๑๘๕ สาํ นกั งานพระสอนศีลธรรม พระสอนศีลธรรม - จัดฝึกอบรมแลกเปล่ยี น - มีกิจกรรมการสอนหลากหลาย - จดั ทําคมู่ อื - มีกจิ กรรมทนั สมัย - แต่งตง้ั พระนิเทศการสอน - ใหผ้ ู้เรียนมสี ว่ นรว่ ม ด้านการจัด กจิ กรรมการ เรยี นการสอน แผนภาพที่ ๔.๑๐ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน จากแผนภาพท่ี ๔.๑๐ พบว่า การพัฒนารูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียน การสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ด้านการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดฝึกอบรมเพ่ือถ่ายทอดประสบการณ์การจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนเป็นการแลกเปล่ียนระหว่างพระสอนด้วยกันหรือจากผู้เชี่ยวชาญ นอกจากน้ีทําคู่มือการ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้พระสอนศีลธรรมไม่ว่ารูปใหม่หรือรูปเก่าเพื่อนําไปปฏิบัติการสอนได้ เลยเป็นการสร้างความม่ันใจเม่ือเข้าไปสู่สถานศึกษา และแต่งต้ังพระนิเทศเพื่อจัดให้มีการวัดและ ประเมนิ ผลเพ่อื ปรบั ปรงุ การจัดการเรยี นการสอนให้มปี ระสทิ ธภิ าพมากขึน้ ๒) พระสอนศีลธรรม จัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้หลายรูปแบบเพ่ือให้ผู้เรียนไม่เกิด ความเบื่อหน่ายและน่าสนใจ อีกทั้งปัจจุบันต้องจัดกิจกรรมให้มีความทันสมัยโดยเฉพาะในรูปแบบ ออนไลน์และต้องให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยโดยเฉพาะให้ลงมือ ปฏิบตั ิด้วยตนเองเพือ่ ใหเ้ กิดการเรยี นรอู้ ย่างแทจ้ ริง
๑๘๖ ๔.๓.๕ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ด้านการวดั และประเมินผล ประกอบดว้ ย ๑. พระสอนศีลธรรมต้องมีความรู้ความเข้าใจในวิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ ตามสภาพจริงและต้องดูที่สถานศึกษาด้วยว่ากําหนดการวัดและประเมินผลต้องวัดตามกรอบท่ี สถานศึกษาได้ต้งั ไวด้ ้วยเพ่ือบรรลุเปา้ หมาย๑๘๑ ๒. พระสอนศีลธรรมต้องวัดและประเมินผลตามสภาพจริงในการเรียนการสอน ประเมิน ตามส่ิงที่เห็นได้ด้วยตาหรือประเมินที่ความสามารถของผู้เรียน ถ้าประเมินด้วยข้อสอบควรจะเป็น อตั นัย หรอื ประเมนิ ดว้ ยทักษะก็ควรประเมนิ ดว้ ยชิ้นงาน๑๘๒ ๓. การวัดและประเมินผลของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนในการจัดการเรียนการสอน ต้องประเมินด้วยตัว ภาวนา ๔ แต่เพียงแค่นํา ภาวนา ๔ มาเป็นกรอบในการประเมินแต่ตัวท่ีวัดต้อง อาศัยเคร่ืองมือมาประเมิน เช่นการสังเกต การสัมภาษณ์ การสื่อสาร คือ กายต้องดูการเป็นอยู่ใน สังคม ศีลต้องดูท่ีพฤติกรรม จิตดูท่ีวิธีคิด ที่สามารถควบคุมพฤติกรรมไม่ให้ออกนอกลู่นอกทางได้ ปญั ญา คอื ความรใู้ หร้ จู้ ักหลกั พุทธธรรมนาํ ไปใช้ชีวติ ในประจําวนั ของเราได้๑๘๓ ๔. การเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาจะเน้นทางการปฏิบัติเป็นส่วนใหญ่ พระสอน ศีลธรรมต้องวัดและประเมินผลจากการปฏิบัติเป็นอย่างแรก การวัดและประเมินผลจากความรู้เป็น อยา่ งตอ่ ไปถดั จากการปฏบิ ัติ พระสอนศีลธรรมจะต้องหาเครอื่ งมอื เข้ามาประเมนิ ให้ถกู ต้องด้วย๑๘๔ ๕. การวัดและประเมินผลปัจจุบันนอกจากพระสอนศีลธรรมจะวัดจากผู้เรียนแล้ว ระหว่างผู้เรียนด้วยกันก็ต้องมีการประเมินกันด้วย ถ้าเป็นการประเมินด้วยการปฏิบัติก็ต้องให้คนรอบ ข้างประเมินด้วย เช่น ผู้ปกครอง เป็นต้น และการวัดและประเมินผลต้องไปดูที่ตัวช้ีวัดด้วยว่าจะต้อง วัดอย่างไรแล้วนํามาประเมินให้แก่ผู้เรียน และการวัดและประเมินผลต้องยึดหลักใน พ.ร.บ. การศึกษา แห่งชาติดว้ ย๑๘๕ ๖. พระสอนศีลธรรมต้องมีความรู้ความเข้าใจในวิธีการวัดผลและประเมินผลถ้ายังมี ความรู้ยังไม่เพียงพอต้องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเช่นสํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดอบรมเพิ่ม ประสิทธิภาพในการวัดผลและประเมินผลให้แก่พระสอนศีลธรรม หรือจัดทําเอกสารหรือคู่มือวิธีการ ๑๘๑สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมูลสําคัญลําดบั ท่ี ๑ วนั ท่ี ๓ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๘๒สมั ภาษณ์ ผ้ใู หข้ ้อมลู สําคญั ลาํ ดับท่ี ๒ วนั ท่ี ๒ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๘๓สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมูลสาํ คญั ลําดับท่ี ๓ วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๘๔สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สําคญั ลําดับท่ี ๔ วันท่ี ๑๓ กรกฏาคม ๒๕๖๔. ๑๘๕สัมภาษณ์ ผูใ้ ห้ข้อมลู สาํ คญั ลาํ ดบั ที่ ๕ วันที่ ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔.
๑๘๗ วัดและประเมินผลเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน หรือจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้พระสอน ศลี ธรรมไดล้ งมอื ปฏบิ ัตจิ ริง๑๘๖ ๗. พระสอนศีลธรรมควรมีทักษะการประเมินอย่างเป็นระบบและมีการประเมินอย่าง เสถียรเที่ยงตรง ตรงไปตรงมาและมีการสร้างความรู้ด้านการวัดการประเมินต่อพระสงฆ์ผู้จัดการเรียน การสอนอย่างเป็นขนั้ ตอนและเป็นระบบ๑๘๗ ๘. พระสอนศีลธรรมต้องมีวิธีการวัดและประเมินผลท่ีหลากหลายโดยจัดอบรมเชิง ปฏิบัติการในการวัดผล และประเมินผลท่ีหลากหลายเพ่ิมให้แก่พระสอนศีลธรรมเพ่ือให้ สอดคล้องกับ การเรียนการสอนหรือ เชิญผเู้ ชีย่ วชาญหรือวิทยากรมาให้คาํ แนะนําให้พระสอนศลี ธรรม๑๘๘ ๙. พระสอนศีลธรรมต้องวัดและประเมินต้องเป็นไปเพ่ือการพัฒนา หรือมีชุดความรู้ต่อ การประเมนิ และพัฒนาการประเมินอยา่ งเป็นระบบขั้นตอน๑๘๙ ๑๐. สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดฝึกอบรมเชิญวิทยากรผู้เช่ียวชาญมาให้ความรู้ด้าน ทักษะเพื่อสร้างความร้คู วามเข้าใจแกพ่ ระสอนศลี ธรรมในด้านการวดั และประเมนิ ผล๑๙๐ ๑๑. สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรจัดคู่มือเก่ียวกับวิธีการวัดผลและประเมินผลตาม สภาพจริงให้แก่พระสอนศีลธรรม เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานในสถานศึกษาแก่พระสอน ศลี ธรรม๑๙๑ ๑๒. พระสอนศีลธรรมควรใช้วิธีการวัดและประเมินผลท่ีหลากหลายเน้นการปฏิบัติให้ สอดคลอ้ งกับกระบวนการและสาระการเรยี นร้โู ดยอาศยั ความร่วมมอื จากครูและพระสอนศีลธรรม๑๙๒ ๑๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องสร้างเครือข่ายและจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพ่ือให้พระ สอนศีลธรรมได้ลงมือปฏิบัติจริงในการวัดและประเมินผลและมีการสอบคัดเลือกพระสอนศีลธรรมท่ีมี ความรใู้ นเร่อื งการวัดและประเมินผลเพือ่ เปน็ พเี่ ลี้ยงรปู อืน่ ต่อไป๑๙๓ ๑๔. พระสอนศีลธรรมต้องมีความรู้ความเข้าใจในวิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ และสถานศึกษาต้องส่งเสริมให้พระสอนศีลธรรมนําผลการวัดและประเมินผลมาใช้ในการปรับปรุงการ เรยี นการสอนใหด้ ขี ึ้น๑๙๔ ๑๘๖สัมภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมูลสาํ คัญลาํ ดบั ท่ี ๖ วนั ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๘๗สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมลู สาํ คญั ลําดบั ที่ ๗ วนั ท่ี ๑ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๘๘สมั ภาษณ์ ผ้ใู ห้ข้อมลู สาํ คัญลําดบั ท่ี ๘ วนั ที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๘๙สัมภาษณ์ ผู้ให้ข้อมลู สาํ คัญลาํ ดบั ท่ี ๙ วันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๙๐สัมภาษณ์ ผ้ใู ห้ขอ้ มลู สาํ คญั ลาํ ดับท่ี ๑๐ วันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๙๑สมั ภาษณ์ ผู้ใหข้ ้อมลู สาํ คัญลําดับท่ี ๑๑ วันที่ ๕ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๙๒สัมภาษณ์ ผู้ใหข้ อ้ มูลสาํ คญั ลาํ ดับที่ ๑๒ วนั ที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔. ๑๙๓สัมภาษณ์ ผูใ้ หข้ ้อมลู สําคญั ลาํ ดบั ท่ี ๑๓ วันท่ี ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๙๔สัมภาษณ์ ผใู้ ห้ข้อมูลสาํ คญั ลําดับท่ี ๑๔ วนั ที่ ๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔.
๑๘๘ ๑๕. สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดอบรมเชิงปฏิบัติการในการสร้างเคร่ืองมือวัดผลและ ประเมินผลเพิ่มให้แก่พระสอนศีลธรรม โดยเชิญผู้เช่ียวชาญหรือวิทยากรมาให้คําแนะนําในด้านทักษะ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้พระสอนศีลธรรมในด้านการสร้างเคร่ืองมือวัดผลและประเมินผลที่ สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรใู้ หแ้ กพ่ ระสอนศลี ธรรมเพอ่ื เป็นแนวทางปฏิบตั ิงาน๑๙๕ ๑๖. สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องจัดทําคู่มือหรือเอกสารเกี่ยวกับการวัดผลและ ประเมินผลท่ีหลากหลายเพ่ือให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ในวิชาพระพุทธศาสนาท่ีพระสอน ศีลธรรมได้เข้าไปสอนในสถานศึกษา ซึ่งจะเป็นแนวทางให้พระสอนศีลธรรมนํามาปรับใช้ให้เหมาะสม กับสภาพของแตล่ ะสถานศึกษา๑๙๖ ๑๗. พระสอนศีลธรรมควรหารูปแบบหรือเทคนิคการวัดผลและประเมินผลท่ีสามารถจูงใจ ให้ผู้เรียนสนใจเช่น ประเมินผลจากความรู้ท่ีได้เข้าร่วมในกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา และการ ประพฤตปิ ฏบิ ัติ เปน็ ตน้ และควรมีมาตรฐานเดยี วกันท้ังหมด๑๙๗ ๑๘. พระสอนศีลธรรมควรประเมินผลตามสภาพจริงของผู้เรียน โดยมีการประเมินผลย่อย อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และแจ้งให้ผู้เรียนได้ทราบด้วยเพ่ือให้ผู้เรียนรู้พัฒนาการของตนเอง และควร ให้ผ้ปู กครองหรือผ้ทู เ่ี หน็ สมควรเขา้ มารว่ มประเมินด้วย๑๙๘ สรุปได้ว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการวัดและประเมินผล พระสอนศีลธรรมต้องมีความรู้ความเข้าใจ ในวิธีการวัดผลและประเมินผลตามกรอบที่สถานศึกษาได้ต้ังไว้ นอกจากนี้ต้องวัดและประเมินผลจาก การปฏิบัติที่เกิดขึ้นตามสภาพจริงของผู้เรียนด้วย และต้องมีการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย เป็นไปเพ่ือการพัฒนาของผู้เรียนด้วย และต้องมีรูปแบบหรือเทคนิคท่ีสามารถจูงใจให้ผู้เรียนสนใจ ส่วนทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องจัดอบรมเพ่ิมประสิทธิภาพในการวัดและประเมินผล ให้แก่พระสอนศีลธรรมให้ได้ลงมือปฏิบัติจริงเม่ือเข้าไปสู่สถานศึกษา โดยเชิญวิทยากรผู้เช่ียวชาญมา ให้ความรู้และควรจัดคู่มือเก่ียวกับการวัดและประเมินผลให้แก่พระสอนศีลธรรมด้วยและสร้าง เครอื ข่ายเพื่อแลกเปลีย่ นความรู้ในการวัดและประเมนิ ผลระหว่างพระสอนศลี ธรรมดว้ ยกันด้วย ๑๙๕สมั ภาษณ์ ผ้ใู ห้ข้อมลู สาํ คัญลาํ ดับที่ ๑๕ วันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔. ๑๙๖สมั ภาษณ์ ผ้ใู หข้ อ้ มลู สําคัญลําดับท่ี ๑๖ วันท่ี ๑๗ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๙๗สัมภาษณ์ ผู้ให้ขอ้ มลู สาํ คญั ลาํ ดบั ที่ ๑๗ วันท่ี ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ๑๙๘สมั ภาษณ์ ผใู้ หข้ ้อมูลสาํ คญั ลําดบั ที่ ๑๘ วันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๔.
๑๘๙ ตารางที่ ๔.๑๘ สรุปรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรยี น กรงุ เทพมหานคร ด้านการวัดและประเมนิ ผล ผูใ้ ห้ขอ้ มูลสาํ คญั ประเด็นสําคัญ จํานวน ผใู้ ห้ข้อมลู สาํ คัญ (รปู หรอื คน) ลาํ ดับท่ี ๑. พระสอนศีลธรรมต้องมีความรู้ความเข้าใจการวัด ๕ ๑,๗,๘,๑๒,๑๔ และประเมินผล และมีวิธีการที่หลากหลาย มีทักษะ การวัดอย่างเปน็ ระบบและเท่ียงตรง ๒. พระสอนศีลธรรมประเมินผลตามสภาพจริงจาก ๗ ๒,๓,๔,๕,๙,๑๗,๑๘ การปฏบิ ตั ิ ต้องเป็นไปเพ่ือการพฒั นาดว้ ย ๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดอบรมเชิง ๔ ๖,๑๐,๑๓,๑๕ ปฏิบัติก ารใ นก าร ส ร้าง เค ร่ือ งมือ วัดผ ล แ ล ะ ประเมนิ ผล เชิญผเู้ ชย่ี วชาญมาให้ความรู้ ๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดทําคู่มือเกี่ยวกับ ๒ ๑๑,๑๖ วธิ ีการวัดผลและประเมินผลให้แกพ่ ระสอนศีลธรรม จากตารางท่ี ๔.๑๘ การแสดงความถ่ีของปริมาณผู้ให้ข้อมูลสําคัญ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้าน การจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร พบว่า ความถ่ีของผู้ให้ ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) จํานวน ๑๘ รูปหรือคน เกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการ จัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการวัดและประเมินผล ดังปรากฏตามแผนภาพท่ี ๔.๑๑ ดังนี้
๑๙๐ สํานกั งานพระสอนศลี ธรรม พระสอนศลี ธรรม - จดั ฝึกอบรมเชิงปฏบิ ัติการ - มคี วามรูเ้ ขา้ ใจเป็นอย่างดี - จัดทําคูม่ ือ - มีการประเมนิ อย่างหลากหลาย - เขา้ รับการฝึกอบรม ดา้ นการวัด และ ประเมินผล แผนภาพท่ี ๔.๑๑ รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการวดั และประเมนิ ผล จากแผนภาพที่ ๔.๑๑ พบว่า การพัฒนารูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการ เรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ด้านการวัดและประเมนิ ผล ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในการสร้างเครื่องมือวัดผลและ ประเมินผลให้แก่พระสอนศีลธรรม โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญหรือวิทยากรมาให้คําแนะนําเพื่อเพ่ิม ประสิทธิภาพให้แก่พระสอนศีลธรรมเมื่อเข้าไปในสถานศึกษาและจัดทําคู่มือหรือเอกสารเกี่ยวกับการ วัดและประเมินผลเพื่อให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้เพื่อให้พระสอนศีลธรรมเม่ือเข้าไปใน สถานศึกษาจะเป็นแนวทางไปปรับใช้ใหเ้ หมาะสม ๒) พระสอนศีลธรรม ต้องมีความรู้ความเข้าใจในวิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ที่ จะต้องวัดและประเมินผลตามกรอบที่สถานศึกษาตั้งไว้ด้วยและมีการประเมินอย่างเสถียรเท่ียงตรง ด้วย นอกจากน้ีมีการวัดและประเมินผลอย่างหลากหลายโดยเฉพาะจากการปฏิบัติ นอกจากน้ีพระ สอนศีลธรรมต้องเข้ารับการอบรมเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพให้แก่ตนเองในการวัดและประเมินผลเพ่ือให้ เกิดประสทิ ธิภาพเมอื่ เขา้ ไปสู่สถานศกึ ษา
๑๙๑ ๔.๔ ผลการสนทนากลุ่มเฉพาะ ผลการสนทนากลุ่มเฉพาะเพื่อคําแนะนําองค์ความรู้และยืนยันรูปแบบการพัฒนา ศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนกรุงเทพมหานคร โดยผู้วิจัยได้ ดําเนินการจัดสนทนากลุ่มเมื่อวันอังคารที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ เวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกา เป็นการ สนทนากลุ่มผ่านระบบออนไลน์ Zoom Video Conferencing โดยมี รศ.ดร. เกียรติศักด์ิ สุขเหลือง เป็นผู้ดําเนินรายการและมีผู้ให้ข้อมูลสําคัญสําหรับการสนทนากลุ่ม จํานวน ๘ รูปหรือคน เป็น อาจารย์ผู้เชย่ี วชาญ ที่มีประสบการณ์ในการจัดเรียนการสอนและมีความรู้เกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนา ด้านการจัดการเรียนการสอนของการพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ท่านได้กรุณามาให้คําแนะนําองค์ ความรู้และยืนยันรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียนกรุงเทพมหานคร ผู้วิจัยจึงขอสรุปผลการสนทนากลุ่มเฉพาะ โดยการสรุปเป็นด้านและรายข้อ ตามกรอบแนวคิดของการวจิ ัย ดงั ตอ่ ไปนี้ ๔.๔.๑ ผลการสนทนากลุ่มพิจารณา รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียน การสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านเน้ือหาการสอนและหลักสูตร มี ดังนี้ ๑. สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดฝึกอบรมโดยจัดให้มีผู้ทรงคุณวุฒิมาสอนและทํา หลักสูตรให้แก่พระสอนศีลธรรม โดยสามารถปรับใช้ได้ตามสถานการณ์และความต้องการ และจัดทํา เป็นคู่มือใหพ้ ระสอนศีลธรรมได้นาํ ไปใช้ต่อไป๑๙๙ ๒. สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดเสวนาระหว่างพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนด้วยกันหรือ กับหนว่ ยงานที่รับผิดชอบเก่ยี วกับการจดั การเรียนการสอนเพื่อแลกเปล่ียนเรยี นรอู้ ยา่ งกว้างขวาง๒๐๐ ๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับพระ สอนศีลธรรมในหลักสูตรวิชาพระพุทธศาสนา และจัดทําหลักสูตรแบบย่อเพื่อให้ง่ายต่อการเรียน การสอน๒๐๑ ๔. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ส่งเสริมสนับสนุนประสานระหว่างพระสอนศีลธรรมกับ สถานศึกษาในการจัดสิ่งที่เอื้ออํานวยในการสอนแก่พระสอนศีลธรรมในสถานศึกษา เช่นห้อง พระพุทธศาสนา วสั ดอุ ปุ กรณ์สอื่ การสอน หรือรถรับสง่ พระสอนศีลธรรมเปน็ ตน้ ๒๐๒ ๑๙๙ สนทนากล่มุ เฉพาะ ผูท้ รงคุณวุฒลิ าํ ดับท่ี ๔ วนั ที่ ๑ มนี าคม ๒๕๖๕. ๒๐๐ สนทนากลุ่มเฉพาะ ผทู้ รงคณุ วฒุ ลิ าํ ดับที่ ๕ วนั ที่ ๑ มนี าคม ๒๕๖๕. ๒๐๑ สนทนากล่มุ เฉพาะ ผู้ทรงคุณวุฒิลาํ ดบั ที่ ๗ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ๒๐๒ สนทนากลุ่มเฉพาะ ผู้ทรงคณุ วุฒิลําดับที่ ๖ วันท่ี ๑ มีนาคม ๒๕๖๕.
