Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนประติมากรรมนูนประยุกต์ แผนกการออกแบบ

แผนประติมากรรมนูนประยุกต์ แผนกการออกแบบ

Published by rot_285, 2018-05-11 00:27:24

Description: แผนประติมากรรมนูนประยุกต์ แผนกการออกแบบ

Keywords: 00

Search

Read the Text Version

1 การพจิ ารณาแผนการจัดการเรียนรู้ ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2559 ความเห็นหวั หน้าแผนก ขอรับรองว่า แผนการสอน รายวิชา ประติมากรรมประยุกต์(รหัสวิชา 2301-9004) ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 ของนายปฏิพัทธิ์ เวียงยา เป็นแผนการสอนท่ีถูกต้องและมีความสมบูรณ์ตามรูปแบบการเขียนของทางวิทยาลัยฯ ท่ีมุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญทุกประการ .................................................... (นายวนั ชยั พวงลดั ดาวลั ย)์ ................../....................../................ ผลการพจิ ารณา.................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.......................................................................... (นางวไิ ลรัตน์ แสงวณชิ ) รองผ้อู านวยการฝ่ ายวชิ าการ ................../....................../................ อนุมัติ ................................................................................... ................................................................................. ลงช่ือ ................................................................

2 (นายไพฑูรย์ ตณั ทานนท์) ผู้อานวยการวิทยาลยั อาชีวศึกษาอตุ รดติ ถ์ คานา แผนการจัดการเรียนรู้วิชา “ประติมากรรมประยุกต์” รหัสวิชา2301-9004 จัดทาขึ้นเพ่ือใชเ้ ป็นแนวทางในการจัดการเรยี นการสอนวิชาประติมากรรมประยุกต์ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ป วช .) พุ ท ธ ศั ก ร าช 2556 ข อ งส านั ก งาน ค ณ ะก ร รม ก าร ก ารอาชีวศึกษากระทรวงศึกษาธิการ ซ่ึงเป็นวิชาหมวดวิชาชีพโดยจัดให้ผเู้ รียนศกึ ษาในสาขาวิจิตรศิลป์ สาหรับแผนการสอนรายวชิ านี้ ผ้จู ดั ทาศึกษาคน้ ควา้ ทดลองเพ่ือใหเ้ กิดประสิทธิภาพต่อการเรยี นการสอน โดยมีเน้อื หา ขั้นตอนและวธิ ีการสร้างสรรค์ การปฏบิ ัติ ม่งุ เนน้ การเรียนการสอนใหเ้ กิดสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ แบบพอเพียง ครูผู้สอนหวงั เปน็ อย่างยิง่ ว่า แผนการจัดการเรียนรูจ้ ะเป็นประโยชนต์ ่อครู อาจารย์ ผเู้ รียนตลอดจนผู้ทมี่ คี วามสนใจใชเ้ ปน็แหลง่ ความรู้ และผู้ทมี่ ีสว่ นเก่ียวข้องต่างๆ ซงึ่ เป็นสว่ นสาคัญที่ทาให้แผนการสอนวชิ าประติมากรรมนูนและลอยตวั เล่มนี้เสร็จสมบรู ณเ์ ปน็ท่เี รยี บร้อย และหากผ้ใู ช้พบข้อบกพร่องหรอื มีขอ้ เสนอแนะประการใด ขอได้โปรดแจง้ ผู้จดั ทาทราบด้วย จกั ขอบคุณยิง่ (นายปฏิพัทธ์ิ เวียงยา)ตาแหนง่ ครพู ิเศษ

3-สารบัญ หน้า

4 รายละเอยี ดรายวชิ าหลักสตู ร ประกาศนยี บตั รวิชาชพี พุทธศักราช 2556 ท-ป-น 1-3-2ประเภทวิชา ปวช.2 สาขา การออกแบบ /กลมุ่ วชิ า/แผนวิชาศลิ ปกรรมรหสั วชิ า 2301-9004 ชอ่ื วิชา ประตมิ ากรรมประยกุ ต์ จานวน 2หน่วยกติ 4 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ จดุ ประสงค์ รายวิชา เพอื่ ให้ 1. เข้าใจวิธี การใช้เครื่องมือและวัสดุ อุปกรณ์ ในการ ประยุกตง์ านด้านประติมากรรม เปน็ ผลิตภัณฑ์ ของที่ระลกึ 2. มี ทั ก ษ ะใ น ก าร ป ร ะยุ ก ต์ งาน ป ร ะติ ม าก ร ร ม เป็ น ผลิตภัณฑ์ของท่รี ะลกึ เพ่ือจาหนา่ ยโดย

5 การ ออกแบบชิ้นงาน การเลือกใช้วัสดุ ขั้นตอนการปฏบิ ตั ิ งานการผลิตชน้ิ งาน และ ตกแต่ง ชิน้ งานสาเร็จ ไดต้ ามหลักการ 3. ประมาณราคาช้ินงานและการผลิตชิ้นงานตามจานวนได้อยา่ งเหมาะสม 4. มกี จิ นสิ ัยทด่ี ใี นการปฏบิ ตั งิ าน 5. มี คุ ณ ธ ร ร ม จ ร ร ย า บ ร ร ณ ใ น วิ ช า ชี พ ห ลั ก สู ต รประกาศนยี บัตรวิชาชีพสมรรถนะรายวชิ า 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกับหลกั การ กระบวนการประยกุ ต์งานประติ มากรรมเพื่อธรุ กจิ 2. เต รี ย ม วิธีก าร ใช้ แ ละก ารเก็ บ รัก ษ าวัส ดุ อุ ป ก ร ณ์ประตมิ ากรรมเพอ่ื ธรุ กจิ 3. ออกแบบ เขียนแบบ ผลิตภัณฑ์เพื่องานประติมากรรมประยุกต์ 4. สรา้ งหนุ่ จาลองเพ่อื ผลติ ชนิ้ งาน 5. ผลติ ชิน้ งานผลิตภัณฑป์ ระติ มากรรมตามขอ้ กาหนด 6. นาเสนอผลงานประติมากรรมประยกุ ต์คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษ าและปฏิบัติ เกี่ยวกับ การใช้ เคร่ืองมือและวัสดุอุปกรณ์ การประยุกต์ งานประติมากรรมเป็นผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกเพื่อจาหน่าย การออกแบบชิ้นงาน การเลือกใช้วัสดุ การผลิตชน้ิ งาน การตกแต่งช้ินงานและการประมาณราคา

6 ตารางท่ี 1 วเิ คราะห์หน่วยการเรียนรู้และเวลาทใ่ี ช้ในการจัดการเรียนรู้รหัสวชิ า 2301-9004 ช่ือวชิ า ประตมิ ากรรมประยกุ ต์ จานวน 2 หนว่ ยกิต 4 ชวั่ โมง/สปั ดาห์หน่วยที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สัปดาห์ท่ี ช่ัวโมงที่1 - ความรู้เรื่องอุปกรณ์และ 1 เครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นงาน ประตมิ ากรรมประยุกต์2 - หลักการและขั้นตอนการสร้าง 2 ประติมากรรมประยุกต์ - เทคนิคและวิธกี ารปนั้ งาน 3-73 ประติมากรรมพืน้ ฐาน - การปฏิบัติงานประตมิ ากรรมใน 8-104 รูปแบบตา่ งๆ - การสรา้ งสรรคช์ ิ้นงานใน 10-175 รูปแบบเฉพาะตน สอบปลายภาค 18 รวม

