Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนประติมากรรมนูนประยุกต์ แผนกการออกแบบ

แผนประติมากรรมนูนประยุกต์ แผนกการออกแบบ

Published by rot_285, 2018-05-11 00:27:24

Description: แผนประติมากรรมนูนประยุกต์ แผนกการออกแบบ

Keywords: 00

Search

Read the Text Version

51ขัน้ ท่ี 3 ข้นั สรปุ 10. ครูใหน้ ักเรยี นสร้างสรรคง์ านโดยใช้เคร่ืองมือ ตาม “เทคนิคและวิธีการปนั้ ประติมากรรมประยกุ ต์ เชน่ ดินเหนยี ว ขี้ เร่อื ย เครื่องมอื ป้ันตัวขูด ปากตัด ตัวปาด เพอื่ ให้งานมีความ สมบรู ณ์ สวยงาม” ลงกระดานรองปั้นแล้วจัดแสดงผลงานในโต๊ะ แสดงผลงาน หนา้ หอ้ งเรียน 11. ครูใหน้ กั เรียนตอบอธบิ ายว่า “เทคนิคและวิธีการป้นั ประติมากรรมประยุกต์ มีวิธีการอยา่ งไร มปี ระโยชน์อย่างไร และสามารถช่วยในงานประติมากรรมประยุกต์ ได้อย่างไร” จากน้ันนักเรยี นรว่ มกันตอบคาถาม 12. ครใู ห้นกั เรียนตอบคาถามว่า “เทคนิคและวิธีการปัน้ ประตมิ ากรรมประยุกต์ มคี วามสาคญั อยา่ งไรบา้ ง” จากนั้น นักเรียนร่วมกันตอบคาถาม 13. ครใู ห้นกั เรยี นตอบคาถามว่า “เทคนิคและวิธกี ารป้ัน ประตมิ ากรรมประยุกต์ ท่ีดีควรคานงึ ถึงหลกั ใดบ้าง” จากนั้น นกั เรยี นรว่ มกันตอบคาถาม6. สอื่ และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการสอนหนว่ ยท่ี 3 เรือ่ ง เทคนคิ และวธิ ีการปัน้ ประตมิ ากรรมประยุกต์ 2. Power Point หน่วยที่ 3 บนแผน่ CD ROM 3. เคร่ืองฉายโปรเจคเตอร์ 4. เครอ่ื งคอมพวิ เตอรพ์ ร้อมอปุ กรณ์เชื่อมต่อ 5. ใบกิจกรรม เรือ่ ง “เทคนิคและวิธีการป้ันประตมิ ากรรมประยกุ ต์”7. กิจกรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมาย (ถ้าม)ีกอ่ นเรียน 1. จัดเตรยี มเอกสาร สื่อการเรยี นการสอนท่คี รผู ู้สอนและบทเรียน กาหนดไว้ขณะเรียน

52 2. สังเกตการปฏบิ ัติงานตามใบกิจกรรม เรอ่ื ง “เทคนคิ และวิธีการ ป้ันประตมิ ากรรมประยุกต์” พรอ้ มเดินสงั เกต และให้คาแนะนา กับนกั เรยี นหลังเรียน 3. นักเรียนเก็บทาความสะอาด โตะ๊ เก้าอี้ พนื้ ห้องเรยี น กระดาน รองป้ันใหส้ ะอาดเรียบรอ้ ยและปิดไฟฟ้า พัดลมให้เรียบร้อยกอ่ น ออกจากห้องเรยี น8. การวดั ประเมนิ ผล 1. วิธวี ัดผลและประเมินผล 1.1.สังเกตพฤติกรรมการทางาน 1.2.ประเมินจากผลงานการปฏิบัติกจิ กรรม แบบทดสอบ ก่อน/หลงั เรียน และใบกิจกรรม 1.3.สงั เกตความสนใจและความตั้งใจในการทากิจกรรม ของนักเรียน 2. เครื่องมือวดั และประเมนิ ผล 2.1.แบบประเมินผลชนิ้ งาน 2.2.แบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี น 2.3.แบบสงั เกตความสนใจและความต้งั ใจในการทากิจกรรมของนักเรยี น 3. เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล 3.7 ผลการประเมินแบบประเมนิ ผลชิ้นงาน อยู่ในเกณฑ์ระดบั ดี ข้นึ ไป 3.8 ผลการสงั เกตความสนใจและความตั้งใจในการทา กิจกรรมของนกั เรยี น อย่ใู นเกณฑร์ ะดับดี ข้ึนไป 3.9 ผลการทาแบบทดสอบก่อน/หลงั เรยี นได้ร้อยละ 80 ขึ้นไป แบบประเมนิ ผลชน้ิ งาน

53ชือ่ ..................................................................................เลขท่ี ...................ระดับชั้น................. หัวข้อการประเมนิ เกณฑก์ ารให้ รวมข้อ คะแนน (20)ท่ี 321 4. ปรมิ าณข้อมลู 5. คณุ ภาพข้อมูล 6. แบบแผนการคดิ (การ เช่อื มโยง) 7. แบบแผนการคิด (สาระ/ เน้ือหา) 8. ความคิดสรา้ งสรรค์ 9. ความรบั ผิดชอบ 10.ความช่ือสัตย์ รวม ระดบั คุณภาพ18-20 คะแนน ดมี าก 15-17 คะแนน ดี12-14 คะแนน ปานกลาง ควรปรบั ปรงุ ตา่ กวา่ 11 คะแนน

54 เกณฑ์การประเมนิ ใบงานรายการ ระดับคะแนนประเมนิ 3 2 11. ปริมาณ ปรมิ าณข้อมูลมี ปรมิ าณข้อมลู มี ปริมาณข้อมลู มีข้อมูล 4ด้าน ขึ้นไป 2-3 ด้าน น้อย มีเพียง 1 ดา้ น2. คุณภาพ ข้อมูลมหี วั เร่ือง ขอ้ มลู มหี วั เรื่อง ขอ้ มูลมีเฉพาะขอ้ มูล หลัก หวั เรอ่ื ง หลกั และ หัว หัวเรอ่ื งหลัก รอง มี เรอ่ื งรองแตไ่ ม่ รายละเอียด ใน เหมาะสม กับ หัวเรือ่ งรอง ลาดบั อยา่ ง ความสาคญั สมเหตุสมผล3. แบบแผนการ มีการเชื่อมโยง จัดกลุ่มขอ้ มูล แผนทคี่ วามคดิคดิ (การ ลาดบั และ แสดง การ ไม่แสดง การเชือ่ มโยง) เหตกุ ารณ์เป็น เช่ือมโยง เชอ่ื มโยง

55 เหตุเป็นผล และ ภายในกลุ่ม แต่ ระหว่างกลมุ่ แสดง ไม่ เชือ่ มโยงทง้ั ความสัมพันธ์ ระบบ ท้งั ระบบ4. แบบแผนการ สาระท่ีเขียน สาระที่เขียนมี สาระท่ีเขียนมีคิด (สาระ/ สว่ นใหญเ่ ป็น รปู ธรรม แต่รูปธรรม ท่ีเน้อื หา) นามธรรม องค์ มากกว่า เปน็ พฤตกิ รรม ความรู้ หลักการ นามธรรม และ และแสดง ดาเนินชีวิตทีด่ ี แสดงวิสัยทัศน์ วสิ ยั ทัศน์เร่อื งที่ และแสดง เรอื่ งท่จี ะ ทาใน จะทาใน วสิ ัยทัศนเ์ ร่อื งท่ี อนาคต 1 เรอื่ ง อนาคต จะทาในอนาคต 2เรื่อง ขึน้ ไป5. ความคดิ รปู แบบ ทัง้ การ รูปแบบ ทั้ง การ รูปแบบ ทง้ั การสร้างสรรค์ ออกแบบ ออกแบบ ออกแบบ MindMap และ MindMap และ MindMap และ เนื้อหา ดู เน้ือหา ดูไม่ เนอื้ หา ไม่ น่าสนใจ รอ้ ย คอ่ ยน่าสนใจ นา่ สนใจเลย ละ 75 ขน้ึ ไป (ไมถ่ งึ ร้อยถะ 75 )6. ความ สง่ งานตรงเวลา ส่งงานลา่ ช้า ส่งงานลา่ ชา้รับผดิ ชอบ ท่ีครูกาหนด แตม่ ีเหตุผล และไม่มีเหตผุ ล จาเปน็ จาเป็น7. ความชอ่ื สตั ย์ เขียนตาม เขยี นตาม ดดั ลอกจาก รูปแบบของ รูปแบบของ หนงั สอื / ตนเอง ตนเอง หรือ website ดดั แปลงจาก ดดั แปลง ต้นแบบ 75 % บางสว่ น ข้นึ ไป

