรงหบี (เล็ก-นิ่ม อนสุ รณ์)

๘๔ ท่ี ศธ 04152/ว748 สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ตำบลทา่ ทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวดั สมุทรสาคร 74000 8 มนี าคม 2564 เรื่อง ขอเชิญผู้เชีย่ วชาญตรวจสอบเครอื่ งมือวิจยั จำนวน 1 ชดุ จำนวน 1 ชดุ เรยี น นายไทยศักดิ์ วงศ์คำ สง่ิ ที่สง่ มาด้วย 1. แบบสอบถามเพือ่ การวิจยั 2. แบบสรปุ การหาคา่ IOC เนื่องด้วย นายปัญจพล แสงคำไพ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาคร ได้จัดทำการวิจัย เรื่อง การศึกษาภาวะผู้นำการเปล่ียนแปลงกับประสิทธิผลการ บริการสถานศึกษา กรณีศึกษา : โรงเรียนขนาดเล็กสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา สมุทรสาคร เพื่อพัฒนาระบบการบริหารงานบุคคลของสำนกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษา ทางสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร จึงขอเชิญท่านเป็นผู้เช่ียวชาญ ตรวจสอบเคร่ืองมือการวิจัยในคร้ังน้ี ผลการตรวจสอบแก้ไขเป็นประการใด ขอความอนุเคราะห์ท่านแจ้ง สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาสมทุ รสาครด้วย จักเปน็ พระคุณยิ่ง จึงเรียนมาเพอื่ โปรดพิจารณาอนเุ คราะห์ ขอแสดงความนบั ถือ (นายปัญจพล แสงคำไพ) ผ้อู ำนวยการสำนกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศึกษาสมทุ รสาคร งานเลขานกุ าร โทร 08-6499-9653

๘๕ แบบตอบรับเป็นผู้เชย่ี วชาญเครื่องมือวจิ ัย การจดั ทำผลงานทางวชิ าการ เพอื่ ประเมินสัมฤทธผิ ล ในตำแหนง่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาสมทุ รสาคร ช่อื นางเกษฎาพร วรี ะกลุ ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรียนบา้ นคลองตนั สถานที่ทำงาน โรงเรยี นบา้ นคลองตนั อำเภอบา้ นแพว้ จังหวดั สมทุ รสาคร สังกดั สำนกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสมุทรสาคร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ ข้าพเจ้า ( ✓ ) ยินดีในการเป็นผู้เช่ียวชาญ ( ) ขดั ข้องในการเปน็ ผูเ้ ชี่ยวชาญ เน่ืองจาก ................................................ ใหก้ บั นายปัญจพล แสงคำไพ ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาสมทุ รสาคร ลงชอื่ ................................................... (นางเกษฎาพร วรี ะกลุ ) ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านคลองตัน

๘๖ ท่ี ศธ 04152/ว748 สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาสมทุ รสาคร ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวดั สมทุ รสาคร 74000 8 มีนาคม 2564 เรื่อง ขอเชิญผูเ้ ชีย่ วชาญตรวจสอบเครื่องมือวจิ ยั จำนวน 1 ชดุ จำนวน 1 ชุด เรยี น นายวรี ะยทุ ธ ครรชติ ชยั วาร สิ่งทส่ี ่งมาดว้ ย 1. แบบสอบถามเพื่อการวจิ ยั 2. แบบสรปุ การหาค่า IOC เนื่องด้วย นายปัญจพล แสงคำไพ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาคร ได้จัดทำการวิจัย เรื่อง การศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผลการ บริการสถานศึกษา กรณีศึกษา : โรงเรียนขนาดเล็กสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษา สมทุ รสาคร เพื่อพฒั นาระบบการบรหิ ารงานบคุ คลของสำนกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร จึงขอเชิญท่านเป็นผู้เช่ียวชาญ ตรวจสอบเคร่ืองมือการวิจัยในคร้ังน้ี ผลการตรวจสอบแก้ไขเป็นประการใด ขอความอนุเคราะห์ท่านแจ้ง สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาครด้วย จกั เปน็ พระคณุ ย่ิง จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดพิจารณาอนุเคราะห์ ขอแสดงความนับถือ (นายปัญจพล แสงคำไพ) ผอู้ ำนวยการสำนกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาสมทุ รสาคร งานเลขานุการ โทร 08-6499-9653

๘๗ แบบตอบรับเป็นผูเ้ ชย่ี วชาญเคร่ืองมือวิจัย การจัดทำผลงานทางวชิ าการ เพื่อประเมนิ สมั ฤทธผิ ล ในตำแหน่งผ้อู ำนวยการสำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ช่ือ นายวรี ะยทุ ธ ครรชิตชัยวาร ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนวดั ปากบ่อ (เหลืองราษฎร์บํารุง) สถานทท่ี ำงาน โรงเรยี นวัดปากบ่อ (เหลืองราษฎร์บํารุง) อำเภอเมืองฯ จังหวดั สมทุ รสาคร สงั กัด สำนกั งานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสมทุ รสาคร สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ ขา้ พเจ้า ( ✓ ) ยนิ ดใี นการเปน็ ผู้เช่ยี วชาญ ( ) ขดั ขอ้ งในการเปน็ ผเู้ ช่ียวชาญ เนอ่ื งจาก ................................................ ให้กบั นายปัญจพล แสงคำไพ ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการสำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศึกษาสมทุ รสาคร ลงช่ือ................................................... (นายวรี ะยทุ ธ ครรชติ ชัยวาร) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดปากบ่อ (เหลืองราษฎร์บาํ รุง)