7ตารางท่ี 2 วเิ คราะหห์ น่วยการเรยี นรู้ หัวขอ้ การเรยี นรแู้ ละเวลา จดั การเรยี นรู้รหสั วชิ า 2301-9004 ชื่อวิชา ประตมิ ากรรมประยุกต์ จานวน 2 หนว่ ยกิต หนว่ ยกติ . 4 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ เวลาจัดการเรียนรู้คร้ังท่ี หน่วยท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้/หัวข้อการเรียนรู้ ทฤษ ปฏบิ ตั ิ รวม ฎี (ชม.)1 1 - ความรเู้ ร่ืองอปุ กรณแ์ ละเครื่องมือที่ 1 3 4 ใช้ในงาน ประตมิ ากรรมประยกุ ต์2 2 - ห ลั ก ก า ร แ ล ะ ขั้ น ต อ น ก า ร ส ร้ า ง 1 3 4 ประตมิ ากรรมประยุกต์3-7 3 - เทคนิคและวธิ ีการปั้นงาน 13 4 ประตมิ ากรรมพื้นฐาน8- 4 - การปฏิบตั ิงานประตมิ ากรรมใน 13 410 รูปแบบต่างๆ 13 410- 5 - การสรา้ งสรรค์ชิ้นงานในรปู แบบ เฉพาะตน17

818 สอบปลายภาค 28 54 72 ตารางที่ 3 การวเิ คราะห์หน่วยการเรียนรู้และสมรรถนะรายวชิ ารหัสวชิ า 2301-9004 ช่อื วิชา ประตมิ ากรรมประยกุ ต์ จานวน 2 หนว่ ย กติ 4 ช่ัวโมง/สปั ดาห์หน่วย ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะรายวชิ า ท่ี1 - ความรู้เรื่องอุปกรณแ์ ละ - อธบิ ายอปุ กรณเ์ คร่อื งมอื ตามหลัก เครื่องมือท่ีใช้ในงาน งาน ประติมากรรมประยกุ ต์ ประตมิ ากรรม2 - หลักการและข้ันตอนการสร้าง - อธิบายหลักการ ขั้นตอนการสร้าง ประตมิ ากรรมประยกุ ต์ ประติมากรรม

93 - เทคนิคและวธิ กี ารปน้ั งาน ประยกุ ต์ ประตมิ ากรรมพ้ืนฐาน - อธิบายประเภทงานประติมากรรม ประยกุ ต์4 - การปฏิบัตงิ านประตมิ ากรรม ในรูปแบบต่างๆ - ขึ้นโครงสร้างประติมากรรมตาม ข้นั ตอน5 - การสรา้ งสรรคช์ ้ินงานใน - ป้ันดนิ เหนียวตามขน้ั ตอนการสร้าง รูปแบบเฉพาะตน ประตมิ ากรรมประยุกต์ ตารางวเิ คราะห์หลกั สูตรเพื่อหาลาดบั ความสาคญัหลักสตู ร ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2556

ความ ู้ร 10 ความเข้าใจ การนาไปใช้ประเภทวชิ า วิเคราะ ์ห.................................................................................................. สังเคราะ ์ห............................ ประเ ิมนค่า ิจตพิ ัสย (........%)รหัสวิชา 2301-9004 ชอื่ วชิ า ประตมิ ากรรมประยกุ ต์ จานวน 2 ทักษะพิ ัสย(.......%)หนว่ ยกติ 4 ชว่ั โมง/สัปดาห์ รวมพุทธิพิสยั (...........%) ลาดับความสาคัญ พฤติกรรม จานวนคาบ ช่ือหน่วย- ความรู้เร่ืองอุปกรณ์และเครอื่ งมือท่ี ใชใ้ นงานประติมากรรมประยุกต์- ห ลัก การและข้ั น ตอนการสรา้ ง ประติมากรรมประยกุ ต์- เทคนิคและวิธกี ารปนั้งาน ประตมิ ากรรมพ้นื ฐาน- การปฏิบตั งิ านประตมิ ากรรมใน รปู แบบตา่ งๆ- การสรา้ งสรรค์ช้ินงานในรปู แบบ เฉพาะตน รวม ลาดบั ความสาคญั

11ตารางวเิ คราะห์หลกั สูตรเพื่อหาจานวนข้อแบบทดสอบหลักสูตร ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี พทุ ธศกั ราช 2556ประเภทวิชา.............................................................................................................................รหสั วชิ า 2301-9004 ช่ือวิชา ประติมากรรมประยกุ ต์ จานวน 2หนว่ ยกติ 4 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ พทุ ธิพสิ ัย ความ ู้รพฤตกิ รรม ความเข้าใจ การนาไปใช้ ชื่อหน่วย วิเคราะ ์ห- ความรเู้ รื่องอปุ กรณ์ สังเคราะ ์หและเคร่อื งมือท่ี ประเ ิมนค่า ใช้ในงาน ิจต ิพสัยประตมิ ากรรมประยุกต์ ทักษะพิสัย- หลักการและข้ันตอนการสรา้ ง รวม ลาดับความสาคัญ ประติมากรรมประยกุ ต์- เทคนิคและวธิ ีการป้นั จานวนคาบงาน

12 ประติมากรรมพืน้ ฐาน- การปฏิบัติงานประติมากรรมใน รปู แบบต่างๆ- การสร้างสรรค์ชิ้นงานในรปู แบบ เฉพาะตน รวม ลาดับความสาคัญแผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ สัปดาหท์ ี่ 1รหสั วชิ า 2301-9004 วชิ า ประติมากรรมประยกุ ต์ หนว่ ยที่ 1ชือ่ หนว่ ย ความรู้เรอื่ งอปุ กรณแ์ ละเครื่องมอื ทใี่ ชใ้ น ชัว่ โมงรวม งานประตมิ ากรรม 4 ประยุกต์ จานวนชื่อเรื่อง ความรใู้ นงานประตมิ ากรรมประยุกต์ ชว่ั โมง 4

131. สาระสาคญั ความรเู้ รอ่ื งอุปกรณ์และเครื่องมือท่ใี ชใ้ นงานประติมากรรม เปน็พนื้ ฐานหลักของงานศลิ ปะดา้ นประติมากรรมและการสร้างผลงานประตมิ ากรรม โดยการนาหลักการใช้เครอื่ งมือ อุปกรณใ์ นงานปั้นมาเป็นความรู้พน้ื ฐานการใช้วัสดุอุปกรณ์ คานงึ ถงึ ความสาคัญในการสรา้ งสรรคง์ าน ซง่ึ ประกอบด้วยเน้อื หาเก่ียวกับ ความรู้เรื่องวัสดุอปุ กรณแ์ ละเคร่อื งมือในงานประติมากรรมนนู และลอยตัว เทคนคิวิธีการและการปฏบิ ัติงานประติมากรรมเปน็ ต้น2. สมรรถนะประจาหนว่ ย นักเรยี นมีความรเู้ ร่ืองการใชอ้ ุปกรณ์และเครอื่ งมอื ในงานประตมิ ากรรมประยุกต์ วิธีการ ปฏบิ ัติงาน บอกประเภทของเครื่องมอืงานประตมิ ากรรม และสรา้ งสรรคผ์ ลงานได้3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 จดุ ประสงค์ทวั่ ไป นักเรียนมคี วามรแู้ ละสามารถใชอ้ ปุ กรณแ์ ละเคร่ืองมือท่ีใช้ในงานประติมากรรมประยุกต์ ได้ 3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. อธิบายความรู้เร่ืองอุปกรณ์และเคร่ืองมอื ที่ใช้ในงาน ประตมิ ากรรมประยกุ ต์ ได้ 2. อธบิ ายวิธกี ารและความสาคญั ของอุปกรณ์และเคร่อื งมือท่ีใช้ ในงานประติมากรรมประยกุ ต์ ได้ 3. ปฏบิ ัติงานโดยใช้อุปกรณแ์ ละเครอื่ งมือในงานประตมิ ากรรม ประยุกต์ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง4. สาระการเรยี นรู้ / เนอ้ื หาสาระ / หวั ข้อเรอื่ ง