56แบบสงั เกตความสนใจและความตงั้ ใจในการทากจิ กรรมของนกั เรยี น ชอ่ื นกั เรียน......................................................................ชัน้ ..........................กจิ กรรม.............................................................................วนั ที่ ........................................ รายการ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติ1. เร่มิ ตน้ งานทไ่ี ด้รบั มอบหมายทนั ที2. ทางานเสรจ็ เรยี บร้อยตามเวลาที่กาหนด3. ขอคาแนะนาจากครหู รอื เพื่อนเมื่อไม่เขา้ ใจ4. ทากิจกรรมด้วยความสนุกสนานและเต็มใจ5. มีส่วนรว่ มในการทากจิ กรรมอย่างสมา่ เสมอ6. ชว่ ยเหลือแนะนาเพ่ือนในการทากจิ กรรมตามสมควร7. สนใจศึกษาหาความรเู้ พมิ่ เตมิ ด้วยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ5. ขอ้ ใดทน่ี ักเรียนปฏิบตั ิ ได้คะแนน 1 คะแนน ไม่ปฏบิ ัติ ได้ คะแนน 0 คะแนน6. เกณฑก์ ารประเมนิ จากแบบสงั เกตอาจกาหนด ดังนี้ 7 คะแนน ดมี าก

5-6 คะแนน 573-4 คะแนน1-2 คะแนน ดี พอใช้ ควรปรับปรงุ ใบกิจกรรม ช่ือ......................................................................................... เลขท่ี................ชน้ั ......................คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นสาธิตการใชง้ านวัสดอุ ปุ กรณ์ ดว้ ยเทคนคิ วธิ กี ารปน้ั ดงั ตอ่ ไปนี้ (ประตมิ ากรรมนนู ตา่ ประติมากรรมนนู สงูประตมิ ากรรมลอยตัว) โดยตกแตง่ รายละเอยี ดใหด้ สู วยงาม นา่ สนใจ

58

59 แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น รหสั 2301-9002 รายวชิ า ประตมิ ากรรมประยุกต์ หนว่ ยที่ 8-10 เรอ่ื ง เทคนคิ และวธิ กี ารปนั้ งาน ประตมิ ากรรมประยกุ ต์คาชแ้ี จง แบบทดสอบเป็นแบบอัตนัย จานวน 1 ขอ้คาสง่ั จงสร้างสรรค์งานประตมิ ากรรมลอยตวั สาคัญ แล้วนามา ปั้นดว้ ยเทคนิควิธีการเฉพาะตน พร้อมทงั้ อธิบายเทคนคิ วิธีการและการปฏิบัติงานการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน โดยยึด หลักประติมากรรม

60แนวความคดิ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 5 เร่ือง เทคนคิ และวธิ กี ารปน้ั ประตมิ ากรรมประยุกต์จดุ มงุ่ หมาย เพอื่ ใหน้ กั เรยี นมีความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกบั เทคนิคและวธิ กี ารป้นั ประติมากรรมประยกุ ต์

61จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. เทคนิคและวิธกี ารป้ันประตมิ ากรรมประยุกต์ มคี วามสาคัญ อย่างไร 2. การใชเ้ ทคนิคและวิธีการปัน้ ประติมากรรมประยุกต์ ในรปู แบบ ตา่ งๆ มีไว้เพื่อวัตถุประสงคใ์ ด 3. เทคนิคและวิธกี ารป้ันประติมากรรมประยุกต์ มปี ระโยชน์อย่างไร ในการสรา้ งสรรค์งานประตมิ ากรรม 4. เทคนิคและวิธีการป้ัน มีสว่ นช่วยในทฤษฎงี านประติมากรรม ประยุกต์ อย่างไร ประกอบดว้ ยรายละเอยี ดของเทคนคิ อะไรบ้าง 5. นกั เรยี นสามารถนาเทคนคิ และวิธีการปั้นประติมากรรมประยกุ ต์ ไปใช้ในชีวิตประจาวันได้อยา่ งไรบ้าง

629. บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้ 9.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ 9.2 ผลการเรียนของผูเ้ รยี น

63 9.3 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรขู้ องผู้สอน 9.4 ปญั หาและอปุ สรรค แนวทางแกป้ ญั หาและหรอื พฒั นา (ถา้มี)

64 สัปดาหท์ ่ี 8-แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 10รหสั วชิ า 2301-9004 วชิ า ประติมากรรมประยกุ ต์ หนว่ ยท่ี 4ช่อื หนว่ ย การปฏบิ ตั งิ านประตมิ ากรรมในรปู แบบ ชวั่ โมงรวม 4ตา่ งๆช่อื เร่ือง การปฏิบัติงานประติมากรรมสร้างสรรค์ จานวนชวั่ โมง 41. สาระสาคญั การปฏิบัติงานประติมากรรมในรปู แบบตา่ งๆ เปน็ ขนั้ ตอนของการสรา้ งสรรค์งานประตมิ ากรรมที่นาพ้ืนฐานประติมากรรมทั่วไปรวมถงึ ข้ันตอนการสรา้ งงานมาประยุกตใ์ หมด่ ว้ ยวัสดุ เทคนิควิธกี ารมาสร้างสรรค์งานให้มีความหลากหลาย โดยคดิ แบบ ออกแบบเทคนคิวธิ กี ารต่างๆ ตามท่ีผสู้ ร้างตอ้ งการ ให้มลี ักษณะทน่ี ่าสนใจ โดยใช้หลักงานประติมากรรม หลักการขน้ึ โครงสรา้ ง ทฤษฎีงานประติมากรรม รวมไปถึงการเขา้ ใจวธิ ีการใช้วสั ดุอปุ กรณ์ในแตล่ ะชนดิ ประเภท ทนี่ ามาสร้างสรรคง์ าน เพ่อื ใหผ้ ลงานที่สรา้ งออกมามีความสมบรู ณ์มากท่ีสดุ ผู้สรา้ งสรรค์ต้องเขา้ ใจหลักประติมากรรม การสร้างงานประติมากรรม และเรียนรู้วิธีการการปฏบิ ัตงิ านรปู แบบต่างๆเพือ่ นาประยกุ ต์กบั งานป้นั เปน็ ตน้2. สมรรถนะประจาหนว่ ย นักเรียนเข้าใจการปฏบิ ัติงานประติมากรรมในรูปแบบตา่ งๆ ตามโครงตน้ แบบในผลงานประติมากรรมตัวอยา่ งท่ีถกู ต้อง เพ่ือให้ผลงานป้ัน ให้มีความหลากหลายในการใชว้ ัสดุ และสร้างชิ้นงานออกมาได้จรงิ3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป

65 นกั เรียนมีความรู้และสามารถอธิบายและปฏิบัตงิ านประตมิ ากรรมประยุกต์ ในรปู แบบต่างๆ ได้ 3.2จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 3.2.1. อธบิ ายกระบวนการออกแบบสร้างสรรคง์ าน ประติมากรรมรปู แบบต่างๆ ได้ 3.2.2ปฏิบตั ิงานตามทฤษฎีการปฏบิ ตั ิงานประตมิ ากรรมใน รูปแบบตา่ งๆได้ 3.2.3. อธิบายความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับเทคนิค วธิ ีการสร้างช้นิ งานได้ 3.2.4. ปฏบิ ัติงานตามเทคนิควิธกี ารการปฏบิ ัติงาน ประติมากรรมในรูปแบบตา่ งๆได้ 3.2.5. อธบิ ายวธิ ีการปฏิบัติงานประติมากรรมใน รูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย ได้4. สาระการเรียนรู้ / เนอื้ หาสาระ / หวั ขอ้ เรอ่ื ง การปฏิบัติงานประตมิ ากรรมในรูปแบบต่างๆ งานปน้ั ในรูปแบบที่หลากหลาย มีวัสดอุ ุปกรณ์อะไรบา้ ง แนวทางการเลือกวัสดุเพื่อนามาสร้างงานประติมากรรมใน รูปแบบต่างๆ มวี ิธใี ดบ้าง ความสาคัญของการใช้ส่ือวัสดุต่างๆ ในการปั้น มีความสาคัญ อยา่ งไร การประยุกต์ใช้เศษวัสดุ วัตถุดิบ การป้ันในงานประติมากรรม ประยุกต์เอกสารอา้ งองิ มยั ตะตยิ ะ.ประติมากรรมภาคปฏบิ ัติ. ปทุมธานี: สิปประภาจากดั ,25495. กิจกรรมการเรยี นรู้ช่ัวโมงท่ี 1-4

66ขั้นท่ี 1 ข้ันนาเขา้ สู่บทเรียน 1. ครูช้แี นะแนวทางและบอกวัตถปุ ระสงคข์ องการเรียนรู้หนว่ ยที่ 4 2. ครทู บทวนความร้เู ดิมของนกั เรียนที่ได้เรยี นไปในชว่ั โมงทผี่ ่าน มา โดยให้นักเรียนตอบคาถามวา่ การปฏบิ ตั ิงานประติมากรรมใน รปู แบบต่างๆ มีกระบวนการอย่างไร ใหป้ ระโยชน์แกผ่ ู้ป้นั อยา่ งไร 3. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เก่ยี วกบั การปฏิบัตงิ าน ประตมิ ากรรมในรูปแบบตา่ งๆ ตามหลักการปฏิบัตงิ าน ประตมิ ากรรม 4. ครแู นะนาวิธกี ารเรียนรแู้ ละการเข้ากิจกรรมรว่ มกนั โดย การศึกษาค้นคว้าข้อมูลความร้กู ่อนเรียน จากหนังสือ หรือ เว็ปไซต์ข้นั ที่ 2 ข้นั ดาเนินการสอน 5. แจกเอกสารประกอบการสอน หน่วยท่ี 4 เรื่อง “การปฏิบตั งิ าน ประตมิ ากรรมในรูปแบบตา่ งๆ” ครใู ห้นักเรียนระดมความคิดว่า เทคนคิ วิธีการการปฏบิ ัตงิ าน ประตมิ ากรรมประยุกต์ สามารถทาได้ ดว้ ยวธิ กี ารใดไดบ้ า้ ง จากน้ันครูจึงสรปุ การปฏิบตั งิ าน ประตมิ ากรรมในรปู แบบตา่ งๆ คอื รูปแบบ เทคนคิ เฉพาะตน ท่ีมคี วามสาคญั ต่อผลงานทแี่ สดงออกมาใน รูปแบบที่ไม่เหมอื นใคร ดว้ ยวัสดุการ สรา้ งสรรคผ์ ลงาน และมคี วามสาคัญต่ออารมณ์ความรู้สึก ความหมายของผลงาน เป็นตน้ 6. ครูเปิดส่ือ Power Point เก่ยี วกบั การปฏิบัตงิ านประติมากรรม ในรปู แบบต่างๆ ใหน้ ักเรียนดู พรอ้ มกับอธิบายถึงความสาคญั ของเทคนิค วธิ กี ารและกระบวนการปั้นงานประตมิ ากรรมใน รูปแบบทห่ี ลากหลาย รวมถึงแนะนาผลงานทมี่ ีโครงสร้าง สดั สว่ น การจัดองค์ประกอบของภาพ และใชเ้ ทคนิควธิ กี ารป้นั ได้อยา่ งสมบรู ณ์มาเปน็ หลักในการทางาน เปน็ ตน้

67 7. จากนัน้ ครูต้งั คาถามวา่ “การปฏิบัติงานประติมากรรมในรูปแบบ ต่างๆ มีความสาคัญและใหป้ ระโยชนแ์ ก่ผู้ปนั้ อยา่ งไรบ้าง” เพอื่ ให้นักเรียนช่วยกนั ระดมความคดิ จากนน้ั ครูจงึ สรปุ วตั ถปุ ระสงคเ์ ก่ียวกับการปฏบิ ัตงิ านประตมิ ากรรมในรูปแบบ ต่างๆ และประโยชนท์ ีไ่ ดจ้ ากการใช้วัสดุ เทคนิคสรา้ งสรรค์ ใหม่ๆ 8. ครูให้นักเรยี นดรู ปู แบบของลกั ษณะผลงานท่ผี ่านกระบวนการ สรา้ งสรรคง์ านด้วยเทคนคิ และวิธีการป้ันทหี่ ลากหลาย ตามหลกั ประติมากรรมประยุกต์ เพ่ือให้ชนิ้ งานมคี วามสมบูรณ์ แปลกใหม่ พร้อมกบั อธบิ ายลักษณะสาคญั ของแต่ละเทคนคิ วิธีการ 9. จากนั้นครูอธบิ ายประเภทของวธิ ีการเฉเพาะตน หลกั การวาด เทคนคิ วธิ ีการ การปฏบิ ัติงานให้นักเรียนฟัง วา่ มีอะไรบ้างขัน้ ที่ 3 ขนั้ สรุป 10. ครใู หน้ กั เรยี นสรา้ งสรรคง์ านโดยใช้เครือ่ งมอื ตาม“การ ปฏบิ ตั งิ านประติมากรรมในรูปแบบตา่ งๆเช่น ดนิ เหนยี ว ข้เี รอ่ื ย แปง้ ปนู และเครอื่ งมือป้นั ตัวขดู ปากตัด ตัวปาด เพอ่ื ให้งานมี ความสมบรู ณ์ สวยงาม” ลงกระดานรองปนั้ แล้วจดั แสดงผลงาน ในโตะ๊ แสดงผลงาน หนา้ หอ้ งเรยี น 11. ครใู ห้นกั เรยี นตอบอธิบายว่า “การปฏิบตั งิ าน ประตมิ ากรรมในรูปแบบตา่ งๆ มีวิธีการอย่างไร มปี ระโยชน์ อย่างไร และสามารถช่วยในงานประติมากรรมสรา้ งสรรค์ ได้ อยา่ งไร” จากนั้นนักเรยี นร่วมกนั ตอบคาถาม 12. ครใู หน้ ักเรยี นตอบคาถามว่า “การปฏิบัติงาน ประตมิ ากรรมในรปู แบบตา่ งๆ มคี วามสาคัญอยา่ งไรบ้าง” จากนั้นนกั เรยี นรว่ มกนั ตอบคาถาม 13. ครใู หน้ ักเรียนตอบคาถามว่า “การปฏิบตั งิ าน ประตมิ ากรรมในรูปแบบต่างๆ ท่ดี ีควรคานงึ ถึงหลักใดบ้าง” จากนนั้ นกั เรียนร่วมกันตอบคาถาม6. ส่ือและแหลง่ การเรยี นรู้ 6. เอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 4 เร่ือง การปฏบิ ัติงาน ประตมิ ากรรมในรูปแบบตา่ งๆ

