นักเรียนมีพฤติกรรมทพ่ี งึ ประสงค์ตามคาดหวงั ตง้ั แต 3 รายการขนึ้ ไป ถอื วา ผา นเกณฑ์การประเมนิ แบบฝกึ หดั เร่อื ง การผลิตเกลือโซเดียมคลอไรด์ จงตอบคาถามการการผลิตเกลอื โซเดียมคลอไรดต์ ํอไปนี้ 1. พิจารณาแผนภาพแสดงขัน้ ตอนการผลิตเกลือสมทุ รท่ีกาํ หนดให แลวตอบคาํ ถาม น้าทะเล นา้ ทะเล นา้ ทะเล น้าทะเล น้าทะเล 1) ในนาใดทนี่ ้าํ จะระเหยออกไปจนมีความถว งจําเพาะ 1.08 นา A 2) CaSO4 จะตกผลึกออกมาในนาใด นา B 3) NaCl จะตกผลึกออกมาในนาใด นา C 4) สารแขวนลอยจะตกผลึกออกมาในนาใด นา A 2. พจิ ารณาสารตาง ๆ นา้ํ ทะเลท่กี ําหนดให ดังน้ี MgCl2 NaCl CaCl2 CaSO4 และ MgSO4 ความสามารถใน การตกผลึกของสารตาง ๆสามารถเรยี งลาํ ดับจากมากไปนอยไดอ ยา งไร CaSO4 >NaCl >MgSO4> MgCl2> CaCl2 (ตกผลึกกอ น) (ไมต กผลึกกอ น) 3) ปัญหาท่เี กดิ ขน้ึ ในการผลิตเกลือสมทุ รคืออะไร และมสี าเหตุมาจากอะไร ปัญหาทเี่ กิดข้ึนในการผลิตเกลือสมุทร คอื เกลอื จะช้นื งา ย เพราะ MaSO4 และ MgCl2 ตกผลึกปนอยู ซ่ึงสารท้ัง 2 ชนดิ ซง่ึ มีสารทงั้ 2 ชนดิ เป็นสารดูดความชืน้ จึงทําใหเกลือเกิดความช้นื ไดง าย 4) การปูองกันไมใ ห MgSO4 และ MgCl2 ตกผลึกปนมากบั NaCl สามารถทําไดกีว่ ธิ ี อะไรบา ง การปอู งกันไมให MgSO4 และ MgCl2 ตกผลกึ ปนกับ NaCl สามารถทําได 2 วธิ ี 1. ทางกายภาพ โดยการระบายนํ้าจากนาเพ่ือมาสูนาปลงตลอดเวลา เพ่ือลดความเขมขนของ MgSO4 และ 2M.gทCาl2งเใคนมนี โาดปยลกงาไมรเใ ตหิมถ ปงึ จูนดุขอาม่ิวตลวั งใจนะนไดาเไพม่อืเกกิดาํ กจาดั รตMกgผ2+ลึกของ MgSO4 และ MgCl2 5. นํ้าขมเกดิ ขนึ้ ในการผลติ เกลอื สินเธาว์คอื อะไร
น้าํ ขม คือ น้าํ เกลือเขม ขน ทไ่ี มสามารถตกตะกอนได โดยประกอบดวย MgCl2 เปน็ สวนใหญท ําใหม รี สขม 6. การผลิตเกลือสินเธาว์แบบเหมืองละลายแรสงผลกระทบตอส่ิงแวดลอมอยางไร และมีวิธีการปูองกันได อยางไร การตกผลึกเกลอื สนิ เธาว์แบบเหมืองละลายแรจะสง ผลกระทบใหเกิดปัญหาแผนดินทรุด ซ่ึงสามารถปูองกันได โดยการอัดนาํ้ ขมกลับลงไปในช้ันนาํ้ เกลือใตด ิน 7. จงเปรียบเทียบลกั ษณะหรอื สมบัติของเกลอื สมทุ รและเกลือสินเธาวท์ ี่กาหนดใหใ๎ นตาราง ลกั ษณะหรอื สมบตั ิ เกลอื สมทุ ร เกลอื สินเธาว์ ปรมิ าณ NaCl ตํ่ากวา สูงกวา ปรมิ าน MgCl2 MgSO4 และ CaCl2 สูงกวา ตาํ่ กวา ความชน้ื สงู กวา ต่ํากวา ความเหมาะสมในการบริโภค เหมาะสม ไมเหมาะสม การนาํ ไปใชประโยชน์ ใชบริโภค ใชในอุตสาหกรรม 8. การผลิตเกลอื อนามัยสามารถทาํ ไดอยา งไร นาํ เกลือสนิ เธาว์มาเติมไอโอดีนในรูปของไอโอไดดห์ รอื ไอโอเดตลงไป 9. เกลือสมทุ รและเกลอื สินเธาวใ์ นประเทศไทย ไดผลติ ในบรเิ วณใด เกลอื สมทุ รผลติ ไดบ รเิ วณพืน้ ทต่ี ิดทะเล ไดแก จังหวดั สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ชลบุรี สมุทรปราการ ระยอง และตราด เกลือสินเธาว์จะผลิตไดในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ไดแก จังหวัดนครราชศรีมา อบุ ลราชธานี มหาสารคาม และอดุ รธานี 10. เตมิ คาํ ตอบกบั สารท่ีเตมิ ในการผลติ เกลอื สินเธาวแ์ บบทําเหมอื งใตด ิน เพ่อื ทาํ ใหไดเ กลือบริสุทธ์ิลงในตาราง ใหถ กู ตอ ง สารท่ีเตมิ กาจัด Mg2+(aq)+ 2OH-(aq) ปฏกิ ริ ิยาทเ่ี กิดขน้ึ Mg2+ Ca2+(aq)+ CO32-(aq) NaOH Ca2+ Ca2+(aq)+ CO32-(aq) Mg(OH)2 (g) CO32-และ SO42- Ca2+(aq)+ SO42-(aq) CaCO3(s) Na2CO3 CaCO3(s) CaCl2 CaSO4(s)
แบบฝึกหัดเรือ่ ง การผลติ เกลือโซเดียมคลอไรด์ จงตอบคาถามการการผลติ เกลือโซเดียมคลอไรด์ตํอไปนี้ 1. พจิ ารณาแผนภาพแสดงข้นั ตอนการผลิตเกลอื สมุทรทกี่ าํ หนดให แลว ตอบคาํ ถาม นา้ ทะเล นา้ ทะเล น้าทะเล นา้ ทะเล นา้ ทะเล 1) ในนาใดทน่ี ํ้าจะระเหยออกไปจนมีความถว งจาํ เพาะ 1.08 ………………………………………………. 2) CaSO4 จะตกผลกึ ออกมาในนาใด ………………………………………………. 3) NaCl จะตกผลึกออกมาในนาใด ………………………………………………. 4) สารแขวนลอยจะตกผลกึ ออกมาในนาใด ………………………………………………. 2. พิจารณาสารตาง ๆ นาํ้ ทะเลที่กาํ หนดให ดังนี้ MgCl2 NaCl CaCl2 CaSO4 และ MgSO4 ความสามารถใน การตกผลกึ ของสารตาง ๆสามารถเรียงลาํ ดับจากมากไปนอยไดอยางไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3) ปญั หาท่ีเกดิ ขน้ึ ในการผลติ เกลือสมุทรคืออะไร และมีสาเหตมุ าจากอะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4) การปอู งกนั ไมใ ห MgSO4 และ MgCl2 ตกผลึกปนมากบั NaCl สามารถทาํ ไดก วี่ ิธี อะไรบาง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. นา้ํ ขมเกิดข้ึนในการผลิตเกลือสินเธาว์คอื อะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 6. การผลิตเกลือสินเธาว์แบบเหมืองละลายแรสงผลกระทบตอส่ิงแวดลอมอยางไร และมีวิธีการปูองกันได อยา งไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 7. จงเปรยี บเทยี บลักษณะหรอื สมบตั ิของเกลือสมุทรและเกลอื สนิ เธาวท์ ี่กาหนดใหใ๎ นตาราง ลกั ษณะหรือสมบตั ิ เกลือสมทุ ร เกลอื สินเธาว์ ปริมาณ NaCl ปริมาน MgCl2 MgSO4 และ CaCl2 ความชื้น ความเหมาะสมในการบรโิ ภค การนําไปใชป ระโยชน์ 8. การผลิตเกลอื อนามัยสามารถทําไดอ ยา งไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 9. เกลอื สมทุ รและเกลือสินเธาว์ในประเทศไทย ไดผ ลติ ในบริเวณใด ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 10. เติมคําตอบกบั สารทเี่ ติมในการผลิตเกลือสินเธาว์แบบทาํ เหมอื งใตดนิ เพ่ือทาํ ใหไดเกลือบริสุทธ์ิลงในตาราง ใหถ ูกตอง สารท่เี ติม กาจัด ปฏิกิรยิ าท่ีเกิดข้นึ NaOH Na2CO3 CaCl2
แบบทดสอบเรือ่ ง การผลติ เกลือโซเดยี มคลอไรด์ 1. ในการผลิตเกลือสมุทรทาไมเกลือ CaSO4 , MgSO4 และ MgCl2ไมตํ กผลึกลงมาพรอ๎ มกบั NaCl 1. การละลายตา งกนั 2. NaCl ละลายไดนอยกวา เกลอื อืน่ จงึ ตกผลกึ กอน เกลืออืน่ ๆตกผลึกไปกอ นทจี่ ะไขนาํ้ ทะเลเขา นาตาก 4. ไมมีไออน Ca2+ , Mg2+และ SO42-อยูใ นนา้ํ ทะเล 2.เกลอื สมุทรและเกลือสนิ เธาว์แตกตาํ งกันตามข๎อใด 1.ท่ีมาของเกลือ 2.สวนประกอบทางเคมี 3.เกลือสมทุ รคือNaCl สวนเกลอื สนิ เธาว์คือเกลอื อนื่ ๆ ของโซเดียม 4.ถูกทง้ั ขอ ก และ ข 3. การผลติ เกลอื สินเธาวด์ ว ยเทคโนโลยีแบบชาวบาน ขอใดกลา วถึงขอเสียไดถ กู ตอ ง 1. เกดิ การยบุ ตัวของดิน 2. เกิดการปนเป้ือนของเกลอื บนพื้นดนิ และแหลงนํา้ 3. ขอ 1 ถกู ตอง 4. ขอ 1 และ 2 ถกู ตอง 4. ขอ๎ ใดไมใํ ชผํ ลิตภณั ฑจ์ ากเกลอื แกง 1. โซดาไฟ 2. สารฟอกขาว 3. โซดาแอช 4. ปูนขาว 5.นา้ ขมเกิดข้ึนในการผลิตเกลอื สนิ เธาว์ ข๎อถูกต๎อง 1. นํา้ เกลือทีมีความเขม ขนนอยท่ไี มสามารถตกตะกอนได โดยประกอบดว ย MgI2 เปน็ สว นใหญทาํ ใหม ีรสขม 2. น้าํ เกลือเขมขน ที่ไมสามารถตกตะกอนได โดยประกอบดว ย MgI2 เป็นสวนใหญท ําใหมีรสขม 3. น้าํ เกลือเขมขน ทีไ่ มสามารถตกตะกอนได โดยประกอบดว ย MgCl2 เปน็ สว นใหญทาํ ใหม ีรสขม 4. น้ําเกลอื ไมมีความเขม ขนทไ่ี มสามารถตกตะกอนได โดยประกอบดวย MgCl2 เปน็ สว นใหญทาํ ใหมรี สขม 6. เกลือสมุทรทากนั มากในบริเวณใกล๎ทะเล พบไดใ๎ นจงั หวดั ใด 1. นครราชศรีมา 2. สมุทรปราการ 3. อดุ รธานี 4. อบุ ลราชธานี 7. ขอ๎ ใดกลาํ วไมํถกู ต๎อง 1. เกลือทีเ่ หมาะสําหรับใชบริโภคคือเกลือสินเธาว์ 2. เกลอื อนามัยคอื เกลือสมุทรท่เี ตมิ ธาตุไอโอดีนผสมอยูดว ย 3. การกําจัด ในสารละลาย กอ นอเิ ล็กโทรลิซิส ทําไดโดยการเตมิ 4. ผลพลอยไดจ ากการผลติ โซดาแอชคอื แอมโมเนยี มคลอไรด์
8. การผลิตเกลือสินเธาว์แบบทาเหมอื งใตด๎ ิน เพอื่ ทาใหไ๎ ดเ๎ กลอื บรสิ ทุ ธ์ิ ข๎อใดถกู ต๎อง 1. เตมิ สาร Na2CO3 เพอ่ื กาํ จดั Mg2+ 2. เตมิ สาร CaCl2 เพ่อื กาํ จดั Mg2+ 3. เติมสาร Na2CO3 เพื่อกําจัด CO32- 4. เติมสาร NaOH เพื่อกําจัด Mg2+ 9. การผลิตเกลอื กับปญั หาสงิ่ แวดล๎อม ข๎อใดกลําวผดิ 1. ปัญหาการกระจายของดนิ เคม็ ทําใหพ ้นื ดินไมเ หมาะกับการเพาะปลกู 2. ปญั หาการกระจายของเกลอื ลงสแู หลง น้ํา มีผลตอ การเจรญิ เติบโตของสัตว์นํ้า 3. ปญั หาการยุบของพ้นื ดนิ บรเิ วณท่ผี ลติ เกลือบาดาล 4. ปญั หาโลกรอ น เนือ่ งจากเปน็ การระเหยแก฿สคาร์บอนไดออกไซด์สูชน้ั บรรยากาศ 10. ถา๎ เกลือโซเดียมคลอไรดม์ ีเกลือแมกนีเซยี มปนอยํูมาก เกลือจะชน้ื งาํ ย ราคาตก ควรแกไ๎ ขอยาํ งไร 1. เติมปนู ขาว 2. เติม Mg 3. เตมิ กาํ มะถนั 4. เติมคลอรีน
แบบทดสอบเรอ่ื ง การผลติ เกลือโซเดยี มคลอไรด์ 1. ในการผลิตเกลอื สมุทรทาไมเกลอื CaSO4 , MgSO4 และ MgCl2ไมตํ กผลึกลงมาพรอ๎ มกบั NaCl 1. การละลายตางกนั 2. NaCl ละลายไดน อยกวา เกลืออน่ื จงึ ตกผลึกกอน เกลอื อน่ื ๆตกผลึกไปกอนที่จะไขนา้ํ ทะเลเขานาตาก 4. ไมม ีไออน Ca2+ , Mg2+และ SO42-อยูใ นนาํ้ ทะเล 2.เกลอื สมทุ รและเกลอื สนิ เธาว์แตกตาํ งกันตามขอ๎ ใด 1.ที่มาของเกลอื 2.สวนประกอบทางเคมี 3.เกลอื สมุทรคอื NaCl สวนเกลือสินเธาวค์ อื เกลอื อ่นื ๆ ของโซเดียม 4.ถูกทัง้ ขอ ก และ ข 3. การผลติ เกลือสินเธาว์ดวยเทคโนโลยแี บบชาวบา น ขอใดกลา วถึงขอเสียไดถ กู ตอ ง 1. เกดิ การยบุ ตวั ของดนิ 2. เกดิ การปนเป้อื นของเกลอื บนพื้นดนิ และแหลง นํา้ 3. ขอ 1 ถกู ตอง 4. ขอ 1 และ 2 ถกู ตอ ง 4. ข๎อใดไมใํ ชํผลิตภัณฑจ์ ากเกลือแกง 1. โซดาไฟ 2. สารฟอกขาว 3. โซดาแอช 4. ปนู ขาว 5.น้าขมเกิดขึ้นในการผลติ เกลอื สินเธาว์ ข๎อถูกต๎อง 1. นํ้าเกลอื ทีมีความเขม ขนนอยทไี่ มส ามารถตกตะกอนได โดยประกอบดว ย MgI2 เปน็ สวนใหญทาํ ใหม ีรสขม 2. น้ําเกลือเขม ขน ที่ไมสามารถตกตะกอนได โดยประกอบดว ย MgI2 เป็นสวนใหญท ําใหมีรสขม 3. นาํ้ เกลือเขม ขนทีไ่ มส ามารถตกตะกอนได โดยประกอบดวย MgCl2 เปน็ สว นใหญทาํ ใหม ีรสขม 4. น้ําเกลอื ไมม ีความเขม ขน ที่ไมสามารถตกตะกอนได โดยประกอบดวย MgCl2 เปน็ สว นใหญทาํ ใหมรี สขม 6. เกลอื สมทุ รทากนั มากในบริเวณใกล๎ทะเล พบได๎ในจงั หวดั ใด 1. นครราชศรีมา 2. สมทุ รปราการ 3. อุดรธานี 4. อุบลราชธานี 7. ข๎อใดกลาํ วไมถํ กู ตอ๎ ง 1. เกลอื ทีเ่ หมาะสาํ หรับใชบริโภคคอื เกลือสนิ เธาว์ 2. เกลอื อนามัยคอื เกลือสมุทรทเ่ี ตมิ ธาตุไอโอดนี ผสมอยูดว ย 3. การกาํ จดั ในสารละลาย กอนอิเล็กโทรลิซสิ ทําไดโ ดยการเตมิ 4. ผลพลอยไดจากการผลติ โซดาแอชคอื แอมโมเนยี มคลอไรด์
8. การผลิตเกลือสินเธาว์แบบทาเหมอื งใตด๎ นิ เพอื่ ทาใหไ๎ ด๎เกลอื บรสิ ุทธ์ิ ขอ๎ ใดถกู ตอ๎ ง 1. เตมิ สาร Na2CO3 เพอ่ื กาํ จดั Mg2+ 2. เตมิ สาร CaCl2 เพ่อื กาํ จดั Mg2+ 3. เติมสาร Na2CO3 เพื่อกําจัด CO32- 4. เติมสาร NaOH เพื่อกําจัด Mg2+ 9. การผลิตเกลอื กับปญั หาสงิ่ แวดลอ๎ ม ข๎อใดกลําวผิด 1. ปัญหาการกระจายของดนิ เคม็ ทําใหพ ้นื ดินไมเ หมาะกบั การเพาะปลูก 2. ปญั หาการกระจายของเกลอื ลงสแู หลง น้ํา มีผลตอ การเจรญิ เติบโตของสตั วน์ า้ํ 3. ปญั หาการยุบของพ้นื ดนิ บรเิ วณท่ผี ลติ เกลือบาดาล 4. ปญั หาโลกรอ น เนือ่ งจากเปน็ การระเหยแกส฿ คาร์บอนไดออกไซดส์ ูช น้ั บรรยากาศ 10. ถา๎ เกลือโซเดียมคลอไรดม์ ีเกลือแมกนีเซียมปนอยมูํ าก เกลือจะชน้ื งาํ ย ราคาตก ควรแกไ๎ ขอยาํ งไร 1. เติมปนู ขาว 2. เตมิ Mg 3. เตมิ กาํ มะถนั 4. เติมคลอรีน
แผนการจดั การเรยี นร๎ทู ่ี 17 หนํวยการเรยี นรูท๎ ี่ 10 ธาตแุ ละสารประกอบอนนิ ทรีย์ในอตุ สาหกรรม เรอ่ื ง การผลติ โซเดยี มคลอไรด์และแก๏สคลอรีน รหสั วชิ า ว30225 รายวิชา เคมี 5 (เพ่ิมเติม) กลุํมสาระการเรยี นรู๎วิทยาศาสตร์ เวลา 2 ชว่ั โมง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ผลการเรยี นร๎ู อธิบายวิธีการผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์และแก฿สคลอรีนจากโซเดียมคลอไรด์ กระบวนการผลิตโซดา แอชและสารฟอกขาว พรอ มทงั้ เขยี นสมการแสดงปฏิกิริยาท่ีเกิดขึ้นได สาระการเรยี นร๎ู การผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์และแก฿สคลอรีน อาจไดจากโซเดียมคลอไรด์ โดยอาศัยหลักการของ เซลล์อเิ ลก็ โทรไลตห์ ลงั จากการทดลองแยก สารละลายดวยกระแสไฟฟูา โดยใชสารละลาย NaCl อิ่มตัว เป็น Na+ (aq) + Cl+(aq) สารละลายอิเล็กโทรไลต์ แตกตวั ไดดงั นี้ NaCl (aq) จุดประสงค์การเรยี นรู๎ ด๎านความรู๎ (Knowledge) - อธิบายวิธกี ารผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์และแก฿สคลอรนี จากโซเดยี มคลอไรด์ได ด๎านทักษะ (Process) - เขยี นสมการแสดงปฏกิ ิรยิ าทเี่ กิดขึ้นได ด๎านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Affective) 1. ปฏิบัติตนเปน็ ผูม ีความสนใจใฝรุ ู และมรี ะเบยี บวินัย 2. ปฏบิ ตั ิตนเป็นผูมคี วามรบั ผิดชอบ ตรงตอ เวลา 3. ปฏบิ ัติตนเปน็ ผมู ีความซื่อสตั ย์ สุจริต ความคดิ รวบยอด การแยกสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ดวยกระแสไฟฟูา จะไดแก฿สคลอรีนที่ข้ัวบวก(ข้ัวแอโนด) เพราะเมอ่ื นาํ มาทดสอบดวยกระดาษลิตมัสขึ้นสีแดงและสีนํ้าเงิน กระดาษลิตมัสเปล่ียนสีเป็นสีขาว เน่ืองจาก แกส฿ Cl2 ทาํ ปฏิกิริยากับนํา้ ได HCl และ HClO ซ่ึงฟอกจางสีได สวนท่ีขั้วลบ (ข้ัวแคโทด) จะมีแก฿สไฮโดรเจน (H2) และไฮดรอกไซด์ไอออน (OH-) เกิดข้ึน ซึ่งจะไปรวมตัวกับโซเดียมไอออน ท่ีเหลืออยูในสารละลาย เกิด เปน็ สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ ซึ่งเม่ือนํามาละลายไประเหยแหง จะไดของแขง็ สีขาว ซึง่ กค็ อื โซเดียมไฮดร อก-ไซด์เหลอื อยู สมรรถนะสาคญั ของผเู๎ รียน ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป ญั หา ความสามารถในการใชทกั ษะชวี ติ ความสามารถในการใชเ ทคโนโลยี
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ความซ่อื สตั ยส์ ุจริต มวี นิ ัย ความรกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ อยูอยางพอเพียง มุงม่ันในการทาํ งาน มีจติ สาธารณะ ใฝเุ รียนรู รักความเปน็ ไทย แนวความคดิ เพ่อื การเรยี นร๎ใู นศตวรรษท่ี 21 ทกั ษะดา นการเรียนรแู ละนวตั กรรม สาระวชิ าหลกั (Core Subjects) ทกั ษะดานชีวิตและอาชพี ทกั ษะดา นสารสนเทศ ส่อื และเทคโนโลยี กิจกรรมการเรยี นรู๎ วิธีสอน โดยใชกระบวนการสบื เสาะความรู (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) ชวั่ โมงท่ี 1-2 1. ขั้นสรา๎ งความสนใจ (Engagement) (20 นาท)ี 1.1 ครูสนทนากบั นกั เรียนเรอ่ื ง การผลิตโซเดียมคลอไรด์และแก฿สคลอรนี 1.2 ครูใชคาํ ถามกระตนุ ผเู รยี น ดงั น้ี 1. การผลติ โซเดียมคลอไรดแ์ ละแก฿สคลอรนี ใชหลกั การอะไร ตอบ หลกั การของเซลล์อเิ ลก็ โทรไลติก 2. ในชีวติ ประจําวนั เราใชประโยชนจ์ ากเกลอื โซเดยี มคลอไรด์และในอุตสาหกรรมเราใชเป็นวัตถุดิบใน การผลติ โซเดยี มไฮดรอกไซดแ์ ละแกส฿ คลอรีน เราสามารถแยกสารละลายโซเดยี มคลอไรดท์ ่อี ่ิมตวั ไดอยา งไร ตอบ การแยกดว ยกระแสไฟฟูา 1.3 ครนู ํานกั เรยี นเขาสบู ทเรียนเรอ่ื ง การแยกสารละลายโซเดียมคลอไรด์ดว ยกระแสไฟฟาู 2. ขนั้ สารวจและคน๎ หา (Exploration) (60 นาที) 2.1 ครูใหนักเรียนนักเรียนแบงกลุม กลุมละเทา ๆ กัน เพื่อทําการทดลองเร่ือง การแยกสารละลาย โซเดียมคลอไรด์ดว ยกระแสไฟฟูา 2.2 ครูใหน ักเรียนชว ยกันอธบิ ายวธิ กี ารทดลอง และใหน กั เรยี นแบงหนา ทีใ่ นการทาํ ทดลองเพ่ือความ รวดเรว็ และปลอดภยั 2.3 ครูใหน กั เรยี นทาํ การทดลองโดยบันทึกผลการทดลองในแบบบันทึกผลการทดลองเรื่อง การแยก สารละลายโซเดยี มคลอไรดด์ ว ยกระแสไฟฟาู 3. ข้ันอธบิ ายและลงข๎อสรุป (Explanation) (15 นาที) 3.1 ครูและนักเรียนชว ยกนั อภิปราย พรอมกับสรปุ ผลการทดลองดงั น้ี 1. สารลายNaCl อ่ิมตวั แตกตวั เป็นไอออนไดด ังนี้ Na+ (aq) + Cl+(aq) NaCl (aq) 2. เมื่อผา นกระแสไฟฟาู กระแสตรงลงในสารละลาย NaCl จะมีการเปลย่ี นแปลงดงั น้ี ทแี่ อโนดซ่ึงเป็นข้ัวไฟฟูาที่ตอกับข้ัวแบตเตอรี่ จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน โดย Cl-จะเสียอิเล็กตรอน เกิดเป็นแกส฿ คลอรีนสเี ขยี วออนและมีกลิ่นฉุน ซง่ึ เปลยี่ นสกี ระดาษลติ มสั สนี ํา้ เงนิ และสแี ดงเปน็ ไมม สี ี 2Cl-(aq) Cl2(g) + 2e-
ที่แคโทดซึ่งเป็นขั้วไฟฟูาที่ตอกับข้ัวลบของแบตเตอร่ี จะเกิดปฏิกิริยารีดักชัน โดย H2O จะรับ อิเล็กตรอนเกิดแก฿สไฮโดรเจนซ่ึงแก฿สที่ติดไฟและไฮดรอกไซด์ไอออนเปลี่ยนสีฟีนอล์ฟทาลีนจากไมมีสีเป็นสี ชมพู ปฏิกิริยาทเ่ี กิดข้ึนเป็นสมการ 2OH-(aq) + H2(g) 2H2O(l) + 2e- OH- ทเ่ี กดิ ขนึ้ และ Na+ ในสารละลายเม่อื นําไประเหยแหง จะได NaOH ดงั สมการ Na+ (aq) + OH- (aq) NaOH (aq) ปฏิกิรยิ าเกดิ (ระเหยแหง ) 3. การแยกสารละลาย NaCl อิ่มตัวดวยกระแสไฟฟูาจะไดแก฿สคลอรีนท่ีแอโนด สวนที่แคโทดจะไดแก฿ส ไฮโดรเจนและโซเดยี มไฮดรอกไซด์ 4. ขั้นขยายความรู๎ (Elaboration) (25 นาที) 4.1 ครใู หนกั เรยี นทาํ แบบฝกึ หัดท่ี 1 เรือ่ ง การผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์และแกส฿ คลอรนี 5. ขน้ั ประเมิน (Evaluation) (10 นาท)ี 5.1 แบบบันทึกผลการทดลองเรื่อง การแยกสารละลายโซเดยี มคลอไรด์ดวยกระแสไฟฟูา 5.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายกลุม 5.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล 5.4 แบบฝึกหัดท่ี 1 เรอ่ื ง การผลิตโซเดียมไฮดรอกไซดแ์ ละแกส฿ คลอรีน วสั ดุ อุปกรณ์ ส่อื และแหลํงเรียนร๎ู 1. power point 2. ชดุ การทดลองเรอ่ื ง การแยกสารละลายโซเดยี มคลอไรดด์ วยกระแสไฟฟูา 3. หนังสือเรียนเคมีเลม 4 การวัดและการประเมินผล การวัดผลประเมินผลด๎าน วิธกี ารวดั เครื่องมือวัด เกณฑ์การผําน 1. ดานความรู 1. ทําแบบฝกึ หดั ท่ี 1 1. โจทย์แบบฝกึ หัดที่ 1 1. ไดคะแนนรอ ยละ 2. ดา นทกั ษะ 1. กิจกรรมการทดลอง 60 ข้นึ ไป 1. ใบกจิ กรรมการ ทดลอง 1. ไดคะแนนรอยละ 60 ขนึ้ ไป 3. ดานคุณลักษณะท่ีพึง - สั ง เ ก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม - แบบสังเกตพฤติกรรม 1. ระดับคณุ ภาพ ประสงค์ รายบุคคล รายบคุ คล ปานกลางขน้ึ ไป - สังเกตพฤติกรรมราย - แบบสังเกตพฤติกรรม กลุม รายกลมุ
บันทึกหลงั แผนการจัดการเรียนรู๎ รายวิชาเคมี 5 รหัสวชิ า ว30225 ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 1. ดา๎ นความรู๎ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ด๎านทักษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ดา๎ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4.ปญั หาและอปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. แนวทางการแก๎ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงช่อื ........................................................ครูผูสอน ( นางสาวสทุ ิพย์ สุขสบาย) ............../............../...........
ความสนใจใฝ่ ๎ูร ้ัตงใจเรียน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล และทา ิกจกรรมวชิ า ...................................................................................................... ชั้น ......................................... เลขที่ ชื่อ-นามสกลุ การแลกเป ี่ลยนเ ีรยน ู๎ร ักบเพ่ือน ีมความซ่ือสัตย์ในการทา ิกจกรรมหมายเหตุ ใหบันทกึ โดยใชเครอ่ื งหมาย ้ัตงปัญหาห ืรอคาถามสร๎างสรร ์ค = แสดงพฤติกรรมทพ่ี ึงประสงคต์ ามคาดหวงั ทางานไ ๎ดเ ีรยบ ๎รอย ูถก ๎ตองและครบ ๎ถวน = ไมแ สดงพฤติกรรมท่พี งึ ประสงคต์ ามคาดหวงั หมายเห ุตเกณฑ์การประเมิน นกั เรยี นมพี ฤติกรรมทพ่ี ึงประสงคต์ ามคาดหวังตงั้ แต 3 รายการขึน้ ไป ถอื วา ผา นเกณฑก์ ารประเมนิ
ใบกิจกรรมการทดลองเรือ่ ง การแยกสารละลายโซเดยี มคลอไรด์ดว๎ ยกระแสไฟฟา้ จดุ ประสงค์การทดลอง 1. ทําการทดลองการแยกสารละลายโซเดียมคลอไรด์อิม่ ตัวดวยกระแสไฟฟาู 2. อธิบายการเปลี่ยนแปลงทเี่ กดิ ขึน้ พรอมทัง้ เขียนสมการแสดงปฏิกริ ิยาท่ีแอโนดและแคโทดรวมทั้ง บอกผลิตภัณฑท์ ีเ่ กดิ ข้นึ ได สารเคมีและอุปกรณ์ รายการ 1. สารลายโซเดียมคลอไรด์อิม่ ตัว 2. สารละลายฟีนอล์ฟทาลีน 3.กระดาษลติ มสั สีนาํ้ เงินและสแี ดง อุปกรณ์ 1.ชุดการแยกสารละลายดวยกระแสไฟฟูาพรอมจุกยาง ทีม่ ีไสด นิ สอเสยี บอยู 2. จุกยางสําหรบั ปิดปากหลอด 2 ขาง ของชดุ การแยกสารละลายดว ยกระแสไฟฟูา 3. หลอดหยด 4. สายไฟพรอมปากคบี 5. แบตเตอรขี่ นาด 6 โวลต์ 6. กานธปู วิธกี ารทดลอง 1. จัดอุปกรณ์แยกสารละลายดวยกระแสไฟฟูา ดังรูป จากน้ันนําสารละลาย NaCl อิ่มตัวท่ีเตรียมไวมาหยด ฟนี อลฟ์ ทาลีน แลวนาํ ไปเติมลงหลอดแกว ก. ใหส ารละลายไหลเขา ในหลอดแกว ข.และค. จนเกือบเต็ม ตอกับ ปลายทง้ั สองของไสด ินสอเขากับแบตเตอรีข่ นาด 6 โวลต์ เป็นเวลา 5 นาที แลว สังเกตการเปล่ยี นแปลง 2. ทดสอบแกส฿ ที่เกิดขึ้นในหลอดท่ีตอกับข้ัวบวกและของแบตเตอรี่โดยใชกระดาษลิตมัสชื้นทั้งสีแดงและสีนํ้า เงินเหนอื ปากหลอด แลว สงั เกตการณ์เปล่ยี นแปลง 3. ทดสอบแก฿สทเ่ี กดิ ข้ึนในหลอดท่ีตอข้ัวกับข้ัวลบแบตเตอรี่ โดยใชกานธูปท่ีติดไฟจอที่ปากหลอด แลวสังเกต การเปล่ยี นแปลง
ตารางบนั ทกึ ผลการทดลอง การเปลย่ี นแปลงที่สงั เกตได๎ ข้วั ไฟฟา้ มีฟองแก฿สสีเขียวออน เกิดขนึ้ อยางชา ๆ แอโนด(ขวั้ ที่ตอ กับบวกของแบตเตอร่ี) มีฟองแกส฿ เกดิ ข้ึนอยางรวดเรว็ สารละลายตอนบนมสี ีชมพู แคโทด(ขั้วทต่ี อกับขว้ั ลบของแบตเตอร่)ี แก฿สทเี่ กดิ ขึน้ ติดไฟไดและขณะตดิ ไฟมีเสียงดงั คลา ยการ ระเบดิ อยางเบา ๆ เกดิ ขึน้ สรุปผลการทดลอง การแยกสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ดวยกระแสไฟฟูา จะไดแก฿สคลอรีนท่ีขั้วบวก(ขั้วแอโนด) เพราะเมื่อนํามาทดสอบดวยกระดาษลิตมัสข้ึนสีแดงและสีนํ้าเงิน กระดาษลิตมัสเปลี่ยนสีเป็นสีขาว เน่ืองจาก แกส฿ Cl2 ทําปฏิกิรยิ ากบั นํ้า ได HCl และ HClO ซึ่งฟอกจางสีได สวนที่ข้ัวลบ (ข้ัวแคโทด) จะมีแก฿สไฮโดรเจน (H2) และไฮดรอกไซด์ไอออน (OH-) เกิดข้ึน ซึ่งจะไปรวมตัวกับโซเดียมไอออน ท่ีเหลืออยูในสารละลาย เกิด เปน็ สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ ซ่ึงเมอ่ื นาํ มาละลายไประเหยแหงจะไดข องแขง็ สขี าว ซงึ่ กค็ ือ โซเดียมไฮดร อก-ไซด์เหลอื อยู
ใบกจิ กรรมการทดลองเร่อื ง การแยกสารละลายโซเดยี มคลอไรดด์ ๎วยกระแสไฟฟ้า จดุ ประสงค์การทดลอง 1. ทาํ การทดลองการแยกสารละลายโซเดียมคลอไรด์อ่ิมตัวดว ยกระแสไฟฟูา 2. อธบิ ายการเปลีย่ นแปลงที่เกิดขึ้น พรอมทัง้ เขียนสมการแสดงปฏิกิรยิ าทแ่ี อโนดและแคโทดรวมท้ัง บอกผลิตภัณฑท์ เ่ี กิดข้นึ ได สารเคมแี ละอุปกรณ์ รายการ อุปกรณ์ วธิ ีการทดลอง 1. จัดอุปกรณ์แยกสารละลายดวยกระแสไฟฟูา ดังรูป จากนั้นนําสารละลาย NaCl อิ่มตัวที่เตรียมไวมาหยด ฟนี อลฟ์ ทาลนี แลวนําไปเติมลงหลอดแกว ก. ใหสารละลายไหลเขา ในหลอดแกว ข.และค. จนเกือบเต็ม ตอกับ ปลายทัง้ สองของไสด นิ สอเขากบั แบตเตอรข่ี นาด 6 โวลต์ เปน็ เวลา 5 นาที แลว สงั เกตการเปลยี่ นแปลง 2. ทดสอบแกส฿ ท่ีเกิดข้ึนในหลอดท่ีตอกับขั้วบวกและของแบตเตอร่ีโดยใชกระดาษลิตมัสชื้นท้ังสีแดงและสีน้ํา เงนิ เหนือปากหลอด แลว สังเกตการณ์เปล่ียนแปลง 3. ทดสอบแก฿สทีเ่ กดิ ขึน้ ในหลอดท่ีตอขั้วกับข้ัวลบแบตเตอรี่ โดยใชกานธูปท่ีติดไฟจอท่ีปากหลอด แลวสังเกต การเปลี่ยนแปลง
ตารางบันทกึ ผลการทดลอง การเปลย่ี นแปลงท่สี ังเกตได๎ ขั้วไฟฟ้า สรปุ ผลการทดลอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
แบบฝึกหดั ท่ี 1 เรอื่ ง การผลติ โซเดยี มไฮดรอกไซด์และแกส๏ คลอรีน ตอบคาถามเกย่ี วกบั การผลติ โซเดียมไฮดรอกไซด์และแก๏สคลอรนี 1. จงเขยี นปฏิกิรยิ าทีข่ ัว้ แอโนด ขว้ั แคโทด และปฏิกริ ิยารวม เมือ่ ผํานปฏิกริ ิยากระแสตรงลงในสารละลาย โซเดียมคลอไรด์ Cl2(g) + 2e- ปฏิกริ ิยาทขี่ ั้วแอโนด : 2Cl-(aq) ปปฏฏิกกิ ิิรริยิยาาทรว่ีขมว้ั แ:ค2โCทlด-(a:q2)H+2O2(Hl)2O+(l2)e- 2OH-(aq) + Cl2(g) + 2OH-(aq) H2(g) + H2(g) 2. พิจารณาภาพแสดงการผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์โดยการใช๎เซลล์เย่ือแลกเปล่ียนไอออนท่ีกาหนดให๎ แล๎วตอบคาถาม 1) A B C คืออะไร ตามลาดับ A คือ แกส฿ คลอรนี B คือแก฿สไฮโดรเจน C คือ Na+ 2) จงเขียนปฏกิ ริ ยิ าท่เี กิดขึ้นท่ขี ั้วแอโนดและขว้ั แคโทด ปฏิกริ ิยาทข่ี ั้วแอโนด : 2Cl-(aq) Cl2(g) + 2e- ปฏกิ ิรยิ าที่ขว้ั แคโทด : 2H2O(l) + 2e- 2OH-(aq) + H2(g) 3) สารละลายโซเดยี มไฮเดยี มไฮดรอกไซดเ์ กิดข้ึนได๎อยํางไร Na+ ทเ่ี หลืออยูท่ีขั้วแอโนด จะเคล่ือนทีผ่ า นเย่ือแลกเปลี่ยนไอออนมารวมตัวกับ OH- ที่ข้ัวแคโทด เกิดเป็นสาร ละลา NaOH ทข่ี วั้ แคโทด 3. เซลล์ไดอะเฟรมแตกตา งจากเซลล์เนอื้ เยอ่ื แลกเปล่ียนไอออนอยา งไร เซลล์ไดอะเฟรมทําดวยแอสเบสตอส ซ่ึงยอมใหทงั้ ไอออนบวก (Na+) และไอออน (Cl- และ OH-) ผานได จึงทํา ใหสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซดท์ ่ีผลิตไดมีโซเดียมคลอไรด์ปนอยดู ว ยปริมานมาก
4. จงระบคุ วามบรสิ ุทธ์แิ ละความเข๎มขน๎ ของโซเดยี มไฮดรอกไซด์ และส่งิ ทเี่ จือปนทไ่ี ดจ๎ ากการผลติ โซเดยี มไฮดรอกไซด์ 3 วธิ ี ความบรสิ ทุ ธ์ิของ NaOH เซลลเ์ ยอ่ื แลกเปลย่ี นไอออน เซลล์ไดอะแกรม เซลลป์ รอท บริสุทธ์ิ ไมบ รสิ ุทธิ์ ไมบริสุทธ์ิ ความเข๎มข๎นของ NaOH รอยละ 30-40 นอย รอยละ 50 สงิ่ เจือปน ไมม ี Na+ Cl- และ OH- Hg 5. แกส๏ คลอรนี NaOH และแก๏สไฮโดรเจน ที่ผํานกระบวนการผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์ สามารถนาไปใช๎ ในอุตสาหกรรมตาํ ง ๆ ได๎อยํางไร NaOH เปน็ สารต้งั ตน ที่ใชในอตุ สาหกรรมจา ง ผลิตสบู ผงซกั ฟอก ผงชรู ส แก฿สคลอรนี ใชฆาเช้ือโรคในน้าํ ประปา วัตถดุ ิบในการทําสารฟอกขาว แกส฿ ไฮโดรเจน ใชเ ป็นสารตัง้ ตน ในการเตรียมกรดไฮโดรคลอริก และแกส฿ แอมโมเนีย
แบบฝกึ หัดท่ี 1 เร่ือง การผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์และแก๏สคลอรีน ตอบคาถามเก่ยี วกับการผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์และแกส๏ คลอรีน 1. จงเขียนปฏิกิริยาที่ขวั้ แอโนด ขว้ั แคโทด และปฏิกริ ิยารวม เมื่อผํานปฏิกริ ยิ ากระแสตรงลงในสารละลาย โซเดียมคลอไรด์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... 2. พิจารณาภาพแสดงการผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์โดยการใช๎เซลล์เย่ือแลกเปลี่ยนไอออนที่กาหนดให๎ แล๎วตอบคาถาม 1) A B C คอื อะไร ตามลาดับ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... 2) จงเขยี นปฏกิ ริ ิยาท่ีเกิดข้นึ ท่ีข้วั แอโนดและขว้ั แคโทด ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... 3) สารละลายโซเดียมไฮเดียมไฮดรอกไซดเ์ กิดขน้ึ ไดอ๎ ยํางไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... 3. เซลลไ์ ดอะเฟรมแตกตาํ งจากเซลลเ์ นือ้ เยอื่ แลกเปลีย่ นไอออนอยาํ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
4. จงระบุความบริสุทธแิ์ ละความเขม๎ ขน๎ ของโซเดียมไฮดรอกไซด์ และส่งิ ท่เี จอื ปนท่ไี ด๎จากการผลติ โซเดยี มไฮดรอกไซด์ 3 วิธี เซลลเ์ ย่ือแลกเปลีย่ นไอออน เซลลไ์ ดอะแกรม เซลล์ปรอท ความบรสิ ทุ ธข์ิ อง NaOH ความเข๎มข๎นของ NaOH สง่ิ เจอื ปน 5. แก๏สคลอรนี NaOH และแก๏สไฮโดรเจน ที่ผํานกระบวนการผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์ สามารถนาไปใช๎ ในอตุ สาหกรรมตําง ๆ ไดอ๎ ยาํ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………... ………………………………………………………………………………………………………………………………………………...
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมํุ กลมุํ ……………………………………………....…หัวข๎อเรอื่ ง………..…………………………………… สมาชกิ กลมํุ 1……………………………………………. 2…………………………………………… 3…………………………………………... 4…………………………………………… 5…………………………………………… ลาดับ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 123 1 ความรบั ผิดชอบตอหนา ของตนเอง 2 การวางแผนงานอยางเป็นระบบ 3 การเสยี สละ และชวยเหลอื่ เพอ่ื นรว มงาน 4 การมีสว นรวมในการแสดงความคิดเห็น 5 งานเสร็จตามกําหนด รวม รวมคะแนน การตดั สนิ คณุ ภาพ เกณฑ์การใหค๎ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤติกรรมความสมบรู ณ์ชดั เจน ให 3 คะแนน ชํวงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมขี อ บกพรองบางสวน ให 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี อบกพรอ งมาก ให 1 คะแนน 11-15 3 (ดี) 6-10 2 (ปานกลาง) ต่าํ กวา 6 1 (ปรับปรงุ )
แผนการจัดการเรียนรทู๎ ี่ 18 หนวํ ยการเรียนรทู๎ ่ี 10 ธาตแุ ละสารประกอบอนนิ ทรยี ์ในอุตสาหกรรม เรอ่ื ง กระบวนการผลิตโซดาแอชและสารฟอกขาว รหัสวิชา ว30225 รายวชิ า เคมี 5 (เพิม่ เตมิ ) กลมํุ สาระการเรียนรูว๎ ทิ ยาศาสตร์ เวลา 3 ชว่ั โมง ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 ผลการเรียนร๎ู อธิบายวิธีการผลิตโซเดียมไฮดรอกไซด์และแก฿สคลอรีนจากโซเดียมคลอไรด์ พรอมทั้ง เขียนสมการ แสดงปฏกิ ริ ิยาทเี่ กดิ ขึ้นได สาระการเรียนร๎ู โซดาแอชมีช่ือทางเคมีวาโซเดียมคาร์บอเนต มีสูตรเป็น Na2CO3 การผลิตโซดาแอช เรียกวา กระบวนการโซลเวย์ หรือโซดาแอมโมเนีย เป็นสารประกอบเกลือของกรดคาร์บอนิก มีลักษณะเป็นผงสีขาว ไมมกี ล่ิน สามารถดดู ความช้ืนจากอากาศไดด ี ละลายไดใ นนาํ้ มฤี ทธิเ์ ป็นดา งแกเมือ่ ละลายน้าํ สาร ฟ อ ก ข าว เป็น สาร ปร ะ ก อ บ ปร ะ เภท ไ ฮ โ ปค ลอ ไ ร ต์ ใ ช ใน อุ ตส าหก ร ร ม ก าร ฟ อ ก ยอ ม เส น ด า ย เยือ่ กระดาษ และใชเป็นสารฆาเชื้อโรคในนํ้า เมื่อหยดสารละลายในหลอดทดลองบนกระดาษลิตมัสท้ังสีแดง และสีน้ําเงนิ พบวา กระดาษลิตมัสท้ัง 2 สี เปล่ียนเป็นสีขาว แสดงวา สารละลาย NaOCl มีสมบัติในการฟอก จางสี สารนมี้ ีสมบตั ิในการกัดกรอ นสูง ถาใชป รมิ าณมากอาจกดั กรอนส่งิ ทตี่ องการฟอกเสยี หายได จดุ ประสงค์การเรียนร๎ู ด๎านความร๎ู (Knowledge) - อธบิ ายกระบวนการผลติ โซดาแอชและสารฟอกขาวได - เขยี นสมการแสดงปฏกิ ริ ิยาทเ่ี กิดขึ้นได ด๎านทกั ษะ (Process) - ทกั ษะกระบวนการทดลอง ดา๎ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Affective) 1. ปฏิบัติตนเป็นผูม ีความสนใจใฝุรู และมีระเบียบวินัย 2. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผูมีความรบั ผิดชอบ ตรงตอเวลา 3. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผมู คี วามซ่ือสตั ย์ สุจรติ ความคดิ รวบยอด โซดาแอชมีช่ือทางเคมีวาโซเดียมคาร์บอเนต มีสูตรเป็น Na2CO3 การผลิตโซดาแอช เรียกวา กระบวนการโซลเวย์ หรอื โซดาแอมโมเนยี เปน็ สารประกอบเกลอื ของกรดคาร์บอนิก มีลกั ษณะเปน็ ผงสีขาว ไม มีกล่ิน สามารถดดู ความชน้ื จากอากาศไดด ี ละลายไดใ นนํ้า มีฤทธิ์เป็นดางแกเมื่อละลายน้ํา ละลายไดเล็กนอย ในแอลกอฮอล์ พบในขเี้ ถา ของพชื หลายชนดิ และสาหรา ยทะเล เปน็ สารเคมที ่ใี ชในอุตสาหกรรมหลายชนิด เชน แกว เซรามคิ ส์ กระดาษ ผงซักฟอก สบู การแกไ ขนํ้ากระดา ง
การเตรยี มสารฟอกขาวโซเดียมไฮโปคลอไรต์ เมอ่ื หยดกรด HCl เขมขนลงใน KMnO4 และเมือผานแก฿ส นี้ลงไปในสารละลาย NaOH จะไดสารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรด์ (NaOCl) และเม่ือนําสารละลายที่ไดไป หยดบนกระดาษลติ มสั สีน้าํ เงินและสีแดง พบวากระดาษลิตมัสทั้ง 2 สี เปลี่ยนเป็นสีขาว แสดงวา สารละลาย โซเดยี มไฮโปคลอไรด์ท่ีมีสมบัตใิ นการฟอกจางสี สมรรถนะสาคญั ของผ๎ูเรียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป ัญหา ความสามารถในการใชทกั ษะชวี ิต ความสามารถในการใชเทคโนโลยี คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ความซ่ือสตั ย์สุจรติ มวี นิ ัย ความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ อยูอยางพอเพียง มงุ ม่ันในการทํางาน มจี ิตสาธารณะ ใฝเุ รยี นรู รกั ความเป็นไทย แนวความคิดเพื่อการเรยี นรใู๎ นศตวรรษท่ี 21 ทักษะดานการเรียนรแู ละนวัตกรรม สาระวชิ าหลัก (Core Subjects) ทกั ษะดานชีวิตและอาชพี ทกั ษะดานสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี กจิ กรรมการเรียนร๎ู วธิ สี อน โดยใชกระบวนการสืบเสาะความรู (Inquiry Cycle หรือ Inquiry Method : 5E) ชัว่ โมงที่ 1-3 1. ขนั้ สร๎างความสนใจ (Engagement) (10 นาที) 1.1 ครสู นทนากับนักเรียนเร่ือง กระบวนการผลติ โซดาแอชและสารฟอกขาว 1.2 ครูใชค าํ ถามกระตนุ ผูเ รียน ดังน้ี 1. สารชนิดใดทีน่ ยิ มนํามาผลติ แกว และใชแ กนํ้ากระดา ง ตอบ โซดาแอช 2. สารชนดิ ใดท่ีใชใ นอตุ สาหกรรมการฟอกยอมเสนดาย เย่อื กระดาษ และใชเ ป็นสารฆา เช้ือโรคในน้าํ ตอบ สารฟอกขาว 1.3 ครนู ํานกั เรยี นเขาสูบทเรยี นเรื่อง กระบวนการผลติ โซดาแอชและสารฟอกขาว 2. ขั้นสารวจและคน๎ หา (Exploration) (70 นาท)ี 2.1 ครูบรรยายกระบวนการผลิตโซดาแอชโดยใช power point ประกอบการสอน2.2 ครูเปิดวีดีโอ ใหน ักเรยี นทาํ การศึกษาใหเ ขา ใจงา ยมากย่งิ ขน้ึ https://www.youtube.com/watch?v=aMpsApZGrNA 2.3 ครูใหน กั เรียนทําใบงานที่ 1 เรือ่ ง โซดาแอช 2.4 ครใู หนกั เรียนแบง กลุมทําการทดลองเรอื่ ง การเตรยี มสารฟอกขาวไฮโปคลอไรด์ 2.5 ครูและนักเรียนชวยอธิบายการวิธีการทดลองพรอมกับใหนักเรียนแบงหนาท่ีในการทดลองเพื่อ ความสะดวก และรวดเร็ว
2.6 ครูใหนักเรียนทําการทดลองและบันทึกผลลงในแบบบันทึกผลการทดลองที่ 1 เร่ือง การเตรียม สารฟอกขาวไฮโปคลอไรด์ 3. ข้นั อธบิ ายและลงขอ๎ สรุป (Explanation) (20 นาท)ี 3.1 ครูและนกั เรียนชวยกนั อภิปราย พรอมกบั สรุปผลการทดลองดงั นี้ เมอื่ ผานแก฿สคลอรนี ลงในสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซดไ์ ดสารละลายทม่ี ีสีเหลืองแกมสีเขียว มีสมบัติ ฟอกจางสกี ระดาษลติ มัสสีแดงและสีนํา้ เงิน ปฏิกิริยาที่เกิดขึน้ เป็นดงั นี้ Cl2 (g) + 2NaOH (aq) NaOCl (aq) + NaCl (aq) + H2O (l) แตถ าสารละลายแคลเซยี มไฮดรอกไซด์แทนสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์จะเกิดแคลเซียมไฮโปคลอ ไรต์ ซง่ึ เป็นสารฟอกขาวชนดิ หนึง่ ปฏิกิริยาท่ีเกิดขึ้นเป็นดังสมการ 2Cl2(g) + 2Ca(OH)2 (aq) Ca(OCl2) (aq) + CaCl2 (aq) + 2H2O (l) 4. ข้ันขยายความรู๎ (Elaboration) (50 นาท)ี 4.1 ครูอธิบายเกยี่ วกบั ประโยชน์และขอ เสียเก่ยี วกบั โซดาแอชและสารฟอกขาว 4.2 ครเู ปิดวดี ีโอเรอื่ ง สารฟอกขาว นักเรียนดูเพื่อใหเ ขา ใจมากย่ิงขนึ้ 5. ขนั้ ประเมนิ (Evaluation) (10 นาที) 5.1 แบบบันทึกผลการทดลองเรอ่ื ง การเตรียมสารฟอกขาวไฮโปคลอไรด์ 5.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมรายกลมุ 5.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล 5.4 ใบงานท่ี 1 เรื่อง โซดาแอช วัสดุ อปุ กรณ์ ส่อื และแหลงํ เรียนร๎ู 1. power point 2. ชดุ การทดลองเรอื่ ง การแยกสารละลายโซเดยี มคลอไรด์ดวยกระแสไฟฟาู 3. หนงั สอื เรียนเคมเี ลม 4 4. VDO เร่อื ง สารฟอกขาว และโซดาแอช https://www.youtube.com/watch?v=aMpsApZGrNA https://www.youtube.com/watch?v=6pUhsEvg0XQ การวัดและการประเมินผล การวัดผลประเมินผลดา๎ น วิธีการวัด เครอื่ งมือวดั เกณฑก์ ารผาํ น 1. ดา นความรู 1. ทาํ ใบงานท่ี 1 1. โจทย์ใบงานท่ี 1 1. ไดคะแนนรอยละ 60 ข้ึนไป 2. ดานทักษะ 1. กิจกรรมการทดลอง 1. ใบกิจกรรมการ 1. ไดคะแนนรอยละ ทดลอง 60 ขน้ึ ไป 3. ดานคุณลักษณะท่ีพึง - สั ง เ ก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม - แบบสังเกตพฤติกรรม 1. ระดับคุณภาพ ประสงค์ รายบคุ คล รายบุคคล ปานกลางขึ้นไป - สังเกตพฤติกรรมราย - แบบสังเกตพฤติกรรม กลมุ รายกลมุ
บนั ทกึ หลังแผนการจดั การเรียนรู๎ รายวิชาเคมี 5 รหัสวิชา ว30225 ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 1. ดา๎ นความร๎ู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ด๎านทักษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ดา๎ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4.ปญั หาและอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. แนวทางการแก๎ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชอื่ ........................................................ครูผูสอน ( นางสาวสทุ พิ ย์ สุขสบาย) ............../............../...........
ความสนใจใฝ่ ๎ูร ้ัตงใจเรียน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล และทา ิกจกรรมวชิ า ...................................................................................................... ชั้น ......................................... เลขที่ ชื่อ-นามสกลุ การแลกเป ี่ลยนเ ีรยน ู๎ร ักบเพ่ือน ีมความซ่ือสัตย์ในการทา ิกจกรรมหมายเหตุ ใหบันทกึ โดยใชเครอ่ื งหมาย ้ัตงปัญหาห ืรอคาถามสร๎างสรร ์ค = แสดงพฤติกรรมที่พงึ ประสงคต์ ามคาดหวัง ทางานไ ๎ดเ ีรยบ ๎รอย ูถก ๎ตองและครบ ๎ถวน = ไมแ สดงพฤติกรรมท่ีพงึ ประสงค์ตามคาดหวงั หมายเห ุตเกณฑ์การประเมิน นกั เรยี นมพี ฤติกรรมทพ่ี ึงประสงคต์ ามคาดหวังตงั้ แต ๓ รายการข้ึนไป ถือวา ผา นเกณฑ์การประเมนิ
ใบกิจกรรมการทดลองเรื่อง การเตรียมสารฟอกขาวโซเดยี มไฮโปคลอไรต์ จดุ ประสงค์การทดลอง 1. เพือ่ ศึกษาการเตรยี มสารฟอกขาวและทดสอบสมบัติได สารเคมแี ละอุปกรณ์ สารเคมี 1. โพแทสเซยี มเปอร์แมงกานีส 2. สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ 0.1 M 3. กระดาษลติ มัสสนี าํ้ เงินและสีแดง 4. สารละลายกรดไฮโดรคลอรกิ เขม ขน 5. นํ้าแขง็ อุปกรณ์ 1.ขาตั้งพรอมทจ่ี ับหลอดการทดลอง 2. หลอดทดลองชนดิ มีแขนขางพรอมจกุ ยางซงึ่ เสยี บหลอดหยด 3. ชอ นเบอร์ 2 4. หลอดทดลองขนาดกลาง 5. บีกเกอรข์ นาด 250 cm3 6. กระจกนาฬิกา วิธีการทดลอง 1. เตรยี มแกส฿ คลอรนี โดยใส KMnO4 3 g ลงในหลอดทดลองทต่ี อ อยกู ับสายยางและหลอดแกวหักงอแลวนําไป จุมลงในหลอดทดลองขนาดกลางท่บี รรจุสารละลาย NaOH เขมขน 1 M ปริมาตร 5 cm3 ซึ่งแชอยูในบีกเกอร์ ทม่ี ีนํา้ แขง็ อยู แลวปิดหลอดทดลองดวยจุกยางท่ีมีหลอดทดลองทมี่ ีหลอดบรรจกุ รด HCl เขมขน เสียบอยูดังรูป 2. หยดกรดไฮโดรคลอริกเขมขนลงใน KMnO4 ชา ๆ และผานแก฿สท่ีเกิดข้ึนไปยังหลอดทดลองที่บรรจุ สารละลาย NaOH เป็นเวลา 10 นาที 3. นาํ สารละลายทเี่ กิดขึน้ ในขอ 2 มาหยดลงกระดาษลติ มัสสแี ดงและสนี า้ํ เงิน แลวสงั เกตการณ์เปลยี่ นแปลง ผลการทดลอง 1. สารละลายทเี่ ตรยี มไดม สี เี หลืองแกมเขียวและมกี ลนิ่ ฉุน 2. เม่อื นาํ สารละลายทเี่ ตรยี มไดมาทดสอบ กระดาษลิตมัสท้งั แดงและสีนา้ํ เงินเปลี่ยนเป็นไมม ีสี
สรปุ ผลการทดลอง เม่อื ผา นแกส฿ คลอรีนลงในสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์ไดสารละลายท่มี สี เี หลอื งแกมสีเขียว มีสมบัติ ฟอกจางสีกระดาษลิตมัสสแี ดงและสีนํา้ เงิน ปฏิกริ ิยาทเ่ี กดิ ขนึ้ เปน็ ดังนี้ Cl2 (g) + 2NaOH (aq) NaOCl (aq) + NaCl (aq) + H2O (l) แตถ าสารละลายแคลเซยี มไฮดรอกไซด์แทนสารละลายโซเดยี มไฮดรอกไซด์จะเกิดแคลเซียมไฮโปคลอ ไรต์ ซงึ่ เป็นสารฟอกขาวชนิดหนงึ่ ปฏิกิรยิ าทเ่ี กิดข้นึ เป็นดงั สมการ 2Cl2(g) + 2Ca(OH)2 (aq) Ca(OCl2) (aq) + CaCl2 (aq) + 2H2O (l)
ใบกิจกรรมการทดลองเร่ือง การเตรยี มสารฟอกขาวโซเดียมไฮโปคลอไรต์ จดุ ประสงค์การทดลอง 1. เพอ่ื ศกึ ษาการเตรียมสารฟอกขาวและทดสอบสมบตั ิได สารเคมแี ละอุปกรณ์ สารเคมี อุปกรณ์ วิธีการทดลอง 1จมุ. เลตงรใยีนมหแลกอส฿ดคทลดอลรอนี งโขดนยาใดสก KลMางnทOบี่ 4ร3รจgสุ ลางรใลนะหลลาอยดNทaดOลHองเทขต่ีมอขอนย1กู ับMสาปยรยิมาางตแรละ5หcลmอด3แซกึ่งวแหชักองยอูในแลบวีกนเกําอไปร์ ทีม่ ีนํา้ แข็งอยู แลวปิดหลอดทดลองดว ยจกุ ยางทมี่ หี ลอดทดลองที่มีหลอดบรรจุกรด HCl เขม ขนเสยี บอยูดังรูป 2. หยดกรดไฮโดรคลอริกเขมขนลงใน KMnO4 ชา ๆ และผานแก฿สท่ีเกิดข้ึนไปยังหลอดทดลองท่ีบรรจุ สารละลาย NaOH เปน็ เวลา 10 นาที 3. นําสารละลายท่ีเกดิ ข้นึ ในขอ 2 มาหยดลงกระดาษลิตมัสสีแดงและสีน้ําเงิน แลวสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลง ผลการทดลอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
สรุปผลการทดลอง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมํุ กลมุํ ……………………………………………....…หัวข๎อเรอื่ ง………..…………………………………… สมาชกิ กลมํุ 1……………………………………………. 2…………………………………………… 3…………………………………………... 4…………………………………………… 5…………………………………………… ลาดับ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 123 1 ความรบั ผิดชอบตอ หนา ของตนเอง 2 การวางแผนงานอยา งเป็นระบบ 3 การเสยี สละ และชว ยเหลอื่ เพอ่ื นรว มงาน 4 การมีสว นรวมในการแสดงความคดิ เห็น 5 งานเสร็จตามกําหนด รวม รวมคะแนน การตดั สนิ คณุ ภาพ เกณฑ์การใหค๎ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤติกรรมความสมบรู ณ์ชดั เจน ให 3 คะแนน ชํวงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมขี อ บกพรองบางสวน ให 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี อ บกพรอ งมาก ให 1 คะแนน 11-15 3 (ดี) 6-10 2 (ปานกลาง) ต่าํ กวา 6 1 (ปรับปรงุ )
ใบงานท่ี 1 เรื่อง การผลิตโซดาแอช ตอบคาถามเกย่ี วกบั การผลติ โซดาแอช 1. กระบวนการโซลเวย์ซ่ึงเป็นกระบวนการผลิตโซดาแอชมีช่ือเรียกวําอยํางไร และวัตถุดิบที่ใช๎ใน กระบวนการมอี ะไรบ๎าง กระบวนการโซลเวยม์ ีชือ่ เรยี กวา กระบวนการโซดาแอมโมเนยี โดยวัตถุดิบท่ีใช คือ เกลือแกง แก฿สแอมโมเนีย และหินปูน 2. จงเขยี นปฏิกริ ิยาท่ีสาคัญของกระบวนการโซลเวย์ NH3 (aq) + CO2 (aq) + NaCl (aq) + H2O (l) NaHCO3 (s) + NH4Cl (aq) 2NaHCO3 (s) Na2CO3 (aq) + CO2 (g) + H2O (g) 3. ระบขุ ๎อดีข๎อเสยี ของกระบวนการโซลเวย์ ขอดี คือ เปน็ กระบวนการทใี่ ชตน ทนุ ต่ํา และไมตองผลิตแก฿ส NH3 ข้ึนใหม เนื่องจากในกระบวนการจะมีแก฿ส NH3 เกิดข้ึน ซ่ึงสามารถนาํ กลับมาใชเป็นสารตั้งตน ของปฏิกิรยิ าไดอกี ขอเสยี คอื เป็นกระบวนการที่ตอ งใชน ํา้ จดื เปน็ ปรมิ านมาก และในกระบวนการยงั ทําใหเ กิด NH3Cl ซ่ึงเป็นสาร ท่กี อ ใหเ กิดมลพิษทางอากาศ 4. นอกจากกระบวนการโซเวยแ์ ลว๎ การเตมิ โซดาแอชยงั สามารถใช๎วธิ อี ืน่ ไดห๎ รือไมํ อยํางไร การผลติ โซดาแอชอาจเตรยี มไดจ ากการผา นแก฿สคาร์บอนไดออกไซด์ลงในสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ ทํา ใหไ ดโ ซเดียมไฮโดรเจนคารบ์ อเนต ซ่ึงเมอ่ื นาํ ไปเผาจะไดโซดาแอช 5.พจิ ารณาภาพแสดงกระบวนการโซเวย์ท่ีกาหนดให๎ แล๎วตอบคาถาม NaCl+H2O น้าํ เกลือผสมแอมโมเนยี NH3 CaCO3 DE G เผา A NaCl+H2O A NNกaaCรClอl++HงH2O2O ผลพลอยได NaCl+H2O I NaCl+H2O C NaCl+H2O สาร NaCl+H2O H NaCl+H2O
1. สาร B คอื H2O (l) 2. ปฏกิ ิรยิ าท่ีเกดิ ข้ึนใน A คอื CaCO3 (s) CaCO (s) + CO2 (g) 3. ปฏิกิริยาทีเ่ กิดขน้ึ ใน C คือ CaCO (s) + H2O (l) Ca2+(aq) + 2OH-(aq) 4. สาร D คอื CO2 (g) 5. ปฏิกิริยาที่เกดิ ขน้ึ ใน C คือ Na+(aq) + Cl- (aq) + NH4+ (aq) + OH-(aq) + CO2 (g) NaHCO3 (s) + NH+ (aq) + Cl- (aq) 6. สาร F คือ NH4Cl (aq) 7. สาร H คือ NaHCO3 (s) 8. สาร I คอื CaCl2(aq)
ใบงานที่ 1 เรอื่ ง การผลติ โซดาแอช ตอบคาถามเก่ียวกับการผลิตโซดาแอช 1. กระบวนการโซลเวย์ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตโซดาแอชมีช่ือเรียกวําอยํางไร และวัตถุดิบท่ีใช๎ใน กระบวนการมีอะไรบ๎าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงเขียนปฏกิ ริ ยิ าท่ีสาคัญของกระบวนการโซลเวย์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ระบขุ อ๎ ดขี อ๎ เสยี ของกระบวนการโซลเวย์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นอกจากกระบวนการโซเวย์แลว๎ การเติมโซดาแอชยังสามารถใช๎วิธอี ื่นได๎หรือไมํ อยํางไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5.พจิ ารณาภาพแสดงกระบวนการโซเวย์ทีก่ าหนดให๎ แล๎วตอบคาถาม NaCl+H2O น้ําเกลอื ผสมแอมโมเนยี NH3 CaCO3 DE G เผา A NaCl+H2O A NNกaaCรClอl++HงH2O2O ผลพลอยได NaCl+H2O I NaCl+H2O C NaCl+H2O สาร NaCl+H2O H NaCl+H2O
1. สาร B คอื …………………………………………………………………….. 2. ปฏิกริ ิยาทเ่ี กิดขน้ึ ใน A คือ …………………………………………………………………….. 3. ปฏกิ ริ ยิ าทเ่ี กิดขึ้นใน C คือ …………………………………………………………………….. 4. สาร D คอื …………………………………………………………………….. 5. ปฏกิ ิรยิ าทีเ่ กดิ ขนึ้ ใน C คอื …………………………………………………………………….. 6. สาร F คือ …………………………………………………………………….. 7. สาร H คือ …………………………………………………………………….. 8. สาร I คอื ……………………………………………………………………..
แผนการจดั การเรียนร๎ทู ี่ 19 หนํวยการเรยี นรูท๎ ี่ 10 ธาตแุ ละสารประกอบอนนิ ทรียใ์ นอุตสาหกรรม เร่ือง อุตสาหกรรมปยุ๋ กลุํมสาระการเรียนรู๎วทิ ยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว30225 รายวิชา เคมี 5 (เพ่ิมเตมิ ) เวลา 3 ชว่ั โมง ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 2 ผลการเรียนร๎ู 1. อธบิ ายกระบวนการผลติ ปยุ ชนิดตาง ๆ ตลอดจนผลกระทบตอ ส่งิ แวดลอมที่เกดิ จากการใชปยุ ได 2. อธิบายผลกระทบตอสงิ่ แวดลอมทเี่ กดิ จากอุตสาหกรรมประเภทตา ง ๆ ได สาระการเรยี นรู๎ อตุ สาหกรรมปยุ การนําปุยมาใชในการเกษตรเปน็ วธิ ีหนึ่งที่ชวยเพ่ิมผลผลติ ทางการเกษตรใหส ูงขึน้ ซงึ่ เป็นส่ิงจาํ เป็นตอก ปุย หมายถึง สารท่ีใสลงในดินเพ่ือใหปลดปลอยธาตุอาหารแกพืช โดยเฉพาะธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม จุดประสงค์การเรยี นรู๎ ดา๎ นความร๎ู (Knowledge) - อธบิ ายวิธกี ารผลิตปุยไนโตรเจน ปุย ฟอสเฟต และปยุ โพแทสได - สรุปหลกั การที่ใชใ นการผลิตปยุ ไนโตรเจน ปุย ฟอสเฟต และปุย โพแทสได - ระบุผลกระทบท่เี กดิ จากการใชป ุยชนิดตาง ๆ ดา๎ นทักษะ (Process) - ทกั ษะกระบวนการกลุม ดา๎ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Affective) 1. ปฏิบตั ติ นเปน็ ผูม ีความสนใจใฝรุ ู และมรี ะเบยี บวินัย 2. ปฏิบัติตนเป็นผูมีความรบั ผิดชอบ ตรงตอเวลา 3. ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผมู คี วามซื่อสัตย์ สจุ ริต ความคดิ รวบยอด อุตสาหกรรมปุย การนําปุยมาใชในการเกษตรเป็นวิธีหน่ึงที่ชวยเพ่ิมผลผลิตทางการเกษตรใหสูงขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งจําเป็นตอการ พฒั นาประเทศ ปุย หมายถึง สารทีใ่ สลงในดนิ เพ่ือใหปลดปลอยธาตุอาหารแกพืช โดยเฉพาะธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ โพแทสเซียม มี 2 ประเภทคอื 1. ปยุ อนิ ทรีย์ เปน็ ปุยธรรมชาตทิ ไ่ี ดจากการเนาเปื่อยผุพังของซากสิ่งมีชีวิต ไดแก ปุยคอก ปุยหมัก ปุย พืชสด ปุยอินทรีย์ชีวภาพ และวัสดุเหลือใชจากโรงงานอุตสาหกรรมบางชนิด เมื่อใสในดินซากสิ่งมีชีวิตจะ คอยๆสลายตัวและปลอยธาตุอาหารออกมาใหพืช แตมีขอเสียคือ มีธาตุอาหารนอยรวมท้ังมีปริมาณและ สดั สว นไมแนน อน
2. ปุยเคมีหรือปุยวิทยาศาสตร์ เป็นปุยที่ไดจากการผลิตหรือสังเคราะห์จากแรธาตุตางๆ หรือเป็นผล พลอยไดจากโรงงานอุตสาหกรรมบางชนิด ซ่ึงจะมีธาตุอาหารหลักที่จําเป็นตอการเจริญเติบโตของพืช ไดแก ธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรสั และโพแทสเซยี ม สามารถปลดปลอยใหแกพ ชื ไดงา ยและเรว็ มี 2 ประเภทคือ 2.1 ปุย เดยี่ วหรือแมปุย เปน็ สารประกอบท่ีมีธาตุอาหารของพืชอยูหนึ่งหรือสองธาตุ และมีปริมาณธาตุ อาหารคงท่ี เชน ปุยยูเรยี และปุยแอมโมเนยี มซัลเฟต 2.2 ปยุ ผสม เปน็ ปุยท่ีไดจากการนําปุยเดี่ยวแตละชนิดมาผสมกันเพ่ือใหไดสัดสวนของธาตุอาหาร N P และ K ตามตองการ เชน ปุยสูตร 10 : 15 : 20 ประกอบดวย N 10 สวน P 15 สวน K 20 สวน และมีตัวเติม อีก 55 สว น ใหค รบ 100 สว น นอกจากน้ี ปุยวิทยาศาสตรบ์ างชนดิ อาจมีธาตุอาหารของพืชท่ีมีความสําคัญในลําดับรอง ซ่ึงพืช ตองการในปริมาณนอย ไดแก ธาตุแคลเซียม กํามะถัน แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี แมงกานีส และทองแดง ผสมอยดู วย สมรรถนะสาคญั ของผเ๎ู รียน ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกปัญหา ความสามารถในการใชทกั ษะชีวิต ความสามารถในการใชเทคโนโลยี คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ความซอ่ื สัตย์สุจริต มวี นิ ัย ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยูอยางพอเพียง มุงมนั่ ในการทาํ งาน มีจติ สาธารณะ ใฝุเรียนรู รกั ความเป็นไทย แนวความคิดเพื่อการเรียนรู๎ในศตวรรษที่ 21 ทกั ษะดา นการเรยี นรูและนวตั กรรม สาระวชิ าหลกั (Core Subjects) ทักษะดา นชวี ิตและอาชพี ทกั ษะดานสารสนเทศ สอ่ื และเทคโนโลยี กจิ กรรมการเรยี นรู๎ วิธสี อน โดยใชก ระบวนการสบื เสาะความรู (Inquiry Cycle หรอื Inquiry Method : 5E) ชว่ั โมงที่ 1-3 1. ขั้นสรา๎ งความสนใจ (Engagement) (10 นาที) 1.1 ครูสนทนากับนักเรียนเรื่อง อุตสาหกรรมปุย พรอมกับใชเกม Kahoot! กระตุนความสนใจของ ผูเ รียน 1.2 ครใู ชค ําถามกระตุน ผูเรยี น ดังนี้ 1. ในชีวิตนักเรยี นรูจักปยุ ชนดิ ใดบาง ตอบ ปยุ ไนโตรเจน ปยุ คอก ปุย ฟอสเฟต ปยุ โพแทส เป็นตน 2. นกั เรยี นจงจําแนกชนดิ ของปยุ มกี ป่ี ระเภท อะไรบา ง ตอบ 2 ไดแ ก 1. ปยุ อินทรยี ์ 2. ปุยเคมี 1.3 ครนู ํานกั เรยี นเขา สูบ ทเรียนเร่อื ง อตุ สาหกรรมปุย
2. ขน้ั สารวจและค๎นหา (Exploration) (70 นาที) 2.1 ครูบรรยายอุตสาหกรรมปยุ โดยใช power point ประกอบการสอน 2.2 ครูเปิดวดี โี อ ใหน ักเรียนทําการศกึ ษาใหเ ขาใจงายมากย่งิ ขึ้น https://www.youtube.com/watch?v=ARUbuzdDPVI 2.3 ครูใหน กั เรยี นแบงกลมุ ละเทา ๆ กนั เพ่อื ใหน ักเรยี นทาํ แผนผังความคดิ เร่อื ง อตุ สาหกรรมปยุ มีหวั ขอ ดังน้ี 1. ปุยไนโตรเจน 2. ปุยฟอสเฟต 3. ปุยโพแทส 4. ปุยยเู รยี 5. ปยุ แอมโมเนียมฟอสเฟต 2.4 ครูใหนักเรยี นสืบคน จากอนิ เตอร์เน็ตและหนงั สอื เรียน 2.5 เมอื่ นกั เรียนทาํ แผนผงั ความคิดเสร็จเรียบรอ ยแลว ใหนกั เรียนนําเสนอหนา ช้นั เรยี นกลมุ ละ 10 2.6 ครูประเมนิ นกั เรียนโดยใชแบบประเมินการนาํ เสนองาน 3. ขั้นอธิบายและลงขอ๎ สรปุ (Explanation) (20 นาท)ี 3.1 ครูและนักเรยี นชวยกนั อภปิ ราย พรอ มกบั สรุปผลการทดลองดงั นี้ ปุย ( Fertilizer ) คือสารท่ีใหธาตุที่จําเป็นแกพืช ปุยจําแนกออกไดเปน็ 2 ชนิด คือ ปุยอนินทรยี ์ เป็นปยุ ทไ่ี ดจากการสงั เคราะห์ จึงเรยี กวา ปุยเคมี หรือ ปุยวทิ ยาศาสตร์ ปยุ อินทรยี ์ เป็นปยุ ที่ไดจ ากซากของสิ่งมีชีวติ ปุย๋ ไนโตรเจน ประเทศที่มีแหลงปโิ ตรเลยี มหรอื อุตสาหกรรมปิโตรเลยี ม มกั จะมอี ตุ สาหกรรมผลติ ปุยควบคูกนั ไป เน่อื ง จากในอุตสาหกรรมปยุ ใชกา฿ ซปิโตรเลยี มเป็นสารตั้งตน สาํ หรบั ในประเทศไทยมกี ารผลิตปยุ 2 ชนิด คอื ปุย แอมโมเนยี มซลั เฟตและปุยยูเรยี 1. การผลิตปยุ๋ แอมโมเนียมซลั เฟต [(NH4)2SO4] ปยุ แอมโมเนียมซัลเฟต หรือปุย ขาว หรือปุยนํา้ ตาล เตรียมไดโดยการนํา NH3 มาทําปฏกิ ิริยากับกรด H2SO4 ดังสมการ 2NH3 + H2SO4 (NH4)2SO4 การเตรียม NH3 NH3 เตรียมจาก N2 ทาํ ปฏกิ ิริยากบั H2 ดงั สมการ N2 + 3H2 2NH3 ก฿าซไนโตรเจน เตรียมจากอากาศ โดยนําอากาศมาลดอุณหภูมแิ ละเพ่มิ ความดัน จะไดอากาศเหลว จากน้ันนาํ อากาศเหลว มากลน่ั ลําดบั สวนจะได N2 กา฿ ซไฮโดรเจน เตรียมได 2 วิธี คอื 1. ใชอ อกซเิ จนทําปฏิกริ ิยากบั CH4 โดยมี Ni เป็นตวั เรง ดงั สมการ : 2CH4 + O2 2CO + 4H2 2. ใชไ อน้าํ ทาํ ปฏกิ ิรยิ ากับ CH4 โดยมี Ni เปน็ ตัวเรง ดงั สมการ : CH4 + H2O CO + 3H2 แยกก฿าซ H2 ออกจาก CO แลว นํา CO ไปทาํ ปฏกิ ิรยิ ากบั ไอน้าํ ดังสมการ : CO + H2O CO2 + H2 กา฿ ซทงั้ หมดทเ่ี กิดขน้ึ อาจถกู สง เขา ไปในหอคอยท่ีมีนํ้าพน ลงมา CO2 จะละลายน้ําเกิดเปน็ กรด H2CO3 ไหลออกไปพรอมกับนาํ้ นาํ ไปแยก CO2 ออกมา โดยการลดความดนั และเพิ่มอณุ หภูมิ H2 จะไมละลายน้าํ จะ ผานออกมาทางสว นบนของ หอคอย จากนัน้ นํา N2 และ H2 มาทําปฏกิ ริ ยิ ากันจะได NH3 การเตรียมกรดซลั ฟิวริก ใชกาํ มะถนั เผากับออกซิเจนจะได SO2 ดงั สมการ S + O2 2SO3 SO2 นาํ SO2 มาเผากบั O2 จะได SO3 ดงั สมการ 2SO2 + O2
นาํ SO3 ไปละลายใน H2SO4 เขมขน จะได oleum ดงั สมการ SO3 + H2SO4 H2S2O7 เมอ่ื นํา H2S2O7 มาละลายนํ้า จะไดก รดซัลฟวิ รกิ เขมขน ดังสมการ H2S2O7 + H2O 2H2SO4 จากน้ันนาํ NH3 และ H2SO4 มาทําปฏิกริ ิยากนั จะได (NH4)2SO4 ดังสมการ 2NH3 + H2SO4 (NH4)2SO4 2. การเตรยี มปยุ๋ ยูเรีย ปุย ยูเรีย เตรยี มไดจ ากการนํา NH3 มาทําปฏิกริ ิยากบั CO2 การเตรยี ม NH3 และ CO2 เตรียมไดตามวธิ ีการเตรยี ม NH3 ในการผลติ ปยุ แอมโมเนียมซลั เฟตปยุ ยูเรยี และปุยแอมโมเนยี มซัลเฟตเปน็ ปุยท่ีใหธาตุไนโตรเจนแกพ ชื สวนปุย ท่ใี หธาตฟุ อสฟอรสั ยังไมม ีการผลิตใน ประเทศ แตม โี ครงการทีจ่ ะผลิตปยุ โพแทส เนอื่ งจากภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือมีธาตุโพแทสอยมู าก ปุ๋ยฟอสเฟต ประเทศไทยมีแหลง หินฟอสเฟตมาก เชน ที่ลาํ พูน ลําปาง และราชบุรี ชาวบา นไดน าํ หนิ ฟอสเฟตมา บดใสในดินเพอื่ เป็นปยุ โดยตรง แตห ินฟอสเฟตละลายนํ้าไดน อยจึงตอ งใสมาก ไมคุมคา จึงมกี ารศึกษาที่จะผลติ ปยุ ฟอสเฟตจากหนิ ฟอสเฟต ดังนี้ 1. ใช H2SO4 4.5 mol/ l ทาํ ปฏิกิริยากบั หินฟอสเฟต ดงั สมการ CaF2.3Ca3(PO4)2 + 10H2SO4 6H3PO4 + 10CaSO4 + 2HF 2. H3PO4 ท่ีไดจ ะทาํ ปฏิกิรยิ ากบั หนิ ฟอสเฟตทเี่ หลือไดเ ปน็ monocalcium phosphate หรอื ปยุ superphosphate [Ca(H2PO4)2] ซ่ึงละลายน้ําไดดี ปฏกิ ริ ยิ านใี้ ชเวลาในการเกิด 6-25 วนั ดังสมการ CaF2.3Ca3(PO4)2 + 14H3PO4 10Ca(H2PO4)2 + 2HF จากปฏิกริ ิยาการเตรียมปุยฟอสเฟต ถาในหนิ ฟอสเฟตมี CaF2 ปนอยูจ ะทาํ ใหได HF ซ่ึงเป็นพษิ จึงเก็บ HF โดยผา นลงในน้ําเกิดเป็นกรด แลว ทําใหเปนู กลาง โดยใหท ําปฏกิ ริ ิยากับ Na2CO3 ดังสมการ 2HF + Na2CO3 2NaF + H2O + CO2 2HF + CaCO3 CaF2 + H2O + CO2 ปุ๋ยโพแทส เปน็ ปยุ ทีม่ ธี าตุ K เป็นองคป์ ระกอบ ไดจากการเผาใบไม กิ่งไม และหญา ปยุ โพแทสมีหลายชนดิ เชน KCl K2SO4 KNO3 และ K2SO4.2MgSO4 การผลติ ปยุ แตละชนดิ เหลา นีจ้ ะมกี ระบวนการที่แตกตา งกนั ดังน้ี 1. การผลติ ปยุ KCl ใชแรซิลวาไนต์ (KCl.NaCl) มาบดใหละเอียดแลว ละลายในนํ้าที่มีอุณหภูมิ ประมาณ 90๐ C เติมสารละลาย NaCl ท่อี มิ่ ตวั ลงไป ระเหยน้าํ ออก จนกระทงั่ KCl ตกผลกึ ออกมาหรืออาจจะ ผลติ จากน้ําทะเล โดยนาํ นํ้าทะเลมาระเหยจน NaCl ตกผลึก แยก NaCl ออก จากน้ันระเหยนํา้ ตอจน KCl ตก ผลึก นํ้าทมี่ อี ุณ2ห. ภกูมาริปผรละิตมาKณ2S5O04๐ผCลิตจไนดเจ ปา็นกสาารรนลาํ ะแลราแยลองิ่มไปตไวั นแตล์ (วKเ2ตSมิ Oส4า.2รMละgลSาOย4)KมCาlบทดเี่ ใขหม ลขะนเอลงยี ไดปแลจวะลไดะผลลายึกใน K2SO4 ออกมา ดงั สมการ K2SO4.2MgSO4 + 4KCl 3K2SO4 + 2MgCl2 3. การผลติ KNO3 ผลติ ไดโดยใช KCl ทําปฏกิ ริ ิยากบั NaNO3 ดงั สมการ KCl + NaNO3 KNO3 + NaCl
4. ข้ันขยายความรู๎ (Elaboration) (50 นาที) 4.1 ครอู ธิบายเก่ียวกับผลกระทบท่เี กิดจากการใชปุยชนดิ ตาง ๆ 4.2 ครใู หน ักเรียนทาํ แบบฝึกหัดที่ 1 เร่อื ง อตุ สาหกรรมปยุ 5. ขั้นประเมิน (Evaluation) (10 นาที) 5.1 แผนผงั ความคดิ เรอ่ื งอุตสาหกรรมปุย 5.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายกลมุ 5.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบุคคล 5.4 แบบฝึกหดั ท่ี 1 เร่ือง อุตสาหกรรมปยุ วัสดุ อุปกรณ์ สอ่ื และแหลํงเรยี นรู๎ 1. power point 2. ชุดการทดลองเรอ่ื ง การแยกสารละลายโซเดยี มคลอไรด์ดว ยกระแสไฟฟูา 3. หนงั สอื เรยี นเคมเี ลม 4 4. VDO เรอ่ื ง อุตสาหกรรมปยุ https://www.youtube.com/watch?v=ARUbuzdDPVI การวดั และการประเมนิ ผล การวัดผลประเมนิ ผลด๎าน วิธีการวดั เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารผาํ น 1. โจทย์แบบฝกึ หัด 1. ดา นความรู 1. ทําแบบฝกึ หัด 1. ไดค ะแนนรอ ยละ 60 ข้นึ ไป 2. ดานทักษะ 1. สืบคนขอมูล ทําเป็น 1. ชนิ้ งาน แผนผังความคดิ 1. ไดคะแนนรอยละ 60 ข้นึ ไป 2. การนาํ เสนองาน 2. แบบประเมนิ การ นาํ เสนอ 3. สังเกตพฤติกรรมราย 3. สงั เกตพฤติกรรมราย กลุม กลุม 3. ดานคุณลักษณะท่ีพึง - สั ง เ ก ต พ ฤ ติ ก ร ร ม - แบบสังเกตพฤติกรรม 1. ระดบั คุณภาพ ประสงค์ รายบุคคล รายบุคคล ปานกลางขึน้ ไป
บนั ทกึ หลังแผนการจดั การเรยี นร๎ู รายวิชาเคมี 5 รหสั วชิ า ว30225 ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 1. ดา๎ นความร๎ู ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ด๎านทักษะ/กระบวนการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ดา๎ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4.ปญั หาและอปุ สรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. แนวทางการแกไ๎ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ........................................................ครูผสู อน ( นางสาวสทุ ิพย์ สุขสบาย) ............../............../...........
ความสนใจใฝ่ ๎ูร ้ัตงใจเรียน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล และทา ิกจกรรมวชิ า ...................................................................................................... ชั้น ......................................... เลขที่ ชื่อ-นามสกลุ การแลกเป ี่ลยนเ ีรยน ู๎ร ักบเพ่ือน ีมความซ่ือสัตย์ในการทา ิกจกรรมหมายเหตุ ใหบันทกึ โดยใชเครอ่ื งหมาย ้ัตงปัญหาห ืรอคาถามสร๎างสรร ์ค = แสดงพฤติกรรมทพ่ี ึงประสงคต์ ามคาดหวงั ทางานไ ๎ดเ ีรยบ ๎รอย ูถก ๎ตองและครบ ๎ถวน = ไมแ สดงพฤติกรรมท่พี งึ ประสงคต์ ามคาดหวงั หมายเห ุตเกณฑ์การประเมิน นกั เรยี นมพี ฤติกรรมทพ่ี ึงประสงคต์ ามคาดหวังตงั้ แต 3 รายการขึน้ ไป ถอื วา ผา นเกณฑก์ ารประเมนิ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมํุ กลมุํ ……………………………………………....…หัวข๎อเรอื่ ง………..…………………………………… สมาชกิ กลมํุ 1……………………………………………. 2…………………………………………… 3…………………………………………... 4…………………………………………… 5…………………………………………… ลาดับ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 123 1 ความรบั ผิดชอบตอ หนา ของตนเอง 2 การวางแผนงานอยางเป็นระบบ 3 การเสยี สละ และชวยเหลอื่ เพอ่ื นรว มงาน 4 การมีสว นรวมในการแสดงความคดิ เห็น 5 งานเสร็จตามกําหนด รวม รวมคะแนน การตดั สนิ คุณภาพ เกณฑ์การใหค๎ ะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ผลงานหรอื พฤติกรรมความสมบรู ณ์ชัดเจน ให 3 คะแนน ชํวงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ผลงานหรือพฤติกรรมมขี อบกพรองบางสวน ให 2 คะแนน ผลงานหรือพฤตกิ รรมมขี อ บกพรอ งมาก ให 1 คะแนน 11-15 3 (ดี) 6-10 2 (ปานกลาง) ต่าํ กวา 6 1 (ปรับปรงุ )
แบบฝึกหัดที่ 1 เรอ่ื ง อตุ สาหกรรมปุ๋ย คาถามตอบเก่ยี วกบั ปยุ๋ 1. ปุย๋ หมายถึงอะไร สารทใี่ สลงในกินเพอื่ ปลดปลอ ยธาตุอาหารทจี่ ําเป็นตอการเจรญิ เติบโตของพืชใหแ กพ ืช 2. ธาตุอาหารหลักของพืชมีกช่ี นดิ อะไรบา๎ ง ธาตอุ าหารหลกั ของพืชมี 3 ชนดิ ไดแก ไนโตรเจน ฟอสฟอรสั และโพแทสเซยี ม 3. ตอบคาถามเก่ียวกับชนิดของปยุ๋ 1) ปุย๋ ที่ไดจ๎ ากการหมกั หญา๎ แห๎ง ใบไม๎ และฟางขา๎ ว คอื ปยุ หมัก 2) ปุ๋ยที่ไดจ๎ ากการไถกลบพืชตระกูลถว่ั คอื ปยุ พืชสด 3) ปยุ๋ ทไ่ี ดจ๎ ากการหมักมูลสตั ว์ คอื ปยุ คอก 4) ปุ๋ยท่ไี ด๎จากการสังเคราะห์จากแรํธาตตุ าํ ง ๆ คือ ปยุ เคมี 4. พิจารณาแผนภาพวัตถุดิบในการผลติ ปยุ๋ ที่กาหนดให๎ แล๎วระบุประเภทของปุ๋ยทไี่ ด๎ อากาศ แกส๏ N2 อากาศ 1. ปุ๋ย NH4NO3 แก๏ส H2 แกส๏ NH3 2. ปุ๋ย (NH2)3CO แกส๏ ธรรมชาติ ธรรมชาติ กามะถัน แก๏ส SO2 กรด H2SO4 3. ปุ๋ย(NH4)2SO4 กามะถนั กรด H3PO4 4. ป๋ยุ ฟอสเฟต KCl 5. ปุย๋ โพแทส
แบบฝึกหดั ที่ 1 เรื่อง อตุ สาหกรรมปยุ๋ คาถามตอบเกยี่ วกบั ปยุ๋ 1. ปุ๋ยหมายถงึ อะไร …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………… ……….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………………………… …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………… 2. ธาตุอาหารหลกั ของพชื มีก่ีชนิด อะไรบา๎ ง …………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….…………… ……….…………………….…………………….…………………….…………………….…………………….………………………… 3. ตอบคาถามเกย่ี วกบั ชนดิ ของปุ๋ย 1) ป๋ยุ ทไ่ี ดจ๎ ากการหมกั หญ๎าแห๎ง ใบไม๎ และฟางข๎าว คอื ……………………. 2) ปุ๋ยท่ไี ดจ๎ ากการไถกลบพชื ตระกูลถั่ว คอื ……………………. 3) ปุ๋ยทีไ่ ดจ๎ ากการหมกั มูลสัตว์ คือ ……………………. 4) ปุ๋ยที่ไดจ๎ ากการสังเคราะห์จากแรํธาตุตําง ๆ คอื ……………………. 4. พิจารณาแผนภาพวัตถุดบิ ในการผลติ ปุ๋ยท่กี าหนดให๎ แลว๎ ระบปุ ระเภทของปุ๋ยทไ่ี ด๎ อากาศ แก๏ส N2 อากาศ 1. ……………………. แก๏สธรรมชาติ แกส๏ H2 แก๏ส NH3 ธรรมชาติ 2. ……………………. กามะถนั แกส๏ SO2 กรด H2SO4 3. ……………………. กามะถนั กรด H3PO4 4. ……………………. KCl 5. …………………….
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247