1 แผน อ.1 - 1-6 ภาคเรียนที่ 1 2566

กิจกรรมกลางแจง้  สาระท่ีควรเรียนรู้ การเลน่ เครอ่ื งเลน่ สนาม เด็กไดม้ โี อกาสออกไปนอกหอ้ งเรียนเพ่อื ออกกาลงั เคล่ือนไหวรา่ งกาย และ แสดงออกอยา่ งอิสระในการเลน่ เครือ่ งเลน่ สนาม โดยยดึ ความสนใจและความสามารถของเดก็ เป็นหลกั  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.1.1 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.2 การดูแลรักษา 1.4.1 การใช้ภาษา กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา - การเคลอ่ื นไหว - การเลน่ อสิ ระ ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ อยกู่ บั ท่ี ความตอ้ งการ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ย่อย - การมีสว่ นรว่ มรบั ผิดชอบ - การพดู อยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเล่น และการ - การเคลื่อนไหว กระทาตา่ งๆ และกลมุ่ ใหญ่ ดแู ลรกั ษาสิง่ แวดลอ้ มทง้ั 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล เคลอ่ื นท่ี การตัดสินใจและแกป้ ัญหา - การเลน่ นอกหอ้ งเรยี น ภายในและภายนอกหอ้ งเรยี น - การตดั สนิ ใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ - การเลน่ เครื่องเล่น แกป้ ัญหา สนามอย่างอิสระ 1.2.3คุณธรรม จริยธรรม - การใชว้ สั ดแุ ละส่งิ ของ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ 1.1.4 การรักษา - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผ่าน ความปลอดภัย - การปฏิบตั ิตนตามหลกั เครื่องใชอ้ ย่างคมุ้ ค่า ส่ือ วสั ดุ ของเล่น และชิน้ งาน - การเล่นเคร่ืองเลน่ 1.4.4 เจตคตทิ ดี่ ตี อ่ การเรียนรู้และการ ศาสนาท่ีนบั ถือ 1.3.4 การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ มี แสวงหาความรู้ อย่างปลอดภยั - การสารวจสิ่งตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั 1.1.5 การ 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ วินัย มสี ว่ นร่วม และ ตระหนกั รู้ เฉพาะตนและเช่อื วา่ บทบาทสมาชกิ ของสงั คม เกยี่ วกบั ร่างกาย ตนเองมคี วามสามารถ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง ตนเอง - การเคลอื่ นไหว - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ของหอ้ งเรียน โดยควบคมุ ตนเอง ตามความสามารถของตนเอง - การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชกิ ไปในทิศทาง ระดบั ท่ดี ีของหอ้ งเรยี น และพนื้ ท่ี - การใหค้ วามรว่ มมือใน การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ 1.3.7 การยอมรับใน ความเหมือนและความ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล - การเล่นหรือทากจิ กรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น 351

 จดุ ประสงค์ 2. พฒั นาทกั ษะการเลน่ ร่วมกบั ผอู้ ่ืน 1. พฒั นาทกั ษะการเคลือ่ นไหวและการทรงตวั 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 4. การปลกู ฝังทศั นคติท่ดี ใี นการออกกาลงั กาย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั อบอนุ่ รา่ งกายดว้ ยการออกกายบรหิ ารในการเคล่ือนไหวอย่กู บั ท่ี 2. ครูแนะนาการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนามอย่างถกู วธิ ี และปลอดภยั ใหเ้ ด็กฟังพรอ้ มสาธิตใหด้ ู แลว้ รว่ มกนั สรา้ ง ขอ้ ตกลงในการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนาม เชน่ - เลน่ อยา่ งถกู วิธี ไมเ่ ลน่ โลดโผน - เขา้ แถวรอคอยเลน่ ตอ่ จากเพ่อื น - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ เคร่ืองเลน่ อย่างทะนถุ นอม ไมท่ าลายใหเ้ สยี หาย - เลน่ รว่ มกนั ไมท่ ะเลาะกนั - ไมเ่ ดด็ ใบไม้ ดอกไมม้ าเลน่ - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นชว่ ยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจบ็ หรือเดอื ดรอ้ น - เม่อื ไดย้ ินเสยี งนกหวดี ใหห้ ยดุ เลน่ ทนั ที เตรียมเขา้ แถวท่หี นา้ สนามเด็กเลน่ 3. ครูใหเ้ ด็กคิดวางแผนการเล่นเครอื่ งเลน่ สนามตามลาดบั ความสนใจ จากนนั้ ใหเ้ ลน่ ตามท่ีคดิ วางแผนไว้ อยา่ งอิสระ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ ินเสียงนกหวีดใหห้ ยุดเลน่ แลว้ มาเขา้ แถวท่หี นา้ สนามเด็กเลน่ 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถึงสิ่งท่ีตนเองเลน่ ความรูส้ ึก และปัญหาท่ีพบ รวมถงึ วธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการเคล่ือนไหวและการทรงตวั 2. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื 3. สงั เกตการแสดงความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั รอคอย 4. สงั เกตทศั นคติท่ีดีในการออกกาลงั กาย  ส่ือการเรียนรู้ 1. นกหวีด 2. เครื่องเลน่ สนาม 352

กิจกรรมเกมการศึกษา  สาระที่ควรเรียนรู้ การเลน่ เกม ภาพตดั ตอ่ เดก็ หยอดออมสนิ  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา กล้ามเนือ้ เลก็ - การหยบิ จบั สิง่ - การเล่นอิสระ ประจาวัน - การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา ตา่ งๆ - การเล่นรายบคุ คล กลมุ่ ย่อย - การปฏบิ ตั ติ นตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ และกล่มุ ใหญ่ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ 1.2.3 คุณธรรม จรยิ ธรรม เศรษฐกิจพอเพียง - การพดู อยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเล่น และการ - การปฏิบตั ติ นตามหลกั 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ ศาสนาท่ีนบั ถือ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตผุ ล 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ - การใชว้ สั ดแุ ละส่ิงของ การตดั สินใจและแก้ปัญหา เฉพาะตนและเช่อื ว่า เครอ่ื งใชอ้ ย่างคมุ้ คา่ - การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การ ตนเองมีความสามารถ 1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพันธ์ มี เปลีย่ นแปลง และความสมั พนั ธข์ องสิ่งตา่ งๆ - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ วินัย มสี ว่ นร่วม และ โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อย่างเหมาะสม ตามความสามารถของตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม - การตอ่ ของชนิ้ เล็กเติมในชิน้ ใหญ่ใหส้ มบรู ณ์ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง และการแยกชนิ้ ส่วน ของหอ้ งเรียน 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ - การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิก - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผา่ น ท่ดี ีของหอ้ งเรยี น ส่อื วสั ดุ ของเล่น และชิน้ งาน - การใหค้ วามรว่ มมือใน 1.4.4 เจตคติทด่ี ตี อ่ การเรียนรูแ้ ละการ การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ แสวงหาความรู้ 1.3.7 การยอมรับใน - การสารวจสิง่ ตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั ความเหมอื นและความ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล - การเล่นหรือทากิจกรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น 353

 จดุ ประสงค์ 1. พฒั นากลา้ มเนอื้ มดั เลก็ และตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 2. ฝึกทกั ษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เช่น การสงั เกต การเปรียบเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องต่างๆ 4. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูแนะนาเกม ภาพตดั ต่อเด็กหยอดออมสนิ และสาธิตวิธีการเลน่ ใหเ้ ดก็ ดู พรอ้ มใหเ้ ด็กมีสว่ นร่วมดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเก่าท่เี คยเลน่ มาแลว้ และรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เช่น - ไมส่ ง่ เสียงดงั ขณะเลน่ - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เล่นอยา่ งทะนุถนอม ไม่ทาลายให้เสียหาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นชว่ ยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรือเดอื ดรอ้ น - เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครงั้ ) ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ี และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. ครูแบ่งเด็กเป็นกลมุ่ ย่อย กลมุ่ ละ 4 คน ใหก้ ลมุ่ แรกเลน่ เกม ภาพตดั ต่อเดก็ หยอดออมสนิ กลมุ่ ท่ีเหลือเลน่ เกม ท่เี คยเล่นมาแลว้ เม่ือเลน่ เสรจ็ ใหห้ มนุ เวยี นกนั เลน่ จนครบทกุ เกม เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ี ใหเ้ รียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถึงเกมท่ีตนเองเล่น ความรูส้ กึ และปัญหาท่พี บ รวมถงึ วธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เล็ก และตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 2. สงั เกตกระบวนการแกไ้ ขปัญหา 3. สงั เกตทกั ษะทางสติปัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรยี บเทยี บ ความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องต่างๆ 4. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย  ส่ือการเรยี นรู้ 2. เกมเกา่ ท่เี คยเลน่ มาแลว้ 3. เครื่องเคาะจงั หวะ 1. เกม ภาพตดั ตอ่ เดก็ หยอดออมสนิ  ภาคผนวก   เกม ภาพตดั ตอ่ เดก็ หยอดออมสนิ 354

ผงั มโนทศั น์ 6 หน่วย สมาชิกในครอบครวั 10 สาระท่ี 2 7 หน่วย บ้านของเรา หน่วย เรอ่ื งราวเก่ียวกบั บคุ คล ประชาคมอาเซียน และสถานที่แวดลอ้ มเดก็ 9 8 หน่วย โรงเรยี นของเรา หน่วย ชมุ ชนน่าอยู่ 355

356

เร่ืองราวเก่ียวกบั บคุ คล อนุบาล 1 ภาคเรยี นท่ี 1 และสถานที่แวดล้อมเดก็ สปั ดาหท์ ่ี 6 หน่วย สมาชิกในครอบครวั วนั ท่ี เดือน พ.ศ. 1 สาระท่ีควรเรียนรู้ ครอบครวั ประกอบไปดว้ ยสมาชกิ ท่ีอย่รู ว่ มกนั ในบา้ น มีพ่อ แม่ ลกู ทกุ คนต่างมหี นา้ ท่ีรบั ผดิ ชอบ ในแต่ละ ครอบครวั มีการทากจิ กรรมรว่ มกนั ในบา้ นและนอกบา้ น เพ่อื สานสมั พนั ธส์ รา้ งความรกั ความอบอ่นุ ใหแ้ กก่ นั ส่งิ ทเี่ ดก็ รู้แลว้ ส่งิ ทเี่ ดก็ ต้องการรู้ ส่งิ ทเ่ี ด็กควรรู้ - พอ่ แม่ของเรา - หนา้ ท่ขี องคนในครอบครวั - กจิ กรรมรว่ มกนั ในบา้ น - กจิ กรรมรว่ มกนั นอกบา้ น - การดแู ลกนั ในครอบครวั  การจดั ประสบการณ์บูรณาการ กจิ กรรมเกมการศกึ ษา กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ กิจกรรมสรา้ งสรรค์ 1. เกมจบั คภู่ าพเหมือนบคุ คลใน 1. การเคล่อื นไหวรา่ งกายประกอบ 1. การประดิษฐ์การด์ วนั แม่ ครอบครวั เพลง บา้ นแสนสขุ 2. การประดิษฐก์ ารด์ วนั พ่อ 3. การระบายสภี าพครอบครวั 2. เกมลอตโตภาพกจิ กรรมในครอบครวั 2. เคลอื่ นไหวรา่ งกายตามคาส่งั 4. การฉีกปะติดตกแตง่ ภาพทะเล 3. เกมภาพตดั ตอ่ ครอบครวั สขุ สนั ต์ 3. การเคล่อื นไหวรา่ งกายอยา่ งอิสระ 5. การปั้นดินนา้ มนั เป็นสมาชิกใน 4. เกมจบั คภู่ าพกจิ กรรมท่ีทารว่ มกนั 4. การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายตาม ครอบครวั นอกบา้ น จินตนาการ 5. เกมภาพตดั ต่อบคุ คลในครอบครวั 5. การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายตาม กจิ กรรมเสรี คาบรรยาย - เล่นตามมมุ ประสบการณต์ า่ งๆและ จดั มมุ สารวจในมมุ วทิ ยาศาสตร์ กจิ กรรมกลางแจง้ กิจกรรมหลกั โดยนาเศษวสั ดตุ า่ งๆ ที่ใชใ้ นการ 6 กิจกรรม สรา้ งบา้ นมาใหเ้ ด็กสงั เกต เชน่ ปนู 1. การเลน่ เครื่องเลน่ สนาม แผ่นไม้ อิฐ 2. การเลน่ รบั สง่ ลกู บอล กิจกรรมเสริมประสบการณ์ 3. การเลน่ เครอ่ื งเลน่ สนาม 1. กิจกรรม “พอ่ แม่ของเรา” 4. การเล่นบอ่ ทราย 2. กจิ กรรม “หนา้ ทขี่ องคนในครอบครวั ” 5. การเลน่ เคร่อื งเล่นสนาม 3. กิจกรรม “กจิ กรรมรว่ มกนั ในบา้ น” 4. กิจกรรม “กจิ กรรมรว่ มกนั นอกบา้ น” 5. กจิ กรรม “เอาใจใสด่ ูแลกนั ” 357

แผนการจดั ประสบการณ์ ระดบั อนุบาล 1ภาคเรยี นท่ี 1 วนั ท่ี 1 พอ่ แม่ของเรา หน่วย สมาชิกในครอบครวั วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระที่ควรเรียนรู้ ครอบครวั ประกอบไปดว้ ยสมาชกิ ท่ีอย่รู ว่ มกนั ในบา้ น มีพ่อ แม่ ลกู ทกุ คนต่างมหี นา้ ท่รี บั ผิดชอบ ในแต่ละ ครอบครวั มีการทากจิ กรรมรว่ มกนั ในบา้ นและนอกบา้ น เพ่อื สานสมั พนั ธส์ รา้ งความรกั ความอบอนุ่ ใหแ้ กก่ นั สาระสาคญั พ่อแม่เป็นผูใ้ หก้ าเนิดเรา เป็นผูด้ แู ลเรา เราควรกตญั ญตู ่อท่านดว้ ยการเช่ือฟังคาส่งั สอน และช่วยเหลือ งานท่านตามท่ตี นเองทาได้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 1.1.3 การรักษา 1.2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี ประสบการณส์ าคัญ 1.4.1 การใชภ้ าษา สุขภาพอนามัย - การฟังเพลง การรอ้ งเพลง 1.3.1 การปฏิบตั กิ จิ วตั ร - การฟังเพลง สว่ นตน ประจาวนั - การพดู แสดงความคดิ เหน็ ความรูส้ กึ และ - การปฏิบตั ติ นตาม และการแสดงปฏิกริ ยิ า - การชว่ ยเหลือตนเอง ความตอ้ งการ สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั - การกบั ผอู้ ืน่ เก่ียวกบั ประสบการณข์ องตนเอง ท่ดี ใี นกจิ วตั ร โตต้ อบเสียงดนตรี ในกิจวตั รประจาวนั หรือพดู เลา่ เรือ่ งราวเก่ยี วกบั ตนเอง ประจาวนั 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล 1.1.4การรักษา 1.2.4การแสดงออกทาง 1.3.4 การปฏสิ ัมพันธ์ มี การตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา ความปลอดภัย อารมณ์ วนิ ัย มสี ่วนร่วม และ - การสงั เกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ การ - การปฏบิ ตั ติ นให้ -การรอ้ งเพลง บทบาทสมาชกิ ของ เปลย่ี นแปลง และความสมั พนั ธข์ องส่ิงตา่ งๆ ปลอดภยั ในกจิ วตั ร สงั คม โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อยา่ งเหมาะสม ประจาวนั 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ - การใหค้ วามรว่ มมอื เฉพาะตนและเชือ่ วา่ ตนเองมคี วามสามารถ ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ - การปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆ ตามความสามารถของตนเอง 358

 จดุ ประสงค์ 1. สารวจตนเองและเปรียบเทียบลกั ษณะของตนเองกบั คณุ พอ่ คณุ แม่ได้ 2. บอกเพศของตนเองได้  กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ครูและเด็กรว่ มกนั รอ้ งเพลง บา้ นแสนสขุ พรอ้ มทาท่าประกอบเพลงตามจินตนาการ ขนั้ สอน 1. ครูติดภาพสมาชกิ ในครอบครวั บนกระดาน ใหเ้ ด็กดแู ละสนทนารว่ มกนั เกี่ยวกบั สมาชิกในครอบครวั พรอ้ มแนะนาคาศพั ทภ์ าษาองั กฤษเก่ียวกบั ครอบครวั ใหเ้ ด็กฟังและออกเสียงตาม จากนนั้ ครูใชค้ าถาม กระตนุ้ ความคิด ดงั นี้  จากภาพมีสมาชิกในครอบครวั คือใครบา้ ง จานวนก่ีคน  ครอบครวั ของเด็กๆ มใี ครบา้ งเด็กๆ อาศยั อย่กู บั ใคร  ครอบครวั ของเดก็ ๆ ชอบทากิจกรรมอะไรบา้ ง 2. ครูใหเ้ ด็กนาภาพครอบครวั ของตนเองมาคนละ 1 ภาพ และใหเ้ ด็กผลดั กนั ออกมาเลา่ เรือ่ งราวเก่ียวกับ ครอบครวั และสมาชกิ ในครอบครวั ของตนเองใหเ้ พ่อื นฟัง 3. ครูซกั ถามเดก็ เก่ียวกบั ลกั ษณะรูปร่างหนา้ ตาสีผิวของเด็กและสมาชิกในครอบครวั วา่ มีสว่ นคลา้ ยกนั อยา่ งไรบา้ งพรอ้ มกบั ยกตวั อยา่ งภาพครอบครวั ท่เี ด็กนามาประกอบ ขนั้ สรปุ 1. ครูและเด็กรว่ มกนั สรุปเกี่ยวกบั ครอบครวั วา่ ครอบครวั เป็นสิ่งสาคญั เด็กๆ ควรรกั และปฏบิ ตั ิตนเป็นเดก็ ดี ตอ่ สมาชิกภายในครอบครวั ของตนเอง 2. ครูใหเ้ ดก็ ทากิจกรรมในหนงั สอื เสรมิ ฯ เรอื่ งราวเกี่ยวกบั บคุ คลและสถานท่ฯี อ.1 กจิ กรรมพอ่ แม่ของเรา หนา้ 3  ประเมินผล 1. สงั เกตการสนทนาและตอบคาถาม 2. สงั เกตการมีสว่ นร่วมกบั ผอู้ ่นื 3. สงั เกตผลงานการทากจิ กรรม พอ่ แม่ของเรา  ส่ือการเรยี นรู้ 2. ภาพครอบครวั ของเด็ก 1. เพลง บา้ นแสนสขุ 3. หนงั สอื เสรมิ ฯ เร่อื งราวเกี่ยวกบั บุคคลและสถานท่ฯี อ.1 กจิ กรรมพอ่ แม่ของเรา หนา้ 3 359

ภาคผนวก  เพลง บา้ นแสนสขุ เพลง บา้ นแสนสุข บา้ น บา้ น บา้ น คารอ้ ง-ทานอง กมั ปนาท โนนศรี ในบา้ นมคี ณุ พ่อ คณุ แม่ ทกุ คนสขุ แทอ้ ยใู่ นบา้ นของเรา บา้ น บา้ น บา้ น พวกเราช่วยกนั ดแู ล ปัด กวาด เชด็ ถู (ซา้ ) อฮู้ !ู้ บา้ นเราสะอาด ทกุ คนสขุ แทอ้ ยบู่ า้ นของเรา ดาวนโ์ หลดเพลงท่ีมีสัญลกั ษณ์น้ีไดท้ ่ี www.aksorn.com  ภาพสมาชกิ ในครอบครวั แม่ mother พ่อ father ย่ำ grandmother ป่ ู grandfather น้องสำว sister ตวั ฉัน me 360

กิจกรรมเคลื่อนไหวและจงั หวะ  สาระท่ีควรเรียนรู้ การเคลื่อนไหวร่างกายประกอบเพลง บา้ นเสนสขุ มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มฐ.1 มฐ.2 มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1.2, 1.3 2.1 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.1.1 การใช้ กลา้ มเนือ้ ใหญ่ 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 10.3 11.2 12.1 - การเคลอ่ื นไหว เคลอ่ื นท่ี 8.3 1.1.5 การ ตระหนกั รู้ ประสบการณส์ าคัญ เกยี่ วกบั ร่างกาย ตนเอง 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี 1.3.4 การมีปฏิสมั พันธ์ มี 1.4.1 การใช้ภาษา - การเคลื่อนไหว โดยควบคมุ ตนเอง - การฟังเพลง การรอ้ งเพลง วินัย มสี ่วนร่วม และ - การฟังเพลง ไปในทศิ ทาง ระดบั และพนื้ ท่ี และการแสดงปฏิกิรยิ า บทบาทสมาชกิ ของ 1.4.3จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ โตต้ อบเสียงดนตรี สงั คม - การแสดงความคดิ สรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา - การเคล่ือนไหวตาม - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง เสยี งเพลง/ดนตรี ของหอ้ งเรยี น ท่าทาง การเคลือ่ นไหว 1.2.4 การแสดงออกทาง 1.4.4 เจตคติทดี่ ตี อ่ การเรยี นรู้และการ อารมณ์ - การใหค้ วามรว่ มมือใน แสวงหาความรู้ - การเคลือ่ นไหวตาม - การสารวจสิง่ ต่างๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั เสยี งเพลง/ดนตรี การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ - การรอ้ งเพลง 1.3.7 การยอมรับใน 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ ความเหมือนและความ เฉพาะตนและเชอ่ื วา่ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล - การเลน่ หรือทากิจกรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น ตนเองมีความสามารถ - การปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ตามความสามารถของตนเอง  จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการใชก้ ลา้ มเนือ้ ใหญ่ เลก็ และตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. พฒั นาทกั ษะการเคล่ือนไหวประกอบเพลง 3. เพ่ือใหเ้ กิดความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์ 361

 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายอยา่ งอสิ ระโดยไมใ่ หช้ นกนั ตามจงั หวะท่คี รูกาหนด 2. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาเป็นผกู้ าหนดจงั หวะ และใหเ้ พ่ือนๆ เคลื่อนไหวรา่ งกายอย่างอสิ ระโดยไม่ใหช้ นกนั 3. ครูรอ้ งเพลง บา้ นแสนสขุ ใหเ้ ดก็ ฟังกอ่ น 1 รอบ แลว้ ใหเ้ ด็กรอ้ งตามทลี ะวรรค จนเด็กสามารถรอ้ งเพลง ไดค้ ลอ่ ง 4. เดก็ และครูรว่ มกนั รอ้ งเพลง บา้ นแสนสขุ พรอ้ มกนั และทาท่าทางประกอบเพลงตามจินตนาการ  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ ใหญ่ เลก็ และตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. สงั เกตการเคลื่อนไหวประกอบเพลงตามจินตนาการ 3. สงั เกตความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์  ส่ือการเรยี นรู้ 2. เครื่องเคาะจงั หวะ 1. เพลง บา้ นแสนสขุ  ภาคผนวก  เพลง บา้ นแสนสขุ เพลง บา้ นแสนสุข คารอ้ ง-ทานอง กมั ปนาท โนนศรี บา้ น บา้ น บา้ น ในบา้ นมีคณุ พ่อ คณุ แม่ ทกุ คนสขุ แทอ้ ย่ใู นบา้ นของเรา บา้ น บา้ น บา้ น พวกเราชว่ ยกนั ดแู ล ปัด กวาด เชด็ ถู (ซ้า) อฮู้ !ู้ บา้ นเราสะอาด ทกุ คนสขุ แทอ้ ย่บู า้ นของเรา ดาวนโ์ หลดเพลงที่มีสญั ลกั ษณ์น้ีไดท้ ่ี www.aksorn.com 362

กิจกรรมสรา้ งสรรค์  สาระที่ควรเรยี นรู้ การประดิษฐ์การด์ วนั แม่  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2,6.3 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1 8.3 1.1.2การใช้ 1.2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี ประสบการณส์ าคญั 1.4.1 การใช้ภาษา กล้ามเนือ้ เลก็ - การทากิจกรรมศิลปะตา่ งๆ 1.3.1การปฏบิ ตั กิ จิ วตั ร - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ - การประดษิ ฐส์ ง่ิ ประจาวัน - การสรา้ งสรรคส์ ่ิงสวยงาม - การปฏบิ ตั ิตนตาม ความตอ้ งการ ตา่ งๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ 1.2.4 การแสดงออกทาง แนวทางหลกั ปรชั ญาของ 1.4.3จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ อารมณ์ - การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา - การทางานศลิ ปะ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ท่าทาง การเคลอื่ นไหว และศิลปะ 1.2.5การมอี ัตลกั ษณ์ 1.3.4 การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ มี 1.4.4 เจตคติทดี่ ตี อ่ การเรยี นรู้และการ เฉพาะตนและเชือ่ วา่ วินัย มสี ่วนร่วม และ แสวงหาความรู้ ตนเองมีความสามารถ บทบาทสมาชกิ ของ - การสารวจสิง่ ต่างๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ สงั คม - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง ตามความสามารถของตนเอง ของหอ้ งเรียน - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ 1.3.7การยอมรับในความ เหมือนและความ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล - การเล่นหรอื ทากิจกรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการกลา้ มเนือ้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจนิ ตนาการ 3. สามารถบอกเลา่ เก่ียวกบั ผลงานของตนเองได้ 363

 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ด็กน่งั เป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 4 คน แลว้ แจกอปุ กรณใ์ นการทากิจกรรมใหเ้ ดก็ ทกุ กลมุ่ 2. ครูใหแ้ นะนาและสาธิตวธิ ีการประดษิ ฐ์การด์ วนั แม่ใหเ้ ดก็ ฟัง โดยวาดภาพคณุ แม่ลงในกระดาษ A4 ระบาย สใี หส้ วยงาม แลว้ ตดั ภาพคณุ แมอ่ อกมาปะติดลงในแผน่ การด์ ท่คี รูตดั เตรียมไวใ้ ห้ พรอ้ มกบั ระบายสตี กแตง่ การด์ ใหส้ วยงาม 3. ครูใหเ้ ด็กทากิจกรรมในหนงั สือเสรมิ ฯ ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ อ.1 เลม่ 1 กจิ กรรม การ์ดวนั แม่ หนา้ 31-32 4. เด็กบอกเลา่ ผลงานใหเ้ พ่ือนฟัง และครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงาน 5. เด็กๆ ชว่ ยกนั เก็บวสั ดอุ ปุ กรณเ์ ขา้ ท่ี และทาความสะอาดโต๊ะกิจกรรม  ประเมินผล 2. สงั เกตผลงาน 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ มดั เล็ก และตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 3. สงั เกตการบอกเลา่ เก่ียวกบั ผลงานของตนเอง  สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เสรมิ ฯ ศิลปะสรา้ งสรรค์ อ.1 เลม่ 1 กจิ กรรม การ์ดวนั แม่ หนา้ 31-32 2. กระดาษA4 3. กาว 4. กรรไกร 5. สีเทียน 364

กิจกรรมเสรี  สาระท่ีควรเรยี นรู้ การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ เลน่ อิสระตามมมุ ประสบการณห์ รือศนู ยก์ ารเรียน ท่จี ดั ไวใ้ น หอ้ งเรยี น เช่น มมุ บล็อก มมุ วทิ ยาศาสตรห์ รือมมุ ธรรมชาติศึกษา มมุ คณิตศาสตร์ มมุ บา้ น มมุ หนงั สอื มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็นตน้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สนุ ทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา กลา้ มเนือ้ เลก็ - การเล่นบทบาทสมมติ ประจาวนั - การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา - การเล่นเครื่องเล่น 1.2.2 การเลน่ - การปฏิบตั ิตนตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ สมั ผสั และการสรา้ ง - การเล่นอสิ ระ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ สงิ่ ตา่ งๆ จากแทง่ ไม้ - การเล่นรายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย เศรษฐกิจพอเพียง - การพดู อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการเล่นและการ บล็อก และกล่มุ ใหญ่ 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ - การหยบิ จบั ส่ิง - การเล่นตามมมุ ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตผุ ล ต่างๆ การรอ้ ยวสั ดุ ประสบการณ/์ มมุ เลน่ ตา่ งๆ - การใชว้ สั ดแุ ละสงิ่ ของ การตดั สินใจและแกป้ ัญหา 1.2.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เครอ่ื งใชอ้ ย่างคมุ้ คา่ 1.1.5 การ - การเล่นกบั ส่อื ตา่ งๆ ท่เี ป็นทรงกลม ทรง ตระหนักรู้ - การปฏิบตั ติ นตามหลกั 1.3.4 การมีปฏิสมั พันธ์ ส่ีเหลยี่ มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย เกีย่ วกับร่างกาย ศาสนาท่นี บั ถือ มีวนิ ัย มีสว่ นร่วม และ - การตดั สินใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ ตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสังคม แกป้ ัญหา - การเคล่ือนไหว 1.2.4 การแสดงออกทาง - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง 1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ โดยควบคมุ ตนเอง อารมณ์ ของหอ้ งเรียน ไปในทศิ ทาง ระดบั - การเล่นบทบาทสมมติ - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผา่ น และพนื้ ท่ี - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน สือ่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ 1.4.4 เจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรียนรู้และการ เฉพาะตนและเช่ือว่า 1.3.7 การยอมรับใน แสวงหาความรู้ ตนเองมคี วามสามารถ ความเหมอื นและความ - การสารวจสิง่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั - การปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล ตามความสามารถของตนเอง - การเล่นหรอื ทากจิ กรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น 365

 จดุ ประสงค์ 2. มีทกั ษะทางดา้ นสงั คมเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้ 1. สง่ เสรมิ พฒั นาการ 4 ดา้ นผา่ นการเลน่ 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั ทบทวนมมุ ประสบการณต์ ่างๆ ในหอ้ งเรยี น และใหค้ ดิ วางแผนการเลน่ ว่าจะเลน่ อะไร ตามลาดบั ความสนใจของตนเอง 2. เดก็ และครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - เด็กไมส่ ง่ เสียงดงั ขณะเลน่ - เม่อื เลน่ เสรจ็ เก็บของเลน่ เขา้ ท่ี - รูจ้ กั แบ่งปันกนั เลน่ - เลน่ ของเลน่ อย่างทะนถุ นอม ไม่ทาลายใหเ้ สยี หาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นช่วยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรอื เดอื ดรอ้ น - เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครง้ั ) ใหเ้ กบ็ ของเลน่ ทนั ที และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. เด็กๆ เลือกเลน่ ตามท่ีคดิ ไวอ้ ย่างอสิ ระ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหยดุ ใหเ้ ก็บของเขา้ ท่ีให้ เรียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงส่ิงท่ีตนเองเลน่ ความรูส้ กึ และปัญหาท่ีพบ รวมถึงวธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตพฒั นาการ 4 ดา้ น 2. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย 3. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื 2. เคร่ืองเคาะจงั หวะ  สื่อการเรียนรู้ 1. ของเลน่ ในมมุ ประสบการณต์ า่ งๆ 366

กิจกรรมกลางแจ้ง  สาระที่ควรเรียนรู้ การเลน่ เครือ่ งเลน่ สนาม เด็กไดม้ โี อกาสออกไปนอกหอ้ งเรียนเพ่อื ออกกาลงั เคล่ือนไหวรา่ งกายและ แสดงออกอย่างอิสระในการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนาม โดยยดึ ความสนใจและความสามารถของเดก็ เป็นหลกั  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.1 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.2 การดแู ลรักษา 1.4.1 การใช้ภาษา กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา - การเคลอ่ื นไหว - การเลน่ อสิ ระ ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ อย่กู บั ท่ี ความตอ้ งการ - การเลน่ รายบคุ คล กล่มุ ยอ่ ย - การมีสว่ นรว่ มรบั ผดิ ชอบ - การพดู อยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเลน่ และการ - การเคลื่อนไหว กระทาตา่ งๆ และกลมุ่ ใหญ่ ดแู ลรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ มทง้ั 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล เคล่อื นท่ี การตดั สินใจและแกป้ ัญหา - การเล่นนอกหอ้ งเรยี น ภายในและภายนอกหอ้ งเรยี น - การตดั สนิ ใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ - การเลน่ เคร่ืองเล่น แกป้ ัญหา สนามอยา่ งอสิ ระ 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม - การใชว้ สั ดแุ ละสิ่งของ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์ 1.1.4 การรักษา - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผา่ น ความปลอดภยั - การปฏิบตั ติ นตามหลกั เครือ่ งใชอ้ ย่างคมุ้ คา่ สอ่ื วสั ดุ ของเล่น และชิน้ งาน - การเลน่ เครอ่ื งเลน่ 1.4.4 เจตคติทด่ี ตี อ่ การเรียนรู้และการ ศาสนาท่นี บั ถือ 1.3.4 การมปี ฏิสัมพันธ์ แสวงหาความรู้ อยา่ งปลอดภยั - การสารวจสิ่งต่างๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั 1.1.5 การ 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ มวี ินัย มีส่วนร่วม และ ตระหนกั รู้ เฉพาะตนและเช่ือวา่ บทบาทสมาชกิ ของสังคม เกี่ยวกับร่างกาย ตนเองมีความสามารถ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง ตนเอง - การเคลอ่ื นไหว - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ ของหอ้ งเรียน โดยควบคมุ ตนเอง ตามความสามารถของตนเอง - การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิก ไปในทศิ ทาง ระดบั ท่ดี ีของหอ้ งเรยี น และพนื้ ท่ี - การใหค้ วามรว่ มมือใน การปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ 1.3.7 การยอมรับใน ความเหมอื นและความ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล - การเล่นหรือทากจิ กรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น 367

 จดุ ประสงค์ 2. พฒั นาทกั ษะการเลน่ ร่วมกบั ผอู้ ่ืน 1. พฒั นาทกั ษะการเคลือ่ นไหวและการทรงตวั 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 4. การปลกู ฝังทศั นคติท่ดี ใี นการออกกาลงั กาย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั อบอนุ่ รา่ งกายดว้ ยการออกกายบรหิ ารในการเคล่ือนไหวอย่กู บั ท่ี 2. ครูแนะนาการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนามอย่างถกู วธิ ี และปลอดภยั ใหเ้ ด็กฟังพรอ้ มสาธิตใหด้ ู แลว้ รว่ มกนั สรา้ ง ขอ้ ตกลงในการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนาม เชน่ - เลน่ อยา่ งถกู วิธี ไมเ่ ลน่ โลดโผน - เขา้ แถวรอคอยเลน่ ตอ่ จากเพ่อื น - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ เคร่ืองเลน่ อย่างทะนถุ นอม ไมท่ าลายใหเ้ สยี หาย - เลน่ รว่ มกนั ไมท่ ะเลาะกนั - ไมเ่ ดด็ ใบไม้ ดอกไมม้ าเลน่ - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นชว่ ยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจบ็ หรือเดอื ดรอ้ น - เม่อื ไดย้ ินเสยี งนกหวดี ใหห้ ยดุ เลน่ ทนั ที เตรียมเขา้ แถวท่หี นา้ สนามเด็กเลน่ 3. ครูใหเ้ ด็กคิดวางแผนการเล่นเครอื่ งเลน่ สนามตามลาดบั ความสนใจ จากนนั้ ใหเ้ ลน่ ตามท่ีคดิ วางแผนไว้ อยา่ งอิสระ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ ินเสียงนกหวีดใหห้ ยุดเลน่ แลว้ มาเขา้ แถวท่หี นา้ สนามเด็กเลน่ 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถึงสิ่งท่ีตนเองเลน่ ความรูส้ ึก และปัญหาท่ีพบ รวมถงึ วธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการเคล่ือนไหวและการทรงตวั 2. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื 3. สงั เกตการแสดงความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั รอคอย 4. สงั เกตทศั นคติท่ีดีในการออกกาลงั กาย  ส่ือการเรียนรู้ 1. นกหวีด 2. เครื่องเลน่ สนาม 368

กิจกรรมเกมการศึกษา  สาระที่ควรเรียนรู้ การเลน่ เกม จบั คู่ภาพเหมอื นบคุ คลในครอบครวั  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.1.2 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา กลา้ มเนือ้ เลก็ - การหยบิ จบั สิง่ - การเลน่ อิสระ ประจาวนั - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา ต่างๆ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย - การปฏิบตั ติ นตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ และกล่มุ ใหญ่ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ 1.2.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เศรษฐกจิ พอเพยี ง - การพดู อยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเล่น และการ - การปฏิบตั ติ นตามหลกั 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ ศาสนาท่ีนบั ถือ ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตผุ ล 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ - การใชว้ สั ดแุ ละสงิ่ ของ การตัดสินใจและแก้ปัญหา เฉพาะตนและเช่อื ว่า เครื่องใชอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ - การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การ ตนเองมีความสามารถ 1.3.4 การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ เปลยี่ นแปลง และความสมั พนั ธข์ องสง่ิ ตา่ งๆ - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ มีวินัย มสี ว่ นร่วม และ โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อย่างเหมาะสม ตามความสามารถของตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม - การจบั คู่ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง - การตดั สินใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ ของหอ้ งเรียน แกป้ ัญหา - การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิก 1.4.3 จนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ท่ดี ีของหอ้ งเรียน - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผา่ น - การใหค้ วามรว่ มมือใน สื่อ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ 1.4.4 เจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรียนรูแ้ ละการ 1.3.7 การยอมรับใน แสวงหาความรู้ ความเหมอื นและความ - การสารวจสง่ิ ตา่ งๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั แตกตา่ งระหว่างบคุ คล - การเล่นหรอื ทากจิ กรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น 369

 จดุ ประสงค์ 1. พฒั นากลา้ มเนอื้ มดั เลก็ และตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 2. ฝึกทกั ษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรยี บเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องต่างๆ 4. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูแนะนาเกม จบั คภู่ าพเหมือนบคุ คลในครอบครวั และสาธิตวิธีการเลน่ ใหเ้ ด็กดู พรอ้ มใหเ้ ดก็ มีสว่ นรว่ มดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเก่าท่เี คยเลน่ มาแลว้ และรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - ไมส่ ง่ เสียงดงั ขณะเลน่ - รูจ้ กั แบ่งปันกนั เลน่ - เลน่ อย่างทะนถุ นอม ไมท่ าลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นชว่ ยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรือเดือดรอ้ น - เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครง้ั ) ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ี และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. ครูแบ่งเด็กเป็นกลมุ่ ย่อย กลมุ่ ละ 4 คน ใหก้ ลมุ่ แรกเลน่ เกม จบั ค่ภู าพเหมือนบคุ คลในครอบครวั กลมุ่ ท่ีเหลอื เล่นเกมท่ีเคยเลน่ มาแลว้ เม่อื เลน่ เสรจ็ ใหห้ มนุ เวียนกนั เลน่ จนครบทกุ เกม เม่ือไดย้ ินสญั ญาณหยุดใหเ้ ก็บ เกมเขา้ ท่ใี หเ้ รียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงเกมท่ีตนเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาท่พี บ รวมถึงวิธีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 7. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ มดั เล็ก และตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 2. สงั เกตกระบวนการแกไ้ ขปัญหา 3. สงั เกตทกั ษะทางสติปัญญา เช่น การสงั เกต การเปรยี บเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเร่ืองต่างๆ 4. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย  ส่ือการเรียนรู้ 2. เกมเกา่ ท่เี คยเลน่ มาแลว้ 1. เกม จบั คู่ภาพเหมอื นบุคคลในครอบครวั 3. เครื่องเคาะจงั หวะ 370

 ภาคผนวก  เกม จบั คภู่ าพเหมือนบุคคลในครอบครวั พ่อ พ่อ แม่ แม่ พี่ชาย พี่ชาย นอ้ งสาว นอ้ งสาว 371

แผนการจดั ประสบการณ์ ระดบั อนุบาล 1 ภาคเรยี นท่ี 1 วนั ท่ี 2 หน้าที่ของคนในครอบครวั หน่วย สมาชิกในครอบครวั วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระท่ีควรเรยี นรู้ ครอบครวั ประกอบไปดว้ ยสมาชิกท่ีอย่รู ว่ มกนั ในบา้ น มีพอ่ แม่ ลกู ทกุ คนตา่ งมีหนา้ ท่ีรบั ผิดชอบ ในแต่ละ ครอบครวั มกี ารทากิจกรรมรว่ มกนั ในบา้ นและนอกบา้ น เพ่อื สานสมั พนั ธส์ รา้ งความรกั ความอบอนุ่ ใหแ้ ก่กนั สาระสาคญั สมาชิกในครอบครวั มีบทบาทหนา้ ท่ีต่างกนั เชน่ แม่มหี นา้ ท่ดี แู ลบา้ น เชน่ ทาอาหารซกั ผา้ พ่อมีหนา้ ท่ี หารายไดใ้ หก้ บั ครอบครวั และซ่อมแซมสว่ นต่างๆ ของบา้ น  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1,6.2 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.1,11.2 12.1,12.2 1.1.3 การรักษา 1.2.1 แสดงออกทาง ประสบการณส์ าคัญ 1.4.1 การใชภ้ าษา สุขภาพอนามยั อารมณ์ 1.3.1 การปฏบิ ตั ิกจิ วตั ร - การฟังนทิ าน ส่วนตน - การพดู สะทอ้ นความรูส้ กึ ประจาวัน - การพดู แสดงความคดิ เหน็ ความรูส้ กึ และ - การปฏบิ ตั ิตนตาม - การชว่ ยเหลือตนเอง ความตอ้ งการ ของตนเองและผอู้ ื่น-การเล่น - การพดู กบั ผอู้ นื่ เก่ียวกบั ประสบการณ์ สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั ในกิจวตั รประจาวนั ของตนเอง หรอื พดู เลา่ เร่ืองราวเก่ียวกบั ตนเอง บทบาทสมมติ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ ท่ดี ีในกจิ วตั ร 1.3.4 การปฏสิ ัมพันธ์ - การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ มีวนิ ัย มีส่วนร่วม และ ทา่ ทาง การเคลอื่ นไหว และศลิ ปะ ประจาวนั เฉพาะตนและเชอ่ื ว่า บทบาทสมาชกิ ของ ตนเองมีความสามารถ สงั คม 1.1.4 การรักษา - การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ - การใหค้ วามรว่ มมอื ความปลอดภัย - การปฏิบตั ิตนให้ ตามความสามารถของตนเอง ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ ปลอดภยั ในกิจวตั ร ประจาวนั 372

 จดุ ประสงค์ 1. บอกบทบาทหนา้ ท่ขี องตนเองและสมาชิกในครอบครวั ได้ 2. จาแนกส่ิงท่คี วรปฏิบตั ิและไมค่ วรปฏิบตั ิของสมาชิกในครอบครวั ได้  กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ครูเลา่ นิทานเรอ่ื ง คณุ แมน่ ่งั ซกั ผา้ ใหเ้ ด็กฟัง ขนั้ สอน 1. ครูและเด็กรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกบั เนอื้ หาในนิทาน โดยใชค้ าถาม  คณุ แม่ชอบทางานอะไรมากท่ีสดุ  เพราะอะไรคณุ แมจ่ ึงชอบซกั ผา้ 2. ครูใหเ้ ด็กออกมาเลา่ ประสบการณเ์ ก่ียวกบั หนา้ ท่ขี องบคุ คลในครอบครวั ของตนเองเช่นแมพ่ อ่ พ่ี เปรียบเทียบความแตกตา่ งของแตล่ ะครอบครวั 3. ครูและเดก็ รว่ มกนั เลน่ บทบาทสมมติ เป็นสมาชิกในครอบครวั ท่มี หี นา้ ท่ีต่างกนั ขนั้ สรปุ 1. ครูและเด็กรว่ มกนั สรุปเก่ียวกบั หนา้ ท่ขี องแต่ละคนในครอบครวั พรอ้ มกนั อีกครงั้ 2. ครูใหเ้ ดก็ ดภู าพในหนงั สือเสรมิ ฯ เรือ่ งราวเก่ียวกบั บุคคลและสถานท่ฯี อ.1 กิจกรรม หนา้ ทขี่ องคนใน ครอบครวั หนา้ 4 สงั เกตภาพ ขดี ลงใน  ภาพการปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดีในครอบครวั แลว้ ระบาย สภี าพ  ประเมินผล 2. สงั เกตการมีสว่ นรว่ มกบั ผอู้ ่ืน 1. สงั เกตการสนทนาและตอบคาถาม 3. สงั เกตผลงานการทากจิ กรรม หนา้ ทขี่ องคนในครอบครวั  ส่ือการเรยี นรู้ 1. นิทานเรือ่ ง คณุ แมน่ ง่ั ซกั ผา้ 2. หนงั สือเสรมิ ฯ เรอ่ื งราวเกี่ยวกบั บุคคลและสถานท่ฯี อ.1 กิจกรรม หนา้ ทขี่ องคนในครอบครวั หนา้ 4 373

 ภาคผนวก  นิทานเร่อื ง คณุ แมน่ ง่ั ซกั ผา้ นิทานเร่อื ง คณุ แมน่ ่ังซกั ผา้ (ไม่ทราบนามผแู้ ตง่ ) กาลครง้ั หนึ่งนานมาแลว้ มีคณุ แม่คนหน่ึงชอบซกั ผา้ มาก เพราะเธออยากเห็นทกุ คนใส่เสือ้ ผา้ ท่ี ขาวสะอาด คณุ แมจ่ งึ ซกั ทกุ อย่างท่ขี วางหนา้ โดยใหเ้ ด็กชว่ ยกนั หาสิง่ ท่ีสกปรกมาซกั คณุ แมซ่ กั ทกุ อย่าง แลว้ ติดราวโยงไปมาบนตน้ ไมเ้ ต็มไปหมด เทวดานอ้ ยผ่านมาเห็นดว้ ยความซนจึงทาใหฝ้ นตก คณุ แม่ ตอ้ งรีบเก็บเสือ้ ผา้ เป็นการใหญ่ เทวดานอ้ ยไดแ้ ต่น่งั หวั เราะ จนตกลงมาคณุ แม่จึงจบั เทวดาองคน์ ้อยท่ี มอมแมมซกั จนสะอาดแลว้ ตากไว้ เม่ือแหง้ แลว้ จึงใหเ้ ด็กๆ ช่วยกนั วาดหนา้ ตา เม่ือเทวดาองคน์ อ้ ยเห็น ตวั เองสะอาดก็ดีใจวันต่อมาฟ้ารอ้ งเหมือนฝนจะตกแต่ฝนไม่ตกลงมากลายเป็นเหล่าเทวดาตัวนอ้ ยๆ ท่สี กปรกอยากมาใหค้ ณุ แมซ่ กั ใหส้ ะอาด 374

กิจกรรมเคล่ือนไหวและจงั หวะ  สาระที่ควรเรยี นรู้ การการเคล่ือนไหวรา่ งกายตามคาส่งั  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 10.3 11.2 12.1 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.1 การใช้ 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี 1.3.4 การมปี ฏิสัมพันธ์ มี 1.4.1 การใช้ภาษา กลา้ มเนือ้ ใหญ่ - การฟังเพลง การรอ้ งเพลง - การเคลอื่ นไหว วินัย มีสว่ นร่วม และ - การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา และการแสดงปฏิกิรยิ า บทบาทสมาชกิ ของ เคล่ือนท่ี สงั คม 1.4.3จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ โตต้ อบเสียงดนตรี - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง - การแสดงความคดิ สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา 1.1.5 การ - การเคลือ่ นไหวตาม ตระหนกั รู้ ของหอ้ งเรยี น ท่าทาง การเคลอื่ นไหว เกย่ี วกับร่างกาย เสยี งเพลง/ดนตรี 1.4.4 เจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรียนรู้และการ ตนเอง 1.2.4 การแสดงออกทาง - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน แสวงหาความรู้ - การเคลือ่ นไหว อารมณ์ - การเคล่ือนไหวตาม การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ - การสารวจส่งิ ตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั โดยควบคมุ ตนเอง เสยี งเพลง/ดนตรี 1.3.7การยอมรับในความ ไปในทิศทาง ระดบั 1.2.5การมีอัตลกั ษณ์ เฉพาะตนและเช่อื ว่า เหมือนและความ และพนื้ ท่ี ตนเองมีความสามารถ - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล - การเลน่ หรอื ทากจิ กรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น ตามความสามารถของตนเอง  จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการใชก้ ลา้ มเนือ้ ใหญ่เลก็ และตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. พฒั นาทกั ษะการเคล่ือนไหวตามคาส่งั 3. เพ่อื ใหเ้ กิดความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์ 375

 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายตามจงั หวะการเคาะเครื่องเคาะจงั หวะโดยไมใ่ หช้ นกนั 2. ครูใหเ้ ดก็ อาสาสมคั รออกมานาเคลื่อนไหวรา่ งกายในท่าตา่ งๆ ใหเ้ พ่อื นทาท่าตาม 3. ครูเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ แลว้ พดู ออกคาส่งั ใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายตามคาส่งั ของครู ดงั นี้ - เม่อื ครูส่งั ว่า ลา้ งรถ ใหเ้ ดก็ ทาท่าลา้ งรถ - เม่อื ครูส่งั วา่ รดนา้ ตน้ ไม้ ใหเ้ ดก็ ทาท่ารดนา้ ตน้ ไม้ - เม่อื ครูส่งั วา่ ออกกาลงั กาย ใหเ้ ดก็ ทาทา่ ออกกาลงั กายในทา่ ต่างๆ 4. ครูใหเ้ ดก็ สลบั กนั ออกมาเป็นผอู้ อกคาส่งั ใหเ้ พ่อื นเคลื่อนไหวรา่ งกายตามคาส่งั  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ ใหญ่เลก็ และตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. สงั เกตการเคลื่อนไหวตามคาส่งั 3. สงั เกตความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์  ส่ือการเรียนรู้ 2. เคร่ืองเคาะจงั หวะ 3. เพลงบรรเลง 1. คาส่งั การเคล่อื นไหว 376

กิจกรรมสร้างสรรค์  สาระท่ีควรเรียนรู้ การประดษิ ฐก์ ารด์ วนั พ่อ  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2,6.3 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏบิ ตั กิ จิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา กล้ามเนือ้ เลก็ - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ - การประดษิ ฐส์ ง่ิ - การทากจิ กรรมศิลปะตา่ งๆ ประจาวนั ความตอ้ งการ ต่างๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ - การสรา้ งสรรคส์ งิ่ สวยงาม - การปฏบิ ตั ติ นตาม 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ 1.2.4 การแสดงออกทาง แนวทางหลกั ปรชั ญาของ - การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา อารมณ์ เศรษฐกิจพอเพยี ง ทา่ ทาง การเคล่อื นไหว และศิลปะ 1.4.4 เจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรียนรู้และการ - การทางานศิลปะ 1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ แสวงหาความรู้ - การสารวจสิ่งต่างๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ มวี นิ ัย มีสว่ นร่วม และ เฉพาะตนและเชอ่ื วา่ บทบาทสมาชกิ ของ ตนเองมคี วามสามารถ สงั คม - การปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง ตามความสามารถของตนเอง ของหอ้ งเรยี น - การใหค้ วามรว่ มมือใน การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ 1.3.7 การยอมรับใน ความเหมือนและความ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล - การเลน่ หรือทากิจกรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการกลา้ มเนือ้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจินตนาการ 3. สามารถบอกเลา่ เก่ียวกบั ผลงานของตนเองได้ 377

 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ น่งั เป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 4 คน แลว้ แจกอปุ กรณใ์ นการทากิจกรรมใหเ้ ด็กทกุ กลมุ่ 2. ครูใหแ้ นะนาและสาธิตวธิ ีการประดษิ ฐ์การด์ วนั พ่อใหเ้ ดก็ ฟัง โดยวาดภาพคณุ พ่อลงในกระดาษ A4 ระบาย สใี หส้ วยงาม แลว้ ตดั ภาพคณุ พ่อออกมาปะติดลงในแผ่นการด์ ท่คี รูตดั เตรยี มไวใ้ ห้ พรอ้ มกบั ระบายสตี กแตง่ การด์ ใหส้ วยงาม 3. ครูใหเ้ ด็กทากิจกรรมในหนงั สือเสรมิ ฯ ศิลปะสรา้ งสรรค์ อ.1 เลม่ 1 กจิ กรรม การ์ดวนั พอ่ หนา้ 37-38 4. เดก็ บอกเลา่ ผลงานใหเ้ พ่ือนฟัง และครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงาน 5. เดก็ ๆ ชว่ ยกนั เก็บวสั ดอุ ปุ กรณเ์ ขา้ ท่ี และทาความสะอาดโต๊ะกจิ กรรม  ประเมินผล 2. สงั เกตผลงาน 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ มดั เล็ก และตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 3. สงั เกตการบอกเลา่ เก่ียวกบั ผลงานของตนเอง  ส่ือการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เสรมิ ฯ ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ อ.1 เลม่ 1 กจิ กรรม การ์ดวนั พอ่ หนา้ 37-38 2. กระดาษA4 3. ดินสอ 4. กาว 5. กรรไกร 6. สเี ทียน 378

กิจกรรมเสรี  สาระท่ีควรเรยี นรู้ การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ เลน่ อิสระตามมมุ ประสบการณห์ รือศนู ยก์ ารเรียน ท่จี ดั ไวใ้ น หอ้ งเรยี น เช่น มมุ บล็อก มมุ วทิ ยาศาสตรห์ รือมมุ ธรรมชาติศึกษา มมุ คณิตศาสตร์ มมุ บา้ น มมุ หนงั สอื มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็นตน้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สนุ ทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา กลา้ มเนือ้ เลก็ - การเล่นบทบาทสมมติ ประจาวนั - การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา - การเล่นเครื่องเล่น 1.2.2 การเลน่ - การปฏิบตั ิตนตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ สมั ผสั และการสรา้ ง - การเล่นอสิ ระ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ สงิ่ ตา่ งๆ จากแทง่ ไม้ - การเล่นรายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย เศรษฐกิจพอเพียง - การพดู อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการเล่นและการ บล็อก และกล่มุ ใหญ่ 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ - การหยบิ จบั ส่ิง - การเล่นตามมมุ ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตผุ ล ต่างๆ การรอ้ ยวสั ดุ ประสบการณ/์ มมุ เลน่ ตา่ งๆ - การใชว้ สั ดแุ ละสงิ่ ของ การตดั สินใจและแกป้ ัญหา 1.2.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เครอ่ื งใชอ้ ย่างคมุ้ คา่ 1.1.5 การ - การเล่นกบั ส่อื ตา่ งๆ ท่เี ป็นทรงกลม ทรง ตระหนักรู้ - การปฏิบตั ติ นตามหลกั 1.3.4 การมีปฏิสมั พันธ์ ส่ีเหลยี่ มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย เกีย่ วกับร่างกาย ศาสนาท่นี บั ถือ มีวนิ ัย มีสว่ นร่วม และ - การตดั สินใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ ตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสังคม แกป้ ัญหา - การเคล่ือนไหว 1.2.4 การแสดงออกทาง - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง 1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ โดยควบคมุ ตนเอง อารมณ์ ของหอ้ งเรียน ไปในทศิ ทาง ระดบั - การเล่นบทบาทสมมติ - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผา่ น และพนื้ ท่ี - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน สือ่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ 1.4.4 เจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรียนรู้และการ เฉพาะตนและเช่ือว่า 1.3.7 การยอมรับใน แสวงหาความรู้ ตนเองมคี วามสามารถ ความเหมอื นและความ - การสารวจสิง่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั - การปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล ตามความสามารถของตนเอง - การเล่นหรอื ทากจิ กรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น 379

 จดุ ประสงค์ 2. มีทกั ษะทางดา้ นสงั คมเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้ 1. สง่ เสรมิ พฒั นาการ 4 ดา้ นผ่านการเลน่ 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั ทบทวนมมุ ประสบการณต์ ่างๆ ในหอ้ งเรยี น และใหค้ ิดวางแผนการเลน่ วา่ จะเลน่ อะไร ตามลาดบั ความสนใจของตนเอง 2. เด็กและครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - เด็กไม่สง่ เสียงดงั ขณะเลน่ - เม่อื เลน่ เสรจ็ เก็บของเลน่ เขา้ ท่ี - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ ของเลน่ อยา่ งทะนถุ นอม ไมท่ าลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นชว่ ยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรอื เดือดรอ้ น - เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครง้ั ) ใหเ้ ก็บของเลน่ ทนั ที และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. เดก็ ๆ เลือกเลน่ ตามท่ีคดิ ไวอ้ ย่างอิสระ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหยดุ ใหเ้ ก็บของเขา้ ท่ีให้ เรียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงส่ิงท่ีตนเองเล่น ความรูส้ กึ และปัญหาท่ีพบ รวมถึงวิธีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตพฒั นาการ 4 ดา้ น 2. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย 3. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื 2. เครื่องเคาะจงั หวะ  ส่ือการเรยี นรู้ 1. ของเลน่ ในมมุ ประสบการณต์ า่ งๆ 380

กิจกรรมกลางแจง้  สาระที่ควรเรยี นรู้ การรบั สง่ ลกู บอล เด็กไดฝ้ ึกทกั ษะ การคาดคะเนระยะทาง นา้ หนกั ในการขวา้ ง รบั สง่ ลกู บอล ไดอ้ ยา่ ง คลอ่ งแคลว่  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.1.1 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.2 การดูแลรักษา 1.4.1 การใช้ภาษา กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การเคลื่อนไหว - การเลน่ อสิ ระ ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม - การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา อย่กู บั ท่ี - การเล่นรายบคุ คล กล่มุ ยอ่ ย - การมีสว่ นรว่ มรบั ผิดชอบ - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ - การเคลื่อนไหว และกล่มุ ใหญ่ ดแู ลรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ มทงั้ ความตอ้ งการ เคล่ือนท่ี - การเลน่ นอกหอ้ งเรยี น ภายในและภายนอกหอ้ งเรยี น - การพดู อยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเล่น และการ 1.1.5 การ 1.2.3 คณุ ธรรม จริยธรรม - การใชว้ สั ดแุ ละสงิ่ ของ กระทาตา่ งๆ ตระหนักรู้ เก่ยี วกับร่างกาย - การปฏบิ ตั ติ นตามหลกั เครอ่ื งใชอ้ ย่างคมุ้ คา่ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล ตนเอง - การเคลื่อนไหว ศาสนาท่ีนบั ถือ 1.3.4 การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ การตัดสินใจและแกป้ ัญหา โดยควบคมุ ตนเอง 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ มวี นิ ัย มีสว่ นร่วม และ - การตดั สินใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ ไปในทิศทาง ระดบั เฉพาะตนและเชือ่ วา่ บทบาทสมาชกิ ของสังคม แกป้ ัญหา และพนื้ ท่ี ตนเองมีความสามารถ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง 1.4.3 จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ - การปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ ของหอ้ งเรยี น - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผ่าน ตามความสามารถของตนเอง - การปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชกิ สื่อ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน ท่ดี ขี องหอ้ งเรยี น 1.4.4 เจตคติทด่ี ีตอ่ การเรยี นรูแ้ ละการ - การใหค้ วามรว่ มมือใน แสวงหาความรู้ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ - การสารวจสง่ิ ต่างๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั 1.3.7 การยอมรับใน ความเหมอื นและความ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล - การเลน่ หรือทากิจกรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น 381

 จดุ ประสงค์ 2. พฒั นาทกั ษะการเลน่ ร่วมกบั ผอู้ ่ืน 1. พฒั นาทกั ษะการเคลอ่ื นไหวและการทรงตวั 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี วามอดทน เอือ้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย 4. การปลกู ฝังทศั นคติท่ดี ใี นการออกกาลงั กาย  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั อบอ่นุ รา่ งกายดว้ ยการออกกายบรหิ ารในการเคล่อื นไหวอย่กู บั ท่ี 2. ครูสาธิตการรบั สง่ ลกู บอลใหเ้ ดก็ ดู แลว้ ร่วมกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการรบั สง่ ลกู บอล เชน่ - รบั สง่ บอลอย่างระมดั ระวงั - เขา้ แถวรอคอยต่อจากเพ่ือน - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ รว่ มกนั ไมท่ ะเลาะกนั - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลอื ขอบใจเม่ือเพ่อื นชว่ ยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรอื เดือดรอ้ น - เม่อื ไดย้ ินเสียงนกหวดี ใหห้ ยดุ เลน่ ทนั ที เตรียมเขา้ แถวท่หี นา้ สนาม 3. ครูใหเ้ ดก็ คิดวางแผนการรบั สง่ ลกู บอล จากนนั้ ใหเ้ ลน่ รบั สง่ ลกู บอลตามท่คี ิดวางแผนไวอ้ ยา่ งอิสระ ปฏบิ ตั ิ ตามขอ้ ตกลง และเม่ือไดย้ ินเสียงนกหวีดใหห้ ยดุ เลน่ แลว้ มาเขา้ แถวท่ีหนา้ สนาม 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงสิ่งท่ีตนเองเลน่ ความรูส้ กึ และปัญหาท่พี บ รวมถึงวธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการเคล่ือนไหวและการทรงตวั 2. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่ืน 3. สงั เกตการแสดงความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั รอคอย 4. สงั เกตทศั นคติท่ดี ีในการออกกาลงั กาย  สื่อการเรียนรู้ 1. นกหวีด 2. ลกู บอล 382

กิจกรรมเกมการศึกษา  สาระท่ีควรเรียนรู้ การเลน่ เกม ลอตโตภาพกิจกรรมในครอบครวั  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา กลา้ มเนือ้ เลก็ - การหยบิ จบั สงิ่ - การเลน่ อิสระ ประจาวัน - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา ตา่ งๆ - การเลน่ รายบคุ คล กล่มุ ย่อย - การปฏิบตั ิตนตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และกลมุ่ ใหญ่ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ และความตอ้ งการ 1.2.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เศรษฐกจิ พอเพียง - การพดู อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการเลน่ - การปฏิบตั ิตนตามหลกั 1.3.2 การดแู ลรักษา และการกระทาต่างๆ ศาสนาท่นี บั ถือ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ - การใชว้ สั ดแุ ละสิง่ ของ การตัดสนิ ใจและแกป้ ัญหา เฉพาะตนและเช่ือวา่ เครื่องใชอ้ ยา่ งคมุ้ ค่า - การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การ ตนเองมคี วามสามารถ 1.3.4 การมีปฏิสัมพันธ์ เปลยี่ นแปลง และความสมั พนั ธข์ องสงิ่ ตา่ งๆ - การปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆ มวี นิ ัย มีส่วนร่วม และ โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อย่างเหมาะสม ตามความสามารถของตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม - การตอ่ ของชนิ้ เลก็ เติมในชนิ้ ใหญ่ให้ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง สมบรู ณ์ และการแยกชิน้ ส่วน ของหอ้ งเรยี น - การตดั สินใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ - การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชกิ ท่ดี ขี องหอ้ งเรยี น แกป้ ัญหา 1.4.3 จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผ่าน การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ส่ือ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน 1.3.7 การยอมรับใน 1.4.4 เจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรียนรู้ และการ ความเหมอื นและความ แสวงหาความรู้ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล - การสารวจสงิ่ ต่างๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั - การเล่นหรือทากิจกรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น 383

 จดุ ประสงค์ 1. พฒั นากลา้ มเนอื้ มดั เล็กและตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 2. ฝึกทกั ษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรียบเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเร่ืองตา่ งๆ 4. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูแนะนาเกม ลอตโตภาพกิจกรรมในครอบครวั และสาธิตวิธีการเล่นใหเ้ ด็กดู พรอ้ มใหเ้ ดก็ มีสว่ นรว่ มดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเก่าท่เี คยเลน่ มาแลว้ และรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เช่น - ไมส่ ง่ เสียงดงั ขณะเลน่ - รูจ้ กั แบ่งปันกนั เลน่ - เลน่ อย่างทะนถุ นอม ไม่ทาลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นช่วยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรือเดอื ดรอ้ น - เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครงั้ ) ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ี และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. ครูแบง่ เด็กเป็นกลมุ่ ย่อย กลมุ่ ละ 4 คน ใหก้ ลมุ่ แรกเล่นเกม ลอตโตภาพกจิ กรรมในครอบครวั กลมุ่ ท่ีเหลือเลน่ เกมท่ีเคยเลน่ มาแลว้ เม่ือเลน่ เสรจ็ ใหห้ มนุ เวยี นกนั เลน่ จนครบทกุ เกม เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณหยุดใหเ้ ก็บเกม เขา้ ท่ใี หเ้ รียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถึงเกมท่ีตนเองเล่น ความรูส้ ึก และปัญหาท่พี บ รวมถงึ วิธีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 2. สงั เกตกระบวนการแกไ้ ขปัญหา 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เล็กและตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 3. สงั เกตทกั ษะทางสติปัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรียบเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องตา่ งๆ 4. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  สื่อการเรยี นรู้ 2. เกมเกา่ ท่เี คยเลน่ มาแลว้ 1. เกม ลอตโตภาพกิจกรรมในครอบครวั 3. เคร่ืองเคาะจงั หวะ 384

 ภาคผนวก  เกม ลอตโตภาพกจิ กรรมในครอบครวั 385

แผนการจดั ประสบการณ์ ระดบั อนุบาล 1 ภาคเรยี นท่ี 1 วนั ท่ี 3 กิจกรรมร่วมกนั ในบา้ น หน่วย สมาชิกในครอบครวั วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระที่ควรเรยี นรู้ ครอบครวั ประกอบไปดว้ ยสมาชิกท่ีอย่รู ว่ มกนั ในบา้ น มีพ่อ แม่ ลกู ทกุ คนต่างมีหนา้ ท่รี บั ผดิ ชอบ ในแต่ละ ครอบครวั มกี ารทากิจกรรมร่วมกนั ในบา้ นและนอกบา้ น เพ่อื สานสมั พนั ธส์ รา้ งความรกั ความอบอ่นุ ใหแ้ กก่ นั สาระสาคญั กิจกรรมของครอบครวั ท่ที าร่วมกนั มที งั้ กิจกรรมท่ีทาในบา้ น เชน่ การทาอาหาร การปลกู ตน้ ไม้ การอ่าน หนงั สือดโู ทรทศั นร์ ว่ มกนั เป็นตน้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 12.1,12.2 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.2 1.1.3 การรักษา 1.2.1 แสดงออกทาง ประสบการณส์ าคญั 1.4.1 การใชภ้ าษา สุขภาพอนามัย อารมณ์ 1.3.1 การปฏิบตั กิ จิ วตั ร - การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา ส่วนตน - การพดู สะทอ้ นความรูส้ กึ ประจาวัน - การพดู กบั ผอู้ นื่ เกยี่ วกบั ประสบการณ์ - การปฏบิ ตั ติ นตาม - การชว่ ยเหลือตนเอง ของตนเอง หรอื พดู เลา่ เรือ่ งราวเกี่ยวกบั ตนเอง สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั ของตนเองและผอู้ ืน่ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล ท่ดี ใี นกจิ วตั ร ในกิจวตั รประจาวนั การตัดสินใจและแกป้ ัญหา ประจาวนั -การเล่นบทบาทสมมติ - การสงั เกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ การ 1.1.4 การรักษา 1.3.4 การปฏิสมั พนั ธ์ เปลยี่ นแปลง และความสมั พนั ธ์ ความปลอดภัย 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ มวี ินัย มีสว่ นร่วม และ ของสงิ่ ตา่ งๆ โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อยา่ ง - การปฏบิ ตั ติ น เฉพาะตนและเชอื่ วา่ บทบาทสมาชกิ ของ เหมาะสม ใหป้ ลอดภยั ใน ตนเองมีความสามารถ สงั คม กิจวตั รประจาวนั - การปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ - การใหค้ วามรว่ มมอื ตามความสามารถของตนเอง ในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ 386

 จดุ ประสงค์ 1. บอกกจิ กรรมท่ีทารว่ มกนั ในบา้ นได้ 2. สงั เกตรายละเอียดของภาพและบอกสง่ิ ท่แี ตกต่างกนั ได้  กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ครูและเด็กรว่ มกนั บรหิ ารสมองดว้ ยการใชม้ ือนวดกระดกู หลงั ใบหเู บาๆ อีกมอื วางท่ีตาแหนง่ สะดอื ตามอง ตรงไปขา้ งหนา้ ไกลๆ จนิ ตนาการวาดรูปวงกลมดว้ ยจมกู เปลย่ี นมือทาเช่นเดียวกนั และรว่ มกนั ดภู าพสถานท่ี ท่องเท่ยี วตา่ งๆ ขนั้ สอน 1. ครูนาบตั รภาพสถานท่ที ่องเท่ยี วตา่ งๆ มาใหเ้ ด็กดแู ละรว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกบั ภาพโดยใชค้ าถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี้  เด็กๆ และครอบครวั เคยไปเท่ยี วสถานท่ใี ดในภาพบา้ ง  เด็กๆ และครอบครวั อยากไปเท่ยี วท่ไี หนมากท่สี ดุ เพราะอะไร 2. ครูและเดก็ รว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกบั กจิ กรรมต่างๆ ท่ที ารว่ มกนั ในบา้ นและชว่ ยกนั บอกว่าเหตใุ ดจงึ ตอ้ งทา กิจกรรมเหลา่ นนั้ ในบา้ น 3. ครูหาอาสาสมคั รเด็กออกมาเล่าประสบการณ์การทากิจกรรมต่างๆ ในบา้ นรว่ มกบั บุคคลในครอบครวั และ บทบาทหน้าท่ีของเด็กในการทากิจกรรมแต่ละอย่าง ครูใหเ้ ด็กๆ บอกเล่าความรูส้ ึกขณะท่ีทากิจกรรม รว่ มกบั บคุ คลในครอบครวั ว่ามีความสขุ ชอบหรอื ไม่ชอบอย่างไร ขนั้ สรปุ 1. ครูและเด็กรว่ มกนั สรุปเกี่ยวกบั กจิ กรรมรว่ มกนั ในบา้ นพรอ้ มกนั อีกครงั้ 2. ครูใหเ้ ด็กทากิจกรรมในหนงั สอื เสรมิ ฯ เร่ืองราวเก่ียวกบั บคุ คลและสถานท่ฯี อ.1 กิจกรรม กิจกรรมร่วมกนั ในบา้ น หนา้ 5 สงั เกตภาพกิจกรรมท่ีทารว่ มกนั ในบา้ น 2 ภาพ หาจดุ ท่แี ตกตา่ งกนั 5 ตาแหนง่ ในภาพ  ประเมินผล 2. สงั เกตการมีสว่ นรว่ มกบั ผอู้ ่ืน 1. สงั เกตการสนทนาและตอบคาถาม 4. สงั เกตผลงานการทากจิ กรรม กจิ กรรมร่วมกนั ในบา้ น 3. สงั เกตความสนใจในการทากจิ กรรม  ส่ือการเรียนรู้ 1. บตั รภาพสถานท่ที ่องเท่ยี วต่างๆ 2. หนงั สอื เสรมิ ฯ เรอ่ื งราวเกี่ยวกบั บุคคลและสถานท่ฯี อ.1 กิจกรรม กิจกรรมร่วมกนั ในบา้ น หนา้ 5 387

 ภาคผนวก  บตั รภาพสถานท่ที อ่ งเท่ียว 388

กิจกรรมเคลื่อนไหวและจงั หวะ  สาระที่ควรเรยี นรู้ การเคล่ือนไหวร่างกายอย่างอิสระ  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 10.3 11.2 12.1 8.3 1.1.1 การใช้ 1.2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี ประสบการณส์ าคญั 1.4.1 การใช้ภาษา กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การฟังเพลง การรอ้ งเพลง 1.3.4 การมปี ฏิสัมพนั ธ์ - การฟังเสียงตา่ งๆ ในสงิ่ แวดลอ้ ม - การเคล่อื นไหว มีวินัย มีสว่ นร่วม และ และการแสดงปฏิกริ ยิ า บทบาทสมาชกิ ของ - การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา เคลอื่ นท่ี สังคม โตต้ อบเสียงดนตรี - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ 1.1.5 การ - การเคล่อื นไหวตาม - การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา ตระหนักรู้ ของหอ้ งเรียน เก่ยี วกับร่างกาย เสียงเพลง/ดนตรี ท่าทาง การเคลื่อนไหว ตนเอง 1.2.4 การแสดงออกทาง - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน 1.4.4 เจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรียนรู้และการ - การเคลอ่ื นไหว อารมณ์ แสวงหาความรู้ - การเคลอ่ื นไหวตาม การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ - การสารวจส่งิ ตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั โดยควบคมุ ตนเอง เสยี งเพลง/ดนตรี 1.3.7 การยอมรับใน ไปในทิศทาง ระดบั 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ ความเหมอื นและความ เฉพาะตนและเชือ่ ว่า แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล และพนื้ ท่ี ตนเองมีความสามารถ - การเลน่ หรือทากิจกรรม - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น ตามความสามารถของตนเอง  จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการใชก้ ลา้ มเนือ้ ใหญ่ เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. พฒั นาทกั ษะการเคลื่อนไหวอยา่ งอสิ ระ 3. เพ่ือใหเ้ กิดความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์ 389

 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ เคลอ่ื นไหวรา่ งกายตามจงั หวะการเคาะเคร่ืองเคาะจงั หวะโดยไมใ่ หช้ นกนั 2. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมานาเคลื่อนไหวรา่ งกายในท่าตา่ งๆ ใหเ้ พ่อื นทาทา่ ตาม 3. ครูเปิดเพลงบรรเลง ใหเ้ ด็กเคลอ่ื นไหวรา่ งกายอยา่ งอิสระประกอบจงั หวะเพลงบรรเลงเป็นท่าทางตา่ งๆ เช่น ท่าทางของคน สตั ว์ หรือสงิ่ ของ ไปรอบๆ หอ้ งเรยี น เม่อื เพลงหยุด ใหห้ ยุดเคล่ือนไหวในท่านนั้ ทนั ที 4. ครูเปิดเพลงบรรเลงอีกครงั้ ใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายอยา่ งอิสระประกอบเพลงบรรเลงจนจบเพลง  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ ใหญ่เลก็ และตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. สงั เกตการเคลื่อนไหวอย่างอสิ ระ 3. สงั เกตความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์  ส่ือการเรียนรู้ 2. เพลงบรรเลง 1. เคร่ืองเคาะจงั หวะ 390

กิจกรรมสรา้ งสรรค์  สาระที่ควรเรียนรู้ การระบายสภี าพครอบครวั  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี 1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพันธ์ 1.4.1 การใชภ้ าษา - การพดู กบั ผอู้ น่ื เก่ยี วกบั ประสบการณข์ อง กล้ามเนือ้ เลก็ - การทากิจกรรมศลิ ปะตา่ งๆ มีวนิ ัย มีสว่ นร่วม และ ตนเอง หรอื พดู เล่าเรื่องราวเกยี่ วกบั ตนเอง - การเขยี นภาพและ - การสรา้ งสรรคส์ ่ิงสวยงาม บทบาทสมาชกิ ของ สังคม 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ การเล่นกบั สี 1.2.4 การแสดงออกทาง - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง - การแสดงความคดิ สรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา อารมณ์ ทา่ ทาง การเคลอ่ื นไหว และศลิ ปะ 1.4.4 เจตคติทด่ี ตี อ่ การเรยี นรูแ้ ละการ - การทางานศิลปะ ของหอ้ งเรยี น แสวงหาความรู้ - การสารวจสิ่งต่างๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน เฉพาะตนและเชอื่ วา่ การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ ตนเองมคี วามสามารถ 1.3.7 การยอมรับใน - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ความเหมือนและความ ตามความสามารถของตนเอง แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล - การเล่นหรือทากจิ กรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น  จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการกลา้ มเนือ้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจินตนาการ 3. สามารถบอกเลา่ เกี่ยวกบั ผลงานของตนเองได้ 391

 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ น่งั เป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน แลว้ แจกอปุ กรณใ์ นการทากจิ กรรมใหเ้ ด็กทกุ กลมุ่ 2. ครูใหเ้ ด็กดภู าพครอบครวั ท่ีครูแจกให้ แลว้ ชว่ ยกนั บอกว่าในภาพครอบครวั มใี ครบา้ ง เช่น พ่อ แม่ ลกู ตา ยาย จากนนั้ ใหเ้ ด็กระบายสีภาพใหส้ วยงาม 3. เด็กบอกเลา่ ผลงานใหเ้ พ่อื นฟัง และครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงาน 4. เดก็ ๆ ช่วยกนั เกบ็ วสั ดอุ ปุ กรณเ์ ขา้ ท่ี และทาความสะอาดโต๊ะกิจกรรม  ประเมินผล 2. สงั เกตผลงาน 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 3. สงั เกตการบอกเลา่ เกี่ยวกบั ผลงานของตนเอง  สื่อการเรยี นรู้ 2. สีเทียน 1. ภาพครอบครวั 392

กิจกรรมเสรี  สาระท่ีควรเรยี นรู้ การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ เลน่ อสิ ระตามมมุ ประสบการณห์ รือศนู ยก์ ารเรียน ท่จี ดั ไวใ้ น หอ้ งเรยี น เช่น มมุ บล็อก มมุ วทิ ยาศาสตรห์ รือมมุ ธรรมชาติศึกษา มมุ คณิตศาสตร์ มมุ บา้ น มมุ หนงั สอื มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็นตน้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สนุ ทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา กลา้ มเนือ้ เลก็ - การเล่นบทบาทสมมติ ประจาวัน - การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา - การเล่นเครื่องเล่น 1.2.2 การเลน่ - การปฏิบตั ติ นตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ สมั ผสั และการสรา้ ง - การเล่นอสิ ระ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ สงิ่ ตา่ งๆ จากแทง่ ไม้ - การเล่นรายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย เศรษฐกิจพอเพียง - การพดู อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการเล่นและการ บล็อก และกล่มุ ใหญ่ 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ - การหยบิ จบั ส่ิง - การเล่นตามมมุ ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตผุ ล ต่างๆ การรอ้ ยวสั ดุ ประสบการณ/์ มมุ เลน่ ตา่ งๆ - การใชว้ สั ดแุ ละสงิ่ ของ การตดั สินใจและแก้ปัญหา 1.2.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เครอ่ื งใชอ้ ย่างคมุ้ คา่ 1.1.5 การ - การเล่นกบั ส่อื ตา่ งๆ ท่เี ป็นทรงกลม ทรง ตระหนักรู้ - การปฏิบตั ติ นตามหลกั 1.3.4 การมีปฏิสมั พันธ์ ส่ีเหลยี่ มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย เกีย่ วกับร่างกาย ศาสนาท่นี บั ถือ มีวนิ ัย มีสว่ นร่วม และ - การตดั สินใจและมสี ว่ นรว่ มในกระบวนการ ตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสังคม แกป้ ัญหา - การเคล่ือนไหว 1.2.4 การแสดงออกทาง - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง 1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ โดยควบคมุ ตนเอง อารมณ์ ของหอ้ งเรียน ไปในทศิ ทาง ระดบั - การเล่นบทบาทสมมติ - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผา่ น และพนื้ ท่ี - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน สือ่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ 1.4.4 เจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรียนรู้และการ เฉพาะตนและเช่ือว่า 1.3.7 การยอมรับใน แสวงหาความรู้ ตนเองมคี วามสามารถ ความเหมอื นและความ - การสารวจสิง่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั - การปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล ตามความสามารถของตนเอง - การเล่นหรอื ทากจิ กรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น 393

 จดุ ประสงค์ 2. มีทกั ษะทางดา้ นสงั คมเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้ 1. สง่ เสรมิ พฒั นาการ 4 ดา้ นผา่ นการเลน่ 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั ทบทวนมมุ ประสบการณต์ ่างๆ ในหอ้ งเรยี น และใหค้ ดิ วางแผนการเลน่ ว่าจะเลน่ อะไร ตามลาดบั ความสนใจของตนเอง 2. เดก็ และครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - เด็กไมส่ ง่ เสียงดงั ขณะเลน่ - เม่อื เลน่ เสรจ็ เก็บของเลน่ เขา้ ท่ี - รูจ้ กั แบ่งปันกนั เลน่ - เลน่ ของเลน่ อยา่ งทะนุถนอม ไมท่ าลายใหเ้ สยี หาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นช่วยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจบ็ หรือเดือดรอ้ น - เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครง้ั ) ใหเ้ ก็บของเลน่ ทนั ที และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. เด็กๆ เลือกเลน่ ตามท่ีคดิ ไวอ้ ย่างอสิ ระ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหยุดใหเ้ ก็บของเขา้ ท่ีให้ เรียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงส่ิงท่ีตนเองเลน่ ความรูส้ กึ และปัญหาท่ีพบ รวมถึงวธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 2. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 1. สงั เกตพฒั นาการ 4 ดา้ น 3. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื 2. เคร่ืองเคาะจงั หวะ  สื่อการเรียนรู้ 1. ของเลน่ ในมมุ ประสบการณต์ า่ งๆ 394

กิจกรรมกลางแจ้ง  สาระที่ควรเรียนรู้ การเลน่ เครือ่ งเลน่ สนาม เด็กไดม้ โี อกาสออกไปนอกหอ้ งเรียนเพ่อื ออกกาลงั เคล่ือนไหวรา่ งกายและ แสดงออกอย่างอิสระในการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนาม โดยยดึ ความสนใจและความสามารถของเดก็ เป็นหลกั  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.1 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.2 การดแู ลรักษา 1.4.1 การใช้ภาษา กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา - การเคลอ่ื นไหว - การเลน่ อสิ ระ ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ อย่กู บั ท่ี ความตอ้ งการ - การเลน่ รายบคุ คล กล่มุ ยอ่ ย - การมีสว่ นรว่ มรบั ผดิ ชอบ - การพดู อยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเลน่ และการ - การเคลื่อนไหว กระทาตา่ งๆ และกลมุ่ ใหญ่ ดแู ลรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ มทง้ั 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล เคล่อื นท่ี การตดั สินใจและแกป้ ัญหา - การเล่นนอกหอ้ งเรยี น ภายในและภายนอกหอ้ งเรยี น - การตดั สนิ ใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ - การเลน่ เคร่ืองเล่น แกป้ ัญหา สนามอยา่ งอสิ ระ 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม - การใชว้ สั ดแุ ละสิ่งของ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์ 1.1.4 การรักษา - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผา่ น ความปลอดภยั - การปฏิบตั ิตนตามหลกั เครือ่ งใชอ้ ย่างคมุ้ คา่ สอ่ื วสั ดุ ของเล่น และชิน้ งาน - การเลน่ เครอ่ื งเลน่ 1.4.4 เจตคติทด่ี ตี อ่ การเรียนรู้และการ ศาสนาท่นี บั ถือ 1.3.4 การมปี ฏิสัมพันธ์ แสวงหาความรู้ อยา่ งปลอดภยั - การสารวจสิ่งต่างๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั 1.1.5 การ 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ มวี ินัย มีส่วนร่วม และ ตระหนกั รู้ เฉพาะตนและเช่ือวา่ บทบาทสมาชกิ ของสังคม เกี่ยวกับร่างกาย ตนเองมีความสามารถ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง ตนเอง - การเคลอ่ื นไหว - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ของหอ้ งเรียน โดยควบคมุ ตนเอง ตามความสามารถของตนเอง - การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิก ไปในทศิ ทาง ระดบั ท่ดี ีของหอ้ งเรยี น และพนื้ ท่ี - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน การปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ 1.3.7 การยอมรับใน ความเหมอื นและความ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล - การเล่นหรือทากจิ กรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น 395

 จดุ ประสงค์ 2. พฒั นาทกั ษะการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่ืน 1. พฒั นาทกั ษะการเคลือ่ นไหวและการทรงตวั 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 4. การปลกู ฝังทศั นคติท่ดี ใี นการออกกาลงั กาย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั อบอนุ่ รา่ งกายดว้ ยการออกกายบรหิ ารในการเคลอื่ นไหวอย่กู บั ท่ี 2. ครูแนะนาการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนามอย่างถกู วธิ ี และปลอดภยั ใหเ้ ด็กฟังพรอ้ มสาธิตใหด้ ู แลว้ รว่ มกนั สรา้ ง ขอ้ ตกลงในการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนาม เชน่ - เลน่ อยา่ งถกู วิธี ไมเ่ ลน่ โลดโผน - เขา้ แถวรอคอยเลน่ ตอ่ จากเพ่อื น - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ เคร่ืองเลน่ อย่างทะนถุ นอม ไมท่ าลายใหเ้ สยี หาย - เลน่ รว่ มกนั ไมท่ ะเลาะกนั - ไมเ่ ดด็ ใบไม้ ดอกไมม้ าเลน่ - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นชว่ ยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรอื เดือดรอ้ น - เม่อื ไดย้ ินเสยี งนกหวดี ใหห้ ยดุ เลน่ ทนั ที เตรียมเขา้ แถวท่หี นา้ สนามเด็กเลน่ 3. ครูใหเ้ ด็กคิดวางแผนการเล่นเครอื่ งเลน่ สนามตามลาดบั ความสนใจ จากนนั้ ใหเ้ ลน่ ตามท่ีคดิ วางแผนไว้ อยา่ งอิสระ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ ินเสียงนกหวีดใหห้ ยุดเลน่ แลว้ มาเขา้ แถวท่หี นา้ สนามเดก็ เลน่ 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถึงสิ่งท่ีตนเองเลน่ ความรูส้ กึ และปัญหาท่ีพบ รวมถงึ วธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการเคล่ือนไหวและการทรงตวั 2. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่ืน 3. สงั เกตการแสดงความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั รอคอย 4. สงั เกตทศั นคติท่ีดใี นการออกกาลงั กาย  ส่ือการเรียนรู้ 1. นกหวีด 2. เครื่องเลน่ สนาม 396

กิจกรรมเกมการศึกษา  สาระท่ีควรเรียนรู้ การเลน่ เกม ภาพตดั ต่อครอบครวั สขุ สนั ต์  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา กล้ามเนือ้ เลก็ - การหยบิ จบั สง่ิ - การเล่นอิสระ ประจาวนั - การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา ตา่ งๆ - การเล่นรายบคุ คล กล่มุ ย่อย - การปฏิบตั ติ นตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ และกลมุ่ ใหญ่ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ 1.2.3 คณุ ธรรม จริยธรรม เศรษฐกจิ พอเพยี ง - การพดู อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการเลน่ และการ - การปฏบิ ตั ติ นตามหลกั 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ ศาสนาท่นี บั ถือ ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตผุ ล 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ - การใชว้ สั ดแุ ละสิง่ ของ การตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา เฉพาะตนและเชอื่ วา่ เครื่องใชอ้ ย่างคมุ้ ค่า - การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การ ตนเองมคี วามสามารถ 1.3.4 การมปี ฏิสมั พันธ์ เปลยี่ นแปลง และความสมั พนั ธข์ องส่งิ ตา่ งๆ - การปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ มวี นิ ัย มสี ว่ นร่วม และ โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อยา่ งเหมาะสม ตามความสามารถของตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม - การตอ่ ของชนิ้ เลก็ เติมในชนิ้ ใหญ่ให้ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง สมบรู ณ์ และการแยกชิน้ ส่วน ของหอ้ งเรยี น 1.4.3 จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ - การปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิก - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ท่ดี ขี องหอ้ งเรียน ผ่านสื่อ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน - การใหค้ วามรว่ มมือใน 1.4.4 เจตคติทด่ี ตี อ่ การเรยี นรู้ และการ การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ แสวงหาความรู้ 1.3.7 การยอมรับใน - การสารวจส่ิงตา่ งๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั ความเหมือนและความ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล - การเลน่ หรอื ทากจิ กรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น 397

 จดุ ประสงค์ 1. พฒั นากลา้ มเนอื้ มดั เลก็ และตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 2. ฝึกทกั ษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรยี บเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องต่างๆ 4. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูแนะนาเกม ภาพตดั ต่อครอบครวั สขุ สนั ต์ และสาธิตวธิ ีการเลน่ ใหเ้ ดก็ ดู พรอ้ มใหเ้ ด็กมีสว่ นรว่ มดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเก่าท่เี คยเลน่ มาแลว้ และรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เช่น - ไม่สง่ เสียงดงั ขณะเลน่ - รูจ้ กั แบ่งปันกนั เลน่ - เลน่ อยา่ งทะนถุ นอม ไมท่ าลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นช่วยเหลอื และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจบ็ หรอื เดอื ดรอ้ น - เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครง้ั ) ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ี และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. ครูแบ่งเด็กเป็นกลมุ่ ย่อย กลมุ่ ละ 4 คน ใหก้ ลมุ่ แรกเลน่ เกม ภาพตดั ต่อครอบครวั สขุ สนั ต์ กลมุ่ ท่ีเหลือเล่นเกม ท่เี คยเล่นมาแลว้ เม่ือเลน่ เสรจ็ ใหห้ มนุ เวียนกนั เลน่ จนครบทกุ เกม เม่ือไดย้ ินสญั ญาณหยดุ ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ี ใหเ้ รยี บรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงเกมท่ีตนเองเลน่ ความรูส้ ึก และปัญหาท่พี บ รวมถึงวิธีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 2. สงั เกตกระบวนการแกไ้ ขปัญหา 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เล็กและตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 3. สงั เกตทกั ษะทางสติปัญญา เช่น การสงั เกต การเปรียบเทยี บ ความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องตา่ งๆ 4. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย  สื่อการเรียนรู้ 2. เกมเกา่ ท่เี คยเลน่ มาแลว้ 1. เกม ภาพตดั ตอ่ ครอบครวั สขุ สนั ต์ 3. เครอ่ื งเคาะจงั หวะ 398

 ภาคผนวก  เกม ภาพตดั ตอ่ ครอบครวั สขุ สนั ต์ 399

แผนการจดั ประสบการณ์ ระดบั อนุบาล 1ภาคเรยี นท่ี 1 วนั ท่ี 4 กิจกรรมร่วมกนั นอกบ้าน หน่วย สมาชิกในครอบครวั วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระที่ควรเรยี นรู้ ครอบครวั ประกอบไปดว้ ยสมาชิกท่อี ย่รู ว่ มกนั ในบา้ น มีพ่อ แม่ ลกู ทกุ คนต่างมหี นา้ ท่รี บั ผดิ ชอบ ในแตล่ ะ ครอบครวั มกี ารทากจิ กรรมรว่ มกนั ในบา้ นและนอกบา้ น เพ่อื สานสมั พนั ธส์ รา้ งความรกั ความอบอ่นุ ใหแ้ กก่ นั สาระสาคญั กจิ กรรมท่ที ารว่ มกนั นอกบา้ นมหี ลายอยา่ งตามความชอบและความสนใจของสมาชิกแตล่ ะครอบครวั เชน่ การไปเท่ยี วทะเลเท่ยี วสวนสตั วไ์ ปซือ้ ของไปรบั ประทานอาหารไปทาบญุ ท่วี ดั เป็นตน้ เพ่อื สรา้ ง ความรกั ความอบอ่นุ ภายในครอบครวั  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.2 12.1,12.2 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.3 การรักษา 1.2.1 แสดงออกทาง 1.3.1 การปฏิบตั กิ จิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา สุขภาพอนามัย - การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา ส่วนตน อารมณ์ ประจาวัน - การพดู กบั ผอู้ น่ื เกี่ยวกบั ประสบการณ์ - การปฏิบตั ติ นตาม ของตนเอง หรือพดู เลา่ เรื่องราวเก่ียวกบั สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั - การพดู สะทอ้ นความรูส้ กึ - การชว่ ยเหลอื ตนเอง ตนเอง ท่ดี ีในกจิ วตั ร 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตผุ ล ของตนเองและผอู้ ืน่ ในกิจวตั รประจาวนั การตัดสินใจและแก้ปัญหา ประจาวนั - การสงั เกตสง่ิ ต่างๆ และสถานท่จี าก 1.1.4 การรักษา 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ 1.3.4 การปฏิสัมพนั ธ์ มมุ มองท่ตี า่ งกนั ความปลอดภยั - การจบั คู่ การเปรยี บเทยี บ และการ - การปฏบิ ตั ิตนให้ เฉพาะตนและเชอื่ วา่ มวี ินัย มสี ว่ นร่วม และ เรยี งลาดบั สิ่งตา่ งๆ ปลอดภยั ในกิจวตั ร ประจาวนั ตนเองมคี วามสามารถ บทบาทสมาชกิ ของ - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ สังคม ตามความสามารถของตนเอง - การใหค้ วามรว่ มมือ ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ 400