Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงการตำราอีเลิร์นนิง โครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย อีเลิร์นนิง: จากทฤษฏีสู่การปฏิบัติ: e-Learning from theory to practice

โครงการตำราอีเลิร์นนิง โครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย อีเลิร์นนิง: จากทฤษฏีสู่การปฏิบัติ: e-Learning from theory to practice

Published by Thailand Cyber University, 2021-10-26 07:02:13

Description: โครงการตำราอีเลิร์นนิง โครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย อีเลิร์นนิง: จากทฤษฏีสู่การปฏิบัติ: e-Learning from theory to practice

Keywords: e-Learning

Search

Read the Text Version

อีเลริ น นงิ : จากทฤษฎีสกู ารปฏิบัติ e-Learning: from theory to practice e-Learning ผูช ว ยศาสตราจารย ดร. ฐาปนีย ธรรมเมธา

อีเลริ น นงิ : จากทฤษฎีสกู ารปฏิบัติ e-Learning: from theory to practice e-Learning ผูช ว ยศาสตราจารย ดร. ฐาปนีย ธรรมเมธา

โครงการตำราอเี ลิรนนงิ โครงการมหาวิทยาลัยไซเบอรไ ทย อีเลริ น นงิ : จากทฤษฎีสกู ารปฏบิ ัติ e-Learning: from theory to practice ส่ิงพมิ พ TCU ปท ี่พมิ พ พุทธศักราช 2557 จำนวน 500 เลม Copyright 2014 © Thailand ฐาปนยี  ธรรมเมธา ออกแบบปกและรูปเลม : จิตตมิ า ระวังภัย จดั พมิ พเผยแพร โครงการมหาวิทยาลัยไซเบอรไ ทย สำนักงานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา 328 ถนนศรีอยุธยา ราชเทวี กรงุ เทพมหานคร 10400 โทรศัพท 02-3545678 ตอ 2006, 02-6105233-9 โทรสาร 02-3545476 http://www.ThaiCyberU.go.th ขอ มูลทางบรรณานกุ รม ฐาปนยี  ธรรมเมธา, อีเลริ นนิง: จากทฤษฎสี ูก ารปฏบิ ัติ e-Learning: from theory to practice โครงการมหาวทิ ยาลยั ไซเบอรไ ทย, สำนกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กรงุ เทพ: 2557 245 หนา พมิ พที่ บริษทั สหมิตรพริง้ ตงิ้ แอนดพับลิสชิ่ง จำกัด 59/4 ซอยวดั พระเงิน ถนนกาญจนภิเษก ตำบลบางมวง อำเภอบางใหญ จังหวดั นนทบุรี โทรศัพท 0-2903-8257-9, โทรสาร 0-2921-4587

e -Learning

ก สํานกั งานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา ไดจดั ต้งั โครงการมหาวิทยาลัยไซเบอรไทยขึ้น ตามยุทธศาสตรการสรางโอกาสทางการศึกษา สรางสังคมแหงการเรียนรูตลอดชีวิต สงเสริม การจัดการศึกษาระบบทางไกลในระดับอุดมศึกษา และการศึกษาตลอดชีวิต โดยใชรูปแบบ การศึกษา ทั้งในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัยผานเครือขายเทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่ือสาร ดําเนินงานรวมกับสถาบันอุดมศึกษา และสถาบันการศึกษาตาง ๆ ท้ังใน และตางประเทศ เพ่ือพัฒนาการเรียนการสอนในระดับปริญญา หลักสูตรประกาศนียบัตร และหลกั สูตรระยะสั้นตามความตองการของสังคม สนับสนุนการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา การใชทรัพยากรการศึกษาทุกดานรวมกัน สนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบและวิธี การจัดการเรียนการสอนโดยใชเทคโนโลยีสารสนเทศอยางตอเน่ือง เพื่อยกระดับคุณภาพ การศึกษาไทย ตลอดจนเปนหนวยงานกลางที่จะทําหนาที่สงเสริม การเรียนรู การพัฒนาสื่อ การสอนแบบอีเลิรนนงิ เพ่อื นสิ ติ นักศกึ ษา อาจารย และ ใหผสู นใจ เขาฝก อบรม เสริมความรู และคนหาขอมูลจากแหลง ทรพั ยากรการเรยี นรูดงั กลา ว หนังสือ “อีเลิรนนิง: จากทฤษฎีสูการปฏิบัติ e-Learning: from theory to practice” เลมนี้ไดรวบรวมจากแนวคิด หลักการ งานวิจัยและประสบการณตรงของผูเขียนท่ีเขาใจงาย สามารถนาํ สูไปการปฏบิ ัติไวอ ยางครบถวน สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ขอขอบคุณ ผูชวยศาสตราจารยฐาปนีย ธรรมเมธา ผูเขียนท่ีสามารถสรางสรรคผลงานทางวิชาการเลมน้ีข้ึน เพ่ือใหเปนแหลงทรัพยากรการเรียนในรปู แบบหนังสือและหนังสืออิเล็กทรอนิกส หวังเปนอยาง ย่ิงวา องคความรูดานอีเลิรนนิงจากหนังสือเลมนี้ จะสนับสนุนใหเกิดกระบวนการพัฒนา การเรียนรู ในทุกเวลา ทุกสถานที่ ไรเขตจํากัด และสงเสริมสนับสนุนใหสังคมไทยเปนสังคม แหง การเรยี นรูต อ ไป (รองศาสตราจารยก ําจร ตติยกว)ี เลขาธิการคณะกรรมการการอดุ มศึกษา

ข หนังสืออีเลิรนนิง: จากทฤษฎีสูการปฏิบัติ e-Learning: from theory to practice เลมนี้ มเี นื้อหานําเสนอสองตอน คือ การจัดการเรียนการสอนแบบอีเลิรนนิง และการพัฒนาอีเลิรนนิง ของสถาบันการศึกษา ผูเขียนไดรวบรวม เรียบเรียงจากความรูและประสบการณของตนเอง ตลอดระยะเวลา 10 กวาปที่ผานมา ที่ไดทํางานในหนาที่ผูบริหารโครงการอีเลิรนนิง ผูสอน ออนไลนเต็มรูปแบบ และเปนผูสอนรายวิชาการผลิตชุดการสอนออนไลน ไดพบวาหนังสือ และแหลงอางอิงภาษาไทยดานอีเลิรนนิงมีจํานวนนอย ในขณะท่ีปริมาณการจัดการเรียน การสอนแบบอเี ลริ นนงิ ของสถาบันการศึกษาและองคกรตาง ๆ มีมากขนึ้ ขอขอบคณุ โครงการมหาวทิ ยาลัยไซเบอรไทย สํานักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ท่ีเปนหนวยเผยแพรความรูดานอีเลิรนนิง โดยการจัดพิมพหนังสือเลมน้ีข้ึน และขอขอบคุณ ทานผูทรงคุณวุฒิทุกทานเปนอยางสูงที่กรุณาพิจารณาตรวจสอบ ใหคําแนะนําเพื่อแกไขความ สมบูรณของเนื้อหา ผูเขียนหวังเปนอยางย่ิงวาหนังสือเลมน้ี จะเปนประโยชนตอการเรียนรู ดานทฤษฎีและแนวปฏิบัติดานอีเลิรนนิงเบื้องตน ท่ีท้ังนิสิต นักศึกษา อาจารย และผูบริหาร การศึกษาสามารถนําความรูและประสบการณท่ีผูเขียนไดถายทอดไวนําไปใชใหเกิดประโยชน ตอตนเองทั้งในปจจุบันและในอนาคต และหวังเปนอยางยิ่งอีกประการหน่ึงวาหนังสือเลมน้ี จะมีสว นผลักดนั ตอ การพฒั นาอเี ลริ นนงิ ในประเทศไทยอกี ทางหน่งึ ผูชวยศาสตราจารย ดร.ฐาปนยี  ธรรมเมธา พฤศจกิ ายน 2557

ค คํานิยม หนา คํานํา ก สารบญั ข บทที่ 1 อเี ลิรน นงิ : นยิ าม รูปแบบ องคป ระกอบ และขอ ดแี ละขอ จาํ กดั ค 1 1. อีเลิรน นงิ 1 2. นยิ าม 5 3. รปู แบบอเี ลิรน นิง 6 4. องคประกอบการเรียนการสอนแบบอีเลริ นนิง 11 5. ขอ ดแี ละขอ จาํ กัดของการเรยี นการสอนแบบอีเลริ นนงิ 17 บทท่ี 2 การออกแบบการเรยี นการสอนแบบอเี ลิรน นงิ 19 1. การออกแบบการเรยี นการสอน (Instructional design) 19 2. การออกแบบการเรยี นการสอน: แบบจาํ ลอง ADDIE 21 3. การออกแบบการเรียนการสอนอีเลิรน นิง (Instructional design for e-Learning) 29 4. ตัวอยางการออกแบบการเรียนการสอนอเี ลริ น นิงที่นา สนใจ 37

บทท่ี 3 วิธสี อนแบบอีเลิรน นิง ง 1. การสอนแบบบรรยาย 2. การสอนแบบอภปิ ราย หนา 3. การสอนโดยใชปญหาเปน หลัก (Problem Based Learning) 43 4. การสอนแบบโครงการ 44 5. การสอนแบบกรณศี ึกษา 52 57 บทท่ี 4 ปฏิสมั พันธการเรียนการสอนแบบอีเลริ น นงิ 64 1. ปฏสิ มั พันธก ารเรยี นการสอนแบบอีเลริ น นิง 71 2. รปู แบบปฏสิ มั พนั ธใ นการเรยี นแบบอีเลิรนนิง 3. ปฏิสมั พนั ธก ับวธิ กี ารสอน 81 4. ตวั อยางการออกแบบปฏิสมั พนั ธใ นการเรยี นแบบอเี ลิรน นิง 81 90 บทที่ 5 การประเมินผลการเรยี นแบบอีเลริ นนิง 94 1. การวดั และการประเมนิ การเรียนรูของผเู รยี นดวยตนเองในอีเลริ น นงิ 96 2. การประเมนิ การเรียนรขู องผเู รยี นโดยผสู อนในอีเลิรน นิง 3. การประเมินการเรยี นรรู อบดา นของผเู รียนในอีเลริ นนิง 101 4. ตัวอยางเคร่ืองมอื การประเมนิ การเรยี นรขู องผเู รยี นในการเรยี นอเี ลริ น นิง 101 5. การประเมนิ ผลการเรยี นตามวิธสี อนแบบอเี ลริ นนงิ 102 106 107 117

จ บทท่ี 6 เทคโนโลยสี าํ หรับการจดั การเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น นงิ หนา 1. ทาํ ไมตอ งใชเ ทคโนโลยใี นการจดั การเรียนการสอน 119 2. การใชเ ทคโนโลยเี พอื่ เพมิ่ คณุ ภาพในการเรียนรู 119 3. การใชเทคโนโลยใี นการเสริมการเรยี นการสอน (Supplement) 120 4. การใชเทคโนโลยใี นการเตมิ เตม็ การเรยี น (Complement e-Learning) 123 5. การใชเ ทคโนโลยใี นการแทนทชี่ ั้นเรียน (Replacement e-Learning) 125 6. เทคโนโลยสี ําหรบั การนาํ สงเน้อื หา (Delivery system tools) 126 7. แนวทางการเลือกใชเครือ่ งมอื และวิธกี ารประเมินคณุ ภาพการใชเ ทคโนโลยกี ารสอน 127 136 บทที่ 7 ระบบจัดการเรยี นการสอน 139 1. ความหมายของระบบจดั การเรยี นการสอน 139 2. องคประกอบหลกั ของระบบจดั การเรยี นการสอน 140 3. ผูใ ชงานระบบจัดการเรยี นการสอน 143 4. ลักษณะของระบบการจดั การเรียนรกู ารสอน 144 5. ระบบจดั การเรยี นการสอน: กรณศี กึ ษาการใช Moodle LMS 151 6. การใชงานระบบจัดการเรียนการสอน 156

