Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ดุษฎีนิพนธ์ ของ พระครูสังฆรักษ์ปรีชา

ดุษฎีนิพนธ์ ของ พระครูสังฆรักษ์ปรีชา

Description: ดุษฎีนิพนธ์ของ พระครูสังฆรักษ์ปรีชา

Search

Read the Text Version

๑๓๕ ให้เห็นเป็นรูปธรรมจากนามธรรมให้ผู้เรียนเห็นอย่างชัดแจ้ง การถ่ายทอดที่ดีก็ต้องได้รับการฝึกฝนมา เป็นอย่างดีด้วยเชน่ กัน ไมว่ า่ จะเปน็ การฝกึ อบรม หรอื สอบถามจากผู้ท่ีประสบความสําเรจ็ มาแล้ว๙ ๑๐. สํานกั งานพระสอนศีลธรรมควรสง่ พระสอนศลี ธรรมเขา้ รับการอบรม เพือ่ พัฒนา ความรทู้ างวชิ าการในด้านตา่ งๆ ใหเ้ พม่ิ พูนมากขน้ึ ๑๐ ๑๑. สาํ นกั งานพระสอนศลี ธรรมควรมนี โยบายในการพัฒนาทางด้านวิชาการตา่ งๆ ให้กบั พระสอนศลี ธรรม โดยรว่ มกับหนว่ ยภาครฐั และเอกชน เพ่ือเป็นการเพิม่ เตมิ ความรู้ในด้านต่างๆ ที่มี ความเกี่ยวกบั กบั ความรู้ด้านการจดั การเรียนการสอนรวมถึงความรทู้ างวชิ าการในด้านอืน่ ๆ ด้วย๑๑ ๑๒. พระสอนศีลธรรมควรมีความรู้ในการสอนพระพุทธศาสนาที่ชัดเจนท่ีเป็นหลักและหา ความรใู้ หมๆ่ เพอ่ื ทจ่ี ะนํามาประยกุ ต์ในการสอนได้๑๒ ๑๓. พระสอนศีลธรรมควรพัฒนาความรู้สามารถทําได้โดยการเข้ารับการฝึกอบรม แลกเปล่ียนความรู้ทางวิชาการ การขอคําปรึกษาจากผู้ท่ีมีความรู้และประสบการณ์ โดยทางสํานักงาน พระสอนศลี ธรรมเป็นผู้จดั หามาใหก้ ับพระสอนศลี ธรรม๑๓ ๑๔. พระสอนศีลธรรมต้องรวบรวมปัญหาและอุปสรรคที่เกิดข้ึนระหว่างการปฏิบัติหน้าท่ี การสอน และการแก้ไขปัญหา เป็นองค์ความรู้ท่ีชัดแจ้ง ซึ่งความรู้ท่ีสามารถรวบรวม ถ่ายทอดได้ โดย ผ่านวิธีต่างๆ เช่น การบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ทฤษฎี คู่มือต่างๆ และบางคร้ังเรียกว่าเป็นความรู้ แบบรปู ธรรมไปส่กู ระบวนการอบรมอย่างเป็นขนั้ ตอน๑๔ ๑๕. พัฒนาความรู้ทางด้านพระพุทธศาสนาให้เข้าใจ ลุ่มลึก และมองเห็นพระพุทธศาสนา ในองค์รวมอย่างชัดเจนและเข้าใจ และพัฒนาทักษะด้านการสอนพระพุทธศาสนาอย่างเป็นระบบเป็น ข้ันตอน โดยเป็นพระพุทธศาสนาตามกรอบของพระพุทธศาสนา และพัฒนาองค์ความรู้ด้านความรู้ เพื่อการปฏิบัติ อันหมายถึง มีความรู้เชิงปริยัติ และปฏิบัติให้เป็นประสบการณ์ตรงของพระผู้สอนด้วย และพัฒนาทักษะความรู้เพื่อการประยุกต์ หรือสอนการประยุกต์อย่างเป็นระบบภายใต้กรอบความคิด ของการศึกษาพระพทุ ธศาสนา โดยให้สอดคลอ้ งกบั ความจริงเป็นชวี ติ ที่เป็นจริง๑๕ ๑๖. พัฒนาความรู้ด้านการออกแบบการเรียนการสอน เพราะวิชาทางพระพุทธศาสนาไม่ ตอบโจทย์การเรียนรู้ของเด็กรุ่นใหม่ และควรเน้นส่งเสริมทักษะแห่งอนาคตให้กับผู้เรียนด้วย เพราะ ๙สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมูลสําคัญลําดับที่ ๙ วนั ที่ ๙ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๐สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มูลสาํ คญั ลาํ ดบั ท่ี ๑๐ วนั ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๑สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สาํ คัญลําดับท่ี ๑๑ วนั ท่ี ๕ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๒สัมภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มูลสําคญั ลาํ ดับที่ ๑๒ วันท่ี ๕ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๓สัมภาษณ์ ผูใ้ ห้ข้อมลู สําคัญลาํ ดบั ที่ ๑๓ วันท่ี ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๔ สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมูลสาํ คัญลาํ ดับท่ี ๑๔ วันที่ ๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๕สัมภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมลู สาํ คัญลําดับท่ี ๑๕ วนั ที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๓๖ เป็นทักษะที่จําเป็นสําหรับการรับมือต่อการเปล่ียนแปลงของโลกและสังคมในอนาคต เช่น ทักษะการ คิดวิเคราะห์ ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะความคิดสร้างสรรค์ ทักษะ การสร้างสัมพันธภาพระหวา่ งบคุ คล และทักษะด้านจิตสาธารณะ เป็นตน้ ๑๖ ๑๗. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนควรพัฒนาความรู้ในเร่ืองการเรียนการสอนซึ่งอาจจะ หมายถึงว่าคําสอนหรือหลักคําสอนทางพุทธศาสนาเดิมมีอยู่แล้วแต่จะทําอย่างไรให้มีความน่าสนใจ โดยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมด้วยแต่ว่าก็ไม่ทิ้งหลักเดิมคือหลักทางพุทธศาสนาซึ่งคําสอนที่มีจุด แข็งคือเป็นคําสอนท่ีเป็น อกาลิโก (ใช้ได้ตลอด) พระสงฆ์ควรมีความรู้ในส่วนของพระพุทธศาสนา อย่างจริง รู้ก็รู้จริง มีความรู้ความสามารถอย่างแตกฉานและสามารถพัฒนาความรู้เป็นเจ้าของศาสตร์ ในส่วนที่จะนําคําสอนเหล่าน้ันไปใช้ในการถ่ายทอดได้อย่างถูกต้องโดยผ่านเทคโนโลยีโดยเฉพาะ ปัจจุบันน้ีมีเก่ียวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ จึงมีการใช้สื่อซ่ึงเป็นส่วนสําคัญพระสงฆ์ จึงควรท่จี ะมคี วามร้เู รอื่ งเหล่านี้จงึ จะสามารถทีจ่ ะเขา้ ถงึ เยาวชนได้๑๗ ๑๘. พระสอนศีลธรรมควรท่ีจะดูหลักสูตรให้เป็น ที่กระทรวงศึกษาธิการกําหนด และ ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เช่นนโยบายที่เก่ียวกับพระพุทธศาสนาจะไปไปทิศทางไหนใน ปัจจุบัน ก็ต้องค้นหาความรู้ในท่ีต่างๆ เพ่ือเป็นการเตรียมตัวท่ีจะไปสอนด้วย อาจจะค้นคว้าหาทาง อินเทอร์เนตก็ได้ อีกอย่างหน่ึงต้องมีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี อย่างน้อยเทคโนโลยีที่โรงเรียนจัดการ เรียนการสอนอยู่ เพื่อท่ีจะนํามาใช้สอนนักเรียนได้ โดยเฉพาะปัจจุบันมีความสําคัญอย่างมาก ต้อง พยายามเรียนรู้โดยการเข้าฝึกอบรมบ้าง หรืออาจค้นคว้าด้วยตนเองบ้าง หรือสอบถามผู้ท่ีมีความรู้๑๘ สรุปได้ว่า วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านความรู้ (knowleage) หมายถึง ความรู้ในเร่ืองพระพุทธศาสนาของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนต้องรู้ในเร่ือง เฉพาะที่ต้องรู้อย่างชัดเจนและเป็นความรู้ท่ีเป็นสาระสําคัญ ซึ่งวิธีการในการพัฒนานั้นมีดังต่อไปน้ี พระสอนศีลธรรมต้องมีความรู้อย่างชัดเจนในเร่ืองของหลักธรรมที่จะเข้าไปสอนให้กับผู้เรียนและเมื่อ เข้าไปในสถานศึกษาแล้วก็ต้องรู้เกี่ยวกับมาตรฐานและตัวชี้วัดท่ีกระทรวงศึกษาธิการกําหนดใน หลักสูตรด้วย ซึ่งความรู้เหล่าน้ีพระสอนศีลธรรมเองต้องมีการศึกษาค้นคว้าอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะ อย่างยิ่งแล้วในยุคปัจจุบันต้องมีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อนํามาปรับประยุกต์ให้ทันสมัยเพ่ือ ตอบสนองกับผู้เรียนท่ีอยู่ในปัจจุบันด้วยโดยค้นคว้าจากทางออนไลน์ด้วยตัวเองก็ได้หรือเข้ารับการ อบรมจากสถานท่ีต่างๆ ท่ีเปิดอบรมก็ได้ ส่วนทางสํานักงานพระสอนศีลธรรมควรพัฒนาความรู้ให้แก่ พระสอนศีลธรรมอย่างสมํ่าเสมอเป็นการเพ่ิมศักยภาพของพระสอนศีลธรรมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการ พัฒนาความรู้ท่ีมีอยู่ในตัวพระสอนศีลธรรมซึ่งมีประสบการณ์ในแต่ละรูปมาแลกเปล่ียนเรียนรู้กันและ ๑๖สัมภาษณ์ ผูใ้ หข้ อ้ มูลสาํ คัญลําดับท่ี ๑๖ วันท่ี ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๗สมั ภาษณ์ ผูใ้ ห้ขอ้ มูลสําคญั ลาํ ดับท่ี ๑๗ วันที่ ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๘สมั ภาษณ์ ผูใ้ หข้ อ้ มลู สําคญั ลําดับที่ ๑๘ วนั ที่ ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๓๗ นํามาบันทึกแล้วจัดทําเป็นรูปเล่มต่อไป สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรมีแผนการพัฒนาพระสอน ศีลธรรมท่ีชัดเจนและกระทําอย่างต่อเนื่อง อาจอยู่ในรูปแบบของการฝึกอบรม หรือจัดสัมมนา โดยหา ผเู้ ช่ยี วชาญมาให้ความรใู้ นดา้ นตา่ งๆ ท่ีเก่ยี วกบั การจัดการเรียนการสอน ตารางท่ี ๔.๘ สรุปวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจดั การเรยี นการสอนของพระสอนศลี ธรรม ในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ดา้ นความรู้ (knowleage) ผใู้ หข้ ้อมลู สําคัญ ประเดน็ สําคญั จํานวน ผ้ใู หข้ ้อมลู สาํ คัญ (รปู หรือคน) ลําดบั ที่ ๑. พระสอนศีลธรรมควรแสวงหาความรู้ในแก่นธรรม ๗ ๑,๓,๕,๙,๑๒,๑๕,๑๗ ท่ีแท้จริงและความรู้ในมาตรฐานและตัวช้ีวัดของ กระทรวงศกึ ษาธิการ ๒. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรพัฒนาความรู้ท่ีมี ๕ ๒,๔,๖,๗,๑๔ อยู่ในตัวของพระสอนศีลธรรม นําประสบการณ์การ สอนมาแลกเปล่ียนเรียนรู้และนํามาบันทึกไว้หรือ จัดทําเปน็ เอกสาร ๓. พระสอนศีลธรรมต้องมีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี ๒ ๘,๑๖ และดา้ นทกั ษะตา่ งๆ เพอ่ื นํามาจดั การเรยี นการสอน ๔.สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรส่งพระสอน ๓ ๑๐,๑๑,๑๓ ศีลธรรมเข้ารับการอบรมเพ่ือพัฒนาความรู้ด้านต่างๆ ทเี่ ก่ยี วกบั การจดั การเรียนการสอน ๕.สร้างเครือข่ายในการทํางานของพระสอนศีลธรรม ๕ ๑๑,๑๒,๑๓,๑๔,๑๘ เพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แชร์ประสบการณ์ซ่ึงกันและ กนั จากตารางที่ ๔.๘ การแสดงความถี่ของปริมาณผู้ให้ข้อมูลสําคัญ วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้าน การจัดการเรียนการสอน พบว่า ความถ่ีของผู้ให้ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) จํานวน ๑๘ รูปหรือ คน เกี่ยวกับวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านความรู้ (knowleage) ดังปรากฏตามแผนภาพที่ ๔.๑ ดังนี้

๑๓๘ สาํ นกั งานพระสอนศลี ธรรม พระสอนศลี ธรรม - จดั ฝกึ อบรมด้านความรู้ - ค้นควา้ ความร้ตู ลอดเวลา - จัดหาผ้เู ชย่ี วชาญ - แลกเปล่ยี นความรู้ - ทาํ ค่มู อื ให้พระสอนศีลธรรม - มคี วามรูท้ ีช่ ดั เจน ดา้ น ความรู้ แผนภาพท่ี ๔.๑ สรุปวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของ พระสอนศีลธรรมในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ดา้ นความรู้ (knowleage) จากภาพ ๔.๑ พบว่า วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของ พระสอนศีลธรรมในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ด้านความรู้ (knowleage) ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ควรพัฒนาศักยภาพด้านความรู้ของพระสอน ศีลธรรมโดยการจัดฝึกอบรมอย่างสมํ่าเสมอ โดยจัดหาผู้เช่ียวชาญมาให้คําแนะนําแก่พระสอนศีลธรรม และจัดทําคู่มือในการสอนให้แก่พระสอนศีลธรรมได้นําไปใช้เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการจัดการเรียน การสอน ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมีความรู้ทางด้านธรรมะอย่างชัดเจน รวมท้ังความรู้ ทางด้านการจัดการเรียนการสอนด้วยโดยต้องค้นคว้าหาความรู้อยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นทางด้าน ค้นคว้าด้วยตัวเองหรือสอบถามจากผู้รู้เพ่ือให้การสอนมีประสิทธิภาพ รวมท้ังมีการแลกเปล่ียนเรียนรู้ กับพระสอนศีลธรรมทา่ นอื่นด้วยเพอ่ื เสริมตนเองมคี วามรใู้ นการจัดการเรียนการสอนเพ่ิมข้ึน

๑๓๙ ๔.๒.๒ วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ดา้ นทักษะ (skill) ประกอบด้วย ๑.พระสอนศีลธรรมต้องมีวิธีการในการถ่ายทอดความรู้ไปสู่ผู้เรียนคือทักษะในการสื่อสาร พุทธธรรม ซึ่งตัวผู้สอนจะต้องอธิบายได้ทั้งในเชิงอรรถะ และเชิงพยัญชนะ ให้ผู้เรียนได้มีความเข้าใจ ในเน้ือหาท่ีถูกต้อง และสามารถเชื่อมโยงเข้ากับวิถีชีวิตและนําไปใช้อย่างทันเวลาในชีวิตประจําวัน อีก อย่างหนึ่งก็คือ ทักษะในการวิเคราะห์ ต้องสามารถท่ีจะวิเคราะห์ผู้เรียนได้ ว่าพื้นฐานในตัวผู้เรียนเป็น อย่างไร อยู่ในวัยไหน เป็นต้น เม่ือสามารถวิเคราะห์ได้ก็สามารถออกแบบการเรียนการสอนได้ และจะ นําไปสตู่ วั ผู้เรยี นได้อยา่ งถกู ตอ้ ง๑๙ ๒. พระสอนศีลธรรม ควรมีทักษะการจัดการเรียนการสอนอย่างเช่ียวชาญ ควรจะมีความ ชํานาญเชีย่ วชาญให้มาก ซ่ึงจะสามารถพัฒนาให้เกิดขึ้นได้จากการฝึกปฏบิ ัตใิ หเ้ กดิ ความชํานาญ๒๐ ๓. พระสอนศีลธรรม ต้องมีทักษะในการเป็นโค้ช มีวิธีการคือการต้ังคําถามเป็นให้แก่ ผู้เรียน เพ่ือกระตุ้นความคิดของผู้เรียนได้ หรือทักษะในการสะท้อนคิด การรับฟังผู้เรียน ซึ่งบางรูปก็ สอนแบบพูดอยู่คนเดียวท้ังชั่วโมงผู้เรียนก็เกิดความเบ่ือหน่ายได้ ต่อมาต้องมีทักษะนักออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ ต้องออกแบบให้ผู้เรียนมีความสุข ในการเรียนรู้คือมีความอยากรู้ อยากทํา และทักษะการเอาใจใส่ด้วยความเมตตาผู้เรียน คือต้องมีการรับฟังด้วยใจอย่างใคร่ครวญต่อ ผูเ้ รียน และต้องใสใ่ จต้งั แตก่ ารออกแบบการสอน๒๑ ๔. พระสอนศีลธรรมต้องมีทักษะท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการเรียนการสอนโดยแบ่งออกเป็น สถานการณ์ปกติ และ ไม่ปกติ ถ้าเป็นสถานการณ์ท่ีปกติหรือท่ัวไปต้องมีทักษะความโค้ช คือการรับฟัง ผู้เรียนไม่ใช่แต่เป็นผู้ส่ังอย่างเดียว หรือการต้ังคําถามให้กับผู้เรียนได้คิดไตร่ตรอง ถ้าเป็นสถานการณ์ที่ ไม่ปกติ อย่างปัจจุบันก็คือเกิดวิกฤติ ไวรัส ผู้สอน ต้องสร้างแรงจูงใจ ความผูกพันให้กับผู้เรียน ให้กับ ผูเ้ รียนในขณะเรียนออนไลน์ ให้ผู้เรยี นไมเ่ กดิ ความเครียด๒๒ ๕. พระสอนศีลธรรมจะต้องมีทักษะในการบริหารจัดการห้องเรียน ก็ต้องมีวิธีการในทาง จิตวิทยาในการควบคุมห้องเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และจะต้องมีทักษะในการสื่อสาร ให้ เหมาะสมว่าในขณะช่วงเวลาขณะนั้น ๆ ควรใช้วาจาในลักษณะใด หรือกับใครเป็นต้น หรือกิริยา ทา่ ทางในการแสดงออก หรือ นํ้าเสยี งทีจ่ ะสือ่ สารใหผ้ ู้เรียนได้เล่อื มในศรัทธา๒๓ ๑๙สมั ภาษณ์ ผูใ้ หข้ อ้ มูลสาํ คัญลาํ ดับที่ ๑ วันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๒๐สัมภาษณ์ ผใู้ ห้ขอ้ มลู สาํ คัญลาํ ดับที่ ๒ วนั ที่ ๒ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๒๑สัมภาษณ์ ผ้ใู หข้ ้อมูลสาํ คัญลําดบั ท่ี ๓ วันที่ ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๒๒สมั ภาษณ์ ผ้ใู หข้ อ้ มูลสาํ คญั ลาํ ดับที่ ๔ วนั ที่ ๑๔ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๒๓สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมูลสําคญั ลาํ ดับท่ี ๕ วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๔๐ ๖. สํานักงานพระสอนศีลธรรมจําเป็นที่จะต้องมีการนิเทศงานการสอน วางแผนการ ทํางานในการจัดการเรียนการสอนร่วมกันระหว่างสํานักงานพระสอนศีลธรรมและพระสอนศีลธรรมที่ เข้าไปสอนในสถานศกึ ษา๒๔ ๗. ทักษะในการสื่อสารของพระสอนศีลธรรม ในขณะท่ีสอนต้องให้ผู้เรียนเข้าใจได้ง่ายๆ เช่นเมื่อเข้าไปแล้วใช้รูปแบบเทศน์เหมือนอยู่ที่วัด ซึ่งอาจทําให้ผู้เรียนเกิดความเบื่อหน่ายและทักษะใน การใช้อุปกรณ์ดา้ นเทคโนโลยี ตอ้ งใชส้ ื่อให้ตรงกบั วตั ถุประสงค์ในการเรียนการสอนด้วย๒๕ ๘. ผู้สอนต้องดูผู้เรียนก่อนว่าเราจะใช้ทักษะเกี่ยวกับเร่ืองอะไรเข้าสอน เพราะว่าช่วงวัยไม่ เหมือนกัน เขาจะได้สนใจในการสอนของเรา เช่นอาจจะเป็นเร่ืองเล่านิทานชาดก ท่ีจะโน้มจิตใจเข้ามา สอน พระสอนศีลธรรมก็ต้องพัฒนาตัวเองให้มีทักษะเพ่ิมขึ้น เช่น ทักษะในการพูด การบรรยาย ต้อง มีความเชื่อม่ันในตนเองด้วย ต้องฝึกอบรมก่อนท่ีจะเข้าไปสอนก่อนทําให้มีองค์ความรู้และพัฒนา ทักษะตวั เอง๒๖ ๙. พระสอนศีลธรรมควรฝึกทักษะจากการพูดคุยกับพระสอนศีลธรรมท่ีมีประสบการณ์ มากกวา่ ตนเพ่ือเพ่ิมพูนทกั ษะแบบใหม่ เพ่อื จะนาํ ไปสอนในสถานศกึ ษาของตน๒๗ ๑๐. พระสอนศีลธรรมควรค้นคว้าหาข้อมูลจากระบบอินเตอร์เน็ตในเรื่องทักษะการสอน แบบต่างๆ หรือเข้าอบรมพัฒนาทักษะการสอนของตนเองให้มีการพัฒนายิ่งข้ึน ท้ังทางด้าน เทคโนโลยีและสารสนเทศ ด้านภาษา ด้านมนุษยสัมพันธ์ เป็นต้น เป็นเรื่องที่มีความสําคัญซึ่งจะทําให้ พระสอนศีลธรรมมศี กั ยภาพในการจัดการเรียนการสอนไดด้ ยี ิ่งข้นึ ๒๘ ๑๑. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรสร้างระบบพี่เลี้ยง โดยกําหนดให้ผู้มีความสามารถ มี ทักษะ ความเช่ียวชาญ ในแตล่ ะด้านใหค้ วามชว่ ยเหลือ ดแู ล แนะนําแก่พระสอนศลี ธรรม๒๙ ๑๒. พระสอนศีลธรรมควรจะต้องมีทักษะการสอนแบบลงมือปฏิบัติ (active learning) มี วิธีการให้ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์ซ่ึงกันและกันระหว่างผู้เรียนเองและผู้สอนด้วย และให้ผู้เรียนได้ลงมือ ปฏิบัติด้วย โดยใช้ในเชิงปฏิบัติการก็ได้ และทักษะในการส่ือสาร ในการสนทนากับผู้เรียนในช่วงวัย ตา่ งๆ ให้มีความเข้าใจในระหว่างผสู้ อนและผเู้ รียน๓๐ ๒๔สมั ภาษณ์ ผ้ใู หข้ ้อมลู สาํ คัญลาํ ดับที่ ๖ วนั ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๒๕สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มูลสําคัญลาํ ดับที่ ๗ วนั ท่ี ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๒๖สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมูลสําคญั ลาํ ดับท่ี ๘ วนั ที่ ๒๙ กรกฏาคม ๒๕๖๔. ๒๗สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สําคัญลาํ ดบั ที่ ๙ วนั ท่ี ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๒๘สมั ภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มูลสําคญั ลําดับท่ี ๑๐ วันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๒๙สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมลู สาํ คญั ลาํ ดับท่ี ๑๑ วนั ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๓๐สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมูลสําคญั ลําดับท่ี ๑๒ วนั ที่ ๓๐ กรกฏาคม ๒๕๖๔.