14 ความรทู้ ่วั ไปเกยี่ วกบั ความสาคญั ของอปุ กรณแ์ ละเคร่อื งมือท่ใี ช้ในงานวาดเขียนห่นุ นิง่ อุปกรณ์และเคร่ืองมือที่ใช้ในงานประติมากรรมประยุกต์ คือ อะไร ความหมายและความสาคัญของอุปกรณ์และเครื่องมือท่ีใช้ใน งานประตมิ ากรรมประยุกต์ ก า ร ป ฏิ บั ติ งา น ด้ ว ย อุ ป ก ร ณ์ แ ล ะเค รื่ อ งมื อ ท่ี ใ ช้ ใ น งา น ประติมากรรมประยุกต์ มวี ิธกี ารอย่างไร การใช้เครอื่ งอย่างถูกต้องตามหลกั วธิ กี าร การเก็บรักษาวัสดุ อุปกรณ์เคร่ืองมือของงานประติมากรรมทา ไดอ้ ยา่ งไรเอกสารอา้ งองิ มัย ตะติยะ.ประติมากรรมภาคปฏิบัติ. ปทุมธานี: สปิ ประภาจากดั ,25495. กิจกรรมการเรยี นรู้ชั่วโมงที่ 1-4ขั้นท่ี 1 ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครชู ้แี นะแนวทางและบอกวัตถุประสงคข์ องการเรียนร้หู น่วยท่ี 1 2. ครถู ามพื้นฐานความรู้เดิมเก่ียวกบั งานประติมากรรมประยุกต์ ความรเู้ รอ่ื งวัสดอุ ปุ กรณ์และเคร่อื งมือในงานประติมากรรม ประยุกต์ 3. นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ความรู้เดมิ ใน อปุ กรณ์และเคร่ืองมอื ที่ใชใ้ นงานประติมากรรมประยุกต์ ความ เขา้ ใจท่นี ักเรยี นได้เคยศกึ ษาและปฏิบัติมา 4. ครูแนะนาวธิ กี ารเรียนรู้และการเข้ากจิ กรรมรว่ มกนั โดยเปดิ สื่อ ตวั อย่างงานประติมากรรมประยุกต์ และการศกึ ษาค้นควา้ ข้อมูล

15 ความรู้ก่อนเรยี น จากวัสดุ อปุ กรณ์ เครอื่ งมือจรงิ และหนังสอื หรอื เว็ปไซต์ขนั้ ท่ี 2 ขัน้ ดาเนนิ การสอน 5. แจกเอกสารประกอบการสอน หนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง “ความรู้เร่อื ง อปุ กรณ์และเคร่ืองมอื ทใ่ี ชใ้ นงานประติมากรรมประยุกต์” 6. ครใู หน้ กั เรยี นระดมความคิดว่า ความรเู้ รือ่ งอปุ กรณแ์ ละ เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในงานประตมิ ากรรมประยกุ ต์คืออะไร จากนั้นครู จงึ สรุปความสาคญั ของอปุ กรณแ์ ละเคร่ืองมือทใ่ี ชใ้ นงาน ประตมิ ากรรมประยุกต์ ว่าหมายถงึ สื่อ วสั ดุ อุปกรณ์ในแต่ละ ประเภทที่ใชส้ าหรบั งานประติมากรรมประยกุ ต์ เปน็ ตน้ 7. ครูเปิดสือ่ Power Point เก่ยี วกบั อุปกรณแ์ ละเครอ่ื งมอื ที่ใชใ้ น งานประตมิ ากรรมประยกุ ต์ ให้นกั เรียนดู พรอ้ มกบั อธบิ ายถงึ ความเปน็ มาของอุปกรณแ์ ละเครื่องมือทีใ่ ชใ้ นงานประติมากรรม ประยกุ ต์ รวมถึงแนะนาผลงานเปน็ ท่ีมีการนาวสั ดุ อุปกรณ์และ เคร่ืองมือที่ใชใ้ นงานประตมิ ากรรมประยกุ ต์ มาเป็นหลักในการ สรา้ งสรรคง์ านได้อยา่ งถกู ต้อง เปน็ ตน้ 8. จากนน้ั ครตู งั้ คาถามว่า “อปุ กรณแ์ ละเครื่องมือทใ่ี ช้ในงาน ประติมากรรมประยุกต์ มีความสาคัญและให้ประโยชนอ์ ย่างไร แก่ผู้ปน้ั บา้ ง” เพ่อื ใหน้ ักเรียนช่วยกันระดมความคดิ จากนั้นครู จงึ สรปุ วัตถุประสงค์เกี่ยวกบั หลักการใช้งานและประโยชน์ที่ได้ จากการเลือกใช้อปุ กรณแ์ ละเครื่องมือทใี่ ชใ้ นงานประติมากรรม ประยุกต์ 9. ครูให้นักเรยี นดรู ปู แบบของลกั ษณะผลงานทม่ี ีหลกั การใช้ อุปกรณแ์ ละเครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ในงานประตมิ ากรรมประยุกต์ ได้ อยา่ งสมบรู ณ์ พร้อมกบั อธิบายลักษณะสาคัญของแต่ละรูปแบบ 10. จากนัน้ ครูอธบิ ายประเภทของอปุ กรณ์และเครื่องมือท่ีใช้ ในงานประติมากรรมประยกุ ต์ ใหน้ ักเรียนฟงั วา่ มอี ะไรบา้ งขั้นที่ 3 ขน้ั สรปุ

16 11. ครูให้นักเรียนร่วมสร้างสรรคผ์ ลงานประตมิ ากรรมนนู ต่า เพื่อสรุป “ความสาคญั ของอุปกรณ์และเครือ่ งมือท่ีใช้ในงานวาด เขยี นหนุ่ นง่ิ ” ลงในกระดาษแลว้ นาเสนอหนา้ ห้องเรียน 12. ครใู ห้นักเรยี นตอบคาถามว่า “ในการป้ันดนิ เหนียวควรใช้ อุปกรณ์และเครื่องมืออย่างไร และในงานประตมิ ากรรมประยุกต์ สรา้ งสรรค์เพ่ืออะไรและมปี ระโยชน์อย่างไร และสามารถใช้ อปุ กรณแ์ ละเคร่ืองมือได้อยา่ งไร” จากนน้ั นกั เรยี นรว่ มกนั ตอบ คาถาม 13. ครใู ห้นกั เรียนตอบคาถามว่า “ความรเู้ รอ่ื งอปุ กรณแ์ ละ เครื่องมอื ท่ใี ชใ้ นงานประตมิ ากรรมประยกุ ต์มีความสาคญั อย่างไรบา้ ง” จากน้ันนักเรียนรว่ มกนั ตอบคาถาม 14. ครใู หน้ ักเรยี นสรุปและตอบคาถามว่า “ประเภทอุปกรณ์ และเคร่อื งมือทใี่ ชใ้ นงานประติมากรรมประยุกต์แบ่งไดก้ ี่แบบ” จากน้นั นักเรียนรว่ มกันตอบคาถาม6. ส่อื และแหลง่ การเรยี นรู้ 1. เอกสารประกอบการสอนหน่วยที่ 1 เรอื่ ง ความรู้เรื่องอปุ กรณ์ และเคร่ืองมือท่ีใช้ในงานประติมากรรมประยกุ ต์ 2. Power Point หนว่ ยที่ 1 บนแผน่ CD ROM 3. เครอื่ งฉายโปรเจคเตอร์ 4. เครื่องคอมพิวเตอรพ์ รอ้ มอุปกรณ์เชื่อมตอ่ 5. ใบกิจกรรม เรื่อง “ความรเู้ ร่ืองอุปกรณแ์ ละเครื่องมือท่ใี ช้ในงาน ประติมากรรมประยุกต์”7. กจิ กรรมเสนอแนะ/งานท่ีมอบหมายก่อนเรยี น 1. จดั เตรียมเอกสาร ส่ือการเรยี นการสอนทคี่ รูผูส้ อนและบทเรียน กาหนดไว้ขณะเรียน

17 1. สังเกตการปฏบิ ัติงานตามใบกิจกรรม เรือ่ ง “ความรู้เรอื่ งอุปกรณ์ และเคร่ืองมือทใี่ ชใ้ นงานประติมากรรมประยกุ ต์” พร้อมเดิน สังเกต และใหค้ าแนะนากับนักเรียนหลังเรยี น 1. นกั เรียนเกบ็ ทาความสะอาด โตะ๊ เกา้ อ้ี พ้ืนหอ้ งเรียน กระดานดา ให้สะอาดเรียบร้อยและปิดไฟฟ้า พัดลมใหเ้ รียบร้อยก่อนออก จากห้องเรียน8. การวดั ประเมนิ ผล 1. วิธีวดั ผลและประเมินผล 1.1 สงั เกตพฤติกรรมการทางาน 1.2 ประเมินจากผลงานการปฏิบัตกิ ิจกรรม แบบทดสอบก่อน/ หลงั เรียน และใบกิจกรรม 1.3 สงั เกตความสนใจและความตั้งใจในการทากจิ กรรมของ นกั เรยี น 2. เคร่ืองมือวดั และประเมินผล 2.1 แบบประเมินผลช้นิ งาน 2.2 แบบทดสอบก่อน/หลังเรียน 2.3 แบบสงั เกตความสนใจและความต้ังใจในการทากจิ กรรม ของนกั เรียน 3. เกณฑ์การวดั และประเมินผล 3.1 ผลการประเมินแบบประเมินผลช้ินงาน อยู่ในเกณฑร์ ะดบั ดี ขึ้นไป 3.2 ผลการสงั เกตความสนใจและความตั้งใจในการทา กจิ กรรมของนกั เรยี น อยู่ในเกณฑ์ระดับดี ข้ึนไป 3.3 ผลการทาแบบทดสอบกอ่ น/หลงั เรียนไดร้ อ้ ยละ 80 ข้ึนไป แบบประเมนิ ผลชน้ิ งาน ชื่อ..................................................................................เลขที่ ...................ระดับชั้น.................

18 หวั ขอ้ การประเมนิ เกณฑก์ ารให้ รวมข้อ คะแนน (20)ท่ี 3211. ปริมาณข้อมลู2. คุณภาพข้อมลู3. แบบแผนการคดิ (การ เชือ่ มโยง)4. แบบแผนการคดิ (สาระ/ เนื้อหา)5. ความคิดสรา้ งสรรค์6. ความรับผดิ ชอบ7. ความชื่อสัตย์ รวม ระดบั คุณภาพ18-20 คะแนน ดมี าก 15-17 คะแนน ดี12-14 คะแนน ปานกลาง ควรปรบั ปรงุ ต่ากวา่ 11 คะแนน

19 เกณฑ์การประเมินใบงานรายการ ระดับคะแนนประเมิน 3 2 11. ปริมาณ ปริมาณข้อมลู มี ปริมาณข้อมูลมี ปรมิ าณข้อมูลมีข้อมูล 4ด้าน ขน้ึ ไป 2-3 ดา้ น นอ้ ย มีเพียง 1 ดา้ น2. คุณภาพ ข้อมูลมหี วั เร่ือง ขอ้ มูลมหี ัวเร่ือง ขอ้ มูลมเี ฉพาะข้อมลู หลัก หวั เรื่อง หลกั และ หัว หัวเรื่องหลกั รอง มี เร่ืองรองแต่ไม่ รายละเอียด ใน เหมาะสม กบั หัวเรอ่ื งรอง ลาดบั อยา่ ง ความสาคัญ สมเหตุสมผล3. แบบแผนการ มกี ารเช่ือมโยง จดั กล่มุ ขอ้ มูล แผนทค่ี วามคิดคิด (การ ลาดบั และ แสดง การ ไม่แสดง การเชื่อมโยง) เหตกุ ารณ์เปน็ เชอื่ มโยง เช่อื มโยง เหตุเป็นผล และ ภายในกลุ่ม แต่ ระหว่างกลุ่ม

20 แสดง ไม่ เชอ่ื มโยงท้งั ความสัมพันธ์ ระบบ ทงั้ ระบบ4. แบบแผนการ สาระท่ีเขียน สาระท่ีเขียนมี สาระท่ีเขียนมีคดิ (สาระ/ สว่ นใหญ่เปน็ รูปธรรม แต่รปู ธรรม ที่เนอ้ื หา) นามธรรม องค์ มากกวา่ เป็นพฤตกิ รรม ความรู้ หลักการ นามธรรม และ และแสดง ดาเนนิ ชวี ิตท่ดี ี แสดงวิสยั ทศั น์ วสิ ัยทัศน์เรื่องท่ี และแสดง เร่อื งท่จี ะ ทาใน จะทาใน วสิ ัยทัศนเ์ ร่อื งท่ี อนาคต 1 เร่ือง อนาคต จะทาในอนาคต 2เรอ่ื ง ขึ้นไป5. ความคดิ รูปแบบ ทง้ั การ รปู แบบ ทงั้ การ รปู แบบ ทง้ั การสร้างสรรค์ ออกแบบ ออกแบบ ออกแบบ MindMap และ MindMap และ MindMap และ เน้ือหา ดู เนอื้ หา ดูไม่ เนอ้ื หา ไม่ นา่ สนใจ ร้อย คอ่ ยน่าสนใจ น่าสนใจเลย ละ 75 ขึ้นไป (ไมถ่ งึ รอ้ ยถะ 75 )6. ความ สง่ งานตรงเวลา ส่งงานลา่ ชา้ สง่ งานล่าช้ารบั ผดิ ชอบ ท่ีครูกาหนด แต่มีเหตุผล และไม่มเี หตผุ ล จาเปน็ จาเปน็7. ความชื่อสัตย์ เขียนตาม เขยี นตาม ดัดลอกจาก รปู แบบของ รปู แบบของ หนังสอื / ตนเอง ตนเอง หรือ website ดดั แปลงจาก ดัดแปลง ต้นแบบ 75 % บางสว่ น ข้นึ ไป

21แบบสงั เกตความสนใจและความตงั้ ใจในการทากจิ กรรมของนกั เรยี น ชอ่ื นกั เรียน......................................................................ชั้น ..........................กจิ กรรม.............................................................................วนั ที่ ........................................ รายการ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติ1. เร่มิ ตน้ งานทไ่ี ด้รบั มอบหมายทนั ที2. ทางานเสรจ็ เรยี บร้อยตามเวลาที่กาหนด3. ขอคาแนะนาจากครหู รอื เพื่อนเมื่อไม่เขา้ ใจ4. ทากิจกรรมด้วยความสนุกสนานและเต็มใจ5. มีส่วนรว่ มในการทากจิ กรรมอย่างสมา่ เสมอ6. ชว่ ยเหลือแนะนาเพ่ือนในการทากจิ กรรมตามสมควร7. สนใจศึกษาหาความรเู้ พมิ่ เตมิ ด้วยตนเอง รวมคะแนน หมายเหตุ1. ขอ้ ใดทน่ี ักเรียนปฏิบตั ิ ได้คะแนน 1 คะแนน ไม่ปฏบิ ัติ ได้ คะแนน 0 คะแนน2. เกณฑก์ ารประเมนิ จากแบบสงั เกตอาจกาหนด ดังนี้ 7 คะแนน ดมี าก

5-6 คะแนน 223-4 คะแนน1-2 คะแนน ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง ใบกจิ กรรม ช่อื ......................................................................................... เลขท.่ี ...............ชนั้ ......................คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นขน้ั ตอนวธิ ีการปน้ั เรอ่ื ง “ประตมิ ากรรมประยกุ ต”์ (ประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ใดบา้ ง เชน่ วสั ดอุ ปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นงานปนั้ วธิ กี ารใชง้ านและประโยชนข์ องอปุ กรณแ์ ละเครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ นงานประติมากรรมตกแต่ง) โดยตกแตง่ แผนผงั ความความคดิ ใหด้ นู า่ สนใจ

231.ประเภทงานประตมิ ากรรมประยกุ ต์.........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................2. วัสดุอปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นประตมิ ากรรมประยกุ ต์...........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. วธิ กี ารปนั้ ชนิ้ งานประติมากรรมประยกุ ต์...........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

24.........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................4. ประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ากงานประตมิ ากรรมประยกุ ต์.................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น รหัส 2301-9002 รายวิชา ประตมิ ากรรมประยุกต์ หน่วยที่ 1 เรอื่ ง ความรเู้ รอ่ื งอปุ กรณแ์ ละเครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ น งานประติมากรรมประยกุ ต์

25คาชแ้ี จง แบบทดสอบเป็นแบบอตั นัย จานวน 5 ขอ้คาสงั่ จงเตมิ ความหมายให้ถกู ต้องลงในกระดาษคาตอบ1. จงเขยี นวัสดุ อุปกรณแ์ ละเคร่ืองมือในงานประตมิ ากรรมประยุกต์ ท่ีนักเรยี นรูจ้ กั ให้มากที่สดุวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ............................ ............................. ........................................... ..................... ............................................... ............................. ................................................ ..................... ................................................ ............................. ................................................ ..................... ............................................... ............................. ................................................ ..................... ................................................ ............................. ................................................ ..................... ............................................... ............................. ................................................ ..................... ....................2. วัสดุทส่ี ามารถนามาทางานประติมากรรมประยุกต์ สามารถแบง่ออกเป็นกปี่ ระเภท............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................3. จงยกตวั อย่างงานประติมากรรมประยกุ ต์ ทนี่ ักเรียนรู้จัก พรอ้ มอธิบายลักษณะรปู แบบของงาน....................................................................................................................................................................

26........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ .4. อุปกรณ์และเครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้ในงานประติมากรรมประยุกต์ มีความสาคัญอย่างไร...........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................5. นกั เรียนสามารถนาเทคนคิ วิธีการใชอ้ ปุ กรณแ์ ละเครือ่ งมอื ในงานป้นั ไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้อย่าง............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

27 แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 1 เรือ่ ง ความรเู้ รอ่ื งอปุ กรณแ์ ละเครอื่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นงานประตมิ ากรรม ประยกุ ต์จดุ มุ่งหมาย เพ่ือให้นักเรยี นมีความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับอุปกรณแ์ ละ เครื่องมอื ทีใ่ ชใ้ นงานประติมากรรมจงตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. อุปกรณ์และเครื่องมือทใี่ ชใ้ นงานประตมิ ากรรมประยุกต์ มี ความสาคัญอยา่ งไร………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ประติมากรรมประยุกต์ มคี วามแตกต่างจากประตมิ ากรรมคน เหมือนกนั อย่างไร มวี ิธีการสงั เกตอยา่ งไร

28………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. อุปกรณแ์ ละเครือ่ งมอื ทใี่ ช้ในงานประติมากรรมประยุกต์ มี ประโยชน์อย่างไรในการสรา้ งผลงานอย่างไร………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

29…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………9. บนั ทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้ 9.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ 9.2 ผลการเรียนของผเู้ รยี น

309.3 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรขู้ องผสู้ อน9.4 ปญั หาและอปุ สรรค แนวทางแกป้ ญั หาและหรอื พฒั นา

31แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี สปั ดาหท์ ี่ 2รหัสวิชา 2301-9004 วชิ า ประตมิ ากรรมประยุกต์ หนว่ ยที่ 2ช่ือหน่วย หลกั การและขน้ั ตอนการสรา้ ง ชวั่ โมงรวม 4ประตมิ ากรรมประยกุ ต์ช่อื เรือ่ ง หลักการงานปน้ั ประยกุ ต์ จานวนชวั่ โมง 41. สาระสาคญั หลกั การและข้ันตอนการสรา้ งประติมากรรมประยุกต์ เป็นหลักการที่สาคญั ในเรอ่ื งความเขา้ ใจ ขน้ั ตอนวธิ ีการ การปฏิบตั งิ านเพราะเป็นการนาหลกั ความรู้ ความเข้าใจสรา้ งสรรคช์ น้ิ งานประติมากรรมในรปู แบบประยุกต์ ตามวัสดุตา่ งๆความต้องการของผู้ปน้ั นับว่าสามารถพนื้ ฐานหลกั ในการฝกึ ฝนการปั้นงานประตมิ ากรรมประยุกต์ ไดเ้ ปน็ อย่างดี และเป็นพ้นื ฐานของศิลปะด้านงานประติมากรรมประยุกต์ งานออกแบบงานประติมากรรมตกแตง่ ต่างๆโดยการใช้หลกั การและขนั้ ตอนงานประติมากรรมประยุกต์ โดยใช้การออกแบบชิน้ งาน วธิ กี ารสร้างช้นิ งาน ประเภทงานประติมากรรมเป็นต้น2. สมรรถนะประจาหนว่ ย นักเรียนเข้าใจหลักการและข้นั ตอนวธิ ีการ ปฏิบัติงานและสร้างสรรคผ์ ลงานโดยใชห้ ลักการป้ัน รวมไปถงึ เทคนคิ ในการสรา้ งสรรค์ได้3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 จดุ ประสงคท์ ว่ั ไป

32 นักเรียนมีความร้แู ละสามารถปฏบิ ัติงานตามหลักการและขน้ั ตอนงานประติมากรรมประยุกต์ ได้ 3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม อธบิ ายหลักการงานประติมากรรมพ้ืนฐานได้ ปฏิบตั ิงานตามข้ันตอนวธิ กี ารงานประติมากรรมพ้นื ฐานได้ อธิบายความหมายของประเภทงานประติมากรรมพนื้ ฐานได้ อธิบายหลักการใช้วัสดุอปุ กรณ์ โดยยึดหลักการงาน ประติมากรรมประยุกต์ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง อธบิ ายและแยกแยะประเภทของงานประติมากรรมพื้นฐานได้4. สาระการเรยี นรู้ / เนอ้ื หาสาระ / หวั ขอ้ เร่ือง หลักการและขั้นตอนการสร้างงานประติมากรรม ประตมิ ากรรมประยกุ ต์ คอื งานประเภทอะไร ข้ันตอนการสรา้ งงานประตมิ ากรรมประยุกต์ คอื อะไร ความสาคัญของหลักการและขน้ั ตอน สาคญั อยา่ งไร รูปแบบการสรา้ งงานประติมากรรมประยกุ ต์ มีกีป่ ระเภทเอกสารอา้ งองิ มัย ตะติยะ.ประติมากรรมภาคปฏบิ ัติ. ปทมุ ธานี: สิปประภาจากดั ,25495. กจิ กรรมการเรยี นรู้ช่ัวโมงที่ 1-4ขั้นท่ี 1 ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครชู แี้ นะแนวทางและบอกวัตถปุ ระสงค์ของการเรียนรู้หนว่ ย ท่ี 2 2. ครูทบทวนความรู้เดมิ ของนกั เรียนทไ่ี ด้เรียนไปในชั่วโมงท่ี ผ่านมา โดยใหน้ กั เรียนตอบคาถามวา่ หลกั การและขนั้ ตอน

33 คอื อะไร มีความเป็นมาและวธิ ีการอย่างไร ใหป้ ระโยชน์แกผ่ ู้ วาดอย่างไร 3. นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั ความรทู้ ั่วไป เกี่ยวกับหลกั การและข้นั ตอนงานประตมิ ากรรมประยุกต์ ครู แนะนาวิธีการเรียนรูแ้ ละการเขา้ กจิ กรรมรว่ มกนั โดย การศึกษาค้นควา้ ข้อมลู ความรกู้ ่อนเรียน จากหนงั สือ หรอื เวป็ ไซต์ขัน้ ที่ 2 ขัน้ ดาเนนิ การสอน 4. แจกเอกสารประกอบการสอน หน่วยท่ี 2 เรือ่ ง “หลักการและ ขัน้ ตอนการสรา้ งประตมิ ากรรม ประยุกต์” 2. ครูใหน้ กั เรยี นระดมความคิดว่า หลักการและขั้นตอนการ สรา้ งประติมากรรมประยุกต์ คืออะไร จากน้นั ครูจงึ สรุป ความหมายของหลักการและขัน้ ตอนงานประติมากรรม ประยุกต์ วา่ หมายถึง หลกั ในการสร้างสรรคง์ าน ประตมิ ากรรมประยุกต์ และกระบวนการทางานขัน้ พ้นื ฐาน ของงานประติมากรรมประยกุ ต์ เป็นต้น 3. ครเู ปดิ สือ่ Power Point เกยี่ วกบั หลักการและขนั้ ตอนงาน ประติมากรรมประยุกต์ ใหน้ กั เรียนดู พรอ้ มกับอธิบายถงึ ความเป็นมาของหลกั การและขั้นตอนงานประติมากรรม ประยกุ ต์ รวมถงึ แนะนาผลงานเปน็ ท่ีมีการใช้หลักการและ ขั้นตอนการปนั้ มาเปน็ หลกั ในการสร้างสรรคง์ าน เป็นต้น 4. จากนน้ั ครูตั้งคาถามว่า “ประติมากรรมประยุกต์ มคี วามสาคัญ และให้ประโยชนอ์ ยา่ งไรแก่ผู้ปนั้ บา้ ง” เพอื่ ใหน้ ักเรยี น ชว่ ยกันระดมความคิด จากนั้นครจู งึ สรุปวัตถปุ ระสงคเ์ ก่ียวกับ หลกั การและขั้นตอนการสรา้ งประติมากรรมประยุกต์และ ประโยชน์ทไี่ ด้จากการใชท้ ักษะความเข้าใจและวธิ ีการได้ อยา่ งถูกต้อง

34 5. ครใู หน้ ักเรยี นดูรูปแบบของลกั ษณะผลงานท่ีผ่านการใช้ หลกั การและขนั้ ตอนงานประตมิ ากรรมประยุกต์ ท่ีสมบูรณ์ พรอ้ มกบั อธิบายลักษณะสาคญั ของแต่ละรปู แบบ 6. จากนนั้ ครูอธิบายประเภทของหลกั การและขนั้ ตอนงาน ประติมากรรมและเทคนคิ วธิ ีการสร้างสรรคผ์ ลงานให้ นักเรียนฟงั ว่ามอี ะไรบา้ งขัน้ ที่ 3 ขนั้ สรุป 7. ครใู ห้นกั เรยี นสร้างสรรค์งานโดยใช้การ “ปฏบิ ัติชนิ้ งานจรงิ 1 ช้นิ งาน” ลงในแผน่ รองป้นั แลว้ นาเสนอเทคนิค วิธีการ สร้างสรรค์หนา้ ห้องเรียน 8. ครูให้นกั เรยี นตอบคาถามว่า “เรื่องหลกั การและข้ันตอนการ สร้างประติมากรรมประยุกต์ มจี ุดประสงคเ์ พ่อื อะไร มี ประโยชน์อยา่ งไร และสามารถใชห้ ลักการออกแบบ องคป์ ระกอบศลิ ป์มาช่วยในการจดั วางรูปแบบและกาหนด ลักษณะงานได้อย่างไร” จากน้ันนักเรียนรว่ มกันตอบคาถาม 9. ครใู ห้นกั เรยี นตอบคาถามว่า “หลกั การและขน้ั ตอนการสร้าง ประติมากรรมประยุกต์มีความสาคัญอย่างไรบา้ ง” จากนัน้ นักเรียนร่วมกันตอบคาถาม 10. ครใู ห้นักเรียนตอบคาถามว่า “ประเภทงานประติมากรรม ประยกุ ต์”มีอะไรบ้าง จากน้นั นักเรยี นร่วมกนั ตอบคาถาม6. สอ่ื และแหลง่ การเรยี นรู้ 6. เอกสารประกอบการสอนหน่วยท่ี 2 เรอื่ ง หลกั การและขั้นตอน การสร้างประติมากรรมประยกุ ต์ 7. Power Point หนว่ ยท่ี 2 บนแผน่ CD ROM 8. เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ 9. เคร่อื งคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์เช่ือมตอ่ 10. ใบกจิ กรรม เร่อื ง “หลักการงานปั้น”

357. กิจกรรมเสนอแนะ/งานที่มอบหมาย (ถ้าม)ีก่อนเรยี น 2. จัดเตรยี มเอกสาร ส่ือการเรยี นการสอนท่ีครูผู้สอนและบทเรียน กาหนดไว้ขณะเรียน 2. สังเกตการปฏบิ ัติงานตามใบกิจกรรม เรื่อง “หลักการและ ข้นั ตอนการสรา้ งประติมากรรมประยุกต์” พร้อมเดินสงั เกต และ ใหค้ าแนะนากบั นกั เรยี นหลงั เรยี น 2. นกั เรยี นเก็บทาความสะอาด โตะ๊ เกา้ อี้ พน้ื หอ้ งเรยี น กระดานดา ใหส้ ะอาดเรียบร้อยและปิดไฟฟ้า พัดลมใหเ้ รยี บร้อยกอ่ นออก จากห้องเรียน8. การวดั ประเมนิ ผล 1. วิธีวดั ผลและประเมินผล 1.4 สงั เกตพฤติกรรมการทางาน 1.5 ประเมนิ จากผลงานการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม แบบทดสอบก่อน/ หลงั เรียน และใบกิจกรรม 1.6 สงั เกตความสนใจและความตั้งใจในการทากจิ กรรมของ นกั เรยี น 2. เคร่อื งมอื วดั และประเมนิ ผล 2.4 แบบประเมินผลชนิ้ งาน 2.5 แบบทดสอบก่อน/หลงั เรียน 2.6 แบบสังเกตความสนใจและความตัง้ ใจในการทากิจกรรม ของนกั เรยี น 3. เกณฑก์ ารวดั และประเมินผล 3.4 ผลการประเมินแบบประเมินผลชน้ิ งาน อยู่ในเกณฑร์ ะดบั ดี ขน้ึ ไป 3.5 ผลการสงั เกตความสนใจและความตั้งใจในการทา กิจกรรมของนกั เรยี น อยใู่ นเกณฑ์ระดับดี ขึน้ ไป

363.6 ผลการทาแบบทดสอบก่อน/หลงั เรียนไดร้ ้อยละ 80 ขนึ้ ไป แบบประเมนิ ผลชน้ิ งานช่ือ..................................................................................เลขท่ี ...................ระดับชั้น................. หวั ข้อการประเมนิ เกณฑก์ ารให้ รวมขอ้ คะแนน (20)ที่ 3218. ปรมิ าณข้อมูล9. คุณภาพข้อมลู10. แบบแผนการคิด (การ เชอ่ื มโยง)11. แบบแผนการคดิ (สาระ/ เนื้อหา)12. ความคดิ สรา้ งสรรค์13. ความรบั ผิดชอบ14. ความช่ือสัตย์ รวม ระดบั คุณภาพ18-20 คะแนน ดมี าก 15-17 คะแนน ดี12-14 คะแนน ปานกลาง ควรปรบั ปรงุ ตา่ กวา่ 11 คะแนน

37 เกณฑ์การประเมนิ ใบงาน รายการ ระดบั คะแนน ประเมิน1. ปริมาณ 321ข้อมูล ปริมาณข้อมลู มี ปรมิ าณข้อมูลมี ปรมิ าณข้อมูลมี2. คณุ ภาพข้อมลู 4ดา้ น ขน้ึ ไป 2-3 ด้าน นอ้ ย มีเพียง 1 ดา้ น ขอ้ มูลมีหวั เร่ือง ขอ้ มลู มหี วั เร่ือง ข้อมูลมีเฉพาะ หลัก หวั เรอื่ ง หลกั และ หัว หวั เรอ่ื งหลัก รอง มี เรอื่ งรองแตไ่ ม่ รายละเอียด ใน เหมาะสม กับ

38 หวั เรื่องรอง ลาดบั อยา่ ง ความสาคัญ สมเหตุสมผล3. แบบแผนการ มีการเช่ือมโยง จดั กลุ่มข้อมูล แผนท่คี วามคดิคิด (การ ลาดบั และ แสดง การ ไม่แสดง การเชื่อมโยง) เหตุการณ์เป็น เชอ่ื มโยง เชื่อมโยง เหตุเปน็ ผล และ ภายในกลุ่ม แต่ ระหว่างกล่มุ แสดง ไม่ เชอื่ มโยงท้ัง ความสัมพนั ธ์ ระบบ ท้ังระบบ4. แบบแผนการ สาระท่ีเขียน สาระท่ีเขียนมี สาระท่ีเขียนมีคดิ (สาระ/ สว่ นใหญเ่ ปน็ รูปธรรม แตร่ ูปธรรม ที่เนอ้ื หา) นามธรรม องค์ มากกว่า เป็นพฤตกิ รรม ความรู้ หลักการ นามธรรม และ และแสดง ดาเนินชีวิตทด่ี ี แสดงวิสยั ทัศน์ วิสัยทัศน์เร่ืองท่ี และแสดง เรอ่ื งทีจ่ ะ ทาใน จะทาใน วิสัยทัศนเ์ รือ่ งที่ อนาคต 1 เรื่อง อนาคต จะทาในอนาคต 2เรือ่ ง ขึ้นไป5. ความคิด รูปแบบ ท้งั การ รปู แบบ ทั้ง การ รปู แบบ ท้ัง การสรา้ งสรรค์ ออกแบบ ออกแบบ ออกแบบ MindMap และ MindMap และ MindMap และ เน้อื หา ดู เน้ือหา ดไู ม่ เนื้อหา ไม่ น่าสนใจ รอ้ ย ค่อยนา่ สนใจ นา่ สนใจเลย ละ 75 ขึ้นไป (ไมถ่ งึ ร้อยถะ 75 )6. ความ ส่งงานตรงเวลา ส่งงานลา่ ช้า ส่งงานล่าชา้รับผิดชอบ ทค่ี รกู าหนด แตม่ ีเหตุผล และไมม่ เี หตผุ ล จาเปน็ จาเปน็7. ความชื่อสัตย์ เขยี นตาม เขียนตาม ดัดลอกจาก รปู แบบของ รูปแบบของ หนังสอื / ตนเอง ตนเอง หรือ website ดัดแปลงจาก ดดั แปลง ต้นแบบ 75 % บางสว่ น ขึ้นไป

39แบบสงั เกตความสนใจและความตง้ั ใจในการทากจิ กรรมของนกั เรยี น ช่ือนักเรยี น......................................................................ชน้ั ..........................กิจกรรม.............................................................................วนั ท่ี ........................................ รายการ ปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ัติ1. เร่ิมตน้ งานที่ได้รบั มอบหมายทนั ที2. ทางานเสรจ็ เรยี บร้อยตามเวลาที่กาหนด3. ขอคาแนะนาจากครหู รือเพื่อนเมื่อไมเ่ ข้าใจ4. ทากิจกรรมด้วยความสนุกสนานและเต็มใจ5. มีส่วนรว่ มในการทากจิ กรรมอย่างสม่าเสมอ6. ชว่ ยเหลอื แนะนาเพ่ือนในการทากิจกรรมตามสมควร7. สนใจศึกษาหาความรเู้ พ่ิมเตมิ ด้วยตนเอง

40รวมคะแนน หมายเหตุ3. ขอ้ ใดที่นกั เรียนปฏิบตั ิ ได้คะแนน 1 คะแนน ไมป่ ฏบิ ัติ ได้ คะแนน 0 คะแนน4. เกณฑก์ ารประเมินจากแบบสงั เกตอาจกาหนด ดังน้ี 7 คะแนน ดมี าก 5-6 คะแนน ดี 3-4 คะแนน พอใช้ 1-2 คะแนน ควรปรับปรุง ใบกจิ กรรม

41 ชื่อ......................................................................................... เลขที่................ชน้ั ......................คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นอธบิ ายการสรา้ งงานประตมิ ากรรมประยกุ ต์เรือ่ ง “ประตมิ ากรรมสัตวใ์ นจนิ ตนาการ” (ประกอบดว้ ยหวั ข้อใดบา้ งเชน่ วสั ดอุ ปุ กรณท์ ที่ า เครือ่ งมอื และวธิ ีการสรา้ งสรรค์ ประโยชน์ของหลักการงานประตมิ ากรรม และประเภทงานประตมิ ากรรมประยุกต์)โดยตกแตง่ เกบ็ รายละเอยี ดผลงานใหด้ นู า่ สนใจ1. ช่ือผลงาน........................................................................................................................................2. วัสดทุ ใี่ ชท้ า......................................................................................................................................3. ประเภทงานประติมากรรม...............................................................................................................4. อปุ กรณแ์ ละเครือ่ ง........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................5. วธิ กี ารสรา้ งสรรค์....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

42........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................6. ประโยชนข์ องการใช้หลกั การและการวางแผนขน้ั ตอนการทางาน....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................

43.................................................................................................................................................................................... แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น รหสั 2301-9002 รายวิชา ประตมิ ากรรมประยกุ ต์ หนว่ ยที่ 2 เรอื่ ง หลกั การและขน้ั ตอนการสรา้ ง ประติมากรรมประยกุ ต์คาชแ้ี จง แบบทดสอบเปน็ แบบอตั นัย จานวน 1 ข้อคาสง่ั จงออกแบบช้นิ งานประตมิ ากรรมประยุกต์ คนละ 1 ช้นิ โดยการนาหลกั การประตมิ ากรรมและนาเสนอเทคนิค วธิ กี ารการสร้างสรรคง์ านป้ันในรูปแบบเฉพาะตน พร้อม ท้ังอธิบายเทคนิคและแนวความคิดในการสร้างสรรค์ ผลงาน

44แนวความคิด................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ แบบฝึกหดั หนว่ ยที่ 2 เรอ่ื ง หลกั การและขน้ั ตอนการสรา้ งประตมิ ากรรมประยกุ ต์จุดมงุ่ หมาย เพ่ือให้นกั เรยี นมคี วามรูค้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั ความสาคัญของหลักการและข้ันตอนการสรา้ ง ประติมากรรมประยุกต์จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ี

451. หลักการและขนั้ ตอนการสร้างประติมากรรมประยุกต์ มีความสาคญั อยา่ งไร2. การออกแบบช้ินงานประตมิ ากรรมประยกุ ต์ มีส่วนสาคัญในการกาหนดวธิ กี ารสรา้ งสรรคง์ านอย่างไร3. ขน้ั ตอนการป้ันงานประตมิ ากรรมแบบนนู สงู แตกตา่ งจาก ประตมิ ากรรมประยุกต์ อยา่ งไร สงั เกตได้อยา่ งไร4. ประเภทของงานประติมากรรมประยุกต์ มีอะไรบ้าง แต่ละ ประเภทมคี วามแตกตา่ งกันอย่างไร

46 5. นกั เรียนสามารถนาหลกั การและข้นั ตอนการสรา้ งประติมากรรม ประยกุ ต์ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง9. บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้ 9.1 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ 9.2 ผลการเรียนของผู้เรยี น

47 9.3 ผลการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรขู้ องผู้สอน 9.4 ปญั หาและอปุ สรรค แนวทางแกป้ ญั หาและหรือพฒั นา (ถา้ม)ีแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ สัปดาห์ท่ี 3รหสั วชิ า 2301-9004 วชิ า ประติมากรรมประยกุ ต์ หน่วยท่ี 3ชอ่ื หน่วย เทคนคิ และวธิ กี ารปน้ั งานประตมิ ากรรม ชว่ั โมงรวม 4ประยกุ ต์ชอ่ื เรอ่ื ง เทคนิคและวิธกี ารปน้ั งานประติมากรรมพ้นื ฐาน จานวนชวั่ โมง 4

481. สาระสาคัญ เทคนิคและวิธีการป้ันประติมากรรมประยกุ ต์ เป็นขั้นตอนของการสร้างสรรค์งานประติมากรรมทุกประเภทและเปน็ การนาพ้นื ฐานประตมิ ากรรมทวั่ ไป รวมถึงขัน้ ตอนการสร้างงานมาประยุกตใ์ หม่ด้วยวสั ดุ เทคนิคการสร้างสรรคง์ านให้มปี ระสิทธภิ าพ ความสมบรู ณ์และและเทคนิควิธีการต่างๆ ตามทีผ่ ู้สร้างต้องการ ให้มลี กั ษณะท่ีน่าสนใจโดยใช้หลกั งานประติมากรรม หลกั การข้ึนโครงสรา้ ง ทฤษฎีงานประติมากรรม รวมไปถงึ การเข้าใจวธิ ีการใชว้ ัสดุอปุ กรณ์ในแตล่ ะชนดิ ประเภท ทน่ี ามาสรา้ งสรรคง์ าน เพอื่ ให้ผลงานท่ีสร้างออกมามีความสมบรู ณ์มากที่สดุ ผู้สร้างสรรคต์ ้องเข้าใจหลักองค์ประกอบศลิ ป์หลกั งานประติมากรรม และเรยี นรู้วธิ ีการการปฏิบัตงิ านรปู แบบต่างๆเพื่อนาประยุกตก์ บั งานปัน้ เป็นตน้2. สมรรถนะประจาหนว่ ย นกั เรียนเขา้ ใจเทคนคิ วิธกี ารและการปฏิบัตงิ านประติมากรรมประยุกต์ ตามโครงสร้างในหลกั งานประตมิ ากรรมทถ่ี ูกต้อง เพื่อให้ผลงานปนั้ มคี วามเหมอื นจรงิ สวยงาม และสร้างช้นิ งานออกมาได้จริง3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 3.1 จดุ ประสงคท์ วั่ ไป นักเรยี นมคี วามรู้และสามารถอธบิ ายเทคนคิ วิธกี ารและการปฏิบัติงานประตมิ ากรรมประยุกต์ ได้ 3.2จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม 1. อธิบายกระบวนการสร้างสรรค์งานประติมากรรมประยกุ ต์ ได้ 2. ปฏิบตั งิ านตามทฤษฎีการปน้ั ประติมากรรมประยกุ ต์ ได้ 3. อธิบายความรคู้ วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั เทคนิควธิ กี ารสร้าง ชิน้ งานได้

49 4. ปฏิบัติงานตามเทคนคิ วิธีการการสรา้ งสรรค์ในงาน ประติมากรรมประยุกต์ ได้ 5. อธบิ ายวิธีการใช้วัสดอุ ปุ กรณใ์ นงานประติมากรรม ประยกุ ต์ ทีห่ ลากหลาย ได้4. สาระการเรียนรู้ / เนอ้ื หาสาระ / หวั ข้อเร่ือง การใชเ้ ทคนคิ และวธิ กี ารปั้นประตมิ ากรรมประยกุ ต์ ประเภทวัสดใุ นงานปั้น มวี ัสดอุ ุปกรณ์อะไรบา้ ง แนวทางเทคนิควิธีการสร้างงานประติมากรรมประยุกต์ มีวิธี ใดบา้ ง ค ว า ม ส า คั ญ ข อ ง ก า ร ใ ช้ เท ค นิ ค วิ ธี ก า ร ใ น ก า ร ป้ั น มี ความสาคญั อย่างไร การใชเ้ ทคนิควิธีการปัน้ ในงานประตมิ ากรรมประยกุ ต์เอกสารอา้ งองิ มยั ตะตยิ ะ.ประติมากรรมภาคปฏบิ ัติ. ปทมุ ธานี: สปิ ประภาจากัด,25495. กิจกรรมการเรยี นรู้ช่ัวโมงท่ี 1-4ขนั้ ท่ี 1 ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน 1. ครชู ้แี นะแนวทางและบอกวัตถปุ ระสงค์ของการเรียนรหู้ น่วยท่ี 3 2. ครูทบทวนความรู้เดิมของนกั เรียนทไี่ ด้เรียนไปในชัว่ โมงทีผ่ า่ น มา โดยใหน้ ักเรยี นตอบคาถามวา่ การปั้นประตมิ ากรรมประยุกต์ มีกระบวนการอยา่ งไร ใหป้ ระโยชนแ์ ก่ผู้ปั้นอย่างไร 3. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกบั กระบวนการป้ันด้วย เทคนคิ วิธีการตา่ งๆ ตามหลักการปฏบิ ัติงานประติมากรรม

50 4. ครแู นะนาวธิ ีการเรียนรูแ้ ละการเข้ากจิ กรรมรว่ มกัน โดย การศกึ ษาค้นคว้าข้อมูลความรู้กอ่ นเรียน จากหนงั สือ หรอื เวป็ ไซต์ขัน้ ท่ี 2 ขัน้ ดาเนินการสอน 5. แจกเอกสารประกอบการสอน หน่วยที่ 3 เรอื่ ง “เทคนิคและ วธิ ีการปนั้ งานประตมิ ากรรมพ้ืนฐาน”ครใู ห้นักเรียนระดม ความคิดวา่ เทคนคิ วธิ กี ารการปฏบิ ัตงิ านประติมากรรมประยกุ ต์ สามารถทาไดด้ ว้ ยวธิ กี ารใดได้บ้าง จากนนั้ ครจู งึ สรปุ วธิ ีการและ การปฏบิ ัติงานประติมากรรมประยุกต์ ในรูปแบบเทคนคิ เฉพาะ ตน ที่มคี วามสาคัญตอ่ ผลงานที่แสดงออกมาในรปู แบบท่ไี ม่ เหมือนใคร การสร้างสรรค์ผลงาน และมคี วามสาคัญต่ออารมณ์ ความรูส้ ึก ความหมายของผลงาน เปน็ ต้น 6. ครเู ปิดส่ือ Power Point เก่ยี วกับเทคนคิ และวธิ กี ารปัน้ ประติมากรรมประยุกต์ ใหน้ ักเรียนดู พรอ้ มกบั อธิบายถึง ความสาคญั ของเทคนิค วิธกี ารและกระบวนการปนั้ งาน ประตมิ ากรรม รวมถงึ แนะนาผลงานท่ีมีโครงสร้าง สัดสว่ น การ จดั องค์ประกอบของภาพ และใชเ้ ทคนิควิธีการปน้ั ไดอ้ ยา่ ง สมบรู ณ์มาเปน็ หลักในการทางาน เปน็ ต้น 7. จากนัน้ ครตู งั้ คาถามว่า “เทคนิคและวิธีการปั้นงานประติมากรรม พ้นื ฐาน มีความสาคญั และใหป้ ระโยชนแ์ ก่ผู้ปน้ั อย่างไรบ้าง” เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นช่วยกันระดมความคดิ จากนนั้ ครจู งึ สรปุ วัตถุประสงคเ์ ก่ียวกับเทคนิคและวิธกี ารปั้นประติมากรรม ประยกุ ต์ และประโยชน์ทไี่ ด้จากการใช้วสั ดุ เทคนิคสรา้ งสรรค์ ใหมๆ่ 8. ครูให้นกั เรยี นดูรูปแบบของลักษณะผลงานทีผ่ า่ นกระบวนการ สร้างสรรคง์ านเทคนิคและวิธกี ารป้ันตามหลกั ประติมากรรม ประยกุ ต์ เพ่ือให้ชิน้ งานมีความสมบูรณ์ พรอ้ มกบั อธิบายลักษณะ สาคญั ของแตล่ ะเทคนิค วธิ ีการ 9. จากนน้ั ครูอธิบายประเภทของวสั ดุอปุ กรณ์ และเคร่อื งมือท่ีใช้ ปั้นตามวิธีการเฉเพาะตน หลกั การวาด เทคนิควิธีการ การ ปฏิบตั งิ านใหน้ ักเรียนฟงั ว่ามอี ะไรบา้ ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook