หนงั สือเรียนสาระทกั ษะการดาํ เนินชีวติ รายวชิ า สุขศึกษา พลศึกษา (ทช ) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ) หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั พนื ฐาน พุทธศกั ราช สาํ นกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั สาํ นกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ ห้ามจําหน่าย หนงั สือเรียนเล่มนีจดั พมิ พด์ ว้ ยเงินงบประมาณแผน่ ดินเพือการศึกษาตลอดชีวติ สาํ หรับประชาชน ลขิ สิทธิเป็นของ สาํ นกั งาน กศน. สาํ นกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เอกสารทางวชิ าการลาํ ดบั ที /
หนงั สือเรียนสาระทกั ษะการดาํ เนินชีวิต ) รายวชิ า สุขศึกษา พลศึกษา ( ทช ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. ) ลขิ สิทธิเป็นของ สาํ นกั งาน กศน. สาํ นกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธิการ เอกสารทางวชิ าการลาํ ดบั ที 13/2554
คาํ นํา กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขัน พนื ฐาน พุทธศกั ราช เมือวนั ที กนั ยายน พ.ศ. แทนหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการจดั การศกึ ษา นอกโรงเรียนตามหลกั สูตรการศึกษาขนั พืนฐาน พทุ ธศกั ราช ซึงเป็นหลกั สูตรทีพฒั นาขึนตาม หลกั ปรัชญาและความเชือพนื ฐานในการจดั การศึกษานอกโรงเรียนทีมีกลุ่มเป้ าหมายเป็ นผใู้ หญ่มี การเรียนรู้และสงั สมความรู้และประสบการณ์อยา่ งต่อเนือง ในปี งบประมาณ กระทรวงศึกษาธิการไดก้ าํ หนดแผนยทุ ธศาสตร์ในการขบั เคลือน นโยบายทางการศึกษาเพอื เพมิ ศกั ยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขนั ให้ประชาชนไดม้ ีอาชีพ ทีสามารถสร้างรายไดท้ ีมงั คงั และมนั คง เป็นบุคลากรทีมีวินยั เปี ยมไปดว้ ยคุณธรรมและจริยธรรม และมีจิตสาํ นึกรับผิดชอบต่อตนเองและผอู้ ืน สํานักงาน กศน. จึงไดพ้ ิจารณาทบทวนหลกั การ จุดหมาย มาตรฐาน ผลการเรียนรู้ทีคาดหวงั และเนือหาสาระ ทงั กลุ่มสาระการเรียนรู้ ของ หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษา ขนั พืนฐาน พทุ ธศกั ราช ใหม้ ีความสอดคลอ้ ง ตอบสนองนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ซึงส่งผลให้ตอ้ งปรับปรุงหนังสือเรียน โดยการเพิมและ สอดแทรกเนือหาสาระเกียวกบั อาชีพ คุณธรรม จริยธรรมและการเตรียมพร้อม เพือเขา้ สู่ประชาคม อาเซียน ในรายวิชาทีมีความเกียวขอ้ งสมั พนั ธ์กนั แต่ยงั คงหลกั การและวิธีการเดิมในการพฒั นา หนงั สือทีใหผ้ เู้ รียนศึกษาคน้ ควา้ ความรู้ดว้ ยตนเอง ปฏิบตั ิกิจกรรม ทาํ แบบฝึ กหดั เพือทดสอบ ความรู้ความเขา้ ใจ มีการอภิปรายแลกเปลยี นเรียนรู้กบั กลมุ่ หรือศกึ ษาเพมิ เติมจากภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ แหล่งการเรียนรู้และสืออืน การปรับปรุงหนงั สือเรียนในครังนี ไดร้ ับความร่วมมืออย่างดียงิ จากผทู้ รงคุณวุฒิในแต่ละ สาขาวิชา และผเู้ กียวขอ้ งในการจดั การเรียนการสอนทีศกึ ษาคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มลู องคค์ วามรู้จาก สือต่าง ๆ มาเรียบเรียงเนือหาใหค้ รบถว้ นสอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน ผลการเรียนรู้ทีคาดหวงั ตวั ชีวดั และกรอบเนือหาสาระของรายวิชา สาํ นักงาน กศน.ขอขอบคุณผมู้ ีส่วนเกียวขอ้ งทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี และหวงั วา่ หนงั สือเรียน ชุดนีจะเป็นประโยชน์แก่ผเู้ รียน ครู ผสู้ อน และผเู้ กียวขอ้ งใน ทุกระดบั หากมีขอ้ เสนอแนะประการใด สาํ นกั งาน กศน. ขอนอ้ มรับดว้ ยความขอบคุณยงิ
สารบญั หน้า คาํ นาํ 1 คาํ แนะนําการใช้หนงั สือเรียน โครงสร้างรายวชิ าสุขศึกษา พลศึกษา 2 บทที การพฒั นาการของร่างกาย 12 14 เรืองที โครงสร้าง หนา้ ทีและการทาํ งานของระบบต่าง ๆ ทีสาํ คญั ของร่างกาย 27 และการดแู ลรักษาการป้ องกนั ความผดิ ปกตขิ องอวยั วะ 28 33 เรืองที ปัจจยั ทีมีผลต่อการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ 38 เรืองที พฒั นาการและการเปลยี นแปลงตามวยั 42 บทที สุขภาพทางกาย 43 เรืองที การเสริมสร้างสุขภาพตนเองและบุคคลในครอบครัว 48 เรืองที การออกกาํ ลงั กาย 56 เรืองที รูปแบบและวธิ ีการออกกาํ ลงั กายเพอื สุขภาพ 65 บทที สุขภาพทางเพศ 71 เรืองที สรีระร่างกายทีเกียวขอ้ งกบั การสืบพนั ธุ์ 72 เรืองที การเปลยี นแปลงเมอื เขา้ วยั หนุ่มสาว 78 เรืองที พฤติกรรมทีนาํ ไปสู่การมเี พศสมั พนั ธ์ 81 เรืองที สุขภาพทางเพศ 85 บทที สารอาหาร 91 เรืองที สารอาหาร 92 เรืองที วธิ ีการประกอบอาหารเพอื คงคุณค่าของสารอาหาร 95 เรืองที ความเชือและค่านิยมเกียวกบั การบริโภค 109 เรืองที ปัญหาสุขภาพทีเกิดจากการบริโภค บทที โรคระบาด เรืองที ความหมาย ความสาํ คญั และการแพร่กระจายของเชือโรค เรืองที โรคทีเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศ บทที ยาแผนโบราณและยาสมุนไพร เรืองที หลกั การและวธิ ีการใชย้ าแผนโบราณและยาสมุนไพร เรืองที อนั ตรายจากการใชย้ าแผนโบราณและยาสมนุ ไพร
บทที การป้ องกนั สารเสพตดิ 122 เรืองที ปัญหา สาเหตุ ประเภทและอนั ตรายของสารเสพติด 123 เรืองที ลกั ษณะอาการของผตู้ ดิ สารเสพติด 132 เรืองที การป้ องกนั และหลีกเลียงการติดสารเสพติด 135 137 บทที อนั ตรายจากการประกอบอาชีพ 138 เรืองที การป้ องกนั อนั ตรายจากการประกอบอาชีพ 163 เรืองที การปฐมพยาบาลเบืองตน้ 173 174 บทที ทกั ษะชีวติ เพอื การสือสาร 177 เรืองที ความหมายของทกั ษะชีวติ เรืองที ทกั ษะทีจาํ เป็น ประการ 179 179 บทที อาชีพแปรรูปสมนุ ไพร 179 สมุนไพรกบั บทบาททางเศรษฐกิจ 182 การผลิตสมุนไพรในรูปแบบการประกอบอาชีพ 182 การแปรรูปสมุนไพรเพอื การจาํ หน่าย การขออนุญาตผลิตภณั ฑอ์ าหารและยา (ขอเครืองหมาย อย.) การแบ่งกลมุ่ ผลิตภณั ฑอ์ าหาร
คาํ แนะนําการใช้หนังสือเรียน หนงั สือเรียนสาระทกั ษะการดาํ เนินชีวิต รายวิชาสุขศึกษา พลศึกษา รหัส ทช ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น เป็ นหนังสือเรียนทีจดั ทาํ ขึน สําหรับผเู้ รียนทีเป็ นนักศึกษานอกระบบ ใน การศึกษาหนงั สือเรียนสาระทกั ษะการดาํ เนินชีวติ รายวชิ าสุขศกึ ษา พลศึกษา ผเู้ รียนควรปฏบิ ตั ิดงั นี 1. ศึกษาโครงสร้างรายวิชาให้เขา้ ใจในหัวขอ้ และสาระสาํ คญั ผลการเรียนรู้ทีคาดหวงั และขอบข่ายเนือหาของรายวชิ านนั ๆ โดยละเอยี ด 2. ศึกษารายละเอยี ดเนือหาของแต่ละบทอยา่ งละเอยี ด และทาํ กิจกรรมตามทีกาํ หนด แลว้ ตรวจสอบกบั แนวตอบกิจกรรม ถา้ ผเู้ รียนตอบผดิ ควรกลบั ไปศกึ ษาและทาํ ความเขา้ ใจในเนือหานนั ใหมใ่ หเ้ ขา้ ใจ ก่อนทีจะศกึ ษาเรืองต่อ ๆ ไป 3. ปฏิบตั ิกิจกรรมทา้ ยเรืองของแต่ละเรือง เพือเป็นการสรุปความรู้ ความเขา้ ใจของเนือหา ในเรืองนัน ๆ อีกครัง และการปฏิบตั ิกิจกรรมของแต่ละเนือหา แต่ละเรือง ผเู้ รียนสามารถนาํ ไป ตรวจสอบกบั ครูและเพือน ๆ ทีร่วมเรียนในรายวิชาและระดบั เดียวกนั ได้ 4. หนงั สือเรียนเล่มนีมี บท บทที การพฒั นาการของร่างกาย บทที สุขภาพทางเพศ บทที สารอาหาร บทที สุขภาพทางกาย บทที โรคระบาด บทที ยาแผนโบราณและยาสมนุ ไพร บทที การป้ องกนั สารเสพติด บทที อนั ตรายจากการประกอบอาชีพ บทที ทกั ษะชีวติ เพือการสือสาร บทที อาชีพแปรรูปสมุนไพร
โครงสร้างรายวิชาสุขศึกษา พลศึกษา ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น (ทช ) สาระสําคญั เป็นความรู้เจตคติทีดีการปฏบิ ตั ิเกียวกบั การดูแลส่งเสริมสุขภาพอนามยั และความ ปลอดภยั ในการดาํ เนินชีวิต ผลการเรียนรู้ทคี าดหวงั . อธิบายธรรมชาติการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ . บอกหลกั การดแู ลและการสร้างพฤติกรรมสุขภาพทีดีของตนเองและครอบครัว . ปฏิบตั ิตนในการดูแล และสร้างเสริมพฤติกรรมสุขภาพทีดีจนเป็นกิจนิสยั . ป้ องกนั และหลีกเลียงพฤติกรรมเสียงต่อสุขภาพและความปลอดภยั ดว้ ยกระบวนการ ทกั ษะชีวติ . แนะนาํ การปฏบิ ตั ิตนเกียวกบั การดแู ลสุขภาพและการหลกี เลยี ง . ปฏิบตั ิตนดแู ลสุขอนามยั และสิงแวดลอ้ มในชุมชน ขอบข่ายเนือหา บทที การพฒั นาการของร่างกาย บทที สุขภาพทางเพศ บทที สารอาหาร บทที สุขภาพทางกาย บทที โรคระบาด บทที ยาแผนโบราณและยาสมนุ ไพร บทที การป้ องกนั สารเสพติด บทที อนั ตรายจากการประกอบอาชีพ บทที ทกั ษะชวี ิตเพือการสือสาร บทที อาชีพแปรรูปสมุนไพร
1 บทที การพฒั นาการของร่างกาย สาระสําคญั พฒั นาการของร่างกายของมนุษย์ตอ้ งเป็ นไปตามวยั ทุกคนจําเป็ นตอ้ งเรียนรู้ใหเ้ ขา้ ใจถึง โครงสร้าง หนา้ ที และการทาํ งานของระบบอวยั วะทีสาํ คญั ในร่างกายรวมถงึ การป้ องกนั ดูแลรักษาไม่ใหเ้ กิดการ ผิดปกติ เพือใหพ้ ฒั นาการของร่างกายทีเปลียนแปลงตามวยั มคี วามสมบูรณ์ทงั ดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง . อธิบายโครงสร้าง หนา้ ที และการทาํ งานของระบบอวยั วะสาํ คญั ของร่างกาย . บอกวธิ ีปฏบิ ตั ิตนในการดูแลรักษาและป้ องกนั อาการผิดปกตขิ องระบบอวยั วะทีสาํ คญั . อธิบายการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษยไ์ ด้ . อธิบายพฒั นาการและการเปลียนแปลงของมนุษยใ์ นดา้ นต่าง ๆ ได้ ขอบข่ายเนือหา เรืองที โครงสร้าง หนา้ ทแี ละการทาํ งานของระบบต่าง ๆ ทสี าํ คญั ของร่างกาย และการดแู ลรักษาการป้ องกนั ความผดิ ปกตขิ องระบบอวยั วะ เรืองที ปัจจยั ทมี ผี ลตอ่ การเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ เรืองที พฒั นาการและการเปลยี นแปลงตามวยั
2 เรืองที โครงสร้าง หน้าทีและการทํางานของระบบต่าง ๆ ทสี ําคญั ของร่างกาย และการดูแลอวัยวะ รักษาและ การป้ องกนั ความผิดปกตขิ องระบบอวัยวะ ร่างกายของมนุษยป์ ระกอบขึนจากหน่วยเลก็ ทสี ุด คือ เซลลจ์ าํ นวนหลายพนั ลา้ นเซลล์ เซลล์ ทมี ีโครงสร้างและหนา้ ทีคลา้ ยคลึงกนั มารวมเป็ นเนือเยอื เนือเยือมีหลายชนิด แต่ละชนิดเมือมาประกอบกนั จะ เป็นอวยั วะ อวยั วะทที าํ หนา้ ทปี ระสานสัมพนั ธ์กนั รวมเรียกวา่ ระบบในร่างกายมนุษย์ ประกอบดว้ ยระบบการ ทาํ งานทงั สิน ระบบ แตล่ ะระบบมีการทาํ งานทปี ระสานสัมพนั ธ์กนั กลไกทาํ งานของร่างกายมีการทาํ งานที ซับซอ้ น โดยมีระบบประสาทรวมทงั ฮอร์โมนจากระบบตอ่ มไร้ทอ่ เป็นหน่วยควบคมุ การทาํ งานของร่างกาย
3 อวยั วะตา่ ง ๆ ของร่างกายนนั มมี ากมาย มีทงั อวยั วะทเี รามองเห็น ซึงส่วนใหญ่จะอย่ภู ายนอก ร่างกาย และอวยั วะทเี รามองไม่เห็นซึงอยภู่ ายในร่างกายของคนเรา การทาํ งานของระบบอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ประกอบดว้ ยโครงสร้างทีสลบั ซับซ้อนยิงกว่า เครืองยนตก์ ลไกทีมนุษยส์ ร้างขนึ เป็นอยา่ งมาก ธรรมชาติไดส้ ร้างระบบอวยั วะต่างๆ ของร่างกายอยา่ งน่าพศิ วง พอจาํ แนก ไดเ้ ป็น ระบบ ซึงแต่ละระบบกจ็ ะทาํ งานไปตามหนา้ ที และมีความสัมพนั ธ์ต่อกนั ในการทาํ งานอยา่ งวิเศษสุด ระบบ อวยั วะตา่ งๆ ของร่างกายทงั ระบบ มีดงั นี . ระบบผวิ หนงั (Integumentary System) . ระบบโครงกระดกู (Skeletal System) . ระบบกลา้ มเนือ (Muscular System) . ระบบยอ่ ยอาหาร (Digestive System) . ระบบขบั ถ่ายปัสสาวะ (Urinary System) . ระบบหายใจ (Respiratory System) . ระบบไหลเวยี นเลือด (Circulatory System) . ระบบประสาท (Nervous System) . ระบบสืบพนั ธุ์ (Reproductive System) . ระบบตอ่ มไร้ทอ่ (Endocrine System) ระบบอวยั วะทจี ดั วา่ เป็นระบบโครงสร้างพืนฐานของร่างกาย คอื ระบบผิวหนัง ระบบโครง กระดูก และระบบกลา้ มเนือ ระบบอวยั วะทงั มีความเกียวขอ้ งสัมพนั ธ์ กล่าวคือ ระบบผิวหนังทาํ หนา้ ทีปก คลมุ ร่างกาย ซึงรวมทงั การหุม้ ห่อป้ องกนั อนั ตรายระบบโครงกระดกู และกลา้ มเนือดว้ ย สาํ หรับระบบกระดูกทาํ หนา้ ทเี ป็นโครงร่างของร่างกาย เป็นทยี ดึ เกาะของกลา้ มเนือ เมือกลา้ มเนือหดตวั ทาํ ใหร้ ่างกายสามารถเคลอื นไหว ส่วนตา่ ง ๆ ได้ ระบบทงั นอกจากมกี ารทาํ งานเกยี วขอ้ งกนั และตอ้ งทาํ งานประสานกบั ระบบอืน ๆ อีกดว้ ย ใน ชนิ นีจะกลา่ วถงึ การทาํ งานของระบบอวยั วะ ระบบ คือระบบผวิ หนงั ระบบกลา้ มเนือ ระบบกระดกู และระบบ ไหลเวยี นโลหิต . ระบบผวิ หนัง ผิวหนงั เป็นอวยั วะทีห่อหุม้ ร่างกาย เซลลช์ นั บนมกี ารเปลียนแปลงทสี าํ คญั คอื มเี คอราทนิ (Keratin) ใสและหนา มคี วามสาํ คญั คือ ป้ องกนั นาํ ซึม เขา้ สู่ร่างกาย การเปลียนแปลงทที าํ ใหเ้ กดิ เคอราทีน เรียกว่า เคอราที-ไนเซซัน (Keratinization) ตวั อยา่ ง อวยั วะทเี กิดกระบวนการดงั กลา่ ว เชน่ ฝ่ ามอื ฝ่ าเทา้ ผิวหนงั ประกอบดว้ ย ส่วน คือ ส่วนทีอยบู่ นพืนผิว เรียกว่า หนงั กาํ พร้า (Epidermis) ส่วนที อยลู่ กึ ลงไป เรียกว่า หนงั แท้ (Dermis) . หนังกําพร้า (Epidermis) เป็ นผิวหนังส่วนบนสุด ประกอบดว้ ยเซลลบ์ าง ๆ ตรงพืนผิวไม่มี นิวเคลยี ส และจะเป็นส่วนทีมกี ารหลดุ ลอกออกเป็ นขีไคล แลว้ สร้างเซลล์ขึนมาทดแทนอย่เู สมอส่วนต่าง ๆ ที
4 เกิดขึนในชนั ผิวหนังกาํ พร้า ไดแ้ ก่ เลบ็ มือ เล็บเทา้ ขน และผม ส่วนเซลล์ชนั ในสุดทีทาํ หน้าทีผลิตสีผิว (Melanin) เรียกวา่ สเตรตมั เจอร์มนิ าทิวมั (Stratum Germinativum) . หนังแท้ (Dermis) ผิวหนังแท้อยู่ใต้ผิวหนังกาํ พร้า หนาประมาณ - มิลลิเมตร ประกอบดว้ ย เนือเยอื เกียวพนั ชนั คอื . ชนั บนหรือชนั ตืน (Papillary Layer) เป็นชนั ทนี ูน ยนื เขา้ มาแทรกเขา้ ไปในหนงั กาํ พร้า เรียกวา่ เพบ็ พิลารี (Papillary) มหี ลอดเลือด และปลายประสาทฝอย . ชนั ล่างหรือชนั ลึก (Reticular Layer) มีไขมนั อยู่ มีรากผมหรือขนและต่อมไขมนั (Sebaceous Glands) อยใู่ นชนั นี ความสําคญั ของระบบผิวหนัง . เป็นส่วนทหี ่อหุม้ ร่างกาย สาํ หรับป้ องกนั อนั ตรายต่าง ๆ ทีอาจเกิดขนึ กบั อวยั วะใตผ้ วิ หนงั . เป็นอวยั วะรับสมั ผสั ความรู้สึกตา่ ง ๆ เชน่ ร้อน หนาว . เป็นอวยั วะขบั ถ่ายของเสีย เช่น เหงอื . เป็นอวยั วะทีช่วยขบั สิงต่าง ๆ ทีอยใู่ นต่อมของผิวหนงั ให้เป็ นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ขบั ไขมนั ไปหลอ่ เลียงเส้นขนหรือผมใหเ้ งางาม . ช่วยเป็นส่วนป้ องกนั รังสีต่าง ๆ ไม่ใหเ้ ป็นอนั ตรายตอ่ ร่างกาย . ช่วยควบคุมความร้อนในร่างกายใหค้ งทีอย่เู สมอ ร่างกายขณะปกติอุณหภูมิ องศา เซลเซียส หรือ . องศาฟาเรนไฮต์ หรือถา้ อากาศอบอา้ วเกินไปกจ็ ะระบายความร้อนออกทางรูขมุ ขน การสร้างเสริมและดํารงประสิทธิภาพการทํางานของระบบผิวหนัง ผวิ หนงั เป็นอวยั วะภายนอกทหี ่อหุม้ ร่างกาย ช่วยส่งเสริมบคุ ลกิ ภาพของบุคคลและบ่งบอกถึง การมีสุขภาพทีดีและไม่ดขี องแต่ละคนดว้ ย เชน่ คนทีมีสุขภาพดี ผวิ หนงั หรือผวิ พรรณจะเตง่ ตึง สดใส แขง็ แรง ซึงจะตรงกนั ขา้ มกบั ผูท้ ีมสี ุขภาพไมด่ หี รือเจ็บป่ วย ผวิ หนงั จะแหง้ ซีดเซียว หรือผิวหนงั เป็นแผลตกสะเกด็ เป็นตน้ ดงั นนั จึงจาํ เป็ นตอ้ งสร้างเสริมและดูแลผิวหนงั ใหม้ ีสภาพทีสมบูรณ์มีประสิทธิภาพในการทาํ งานอยู่ เสมอ ดงั นี . อาบนาํ ชาํ ระลา้ งร่างกายใหส้ ะอาดดว้ ยสบู่อยา่ งนอ้ ยวนั ละ - ครัง
5 . ทาครีมบาํ รุงผวิ ทีมีคุณภาพและเหมาะสมกบั ผวิ ของตนเอง ซึงตามปกตวิ ยั รุ่นจะมีผิวพรรณ เปล่งปลงั ตามธรรมชาติอยแู่ ลว้ ไมจ่ าํ เป็นทีจะตอ้ งใชค้ รีมบาํ รุงผวิ ยกเวน้ ในช่วงอากาศหนาว ซึงจะทาํ ใหผ้ ิวแหง้ แตก . ทาครีมกนั แดดกอ่ นออกจากบา้ นเมอื ตอ้ งไปเผชญิ กบั แดดร้อนจดั เพือป้ องกนั อนั ตรายจาก แสงแดดทีมีรังสีซึงเป็นอนั ตรายต่อผิวหนงั . สวมเสือผา้ ทีสะอาดพอดีตัวไม่คบั หรือหลวมเกินไป และเหมาะสมกบั ภูมิอากาศตาม ฤดูกาล . รับประทานอาหารใหค้ รบทกุ หมู่ และเพยี งพอต่อความตอ้ งการโดยเฉพาะผกั และผลไม้ . ดืมนาํ สะอาดอยา่ งนอ้ ยวนั ละ - แกว้ นาํ จะชว่ ยใหผ้ ิวพรรณสดชืนแจ่มใส . ออกกาํ ลงั กายเป็นประจาํ เพอื ใหร้ ่างกายแขง็ แรง . นอนหลบั พกั ผอ่ นใหเ้ พียงพออยา่ งนอ้ ยวนั ละ ชวั โมง . ดูแลผิวหนงั อย่าให้เป็ นแผล ถ้ามีควรรีบรักษาเพือไม่ไดเ้ กิดแผลเรือรัง เพราะแผลเป็ น ทางผ่านของเชอื โรคเขา้ สู่ร่างกาย . ระบบกล้ามเนือ กลา้ มเนือเป็นแหลง่ พลงั งานทที าํ ใหเ้ กดิ การเคลอื นไหว ในส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายมีกลา้ มเนือ อยใู่ นร่างกาย มดั เราสามารถสร้างเสริมกลา้ มเนือใหใ้ หญ่โต แข็งแรงได้ ดงั เช่น นกั เพาะกายทีมีกลา้ มเนือ ใหญ่โตให้เห็นเป็ นมัด ๆ หรือนักกีฬาทีมีกลา้ มเนือแข็งแรงสามารถปฏิบัติงานอย่างหนักหน่วงไดอ้ ย่างมี ประสิทธิภาพ อดทนต่อความเมือยลา้ กลา้ มเนือประกอบดว้ ยนาํ % โปรตีน % คาร์โบไฮเดรต ไขมนั เกลือ แร่ และอนื ๆ อกี % ความสําคญั ของระบบกล้ามเนือ . ช่วยใหร้ ่างกายสามารถเคลือนไหวไดจ้ ากการทาํ งาน ซึงในการเคลือนไหวของร่างกายนี ตอ้ งอาศยั การทาํ งานของระบบโครงกระดกู และขอ้ ต่อตา่ ง ๆ ดว้ ย โดยอาศยั การยดื และหดตวั ของกลา้ มเนือ . ช่วยให้อวยั วะภายในต่าง ๆ เช่น หวั ใจ ปอด กระเพาะอาหาร ลาํ ไส้เล็ก ลาํ ไส้ใหญ่ หลอดเลือด ทาํ งานไดต้ ามปกติและมีประสิทธิภาพ เนืองจากการบบี รัดตวั ของกลา้ มเนือของอวยั วะดงั กล่าว . ผลติ ความร้อนใหค้ วามอบอุน่ แก่ร่างกาย ซึงความร้อนนีเกิดจากการหดตวั ของกลา้ มเนือ แลว้ เกิดปฏิกิริยาทางเคมี . ช่วยป้ องกนั การกระทบกระเทอื นจากอวยั วะภายใน . เป็นทีเกิดพลงั งานของร่างกาย ชนิดของกล้ามเนือ กลา้ มเนือแบง่ ตามลกั ษณะรูปร่างและการทาํ งานได้ ชนิด คือ . กล้ามเนือลาย (Striated Muscle or Crosstripe Muscle) เป็นกลา้ มเนือทีประกอบเป็ นโครงร่าง ของร่างกาย (Skeletal Muscle) เป็นกลา้ มเนือทีประกอบเป็นลาํ ตวั หนา้ แขน ขา เป็นตน้
6 โครงสร้างและรูปร่างลกั ษณะไฟเบอร์ (Fiber) หรือเซลล์ของเนือเยือกลา้ มเนือลาย มีรูปร่าง ยาวรีเป็นรูปกระสวย ไฟเบอร์มขี นาดยาว - มิลลเิ มตร มพี นื หนา้ ตดั กวา้ ง . - . มิลลิเมตร ไฟเบอร์แต่ละ อนั เมอื ส่องดูดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศนจ์ ะพบลายตามขวางเป็นสีแกแ่ ละออ่ นสลบั กนั . กล้ามเนือเรียบ (Smooth Muscle) กลา้ มเนือเรียบประกอบเป็นอวยั วะภายในร่างกาย เรียกว่า กลา้ มเนืออวยั วะภายใน ไดแ้ ก่ ลาํ ไส้ กระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะ มดลูก หลอดเลือด หลอดนาํ เหลือง เป็ นตน้ กล้ามเนือเรียบสนองตอบสิงเร้านานาชนิดได้ดี เช่น การขยายตวั การเปลียนแปลงของ อุณหภมู ิและกระแสประสาท ความเยน็ จะทาํ ใหก้ ลา้ มเนือหดตวั ไดด้ ี สาํ หรับความร้อนนนั ขึนอย่กู บั อตั ราการให้ ว่าเร็วหรือชา้ คือ ถา้ หากประคบความร้อนทนั ทที นั ใด ความร้อนจะกระตนุ้ ใหก้ ลา้ มเนือหดตวั แต่ให้ความร้อน ทลี ะนอ้ ยกลา้ มเนือจะคลายตวั กลา้ มเนือเรียบมคี วามไวตอ่ การเปลียนแปลงของส่วนประกอบของเลอื ดหรือนาํ ใน เนือเยอื ฮอร์โมน วิตามนิ ยา เกลือ กรด ด่าง . กล้ามเนือหัวใจ (Cardiac Muscle) กลา้ มเนือหวั ใจจะพบทหี วั ใจและผนงั เส้นเลือดดาํ ใหญ่ที นาํ เลือดเขา้ สู่หวั ใจเทา่ นนั เซลลก์ ลา้ มเนือหวั ใจมีลกั ษณะโดยทวั ไปคลา้ ยคลึงกบั เซลล์กลา้ มเนือลาย คือ มีการ เรียงตวั ใหเ้ หน็ เป็นลายเมอื ดูดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์ กลา้ มเนือหวั ใจมีลกั ษณะแตกกงิ กา้ นและสานกนั มีรอยต่อและ ชอ่ ง (Gap Junction) ระหวา่ งเซลล์ ซึงเป็นบริเวณทมี ีความตา้ นทานไฟฟ้ าตาํ ทาํ ใหเ้ ซลล์กลา้ มเนือหวั ใจสามารถ ส่งกระแสไฟฟ้ าผา่ นจากเซลลห์ นึงไปยงั อีกเซลลห์ นึงได้ การสร้างเสริมและดาํ รงประสิทธภิ าพการทํางานของระบบกล้ามเนือ การทาํ งานของกลา้ มเนือทีมีประสิทธิภาพตอ้ งทาํ งานประสานสัมพนั ธ์กบั กระดูกและขอ้ ต่อ ต่าง ๆ อยา่ งเหมาะสมกลมกลืนกนั ตลอดจนมีผิวหนงั ห่อหุม้ ดงั นนั อวยั วะต่าง ๆ เหล่านีจึงตอ้ งไดร้ ับการสร้าง เสริมบาํ รุง คอื . รับประทานอาหารทีมีประโยชน์ โดยเฉพาะวยั รุ่นตอ้ งการสารอาหารประเภทโปรตีน แคลเซียม วิตามิน และเกลอื แร่ เพือเสริมสร้างกลา้ มเนือและกระดูกใหแ้ ขง็ แรงสมบูรณ์ ควรไดร้ ับอาหารทีให้ สารอาหารโปรตนี อยา่ งนอ้ ย กรัม ต่อนาํ หนกั ตวั กโิ ลกรัมต่อวนั และตอ้ งรับประทานอาหารใหค้ รบทกุ หมใู่ น ปริมาณทีเพยี งพอ
7 . ดืมนาํ มาก ๆ อยา่ งนอ้ ยวนั ละ - แกว้ เพราะนาํ มีความสําคญั ต่อการทาํ งานของระบบ อวยั วะตา่ ง ๆ . ออกกาํ ลงั กายเพอื สร้างเสริมความแขง็ แรงใหก้ บั กลา้ มเนือ อยา่ งนอ้ ยสัปดาห์ละ วนั วนั ละ - นาที . ป้ องกนั การบาดเจ็บของกลา้ มเนือโดยไมใ่ ชก้ ลา้ มเนือมากเกนิ ความสามารถ . ระบบโครงกระดูก มนุษยจ์ ะมรี ูปร่างเหมาะสมสวยงามขนึ อยกู่ บั กระดกู ส่วนตา่ ง ๆ ทีประกอบเป็ นโครงร่างของ ร่างกายเริมแรกกระดูกทีเกดิ ขึนเป็นกระดูกอ่อนและเปลยี นเป็นกระดูกแขง็ ในระยะต่อมา โดยมีเลือดไปเลียงและ นาํ แคลเซียมไปสะสมในกระดกู กระดกู จะเจริญทงั ดา้ นยาวและดา้ นกวา้ ง กระดูกจะยาวขึนโดยเฉพาะในวยั เดก็ กระดูกจะยาว ขนึ เรือย ๆ จนอายุ ปี ในหญงิ และ ปี ในชาย แลว้ จึงหยดุ เจริญเติบโต และกลายเป็ นกระดูกแข็งแรงทงั หมด ส่วนการขยายใหญ่ยงั มีอยู่เนืองจากยงั มีเซลล์กระดูกใหม่งอกขึนเป็ นเยือหุม้ รอบ ๆ กระดูก กระดูกเป็ นอวยั วะ สําคญั ในการช่วยพยุงร่ างกายและประกอบเป็ นโครงร่าง เป็ นทียึดเกาะของกล้ามเนือ และป้ องกันการ กระทบกระเทอื นต่ออวยั วะภายในของร่างกาย เมือเจริญเตบิ โตเตม็ ทีจะมีกระดูก ชนิ แบง่ เป็นกระดกู แกน ชนิ และกระดูกระยางค์ ชนิ กระดูกใหญ่ทสี าํ คญั ๆ ประกอบเป็นโครงร่าง ไดแ้ ก่ . กระโหลกศีรษะ (Skull) ประกอบดว้ ย กระดกู ชนิ . กระดกู ใบหนา้ (Face Bone) ประกอบดว้ ยกระดกู ชนิ . กระดกู ทอี ยภู่ ายในของหูส่วนกลาง (Ear Ossicles) ประกอบดว้ ยกระดูก ชนิ . กระดูกโคนลิน (Hyoid Bone) ประกอบดว้ ยกระดกู ชนิ . กระดูกลาํ ตวั (Hyoid of the Trunk) ประกอบดว้ ยกระดูก ชนิ . กระดกู หนา้ อก (Sternum) ประกอบดว้ ยกระดกู ชนิ . กระดูกซีโครง (Ribs)ประกอบดว้ ยกระดกู ชนิ หรือ คู่ . กระดกู แขนและขา (Appendicular Skeleton) ประกอบดว้ ยกระดูก ชนิ
8 ความสําคญั ของระบบโครงกระดูก . ประกอบเป็นโครงร่าง เป็นส่วนทแี ขง็ ของร่างกาย . เป็นทีรองรับและป้ องกนั อวยั วะต่าง ๆ ของร่างกาย . เป็นทียดึ เกาะของกลา้ มเนือ ทาํ ใหม้ กี ารเคลอื นไหวได้ . เป็นทีสร้างเมด็ เลอื ด . เป็นทเี กบ็ และจ่ายเกลือแคลเซียม ฟอสเฟต และแมกนีเซียม . ป้ องกนั อวยั วะภายในร่างกาย เช่น ปอด หวั ใจ ตบั สมอง และประสาท เป็นตน้ การสร้างเสริมและดํารงประสิทธภิ าพการทาํ งานของระบบโครงกระดกู . รับประทานอาหารใหค้ รบทุกหมู่โดยเฉพาะอาหารทีมีสารแคลเซียมและวิตามินดี ไดแ้ ก่ เนือสัตว์ นมและผกั ผลไมต้ ่างๆ รับประทานให้เพียงพอต่อความตอ้ งการของร่างกายเพือไปสร้างและบาํ รุง กระดูกใหแ้ ขง็ แรงสามารถทาํ งานไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ . ออกกาํ ลงั กายเป็นประจาํ สมาํ เสมอจะช่วยใหร้ ่างกายแขง็ แรง กระดกู และกลา้ มเนือทีไดร้ ับ การบริหารหรือทาํ งานสมาํ เสมอ จะมีความแขง็ แกร่งมากขนึ มีการยดื หยนุ่ และทาํ งานไดอ้ ยา่ งเตม็ ที . ระมดั ระวงั การเกดิ อุบตั เิ หตกุ บั กระดกู หากไดร้ ับอบุ ตั ิเหตุโดยถูกตี กระแทก ชน หรือตก จากทีสูงจนทาํ ใหก้ ระดกู แตกหรือหกั ตอ้ งรีบปฐมพยาบาลอยา่ งถูกวธิ ีและพบแพทย์ เพือให้กระดูกกลบั สู่สภาพ ปกตแิ ละใชง้ านไดด้ ีอยา่ งปกติ . ระบบไหลเวยี นเลอื ด ระบบไหลเวียนเลือดเปรียบเสมอื นระบบการขนส่ง ทงั นีเป็ นเพราะในระบบไหลเวียนเลือด มีเลอื ดทาํ หนา้ ทลี าํ เลียงอาหารทยี อ่ ยสลายแลว้ นาํ กา๊ ซ ไปเลียงเซลลต์ ่าง ๆ ของร่างกาย และเวลาเลอื ดไหลเวียน กลบั กจ็ ะพาเอาของเสียตา่ ง ๆ ไปยงั ส่วนของร่างกายทีทาํ หนา้ ทสี ่งของเสียเหลา่ นีออกมานอกร่างกายดว้ ย ความสาํ คญั ของระบบไหลเวยี นเลือด . นาํ ก๊าซออกซิเจน (O2) ส่งไปยงั เซลลต์ ่าง ๆ ของร่างกาย และนาํ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากเซลลเ์ พอื ขบั ออกนอกร่างกายทางลมหายใจ . ควบคมุ อณุ หภูมิภายในร่างกายใหอ้ ยใู่ นเกณฑป์ กติ . นาํ นาํ และเกลือแร่ตา่ งๆ ไปสู่เซลลแ์ ละขบั ของเสียออกจากร่างกายในรูปของปัสสาวะ . นาํ แอนติบอดี (Antibody)ไปใหเ้ ซลลต์ า่ ง ๆ เพอื ช่วยใหร้ ่างกายมภี ูมิคุม้ กนั โรค . นาํ ฮอร์โมนไปใหเ้ ซลลต์ ่าง ๆ เพอื ใหร้ ่างกายทาํ งานตอบสนองต่อสิงเร้าต่าง ๆ ได้ . นาํ เอนไซมไ์ ปใหเ้ ซลลต์ า่ ง ๆ เพอื ช่วยในการเผาผลาญอาหาร เลือดและทางเดนิ ของเลือด . เลือด (Blood) เป็ นของเหลวสีแดงมีฤทธิเป็ นด่าง มีความเหนียวกว่านาํ ประมาณ เท่า ร่างกายคนเรามเี ลือดอยปู่ ระมาณ % ของนาํ หนกั ตวั ในเลือดจะประกอบดว้ ยพลาสมา (Plasma) มีอยู่ประมาณ % ของปริมาณเลือดในร่างกายและมีเซลลเ์ มด็ เลือด (Corpuscle) ซึงมที งั เมด็ เลือดแดงและเมด็ เลือดขาว และเกล็ด เลอื ด (Platelet) ซึงรวมกนั แลว้ ประมาณ % ของปริมาณเลอื ดในร่างกาย
9 . หัวใจ (Heart) จะมีขนาดประมาณกาํ ปันของตนเอง ตงั อยใู่ นทรวงอกระหว่างปอดทงั ขา้ ง พืนทีของหัวใจ ใน ส่วนจะอยู่ทางหน้าอกด้านซ้ายของร่างกาย ภายในหวั ใจจะแบ่งเป็ น ห้อง ขา้ งบน หอ้ ง ขา้ งลา่ ง หอ้ ง มลี นิ หวั ใจกนั ระหวา่ งหอ้ งบนและหอ้ งลา่ ง แต่ละหอ้ งจะทาํ หนา้ ทตี ่างกนั คอื หอ้ ง บนขวาจะรับเลือดเสียจากส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายจากหลอดเลือดดาํ หอ้ งลา่ งขวาจะรับเลือดจากหอ้ งบนขวาแลว้ ส่งไปยงั ปอด ปอดจะฟอกเลือดดาํ ใหเ้ ป็นเลอื ดแดงเพอื นาํ ไปใชใ้ หม่ ห้องบนซ้ายจะรับเลือดแดงจากปอด หอ้ ง ลา่ งซ้ายจะรับเลือดจากหอ้ งบนซา้ ยแลว้ ส่งผ่านหลอดเลอื ดแดงไปยงั ส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย . หลอดเลือด (Blood Vessels) มี ชนิด ไดแ้ ก่ หลอดเลือดแดง (Arteries) จะนาํ เลือดแดงจาก หวั ใจไปเลียงเซลลต์ ่าง ๆ ของร่างกาย หลอดเลือดดาํ (Veins) จะนาํ เลอื ดทีใชแ้ ลว้ จากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายกลบั สู่หวั ใจ แลว้ ส่งไปฟอกทีปอด หลอดเลือดฝอย (Capillaries) เป็ นแขนงเล็ก ๆ ของทงั หลอดเลือดแดงและหลอด เลือดดาํ ผนงั ของหลอดเลอื ดฝอยจะบางมากมีอยทู่ วั ไปในร่างกาย จะเป็นทีแลกเปลียนอาหาร ก๊าซ และของเสีย ต่าง ๆ ระหวา่ งเลือดกบั เซลลก์ บั เซลลข์ องร่างกาย เพราะอาหาร กา๊ ซ และของเสียต่าง ๆ สามารถซึมผา่ นได้
10 . นําเหลอื งและหลอดนําเหลือง (Lymph and Lymphatic Vessels) นาํ เหลืองเป็ นส่วนหนึงของของเหลวในร่างกาย มีลกั ษณะเป็ นนาํ สีเหลืองอ่อนอย่ใู นหลอดนาํ เหลืองซึงมีอยทู่ วั ร่างกาย นาํ เหลืองจะประกอบดว้ ย นาํ โปรตีน (Protein) เอนไซม์ (Enzyme) แอนติบอดี (Antibody) และเซลล์เม็ดเลือดขาว (White blood cell) นาํ เหลืองจะเป็ นตวั กลาง แลกเปลยี นสารตา่ งๆ ระหว่างเซลลแ์ ละหลอดเลือดฝอย เซลล์เม็ดเลือดขาวในต่อมนาํ เหลืองช่วยกาํ จัดแบคทีเรีย หรือสิงแปลกปลอมตา่ ง ๆ การเสริมสร้างและดาํ รงประสิทธิภาพการทํางานของระบบไหลเวยี นเลือด . รับประทานอาหารใหค้ รบ หมู่ และมปี ริมาณทเี พียงพอตอ่ ความตอ้ งการของร่างกาย . ลดปริมาณการรับประทานอาหารทมี ีไขมนั และมสี ารคอเลสเตอรอล (Cholesterol) สูงเมือ เขา้ สู่วยั ผูใ้ หญ่ เนืองจากจะทาํ ใหเ้ กิดไขมนั ในเลอื ดสูง เช่น กุง้ ปลาหมึก กะทิ อาหารประเภทผดั ทอด หนัง สตั ว์ ไขมนั สตั ว์ เป็นตน้ อยา่ งไรกต็ าม สารอาหารประเภทไขมนั ยงั จดั วา่ เป็ นสารอาหารทีจาํ เป็ นในวยั เดก็ และ วยั รุ่น เพราะไขมนั เป็ นส่วนประกอบของโครงสร้างผนงั เซลล์และเป็ นแหล่งของพลงั งาน ดงั นัน วยั รุ่นควร รับประทานอาหารทมี ไี ขมนั บา้ งในปริมาณทเี หมาะสมตามขอ้ แนะนาํ ทางโภชนาการ . ออกกาํ ลงั กายอยา่ งสมาํ เสมออยา่ งนอ้ ยสปั ดาห์ละ วนั วนั ละอยา่ งนอ้ ย นาที . ทาํ จิตใจใหร้ ่าเริงแจ่มใส ดแู ลสุขภาพจิตของตนเองใหด้ ี . ควรมีเวลาพกั ผอ่ นบา้ ง ไม่หกั โหมการทาํ งานจนเกนิ ไป . ผูใ้ หญค่ วรตรวจวดั ความดนั เลือดเป็นระยะ ๆ และตรวจเลือดเพอื ดูไขมนั ในเลอื ดอย่างนอ้ ย ปี ละครัง . งดเวน้ การสูบบหุ รี และการดมื สุรา ตลอดจนสารเสพตดิ ทุกชนิด . เมือเกดิ ความผิดปกตเิ กยี วกบั ระบบไหลเวยี นเลือดควรรีบไปพบแพทย์
11 สรุป ร่างกายของคนเราประกอบดว้ ยอวัยวะต่าง ๆ มากมาย มีทงั ทีมองเห็น ซึงส่วนใหญ่จะอยู่ ภายนอกร่างกาย และส่วนทีเรามองไม่เห็นซึงจะอยภู่ ายในร่างกายของคนเรา แตล่ ะอวยั วะจะทาํ หนา้ ทเี ฉพาะและ ทาํ งานประสานกนั จึงทาํ ใหร้ ่างกายสามารถดาํ รงชีวติ อยไู่ ดอ้ ยา่ งปกตสิ ุข การทาํ งานของระบบอวยั วะตา่ ง ๆ ของ ร่างกายจาํ แนกเป็นระบบได้ ระบบ ในชนั นีไดศ้ กึ ษาเพียง ระบบ คอื ระบบผวิ หนงั ระบบกลา้ มเนือ ระบบ โครงกระดูกและระบบไหลเวยี นเลอื ด ผิวหนังทาํ หนา้ ทีเหมือนเกราะป้ องกนั สิงต่าง ๆ ทีอาจทาํ อันตรายต่อร่างกาย กระดูกเป็ น อวยั วะสาํ คญั ในการชว่ ยพยงุ ร่างกายและประกอบโครงร่าง เป็นทยี ดึ เกาะของกลา้ มเนือ ซึงกลา้ มเนือทวั ร่างกายมี มดั มหี นา้ ทีทาํ ใหค้ นเราทาํ งานต่าง ๆ ได้ โดยใชก้ ารยดื หดของกลา้ มเนือ ดงั นนั เราจะตอ้ งสร้างเสริมเพือ ดาํ รงประสิทธิภาพในการทาํ งานของระบบผวิ หนงั ระบบกลา้ มเนือ และระบบโครงกระดูก เรืองที ปัจจยั ทมี ีผลต่อการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์ การเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษยท์ ุกวยั ตงั แต่เกิดจนตาย มปี ัจจยั สาํ คญั ทเี กยี วขอ้ ง ทงั เรืองคือ พนั ธุกรรม สิงแวดลอ้ ม และโภชนาการ ทุกคนจึงควรเรียนรู้เพือใหก้ ารเจริญเติบโตและพฒั นาการ เป็ นไปตามวยั . พันธกุ รรม (Heredity) ลกั ษณะทีถา่ ยทอดทางพนั ธุกรรม เป็นลกั ษณะทางร่างกายและจิตใจทีสืบทอดไปยงั ลูกหลาน ได้ ตอ้ งเป็ นลกั ษณะทีบรรพบุรุษได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษรุ่นก่อน ๆ ส่วนความผิดปกติทีเกิดขึน หลงั จากการปฏสิ นธิ เช่น ตาบอด มีอวยั วะบางส่วนพิการ เป็นโรคลินหวั ใจรัว เป็นตน้ ลกั ษณะผิดปกติเหล่านี จึงไม่ใชค่ วามผดิ ปกตจิ ากสาเหตุทางพนั ธุกรรม เมือมนุษยร์ ู้จกั ธรรมชาติภายในตนเองมากขึน และช่วยให้วงการ แพทยเ์ ขา้ ใจกลไกของการเกิดโรคหลายกล่มุ โดยเฉพาะโรคทีถ่ายทอดทางพนั ธุกรรม อนั มีสาเหตุจากยีน (gene) หรือ โครโมโซม (Chromosome) ลกั ษณะทถี ่ายทอดทางพนั ธุกรรม ไดแ้ ก่ . ลกั ษณะทางกาย เชน่ สีผวิ สีตา รูปร่าง . ลกั ษณะทางจิตใจและสตปิ ัญญา เชน่ อารมณ์ ความฉลาด . โรคทางกาย เช่น เบาหวาน ตาบอดสี เลอื ดออกไมห่ ยดุ . โรคทางจิตบางประเภท เชน่ โรคจิตเภท . ชนิดของหมู่เลือด (Blood group) สรุป พนั ธุกรรม เป็นปัจจยั ทีมผี ลตอ่ การเจริญเติบโต และพฒั นาการของมนุษย์ เป็ นลกั ษณะทาง ร่างกายทีไดร้ ับการถ่ายทอดจากบรรพบุรุษสู่ลูกหลานตามโครโมโซม ทีแสดงออกในลกั ษณะสีผิว สติปัญญา ชนิดเลอื ด เป็นตน้
12 . สิงแวดล้อม สิงแวดลอ้ มมีอิทธิพลต่อชีวิตตงั แต่การปฏิสนธิในครรภ์มารดาจนกระทงั คลอดออกมาเป็ น ทารก แลว้ เจริญเตบิ โตและพฒั นาผ่านวยั ตา่ ง ๆ ตามลาํ ดบั สิงแวดลอ้ มเป็ นองคป์ ระกอบทีมีอิทธิพลต่อสุขภาพ และการเจริญเติบโต แบ่งออกไดด้ งั นี . สิงแวดลอ้ มกอ่ นเกิด ไม่ใช่เป็นเรืองทเี กียวกบั พนั ธุกรรม สิงแวดลอ้ มนีไดแ้ ก่ร่างกายของ มารดา สุขภาพของมารดาเป็นสิงทีสาํ คญั ทีอาจมีผลกระทบกระเทือนต่อทารกในครรภ์ โดยเฉพาะอาหาร การ กนิ และการปฏบิ ตั ขิ องมารดาในขณะตงั ครรภ์ . ภาวะทางโภชนาการ มีความสําคญั ต่อทารกในครรภ์ หากมารดาขาดสารอาหารขณะ ตงั ครรภจ์ ะมีผลทาํ ใหบ้ ุตรมนี าํ หนกั แรกเกิดนอ้ ย ผลกระทบต่อการเจริญเติบโตมากน้อยเพียงใดขึนอยู่กบั ระดบั ความรุนแรงและระยะเวลาของการขาดสารอาหารนนั ๆ . โรคภยั ไขเ้ จ็บโรคต่าง ๆ เช่น หดั เยอรมนั จะมีผลต่ออตั ราการเจริญเติบโตและพฒั นาการ ของเดก็ นบั ตงั แต่อยใู่ นครรภ์ เป็นตน้ . ฐานะทางเศรษฐกจิ สภาพเศรษฐกิจยอ่ มมผี ลกระทบต่อภาวะโภชนาการและสุขภาพของ เดก็ ได้ . สุขภาพของผูเ้ ลียงดู สภาพสงั คมปัจจุบนั ภาระการอบรมเลียงดเู ดก็ มกั ตกอยกู่ บั ผูอ้ ืนทีไม่ใช่ บิดา มารดา หากผูเ้ ลียงดูมีสุขภาพทีไม่ดี มีโรคติดต่อเช่นเป็ นวณั โรค เพราะเดก็ จะติดโรคร้ายแรงและมีการ เจริญเติบโตไมด่ เี ท่าทีควร ส่งผลกระทบต่อพฒั นาการดา้ นอืน ๆ . สิงแวดลอ้ มทางสังคม . บริการสุขภาพ สรุป สิงแวดลอ้ ม เป็นปัจจยั ทมี ีผลตอ่ การเจริญเตบิ โต และพฒั นาการของมนุษยต์ งั แต่การปฏิสนธิในครรภ์ จนกระทงั คลอดออกมาเป็นทารกและเจริญเติบโตผ่านวยั ตา่ ง ๆ ตามลาํ ดบั สิงแวดลอ้ มเหล่านี เช่น สุขภาพของ มารดาในขณะตงั ครรภ์ อาจมีผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ฐานะทางเศรษฐกจิ สิงแวดลอ้ มทางสงั คม เป็นตน้ . โภชนาการ การมีความรู้เรืองโภชนาการทีถูกตอ้ ง จะทาํ ใหท้ ุกคนมีสุขภาพดีทงั กายและใจทุกคน ซึงควร เรียนรู้หลกั การบริโภคเพอื สุขภาพทดี ีของคนไทย เรียกวา่ โภชนบญั ญตั ิ ประการ ดงั นี . กนิ อาหารครบ หมู่ แต่ละหมู่ใหห้ ลากหลาย และหมนั ดูแลนาํ หนกั ตวั . กนิ ขา้ วเป็นอาหารหลกั สลบั กบั อาหารประเภทแป้ งเป็นบางมอื . กินพชื ผกั ใหม้ ากและกินผลไมเ้ ป็นประจาํ . กนิ ปลา เนือสตั วไ์ มต่ ดิ มนั ไข่ และถวั เมลด็ แหง้ เป็นประจาํ . ดมื นมใหเ้ หมาะสมตามวยั . กนิ อาหารทมี ีไขมนั แต่พอควร . หลกี เลยี งการกนิ อาหารรสหวานจดั และเคม็ จดั . กินอาหารทสี ะอาดปราศจากการปนเปื อน . งดหรือลดเครืองดมื ทีมแี อลกอฮอล์
13 สรุป การรับประทานอาหารโดยยึดหลกั โภชนาการ ทาํ ใหไ้ ดพ้ ลงั งานและสารอาหารทีเหมาะสม กบั วยั เป็นปัจจยั สาํ คญั ขอ้ หนึงทสี ่งผลตอ่ การเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษยท์ ุกเพศทกุ วยั เรืองที พัฒนาการและการเปลยี นแปลงตามวัย . วยั ทารก การแบง่ ช่วงอายขุ องวยั ทารกจะแบง่ ออกได้ 2 ระยะ คือ วยั ทารกแรกเกิด อายตุ งั แตแ่ รกเกิดถึง สปั ดาห์ วยั ทารกอายตุ งั แต่ สปั ดาหถ์ ึง ขวบ . . วัยทารกแรกเกิด พัฒนาการทางร่างกาย ทารกแรกเกดิ มีนาํ หนกั เฉลียประมาณ , กรัม และลาํ ตวั ยาวประมาณ - เซนติเมตร ทารกไมอ่ าจควบคุมกลา้ มเนือได้ สายตามองสิงตา่ ง ๆ ไร้จุดหมาย มองเห็นสิงใดไม่ชดั จะนอนมากหลบั งา่ ยและ สะดงุ้ ตนื ง่าย พฒั นาการทางอารมณ์ อารมณ์ของทารกแรกเกดิ มกั จะมีอารมณ์รัก อารมณ์โกรธ และอารมณ์กลวั ทงั นี พ่อแม่จะมี อิทธิพลในการพฒั นาอารมณ์ตอ่ ทารกมากทีสุด พัฒนาการด้านบุคลิกภาพ บุคลิกภาพของทารกมกี ารพฒั นามาตงั แต่กาํ เนิดเช่นเดียวกบั ลกั ษณะอืน ๆ ของร่ายกายโดยมี สิงแวดลอ้ มและพนั ธุกรรมเป็นตวั กาํ หนด จึงทาํ ใหท้ ารกแตล่ ะคนมคี วามแตกต่างกนั ตงั แต่เกดิ . . วยั ทารก พัฒนาการทางร่างกาย ระยะนีทารกเจริญเตบิ โตอยา่ งรวดเร็ว จากแรกเกิดถงึ อายุ เดือน นาํ หนักจะเพิมขึนรวดเร็ว ภายหลงั เดอื น ถึง ปี นาํ หนกั จะเริมลดลง เนืองจากตอ้ งออกกาํ ลงั กายในการฝึ กหัดอิริยาบถต่าง ๆ เช่น นงั ยนื เดิน เป็นระยะฝึ กลกั ษณะใหม่จึงมกั เกดิ อบุ ตั เิ หตุบา้ ง เชน่ ลม้ ตกเตียง หรือตกบนั ได เป็นตน้ พัฒนาการทางอารมณ์ การพฒั นาดา้ นอารมณ์ของทารกวยั แรกเกิดจะส่งเสียงร้องเมือไม่พอใจ หรือโกรธเมอื ถกู ขดั ใจ จะเริมกลวั สิงรอบตวั สิงทไี มค่ นุ้ เคยจะถอยหนี ร้องไห้เมือตอ้ งการขอความช่วยเหลือจากผูใ้ หญ่ จะเป็ นวยั ทีมี ความอจิ ฉาริษยา เมอื เหน็ พอ่ แมเ่ อาใจใส่นอ้ งเป็นพิเศษ ทาํ ใหต้ นขาดความสาํ คญั ไปอยากรู้อยากเห็นสิงแปลก ๆ ใหม่ ๆ รู้จกั ยมิ หรือหวั เราะเมอื มีความพอใจ จะรักและหวงแหนของเล่นหรือรักสตั วเ์ ลียง พัฒนาการทางภาษา ทารกเริมเปลง่ เสียงออ้ แอไ้ ดต้ งั แต่ระยะ เดอื นแรก เช่น ป้ อ มา ดา ฯลฯ ภายหลงั จึงฝึ กหดั ทาํ เสียงเลยี นแบบผูใ้ กลช้ ดิ สามารถเขา้ ใจคาํ พดู ความรู้สึกทีแสดงออกทางสีหนา้ ท่าทาง นาํ เสียงของผูพ้ ูดได้ ในระหว่างนีผูอ้ ยใู่ กลช้ ดิ ควรเป็นแบบอยา่ งทดี ใี หแ้ ก่ทารก เชน่ การพดู ชา้ ๆ ออกเสียงใหช้ ดั เจน พัฒนาการทางสติปัญญา พฒั นาการดา้ นนีมีอิทธิพลจากการไดเ้ ล่นกบั เพือน ๆ เขา้ ใจภาษาทพี ูดกบั คนอนื ตลอดจนการ พฒั นากลา้ มเนือบางส่วน เช่น หู ตา เป็ นตน้ พฒั นาการทางสติปัญญาของทารก จะเริมมีการเคลือนไหวโดย
14 บงั เอญิ และพอใจเพลิดเพลนิ เชน่ อมสิงของ ดดู นิวมอื รู้จกั ใชเ้ ทา้ เขยี ของทอี ยใู่ กลต้ วั การถีบผา้ ให้ออกจากตวั เมือร้อนหรือผา้ เปี ยก รู้จกั แกป้ ัญหาดว้ ยวิธีลองถูกลองผิด ไม่ทาํ ซาํ ซาก เมืออายุ เดือนขึนไป จะรู้จกั สร้าง ความคิดรวบยอด รู้จกั นาํ ตวั ตุก๊ ตามาสมมตเิ ป็นพนี อ้ งกนั ได้ พอ่ แม่ควรเสริมพฒั นาการดา้ นความคิดดว้ ยการหาเครืองเล่นเกียวกบั ประสาทสัมผสั การใช้ กลา้ มเนือในระยะต่างๆ เชน่ อายุ เดือน การหาของเลน่ สีสวยไมแ่ ตกมาใหจ้ บั เลน่ อายุ - เดือน ควรหาของ เล่นทเี ป็นรูปทรงต่างๆ และมีกลอ่ งใหใ้ ส่ อายุ - เดือน ควรเป็ นรถทีสามารถลากได้ เพือใหเ้ กิดความสนุก เพลิดเพลนิ ฝึ กสอนไปดว้ ย สรุป วยั ทารกนบั ชว่ งอายรุ ะหวา่ งแรกเกิดจนถงึ ขวบ โดยแบง่ การพฒั นาการออกได้ ระยะ คอื ตงั แตเ่ กิด . วยั ทารกแรกเกดิ มีพฒั นาการทางร่างกาย ทางอารมณ์ และดา้ นบุคลกิ ภาพ . วยั ทารก มีพฒั นาการทางร่างกาย ทางอารมณ์ ทางภาษาและสติปัญญา ในวัยทารกจะมีสิงแวดล้อมและพันธุกรรมกาํ หนดความแตกต่างกนั ของทารกแต่ละคน . วยั เดก็ การแบง่ ชว่ งอายขุ องวยั เดก็ โดยประมาณแบง่ ไดเ้ ป็น ระยะไดแ้ ก่วยั เด็กตอนตน้ อายุตงั แต่ - ปี วยั เดก็ ตอนกลาง อายตุ งั แต่ - ปี วยั เดก็ ตอนปลาย อายตุ งั แต่ - ปี . . วัยเด็กตอนต้น พัฒนาการทางร่างกาย วยั เดก็ ตอนตน้ หรือวยั ก่อนเขา้ เรียน อตั ราการเจริญเติบโตลดลงต่างกว่าวยั ทารก จะเปลียน จากลกั ษณะท่าทางของทารก มคี วามเจริญเติบโตของอวยั วะต่าง ๆ ของร่างกาย ฟันแทจ้ ะเริมขึน - ซี จะเริม เลอื กอาหารตามทชี อบ นอนเป็นเวลา บางคนยงั ปัสสาวะรดทีนอน เริมมีทกั ษะในการใชม้ ือ แต่งตวั ไดเ้ อง ใส่ รองเทา้ ไดเ้ อง เป็นตน้ ต่อไปจะสนใจการวิงกระโดดหอ้ ยโหนเป็ นระยะ ชอบเล่นกบั เพือน ๆ มาก ทาํ ใหเ้ กิด ความอบอ่นุ ไม่รู้สึกถูกทอดทงิ พัฒนาการทางอารมณ์ วยั นีจะเป็นคนเจา้ อารมณ์ มกั จะโกรธเมอื ถูกขดั ใจจะแสดงออกโดยการทุบตี ขวา้ งปาสิงของ ทงิ ตวั ลงนอน จะมีความกลวั กบั สิงของแปลก ๆ ใหม่ ๆ จะหลบซ่อนวิงหนี ความกลวั จะค่อย ๆ หายไปโดยการ ไดร้ ับการอธิบาย และการใหเ้ ดก็ ไดค้ นุ้ เคยกบั สิงนนั ๆ มคี วามอจิ ฉาริษยานอ้ งใหม่หรือพี ๆ โดยคิดว่าตนถูกแยง่ ความรักไปจากพ่อแม่ เป็ นวยั ทีมีอารมณ์ร่างเริง แจ่มใส หวั เราะยิมง่าย อยากรู้อยากเห็นจะถามโน้นถามนี มีความสงสัยในสิงตา่ ง ๆ ไมส่ ินสุด จะแสดงความรักอยา่ งเปิ ดเผย เช่น การกอดจูบ บุคคลทีตนรักหรือสิงของ ตา่ งๆ พัฒนาการทางสังคม เดก็ เริมรู้จกั คบเพือน เลน่ กบั เพือน ปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั เพือน ๆ มกี ารเล่นกนั เป็นกลมุ่ ชอบเล่น แข่งขนั มกี ารเล่นแยกตามเพศชายเพศหญิง พอใจจะเล่นดว้ ยกนั ช่วยเหลอื กนั เห็นอกเห็นใจกนั ยอมรับฟังกนั เริม
15 มองเห็นความแตกต่างระหว่างเพศหญิงเพศชาย สนใจซักถามเกียวกับสิงทีเป็ นเพศของตน ซึงจะเป็ นการไปสู่ บทบาทชายหญงิ เมอื เตบิ โตขนึ พฒั นาการทางภาษา เดก็ จะใชภ้ าษาไดด้ ีพอสมควรสามารถอ่านและเขียน รู้ความหมาย คาํ ใหม่ ๆ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว การพฒั นาภาษามิไดข้ นึ อยกู่ บั สติปัญญาอยา่ งเดยี ว แต่มีองคป์ ระกอบอืน เชน่ ครอบครัวใหญเ่ กินไปโอกาสพูดคุย กบั ลูกนอ้ ยไป ในครอบครัวใชภ้ าษาพูดมากกวา่ ภาษาทาํ ใหเ้ ดก็ สับสน . . วยั เด็กตอนกลาง พฒั นาการทางร่างกาย การเจริญเติบโตจะเป็ นไปเรือย ๆ ร่างกายจะขยายออกทางสูงมากกว่าทางกว้าง รูปร่าง เปลียนแปลงจะมฟี ันถาวรขึนแทนฟันนาํ นมเรือย ๆ เดก็ วยั นีไม่ชอบอยู่นิง ชอบทาํ กิจกรรมอยา่ งรวดเร็ว ไม่ค่อย ระมดั ระวงั เดก็ สนใจกจิ กรรมการเล่นกลางแจง้ เกมส์กีฬาตา่ ง ๆ ทีใชก้ ลา้ มเนือและการทรงตวั พัฒนาการทางอารมณ์ เป็นวยั เขา้ เรียนตอนตน้ เมือเขา้ โรงเรียนเด็กตอ้ งเรียนรู้การปรับตวั เขา้ กบั สิงแปลก ๆ ใหม่ ๆ เช่น ครู สถานที ระเบียบวินยั สิงแวดลอ้ มใหม่ ๆ ทาํ ใหเ้ ดก็ มกี ารเปลยี นแปลงทางอารมณ์ ตอ้ งการแสดงตนเป็น ทชี นื ชอบของครู ตอ้ งการการยอมรับเขา้ เป็นหมู่คณะ มีโอกาสทาํ กิจกรรมกบั หมู่คณะทาํ ให้อารมณ์แจ่มใสเบิก บาน พฒั นาการทางสังคม เมือเด็กเริมเขา้ โรงเรียนบางคนอาจมีปัญหาในการคบเพือนฝูง ปรับตวั เขา้ กบั ผูอ้ ืนไดย้ าก ทงั นีแลว้ แต่การอบรมทีไดร้ ับจากทางบา้ น เดก็ ทีเติบโตในครอบครัวทีบรรยากาศอบอุ่น จะมีอารมณ์มันคง แจ่มใสจะใหค้ วามร่วมมอื แก่หม่คู ณะ มเี พือนมาก พัฒนาการทางสตปิ ัญญา โดยทวั ไปเดก็ จะเรียนรู้จากสิงใกลต้ วั กอ่ น จะมพี ฒั นาการทางดา้ นภาษาเจริญขึนรวดเร็ว รับรู้ คาํ ศพั ทเ์ พิมขนึ ใชถ้ อ้ ยคาํ ภาษาแสดงความคิดความรู้สึกไดอ้ ยา่ งดี เริมมพี ฒั นาการดา้ นจริยธรรม มีความรับผิดชอบ ไดใ้ นบางอยา่ งเริมสนใจสิงตา่ ง ๆ แตย่ งั ไม่สามารถพจิ ารณาไดอ้ ยา่ งลึกซึงในเรืองของความจริง ความซือสัตยอ์ าจ หยบิ ฉวยของผูอ้ นื โดยไมต่ งั ใจขโมยกไ็ ด้ . . วัยเดก็ ตอนปลาย เดก็ วยั นีจะมีอายุระหว่าง - ปี โดยประมาณ โครงสร้างของร่างกายเปลียนแปลง เพือ เตรียมเขา้ สู่วยั รุ่น พฒั นาการทางร่างกาย ในระยะนี เดก็ หญงิ จะเติบโตเร็วกวา่ เดก็ ชาย เดก็ หญงิ จะเริมมปี ระจาํ เดือนระหวา่ งอายุ - ปี โดยประมาณ เดก็ ชายจะเริมมกี ารหลงั อสุจิระหว่างอายุ - ปี โดยประมาณ พฒั นาการทางด้านอารมณ์ รักษาอารมณ์ไดป้ านกลาง ไม่ชอบการแข่งขนั ชอบการยกยอ่ งมีความกงั วลเกียวกบั รูปร่าง ตนเอง รักสวยรักงาม ตอ้ งการความรักจากเพอื นและครู
16 พฒั นาการทางสังคม เดก็ จะมีการรักกล่มุ พวกมากโดยมีพฤติกรรมเหมอื นกลุม่ ในดา้ นการแต่งกาย วาจา และการ แสดงออกมคี วามตอ้ งการเป็นทไี วว้ างใจได้ มอี ารมณ์ คลา้ ยคลงึ กนั ไม่ยอมอยคู่ นเดียว พฒั นาการทางสติปัญญา เริมมีสติปัญญามคี วามสามารถคดิ และแกป้ ัญหาไดม้ าก มีความคิดริเริม ทีจะทาํ สิงใหม่ ๆ มี ความเชือมนั ในตนเอง รับผดิ ชอบ รู้จกั ใชเ้ หตผุ ล อยากรู้อยากเห็น และมคี วามเขา้ ใจสิงตา่ ง ๆ ไดเ้ ร็ว เดก็ ชายจะ มคี วามสนใจเรืองวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ แตเ่ ดก็ หญงิ สนใจเรืองตดั เยบ็ ทาํ อาหาร การเรือน แต่ ทีสนใจคลา้ ยกนั ไดแ้ ก่ เลียงสตั ว์ ดูภาพยนตร์ หรือการไปเทยี วไกล ๆ สรุป ช่วงอายใุ นวยั เดก็ อยรู่ ะหว่าง - ปี โดยประมาณมีพฒั นาการเป็น ระยะดงั นี วยั เดก็ ตอนตน้ มีพฒั นาการทางร่างกาย ทางอารมณ์ ทางสงั คม และทางภาษา วยั เดก็ ตอนกลาง มพี ฒั นาการทางร่างกาย ทางอารมณ์ ทางสงั คม และทางสตปิ ัญญา วยั เดก็ ตอนปลาย มีพฒั นาการทางร่างกาย ทางอารมณ์ ทางสังคม และทางสติปัญญา พฒั นาการช่วงอายใุ นวยั เดก็ จะพบว่าเดก็ หญงิ มพี ฒั นาการทางร่างกายเร็วกว่าเดก็ ชาย . วัยรุ่น การแบ่งชว่ งอายขุ องวยั รุ่นอยรู่ ะหวา่ ง - ปี โดยประมาณ การเจริญเติบโตทางร่างกายของ เดก็ ผูช้ ายและเดก็ ผูห้ ญิง เป็นชว่ งระยะของการเขา้ สู่วยั หนุ่มวยั สาว เดก็ ผูห้ ญิงจะเขา้ สู่วยั รุ่นเมืออายุประมาณ ปี ขนึ ไป เดก็ ผูช้ ายจะเขา้ สู่วยั รุ่นเมืออายปุ ระมาณ ปี วยั รุ่นเป็นช่วงของการปรับตวั จากวยั เดก็ ไปสู่วยั ผูใ้ หญ่ ทาํ ใหม้ คี วามเครียด ความขดั แยง้ ในความคิด อารมณ์ และจิตใจ หากเดก็ วยั รุ่นไดร้ ับรู้ เขา้ ใจกระบวนการพฒั นาทงั ในดา้ นร่างกายและจิตใจ จะไมว่ ติ กกงั วลกบั การเปลียนแปลงทีจะเกิดขนึ กบั ตวั ของเขาเอง อีกทงั ยงั สามารถช่วย ใหพ้ วกเขา้ รู้จกั วิธีปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั สังคม ไม่ก่อปัญหาใหเ้ กดิ เป็นเรืองวุ่นวายรวมถึงการดูแลรักษา และป้ องกนั ตนเองจากโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์ชนิดตา่ ง ๆ การแบ่งช่วงอายขุ องวัยรุ่น ที ช่วงวัย หญิง ชาย . วยั เตรียมเขา้ สู่วยั รุ่น - ปี - ปี . วยั รุ่นตอนตน้ - ปี - ปี . วยั รุ่นตอนกลาง - ปี - ปี . วยั รุ่นตอนปลาย - ปี - ปี ความวิตกกงั วลของวยั รุ่น ความวิตกกงั วล เป็นความกลวั อยา่ งหนึงทีมีสาเหตุเนืองมาจากการใชจ้ ินตนาการมากกว่าจะมี สาเหตจุ ริง ๆ ในวยั รุ่นความกลวั จะลดนอ้ ยลงแตจ่ ะมีความกงั วลใจมาแทน ความวติ กกงั วลอาจเกิดจากประสบการณ์ที ไม่พอใจในอดตี หรือตงั ความหวงั ในการทาํ งานไวส้ ูง เป็นตน้ วัยรุ่นมักมีความวติ กกังวลในเรืองต่าง ๆ อาทิ
17 วติ กกงั วลเกยี วกบั การเปลียนแปลงของร่างกายว่า มีความผดิ ปกติหรือไม่ วยั รุ่นคนอืน ๆ จะเป็ นแบบนีหรื อไม่ วติ กกงั วลกบั อารมณ์ทางเพศทีสูงขึน และรู้สึกไม่แน่ใจในความเป็ นชายหรือหญิงของ ตนทีอาจทาํ ใหภ้ าพพจน์หรือความนบั ถอื ตนเองเริมสันคลอน กงั วลกบั พฤติกรรมทางเพศ ไดแ้ ก่ การสาํ เร็จความใคร่ดว้ ยตนเอง ความอยากรู้อยาก เหน็ พฤตกิ รรมเบยี งเบนทางเพศต่าง ๆ เรืองความสัมพนั ธ์กบั เพอื น ทงั กบั เพอื นเพศเดยี วกนั และเพือนตา่ งเพศ เรืองการทาํ งาน เกรงจะไม่ประสบความสาํ เร็จ วยั รุ่นสามารถลดความรู้สึกวิตกกังวลลงได้ด้วยวิธกี ารต่าง ๆ อาทิ ทาํ ความเขา้ ใจหรือหาความรู้ในเรืองทยี งั ไม่เขา้ ใจให้เกิดความชดั เจน อาทิ หาความรู้ที ถกู ตอ้ งในเรืองเพศ ปรึกษาผูใ้ หญ่หรือผูร้ ู้ในเรืองนนั ๆ ยอมรับว่า อารมณ์ความรู้สึกเป็นสิงทีเกดิ ขนึ เองควบคมุ ไมไ่ ดเ้ พราะเป็นธรรมชาติ แต่เรา สามารถควบคมุ การกระทาํ หรือพฤตกิ รรมได้ อาทิ อยใู่ กลเ้ พอื นหญิงแลว้ เกิดอารมณ์ทางเพศกค็ วรเขา้ ใจว่าเป็ น อารมณ์ทเี กดิ ขนึ จากแรงขบั ทางเพศตามธรรมชาติไมใ่ ช่ความผดิ ปกติหรือสิงเลวร้าย และพยายามฝึ กควบคุมให้มี การแสดงออกทีเหมาะสมกบั สถานะของตนหรือหากจิ กรรมอืนทาํ อาทิ การเลน่ กฬี า ทาํ งานอดิเรก อ่านหนงั สือ เล่นดนตรีร้องเพลง ฯลฯ เป็นตน้ ความกลวั ของวัยรุ่น เนืองจากวยั รุ่นในช่วงเวลาของการเปลียนจากเด็กไปเป็ นผูใ้ หญ่ วยั รุ่นจึงมกั กลวั การเป็ น ผูใ้ หญ่กลวั ความรับผิดชอบ บางครังอยากเป็นเดก็ บางครังอยากเป็ นผูใ้ หญ่ ทาํ ให้อารมณ์ผนั ผวน หงุดหงิดได้ ง่ายมาก วยั รุ่นมกั กลวั เสียชือเสียง กลวั ผดิ พลาด กลวั ทาํ งานไมไ่ ดผ้ ล การแสดงออกของวยั รุ่นเมือเกิดความกลวั คือ การหลีกเลียงไปจากสถานการณ์ทีทาํ ให้เกิด กลวั หรือพยายามตอ่ สูก้ บั เหตุการณ์ทเี ขาพจิ ารณาแลว้ วา่ จะเอาชนะได้ ซึงจะเป็ นผลดีคือเกิดความมนั ใจเพิมขึน แต่บางครังทีวยั รุ่นไมอ่ าจหนีจากเหตกุ ารณ์ทที าํ ใหก้ ลวั ได้ เพราะกลวั คนจะว่าขขี ลาดจะเป็นผลใหว้ ยั รุ่นเกิดความ วิตกกงั วล วยั รุ่นควรหาทางออกให้แก่ตนเองเพือเอาชนะความกลัวได้โดย พยายามหาประสบการณ์ต่าง ๆ ใหม้ ากทีสุดเพอื ไมไ่ ดเ้ กดิ ความกลวั และสร้างความมนั ใจ ใหต้ นเอง วเิ คราะห์สถานการณ์ และพยายามหาทางแกไ้ ขสิงทแี กไ้ ขได้ ขอความช่วยเหลอื จากผูอ้ นื อาทิ เพอื น ครู พ่อแม่ หรือ ผูใ้ หญ่ทไี วใ้ จ ความโกรธของวัยรุ่น ความโกรธของวยั รุ่นอาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ อาทิ ความรู้สึกว่าไม่ไดร้ ับความยตุ ิธรรมจาก ผูใ้ หญ่ ถกู เยาะเยย้ ถากถาง ถกู กา้ วกา่ ยเรืองส่วนตวั ถกู ขดั ขวางไม่ใหท้ าํ ในสิงทีเขาคิดว่าจะประสบความสําเร็จ เป็ นตน้ การแสดงออกเมือโกรธขึนอยกู่ ับการเลียงดู การเลียนแบบในครอบครัว อาจแสดงออกโดย สบถ
18 สาบาน การทุบขวา้ งปาสิงของ วยั รุ่นหญิงร้องไหเ้ มือผา่ นช่วงวยั รุ่นตอนตน้ ไปแลว้ คืออายุประมาณ - ปี ไป แลว้ จะควบคุมความโกรธไดด้ ขี นึ วยั รุ่นหญิงสามารถควบคุมโกรธไดด้ กี ว่าวยั รุ่นชาย วนั รุ่นควรฝึ กควบคมุ การแสดงออกให้เหมาะสม อาทิ ฝึ กควบคุมความโกรธดว้ ยวิธีต่าง ๆ เช่น นบั - หายใจเขา้ ออกลกึ ๆ ชา้ ๆ ใหส้ มาธิจดจ่อ อยกู่ บั ลมหายใจเขา้ ออก หลกี เลียงออกไปจากสถานการณ์ทที าํ ใหโ้ กรธ เป็นตน้ ไม่ควรตอบโตฝ้ ่ ายตรงขา้ มในขณะทีอยใู่ นอารมณ์โกรธดว้ ยกนั ทงั ฝ่ าย รอให้อารมณ์ สงบแลว้ จึงพูดคุยดว้ ยเหตุผล ควรพดู ชแี จงดว้ ยกริ ิยาทีสุภาพต่อผูใ้ หญ่ทตี กั เตือนเพราะความห่วงใย อารมณ์รักของวยั รุ่น อารมณ์รักเป็นอารมณ์ทีก่อใหเ้ กดิ สภาวะของความยนิ ดี ความพอใจ เมอื วยั รุ่นมีความรู้สึกรัก ใครขึนแลว้ จะมีความรู้สึกทีรุนแรงและจะมกี ารเลียนแบบบคุ ลกิ ภาพทตี นรักอีกดว้ ย เมืออยูห่ ่างกนั จะทาํ ให้เกิด ความกระวนกระวายใจ จะมีการโทรศพั ทห์ รือเขียนจดหมายตดิ ตอ่ กนั วยั รุ่นจะพยายามทาํ ทกุ วถิ ีทางเพือใหค้ นที ตนรักมคี วามสุข อาทิ ช่วยทาํ งานในโรงเรียน ใหข้ องขวญั วยั รุ่นจะแสดงออกอยา่ งเปิ ดเผย อาทิ การเฝ้ าคอยดหู รือ คอยฟังคนทตี นรักทาํ สิงตา่ ง ๆ การมคี วามรักตอ่ สิงต่าง ๆ อาทิ รักธรรมชาติ รักชืนชมต่อเสียงเพลง แมแ้ ต่ความรักทีเป็นอดุ มคติ สูงส่ง อาทิ รักในเพือนมนุษย์ หรือความรักต่อบคุ คลอืนลว้ นเป็นสิงทีดงี าม แตท่ งั นีขนึ อยกู่ บั การแสดงออก ว่ามคี วามเหมาะสมตามสถานะของวยั รุ่นหรือไม่ การแสดงความรักทเี หมาะสมตอ่ สถานะของวยั รุ่น โดยเฉพาะความรักต่อเพศตรงขา้ ม ควร เป็นความรักทอี ยบู่ นพืนฐานของการใหเ้ กียรติคนทตี นรัก ไมล่ ่วงเกนิ ใหเ้ กิดความเสือมเสีย มีการควบคุมอารมณ์ ความตอ้ งการทางเพศ มีการแสดงออกทีสังคมยอมรับได้ อาทิ ไม่ไปอยู่ในทีลบั ตา ไม่ไปพกั คา้ งคืนกนั ตาม ลาํ พงั ไมม่ ีการถกู เนือตอ้ งตวั เป็นตน้ อารมณ์ร่าเริงของวัยรุ่น อารมณ์ร่าเริงจะเกดิ ขนึ เมอื วยั รุ่นสามารถปรับตวั ไดด้ ใี นการทาํ งาน และการปรับตวั ให้เขา้ กบั สถานการณ์ต่าง ๆ ทางสังคม สามารถทาํ งานทียาก ๆ ไดส้ ําเร็จ วยั รุ่นทีอารมณ์ร่าเริงทีมีการแสดงออกทาง ใบหนา้ ทางร่างกาย อาทิ การยมิ หวั เราะ ความอยากรู้อยากเห็น วยั รุ่นมคี วามอยากรู้อยากเป็ นในเหตุการณ์แปลก ๆ ใหม่ ๆ เช่น เรืองเพศ การเปลียนแปลง ร่างกาย ความรู้สึกทางเพศ ความอยากรู้อยากเป็นของวยั รุ่นแสดงออกโดยการพุดคุย ซักถาม วิพากษ์วิจารณ์ มีการตงั คาํ ถามกบั คนใกลช้ ดิ อาทิ เพือน ผูใ้ หญ่ทีใกลช้ ิด การแสดงออกเช่นนีเป็ นการแสดงออกทีสร้างสรรค์ การที วยั รุ่นไดแ้ ลกเปลียนความคิดเห็นกบั ผูใ้ หญ่ทีมีประสบการณ์มาก ๆ และเป็ นคนทีใจกวา้ งยอมรับฟังจะช่วยให้ วยั รุ่นไดพ้ ฒั นาความคิดทีกวา้ งขวางสู่การเป็นผูใ้ หญต่ อ่ ไป
19 การเปลียนแปลงทางด้านสังคมของวัยรุ่น เดก็ ผูห้ ญิงเมือเริมยา่ งเขา้ สู่วยั สาวก็จะมีการเปลียนแปลงทางดา้ นอารมณ์ หรือภาวะทางดา้ น จิตใจไปดว้ ยเช่นกัน โดยทีเดก็ ผูห้ ญิงจะเริมมีวามสนใจตัวเองมากขึน โดยเฉพาะในเรืองความแตกต่างของ บคุ ลกิ ภาพ มคี วามสนใจทางเพศตรงขา้ ม รู้จกั สังเกตความรู้สึกของผูอ้ ืนทมี ตี อ่ ตนเอง ตอ้ งการใหผ้ ูอ้ ืนประทบั ใจ และใช้เวลากับการแต่งตวั มากขึน ในช่วงวยั รุ่นนีเองเป็ นช่วงทีเด็กผูห้ ญิง เริมทีจะวางตัวแยกออกห่างจาก ครอบครัว และเริมมวี งสังคมในกลุ่มเพือน ๆ ของเขาเอง ทงั กลุ่มเพือนในเพศเดียวกนั และเพือนต่างเพศจะไป ไหนมาไหนกนั เป็นกลมุ่ และเมือถงึ คราวกลบั บา้ นก็ยงั ยกหูโทรศพั ทห์ ากนั เป็ นชวั โมง ทงั ๆ ทีเมือกลางวนั ก็ได้ เจอกนั ทีโรงเรียน เดก็ ผูช้ ายเมอื เขา้ สู่ช่วงวยั รุ่นจะเริมมคี วามสนใจและใกลช้ ดิ กบั กล่มุ เพอื นมากขนึ พวกเขาจะมี กิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกนั ซึงอาจจะเป็ นการเล่นกีฬา ดนตรีหรือการออกไปเดินตามห้างสรรพสินคา้ พวกเขามี ความรู้สึกเอาใจใส่ซึงกนั และกนั รักเพือนมากขนึ ทาํ อะไรกจ็ ะทาํ ตาม ๆ กนั เป็นกลุ่ม ไม่ตอ้ งการทีจะแตกแยกหรือ ถูกทอดทงิ ออกจากล่มุ ปัญหาการเปลียนแปลงทางดา้ นสงั คมของเดก็ วยั รุ่นผูช้ ายส่วนใหญ่ จะเป็นเรืองของยาเสพติด ซึงมกั จะเริมขนึ ครังแรกจากการทดลองใชย้ าเสพติด โดยไดร้ ับการแนะนาํ จากเพือน บางคนอาจจะเต็มใจทีจะ ลอง แต่บางคนจาํ เป็นทีจะตอ้ งลองเพราะวา่ ไมต่ อ้ งการทีจะถกู ทอดทงิ ออกจากล่มุ โดยทวั ไปการทดลองยาเสพตดิ มกั จะเริมจากการสูบบุหรี เพราะสามารถหาซือไดง้ ่ายและมี ราคาถกู ทสี ุด เมือเทียบกบั ยาเสพติดชนิดอืน ๆ เมอื เริมสูบบุหรีแลว้ กอ็ าจจะเริมทดลองยาเสพติดประเภทอืน ๆ ที มฤี ทธิร้ายแรงมากยงิ ขนึ อาทิ สูบกญั ชา เสพยาบา้ ผงขาว หรือเฮโรอีน เป็นตน้ การพฒั นาการทางสติปัญญา (Metal Development) การพฒั นาการทางสติปัญญาของวยั รุ่นตอนตน้ คอื ความสามารถทางสมองเพิมขนึ เพราะเซลลป์ ระสาท ซึงมีอยตู่ งั แต่เดก็ ในระยะนีจะพฒั นาเตม็ ที การเปลียนแปลงจะเห็นไดช้ ดั ในความสามารถในการพดู จินตนาการ ความสนใจ เปลียนแปลงไปจากเดิม เริมสนใจเพอื นต่างเพศ ไมเ่ หมอื นกบั วยั เดก็ การทาํ งานมีความ สนใจและติดต่อกนั นานกว่าวัยเด็ก การทาํ งาน เรียนดี ความคิดดี มีเหตุผลขึน เดก็ บางคนสามารถเขียนบท ประพนั ธ์นวนิยายได้ เป็นตน้ สรุป วยั รุ่น มีพัฒนาการทางร่างกายของเด็กหญิง และเด็กชายแตกต่างกนั คือเด็กหญิงจะมี พฒั นาการเร็วกวา่ เดก็ ชาย โดยแบ่งชว่ งอายดุ งั นี . วยั เตรียมเขา้ สู่วยั รุ่น . วยั รุ่นตอนตน้ . วยั รุ่นตอนกลาง . วยั รุ่นตอนปลาย วยั รุ่นเป็นชว่ งทมี ีพฒั นาการทงั ในดา้ นร่างกายและจิตใจคอ่ นขา้ งเร็วกว่าวยั อืน ๆ เป็ นช่วงของ การปรับตวั จากวยั เดก็ ไปสู่วยั ผูใ้ หญ่ โดยมกี ารเปลยี นแปลงในดา้ นต่าง ๆ ดงั นี
20 . การเปลียนแปลงทางดา้ นร่างกายจะเป็ นไปอยา่ งชดั เจน วยั รุ่นหญิงจะมีลกั ษณะรูปร่าง ทรวดทรงเป็นหญงิ สาวชดั เจนมีการเปลียนแปลงระบบอวยั วะสืบพนั ธุ์โดยเริมมีประจาํ เดือนพร้อมจะสืบพนั ธุ์ได้ วยั รุ่นชายจะเริมมีลกั ษณะของชายหนุ่ม มีการเปลียนแปลงของระบบอวยั วะเพศเริมมีอสุจิซึงเป็ นเซลล์สืบพนั ธุ์ พร้อมทจี ะสืบพนั ธุ์ได้ . การเปลียนแปลงทางด้านอารมณ์และจิตใจส่วนใหญ่จะมีผลมาจากการเปลียนแปลง ทางดา้ นร่างกาย ไดแ้ ก่ ความวติ กกงั วล ความกลวั ความโกรธ ความรักและความอยากรู้อยากเห็น สิงต่าง ๆ ทีเกดิ ขนึ กบั วยั รุ่นดงั กล่าวนนั ผใู้ หญ่ ผูใ้ กลช้ ิดควรสังเกตและแกไ้ ขปัญหาดว้ ยเหตผุ ลตา่ ง ๆ ทีเหมาะสม . การเปลียนแปลงทางดา้ นสังคมเริมมีวงสังคมในกลุ่มเพศเดียวกนั และต่างเพศมีการทาํ กจิ กรรมร่วมกนั เป็นกลมุ่ กลวั การถกู ทอดทงิ ปัญหาทีควรระวงั มากเป็นเรืองของยาเสพติด . การพฒั นาการทางสตปิ ัญญาความสามารถทางสมองจะพฒั นาเต็มที มีการเปลียนแปลงที เห็นไดช้ ดั ไดแ้ กค่ วามสามารถใน การพูด การทาํ งาน ความคิด ความจาํ ดี มสี มาธิมากขึน . วยั ผู้ใหญ่ ระยะของช่วงเวลาทีเรียกว่า ผูใ้ หญ่ นนั มีความยาวนาน และมีความสําคญั ต่อชีวิต อย่างมากเป็ นระยะเวลาการเลือกประกอบอาชีพทีมันคง มีเพือน คู่ครอง ในวยั นียงั มีการเปลียนแปลงทาง ร่างกาย และความเสือมในดา้ นความสามารถอกี ดว้ ย จะแบง่ ช่วงอายไุ ดเ้ ป็น ระยะ คือวยั ผูใ้ หญอ่ ายตุ งั แต่ - ปี วยั กลางคนอายตุ งั แต่ - ปี . . วยั ผู้ใหญ่ (Adulthood) ลกั ษณะโดยทวั ไปของวยั ผูใ้ หญ่ บุคคลยา่ งเขา้ สู่วยั ผูใ้ หญ่ ตอ้ งปรับตวั ใหเ้ ขา้ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของสังคมยอมรับ ความเป็นจริงของชวี ติ การควบคมุ อารมณ์ การเลือกคูค่ รองทเี หมาะสม อาจกลา่ วไดด้ งั นี . การเลือกคู่ครองใชร้ ะยะเวลาหลงั จากวยั รุ่น สนใจเลือกคู่ครองโดยศึกษา องค์ประกอบทีสําคญั เพือเลือกคู่ครองไดเ้ หมาะสมกบั ตน อาทิ ความสนใจ ทศั นคติคลา้ ยคลึงกนั ฐานะทาง เศรษฐกจิ ไม่แตกต่างกนั เกินไป องคป์ ระกอบเหลา่ นีจะช่วยให้ชีวิต ครอบครัวยงั ยนื เมือแต่งงานแลว้ ทงั ชายและ หญิง กต็ อ้ งปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั บทบาทใหม่ในฐานะความเป็ นสามี ภรรยาตอ้ งเขา้ อกเขา้ ใจกนั ปรับตวั เขา้ หากนั ยอมรับสภาพความเป็นอยขู่ องกนั และกนั ไดด้ ีแลว้ การเตรียมจิตใจไวเ้ พอื เป็นพอ่ แม่ตอ่ ไป . การประกอบอาชีพทีเหมาะสมกับความสามารถของตน มกั จะมีความ เจริญกา้ วหนา้ ในอาชพี ผปู้ ระสบความสาํ เร็จในการประกอบอาชีพ จะชว่ ยใหช้ ีวติ ครอบครัวมคี วามสุข . การเผชิญปัญหา ในวยั ผูใ้ หญ่มกั จะมีปัญหาในเรืองของการมีคู่ครองและ บตุ ร การมสี มาชกิ เพอื ขึนกย็ อ่ มมีปัญหาประดงั เขา้ มา ตอ้ งใชค้ วามสามารถในการแกป้ ัญหาเพือประคบั ประคอง ครอบครัวได้ . ความกดดนั ทางดา้ นอารมณ์ ปัญหาตา่ ง ๆ ทงั ในดา้ นครอบครัวและการงาน บางคนมคี วามยงุ่ ยากในการปรับตวั อยบู่ า้ ง แต่พอยา่ งเขา้ สู่วยั - ปี อาจลดความตึงเครียดไดบ้ า้ งและสามารถ แกไ้ ขปัญหาต่าง ๆ ไดด้ ขี นึ ความตงึ เครียดทางอารมณ์กล็ ดลงไป
21 . . วยั กลางคน (Middle Ages) วยั กลางคนนับว่าเป็ นช่วงระยะเวลาทียาวนานเป็ นช่วงทีสําคญั ทีสุดของชีวิต บุคคลทีประสบความสาํ เร็จในชวี ิตจะอยใู่ นช่วงชีวติ ตอนนีเป็นส่วนมาก ความเปลียนแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ ทเี กดิ ขนึ กบั บุคคลวยั กลางคน . ความเปลียนแปลงทางร่างกาย ไดแ้ ก่ รูปร่าง หนา้ ตา ท่าทาง การมอง การฟัง การทาํ งานของตอ่ มต่าง ๆ ชา้ ลง สมรรถภาพทางเพศลดลง ผูห้ ญิงจะอยู่ในระยะทีประจาํ เดือนเริมหมด หรือทเี รียกว่าระยะ “menopause” อารมณ์หวนั ไหวไดง้ ่าย มีความหงดุ หงดิ และรําคาญเก่ง ผูใ้ กลช้ ิดตอ้ งรู้จกั เอา อกเอาใจ จะชว่ ยใหค้ วามวิตกกงั วลลดลงไปได้ . ความเปลียนแปลงในหนา้ ทกี ารงาน อาจมีการเปลียนแปลงตาํ แหน่งหนา้ ที การงาน เปลียนแปลงผูบ้ งั คบั บญั ชา ระยะนีเป็นช่วงของความสําเร็จสูงสุดในชีวิตการงาน อาจก่อให้เกิดความ กงั วลใจไมน่ อ้ ย . ความเปลยี นแปลงทางดา้ นอารมณ์ มคี วามกงั วลห่วงการงานอาจมีอารมณ์ที แปรเปลียนไปจากเดมิ อารมณ์ของหญิงวยั นีกลบั มีลกั ษณะคลา้ ย ๆ กบั อารมณ์โกรธง่ายหายเร็ว . ความเปลยี นแปลงดา้ นความสนใจ มคี วามสนใจในเรืองต่าง ๆ ลึกซึงพิเศษ และจริงจงั บางคนสนใจเรืองศาสนา บางคนชว่ ยงานสังคม เป็นการหาความสุขใหต้ นเองและสงั คมตามอตั ภาพ สรุป วยั ผูใ้ หญ่เป็นชว่ งอายตุ งั แต่ - ปี เป็นวยั ทมี ีพฒั นาการในดา้ นตา่ ง ๆ ไดม้ ากจนถงึ ขีดสูงสุด อาทิ ดา้ นความสูง สติปัญญา มีการเปลียนแปลงดา้ นจิตใจความพอใจ ค่านิยม และสนใจในเรืองคู่ครองมาก เป็นวยั ทีเริมเสือมความสามารถ สมรรถภาพทางเพศลดนอ้ ยลง . วัยสูงอายุ ความชราจะมีความแตกต่างของบุคคล เขา้ มาเกียวข้องดว้ ยในวยั ทีมีอายุเท่ากัน สมรรถภาพอาจแตกต่างกนั บางคนอายุ ปี แต่ความชราทางกายภาพมีมาก ในเวลาเดียวกนั คนอายุ ปี ความชราทางกายภาพยงั ไมม่ ากนกั เราจึงกาํ หนดอายวุ ยั ชราโดยประมาณ คอื วยั ปี ขนึ ไป พัฒนาการทางร่างกาย เซลล์ต่าง ๆ เริมตายจะมีการเกิดทดแทนไดน้ ้อยและช้า ร่างกายสึกหรอ ถ้ามีการ เจ็บป่ วยทางร่างกายจะรักษาลาํ บากและหายชา้ กวา่ วยั อนื ๆ เพราะวยั นีร่างกายมีแต่ความทรุดโทรมมากกว่าความ เจริญ ความสูงจะคงที หลงั โกง ผมบนศรี ษะหงอก กลา้ มเนือหยอ่ นสมรรถภาพการทรงตวั ไม่ดี พัฒนาทางสติปัญญา มีความสุขมุ รอบคอบ ยงั มเี หตุผลดแี ต่ขาดความริเริมจะยดึ หลกั เกณฑท์ ีตนเคยยึดถือ ปฏบิ ตั ิ สมรรถภาพในการเล่าเรียนจะค่อย ๆ ลดลงทีละนอ้ ยในช่วงอายรุ ะหว่าง - ปี หลงั จาก ปี แลว้ จะ ลดลงคอ่ นขา้ งเร็ว การท่องจาํ อะไรจะรับไดย้ ากกวา่ วยั อนื มีความหลงลมื ง่าย
22 พัฒนาการทางด้านอารมณ์ บางคนชอบง่าย โกรธง่าย อารมณ์แปรปรวนไม่คงที แต่วยั ชราบางรายมีจิตใจดี ทงั นีเป็นไปตามสภาพแวดลอ้ ม สงั คม และประสบการณ์ทีผ่านมา รวมถงึ สภาพเศรษฐกิจในครอบครัวดว้ ย ใน วยั ชรานีจะมีความเมตตากรุณา อตั ตาสูงกว่าวยั อืน ๆ จะเหน็ ไดจ้ ากการชว่ ยเหลือผูอ้ ืนในกรณีต่าง ๆ พฒั นาการทางด้านสังคม ส่วนมากจะสนใจเรื องของการกุศลยึดถือศาสนาเป็ นทีพึงพิงทางใจ บริจาค ทรัพยส์ ินเพอื การบาํ รุงศาสนา จบั กล่มุ ปฏิบตั ธิ รรม บางรายสิงแวดลอ้ มและเศรษฐกิจบงั คบั ไม่สามารถทาํ ความ ตอ้ งการได้ กจ็ ะไดร้ ับมอบหมายใหเ้ ลียงดเู ดก็ เลก็ ๆ ในบา้ น มีความสุขเพลิดเพลินไปกบั ลูกหลานประสบการณ์ ของคนชรามีค่ามากสาํ หรับหนุ่มสาว บุตรหลาน ตอ้ งยอมรับนบั ถือเอาใจใส่เห็นคุณค่า ไม่เหยยี บยาํ ดูหมินดู แคลน ควรหาทาํ งานอดิเรกใหท้ าํ เพอื ใหท้ ่านมคี วามสุขเพลิดเพลิน สรุป ช่วงอายวุ ยั ชราจะเริมนับตงั แต่ ปี ขึนไป ความชรามีความแตกต่างของบุคคล ในวยั อายุ เท่ากนั สมรรถภาพอาจแตกตา่ งกนั โดยทวั ไป ร่างกายมแี ตค่ วามทรุดโทรมมากกวา่ ความเจริญเตบิ โต สติปัญญา จะค่อยลดนอ้ ยลง แตเ่ ป็นวยั ทมี คี วามสุขมุ รอบคอบมีเหตุผล อารมณ์จะแปรปรวนไมค่ งที เป็นวยั ทีมีความเมตตา กรุณาสูงกว่าวยั อนื ๆ
23 กจิ กรรมที จงอธิบายโครงสร้าง หนา้ ทีการทาํ งานและการดูแลรักษาระบบอวยั วะทีสาํ คญั ระบบมาโดยสรุป . ระบบผิวหนงั _________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ . ระบบกลา้ มเนือ______________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ . ระบบกระดูก________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ . ระบบไหลเวยี นเลอื ด__________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ กิจกรรมที ปัจจยั ทีผลต่อการเจริญเติบโตและพฒั นาการมนุษยม์ ีอะไรบา้ ง _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ _____________________________________________________________________________
24 กิจกรรมที จงอธิบายพฒั นาการและการเปลียนแปลงตามวยั ของมนุษยม์ าโดยสรุป . วยั ทารก_____________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ . วยั เดก็ ______________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ . วยั รุ่น_______________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ . วยั ผูใ้ หญ_่ ____________________________________________________________ _____________________________________________________________________________ . วยั สูงอาย_ุ ____________________________________________________________ _____________________________________________________________________________
25 บทที สุขภาพทางกาย สาระสําคัญ ความรู้ความเขา้ ใจ ในการปฏิบตั ิตนเพือหลีกเลียงพฤติกรรมเสียงต่อสุขภาพ ตลอดจนสามารถอธิบายถึง ประโยชนข์ องการออกกาํ ลงั กายและโทษของการขาดออกกาํ ลงั กาย ตลอดจนอธิบายถึงวิธีการออกกาํ ลงั กายเพือ สุขภาพได้ ผลการเรียนรู้ทีคาดหวัง .สามารถอธิบายถงึ วธิ ีปฏบิ ตั ติ นในการหลกี เลยี งพฤตกิ รรมเสียงต่อสุขภาพได้ .สามารถอธิบายประโยชน์และรูปแบบของการออกกาํ ลงั กายและโทษของการขาดการออกกาํ ลงั กายได้ ขอบข่ายเนือหา เรืองที การเสริมสร้างสุขภาพของตนเองและบุคคลในครอบครัว เรืองที การออกกาํ ลงั กาย เรืองที รูปแบบและวิธีการออกกาํ ลงั กายเพือสุขภาพ
26 เรืองที การเสริมสร้างสุขภาพตนเองและบุคคลในครอบครัว ครอบครัวมีบทบาทและอิทธิพลทีสาํ คญั มากในการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพของบุคลในครอบครัว เพราะครอบครัวเป็นสังคมปฐมภูมทิ ีมีความใกลช้ ิดผกู พนั มีความนบั ถือเชือฟังกนั และกนั เป็ นพืนฐาน ครอบครัว ประกอบดว้ ย ป่ ู ยา่ ตา ยาย พ่อ แม่ ลูก หลาน และอืนๆครอบครัวจึงเป็ นศูนยก์ ลางการเรียนรู้ขนั พืนฐานและ พฒั นาการดา้ นต่างๆ ตลอดจนการพฒั นาพฤติกรรมสุขภาพของบุคคลทุกวยั ดงั นันการวางแผนดูแลสุขภาพของ บุคคลในครอบครัวจึงจาํ เป็ นและสาํ คญั อยา่ งมากเพือใหท้ ุกคนมีสุขภาพดีโดยตอ้ งเริมจากตวั เราและทุกคนใน ครอบครัวเป็นสาํ คญั การดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัวจะตอ้ งมกี ารวางแผนไวล้ ่วงหน้าและดาํ เนินการให้ เป็ นไปตาม แผน และทุกคนตอ้ งมีการปฏิบตั ใิ หเ้ ป็นไปตามแผนทีวางไวใ้ นเรืองต่างๆดงั นี . การรักษาความสะอาด . การป้ องกนั โรค .การรับภูมิคมุ้ กนั โรค . อาหารและโภชนาการ . การออกกาํ ลงั กายและเลน่ กฬี า . การพกั ผ่อนและกิจกรรมนนั ทนาการ . การดูแลรักษาสิงแวดลอ้ ม . การดูแลสุขภาพจิต . การป้ องกนั อบุ ตั ิเหตุและสร้างเสริมความปลอดภยั . การปฐมพยาบาลเบืองตน้ การรักษาความสะอาด การรักษาความสะอาดของร่างกาย ไดแ้ ก่ เสือผา้ เครืองนุ่งห่ม เครืองใชส้ ่วนตวั และส่วนรวม ตลอดจน การรักษาความสะอาดของทอี ยอู่ าศยั ในวยั เด็ก พ่อ แม่ ป่ ู ย่า ตา ยาย หรือ ผูป้ กครองเป็ นแบบอย่างในการรักษา ความสะอาด เมือเติบโตขึนเราควรรู้จกั การดูแลตนเองเรืองการทาํ ความสะอาดในเรืองส่วนตวั และช่วยเหลือ สมาชกิ คนอืน ภายในครอบครัวจนเป็นนิสัย เช่น ชว่ ยซักผา้ ใหพ้ ่อแม่ หรือผูส้ ูงอายใุ นครอบครัว เป็นตน้ การป้ องกนั โรค การปฏิบตั ิใหถ้ กู ตอ้ งจะชว่ ยป้ องกนั โรคตา่ ง ๆ ทเี กดิ ขนึ ตามฤดูกาลหรือเมือเกิดการระบาด เช่น หนา้ ฝน จะมีการระบาดของโรคหวดั ควรสวมใส่เสือผา้ ทีทาํ ใหร้ ่างกายอบอุ่น ฝนตกตอ้ งกางร่ม หรือสวมใส่เสือกนั ฝน หนา้ ร้อนกเ็ กิดการระบาดของโรคทอ้ งร่วงหรืออหิวาตกโรค ควรรับประทานอาหารทมี ปี ระโยชน์และปรุงสุก ใหม่ ๆ หากมกี ารระบาดของโรคทปี ้ องกนั ได้ โดยการฉีดวคั ซีนป้ องกนั กค็ วรใหบ้ ุคคลในครอบครัวไปรับการฉีด วคั ซีน เป็นตน้
27 การรับภมู คิ ุ้มกันโรค การรับภมู ิคุม้ กนั โรคในวยั เดก็ เป็นหนา้ ทขี องพอ่ แมห่ รือผูป้ กครองตอ้ งพาเด็กไปรับภูมิคุม้ กนั จากแพทย์ เชน่ โรคไอกรน คอตบี โปลโิ อ เป็นตน้ เมือโตขนึ หากเกดิ โรคระบาดหรือตอ้ งฉีดวคั ซีน เราตอ้ งเห็นความสําคญั และเห็นคณุ ค่าของการรับภูมคิ มุ้ กนั เพือป้ องกนั โรคตา่ งๆและยนิ ดเี ตม็ ใจรับภูมคิ มุ้ กนั ตลอดจนแนะนาํ คนอืนๆให้ เหน็ ความสาํ คญั ดว้ ย อาหารและโภชนาการ การไดร้ ับอาหารทมี ปี ระโยชน์ มีคณุ ค่าและเพยี งพอต่อความตอ้ งการของร่างกายในแต่ละมือและแต่ละ วนั นับว่ามีความสําคญั ควรมีกาํ หนดหรือวางแผนไว้ล่วงหนา้ ว่ามือเชา้ มือกลางวัน หรือมือเย็นจะทาํ อาหาร อะไรบา้ ง เพือจะไดอ้ าหารทหี ลากหลายและแตกต่างกนั ไป เช่น อาหารของเดก็ เล็กควรแตกต่างจากอาหารผูใ้ หญ่ การจดั อาหารสาํ หรับผูป้ ่ วยเฉพาะโรค ไดค้ ุณค่าของอาหารครบทุกหมู่และในปริมาณทีเพียงพอต่อความตอ้ งการ ของร่างกาย เพือส่งเสริมสุขภาพของทุกคนในครอบครัว ในแต่ละวนั ทุกคนในครอบครัวควรไดร้ ับประทาน อาหารครบ มอื มีคุณค่าอาหารครบ หมู่ และดืมนาํ อยา่ งนอ้ ยวนั ละ - แกว้ การออกกาํ ลังกายและเล่นกฬี า ควรออกกาํ ลงั กายและสนบั สนุนให้ทุกคนในครอบครัวไดอ้ อกกาํ ลงั กายและเล่นกีฬาเป็ นประจาํ โดย ชกั ชวนกนั ไปออกกาํ ลงั กาย พร้อมทงั ใหค้ าํ แนะนาํ เกียวกบั ประโยชน์ของการออกกาํ ลงั กายและเล่นกีฬาทีช่วยให้ สุขภาพดี มีความสดชนื แจ่มใส คลายเครียด และช่วยใหร้ ะบบต่างๆ ในร่างกายทาํ งานดีขึน ทุกคนควรออกกาํ ลงั กายอยา่ งสมาํ เสมออยา่ งนอ้ ยวนั ละ นาที หรืออยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ วนั ถา้ เป็นไปไดค้ วรออกกาํ ลงั กายทกุ ๆวนั การพักผ่อนและกิจกรรมนันทนาการ หลงั จากการทาํ งานของผูใ้ หญ่ หรือการเรียนของเด็ก การออกกาํ ลงั กาย และการเล่นกีฬาของทุกคนใน ครอบครัวทถี ือว่าเป็นภารกิจทีจะตอ้ งทาํ ประจาํ วนั แลว้ ภารกิจอกี ส่วนหนึงทีทุกคนจะตอ้ งทาํ คอื การพกั ผ่อนและ กิจกรรมนนั ทนาการทตี อ้ งมกี ารกาํ หนดหรือวางแผนในการปฏิบตั ิ การพกั ผ่อน โดยการนอนทีถือว่าสําคญั ทีสุด ควรนอนเป็นเวลา และนอนหลบั อยา่ งนอ้ ยวนั ละ - ชวั โมง นอกจากนีควรกาํ หนดการวางแผนร่วมกบั ครอบครัว โดยใชก้ ิจกรรมนนั ทนาการ เช่น ปลกู ตน้ ไมร้ ่วมกนั ไปท่องเทยี วในวนั หยดุ เป็นตน้ การดแู ลรักษาสิงแวดล้อม การดูแลสุขภาพของทุกคนในครอบครัวในเรืองสุขภาพร่างกาย ความสะอาด อาหาร การบริโภค ตลอดจนการพกั ผ่อนนนั ยงั ไม่เพยี งพอ เพราะสิงทีจะช่วยใหค้ นมีสุขภาพดี ปราศจากโรคภยั ไขเ้ จ็บไดต้ อ้ งมีสิงอืน ประกอบดว้ ย ไดแ้ ก่ บา้ นเรือน โรงเรียน สิงแวดลอ้ มรอบตวั ตอ้ งช่วยกนั ดแู ลใหส้ ะอาด ปราศจากขยะมลู ฝอย และ สิงปฏกิ ลู ตา่ งๆ ทางระบายนาํ ไม่มีนาํ เน่า นาํ ขงั มีส้วมทีถูกสุขลกั ษณะ และมีสิงแวดลอ้ มทีดี น่าอยู่อาศยั ทุกคน ควรมีจิตสาํ นึกโดยปฏบิ ตั ิตนเป็นแบบอยา่ งและจดั สิงแวดลอ้ มภายในบา้ นและบริเวณใหถ้ กู สุขลกั ษณะ รวมทงั ให้ ความร่วมมือในการดูแลรักษาสิงแวดลอ้ มในชุมชนอย่างสมาํ เสมอ เช่น การเขา้ ร่วมกิจกรรมพฒั นาสาธารณะ สถานหรือกิจกรรมบาํ เพญ็ ประโยชน์การรักษาชุมชนใหส้ ะอาด หรือกิจกรรมในวนั สาํ คญั ทางศาสนา เป็นตน้
28 การดูแลสุขภาพจติ การดแู ลสุขภาพร่างกายอยา่ งเดยี วยอ่ มไม่เพียงพอ เพราะทกุ คนจะมีสุขภาพทีสมบูรณ์แขง็ แรงไดจ้ ะตอ้ ง มีความสมบรู ณ์แขง็ แรงทงั สุขภาพกายและสุขภาพจิต การดูแลสุขภาพจิต ทาํ ไดโ้ ดยการใหค้ วามเอืออาทร ความ ห่วงใยแกส่ มาชกิ ในครอบครัว มีการชว่ ยเหลือเกือกลู และใหก้ าํ ลงั ใจซึงกนั และกนั ใหค้ าํ ปรึกษาหารือและมีส่วน ร่วมในการวางแผนและการทาํ กิจกรรมของครอบครัวเพือสร้างสัมพนั ธภาพอนั ดี ใหเ้ กิดขึนในครอบครัวซึงจะ ส่งผลถึงการมีสุขภาพจิตทีดใี นทีสุด การป้ องกนั อุบัตเิ หตุและสร้างเสริมความปลอดภัย การวางแผนเพือไม่ให้เกิดอุบตั ิเหตุภายในครอบครัว ทุกคนในครอบครัวควรช่วยกนั สาํ รวจเครืองมือ เครืองใชท้ ีอาจจะเป็นสาเหตุของการเกิดอุบตั เิ หตใุ หป้ ลอดภยั ในการใช้ หากมีการชาํ รุดตอ้ งซ่อมแซมแกไ้ ขให้อยู่ ในสภาพทีพร้อมใชง้ านไดด้ ี จัดเกบ็ ในทีทีเหมาะสมและสะดวกสําหรับการใชง้ านในครังต่อไป เรียนรู้การใช้ เครืองมอื ทกุ ชนิดใหถ้ ูกวิธี และรู้วิธีป้ องกนั อุบตั ิเหตตุ ่างๆ ทอี าจจะเกิดขึน ฝึ กให้มีพฤติกรรมทีถูกตอ้ ง รู้หลกั ของ ความปลอดภยั และรู้จกั หลกี เลยี งการเกิดอุบตั เิ หตุต่างๆ การปฐมพยาบาลเบืองต้น การดแู ลปฐมพยาบาลเบืองตน้ เป็นเรืองสาํ คญั และจาํ เป็นสาํ หรับครอบครัว นกั เรียน ควรหาความรู้ และ ความเข้าใจในเรืองการปฐมพยาบาลอย่างง่ายๆ สําหรับบุคคลในครอบครัว เช่น เมือมีการบาดเจ็บตอ้ งปฐม พยาบาลดว้ ยการทาํ แผล ใส่ยา รู้จกั การวดั อุณหภูมิเมือมีไข้ การปฐมพยาบาลคนเป็ นลม เป็ นตะคริว เป็ นตน้ นอกจากนีตอ้ งวางแผนในการดแู ลคนในบา้ นใหไ้ ดร้ ับการตรวจโรคอย่างน้อยปี ละ ครัง หรือถา้ ในครอบครัวมี สุขภาพไมป่ กติจะตอ้ งไปพบแพทยว์ นั ใด เดอื นใดหรือหากเกิดเหตฉุ ุกเฉินตอ้ งไปพบแพทยท์ ีไหน โดยวิธีใด หรือ ใช้เบอร์โทรศพั ท์อะไร เป็ นตน้ และแนะนาํ ใหท้ ุกคนในบา้ นเขา้ ใจและฝึ กปฏิบตั ิให้ทุกคนไดเ้ รียนรู้ เพือให้ สามารถช่วยเหลอื ตนเองและผูอ้ นื ได้ การวางแผนดูแลสุขภาพของบคุ คลในครอบครัวเป็นสิงทีจาํ เป็ น เพราะเมือปฏิบตั ิแลว้ จะเกิดประโยชน์ ตอ่ สุขภาพ ดงั นนั ทกุ คนในครอบครัวจึงควรมีการวางแผนดแู ลสุขภาพของตนเองและบคุ คลในครอบครัว ดงั นี . ฝึ กใหต้ นเองสนบั สนุนใหบ้ คุ คลในครอบครัวมพี ฤตกิ รรมทีถูกตอ้ งเกียวกบั เรือง ความสะอาด และมี ความเป็นอยทู่ ีถูกสุขลกั ษณะ . วางแผนการไปรับความรู้และการป้ องกนั โรค ทงั โรคติดต่อและไมต่ ดิ ต่อ . วางแผนไปรับการสร้างภูมคิ มุ้ กนั โรคดว้ ยการฉีดวคั ซีนตามกาํ หนด หรือตามการระบาดของโรค . วางแผนรับประทานอาหารทีมีคุณค่าและเป็ นประโยชน์ต่อร่างกายครบถว้ นทงั คุณค่าและปริมาณที เหมาะสม และเป็นไปตามวยั . จดั ตารางเวลากิจกรรมในชวี ิตประจาํ วนั ใหส้ ามารถออกกาํ ลงั กายเล่นกฬี าอยา่ งสมาํ เสมอ . แบ่งเวลาเพือใหไ้ ดร้ ับการพกั ผอ่ นอยา่ งเพยี งพอ . วางแผนในการปรับปรุงทีอยอู่ าศยั และสิงแวดลอ้ มใหป้ ลอดภยั . ดแู ลเอาใจใส่ทุกคนในครอบครัวใหม้ ีสุขภาพจิตทีดี มีความรัก ความอบอุ่น มีการช่วยเหลือเกือกูล และเอืออาทรต่อกนั ในครอบครัว .วางแผนเรืองความปลอดภยั ในชีวิต หลีกเลียงพฤติกรรมทีอาจก่อใหเ้ กิดอุบตั ิเหตุหรือการสูญเสีย เนืองจากมกี ารป้ องกนั ไวก้ ่อน
29 . วางแผนเมือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดโดยใหค้ วามช่วยเหลืออยา่ งถูกตอ้ งวิธีเมือมีการบาดเจ็บหรือ เจ็บป่ วยขนึ ในครอบครัว วนั จนั ทร์ ตวั อย่างแผนตารางและกจิ กรรมประจําสัปดาห์ อาทิตย์ ผลการปฏิบตั ิ หมาย เวลา เล่นฟุตบอล ทาํ สวน ได้ ไม่ได้ เหตุ องั คาร พธุ พฤหสั บดี ศุกร์ เสาร์ . น. ช่วยแม่ วา่ ยนาํ เล่นดนตรี ขีจกั รยาน ทาํ ความ ทาํ กบั ขา้ ว สะอาดบา้ น . น. รับประทาน รับประทาน รับประทาน รับประทาน รับประทาน รับประทาน รับประทาน อาหารกบั อาหารกบั อาหารกบั อาหารกบั อาหารกบั อาหารกบั อาหารกบั ครอบครัว ครอบครัว ครอบครัว ครอบครัว ครอบครัว ครอบครัว ครอบครัว ทาํ การบา้ น ทาํ การบา้ น ทาํ การบา้ น ทาํ การบา้ น ดโู ทรทศั น์ ดูโทรทศั น์ . น. ทาํ การบา้ น อ่านหนงั สือ ดโู ทรทศั น์ อ่านหนงั สือ อ่านหนงั สือ อ่านหนงั สือ อ่านหนงั สือ . น. ดูโทรทศั น์ กบั คุณพอ่ คณุ กบั คุณยาย แม่ ตวั อย่างแผนตารางและกิจกรรมประจําเดือน(ใน วันอาจเลือกปฏบิ ัติได้มากกว่า กิจกรรม) วนั หมาย กิจกรรม เหตุ . ไปวดั . ขั ด หอ้ งนาํ . ซักผา้ . ไป ตลาด . ไป เลน่ กีฬา (สปั ดาห์ ละ วนั ) การวางแผนดแู ลสุขภาพของบุคคลในเรืองต่างๆ ดงั กล่าวขา้ งตน้ เป็ นเรืองจาํ เป็ นสําหรับทุก ครอบครัว ซึงพนื ฐานของการมีสุขภาพดีตอ้ งประกอบดว้ ยร่างกาย จิตใจ เครืองใช้ ทีอยอู่ าศยั ตลอดจนสิงแวดลอ้ ม อาหารและโภชนาการทไี ดค้ ุณคา่ ครบถว้ น ปริมาณทีเหมาะสม รวมทงั การไดอ้ อกกาํ ลงั กาย หรือเล่นกีฬาทีกระตุน้ ใหอ้ วยั วะทกุ ส่วนไดเ้ คลอื นไหว ระบบต่างๆ ของร่างกายทาํ งานไดด้ ี มกี ารพกั ผ่อนทีเหมาะสมเพียงพอ ตลอดจน ไดด้ ูแลสุขภาพใหพ้ น้ จากทุกขภ์ ยั และปลอดภยั จากการทาํ งานหรือการเล่น เมือเจ็บป่ วยไดร้ ับการดูแลทีถูกตอ้ ง เหมาะสม ก็จะช่วยทาํ ใหค้ นเรามีสุขภาพทีดี ดงั นันการดูแลสุขภาพทีถูกตอ้ งและไดร้ ับการแนะนาํ ทีเหมาะสม ปลูกฝังพฤติกรรมทีถูกตอ้ งตงั แต่วยั เดก็ ต่อเนืองมาจนเติบโตเป็ นผูใ้ หญ่จึงมีความจาํ เป็ นในการทีจะช่วยทาํ ให้ สมาชกิ ในครอบครัวไดช้ ว่ ยเหลือดูแลกนั และกนั อนั จะนาํ ไปสู่การมีสัมพนั ธภาพอนั ดีและสุขภาพทีดีของบุคคล ในครอบครัว
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176