Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1 แผน อ.1 - 1-6 ภาคเรียนที่ 1 2566

1 แผน อ.1 - 1-6 ภาคเรียนที่ 1 2566

Published by juthamanee.suksawai, 2023-06-17 15:55:19

Description: 1 แผน อ.1 - 1-6 ภาคเรียนที่ 1 2566

Search

Read the Text Version

 สื่อการเรยี นรู้ 1. นทิ านเกี่ยวกบั การรกั ษาความสะอาดของรา่ งกาย 2. ยาสีฟัน แปรงสีฟัน สบู่ ท่ีตดั เล็บ 3. หนงั สือเสรมิ ฯ เร่ืองราวเก่ียวกบั ตวั เด็ก อ.1 กิจกรรม ดแู ลรา่ งกายใหส้ ะอาด หนา้ 6 51

กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจงั หวะ  สาระท่ีควรเรียนรู้ การเคล่ือนไหวร่างกายตามขอ้ ตกลง  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มฐ.1 มฐ.2 มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.10 มฐ.11 1.2, 1.3 2.1 10.3 11.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.12 12.1 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.1 การใช้ 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี 1.3.4 การมีปฏิสมั พนั ธ์ 1.4.1 การใชภ้ าษา กลา้ มเนือ้ ใหญ่ - การฟังเสียงตา่ งๆ ในสิ่งแวดลอ้ ม - การเคล่ือนไหวอยู่ - การเล่นเครอื่ งดนตรี มวี ินัย มีสว่ นร่วม และ บทบาทสมาชกิ ของ - การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา กบั ท่ี ประกอบจงั หวะ สังคม 1.2.4 การแสดงออกทาง - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ - การเคลือ่ นไหว อารมณ์ - การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา - การเล่นบทบาทสมมติ ของหอ้ งเรียน เคล่ือนท่ี ทา่ ทาง การเคล่อื นไหว 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ - การใหค้ วามรว่ มมือใน 1.4.4 เจตคติทดี่ ตี อ่ การเรียนรู้และการ 1.1.5 การ เฉพาะตนและเชือ่ ว่า การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ แสวงหาความรู้ ตระหนักรู้ - การสารวจสิง่ ตา่ งๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั เกี่ยวกับร่างกาย ตนเองมคี วามสามารถ 1.3.7 การยอมรับใน ตนเอง - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ ความเหมือนและความ - การเคล่ือนไหว ตามความสามารถของตนเอง แตกตา่ งระหว่างบคุ คล โดยควบคมุ ตนเอง - การเล่นหรือทากิจกรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น ไปในทศิ ทาง ระดบั และพนื้ ท่ี  จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการใชก้ ลา้ มเนือ้ ใหญ่ เล็ก และตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. พฒั นาทกั ษะการเคลื่อนไหวตามขอ้ ตกลง 3. เพ่ือใหเ้ กิดความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์ 52

 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวร่างกายโดยไม่ใหช้ นกนั ตามจงั หวะท่ีครูกาหนด 2. ครูใหเ้ ดก็ อาสาสมคั รออกมานาเคล่ือนไหวรา่ งกายในท่าตา่ งๆ ใหเ้ พ่อื นทาท่าตาม 3. ครูสรา้ งขอ้ ตกลงในการเคลอ่ื นไหววา่ ถา้ ครูหยบิ ของเลน่ ชิน้ ใดขนึ้ มาใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวร่างกายตาม ขอ้ ตกลง ดงั นี้ - ถา้ ครูหยิบ ไมบ้ ลอ็ ก ใหเ้ ด็ก เดนิ ชา้ ๆ ไปรอบๆ หอ้ งเรยี น - ถา้ ครูหยิบ ลกู บอล ใหเ้ ดก็ เดินเร็วๆ ไปรอบๆ หอ้ งเรยี น - ถา้ ครูหยบิ ตกุ๊ ตา ใหเ้ ด็ก ทาท่าเหมือนต๊กุ ตาไขลานเดนื ไปรอบๆ หอ้ งเรียน จากนนั้ ครูเปิดเพลงบรรเลง แลว้ หยิบสงิ่ ของต่างๆ ชขู นึ้ ใหเ้ ด็กดู แลว้ ใหเ้ ดก็ เคลอื่ นไหวรา่ งกายตาม ขอ้ ตกลง  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ ใหญ่ เลก็ และตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. สงั เกตการเคลื่อนไหวตามขอ้ ตกลง 3. สงั เกตความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์  ส่ือการเรียนรู้ 2. เครื่องเคาะจงั หวะ 1. ไมบ้ ล็อก ลกู บอล ต๊กุ ตา 53

กิจกรรมสร้างสรรค์  สาระที่ควรเรยี นรู้ การพมิ พภ์ าพดว้ ยนวิ้ มือ  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2,6.3 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏบิ ตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา - การฟังเสียงต่างๆ ในสง่ิ แวดลอ้ ม กลา้ มเนือ้ เลก็ - การทากจิ กรรมศิลปะตา่ งๆ ประจาวัน - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา - การเขียนภาพและ - การสรา้ งสรรคส์ งิ่ สวยงาม - การปฏบิ ตั ิตนตาม 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ การเลน่ กบั สี 1.2.4 การแสดงออกทาง แนวทางหลกั ปรชั ญาของ - การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา อารมณ์ เศรษฐกจิ พอเพียง ท่าทาง การเคลื่อนไหว และศลิ ปะ 1.4.4 เจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรยี นรู้และการ - การทางานศลิ ปะ 1.3.4 การมปี ฏิสัมพนั ธ์ แสวงหาความรู้ - การสารวจส่งิ ตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ มวี นิ ัย มีสว่ นร่วม และ เฉพาะตนและเชื่อว่า บทบาทสมาชกิ ของ ตนเองมคี วามสามารถ สงั คม - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง ตามความสามารถของตนเอง ของหอ้ งเรียน - การใหค้ วามรว่ มมือใน การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ 1.3.7 การยอมรับใน ความเหมอื นและความ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล - การเลน่ หรือทากจิ กรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น  จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการกลา้ มเนือ้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจินตนาการ 3. สามารถบอกเลา่ เกี่ยวกบั ผลงานของตนเองได้ 54

