แผนการสอน OLA เรื่อง เซต

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง 48 โรงเรยี นวงั จันทร์วทิ ยา ชือ่ – สกลุ …………………………………………………......………….…………………....…………ชน้ั …………….เลขท่ี …………….. แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 2 คณติ ศาสตร์ 1 ค 31101 เรื่อง การเขียนเซต ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 1. เขียนเซตต่อไปนแี้ บบแจกแจงสมาชิก 1.1 A เปน็ เซตของสระในภาษาอังกฤษ A = …………………………………………………………………………………………… 1.2 B เปน็ เซตของจำนวนเตม็ ท่มี ากกวา่ -7 แต่นอ้ ยกวา่ 7 B = …………………………………………………………………………………………… 1.3 D เปน็ เซตคำตอบของสมการ 4x + 5 = 29 D = …………………………………………………………………………………………… 1.4 E เปน็ เซตของจำนวนเต็มซึ่งเป็นคำตอบของสมการ x2 + 2x + 1 = 0 E = …………………………………………………………………………………………… 1.5 H =x N x > 11 H = …………………………………………………………………………………………… 2. เขยี นเซตต่อไปนีแ้ บบบอกเง่ือนไขของสมาชิก 2.1 A เปน็ เซตของจำนวนจรงิ ซ่ึงมากกวา่ 0 แตน่ ้อยกว่า 10 A = …………………………………………………………………………………………… 2.2 B เป็นเซตของจำนวนเต็มซ่งึ น้อยกว่า 500 B = …………………………………………………………………………………………… 2.3 C เปน็ เซตของจำนวนเต็มซ่ึงเปน็ คำตอบของสมการ x2 – 8x + 16 = 0 C = …………………………………………………………………………………………… 2.4 E = 0, 1, 2, 3, ..., 48, 49,50 E = ……………………………………………………………………………………….…… 2.5 F = 1 , 2 , 3 , 4 , ...  2 2 2 2  F = …………………………………………………………………………………………..… รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง 49 โรงเรียนวังจันทร์วิทยา ช่ือ – สกลุ …………………………………………………......……เฉ…ล…ย.…………………....…………ชนั้ …………….เลขที่ …………….. แบบฝึกทกั ษะท่ี 2 คณิตศาสตร์ 1 ค 31101 เร่ือง การเขียนเซต ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 1. เขียนเซตต่อไปนแี้ บบแจกแจงสมาชกิ 1.1 A เป็นเซตของสระในภาษาองั กฤษ A = {a, e, i, o, u} 1.2 B เป็นเซตของจำนวนเต็มที่มากกว่า -7 แตน่ ้อยกว่า 7 B = {−6, −5, −4, −3, −2, −1,0,1,2,3,4,5,6} 1.3 D เป็นเซตคำตอบของสมการ 4x + 5 = 29 D = {6} 1.4 E เป็นเซตของจำนวนเต็มซง่ึ เปน็ คำตอบของสมการ x2 + 2x + 1 = 0 E = {−1} 1.5 H x N x > 11 H = {12,13,14,15, . . . . . . } 2. เขยี นเซตต่อไปน้แี บบบอกเง่ือนไขของสมาชิก 2.1 A เป็นเซตของจำนวนจรงิ ซึ่งมากกว่า 0 แตน่ ้อยกว่า 10  A = X X  R á Å Ð 0  X  10 2.2 B เป็นเซตของจำนวนเตม็ ซงึ่ นอ้ ยกว่า 500 B = {������|������ ∈ ������ และ������ < 500} 2.3 C เป็นเซตของจำนวนเต็มซงึ่ เปน็ คำตอบของสมการ x2 – 8x + 16 = 0 C = {������|������ ∈ ������ และ������ = 4} 2.4 E = 0, 1, 2, 3, ..., 48, 49,50 E = {������|������ ∈ ������ และ0 ≤ ������ ≤ 50}  2.5 F = 1 , 2 , 3 , 4 , ... 2222 F ={X|X = n เมอ่ื n ∈ ������} 2 รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ ง 50 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ รายวชิ า คณิตศาสตร์ 1 รหสั วชิ า ค 31101 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรือ่ ง เซต เวลา 10 ชวั่ โมง เรือ่ ง การเทา่ กนั ของเซต เวลา 1 ชั่วโมง สอนวนั ที่ 8 เดอื น มถิ ุนายน พ.ศ. 2564 ผสู้ อน นางสาวธรี ณี ติยะศริ ิ 1. มาตรฐานและผลการเรียนรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.1 เข้าใจและวเิ คราะห์แบบรปู (pattern) ความสมั พันธ์ และฟงั กช์ นั ตัวชวี้ ัด มฐ. ค 1.1 ม. 4/1 มคี วามคิดรวบยอดในเรื่องเซตและการดำเนนิ การของเซต 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การเท่ากันและการเทยี บเทา่ กนั ของเซต เซตทเี่ ท่ากัน (Equal sets) คือ เซตท่ีเทา่ กันตั้งแตส่ องเซตขน้ึ ไป จะตอ้ งมีแต่เซตเหมือนกันทุกตัว เขยี นแทนดว้ ยสัญลักษณ์ A = B 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ด้านพุทธพิ ิสยั (Cognitive domain) 3.1.1 นักเรยี นสามารถบอกไดว้ ่าเซตสองเซตทกี่ ำหนดให้เป็นเซตเท่ากันหรือไม่ 3.2 ดา้ นทักษะพสิ ัย (Psychomotor domain) 3.2.1 นักเรียนมีความสามารถแกป้ ัญหาเร่ืองการเทา่ กันของเซตได้ 3.2.2 นกั เรยี นมีความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลการเทา่ กันของเซตได้ 3.2.3 นักเรยี นมีความสามารถสอื่ ความหมาย การใช้สญั ลักษณ์การเทา่ กนั ของเซตได้ 3.3 ด้านจิตพสิ ัย (Affective domain) 3.3.1 นักเรียนเกิดความใฝ่เรียนรู้ มีความเพียรพยายามในการเรียน และให้ความสำคัญกับการเข้า ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ 3.3.2 นักเรียนเกิดความมุ่งมั่นในการทำงาน เอาใจใส่ในหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมาย และมีความ รับผดิ ชอบในการทำงานให้สำเร็จ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง 51 4. สาระการเรียนรู้ 4.1 ลกั ษณะของเซตท่ีเท่ากัน 5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.1 มงุ่ มั่นในการทำงาน 6.2 มีวินัย 6.3 ใฝเ่ รยี นรู้ 7. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน ( หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้ ) แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 3 เรอื่ ง การเท่ากันของเซต 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 8.1 ขน้ั นำ 8.1.1 ครูส่งลงิ กโ์ ปรแกรม Google Meet ให้นักเรียน เพ่ือใช้ในการเรียนการสอนแบบออนไลน์ 8.1.2 ครกู ล่าวทกั ทายนักเรียน แนะนำตัว เช็คชือ่ 8.1.3 ครูทบทวนความรู้เรือ่ งสมาชิกในเซตและจำนวนสมาชิกในเซตว่าเปน็ อย่างไร แตกตา่ งกนั อยา่ งไร โดยสมุ่ ถามนกั เรียนจาก วงลอ้ สุม่ เลขที่ รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง 52 8.2 ข้นั สอน 8.2.1 ครอู ธบิ ายถงึ การเท่ากนั ของเซต เซตทีเ่ ทา่ กนั (Equal sets) คือ เซตทเี่ ท่ากันต้ังแต่สองเซตขึ้นไป จะต้องมีแตเ่ ซตเหมือนกนั ทุกตวั เขยี นแทนดว้ ยสญั ลักษณ์ A = B เซต A เทา่ กบั เซต B หมายถึง สมาชิกทกุ ตัวของเซต A เป็นสมาชกิ ของเซต B และสมาชกิ ทกุ ตัว ของเซต B เปน็ สมาชกิ ของเซต A เซต A ไม่เท่ากับเซต B หมายถงึ มสี มาชิกอยา่ งน้อยหน่งึ ตัวของเซต A ท่ไี ม่ใชส่ มาชกิ ของเซต B หรอื มสี มาชิกอย่างนอ้ ยหนึ่งตวั ของเซต B ทไ่ี ม่ใชส่ มาชกิ ของเซต A เขยี นแทนด้วย A  B เชน่ ให้ A = 1,2,3 และ B = 1,2 จะเห็นว่า 3  A แต่ 3  B ดงั นนั้ A  B ตัวอยา่ งที่ 1 ให้ A = 1,3,5,B = 3,5และ C = 5,1,3จงพจิ ารณาวา่ เซตใดบา้ งท่เี ท่ากนั และเซตใดบา้ งท่ีไม่เทา่ กนั วิธีทำ จะได้ A  B เพราะมสี มาชกิ ของเซต A คือ 1 ที่ไมเ่ ป็นสมาชกิ ของเซต B และ B  C เพราะมีสมาชิกของเซต C คอื 1 ท่ีไมเ่ ปน็ สมาชกิ ของเซต B แต่ A = C สมาชิกทกุ ตวั ของเซต A เป็นสมาชิกของเซต C และสมาชิกทุกตวั ของเซต C เป็นสมาชิกของเซต A ตวั อย่างท่ี 2 ให้ A = {x ∈ I/x2 − 6 + 9 = 0} และ B = {−3,2,3} จงพิจารณาว่าเซตข้างต้นเทา่ กันหรอื ไม่ วิธีทำ พจิ ารณา A จะได้ x2 − 6 + 9 = 0 (������ − 3)(������ − 3) = 0 จะได้ x = 3 ดงั นัน้ A = {3} จาก B = {−3,2,3} ดังนั้น A≠B 8.2.2 ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝกึ ทกั ษะที่ 3 เรอ่ื ง การเท่ากันของเซต เปน็ การบ้านเพื่อทดสอบความ เขา้ ใจของนกั เรียน ใน Classroom รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 เร่ือง 53 8.3 ข้นั สรุป 8.3.1 ครสู รปุ ความร้เู ก่ยี วกบั การเท่ากนั ของเซต และครูตอบคำถาม หรือแนะนำเพม่ิ เตมิ ในส่ิงท่ี นักเรยี นสงสยั 8.3.2 ครสู ่ง Link YouTube https://sites.google.com/site/anakineducation/set-set/kar- thea-kan-khxng-set เรื่อง การเทา่ กนั ของเซต ใหน้ ักเรยี นดเู พอ่ื เป็นการทบทวนใน Classroom 9. ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 ส่อื การเรียนรู้ 9.1.1 วงลอ้ สุม่ เลขท่ี 9.1.2 แบบฝกึ ทักษะที่ 3 เร่ือง การเทา่ กนั ของเซต 9.1.3 Google Meet และ Google Classroom 9.2 แหล่งการเรียนรู้ YouTube YouTube https://sites.google.com/site/anakineducation/set-set/kar-thea-kan- khxng-set เรือ่ ง การเท่ากนั ของเซต 10. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ ีการวัด เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นพุทธิพิสยั (Cognitive domain) แบบฝกึ ทกั ษะที่ 3 นกั เรยี นทำแบบฝึกทกั ษะ เรื่อง การเท่ากันของ ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 1) นกั เรยี นสามารถบอก ตรวจจาก แบบฝึก เซต ไดว้ ่าเซตสองเซตท่ี ทักษะท่ี 3 เร่ือง การเท่ากันของเซต รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง จดุ ประสงค์ วิธกี ารวัด เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมิน 54 กำหนดใหเ้ ป็นเซตเทา่ กนั หรอื ไม่ จุดประสงค์ วธิ ีการวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมนิ 2. ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) 1) นกั เรยี นมี ตรวจจาก แบบฝกึ แบบฝึกทกั ษะที่ 3 นกั เรยี นทำแบบฝึกทักษะ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 ความสามารถแกป้ ญั หา ทักษะที่ 3 เร่ือง เรอ่ื ง การเทา่ กันของ นกั เรียนมีระดับคะแนน 3 ขึ้นไป เรื่องการเทา่ กนั ของเซต การเทา่ กนั ของเซต เซต (คิดเป็นร้อยละ 60 ข้นึ ไป) ได้ 2) นักเรียนมี ความสามารถในการให้ เหตผุ ลการเท่ากันของ เซตได้ 3) นักเรียนมี ความสามารถสื่อ ความหมาย การใช้ สัญลกั ษณ์การเท่ากัน ของเซตได้ 3. ด้านจิตพสิ ยั (Affective domain) 1. นักเรียนเกิดความใฝ่ สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม เรียนรู้ มคี วามเพียร การเรยี น การเรียน พยายามในการเรยี น และให้ความสำคัญกับ การเขา้ รว่ มกิจกรรมการ เรยี นรู้ 2. นกั เรยี นเกดิ ความ ม่งุ มั่นในการทำงาน เอาใจใสใ่ นหน้าท่ที ี่ไดร้ ับ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรอ่ื ง จดุ ประสงค์ วิธกี ารวดั เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 55 มอบหมาย และมีความ รับผิดชอบในการทำงาน ให้สำเรจ็ แบบวเิ คราะห์การประเมนิ ผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย เน้ือหาการเรยี นร้ทู ่ตี อ้ งการวัด และความสอดคลอ้ งดา้ นพทุ ธิพสิ ยั ทักษะพิสัย และจติ พิสัย เนื้อหา ระดบั พฤตกิ รรม (ร้อยละ100) พฤตกิ รรมท่ตี ้องการวัด ระดับพฤตกิ รรม (รอ้ ยละ100) เทคนิค พุทธพิ ิสยั จิตพสิ ยั การประเมนิ ระดับพฤตกิ รรม (ร้อยละ100) (Cognitive domain) ทักษะพสิ ยั (Affective domain) 1. แบบฝกึ 1 2 3 4 5 รวม ทักษะ 1 2 3 4 5 6 รวม (Psychomotor domain) 2. แบบสงั เกต 10 10 10 10 10 50 พฤติกรรม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 10 10 10 10 10 50 ทางการเรยี น 3. แบบ 1. การเท่ากันของเซต 20 20 20 20 20 100 ประเมนิ การ ตอบคำถาม 1.1 ลกั ษณะของ 15 15 30 15 15 10 40 เซตที่เทา่ กนั 1.2 การเท่ากนั 10 10 25 5 20 70 10 20 25 5 60 ของเซต รวม 25 25 25 5 20 100 25 35 35 5 100 **หมายเหตุ : ความหมายของตารางวเิ คราะห์การประเมิน พุทธพิ ิสัย ทักษะพสิ ัย จติ พิสัย 1 = ความจำ 1 = การรบั รู้ 1 = การรับรูส้ ิง่ เร้า 2 = เข้าใจ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 3 = นำไปใช้ 3 = การตอบสนองตามคำชีแ้ นะ 3 = การสร้างคณุ คา่ 4 = วิเคราะห์ 4 = การสรา้ งกลไก 4 = การจดั ระบบคุณคา่ 5 = ประเมินคา่ 5 = การตอบสนองทีซ่ บั ซอ้ นข้ึน 5 = การสรา้ งลกั ษณะนสิ ยั รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 เร่ือง 6 = สร้างสรรค์ 6 = การดัดแปลงใหเ้ หมาะสม 7 = การริเร่ิมใหม่ 56 คำอธบิ ายประกอบการประเมิน ดา้ นพุทธิพิสัย (Cognitive domain) แบบบนั ทึกคะแนนแบบฝึกทักษะที่ 3 เรอ่ื ง การเทา่ กันของเซต รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 ค 31101 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 เลขที่ ชอ่ื – สกุล คะแนนเต็ม รอ้ ยละ สรุปผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 รวม รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เร่อื ง เฉลีย่ เกณฑ์การประเมนิ ทำแบบทดสอบได้ถูกต้อง ร้อยละ 60 ข้นึ ไปถือว่าผา่ นเกณฑ์ ลงช่ือ.....................................................ผู้ประเมนิ 57 (นางสาวธีรณี ติยะศิริ) วันท.่ี ............เดอื น.....................พ.ศ............ คำอธิบายประกอบการประเมิน ด้านทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) แบบประเมินกิจกรรม เรอ่ื ง เซตและสมาชกิ ของเซต ลำดับที่ ช่อื - สกลุ ระดับคะแนน สรปุ การประเมิน 43210 ผ่าน ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 ลงชื่อ.....................................................ผู้ประเมิน (นางสาวธรี ณี ติยะศริ ิ) วนั ท่.ี ............เดอื น.....................พ.ศ............ เกณฑก์ ารให้คะแนน : พจิ ารณาดงั ตารางตอ่ ไปน้ี ประเดน็ ทป่ี ระเมิน 4 3 ระดับคะแนน 1 0 มกี ารแก้ปญั หา ให้ สามารถแกป้ ัญหา ให้ สามารถแกป้ ญั หา 2 สามารถแกป้ ัญหา สามารถแกป้ ญั หา เหตุผล ส่ือความหมาย เหตผุ ล สือ่ ใหเ้ หตุผล สอ่ื ใหเ้ หตผุ ล สือ่ ใหเ้ หตผุ ล สอื่ เลอื กใชภ้ าษาและ ความหมาย เลือกใช้ ความหมาย สามารถแกป้ ัญหา ความหมาย เลือกใช้ ความหมาย สญั ลกั ษณ์ทาง ภาษาและสญั ลกั ษณ์ เลือกใช้ภาษาและ ให้เหตุผล สื่อ ภาษาและ เลอื กใชภ้ าษาและ คณติ ศาสตร์ทถ่ี ูกต้อง ทางคณิตศาสตร์ สญั ลกั ษณ์ทาง ความหมาย สญั ลักษณท์ าง สัญลกั ษณท์ าง สมบรู ณ์ ถกู ต้องสมบูรณ์ คณิตศาสตร์ถกู ต้อง เลอื กใช้ภาษาและ คณิตศาสตร์ถูกตอ้ ง คณิตศาสตร์ถกู ต้อง รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป สมบรู ณ์ สัญลกั ษณท์ าง สมบรู ณ์ สมบูรณ์ ร้อยละ 70 – 79 คณิตศาสตร์ถูกต้อง ร้อยละ 50 – 59 ต่ำกว่าร้อยละ 50 สมบรู ณ์ ร้อยละ 60 – 69 รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นักเรยี นมีระดับคะแนน 2 ข้ึนไป (คดิ เปน็ ร้อยละ 60 ขนึ้ ไป) 58 คำอธบิ ายประกอบการประเมิน ด้านจิตพิสยั (Affective domain) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียน คำชี้แจง : ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ทำการประเมนิ พฤติกรรมการเรียนของนักเรียน ตามเกณฑ์การประเมนิ แบบสังเกต พฤติกรรมการเรียน ลำดับท่ี ชื่อ - สกลุ ระดบั คะแนน สรปุ การประเมนิ 1 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไมผ่ ่าน 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชอ่ื .....................................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวธีรณี ติยะศริ ิ) วนั ท.่ี ............เดอื น.....................พ.ศ............ รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่ือง 59 เกณฑ์การประเมินพฤตกิ รรมการเรยี น : เกณฑ์การให้คะแนน : พิจารณาดงั ตารางต่อไปน้ี ประเดน็ ท่ี ระดบั คะแนน ประเมิน 54 3 2 10 1. นกั เรยี นเกดิ ความใฝ่เรียนรู้ มี 1. เข้าเรียนตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรียนตรงเวลา 1. เข้าเรียนตรงเวลา 1. เข้าเรียนตรงเวลา นักเรียน ความเพยี ร 2. แสดงความคดิ เห็น พยายามในการ 2. แสดงความคิดเหน็ 2. แสดงความคดิ เหน็ 3. ตอบคำถาม 2. แสดงความคดิ เห็น 2. แสดงความคิดเหน็ ไมส่ ามารถ เรยี น และให้ 4. ให้ความร่วมมือใน ความสำคญั กับการ 3. ตอบคำถาม 3. ตอบคำถาม กิจกรรม 3. ตอบคำถาม 3. ตอบคำถาม ปฏบิ ตั ิได/้ เข้ารว่ มกิจกรรม การเรยี นรู้ 4. ให้ความร่วมมอื 4. ใหค้ วามร่วมมอื นักเรยี น การเรยี นรู้ 4. ให้ความร่วมมือ 4. ใหค้ วามร่วมมอื ใน 5. มีความรับผดิ ชอบ ในกจิ กรรม ในกิจกรรม ไมป่ ฏบิ ัติ 2. นักเรียนเกิด การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ความมุง่ มัน่ ในการ ในกจิ กรรม กิจกรรม นักเรียนปฏบิ ัติ ทำงาน เอาใจใส่ ได้ 3 ข้อ ในหนา้ ทท่ี ไ่ี ด้รบั การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ มอบหมาย และมี ความรบั ผดิ ชอบใน 5. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 5. มีความรบั ผิดชอบ 5. มคี วามรับผิดชอบ 5. มีความรับผดิ ชอบ การทำงานให้ สำเรจ็ นกั เรยี นปฏบิ ัติ นักเรยี นปฏบิ ัติ นักเรียนปฏบิ ตั ิ นักเรยี นปฏบิ ตั ิ ได้ 5 ข้อ ได้ 4 ขอ้ ได้ 2 ขอ้ ได้ 1 ข้อ เกณฑ์การผา่ นการประเมิน : นกั เรยี นมีระดบั คะแนนเฉลีย่ 3 ข้นึ ไป (คิดเปน็ ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป) รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรื่อง 60 แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 ค 31101 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4 แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 3 เรื่อง การเท่ากันของเซต คำช้แี จง 1. ประเมนิ สมรรถนะสำคัญของนักเรยี นตามรายการประเมินและเกณฑ์การให้คะแนน แลว้ บันทึกคะแนน 2. สรปุ ผลการประเมนิ ในชอ่ งแปลผล รายการประเมนิ รวม คดิ เปน็ (12) ร้อยละ เลขท่ี ช่ือ – สกลุ การ การคิด การ การใช้ แปลผล ส่อื สาร (3) แก้ปัญหา เทคโนโลยี (3) (3) (3) 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ลงชือ่ .....................................................ผปู้ ระเมิน (นางสาวธรี ณี ติยะศริ ิ) รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง วันท.่ี ............เดอื น.....................พ.ศ............ ผลการประเมนิ นักเรียนได้คะแนน รอ้ ยละ 80 ขึน้ ไป ผ่านเกณฑ์ อย่ใู นระดับดีมาก ร้อยละ 70-79 ผ่านเกณฑ์ อยใู่ นระดบั ดี 61 รอ้ ยละ 60-69 ผ่านเกณฑ์ อยูใ่ นระดับพอใช้ 0 ไมแ่ สดง ต่ำกว่าร้อยละ 60 ไม่ผ่านเกณฑ์ ตอ้ งปรับปรุง พฤตกิ รรมใดๆ เกณฑ์การให้คะแนน ไมแ่ สดง พฤตกิ รรมใดๆ รายการประเมิน 3 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 21 ไมแ่ สดง พฤตกิ รรมใดๆ 1. ความสามารถในการ แสดงพฤตกิ รรม แสดงพฤติกรรม แสดงพฤติกรรม ไมแ่ สดง สื่อสาร ครบ 3 ขอ้ ขาดขอ้ ใดข้อหนง่ึ เพียง 1 ขอ้ พฤติกรรมใดๆ 1.1 เลอื กใชภ้ าษา วิธกี ารใน หรือแสดง การรับ-ส่งสารที่เหมาะสม พฤตกิ รรม 1.2 รับ-สง่ สาร โดยคำนึงถึง เพยี ง 2 ข้อ ผลกระทบต่อตนเองและผ้อู น่ื 1.3 แสดงพฤติกรรมท่เี หมาะสม ขณะรบั -ส่งสาร 2. ความสามารถในการคิด แสดงพฤตกิ รรม แสดงพฤติกรรม แสดงพฤติกรรม 2.1 วเิ คราะห์ แยกแยะ ครบ 3 ข้อ ขาดขอ้ ใดข้อหนึ่ง เพียง 1 ข้อ สว่ นประกอบถกู ตอ้ ง หรือแสดง 2.2 แสดงเหตุผลและอธบิ าย พฤตกิ รรม รายละเอยี ด ถกู ต้อง เพียง 2 ขอ้ 2.3 สรา้ งองค์ความรูถ้ ูกตอ้ ง 3. ความสามารถในการ แสดงพฤติกรรม แสดงพฤติกรรม แสดงพฤตกิ รรม แกป้ ัญหา ครบ 3 ข้อ ขาดขอ้ ใดขอ้ หนึ่ง เพียง 1 ขอ้ 3.1 แกป้ ญั หาโดยใช้เหตผุ ล หรอื แสดง 3.2 แสดงหาความรมู้ าใชใ้ นการ พฤตกิ รรม แกป้ ญั หา เพียง 2 ขอ้ 3.3 แก้ปัญหาโดยคำนึงถึง ผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ่นื 4. ความสามารถในการใช้ แสดงพฤติกรรม แสดงพฤติกรรม แสดงพฤติกรรม เทคโนโลยี ครบ 3 ขอ้ ขาดขอ้ ใดขอ้ หนึง่ เพยี ง 1 ข้อ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรอื่ ง 4.1 แสดงการใช้เทคโนโลยี หรอื แสดง อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม พฤติกรรม 4.2 ใช้เทคโนโลยีสำหรับ เพยี ง 2 ข้อ แก้ปญั หาอย่างสร้างสรรค์ 4.3 มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมใน 62 การใชเ้ ทคโนโลยี 11. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ได้ตรวจแผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรอื่ ง การเทา่ กันของเซต กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 มคี วามคดิ เห็นว่า 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ช้ีวดั สอดคลอ้ ง ไมส่ อดคล้อง 3. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรทู้ ี่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญมาใช้อยา่ งเหมาะสม ไม่ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรู้ท่ีเน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ 4. การใชส้ อ่ื การเรียนรู้และแหลง่ เรยี นรู้ มีความหลากหลาย เหมาะสม และสง่ เสรมิ การเรยี นร้ขู องผูเ้ รยี น ไมส่ ง่ เสริมการเรียนรู้ของผ้เู รียน 5. การวดั ผลและประเมนิ ผล สอดคล้องกับจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรยี นรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรยี นรู้ไปใช้ นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ ................................................................................................... ................................................................................. .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................. รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรื่อง ................................................................................................... ................................................................................. ลงชื่อ................................................... (นางสมจิตต์ มาฆะสทิ ธิ์) 63 หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์ วันท.่ี ............. เดอื น.................... พ.ศ. ............... 12. ความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะของผบู้ ริหาร ไดต้ รวจแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง การเท่ากันของเซต กลมุ่ สาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 มีความคดิ เห็นวา่ 1. คุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. ความสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วัด สอดคล้อง ไม่สอดคล้อง 3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรูท้ เ่ี นน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญมาใช้อย่างเหมาะสม ไม่ไดน้ ำกระบวนการเรียนรู้ทเี่ น้นผู้เรยี นเปน็ สำคญั มาใช้ 4. การใช้ส่ือการเรียนรู้และแหลง่ เรียนรู้ มีความหลากหลาย เหมาะสม และสง่ เสริมการเรยี นรขู้ องผ้เู รยี น ไมส่ ง่ เสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน 5. การวดั ผลและประเมนิ ผล สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 6. การนำแผนการจัดการเรียนรไู้ ปใช้ นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้ ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ................................................................................................... ................................................................................. .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................. รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรื่อง ................................................................................................... ................................................................................. ลงชื่อ................................................... 64 (นางสมชั ญา ผุดผ่อง) ตำแหนง่ รองผู้อำนวยการกลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ วันท่.ี ............. เดอื น.................... พ.ศ. ............... บันทึกผลหลังการจัดการเรยี นรู้ 1. ผลการจัดการเรยี นรู้ ดา้ นพุทธิพิสยั (Cognitive domain) จำนวนนักเรยี นที่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ................... คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ............................................. จำนวนนักเรียนที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมิน ................ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............................................. อื่น ๆ ………………………………………………………………………………………………….……………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ดา้ นทักษะพสิ ยั (Psychomotor domain) จำนวนนักเรยี นทผี่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ................... คน คดิ เป็นร้อยละ ............................................. จำนวนนกั เรียนที่ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ................ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ............................................. อน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………….……………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ดา้ นจิตพิสัย (Affective domain) จำนวนนักเรียนท่ผี า่ นเกณฑ์การประเมิน ................... คน คิดเป็นร้อยละ ............................................. จำนวนนักเรียนท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ................ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............................................. อ่นื ๆ ……………………………………………………………………………………………………………………..…………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (Competencies of learners) จำนวนนักเรยี นที่ผา่ นเกณฑ์การประเมิน ................... คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............................................. จำนวนนกั เรยี นท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมิน ................ คน คดิ เป็นร้อยละ ............................................. อื่น ๆ ……………………………………………………………………………………………………………………..…………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. ปัญหา / อุปสรรค รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………6.5. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงชื่อ...................................................ผ้สู อน (นางสาวธรี ณี ติยะศริ )ิ ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ วนั ที่.............. เดือน.................... พ.ศ. ............... รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง 66 โรงเรียนวังจันทร์วิทยา ชอ่ื – สกุล…………………………………………………......………….…………………....…………ชน้ั …………….เลขที่ …………….. แบบฝึกทกั ษะที่ 3 คณิตศาสตร์ 1 ค 31101 เรื่อง การเท่ากนั ของเซต ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 1.จงพสิ ูจน์วา่ เซตตอ่ ไปน้เี ทา่ กนั หรือไม่ (ข้อละ 2 คะแนน) 1.1 A = x I 6 < x < 10 B = 6, 7, 8, 9 ............................................................................................................................. ........ ...................................................................................................................... ............... 1.2 A = x N x < 6 B = x  I x < 6 ............................................................................................................................. ........ ...................................................................................................................... ............... 1.3 A = x P x < 5 B = x  I x 2 - 5x + 6 = 0 ............................................................................................................................. ........ ..................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........ 1.4 A = { x x เปน็ จำนวนเต็มลบท่ีมากกวา่ -3 } B = { x  I x 2 + 3x + 2 = 0 } รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง ............................................................................................................................. ........ 67 ............................................................................................................................. ........ ....................................................................................................................... .............. 1.5 A = เซตของพยัญชนะในคำวา่ “กรรมการ” B = เซตของพยญั ชนะในคำว่า “กรรมกร” ............................................................................................................................. ........ ..................................................................................................................................... โรงเรยี นวังจันทร์วิทยา ชื่อ – สกลุ …………………………………………………......…เฉ…ล…ย….…………………....…………ชนั้ …………….เลขท่ี …………….. แบบฝึกทักษะท่ี 3 คณติ ศาสตร์ 1 ค 31101 เรอ่ื ง การเทา่ กันของเซต ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 1.จงพิสจู นว์ ่าเซตต่อไปนเ้ี ทา่ กันหรอื ไม่ (ขอ้ ละ 2 คะแนน) 1.1 A = x I 6 < x < 10 B = 6, 7, 8, 9 A = 7, 8, 9 ดังนั้น A  B 1.2 A = x N x < 6 B = x  I x < 6 A = 1, 2, 3, 4, 5 B = ..., 1, 2, 3, 4, 5 ดงั นัน้ A  B 1.3 A = x P x < 5 B = x  I x 2 - 5x + 6 = 0 A = 2, 3 B = x  I x 2 - 5x + 6 = 0 x 2 - 5x + 6 = 0 (x - 2)(x - 3) = 0 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง x – 2 = 0 หรอื x – 3 = 0 x=2 x=3 B = 2, 3 ดงั น้นั A = B 68 1.4 A = { x x เปน็ จำนวนเต็มลบที่มากกวา่ -3 } B = { x  I x 2 + 3x + 2 = 0 } A = {-2, -1} B = { x  I x 2 + 3x + 2 = 0 } x 2 + 3x + 2 = 0 (x + 1)(x + 2) = 0 x + 1 = 0 หรอื x + 2 = 0 x = -1 x = -2 B = {-2, -1} ดังนน้ั A = B 1.5 A = เซตของพยัญชนะในคำว่า “กรรมการ” B = เซตของพยัญชนะในคำว่า “กรรมกร” A = {ก,ร,ม} B = {ก,ร,ม} ดังนัน้ A = B รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง 69 แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 4 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค 31101 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง เซต เวลา 10 ช่วั โมง เร่ือง สับเซตและเพาเวอร์เซต เวลา 1 ชั่วโมง สอนวนั ที่ 9 เดอื น มถิ นุ ายน พ.ศ. 2564 ผสู้ อน นางสาวธีรณี ติยะศริ ิ 1. มาตรฐานและผลการเรียนรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.1 เข้าใจและวเิ คราะหแ์ บบรูป (pattern) ความสมั พนั ธ์ และฟงั กช์ ัน ตัวชวี้ ัด มฐ. ค 1.1 ม. 4/1 มีความคิดรวบยอดในเร่อื งเซตและการดำเนินการของเซต 2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด สับเซต คือ เซตซ่งึ สมาชกิ ทกุ ตัวของเซตนั้นเปน็ สมาชกิ ของเซตอกี เซตหนึ่ง หรืออาจกลา่ ววา่ เซต A เป็น สับเซตของเซต B ก็ตอ่ เมือ่ สมาชกิ ทุกตัวของเซต A เป็นสมาชิกของเซต B เพาเวอร์เซต คือเซตของสบั เซตท้ังหมดของเซตใดๆ เพาเวอรเ์ ซตของเซต A เขียนแทนด้วย P(A) เพาเวอรเ์ ซตสามารถเขยี นในรูปบอกเงื่อนไข ดังน้ี ������(������) = {������|������ ⊂ ������} 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 ดา้ นพุทธพิ สิ ัย (Cognitive domain) รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง 3.1.1 นกั เรียนสามารถบอกไดว้ า่ เซต A เป็นสบั เซตของเซต B หรือไม่ เม่ือกำหนดเซต A และ B ให้ 3.1.2 นักเรยี นสามารถบอกได้ว่าสบั เซตของเซต A มีอะไรบา้ ง เม่ือกำหนดเซต A ให้ 3.1.3 นกั เรียนสามารถบอกได้วา่ เพาเวอรเ์ ซตของเซต A มอี ะไรบ้าง เมื่อกำหนดเซต A ให้ 3.2 ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) 3.2.1 นักเรียนมคี วามสามารถแกป้ ัญหาเร่ือง สบั เซตและเพาเวอรเ์ ซตได้ 3.2.2 นกั เรยี นมีความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลในการหา สับเซตและเพาเวอรเ์ ซตได้ 3.2.3 นกั เรียนมีความสามารถสือ่ ความหมาย การใชส้ ญั ลักษณ์สับเซตและเพาเวอรเ์ ซตได้ 70 3.3 ดา้ นจิตพิสยั (Affective domain) 3.3.1 นักเรียนเกิดความใฝ่เรียนรู้ มีความเพียรพยายามในการเรียน และให้ความสำคัญกับการเข้า รว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ 3.3.2 นักเรียนเกิดความมุ่งม่ันในการทำงาน เอาใจใส่ในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และมีความ รับผดิ ชอบในการทำงานให้สำเรจ็ 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 สบั เซต 4.2 เพาเวอรเ์ ซต 5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 5.1 ความสามารถในการส่ือสาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา 5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.1 ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 6.2 มีวนิ ยั 6.3 ใฝเ่ รียนรู้ 7. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน ( หลกั ฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้ ) 7.1 แบบฝึกทกั ษะท่ี 4 เร่ือง สับเซตและเพาเวอรเ์ ซต รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 เร่ือง 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 8.1 ขน้ั นำ 8.1.1 ครสู ่งลงิ กโ์ ปรแกรม Google Meet ใหน้ กั เรยี น เพ่อื ใช้ในการเรยี นการสอนแบบออนไลน์ 8.1.2 ครกู ลา่ วทกั ทายนกั เรียน แนะนำตัว เช็คชื่อ 8.1.3 ครูกระตนุ้ ความสนใจในการเรยี นโดยให้นักเรียนเลน่ เกม 24 ออนไลน์ โดยถ้าใครตอบถูกจะได้ คะแนน เปน็ รางวลั 71 8.2 ขัน้ สอน 8.2.1 ครูอธบิ ายวา่ สับเซต คือ เซตซึ่งสมาชกิ ทุกตัวของเซตน้ันเป็นสมาชิกของเซตอีกเซตหน่งึ หรืออาจกลา่ ววา่ เซต A เป็นสับเซตของเซต B กต็ ่อเมื่อ สมาชิกทุกตวั ของเซต A เปน็ สมาชิกของเซต B เรียกว่า เซต A เป็นสับเซตของเซต B เขยี นแทนด้วย A  B พรอ้ มยกตวั อยา่ ง เซต A ไม่เป็นสบั เซตของเซต B กต็ อ่ เมื่อ มีสมาชิกบางตวั ของเซต A ที่ไม่เปน็ สมาชกิ ของเซต B เรยี กวา่ เซต A ไม่เปน็ สบั เซตของเซต B เขียนแทนด้วย A  B พร้อมยกตวั อย่าง ตัวอยา่ งท่ี 1 ให้ A = 1,B = 0,1,2, C = 3,4,5,6 และ D = 0,1,2,3,4,5 จงพจิ ารณาวา่ เซตคใู่ ดบ้างทเี่ ป็นสับเซตกัน วธิ ีทำ จะได้วา่ A  B เพราะสมาชิกทัง้ หมดของเซต A หรอื 1 เปน็ สมาชิกของเซต B A  D เพราะสมาชกิ ท้ังหมดของเซต A เป็นสมาชกิ ของเซต D B  D เพราะสมาชกิ ทั้งหมดของเซต B เปน็ สมาชิกของเซต D รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เรอื่ ง ตัวอย่างท่ี 2 ให้ X = a,b,c และ Y = c,a,bจงพจิ ารณาวา่ เซตดงั กลา่ วเป็นสบั เซตกนั หรือไม่ 72 วธิ ที ำ จะเหน็ ว่า สมาชิกท้ังหมดของเซต X เป็นสมาชิกของเซต Y หรอื X  Y และ สมาชิกท้งั หมดของเซต Y เป็นสมาชิกของเซต X หรือ Y  X จะสงั เกตได้ว่า X = Y จากการสังเกต ถ้า A  B แลว้ สมาชกิ ทุกตวั ของเซต A เปน็ สมาชิกของเซต B และ ถา้ B  A แล้วสมาชิกทุกตัวของเซต B เปน็ สมาชิกของเซต A เมอ่ื พิจารณาเซต A และเซต B แลว้ พบว่า A  B ในขณะเดียวกนั B  A จะได้วา่ A = B นน่ั คือ ถา้ A  B และ B  A แลว้ A = B ในทางตรงกันขา้ ม เมอื่ พิจารณาเซต A และเซต B เมื่อ A = B จะได้ว่าสมาชกิ ทกุ ตัวของเซต A เปน็ สมาชกิ ของเซต B นน่ั คือ A  B และสมาชกิ ทุกตัวของเซต B เปน็ สมาชกิ ของเซต A นนั่ คือ B  A ทำใหไ้ ดว้ ่า ถ้า A = B แลว้ A  B และ B  A ดังนน้ั จึงได้ขอ้ สรุปว่า A  B และ B  A กต็ อ่ เม่ือ A = B ตวั อยา่ งท่ี 3 กำหนดให้ A = 1,2,3จงหาสับเซตทีเ่ ป็นไปได้ทง้ั หมดของเซต A วธิ ีทำ สบั เซตทเี่ ป็นไปไดท้ งั้ หมดของเซต A คือเซตทงั้ หมดที่มสี มาชกิ เป็นสมาชิกของเซต A ไดแ้ ก่ 1) 1 2) 2 3) 3 4) 1,2 5) 1,3 6) 2,3 *7) 1,2,3หรือ A **8)  สับเซตแทค้ ือ สับเซตทั้งหมดท่ีไมใ่ ชต่ วั มันเอง มี 2n – 1 สับเซต (เซตว่างไมม่ ีสับเซตแท้) คณุ สมบตั ทิ สี่ ำคัญเก่ียวกับสับเซต ➢   A เม่อื A เปน็ เซตใดๆ (เซตวา่ งเป็นสับเซตของเซตทุกเซต) ➢ A  A เมอ่ื A เปน็ เซตใดๆ (เซตทุกเซตเป็นสับเซตของตวั มันเอง) ➢ ถา้ A มีสมาชิก n ตวั แลว้ A มี 2n สบั เซต ➢ ถา้ A มสี มาชกิ n ตวั แล้ว A มีสบั เซตแท้ 2n -1 สบั เซต รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 เร่อื ง ➢ ถา้ A  B และ B  C แล้ว A  C ➢ เซตว่างมีสับเซตเพียง 1 สับเซต คือ เซตว่าง 8.2.2 ครอู ธิบายวา่ เพาเวอรเ์ ซต คอื เซตของสับเซตท้งั หมดของเซตใดๆ เพาเวอรเ์ ซตของเซต A เขียนแทนดว้ ย P(A) เพาเวอร์เซตสามารถเขยี นในรูปบอกเงื่อนไข ดังนี้ ������(������) = {������|������ ⊂ ������} หรือพูดงา่ ยๆ คือการนำสบั เซตทัง้ หมดมาใส่เซต ตัวอย่างท่ี 1 ให้ ������ = {1,2,3} จงหาเพาเวอร์เซตของเซต A วธิ ีทำ เพาเวอร์เซตของเซต A คือ ������(������) = {{1}, {2}, {3}, {1,2}, {1,3}, {2,3}, {1,2,3}, ∅} 73 ตวั อยา่ งที่ 2 ให้ ������ = {������, ������, ������} จงหาเพาเวอร์เซตของเซต T วิธที ำ เพาเวอร์เซตของเซต T คอื ������(������) = {{������}, {������}, {������}, {������, ������}, {������, ������}, {������, ������}, {������, ������, ������}, ∅} คณุ สมบตั ทิ ี่สำคญั เกี่ยวกับเพาเวอรเ์ ซต ➢ ������(������) ≠ ∅ เพาเวอร์เซตของเซตใดๆ ไมเ่ ท่ากับเซตวา่ ง ➢ ������ ∈ ������(������) เซตใดๆ เป็นสมาชกิ ของเพาเวอรเ์ ซตของเซตนัน้ ➢ ∅ ∈ ������(������) เซตว่างเป็นสมาชกิ ของเพาเวอร์เซต ➢ ถา้ A มสี มาชกิ n ตัว แล้ว P(A) มีสมาชิก 2n ตวั ➢ ������ ⊂ ������ กต็ อ่ เม่ือ ������(������) ⊂ ������(������) ➢ A เปน็ สับเซตของ B ก็ตอ่ เมื่อ เพาเวอรเ์ ซตของ A เป็นสับเซตของเพาเวอรเ์ ซตของ B ถ้า A เปน็ เซตอนันต์ แล้ว P(A) เปน็ เซตอนนั ต์ดว้ ย 8.2.3 ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝึกทกั ษะที่ 4 เรอ่ื ง สับเซตและเพาเวอรเ์ ซต 8.3 ขนั้ สรปุ 8.3.1 ครสู รุปความรเู้ กี่ยวกับสบั เซตและเพาเวอรเ์ ซต และครตู อบคำถาม หรือแนะนำเพิ่มเติมในสงิ่ ที่ นกั เรยี นสงสัย 8.3.2 ครูสง่ Link https://www.youtube.com/watch เร่ือง สับเซตและเพาเวอร์เซต ใหน้ ักเรียนดู เพ่อื เป็นการทบทวนใน Classroom รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง 9. สื่อการเรียนรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 74 9.1 สื่อการเรียนรู้ 9.1.1 เกม 24 ออนไลน์ 9.1.2 แบบฝึกทกั ษะท่ี 4 เรื่อง สับเซตและเพาเวอรเ์ ซต 9.1.3 Google Meet และ Google Classroom 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ YouTube https://www.youtube.com/watch เรื่อง สับเซตและเพาเวอร์เซตเรอ่ื ง 10. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ ีการวัด เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ด้านพุทธพิ ิสัย (Cognitive domain) 1) นกั เรยี นสามารถบอก ตรวจจาก แบบฝึกทกั ษะท่ี 4 เร่อื ง นกั เรียนทำแบบฝึกทักษะ ไดว้ ่าเซต A เปน็ สบั เซต แบบฝกึ ทักษะที่ 4 สับเซตและเพาเวอรเ์ ซต ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 ของเซต B หรือไม่ เมื่อ เรอ่ื ง สับเซตและ กำหนดเซต A และ B เพาเวอร์เซต ให้2) นกั เรยี นสามารถ บอกไดว้ ่าสบั เซตของเซต A มีอะไรบา้ ง เมอ่ื กำหนดเซต A ให้ 3) นกั เรยี นสามารถ บอกได้ว่าเพาเวอรเ์ ซต ของเซต A มอี ะไรบา้ ง เมื่อกำหนดเซต A ให้ 2. ด้านทกั ษะพิสยั (Psychomotor domain) 1) นักเรยี นสามารถ ตรวจจาก แบบฝกึ ทักษะท่ี 4 เร่ือง นักเรยี นทำแบบฝึกทกั ษะ แก้ปัญหาเร่ืองเซตและ แบบฝึกทักษะท่ี 4 สับเซตและเพาเวอร์เซต ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่ือง จดุ ประสงค์ วิธกี ารวดั เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ การเขียนเซตได้ เร่อื ง สับเซตและ 2) นักเรียนสามารถให้ เพาเวอรเ์ ซต เหตุผลเกีย่ วกับการเขยี น เซตได้ 3) นักเรียนสามารถสอื่ ความหมายของ สญั ลักษณ์ตา่ งๆได้ 75 จุดประสงค์ วธิ ีการวดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ 3. ด้านจติ พสิ ัย (Affective domain) 1. นกั เรยี นเกดิ ความใฝ่ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นมีระดับคะแนน 3 ขึ้นไป การเรยี น (คดิ เปน็ ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป) เรียนรู้ มคี วามเพยี ร การเรียน พยายามในการเรยี น และให้ความสำคญั กับ การเขา้ ร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ 2. นักเรียนเกิดความ มุง่ มัน่ ในการทำงาน เอาใจใส่ในหน้าท่ีที่ไดร้ ับ มอบหมาย และมีความ รับผิดชอบในการทำงาน ใหส้ ำเร็จ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เร่อื ง 76 แบบวิเคราะห์การประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย เนื้อหาการเรยี นรทู้ ่ีตอ้ งการวดั และความสอดคล้องด้านพทุ ธิพิสัย ทักษะพิสัย และจติ พสิ ยั เนือ้ หา ระดบั พฤตกิ รรม (รอ้ ยละ100) พฤตกิ รรมทีต่ ้องการวัด ระดบั พฤติกรรม (รอ้ ยละ100) เทคนคิ พทุ ธพิ ิสยั จติ พสิ ัย การประเมนิ ระดบั พฤติกรรม (รอ้ ยละ100) (Cognitive domain) ทักษะพสิ ยั (Affective domain) 1. แบบฝกึ 1 2 3 4 5 รวม ทักษะ 1 2 3 4 5 6 รวม (Psychomotor domain) 2. แบบสังเกต 10 10 10 10 10 50 พฤตกิ รรม 1 2 3 4 5 6 7 รวม 10 10 10 10 10 50 ทางการเรยี น 3. แบบ 1. สบั เซตและเพาเวอร์เซต 20 20 20 20 20 100 ประเมินการ ตอบคำถาม 1.1 สบั เซต 5 15 20 10 10 60 15 15 10 10 10 60 5 15 10 5 5 40 1.2 เพาเวอรเ์ ซต 5 10 15 5 5 40 รวม 10 25 35 15 15 100 20 30 20 15 15 100 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เรอื่ ง **หมายเหตุ : ความหมายของตารางวิเคราะห์การประเมิน พุทธิพสิ ยั ทกั ษะพิสยั จิตพิสัย 1 = ความจำ 1 = การรบั รู้ 1 = การรบั รสู้ ่ิงเร้า 2 = เขา้ ใจ 2 = การตระเตรยี ม 2 = การตอบสนอง 3 = นำไปใช้ 3 = การตอบสนองตามคำช้ีแนะ 3 = การสร้างคณุ ค่า 4 = วเิ คราะห์ 4 = การสร้างกลไก 4 = การจัดระบบคณุ คา่ 5 = ประเมนิ ค่า 5 = การตอบสนองทีซ่ ับซอ้ นขึ้น 5 = การสรา้ งลักษณะนสิ ยั 6 = สรา้ งสรรค์ 6 = การดัดแปลงให้เหมาะสม 7 = การรเิ ร่ิมใหม่ 77 คำอธิบายประกอบการประเมนิ ด้านพทุ ธิพิสัย (Cognitive domain) แบบบนั ทกึ คะแนนแบบฝึกทักษะที่ 4 เรื่อง สบั เซตและเพาเวอร์เซต รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 ค 31101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เลขท่ี ชอ่ื – สกุล คะแนนเต็ม ร้อยละ สรปุ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผา่ น ไม่ผ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรอื่ ง 11 12 13 14 15 รวม เฉลยี่ เกณฑก์ ารประเมนิ ทำแบบทดสอบได้ถูกต้อง ร้อยละ 60 ขึ้นไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์ ลงช่ือ.....................................................ผู้ประเมิน 78 (นางสาวธีรณี ติยะศริ ิ) วนั ที.่ ............เดือน.....................พ.ศ............ คำอธิบายประกอบการประเมิน ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (Psychomotor domain) แบบประเมินกจิ กรรม เรอ่ื ง สับเซตและเพาเวอรเ์ ซต ลำดับที่ ชอ่ื - สกุล ระดบั คะแนน สรปุ การประเมิน 43210 ผ่าน ไมผ่ ่าน 1 2 3 4 5 ลงช่อื .....................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวธรี ณี ติยะศิริ) วันท่ี.............เดือน.....................พ.ศ............ เกณฑ์การใหค้ ะแนน : พจิ ารณาดังตารางตอ่ ไปน้ี ประเดน็ ทีป่ ระเมนิ 4 3 ระดบั คะแนน 1 0 2 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง มีการแกป้ ญั หา ให้ สามารถแกป้ ัญหา ให้ สามารถแกป้ ญั หา สามารถแกป้ ญั หา สามารถแกป้ ญั หา สามารถแกป้ ัญหา เหตุผล ส่อื ความหมาย เหตุผล สือ่ ให้เหตุผล ส่อื ให้เหตผุ ล สื่อ ใหเ้ หตผุ ล สอื่ ใหเ้ หตผุ ล สือ่ เลือกใช้ภาษาและ ความหมาย เลือกใช้ ความหมาย ความหมาย ความหมาย เลอื กใช้ ความหมาย สัญลักษณ์ทาง ภาษาและสญั ลกั ษณ์ เลือกใชภ้ าษาและ เลอื กใช้ภาษาและ ภาษาและ เลอื กใชภ้ าษาและ คณติ ศาสตร์ท่ถี ูกต้อง ทางคณิตศาสตร์ สญั ลักษณ์ทาง สัญลักษณท์ าง สญั ลักษณท์ าง สัญลกั ษณ์ทาง สมบูรณ์ ถูกตอ้ งสมบูรณ์ คณิตศาสตร์ถูกต้อง คณติ ศาสตร์ถกู ต้อง คณติ ศาสตร์ถูกตอ้ ง คณิตศาสตร์ถูกต้อง ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ สมบูรณ์ สมบูรณ์ ร้อยละ 70 – 79 รอ้ ยละ 60 – 69 ร้อยละ 50 – 59 ต่ำกว่ารอ้ ยละ 50 เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นักเรียนมีระดับคะแนน 2 ขึ้นไป (คดิ เป็นร้อยละ 60 ขึ้นไป) 79 คำอธบิ ายประกอบการประเมนิ ด้านจติ พสิ ัย (Affective domain) แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรยี น คำช้ีแจง : ให้ผู้ประเมินทำการประเมินพฤติกรรมการเรียนของนักเรียน ตามเกณฑ์การประเมินแบบสงั เกต พฤติกรรมการเรียน ลำดับท่ี ช่ือ - สกลุ ระดับคะแนน สรปุ การประเมนิ 1 5 4 3 2 1 0 ผ่าน ไม่ผา่ น 2 3 4 5 6 7 8 9 10 รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรอื่ ง ลงชอื่ .....................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวธรี ณี ตยิ ะศริ ิ) วันที่.............เดือน.....................พ.ศ............ 80 เกณฑก์ ารประเมินพฤติกรรมการเรียน : เกณฑ์การให้คะแนน : พิจารณาดังตารางต่อไปนี้ ประเดน็ ที่ ระดบั คะแนน ประเมนิ 54 3 2 10 1. นักเรยี นเกิด ความใฝ่เรียนรู้ มี 1. เข้าเรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรยี นตรงเวลา 1. เขา้ เรียนตรงเวลา 1. เข้าเรียนตรงเวลา 1. เขา้ เรียนตรงเวลา นักเรียน ความเพียร 2. แสดงความคดิ เห็น พยายามในการ 2. แสดงความคดิ เห็น 2. แสดงความคิดเหน็ 3. ตอบคำถาม 2. แสดงความคดิ เห็น 2. แสดงความคดิ เห็น ไมส่ ามารถ เรียน และให้ 4. ให้ความรว่ มมือใน ความสำคญั กับการ 3. ตอบคำถาม 3. ตอบคำถาม กจิ กรรม 3. ตอบคำถาม 3. ตอบคำถาม ปฏิบตั ิได/้ เข้ารว่ มกิจกรรม การเรยี นรู้ 4. ให้ความร่วมมือ 4. ใหค้ วามร่วมมอื นกั เรียน การเรยี นรู้ 4. ให้ความรว่ มมือ 4. ใหค้ วามร่วมมอื ใน 5. มคี วามรับผดิ ชอบ ในกิจกรรม ในกจิ กรรม ไมป่ ฏบิ ตั ิ 2. นักเรยี นเกิด การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ความมงุ่ มน่ั ในการ ในกิจกรรม กิจกรรม นักเรยี นปฏบิ ตั ิ ทำงาน เอาใจใส่ ได้ 3 ขอ้ ในหน้าทีท่ ีไ่ ดร้ บั การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ มอบหมาย และมี ความรบั ผิดชอบใน 5. มีความรบั ผิดชอบ 5. มีความรับผิดชอบ 5. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 5. มีความรบั ผิดชอบ การทำงานให้ สำเรจ็ นักเรยี นปฏบิ ัติ นกั เรยี นปฏบิ ัติ นักเรียนปฏบิ ตั ิ นักเรียนปฏบิ ตั ิ ได้ 5 ข้อ ได้ 4 ข้อ ได้ 2 ขอ้ ได้ 1 ข้อ รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรอื่ ง เกณฑ์การผา่ นการประเมนิ : นักเรียนมีระดบั คะแนนเฉล่ีย 3 ขึ้นไป (คิดเป็นร้อยละ 60 ข้ึนไป) 81 แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น รายวิชาคณิตศาสตร์ 1 ค 31101 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง สบั เซตและเพาเวอร์เซต คำชแี้ จง 1. ประเมินสมรรถนะสำคญั ของนักเรียนตามรายการประเมินและเกณฑ์การใหค้ ะแนน แลว้ บันทกึ คะแนน 2. สรปุ ผลการประเมิน ในช่องแปลผล รายการประเมนิ รวม คิดเป็น (12) ร้อยละ เลขท่ี ชือ่ – สกุล การ การคดิ การ การใช้ แปลผล สอ่ื สาร (3) แกป้ ัญหา เทคโนโลยี (3) (3) (3) 1 2 3 4 5 6 7 8 รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรื่อง 9 10 ลงชอื่ .....................................................ผู้ประเมนิ (นางสาวธรี ณี ติยะศิริ) วันท่ี.............เดือน.....................พ.ศ............ ผลการประเมนิ นกั เรียนได้คะแนน ร้อยละ 80 ข้ึนไป ผา่ นเกณฑ์ อยใู่ นระดบั ดีมาก รอ้ ยละ 70-79 ผ่านเกณฑ์ อยู่ในระดบั ดี 82 ร้อยละ 60-69 ผ่านเกณฑ์ อยู่ในระดบั พอใช้ 0 ไมแ่ สดง ตำ่ กวา่ รอ้ ยละ 60 ไมผ่ า่ นเกณฑ์ ต้องปรับปรงุ พฤติกรรมใดๆ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ไม่แสดง พฤติกรรมใดๆ รายการประเมนิ 3 เกณฑก์ ารให้คะแนน 21 ไม่แสดง พฤติกรรมใดๆ 1. ความสามารถในการ แสดงพฤตกิ รรม แสดงพฤตกิ รรม แสดงพฤติกรรม สอื่ สาร ครบ 3 ขอ้ ขาดขอ้ ใดขอ้ หนง่ึ เพยี ง 1 ขอ้ 1.1 เลอื กใชภ้ าษา วธิ ีการใน หรอื แสดง การรบั -ส่งสารทเ่ี หมาะสม พฤติกรรม 1.2 รบั -ส่งสาร โดยคำนึงถงึ เพยี ง 2 ขอ้ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผ้อู นื่ 1.3 แสดงพฤตกิ รรมท่ีเหมาะสม ขณะรบั -ส่งสาร 2. ความสามารถในการคดิ แสดงพฤติกรรม แสดงพฤตกิ รรม แสดงพฤตกิ รรม 2.1 วิเคราะห์ แยกแยะ ครบ 3 ข้อ ขาดข้อใดข้อหน่งึ เพยี ง 1 ข้อ ส่วนประกอบถกู ต้อง หรอื แสดง 2.2 แสดงเหตุผลและอธบิ าย พฤติกรรม รายละเอียด ถูกตอ้ ง เพียง 2 ข้อ 2.3 สรา้ งองค์ความรถู้ ูกตอ้ ง 3. ความสามารถในการ แสดงพฤติกรรม แสดงพฤติกรรม แสดงพฤตกิ รรม แก้ปญั หา ครบ 3 ข้อ ขาดขอ้ ใดข้อหนึง่ เพียง 1 ข้อ 3.1 แก้ปัญหาโดยใชเ้ หตผุ ล หรอื แสดง รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง 3.2 แสดงหาความรูม้ าใชใ้ นการ แสดงพฤติกรรม พฤติกรรม แสดงพฤตกิ รรม ไม่แสดง แก้ปัญหา ครบ 3 ข้อ เพียง 2 ข้อ เพยี ง 1 ขอ้ พฤตกิ รรมใดๆ 3.3 แก้ปัญหาโดยคำนงึ ถึง ผลกระทบตอ่ ตนเองและผ้อู ื่น แสดงพฤติกรรม 83 4. ความสามารถในการใช้ ขาดขอ้ ใดขอ้ หนึง่ เทคโนโลยี 4.1 แสดงการใชเ้ ทคโนโลยี หรอื แสดง อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม พฤติกรรม 4.2 ใช้เทคโนโลยีสำหรับ เพียง 2 ข้อ แกป้ ัญหาอย่างสร้างสรรค์ 4.3 มีคุณธรรม จรยิ ธรรมใน การใช้เทคโนโลยี 11. ความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 4 เร่อื ง สับเซตและเพาเวอร์เซต กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 มคี วามคดิ เห็นว่า 1. คณุ ภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนร้แู ละตัวช้ีวดั สอดคล้อง ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ได้นำกระบวนการเรยี นรทู้ ี่เน้นผู้เรียนเปน็ สำคญั มาใชอ้ ย่างเหมาะสม ไม่ไดน้ ำกระบวนการเรยี นรู้ที่เน้นผเู้ รียนเป็นสำคัญมาใช้ 4. การใชส้ ่ือการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ มีความหลากหลาย เหมาะสม และสง่ เสริมการเรยี นร้ขู องผู้เรยี น ไม่ส่งเสรมิ การเรียนรู้ของผู้เรียน 5. การวดั ผลและประเมินผล สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรยี นรู้ ไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 6. การนำแผนการจดั การเรียนรู้ไปใช้ นำไปใช้ไดจ้ รงิ ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ................................................................................................... ................................................................................. .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................. ................................................................................................... ................................................................................. ลงช่อื ................................................... (นางสมจติ ต์ มาฆะสทิ ธิ์) 84 หัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ วนั ท่.ี ............. เดอื น.................... พ.ศ. ............... 12. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผ้บู รหิ าร ไดต้ รวจแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 เรอ่ื ง สบั เซตและเพาเวอรเ์ ซต กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 มีความคิดเห็นวา่ 1. คณุ ภาพของแผนการจดั การเรยี นรู้ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. ความสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวชี้วัด สอดคล้อง ไม่สอดคล้อง 3. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ได้นำกระบวนการเรียนรู้ท่เี น้นผู้เรียนเปน็ สำคัญมาใช้อยา่ งเหมาะสม ไมไ่ ด้นำกระบวนการเรยี นรู้ท่เี น้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ 4. การใชส้ อื่ การเรยี นรู้และแหล่งเรยี นรู้ มีความหลากหลาย เหมาะสม และส่งเสรมิ การเรยี นรู้ของผ้เู รียน ไมส่ ง่ เสรมิ การเรียนรู้ของผเู้ รยี น 5. การวัดผลและประเมนิ ผล สอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ไมส่ อดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 6. การนำแผนการจดั การเรียนรู้ไปใช้ นำไปใชไ้ ด้จริง ควรปรบั ปรุงก่อนนำไปใช้ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ .................................................................................................................................................................................... ................................................................................................... ................................................................................. ................................................................................................... ................................................................................. ................................................................................................... ................................................................................. ลงช่อื ................................................... 85 (นางสมชั ญา ผุดผอ่ ง) ตำแหนง่ รองผูอ้ ำนวยการกลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ วันท่ี.............. เดอื น.................... พ.ศ. ............... บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ผลการจดั การเรยี นรู้ ด้านพุทธพิ ิสัย (Cognitive domain) จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ์การประเมิน ................... คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............................................. จำนวนนกั เรียนท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ................ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ............................................. อนื่ ๆ ………………………………………………………………………………………………….……………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ด้านทกั ษะพิสัย (Psychomotor domain) จำนวนนักเรียนทีผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ................... คน คิดเป็นร้อยละ ............................................. จำนวนนักเรียนที่ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ................ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ............................................. อืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………….……………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ด้านจิตพสิ ยั (Affective domain) จำนวนนกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ................... คน คิดเปน็ ร้อยละ ............................................. จำนวนนกั เรียนท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมิน ................ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ............................................. อน่ื ๆ ……………………………………………………………………………………………………………………..…………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (Competencies of learners) รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง จำนวนนกั เรียนท่ีผา่ นเกณฑ์การประเมิน ................... คน คิดเป็นร้อยละ ............................................. จำนวนนกั เรียนท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ................ คน คดิ เป็นร้อยละ ............................................. อื่น ๆ ……………………………………………………………………………………………………………………..…………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. ปัญหา / อปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………8.6. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ลงช่ือ...................................................ผู้สอน (นางสาวธีรณี ติยะศริ ิ) ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชำนาญการพเิ ศษ วันที่.............. เดือน.................... พ.ศ. ............... รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรื่อง 87 โรงเรยี นวังจนั ทรว์ ิทยา ช่อื – สกุล…………………………………………………......………….…………………....…………ชน้ั …………….เลขท่ี …………….. แบบฝกึ ทกั ษะที่ 4 คณิตศาสตร์ 1 ค 31101 เรอื่ ง สบั เซตและเพาเวอร์เซต ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 1. หาสับเซตท้ังหมดของเซตตอ่ ไปนี้ (ข้อละ 1 คะแนน) 1.1 {5} ……………………………………………………………………………………………………………… 1.2 {9, 10} ……………………………………………………………………………………………………………… 1.3 3, 1 ……………………………………………………………………………………………………………… 1.4 2, 3, 4 ……………………………………………………………………………………………………………… 1.5 -1, 0, 1 ……………………………………………………………………………………………………………… 2. หาเพาเวอร์เซตทั้งหมดของเซตตอ่ ไปนี้ (ขอ้ ละ 1 คะแนน) รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง 88 2.1 -4, 2, 0 ……………………………………………………………………………………………………………… 2.2 -6, - 1, 7, 9 ……………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………… 2.3  ……………………………………………………………………………………………………………… 2.4 4,9 ……………………………………………………………………………………………………………… 2.5 7,0 ……………………………………………………………………………………………………………… โรงเรยี นวงั จันทร์วิทยา ช่ือ – สกุล…………………………………………………......………….…………………....…………ชน้ั …………….เลขที่ …………….. แบบฝกึ ทักษะที่ 4 คณิตศาสตร์ 1 ค 31101 เรือ่ ง สับเซตและเพาเวอรเ์ ซต ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 1. หาสับเซตท้งั หมดของเซตตอ่ ไปน้ี (ข้อละ 1 คะแนน) 1.1 {5} {5}, ∅ 1.2 {9, 10} {9}, {10}, {9, 10}, ∅ 1.3 3, 1 3,1,3, 1,  1.4 2, 3, 4 2,3,4,2, 3,2, 4,3, 4,2, 3, 4, 2. หาเพาเวอร์เซตท้ังหมดของเซตตอ่ ไปน้ี (ข้อละ 1 คะแนน) 2.1 -4, 2, 0 {-4,2,0,-4, 2,-4, 0,2, 0,-4, 2, 0,} รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง 2.2 -6, - 1, 7, 9 {-6,-1,7,9,-6, -1,-6, 7,-6, 9,-1, 7,-1, 9, 7, 9,-6, -1, 7,-6, -1, 9,-6, 7, 9,-1, 7, 9,-6, -1, 7, 9,} 2.3  {} 2.4 4,9 {4 ,9 ,4, 9 , } 2.5 7,0 {7 ,0 ,7, 0 , } 89 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 5 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค 31101 ปีการศึกษา 2564 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 10 ชั่วโมง เวลา 1 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่ือง เซต ผ้สู อน นางสาวธีรณี ตยิ ะศริ ิ เรือ่ ง แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ สอนวันที่ 15 เดือน มิถนุ ายน พ.ศ. 2564 1. มาตรฐานและผลการเรยี นรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐานการเรียนรู้ ค 1.1 เขา้ ใจและวิเคราะห์แบบรปู (pattern) ความสัมพันธ์ และฟงั กช์ ัน มาตรฐานการเรยี นรู้ ค 1.2 ใชน้ ิพจน์ สมการ อสมการ กราฟ และตัวแบบเชิงคณิตศาสตร์ (mathematical model) อนื่ ๆ แทนสถานการณต์ ่าง ๆ ตลอดจน แปลความหมายและนำไปใช้แก้ปญั หา ตัวช้วี ัด มฐ. ค 1.1 ม. 4/1 มคี วามคิดรวบยอดในเรอ่ื งเซตและการดำเนนิ การของเซต รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง มฐ. ค 1.2 ม. 4/1 เขียนแผนภาพเวนน์-ออยเลอรแ์ สดงเซตและนำไปใช้แก้ปัญหา 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ คือ แผนภาพซ่ึงสร้างขึ้นเพอ่ื แสดงขอบเขตและความสมั พนั ธ์ ของเซต การ เขียนแผนภาพมักจะแทน U ดว้ ยรปู สเ่ี หลย่ี มผนื ผา้ หรือรูปปดิ ใด ๆ ส่วนเซตอนื่ ๆ ซ่ึงเป็น สับเซตของ U นนั้ อาจ เขยี นแทนด้วยวงกลม วงรี หรือรปู ทม่ี ีพน้ื ทจี่ ำกดั ใด ๆ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ดา้ นพุทธิพิสยั (Cognitive domain) 3.1.1 นักเรยี นสามารถสรา้ งแผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ จากเซตทีก่ ำหนดให้ 3.1.2 นักเรยี นสามารถเขียนเซตจากแผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ ทก่ี ำหนดให้ 90 3.2 ด้านทักษะพิสัย (Psychomotor domain) 3.2.1 นักเรียนมีความสามารถแก้ปัญหาเรื่อง แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ ได้ 3.2.2 นกั เรยี นมีความสามารถในการให้เหตุผลในการหา แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ ได้ 3.2.3 นกั เรยี นมีความสามารถส่อื ความหมาย ใชส้ ัญลักษณ์ในเร่ือง แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ ได้ 3.3 ด้านจติ พิสัย (Affective domain) 3.3.1 นักเรียนเกิดความใฝ่เรียนรู้ มีความเพียรพยายามในการเรียน และให้ความสำคัญกับการเข้า ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 3.3.2 นักเรียนเกิดความมุ่งม่ันในการทำงาน เอาใจใส่ในหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมาย และมีความ รบั ผิดชอบในการทำงานให้สำเรจ็ 4. สาระการเรยี นรู้ 4.1 สรา้ งแผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ ของเซตท่ีกำหนดให้ 5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2 ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการแก้ปัญหา 5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง 6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 6.1 มุ่งม่ันในการทำงาน 6.2 มีวินัย 6.3 ใฝเ่ รยี นรู้ 7. ชนิ้ งานหรือภาระงาน ( หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้ ) 7.1 แบบฝึกทกั ษะที่ 5 เร่อื ง แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 8.1 ขั้นนำ 8.1.1 ครูส่งลงิ กโ์ ปรแกรม Google Meet ให้นักเรียน เพือ่ ใชใ้ นการเรยี นการสอนแบบออนไลน์ 8.1.2 ครูกลา่ วทักทายนกั เรียน แนะนำตวั เชค็ ชือ่ 91 8.1.3 ครูกระต้นุ ความสนใจในการเรียนโดยใหน้ ักเรียนเล่นเกมเพิ่มพลงั สมองออนไลน์ โดยถ้าใครตอบ ถกู จะได้คะแนน เปน็ รางวัล 8.2 ขั้นสอน 8.2.1 ครอู ธิบายว่า แผนภาพของ เวนน์ – ออยเลอร์ คือการนำเซตมาเขียนในรปู วงกลม วงรี ส่เี หล่ยี ม เพื่อท่จี ะไดง้ า่ ยต่อการเขา้ ใจมากข้นึ โดยการเขยี นแผนภาพมักจะแทน เอกภพสัมพัทธ(์ U) ด้วยรปู สเ่ี หลี่ยมผนื ผ้า ส่วนเซตทเี่ ปน็ ซบั เซตของ U หรอื อยใู่ น U นั้น มักเขียนเป็นรปู วงกลม วงรี 8.2.2 แผนภาพของเวนน์ – ออยเลอรค์ ือแผนภาพซ่ึงสร้างข้นึ เพ่ือแสดงขอบเขตและความสมั พนั ธ์ของเซต ท้งั นน้ี ิยมสร้างแผนภาพโดยใช้รูปสเ่ี หล่ยี มผนื ผา้ แทนเอกภพสมั พัทธแ์ ละวงกลมแทนเซตใดๆ สามารถสรา้ ง แผนภาพแสดงความสัมพันธข์ องเซต ดังน้ี 1) เซต A และเซต B ไม่มีสมาชกิ ร่วมกัน สร้างแผนภาพโดยวงกลมซง่ึ แทนเซต A และเซต B ไม่มีพื้นทีท่ ับซอ้ นกนั เช่น U รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง A 3, 2 -1, 7 B A =3, 2, B =-1, 7 เซตทง้ั สองไม่มีสมาชกิ รว่ มกัน 2) เซต A และเซต B มสี มาชกิ รว่ มกันบางส่วน สร้างแผนภาพโดยวงกลมซ่ึงแทนเซต A และเซต B มี พ้นื ท่บี างส่วนทับซ้อนกัน เชน่ U A 0, -1 4 6, 9 B 92 A =0, - 1, 4 , B =4, 6, 9 เซตทั้งสองมีสมาชิกรว่ มกนั คอื 4 3) เซต A เปน็ สบั เซตของเซต B แต่เซต B ไมเ่ ป็นสบั เซตของเซต A สรา้ งแผนภาพโดยวงกลมซงึ่ แทน เซต A มขี นาดเล็ก อยูภ่ ายในวงกลมซง่ึ แทนเซต B มีขนาดใหญ่ เชน่ B U A 7, 1 0 -2 6 A =7, 1 , B =0, 7, 1, 6, - 2 4) เซต A เท่ากับเซต B สร้างแผนภาพโดยวงกลมซึ่งแทนเซต A และเซต B มีขนาดเทา่ กนั และซ้อนทบั กันพอดี เช่น U A -2 B 18 A =-2, 1, 8 , B =-2, 1, 8 สำหรับสมาชกิ ของเอกภพสัมพทั ธ์ซงึ่ ไมเ่ ป็นสมาชกิ ของเซตใดๆ ให้เขยี นในรูปสเ่ี หลยี่ มซง่ึ ไม่อยู่ในวงกลม เช่น รายวชิ าคณิตศาสตร์U1 (ค 31101) ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง A 7 9 1 -5 B -4 0 6 -4, 0, 6 เปน็ สมาชกิ ของเอกภพสัมพัทธ์ แต่ไม่เป็นสมาชิกของเซต A และเซต B ตวั อย่างที่ 1 กำหนดให้ A = 1,2,3,4และ B = 3,4,5,6จงเขยี นแผนภาพแทนเซตทั้งสองน้ี วิธที ำ จากส่งิ ทกี่ ำหนดใหเ้ ซต A และเซต B มีสมาชกิ ร่วมกันคือ 3 และ 4 เขียนแผนภาพแทนเซต A และเซต B ได้ดงั นี้ 93 AB U 135 246 ตวั อยา่ งท่ี 2 สรา้ งแผนภาพแสดงขอ้ มูลตอ่ ไปนี้ U = -9, - 3, - 2, 0, 1, 2, 5, 6 A = -2, 0, 6 B = -9, - 2, 1 U A 0 6 -2 -9 1 B 5 -3 2 ตัวอยา่ งที่ 3 สรา้ งแผนภาพแสดงขอ้ มลู ตอ่ ไปน้ี รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรอ่ื ง U = -4, - 3, - 2, 0, 1, 2, 6, 7 A = -2, 2, 6, 7 B = -3, - 2, 0, 1, 6 C = -4, 2,1, 6 A U 7 2 -2 6 -3 1 -4 B0 C 8.2.3 ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกทักษะที่ 5 เร่ือง แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ เพื่อทดสอบความรู้ 94 ความเข้าใจของนักเรียน 8.3 ข้ันสรุป 8.3.1 ครูสรุปความรเู้ กี่ยวกับแผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ และครตู อบคำถาม หรือแนะนำเพ่ิมเติมในสงิ่ ที่ นกั เรียนสงสัย 8.3.2 ครูสง่ Link https://www.youtube.com/watch?v=nIebfBmTDbc เร่ือง แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ ให้นักเรยี นดูเพื่อเป็นการทบทวนใน Classroom 9. ส่อื การเรยี นรู้ / แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 ส่อื การเรียนรู้ รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง 9.1.1 เกมเพ่มิ พลังสมองออนไลน์ 9.1.2 แบบฝึกทกั ษะที่ 5 เรื่อง แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ 9.1.3 Google Meet และ Google Classroom 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ YouTube https://www.youtube.com/watch?v=nIebfBmTDbc เรื่อง แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ 10. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์ วธิ กี ารวดั เครื่องมอื เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นพุทธิพิสัย (Cognitive domain) 95 1) นกั เรียนสามารถ ตรวจจาก แบบฝึกทกั ษะที่ 5 เรอื่ ง นกั เรยี นทำแบบฝึกทักษะ สรา้ งแผนภาพเวนน์ – แบบฝกึ ทักษะท่ี 5 แผนภาพเวนน์ – ออย ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 ออยเลอร์ จากเซตท่ี เรอื่ ง แผนภาพ เลอร์ กำหนดใหไ้ ด้ เวนน์ – ออยเลอร์ 2) นกั เรียนสามารถเขียน เซตจากแผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ ทีก่ ำหนดให้ได้ 2. ด้านทกั ษะพิสยั (Psychomotor domain) 1) นกั เรยี นมี ตรวจจาก แบบฝึกทกั ษะที่ 5 เร่อื ง นักเรยี นทำแบบฝึกทักษะ ความสามารถแกป้ ัญหา แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 5 แผนภาพเวนน์ – ออย ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 เร่อื ง แผนภาพเวนน์ – เร่ือง แผนภาพ เลอร์ ออยเลอร์ ได้ เวนน์ – ออยเลอร์ 2) นักเรยี นมี ความสามารถในการให้ เหตุผลในการหา แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ ได้ 3) นกั เรียนมี ความสามารถสื่อ ความหมาย ใช้ รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง จุดประสงค์ วิธีการวัด เครื่องมอื เกณฑ์การประเมิน สัญลักษณ์ในเรื่อง แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ ได้ 3. ด้านจิตพสิ ัย (Affective domain) 1. นักเรยี นเกิดความใฝ่ สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นมีระดับคะแนน 3 ข้ึนไป การเรยี น (คิดเป็นร้อยละ 60 ขนึ้ ไป) เรียนรู้ มคี วามเพยี ร การเรียน พยายามในการเรยี น และให้ความสำคญั กับ การเข้ารว่ มกิจกรรมการ เรยี นรู้ 96 จุดประสงค์ วธิ ีการวดั เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ 3. ดา้ นจิตพสิ ัย (Affective domain) 2. นกั เรยี นเกดิ ความ สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนมีระดับคะแนน 3 ขน้ึ ไป การเรยี น (คิดเป็นร้อยละ 60 ขน้ึ ไป) มุ่งมั่นในการทำงาน การเรียน เอาใจใส่ในหน้าทีท่ ่ีได้รับ มอบหมาย และมีความ รับผิดชอบในการทำงาน ให้สำเรจ็ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เรือ่ ง 97 แบบวเิ คราะหก์ ารประเมินผลการเรียนรู้ (Assessment blueprint) ประกอบด้วย เนือ้ หาการเรยี นรทู้ ่ีตอ้ งการวดั และความสอดคล้องด้านพทุ ธิพิสัย ทักษะพิสัย และจติ พิสัย เน้ือหา ระดับพฤติกรรม (ร้อยละ100) พฤตกิ รรมท่ตี ้องการวดั ระดับพฤตกิ รรม (รอ้ ยละ100) เทคนคิ พทุ ธพิ สิ ยั จติ พสิ ยั การประเมนิ ระดบั พฤตกิ รรม (ร้อยละ100) (Cognitive domain) ทักษะพสิ ัย (Affective domain) 1. แบบฝกึ 1 2 3 4 5 รวม ทกั ษะ 1 2 3 4 5 6 รวม (Psychomotor domain) 2. แบบสงั เกต 10 10 10 10 10 50 พฤตกิ รรม 1 2 3 4 5 6 7 รวม ทางการเรยี น 10 10 10 10 10 50 3. แบบ 1. แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ ประเมนิ การ ตอบคำถาม 1.1 สร้าง 5 5 15 10 10 5 50 10 10 10 10 10 50 แผนภาพเวนน์ – ออยเลอร์ จาก เซตทกี่ ำหนดให้ 1.2 เขยี นเซต 5 5 15 10 10 5 50 10 10 10 10 10 50 จากแผนภาพ เวนน์ – ออยเลอร์ ที่ กำหนดให้ รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 (ค 31101) ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4