195 (2) เครอ่ื งมือและเทคโนโลยที ี่ใช 1. เคร่ืองคดิ เลข 2. เคร่ืองคอมพวิ เตอร 3. เครื่องจักรอุตสาหกรรมในแตละสาขาอุตสาหกรรม 4. เครื่องบรรจุภัณฑล งกลอ งหรอื แพค็ เปนพลาสตกิ (3) ความรแู ละทกั ษะทางคณิตศาสตรท ่ใี ช 1. การคํานวณเงินรายไดประจําสัปดาห ประจาํ เดือนโดยหักวนั ลาหยดุ 2. การคํานวณเงินคาทํางานลวงเวลาเปนจํานวนชั่วโมงตอคาจางรายชั่วโมง 3. การคาํ นวณเงนิ กูและดอกเบ้ีย (ดอกเบี้ยคงที่, ดอกเบ้ียทบตน) 4. การทําบัญชีรับ – จายประจาํ วัน 5. การคํานวณภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา 1.3 กลุม อาชีพพาณิชยกรรม ไดแก อาชพี คาขาย ผูประกอบการรา นอาหารและเครือ่ งดม่ืผูประกอบการขายปลีกและขายสง ธุรกิจการซอ้ื ขายอสังหาริมทรพั ย ธุรกิจการซือ้ ขายหุนในตลาดหลกั ทรัพย อาชีพการทาํ บัญชี การตลาด เปนตน (1) ลกั ษณะงานเบ้อื งตน ทีใ่ ชทักษะคณติ ศาสตร 1. การจัดเตรยี มสถานที่ การคํานวณการจัดวางโตะ เกาอี้ หรอื วัสดุ อปุ กรณใ นการขาย 2. การจัดซื้อวัตถุดิบในการคาขายปลีกหรือขายสง 3. การจาํ หนา ยสินคา การคาํ นวณราคาสนิ คาตอ หนว ย การทอนเงิน 4. การจดั ทําบัญชพี สั ดุ (การจัดซื้อ การเบิกจา ยพสั ด)ุ 5. การจดั ทําบัญชีรับ – จายประจําวนั 6. การฝากเงิน การถอนเงิน การออมเงิน
196 7. การประชาสัมพันธในงานธุรกิจคาขายหรือพาณิชยกรรม ซึ่งตองใช ทักษะในการคํานวณขนาดของปายโฆษณา ขนาดตัวอักษร ขนาดและ จาํ นวนแผน พับหรือใบปลิวโฆษณา 8. การคํานวณภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา (2) เคร่อื งมือและเทคโนโลยีทใี่ ช 1. เคร่ืองคดิ เลข 2. เคร่ืองเกบ็ เงิน – ทอนเงนิ 3. เคร่ืองคอมพวิ เตอร 4. เคร่ืองไมโครเวฟ 5. เครื่องปน นา้ํ ผลไม (3) ความรแู ละทักษะทางคณิตศาสตรทใ่ี ช 1. การคํานวณขนาดของพ้นื ที่ใชส อยเพือ่ จดั วาง โตะ เกาอห้ี รือวัสดุ อุปกรณใ นการขาย 2. การคาํ นวณปริมาณการจัดซอื้ วัตถุดบิ ในแตละวัน 3. การคาํ นวณในการจดั ซ้ือพัสดุ 4. การจัดทําบัญชีรับ – จา ยประจาํ วนั 5. การคาํ นวณขนาดของปา ยโฆษณา ประชาสัมพนั ธห รอื แผนพบั แผนปลิว โฆษณา 6. การคํานวณภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา 1.4 กลมุ อาชพี ดา นความคดิ สรา งสรรค ไดแ ก ธุรกิจโฆษณา ธุรกิจการออกแบบตกแตงท่ีอยอู าศยั สํานักงานและสวนหยอม การจัดดอกไมและแจกนั ประดับ ธรุ กจิ การทําพวงหรีด การจัดกระเชาของขวัญ เปนตน
197 (1) ลักษณะงานเบอ้ื งตน ที่ใชทักษะคณติ ศาสตร 1. การจัดเตรียมขนาด ปริมาตร รูปทรงของพื้นที่หรือชิ้นงานในการจัดทํา ธุรกิจ ซึ่งตองใชการวัดความกวาง ความยาว ความสูงของพื้นที่หรือ ชิ้นงาน การออกแบบรูปทรงโดยใชรูปเรขาคณิตสามมิติ 2. การคํานวณปริมาณของวัสดุอุปกรณในการใชประดิษฐสรางสรรค ช้ินงาน หรอื การจดั ตกแตง สวนหยอม 3. การคํานวณเพื่อกําหนดราคาขายสินคา 4. การจดั ทาํ บัญชพี สั ดุ (การจัดซื้อ การเบกิ จา ยพสั ดุ) 5. การจัดทําบัญชีรับ – จาย ประจาํ วัน 6. การประชาสัมพันธในอาชีพธุรกิจทุกประเภท ซึ่งตองใชทักษะใน การคํานวณเปนพื้นฐาน 7. การคํานวณภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา (2) เคร่ืองมือและเทคโนโลยีทใ่ี ช 1. เคร่ืองคดิ เลข 2. เคร่ืองคอมพวิ เตอร 3. โปรแกรมสําเร็จรูปในการออกแบบสินคา (3) ความรแู ละทักษะทางคณิตศาสตรท ่ีใช 1. การคาํ นวณพนื้ ท่ีผวิ ปรมิ าตรของพื้นทหี่ รือออกแบบรูปทรงทใี่ ชใน การทํางานอาชีพ 2. การคํานวณปรมิ าณของวสั ดุ อปุ กรณทใ่ี ชป ระดิษฐ สรา งสรรค ช้นิ งาน 3. การคํานวณตนทุนและกําไร เพ่อื กําหนดราคาขายสนิ คา 4. การจัดทําบัญชีพัสดุ 5. การจัดทําบัญชีรับ – จายประจาํ วนั 6. การคํานวณภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา 1.5 กลุม อาชีพบรหิ ารจดั การและการบริการ ไดแก อาชีพกลุมงานบริการและการทองเที่ยวงานบริการรักษาความปลอดภัย บริการดูแลสตอ ก บริการดูแลผสู งู อายุ บริการสันทนาการและการกฬี า เปน ตน
198(1) ลักษณะงานเบื้องตนทใี่ ชทกั ษะคณติ ศาสตร 1. การสํารวจพื้นที่ในการใหบริการ การคํานวณระยะทางในการใหบริการ 2. การจดั ซื้อวัสดุ อปุ กรณใ นการใหบ รกิ าร 3. การรับสมัครและกาํ หนดเงนิ เดือนตามตาํ แหนง งานของเจา หนา ทใ่ี น การใหบ รกิ าร 4. การจัดทําตารางเวลา การอยูเวร - ยามของเจาหนาที่ประจําสํานักงาน 5. การจัดทํากําหนดการทองเที่ยวและการใหบริการ รวมทั้งกําหนด ราคาขายบริการในแตละพื้นที่ 6. การคํานวณการใชน ํา้ มันเช้ือเพลิงของยานพาหนะที่ใหบริการ 7. การจัดทําบัญชพี สั ดุ และการเบิกจา ยพสั ดุ 8. การจัดทําบัญชีรับ – จา ยประจําวัน 9. การจัดทําแผนปายโฆษณา ประชาสัมพันธการใหบริการ 10. การจัดทําสรุปรายงานและการนําเสนอขอมูล 11. การคํานวณภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา(2) เครื่องมอื และเทคโนโลยีท่ใี ช 1. เคร่ืองคดิ เลข 2. เคร่ืองคอมพวิ เตอร 3. เครื่องออกกําลังกาย 4. อปุ กรณใ นการเตรียมอาหาร น้ําดม่ื นมแกท ารกและผูสงู อายุ 5. ยานพาหนะในการใหบ รกิ าร 6. แผนที่ของสถานทหี่ รอื จดุ ที่ใหบรกิ าร
199(3) ความรแู ละทักษะทางคณติ ศาสตรทีใ่ ช 1. การคํานวณพื้นที่และการวัดระยะทาง 2. การคํานวณปรมิ าณของวัสดุ อุปกรณท ี่จําเปนตองจัดซื้อ จดั หา เพื่อใหบรกิ าร 3. การคาํ นวณเงนิ เดอื นและกาํ หนดตาํ แหนง งานของเจา หนา ท่ี 4. การจัดทําตารางการปฏิบัติงาน 5. การคํานวณการใชเชื้อเพลิงรถยนตตอระยะทางที่ใหบริการ 6. การจัดทําบัญชีเบื้องตน 7. การใชสถิติในการจัดทําสรุปรายงานหรือนําเสนอขอมูล 8. การคํานวณภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา
200เร่อื งท่ี 2 การนําความรูท างคณติ ศาสตรไ ปเช่อื มโยงกับงานอาชพี ในสังคม คณติ ศาสตรเปนวิชาท่ีวา ดวยเหตผุ ล กระบวนการคิดและแกปญ หาเสริมสรา งใหม ีการคิดอยางมีวิจารญาณเปนระบบ เปนคนมีเหตุผล มีทักษะการแกปญหา สามารถวิเคราะหปญหาและสถานการณไ ดอยางถถ่ี วน รอบคอบ การเชื่อมโยงความรูตาง ๆ ทางคณิตศาสตรกับงานอาชีพเปนการนําความรูและทักษะ/กระบวนการตาง ๆ ทางคณิตศาสตรไปสัมพันธกับเนื้อหาและความรูของงานอาชีพอยางเปนเหตุเปนผล ชวยในการตัดสินใจในงานอาชีพ เชน การใชตารางและกราฟประกอบการใชสถิติมาชวยในการวิเคราะหงานอาชีพเพื่อสํารวจความตองการสินคาเพื่อการผลิต ใชรอยละในการคิดคํานวณดอกเบย้ี ภาษี กําไรขาดทุน เปนตน2.1 ทักษะการจดั ทาํ บัญชีรายรับ – รายจา ยประจาํ วันตวั อยา ง การจัดทําบัญชีรายรับ – รายจายประจําวันของผูประกอบการรานอาหารวันที่ 25 กันยายน 2554 จายคาซื้อวัตถุดิบในการขายอาหาร 3,000 บาท คาน้ํา คาไฟฟา 850 บาท คาอาหาร 250 บาท ไดรับเงินจากการขายอาหาร 6,500 บาทวนั ที่ 26 กันยายน 2554 จายคาโทรศัพท 650 บาท จายคาน้ํามันรถยนต 1,400 บาท จายคาอาหาร 280 บาท จายคาผลไม 150 บาท ไดรับเงินจาก การขายอาหาร 5,400 บาทวันท่ี 27 กันยายน 2554 จา ยคาหนงั สือพิมพ 480 บาท จายคา อาหาร 310 บาท จายคาน้ําดื่ม 270 บาท จายคาซอมรถยนต 4,800 บาท ไดรับเงินจากการขายอาหาร 4,500 บาทวันท่ี 28 กันยายน 2554 จายคาอาหาร 240 บาท จายคาบัตรการกุศล 1,000 บาท ซือ้ ถงุ พลาสตกิ ใสอาหาร 550 บาท ไดรับเงินจากการขายอาหาร 6,800 บาท
ตวั อยาง การจัดทําบัญชีรายรับ – รายจายประจําวันของผูประกอบการรานอาหาร 201วนั เดือน ป รายการรบั จาํ นวนเงนิ วนั เดือน ป รายการจาย จาํ นวนเงนิ25 ก.ย. 54 ไดเงินจากการขาย บาท สต. บาท สต. 3,000 - อาหาร 6,500 - 25 ก.ย. 54 ซ้อื วัตถดุ ิบในการ 850 -26 ก.ย. 54 ไดเงินจากการขาย ขายอาหาร 250 - อาหาร 650 - คานาํ้ คาไฟฟา 1,400 -27 ก.ย. 54 ไดเงินจากการขาย 280 - อาหาร คาอาหาร 150 - 480 -28 ก.ย. 54 ไดเงินจากการขาย 5,400 - 26 ก.ย. 54 คาโทรศัพท 310 - อาหาร 270 - คา นา้ํ มนั รถยนต 4,800 - รวม 240 - คาอาหาร 1,000 - 550 - คาผลไม 14,230 - 4,500 - 27 ก.ย. 54 คา หนังสือพมิ พ 8,970 - คาอาหาร คา นํ้าดื่ม คาซอมรถยนต 6,800 - 28 ก.ย. 54 คาอาหาร คาบัตรการกุศล ซื้อถุงพลาสติกใส อาหาร 23,200 - รวม ยอดคงเหลือยกไป เม่ือจัดทําบัญชีรายรบั และรายจา ยประจําวนั แลว ผูเรียนจะคาํ นวณยอดคงเหลอื ซง่ึ ไดจากการนํารายรับไปลบกับรายจาย เมื่อจัดทําบัญชีในหนาถัดไปหรือในเดือนถัดไปก็จะนํายอดคงเหลือไปบันทึกในรายการของรายรับในหนาถัดไป ซึ่งจะไปเปนยอดรายการรับรวมกับรายการรับเงินที่จะไดจากการรบั เงินจากการขายอาหารในวันตอ ๆ ไป
2022.2 ทักษะการคํานวณรายไดและการแลกเปลี่ยนเงนิ ตราตวั อยาง บริษัทแหงหนึ่งสั่งซื้อเครื่องจักรจากตางประเทศราคา 45,000 ดอลลารสหรัฐ เม่ือสินคา สงมาถึงเมืองไทยตองผานพิธีการศุลกากร เสียภาษีศุลกากร 10% ภาษมี ลู คาเพ่ิม 7% คาธรรมเนียมและคาบริการตาง ๆ รวม 4,000 บาท ราคาเครื่องจักรและคาใชจายทั้งหมดรวมวธิ ีทํา เปนเงินเทาไร (1 ดอลลารสหรัฐ เทา กับ 30.42 บาท) ราคาเครอ่ื งจกั ร 45,000 × 30.42 = 1,368,900 บาท เสยี ภาษศี ุลกากร 10% = 1,368,900 × 10 = 136,890 บาท 100 7 เสียภาษีมูลคา เพ่มิ 7% = 1,368,900 × 100 = 95,823 บาท ∴ ราคาเครื่องจักรและคาใชจายทั้งหมด รวมเปนเงิน = ราคาเครื่องจักร + ภาษศี ลุ กากร + ภาษีมลู คา เพม่ิ + คา ธรรมเนียมและคาบริการตาง ๆ = 1,368,900 + 136,890 + 95,823 + 4,000 = 1,605, 613 บาท2.3 การคดิ คํานวณดอกเบ้ียสินเชื่อธนาคารตวั อยาง บรษิ ทั สัง่ ซ้ือเครื่องจกั รจากตัวอยางขางตน บรษิ ทั ไดข อสินเชื่อจากธนาคารไดรับสิทธิในการ ผอนชาํ ระเคร่ืองจกั รเปน รายเดือน เดือนละ 120,000 บาท คิดดอกเบี้ยปละ 7.5% เมื่อผอนชําระวธิ ีทํา ครบ 1 ป จะตองเสียเงินทัง้ หมดเทา ไร ดอกเบย้ี = เงินตน ×อตั ราดอกเบ ้ยี × ระยะเวลา 100 7.5 1 เดือนที่ 1 เสียดอกเบย้ี = 1,368,900 × 100 × 12 = 8,555.63 บาท เดอื นท่ี 2 เงนิ ตน คงเหลอื = 1,368,900 – 120,000 = 1,248,900 บาท เสยี ดอกเบย้ี = 1,248,900 × 7.5 × 1 = 7,805.63 บาท 100 12 เดือนที่ 3 เงนิ ตน คงเหลอื = 1,248,900 – 120,000 = 1,128,900 บาท เสียดอกเบย้ี = 1,128,900 × 7.5 × 1 = 7,055.63 บาท 100 12
203เดือนที่ 4 เงนิ ตน คงเหลอื = 1,128,900 – 120,000 = 1,008,900 บาทเสยี ดอกเบ้ยี = 1,008,900 × 7.5 × 1 = 6,305.63 บาท 100 12เดือนที่ 5 เงนิ ตน คงเหลอื = 1,008,900 – 120,000 = 888,900 บาทเสียดอกเบี้ย = 888,900 × 7.5 × 1 = 5,555.63 บาท 100 12เดือนท่ี 6 เงนิ ตน คงเหลอื = 888,900 – 120,000 = 768,900 บาทเสียดอกเบี้ย = 768,900 × 7.5 × 1 = 4,805.63 บาท 100 12เดือนท่ี 7 เงนิ ตน คงเหลอื = 768,900 – 120,000 = 648,900 บาทเสยี ดอกเบ้ยี = 648,900 × 7.5 × 1 = 4,055.63 บาท 100 12เดือนที่ 8 เงนิ ตน คงเหลอื = 648,900 – 120,000 = 528,900 บาทเสียดอกเบยี้ = 528,900 × 7.5 × 1 = 3,305.63 บาท 100 12เดอื นที่ 9 เงนิ ตน คงเหลอื = 528,900 – 120,000 = 408,900 บาทเสยี ดอกเบย้ี = 408,900 × 7.5 × 1 = 2,555.63 บาท 100 12เดอื นท่ี 10 เงนิ ตน คงเหลอื = 408,900 – 120,000 = 288,900 บาทเสยี ดอกเบีย้ = 288,900 × 7.5 × 1 = 1,805.63 บาท 100 12เดอื นที่ 11 เงนิ ตน คงเหลอื = 288,900 – 120,000 = 168,900 บาทเสยี ดอกเบยี้ = 168,900 × 7.5 × 1 = 1,055.63 บาท 100 12เดอื นที่ 12 เงนิ ตน คงเหลอื = 168,900 – 120,000 = 48,900 บาทเสยี ดอกเบี้ย = 48,900 × 7.5 × 1 = 305.63 บาท 100 12เมื่อผอนชาํ ระครบ 1 ป จะตอ งเสียเงนิ ทั้งหมด = ราคาเครื่องจักร + ดอกเบย้ี 12 เดือน = 1,368,900 + 8,555.63 + 7,805.63 + 7,055.63 + 6,305.63 + 5,555.63 + 4,805.63 + 4,055.63 + 3,305.63 + 2,555.63 + 1,805.63 + 1,055.63 + 305.63 = 1,422,067.56 บาท