บทที่ 8 การพฒั นาอเี ลริ น นงิ : แนวคิดการเรียนแบบผสมผสาน ฉ 1. ความเขาใจเกย่ี วกบั การเรียนแบบผสมผสาน 2. องคป ระกอบของการเรียนแบบผสมผสาน หนา 3. รูปแบบการจดั การเรยี นการสอนแบบผสมผสาน 159 4. การออกแบบการเรยี นการสอนแบบผสมผสาน 159 162 บทท่ี 9 สถาบันการศึกษาแบบอีเลริ น นิง 166 1. สถาบันการศกึ ษาแบบอเี ลิรนนงิ 173 2. กรณศี ึกษาสถาบนั การศึกษาแบบอีเลริ นนงิ สถาบันอดุ มศึกษา 181 ทไี่ ดเ ปด สอนในรูปแบบอีเลริ น นิง 181 3. องคป ระกอบของสถาบันการศกึ ษาแบบอเี ลริ นนงิ 193 4. แนวปฏิบตั กิ ารจดั การสถาบันการศีกษาแบบอเี ลิรน นิงใหม คี ณุ ภาพ 203 บทที่ 10 การประกนั คุณภาพการเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น นิง 205 1. ความสาํ คญั ของการประกันคณุ ภาพอเี ลริ นนงิ 209 210 2. แนวคดิ การประกันคณุ ภาพอเี ลริ นนิง 212 216 3. ขอบขา ยการประกนั คณุ ภาพอีเลิรนนงิ 221 227 4. กรณศี ึกษาการประเมินคุณภาพการเรียนการสอนแบบอีเลริ น นิง 235 บรรณานกุ รม ผูจดั ทํา

e -Learning

บทที่ 1 อีเลริ น นงิ : นยิ าม รปู แบบ องคป ระกอบ และขอ ดีและขอ จํากัด ในบทท่ี 1 น้ี จะฉายภาพการเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นิงในภาพใหญ่ โดยจะประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ต่าง ๆ ดงั ต่อไปน้ี (1) อเี ลริ น์ นิง (2) นิยามและขอบเขตอเี ลริ น์ นิง (3) รปู แบบอเี ลริ น์ นิง (4) องคป์ ระกอบ การเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิง และ (5) ข้อดีและข้อจํากัดของการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิง มรี ายละเอยี ดดงั ต่อไปน้ี 1. อีเลิรน์ นิง การจดั การศกึ ษาในปจั จุบนั มกี ารนํานวตั กรรมและเทคโนโลยที างการศกึ ษามาใชเ้ พ่อื เพม่ิ ทางเลอื ก ในการเรียนรู้ของผู้เรียน เพราะการพัฒนาผู้เรียนในยุคโลกาภิวัฒน์ให้มีความรู้ความสามารถ ในการวเิ คราะห์ และสงั เคราะหข์ อ้ มลู ขา่ วสารต่าง ๆ ไดน้ นั้ บทบาทของผสู้ อนตอ้ งเปลย่ี นจากการเป็นผใู้ ห้ หรอื ถ่ายทอดมาเป็นผอู้ อกแบบการศกึ ษาทม่ี งุ่ เน้นใหผ้ เู้ รยี นรจู้ กั วธิ กี ารแสวงหาความรู้ และเลอื กสรรความรทู้ ่ี เหมาะสมดว้ ยตนเองควบคู่ไปกบั การเรยี นรูเ้ น้ือหา เพ่ือสนองตอบผู้เรียนท่มี คี วามแตกต่างกนั ทงั้ ในด้าน ความต้องการ ความสนใจ วธิ กี าร และรูปแบบการเรยี นรู้ การเรยี นการสอนจงึ ไม่ควรถูกจาํ กดั ใหอ้ ย่เู ฉพาะ ในหอ้ งเรยี นและภายในสถาบนั การศกึ ษาอกี ต่อไป อนิ เทอรเ์ น็ตเป็นเทคโนโลยที ่มี อี ทิ ธพิ ลต่อการเรยี นรู้ ของบุคคล โดยให้โอกาสบุคคลแสวงหาความรไู้ ดอ้ ย่างอสิ ระ หากผูส้ อนเลอื กใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตเป็นเคร่อื งมอื ในการจดั การเรียนรู้ของผูเ้ รยี นนอกจากจะเป็นการเพ่มิ ทางเลอื กในการเรยี นรู้ท่สี อดคล้องกบั ผูเ้ รียนท่มี ี ความแตกต่างกนั แลว้ ยงั เป็นการสง่ เสรมิ การเรยี นรแู้ บบต่อเน่ืองตลอดชวี ติ อกี ดว้ ย e-Learning ในภาษาไทยมีการใช้ช่ือต่างกัน เช่น การเรียนอิเล็กทรอนิกส์ การเรียนทาง อนิ เทอรเ์ น็ต แต่ในทน่ี ้ีผเู้ ขยี นจะเรยี กว่า \"อเี ลริ น์ นิง\" การเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นิง (e-Learning) ไดถ้ ูก นํามาใช้ในระบบการศกึ ษา เพ่อื สนับสนุน และเพิ่มช่องทางการเรียนรู้ของผู้เรียนในสถาบนั การศกึ ษา สามารถเขา้ ถงึ ผเู้ รยี นทอ่ี ยู่ห่างไกล โดยไม่จํากดั สถานท่ี และเวลา (Anywhere-anytime learning) และสนับสนุน ระบบการเรยี นรู้ท่มี ผี ู้เรียนเป็นสําคญั (Student-Centered Learning) ผู้เรียนสามารถควบคุมจงั หวะ การเรยี นรไู้ ดด้ ว้ ยตวั เอง (Self-paced Learning) การเรยี นรูด้ ว้ ยตนเองในระบบอเี ลริ น์ นิง จงึ เป็นช่องทางสาํ คญั ทางหน่ึงของการเรียนรู้ของบุคคลในยุคน้ี การเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิง หรือการเรียนการสอน แบบออนไลน์ จัดเป็นการศึกษาในระบบทางไกลประเภทหน่ึง ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรอ่ื ง “หลกั เกณฑก์ ารขอเปิดและดาํ เนนิ การหลกั สตู รในระดบั ปรญิ ญาในระบบการศกึ ษาทางไกล พ.ศ. 2548” อีเลริ น นงิ : จากทฤษฎีสกู ารปฏบิ ตั ิ e-Lerning: from theory to practice 1

บทท่ี 1 อเี ลิรนนิง: นิยาม รปู แบบ องคประกอบ และขอ ดีและขอ จํากดั และประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการเร่ือง “แนวปฏิบตั ิตามหลกั เกณฑ์การขอเปิดและดําเนินการหลกั สูตร ในระดบั ปรญิ ญาในระบบการศกึ ษาทางไกล พ.ศ. 2548” นนั้ ไดจ้ าํ แนกการศกึ ษาในระบบทางไกลออกเป็น 3 แบบ คอื 1. การศกึ ษาทางไกลทย่ี ดึ ส่อื สง่ิ พมิ พเ์ ป็นส่อื หลกั โดยใชส้ ่อื สง่ิ พมิ พ์ เช่น แนวการศกึ ษาหรอื แบบ ฝึกปฏบิ ตั ิ (Study Guide/Workbook) ตําราเรยี นดว้ ยตนเอง และหนงั สอื ชุดความรู้ ทงั้ น้ีใหม้ สี อ่ื เสรมิ ประกอบ ดว้ ย สอ่ื โสตทศั น์ รายการวทิ ยุกระจายเสยี ง รายการวทิ ยุโทรทศั น์ บทเรยี นดว้ ยคอมพวิ เตอร์ บทเรยี นทาง อนิ เทอรเ์ น็ต การสอนเสรมิ การสมั มนาเสรมิ การประชุมทางไกล และการปฏบิ ตั ใิ นสถานการณ์ เสมอื นจรงิ การปฏิบตั ิในสถานการณ์จําลอง และการปฏิบัติในสถานการณ์จริง ซ่งึ ในประเทศไทย ได้แกมหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช ภาพที่ 1.1 การอบรมสมั มนาเสรมิ ของโครงการมหาวิทยาลยั ไซเบอรไ ทย ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th 2. การศกึ ษาทางไกลทย่ี ดึ สอ่ื ภาพและเสยี งเป็นสอ่ื หลกั ใชส้ อ่ื กระจายเสยี ง เช่น วทิ ยุกระจายเสยี ง และรายการวทิ ยุโทรทศั น์ เพ่อื แพร่เสยี งและภาพทางสถานีวทิ ยุ กระจายเสยี ง สถานีวทิ ยุ โทรทศั น์ สถานี ดาวเทยี ม หรอื สถานแี พร่เสยี งและภาพตามสาย เพ่อื การเรยี นการสอนแบบ ปฏสิ มั พนั ธ์ ผ่านจอภาพ (OSI- On Screen Interactive) เป็นรายการเสนอเน้ือหาสาระครบถ้วนตามท่กี ําหนดไว้ในหลกั สูตร ทงั้ ท่เี ป็น รายการสดแบบปฏสิ มั พนั ธห์ รอื การบนั ทกึ เสยี งหรอื ภาพไวล้ ่วงหน้า มกี ารออกแบบรายการทจ่ี ะช่วยทําให้ นักศึกษาได้รับความรู้ และประสบการณ์ เทียบได้กบั การศึกษาแบบปฏสิ มั พนั ธ์ระหว่างคณาจารย์กับ นักศึกษาโดยตรง ทงั้ น้ีให้มีส่ือเสริมประกอบด้วย ส่ือโสตทศั น์ ส่ือสิง่ พิมพ์ บทเรียนด้วยคอมพิวเตอร์ บทเรยี นทางอนิ เทอรเ์ น็ต การสอนเสรมิ การสมั มนาเสรมิ การประชมุ ทางไกล และการปฏบิ ตั ใิ นสถานการณ์ เสมือนจริง การปฏบิ ตั ิในสถานการณ์จําลอง และการปฏบิ ตั ิในสถานการณ์จรงิ สถาบนั ท่ีจดั การศกึ ษา ทางไกลในแบบน้ี ไดแ้ ก่ สถาบนั ปญั ญาภวิ ฒั น์ โครงการการศกึ ษาทางไกล โรงเรยี นวงั ไกลกงั วล 2 อีเลริ นนงิ : จากทฤษฎีสกู ารปฏิบัติ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 1 อีเลริ นนิง: นิยาม รปู แบบ องคป ระกอบ และขอ ดีและขอ จํากดั ภาพท่ี 1.2 การใชส้ อ่ื เสรมิ ประกอบของสถาบนั ปญั ญาภวิ ฒั น์ ทม่ี า: http://www.pim.ac.th/ ภาพท่ี 1.3 การศกึ ษาทางไกล โรงเรยี นวงั ไกลกงั วล ทม่ี า: http://kkws.ac.th/ อเี ลริ น นิง: จากทฤษฎีสกู ารปฏบิ ตั ิ e-Lerning: from theory to practice 3

บทท่ี 1 อเี ลริ นนิง: นิยาม รปู แบบ องคป ระกอบ และขอดีและขอจํากดั 3. การศกึ ษาทางไกลท่ยี ดึ ส่อื อิเล็กทรอนิกส์เป็นส่อื หลกั ใช้วธิ กี ารผสมผสานระหว่างการเรยี น การสอนแบบออนไลน์หรอื ออฟไลน์ (On-line or Off-line) แบบดจิ ทิ ลั หรอื อนาลอ็ ก (Digital or Analog) แบบ เข้าถึงได้ไม่พร้อมกนั (Asynchronous) หรอื เข้าถึงได้พร้อมกนั ในเวลาเดียวกนั (Synchronous/Real-Time) ทงั้ น้ีให้มสี ่อื เสรมิ ประกอบด้วยส่อื สง่ิ พมิ พ์ ส่อื โสตทศั น์ รายการวิทยุกระจายเสยี ง รายการวทิ ยุโทรทศั น์ บทเรียนด้วยคอมพิวเตอร์ การสอนเสริม การสัมมนาเสริม การประชุมทางไกล และการปฏิบัติ ในสถานการณ์เสมอื นจรงิ การปฏบิ ตั ใิ นสถานการณ์จําลอง และการปฏบิ ตั ใิ นสถานการณ์จรงิ สถาบนั ทจ่ี ดั การศกึ ษาทางไกลในแบบน้ี เช่น มหาวทิ ยาลยั ท่ขี อเปิดหลกั สูตรในระบบทางไกล มหาวทิ ยาลยั ไซเบอร์ ในประเทศเกาหลใี ต้ โครงการมหาวทิ ยาลยั ไซเบอรไ์ ทย เป็นตน้ ภาพที่ 1.4 ตวั อย่างการสาธติ ผ่านบทเรยี นออนไลน์ ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th http://lms.thaicyberu.go.th/OfficialTCU/courses/coursetree3.asp?cid=CU-2110496-1&uid2=cusd จากขอ้ กําหนดน้ี อเี ลริ น์ นิงจดั อย่ใู นกลุ่มท่ี 3 คอื การศกึ ษาทางไกลทย่ี ดึ ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ ป็นส่อื หลัก ในท่ีน้ีส่ือหลัก ต้องเป็นส่ือท่ีนักศึกษาทุกคนเข้าถึงได้ สามารถถ่ายทอดเน้ือหาสาระได้ทุกเร่ือง และบรรจเุ น้อื หาสาระครบถว้ นตามทก่ี าํ หนดไวใ้ นหลกั สตู ร เพ่อื ใหน้ กั ศกึ ษาทม่ี คี วามพรอ้ มสามารถศกึ ษาได้ ดว้ ยตนเอง สอ่ื เสรมิ เป็นสอ่ื ทเ่ี สรมิ สาระใหช้ ดั เจนหรอื เสรมิ ปฏสิ มั พนั ธใ์ นระบบการศกึ ษาทางไกล 4 อเี ลริ นนงิ : จากทฤษฎสี กู ารปฏิบัติ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 1 อเี ลิรน นิง: นยิ าม รูปแบบ องคป ระกอบ และขอ ดีและขอ จํากัด ภาพท่ี 1.5 ตวั อยา่ งสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ เ่ี ป็นสอ่ื หลกั ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th http://lms.thaicyberu.go.th/OfficialTCU/courses/coursetree3.asp?cid=CU-2110401-1&uid2=cusd 2. นิยาม การเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นิง หมายถงึ การใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตเป็นช่องทางการสอ่ื สารการเรยี นการสอน โดยมกี ารกาํ หนดกจิ กรรมการเรยี น และการสอนทอ่ี อกแบบดว้ ยวธิ สี อนหลากหลาย มกี ารนําเสนอเน้ือหา สอ่ื แบบดจิ ติ อล การสอ่ื สาร การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ และการวดั ประเมนิ ผลผา่ นระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ การเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นิง ใชก้ ารสอ่ื สารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ตลกั ษณะออนไลน์ทงั้ แบบผ่านสาย (Local Area Network )และไรส้ าย (Wireless) มลี กั ษณะทท่ี งั้ เหมอื นและแตกต่างจากการเรยี นผ่านเวบ็ (Web Based Instruction: WBI) กล่าวโดยสรุปไดว้ ่าความเหมอื นคอื ทงั้ อเี ลริ น์ นิงและการเรยี นผ่านเวบ็ ใช้อนิ เทอรเ์ น็ตเป็นส่อื กลาง ส่วนความแตกต่าง คอื การเรยี นแบบอเี ลริ น์ นิงไดถ้ ูกออกแบบให้เป็นเสมอื น หรือใกล้เคียงกับการเรียนการสอนในห้องเรียนปกติ โดยใช้โปรแกรมระบบจัดการเรียนการสอน (Learning Management System: LMS) เป็นซอฟทแ์ วรส์ าํ คญั เพ่อื จําลอง วธิ กี ารส่อื สารการสอนจาก การสอนปกตใิ นหอ้ งเรยี นมาใช้เคร่อื งมอื ต่างๆ ของระบบจดั การเรยี นการสอน ซ่งึ องคป์ ระกอบของระบบ บรหิ ารจดั การเรยี นการสอน ประกอบด้วย การเกบ็ ข้อมูลพ้นื ฐานของผูเ้ รยี น สถิติการเขา้ เรยี น การร่วม กจิ กรรมการเรยี น การส่อื สารปฏิสมั พนั ธ์ระหว่างผู้เรยี นกบั ผู้สอน และผู้เรียนกบั ผู้เรยี นด้วยกนั รวมถึง การวดั และประเมนิ ผล เป็นตน้ การเรยี นการสอนแบบอเี ลริ ์นนิง นับว่าเป็นการเรยี นแบบผู้เรยี นเป็นสําคญั เน่ืองจากผูเ้ รยี น สามารถเลอื กเรยี นรดู้ ้วยตนเองตามความต้องการ เม่อื มคี วามพร้อม ในสถานทใ่ี ด เวลาใดกไ็ ด้ เน่ืองจาก เน้ือหาสาระการเรียนได้ถูกจัดเก็บไว้ในเคร่ืองคอมพิวเตอร์แม่ข่าย (Server) ส่ือสารโดยใช้เคร่ืองมือ ในอนิ เทอรเ์ นต็ อีเลริ นนงิ : จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ัติ e-Lerning: from theory to practice 5