68 7. Power Point หนว่ ยที่ 4 บนแผ่น CD ROM 8. เครือ่ งฉายโปรเจคเตอร์ 9. เครอื่ งคอมพิวเตอร์พร้อมอปุ กรณ์เชื่อมตอ่ 10. ใบกิจกรรม เรอ่ื ง “การปฏิบัตงิ านประติมากรรมในรปู แบบ ตา่ งๆ”7. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทีม่ อบหมาย (ถ้าม)ีกอ่ นเรยี น 11. จดั เตรียมเอกสาร สื่อการเรียนการสอนท่คี รูผู้สอนและ บทเรยี นกาหนดไว้ขณะเรียน 12. สงั เกตการปฏบิ ัติงานตามใบกิจกรรม เรอ่ื ง “การปฏบิ ัติงาน ประติมากรรมในรูปแบบตา่ งๆ” พร้อมเดินสงั เกต และให้ คาแนะนากับนกั เรียนหลงั เรียน 13. นกั เรยี นเก็บทาความสะอาด โต๊ะ เก้าอี้ พ้นื ห้องเรียน กระดานรองปนั้ ให้สะอาดเรียบรอ้ ยและปดิ ไฟฟา้ พดั ลมให้ เรยี บรอ้ ยก่อนออกจากหอ้ งเรียน8. การวดั ประเมนิ ผล 1. วิธวี ดั ผลและประเมินผล 1.1.สังเกตพฤติกรรมการทางาน 1.2.ประเมินจากผลงานการปฏิบัติกจิ กรรม แบบทดสอบ กอ่ น/หลังเรียน และใบกิจกรรม 1.3.สงั เกตความสนใจและความตงั้ ใจในการทากิจกรรม ของนักเรียน 2. เครื่องมือวัดและประเมินผล 2.1.แบบประเมินผลช้นิ งาน 2.2.แบบทดสอบก่อน/หลงั เรยี น

69 2.3.แบบสงั เกตความสนใจและความตัง้ ใจในการทากิจกรรมของนักเรียน 3. เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล 3.10 ผลการประเมินแบบประเมินผลชน้ิ งาน อย่ใู นเกณฑร์ ะดบั ดี ข้ึนไป 3.11 ผลการสงั เกตความสนใจและความตั้งใจในการทา กจิ กรรมของนกั เรยี น อย่ใู นเกณฑ์ระดับดี ขน้ึ ไป 3.12 ผลการทาแบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรยี นไดร้ อ้ ยละ 80 ข้นึ ไปแบบประเมนิ ผลชน้ิ งานช่อื ..................................................................................เลขท่ี ...................ระดับชั้น................. หัวข้อการประเมนิ เกณฑก์ ารให้ รวมข้อ คะแนน (20)ท่ี 321 14.ปรมิ าณข้อมูล 15.คุณภาพข้อมลู 16.แบบแผนการคดิ (การ เชือ่ มโยง) 17.แบบแผนการคิด (สาระ/ เนื้อหา) 18.ความคิดสรา้ งสรรค์ 19.ความรับผิดชอบ 20.ความชื่อสัตย์ รวม

70 ระดบั คณุ ภาพ18-20 คะแนน ดมี าก 15-17 คะแนน ดี12-14 คะแนน ปานกลาง ควรปรบั ปรงุ ต่ากวา่ 11 คะแนนรายการ เกณฑ์การประเมินใบงาน ระดับคะแนน

71ประเมิน 3 2 11. ปริมาณ ปริมาณข้อมูลมี ปรมิ าณข้อมูลมี ปรมิ าณข้อมลู มีข้อมลู 4ด้าน ข้นึ ไป 2-3 ดา้ น นอ้ ย มีเพียง 1 ดา้ น2. คณุ ภาพ ข้อมูลมีหัวเร่ือง ขอ้ มูลมหี ัวเรื่อง ข้อมูลมเี ฉพาะขอ้ มลู หลกั หัวเรื่อง หลักและ หัว หัวเรือ่ งหลัก รอง มี เร่อื งรองแต่ไม่ รายละเอียด ใน เหมาะสม กบั หัวเรอ่ื งรอง ลาดบั อยา่ ง ความสาคัญ สมเหตุสมผล3. แบบแผนการ มกี ารเช่อื มโยง จดั กลมุ่ ข้อมูล แผนที่ความคดิคิด (การ ลาดับ และ แสดง การ ไมแ่ สดง การเชอื่ มโยง) เหตุการณ์เป็น เชื่อมโยง เชอื่ มโยง เหตเุ ป็นผล และ ภายในกลุ่ม แต่ ระหวา่ งกลุ่ม แสดง ไม่ เชอ่ื มโยงทัง้ ความสัมพนั ธ์ ระบบ ทงั้ ระบบ4. แบบแผนการ สาระท่ีเขียน สาระท่ีเขียนมี สาระที่เขียนมีคิด (สาระ/ ส่วนใหญ่เปน็ รปู ธรรม แต่รปู ธรรม ท่ีเน้อื หา) นามธรรม องค์ มากกวา่ เป็นพฤตกิ รรม ความรู้ หลักการ นามธรรม และ และแสดง ดาเนินชวี ิตท่ีดี แสดงวสิ ยั ทศั น์ วิสยั ทศั นเ์ ร่อื งที่ และแสดง เร่ืองทีจ่ ะ ทาใน จะทาใน วิสยั ทศั นเ์ รือ่ งท่ี อนาคต 1 เรอ่ื ง อนาคต จะทาในอนาคต 2เรอ่ื ง ข้นึ ไป5. ความคิด รูปแบบ ทั้ง การ รปู แบบ ทง้ั การ รปู แบบ ทั้ง การสร้างสรรค์ ออกแบบ ออกแบบ ออกแบบ MindMap และ MindMap และ MindMap และ เนอ้ื หา ดู เนอื้ หา ดูไม่ เน้อื หา ไม่ น่าสนใจ รอ้ ย ค่อยน่าสนใจ นา่ สนใจเลย ละ 75 ข้นึ ไป (ไม่ถงึ รอ้ ยถะ 75 )6. ความ ส่งงานตรงเวลา สง่ งานลา่ ชา้ สง่ งานลา่ ช้ารบั ผิดชอบ ท่ีครูกาหนด แตม่ ีเหตุผล และไมม่ ีเหตผุ ล จาเปน็ จาเปน็

727. ความชอื่ สัตย์ เขยี นตาม เขียนตาม ดดั ลอกจาก รปู แบบของ รูปแบบของ หนงั สือ/ ตนเอง ตนเอง หรือ website ดดั แปลงจาก ดดั แปลง ต้นแบบ 75 % บางส่วน ขน้ึ ไปแบบสงั เกตความสนใจและความตงั้ ใจในการทากจิ กรรมของนกั เรยี น ชือ่ นกั เรยี น......................................................................ชั้น ..........................กิจกรรม.............................................................................วันท่ี ........................................ รายการ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติ1. เร่ิมตน้ งานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายทนั ที2. ทางานเสร็จเรยี บร้อยตามเวลาที่กาหนด3. ขอคาแนะนาจากครหู รอื เพ่ือนเมอื่ไมเ่ ข้าใจ4. ทากิจกรรมดว้ ยความสนุกสนานและเต็มใจ5. มสี ่วนร่วมในการทากิจกรรมอย่างสม่าเสมอ

736. ช่วยเหลือแนะนาเพื่อนในการทากจิ กรรมตามสมควร7. สนใจศกึ ษาหาความรเู้ พิม่ เติมด้วยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ 7. ขอ้ ใดที่นกั เรียนปฏิบตั ิ ไดค้ ะแนน 1 คะแนน ไม่ปฏบิ ัติ ได้ คะแนน 0 คะแนน 8. เกณฑ์การประเมินจากแบบสงั เกตอาจกาหนด ดังน้ี 7 คะแนน ดมี าก 5-6 คะแนน ดี 3-4 คะแนน พอใช้ 1-2 คะแนน ควรปรบั ปรงุ

74 ใบกิจกรรม ชื่อ......................................................................................... เลขที.่ ...............ชน้ั ......................คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นสาธติ การใชง้ านวัสดุปนู สด ดว้ ยเทคนคิ วธิ กี ารปนั้ ดงั ตอ่ ไปนี้ (ประติมากรรมนนู ตา่ ประติมากรรมนนู สงูประตมิ ากรรมลอยตัว) โดยตกแตง่ รายละเอยี ดใหด้ สู วยงาม นา่ สนใจ

75 แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น รหัส 2301-9002 รายวชิ า ประติมากรรมประยกุ ต์ หนว่ ยท่ี 8-10 เรอ่ื ง การปฏบิ ตั งิ านประติมากรรมใน รปู แบบตา่ งๆคาชแ้ี จง แบบทดสอบเปน็ แบบอัตนัย จานวน 1 ขอ้คาสงั่ จงสร้างสรรค์งานประตมิ ากรรมลอยตวั แล้วนามาป้นั ด้วย เทคนิควิธีการเฉพาะตน พรอ้ มท้งั อธิบายวัสดุทีใ่ ช้ เทคนคิ วธิ กี ารและการปฏิบัติงานการสรา้ งสรรค์ผลงาน โดยยึด หลกั ประติมากรรม

76แนวความคดิ

77................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 4 เรอื่ ง การปฏบิ ัตงิ านประติมากรรมในรปู แบบตา่ งๆจดุ มงุ่ หมาย เพ่ือให้นกั เรียนมีความร้คู วามเข้าใจเกยี่ วกบั การปฏิบัตงิ านประติมากรรมในรปู แบบต่างๆจงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. การปฏบิ ัติงานประตมิ ากรรมในรปู แบบตา่ งๆ มีความสาคัญ อย่างไร 2. การใชเ้ ทคนิคและวธิ กี ารปน้ั ประติมากรรมประยุกต์ ในรปู แบบ ตา่ งๆ มีไว้เพอ่ื วัตถุประสงคใ์ ด 3. เทคนิคและวิธีการปัน้ ประตมิ ากรรมในรปู แบบตา่ งๆ มีประโยชน์ อยา่ งไรในการสรา้ งสรรค์งานประติมากรรม

78 4. การปฏิบัตงิ านประตมิ ากรรมในรปู แบบตา่ งๆ มสี ่วนชว่ ยในการ คิดแบบสร้างสรรค์งานประติมากรรมประยกุ ต์ อย่างไร ประกอบด้วยรายละเอียดของเทคนิควัสดุอะไรบ้าง 5. นกั เรยี นสามารถนาเทคนคิ การปฏบิ ัติงานประติมากรรมใน รูปแบบตา่ งๆ ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างไรบ้าง9. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้

799.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้9.2 ผลการเรียนของผ้เู รยี น9.3 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรขู้ องผ้สู อน9.4 ปญั หาและอปุ สรรค แนวทางแกป้ ญั หาและหรอื พฒั นา

80แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ สปั ดาห์ที่ 11-17รหสั วชิ า 2301-9004 วชิ า ประตมิ ากรรมประยกุ ต์ หน่วยท่ี 5ชอ่ื หนว่ ย การสรา้ งสรรคช์ น้ิ งานในรปู แบบเฉพาะ ชวั่ โมงรวม 4ตนชอ่ื เร่อื ง การสรา้ งสรรค์ช้ินงานในรปู แบบเฉพาะตน จานวนชวั่ โมง 41. สาระสาคญั การสรา้ งสรรค์ชน้ิ งานในรูปแบบเฉพาะตน เป็นขนั้ ตอนสุดทา้ ยของการสร้างสรรค์งานประติมากรรม โดยเปน็ ขนั้ ตอนสรุปรวบยอดกระบวนการเรยี นรู้ จากงานพื้นฐานประติมากรรมทว่ั ไป รวมถึงข้ันตอนการสรา้ งงานมาประยุกตใ์ หม่ด้วยวัสดุ เทคนิคการสร้างสรรค์งานให้มีประสิทธิภาพ ความสมบูรณ์และและเทคนคิ วิธกี ารต่างๆตามทีผ่ ู้สร้างตอ้ งการ ใหม้ ลี กั ษณะทน่ี ่าสนใจ โดยใช้การค้นหาเทคนคิ เฉพาะตน การสร้างช้ินงานชน้ิ สาเร็จดว้ ยวัสดุอุปกรณใ์ นแต่ละชนิดประเภท ท่นี ามาสร้างสรรคง์ าน เพอื่ ให้ผลงานท่ีสรา้ งออกมามี

81ความสมบรู ณ์มากทีส่ ุด และผู้สรา้ งสรรค์ต้องสามารถนาเสนอผลงานในรปู แบบเฉพาะตนได้ เปน็ ต้น2. สมรรถนะประจาหนว่ ย นกั เรียนเข้าใจเทคนิควธิ กี ารและการปฏบิ ัติงานเพื่อการสร้างสรรคช์ ้นิ งานในรปู แบบเฉพาะตน ตามหลักงานประติมากรรมท่ีถูกต้อง เพื่อใหผ้ ลงานป้ัน มคี วามเหมือนจรงิ สวยงาม และสร้างชนิ้ งานออกมาไดจ้ รงิ และนาเสนอผลงานได้3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 จดุ ประสงคท์ ั่วไป นกั เรียนมคี วามรแู้ ละสามารถอธิบายการสร้างสรรค์ชน้ิ งานในรปู แบบเฉพาะตนได้ 3.2จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 3.2.1อธบิ ายกระบวนการสรา้ งสรรค์ช้ินงานในรปู แบบเฉพาะ ตนได้ 3.2.2ปฏบิ ัติงานตามทฤษฎกี ารปนั้ ประตมิ ากรรมเฉพาะตน ได้ 3.2.3อธิบายความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกับเทคนิควธิ กี ารสร้าง ชน้ิ งานในรูปแบบเฉพาะตนได้ 3.2.4ปฏบิ ัตงิ านตามเทคนคิ วธิ กี ารการสรา้ งสรรค์ในรูปแบบ เฉพาะตน ได้ 3.2.5อธิบายวิธกี ารใช้วสั ดุอปุ กรณใ์ นการสรา้ งสรรค์ช้ินงาน ในรูปแบบเฉพาะตนได้4. สาระการเรยี นรู้ / เนอ้ื หาสาระ / หวั ข้อเรื่อง การสร้างสรรค์ชิ้นงานในรูปแบบเฉพาะตน

82 ประเภท วัสดุในงานปั้น เฉพ าะตน มีวัสดุอุปกรณ์ ในการสรา้ งสรรค์อะไรบ้าง แนวทางการสร้างสรรค์ช้ินงานในรูปแบบเฉพาะตน มีวิธี ใดบา้ ง ความสาคัญของการสรา้ งสรรค์ช้ินงานในรูปแบบเฉพาะตน มี ความสาคญั อย่างไร การใช้เทคนิควิธีการป้ันในการสร้างสรรค์ช้ินงานในรูปแบบ เฉพาะตนเอกสารอ้างองิ มัย ตะตยิ ะ.ประติมากรรมภาคปฏิบัติ. ปทุมธานี: สิปประภาจากัด,25495. กิจกรรมการเรยี นรู้ช่ัวโมงที่ 1-4ขั้นที่ 1 ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน 1. ครชู ้แี นะแนวทางและบอกวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้หนว่ ยที่ 5 2. ครทู บทวนความร้เู ดมิ ของนักเรียนท่ไี ด้เรียนไปในชว่ั โมงทผี่ ่าน มา โดยใหน้ กั เรียนตอบคาถามว่า การสร้างสรรคช์ ้นิ งานใน รูปแบบเฉพาะตน มีกระบวนการอยา่ งไร ให้ประโยชน์แก่ผปู้ นั้ อยา่ งไร 3. นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั กระบวนการป้ันด้วย เทคนิควิธีการเฉพาะตน ตามหลักการปฏบิ ัติงานประติมากรรม 4. ครแู นะนาวิธีการเรียนรูแ้ ละการเข้ากิจกรรมร่วมกนั โดย การศกึ ษาค้นคว้าข้อมูลความรู้ก่อนเรียน จากหนงั สือ หรือ เว็ป ไซต์ข้ันท่ี 2 ขน้ั ดาเนนิ การสอน

83 5. แจกเอกสารประกอบการสอน หน่วยท่ี 5 เรือ่ ง “การสร้างสรรค์ ชิ้นงานในรูปแบบเฉพาะตน”ครใู ห้นกั เรียนระดมความคดิ ว่า เทคนคิ วธิ ีการการปฏบิ ตั ิงานประติมากรรมในรปู แบบเฉพาะตน สามารถทาไดด้ ้วยวธิ กี ารใดได้บ้าง จากนั้นครจู ึงสรุปวธิ ีการและ การปฏบิ ัตงิ านการสร้างสรรคช์ ิน้ งานในรูปแบบเฉพาะตน ทม่ี ี ความสาคญั ตอ่ ผลงานทแ่ี สดงออกมาในรปู แบบท่ไี มเ่ หมอื นใคร การสร้างสรรคผ์ ลงาน และมีความสาคัญต่ออารมณ์ความรสู้ กึ ความหมายของผลงาน เปน็ ตน้ 6. ครูเปิดสอ่ื Power Point เกย่ี วกับเทคนิคและวิธีการป้ัน ประตมิ ากรรมในรูปแบบเฉพาะตน ให้นักเรยี นดู พร้อมกับ อธิบายถึงความสาคัญของเทคนิค วิธีการและกระบวนการป้นั งานประติมากรรมในรูปแบบเฉพาะตน รวมถงึ แนะนาผลงานทม่ี ี โครงสรา้ ง สดั สว่ น การจดั องค์ประกอบของภาพ และใชเ้ ทคนิค วิธีการปนั้ ได้อยา่ งสมบูรณ์มาเปน็ หลกั ในการทางาน เปน็ ต้น 7. จากนัน้ ครตู ้ังคาถามว่า “การสรา้ งสรรค์ชน้ิ งานในรูปแบบเฉพาะ ตน มีความสาคญั และใหป้ ระโยชน์แก่ผปู้ น้ั อยา่ งไรบ้าง” เพอ่ื ให้ นักเรยี นชว่ ยกันระดมความคดิ จากนั้นครูจึงสรปุ วัตถุประสงค์ เกี่ยวกับการสร้างสรรคช์ น้ิ งานในรูปแบบเฉพาะตน และ ประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากการใช้วัสดุ เทคนคิ สรา้ งสรรค์ใหมๆ่ 8. ครใู หน้ ักเรยี นดูรูปแบบของลกั ษณะผลงานท่ีผา่ นกระบวนการ สรา้ งสรรค์งานเทคนิคและวิธีการป้ันในรูปแบบเฉพาะตน เพอื่ ให้ชิน้ งานมีความสมบูรณ์ พรอ้ มกับอธิบายลักษณะสาคญั ของแต่ละเทคนคิ วิธกี าร 9. จากน้ันครอู ธบิ ายประเภทของวัสดุอุปกรณ์ และเครอื่ งมือที่ใช้ ป้นั ตามวิธีการเฉเพาะตน หลกั การวาด เทคนิควิธีการ การ ปฏิบตั งิ านให้นักเรียนฟงั ว่ามอี ะไรบ้างขน้ั ท่ี 3 ขนั้ สรปุ 10. ครูให้นักเรียนสร้างสรรค์งานโดยใช้เครื่องมือ ตาม “เทคนิคและวธิ กี ารป้ันในรูปแบบเฉพาะตน เช่น ดินเหนยี ว ขี้ เรอ่ื ย เครื่องมอื ปนั้ ตัวขดู ปากตดั ตวั ปาด เพือ่ ใหง้ านมคี วาม

84 สมบรู ณ์ สวยงาม” ลงกระดานรองปั้นแล้วจดั แสดงผลงานในโตะ๊ แสดงผลงาน หน้าหอ้ งเรยี น 11. ครูใหน้ ักเรียนตอบอธิบายว่า “การสรา้ งสรรคช์ น้ิ งานใน รูปแบบเฉพาะตน มีวธิ กี ารอยา่ งไร มีประโยชน์อยา่ งไร และ สามารถช่วยในงานประตมิ ากรรมประยุกต์ ไดอ้ ยา่ งไร” จากนน้ั นกั เรียนร่วมกันตอบคาถาม 12. ครูให้นกั เรียนตอบคาถามว่า “การสรา้ งสรรคช์ ้ินงานใน รูปแบบเฉพาะตน” มีความสาคญั อย่างไรบ้าง” จากนนั้ นกั เรยี น รว่ มกนั ตอบคาถาม 13. ครูให้นักเรียนตอบคาถามว่า “การสรา้ งสรรค์ชนิ้ งานใน รูปแบบเฉพาะตน” ทดี่ คี วรคานงึ ถึงหลักใดบ้าง” จากนัน้ นักเรยี น รว่ มกันตอบคาถาม6. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการสอนหนว่ ยที่ 5 เรื่อง การสร้างสรรคช์ ิ้นงาน ในรปู แบบเฉพาะตน 2. Power Point หนว่ ยที่ 5 บนแผ่น CD ROM 3. เครอ่ื งฉายโปรเจคเตอร์ 4. เครอื่ งคอมพิวเตอรพ์ รอ้ มอปุ กรณ์เช่ือมต่อ 5. ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง “การสร้างสรรค์ชนิ้ งานในรปู แบบเฉพาะตน”7. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานทม่ี อบหมาย (ถา้ ม)ีกอ่ นเรียน 1. จัดเตรียมเอกสาร ส่ือการเรยี นการสอนท่ีครูผ้สู อนและบทเรยี น กาหนดไว้ขณะเรยี น 2. สงั เกตการปฏบิ ตั ิงานตามใบกิจกรรม เรื่อง “การสรา้ งสรรค์ ชิ้นงานในรูปแบบเฉพาะตน” พรอ้ มเดินสงั เกต และให้คาแนะนา กบั นักเรียน

85หลังเรยี น 3. นกั เรียนเก็บทาความสะอาด โตะ๊ เก้าอ้ี พน้ื หอ้ งเรียน กระดาน รองปน้ั ใหส้ ะอาดเรียบรอ้ ยและปดิ ไฟฟ้า พดั ลมใหเ้ รียบร้อยก่อน ออกจากห้องเรยี น8. การวดั ประเมนิ ผล 1. วธิ วี ัดผลและประเมินผล 1.1.สังเกตพฤตกิ รรมการทางาน 1.2.ประเมนิ จากผลงานการปฏิบัติกจิ กรรม แบบทดสอบ ก่อน/หลังเรยี น และใบกิจกรรม 1.3.สังเกตความสนใจและความต้ังใจในการทากิจกรรม ของนักเรยี น 2. เครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล 2.1.แบบประเมนิ ผลชนิ้ งาน 2.2.แบบทดสอบก่อน/หลังเรียน 2.3.แบบสงั เกตความสนใจและความตงั้ ใจในการทากจิ กรรมของนกั เรียน 3. เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล 3.1 ผลการประเมนิ แบบประเมนิ ผลชนิ้ งาน อยูใ่ นเกณฑร์ ะดับ ดี ข้นึ ไป 3.2 ผลการสงั เกตความสนใจและความตง้ั ใจในการทา กิจกรรมของนักเรียน อย่ใู นเกณฑ์ระดับดี ข้ึนไป 3.3 ผลการทาแบบทดสอบกอ่ น/หลังเรียนไดร้ อ้ ยละ 80 ข้นึ ไป แบบประเมนิ ผลชนิ้ งาน ช่ือ..................................................................................เลขท่ี ...................ระดับชั้น.................

86 เกณฑก์ ารให้ รวม คะแนน (20) หวั ขอ้ การประเมนิข้อ 321ที่ 4. ปริมาณข้อมูล 5. คุณภาพข้อมลู 6. แบบแผนการคดิ (การ เชื่อมโยง) 7. แบบแผนการคิด (สาระ/ เน้อื หา) 8. ความคิดสรา้ งสรรค์ 9. ความรบั ผดิ ชอบ 10.ความช่ือสัตย์ รวม ระดบั คุณภาพ18-20 คะแนน ดมี าก 15-17 คะแนน ดี12-14 คะแนน ปานกลาง ควรปรบั ปรงุ ต่ากวา่ 11 คะแนน

87 เกณฑ์การประเมินใบงานรายการ ระดับคะแนน 1ประเมิน 2 31. ปริมาณ ปริมาณข้อมลู มี ปริมาณข้อมูลมี ปรมิ าณข้อมูลมีข้อมูล 4ด้าน ขน้ึ ไป 2-3 ดา้ น นอ้ ย มีเพียง 12. คุณภาพ ดา้ น ข้อมูลมหี ัวเร่ือง ขอ้ มูลมหี ัวเร่ือง ขอ้ มูลมเี ฉพาะข้อมลู หลัก หวั เรื่อง หลกั และ หัว หัวเรื่องหลกั รอง มี เร่ืองรองแต่ไม่ รายละเอียด ใน เหมาะสม กบั หัวเรอ่ื งรอง ลาดบั อยา่ ง ความสาคัญ สมเหตุสมผล3. แบบแผนการ มกี ารเช่ือมโยง จดั กล่มุ ขอ้ มูล แผนทค่ี วามคิดคิด (การ ลาดบั และ แสดง การ ไม่แสดง การเชื่อมโยง) เหตกุ ารณ์เปน็ เชอื่ มโยง เช่อื มโยง เหตุเป็นผล และ ภายในกลุ่ม แต่ ระหว่างกลุ่ม

88 แสดง ไม่ เชอ่ื มโยงท้งั ความสัมพนั ธ์ ระบบ ทงั้ ระบบ4. แบบแผนการ สาระท่ีเขียน สาระท่ีเขียนมี สาระท่ีเขียนมีคดิ (สาระ/ สว่ นใหญ่เปน็ รูปธรรม แต่รปู ธรรม ที่เนอ้ื หา) นามธรรม องค์ มากกวา่ เป็นพฤตกิ รรม ความรู้ หลักการ นามธรรม และ และแสดง ดาเนนิ ชวี ิตท่ดี ี แสดงวิสยั ทศั น์ วสิ ัยทัศน์เรื่องท่ี และแสดง เร่อื งท่จี ะ ทาใน จะทาใน วสิ ัยทัศนเ์ ร่อื งท่ี อนาคต 1 เร่ือง อนาคต จะทาในอนาคต 2เรอ่ื ง ขึ้นไป5. ความคดิ รูปแบบ ทง้ั การ รปู แบบ ทงั้ การ รปู แบบ ทง้ั การสร้างสรรค์ ออกแบบ ออกแบบ ออกแบบ MindMap และ MindMap และ MindMap และ เน้ือหา ดู เนอื้ หา ดูไม่ เนอ้ื หา ไม่ นา่ สนใจ ร้อย คอ่ ยน่าสนใจ น่าสนใจเลย ละ 75 ขึ้นไป (ไมถ่ งึ รอ้ ยถะ 75 )6. ความ สง่ งานตรงเวลา ส่งงานลา่ ชา้ สง่ งานล่าชา้รบั ผิดชอบ ท่ีครูกาหนด แต่มีเหตุผล และไม่มเี หตผุ ล จาเปน็ จาเปน็7. ความชื่อสัตย์ เขียนตาม เขยี นตาม ดัดลอกจาก รปู แบบของ รปู แบบของ หนังสอื / ตนเอง ตนเอง หรือ website ดดั แปลงจาก ดัดแปลง ต้นแบบ 75 % บางสว่ น ข้นึ ไป

89แบบสงั เกตความสนใจและความตง้ั ใจในการทากจิ กรรมของนกั เรยี น ชอื่ นกั เรยี น......................................................................ชน้ั ..........................กจิ กรรม.............................................................................วนั ที่ ........................................ รายการ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติ1. เริ่มตน้ งานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายทันที2. ทางานเสรจ็ เรียบร้อยตามเวลาท่ีกาหนด3. ขอคาแนะนาจากครหู รือเพื่อนเมอื่ไมเ่ ข้าใจ4. ทากิจกรรมด้วยความสนุกสนานและเต็มใจ5. มสี ่วนร่วมในการทากิจกรรมอย่างสมา่ เสมอ6. ชว่ ยเหลอื แนะนาเพ่ือนในการทากิจกรรมตามสมควร7. สนใจศกึ ษาหาความรเู้ พม่ิ เตมิ ดว้ ยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ1. ขอ้ ใดทนี่ ักเรียนปฏิบัติ ได้คะแนน 1 คะแนน ไม่ปฏิบัติ ได้ คะแนน 0 คะแนน2. เกณฑก์ ารประเมนิ จากแบบสังเกตอาจกาหนด ดงั น้ี 7 คะแนน ดมี าก 5-6 คะแนน ดี

3-4 คะแนน 901-2 คะแนน พอใช้ ควรปรบั ปรงุ ใบกิจกรรม ชอื่ ......................................................................................... เลขท่.ี ...............ชน้ั ......................คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นสาธิตการสรา้ งสรรคง์ านโดยวสั ดอุ ุปกรณ์ ดว้ ยเทคนคิ วธิ กี ารปน้ั ในรปู แบบเฉพาะตน ดงั ตอ่ ไปนี้ (ประตมิ ากรรมนนูต่า ประตมิ ากรรมนนู สงู ประตมิ ากรรมลอยตวั ) โดยตกแตง่รายละเอยี ดใหด้ สู วยงาม นา่ สนใจ

91

92 แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น รหสั 2301-9002 รายวิชา ประติมากรรมประยุกต์ หนว่ ยท่ี 11-17 เรอื่ ง การสรา้ งสรรคช์ น้ิ งานในรปู แบบ เฉพาะตนคาชแ้ี จง แบบทดสอบเปน็ แบบอตั นัย จานวน 1 ข้อคาสงั่ จงสรา้ งสรรค์งานประติมากรรมลอยตัวสาคัญ แลว้ นามา ปนั้ ด้วยเทคนคิ วิธีการเฉพาะตน พร้อมทง้ั อธิบายเทคนคิ วธิ กี ารและการปฏบิ ัติงานการสร้างสรรคผ์ ลงาน โดยยึด หลกั ประติมากรรม

93แนวความคดิ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 5 เรอื่ ง การสรา้ งสรรค์ชนิ้ งานในรปู แบบเฉพาะตนจดุ มงุ่ หมาย เพอ่ื ให้นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจเกยี่ วกับการสรา้ งสรรคช์ ิ้นงานในรูปแบบเฉพาะตน

94จงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. การสร้างสรรคช์ นิ้ งานในรูปแบบเฉพาะตน มคี วามสาคญั อยา่ งไร 2. การใชเ้ ทคนิคและวิธีการปน้ั ประติมากรรมในรปู แบบเฉพาะตน มไี ว้เพื่อวัตถุประสงค์ใด 3. เทคนคิ และวิธกี ารปั้นประตมิ ากรรมในรูปแบบเฉพาะตน ให้ ประโยชนอ์ ย่างไรในการสร้างสรรคง์ านประติมากรรมประยุกต์ แก่ผ้สู รา้ งอยา่ งไร 4. เทคนิคและวิธีการป้ัน มสี ว่ นชว่ ยในการสรา้ งงานประติมากรรม ในรปู แบบเฉพาะตน อยา่ งไร ประกอบดว้ ยรายละเอยี ดของ เทคนิคอะไรบ้าง

95 5. นักเรยี นสามารถนาเทคนิคและวิธกี ารปั้นประติมากรรมใน รูปแบบเฉพาะตน ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งไรบา้ ง9. บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ 9.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ 9.2 ผลการเรยี นของผูเ้ รยี น

969.3 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรขู้ องผู้สอน9.4 ปญั หาและอปุ สรรค แนวทางแกป้ ญั หาแล

97 สปั ดาหท์ ี่แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 11-17รหัสวิชา 2301-2006 วชิ า ประติมากรรมนนู และ หนว่ ยที่ 6ลอยตวั ชว่ั โมงรวมชอื่ หน่วย การปฏบิ ตั งิ านประตมิ ากรรมลอยตวัชือ่ เรื่อง สร้างสรรค์ประติมากรรมลอยตวั 6 จานวน ชัว่ โมง 61. สาระสาคัญ การปฏบิ ัติงานประติมากรรมลอยตวั เป็นขั้นตอนสรปุ รวบยอดความรคู้ วามเขา้ ใจในของการสรา้ งสรรค์งานประติมากรรมทุกประเภทและเป็นขัน้ ตอนการสรา้ งงานประตมิ ากรรมให้เป็นรูปทรงตาท่ีรูปแบบและเทคนคิ เฉพาะตน ให้เป็นผลงานประตมิ ากรรม ทม่ี ีประสิทธภิ าพ ความสมบูรณ์และและเทคนคิ วิธีการต่างๆ ตามหลกั การประติมากรรม โดยใชห้ ลกั งานประติมากรรม หลักการขนึ้ โครงสร้างทฤษฎงี านประติมากรรม รวมไปถงึ การเข้าใจวธิ กี ารใช้วัสดอุ ุปกรณ์ในแตล่ ะชนิดประเภท ทนี่ ามาสรา้ งสรรคง์ าน เพือ่ ใหผ้ ลงานทส่ี ร้างออกมามีความสมบูรณ์มากท่ีสุด ผู้สรา้ งสรรคต์ ้องเขา้ ใจหลักองคป์ ระกอบศิลป์ หลักงานประตมิ ากรรม และเรียนรู้วธิ ีการการปฏิบัติงานรปู แบบต่างๆ เพื่อนาประยุกต์กับงานปัน้ เป็นต้น2. สมรรถนะประจาหน่วย นักเรยี นปฏบิ ัตงิ านประตมิ ากรรม ตามโครงสร้างในหลักงานประตมิ ากรรมท่ีถูกต้อง เพอ่ื ให้ผลงานปัน้ มีความเหมือนจรงิ สวยงามและสร้างชน้ิ งานออกมาไดจ้ รงิ3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 จดุ ประสงคท์ ว่ั ไป

98 นักเรยี นมีความรแู้ ละสามารถปฏิบัตงิ านประตมิ ากรรมในแตป่ ระเภทได้ 3.2จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม อธบิ ายกระบวนการสรา้ งสรรค์งานประตมิ ากรรมได้ ปฏบิ ตั ิงานตามทฤษฎีการปัน้ ประติมากรรมนูนและลอยตัว ได้ อธิบายและปฏิบัติความรคู้ วามเขา้ ใจเก่ียวกับเทคนิค วธิ กี ารสรา้ งช้นิ งานได้ ปฏิบตั ิงานตามหลกั การสรา้ งสรรค์ในงานประติมากรรม เฉพาะตนได้ สร้างสรรค์งานประตมิ ากรรมเป็นชนิ้ งานตกแตง่ ได้4. สาระการเรียนรู้ / เนอ้ื หาสาระ / หวั ข้อเรอ่ื ง การใชเ้ ทคนิคและวธิ ีการปั้นประตมิ ากรรมนนู และลอยตวั ประเภทวัสดุในงานปน้ั มวี สั ดอุ ปุ กรณ์อะไรบ้าง แนวทางการสร้างงานประตมิ ากรรม มีวิธีใดบา้ ง ประตมิ ากรรมคนเหมอื น มีความสาคญั อย่างไร การใช้เทคนิควิธีการป้ันในงานประติมากรรมคนเหมือนครึ่ง ตวัเอกสารอา้ งองิ มัย ตะติยะ.ประติมากรรมภาคปฏิบัติ. ปทมุ ธานี: สปิ ประภาจากดั ,25495. กจิ กรรมการเรยี นรู้ชว่ั โมงท่ี 1-6ข้นั ที่ 1 ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น 1.1. ครชู ้ีแนะแนวทางและบอกวัตถปุ ระสงค์ของการเรียนรู้หนว่ ย ที่ 6

99 1.2. ครูทบทวนความร้เู ดมิ ของนกั เรียนท่ไี ดเ้ รียนไปในช่ัวโมงที่ ผ่านมา โดยให้นักเรยี นตอบคาถามว่า การปั้นประติมากรรม มีกระบวนการสรา้ งสรรค์อย่างไร ให้ ประโยชนแ์ ก่ผู้ป้ันอย่างไร 1.3. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั กระบวนการป้ัน ด้วยเทคนิควิธีการต่างๆ ตามหลักการ ปฏิบัติงานประติมากรรม 1.4. ครูแนะนาวธิ กี ารเรียนรแู้ ละการเข้ากิจกรรมร่วมกัน โดย การศกึ ษาค้นควา้ ข้อมลู ความร้กู ่อนเรียน จากหนงั สือ หรือ เว็ปไซต์ขนั้ ที่ 2 ข้นั ดาเนินการสอน 1.5. แจกเอกสารประกอบการสอน หนว่ ยที่ 6 เรอื่ ง “การ ปฏิบตั ิงานประติมากรรมลอยตัว” 1.6.ครใู ห้นักเรียนระดมความคิดวา่ การปฏบิ ตั ิงานประติมากรรม สามารถทาได้ ด้วยวิธกี ารใดได้บา้ ง จากนั้นครูจึงสรุปวธิ ีการและการปฏิบัติงานประติมากรรม ใน รูปแบบเทคนคิ เฉพาะตน ที่มี ความสาคัญต่อผลงานทแี่ สดงออกมา เปน็ ตน้ 1.7.ครูเปดิ สอื่ Power Point เกยี่ วกับกระบวนการปฏิบัติงาน ประตมิ ากรรมลอยตัว ใหน้ ักเรียน ดู พร้อมกับอธิบายถึงความสาคัญของการปฏบิ ัตงิ านด้วย เทคนิค วธิ ีการและกระบวนการปั้นงาน ประติมากรรม รวมถึงแนะนาผลงานทม่ี ีโครงสร้างทถ่ี ูกต้องตาม สัดสว่ น และใช้เทคนิควิธีการป้นั ได้อย่างสมบรู ณม์ าเปน็ หลักในการทางาน เป็นตน้ 1.8. จากน้ันครูต้งั คาถามว่า “การปน้ั ประตมิ ากรรมนนู ต่า นนู สูง มีความสาคญั ตอ่ การปน้ั งาน ประติมากรรมลอยตัวอย่างไรและให้ ประโยชนแ์ ก่ผู้ปั้นอย่างไรบ้าง” เพ่อื ใหน้ ักเรยี นช่วยกันระดม

100 ความคดิ จากน้ันครูจึงสรุป การปฏิบัติงานประติมากรรมนูนและลอยตวั ประโยชน์ทีไ่ ดจ้ าก การเทคนคิ วิธีการ วสั ดแุ ละเครื่องมืออปุ กรณ์ 1.9. ครูใหน้ ักเรียนดรู ปู แบบของลกั ษณะผลงานท่ผี า่ น กระบวนการสร้างสรรค์งานประติมากรรมดว้ ย เทคนคิ และวิธกี ารปนั้ ตามหลักประติมากรรม เพ่อื ให้ช้ินงานมี ความสมบูรณ์ พร้อมกับอธิบาย ลกั ษณะสาคัญของแตล่ ะ เทคนิค วิธีการ 1.10.จากนั้นครอู ธิบายประเภทของงานประตมิ ากรรม วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมือที่ใช้ป้ันตามวิธีการ เฉเพาะตน หลกั การปนั้ เทคนคิ วธิ กี าร การปฏิบัติงานให้ นักเรียนฟัง ว่ามีอะไรบา้ งขัน้ ท่ี 3 ข้ันสรุป 1.11.ครูให้นักเรียนสรา้ งสรรคง์ านโดยใช้เคร่อื งมอื ตาม“เทคนิค และวธิ กี ารป้นั ประติมากรรมนูนและ ลอยตวั เช่น ดนิ เหนียว เครื่องมือป้ันตัวขูด ปากตัด ตวั ปาด เพ่อื ใหง้ านมคี วามสมบรู ณ์ สวยงาม” ลงกระดานรองป้นั แลว้ จัดแสดงผลงานในโตะ๊ แสดงผลงาน หน้าหอ้ งเรยี น 1.12.ครใู หน้ กั เรยี นตอบอธบิ ายวา่ “การปน้ั ประตมิ ากรรมนูนและ ลอยตัว มวี ธิ ีการอย่างไร มปี ระโยชน์ อย่างไร และสามารถช่วยในงานประติมากรรมนนู และลอยตัว ไดอ้ ยา่ งไร” จากน้ันนักเรยี นร่วมกนั ตอบคาถาม 1.13.ครใู ห้นกั เรยี นนาเสนอ “ผลงานประติมากรรมนูนและลอยตัว และแนะนาผลงานวา่ มคี วามสาคัญ อย่างไรบ้าง” จากน้นั นักเรยี นร่วมกันตง้ั คาถาม 1.14.ครใู หน้ กั เรียนท่นี าเสนอตอบคาถาม และสรปุ คาถามวา่“ผลงานประตมิ ากรรมนนู และลอยตวั ท่ีดี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook