293 หม้อชงกาแฟ - ใส่นาํ ให้มีปริมาณพอสมควร - ปิ ดฝาใหส้ นิทก่อนตม้ - ปิ ดสวติ ซ์ทนั ทีเมือนาํ เดือด หม้อหุงข้าวไฟฟ้ า - เลอื กใชข้ นาดทเี หมาะสมกบั ครอบครัว - ถอดปลกั ออกเมอื ขา้ วสุกหรือไม่มีความจาํ เป็นตอ้ งอนุ่ ใหร้ ้อนอกี ต่อไป ต้เู ยน็ - เลอื กใชข้ นาดทเี หมาะสมกบั ครอบครวั - ตงั วางตเู้ ยน็ ให้ห่างจากแหลง่ ความร้อน - ไม่ควรนาํ อาหารทีร้อนเขา้ ตูเ้ ยน็ ทนั ที - ไมค่ วรใส่อาหารไวใ้ นตูเ้ ยน็ มากเกนิ ไป - หมนั ละลายนาํ แขง็ ออกสัปดาหล์ ะครัง - หมนั ทาํ ความสะอาดแผงระบายความร้อน - ไม่ควรเปิ ดประตูตเู้ ยน็ บ่อย ๆ หรือปล่อยให้เปิ ดทิงไว้ - ดแู ลยางขอบประตูตเู้ ยน็ ใหป้ ิ ดสนิทเสมอ เครืองทาํ ความร้อน - เลือกใชข้ นาดทเี หมาะสมกบั ครอบครวั - ไม่ควรปรับระดบั ความร้อนสงู จนเกิดไป - ควรปิดวาลว์ บา้ งเพือรักษานาํ ร้อนไวข้ ณะอาบนาํ - ไมค่ วรใชเ้ ครืองทาํ ความร้อนในฤดูร้อน - ปิ ดวาลว์ นาํ และสวติ ซ์ทนั ทเี มอื เลิกใชง้ าน เครืองปรับอากาศ - ห้องทีตดิ ตงั เครืองปรบั อากาศ ควรใชฝ้ ้ าเพดานทีมคี ุณสมบตั ิเป็นฉนวนป้ องกนั ความร้อน - เลอื กขนาดของเครืองให้เหมาะสมกบั ขนาดพืนทหี อ้ ง - เลอื กใชเ้ ครืองปรับอากาศทีไดร้ ับการรับรองคณุ ภาพและชว่ ยประหยดั พลงั งาน - ปรับระดบั อณุ หภมู ิและปริมาณลมใหเ้ กิดความรู้สึกสบายในแต่ละฤดูกาล - หมนั ดแู ลบาํ รุงรักษาและทาํ ความสะอาดชนิ ส่วนอปุ กรณ์และเครืองให้อยใู่ นสภาพทีดอี ยูเ่ สมอ
294 - ดแู ลประตูหนา้ ตา่ งใหป้ ิดสนิทเสมอ - ใชพ้ ดั ลมระบายอากาศเท่าทีจาํ เป็น - ปิ ดเครืองก่อนเลกิ ใชพ้ นื ทปี รบั อากาศประมาณ 2-3 นาที เครืองซกั ผ้า - ในการซกั แต่ละครงั ควรให้ปริมาณเสือผา้ พอเหมาะกบั ขนาดเครือง - ควรใชว้ ิธีผึงแดดแทนการใชเ้ ครืองอบผา้ แหง้ - ศกึ ษาและปฏบิ ตั ติ ามวธิ ีการในคมู่ อื การใช้ 8. ความปลอดภัยและอบุ ัตเิ หตจุ ากอาชีพช่างไฟฟ้ า 1) ก่อนลงมือปฏบิ ตั ิงานกบั อุปกรณไ์ ฟฟ้ า ใหต้ รวจหรือวดั ดว้ ยเครืองมือวดั ไฟฟ้ าว่าในสายไฟ หรืออุปกรณ์นนั มไี ฟฟ้ าหรือไม่ 2) การทาํ งานกบั อุปกรณ์ไฟฟ้ าในขณะปิดสวิตชไ์ ฟหรือตดั ไฟฟ้ าแลว้ ตอ้ งต่อสายอุปกรณน์ นั ลง ดินก่อนทาํ งานและตลอดเวลาทที าํ งาน 3) การตอ่ สายดินใหต้ อ่ ปลายทางดา้ น\" ดิน \"ก่อนเสมอจากนนั จงึ ต่อปลายอีกขา้ งเขา้ กบั อุปกรณไ์ ฟฟ้ า 4) การสมั ผสั กบั อปุ กรณไ์ ฟฟ้ าแรงดนั ตาํ ใดๆ หากไม่แน่ใจใหใ้ ชอ้ ุปกรณท์ ดสอบไฟวดั ก่อน 5) การจบั ตอ้ งอปุ กรณ์ทมี ไี ฟฟ้ า จะตอ้ งทาํ โดยอาศยั เครืองมอื -อปุ กรณ์ และวิธีการทีถกู ตอ้ งเทา่ นนั 6) เครืองมือเครืองใชท้ ีทาํ งานกบั อปุ กรณ์ไฟฟ้ า เช่น คีม ไขควง ตอ้ งเป็นชนิดทีมีฉนวนหุ้ม 2 ชนั อย่างดี 7) ขณะทาํ งานตอ้ งมนั ใจว่า ไมม่ สี ่วนใดส่วนหนึงของร่างกายหรือเครืองมือทใี ชอ้ ยู่สมั ผสั กบั ส่วน อืนของอปุ กรณท์ ีมีกระแสไฟดว้ ยความพลงั เผลอ 8) การใชก้ ญุ แจป้ องกนั การสับสวิตช์ การแขวนป้ ายเตือนหา้ มสบั สวติ ช์ตลอดจนการปลดกญุ แจ และป้ ายตอ้ งกระทาํ โดยบคุ คลคนเดยี วกนั เสมอ 9) การขนึ ทีสูงเพอื ทาํ งานกบั อปุ กรณ์ไฟฟ้ าตอ้ งใชเ้ ข็มขดั นิรภยั หากไมม่ กี ารใชเ้ ชือกขนาดใหญ่ คลอ้ งเอาไวก้ บั โครงสร้างหรือส่วนหนึงส่วนใดของอาคาร 10)การทาํ งานเกียวกบั ไฟฟ้ าหากเป็นไปไดค้ วรมีผชู้ ว่ ยเหลืออยู่ดว้ ย 8.1 ข้อควรระวังในการทํางานเกยี วกบั ไฟฟ้ าทัว ๆ ไป - เมือพบว่าฝาครอบ หรือกล่องสวิตช์ชาํ รุด หรือแตกเสียหาย และควรรีบเปลยี นและซ่อมแซมทนั ที - รักษาความสะอาดของพนื บริเวณทีซึงสวติ ช์อยใู่ กล้ ๆ - หมนั สาํ รวจตรวจตราภายในแผงสวิตช์ ตูค้ วบคุมทางไฟฟ้ า ไม่ใหม้ เี ศษผงทองแดงหรือโลหะที นาํ ไฟฟ้ าอย่แู ละอย่านาํ ชินส่วนอปุ กรณ์ภายในตูค้ วบคมุ เช่น ฟิ วส์ ออกจากตูค้ วบคมุ
295 - การเปลียนฟิ วส์ ควรใชฟ้ ิ วส์เฉพาะงานนนั ๆ และก่อนเปลียนต้องสบั สวิตช์ (ให้วงจรไฟฟ้ าเปิ ด ให้เรียบร้อยก่อน) - อย่าใชฝ้ าครอบทีทาํ ดว้ ยสารทีสามารถลกุ ติดไฟได้ เปิดฝาครอบสวติ ช์ - สวิตชแ์ ต่ละอนั ควรมีป้ ายแสดงรายละเอยี ดดงั นี * ใชก้ บั กระแสไฟตรง หรือกระแสสลบั * ความต่างศกั ยท์ างไฟฟ้ า (หรือแรงดนั /แรงเคลือนไฟฟ้ า) * กระแสไฟฟ้ า * เครืองมือเครืองใชท้ างไฟฟ้ าทีต่อกบั สวติ ชน์ นั * ชือผรู้ ับ - ตอ้ งสับสวิตช์ใหว้ งจรไฟฟ้ าเปิ ด เมือตอ้ งการตรวจสอบหรือซ่อมแซมเครืองจกั รแล้วให้ทาํ สัญลกั ษณ์หรือป้ ายทีสวติ ช์วา่ \"กาํ ลงั ซอ่ ม\"- ก่อนสบั สวติ ชใ์ หว้ งจรไฟฟ้ าปิ ด ตอ้ งแน่ใจวา่ ทุกอย่างเรียบร้อย และไดร้ ับสญั ญาณถูกตอ้ ง และก่อนเปิ ดทดลองเดินเครืองควรตรวจดูว่าเครืองจกั รนันไมม่ ีวตั ถุอืนใดติด หรือขดั อยู่ - การส่งสญั ญาณเกียวกบั เปิด-ปิ ดสวติ ช์ ควรทาํ ดว้ ยความระมดั ระวงั - อยา่ ปิ ด-เปิ ดสวิตช์ขณะมอื เปี ยกนาํ - การสบั สวิตช์ให้วงจรไฟฟ้ าปิ ดตอ้ งแน่ใจวา่ สญั ญาณนนั ถูกตอ้ ง - การขนั สลกั เกลียวเพอื ยึดสายไฟฟ้ า ตอ้ งขนั ใหแ้ น่น - อปุ กรณ์ไฟฟ้ าทีชาํ รุดอยา่ ฝืนใชง้ านจะเกดิ อนั ตรายได้ 8.2 ข้อทีไม่ควรกระทาํ ในการปฏบิ ัติงานเกยี วกบั ไฟฟ้ า - ไมค่ วรถอดปลกั ไฟดว้ ยการดึงสายไฟ - ไม่ควรใชเ้ ครืองมอื และอุปกรณ์ไฟฟ้ าทีชาํ รุด - ไม่ควรใชป้ ลกั ไฟทชี าํ รุด - ไม่ควรต่อพ่วงไฟเกินกาํ ลงั - ไมค่ วรต่อปลกั ผดิ ประเภท - ไมค่ วรซ่อมแซมอุปกรณ์ไฟฟ้ าดว้ ยตนเองถา้ หากไม่มคี วามรูอ้ ยา่ งแทจ้ ริง 8.3 ความปลอดภัยเกยี วกบั ตัวผ้ปู ฏิบัตงิ าน การแต่งกาย - เครืองแบบทีเหมาะสมในการปฏบิ ตั ิงานเกยี วกบั เครืองจกั ร คือ เสอื และกางเกงทีเป็ นชิน เดียวกนั ซึงอยู่ในสภาพทเี รียบรอ้ ย เสือผา้ ทีฉีกขาดไมค่ วรนาํ มาใช้ เพราะจะทาํ ให้เขา้ ไปติดกบั เครืองจกั รที กาํ ลงั หมนุ ได้
296 - ติดกระดมุ ทุกเมด็ ให้เรียบร้อย - ไม่ควรใส่เครืองประดบั เช่น สรอ้ ยคอ นาฬิกา แหวน - ตอ้ งใส่รองเทา้ หุม้ ส้น หรือรองเทา้ บดู๊ เพอื ป้ องกนั เศษโลหะทมิ ตาํ - ควรสวมแว่นตา เพอื ป้ องกนั เศษโลหะกระเดน็ เขา้ ตา เช่น การเจยี ระไนงาน หรือแสงจากการ เชือมโลหะ - ควรสวมหมวกในกรณีทีปฏบิ ตั ิงานเกียวกบั การทาํ ไฟ - ไมค่ วรไวผ้ มยาวหรือมฉิ ะนนั ควรสวมหมวก - สภาพการทาํ งานทีมีเสียงดงั ควรสวมทีครอบหู 9. การบริหารจดั การและการบรกิ ารทีดี บริการทีดี หมายถึง ความตงั ใจและความพยายามในการให้บริการต่อผรู้ ับบริการ มีระดบั การปฏบิ ตั ิ ดงั นี ระดับที 1 สามารถให้บรกิ ารแก่ผ้รู ับบริการ ด้วยความเต็มใจ o ให้บริการทีเป็นมติ รภาพ o ใหข้ อ้ มูลข่าวสารทีถกู ตอ้ งชดั เจนแกผ้ ูร้ ับบริการ o แจง้ ใหผ้ รู้ ับบริการทราบความคืบหนา้ ในการดาํ เนินเรือง หรือขนั ตอนงานต่าง ๆ ทีใหบ้ ริการอยู่ o ประสานงานใหแ้ ก่ผรู้ ับบริการไดอ้ ยา่ งต่อเนืองและรวดเร็ว ระดับที 2 ช่วยแก้ปัญหาให้แก่ผ้รู ับบริการ o ช่วยแกป้ ัญหาหรือหาแนวทางแกไ้ ขปัญหาทีเกิดขนึ แกผ้ รู้ ับบริการอยา่ งรวดเร็วไมบ่ ่ายเบียง ไมแ่ กต้ วั หรือปัดภาระ o ผรู้ ับบริการไดร้ บั ความพึงพอใจและนาํ ขอ้ ขดั ขอ้ งทีเกิดจากการให้บริการไปพฒั นาใหก้ ารบริการดี ยงิ ขึน ระดับที 3 ให้บริการทีเกินความคาดหวัง แม้ต้องให้เวลาหรือความพยายามอย่างมาก o ให้เวลาแก่ผรู้ ับบริการเป็ นพเิ ศษ เพอื ช่วยแกป้ ัญหาใหแ้ ก่ผรู้ ับบริการ