บทท่ี 1 อเี ลริ น นิง: นยิ าม รูปแบบ องคป ระกอบ และขอ ดีและขอ จํากัด 3. รปู แบบอีเลิรน์ นิง การพจิ ารณาวา่ การจดั การเรยี นการสอนลกั ษณะใดจงึ จะเรยี กวา่ เป็นรปู แบบการเรยี นการสอนแบบ อเี ลริ น์ นิงนัน้ Allen and Seaman (2005) สมาคมสโลน ประเทศสหรฐั อเมรกิ า เสนอแนวคดิ การจาํ แนก รปู แบบของการเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นิงตามสดั สว่ นของเน้อื หาทน่ี ําเสนอทางอนิ เทอรเ์ น็ต เพ่อื ใหเ้ หมาะ กบั ลกั ษณะของทเ่ี หมาะสมกบั ผเู้ รยี น ซง่ึ สามารถจดั รูปแบบการเรยี นไดเ้ ป็น 3 ประเภท คอื 1) แบบการใช้ เวบ็ เพ่อื ช่วยการเรยี นการสอน (Web Facilitated) 2) แบบผสมผสาน (Blended/Hybrid) และ 3) แบบออนไลน์ (Online) ดงั แสดงในตารางท่ี 1.1 ตารางที่ 1.1 การเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นงิ ตามสดั สว่ นของเน้ือหาทน่ี ําเสนอทางอนิ เทอรเ์ น็ต สดั ส่วนของการ รายละเอียด ประเภทการเรียนการสอน นําเสนอเนื้อหาทาง เป็นการเรยี นการสอนทใ่ี ชเ้ ทคโนโลยบี นเวบ็ เพอ่ื อาํ นวยความสะดวก แบบการใชเ้ วบ็ อินเทอรเ์ น็ต ในการสอน โดยเทคโนโลยที ใ่ี ชอ้ าจอย่ใู นรปู แบบของระบบบรหิ าร เพอ่ื ชว่ ยการเรยี น ร้อยละ 1-29 จดั การวชิ า (Course Management System) การสอน (Web Facilitated) ร้อยละ 30-79 เป็นการเรยี นการสอนทม่ี กี ารใชเ้ ทคโนโลยบี นเวบ็ เพอ่ื นําเสนอเน้อื หา แบบผสมผสาน มากกว่า โดยวธิ กี ารสอนแบบผสมผสาน (Blended Online) โดยการนําเอา (Blended/Hybrid) รอ้ ยละ 80 วธิ กี ารสอนแบบออนไลน์ กบั วธิ พี บปะผเู้ รยี นในหอ้ งเรยี น (Face-to -face) มาใชด้ ว้ ยกนั ภายในวชิ าเรยี นเดยี วกนั แบบออนไลน์ (Online) เป็นการเรยี นการสอนทน่ี ําเสนอเน้ือหาทงั้ หมดผา่ นการเรยี นออนไลน์ ชนดิ เตม็ รปู แบบ และโดยทวั่ ไปรปู แบบการเรยี นแบบน้จี ะไมม่ กี าร พบปะกบั ผเู้ รยี นในหอ้ งเรยี นเลย (No face-to-face) นอกจากน้ีการใชอ้ เี ลิร์นนิงยงั สามารถแบ่งรูปแบบการเรยี นการสอนอเี ลริ ์นนิงโดยการแบ่งตาม ลกั ษณะการใชป้ ระโยชน์ทางการเรยี นการสอนโดยสามารถแบง่ รปู แบบการเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นิงเป็นอกี 3 รปู แบบ คอื 1. อเี ลริ น์ นิงเพ่อื เสรมิ การเรยี น (Supplement) เป็นการใชอ้ เี ลริ น์ นิงเพ่อื เสรมิ จากการเรยี นในชนั้ เรยี นปกติ โดยยงั คงใชว้ ธิ กี ารสอนแบบเดมิ ในชนั้ เรยี นเป็นหลกั และใชอ้ เี ลริ น์ นิงเป็นการเสรมิ การเรยี น เช่น เป็นบทเรยี นทบทวน เป็นเว็บความรู้เพมิ่ เติม หรอื เป็นแบบทดสอบความรูท้ ่มี ีเฉลยและข้อมูลป้อนกลบั (feed back) เป็นตน้ 6 อีเลริ น นงิ : จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ตั ิ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 1 อีเลริ น นงิ : นยิ าม รูปแบบ องคป ระกอบ และขอ ดีและขอจํากัด ภาพท่ี 1.6 ตวั อยา่ งสอ่ื ทม่ี แี บบทดสอบความรู้ ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th 2. อเี ลริ น์ นิงเพ่อื การสอนแบบผสมผสาน (blended / hybrid learning ) เป็นการจดั การเรยี นการสอน อเี ลริ น์ นิง และแบบเดมิ ในชนั้ เรยี นร่วมกนั โดยมสี ดั สว่ นการแบ่งจํานวนครงั้ หรอื หน่วยการเรยี นทจ่ี ะเรยี น ดว้ ยวธิ ใี ด ใชอ้ เี ลริ น์ นิงลดสดั สว่ นเวลาในการสอนแบบเดมิ ในชนั้ เรยี น ภาพท่ี 1.7 ตวั อยา่ งสอ่ื ทม่ี กี ารสาธติ และใหท้ าํ ในหอ้ งเรยี น ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th อีเลริ นนงิ : จากทฤษฎสี กู ารปฏิบตั ิ e-Lerning: from theory to practice 7

บทท่ี 1 อีเลิรน นงิ : นยิ าม รปู แบบ องคป ระกอบ และขอดีและขอจํากัด 3. อเี ลริ น์ นิงทเ่ี ป็นทงั้ ระบบการเรยี นการสอน (Comprehensive replacement) เทยี บเคยี งไดก้ บั การเรยี น การสอนแบบออนไลน์ (Online Learning) การใชอ้ เี ลริ น์ นิงรูปแบบน้ีสามารถจําแนกตามวธิ กี ารจดั การเรยี น การสอนไดเ้ ป็น 2 วธิ กี าร คอื 1) ผเู้ รยี นเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง (Self-Paced Learning) เป็นการเรยี นอเี ลริ น์ นิงทท่ี ดแทนการสอนปกติ โดยเรยี นเน้ือหาจาก ส่อื การเรยี น เคร่อื งมอื ส่อื สารทางอินเทอร์เน็ต และประเมนิ ผลการเรยี นของตัวเอง วธิ ีน้ีผู้เรยี นสามารถเลอื กเน้ือหา และเวลาเรียนตามท่ีตนพร้อมและสะดวก ในบทบาทของการกําหนด ให้ผู้เรยี นเรยี นด้วยตนเองจากส่อื การเรยี นด้วยวธิ นี ้ีผู้สอนมหี น้าท่ีออกแบบการเรยี นรู้ด้วยวธิ ีอีเลริ ์นนิง จดั เตรยี มสอ่ื และกจิ กรรมการเรยี นไวเ้ ทา่ นนั้ ผสู้ อนไมต่ อ้ งมบี ทบาทในขณะทผ่ี เู้ รยี นกาํ ลงั เรยี น 2) ผู้เรียนเรยี นจากผู้สอนอนไลน์ เป็นการเรียนอีเลิร์นนิงท่ีทดแทนการสอนในระบบชนั้ เรียน โดยเรียนผ่านเน้ือหา ส่อื การเรียน เคร่ืองมือส่อื สารทางอนิ เทอร์เน็ต และประเมนิ ผลการเรียนในระบบ ออนไลน์ โดยผู้สอนเป็นผู้กําหนดกจิ กรรมตามระยะเวลา เหมอื นการสอนในระบบชนั้ เรยี น ต่างกนั ตรงท่ี ผสู้ อนและผูเ้ รยี นไม่ไดเ้ ผชญิ หน้ากนั (face to face) การเรยี นดว้ ยวธิ นี ้ีผสู้ อนรบั หน้าทก่ี ารออกแบบการเรยี นรู้ ดว้ ยวธิ อี เี ลริ น์ นิง จดั เตรยี มสอ่ื และกจิ กรรมการเรยี น ร่วมกจิ กรรมการเรยี นผ่านเคร่อื งมอื สอ่ื สารการเรยี น การสอนตามระยะเวลาทก่ี าํ หนดไว้ ผสู้ อนมบี ทบาทสาํ คญั ในสอนออนไลน์ ภาพที่ 1.8 ตวั อย่างการเรยี นออนน์แบบ Self-Paced Learning ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th 8 อเี ลิรน นิง: จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ตั ิ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 1 อีเลิรน นิง: นยิ าม รูปแบบ องคป ระกอบ และขอดีและขอ จํากดั ภาพที่ 1.9 ตวั อย่างการสอนออนไลน์ทผ่ี สู้ อนมกี ารจดั กจิ กรรมการเรยี น ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th จากการแบง่ รปู แบบอเี ลริ น์ นิงมาแลว้ 2 แนวทางขา้ งตน้ ยงั มแี นวคดิ การแบง่ อเี ลริ น์ นงิ อกี แนวทาง โดยแบ่งตามลกั ษณะการสอ่ื สารการเรยี นการสอน สามารถแบ่งไดเ้ ป็น 2 รปู แบบ คอื 1. การเรยี นการสอนแบบไม่ประสานเวลา (Asynchronous Learning Methods) เป็นการเรยี น การสอนทส่ี รา้ งเวบ็ ไซตข์ น้ึ มาเพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ เรยี นรเู้ น้ือหาวชิ า ณ เวลาใดกไ็ ด้ ทไ่ี ดก้ ไ็ ด้ โดยทผ่ี เู้ รยี นและ ผสู้ อนไม่ต้องรอเพ่อื โต้ตอบกนั ภายในเวลาเดยี วกนั ซง่ึ สามารถใชเ้ คร่อื งมอื ส่อื สารผ่านระบบอนิ เทอร์เน็ต เช่น จดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (E-mail) กระดานขา่ ว (Web-board) เป็นตน้ ภาพที่ 1.10 ตวั อยา่ งการใชเ้ ครอ่ื งมอื สอ่ื สารผา่ นระบบ กระดานขา่ ว (Web-board) ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th อเี ลิรน นิง: จากทฤษฎีสกู ารปฏบิ ตั ิ e-Lerning: from theory to practice 9

บทท่ี 1 อีเลิรน นิง: นยิ าม รูปแบบ องคป ระกอบ และขอดีและขอ จํากดั 2. การเรยี นการสอนแบบประสานเวลา (Synchronous Learning Methods) เป็น การเรยี นการสอน ท่มี ผี ู้ส่งและผู้รบั อยู่ในเวลาเดยี วกนั โดยใช้การรบั ส่ง ข่าวสาร ขอ้ มูลภายในเวลาเดียวกนั หรือพร้อมกนั เกดิ การปฏสิ มั พนั ธแ์ บบทนั ทที นั ใด เช่น หอ้ งสนทนา (Chat Room) การประชุมผ่านวดี ทิ ศั น์ (Video Conference) เป็นตน้ ภาพที่ 1.11 ตวั อย่างการใชก้ ารประชุมผา่ นวดี ทิ ศั น์ (Video Conference) ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th สรุปรูปแบบอเี ลริ น์ นิงทแ่ี บ่งตามแนวคดิ ทงั้ 3 แนวคดิ คอื แบ่งตามสดั ส่วนเน้ือหาทน่ี ําเสนอทาง อนิ เทอรเ์ น็ต แบง่ ตามการใชป้ ระโยชน์ทางการเรยี นการสอน และแบ่งตามลกั ษณะการสอ่ื สารนนั้ ทาํ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจถงึ ลกั ษณะอเี ลริ น์ นงิ ไดช้ ดั เจนขน้ึ 10 อเี ลริ นนงิ : จากทฤษฎีสกู ารปฏบิ ัติ e-Lerning: from theory to practice

บทท่ี 1 อเี ลิรน นิง: นิยาม รปู แบบ องคประกอบ และขอ ดีและขอ จํากัด 4. องคป์ ระกอบการเรยี นการสอนแบบอีเลิรน์ นิง การเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นิงเป็นการเรยี นทางไกลทผ่ี สู้ อนและผเู้ รยี นมไิ ดอ้ ย่ใู นบรบิ ทชนั้ เรยี น และเวลาขณะเดยี วกนั มกี ารใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารเขา้ มาทดแทน ในท่นี ้ีขอนําอธบิ าย องคป์ ระกอบการเรยี นการสอนแบบอเี ลริ ์นนิง ตามรูปแบบการใชอ้ เี ลริ น์ นิง ทงั้ ระบบการเรยี นการสอนเป็น หลกั ซง่ึ การเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นิงสามารถแบง่ องคป์ ระกอบสาํ คญั ทต่ี อ้ งคาํ นึงถงึ เป็น 6 องคป์ ระกอบ คอื 1) เน้ือหาและสอ่ื การเรยี น 2) ระบบนําสง่ สารสนเทศและการสอ่ื สาร 3) ระบบการสอ่ื สารและปฏสิ มั พนั ธท์ างการเรยี น 4) ระบบการวดั และการประเมนิ ผล 5) ระบบสนบั สนุนการเรยี น 6) ผสู้ อนและผเู้ รยี น โดยแสดงรายละเอยี ดของแต่ละองคป์ ระกอบตามลาํ ดบั ดงั น้ี เน้ือหาและสือ่ การเรียน เน้อื หา (content) และสอ่ื การเรยี น (instructional media) เน้ือหาและส่อื การเรยี นเป็นหวั ใจสาํ คญั ของการเรยี นอีเลริ ์นนิง คุณภาพของการเรยี นอเี ลริ ์นนิง เกิดจากสงิ่ สําคญั คอื เน้ือหา ท่ผี ู้สอนได้จัด รวบรวมไว้เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถใช้เวลาส่วนใหญ่ได้ศึกษา และค้นคว้าได้ด้วยตนเอง ด้วยการคิด เชงิ วเิ คราะห์อย่างมีหลกั การและเหตุผลตามเน้ือหาท่จี ดั เตรียมไว้ให้ โดยเน้ือหาต้องถ่ายทอดเป็นส่อื การเรยี น ในการเรยี นอเี ลริ น์ นงิ ตอ้ งใชเ้ น้อื หาและสอ่ื การเรยี นเป็นแหล่งความรหู้ ลกั แทนการเรยี นจากผสู้ อน ในชนั้ เรยี น ดงั นนั้ การออกแบบอเี ลริ น์ นิงตอ้ งใหค้ วามสาํ คญั กบั เน้ือหาและส่อื การเรยี นในลกั ษณะส่อื ดจิ ติ อล โดยมกี ารออกแบบเน้ือหาและสอ่ื การเรยี นทย่ี ดึ หลกั สาํ คญั อยา่ งน้อย 3 ประการ คอื 1) เน้อื หาและสอ่ื การเรยี นตอ้ งชดั เจน สมบรู ณ์จบในตวั เอง ไม่จาํ เป็นตอ้ งพง่ึ พาผสู้ อนใหม้ าอธบิ ายอกี 2) เน้อื หาสอ่ื การเรยี นตอ้ งออกแบบใหผ้ เู้ รยี น สามารถวดั ความรคู้ วามเขา้ ใจของตนเองได้ เป็นระยะ และประเมนิ ความเขา้ ใจของตวั เองในภาพรวมได้ 3) เน้อื หาและสอ่ื การเรยี นตอ้ งออกแบบใหเ้ หมาะสมกบั ผเู้ รยี น และทาํ งานไดด้ ใี นระบบนําสง่ สารสนเทศ อเี ลิรนนงิ : จากทฤษฎีสกู ารปฏิบัติ e-Lerning: from theory to practice 11

บทท่ี 1 อีเลริ น นงิ : นิยาม รูปแบบ องคป ระกอบ และขอดีและขอจํากดั ภาพท่ี 1.12 ตวั อยา่ งเน้อื หาสาํ หรบั อเี ลริ น์ นงิ ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th ระบบการนําส่งสารสนเทศและการสือ่ สาร ระบบนําสง่ สารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรยี นอเี ลริ น์ นิง มหี ลายรูปแบบทงั้ แบบทใ่ี ชเ้ ทคโนโลยี จํานวนน้อยจนถึงระบบท่ีใช้เทคโนโลยจี ํานวนมากชนิดหากสถาบนั การศึกษา หรือผู้สอนเลอื กใช้ระบบ การนําสง่ สารสนเทศและการสอ่ื สารทเ่ี หมาะสมกบั ลกั ษณะผูเ้ รยี น และมคี วามเสถยี ร ย่อมจะช่วยสง่ เสรมิ ให้ เกดิ คุณภาพในการจดั การเรยี นแบบอเี ลริ น์ นิงได้อย่างดี ระบบนําสง่ สารสนเทศในทน่ี ้ีไดแ้ ก่ ระบบบรหิ าร จดั การเรยี นการสอน (Learning Management System), เคร่อื งมอื นําส่งสารในอนิ เทอรเ์ น็ต, อุปกรณ์และ เคร่อื งมอื ในการเรยี นอเี ลริ น์ นิง เป็นตน้ ภาพท่ี 1.13 อุปกรณ์ในการเรยี นอเี ลริ น์ นงิ 12 อเี ลิรน นิง: จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ตั ิ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 1 อเี ลิรน นิง: นิยาม รูปแบบ องคป ระกอบ และขอ ดีและขอจํากัด ระบบการสือ่ สารและปฏิสมั พนั ธท์ างการเรยี น การส่อื สารและปฏสิ มั พนั ธท์ างการเรยี น เป็นหวั ใจสําคญั ของการศกึ ษาทุกประเภท การส่อื สาร และปฏสิ มั พนั ธร์ ะหว่างผูเ้ รยี นและผูส้ อนจะช่วยใหผ้ ู้เรยี นมคี วามเขา้ ใจมากขน้ึ ขณะเดยี วกนั ผสู้ อนกจ็ ะได้ ทราบถึงความก้าวหน้าของผเู้ รยี น รวมทงั้ สามารถวนิ ิจฉัยความคลาดเคล่อื นในการรบั ความรู้ของผูเ้ รยี น และให้ความรู้ท่ถี ูกต้องได้ การส่อื สารและการสร้างปฏิสมั พนั ธ์ในการเรียนแบบอีเลิร์นนิงนัน้ ต้องใช้ เทคโนโลยีการนําส่งสารสนเทศและการส่อื สาร ในระบบเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต ท่สี ามารถเช่อื มผู้เรียน และผู้สอนท่ีอยู่ไกลกนั ให้สามารถส่อื สารและปฏสิ มั พนั ธ์กนั เสมือนอยู่ในสถานท่เี ดยี วกนั ได้เข้ามาเพมิ่ คุณภาพการศกึ ษาทางไกลไดอ้ ย่างดี ระบบการสอ่ื สารและปฏสิ มั พนั ธท์ างการเรยี นอเี ลริ น์ นิง มี 2 รปู แบบ คอื 1.1 ปฏสิ มั พนั ธแ์ บบประสานเวลา หรอื ทนั ทที นั ใด (Synchronize) 1.2 ปฏสิ มั พนั ธแ์ บบไมป่ ระสานเวลา หรอื ไมท่ นั ทที นั ใด (Asynchronize) ภาพที่ 1.14 ระบบการสือ่ สารและปฏสิ ัมพันธท างการเรียนการสอนแบบอเี ลิรนนิง ที่มา: http://cognitivedesignsolutions.com/DeliverySystem/DeliverySystem1.htm ระบบการวดั และการประเมินผล การวดั และการประเมนิ ผลใน การเรยี นแบบอเี ลริ น์ นงิ ทต่ี อ้ งใชห้ ลกั การประเมนิ ตามแนวทางการจดั การศกึ ษาแบบ “เน้นผเู้ รยี นเป็นสาํ คญั ” โดยมกี ารประเมนิ ระหว่างการเรยี น (formative evaluation) นัน้ ผูเ้ รยี นจะเป็นผู้ประเมนิ ตวั เองเป็นหลกั และผู้สอนจะเป็นผูใ้ ห้คําแนะนําและความช่วยเหลอื และรวมถึง การประเมนิ หลงั เรยี น (summative evaluation) ซง่ึ เป็นการประเมนิ ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น ซง่ึ สว่ นใหญ่ ประเมนิ โดยผสู้ อน อเี ลริ นนิง: จากทฤษฎสี กู ารปฏิบัติ e-Lerning: from theory to practice 13

บทท่ี 1 อีเลิรน นิง: นยิ าม รปู แบบ องคป ระกอบ และขอดีและขอจํากัด วธิ กี ารประเมนิ ผลในการเรยี นอเี ลริ น์ นิง สามารถประเมนิ จากการตอบคําถาม การทําแบบทดสอบ การประเมนิ จากผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น และอาจจะใหผ้ เู้ รยี นประมวลความรู้ ความเขา้ ใจออกมาในรปู แบบ รายงานหรอื การนําเสนองาน ซง่ึ สามารถใชเ้ คร่อื งมอื ทางเทคโนโลยนี ําส่งสารและการส่อื สารเพ่อื แสดงผล การวดั และการประเมนิ การเรยี นรขู้ องผเู้ รยี นเช่นเดยี วกบั การเรยี นในชนั้ เรยี น ภาพที่ 1.15 ตวั อย่างการประเมนิ ผลจากแบบทดสอบ ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th ระบบสนับสนุนการเรยี น ระบบสนบั สนุนการเรยี นอเี ลริ น์ นงิ แบง่ เป็น 3 ระบบ คอื 1. ระบบสนับสนุนการเรยี นดา้ นเทคนิค (Technical support) เน่ืองจากการเรยี นอเี ลริ น์ นิงต้องใช้ เทคโนโลยคี อมพวิ เตอรแ์ ละระบบเครอื ขา่ ยเป็นสภาพแวดลอ้ มการเรยี นการสอน หากเทคโนโลยหี ยดุ ชะงกั ก็ จะทาํ ใหก้ ารเรยี นการสอนมปี ญั หาอยา่ งยง่ิ 2. ระบบสนบั สนุนการเรยี นดา้ นวชิ าการ (Academic support) เพ่อื ใหค้ วามชว่ ยเหลอื และคาํ แนะนํา ดา้ นการเรยี นการสอน และหลกั สตู ร 3. ระบบสนบั สนุนดา้ นสงั คม (Social support) เพ่อื ทดแทนสงั คมในการเรยี นแบบปกติ (Tradition) ทข่ี าดหายไปของผเู้ รยี น รวมทงั้ ชว่ ยใหก้ ําลงั ใจ เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความมนั่ ใจ เกดิ ความมุ่งมนั่ ทจ่ี ะเรยี นต่อ จนจบรายวชิ า หรอื จบตามหลกั สตู ร 14 อีเลิรน นิง: จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ัติ e-Lerning: from theory to practice

บทท่ี 1 อีเลิรนนงิ : นิยาม รปู แบบ องคป ระกอบ และขอดีและขอจํากัด ภาพที่ 1.16 ตวั อย่างระบบสนบั สนุนการเรยี นดา้ นเทคนคิ ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th ผสู้ อนและผเู้ รยี น ผสู้ อนและผเู้ รยี นมคี วามสาํ คญั กบั การเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นิง ซง่ึ เป็นระบบการศกึ ษาทางไกล ความพรอ้ มของผสู้ อนและผเู้ รยี น เจตคติ (ทศั นคต)ิ ความรู้ ความเขา้ ใจในบรบิ ทการเรยี นการสอนทางไกล ของผเู้ รยี นและผสู้ อนแบบอเี ลริ น์ นิงและการปฏบิ ตั ติ วั ทถ่ี ูกตอ้ งจะช่วยใหผ้ เู้ รยี นเกดิ สมั ฤทธผิ์ ลทางการเรยี น การสอนไดอ้ ยา่ งดี ภาพที่ 1.17 ผเู้ รยี นศกี ษาบทเรยี นอเี ลริ น์ นงิ ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th อเี ลิรนนิง: จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ตั ิ e-Lerning: from theory to practice 15