๑๙๒ ๕. พระสอนศีลธรรม เน้ือหาท่ีมักซํ้าควรตัดออกบ้างและสอนเท่าท่ีจําเป็นต่อผู้เรียนนํา หลักธรรมมาประยุกต์ใช้กับผู้เรยี น๒๐๓ ๖. พระสอนศีลธรรม มีความรู้เก่ียวกับหลักการการออกแบบหลักสูตร การพัฒนา หลักสูตร และการใช้หลักสูตร มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการของนักเรียนท้ังทางด้าน จิตวิทยา สรรี วิทยา และสังคมวทิ ยา๒๐๔ สรุปได้ว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านเน้ือหาการสอนและหลักสูตร มีความเกี่ยวข้องด้วยกัน สองฝ่ายคือ สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดฝึกอบรมทําหลักสูตรให้แก่พระสอนศีลธรรมโดยมีผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วม ทําด้วยเพ่ือให้นําไปใช้ในสถานศึกษานอกจากนี้การจัดเสวนาระหว่างพระสอนศีลธรรมด้วยกันเพ่ือเป็น การแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านเน้ือหาและหลักสูตรร่วมกัน อีกอย่างหนึ่งการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ก็ทําให้พระสอนศีลธรรมนั้นได้ลงมือปฏิบัติทางด้านเน้ือหาและหลักสูตรอีกด้วยและต้องส่งเสริมและ สนับสนุนอํานวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ แก่พระสอนศีลธรรมเม่ือเข้าไปในสถานศึกษานั้นด้วย ส่วน ทางฝ่ายพระสอนศีลธรรม นําเน้ือหาการสอนมาประยุกต์ใช้ในการสอนกับผู้เรียนด้วย นอกจากนี้ ต้อง พัฒนาในเรื่องของหลักสูตรและเนื้อหาการสอนด้วยโดยเฉพาะการออกแบบและการนําไปใช้ ให้มี ความรู้และความเข้าใจอย่างดี โดยผู้ร่วมสนทนากลุ่มเห็นชอบองค์ความรู้ท่ีได้จากการวิจัยและยืนยัน รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ดา้ นเนอ้ื หาการสอนและหลกั สูตร ดงั กลา่ วมีรายละเอียดตามแผนภาพที่ ๔.๗ ๔.๔.๒ ผลการสนทนากลุ่มพิจารณา รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียน การสอนของพระสอนศลี ธรรมในโรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ดา้ นวิธีการสอน มดี ังน้ี ๑. สํานักงานพระสอนศีลธรรม เปิดศูนย์ให้ความรู้ทางด้านวิธีการสอนพระพุทธศาสนาท่ี หลากหลายในแต่ละเขตของกรุงเทพมหานคร ท่ีมีหัวหน้าศูนย์รับผิดชอบอยู่ เพ่ือให้พระสอนศีลธรรม ได้เข้าถึงวิธีการสอนใหม่ๆ๒๐๕ ๒. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรจัดทําคู่มือด้านวิธีการสอนในวิชาพระพุทธศาสนาให้ พระสอนศีลธรรม ซงึ่ บางรูปเพิง่ สอนไดไ้ ม่นานยงั ไม่ร้วู ิธีการสอนพระพุทธศาสนาทหี่ ลากหลาย๒๐๖ ๒๐๓ สนทนากลมุ่ เฉพาะ ผู้ทรงคณุ วฒุ ิลาํ ดบั ที่ ๒ วนั ท่ี ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ๒๐๔ สนทนากล่มุ เฉพาะ ผู้ทรงคุณวุฒิลาํ ดับที่ ๘ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ๒๐๕ สนทนากล่มุ เฉพาะ ผ้ทู รงคุณวฒุ ิลาํ ดบั ที่ ๑ วนั ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ๒๐๖ สนทนากล่มุ เฉพาะ ผทู้ รงคุณวฒุ ลิ ําดบั ท่ี ๓ วนั ที่ ๑ มนี าคม ๒๕๖๕.
๑๙๓ ๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดและแต่งตั้งพระนิเทศติดตามการสอนของพระสอน ศีลธรรมเพื่อคอยแนะนําด้านวิธีการสอนในวิชาพระพุทธศาสนา เพื่อทําให้พระสอนศีลธรรมได้เข้าไป สอนวขิ าพระพุทธศาสนาอย่างถกู วิธดี ้วย๒๐๗ ๔. พระสอนศีลธรรมในปัจจุบันควรแสวงหาวิธีการสอนท่ีทันสมัย ท่ีให้ทันต่อผู้เรียนในยุค สมัยปัจจุบัน ไม่ใช่มีแต่รูปแบบบรรยายอย่างเดียว แต่ต้องเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ โดยต้องมี วิธีการสอนทห่ี ลากหลาย๒๐๘ ๕. พระสอนศีลธรรม มีความรู้ในการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการสอน เป็นการพัฒนา ทักษะการสอนทําให้การเรียนการสอนส่ือสารผ่านระบบ สมัยใหม่ เป็นสิ่งจําเป็นต่อยุคปัจจุบัน เพื่อ ส่งเสรมิ การเรียนท่ไี หนอยา่ งไรก็ได้ และสร้างชดุ การเรยี นรู้ที่สามารถเรยี นท่ไี หน เวลาไหนก็ได้๒๐๙ ๖. พระสอนศีลธรรมพัฒนาวิธีการสอนของตนเอง ด้วยการฝึกฝนด้วยตนเอง หรือหาส่ือที่ มีวิธีการสอนท่ีหลากหลาย เพ่ือนํามาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพ่ือให้ผู้เรียนไม่เกิดความเบ่ือ หนา่ ยและน่าสนใจมากยงิ่ ขึน้ ๒๑๐ สรุปได้ว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านวิธีการสอน มีความเก่ียวข้องด้วยกัน สองฝ่ายคือสํานักงานพระสอน ศีลธรรม เปิดศูนย์ให้ความรู้ทางด้านวิธีการสอนที่หลากหลายในแต่ละเขตของกรุงเทพมหานคร โดย หัวหน้าศูนย์รับผิดชอบ เพ่ือให้พระสอนศีลธรรมต้องการคําปรึกษาทางด้านวิธีการสอนก็ไม่ต้อง เดินทางมาที่ส่วนกลาง นอกจากนี้ จัดทําคู่มือด้านวิธีการสอนที่หลากหลาย ให้แก่พระสอนศีลธรรม ซึ่งบางรูปเพ่ิงสอนได้ไม่นานต้องการวิธีการสอนก็สามารถเปิดคู่มือท่ีจัดทําได้ และจัดและแต่งตั้งพระ นิเทศท่ีมีความรู้ติดตามการสอนของพระสอนศีลธรรมเป็นระยะเพ่ือคอยแนะนําด้านวิธีการสอนให้แก่ พระสอนศีลธรรม ส่วนฝ่ายพระสอนศีลธรรม มีวิธีการสอนท่ีทันสมัย ท่ีให้ทันต่อผู้เรียนในยุคสมัย ปัจจุบัน นอกจากนี้ มีความรู้ในการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการสอนซ่ึงเป็นส่ิงจําเป็นต่อยุคปัจจุบัน และพัฒนาวิธีการสอนของตนเอง ด้วยการฝึกฝนด้วยตนเอง หรือหาส่ือท่ีมีวิธีการสอนท่ีหลากหลาย เพื่อนํามาใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพขึ้น โดยผู้ร่วมสนทนากลุ่มเห็นชอบองค์ ความรู้ท่ีได้จากการวิจัยและยืนยัน รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระ สอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านเนื้อหาการสอนและหลักสูตร ดังกล่าวมีรายละเอียด ตามแผนภาพท่ี ๔.๘ ๒๐๗ สนทนากลมุ่ เฉพาะ ผทู้ รงคณุ วุฒลิ าํ ดบั ที่ ๔ วนั ท่ี ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ๒๐๘ สนทนากล่มุ เฉพาะ ผู้ทรงคุณวุฒิลาํ ดับท่ี ๘ วนั ที่ ๑ มนี าคม ๒๕๖๕. ๒๐๙ สนทนากลุม่ เฉพาะ ผู้ทรงคุณวุฒิลําดบั ท่ี ๕ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ๒๑๐ สนทนากลมุ่ เฉพาะ ผทู้ รงคุณวฒุ ิลําดบั ที่ ๗ วนั ที่ ๑ มนี าคม ๒๕๖๕.
๑๙๔ ๔.๔.๓ ผลการสนทนากลุ่มพิจารณา รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียน การสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการใช้สื่อการสอน มีดงั นี้ ๑. สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดประชุมอบรมความรู้ด้านกระบวนการผลิตสื่อการเรียน การสอนให้แก่พระสอนศีลธรรมโดยการเชิญผู้เช่ียวชาญในการทําส่ือการสอนโดยเฉพาะส่ือการสอน สําหรับใช้ในวชิ าพระพุทธศาสนา๒๑๑ ๒. สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดประกวดสื่อการสอนด้านพระพุทธศาสนา เพ่ือเป็นการ กระตุ้นให้พระสอนศีลธรรมผลิตสื่อข้ึนใช้เองและจะได้มีส่ือการสอนท่ีเป็นนวัตกรรมเพ่ิมข้ึนอีกด้วยอีก ทั้งเป็นการส่งเสริมใหพ้ ระสอนศีลธรรมไดม้ าแลกเปลยี่ นสอ่ื ดว้ ย๒๑๒ ๓. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนผลิตส่ือได้ด้วยตนเอง ถ้าผลิตไม่ได้ก็ต้องรู้ว่าจะหาอะไร มาเป็นสื่อ คือต้องรู้จักวิธีหา และวิธีทํา อาจจะค้นหาทางอินเทอร์เน็ตก็ได้ และรู้วิธีแลกเปลี่ยนส่ือ ระหวา่ งกนั ดว้ ย หรอื จะหาของใกล้ตวั มาเป็นสอ่ื กไ็ ด้๒๑๓ ๔. พระสอนศีลธรรม ควรหาหรือใช้สื่อประกอบการสอนที่หลากหลาย นําทุกส่ิงทุกอย่าง ซึ่งอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นวัสดุของจริง บุคคล สถานท่ี เหตุการณ์ หรือความคิดเห็นซึ่งเป็นตัวกลางที่ สําคัญในการส่ือความหมายระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ทําให้เข้าใจบทเรียนได้ง่ายข้ึนและทําให้การ เรียนการสอนสัมฤทธ์ิผลอย่างมปี ระสิทธภิ าพ๒๑๔ ๕. พระสอนศีลธรรมต้องมีความชํานาญในการใช้สื่อการสอน ด้วยโดยการฝึกฝนก่อนท่ีจะ นําไปใช้ และควรให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทําส่ือหรือใช้ส่ือด้วยจะทําให้เกิดความสนใจในการจัดการ เรยี นรู้๒๑๕ สรุปได้ว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการใช้สื่อการสอน มีความเก่ียวข้องด้วยกัน สองฝ่ายคือ สํานักงาน พระสอนศีลธรรม ฝึกอบรมความรู้ด้านกระบวนการผลิตสื่อการเรียนการสอนให้แก่พระสอนศีลธรรม โดยการเชิญผู้เช่ียวชาญในการทําสื่อการสอนเพ่ือให้พระสอนศีลธรรมผลิตด้วยตัวเองได้ นอกจากนี้ การจัดประกวดสื่อการสอนด้านพระพุทธศาสนา เป็นการกระตุ้นให้พระสอนศีลธรรมผลิตส่ือข้ึนใช้เอง และจะได้มีสื่อการสอนท่ีเป็นนวัตกรรมเพ่ิมขึ้นอีกด้วย ฝ่ายพระสอนศีลธรรม ผลิตส่ือได้ด้วยตนเอง รู้จักวิธีหา และวิธีทํา อาจจะค้นหาด้วยตนเองหรือผู้รู้ก็ได้ นอกจากนี้ส่ือการสอนต้องมีความ หลากหลายเพ่ือเพ่ิมความน่าสนใจให้กับผู้เรียน และต้องมีความชํานาญในการใช้ส่ือการสอนด้วยโดย ๒๑๑ สนทนากลุม่ เฉพาะ ผทู้ รงคุณวฒุ ลิ าํ ดบั ท่ี ๒ วันที่ ๑ มนี าคม ๒๕๖๕. ๒๑๒ สนทนากลุม่ เฉพาะ ผูท้ รงคณุ วฒุ ลิ าํ ดับท่ี ๓ วนั ท่ี ๑ มนี าคม ๒๕๖๕. ๒๑๓ สนทนากลมุ่ เฉพาะ ผู้ทรงคุณวุฒิลาํ ดบั ท่ี ๗ วนั ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ๒๑๔ สนทนากลุม่ เฉพาะ ผทู้ รงคณุ วฒุ ลิ าํ ดับที่ ๖ วันท่ี ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ๒๑๕ สนทนากลุม่ เฉพาะ ผู้ทรงคณุ วุฒิลาํ ดับที่ ๕ วนั ท่ี ๑ มีนาคม ๒๕๖๕.
๑๙๕ การฝึกฝนก่อนท่ีจะนําไปใช้ โดยผู้ร่วมสนทนากลุ่มเห็นชอบองค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัยและยืนยัน รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการใชส้ ื่อการสอน ดงั กลา่ วมีรายละเอียดตามแผนภาพที่ ๔.๙ ๔.๔.๔ ผลการสนทนากลุ่มพิจารณา รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียน การสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีดังนี้ ๑. สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดอบรมหรือสัมมนาเชิงวิชาการ เพื่อถ่ายทอด ประสบการณ์การจัดกิจกรรมการสอนจากผู้มีประสบการณ์ตรง แลกเปล่ียนความรู้ความคิดเห็น เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพ่ือให้การสอนของพระสอนศีลธรรมได้ความรู้เกี่ยวกับการ จัดกิจกรรมการเรยี นการสอนใหม่ๆ เพิ่มข้นึ ๒๑๖ ๒. สํานักงานพระสอนศีลธรรมทําคู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในวิชา พระพุทธศาสนาท่ีอ่านแล้วสามารถนําไปปฏิบัติการสอนได้เลยหรือนําตัวอย่างของพระสอนศีล ธรรมท่จี ัดกจิ กรรมการเรียนการสอนทปี่ ระสบความสาํ เร็จแลว้ ไวใ้ นคู่มือด้วย๒๑๗ ๓. สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดให้มีพระนิเทศเพ่ือให้มีการวัดและประเมินผลพระสอน ศีลธรรมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสม่ําเสมอ และเพ่ือปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียน การสอนของพระสอนศีลธรรมใหม้ ปี ระสิทธิภาพมากข้นึ ๒๑๘ ๔. พระสอนศีลธรรมมีกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายรูปแบบเพ่ือให้ผู้เรียนไม่ เกดิ ความเบ่ือหนา่ ยและเกดิ ความนา่ สนใจ๒๑๙ ๕. พระสอนศีลธรรม จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นกิจกรรมที่ทันสมัยต่อยุคปัจจุบัน ตอบโจทย์กับผู้เรียนได้ สอดคล้องกับวัย โดยเปล่ียนบทบาทจากการเป็นผู้ชี้นําไปเป็นผู้ช่วยเหลือ สง่ เสริมและสนบั สนุนผ้เู รยี น๒๒๐ ๖. พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมด้วยทุก ครง้ั ผู้สอนตอ้ งเข้าไปเรยี นรู้และลงมือปฏิบตั ริ ว่ มกับผูเ้ รียนดว้ ย๒๒๑ สรุปได้ว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีความเก่ียวข้องด้วยกัน สองฝ่าย ๒๑๖ สนทนากลุ่มเฉพาะ ผู้ทรงคณุ วฒุ ลิ ําดบั ที่ ๒ วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ๒๑๗ สนทนากลุ่มเฉพาะ ผทู้ รงคณุ วุฒลิ าํ ดับท่ี ๑ วันท่ี ๑ มนี าคม ๒๕๖๕. ๒๑๘ สนทนากลุ่มเฉพาะ ผู้ทรงคณุ วฒุ ิลําดับที่ ๗ วนั ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ๒๑๙ สนทนากลุ่มเฉพาะ ผูท้ รงคุณวุฒลิ าํ ดับที่ ๖ วันท่ี ๑ มนี าคม ๒๕๖๕. ๒๒๐ สนทนากลุม่ เฉพาะ ผ้ทู รงคณุ วุฒิลาํ ดบั ที่ ๕ วนั ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ๒๒๑ สนทนากลุ่มเฉพาะ ผูท้ รงคุณวุฒลิ าํ ดับที่ ๘ วนั ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๕.
๑๙๖ คือสํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดฝึกอบรมหรือสัมมนาเชิงวิชาการเพ่ือให้พระสอนศีลธรรมได้ความรู้ เก่ียวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนใหม่ๆ เพ่ิมขึ้นและเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้เก่ียวกับการ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนระหว่างกันด้วย นอกจากนี้ การจัดให้มีพระนิเทศในการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมก็จะเป็นการปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมให้มีประสิทธิภาพมากข้ึนด้วย ส่วนฝ่ายพระสอนศีลธรรม มีกิจกรรมการเรียนการสอนที่ หลากหลายรูปแบบเพ่ือให้ผู้เรียนไม่เกิดความเบ่ือหน่ายและน่าสนใจ อีกอย่างหน่ึงต้องเป็นกิจกรรมท่ี ทันสมัยต่อยุคปัจจุบันตอบโจทย์กับผู้เรียนได้ นอกจากนี้ ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมด้วยทุกครั้งผู้สอนต้องเข้า ไปเรียนรู้และลงมือปฏิบัติร่วมกับผู้เรียนด้วย โดยผู้ร่วมสนทนากลุ่มเห็นชอบองค์ความรู้ท่ีได้จากการ วิจัยและยืนยัน รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ดังกล่าวมีรายละเอียดตามแผน ภาพท่ี ๔.๑๐ ๔.๔.๕ ผลการสนทนากลุ่มพิจารณา รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียน การสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ดา้ นการวดั และประเมินผล มดี งั น้ี ๑. สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในการสร้างเครื่องมือวัดผลและ ประเมินผลเพิ่มให้แก่พระสอนศีลธรรม โดยเชิญผู้เช่ียวชาญหรือวิทยากรมาให้คําแนะนําในด้านทักษะ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้พระสอนศีลธรรมในด้านการสร้างเคร่ืองมือวัดผลและประเมินผลที่ สอดคลอ้ งกับจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ใหแ้ กพ่ ระสอนศลี ธรรมเพอ่ื เปน็ แนวทางปฏบิ ัติงาน๒๒๒ ๒. สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องจัดทําคู่มือหรือเอกสารเกี่ยวกับการวัดผลและ ประเมินผลที่หลากหลายเพ่ือให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ในวิชาพระพุทธศาสนาท่ีพระสอน ศีลธรรมได้เข้าไปสอนในสถานศึกษา ซ่ึงจะเป็นแนวทางให้พระสอนศีลธรรมนํามาปรับใช้ให้เหมาะสม กบั สภาพของแต่ละสถานศกึ ษา๒๒๓ ๓. พระสอนศีลธรรมมีความรู้ความเข้าใจในวิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้และ สถานศึกษาต้องส่งเสริมให้พระสอนศีลธรรมนําผลการวัดและประเมินผลมาใช้ในการปรับปรุงการ เรยี นการสอนใหด้ ขี น้ึ ๒๒๔ ๔. พระสอนศีลธรรมใช้วิธีการวัดและประเมินผลที่หลากหลายเน้นการปฏิบัติให้สอดคล้อง กับกระบวนการและสาระการเรียนรโู้ ดยอาศยั ความรว่ มมอื จากครแู ละพระสอนศลี ธรรม๒๒๕ ๒๒๒ สนทนากลุม่ เฉพาะ ผ้ทู รงคุณวุฒลิ ําดบั ที่ ๑ วนั ท่ี ๑ มนี าคม ๒๕๖๕. ๒๒๓ สนทนากลุ่มเฉพาะ ผทู้ รงคุณวฒุ ลิ าํ ดับท่ี ๒ วันที่ ๑ มนี าคม ๒๕๖๕. ๒๒๔ สนทนากลุ่มเฉพาะ ผู้ทรงคณุ วฒุ ิลาํ ดับท่ี ๓ วันท่ี ๑ มนี าคม ๒๕๖๕. ๒๒๕ สนทนากลมุ่ เฉพาะ ผทู้ รงคุณวฒุ ิลําดบั ท่ี ๔ วันท่ี ๑ มีนาคม ๒๕๖๕.
๑๙๗ ๕. พระสอนศีลธรรมต้องมีความรู้ความเข้าใจในวิธีการวัดผลและประเมินผลถ้ายังมี ความรู้ยังไม่เพียงพอต้องเข้ารับการอบรมเพ่ิมประสิทธิภาพในการวัดผลและประเมินผลเพื่อเพิ่ม ประสทิ ธิภาพ๒๒๖ สรุปได้ว่า รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการวัดและประเมินผล มีความเกี่ยวข้องด้วยกัน สองฝ่ายคือ สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในการสร้างเครื่องมือวัดผลและประเมินผล ให้แก่พระสอนศีลธรรม โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญหรือวิทยากรมาให้คําแนะนําเพ่ือท่ีนําปรับไปใช้ใน สถานศึกษา นอกจากน้ีจัดทําคู่มือการวัดผลและประเมินผลที่หลากหลายเพ่ือให้สอดคล้องกับ จุดประสงค์การเรียนรู้ ในวิชาพระพุทธศาสนาที่พระสอนศีลธรรมได้เข้าไปสอนในสถานศึกษาด้วย ฝ่ายพระสอนศีลธรรม มีความรู้ความเข้าใจในวิธีการวัดผลเพ่ือที่จะนํามาใช้ในการปรับปรุงการเรียน การสอนให้ดีขึ้น นอกจากนี้ ใช้วิธีการวัดและประเมินผลท่ีหลากหลาย เพื่อความเหมาะสม และ ต้อง เข้ารับการอบรมเพ่ิมเติมในการวัดผลและประเมินผลเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพด้วย โดยผู้ร่วมสนทนากลุ่ม เห็นชอบองค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัยและยืนยัน รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการ สอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการวัดและประเมินผล ดังกล่าวมี รายละเอียดตามแผนภาพที่ ๔.๑๑ ๒๒๖ สนทนากลุ่มเฉพาะ ผทู้ รงคณุ วุฒิลําดับที่ ๕ วันท่ี ๑ มนี าคม ๒๕๖๕.
๑๙๘ ๔.๕ องค์ความรู้ ๔.๕.๑ องคค์ วามรูท้ ี่ไดร้ ับจากการวิจยั การพัฒนาศกั ยภาพดา้ นการจดั การเรยี นการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรยี นกรงุ เทพมหานคร การจดั การเรยี นการสอน ดา้ นเน้ือหา ด้านวิธีสอน ด้านใช้ส่อื การ ด้านการจดั ด้านวัดผล หลกั สูตร สอน กจิ กรรม ประเมินผล ๑ .จั ด ต้ั ง ศู น ย์ ใ ห้ ๑. จัดฝึกอบรม ความรู้ ๑. ฝึกอบรมการทํา ๑ .จั ด ฝึ ก อ บ ร ม ๑ .ฝึ ก อ บ ร ม เ ชิ ง ๒.จัดเสวนา ๒.ทาํ คู่มือวิธกี ารสอน สอ่ื การสอน ปฏบิ ัตกิ าร ๓.แต่งตง้ั พระนเิ ทศ ๒.จัดประกวดสื่อการ แลกเปลยี่ น ๓ .จั ด ป ร ะ ชุ ม เ ชิ ง ๔ .มี วิ ธี ก า ร ส อ น ที่ ๒. ทําคู่มือกิจกรรม ๒. จัดทําคู่มือการวัด ปฏบิ ัติการ ทันสมัย สอน การสอน ประเมนิ ผล ๔. ส่งเสริมสนับสนนุ ๕.ใช้เทคโนโลยีเข้ามา ๓ . ผลิ ต สื อ ไ ด้ ด้ ว ย ๓.มีความรู้ความเข้าใจ ๕. ประยุกต์ให้เข้ากับ ชว่ ย ตนเอง ๓.แต่งตงั้ พระนเิ ทศ เป็นอย่างดี ๖.พัฒนาวธิ กี ารสอน ๔.ใช้ส่ือหลากหลาย ๔.มีกิจกรรมการสอน ปจั จุบัน ๔ .ป ร ะ เ มิ น อ ย่ า ง ๖ .พั ฒ น า ค ว า ม รู้ ใ น ในการสอน ทห่ี ลากหลาย หลากหลาย การออกแบบและใช้ ๕.มีความชํานาญใน ๕. มกี จิ กรรมการสอน การใชส้ ่อื ทที่ นั สมัย หลกั สตู ร ๖.ผู้เรียนมีส่วนรว่ ม ภาวนา ๔ กายภาวนา ศลี ภาวนา จติ ภาวนา ปญั ญาภาวนา เ ป็ น ก า ร พั ฒ น า ท า ง ด้ า น เป็นการพัฒนาการพึ่งพาอาศัย เป็นการพัฒนาจิตของพระ เป็นการพัฒนาปัญญาแก่พระ กันระหว่างพระสอนศีลธรรม สอนศีลธรรมด้วยการอบรม สอนศีลธรรมด้วยการฝึกฝน บุค ลิกภา พขอ งพร ะสอ น กับสถานศึกษา รู้จักปรับตัวให้ จิตไม่ให้หว่ันไหวต่อสิ่งเข้า ศี ลธ รร ม ในโ รง เ รี ย น น่ า เข้ากับ ผู้บ ริหาร ค รู แ ละ มากระทบและมีความเมตตา ต น เ อ ง ใ ห้ มี ค ว า ม รู้ เล่อื มใสศรัทธาของผู้พบเหน็ ความสามารถในการสอน ผู้เรียนให้อยู่ร่วมกันอย่างมี แกผ่ สู้ อน ความสขุ ในสถานศึกษา วิธกี ารพัฒนาศกั ยภาพ ด้านความรู้ ดา้ นทักษะ ด้านความ ดา้ นบุคลกิ ภาพ ด้านแรงจูงใจ คดิ เหน็ ตนเอง ๑. จัดอบรมความรู้ ๑.จดั พระนิเทศ ๑ . ฝึ ก อ บ ร ม ด้ า น ๑.ส่งเสริมอํานวยความ เพิม่ เตมิ ๒.ศกึ ษาดูงาน ๑.อบรมแลกเปลี่ยน บคุ ลกิ ภาพ สะดวก ๒. จัดหาผู้ เช่ยี วชาญ ๓.พฒั นาสอ่ื สาร ๒. สมั มนาแลกเปล่ียน ๒. จดั งานมอบรางวลั ๓. จดั ทาํ ค่มู ือ ๔ .พั ฒ น า ก า ร ใ ช้ ๒. ดูงานในสถาน ๓.ท่าทีการแสดงออก ๓.จัดตลาดนัดวชิ าการ ๔.ค้นคว้าตลอดเวลา เทคโนโลยี ศกึ ษาตา่ งๆ ท่ดี ี ๔ .มี ค ว า ม ม่ั น ใ จ แ ล ะ ๕.แลกเปลี่ยนความรู้ ๕.พัฒนาการบริหาร ๓. มจี ิตเมตตา ๔..ควบคุมอารมณ์ทีด่ ี เสียสละ ๖.มีความร้ชู ัดเจน หอ้ งเรยี น ๕.เรียนรู้ตลอดเวลา ๕.สร้างความภาคภมู ใิ จ ๔.สร้างความเช่ือมัน่ ๖.ม อ ง ค ว า ม สํ า เ ร็ จ ๕.เรียนรูส้ ง่ิ ใหม่ ผู้เรยี น สภาพ ๑.พระสอนศลี ธรรมนําหลกั สตู รมาใช้ในการการเรียนการสอนได้เหมาะสมกับผู้เรียน ทวั่ ไป ๒.พระสอนศลี ธรรมจัดเนื้อหาการเรยี นรู้วิชาพระพุทธศาสนได้เหมาะสมกบั ผเู้ รียน ๓. พระสอนศลี ธรรมวางแผนการเรียนการสอนและกาํ หนดทิศทางในการสอนไดเ้ หมาะสมกบั ผู้เรยี น ๔. พระสอนศีลธรรมมีทัศนคตติ ่อการจัดการเรยี นการสอนท่ดี ี แผนภาพที่ ๔.๑๒ องค์ความรทู้ ีไ่ ด้รบั จากการวจิ ัย
๑๙๙ จากแผนภาพที่ ๔.๑๒ องค์ความร้ทู ี่ไดร้ บั จากการวิจัยสรปุ ไดด้ งั น้ี ๑. การพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร เม่ือศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมพบว่า พระสอน ศีลธรรมส่วนใหญ่นําหลักสูตรมาใช้ในการการเรียนการสอนได้เหมาะสมกับผู้เรียน จัดเนื้อหาการ เรียนรู้วิชาพระพุทธศาสนได้เหมาะสมกับผู้เรียน มีการวางแผนการเรียนการสอนและกําหนดทิศทาง ในการสอนไดเ้ หมาะสมกับผเู้ รยี น และมที ัศนคตติ ่อการจัดการเรียนการสอนทดี่ ี ๒. การพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร มวี ิธีการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนประกอบด้วย ด้านความรู้ สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรพัฒนาศักยภาพด้านความรู้ของพระสอน ศีลธรรมโดยการจัดฝึกอบรมเพ่ิมเติม โดยจัดหาผู้เชี่ยวชาญมาให้คําแนะนํา และจัดทําคู่มือในการสอน ให้แก่พระสอนศีลธรรมได้นําไปใช้เพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพ ส่วนทางพระสอนศีลธรรม ต้องมีความรู้ ทางด้านธรรมะอย่างชัดเจนค้นคว้าหาความรู้อยู่ตลอดเวลา รวมทั้งมีการแลกเปล่ียนเรียนรู้กับพระ สอนศีลธรรมท่านอื่นดว้ ย ด้านทักษะ สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดผู้เชี่ยวชาญทางด้านทักษะ เข้ามานิเทศแล้ว ร่วมกันวางแผนเพ่ือให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ ศึกษาดูงานทางด้านทักษะ ส่วนทางพระสอน ศีลธรรม พัฒนาทางการส่ือสารในห้องเรียน มที ักษะการบริหารจัดการห้องเรียนรวมทั้งทักษะทางด้าน การใชเ้ ทคโนโลยี ด้านความเห็นเกี่ยวกับตนเอง สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ควรมีการจัดอบรม เพ่ือแลกเปล่ียน จัดศึกษาดูงานการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมที่ประสบความสําเร็จ ส่วนทาง พระสอนศีลธรรม ตอ้ งมีจติ เมตตาตอ่ ผูเ้ รียน มีความเชื่อม่นั ในตนเอง การเรียนรูส้ ่ิงใหม่ตลอดเวลา ด้านบุคลิกประจําตัว สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน จัดฝึกอบรมทางด้าน บุคลิกลักษณะ จัดสัมมนาเพื่อแลกเปล่ียนประสบการณ์ ส่วนพระสอนศีลธรรม มกี ิริยาให้เหมาะสมกับ ความเปน็ สมณะ ร้จู ักควบคมุ อารมณข์ องตนเอง เรียนรพู้ ัฒนาตนเองตลอดเวลา ด้านแรงจูงใจ สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องส่งเสริมและอํานวยความ สะดวกให้แก่พระสอนศีลธรรม ยกย่องและให้เกียรติโดยการจัดงานมอบรางวัลผลงาน จัดตลาดนัด วิชาการเพื่อเผยแผ่ผลงาน ส่วนพระสอนศีลธรรมมีความม่ันใจในการสอน มีความภาคภูมิใจในการ สอนและ มองความสําเรจ็ ของผู้เรยี น ๓. การพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ได้ดาํ เนินการหลักพทุ ธธรรม คือภาวนา ๔ ประกอบดว้ ย กายภาวนา เป็นการพัฒนาทางด้านบุคลิกภาพของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน น่า เล่ือมใสศรทั ธาของผพู้ บเหน็
๒๐๐ ศีลภาวนา เป็นการพัฒนาการพ่ึงพาอาศัยกันระหว่างพระสอนศีลธรรมกับสถานศึกษา รู้จกั ปรับตัวใหเ้ ข้ากบั ผู้บริหาร ครู และผ้เู รยี นใหอ้ ยู่รม่ กันอยา่ งมคี วามสุขในสถานศึกษา จิตภาวนา เป็นการพัฒนาจิตของพระสอนศีลธรรมด้วยการอบรมจิตไม่ให้หวั่นไหวต่อส่ิง เขา้ มากระทบและมคี วามเมตตาแก่ผู้สอน ปัญญาภาวนา เป็นการพัฒนาปัญญาแก่พระสอนศีลธรรมด้วยการฝึกฝนตนเองให้มีความรู้ ความสามารถในการสอน ๔. รูปแบบการพฒั นาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอน ประกอบด้วย ด้านเน้ือหาการสอนและหลักสูตร สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดฝึกอบรมโดยจัดให้มี ผู้ทรงคุณวุฒิมาสอน จัดเสวนาระหว่างพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนด้วยกันหรือกับหน่วยงานท่ี รับผิดชอบ จัดประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับพระสอนศีลธรรม ส่งเสริมสนับสนุน ประสานระหว่างพระสอนศีลธรรมกับสถานศึกษา ส่วนพระสอนศีลธรรม นําหลักธรรมมาประยุกต์ใช้ กับผเู้ รยี น ต้องพฒั นาความรเู้ กี่ยวกับหลักการการออกแบบหลักสตู ร ด้านวิธีการสอน สํานักงานพระสอนศีลธรรม ตั้งศูนย์ให้ความรู้ทางด้านวิธีการสอน พระพุทธศาสนาที่ จัดทําคู่มือด้านวิธีการสอนในวิชาพระพุทธศาสนา จัดและแต่งตั้งพระนิเทศติดตาม การสอนของพระสอนศีลธรรมเพื่อคอยแนะนําด้านวิธีการสอน ส่วนพระสอนศีลธรรม แสวงหาวิธีการ สอนที่ทันสมัยที่ให้ทันต่อผู้เรียนในยุคสมัยปัจจุบัน มีความรู้ในการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการสอน พฒั นาวธิ กี ารสอนของตนเองด้วยการฝกึ ฝนด้วยตนเอง ด้านการใช้สื่อการสอน สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดฝึกอบรมในการทําสื่อการสอน จัด ประกวดสื่อการสอนด้านพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นการกระตุ้นให้พระสอนศีลธรรมผลิตส่ือข้ึนใช้เอง ส่วนพระสอนศีลธรรม ผลิตสื่อได้ด้วยตนเอง ควรใช้สื่อประกอบการสอนที่หลากหลาย มีความชํานาญ ในการใชส้ ื่อการสอนโดยการฝกึ ฝนก่อนท่ีจะนําไปใช้ ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดฝึกอบรม แลกเปลี่ยนเชิงวิชาการ ทําคู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในวิชาพระพุทธศาสนา จัดให้มีพระ นิเทศ เพื่อปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมให้มีประสิทธิภาพมากข้ึน ส่วนพระสอนศีลธรรมมีกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายรูปแบบ จัดกิจกรรมการเรียนการสอน เป็นกิจกรรมท่ีทันสมัยต่อยุคปัจจุบันตอบโจทย์กับผู้เรียนได้ และจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ ผเู้ รียนมสี ่วนรว่ มด้วย ด้านวัดและประเมินผล สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการโดยเชิญ ผู้เช่ียวชาญ จัดทําคู่มือหรือเอกสารเกี่ยวกับการวัดผลและประเมินผลท่ีหลากหลาย พระสอนศีลธรรม มีความรูค้ วามเขา้ ใจในวิธกี ารวดั ผลและประเมนิ ผลเปน็ อย่างดี มีการประเมินผลทห่ี ลากหลาย
๒๐๑ ๔.๕.๒ องค์ความรู้ทไ่ี ด้สังเคราะหจ์ ากงานวิจัย แผนภาพท่ี ๔.๑๓ องคค์ วามรทู้ ีไ่ ด้สังเคราะห์จากงานวิจัย จากแผนภาพที่ ๔.๑๓ สรปุ องค์ความร้ทู ่ไี ดส้ งั เคราะหจ์ ากงานวิจัย ไดด้ ังนี้ การพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ๑. C = content and curriculum (เน้ือหาการสอนและหลกั สตู ร) ประกอบด้วย ๑) ฝึกอบรมหลักสูตรให้มีผู้ทรงคุณวุฒิมาสอนและทําหลักสูตรให้แก่พระสอน ศีลธรรม โดยสามารถปรับใชไ้ ดต้ ามสถานการณแ์ ละความตอ้ งการ โดยสาํ นกั งานพระสอนศลี ธรรม ๒) ประชุมเชิงปฏิบัติการจัดเพ่ือสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับพระสอน ศลี ธรรมในหลักสูตรวิชาพระพุทธศาสนา โดยสํานกั งานพระสอนศลี ธรรม ๓) ส่งเสริมสนับสนุนพระสอนศีลธรรม โดยทางสํานักงานพระสอนศีลธรรม ประสานระหว่างพระสอนศีลธรรมกับสถานศึกษาในการจัดสิ่งท่ีเอ้ืออํานวยในการสอนแก่พระสอน ศีลธรรมในสถานศึกษา