๑๔๑ ๑๓. พระสอนศีลธรรมต้องมีทักษะท่ีสําคัญคือควรมีทักษะการสอน ควรมีการออกแบบ การสอ่ื สารทีจ่ ะสื่อให้ผู้เรียนเข้าใจไดง้ ่าย และมีความทนั สมยั จากเรือ่ งยากใหก้ ลายเป็นเร่ืองง่ายได้๓๑ ๑๔. การพัฒนาทักษะ โดยทางสํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดให้มีการอบรม ศึกษาดู งาน ทาํ แผนพฒั นาสาํ หรบั พระสอนศลี ธรรม พฒั นาการจัดการ เกง่ คดิ เกง่ คน เก่งงาน๓๒ ๑๕. พระสอนศีลธรรมควรพัฒนาทักษะด้านการบริหารเวลา ซึ่งบุคคลที่มีทักษะ ความสามารถด้านการบริหารเวลากับการทํางานให้เหมาะสมสามารถทําให้งานก้าวเดินไปข้างหน้าได้ อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด ซึ่งจะมีส่วนช่วยเพ่ิมศักยภาพและโอกาสในการพัฒนาตนเองซึ่งจะเป็น แบบอย่างกับผู้เรียนอีกดว้ ย๓๓ ๑๖. ทักษะสอนโดยการนําพาปฏิบัติผู้สอนต้องมีทักษะโดยการใช้เทคโนโลยีอย่าง เป้าหมาย เพื่อการศึกษาและเข้าใจพระพุทธศาสนา การจัดการเรียนการสอนโดยโครงการ หรือการ เรียนรู้ผ่านกิจกรรมโครงการที่มีเป้าหมายเพื่อการศึกษาและเรียนรู้พระพุทธศาสนา พัฒนาทักษะการ สอนแบบบูรณาการ ท่ีผสมผสานทั้งพระพุทธศาสตร์และสาขาวิชาอื่นๆ จะทําให้นักเรียนมีทักษะเพิ่ม มากข้ึน และการพัฒนาทักษะการสอนที่สอนแบบผสมผสาน ได้ทั้งความรู้ ทัศนคติ และทักษะการใช้ ชวี ติ อย่างเป็นระบบ๓๔ ๑๗. สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องดําเนินการพัฒนา ด้วยการจัดอบรมให้ความรู้ ศึกษา ดงู าน หรือส่งเสริมใหพ้ ระสอนศลี ธรรมให้มกี ารศึกษาหาความรดู้ ว้ ยตนเอง๓๕ ๑๘. พระสอนศีลธรรมนั้นในสมัยปัจจุบันต้องมีทักษะในการใช้เทคโนโลยี โดยเฉพาะใน การใช้การเรียนการสอนออนไลน์ ซ่ึงพระสอนศีลธรรมบางรูปท่ีไม่เคยสนใจทางเทคโนโลยีเลย ต้อง ปรับตัวในยุคปัจจุบันให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเข้ารับการอบรมในการใช้เทคโนโลยีแบบส่ีอออนไลน์ ไม่ว่า จะเป็น zoom เปน็ ตน้ หรอื จะศกึ ษาค้นควา้ เรยี นรู้การใช้สื่อเทคโนโลยดี ้วยตนเองก็ได้๓๖ สรุปได้ว่า วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านทักษะ (skill) หมายถึง ส่ิงท่ีพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนกระทําได้ดีและฝึกปฏิบัติเป็นประจําจนเกิดความชํานาญ และเป็นส่ิงท่ีต้องการให้ทําได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งวิธีการในการพัฒนาน้ันมีดังต่อไปนี้ พระสอน ศีลธรรม ต้องมีวิธีการในการถ่ายทอดไปยังผู้เรียนต้องอาศัยทักษะในการสื่อสาร ต่อมาทักษะในการ จัดการเรียนการสอนต้องมีความเชี่ยวชาญซึ่งเกิดจากการท่ีฝึกปฏิบัติบ่อยๆ นั่นเองและท่ีสําคัญเม่ือ ๓๑สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมูลสาํ คัญลาํ ดบั ท่ี ๑๓ วนั ที่ ๑๑ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๓๒สัมภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมูลสําคัญลําดบั ที่ ๑๔ วนั ที่ ๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๓๓สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ขอ้ มลู สําคญั ลําดับท่ี ๑๕ วนั ท่ี ๑๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๓๔สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สําคญั ลําดบั ท่ี ๑๖ วันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๓๕สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมลู สาํ คัญลาํ ดับที่ ๑๗ วนั ท่ี ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๓๖สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ขอ้ มลู สาํ คญั ลาํ ดับที่ ๑๘ วันที่ ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๔๒ พระสอนศีลธรรมอยู่ในห้องเรียนต้องมีทักษะจากผู้คุมห้องเรียนต้องเปล่ียนแปลงเป็นโค้ชแทนซึ่งก็ หมายถึง เป็นผู้อํานวยการสอนให้กับผู้เรียนโดยมีทักษะในการตั้งคําถามรวมทั้งทักษะในการรับฟัง ผู้เรียนด้วย และทักษะในการบริหารเวลาด้วย และในสมัยปัจจุบันทักษะท่ีขาดไม่ได้ก็คือทักษะในการ ใช้เทคโนโลยี ซึ่งพระสอนศีลธรรมก็สามารถศึกษาค้นคว้าทางด้านทักษะนี้ได้ด้วยตนเองทาง อินเทอร์เน็ตหรือจากผู้เชี่ยวชาญก็ได้รวมทั้งพูดคุยแลกเปล่ียนประสบการณ์การทํางานกับพระสอน ศีลธรรมรูปอื่นด้วยเพ่ือเป็นการเพ่ิมพูนทักษะแบบใหม่ๆ ส่วนทางสํานักงานพระสอนศีลธรรมมีวิธีการ พัฒนาคือ ต้องมีการวางแผนการทํางานในการจัดการเรียนการสอนร่วมกับพระสอนศีลธรรม และ จะตอ้ งมกี ารนเิ ทศการสอนดว้ ยเพอื่ ใหก้ ารสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึน้ สรา้ งระบบพ่ีเลี้ยงโดยใหผ้ ทู้ ี่มี ความสามารถและมีทักษะเป็นผู้ช่วยเหลือพระสอนศีลธรรม และควรท่ีจะมีการฝึกอบรม หรือศึกษาดู งาน ทําแผนพฒั นาสาํ หรับพระสอนศลี ธรรมด้วย ตารางท่ี ๔.๙ สรปุ วธิ ีการในการพฒั นาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศลี ธรรม ในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ด้านทกั ษะ (skill) ผ้ใู หข้ ้อมูลสําคญั ประเดน็ สําคญั จํานวน ผ้ใู หข้ ้อมูลสาํ คญั (รปู หรือคน) ลาํ ดบั ท่ี ๑. พระสอนศีลธรรมต้องมีทักษะการจัดการเรียนการ ๗ ๑,๒,๓,๔,๗,๙,๑๒ สอน ทักษะการส่ือสาร ทักษะการเป็นโค้ช ให้ เช่ียวชาญ ๒. พระสอนศีลธรรมต้องมีทักษะในการบริหาร ๔ ๕,๘,๑๓,๑๕ จัดการห้องเรียน การบริหารเวลาและจิตวิทยาคุม ห้องเรยี น ๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องมีการนิเทศการ ๒ ๖,๑๑ สอนของพระสอนศีลธรรมและสรา้ งระบบพเี่ ลยี้ ง ๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องจัดฝึกอบรม ๒ ๑๔,๑๗ ศึกษาดูงาน ๕.พระสอนศีลธรรมควรพัฒนาทักษะในการใช้ ๓ ๑๐,๑๖,๑๘ เทคโนโลยี โดยเฉพาะในการใช้การเรียนการสอน ออนไลน์

๑๔๓ จากตารางที่ ๔.๙ การแสดงความถ่ีของปริมาณผู้ให้ข้อมูลสําคัญ วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้าน การจัดการเรียนการสอน พบว่า ความถ่ีของผู้ให้ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) จํานวน ๑๘ รูปหรือ คน เก่ียวกับวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ดา้ นทักษะ (skill) ดังปรากฏตามแผนภาพที่ ๔.๒ ดงั น้ี สาํ นกั งานพระสอนศลี ธรรม พระสอนศีลธรรม - จดั พระนิเทศการใชท้ ักษะ - พัฒนาทักษะการสือ่ สาร - พฒั นาทักษะการใช้เทคโนโลยี - จดั ฝึกอบรมศกึ ษาดงู าน - พฒั นาทกั ษะบรหิ ารหอ้ งเรยี น ด้าน ทกั ษะ แผนภาพที่ ๔.๒ สรุปวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ด้านทกั ษะ (skill) จากภาพ ๔.๒ พบว่า วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระ สอนศลี ธรรมในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะ (skill) ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ควรพัฒนาศักยภาพด้านทักษะของพระสอน ศีลธรรมโดยจัดผู้เช่ียวชาญทางด้านทักษะ เข้ามานิเทศแล้วร่วมกันวางแผนเพ่ือให้การเรียนการสอนมี ประสิทธิภาพนอกจากนั้นต้องมีการฝึกอบรมทางด้านทักษะหรือไปศึกษาดูงานให้แก่พระสอนศีลธรรม ด้วย ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมีการพัฒนาทางการสื่อสารในห้องเรียนระหว่าง ผู้สอนกับผู้เรียน นอกจากน้ันทักษะการบริหารจัดการห้องเรียนรวมทั้งทักษะทางด้านจิตวิทยาก็มี ความสาํ คญั และทักษะการใช้เทคโนโลยีในปจั จบุ นั ซึ่งมคี วามสําคัญมากพระสอนศีลธรรมก็ตอ้ งมี

๑๔๔ ๔.๒.๓ วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ด้านความคดิ เหน็ เก่ียวกบั ตนเอง (self-concept) ประกอบด้วย ๑. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนควรมีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนการสอนว่า เราใน ฐานะของพระสงฆ์มีจุดประสงค์เพื่อให้ชาวโลกได้ออกจากทุกข์ ทําหน้าท่ีในฐานะของพุทธบุตร รักษา สืบทอดพระพุทธศาสนา และสังคมไทยให้การเคารพและไว้ใจให้ทําหน้าท่ี ปลูกฝังลูกหลานของเขา และมีความเช่ือม่ันให้พระสงฆ์ส่ังสอนลูกหลานของตนให้เป็นคนดีและคนเก่งอีกด้วย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ ผ่านการศึกษาในสายครูแต่สังคมก็ยังมีความไว้ใจในการสอนของพระสอนศีลธรรมที่เข้าไปสอนใน โรงเรยี น๓๗ ๒. พระสอนศีลธรรมต้องมีความคิดเห็นว่าตนเองอยู่ในฐานะของความเป็นครู เมื่อเข้าไป สอนในโรงเรียนแล้ว ต้องมีจิตท่ีเมตตามีความปรารถนาดีต่อผู้เรียนเป็นเบ้ืองต้น เม่ือมีจิตในความเป็น ครูแล้ว ก็จะทําให้ก้าวพ้นสอนเพ่ือนิตยภัตรหรือลาภยศอย่างอื่นด้วย อีกอย่างหน่ึงคือความคิดเห็นของ ตนเองในเร่ืองการวิเคราะห์ผู้เรียน ควรมองผู้เรียนให้ออกว่า เราควรจะจัดการเรียนการสอนไปใน แนวทางไหนเพื่อให้เหมาะสมกบั ผเู้ รยี น๓๘ ๓. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนควรจะมีความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเองในเรื่องการ เปลี่ยนแปลงความคิดเดิมๆ ในเรื่องรูปแบบการสอน เช่นในรูปแบบบรรยายที่เคยเรียนของคณะสงฆ์ ในการเรียนนักธรรม แล้วเข้ามาสอนในโรงเรียนก็ใช้รูปแบบเดิมๆ ไม่ยอมเปล่ียนแปลงมาใช้ในรูปแบบ ของสมัยใหม่บ้าง เช่นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ต้องเปิดใจยอมรับกับส่ิงใหม่ๆ ที่เข้ามาอยู่เสมอ เช่น กลยุทธ์ต่อวิธกี ารสอน เป็นตน้ ๓๙ ๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรมีการจัดอบรมเพ่ือมีการเสนอความคิด แชร์ความ คิดเห็นกันและกัน ในการทํางานเป็นกระบวนการที่ทําให้ความคิดกว้างไกลหลายแง่มุม จะทําให้เกิด ความแปลกใหม่แตกต่างไปจากเดิมเกิดการเรียนรู้และเข้าใจ เพ่ือตอบสนองความต้องการหรือเพ่ือ แกไ้ ขปญั หาทีเ่ กิดขึ้นได้ ในการจดั การเรียนการสอน๔๐ ๕. สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดให้มีการพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ได้แก่ แลกเปล่ียนการศึกษาดูงานในสถานศึกษาของพระสอนศีลธรรมที่ประสบความสําเร็จแต่ละรูปที่ไป สอนไปเรียนรู้และศึกษาจากสถานศึกษาที่ประสบความสําเร็จว่ามีกระบวนการอย่างไร มีการทํางาน เช่นไรแลว้ นํามาประยกุ ต์ใชใ้ หเ้ ข้ากับตนเอง๔๑ ๓๗สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มลู สาํ คญั ลําดับที่ ๑ วนั ท่ี ๓ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๓๘สัมภาษณ์ ผูใ้ ห้ขอ้ มลู สําคัญลาํ ดบั ท่ี ๒ วันท่ี ๒ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๓๙สัมภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มูลสําคญั ลําดบั ท่ี ๓ วันท่ี ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๔๐สัมภาษณ์ ผใู้ ห้ขอ้ มูลสาํ คัญลาํ ดบั ท่ี ๔ วันท่ี ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๔๑สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สําคัญลําดับท่ี ๕ วนั ท่ี ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๔๕ ๖. มีความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเอง ต้องปรับตนเองให้เข้ากับบริบทในโรงเรียนท่ีเข้าไปสอน คิดว่าเพื่อหาประสบการณ์การเรียนรู้ไปด้วยกันในการจัดการเรียนการสอน และต้องมีความคิดว่า เรา เป็นผู้เผยแผ่ให้กับเยาวชนซ่ึงต่อไปเมื่อเขาเติบโตขึ้นมาก็จะได้เป็นกําลังให้กับพระพุทธศาสนา มีจิตที่ เสียสละ เมตตา และต้องอดทนดว้ ย๔๒ ๗. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน มีความคิดเห็นเก่ียวกับตนเองว่า ต้องมองในฐานะของ ความเป็นครูว่าเราจะช่วยเหลือเด็กได้อย่างไร ต้องมีความเป็นกัลยาณมิตรต่อตัวผู้เรียน ซึ่งจะขาดไม่ได้ ในทา่ ทขี องการแสดงออก หรือคาํ พูดท่มี ีต่อผู้เรยี นจงึ เปน็ สิง่ ทมี่ ีความสาํ คญั ๔๓ ๘. พระสอนศีลธรรมควรฝึกฝนทางด้านความคิด ในการใช้สติปัญญาอย่างมีเหตุผล มี ความคิดที่หลากหลาย มีความกระตือรือร้น คล่องตัว และมีคามคิดที่ทันสมัยทันเหตุการณ์ต่อความ เปลยี่ นแปลง๔๔ ๙. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดกิจกรรมและส่งเสริมพระสอนศีลธรรมให้ฝึก กระบวนการคิดและหาคําตอบเพ่ือการแก้ปัญหา ให้ความมีอิสระในการคิดและการทํางาน ให้สิทธิ และอํานาจการตัดสนิ ใจในการปฏิบตั ิและการพัฒนางาน และสร้างสถานการณ์ท่ีทา้ ทาย๔๕ ๑๐. สํานักพระสอนศีลธรรมต้องฝึกให้พระสอนศีลธรรมได้ทํางานร่วมกัน ร่วมคิด ร่วม ออกแบบสิ่งใหม่ๆ ร่วมกัน นําข้อดี ข้อเสียของความคิดแต่ละคนมาประยุกต์ใช้ให้ได้กับการเรียนการ สอน๔๖ ๑๑. ต้องมีความคิดเห็นต่อตนเอง ในฐานะของความเป็นครู ก็จะมองนักเรียนอยากจะ ถ่ายทอดความรู้ให้เขา ไม่ใช่ว่าเพียงเพื่อสอนแล้วก็ออกไป จิตประกอบด้วยเมตตาก็จะเกิดข้ึนเองโดย ธรรมชาติ เพราะมุง่ หวังทต่ี วั ผเู้ รียนเปน็ หลักอยากจะใหเ้ ขามีอนาคตท่ดี ตี อ่ ไป๔๗ ๑๒. พระสอนศีลธรรมควรสร้างความที่เช่ือมั่นในตนเอง ต้องมีลักษณะของความตั้งใจที่ แนว่ แน่ มีเป้าหมาย บุคลกิ ท่าทางทเ่ี ตม็ ไปด้วยความมน่ั คงไม่ย่อท้อ เปดิ เผย และกลา้ แสดงออก๔๘ ๑๓. พระสอนศีลธรรมต้องกระทําตนเป็นแบบอย่าง เพ่ือให้เกิดการยอมรับแก่ผู้เรียน เพราะผู้เรียนจะมีพฤติกรรมเลียนแบบ หรอื แสดงพฤติกรรมท่ีเหมอื นกับผู้สอนเป็นส่วนใหญ่๔๙ ๔๒ สมั ภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สาํ คญั ลําดบั ท่ี ๖ วันท่ี ๓๑ กรกฏาคม ๒๕๖๔. ๔๓ สัมภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มูลสาํ คัญลาํ ดับท่ี ๗ วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๔๔ สัมภาษณ์ ผูใ้ ห้ข้อมูลสําคญั ลาํ ดับท่ี ๘ วนั ที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๔๕สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มูลสาํ คญั ลาํ ดับที่ ๙ วนั ท่ี ๙ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๔๖สมั ภาษณ์ ผู้ให้ข้อมูลสําคญั ลําดบั ท่ี ๑๐ วนั ที่ ๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๔๗ สัมภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มลู สาํ คัญลาํ ดับท่ี ๑๑ วนั ที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๔๘สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมูลสําคญั ลาํ ดบั ท่ี ๑๒ วนั ที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๔๙สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมลู สาํ คญั ลําดบั ท่ี ๑๓ วนั ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔.