2042.4 การคาํ นวณกาํ ลังการผลิต (อัตราสว น/สัดสวน)ตัวอยา ง เครื่องจักรบรรจุน้ําตาลทรายขนาด 8 กรมั ไดนาทีละ 100 ซอง ทํางานวันละ 8 ชั่วโมง เคร่ืองจกั รจะทําการบรรจุไดกซ่ี องวธิ ที ํา อัตราสวนของเวลาที่ใชในการบรรจุตอจํานวนซองเทากับ 1 นาที ตอ 100 ซอง หรือ 8 ชั่วโมง ตอ A (8 ชั่วโมง × 60 นาที : A) นนั่ คอื 1 : 100 = 8 ×60 : A 1 = 480 100 A A = 480 × 100 A = 48,000 ดังน้นั เคร่ืองจกั รบรรจุนาํ้ ตาลทรายขนาด 8 กรมั วันละ 8 ชัว่ โมง เทากับ 48,000 ซอง2.5 การคํานวณรายได (รอ ยละ อัตราสว น สัดสว น)ตวั อยา ง พนกั งานไดรับเงนิ เดอื น ๆ ละ 12,000 บาท คาเบี้ยขยัน 10% ของเงินเดือน คา ลว งเวลาได ชั่วโมงละ 50 บาท เดือนนี้ทํางานลวงเวลา 8 วนั ๆ ละ 3 ชั่วโมง หักเงินคาประกันสังคม 5% ของเงนิ เดือน พนกั งานคนน้ีจะไดร บั เงินเทา ไรวธิ ีทํา คา เบ้ียขยนั = 10 × 12,000 = 1,200 บาท 100 อตั ราสว นของจาํ นวนชว่ั โมงลว งเวลา : รายได เทากับ 1 ช่ัวโมง ตอ 50 บาท นนั่ คอื 8 × 3 : รายได = 1 : 50 24 : รายได = 1 : 50 24 = 1 รายได 50 รายได = 24 × 50 = 1,200 บาท คาประกันสังคม = 5 ×12,000 = 600 บาท 100 พนกั งานคนนไ้ี ดรบั เงิน = เงนิ เดือน + เบ้ียขยัน + คาลวงเวลา – คาประกันสังคม = 12,000 + 1,200 + 1,200 – 600 = 13,800 บาท
2052.6 ทักษะการคํานวณภาษีเงินไดบุคคลธรรมดาตัวอยา งท่ี 5 โอฬารมีรายไดจากการประกอบอาชีพเดือนละ 10,500 บาท ไมมีครอบครัว เมื่อยื่นแบบคาํ นวณภาษี มีสิทธหิ กั คา ใชจายได 40% ของรายไดแตไมเกนิ 60,000 บาทคาลดหยอ นผมู ีเงินได 30,000 บาท สิ้นปโอฬารจะตองชําระภาษีหรือไมวิธที ํา เงินไดพึงประเมินของโอฬารตลอดป = 10,500 × 12 = 126,000 บาท 40หัก คา ใชจ ายไดร อยละ 40 ของเงินไดพึงประเมิน = 100 ×126,000 = 50,400 บาทหกั คาลดหยอ นผูมีเงินได 30,000 บาทเงนิ ไดสทุ ธทิ ี่ตองคํานวณภาษี = เงินไดพึงประเมิน – (เงินหักคาใชจาย + คา ลดหยอ น) = 126,000 – (50,400 + 30,000) = 45,600 บาทกรมสรรพากรกําหนดใหผูม ีเงินไดสทุ ธติ งั้ แต 0 ถึง 150,000 บาท ไดรับการยกเวนภาษีดังน้ัน โอฬารตอ งยนื่ แบบภาษีเงนิ ไดบ ุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.91) แตไ มตองชําระเงินเพราะไดรับการยกเวน ภาษี ดังตาราง ตารางอัตราภาษีเงินไดบุคคลธรรมดา เงินไดสุทธิขน้ั เงนิ ไดส ทุ ธติ ัง้ แต จาํ นวนสงู สดุ เงนิ ไดสุทธิ อตั ราภาษี ภาษเี งินได ภาษีในแตละ ภาษสี ะสม แตล ะขน้ั รอยละ ขนั้ เงินได สูงสดุ ของขั้น ของขนั้0 ถงึ 100,000 100,000 .............. .... 5 .............. .... ยกเวน 0เกนิ 100,000 ถงึ 150,000 50,000 .............. .... 10 .............. .... ยกเวน 0เกนิ 150,000 ถงึ 500,000 350,000 .............. .... 10 .............. .... 35,000 35,000เกนิ 500,000 ถึง 1,000,000 500,000 .............. … 20 .............. … 100,000 135,000เกนิ 1,000,000 ถึง 4,000,000 3,000,000 .............. … 30 .............. … 900,000 1,035,000 .............. … 37 .............. …เกนิ 4,000,000 บาทขึ้นไป รวม →
2062.7 การทาํ ปายจากแผน อะครีลกิตัวอยา ง ทําปายจากแผน อะครลี ิกติดหนาหอ งตา ง ๆ ดังนี้ หอ งประชมุ Meeting Room หองแสดงสนิ คา Show Room หองเกบ็ ของStore Room ปายทั้ง 3 ทาํ ดว ยแผน อะครลี กิ หนา 3 มม. สีขาว โดยมีขนาดกวาง 8 นว้ิ ยาว 21 นิ้ว โดยทางรานคิดคาใชจายการจัดทําตารางฟุตละ 165 บาท จะตองเสียคาใชจายทําปายทั้งสามเทากับเทาไรวธิ ที ํา พปาื้นยทมป่ี คีคาววยาาทมมั้งยกหาววมาง2ด18=นน้วิวิ้182==×11128222211×ฟฟ3ุตตุ = 3.5 ตารางฟุต เสียคาใชจายทําปาย = 3.5 × 165 = 577.50 บาท
207 แบบฝก หดั1. จงจัดทําบัญชีรับจายประจําวันของนายสมพร ซึ่งประกอบอาชีพเปนผูขายปาทองโก ในเวลา 5 วนัดงั รายการดงั น้ีวันที่ 1 ตุลาคม 2554 ยอดเงนิ คงเหลอื มาจากเดือนกนั ยายน 2554 8,000 บาท จายคาซือ้ แปง สาลีและวตั ถุดิบอน่ื ๆ 2,500 บาท จา ยคา แกส หุงตม 350 บาท คาอาหาร 270 บาท ไดรับเงินจากการขายปาทองโก 4,800 บาทวนั ที่ 2 ตุลาคม 2554 จายคา นาํ้ คา ไฟฟา 840 บาท คาอาหาร 320 บาท คาถุงพลาสติก 200 บาท คาถงุ กระดาษ 100 บาท ไดรับเงินจากการขายปาทองโก 4,200 บาทวนั ที่ 3 ตุลาคม 2554 จายคาโทรศัพท 430 บาท คาอาหาร 290 บาท จา ยคา หนงั สอื เรียนลูก 950 บาท คา น้ําด่มื 160 บาท ไดรับเงินจากการขายปาทองโก 3,900 บาทวันท่ี 4 ตุลาคม 2554 จายคา เส้อื ผา 1,250 บาท คาอาหาร 340 บาท ซ้อื แปงสาลแี ละวตั ถดุ ิบอน่ื ๆ 2,000 บาท ไดรับเงินจากการขายปาทองโก 4,500 บาทวนั ท่ี 5 ตุลาคม 2554 จายคาอาหาร 250 บาท คาน้ําดื่ม 120 บาท จายคาหนังสอื พิมพ 480 บาท ไดรับเงินจากการขายปาทองโก 3,800 บาท2. ใหผ เู รยี นจัดทาํ บัญชีรบั – จายประจําวันของตนเองในเวลา 1 สัปดาห ตามความเปนจริง พรอมทั้งสรุปรายรับ รายจาย และยอดเงินคงเหลือ________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
2083. รา นเฟอรนิเจอรแหงหนง่ึ ซ้อื เฟอรน ิเจอรค รบ 25,000 บาท (ราคาสินคา + ภาษีมลู คาเพม่ิ ) ไดล ด 10% ราคาเฟอรนิเจอร และทุกรายการตองเสียภาษีมลู คาเพ่มิ 7% สมรตองการซอ้ืประเภท ราคา เตียงนอน ตูเสื้อผา และโตะ สมรตอ งจา ยเงนิ เทาไร หากสมรซื้อเฟอรนิเจอรทุกรายการในตาราง สมรตองจายเงินเตยี งนอน 6,000 เทาไรตูเสอ้ื ผา 8,500เกา อ้ี 600โตะ 5,500ตตู ดิ ผนัง 3,200________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________4. อมรมีเงินสด 500,000 บาท อมรควรนําเงินสดไปออมประเภทใด จึงจะไดผลตอบแทนมากทสี่ ดุ ในระยะเวลา 1 ป จงบอกเหตุผล (1) ฝากออมทรัพยไ ดด อกเบ้ียรอ ยละ 0.75 บาท/ป (2) ฝากประจํา 4 เดือนไดด อกเบย้ี รอ ยละ 3.42 บาท/ป กรณฝี ากประจาํ ตอ งเสยี ภาษี 15% ของดอกเบย้ี (3) ซือ้ สลากออมสนิ ฉบบั ละ 50 บาทไดดอกเบี้ยฉบับละ 2.50 บาท เม่ือฝากครบ 3 ป ฝากครบ 1 ป ไดดอกเบ้ยี ฉบับละ 0.25 บาท และมีสิทธถิ ูกรางวัลเลขทาย 4 ตวั รางวัลละ 150 บาท จํานวน 2 รางวัล/เดือน________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
2095. จํานงเปนพนักงานขายอุปกรณการแพทยไดคาตอบแทนเดือนละ 15,000 บาท แตยังไมมีครอบครัว ส้ินปมสี ทิ ธหิ ักคา ใชจ ายรอ ยละ 40 ของเงนิ ไดพงึ ประเมิน แตไ มเกนิ 60,000 บาท หกั ลดหยอ น ผูมีเงินได 30,000 บาท หักคาเบี้ยประกันชวี ติ 10,000 บาท ส้นิ ปย ่ืนแบบแสดงรายการภาษเี งินได บุคคลธรรมดาตองชําระภาษีหรือไม ถาชําระตองชําระภาษีเทาไร____________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________6. การใชส ถติ ชิ วยในการวิเคราะห (สถิติ) พ.ค. ชิน้ 400 350 300 250 200 150 100 50 0 ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. บริษัทแหงหนึ่งจําหนายกระเปาไดตามกราฟขางตน เมื่อพิจารณาจากกราฟ บริษัทแหงนี้ควรดาํ เนนิ การอยา งไร________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
2107. พนกั งานไดร บั คา จา งรายวันวนั ละ 215 บาท ไดคาลวงเวลา 1.5 เทาของรายได ทํางานปกติ 5 วนั ทําลวงเวลา 3 วัน พนักงานคนนไ้ี ดรับคา จา งเทา ไร________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________8. ถาตองการดูแนวโนม ผลกําไรของธรุ กจิ ยอนหลงั 3 ป ควรใชแ ผนภมู ชิ นดิ ใดในการวิเคราะห________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________9. ทําแผน ปา ยตดิ หนา หองตางๆ ดังน้ี หอ งประชมุ 1 Meeting Room 1 สตูดิโอ Studio หอ งประชมุ 2Meeting Room 2 ปายทั้ง 3 ทาํ ดวยแผน อะครลิ กิ หนา 2 มม. สีครีม โดยมีขนาดกวาง 10 น้ิว ยาว 21 นว้ิ โดยทาง รานคิดคาใชจายตารางฟุตละ 185 บาท ตองเสียคาใชจายทั้งหมดเทาไร________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________
211เฉลยแบบฝกหัด
212แบบฝกหัดที่ 1 เฉลย บทที่ 1 จํานวนและการดําเนินการ1. จงเลอื กจาํ นวนเตม็ บวก จาํ นวนเตม็ ลบ และจาํ นวนเตม็ จากจาํ นวนตอไปน้ี- 1, 4 , 0, -3, 500 , − 500 2 1000 250จาํ นวนเตม็ บวก ประกอบดว ย 4 2จํานวนเตม็ ลบ ประกอบดว ย -1 -3 500 − 250จาํ นวนเต็ม ประกอบดวย -1, 4 , 0, -3, − 500 250 22. จงเติมเครื่องหมาย < หรือ > เพื่อใหประโยคตอ ไปนี้เปน จรงิ 1) -4 ............... <................. 3 2) -4 .............. <................. -3 3) -2 .............. >............... -5 4) 4................ >................ -2 5) 4................ >................. -83. จงเรียงลําดับจํานวนเต็มจากนอยไปหามาก 1) -2, -8, -4, -15, -20, -7 ………-20, -15, -8, -7, -4, -2………………… 2) 4, -8, 0, -2, 16, -17 ………-17, -8, -2, 0, 4, 16 ……………………
213แบบฝกหดั ที่ 21. จงเติมคําวา “มากกวา” หรือ “นอ ยกวา ” หรือ “เทากับ” 1) คาสมั บรู ณข อง (-3)..................เทา กบั ...........คาสัมบรู ณของ 3 2) จํานวนตรงขามของ (-4) ...........มากกวา..........................จาํ นวนตรงขามของ 4 3) จํานวนตรงขามของ 5 ...............นอ ยกวา ..........................จํานวนตรงขามของ -5 4) คา สมั บูรณของ A...........เทา กบั ...................คาสมั บูรณข อง(-A) เมื่อA เปน จาํ นวนใดๆ 5) จํานวนตรงขามของ A .....นอ ยกวา ......จํานวนตรงขามของ (-A) เมือ่ A เปน จาํ นวนใดๆ2. จงเติมเครื่องหมาย <, > หรือ = ลงในชองวาง 1) – (- 5) .....................=...........................5 2) จํานวนตรงขามของ 8 .................. <..................................8 3) จํานวนตรงขามของ (-8)................. >................................(-8) 4) − 25................. = ..................... − 25 5) − 20.................〉.......................(− 20) 6) − 25................〉.......................... − 5 7) จํานวนตรงขามของ (-2) .......................... <.........................จํานวนตรงขามของ(-7) 8) จํานวนตรงขามของ 32........................ >...............................จํานวนตรงขามของ 77
214แบบฝก หัดท่ี 31. จงแสดงการหาผลบวกของสองจาํ นวนทก่ี าํ หนดให โดยใชเ สน จาํ นวน 1. 3+2 2. (-3)+(-2) 3. 2+1 4. (-2)+(-1) 5. 5+ (-1) 6. (-1) +5 7. (-5) +3 8. 3 + (-5)
215 2. จากผลการบวกโดยใชเสนจํานวน จงเติมคาํ ตอบตอ ไปนใี้ หสัมบูรณ ผลบวกของ a กบั bประโยคแสดงผลบวกของ a+b คา สมั บรู ณของ a คาสมั บรู ณข อง b คา สัมบรู ณของ(a+b) เทา กนั หรือไมกบั a + b1. 3+2 = 5 32 5 เทา กนั2. (-3)+(-2) = -5 32 5 เทากัน3. 2+1 = 3 21 3 เทากนั4. (-2)+(-1) = -3 21 3 เทากัน5. 5+ (-1) = 4 51 4 เทา กนั6. (-1) +5 = 4 15 6 เทากนั7. (-5) +3 = -2 53 2 เทากัน8. 3 + (-5) = -2 35 2 เทากนั
216แบบฝก หดั ท่ี 4 4. (-5) – (-8)1. จงทาํ ใหเ ปน ผลสําเร็จ วิธีทาํ (-5) – (-8) = (-5) + 8 1. (-12) – 7 =3วิธที าํ (-12) – 7 = (-12) + (-7) = - 19 2. 7 – (-12) 5. [8 – (-2)] – 6วธิ ที ํา 7 – (-12) = 7 + 12 วิธีทํา [8 – (-2)] – 6 = [ 8 + 2] + (-6) = 19 = 10 + (-6) 3. (-8) – (-5) =4วธิ ีทาํ (-8) – (-5) = (-8) + 5 6. 8 – [(-2) – 6] วิธีทาํ 8 – [(-2) + (-6)] = 8 – (-8) = -3 =8+8 = 162. จงหาคาของ a – b และ b – a เมอ่ื กาํ หนด a และ b ดงั ตอไปน้ี1. a = 5, b = (-3)วธิ ีทํา a – b = 5 – (-3) b – a = (-3) – 5= 5 + 3 = (-3) + (-5)= 8 = -8 2. a = (-14), b = (-6) b – a = (-6) – (-14) = (-6) + 14วิธที าํ a – b = (-14) – (-6) =8 = (-14) + 6 = (-8) 3. a = (-4), b = (-4) b – a = (-4) – (-4) = (-4) + 4วิธีทํา a – b = (-4) – (-4) =0 = (-4) + 4 =0
แบบฝกหดั ท่ี 5 217จงหาผลลัพธ1). [(-3) × (-5)] × (-2) 6). (-5) × [6 + (-6)]วธิ ีทํา [(-3) × (-5)] × (-2) = 15 × (-2) วธิ ีทํา (-5) × [6 + (-6)] = (-5) ×0 = (-30) =02). (-3) × [(-5) × (-2)] 7). [(-7) × (-5)] + [(-7) × 2]วธิ ีทํา (-3) × [(-5) × (-2)] = (-3) × 10 วธิ ีทาํ [(-7) × (-5)] + [(-7) × 2] = 35 + (-14) = -30 = 213). [4 × (-3)] × (-1) 8). (-7) × [(-5) + 2]วธิ ีทํา [4 × (-3)] × (-1) = (-12) × (-1) วิธีทาํ (-7) × [(-5) + 2] = (-7) × (-3) = 12 = 21 9). [5 × (-7)] + [5 × 3]4). 4 × [(-3) × (-1)] วิธีทาํ [5 × (-7)] + [5 × 3] = (-35) + 15วธิ ที าํ 4 × [(-3) × (-1) ] = 4 × 3 = (-20) = 125). [(-5) × (-6)] + [(-5) × (-6)] 10). 5 × [(-7) + 3]วธิ ที ํา [(-5) × (-6)] + [(-5) × (-6)] = 30+30 วิธีทํา 5 × [(-7) + 3] = 5 × (-4) = 60 = (-20)
218แบบฝกหัดที่ 61. จงเติมคําตอบใหสมบูรณเพื่อแสดงหลักของความสัมพันธระหวางการหารและการคูณ ตอไปนี้ประโยคที่แสดงความสัมพันธ a = b × c ประโยคที่แสดงความสัมพันธ a ÷ b = c หรอื a ÷ c = b10 = 5 x 2 10 ÷ 5 = 2 หรอื 10 ÷ 2 = 535 = 7 x 5 35 ÷ 7 = 5 หรอื 35 ÷ 5 = 733 = 3 x 11 33 ÷ 3 = 11 หรอื 33 ÷ 11 = 3(-14) = 7 x (-2) (-14) ÷7 = (-2) หรอื (-14) ÷ (-2) = 7(-21) = 7 x (-3) (-21) ÷7 = (-3) หรอื (-21) ÷ (-3) = 7(-15) = 3 x (-5) (-15) ÷3 = (-5) หรอื (-15) ÷ (-5) = 310 = (-5) x (-2) 10÷(-5) = (-2) หรอื 10÷(-2) = (-5)จงหาผลหาร 4. (-72) ÷ 91. 17 ÷ 17 วธิ ีทํา (-72) ÷ 9 = -8วธิ ีทํา 17 ÷ 17 = 12. 23 ÷ (-23) 5. [(-51) ÷ (-17)] ÷ [15 ÷(-5)]วิธีทาํ 23 ÷ (-23) = -1 วธิ ีทาํ [(-51) ÷ (-17)] ÷ [15 ÷(-5)] = 3 ÷ (-3)3. 15 ÷ (-3) = -1วิธที ํา 15 ÷ (-3) = -5 6. [(-72) ÷ 9] ÷ [ 16 ÷ (-2)] วธิ ีทํา [(-72) ÷ 9] ÷ [ 16 ÷ (-2)] = (-8) ÷ (-8) =1
198แบบฝก หัดท่ี 71. จงเตมิ จาํ นวนเต็มในชองวางทเ่ี วน ไวเพ่ือใหแตล ะประโยคตอ ไปนี้เปนจริง1.1 5 1.2 (-5)1.3 7 1.4 61.5 (-9) 1.6 (-5)1.7 (-13) 1.8 131.9 0 1.10 (-3)2. เมอื่ กําหนดให a = 8, b = 10, c = 3 และ d = -6 จงหาคาของ ac + bd a+bวิธที ํา (8× 3) + (10 × (− 6)) = 24 + (− 60) 8 + 10 18 = ( − 36 ) 18 = (-2)
199แบบฝกหดั ท่ี 1 เฉลย บทท่ี 2 เศษสว นและทศนยิ ม1. จงเตมิ เศษสว นลงใน 1) ใหถูกตอ ง2)2. จงเขียนเสน จํานวนแลว หาจดุ ทแ่ี ทนจาํ นวนตอ ไปน้ี 1) 4 , 1 1 , 20 8 2801 23 2) 1 1 , 4 3 , 29 2 66 * 11 23. จงเขยี นจํานวนตอ ไปน้ีใหอยูในรปู ของทศนิยม1. 6 = 0.6 2. 12 = 0.12 0.357 10 1003. 357 = 4. 1 + 2 + 3 = 0.123 1000 10 100 1000
200แบบฝก หดั ที่ 21. จงเปลย่ี นเศษสว นตอไปน้ีใหเ ปนทศนิยม โดยการทําสวนใหเปน 10 , 100 ,1,000,.......1) 9 = 225 = 2.25 2) 1 3 = 175 = 1.75 4 100 4 1003) 39 = 97.5 = 0.975 4) 7 = 28 = 0.28 40 100 25 1005) 1 = 125 = 0.125 6) 8 = 64 = 0.064 8 1000 125 10002. จงเปลย่ี นเศษสว นตอไปน้ีใหเปนทศนิยม โดยการหารเศษสวน1) 9 = 0.81 2) 3 1 = 3.14 11 73) 7 = 0.4375 4) 5 = 1.25 16 45) 5 = 0.83 6) 8 3 = 8.6 6 5
201แบบฝกหดั ที่ 3 เพ่ือใหไ ดเ ศษสวนท่ีเทา กัน1. ใหเ ตมิ ตัวเศษหรือตวั สว นของเศษสว นลงใน2. ใหเ ติมเครื่องหมาย > , < หรือ = ลงใน ใหถ ูกตอง
2023. ใหนักศกึ ษาเติมเครอ่ื งหมาย > , < หรือ = ระหวา งจํานวนสองจาํ นวน1) -0.500 ......<........0.501 2) 103.012 .........>............. – 0.5013) 5.28 .......... <.......... 5.82 4) – 5.28 .........=................. -5.285) 8.354 ......... <........ 8.534 6) -8.544 .............. <............. -8.5347) -13.06 ......... <........ 13.06 8) 103.012 ......... >........... -103.0129) -5.125 ..........=........ -5.1250 10) -7.10 .............. <........... -7.014. ใหนักศึกษาเรียงลําดับจํานวนตอไปนี้จากคานอยไปคามาก 5) -1.724, -1.738, 0.832, -2.000 - 2.000, - 1.738, -1.724, 0.8326) -30.710, -31.170, -31.107, 30.017 -30.710, -31.170, -31.107, 30.0177) 83.000, -38.000, -83.001, -138.500 -138.500, -83.001, -38.000, 83.0008) -34.50, -37.40, -41.54, -39.62, -42.50 -42.50, -41.54, -39.62, -37.40, -34.50แบบฝกหดั ที่ 41. ใหหาผลลัพธตอ ไปนี้ 1.2 6 = 1 1.1 12 = 6 12 2 2 1.4 16 = 1 5 1.3 24 = 2 11 11 12 1.6 2 = 1 1.5 2 = 1 24 12 12 6
2032. ใหเ ติมจํานวนลงใน แลวทําใหประโยคเปนจริง 2.1 6 2.2 6 8 6 2.3 12 2.4 5 8 3 2.5 7 แลวทําใหประโยคเปนจริง 3.2 9 8 143. ใหห าจํานวนมาเติมลงใน 3.1 3 3.4 15 = 2 3 = 2 1 6 6 62 3.3 1 3.6 14 6 24 3.5 7 = 1 3 3.8 111 44 28 3.7 35 =117 18 184. ใหหาผลลัพธตอไปนี้1. วธิ ีทํา = 3 + 14 + 20 2. วิธีทาํ = 7 + 5 + 4 = 7 + 9 7 35 35 10 9 9 10 9 = 3 + 34 = 3× 5 + 34 = 15 + 34 = 7 +1 7 35 7 × 5 35 35 35 10 = 49 = 17 35 10 = 114 35 = 12 53. วิธที าํ = 3 × 8 + 7 + 5 + 2 4. วิธที าํ = 46 + 7 − 7 5 8 8 5 5 11 3 33 = 24 + 35 + 2 = 46 + 7 × 11 − 7 40 40 5 11 3 11 33 = 59 + 2 = 46 + 77 − 7 11 33 33 40 5 = 59 + 2 × 8 = 46 + 70 40 5 8 11 33 = 59 + 16 = 46 × 3 + 70 11 3 33 40 40 = 75 = 1 35 = 138 + 70 = 208 = 610 40 40 33 33 33 33
204แบบฝกหดั ที่ 51. จงหาผลคณู ตอไปน้ี1) 2 1 ×11 35 วธิ ที าํ = 7 × 6 35 = 42 15 = 212 = 2 4 15 52) 11 × 5 59 วิธที าํ = 6 × 5 59 = 30 = 2 45 33) 5 2 ×11 11 9 วธิ ที ํา = 57 × 10 11 9 = 570 = 5 75 = 5 25 99 99 334) 16 2 × 7 3 10 วธิ ที าํ = 50 × 7 3 10 = 35 = 11 2 335) 5 × 2 2 ×1 2 16 3 5 วธิ ที าํ = 5 × 8 × 7 16 3 5 = 7 =11 666) 6 2 × 3 × 1 346 วธิ ที ํา = 20 × 3 × 1 = 5×1×1 = 5 3 4 6 1× 2×3 6
2057) 15 × 24 × 35 49 25 18 วธิ ที ํา = 15 × 24 × 35 49 25 18 =4 78) 24 × 10 × 11 × 10 25 27 25 22 วิธที าํ 24 × 10 × 11 × 10 25 27 25 22 = 8× 2×1×1 5 × 9 × 5 ×1 = 16 225แบบฝกหดั ท่ี 61. จงหาผลลัพธตอไปน้ี 1.1 วิธที ํา = 4 × 8 55 = 32 = 1 7 25 25 1.2 วิธที าํ = 10 × 2 11 5 =4 11 1.3 วิธีทํา = 9 × 12 24 6 =3 4 1.4 วธิ ที ํา = 15 × 24 16 5 = 9 =41 22 1.5 วธิ ที ํา = 99 × 25 100 11 = 9 =21 44 1.6 วธิ ที ํา = 3 × 1 23 =1 2
2062. จงทําใหเปนผลสาํ เรจ็ 9 × 21 − 31 2.1 วิธที ํา = 17 5 9 = 9 × 189 − 155 = 9 × 34 17 45 45 17 45 = 2 2.2 วธิ ที ํา = 5 3 + 2 ÷ 3 − 2 = 6 6 6 6 = 5 ÷1 = 5×6 2.3 วิธีทํา = 66 6 = = 5 2.4 วิธที าํ = = 11 × 7 × 12 3 6 11 14 3 42 3 24 × 7 × 10 753 16แบบฝกหัดที่ 71. ใหหาคําตอบของโจทยปญหาตอไปนี้ 1) ตองมีเงิน 320 บาท ซื้อรองเทา 2 ของเงินทั้งหมด ซ้ือเสอ้ื 5 ของเงินทเ่ี หลอื จง 5 16หาวาตองเหลือเงินเทาไรวิธที าํ ตองมีเงิน 320 บาท ซอ้ื รองเทา 2 ของเงินทั้งหมด คิดเปน 2 × 320 = 128 55 เหลอื เงินจากการซอ้ื รองเทา 320 – 128 = 192 บาท ซ้ือเส้อื 5 ของเงินท่ีเหลอื คดิ เปน 5 ×192 = 60 บาท 16 บาท 16 192 – 60 = 132 เหลือเงินจากการซอื้ เสื้อตอบ ตองเหลอื เงิน 132 บาท
2072) หองประชุมหองหนึ่งมีความยาวเปน 3 3 ของความกวาง และความกวางเปน 4 2 ของ 45 ความสูง ถา หอ งสงู 3 1 เมตร และมีนักเรยี น 462 คน จงหาวา โดยเฉลย่ี นักเรยี นคนหนึ่ง 2 มีอากาศหายใจกี่ลูกบาศกเมตรวิธที าํ หองประชุมมีความกวาง 4 2 ของความสูง = 22 × 7 = 77 เมตร 5 52 5 มีความยาวเปน 3 3 ของความกวาง = 15 × 77 = 231 เมตร 4 45 4ดังนั้นหองประชุมมีปริมาตร = 7 × 77 × 231 = 124,509 ลูกบาศกเมตร 25 4 40ในหอ งประชมุ มนี กั เรยี น 462 คน โดยเฉลย่ี นกั เรยี นคนหน่ึงมอี ากาศหายใจตอบ โดยเฉลี่ยนักเรียนคนหนึ่งมีอากาศหายใจ = 124,509 ÷ 462 40 = 124,509 × 1 40 462 = 6.7375 ลูกบาศกเมตร 6.7375 ลูกบาศกเมตร3) จางคนปลกู หญาบนสนามรูปสีเ่ หลี่ยมผืนผากวาง 6 4 เมตร ยาว 10 1 เมตร ในราคาตาราง 52เมตรละ 45 บาท จะตองจายเงินทั้งหมดเทาไรวธิ ที ํา สนามรูปสี่เหล่ยี มผนื ผา กวาง 6 4 เมตร = 34 เมตร 5 5 ยาว 10 1 เมตร = 21 เมตร 2 2พืน้ ที่สนาม = 34 × 21 = 357 ตารางเมตร 52 5จายคาจางคนปลูกหญา ตารางเมตรละ 45 บาท ตองจายเงิน = 45 × 357 = 3,375 บาทตอบ จายคาจางปลูกหญาบนสนามเทากับ 3,213 บาท 5
2084) โทรทัศนเครื่องหนึ่งประกาศลดราคาลง 1 ของราคาที่ปดไวเดิม แตผูซ อื้ เปนเพื่อนกับผูขาย 4ลดใหอ กี 1 ของราคาทปี่ ระกาศลดแลว ในคร้ังแรก ซ่ึงปรากฏวา ผูซื้อจายไป 4,200 บาท จงหาวา 5โทรทศั นเ ครือ่ งนี้ปดราคาเดิมไวเ ทา ไรวธิ ีทํา โทรทัศนเครื่องหนึ่งลดราคาลง 1 ของราคาที่ปดไว 4ถาลดราคา 1 บาท ราคาทล่ี ดแลว เหลือ 1− 1 = 3 บาท 44 4ขายใหเพอ่ื นลดใหอกี 1 ของราคาที่ประกาศลด 1×3 = 3 5 4 20 5 3 − 3 = 15 − 3 = 12 = 3 บาทขายไปจริงราคา 4 20 20 20 5 เศษสว น 3 คดิ เปนเงนิ 4,200 บาท = 4,200 × 5 = 7,000 บาท 5 3 ดังนั้นราคาเดิมขายไวตอบ เดิมตดิ ราคาไว 7,000 บาท5) ในการเดนิ ทางครั้งหนงึ่ เสยี คา ทพ่ี กั 2 ของคาใชจายทั้งหมด คาเดินทาง 1 ของคาใชจาย 54ทั้งหมด คาใชจา ยอน่ื ๆ คิดเปนเงนิ 1,470 บาท จงหาวาคาใชจายทั้งหมดเปนเงินเทาไรวธิ ีทาํ คาใชจายทั้งหมดเปนเงิน 1 บาท เสยี คา ท่พี ัก 2 ของคาใชจายทั้งหมดเปนเงิน = 2 บาท 5 5 เสียคาเดินทาง 1 ของคาใชจายทั้งหมดเปนเงิน = 1 บาท 4 4 รวมคาที่พักและคาเดินทาง = 2 + 1 = 13 บาท เปนคาใชจายอ่ืนๆ 5 4 20 ดงั น้ัน 7 คิดเปน เงิน 1,470 บาท = 1− 13 = 7 บาท 20 20 20 ดงั น้นั คาใชจายทั้งหมด = 1,470 x 20 = 4,200 บาทตอบ คาใชจ ายท้ังหมด 4,200 บาท 7
แบบฝกหดั ที่ 8 2091. จงเติมผลลพั ธตอไปน้ี 1.2 -0.2 1.1 0.99 1.4 0.1 1.3 -0.1 1.6 -12.5 1.5 -16.7 1.8 -15.15 1.7 50.09 1.10 3.306 1.9 10.1 1.12 -16.57 1.11 -9.1 1.14 -50.1 1.13 -36.7 1.16 2.7843 1.15 8.4782 1.18 -63.938 1.17 -57.03 1.20 3.327 1.19 -3.237 1.2 -0.1176แบบฝกหดั ท่ี 9 1.4 -32.68081. จงหาคาของ 1.1 -28.92 1.3 6.67422. จงหาคาของ 2.1 -1,240 2.2 -10.1802 2.3 -12.596 2.4 24.5746 2.5 -3.33
210แบบฝกหดั ที่ 10ใหนักศึกษาแกปญ หาโจทยตอไปน้ี1. เชอื กยาว 17.25 เมตร นําอกี เสน หนง่ึ ยาว 5.2 เมตร มาผกู ตอกนั ทําใหเสียเชอื กตรงรอยตอ0.15 เมตร นาํ เชือกท่ีตอแลวมาวางเปน รูปสีเ่ หล่ยี มผืนผา ใหดา นกวางยาวดา นละ 1.5 เมตร ดา นยาวจะยาวดานละกี่เมตรวิธที ํา เชือกที่เหลือจากการนํามาตอกันคิดเปน (17.25 + 5.2) – 0.15 = 22.3 เมตรนํามาวางใหเ ปน รปู สเ่ี หล่ียมผืนผาใหดานกวา งยาว 1.5 เมตรดานกวางทั้ง 2 ดา นจะใชเชือกไป 1.5 x 2 = 3 เมตรเหลอื เชือกเปน ดา นยาว 22.3 – 3 = 19.3แตด า นยาว มี 2 ดา น ดงั นน้ั ดานยาว ดา นละ 19.3 ÷ 2 = 9.65 เมตรตอบ ดา นยาวจะยาวดา นละ 9.65 เมตร2. น้าํ ตาลถงุ หน่ึงหนัก 9.35 กโิ ลกรัม จํานวน 16 ถงุ ใชทําขนมเฉลย่ี แลว วนั ละ 4.4 กิโลกรมัจะใชนํา้ ตาลไดทงั้ หมดก่วี ันวธิ ที ํา นํา้ ตาลถงุ หนึ่งหนัก 9.35 กิโลกรัม จาํ นวน 16 ถุง = 9.35 x 16 = 149.6 กโิ ลกรมั ใชท าํ ขนมเฉลีย่ แลววนั ละ 4.4 กโิ ลกรมั จะใชน้าํ ตาลได = 149.6 = 34 วนั 4.4ตอบ จะใชน ํ้าตาลไดทั้งหมด 34 วนั3. หอ งรปู ส่ีเหลีย่ มผนื ผา กวาง 4.8 เมตร ยาว 9.6 เมตร นํากระเบ้ืองรูปสเี่ หลีย่ มจัตุรัสขนาด 32ตารางเซนติเมตร มาปูหองจะตองใชก ระเบ้ืองกแี่ ผนวิธที ํา พน้ื ท่ีหองสีเ่ หลีย่ มผืนผา กวา ง 4.8 เมตร ยาว 9.6 เมตร = 480 x 960 = 460,800 ตร.ซม.พน้ื ทกี่ ระเบอ้ื งรปู สเี่ หล่ียมจัตุรัสขนาด = 32 ตร.ซม. ถา ปูหองจะตองใชก ระเบอ้ื ง = 460,80014,400 แผนตอบ จะตองใชก ระเบื้อง 14,400 แผน 32
2114. มีทองคําแทงหนึ่งหนัก 12.04 กรัม ซื้อเพ่ิมอกี 25.22 กรมั แบงขายไปสองคร้งั หนกั ครัง้ ละ8.02 กรมั ทเ่ี หลอื นําไปทําแหวน 5 วง หนักวงละ 3.45 กรมั เทา ๆ กัน จะเหลือทองอกี กีก่ รมัวิธที าํ ทองคาํ แทง หน่ึงหนกั 12.04 กรัม ซื้อเพมิ่ อีก 25.22 กรัม = 12.04 + 25.22 = 37.26 กรมัแบงขายไปสองครั้ง หนักครั้งละ 8.02 กรมั = 8.02 x 2 = 16.04 กรมัเหลอื ทอง = 37.26 – 16.04 = 21.22 กรมันาํ ไปทาํ แหวน 5 วง หนกั วงละ 3.45 กรมั เทา ๆ กัน = 5 x 3.45 = 17.25 กรมัทองที่เหลือจากการทําแหวนจะได = 21.22 – 17.25 = 3.97 กรมัตอบ จะเหลือทองอีก 3.97 กรมั
212 เฉลย บทท่ี 3 เลขยกกาํ ลงัแบบฝก หัดท่ี 11. จงเขียนจาํ นวนตอ ไปน้ีในรูปเลขยกกาํ ลังทมี่ เี ลขชี้กาํ ลังเปนจํานวนเต็มที่มากกวา 1 พรอ มท้งับอกฐานและเลขชี้กําลัง1.1 25 = ……… 5 x 5…………………=……..…52 ……………..มี = …………5…………….เปน ฐานและ..............2..................เปนเลขชีก้ ําลงั1.2 64 = ………8 x 8…………………=……………82 …………..มี = …………8…………….เปน ฐานและ...............2..................เปน เลขช้กี ําลงั1.3 169 = ………13 x 13……………....=……………132 …….…..มี = ……………13……….เปน ฐานและ..............2....................เปน เลขชก้ี าํ ลงั1.4 729 = ……………27 x 27………..=………… 272 ……….…..มี = …………27………….เปน ฐานและ............2......................เปนเลขชก้ี ําลัง1.5 -32 = …(-2) (-2) (-2) (-2) (-2)…….=………… (− 2)5 ………..มี = …………(-2)…………เปน ฐานและ............5.....................เปนเลขชี้กําลัง1.6 -243 = …(-3) (-3) (-3) (-3) (-3)……….=……… (− 3)5 …………..มี = ……………(-3)………เปน ฐานและ............5.....................เปน เลขชก้ี ําลงั1.7 0.125 = …(0.5) (0.5) (0.5)………….=………… (0.5)3 ……..…..มี = …………(0.5)………เปน ฐานและ.....................3..............เปนเลขชกี้ าํ ลัง2. จงเขียนจาํ นวนท่ีแทนดว ยสัญลกั ษณต อ ไปนี้2.1 2 × 2 ×2 ×2 ×2× 2× 2 × 2 = 2562.2 (-3) (-3) (-3) (-3) = 812.3 (0.3) (0.3) (0.3) (0.3) (0.3) = 0.002432.4 (0.02) (0.02) (0.02) (0.02) (0.02) (0.02) = 0.0000000000642.5 1 1 1 = 1 3 3 3 27 2.6 2 2 2 =8 7 7 7 3432.7 (-5) (-5) (-5) (-5) = 6252.8 - (2×2×2) = -82.9 1 1 1 1 1 =1 10 10 10 10 10 1000002.10 (0.5) (0.5) (0.5) (0.5) (0.5) (0.5) = 0.015625
213แบบฝกหดั ท่ี 21 จงเขียนจํานวนตอ ไปน้ใี นรูปสัญกรณว ิทยาศาสตร 1. 4 x 105 2. 2.3 x 1010 3. 6.39 x 108 4. 2.475 x 1082. ดาวเสารอยูหางจากดวงอาทิตยประมาณ1,430,000,000 กิโลเมตร จงเขียนใหอยใู นรูปสญั กรณวิทยาศาสตร ตอบ 1.43 x 1093. สญั กรณว ิทยาศาสตรใ นแตล ะขอตอไปนแ้ี ทนจํานวนใด 3.1 2,000,000 3.2 48,000,000,000,000 3.3 4,030,000,000 3.5 912,500แบบฝก หัดที่ 31 จงเขียนจํานวนทแี่ ทนดว ยสญั ลกั ษณต อ ไปน้ี1.1 25+6 = 2,0481.2 32 x 9 = 2881.3 63 = 2161.4 0.752 = 0.56251.5 1 × 9 =1 = -216 91.6 (− 6)31.7 8 × 625 = 5 = 1 2 125 16 221.8 1 × 16807 = 1 224 117649 321.9 (0.125) 1 = 0.0078125 16 1.10 (−11)5 = 161051
2142. จงเขยี นผลคณู ของจาํ นวนในแตละขอ ตอไปนใี้ นรปู เลขยกกาํ ลงั2.1 22+3+7 = 2122.2 ( )− 3 3+1+5 = (− 3)92.3 5× 5 4 × 5 2 = =5 1+4+2 5 72.4 11 2 ×11×11 2 = =11 2+1+2 11 52.5 ( )− 3 4+3+7 = (− )3 14แบบฝก หัดที่ 4 = 271. จงหาผลลัพธ = 35 1.1 29−2 1.2 36−11.3 113−6 = 11−3 = 11.4 1 4−2 11 3 5 = 1 21.5 (0.03)5−4 5 = (0.03)1.6 ( 0.8 ) 5 ÷ ( 0.8 ) 7 = ( 0.8 ) 5−7 = ( 0.8 ) −2 = 1 ( 0.8 ) 21.7 5(3+4)−7 = 50 =11.8 7(6+1)−4 = 731.9 132+(4−5) = 131.10 m(6−7)+4 = m32. จงหาผลลพั ธตอไปนี้ในรูปทมี่ เี ลขช้ีกําลังเปนจาํ นวนเต็มบวก2.1 53+(−4) = 5−1 =12.2 38+(−6)−2 = 30 = 152.3 4(−6)−1 = 4−7 = 12.4 26+(−1) = 25 472.5 (1.5)2−3 = (1.5)−1 =1 12.6 x2−5 = x −3 a = a 4−5 1.5( ) ( )2.7 a3+1 ÷ a0+5 =1 x3 = =a −12.8 =m−7−(−5) m −7+5 = m−2 = 1 m2
215 เฉลย บทท่ี 4 อัตราสว นรอยละแบบฝกหัดที่ 11.จงเขียนอัตราสวนจากขอความตอไปนี้1.1 1 เซนตเิ มตร : 100 กโิ ลเมตร1.2 200 กโิ ลเมตร : 3 ชั่วโมง1.3 40 คน : 1,000 คน1.4 72 ครัง้ : 1 นาที2. สลากกินแบงรัฐบาลแตละงวดเปนเลข 6 หลกั เชน 889748 ซึง่ มหี มายเลขตางกันทั้งหมด1,000,000 ฉบับ ในจํานวนทั้งหมดนี้มีสลากที่ถูกรางวัลเลขทาย 2 ตวั ทง้ั หมด 10,000 ฉบับ ถูกรางวัลเลขทาย 3 ตวั 4,000 ฉบับ และถูกรางวัลท่ี 1 อกี 1 ฉบับ2.1 1 : 1,000,0002.2 10,000 : 1,000,0002.3 4,000 : 1,000,0002.4 10,000 : 4,0003. พอ คา จดั ลกู กวาดคละสขี นาดเทา กนั ลงในขวดโหลเดยี วกนั โดยนบั เปน ชดุ ดงั น้ี “ลกู กวาดสแี ดง3 เม็ด สเี ขียว 2 เม็ด สเี หลอื ง 5 เมด็ ” จงหา3.1 3: 103.2 3: 53.3 สีเหลอื งเพราะมีจํานวนมากทส่ี ุด ดงั นั้นโอกาสทจี่ ะหยบิ ไดสีเหลอื งจึงมมี ากแบบฝก หัดที่ 21. ถาอัตราการแลกเปลี่ยนเงินดอลลารตอเงินหนึ่งบาทเทากับ 1 : 43 จงเติมราคาเงินในตาราง43 86 129 430 860
2162. จงเขียนอัตราสว นท่ีเทา กบั อตั ราสว นทก่ี าํ หนดใหต อไปนีม้ าอกี 3 อัตราสว น2.1 4 , 6 , 8 6 9 122.2 10 , 15 , 20 18 27 363. จงตรวจสอบวา อัตราสวนตอ ไปนี้เทากันหรอื ไม 6 x9 = 8 x 7 6≠7 54 ≠ 56 89 12 = 18 12 x15 = 18 x 10 10 15 180 =180 0.3 = 6 10 200 0.3 x200 = 6 x 10 60 = 604. จงทาํ ใหอัตราสว นตอ ไปนี้มีหนวยเดยี วกนั และอยูใ นรูปอยางงา ย4.1 2x 24 : 10 หรือ 48 : 10 หรือ 24 : 54.2 200 : 1.5 x 1,000 เมตร หรือ 200 : 1,500
217แบบฝกหัดท่ี 31. พอแบง เงนิ ใหลูกสามคนโดยกาํ หนด อตั ราสว นของจํานวนเงนิ ลกู คนโต ตอ คนกลาง ตอ คนเลก็ เปน 5 : 3 : 2 จงหาอตั ราสว นตอ ไปน้ี1.1 5 : 21.2 2 : 31.3 3 : 101.4 2 : 102. เศรษฐคี นหนง่ึ ไดเขยี นพินัยกรรมไวก อ นจะเสียชีวิตวา ถา ภรรยาทก่ี ําลงั ตงั้ ครรภคลอดลูกเปน ชายใหแ บง เงนิ ในพนิ ยั กรรมเปน อตั ราสว นเงินของภรรยาตอบุตรชายเปน 1 : 2 แตถ าคลอดลกู เปน หญิงใหแบงเงินในพินัยกรรมเปนอัตราสวนเงินของภรรยาตอบุตรหญิงเปน 2 : 1 เม่ือเศรษฐีคนน้ีเสียชวี ิตลงปรากฏวาภรรยาคลอดลูกแฝด เปนชาย 1 คน หญงิ 1 คน จงหาอัตราสว นของเงนิ ในพนิ ยั กรรมของภรรยาตอบุตรชาย ตอบุตรหญิงตอบ อัตราสวนเงินของภรรยาตอเงินของบุตรชาย เปน 1 : 2 อัตราสวนเงินของภรรยาตอเงินของบุตรหญิง เปน 2 : 1เมื่อเศรษฐีเสียชีวติ ลงภรรยาคลอดลกู เปนฝาแฝด ชาย 1 คน หญงิ 1 คน ตองแบง พินยั กรรมเปนสามสวน คอื อัตราสวนเงินของภรรยาตอเงินของบุตรชาย เปน 1: 2 = 2: 4 อัตราสวนเงินของภรรยาตอเงินของบุตรหญิง เปน 2 : 1น่นั คือ อัตราสวนเงินของภรรยาตอ เงินของบตุ รชายตอบุตรหญิงเปน 2 :4 : 1แบบฝกหดั ที่ 41. จงเขยี นสดั สว นจากอตั ราสว นตอ ไปน้ี1.1 3 = 6 481.2 A = 9 7 271.3 12 = B 10 51.4 5 65 = 4D
2182. จงหาคา ตวั แปรจากสดั สว นทก่ี าํ หนดใหตอ ไปน้ี2.1 A = 12 3 15วธิ ีทํา A = 12 × 3 15 = 2.42.2 3 = 21 B 28วิธที าํ B = 3× 28 21 =4แบบฝก หดั ที่ 51. ขายมะละกอ 3 ผล ราคา 50 บาท ถาขาย มะละกอ 15 ผล จะไดเ งินเทาไรวธิ ีทาํ ขายมะละกอ 3 ผล ราคา 50 บาท ขายมะละกอ 15 ผล ราคา x บาทจะได 3 = 15 50 x x = 15x50 3 x = 2502. กศน.แหงหนึ่งมีนักศึกษาทั้งหมด 400 คน มจี าํ นวนนักศึกษาหญิงตอจํานวนนกั ศึกษาชายเปน 5: 3 จงหาวา มีนักศึกษาชายกี่คนและนักศึกษาหญิงกี่คนวิธีทํา กศน. แหง หนง่ึ มนี ักศึกษาทั้งหมด 400 คนมีจาํ นวนนกั ศกึ ษาหญิงตอจาํ นวนนกั ศึกษาชาย เปน 5: 3ดัง้ นนั้ ถาแบงนกั ศึกษา กศน.ทั้งหมดออกเปน 5+3 = 8 สว นจะไดนักศกึ ษา กศน. สว นละ = 400 = 50 คน 8ฉะนน้ั มนี กั ศกึ ษาชาย อยู 3 สวน เปน 3 x 50 = 150 คนมีนักศึกษาหญิงอยู 5 สวน เปน 5 x 50 = 250 คน
2193. พอแบงมรดกใหลูกสองคน โดยอัตราสวนของสวนแบงของลูกคนโตตอสวนแบงลูกคนเล็ก เปน 7: 3 ถาลูกคนโตไดเงินมากกวาลูกคนเล็ก 80,000 บาท จงหาสวนแบงที่แตละคนไดรับวิธที าํ อัตราสวนของสวนแบงของลูกคนโตตอสวนแบงลูกคนเล็ก เปน 7: 3ดังนั้น พอแบงเงินทั้งหมดเปน 10 สว นลูกคนโตมีเงินมากกวาลูกคนเล็ก 4 สว น เปน เงิน 80,000 บาทดงั นน้ั เงิน 1 สว น เปนเงนิ 80,000 = 20,000 บาท 4สรปุ ไดวา ลกู คนโตไดร บั เงินมรดก 7 สวน เปนเงิน 7 x 20,000 = 140,000 บาท ลกู คนเลก็ ไดร บั เงินมรดก 3 สว น เปนเงิน 3 x 20,000 = 60,000 บาทแบบฝก หัดท่ี 61.1 901.2 481.3 7%1.4 25%1.5 6001.6 0.5แบบฝกหดั ท่ี 7 20 %1. 125 คน 250 บาท2. 2.1 1,200 คน 250×100 = 1, 250 บาท 2.2 480 คน3. 20วธิ ีทาํ สินคา ทุกชนิดลดราคา คณุ แมซ ื้อเครื่องแกวแลวไดสวนลด ดังนั้นรานคาปดราคา4. วธิ ีทํา สนามหญา แหงหน่ึงกวา ง 5 เซนตเิ มตร ยาว 8 เซนตเิ มตร มาตราสว น 1 เซนติเมตร : 50 เมตร ดังน้นั สนามหญา จรงิ กวา ง 250 เมตร ยาว 400 เมตร หาพน้ื ทีส่ ่เี หลย่ี มผนื ผา จะได 250 x 400 = 100,000 ตารางเมตร
2205. วิธที าํ นกนอ ยไดอัตราดอกเบยี้ รอยละ 3 ตอ ป แตถกู หกั ภาษีรอยละ 15 คดิ เปน 15 ×3 = 0.45 100 เทา กบั ดอกเบี้ยทถี่ ูกหกั ภาษีแลว 3 – 0.45 = 2.55 นกนอ ยฝากเงนิ 10,000 บาท สนิ้ ปจ ะไดด อกเบี้ยท่ถี กู หักภาษี รอ ยละ 2.55 คดิ เปน 2.55 ×10,000 = 255 บาท 100 รวมมีเงินบัญชี 10,000 + 225 = 10,225 บาทในตนปที่สอง สิน้ ปท่ีสองจะไดดอกเบี้ยรอ ยละ 2.55 ของเงินฝากปทีส่ อง = 2.55 ×10,255 = 261.50 บาท 100 ครบสองปจะมีเงินในบัญชี 10,255 + 261.50 = 10,516.50 บาท6. วธิ ที ํา วีระซื้อรถยนต ราคา 200,000 บาทขายตอ ไดก าํ ไร 20% เปน เงิน 20 × 200,000 = 40,000 บาทวรี ะมเี งินทงั้ หมด 100 บาท 240,000 บาท วรี ะเอาเงนิ ไปเลน หนุ ขาดทุน 20% เปนเงิน 20 × 240,000 = 48,000 100ดงั นัน้ วีระเหลือเงิน 240,000 - 48,000 = 192,000 บาท
221 เฉลย บทที่ 5 การวัดแบบฝกหัดท่ี 11. จงเติมหนวยความยาวหรือหนวยพื้นที่ใหเหมาะสมกับขอความตอไปนี้ 1.1 มลิ ลิเมตร 1.2 เซนตเิ มตร, เซนติเมตร, มิลลิเมตร 1.3 กโิ ลเมตร 1.4 เมตร, เมตร, กโิ ลเมตร 1.5 เซนตเิ มตร, เซนติเมตร, มิลลิเมตร 1.6 ตารางเซนตเิ มตร 1.7 ตารางเมตร 1.8 เมตร หรือ วา , ไร-งาน-ตารางวา, ตารางเมตร 1.9 เมตร2. จงเติมคําลงในชองวางที่กําหนดใหถูกตอง 2.1 1,600 2.2 170,000 2.3 7 ไร 3 งาน 19 ตารางวา 2.4 5 2.5 2 x 10 10 2.6 2,222 2.7 2.9 2.8 432 2.9 38 2.10 1,072 938,000 และ 1,400,0003. จงตอบคําถามตอไปนี้ พรอมแสดงวธิ ที าํ 1) สวนแหงหนง่ึ มพี น้ื ท่ี 4,800 ตารางเมตร คดิ เปนพน้ื ทีก่ ่ไี รวธิ ีทํา พน้ื ที่ 1,600 ตารางเมตร เทากับ 1 ไร พืน้ ที่ 4,800 ตารางเมตร เทากับ 4,800 = 3 ไร 1,600
2222) พืน้ ที่ 25 ตารางฟตุ คดิ พื้นทีก่ ่ตี ารางเซนติเมตรวิธีทาํ 1 ฟุต = 30 เซนตเิ มตร1 ตารางฟุต = 30 x 30 ตารางเซนตเิ มตร25 ตารางฟุต = 30 x 30 x 25 = 22,500 ตารางเซนตเิ มตร3) ลุงแดงแบงทดี่ นิ ใหล ูกชาย 3 คน โดยแบง ใหล กู ชายคนโตได 2 ไร ลกู ชายคนกลาง 850ตารางวา และลูกชายคนเล็กได 3,000 ตารางเมตร อยากทราบวา ใครไดส วนแบง ที่ดนิ มากทสี่ ดุวิธีทํา คนโตได 2 ไร คิดเปน 2 x 1,600 = 3,200 ตารางเมตรคนที่สองได 850 ตารางวา คิดเปน 850 x 4 = 3,400 ตารางเมตรคนเลก็ ได 3,000 ตารางเมตรแสดงวา คนกลางไดม ากทส่ี ดุ4) พนื้ ที่ 5,625 ไร คิดเปนพนื้ ท่ี ก่ตี ารางกโิ ลเมตรวธิ ที าํ พนื้ ท่ี 625 ไร = 1 ตารางกิโลเมตรพนื้ ท่ี 5,625 ไร = 5,625 = 9 ตารางกิโลเมตร 6255) สมเกยี รติซ้อื โลหะแผนชนิดหนึง่ 3 ตารางเมตร ราคา 456 บาท สมนกึ ซอ้ื โลหะแผนชนดิ เดยี วกนั 4 ตารางหลา ราคา 567 บาท อยากทราบวาใครซื้อไดถูกกวากัน ตารางเมตรละกี่บาท(กาํ หนด 1 หลา = 90 เซนตเิ มตร)วธิ ที ํา 1 หลา = 90 เซนตเิ มตร1 ตารางหลา = 90 x 90 ตารางเซนตเิ มตร4 ตารางหลา = 90 x 90 x 4 ตารางเซนตเิ มตร100 x 100 ตารางเซนตเิ มตร = 1 ตารางเมตรดังนั้น 90 x 90 x 4 ตารางเซนตเิ มตร = 90x90x4 = 3.24 ตารางเมตร 100x100ดงั น้นั สมนกึ ซ้อื โลหะแผน ราคา 567 บาท คิดเปนราคาตารางเมตรละ 567 =175 บาท 3.24 สมเกียรติซอื้ โลหะแผนราคา 456 บาท คิดเปนราคาตารางเมตรละ 456 =152 บาท 3ดังนนั้ สมเกียรตซิ ือ้ ไดในราคาที่ถูกกวา
223แบบฝก หัดท่ี 21.จงเติมหนวยการวัดที่เหมาะสมลงในชองวาง 2.1 เมตร 2.2 มลิ ลิเมตร 2.3 กโิ ลเมตร 2.4 กโิ ลกรมั 2.5 วนิ าที 2.6 องศาเซลเซยี ส 2.7 ไร – งาน – ตารางวา 2.8 ลูกบาศกเซนติเมตร หรอื ลติ ร 2.9 เซนตเิ มตร 2.10 กโิ ลกรมัแบบฝกหดั ท่ี 31. จงหาพื้นทส่ี ว นทแี่ รเงาของรปู ตอไปนี้ ตวั เลขท่ีเขียนกาํ กับดานไวถ ือเปน ความยาวของดาน และมีหนว ยเปน หนว ยความยาว1. 1 x20x15 = 150 ตารางหนวย 2. 1 x10x5 = 25 ตารางหนว ย 2 22. รปู สามเหลย่ี มหน่ึงรูปมีพน้ื ท่ี 90 ตารางเซนติเมตร มีฐานยาว 12 เซนติเมตร จะมีความสูงกี่เซนตเิ มตรวิธีทาํ 90 = 1 x12x สูง ความสงู 2 = 90x2 = 15 12
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293