101 ควรคานงึ ถงึ หลักใดบ้าง” จากนั้นนักเรียนร่วมกนั ตอบคาถาม6. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 6 เรอื่ ง การปฏิบัติงาน ประติมากรรมลอยตัว 2. Power Point หนว่ ยที่ 6 บนแผ่น CD ROM 3. เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ 4. เคร่ืองคอมพวิ เตอรพ์ รอ้ มอปุ กรณ์เช่ือมตอ่ 5. ใบกิจกรรม เรื่อง “การปฏิบัติงานประตมิ ากรรมลอยตัว”7. กิจกรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมายกอ่ นเรียน 7.1.จดั เตรียมเอกสาร สื่อการเรียนการสอนทีค่ รูผ้สู อนและบทเรียน กาหนดไว้ขณะเรยี น 7.2.สังเกตการปฏิบัตงิ านตามใบกิจกรรม เรอ่ื ง “การปฏบิ ัตงิ าน ประติมากรรมลอยตัว” พร้อมเดินสงั เกต และใหค้ าแนะนากับ นักเรียนหลงั เรยี น 7.3.นักเรยี นเกบ็ ทาความสะอาด โตะ๊ เก้าอี้ พ้ืนห้องเรียน กระดาน รองปัน้ ใหส้ ะอาดเรียบรอ้ ยและปิดไฟฟ้า พดั ลมใหเ้ รียบร้อยกอ่ น ออกจากห้องเรยี น8. การวดั ประเมนิ ผล 1. วธิ ีวัดผลและประเมินผล 1.1.สังเกตพฤติกรรมการทางาน 1.2.ประเมนิ จากผลงานการปฏิบตั กิ ิจกรรม แบบทดสอบ กอ่ น/หลังเรียน และใบกจิ กรรม
102 1.3.สงั เกตความสนใจและความต้ังใจในการทากิจกรรม ของนักเรียน 2. เคร่ืองมือวัดและประเมินผล 2.1.แบบประเมนิ ผลช้นิ งาน 2.2.แบบทดสอบก่อน/หลังเรียน 2.3.แบบสงั เกตความสนใจและความตง้ั ใจในการทากจิ กรรมของนกั เรยี น 3. เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล 3.1.ผลการประเมนิ แบบประเมนิ ผลชิ้นงาน อยู่ในเกณฑ์ระดบั ดี ข้นึ ไป 3.2.ผลการสังเกตความสนใจและความต้ังใจในการทากิจกรรมของนักเรยี น อย่ใู นเกณฑร์ ะดับ ดี ข้ึนไป 3.3.ผลการทาแบบทดสอบก่อน/หลังเรียนได้ร้อยละ 80ขนึ้ ไปแบบประเมนิ ผลชน้ิ งานช่อื ..................................................................................เลขท่ี ...................ระดับชั้น................. หัวข้อการประเมนิ เกณฑก์ ารให้ รวมข้อ คะแนน (20)ที่ 321 11.ปริมาณข้อมลู 12.คณุ ภาพข้อมลู 13.แบบแผนการคดิ (การ เชือ่ มโยง) 14.แบบแผนการคดิ (สาระ/
103 เน้อื หา)15.ความคดิ สรา้ งสรรค์16.ความรับผดิ ชอบ17.ความชื่อสัตย์ รวม ระดบั คุณภาพ18-20 คะแนน ดมี าก 15-17 คะแนน ดี12-14 คะแนน ปานกลาง ควรปรบั ปรงุ ต่ากวา่ 11 คะแนน
104 เกณฑ์การประเมินใบงานรายการ ระดับคะแนนประเมนิ 3 2 11. ปรมิ าณ ปริมาณข้อมูลมี ปรมิ าณข้อมูลมี ปรมิ าณข้อมลู มีขอ้ มลู 4ด้าน ขน้ึ ไป 2-3 ดา้ น นอ้ ย มีเพียง 12. คุณภาพ ด้าน ขอ้ มูลมหี วั เรื่อง ข้อมูลมีหวั เรื่อง ขอ้ มูลมเี ฉพาะขอ้ มูล หลกั หวั เรอื่ ง หลักและ หวั หัวเร่ืองหลัก รอง มี เรอื่ งรองแตไ่ ม่ รายละเอียด ใน เหมาะสม กบั หัวเรือ่ งรอง ลาดับ อยา่ ง ความสาคัญ สมเหตุสมผล3. แบบแผนการ มกี ารเชอ่ื มโยง จัดกล่มุ ขอ้ มูล แผนท่ีความคิดคิด (การ ลาดับ และ แสดง การ ไมแ่ สดง การเช่อื มโยง) เหตุการณ์เปน็ เช่อื มโยง เชือ่ มโยง เหตุเปน็ ผล และ ภายในกลุ่ม แต่ ระหวา่ งกล่มุ แสดง ไม่ เชอ่ื มโยงท้ัง ความสัมพนั ธ์ ระบบ ทง้ั ระบบ4. แบบแผนการ สาระท่ีเขียน สาระที่เขียนมี สาระท่ีเขียนมีคดิ (สาระ/ สว่ นใหญ่เปน็ รปู ธรรม แต่รปู ธรรม ที่เนือ้ หา) นามธรรม องค์ มากกวา่ เป็นพฤตกิ รรม ความรู้ หลักการ นามธรรม และ และแสดง ดาเนินชีวิตทีด่ ี แสดงวิสยั ทศั น์ วสิ ยั ทัศน์เรื่องท่ี และแสดง เรอ่ื งทีจ่ ะ ทาใน จะทาใน วิสยั ทศั น์เรอื่ งที่ อนาคต 1 เรอ่ื ง อนาคต จะทาในอนาคต 2เรื่อง ขึ้นไป5. ความคิด รปู แบบ ท้งั การ รปู แบบ ท้งั การ รูปแบบ ทง้ั การ ออกแบบ ออกแบบ ออกแบบ
105สรา้ งสรรค์ MindMap และ MindMap และ MindMap และ เนือ้ หา ดู เนื้อหา ดไู ม่ เน้ือหา ไม่ น่าสนใจ รอ้ ย ค่อยน่าสนใจ นา่ สนใจเลย ละ 75 ขึ้นไป (ไม่ถงึ รอ้ ยถะ 75 )6. ความ สง่ งานตรงเวลา ส่งงานล่าช้า สง่ งานล่าชา้รบั ผิดชอบ ทค่ี รกู าหนด แต่มีเหตผุ ล และไม่มีเหตผุ ล จาเปน็ จาเปน็7. ความชอ่ื สัตย์ เขยี นตาม เขยี นตาม ดัดลอกจาก รปู แบบของ รปู แบบของ หนังสือ/ ตนเอง ตนเอง หรือ website ดัดแปลงจาก ดัดแปลง ต้นแบบ 75 % บางส่วน ขนึ้ ไปแบบสงั เกตความสนใจและความตง้ั ใจในการทากจิ กรรมของนกั เรยี น ชื่อนกั เรยี น......................................................................ชั้น ..........................กจิ กรรม.............................................................................วันท่ี ........................................ รายการ ปฏบิ ตั ิ ไมป่ ฏบิ ตั ิ1. เริ่มตน้ งานทไ่ี ด้รับมอบหมายทนั ที2. ทางานเสร็จเรียบร้อยตามเวลาที่
106กาหนด3. ขอคาแนะนาจากครหู รือเพือ่ นเมอ่ืไมเ่ ข้าใจ4. ทากิจกรรมด้วยความสนุกสนานและเต็มใจ5. มีส่วนรว่ มในการทากจิ กรรมอย่างสมา่ เสมอ6. ชว่ ยเหลอื แนะนาเพ่ือนในการทากจิ กรรมตามสมควร7. สนใจศึกษาหาความรูเ้ พม่ิ เตมิ ดว้ ยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ3. ขอ้ ใดทนี่ กั เรียนปฏิบตั ิ ได้คะแนน 1 คะแนน ไม่ปฏิบัติ ได้ คะแนน 0 คะแนน4. เกณฑก์ ารประเมินจากแบบสงั เกตอาจกาหนด ดังน้ี7 คะแนน ดีมาก5-6 คะแนน ดี3-4 คะแนน พอใช้1-2 คะแนน ควรปรบั ปรุง
107 ใบกจิ กรรม ชอื่ ......................................................................................... เลขท.ี่ ...............ชนั้ ......................คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นสาธติ การใชง้ านวัสดอุ ปุ กรณ์ ดว้ ยเทคนคิ วธิ กี ารปน้ั ดงั ตอ่ ไปนี้ (ประตมิ ากรรมนนู ตา่ ประติมากรรมนนู สงูประติมากรรมลอยตวั ) โดยตกแตง่ รายละเอยี ดใหด้ สู วยงาม นา่ สนใจ
108 แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี นรหสั 2301-2006 รายวชิ า ประตมิ ากรรมนนู และลอยตวัหน่วยที่ 11-17 เร่ือง การปฏบิ ตั งิ านประตมิ ากรรมลอยตวั
109คาชแี้ จง แบบทดสอบเป็นแบบอตั นัย จานวน 1 ข้อคาสง่ั จงสรา้ งสรรคง์ านประติมากรรมนูนสูงบคุ คลสาคัญใน ประเทศไทย แลว้ นามาป้นั ด้วยเทคนิควิธีการเฉพาะตน พรอ้ มทั้งอธิบายเทคนิควิธกี ารและการปฏบิ ตั ิงานการ สร้างสรรค์ผลงาน โดยยดึ หลักประติมากรรม
110แนวความคดิ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 6 เรือ่ ง ประตมิ ากรรมนนู และลอยตวัจดุ มงุ่ หมาย เพื่อใหน้ กั เรยี นปฏิบัติงานเกี่ยวกับการปฏิบตั ิงานประตมิ ากรรมลอยตัวจงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. การปฏบิ ัตงิ านประตมิ ากรรมลอยตัว คือขน้ั ตอนอะไร 2. การปฏิบัติงานประตมิ ากรรมลอยตัว บุคคลคนสาคญั ในประเทศ ไทย มีไว้เพ่ือวัตถุประสงคใ์ ด
1113. การปฏบิ ัตงิ านประตมิ ากรรมลอยตัว มีประโยชนอ์ ยา่ งไรในการ สรา้ งสรรค์งาน “ปฏมิ ากรรม”4. เทคนคิ และวธิ กี ารปนั้ มีส่วนช่วยในทฤษฎกี ารขึน้ โครงสรา้ ง ประติมากรรมลอยตัวอยา่ งไร ประกอบด้วยรายละเอยี ดของ เทคนคิ อะไรบา้ ง5. นักเรยี นสามารถสร้างสรรค์งานประตมิ ากรรมนนู และลอยตัวไป ใชใ้ นชีวิตประจาวันได้อย่างไรบ้าง
1129. บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ 9.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ 9.2 ผลการเรยี นของผู้เรยี น 9.3 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรขู้ องผ้สู อน
113 9.4 ปญั หาและอปุ สรรค แนวทางแกป้ ญั หาและหรือพฒั นา (ถา้มี)1. สาระสาคญั การแรเงาเปน็ ข้นั ตอนการสรา้ งสรรค์ในส่วนของการทามิตขิ องภาพ การใหน้ ้าหนักความออ่ นแก่แสงเงา การทารายละเอียดของหุ่นน่ิงและรวมไปถึงการสร้างสรรค์ผลงานใหม้ ีความสวยงาม เหมือนจริงและมมี ิติของภาพตามวัตถุตน้ แบบ โดยผ้วู าดจะใช้วิธีการ เทคนิคใหม่ๆ รวมไปถึงการให้ความละเอียดของงาน เนอื้ หา ตามทผี่ ู้สร้างต้องการ ให้มคี วามนา่ สนใจ มีวธิ ีการนาเสนอผลงานผา่ นความรูส้ ึกตามผลงานหุ่นนงิ่ โดยใช้หลกั การองค์ประกอบศิลป์ ในการจัดภาพการใชท้ ฤษฎแี สงเงา รวมไปถึงการวเิ คราะห์หลกั ความเป็นจรงิ ของแสงเงา ซ่ึงภาพท่ดี ีจะขาดอย่างใดอย่างหน่ึงไปนนั้ ไมไ่ ด้ เพื่อให้ภาพและผลงานที่สร้างออกมามีความสมบรู ณ์มากท่ีสุด เป็นต้น
1142. สมรรถนะประจาหน่วย นกั เรียนเข้าใจหลักการแรเงา โดยวิธีการการปฏิบัตงิ านตามวิธีทีถ่ ูกต้อง เพ่ือสรา้ งสรรคผ์ ลงานโดยสามารถส่ือความหมายของงานความสวยงามและบอกถงึ ระดับมิติของภาพได้3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป นักเรียนมคี วามรแู้ ละสามารถปฏิบัติงานตามหลักการแรเงาได้ 3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 6. อธบิ ายหลักการสร้างสรรค์ภาพห่นุ นิง่ ดว้ ยการแรเงาได้ 7. อธบิ ายความสาคญั ของการแรเงาได้ 8. ปฏิบัติงานตามทฤษฎีการแรเงาได้ 9. อธบิ ายความร้คู วามเขา้ ใจเกีย่ วกบั หลักการวาดหนุ่ นง่ิ ได้ 10. อธบิ ายเทคนิควิธีการ การสรา้ งสรรค์ด้วยรูปแบบงานวาด เขียนห่นุ นิ่งได้ 11. อธบิ ายวิธกี ารใช้วัสดุอปุ กรณ์และการจับดินสอเพอื่ ใชใ้ น การแรเงาได้ 12. อธบิ ายวิธกี ารสรา้ งสรรค์ผลงานด้วยเทคนคิ วิธีการเฉพาะ ตนได้4. สาระการเรยี นรู้ / เนอ้ื หาสาระ / หวั ข้อเร่ือง - การใช้เทคนิควาดเขียนหุ่นนิ่งในลักษณะเน้นการแรเงา ตามวตั ถุจริง - หลักการของการแรเงาห่นุ น่งิ คอื อะไร - แนวทางวิธีการและการปฏบิ ัตงิ านวาดเขียนหนุ่ น่ิงในการแรเงา ด้วยวธิ ีต่างๆ ได้อย่างไร - ความสาคญั ของการแรเงาหุ่นนง่ิ คืออะไร
115 - รูปแบบและเทคนิควธิ ีการปฏิบตั งิ านวาดเขยี นหุ่นนิ่ง แบง่ ได้ก่ี ประเภท - ความคดิ สร้างสรรค์ในการปฏบิ ตั งิ านดว้ ยเทคนิคเฉพาะตนเอกสารอา้ งองิ นภาพร โลนชุ ิต.วาดเขียนหุ่นนงิ่ . กรงุ เทพ: นครสาส์นจากัด,25585. กิจกรรมการเรยี นรู้ช่วั โมงท่ี 1-4ขนั้ ที่ 1 ขน้ั นาเข้าสู่บทเรียน 13. ครชู ี้แนะแนวทางและบอกวัตถปุ ระสงคข์ องการเรียนรู้ หน่วยท่ี 6 14. ครูทบทวนความรูเ้ ดมิ ของนักเรียนท่ไี ด้เรียนไปในชว่ั โมงท่ี ผา่ นมา โดยใหน้ กั เรียนตอบคาถามว่า การแรเงาคอื อะไร มี กระบวนการ วธิ ีการวาดงานเปน็ อยา่ งไร ใหป้ ระโยชนแ์ ก่ผวู้ าด อย่างไร 15. นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับกระบวนการ สรา้ งสรรคง์ านของตนเอง ด้วยเทคนิคและรูปแบบผลงานหนุ่ น่ิง ด้วยการแรเงา 16. ครแู นะนาวิธีการเรียนรูแ้ ละการเข้ากิจกรรมร่วมกนั โดย การศกึ ษาค้นคว้าข้อมูลความรู้ก่อนเรียน จากหนงั สือ หรอื เว็ป ไซต์ขั้นท่ี 2 ข้นั ดาเนินการสอน 17. แจกเอกสารประกอบการสอน หนว่ ยที่ 6 เรื่อง “การแรเงา” 18. ครูให้นักเรยี นระดมความคิดว่า การแรเงาสามารถทาได้ ดว้ ยวิธีการใดไดบ้ ้าง จากนน้ั ครจู ึงสรุปลกั ษณะ เทคนิคเฉพาะ ตน ท่ีมีความสาคัญตอ่ ผลงานของตนท่ีแสดงออกมาในรูปแบบที่
116 ไม่เหมือนใคร การสร้างสรรคผ์ ลงาน และมีความสาคัญต่อ อารมณ์ความร้สู ึก ความหมายของภาพผลงาน เป็นต้น 19. ครูเปิดส่ือ Power Point เกี่ยวกับการแรเงาหุ่นนง่ิ ให้ นกั เรยี นดู พร้อมกับอธิบายถงึ ความสาคัญของเทคนคิ วิธีการ และกระบวนการสร้างสรรคง์ าน รวมถึงแนะนาผลงานทมี่ ีการใช้ เทคนคิ เฉพาะตน สรา้ งสรรคง์ านวาดเขยี นหนุ่ น่ิงไดอ้ ย่าง สมบูรณ์มาเปน็ หลกั ในการทางาน เป็นต้น 20. จากนั้นครูตงั้ คาถามวา่ “การแรเงามคี วามสาคัญและให้ ประโยชนอ์ ย่างไรแกผ่ ูว้ าดบ้าง” เพอ่ื ให้นกั เรียนช่วยกนั ระดม ความคดิ จากน้ันครจู งึ สรุปวตั ถุประสงคเ์ ก่ียวกับการแรเงาและ ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการใช้วัสดุ เทคนคิ สรา้ งสรรคใ์ หม่ๆ 21. ครใู หน้ ักเรยี นดูรูปแบบของลกั ษณะผลงานทผ่ี ่าน กระบวนการสร้างสรรค์งานศิลปะแบบการแรเงาหนุ่ น่งิ เพื่อให้ ภาพมีความสมบรู ณ์ พรอ้ มกับอธิบายลักษณะสาคัญของแต่ละ เทคนคิ วิธีการ วัสดทุ ีใ่ ช้ ความแปลกใหม่ 22. จากนั้นครูอธิบายประเภทของดินสอ ส่ือวสั ดุ หลักการใช้ ดนิ สอ กระดาษ เทคนคิ วิธกี าร การปฏิบตั ิงานวาดเขียนหุ่นนงิ่ และการแรเงาให้นักเรยี นฟงั ว่ามีอะไรบา้ งขน้ั ที่ 3 ขน้ั สรุป 23. ครูใหน้ ักเรยี นสรา้ งสรรคง์ านโดยใช้ “การการแรเงาให้ เกิดเป็นลายเส้นเทคนคิ เฉพาะตน การทดลองวัสดุตา่ งๆ เพื่อให้ ความรู้สึกของแสงเงา บรรยากาศ ความหมายของงาน” ลงใน กระดาษแล้วนาเสนอหน้าห้องเรียน 24. ครใู หน้ ักเรยี นตอบอธิบายว่า “การแรเงามวี ธิ กี ารอยา่ งไร มปี ระโยชน์อยา่ งไร และสามารถช่วยในงานจติ รกรรมได้ อยา่ งไร” จากน้นั นักเรยี นรว่ มกันตอบคาถาม 25. ครใู ห้นกั เรียนตอบคาถามว่า “การแรเงามคี วามสาคัญ อย่างไรบา้ ง” จากนั้นนกั เรยี นรว่ มกันตอบคาถาม 26. ครูให้นักเรยี นตอบคาถามว่า “การแรเงาที่ดคี วรคานงึ ถงึ หลกั ใดบ้าง” จากน้ันนักเรียนร่วมกนั ตอบคาถาม
1176. สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ 27. เอกสารประกอบการสอนหนว่ ยที่ 6เรอื่ ง การแรเงา 28. Power Point หน่วยที่ 6 บนแผ่น CD ROM 29. เครอื่ งฉายโปรเจคเตอร์ 30. เครอื่ งคอมพิวเตอร์พรอ้ มอปุ กรณ์เช่ือมตอ่ 31. ใบกจิ กรรม เร่ือง “การแรเงา”7. กิจกรรมเสนอแนะ/งานทีม่ อบหมาย (ถ้าม)ีก่อนเรียน 32. จดั เตรยี มเอกสาร สื่อการเรียนการสอนท่คี รูผู้สอนและ บทเรยี นกาหนดไว้ขณะเรยี น 33. สังเกตการปฏบิ ตั งิ านตามใบกิจกรรม เรือ่ ง “การแรเงา” พรอ้ มเดนิ สังเกต และให้คาแนะนากับนักเรียนหลงั เรยี น 34. นักเรียนเก็บทาความสะอาด โต๊ะ เกา้ อี้ พนื้ หอ้ งเรียน กระดานดาใหส้ ะอาดเรียบร้อยและปิดไฟฟา้ พัดลมให้เรียบร้อย กอ่ นออกจากห้องเรียน8. การวดั ประเมนิ ผล 1. วธิ ีวดั ผลและประเมนิ ผล 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน 1.2 ประเมนิ จากผลงานการปฏิบัติกิจกรรม แบบทดสอบ กอ่ น/หลังเรยี น และใบกจิ กรรม 1.3 สงั เกตความสนใจและความตั้งใจในการทากจิ กรรม ของนกั เรียน
1182. เคร่อื งมอื วดั และประเมนิ ผล 2.1 แบบประเมินผลชิ้นงาน 2.2 แบบทดสอบก่อน/หลงั เรยี น 2.3 แบบสังเกตความสนใจและความตงั้ ใจในการทา กจิ กรรมของนกั เรียน3. เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล 2.1 ผลการประเมนิ แบบประเมนิ ผลชิ้นงาน อย่ใู นเกณฑ์ ระดับดี ข้ึนไป 2.2 ผลการสงั เกตความสนใจและความตง้ั ใจในการทา กจิ กรรมของนักเรียน อยู่ในเกณฑ์ระดับดี ขึ้นไป 2.3 ผลการทาแบบทดสอบกอ่ น/หลังเรียนไดร้ อ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป แบบประเมนิ ผลชนิ้ งานชื่อ..................................................................................เลขที่ ...................ระดบั ช้ัน................. หวั ขอ้ การประเมนิ เกณฑก์ ารให้ รวมขอ้ คะแนน (20)ที่ 321 1. ปรมิ าณข้อมลู 2. คณุ ภาพข้อมลู 3. แบบแผนการคดิ (การ เชอ่ื มโยง) 4. แบบแผนการคิด (สาระ/ เน้ือหา) 5. ความคิดสรา้ งสรรค์ 6. ความรบั ผิดชอบ
1197. ความช่ือสัตย์ รวม ระดบั คุณภาพ18-20 คะแนน ดมี าก 15-17 คะแนน ดี12-14 คะแนน ปานกลาง ควรปรบั ปรงุ ต่ากวา่ 11 คะแนน
120 เกณฑ์การประเมินใบงานรายการ ระดบั คะแนนประเมิน 3 2 11. ปรมิ าณ ปริมาณข้อมลู มี ปริมาณข้อมูลมี ปรมิ าณข้อมูลมีขอ้ มลู 4ด้าน ขึ้นไป 2-3 ดา้ น น้อย มีเพียง 12. คณุ ภาพ ดา้ น ข้อมลู มหี วั เร่ือง ข้อมลู มีหัวเร่ือง ข้อมลู มเี ฉพาะข้อมูล หลัก หวั เรอื่ ง หลกั และ หัว หัวเร่ืองหลกั รอง มี เร่อื งรองแต่ไม่ รายละเอียด ใน เหมาะสม กบั หัวเรอื่ งรอง ลาดับ อย่าง ความสาคัญ สมเหตุสมผล3. แบบแผนการ มีการเชอ่ื มโยง จัดกลมุ่ ขอ้ มูล แผนที่ความคิดคดิ (การ ลาดับ และ แสดง การ ไม่แสดง การเช่อื มโยง) เหตุการณเ์ ปน็ เชื่อมโยง เชือ่ มโยง เหตุเปน็ ผล และ ภายในกลุ่ม แต่ ระหวา่ งกลมุ่ แสดง ไม่ เชอ่ื มโยงทงั้ ความสัมพันธ์ ระบบ ทั้งระบบ4. แบบแผนการ สาระที่เขียน สาระท่ีเขียนมี สาระท่ีเขียนมีคดิ (สาระ/ สว่ นใหญ่เปน็ รูปธรรม แต่รปู ธรรม ท่ีเนื้อหา) นามธรรม องค์ มากกว่า เปน็ พฤติกรรม ความรู้ หลักการ นามธรรม และ และแสดง ดาเนินชวี ติ ทด่ี ี แสดงวิสัยทศั น์ วสิ ัยทัศนเ์ ร่อื งที่ และแสดง เรื่องทจ่ี ะ ทาใน จะทาใน วสิ ัยทศั นเ์ รอ่ื งท่ี อนาคต 1 เร่ือง อนาคต จะทาในอนาคต 2เรื่อง ข้นึ ไป5. ความคดิ รูปแบบ ทั้ง การ รูปแบบ ทัง้ การ รปู แบบ ท้งั การสรา้ งสรรค์ ออกแบบ ออกแบบ ออกแบบ MindMap และ MindMap และ MindMap และ เนอ้ื หา ดู เนอ้ื หา ดูไม่ เนือ้ หา ไม่ นา่ สนใจ ร้อย ค่อยน่าสนใจ น่าสนใจเลย
121 ละ 75 ข้ึนไป (ไม่ถึงรอ้ ยถะ 75 )6. ความ ส่งงานตรงเวลา สง่ งานล่าชา้ ส่งงานล่าชา้ และไม่มีเหตผุ ลรบั ผิดชอบ ทีค่ รูกาหนด แต่มีเหตุผล จาเปน็ ดดั ลอกจาก จาเปน็ หนังสอื / website7. ความชือ่ สัตย์ เขียนตาม เขียนตาม ดดั แปลง บางส่วน รปู แบบของ รูปแบบของ ตนเอง ตนเอง หรือ ดัดแปลงจาก ต้นแบบ 75 % ขึ้นไปแบบสงั เกตความสนใจและความตง้ั ใจในการทากจิ กรรมของนกั เรยี น ชอื่ นักเรียน......................................................................ช้นั ..........................กจิ กรรม.............................................................................วนั ที่ ........................................ รายการ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติ1. เร่ิมตน้ งานท่ไี ดร้ ับมอบหมายทันที2. ทางานเสรจ็ เรียบรอ้ ยตามเวลาท่ีกาหนด3. ขอคาแนะนาจากครูหรือเพ่ือนเมอ่ื
122ไมเ่ ข้าใจ4. ทากิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานและเต็มใจ5. มสี ่วนรว่ มในการทากิจกรรมอย่างสม่าเสมอ6. ช่วยเหลอื แนะนาเพ่ือนในการทากจิ กรรมตามสมควร7. สนใจศกึ ษาหาความรเู้ พมิ่ เติมด้วยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ 1. ข้อใดทน่ี ักเรียนปฏิบัติ ไดค้ ะแนน 1 คะแนน ไมป่ ฏบิ ัติ ได้ คะแนน 0 คะแนน 2. เกณฑก์ ารประเมินจากแบบสังเกตอาจกาหนด ดงั นี้ 7 คะแนน ดมี าก 5-6 คะแนน ดี 3-4 คะแนน พอใช้ 1-2 คะแนน ควรปรับปรงุ
123 ใบกจิ กรรม ชอ่ื ......................................................................................... เลขท.่ี ...............ชนั้ ......................คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นวาดหนุ่ นงิ่ ดงั หนุ่ ตน้ แบบทจ่ี ดั ใหด้ งั ต่อไปน้ี”(ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง เชน่ ผลไม้ วตั ถมุ นั วาว วตั ถตุ า่ งๆ เครอ่ื งจกัสาน ขวด กานา้ เปน็ ตน้ ) โดยตกแตง่ รายละเอยี ดใหด้ นู า่ สนใจ
124 แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น รหสั 2301-2001 รายวชิ า วาดเขยี นหนุ่ นง่ิ หนว่ ยที่ 7-8 เรื่อง การแรเงาคาชแ้ี จง แบบทดสอบเปน็ แบบอตั นยั จานวน 5 ข้อ
คาสง่ั 125 จงนาหนุ่ นงิ่ ทจ่ี ดั ให้ มาจดั วางบนกระดาษ โดยคานงึ ถงึ หลักการจดั ภาพ ตามหลกั องคป์ ระกอบศลิ ปใ์ หส้ วยงาม
126 แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 6 เรอื่ ง การแรเงาจดุ มงุ่ หมาย เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั หลกั แสงเงาและการแรเงาจงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. การแรเงา มีความสาคญั อย่างไร 2. การแรเงา มีไว้เพ่ือวัตถุประสงค์ใดและมีหลักการอย่างไร 3. การแรเงา มีประโยชน์อยา่ งไรและในการสรา้ งสรรคง์ านหนุ่ นิ่ง อย่างไร
127 4. หลักการวาดหุน่ นิง่ วัตถุมนั วาว มหี ลักการและวธิ ีการอย่างไร 5. นักเรียนสามารถนาเทคนคิ การแรเงาไปใชใ้ นงานศิลปะประเภท อน่ื ได้อยา่ งไรบา้ ง9. บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้
1289.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้9.2 ผลการเรยี นของผูเ้ รยี น9.3 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรขู้ องผ้สู อน
129 9.4 ปญั หาและอปุ สรรค แนวทางแกป้ ญั หาและหรอื พฒั นา (ถา้มี) แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี สัปดาห์ที่ 9- รหสั วชิ า 2301-2001 วชิ า วาดเขยี นหนุ่ นง่ิ 10 ชอ่ื หน่วย การวาดรปู ทรงเรขาคณติ หน่วยท่ี 7ชือ่ เร่ือง การวาดรปู ทรงเรขาคณติ ชว่ั โมงรวม 4 จานวน ชว่ั โมง 1001. สาระสาคญั การวาดรูปทรงเรขาคณติ เปน็ ขนั้ ตอนการวาดรูปร่างรูปทรงของหนุ่ นง่ิ ขนั้ พืน้ ฐาน ทผี่ ้วู าดจะมพี ้นื ฐานความรเู้ รือ่ งโครงสร้างของวัตถุแสงเงา โดยใช้วธิ ีการ เทคนคิ ข้ันพ้นื ฐานจากรูปทรงเลขาคณติ รวมไปถึงการให้รายละเอียดของงาน ซง่ึ ผู้สร้างงานจะต้องสังเกตลักษณะของวัตถแุ ต่ละชนดิ อยา่ งเข้าใจ เพื่อให้งานมีความน่าสนใจ มีวธิ ีการนาเสนอผลงานผ่านรปู ภาพผลงานหุ่นนิง่ โดยใชห้ ลกั การองค์ประกอบศลิ ป์ ในการจัดภาพ การใชท้ ฤษฎแี สงเงา รวมไปถึงการ
130วิเคราะหห์ ลกั ความเปน็ จริงของแสงเงา ซง่ึ ภาพท่ีดจี ะขาดความรู้และพืน้ ฐานโครงสรา้ งรปู ทรงเลขาคณิตน้ันไม่ได้ เพื่อให้ภาพและผลงานท่ีสรา้ งออกมามีความสมบูรณม์ ากทสี่ ุด เป็นต้น2. สมรรถนะประจาหนว่ ย นกั เรยี นเขา้ ใจหลักการวาดรูปทรงเรขาคณิตขน้ั พนื้ ฐาน วิธกี ารขึ้นโครงสร้างวัตถุชนิดต่างๆและการปฏิบัตงิ านตามหลกั อย่างถูกต้องเพอ่ื สร้างสรรค์งานหนุ่ น่งิ โดยสามารถแสดงโครงสร้างและแสงเงาที่ถูกต้องของงาน ให้มคี วามสวยงามและบอกถงึ ระดับมิติของภาพได้3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 จดุ ประสงค์ทวั่ ไป นกั เรียนมคี วามร้แู ละสามารถปฏิบัติการวาดรปู ทรงเรขาคณติ ได้ 3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม อธิบายหลักการวาดรูปทรงเรขาคณิตดว้ ยการขึน้ โครงสรา้ งและ แยกประเภทได้ อธบิ ายความสาคญั ของการวาดรูปทรงเรขาคณิตได้ ปฏิบตั งิ านตามทฤษฎีและหลักการวาดภาพได้ แยกแยะวัตถแุ ละมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั หลักการวาด รปู ทรงเรขาคณิตได้ อธิบายเทคนคิ วิธีการ การสร้างสรรค์ด้วยรูปแบบงานวาดเขยี น หุน่ น่ิงได้ อธิบายวิธกี ารใชว้ ัสดอุ ปุ กรณ์และการจบั ดนิ สอเพอ่ื ใชใ้ นการขนึ้ โครงสร้างหุ่นนิง่ ได้ อธบิ ายวิธกี ารสร้างสรรค์ผลงานด้วยเทคนิควธิ กี ารเฉพาะตนได้4. สาระการเรียนรู้ / เนอื้ หาสาระ / หวั ข้อเรอื่ ง - การวาดรูปทรงเรขาคณติ - หลกั การและการขึ้นโครงสร้าง - วิธกี ารและการปฏิบัติงานดว้ ยการวาดรูปทรงเรขาคณิต
131 - ความสาคญั ของการวาดรูปทรงเรขาคณิตคืออะไร - รูปแบบและเทคนิควิธกี ารการวาดรูปทรงเรขาคณิต แบ่งได้ก่ี ประเภทเอกสารอา้ งองิ นภาพร โลนชุ ิต.วาดเขยี นหนุ่ นงิ่ . กรุงเทพ: นครสาสน์ จากัด,25585. กจิ กรรมการเรยี นรู้ชว่ั โมงท่ี 1-4ขัน้ ท่ี 1 ขัน้ นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ครชู แี้ นะแนวทางและบอกวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้หน่วยที่ 7 2. ครูทบทวนความรูเ้ ดมิ ของนกั เรียนที่ไดเ้ รยี นไปในชั่วโมงที่ผา่ น มา โดยใหน้ ักเรียนตอบคาถามวา่ การวาดรปู ทรงเรขาคณิตมี กระบวนการ วิธีการวาดงานเปน็ อย่างไร ให้ประโยชน์แก่ผวู้ าด อยา่ งไร 3. นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั กระบวนการ สร้างสรรค์งานหนุ่ นงิ่ ดว้ ยเทคนิคลายเส้นเฉพาะตน ดว้ ยการแร เงา 4. ครแู นะนาวธิ ีการเรียนรู้และการเข้ากิจกรรมร่วมกนั โดย การศึกษาค้นคว้าข้อมลู ความรูก้ ่อนเรียน จากหนงั สือ หรอื เวป็ ไซต์ขั้นท่ี 2 ขนั้ ดาเนนิ การสอน 5. แจกเอกสารประกอบการสอน หน่วยที่ 6 เรอื่ ง “การวาดรปู ทรง เรขาคณิต” 6. ครูให้นกั เรยี นระดมความคิดว่า การวาดรปู ทรงเรขาคณิต สามารถทาไดด้ ว้ ยวิธีการใดได้บ้าง จากน้ันครจู งึ สรุปลกั ษณะ วธิ ีการวาดรปู ทรงเรขาคณิตท่ีมคี วามสาคญั ต่อผลงานของตนท่ี
132 แสดงออกมาในรปู แบบงานวาดเขยี นหนุ่ นิ่ง และมคี วามสาคญั ตอ่ พ้ืนฐานการทางานศิลปะ เป็นตน้ 7. ครูเปิดส่ือ Power Point เกยี่ วกบั การวาดรูปทรงเรขาคณติ ให้ นักเรียนดู พรอ้ มกับอธบิ ายถงึ ความสาคญั ของเทคนคิ วิธีการ และกระบวนการสร้างสรรคง์ าน รวมถึงแนะนาผลงานที่มีการใช้ เทคนิควาดเสน้ พืน้ ฐาน สรา้ งสรรคง์ านวาดเขยี นหนุ่ นิง่ ได้อยา่ ง สมบรู ณ์มาเปน็ หลกั ในการทางาน เป็นต้น 8. จากน้นั ครตู ั้งคาถามว่า “การวาดรปู ทรงเรขาคณิตมคี วามสาคญั และให้ประโยชน์อยา่ งไรแก่ผู้วาดบา้ ง” เพ่ือให้นกั เรียนช่วยกนั ระดมความคดิ จากนน้ั ครจู ึงสรุปวตั ถุประสงคเ์ ก่ียวกบั การวาด รูปทรงเรขาคณิตและประโยชน์ทไี่ ดจ้ ากการใช้พนื้ ฐานวาดเสน้ และเทคนิคการวาดใหม่ๆ 9. ครใู ห้นกั เรียนดูรูปแบบของลกั ษณะผลงานทีผ่ ่านกระบวนการ สร้างสรรค์งานศิลปะแบบการวาดรปู ทรงเรขาคณิต เพ่ือให้ภาพ มีความสมบูรณ์ พร้อมกบั อธิบายลักษณะสาคัญของรายละเอยี ด ในแต่ละวัตถุ 10. จากน้ันครูอธบิ ายประเภทของดนิ สอ ส่ือวัสดุ หลกั การใช้ ดนิ สอ กระดาษ เทคนคิ วิธกี าร การปฏิบตั ิงานวาดเขียนหุ่นนง่ิ เลขาคณิตและการแรเงาใหน้ ักเรยี นฟัง วา่ มีอะไรบา้ งข้ันที่ 3 ขน้ั สรุป 11. ครูให้นักเรยี นสรา้ งสรรค์งานโดยใช้ “การวาดรปู ทรง เรขาคณิตใหเ้ กิดเป็นโครงสร้างเลขาคณิตท่ถี ูกต้อง เพ่ือให้การ ลงน้าหนกั ของแสงเงา บรรยากาศ เป็นไปได้ง่ายและสมบูรณ์” ลงในกระดาษแล้วนาเสนอหน้าห้องเรียน 12. ครใู ห้นักเรยี นตอบอธบิ ายว่า “การวาดรปู ทรงเรขาคณิตมี วิธีการอยา่ งไร มปี ระโยชนอ์ ย่างไร และสามารถชว่ ยในงาน จิตรกรรมไดอ้ ย่างไร” จากนนั้ นักเรียนรว่ มกันตอบคาถาม 13. ครใู หน้ กั เรียนตอบคาถามว่า “การวาดรปู ทรงเรขาคณิตมี ความสาคญั อยา่ งไรบา้ ง” จากน้นั นักเรียนรว่ มกนั ตอบคาถาม 14. ครใู หน้ ักเรยี นตอบคาถามว่า “การวาดรูปทรงเรขาคณิตท่ี ดคี วรคานึงถึงหลักใดบ้าง” จากน้ันนกั เรยี นรว่ มกันตอบคาถาม
1336. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้ 15. เอกสารประกอบการสอนหน่วยท่ี 7 เรื่อง การวาดรปู ทรง เรขาคณิต 16. Power Point หน่วยที่ 7 บนแผ่น CD ROM 17. เคร่อื งฉายโปรเจคเตอร์ 18. เคร่อื งคอมพิวเตอรพ์ ร้อมอุปกรณ์เชื่อมตอ่ 19. ใบกจิ กรรม เรื่อง “การวาดรูปทรงเรขาคณติ ”7. กิจกรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย (ถ้าม)ีก่อนเรยี น 20. จดั เตรยี มเอกสาร ส่ือการเรียนการสอนที่ครูผู้สอนและ บทเรยี นกาหนดไว้ขณะเรยี น 21. สงั เกตการปฏบิ ตั งิ านตามใบกิจกรรม เรอื่ ง “การวาด รูปทรงเรขาคณิต” พรอ้ มเดนิ สังเกต และให้คาแนะนากับ นกั เรยี นหลังเรียน 22. นักเรยี นเกบ็ ทาความสะอาด โต๊ะ เกา้ อี้ พน้ื ห้องเรยี น กระดานดาให้สะอาดเรยี บร้อยและปดิ ไฟฟ้า พดั ลมใหเ้ รียบรอ้ ย กอ่ นออกจากหอ้ งเรยี น8. การวดั ประเมนิ ผล 1. วธิ วี ดั ผลและประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤตกิ รรมการทางาน 1.4 ประเมินจากผลงานการปฏิบัติกิจกรรม แบบทดสอบ กอ่ น/หลงั เรยี น และใบกิจกรรม 1.5 สงั เกตความสนใจและความตั้งใจในการทากิจกรรม ของนกั เรียน
1342. เครือ่ งมือวดั และประเมนิ ผล 2.4 แบบประเมนิ ผลช้ินงาน 2.5 แบบทดสอบก่อน/หลังเรียน 2.6 แบบสังเกตความสนใจและความตงั้ ใจในการทา กจิ กรรมของนักเรยี น3. เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล ผลการประเมินแบบประเมินผลชนิ้ งาน อย่ใู นเกณฑ์ระดับ ดี ข้นึ ไป ผลการสังเกตความสนใจและความตั้งใจในการทา กิจกรรมของนักเรยี น อยใู่ นเกณฑ์ ระดับดี ขนึ้ ไป ผลการทาแบบทดสอบก่อน/หลังเรียนไดร้ อ้ ยละ 80 ขึน้ ไป แบบประเมนิ ผลชน้ิ งานชื่อ..................................................................................เลขที่ ...................ระดบั ชัน้ ................. หวั ข้อการประเมนิ เกณฑก์ ารให้ รวมข้อ คะแนน (20)ท่ี 321 8. ปริมาณข้อมลู 9. คณุ ภาพข้อมลู 10.แบบแผนการคิด (การ เชอื่ มโยง) 11.แบบแผนการคิด (สาระ/ เนอื้ หา) 12.ความคิดสรา้ งสรรค์ 13.ความรบั ผิดชอบ
13514.ความช่ือสัตย์ รวม ระดบั คุณภาพ18-20 คะแนน ดมี าก 15-17 คะแนน ดี12-14 คะแนน ปานกลาง ควรปรบั ปรงุ ต่ากวา่ 11 คะแนน
136 เกณฑ์การประเมินใบงานรายการ ระดบั คะแนนประเมิน 3 2 11. ปรมิ าณ ปริมาณข้อมลู มี ปริมาณข้อมูลมี ปรมิ าณข้อมูลมีขอ้ มลู 4ด้าน ขึ้นไป 2-3 ดา้ น น้อย มีเพียง 12. คณุ ภาพ ดา้ น ขอ้ มลู มหี วั เร่ือง ข้อมลู มีหัวเร่ือง ข้อมลู มเี ฉพาะข้อมลู หลัก หวั เรอื่ ง หลกั และ หัว หัวเร่ืองหลกั รอง มี เร่อื งรองแต่ไม่ รายละเอียด ใน เหมาะสม กบั หวั เรอื่ งรอง ลาดับ อย่าง ความสาคัญ สมเหตุสมผล3. แบบแผนการ มีการเชอ่ื มโยง จัดกลมุ่ ขอ้ มูล แผนที่ความคิดคดิ (การ ลาดับ และ แสดง การ ไม่แสดง การเช่อื มโยง) เหตุการณเ์ ปน็ เชื่อมโยง เชือ่ มโยง เหตเุ ปน็ ผล และ ภายในกลุ่ม แต่ ระหวา่ งกลมุ่ แสดง ไม่ เชอ่ื มโยงทงั้ ความสัมพันธ์ ระบบ ทั้งระบบ4. แบบแผนการ สาระที่เขียน สาระท่ีเขียนมี สาระท่ีเขียนมีคิด (สาระ/ สว่ นใหญ่เปน็ รูปธรรม แต่รปู ธรรม ท่ีเน้ือหา) นามธรรม องค์ มากกว่า เปน็ พฤติกรรม ความรู้ หลักการ นามธรรม และ และแสดง ดาเนินชวี ิตทด่ี ี แสดงวิสัยทศั น์ วสิ ัยทัศนเ์ ร่อื งที่ และแสดง เรื่องทจ่ี ะ ทาใน จะทาใน วสิ ยั ทศั นเ์ รอ่ื งท่ี อนาคต 1 เร่ือง อนาคต จะทาในอนาคต 2เรื่อง ข้นึ ไป5. ความคดิ รูปแบบ ทั้ง การ รูปแบบ ทัง้ การ รปู แบบ ท้งั การสรา้ งสรรค์ ออกแบบ ออกแบบ ออกแบบ MindMap และ MindMap และ MindMap และ เน้อื หา ดู เนอ้ื หา ดูไม่ เนือ้ หา ไม่ นา่ สนใจ ร้อย ค่อยน่าสนใจ น่าสนใจเลย
137 ละ 75 ข้ึนไป (ไม่ถึงรอ้ ยถะ 75 )6. ความ ส่งงานตรงเวลา สง่ งานล่าชา้ ส่งงานล่าช้า และไม่มีเหตผุ ลรบั ผิดชอบ ทีค่ รูกาหนด แต่มีเหตุผล จาเป็น ดดั ลอกจาก จาเปน็ หนังสือ/ website7. ความชือ่ สัตย์ เขียนตาม เขียนตาม ดดั แปลง บางสว่ น รปู แบบของ รูปแบบของ ตนเอง ตนเอง หรือ ดัดแปลงจาก ต้นแบบ 75 % ขึ้นไปแบบสงั เกตความสนใจและความตง้ั ใจในการทากจิ กรรมของนกั เรยี น ชือ่ นักเรียน......................................................................ชั้น ..........................กจิ กรรม.............................................................................วนั ที่ ........................................ รายการ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติ1. เร่ิมตน้ งานท่ไี ดร้ ับมอบหมายทันที2. ทางานเสรจ็ เรียบรอ้ ยตามเวลาท่ีกาหนด3. ขอคาแนะนาจากครูหรือเพ่ือนเมอ่ื
138ไม่เข้าใจ4. ทากิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานและเต็มใจ5. มสี ่วนรว่ มในการทากิจกรรมอย่างสมา่ เสมอ6. ช่วยเหลอื แนะนาเพ่ือนในการทากิจกรรมตามสมควร7. สนใจศกึ ษาหาความรเู้ พมิ่ เติมด้วยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ 3. ข้อใดทน่ี ักเรียนปฏิบัติ ไดค้ ะแนน 1 คะแนน ไมป่ ฏบิ ัติ ได้ คะแนน 0 คะแนน 4. เกณฑก์ ารประเมินจากแบบสังเกตอาจกาหนด ดงั นี้ 7 คะแนน ดมี าก 5-6 คะแนน ดี 3-4 คะแนน พอใช้ 1-2 คะแนน ควรปรับปรงุ
139 ใบกจิ กรรม ชอื่ ......................................................................................... เลขท.ี่ ...............ชน้ั ......................คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นวาดหนุ่ นง่ิ เลขาคณิต ตามหนุ่ นงิ่ ตน้ แบบทจ่ี ดั ให้ดงั ตอ่ ไปน”ี้ (ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง เช่น ผลไม้ วัตถมุ นั วาว วัตถตุ า่ งๆเครอ่ื งจกั สาน ขวด กานา้ เปน็ ตน้ ) โดยตกแตง่ รายละเอยี ดใหด้ ูนา่ สนใจ
140 แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี นรหัส 2301-2001 รายวิชา วาดเขยี นหนุ่ นง่ิหน่วยท่ี 9-10 เร่อื ง การวาดรปู ทรงเรขาคณติ
141คาชแ้ี จง แบบทดสอบเปน็ แบบอตั นัย จานวน 5 ขอ้คาสงั่ จงวาดหนุ่ นงิ่ เลขาคณิตทจี่ ดั ให้ มาจดั วางบนกระดาษ โดย คานงึ ถงึ หลกั การจดั ภาพ ตามหลกั องคป์ ระกอบศลิ ปใ์ ห้ สวยงาม
142 แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 7 เรอื่ ง การวาดรปู ทรงเรขาคณิตจดุ มงุ่ หมาย เพ่ือใหน้ กั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั หลักการวาดรปู ทรงเรขาคณิตจงตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. การวาดรูปทรงเรขาคณติ มีความสาคัญอยา่ งไร 2. การวาดรปู ทรงเรขาคณิต มีไว้เพื่อวัตถปุ ระสงค์ใดและมี หลักการอยา่ งไร 3. การวาดรูปทรงเรขาคณิต มีประโยชนอ์ ยา่ งไรและในการ สรา้ งสรรค์งานหุ่นนง่ิ อ่นื ๆอย่างไร
143 4. การวาดรปู ทรงเรขาคณิต มีหลกั การและวิธกี ารอยา่ งไร 5. นกั เรยี นสามารถนาเทคนคิ การวาดรปู ทรงเรขาคณิต ไปใชใ้ น งานศลิ ปะประเภทอื่นไดอ้ ยา่ งไรบ้าง9. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้
1449.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้9.2 ผลการเรียนของผูเ้ รยี น9.3 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรขู้ องผ้สู อน
145 9.4 ปญั หาและอปุ สรรค แนวทางแกป้ ญั หาและหรอื พฒั นา (ถา้ม)ี แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี สปั ดาห์ที่ รหัสวชิ า 2301-2001 วชิ า วาดเขยี นหนุ่ นงิ่ 11-12 ช่อื หนว่ ย การวาดภาพวตั ถตุ า่ งๆ หนว่ ยที่ 8ชื่อเรอื่ ง การวาดภาพวัตถุตา่ งๆ ช่วั โมงรวม 4 จานวน ชัว่ โมง 1001. สาระสาคัญ การวาดภาพวัตถุต่างๆ เปน็ การสร้างสรรค์งานหุ่นน่ิง ซ่งึต่อเนื่องจากพื้นฐานการวาดโครงสรา้ งวตั ถุ และการจดั ภาพ โดยมีการให้นา้ หนักความอ่อนแก่แสงเงา การทารายละเอียดของหนุ่ น่งิเพอ่ื แยกลกั ษณะ ความโดดเด่น ประเภทของหุ่นนงิ่ เม่อื ผู้เรยี นมีความร้คู วามเข้าใจวตั ถุแล้ว กส็ ามารถเขยี นภาพหุ่นนง่ิ ให้มีความ
146สวยงาม เหมอื นจริงและมมี ิตขิ องภาพตามวัตถุตน้ แบบ โดยผ้วู าดจะใช้วิธีการ เทคนิคใหม่ๆ รวมไปถงึ การใหค้ วามละเอยี ดของงานเนื้อหา ตามทีผ่ ู้สรา้ งต้องการ ให้มีความนา่ สนใจ มีวิธกี ารนาเสนอผลงานผ่านความรู้สกึ ตามบรรยากาศ โดยใช้หลกั การองค์ประกอบศิลป์ ในการจัดภาพ การใช้ทฤษฎีแสงเงา รวมไปถงึ การวเิ คราะห์หลกัความเปน็ จริงของแสงเงา ซึ่งภาพที่ดจี ะขาดอย่างใดอย่างหน่ึงไปนน้ัไม่ได้ เพื่อให้ภาพและผลงานที่สรา้ งออกมามีความสมบรู ณ์มากทสี่ ุดเป็นตน้2. สมรรถนะประจาหนว่ ย นกั เรยี นเขา้ ใจหลักการวาดภาพวัตถุต่างๆ โดยสามารถปฏิบัตงิ านตามวธิ ีการสรา้ งสรรค์ท่ีถกู ต้อง เพ่ือให้ผลงานโดยมีความสวยงามและบอกถงึ ระดบั มติ ิของภาพได้3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป นักเรียนมคี วามร้แู ละสามารถปฏิบัตงิ านตามหลักการวาดภาพวตั ถุตา่ งๆ ได้ 3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. อธบิ ายหลักการสร้างสรรคภ์ าพหนุ่ นิ่งด้วยการวาดภาพวัตถุ ตา่ งๆ ได้ 2. อธบิ ายความสาคัญของการวาดภาพวัตถุต่างๆ ได้ 3. ปฏบิ ตั ิงานตามทฤษฎีการวาดภาพวัตถุตา่ งๆ ได้ 4. ปฏบิ ัติงานตามความรูค้ วามเขา้ ใจเกี่ยวกับหลกั การวาดภาพวัตถุ ตา่ งๆ ได้ 5. ปฏบิ ัตดิ ว้ ยเทคนคิ วิธกี าร การสรา้ งสรรคด์ ้วยรปู แบบการวาด ภาพวตั ถุต่างๆ ได้ 6. อธิบายวิธีการใช้และปฏิบัตงิ านดว้ ยวัสดอุ ุปกรณ์ การจับดินสอ เพือ่ ใช้ในการวาดภาพวตั ถตุ ่างๆ ได้
147 7. อธิบายวิธกี ารและปฏิบัติการสร้างสรรค์ผลงานด้วยเทคนคิ วิธีการเฉพาะตนได้4. สาระการเรยี นรู้ / เนอ้ื หาสาระ / หวั ขอ้ เรอื่ ง - การศึกษาการเขยี นหุ่นน่ิงในแตล่ ะชนดิ แบ่งประเภท - หลักการวาดภาพวัตถุต่างๆ และผา้ คืออะไร - แนวทางวิธกี ารและการปฏบิ ัตงิ านวาดเขียนหนุ่ นิง่ วัตถุต่างๆ ได้ อยา่ งไร - ความสาคัญของการวาดภาพวตั ถตุ ่างๆ คืออะไร - รปู แบบและเทคนิควิธีการปฏิบัตงิ านวาดวตั ถุต่างๆ และผา้ ได้ - ความคิดสรา้ งสรรค์ในการปฏบิ ตั ิงานด้วยเทคนคิ เฉพาะตนเอกสารอา้ งองิ นภาพร โลนุชิต.วาดเขียนหุน่ น่ิง. กรงุ เทพ: นครสาสน์ จากัด,25585. กจิ กรรมการเรยี นรู้ช่วั โมงที่ 1-4ขน้ั ที่ 1 ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น 1. ครชู ี้แนะแนวทางและบอกวัตถุประสงคข์ องการเรียนร้หู นว่ ยท่ี 8 2. ครทู บทวนความรู้เดิมของนกั เรียนทไ่ี ด้เรียนไปในช่วั โมงทผ่ี ่าน มา โดยให้นักเรียนตอบคาถามวา่ การวาดภาพวัตถุตา่ งๆ คือ อะไร มกี ระบวนการ วธิ ีการวาดงานเป็นอย่างไร ให้ประโยชน์ แก่ผวู้ าดอย่างไร 3. นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั กระบวนการการวาด ภาพวตั ถุต่างๆ ดว้ ยเทคนคิ และอธบิ ายรปู แบบลกั ษณะของวัตถุ ต่างๆ 4. ครูแนะนาวิธีการเรียนรู้และการเขา้ กจิ กรรมรว่ มกัน โดย การศกึ ษาคน้ คว้าข้อมลู ความรู้ก่อนเรียน จากหนังสือ หรอื เวป็ ไซต์
148ขั้นที่ 2 ขั้นดาเนนิ การสอน 5. แจกเอกสารประกอบการสอน หน่วยท่ี 8 เรื่อง “การวาดภาพ วตั ถุตา่ งๆ” 6. ครูใหน้ กั เรียนระดมความคดิ ว่า การวาดภาพวตั ถตุ ่างๆ สามารถ ทาไดด้ ้วยวธิ ีการใดไดบ้ า้ ง จากนั้นครจู ึงสรปุ ลกั ษณะของวัตถุ เทคนคิ เฉพาะตน ท่ีมีความสาคญั ต่อผลงานของตนทีแ่ สดง ออกมาในรปู แบบท่ีเหมือนจริง การสร้างสรรคผ์ ลงาน และมี ความสาคญั ตอ่ อารมณ์ความรู้สึก ความถูกต้องของวัตถุชนดิ ตา่ งๆ เปน็ ตน้ 7. ครเู ปดิ ส่อื Power Point เก่ยี วกบั การวาดภาพวัตถุตา่ งๆ ให้ นกั เรยี นดู พร้อมกับอธิบายถงึ ความสาคญั ของวิธีการและ กระบวนการสร้างสรรค์งาน รวมถึงแนะนาผลงานทีม่ ีการใช้ เทคนิคเฉพาะตน สร้างสรรค์งานวาดเขยี นวัตถหุ ุ่นนิ่งได้อย่าง สมบูรณ์มาเป็นหลักในการทางาน เป็นต้น 8. จากนั้นครตู ั้งคาถามว่า “การวาดภาพวตั ถุต่างๆ มคี วามสาคัญ และให้ประโยชน์อย่างไรแก่ผู้วาดบา้ ง” เพื่อใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ระดมความคิด จากนนั้ ครูจึงสรุปวตั ถุประสงค์เก่ียวกบั การวาด ภาพวัตถุต่างๆ และประโยชนท์ ่ไี ดจ้ ากการใช้การสังเกตวัตถุ เทคนิคสร้างสรรคใ์ หม่ๆ 9. ครใู ห้นักเรยี นดรู ปู แบบของลักษณะผลงานท่ผี า่ นกระบวนการ สร้างสรรคง์ านด้วยการแรเงาหุน่ นิ่ง ตามวัตถชุ นิดตา่ งๆ เพ่อื ให้ ภาพมคี วามสมบูรณ์ เหมือนจรงิ พรอ้ มกับอธิบายลกั ษณะสาคัญ ของแต่ละเทคนิค วิธีการ วสั ดุทใี่ ช้วาดเขียนห่นุ นงิ่ ชนดิ ตา่ งๆ เพอื่ ความสวยงาม 10. จากนัน้ ครูอธิบายประเภทของวตั ถุแต่ละชนิด เช่น แกว้ ใส วตั ถุมันวาว แจกนั ขวด ตระกลา้ ตะเกียงและวตั ถุอ่นื ๆ ให้ นักเรียนฟงั ว่ามีลักษณะอยา่ งไรบ้างขน้ั ท่ี 3 ขั้นสรปุ 11. ครูให้นักเรียนสรา้ งสรรค์งานโดยใช้ “การการแรเงาให้ เกิดเป็นลายเส้นเทคนคิ เฉพาะตน ด้วยการวาดวัตถุตา่ งๆ เพ่ือให้
149 ความรสู้ ึกของแสงเงา บรรยากาศ ความหมายของงาน” ลงใน กระดาษแล้วนาเสนอหน้าห้องเรียน 12. ครใู หน้ กั เรียนตอบอธิบายว่า “การวาดภาพวตั ถุต่างๆ มี วธิ ีการอย่างไร มปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร และสามารถชว่ ยในงาน จติ รกรรมได้อย่างไร” จากนนั้ นักเรียนรว่ มกนั ตอบคาถาม 13. ครใู ห้นักเรยี นตอบคาถามว่า “การวาดภาพวัตถตุ ่างๆ มี ความสาคัญอยา่ งไรบ้าง” จากน้นั นกั เรียนร่วมกันตอบคาถาม 14. ครใู ห้นักเรยี นตอบคาถามว่า “การวาดภาพวตั ถุต่างๆ ท่ดี ี ควรคานงึ ถึงหลกั ใดบา้ ง” จากนนั้ นักเรียนร่วมกันตอบคาถาม6. สื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการสอนหนว่ ยท่ี 8 เรอื่ ง การวาดภาพวัตถตุ า่ งๆ 2. Power Point หน่วยท่ี 8 บนแผน่ CD ROM 3. เครอื่ งฉายโปรเจคเตอร์ 4. เครือ่ งคอมพวิ เตอรพ์ รอ้ มอปุ กรณ์เชื่อมต่อ 5. ใบกจิ กรรม เร่ือง “การวาดภาพวัตถุต่างๆ”7. กิจกรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย (ถา้ ม)ีกอ่ นเรียน 1. จดั เตรยี มเอกสาร สื่อการเรยี นการสอนทคี่ รผู ้สู อนและบทเรยี น กาหนดไว้ขณะเรียน 2. สงั เกตการปฏิบตั งิ านตามใบกิจกรรม เรอ่ื ง “การวาดภาพวัตถุ ตา่ งๆ” พรอ้ มเดนิ สังเกต และให้คาแนะนากบั นักเรยี นหลงั เรียน 3. นกั เรยี นเกบ็ ทาความสะอาด โต๊ะ เกา้ อ้ี พืน้ ห้องเรยี น กระดานดา ให้สะอาดเรียบร้อยและปดิ ไฟฟ้า พดั ลมใหเ้ รยี บรอ้ ยก่อนออก จากหอ้ งเรียน
1508. การวดั ประเมนิ ผล 1. วธิ ีวดั ผลและประเมนิ ผล 1.1 สังเกตพฤติกรรมการทางาน 1.2 ประเมินจากผลงานการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม แบบทดสอบ กอ่ น/หลงั เรียน และใบกิจกรรม 1.3 สงั เกตความสนใจและความต้งั ใจในการทากิจกรรม ของนกั เรียน 2. เคร่ืองมือวดั และประเมนิ ผล 2.1 แบบประเมนิ ผลชิ้นงาน 2.2 แบบทดสอบก่อน/หลังเรยี น 2.3 แบบสงั เกตความสนใจและความต้งั ใจในการทา กจิ กรรมของนกั เรียน 3. เกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล 3.1 ผลการประเมินแบบประเมินผลชิน้ งาน อย่ใู นเกณฑ์ ระดบั ดี ขึ้นไป 3.2 ผลการสังเกตความสนใจและความต้ังใจในการทา กจิ กรรมของนักเรยี น อยูใ่ นเกณฑ์ ระดับดี ข้นึ ไป 3.3 ผลการทาแบบทดสอบก่อน/หลงั เรียนไดร้ อ้ ยละ 80 ข้นึ ไป แบบประเมนิ ผลชน้ิ งานชือ่ ..................................................................................เลขที่ ...................ระดบั ช้นั ................. หัวข้อการประเมนิ เกณฑก์ ารให้ รวมขอ้ คะแนน (20)ที่ 321 15.ปรมิ าณข้อมลู
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194