บทท่ี 1 อีเลิรน นิง: นยิ าม รูปแบบ องคป ระกอบ และขอ ดีและขอ จํากดั องคป์ ระกอบในการเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นงิ ทเ่ี ป็นการเรยี นในระบบทางไกลผสู้ อนและผเู้ รยี นอยู่ใน บรบิ ททห่ี ่างกนั ดว้ ยสถานท่ี ระยะทาง และเวลา ผเู้ รยี นต้องมกี ารเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองผ่านเน้ือหาและส่อื การ เรยี น โดยใชเ้ ทคโนโลยใี นอนิ เทอรเ์ น็ตดา้ นระบบนําสง่ สารสนเทศและการส่อื สารเป็นเคร่อื งมอื สาํ คญั ตอ้ งมี ระบบการส่อื สารและปฏสิ มั พนั ธท์ างการเรยี นเน่ืองจากผสู้ อนผเู้ รยี นอย่หู ่างกนั ขณะทก่ี ารจดั การเรยี นการ สอนแบบอเี ลริ น์ นิงนัน้ ระบบการวดั และประเมนิ ผลสามารถดําเนินการไดโ้ ดยใชเ้ คร่อื งมอื ประเมนิ ผลการ เรยี นท่รี ะบบได้ออกแบบไว้ นอกจากน้ียงั มรี ะบบสนับสนุนการเรยี นด้านเทคนิคในคอมพวิ เตอร์เครอื ข่าย อนิ เทอรเ์ น็ต ระบบสนบั สนุนดา้ นวชิ าการ และระบบสนับสนุนดา้ นส่อื สารไวค้ อยช่วยเหลอื ผเู้ รยี นใหส้ ามารถ เรยี นแบบอเี ลริ น์ นิงไดอ้ ย่างประสบความสําเรจ็ แต่ทงั้ น้ีองคป์ ระกอบสาํ คญั ดา้ นผเู้ รยี นและผสู้ อนนนั้ จาํ เป็น อยา่ งยงิ่ ตอ้ งแสดงบทบาทของผเู้ รยี นแบบอเี ลริ น์ นิงและผสู้ อนแบบอเี ลริ น์ นงิ สรปุ องคป์ ระกอบในการเรียนการสอนอีเลิรน์ นิง ดงั แผนภาพ ภาพท่ี 1.18 แสดงองคป์ ระกอบของการเรยี นแบบอเี ลริ น์ นิง 16 อเี ลิรน นิง: จากทฤษฎสี กู ารปฏิบตั ิ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 1 อเี ลริ นนิง: นยิ าม รูปแบบ องคประกอบ และขอ ดีและขอ จํากดั 5. ขอ้ ดีและขอ้ จาํ กดั ของการเรยี นการสอนแบบอีเลิรน์ นิง ขอ้ ดีของการเรยี นการสอนแบบอีเลิรน์ นิง ทส่ี าํ คญั ไดแ้ ก่ 1. ความยดื หยุ่น ความสะดวกสบายและการเขา้ ถงึ ขอ้ มูล ผูเ้ รยี นสามารถเขา้ ถงึ เน้ือหาบทเรยี น ตามความต้องการไดอ้ ย่างสะดวก รวดเรว็ ผ่านอนิ เทอร์เน็ตโดยไม่จาํ กดั สถานทแ่ี ละเวลา ผูเ้ รยี นสามารถ เช่อื มโยงเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ทห่ี ลากหลายทางอนิ เทอรเ์ นต็ ทเ่ี ป็นแหล่งทรพั ยากรการเรยี นรอู้ นั มหาศาล ผเู้ รยี นสามารถกํากบั การเรยี นดว้ ยตนเองตามอตั ราความเรว็ ช้า หรอื ความกา้ วหน้าความสนใจ ของตนเอง ดงั นนั้ วธิ เี รยี นอเี ลริ นื นงิ จงึ ช่วยเพมิ่ ความพงึ พอใจและลดความเครยี ดของผเู้ รยี นไดท้ างหน่งึ ผสู้ อนสามารถเสนอเน้ือหา ปรบั ปรุง เปลย่ี นแปลงแกไ้ ขเน้ือหา และส่อื การสอนไดง้ ่ายและสะดวก ผ่านอเี ลริ น์ นิง ทาํ ใหน้ ําเสนอขอ้ มลู ทท่ี นั สมยั อยเู่ สมอ การเรยี นอเี ลริ น์ นงิ ใหผ้ ลยอ้ นกลบั ต่อการเรยี น สามารถแสดงผลจากการวดั และการประเมนิ ผลไดท้ นั ที 2. ระยะเวลา การเรยี นอีเลิร์นนิงช่วยประหยดั เวลา ช่วยลดเวลาในการเดินทางของผู้เรียน โดยมติ อ้ งเดนิ ทางมาสถานศกึ ษา และห้องเรยี น นอกจากน้ียงั สามารถกําหนดเวลาการเรยี นและกจิ กรรม การเรยี นรขู้ องตนเองไดอ้ กี ดว้ ย 3. การเงนิ และค่าใช้จ่าย การเรยี นอเี ลิร์นนิงช่วยผู้เรยี นประหยดั ค่าใช้จ่ายของการเดนิ ทาง ค่าท่ีพกั และอาหาร ตลอดจนค่าวสั ดุ อุปกรณ์ และคู่มือการเรียนการสอน สถาบนั การศึกษาสามารถ ลดคา่ ใชจ้ า่ ยดา้ นอาคารสถานท่ี เงนิ เดอื นของผสู้ อน รวมถงึ เจา้ หน้าทใ่ี นสถาบนั 4. การส่อื สารและปฏสิ มั พนั ธท์ างการเรยี น การเรยี นอเี ลริ น์ นิงทาํ ให้การตดิ ต่อส่อื สารผ่านช่องทาง อนิ เทอรเ์ นต็ ระหวา่ งผสู้ อนและผเู้ รยี นสะดวกขน้ึ ทงั้ น้ีปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งผสู้ อนและผเู้ รยี นจะดกี ว่าเรยี น ในหอ้ งบรรยายใหญ่ ซ่งึ ปฏสิ มั พนั ธ์ในการเรยี นอเี ลริ น์ นิงช่วยใหผ้ ู้สอนและผูเ้ รยี นใกลช้ ดิ กนั ผ่าน เทคโนโลยโี ดยปจั จยั ปฏสิ มั พนั ธน์ นั้ มคี วามสาํ คญั ต่อการสรา้ งความสาํ เรจ็ ในการเรยี นของผเู้ รยี นดว้ ย ขอ้ จาํ กดั การเรียนการสอนแบบอีเลิรน์ นิง ทส่ี าํ คญั ไดแ้ ก่ 1. โครงสรา้ งพน้ื ฐานดา้ นเทคโนโลยี ซง่ึ อาจจะไม่สามารถใชไ้ ดใ้ นบางพน้ื ทข่ี องประเทศ แบนดว์ ดิ ธ์ หรือการเช่ือมต่ออินเทอร์เน็ตช้างซ่ึงสามารถส่งผลกระทบต่อความสะดวกของ กระบวนการเรียนรู้ เพราะจะทาํ ใหผ้ ลการรบั สารผ่านสอ่ื ประเภทกราฟิก มลั ตมิ เี ดยี เป็นไปไม่ได้ หรอื ลา่ ชา้ 2. การออกกลางคนั ระหว่างเรยี นแบบอเี ลริ ์นนิง เน่ืองจากผู้เรยี นบางคนอาจอาจจะรู้สกึ เหงา และโดดเดย่ี วจากอาจารยผ์ สู้ อนและเพ่อื นร่วมชนั้ อีเลริ น นงิ : จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ัติ e-Lerning: from theory to practice 17

บทท่ี 1 อเี ลริ นนงิ : นยิ าม รูปแบบ องคป ระกอบ และขอ ดีและขอ จํากดั 3. การขาดการติดต่อของมนุษย์ การมีปฏิสมั พนั ธ์กบั ผู้สอนและ เพ่อื นร่วมชนั้ อ่นื ๆ บางคน อาจลม้ เหลวเน่อื งจากพฤตกิ รรมการเรยี นไม่ดหี รอื แรงจงู ใจต่าํ 4. บางครงั้ อาจารยผ์ สู้ อนทไ่ี ม่สามารถช่วยเหลอื และมปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั ผู้เรยี นไดใ้ นขณะเวลาเดยี ว กบั ทผ่ี เู้ รยี นตอ้ งการไดร้ บั ความช่วยเหลอื 5. ผเู้ รยี นทเ่ี รยี นดว้ ยวธิ อี เี ลริ น์ นิงต้องมที กั ษะการใชค้ อมพวิ เตอรแ์ ละบางครงั้ ไฟลแ์ ละการจดั การ ซอฟตแ์ วรข์ องการเรยี นแบบอเี ลริ น์ นิง ซง่ึ อาจจะซบั ซอ้ นสาํ หรบั ผเู้ รยี นทเ่ี รมิ่ ตน้ จากข้อดีและข้อจํากัดของการเรียนอีเลิร์นนิงนัน้ พบว่าการเรียนแบบอีเลิร์นนิง อาจเหมาะ กบั สภาพการณ์ เหมาะกับผู้เรียน เหมาะกับสถาบนั การศึกษาในบริบทท่ีต่างกันไป ดังนัน้ การเลือก ทจ่ี ะจดั การเรยี นแบบอเี ลริ ์นนิงในรายวชิ า หลกั สตู ร และสถาบนั การศกึ ษาในแบบใดนนั้ ควรมกี ารวเิ คราะห์ บรบิ ทต่าง ๆ ในรอบดา้ นก่อนว่าจะมกี ารจดั การเรยี นอเี ลริ น์ นิงในแบบใดจงึ จะเหมาะสมทส่ี ดุ ทงั้ น้ีการจดั การเรียนการสอนในปจั จุบนั ต้องยอมรบั ว่าการเรียนโดยเพม่ิ ช่องทางการส่อื สารการเรยี นรู้แก่ผู้เรยี นนัน้ เป็นวธิ ที เ่ี หมาะสมกบั ยคุ สมยั และยงั เออ้ื อาํ นวยต่อบรบิ ทของสงั คมในขณะน้เี ป็นอย่างยง่ิ 18 อีเลิรน นงิ : จากทฤษฎสี กู ารปฏิบัติ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 2 การออกแบบการเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น นงิ ในบทน้ีจะกล่าวถึงการออกแบบการเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นิง โดยเริม่ จาก (1) การออกแบบ การเรยี นการสอน (2) การออกแบบการเรยี นการสอน : ADDIE Model (3) การออกแบบการเรยี นการสอน อเี ลริ น์ นิง และ (4) ตวั อยา่ งการออกแบบการเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นิงทน่ี ่าสนใจ 1. การออกแบบการเรียนการสอน (Instructional design) ความหมายของการออกแบบ เป็นการถ่ายทอดรูปแบบจากความคดิ ออกมาเป็นผลงานทผ่ี ู้อ่ืน สามารถมองเหน็ รบั รู้ หรอื สมั ผสั ได้ การออกแบบตอ้ งใชศ้ าสตรแ์ ห่งความคดิ และศลิ ป์ร่วมกนั เพอ่ื สรา้ งสรรค์ สง่ิ ใหม่ หรอื ปรบั ปรุงพฒั นาสง่ิ เดมิ ใหด้ ขี น้ึ มกี ารใชก้ ารออกแบบในทุกๆ ดา้ น เช่น การออกแบบผลติ ภณั ฑ์ การออกแบบสนิ คา้ การออกแบบโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ รวมถงึ การออกแบบการเรยี นการสอน การออกแบบการเรยี นการสอน จงึ เป็นกระบวนการวางแผนการเรยี นการสอนอย่างมรี ะบบ โดยมี การวิเคราะห์องค์ประกอบการเรียนรู้ ทฤษฎีการเรียนการสอน ส่ือกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ รวมถึง การประเมนิ ผล เพ่อื ใหผ้ สู้ อนสามารถถ่ายทอดความรสู้ ผู่ เู้ รยี นผเู้ รยี นเกดิ การเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ผสู้ อนท่มี ปี ระสบการณ์การสอนอย่างดจี ะสามารถใช้ประสบการณ์ และความรูค้ วามสามารถของ ตนเอง ในการคดิ ในการเลอื กวธิ กี ารสอน สอ่ื การสอน และกจิ กรรมการเรยี น ทําใหค้ ุณภาพของการเรยี น การสอนแตกต่างกนั ไปตามความสามารถของผสู้ อนแต่ละคน การออกแบบการเรยี นการสอนจะเป็นแนวทาง ทผ่ี สู้ อนทุกคนตอ้ งออกแบบการสอนของตนได้ การออกแบบการเรียนการสอนจะช่วยให้ผู้สอนวางแผนการสอนอย่างมีระบบ เพ่ือให้การจัด การเรยี นการสอนบรรลุจุดมุ่งหมาย และประสบความสาํ เร็จผูส้ อนต้องพจิ ารณาหลกั การในการออกแบบ การเรยี นการสอน คอื 1. การออกแบบและพัฒนาการเรียนการสอนน้ีเพ่ือใคร ใครเป็นผู้เรียนหรือกลุ่มเป้าหมาย ผอู้ อกแบบควรมคี วามเขา้ ใจและรจู้ กั ลกั ษณะของกลุม่ ผเู้ รยี นทเ่ี ป็นเป้าหมายในการเรยี นอเี ลริ น์ นงิ อีเลริ นนงิ : จากทฤษฎสี กู ารปฏิบัติ e-Lerning: from theory to practice 19

บทที่ 2 การออกแบบการเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น นิง 2. ต้องการใหผ้ เู้ รยี นเรยี นอะไร มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ และ/หรอื มคี วามสามารถอะไร ผสู้ อนจงึ ตอ้ ง กาํ หนดจดุ มุง่ หมายของการเรยี นการสอนใหช้ ดั เจน 3. ผเู้ รยี นจะเรยี นรูเ้ น้ือหาวชิ านัน้ ๆ ไดด้ ที ่สี ุดอย่างไร ควรใช้วธิ กี ารและกจิ กรรมการเรยี นรูอ้ ะไร ทจ่ี ะชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นเรยี นรไู้ ด้ และมสี งิ่ ใดทต่ี อ้ งคาํ นงึ ถงึ บา้ ง 4. เม่อื ผเู้ รยี นเขา้ ส่กู ระบวนการเรยี น จะทราบไดอ้ ย่างไรว่าผเู้ รยี นมกี ารเรยี นรเู้ กดิ ขน้ึ และประสบ ผลสาํ เรจ็ ในการเรยี นรู้ จะใชว้ ธิ ใี ดประเมนิ ผลการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น สรุปได้ว่า การออกแบบการเรียนการสอน ควรมีการวางแผนเพ่ือพิจารณาว่าผู้เรียนเป็นใคร มคี ุณลกั ษณะพน้ื ฐานอย่างไร กาํ หนดจุดมุ่งหมายในการสอนครงั้ นนั้ อย่างไร จะใชว้ ธิ กี ารสอนและกจิ กรรม การเรยี นรู้ และวธิ กี ารประเมินผลการเรยี นอะไรบ้าง จึงจะสามารถทําให้การสอนนัน้ บรรลุเป้าหมาย คือ ภายหลงั เรยี นแลว้ รู้ เขา้ ใจ จดจํา นําไปใช้ ทาํ ได้ สรา้ งสรรค์ สงิ่ ใหม่ไดเ้ ป็นต้น แสดงภาพส่อื ทค่ี วรพจิ ารณา ในการออกแบบการสอนดงั ภาพดา้ นล่าง ภาพท่ี 2.1 สง่ิ ทค่ี วรพจิ ารณาในการออกแบบการเรยี นการสอน 20 อีเลริ นนงิ : จากทฤษฎีสกู ารปฏิบัติ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 2 การออกแบบการเรียนการสอนแบบอีเลิรน นงิ 2. การออกแบบการเรียนการสอน: แบบจาํ ลอง ADDIE จากหลกั การเพ่อื ออกแบบการเรยี นการสอนทก่ี ล่าวมาแลว้ สง่ิ ทจ่ี ะแสดงไดช้ ดั เจนเพ่อื การจดั การ เรยี นการสอนท่เี ป็นรูปธรรม คอื รูปแบบการออกแบบการเรยี นการสอน(Instructional Design Model) ท่จี ะเป็นเคร่ืองมือ สําคญั และเป็นแนวทางให้ผู้สอนทุกคนสามารถดําเนินการสอนให้ได้มาตรฐานของ การเรยี นการสอนทใ่ี กลเ้ คยี งกนั แมว้ ่าผสู้ อนจะมปี ระสบการณ์ต่างกนั รปู แบบการออกแบบการเรยี นการสอน ประกอบดว้ ยขนั้ ตอนต่าง ๆ ในการออกแบบระบบการเรยี นการสอน ซง่ึ มกั จะเขยี นในรปู แบบของผงั แสดง ลําดบั การทํางาน (Flowchart) เพ่อื แสดงรูปแบบให้เข้าใจได้ง่าย และรวดเร็ว โดยหลกั การพ้นื ฐาน ในการออกแบบการเรยี นการสอนท่ใี ช้กนั อย่างแพร่หลาย คอื แบบจําลอง ADDIE ท่มี อี งคป์ ระกอบ 5 ขนั้ ตอน คอื การวเิ คราะห์ (Analysis) การออกแบบ (Design) การพฒั นา (Development) การนําไปใช้ (Implementation) และการประเมนิ ผล (Evaluation) โดยรายละเอยี ดของการออกแบบการเรยี นการสอน แบบจาํ ลอง ADDIE ทงั้ 5 ขนั้ ตอนมดี งั น้ี 1. ขนั้ การวิเคราะห์ การวเิ คราะห์เป็นขนั้ ตอนแรกของกระบวนการออกแบบการเรียนการสอน ผู้ออกแบบจะต้อง กําหนดความจําเป็นในการเรยี น ทําการวเิ คราะห์เน้ือหาหรอื กจิ กรรมการเรยี นการสอน คุณลกั ษณะของ ผู้เรียน และวตั ถุประสงคข์ องการเรียนการสอนเพ่อื รวบรวมข้อมูล สาํ หรบั ใช้เป็นแนวทางในการกําหนด ขอบเขตของบทเรยี น ขนั้ การวเิ คราะหป์ ระกอบดว้ ยขนั้ ตอนย่อย ดงั น้ี 1.1 วเิ คราะหค์ วามจําเป็น (Need Analysis) คอื การวเิ คราะหเ์ พ่อื กาํ หนดเลอื กว่าควรจดั การเรยี น การสอนเก่ยี วกบั อะไร โดยอาจหาขอ้ มูลจากความต้องการของผูเ้ รยี น หรอื อาจหาขอ้ มูลจากการกําหนด ความจําเป็น ปญั หาขดั ขอ้ ง หรอื อุปสรรคทท่ี ําใหก้ ารเรยี นการสอนไม่บรรลุผลตามจุดมุ่งหมายทก่ี ําหนดไว้ และพจิ ารณาว่ามคี วามจําเป็นหรอื ไม่ทจ่ี ะต้องจดั การเรยี นการสอน หากจําเป็นหรอื สมควรจดั และควรจดั อย่างไร 1.2 วเิ คราะหเ์ น้ือหา หรอื กจิ กรรมการเรยี นการสอน (Content and Task Analysis) คอื การวเิ คราะห์ เพ่อื จดั การเรยี นการสอนใหค้ รอบคลุม หรอื สอดคลอ้ งกบั ความต้องการ ความจําเป็นในการเรยี นการสอน โดยพจิ ารณาอย่างละเอยี ดด้านเน้ือหา มกี ารแบ่งเน้ือหาเป็นหวั ขอ้ ใหญ่ และหวั ขอ้ ย่อย ๆ เพ่อื ใหม้ คี วาม ชดั เจน กาํ หนดเลอื กกจิ กรรมการเรยี นการสอนทเ่ี หมาะสมทจ่ี ะใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การเรยี นรอู้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ อเี ลิรน นงิ : จากทฤษฎีสกู ารปฏิบัติ e-Lerning: from theory to practice 21

บทท่ี 2 การออกแบบการเรียนการสอนแบบอเี ลริ นนิง 1.3 วเิ คราะหผ์ ูเ้ รยี น (Analyze Learner Characteristic) เป็นการวเิ คราะห์เพ่อื สรุปเป็นขอ้ มูล สาํ หรบั การจดั การเรยี นการสอนใหเ้ หมาะสมกบั ผเู้ รยี น โดยควรวเิ คราะหท์ งั้ ลกั ษณะทวั่ ไปเช่น อายุ ระดบั ความรคู้ วามสามารถ เพศ สงั คม วฒั นธรรม เป็นตน้ และควรวเิ คราะห์ ลกั ษณะเฉพาะของผเู้ รยี นดว้ ย เช่น ความรพู้ น้ื ฐาน ทกั ษะความชาํ นาญ หรอื ความถนดั รปู แบบการเรยี น ทศั นคติ เป็นตน้ 1.4 วเิ คราะหว์ ตั ถุประสงค์ (Analyze Objective) วตั ถุประสงคข์ องการเรยี นการสอน คอื จุดหมาย ปลายทางทก่ี าํ หนดไว้เพ่อื ให้ผเู้ รยี นและผู้สอนรู้ว่าเม่อื เรยี นบทเรยี นนัน้ ๆ แลว้ จะเกดิ การเรยี นรูอ้ ะไรบ้าง ดงั นนั้ การกาํ หนดวตั ถุประสงคจ์ งึ ตอ้ งมกี ารวเิ คราะหอ์ ย่างละเอยี ดและรอบคอบ โดยอาจกาํ หนดจุดมุ่งหมาย หรือเป้าหมายหลกั ของการเรยี นการสอนก่อน แล้วจงึ กําหนดเป็นวตั ถุประสงค์เชิงพฤติกรรมทส่ี ามารถ ป ระ เมินผ ล ไ ด้ชัด เจ น เป็ นรู ป ธ ร รม ว่ า ผู้เรีย น บ ร รลุ ผ ลก าร เรีย นต าม วัต ถุ ป ร ะส ง ค์ท่ีกํา ห น ดไ ว้ห รือไ ม่ โดยวตั ถุประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมแยกเป็น 3 ดา้ นคอื ตวั อยา่ ง 1) วตั ถุประสงคท์ างดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั คอื พฤตกิ รรมเกย่ี วกบั ความรู้ ความเขา้ ใจ 2) วตั ถปุ ระสงคด์ า้ นจติ พสิ ยั คอื พฤตกิ รรมเกย่ี วกบั ความรสู้ กึ ค่านิยม ทศั นคติ 3) วตั ถุประสงคด์ า้ นทกั ษะพสิ ยั คอื พฤตกิ รรมเกย่ี วกบั การกระทาํ หรอื การปฏบิ ตั ิ 1.5 วเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ ม (Analyze Environment) วตั ถุประสงคก์ ารวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ ม ในการสอน เพ่อื เป็นการเตรยี มการลว่ งหน้าวา่ สถานท่ี เวลา และบรบิ ทในการเรยี นการสอนทจ่ี ะดําเนินการ นนั้ จะอย่ใู นสภาพใด เชน่ ขนาดหอ้ งเรยี น อปุ กรณ์สอ่ื การเรยี นการสอนทจ่ี ะใชค้ อื อะไร 2. ขนั้ การออกแบบ การออกแบบเป็นกระบวนการกําหนดว่าจะดําเนินการเรยี นการสอนอย่างไร โดยมกี ารเขยี น วตั ถุประสงค์จัดทําลําดบั ขนั้ ตอนของการเรียน กําหนดวิธีสอน เลือกส่อื การเรยี นการสอนท่ีเหมาะสม และกาํ หนดวธิ กี ารประเมนิ ผลวา่ ผเู้ รยี นบรรลุวตั ถุประสงคท์ ก่ี าํ หนดไวห้ รอื ไม่ ขนั้ การออกแบบประกอบดว้ ย ขนั้ ตอนยอ่ ย ทงั้ ดา้ น การระบวุ ตั ถุประสงค์ ระบวุ ธิ สี อน ระบสุ อ่ื การสอน และระบวุ ธิ กี ารประเมนิ ผล 22 อีเลิรน นิง: จากทฤษฎสี กู ารปฏิบตั ิ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 2 การออกแบบการเรียนการสอนแบบอีเลริ นนงิ ภาพท่ี 2.2 ตวั อย่าง โครงสรา้ งทอ่ี อกแบบการสอนแบบอเี ลริ น์ นิง อีเลิรนนิง: จากทฤษฎีสกู ารปฏบิ ัติ e-Lerning: from theory to practice 23

บทที่ 2 การออกแบบการเรียนการสอนแบบอีเลริ น นิง ภาพที่ 2.3 ตวั อยา่ งการออกแบบโครงสรา้ งรายวชิ า ระบุวธิ สี อน วธิ กี ารประเมนิ ผล 24 อเี ลริ น นิง: จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ตั ิ e-Lerning: from theory to practice

บทท่ี 2 การออกแบบการเรยี นการสอนแบบอีเลิรนนงิ ภาพท่ี 2.4 ตวั อยา่ งสตอรบ่ี อรด์ รายวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology) ภาพท่ี 2.5 ตวั อย่างสตอรบ่ี อรด์ ของ TCU ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th อเี ลิรน นงิ : จากทฤษฎีสกู ารปฏบิ ัติ e-Lerning: from theory to practice 25

บทท่ี 2 การออกแบบการเรยี นการสอนแบบอีเลิรน นิง 3. ขนั้ การพฒั นา การพฒั นาเป็นกระบวนการดําเนินการเตรยี มการจดั การเรยี นการสอน หรอื สร้างแผนการเรยี น การสอน เลอื กใช้ส่อื การเรียนการสอนโดยพิจารณาส่อื ท่ีมีอยู่ว่าเหมาะสมท่ีจะใช้ ควรปรบั ปรุงก่อนใช้ หรอื ควรตอ้ งสรา้ งสอ่ื ใหม่ และทาํ การประเมนิ ผลขณะดําเนินการพฒั นาหรอื สรา้ งเพ่อื ปรบั ปรุง/แกไ้ ขใหไ้ ด้ ระบบการเรียนการสอนท่ีมีประสิทธิภาพ พัฒนาแผนการเรียนการสอนพัฒนาส่ือการเรียนการสอน ประเมนิ ผลขณะดําเนินการพฒั นา ขนั้ การพฒั นาประกอบดว้ ยขนั้ ตอนย่อย อาทิ การพฒั นาแผนการเรยี น การสอน การพฒั นาสอ่ื การเรยี นการสอน และการประเมนิ ผลระหวา่ งดาํ เนนิ การพฒั นา ภาพท่ี 2.6 ตวั อยา่ งแผนการเรยี นรู้ 26 อีเลริ น นงิ : จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ัติ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 2 การออกแบบการเรียนการสอนแบบอเี ลิรน นิง 4. ขนั้ การนําไปใช้ การนําไปใชเ้ ป็นขนั้ ตอนการดาํ เนินการเรยี นการสอนตามทไ่ี ดอ้ อกแบบและพฒั นาไวแ้ ลว้ ในสภาพจรงิ ภาพที่ 2.7 การนําการออกแบบการสอนไปใชส้ อน 5. ขนั้ การประเมินผล การประเมนิ ผลเป็นขนั้ ตอนสดุ ทา้ ยของกระบวนการออกแบบระบบการเรยี นการสอน เพ่อื ประเมนิ ผล ขัน้ ตอนต่าง ๆ ว่าเป็นไปตามท่ีได้วางแผนหรือไม่ และทําการปรับปรุง แก้ไขให้ได้ระบบการสอนท่ีมี ประสทิ ธภิ าพ ภาพท่ี 2.8 ตวั อย่างบทเรยี นบนระบบ LMS ของ TCU ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th อีเลริ นนิง: จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ตั ิ e-Lerning: from theory to practice 27