 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ น่งั เป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน แลว้ แจกอปุ กรณใ์ นการทากจิ กรรมใหเ้ ด็กทกุ กลมุ่ 2. ครูแนะนาและสาธิตวธิ ีการพิมพภ์ าพดว้ ยนวิ้ มือเป็นภาพฟองสบใู่ หเ้ ด็กฟัง โดยใชน้ วิ้ มือจมุ่ สนี า้ ท่ชี อบ พมิ พล์ งบนภาพโครงรา่ งมอื ท่คี รูแจกให้ ตกแต่งภาพใหเ้ ป็นฟองสบู่ 3. ครูใหเ้ ด็กลงมอื พิมพภ์ าพดว้ ยนวิ้ มือตกแต่งเป็นฟองสบู่ ตามขนั้ ตอน โดยครูคอยช่วยเหลือเม่ือเด็กตอ้ งการ 4. ครูใหเ้ ดก็ ทากจิ กรรมในหนงั สอื เสรมิ ฯ ศิลปะสรา้ งสรรค์ อ.1 เลม่ 1 กจิ กรรม ลา้ งมือบ่อยๆ หนา้ 20 5. เด็กบอกเลา่ ผลงานใหเ้ พ่ือนฟัง และครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงาน 6. เดก็ ๆ ช่วยกนั เก็บวสั ดอุ ปุ กรณเ์ ขา้ ท่ี และทาความสะอาดโต๊ะกิจกรรม  ประเมินผล 2. สงั เกตผลงาน 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 3. สงั เกตการบอกเลา่ เกี่ยวกบั ผลงานของตนเอง  ส่ือการเรียนรู้ 1. หนงั สือเสรมิ ฯ ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ อ.1 เลม่ 1 กจิ กรรม ลา้ งมอื บ่อยๆ หนา้ 20 2. ภาพโครงรา่ งมือ 3. สีนา้ พ่กู นั จานสี แกว้ นา้ 4. นวิ้ มือเด็ก 55

กิจกรรมเสรี  สาระที่ควรเรยี นรู้ การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ด็กเลน่ อสิ ระตามมมุ ประสบการณห์ รือศนู ยก์ ารเรียน ท่จี ดั ไวใ้ น หอ้ งเรียน เชน่ มมุ บลอ็ ก มมุ วิทยาศาสตรห์ รือมมุ ธรรมชาติศกึ ษา มมุ คณิตศาสตร์ มมุ บา้ น มมุ หนงั สือ มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็นตน้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สนุ ทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏบิ ตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ บทบาทสมมติ ประจาวัน - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา - การเลน่ เครอื่ งเล่น 1.2.2 การเลน่ - การปฏิบตั ิตนตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ สมั ผสั และการสรา้ ง - การเลน่ อิสระ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ สงิ่ ต่างๆ จากแท่งไม้ - การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ยอ่ ย เศรษฐกิจพอเพียง - การพดู อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการเลน่ และการ บล็อก และกล่มุ ใหญ่ 1.3.2 การดูแลรักษา กระทาตา่ งๆ - การหยิบจบั สง่ิ - การเลน่ ตามมมุ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล ต่างๆ การรอ้ ยวสั ดุ ประสบการณ/์ มมุ เลน่ ตา่ งๆ - การใชว้ สั ดแุ ละสิง่ ของ การตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา 1.2.3 คณุ ธรรม จรยิ ธรรม เคร่ืองใชอ้ ย่างคมุ้ ค่า 1.1.5 การ - การเลน่ กบั ส่อื ตา่ งๆ ท่เี ป็นทรงกลม ทรง ตระหนกั รู้ - การปฏิบตั ติ นตามหลกั 1.3.4 การมปี ฏิสัมพันธ์ สเี่ หลีย่ มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย เกี่ยวกบั ร่างกาย ศาสนาท่นี บั ถือ มวี ินัย มสี ่วนร่วม และ - การตดั สินใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ ตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม แกป้ ัญหา - การเคลอื่ นไหว 1.2.4 การแสดงออกทาง - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง 1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ โดยควบคมุ ตนเอง อารมณ์ ของหอ้ งเรยี น ไปในทิศทาง ระดบั - การเลน่ บทบาทสมมติ - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผ่าน และพนื้ ท่ี - การใหค้ วามรว่ มมือใน สื่อ วสั ดุ ของเล่น และชิน้ งาน 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ 1.4.4 เจตคติทด่ี ีตอ่ การเรยี นรู้และการ เฉพาะตนและเชอื่ วา่ 1.3.7 การยอมรับใน แสวงหาความรู้ ตนเองมีความสามารถ ความเหมือนและความ - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั - การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล ตามความสามารถของตนเอง - การเล่นหรอื ทากจิ กรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น 56

 จดุ ประสงค์ 2. มีทกั ษะทางดา้ นสงั คมเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้ 1. สง่ เสรมิ พฒั นาการ 4 ดา้ นผา่ นการเลน่ 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั ทบทวนมมุ ประสบการณต์ า่ งๆ ในหอ้ งเรยี น และใหค้ ิดวางแผนการเลน่ วา่ จะเลน่ อะไร ตามลาดบั ความสนใจของตนเอง 2. เด็กและครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - เด็กไม่สง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - เม่อื เลน่ เสรจ็ เก็บของเลน่ เขา้ ท่ี - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ ของเลน่ อย่างทะนุถนอม ไมท่ าลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นช่วยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรอื เดอื ดรอ้ น - เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครงั้ ) ใหเ้ กบ็ ของเลน่ ทนั ที และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. เดก็ ๆ เลือกเลน่ ตามท่ีคิดไวอ้ ยา่ งอิสระ ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยุดใหเ้ ก็บของเขา้ ท่ีให้ เรียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงส่ิงท่ีตนเองเล่น ความรูส้ กึ และปัญหาท่ีพบ รวมถึงวธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตพฒั นาการ 4 ดา้ น 2. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 3. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื 2. เคร่ืองเคาะจงั หวะ  ส่ือการเรียนรู้ 1. ของเลน่ ในมมุ ประสบการณต์ ่างๆ 57