๘๘ ท่ี ศธ 04152/ว748 สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร ตำบลทา่ ทราย อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวดั สมุทรสาคร 74000 8 มนี าคม 2564 เร่ือง ขอเชิญผ้เู ช่ียวชาญตรวจสอบเครือ่ งมอื วจิ ัย จำนวน 1 ชดุ จำนวน 1 ชุด เรยี น ว่าท่รี ้อยโทเกียรติศกั ด์ิ เรงิ ชยั ภมู ิ ส่ิงท่ีสง่ มาดว้ ย 1. แบบสอบถามเพ่ือการวิจัย 2. แบบสรุปการหาคา่ IOC เน่ืองด้วย นายปัญจพล แสงคำไพ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาคร ได้จัดทำการวิจัย เรื่อง การศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงกับประสิทธิผลการ บริการสถานศึกษา กรณีศึกษา : โรงเรียนขนาดเล็กสังกัดสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา สมุทรสาคร เพื่อพฒั นาระบบการบริหารงานบุคคลของสำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษา ทางสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร จึงขอเชิญท่านเป็นผู้เช่ียวชาญ ตรวจสอบเครื่องมือการวิจัยในครั้งน้ี ผลการตรวจสอบแก้ไขเป็นประการใด ขอความอนุเคราะห์ท่านแจ้ง สำนกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสมุทรสาครด้วย จักเป็นพระคณุ ย่ิง จึงเรยี นมาเพื่อโปรดพจิ ารณาอนุเคราะห์ ขอแสดงความนบั ถอื (นายปัญจพล แสงคำไพ) ผอู้ ำนวยการสำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร งานเลขานุการ โทร 08-6499-9653

๘๙ แบบตอบรับเปน็ ผู้เช่ียวชาญเคร่ืองมือวจิ ยั การจดั ทำผลงานทางวชิ าการ เพอื่ ประเมนิ สมั ฤทธิผล ในตำแหน่งผ้อู ำนวยการสำนักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาสมทุ รสาคร ชือ่ วา่ ทีร่ ้อยโทเกยี รติศักดิ์ เริงชยั ภูมิ ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวัดใตบ้ ้านบอ่ สถานที่ทำงาน โรงเรยี นวดั ใตบ้ ้านบ่อ อำเภอเมอื งฯ จงั หวัดสมุทรสาคร สังกดั สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาสมุทรสาคร สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข้าพเจา้ ( ✓ ) ยนิ ดีในการเป็นผเู้ ชีย่ วชาญ ( ) ขัดขอ้ งในการเปน็ ผเู้ ช่ียวชาญ เนอ่ื งจาก ................................................ ใหก้ บั นายปญั จพล แสงคำไพ ตำแหน่ง ผูอ้ ำนวยการสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาสมุทรสาคร ลงชื่อ................................................... (วา่ ท่รี อ้ ยโทเกียรติศักดิ์ เริงชยั ภูมิ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนวดั ใตบ้ า้ นบ่อ

๙๐ ภาคผนวก ข หนงั สอื ขอความรว่ มมอื ผทู้ ำวิจยั

๙๑ จำนวนประชากรในแต่ละโรงเรียน ลำดับท่ี โรงเรยี น จำนวนประชากร ครู รวม ผู้บริหาร รักษาการณ์ 1 โรงเรยี นวดั ชผี า้ ขาว(ประชานเุ คราะห์) สถานศกึ ษา ผูอ้ ำนวยการ 4 5 2 โรงเรยี นวัดเกาะ(สำลีราษฎรอ์ ปุ ถัมภ)์ 3 4 3 โรงเรียนบ้านสนั ดาบ 1- 4 5 4 โรงเรียนบ้านชายทะเลโคกขมมิตรภาพที่ 95 -1 6 7 5 โรงเรยี นวดั บางพล(ี หงสร์ ่วมราษฎร์รงั สรรค์) 1- 4 5 6 โรงเรียนวดั นาขวาง 1- 3 4 7 โรงเรียนบา้ นนาโคก(นาเกลือสัมพันธ)์ -1 3 4 8 โรงเรียนวดั ราษฎรธ์ รรมาราม 1- 3 4 9 โรงเรยี นวดั บางนำ้ วน (รอดพิทยาคม) -1 4 5 10 โรงเรยี นวดั นว่ มกานนท์ (สอนกิจราษฎร์บำรุง) 1- 8 9 11 โรงเรยี นวัดวิสทุ ธาราม -1 4 5 12 โรงเรยี นวัดเจริญสุขาราม 1- 5 6 13 โรงเรียนบ้านชายทะเลบางกระเจา้ -1 3 4 14 โรงเรยี นบ้านท้องคุ้ง 1- 3 4 15 โรงเรียนวัดบางยาง (บางยางพิทยาคาร) 1- 4 5 16 โรงเรยี นวงั นกไข่ 1- 3 4 17 โรงเรยี นทำนบแพว้ 1- 2 3 18 โรงเรียนบ้านรางสายบวั 1- 4 5 19 โรงเรยี นไทยรฐั วิทยา9 (วดั ใหมร่ าษฎร์นุกลู ) 1- 9 10 20 โรงเรียนบ้านดำเนนิ สะดวก (กมิ ลี้มณีฉาย) 1- 4 5 21 โรงเรียนบา้ นคลองสำโรง 1- 4 5 22 โรงเรียนวดั ธัญญารามราษฎรบ์ ำรงุ -1 5 6 23 โรงเรยี นบ้านเจรญิ สขุ 1- 3 4 24 โรงเรียนบ้านวงั จรเข้ 1- 8 9 25 โรงเรยี นวัดชัยมงคล 1- 8 9 1- 111 136 รวม 1- 19 6

๙๒

๙๓

๙๔

๙๕