297 o นาํ เสนอวธิ ีการในการใหบ้ ริการทีผุรับบริการจะไดร้ ับประโยชนส์ งู สุด ระดับที 4 เข้าใจและให้บริการทตี รงตามความต้องการทีแท้จริงของผ้รู ับบริการได้ o พยายามทาํ ความเขา้ ใจดว้ ยวธิ ีต่าง ๆ เพือใหบ้ ริการไดต้ รงตามความตอ้ งการทแี ทจ้ ริงของผรู้ ับบริการ o ใหค้ าํ แนะนาํ ทีเป็ นประโยชนแ์ กผ้ รู้ ับบริการ เพือตอบสนองความตอ้ งการ ระดับที 5 ให้บริการทเี ป็ นประโยชน์อย่างแท้จริงให้แก่ผ้รู ับบริการ o คิดถึงประโยชนข์ องผรู้ บั บริการในระยะยาว o เป็ นทีปรึกษาทีมีส่วนช่วยในการตดั สินใจทีผรู้ ับบริการไวว้ างใจ o สามารถใหค้ วามเห็นทีแตกตา่ งจากวธิ ีการหรือขนั ตอนทีผูร้ ับบริการตอ้ งการใหส้ อดคลอ้ งกับความ จาํ เป็ น ปัญหา โอกาส เพอื ประโยชนอ์ ย่างแทจ้ ริงของผรู้ บั บริการ 10. โครงงานวิทยาศาสตร์สู่อาชีพ อาชพี ช่างไฟฟ้ า เป็ นอาชีพสาํ คญั จาํ เป็ นกบั สงั คมเทคโนโลยใี นทุกยคุ ทุกสมยั ผูม้ ีอาชีพช่างไฟฟ้ า ตอ้ งมคี วามชาํ นาญเฉพาะทาง มีความคิดริเริมสร้างสรรค์ สร้างผลงาน นอกเหนือจากการติดตงั ซ่อมแซม อปุ กรณ์ไฟฟ้ า และยงั สามารถสร้างสรรค์ผลงานเป็นอุปกรณ์เครืองใช้ไฟฟ้ า สาํ หรับครัวเรือน เพอื ความ สะดวกสบายในชีวิตประจาํ วนั ของมนุษย์ ดงั นนั ช่างไฟฟ้ า นอกจากเป็ นอาชีพเพอื บริการ ยงั นาํ ไปสู่เพอื การ พาณิชยไ์ ดด้ ี โดยผเู้ รียนนําความรู้ ผลงาน จากโครงงานเรืองไฟฟ้ าไปต่อยอดสู่อาชีพไดอ้ ยา่ งหลากหลาย อาทิเชน่ การประดิษฐโ์ คมไฟเพือประดบั ตกแต่ง โคมไฟเพืออ่านหนงั สือ เครืองเตือนภยั นําท่วมอย่างง่าย ฯลฯ ตวั อย่างที 1 การประดษิ ฐ์โคมไฟเพอื ประดับตกแต่ง วัสดุทีใช้ 1. สวิทซไ์ ฟ สาํ หรับเปิ ดปิ ด ราคาประมาณ 30 บาท 2. หลอดไฟฟลอู อเรสเซนตแ์ บบยาว ราคาประมาณ 79 บาท 3. แผน่ ซีดี 61 แผ่น นาํ กลบั มาใชใ้ หม่ (reuse) 4. สายไฟ 1.8 เมตร ราคาประมาณ 30 บาท วิธที าํ โคมไฟจากแผ่นซดี ี วิธที าํ โคมไฟจากแผ่นซีดี แผ่นซีดีทีเสียแลว้ ใครจะเชือว่าสามารถนาํ มาทาํ โคมไฟอนั สวยหรูมี ระดบั อยา่ งทีใครนึกไมถ่ ึงมากก่อน สนใจละซิ ลองมาทาํ ดวู า่ เขาทาํ กนั อยา่ งไรทาํ ให้ไดโ้ คมไฟสวยสะดุด ใจ โดยใชต้ น้ ทุนประมาณ 139 บาท ดงั นี
298 หลอดไฟทีใช้ ถอดส่วนประกอบหลอดไฟออก เพือจะไดแ้ ยกเอาสวทิ ซก์ บั หลอดไฟ ไวส้ าํ หรับติดนอกกล่องโคมไฟ
299 นาํ มากะระยะวา่ สวทิ ซ์ กบั หลอดไฟจะอยตู่ าํ แหน่งไหน ตดั แผ่นไมอ้ ดั หนาขนาด 3/8 นิว เป็ นรูปวงกลมขนาด แผน่ ซดี ี จาํ นวน 18 แผ่น แผ่นไมอ้ ดั ทีตดั ออกมา
300 ทาดว้ ยกาวร้อน แลว้ ใชส้ กรูอดั ให้แน่น ทิงไวใ้ ห้กาวแห้ง ประมาณ 20 นาที ใชส้ วา่ นเจาะช่องตรงกลางไมใ้ หใ้ ส่หลอดไฟได้ เจาะชอ่ งให้สายไฟ กบั สวทิ ซไ์ ฟใส่ได้
301 วางหลอดไฟใส่ลงไปในช่องนี ใส่สวิทซ์ไฟ กบั สายไฟตามช่องทีเจาะไว้ เจาะรูตรงกลางแผน่ ซีดี ให้กวา้ งพอทีจะใส่หลอดไฟได้
302 เจาะใหใ้ ส่หลอดไฟไดแ้ บบนี จบั แผน่ ซดี ีสองแผ่น มาจบั คปู่ ระกบกนั โดยหนั ดา้ นทีมนั วาวออกทงั สองดา้ น แลว้ ใชก้ าวรอ้ นทา ทิงไวใ้ ห้แหง้ แลว้ เจาะรู 3 รู ไวส้ าํ หรับใส่น็อตยาวเป็นเสาขา 3 ขา ดงั ภาพ ชนั แรกใส่แผน่ เดียว จากนนั ค่อยใส่วงแหวน รองเพือใหเ้ ป็นชนั ๆ มีชอ่ งว่างใหแ้ สงกระจายออก ใส่ไปเรือย ๆ จนถงึ ชนั สุดทา้ ย ใชแ้ ผ่น ซดี ี 4 แผน่ ทากาวประกบกนั ปิ ดเป็นฝาขา้ งบน เวลาจะเปลยี นหลอดไฟขา้ งใน ก็ไขน็อตออก แลว้ หยิบหลอดไฟมาเปลียน ประกอบเสร็จแลว้ เมือเปิดไฟ จะไดภ้ าพดงั นี ทีมา http://www.yousaytoo.com/tensionnot/how-to-make-a-cool-cd-lamp/4877
303 ตัวอย่างที 2 สิงประดิษฐ์เครืองเตือนภยั นําท่วมอย่างง่าย วสั ดุทีใช้ 1. สวทิ ซแ์ ละกริงไฟฟ้ าแบบไร้สาย ราคาประมาณ 100-150 บาท 2. เศษโฟม นาํ กลบั มาใชใ้ หม่ (reuse) 3. ถงุ พลาสติก นาํ กลบั มาใชใ้ หม่ (reuse) วธิ ีทํา 1. หาซือกริงประตูบา้ นแบบไร้สายมขี ายเกือบทกุ หา้ ง (ราคาประมาณ – ) เอาแบบกดคา้ ง แลว้ รอ้ งต่อเนือง นอนหลบั แลว้ จะไดต้ ืน (บางยหี อ้ กดคา้ งแลว้ รอ้ งครงั เดยี ว) . หาอปุ กรณ์ดงั นี ตระกร้าทรงเตีย แผ่นโฟม ซองซปิ กนั นาํ เทปกาว กาวสองหนา้ กอ้ นอิฐหรือหิน . นาํ กริงตวั ลูก(สวติ ซท์ ีกดกริง)มาติดกาวสองหนา้ บริเวณทีกดให้ทีกดนูนขึน (ไม่ตอ้ งลอกกระดาษ อีกดา้ นออก) แลว้ ใส่ซองซปิ ไมใ่ ห้นาํ เขา้ . ตดั โฟมใหม้ ีขนาดเลก็ กว่าตะกรา้ เลก็ นอ้ ย นาํ กริงตวั ลูกทีอย่ใู นซองซิปไปวางกลางโฟมแลว้ ติด เทปกาวบนโฟม
304 . หาทีเหมาะๆวางโฟมทพี นื ทตี อ้ งการทราบว่านาํ ท่วมแลว้ เชน่ ประตรู ัว ครอบโฟมดว้ ย ตระกรา้ ทบั ตระกรา้ ดว้ ยอฐิ หรือหิน (ระยะสญั ญาณประมาณ เมตรจากตวั แม)่ . เสียบปลกั ตวั แม่ (สัญญาณกระดิง)ไวใ้ นบา้ น . เมือนําท่วมโฟมจะลอยตัวดันสวิตซ์ทีกดกริงกับก้นตระกร้าทีถูกทับไว้ด้วยอิฐหรื อหิน ทาํ ให้สัญญาณรอ้ งเตือน ทีมา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=653105
305 11. คาํ ศัพท์ทางไฟฟ้ า ช่างไฟฟ้ าทุกคนจะตอ้ งเขา้ ใจคาํ จาํ กัดความทวั ไปของคาํ ศพั ท์ทีใช้ในทางช่างไฟฟ้ า เพือให้การสัง วสั ดอุ ุปกรณ์ และการอ่านรายละเอยี ดของวสั ดอุ ุปกรณข์ องบริษทั ผผู้ ลิตอยา่ งมีประสิทธิภาพ ผสู้ งั และผูอ้ ่าน จะต้องมีความคุ้นเคยกบั ภาษาทีใช้ในทางช่างไฟฟ้ าดว้ ย ดังนัน จึงควรอ่านคาํ จาํ กัดความแต่ละคาํ อยา่ ง ละเอียดให้เขา้ ใจ และควรพลกิ ดคู าํ เหล่านีทุกครังเมอื มีความจาํ เป็ นนอกจากนียงั มรี ายละเอียดเกยี วกบั คาํ นิยามของคาํ ศพั ท์เหลา่ นีเพิมเติมในทา้ ยเลม่ ของหนังสือเล่มนีดว้ ย พลงั งาน (energy) : ความสามารถในการทาํ งาน กาํ ลังม้า (horsepower) : หน่วยวดั การทาํ งานของเครืองจกั รกลพวกมอเตอร์และเครืองยนต์ เราจะ ใชอ้ กั ษรยอ่ HP หรือ hp แทน โดยทวั ไปกาํ ลงั มา้ นีจะใชบ้ ่งบอกเอาท์พุทของมอเตอร์ไฟฟ้ า ไฟฟ้ า (electricity) : การเคลอื นทีของอเิ ล็กตรอนผ่านตวั นาํ ไฟฟ้ า ตวั นําไฟฟ้ า (conductor) : สสารทียอมให้กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านตวั มนั เองไดง้ ่าย ความนําไฟฟ้ าหรือความเป็ นสือไฟฟ้ า (conductance) : ความสะดวกสบายต่อการไหลผ่านของ กระแสไฟฟ้ าในวงจร ฉนวนไฟฟ้ า (insulator) : วตั ถุทีมีคุณสมบตั ิดา้ นต้านทานการไหลของกระแสไฟฟ้ า อาจจะกลา่ ว ไดว้ ่าสสารนัน ขดั ขวางการเคลอื นทีของอิเล็กตรอน อํานาจแม่เหลก็ (magnetism) : คุณสมบตั ิอย่างหนึงของสสารทีแสดงอาํ นาจดงึ ดูดเหล็กได้ ขัวไฟฟ้ า (polarity) : คณุ สมบตั ิของประจุไฟฟ้ าทีแสดงออกมา ซึงจะมคี ่าเป็นบวกหรือเป็นลบ แม่เหลก็ ไฟฟ้ า (electromagnet) : ขดลวดตวั นําไฟฟ้ าทีแสดงอาํ นาจหรือคุณสมบัติทางแม่เหล็ก เมอื มกี ระแสไฟฟ้ า ไหลผา่ นขดลวดนัน ขดปฐมภูมิ (primary) : ขดลวดของหมอ้ แปลงไฟฟ้ า ซึงต่ออยูก่ บั แหลง่ จ่ายไฟฟ้ าและรับพลงั งาน นนั กค็ ือดา้ นรับไฟฟ้ าขา้ วของหมอ้ แปลงไฟฟ้ า ขดทุตยิ ภูมิ (secondary) : ขดลวดของหมอ้ แปลงไฟฟ้ าทีติดอยู่กบั โหลด (ภาระทางไฟฟ้ า) โดยจะ รับพลงั งานดว้ ยหลกั การเหนียวนาํ ทางอาํ นาจแม่เหลก็ ไฟฟ้ าจากขดลวดปฐมภูมไิ ปสู่โหลดนันก็คือดา้ น จ่ายไฟออกของหมอ้ แปลงไฟฟ้ า กําลังไฟฟ้ า (electric power) : อตั ราการผลติ หรือใชพ้ ลงั งานทางไฟฟ้ าในหนึงหน่วยเวลา วตั ต์ (watt) : หน่วยวดั กาํ ลงั ไฟฟ้ า เราใชเ้ รียนอกั ษรย่อตัวพิมพใ์ หญ่ W แทน กาํ ลงั ไฟฟ้ ามจี ะเป็ น อกั ษรบอกพลงั งานไฟฟ้ าทมี ีอุปกรณไ์ ฟฟ้ าแตล่ ะตวั ในการทาํ งาน อยา่ งเช่น หลอดไฟ 1,000 วตั ต์ เครืองปิ ง ขนมปัง 1,000 วตั ต์ กโิ ลวตั ต์ (kilowatt) : หน่วยกาํ ลงั ไฟฟ้ าทีมีค่าเท่ากบั 1,000 วตั ต์ เราใช้ตวั ยอ่ ว่า KW เพราะเหตุว่า ในทางปฏบิ ัตินนั โหลด หรือภาระทางไฟฟ้ ามจี าํ นวนมากๆ จึงมีค่าวตั ต์สูงๆ หน่วยวตั ต์ซึงทาํ ใหก้ ารเรียก หรือบนั ทึกคา่ ย่งุ ยากและเสียเวลา เราจึงนิยมใชก้ ิโลวตั ตซ์ ึงเป็นหน่วยทีใหญ่ขึนนีแทน และยงั มหี น่วยใหญ่ กว่ากิโลวตั ตอ์ กี ก็คือ เมกกะวตั ต์ (megawatt) ซึงเท่ากบั 1,000 กิโลวตั ต์ หรือเขียนย่อๆ ว่า 1 MW