๑๔๖ ๑๔. พระสอนศีลธรรมต้องสร้างความสนใจให้กับตนเองและชอบการเรียนรู้ส่ิงใหม่ๆ ตลอดเวลา สํารวจตนเองว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้เรียนรู้ส่ิงใหม่อะไรบ้างหรือช่วงเวลาข้างหน้าอยาก เรยี นรู้อะไรแลว้ นาํ มาปฏบิ ตั ิ๕๐ ๑๕. พระสอนศีลธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเองว่า เป็นหน้าที่ของพระสงฆ์โดยตรง โดยได้ทําหน้าที่แทนพระพุทธเจ้าในการประกาศคําสอนฉะน้ันจึงมีความสําคัญอย่างมากในการเผยแผ่ พุทธศาสนาพระสอนศีลธรรมเป็นผู้ท่ีมีความเสียสละอย่างมากในการที่จะเตรียมเข้าไปสอนถ้าจะ เปรียบกับชาวโลกแล้วค่าตอบแทนท่ีได้รับจากการสอนศีลธรรมในโรงเรียน (เดือนละ ๒,๕๐๐ บาท) น้ันคงไม่ใช่เรื่องของเงินอย่างเดียวคงเป็นเรื่องของการที่จะดํารงรักษาไว้ซึ่งพุทธศาสนากล่าวคือเป็น อุดมการณ์ที่พุทธเจ้าได้วางไว้ว่าเมื่อพระเณรเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนาแล้วนอกจากท่ีจะทําหน้าที่ ตนเองคือทําให้ตัวเองได้เป็นผู้บริสุทธ์ิแล้วยังต้องทําหน้าท่ีในการเผยแผ่คําสอนให้ถึงแก่ประชาชนถือ ว่าเป็นเรื่องท่ีสาํ คัญ๕๑ ๑๖. ความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเองน้ันพระสอนศีลธรรมควรปรับแนวคิดความคิดใหม่ใน การจัดการเรียนการสอน โดยต้องทําความเข้าว่าโลกเปลี่ยนไป การศึกษา การเรียนการสอนเปล่ียนไป ต้องก้าวให้ทันกับการเปล่ียนแปลง ซ่ึงจะส่งผลไปถึงการออกแบบการเรียนการสอนอย่างไรให้เด็กมี ความรู้ ความเขา้ ใจ สนใจ วิชาทางพระพุทธศาสนา เป็นโจทยท์ ่ที ้าทายพระสอนศลี ธรรม๕๒ ๑๗. พระสอนศีลธรรม ควรมีเหตุผลในการคิดอย่างรอบคอบ การยอมรับฟังคําวิจารณ์ จากผูอ้ ืน่ เพอ่ื นามาปรบั ปรงุ และแก้ไขตนเองใหด้ ขี ึ้น๕๓ ๑๘. พระสอนศีลธรรมต้องมีลักษณะของความยืดหยุ่นใน การปฏิสัมพันธ์ ความ กระตือรอื ร้นในการปฏิบตั งิ านการเรยี นการสอนและการใช้ไหวพริบในการแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ ๕๔ สรุปได้ว่า วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านความคิดเห็น เก่ียวกับตนเอง (self-concept) หมายถึง ความเห็นที่พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนเก่ียวกับ ภาพลักษณ์ของตนหรือสิ่งท่ีบุคคลเช่ือมั่นในตนเองสูงและเชื่อว่าตนเองสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ ซ่ึงมีวิธีการพัฒนาดังต่อไปนี้ พระสอนศีลธรรมต้องมีจิตเมตตาความปรารถนาดี มีความเป็น กัลยาณมิตรต่อผู้เรียนเป็นเบ้ืองต้น ต้องยอมเปล่ียนแปลงความคิดเดิมๆ ในเร่ืองรูปแบบของการสอน ให้ทันสมัยบ้าง ควรฝึกฝนการใข้ความคิดแบบมีเหตุผล ต้องสร้างความสนใจให้กับตนเองเรียนรู้ส่ิงใหม่ ตลอดเวลา และสร้างเช่ือมั่นให้กับตนเองอยู่เสมอ ส่วนทางสํานักงานพระสอนศีลธรรมมีวิธีการพัฒนา ๕๐สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มูลสําคญั ลาํ ดบั ที่ ๑๔ วันที่ ๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๕๑สมั ภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มูลสําคัญลาํ ดับท่ี ๑๕ วนั ที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๕๒สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สําคญั ลาํ ดบั ที่ ๑๖ วนั ที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๕๓สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มลู สาํ คัญลําดบั ท่ี ๑๗ วนั ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๕๔สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมูลสาํ คัญลาํ ดบั ท่ี ๑๘ วนั ท่ี ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๔๗ คือ ควรจัดอบรมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดระหว่างพระสอนศีลธรรมด้วยกันจะทําให้เกิดความคิดแปลก ใหม่เพ่ิมข้ึน หรือแลกเปล่ียนดูงานของสถานศึกษาของพระสอนศีลธรรมท่ีประสบความสําเร็จมาแล้ว จัดกิจกรรมท่ีฝึกการะบวนการคิดและหาคําตอบเพื่อการแก้ปัญหาและฝึกทํางานร่วมกัน ร่วมคิด ร่วม ออกแบบสง่ ใหมม่ าประยกุ ตใ์ ชใ้ นการจัดการเรียนการสอน ตารางที่ ๔.๑๐ สรปุ วธิ กี ารในการพฒั นาศกั ยภาพด้านการจัดการเรยี นการสอนของพระสอนศลี ธรรม ในโรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ด้านความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ตนเอง (self-concept) ผใู้ ห้ข้อมลู สําคัญ ประเดน็ สําคญั จาํ นวน ผูใ้ ห้ข้อมลู สําคัญ (รูปหรือคน) ลาํ ดบั ท่ี ๑. พระสอนศีลธรรมต้องมีจิตเมตตา ความเป็น ๖ ๑,๒,๖,๗,๑๑,๑๕ กลั ยาณมติ รต่อผู้เรียน ๒. พระสอนศีลธรรมปรับเปล่ียนความคิดให้มีความ ๓ ๓,๑๔,๑๖ ทนั สมยั ใช้เทคโนโลยี เรียนรู้สงิ่ ใหม่ ๓. พระสอนศีลธรรมต้องมีความเช่ือม่ัน คิดอย่างมี ๕ ๘,๑๒,๑๓,๑๗,๑๘ เหตุผลและทําตนเปน็ แบบอย่าง ๔.สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดอบรมแลกเปลี่ยน ๓ ๔,๙,๑๐ ความคิดซ่ึงกันและกัน ฝึกกระบวนการคิดและทํางาน รว่ มกนั ๕.สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดแลกเปล่ียนดูการ ๑ ๕ เ รี ย น ก า ร ส อ น ข อ ง พ ร ะ ส อ น ศี ล ธ ร ร ม ท่ี ป ร ะ ส บ ความสาํ เร็จ จากตารางท่ี ๔.๑๐ การแสดงความถ่ีของปริมาณผู้ให้ข้อมูลสําคัญ วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้าน การจัดการเรียนการสอน พบว่า ความถี่ของผู้ให้ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) จํานวน ๑๘ รูปหรือ คน เกี่ยวกับวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านความคิดเห็นเก่ียวกับตนเอง (self-concept) ดังปรากฏตามแผนภาพ ที่ ๔.๓ ดังนี้

๑๔๘ สาํ นักงานพระสอนศีลธรรม พระสอนศลี ธรรม - จดั อบรมแลกเปล่ยี นความคดิ - มจี ติ เมตตาต่อผเู้ รยี น - จัดศกึ ษาดูงานในสถานศกึ ษา - สร้างความเชอื่ มั่นในตนเอง - เรยี นรสู้ งิ่ ใหมต่ ลอดเวลา ดา้ นความคิด เห็นเก่ยี วกับ ตนเอง แผนภาพท่ี ๔.๓ สรุปวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ดา้ นความคิดเหน็ เกย่ี วกบั ตนเอง (self-concept) จากภาพ ๔.๓ พบว่า วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระ สอนศลี ธรรมในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ดา้ นความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั ตนเอง (self-concept) ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ควรมีการจัดอบรมเพ่ือแลกเปล่ียนความคิดใน การจัดการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดความคิดท่ีหลากหลาย และจัดศึกษาดูงานการเรียนการสอนของ พระสอนศีลธรรมท่ีประสบความสําเร็จ เพื่อท่ีจะนําส่ิงที่ดีน้ันเข้ามาปรับปรุงในการสอนของตนเองให้มี ประสิทธิภาพมากยง่ิ ขึ้น ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมีจิตเมตตาความปรารถนาดี เป็นกัลยาณมิตรต่อ ผู้เรียน ต่อมาต้องมีความเชื่อมั่นในตนเองในการสอน และต้องเปลี่ยนแปลงความคิดของตนเองให้มี ความทันสมัยต่อยุคปัจจุบันโดยการเรียนรู้ตลอดเวลาโดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยีเพ่ือนํามาจัดการ เรียนการสอนใหม้ ีประสทิ ธิภาพ

๑๔๙ ๔.๒.๔ วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ด้านบคุ ลิกลกั ษณะประจําตวั ของบุคคล (traits) ประกอบดว้ ย ๑. บุคลิกลักษณะประจําตัวของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมีปฏิปทาของพระสงฆ์ คือข้อปฏิบัติและความประพฤติต่างๆ ที่อยู่ในรูปแบบของพระสงฆ์ และมีจริยาวัตรหม่ันพิจารณา เตือนใจตนเองด้วย เมื่ออยู่ในสถานศึกษาโดยเฉพาะการปรากฏตัว ให้ผู้พบเห็นเป็นทัศนานุตริยะ คือ การมองเห็นแล้ว ใหเ้ กิดความเลอื่ มใส และศรัทธา๕๕ ๒. ทางด้านพฤติกรรมการแสดงออก พระสอนศีลธรรมเมื่อทําการจัดการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นท่าที สายตา หรือคําพูด เช่นในขณะที่กําลังสอนเม่ือมีผู้เรียนสอบถามแล้วผู้สอนเกิดความ ไม่พอใจข้ึน ท่าทีการแสดงออกก็ทําให้ผู้เรียนเกิดความหวาดกลัวข้ึนเป็นต้น หรือการใช้คําพูดที่บ่ง บอกถึงอารมณ์โทสะจริตก็ดี ดังนั้นการเรียนรู้ของผู้เรียนจะเกิดคุณภาพ มาจากพฤติกรรมการ แสดงออกของผู้สอนไม่ว่าจะเป็น ท่าที นาํ้ เสยี ง การวางตัวด้วย๕๖ ๓. บุคลิกลักษณะประจําตัว ของพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอน การวางตัว ให้เหมาะสมแก่ฐานะในความเป็นพระสงฆ์ ต้องมีสติอยู่ทุกเมื่อในขณะที่ทําการสอนโดยธรรมชาติของ นักเรียนก็ย่อมมีด้ืออยู่บ้าง อย่าให้สติหลุด โดยใช้คําพูดที่ไม่เหมาะสมกับผู้เรียน เช่นพูดคําหยาบคาย พูดส่อเสียด เป็นต้น ดังนั้นการควบคุมตนเองจึงมีความสําคัญถ้าไม่สามารถท่ีจะควบคุมตัวเองได้แล้วก็ จะแสดงออกมาทางกายจะทําใหเ้ กดิ ความเสียหายตามมาอกี มาก๕๗ ๔. บุคลิกลักษณะประจําตัว ของพระสอนศีลธรรม ต้องมีความสํารวมเมื่อเข้าไปอยู่ใน สถานศึกษา ต้องมีการวางตัวในฐานะของพระสงฆ์ให้เหมาะสม เวลาคนทั่วไปมองเราส่วนใหญ่มองใน กรอบของศาสนา ซ่ึงมีความเช่ือว่าพระจะต้องมีความสํารวม เมื่อเข้าไปสู่สถานศึกษาแล้วค่อยๆ ทํา ความเป็นกันเองให้กับผู้เรียน เช่นการสร้างมนุษยสัมพันธ์ ทักทาย เป็นต้น หรือพอท่ีช่วยเหลืออะไรได้ บ้าง ก็เข้าไปช่วย เช่นการปิดหน้าต่างห้องเรียน การกวาดเป็นต้น ให้เขาเห็นว่าเราทําเป็นตัวอย่างให้ เขา หรอื เป็นจติ อาสากไ็ ด้๕๘ ๕.มีบุคลิกลักษณะประจําตัว พระสอนศีลธรรม ให้ผู้เรียนได้เข้าถึง คือมีมนุษยสัมพันธ์ ระหว่างผู้สอนและผู้เรียนลักษณะเป็นกันเอง แต่ไม่เกินเลยไป เช่นผู้เรียนก็จะกล้าท่ีจะซักถาม แสดง ความคิดเป็นต่อพระสอนศีลธรรม เป็นต้น พระสอนศีลธรรมก็ต้องมีความม่ันใจ ในการเรียนการสอน ๕๕สัมภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมูลสาํ คัญลาํ ดับที่ ๑ วันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๕๖สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมูลสําคัญลําดบั ท่ี ๒ วันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๕๗สัมภาษณ์ ผ้ใู หข้ อ้ มูลสาํ คัญลาํ ดบั ท่ี ๓ วนั ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๕๘สมั ภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มูลสาํ คญั ลําดับที่ ๔ วันท่ี ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๕๐ ในห้องด้วย ความม่ันใจเกิดจากในเนื้อหาท่ีสอน ส่วนบรรยากาศการสอนที่จะเกิดก็แก้ปัญหาเฉพาะ หน้าได้ แตถ่ ้าเรามคี วามมั่นใจในสิง่ ทีเ่ ราไปสอนแลว้ กจ็ ะทาํ ใหเ้ ราประสบความสาํ เร็จนั่นเอง๕๙ ๖. พระสอนศีลธรรม มีบุคลิกลักษณะประจําตัว เร่ิมต้นที่การแต่งกายต้องมีความ เรียบร้อยไม่รุ่มร่าม มีความสะอาดไม่สกปรก ตามลักษณะของพระสงฆ์เพ่ือนําความเล่ือมในศรัทธาแก่ ผู้พบเห็น การจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมต้องมีลักษณะการส่ือสารเชิงบวกที่ดี มีความ กระฉับกระเฉง เอาจรงิ เอาจังตอ่ การสอน แต่กต็ อ้ งแฝงด้วยความเมตตาด้วย๖๐ ๗. บุคลิกลักษณะประจําตัว พระสอนศีลธรรม การแต่งกายของพระสอนศีลธรรมให้ เหมาะสมกับสมณสารูป เน้นเรื่องความสะอาดเรียบร้อย การวางตัวและกิริยามารยาทท่ีดี ทางอารมณ์ เป็นส่ิงที่อาจแสดงออกมาหรือไม่แสดงออกก็ได้ เช่น ผู้สอนท่ีมีอารมณ์ขัน จะทําให้บรรยากาศการ เรียนการสอนเป็นไปอย่างสนุกสนาน ผู้สอนท่ีมีอารมณ์ดี ทําให้ผู้สอนน่ารัก เด็กนักเรียนกล้าปรึกษา ปัญหา ผู้สอนท่ีมีอารมณ์เย็น ทําให้ผู้สอนเป็นคนน่าคบหา ไม่วู่วาม มีเหตุผล ผู้สอนที่มีความมั่นคง ทางอารมณ์ ทําให้ผู้สอนสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี และจะได้เปรียบในการดําเนินชีวิต การที่มี ความม่ันคงทางอารมณ์ ถือได้ว่าเป็นบุคลิกภาพที่สําคัญท่ีสุดในทุกสายอาชีพ โดยเฉพาะสายพระสอน ศีลธรรม๖๑ ๘. พระสอนศีลธรรมมีบุคลิกลักษณะประจําตัวจะต้องมีความเหมาะสมกับลักษณะงานท่ี รับผิดชอบการสอน เหมาะสมกับการเปน็ ครบู าอาจารย์๖๒ ๙. พระสอนศีลธรรมบุคลิกลักษณะประจําตัวภายในต้องเป็นคนที่มีจิตใจที่ดีงาม การ แสดงออกการถ่ายทอดต่างๆ ต้องเป็นส่ิงที่เกิดจากความรู้สึกที่เป็นเจตนาดีในการที่จะสร้างคนให้เป็น คนทดี่ ๖ี ๓ ๑๐. พระสอนศีลธรรมควรที่จะเป็นคนใจเย็น อารมณ์ดี มีทัศนะคติท่ีดี มองโลกในแง่ดี เพราะการสอนหรือช่วงเวลาการสอน ถ้าหากมีความเครียดหรือปัญหาอ่ืนๆ หรือในเรื่องของการสอน มากเกินไป อาจทาํ ให้บุคคลรอบข้างหรือผ้เู รียนไม่กล้าเขา้ ใกล้หรือรับฟังการสอนก็เปน็ ได้๖๔ ๑๑. พระสอนศีลธรรมมีบุคลิกลักษณะประจําตัว ต้องมีคุณธรรมจริยธรรม และปฏิบัติตน ตามพระธรรมวินยั มคี วามซอื่ สตั ยส์ จุ ริต เสยี สละ จรงิ ใจ มคี วามมงุ่ ม่ันปฏบิ ัติหน้าที่ต่อการสอน๖๕ ๕๙สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มูลสาํ คัญลาํ ดบั ท่ี ๕ วันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๖๐สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สําคญั ลาํ ดับท่ี ๖ วนั ที่ ๓๑ กรกฏาคม ๒๕๖๔. ๖๑สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มูลสาํ คญั ลาํ ดับท่ี ๗ วันที่ ๑ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๖๒สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มูลสาํ คญั ลําดับท่ี ๘ วันท่ี ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๖๓สมั ภาษณ์ ผ้ใู หข้ ้อมลู สาํ คญั ลาํ ดับที่ ๙ วนั ท่ี ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๖๔สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ขอ้ มลู สําคญั ลาํ ดับที่ ๑๐ วนั ท่ี ๘ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๖๕สมั ภาษณ์ ผ้ใู ห้ขอ้ มลู สําคญั ลําดบั ท่ี ๑๑ วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๕๑ ๑๒. พระสอนศีลธรรมมีบุคลิกลักษณะประจําตัว ต้องเพิ่มพูนความรู้ประสบการณ์ ขา่ วสาร เรอ่ื งราวใหม่ๆ ท่ีเกี่ยวกับการปฏิบตั หิ น้าทใี่ ห้กับตนเองอยู่ตลอดเวลา๖๖ ๑๓. วิธีการพัฒนาบุคลิกลักษณะประจําตัวของพระสอนศีลธรรมทางสํานักงานพระสอน ศลี ธรรมตอ้ งจดั การฝึกอบรม เพอี่ ให้บคุ ลิกลักษณะประจําตัวทดี่ ขี นึ้ ๖๗ ๑๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องการจัดฝึกอบรม และการจัดสัมมนาทางด้าน บคุ ลกิ ลกั ษณะประจําตัวเพือ่ เพิ่มประสิทธภิ าพและความเชอื่ มนั่ ๖๘ ๑๕. พระสอนศีลธรรม ควรมีบุคลิกลักษณะท่ีดี เป็นการคิดเชิงบวก ในการสอนร่วมกัน และสว่ นรวมมจี ติ สาธารณะ จิตบรกิ าร ไม่เหน็ แกต่ ัวและค่านติ ยภัตตอบแทน๖๙ ๑๖. พระสอนศีลธรรมควรเรียนรู้ส่ิงใหม่ๆ ตลอดเวลา สํารวจตนเองว่า ในช่วงท่ีผ่านมาได้ เรียนรู้สิ่งใหม่อะไรบ้างหรือช่วงเวลาข้างหน้าอยากเรียนรู้อะไร และรู้จักค้นหาเหตุผลในการคิดอย่าง รอบคอบและทบทวนเวลาท่ผี ่านมาแล้วนาํ มาปฏิบตั ิ๗๐ ๑๗. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดให้มีการฝึกอบรมด้านการพัฒนาบุคลิกลักษณะ ประจําตัวให้กับพระสอนศีลธรรม โดยการจัดเป็นโครงการอบรมเป็นระยะๆ และติดตามพัฒนาการว่า เป็นไปในทิศทางใด เพอื่ การจัดอบรมใหต้ รงจุดยิง่ ขึ้น๗๑ ๑๘. พระสอนศีลธรรมรู้จักสํารวจตนเอง ค้นหาจุดบกพร่องท่ีผ่านมา แล้วปรับปรุงแก้ไข ให้มีการพัฒนาที่ดีขึ้นด้วยการแลกเปล่ียนเรียนรู้ หรือเข้ารับการฝึกอบรม หรือฝึกฝนตนเองอย่าง สมาํ่ เสมอ๗๒ สรุปได้ว่า วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านบุคลิกลักษณะ ประจําตัวของบุคคล (traits) หมายถึง เป็นส่ิงท่ีอธิบายถึงบุคคลนั้น เช่น คนท่ีน่าเชื่อถือไว้วางใจได้ หรือมีลักษณะเป็นผู้นํา เป็นต้น ทางพระสอนศีลธรรมต้องอยู่ในข้อปฏิบัติและความประพฤติต่างๆ ตามธรรมวินัยของพระสงฆ์ วางตัวให้เหมาะสมแด่ฐานะในความเป็นพระสงฆ์ มีความสํารวมเม่ือเข้าไป อยู่ในสถานศึกษาด้วย มีการแต่งกายท่ีเรียบร้อยไม่รุ่มร่าม ต้องมีความมั่นใจในการสอนของตน ตั้งจิต เมตตาต่อผู้เรียน และต้องใจเย็น มองโลกในแง่ดี เรียนรู้ส่ิงใหม่ตลอดเวลา ส่วนทางสํานักงานพระสอน ๖๖สัมภาษณ์ ผ้ใู หข้ อ้ มลู สําคญั ลําดบั ท่ี ๑๒ วันท่ี ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๖๗สัมภาษณ์ ผูใ้ ห้ขอ้ มลู สาํ คญั ลาํ ดบั ท่ี ๑๓ วนั ที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๖๘สัมภาษณ์ ผูใ้ ห้ขอ้ มลู สาํ คญั ลําดับที่ ๑๔ วันที่ ๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๖๙สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มลู สาํ คญั ลําดบั ที่ ๑๕ วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๗๐สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สําคญั ลาํ ดับท่ี ๑๖ วนั ที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๗๑สัมภาษณ์ ผ้ใู หข้ อ้ มลู สําคญั ลาํ ดบั ที่ ๑๗ วันที่ ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๗๒สัมภาษณ์ ผูใ้ ห้ขอ้ มลู สําคัญลาํ ดับท่ี ๑๘ วนั ท่ี ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๕๒ ศีลธรรม ต้องจัดฝึกอบรมหรือจัดสัมมนาหรือจัดเป็นโครงการอบรมเป็นระยะทางด้านบุคลิกลักษณะ ประจําตัวของพระสอนศลี ธรรมให้มปี ระสทิ ธิภาพมากยิง่ ขนึ้ ตารางที่ ๔.๑๑ สรุปวธิ ีการในการพฒั นาศักยภาพด้านการจดั การเรยี นการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ด้านบคุ ลิกลักษณะประจําตวั ของบุคคล (traits) ผใู้ หข้ ้อมูลสําคัญ ประเด็นสาํ คญั จํานวน ผู้ให้ขอ้ มลู สําคัญ (รูปหรือคน) ลาํ ดับที่ ๑. พระสอนศีลธรรม มีการวางตัว และความ ๔ ๑,๓,๔,๘ ประพฤตทิ เ่ี หมาะสมในความเปน็ พระสงฆ์ ๒. พระสอนศีลธรรม ต้องแต่งกายให้เรียบร้อย ๒ ๖,๗ เหมาะสมแกส่ มณสารปู ไมร่ มุ่ ร่าม ๓. พระสอนศีลธรรมต้องต้องมีความม่ันใจ มีจิต ๘ ๒,๕,๙,๑๐,๑๑,๑๒,๑๕,๑๖ เมตตา ทา่ ทีทางคาํ พูดทดี่ ี เรยี นรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องจัดฝึกอบรม หรือ ๔ ๑๓,๑๔,๑๗,๑๘ จดั สัมมนาทางบุคลิกลกั ษณะของพระสอนศีลธรรม จากตารางที่ ๔.๑๑ การแสดงความถี่ของปริมาณผู้ให้ข้อมูลสําคัญ วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้าน การจัดการเรียนการสอน พบว่า ความถี่ของผู้ให้ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) จํานวน ๑๘ รูปหรือ คน เกี่ยวกับวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านบุคลิกลักษณะประจําตัวของบุคคล (traits) ดังปรากฏตามแผนภาพที่ ๔.๔ ดังนี้