กิจกรรมกลางแจ้ง  สาระที่ควรเรยี นรู้ การเลน่ การละเลน่ ไทย “รีรีขา้ วสาร” เดก็ ไดม้ ีโอกาสออกไปนอกหอ้ งเรยี นเพ่อื เลน่ การละเลน่ ไทย เด็กไดร้ ูจ้ กั การเลน่ ท่มี ีกติกา และไดส้ บื สานวฒั นธรรมการละเลน่ ของเดก็ ไทย  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.1.1 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.3 การปฏบิ ตั ติ าม 1.4.1 การใชภ้ าษา กลา้ มเนือ้ ใหญ่ - การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา - การเคลอื่ นไหว - การเล่นอิสระ วฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ และ - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ อย่กู บั ท่ี ความตอ้ งการ - การเล่นรายบคุ คล กลมุ่ ย่อย ความเป็ นไทย - การพดู อยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเลน่ และการ - การเคล่ือนไหว - การละเล่นพนื้ บา้ น กระทาตา่ งๆ และกลมุ่ ใหญ่ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล เคลือ่ นท่ี ของไทย การตัดสนิ ใจและแกป้ ัญหา - การเลน่ นอกหอ้ งเรยี น - การตดั สนิ ใจและมสี ่วนรว่ มในกระบวนการ - การเลน่ เครอื่ งเลน่ 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม 1.3.4 การมปี ฏิสมั พันธ์ แกป้ ัญหา สนามอยา่ งอสิ ระ มวี นิ ัย มีส่วนร่วม และ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์ 1.1.4 การรักษา - การปฏบิ ตั ติ นตามหลกั บทบาทสมาชกิ ของสงั คม - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผ่าน ความปลอดภัย - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง สื่อ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน - การปฏิบตั ิตนให้ ศาสนาท่ีนบั ถือ ของหอ้ งเรียน ปลอดภยั ในกิจวตั ร 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ ประจาวนั เฉพาะตนและเชื่อว่า 1.1.5 การ ตนเองมีความสามารถ - การใหค้ วามรว่ มมือใน ตระหนกั รู้ เกย่ี วกบั ร่างกาย - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ การปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ งๆ ตนเอง - การเคลือ่ นไหว ตามความสามารถของตนเอง 1.3.7 การยอมรับใน ความเหมือนและความ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล - การเล่นหรอื ทากิจกรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น โดยควบคมุ ตนเอง ไปในทศิ ทาง ระดบั และพนื้ ท่ี 58

 จดุ ประสงค์ 2. พฒั นาทกั ษะการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่ืน 1. พฒั นาทกั ษะการเคลือ่ นไหวและการทรงตวั 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 4. การปลกู ฝังทศั นคติท่ดี ใี นการออกกาลงั กาย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั อบอนุ่ ร่างกายดว้ ยการออกกายบรหิ ารในการเคลื่อนไหวอย่กู บั ท่ี 2. ครูสาธิตวธิ ีการเลน่ และกตกิ าการเลน่ การละเลน่ ไทย “รีรขี า้ วสาร” ใหเ้ ด็กดู และสรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ การละเลน่ ไทย “รรี ีขา้ วสาร” เช่น - เลน่ ตามกติกา - เลน่ รว่ มกนั ไมท่ ะเลาะกนั - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูชว่ ยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นช่วยเหลอื และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรอื เดือดรอ้ น - เม่อื ไดย้ นิ เสยี งนกหวีดใหห้ ยดุ เลน่ ทนั ที เตรียมเขา้ แถวท่ีสนาม 3. ครูใหเ้ ดก็ เลน่ การละเลน่ รรี ขี า้ วสารตามกติกาอยา่ งอิสระ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ นิ เสยี งนกหวดี ให้ หยดุ เลน่ แลว้ มาเขา้ แถวท่ีนาม 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถงึ การละเล่นรรี ขี า้ วสาร ท่ีตนเองเล่น ความรูส้ กึ และปัญหาท่พี บรวมถึง วธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการเคล่ือนไหวและการทรงตวั 2. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่ืน 3. สงั เกตการแสดงความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั รอคอย 4. สงั เกตทศั นคติท่ดี ีในการออกกาลงั กาย  ส่ือการเรยี นรู้ 1. นกหวีด 2. เพลง รีรีขา้ วสาร 59

กิจกรรมเกมการศึกษา  สาระที่ควรเรยี นรู้ การเลน่ เกม ทายสขุ นสิ ยั จากบตั รภาพ  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา กลา้ มเนือ้ เลก็ - การหยบิ จบั สิ่ง - การเล่นอสิ ระ ประจาวัน - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา ตา่ งๆ - การเล่นรายบคุ คล กลมุ่ ย่อย - การปฏิบตั ติ นตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ และกลมุ่ ใหญ่ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ 1.2.3 คณุ ธรรม จริยธรรม เศรษฐกิจพอเพยี ง - การพดู อยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเล่น และการ - การปฏิบตั ิตนตามหลกั 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม - การเลน่ เกมทางภาษา ศาสนาท่ีนบั ถือ - การใชว้ สั ดแุ ละสงิ่ ของ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตผุ ล 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ การตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา เฉพาะตนและเชอ่ื วา่ เคร่อื งใชอ้ ย่างคมุ้ คา่ ตนเองมีความสามารถ 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ - การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การ - การปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ มีวินัย มีสว่ นร่วม และ เปลย่ี นแปลง และความสมั พนั ธข์ องสงิ่ ตา่ งๆ ตามความสามารถของตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อยา่ งเหมาะสม - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง - การตดั สินใจและมสี ่วนรว่ มในกระบวนการ ของหอ้ งเรียน แกป้ ัญหา - การปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชกิ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ท่ดี ขี องหอ้ งเรยี น - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผ่าน - การใหค้ วามรว่ มมือใน สอื่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ 1.4.4 เจตคติทด่ี ตี อ่ การเรียนรู้และการ 1.3.7 การยอมรับใน แสวงหาความรู้ ความเหมือนและความ - การสารวจสง่ิ ต่างๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล - การเล่นหรือทากจิ กรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น 60