306 กโิ ลวตั ต์ – ชัวโมง (kilowatt – hour) : หน่วยวดั การใชก้ าํ ลงั ไฟฟ้ าในเวลา 1 ชวั โมง เราจาํ ใช้อกั ษร ยอ่ พิมพ์ตัวใหญ่ KWH แทน ปกติแลว้ การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้ าตามบา้ นจะวดั ค่าออกจากเครืองวดั พลงั งาน (หรือทีเราเรียกกนั ว่า หมอ้ มิเตอร์) มหี น่วยเป็นกิโลวตั ต์ – ชวั โมง หรือทีเรียกกนั วา่ ยูนิต (unit) แลว้ คิดราคา ไฟฟ้ าทีเราตอ้ งจา่ ยเท่ากบั จาํ นวนยนู ิตทเี ราตอ้ งใชค้ ณู ดว้ ยราคาไฟฟ้ าต่อหนึงยนู ิต ไฟฟ้ ากระแสสลับ (alternating current) : ระบบไฟฟ้ าทีทิศทางการวิงของอเิ ลก็ ตรอนมกี ารสลบั ไปมาตลอดเวลา เราใชส้ ญั ลกั ษณ์แทนดว้ ยอกั ษรตวั พมิ พใ์ หญ่ AC และมกั นิยมใชเ้ ป็ นระบบไฟฟ้ าตามบา้ น อาคาร โรงงานทวั ๆ ไป ไฟฟ้ ากระแสตรง (direct current) : ระบบไฟฟ้ าทีอเิ ลก็ ตรอนมกี ารวิงไปทางเดียวกนั ตลอดเวลา และต่อเนืองกนั มกั จะพบว่าใช้กันอย่ทู วั ๆ ไป กค็ ือ เครืองชาร์จแบตเตอรี ถ่านไฟฉาย แบตเตอรีรถยนต์ เป็นตน้ ใชอ้ กั ษรตวั พิมพใ์ หญ่ DC เป็ นสญั ลกั ษณแ์ ทน วงจรไฟฟ้ า (circuit) : ทางเดินไฟฟ้ าทีต่อถงึ กัน และไฟฟ้ าไหลผ่านได้ดี วงจรอนุกรมหรือวงจร อนั ดบั (series circuit) : วงจรไฟฟ้ าทีมีทางเดินไฟฟ้ าไดเ้ พียงทางเดยี ว จากแหล่งจ่ายไฟฟ้ าผ่านวงจรไฟฟ้ าไป ครบวงจรอีกขวั ของแหลง่ จ่ายไฟ และในวงจรนีอาจจะมีอุปกรณ์พวกฟิ วส์ สวิตซ์ เซอร์กิต – เบรกเกอร์ โดยตอ่ เป็นวงจรอนั ดบั เขา้ ไปเพอื ป้ องกนั และควบคุมวงจร วงจรขนาน (parallelcircuit):วงจรไฟฟ้ าทีมที างเดินไฟฟ้ าของกระแสไฟฟ้ าผา่ นได้มากกว่า 1 ทางเดินขึนไป และจะมีอปุ กรณ์เช่นพวกเตา้ เสียบหลอดไฟต่อขนานกนั และข้อดีของวงจรก็คือ ถา้ อปุ กรณ์ ตัวหนึงตัวใดไม่ทํางาน ขดั ข้องหรือเสียขึนมา วงจรทางเดินไฟฟ้ าจะไม่ขนาน ซึงตรงกนั ขา้ มกับวงจร อนุกรม อปุ กรณ์ในวงจรขนานตวั อนื ๆ ยงั คงทาํ งานไดต้ ่อไปดงั รูปท2ี รูปวงจรขนาน วงจรเปิ ด (open circuit) : สภาวการณ์ทีทางเดินไฟฟ้ าเกิดขาดวงจร เกินวงจร หรือไม่ครบวงจรทาํ ใหก้ ระแสไฟฟ้ าไหลไมไ่ ด้ วงจรลัด (short circuit) : สภาวการณ์ทีเกดิ มีการลดั วงจรทางเดนิ ของกระแสไฟฟ้ า อนั เนืองมาจาก รอยต่อของสายต่างๆ พลาดถงึ กนั มีกระแสไฟฟ้ ารัวต่อถึงกนั เป็นตน้ แอมแปร์ (ampere): หน่วยการวดั คา่ อตั ราการไหลของไฟฟ้ าทผี ่านตวั นาํ เราจะใชอ้ กั ษรย่อตวั พมิ พ์ ใหญ่ A หรือ amp แทน ปกติแลว้ หน่วยแอมแปร์นีนิยมใชร้ ะบุขอบของการใชก้ ระแสไฟฟ้ าดา้ นสงู สุดในการ ทาํ งานของอปุ กรณ์เครืองใชไ้ ฟฟ้ านนั อย่างปลอดภยั อย่างเช่น เตา้ เสียบ 15 แอมแปร์ ฟิ วส์ 30 แอมแปร์
307 เฮริ ์ตซ์ (hertz) : หน่วยความถีมีค่าเป็ นรอบต่อวินาที การทีอเิ ล็กตรอนวิงไปในทิศทางหนึงแลว้ วกกลบั มาสู่แหล่งจ่ายไฟฟ้ าจากนนั ก็มีอเิ ลก็ ตรอนวิงออกมาจากแหล่งจ่ายไฟไปในทิศทางหนึงวกกลบั มา โดยทิศทางการวิงของอิเล็กตรอนทงั 2 ครังวิงสวนทางกัน (หรือพูดอีกนับหนึงก็คือ วิงสลบั ไปสลบั มา นนั เอง) เราเรียกว่า 1 รอบ ความถขี องระบบไฟฟ้ าบา้ นเราใชค้ วามถี 50 เฮิร์ตซ์ ใชส้ ัญลกั ษณ์ HZ แสดงแทน โอห์ม (ohm) : หน่วยความตา้ นทานทางไฟฟ้ าใชส้ ญั ลกั ษณ์แทนดว้ ยตวั โอเมกา้ (Ω) ความต้านทาน จะพยายามต่อตา้ นการไหลของกระแสไฟฟ้ า ความตา้ นทานเป็นไดท้ งั ผทู้ าํ งานใหห้ รือขดั ขวางการทาํ งานให้ ผใู้ ชไ้ ฟ มนั ทาํ งานให้ในขณะทีใชม้ นั เป็นฉนวนหรือใชค้ วบคมุ วงจร ตวั อย่างเชน่ เทปพนั สายไฟ เต้าเสียบที ทาํ จากพลาสติก จะป้ องกนั อนั ตรายให้กบั ผใู้ ชไ้ ฟได้ และใช้ความต้านทานแบบปรับค่าได้ (rheostat) ปรับ ความสว่างของหลอดไฟฟ้ า แต่มนั จะขดั ขวางการทาํ งานเมือผใู้ ชไ้ ฟ ใชส้ ายไฟเส้นเล็ก และยาวมากๆ หรือมี สนิมตามจุดสัมผสั ต่างๆ ของตัวนํา จะเป็นสาเหตุของการเพิมค่าความต้านทาน ทาํ ใหเ้ กิดความร้อนมาก เกินไป พร้อมทงั เกิดการสญู เสียกาํ ลงั ไฟฟ้ าไปในสายตวั นาํ ดว้ ย กฎของโอห์ม (Ohm’s law) : กฎทวี ่าดว้ ยความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งแรงดัน กระแส และความตา้ นทาน ในวงจรไฟฟ้ า กฎนีกล่าวว่า ค่ากระแสไฟฟ้ า (I) จะเป็ นสดั ส่วนโดยตรงกับค่าแรงดนั ไฟฟ้ า (E) และเป็ น สัดส่วนผกผนั กบั ค่าความตา้ นทาน (R) สูตร I = E / R โวลต์ (volt) : หน่วยวดั แรงดันไฟฟ้ า แรงดนั ไฟฟ้ าหรือแรงดนั ทีทาํ ให้เกิดมีการเคลือนทีของ อิเลก็ ตรอนภายในตวั นาํ ไฟฟ้ า เราใช้ตัวย่อแทนแรงดนั ไฟฟ้ าด้วย V, E หรือ EMF ปกติจะใช้ E และ EMF แทนแรงดนั ทเี กดิ จากการเคลือนทีของประจุไฟฟ้ าหรือ electromotive force (ซึงเป็นอกี นิยามหนึงของคาํ วา่ โวลต)์ เช่นเดียวกบั คาํ ว่า แอมแปร์แรงดนั ซึงระบุไวท้ ีตัวอุปกรณ์เครืองใชไ้ ฟฟ้ าจะเป็ นตัวกาํ หนดขอบเขต การใชแ้ รงดนั ไฟฟ้ าขณะทาํ งานไดโ้ ดยปลอดภยั เช่น มอเตอร์ 220 โวลต์ เครืองเป่ าผม 110 โวลต์ เราจะตอ้ ง ใชอ้ ุปกรณไ์ ฟฟ้ ากบั แรงดนั ไฟฟ้ าตามทีระบุไวเ้ ท่านนั แอมมเิ ตอร์ (ammeter) : เป็นเครืองวดั ทางไฟฟ้ าชนิดหนึง ใชว้ ดั ค่ากระแสไฟฟ้ าทีไหลในวงจรที เราตอ้ งการวดั โดยปกติเราจะใชเ้ ครืองมอื นีต่ออนุกรมกบั วงจรทีเราตอ้ งการวดั ค่ากระแส แตก่ ม็ เี ครืองมือวดั ชนิดพิเศษทีไมต่ อ้ งต่อวงจรอนั ดบั เขา้ กบั วงจรไฟฟ้ านนั จะไดก้ ล่าวถงึ ในบทต่อๆ ไป โอห์มมิเตอร์ (ohm meter) : เป็นเครืองวดั ทางไฟฟ้ าชนิดหนึง ใชว้ ดั คา่ ความตา้ นทานไฟฟ้ าเวลาใช้ จะตอ้ งไมม่ ีการจ่ายไฟจากแหล่งจ่ายไฟใดในวงจรไฟฟ้ านนั โวลต์มเิ ตอร์ (volt meter) : เป็นเครืองมือวดั ทางไฟฟ้ าชนิดหนึง ใชว้ ดั ค่าแรงดนั ไฟฟ้ า มลั ตมิ เิ ตอร์ (multimeter) : เป็นเครืองมอื วดั ทางไฟฟ้ าชนิดหนึงทีสามารถวดั คา่ แรงดนั กระแสและ ความตา้ นทานไดใ้ นเครืองวดั ตวั เดียวกนั National Electric Code : เป็ นหนังสือคู่มือรวบรวมขอ้ แนะนาํ และกฎขอ้ บงั คับในการติดตงั อปุ กรณ์ไฟฟ้ าให้มคี วามปลอดภยั แมว้ ่าจะมเี นือหามากมายแต่หนังสือคู่มือนีก็ไม่มีจุดมุ่งหมายสําหรับการ สอน หรือใชแ้ ก่บุคคลทีไมเ่ คยผา่ นการอบรมมาก่อน ส่วนของไทยเราก็มีคู่มือพวกนีหลายแห่งดว้ ยกัน เช่น
308 คมู่ อื ของการไฟฟ้ านครหลวง การพลงั งานแห่งชาติ การไฟฟ้ าส่วนภูมภิ าค ซึงหลกั การและกฎขอ้ บงั คบั ส่วน ใหญ่ก็คลา้ ย ๆ กบั ของ NEC (National Electric Code) ของต่างประเทศนนั เอง สวิตซ์อตั โนมัติหรือเซอร์กิตเบรกเกอร์ (circuit breaker) : เป็ นอุปกรณ์ป้ องกนั ทีใช้จํากัด กระแสไฟฟ้ าสูงสุดในวงจร เมือกระแสเกินค่าจาํ กดั เซอร์กิตเบรกเกอร์จะเปิดวงจรไม่ให้กระแสไฟฟ้ าไหลสู่ วงจรอีก จนกว่าจะกดปุ่มทาํ งานใหม่ ปัจจุบันใช้แทนสวิตซ์ฟิ วส์กันมาก เนืองจากสามารถต่อวงจรเขา้ ไป ใหม่ไดท้ นั ที ในขณะทีฟิ วสต์ อ้ งสลบั เปลียนตวั ใหมเ่ ขา้ ไปแทน และยงิ ในระบบไฟฟ้ า 3 เฟสด้วยแลว้ ถา้ เกิด ขาดทีฟิ วส์เพียงเสน้ เดียวเหลือไฟฟ้ ามาแค่ 2 เฟสเท่านัน อาจเกิดการเสียหายไหมข้ ึนทีมอเตอร์ 3 เฟสได้ หลกั การทาํ งานของเซอร์กติ เบรกเกอร์จะทาํ งานโดยอาศยั อาํ นาจแมเ่ หลก็ เมือมกี ระแสไฟฟ้ าในวงจรไหล เขา้ มามาก ๆ สนามแม่เหลก็ จะดงึ สวติ ซ์ใหต้ ดั วงจรออก และบางแบบจะมีตวั ป้ องกนั กระแสเกินขนาดดว้ ย ความร้อนต่อร่วมมาดว้ ยโดยอาศยั การทีมีกระแสไหลผา่ นความต้านทานของตัว ไบเมตอลลกิ (bimetallic) (ไบเมตอลลกิ เป็นโลหะทีขยายตวั เมอื อณุ หภูมสิ ูงขึนและหดตวั เมอื อุณภมู ติ าํ ลง) เมือกระแสไหลผ่านมากจะ เกิดความร้อนมาก ตวั ไบเมตอลลิกจะขยายตวั ดึงให้สวิตซต์ ดั วงจรออก เราใชต้ วั อกั ษรยอ่ แทนเซอร์กิตเบรก เกอร์ดว้ ย CB ฟิ วส์ (fuse) เป็นอุปกรณ์ป้ องกนั ทใี ชจ้ าํ กดั กระแสไฟฟ้ าสูงสุดในวงจร เมือกระแสเกินค่าจาํ กัดฟิ วส์ จะเกิดความร้อนมากขนึ จนกระทงั หลอมละลายขาดจากกนั วงจรก็จะเปิ ด ฟิ วสจ์ ะตอ้ งอย่างอนุกรมกบั วงจร หม้อแปลง (transformer) : เป็นอปุ กรณ์ทีใชเ้ ปลยี นแรงดนั ไฟฟ้ าให้สูงขึนหรือตาํ ลง เพือให้ตรงกบั แรงดนั ทีใชก้ บั อปุ กรณ์ไฟฟ้ าตา่ งๆ เช่น มเี ครืองซกั ผา้ แรงดัน 110 โวลต์ แต่มไี ฟฟ้ าแรงดัน 220 โวลต์ เราก็ ตอ้ งใชห้ มอ้ แปลงแรงดนั 220 โวลต์ ให้เป็ นแรงดนั 110 โวลต์ จงึ จะใชเ้ ครืองซักผา้ ได้ นอกจากนีเรายงั นิยม ใชห้ มอ้ แปลงกบั เครืองติดตอ่ ภายใน และระบบเสียงกริงเรียก เป็นตน้ เฟส (phase) : หมายถงึ ชนิดของระบบไฟฟ้ าทีใชม้ ีทงั ระบบ 1 เฟส 2 สาย และ 3 เฟส 4 สาย อปุ กรณ์ไฟฟ้ า 1 เฟส 2 สาย จะใชต้ ามบา้ นทีอย่อู าศยั ส่วนระบบไฟฟ้ า 3 เฟส 4 สาย นิยมใชก้ บั ธุรกิจใหญ่ กบั โรงงานอตุ สาหกรรม