บทท่ี 2 การออกแบบการเรียนการสอนแบบอเี ลริ นนงิ ภาพที่ 2.9 ผลการประเมนิ จากผใู้ ชบ้ นระบบ LMS ของ TCU ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th ภาพที่ 2.10 ผลการประเมนิ จากผใู้ ชบ้ นระบบ LMS ของ TCU ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th 28 อีเลิรนนิง: จากทฤษฎสี กู ารปฏิบตั ิ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 2 การออกแบบการเรยี นการสอนแบบอเี ลิรนนงิ รายละเอยี ดแบบจาํ ลองการเรยี นการสอนแบบ ADDIE สามารถแสดงได้ ดงั ภาพ ภาพที่ 2.11 แสดงแบบจาํ ลองระบบการเรยี นการสอนของแบบ ADDIE 3. การออกแบบการเรียนการสอนอีเลิรน์ นิง (Instructional design for e-Learning) การออกแบบการเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นิง มไิ ดแ้ ตกต่างจากการออกแบบการเรยี นการสอนทไ่ี ด้ กล่าวมาขา้ งต้น โดยสามารถกระทําได้เช่นเดยี วกบั การออกแบบการเรยี นการสอนในหอ้ งเรยี นปกติ ทงั้ น้ี ผสู้ อนแบบอเี ลริ น์ นิงนอกจากจะมคี วามสามารถในการสอ่ื สารการสอนเช่นเดยี วกบั การสอนหอ้ งเรยี นปกตแิ ลว้ ยงั ต้องมคี วามรู้ความสามารถเขา้ ใจและมคี วามสามารถอย่างดใี นการเลอื กใชเ้ คร่อื งมอื การสอนจากระบบ บรหิ ารจดั การเรยี นการสอน และเคร่อื งมอื ทางอนิ เทอรเ์ น็ต เพ่อื เป็นเคร่อื งมอื ในการสอ่ื สารปฏสิ มั พนั ธท์ าง การเรยี น เน่อื งจากผเู้ รยี นและผสู้ อนมไิ ดพ้ บกนั แบบเผชญิ หน้าแบบหอ้ งเรยี นปกติ การออกแบบระบบการเรยี นการสอนเป็นกระบวนการ มขี นั้ ตอนในการวางแผนอย่างเป็นระบบ เพอ่ื ใหไ้ ดร้ ะบบการเรยี นการสอนทด่ี ี สาํ หรบั การออกแบบระบบการเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นิงจาํ เป็นต้อง ไดร้ บั ความร่วมมอื จากแหล่งทรพั ยากรทม่ี ากกว่าการจดั การเรยี นการสอนในหอ้ งเรยี นปกติ รูปแบบระบบ การเรยี นการสอนจงึ มสี ว่ นสาํ คญั ในการดาํ เนินการเพอ่ื ประสานกบั กลุ่มบุคคลทเ่ี ป็นแหล่งทรพั ยากรและช่วย ดาํ เนนิ การใหก้ ารเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นงิ เกดิ ขน้ึ ได้ การจดั การเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นิงนนั้ มคี วามแตกต่างไปจากการจดั การเรยี นการสอนในหอ้ งเรยี น ปกติ เน่อื งจากผเู้ รยี นและผสู้ อนอาจความแตกต่างกนั ในเร่อื งของเวลา และสถานท่ี ผทู้ จ่ี ดั การเรยี นการสอน อเี ลริ ์นนิงจงึ จําเป็นต้องมคี วามเขา้ ใจลกั ษณะและธรรมชาติของการเรยี นการสอนทางไกลทใ่ี ช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการส่อื สารดา้ นคอมพวิ เตอรแ์ ละอนิ เทอร์เน็ตเป็นส่อื กลาง ซง่ึ ผูเ้ รยี นมกั คาดหวงั การไดร้ บั ปฏสิ มั พนั ธจ์ ากผสู้ อน รวมถงึ การตอบสนองความแตกต่างรายบุคคลท่มี ากกว่าในหอ้ งเรยี นปกติ ตลอดจน ต้องมคี วามเขา้ ใจเก่ยี วหลกั การการศกึ ษาทางไกลผ่านอนิ เทอร์เน็ต ทฤษฎีการส่อื สาร ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ ทฤษฎรี ะบบ และรปู แบบระบบการเรยี นการสอน เพ่อื เป็นฐานในการออกแบบการเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นิงได้ อเี ลริ นนิง: จากทฤษฎีสกู ารปฏบิ ัติ e-Lerning: from theory to practice 29

บทท่ี 2 การออกแบบการเรยี นการสอนแบบอีเลิรน นงิ อกี ทงั้ การออกแบบการสอน มไิ ดเ้ ป็นการเน้นทก่ี ารถ่ายโอนความรู้ (Transfer of knowledge) จากผสู้ อนไป ยงั ผูเ้ รยี นเท่านัน้ การเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นิงจําเป็นต้องคํานึงถงึ การออกแบบการสอนทเ่ี น้นผู้เรยี น เป็นสาํ คญั ซง่ึ ประกอบดว้ ยการเรยี นตามอตั ราความกา้ วหน้ารายบุคคล การมปี ฏสิ มั พนั ธใ์ นการเรยี นการสอน เป็นสาํ คญั และสภาพแวดลอ้ มทางการเรยี นรผู้ ่านอนิ เทอรเ์ นต็ ดว้ ย สาํ หรบั การจดั การเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นิงนนั้ แบบจําลองการออกแบบการเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นิง สามารถนําหลกั การพน้ื ฐานในการออกแบบการเรยี นการสอน คอื แบบจําลอง ADDIE Model ทงั้ องคป์ ระกอบ 5 ขนั้ ตอนคอื การวเิ คราะห์ การออกแบบ การพฒั นา การนําไปใช้ และการประเมนิ ผล มาเป็นแนวทาง เพ่อื การออกแบบการเรยี นการสอนอเี ลริ ์นนิงไดเ้ ช่นเดยี วกบั การสอนในห้องเรยี นปกติ มรี ายละเอยี ดและ ตวั อย่างดงั น้ี 1. การวิเคราะห์ ในการออกแบบการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิงควรดําเนินการวิเคราะห์ รายละเอยี ด 5 ดา้ น 1.1 วเิ คราะหค์ วามจาํ เป็น - จดั การเรยี นการสอนเอเี ลริ น์ นิงในหลกั สตู ร รายวชิ า หรอื เน้อื หาอะไร - จดั การเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นงิ เตม็ รปู แบบ หรอื แบบผสมผสาน หรอื เสรมิ การเรยี นการสอน 1.2 วเิ คราะหเ์ น้อื หา หรอื กจิ กรรมการเรยี นการสอน - การแบ่งเน้อื หาเป็นหวั ขอ้ ใหญ่ และหวั ขอ้ ย่อย ๆ เพอ่ื ใหม้ คี วามชดั เจน กาํ หนดเลอื กกจิ กรรมการเรยี น การสอนทเ่ี หมาะสมทจ่ี ะใหผ้ เู้ รยี นเกดิ การเรยี นรอู้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 1.3 วเิ คราะหผ์ เู้ รยี น - ขอ้ มลู ผู้เรยี น เช่น ระดบั ชนั้ อายุ ความรพู้ น้ื ฐาน เพ่อื ใหไ้ ดบ้ ทเรยี นทม่ี คี ุณภาพ และเหมาะสม กบั กลมุ่ เป้าหมาย 1.4 วเิ คราะหว์ ตั ถุประสงค์ - กาํ หนดวตั ถุประสงคท์ างดา้ นพทุ ธพิ สิ ยั คอื พฤตกิ รรมเกย่ี วกบั ความรู้ ความเขา้ ใจ ดา้ นจติ พสิ ยั คอื พฤตกิ รรมเก่ยี วกบั ความรู้สกึ ค่านิยมทศั นคติ และดา้ นทกั ษะพสิ ยั คอื พฤติกรรมเก่ยี วกบั การกระทาํ หรอื การปฏบิ ตั ิ - ระดบั ชนั้ อายุ ความรพู้ น้ื ฐาน เพ่อื ใหไ้ ดบ้ ทเรยี นทม่ี คี ุณภาพและเหมาะสมกบั กลุ่มเป้าหมาย 1.5 วเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ ม - อุปกรณ์สนบั สนุนการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น เช่น เคร่อื งอุปกรณ์คอมพวิ เตอรแ์ ม่ขา่ ย จํานวนเคร่อื ง คอมพวิ เตอรใ์ นสถาบนั ระบบจดั การสอน - จาํ นวนผเู้ รยี นทม่ี คี อมพวิ เตอรอ์ ปุ กรณ์คอมพวิ เตอรพ์ กพา สามารถเขา้ ถงึ อนิ เทอรเ์ น็ต ความเรว็ 30 อีเลิรนนิง: จากทฤษฎีสกู ารปฏิบตั ิ e-Lerning: from theory to practice

บทท่ี 2 การออกแบบการเรียนการสอนแบบอเี ลริ น นิง 2. ออกแบบ - การเขยี นผงั งาน การออกแบบ storyboard เพ่อื จดั ลําดบั ความสมั พนั ธข์ องเน้ือหาแต่ละสว่ นบท ดาํ เนินเร่อื ง และการออกแบบบทเรยี น ภาพ ขอ้ ความ เสยี ง หรอื มลั ตมิ เี ดยี กจิ กรรมการเรยี น การกาํ หนด ปฏสิ มั พนั ธก์ ารเรยี น และการประเมนิ ผล - การนําตวั บทเรยี นทผ่ี า่ นการออกแบบและวเิ คราะหจ์ ากขนั้ วเิ คราะหม์ าพฒั นาเป็นการเรยี นอเี ลริ น์ นงิ - การออกแบบหน้าจอภาพ (screen design) การจดั พน้ื ทแ่ี ละองคป์ ระกอบของจอภาพเพ่อื ใช้ ในการนําเสนอเน้ือหา ภาพ กราฟิก เสยี ง สี ตวั อกั ษร และส่วนประกอบอ่นื ๆ ใหเ้ หมาะสม กบั การเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น ภาพที่ 2.12 ตวั อยา่ งสตอรบ่ี อรด์ ของ TCU ทม่ี า: www.thaicyberu.go.th อีเลริ นนิง: จากทฤษฎสี กู ารปฏิบตั ิ e-Lerning: from theory to practice 31

บทท่ี 2 การออกแบบการเรียนการสอนแบบอีเลริ น นิง 3. พฒั นา ขนั้ พฒั นาเป็นขนั้ ตอนของการลงมือปฏบิ ตั ิการสร้างบทเรยี นตามผลการออกแบบ จากขนั้ ตอนทส่ี อง ขนั้ ตอนน้ีเป็นขนั้ ตอนท่ตี ้องอาศยั ผูม้ ีความเช่ยี วชาญหลายด้าน เช่น นักออกแบบ คอมพิวเตอรก์ ราฟิก นักคอมพวิ เตอรผ์ ู้ดูแลและจดั การระบบการจดั การเรยี นการสอน (LMS :learning management system) เช่น 1. ตวั อกั ษรของเน้ือหาขอ้ ความภาษาไทยและภาษาองั กฤษควรใชต้ วั หวั กลม แบบธรรมดา หน่งึ หน้าจอควรมเี น้ือหา ไม่เกนิ 8 -10 บรรทดั และควรใชล้ กั ษณะเหมอื นกนั รปู แบบเดยี วตลอดหน่ึงบทเรยี น ภาพท่ี 2.13 ตวั อย่างตวั อกั ษร 2. ภาพกราฟิกควรใชภ้ าพการต์ ูน ภาพวดี ที ศั น์ ภาพลอ้ เสมอื นจรงิ ทเ่ี ป็นภาพ เคล่อื นไหว 2 มติ ิ (animation) และ 3 มติ ิ (3 D animation) จาํ นวน 1 ถงึ 3 ภาพภายในหน่ึงหน้าจอ และภาพพน้ื หลงั (ถา้ ม)ี ควรใชภ้ าพลายน้ํา สจี างลกั ษณะเดยี วกนั ตลอดหน่งึ บทเรยี น ภาพที่ 2.14 ตวั อยา่ งภาพกราฟิก 32 อเี ลริ น นิง: จากทฤษฎีสกู ารปฏิบัติ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 2 การออกแบบการเรยี นการสอนแบบอีเลิรนนิง ภาพที่ 2.15 ตวั อยา่ งภาพพน้ื หลงั 3. สที ป่ี รากฎในจอภาพและสขี องตวั อกั ษรขอ้ ความไมค่ วรใชเ้ กนิ จาํ นวน 3 สี โดยคาํ นงึ ถงึ สพี น้ื หลงั ประกอบดว้ ย ภาพท่ี 2.16 ตวั อย่างการใชส้ บี นจอภาพ อเี ลิรนนงิ : จากทฤษฎสี กู ารปฏิบตั ิ e-Lerning: from theory to practice 33

บทที่ 2 การออกแบบการเรียนการสอนแบบอเี ลริ น นงิ 4. สอ่ื ชนั้ นําในการนําทาง (navigational aids) ควรเลอื กใชส้ ญั รปู (icon) แบบปุม่ รปู ภาพ, แบบ รปู ลูกศรพรอ้ มทงั้ อธบิ ายขอ้ ความสนั้ ๆ ประกอบสญั ลกั ษณ์หรอื แสดง ขอ้ ความ hypertext และใชเ้ มนูแบบ ปมุ่ (button), แบบ Pop Up ทแ่ี สดง สญั ลกั ษณ์สอ่ื ความหมายไดเ้ ขา้ ใจชดั เจน ภาพที่ 2.17 ตวั อย่างสญั รปู (icon) และปมุ่ 5. ปจั จยั สนับสนุนเพ่ือให้งานต่อการพฒั นาบทเรยี นเช่น การเลอื กใช้ ระบบบรกิ ารจดั การ เน้ือหา (CMS: content management system) แหล่งสนับสนุนการเรยี นรู้ การใช้เคร่อื งมือส่อื สาร ปฏสิ มั พนั ธ์ ภาพที่ 2.18 ตวั อยา่ งหน้าจอบทเรยี นเมอ่ื ใชร้ ะบบ TCU LMS 34 อีเลิรน นิง: จากทฤษฎีสกู ารปฏบิ ัติ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 2 การออกแบบการเรียนการสอนแบบอีเลริ นนิง 4. นําไปใช้ การนําเสนอการเรียนผ่านระบบบรหิ ารจดั การเรียนการสอนเผยแพร่บนระบบ เครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ (network) และสกู่ ารนําไปจดั การเรยี นการสอนจรงิ ภาพที่ 2.19 ตวั อยา่ งหน้าจอบทเรยี นเม่อื ใชร้ ะบบ TCU LMS 5. ประเมิน การประเมินการวิเคราะห์ การประเมินการออกแบบ การประเมินการพัฒนา และการประเมนิ เม่อื นําไปใชจ้ รงิ ของระบบ อเี ลริ น์ นิง โดยกระทําระหว่างดําเนินการ คอื การประเมนิ ระหว่าง ดําเนินงาน (formative evaluation) และประเมนิ ภายหลงั การดําเนินงาน (summative evaluation) การประเมนิ จะทาํ ใหผ้ พู้ ฒั นาทราบขอ้ มลู เพ่อื การปรบั ปรุงแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งในขนั้ ตอนต่าง ๆ ภาพท่ี 2.20 ตวั อยา่ งการประเมนิ บทเรยี น อเี ลริ น นงิ : จากทฤษฎสี กู ารปฏิบตั ิ e-Lerning: from theory to practice 35