๑๕๓ สาํ นักงานพระสอนศลี ธรรม พระสอนศลี ธรรม - จัดฝกึ อบรม - มที า่ ทีการแสดงออกท่ีดี - จดั สัมมนาแลกเปลีย่ น - ควบคมุ อารมณท์ ด่ี ี - แสวงหาความรูต้ ลอดเวลา ด้านบคุ ลิก ลักษณะ ประจาํ ตัวของ บคุ คล แผนภาพที่ ๔.๔ สรุปวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศลี ธรรมในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ดา้ นบคุ ลิกลกั ษณะประจําตัวของบุคคล (traits) จากภาพ ๔.๔ พบว่า วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระ สอนศลี ธรรมในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ด้านบคุ ลิกลักษณะประจําตัวของบุคคล (traits) ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ควรจัดฝึกอบรมทางด้านบุคลิกลักษณะของ พระสอนศีลธรรมเพ่ือให้บุคลิกลักษณะที่เหมาะสมและดีขึ้นเมื่อได้เข้าไปจัดการเรียนการสอนใน สถานศึกษา และควรจัดสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางด้านบุคลิกลักษณะของพระสอน ศลี ธรรมเพ่อื นําไปปรับปรงุ ให้ดขี ึ้น ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ควรมีท่าทีการแสดงออก ไม่ว่าทางด้านคําพูด กิริยาให้ เหมาะสมกับความเป็นสมณะ และรู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง มีจิตเมตตากับผู้เรียน ในการจัดการ เรียนการสอนในสถานศึกษา ต้องเพ่ิมพูนข่าวสารเรื่องราวใหม่ ที่เก่ียวกับการจัดการเรียนสอน ตลอดเวลา

๑๕๔ ๔.๒.๕ วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ดา้ นแรงจูงใจ (motive) ประกอบด้วย ๑. แรงจูงใจ ในการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม คือ ฉันทะ ความรักในงาน เป็นเบ้ืองต้น เม่ือเรามีใจรักในงานแล้ว เช่นการสอนของเราก็จะมีความขวนขวายเพ่ือให้บรรลุผลตาม เป้าหมายท่ีเราวางเอาไว้ได้ ไม่ว่าจะเป็นจัดแผนการสอน หรือการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้กับผู้เรียน และ ต้องมีความม่ันใจ ในตัวเองด้วยในการจัดการเรียนการสอน ถ้าเป็นพระสอนศีลธรรมรูปใหม่ท่ีจะเข้า สอนในโรงเรียนก็ต้องให้แรงจูงใจโดยให้เคร่ืองมือ คือการฝึกอบรมก่อนเข้าไปสอนเพื่อให้เกิดความ มั่นใจโดยอาศัยพระพี่เลี้ยงช่วยประคับประคองในเบี้องต้นก่อน ส่วนพระสอนศีลธรรมรูปเก่าเมื่อสอน ไปนานๆ แล้วอาจจะหมดไฟไป ก็ต้องให้ความตระหนักรู้ในสิ่งท่ีท่านสอนมาแล้วว่าจะเกิดประโยชน์แก่ ผู้เรียนได้อย่างมาก และทางฝ่ายสํานักงานพระสอนศีลธรรมก็ต้องหากิจกรรมให้พระสอนศีลธรรมเกิด ความภาคภูมใิ จด้วย เช่นหาทางเชดิ ชูเปน็ พระสอนดเี ด่นเปน็ ตน้ ๗๓ ๒. พระสอนศีลธรรม มีแรงจูงใจโดยต้องเปล่ียนความคิดของตัวเองเสียก่อน ว่าส่ิงไหนท่ี เราทําไม่ได้เราต้องทําได้ โดยเฉพาะในเร่ืองการจัดการเรียนการสอน และต้องมีการพัฒนาตัวเองอยู่ ตลอดเวลา หากิจกรรมอะไรใหม่ๆ มาทํา อย่าทําตัวให้หยุดนิ่ง ถ้ารูปไหนเมื่อสอนไปแล้วรู้สึกว่าตัวเอง หมดไฟ ก็ต้องให้ไปอยู่กับรูปที่ยังมีไฟ เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการทํางานเพ่ิมขึ้นมา หรือต้องเข้า หากัลยาณมติ รเพ่ือให้ขอ้ แนะนํา๗๔ ๓. พระสอนศีลธรรม แรงจูงใจในการเรียนการสอนในโรงเรียน เร่ิมต้นที่การปฏิบัติงาน ด้วยจิตท่ีมีจาคะ จิตที่เสียสละ โดยที่ไม่เห็นแก่ลาภ ยศ หรือสิ่งที่จะพึงได้เฉพาะหน้า โดยให้จิตมุ่งตรง ไปท่ีผู้เรียน คือเยาวชนของเราที่จะเติบโตมาเป็นคนเก่งและคนดีได้แม้จะไม่ได้เกิดอยู่ในปัจจุบันก็หวัง วา่ จะตอ้ งเกิดขึน้ ในอนาคต๗๕ ๔. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนบางรูปก็อาจจะเข้าไปสอนเพื่อความจําใจ หรืออยากได้ค่า นิตยภัตรบ้าง แต่ท่ีจริงแล้วแรงจูงในที่เข้าไปสอนคือ อยากจะช่วยพระพุทธศาสนา แต่ส่วนค่านิตยภัตร ก็จะตามมาเอง อีกอย่างหน่ึง คืออยากจะพัฒนาตัวเองข้ึนมา เช่นทําให้เกิดความกล้า เพ่ือลดทอน ความกลัวในตัวเองในการเข้าสู่ชุมชนเป็นตน้ ๗๖ ๕. แรงจูงใจ ของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนในการจัดการเรียนการสอน ได้เห็นตัวอย่าง ของพระอาจารย์ต่างๆ ในการเผยแผ่ เช่น พระอาจารย์พุทธทาสโดยที่ท่านสอนท่ีใช้ตัวท่านเองเป็น ตํารา ในอดีตท่านเจอความลําบากกว่าเรามาก เราคงไม่เหลือบ่ากว่าแรง และมองไม่ตัวผู้สอนว่าพวก ๗๓สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ขอ้ มลู สาํ คัญลําดบั ที่ ๑ วนั ที่ ๓ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๗๔สัมภาษณ์ ผูใ้ หข้ อ้ มลู สาํ คัญลําดับท่ี ๒ วันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๗๕สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมลู สําคัญลาํ ดับท่ี ๓ วันท่ี ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๗๖สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมูลสาํ คัญลําดบั ที่ ๔ วนั ท่ี ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๕๕ เขามีความสุขในการเรียนทุกครั้งที่เราได้เข้าไปสอน ไม่สามารถทําให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ไปในทางทด่ี ีได๗้ ๗ ๖. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมีแรงจูงใจ คิดในทางบวกว่าเรามาทํางานเพื่อเป็น พุทธบูชา เป็นการทํางานเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเป็นการทํางานสร้างคนและศาสนทายาท หรือ สร้างขวัญและกําลังใจให้ท่านด้วยการสนับสนุนการศึกษาให้ท่านได้ศึกษาเพ่ิมข้ึน ได้อบรม เพ่ิมข้ึน ประหน่ึงทํางานเพื่อเผยแผ่ และได้รับขวัญกําลังใจเป็นทุนการศึกษาเพ่ิมข้ึน หรือสวัสดิการใน เชิงสังคม เช่น สุขภาพ เป็นต้นเพ่ิมขึ้น และ พัฒนาการสอนให้ท่านด้วยการอบรม พัฒนาให้ท่านอย่าง ต่อเนื่อง พัฒนท่านเป็นส่วนสําคัญของการจัดการเรียนการสอนด้วยการทําให้ท่านมีคุณภาพและ ศกั ยภาพในการพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนือ่ ง๗๘ ๗. แรงจูงใจของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน มองเห็นผู้เรียนมีความตั้งใจและสนใจ ทํางานท่ีพระสอนศีลธรรม กําหนดอย่างกระตือรือร้น มีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเองมากขึ้น หรือมีการเปล่ียนแปลงตนเองไปในทางที่ดีมากยิ่งข้ึน เป็นเหตุมาจากผู้สอนเองได้เตรียมการสอนเป็น อย่างดี และมคี วามหวังท่ีจะให้ผ้เู รียนได้เกิดผลดงั กลา่ วมา๗๙ ๘. พระสอนศีลธรรมได้รับแรงจูงใจในการจัดการเรียนการสอนโดยการท่ีได้รับความ ร่วมมือจากเพ่ือนสหธรรมมิกในการปฏิบัติงานการเรียนการสอนให้เกิดผลสําเร็จ และการมี ความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงานไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์หรือครูในสถานศึกษา และมีส่วนร่วมใน กิจกรรมตา่ งๆ ของสถานศึกษา๘๐ ๙. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องมุ่งส่งเสริมและอํานวยความสะดวกให้แก่พระสอน ศีลธรรมในการปฏิบัติงานการสอนในสถานศึกษาส่งผลให้พระสอนศีลธรรมมีขวัญและกําลังใจในการ ปฏิบัติการสอนโดยไมเ่ บื่อหน่าย ทุ่มเทอย่างเต็มท่ี๘๑ ๑๐. สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องยกย่องและให้เกียรติ พระสอนศีลธรรมตามหน้าท่ีท่ี ได้รับมอบหมายในการสอนในสถานศึกษาอาจะโดยการจัดงานมอบรางวัลผลงานให้เป็นระยะ เพื่อ เปน็ การเพ่มิ กําลังใจให้แกพ่ ระสอนศลี ธรรม๘๒ ๗๗สัมภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมลู สําคญั ลําดบั ที่ ๕ วนั ที่ ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๗๘สมั ภาษณ์ ผ้ใู หข้ ้อมลู สําคัญลําดับที่ ๖ วนั ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๗๙สัมภาษณ์ ผ้ใู หข้ อ้ มลู สาํ คญั ลําดบั ที่ ๗ วนั ที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๘๐สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มลู สําคัญลําดบั ที่ ๘ วนั ท่ี ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๘๑สมั ภาษณ์ ผ้ใู ห้ขอ้ มลู สําคัญลาํ ดับที่ ๙ วันท่ี ๙ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๘๒สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมูลสําคญั ลําดบั ท่ี ๑๐ วันที่ ๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๕๖ ๑๑. พระสอนศีลธรรมต้องมีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานการสอน โดยสร้างบรรยากาศ การเรียนการสอนให้ดีจะทําให้รู้สึกชอบและสนุกกับการสอน ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการสอน ทํา ใหไ้ มเ่ กดิ ความเบ่ือหน่าย๘๓ ๑๒. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรพัฒนาระบบการบริหารจัดการ ในการส่งพระสอน ศีลธรรมเข้าสู่สถานศึกษาให้ตรงกับความต้องการของสถานศึกษา จะทําให้พระสอนศีลธรรมได้รับการ ยอมรับ ยกยอ่ งและชมเชยจากคณะครใู นสถานศึกษา๘๔ ๑๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องสร้างระบบพัฒนาแรงจูงใจ เพ่ือส่งเสริมให้พระสอน ศีลธรรม มีขวัญและกําลังใจ และแสดงศักยภาพในการจัดการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพ มีผลงาน การสอนอย่างมืออาชีพเป็นเชิงประจักษ์ และได้รับการเชิดชูเกียรติอย่างเหมาะสม ทําให้พระสอน ศีลธรรมร้สู กึ ภูมใิ จและได้รับการยอมรับยกยอ่ งและชมเชยบุคคลต่างๆ๘๕ ๑๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดมอบรางวัลครูพระสอนศีลธรรมดีเด่นหรือรางวัล อ่ืนๆ ให้แก่ครูพระสอนศีลธรรม เพ่ือขวัญกําลังใจในการสอนศีลธรรม และเป็นการสร้างการยอมรับ นบั ถือใหแ้ ก่บคุ คลท่ัวไปด้วย๘๖ ๑๕. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรมีการจัดตลาดนัดวิชาการของการสอนศีลธรรมเป็น ประจําทุกปี เพ่ือให้พระสอนศีลธรรมมาเผยแผ่ผลงานทางวิชาการทางด้านศีลธรรมและเป็นการ พฒั นาพระสอนศีลธรรมด้วยถอื วา่ เป็นการสรา้ งขวัญและกําลงั ใจแก่พระสอนศลี ธรรม๘๗ ๑๖. พระสอนศีลธรรม มีความภาคภูมิใจท่ีสามารถสอนพระพุทธศาสนาให้กับผู้เรียน แล้ว เหน็ นําไปปฏบิ ัติในชีวติ ประจาํ วันด้วย ไม่ว่ากบั เพอ่ื นหรอื ครอบครัวของตน๘๘ ๑๗. พระสอนศีลธรรม เมื่อทํางานการสอนร่วมกับผู้อ่ืนแล้วได้รับการยอมรับเช่ือถือและ ไวว้ างใจในความสามารถ และคาํ แนะนาํ ชว่ ยเหลือผอู้ ื่นได้๘๙ ๑๘. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรให้ความสําคัญในการสร้างแรงจูงใจแก่พระสอน ศีลธรรมเพิ่มมากข้ึน โดยการจัดให้มีการประชุมและวางแผนการทํางานร่วมกัน ให้ความความ ๘๓สัมภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มูลสําคญั ลําดบั ที่ ๑๑ วันที่ ๕ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๘๔สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมูลสําคัญลําดบั ที่ ๑๒ วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๘๕สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สาํ คญั ลาํ ดับท่ี ๑๓ วนั ท่ี ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๘๖สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สําคญั ลําดบั ที่ ๑๔ วนั ที่ ๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๘๗สัมภาษณ์ ผูใ้ หข้ ้อมลู สําคัญลาํ ดับท่ี ๑๕ วนั ท่ี ๑๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๘๘สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มูลสําคญั ลาํ ดับท่ี ๑๖ วันท่ี ๑๗ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๘๙สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สาํ คญั ลาํ ดับที่ ๑๗ วนั ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๕๗ ช่วยเหลือและให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของพระสอนศีลธรรม เพ่ือให้พระสอนศีลธรรมมีความ มนั่ ใจเมื่อเขา้ ไปสอนในสถานศึกษา๙๐ สรุปได้ว่า วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านแรงจูงใจ (motive) หมายถึง ส่ิงทําใหพ้ ระสอนศีลธรรมใน โรงเรียนแสดงพฤติกรรมที่มุ่งไปสู่สิ่งที่เป็นเป้าหมายที่เกิดจากแรงจูงใจหรือแรงขับจากภายใน ซ่ึงทําให้ พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนแสดงพฤติกรรมท่ีมุ่งไปสู่เป้าหมาย หรือมุ่งไปสู่ความสําเร็จ มีดังต่อไปนี้ พระสอนศีลธรรมต้องมีความรักในงานสอนและต้องมีความม่ันใจในการจัดการเรียนการสอนใน สถานศึกษาด้วย ต้องมีการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา มีจิตที่เสียสละ คิดทางบวกว่าทํางานเพื่อเป็น พุทธบูชา มองเห็นผู้เรียนมีความตั้งใจเรียนแล้วทําให้เกิดแรงจูงใจในการสอน รวมทั้งมีความสัมพันธ์ อันดีกับครูในสถานศึกษา ควรสร้างบรรยากาศการเรียนการสอนให้ผู้เรียนชอบและสนุก ส่วนทางด้าน สํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องส่งเสริมและอํานวยความสะดวกให้แก่พระสอนศีลธรรมในการ ปฏิบัติการสอน ยกย่องให้เกียรติโดยจัดงานมอบรางวัลให้ และพัฒนาระบบการบริหารจัดการด้วย หรือจัดตลาดนัดวิชาการรวมผลงานของพระสอนศีลธรรมมาเผยแผ่ โดยเป็นการสร้างแรงจูงใจอีกทาง หนึ่งด้วยและต้องมีการจดั ให้มกี ารประชมุ วางแผนการทาํ งานร่วมกันกบั พระสอนศลี ธรรมดว้ ย ตารางท่ี ๔.๑๒ สรุปวิธีการในการพัฒนาศกั ยภาพดา้ นการจดั การเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ดา้ นแรงจูงใจ (motive) ผใู้ ห้ขอ้ มลู สําคญั ประเดน็ สาํ คัญ จาํ นวน ผู้ใหข้ อ้ มลู สาํ คญั (รปู หรือคน) ลาํ ดบั ท่ี ๑. พระสอนศีลธรรม มีความรักความม่ันใจในการ ๖ ๑,๓,๔,๕,๖,๑๖ สอน และความเสยี สละในการสอน ๒. พระสอนศีลธรรม พัฒนาตัวเองตลอดเวลา ความ ๓ ๒,๘,๑๗ ความสัมพันธ์อันดีระหว่างครูในสถานศึกษา ได้รับ การยอมรับ ๓. พระสอนศีลธรรมสร้างบรรยากาศการสอนให้ดี ๒ ๗,๑๑ ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นทําให้ผู้สอนอยากจะเข้า ไปสอน ๙๐สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สาํ คญั ลําดบั ที่ ๑๘ วนั ที่ ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๕๘ ตารางที่ ๔.๑๒ สรุปวธิ กี ารในการพฒั นาศักยภาพด้านการจดั การเรยี นการสอนของพระสอนศลี ธรรม ในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ดา้ นแรงจงู ใจ (motive) (ตอ่ ) ผู้ให้ข้อมูลสาํ คัญ ประเดน็ สาํ คญั จํานวน ผู้ให้ขอ้ มลู สาํ คัญ (รูปหรอื คน) ลําดบั ที่ ๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องส่งเสริมและ ๓ ๙,๑๒,๑๘ อํานวยความสะดวกด้านต่างๆ ให้กับพระสอน ศีลธรรม ๕. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ยกย่องให้เกียรติ โดย ๔ ๑๐,๑๓,๑๔,๑๕ มอบรางวลั ให้ และจดั ตลาดนัดทางวิชาการ จากตารางท่ี ๔.๑๒ การแสดงความถ่ีของปริมาณผู้ให้ข้อมูลสําคัญ วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้าน การจัดการเรียนการสอน พบว่า ความถ่ีของผู้ให้ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) จํานวน ๑๘ รูปหรือ คน เก่ียวกับวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ดา้ นแรงจูงใจ (motive) ดังปรากฏตามแผนภาพท่ี ๔.๕ ดังน้ี สาํ นักงานพระสอนศีลธรรม พระสอนศีลธรรม - สง่ เสรมิ และอาํ นวยความสะดวก - มคี วามมนั่ ใจและเสียสละ - จัดงานมอบรางวลั - สร้างความภาคภมู ใิ จ - จัดตลาดนัดวชิ าการ - มองความสาํ เรจ็ ท่ผี ู้เรียน ด้าน แรงจูงใจ

๑๕๙ แผนภาพที่ ๔.๕ สรุปวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ด้านแรงจูงใจ (motive) จากภาพ ๔.๕ พบว่า วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระ สอนศลี ธรรมในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ด้านแรงจงู ใจ (motive) ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมุ่งส่งเสริมและอํานวยความสะดวกให้แก่ พระสอนศีลธรรมในการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาในด้านต่างๆ นอกจากน้ีต้องยกย่องและให้ เกียรติโดยการจัดงานมอบรางวัลผลงานเพ่ือเป็นกําลังใจแก่พระสอนศีลธรรมหรือการจัดตลาดนัด วชิ าการเพอื่ ให้พระสอนศีลธรรมได้นําผลงานของตนเองออกเผยแผ่เพ่ือสรา้ งความภาคภูมิใจ ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องสร้างความมั่นใจให้กับตัวเราเองเม่ือมีความม่ันใจ แล้วการสอนก็จะเกิดประสิทธิภาพท่ีดีทําให้เกิดแรงจูงใจที่จะทําการสอน นอกจากน้ีความภาคภูมิใจ ในการสอนของพระสอนศีลธรรมก็จะต้องเกิดข้ึนด้วยในขณะท่ีเราสอนและขณะท่ีเราสอนเสร็จแล้ว และเมอื่ มองไปท่ีผลสําเรจ็ ของผู้เรยี นเราก็จะเกิดแรงจงู ใจท่ีจะเข้าไปสอนด้วย ๔.๒.๖ วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ด้านภาวนา ๔ ประกอบด้วย ๑. พระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนต้องทําบุคลิกน่าเลื่อมใส และศรัทธา น่าเช่ือถือแก่ผู้พบเห็นท่ัวไปไม่ว่าจะเป็นทางด้านคณะครู หรือผู้เรียนเอง ให้มีความเหมาะสมแก่สมณ สารูป ไม่ว่าจะเป็นการห่มจีวรก็ให้ถูกต้องมีเหมาะสม ถึงแม้ว่าจะเป็นทางด้านภายนอก แต่ถ้ามองแล้ว เกิดความเลื่อมใส สิ่งต่างๆ ก็จะตามมา ซึ่งการพัฒนาตนเองด้านกายภาวนาน้ีเป็นสิ่งสําคัญเบื้องต้น สาํ หรับการพัฒนาดา้ นอื่นๆ ดว้ ย๙๑ ๒. พระสอนศีลธรรมควรปฏิบัติงานด้วยความเสียสละไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางใจ เพราะในฐานะเป็นพุทธบุตรหน้าท่ีของพระสงฆ์คือต้องเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้แก่เยาวชนผู้ซ่ึงอยู่ใน ฐานะเป็นผู้เรียนของเราด้วยและพระสอนศีลธรรมต้องมีความอดทนต่อการเรียนการสอนด้วย เพ่ือให้ ได้ผลงานทด่ี ีมคี ณุ ภาพ๙๒ ๓. พระสอนศีลธรรมใช้ในการเรียนการสอนด้วยการพิจารณาในหลัก สุ จิ ปุ ลิ คือสุตตะท่ี แปลว่า ฟัง ในขณะท่ีทําการสอนควรต้องรับฟังผู้เรียนแล้วจับประเด็นว่าถามอะไรเพ่ือท่ีจะได้ตอบ คําถามผู้เรียนได้อย่างถูกต้อง จิตตะ แปลว่า การคิด ต้องคิดใคร่ครวญว่าเราจะสอนเร่ืองอะไรและ สอนเพื่ออะไร ทําให้เกิดการพัฒนาในการทํางาน ปุจฉา แปลว่า ถาม ต้องถามผู้เรียนให้เขาตอบได้ ๙๑ สัมภาษณ์ ผูใ้ ห้ข้อมลู สําคญั ลําดบั ท่ี ๑ วนั ท่ี ๓ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๙๒ สัมภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มลู สาํ คญั ลาํ ดับท่ี ๒ วนั ที่ ๒ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๖๐ อย่างถูกต้องและนํามาซึ่งคําตอบที่แท้จริง และลิขิตแปลว่า การเขียน สามารถเขียนอธิบายให้ผู้เรียน เขา้ ใจได้ เรอื่ งงานในหนา้ ทหี่ รืองานท่ีไดร้ ับมอบหมายได้๙๓ ๔. พระสอนศีลธรรมในการเรียนการสอนต้องมีความรับผิดชอบงานในหน้าที่ การเรียน การสอนของตน มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อเพ่ือนร่วมงาน และผู้เรียนควร สร้างสัมพันธภาพ ในการทํางานร่วมกันกับเพ่ือนร่วมงานรวมท้ังบุคคลแวดล้อม ไม่ปล่อยงานค่ังค้าง ช่วยเหลือเพื่อน รว่ มงานหรอื บคุ คลอ่นื ตามเหตุปัจจยั เพอ่ื พฒั นาการเรียนการสอนเปน็ ไปอย่างมีประสทิ ธิภาพยิง่ ขนึ้ ๙๔ ๕. พระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนต้องอาศัยความเมตตาต่อผู้เรียน เป็น อย่างมาก ซ่ึงจะทําให้การจัดการเรียนการสอนมีบรรยากาศการเรียนท่ีมีความสุข และจะทําให้เกิด ผลสาํ เร็จในการเรยี นการสอนตามมา๙๕ ๖. พระสอนศีลธรรมต้องฝึกอบรมจิตใจบ่อยๆ ให้มีความความอดทนทางใจ เพราะในการ จัดการเรียนการสอนน้ัน ความอดทนเป็นส่ิงท่ีสําคัญไม่หว่ันไหวต่ออารมณ์ต่างๆ ที่เข้ามากระทบ เช่น อดทนต่ออารมณ์โกรธของตัวเอง หรืออดทนฟังเพ่ือให้ได้คําตอบจากผู้เรียน เป็นต้น และเพื่อให้มี สมาธิในการจดั การเรียนการสอน และมคี วามกระตือรอื ร้นในการทาํ งาน๙๖ ๗. พระสอนศีลธรรมควรมีความมุ่งม่ันในการเรียนการสอนมีความรักในงานสอนเป็น เบื้องต้นมีจิตอาสาในการปฏิบัติงานโดยยึดผลประโยชน์ของผู้เรียนเป็นหลักซ่ึงการมีใจรักในงานที่ รบั ผิดชอบอยู่น้นั ยอ่ มทําใหก้ ารเรียนการสอนมีประสทิ ธิภาพและเกดิ ผลดตี ่อตนเองและผเู้ รยี นดว้ ย๙๗ ๘.พระสอนศีลธรรมต้องมีสติ สมาธิ จดจ่อในการเรียนการสอนอยู่กับปัจจุบันให้ได้มาก ท่ีสุด โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้เรียนเป็นสําคัญ และต้องให้ความสําคัญกับแผนการสอนที่ได้เตรียมเอาไว้ ผลงานท่ีออกมาจะประสบความสําเร็จ๙๘ ๙. พระสอนศีลธรรมควรพัฒนาความรู้ที่เรามีอยู่ให้เจริญและพัฒนาให้ย่ิงๆ ข้ึนไป การ รู้จักแก้ปัญหา รู้จักวิเคราะห์ มองโลกทัศนคติที่ดี การฝึกอบรมปัญญาให้รู้เข้าใจส่ิงนั้นๆ อย่างแท้จริง รู้เท่าทันโลกและการดําเนินชีวิตในปัจจุบัน แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ด้วยปัญญา สําหรับการพัฒนา ปัญญาน้ัน ได้แก่การหมั่นศึกษาหาความรู้ การเรียนรู้ให้มากๆ ความรู้ก็มาจากการขวนขวายการ ๙๓สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สาํ คัญลําดับท่ี ๓ วนั ที่ ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๙๔สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มูลสําคัญลําดบั ท่ี ๔ วนั ที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๙๕สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สําคญั ลําดับที่ ๕ วนั ที่ ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๙๖สัมภาษณ์ ผ้ใู หข้ อ้ มลู สาํ คญั ลําดบั ที่ ๖ วนั ท่ี ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๙๗สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมูลสําคญั ลาํ ดบั ที่ ๗ วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๙๘ สมั ภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มูลสําคัญลาํ ดบั ท่ี ๘ วันท่ี ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔.

๑๖๑ แสวงหา การอ่านให้มากในส่ิงที่เรายังไม่รู้และไม่เข้าใจ การฟังในสิ่งที่เรายังไม่เคยฟังมาก่อน การคิด พินจิ พจิ ารณาใหม้ ากๆ ให้บ่อยๆ ในความรู้น้นั ๆ ในเรื่องน้ัน๙๙ ๑๐. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนควรพัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่รับผิดชอบ พัฒนา ความรู้และความเข้าใจของตนเอง สามารถวิเคราะห์การจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับ สถานศึกษาที่เข้าไปสอน สนใจที่จะรับฟังส่ิงต่างๆ แล้วนํามาพิจารณา อ่านและคิดตาม นําความรู้ท่ี ได้มาปฏิบตั ิอยเู่ ป็นประจาํ จนเกดิ ความชาํ นาญ๑๐๐ ๑๑. สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องจัดกระบวนการจัดการปัญหาท่ีเกิดข้ึนของพระสอน ศลี ธรรมในขณะปฏบิ ตั ิงานการเรียนการสอน การใหค้ วามชว่ ยเหลือเมอ่ื เกิดอุปสรรคในการทํางาน๑๐๑ ๑๒. พระสอนศีลธรรมมีการปฏิบัติหน้าที่การสอนด้วยความตั้งใจและอดทนต่อหน้าท่ีท่ี ได้รับมอบหมายจากสํานักงานพระสอนศีลธรรมและต้องมีความมุ่งม่ันในการพัฒนาความรู้ ความสามารถอยูเ่ สมอ๑๐๒ ๑๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดฝึกอบรมในการพัฒนาบุคลิกภาพและ กระบวนการในการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมเป็นประจําอย่างสม่ําเสมออย่างน้อยก็ ควรจะปีละคร้ัง เพ่ือเป็นการเสริมและทบทวนทางด้านกายและทางด้านปัญญาของพระสอนศีลธรรม เอง๑๐๓ ๑๔. พระสอนศีลธรรมต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ขณะในการสอนเม่ือเจอปัญหาในเวลา ปฏิบัติการสอนและตอ้ งร้จู กั แกไ้ ขปัญหาเฉพาะหน้าได้๑๐๔ ๑๕. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรจัดฝึกอบรมในการพัฒนารักษาจิตของพระสอน ศีลธรรมเพ่ือให้เกิดความสงบ เกิดสมาธิ สามารถควบคุมจิตและอารมณ์ของตนเองเม่ือทําการสอน และสามารถทาํ งานในหนา้ ท่ีด้วยความสุขพัฒนางานการสอนไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพยิ่งขน้ึ ๑๐๕ ๑๖. พระสอนศีลธรรมต้องมีความรับผิดชอบในการจัดการเรียนการสอนของตนและมี ความกระตือรือร้น ในการการสอนอยู่เสมอ ขวนขวายในภาระหน้าที่ที่ตนต้องรับผิดชอบเมื่อเข้าไปใน สถานศกึ ษาและรู้จักทาํ งานร่วมกบั ผ้อู ่ืนด้วย๑๐๖ ๙๙สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มูลสาํ คญั ลาํ ดบั ท่ี ๙ วนั ท่ี ๙ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๐๐สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สําคญั ลาํ ดบั ที่ ๑๐ วนั ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๐๑สมั ภาษณ์ ผ้ใู ห้ขอ้ มลู สําคัญลําดับที่ ๑๑ วันท่ี ๕ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๐๒สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมลู สําคญั ลาํ ดับท่ี ๑๒ วันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๐๓สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมลู สาํ คัญลาํ ดบั ท่ี ๑๓ วนั ที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๐๔สัมภาษณ์ ผใู้ ห้ขอ้ มูลสําคัญลําดบั ท่ี ๑๔ วนั ท่ี ๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๐๕สมั ภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สาํ คัญลําดบั ท่ี ๑๕ วันท่ี ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๐๖สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มลู สาํ คัญลําดับท่ี ๑๖ วันที่ ๑๗ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๖๒ ๑๗. พระสอนศีลธรรมต้องพัฒนาการอยู่ร่วมกันกับโรงเรียนในการการปรับตัวให้เข้ากับ ผู้บริหาร ครู และนักเรียน เพื่อสร้างสัมพันธภาพท่ีดีระหว่างกันเพ่ือให้มีความสุขในการจัดการเรียน การสอน๑๐๗ ๑๘. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องจัดฝึกอบรมเพื่อเป็นการพัฒนาปัญญาแก่พระสอน ศีลธรรม ด้วยการฝึกฝนตนเองให้มีความรู้ ความสามารถในการสอน การใช้ส่ือการสอนและการวัด ประเมินผล ให้มีความเชีย่ วชาญในการสอน๑๐๘ สรุปได้ว่า วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านภาวนา ๔ พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมีบุคลิกภาพท่ี น่าเล่ือมใส ศรัทธาแก่ผู้พบเห็นทั่วไป มีความรับผิดชอบมุ่งมั่นในหน้าที่ และความเสียสละ มีสมาธิจด จ่อในการจัดการเรียนการสอน มีความเมตตาต่อผู้เรียนรู้จักปรับตัวให้เข้ากับบุคคลท่ัวไปใน สถานศึกษา ต้องฝึกอบรมจิตของตนให้มีความอดทนทางใจ สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ และในการสอนต้องใช้หลัก สุ จิ ปุ ลิ ในการเรียนการสอนด้วย ควรพัฒนาความรู้ของเราให้พัฒนาย่ิงๆ ขึ้นไป ทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องมีการบริหารจัดการให้กับพระสอนศีลธรรมในการให้ ความช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหาข้ึนในการจัดการเรียนการสอน นอกจากนี้ควรจัดฝึกอบรมในการพัฒนา พัฒนาบุคลิภาพ พัฒนาจิตและพัฒนาปัญญาให้แก่พระสอนศีลธรรมด้วยเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพในการ จดั การเรยี นการสอน ๑๐๗สมั ภาษณ์ ผ้ใู ห้ข้อมลู สาํ คญั ลําดับท่ี ๑๗ วนั ท่ี ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๐๘สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มลู สําคัญลาํ ดับท่ี ๑๘ วนั ท่ี ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๖๓ ตารางท่ี ๔.๑๓ สรปุ วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจดั การเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ด้านภาวนา ๔ ผู้ใหข้ ้อมูลสาํ คญั ประเดน็ สาํ คัญ จํานวน ผู้ให้ขอ้ มูลสาํ คญั (รูปหรือคน) ลาํ ดบั ที่ ๑. พระสอนศีลธรรมต้องมีบุคลิกภาพน่าเล่ือมใส ๕ ๑,๔,๗,๑๐,๑๖ ศรทั ธา มคี วามรับผดิ ชอบและความมงุ่ ม่นั ๒. พระสอนศีลธรรมต้องมีความเสียละ มีความ ๖ ๒,๕,๖,๘,๑๒,๑๔ เมตตา อดทนต่อหนา้ ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ๓. พระสอนศีลธรรมต้องรู้จักวิเคราะห์และแก้ปัญหา ๓ ๓,๙,๑๗ การปรับตัว ๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องจัดฝึกอบรม ๔ ๑๑,๑๓,๑๕,๑๘ พัฒนาจิต พัฒนาปัญญา พัฒนาบุคลิกภาพและ ก ร ะ บ ว น ก า ร ช่ ว ย เ ห ลื อ พ ร ะ ส อ น ศี ล ธ ร ร ม ใ น สถานศึกษา จากตารางที่ ๔.๑๓ การแสดงความถี่ของปริมาณผู้ให้ข้อมูลสําคัญ วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้าน การจัดการเรียนการสอน พบว่า ความถี่ของผู้ให้ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) จํานวน ๑๘ รูปหรือ คน เก่ียวกับวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ดา้ นแรงจูงใจ (motive) ดังปรากฏตามแผนภาพที่ ๔.๖ ดงั นี้

๑๖๔ สาํ นกั งานพระสอนศีลธรรม พระสอนศลี ธรรม - จดั ฝกึ อบรมพฒั นาจติ พัฒนา - มคี วามรับผิดชอบ บุคลิกภาพ พัฒนาปญั ญา - ควบคมุ อารมณได้ดี - มีบุคลิกภาพท่ดี ี ดา้ น ภาวนา ๔ แผนภาพที่ ๔.๖ สรุปวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศลี ธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านภาวนา ๔ จากภาพ ๔.๕ พบว่า วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระ สอนศลี ธรรมในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ดา้ นภาวนา ๔ ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องจัดฝึกอบรมในการพัฒนาบุคลิกภาพของ พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนให้มีความมั่นใจและน่าเลื่อมใสศรัทธาของผู้พบเห็นนอกจากนี้ต้องพัฒนา จิตเพื่อให้เกิดความสงบและมีสมาธิ และพัฒนาทางด้านปัญญาด้วยการฝึกฝนให้มีความรู้ ความสามารถในการจัดการเรยี นการสอน ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมีความรับผิดชอบในการจัดการเรียนการสอน ท้ังต่อ ตนเองและเพื่อนร่วมงานรวมท้ังบุคคลรอบข้างด้วยโดยเฉพาะในสถานศึกษาที่เข้าไปสอนนอกจากน้ี ต้องฝึกอบรมจิตใจไม่ให้หวั่นไหวในสิ่งท่ีเข้ามากระทบในการจัดการเรียนการสอนและต้องมีการพัฒนา บคุ ลกิ ภาพของตนเองใหผ้ ู้พบเห็นเกดิ ศรทั ธาและความเล่ือมใส