๒๐๒ ๔) นําหลักธรรมมาประยุกต์ใช้กับผู้เรียน ในการจัดการเรียนการสอนของพระ สอนศลี ธรรม ๕) มีความรู้ท่ีถูกต้อง ในการออกแบบหลักสูตร การพัฒนาหลักสูตร และการ ใชห้ ลกั สูตร ของพระสอนศลี ธรรม ๒. T = teaching techniques (วธิ กี ารสอน) ประกอบด้วย ๑) ต้ังศูนย์ให้ความรู้ โดยสํานักงานพระสอนศีลธรรม ให้ความรู้ทางด้าน วิธีการสอนพระพทุ ธศาสนาที่หลากหลายในแตล่ ะเขตของกรุงเทพมหานคร ๒) จัดทําคู่มือ ด้านวิธีการสอนในวิชาพระพุทธศาสนาให้แก่พระสอนศีลธรรม โดยทางสํานักงานพระสอนศีลธรรม ๓) แต่งต้ังพระนิเทศติดตามการสอนของพระสอนศีลธรรมเพื่อคอยแนะนํา ดา้ นวธิ ีการสอน โดยสํานักงานพระสอนศลี ธรรม ๔) ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการสอน สื่อสารผ่านระบบสมัยใหม่ของพระสอน ศีลธรรม ๕) ใช้วิธีการสอนที่หลากหลาย เพ่ือให้ผู้เรียนไม่เกิดความเบ่ือหน่ายและ นา่ สนใจมาก ของพระสอนศีลธรรม ๓. M = teaching medias (สอื่ การสอน) ประกอบด้วย ๑) จัดประชุมอบรมความรู้ด้านกระบวนการผลิตสื่อการเรียนการสอน โดย สํานกั งานพระสอนศีลธรรม ๒) จัดประกวดส่ือการสอนด้านพระพุทธศาสนา เพ่ือกระตุ้นให้พระสอน ศลี ธรรมผลติ สอ่ื ข้ึนใช้เองและสรา้ งนวตั กรรม โดยสาํ นักงานพระสอนศีลธรรม ๓) รู้จักวิธีหาสื่อการสอนและวิธีทําส่ือการสอนตามแหล่งต่างๆ ของพระสอน ศีลธรรม ๔) มีความชํานาญในการใชส้ ื่อการสอนในขณะท่ีสอน ของพระสอนศีลธรรม ๔. A = learning activities (กจิ กรรมการเรยี นการสอน) ประกอบด้วย ๑) สัมมนาเชิงวิชาการ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และแลกเปล่ียนความรู้ โดยสาํ นกั งานพระสอนศลี ธรรม ๒) จัดให้มีพระนิเทศเพื่อให้ประเมินผลพระสอนศีลธรรมในสถานศึกษา โดย สาํ นกั งานพระสอนศลี ธรรม ๓) ใช้กิจกรรมการเรียนการสอนท่ีหลากหลายรูปแบบเพ่ือให้ผู้เรียนไม่เกิด ความเบอ่ื หนา่ ย โดยพระสอนศีลธรรม
๒๐๓ ๔) มีกิจกรรมการเรียนการสอนที่ทันสมัยต่อยุคปัจจุบันตอบโจทย์กับผู้เรียนได้ โดยพระสอนศลี ธรรม ๕) ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมด้วยและลงมือปฏิบัติร่วมกับผู้เรียนด้วย โดยพระสอน ศลี ธรรม ๕. E = measurement and evaluation (วัดและประเมินผล) ประกอบดว้ ย ๑) ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในการสร้างเคร่ืองมือวัดผลและประเมินผลเพ่ิม ให้แก่พระสอนศลี ธรรม โดยสํานกั งานพระสอนศีลธรรม ๒) จัดทําคู่มือหรือเอกสารเก่ียวกับการวัดผลและประเมินผล โดยสํานักงาน พระสอนศลี ธรรม ๓) ประเมินผลที่หลากหลายเน้นการปฏิบัติให้สอดคล้องกับกระบวนการและ สาระการเรยี นรู้ โดยพระสอนศีลธรรม ๔) พัฒนาความรกู้ ารวดั และประเมนิ ผลตลอดเวลา โดยพระสอนศีลธรรม
บทท่ี ๕ สรุปผล อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ การวิจัยเร่ือง “การพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร” มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร เพ่ือศึกษาวิธีการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอน ของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร เพ่ือนําเสนอรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการ จัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ในบทน้ีผู้วิจัย สรุปผล อภปิ รายผลการวิจัย และขอ้ เสนอแนะ โดยแบง่ ออกเปน็ ๓ ข้อหลกั ดังนี้ ๕.๑ สรปุ ผลการวจิ ยั ๕.๒ อภปิ รายผลการวิจยั ๕.๓ ขอ้ เสนอแนะ ๕.๑ สรุปผลการวจิ ัย ๕.๑.๑ สรุปผลการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร มดี ังนี้ ผลการการศึกษาสภาพการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร จากการศกึ ษาสาํ รวจในเชงิ ปรมิ าณ สามารถสรปุ ไดด้ ังนี้ ๑. ผู้ตอบแบบสอบถาม จําแนกตาม อายุ การศึกษาข้ันสูงสุด และ ประสบการณ์ในการ สอน ของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร พบว่า มีอายุระหว่าง ๔๑-๕๐ ปี จํานวน ๗๕ รูป คิดเป็นร้อยละ ๓๔.๒, รองลงมา คือ มีอายุระหว่าง ๕๑ ปีข้ึนไป จํานวน ๖๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๐.๑ ถัดมา มีอายุระหว่าง ๓๑ - ๔๐ รูป จํานวน ๕๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๓.๓, อายุ ๒๐-๓๐ ปี จํานวน ๒๗ รูป คิดเป็นร้อยละ ๑๒.๓, การศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี จํานวน ๙๙ รูป คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๒, การศึกษาปริญญาตรี จํานวน ๙๖ รูป คิดเป็นร้อยละ ๔๓.๘, การศึกษาต่ํากว่าปริญญาตรี จํานวน ๒๔ รูป คิดเป็นร้อยละ ๑๑.๐, และมีประสบการณ์ในการสอน ๑๑ ปีข้ึนไป จํานวน ๙๙ รูป คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๒, รองลงมา คือ มีประสบการณ์ในการสอน ๖ - ๑๐ ปี จํานวน ๗๗ รูป คิดเป็น ร้อยละ ๓๕.๒, และสดุ ท้ายมีประสบการณส์ อน ๑ - ๕ ปี จํานวน ๔๓ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๑๙.๖ ๒. ผลการศึกษาระดับปฏิบัติการของพระสอนศีลธรรมท่ีมีต่อสภาพการจัดการเรียนการสอน ของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก มคี ่าเฉลีย่ เท่ากับ ๓.๘๐
๒๐๕ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมากเช่นกัน และได้เรียงลําดับค่าเฉลี่ย จากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านเน้ือหาการสอนและหลักสูตร มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๐๘, ด้านวิธีการสอน มีค่าเฉล่ียเท่ากับ ๓.๘๙, ด้านการใช้สื่อการสอน มีค่าเฉล่ียเท่ากับ ๓.๗๗, ด้านการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอน มีค่าเฉล่ียเท่ากับ ๓.๗๒, และด้านการวัดและประเมินผล มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๕๔, ตามลําดบั ๓. ข้อเสนอแนะมีด้งนี้ ด้านความรู้พระสอนศีลธรรมทุกรูปผ่านการอบรมจากหน่วยงาน ต้นสังกัดที่เก่ียวข้องมาแล้ว มีความรู้พอสมควรที่จะสอนนักเรียนได้เน่ืองจากว่าแต่รูปจบนักธรรมเอก เป็นอย่างน้อย มีการปรับตัวให้เข้ากับการเรียนการสอนทันยุคและก้าวทันเทคโนโลยีมีความรู้บูรณา การสอนธรรมะเข้าถึงเด็กได้ง่าย แต่การอธิบายความรู้ให้เข้าใจกับผู้เรียนยังมีน้อย ต้องมีจิตวิทยาใน การถ่ายทอด ด้านทักษะส่วนใหญ่มีทักษะการสอนในระดับค่อนข้างดี มีการประยุกต์ใช้ส่ือให้ตรงกับ เน้ือหาท่ีจะสอน และมีวิธีการสอนที่เหมาะสม มีทักษะหลากหลาย เน้นเป็นระบบออนไลน์ ด้าน ทัศนคติมีทัศนคติเป็นไปในทิศทางที่ดี ในฐานะพระสงฆ์ท่านอยากสอนธรรมของพระพุทธเจ้าแก่เด็ก และเยาวชน เพื่อให้เป็นคนดีมีศีลธรรม มุ่งจะให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน มีความสุขในการสอน มี ความรู้และนําไปปฏิบัติในชีวิตประจําวันได้ ด้านบุคลิกภาพ ต้องมีบุคลิกภาพท่ีดี เป็นที่น่าเล่ือมใส น่า เคารพ ยกย่องของ ผู้บริหาร ครูและนักเรียนในโรงเรียน ดํารงตนตั้งมั่นเป็นแบบอย่าง อยู่ในสมณะ สารูปเป็นรูปแบบที่ศรัทธาน่าเลื่อมใส มีศีลาจารวัตรที่ดี การแต่งกายสะอาดพูดถ้อยคําท่ีสุภาพ มีการ วางตัวอย่างเหมาะสมกับสมณะ ด้านแรงจูงใจ มีความปรารถนาดีอยากจะเผยแผ่คําส่ังสอนของ พระพุทธเจ้าในพระพุทธศาสนาให้เข้าถึงคนทุกชั้นทุกระดับให้เข้าใจธรรมะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ ด้านครูพระสอนศีลธรรมโดยตรง มีการจัดนิตยภัตถวาย มีการประชุม สัมมนาเพิ่มเติมความรู้ตาม ความเหมาะสม รวมทั้งมีความอดทน ท่ีจะสอนเด็กให้มีความก้าวหน้าทั้งทางโลกและทางธรรมให้คู่กัน ไป ๕.๑.๒ สรุปผลวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระ สอนศลี ธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ผลการศึกษาวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรยี น กรุงเทพมหานคร โดยการสัมภาษณ์เชงิ ลกึ สามารถสรุปไดด้ งั น้ี ๑. วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน ด้านความรู้ มีดังน้ี ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ควรพัฒนาศักยภาพด้าน ความรู้ของพระสอนศีลธรรมโดยการจัดฝึกอบรมอย่างสม่ําเสมอ โดยจัดหาผู้เชี่ยวชาญมาให้คําแนะนํา แก่พระสอนศีลธรรมและจัดทําคู่มือในการสอนให้แก่พระสอนศีลธรรมได้นําไปใช้เพื่อเพ่ิม ประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอน ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมีความรู้ทางด้าน ธรรมะอย่างชัดเจน รวมทั้งความรู้ทางด้านการจัดการเรียนการสอนด้วยโดยต้องค้นคว้าหาความรู้อยู่
๒๐๖ ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นทางด้านค้นคว้าด้วยตัวเองหรือสอบถามจากผู้รู้เพื่อให้การสอนมีประสิทธิภาพ รวมท้ังมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับพระสอนศีลธรรมท่านอื่นด้วยเพื่อเสริมตนเองมีความรู้ในการจัดการ เรยี นการสอนเพมิ่ ข้นึ ๒. วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน ด้านทักษะ มีดังนี้ ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ควรพัฒนาศักยภาพด้านทักษะ ของพระสอนศีลธรรมโดยจัดผู้เช่ียวชาญทางด้านทักษะ เข้ามานิเทศแล้วร่วมกันวางแผนเพื่อให้การ เรียนการสอนมีประสิทธิภาพนอกจากนั้นต้องมีการฝึกอบรมทางด้านทักษะหรือไปศึกษาดูงานให้แก่ พระสอนศีลธรรมด้วย ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมีการพัฒนาทางการส่ือสารในห้องเรียน ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน นอกจากนั้นทักษะการบริหารจัดการห้องเรียนรวมท้ังทักษะทางด้านจิตวิทยา กม็ ีความสาํ คญั และทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีในปจั จบุ นั ซึง่ มีความสําคญั มากพระสอนศลี ธรรมก็ต้องมี ๓. วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเอง มีดังนี้ ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ควรมีการ จดั อบรมเพื่อแลกเปลยี่ นความคิดในการจัดการเรยี นการสอนเพือ่ ให้เกดิ ความคดิ ท่หี ลากหลาย และจัด ศึกษาดูงานการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมท่ีประสบความสําเร็จ เพ่ือที่จะนําส่ิงท่ีดีน้ันเข้ามา ปรับปรุงในการสอนของตนเองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมีจิต เมตตาความปรารถนาดี เป็นกัลยาณมิตรต่อผู้เรียน ต่อมาต้องมีความเชื่อมั่นในตนเองในการสอน และ ต้องเปล่ียนแปลงความคิดของตนเองให้มีความทันสมัยต่อยุคปัจจุบันโดยการเรียนรู้ตลอดเวลา โดยเฉพาะทางดา้ นเทคโนโลยเี พ่ือนํามาจัดการเรยี นการสอนให้มปี ระสิทธภิ าพ ๔. วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน ด้านบุคลิกลักษณะประจําตัวของบุคคล มีดังน้ี ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ควรจัดฝึกอบรมทางด้านบุคลิกลักษณะของพระสอนศีลธรรมเพ่ือให้บุคลิกลักษณะท่ีเหมาะสมและดี ข้ึนเม่ือได้เข้าไปจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา และควรจัดสัมมนาเพื่อแลกเปล่ียนประสบการณ์ ทางด้านบุคลิกลักษณะของพระสอนศีลธรรมเพื่อนําไปปรับปรุงให้ดีข้ึน ๒) พระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน ควรมีท่าทีการแสดงออก ไม่ว่าทางด้านคําพูด กิริยาให้เหมาะสมกับความเป็นสมณะ และ รู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง มีจิตเมตตากับผู้เรียน ในการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา ต้อง เพ่มิ พนู ขา่ วสารเร่อื งราวใหม่ ท่เี ก่ยี วกบั การจัดการเรยี นสอนตลอดเวลา ๕. วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน ด้านแรงจูงใจ มีดังนี้ ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมุ่งส่งเสริมและอํานวย ความสะดวกให้แก่พระสอนศีลธรรมในการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาในด้านต่างๆ นอกจากน้ีต้อง ยกย่องและให้เกียรติโดยการจัดงานมอบรางวัลผลงานเพื่อเป็นกําลังใจแก่พระสอนศีลธรรมหรือการ จัดตลาดนัดวิชาการเพ่ือให้พระสอนศีลธรรมได้นําผลงานของตนเองออกเผยแผ่เพ่ือสร้างความ
๒๐๗ ภาคภูมิใจ ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องสร้างความมั่นใจให้กับตัวเราเองเม่ือมีความมั่นใจแล้ว การสอนก็จะเกิดประสิทธิภาพท่ีดีทําให้เกิดแรงจูงใจท่ีจะทําการสอน นอกจากนี้ความภาคภูมิใจในการ สอนของพระสอนศีลธรรมก็จะต้องเกิดขึ้นด้วยในขณะที่เราสอนและขณะท่ีเราสอนเสร็จแล้วและเมื่อ มองไปท่ผี ลสาํ เร็จของผูเ้ รียนเราก็จะเกิดแรงจูงใจท่จี ะเขา้ ไปสอนด้วย ๖. วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน ด้านภาวนา ๔ มีดังน้ี ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องจัดผึกอบรมในการ พัฒนาบุคลิกภาพของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนให้มีความม่ันใจและน่าเล่ือมใสศรัทธาของผู้พบเห็น นอกจากนี้ต้องพัฒนาจิตเพื่อให้เกิดความสงบและมีสมาธิ และพัฒนาทางด้านปัญญาด้วยการฝึกฝนให้ มีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอน ๒) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ต้องมีความ รับผิดชอบในการจัดการเรียนการสอน ท้ังต่อตนเองและเพื่อนร่วมงานรวมทั้งบุคคลรอบข้างด้วย โดยเฉพาะในสถานศึกษาที่เข้าไปสอนนอกจากน้ีต้องฝึกอบรมจิตใจไม่ให้หวั่นไหวในส่ิงที่เข้ามากระทบ ในการจัดการเรียนการสอนและต้องมีการพัฒนาบุคลิกภาพของตนเองให้ผู้พบเห็นเกิดศรัทธาและ ความเลอ่ื มใส ๕.๑.๓ สรุปผลรูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศลี ธรรมในโรงเรียน กรงุ เทพมหานคร ผลการศึกษา รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร โดยการสัมภาษณ์เชงิ ลกึ สามารถสรปุ ไดด้ ังน้ี ๑. รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านเนื้อหาการสอนและหลักสูตร มีดังนี้ ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดฝึกอบรมโดยจัดให้มีผู้ทรงคุณวุฒิมาสอนและทําหลักสูตรให้แก่พระสอนศีลธรรม โดยสามารถปรับ ใช้ได้ตามสถานการณ์และความต้องการ และจัดทําเป็นคู่มือให้พระสอนศีลธรรมได้นําไปใช้ต่อไป ๒) สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดเสวนาระหว่างพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนด้วยกันหรือกับหน่วยงานที่ รับผิดชอบเก่ียวกับการจัดการเรียนการสอนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างกว้างขวาง ๓) สํานักงานพระ สอนศีลธรรมจัดประชุมเชิงปฏิบัติการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับพระสอนศีลธรรมในหลักสูตรวิชา พระพุทธศาสนา และจัดทําหลักสูตรแบบย่อเพื่อให้ง่ายต่อการเรียนการสอน ๔) สํานักงานพระสอน ศีลธรรม ส่งเสริมสนับสนุนประสานระหว่างพระสอนศีลธรรมกับสถานศึกษาในการจัดส่ิงที่เอ้ืออํานวย ในการสอนแก่พระสอนศีลธรรมในสถานศึกษา เช่นห้องพระพุทธศาสนา วัสดุอุปกรณ์ส่ือการสอน หรือรถรับส่งพระสอนศีลธรรมเป็นต้น ๕) พระสอนศีลธรรม เนื้อหาที่มักซ้ําควรตัดออกบ้างและสอน เท่าท่ีจําเป็นต่อผู้เรียนนําหลักธรรมมาประยุกต์ใช้กับผู้เรียน ๖) พระสอนศีลธรรม มีความรู้เก่ียวกับ หลักการการออกแบบหลักสูตร การพัฒนาหลักสูตร และการใช้หลักสูตร มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ พัฒนาการของนกั เรียนทงั้ ทางดา้ นจิตวทิ ยา สรรี วทิ ยา และสงั คมวิทยา
๒๐๘ ๒. รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านวิธีการสอน มีดังนี้ ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรม เปิดศูนย์ให้ความรู้ ทางด้านวิธีการสอนพระพุทธศาสนาที่หลากหลายในแต่ละเขตของกรุงเทพมหานคร ที่มีหัวหน้าศูนย์ รับผิดชอบอยู่ เพื่อให้พระสอนศีลธรรมได้เข้าถึงวิธีการสอนใหม่ๆ ๒) สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควร จัดทําคู่มือด้านวิธีการสอนในวิชาพระพุทธศาสนาให้แก่พระสอนศีลธรรม ซ่ึงบางรูปเพ่ิงสอนได้ไม่นาน ยังไม่รู้วิธีการสอนพระพุทธศาสนาท่ีหลากหลาย ๓) สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดและแต่งต้ังพระ นิเทศติดตามการสอนของพระสอนศีลธรรมเพื่อคอยแนะนําด้านวิธีการสอนในวิชาพระพุทธศาสนา เพ่ือทําให้พระสอนศีลธรรมได้เข้าไปสอนวิขาพระพุทธศาสนาอย่างถูกวิธีด้วย ๔) พระสอนศีลธรรมใน ปัจจุบันควรแสวงหาวิธีการสอนที่ทันสมัย ท่ีให้ทันต่อผู้เรียนในยุคสมัยปัจจุบัน ไม่ใช่มีแต่รูปแบบ บรรยายอย่างเดียว แต่ต้องเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ โดยต้องมีวิธีการสอนท่ีหลากหลาย ๕) พระ สอนศีลธรรม มีความรู้ในการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการสอน เป็นการพัฒนาทักษะการสอนทําให้การ เรียนการสอนสื่อสารผ่านระบบ สมัยใหม่ เป็นส่ิงจําเป็นต่อยุคปัจจุบัน เพ่ือส่งเสริมการเรียนที่ไหน อย่างไรก็ได้ และสร้างชุดการเรียนรู้ที่สามารถเรียนที่ไหน เวลาไหน อย่างไรก็ได้ ๖) พระสอนศีลธรรม พัฒนาวิธีการสอนของตนเอง ด้วยการฝึกฝนด้วยตนเอง หรือหาสื่อที่มีวิธีการสอนท่ีหลากหลาย เพ่ือ นาํ มาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้ผูเ้ รียนไมเ่ กดิ ความเบอื่ หนา่ ยและน่าสนใจมากยงิ่ ขึน้ ๓. รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการใช้สื่อการสอน มีดังนี้ ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดประชุม อบรมความรู้ด้านกระบวนการผลิตส่ือการเรียนการสอนให้แก่พระสอนศีลธรรมโดยการเชิญ ผู้เช่ียวชาญในการทําส่ือการสอนโดยเฉพาะส่ือการสอนสําหรับใช้ในวิชาพระพุทธศาสนา ๒) สํานักงาน พระสอนศีลธรรม จัดประกวดส่ือการสอนด้านพระพุทธศาสนา เพ่ือเป็นการกระตุ้นให้พระสอน ศีลธรรมผลิตส่ือข้ึนใช้เองและจะได้มีส่ือการสอนท่ีเป็นนวัตกรรมเพิ่มขึ้นอีกด้วยอีกท้ังเป็นการส่งเสริม ให้พระสอนศีลธรรมได้มาแลกเปล่ียนส่ือด้วย ๓) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนผลิตสื่อได้ด้วยตนเอง รู้จักวิธีหา และวิธีทํา อาจจะค้นหาทางอินเทอร์เน็ต และรู้วิธีแลกเปลี่ยนส่ือระหว่างกันด้วย หรือจะหา ของใกล้ตัวมาเป็นส่ือ ๔) พระสอนศีลธรรม ใช้ส่ือประกอบการสอนที่หลากหลาย นําทุกส่ิงทุกอย่างซ่ึง อยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นวัสดุของจริง บุคคล สถานที่ เหตุการณ์ หรือความคิดเห็นซึ่งเป็นตัวกลางท่ี สําคัญในการส่ือความหมายระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ทําให้เข้าใจบทเรียนได้ง่ายขึ้นและทําให้การ เรียนการสอนสัมฤทธิ์ผลอย่างมีประสิทธิภาพ ๕) พระสอนศีลธรรมต้องมีความชํานาญในการใช้สื่อการ สอน โดยการฝึกฝนก่อนท่ีจะนําไปใช้ และควรให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการทําสื่อหรือใช้สื่อด้วยจะทําให้ เกดิ ความสนใจในการจัดการเรยี นรู้ ๔. รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีดังนี้ ๑) สํานักงานพระสอน
๒๐๙ ศีลธรรม จัดอบรมหรือสัมมนาเชิงวิชาการ เพ่ือถ่ายทอดประสบการณ์การจัดกิจกรรมการสอนจากผู้มี ประสบการณ์ตรง แลกเปล่ียนความรู้ความคิดเห็นเก่ียวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพ่ือให้ การสอนของพระสอนศีลธรรมได้ความรู้เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนใหม่ๆ เพ่ิมขึ้น ๒) สํานักงานพระสอนศีลธรรมทําคู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในวิชาพระพุทธศาสนาท่ีอ่าน แล้วสามารถนําไปปฏิบัติการสอนได้เลยหรือนําตัวอย่างของพระสอนศีลธรรมท่ีจัดกิจกรรมการเรียน การสอนที่ประสบความสําเร็จแล้วไว้ในคู่มือด้วย ๓) สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดให้มีพระนิเทศ เพ่ือให้มีการวัดและประเมินผลพระสอนศีลธรรมในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอย่างสม่ําเสมอ และเพ่ือปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ๔) พระสอนศีลธรรมมีกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายรูปแบบเพ่ือให้ผู้เรียนไม่เกิดความเบื่อ หน่ายและเกิดความน่าสนใจ ๕) พระสอนศีลธรรม จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นกิจกรรมที่ ทันสมัยต่อยุคปัจจุบันตอบโจทย์กับผู้เรียนได้ สอดคล้องกับวัย โดยเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นผู้ชี้นํา ไปเป็นผู้ช่วยเหลือส่งเสริมและสนับสนุนผู้เรียน ๖) พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจัดกิจกรรมการเรียน การสอนใหผ้ เู้ รียนมสี ่วนรว่ มด้วยทุกครัง้ ผสู้ อนตอ้ งเขา้ ไปเรยี นรู้และลงมือปฏิบัติร่วมกับผ้เู รยี นดว้ ย ๕. รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ด้านการวัดและประเมินผล มีดังนี้ ๑) สํานักงานพระสอนศีลธรรมจัด ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในการสร้างเคร่ืองมือวัดผลและประเมินผลเพิ่มให้แก่พระสอนศีลธรรม โดย เชิญผู้เช่ียวชาญหรือวิทยากรมาให้คําแนะนําในด้านทักษะเพ่ือสร้างความรู้ความเข้าใจให้พระสอน ศีลธรรมในด้านการสร้างเคร่ืองมือวัดผลและประเมินผลท่ีสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ให้แก่ พระสอนศีลธรรมเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติงาน ๒) สํานักงานพระสอนศีลธรรมต้องจัดทําคู่มือหรือ เอกสารเก่ียวกับการวัดผลและประเมินผลท่ีหลากหลายเพ่ือให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ใน วิชาพระพุทธศาสนาที่พระสอนศีลธรรมได้เข้าไปสอนในสถานศึกษา ซึ่งจะเป็นแนวทางให้พระสอน ศีลธรรมนํามาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพของแต่ละสถานศึกษา ๓) พระสอนศีลธรรมมีความรู้ความ เข้าใจในวิธีการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้และสถานศึกษาต้องส่งเสริมให้พระสอนศีลธรรมนํา ผลการวัดและประเมินผลมาใช้ในการปรับปรุงการเรียนการสอนให้ดีขึ้น ๔) พระสอนศีลธรรมใช้ วิธีการวัดและประเมินผลท่ีหลากหลายเน้นการปฏิบัติให้สอดคล้องกับกระบวนการและสาระการ เรียนรู้โดยอาศัยความร่วมมือจากครูและพระสอนศีลธรรม ๕) พระสอนศีลธรรมต้องมีความรู้ความ เข้าใจในวิธีการวัดผลและประเมินผลถ้ายังมีความรู้ยังไม่เพียงพอต้องเข้ารับการอบรมเพ่ิม ประสิทธภิ าพในการวดั ผลและประเมินผลเพื่อเพ่ิมประสทิ ธิภาพ
๒๑๐ สรุปได้ผลการวจิ ัยดังนี้ ๑. สภาพการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๘๐ และได้ดําเนินการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรยี นอยา่ งต่อเนือ่ ง ๒. วิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร มีขั้นตอนการดําเนินการ ๑) ด้านความรู้ จัดฝึกอบรม จัดหาผู้เช่ียวชาญ ทําคู่มือ ค้นคว้าความรู้ แลกเปล่ียนความรู้ และมีความรู้ชัดเจน ๒) ด้านทักษะ จัดหาพระนิเทศ ฝึกอบรม ศึกษาดูงาน พัฒนาทักษะสื่อสาร พัฒนาทักษะใช้เทคโนโลยี และพัฒนาทักษะบริหาร ห้องเรียน ๓) ด้านความคิดเห็นเก่ียวกับตนเอง จัดอบรมแลกเปลี่ยน จัดศึกษาดูงาน มีจิตเมตตา สร้าง ความเชื่อมั่นและเรียนรู้ส่ิงใหม่ตลอดเวลา ๔) ด้านบุคลิกลักษณะประจําตัวของบุคคล จัดฝึกอบรม จัด สัมมนาแลกเปลี่ยน ท่าทีแสดงออกที่ดี ควบคุมอารมณ์ที่ดี และเรียนรู้ส่ิงใหม่ตลอดเวลา ๕) ด้าน แรงจูงใจ ส่งเสริมและอํานวยความสะดวก จัดงานมอบรางวัล จัดตลาดนัดวิชาการ มีความมั่นใจและ เสียสละ สร้างความภาคภูมิใจ และมองความสําเร็จผู้เรียน ๖) ด้านภาวนา ๔ จัดฝึกอบรมพัฒนาจิต พัฒนาบคุ ลกิ ภาพ พฒั นาปญั ญา มคี วามรบั ผิดชอบ ควบคุมอารมณ์ และมีบุคลิกภาพที่ดี ๓. รูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร ๑) ด้านเน้ือหาการสอนและหลักสูตร จัดฝึกอบรม จัดเสวนา จัดประชุม เชิงปฏิบัติการ ส่งเสริมสนับสนุน ประยุกต์ให้เข้ากับปัจจุบัน และพัฒนาความรู้ออกแบบและใช้ หลักสูตร ๒) ด้านวิธีการสอน จัดต้ังศูนย์ให้ความรู้ ทําคู่มือ แต่ตั้งพระนิเทศ มีวิธีการสอนทันสมัย ใช้ เทคโนโลยี และพัฒนาวิธีการสอน ๓) ด้านการใช้สื่อการสอน ฝึกอบรมทําสื่อ จัดประกวดส่ือการสอน ผลิตได้ด้วยตนเอง ให้ส่ือหลากหลาย และทีความชํานาญในการใช้ส่ือ ๔) ด้านการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอน ฝึกอบรมแลกเปลี่ยน ทําคู่มือ แต่งตั้งพระนิเทศ มีกิจกรรมหลากหลาย กิจกรรมทันสมัย และผู้เรียนมีส่วนร่วม ๕) ด้านการวัดและประเมินผล ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ จัดทําคู่มือ มีความรู้ เข้าใจ ประเมนิ อยา่ งหลากหลาย เข้ารบั การฝึกอบรม ๕.๒ อภปิ รายผลการวิจยั จากการศึกษาวิจัยเร่ือง “การพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร” ผู้วิจัยได้ศึกษาวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยและได้ ค้นพบความรใู้ หมเ่ ปน็ รูปแบบความสมั พันธ์ขององคป์ ระกอบหลกั ของการวจิ ัย มีประเดน็ อภปิ รายดังนี้ ๑. สภาพการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน กรุงเทพมหานคร ส่วนมากพระสอนศีลธรรมมีอายุระหว่าง ๔๑-๕๐ ปี มีการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี และมี ประสบการณ์ในการสอน ๖-๑๐ ปี ระดับปฏิบัติการภาพรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนใหญ่พระสอน
๒๑๑ ศีลธรรมมีประสบการณ์ในการสอนมาอย่างยาวนาน มีการปรับตัวให้เข้ากับการเรียนการสอนทันใน ปัจจุบันและก้าวทันเทคโนโลยี สอนธรรมะเข้าถึงเด็กได้ง่าย มีทักษะการสอนในระดับค่อนข้างดี มีการ ประยุกต์ใช้ส่ือการสอนให้ตรงกับเนื้อหาท่ีจะสอนและมีความทันสมัย มีทัศนคติท่ีดีต่อการจัดการเรียน การสอนสว่ นใหญ่พระสอนศีลธรรมมีประสบการณ์ในการสอนมาอย่างยาวนาน มีการปรับตัวให้เข้ากับ การเรียนการสอนทันในปัจจุบันและก้าวทันเทคโนโลยี สอนธรรมะเข้าถึงเด็กได้ง่าย มีทักษะการสอน ในระดับค่อนข้างดี มีการประยุกต์ใช้ส่ือการสอนให้ตรงกับเนื้อหาท่ีจะสอนและมีความทันสมัย มี ทัศนคติที่ดีต่อการจัดการเรียนการสอนแสดงให้เห็นว่า พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนกรุงเทพมหานคร มีการจัดการเรียนการสอนในสถานศึกษา ภาพรวมค่อนข้างดี ไม่จะเป็นส่วนของพระสอนศีลธรรมซ่ึงมี หน้าท่ีจะต้องจัดการเรียนการสอนให้กับผู้เรียน และการประสานงานร่วมมือกับบุคคลท่ีอยู่ใน สถานศึกษาไม่ว่าจะเป็น ผู้บริหารสถานศึกษา ครู เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ พระมหา สราวุธ สราวุโธ (แสงสี)๑ ได้วิจัยเรื่อง การพัฒนาศักยภาพพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนมัธยมศึกษา ตอนปลาย ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๕ ผลการวิจัยพบว่า พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนมีการ ประชุมวางแผนเพ่ือกําหนดการเรียนการสอน มีความเข้าใจเกี่ยวกับการดําเนินงานการเรียนการสอน ท่ีชัดเจน มีการนํานโยบายของสํานักงานพระสอนศีลธรรมมาสู่การปฏิบัติในสถานศึกษา พระสอน ศีลธรรมในโรงเรียนส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเป็นประจํา และไม่สอดคล้องกับ งานวิจัยของ พระยงยุทธ กตธุโร๒ ได้วิจัยเร่ือง การพัฒนาการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาของ พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ในอําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผลการวิจัยพบว่า พระสอน ศีลธรรมบางรูป ขาดทักษะในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เกิดแรงจูงใจให้ผู้นําไปใช้ ดังน้ัน สํานักงานพระสอนศีลธรรมควรปรับเนื้อหาให้มีความน่าเรียนและน่าสนใจเหมาะกับวัยเด็กนักเรียน ควรพฒั นาหลกั สตู รวชิ าพระพทุ ธศาสนาให้ตอบสนองกบั ความตอ้ งการของนักเรียน ๒. ผลการศึกษาวิธีการในการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรียน ๑) ด้านความรู้ พบว่า ทางสํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน จัดฝึกอบรม อย่างสม่ําเสมอ จัดหาผู้เชี่ยวชาญ และจัดทําคู่มือในการสอน ส่วนทางพระสอนศีลธรรม มีความรู้ทาง อย่างชัดเจน ค้นคว้าหาความรู้อยู่ตลอดเวลา การแลกเปล่ียนเรียนรู้ แสดงให้เห็นว่าทางด้านสํานักงาน พระสอนศีลธรรมและทางด้านพระสอนศีลธรรมเองจําเป็นต้องหาวิธีการพัฒนาศักยภาพด้านความรู้ ๑ พระมหาสราวุธ สราวุโธ, “การพัฒนาศักยภาพพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๕”, ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ, (บัณฑิต วิทยาลัย : มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๖๒), หนา้ ๑๙๕. ๒ พระยงยุทธ กตธุโร, “การพัฒนาการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน ในอําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์”, วารสารพุทธนวัตกรรมและการจัดการ, ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๑ (มกราคม- มถิ นุ ายน ๒๕๖๔) : ๒๘.
๒๑๒ เพื่อเพิ่มศักยภาพพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนอย่างจริงจัง ซื่งสอดคล้องกับงานวิจัย ของ อานนท์ เมธีวรฉัตร๓ ได้วิจัยเร่ือง รูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะด้านการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรียนในเขตการปกครองคณะสงฆ์ ภาค ๔ ผลการวิจัยพบว่า สมรรถนะด้านการสอน พระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ในเขตการปกครองคณะสงฆ์ ภาค ๔ ในกิจกรรมในการส่งเสริมพระสอน ศีลธรรม ด้านความรู้ ได้แก่ การพัฒนาตนเอง การประชุมอบรมและศึกษาดูงาน การส่งบุคลากรไป ศึกษาต่อและฝึกอบรม การจัดการความรู้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถอดประสบการณ์ ๒) ด้านทักษะ พบว่าทางสํานักงานพระสอนศีลธรรม สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน จัดผู้เชี่ยวชาญทางด้าน ทักษะเข้ามานิเทศ ฝึกอบรมทางด้านทักษะ ศึกษาดูงาน ส่วนพระสอนศีลธรรม พัฒนาทางการส่ือสาร ในห้องเรียนระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน พัฒนาทักษะการบริหารจัดการห้องเรียน ทักษะการใช้ เทคโนโลยีแสดงให้เห็นว่า ทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรมและทางด้านพระสอนศีลธรรมเอง จําเป็นต้องหาวิธีการพัฒนาศักยภาพด้านทักษะ เพื่อเพิ่มศักยภาพพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียน การสอนอย่างจริงจัง ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ พระมหาสิทธินารถ ญาณชโย๔ ได้วิจัยเรื่อง รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการพัฒนา สมรรถนะของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนด้านทักษะ สื่อสารความรู้และทักษะในการปฏิบัติงานอย่าง เป็นกันเองและใช้ทักษะการสื่อสารท่ีดี และหลากหลายกับเพ่ือนร่วมงาน ปฏิบัติตนตามหลักพุทธ ธรรม ฝึกฝนการปฏิบัติให้มีบุคลิกภาพท่ีดี แสดงออกถึงความเป็นกันเองสนิทสนมอย่างน่ารัก และโน้ม น้าวจูงใจเพื่อช่วยเหลือดําเนินงาน หรือแก้ไขปัญหา ๓) ด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับตนเอง พบว่าทาง สํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดอบรมเพ่ือแลกเปลี่ยน และจัดศึกษาดูงาน ส่วนทางพระสอนศีลธรรม มีจิตเมตตามีความเชื่อม่ันในตนเอง และมีความทันสมัยด้านเทคโนโลยี แสดงให้เห็นว่า ทางด้าน สํานักงานพระสอนศีลธรรมและทางด้านพระสอนศีลธรรมเองจําเป็นต้องหาวิธีการพัฒนาศักยภาพ ด้านความคิดเห็นเก่ียวกับตนเอง เพ่ือเพ่ิมศักยภาพพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนอย่าง จริงจัง ซ่ืงสอดคล้องกับงานวิจัยของ พระมหาอําพล ธนปญฺโญ (ชัยสารี)๕ ได้วิจัยเร่ือง ศึกษาความ ต้องการการพัฒนาสมรรถนะการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดหนองคาย ผลการวิจัย พบว่า แนวทางในการพัฒนาสมรรถนะการสอนของพระสอนศีลธรรม จังหวัดหนองคาย ควรมีการจัด ๓ อานนท์ เมธีวรฉัตร, “รูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะด้านการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียนในเขตการปกครองคณะสงฆ์ ภาค ๔”, วารสารบัณฑิตปริทรรศน์, ปีท่ี ๗ ฉบับที่ ๒ (พฤษภาคม-สิงหาคม ๒๕๖๒) : ๑๗๒-๑๗๓. ๔ พระมหาสุทธินารถ ญาณชโย, “รูปแบการพัฒนาสมรรถนะพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน”, วารสาร สนั ติศกึ ษาปริทรรศน,์ ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๒ (เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๖๑) : ๗๐๓-๗๐๖. ๕ พระมหาอําพล ธนปญฺโณ (ชัยสารี), “ศึกษาความต้องการพัฒนาสมรรถนะการสอนของพระสอน ศลี ธรรมในโรงเรียนจังหวัดหนองคาย”, วารสารศกึ ษติ าลยั , ปที ่ี ๒ ฉบบั ท่ี ๓ (กนั ยายน-ธนั วาคม ๒๕๖๔) : ๕๗.
๒๑๓ อบรมเชิงปฏิบัติการ วางแผนการทํางานให้พระสอนศีลธรรมอย่างเป็นระบบระเบียบ ควรอบรมการใช้ สื่อเทคโนโลยีและส่ือประดิษฐ์ให้แก่พระสอนศีลธรรม และสนับสนุนงบประมาณด้านดําเนินการสอน ๔) ด้านบุคลิกลักษณะประจําตัวของบุคคล พบว่าทางสํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดฝึกอบรมและ ควรจัดสัมมนาเพื่อแลกเปล่ียน ส่วนทางพระสอนศีลธรรม ท่าทีการแสดงออกให้เหมาะสม รู้จัก ควบคุมอารมณ์ของตนเอง มีจิตเมตตา ต้องเพิ่มพูนข่าวสารเรื่องราวใหม่ แสดงให้เห็นว่า ทางด้าน สํานักงานพระสอนศีลธรรมและทางด้านพระสอนศีลธรรมเองจําเป็นต้องหาวิธีการพัฒนาศักยภาพ ด้านบุคลิกลักษณะประจําตัวของบุคคล เพื่อเพ่ิมศักยภาพพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการ สอนอย่างจริงจัง ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ พระบุญเสริม ปภสฺสโร๖ ได้วิจัยเรื่อง บทบาทของพระ สอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดสมุทรสาคร ผลการวิจัยพบว่า พระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัด สมุทรสาคร มีบทบาท โดยรวมท้ัง ๓ ด้าน อยู่ในระดับมากโดยมีด้านบุคลิกภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ให้ข้อเสนอแนะเก่ียวกับปัญหาและแนวทางแก้ไข ด้านบุคลิกภาพ ได้แก่ พระสอนศีลธรรมบางรูป ต่ืนเต้น และยังปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในโรงเรียนไม่ได้ ดังน้ัน พระสอนศีลธรรมควรหาวิธีฝึก ตนเองให้เกิดความเช่ือมั่น และมั่นใจว่าเราต้องทําได้และปรับตัวได้ พระสอนศีลธรรมบางรูปให้ความ สนิทสนมกับนักเรียนมากเกินไป ทําให้นักเรียนไม่เกรงใจ ดังน้ัน พระสอนศีลธรรมควรวางตัวเป็นกลาง โดยไม่เลือกปฏิบัติเพื่อให้นักเรียนเกิดความเกรงใจและเป็นท่ีเคารพของทุกคน ๕) ด้านแรงจูงใจ พบว่า ทางสํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ส่งเสริมและอํานวยความสะดวกให้แก่พระสอนศีลธรรม และจัดงานมอบรางวัลผลงาน ส่วนทางพระสอนศีลธรรม สร้างความมั่นใจให้กับตัวเราเอง ความ ภาคภูมิใจในการสอน และมองไปท่ีผลสําเร็จของผู้เรียน แสดงให้เห็นว่า ทางด้านสํานักงานพระสอน ศีลธรรมและทางด้านพระสอนศีลธรรมเองจําเป็นต้องหาวิธีการพัฒนาศักยภาพด้านแรงจูงใจ เพ่ือเพ่ิม ศักยภาพพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนอย่างจริงจัง ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ พระเมธาวินัยรส (สุเทพ พุทธจรรยา)๗ ได้วิจัยเร่ือง การส่งเสริมศักยภาพการสอนธรรมและการนํา ปฏิบัติธรรมของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน สังกัดมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (ศาลายา) ผลการวิจัยพบว่า ผลการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการส่งเสริมศักยภาพการสอนธรรมและนําปฏิบัติธรรม โดยรวมอยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณาจําแนกตามรายด้านพบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดย เรียงลําดับจากค่าเฉล่ียสูงสุดไปหาต่ําสุด ดังนี้ ความถนัดและความพึงพอใจในงาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ด้านความเอาใจใส่ของผู้บังคับบัญชา และด้านความพึงพอใจในงาน ส่วนด้านที่มีค่าเฉล่ีย ๖ พระบุญเสริม ปภสฺสโร, “บทบาทของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดสมุทรสาคร”, วารสารสิ รินธรปรทิ รรศน์, ปีท่ี ๒๒ ฉบบั ที่ ๒ (กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๖๔) : ๒๙๘. ๗ พระเมธาวินัยรส (สุเทพ พุทธจรรยา), “การส่งเสริมศักยภาพการสอนธรรมและการนําปฏิบัติธรรม ของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน สังกัดมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (ศาลายา) ”, วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, ปีท่ี ๘ ฉบับท่ี ๓ (กรกฎาคม-กนั ยายน ๒๕๖๒) : ๒๙.
๒๑๔ ตํ่าสุด คือ ด้านการพิจารณาความดีความชอบและสวัสดิการซ่ึงมีค่าแปลผลอยู่ในระดับมากตามลําดับ ๖) ด้านภาวนา ๔ พบว่า ทางสํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน จัดฝึกอบรมในการพัฒนา บุคลิกภาพ พัฒนาจิตและพัฒนาทางด้านปัญญา ส่วนทางพระสอนศีลธรรม มีความรับผิดชอบ ฝึกอบรมจิตใจไม่ให้หว่ันไหวและมีการพัฒนาบุคลิกภาพของตนเอง แสดงให้เห็นว่า ทางด้านสํานักงาน พระสอนศีลธรรมและทางด้านพระสอนศีลธรรมเองจําเป็นต้องหาวิธีการพัฒนาศักยภาพมาบูรณาการ ด้านหลักธรรมด้านภาวนา ๔ เพ่ือเพ่ิมศักยภาพพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนอย่าง จริงจัง ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ พรพรรณ โปรเทียรณ์๘ ได้วิจัยเร่ือง รูปแบบการพัฒนา สมรรถนะการปฏิบัติงานตามหลักภาวนา ๔ ของบุคลากรสายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬา ลงกรณราชวิทยาลัย ผลการวิจัยพบว่า การนําหลักภาวนา ๔ พัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานหลัก ๕ ด้าน เกิดคุณค่าเป็นประโยชน์ในการศึกษาและพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพสูงข้ึนกายภาวนาคือการ พัฒนาทางกายภาพให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและศีลภาวนา คือการพัฒนาทางสังคมอยู่กับสังคม อย่างมีความสุข จิตภาวนา คือการพัฒนาอารมณ์ความรู้สึกท่ีจะทําให้มีความอดทนและความเพียร สูงข้ึนมีสมาธิมั่นคงแน่วแน่ ปัญญาภาวนาคือ การเข้าถึงความรู้มีวิธีการความสามารถในการปฏิบัติงาน ทีม่ ปี ระสิทธิภาพเข้าใจความเปน็ จริงอยา่ งสมบรู ณ์ ๓. ผลการศึกษารูปแบบการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรยี น กรุงเทพมหานคร ๑) ด้านเนื้อหาการสอนและหลักสูตร พบว่า ทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรม จัด ฝึกอบรมโดยจัดให้มีผู้ทรงคุณวุฒิมาสอนและทําหลักสูตร จัดเสวนาเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่าง กว้างขวาง จัดประชุมเชิงปฏิบัติหลักสูตรวิชาพระพุทธศาสนา ส่งเสริมสนับสนุนประสานให้พระสอน ศีลธรรม ส่วนทางด้านพระสอนศีลธรรม นําหลักธรรมมาประยุกต์ใช้กับผู้เรียน และมีความรู้เก่ียวกับ หลักการการออกแบบหลักสูตรการพัฒนาหลักสูตร แสดงให้เห็นว่า ทางด้านสํานักงานพระสอน ศีลธรรมและทางด้านพระสอนศีลธรรมเองจําเป็นต้องหารูปแบบพัฒนาศักยภาพด้านเน้ือหาการสอน และหลักสูตร เพื่อมาพัฒนาศักยภาพพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนอย่างจริงจัง สอดคล้องกับงานวิจัยของ จิรทัศน์ เนธิบุตร๙ ได้วิจัยเร่ือง บทบาทครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา ผลการวิจัยพบว่า แนวทางการพัฒนาการ จัดการเรียนการสอนของครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ด้านการศึกษาควรยกระดับการศึกษาของ ๘ พรพรรณ โปรเทียรณ์, “รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานตามหลักภาวนา ๔ ของบุคลากร สายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย”, ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา พทุ ธบริหารการศึกษา, (บัณฑติ วิทยาลัย : มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๖๑), หนา้ ๒๒๒. ๙ จิรทัศน์ เนธิบุตร, “บทบาทครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตลา้ นนา”, วารสารพุทธสังคมวทิ ยาปรทิ รรศน,์ ปีท่ี ๖ ฉบับที่ ๒ (เมษายน-มิถุนายน ๒๕๖๔) : ๒.
๒๑๕ ตนเอง ควรพัฒนาหลักสูตรครูพระสอนศีลธรรม มีการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการสอนให้ทันสมัย ด้าน การสอนควรมีหลักสูตรการสอนที่มีคุณภาพ มีวิธีการใช้ส่ือการสอนท่ีหลากหลายทันสมัยทัน สถานการณป์ ัจจบุ ันและสอดคล้องกับเนอื้ หา ๒) ด้านวิธีการสอน พบว่า ทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรม เปิดศูนย์ให้ความรู้ ทางด้านวิธีการสอนพระพุทธศาสนา จัดทําคู่มือด้านวิธีการสอนในวิชาพระพุทธศาสนา จัดและ แต่งตั้งพระนิเทศติดตามการสอน ส่วนทางด้านพระสอนศีลธรรม แสวงหาวิธีการสอนท่ีทันสมัย มี ความรู้ในการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการสอน และพัฒนาวิธีการสอนของตนเองแสดงให้เห็นว่า ทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรมและทางด้านพระสอนศีลธรรมเองจําเป็นต้องหารูปแบบพัฒนา ศักยภาพด้านวิธีการสอน เพ่ือมาพัฒนาศักยภาพพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนอย่าง จริงจัง สอดคล้องกับงานวิจัยของ พระชัยประสิทธิ์ ภทฺทธมฺโม๑๐ ได้วิจัยเรื่อง การสอนศีลธรรมใน โรงเรียนประถมศึกษาตามหลักไตรสิกขา ผลการวิจัยพบว่า การจัดการเรียนการสอนพระพุทธศาสนา ที่เหมาะสมกับผู้เรียนในยุคปัจจุบัน ควรต้องเป็นการเรียนรู้อย่างลึกซ้ึงจากการลงมือปฏิบัติจริง ท่ี ผู้เรียนได้ลงมือทําในส่ิงท่ีตัวเองชอบและสนใจโดยผ่านการออกแบบของผู้สอน สามารถนําพาผู้เรียน ไปสู่ความรู้ความเข้าใจ ทักษะ สมรรถนะ มีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อเข้าไปรับผิดชอบต่อส่ิงแวดล้อม รอบตัว สังคมและสามารถนําไปใช้ในชวี ิตจริงได้อยา่ งมีความสขุ และนําสงั คมสู่สนั ตสิ ขุ ต่อไป ๓) ด้านการใช้ส่ือการสอน พบว่า ทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดประชุมอบรม ความรู้ด้านกระบวนการผลิตสื่อการเรียนการสอน จัดประกวดส่ือการสอนด้านพระพุทธศาสนา ส่วน ทางด้านพระสอนศีลธรรม ผลิตส่ือได้ด้วยตนเอง ใช้ส่ือประกอบการสอนที่หลากหลาย และมีความ ชํานาญในการใช้ส่ือการสอน แสดงให้เห็นว่า ทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรมและทางด้านพระ สอนศีลธรรมเองจําเป็นต้องหารูปแบบพัฒนาศักยภาพด้านการใช้สื่อการสอน เพ่ือมาพัฒนาศักยภาพ พระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนอย่างจริงจัง สอดคล้องกับงานวิจัยของ พัชรา นันทจินดา๑๑ ได้วิจัยเรื่อง การจัดการเรียนการสอนตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร : กรณีศึกษา โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ พบว่า ในด้านการใช้สื่อการสอน ครูเข้าใจส่ิงที่เรียนได้เป็นอย่างดี ส่วนมากใช้ส่ือการสอนท่ีผลิตขึ้นเองและใช้เป็นครั้งคราว ส่ิงท่ีใช้มากท่ีสุด ได้แก่หนังสือแบบเรียน กระดานดําและการสาธิต ครูหาสื่อการสอนที่ตรงจุดมุ่งหมายได้ยาก ครูขาดความรู้ในการใช้ส่ือการ สอน โรงเรียนมีสื่อการสอนน้อยไม่เพียงพอ ครูมีความต้องการในการใช้สื่อการสอนอยู่ในระดับมาก ๑๐ พระชัยประสิทธิ์ ภทฺทธมฺโม, “การสอนศีลธรรมในโรงเรียนประถมศึกษาตามหลักไตรสิกขา ”, วารสารวิชาการ, ปีท่ี ๒ ฉบับที่ ๒ (กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๖๒) : ๘๖. ๑๑ พัชรา นันทจินดา, “การจัดการเรียนการสอนตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร: กรณีศึกษาโรงเรียน พระหฤทัยคอนแวนต์”,ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน, (บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์, ๒๕๕๔), หน้า ๒๑๕.
๒๑๖ ครูมีความต้องการให้มีการอบรมเก่ียวกับการใช้ส่ือการสอน ต้องการวารสาร หรือส่ิงพิมพ์ท่ีให้ความรู้ ด้านข่าวสาร แนะนําการใช้เคร่ืองมือทางเทคโนโลยีทางการศึกษา และครูต้องการให้ผู้บริหาร สนบั สนุนส่งเสรมิ ในการใช้สอ่ื การสอนต้องการใหม้ ีหนว่ ยบริการส่อื การสอน ๔) ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน พบว่า ทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรม จัด อบรมหรือสัมมนาเชิงวิชาการ ทําคู่มือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในวิชาพระพุทธศาสนาจัดให้มี พระนิเทศ ส่วนทางด้านพระสอนศีลธรรม มีกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีหลากหลาย กิจกรรมท่ี ทันสมัยต่อยุคปัจจุบันตอบโจทย์กับผู้เรียนได้ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม แสดง ให้เห็นว่า ทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรมและทางด้านพระสอนศีลธรรมเองจําเป็นต้องหารูปแบบ พัฒนาศักยภาพด้านการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพ่ือมาพัฒนาศักยภาพพระสอนศีลธรรมในการ จัดการเรียนการสอนอย่างจริงจัง สอดคล้องกับงานวิจัยของ วิรัตน์ ทองภู๑๒ ได้วิจัยเร่ือง การศึกษา รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงพุทธบูรณาการของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดขอนแก่น พบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงพุทธบูรณาการของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดขอนแก่น สรุปได้ ว่า ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ มีกิจกรรมที่น่าสนใจและทันสมัยบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่มี การสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมในการเรียนการสอน การจัดการเรียนรู้เชิงพุทธบูรณาการของพระ สอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดขอนแก่น มีแผนการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับหน่วยการเรียนรู้มี องค์ประกอบการเรียนรู้ที่มีสาระสําคัญครบถ้วน สร้างความคิดรวบยอดกับมาตรฐานการเรียนรู้มีสาระ การเรียนรู้ที่เหมาะสมกับระยะเวลา เน้นการนําความรู้ไปใช้ในการคิดวิเคราะห์เชิงสร้างสรรค์ ด้าน กิจกรรมการเรียนรู้ แบ่งเป็นข้ันเป็นตอนตามความเหมาะสมกับสาระการเรียนรู้ในแต่ละระดับช้ัน เน้น กิจกรรมท่ีมีความหลากหลายและสามารถนําไปปรับใช้ในชีวิตประจําวันได้จริง ส่งเสริมกระบวนการ คิดของนกั เรียน สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม และคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ ๕) ด้านการวัดและประเมินผล พบว่าทางด้านสํานักงานพระสอนศีลธรรม จัดฝึกอบรมเชิง ปฏิบัติการในการสร้างเครื่องมือวัดผลและประเมินผล จัดทําคู่มือหรือเอกสารเกี่ยวกับการวัดผลและ ประเมินผล ส่วนทางด้านพระสอนศีลธรรม มีความรู้ความเข้าใจในวิธีการวัดผลและประเมินผล ใช้วิธีการวัดและประเมินผลที่หลากหลาย เข้ารับการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นว่า ทางด้าน สํานักงานพระสอนศีลธรรมและทางด้านพระสอนศีลธรรมเองจําเป็นต้องหารูปแบบพัฒนาศักยภาพ ด้านการวัดและประเมินผล เพื่อมาพัฒนาศักยภาพพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนอย่าง ๑๒ วิรัตน์ ทองภู, “การศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงพุทธบูรณาการของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียนจังหวัดขอนแก่น”, วารสาร Journal of Buddhist Education and Research มหาวิทยาลัยมหา จุฬาลง กรณราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตขอนแก่น, ปที ี่ ๖ ฉบับท่ี ๑ (๒๕๖๓) : ๔๐๕.
๒๑๗ จริงจัง สอดคล้องกับงานวิจัยของ เบญจมาศ พุทธิมา๑๓ ได้วิจัยเรื่อง การพัฒนาสมรรถนะการสร้าง เครื่องมือวัดและประเมินผลการศึกษาของครูผู้สอน โดยใช้เทคนิคการเสริมพลังอํานาจ ผลการวิจัย พบว่า สมรรถนะการสร้างเคร่ืองมือวัดและประเมินผลการศึกษาของครูผู้สอน ในจังหวัดลําปาง ๓ ด้าน ประกอบด้วย ด้านความรู้ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจอยู่ในระดับสูง ด้านเจตคติ ครูผู้สอนมีเจต คติต่อการสร้างเครื่องมือวัดและประเมินผลการศึกษาอยู่ในระดับดีและ ด้านทักษะ ครูผู้สอนสามารถ สร้างเครอ่ื งมอื วัดและประเมินผลการศกึ ษาอยู่ในระดบั สูง ๕.๓ ข้อเสนอแนะ จากผลการวิจัยการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน กรุงเทพมหานคร เพ่ือให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรยี นผ้วู จิ ยั จงึ ขอเสนอแนะดังน้ี ๕.๓.๑ ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบาย ๑. สํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนควรออกนโยบายเกี่ยวกับ เรื่องนิตยภัตของพระ สอนศลี ธรรมให้มีความสมดลุ ตอ่ ผลงานหรือวุฒกิ ารศกึ ษาเปน็ ตน้ ๒. สํานักงานพระสอนศีลธรรม ควรออกนโยบายเกี่ยวกับการนิเทศติดตามและคอย ช่วยเหลือสนับสนุนในการสอนของพระสอนศีลธรรม เมื่อเข้าไปในสถานศึกษา เพ่ือให้พระสอน ศีลธรรมปรกึ ษาไดใ้ นเวลาทมี่ ีปัญหาในการสอน ๕.๓.๒ ขอ้ เสนอแนะเชงิ ปฏิบัติการ ๑. พระสอนศีลธรรม ควรประชุมระหว่างผู้บริหารสถานศกึ ษา ครู เพอ่ื ความเขา้ ใจตรง กนั เม่ือขา้ ไปสู่สถานศกึ ษา ๒. พระสอนศีลธรรมต้องเข้ารับการอบรมก่อนที่จะออกปฏิบัติการสอนในแต่ละปี การศึกษา เพื่อใหก้ ารปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษาเปน็ ไปในแนวทางเดยี วกนั ๓. พระสอนศีลธรรมผลิตหรือหาสื่อการสอนข้ึนใช้เองหรือจัดแลกเปล่ียนระหว่างพระสอน ศีลธรรมดว้ ยกัน ๔. พระสอนศีลธรรมควรมเี ทคนิคการสอนทหี่ ลากหลาย ๕. พระสอนศีลธรรมควรกระตุ้นให้ผู้เรียนนําความรู้ที่ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ใน ชวี ติ ประจาํ วันไดจ้ รงิ ๑๓ เบญจมาศ พุทธิมา, “การพัฒนาสมรรถนะการสร้างเคร่ืองมือวัดและประเมินผลการศึกษาของ ครูผู้สอน โดยใช้เทคนิคการเสริมพลังอํานาจ”, วารสารวิชาการเครือข่ายบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏ ภาคเหนอื , ปีที่ ๘ ฉบับที่ ๑๔ (๒๕๖๑) : ๕๗
๒๑๘ ๖. พระสอนศีลธรรมควรเปิดโอกาสให้ผูเ้ รยี นจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไดด้ ้วยตนเอง ๗. พระสอนศลี ธรรมควรจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนให้สอนคล้องกบั เนอ้ื หาการเรยี นรู้ ๘. พระสอนศลี ธรรมควรคน้ ควา้ หาความรู้เก่ยี วกับการวดั และประเมินผลให้ชัดเจน ๙. พระสอนศีลธรรมควรใช้เกณฑ์การวัดและประเมินผลที่หลากหลายในการจัดการเรียน การสอน ๑๐. พระสอนศลี ธรรมควรใชส้ ือ่ การสอนทีท่ ันสมยั มาใช้ในการจดั การเรียนการสอน ๕.๓.๓ ข้อเสนอแนะสาํ หรับการวจิ ัยครั้งตอ่ ไป ๑. ควรศกึ ษาวิจยั เชิงคุณภาพเพอ่ื การพัฒนาศักยภาพของพระสอนศีลธรรมในโรงเรยี น ๒. ควรศึกษาวิจัยการพัฒนาศักยภาพด้านการจัดการเรียนการสอนของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรยี น ในจงั หวดั อื่นๆ หรือในภมู ภิ าคอน่ื ๓. ควรศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาการปฏิบัติงานของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรยี นในจงั หวดั อ่ืนหรอื เพอื่ ศกึ ษาเปรียบเทยี บ
บรรณานกุ รม ๑. ภาษาไทย ก. ขอ้ มลู ปฐมภมู ิ มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาบาลี ฉบับมหาจฬุ าเตปิฏกํ ๒๕๐๐. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพม์ หาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๓๕. . พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั . กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๓๙. มหามกุฏราชวิทยาลัย. อภิธานปฺปทีปิกาและอภิธานปฺปทีปิกาสูจ.ิ กรุงเทพมหานคร : มหามกุฏราช วทิ ยาลยั , ๒๕๓๕. ข. ข้อมลู ทุตยิ ภูมิ (๑) หนังสือ : กรมการศาสนา. รายงานสรุปผลการดําเนินงานโครงการครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ปีงบประมาณ ๒๕๔๘. กรุงเทพมหานคร : สํานักพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม กรมการ ศาสนา, ๒๕๕๓. กรมวิชาการ. การจัดสาระการเรียนพระพุทธศาสนา. พิมพ์ครั้งที่ ๕. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ พระพุทธศาสนาของธรรมสภา, ๒๕๕๑. กองพุทธศาสนศึกษา สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. คู่มือการปฏิบัติงานการขอจัดต้ังสํานัก ปฏิบตั ธิ รรม. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพส์ าํ นกั งานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ, ๒๕๕๔. .วดั พัฒนา ๔๙. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์สาํ นักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, ๒๕๕๑. กระทรวงศึกษาธิการ. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพ มหานคร : ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๕๑. . นิยามคําศัพท์หลักสูตรหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จาํ กัด, ๒๕๕๓. . นิยามคําศัพท์หลักสูตร. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่ง ประเทศไทย จํากดั , ๒๕๕๓.
๒๒๐ บรรณานกุ รม (ต่อ) . การจัดสาระการเรียนรู้พระพุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและ วัฒนธรรม ตามหลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จํากดั , ๒๕๕๓. กันตยา เพิ่มผล. การพัฒนาประสิทธิภาพในการทํางาน. กรุงเทพมหานคร : บ.บุญศิริการพิมพ์จํากัด, ๒๕๕๒. กจิ จา บานช่ืน. การพฒั นาบคุ ลกิ ภาพ. กรุงเทพมหานคร: บริษัทวี.พริ้นท์ ๑๙๙๑ จํากดั , ๒๕๕๙. กิตติ รัตนราษี. สื่อการสอนและฝึกอบรม : จากสื่อพื้นฐานถึงส่ือดิจิตอล. กรุงเทพมหานคร : โรง พมิ พจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๕๔. โครงการพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน. คู่มือโครงการพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน พ.ศ.๒๕๕๖. นนทบุรี : หจก.เซนปร้นิ ติ้ง, ๒๕๕๖. ฆนทั ธาตุทอง. การวัฒนาหลกั สตู รทอ้ งถ่ิน. นครปฐม: เพชรเกษมการพมิ พ์, ๒๕๕๓. จันทรานี สงวนนาม. ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารสถานศึกษา. พิมพ์คร้ังท่ี ๒. กรุงเทพมหานคร : บริษัทบุค๊ พอยท์ จํากัด, ๒๕๕๑. จิรประภา อัครบวร. สรา้ งคนสรา้ งผลงาน. กรุงเทพมหานคร : ก.พลพิมพ์ (๑๙๙๖), ๒๕๕๙. จีระ หงส์ลดารมภ์. สมรรถนะ: ประเภทของสมรรถนะสาหรับการบริหารในองค์กร. กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรสุ ภา ลาดพรา้ ว, ๒๕๕๙. เฉลียว บุรีภักดีและคนอ่ืนๆ. ชุดการศึกษาค้นคว้าวิชา๒๕๕๓๑๐๑ทฤษฎีระบบและการ ประยกุ ตใ์ ช้ในการพัฒนา. เพชรบรุ ี : มหาวิทยาลัยราชภฏั เพชรบรุ ี, ๒๕๕๓. ชัชวลิต สรวารี. การบริหารคนกับองค์กร. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๕๐. ทิศนา แขมณี. แนวการสอนวิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ องคก์ ารรับส่งสินค้าพัสดภุ ณั ฑ์ (ร.ส.พ.), ๒๕๕๑. . การพัฒนากระบวนการคิดเอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องการพัฒนา รูปแบบการสอนท่ีเน้นกระบวนการคิดตามแนวปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้. นครปฐม : ศูนยศ์ ึกษาพฒั นาครู สถาบันราชภฏั นครปฐม, ๒๕๔๓. . ๑๔ วิธีสอนสําหรับครูมืออาชีพ. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลยั , ๒๕๕๒. ณรงค์วิทย์ แสนทอง. เทคนิคการจัดทํา Job Descriptionบนพื้นฐานของ Competency และ KPI. กรุงเทพมหานคร : เอชอารเ์ ซ็นเตอร์, ๒๕๔๗.
๒๒๑ บรรณานกุ รม (ต่อ) . มารู้จัก Competency กันเถอะ. พิมพ์ครั้งที่ ๓. กรุงเทพมหานคร : เอชอาร์เซ็นเตอร์, ๒๕๕๐. ธานินทร์ ศิลป์จารุ. การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ. กรุงเทพมหานคร : บิสซิเนสอาร์ แอนด์ดี, ๒๕๕๒. ธํารงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์. การบริหารงานบุคคล. กรุงเทพมหานคร: สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย- ญ่ีปนุ่ ), ๒๕๕๑. โนรี ใจใส่. สื่อการวัดและการประเมินผลการเรียนรู้. สุราษฏร์ธานี : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, ๒๕๕๒. บรรพต สุวรรณประเสริฐ. การพัฒนาหลักสูตรโดยเน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ. เชียงใหม่ : เดอะ โนว์เลจ เซน็ เตอร์, ๒๕๕๔. บุญเล้ียง ทมุ ทอง. การพฒั นาหลักสตู ร. กรงุ เทพมหานคร : บริษัทแอคทีฟ พริ้น จาํ กดั , ๒๕๕๓. ประกอบ กรรณสูตร. สถิติเพื่อการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ ๓. กรุงเทพมหานคร : ด่านสทุ ธาการพมิ พ์, ๒๕๔๒. ปราชญา กล้าผจญ และ พอตา บุตสุทธิวงศ์. การบริหารทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพมหานคร : สาํ นักพมิ พ์ข้างฟ่าง, ๒๕๕๐. ปรยี าพร วงศอ์ นุตรโรจน์. จติ วิทยาการศกึ ษา. กรงุ เทพมหานคร: ศูนย์สื่อเสรมิ กรงุ เทพ, ๒๕๔๖. . การบรหิ ารงานวชิ าการ. กรงุ เทพมหานคร : บรษิ ัท พมิ พด์ ี จาํ กัด, ๒๕๕๓. ปล้ืม โชติษฐยางกูล. กฎหมายคณะสงฆ์. พิมพ์คร้ังท่ี ๒. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง กรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๕๐. ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔. บริษัทศิริวัฒนา อนิ เตอรพ์ ริ้นท์จาํ กัด, ๒๕๕๖. วิรัช นิภาวรรณ. การพัฒนาเมืองและชนบทประยุกต์. กรุงเทพมหานคร : สํานักพิมพ์ฟอร์เพช, ๒๕๔๙. มหาวิทยาลัยรามคําแหง. แผนพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยรามคําแหงประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๒ – ๒๕๕๕. มหาวทิ ยาลยั รามคําแหง, ๒๕๕๒. พระธรรมปฎิ ก (ป.อ. ปยุตฺโต). พทุ ธธรรมกับการพฒั นาชีวติ . กรงุ เทพมหานคร: ธรรมสภา, ๒๕๔๐. พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต). พุทธธรรม (ฉบับเดิม). พิมพ์ครั้งที่ ๑๑. กรุงเทพมหานคร: ดวงแก้ว, ๒๕๔๔.
๒๒๒ บรรณานกุ รม (ตอ่ ) . พจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์คร้ังที่ ๑๐. กรุงเทพมหานคร : บริษัท เอสอารพ์ ริน้ เตอร์แมสโปรดกั ส์ จาํ กดั , ๒๕๔๕. . พุทธธรรม (ฉบับเดิม). พิมพ์คร้ัง ๑๐. กรุงเทพมหานคร : บริษัท เอสอาร์พร้ินเตอร์แมส โปรดักส์ จํากัด, ๒๕๔๖. . พุทธธรรมฉบับปรับขยาย. พิมพ์ครั้งท่ี ๓๙. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัย มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๗. . พุทธธรรมฉบับปรับขยาย. พิมพ์ครั้งท่ี ๔๔. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ผลิธัมม์, ๒๕๕๘. . พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์ครั้งท่ี ๓๖. กรุงเทพมหานคร : สํานักพิมพ์ผลธิ ัมม์, ๒๕๕๙. พระมหากฤษฎา กิตฺติโสภโณ, ผศ.ดร. ระเบียบวิธีวิจัยทางการจัดการเชิงพุทธ. พระนครศรีอยุธยา : สํานกั พิมพ์มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๖๑. พระราชปวราจารย์. พุทธศาสตรปริทรรศน์ เล่ม ๒. พิมพ์ครั้งพิเศษ. กรุงเทพมหานคร : มหาจุฬาลง กรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๖๐. ศุภวฒั น์ เอมโอช. หลักการสอน. จันทบุรี : สถาบนั ราชภฏั ราํ ไพพรรณี, ๒๕๔๙. สถาบันพัฒนาข้าราชการพลเรือน. Competenciesคู่มือการพัฒนาข้าราชการ สมรรถนะหลัก (Core Competencies). กรงุ เทพมหานคร : แอร์บอรน์ , ๒๕๕๓. สรรเพชญ อสิ รยิ วชั ากร. ทฤษฎีการสอนสกู่ ารฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครูเต็มเวลา. ราชบุรี : คณะ ครุศาสตรส์ ถาบันราชภฏั หมู่บา้ นจอมบึง. ๒๕๔๖. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน. แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑. พิมพ์ครั้งท่ี ๒ กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๕๓. สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา. สมรรถนะของผู้บริหาร สถานศกึ ษา. กรงุ เทพมหานคร : กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, ๒๕๕๘.
๒๒๓ บรรณานุกรม (ตอ่ ) สํานักงานโครงการพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน. คู่มือการปฏิบัติงานโครงการพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน ประจําปีงบประมาณ ๒๕๕๗. พิมพ์ครั้งที่ ๓. นนทบุรี : หจก. เชนปริ้นติ้ง, ๒๕๕๗. สํานักงานพระสอนศีลธรรม. แผนยุทธศาสตร์พระสอนศีลธรรมในช่วงแผนพัฒนามหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ฉบับที่ ๑๑ (๒๕๕๕-๒๕๕๙). กรุงเทพมหานคร : หจก เชนปริ้นต้งิ , ๒๕๕๘. . คูม่ ือพระสอนศลี ธรรม ปงี บประมาณ ๒๕๖๐. นนทบุรี : หจก.เซนปร้นิ ติ้ง, ๒๕๖๐. สิริเทพ สุวรรณาศและคณะ. การพัฒนาการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการวิจัยในช้ันเรียน. ขอนแก่น : สํานักงานการประถมศกึ ษาจงั หวัดขอนแกน่ , ๒๕๔๔. สกุ ญั ญา รัศมธี รรมโชติ. แนวทางการพฒั นาศกั ยภาพมนษุ ย์ด้วย Competency Base Learning. พมิ พค์ ร้งั ท่ี ๒. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ศริ ิวัฒนาอินเตอรพ์ รินท์จํากดั (มหาชน), ๒๕๔๘. สุมน อมรวิวัฒน์. กระบวนการเรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ในชุมชนและธรรมชาติ. กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิชย์, ๒๕๕๓. สุมติ ร คณุ านุกร. หลักสูตรและการสอน. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพน์ ติ ยสยาม, ๒๕๕๒. สุวิทย์ มูลคาํ . ครบเครอ่ื งเรือ่ งวิทยากร. พิมพค์ ร้ังที่ ๒. กรงุ เทพมหานคร : ดวงกมลสมัย, ๒๕๔๑. อาภรณ์ ใจเท่ียง. หลักการสอน (ฉบับปรับปรุง). พิมพ์คร้ังที่๕. กรุงเทพมหานคร : โอเอสพร้ินต้ิง เฮ้าส์, ๒๕๕๓. . Competency-base Training Road Map. กรุงเทพมหานคร : บริษัท พิมพ์ดี การพมิ พ์ จาํ กดั , ๒๕๕๓.
๒๒๔ บรรณานุกรม (ต่อ) (๒) ดุษฎนี พิ นธ/์ วทิ ยานพิ นธ์ : นรา ตรีธัญญา. “การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวพุทธศาสน์เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสําหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษา ตอนปลาย”. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน, บัณฑิต วทิ ยาลัย : มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร, ๒๕๕๘. พรพรรณ โปรเทียรณ์. “รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะการปฏิบัติงานตามหลักภาวนา ๔ ของบุคลากร สายสนับสนุนวิชาการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย”. ดุษฎีนิพนธ์ พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๖๑. พัชรา นันทจินดา. “การจัดการเรียนการสอนตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร : กรณีศึกษา โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์”. ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาหลักสูตร และการสอน. บณั ฑติ วทิ ยาลยั : มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์, ๒๕๕๔. พัชราภรณ์ พิลาสมบัติ. “การพัฒนากระบวนการเรียนการสอนตามแนวคิดการสืบสอบและการเรียนรู้ เชิงสถานการณ์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการทําวิจัยของนักศึกษาครู”. ดุษฎีนิพนธ์ครุ ศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. คณะครุศาสตร์ : จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย, ๒๕๕๙. พิจิตรา ทีสุกะ. “การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน โดยใช้วิจัยเป็นฐานวิชาการพัฒนา หลักสูตรสําหรับนักศึกษาวิชาชีพครู”. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา หลกั สตู รและการสอน. บัณฑติ วทิ ยาลัย : มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร, ๒๕๕๖. ยุทธวีร์ แก้วทองใหญ่. “รูปแบบการจัดการเรียนการสอนลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้สําหรับ สถานศึกษาสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา”. ดุษฏีนิพนธ์พุทธศาสตร ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬา ลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๖๑. พระกิตติศักด์ิ ธีรปญฺโญ (เจริญสุข). “บทบาทของพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนวิชา พระพุทธศาสนา ระดับมัธยมศึกษา อําเภอบางนํ้าเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๖๑.
๒๒๕ บรรณานุกรม (ต่อ) พระครูธรรมธรวรเดชา อคฺคเตโช (พรหมเสนา). “การพัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนเกษตรกรรมอินทรีย ตามแนวพุทธธรรมเพื่อชุมชนท่ียั่งยืนในพ้ืนที่ภาคกลางตอนบน”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตร ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง กรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๗. พระครูนิวิฐศีลขันธ์ (ณรงค์ ฐฃตวฑฺฒโน). “รูปแบบการพัฒนาทุนมนุษย์ตามหลักพุทธธรรมในองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสน ศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๕๗. พระครูภาวนารัตนาภรณ์ (กาํ พล สิริภทฺโท). “การพัฒนาศกั ยภาพการบรหิ ารจัดการสํานักปฏบิ ตั ิ ธรรมของพระสังฆาธิการในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎี บัณฑิต สาขาการจัดการเชิงพุทธ. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วทิ ยาลัย, ๒๕๕๘. พระครูสถิตนราธิการ (วิชาญ นราธิโป). “การจัดการเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในสังคมพหุ วัฒนธรรมของคณะสงฆ์ภาค ๑๗”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธ บรหิ ารการศกึ ษา. บัณฑติ วทิ ยาลัย : มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๖๑. พระครูสมุทรประภากร (เฉลิม ปภงฺกโร). “การพัฒนาศักยภาพของพระอุปัชฌาย์ในเขตการปกครอง คณะสงฆ์ภาค ๑๕”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการ เชงิ พทุ ธ. บัณฑิตวทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๕๕๘. พระครูสังฆรักษ์ปัญญาพล ปญฺญฺาพโล (มีชูนึก). “กลไกการพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติงานของพระ วินยาธิการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชา การจัดการเชิงพุทธ. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วทิ ยาลัย, ๒๕๖๑. พระครูสุตานุยุต (บัณฑิต สุนาโค). “การพัฒนาสมรรถนะของเจ้าอาวาสในการบริหารจัดการวัดเป็น แหล่งเรียนรู้ในเขตการปกครองคณะสงฆ์ ภาค ๒”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฏี บัณฑิต สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง กรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๖๐.
๒๒๖ บรรณานุกรม (ต่อ) พระญาณกร ปุณฺณโก (ประดาห์รัช). “การพัฒนาศักยภาพพระวิปัสสนาจารย์ในการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ของสํานักปฏิบัติธรรมในเขตการปกครองคณะสงฆ์ภาค ๒”. ดุษฎนี ิพนธ์ พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๖๑. พระทองเจริญ อุปสนฺโต (โคตรดินขาว). “โปรแกรมการพัฒนาจิตสํานึกและพฤติกรรมการมีส่วนร่วม ในการจัดการขยะตามหลักภาวนา ๔ ด้วยนิเวศวิทยาเชิงพุทธของประชาชนตําบล คลองหก อําเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๖๑. พระมหาเชาวฤทธ์ิ นรินฺโท (ทรัพย์สวัสดิ์). “การศึกษาแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตาม หลักภาวนา ๔ : กรณีศึกษาผู้สูงอายุบ้านห้วยหอย ตําบลธาตุทอง อําเภอภูเขียว จังหวัด ชัยภูมิ”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา. บัณฑิต วิทยาลยั : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๖๑. พระมหาปัญญา แล่นปิว. “ศึกษาและปฏิบัติงานของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน สังกัดสํานักงาน เขตพื้นที่การศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต ๒”. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขา การบรหิ ารการศึกษา. บณั ฑติ วิทยาลัย : มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ, ๒๕๕๓. พระมหาสมศักด์ิ ศรีบริบูรณ์. “ศึกษาแนวทางในการพัฒนาสมรรถภาพการสอนของครูพระสอน ศีลธรรมในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ใน เขตกรุงเทพมหานคร”. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ, ๒๕๕๑. พระมหาสราวุธ สราวุโธ (แสงสี). “การพัฒนาศักยภาพพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอน ปลาย ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๕”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วทิ ยาลัย, ๒๕๖๒. พระมหาอุทัย ปญฺญาปภาโส (ภูบังดาว). “กระบวนการจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างจิตสํานึกความเป็นพล เมืองสําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลยั , ๒๕๖๑.
๒๒๗ บรรณานกุ รม (ต่อ) พระวิสุทธิพงษ์เมธี (วีระ ด้วงปลี). “การพัฒนาศักยภาพการปกครองคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการ ระดับเจ้าคณะอําเภอในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔”. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎี บัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง กรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๕๙. สุเทพ เช้ือสมุทร. “รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนมัธยมศึกษา”. ดุษฎี นิพนธ์ปรัชญาดุษฏีบัณฑิต สาขาบริหารการศึกษา. วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการ จดั การมหาวทิ ยาลัยศรีปทุม, ๒๕๕๖. (๓) รายงานการวิจัย : พระมหานิพนธ์ มหาธมฺมรกฺขิโต (แสงแก้ว). “การพัฒนารูปแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุด้วยหลักจิต ภาวนาในพระพุทธศาสนา”. รายงานวิจัย, สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ : มหาวิทยาลัยมหา จฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๕๗. (๔) บทความ : เกรียงศักดิ์ นิลทะการ. “หลักภาวนา ๔ กับการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคเบาหวาน”. วารสาร มจร อบุ ลปริทรรศน์. ปีท่ี ๕ ฉบบั ท่ี ๒ (พฤษภาคม-สิงหาคม ๒๕๖๓) : ๘๔๘. จินุกูล หลวงอภัย. “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามหลักภาวนาธรรมของศูนย์ฝึกอบรมตํารวจภูธร ภาค ๖ จังหวัดนครสวรรค์”. วารสารวิจยวิชาการ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลยั วทิ ยาเขตนครสวรรค์. ปที ่ี ๑ ฉบบั ที่ ๒ (พฤษภาคม-สงิ หาคม ๒๕๖๑) : ๗๙. จิรทัศน์ เนธิบุตร. “บทบาทครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยา เขตล้านนา”.วารสารพุทธสังคมวิทยาปริทรรศน์. ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๒ (เมษายน-มิถุนายน ๒๕๖๔) : ๒. จิตติมา สุนทรรส. “รูปแบบการใช้หลักภาวนา ๔ เพื่อการจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนคุณธรรมของ ผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต ๑”. วารสารJournal of Roi Kaensarn Academi. ปีท่ี ๖ ฉบับท่ี ๑๐ (ตุลาคม ๒๕๖๔) : ๓๒๙.
๒๒๘ บรรณานกุ รม (ต่อ) ดวงเดอื น พนั ธมุ นาวนิ และคณะ.“สาเหตุและผลของการนบั ถือพุทธศาสนา:การวจิ ัยพฤติกรรมศาสตร์ ในประเทศไทย”.วารสารพุทธจกั ร. ปีท่ี ๖๗ ฉบบั ที่ ๑๐-๑๒ (ตลุ าคม-ธันวาคม ๒๕๕๖) : ๕๗. เบญจมาศ พุทธิมา. “การพัฒนาสมรรถนะการสร้างเคร่ืองมือวัดและประเมินผลการศึกษาของ ครูผู้สอนโดยใช้เทคนิคการเสริมพลังอํานาจ”. วารสารวิชาการเครือข่ายบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนอื . ปที ่ี ๘ ฉบับที่ ๑๔ (มกราคม - มถิ นุ ายน ๒๕๖๑) : ๕๗. พระกองสี ญาณธโร (พรมโพธ์ิ). “ศึกษาวิเคราะห์การดําเนินชีวิตตามหลักภาวนา ๔ ใน พระพุทธศาสนา”. วารสาร มจร.อุบลปริทรรศน์. ปีที่ ๒ ฉบับท่ี ๓ (กันยายน - ธันวาคม ๒๕๖๐) : ๘๘. พระครูปทุมภาวนาจารย์. “หลักภาวนา ๔ กับการพัฒนาปรีชาเชิงอารมณ์ของวัยรุ่นไทยในสังคมยุค ดิจิทัล”. วารสารพุทธจิตวิทยา. ปีท่ี ๔ ฉบับท่ี ๑ (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๒) : ๑๓๗-๑๓๘. พระครูศรีปริยัติวิธาน. “รูปแบบการพัฒนาศักยภาพของแรงงานตามหลักภาวนา ๔ เพื่อส่งเสริม ประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็งในจังหวัดสมุทรสาคร”. วารสาร มจร พุทธปัญญา ปริทรรศน์. ปที ่ี ๔ ฉบับท่ี ๑ (มกราคม–เมษายน ๒๕๖๒) : ๒๕. พระชัยประสิทธิ์ ภทฺทธมฺโม.“การสอนศีลธรรมในโรงเรียนประถมศึกษาตามหลักไตรสิกขา”. วารสารวิชาการ สถาบันพัฒนาพระวิทยากร. ปีท่ี ๒ ฉบับท่ี ๒ (กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๖๒) : ๘๖. พระบุญเสริม ปภสฺสโร. “บทบาทของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดสมุทรสาคร”. วารสารสิริน ธรปรทิ รรศน์. ปีท่ี ๒๒ ฉบบั ท่ี ๒ (กรกฎาคม-ธนั วาคม ๒๕๖๔) : ๒๙๘ พระปลัดธัญวัฒน์ อโสโก (รักษ์เพ็ชร). “การประยุกต์ใช้หลักภาวนา ๔ ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของ ชุมชนบ้านบ่อเกตุ อําเภอสะเดา จังหวัดสงขลา”. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์. ปีที่ ๗ ฉบบั ท่ี ๒ (กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓) : ๓๕ - ๓๖. พระมหาสุทธินารถ ญาณชโย. “รูปแบการพัฒนาสมรรถนะพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน”. วารสาร สันติศึกษาปริทรรศน์. ปีท่ี ๖ ฉบบั ท่ี ๒ (เมษายน - มถิ ุนายน ๒๕๖๑) : ๗๐๓ - ๗๐๖. พระมหาอําพล ธนปญฺโณ (ชัยสารี). “ศึกษาความต้องการพัฒนาสมรรถนะการสอนของพระสอน ศีลธรรมในโรงเรียนจังหวัดหนองคาย”. วารสารศึกษิตาลัย. ปีท่ี ๒ ฉบับที่ ๓ (กันยายน - ธันวาคม ๒๕๖๔) : ๕๗.
๒๒๙ บรรณานุกรม (ต่อ) พระเมธาวินัยรส (สุเทพ พุทธจรรยา). “การส่งเสริมศักยภาพการสอนธรรมและการนําปฏิบัติธรรม ของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน สังกัดมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย (ศาลายา)”. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน.์ ปีที่ ๘ ฉบับที่ ๓ (กรกฎาคม - กันยายน ๒๕๖๒) : ๒๙. พระยงยุทธ กตธุโร.“การพัฒนาการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียน ในอําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์”. วารสารพุทธนวัตกรรมและการ จดั การมหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั . ปที ี่ ๔ ฉบบั ท่ี ๑ (มกราคม - มิถุนายน ๒๕๖๔) : ๒๘. พระสุเว่ย คุณรตโน (น้อย). “การประยุกต์ใช้หลักภาวนา ๔ เพ่ือการพัฒนาคุณภาพชีวิต ของชุมชน ตําบลปกาสัย อําเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่”. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์. ปีที่ ๗ ฉบบั ท่ี ๑ (มกราคม - เมษายน ๒๕๖๕) : ๒๓๖. วิรัตน์ ทองภู. “การศึกษารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงพุทธบูรณาการของพระสอนศีลธรรมใน โรงเรียนจังหวัดขอนแก่น”. วารสาร Journal of Buddhist Education and Research. ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๑ (มกราคม - มิถนุ ายน ๒๕๖๓) : ๔๐๕. วิทยากร เชียงกูล. “การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชนบท”.วารสารการพัฒนาชุมชน. ปีท่ี ๓๐, (๒๓ มนี าคม ๒๕๕๙). : ๑๕. อานนท์ เมธีวรฉัตร. “รูปแบบการเสริมสร้างสมรรถนะด้านการสอนของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน ในเขตการปกครองคณะสงฆ์ ภาค ๔”. วารสารบัณฑิตปริทรรศน์. ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๒ (พฤษภาคม - สงิ หาคม ๒๕๖๒) : ๑๗๒-๑๗๓. (๕) เอกสารทไ่ี ม่ไดต้ พี ิมพเ์ ผยแพรแ่ ละเอกสารอ่นื ๆ : วันเพ็ญ วรรณโกมล. “เอกสารประกอบวิชาการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน”. คณะครุ ศาสตร์ : มหาวิทยาลัยราชภฏั ธนบรุ ี, ๒๕๕๑. (๖) สื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ : ขจรศักดิ์ ศิรมิ ยั . เร่ืองน่ารเู้ ก่ยี วกับสมรรถนะ. [ออนไลน์]. แหลง่ ทีม่ า : http://competency.rmutp. ac.th/.doc [๑๐ มกราคม ๒๕๖๔].
๒๓๐ บรรณานุกรม (ต่อ) โครงการพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน. รายงานสรุปผลการดําเนินงานโครงการครูพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียน ปีงบประมาณ ๒๕๔๙. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา : http//www.krupra.net, [๔ มกราคม ๒๕๖๔]. . สถิติพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน. [ออนไลน์], แหล่งที่มา : http//www.krupra.net, [๔ มกราคม ๒๕๖๔]. สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.). การพัฒนาระบบสมรรถนะ, [ออนไลน์]. แหล่งท่ีมา: http://www.ocsc.go.th/ocsc/th/index.php?option=com_content& view=article&id=258&Itemid=252 [๑๐ มกราคม ๒๕๖๔]. (๗) สมั ภาษณ์ : สัมภาษณ์ ขวัญตระกูล บุทธิจักร. รองผู้อํานวยการสํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย, ๓ สิงหาคม ๒๕๖๔. ดร. กําพล วิลยาลัย. รองผู้อํานวยการกลุ่มบริหารกิจการนักเรียน โรงเรียนเทพศิรินทร์, ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔. ดร. นิกร ศรีราช. อาจารย์ประจําหลักสูตรบัณฑิตศึกษา ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะ สงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔. ดร. สุภัทรชัย สีสะใบ. อาจารย์ประจําหลักสูตรบัณฑิตศึกษา ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะ สังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั , ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๖๔. นิรุต ป้องสีดา. นักวิชาการศึกษาสํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัย มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั , ๒ สิงหาคม ๒๕๖๔. พระปลัดระพิน พุทฺธิสาโร, ผศ.ดร. อาจารย์ประจําหลักสูตรบัณฑิตศึกษา ภาควิชา รฐั ศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔. พระไพรวัลย์ ธมฺมวโร. พระสอนศีลธรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วทิ ยาลัย, ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔. พระมหานพชัย กิตฺติวรเมธี. พระสอนศีลธรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวทิ ยาลยั , ๘ สงิ หาคม ๒๕๖๔.
๒๓๑ บรรณานุกรม (ต่อ) พระมหานพดล ธมฺมานนฺโท. นักวิชาการศึกษาสํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๖๔. พระมหานรินทร์ สุมโน. พระสอนศีลธรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลยั , ๙ สงิ หาคม ๒๕๖๔. พระมหาณรงค์ราช ปณิธานธิติ นักวิชาการศึกษาสํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๔. พระมหาสุนันท์ สุนนฺโท, ผศ.ดร. อาจารย์ประจําหลักสูตรบัณฑิตศึกษา ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั , ๑๖ สงิ หาคม ๒๕๖๔. พระมหาสุรศักดิ์ สีลสํวโร. นักจัดการงานท่ัวไปสํานักงานพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย, ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๔. พระมหาอาทิตย์ อาจิตปญฺโญ. พระสอนศีลธรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวทิ ยาลัย, ๙ สงิ หาคม ๒๕๖๔. พระสิริเชษฐ์พงษ์ ธีรสมฺปนฺโน. พระสอนศีลธรมในโรงเรียน มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลัย, ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔. สมชาย การภักดี. ผู้อํานวยการโรงเรียนวัดเทวราชกุญชร, ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๔. สุเทพ ภูวนัตถเ์ มธา. ผ้อู ํานวยการโรงเรยี นวดั ประชาระบอื ธรรม, ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔. อมรา จิตต์กุศล. รองผู้อํานวยการฝ่ายประถม โรงเรียนสาธิตกรุงเทพธนบุรี, ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔. (๗) สนทนากลุม่ : สนทนากลุ่มเฉพาะ ดร. สุภัทรชัย สีสะใบ. อาจารย์ประจําหลักสูตรบัณฑิตศึกษา สาขาวิชาการจัดการ เชงิ พุทธ มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย, ๑ มนี าคม ๒๕๖๕. ผศ.ดร. พงศ์พัฒน์ จิตตานุรักษ์. ผู้อํานวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ผศ.ดร. สุริยา รักษาเมือง. อาจารย์ประจําหลักสูตรบัณฑิตศึกษา สาขาวิชา รัฐประศาสนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ผศ.ดร. อุทัย สติม่ัน. อาจารย์ประจําคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัย สวนดสุ ิต, ๑ มนี าคม ๒๕๖๕.
๒๓๒ บรรณานุกรม (ตอ่ ) พระมหากฤษฎา กิตฺติโสภโณ, ผศ.ดร. ผู้อํานวยการหลักสูตรพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. พระมหาสุนันท์ สุนนฺโท, ผศ.ดร. อาจารย์ประจําหลักสูตรบัณฑิตศึกษา สาขาวิชาการ จัดการเชงิ พทุ ธ มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๑ มีนาคม ๒๕๖๔. พระสุธีวีรบัณฑิต, รศ.ดร. อาจารย์ประจําหลักสูตรบัณฑิตศึกษา สาขาวิชาการจัดการเชิง พุทธ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๑ มีนาคม ๒๕๖๔. รศ.ดร. สุรพล สุยะพรหม. ผู้อํานวยการหลักสูตรบัณฑิตศึกษา ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะ สงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๑ มีนาคม ๒๕๖๕. ๒. ภาษาอังกฤษ (I) Books: Armstrong, D.G. Developing and documenting the curriculum. MA: Allyn and Bacon, 1989. Boyatzis,R.E. The Compete Manager: A Model for Effective Performance. (New York: John Wiley & Son, 1982. Dale, Edgar. Audi – Visual Materials of Instruction. Chicago: Universityof Chicago Press, 1969 Byham & Moyer. Organizing genius :the secret of creative collaboration eBook. Massachusetts : Amazon.co.uk Kindle Store, 2006. Constantino, R. The challenge of the churches. Paper presented duringthe first Gregorian aplipay lecture on nationalism Manila PhilippinesMay 18, 1984. D.C. McClelland. Test for Competence, Rather Than lntelligence. NewYork: American Psychologists, 1973. Donaldson, L. Human resource development: The new trainer’s guide. New York: Addison Wesley, 1983. Gagne, R. M. The Conditions of Learning and Theory of Instruction, 4th ed. New York: Educational Technology Publication, 1985.
๒๓๓ บรรณานุกรม (ตอ่ ) Grnesh Shermon. Competency Based HRM, A Strategic Resourcefor Competency Mapping Assessment Centres. New York: Tata McGraw-Hill Publishing Company Limited, 2005. Guskey, T. R. Evaluating professional developmetn. California: Corwin Press, 2000. Hills, P.J. A, K.D. Dictionary of Education. London: Routledge &Kegan Payi, 1982. Holmes,M., and Wynne, E. A. Making the School and Effective Community : Belief Practice and Theory in School Administration. Philadelphia: The Farmer Press, 1989 Hopkins, D. C., & Antes, C. R.Classroom measurement and evaluation, Illinois: Publishers, 1990. John B. Hough and Thomas K. Duncan. Teaching : Description Analysis. Massachusetts: Addison-Wesley, 1970. Kearsley, G. Training and Technology : A Handbook for Handbook for HRD Professional. Ontario: Addeson-Wesley Publishing Company, 1984. Lee J. Cronbach. Essentials of Psychological Testing, 4th ed. New York: Harper & Row, 1971. McClelland, D.C. A Competency model for human resource management specialists to be used in the delivery of the human resource management cycle. Boston: Mcber, 1975. Moore, K.D. Classroom teaching skills. New York: McGraw-Hill, 1992. Richard A. Swanson & Elwood F.Holton III. Foundations of Human Resource Development. San Francisco, USA: Berrett-Koehler Publisher, Inc. , 2001. Romiszowski, A. J. Educational Systems Design Implication of Electronic publishing. Educational Technology, 1994. Taba, H. Curriculum Development : Theory and Practice. New York, NY: Harcourt, Brace & World, 1962.
๒๓๔ (II) Articles: David C. McClelland. “Testing for Competency rather than for than for intelligence”. American Psychologist. vol. 28. (January 1973): 57-83. (III) Research Report: Johnson, David W., and Roger T., Johnson. “Instruction Goal Structure: Cooperation Competitive or Individualistic”. Research Report. Review of Education Research: University of Minnesota, 1974.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295