ก
ข สารบญั แบบบันทึกหน่วยการเรยี นรู้............................................................................................................................๒ แบบบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๑.......................................................................................................... ๒๗ บนั ทึกผลการจดั การเรียนรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔/๑............................................................................. ๓๒ บนั ทึกผลการจัดการเรียนรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔/๒............................................................................. ๓๕ บนั ทึกผลการจดั การเรียนรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔/๓............................................................................. ๓๘ ใบงานที่ ๑........................................................................................................................................... ๔๓ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑๓ เรอื่ ง สนุกสนานกบั การเล่น ............................................................................. ๔๓ แบบทดสอบก่อนการเรยี นรู้................................................................................................................. ๔๔ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑๓ เร่อื ง สนกุ สนานกบั การเลน่ ............................................................................. ๔๔ แบบบันทึกแผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๒...................................................................................................... ๔๖ บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔/๑............................................................................. ๕๒ บนั ทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔/๒............................................................................. ๕๖ บนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔/๓............................................................................. ๖๐ ใบงานที่ ๑........................................................................................................................................... ๖๔ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๑๓ เรอื่ ง สนุกสนานกบั การเล่น ............................................................................. ๖๔ แบบบันทึกแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๓.......................................................................................................... ๖๕ บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔/๑............................................................................. ๗๐ บนั ทึกผลการจดั การเรียนรู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔/๒............................................................................. ๗๔ บนั ทกึ ผลการจัดการเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔/๓............................................................................. ๗๘ แบบบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๔.......................................................................................................... ๘๒ บันทกึ ผลการจัดการเรยี นรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔/๑............................................................................. ๘๗ บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔/๒............................................................................. ๙๐ บันทึกผลการจดั การเรยี นรู้ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔/๓............................................................................. ๙๓ แบบบนั ทึกแผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๕.......................................................................................................... ๙๖ บนั ทกึ ผลการจัดการเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔/๑.......................................................................... ๑๐๑ บันทึกผลการจัดการเรยี นรู้ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๔/๒.......................................................................... ๑๐๕
ค บันทึกผลการจดั การเรยี นรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔/๓.......................................................................... ๑๐๙ ใบงานที่ ๑ ตอนท่ี ๑......................................................................................................................... ๑๑๓ เรื่อง คำนาม...ใช้เรยี กตามช่ือ ........................................................................................................... ๑๑๓ แบบบนั ทกึ แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๖....................................................................................................... ๑๑๕ บนั ทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔/๑.......................................................................... ๑๒๐ บันทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔/๒.......................................................................... ๑๒๔ บันทกึ ผลการจดั การเรยี นรู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔/๓.......................................................................... ๑๒๘ ใบงานท่ี ๑........................................................................................................................................ ๑๓๒ เรอื่ ง ภาษาไทยนา่ เรยี น...ฝึกเขียนดว้ ยประโยค................................................................................. ๑๓๒ แบบบันทกึ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๗....................................................................................................... ๑๓๓ บนั ทกึ ผลการจัดการเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔/๑.......................................................................... ๑๓๘ บนั ทึกผลการจดั การเรียนรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔/๒.......................................................................... ๑๔๒ บันทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔/๓.......................................................................... ๑๔๖ ใบงานที่ ๑........................................................................................................................................ ๑๕๐ เรื่อง ภาษาไทยนา่ เรยี น...ฝึกเขยี นด้วยประโยค................................................................................. ๑๕๐ แบบบนั ทกึ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๘....................................................................................................... ๑๕๑ บนั ทกึ ผลการจัดการเรียนรู้ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔/๑.......................................................................... ๑๕๖ บันทกึ ผลการจัดการเรียนรู้ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔/๒.......................................................................... ๑๖๐ บนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔/๓.......................................................................... ๑๖๔ ใบงานท่ี ๑........................................................................................................................................ ๑๖๘ เรื่อง การเขียนจดหมายถึงเพอ่ื นและบิดามารดา............................................................................... ๑๖๘ แผนประเมนิ ผลภาระงานรวบยอด............................................................................................................ ๑๖๙ บันทึกผลการจัดการเรยี นรู้ ................................................................................................................... ๑๗๓ บันทึกผลการจัดการเรยี นรู้ ................................................................................................................... ๑๗๖ บนั ทึกผลการจัดการเรยี นรู้ ................................................................................................................... ๑๗๙ ประวตั ผิ เู้ ขียน............................................................................................................................................ ๑๘๒
๒ หนว่ ยการเรยี นรู้ ๑๓ แบบบนั ทกึ หนว่ ยการเรยี นรู้ เรื่อง สนุกสนานกบั การเล่น รหสั วิชา ท14101 กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย วชิ า ภาษาไทย ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๙ ชว่ั โมง ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิดเพือ่ นำไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาใน การดำเนนิ ชวี ิต และมีนสิ ยั รักการอ่าน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นส่ือสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเรอื่ งราวใน รูปแบบต่างๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลัง ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรกั ภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คณุ ค่าและนำมาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ ตวั ชว้ี ัด ท ๑.๑ ป.๔/๑ อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง ท ๑.๑ ป.๔/๒ อธบิ ายความหมายของคำ ประโยค และสำนวนจากเรอ่ื งทอี่ า่ น ท ๑.๑ ป.๔/๘ มีมารยาทในการอ่าน ท ๒.๑ ป.๔/๕ เขียนจดหมายถงึ ผู้ปกครองและญาติ ท ๔.๑ ป.๔/๑ สะกดคำและบอกความหมายของคำในบรบิ ทตา่ งๆ ท ๔.๑ ป.๔/๒ ระบุชนิดและหนา้ ทข่ี องคำในประโยค ท ๔.๑ ป.๔/๔ แต่งประโยคได้ถูกต้องตามหลกั ภาษา ท ๕.๑ ป.๔/๓ ร้องเพลงพืน้ บา้ น สาระสำคญั การออกเสียงคำที่มี ร ล เป็นพยัญชนะต้น พยัญชนะควบกล้ำ อักษรนำ คำเป็น คำตาย คำพ้อง และการผนั อักษร และอธบิ ายความหมายของคำ ประโยค สำนวน จากการอา่ นเรือ่ งสนั้ ๆ เขียนคำขวญั คำแนะนำโดยใช้คำได้อย่างถูกตอ้ งชัดเจน และเหมาะสม ซงึ่ สามารถพัฒนางานเขยี นของตนเองจากการเขียน แผนภาพโครงเร่อื ง และสรุปความรนู้ ำขอ้ คิดจากเรอ่ื งทอ่ี ่านไปใช้ในชวี ิตประจำวัน เขยี นจดหมายถึงบดิ ามารดา และเพื่อน โดยคำนึงถึงการสะกดคำ และบอกความหมายของคำถูกต้องตามบริบท และสามารถระบุชนิด และหน้าที่ของคำในสำนวน ประโยคโดยตระหนกั ถงึ มารยาทในการอา่ น การเขยี น และรักความเปน็ ไทย สาระการเรยี นรู้ ความรู้ ๑. การอ่านออกเสียงคำศพั ทย์ ากในบทเรยี น ๒. การอา่ นออกเสียงเนอ้ื หาวรรณกรรมในบทเรียน ๓. การอธิบายความหมายของคำศัพท์ใหมใ่ นบทเรยี น ๔. การอธบิ ายความหมายของคำศัพท์ยากในบทเรียน ๕. หลักการเขยี นจดหมายสว่ นตวั
๓ ๖. หลกั การสะกดคำและการเขียนในบรบิ ทต่างๆ ๗. การระบุหนา้ ทข่ี องชนดิ ของคำในประโยค ๘. การแตง่ ประโยค ๒ สว่ นและ ๓ สว่ น ๙. การร้องเพลงพนื้ บ้าน “งกู ินหาง” ทกั ษะกระบวนการ ๑. อ่านออกเสียงคำศพั ทย์ ากในบทเรียน ๒. อ่านออกเสียงเนือ้ หาวรรณกรรมในบทเรียน ๓. อธบิ ายความหมายของคำศัพทย์ ากในบทเรียน ๔. อธิบายความหมายของคำศพั ท์ใหมใ่ นบทเรยี น ๕. เขยี นจดหมายสว่ นตวั ถึงผปู้ กครอง ๖. สะกดคำและเขยี นในบรบิ ทตา่ งๆ ๗. ระบหุ นา้ ท่ชี นิดของคำในประโยค ๘. แต่งประโยค ๒ สว่ นและ ๓ สว่ น ๙. ร้องเพลงพื้นบา้ น “งกู ินหาง” สมรรถนะสำคัญ สมรรถนะสำคัญท่ี ๑ ความสามารถในการสื่อสาร ตวั ช้ีวัดท่ี ๑ ใชภ้ าษาถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ ความคิด และทศั นะของตนเอง ดว้ ยการพูดและการเขยี น สมรรถนะสำคัญที่ ๒ ความสามารถในการคิด ตวั ชี้วดั ท่ี ๑ คิดพ้ืนฐาน (การคิดวเิ คราะห์) สมรรถนะสำคญั ท่ี ๓ ความสามารถในการแกป้ ญั หา ตวั ชี้วดั ท่ี ๑ ใชก้ ระบวนการวเิ คราะหป์ ญั หา วางแผน ในการแก้ปญั หาดำเนนิ การแกป้ ัญหาตรวจสอบและสรปุ ผล คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ขอ้ ที่ ๔ ใฝ่เรยี นรู้ ตวั ช้วี ดั ที่ ๔.๑ ตงั้ ใจ เพียรพยายาม ในการเรยี นและเขา้ รว่ มกจิ กรรม พฤตกิ รรมบ่งช้ี ๑. ตง้ั ใจเรียน ๒. เอาใจใส่และมคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นรู้ ๓. สนใจเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนร้ตู ่าง ๆ ขอ้ ท่ี ๖ มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตัวชว้ี ัดท่ี ๖.๑ ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบัตหิ นา้ ท่กี ารงาน พฤติกรรมบ่งช้ี ๑. เอาใจใส่ตอ่ การปฏิบัติหน้าท่ที ่ีได้รบั มอบหมาย ๒. ตง้ั ใจและรับผิดชอบในการทำงานไดแ้ ล้วเสรจ็ ๓. ปรบั ปรงุ และพัฒนาการทำงานดว้ ยตนเอง
๔ ขอ้ ที่ ๗ รกั ความเปน็ ไทย ตวั ชี้วดั ท่ี ๗.๓ ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ น้าทก่ี ารงาน พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ๑. นำภมู ปิ ญั ญาไทยมาใช้ใหเ้ หมาะสมในวิถีชวี ิต ๒. รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วข้องกบั ภมู ปิ ญั ญาไทย ๓. แนะนำมสี ว่ นรว่ มในการสบื ทอดภูมปิ ญั ญาไทย อ่าน คิดวเิ คราะห์ เขยี น การอ่าน ตัวชีว้ ัดที่ ๑ สามารถอา่ นเพ่อื หาขอ้ มูลสารสนเทศเสรมิ ประสบการณจ์ ากสอ่ื ประเภท ตา่ ง ๆ การเขยี น ตัวชี้วัดที่ ๑ สามารถถ่ายทอดความเข้าใจ ความคิดเหน็ คณุ คา่ จากเรอ่ื งทอ่ี า่ นโดย การเขียน การคดิ วเิ คราะห์ ตัวชี้วัดท่ี ๑ สามารถเชื่อมโยงความสมั พนั ธข์ องเรอ่ื งราวเหตกุ ารณข์ องเร่ืองท่อี ่าน ๒. การประเมนิ ผลรวบยอด ช่อื ชิน้ งานหรือภาระงาน : เขยี นจดหมายถงึ บิดามารดา หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๑๓ เรอื่ ง สนกุ สนานกบั การเล่น เวลาเรยี น ๙ ชว่ั โมง เวลาในการปฏิบัติภาระงานรวบยอด เวลา ๑ ชั่วโมง คะแนนในหน่วยการเรียนรู้ ๑๐ คะแนน ลักษณะงาน กำหนดให้นกั เรยี นเขยี นจดหมายถึงเพอื่ น โดยเล่าเรอ่ื งทพ่ี บเหน็ และประทับใจพร้อมกับเขยี นจ่าหน้าซอง จดหมาย ประเดน็ การประเมิน (ผลการเรยี นรู้) ประเดน็ การประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ดี (๓ คะแนน) พอใช้ (๒ คะแนน) ปรับปรงุ (๑ คะแนน) เขยี นจดหมายถึงเพอื่ น เขียนจดหมายถึงเพอื่ น บกพรอ่ ง ๑ รายการ บกพรอ่ งมากกวา่ หรอื บิดามารดา หรอื บิดามารดา ซง่ึ ๑ รายการ ท ๒.๑ ป.๔/๕ ประกอบดว้ ย เขียนจดหมายถงึ ๑. เขยี นได้ถูกตอ้ งตาม ผปู้ กครองและญาติ หัวข้อท่กี ำหนด ท ๒.๑ ป.๔/๙ ๒. เขียนเนือ้ หาของ มมี ารยาทในการเขยี น จดหมายไดถ้ ูกต้องตามท่ี กำหนด
๕ ประเด็นการประเมิน ระดับคณุ ภาพ พอใช้ (๒ คะแนน) ดี (๓ คะแนน) ปรับปรุง (๑ คะแนน) ๓. เขยี นด้วยลายมือตวั บรรจงครง้ั บรรทดั ๔. ช้ินงานมคี วามสะอาด เรยี บร้อย เกณฑก์ ารประเมนิ ได้คะแนน ๓ เทา่ กับ ระดับ ๓ เกณฑก์ ารผา่ น ได้คะแนน ๒ เท่ากบั ระดับ ๒ ได้คะแนน ๑ เท่ากับ ระดบั ๑ ได้คะแนนระดับ ๒ ขึ้นไป
๖ ประเดน็ การประเมนิ (มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด) ขอ้ ที่ ๔ ใฝ่เรยี นรู้ ตวั ช้วี ดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหลง่ การเรยี นรู้ เลือกใชส้ ื่ออย่างเหมาะสมสรุปองคค์ วามรแู้ ละสามารถ นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ ประเดน็ การประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยีย่ ม ดี ผ่าน ไมผ่ า่ น แสวงหาความรู้ความรู้ ศึกษาวิธีการ ศกึ ษาวิธกี าร ศึกษาวธิ กี าร ไม่สามารถศกึ ษา จากแหล่งการเรยี นรู้ วเิ คราะห์ จำแนก วิเคราะห์ จำแนก วิเคราะหห์ ลกั การ วธิ กี ารวิเคราะห์ เลือกใช้สือ่ อยา่ ง และหลักการใชค้ ำ และหลักการใช้ ใช้คำได้ หลกั การใชค้ ำได้ เหมาะสมสรุปเปน็ องค์ พร้อมทั้งบอก คำ ไม่ ความรู้และสามารถ รายละเอียดจาก รายละเอียดและ นำไปใช้ใน การศึกษาไดอ้ ยา่ ง ชดั เจน ชีวติ ประจำวนั ได้ ชดั เจน
๗ แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑๓ คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นเขยี นเครอ่ื งหมาย √ ลงในชอ่ งว่างทีต่ รงกับความเปน็ จรงิ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ ๔ คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งบอ่ ยครัง้ ให้ ๓ คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งบางครง้ั ให้ ๒ คะแนน ไม่ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรม ให้ ๑ คะแนน ความสามารถด้าน พฤตกิ รรมท่ีแสดงออก ระดับพฤตกิ รรม ๔๓๒๑ ความสามารถในการ ๑.๑ มคี วามสามารถในการรบั -สง่ สาร สอ่ื สาร ๑.๒ มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอยา่ งเหมาะสม ๑.๓ ใชว้ ธิ ีการส่อื สารที่เหมาะสม มปี ระสทิ ธิภาพ ๑.๔ เจรจาตอ่ รอง เพอื่ ขจดั และลดปญั หาความขดั แย้ง ต่างๆ ได้ ๑.๕ เลอื กรบั และไมร่ ับขอ้ มลู ข่าวสารดว้ ยเหตผุ ลและ ถกู ตอ้ ง คะแนนรวม คะแนนรวมท้ังหมด สรปุ ผลการประเมนิ เขียนเครื่องหมาย √ ลงในชอ่ งว่าง เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ดมี าก (๒๐ – ๑๕) ดี (๑๔ – ๑๐) พอใช้ (๙ – ๕) ปรับปรงุ (๔ – ๐) หมายเหตุ การหาระดับคุณภาพหาไดจ้ ากการนำคะแนนรวมในแตล่ ะชอ่ งมาบวกกนั จะไดค้ ะแนนรวมทัง้ หมดแล้วนำมาเทียบกับเกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
๘ แบบประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น วิชาภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ คำช้ีแจง : ให้ ผู้สอน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงใน ช่องวา่ งทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน ประเดน็ การประเมนิ รายการประเมิน ระดบั คุณภาพ ๓๒๑๐ การอา่ น สามารถอา่ นเพ่อื หาขอ้ มลู สารสนเทศเสรมิ ประสบการณจ์ ากสอ่ื ประเภทตา่ งๆ การเขียน สามารถถา่ ยทอดความเขา้ ใจ ความคดิ เห็น คุณค่า การคิดวิเคราะห์ จากเร่ืองท่อี า่ นโดยการเขยี น สามารถเชอ่ื มโยงความสมั พันธ์ของเรอ่ื งราว เหตกุ ารณข์ องเรื่องที่อ่าน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ ๓ คะแนน (ดเี ยย่ี ม) พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ ๒ คะแนน (ด)ี พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั ิชดั เจนและบอ่ ยครงั้ ให้ ๑ คะแนน (ผ่าน) พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั บิ างครั้ง ให้ ๐ คะแนน (ไม่ผ่าน) ไม่มพี ฤตกิ รรมดงั กล่าว
๓. การออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรู้ ครั้งที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (เวลา) เรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั ๑ ท ๑.๑ ป.๔/๒ ๑. อ่านสะกดคำใหม่ในบทเรยี นได้ กิจก (๕๐ นาท)ี ท ๔.๑ ป.๔/๑ ถกู ต้อง (ท ๔.๑ ป.๔/๑) โดย การ ๒. บอกความหมายของคำได้ถกู ตอ้ ง ประ ในก (ท ๑.๑ ป.๔/๒) อันด ถูกต ถูกต ปรัช ตาม สนุ แบบ เพ่ือ กิจก พร้อ
๙ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้/ แหล่งการเรยี นรู้ กรรมนำเขา้ สบู่ ทเรยี น (๑๐ นาท)ี ๑.บตั รคำ ๑. นักเรียนร่วมสนทนากับครูเกี่ยวกับการละเล่นแบบตา่ งๆ ๒. พจนานุกรม ยมีภาพประกอบ และซักถามประสบการณ์ตรงของนกั เรยี นเกยี่ วกบั ๓. หนงั สอื ภาษาพาที รละเล่นดังกล่าว โดยสุ่มนักเรียน ๕ - ๗ คน เพื่อให้เล่า ป.๔ เรอ่ื ง สนุกสนาน ะสบการณก์ ารละเล่นอย่างสร้างสรรค์ จากนั้นครกู ล่าวถึงมารยาท กับการเลน่ การไหว้ของนกั เรยี น เพือ่ เป็นการให้ความรเู้ กย่ี วกับวัฒนธรรมไทย ๔. ใบงาน ดีงาม และเป็นอัตลักษณ์ของโรงเรียน (คุณธรรมเป้าหมาย : ไหว้ ต้องตามอัตลักษณ์ของโรงเรียน และไหว้บุคคลต่างๆ ได้อย่าง ต้องเหมาะสม) ๒. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ (หลัก ชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง : นักเรยี นมีการวางแผนในการทำงาน มทีไ่ ด้รับมอบหมาย) ๒.๑ อ่านสะกดคำใหม่ในบทเรียนได้ถกู ต้อง ๒.๒ บอกความหมายของคำได้ถกู ต้อง ๓. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี ๑๓ เรื่อง กสนานกับการเล่น จำนวน ๑๐ ข้อ และให้สลับกันตรวจ บทดสอบก่อนเรียน จากนั้นให้นกั เรียนบอกคะแนนก่อนเรียนของ อน กรรมพฒั นาการเรียนรู้ (๓๐ นาท)ี ๔. นกั เรยี นอ่านบตั รคำใหมท่ ีก่ ำหนด โดยอา่ นตามครู ซ่ึงอา่ น อมกนั ทั้งห้องจำนวน ๑ รอบ อ่านเป็นกลุ่มโดยการสุ่มของครูจาก
ครั้งที่ มาตรฐานการ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (เวลา) เรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั เลข ๑ค ๕ค เช่น แรก นกั เ แบง่ ใหน้ ตง้ั ช (สม ๑ใ ทัศน พจน
๑๐ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การเรียนรู้/ แหลง่ การเรียนรู้ ขทข่ี องนกั เรยี น ซง่ึ เลขที่ท่สี ุม่ มาน้นั จะตอ้ งหาอา่ นกับเพอ่ื น ซ้ายมือ คน ขวามอื ๑ คน คนหน้า ๑ คน และคนหลงั ๑ คน รวมเป็นกลุ่ม คนอ่านพร้อมกัน และสุ่มอ่านรายบุคคลผ่านการเล่นเกมของครู น การสมุ่ วนั ทเ่ี พ่อื สุม่ เลขทใ่ี ห้อ่าน การส่มุ ตัวอักษรพยัญชนะช่ือตัว ก การสุ่มตัวอักษรพยัญชนะนามสกุลตัวแรก เป็นต้น แล้วให้ เรยี นทำใบงานท่ี ๑ การเขียนคำอา่ น ๕. ครใู หน้ ักเรียนจบั สลากจากกล่องมหศั จรรย์ โดยสลาก งเป็นรปู สัตวต์ ่างๆ คอื มา้ ช้าง ววั ไก่ เปด็ หมู นก เปน็ ต้น จากน้ัน นกั เรียนทจี่ บั สลากไดก้ ลมุ่ สตั วเ์ ดียวกนั ให้อยใู่ นกล่มุ เดียวกนั และ ชื่อกลุ่ม ๖. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มหาความหมายของคำใหมท่ กี่ ำหนด จากพจนานกุ รม (การอา่ น คิดวิเคราะห์และเขยี น : การอ่าน : สามารถอา่ นเพื่อหาข้อมลู สารสนเทศเสรมิ ประสบการณ์ จากสอื่ ประเภทตา่ งๆ) ๗. นักเรยี นเล่นเกม “อะไรเอย่ บอกหน่อย” โดยมีกติกา ดังนี้ มรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน : ความสามารถในการส่อื สาร : ตวั ช้ีวัดท่ี ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ ความคิด ความรู้สึก และ นะของตนเองดว้ ยการพูดและการเขยี น) กตกิ า ๑. ครูบอกความหมายของคำศัพท์ที่ให้นักเรียนค้นหาใน นานุกรม
ครง้ั ที่ มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั เขีย เป็น นับจ ชนะ คะแ กจิ ก ๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ๑. อา่ นออกเสียงสะกดคำศพั ท์ยากใน กจิ ก (๕๐ นาที) ท ๑.๑ ป.๔/๒ บรบิ ทต่างๆ ได้ถกู ตอ้ ง เกีย่ ท ๑.๑ ป.๔/๘ (ท ๑.๑ ป.๔/๑,ท ๔.๑ ป.๔/๑) ท ๔.๑ ป.๔/๑ ๒. อธบิ ายความหมายของคำยากได้ ท่คี ร ถกู ตอ้ ง (ท ๑.๑ ป.๔/๒) คำศ ๓. มีมารยาทในการอ่าน ควา (ท ๑.๑ ป.๔/๘) ควา ควา
๑๑ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้ ๒. ครูนับ ๑ ๒ ๓ จากนั้นให้นักเรียนส่งตัวแทนมา ยนคำศัพท์นน้ั บนกระดาน ๓. เมื่อนักเรียนออกมาเขียนแล้วคนท่ีออกมาเขียน นคนแรก ได้ ๓ ดาว คนท่ีสอง ได้ ๒ ดาว และคนทีส่ าม ได้ ๑ ดาว ๔. เมือ่ ครูพูดความหมายของคำศพั ทท์ ั้งหมดแลว้ ครู จำนวนดาวที่แต่ละกลุ่มได้ ซึ่งกลุ่มใดได้ดาวมากที่สุด เป็นกลุ่ม ะเลิศ ได้คะแนน ๓ คะแนน รองลงมาได้ ๒ คะแนน นอกนั้นได้ ๑ แนน ๘. นกั เรยี นบนั ทกึ คำศัพทใ์ หมพ่ ร้อมความหมายลงในสมดุ กรรมรวบยอด (๑๐ นาที) ๙. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ เกม “อะไรเอย่ บอกหนอ่ ย” กรรมนำเขา้ สบู่ ทเรยี น (๑๐ นาท)ี ๑. ใบงานท่ี ๑ ๑. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สนทนาความร้เู ดิมจากชว่ั โมงทแ่ี ลว้ ความหมายคอื อะไร ยวกบั คำศพั ท์ใหม่ในบทเรยี น เอ่ย ๒. นกั เรียนอ่านออกเสียงคำศพั ท์ใหม่ในบทเรียน จากบัตรคำ ๒. หนงั สอื เรียน รกู ำหนดให้ ครสู ังเกตการออกเสียงคำศัพท์ของนักเรยี น รายวิชาพน้ื ฐาน ๓. ครูสุ่มนักเรียน ๕ - ๗ คน ให้ทบทวนความหมายของ ภาษาไทย ชุดทักษะ ศัพท์ใหม่ในบทเรียน โดยครูยกบัตรคำและให้นักเรียนยกมอื ตอบ ภาษาพาที ป.๔ ามหมายของคำศัพท์ใหม่นั้น (สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน : ๓. แบบฝกึ ทกั ษะ ามสามารถในการสอื่ สาร : ใชภ้ าษาถา่ ยทอดความรู้ ความเข้าใจ ภาษา ชุดภาษาเพ่ือ ามคดิ ความรสู้ ึก และทัศนะของตนเองด้วยการพดู และการเขียน) ชวี ิต ๔. บตั รคำ
คร้งั ที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด เอก ครใู รับผ พอเ สบู่ ท กิจก กับก ภาษ นาท ข้อม เล่น ตั้งข สาม “สน บนั ท เรือ่ ง กนั ใ
๑๒ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นร้/ู แหล่งการเรยี นรู้ ๔. ครูพูดเสริมเกี่ยวกับ ความงามของการไหว้ ซึ่งเป็น กลักษณ์ของไทย และเป็นอัตลักษณ์อันดีงามของโรงเรียน จากนนั้ ใหน้ ักเรยี นไหว้อย่างถูกต้องและงดงาม (คุณธรรมเปา้ หมาย : ความ ผิดชอบ : ไหว้ถูกต้องตามอัตลักษณ์ของโรงเรียน และ ความ เพียง : ไหว้บุคคลต่างๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม) จากนัน้ ครนู ำเขา้ ทเรียน เรื่อง การอา่ นออกเสียงคำศัพทย์ ากในบทเรยี น กรรมพฒั นาการเรยี นรู้ (๓๕ นาที) ๕. นักเรียนอ่านในใจในบทเรียนบทที่ ๙ เรื่อง “สนุกสนาน การเลน่ ” จากหนังสือเรียนสาระการเรียนรู้ภาษาไทยพื้นฐาน ชุด ษาเพื่อชีวิต “ภาษาพาที” ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ในเวลา ๑๕ ที (การอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขียน : การอา่ น : สามารถอ่านเพ่อื หา มูลสารสนเทศเสรมิ ประสบการณจ์ ากส่ือประเภทตา่ งๆ) ๖. นักเรียนช่วยกันตั้งคำถามจาก เรื่อง “สนุกสนานกับการ น” โดยครูตรวจสอบความเป็นไปได้ของคำถามที่ นักเรียนรว่ มกนั ขึ้นมา (การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน : การคิดวิเคราะห์ : มารถเชอื่ มโยงความสมั พนั ธ์ของเรอื่ งราวเหตุการณข์ องเรอื่ งทีอ่ ่าน) ๗. นักเรียนจับคู่ และช่วยกันหาคำศัพท์ยากใน เรื่อง นุกสนานกบั การเล่น” โดยครูกำหนดคู่ละ ๑๐ คำศพั ท์ จากน้ันจด ทกึ ลงในใบงานที่ ๑ ความหมายคืออะไรเอ่ย ๘. นกั เรยี นอา่ นออกเสียงคำศัพท์จำนวน ๑ คำทห่ี ามาจากใน ง “สนกุ สนานกบั การเลน่ ” ซง่ึ จะไมซ่ ้ำกบั เพอื่ นในห้องเรยี น ถ้าซ้ำ ใหน้ กั เรียนเลือกคำศพั ท์ใหม่
ครง้ั ที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (เวลา) เรียนรู้/ตัวช้วี ัด พจน ๑ค กจิ ก ควา โดย ๕ค เกี่ย ในก คำถ ลักษ ถูกต ๓ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ๑. สรปุ ความรู้จากการอา่ นเรอื่ ง การ (๕๐ นาที) ท ๑.๑ ป.๔/๘ สนกุ สนานกับการเล่นได้ กิจก ท ๒.๑ ป.๔/๓ (ท ๑.๑ ป.๔/๖) นักเ ท ๒.๑ ป.๔/๘ มี ๒. สรุปขอ้ คิดจากเรือ่ งสนกุ สนานกบั อะไ การเล่นได้ (ท ๑.๑ ป.๔/๖) ๓. เขยี นแผนภาพสรุปโครงเร่ือง สนุกสนานกบั การเลน่
๑๓ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื การเรยี นร/ู้ แหล่งการเรียนรู้ ๙. นกั เรียนค้นหาความหมายของคำศพั ท์ยากในบทเรียนจาก นานุกรม และเขยี นอธิบายความหมายของคำศัทพย์ ากในใบงานท่ี ความหมายคืออะไรเอย่ กรรมรวบยอด (๕ นาท)ี ๑๐. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ คำศพั ทย์ ากในบทเรยี น และ ามหมายของคำศัพท์ จากใบงานที่ ๑ เร่ือง ความหมายคอื อะไรเอ่ย ยการสุ่มนักเรยี น ๓ - ๕ คน ใหแ้ นะนำตวั กลา่ วและเลอื กคำศัพท์มา คำ พร้อมกับอธิบายความหมายของคำศัพท์ จากนั้นครูพูดเสริม ยวกบั การไหวแ้ นะนำตวั ควรไหว้อย่างไร และตระหนกั ถึงมารยาท การอ่านออกเสียง การลุกตอบคำตอบหรือการใชค้ ำพดู ในการตอบ ถาม (คุณธรรมเป้าหมาย : ความรับผิดชอบ : ไหว้ถูกต้องตามอัต ษณ์ของโรงเรียน และ ความพอเพียง : ไหว้บุคคลต่างๆ ได้อย่าง ต้องเหมาะสม) ๑๑. นกั เรียนทำแบบฝกึ ทกั ษะภาษา ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ เปน็ รบ้านและสง่ ในคาบถดั ไป กรรมนำเขา้ สบู่ ทเรยี น (๑๐ นาท)ี ๑. ใบงานท่ี ๑ สรปุ ๑. ครเู ลา่ นทิ าน “กระตา่ ยกับเต่า” และ “ราชสหี ก์ ับหน”ู ให้ ความรูจ้ ากเร่อื งท่ี เรยี นฟัง จากนน้ั ครูตงั้ คำถาม ดังนี้ อ่าน คำถาม ๒. หนงั สอื เรียน ๑. ตัวละครในเรื่อง “กระต่ายกับเต่า” มีตัวละคร รายวิชาพน้ื ฐาน ไรบ้าง (แนวคำตอบ : กระตา่ ย เตา่ ) ภาษาไทย ชดุ ทกั ษะ ภาษาพาที ป.๔
ครัง้ ที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (เวลา) เรียนร/ู้ ตัวชี้วดั (ท ๒.๑ ป.๔/๓) ๔. มีมารยาทในการอ่าน และเขียน วา่ เก (ท ๑.๑ ป.๔/๘,ท ๒.๑ ป.๔/๘) “รา นกั เ นักเ และ ตวั น สรปุ งาม เร่อื ง ไหว ตา่ ง กิจก เวลา
๑๔ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือการเรยี นร้/ู แหล่งการเรยี นรู้ ๒. เหตุการณ์ในเรื่อง “ราชสีห์กับหนู” นักเรียนคิด ๓. แบบฝกึ ทักษะ กิดข้ึนที่ใด (แนวคำตอบ : ปา่ ) ภาษา ชดุ ภาษาเพื่อ ๓. นักเรยี นได้ขอ้ คดิ อะไรจากนทิ านทัง้ สองเร่ืองนี้ ชวี ิต ๒. นักเรียนส่งตัวแทนเล่านิทาน “กระต่ายกับเต่า” และ าชสีห์กับหนู” โดยเริ่มจากการแนะนำตัว และเล่านิทานตามที่ เรียนไดฟ้ ังจากครู พร้อมกับสรปุ ข้อคิดจากนิทาน ๓. ครูสรุปกิจกรรมเล่านิทาน “จากการเล่านิทานและให้ เรียนถามคำถามน้ันเป็นการตรวจสอบว่านักเรยี นฟงั นิทานหรือไม่ ะการพูดถึงข้อคิดนั้นเปน็ การบอกว่าสามารถนำนทิ านไปปรับใช้กับ นกั เรียนไดอ้ ยา่ งไร” ครูกล่าวเสริมเกยี่ วกับ การแนะนำตัวก่อนการ ปนิทานใหเ้ พอ่ื นๆ ฟังน้ัน ควรเริ่มจากการไหว้เป็นการทักทายอันดี มของไทยและเป็นนอัตลักษณ์ของโรงเรียน และนำเข้าสู่บทเรียน ง สรุปความรู้จากการอ่าน (คณุ ธรรมเปา้ หมาย : ความรับผดิ ชอบ : ว้ถูกต้องตามอัตลักษณ์ของโรงเรียน ,ความพอเพียง : ไหว้บุคคล งๆ ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม) กรรมพฒั นาการเรยี นรู้ (๓๕ นาที) ๔. นกั เรยี นอา่ นเรอื่ งสนุกสนานกับการเล่นในใจ โดยครใู ห้ าทบทวน ๑๐ นาที เพ่ือเปน็ การทบทวนเนื้อเรื่องจากคาบทีแ่ ลว้ ๕. นกั เรียนตอบคำถาม ดงั นี้ คำถาม ๑. เรอ่ื งสนกุ สนานกบั การเลน่ เป็นเรอ่ื งเกี่ยวกบั อะไร ๒. เรื่องดงั กลา่ วให้ขอ้ คิดเรอ่ื งใดบ้าง
คร้ังที่ มาตรฐานการ จุดประสงค์การเรียนรู้ (เวลา) เรียนรู/้ ตวั ช้วี ัด จะเป สนุก ตัวล สนุก กจิ ก โดย ตัวก ตาม อยา่ ๔ ท ๕.๑ ป.๔/๓ ๑. รอ้ งเพลงพน้ื บา้ น “งกู ินหาง” ได้ การ (๕๐ นาที) (ท ๕.๑ ป.๔/๓) กจิ ก จาก อย่า
๑๕ กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้/ แหล่งการเรียนรู้ ๖. นักเรียนทำใบงานท่ี ๑ สรปุ ความรจู้ ากเรอื่ งทอี่ ่าน โดยครู เป็นผ้คู ่อยให้คำแนะนำ ๗. ครสู มุ่ นักเรียน ๕ - ๗ คน ใหน้ กั เรียนพูดสรุปเรอื่ ง กสนานกบั การเลน่ และพดู ขอ้ คดิ ที่ไดจ้ ากเร่ือง ๘. ครเู ขียนแผนผงั นทิ าน “กระต่ายกับเต่า” ซึ่งประกอบด้วย ละคร นิสัยของตัวละคร ฉาก จากนั้นนักเรียนเขียนแผนผังเรื่อง กสนานกับการเล่น ในใบงานท่ี ๑ สรปุ ความรู้จากเรอ่ื งทอ่ี า่ น กรรมรวบยอด (๕ นาท)ี ๑๐. นักเรยี นและครูรว่ มกันสรุปเรือ่ ง สนุกสนานกบั การเล่น ยนักเรยี นอาสาในการสรปุ ๕ - ๗ คน โดยครูใหน้ ักเรยี นแนะนำ ก่อนสรุป (คุณธรรมเป้าหมาย : ความรับผิดชอบ : ไหว้ถูกต้อง มอตั ลกั ษณ์ของโรงเรียน และ ความพอเพยี ง : ไหว้บคุ คลตา่ งๆ ได้ างถกู ตอ้ งเหมาะสม) ๑๑. นกั เรียนทำแบบฝกึ ทกั ษะภาษา ชุดภาษาเพื่อชวี ิต เปน็ รบ้านและสง่ ในคาบถดั ไป กรรมนำเขา้ สบู่ ทเรียน (๑๐ นาท)ี ๑. หนงั สอื เรียน ๑. ครูเปิดเพลงที่มีความนิยมในขณะนั้นให้นักเรียนฟัง รายวชิ าพืน้ ฐาน กนน้ั ถามคำถามนักเรยี น ดงั น้ี ภาษาไทย ชดุ ทกั ษะ คำถาม ภาษาพาที ป.๔ ๑. จากเพลงที่ครูเปิดให้นักเรียนฟังนั้นมีเนื้อร้องเป็น ๒. แบบฝกึ ทกั ษะ างไร (แนวคำตอบ : ไพเราะ ฯ) ภาษา ชุดภาษาเพือ่ ชีวติ
คร้ังที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (เวลา) เรียนรู้/ตัวชวี้ ัด ว่าอ การ คำต นักเ ไม่ม ท่าท บทเ กจิ ก “ภา จาก พน้ื บ นักเ ฝา่ ย กินห ตวั แ
๑๖ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้/ แหลง่ การเรยี นรู้ ๒. หากเนื้อเพลงนีม้ ีการเต้นประกอบท่าทาง นักเรียนคดิ อยา่ งไร (แนวคำตอบ : สามารถเตน้ ประกอบทา่ ได)้ ๓. นอกจากเพลงสมัยนิยมแล้ว นักเรียนรู้จักเพลงที่ใช้ใน รประกอบท่าทางอย่างอื่น ซึ่งเป็นการละเล่นอีกหรือไม่ (แนว ตอบ : รจู้ กั เช่น เพลงพ้นื บ้าน หรือประกอบการละเลน่ เป็นต้น) ๒. ครพู ูดสรุปจากการตอบคำถาม “จากเพลงดงั กลา่ วทีค่ รใู ห้ เรียนฟังนั้น สามารถมีเพลงประกอบท่าทางได้ ซึ่งในสมัยกอ่ นนน้ั มีเพลงเหมอื นกับในสมยั นี้ แต่เด็กในสมัยนั้นมีการละเล่นประกอบ ทาง คือ งูกินหาง มอญซ่อนผ้า ฯลฯ” จากนั้นครูนำเข้าสู่ เรยี น เรอื่ ง ร้องเพลงพื้นบา้ น “งกู นิ หาง” กรรมพฒั นาการเรยี นรู้ (๓๕ นาท)ี ๓. นักเรยี นศกึ ษาเพลงพ้ืนบ้านจากหนงั สือภาษาไทย าษาพาท”ี หน้า ๑๕๐ - ๑๕๑ ๔. ครูอธิบายความเปน็ มาของเพลงพืน้ บา้ นใหน้ กั เรียนฟัง กนั้นครสู ่มุ นักเรียน ๓ - ๕ คน ให้พดู สรปุ ความเปน็ มาของเพลง บา้ นภาคกลางจากทีค่ รอู ธิบาย ๕. ครูร้องเพลง “งูกินหาง” และสาธิตการเล่นงูกินหางให้ เรียนดู โดยตัวแทนนักเรยี น ๓ - ๕ คน แบ่งออกเป็น ๒ กลมุ่ ยละ ๒ หรอื ๓ คน จากนนั้ ให้นกั เรียนในชัน้ เรียนชว่ ยกันรอ้ งเพลงงู หาง และครูคอยอธิบายการละเล่นดังกล่าวจากการสาธิตของ แทนนักเรยี น
ครัง้ ที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (เวลา) เรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั กลุ่ม เป็น ออก พร้อ กบั ส กจิ ก เพล แนะ ถูกต ต่าง การ
๑๗ กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อการเรยี นร้/ู แหลง่ การเรียนรู้ ๖. นกั เรียนจับกลุม่ ๗ - ๑๐ คน ใหน้ กั เรียนแบง่ ออกเปน็ ๒ มใหญใ่ นการแข่งขันการละเล่นงูกินหาง โดยแบ่งกลุ่มเป็นกลุ่ม ๑ นพ่องู กลุ่ม ๒ เป็นแม่งู และจากนั้นร้องเพลงงูกินหาง โดยแบ่ง กเป็น กลุ่มท่ี ๑ (พ่องู เป็นฝ่ายถาม) กลุ่มที่ ๒ (แม่งู เป็นฝ่ายตอบ อมกบั ลูกงู) โดยครูให้นกั เรยี นทำกิจกรรมดงั กล่าว กล่มุ ละ ๓ นาที ๗. นักเรียนสรุปกจิ กรรมการละเล่นงกู ินหาง ดังน้ี คำถาม ๑. นกั เรยี นคดิ วา่ การละเล่นดังกลา่ วเปน็ อย่างไรบ้าง ๒. นกั เรยี นคดิ ว่าการละเลน่ ดงั กล่าวมีความสำคัญอย่างไร สังคมไทย ๓. นักเรยี นได้ข้อคดิ อะไรจากการละเลน่ “งกู ินหาง” กรรมรวบยอด (๕ นาที) ๑๐. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่อง ที่มาของการละเล่น ลงพื้นบ้าน โดยนักเรียนอาสาในการสรุป ๕ - ๗ คน โดยนักเรียน ะนำตัวก่อนสรุป (คุณธรรมเป้าหมาย : ความรับผิดชอบ : ไหว้ ต้องตามอัตลักษณ์ของโรงเรียน และ ความพอเพียง : ไหว้บุคคล งๆ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม) ๑๑. นกั เรียนทำแบบฝึกทักษะภาษา ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ เป็น รบา้ นและสง่ ในคาบถัดไป
ครง้ั ท่ี มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (เวลา) เรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด ๑. ระบุชนดิ ของคำนามได้ กจิ ก ๕ ท ๔.๑ ป.๔/๒ (ท ๔.๑ ป.๔/๒) ใดบ (๕๐ นาท)ี ๒. ระบหุ น้าท่ขี องคำนามในประโยคได้ (ท ๔.๑ ป.๔/๒) นั้น ป่า และ กิจก และ สง่ิ ใด อยู่ใ หรือ สตั ว
๑๘ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้ กรรมนำเขา้ สบู่ ทเรียน (๕ นาที) ๑. หนงั สอื เรยี น ๑. ครูเลา่ นทิ านให้นักเรยี นฟัง จากนั้นครถู ามคำถาม ดังน้ี รายวิชาพนื้ ฐาน คำถาม ภาษาไทย ชดุ ทักษะ ๑. ในนิทานที่ครูเล่าให้ฟังนั้นประกอบด้วยตัวละคร ภาษาพาที ป.๔ บ้าง ๒. แบบฝกึ ทักษะ ๒. ครูสรุปจากกิจกรรมเล่านิทาน “จากนิทานที่ครูเล่าให้ฟัง ภาษา ชุดภาษาเพ่อื มตี ัวละครท่เี ปน็ สัตว์ และคน ซึง่ ในนทิ านก็มีฉากทเ่ี ป็นสถานที่ คือ ชวี ติ หรือสถานทีพ่ กั ของคนในนิทาน ซึ่งสิ่งเหล่านั้น คือ ชนิดของคำ” ๓. ใบงานท่ี ๑ คำ ะนำเขา้ สบู่ ทเรยี น เร่อื ง ระบชุ นิดและหนา้ ที่ของคำ นาน...ใช้เรยี กตามช่อื กรรมพัฒนาการเรียนรู้ (๔๐ นาที) ๓. ครูเปดิ รปู ภาพตัวละครในนทิ าน ดว้ ย Power point ะต้ังคำถาม ดังนี้ คำถาม ๑. รปู ภาพสตั ว์ใน Power point คือ สัตวช์ นิดใดบ้าง ๒. นกั เรียนเคยเหน็ สตั ว์เหลา่ นที้ ี่ใดบ้าง ๓. นอกจากสัตวเ์ หลา่ นแี้ ลว้ รอบๆ ตัวของนกั เรียนมี ใดบา้ งทส่ี ามารถจับตอ้ งได้ ๔. นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ดังน้ี “สตั วใ์ นรูปภาพ ส่ิงที่ ใกล้ตวั ของเรา และเพอ่ื นๆ ในชั้นเรียน ถา้ อย่ใู นประโยคภาษาไทย อคำในภาษาไทยนนั้ เป็นชนดิ ของคำ คอื คำนาม ซง่ึ ใช้เรยี กชอื่ คน ว์ สงิ่ ของ สถานท่ี ท่เี ปน็ รปู ธรรมและนามธรรม”
คร้งั ท่ี มาตรฐานการ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (เวลา) เรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั ครใู ๗ค (คณุ โรงเ เหม กิจก และ ๖ ท ๔.๑ ป.๔/๔ ๑. บอกสว่ นประกอบของประโยคได้ การ (๕๐ นาท)ี กจิ ก (ท ๔.๑ ป.๔/๔) ๒. แต่งประโยคได้กูกต้อง ถาม ตามหลกั ภาษา (ท ๔.๑ ป.๔/๒) “คำ รปู ข ประ และ
๑๙ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้/ แหลง่ การเรยี นรู้ ๕. นักเรียนทำใบงานที่ ๑ คำนาม...ใช้เรียกตามชอ่ื จากนั้น ใหน้ ักเรียนนำเสนอใบงานที่ ๑ และพูดสรปุ จากการสุ่มนกั เรยี น ๕ - คน จากนั้นครูเสริมเกี่ยวกบั การไหว้แนะนำตัวของนกั เรยี น ณธรรมเป้าหมาย : ความรับผดิ ชอบ : ไหวถ้ กู ต้องตามอตั ลักษณ์ของ เรียน และ ความพอเพยี ง : ไหว้บคุ คลตา่ งๆ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง มาะสม) กรรมรวบยอด (๕ นาท)ี ๖. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่อง ความหมายของคำนาม ะหนา้ ทีข่ องคำนาม ๗. นักเรยี นทำแบบฝกึ ทกั ษะภาษา ชุดภาษาเพื่อชวี ติ เปน็ รบา้ นและสง่ ในคาบถดั ไป กรรมนำเขา้ สบู่ ทเรียน (๕ นาที) ๑. หนงั สอื เรยี น ๑. ครูทบทวนความรู้เดิม เรื่อง คำนาม จากคาบที่แล้ว และ รายวชิ าพืน้ ฐาน มคำถาม ดงั น้ี ภาษาไทย ชุดทกั ษะ คำถาม ภาษาพาที ป.๔ ๑. คำนามมีความหมายว่าอย่างไร ๒. แบบฝกึ ทักษะ ๒. คำนามทำหนา้ ท่ีอะไรในประโยค ภาษา ชุดภาษาเพอื่ ๒. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ จากการตอบคำถาม ดังนี้ ชีวิต ำนามเป็นชนิดของคำทมี่ ีทง้ั เป็นรปู ธรรมและนามธรรม เม่อื อยใู่ น ๓. ใบงานที่ ๑ ของประโยคสามารถทำหนา้ ที่เปน็ บทประธานและบทกรรมใน ภาษาไทยนา่ เรียน... ะโยค” จากนัน้ ครนู ำเขา้ สู่บทเรียน เรอื่ ง ประโยค “ภาคประธาน” ฝกึ เขยี นดว้ ยประโยค ะครพู ดู เสรมิ เก่ียวกบั อัตลักษณก์ ารไหว้ของโรงเรียน (คณุ ธรรม
ครัง้ ท่ี มาตรฐานการ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (เวลา) เรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั เปา้ และ กจิ ก ปัจจ นักเ ควา นักเ ของ หนา้
กิจกรรมการเรียนรู้ ๒๐ าหมาย : ความรบั ผิดชอบ : ไหวถ้ ูกตอ้ งตามอัตลักษณข์ องโรงเรียน ส่ือการเรยี นรู้/ ะ ความพอเพียง : ไหวบ้ คุ คลตา่ งๆ ไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม) แหลง่ การเรียนรู้ กรรมพัฒนาการเรยี นรู้ (๔๐ นาท)ี ๓. ครแู จ้งจุดประสงค์การเรียนรูใ้ นคาบนี้ ดังน้ี ๑. บอกสว่ นประกอบของประโยคได้ ๒. แตง่ ประโยคไดก้ ูกตอ้ งตามหลกั ภาษา ๔. ครเู ปดิ เพลงใหน้ กั เรียนฟงั ๒ รอบ (เพลงท่มี ีความนยิ มใน จุบนั ) จากนั้นใหน้ ักเรยี นออกมาเขียนประโยคจากเน้อื เพลงท่ี เรยี นได้ฟงั ๕. ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งของประโยคกบั เนอ้ื เพลงว่ามี ามสอดคลอ้ งกนั หรอื ไม่ ๖. ครูยกตัวอย่าง ประโยคบนสื่อ Power point จากน้นั ให้ เรยี นสังเกตประโยคดงั กลา่ ว และตอบคำถาม ดงั นี้ - แมวกนิ - สุนัขกินข้าว - สมหญิงดมื่ นม คำถาม ๑. จากประโยค “แมวกิน” คำวา่ “แมว” เป็นชนิด งคำใด และทำหนา้ ท่ีใดในประโยค ๒. จากประโยค “สนุ ัขกินข้าว” คำว่า “ข้าว” ทำ าทใ่ี ดในประโยคดังกล่าว
ครั้งที่ มาตรฐานการ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ (เวลา) เรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั หนา้ ประ มาร เปน็ คำน ประ ใต้โย โยงเ ประ กิจก ส่วน การ
๒๑ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ การเรยี นรู้/ แหลง่ การเรยี นรู้ ๓. จากประโยค “สมหญิงด่มื นม” คำวา่ “นม” ทำ าที่ใดในประโยค และเปน็ ชนดิ ขงิ คำใด ๗. นักเรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ จากการตอบคำถาม ดังนี้ “ใน ะโยค “แมวกนิ ” เปน็ ประโยคท่ีไม่สมบรู ณ์เนือ่ งจากไม่มบี ทกรรม รองรบั กรยิ า ส่วนประโยค “สุนขั กนิ ขา้ ว” และ “สมหญงิ ดมื่ นม” นประโยคท่ีสมบูณณเ์ นื่องจากมบี ทกรรมมารองรบั กริยา และมี นามทำหน้าทเ่ี ป็นบทประธานและบทกรยิ า” ๘. นักเรยี นทำใบงานที่ ๑ ภาษาไทยน่าเรยี น...ฝกึ เขียนด้วย ะโยค ซงึ่ แบง่ ออกเป็น ๒ ตอน โดยตอนที่ ๑ นั้นใหน้ กั เรยี นขีดเสน้ ยงคำหรือกลมุ่ คำใหม้ คี วามสมั พนั ธก์ ัน จากน้ันใหน้ กั เรียนนำคำที่ เสน้ นั้นมาเขียนใหม้ คี วามสอดคลอ้ งกบั รูปภาพโดยแบง่ ออกเปน็ ะโยค ๒ ส่วนและประโยค ๓ สว่ น กรรมรวบยอด (๕ นาท)ี ๙. นักเรียนและครรู ่วมกันสรปุ เรื่อง ประโยค ๒ ส่วนและ ๓ น ๑๐. นกั เรียนทำแบบฝึกทกั ษะภาษา ชุดภาษาเพื่อชีวิต เป็น รบ้านและสง่ ในคาบถดั ไป
คร้งั ท่ี มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ กจิ ก (เวลา) เรยี นร/ู้ ตัวชี้วัด และ ๑. บอกสว่ นประกอบของประโยคได้ ๗ ท ๔.๑ ป.๔/๔ (ท ๔.๑ ป.๔/๔) (๕๐ นาท)ี ๒. แต่งประโยคได้กกู ต้องตาม หลักภาษา (ท ๔.๑ ป.๔/๔) “ภา พระ ประ (คณุ โรงเ เหม กิจก ปจั จ นักเ ควา
๒๒ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้/ แหล่งการเรยี นรู้ กรรมนำเขา้ สบู่ ทเรยี น (๕ นาที) ๑. หนงั สอื เรยี น ๑. ครูทบทวนความรู้เดิม เรื่อง ภาคประธาน จากคาบท่แี ลว้ รายวิชาพื้นฐาน ะถามคำถาม ดงั นี้ ภาษาไทย ชุดทกั ษะ คำถาม ภาษาพาที ป.๔ ๑. ภาคประธานประกอบด้วยอะไรบา้ ง ๒. แบบฝกึ ทกั ษะ ๒. ประธานส่วนใหญเ่ ป็นชนิดของคำใด ภาษา ชดุ ภาษาเพอื่ ๒. นกั เรียนและครรู ว่ มกันสรปุ จากการตอบคำถาม ดงั นี้ ชวี ิต าคประธานประกอบดว้ ย บทประธาน และบทขยายประธาน เช่น ๓. ใบงานท่ี ๑ ะราม ขุนชา้ ง คุณพ่อ ซึ่งเปน็ คำนาม ทำหน้าท่ีเป็นประธานใน ภาษาไทยนา่ เรียน... ะโยค” และครพู ูดเสรมิ เก่ียวกับอตั ลกั ษณก์ ารไหว้ของโรงเรยี น ฝึกเขยี นด้วยประโยค ณธรรมเป้าหมาย : ความรับผิดชอบ : ไหว้ถกู ต้องตามอัตลกั ษณข์ อง เรยี น และ ความพอเพยี ง : ไหว้บุคคลตา่ งๆ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง มาะสม) กรรมพัฒนาการเรียนรู้ (๔๐ นาที) ๓. ครแู จ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ในคาบน้ี ดังนี้ ๑. บอกสว่ นประกอบของประโยคได้ ๒. แตง่ ประโยคไดก้ กู ต้องตามหลกั ภาษา ๔. ครูเปดิ เพลงใหน้ กั เรียนฟงั ๒ รอบ (เพลงที่มีความนยิ มใน จบุ นั ) จากนั้นให้นกั เรียนออกมาเขียนประโยคจากเนอ้ื เพลงที่ เรยี นได้ฟงั ๕. ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ งของประโยคกบั เนอ้ื เพลงวา่ มี ามสอดคลอ้ งกันหรอื ไม่
ครัง้ ที่ มาตรฐานการ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (เวลา) เรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั ให้น ออก และ “จา ชัดเ ของ ประ ประ โดย กจิ ก ส่วน การ
๒๓ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้/ แหล่งการเรยี นรู้ ๖. ครูเปิดรปู ภาพใหน้ กั เรียนดู บนสอ่ื Power point จากนนั้ นกั เรยี นเขยี นประโยคจากรปู ภาพและตอบคำถาม คำถาม ๑. จากรปู ภาพที่ ๑ นักเรียนสามารถเขยี นประโยค กมาได้อย่างไร ๒. จากรปู ภาพท่ี ๒ “สุนขั ” ทำหน้าที่ใดในประโยค ๓. จากรปู ภาพท่ี ๓ “บะหม่”ี เปน็ ชนิดของคำใด ะทำหนา้ ท่ีใดในประโยค ๗. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปจากการตอบคำถาม ดังน้ี ากการเขียนประโยคจากรูปภาพน้ัน จะเห็นได้ว่ามีการระบุอย่าง เจนเกี่ยวกับ ประธาน กริยา และกรรม ซึ่งครบตามองค์ประกอบ งโครงสร้างประโยคทส่ี มบรู ณ์ ซึ่งคำนามทำหน้าที่เป็นได้ทั้งบท ะธานและบทกรรม” ๘. นกั เรยี นทำใบงานท่ี ๑ ภาษาไทยน่าเรยี น...ฝกึ เขียนด้วย ะโยค ซงึ่ ใหน้ กั เรยี นแยกสว่ นประกอบของประโยคน้ีลงในตาราง ยครูจะกำหนดประโยคและให้นกั เรยี นแยกส่วนประกอบดงั กล่าว กรรมรวบยอด (๕ นาท)ี ๙. นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปเรือ่ ง ประโยค ๒ ส่วนและ ๓ น ๑๐. นักเรยี นทำแบบฝึกทกั ษะภาษา ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต เป็น รบา้ นและสง่ ในคาบถดั ไป
คร้งั ท่ี มาตรฐานการ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ กิจก (เวลา) เรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั อย่า เขียนจา่ ซองจดหมายถงึ ผปู้ กครองได้ ๘ ท ๒.๑ ป.๔/๕ (ท ๔.๑ ป.๔/๕) (๕๐ นาท)ี อย่า กนั อ “กา เป็น ติดต มา มาก (คุณ โรง เหม
๒๔ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้/ แหล่งการเรยี นรู้ กรรมนำเขา้ สบู่ ทเรยี น (๕ นาที) ๑. หนงั สอื เรียน ๑. ครูซักถามการสื่อสารในยุคปัจจุบันมีการติดต่อสื่อสาร รายวชิ าพนื้ ฐาน างไร จากการตอบคำถาม ดงั น้ี ภาษาไทย ชดุ ทักษะ คำถาม ภาษาพาที ป.๔ ๑. การติดต่อสื่อสารในยุคปัจจุบันมีการติดต่อสื่อสารกัน ๒. แบบฝกึ ทกั ษะ างไร ภาษา ชุดภาษาเพอื่ ๒. การติดต่อส่ือสารในยุคปัจจุบนั กบั อดีตมคี วามแตกต่าง ชวี ิต อยา่ งไร ๓. ใบงานที่ ๑ ๓. ระยะเวลาในการตดิ ตอ่ สื่อสารในอดตี เป็นอยา่ งไร การเขยี นจดหมายถงึ ๔. การติดต่อสอ่ื สารในปัจุบันมีข้อดี ข้อกำจดั อยา่ งไร เพอื่ นและบิดามารดา ๕. การติดต่อสอื่ สารในอดตี มขี ้อดี ขอ้ จำกัดอย่างไร ๒. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปจากการตอบคำถาม ดังนี้ ารติดต่อสื่อสารในอดตี วันต้องใช้ระยะค่อนขา้ งนานเพราะอาจจะ นการส่งต่อของสารที่ต้องการสื่อสาร แต่ในยุคปัจจุบันนี้การ ตอ่ สอื่ สารน้นั มคี วามรวดเร็ว เพราะเทคโนโลยจี ากทางตะวันตกเขา้ ทำให้การติดต่อสื่อสารในปัจจุบันมีความรวดเร็วและทันข่าวสาร กขึ้น” และครูพูดเสริมเกี่ยวกับอัตลักษณ์การไหว้ของโรงเรียน ณธรรมเปา้ หมาย : ความรับผิดชอบ : ไหวถ้ กู ต้องตามอตั ลักษณข์ อง เรียน และ ความพอเพียง : ไหว้บุคคลต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง มาะสม)
ครัง้ ท่ี มาตรฐานการ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (เวลา) เรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั กจิ ก ใหห้ ตอ่ จ รบั ส รอง ครบ ดังก และ สมบ กนั ”
๒๕ กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื การเรียนรู้/ แหลง่ การเรียนรู้ กรรมพฒั นาการเรยี นรู้ (๔๐ นาที) ๓. ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ในคาบนี้ ดงั น้ี ๑. เขยี นจา่ ซองจดหมายถึงผ้ปู กครองได้ ๔. นกั เรียนเลม่ เกม “บอกตดิ ตอบ” โดยมกี ตกิ าร ดังน้ี กติกา ๑. นักเรยี นจบั กลมุ่ ๕ - ๗ คน จากน้ันยืนแถวตอนลึก ๒. คนที่ ๑ ยืนหนั หน้าเข้ากระดาน คนที่ ๒ ถงึ คนสดุ ท้าย หันหน้าตรงข้ามกับคนแรก ๓. คนที่ ๑ อา่ นสารจากครู และสง่ ตอ่ ใหค้ นท่ี ๒ และสง่ จนถงึ คนสดุ ท้าย ๔. คนสุดท้ายของแถวอา่ นสารท่ีไดร้ บั จากเพ่อื นๆ ๕. กลุม่ ใดเสรจ็ กอ่ นได้รับคะแนน ๕ คะแนน และกลมุ่ ใด สารจากคนท่ี ๑ ได้ครบถ้วน ไดร้ บั คะแนน ๕ คะแนน กลุม่ ใดได้ งลงมาไดร้ ับคะแนนรองลงมาตามลำดบั ๕. ครูตรวจสอบความถูกต้องของสารแตล่ ะกล่มุ ว่าไดร้ ับ บถว้ นสมบรู ณห์ รอื ไหม ๖. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ กิจกรรม “จากกจิ กรรม กลา่ วน้ัน พบว่า กลมุ่ ท่ไี ด้รบั สารมาครบถ้วยสมบรู ณ์นน้ั มกี ารฟงั ะการจดจำเป็นอยา่ งดี หรอื มีการสอ่ื สารได้อยา่ งถกู ต้อง ครบถว้ น บรู ณ์ เมอื่ มีการสง่ สารใหผ้ อู้ ื่นกจ็ ะมีความสมบรู ณ์ของสารทส่ี ง่ ตอ่ ๆ ”
คร้งั ท่ี มาตรฐานการ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ กระ (เวลา) เรียนรู/้ ตัวช้วี ัด - “คร ซอง ๙ ท ๒.๑ ป.๔/๕ (๕๐ นาที) ท ๒.๑ ป.๔/๙ บดิ า นักเ กิจก จดห การ
๒๖ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนร/ู้ แหล่งการเรียนรู้ ๗. นักเรียนจับคู่การเขียนจ่าหน้าซองโดยครูกำหนดเส้นบน ะดานให้นกั เรียน จากน้นั ให้นกั เรียนเลอื กคำตอบมาใสบ่ นกระดาน รูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม ดังกล่าวเป็นการเขียนจ่าหนา้ งไดอ้ ยา่ งถูกต้อง” ๘. นักเรียนทำใบงานที่ ๑ การเขียนจดหมายถึงเพื่อนและ ามารดา โดยจะมีแบบฟอร์มหน้าซองจดหมายใหน้ กั เรยี นจากนนั้ ให้ เรียนเขียนจา่ หน้าซองจดหมาย โดยมผี ูร้ ับและผสู้ ง่ อยา่ งชัดเจน กรรมรวบยอด (๕ นาท)ี ๙. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่อง การเขียนจ่าหน้าซอง หมายติดต่อผูป้ กครอง ๑๐. นกั เรยี นทำแบบฝึกทักษะภาษา ชุดภาษาเพื่อชวี ิต เปน็ รบ้านและสง่ ในคาบถดั ไป ปฏบิ ัติภาระงานรวบยอด วัสดอุ ปุ กรณท์ ่ใี ชท้ ำ ชนิ้ งาน
๒๗ แบบบันทึกแผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑๓ เรอื่ ง สนุกสนานกบั การเลน่ เวลา ๙ ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ เวลา ๑ ช่ัวโมง ผู้สอน นายกิตศิ ักด์ิ สขุ วโรดม ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒ วนั ท.่ี .............................................. ๑. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิด เพอ่ื นำไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หา ในการดำเนินชวี ิต และมีนสิ ยั รกั การอ่าน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรกั ภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชาติ ตัวชว้ี ัด ท ๑.๑ ป.๔/๒ อธบิ ายความหมายของคำ ประโยค และสำนวนจากเรอื่ งทอี่ ่าน ท ๔.๑ ป.๔/๑ สะกดคำและบอกความหมายของคำในบรบิ ทต่าง ๆ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อา่ นสะกดคำใหม่ในบทเรยี นได้ถกู ต้อง (ท ๔.๑ ป.๔/๑) ๒. บอกความหมายของคำได้ถูกตอ้ ง (ท ๑.๑ ป.๔/๒) ๒. สาระสำคญั การเรียนร้คู ำใหมแ่ ละความหมายของคำใหมม่ คี วามจำเปน็ เพราะคำใหมเ่ หล่านนั้ ทำให้นักเรยี นสามารถอา่ น เรือ่ งราวทก่ี ำหนดให้ได้ถูกต้องและเขา้ ใจเรือ่ งราวได้ดี และมมี ารยาทในการอา่ น ๓. สาระการเรยี นรู้ ความรู้ คำและความหมายของคำ ทกั ษะกระบวนการ การอา่ น การเขยี นสะกดคำและการอธบิ ายความหมายของคำ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ข้อที่ ๔ ใฝ่เรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัดที่ ๔.๑ ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเข้ารว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบง่ ช้ี ๑. ตั้งใจเรียน ๒. เอาใจใส่และมคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นรู้
๒๘ ๓. สนใจเข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นร้ตู า่ ง ๆ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ความสามารถในการสือ่ สาร ตวั ชี้วดั ที่ ๑ ใชภ้ าษาถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ ความคิด ความร้สู กึ และทัศนะของตนเอง ด้วยการพดู และการเขียน การอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขยี น การอา่ น ตัวชีว้ ัดที่ ๑ สามารถอ่านเพอื่ หาข้อมูลสารสนเทศเสริมประสบการณจ์ ากสอ่ื ประเภทต่างๆ การเขยี น ตัวช้ีวัดท่ี ๑ สามารถถ่ายทอดความเขา้ ใจ ความคิดเห็น คณุ คา่ จากเรอื่ งทอ่ี า่ นโดยการเขียน หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง อยู่อยา่ งพอเพยี ง นกั เรียนมกี ารวางแผนและตดั สินใจเลอื กทำงานตามท่มี อบหมายไดเ้ หมาะสม คณุ ธรรมเปา้ หมาย ความรับผดิ ชอบ พฤตกิ รรมบ่งชีเ้ ชงิ บวก ไหวถ้ ูกต้องตามอัตลักษณข์ องโรงเรียน ความพอเพียง พฤติกรรมบ่งช้เี ชิงบวก ไหว้บุคคลต่างๆ ได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๔. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้ ๑.บตั รคำ ๒. พจนานกุ รม ๓. หนงั สอื ภาษาพาที ป.๔ เรอ่ื ง สนกุ สนานกบั การเลน่ ๔. ใบงาน ๕. กิจกรรม/กระบวนการเรยี นรู้ กิจกรรมนำเขา้ สบู่ ทเรยี น (๑๐ นาท)ี ๑. นักเรยี นรว่ มสนทนากบั ครูเก่ียวกบั การละเล่นแบบต่างๆ โดยมีภาพประกอบ และซักถามประสบการณ์ ตรงของนักเรียนเกี่ยวกบั การละเล่นดังกลา่ ว โดยสุ่มนักเรียน ๕ - ๗ คน เพื่อให้เล่าประสบการณ์การละเล่นอย่าง สรา้ งสรรค์ จากน้ันครกู ล่าวถึงมารยาทในการไหวข้ องนักเรียน เพื่อเป็นการใหค้ วามรูเ้ กย่ี วกับวฒั นธรรมไทยอนั ดีงาม และเปน็ อัตลักษณข์ องโรงเรยี น (คณุ ธรรมเป้าหมาย : ไหว้ถูกต้องตามอตั ลักษณข์ องโรงเรยี น และไหวบ้ คุ คลต่างๆ ได้ อย่างถูกต้องเหมาะสม) ๒. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ (หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง : นักเรียนมีการ วางแผนในการทำงานตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย) ๒.๑ อ่านสะกดคำใหม่ในบทเรยี นไดถ้ ูกตอ้ ง
๒๙ ๒.๒ บอกความหมายของคำได้ถูกตอ้ ง ๓. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยที่ ๑๓ เรื่องสนุกสนานกับการเล่น จำนวน ๑๐ ข้อ และให้ สลบั กนั ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน จากนั้นให้นักเรียนบอกคะแนนกอ่ นเรยี นของเพอ่ื น กจิ กรรมพัฒนาการเรยี นรู้ (๓๐ นาที) ๔. นักเรยี นอา่ นบัตรคำใหม่ทก่ี ำหนด โดยอ่านตามครู ซึ่งอา่ นพร้อมกนั ทง้ั ห้องจำนวน ๑ รอบ อา่ นเปน็ กล่มุ โดยการสุ่มของครูจากเลขท่ีของนักเรียน ซึ่งเลขท่ีที่สุม่ มานัน้ จะต้องหาอ่านกับเพือ่ น ซ้ายมือ ๑ คน ขวามือ ๑ คน คนหน้า ๑ คน และคนหลงั ๑ คน รวมเปน็ กลุม่ ๕ คนอ่านพรอ้ มกัน และสมุ่ อ่านรายบคุ คลผ่านการเล่นเกมของครู เช่น การสุ่มวนั ทเี่ พอื่ สุ่มเลขที่ให้อา่ น การสุม่ ตวั อกั ษรพยัญชนะช่ือตวั แรก การสมุ่ ตวั อกั ษรพยัญชนะนามสกลุ ตวั แรก เป็นตน้ แล้วใหน้ กั เรยี นทำใบงานที่ ๑ การเขยี นคำอา่ น จานบนิ ดนิ สอพอง ทอด พลกิ แพลง พังพาบ มนุษยอ์ วกาศ เม็ด ลกู ขา่ ง สมดลุ ประสานสัมพนั ธ์ หมากเก็บ อตี ัก ๕. ครูให้นกั เรียนจบั สลากจากกล่องมหศั จรรย์ โดยสลากแบง่ เปน็ รปู สตั ว์ต่าง ๆ คือ ม้า ชา้ ง ววั ไก่ เปด็ หมู นก เป็นต้น จากนน้ั ใหน้ กั เรียนทจี่ ับสลากไดก้ ลมุ่ สตั ว์เดยี วกนั ใหอ้ ยู่ในกลมุ่ เดียวกันและตง้ั ชือ่ กลมุ่ ๖. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ หาความหมายของคำใหมท่ ก่ี ำหนด จากพจนานุกรม (การอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน : การอา่ น : สามารถอ่านเพ่ือหาขอ้ มลู สารสนเทศเสรมิ ประสบการณจ์ ากสอ่ื ประเภทต่าง ๆ) ๗. นกั เรยี นเลน่ เกม “อะไรเอย่ บอกหน่อย” โดยมีกติกา ดงั นี้ (สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น : ความสามารถ ในการส่ือสาร : ตัวชวี้ ดั ที่ ๑ ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความเขา้ ใจ ความคิด ความรู้สกึ และทัศนะของตนเองด้วยการ พดู และการเขยี น) กติกา ๑. ครบู อกความหมายของคำศัพทท์ ใ่ี ห้นกั เรียนคน้ หาในพจนานุกรม ๒. ครนู ับ ๑ ๒ ๓ จากนั้นให้นกั เรียนส่งตวั แทนมาเขียนคำศัพท์นนั้ บนกระดาน ๓. เมอื่ นกั เรยี นออกมาเขียนแล้วคนทอี่ อกมาเขียนเป็นคนแรก ได้ ๓ ดาว คนทส่ี อง ได้ ๒ ดาว และ คนท่สี าม ได้ ๑ ดาว ๔. เมื่อครูพูดความหมายของคำศัพท์ทั้งหมดแล้ว ครูนับจำนวนดาวที่แต่ละกลุ่มได้ ซึ่งกลุ่มใดได้ ดาวมากท่ีสดุ เปน็ กลมุ่ ชนะเลศิ ไดค้ ะแนน ๓ คะแนน รองลงมาได้ ๒ คะแนน นอกน้นั ได้ ๑ คะแนน ๘. นกั เรยี นบันทึกคำศพั ท์ใหม่พร้อมความหมายลงในสมดุ กิจกรรมรวบยอด (๑๐ นาท)ี ๙. นกั เรียนและครรู ่วมกนั สรปุ เกม “อะไรเอ่ยบอกหนอ่ ย”
๓๐ ๖. การวัดและประเมินผลการจดั การเรยี นรู้ ๖.๑ การประเมนิ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื ๑.๑ แบบสงั เกตพฤติกรรม ๑. อา่ นและเขียนคำใหม่ในบทเรยี นได้ ๑.๑ สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น ๑.๒ แบบบันทกึ การตรวจผลงาน ๑.๒ ตรวจผลงาน ถูกตอ้ ง (ท ๔.๑ ป.๔/๑) ๒. บอกความหมายของคำไดถ้ ูกต้อง สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน แบบสงั เกตพฤติกรรม (ท ๑.๑ ป.๔/๒) ๖.๒ การประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ จุดประสงค์ วิธีการประเมิน เครือ่ งมอื แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ สงั เกตพฤติกรรม ประสงค์ ขอ้ ท่ี ๔ ใฝ่เรียนรู้ ตวั ช้ีวัด ๔.๑ ต้ังใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้า รว่ มกจิ กรรมการเรียนรู้ ๖.๓ การประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น จุดประสงค์ วิธกี ารประเมิน เครอื่ งมอื แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร การนำเสนอผลงาน ของผเู้ รยี น ของนักเรยี น เครอ่ื งมอื แบบการประเมินการอา่ น คดิ ๖.๔ การประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี น วิเคราะห์และเขยี น จดุ ประสงค์ วธิ กี ารประเมนิ เคร่ืองมอื แบบประเมนิ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ๑. ความสามารถในการสื่อสาร การนำเสนอผลงาน ของนักเรยี น ๖.๕ การประเมินตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง จุดประสงค์ วธิ กี ารประเมิน อยอู่ ยา่ งพอเพียง สังเกตพฤติกรรมการเลอื กใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ในการเรยี น ลงชื่อ.............................................................ครูผสู้ อน (นายกติ ิศกั ด์ิ สุขวโรดม) วนั ที.่ .........เดือน...................................พ.ศ.................
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202