309 ภาคผนวก 1. แนวทางการพัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์เพอื การประกอบอาชีพ การประกอบอาชพี มีความสาํ คญั ตอ่ การดาํ รงชีวติ ของมนุษยเ์ ป็นอนั มาก ทงั นี เพราะอาชีพไม่ใช่จะ สนองตอบความตอ้ งการของมนุษยเ์ พียงด้านเศรษฐกิจเท่านนั แต่ยงั สนองความตอ้ งการด้านอืน เช่น ดา้ น สังคม และจิตใจ เป็นตน้ การเลือกอาชีพจึงมคี วามสาํ คญั ตอ่ ชีวิตของบุคคล ถา้ เราเลอื กอาชีพไดเ้ หมาะสมก็มี แนวโนม้ ทีจะประสบความสาํ เร็จในการประกอบอาชพี มคี วามเจริญกา้ วหนา้ เป็นอนั มาก ในทางตรงกนั ขา้ ม ถา้ เลอื กอาชีพไดไ้ มเ่ หมาะสมโอกาสทีจะประสบความลม้ เหลวในการประกอบอาชีพก็มีมาก ซึงไดก้ าํ หนด แนวทางแท่งหลกั สูตรของ 5 กลุ่มอาชีพ ดงั นี ตาราง วเิ คราะห์การพฒั นาศกั ยภาพทางวิทยาศาสตร์เพอื การประกอบอาชีพ ด้านกล่มุ อาชพี ลักษณะอาชพี เนอื หาตามสาระ อาชีพทีเกยี วข้อง 1. เกษตรกรรม . กสิกรรม หมายถงึ การ 1. กระบวนการทาง .ปศสุ ตั ว์ เพาะปลกู พชื เช่น การทาํ นา วทิ ยาศาสตร์ ในการนาํ ตวั อยา่ ง อาชพี ทางดา้ นการปศสุ ัตว์ การทาํ สวน การทาํ ไร่ ความรู้เกียวกบั กระบวนการ ฟาร์มขนาดใหญ่ ไดแ้ ก่ เลยี งไก่ เป็ นตน้ ทางวิทยาศาสตร์และ พนั ธุพ์ ืนเมอื ง . ปศสุ ัตว์ หมายถงึ โครงงานไปใช้ เทคโนโลยี เลียงหมู เลียงโคเนือ โคนม การประกอบอาชีพเลียง กบั ชีวติ เลียงผงึ เลียงแพะ เลียงกบ สัตวบ์ นบก เช่น เลยี งววั 2. สิงมีชีวติ และสิงแวดลอ้ ม เลียงหอยแมลงภแู่ บบแขวนเชอื ก เลียงหมู หรือเลียงสัตว์ ในการจดั กลุม่ ของสิงมีชีวติ หอยนางรม เลยี งไหมเกษตร จาํ พวกสัตวป์ ี ก เป็นตน้ ระบบนิเวศ เลยี งปลาเก๋าในกระชงั ปลาดุก . การประมง หมายถึง ทรัพยากรธรรมชาติ ปลาตะเพยี น เลียงเป็ดเทศ เป็ นตน้ การประกอบอาชีพ สิงแวดลอ้ ม การอนุรกั ษ์ .ทาํ ไร่ ทาํ สวน การเกษตรทางนาํ เชน่ ภูมิปัญาทอ้ งถนิ และ .ทาํ นา การเลยี งสัตวน์ าํ การจบั เทคโนโลยีชวี ภาพ ตวั อยา่ ง อาชีพการทาํ ไร่ทาํ สวน สตั วน์ าํ เป็ นตน้ 3. พลงั งานในชีวติ ประจาํ วนั เช่น การทาํ ไร่ออ้ ย . ดา้ นป่ าไม้ หมายถงึ และการอนุรักษพ์ ลงั งาน ไร่กระชาย สวนส้มโอ สวน การประกอบอาชีพเกียวกบั 4. ดาราศาสตร์เพอื ชวี ิต มะม่วง สวนมงั คุด สวนทุเรียน ป่ า เชน่ การปลูกป่ าไม้ ความสัมพนั ธ์ระหว่างดวง สวนมะลิ สวนไมด้ อกไมป้ ระดบั เศรษฐกิจ การนาํ ผลผลิต อาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์ ปลูกพชื สวนครัว เป็ นตน้ จากป่ ามาแปรรูปใหเ้ กิด และปรากฎการณ์ ประโยชน์ เป็ นตน้
310 ด้านกล่มุ อาชีพ ลักษณะอาชพี เนือหาตามสาระ อาชีพทเี กียวข้อง 2. อตุ สาหกรรม . อาชีพช่างอุตสาหกรรม 1. กระบวนการทาง 1. การผลติ สินคา้ แปรรูป เกษตร เช่นฟาร์มโคนม วิทยาศาสตร์ ในการนาํ ผลติ ภณั ฑ์ อุตสาหกรรมหรือ การปลูกพืชไรด้ ิน ความรู้เกยี วกบั กระบวนการ หตั ถกรรมในครัวเรือน โรงงานผลติ ลาํ ไยกระป๋ อง ทางวิทยาศาสตร์และ และอตุ สาหกรรมแปรรูป โครงงานไปใช้ เทคโนโลยี ผลิตผลทางเกษตรฯลฯ กบั ชีวิต . อาชีพช่างอตุ สาหกรรม 2. สิงมชี ีวิตและสิงแวดลอ้ ม 2. การผลติ สินคา้ จาํ พวกอะไหล่ ผลติ สินคา้ สาํ เร็จรูป เช่น ในการจดั กลุ่มของสิงมีชีวติ อุปกรณ์ไฟฟ้ า และซ่อมบาํ รุง โรงงานผลิตเครืองใชไ้ ฟฟ้ า ระบบนิเวศ ทรัพยากร - โรงงานผลติ เฟอร์นิเจอร์ ธรรมชาติ และสิงแวดลอ้ ม โรงงานผลิตรถจกั รยาน และการอนุรักษ์ ภมู ปิ ัญา ฯลฯ ทอ้ งถิน และ 3. การผลติ สินคา้ ในครวั เรือน เช่น . อาชีพช่างอตุ สาหกรรม เทคโนโลยชี ีวภาพ นาํ มนั พชื ปาลม์ ฯลฯ ผลิตวตั ถดุ ิบ เช่น 3. สารเพือชีวติ ธาตุ โรงงานผลติ ยางดบิ สารประกอบ สารละลาย สาร โรงงานผลิตนาํ มนั ปาลม์ และผลติ ภณั ฑใ์ นชีวติ . อาชีพช่างอตุ สาหกรรม สารสังเคราะห์ ผลกระทบ 4. การผลติ เครืองนอน การผลิต ผลติ สินคา้ อุตสาหกรรม ทีเกิดจากสาร และผลติ ภณั ฑ์ ตุ๊กตาผา้ เช่นโรงงานผลติ เส้นใย ทีมตี ่อสิงแวดลอ้ ม สังเคราะห์ โรงงานผลติ 4. แรงและพลงั งานเพือชีวิต 5. การผลิตสินคา้ พลาสติก เหล็กรีดร้อนและเหล็ก การอนุรกั ษ์พลงั งาน และ ผงซกั ฟอก ขวดนาํ ฯลฯ รีดเยน็ พลงั งานทดแทน 6. การรับชว่ งงานบางขนั ตอนของ . อาชีพช่างอตุ สาหกรรม การผลิตมาดาํ เนินการ นาํ มนั เช่น การสาํ รวจ ตวั อย่าง การผลิตสินคา้ ดา้ น แหลง่ นาํ มนั และการขุดเจาะ อุตสาหกรรมในครวั เรือน เช่น ทอ นาํ มนั โรงกลนั นาํ มนั เพือ ผา้ ตีนจก,ผา้ มดั หมี,ผา้ ไหม จกั ร ผลติ นาํ มนั ชนิดตา่ ง ๆ ฯลฯ สาน ,ทอเสือ เยบ็ ผา้ ใบ ทาํ ยางแผน่ ทาํ เสือยืดผา้ ปาติก ประดิษฐท์ ีติด . อาชีพช่างอุตสาหกรรม ผม ประดษิ ฐส์ ิงของจากกระดาษ- เครืองจกั รกล เช่น สา ประดิษฐ์ของทรี ะลกึ และของ โรงงานผลติ คอมเพลส ชาํ ร่วย ร้อยพวงมาลยั ดอกพดุ ส่ง เซอร์ เครืองปรับอากาศ
311 ด้านกล่มุ อาชีพ ลกั ษณะอาชพี เนอื หาตามสาระ อาชีพทเี กยี วข้อง ร้านขายพวงมาลยั เยบ็ เสือ โรงงานผลติ ปัมนาํ สาํ เร็จรูป เผาถา่ น ทาํ ไส้กรอก โรงงานผลิตเครืองยนตเ์ ล็ก อีสาน ทาํ ขนมจนี โรงงานประกอบ เป็ นตน้ รถจกั รยานยนต์ เป็นตน้ . อาชีพช่างอุตสาหกรรม 1.คา้ ขายสินคา้ รับทาํ จา้ งบญั ชี รถยนต์ เช่น โรงงาน 2.บริ การ ประกอบรถยนต์ โรงงาน ผลิตอาหารสาํ เร็จรูป เชน่ - คา้ ขาย ประกอบตวั ถงั รถยนต์ ฯลฯ ของทีระลกึ ขายสินคา้ พืนเมอื ง ขายก๋วยเตียว ขายอาหาร 3. พาณิชยกรรม การคา้ และบริหารทีเกยี วกบั 1. กระบวนการทาง ขายสินคา้ เบด็ เตล็ด การคา้ ทุกชนิดไมว่ ่าจะเป็น วิทยาศาสตร์ ในการนาํ ขายของชาํ ขายสินคา้ สาํ เร็จรูป การคา้ ปลกี คา้ ส่ง ความรู้เกยี วกบั กระบวนการ ขายขนม ขายผลไม้ การส่งออก การธนาคาร ทางวทิ ยาศาสตร์และ ขายอาหารและเครืองดืม การประกนั ภยั และ โครงงานไปใช้ ขายลอตเตอรี ขายตุ๊กตา ปัญญาประดิษฐใ์ นวงการ 2. สิงมีชีวิตและสิงแวดลอ้ ม ขายปาท่องโก๋ ขายอาหารทะเลสด คอมพิวเตอร์เพอื พาณิชย ในการจดั กลุ่มของสิงมชี วี ติ 3.เป็นคนกลางรับซือ - ขาย กรรม ระบบนิเวศ ทรัพยากร- ตวั อย่าง อาชพี คา้ ขาย เชน่ อาชีพ ธรรมชาติ และสิงแวดลอ้ ม พอ่ คา้ แมค่ า้ คนกลาง การบริการ และการอนุรักษ์ ลกู คา้ ขายสัตวเ์ ลยี ง ขายตวั 3. พลงั งานในชวี ติ ประจาํ วนั เครืองบิน ขายเฟอร์นิเจอร์ และการอนุรักษพ์ ลงั งาน 4. เวชภณั ฑ์ เช่น ขายยา 4. เทคโนโลยี ขายเครืองสาํ อาง ขาย เครืองประดบั ทาํ ดว้ ยเงนิ ขายทองรูปพรรณ ขายดอกไมส้ ด ขายแก็สหุงตม้ ขายตรงเครืองสาํ อาง ขายผลผลิตทางการเกษตร
312 ด้านกล่มุ อาชีพ ลักษณะอาชีพ เนือหาตามสาระ อาชีพทเี กยี วข้อง สินคา้ อตุ สาหกรรมทีตนเองเป็ น ผผู้ ลิต เป็นตน้ 4. ความคิด กลมุ่ อาชีพทีส่งเสริม 1. กระบวนการทาง แบ่งออกเป็น 9 กลมุ่ ไดแ้ ก่ สร้างสรรค์ ความคดิ สร้างสรรค”์ วทิ ยาศาสตร์ ในการนาํ 1) งานฝีมอื และหตั ถกรรม (Creative Profession) ความรู้เกยี วกบั กระบวนการ (Crafts) 1) ประเภทมรดกทาง ทางวทิ ยาศาสตร์และ 2) งานออกแบบ (Design) วฒั นธรรม (Heritage or โครงงานไปใช้ เทคโนโลยี 3) แฟชนั (Fashion) Cultural Heritage) เป็นกลุ่ม กบั ชีวติ 4) ภาพยนตร์และวิดีโอ (Film & อุตสาหกรรมทีเกยี วเนือง 2. สิงมชี วี ติ และสิงแวดลอ้ ม Video) กบั ประวตั ศิ าสตร์ ในการจดั กลมุ่ ของสิงมชี ีวิต 5) การกระจายเสียง โบราณคดี วฒั นธรรม ระบบนิเวศ (Broadcasting) ประเพณี ความเชือ และ ทรัพยากรธรรมชาติ และ 6) ศิลปะการแสดง (Performing สภาพสังคม เป็นตน้ แบ่ง สิงแวดลอ้ มและการอนุรักษ์ Arts) ออกเป็น 2 กลมุ่ คอื กล่มุ 3. สารเพือชีวิต ธาตุ 7) ธุรกิจโฆษณา (Advertising) การแสดงออกทาง สารประกอบ สารละลาย สาร และ วฒั นธรรมแบบดงั เดมิ และผลิตภณั ฑใ์ นชวี ิต ธุรกิจการพมิ พ์ (Publishing) (Traditional Cultural สารสงั เคราะห์ ผลกระทบที 9) สถาปัตยกรรม (Architecture) Expression) เช่น ศลิ ปะและ เกิดจากสาร และผลติ ภณั ฑ์ งานฝี มือ เทศกาลงานและ ทีมตี อ่ สิงแวดลอ้ ม งานฉลอง เป็นตน้ และกลมุ่ 4. แรงและพลงั งานเพือชีวิต ทีตงั ทางวฒั นธรรม การอนุรกั ษ์พลงั งาน และ (Cultural Sites) เช่น พลงั งานทดแทน โบราณสถาน พิพิธภณั ฑ์ 5. พลงั งานในชวี ิตประจาํ วนั ห้องสมดุ และการแสดง และการอนุรักษ์พลงั งาน นิทรรศการ เป็นตน้ 2) ประเภทศิลปะ (Arts) เป็ นกลมุ่ อตุ สาหกรรม สร้างสรรคบ์ นพนื ฐานของ ศิลปะ และวฒั นธรรม แบ่ง ออกเป็น 2 กลุ ่ม คือ งานศลิ ปะ (Visual Arts)
ด้านกล่มุ อาชพี ลกั ษณะอาชีพ เนอื หาตามสาระ 313 อาชพี ทเี กยี วข้อง เช่น ภาพวาด รูปปัน ภาพถา่ ย และวตั ถโุ บราณ เป็ นตน้ รวมทงั ศิลปะการแสดง (Performing Arts) เช่น การแสดงดนตรี การแสดง ละคร การเตน้ ราํ โอเปร่า ละครสตั ว์ และการเชิดหุ่น กระบอก เป็นตน้ 3) ประเภทสือ (Media) เป็ น กลุ่มสือผลิตงาน สร้างสรรคท์ ีสือสารกบั คน กลุ่มใหญ่ แบ่งออกเป็น 2 กลมุ่ คอื งานสือสิงพมิ พ์ (Publishing and Printed Media) เช่น หนงั สือ หนงั สือพิมพ์ และสิงตีพิมพ์ อนื ๆเป็นตน้ และงานโสต ทศั น์ (Audiovisual) เช่น ภาพยนตร์โทรทศั น์ วทิ ยุ และการออกอากาศอืน ๆ เป็ นตน้ 4) ประเภทสร้างสรรค์ งาน (Functional Creation) เป็ นกลมุ่ ของสินคา้ และ บริการทีตอบสนองความ ตอ้ งการของลูกคา้ ที แตกตา่ งกนั แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คอื กลมุ่ การออกแบบ (Design) เช่น การออกแบบภายใน
314 ด้านกล่มุ อาชพี ลกั ษณะอาชพี เนือหาตามสาระ อาชีพทีเกยี วข้อง กราฟิ ค แฟชนั อญั มณี และ ของเดก็ เล่น เป็ นตน้ ส่วนกลุ่ม New Media ไดแ้ ก่ ซอฟตแ์ วร์ วดิ ีโอเกม และเนือหาดิจิตอล เป็นตน้ และกลุ่มบริการทาง ความคิดสร้างสรรค์ (Creative Services) ไดแ้ ก่ บริการทางสถาปัตยกรรม โฆษณา วฒั นธรรมและ นันทนาการ งานวจิ ยั และ พฒั นา และบริการอืนที เกียวขอ้ งกบั ดิจติ อล และ ความคดิ สร้างสรรค์ เป็นตน้ 5. บริหาร อาชพี การให้บริการ 1. กระบวนการทาง ตวั อย่าง อาชพี บริการ จดั การและ (Service Sector) เป็นอาชีพ วทิ ยาศาสตร์ ในการนาํ ช่างซอ่ ม เชน่ ชา่ งซ่อมมอเตอร์ บริการ ทีผปู้ ระกอบการมสี ินคา้ ความรู้เกยี วกบั กระบวนการ ไซด์ ชา่ งซ่อมรถยนต์ ช่างเคาะปะ เป็ นการบริการ เพอื อาํ นวย ทางวทิ ยาศาสตร์และ ผแุ ละพ่นสีรถยนต์ ช่างซ่อมเบาะ ความสะดวกใหแ้ กผ่ ซู้ ือ โครงงานไปใช้ เทคโนโลยี รถยนต์ ชา่ งซอ่ มโทรทศั น์ วิทยุ บริการหรือลกู คา้ คณุ ภาพ กบั ชีวิต ช่างซ่อมเครืองใชไ้ ฟฟ้ า ของสินคา้ บริการ คือความ 2. สิงมชี วี ิตและสิงแวดลอ้ ม ช่างเชือมโลหะ ช่างทาํ หลงั คา พึงพอใจจากการใชบ้ ริการ ในการจดั กลุ่มของสิงมีชวี ิต อะลมู ิเนียม นนั ๆ รายได้ คือ ระบบนิเวศ ค่าตอบแทนทีไดจ้ ากการ ทรัพยากรธรรมชาติ และ เสริมสวยความงาม เช่น ชา่ งตดั บริการ การประกอบอาชีพ สิงแวดลอ้ มและการอนุรักษ์ เยบ็ เสือผา้ ช่างเสริมสวย - ประเภทนีตอ้ งการเงิน ช่างแต่งหน้า นวดหนา้ ช่างทาํ ผม ลงทุนไมม่ ากนกั เมอื เทียบ 3. สารเพือชวี ิต ธาตุ กบั การลงทุนดา้ นการผลติ สารประกอบ สารละลาย สาร ช่างตดั ผมบุรุษ ช่างศลิ ป์ ช่างเขียน สินคา้ กระบวนการไม่ และผลิตภณั ฑ์ในชวี ติ สาร ภาพเหมอื น ช่างศลิ ป์ ทาํ โปสเตอร์ ซบั ซอ้ น เพยี งแต่ผู้ สงั เคราะห์ ผลกระทบทีเกดิ โฆษณา ช่างก่อสร้าง ชา่ งจดั จากสาร และผลิตภณั ฑ์ทมี ีตอ่ ดอกไมส้ ด,ดอกไมแ้ หง้ ให้บริการตอ้ งเป็นผทู้ ีมี สิงแวดลอ้ ม
315 ด้านกล่มุ อาชีพ ลักษณะอาชพี เนือหาตามสาระ อาชพี ทีเกยี วข้อง 4. แรงและพลงั งานเพอื ชีวิต ความรู้ความสามารถและมี การอนุรกั ษ์พลงั งาน และ รับจา้ งทวั ไป เช่น รับเลยี งเดก็ ออ่ น ประสบการณ์ หรือ พลงั งานทดแทน พลงั งาน บริการซกั อบรีด บริการให้เชา่ เชียวชาญในอาชีพ ไฟฟ้ า พลงั งานแสง วดี ีโอ,หนังสืออ่านเลน่ บา้ นพกั พลงั งานเสียง พลงั งานใน ตากอากาศ,หอพกั สกูตเตอร์ชาย ชีวิตประจาํ วนั และการ หาด,รถเช่า ขบั รถแทก็ ซ,ี มอเตอร์ อนุรกั ษพ์ ลงั งาน ไซด์รับจา้ ง,รถรับจา้ งระหวา่ ง หมู่บา้ น,สามลอ้ บริการถ่าย เอกสาร,รบั พิมพร์ ายงาน เลน่ ดนตรีในรา้ นอาหาร รับเหมาแกะ หอยนางรม รับเหมาสบั ตระไคร้ ส่งโรงงาน รับเหมาก่อสรา้ ง เป็น ตน้
316 เฉลยแบบทดสอบ เฉลยแบบทดสอบบทที เรือง ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ .ค .ข .ข .ง .ค .ง .ก .ข .ค .ก .ง .ก .ก .ก .ค .ค .ง .ง .ค .ข .ง .ก .ข .ข .ค .ข .ง .ง .ง .ง เฉลยแบบทดสอบเรือง ทกั ษะวิทยาศาสตร์ .จ .ข .ค .ข .ง . ข,ก .ง .ง .ก .จ เฉลยแบบทดสอบบทที เรืองการทาํ โครงงานวิทยาศาสตร์ .ค .ก .ข .ก .ค .ค .ค .ข .ข .ก เฉลยแบบทดสอบบทที เรือง กมั มนั ตภาพรังสี .ค .ค .ข .ก .ค .ง .ก .ง .ค .ง เฉลยแบบฝึ กหดั เรือง กมั มนั ตภาพรังสี 1. กมั มนั ตภาพรังสี (Radioactivity) หมายถึง รังสีทีแผอ่ อกมาไดเ้ องจากธาตุบางชนิด ธาตกุ มั มนั ตภาพรังสี หมายถงึ ธาตุทีมีในธรรมชาติทีแผร่ ังสีออกมาไดเ้ อง 2. มี ชนิด คอื . รงั สีแอลฟา (alpha, a) . รงั สีเบตา้ (Beta, b) . รังสีแกมมา (gamma, g) 3. ประโยชนข์ องธาตุกมั มนั ตภาพรังสี 1. ดา้ นธรณีวทิ ยา มีการใช้ C-14 คาํ นวณหาอายขุ องวตั ถโุ บราณ ถา้ ทราบอตั ราการสลายตวั ของ C-14 ในขณะทียงั มชี วี ิตอยู่และทราบอตั ราการสลายตวั ในขณะทีตอ้ งการคาํ นวณอายวุ ตั ถนุ นั กส็ ามารถ ทาํ นายอายุได้ เช่น ซากสตั วโ์ บราณชนิดหนึงมีอตั ราการสลายตวั ของ C-14 ลดลงไปครึงหนึงจากของเดมิ ขณะทียงั มชี ีวิตอยู่ เนืองจาก C-14 มคี รึงชีวติ 5730 ปี จึงอาจสรุปไดว้ ่าซากสตั วโ์ บราณชนิดนันมอี ายุ ประมาณ 5730 ปี
317 2. ดา้ นการแพทย์ ใชร้ ักษาโรคมะเร็ง ในการรักษาโรคมะเร็งบางชนิด กระทาํ ไดโ้ ดยการฉายรังสี แกมมาทีไดจ้ าก โคบอลต์-60 เขา้ ไปทาํ ลายเซลลม์ ะเร็ง 3. ดา้ นเกษตรกรรม มีการใชธ้ าตุกมั มนั ตภาพรังสีติดตามระยะเวลาการหมุนเวียนแร่ธาตุในพชื โดยเริมตน้ จากการดดู ซึมทีรากจนกระทงั ถึงการคายออกทใี บ หรือใชศ้ กึ ษาความตอ้ งการแร่ธาตุของพืช 4. ดา้ นอุตสาหกรรม ในอตุ สาหกรรมการผลิตแผ่นโลหะ จะใชป้ ระโยชน์จากกมั มนั ตภาพรังสีในการ ควบคุมการรีดแผน่ โลหะ เพือใหไ้ ดค้ วามหนาสมาํ เสมอตลอดแผ่น เฉลยแบบฝึ กหดั บทที เรือง สมการเคมแี ละปฏิกริ ยิ าเคมี .ง .ค .ค .ค .ก เฉลยแบบฝึ กหัดบทที เรอื ง ปิ โตรเลยี มและพอลิเมอร์ .ค .ก เฉลย ตอนที .ง .ค .ค .ง .ข .ก .ข .ข เฉลย ตอนที 1. ปิ โตรเลียมเกิดจากการทับถมและสลายตัวของอินทรียสารจากพชื และสตั วท์ ีคลุกเคลา้ อย่กู บั ตะกอนในชนั กรวดทรายและโคลนตมใตพ้ นื ดิน เมอื เวลาผ่านไปนบั ลา้ นปี ตะกอนเหลา่ นีจะจมตัวลงเรือย ๆ เนืองจากการเปลยี นแปลงของผวิ โลก ถกู อดั แน่นด้วยความดนั และความร้อนสูง และมีปริมาณออกซิเจน จาํ กดั จึงสลายตวั เปลยี นสภาพเป็นแกส๊ ธรรมชาติและนาํ มนั ดิบแทรกอยรู่ ะหวา่ งชนั หินทีมีรูพรุน . ช่วยใหค้ าดคะคะเนไดว้ า่ มโี อกาสพบโครงสรา้ งและชนดิ ของหินทีเออื อาํ นวยตอ่ การกกั เก็บ ปิ โตรเลียมในบริเวณนันมากหรือนอ้ ยเพียงใด . การวดั ความเขม้ สนามแมเ่ หลก็ โลก จะบอกให้ทราบถึงขอบเขต ความหนา ความกวา้ งใหญข่ อง แอ่ง และความลกึ ของชนั หิน การวดั ค่าความโนม้ ถว่ งของโลก ทาํ ให้ทราบถงึ ชนิดของชนั หินใตผ้ ิวโลกใน ระดบั ต่าง ๆ ซึงจะช่วยในการกาํ หนดขอบเขตและรูปร่างของแอ่งใตผ้ วิ ดินการวดั คา่ ความไหวสะเทือน (Seismic wave) จะชว่ ยบอกใหท้ ราบตาํ แหน่ง รูปร่างลกั ษณะ และโครงสร้างของหินใตด้ นิ . ผลติ ภณั ฑ์ทีไดจ้ ากปิ โตรเลยี ม ก๊าซปิ โตรเลยี ม กา๊ ซธรรมชาติ ถา่ นหิน แร่ธาตุต่าง ๆ เป็นส่วน ใหญ่ นอกจากนีอาจผลติ จากนาํ มนั พืชและส่วนต่างๆ ของพชื . พอลเิ มอร์แบบเส้น (Chain length polymer) มคี วามหนาแน่น และจดุ หลอมเหลวสูง มีลกั ษณะ แข็ง ขุน่ เหนียวกวา่ โครงสร้างอืนๆ ตวั อยา่ ง PVC พอลสิ ไตรีน พอลเิ อทลิ นี พอลิเมอร์แบบกิง (Branched polymer) มีความหนาแน่นและจุดหลอมเหลวตาํ ยดื หยนุ่ ได้ ความเหนียวตาํ โครงสร้างเปลียนรูปไดง้ ่ายเมอื อุณหภูมเิ พิมขึน พอลิเมอร์แบบร่างแห (Cross -linking polymer) มคี วามแข็งแกร่ง และเปราะหักง่าย ตวั อย่าง เบกาไลต์ เมลามีนใชท้ าํ ถว้ ยชาม
318 เฉลยแบบฝึ กหัดท้ายบทที เรือง สารเคมีกบั ชีวติ และสิงแวดล้อม .ข 1. ง .ข . ค . ง 6. ค. . ข . ง เฉลยแบบฝึ กหัดท้ายบทที เรือง เทคโนโลยีอวกาศ เฉลยแบบทดสอบที 1 ชือ-สกุล...........................................................................เลขที................ระดบั ชนั ...........ปี........... 1. ปัจจบุ นั นีประเทศไทยมดี าวเทยี มสือสารแห่งชาติเป็นของตนเอง นนั คือ ดาวเทียมไทยคม ซึงดาํ เนินงานโดย บริษทั ชนิ เซทเทลไลท์ จาํ กดั (มหาชน) และขณะนีมจี าํ นวนทงั สิน ดวงไดแ้ ก่ ดาวเทยี มดวงใดบา้ ง และแต่ละดวงถกู ส่งขึนในปี ใด ( 3 คะแนน) ตอบ 1. ดาวเทียมไทยคม 1A ถกู ส่งขนึ สู่วงโคจรเมอื วนั ที 17 ธนั วาคม 2536 ( 1 คะแนน) 2. ดาวเทยี มไทยคม 2 ถูกส่งขนึ สู่วงโคจรเมือวนั ที 7 ตุลาคม 2537 ( 1 คะแนน) 3. ดาวเทียมไทยคม 3 ถูกส่งขึนสู่วงโคจรเมอื วนั ที 16 เมษายน 2540 ( 1 คะแนน) 2. ตาํ แหน่งของดาวเทยี มอตุ ุนิยมวทิ ยาชนิดใดทีสมั พนั ธก์ บั ตาํ แหน่งบนพนื โลกในบริเวณเดมิ เสมอ ( 4 คะแนน) ตอบ ดาวเทียมอตุ นุ ิยมวทิ ยาชนิดโคจรค้างฟ้ า ( 1 คะแนน) ดาวเทียมชนิดนีจะโคจรรอบโลกใช้ เวลา 24 ชวั โมง ซงึ เท่ากบั เวลาทีโลกหมุนรอบตัวเอง ( 1คะแนน) โดยวงโคจรจะอยู่ในตาํ แหน่งเสน้ ศูนย์ สูตรของโลก และจะโคจรไปในทางเดียวกับการโคจรรอบตวั เองของโลกดว้ ยความเร็วทีเท่ากนั ดังนัน ตาํ แหน่งของดาวเทียม จะสัมพนั ธ์กบั ตาํ แหน่งบนพืนโลกในบริเวณเดิมเสมอ ครอบคลุมพืนทีจากขวั โลก เหนือจรดขวั โลกใต้ และวงโคจรมีความสงู จากพนื โลก ประมาณ , กโิ ลเมตร ( 2 คะแนน) ท ขอ้ มูลภาพถ่ายชนั บรรยากาศของโลก และถา่ ยทอดขอ้ มลู จากสถานีภาคพืนดิน ทาํ การตรวจอากาศ ของโลกประจาํ วนั ขอ้ มูลเหลา่ นี ไดจ้ ากดาวเทียมประเภทใด ตอบ ดาวเทียมอุตุนิยมวทิ ยา ท ดาวเทียม Spot เป็นของสถาบนั พฒั นาอวกาศแห่งชาติฝรังเศสร่วมกบั ประเทศในกลุ่มยุโรป เป็ นดาวเทียมทีใชป้ ระโยชนท์ างดา้ นใด ตอบ ดาวเทียมสาํ รวจทรัพยากรธรรมชาติ ท ข้อมลู ดา้ นการใชท้ ีดิน ด้านอุทกศาสตร์ ด้านป่ าไม้ ด้านการประมง ด้านการเกษตร ไดจ้ าก ดาวเทียมประเภทใด ตอบ ดาวเทยี มสาํ รวจทรัพยากรธรรมชาติ ท ยานอวกาศ หมายถึง ยานทีออกไปนอกโลกโดยมีมนุษยข์ ึนไปดว้ ยพร้อมเครืองมอื และอุปกรณ์ สาํ หรับสาํ รวจ หรืออาจจะไมม่ ีมนุษยข์ นึ ไป แตม่ ีอุปกรณ์และเครืองมือวิทยาศาสตร์เทา่ นนั ท อวกาศ หมายถึง ทวี ่างนอกโลก นอกดวงดาว ดงั นันจึงมีอวกาศระหว่างโลกกบั ดวงจนั ทร์ ท ยานอวกาศ มี 2 ประเภทคือ ยานอวกาศทีมีมนุษยค์ วบคมุ และไม่มีมนุษยค์ วบคุม
319 ท ระบบการขนส่งอวกาศเป็ นโครงการทีถกู ออกแบบให้สามารถนาํ ชินส่วนบางส่วนทีใช้ไปแลว้ กลบั มาใชใ้ หมอ่ กี เพอื เป็นการประหยดั และมีประสิทธิภาพมากทีสุด ประกอบดว้ ย 3 ส่วนหลกั คือ จรวดเชือเพลิงแข็ง ถงั เชือเพลิงภายนอก (สาํ รองไฮโดรเจนเหลวและออกซิเจนเหลว) และยาน อวกาศ ท เป้ าหมายหลกั ของโครงการขนส่งอวกาศในอนาคตคือการสร้างสถานีอวกาศถาวรและการทดลอง ทางวทิ ยาศาสตร์อนื ๆ เฉลย แบบทดสอบที 2 1. ปรากฏการบนโลก เกียวขอ้ งกบั เทคโนโลยเี กียวขอ้ งกบั เทคโนโลยีประเภทบา้ ง ยกตวั อย่าง ตอบ ดาวเทียมอุตุนิยมวทิ ยา ดาวเทียมสือสาร ดาวเทียมสาํ รวจทรัพยากร 2. ปรากฏการในอวกาศเกียวขอ้ งกบั เทคโนโลยีประเภทใดบา้ งจงยกตวั อย่าง ตอบ โครงการสาํ รวจอวกาศทสี าํ คญั ในปัจจุบนั เช่น 1. โครงการเรนเจอร์ ออกแบบใหย้ านพุง่ ชนดวงจนั ทร์ 2. โครงการลูน่าออบิเตอร์ กาํ หนดใหย้ านไปวนถา่ ยภาพรอบดวงจนั ทร์ 3. โครงการเซอเวเยอร์ ออกแบบใหย้ านจอดลงบนพนื อย่างนุ่มนวล 4. ยานอวกาศมีมนุษยค์ วบคุม เป็นของสหรฐั อเมริกา มโี ครงการต่างๆ ดงั นี 5. โครงการเมอคิวรี มจี ดุ ประสงค์ทีจะส่งมนุษยข์ นึ ไปโคจรในอวกาศ สาํ หรบั ใหม้ นุษย์ ใชง้ าน เป็ นตน้ 3. โครงการแชลแลนเจอร์และโครงการโคลมั เบยี ประสบความสูญเสียครังร้ายแรง เมือยานทงั สองเกิดระเบดิ ขึนขณะอยู่บนทอ้ งฟ้ า โดยระบบขนส่งอวกาศแชลแลนเจอร์ระเบิดเมอื วนั ที 28 มกราคม 2529 ระหว่างเดินทางขึนสู่อวกาศไม่เพียงกีนาทีด้วยสาเหตุจากการรัวไหลของ ก๊าซเชือเพลงิ 4. โครงการยานขนส่งอวกาศ คือ เพือใชเ้ ป็นพาหนะสาํ หรบั บรรทกุ สิงของและมนุษยท์ ไี ปบน อวกาศ และเพอื ลดค่าใชจ้ า่ ย ในการใชป้ ระโยชนจ์ ากอวกาศ 5. ยานสาํ รวจอวกาศหมายถึง เป็ นยานอวกาศพาหนะทีใชส้ าํ หรับออกไปสาํ รวจดวงจนั ทร์ และดาวเคราะห์ต่าง ๆ โครงการสร้างยานอวกาศทงั ประเทศสหรัฐอเมริกาและรัสเซียได้ สรา้ งยานอวกาศเพอื สาํ รวจดวงจนั ทร์และดาวเคราะหใ์ นระบบสุริยะ ของเรา เฉลย แบบทดสอบ ที 3 ใหน้ ักศึกษาดรู ูปภาพแลว้ นาํ ตวั อกั ษร (A – H) เติมลงในหนา้ ขอ้ ความขา้ งล่าง (8 คะแนน) DF
6. A 320 7. 8. E 9. H 10. G C 11. 12. 13. B 14. 15. 16. 17. 1.…D….. ถงั เชอื เพลงิ แขง็ แยกตวั ออกมา 2.…H..…ยานขนส่งอวกาศเขา้ สู่วงโคจร 3…F….. ลดระดบั วงโคจรเพือเขา้ สู่ชนั บรรยากาศ 4…C….. ถงั เชือเพลิงภายนอกแยกตวั ออกมา 5…E….. ยานขนส่งอวกาศปฏบิ ตั ิภารกจิ 6…G…... ยานขนส่งอวกาศกลบั สู่พนื โลก 7…A..…. นาํ จรวจเชอื เพลงิ แขง็ กลบั มาใชใ้ หม่ 8…B.…. ยานอวกาศถกู ปล่อยออกจากฐาน เฉลย แบบทดสอบที 4 ชือ-สกลุ ...........................................................................เลขที................ระดบั ชนั ...........ปี........... 1. โครงการอะพอลโล มจี ุดประสงค์เพือ ตอบ สาํ รวจดาวเคราะห์ดวงใด สาํ รวจดวงจนั ทร์ 2. โครงการสกายแล็บ เพือจุดประสงคใ์ ด ตอบ เพือค้นควา้ ทดลองการอยูใ่ นอวกาศให้ดา้ น นานทีสุดศึกษาเกียวกบั เช่นทรัพยากรธรรมชาติ การแพทย์ ฟิสิกส์ 3. โครงการอะพอลโล-โซยูส มีจุดประสงคเ์ พอื ตอบ ทดสอบระบบนัดพบ และเชือมยาน อวกาศ 4. โครงการขนส่งอวกาศเพอื ตอบ ใชบ้ รรทุกสิงของและมนุษยท์ ีไปอวกาศ และเพือลดการ ใชจ้ ่ายในการใชย้ านอวกาศ