 จดุ ประสงค์ 1. พฒั นากลา้ มเนอื้ มดั เลก็ และตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 2. ฝึกทกั ษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรยี บเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเร่ืองตา่ งๆ 4. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูแนะนาเกม ทายสขุ นสิ ยั จากบตั รภาพ และสาธิตวิธีการเลน่ ใหเ้ ดก็ ดู พรอ้ มใหเ้ ด็กมีสว่ นรว่ มดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเก่าท่เี คยเลน่ มาแลว้ และรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เช่น - ไม่สง่ เสียงดงั ขณะเลน่ - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ อย่างทะนถุ นอม ไม่ทาลายใหเ้ สยี หาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นช่วยเหลอื และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรอื เดือดรอ้ น - เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครง้ั ) ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ี และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. ครูแบ่งเด็กเป็นกลมุ่ ย่อย กลมุ่ ละ 4 คน ใหก้ ลมุ่ แรกเล่นเกม ทายสขุ นสิ ยั จากบตั ร ภาพ กลมุ่ ท่ีเหลือเลน่ เกมท่ี เคยเลน่ มาแลว้ เม่ือเลน่ เสรจ็ ใหห้ มนุ เวียนกนั เลน่ จนครบทกุ เกม เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ ใหเ้ กบ็ เกมเขา้ ท่ีให้ เรียบรอ้ ย และมารวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถึงเกมท่ีตนเองเลน่ ความรูส้ ึก และปัญหาท่พี บ รวมถงึ วธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 2. สงั เกตกระบวนการแกไ้ ขปัญหา 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เล็กและตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 3. สงั เกตทกั ษะทางสติปัญญา เช่น การสงั เกต การเปรยี บเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเรือ่ งต่างๆ 4. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  ส่ือการเรียนรู้ 2. เกมเก่าท่เี คยเลน่ มาแลว้ 3.เครอื่ งเคาะจงั หวะ 1. เกม ทายสขุ นสิ ยั จากบตั รภาพ  ภาคผนวก  เกม ทายสขุ นสิ ยั จากบตั รภาพ ควรทำ อาบนา้ แปรงฟัน ลา้ งมือ ไม่ควรทำ เลน่ นา้ โคลน 61 กินเลอะเทอะ

แผนการจดั ประสบการณ์ ระดบั อนุบาล 1 ภาคเรยี นท่ี 1 วนั ท่ี 5 ดแู ลรา่ งกายให้แขง็ แรง หน่วย รา่ งกายของเรา วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระท่ีควรเรียนรู้ รา่ งกายของเราประกอบดว้ ยอวยั วะตา่ งๆ เช่น ตา หู จมกู ปาก คอ แขน มือ เทา้ ขา อวยั วะทุกสว่ นมี หนา้ ท่แี ตกตา่ งกนั เราตอ้ งดแู ลรกั ษารา่ งกายใหส้ ะอาด เพ่อื ใหม้ ีสขุ ภาพท่ีดี สาระสาคญั เดก็ ไดเ้ รียนรูเ้ กี่ยวกบั วิธีการปฏบิ ตั ิตนใหร้ ่างกายแขง็ แรงดว้ ยวิธีการง่ายๆ เช่น การออกกาลงั กาย การรบั ประทานอาหารท่มี ปี ระโยชน์ และพกั ผ่อนใหเ้ พียงพอ จะทาใหเ้ กิดผลดตี ่อสขุ ภาพทงั้ ทางรา่ งกาย และจิตใจ  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1, 10.3 11.1,11.2 12.1, 12.2 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.1 การใช้ 1.2.1 สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา กลา้ มเนอื้ ใหญ่ - การฟังเพลง การรอ้ งเพลง ประจาวัน - การฟังเพลง - การเคล่อื นไหว และการแสดงปฏกิ ิรยิ า - การชว่ ยเหลอื ตนเอง - การรอจงั หวะท่เี หมาะสมในการพดู เคลอื่ นท่ี โตต้ อบเสียงดนตรี ในกิจวตั รประจาวนั - การพดู กบั ผอู้ ืน่ เกีย่ วกบั ประสบการณข์ อง - การเคลอ่ื นไหวท่ี 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ 1.3.4 การมีปฏิสัมพนั ธ์ ตนเอง หรือเลา่ เร่อื งราวเก่ียวกบั ตนเอง มวี นิ ัย มีสว่ นร่วม และ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล ใชก้ ารประสาน เฉพาะตนและเชอ่ื ว่า สมั พนั ธข์ องการใช้ ตนเองมคี วามสามารถ บทบาทสมาชกิ ของสงั คม การตดั สินใจและแกป้ ัญหา กลา้ มเนอื้ ใหญ่ - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ - การใหค้ วามรว่ มมือใน - การสงั เกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ การ 1.1.3 การรักษา ตามความสามารถของตนเอง การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ เปล่ยี นแปลง และความสมั พนั ธข์ องสง่ิ ตา่ งๆ 1.3.5 การเลน่ และทางาน โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อยา่ งเหมาะสม สุขภาพอนามยั แบบร่วมมือร่วมใจ - การมสี ว่ นรว่ มในการลงความเหน็ จาก ส่วนตน - การรว่ มสนทนาและ ขอ้ มลู อย่างมเี หตผุ ล - การปฏิบตั ิตนตาม แลกเปล่ยี นความคดิ เหน็ 1.4.4 เจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรยี นรู้และการ สขุ อนามยั สขุ นิสยั - การเลน่ และทางาน แสวงหาความรู้ ท่ดี ใี นกจิ วตั ร รว่ มกบั ผอู้ ื่น - การตงั้ คาถามในเร่ืองท่สี นใจ ประจาวนั 62

 จดุ ประสงค์ 1. รูจ้ กั สารวจการปฏิบตั ิตนในชีวิตประจาวนั ของตนเองได้ 2. บอกวธิ ีการดแู ลรา่ งกายใหแ้ ขง็ แรงได้  กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ครูใหเ้ ด็กเลน่ เกม ทาทา่ ทางตามคาสง่ั เชน่ อาบนา้ แปรงฟัน ลา้ งหนา้ สระผม นอนพกั ผอ่ น ออกกาลงั กาย ขนั้ สอน 1. ครูและเด็กรว่ มรอ้ งเพลง อาบนา้ และทาท่าทางประกอบเพลง จากนนั้ ครูสนทนาเก่ียวกบั เนอื้ เพลง โดยถามคาถาม ดงั นี้  ในบทเพลงพดู ถึงกิจกรรมอะไรบา้ ง  เด็กๆ เคยทากจิ กรรมตามเพลงนหี้ รือไม่ อย่างไร 2. ครูนาภาพการทากิจวตั รประจาวนั มาใหเ้ ด็กดู เชน่ ภาพเด็กต่ืนนอน ลา้ งหนา้ แปรงฟัน อาบนา้ แต่งตวั แลว้ ใหเ้ ด็กรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นจากภาพ 3. ครูอธิบายเพม่ิ เติมใหเ้ ดก็ เขา้ ใจว่า เราสามารถปฏบิ ตั ิตนในชีวติ ประจาวนั ใหร้ า่ งกายแขง็ แรงได้ โดยกนิ อาหารท่มี ปี ระโยชน์ ออกกาลงั กายเป็นประจา และพกั ผ่อนใหเ้ พยี งพอ 4. ครูใหเ้ ด็กดภู าพในหนงั สอื เสรมิ ฯ เร่ืองราวเกี่ยวกบั ตวั เด็ก อ.1 กจิ กรรม ดูแลรา่ งกายใหแ้ ข็งแรง หนา้ 7 โดยครูแนะนาวธิ ีการบนั ทกึ และอธิบายภาพกจิ กรรมเพ่ิมเติมเม่ือเด็กตอ้ งการ 5. ครูใหอ้ าสาสมคั รออกมานาเสนอผลการสารวจตนเอง 3-4 คน และใหเ้ หตผุ ลสนั้ ๆ ประกอบการสารวจ ขนั้ สรปุ 1. ครูนาผลการสารวจตนเองของเดก็ แตล่ ะคนมาจดั ทาแผนภมู กิ จิ วตั รประจาวนั อยา่ งงา่ ย เพ่อื สรุปผลเป็น จานวนใหเ้ ด็กสงั เกตและเปรียบเทียบผลรว่ มกนั 2. ครูและเด็กรว่ มกนั สรุปเกี่ยวกบั การดแู ลตนเองใหร้ า่ งกายแข็งแรง โดยการรบั ประทานอาหารท่มี ปี ระโยชน์ พกั ผอ่ นใหเ้ พียงพอ และออกกาลงั กายจะทาใหเ้ รามีสขุ ภาพแขง็ แรง ไมเ่ จ็บป่วยงา่ ย  ประเมินผล 1. สงั เกตการตอบคาถามและบอกเหตผุ ลอย่างเหมาะสม 2. สงั เกตการสนทนาและการมีสว่ นรว่ มในการทากจิ กรรม 3. สงั เกตการสารวจขอ้ มลู และสรุปผลดว้ ยวิธีการงา่ ยๆ ใหผ้ อู้ ่นื เขา้ ใจได้ 4. สงั เกตผลงานการทากจิ กรรม ดูแลรา่ งกายใหแ้ ข็งแรง 63

