เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมเราถึงเรียก อันดับสุ ดท้ายว่า บ๊วย โดยคาว่าบ๊วย มาจากภาษาจีน หมายถึง ทา้ ย,หาง เป็ นคนละตวั กบั ที่หมายถึงลูกบ๊วย 尾 ภ า ษ า จี น แ ต้ จิ๋ ว บ๊ ว ย แ ป ล ว่ า ห า ง 头 ภาษาจีนแตจ้ ิ๋ว เถา้ แปลว่า หัว ตวั อย่าง จากช่ือเมือง 汕头 ซวั เถา 汕尾 ซวั บว๊ ย เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ระเบิดแสวงเคร่ืองคืออะไร ระเบิดแสวงเคร่ืองตรงกับ ภาษาองั กฤษก็คือ Improvised explosive device (IED) หรือ แปลเป็ นไทยง่ายๆ คือระเบิดประกอบเอง โดยกรรมวิธี แบบบา้ นๆ มีไรก็หามาใชป้ ระกอบพอให้ระเบิดข้ึนได้ คา ว่าแสวงเคร่ืองนอกจากใช้กบั วตั ถุระเบิดได้แลว้ ยงั ใช้กบั สิ่งอ่ืน ๆ ไดอ้ ีก ตวั อย่าง เช่น \"เปลแสวงเครื่อง\" คือการหา ไมม้ าสองทอ่ น เอาผา้ พนั ไวใ้ หพ้ อรับน้าหนกั คนได้ จะเป็ น ไมอ้ ะไร ผา้ อะไรก็ได้ แตใ่ หม้ นั รับน้าหนกั คนได้ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ปิ้ ง กบั ย่าง ต่างกนั อย่างไร การปิ้ ง วธิ ีการน้ีใชก้ บั ของแห้ง ของที่ ไม่ใช่ชิ้นเน้ือสดๆ ที่ตอ้ งใช้เวลาในการทาสุกนาน เช่นปลาหมึกบดแห้งตามรถเข็น ไข่ท่ีผ่านการทาสุก มาแลว้ ขา้ วเหนียวที่สุกอยแู่ ลว้ หรือกลว้ ย สิ่งน้ีเรียกวา่ ปิ้ งท้งั หมดการยา่ ง คือการทาอาหารให้สุกโดยอาหาร น้นั เป็นของสด เน้ือสดๆ หมูสดๆ เน้ือแดงๆ ที่ต้องใช้เวลาไน้การ ย่างนานจนกว่าจะสุ กถุ งเน้ื อใน ถึ ง แม้ว่า จ ะ เน้ื อน้ ันจ ะ สุ ก แล้ว ก็ ตามเน้ือด้านในยงั คงน่ิม ฉ่าน้า เล็กนอ้ ย แบบน้ีถึงจะเรียกวา่ อยา่ ง สรุปง่ายๆ คือปิ้ งเอาไวใ้ ชก้ บั ของ แห้งหรือของที่กินไดอ้ ยู่แลว้ ย่าง คื อใ ช้กับ ขอ งส ด แ ต่ก็ยังใ ช้ สลบั กนั บางเป็ นบา้ งอย่างเท่าน้นั เช่น ขา้ วเหนียวหมปู ิ้ ง ที่จริงตอ้ งเป็นยา่ ง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 51
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมนักการเมืองต้องคล้องพวงมาลยั ดอกดาวเรือง เมื่อเขา้ สู่ช่วง การรณรงคห์ าเสียงเลือกต้งั ภาพที่เรามกั จะพบเห็นเป็ นประจาเม่ือผสู้ มคั ร ส.ส. พรรคต่าง ๆ ลงพ้ืนท่ีหาเสียง คือ การที่มีพวงมาลัยดอกดาวเรืองใหญ่ๆ คล้องเต็มคออยู่เสมอ คาถามที่หลายคน อาจจะสงสัยกันน้ัน คือ พวงมาลยั ดอกดาวเรืองกบั นกั การเมืองไทย มีที่มาที่ไปอยา่ งไร? หากพิจารณาในเชิงประวตั ิศาสตร์ ไม่ปรากฎหลกั ฐานท่ีแน่ชดั วา่ วฒั นธรรมการคลอ้ งพวงมาลยั ดอกดาวเรืองใหแ้ ก่นกั การเมืองเร่ิมตน้ ข้ึนต้งั แต่ เม่ือใด แตม่ ีขอ้ สันนิษฐานวา่ เริ่มตน้ ข้ึนเม่ือคร้ังพล.อ. ชวลิต ยงใจยทุ ธ ก่อต้งั พรรคความหวงั ใหม่ เมื่อปี 2533 เมื่อมีการลงพ้ืนที่ปราศรัยรณรงคห์ าเสียงเลือกต้งั ในสมยั น้นั มกั มีการนาพวงมาลยั ดอกดาวเรืองมาคลอ้ งคอให้แก่ ผู้สมัคร ส.ส. เมื่อข้ึนเวที และอีกประการหน่ึง คือ สัญลกั ษณ์ของพรรคความหวงั ใหม่ คือ ดอกทานตะวนั ซ่ึงมีสีเหลือง แต่ว่าดอกทานตะวนั อาจจะใหญ่เกินไป ไม่ เหมาะท่ีจะนามาใชท้ าเป็ นพวงมาลยั จึงใชด้ อก ดาวเรืองซ่ึงมีสีเหลืองเช่นเดียวกนั แต่ขนาดเล็กกว่าแทน อย่างไรก็ตาม ก็มีการเปิ ดเผยจากคนใกลช้ ิด พล.อ.ชวลิต ในภายหลังว่า พล.อ.ชวลิตไม่รู้ที่มาท่ีไปของพวงมาลยั ดอกดาวเรื อง และก็เช่ือว่าการคล้องพวงมาลัยดอก ดาวเรืองมีมาต้งั แตก่ ่อนหนา้ สมยั พล.อ.ชวลิตหาเสียงแลว้ แต่ไม่วา่ การคลอ้ งพวงมาลยั ดอกดาวเรืองแก่ผสู้ มคั ร ส.ส. จะเริ่ มต้นข้ึนต้ังแต่สมัย พล.อ. ชวลิตหรือไม่น้ัน แต่ พวงมาลยั ดอกดาวเรืองกไ็ ดก้ ลายเป็น “ภาพจา” ของสาธารณชน จนกลายเป็ นวฒั นธรรมการคลอ้ งพวงมาลยั ดอกดาวเรืองแก่นกั การเมืองทุกคร้ังท่ีมีการเลือกต้งั จนถึงทุกวนั น้ี แต่หากพิจารณาเชิงคุณค่าและความหมาย ดอกดาวเรือง หรือท่ีภาษาเหนือเรียกว่า “คาป้ ูจู\"้ น้นั ดอกดาวเรืองมีความหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองและ ความเป็ นสิริมงคล เป็ นดอกไมท้ ่ีคนไทยนิยมนาไปบูชาพระหรือส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิท่ีเคารพนับถือ นอกจาก ความหมายที่สื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองและความเป็ นสิริมงคลแลว้ ดอกดาวเรืองเป็ นดอกไมท้ ่ีมีสีสันสวย สดใส เมื่อนามาคลอ้ งเป็นพวงมาลยั จึงทาใหด้ ูโดดเด่น สามารถเสริมสร้างภาพลกั ษณ์ของนกั การเมือง ดึงดูด ความสนใจไดด้ ี ดว้ ยเหตุน้ี เมื่อนาดอกดาวเรืองมาร้อยเป็นพวงมาลยั แลว้ นาไปคลอ้ งแก่ผสู้ มคั ร ส.ส. แลว้ จึง ตอบโจทยไ์ ดท้ ้งั เร่ืองความเช่ือในความเป็ นสิริมงคล และเสริมสร้างภาพลกั ษณ์ของนกั การเมืองให้โดดเด่น ไดเ้ ป็นอยา่ งดี เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 52
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม คาบสีขาวบนองุ่นคืออะไร วนั น้ีไดท้ านองุ่นแลว้ ก็สงสัยวา่ คาบ ขาวๆบนองุ่นมนั คืออะไร กินแลว้ จะอนั ตรายไหม อย่างแรกเรามาทราบกนั ก่อนวา่ คราบสีขาวบนองุ่น คือ อะไร คราบสีขาวๆคลา้ ยฟิ ล์มบางๆที่เคลือบอย่บู น ผลองุ่นน้ันแท้ท่ีจริ งแล้วมันเป็ นสารท่ีเกิดตาม ธรรมชาติ หรือท่ีเรียกวา่ ยีสต์ ซ่ึงลกั ษณะของมนั จะ มีสีขาวคล้ายแป้ ง โดยธรรมชาติแลว้ ผลไมห้ ลายๆ ชนิดไม่วา่ จะมะม่วง กลว้ ยหรือมะละกอน้นั เม่ือสุก เต็มที่ก็จะปล่อยสารยีสต์ออกมาเพ่ือป้ องกันมด แมลง หรือเพื่อป้ องกนั ดูแลรักษาเปลือกยงั คงสภาพให้อยไู่ ดน้ านท่ีสุด มีผรู้ ู้และผเู้ ชียวชาญออกมายืนยนั วา่ คราบสีขาวท่ีกล่าวมาน้นั ไม่มีอนั ตรายแต่อย่างใด นอกเสียจากวา่ คราบสีขาวบนผิวองุ่นน้นั จะมีลกั ษณะ ขรุขระไม่เรียบเนียนและหากเป็ นเช่นน้นั ก็ควรที่จะระวงั เพราะวา่ คราบสีขาวที่มีผิวขรุขระน้นั อาจจะเป็ น คราบของอาหารเสริมพืชท่ีใช้ฉีดพ่นทางใบ หรืออาจจะเป็ นเคมีเกษตรท่ีพ่นยาก่อนเก็บเกี่ยวผลองุ่นก็ได้ ดงั น้นั เรากค็ วรท่ีจะลา้ งองุ่นใหส้ ะอาด วธิ ีลา้ งองุ่นใหส้ ะอาด โดยการลา้ งองุ่นให้สะอาดก็มีวิธีง่ายๆ ที่ไม่ทา ใหอ้ งุ่นของเราน้นั ช้าก็คือการใชม้ ือลูบหรือถูคราบออกเบาๆ ก่อนแลว้ ค่อยนาไปแช่ในน้าเกลือโดยท่ีทิ้งไว้ 5 นาที หลงั จากท้ี่ครบกาหนดแลว้ ก็ตามดว้ ยการลา้ งองุ่นดว้ ยน้าสะอาด เพียงเท่าน้ีเราก็จะไดร้ ับประทานองุ่น ไดอ้ ยา่ งอร่อยและสบายใจกนั แลว้ เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมเคร่ืองบินของโบองิ้ จึงขึน้ ต้นและลงท้ายด้วยเลข 7 เสมอ เมื่อพดู ถึงเคร่ืองบินของโบอิ้งแลว้ ทุกคนคงทราบดีวา่ เป็นบริษทั ผลิตเคร่ืองบินรายใหญ่ของโลก มีถิ่นกาเนิด อยทู่ ่ีเมืองเรนตนั (Renton) รัฐวอชิงตนั สหรัฐอเมริกา เคร่ืองบินของโบอิ้งท่ีเราคุน้ เคยกนั ดีนอกจากรุ่น 737 ที่เป็ นข่าวในคร้ังน้ีแลว้ ก็ยงั มีรุ่น 747 ซ่ึงเป็ นเคร่ืองบินพาณิชยข์ นาดใหญ่ที่สมยั ก่อนเรียกว่า จมั โบเจ็ต (Jumbo Jet) และยงั มี 707, 727 เร่ือยไปจนถึง 787 ที่เพ่ิงผลิตและออกใช้งานคร้ังแรกเม่ือปี 2009 น่ีเอง ซ่ึงหลายคนอาจจะสงสัยว่า ทาไมเลขรุ่น ของโบอิ้ง ตอ้ งข้ึนตน้ และลงทา้ ยดว้ ยเลข 7 ดว้ ย หรือจะเป็นเรื่องโชคลางอะไรหรือเปล่า อนั ที่จริง ในตอนแรกที่โบอิ้ง (ก่อต้งั เม่ือปี 1916) เริ่มผลิตเคร่ืองบินน้นั ก็ไม่ไดก้ าหนดวา่ ชื่อรุ่นจะเป็ นเลขอะไร โดย ในตอนแรกน้นั มีท้งั Model 40, Model 80 และ Model 247 แต่ต่อมาเมื่อหลงั สงครามโลกคร้ังที่สอง บริษทั โบอิ้งมีการปรับโครงสร้าง มีการผลิตสินคา้ ที่หลากหลายข้ึน บริษทั จึงไดก้ าหนดสายการผลิตดว้ ยเลข 3 หลกั โดยสายท่ีข้ึนตน้ ดว้ ยเลข 3 และ 4 จะเป็นอากาศยานทว่ั ไป เลข 5 เป็ นสายการบินเครื่องยนตไ์ อพน่ เลข 6 แทนจรวดและขีปนาวธุ (มีทาเหมือนกนั นะเออ) และ... เลข 7 ก็คือสายการผลิตเครื่องบินพาณิชยน์ นั่ เอง ส่วนวา่ ทาไมตอ้ งลงทา้ ยดว้ ยเลข 7 ดว้ ย เขา้ ใจวา่ เพอื่ ใหง้ ่ายตอ่ การจดจานนั่ เอง เพราะการจดจาเลขสามหลกั ท่ี เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 53
มีตวั แรกกบั ตวั ทา้ ยเหมือนกนั น้นั จะทาให้จาไดง้ ่ายข้ึน หน่วยงานหลายแห่งก็ใชว้ ิธีน้ี (เช่น 191) อนั ท่ีจริงก็ เคยมีเคร่ืองบินโบอิ้ง รุ่น 7 ท่ีไมไ่ ดล้ งทา้ ยดว้ ย 7 เช่น 720 แต่ไม่สู้ไดร้ ับความนิยม จึงหยดุ ผลิตไป เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมคนไทยเรียก Kamen rider ว่ามดเอก็ ซ์ วนั น้ีขอราลึกอดีต สักนิดนะครับ โดยขอเล่าถึง ไอม้ ดแดง หรือแปลตรงๆกบั ภาษาญ่ีป่ ุน ก็คือ Kamen rider (นกั ซ่ิงสวม หน้ากาก) เป็ นผลงานการกากับของ อิชิโนโมริ โชทาโร่ โดยเขานาตน้ ฉบบั จากคอมิค เรื่อง Skullman ซ่ึงเป็ นผลงานการของเขาเองน้ันมาทา เป็ นไอม้ ด แดงอย่างท่ีเราเห็นกัน ไอ้มดแดงแต่ละตัวก็จะมี เอกลักษณ์เฉพาะตวั ที่คล้ายๆกันคือ หน้ากากที่ดู คลา้ ยๆหนา้ ตาของแมลง(เฉพาะยคุ แรกๆ) มีมอเตอร์ ไซตเ์ ป็ นพาหนะ สามารถเดินทางไปไหนมาไหนก็ สะดวก และมีท่าไมต้ ายประจาตระกูลคือ ไรเดอร์ คิก ไอม้ ดแดง ฉายคร้ังแรกที่ญ่ีป่ ุนปี 1971(พศ.2514) และต่อมาก็นามาฉายท่ีเมืองไทย จนเป็ นท่ีนิยมในยุคน้นั และยงั อยใู่ นความทรงจาของใครหลายๆคน เหตุที่ คนไทยเรียก Kamen Rider วา่ ไอม้ ดแดงจนคุน้ ปาก ก็มาจากช่วงที่จะมีการนา Kamen Rider One เขา้ มาฉาย น้นั ไม่มีการส่งรายละเอียดเก่ียวกบั หนงั เรื่องน้ีมาให้เลย มีเพียงรูปถ่ายของฮีโร่พนั ธุ์ใหม่เท่าน้นั ในขณะท่ี ทีมงานตอ้ งเร่งทาการประชาสัมพนั ธ์เพราะใกลถ้ ึงกาหนดฉาย เห็นรูป Kamen Rider One เป็ นมด จึงใชช้ ่ือ ในการโปรโมตวา่ 'ไอม้ ดแดง' จนเป็ นท่ีคุน้ เคยทุกวนั น้ี แต่เป็ นเร่ืองที่น่าแปลกวา่ ตวั ละครไอม้ ดแดงที่เราเรีย กนั ไมม่ ีตวั ไหนเลยท่ีมีตน้ แบบมาจากมด โดยความจริงแลว้ นอกจาก MASKED RIDER 1 (V1) , MASKED RIDER 2 (V2) และ SKY RIDER (V8) ที่มาจากตกั๊ แตนแลว้ MASKED RIDER อีกหลายๆตวั ก็ดีไซน์มา จากสัตวป์ ระเภทแมลงเช่นกนั โดย MASKED RIDER 3 (V3) มีตน้ แบบจากแมลงปอ , MASKED RIDER STRONGER (V7) มาจากดว้ ง และ MASKED RIDER SUPER ONE (V9) มาจากผ้ึง นอกจากน้นั ยงั มีตวั อื่นๆท่ีมีตน้ แบบมาจากสัตวเ์ ล้ือยคลานดว้ ย เช่น MASKED RIDER X (V5) มาจากหอยทาก และ AMAZON (V6) มาจากกิ้งก่า เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมเราปลูกถั่วเขียว ถึงได้ถ่ัวงอก จริง ๆแลว้ เม่ือเราเอาเมล็ดของถ่ัวเขียวมาปลูก ถ้าเรารอ ใหต้ น้ ถว่ั งอกเจริญเติบโตไปเรื่อย ๆ เราก็จะได้ ตน้ ถว่ั เขียวครับ หรือสรุปง่ายๆคือ ถว่ั งอกคือ ตน้ อ่อนของถวั่ เขียวนน่ั เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 54
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไม ดาวของ ทหาร กบั ตารวจถงึ ต่างกนั เคยสงสยั กนั ไหมครับวา่ ทาไม ดาวบนบ่าทหารเป็ น 5 แฉก แต่ดาวบนบ่าตารวจเป็ น 8 แฉก ในช่วงท่ีราชอาณาจกั รสยามไดร้ ับอิทธิพลจากยคุ ล่า อาณานิคมของตะวนั ตก จึงรับอิทธิพลของชาติตะวนั ตก เขา้ มา โดยในการประดบั ยศทหารใชด้ าว 5 แฉก เพ่ือความ เป็นสากล หากตารวจใชด้ าวเงิน 5 แฉก น้นั จะซ้ากบั ยศช้นั นายพลทหารอากาศ จึงได้รับความเมตตาจากสมเด็จ พระสังฆราชฯ องคท์ ่ี 16 โปรดใหเ้ ป็ นดาวเงิน 8 แฉก โดย แต่ละแฉกเป็ นธรรมะท่ีให้ขา้ ราชการตารวจช้นั สัญญาบตั ร ต้งั ยึดมนั่ คือ 1. สังคหวตั ถุ 4 2. มรรค 8 3. อิทธิบาท 4 4. พรหมวหิ าร 4 5. โลกธรรม 8 6. ทิศ 6 7. อริยสัจ 4 และ 8 8. ความกตญั ญู เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ความ แตกต่างของพระภิกษุกับพระสงฆ์ สองคาน้ีใช้ แตกต่างกนั อย่างไร คาว่า ภิกษุ มีความหมาย หลายอยา่ ง เช่น ผขู้ อ ผเู้ ห็นภยั ในสังสารวฏั ส่วน คาว่า สังฆะ หรือสงฆ์น้นั แปลว่าหมู่หรือคณะ ไม่ว่าจะเป็ นหมู่หรือคณะอะไรก็ได้ ไม่ได้ใช้ สาหรับพระภิกษุเท่าน้ัน คาว่า ภิกษุสงฆ์ จึง หมายถึงหมู่แห่งภิกษุ หรือพูดง่ายๆคือ พระภิกษุ คือพระรูปเดียว (เอกพจน์) ส่วนพระสงฆ์ คือ พระหลายรูป (พหูพจน)์ (ส่วนมากหมายถึง 4 รูปข้ึนไป) เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 55
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมขาปลก๊ั ไฟถงึ ต้องมรี ู เคยสังเกตกนั ไหมครับวา่ ปลกั๊ ไฟที่เรา ใช้เสียบ ทาไมถึงตอ้ งมีรู สาเหตุที่ปล๊ักต้องมีรูมี 3 เหตุผล ครับ 1 ถา้ ลองมองเขา้ ไปในรูเตา้ รับ จะมองเห็น แป้ นนูนๆสองขา้ งภายในรู เจา้ แป้ นนูนอนั น้ีแหล่ะจะ ฟิ ตพอดีกับรูท่ีขาปลกั๊ ไฟ และเวลาเสียบมนั จะหนีบ เอาไวพ้ อดี เพ่ือกนั ปลกั๊ หลุดเวลาเรายก หรือขยบั มนั และมนั ก็ยงั เพ่ิมผวิ สมั ผสั ระหวา่ งเตา้ รับกบั เตา้ เสียบอีก ดว้ ย 2 บางคร้ังโรงงานท่ีผลิตเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ า จะติดป้ ายเตือนต่าง ๆ คลอ้ งลงไปท่ีรูปลก๊ั พวกน้ี เพ่ือบอก ผใู้ ชง้ านวา่ \"ก่อนเสียบปลกั๊ คุณตอ้ งทาอยา่ งน้ี อยา่ งโนน้ ก่อนนะ เพื่อกนั ไม่ใหผ้ ใู้ ชบ้ างท่านเอาปลกั๊ ไปเสียบ ไฟ ก่อนอ่านคูม่ ือการใชง้ าน 3 เพ่ือประหยดั วตั ถุดิบในการผลิตปลกั๊ แมร้ ูจะเล็ก แต่หลายแสน หลายลา้ นชิ้น ก็ส่งผลต่อวตั ถุดิบในการผลิต เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม คนื หมาหอนคอื อะไร คืนน้ีเป็ นคืนหมาหอน วา่ แต่คืนหมาหอนคืออะไร \"คืนหมา หอน คือ คืนสุดทา้ ยก่อนวนั เลือกต้งั มีความสาคญั ในแง่ ที่ว่า มีการทุจริตการเลือกต้งั สูงมากในคืนน้ี โดยเฉพาะ อยา่ งยง่ิ การตระเวนตามบา้ นทุกหลงั คาเรือนเพื่อซ้ือเสียง คร้ังสุดทา้ ย เป็ นการจ่ายเงินรอบสุดท้าย ซ่ึงหวงั ผลได้ มาก เพราะหากประเมินแลว้ คะแนนยงั ไม่ถึงเป้ าหมายที่ วางไว้ ก็จะรีบซ้ือเสียงเพื่อใหไ้ ดต้ ามเป้ าหมาย หรือที่ซ้ือ เสียงไปก่อนหน้าน้ี อาจถูกผูส้ มคั รรายอ่ืน \"เกทบั \" ดว้ ย การซ้ือเสียงดว้ ยจานวนเงินมากกวา่ ก็สามารถแจกเงิน เพิ่มได้ เป็ นโอกาสสุดทา้ ยท่ีสามารถพลิกสถานการณ์ อาจกล่าวไดว้ า่ เป็ นการวดั ดวงหรือทิ้งทวนคร้ังสุดทา้ ย นอกจากน้ี การ แจกเงินซ้ือเสียงที่จะมีอิทธิพลต่อผทู้ ี่ไปลงคะแนนน้ัน อาจตอ้ งเป็ นการซ้ือเสียงคร้ังสุดทา้ ยท่ีใกลก้ บั วนั เลือกต้งั มากที่สุด เพราะง่ายตอ่ การจดจา เน่ืองจากการปฏิบตั ิการดงั กลา่ ว กระทาในเวลากลางคืน ในลกั ษณะหลบซ่อนและมีพิรุธ หมาเฝ้ าบา้ น ก็เลยหอน จึงเรียกคืนดงั กลา่ ววา่ \"คืนหมาหอน\"\"ออ้ ...ทีน้ีเขา้ ใจกนั แลว้ ใช่ม้ยั ? ทาไมถึงเรียกวา่ คืนหมาหอน คืนน้ีเราลองดูสิ วา่ ...สุนขั ท่ีบา้ นเห่าหรือหอนม้ยั ? มีคนชลบุรีพดู ขาๆ สุนขั ที่บา้ นโดนวางยาหมดแลว้ ฮ่าๆๆ ก็ขาขนั กนั ไป แลว้ อยา่ ลืมตื่น เชา้ มา...ไปใชส้ ิทธ์ิใชเ้ สียง ลงคะแนนเสียง \"เลือกต้งั \" กนั ดว้ ยนะครับ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 56
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ที่มาของชื่อกรุงพนมเปญ เมืองพนมเปญ โดยเมืองน้ีกาเหนิดข้ึน ในปี มะเส็ง ค.ศ. 1437 โดยมีเศรษฐีนางหน่ึงชื่อวา่ ยาย “เปญ” ที่มีชื่อเต็มๆวา่ นาง ตวน เปญ ไดพ้ บกบั ตน้ ตะเคียนลอยอยกู่ ลางแม่น้า จากน้นั จึงเรียกชาวบา้ นช่วยกนั มายกขึนฝ่ัง หลงั จากน้นั ยายเปญและชาวบา้ นได้ ผา่ ไมแ้ ละพบว่าขา้ งในมีพระพุทธรูปอยู่ 4 องค์ ดงั น้ันยายเปญและชาวบา้ นจึงได้ช่วยกนั สร้างท่ีเคารพ สกั การะพระพุทธรูปข้ึนมาภายในหมู่บา้ น ต่อมาช่วงกลางศตวรรษที่ 15 เจา้ พระยาญาติยา้ ยราชธานีจากเมือง พระนครหนีสยามมาต้งั อยูท่ ่ีนครวดั และสร้าง พระราชวงั ณ พ้ืนที่ท่ีเป็ นกรุ งพนมเปญใน ปัจจุบนั ต่อมาภายหลงั มีการสร้างเจดียข์ ้ึนซ่ึง ในขณะน้นั เมืองยงั ไม่ไดเ้ ป็ นเมืองหลวงอย่าง เป็นทางการ จนกระทงั่ ปี ค.ศ. 1866 ภายใตก้ าร ป ก ค ร อ ง ข อ ง พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ น โ ร ด ม พรหมบริรักษ์ จึงไดแ้ ต่งต้งั กรุงพนมเปญเป็ นเมืองหลวงของประเทศโดยที่มาของคาวา่ กรุงพนมเปญน้ีก็มา จากชือภูเขาอนั เป็นที่อยขู่ องยายเปญน้ีเอง วดั พนมน้ีถือไดว้ า่ เป็นจุดรวมใจอนั สาคญั ของชาวกมั พชู า เพราะนี่ คือกิโลเมตรที่ 0 อนั เป็นจุดเร่ิมตน้ ของการเดินทางจากพนมเปญ นอกจากน้ีชาวกมั พชู าจะเขา้ มาสักการะที่วดั น้ีในวนั สงกรานตแ์ ละวนั สาคญั ทางพระพุทธศาสนา เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไม เรามักจะเรียกผู้นาทางทหาร ว่าบิ๊กนาหน้า เช่น บ๊ิกตู่ บิ๊ก ป้ อม บิ๊กแดง คาว่าบิ๊กเป็ นคาท่ีสื่อ ไ ด้เ ร่ิ ม ใ ช้เ รี ย ก น า ย พ ล มิ น ห์ - นายทหารเวยี ดนามใตค้ นหน่ึงท่ีนบั ถือศาสนาพุทธ ซ่ึงเขาไดไ้ ต่เตา้ ข้ึน สู่ ตาแหน่งสู งของวงการทหาร เวียดนามใต้ ได้ท้งั ๆท่ีรัฐบาลของ เวียดนามในขณะน้ัน ปกติแลว้ จะ กดขี่กีดกันและกาจดั ผูท้ ่ีไม่ได้นับ ถื อศาส นาคริ ส ต์-นิ กาย โรมัน คาธอลิก โดยเฉพาะอย่างย่ิงชาวพุทธ จะถูกยึดทรัพยส์ ินและท่ีดินไปยกให้ชาวเวียดนามท่ีถูกฝรั่งเศสลา้ ง สมอง.. ทาใหเ้ ขาเป็นท่ียอมรับวา่ เป็ นวรี บุรุษ ภายใตส้ ังคมที่เตม็ ไปดว้ ยการกินโกงและกดข่ีของเวียดนามใต้ ในขณะน้นั โดยเขาไดร้ ับสมญานามวา่ 'บ๊ิกมินห์' อนั เป็ นที่ เคารพเกรงขามและนบั ถือของชาวเวียดนามใต้ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในวงการทหาร ซ่ึงไม่ต่างกนั กบั การท่ีทหารไทยพากนั เรียกผลู้ งั คบั บญั ชาระดบั สูงวา่ ป๋ า ตอ่ มาส่ือไทยไดเ้ ริ่มนาคาวา่ 'บิ๊ก' มาเป็ นเคร่ืองมือของตนเองกบั การยกยอ่ งสรรเสริญนายทหารไทย แลว้ มนั ก็ไคาเรียกช่ือผนู้ าทางทหาร และผทู้ ่ีมีอานาจทางสังคม การเมือง และ วงการที่พดู กนั ตรง ๆไม่ได้ ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 57
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทมี่ าของความเช่ือเรื่องแมวดา ความเช่ือเร่ืองแมวดาในตะวนั ตก ส่วนใหญ่เชื่อกนั วา่ แมวดาเป็นตวั แทนของความชวั่ ร้ายมกั ไปพวั พนั กบั แม่มดมนตด์ าทาให้ในช่วงยุคกลางแมวดาจึงถูกฆ่าทิ้งเป็ นจานวนมาก ในอินเดียเองก็มีทศั คติในเชิงลบต่อแมวดาเช่นกนั วา่ หากใครเจอแมวดา เดินตดั หน้าก็จะทาให้คนๆน้นั ตอ้ งเจอกบั ความโชคร้ายเนื่องจากสีดา เป็ นสีของ “พระเสาร์” (Shani) ซ่ึงมีอานาจในทางบาปเคราะห์ ส่วนใน เมืองไทยมีคนพยายามอธิบายวา่ อคติต่อแมวดาของคนอินเดียน้นั น่าจะ เกี่ยวโยงกับพระษัษฐีมากกว่า โดยอ้างว่า “แมวดาเป็ นสัตว์ผี เป็ น พาหนะของพระษัษฐี เทวีแห่งความตายของทารก หรื อ ผีแม่ซ้ือ ประจาตวั เด็กในวนั ที่ 6 ซ่ึงพระษษั ฐีเป็ นเทวีที่มีอิทธิฤทธ์ิ” “หากใคร เห็นแมวดาท่ีไหน มักต้องเห็นพระษัษฐีปรากฏกายท่ีนั่น และจะมีเด็กหรือคนตายท่ีนั่นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในงานศพจะระมดั ระวงั ไมใ่ หแ้ มวมาถูกตอ้ งศพ ดว้ ยเชื่อวา่ จะเกิดมนทินกบั ศพน้นั ๆ ไปตลอด… ในคติความเช่ือของจีน ก็ถือกนั วา่ หากแมวขา้ มศพผนี ้นั จะฟ้ื นคืนชีพและกลายเป็ นผีท่ีดุร้ายมากซ่ึงก็ไม่ต่าง จากไทย” ความเช่ือเร่ืองโชคลางถือเป็ นเร่ืองส่วนตวั ท่ีคงจะหา้ มกนั ไม่ได้ อยา่ งไรก็ดี ในต่างประเทศเริ่มมี การรณรงคใ์ ห้คนลดละอคติต่อแมวดา โดยในองั กฤษกลุ่ม Cat Protection ไดป้ ระกาศให้วนั ที่ 27 ตุลาคม เป็นวนั แมวดาแห่งชาติเพื่อสร้างทศั นคติที่ดีต่อแมวดา แมว้ า่ แต่เดิมมาชาวบริเตนจะเชื่อกนั วา่ แมวดาถือเป็ น แมวนาโชค แต่ดูเหมือนปัจจุบนั แมวดาในบริเตนจะโชคไม่ดีนัก เห็นไดจ้ ากสถิติของราชสมาคมเพื่อการ ป้ องกันการทารุณกรรมสัตว์ (RSPCA) ที่พบว่าแมวไร้บา้ นในความดูแลขององค์กรนับพนั ตวั กว่า 70 เปอร์เซนตเ์ ป็นแมวดา หรือดาปนขาว เร่ืองน่ารู้กบั คณนู กฮูก กศน.เขตหนองแขม QR Code คืออะไร ปัจจุบนั เรามกั เห็นสัญลกั ษณ์เส้นสีดาหกั มุม แลดูยึกยอื ในกรอบสี่เหลี่ยมพ้ืนสีขาวคลา้ ยกบั เกม หาทางออก ปรากฎอยู่ในโฆษณาสินคา้ ในสื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ป้ ายโฆษณา และ นามบตั ร สัญลกั ษณ์น้ีเรียกวา่ คิวอาร์โคด้ ซ่ึงซ่อน ความหมาย และรายละเอียดท่ีตอ้ งการแสดงเอาไว้ ผปู้ ระกอบการบางรายก็จะทาลิงกไ์ วภ้ ายในคิวอาร์ โค้ดเพ่ือให้เขา้ เว็บไซต์ของบริษทั ได้ทนั ที QR Code (คิวอาร์ โค้ด) คือ สัญลกั ษณ์สี่เหลี่ยม ที่เริ่มเห็นแพร่หลายในบ้านเรามากข้ึน ไม่ว่าจะเป็ นจาก หนงั สือพิมพห์ รือนิตยสาร เรียกวา่ QR Code (คิวอาร์ โคด้ ) ยอ่ มาจาก Quick Response (ควก๊ิ เรสปอน) เป็ น บาร์โคด้ 2 มิติ ที่มีตน้ กาเนิดมาจากประเทศญ่ีป่ ุน โดยบริษทั Denso-Wave (เดนโซ-เวฟ) ต้งั แต่ปี 1994 คุณสมบตั ิของ QR code คือ เป็ นสัญลกั ษณ์แทนขอ้ มูลต่างๆ ที่มีการตอบสนองที่รวดเร็ว ซ่ึงส่วนใหญ่จะ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 58
นามาใชก้ บั สินคา้ , ส่ือโฆษณาต่างๆ เพ่ือใหข้ อ้ มูลเพ่ิมเติม หรือจะเป็ น URL (ยอู าร์แอล) เวบ็ ไซต์ เมื่อนา กล้องของโทรศพั ท์มือถือไปถ่าย QR Code ก็จะเข้าสู่เว็บไซต์ได้ทนั ทีโดยไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ ประโยชน์ของ QR Code เราสามารถนา QR Code มาประยกุ ตใ์ ชไ้ ดห้ ลากหลายรูปแบบ เช่น แสดง URL ของเวบ็ ไซต์, ขอ้ ความ, เบอร์โทรศพั ท์ และขอ้ มูลท่ีเป็ นตวั อักษรไดอ้ ีกมากมาย ปัจจุบนั QR Code ถูก นาไปใช้ในหลายๆ ดา้ นเนื่องจากความรวดเร็ว เพราะทุกวนั น้ีคนส่วนใหญ่จะมีมือถือกนั ทุกคนและมือถือ เด๋ียวน้ี ก็มีกลอ้ งเกือบทุกรุ่นแลว้ ประโยชน์ท่ีเห็นไดช้ ดั ที่สุดของ QR Code คือการแสดง URL ของเวบ็ ไซต์ เพราะ URL โดยปกติแลว้ จะจดจายากเพราะยาวและบางทีก็ จะซบั ซอ้ นมาก แต่ดว้ ย QR Code เราเพียงแค่ยก มือถือมาสแกน QR Code ที่เราพบเห็นตามผลิตภณั ฑต์ ่างๆ, นามบตั ร, นิตยสาร ฯลฯ แลว้ มือถือ จะลิ้งคเ์ ขา้ เวบ็ เพจที่ QR Code น้นั ๆ บนั ทึกขอ้ มูลอยโู่ ดยอตั โนมตั ิ วิธีใชง้ าน QR Code วิธีใชง้ านคิวอาร์โคด้ ตอ้ งใช้ งานผา่ นโทรศพั ทม์ ือถือที่มีสัญลกั ษณ์คิวอาร์โคด้ อยภู่ ายในตวั เคร่ือง เพียงนากลอ้ งที่อยบู่ นมือถือแสกนบน คิวอาร์โคด้ รอสักครู่ เครื่องจะอ่านคิวอาร์โคด้ สีดาออกมาเป็ นตวั หนงั สือท่ีมีขอ้ มูลมากมาย เช่นรายละเอียด สินคา้ โปรโมชนั สถานที่ต้งั ของบริษทั ร้านคา้ เวบ็ ไซต์ เบอร์โทรศพั ท์ หากอยบู่ นนามบตั ร เจา้ ของนามบตั ร ก็จะใส่ท้งั ชื่อ อีเมล์ ฯลฯ รวมท้งั สามารถใชค้ ิวอาร์โคด้ สื่อบอกความในใจไดด้ ว้ ย เพียงพิมพค์ ิวอาร์โคด้ ลง บนการ์ด ผทู้ ่ีไดร้ ับการ์ดนาโทรศพั ทม์ ือถือท่ีมีกลอ้ งมาสแกน เพยี งเทา่ น้ีก็รู้ความในใจ ดว้ ยไอทีแลว้ เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม อนั ไหนคือเตียงเดยี วอนั ไหนคอื เตยี งคู่ เวลาจองโรงแรม พนกั งาน จะถามวา่ ตอ้ งการห้องเตียงคู่หรือเตียงเดี่ยว แลว้ เขา้ ใจไหมครับวา่ เตียงเด่ียวคือเตียงแบบไหน ท้งั หองมีเตียงเดียวแต่เตียงน้นั นอนได้ สองคน หรือในหอ้ งมี 2 เตียง เตียงเดียว และเตียงคู่ คงามหมายที่ ถูกตอ้ งคือ เตียงเดี่ยว = ในห้องมีเตียงอนั เดียว ใหญ่ๆ นอนได้ 2 คนรวมกนั ส่วน เตียงคู่ = ในหอ้ งมีเตียงเล็ก ๆ 2 เตียง นอนแยกกนั เตียงละ 1 คน เขา้ ใจแลว้ นะครับ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม อะไรคือบัตรเขย่ง ช่วงน้ีเราจะไดย้ นิ คาวา่ บตั รเขย่งบ่อย ๆ แลว้ บตั รเขยง่ คืออะไร บตั รเขยง่ : มาจากการนบั คะแนนตวั เลขผมู้ าใช้ สิทธิกบั ตวั เลขบตั รที่ถูกใชไ้ ปไม่ตรงกนั โดยอาจจะเกิดจากการที่ ผใู้ ช้สิทธิมาลงชื่อและเดินทางกลบั ไปก่อน โดยไม่ทนั ได้รับบตั ร เลือกต้งั เช่น นาย เอ ไปรายงานตวั เพ่ือใช้สิทธิ แต่รอคิวนานเลย “สละสิทธิ” จึงเป็นท่ีมาที่ทาให้ “ตวั เลขผมู้ าใชส้ ิทธิกบั ตวั เลขบตั รที่ ถูกใชไ้ ปไม่ตรงกนั ” โดยปรกติแลว้ หากเกิดกรณีเช่นน้ี ทาง กกต. ประจาหน่วยกจ็ ะใหม้ ีการนบั คะแนนใหม่ แต่หากยงั ไมต่ รงกนั กจ็ ะส่งให้ กกต.พิจารณา ซ่ึงอาจจะทาใหต้ อ้ ง มีการเลือกต้งั ใหม่ ในหน่วยน้นั ๆ โดยบตั รเขยง่ ไมใ่ ช่เรื่องใหม่ ถูกนามาใชต้ ้งั แต่ พ.ศ. 2475 เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 59
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไม 2 เมษายน ถึงเป็ นวนั รักการอ่าน วนั ท่ี 2 เมษายนของทุกปี เป็นวนั รักการอา่ น แลว้ ทาไม วนั ท่ี 2 เมษายน ถึงเป็ นวนั รักการ อ่าน โดยคณะรัฐมนตรีไดม้ ีมติเห็นชอบใหว้ นั ที่ 2 เมษายน เป็ น วันหนังสื อเด็กแห่งชาติและวันรักการอ่าน อันเน่ืองด้วย พระจริยวตั รและความสนพระทยั ในการอ่าน การจดบนั ทึก การเขียนและการเรียนรู้ ขององคส์ มเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จนบงั เกิดเป็ นพระราชนิพนธ์จานวนมาก อีกท้ังพระองค์ยงั ทรงส่งเสริม สนับสนุน เป็ นองค์อุปถัมภ์ องคก์ รตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวขอ้ งดา้ นการอ่านและการเรียนรู้ \"วนั รักการอ่าน\" ในแต่ละปี น้นั จะมีการจดั งานสัปดาห์ หนงั สือแห่งชาติ และสปั ดาห์หนงั สือนานาชาติ (Bangkok International Book Fair) ข้ึนในช่วงเวลาของวนั ที่ 2 เมษายนของทุก ๆ ปี ดว้ ย การมีนิสัยรักการอ่านต้งั แต่เด็ก จะทาให้เด็กกลายเป็ นคนที่ประสบความสาเร็จ ดงั ท่ี Margaret Fuller กล่าวเป็ นประโยคภาษาองั กฤษประโยคหน่ึง ส้ันๆ แต่ไดใ้ จความวา่ Today a reader, tomorrow a leader.” - Margaret Fuller การฝึกนิสัยตนเอง ใหร้ ักการอ่าน การฝึ กนิสัยตนเอง ให้รักการอ่านไม่ใช่เรื่องยาก เพราะหนงั สือมีเร่ืองที่น่าสนใจมากมายและยงั เป็ นส่ิงท่ีหา ไดง้ ่ายตามความชอบและความสนใจของแต่ละคน โลกของหนงั สือเป็ นโลกแห่งอิสระเสรีทางความคิด เรา สามารถอ่านความคิดของผอู้ ่ืนแลว้ นามาพฒั นาความคิดของตนเอง การปลูกฝังตนเองให้รักการอ่าน ทาได้ ดว้ ยหลกั ง่ายๆ 3 ประการ ดงั น้ี 1. อ่านตามความสนใจ การเร่ิมอ่านจากเรื่องที่ตวั เองชอบและสนใจจาทาให้อ่านหนงั สือไดโ้ ดยไม่เบื่อ เรา อาจเร่ิมตน้ อ่านจากเร่ืองส้ันๆ ไม่ยาวมาก มีภาพประกอบ โดยอาจเร่ิมจากการอ่านนิทาน เร่ืองส้ัน หรือ เรื่อง ท่ีจบภายในตอนเดียว ถา้ เรามีทศั นคติท่ีดีต่อการอา่ นก็จะอา่ นไดต้ อ่ เน่ือง 2. อ่านให้สม่าเสมอการอ่านอยา่ งสม่าเสมอเป็ นบนั ไดข้นั แรกของผทู้ ่ีรักการอ่าน เพราะจะตอ้ งอ่านจนเป็ น นิสยั ทนั ทีท่ีวา่ งจากหนา้ ท่ีท่ีทาในชีวิตประจาวนั เราก็สามารถหยิบหนงั สือข้ึนมาอ่านได้ ถา้ เราสามารถอ่าน ไดส้ ม่าเสมอ เรากจ็ ะเป็นผทู้ ี่มีนิสยั รักการอา่ นได้ 3. อ่านให้เจอขุมทรัพย์ ขุมทรัพย์ ท่ีว่าน้ีไม่ใช่ทรัพยส์ ิน เงินทอง แต่เป็ น “ขุมทรัพยแ์ ห่งปัญญา” ซ่ึงมีค่า มหาศาล เป็ นขุมทรัพยแ์ ห่งความรู้ที่ใครก็มาแยง่ ชิงไปไม่ได้ ผอู้ ่านจะไดร้ ับความรู้ ความเพลิดเพลิน ขอ้ คิด คุณธรรมที่แฝงอยจู่ ากเร่ืองที่อ่าน รวมถึงไดพ้ ฒั นาอารมณ์ของตนเอง ก่อให้เกิดการพฒั นาผูอ้ ่านในทางท่ีดี ฉะน้นั หนงั สือที่ดีกเ็ ปรียบเสมือนวา่ เราไดพ้ บขมุ ทรัพยน์ น่ั เอง ดงั น้ัน เราจึงควรหันมาปลูกฝังนิสัยรักการอ่านต้งั แต่วนั น้ี เพื่อประโยชน์มากมายในวนั ขา้ งหน้า “นิสัยรักการอ่าน ไม่ใช่พันธุกรรม ไม่ใช่พรสวรรค์ แต่เกิดจากการปลูกฝัง” โลกของการอ่านกาลัง เปลี่ยนแปลงคร้ังสาคญั แต่ไม่ว่า จะมีการเปล่ียนแปลงอยา่ งไร การอ่านก็ยงั มีความสาคญั อยา่ งไม่มีวนั ลด เลือนหายไปอยา่ งแน่นอน เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 60
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทีม่ าของชื่อฤดู วนั น้ีจะมาบอกถึงคาเรียกช่ือฤดูต่าง ๆ ราชบณั ฑิตยสถาน มกั จะไดร้ ับคาถามเกี่ยวกบั การนาคาเรียกชื่อฤดูต่าง ๆ ใน ภาษาบาลีสันสกฤตมาเทียบใช้แทนคาเรียกชื่อฤดูต่าง ๆ ในประเทศไทยอยู่เสมอ โดยเฉพาะ ฤดูวสันต์ ว่า คือ ฤดู ฝน ใช่หรือไม่ แทจ้ ริงแลว้ ฤดูวสันต์ ไม่ใช่ ฤดูฝน หากแต่ เป็น ฤดูใบไมผ้ ลิ คา วสันต์” มาจากภาษาบาลีสันสกฤตวา่ “วสนฺต” หมายถึง ฤดูใบไมผ้ ลิ การแบ่งฤดูกาลในประเทศอินเดียมีความแตกต่างจากการ แบง่ ฤดูกาลในประเทศไทย เน่ืองจากลกั ษณะภูมิอากาศไม่ เหมือนกนั นอกจากน้ี ในประเทศอินเดียเองยงั มีการแบ่ง ฤดูท่ีแตกตา่ งกนั ไปตามสภาพพ้ืนที่และลกั ษณะภูมิอากาศอีกดว้ ย คมั ภีร์อภิธานปั ปทีปิ กา (บาลี) กล่าวถึงฤดู ในประเทศอินเดียวา่ มีการแบง่ 2 แบบ แบบแรกเป็นการแบ่งฤดูตามลกั ษณะภูมิอากาศของประเทศอินเดียทางภาคตะวนั ออกและภาคใต้ คือ แบง่ ออกเป็น 3 ฤดู ฤดูละ 4 เดือน ไดแ้ ก่ 1. เหมนฺต (เหมนั ต)์ = ฤดูหนาว 2. คิมฺหาน (คิมหนั ต)์ = ฤดูร้อน 3. วสฺสาน (วสั สานะ) = ฤดูฝน ส่วนแบบที่ 2 เป็ นการแบ่งฤดูตามลกั ษณะภูมิอากาศของประเทศอินเดียทาง ภาคเหนือ คือ แบ่งออกเป็น 6 ฤดู ฤดูละ 2 เดือน ไดแ้ ก่ 1. เหมนฺต (เหมนั ต)์ = ฤดูหนาว 2. สิสิร (สิสิระ) = ฤดู หมอกหรือน้าคา้ ง 3. วสนฺต (วสันต)์ = ฤดูใบไมผ้ ลิ 4. คิมฺหาน (คิมหนั ต)์ = ฤดูร้อน 5. วสฺสาน (วสั สานะ) = ฤดูฝน 6. สรท (สารท) = ฤดูใบไมร้ ่วง สาหรับประเทศไทยซ่ึงเป็นประเทศที่อยใู่ นเขตร้อนน้นั พจนานุกรมศพั ทภ์ ูมิศาสตร์ ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถานไดอ้ ธิบายการแบ่งฤดูกาลในประเทศไทยไวว้ า่ แบ่งตามลกั ษณะภูมิอากาศออกไดเ้ ป็ น 3 ฤดู ฤดูละประมาณ 4 เดือน ไดแ้ ก่ 1. ฤดูหนาว (กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน) 2. ฤดูร้อน (กลางเดือนกมุ ภาพนั ธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม) 3. ฤดูฝน (กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคม) จะเห็นไดว้ า่ การแบ่งฤดูกาลในประเทศไทยน้นั คลา้ ยคลึงกบั การแบง่ ฤดูกาลในประเทศอินเดียภาค ตะวนั ออกและภาคใตซ้ ่ึงอยใู่ นเขตมรสุม คือ มี 3 ฤดู ดงั น้นั หากจะนาคาเรียกช่ือฤดูในภาษาบาลีสันสกฤตมา เทียบใชแ้ ทนคาเรียกชื่อฤดูในภาษาไทย ก็สามารถเทียบใชไ้ ดด้ งั น้ี เหมนั ต์ = ฤดูหนาว คิมหนั ต์ = ฤดูร้อน วสั สานะ = ฤดูฝน เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 61
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ซังฮีห้ มายถึงอะไร วนั น้ีไดข้ บั รถผา่ นสะพานกรุงธน หรือสะพาน ซังฮ้ี แล้วค าว่า ซัง ฮ้ี หมายถึงอะไร สะพาน กรุ งธนสร้ างข้ึ นเม่ื อปี 2497 โดยบริษทั ฟูจิ คาร์ แมนูแฟ็ กเจอร่ิ ง จากดั ของประเทศญ่ีป่ ุน และเปิ ดให้บริการเมื่อ เดือนมีนาคม 2501 โดยสะพานแห่งน้ีเร่ิมตน้ ท่ีถนนราชวถิ ีหรือถนนซงั ฮ้ี ช่วงก่อสร้างยงั ไม่มีชื่อ ประชาชน เลยเรียกวา่ สะพานซงั ฮ้ีและติดปากมาถึงปัจจุบนั สาหรับคาวา่ \"ซงั ฮ้ี\" เกี่ยวพนั กบั เครื่องกิมต้ึง ซ่ึงเป็ นช่ือ เครื่องถว้ ยชามของประเทศจีน มีลวดลายสวยงาม ในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระจุลจอมกเกลา้ นิยมสั่งถว้ ย ชามเหล่าน้ีมาจากประเทศจีนและสะสมเป็นของมีคา่ และเม่ือทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯใหส้ ร้างพระราชวงั ดุสิตข้ึน ไดพ้ ระราชทานนามตาหนกั ถนน สะพานและคลองต่าง ๆ ภายในพระราชวงั ดุสิต เป็ นช่ือเครื่อง กิมต้ึงของประเทศจีนท้งั สิ้น เช่น ถนนหลงั พระราชวงั พระราชทานนามวา่ ซังฮ้ี อนั เป็ นคามงคลของจีน มี ความหมายวา่ \"ยินดีอย่างยิ่ง\" ซ่ึงในตอนแรกท่ีสร้างมีระยะทางจากแม่น้าเจา้ พระยาไปสุดบริเวณดา้ นหลงั พระราชวงั ดุสิตและต่อมาในภายหลัง ในรัชสมยั พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจา้ อยู่หัว เปลี่ยนนาม สถานที่หลายแห่งน้นั ถนนซงั ฮ้ีก็เป็ นถนนหน่ึงท่ีทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้เปล่ียนช่ือไปเป็ น\"ถนนราช วถิ ี\" เม่ือมีการสร้างสะพานขา้ มแม่น้าเจา้ พระยาแห่งใหม่ ประชาชนทวั่ ไปยงั ไม่ทราบช่ือสะพาน จึงเรียกชื่อ สะพานวา่ สะพานซงั ฮ้ี เพราะสะพานน้ีเริ่มตน้ ปลายถนนซงั ฮ้ีทางดา้ นฝ่ังพระนคร ต่อมาเมื่อสร้างเสร็จแลว้ รัฐบาลไดต้ ้งั ชื่อสะพานวา่ สะพานกรุงธน นน่ั เอง เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม นิตยสารกับวารสารแตกต่างกนั อย่างไร วนั น้ีไดม้ ีโอกาสร่วมงาน วนั รักการอ่าน และก็มีข้อสงสัย ว่า นิตยสารกับ วารสารแตกต่างกนั อยา่ งไร เลยไปหาคาตอบมาให้ ฟังครับ \"นิตยสาร\" หรือ Magazine เป็ นส่ิงพิมพท์ ่ี จดั พิมพอ์ อกเผยแพร่ตามกาหนดเวลา หรือคาบเวลา ท่ีแน่นอน เช่น ออกทุกสัปดาห์ หรือออกทุกเดือน ลกั ษณะโดยทวั่ ไปเป็ นสิ่งพิมพ์ เขา้ เล่มแบบเดียวกบั หนงั สือ\"วารสาร\" หรือ Journal เป็นส่ิงพิมพ์ จดั พิมพ์ ออกเผยแพร่เป็นคราวๆ หรือเป็นวาระ ซ่ึงอาจมีกาหนดเวลาหรือไม่มีกาหนดเวลาแน่นอนก็ได้ ท้งั น้ีนิตยสาร จะมุ่งเนน้ ไปทางบนั เทิงคดี ส่วนวารสาร จะเนน้ ไปทางวชิ าการ ในการใชร้ ูปแบบคา วารสารเป้ ฯคาใหญ่กวา่ นิตยสาร หรือหมายถึง นิตยสาร เป็นส่วนหน่ึงของวารสาร นะครับ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 62
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เงินถุงแดง คืออะไร เงินถุงแดงคือเงินท่ีท่ี ร.3 หรือ รัชกาลท่ี 3 พระบาทสมเด็จพระน่ังเกลา้ เจา้ อยู่หัวทรง แต่งสาเภาสินคา้ ไปคา้ ขายกบั ทางเมืองจีน แลว้ พระองคก์ ็เก็บเงินใส่ในถุงแดงต้งั ไวข้ า้ ง พระท่ี(ขา้ งที่นอนของ พระองค์)แล้วทรง ตรัสแต่ขุนนางว่าน่ีจะเป็ นเงินไวไ้ ถ่บา้ นไถ่ เมือง เป็ นทรัพย์สิ นส่วนประองค์ท่ีทรง พระราชทานไว้ให้เป็ นทุนสารองให้แก่ แผ่นดินสาหรับใช้ในยามบ้านเมืองอยู่ใน ภาวะคบั ขนั หรืออยใู่ นสภาวะที่จาเป็ นตอ้ ง ใชเ้ งินเหล่าน้ีในยามฉุกเฉิน เงินถุงแดงน้ี เป็ นเงินจากการเก็บหอมรอมริบของพระองคใ์ นการไดก้ าไรจาก การคา้ ขายกบั สาเภาสินคา้ ต่างๆทรงเกบ็ สะสมไวน้ าใส่ถุงผา้ สีแดงแยกเป็ นถุง ปิ ดปากถุงเก็บเขา้ ในหีบกาปั่น ขา้ งพระแท่นบรรทม เก็บไวเ้ รื่อยๆมีเพิ่มข้ึนเรื่อยๆแยกส่วนจากเงินในทอ้ งพระคลงั เงินน้ีมกั จะพดู กนั ง่ายๆ พอเขา้ ใจวา่ เงินถุงแดง คือ เงินของพระมหากษตั ริย์ ใหแ้ ก่พระมหากษตั ริยอ์ งคต์ ่อ ๆไปที่จะข้ึนครองราชยม์ ี สิทธิใช้ มิใช่เงินส่วนพระองคข์ ององคใ์ ดองหน่ึงแต่เป็ นเงินของพระมหากษตั ริยไ์ วใ้ ชแ้ กป้ ัญหาบา้ นเมืองใน ยามทุกขเ์ ขญ็ และกเ็ ป็ นเช่นน้นั จริงๆเมื่อเกิดเหตุการณ์วกิ ฤตการณ์ปากน้า หรือ วิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ท่ีไทย ตอ้ งเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้าโขง ที่โดนฝรั่งเศสกดดนั และเรียกร้องค่าเสียหายจากการปะทะกนั จนไดร้ ับ ความเสียหาย พอฝรั่งเศสส่งเรือเขา้ มาปิ ดปากแม่น้าเจา้ พระยาแลว้ หันกระบอกปื นมาทางพระบรมมหาราช และย่ืนคาขาดให้ทางไทยหรือสยามในขณะน้นั ยกดินแดนฝั่งซา้ ย แม่น้าโขง หรือลาวในปัจจุบนั และ จ่าย สินสงครามเพื่อเป็นค่าเสียหายแก่ทรัพยแ์ ละบุคลากรของฝรั่งเศสจานวนเงินท้งั สิ้น 3 ลา้ นฟรังก์ ทางรัชกาลท่ี 5 พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั มหาราช จึงตอ้ งทรงนาเอา\" เงินถุงแดง \" ท่ีเก็บมาต้งั แต่สมยั ของ รัชกาที่ 3 มาใชจ้ ่ายในยามขบั ขนั เช่นน้ี จึงช่วยกวู้ กิ ฤตใหท้ างสยามในเรื่องภยั คุกคามของฝร่ังเศสใหผ้ า่ นพน้ ไปไดด้ ว้ ยดี ** เงินถุงแดงบรรจุเป็ นเหรียญทองเงินสเปนเป็ นรูปนกอินทรี มีการตอกตราจกั รและมงกุฎไว้ บนเหรียญนก ดว้ ยความปรีชาสามารถของรัชกาลท่ี 3 และสายพระเนตรท่ียาวไกลมีส่วนช่วยให้สยามรอด พน้ วกิ ฤตเหล่าน้ีมาได้ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 63
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เช็งเม้งคอื อะไร พธิ ีไหวบ้ รรพบุรุษ ในภาษาจีน คือคาวา่ เชิงหมิง ( qing-ming ) หรือ เช็งเมง้ “เช็ง” หมายถึง สะอาด บริสุทธ์ิ และ “เม้ง” หมายถึง สว่าง รวมแล้ว หมายความถึง ช่วงเวลาแห่งความแจ่มใส รื่นรมย์ สารท เช็งเม้ง หรือ เชงเมง้ และเป็ นประเพณีท่ี สาคญั มากท่ีสุดของของชาวจีน คือ การ ไหว้ บรรพบุรุษ ท่ี สุสาน ( ฮวงซุย้ หรือ ฮวงจุย้ ) เป็ น การแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุ ษ โดยมี อิทธิพลมาจากลทั ธิขงจ้ือ ท่ีเนน้ เร่ืองความกตญั ญูเป็ นสาคญั ส่วนท่ีมาของประเพณีมาจาก ในยคุ ชุนชิว องค์ ชายฉงเอ่อแห่งแควน้ จิ้นหนีภยั ออกนอกแควน้ ไปมีชีวิตตกระกาลาบากนอกเมือง โดยมีเจ้ียจ่ือทุยติดตามไป ดูแลรับใช้ เจ้ียจ่ือทุยมีจิตใจเมตตาถึงขนาดเชือดเน้ือที่ขาของตนเป็ นอาหารใหอ้ งคช์ ายเสวยเพ่ือประทงั ชีวิต ภายหลงั เม่ือองคช์ ายฉงเอ่อเสด็จกลบั เขา้ แควน้ และไดร้ ับการสถาปนาข้ึนเป็ นเจา้ ผคู้ รองแควน้ นาม จิ้นเหวิ นกง และไดส้ ถาปนาตอบแทนขุนนางทุกคนท่ีเคยให้ความช่วยเหลือตน แต่ลืมเจ้ียจ่ือทุยไป นานวนั เขา้ จึงมี คนเตือนถึงบุญคุณเจ้ียจื่อทุย จิ้นเหวินกงเพ่ิงนึกข้ึนไป จึงตอ้ งการตอบแทนบุญคุณเจ้ียจื่อทุย โดยจดั หาบา้ น ให้เขาและมารดาใหเ้ ขา้ มาอยอู่ ยา่ งสุขสบายในเมือง แต่ทวา่ เจ้ียจื่อทุยปฏิเสธ จิ้นเหวนิ กงไดค้ ิดแผนเผาภูเขา โดยหวงั วา่ เจ้ียจ่ือทุยจะพามารดาออกมาจากบา้ น แต่ผลสุดทา้ ยกลบั ไม่เป็ นไปอยา่ งที่คิด สองแม่ลูกกลบั ตอ้ ง เสียชีวติ ในกองเพลิง ดงั น้นั เพ่อื เป็นการราลึกถึงเจ้ียจื่อทุย จิ้นเหวนิ กงจึงมีคาสั่งใหว้ นั น้ีของทุกปี หา้ มไม่ให้ มีการก่อไฟ และให้รับประทานแต่อาหารสด ๆ และเยน็ ๆ จนกลายเป็ นที่มาของเทศกาลวนั กินอาหารเยน็ หรือ เทศกาลหนั สือเจี๋ย (寒食节) ซ่ึงเป็ นวนั สุกดิบก่อนวนั เช็งเมง้ 1 วนั เนื่องจากคนโบราณนิยมถือ ปฏิบตั ิกิจกรรมตามประเพณีวนั หนั สือเจ๋ียต่อเนื่องไปจนถึงวนั เช็งเมง้ นานวนั เขา้ เทศกาลท้งั สองก็รวมเป็ น วนั เช็งเมง้ วนั เดียว การไหวเ้ จ้ียจ่ือทุยจึงค่อย ๆ เปล่ียนมาเป็ นการไปเซ่นไหวบ้ รรพบุรุษแทน ส่วนท่ีมาของ ประเพณีการทาความสะอาดฮวงซุย้ เริ่มมาจากการที่พระเจา้ ฮน่ั เกาจู ปราบดาภิเษกและสถาปนาราชวงศฮ์ นั่ ข้ึนแลว้ เกิดระลึกถึงบุญคุณบิดา มารดาท่ีเสียชีวติ ไปแลว้ ที่บา้ นเกิด จึงเร่งรัดกลบั บา้ นเกิด แต่ทวา่ ป้ ายช่ือของ ฮวงซุ้ยแต่ละที่เลือนรางเตม็ ทน จากสงคราม พระเจา้ ฮน่ั เกาจูจึงอธิษฐานต่อสวรรค์ดว้ ยการโปรยกระดาษสี ข้ึนบนฟ้ าแลว้ ใหล้ มพดั ปลิวไป ถา้ กระดาษตกท่ีฮวงซุย้ ไหน ถือวา่ เป็ นฮวงซุย้ ของบิดา มารดาพระองค์ และ เม่ือดูป้ ายช่ือชดั ๆ แลว้ ก็พบว่าเป็ นฮวงซุ้ยของบิดา มารดาพระองคจ์ ริง ประเพณีการทาความสะอาดฮวงซุ้ย และโปรยกระดาษสีบนหลุมศพกเ็ ริ่มมาจากตรงน้ีเอง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 64
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่มี าของการชู 3 นิว้ วา่ กนั วา่ การชู 3 นิ้ว เป็ นกระแสที่ไหลบ่ามา จากภาพยนตร์ระดบั แชมป์ บอ็ กซ์ออฟฟิ ศอยา่ ง “The Hunger Games” ภาพยนตร์เร่ืองดงั กล่าว ฉายภาพการปกครองแบบเผด็จการปลุกสร้าง ความกลัวจนประชาชนไม่กล้าแม้แต่จะคิดแข็งขืนหรื อต่อต้าน เร่ืองราวยอ่ ๆ คือคณะผปู้ กครองไดแ้ บ่งอาณาจกั รออกเป็ น 12 เขตการ ปกครอง และยงั ไดล้ ดทอนคุณค่าชีวิตมนุษยย์ ่นย่อให้เหลือเป็ นเพียง ความบนั เทิงช่วงส้ันๆ ดว้ ยการส่ังให้แต่ละเขตส่งตวั แทน ชาย-หญิง มาร่วมเกม โดยมีการถ่ายทอดสดให้ทุกคนร่วมชม กติกาง่ายๆ คือ “ฆ่า” กนั ให้หมด ... ใครรอดคือผูช้ นะทว่า เร่ืองราวระหว่างบรรทดั ผลกั ให้นางเอกสามารถควา้ ชยั ในเกมมรณะน้ี หนาซ้าเธอยงั ช่วยให้ ชายคนรักซ่ึงเป็ นตวั แทนของเขตเดียวกนั รอดความตายด้วย นบั เป็ น การ “ขบถตอ่ กฎ” ที่จบั ตอ้ งไดจ้ ริง นบั เป็ นการปลุกใหพ้ ลงั เงียบซ่ึงถูก กดทบั ดว้ ยอานาจกลา้ คิด-กลา้ พอท่ีจะยืนหยดั ลุกข้ึนสู้ ช่วงหน่ึงในเกมการแข่งข้นั นางเอกไดช้ ูสัญลกั ษณ์ 3 นิ้ว ข้ึน ส่งตอ่ ไปยงั ชาวเมืองอ่ืนๆ ที่กาลงั รับชมอยู่ ซ่อนนยั “กระดา้ งกระเด่ือง” ต่ออานาจที่บีบค้นั ที่สุดแลว้ เกิดพฤติกรรมเลียนแบบข้ึนและขยายออกเป็ นวงกวา้ ง ผปู้ กครองจึงตอ้ ง “ฆ่า” ทุกผทู้ ุกคนท่ีชู 3 นิ้ว นนั่ เป็ น เรื่องของภาพยนตร์ทวา่ อีกความหมายที่ซ่อนเร้นในสัญลกั ษณ์การชู 3 นิ้ว มาจากประวตั ิศาสตร์การ “ปฏิวตั ิ ฝร่ังเศส” ค.ศ.1789-1799 เป็ นการเปลี่ยนผา่ นสังคม “ระบอบเก่า” จากยคุ ท่ีทุกอยา่ งถูกผกู ขาดโดยเจา้ ขุนมูล นาย-อภิสิทธ์ิชน สู่ยคุ ที่คาขวญั วา่ “เสรีภาพ-เสมอภาค-ภราดรภาพ” ถูกบญั ญตั ิไวใ้ นรัฐธรรมนูญฝรั่งเศสปี 2489 และ 2501 เสรีภาพ คือการเน้นในเสรีภาพของบุคคลหรือปัจเจกชนนิยม และได้ขยายไปในเร่ือง เสรีภาพในด้านความคิด ความเช่ือทางศาสนา การศึกษาหาความรู้ การพิมพแ์ ละเผยแพร่ข่าวสาร รวมท้งั เสรีภาพในทางการเมือง เสมอภาค คือความเท่าเทียมกนั ตามกฎหมายของปัจเจกชน ความเสมอภาคข้ึนอยกู่ บั หลกั ความเที่ยงธรรม ความเท่าเทียมกนั ในเร่ืองสิทธิและหนา้ ที่ เช่น ความเท่าเทียมในดา้ นการเสียภาษี การ รับใชช้ าติโดยการเป็นทหาร และสิทธิในการออกเสียงเลือกต้งั ภราดรภาพ คือความเป็นพ่เี ป็นนอ้ งกนั มนุษย์ ทุกคนจะตอ้ งมีความเท่าเทียมกนั และปฏิบตั ิต่อกนั ดุจพี่นอ้ ง ความเป็ นพี่เป็ นนอ้ ง เป็ นส่ิงที่ธรรมชาติมอบให้ มนุษย์ คือ การไมเ่ นน้ ผวิ พรรณ หรือ เผา่ พนั ธุ์ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 65
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทม่ี าของบิกนิ ี่ คาวา่ Bikini ในภาษาลาติน Bi แปลวา่ สอง และ kini แปลวา่ ตารางนิ้วของเส้นใย แต่จริงๆ แลว้ ท่ีมาของช่ือเรียกน่ารักๆ อยา่ ง ‘บิกิน่ี’ น้นั นามาจากช่ือเกาะบิ กินี่ อะโทล (Bikini Atol) เกาะเล็กๆ ทางทิศตะวนั ตกของมหาสมุทรแปซิฟิ กซ่ึงกาลงั จะมีการทดลองระเบิด นิวเคลียร์ในช่วงน้นั ช่วงไหนน่ะหรือ ก็ช่วงท่ีบิกิน่ีตวั แรกถือกาเนิดข้ึนมาไงล่ะ บิกินี่เกิดข้ึนจากความคิดที่ ตอ้ งการให้สาวๆ สวมชุดวา่ ยน้าอาบแดดแลว้ เหลือรอยด่างตามตวั ที่อยใู่ ตร้ ่มผา้ ใหน้ อ้ ยที่สุด ผิวจะไดเ้ ป็ นสี น้าผ้ึงหรือสีแทนเท่ากนั ท้งั เรือนร่าง หลุยส์ วีร์ (Louis Reard) แฟชนั่ ดีไซเนอร์ผอู้ อกแบบชุด เม่ือตดั เยบ็ เสร็จก็ เปิ ดตวั ชุดวา่ ยน้าตวั จิ๋วในงานแฟชน่ั โชวท์ ี่กรุงปารีสเม่ือ วนั ที่ 5 กรกฎาคม 1946 ใกลๆ้ วนั งาน เขาไปอ่านเจอ ข่าวการทดลองระเบิดนิวเคลียร์ ที่เกาะบิกิน่ี ซ่ึงเป็ นข่าว ดงั ไปทว่ั โลกเขา้ จึงเอาช่ือหนา้ ของเกาะมาต้งั เป็ นชื่อชุด ว่ายน้า เรียกว่าขอเกาะกระแสดังตามไปด้วย แล้วก็ เป็ นไปตามท่ีตอ้ งการ คาวา่ ‘บิกินี่’ ติดหูติดตาติดปากผูค้ นมากวา่ หกสิบปี แลว้ ;yนแสดงแฟชน่ั โชวไ์ ม่มี นางแบบอาชีพคนไหนกลา้ ใส่ เพราะรู้สึกวา่ โป๊ มาก หลุยส์จึงตอ้ งไปจา้ งนกั เตน้ ระบาเปล้ืองผา้ มาสวมบิกิน่ี เดินแฟชน่ั โชว์ และมนั ก็ไมไ่ ดน้ บั ความนิยมเท่าที่ควร เพราะถือวา่ เป็ นชุดที่ล่อแหลมเกินเหตุ ขดั ต่อศีลธรรม ตอ้ งใชเ้ วลาอีกกวา่ ยสี่ ิบปี กวา่ จะไดร้ ับการยอมรับ กระทง่ั ในปี 1962 เม่ือ เออร์ซูล่า แอนเดรส ‘Bond girl’ ใน นาม Honeychile Ryder ไดท้ าให้ผคู้ นจดจาและทาให้หนุ่มๆ ฝันถึงบิกิน่ีสีขาวท่ีเธอสวมใส่ในหนงั เจมส์ บอนด์ ตอน Dr. No แลว้ บิกิน่ีก็เริ่มเป็นที่นิยม เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ปัญหาการบินชนกระจกของนกวนั น้ีไดไ้ ปนง่ั กินกาแฟแลว้ เห็น นกบินชนกระจก \"นกชนกระจก\"(window collision) ซ่ึงปัญหานกบินชนกระจกน้นั เป็ นปัญหาใหญ่ ใน ธรรมชาติ เน่ืองจากการท่ีนกบินชนกระจกส่งผลให้ นกได้รับบาดเจ็บจนอาจถึงตายได้ ทาไมจึงบอกว่า window collision เป็ นปัญหาใหญ่ท่ีประเทศมหาอานาจประกาศใหเ้ ป็ นวาระแห่งชาติ ลองมาดูตวั เลขความ สูญเสียของนกบินชนกระจกตามอาคารสูงๆ และ กระจกตามบา้ นเรือนกนั ครับ มีขอ้ มูลจากอเมริกา เหนือว่า ในทุก ๆ ปี มีนกประมาณ 100,000,000 ตวั เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากการบินชนกระจก มี การศึกษาวิจยั ปัญหาน้ีมานานนับทศวรรษ จนได้ ขอ้ สรุปว่า \"บรรดานกไม่คิดวา่ กระจกเป็ นอุปสรรคขดั ขวางการบิน\" พดู ง่าย ๆคือ กระจกใสจนนกมองไม่ เห็น นนั่ แหละครับ หลายท่านคงเกิดคาถามในใจว่า \"ทาไมนกถึงบินชนกระจก\" เวบ็ ไซต์ Savebird กลุ่มที่ อุทิศตวั เพื่ออนุรักษน์ กในธรรมชาติ มีคาตอบให้ดงั น้ี เพราะกระจกบา้ น กระจกหน้าต่างอาคาร ทาให้เกิด ภาพลวงตาได้ Transparent Effect คือ กระจกใสจนนกมองไม่เห็นกระจก. ช่วงกลางวนั ... โดยเฉพาะอีกฟาก เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 66
เป็นกระจกเหมือนกนั จะเกิด See-through Effect นกเห็นเป็ นช่องเปิ ดโล่งให้บินได้ เลยกะบินทะลุบา้ น ทะลุ ห้อง ช่วงกลางคืน ... โดยเฉพาะตึกสูงๆ ที่เปิ ดไฟ จะเป็ นปัญหากบั นกอพยพ เพราะหอ้ งที่เปิ ดไฟ จะสวา่ ง โล่ง นกมองไม่เห็นกระจก เห็นแต่ออฟฟิ ศโล่งๆ ตามอาคารสูงๆ นกก็บินเขา้ ไป กะว่าคงจะบินทะลุตึก นน่ั เองขนาดคนยงั เดินชนกระจกใสๆ เลยครับ เห็นออกบ่อยไปตามร้านที่ติดกระจกใสในห้างสรรพสินคา้ คนชนกระจกดว้ ยอตั ราความเร็วตามปกติยงั รู้สึกมึนหวั บางทีไดแ้ ผลเลือดออกเหมือนกนั ลองนึกภาพดูนะ ครับวา่ นกบินมาดว้ ยความเร็วสูงแลว้ พุ่งชนกระจก จะเกิดอะไรข้ึน ใช่ครับ .. นกอาจไดร้ ับบาดเจ็บ ช็อค หมดสติ ถึงข้นั เสียชีวติ กม็ ี เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม บปก.ย่อมาจากอะไร เวลาเราไปไซตง์ านก่อสร้างเรามกั จะเห็น อิฐ ท่ีมีตวั ย่อวา่ บปก. แลว้ ตวั ย่อ บปก.น้ียอ่ มาจากอะไร อิฐ บปก.เป็ นอิฐ ของบริษทั โรงงานอิฐ บ.ป.ก. เฮง้ มุ่ยหลี ณ.ที่ราบลุ่มแม่น้า เจา้ พระยา ตาบล บางปลากด อาเภอ ป่ าโมก จงั หวดั อ่างทอง ซ่ึงเป็ นแหล่งดิน คุณภาพดี เหมาะแก่การทาอิฐและกระเบ้ืองดินเผาธรรมชาติ และท่ีต้งั ของโรงงาน คือ ตาบล บางปลากด น้ีก็เป็ นท่ีมาของตราสินคา้ บ.ป.ก. ซ่ึงเป็ นท่ีรู้จัก และได้รับการยอมรับถึงคุณภาพที่ได้มาตรฐานใน ปัจจุบนั โดยคาวา่ บปก.น้นั มาจากคาวา่ บางปลากด ซ่ึงเป็นท่ีต้งั ของโรงงานนนั่ เอง เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เรื่องที่ 98 การดาหัวคืออะไร คาวา่ รดน้าดาหวั เป็ นคาพดู ของชาว เหนือท่ีจะไปรดน้าขอขมา (ขอโทษ) ผใู้ หญ่และขอพรจากผใู้ หญ่ท่ีตนเคารพนบั ถือ ซ่ึงจะมีการอาบน้าจริง ๆ คืออาบท้งั ตวั และดาหวั คือสระผมดว้ ยส่ิงที่ใช้สระผมก็ จะเป็ นน้ าส้มป่ อยหรือน้ ามะกรูด การดาหัว ใน ความหมายทว่ั ไปของชาวลา้ นนาไทยน้นั หมายถึงการ “สระผม” แต่ในพิธีกรรม โดยเฉพาะในเทศกาล สงกรานตข์ องทุก ๆ ปี หมายถึง การชาระสะสาง ส่ิงอนั เป็ นอปั มงคลในชีวิตให้วิปลาสปราดไป ดว้ ยการใชน้ ้า ส้มป่ อยเป็นเคร่ืองชาระจึงใชค้ าวา่ ดาหวั มาต่อทา้ ยคาวา่ รดน้า ซ่ึงมีความหมายคลา้ ยกนั กลายเป็นคาซอ้ น คาวา่ “รดน้าดาหวั ” ประเพณีรดน้าดาหวั ถือวา่ เป็ นประเพณี ท่ีดีงามอีกประเพณีหน่ึง ที่ประชาชนชาวไทยถือปฏิบตั ิ มาอย่างยาวนาน ซ่ึงการรดน้าดาหวั ผูส้ ูงอายุ หรือ ญาติผใู้ หญ่ บุคคลผทู้ ่ีตนให้ความเคารพนบั ถือ การรดน้าดาหวั น้นั จะเป็ นการขอโทษขออภยั ซ่ึงกนั และกนั ที่เคยล่วงเกินกนั ในปี ที่ผา่ นมา ไม่วา่ จะเป็ นการล่วงเกินทางกาย ล่วงเกินทางวาจาหรือวา่ การล่วงเกินทางใจ ท้งั ท่ีต้งั ใจหรือไม่ไดต้ ้งั ใจ ต่อหนา้ หรือวา่ ลบั หลงั ก็ตาม ประเพณีรดนาดาหัว หรือบางคร้ังก็เรียกวา่ ประเพณี ปี ใหม่เมืองจะมีในระหวา่ ง วนั ที่ 13 15 เดือนเมษายนของทุกปี หรือวนั สงกรานตน์ น่ั เอง ประเพณีรดน้าดา เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 67
หวั ผูใ้ หญ่ ส่วนใหญ่จะกระทากนั ในวนั สุดทา้ ยของเทศกาลสงกรานต์ เพียงวนั เดียวหรือวนั เถลิงศกนน่ั เอง แต่การรดน้าดาหวั พระสงฆน์ ้นั จะ มีลกั ษณะคลา้ ยๆ กนั แต่พิธีการรดน้าดาหวั พระสงฆจ์ ะมีพิธีการมากกวา่ คือก่อนที่จะรดน้าพระสงคจ์ ะตอ้ งรดน้าพระพุทธรูปก่อน แลว้ จึงค่อยรดน้าดาหวั พระภิกษุสงฆ์ จากน้นั ก็รับ พรจากพระภิกษุสงฆ์ พอเสร็จพิธีก็จะมีการเล่นน้ากนั อยา่ งสนุกสนาน และการรดน้าดาหวั พระภิกษุน้นั จะ ทาทุกวนั ประเพณีรดน้าดาหวั เป็ นส่ิงท่ีทาต่อเน่ืองกนั มายาวนานในปี ใหม่ไทย เป็ นการแสดงความเคารพ และความกตญั ญูต่อบิดามารดา ผูใ้ หญ่ และผมู้ ีพระคุณ ดว้ ยความเชื่อที่วา่ เป็ นการขอขมาลาโทษ พร้อมท้งั รับคาอวยพรเพ่อื สิริมงคลของชีวติ และประเพณีน้ียงั ทรงคุณค่ามาจนทุกวนั น้ี เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน เขตหนองแขม ที่มาของสานวน ผู้ดีเดินตรอก ขี้ครอกเดินถนน สานวนน้ี มาจากลกั ษณะภูมิประเทศเดิมของบางกอก แต่ก่อนคนไทยจะใช้ทางน้าเป็ นหลกั คนมีเงินมีฐานะจะมี บา้ นเรือนติดแม่น้า ส่วนคนจนคนงานตอ้ งเดินตามทางสัญจรเพ่ือไปแม่น้า ต่อมามีการสร้างถนนตดั ผา่ น ท่ีดินดา้ นหลงั การสัญจรไปมาตามถนนจะสะดวกกว่าทางน้าเจา้ ของที่ดินจึงมกั จะแบ่งท่ีดินแปลงดา้ นท่ีติด ถนนให้คนเช่าหรื อสร้างตึกแถวให้คนเช่ าเพ่ือหารายได้หรื อ ขายเพอ่ื หารายไดม้ าจุนเจือครอบครัว เจา้ ของท่ีดินเดิมจึงมกั จะ ทาเป็ นทางเทา้ พอท่ีจะเดินเขา้ ออกหรือเดินตามทางสัญจรเดิม จากบา้ นติดแมน่ ้าไปสู่ถนนไดเ้ พราะในสมยั น้นั ใครมีจกั รยานก็ หรูหรือรวยแลว้ การเดินทางไปไหนมาไหนมกั จะเดินเทา้ เป็ น หลักพอต่อมามีบ้านเรือนขนาบขา้ งท้งั สองด้านก็จะเรียกว่า ตรอกถนนในอดีตรถรากม็ ีนอ้ ย เลยไม่รู้วา่ จะทากวา้ งไป เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน เขตหนองแขม BTU มันคืออะไร แลว้ เท่าไหร่ถึงจะเหมาะ กบั ห้องของเรา BTU เป็ นคาย่อมาจาก British Thermal Unit (หน่วยความร้อนแบบบริติช) ซ่ึงจะหมายถึงพลงั งงานความร้อนท่ี ตอ้ งใชใ้ นการทาให้น้าที่มีน้าหนกั 1 ปอนด์ (454 กรัม) มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไป 1 องศาฟาเรนไฮต์ ค่า BTU ท่ีระบุในสเปก เครื่องปรับอากาศ มักจะหมายถึง BTU ต่อชั่วโมง คือความสามารถของ เคร่ืองปรับอากาศในการ นาความร้อนออกจากห้องในเวลา 1 ชวั่ โมงนนั่ เอง การเลือกขนาด BTU ของเครื่องปรับอากาศน้นั ข้ึนอยู่กบั ปัจจยั หลายอย่าง ท่ีสาคญั อนั ดบั แรกคือ ขนาดของ ห้อง เนื่องจากห้องยิ่งมีขนาดใหญ่ ปริมาณอากาศในห้องยิ่ง มาก พลงั งานท่ีตอ้ งใชใ้ นการทาความเยน็ ก็ตอ้ งมากตามไปดว้ ย นอกจากน้นั กข็ ้ึนอยกู่ บั การใชง้ านของหอ้ งน้นั เช่น หอ้ งที่มีคนเดินเขา้ ออกบ่อย ก็ตอ้ งใชเ้ ครื่องปรับอากาศท่ี มีกาลงั เพ่ิมข้ึน เน่ืองจากในการเปิ ดประตูเขา้ ออกจากห้องก็จะนาเอาความร้อนจากภายนอกห้องเขา้ มาดว้ ย หรือห้องท่ีมีเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ าอยา่ งอื่น เช่น โทรทศั น์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ ซ่ึงเป็ นตวั การปลดปล่อยความร้อน เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 68
กต็ อ้ งใชเ้ ครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ข้ึน หรือหอ้ งที่ถูกแดดส่องประจาก็ตอ้ งใชเ้ ครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ ข้ึน สาหรับห้องนอนขนาดปานกลาง (ประมาณ 16 ตารางเมตร และสูงประมาณ 2.5-3.0 เมตร) เคร่ืองปรับอากาศขนาด 12,000 BTU ก็ “เอาอย”ู่ ไดแ้ ลว้ การเลือกเคร่ืองปรับอากาศท่ีมีขนาดใหญ่เกินไป นอกจากจะสิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุแลว้ ก็ยงั ทาใหค้ อมเพรสเซอร์ตอ้ งตดั บอ่ ย ส่งผลทาให้การควบคุมระดบั ความช้ืนไม่ดี รวมถึงยงั กินไฟมากข้ึนด้วย ขณะเดียวกัน หากใช้เคร่ืองปรับอากาศขนาดเล็กเกินไป คอมเพรสเซอร์ก็จะตอ้ งทางานหนกั อยตู่ ลอดเวลาเพื่อรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดบั ท่ีต้งั ไว้ ทาให้สิ้นเปลือง พลงั งานเช่นกนั รวมถึงยงั ส่งผลใหค้ อมเพรสเซอร์มีอายใุ ชง้ านส้นั ลงอีกดว้ ย เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน เขตหนองแขม ช่ืออเมซอนมาจากอะไร ก็คงจะตอบกนั ว่า มาจากช่ือแม่น้าอเม ซอน ในอเมริกาใตน้ ่ะซิ จริงๆแลว้ ช่ืออเมซอนมาจากช่ือ นกั รบหญิง ในเทพนิยายกรีก ซ่ึงเป็ นนกั รบหญิงที่เก่งกล้า มาก โดยท้งั เผา่ จะมีแต่ผหู้ ญิงออกรบเท่าน้นั \"แลว้ ชนเผ่าน้ี มนั เกี่ยวขอ้ งอะไรกบั ป่ าอเมซอนในอเมริกาใตล้ ่ะเนี่ยคนละ ทวีปเลยล่ะนนั่ จะวา่ เก่ียวก็เก่ียว จะวา่ ไม่เก่ียวก็ไม่เกี่ยวล่ะ ครับ - งงไหม? ผมจะเล่าให้ฟังครับ สาเหตุที่ป่ าฝนที่ใหญ่ ท่ีสุดในโลกแห่งน้ีได้ช่ือว่าป่ าอเมซอนน้ัน มีอยู่ว่า นัก สารวจชาวสเปนนามว่า \"ฟรานซิสโก เดอ โอเรลลาน่า \" (Francisco de Orellana) นากองกาลงั เขา้ ไปสารวจในป่ าดิบช้ืนแห่งน้ีน้นั พวกเขาได้เผชิญหน้ากบั เผ่า อินเดียนพ้ืนเมืองกลุ่มหน่ึงซุ่มโจมตี โดยไออ้ ินเดียนเผ่าน้นั ดนั ปรากฏว่ามีนกั รบท้งั ชายท้งั หญิงมาออกรบ เคียงไหล่เคียงบ่ากนั ดงั น้ัน โอเรลลาน่าจึงเรียกป่ าดิบช้ืนแห่งน้ีว่าอเมซอน ตามชื่อของเผ่านักรบหญิงใน ตานานกรีซโบราณนนั่ แล เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม คาว่าอภิเษก แปลว่าอะไร คาวา่ อภิเษก แปลวา่ แต่งต้งั โดยการทา พธิ ีรดน้า เช่นพิธีข้ึนเสวยราชยข์ องพระเจา้ แผน่ ดิน. การรด น้าในพิธีอภิเษกสมรส เป็ นตน้ โดยคาวา่ คาว่า อภิเษก มา จากคาภาษาสันสกฤต แปลว่า การรดอนั ยิ่ง ใช้หมายถึง แต่งต้งั โดยการทาพิธีรดน้า มีปรากฏในจารึกสมยั สุโขทยั ดงั มีปรากฏในจารึกวดั ศรีชุมมีขอ้ ความวา่ “...พอ่ ขนุ ผาเมือง จึงอภิเษกพอ่ ขนุ บางกลาวหาว ใหเ้ มืองสุโขทยั ใหท้ ้งั ชื่อตนแก่พระสหายเรียกชื่อศรีอินทรบดินทราทิตย์ การ อภิเษกมีไดห้ ลายกรณี นอกจากการอภิเษกใหข้ ้ึนครองเมืองแลว้ ยงั มีกรณีอื่น ๆ อีก เช่น ในไตรภูมิพระร่วง มีเร่ืองเล่าถึงเศรษฐีผูห้ น่ึงชื่อโชติกเศรษฐี มีสมบตั ิมากมาย เป็ นตน้ วา่ มีปราสาท 7 ช้นั ประดบั ดว้ ยแกว้ 7 ประการ มีกาแพงแกว้ ลอ้ มบา้ น 7 ช้นั มีตน้ กลั ปพฤกษเ์ รียงกนั เป็ นแถวระหวา่ งกาแพงแกว้ ทุกช้นั และมีขุม เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 69
ทองท่ีมุมบา้ นท้งั 4 มุม พระเจา้ พิมพิสารผูเ้ สวยราชยใ์ นเมืองราชคฤห์ จึงทรงอภิเษก คือทรงแต่งต้งั ใหเ้ ป็ น มหาเศรษฐี ดังมีขอ้ ความว่า “พระญาน้ัน ธ จึงให้เอาเศวตฉัตรมาอภิเษกมหาเศรษฐี” คาว่า อภิเษก ใช้ ประกอบกบั คาอื่นไดค้ าสมาสหลายคา เช่น ราชาภิเษก มุรธาภิเษก ปราบดาภิเษก ซ่ึงทุกพิธีจะตอ้ งมีการรด น้าท้งั สิ้น เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม นา้ มุรธาภิเษก คืออะไร ในวนั น้ี ไดม้ ีพิธีนาน้าที่ไดม้ าจากพิธีพลี กรรมตกั น้าจากแหล่งน้าศกั ด์ิสิทธ์ิทว่ั ประเทศ มาเขา้ พิธีเสกน้าอภิเษกรวม ณ วดั สุทศั นเทพวรารามฯ ก่อนจะ นาไปยงั พระอุโบสถวดั พระศรีรัตนศาสดาราม ในวนั พรุ่งน้ี สาหรับใชพ้ ระราชพิธีบรมราชาภิเษกต่อไป น้ามุรธาภิเษก คืออะไร และมีความสาคญั คาตอบก็คือ น้ามุรธาภิเษก จะ เป็นน้าที่ใชใ้ นการสรงน้ามุรธาภิเษก อนั เป็ นข้นั ตอนสาคญั หน่ึงในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตามตาราพราหมณ์ โบราณน้นั น้ามุรธาภิเษกจะนามาจาก “ปัญจมหานที” หรือแม่น้าสาคญั 5 สายในชมพูทวปี ท่ีถือกนั วา่ ไหล มาจากเขาไกรลาส อนั เป็ นที่สถิตของพระอิศวร ไดแ้ ก่ แม่น้าคงคา แม่น้ายมนา แม่น้ามหิ แม่อจิรวดี และ แม่น้าสรภู อย่างไรก็ตาม เม่ือความเช่ือน้ีมาถึงเมืองไทย การจะนาน้าจากชมพูทวีปมายงั เมืองไทยเพื่อ ประกอบพิธีน้นั ย่อมเป็ นเร่ืองที่เหลือวสิ ัยจะทาได้ จึงไดม้ ีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม เช่น ในสมยั กรุงศรีอยธุ ยา ไดใ้ ชน้ ้าจากสระศกั ด์ิสิทธ์ิท้งั สี่ในเมืองสุพรรณบุรี ไดแ้ ก่ สระเกศ สระแกว้ สระคา สระยมนา มาเป็นน้ามุรธาภิเษก ส่วนในสมยั รัตนโกสินทร์ พระบาทสมเดจ้ พระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ไดก้ าหนดใหใ้ ชน้ ้าจากแมน่ ้าสายสาคญั ของไทยแทนปัญจมหานที ไดแ้ ก่ น้าในแม่น้าเพชรบุรี ตกั ท่ีตาบลท่าไชย จงั หวดั เพชรบุรี น้าในแม่น้าราชบุรี ตกั ท่ีตาบลดาวดึงส์ จงั หวดั สมุทรสงคราม น้าในแม่น้าเจา้ พระยา ตกั ที่บางแกว้ จงั หวดั อ่างทอง น้าในแมน่ ้าป่ าสกั ตกั ที่ตาบลท่าราบ จงั หวดั สระบุรี น้าในแมน่ ้าบางประกง ตกั ท่ีตาบลพระอาจารย์ จงั หวดั นครนายก จนกระทง่ั ในสมยั รัชกาลท่ี 5 เม่ือพระองคไ์ ดเ้ สด็จไปอินเดียในช่วงตน้ รัชกาล ไดท้ รงนา “น้าปัญจมหานที” ของชมพทู วปี มาดว้ ย และทรงใชเ้ พมิ่ เป็นน้าอภิเษกในคราวบรมราชาภิเษกคร้ังท่ีสอง เมื่อทรงบรรลุนิติภาวะ ข้ึนว่าราชการด้วยพระองค์เอง จากน้ันในสมยั รัชกาลที่ 6 จึงได้มีการนาน้าจากแหล่งต่าง ๆ ในพระ ราชอาณาจกั รมาเพิม่ เติม สาหรับในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลท่ี 10 คร้ังน้ี น้ามุรธาภิเษกนอกจากจะประกอบดว้ ยน้าจากปัญ จมหานทีจากชมพทู วีป น้าจากแม่น้าสาคญั ท้งั หา้ ของไทย น้าจากแหล่งน้าศกั ด์ิสิทธ์ิในจงั หวดั สุพรรณบุรี 4 แห่ง ชลบุรี 4 แห่ง และยงั ไดน้ าน้าจากจงั หวดั ต่าง ๆ ทว่ั ประเทศ รวม 107 แหล่ง กบั ในกรุงเทพมหานครอีก 1 แห่ง (รวม 108 แห่ง) เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 70
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม มาทาความรู้จักกบั มหาวหิ าร “น็อทร์ดามแห่งปารีส” น็อทร์ดาม แห่งปารีส (Notre-Dame de Paris) เป็ นมหาวหิ ารในศาสนาคริสตน์ ิกายโรมนั คาทอลิก ต้งั อยบู่ นเกาะกลาง แม่น้าทางฝั่งตะวนั ออกของกรุงปารีส ประเทศฝร่ังเศส ชื่อของมหาวิหารแห่งน้ีแปลวา่ “แม่พระของเรา” ซ่ึง หมายถึงพระแม่มารีย์ มหาวหิ ารแห่งน้ีสร้างข้ึนในสมยั พระเจา้ หลุยส์ที่ 7 (ครองราชย์ ปี ค.ศ. 1137-1180) ซ่ึง ในเวลาน้นั ไดม้ ีการสถาปนากรุงปารีสใหเ้ ป็นเมืองหลวงของประเทศฝร่ังเศสแลว้ พระองคจ์ ึงมีพระประสงค์ ที่จะทาใหก้ รุงปารีสเป็นศนู ยก์ ลางทางเศรษฐกิจและวฒั นธรรมของฝรั่งเศสอยา่ งเป็ นทางการ มวั รีซ เดอ ซุยี (Maurice de Sully) สังฆราชแห่งกรุงปารีส ได้ เป็ นผูร้ ับผิดชอบหลักในการสร้างมหาวิหาร แห่งน้ี ต้งั แต่ปี ค.ศ. 1160 โดยเริ่มจากการร้ือ ถอนวิหารเก่าในบริเวณเดิมออก ก่อนจะมีการ เร่ิมก่อสร้างมหาวิหารแห่งใหม่ในปี ค.ศ.1163 โดยมีสมเด็จพระสันตปาปาอเลกซานเดอร์ที่ 3 มาเป็ นประธานในพิธีการเร่ิมก่อสร้าง และก็ เหมือนกบั สิ่งก่อสร้างอ่ืน ๆ ในยุคน้ัน คือตอ้ ง ใชเ้ วลาสร้างกนั นบั ร้อยปี กวา่ จะเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1345 มีการเปลี่ยนสถาปนิกผคู้ วบคุมงานไปหลาย คน ซ่ึงทาให้สถาปัตยกรรมในแต่ละส่วนของมหาวหิ ารมีความแตกต่างกนั ไปดว้ ย น็อทร์ดามแห่งปารีส จดั เป็ นงานสถาปัตยกรรมแบบกอธิค (Gothic) ชิ้นแรก ๆ ของโลก ตวั อาคารเป็ นทรงสี่เหล่ียมผืนผา้ ลบมุม กวา้ ง 48 เมตร ยาว 124 เมตร ความสูงวดั จากพ้ืนถึงยอดหอคอย 69 เมตร ซ่ึงเคยเป็ นส่ิงก่อสร้างท่ีมีความสูง มากท่ีสุดของกรุงปารีส ก่อนที่จะมีการสร้างหอไอเฟล และจดั เป็ นหน่ึงในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของ กรุงปารีสท่ีมีผเู้ ยีย่ มชมมากถึง 12 ลา้ นคนต่อปี มหาวหิ ารแห่งน้ีนอกจากจะเตม็ ไปดว้ ยความงามทางดา้ น ศิลปะอยา่ งประเมินค่าไม่ไดแ้ ลว้ ก็ยงั มีความสาคญั ทางดา้ นประวตั ิศาสตร์อีกดว้ ย มหาวหิ ารแห่งน้ีเคยใชเ้ ป็ น ที่ประกอบพิธีราชาภิเษกของนโปเลียน โบนาปาร์ต การทาพิธีมิสซาภายหลงั จากการปลดปล่อยกรุงปารีส จากกองทพั นาซีเยอรมนั ในช่วงสงครามโลกคร้ังที่ 2 รวมถึงพิธีศพของประธานาธิบดีชาร์ล เดอโกล ผนู้ า ฝร่ังเศสในช่วงหลงั สงครามโลกคร้ังที่สอง นอกจากน้นั มหาวิหารแห่งน้ียงั เป็ นฉากสาคญั ในนวนิยายเรื่อง The Hunchback of Notre-Dame อีกดว้ ย ตลอดระยะเวลาเกือบพนั ปี น็อทร์ดามแห่งปารีสไดม้ ีการบูรณะ ซ่อมแซมเป็นคร้ังคราว ท้งั ท่ีเกิดจากความเก่าแก่ของตวั อาคารเอง รวมถึงความเสียหายท่ีเกิดจากอุบตั ิภยั และ ฝี มือมนุษย์ เช่นในช่วงที่มีการลุกฮือของพวกอูโกนอท์ (Huguenots ชาวโปรแตสแตนทใ์ นฝรั่งเศส) ยคุ การ ปฏิวตั ิฝร่ังเศส และล่าสุดก็คือเพลิงไหมใ้ นคร้ังน้ี เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 71
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ืองท่ี ที่มาของพะโล้ พะโลเ้ ร่ิมตน้ มาจากความคง่ั แคน้ ของเจา้ พอ่ ไผส่ ุ่ยเอ้ียท่ีมีต่อภรรยาช่ือไผ่เส่ียวเม่ิน และชายชูข้ องนางช่ือวา่ ฮวั ซวเ่ี ฉิน เน่ืองจากเจา้ พ่อไผส่ ุ่ยเอ้ียท้งั รัก ท้งั ดูแล และทะนุถนอม ภรรยาคนน้ีอยา่ งไม่มีขาดตกบกพร่อง แต่นางไผเ่ ส่ียวเมิ่นก็ยงั แอบ ไปคบชูส้ ู่ชายกบั ฮวั ซวเี่ ฉิน เมื่อเจา้ พ่อไผส่ ุ่ยเอ้ียรับรู้เขา้ ก็โกรธคน ท้งั สองมาก จึงสาปส่งให้กลายเป็ นเป็ ดด้วยกนั ท้งั คู่ จากน้นั ก็นา เป็ ดไปตม้ กับเครื่องเทศหลายชนิด และซีอ๊ิวหวานจนกลายเป็ น พะโลใ้ นที่สุด หลงั จากน้นั เป็ นตน้ มา หากใครอยากจะบนบาล หรือขอพรจากเจา้ พ่อไผ่สุ่ยเอ้ียก็ตอ้ ง ตม้ เป็ ดพะโล้มาถวาย จนมี เป็ ดพะโลอ้ ยูม่ ากมาย ทวั่ ท้งั ศาลเจา้ พ่อไผส่ ุ่ยเอ้ีย จนกระทงั่ เวลา ผา่ นไปรุ่นต่อรุ่น ผูค้ นก็เร่ิมเบ่ือกบั เป็ ดพะโลก้ นั แล้ว จึงดดั แปลง นาไข่ หมู และเตา้ หู้มาใส่ เปล่ียนแนวให้พะโลแ้ บบเดิม ๆ น่ากิน มากย่ิงข้ึน ส่วนคาวา่ พะโลเ้ ป็ นภาษาจีนแตจ้ ๋ิว ซ่ึงมีความหมาย ประมาณวา่ มีอะไรก็ใส่ลงไปรวม ๆ กนั ซ่ึงอาจจะดูเหมือนสไตล์เดียวกนั กบั จบั ฉ่าย แตกต่างก็ตรงท่ีพะโลม้ ี เครื่องเทศ 5 เซียน อย่างดอกโปยกก๊ั อบเชย และซีอ๊ิวหวานรวมอยู่ดว้ ย อีกท้งั รสชาติก็แตกต่างกนั อย่าง สิ้นเชิงเลยทีเดียว เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ความแตกต่างระหว่างพระปรมินทร และพระปรเมนทร ซ่ึงก่อน อ่ืนเลยคาวา่ \"ปรมินทร์ , ปรเมนทร์\" น้นั มีความหมาย ว่า ผูเ้ ป็ นใหญ่ หรือผูย้ ิ่งใหญ่ แต่สาหรับในพระ ปรมาภิไธย พระมหากษตั ริยไ์ ทยน้นั ซ่ึงไดร้ ิเร่ิมข้ึนใน รัชสมยั พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ วั รัชกาล ที่๔ สาหรับพระมหากษตั ริยท์ ี่ทรงครองสิริราชสมบตั ิ สืบสันตติวงศ์อนั ดับที่เป็ นเลขคู่จะมีพระปรมาภิไธย \"ปรเมนทร์\" เช่น พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานนั ทมหิดล แต่สาหรับพระมหากษตั ริยท์ ี่ทรงครอง สิริราชสมบตั ิ สืบสันตติวงศอ์ นั ดบั ที่เป็ นเลขคี่ จะมีพระปรมาภิไธย \"ปรมินทร์\" เช่น พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กล่าวสรุปโดยยอ่ ว่า พระมหากษตั ริยท์ ่ีทรงครองสิริราชสมบตั ิ สืบสันตติ วงศอ์ นั ดบั ท่ีเป็นเลขคูจ่ ะมีพระปรมาภิไธย \"ปรเมนทร์\" เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 72
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม มอเตอร์ไซค์ Yamaha กับเคร่ืองดนตรี Yamaha เก่ยี วดองอะไร กัน ทาไม Yamaha ถึงทาธุรกิจหลัก 2 อย่างที่โคตรจะต่างกันนั่นก็คือเครื่ อง ดนตรีกบั มอเตอร์ไซค์ (ไปถึงพาหนะอีก สารพดั ) ก็เลยอ่านไปเร่ือยๆจนพบวา่ ท่ีมา ของบริษทั มนั เจ๋งมาก โดยเฉพาะการต่อสู้ ของโทรากุสึ ยามาฮ่า ผูก้ ่อต้งั Yamaha หรือช่ือเดิมคือ Nippon Gakki ก่อต้งั ข้ึนเมื่อ 132 ปี ก่อน (ปี 1887) โดยเน้นผลิตรีดออร์แกนและเปี ยโน ช่วงแรกกิจการของเครื่องดนตรีของ Yamaha บูมสุดๆแต่ก็ตอ้ งชะงกั ลงเพราะพิษสงครามโลกคร้ังที่ 2 (ตอนน้ีไมเ่ กี่ยวกบั โทรากุสึ ยามาฮา่ เพราะก่อนหนา้ น้ีแกเสียนานแลว้ ) เกนนิชิ คาวาคามิ ผบู้ ริหารและลูกชาย ของประธาน Yamaha จึงพยายามลดความเสี่ยงพร้อมๆกบั เพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ Yamaha โดยเขามานงั่ คิด วา่ นอกจากเครื่องดนตรี Yamaha พอจะทาอะไรเสริมไดบ้ า้ ง ธุรกิจตอนแรกท่ีเขาคิดไวค้ ือ เครื่องจกั รเยบ็ ผา้ , ชิ้นส่วนอะไหล่, รถบรรทุก 3 ลอ้ , สุดทา้ ยจนมาลงตวั ท่ีธุรกิจมอเตอร์ไซคใ์ นราคาที่ทุกคนสามารถจบั ตอ้ งได้ เหมาะสาหรับประเทศที่เพิ่งบอบช้าภยั สงคราม เกนนิชิ คาวาคามิกบั ทีมวิศวกรเดินทางไปที่สหรัฐฯและ ยุโรปเพื่อศึกษาโรงงานมอเตอร์ไซค์จากท่ีนน่ั ปี 1954 เม่ือกลบั มาถึงญี่ป่ ุนดว้ ยความรู้แน่นป้ึ ก พวกเขาก็ลง มือสร้างมอเตอร์ไซคโ์ ปรโตไทป์ คนั แรกภายในเวลา 10 เดือน YA-1 หรือเจา้ แมงปอแดงขนาด 125 cc ก็ถือ กาเนิดข้ึน ปี 1955 บริษทั Yamaha Motor ก็กลายมาเป็ นบริษทั ลูกของ Nippon Gakki ต่อมาเกนนิชิซงั ก็ข้ึน ดารงตาแหน่งประธานบริษทั ต่อจากพอ่ แมย้ คุ น้ีเกนนิชิ คาวาคามิจะมีบทบาทในดา้ นการพาบริษทั บุกตลาด อุตสาหกรรมมอเตอร์ไซคจ์ นประสบความสาเร็จ แต่เขามาจากครอบครัวรักดนตรี ในช่วงตน้ 50's เกนนิชิซงั เป็ นหน่ึงในผกู้ ่อต้งั Yamaha Music School และเปิ ดสอนเปี ยโนแบบไม่คิดค่าใชจ้ ่าย เพราะเขาอยากใหค้ น เขา้ ถึงเครื่องดนตรี Yamaha ใหไ้ ดม้ ากที่สุด ในยคุ น้นั ครอบครัวท่ีครอบครองเปี ยโนมีเพียง 1 เปอร์เซ็นตซ์ ่ึง หมายถึงเฉพาะเปี ยโนเป็นของเล่นในแคห่ มู่คนมีอนั จะกิน แต่ 40 ปี ใหห้ ลงั ตวั เลขการครอบครองเปี ยโนก็ไต่ มากเ็ พิม่ เป็น 20 เปอร์เซ็นต์ เปี ยโนกลายเป็ นเคร่ืองดนตรีที่ชาวญ่ีป่ ุนเขา้ ถึงไดไ้ ม่ยากอีกต่อไปเพราะนโยบาย ของเขา เขาก่อต้งั Yamaha Music Foundation ในปี 1966 และยงั แตง่ หนงั สือดนตรีอีกมากมาย เรียกไดว้ า่ เกน นิชิซังเจนจัดท้งั ด้านดนตรีและมอเตอร์ไซค์เลยทีเดียว การตดั สินใจขยายธุรกิจคร้ังน้ันทาให้ปัจจุบัน Yamaha Motor เป็นผผู้ ลิตมอเตอร์ไซคท์ ่ีใหญเ่ ป็นอนั ดบั 2 ของโลก เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 73
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม โรค NCDs คืออะไร NCDs (Non-Communicable diseases) คือ กลุ่มโรคเร้ือรังไม่ติดต่อ ซ่ึงมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใชช้ ีวิต เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหวั ใจ และสมอง โรคถุงลมโป่ งพอง โรคมะเร็ง โรคความดนั โลหิตสูง และโรคอว้ นลงพุง ซ่ึงโรคเหล่าน้ีจะเกิดข้ึน อย่างค่อยเป็ นค่อยไป และรุนแรงข้ึนเร่ือยๆ จนอาจอนั ตรายถึงชีวิต ในปัจจุบนั กลุ่มโรค NCDs จดั เป็ น ปัญหาดา้ นสุขภาพท่ีสาคญั ของคนทวั่ โลก กลุ่มโรค NCDs น่ากลวั แค่ไหน? สถิติของประเทศไทยในปี 2552 พบว่ามี ประชากรเสียชีวิตจากกลุ่มโรค NCDs 300,000 คน ซ่ึงคิดเป็ น 73% ของการเสียชีวิตท้งั หมด และใน ปัจจุบนั ยงั มีคนไทยท่ีป่ วยเป็ นโรคในกลุ่ม NCDs ถึง 14 ลา้ นคน นอกจากน้ี องคก์ ารอนามยั โลก (WHO) ยงั พบวา่ ในแต่ละปี มีผทู้ ่ีเสียชีวิตจากกลุ่มโรค NCDs ทวั่ โลกกว่า 30 ลา้ นคน โดยเสียชีวิตจากโรคหลอด เลือดหวั ใจมากท่ีสุด รองลงมาคือโรคมะเร็ง โรคถุงลมโป่ งพอง โรคปอด และโรคเบาหวาน ตามลาดบั จะ เห็นไดว้ า่ กลุ่มโรค NCDs เป็ นสาเหตุการเสียชีวติ หลกั ของคนทวั่ โลก และเกินกวา่ คร่ึงของผปู้ ่ วยก็ลว้ นเป็ น ประชากรในประเทศกาลงั พฒั นา และอยใู่ นวยั แรงงาน ดงั น้นั นอกจากกลุ่มโรค NCDs จะส่งผลกระทบต่อ สุขภาพกายและใจของประชากรแลว้ ยงั ตอ้ งใช้งบประมาณสูงในการรักษา และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ของประเทศดว้ ย ตวั อยา่ งโรคในกลุ่ม NCDs ที่พบบ่อย โรคเบาหวาน เกิดจากการมีน้าตาลในเลือดสูงอยา่ งควบคุม ไมไ่ ด้ ทาใหเ้ กิดภาวะแทรกซอ้ นตามมา เช่น ปลายประสาทถูกทาลาย เป็ นแผลติดเช้ือ ตาบอด ซ่ึงปัจจยั เส่ียง ไดแ้ ก่ การทานอาหารหวานมนั และขาดการออกกาลงั กาย โรคหลอดเลือดหวั ใจและสมอง เกิดจากผนงั หลอดเลือดแขง็ ตวั ขาดความยดื หยนุ่ เน่ืองจากมีไขมนั อุดตนั และเกิดการอกั เสบ จนทาใหเ้ ลือดไปเล้ียงหวั ใจ และสมองไดไ้ ม่เพียงพอ ปัจจยั เสี่ยงที่สาคญั ไดแ้ ก่ การมีไขมนั ในเลือดสูงซ่ึงมาจากอาหารและพนั ธุกรรม และไม่ออกกาลงั กาย โรคถุงลมโป่ งพอง เกิดจากการอกั เสบของถุงลมขนาดเล็กในปอด จนทาให้การ แลกเปล่ียนก๊าซในปอดผิดปกติ ปัจจยั สาคญั น้นั มาจากการสูบบุหรี่ โรคมะเร็ง เกิดข้ึนไดก้ บั หลายอวยั วะ โดยมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย ไดแ้ ก่ มะเร็งตบั มะเร็งปอด มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเตา้ นม สาเหตุการ เกิดมะเร็งน้ันยงั ไม่ทราบแน่ชัด แต่พฤติกรรมเสี่ยงของโรคน้ันมีมากมาย ท้ังอาหารการกิน การดื่ม แอลกอฮอล์ การสูบบุหร่ี ความเครียด เป็ นตน้ โรคความดนั โลหิตสูง คือการมีความดนั เลือดต้งั แต่ 130/80 มม.ปรอทข้ึนไป เป็ นโรคที่พบไดบ้ ่อยและอาจเป็ นสาเหตุของโรคไต และโรคหลอดเลือดหัวใจในอนาคต ดว้ ย ปัจจยั เสี่ยงต่อโรคความดนั โลหิตสูง คือการทานอาหารมนั เค็ม ทานเกลือมาก และมีไขมนั ในเลือดสูง โรคอว้ นลงพุง นิยามจากการมีรอบเอว 80 ซม.ข้ึนไป ในผหู้ ญิง และ 90 ซม.ข้ึนไป ในผชู้ าย ร่วมกบั การมี ระดบั ไขมนั และน้าตาลในเลือดผิดปกติ ซ่ึงโรคอว้ นลงพุง อาจเป็ นสาเหตุของโรคเบาหวาน ความดนั โลหิต สูง โรคหลอดเลือดหวั ใจ และอาการปวดตามขอ้ ไดใ้ นอนาคต พฤติกรรมเสี่ยงต่อกลุ่มโรค NCDs การทาน เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 74
อาหารรสจดั อาหารเค็มมนั ปิ้ งยา่ ง มีน้าตาลและไขมนั สูงเป็ นประจา และไม่ไดท้ านผกั ผลไมอ้ ยา่ งเพียงพอ ทาให้มีกลูโคส คอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และโซเดียมในเลือดสูง และร่างกายเกิดการอกั เสบไดง้ ่าย ขาดการออกกาลงั กาย ทาให้มีไขมนั สะสมในร่างกายมาก และระบบเผาผลาญทางานได้ไม่ดี การดื่ม แอลกอฮอล์เป็ นประจา ส่งผลให้ตบั เกิดการอกั เสบ การสูบบุหร่ีจดั ทาให้ถุงลมภายในปอดเสียหาย ความเครียด และการพกั ผอ่ นไมเ่ พียงพอ ทาใหร้ ะบบตา่ งๆ ทางานผดิ ปกติ และเจบ็ ป่ วยไดง้ ่าย การซ้ือยาหรือ ผลิตภณั ฑ์เสริมอาหารมาทานเองบ่อยๆ อาจส่งผลให้มีสารบางอยา่ งสะสมในร่างกายจนเกิดโทษได้ การ สัมผสั กบั แสงและมลภาวะ เช่น รังสี UV ควนั ไอเสีย และการสัมผสั กบั สารเคมีเป็ นประจา เช่น เบนซีน สาร กาจดั ศตั รูพืช ป้ องกนั กลุ่มโรค NCDs ไดอ้ ย่างไร เราสามารถป้ องกนั โรคในกลุ่ม NCDs ได้ โดยการ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดาเนินชีวติ ประจาวนั ใหด้ ีข้ึน ดงั น้ี หลีกเล่ียงการทานอาหารท่ีมีน้าตาลและไขมนั สูง อาหารเค็ม มนั อาหารปิ้ งย่าง เป็ นประจา และหันมาทานผกั ผลไมใ้ ห้หลากหลาย ออกกาลงั กายเป็ น ประจา อยา่ งนอ้ ย 150 นาที/สัปดาห์ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหร่ี ไม่ซ้ือยามาทานเอง โดยเฉพาะยาบารุง ยาชุด หรืออาหารเสริมท่ีไม่มีการรับรองสรรพคุณ หลีกเล่ียงการสัมผสั กบั มลภาวะและ สารเคมีเท่าที่จะทาได้ พกั ผอ่ นใหเ้ พียงพอ และผอ่ นคลายความเครียด เพ่ือสุขภาพท่ีดีท้งั ร่างกายและจิตใจ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เงาะโรงเรียน โรงเรียนอะไร เงาะโรงเรียน ซ่ึงเป็ นเงาะท่ีมีรสชาติ อร่อย เน้ือกรอบ หวานหอม และมีปลูกกนั มากอยา่ งเป็ นล่าเป็ นสัน และมีช่ือเสียงเป็ นที่ นิยมของผบู้ ริโภคก็ คือ อาเภอบ้านนาสาร ซ่ึงเป็ นถิ่นกาเนิดของชื่อเงาะ โรงเรียน เงาะโรงเรียนมีประวตั ิเล่ามาว่า เมื่อปี พ.ศ. 2468 มีชาวจีนสัญชาติมาเลเซียชื่อนายเค วอง มี ภูมิลาเนาอยู่ที่เมืองปี นัง ประเทศ มาเลเซีย ไดเ้ ดินทาง เขา้ มาทาเหมืองแร่ดีบุกที่หมู่บา้ นเหมืองแกะ ตาบลนา สาร อาเภอบา้ นนาสารโดยสร้างบา้ นพกั เป็ นเรือนไม้ 2 ช้นั ในท่ีดินท่ีซ้ือจานวน 18 ไร่ ใกลท้ างรถไฟ ดา้ นทิศ ตะวนั ตก ไดน้ าเมล็ดเงาะมาปลูก ขา้ งบา้ นพกั ปรากฎวา่ มีเงาะตน้ หน่ึงมีผลท่ีมี ลกั ษณะต่างไปจากตน้ อ่ืนคือ รูปผลค่อนขา้ งกลมเน้ือกรอบ หวาน หอม เปลือกบาง เมื่อนายเค วอง เลิกลม้ กิจการเหมืองแร่ในปี พ.ศ. 2497 ไดข้ ายท่ีดินจานวน 18 ไร่ พร้อมบา้ นดงั กล่าวให้แก่กระทรวง ธรรมการ (กระทรวงศึกษาธิการ) ซ่ึงได้ ปรับปรุงใชเ้ ป็ นสถานที่เรียนเรียกวา่ โรงเรียนนาสาร เงาะที่นายเค วอง ปลูกไวก้ ็ไดข้ ยายพนั ธุ์ สู่ประชาชน โดยใชต้ น้ พนั ธุ์เดิม จึงเรียกวา่ เงาะโรงเรียน ในปี พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดช ไดเ้ สด็จจงั หวดั สุราษฎร์ธานี นายชชั อุตตมางกูร ผนู้ าชาวสวนเงาะไดท้ ูลเกลา้ ฯ ถวายผลเงาะโรงเรียนและ ขอพระราชทาน ชื่อพนั ธุ์เงาะน้ีเสีย-ใหม่ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ทรงมีพระราชดารัสวา่ \"เงาะโรงเรียน ดีอยแู่ ลว้ \" ต้งั แตน่ ้นั มาเงาะพนั ธุ์น้ีจึงไดช้ ่ือวา่ \"เงาะโรงเรียน\" อยา่ งเป็นทางการ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 75
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทม่ี าของการชนแก้ว ในสมยั ก่อน กษตั ริยแ์ ละพวกขนุ นางช้นั สูง มกั จะใหข้ า้ ทาสบริวาร จดั การแข่งขนั ตะลุมบอนกนั ข้ึนที่สนาม แต่ก่อนที่จะดวลกันน้ัน ท้ังสองฝ่ าย จะตอ้ งด่ืมเหลา้ ดว้ ยกนั แกว้ หน่ึงก่อน และเพ่ือแสดง ใหฝ้ ่ ายตรงขา้ มเห็นวา่ ในเหลา้ ไม่ไดใ้ ส่ยาพิษ ท้งั สอง ฝ่ าย จะนาเหล้าในแก้วของตนรินให้ฝ่ ายตรงข้าม เล็กนอ้ ยก่อนดื่ม ประเพณี ท่ีวา่ น้ี ค่อย ๆ สืบทอดต่อ กันมา และกลายเป็ นประเพณีการชนแก้วตามงาน เล้ียง ที่เห็นกนั อยใู่ นปัจจุบนั เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมหนังอินเดียต้องมีฉากเต้น การที่ภาพยนตร์และซีรีส์จาก อินเดียต้องมีฉาก ร้อง และเต้น เสมอ มาจากรากเหง้าวฒั นธรรมของชาวอินเดีย ที่มีความผูกพนั กับ เสียงดนตรีมานานหลายพนั ปี หลายๆ พธิ ีกรรมตามคติความเชื่อของชาวอินเดียมกั จะมีการขบั ร้อง การนาเอา เครื่องดนตรีมาบรรเลงและการเตน้ ระบาไปดว้ ย จึงทาให้ส่ิงเหล่าน้ีหลอวรวมเขา้ กบั จิตวิญญาณของพวก เขา จนไมส่ ามารถแยกออกจากกนั ได้ ต่อมา เม่ือประเทศอินเดียไดเ้ ริ่มนบั ถือศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ตามชาว อารยนั ท่ีอพยพเขา้ มาในพ้ืนท่ีของประเทศ การเตน้ ที่ได้ฝังรากลึกลงไปในวฒั นธรรมของอินเดียก็ได้ถูก ถ่ายทอดมายงั พิธีการบูชาเทพเจา้ ของชาวฮินดู โดยเฉพาะ“พระศิวะ” ที่มีตานานเล่าถึง“ศิวนาฏราช” ที่เป็ น ปางหน่ึงของพระศิวะ โดยมีท่าเต้น ท้งั หมด 108 ท่าทาให้พระศิวะได้รับ การยกยอ่ งและนบั ถือในฐานะของบรม ครูดา้ นศิลปะการร่ายรา ไม่เพียงน้ี ยงั มี ตานานเล่าถึง “พระแม่กาลี” ที่เป็ นปาง หน่ึงของ “พระแม่อุมา” ท่ีได้ลงมา ปราบ อสูรมาธู จนสาเร็จ ดว้ ยความดีใจ ก็ไดเ้ ตน้ ระบาเพื่อเป็ นการฉลองชัยนะ ด้วยเหตุน้ี ชาวอินเดียจึงมีความผูกพนั กบั การร้อง และการเตน้ จนส่งอิทธิพล ไปถึงการทาภาพยนตร์ที่มีความเช่ือวา่ ถา้ เรื่องใดไม่มีฉากร้องและเตน้ จะทาให้ไม่ประสบความสาเร็จ ซ่ึงที่ ผา่ นมาภาพยนตร์และซีรีส์ท่ีทารายไดด้ ีและประสบความสาเร็จ กม็ กั จะมีฉากร้องเพลงและการร่ายราอยดู่ ว้ ย อยา่ งนอ้ ยประมาณ 3 – 4 เพลง และถา้ เร่ืองไหนไม่มีฉากร้องฉากเตน้ เลยก็จะถือวา่ เร่ืองน้นั ไม่ไดใ้ หก้ าไรคน ดู เกิดการบอกต่อวา่ ดูแลว้ ไมค่ ุม้ จึงส่งผลใหท้ า้ ยที่สุดเร่ืองน้นั ๆ กจ็ ะไม่ไดร้ ับความนิยมตามไปดว้ ยนน่ั เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 76
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมต้องพูดว่า “ฮัลโหล” เวลารับโทรศัพท์ คาพดู ที่ใชก้ นั ทวั่ ไป ในการรับโทรศพั ท์ หรือพดู โทรศพั ทก์ ็คือคาวา่ “ฮลั โหล” การรับ โทรศพั ท์ก็มีหลายรูปแบบ แลว้ แต่คนรับสายจะพูดอย่างไรตาม แบบตามสไตล์ของตน โดยส่วนตวั เราใช้ “ฮลั โหล” หรือ “วา่ ใด” แลว้ แต่ความสนิทสนมกบั คนท่ีโทรมา แต่เห็นคาที่ใช้กนั ทวั่ ไปก็ พดู กนั ติดปากกค็ ือ ฮลั โหล น่ีแหละ คาวา่ ฮลั โหล ไม่ไดเ้ ร่ิมใชค้ ร้ัง แรกโดยอเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ผปู้ ระดิษฐ์โทรศพั ทเ์ คร่ือง แรกแต่อยา่ งใด เพราะเม่ือคร้ังประดิษฐโ์ ทรศพั ทเ์ สร็จ เขาพดู ตอบ ดว้ ยคาวา่ “อะฮอย-ฮอย” แต่ผทู้ ี่เริ่มใชค้ าวา่ “ฮลั โหล” คร้ังแรกคือ โทมสั แอลวา เอดิสัน นกั วทิ ยาศาสตร์ชาวอเมริกาขณะท่ีพยายาม ปรับปรุงโทรศพั ทข์ องเบลล์ให้ใชง้ านไดด้ ีข้ึน เขาพดู กรอกหูโทรศพั ท์วา่ “ฮลั โหล” หลงั จากน้นั ฮลั โหล ก็ ไดร้ ับการบนั ทึกไวใ้ นพจนานุกรมในปี ค.ศ.1883 ผูค้ นเริ่มใช้กนั แพร่หลายมากข้ึน รวมถึงบา้ นเราดว้ ยที่ ไดร้ ับอิทธิพลของคาน้ีมาใชใ้ นการรับโทรศพั ท์ ตอ้ งขอบคุณโทมสั แอลวา เอดิสัน ที่พูดคาวา่ “ฮลั โหล” จน เขาฮิตพดู กนั ลองคิดดูสิถา้ เราเดินๆไปไดย้ นิ คนรับโทรศพั ทแ์ ลว้ พดู วา่ อะฮอย-ฮอย มนั คงพิลึกๆ ตลกๆ5555 แตส่ าหรับบา้ นเราควรใชท้ าวา่ “สวสั ดีครับ/คะ่ ” เพ่อื รักษาความเป็นไทยเอาไว้ นะครับ เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ ซ่ึงประกอบดว้ ย พระมหาพิชยั มงกุฎ, พระแสงขรรคช์ ยั ศรี, ธารพระกร, วาลวิชนี (พชั นี,พระแส้ จามรี), ฉลองพระบาทเชิงงอน สิ่งเหล่าน้ีมีความสาคญั ย่ิง เพราะเป็ นเคร่ื องหมายแห่งความเป็ นพระราชาธิบดี พระมหาพิชยั มงกุฎ (พระ-มะ-หา-พ-ิ ไช-มง-กดุ ) เดิมเรียกว่า พระมหามงกุฎเป็ นเครื่องศิราภรณ์สาหรับ พระมหากษตั ริย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลก มหาราชโปรดให้สร้างข้ึนเป็ นหน่ึงในเครื่องเบญจราช กกุธภณั ฑ์ สาหรับการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ลกั ษณะ เป็ นมงกุฎทรงกระโจมปลายเรียวแหลม ทาด้วยทองคา จาหลกั ลวดลายลงยาราชาวดี ประดบั ดว้ ยเพชรและอญั มณี ตา่ งสี พระแสงขรรคช์ ยั ศรี (พฺระ-แสง-ขนั -ไช-สี) หน่ึงในเคร่ืองเบญจราชกกุธภณั ฑ์ เป็ นพระขรรค์โบราณจมอยใู่ นทะเลสาบ ณ เมืองเสียมราฐ (เสียม-ราด) ชาวบา้ นไปหาปลาทอดแหได้พระขรรค์น้ีมา จึงนามาให้เจา้ พระยาอภยั ภูเบศร [อะ-ไพ-พู-เบด] (แบน) ผสู้ าเร็จราชการเมืองเขมรในสมยั น้นั เห็นเป็ นสิ่งสาคญั จึงให้กรมการเมือง [กฺรม-มะ-กาน-เมือง]เชิญเขา้ มา เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 77
ทูลเกลา้ ทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช ทรงรับแลว้ โปรดให้ทาดา้ ม และฝัก พระราชทานชื่อวา่ “พระแสงขรรคช์ ยั ศรี” ธารพระกรชยั พฤกษ์ (ทาน-พระ-กอน-ไช-ยะ-พรึก) ธารพระกรเป็ นราชาศพั ท์ของคาว่า ไม้เท้า ธารพระกรชัยพฤกษ์ เป็ นหน่ึงใน ๕ ของเครื่องเบญจราช กกุธภณั ฑท์ าดว้ ยไมช้ ยั พฤกษก์ ลึงเป็นลากลม หุม้ ทองคาเกล้ียงท้งั องค์ ส่วนหวั ทาเป็นหวั เมด็ หุม้ ทองคา ส่วน ส้นเป็ นสามง่าม ทาดว้ ยเหล็ก ธารพระกรองค์น้ีพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราชโปรดให้ สร้างข้ึนเม่ือต้นแผ่นดิน แต่เดิมเรียกว่า “ธารพระกรง่าม” ช่ือน้ีปรากฏอยู่ในหมายรับส่ังว่าด้วยเครื่อง ราชูปโภคจะสร้างใหม่ในสมยั น้นั วาลวชิ นี (วา-ละ-วดิ -ชะ-นี) จดั เป็นหน่ึงในเครื่องเบญจราชกกธุ ภณั ฑ์ หมายรวมท้งั พชั นีและพระแส้จามรี พชั นี คือ พดั ทาดว้ ยใบตาลรูปกลมรี ขอบเล่ียมทองคาจาหลกั ลายลงยาราชาวดีนมพดั รูปอยา่ งพุ่มขา้ วบิณฑ์ ทาดว้ ยทองคาจาหลกั ลวดลายลงยาราชาวดีท้งั สองขา้ งดา้ มพดั ทาดว้ ยทองคาเป็ นคนั กลมยาวจาหลกั ลวดลาย ลงยาราชาวดี ส้นทาเป็ นหัวเม็ดพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราชโปรดให้สร้างข้ึนเม่ือตน้ แผน่ ดิน เรียกวา่ “พชั นีฝักมะขาม” พระแส้จามรี คือแส้ทาดว้ ยขนหางจามรี เป็ นพุ่มสีขาวนวลประกอบติดกบั ดา้ มทาดว้ ยแกว้ ส่วนจงกลรับพู่ ขนจามรีและส้นด้ามทาด้วยทองคาจาหลกั ลวดลายลงยาราชาวดี พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว โปรดใหส้ ร้างข้ึนและใชค้ ู่กบั พชั นีฝักมะขามต้งั แต่การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในแผน่ ดินน้นั เป็ นตน้ มา ฉลองพระบาทเชิงงอน เป็ นหน่ึงใน ๕ ของเคร่ืองเบญจราชกกุธภณั ฑ์ (เบ็น-จะ-ราด-ชะ-กะ-กุด-ทะ-พนั ) ลกั ษณะเป็ นอยา่ งรองเทา้ แตะ ปลายแหลมงอนข้ึนเล็กนอ้ ย ส่วนหุ้มหลงั พระบาททาดว้ ยทองคาจาหลกั ลายลงยาราชาวดี พ้ืนฉลอง พระบาททาดว้ ยทองคาบุผา้ กามะหยี่สีแดงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราชโปรดให้สร้าง ข้ึน เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 78
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม มเหเสี ราชินี เจ้าจอม ชายา กับพระสนมต่างกันอย่างไร คาว่า \"ชายา\" น้นั ไม่ได้ใช้กบั ผูท้ ่ีมีฐานะเป็ นภรรยาของพระเจา้ แผ่นดินนะครับ สาหรับฐานันดรศกั ด์ิที่เรียกว่า \"ชายา\" น้นั จะใชก้ บั ผมู้ ีฐานนั ดรศกั ด์ิเป็ นภรรยาหลวงของพระบรมวงศานุวงศต์ ้งั แต่ \"เจา้ ฟ้ า\" >> \"พระองค์ เจา้ \" >> \"หม่อมเจา้ \" เท่าน้นั นะครับ ตอ้ งเป็ นภรรยาหลวงของสามตาแหน่งน้ีเท่าน้นั จึงใชค้ าวา่ \"ชายา\" หรือ \"พระชายา\" (พระชายาใช้กบั ภรรยาของ \"เจา้ ฟ้ า\" และ \"พระองค์เจา้ \" ครับ แต่ \"ชายา\" ใช้กบั ภรรยาของ \"หม่อมเจา้ \" นะครับ) ส่วน \"เจา้ จอม\" น้นั เป็ นตาแหน่งของผทู้ ่ีมีฐานะเป็ นภรรยาเจา้ พระเจา้ แผน่ ดิน แต่วา่ มี ฐานะเดิมเป็ นสามญั ชน ซ่ึงไดถ้ วายตวั แลว้ พระเจา้ แผน่ ดินทรงพอพระทยั จึงไดพ้ ระราชทานยศใหเ้ ป็ น \"เจา้ จอม\" ซ่ึงหากวา่ \"เจา้ จอม\" ทา่ นน้นั มีพระราชโอรสหรือพระราชธิดากบั พระเจา้ แผน่ ดินแลว้ ก็จะไดเ้ ล่ือนข้นั เป็ น \"เจา้ จอมมารดา\" โดยอตั โนมตั ิครับ แต่ว่า การจะเป็ น \"เจา้ จอมมารดา\" ไดน้ ้นั พระราชโอรสหรือพระ ราชธิดาในครรภ์ จะตอ้ งคลอดออกมาลืมตาดูโลกแลว้ เท่าน้นั นะครับ และที่สาคญั ที่สุด ตาแหน่ง \"เจา้ จอม มารดา\" และ \"เจ้าจอม\" ไม่ถือเป็ นเจา้ นะครับ เป็ นภรรยาของพระเจา้ แผ่นดินก็จริงแต่จะไม่ได้รับการ สถาปนาให้เป็ นเจ้านะครับ ถื อเป็ นสามัญชนธรรมดาเท่าน้ัน เมื่อสิ้ นรัชกาลก็ต้องออกจาก พระบรมมหาราชวงั เช่นกนั \"พระสนม\" เป็ นคาเรียกสาหรับ นางสนองพระโอสถ์ที่เขา้ ถวายตวั และเป็ นที่ โปรดปรานของพระเจา้ แผน่ ดิน แตว่ า่ ยงั ไม่ไดร้ ับการสถาปนาจากพระเจา้ แผน่ ดินใหเ้ ป็น \"เจา้ จอม\" ครับ ซ่ึง แตเ่ ดิมเป็นสามญั ชนคนธรรมดา ที่รับใชเ้ บ้ืองพระยคุ ลบาทในวงั ต่อมาเขา้ ถวายตวั ในระหวา่ งท่ีถวายตวั แลว้ แตย่ งั ไม่ไดร้ ับการสถาปนาใหเ้ ป็นเจา้ จอม จะใชค้ าเรียกลาลองวา่ \"พระสนม\" ครับ ตอ่ อีกนิดนะครับ สาหรับตาแหน่งของภรรยาของพระเจา้ แผน่ ดินน้นั ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนนะครับ คือ 1. สมเดจ็ พระราชินี 2. พระภรรยาเจา้ (ผทู้ ่ีมีพระยศเดิมโดยกาเนิดเป็นเช้ือพระวงศอ์ ยแู่ ลว้ หรือทรงแต่งต้งั ภายหลงั ) 3. เจา้ จอมมารดาและเจา้ จอม (ไมถ่ ือเป็นเจา้ ) ซ่ึงถา้ จะเรียงลาดบั ภรรยาของพระเจา้ แผน่ ดินวา่ ตาแหน่งใดสูงสุด และตอ่ มาคืออะไรบา้ งจะเรียงไดด้ งั น้ี 1. สมเดจ็ พระบรมราชินีนาถ (เคยเป็นผสู้ าเร็จราชการแทนพระเจา้ แผน่ ดิน) 2. สมเด็จพระบรมราชินี (ไม่เคยเป็นผสู้ าเร็จราชการแทนพระเจา้ แผน่ ดิน) 3. สมเดจ็ ...พระบรมราชเทวี และ สมเดจ็ ...พระอคั รราชเทวี 4. พระนางเจา้ ...พระราชเทวี และ พระนางเจา้ ...พระวรราชเทวี 5. พระนางเธอ... 6. พระอรรคชายาเธอ 7. พระราชชายา 8. เจา้ จอมมารดา (คุณจอมมารดา) (แตถ่ า้ ไดร้ ับสถาปนาเป็น \"เจา้ คุณจอมมารดา\" จะถือเป็นเจา้ นะครับ) 9. เจา้ จอม (คุณจอม) ส่วน \"พระสนม\" เป็นเพยี งคาเรียก ระหวา่ งการสถาปนานะครับ ไมใ่ ช่พระยศ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 79
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมรถพระทีน่ ั่งของ พระมหากษัตริย์ทาไมต้องเป็ นสีครีม เรื่อง สีรถยนตพ์ ระที่นง่ั และรถขบวนน้นั ทราบมาจากหนังสืองานพระราชทานเพลิงศพ เจา้ พระยารามราฆพ (ม.ล.เฟ้ื อ พ่ึงบุญ) อดีตผู้สาเร็ จราชการ มหาดเล็กในรัชกาลที่ ๖ ว่า เจา้ พระยารามฯ เป็ นผูว้ างระเบียบสีรถยนต์พระท่ีน่ังเป็ นสี เหลืองนวล และรถขบวนเป็ นสีแดง ส่วนรถ พระประเทียบหรื อรถสาหรับพระสัง ฆราช และผแู้ ทนพระองคน์ ้นั เป็ นสีเหลืองอ๋อย การ ท่ีกาหนดสีรถยนตพ์ ระที่นง่ั เป็ นสีเหลืองนวล น้นั น่าจะสืบเน่ืองมาจากสีรถมา้ พระที่นง่ั ที่ เป็นสีเหลืองนวลมาแต่รัชสมยั พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ซ่ึงน่าจะมีที่มาจากสีทองของราชรถ ในสมยั โบราณ ส่วนสีแดงสาหรับนถขบวนน้ันน่าจะมีท่ีมาจากสีบานเย็นซ่ึงเป็ นสีประจากระทรวงวงั เพื่อให้ทราบชดั ว่าเป็ นรถหลวง ส่วนรถพระประเทียบที่เป็ นสีเหลืองอ๋อยน้นั คงให้รับกบั จีวรพระ เพราะ นอกจากเป็นพาหนะประจาพระองคส์ มเด็จพระสังฆราชแลว้ เวลาเชิญพระไชยวฒั น์ประจารัชกาลต่างๆ ไป ในการบาเพญ็ พระราชกุศลภายนอกพระบรมมหาราชวงั ก็จะเชิญพระไชยวฒั น์ไปโดยรถยนตพ์ ระประเทียบ น้ี นอกจากน้นั รถพระประเทียบสีเหลืองอ๋ยน้ียงั จดั เป็นพาหนะสาหรับผแู้ ทนพระองค์ และเป็ นรถรับส่งทูตที่ จะเขา้ ถวายพระราชสาส์นหรืออกั ษรสาส์นตราต้งั ซ่ึงถือเสมือนว่าทูตน้ันเป็ นเสมือนผูแ้ ทนประมุขของ ประเทศน้นั ๆ การท่ีกาหนเสีรถพระประเทยบเป็ นสีเหลืองอ๋อยน้ี น่าจะให้สอดรับกบั สีรถยนตพ์ ระท่ีนง่ั แต่ เพ่มิ ความเขม้ ของสีใหต้ ่างจากสีรถยนตพ์ ระที่นงั่ เพอ่ื มอใหเ้ ป็นการเทียมเจา้ เทียมนาย นอกจากสีท้งั สามแลว้ ในสมยั ก่อนยงั มีสีน้าเงินเขม้ หรือสีกรมท่าอีกสีหน่ึง สาหรับรถใชใ้ นราชการ ท่ีไม่ใช่รถขบวน ส่วนมากจะ เป็ นรถบรรทุกที่ตอนหวั รถเป็ นสีน้าเงิน กระบะทา้ ยเป็ นสีเทา แต่ตอนหลงั มานี่ดูเหมือนจะเปล่ียนเป็ นสีเทา หมดท้งั คนั สาหรับสีน้าเงินน้ีเดิมเป็ นสีหมายกรมมหาดเล็กซ่ึงเป็ นส่วนราชการในพระราชสานกั ในสมยั รัชกาลท่ี ๖ มีฐานะเทียบเทา่ กระทรวงวงั เลยทีเดียว เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 80
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมน้าผึง้ เดือนห้าถึงดีกว่าน้าผึง้ เดือนอ่ืนๆ “น้าผ้ึงเดือนห้า” ซ่ึงคนโบราณกล่าวกนั วา่ เป็ นน้าผ้งึ ที่มีรสชาติและสรรพคุณ ดีท่ีสุด หรื อบางคนก็อาจจะได้ยินมาจากเน้ือร้องเพลง “หยาดเพชร” ที่ว่า “หวานปานน้าผ้ึงเดือนห้า” มาด้วย เช่นกนั ทาไมถึงเชื่อกนั ว่าน้าผ้ึงเดือนห้าเป็ นน้าผ้ึงที่ดีท่ีสุด น้าผ้ึงเกิดจากน้าหวานที่ผ้ึงดูดจากในเกสรดอกไม้ ก่อนจะ ผา่ นกระบวนการภายในร่างกายของผ้ึงเปลี่ยนจากน้าหวาน ของดอกไมก้ ลายมาเป็ นน้าผ้ึง น้าผ้ึงที่มาจากคนละแหล่งจะมีความแตกต่างกนั ไปตามชนิดของผ้ึง รวมถึง ชนิดของดอกไมท้ ่ีผ้งึ ดูดน้าหวานดว้ ย น้าผ้งึ ท่ีไดจ้ ากผ้งึ ที่ทารังตามธรรมชาติก็จะมีความแตกต่างจากผ้ึงเล้ียง เช่นกนั การท่ีเช่ือกนั วา่ น้าผ้งึ เดือนห้ามีคุณภาพดีที่สุดน้นั ก็เพราะวา่ ในเดือนห้าของไทย ซ่ึงตรงกบั เดือน เมษายน จะเป็นช่วงท่ีดอกไมน้ านาพรรณกาลงั ผลิดอกออกใบ ทาใหผ้ ้ึงสามารถดูดน้าหวานจากดอกไมข้ อง พืชมากมายหลากหลายพนั ธุ์ ส่งผลทาใหส้ ่วนผสมของน้าผ้งึ มีส่วนผสมของดอกไมช้ นิดต่าง ๆ คลา้ ยกบั การ ผสมสมุนไพรไปในตวั และนอกจากน้นั เดือนห้ายงั เป็ นหนา้ แลง้ อากาศมีความช้ืนต่า จึงทาให้น้าผ้ึงท่ีไดม้ ี ความเขม้ ขน้ สูงกวา่ น้าผ้งึ ในเดือนอ่ืน ๆ นน่ั เอง เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมพระบรมสาทิสลักษณ์ของ ร.1 ถึงคล้ายกบั ร.3 พระบรม สาทิสลกั ษณ์ของพระมหากษตั ริยใ์ นพระราชวงศ์ จกั รีทุกพระองค์ที่เผยแพร่กนั ทว่ั ไป ซ่ึงสาหรับ พระบรมสาทิสลกั ษณ์ต้งั แต่รัชกาลท่ี 4 เป็ นตน้ มา น้นั แน่นอนวา่ พระบรมสาทิสลกั ษณ์ท่ีปรากฏน้นั เหมือนพระองค์จริงอย่างไม่ตอ้ งสงสัย เน่ืองจาก เทคโนโลยีการถ่ายรูปเริ่มเข้ามาในสยามต้งั แต่ สมยั ปลายรัชกาลท่ี 3 และพระบาทสมเด็จพระ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ก็ทรงเป็ น พระมหากษัตริ ย์ไทยพระองค์แรกท่ีมีพระบรม ฉายาลกั ษณ์ (รูปถ่าย) ดงั น้นั การจะวาดพระบรม สาทิสลกั ษณ์ให้เหมือนพระองคจ์ ริงจึงไม่ใช่เรื่อง ยากนัก แต่สาหรับพระบรมสาทิสลักษณ์ของ รัชกาลที่ 1-3 ซ่ึงไม่ไดม้ ีพระบรมฉายาลกั ษณ์เป็ นตน้ แบบในการวาด หลายคนอาจจะสงสัยวา่ แลว้ พระบรม สาทิสลกั ษณ์ดงั กล่าวน้นั มีท่ีมาอย่างไร และเหมือนพระองค์จริงมากน้อยเพียงใด คาตอบก็คือ พระบรม สาทิสลกั ษณ์ดงั กล่าว ไดต้ น้ แบบมาจากพระบรมรูปในปราสาทพระเทพบิดร พระบรมมหาราชวงั ซ่ึงสร้าง ข้ึนในช่วงตน้ รัชกาลท่ี 5 การสร้างพระบรมรูปในคร้ังน้นั โปรดฯ ใหพ้ ระองคเ์ จา้ ประดิษฐวรการ อธิบดีกรม เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 81
ช่างสิบหมู่ เป็ นผูอ้ านวยการในการสร้าง โดยในการสร้างพระบรมรูปของรัชกาลท่ี 1-3 น้นั ไดใ้ ช้วิธี สอบถามจากผทู้ ่ีไดเ้ คยเห็นพระองคจ์ ริงใหบ้ อกลกั ษณะและคอยติใหช้ ่างแกไ้ ขไปตามคาบอกเล่า ซ่ึงในเวลา น้นั ผูท้ ี่เคยเห็นพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลา้ นภาลยั (รัชกาลท่ี 2) และพระบาทสมเด็จพระนงั่ เกล้า เจา้ อยหู่ วั (รัชกาลที่ 3) คงมีอยมู่ าก แต่สาหรับพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1) ซ่ึงห่าง จากช่วงเวลาที่จดั สร้างพระบรมรูปมากกวา่ 60 ปี น้นั ปรากฏวา่ ในเวลาน้นั ยงั คงเหลือบุคคลที่เกิดทนั เห็น พระองคจ์ ริงท่ียงั คงมีชีวติ อยเู่ พียง 4 คน คือ พระองคเ์ จา้ หญิงปุก พระราชธิดาในรัชกาลที่ 2 สมเด็จพระพุฒา จารย์ (โต) วดั ระฆงั เจา้ พระยาสุธรรมมนตรี (บุญศรี) เจา้ พระยาธรรมาฯ (ละมงั่ สนธิรัตน์) เมื่อป้ันพระรูปได้ ตรงตามแบบแลว้ จึงนามาเป็ นแบบหล่อพระบรมรูปสาเร็จเมื่อเดือนอา้ ย ปี มะแม พ.ศ. 2414 แลว้ โปรดฯ ให้ ประดิษฐานไวท้ ี่ในพระที่นง่ั ดุสิตมหาปราสาทในคร้ังแรก ก่อนจะยา้ ยมาประดิษฐานในปราสาทพระเทพ บิดร เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เปิ ดแอร์พร้อมพัดลม ประหยดั ไฟกว่า จริงหรือ คาตอบคือ จริง ครับ แต่จะประหยดั ไฟไดม้ ากหรือนอ้ ย ข้ึนอยกู่ บั ระบบ ควบคุมและเทคโนโลยีของแอร์ท่ีใช้ โดย กฟน. แนะนา ประชาชนเปิ ดแอร์ 26 °C แต่หากตอ้ งการความรู้สึกเยน็ สบายเท่ากบั 24°C ให้เปิ ดพดั ลมช่วย โดยไม่ตอ้ งลด อุณหภูมิของแอร์ (การเปิ ดแอร์พร้อมพดั ลม ประหยดั ไฟ ไดม้ ากกวา่ การลดอุณหภมู ิของแอร์ เพราะพดั ลมช่วยเพิ่มความเร็วลม เพิ่มการเคลื่อนท่ีของอากาศ ทาใหเ้ กิด การระบายความร้อนจากร่างกาย ทาใหร้ ู้สึกเยน็ สบายข้ึน โดยที่อุณหภูมิหอ้ งยงั คงเทา่ เดิม) เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ืองของ พระมหาเศวตฉัตร ให้ฟังครับ เศวตฉตั ร แปลตรงตวั วา่ “ร่มขาว” แต่ร่มในที่น่ีไม่ไดเ้ ป็ นร่มท่ีใชก้ นั ทว่ั ไป แต่เป็ นเคร่ืองสูง ท่ีใชส้ าหรับแขวน ปัก ต้งั หรือเชิญเขา้ กระบวนพิธี เพื่อประกอบพระยศ ลกั ษณะของฉตั รจะเป็ นร่มสีขาวที่เรียงซอ้ นกนั เป็ นช้นั ๆ จานวนช้นั ของ ฉัตรจะข้ึนอยู่กบั พระยศของบุคคลผูน้ ้นั ไดแ้ ก่ พระนพปฎลมหาเศวตฉัตร หรือฉัตร 9 ช้ัน ใช้เฉพาะ พระมหากษตั ริยท์ ่ีไดท้ รงประกอบพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษกแลว้ เท่าน้นั สปั ตปฎลเศวตฉตั ร เป็ นฉตั รขาว 7 ช้นั ใชส้ าหรับพระมหากษตั ริยท์ ี่ยงั ไม่ไดท้ รงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระอคั รมเหสี, สมเด็จ พระบรมราชินี, สมเด็จพระยุพราช, สมเด็จพระบรมราชกุมารี, สมเด็จเจา้ ฟ้ าที่ไดร้ ับสถาปนาเป็ นพิเศษ รวมถึงเจา้ ประเทศราช (เดี๋ยวน้ีไม่มีแลว้ ) เบญจปฎลเศวตฉตั ร เป็ นฉตั รขาว 5 ช้นั ใชส้ าหรับพระราชวงศท์ ี่ ดารงพระอิสริยยศช้นั เจา้ ฟ้ า พระมเหสีช้นั พระอคั รราชเทวี พระอคั รชายาเธอ สมเด็จพระสังฆราชที่ไดร้ ับ มหาสมณุตมาภิเษกเป็ น สมเด็จพระมหาสมณเจา้ และกรมพระราชวงั บวรสถานพิมุข เศวตฉตั ร 3 ช้นั เป็ น ฉตั รขาว 3 ช้นั มีระบายขลิบทองแผล่ วดซอ้ น 2 ช้นั ใชส้ าหรับสมเด็จพระสังฆราช พระมหาเศวตฉตั ร จะมี ลกั ษณะเป็ นฉตั รทาจากผา้ ขาว มีระบาย 3 ช้นั ขลิบทอง ขนาดของฉัตรช้นั ยอดจะมีขนาดเล็กที่สุด และช้นั เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 82
ล่างสุดจะมีขนาดใหญ่สุด การท่ีตอ้ งมี 9 ช้นั เชื่อวา่ น่าจะ มาจากคติความเช่ือเกี่ยวกบั พระจกั รพรรดิผทู้ รงพระบรม เดชานุภาพปกครองดินแดนท้งั 8 ทิศ รวมกบั ทิศกลางดว้ ย ก็เป็ น 9 ทิศ จึงมีฉตั ร 9 ช้นั ปัจจุบนั มีพระมหาเศวตฉตั ร อยู่ 6 องค์ ไดแ้ ก่ พระที่นงั่ จกั รีมหาปราสาท (ทอ้ งพระโรง ก ล า ง เ ห นื อ พ ร ะ ที่ น่ั ง พุ ด ต า น ถ ม ) พระที่นง่ั ดุสิตมหาปราสาท (ทอ้ งพระโรงเหนือพระแท่น ราชบลั ลงั กป์ ระดบั มุก) พระท่ีนงั่ อมรินทรวนิ ิจฉยั มไหยสูรยพิมาน (เหนือพระที่นงั่ พุดตานกาญจนสิงหาสน์ ทอ้ งพระโรง) พระท่ีนง่ั ไพศาลทกั ษิณ (เหนือพระที่นง่ั ภทั รบิฐ ทอ้ งพระโรง) พระท่ีนง่ั จกั รพรรดิพิมาน (มี 2 องค์ คือ เหนือพระแท่นราชบรรจถรณ์และเหนือพระแท่นเคร่ืองพระสาอาง) พระที่นง่ั อนนั ตสมาคม (ทอ้ ง พระโรงกลางเหนือพระแท่นราชบลั ลงั ก์) ตามความเช่ือของคนโบราณถือกนั ว่าเมื่อมีการเชิญพระมหา เศวตฉตั รข้ึนปักหรือแขวนแลว้ จะไม่มีการลดลงมาเพอ่ื ซ่อมแซมเป็ นอนั ขาด จะทาไดก้ ็เฉพาะเม่ือมีการผลดั แผน่ ดินเปลี่ยนรัชกาลเทา่ น้นั หรือเม่ือมีเหตุจาเป็ น เช่น เมื่อมีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระราชมณเฑียรอนั เป็ น ที่ต้งั ของพระมหาเศวตฉตั ร ซ่ึงเมื่อเสร็จสิ้นแลว้ กจ็ ะตอ้ งมีการทาพิธีและสมโภชเพ่ือยกพระมหาเศวตฉตั รข้ึน ท่ีเดิม เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม พระยศ พระพันปี กับพระพันวัสสา เหมือนหรือแตกต่างกัน อย่างไร “พระพนั ปี ” และ “พระพนั วสั สา” ต่างก็มีความหมายตรงกนั วา่ อายุ พนั ปี เคยใชเ้ ป็นพระนามพระราชาในวรรณคดีเรื่องเอกของลุ่มแม่น้าเจา้ พระยา คือ เรื่องขนุ ชา้ งขนุ แผน และในคาใหก้ ารชาวกรุงเก่าซ่ึงเช่ือกนั วา่ เป็ นเอกสารท่ี บนั ทึกเรื่องราวของชาวอยุธยาท่ีไดถ้ ูกกวาดตอ้ นไปยงั กรุงองั วะท่ีราชสานัก ราชวงศค์ องบอง\" โดยคาวา่ “พระพนั วสั สา” ในสมยั รัตนโกสินทร์ดูเหมือนวา่ จะมีความหมายท่ีแคบเขา้ มา ท้งั น้ีเพราะ ในคร้ังแผน่ ดินรัชกาลท่ี 3 ออกพระ นามสมเด็จพระศรีสุลาลยั ว่า สมเด็จพระพนั ปี หลวง แต่ออกพระนามสมเด็จ พระศรีสุริเยนทรามาตยว์ า่ สมเด็จพระพนั วสั สา ต่อมาในสมยั รัชกาลท่ี 4 จึง ออกพระนามวา่ พระพนั ปี หลวง ดงั น้นั จึงหมายความไดว้ า่ ตาแหน่งพระวสั สาในสมยั กรุงรัตนโกสินทร์ คือ อคั รชายาเจา้ ของพระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลก่อนที่พระเจา้ แผน่ ดินปัจจุบนั ใหค้ วามเคารพนบั ถือเท่าน้นั ดงั ที่เห็นได้ จากในสมยั รัชกาลท่ี 3 เจา้ ฟ้ ากุณฑลทิพยวดีซ่ึงเป็ นอคั รชายาพระองคห์ น่ึงในพระเจา้ อยูห่ วั รัชกาลที่ 2 ก็ ไม่ไดม้ ีการออกพระนามวา่ พระวสั สา หรือแมแ้ ต่สมเด็จพระปิ ตุจฉาเจา้ สุขุมาลมารศรี พระอคั รราชเทวี ก็ ตาม หรือให้เขา้ ใจง่ายๆ คือ พระพนั วสั สา เป็ นภรรยาของพระมหากษตั ริยอ์ งค์ก่อน แต่มิไดเ้ ป็ นพระราช มารดาของพระมหากษตั ริยอ์ งคป์ ัจจุบนั ส่วนพระพนั ปี หลวง เป็นพระมารดาของกษตั ริยอ์ งคป์ ัจจุบนั นนั่ เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 83
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ตราพระราชลัญจกร ตราพระราชลญั จกร (Privy Seal) หมายถึง ตราประจาพระองค์ของพระมหากษตั ริย์ สาหรับใช้ประทบั บนเอกสารต่าง ๆ รวมกับพระ ปรมาภิไธย เพื่อเป็ นการ รับรองความถูกตอ้ งของเอกสารดงั กล่าว รวมถึงใหผ้ ลบงั คบั ตามกฎหมายอีกด้วย ประเภทของตราพระราชลัญจกร แบ่งเป็ น 4 ประเภท ไดแ้ ก่ 1.พระราชลญั จกรสาหรับแผน่ ดิน ใช้ประทับกากับเอกสารสาคัญที่ออกในพระปรมาภิไธย พระมหากษตั ริยเ์ ช่น พระราชลญั จกรมหาโองการ พระราช ลญั จกรไอยราพต 2.พระราชลญั จกรประจาแผน่ ดิน หรือ ประจารัชกาล ใช้ประทับกากับพระบรมนามาภิไธยใน เอกสารสาคญั 3.พระราชลญั จกรประจาพระองค์ ใชป้ ระทบั กากบั พระบรมนามาภิไธย ในเอกสารสาคญั ส่วนพระองค์ท่ี ไม่เกี่ยวด้วยราชการแผ่นดิน 4.พระราชลญั จกรประจา เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ ใชป้ ระทบั ประกาศนียบตั รเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตามท่ีกาหนดไว้ การใชต้ ราสาหรับประทบั ของพระเจา้ แผน่ ดินน้นั มีมานานแลว้ ในสามก๊กก็มีเรื่องราววา่ อว้ นสุดไดร้ ับตรา หยกพระลญั จกรจากซุนเซ็ก จึงคิดวา่ ตวั เองมีบุญญาธิการวาสนาสูงส่งที่ไดค้ รอบครองตราหยกดงั กล่าวและ ต้งั ตวั เป็ นฮ่องเต้ (ก่อนจะถูกโค่นล้ม) เช่นเดียวกับในองั กฤษ การใช้ตราประทบั ของพระเจา้ แผ่นดินก็ สามารถสืบยอ้ นไปไดถ้ ึงสมยั ของพระเจา้ จอห์น เม่ือศตวรรษที่ 12 เป็ นอยา่ งนอ้ ย ส่วนในเมืองไทย เชื่อวา่ มี การใชต้ ราพระราชลญั จกรมาต้งั แต่สมยั กรุงศรีอยุธยาแลว้ ดงั ปรากฏในหนงั สือจดหมายเหตุของลาลูแบร์ โดยมีการตีพิมพภ์ าพพระลญั จกรรูปเทวดา 4 กร ซ่ึงสันนิษฐานวา่ น่าจะเป็ นพระนารายณ์ทรงครุฑ เป็ นตรา ประจาพระองค์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในสมยั กรุงรัตนโกสินทร์ ก็ไดม้ ีการสร้างตราพระราช ลญั จกรประจาพระองค์ในทุกรัชกาล โดยตราพระราชลญั จกรของแต่ละรัชกาล ก็จะแฝงความหมายท่ี เก่ียวขอ้ งกบั องคพ์ ระมหากษตั ริยแ์ ต่ละรัชกาลเอาไวด้ ว้ ย เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม เร่ือง ของกินของ พระโคเส่ียงทาย ในวนั พืชมงคล มีความหมายวา่ อยา่ งไรบา้ ง มาดูกนั เลย !! พระโคจะเสี่ยงทายโดยการกินของกินท้งั 7 สิ่งไดแ้ ก่ ขา้ วเปลือก ขา้ วโพด ถวั่ งา น้า หญา้ และเหลา้ โดย จะมีศพั ทส์ าคญั ไดแ้ ก่ ธัญญาหาร หมายถึง ขา้ ว ผลาหาร หมาย ถึ ง ผลไม้ ภักษาหาร หมายถึ ง อาหาร (ราชบณั ฑิตยสถานบอกความหมายวา่ อาหารท่ีกินประจา) มงั สาหาร หมายถึง เน้ือสตั ว์ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 84
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน เขตหนองแขม เรื่องธงแดงในการสวนสนามวนั แห่งชัยชนะของรัสเซีย วนั น้ี (9 พ.ค.) เป็นวนั แห่งชยั ชนะ ของกองทพั แดง ที่มี เหนือกองทพั นาซีเยอรมนั ซ่ึงท่ีรัสเซียจะมีการ เดินสวนสนามเพื่อเฉลิมฉลองวนั แห่งชยั ชนะ ในสงครามกอบกปู้ ิ ตุภูมิ ซ่ึงในการสวนสนาม จะมีธงแดง รัสเซียผผืนหน่ึงเดินตามธงชาติ วนั น้ีอยากจะเล่าถึงที่มาของธงแดงผืนน้ีครับ ธงแดงผนื น้ีโด่งดงั ข้ึนมาไดเ้ นื่องจาก เป็ นธงท่ี ถูกนาไปปัก ณ อาคารรัฐสภาเยอรมนี โดย เหตุการณ์วนั น้นั เกิดข้ึนเมื่อ 30 เมษายน 1945 เมื่อทหารโซเวียตชื่อ มิคาอิล มินิน วยั 23 ปี ซ่ึงเป็ นทหาร โซเวียตคนแรก ที่บุกเขา้ มาในอาคารรัฐสภา สามารถข้ึนไปถึงรูปป้ันหักๆเหนืออาคาร และนาธงแดงไป เสียบไวท้ ี่รูปป้ันดงั กล่าว เหตุการณ์ดงั กล่าวเกิดข้ึนตอนมืด เวลาประมาณ 4 ทุ่ม 40 นาที จากความมืด ประกอบกบั การรบที่ติดพนั จึงไมส่ ามารถถ่ายรูปออกมาไดแ้ ตใ่ นวนั ถดั มา ธงดงั กล่าวก็ถูกทหารเยอรมนั ที่ยงั ปักหลกั สู้อยใู่ นอาคาร ปลดลงมา แตใ่ นที่สุด ฝ่ ายโซเวยี ต ก็ยดึ อาคารหลงั น้ี และกรุงเบอร์ลินไดอ้ ยา่ งเด็ดขาด มินินเล่าว่า สตาลินมีคาส่ังว่ากองทพั แดงจะต้องนาธงไปปักไวท้ ่ีเหนืออาคารหลงั น้ีไม่ช้าไปกว่าวนั ที่ 1 พฤษภาคม 1945 ซ่ึงเป็นวนั แรงงานสากล หน่ึงในวนั ท่ีโซเวยี ตใหค้ วามสาคญั อยา่ งย่งิ ทางผบู้ งั คบั บญั ชาของ มินิน ก็ส่ังการมาวา่ จะตอ้ งเอาผา้ สีแดงไปปักไวบ้ นอาคาร เพื่อเป็ นสัญลกั ษณ์ของชยั ชนะในสงคราม ธงน้ีมี ขอ้ ความท่ีสามารถแปลเป็นไทยไดด้ งั น้ี กองพลทหารปื นเล็กยาวท่ี 150, อิสริยาภรณ์คูตูซอฟช้นั ท่ี 2, กองพล อีดฺริตซา, กองทพั นอ้ ยทหารปื นยาวท่ี 79, กองทพั สนามที่ 3 และแนวรบเบียโลรัสเซียที่ 1 ท้งั น้ี ธงผืนจริงน้นั ไม่ไดป้ ักท่ีอาคารไรช์สทกั แต่ใชเ้ ป็นธงชยั ประจาหน่วย \"อยา่ งเป็ นทางการ\" ธงท่ีใชใ้ นพิธีสวนสนามเป็ นธง ที่ทาข้ึนมาใหม่เพื่อใช้ในพิธีสวนสนามวนั แห่งชัยชนะเท่าน้ัน ส่วนผืนจริงด้งั เดิมน้ันตามกฎหมายของ สหพนั ธรัฐรัสเซียระบุไว้ชัดเจนว่าธงชัยผืนน้ีจะต้องถูกเก็บไวต้ ลอดไปในสถานที่ที่ปลอดภัยและ สาธารณชนสามารถเขา้ ชมได้ ปัจจุบนั จดั แสดงที่พิพิธภณั ฑก์ องทพั รัสเซีย กรุงมอสโก เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม แป้ งทาตัวทามาจากอะไร เวลาอากาศร้อน ๆ อยา่ งน้ี ถา้ ไดอ้ าบน้า เยน็ ๆ สบาย แลว้ ทาแป้ งทาตวั เสียหน่อย ก็คงจะทาให้รู้สึกสบาย เน้ือสบายตัวข้ึนอีกมากเลย ท้งั น้ีเนื่องจากแป้ งจะทาหน้าท่ีดูด ความช้ืนจากผิว ทาให้ผิวแห้งและล่ืน ไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ รวมถึงยงั ทาให้การระบายความร้อนออกจากร่างกายดีข้ึนอีกดว้ ย แป้ งทาตวั ในสมยั ก่อนจะทาจากแร่ทลั ค์ หรือทลั คมั (Talcum) ซ่ึง เป็ นแร่จาพวกซิลิเกตชนิดหน่ึง มีสูตรเคมี Mg3Si4O10(OH)2 พบ ไดท้ ้งั ในธรรมชาติและสังเคราะห์ข้ึน แร่ชนิดน้ีมีเน้ืออ่อนมาก สามารถบดให้เป็ นผงไดง้ ่าย และมีความลื่น เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 85
นอกจากใช้ทาแป้ งทาตวั แล้วก็ยงั สามารถใช้เป็ นสารหล่อลื่นในการทาแม่แบบ ใช้เป็ นสารเติมแต่งใน เคร่ืองสาอาง รวมถึงในกระดาษอีกดว้ ย อยา่ งไรก็ตาม เน่ืองจากแร่ทลั คมั เป็นสารอนินทรียซ์ ่ึงไม่สามารถยอ่ ย สลายไดภ้ ายในร่างกาย ดงั น้นั หากสูดดมเขา้ ไปในร่างกายมาก ๆ ก็จะทาให้เกิดอาการระคายเคือง รวมถึง อาการผงทลั คมั เป็ นพิษ ทาให้มีอาการทอ้ งเสีย อาเจียน ปัสสาวะติดขดั และหากมีทลั คมั สะสมอยใู่ นระบบ ทางเดินหายใจเป็ นปริมาณก็ทาให้เกิดโรคเก่ียวกบั ทางเดินหายใจรวมถึงโรคปอดได้อีกดว้ ย ดงั น้ันใน ปัจจุบนั ผผู้ ลิตแป้ งทาตวั หลายเจา้ จึงไดเ้ ปลี่ยนมาใชแ้ ป้ งที่ทาจากสารอินทรีย์ เช่น แป้ งขา้ วโพด แป้ งขา้ วเจา้ ซ่ึงไม่มีความเป็ นพิษ จึงทาให้มีความปลอดภยั มากกวา่ เดิม แต่แพทยก์ ็แนะนาว่าไม่ควรใชแ้ ป้ งในปริมาณ มากเกินไป เพราะหากสูดดมเขา้ ไปมาก ๆ กอ็ าจจะทาใหเ้ กิดการอุดตนั ในระบบทางเดินหายใจไดเ้ ช่นกนั เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม May day Mayday ไมใ่ ช่แปลวา่ “วนั แรงงาน” วนั ที่ 1 พฤษภาคม สาหรับปี น้ีจะพิเศษหน่อยคือวนั ข้ึนรัชศกเรวะ และการข้ึนครองราชยข์ องจกั รพรรดิองค์ใหม่ อย่างไรก็ ตามปกติวนั น้ีของทุกปี จะถือว่าเป็ นวนั แรงงานสากล ที่หลายชาติตะวนั ตกจะเฉลิมฉลองและหยุดให้กบั แรงงานในวนั น้ีรวมถึงของไทยด้วย (แต่ของญ่ีป่ ุนไปหยุด วนั ท่ี 23 พฤศจิกายนแทน) และภาษาองั กฤษจะเรียกวนั น้ีว่า May Day อยา่ งไรก็ตาม คาว่า Mayday ยงั ปรากฏอีกท่ีใน สถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเฉพาะหนังหรือสารคดีท่ีเครื่องบิน กาลงั จะตก หรือเรือกาลงั ล่ม เรามกั จะไดย้ ินนกั บินตะโกน 3 คร้ังวา่ “Mayday! Mayday! Mayday!” และแน่นอนวา่ พวก หนงั แผน่ ซบั นรกท่ีไมร่ ู้ความหมายจริงๆ กจ็ ะแปลวา่ “วนั แรงงาน วนั แรงงาน วนั แรงงาน” คนใกลต้ ายเขาคง มาร้องหาวนั แรงงานหรอกนะ = =” ท่ีมาของคาน้ีมนั ไม่ได้เก่ียวกบั วนั แรงงานเลย้ ที่มาจริงๆแลว้ มาจาก พนักงานสนามบินในลอนดอนต้องการคิดคาที่ใช้บอกสถานการณ์ฉุกเฉิน และตอนน้ันสนามบินน้ีมี ผโู้ ดยสารท้งั ชาวองั กฤษและฝร่ังเศสจานวนมาก เขาจึงผูกคาว่า Mayday ซ่ึงแผลงมาจากภาษาฝร่ังเศสคือ m’aider แปลว่า “ช่วยเราดว้ ยยยยยย (help me)” และกลายเป็ นโคด้ สากลท่ีใช้กนั ในการเดินทะเลและ เคร่ืองบิน เช่นเดียวกบั SOS (…---…) ท่ีใชข้ อความช่วยเหลือเช่นกนั สังเกตการสะกดคา ถา้ ใช้ขอความ ช่วยเหลือจะสะกด Mayday ติดกนั และตอ้ งใช้ 3 คร้ัง (เพราะกลวั เรียกคร้ังเดียวแลว้ ไม่ไดย้ ิน) แต่ถา้ วนั แรงงาน ตอ้ งเขียน May Day แยกกนั หรือถา้ กลวั สับสน ใช้ Labour Day ไปเลยดีกวา่ นะ นอกจากน้ี การอยู่ ดีๆ จะตะโกนวา่ Mayday โดยไมม่ ีเหตุจาเป็นอาจถูกดาเนินคดีตามกฎหมายได้ ในอเมริกาคุณอาจติดคุกถึง 6 ปี หรือปรับ 250,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว เพราะมนั คือสัญญาณความเป็ นความตาย เอามาใช้ลอ้ เล่น ไม่ไดน้ ะ เออ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 86
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่มี าของเพลง You’ll Never Walk Alone ถูกประพนั ธ์ข้ึนโดย Richard Rodgers และ Oscar Hammerstein II ในปี 1956 ซ่ึงแต่งข้ึนเพ่ือใชเ้ ป็ นเพลงประกอบ หนงั เรื่อง Carousel (ภาพยนตร์เพลงท่ีเก่ียวกบั ชายหนุ่มและหญิงสาวที่ทางานตาแหน่งผูด้ ูแล มา้ หมุนในสวนสนุก) ซ่ึงคิดดูแลว้ เพลงท่ีถูกแต่ง ข้ ึ น น้ ี ไ ม่ น่ า จ ะ เ ก่ี ย ว ข้อ ง อ ะ ไ ร กับ ฟุ ต บ อ ล เ ล ย แมแ้ ต่นอ้ ย จนกระทง่ั ปี 1963 วงดนตรีจาก เมืองลิเวอร์พลู ที่มีช่ือวงวา่ Gerry and the Peacemakers ไดห้ ยิบ เพลงน้ีข้ึนมาขบั ร้องอีกคร้ัง และทาให้มีกระแสโด่งดงั จนมาถึงวงการฟุตบอลขององั กฤษ เพลง You’ll Never Walk Alone ไดก้ ลายเป็ นเพลงฮิตติดชาร์ตในช่วงปี 1960s และแน่นอนวา่ ประเทศองั กฤษข้ึนช่ือเรื่อง ความชอบในการเข้าชมการแข่งขนั ฟุตบอลอยู่แล้ว ทาให้เพลงน้ีได้ถูกเปิ ดบ่อย ๆ ในสนามแอนฟี ลด์ (Anfield) สนามใหญ่ประจาเมืองลิเวอร์พูลนนั่ เอง เพราะเป็ นความภาคภูมิใจของชาวเมืองที่มีศิลปิ นชื่อดงั ติดทอ็ ปชาร์ตของประเทศ และถึงแมว้ า่ เพลง You’ll Never Walk Alone จะถูกถอดออกจากเพลงฮิตติดชาร์ต ไป แต่แฟน ๆ ท่ีเดินทางเขา้ มาชมการแข่งขนั ท่ีสนามฟุตบอลแอนฟี ลดใ์ นยุคน้นั จะคอยถามถึงเพลงน้ีเสมอ เสมือนวา่ มนั เป็นเพลงประจาสถานที่แห่งน้ีไปแลว้ และนน่ั จึงทาใหเ้ พลงน้ีถูกนากลบั มาเปิ ดซ้า ๆ บ่อย ๆ อยู่ นนั่ เอง แฟน ๆ สโมสรลิเวอร์พูล ต่างชื่นชอบเพลง You’ll Never Walk Alone เพราะมนั มีเน้ือหาที่สามารถ ให้กาลงั ใจ และร่วมทุกขร์ ่วมสุขไปกบั ทีมฟุตบอลที่ตนรักได้ “เราจะเดินต่อไปพร้อมกบั คุณ” อีกท้งั ทานอง เพลงยงั คอ่ นขา้ งปลุกใจไดเ้ ป็นอยา่ งดี เม่ือร้องประสานเสียงพร้อมกนั ในสนามฟุตบอล จึงทาให้เม่ือกาลเวลา ผา่ นเลยมา เพลงน้ีจึงไดก้ ลายเป็ นเพลงประจาสโมสรไปโดยปริยายนนั่ เองครับ นอกจากจะเป็ นเพลงประจา สโมสรลิเวอร์พลู แลว้ You’ll Never Walk Alone ยงั ถูกทาเน้ือเพลงข้ึนมาใน ภาษาเยอรมนั และกลายเป็ น เพลงประจาสโมสร Dortmund อีกดว้ ย ซ่ึงทีม Liverpool และ Dortmund ถือเป็ นทีมพนั ธมิตรกนั และนี่คือ ความเป็นมาของเพลงในตานานอยา่ ง You’ll Never Walk Alone ซ่ึงนอกจากจะเป็ นเพลงประจาสโมสรแลว้ ยงั เป็นเพลงที่ขบั ร้องเพ่ือราลึกถึงเร่ืองราวตา่ ง ๆ ท้งั ร้ายและดีที่เคยผา่ นมาในอีกอดีตดว้ ย เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่ีมาของช่ือ The Kop คนเชียร์ ลิเวอร์พูลมกั เรียกตวั เองวา่ The Kop เดอะ คอ็ ป เป็ นชื่อท่ีใชเ้ รียกตามช่ือของ เนินเขาแห่งหน่ึงใน นาทาล ประเทศแอฟริกาใต้ ซ่ึงคนทอ้ งถิ่นจะรู้จกั กนั ใน นาม สปิ ออน ค็อป โดยเกิดเหตุการณ์การทาสงครามบวั ร์ข้ึนในช่วงปี ค.ศ. 1900 องั กฤษไดส้ ่งทหารไปกวา่ 300 นาย โดยส่วนใหญเ่ ป็นชาวเมืองลิเวอร์พูล แตแ่ ลว้ ในสงครามน้นั องั กฤษไดเ้ สียทหารไปเกินกวา่ คร่ึง เพื่อเป็นการราลึกถึง เหตุการณ์ในคร้ังน้ัน นักข่าวกีฬาของหนังสือพิมพ์ลิเวอร์พูลเดล่ีโพสต์ ชื่อ เออร์เนสต์ เอ็ดเวิร์ตส์ จึงเสนอชื่อ สปิ ออน ค็อป ตามชื่อของเนินเขาลูกน้ัน เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 87
เป็ นชื่อของอฒั จนั ทน์หลงั ประตูในการสร้างสนามใหม่ข้ึนมา เพ่ือเป็ นเกียรติในความกล้าหาญของทหาร องั กฤษท้งั 300 นาย ซ่ึงต่อมาอฒั จนั ทน์แห่งน้ีไดก้ ลายอฒั จนั ทน์ที่มีช่ือเสียงท่ีสุดในโลกของฟุตบอลแห่ง หน่ึง ในปี ค.ศ. 1928 ไดม้ ีการตอ่ เติมอฒั จนั ทน์แห่งน้ีใหม่ และเมื่อใดเม่ือมีการแข่งขนั ฟุตบอลของทีมลิเวอร์ พูลข้ึน คนท่ีไปดูการแข่งขนั ของทีมบนอฒั จนั ทน์จะเรียกตวั เองว่า เดอะ ค๊อป (The Kop) และแลว้ จาก เหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่สนามฮิลส์โบโร่ ในปี ค.ศ. 1989 ซ่ึงเกิดการถล่มของอฒั จนั ทน์ข้ึน ทาให้มีผู เสียชีวิตไป 96 คน จึงมีคาสั่งให้ทุกอฒั จนั ทน์เปล่ียนจากอฒั จนั ทน์ยนื เป็ นแบบนงั่ ท้งั หมด และน้นั เป็ นการ ปิ ดฉากของอฒั จนั ทน์ สปิ ออน ค็อป อฒั จนั ทน์แบบยืนที่มีความย่ิงใหญ่แห่งหน่ึง แต่อยา่ งไรก็ตาม ก็มีอฒั จนั ทนใ์ หมข่ ้ึนมาและใชช้ ่ือวา่ นิว คอ็ ป ซ่ึงความหมายต่าง ๆ ยงั คงเหมือนเดิม แมช้ ่ืออฒั จนั ทน์จะเปล่ียนไป แลว้ กต็ าม นิว คอ็ ป ยงั คงมีกลิ่นอายของประวตั ิเหล่าน้นั อยเู่ ตม็ เป่ี ยม เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่มี าของคาว่า ฝันร้าย ในภาษาอังกฤษว่า nightmare โดยที่มาคือ จากความเช่ือเรื่องปี ศาจในสมยั โบราณ ปี ศาจปรากฏในคมั ภีร์มากมาย นกั บุญออกสั ทีนอา้ งถึงความเชื่อแบบ ศาสนาโบราณท่ีมีอยใู่ นยคุ ของทา่ นวา่ \"เทพเจา้ ครองพ้ืนท่ีสูงสุด คนล่างสุด และปี ศาจอยสู่ ่วนกลาง พวกมนั มีกายท่ีเป็นอมตะ แต่มีตณั หาเยย่ี งมนุษย\"์ ปี ศาจเหล่าน้ีมาจากทอ้ งฟ้ าและมีเพศสัมพนั ธ์กบั มนุษยส์ ตรี ออกสั ทีน เช่ือวา่ แม่มดท้งั หลายคือผลผลิตจากการสมสู่ดงั กล่าว ความเช่ือแบบน้ีดารงอยู่ตลอดสมยั กลาง ปี ศาจ ที่มาสมสู่กบั สตรีเรียกวา่ incubus ปี ศาจที่มาสมสู่กบั บุรุษเรียกวา่ succubus ช่วงที่ปี ศาจ 'เขา้ หา' คนน้ี คนที่ถูก เขา้ หาซ่ึงอยใู่ นอาการแบบฝันมกั บอกวา่ เหมือนถูกเหลก็ หนกั อ้ึงทบั อก ปี ศาจท่ีเขา้ หามนุษยน์ ้ีในภาษาองั กฤษ เก่ามาจากคาวา่ mare ในละติน เป็นที่มาของคาวา่ ฝันร้าย (nightmare) หมายถึงปี ศาจท่ีนงั่ ทบั บนหนา้ อกของคนท่ี ฝัน ทาให้ฝันร้าย ความเช่ือเร่ื องปี ศาจในยุโรปถึง จุดสูงสุดเม่ือสันตปะปา อินโนเซนท์ ที่ 8 ประกาศในปี 1484 วา่ \"เป็ นที่ล่วงรู้ถึงกรรณแห่งเราว่า ชายแลหญิง มิไดห้ ลีกเล่ียงการมีเพศสัมพนั ธ์กบั ปี ศาจ แลดว้ ยมนตรา ของพวกมัน แลด้วยการเปล่งคาศักด์ิสิทธ์ิแห่งปี ศาจ มนตร์ดา แลการประกอบพิธีปี ศาจ พวกมนั ดบั ลมหายใจ ดบั ชีพ แลทาให้สิ้นสุดแห่งการกาเนิดสตรี\" ผลที่ตามมาจากการต่อตา้ นปี ศาจท่ีมาสมสู่มนุษยใ์ นประกาศ จากศาสนจกั รฉบบั น้ีคือการเร่ิมระบบกาจดั แม่มดทว่ั ยุโรป เป็ นฆาตกรรมที่ถูกตอ้ งตามกฎหมายและหลกั ศีลธรรมในยุคน้นั มีการต้งั ขอ้ กล่าวหา การทรมานและสังหารแม่มด แม่มดท่ีถูกกาจดั มีความผดิ ตามขอ้ หา (ตามท่ีออกสั ทีนกล่าว) วา่ \"ยงุ่ เกี่ยวกบั โลกท่ีมองไม่เห็น\" ที่น่าตลกก็คือ แมใ้ นประกาศฉบบั น้ีจะอา้ งถึงปี ศาจ ท้งั ชายและหญิง แตผ่ รู้ ับเคราะห์ส่วนใหญม่ ีแต่หญิง หรือ 'แม่มด' เท่าน้นั นบั วา่ โชคดีที่ แฮร์รี พอ็ ตเตอร์ เกิด มาถูกยคุ ยงิ่ นกั เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 88
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม คาบาลกี บั สันสกฤตต่างกนั อย่างไร คาท่ีใชก้ นั อยใู่ นภาษาไทยของ เราตอนน้ี บางส่วนเป็ นคาไทยแท้ แต่บางส่วนก็เป็ นคาไทยท่ี หยิบยืมมาจากภาษาอื่น และท่ีเห็นกนั บ่อย ๆ คือมาจากภาษา บาลีและสันสกฤต ในบรรดาภาษาต่างประเทศที่มีอิทธิพลต่อ ภาษาไทยมากที่สุด คือ ภาษาบาลีและภาษาสันสกฤต คายืมใน ภาษาไทยที่ยืมมาจากท้ังสองภาษาน้ี เป็ นคาท่ีมีใช้ใน ชีวิตประจาวนั เป็ นจานวนมากท้ังภาษาพูดและภาษาเขียน ภาษาบาลีเขา้ มาทางศาสนาพุทธ ส่วนภาษาสันสกฤตเขา้ มาทาง ศาสนาพราหมณ์และวรรณคดีเรื่องมหาภารตะและรามายณะ ขอ้ สังเกตความแตกต่างของคาบาลีและสันสกฤต ในภาษาไทย คาที่มาจากภาษาสันสกฤต สระสันสกฤต ต่างจากบาลี 6 ตวั คาใดประสมดว้ ยสระ ฤ ฤา ฦ ฦๅ ไอ เอา เป็ นคาในภาษาสันสกฤต คาใดประสมดว้ ย ศ ษ มีในภาษาสันสกฤต ไม่มีในภาษาบาลี เช่น อภิเษก ศีรษะ อวกาศ ศตั รู ศิลปะ ราษฎร ศอก ศึก องั กฤษ ศึกษาศาสตร์ คาสนั สกฤต ใช้ ฑ เช่น กรีฑา คาสันสกฤต ไมน่ ิยมใช้ ฬ คาในภาษาสนั สกฤตมีระบบเสียงควบ กล้า หรือพยญั ชนะประสม คาควบกล้าจึงมกั เป็นคาภาษาสนั สกฤต เช่น สตรี ปรารถนา สวสั ดี สมคั ร มาตรา อินทรา คาท่ีไทยใช้ รร มาจากสันสกฤต ตวั ร ท่ีควบกบั คาอ่ืนและใชเ้ ป็ นตวั สะกด เช่น มรรค สรรพ มารค (มารฺค สรฺว อารฺย จรฺยา) ฤ (ฤทธิ) ในสันสกฤต บาลีจะเป็ น อิทฺธิ (อิ อุ) คาท่ีใช้ ห์ มกั เป็ นคาท่ีมาจากภาษา สันสกฤต เช่น สังเคราะห์ โล่ห์ อุตส่าห์ เท่ห์ เล่ห์ เสน่ห์ (? บาลีก็มี เช่น โลห อุสฺสาห เทห สิเนห เสนฺห) คา ท่ีมาจากภาษาบาลี คาในภาษาบาลีไม่มีสระเหล่าน้ี ฤ ฤา ฦ ฦๅ ไอ เอา (สระบาลีมี 8 ตวั คือ อ อา อิ อี อี อุ อู เอ โอ) คาท่ีมาจากภาษาบาลีใช้ ส ท้งั หมด (สันสกฤตมี ท้งั ศ ษ ส) คาสันสกฤต ไม่นิยมใช้ ฬ ดงั น้นั คาที่มี ฬ จึงเป็ นคาภาษาบาลี เช่น กีฬา กาฬ โกวิฬาร กกั ขฬะ ประวาฬ ภาษาบาลีไม่มีพยญั ชนะประสมหรือควบกล้า (? บาลีใชค้ าควบกล้าน้อยกว่าสันสกฤต) บาลีใช้ ริ เช่น อริยะ - จริยะ (อริย จริยา) อิ อุ ในบาลี เช่น อิทธิ สนั สกฤต จะเป็น ฤ เช่น ฤทธ์ิ เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ที่มาของรถหัดเดิน รถหัดเดิน (Baby Walker) เป็ นอุปกรณ์ สาหรับที่ออกแบบมาสาหรับช่วยให้เด็กทารกท่ียงั เดิน ด้วยตวั เองไม่ได้สามารถเคล่ือนตวั ไปมาได้สะดวกข้ึน รูปร่างลักษณะของรถหัดเดินมีหลายแบบ แต่ที่นิยมคือ แบบเป็ นห่วงกลม มีช่องตรงกลางสาหรับให้เด็กยืนเกาะ ได้ เราอาจจะคิดวา่ รถหดั เดินเป็ นสิ่งประดิษฐย์ คุ ใหม่ แต่ ผิดถนดั เลยทีเดียว เพราะมีหลกั ฐานวา่ การใหท้ ารกนง่ั รถ หดั เดินน้นั มีมาต้งั แตส่ มยั กลางของยโุ รป หรือมากกวา่ พนั ปี มาแลว้ ในยคุ น้นั บางลทั ธิศาสนามีความเชื่อวา่ มนุษยต์ อ้ งยืนดว้ ยสองขาเพื่อใหแ้ ตกต่างจากสัตวท์ ี่ยืนดว้ ย เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 89
สี่ขา แมแ้ ต่ทารกก็ไม่ควรคลาน จึงตอ้ งจบั ทารกมดั ไวก้ บั ที่นงั่ ที่สามารถเคล่ือนที่ได้ ซ่ึงมีปรากฏให้เห็นใน งานจิตรกรรมสมยั ศตวรรษที่ 14-15 ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 16 แพทยห์ ลายคนก็สนบั สนุนใหใ้ ชร้ ถหดั เดิน โดยให้เหตุผลว่า จะช่วยให้เด็กทารกได้ออกกาลงั กายและมีการเรียนรู้ท่ีเร็วข้ึน พ่อแม่จานวนไม่น้อยเช่ือ ว่า การให้ลูกใชร้ ถหดั เดินจะทาให้ลูกเดินไดเ้ ร็วข้ึนและกลา้ มเน้ือขาแข็งแรงข้ึน ในปี 1851 ไดม้ ีการจด สิทธิบตั รรถหดั เดินเป็ นคร้ังแรก รถหัดเดินในยุคน้นั จะทาจากไมเ้ น้ือแขง็ บางชนิดทาจากโลหะ ต่อมาเมื่อ เทคโนโลยีดา้ นพลาสติกถือกาเนิดข้ึนเมื่อศตวรรษที่แล้ว ก็มีการผลิตรถหัดเดินจากพลาสติก ซ่ึงทาให้มี น้าหนกั เบาลงกวา่ เดิม อยา่ งไรก็ตามในระยะหลงั เริ่มมีเสียงวพิ ากษว์ ิจารณ์เกี่ยวกบั การใชร้ ถหดั เดินมากข้ึน เร่ือย ๆ โดยเฉพาะในดา้ นความปลอดภยั การให้เด็กทารกอยใู่ นรถหดั เดินโดยปราศจากการดูแลอาจจะเด็ก ประสบอุบตั ิเหตุไดห้ ลายทาง เช่น ตกบนั ได สะดุดพ้ืนลม้ ทาขา้ วของตกใส่ตวั เอง หรือแมแ้ ต่สัมผสั ถูกของ ร้อนหรือสายไฟฟ้ า ฯลฯ นอกจากน้นั แพทยห์ ลายคนยงั แสดงความคิดเห็นว่า การใชร้ ถหดั เดินนอกจากจะ ไม่ช่วยใหเ้ ดก็ ทารกเดินไดเ้ ร็วข้ึนแลว้ ยงั อาจจะทาให้เด็กเดินไดช้ า้ ลง หรือมีพฒั นาการท่ีผดิ ปรกติไดเ้ ช่นกนั ทาใหม้ ีหลายประเทศ เช่น แคนาดา ออสเตรเลีย รวมถึงบางรัฐของสหรัฐอเมริกา ที่ออกกฎหมายห้ามการใช้ รถหดั เดินแลว้ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมสวิตเซอร์แลนด์ถึงเป็ นกลางในสงครามโลกคร้ังที่สอง ถา้ พดู ถึงประเทศสวติ เซอร์แลนด์ เชื่อวา่ สิ่งหน่ึงท่ีทาใหค้ นจดจาไดก้ ็คือ ความเป็ นกลางของประเทศน้ี ซ่ึงจะ วา่ ไปก็ตอ้ งถือว่าเป็ นเร่ืองน่าอศั จรรยใ์ จไดเ้ หมือนกนั ว่า ประเทศเล็ก ๆ ท่ีต้งั อย่ทู ่ามกลางมหาอานาจของ ยุโรป จะสามารถดารงสถานะความเป็ น กลางได้อย่างไร จะว่าไปแล้ว สวิตเซอร์แลนด์จดั ว่าเป็ นประเทศที่ปลอด สงครามมายาวนานมาก สงครามคร้ังสุดทา้ ย ที่พวกเขาเกี่ยวขอ้ งดว้ ย เกิดข้ึนต้งั แต่ปี 1505 หรือกวา่ 500 ปี มาแลว้ และในการประชุมท่ี เวียนนาหลังจากสงครามนโปเลียนในปี 1815 ก็มีการรับรองสถานะความเป็ นกลาง ของสวติ เซอร์แลนด์ เช่นเดียวกบั การประชุมเม่ือหลงั สงครามโลกคร้ังที่ 1 ในปี 1920 ก็มีการรับรองสถานะ ดงั กล่าวเช่นกนั เหตุท่ีทาใหส้ วติ เซอร์แลนดส์ ามารถดารงความเป็ นกลางอยไู่ ดน้ ้นั มีอยสู่ องสามสาเหตุ อยา่ ง แรกคือ สภาพภูมิประเทศ เนื่องจากประเทศต้งั อยู่ในท่ีสูง มีชัยภูมิดี การบุกเข้าโจมตีทาได้ยาก รวมถึง สวติ เซอร์แลนดเ์ องแมจ้ ะวางตวั เป็นกลาง แต่ก็มีกองทพั ที่เขม้ แข็งพอตวั เช่นกนั อีกอยา่ งคือ สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ไดม้ ีทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่ามากเพียงพอใหป้ ระเทศอ่ืนยึดครองอีกดว้ ย และอีกเหตุผลหน่ึงก็คือเร่ือง ของระบบธนาคารในสวิตเซอร์แลนด์ ซ่ึงได้ช่ือว่ารักษาความลบั ของลูกค้าไดด้ ีเย่ียม ทาให้แต่ละฝ่ ายที่ ตอ้ งการทาธุรกรรมลบั มกั จะมาใช้บริการของธนาคารสวิตเซอร์แลนด์ อยา่ งเช่นในช่วงสงครามโลกคร้ังท่ี เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 90
สอง เงินมาร์คของเยอรมนั ไม่สามารถใชไ้ ดใ้ นดินแดนของสัมพนั ธมิตร เยอรมนั ก็ใช้วิธีแลกเงินมาร์คเป็ น เงินฟรังกส์ วสิ เพอ่ื นาไปทาธุรกรรมในตา่ งแดน อนั ท่ีจริงก็มีคนคิดจะยึดสวติ เซอร์แลนด์อยบู่ า้ ง อยา่ งในช่วง สงครามโลกคร้ังที่สอง กองทพั นาซีก็เคยมีแผนท่ีจะโจมตีสวติ เซอร์แลนด์ แต่สุดทา้ ยก็ยกเลิกไปเพราะเห็น วา่ คงไดไ้ ม่คุม้ เสีย จึงคงปล่อยให้สวิตเซอร์แลนด์เป็ นกลางอย่ตู ่อไปแลว้ หนั ไปหาเป้ าหมายอื่น ๆ รอไวย้ ึด ประเทศอื่น ๆ ลอ้ มรอบสวติ เซอร์แลนด์ไวแ้ ลว้ ก็คงจะยอมจานนเอง แต่ถึงแมว้ า่ สวิตเซอร์แลนด์จะประกาศ ตวั เป็นกลาง แต่ดว้ ยความท่ีอยทู่ ่ามกลางดินแดนท่ีมีการสู้รบกนั ก็ทาให้มีเครื่องบินรบของท้งั สองฝ่ ายที่บิน ผา่ นเขา้ ไปในน่านฟ้ าของสวติ เซอร์แลนดท์ ้งั โดยต้งั ใจและไมต่ ้งั ใจ ซ่ึงก็ทาใหส้ วติ เซอร์แลนด์ตอ้ งดาเนินการ ตอบโตเ้ พือ่ ขบั ไล่เคร่ืองบินรบเหล่าน้นั ออกไปจากน่านฟ้ าของตนเช่นกนั เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมต้องเวียนเทียน เวียนเทียน 3 รอบเพื่ออะไร แลว้ อานิสงค์ ของการเวยี นเทียนส่งผลกบั เราในดา้ นใดบา้ ง ขอ้ สงสัยน้ี มีคาตอบ ทาไมตอ้ งเวียนเทียน สาเหตุที่ตอ้ งเวียนเทียน เป็ นการเคารพบูชาต่อส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ และเป็ นการให้ ทธ ศาสนิกชนตระหนกั ถึงสังสารวฏั การไม่มีท่ีสิ้นสุด ทุก อยา่ งเกิดข้ึน ต้งั อยู่ และดบั ไป อยา่ งไม่มีท่ีสิ้นสุด เหมือน อย่างที่เราเดินเป็ นวงกลม ที่สุดท้ายแล้วเราจะต้องวน กลบั มาที่เดิม เวยี นเทียนอยา่ งไร เดินทางประธานสงฆ์ โดยในมือตอ้ งมีดอกไม้ ธูปเทียนเรียบร้อยแลว้ เดินเวียน ไปทางท่ีมือขวาของตนหนั เขา้ สถานท่ีท่ีเวยี นน้นั จนครบ ๓ รอบ ซ่ึงแต่ละรอบใหร้ ะลึกถึงพระพุทธคุณ พระ ธรรมคุณ และพระสังฆคุณ ตามลาดบั อานิสงคจ์ ากการเวยี นเทียน สาหรับอานิสงคข์ องการเวียนเทียน อยา่ ง แรกท่ีจะเห็นไดอ้ ยา่ งชดั เจนก็คือ กายจะสารวมข้ึน และใจจะบงั เกิดความสงบเนื่องจาก สมาธิในระหวา่ งการ เดิน อีกท้งั ยงั ช่วยใหไ้ มล่ ืมตวั ลดทิฐิ จะไดเ้ ป็ นที่รักของมนุษย์ พรหม และเทวดา เม่ือกายและใจสงบเยน็ จะ สามารถสลดั ออกจากภูมิเปรต เดรัจฉาน อีกท้งั บนั ดาลให้จิตพน้ อบายภูมิได้ ดวงจิตจะเกิดรังสีเป็ นสีทองดู ผอ่ งใสอยา่ งอศั จรรย์ และเม่ือปฏิบตั ิบอ่ ยเขา้ จะเป็นการสะสมบุญบารมี สะสมสมาธิจนไปสู่พระนิพพานใน ภายภาคหนา้ การทาบุญ ไม่ไดท้ าเพียงวนั สาคญั ทางศาสนาแล้วจบ ไม่ว่าจะวนั ไหนๆขอเพียงรักษาศีล สารวมกายใจ มีสติในการใชช้ ีวิต ก็เหมือนกบั ไดท้ าบุญใหญ่โดยไม่ตอ้ งรอทาแต่วนั สาคญั ทางศาสนาแลว้ ครับ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 91
เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมโต๊ะบิลเลยี ดและสุน๊กเกอร์ ต้องปูสักหลาดสีเขียว บิลเลียดมี ตน้ กาเนิดมาจากเกมของฝรั่งเศสในศตวรรษท่ี 15 ที่เรียกวา่ “palle-maille” ซ่ึงเล่นกนั บนหญา้ หรือฟางเมื่อ โตะ๊ บิลเลียดรุ่นแรกสุดถูกสร้างข้ึน พ้ืนผวิ โตะ๊ จึงถูกทาใหด้ ูเสมือนหญา้ เชื่อกนั วา่ พระเจา้ หลุยส์ท่ี 14 (ค.ศ. 1638-1715) ทรงเป็ นเจา้ ของโต๊ะบิลเลียดรุ่นแรกน้ีอยตู่ วั หน่ึงดว้ ยต่อมาสันนิษฐานวา่ เน่ืองจากบรรดาผผู้ ลิต โ ต๊ ะ บิ ล เ ลี ย ด ใ น ป ร ะ เ ท ศ อัง ก ฤ ษ ต้ อ ง ก า ร ใ ห้ ผลิตภัณฑ์ของตนมีเอกลักษณ์โดดเด่นจากของ ผผู้ ลิตรายอื่น หรืออาจเพือ่ เพิม่ ยอดขาย จึงริเริ่มผลิต โต๊ะบิลเลียดหลากสีออกจาหน่าย อย่างไรก็ตาม โต๊ะบิลเลียดสีส้มซ่ึงเป็ นสาเหตุของคดีทะเลาะ ววิ าทอยา่ งรุนแรงไดช้ ่วยนามาสู่ขอ้ สรุปอยา่ งถาวร วา่ สักหลาดท่ีใช้หุ้มพ้ืนผิวโต๊ะบิลเลียดตอ้ งเป็ นสี เขียวสีเดียวเท่าน้นั เร่ืองมีอยวู่ า่ เม่ือวนั ท่ี 8 ธนั วาคม ค.ศ. 1871 ณ เมืองพลีมทั ชายผหู้ น่ึงถูกฟ้ องดว้ ยขอ้ หา \"ก่อเหตุวิวาทมวยหมู่อนั นามาซ่ึงความเสียหายร้ายแรง” เหตุวิวาทน้ีเกิดข้ึนในระหว่างการแข่งขนั บิลเลียด บนโตะ๊ สีส้ม โดยผแู้ ข่งขนั ฝ่ ายหน่ึงกล่าวหาวา่ ฝ่ ายตรงขา้ มเคลื่อนลูก แมค้ ณะผพู้ ิพากษาวินิจฉยั แลว้ วา่ ชายผู้ น้ีมีความผดิ จริง แต่เม่ือพิจารณาเหตุแวดลอ้ มวา่ แสงสวา่ ง ในช่วงการแข่งขนั ไม่เพียงพอ อีกท้งั สีของโต๊ะยงั ทาใหม้ องเห็นลูกสีแดงไดไ้ ม่ถนดั ดงั น้นั จึงมิไดต้ ดั สินลงโทษชายผนู้ ้ีแต่อยา่ งใดเพราะเห็นวา่ สีส้มของโตะ๊ ก็ มีส่วนทาให้เกิดเหตุวิวาทน้ีข้ึน ดว้ ยสายตาอนั ยาวไกล คณะผูพ้ ิพากษาได้เสนอแนะว่า “เพ่ือให้การเล่น บิลเลียดในภายภาคหนา้ เป็นไปดว้ ยความปรองดองสมานฉนั ท์ โต๊ะบิลเลียดควรเป็ นสีเขียวมาตรฐานเพ่ือให้ ดูเด่นชดั ตดั กบั ลูกสีแดง” เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทมี่ าของนิทานพันหนึ่งราตรี เม่ือกษตั ริยช์ าห์เรยาร์ด ของชนเผา่ อาหรับ ไดร้ ู้วา่ มเหสีของเขานอกใจพระองคม์ าตลอด โดยชายา องค์เก่าได้นอกใจพระราชา และชายชู้ก็คือพระอนุชาของ พระราชาเอง แถมอนุชาตวั ดี มีแผนก่อกบฏดว้ ย ทาให้พระราชา เสียพระทยั มากพระองคไ์ ดส้ ั่งให้ทหารบนั่ หวั เธอออกทนั ที และ จากเหตุการณ์น้นั ทาใหพ้ ระองคค์ ิดวา่ ผหู้ ญิงทุกคนก็คงเลวทราม ไม่ต่างกนั และทาใหพ้ ระองคจ์ ึงไดต้ ดั สินใจวา่ เขาจะแต่งงานกบั หญิงพรหมจารียค์ นใหม่ในทุกๆวนั และกษตั ริยช์ าห์เรยาร์ดจะ สั่งใหบ้ น่ั คอเจา้ สาวของพระองคท์ ุกคนเม่ือผ่านคืนแรกของการ แต่งงานไป ทาให้ในทุกเช้าพระองค์จะกลับมาเป็ นโสด เหมือนเดิม ผเู้ คราะห์ร้ายจากความบา้ คลงั่ ของกษตั ริยช์ าห์เรยาร์ดเพ่ิมข้ึนจาก 1 เป็ น 2 จนในช่วงเวลาน้นั มี ศพเจา้ สาวไร้หวั มากถึง 1001 คน เม่ือความกลวั กดั กินจิตใจของประชาชนจึงมีหญิงสาวคนหน่ึงยอมอาสา เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 92
ตวั เองมาแต่งงานกบั กษตั ริยช์ าห์เรยาร์ดเพื่อหยดุ ความบา้ คลงั่ น้ี เธอคือ “ชาห์เรซาด” ลูกสาวของขนุ นางผมู้ ี ความฉลาดปราดเปร่ือง วา่ กนั วา่ เธอศึกษาตาราทุกเล่มที่เธอเจอท้งั วิทยาศาสตร์ ปรัญชา เร่ืองเล่า ในค่าคืน แรกการวิวาห์อยู่ๆชาห์เรซาดก็เล่าเร่ืองข้ึนมา กษตั ริยช์ าห์เรยาร์ดแมจ้ ะฉงนใจแต่ก็นอนฟังเงียบๆ แต่ยิ่ง พระองคฟ์ ังมนั ยงิ่ สนุก เร่ืองเล่ามนั ท้งั ต่ืนเตน้ ท้งั เร้าใจราวกบั วา่ มนั เกิดข้ึนอยตู่ รงหนา้ ของพระองคจ์ ริงๆ แต่ พอเรื่องราวก็เดินทางมาถึงมาถึงจุดไคลแมกซ์ ชาห์เรซาดดนั หยุดเล่าไปเสียด้ือๆ กษตั ริยช์ าห์เรยาร์ดที่โดน ขดั ฟิ ลล์ก็บอกให้ชาห์เรซาดเล่าต่อด่วนๆ แต่เธอตอบกลบั มาว่า “เราไม่เหลือเวลาเพียงพอจะเล่าให้จบได้ เพราะฟ้ าใกลจ้ ะสางแลว้ ” กษตั ริยช์ าห์เรยาร์ดเลยให้เวลาเธอเพิ่มอีกหน่ึงวนั เพื่อให้เล่าเรื่องใหจ้ บ และในคืน ท่ีสองหลงั จากนิทานเรื่องแรกไดจ้ บไปเธอก็เล่าเรื่องที่สองต่อข้ึนมาทนั ที แลว้ เร่ืองน้ีมนั ก็สนุกกวา่ เรื่องท่ี แลว้ เสียอีก ระหวา่ งท่ีเล่าๆตอนสาคญั อยชู่ าห์เรซาดกเ็ งียบไปอีกคร้ัง ทาใหก้ ษตั ริยช์ าห์เรยาร์ดตอ้ งเพิ่มวนั ให้ เธออีก 1 วนั ทุกคืนชาห์เรซาดจะเล่าเร่ืองใหม่ข้ึนมาทนั ทีหลงั จบเร่ืองก่อนหนา้ และเรื่องเล่าเหล่าน้นั มนั ก็ท้งั สนุก ซ้ึง ตลก ต่ืนเตน้ คละอารมณ์กนั ไป จนถึงเรื่องท่ี 1,000 ชาห์เรซาดไม่ไดเ้ ล่านิทานเร่ืองใหม่ข้ึนมาเธอ บอกวา่ เธอไม่เหลือนิทานหรือเร่ืองเล่าใดๆจะเล่าใหก้ ษตั ริยช์ าห์เรยาร์ดฟังอีกแลว้ และรุ่งสางที่กาลงั มาถึงคง จะเป็ นจุดจบของเธอแต่ว่าไม่เป็ นเช่นน้ันเพราะกษตั ริย์ชาห์เรยาร์ดไดต้ กหลุมรักชาห์เรซาดไปเสียแล้ว หลงั จากผา่ นเวลามา 1001 คืนใครอยากฟังเร่ืองท่ีชาห์เรซาดเล่าไปหาอ่านต่อไดใ้ นหนงั สือ 1001 ราตรีไดน้ ะ ครับ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม รู้จักกับวงแหวนเทวดา เช่ือว่าหลายคนคงเคยเห็นภาพวาด โดยเฉพาะการ์ตูนฝรั่ง เวลาจะวาดภาพเทวดาหรือนางฟ้ า จะตอ้ งวาดรูปวง แหวนเอาไวบ้ นศีรษะดว้ ยเพื่อเป็ นการสื่อวา่ ตวั น้ีคือเทวดาหรือนางฟ้ า วง แหวนน้นั คืออะไร วงแหวนดงั กล่าวเรียกวา่ Halo หรือบางคร้ังก็เรียกวา่ Nimbus มีที่มาจากภาพวาดของนกั บุญหรือเทวดาสมยั โบราณ ซ่ึงมกั จะ วาดใหม้ ี Halo ปรากฎอยโู่ ดยรอบศีรษะ เพ่ือแสดงใหเ้ ห็นวา่ บุคคลน้ีไม่ใช่ มนุษย์ธรรมดา แต่เป็ นผูม้ ีบุญหรือเป็ นเทวดา ซ่ึงปรากฎอยู่ในหลาย วฒั นธรรมความเชื่อของคนโบราณต้งั แต่ก่อนยุคคริสตกาลแลว้ ส่วนใน ศาสนาคริสตน์ ้นั ในยคุ แรกก็ไม่ปรากฎวา่ มีการพูดถึง Halo ในพระคมั ภีร์ ไบเบิ้ลแต่อย่างใด แต่ต่อมาเม่ือไดเ้ ผยแพร่มาถึงยุโรป ก็เร่ิมมีการเพ่ิมเติม Halo ลงในรูปวาดเกี่ยวกบั พระเยซูและนกั บุญไปดว้ ย ต่อมาในยุคกลาง จึงเร่ิมมีการเปล่ียนจากวงรัศมีท่ีแผอ่ อกมาโดยรอบศีรษะ มาเป็ นรัศมีท่ีลอยเหนือศีรษะ จนกระทงั่ กลายเป็ น วงแหวนในท่ีสุด เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 93
เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม แร่กบั ธาตุต่างกนั อย่างไร เรามกั จะไดย้ ินคาวา่ แร่ธาตุ แลว้ แร่กบั ธาตุต่างกนั อย่างไร แร่ (องั กฤษ: mineral) เป็ นธาตุหรือ สารประกอบทางเคมีท่ีเกิดข้ึนเองตามธรรมชาติ ด้วย กระบวนการทางอนินทรี ย์ ส่ วนใหญ่เป็ นของแข็ง มี โครงสร้างภายในที่เป็นระเบียบ มีสูตรเคมีและสมบตั ิอื่น ๆ ที่ แน่นอนคงท่ีหรืออาจเปลี่ยนแปลงได้ในวงจากัด ธาตุ (อังกฤษ: Chemical element) คือ สารบริ สุทธ์ิซ่ึง ประกอบดว้ ยอนุภาคมูลฐานเลขอะตอม อนั เป็ นจานวนของ โปรตอนในนิวเคลียสของธาตุน้นั เห็นความต่างในนิยามแลว้ ใช่ไหมครับ ง่ายๆ ก็คือ แร่เป็ นสารประกอบท่ี เกิดจากการรวมกนั ของธาตุตา่ งๆนน่ั เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม แร่แรร์เอริ ์ธ คืออะไร แร่แรร์เอิร์ธ (Rare-earth) ที่กาลงั พูดถึงน้ีคือ อะไร และทาไมจึงสาคญั มากซะจน ผนู้ าจีนกลา้ นามาเป็ นประเด็นต่อรองกบั ผนู้ าสหรัฐฯ เอาเป็ นวา่ เราลอง มาทาความเขา้ ใจกบั เจา้ แร่ท่ีตกเป็ นประเด็นพิพาทระหวา่ งสองชาติยกั ษใ์ หญ่น้ี แร่หายาก ขนาดเม่ือเทียบกบั เหรียญเพนนีของสหรัฐอเมริกา ตามท่ีไดม้ ีการกาหนดโดย สหภาพ เคมีบริสุทธ์ิและเคมีประยกุ ตร์ ะหวา่ งประเทศ (International Union of Pure and Applied Chemistry) หรือ ไอยแู พก็ (IUPAC) ไดก้ าหนด ธาตุหายาก หรือ ธาตุแรร์เอิร์ท ไดท้ ้งั หมด 17 ธาตุซ่ึงเป็ นธาตุทุกธาตุ ในหมู่แลนทาไนด์และรวมกบั สแกนเดียมและอิตเทรียม สแกนเดียม และอิตเทรียมเป็นโลหะเบาที่หายาก เนื่องจากพวกมนั มีแนวโนม้ วา่ จะเกิดในสินแร่เหล็กเช่นเดียวกบั ธาตุใน หมู่แลนทาไนด์และมีสมบตั ิทางเคมีคล้ายกนั อย่างไรก็ตามธาตุหายาก มีความอุดมสมบูรณ์ของขา้ งใน เปลือกโลกซ่ึงมีซีเรียมเป็ นธาตุท่ีมีมากท่ีสุดประมาณ 25 ส่วน ต่อ 68 ลา้ น (เหมือนกบั ทองแดง) เพราะมี สมบตั ิทางเคมีธรณีของพวกมนั แร่ธาตุหายากอยู่ห่างกนั มากและไม่กระจุกตวั ซ่ึงทาให้บนพ้ืนโลกธาตุ เหล่าน้ีจึงหายาก และดว้ ยความหายากน้ีทาให้ธาตุหายากมีราคาสูงและทาใหข้ าดแคลนเป็ นอยา่ งมาก แร่หา ยากชนิดแรกท่ีคน้ พบ คือ แร่แกโดลิไนต์ ซ่ึงมีสารประกอบของซีเรียม อิตเทรียม เหล็ก ซิลิกอน และธาตุ อื่นๆ แร่น้ีนามาจากเหมืองของหมู่บา้ น Ytterby ในประเทศสวเี ดน ซ่ึงภายหลงั ไดน้ าชื่อหมู่บา้ นน้ีไปต้งั เป็ น ชื่อธาตุ “อิตเตอร์เบียม” ออกไซดห์ ายาก ใชส้ าหรับเป็ นตวั ติดตามในการตรวจสอบพ้ืนที่ลุ่มน้าต่างๆถูกกดั เซาะ เรียงตามเข็มนาฬิกา: เพรซีโอดิเมียม ซีเรียม แลนทานมั นีโอดิเมียม ซาแมเรียม และ แกโดลิเนียม ในปัจจุบนั ธาตุหายากอยา่ ง Yttrium และ Europium Advertisement น้นั มีความสาคญั ต่อฟังก์ชนั การทางาน ของ iPhone อยา่ งมาก เพราะมีการใชใ้ นแบตเตอร่ีของโทรศพั ท์ รวมถึงช่วยใหแ้ สดงสีของหนา้ จอแสดงผล ออกมาดูดี และทาใหโ้ ทรศพั ทส์ ่ันจากการโทรเขา้ หรือมีการแจง้ เตือนต่างๆ โดยท้งั สองธาตุน้ีแมจ้ ะเป็ นส่วน นอ้ ยในองคป์ ระกอบหลกั ของโทรศพั ท์ แตก่ ถ็ ือวา่ หายากมากสาหรับการทาธุรกิจขนาดใหญ่ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 94
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมชื่อจังหวัดนครนายก จงั หวดั น้ี มีนายกรัฐมนตรีเยอะหรือ ช่ือ “นครนายก” มีขอ้ สันนิษฐาน 2 ประการ ดงั น้ี ในสมยั ก่อน ดินแดนของนครนายกเป็ นป่ ารกชฏั มีไขป้ ่ าชุกชุมผูค้ นจึงพากนั อพยพไปอยู่ท่ีอื่นจนเกือบเป็ นเมืองร้าง ต่อมามีพระมหากษตั ริย์ พระองค์หน่ึงไม่มีหลกั ฐานยืนยนั ว่าในยุคสมยั ใด (แต่ก่อนสมยั สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือพระเจา้ อู่ทอง แห่งกรุงศรีอยุธยา เพราะชื่อเมืองนครนายกปรากฏมาต้งั แต่สมยั พระเจา้ อู่ทองแลว้ ) ตอ้ งการท่ีจะจูงใจราษฎรให้เขา้ มาหักร้างถางพงทามาหากินอยู่ อาศยั ในบริเวณน้ีจึงให้ยกเวน้ เก็บอากรค่านา จึงเรียกเมืองน้ีว่า “เมืองนา–ยก” และเป็ นเมืองนครนายก เหตุผลท่ีสอง คือ สมยั กรุง ศรีอยธุ ยา การปกครองในเมืองหลวงใชร้ ะบบจตุสดมภ์ ส่วนการปกครองหวั เมืองช้นั ใน หวั เมืองช้นั นอก ใน หัวเมืองด้านเหนือมีสมุหนายก ปกครองท้งั ฝ่ ายพลเรือนและทหาร ในหัวเมืองด้านใต้ มีสมุหกลาโหม ปกครองท้งั ฝ่ ายพลเรือนและทหาร เมืองนครนายกน้นั เดิมอยใู่ นสังกดั สมุหกลาโหม ภายหลงั ถูกโอนให้อยู่ ในสงั กดั สมุหนายก พ้นื ท่ีน้ีจึงไดช้ ่ือวา่ นครนายกนบั แต่น้นั เป็นตน้ มา เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมเรียกผู้บริหารประเทศว่านายกรัฐมนตรี ตาแหน่ง “หวั หนา้ ผบู้ ริหารประเทศ” หรือ “นายกรัฐมนตรี” มีมาแต่ อดีต เพียงแต่ยงั ไม่มีศพั ทค์ าวา่ “นายกรัฐมนตรี” ใช้ เท่าน้ัน เช่น จีนเรียกว่า “ไจ๊เสี่ยง” หรือ “มหา อุปราช” วรรณคดีสามก๊ก โจโฉ ก็เป็นดารงตาแหน่ง ดงั กล่าว, อินเดีย วรรณคดีเรื่องกามนิต – วาสิฏฐี ใช้ คาว่า “ประธานมนตรี” ไทยเราก็ใชค้ าวา่ อคั รมหา เสนาบดี, อคั รมหาเสนาภิมุข, สมุหนายก, ประธานกรรมการราษฎร ฯลฯ แลว้ คาว่า “นายกรัฐมนตรี” เกิดข้ึนเม่ือใด ใครเป็นผบู้ ญั ญตั ิศพั ทข์ ้ึน!! เร่ืองมีอยวู่ า่ เมื่อคณะราษฎรเปล่ียนแปลงการปกครองเป็ นระบอบ ประชาธิปไตยแลว้ ไดด้ าเนินการร่างรัฐธรรมนูญฉบบั ถาวรซ่ึงกาหนดวา่ จะให้เสร็จภายในวนั ท่ี 10 ธนั วาคม พ.ศ. 2475 หน่ึงในจานวนน้นั คือ “ร่างกฎหมายเปลี่ยนชื่อเสนาบดีเป็ นรัฐมนตรี” ท่ีมีอภิปรายในการประชุม สภาร่างรัฐธรรมนูญตกลงเห็นควรใหเ้ ปล่ียน “เสนาบดี” และ “กรรมการราษฎร” มาใชเ้ ป็ น “รัฐมนตรี” แทน พระธรรมนิเทศทวยหาร (อยู่ อุดมศิลป์ ) ส่วนคาว่า “ประธานกรรมการราษฎร” ยงั ไม่ไดก้ าหนดวา่ จะใช้ อย่างไร จึงมอบให้พระยามโนปกรณ์นิติธาดา (กอ้ น หุตะสิงห์) ดาเนินการต่อ พระยามโนปกรณ์ฯ ขอให้ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม (ปรีดี พนมยงค)์ ช่วยหาขอ้ มูลเร่ืองน้ีจากรัฐธรรมนูญต่างชาติ และให้พระธรรม นิเทศทวยหาร (อยู่ อุดมศิลป์ ) ตาแหน่งอนุศาสนาจารย์ แปลเป็ นภาษาไทย หลวงประดิษฐฯ์ เขียนบนั ทึกไว้ ส้ันๆว่า “ไดพ้ บรัฐธรรมนูญฝรั่งเศสเขาเรียกหัวหนา้ ผบู้ ริหารประเทศของเขาวา่ ‘Premier’ ส่วนองั กฤษน้นั เขาเรียก ‘Prime-Minister’ เยอรมนั เรียกวา่ ‘Chancellor’ จะเทียบคาไทยอยา่ งไรสุดแต่คุณพระจะพิจารณา” เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 95
พระธรรมนิเทศฯ ไดเ้ ทียบคาดงั น้ี Premier เป็ น นาย + ก ตามหลกั ภาษาบาลี แปลวา่ “ผเู้ ป็ นนาย” ในท่ีน้ี “นายกรัฐมนตรี” คือผอู้ ยเู่ หนือ หรือ ผนู้ าคณะมนตรีของประเทศ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญคนสาคญั 3 ท่าน คือ พระยามานวราชเสวี (ปลอด วิเชียร ณ สงขลา), หลวงประดิษฐ์ฯ และเจา้ พระยาธรรมศกั ด์ิมนตรี (สนน่ั เทพหสั ดิน ณ อยุธยา)ลงมติให้ใช้คาวา่ “นายกรัฐมนตรี” แทนคาวา่ “ประธานคณะกรรมการราษฎร ต้งั แต่วนั ที่ 10 ธนั วาคม พ.ศ. 2475 เป็ นตน้ มา ไทยเป็ นประเทศแรกที่กาหนดและใชค้ าวา่ “นายกรัฐมนตรี” สาหรับตาแหน่งหวั หนา้ ผบู้ ริหารประเทศ จากน้นั กมั พชู าเป็ นประเทศท่ี 2 ใชเ้ ม่ือ สมเด็จเจา้ นโรดมสีหนุ เขา้ ดารงตาแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” พ.ศ. 2488 และลาวใชป้ ระเทศท่ี 3 พ.ศ. 2488 เมื่อเจา้ เพชรราชดารงตาแหน่ง หวั หนา้ เรื่องน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมเรียกผีดิบ ตามประเพณีชาวพุทธ เม่ือถึงแก่กรรมแลว้ จะจดั พิธีศพดว้ ยการเผา ท่ีเรียกว่า ฌาปนกิจ พระราชทานเพลิง หรือ ถวายพระเพลิง ตามแต่ฐานนั ดรของผูว้ าย ชนม์ เม่ือมี คริ สตศาสนิกชน ข้ึน ในประเทศไทย ประเพณีการจัดการศพของชาวคริ สต์ คือ ฝัง (อยา่ งท่ีทราบกนั อย)ู่ คนไทยสมยั ก่อนยงั เห็นเป็นเร่ืองแปลก และขอ้ งใจวา่ ทาไม คนตาย จึงไม่ข้ึนเมรุ เผากนั ใหเ้ รียบร้อยไป แลว้ คอ่ ยเอาเถา้ กระดูกมาเคารพบูชา หรือ เป็ นอนุสรณ์ จึงอาจมีคนช่างคิด หรือมีอารมณ์ขนั ท่ีลากโยงไปถึงการประกอบอาหารวา่ ผที ่ียงั ไม่เผามนั ก็ยงั ดิบ อยนู่ ่ะสิ ทีน้ีพอมีหนงั ผฝี รั่งเขา้ มาในประเทศ ไทย ซ่ึงเรื่องแรก ก็ (เดาเอาวา่ ) ไม่น่าจะพน้ เรื่อง ท่านเคา้ ท์ แดร็กคูล่า ของแบรม สโตเกอร์ นน่ั แหละ คนต้งั ชื่อหนงั จึงบญั ญตั ิศพั ทใ์ หม่ข้ึนมา วา่ \"ผดี ิบ\" เพ่ือให้รู้ว่า เป็ น ผฝี รั่ง ซ่ึงแตกต่างจาก ผไี ทยที่จดั การศพดว้ ย วิธีการเผา อย่างน้นั ต่อมาเมื่อมี ผีฝรั่งย่ีห้ออื่น ๆ ปรากฎในภาพยนตร์ และเม่ือรู้ว่า ผีฝร่ัง เขาไม่เผากนั จึง เหมารวมกนั ไปวา่ ผฝี รั่ง ทุกยหี่ อ้ เป็น \"ผดี ิบ\" ดว้ ยกนั ท้งั น้นั นนั่ เอง. เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทมี่ าของ Ice-Cream Sundae เล่ากนั สืบมาวา่ ในรัฐนิวยอร์มีการ นาคาวา่ \"ซันเดย\"์ มาใช้ต้งั ชื่อไอศกรีม สืบเน่ืองจากทางร้านขายยาท่ีมีช่ือ \"แพลตตแ์ อนด์โคต\"์ โดยนายเช สเตอร์ แพลตต์ เจา้ ของร้านเกิดไอเดียใหม่ๆข้ึนมาโดยการนาเอา ไอศกรีมมาจาหน่าย ตามปรกติแลว้ เชสเตอร์เขาจะตกั ไอศกรีมขาย ปรกติธรรมดาๆ ต่อมาวนั หน่ึงซ่ึงเป็ นวนั อาทิตย์ นายเชสเตอร์ แพลตต์ ไดร้ ับแรงดลใจอะไรสักอยา่ งเลยตกั ไอศกรีมใส่ถว้ ยแชมเปญ แล้วนาเอาไซปรัสรสเชอรี่มาราดลงบนก้อนไอศกรีมด้วย และ ประดบั ดว้ ยผลเชอร่ีแช่อ่ิมบนยอด ดูสวยงามน่ารับประทานเป็ นอยา่ ง ยิ่ง จากกลยุทธ์อนั น้ีเองสามารถเรียกร้องความสนใจจากลูกคา้ ขา ประจาและขาจรของนายเชสเตอร์ แพลลตไ์ ดเ้ ป็ นอยา่ งดี หลงั จากท่ี เกิดไอเดียอนั บรรเจิดจนได้\"ไอศกรีมหน้าตากแปลกๆ\"ดงั กล่าวแล้ว ปรากฏว่าไอศกรีมดังกล่าวก็ขายดี เป็นเท น้าเทท่า จนนายเชสเตอร์ แพลตต์ จนนบั เงินกนั แทบไม่ทนั และเขาไม่ลืมท่ีจะต้งั ช่ือให้ ไอศกรีมสูตร ดงั กล่าวเสียอยา่ งเลิศหรูวา่ \"Cherry Sunday\" โดยให้เหตุผลง่ายๆวา่ เพราะมนั ก่อกาเนิดข้ึนในวนั อาทิตย์ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 96
นน่ั เอง ก็เป็ นเหตุผลหน่ึงที่ทาให้เราไดร้ ับรู้รับทราบถึงเส้นทางของ \"ไอศกรีมซันเดย\"์ ว่ามีประวตั ิความ เป็ นมาอยา่ งไร แต่นน่ั ไม่ไดเ้ ป็ นตานานเดียวเท่าน้นั เนื่องจากยงั มีเรื่องเล่าเก่ียวกบั ไอศกรีมซนั เดยอ์ ีกหลาย ตานานท่ีเล่าสืบต่อกนั มา วา่ กนั วา่ แต่ก่อนมีการขายไอศครีมโซดาทุกวนั จนกระทง่ั ปี ค.ศ. 1875 กฎหมาย ของมลรัฐอิลลินอยส์ไดร้ ่างออกมา ห้ามขายไอศครีมโซดาในวนั อาทิตย์ ดงั น้นั เฉพาะวนั อาทิตยจ์ ึงมีการ คิดคน้ สูตรไอศครีมข้ึนมาใหม่ ผสมน้าหวานแทนโซดา ปรากฎวา่ ไอศครีมเล่ียงกฎหมายตวั น้ี กลบั ขายดีเป็ น ที่นิยมมาก จนแมว้ นั ธรรมดาก็มีผถู้ ามหาโดยเรียกไอศครีมน้ีวา่ \"ไอศครีมซนั เดย\"์ (Sunday) แต่เจา้ หนา้ ท่ีรัฐ ไดอ้ อกมา หา้ มใชช้ ื่อ Sunday เพราะวนั อาทิตยเ์ ป็ นวนั แซบบาธ (Sabbath) ซ่ึงถือวา่ เป็ นวนั สาคญั ในการ ประกอบพิธีทางศาสนาของชาวคริสต์ จึงได้มีการเปล่ียนตวั สะกดจาก Sunday เป็ น Sundae แทน เพราะฉะน้นั ใครจะเขียนภาษาองั กฤษคาว่า ไอศครีมซนั เด ก็ระวงั เขียนให้ถูกดว้ ยครับ ตอ้ งเป็ น Icecream Sundae เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ต้นกาเนิดหมูหัน อาหารยอดนิยมอยา่ งหมูหนั ทราบไหมครับวา่ มี ท่ีมาอยา่ งไร ตน้ กาเนิดของหมูหนั น้นั ถือวา่ ค่อนขา้ งท่ี จะดูมีอภินิหารกว่าเป็ ดปักก่ิงมาก ซ่ึงจะค่อนไปทาง ตานานซะมากกวา่ โดยเรื่องราวน้นั วา่ กนั วา่ เกิดข้ึนเมื่อ 3,000 ปี ก่อน ชาวจีนครอบครัวหน่ึงประกอบอาชีพ เป็ นเกษตรกรและเล้ียงหมูไวเ้ พ่ือเป็ นรายไดเ้ สริม โดย พวกเขาไดก้ ้นั คอกเพ่ือเล้ียงไวท้ ี่ใตถ้ ุนบา้ นเพ่ือความ ปลอดภยั วา่ จะไม่ถูกโจรท่ีไหนมาลกั หมูไปกิน เมื่อ ย่างเขา้ หนา้ หนาวก็พอดีกบั ท่ีแม่หมูได้ทาการตกลูกออกมาหน่ึงครอก ซ่ึงฤดูหนาวในปี น้ันเรียกไดว้ ่าลม หนาวทรมานกวา่ ท่ีผา่ นๆ มา จนผเู้ ป็ นหวั หนา้ ครอบครัวทนความหนาวไม่ไหวจึงก่อกองไฟเล็กภายในบา้ น เพื่อให้ความอบอุ่น แต่ท่าทางจะเป็ นคราวเคราะห์ ลมหนาววบู ใหญ่พดั เขา้ มาลอดผ่านรอยแตกของฝาบา้ น เขา้ มาท่ีกองไฟทาใหฟ้ ื นแดงๆ เกิดปะทุจนสะเก็ดไฟกระเด็นข้ึนไปถูกหลงั คาท่ีมุงดว้ ยหญา้ แหง้ และลุกไหม้ ข้ึนมาจนไมส่ ามารถควบคุมได้ ท้งั ครอบครัวน้นั โชคดีตรงท่ีหนีออกมาไดท้ นั แต่ทวา่ ทรัพยส์ ินท้งั หมดรวม ไปถึงหมูท่ีเล้ียงไวน้ ้นั ไม่สามารถนาติดตวั ออกมาไดท้ าไดแ้ ค่เพียงมองดูบา้ นท้งั หลงั ค่อยๆ ไหมห้ ายไปกบั กองเพลิงและร้องไห้เสียใจ หลงั จากที่ไฟสงบแล้วสมาชิกในครอบครัวก็เดินไปท่ีซากบา้ นเพ่ือคุย้ หาวา่ มี อะไรเหลือรอดหรือไม่ พวกเขาท้งั หนาวท้งั หิวจนกระทง่ั สมาชิกคนหน่ึงคุย้ ไปจนเจอกบั ซากของแม่หมูและ ลูกหมูท่ีพวกเขาเล้ียงไวอ้ ยภู่ ายใตล้ ่างสุดของซากบา้ น น่าแปลกท่ีซากหมูน้นั ไม่ไดไ้ หมเ้ ป็ นเถา้ ถ่าน แต่วา่ ทุก ตวั น้นั มีสีแดงเพลิง หนงั กรอบ เน้ือหมูน้นั สุกกาลงั พอดีท่ีสาคญั มนั ส่งกลิ่นหอมน่ากิน และเม่ือผา่ ออกมาก็ พบวา่ เครื่องในหมูก็สุกดว้ ยเช่นกนั ท้งั ครอบครัวนงั่ ลอ้ มวงแบ่งกนั กินดว้ ยความเอร็ดอร่อยและเป็ นกาลงั ใจ ในการสร้างเน้ือสร้างตวั ข้ึนมาใหม่ แค่น้นั ไม่พอพวกเขายงั แบ่งให้กบั ชาวบา้ นท่ีมาช่วยอีกดว้ ย นบั ต้งั แต่น้นั มา “หมูหนั ” ก็กลายเป็ นอาหารท่ีเปรียบเสมือนความหวงั ในการสู้ชีวิตและกลายมาเป็ นอาหารท่ีใช้ในงาน มงคล มีการพฒั นาเทคนิคในการปรุงหมูหนั ใหอ้ ร่อยยงิ่ ข้ึนกว่าเดิม จนแพร่หลายไปทว่ั แผน่ ดินและทว่ั โลก เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 97
และพอจะเรียกไดว้ า่ ถา้ ยงั ไมเ่ คยกินหมหู นั ก็ถือวา่ ยงั ไมเ่ คยกินอาหารจีน ชาวจีนน้นั ถือวา่ “หมูหนั ” เป็ นหน่ึง ในอาหารท่ีใชส้ าหรับงานมงคล ไม่วา่ จะเป็ นงานแต่งงานหรือพิธีเซ่นไหวเ้ ทพเจา้ ซ่ึงชาวจีนน้นั ยดึ ถือปฏิบตั ิ กนั มาเป็นเวลากวา่ 3,000 ปี การทาหมูหนั น้นั ถา้ จะบอกวา่ ง่ายก็พอจะกลอ้ มแกลม้ ไปได้ แต่การจะทาใหห้ มู หนั น้นั อร่อยอนั น้ีก็ตอ้ งอาศยั ประสบการณ์และความชานาญ วธิ ีการทาน้นั มีเพียงแค่การนาหมูท่ีผา่ นการผ่า และลา้ งทาความสะอาดมาเสียบเขา้ กบั ไมห้ รือเหล็กแหลม และยา่ งกบั ถ่านร้อนๆ ใหห้ นงั กรอบท้งั ตวั ส่วน การปรุงรสชาติน้นั ก็แลว้ แต่สูตรของพอ่ ครัวแต่ละคน เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทิด มหา สมี ต่างกันอย่างไร ทิด เป็ นคาเรียกช่ือผทู้ ี่สึกจากพระ เพ้ยี นมากจากคาวา่ “บณั ฑิต” ซ่ึงหมายถึง ผมู้ ีความรู้ ผา่ นการอบรมสั่ง สอนมาแลว้ เพราะสมยั ก่อนการบวชเพ่ือศึกษาวิชาความรู้ท้งั ทางโลก และทางธรรม โรงเรียนในสมยั ก่อนคือวดั พระผูใ้ หญ่ก็คือครูผูส้ อน ความรู้ใหแ้ ก่พระผนู้ อ้ ย จึงเรียกการบวชวา่ “บวชเรียน” และสมยั ก่อน การบวชจะบวชเตม็ พรรษา มหา คือ ผทู้ ่ีเล่าเรียนศึกษาพระธรรม บาลี หรือที่เรียกวา่ “ศึกษาธรรม” และมีการสอบ นักธรรมตรี โท เอก โดยสามารถสอบไดบ้ าลีเปรียญ ธรรม ต้งั แต่ประโยค 3 ข้ึนไป ซ่ึงเปรียญธรรมมีท้งั หมด 9 ประโยค สมี [อ่านว่า สะ-หฺมี] เป็ นคาเรียก พระภิกษุผูต้ อ้ งอธิกรณ์ข้นั ปาราชิก บุคคลท่ีเป็ นสมีจะบวชอีกไม่ไดต้ ลอดชีวิต การอาบตั ิปาราชิกน้นั ไดม้ ี บญั ญตั ิไวว้ า่ เมื่อพระภิกษุอาบตั ิปาราชิกแลว้ ตอ้ งขาดจากความเป็ นพระภิกษุทนั ที แมจ้ ะไม่ยอมสึกออกจาก การเป็ นพระภิกษุก็ตาม นอกจากน้ี ทางพระวินยั ถือวา่ พระภิกษุที่อาบตั ิปาราชิกแลว้ จะไม่สามารถทากิจ ร่วมกบั พระภิกษุอื่นได้ และไม่สามารถบวชเป็ นพระไดอ้ ีกตลอดชีวติ ส่วนสาเหตุท่ีส่งผลให้อาบตั ิปาราชิก มี 4 ขอ้ ดงั น้ี อาบตั ิขอ้ ท่ี 1. เสพเมถุน กรณีที่พระภิกษุเสพสังวาสกบั สตรี หรือแมแ้ ต่เดรัจฉานเพศเมีย ถือวา่ ขาดจากความ เป็ นพระภิกษุทันที แม้จะอยู่ในผ้าเหลืองหรือไม่ก็ตาม ถือว่าขาดจากการเป็ นพระขณะที่สาเร็จกิจ อาบัติข้อที่ 2. ลักขโมย เมื่อมีเจตนาลักขโมยของที่เจ้าของไม่ได้อนุญาตด้วยจิตที่จะลัก อาบตั ิขอ้ ที่ 3. ฆ่ามนุษยใ์ ห้ตายดว้ ยตนเอง หรือใชใ้ หค้ นอื่นฆ่า กรณีน้ี คือ พระภิกษุมีเจตนาต้งั ใจท่ีจะฆ่าอยู่ แล้ว เช่น คิดและมีการวางแผนฆ่าให้ตาย เมื่อไม่ตายก็พยายามแล้วพยายามอีกจนเสี ยชี วิต อาบตั ิขอ้ ที่ 4. พูดอวดคุณวิเศษ ในท่ีน้ีหมายภูมิธรรม อาทิ ไม่ไดเ้ ป็ นพระโสดาบนั แต่กลบั อา้ งตวั วา่ บรรลุ ฌานสมาบตั ิ เป็นตน้ เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 98
เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ทาไมเวลาไปงานศพต้องแจก ด้ายแดง กับลูกอม การแจกลูกอมและดา้ ยแดง เป็ นประเพณีงานศพของ ชาวจีน เน่ืองจากงานศพของชาวจีนน้นั ทุกอยา่ งจะเป็ นสีขาว เส้ือผา้ โคม ไฟ ม่าน ผา้ ปู สีขาวหมายถึงความโศกเศร้า ทุกขโ์ ศก เสียใจ การแจกดา้ ย แดงให้แก่แขกท่ีมาร่วมงาน เพ่ือเป็ นการแก้เคล็ด ถือเป็ นการมอบความ เป็ นสิริมงคลให้แก่แขกที่มาร่วมงาน เนื่องจากสีแดงเป็ นสีท่ีเป็ นมงคล โชคลาภ ความสุข เป็ นสีท่ีนิยมใชใ้ นงานแต่ง เม่ือไดม้ านิยมเอามาใส่ไว้ ในกระเป๋ าเงิน หนา้ รถ หรือผกู ไวห้ นา้ ประตบู า้ น ส่วนลูกอม มีความหวานเปรียบเสมือนมอบความหวานช่ืน ความสุขใหช้ ีวติ ไมข่ มขื่น นนั่ เอง เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม ท่มี าของ สเลอปี้ ยอ้ นกลบั ไปในช่วงปลายทศวรรษที่ 1950 นาย โอมาร์ คเนดลิก (Omar Knedlik) เจา้ ของร้านแดรีควีนสาขาหน่ึงในรัฐแคนซสั สหรัฐอเมริกา ประสบกบั ปัญหาว่า เคร่ืองทาโซดาสาหรับผสมตูข้ ายน้าอดั ลมที่ร้านของเขามกั จะเสียอยู่บ่อยคร้ัง เขาจึงตอ้ งหาทาง แกป้ ัญหาดว้ ยการไปซ้ือน้าอดั ลมแบบขวดท่ีมีขายอยมู่ าแช่ตูแ้ ช่แข็งท่ีร้านเพื่อเตรียมไวบ้ ริการลูกคา้ แต่ดว้ ย ความท่ีเขาแช่ไวน้ านไปหน่อย ก็เลยทาให้น้าอดั ลมบางส่วนเยน็ จนกลายเป็ นน้าแขง็ ออกเป็ นเกล็ด ๆ คลา้ ย วุน้ (ใครเคยแช่น้าอดั ลมในตูแ้ ช่แขง็ ก็อาจจะเคยเจอมา) ซ่ึงกลายเป็ นวา่ ลูกคา้ เกิดชอบน้าอดั ลมที่กลายเป็ น น้าแข็งเกล็ด ๆ ปนน้าแบบน้ีเสียอย่างน้ันเอง จน ขอให้นายโอมาร์ทาน้าอดั ลมก่ึงแข็งก่ึงเหลวแบบน้ี ให้ด่ืมกนั อีก เม่ือเป็ นเช่นน้ีนายโอมาร์จึงคิดว่า แทนที่จะเอาน้าอดั ลมมาใส่ตูแ้ ช่ท่ีละขวด ๆ ซ่ึงช้า ไมท่ นั ใจลูกคา้ เขาน่าจะเอาตูน้ ้าอดั ลมที่มีอยใู่ นร้าน แล้วน่ันแหละมาดัดแปลงให้เป็ นเคร่ื องผลิต น้าอดั ลมผสมน้าแข็งวุน้ แบบน้ีเสียเลย และหลงั จากประสบความสาเร็จแลว้ เขายงั ไดท้ ดลองกบั เครื่องด่ืม ชนิดอื่น ๆ อยา่ งเช่นน้าผลไมช้ นิดต่าง ๆ อีกดว้ ย โอมาร์ไดต้ ้งั ช่ือเคร่ืองด่ืมชนิดน้ีวา่ ไอซ์ซี่ (ICEE) และไดต้ ้งั บริษทั ไอซ์ซีข้ึนเพ่ือขายแฟรนไชส์ให้กบั ผูท้ ี่สนใจนาไปผลิตขายต่ออีกดว้ ย (ในเมืองไทยก็เคยมีขายอยู่ ช่วงหน่ึง) จนกระท่ังในปี 1965 บริษัทเซาท์แลนด์ เจ้าของลิขสิทธ์ิแฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเวนใน สหรัฐอเมริกาตอนน้นั จึงไดต้ ดั สินใจซ้ือสิทธ์ิในการผลิตเครื่องด่ืมไอซ์ซี่เพ่ือนามาจาหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเวนโดยเฉพาะ และไดเ้ ปล่ียนช่ือจากไอซ์ซ่ีมาเป็ น “สเลอปี ” (Slurpee) ซ่ึงกล่าวกนั วา่ มาจากเสียงใน เวลาท่ีใช้หลอดดูดข้ึนมา ทุกวนั น้ีสเลอปี เป็ นเครื่องด่ืมยอดนิยมอย่างหน่ึง โดยเฉพาะที่เมืองวินนีเปก ประเทศแคนาดา ซ่ึงถือว่าเป็ นเมืองหลวงของสเลอปี ก็ว่าได้ มีการเก็บขอ้ มูลพบว่าในปี 2018 ท่ีผ่านมา เฉพาะที่เมืองวนิ นีเปกเมืองเดียว ก็สามารถจาหน่ายสเลอปี ไปไดม้ ากกวา่ 1.8 แสนถว้ ยต่อเดือน เร่ืองน่ารู้กบั ครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 99
เรื่องน่ารู้กับครูนกฮูก กศน.เขตหนองแขม รู้จักกบั หนังสือ Animal farm Animal Farm Animal farm เป็ น ยอดนวนิยายเรื่องหน่ึงของโลก เขียนโดย จอร์จ ออร์เวลล์ มาต้งั แต่ปี 1945 แอนิมลั ฟาร์ม มีช่ือจริงวา่ แมน เนอร์ ฟาร์ม เจา้ ของคือนายโจนส์ผขู้ ้ีเมา วนั หน่ึงสัตวต์ ่าง ๆ ในฟาร์มของนายโจนส์ก่อการปฏิวตั ิ เพราะรับ การปกครองแบบโหดเห้ียมของนายโจนส์ไม่ได้ หลงั จากนายโจนส์เขา้ นอนแลว้ พวกสัตวใ์ นฟาร์ม นาโดย หมู 'ผพู้ นั แก่' ประชุมกนั ผูพ้ นั แก่บอกวา่ ถึงเวลาปลดแอกแลว้ ผนู้ าฟาร์มคนน้ีเป็ นจอมเผด็จการ หากินบน หลงั สัตว์ สัตวท์ ้งั หลายควรอยใู่ นโลกที่สวยงาม ยุติธรรม ช่วยเหลือเก้ือกูลกนั เหล่าสัตวฟ์ ังสุนทรพจน์แลว้ เกิดอาการฮึกเหิมยง่ิ ร้องเพลงปลุกระดม นายโจนส์ต่ืนข้ึนมาเพราะหนวกหู ยงิ ปื นข้ึนฟ้ านดั หน่ึง บรรดาสัตว์ ก็เงียบเสียง สามวนั ต่อมาผพู้ นั แก่ตาย และถูกฝัง แต่ความฝันของมนั ไม่ไดต้ ายไปดว้ ย หมูสองตวั ชื่อ สโนว์ บอล กบั นโปเลียน กา้ วข้ึนมาเป็นหวั หนา้ วางแผนโค่นนายโจนส์ โดยความช่วยเหลือของหมูอีกตวั หน่ึงชื่อ สควลี เลอร์ ซ่ึงเป็นหมูนกั พดู หมูสามตวั (ที่ไมใ่ ช่ชื่อย่หี อ้ อาหาร) สร้างระบบใหม่ท่ีเรียกวา่ Animalism ใหผ้ ู้ ท่ีฉลาดนากลุ่ม สตั วท์ ่ีโง่กวา่ เช่น แกะ มา้ เป็นผตู้ าม การปฏิวตั ิเกิดข้ึนเร็วกวา่ ท่ีคิด วนั หน่ึงนายโจนส์เมามาก จนไม่ไดอ้ อกมาใหอ้ าหารสัตว์ เมื่ออดอาหาร สัตวก์ ็ลุกฮือ ขบั ไล่เจา้ ของบา้ นไป เหล่าสัตวเ์ ฉลิมฉลอง สารวจ สมบตั ิในบา้ นสโนวบ์ อลเปลี่ยนป้ ายชื่อ มานอร์ ฟาร์ม เป็ น แอนิมลั ฟาร์ม เขากบั นโปเลียนต้งั กฎใหม่ข้ึนมา เป็นบญั ญตั ิเจด็ ประการ คือ 1 สองขาคือศตั รู 2 สี่ขาคือมิตร 3 สตั วห์ า้ มสวมเส้ือ 4 สัตวห์ า้ มนอนบนเตียง 5 สตั วห์ า้ มดื่มของเมา 6 สตั วห์ า้ มฆา่ สัตวอ์ ่ืน 7 สัตวท์ ุกตวั เสมอภาคกนั พ่ีน้องผองสัตวย์ ินดีปรีดากบั การปกครองตนเอง ทางานหนกั เพ่ือปรับปรุงฟาร์ม มีการเคารพธงชาติทุกวนั อาทิตยซ์ ่ึงถือเป็นวนั พกั ผอ่ น สโนวบ์ อลต้งั คณะกรรมาธิการเพื่อพฒั นาสังคม มีสโลแกน \"ขา้ จะทางานหนกั ข้ึน\" จดั ต้งั ระบบการศึกษา แต่สตั วบ์ างชนิดเรียนรู้ชา้ สโนวบ์ อลจึงยอ่ บญั ญตั ิเจด็ ประการเป็ นกฎส้ัน ๆ วา่ \"ส่ี ขาดี สองขาไม่ดี\" หลงั จากเก็บเกี่ยวแอปเปิ้ ล พวกหมูยดึ แอปเปิ้ ลเป็ นของตน เพราะวา่ พวกตนจดั การดูแล ฟาร์มเป็นอยา่ งดี สัตวอ์ ่ืน ๆ ไดแ้ ต่เงียบเสียง วนั หน่ึงนายโจนส์พาพวกมายดึ ฟาร์มคืน แต่ไม่สาเร็จ พวกสัตว์ ตา้ นสุดฤทธ์ิ สโนวบ์ อลกบั บอกเซอร์ไดร้ ับเหรียญกลา้ หาญจากการรบ แอนิมลั ฟาร์ม แบ่งออกเป็ นสองค่าย นโปเลียนไม่เห็นดว้ ยกบั สโนวบ์ อลเกือบทุกเรื่อง นโปเลียนแอบเล้ียงหมาดุไวฝ้ งู หน่ึง ส่ังให้หมาขบั สโนว์ บอลออกไป จากไร่ และตนเองกลายเป็ นหวั หนา้ ฟาร์ม 'ฝ่ ายบริหาร' วางแผนสร้างกงั หนั เพ่ือเพ่ิมผลผลิต สัตวอ์ ื่น ๆ ยกเวน้ หมูกลายเป็ นทาสแรงงาน เม่ือนโปเลียนประกาศวา่ แอนิมลั ฟาร์ม จะทาธุรกิจกบั พวกคน เหล่าสตั วจ์ าคาพดู ของหมูผพู้ นั แก่ที่วา่ \"การคา้ เป็นความชว่ั ร้ายของพวกคน\" สควีลเลอร์จึงตอ้ งโนม้ นา้ วสัตว์ อ่ืนวา่ คิดมากไปต่างหาก พวกหมูยา้ ยไปอยใู่ นตวั บา้ น นอนบนเตียง ซ่ึงผดิ บญั ญตั ิขอ้ ที่ 4 แต่เมื่อพวกสัตว์ เร่ืองน่ารู้กับครูนกฮกู กศน.เขตหนองแขม ปี พ.ศ.2562 100
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218