321 5. ดาวเทยี มไทยคม ถูกยงิ ขึนจากฐานยงิ จรวดแอเรียนสเปซ เมืองคูรู ทีประเทศใด ตอบ ประเทศเฟรนช์กอิ านา เมือวนั ที ธนั วาคม 6. ดาวเทียมไทยคมทงั ดวง เป็นดาวเทียมประเภทใด ตอบ ดาวเทียมสือสาร 7. การก่อตัวและเคลือนตัวของพายุ เราสามารถทราบไดจ้ ากดาวเทียมประเภทใด ตอบ ดาวเทียมอตุ ุนิยมวทิ ยา 8. ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา ได้ถูกส่งขึนไปโคจรในอวกาศเป็นครังแรก เมือวนั ที เมษายน พ.ศ. 2503 มีชือว่า TIROS 01 (Television and Infrared Observational Satel ite) เป็นของ ประเทศใด ตอบ ของประเทศสหรฐั อเมริกา 9. ดาวเทยี มอุตุนิยมวิทยาชนิดทโี คจรรอบโลกโดยจะโคจรรอบโลก จากทิศใดไปทิศใด ตอบ จะโคจรผ่านใกลข้ วั โลกเหนือและขวั โลกใต้ และมีความสูงจากพืนโลกประมาณกี กิโลเมตร ตอบ กโิ ลเมตร 10.ดาวเทียม Spot เป็นของสถาบนั พฒั นาอวกาศแห่งชาตฝิ รังเศสร่วมกบั ประเทศในกล่มุ ยุโรป ใชป้ ระโยชน์ทางดา้ นใด ตอบ สาํ รวจทรัพยากรธรรมชาติ เฉลยแบบฝึกหดั ที 5 1. ประเทศใดไดส้ ร้างยานอวกาศเพือสาํ รวจดวงจนั ทร์และดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ เป็นชาตแิ รก ตอบ สหรัฐอเมริกาและรัสเซีย 2. โครงการใดที ออกแบบให้ยานพงุ่ ชนดวงจนั ทร์ ตอบ โครงการเรนเจอร์ 3. โครงการใด กาํ หนดใหย้ านไปวนถ่ายภาพรอบดวงจนั ทร์ ตอบ โครงการลูน่าออบิเตอร์ 4. โครงการใด ออกแบบให้ยานจอดลงบนพืนอยา่ งนุ่มนวล ตอบ โครงการเซอเวเยอร์ 5. โครงการอะพอลโล มีจุดประสงคค์ อื นาํ มนุษยไ์ ปสาํ รวจดวงจนั ทร์ ใชม้ นุษยอ์ วกาศ ครังละ 3 คน เป็นโครงการต่อจากเมอควิ รีและเจมินี มนุษยอ์ วกาศชดุ แรกทีหยุดบนพืนดวงจนั ทร์ เป็ นชุดอวกาศทีเดินทางไปกบั ยานอะพอลโล 11 โครงการอะพอลโลเรียกวา่ ประสบความสาํ เร็จ ตามเป้ าหมายมาตลอด มเี พียงลาํ เดียวทีเกิดอุบตั ิเหตุขณะมงุ่ หน้าสู่ดวงจนั ทร์ ยานทีวา่ คอื ยานอะไร ตอบ อะพอลโล 13 6. โครงการยานขนส่งของสหรัฐอเมริกา จนถึงปัจจุบนั มีดว้ ยกนั 6 ลาํ คือ 1. เอนเตอร์ไพรส์ (Enterprise) เป็นยานทดสอบเบอื งตน้ , 2. โคลมั เบีย (Columbia) 3. ดิสคพั เวอรี (Discovery) 4. แอตแลนติส (Atlantis) 5. แชลเลนเจอร์ (Challenger) ระเบิดขณะขึนสู่อวกาศวนั ที 28 มกราคม 2529, 6. เอนดฟี เวอร์ (Endeavour)
322 บรรณานุกรม การใช้สารเคมอี ย่างปลอดภัย. [On-line]. Available form สืบคน้ วนั ที 28 สิงหาคม จาก http://natres.psu.ac.th/.../510.../12.chemical%20safty%20uses.htm การถ่ายทอดยีนและโครโมโซม.[On-line]. Available from URL http://www.sahavicha.com/?name=knowledge&file= readknowledge&id=537เขา้ ถงึ เมือ 17 มถิ นุ ายน 2552 การแบ่งเซลล์. [On-line]. Available from URL(online) Available URL http://student.nu.ac.th/phitsanu_edu/lesson/lesson_3.htm เขา้ ถึงเมอื 17 มิถนุ ายน 2552 การไฟฟ้ าแห่งประเทศไทย. (2551). ระบบไฟฟ้ า การเดินสายไฟฟ้ าภายในบ้านแบบติดผนังลอยตัว. กรุงเทพฯ. ------------. (2551). ระบบไฟฟ้ า การเดินสายไฟฟ้ าภายในอาคารแบบติดผนังลอดท่อ. กรุงเทพฯ. การศึกษาทางไกล,สถาบนั . สาํ นักบริหารงานการศกึ ษานอกโรงเรียน, กระทรวงศึกษาธิการ. ชุดการเรียนทางไกล หมวดวชิ าวิทยาศาสตร์ รหัส วท. (SC 30) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย. กรุงเทพมหานคร : องค์การรับส่งสินคา้ และพสั ดุภณั ฑ์ (ร.ส.พ.), . การศึกษานอกโรงเรียน,กรม. ชุดวชิ าการศกึ ษานอกโรงเรยี น หมวดวชิ าวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มัธยมศึกษา ตอนปลาย. กรุงเทพฯ : เทมการพิมพ,์ 2546. ของเสียทเี ป็ นอนั ตรายต่อสิงแวดล้อม. [On-line]. Available form สืบคน้ วนั ที 28 สิงหาคม จินดา ภัทรพงษ์ และอัจฉริยา ทองป้ อง. (2551). สือและสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น การศึกษานอกโรงเรียน. พมิ พท์ ี 3 กรุงเทพฯ. หน้า 221-223. โครงสร้างของกรดอะมิโน. [On-line]. Available form http://www.geocities.com/cartoon 532000/amino.html/. (วนั ทีคน้ ขอ้ มลู : 13 สิงหาคม 2552). โครงสร้างนําตาลโมเลกุลเดียว. [On-line]. Available form http://www.chemicalfromula.org/images/glucose.jpg. (วนั ทคี น้ ขอ้ มูล : 15 สิงหาคม 2552). โครงสร้างพืนฐานของเซลล์. [On-line]. Available from URL http://www.geocities.com/p_ook_kung/cellstructure.htm โครงสร้างโมเลกุลของแป้ ง. [On-line]. Available form http://chemistry .csudh.edu/rpendarvis/ feb .gif. (วนั ทีคน้ ขอ้ มลู : 15 สิงหาคม 2552). โครงสร้างโมเลกุลของอินซูลนิ . [On-line]. Available form http://th.wikipedia.org/wiki/ (วนั ทีคน้ ขอ้ มูล : 15 สิงหาคม 2552). โครงสร้างโมเลกุลของฮีโมโกลบิน. [On-line]. Available form http://images.google.co.th/imag. (วนั ทคี น้ ขอ้ มูล : 13 สิงหาคม 2552).
323 โครงสร้างโมเลกุลซูโครส. [On-line]. Available form http://www.unisanet.unisa.edu.au/08365/timages/sucrose.jpg. (วนั ทีคน้ ขอ้ มลู : 15 สิงหาคม 2552). โครงสร้างโมเลกุลเซลโลไบโอส. [On-line]. Available form http://www.thuisexperimenteren.nl/science/ reageerbuisproeven/fehling/lactose_2.gif. (วนั ทีคน้ ขอ้ มลู : 15 สิงหาคม 2552). โครงสร้างโมเลกุลแลกโทส. [On-line]. Available form http://www. 7Lactose_Haworth.svg.png.(วนั ทีคน้ ขอ้ มลู : 15 สิงหาคม 2552). เซลล์ โครงสร้าง และหน้าทีของเซลล์ [On-line]. Available from URL / - /l .html http://edtech.kku.ac.th/~s เซลล์และการแบ่งเซลล์. [On-line]. Available from URL http://www.muic hatyai.ac.th/redesign/download/cell_grade .ppt# , ,ภาพนิง ธาลสั ซีเมยี . [On-line]. Available from URL: http://healtnet.md.chula.ac.th. (วนั ทคี น้ ขอ้ มลู : 5 มกราคม 2551). บงกช อนนั ตโชติชยั . วิทยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย. กรุงเทพ ฯ : ลอง ไลฟ์ เอ็ด จาํ กดั , . บญั ชา แสนทวแี ละคณะ. หนังสือเรยี นสาระการเรียนรู้พนื ฐาน เล่ม 1 สิงมชี ีวติ กบั กระบวนการดํารงชีวติ . กรุงเทพฯ : วฒั นาพานิช, 2549. บญั ชา แสนทวี และคณะ. ( 50). สือการเรียนรู้การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) หมวดวชิ าวิทยาศาสตร์ SC ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น. บริษทั วฒั นาพานิช จาํ กดั , กรุงเทพฯ. หน้า . บญั ญตั ิ ลายพยคั ฆ์ และคณะ . หมวดวิชาวทิ ยาศาสตร์ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย. กรุงเทพฯ : บริษทั สาํ นักพมิ พบ์ รรณกิจ จาํ กดั , . แบบสบื เสาะหาความรู้ เล่ม . กรุงเทพฯ : บริษทั เจเนอรลั บุ๊ค เซนเตอร์ จาํ กดั , . ประทุม โพธิงาม. ค่มู ือจดั กิจกรรมการเรียนรู้ฐานความหลากหลายทางชวี ภาพ. ลาํ ปาง : ศูนยว์ ิทยาศาสตร์เพอื การศกึ ษาลาํ ปาง, 2551. ประวติ ร ชูศลิ ป์ , รศ. และ สุวฒั ก์ นิยมคา้ , รศ. ทฤษฎแี ละทางปฏบิ ตั ใิ นการสอนวิทยาศาสตร์ ผลกระทบของสารเคมีทมี ตี ่อสุขภาพ. [On-line]. Available form สืบคน้ วนั ที 28 สิงหาคม จาก http://www.doae.go.th/report/sukda/pol/page01.html ผลไม้. [On-line]. Available from URL http://www.moac.infa.net/module/new. (วนั ทคี น้ ขอ้ มลู :5 มกราคม 2551). พรพรรณ เลศิ ทวสี ินธุ.์ การใช้ประโยชน์จากจุลนิ ทรยี ์ในอตุ สาหกรรม. กรุงเทพฯ : องค์การคา้ ของ คุรุสภา , . พะเยาว์ ยนิ ดีและคณะ. หนงั สือเรยี นสาระการเรยี นรู้พนื ฐาน ชีววทิ ยา. กรุงเทพฯ : พฒั นาคุณภาพวิชาการ, 2546. พชั รี พิพฒั วรรณกลุ . สือเสริมสาระการเรียนรู้พนื ฐานและเพมิ เตมิ ชวี วิทยา. กรุงเทพฯ. : ฟิสิกส์เซน็ เตอร์, .
324 พชั รี พิพฒั วรรณกลุ . หนังสือเสริมประสบการณ์ ชีววิทยา 2. กรุงเทพฯ : ฟิ สิกส์เซ็นเตอร์, 2542. วนิ ยั วิทยาลยั . เคมี ม. เล่ม . กรุงเทพ ฯ : หจก.สาํ นกั พิมพฟ์ ิ สิกสเ์ ซน็ เตอร์ , . ศกึ ษาธิการ, กระทรวง. โครงงานวิทยาศาสตร์ . กรุงเทพฯ :โรงพมิ พค์ ุรุสภา ลาดพร้าว, . ศึกษาธิการ ,กระทรวง. หนังสือเรียนวชิ าเคมี 1 (ว 432). กรุงเทพ ฯ : โรงพมิ พค์ รุ ุสภาลาดพร้าว, 2541. ศกึ ษาธกิ าร ,กระทรวง. หนงั สือเรียนวิชาเคมี 2 (ว 036). กรุงเทพ ฯ : โรงพมิ พค์ ุรุสภาลาดพรา้ ว, 2542. สมบัตขิ องโปรตีน. [On-line]. Available form: http://thapring.com/Pingpong-web/Biomolecules-web/Protein-04.html. (วนั ทีคน้ ขอ้ มูล : 13 สิงหาคม 2552). สราวุธ ญาณยทุ ธ. (2547). หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้พืนบาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ช่วงชันที 3 ระดับ มัธยมศึกษาตอนต้น การงานอาชีพและเทคโนโลยี งานช่าง. สาํ นักพมิ พแ์ มค๊ จาํ กดั . หน้า 59-62. ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลย,ี สถาบนั . ค่มู อื การทําและการจดั แสดงโครงงานวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี, กรุงเทพฯ : สถาบนั การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, . สารในชีวิตประจําวัน. [On-line]. Available form สืบคน้ วนั ที สิงหาคม จาก http:// ednet.kku.ac.th/sumcha/chem/pages/links.htm สารปรุงแต่งอาหาร. [On-line]. Available form สืบคน้ วนั ที สิงหาคม จาก http://ednet.kku.ac.th/sumcha/chem/pages/content-pb1_6 สาํ นักงาน กศน. ( ). ชุดการเรียนทางไกล หมวดวชิ าพัฒนาอาชีพ รหัส พอ ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น. โรงพิมพอ์ งค์กรการรบั ส่งสินคา้ และพสั ดุภณั ฑ,์ กรุงเทพฯ. หน้า , 79 – . ------------. ( 53). หนังสือเรี ยนสาระทักษะความรู้พืนฐาน รายวิชาวิทยาศาสตร์ พว. หลักสูตร การศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขันพืนฐาน พุทธศักราช . พิมพค์ รังที / . บริษัท เอกพมิ พไ์ ท จาํ กดั กรุงเทพฯ. หนา้ – . สุชาติ วงศส์ ุวรรณ.( ). การเรียนรู้สาํ หรับศตวรรษที การเรียนรู้ทีผ้เู รียนเป็นผ้สู ร้ างความรู้ด้วยตนเอง โครงงานเอกสารประกอบการอบรมเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ บูรณาการ. โรงเรียนหาดใหญ่วทิ ยาลยั สมบูรณ์กุลกนั ยา จงั หวดั สงขลา. สุนทร . เคมี เล่ม ว . กรุงเทพฯ : สาํ นักพิมพพ์ ฒั นศกึ ษา, . สุรศกั ดิ อมรรตั นศกั ด.ิ คณติ ศาสตร์ . กรุงเทพฯ : ศูนยส์ ่งเสริมวชิ าการ, ม.ป.ป. สุวฒั น์ คล่องดี. เทคนคิ การสอนโครงงานวทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ประสบการณ์). , เอกสารเผยแพร่. ไสว ฟักขาว. โครงงานวทิ ยาศาสตร์. กรุงเทพฯ : เอมพนั ธุ์, . หลกั ฐานการเจริญเตบิ โตของเอม็ บริโอ. [ออน-ไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://Sema.go.th. (วนั ทคี น้ ขอ้ มูล : 15 ธนั วาคม 2550). หลักฐานความคล้ายคลงึ ของโครงสร้าง. [On-line]. Available from URL http://ebook.nfe.go.th/ ebook/html. (วนั ทีคน้ ขอ้ มลู : 15 ธนั วาคม 2550).
325 หน่วยศกึ ษานิเทศ, กรมอาชีวศกึ ษา. โครงงานวิทยาศาสตร์. , เอกสารเผยแพร่. อร่าม คุม้ ทรัพย.์ วิทยาศาสตร์ ม.ปลาย . นนทบรุ ี : บริษทั ปิ ยมิตร มลั ติมิเดีย จาํ กดั , 2546.สาํ ราญ พฤกษ์ อาณาจักรพชื . [On-line]. Available from URL http://images.goegle.co.th. (วนั ทคี น้ ขอ้ มลู : 17 มกราคม 2550). อาณาจกั รสัตว์. [On-line]. Available from URL http://images.goegle.co.th. (วนั ทคี น้ ขอ้ มลู : 17 มกราคม 550). Archaeopteryx. [On-line]. Available from : http://www. clamisela.com/200/photo/cg4/ archaeopteryx.jpg. (cited 2008 Dec 15). DNA. [On-line]. Available from : http://www.allposters.com. (cited 2009 Jan 10). Fungi. [On-line]. Available from : http://www.willams class.com/sixth science work. (cited 2009 Jan 17). Homologous structure. [On-line]. Available from : http://taggart.glg.edu/isb 200/HoMol.GIF. (cited 2008 Dec 15). Monera. [On-line]. Available from : http://web.kku.ac.th/tunproject/jan46/new/spirah.jpg. (cited 2009 Jan 17). phospholipid. [On-line]. Available from : http:// www.indiana.edu/~oso/Fat/FatImg/lecithin.jpg (cited 2009 Aug 17). Protista. [On-line]. Available from : http://www.vcharkarn.com./upbads/21/21202.jpg. (cited 2009 Jan 17). Pteranodon. [On-line]. Available from : http://www.upload.wikimedia.org/wiki/image. Pteranodon. (cited 2008 Dec 15). saturated fatty acid. [On-line]. Available from : http:// bioweb.wku.edu/courses /bioweb.wku.edu/courses/biol115/Wyatt/Biochem/Lipid/saturated_FA.gif.. (cited 2009 Aug 17). Sex chromosome. [On-line]. Available from : http://www.geocities.com. (cited 2009 Jan 11). Trisomy 21. [On-line]. Available from : http://www.csulb.edu/kmacd/361 (cited 2009 Jan 11).
326 คณะผู้จัดทาํ ทปี รกึ ษา เลขาธิการ กศน. . นายประเสริฐ บุญเรือง รองเลขาธิการ กศน. 2. นายชยั ยศ อมิ สุวรรณ์ รองเลขาธกิ าร กศน. 3. นายวชั รินทร์ จาํ ปี ผเู้ ชยี วชาญเฉพาะดา้ นพฒั นาสือการเรียนการสอน 4. นางวทั นี จนั ทร์โอกลุ ผเู้ ชียวชาญเฉพาะดา้ นเผยแพร่ทางการศึกษา 5. นางชุลีพร ผาตินินนาท หวั หนา้ หน่วยศึกษานิเทศก์ 5. นางอญั ชลี ธรรมวธิ ีกลุ ผอู้ าํ นวยการกลุ่มพฒั นาการศกึ ษานอกโรงเรียน 6. นางศทุ ธินี งามเขตต์ ผ้เู ขยี นและเรยี บเรียง ผอู้ าํ นวยการอทุ ยานวิทยาศาสตร์ พระจอมเกลา้ . นายสงดั ประดิษฐสุวรรณ์ ณ หวา้ กอ จ.ประจวบคีรีขนั ธุ์ . นายประกิต จนั ทร์ศรี ผอู้ าํ นวยการศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพอื การศึกษา . นายชยั กจิ อนนั ตนิรตั ิศยั สมุทรสาคร . นายสุชาติ มาลากรรณ์ ผอู้ าํ นวยการศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพอื การศกึ ษาตรัง ผ้บู รรณาธิการ และพัฒนาปรับปรุง ผอู้ าํ นวยการศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพือการศึกษา . นายสงดั ประดิษฐสุวรรณ์ พระนครศรีอยุธยา . นายประกติ จนั ทร์ศรี . นายชยั กจิ อนันตนิรัติศยั ผอู้ าํ นวยการอทุ ยานวทิ ยาศาสตร์ พระจอมเกลา้ . นายสุชาติ มาลากรรณ์ ณ หวา้ กอ จ.ประจวบคีรีขนั ธุ์ . นางสาวสุรีพร เจริญนิช ผอู้ าํ นวยการศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพอื การศึกษา . นางธญั ญวดี เหลา่ พาณิชย์ สมทุ รสาคร . นางเออื จติ ร สมจิตตช์ อบ ผอู้ าํ นวยการศนู ยว์ ิทยาศาสตร์เพือการศึกษาตรัง . นางสาวชนิตาจิตตธ์ รรม ผอู้ าํ นวยการศนู ยว์ ิทยาศาสตร์เพอื การศกึ ษา . นางสาวอนงค์ เชือนนท์ พระนครศรีอยุธยา ขา้ ราชการบาํ นาญ .นางดุษฎี ศรีวฒั นาโรทยั ขา้ ราชการบาํ นาญ ขา้ ราชการบาํ นาญ ขา้ ราชการบาํ นาญ สาํ นักงาน กศน เขตบางเชน กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน
327 .นางพรทิพย์ เขม็ ทอง กลมุ่ พฒั นาการศกึ ษานอกโรงเรียน .นางสาวเยาวรัตน์ คาํ ตรง กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน คณะทํางาน มนั มะโน กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน . นายสุรพงษ์ ศรีรัตนศลิ ป์ กลมุ่ พฒั นาการศกึ ษานอกโรงเรียน . นายศุภโชค ปัทมานนท์ กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน . นางสาววรรณพร กุลประดิษฐ์ กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน 4. นางสาวศริญญา กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน . นางสาวเพชรินทร์ เหลอื งจิตวฒั นา คณะบรรณาธิการปรบั สาระความรู้พนื ฐาน รายวิชาวิทยาศาสตร์ เพอื การประกอบอาชีพ 1. นายสงดั ประดิษฐสุวรรณ ผอู้ าํ นวยการศูนยว์ ิทยาศาสตร์เพือการศึกษาพระจอมเกลา้ ณ หวา้ กอ ประจวบครี ีขนั ธ์ 2. นายมาโนชฐ์ ลาภจติ ร รองผอู้ าํ นวยการศูนยว์ ิทยาศาสตร์เพอื การศึกษา นครราชสีมา 3. นางจนั ทร์ศรี อาจสุโพธิ รองผอู้ าํ นวยการศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพือการศึกษา อุบลราชธานี 4. นางณัฐพร มนูประเสริฐ ครูชาํ นาญการพเิ ศษ ศูนยว์ ิทยาศาสตร์เพือการศกึ ษา ขอนแก่น 5. นางอญั อฑิกา คชเสนีย์ ครูชาํ นาญการพเิ ศษ ศนู ยว์ ิทยาศาสตร์เพอื การศึกษา สมทุ รสาคร 6. นายชยั พฒั น์ พนั ธุ์วฒั นสกุล นักวชิ าการศกึ ษาชาํ นาญการพิเศษ กลุ่มพฒั นาการศกึ ษานอกโรงเรียน ผ้พู มิ พ์ต้นฉบบั นางสาวเพชรินทร์ เหลอื งจติ วฒั นา กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน คณะบรรณาธิการและพฒั นาปรับปรุง ครังที 2 1. นายสงดั ประดิษฐสุวรรณ ผอู้ าํ นวยการอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกลา้ ณ หวา้ กอ จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ 2. นายมาโนชฐ์ ลาภจติ ร รองผอู้ าํ นวยการศูนยว์ ิทยาศาสตร์เพือการศึกษา นครราชสีมา 3. นางจนั ทร์ศรี อาจสุโพธิ รองผอู้ าํ นวยการศนู ยว์ ิทยาศาสตร์เพือการศกึ ษา อุบลราชธานี 4. นางณฐั พร มนูประเสริฐ ครูชาํ นาญการพเิ ศษ ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพือการศึกษา ขอนแก่น 5. นางอญั อฑิกา คชเสนีย์ ครูชาํ นาญการพิเศษ ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์เพือการศกึ ษา สมุทรสาคร 6. นายชยั พฒั น์ พนั ธุ์วฒั นสกลุ นกั วชิ าการศกึ ษาชาํ นาญการพเิ ศษ กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกโรงเรียน
328 คณะผู้ปรับปรุงข้อมูลเกียวกบั สถาบันพระมหากษตั ริย์ ปี พ.ศ. ทปี รึกษา จาํ จด เลขาธิการ กศน. หอมดี ผตู้ รวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ปฏิบตั หิ นา้ ที . นายสุรพงษ์ รองเลขาธิการ กศน. 2. นายประเสริฐ ผอู้ าํ นวยการกลุ่มพฒั นาการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 3. นางตรีนุช สุขสุเดช ผ้ปู รับปรุงข้อมูล เชือนนท์ กศน.เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ศรี นวล กศน.เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร นางสาวอนงค์ นางทิพวลั ย์ คณะทํางาน มนั มะโน กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั . นายสุรพงษ์ กลุม่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศยั . นายศภุ โชค ศรีรัตนศลิ ป์ กลุ่มพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั . นางสาวเบญ็ จวรรณ อาํ ไพศรี กลุ่มพฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั . นางเยาวรัตน์ ปินมณีวงศ์ กลุม่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศึกษา . นางสาวสุลาง เพ็ชรสว่าง ตามอธั ยาศยั กลมุ่ พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา . นางสาวทิพวรรณ วงค์เรือน ตามอธั ยาศยั กลุ่มพฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา . นางสาวนภาพร อมรเดชาวฒั น์ ตามอธั ยาศยั กลมุ่ พฒั นาการศึกษานอกระบบและการศกึ ษา . นางสาวชมพูนท สงั ขพ์ ชิ ยั ตามอธั ยาศยั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337