 สื่อการเรยี นรู้ 1. เกม ทาทา่ ทางตามคาสง่ั 2. เพลง อาบนา้ 3. แผนภมู ิกจิ วตั รประจาวนั 4. หนงั สือเสรมิ ฯ เรื่องราวเก่ียวกบั ตวั เด็ก อ.1 กิจกรรม ดูแลร่างกายใหแ้ ขง็ แรง หนา้ 7 ภาคผนวก  เพลง อาบนา้ เพลง อาบนา้ (ไมท่ ราบนามผูแ้ ต่ง) อาบนา้ แลว้ สบายตวั สบายหวั หนหู ม่นั สระผม ตดั เลบ็ ท่มี นั แหลมคม ปากหอมนา่ ชม เพราะหนแู ปรงฟัน  ตวั อยา่ ง แผนภมู ิจานวนตวั เลข เคยทา ☺ อาบนา้ วนั ละ 2 ครง้ั คน คน ไมเ่ คยทา  คน คน เคยทา ☺ แปรงฟัน วนั ละ 2 ครงั้ คน ไม่เคยทา  ลา้ งมือหลงั จากเขา้ หอ้ งนา้ เคยทา ☺ คน ไมเ่ คยทา  64

กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจงั หวะ  สาระท่ีควรเรียนรู้ การเคล่ือนไหวร่างกายประกอบเพลง อาบนา้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 10.3 11.2 12.1 8.3 1.1.1 การใช้ 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี ประสบการณส์ าคญั 1.4.1 การใชภ้ าษา กลา้ มเนือ้ ใหญ่ - การฟังเพลง การรอ้ งเพลง 1.3.4 การมีปฏสิ มั พนั ธ์ - การฟังเพลง - การเคลื่อนไหว มวี นิ ัย มีสว่ นร่วม และ และการแสดงปฏิกริ ยิ า บทบาทสมาชกิ ของ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ เคลือ่ นท่ี สังคม - การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา โตต้ อบเสยี งดนตรี - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง 1.1.5 การ - การเคลอื่ นไหวตาม ทา่ ทาง การเคลอ่ื นไหว ตระหนักรู้ ของหอ้ งเรียน 1.4.4 เจตคติทด่ี ีตอ่ การเรยี นรูแ้ ละการ เกย่ี วกบั ร่างกาย เสียงเพลง/ดนตรี แสวงหาความรู้ ตนเอง 1.2.4 การแสดงออกทาง - การใหค้ วามรว่ มมือใน - การสารวจสิง่ ต่างๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั - การเคลอ่ื นไหว อารมณ์ - การเคลอื่ นไหวตาม การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ โดยควบคมุ ตนเอง เสียงเพลง/ดนตรี 1.3.7 การยอมรับใน ไปในทิศทาง ระดบั ความเหมอื นและความ - การรอ้ งเพลง แตกตา่ งระหว่างบคุ คล และพนื้ ท่ี 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ - การเลน่ หรือทากิจกรรม เฉพาะตนและเชอ่ื วา่ ตนเองมคี วามสามารถ รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น - การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ ตามความสามารถของตนเอง  จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่ เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. พฒั นาทกั ษะการเคลื่อนไหวประกอบเพลง 3. เพ่ือใหเ้ กิดความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์ 65

 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายอย่างอสิ ระโดยไม่ใหช้ นกนั ตามจงั หวะท่คี รูกาหนด 2. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาเป็นผกู้ าหนดจงั หวะ และใหเ้ พ่ือนๆ เคล่ือนไหวร่างกายอย่างอสิ ระโดยไมใ่ หช้ นกนั 3. ครูรอ้ งเพลง อาบนา้ ใหเ้ ด็กฟังกอ่ น 1 รอบ แลว้ ใหเ้ ดก็ รอ้ งตามทลี ะวรรค จนเด็กสามารถรอ้ งเพลงไดค้ ลอ่ ง 4. เดก็ และครูรว่ มกนั รอ้ งเพลง อาบนา้ พรอ้ มกนั และทาท่าทางประกอบเพลงตามจนิ ตนาการ  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ ใหญ่เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. สงั เกตการเคลื่อนไหวประกอบเพลงตามจินตนาการ 3. สงั เกตความสนุกสนานและผ่อนคลายอารมณ์  ส่ือการเรยี นรู้ 2. เคร่ืองเคาะจงั หวะ 1. เพลง อาบนา้  ภาคผนวก  เพลง อาบนา้ เพลง อาบน้า (ไม่ทราบนามผแู้ ต่ง) อาบนา้ แลว้ สบายตวั สบายหวั หนหู ม่นั สระผม ตดั เล็บท่มี นั แหลมคม ปากหอมน่าชม เพราะหนแู ปรงฟัน 66

กิจกรรมสรา้ งสรรค์  สาระท่ีควรเรยี นรู้ การป้ันแปง้ โดเป็นรูปใบหนา้ ของหนู  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี 1.3.4 การมปี ฏิสัมพันธ์ 1.4.1 การใช้ภาษา กลา้ มเนือ้ เลก็ - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ - การทากิจกรรมศลิ ปะตา่ งๆ มีวนิ ัย มสี ่วนร่วม และ - การปั้น ความตอ้ งการ - การสรา้ งสรรคส์ ง่ิ สวยงาม บทบาทสมาชกิ ของ 1.2.4 การแสดงออกทาง สงั คม 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ อารมณ์ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง - การแสดงความคดิ สรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา - การทางานศลิ ปะ ของหอ้ งเรยี น ทา่ ทาง การเคลือ่ นไหว และศิลปะ 1.4.4 เจตคติทดี่ ีตอ่ การเรยี นรู้และการ 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน แสวงหาความรู้ - การสารวจสิ่งตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั เฉพาะตนและเช่ือว่า การปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ตนเองมคี วามสามารถ 1.3.7 การยอมรับใน - การปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ ความเหมือนและความ ตามความสามารถของตนเอง แตกตา่ งระหว่างบคุ คล - การเล่นหรือทากจิ กรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น  จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการกลา้ มเนือ้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจนิ ตนาการ 3. สามารถบอกเลา่ เก่ียวกบั ผลงานของตนเองได้ 67

 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ด็กน่งั เป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน แลว้ แจกอปุ กรณใ์ นการทากิจกรรมใหเ้ ด็กทกุ กลมุ่ 2. ครูใหเ้ ด็กสอ่ งกระจกดใู บหนา้ ตนเอง พรอ้ มกบั บอกช่ืออวยั วะบนใบหนา้ วา่ มีอะไรบา้ ง อวยั วะแตล่ ะอยา่ งมี ลกั ษณะอย่างไร 3. ครูใหเ้ ด็กป้ันแปง้ โดเป็นรูปใบหนา้ ของตนเองตามความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจินตนาการของเด็ก 4. เด็กบอกเลา่ ผลงานใหเ้ พ่ือนฟัง และครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงาน 5. เดก็ ๆ ช่วยกนั เก็บวสั ดอุ ปุ กรณเ์ ขา้ ท่ี และทาความสะอาดโตะ๊ กจิ กรรม  ประเมินผล 2. สงั เกตผลงาน 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 3. สงั เกตการบอกเลา่ เก่ียวกบั ผลงานของตนเอง  สื่อการเรยี นรู้ 2. แปง้ โด 3. กระดานรองปั้น 1. กระจก 68

กิจกรรมเสรี  สาระที่ควรเรยี นรู้ การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ด็กเลน่ อิสระตามมมุ ประสบการณห์ รือศนู ยก์ ารเรียน ท่จี ดั ไวใ้ น หอ้ งเรียน เชน่ มมุ บลอ็ ก มมุ วทิ ยาศาสตรห์ รือมมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา มมุ คณิตศาสตร์ มมุ บา้ น มมุ หนงั สือ มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็นตน้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ บทบาทสมมติ ประจาวัน - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา - การเลน่ เครอื่ งเล่น 1.2.2 การเลน่ - การปฏบิ ตั ติ นตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ สมั ผสั และการสรา้ ง - การเลน่ อสิ ระ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ สงิ่ ต่างๆ จากแท่งไม้ - การเล่นรายบคุ คล กล่มุ ยอ่ ย เศรษฐกจิ พอเพียง - การพดู อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการเลน่ และการ บล็อก และกล่มุ ใหญ่ 1.3.2 การดูแลรักษา กระทาตา่ งๆ - การหยิบจบั สง่ิ - การเลน่ ตามมมุ ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล ต่างๆ การรอ้ ยวสั ดุ ประสบการณ/์ มมุ เล่นตา่ งๆ - การใชว้ สั ดแุ ละสิ่งของ การตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา 1.2.3 คุณธรรม จรยิ ธรรม เครอ่ื งใชอ้ ย่างคมุ้ คา่ 1.1.5 การ - การเลน่ กบั ส่อื ตา่ งๆ ท่เี ป็นทรงกลม ทรง ตระหนกั รู้ - การปฏิบตั ิตนตามหลกั 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ สี่เหลีย่ มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย เกี่ยวกบั ร่างกาย ศาสนาท่ีนบั ถือ มวี ินัย มีส่วนร่วม และ - การตดั สินใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ ตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสังคม แกป้ ัญหา - การเคลอื่ นไหว 1.2.4 การแสดงออกทาง - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง 1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ โดยควบคมุ ตนเอง อารมณ์ ของหอ้ งเรียน ไปในทิศทาง ระดบั - การเลน่ บทบาทสมมติ - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผ่าน และพนื้ ท่ี - การใหค้ วามรว่ มมือใน สอื่ วสั ดุ ของเล่น และชิน้ งาน 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ 1.4.4 เจตคติทด่ี ีตอ่ การเรยี นรู้และการ เฉพาะตนและเช่ือว่า 1.3.7 การยอมรับใน แสวงหาความรู้ ตนเองมีความสามารถ ความเหมือนและความ - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั - การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล ตามความสามารถของตนเอง - การเลน่ หรือทากิจกรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น 69

 จดุ ประสงค์ 2. มีทกั ษะทางดา้ นสงั คมเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้ 1. สง่ เสรมิ พฒั นาการ 4 ดา้ นผา่ นการเลน่ 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั ทบทวนมมุ ประสบการณต์ า่ งๆ ในหอ้ งเรยี น และใหค้ ิดวางแผนการเลน่ วา่ จะเลน่ อะไร ตามลาดบั ความสนใจของตนเอง 2. เด็กและครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - เด็กไม่สง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - เม่อื เลน่ เสรจ็ เก็บของเลน่ เขา้ ท่ี - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ ของเลน่ อย่างทะนุถนอม ไมท่ าลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นช่วยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรอื เดอื ดรอ้ น - เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครงั้ ) ใหเ้ กบ็ ของเลน่ ทนั ที และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. เดก็ ๆ เลือกเลน่ ตามท่ีคิดไวอ้ ยา่ งอิสระ ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยุดใหเ้ ก็บของเขา้ ท่ีให้ เรียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงส่ิงท่ีตนเองเล่น ความรูส้ กึ และปัญหาท่ีพบ รวมถึงวธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 2. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 1. สงั เกตพฒั นาการ 4 ดา้ น 3. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื 2. เคร่ืองเคาะจงั หวะ  ส่ือการเรยี นรู้ 1. ของเลน่ ในมมุ ประสบการณต์ ่างๆ 70

กิจกรรมกลางแจ้ง  สาระท่ีควรเรียนรู้ การเลน่ เครือ่ งเลน่ สนาม เด็กไดม้ ีโอกาสออกไปนอกหอ้ งเรยี นเพ่อื ออกกาลงั เคลื่อนไหวรา่ งกายและ แสดงออกอย่างอิสระในการเลน่ เครอื่ งเลน่ สนาม โดยยดึ ความสนใจและความสามารถของเด็กเป็นหลกั  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.1.1 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.2 การดแู ลรักษา 1.4.1 การใชภ้ าษา กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา - การเคลื่อนไหว - การเลน่ อิสระ ธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ อย่กู บั ท่ี ความตอ้ งการ - การเล่นรายบคุ คล กล่มุ ย่อย - การมีสว่ นรว่ มรบั ผดิ ชอบ - การพดู อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการเล่น และการ - การเคลอ่ื นไหว กระทาตา่ งๆ และกลมุ่ ใหญ่ ดแู ลรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ มทง้ั 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตผุ ล เคล่อื นท่ี การตัดสนิ ใจและแกป้ ัญหา - การเล่นนอกหอ้ งเรยี น ภายในและภายนอกหอ้ งเรยี น - การตดั สนิ ใจและมีส่วนรว่ มในกระบวนการ - การเล่นเครอื่ งเล่น แกป้ ัญหา สนามอย่างอิสระ 1.2.3 คณุ ธรรม จริยธรรม - การใชว้ สั ดแุ ละสง่ิ ของ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ 1.1.4 การรักษา - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผา่ น ความปลอดภยั - การปฏิบตั ติ นตามหลกั เคร่ืองใชอ้ ย่างคมุ้ ค่า ส่ือ วสั ดุ ของเล่น และชิน้ งาน - การเล่นเครอื่ งเล่น 1.4.4 เจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรยี นรู้และการ ศาสนาท่นี บั ถือ 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพันธ์ แสวงหาความรู้ อยา่ งปลอดภยั - การสารวจส่งิ ต่างๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั 1.1.5 การ 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ มวี นิ ัย มสี ว่ นร่วม และ ตระหนกั รู้ เฉพาะตนและเช่อื ว่า บทบาทสมาชกิ ของสังคม เกี่ยวกับร่างกาย ตนเองมคี วามสามารถ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง ตนเอง - การเคลอ่ื นไหว - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ ของหอ้ งเรียน โดยควบคมุ ตนเอง ตามความสามารถของตนเอง - การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชกิ ไปในทศิ ทาง ระดบั ท่ดี ีของหอ้ งเรียน และพนื้ ท่ี - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ 1.3.7 การยอมรับใน ความเหมอื นและความ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล - การเลน่ หรือทากิจกรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น 71

 จดุ ประสงค์ 2. พฒั นาทกั ษะการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่ืน 1. พฒั นาทกั ษะการเคลือ่ นไหวและการทรงตวั 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 4. การปลกู ฝังทศั นคติท่ดี ใี นการออกกาลงั กาย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เด็กและครูรว่ มกนั อบอ่นุ รา่ งกายดว้ ยการออกกายบรหิ ารในการเคลอ่ื นไหวอย่กู บั ท่ี 2. ครูแนะนาการเลน่ เครื่องเลน่ สนามอย่างถกู วธิ ี และปลอดภยั ใหเ้ ดก็ ฟังพรอ้ มสาธิตใหด้ ู แลว้ รว่ มกนั สรา้ ง ขอ้ ตกลงในการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนาม เชน่ - เลน่ อยา่ งถกู วิธี ไม่เลน่ โลดโผน - เขา้ แถวรอคอยเลน่ ตอ่ จากเพ่อื น - รูจ้ กั แบ่งปันกนั เลน่ - เลน่ เคร่ืองเลน่ อย่างทะนถุ นอม ไมท่ าลายใหเ้ สียหาย - เลน่ รว่ มกนั ไม่ทะเลาะกนั - ไมเ่ ดด็ ใบไม้ ดอกไมม้ าเลน่ - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูชว่ ยเหลอื ขอบใจเม่ือเพ่อื นช่วยเหลอื และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรอื เดือดรอ้ น - เม่อื ไดย้ นิ เสยี งนกหวีดใหห้ ยดุ เลน่ ทนั ที เตรยี มเขา้ แถวท่หี นา้ สนามเดก็ เลน่ 3. ครูใหเ้ ด็กคิดวางแผนการเลน่ เครอ่ื งเลน่ สนามตามลาดบั ความสนใจ จากนนั้ ใหเ้ ลน่ ตามท่ีคิดวางแผนไว้ อย่างอิสระ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ ินเสยี งนกหวีดใหห้ ยดุ เลน่ แลว้ มาเขา้ แถวท่หี นา้ สนามเดก็ เลน่ 4. ครูใหเ้ ดก็ อาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถึงส่ิงท่ีตนเองเลน่ ความรูส้ กึ และปัญหาท่ีพบ รวมถงึ วธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการเคล่ือนไหวและการทรงตวั 2. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่ืน 3. สงั เกตการแสดงความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั รอคอย 4. สงั เกตทศั นคติท่ดี ีในการออกกาลงั กาย  สื่อการเรียนรู้ 1. นกหวีด 2. เครื่องเลน่ สนาม 72