บทท่ี 2 การออกแบบการเรยี นการสอนแบบอีเลริ นนงิ เพ่อื ให้เหน็ แนวทางการออกแบบการเรยี นการสอนอีเลิรน์ นิงด้านแบบจาํ ลอง ADDIE ท่ีชดั เจนขึน้ จงึ ขอสรปุ ดงั ภาพ ภาพท่ี 2.21 แสดงแบบจาํ ลองระบบการเรยี นการสอนดว้ ยแบบจาํ ลอง ADDIE การนําแบบจาํ ลอง ADDIE เพ่อื การออกแบบการเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นิงส่กู ารปฏบิ ตั นิ ัน้ นอกจาก จะดําเนินการตามขนั้ ตอนตามแบบจําลองแลว้ การใหค้ วามสาํ คญั ขนั้ ตอนต่าง ๆ ในแบบจําลอง ADDIE นนั้ ผเู้ ขยี นเองแบ่งเป็นสดั ส่วนทไ่ี ม่เท่ากนั โดยให้ความสําคญั กบั 3 ลําดบั แรก คอื การวเิ คราะห์ การนําไปใช้ และการประเมนิ ในสดั สว่ นทเ่ี ทา่ กนั คอื รอ้ ยละ 33 ลาํ ดบั ถดั มา คอื การพฒั นารอ้ ยละ 23 และลาํ ดบั สดุ ทา้ ย คอื การออกแบบรอ้ ยละ 10 แบบจําลอง ของเวลาในการดําเนินการพฒั นาอเี ลริ ์นนิงทงั้ หมดสรุปแผนการพฒั นาสดั ส่วนเวลา พฒั นาอเี ลริ น์ นงิ ดงั น้ี ภาพที่ 2.22 แสดงสดั สว่ นเวลาในการพฒั นาอเี ลริ น์ นงิ ตามแบบจาํ ลอง ADDIE แบบจําลองการออกแบบการสอน ADDIE น้ี สามารถนํามาใชเ้ พ่อื การออกแบบการเรยี นการสอน แบบอเี ลริ น์ นิงโดยกวา้ ง ๆ ทผ่ี ปู้ ระสงคจ์ ะพฒั นาอเี ลริ น์ นิงสามารถใชเ้ ป็นแนวทางในการพฒั นา หรอื ไปขยาย รายละเอยี ดในแต่ละขนั้ ตอนเพ่อื การพฒั นาอเี ลริ น์ นิงตามหลกั การทถ่ี กู ตอ้ งต่อไป 36 อีเลริ น นงิ : จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ัติ e-Lerning: from theory to practice

บทที่ 2 การออกแบบการเรยี นการสอนแบบอเี ลิรน นงิ 4. ตวั อยา่ งการออกแบบการเรียนการสอนอีเลิรน์ นิงท่ีน่าสนใจ ในส่วนสุดทา้ ยของบทน้ี ขอยกตวั อย่างการออกแบบการเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นิงทน่ี ่าสนใจ ไดแ้ ก่ แนวทางการออกแบบของ Ritchie and Hoffman (1997: 135-138) แบบจําลองการออกแบบการเรยี นการสอน อเี ลริ น์ นิงตามแนวคดิ ของ Ally (2006) และสุดทา้ ย แบบจาํ ลองการสอนแบบอเี ลริ น์ นิงของ Anderson & Elloumi (2004) รทิ ชแี ละฮอฟแมน (Ritchie and Hoffman, 1997: 135-138) กล่าวถึงการออกแบบและเสนอ ขนั้ ตอนการเรยี นการสอนแบบอเี ลริ น์ นงิ เพ่อื ใหเ้ กดิ การเรยี นรทู้ ด่ี ที ส่ี ดุ ตอ้ งอาศยั หลกั กระบวนการสอน 7 ประการ ดงั น้ี 1) สรา้ งแรงจงู ใจใหก้ บั ผเู้ รยี น การออกแบบควรเรา้ ความสนใจโดยการใชภ้ าพกราฟิก ภาพเคล่อื นไหว สแี ละ/หรอื เสยี งประกอบเพ่อื กระตุน้ ผเู้ รยี นใหอ้ ยากเรยี นรู้ ควรใชก้ ราฟิกขนาดใหญ่ไม่ซบั ซอ้ น การเช่อื มโยง ไปยงั เวบ็ อ่นื ตอ้ งน่าสนใจ เกย่ี วขอ้ งกบั เน้อื หา 2) บอกวตั ถุประสงคข์ องการเรยี น เพอ่ื เป็นการบอกใหผ้ เู้ รยี นรลู้ ่วงหน้าถงึ ประเดน็ สาํ คญั ของเน้อื หา และเป็ นการบอกถึงเค้าโครงของเน้ือหาซ่ึงจะเป็ นผลให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพข้ึน อาจบอก เป็นวตั ถุประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมหรอื วตั ถุประสงคท์ วั่ ไปโดยใชค้ าํ สนั้ ๆ หลกี เลย่ี งคาํ ทไ่ี ม่เป็นทร่ี จู้ กั ใชก้ ราฟิก ง่าย ๆ เชน่ กรอบ หรอื ลกู ศร เพอ่ื ใหก้ ารแสดงวตั ถุประสงคน์ ่าสนใจยง่ิ ขน้ึ 3) ทบทวนและเช่อื มโยงความรเู้ ดมิ ของผเู้ รยี น เพ่อื เป็นการเตรยี มพน้ื ฐานผเู้ รยี นสาํ หรบั รบั ความรู้ ใหม่ การทบทวนไม่จําเป็นต้องเป็นการทดสอบเสมอไป อาจใชก้ ารกระตุ้นให้ผู้เรยี นนึกถงึ ความรูท้ ่ไี ดร้ บั มาก่อนเร่ืองน้ีโดยใช้เสียงพูด ขอ้ ความ ภาพ หรือใช้หลาย ๆ อย่างผสมผสานกนั ทงั้ น้ีข้ึนอยู่กบั ความ เหมาะสมของเน้ือหา มกี ารแสดงความเหมอื นความแตกต่างของโครงสรา้ งบทเรยี น เพ่อื ท่ผี เู้ รยี นจะไดร้ บั ความรใู้ หมไ่ ดเ้ รว็ นอกจากนนั้ ผอู้ อกแบบควรตอ้ งทราบภมู หิ ลงั ของผเู้ รยี นและทศั นคตขิ องผเู้ รยี น 4) ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามกระตอื รอื รน้ ทจ่ี ะเรยี นรู้ นักการศกึ ษาเหน็ พอ้ งตอ้ งกนั ว่า การเรยี นรจู้ ะเกดิ ขน้ึ เม่ือผู้เรียนมีความตัง้ ใจท่ีจะรับความรู้ใหม่ ผู้เรียนจะจดจําได้ดี ถ้ามีการนําเสนอเน้ือหาดี สัมพันธ์ กบั ประสบการณ์เดมิ ของผเู้ รยี น ผอู้ อกแบบบทเรยี นควรหาเทคนิคต่าง ๆ เพ่อื ใชก้ ระตุ้นผเู้ รยี นใหน้ ําความรู้ เดมิ มาใชใ้ นการศกึ ษาความรูใ้ หม่ รวมทงั้ พยายามหาทางทําใหก้ ารศกึ ษาความรูใ้ หม่ของผูเ้ รยี นกระจ่างชดั มากขน้ึ พยายามใหผ้ เู้ รยี นรจู้ กั เปรยี บเทยี บ แบง่ กลมุ่ หาเหตุผล คน้ ควา้ วเิ คราะหห์ าคาํ ตอบดว้ ยตนเอง 5) ใหค้ ําแนะนําและให้ขอ้ มูลป้อนกลบั การใหค้ ําแนะนําและใหข้ อ้ มลู ป้อนกลบั ในระหว่างทผ่ี เู้ รยี น ศึกษาอยู่ในเว็บ เป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนได้ดี ผู้เรียนจะทราบความก้าวหน้าในการเรียน ของตนเอง การเปิดโอกาสใหผ้ ูเ้ รยี นร่วมคดิ ร่วมกจิ กรรมในส่วนท่เี กย่ี วขอ้ งกบั เน้ือหา การถาม การตอบ จะทาํ ใหผ้ เู้ รยี นจดจาํ ไดม้ ากกว่าการอ่านหรอื ลอกขอ้ ความเพยี งอย่างเดยี ว อีเลริ นนงิ : จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ตั ิ e-Lerning: from theory to practice 37

บทที่ 2 การออกแบบการเรียนการสอนแบบอีเลริ นนิง 6) ทดสอบความรู้ เพ่อื ให้แน่ใจว่าผู้เรยี นไดร้ บั ความรู้ ผู้ออกแบบสามารถออกแบบแบบทดสอบ แบบออนไลน์ หรอื ออฟไลน์กไ็ ด้ เป็นการเปิดโอกาสให้ผเู้ รยี นสามารถประเมนิ ผลการเรยี นของตนเองได้ อาจจดั ใหม้ กี ารทดสอบระหว่างเรยี น หรอื ทดสอบทา้ ยบทเรยี นทงั้ น้ีควรสรา้ งขอ้ สอบใหต้ รงกบั วตั ถุประสงค์ ของบทเรยี น ขอ้ สอบ คาํ ตอบและขอ้ มลู ป้อนกลบั ควรอย่ใู นกรอบเดยี วกนั และแสดงต่อเน่ืองกนั อย่างรวดเรว็ ไม่ควรให้ผู้เรียนพมิ พ์คําตอบยาวเกินไปควรบอกผู้เรยี นถึงวธิ ตี อบให้ชดั เจน คํานึงถงึ ความแม่นยําและ ความเช่อื ถอื ไดข้ องแบบทดสอบ 7) นําความรู้ไปใชแ้ ละเสรมิ ความรู้ เป็นการสรุปแนวคดิ สาํ คญั ควรใหผ้ เู้ รยี นทราบว่าความรใู้ หม่ มสี ่วนสมั พนั ธ์กบั ความรู้เดมิ อย่างไร ควรเสนอแนะสถานการณ์ท่จี ะนําความรู้ใหม่ไปใชแ้ ละบอกผู้เรยี น ถงึ แหล่งขอ้ มลู ทจ่ี ะใชอ้ า้ งองิ หรอื คน้ ควา้ ต่อไป สําหรบั องค์ประกอบของอเี ลิรน์ นิงนัน้ มแี นวคดิ หลากหลายรูปแบบตงั้ แต่การพิจารณาลกั ษณะ ของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ รูปแบบการนําส่งอีเลิร์นนิง หรือการพิจารณาองค์ประกอบในแง่มุมของ การออกแบบอเี ลริ น์ นงิ แบบจาํ ลองการเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นงิ Ally (2006) ไดน้ ําเสนอองคป์ ระกอบและขนั้ ตอนการเรยี น การสอนอเี ลริ น์ นงิ มรี ายละเอยี ดประกอบดว้ ย 1) การเตรียมตัวผู้เรียนให้พร้อมกบั การเรียน ได้แก่ การให้ผู้เรียนได้ทราบความ คาดหวงั หรือผลการเรียนรู้ท่ีคาดหวงั การแสดงผงั ความคิดล่วงหน้า การแสดงผังความคิดรวบยอด การประเมนิ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ของตนเอง 2) กจิ กรรมการเรยี น โดยทวั่ ไปการเรยี นอเี ลริ น์ นิงจะจดั ใหม้ สี ่อื การเรยี นทางออนไลน์ เพ่ือให้ผู้เรียนอ่านและหรือฟงั สารสนเทศจากบทเรียน ควรเพ่ิมกิจกรรมการเรียนท่ีให้โอกาสผู้เรียน ทาํ กจิ กรรมมากขน้ึ เชน่ - ไดศ้ กึ ษาค้นคว้าสารสนเทศผ่านทางอนิ เทอรเ์ น็ต หรอื เช่อื มโยงไปยงั สารสนเทศ อน่ื ๆทอ่ี อนไลน์อยู่ - การมอบหมายใหผ้ เู้ รยี นเขยี นบนั ทกึ การเรยี น (learning journal) เพ่อื เปิดโอกาส ใหผ้ เู้ รยี นไดส้ ะทอ้ นความรตู้ ามการแปลความสว่ นบุคคล - การใหแ้ บบฝึกหดั และผลป้อนกลบั ซง่ึ ผลป้อนกลบั ทใ่ี หส้ ารสนเทศดว้ ยนนั้ จะเป็น ประโยชน์ต่อการปรบั วธิ กี ารเรยี นของผเู้ รยี นบางกลุ่ม 38 อีเลริ นนิง: จากทฤษฎีสกู ารปฏิบตั ิ e-Lerning: from theory to practice

บทท่ี 2 การออกแบบการเรียนการสอนแบบอเี ลริ นนงิ 3) ปฏสิ มั พนั ธข์ องผเู้ รยี น การจดั ปฏสิ มั พนั ธค์ วรคํานึงถงึ การออกแบบสว่ นต่อประสาน ท่ีให้ผู้เรียนได้มีปฏิสมั พนั ธ์กบั ตนเอง และกบั เน้ือหาสาระ ควรออกแบบให้ง่ายต่อการรบั รู้ของประสาท สมั ผสั และคาํ นงึ ถงึ การจดั ใหม้ ปี ฏสิ มั พนั ธร์ ะหว่างผเู้ รยี นกบั ผสู้ อน และผเู้ รยี นกบั ผเู้ รยี นอน่ื ดว้ ย ผ่านรปู แบบ การสอนเช่น การเรยี นแบบร่วมมอื การเรยี นแบบเรยี นรรู้ ว่ มกนั 4) การถ่ายโยงความรู้ของผูเ้ รยี น แบ่งเป็น 2 มติ ิ กล่าวคอื การถ่ายโยงภายในของ ผเู้ รยี น เป็นการสรา้ งและแปลความหมายของสารสนเทศนนั้ ตามการรบั รทู้ เ่ี กดิ ขน้ึ (Personal meaning) และ การถ่ายโยงความรไู้ ปใชก้ บั สถานการณ์จรงิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในชวี ติ (Real-life application) แบบจาํ ลองการเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นิงของ Ally (2006) โดยเสนอรปู แบบดงั ภาพ ภาพท่ี 2.23 แบบจาํ ลองการเรยี นการสอนอเี ลริ น์ นิงของ Ally, 2006 อเี ลิรนนิง: จากทฤษฎสี กู ารปฏบิ ตั ิ e-Lerning: from theory to practice 39