๑๖๕ ๔.๓ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรงุ เทพมหานคร การศึกษาวิจัยเร่ือง “การพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร” ผู้วิจัยได้สัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสําคัญ ได้แก่ ผู้บริหารและ เจ้าหน้าท่ีสํานักงานพระสอนศีลธรรม พระสอนศีลธรรม ผู้บริหารสถานศึกษา นักวิชาการทางด้านการ จัดการเชิงพุทธ จํานวน ๑๘ รูปหรือคนในประเด็นเก่ียวกับรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการ เรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรยี น กรุงเทพมหานคร สามารถเรียบเรยี งและสรุปได้ดงั น้ี ๔.๓.๑ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ด้านเน้อื หาการสอนและหลักสตู ร ประกอบดว้ ย ๑. หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการในวิชาพระพุทธศาสนา เน้นทางด้านเนื้อหามาก เกินไป โดยให้ความสําคัญกับสมรรถนะของผู้เรียนน้อยเกินไป ตัวเนื้อหาความรู้สามารถไปค้นคว้า ทางด้านภายนอกได้ และตัวเน้ือหาที่สอนจะต้องปรับปรุงให้ทันสมัยกับปัจจุบัน เน้ือหาของวิชา พระพุทธศาสนาในปัจจุบันใช้พระรัตนตรัย เป็นตัวเดิน ทําอย่างไรที่จะให้ผู้เรียนได้รู้จักพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ อยากจะให้เน้นที่พระธรรมคือคําสอน แต่ต้องโยงเก่ียวกับพิธีกรรมเข้ามาด้วย ในการสอนให้เน้นหนักไปที่พระธรรม แล้วจะนําพระธรรมไปปฏิบัติในชีวิตประจําวันได้อย่างไรส่วน เร่ืองของพระสงฆ์กใ็ หส้ อนเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวกบั พระสงฆ์ไดอ้ ยา่ งไร๑๐๙ ๒. พระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนควรตัดเน้ือหาที่มีมากออกไปบ้างซึ่งตัว เน้ือหาในวิชาพระพุทธศาสนาบางตัวก็ซํ้ากันจะทําให้ผู้เรียนเกิดความสับสน ว่าเราเคยเรียนมาแล้ว ทําไมจะต้องมาเรียนอีก และตัวเนื้อหาบางอย่างเป็นเนื้อหาที่ล้าสมัยควรจะเพิ่มเนื้อหาบางอย่างเข้ามา ให้มีความทันสมัยต่อยุคปัจจุบันท่ีผู้เรียนเห็นแล้วควรจะเข้าใจ และต้องคัดเลือกพระธรรมท่ีจําเป็น จรงิ ๆ ต่อการใช้ชีวิตของผเู้ รยี นได้ ซง่ึ จะทําให้เกดิ ประโยชน์ต่อผู้เรียนเปน็ อันมาก๑๑๐ ๓. หลักสูตรแกนกลางในปัจจุบันค่อนข้างจะดี แต่อาจต้องปรับเนื้อหาท่ีมากเกินไป พระ สอนศีลธรรมควรตัดเน้ือหาบางอย่างออกไป และควรเพิ่มเนื้อหาที่สอดคล้องกับปัจจุบัน คัดเลือก หลักธรรมท่ีจะเป็นที่ต้องนํามาใช้จริงๆ ในชีวิตประจําวัน จัดกระบวนการเรียนรู้ให้เกิดความใฝ่รู้ สอน ที่จําเป็นโดยเฉพาะ การกิน การอยู่ การดู การฟังเป็น เช่นการกินต้องใช้หลักธรรมอะไรมาประยุกต์ใช้ การอยู่ในชีวิตประจําวันใช้หลักธรรมอะไร เป็นต้น หรืออาจจะนําหลักธรรมเก่ียวกับมงคล มาใช้ใน การสอนในวิชาพระพุทธศาสนาก็ได้ เพราะตอบโจทย์กับชีวิตด้วย ไม่จําเป็นต้องสอนลึกเกินไป เพราะ นําไปใช้ได้ลําบาก เมื่อสอนให้ผู้เรียนเกิดความใฝ่รู้อยากที่จะเรียนแล้วท่ีเหลือเขาก็จะไปค้นคว้าและ ๑๐๙สัมภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมลู สาํ คัญลาํ ดับที่ ๑ วันที่ ๓ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๑๐สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สาํ คญั ลําดบั ท่ี ๒ วันท่ี ๒ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๖๖ แสวงหามาเอง และพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนก็ต้องมีความเข้าใจในตัวแก่นธรรมด้วยถึงจะ ออกแบบการเรียนการสอนให้ประสบความสําเรจ็ ได้๑๑๑ ๔. ตัวเน้ือหาการสอนก็จะอยู่ภายใต้ของกระทรวงศึกษาธิการ แต่ในวิชาพระพุทธศาสนา ในการเรียนการสอน พระสอนศีลธรรมต้องใช้หลักของปธาน ๔ มาเป็นตัวกําหนดด้วย เม่ือทําการ เรียนการสอนดูที่ผู้เรียนสามารถใช้สังวรปธานคือยับยั้งช่ังใจในการทําส่ิงท่ีไม่ดีได้หรือไม่ ใช้ภาวนา ปธานคือการเจริญความดีให้เกิดขึ้นได้หรือเปล่า ใช้ปหานปธาน ผู้เรียนสามารถท่ีจะละสิ่งที่ไม่ได้ได้ หรือเปล่า และอนุรักขนาปธาน สามารถนําความดีท่ีทําแล้วไปต่อยอดได้อีกหรือเปล่า ตัวเน้ือหาการ สอนพระสอนศีลธรรมกน็ าํ มาออกแบบใหอ้ ย่ใู น ปธาน ๔ ใหไ้ ด้๑๑๒ ๕. พระสอนศีลธรรมต้องเน้นหลักสูตรการสอนเข้ากับวิถีชีวิต ในวิชาพระพุทธศาสนาด้าน หลักธรรมต้องเข้าถึงได้ง่ายสัมผัสได้ง่าย เน้ือหาไม่ควรจะซ้ําซ้อนกัน เช่นในวิชาพุทธประวัติ เรียน ตั้งแต่ประถมถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งทําให้ผู้เรียนเกิดความสับสน ควรต้องเปล่ียนช่ือการสอนให้ ตรงกับตวั เน้อื หาการสอน๑๑๓ ๖. ด้านเน้ือหาการสอนกับเวลาไม่สัมพันธ์กัน เน้ือการการสอนมีเยอะเกินไปทําให้เวลา การสอนไม่เพียงพอ ถึงแม้ว่าจะพอแต่การสอนก็จะไม่สามารถทําให้ละเอียดได้ อีกอย่างหนึ่งผู้เรียน จาํ เป็นต้องมีการสอบด้วย เน้อื หาการสอนท่มี ากเกนิ ไปทําให้ผู้สอนทําการสอนไม่ทัน๑๑๔ ๗. เน้ือหาการสอนและหลักสูตร พระพุทธศาสนาในปัจจุบันต้องมีการปรับปรุงให้เท่าทัน ต่อยุคสมัย และต้องนําคนท่ีมาสอนจริงมามีส่วนร่วมในการทําหลักสูตรด้วย มีหลักธรรมที่ต้องตอบ โจทย์ต่อการนําไปใช้ในปัจจุบันอย่างแท้จริงและจะต้องอยู่ใกล้ตัวที่ผู้เรียนต้องประสบเจออยู่ทุกวัน ตั้งแต่ต่ืนนอนจนกระท่ังเข้านอน ซึ่งในตัวหลักธรรมในวิชาพระพุทธศาสนาไม่จําเป็นต้องมีเยอะ แต่ให้ มีหลักการนําไปใช้ปฏิบัติเยอะหน่อย ไม่รู้ช่ือตัวธรรมะไม่เป็นไร แต่ต้องให้เข้าใจในส่ิงที่ได้ทําลงว่าคือ อะไร และรจู้ กั แยกแยะว่าส่ิงไหนทําถกู และทําผดิ ในจรยิ ธรรม๑๑๕ ๘. เนื้อหาการสอนพระพุทธศาสนา ในการสอนของพระสอนศีลธรรมโดยเฉพาะตัว หลักธรรมควรแบ่งความยากงา่ ยตามช่วงชนั้ ให้ผู้เรยี น เนื้อหาทส่ี อนมกั ซ้าํ กนั ทกุ ระดบั ควรตัดออกบ้าง และสอนเทา่ ท่จี ําเป็นต่อผูเ้ รยี นเพ่อื นําไปประยุกต์ใชก้ บั ตวั เอง๑๑๖ ๑๑๑สมั ภาษณ์ ผูใ้ ห้ขอ้ มลู สําคัญลําดบั ที่ ๓ วนั ท่ี ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๑๒สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ขอ้ มูลสาํ คัญลาํ ดับท่ี ๔ วนั ท่ี ๑๓ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๑๓สมั ภาษณ์ ผู้ให้ข้อมูลสําคญั ลาํ ดับท่ี ๕ วันท่ี ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๑๔สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมูลสําคัญลําดับท่ี ๖ วันที่ ๓๑ กรกฏาคม ๒๕๖๔. ๑๑๕สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มูลสําคัญลําดับที่ ๗ วนั ท่ี ๑ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๑๖สัมภาษณ์ ผูใ้ หข้ ้อมลู สาํ คญั ลาํ ดบั ที่ ๘ วันท่ี ๒๙ กรกฏาคม ๒๕๖๔.

๑๖๗ ๙. หลักสูตรในการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนามีความเหมาะสมแล้วข้ึนอยู่กับว่า พระสอนศีลธรรมต้องประยุกต์ใช้อย่างไร เช่นเรื่องของชาดกอาจจะไม่ได้สอนเรียงตามลําดับก็ได้ ข้ึนอยู่กับสถานการณ์หรือเหตุการณ์ตรงกับชาดกที่เราสอนหรือเปล่าก็ยกเร่ืองน้ันมาสอน หรือเรื่องวัน สาํ คญั กน็ ํามาสอนให้ตรงกับเหตกุ ารณใ์ นขณะน้ันๆ เราก็ตอ้ งมาเรียงลาํ ดบั การสอนใหม่๑๑๗ ๑๐. พระสอนศีลธรรมควรตระหนักถึงความสําคัญของการสอนศีลธรรมและมีความ จาํ เป็นทถี่ ือวา่ เปน็ ศาสนกิจของสงฆ์และตอ้ งเข้าใจในลักษณะงานใหม้ ากยิ่งข้นึ ๑๑๘ ๑๑. ควรจะมีหลักสูตรท่ีสะท้อนต่อความเป็นจริงในปัจจุบัน พระสอนศีลธรรมควรสอน วิชาพระพุทธศาสนาโดยนําหลักธรรมมาประยุกต์ใช้กับผู้เรียนด้วย เช่นเมื่อเกิดปัญหาต่างๆ กับตัวเอง หรอื รอบข้างแล้วควรจะนาํ หลักธรรมขอ้ ไหนเข้ามาแก้ปญั หา๑๑๙ ๑๒. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรพัฒนาพระสอนศีลธรรม คือการเข้าพัฒนาความรู้ ของท่านให้มีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ตามหลักการทางพระพุทธศาสนา ในฐานะที่เป็นหลักการ หรือหัวใจสําคัญสําคัญของการสอน ต่อมาพัฒนารูปแบบการประยุกต์ หรือการบูรณาการให้ให้ สอดคล้องกับการเรียนรู้และช่วงวัย การเข้าไปพัฒนาความรู้ต่อการถ่ายทอดตามเป้าประสงค์ของ หลักสูตร การสอนให้เกิดการออกแบบการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับเน้ือหาแหละหลักสูตรเป็นต้น และ เข้าไปพัฒนาท่านในเป็นผู้มีความชํานาญในวิธีการสอน โดยใช้ส่ือ เคร่ืองมือ หรือการทํากิจกรรม ออกแบบกิจกรรม ที่ส่งเสริมหลักสูตร และการสอน เพราะการสอน เป็นการสอนตามหลักสูตรท่ีทาง กระทรวงศกึ ษาธิการ หรอื หน่วยงานทเ่ี กี่ยวขอ้ งกําหนด๑๒๐ ๑๓. พระสอนศีลธรรมควรมีความรู้เก่ียวกับหลักการการออกแบบหลักสูตร การพัฒนา หลักสูตร และการใช้หลักสูตร มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการของนักเรียนท้ังทางด้าน จิตวิทยา สรีรวิทยา และสังคมวิทยา มีความรู้ความเข้าใจเป้าหมายของการเรียนรู้พระพุทธศาสนาใน หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน การจัดองค์ประกอบของการเรียนการสอนให้มีความสัมพันธ์กัน ท่ี ผู้สอนต้องใช้วิธีการที่เหมาะสมกับผู้เรียน จะทําให้การเรียนของผู้เรียน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกดิ ประสิทธิผล๑๒๑ ๑๑๗สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมูลสําคัญลาํ ดบั ที่ ๙ วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๑๘สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มลู สาํ คญั ลําดับท่ี ๑๐ วันท่ี ๘ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๑๙สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ขอ้ มลู สาํ คัญลาํ ดบั ท่ี ๑๑ วนั ท่ี ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๒๐สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มลู สําคญั ลําดบั ท่ี ๑๒ วันท่ี ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๒๑สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สาํ คัญลําดับที่ ๑๓ วนั ท่ี ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๖๘ ๑๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดฝึกอบรมโดยจัดให้มีผู้ทรงคุณวุฒิมาสอนและ จัดทําหลักสูตรให้แก่พระสอนศีลธรรม โดยสามารถปรับใช้ได้ตามสถานการณ์และความต้องการ และ จัดทาํ เปน็ คู่มอื ให้พระสอนศลี ธรรมได้นําไปใช้ตอ่ ไป๑๒๒ ๑๕. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดประชุมวางแผนเพ่ือพัฒนาเน้ือหาหลักสูตรการ เรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนโดยกําหนดเป็นแผนในการพัฒนาหลักสูตรตาม เป้าหมายของการเรยี นรู้วชิ าพระพุทธศาสนาในหลักสตู รการศกึ ษาข้นึ พ้ืนฐาน๑๒๓ ๑๖. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความรู้ความเข้าใจ ให้กับพระสอนศีลธรรมและเพ่ือศึกษาในหลักสูตรวิชาพระพุทธศาสนา และจัดทําหลักสูตรแบบย่อ เพอื่ ให้งา่ ยต่อการเรยี นการสอน๑๒๔ ๑๗. สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องเป็นตัวกลางประสานระหว่างพระสอนศีลธรรมกับ สถานศึกษาในการจัดส่ิงท่ีเอื้ออํานวยในการสอนแก่พระสอนศีลธรรมในสถานศึกษา เช่นห้อง พระพทุ ธศาสนา วัสดุอปุ กรณ์สอ่ื การสอน หรือรถรบั ส่งพระสอนศลี ธรรมเปน็ ตน้ ๑๒๕ ๑๘. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรให้พระสอนศีลธรรมควรพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ได้แก่การจัดเสวนาระหว่างพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนด้วยกันหรือกับหน่วยงานท่ีรับผิดชอบเกี่ยวกับ การจัดการเรยี นการสอนเพ่ือแลกเปล่ยี นเรียนรอู้ ยา่ งกว้างขวางตอ่ ไป๑๒๖ สรุปได้ว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านเน้ือหาการสอนและหลักสูตร พระสอนศีลธรรมควรตระหนักถึง ความสําคัญของการสอนควรมีความรู้เกี่ยวกับการออกแบบ การพัฒนาและการใช้หลักสูตร ควร พัฒนาเนื้อหาที่นํามาสอนต้องปรับปรุงและประยุกต์ให้มีความทันสมัยสอดคล้องกับปัจจุบัน เน้น หลักสูตรการสอนท่ีเข้ากับวิถีชีวิตและนําไปใช้ได้ในชีวิต เนื้อหาการสอนที่ซ้ํากันควรตัดออกบ้าง ส่วน ทางสํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ควรพัฒนาความรู้ของพระสอนศีลธรรมให้มีความถูกต้อง โดยจัดฝึกอบรมการทําหลักสูตรให้แก่พระสอนศีลธรรมและทําเป็นคู่มือ และวางแผนการพัฒนา หลกั สตู รเปน็ ระยะ และจัดเสวนาระหวา่ งพระสอนศลี ธรรมด้วยกันเพือ่ แลกเปลีย่ นการเรยี นรู้ และเปน็ ตวั กลางประสานระหว่างพระสอนศีลธรรมกบั สถานศึกษาเพือ่ ความเรียบร้อย ๑๒๒สัมภาษณ์ ผูใ้ หข้ ้อมลู สําคัญลําดบั ท่ี ๑๔ วันท่ี ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๒๓สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ขอ้ มลู สาํ คญั ลาํ ดับท่ี ๑๕ วนั ท่ี ๑๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๒๔สมั ภาษณ์ ผ้ใู ห้ข้อมลู สําคัญลาํ ดบั ที่ ๑๖ วันท่ี ๑๗ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๒๕สัมภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมูลสําคัญลําดับที่ ๑๗ วันท่ี ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๒๖สมั ภาษณ์ ผูใ้ ห้ข้อมูลสําคญั ลาํ ดับที่ ๑๘ วนั ที่ ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๖๙ ตารางที่ ๔.๑๔ สรุปรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ดา้ นเนื้อหาการสอนและหลักสูตร ผใู้ ห้ขอ้ มูลสาํ คญั ประเดน็ สําคัญ จาํ นวน ผู้ให้ขอ้ มูลสาํ คญั (รูปหรือคน) ลําดับที่ ๑. พระสอนศีลธรรมต้องประยุกต์เน้ือหาการสอนท่ี ๑๐ ๑,๒,๓,๔,๕,๖,๗,๘,๙,๑๑ เข้ากับวิถีชีวิตสอดคล้องกับปัจจุบันและมีความ ทันสมัย ๒. พระสอนศีลธรรมควรพัฒนาความรู้การออกแบบ ๒ ๑๐,๑๓ หลกั สตู รและการใช้หลกั สตู ร ๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องจัดฝึกอบรม ๒ ๑๔,๑๕ ประชุมวางแผนการทําหลักสูตร และสร้างคู่มือให้แก่ พระสอนศีลธรรม ๔.สํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องจัดประชุมเชิง ๒ ๑๒,๑๖ ปฏิบัติการจัดทําและพัฒนาหลักสูตรแก่พระสอน ศีลธรรมเป็นระยะ ๔.สํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องอํานวยความ ๒ ๑๗,๑๘ สะดวกประสานพระสอนศีลธรรมกับสถานศึกษาและ จัดแลกเปลีย่ นระหว่างกันด้วย จากตารางท่ี ๔.๑๔ การแสดงความถี่ของปริมาณผู้ให้ข้อมูลสําคัญ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้าน การจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร พบว่า ความถี่ของผู้ให้ ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) จํานวน ๑๘ รูปหรือคน เก่ียวกับรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการ จัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านเน้ือหาการสอนและ หลักสูตร ดงั ปรากฏตามแผนภาพท่ี ๔.๗ ดงั นี้

๑๗๐ สํานักงานพระสอนศีลธรรม พระสอนศลี ธรรม - จัดฝกึ อบรม, จัดเสวนา - ประยุกตใ์ หเ้ ข้ากับปจั จบุ ัน - จดั ประชุมเชงิ ปฏิบตั กิ าร - พัฒนาความร้อู อกแบบและการ - ส่งเสรมิ สนับสนนุ พระสอน ใช้หลักสตู ร ด้านเน้อื หา การสอนและ หลกั สูตร แผนภาพท่ี ๔.๗ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ดา้ นเนื้อหาการสอนและหลกั สตู ร จากแผนภาพที่ ๔.๗ พบว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอน ของพระสอนศลี ธรรมในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ด้านเน้ือหาการสอนและหลักสูตร ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน จัดฝึกอบรมโดยให้ผู้เชี่ยวชาญมาสอนและ จัดทําหลักสูตรแก่พระสอนศีลธรรม รวมท้ังจัดเสวนาระหว่างพระสอนศีลธรรมกับหน่วยงานต่างๆ และส่งเสริมสนับสนนุ แก่พระสอนศลี ธรรมเม่ือเข้าไปสอนในสถานศกึ ษาด้วย ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน หลักสูตรการสอนพระพุทธศาสนาในการสอนต้อง ประยุกต์ให้มีความทันสมัยและเข้ากับปัจจุบัน และควรพัฒนาความรู้ความเข้าใจการออกแบบและ การใชห้ ลกั สตู รดว้ ย ๔.๓.๒ รูปแบบการพัฒนาศกั ยภาพดา้ นการจัดการเรยี นการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ดา้ นวธิ กี ารสอน ประกอบด้วย ๑. ส่วนใหญ่วิชาพระพุทธศาสนาจะเป็นเชิงนามธรรมพระสอนศีลธรรมต้องมีกลยุทธ์ให้ เป็นรูปธรรม โดยจะต้องให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียน การมีส่วนร่วมในที่น้ีก็คือเรียนรู้ผ่านอายตนะ ให้ครบถ้วน คือ ตา หู จมูก ล้ิน กาย ใจ เรื่องที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยการฟังก็ต้องเรียนรู้ด้วยการ ฟงั เรอื่ งใดท่ตี อ้ งใช้ตากต็ อ้ งเรียนรู้ผ่านตา เรอื่ งใดท่เี ปน็ ความรู้สึกกต็ อ้ งมกี ารกระตุน้ เป็นต้น๑๒๗ ๑๒๗สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สาํ คญั ลาํ ดบั ที่ ๑ วันท่ี ๓ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๗๑ ๒.พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนต้องมีการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นเบื้องต้น ตามวัยและความรู้ ของผู้เรียน แล้วมาวิเคราะห์เน้ือหาเพื่อเข้าสู่วิธีการสอน ควรเป็นวิธีการสอนที่ผู้เรียนมีความใฝ่รู้ อยาก คิดอยากทํา แล้วผู้เรียนก็จะไปแสวงหาได้เอง ใช้วิธีการสอนแบบเชิงรุก (active learning) ให้ผู้เรียน ลงมอื ปฏบิ ตั ิได้ดว้ ยตนเอง แล้วตอ้ งยึดเอาผเู้ รยี นเป็นหลัก๑๒๘ ๓. พระสอนศีลธรรมในปัจจุบันควรแสวงหาวิธีการสอนที่ทันสมัย ท่ีให้ทันต่อผู้เรียนในยุค สมัยปัจจุบัน ไม่ใช่มีแต่รูปแบบบรรยายอย่างเดียว แต่ต้องเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ โดยต้องมี วิธีการสอนท่ีหลากหลาย อาจจะเป็นวิธีการสอนใช้ปัญหาเป็นฐาน (PBL) เพ่ือกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ ของผู้เรียน หรือใช้อริยสัจส่ีเป็นฐานก็ได้ แต่ข้อสําคัญคือการวิเคราะห์ผู้เรียนก่อนแล้วจึงค่อยใช้วิธีการ สอนตามมา๑๒๙ ๔. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนควรใช้วิธีให้ผู้เรียนเข้าถึงวิถีชีวิตแบบชาวพุทธ ท่ีเรียกว่า วิธีการสอนแบบวิถีพุทธ คือในช่วงขณะที่เรากิน เราอยู่ปัจจุบัน การฟังส่ิงต่างๆ หรือการประสบพบ เหน็ ส่ิงตา่ งๆ กต็ อ้ งสอดแทรกธรรมะเข้าไปทกุ ขณะ ให้เกิดเปน็ วถิ ขี องผเู้ รียน๑๓๐ ๕. วิธีการสอนของพระสอนศีลธรรมในขณะการสอน ให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมแสดงความ คิดเห็นบ้าง ไม่ใช่แต่เป็นผู้บรรยายอย่างเดียว ถ้าเป็นเด็กโตก็ให้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง แล้วมา อภิปรายร่วมกนั ๑๓๑ ๖. วิธีการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนต้องใช้วิธีการสอนแบบสองทางคือระหว่าง ผู้สอนและผู้เรียนได้ร่วมจัดการเรียนการสอน โดยให้ผู้เรียนได้สะท้อนปัญหาในชีวิต แล้วค้นหา หลักธรรมไปแก้ปัญหาใหก้ ับผเู้ รียน๑๓๒ ๗. พระสอนศีลธรรมต้องพัฒนาทักษะการสอน การถ่ายทอด และความรู้ในการถ่ายทอด การใช้เทคโนโลยีช่วยการสอน ด้วยการฝึกอบรมมีทักษะการผลิตประดิษฐ์สร้างวิธีการสอนที่แตกต่าง หลากหลาย มากกว่าการยืนสอน นั่งสอนสมาธิอย่างเดียวและการเข้าไปพัฒนาท่านเหล่าน้ันให้มี ทักษะการสื่อสารผ่านระบบ สมัยใหม่ เพ่ือส่งเสริมการเรียนที่ไหนอย่างไรก็ได้ และสร้างชุดการเรียนรู้ ทสี่ ามารถเรยี นทีไ่ หน เวลาไหน อยา่ งไรก็ได้๑๓๓ ๘. การสอนในปัจจุบัน จะมุ่งเน้นการสอนท่ีสามารถพัฒนาผู้เรียนได้ครบท้ังความรู้ ทักษะ และทัศนคติ โดยอาศัยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ และพระสอน ๑๒๘สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มูลสาํ คัญลําดับท่ี ๒ วนั ที่ ๒ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๒๙สมั ภาษณ์ ผ้ใู ห้ข้อมลู สาํ คัญลาํ ดับที่ ๓ วนั ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๓๐สมั ภาษณ์ ผ้ใู ห้ขอ้ มูลสาํ คญั ลําดบั ท่ี ๔ วนั ท่ี ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๓๑สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมลู สาํ คญั ลาํ ดบั ท่ี ๕ วันที ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๓๒สมั ภาษณ์ ผูใ้ หข้ อ้ มูลสําคญั ลาํ ดับที่ ๖ วนั ที ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๓๓สมั ภาษณ์ ผ้ใู หข้ อ้ มลู สําคญั ลําดบั ที่ ๗ วนั ที ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๗๒ ศีลธรรมจะต้องพัฒนาวิธีการสอนของตนเองอยู่เสมอ เพราะถ้าครูผู้สอนมีการพัฒนาตนเอง มีวิธีการ สอนที่แปลกใหม่ ก็จะทําให้ผู้เรียนเกิดความสนใจอยากจะเรียน และส่ิงท่ีสําคัญก็คือ จะทําให้ผู้เรียน เกดิ การเรยี นรู้ สง่ ผลต่อพัฒนาการของผู้เรยี นในทุกๆ ดา้ น๑๓๔ ๙. พระสอนศีลธรรมต้องมีการเตรียมตัวสอน ต้องวิเคราะห์หลักสูตร จุดมุ่งหมายและ วัตถุประสงค์ของหลักสูตรหรือบทเรียน มีการเตรียมเน้ือหา ส่ือประกอบการเรียนการสอน และแบบ วัดผลและประเมินผลที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของหลักสูตรหรือบทเรียน มีความพร้อมท้ังผู้สอน ผู้เรียน และสภาพแวดล้อมทางการเรียน ด้านการสอน สอนโดยยดึ ผูเ้ รียนเป็นสาํ คญั ๑๓๕ ๑๐. พระสอนศีลธรรมต้องคํานึงถึงความแตกต่างของผู้เรียน ในด้าน วัย ประสบการณ์ เดิม และความแตกต่างระหว่างบุคคลเป็นหลัก สร้างบรรยากาศและเวลาให้เหมาะแก่การเรียนรู้ เปิด โอกาสให้ผู้เรียนได้คิดค้นหาสาเหตุ เหตุผล ความเป็นไปของสิ่งท่ีเรียน มีส่วนร่วมในการวางแผน การ ดาํ เนินกิจกรรม และการประเมินผลการเรียนการสอน๑๓๖ ๑๑. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องเปิดศูนย์ให้ความรู้ทางด้านวิธีการสอน พระพุทธศาสนาท่ีหลากหลายในแต่ละเขตของกรุงเทพมหานคร ที่มีหัวหน้าศูนย์รับผิดชอบอยู่ เพ่ือให้ พระสอนศลี ธรรมได้เข้าถึงวิธกี ารสอนใหม่ๆ๑๓๗ ๑๒. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรจัดเสวนาระหว่างพระสอนศีลธรรมด้วยกันเองเพื่อ แลกเปลี่ยนวิธีการสอนท่ีบางรูปมีประสบการณ์มากกว่าหรือกับหน่วยงานต่างๆ ท่ีมีความเชี่ยวชาญ ทางด้านวิธกี ารสอน เพ่ือเพมิ่ ประสิทธิภาพใหก้ บั พระสอนศีลธรรม๑๓๘ ๑๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรจัดทําคู่มือด้านวิธีการสอนในวิชาพระพุทธศาสนาให้ พระสอนศีลธรรม ซ่ึงบางรูปเพิ่งสอนได้ไมน่ านยงั ไมร่ วู้ ิธีการสอนพระพุทธศาสนาท่หี ลากหลาย๑๓๙ ๑๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดและแต่งต้ังพระนิเทศติดตามการสอนของพระสอน ศีลธรรมเพื่อคอยแนะนําด้านวิธีการสอนในวิชาพระพุทธศาสนา เพ่ือทําให้พระสอนศีลธรรมได้เข้าไป สอนวขิ าพระพทุ ธศาสนาอยา่ งถกู วิธดี ้วย๑๔๐ ๑๓๔สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สาํ คญั ลาํ ดับท่ี ๘ วนั ที ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๓๕สมั ภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มลู สําคญั ลําดับที่ ๙ วันที ๙ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๓๖สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มูลสาํ คญั ลาํ ดับที่ ๑๐ วนั ที ๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๓๗สัมภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มูลสําคัญลาํ ดับท่ี ๑๑ วันที ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๓๘สมั ภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สาํ คัญลาํ ดับท่ี ๑๒ วนั ที ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๓๙สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มลู สําคญั ลําดบั ที่ ๑๓ วนั ที ๑๑ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๔๐สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ขอ้ มลู สาํ คญั ลําดับท่ี ๑๔ วันที ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๗๓ ๑๕. พระสอนศีลธรรมต้องพัฒนาทักษะการสอนของตนเอง ด้วยการฝึกฝนด้วยตนเอง หรือหาส่ือที่มีวิธีการสอนที่หลากหลาย เพ่ือนํามาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพ่ือให้ผู้เรียนไม่เกิด ความเบื่อหนา่ ยและน่าสนใจมากยิง่ ข้นึ ๑๔๑ ๑๖. พระสอนศีลธรรมต้องมีการเตรียมพร้อมและวางแผนในแต่ละคาบของตนเมื่อเข้าไป สอนว่าจะใช้วิธีการสอนแบบใดบ้าง และมีการประเมินทุกครั้งเม่ือทําการสอนเสร็จแล้ว ว่าวิธีการสอน ทนี่ ําไปใช้นนั้ มปี ระสทิ ธภิ าพมากเพียงใด๑๔๒ ๑๗. วิธีการสอนของพระสอนศีลธรรมควรให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมโดยให้ผู้เรียนเป็น ศูนย์กลางและรับฟังความคดิ เห็นบ้าง ไม่ใชแ่ ตเ่ ป็นผบู้ รรยายอย่างเดยี ว๑๔๓ ๑๘. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องจัดทําหนังสือคู่มือวิธีการสอนแบบต่างๆ ให้แก่พระ สอนศลี ธรรมเพ่ืออํานวยความสะดวกในการสอน๑๔๔ สรุปได้ว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านวิธีการสอน พระสอนศีลธรรม ต้องสอนให้ผู้เรียนมีความใฝ่รู้ อยากคิด อยากทํา มีส่วนร่วมในการเรียนให้เข้าถึงวิถีชีวิตแบบพุทธ จะต้องมีการเตรียมตัวสอน และคํานึงถึง ความแตกต่างของผู้เรียนด้วย โดยพัฒนาสอนศีลธรรมจะต้องพัฒนาทักษะการสอนของตนเอง ตลอดเวลาด้วยการฝึกอบรมและแสวงหาวิธีการสอนที่ทันสมัยท่ีให้ทันต่อผู้เรียนในยุคปัจจุบัน ส่วน ทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องเปิดศูนย์ที่ให้ความรู้ทางด้านวิธีการสอนแก่พระสอนศีลธรรม รวมท้ังจัดเสวนาระหว่างพระสอนศีลธรรมด้วยกันเองเพ่ือแลกเปล่ียนประสบการณ์ และจัดทําคู่มือ วิธีการสอนให้แก่พระสอนศีลธรรมเมื่อเข้าไปสู่สถานศึกษา จัดตั้งพระนิเทศติดตามการสอนของพระ สอนศลี ธรรมดว้ ยเพือ่ เพม่ิ ประสิทธิภาพ ๑๔๑สมั ภาษณ์ ผ้ใู หข้ ้อมูลสําคญั ลาํ ดับที่ ๑๕ วนั ที ๑๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๔๒สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมลู สาํ คญั ลําดับท่ี ๑๖ วนั ที ๑๗ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๔๓สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมูลสําคญั ลาํ ดบั ที่ ๑๗ วันที ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๔๔สมั ภาษณ์ ผูใ้ หข้ ้อมลู สาํ คญั ลําดบั ท่ี ๑๘ วันที ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๗๔ ตารางท่ี ๔.๑๕ สรุปรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ดา้ นวธิ ีการสอน ผใู้ หข้ ้อมลู สาํ คญั ประเด็นสาํ คญั จาํ นวน ผ้ใู หข้ อ้ มูลสาํ คัญ (รปู หรือคน) ลําดบั ที่ ๑. พระสอนศีลธรรมมีวิธีการสอนที่ทันสมัย ให้ ๗ ๑,๒,๓,๔,๕,๖,๑๗ ผ้เู รยี นมีส่วนร่วม มีความใผร่ ู้ เข้าถงึ วิถีพทุ ธ ๒. พระสอนศีลธรรม ใช้เทคโนโลยีในการสอน มีการ ๔ ๗,๙,๑๐,๑๖ เตรียมตัวสอน วเิ คราะห์ผู้เรยี นก่อนเสมอ ๓. พระสอนศีลธรรมต้องพัฒนาวิธีการสอนอยู่เสมอ ๒ ๘,๑๕ แสวงหาวิธกี ารสอนที่หลากหลาย ๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดต้ังศูนย์ให้ความรู้ ๔ ๑๑,๑๒,๑๓,๑๘ ด้านวิธีการสอน ทําคมู่ ือวิธีการสอน ๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรม แต่งตั้งพระนิเทศ ๑ ๑๔ ตดิ ตามแนะนําวธิ กี ารสอนแกพ่ ระสอนศีลธรรม จากตารางท่ี ๔.๑๕ การแสดงความถ่ีของปริมาณผู้ให้ข้อมูลสําคัญ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้าน การจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร พบว่า ความถี่ของผู้ให้ ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) จํานวน ๑๘ รูปหรือคน เกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการ จัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านวิธีการสอน ดังปรากฏ ตามแผนภาพท่ี ๔.๘ ดงั นี้

๑๗๕ สํานักงานพระสอนศีลธรรม พระสอนศลี ธรรม - จดั ต้งั ศนู ย์ให้ความรู้ - มวี ิธีการสอนทท่ี นั สมัย - จดั ทาํ คมู่ อื - ใชเ้ ทคโนโลยใี นการสอน - แตง่ ตงั้ พระนิเทศ - พฒั นาวิธีการสอน ดา้ นวธิ ีการ สอน แผนภาพที่ ๔.๘ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ด้านวิธีการสอน จากแผนภาพท่ี ๔.๘ พบว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอน ของพระสอนศลี ธรรมในโรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ดา้ นวธิ กี ารสอน ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน จัดตั้งศูนย์ให้ความรู้ด้านวิธีการสอน พระพุทธศาสนาเพื่อให้พระสอนศีลธรรมได้เข้าถึงวิธีการสอนใหม่ๆ รวมถึงจัดทําคู่มือวิธีการสอนเม่ือ เข้าไปสอนในสถานศึกษาด้วย และแต่งต้ังพระนิเทศติดตามการสอนของพระสอนศีลธรรมเพื่อคอย แนะนาํ วิธกี ารสอนอยา่ งถกู วธิ ี ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมีวิธีการสอนที่ทันสมัย ให้ทันต่อผู้เรียนในยุคปัจจุบัน รวมถึงวิธีการสอนสมัยใหม่ต้องรู้จักใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสอนด้วย และพัฒนาวิธีการสอนอยู่ ตลอดเวลาดว้ ยการเข้าฝกึ อบรมเปน็ ระยะ

๑๗๖ ๔.๓.๓ การพัฒนารูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการใชส้ อ่ื การสอน ประกอบดว้ ย ๑. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนควรผลิตสื่อได้ด้วยตนเอง ถ้าผลิตไม่ได้ก็ต้องรู้ว่าจะหา อะไรมาเป็นส่ือ คือต้องรู้จักวิธีหา และวิธีทํา อาจจะค้นหาทางอินเทอร์เน็ตก็ได้ และรู้วิธีแลกเปลี่ยน สอ่ื ระหวา่ งกนั ด้วย หรือจะหาของใกลต้ ัวมาเป็นสือ่ กไ็ ด๑้ ๔๕ ๒.พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนในการจัดการเรียนรู้ต้องมีสื่อการสอนเทคโนโลยีท่ีทันสมัย โดยเฉพาะในปัจจุบันการใช้ส่ือออนไลน์เป็นส่ิงท่ีมีความสําคัญมาก โดยพระสอนศีลธรรมจัดการเรียนรู้ โดยนําเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในปัจจุบันประยุกต์ใช้ในการสอนโดยอาศัยส่ือเทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยพระ สอนศีลธรรมอาจจะค้นควา้ เรียนรู้การทําสอ่ื สมัยใหม่จากทางออนไลน์ หรอื เข้าฝกึ อบรมก็ได้๑๔๖ ๓. พระสอนศีลธรรมควรใช้สื่อการสอนท่ีใกล้ตัวผู้เรียนเพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจได้ง่าย และ ต้องเป็นส่ือการสอนที่สอดคล้องกับหลักธรรมในเรื่องท่ีสอนด้วย และต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็น ประโยชนใ์ นการสอน เชน่ ให้ผเู้ รยี นใชโ้ ทรศัพท์ สบื หาขอ้ มูล เปน็ ต้น๑๔๗ ๔. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนต้องหาสื่อการสอนที่ผู้เรียนเห็นแล้วเข้าใจง่าย ไม่ควร ลึกซึ้งเกินไป และเป็นสื่อท่ีใกล้ตัวของผู้เรียน ที่สําคัญคือคนสอนต้องเป็นตัวอย่างแก่ผู้เรียนด้วยเพราะ ผเู้ รียนจะคอยมองและอาจจะเลยี นแบบผสู้ อนได้๑๔๘ ๕. พระสอนศีลธรรมควรใช้ส่ือการสอนให้มีความเหมาะสมกับวัย และใช้ส่ือการสอนแบบ งา่ ยๆ เพอื่ ให้ผู้เรยี นเกิดความเขา้ ใจ หรอื ใช้ส่ือการสอนท่ีใกล้ตัวผเู้ รียนดว้ ย๑๔๙ ๖. พระสอนศีลธรรมการใช้สื่อการสอนต่างๆ อาจจะเป็นส่ือมัลติมิเดีย หรือสื่อที่ใช้เป็น รูปแบบอย่างอ่ืน ก่อนท่ีจะนําไปใช้ต้องมีการวิเคราะห์ก่อนว่าจะนําไปใช้อย่างไร เม่ือนําไปใช้แล้วควร ให้ผู้เรียนมาร่วมวิเคราะห์สื่อการสอนที่จะนําไปใช้ด้วย และต้องมีการประเมินทุกคร้ังเม่ือนําสื่อการ สอนไปใช้แลว้ ๑๕๐ ๗. พระสอนศีลธรรม ควรใช้สื่อการสอนที่สะท้อนกับบทเรียนที่จะสอน และในปัจจุบันจะ ใช้ส่ือแค่หนังสืออย่างเดียวคงไม่พอ ควรจะใช้ส่ืออิเลคทรอนิคหรือเป็นสื่อประสมเข้ามาร่วมด้วยเพ่ือ ๑๔๕สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมูลสําคัญลาํ ดบั ท่ี ๑ วันท่ี ๓ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๔๖สมั ภาษณ์ ผูใ้ หข้ ้อมูลสาํ คญั ลาํ ดบั ท่ี ๒ วันท่ี ๒ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๔๗สมั ภาษณ์ ผ้ใู หข้ ้อมลู สาํ คญั ลําดบั ที่ ๓ วนั ท่ี ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๔๘สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมลู สาํ คญั ลําดบั ท่ี ๔ วนั ท่ี ๑๓ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๔๙สัมภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมูลสําคญั ลําดบั ที่ ๕ วนั ที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๕๐สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สาํ คัญลําดับที่ ๖ วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔.

๑๗๗ สร้างความน่าสนใจ รวมท้ังการใช้ส่ือออนไลน์ก็ต้องมีรูปแบบเนื้อหาท่ีน่าสนใจเพื่อให้ผู้เรียนมีความ อยากเรียนเปน็ เบอื้ งต้น แล้วกจ็ ะนาํ ไปสู่การเรยี นรู้๑๕๑ ๘. พระสอนศีลธรรม ควรหาหรือใช้สื่อประกอบการสอนหลายๆ ด้าน ทุกส่ิงทุกอย่างซ่ึง อยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นวัสดุของจริง บุคคล สถานที่ เหตุการณ์ หรือความคิดเห็นซึ่งเป็นตัวกลางท่ี สําคัญในการสื่อความหมายระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ทําให้เข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้นและทําให้การ เรียนการสอนสัมฤทธิ์ผลอย่างมีประสิทธิภาพ ในอดีตการสอนของพระยังไม่มีสื่ออุปกรณ์ แต่ปัจจุบัน พระสอน ได้นําเอาส่ือการสอนท้ังภาพ เสียง ส่ือข้อมูลมาช่วยพัฒนาในการสอน โดยเฉพาะยุคไอที เทคโนโลยีสารสนเทศ เขา้ มามีอทิ ธพิ ลและในจดั การเรียนการสอนเปน็ อย่างมาก๑๕๒ ๙. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดทําโครงการพัฒนาส่ือการสอนของพระสอน ศีลธรรม มุ่งให้พระสอนใช้ส่ือที่ตนเองมีอยู่และหาได้สะดวกผลิตสื่อข้ึนใช้เองโดยอาศัยวัสดุที่หาได้ ง่ายๆ เพ่ือเปน็ การประหยดั และใชไ้ ดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ๑๕๓ ๑๐. พระสอนศีลธรรมควรเลือกสื่อการสอนท่ีเหมาะสมกับการเรียนการสอนของตนเอง หรือในชั่วโมงท่ีตนเองสอนและปรบั ปรงุ สอ่ื ใหส้ ัมพนั ธก์ บั การสอนด้วย๑๕๔ ๑๑. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดหาส่ือการสอนจากแหล่งต่างๆ เพื่ออํานวยความ สะดวกให้แก่พระสอนศีลธรรมและให้เพยี งพอแก่ความตอ้ งการของพระสอนศลี ธรรมด้วย๑๕๕ ๑๒. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรจัดประชุมอบรมความรู้ด้านกระบวนการผลิตสื่อการ เรียนการสอนให้แก่พระสอนศีลธรรมโดยการเชิญผู้เช่ียวชาญในการทําส่ือการสอนโดยเฉพาะส่ือการ สอนสาํ หรบั ใชใ้ นวชิ าพระพทุ ธศาสนา๑๕๖ ๑๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรจัดประกวดสื่อการสอนด้านพระพุทธศาสนา เพื่อ เป็นการกระตุ้นให้พระสอนศีลธรรมผลิตสื่อข้ึนใช้เองและจะได้มีส่ือการสอนท่ีเป็นนวัตกรรมเพิ่มข้ึนอีก ด้วยอกี ทงั้ เป็นการส่งเสริมให้พระสอนศีลธรรมได้มาแลกเปลย่ี นสือ่ ด้วย๑๕๗ ๑๕๑สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มูลสาํ คญั ลําดบั ที่ ๗ วนั ที่ ๑ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๕๒สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมูลสาํ คัญลาํ ดับที่ ๘ วันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๕๓สัมภาษณ์ ผูใ้ หข้ ้อมลู สําคญั ลาํ ดับท่ี ๙ วนั ที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๕๔สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มูลสาํ คญั ลําดับที่ ๑๐ วันท่ี ๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๕๕สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สําคญั ลําดบั ที่ ๑๑ วนั ท่ี ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๕๖สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมลู สําคัญลําดับที่ ๑๒ วันท่ี ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๕๗สมั ภาษณ์ ผูใ้ หข้ ้อมูลสําคัญลาํ ดับท่ี ๑๓ วนั ท่ี ๑๑ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๗๘ ๑๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดให้มีการอบรมหรือส่งพระสอนศีลธรรมไปเรียนรู้ เกี่ยวกับการผลิตและการใช้สื่อการสอนสําหรับพระสอนศีลธรรม โดยพระสอนศีลธรรมท่ีจะเข้าไป สอนในสถานศึกษาจะตอ้ งผ่านการอบรมการผลิตและการใช้ส่อื การสอนดังกล่าว๑๕๘ ๑๕. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดอบรมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการ จัดการเรียนการสอน ส่งเสริมความสามารถในการประยุกต์ใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ในการใช้สื่อ ประกอบการเรยี นการสอนให้แกพ่ ระสอนศลี ธรรมในโรงเรยี น๑๕๙ ๑๖. พระสอนศีลธรรมสามารถศึกษาค้นแหล่งข้อมูลตามอินเทอร์เน็ต และโหลดข้อมูล จากแหล่งอื่นๆ ที่ใกล้ตัว มาเป็นสื่อการสอนได้ ท้ังนี้เมื่อนํามาใช้ต้องให้สอดคล้องกับรายวิชาท่ีสอน ดว้ ย๑๖๐ ๑๗. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ต้องพัฒนาความสามารถของพระสอนศีลธรรมในการ ผลิตและประยุกต์ใช้ส่ือนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนําไปใช้ในการเรียนการสอนโดยสรรหาผู้เชี่ยวชาญ ทางดา้ นส่อื การสอนมาใหค้ วามรเู้ ป็นระยะๆ๑๖๑ ๑๘. พระสอนศีลธรรมต้องมีความชํานาญในการใช้สื่อที่นําไปด้วยโดยการฝึกฝนก่อนที่จะ นําไปใช้ และควรให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทําส่ือหรือใช้ส่ือด้วยจะทําให้เกิดความสนใจในการจัดการ เรียนรู้๑๖๒ สรุปได้ว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการใช้สื่อการสอน พระสอนศีลธรรมควรผลิตสื่อได้ด้วยตนเอง รู้จักวิธี หาและวิธีทํา ควรประยุกต์การสอนโดยอาศัยส่ือเทคโนโลยีหรือส่ือประสมหลายๆ อย่างเข้ามาช่วย เรียนรู้การทําสื่อสมัยใหม่จากออนไลน์หรือฝึกอบรมก็ได้ นอกจากน้ีต้องหาสื่อท่ีใกล้ตัวผู้เรียนเข้าใจ ง่ายมีความเหมาะสมกับวัย ก่อนนําไปใช้ต้องมีการวิเคราะห์ส่ือก่อนและต้องฝึกการใช้สื่อให้มีความขํา นาญด้วย ส่วนทางสํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรพัฒนาส่ือการสอนของพระสอนศีลธรรมมุ่งให้พระ ใช้สื่อที่ตนมีอยู่และหาได้สะดวก โดยการอบรมความรู้กระบวนการผลิตสื่อหรือประยุกต์สื่อเทคโนโลยี โดยเชิญผู้เช่ียวชาญมาให้ความความรู้ นอกจากนี้ควรจัดประกวดสื่อการสอนเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ ผลิตสอ่ื และมีนวตั กรรมใหม่ ๑๕๘สมั ภาษณ์ ผูใ้ หข้ ้อมลู สาํ คญั ลาํ ดับท่ี ๑๔ วันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๕๙สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มลู สําคัญลําดับที่ ๑๕ วันที่ ๑๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๖๐สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมูลสาํ คัญลําดับท่ี ๑๖ วนั ท่ี ๑๗ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๖๑สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สําคญั ลาํ ดับที่ ๑๗ วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๖๒สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มูลสําคญั ลาํ ดบั ที่ ๑๘ วนั ท่ี ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๗๙ ตารางที่ ๔.๑๖ สรุปรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการใชส้ ือ่ การสอน ผู้ใหข้ ้อมูลสาํ คัญ ประเดน็ สําคัญ จํานวน ผใู้ ห้ขอ้ มูลสําคัญ (รูปหรือคน) ลาํ ดบั ที่ ๑. พระสอนศีลธรรม ผลิตส่ือด้วยตนเองรวมทั้งส่ือ ๕ ๑,๒,๗,๘,๑๖ เทคโนโลยีด้วยหรือส่ือประสมหลายด้าน ค้นคว้าจาก ออนไลนห์ รือฝกึ อบรม ๒. พระสอนศีลธรรม หาส่ือที่เข้าใจง่าย เหมาะสมกับ ๖ ๓,๔,๕,๖,๑๐,๑๘ วัย ก่อนใช้ต้องวิเคราะห์ก่อนและควรใช้ชํานาญ เสยี ก่อน ๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรจัดหาส่ือการ ๒ ๙,๑๑ สอนจากแหล่งต่างๆ เพื่ออํานวยความสะดวกแก่พระ สอนศีลธรรม และให้พระสอนใช้สื่อท่ีตนเองมีอยู่ที่หา ได้ง่าย ๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดอบรมการผลิตส่ือ ๔ ๑๒,๑๔,๑๕,๑๗ ใหแ้ กพ่ ระสอนศลี ธรรมโดยหาผ้เู ชีย่ วชาญมาสอน ๕. สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดประกวดสื่อการ ๑ ๑๓ สอนเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผลิตสื่อขึ้นเองและสร้าง นวัตกรรมขนึ้ จากตารางท่ี ๔.๑๖ การแสดงความถ่ีของปริมาณผู้ให้ข้อมูลสําคัญ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้าน การจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร พบว่า ความถ่ีของผู้ให้ ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) จํานวน ๑๘ รูปหรือคน เกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการ จัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการใช้สื่อการสอน ดัง ปรากฏตามแผนภาพท่ี ๔.๙ ดังน้ี

๑๘๐ สํานกั งานพระสอนศลี ธรรม พระสอนศีลธรรม - ฝกึ อบรมการทาํ ส่อื การสอน - ผลิตสือ่ ได้ดว้ ยตนเอง - จัดประกวดส่อื การสอน - ใช้สื่อหลากหลายในการสอน - มคี วามชํานาญในการใชส้ ่ือ ด้านการใช้ สื่อการ สอน แผนภาพท่ี ๔.๙ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ดา้ นการใชส้ ือ่ การสอน จากแผนภาพท่ี ๔.๙ พบว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของ พระสอนศีลธรรมในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ดา้ นการใช้สอ่ื การสอน ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดอบรมการทําส่ือการสอนประยุกต์สื่อทางด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาร่วมด้วยโดยการเชิญผู้เช่ียวชาญมาให้ความรู้แก่พระสอนศีลธรรม รวมทั้ง จัดหาสื่อการสอนจากแหล่งต่างๆ เพื่ออํานวยความสะดวกแก่พระสอนศีลธรรม และจัดประกวดการ ทาํ ส่ือการสอนเพอ่ื เปน็ การกระตุ้นการทาํ สอ่ื และนวตั กรรมใหม่ๆ ของพระสอนศีลธรรม ๒) พระสอนศีลธรรม ควรผลิตส่ือได้ด้วยตนเอง รู้จักหาและวิธีทําจากออนไลน์หรือการ อบรมก็ได้ รวมท้ังการสอนควรใช้ส่ือการสอนหลากหลายเพื่อให้การสอนมีประสิทธิภาพ และควรมี ความชํานาญการใชส้ อื่ ทน่ี ําไปดว้ ยโดยการฝึกฝนกอ่ นที่จะนาํ ไปใช้ ๔.๓.๔ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ประกอบดว้ ย ๑. พระสอนศีลธรรมต้องจัดการเรียนการสอนออกแบบให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ครบด้านโดย ผ่านอายตนะ ๖ คือตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ หรือจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยยกประเด็น

๑๘๑ ปัญหา แล้วให้ผู้เรียนช่วยกันแก้ปัญหา เช่นปัญหาเพ่ือนอ่านหนังสือไม่ออกก็ช่วยกันแก้ ก็จะทําให้ฝึก วเิ คราะหไ์ ปดว้ ย หรือเปน็ กิจกรรมการเรียนการสอนทที่ ํารว่ มกันท้งั ห้อง หรอื ทัง้ โรงเรียนก็ได้๑๖๓ ๒. พระสอนศีลธรรมควรกิจกรรมการเรียนการสอนได้หลายรูปแบบเพื่อให้ผู้เรียนไม่เกิด ความเบอื่ หนา่ ยและเกิดความนา่ สนใจ เช่น กจิ กรรมการอภปิ ราย กิจกรรมการบรรยาย เปน็ ต้น๑๖๔ ๓. พระสอนศีลธรรมควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีสามารถให้ผู้เรียนเกิดความใฝ่รู้ อยากคดิ อยากทาํ และเกดิ ความสุขในการเรยี น๑๖๕ ๔. พระสอนศีลธรรมควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวพุทธ ให้แก่ผู้เรียนได้ และนําไปใช้นอกห้องเรียนได้ด้วย เช่น การสวดมนต์ไหว้พระ เมื่อได้เรียนรู้ใน หอ้ งเรยี นแลว้ ให้ผูเ้ รยี นนาํ ไปใช้ในวิถเี ปน็ ประจําได้๑๖๖ ๕. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจัดกิจกรรมในการเรียนการสอนควรเป็นกิจกรรมสีขาว ให้กับผู้เรียน ไม่มีความล่อแหลมเหมาะสมกับวัย และไม่ทํากิจกรรมที่เป็นอันตราย ควรมีการ วเิ คราะห์ในกจิ กรรมก่อนที่จะทํา เม่ือทํากิจกรรมควรให้ผูเ้ รยี นถงึ คุณคา่ ของการเรยี นร้ดู ว้ ย๑๖๗ ๖.พระสอนศีลธรรมควรการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับผู้เรียนต้องยึดชีวิตของ ผู้เรียนเป็นแกนกลางแล้วค่อยจัดกิจกรรม ควรจัดการเรียนการสอนในแนวราบไม่ควรเป็นแนวดิ่งก็คือ ผู้สอนต้องเข้าไปเรียนรู้ร่วมกับผู้เรียนด้วย กิจกรรมการเรียนการสอนต้องให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติด้วย ตนเอง๑๖๘ ๗. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต้องให้ผู้เรียนมีส่วน ร่วมด้วยทุกครั้ง เช่นทํากระบวนการกลุ่ม ผู้สอนก็จะเป็นผู้ออกแบบให้กับผู้เรียน และควรจัดกิจกรรม การเรยี นการสอนเพื่อให้ผูเ้ รียนสามารถวเิ คราะหแ์ ละสังเคราะห์สง่ิ ตา่ งๆ ด้วย๑๖๙ ๘. พระสอนศีลธรรมในการจัดการการเรียนการสอนควรเป็นกิจกรรมข้ันปฏิบัติ เป็น กิจกรรมหลักของการเรียนการสอนเพ่ือให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กําหนดไว้ เช่น กิจกรรมการอภิปราย กิจกรรมการบรรยาย กิจกรรมการอ่าน กิจกรรมการสังเกตและการจดบันทึก ๑๖๓สัมภาษณ์ ผูใ้ ห้ข้อมลู สําคัญลาํ ดับที่ ๑ วันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๖๔สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มลู สําคัญลาํ ดับท่ี ๒ วนั ท่ี ๒ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๖๕สมั ภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มลู สาํ คญั ลําดบั ที่ ๓ วันท่ี ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๖๖สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สาํ คญั ลําดับที่ ๔ วันท่ี ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๖๗สัมภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มลู สาํ คัญลาํ ดบั ที่ ๕ วันท่ี ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๖๘สมั ภาษณ์ ผใู้ ห้ขอ้ มลู สาํ คญั ลําดับท่ี ๖ วนั ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๖๙สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมลู สําคญั ลําดบั ที่ ๗ วนั ท่ี ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๘๒ กิจกรรมการค้นคว้าในห้องสมุด กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการแสดงแบบต่างๆ และกิจกรรมการ ค้นคว้ารายงาน เป็นต้น๑๗๐ ๙. พระสอนศีลธรรมควรจัดกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ให้มีความน่าสนใจดึงดูดผู้เรียน เพ่ือให้การเรียนการสอนที่น่าสนใจ และการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทุกกิจกรรมต้องคํานึงถึง พฒั นาการดา้ นร่างกาย และสตปิ ญั ญา และความสามารถของผเู้ รยี นตามวยั ด้วย๑๗๑ ๑๐. พระสอนศีลธรรมควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นกิจกรรมที่ทันสมัยต่อยุค ปัจจบุ นั ตอบโจทยก์ ับผเู้ รียนได้ เช่นกิจกรรมเรยี นการสอนแบบเชิงรกุ (active learning) เปน็ ตน้ ๑๗๒ ๑๑. พระสอนศีลธรรมต้องจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้น่าสนใจสอดคล้องกับวัย และ จะต้องสนับสนุนผู้เรียนโดยแปลงบทบาทจากการเป็นผู้ช้ีนํา ผู้ถ่ายทอดความรู้ไปเป็นผู้ช่วยเหลือ ส่งเสริมและสนบั สนนุ ผู้เรียนในการแสวงหาความรู้จากสื่อและแหลง่ การเรยี นรู้๑๗๓ ๑๒. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรจัดอบรมหรือสัมมนาเชิงวิชาการ เพ่ือถ่ายทอด ประสบการณ์การจัดกิจกรรมการสอนจากผู้มีประสบการณ์ตรง เช่น การสาธิตการจัดกิจกรรมการ สอนโดยครูต้นแบบ เป็นต้น๑๗๔ ๑๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรทําคู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในวิชา พระพุทธศาสนาที่อ่านแล้วสามารถนําไปปฏิบัติการสอนได้เลยหรือนําตัวอย่างของพระสอนศีล ธรรมท่จี ดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนที่ประสบความสาํ เรจ็ แลว้ ไวใ้ นคู่มือดว้ ย๑๗๕ ๑๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรจัดให้มีพระนิเทศเพ่ือจัดให้มีการวัดและประเมินผล พระสอนศีลธรรมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสม่ําเสมอ เพื่อปรับปรุงพัฒนาการจัดการ เรียนการสอนของพระสอนศลี ธรรมใหม้ ีประสทิ ธิภาพมากข้นึ ๑๗๖ ๑๕. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดให้มีการประชุมพระสอนศีลธรรมเพื่อแลกเปลี่ยน ความรู้ความคิดเห็นเก่ียวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพ่ือให้การสอนของพระสอนศีลธรรม ไดค้ วามรเู้ กี่ยวกบั การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนใหมๆ่ เพ่มิ ขึ้น๑๗๗ ๑๗๐สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมูลสําคัญลาํ ดบั ที่ ๘ วันท่ี ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๗๑สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมลู สาํ คัญลาํ ดบั ท่ี ๙ วนั ท่ี ๙ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๗๒สมั ภาษณ์ ผูใ้ ห้ขอ้ มูลสาํ คัญลาํ ดบั ท่ี ๑๐ วันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๗๓สัมภาษณ์ ผูใ้ หข้ ้อมูลสาํ คัญลําดับท่ี ๑๑ วันท่ี ๕ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๗๔สมั ภาษณ์ ผู้ให้ข้อมูลสําคัญลําดบั ท่ี ๑๒ วนั ที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๗๕สัมภาษณ์ ผ้ใู ห้ขอ้ มลู สําคัญลําดบั ที่ ๑๓ วนั ที่ ๑๑ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๗๖สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มูลสาํ คญั ลําดับที่ ๑๔ วันที่ ๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๗๗สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ อ้ มูลสาํ คญั ลําดบั ที่ ๑๕ วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔.

๑๘๓ ๑๖. พระสอนศีลธรรมจะต้องสนับสนุนผู้เรียนโดยเปล่ียนบทบาทจากผู้ชี้นํา ผู้ถ่ายทอด ความรู้ไปเป็นผู้ช่วยเหลือส่งเสริมและสนับสนุนผู้เรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและ สนบั สนนุ ผู้เรยี นในการแสวงหาความรู้จากสือ่ และแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ๑๗๘ ๑๗. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรจัดฝึกอบรมพระสอนศีลธรรมที่เข้ามาเป็นพระสอน ศีลธรรมใหม่ โดยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีเข้าไปสอนในสถานศึกษาให้เป็นรูปแบบเดียวกัน และเปน็ การสร้างความเช่ือม่นั ใหก้ ับพระสอนศลี ธรรมเมอื่ เขา้ ไปสู่สถานศกึ ษาดว้ ย๑๗๙ ๑๘. พระสอนศีลธรรม เม่ือเข้าไปสู่สถานศึกษาแล้วควรเป็นผู้นําในการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนทางด้านพระพุทธศาสนา ให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการลงมือปฏิบัติด้วย เช่นการจัด กจิ กรรมทางด้านพระพทุ ธศาสนาในวนั สาํ คัญต่างๆ เปน็ ตน้ ๑๘๐ สรุปได้ว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน พระสอนศีลธรรมควรต้องมีการ วิเคราะห์ผู้เรียนก่อนคํานึงถึงพัฒนาการทางด้านร่างกาย สติปัญญา ความสามารถของผู้เรียน สอน จากเป็นผู้ช้ีนําให้เป็นผู้ช่วยเหลือและสนับสนุนแทนและจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ครบทุกด้าน เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ท่ีหลากหลายและไม่เกิดความเบื่อหน่ายด้วย นอกจากนี้ควรจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนให้เกิดความใฝ่รู้อยากคิดอยากทําให้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง นําไปใช้นอกห้องเรียนได้ และสามารถใช้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้แบบออนไลน์ได้อย่างชํานาญด้วย ส่วน ทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรจัดฝึกอบรมหรือสัมมนาเพ่ือถ่ายทอดประสบการณ์การสอน จากผู้มีประสบการณ์ตรง โดยมีการแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นต่อกันด้วย นอกจากน้ีควรทําคู่มือ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาเพื่อให้พระสอนศีลธรรมไม่ว่าเก่าหรือใหม่นําไปใช้ สอนไดแ้ ละควรจดั ใหม้ ีพระนิเทศเพ่ือวดั และประเมินผลเพื่อทจี่ ะไดน้ ํามาปรับปรุงแก้ไขได้ ๑๗๘สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สําคัญลาํ ดับท่ี ๑๖ วันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๗๙สัมภาษณ์ ผ้ใู ห้ข้อมลู สาํ คญั ลําดับท่ี ๑๗ วนั ท่ี ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๘๐สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมูลสาํ คญั ลําดับท่ี ๑๘ วนั ที่ ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔.

๑๘๔ ตารางที่ ๔.๑๗ สรุปรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน ผใู้ ห้ขอ้ มลู สําคัญ ประเดน็ สําคญั จํานวน ผู้ใหข้ อ้ มูลสําคญั (รปู หรือคน) ลาํ ดับที่ ๑. พระสอนศีลธรรม วิเคราะห์ก่อนทํากิจกกรรมควร ๘ ๑,๒,๓,๔,๕,๖,๗,๘ จัดกิจกรรมหลากหลาย ให้เกิดความใฝ่รู้นําไปใช้นอก ห้องเรียนได้ ให้ผูเ้ รียนไดล้ งมือปฏบิ ตั แิ ละมสี ่วนร่วม ๒. พระสอนศีลธรรม จัดกิจกรรมให้สอดคล้องกับวัย ๔ ๙,๑๐,๑๑,๑๖ ความสามารถ ใชร้ ูปแบบออนไลน์ ๓. พระสอนศีลธรรม ควรเป็นผู้นําการจัดกิจกรรม ๑ ๑๘ การเรยี นการสอน ๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดอบรมเพื่อ ๓ ๑๒,๑๕,๑๗ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การจัดกิจกรรมการเรียน การสอนระหวา่ งกนั ๕. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรจัดทําคู่มือการจัด ๒ ๑๓,๑๔ กิจกรรมการเรียนการสอน และมพี ระนิเทศติดตาม จากตารางที่ ๔.๑๗ การแสดงความถี่ของปริมาณผู้ให้ข้อมูลสําคัญ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้าน การจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร พบว่า ความถี่ของผู้ให้ ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) จํานวน ๑๘ รูปหรือคน เก่ียวกับรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการ จัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการจัดกิจกรรมการเรียน การสอน ดงั ปรากฏตามแผนภาพที่ ๔.๑๐ ดงั นี้