กิจกรรมเกมการศึกษา  สาระที่ควรเรยี นรู้ การเลน่ เกม จบั คู่ภาพอวยั วะกบั เงา  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.1.2 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.1 การปฏิบตั กิ จิ วตั ร 1.4.1 การใช้ภาษา กลา้ มเนือ้ เลก็ - การหยิบจบั ส่งิ - การเลน่ อสิ ระ ประจาวนั - การฟังและปฏบิ ตั ติ ามคาแนะนา ตา่ งๆ - การเล่นรายบคุ คล กล่มุ ย่อย - การปฏิบตั ติ นตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ และกล่มุ ใหญ่ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ 1.2.3 คุณธรรม จริยธรรม เศรษฐกจิ พอเพียง - การพดู อยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเลน่ และการ - การปฏิบตั ิตนตามหลกั 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ ศาสนาท่ีนบั ถือ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ - การใชว้ สั ดแุ ละสงิ่ ของ การตัดสนิ ใจและแก้ปัญหา เฉพาะตนและเช่อื ว่า เคร่อื งใชอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ - การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การ ตนเองมีความสามารถ 1.3.4 การมีปฏิสมั พันธ์ เปลย่ี นแปลง และความสมั พนั ธข์ องสงิ่ ตา่ งๆ - การปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆ มวี ินัย มสี ว่ นร่วม และ โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อยา่ งเหมาะสม ตามความสามารถของตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม - การจบั คู่ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง - การตดั สนิ ใจและมสี ว่ นรว่ มในกระบวนการ ของหอ้ งเรยี น แกป้ ัญหา - การปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชกิ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ ท่ดี ีของหอ้ งเรยี น - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผา่ น - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน สือ่ วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ 1.4.4 เจตคติทดี่ ีตอ่ การเรียนรูแ้ ละการ 1.3.7 การยอมรับใน แสวงหาความรู้ ความเหมอื นและความ - การสารวจส่ิงต่างๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล - การเลน่ หรอื ทากิจกรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น 73

 จดุ ประสงค์ 1. พฒั นากลา้ มเนอื้ มดั เล็กและตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 2. ฝึกทกั ษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรยี บเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเร่ืองต่างๆ 4. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี วามอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูแนะนาเกม จบั คู่ภาพอวยั วะกบั เงา และสาธิตวธิ ีการเลน่ ใหเ้ ด็กดู พรอ้ มใหเ้ ด็กมีสว่ นรว่ มดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเก่าท่เี คยเลน่ มาแลว้ และรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - ไมส่ ง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - รูจ้ กั แบ่งปันกนั เลน่ - เลน่ อยา่ งทะนถุ นอม ไมท่ าลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นชว่ ยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรอื เดอื ดรอ้ น - เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครงั้ ) ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ี และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. ครูแบ่งเด็กเป็นกลมุ่ ย่อย กลมุ่ ละ 4 คน ใหก้ ลมุ่ แรกเลน่ เกม จบั คภู่ าพอวยั วะกบั เงา กลมุ่ ท่ีเหลือเลน่ เกมท่ีเคย เล่นมาแลว้ เม่ือเลน่ เสรจ็ ใหห้ มนุ เวยี นกนั เลน่ จนครบทกุ เกม เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหยดุ ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ีให้ เรียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถึงเกมท่ีตนเองเลน่ ความรูส้ ึก และปัญหาท่พี บ รวมถึงวิธีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เล็กและตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 2. สงั เกตกระบวนการแกไ้ ขปัญหา 3. สงั เกตทกั ษะทางสติปัญญา เชน่ การสงั เกต การเปรยี บเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเรอ่ื งต่างๆ 4. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อแบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย  ส่ือการเรียนรู้ 2. เกมเกา่ ท่เี คยเลน่ มาแลว้ 1. เกม จบั คูภ่ าพอวยั วะกบั เงา 3.เครื่องเคาะจงั หวะ 74

 ภาคผนวก  เกม จบั คภู่ าพอวยั วะกบั เงา 75

76

เรื่องราวเกี่ยวกบั ตวั เดก็ อนุบาล 1 ภาคเรยี นท่ี 1 สปั ดาหท์ ี่ 2 หน่วย ประสาทสมั ผสั วนั ท่ี เดือน พ.ศ.  สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสาทสมั ผสั ของเรามี 5 ส่วน ไดแ้ ก่ ตา หู จมกู ลิน้ และผวิ หนงั ประสาทสมั ผสั ทงั้ 5 สว่ นนี้ ชว่ ยใหเ้ รารบั รู้ สงิ่ ต่างๆ รอบตวั สงิ่ ทเ่ี ด็กรู้แล้ว สงิ่ ทเ่ี ดก็ ตอ้ งการรู้ สิง่ ทเ่ี ด็กควรรู้ - ความสาคญั ของประสาทสมั ผสั - ตามองดู - หฟู ังเสยี ง - จมกู ดมกลนิ่ - ลนิ้ ชิมรส และผวิ หนงั รบั สมั ผสั  การจดั ประสบการณ์บูรณาการ กิจกรรมเกมการศึกษา กจิ กรรมเคล่อื นไหวและจงั หวะ กจิ กรรมสรา้ งสรรค์ 1. การเคลื่อนไหวรา่ งกายตามขอ้ ตกลง 1. เกมจบั ค่อู วยั วะกบั บตั รคา 2. การเคล่ือนไหวรา่ งกายประกอบเพลง 1. การวาดภาพตอ่ เตมิ บนใบหนา้ คน 2. เกมจาแนกกลนิ่ หอม กล่นิ เหม็น 3. การเคลอ่ื นไหวรา่ งกายตาม 2. การระบายสีภาพเดก็ ฟังเพลง 3. เกมภาพตดั ตอ่ เดก็ ทดลองชิมรส 3. การปั้นดินนา้ มนั ตามจนิ ตนาการ 4. เกมโดมิโนภาพอวยั วะ จินตนาการ 4. การระบายสแี ละตดั ตดิ ตกแตง่ ภาพ 5. เกมเรยี งบตั รภาพขนาดอวยั วะ 4. การเคล่ือนไหวรา่ งกายประกอบเพลง 5. การปะตดิ วสั ดตุ กแต่งภาพ 5. การเคล่อื นไหวรา่ งกายตามคาส่งั กิจกรรมกลางแจ้ง กิจกรรมเสรี กิจกรรมหลกั 1. การเล่นเคร่อื งเลน่ สนาม 6 กิจกรรม เลน่ ตามมมุ ประสบการณต์ ่างๆ และ 2. การสารวจเสยี งในหอ้ งเรียนและนอก จดั มมุ พเิ ศษเพมิ่ เตมิ ท่มี มุ วิทยาศาสตร์ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ หอ้ งเรยี น 1. กิจกรรม “ตามองหาจดุ ตา่ ง” เชน่ 3. การเลน่ เครือ่ งเล่นสนาม 2. กจิ กรรม “ตาจาแนกสิ่งของ” - ฝึกใหเ้ ดก็ ฟังเสยี งจากอปุ กรณง์ า่ ยๆ 4. การเล่นเครื่องเลน่ สนาม 3. กิจกรรม “หจู าแนกเสียง” 5. การเล่นบ่อทราย 4. กิจกรรม “กลน่ิ หอมหรอื เหม็น” ที่ทาใหเ้ กิดเสยี ง 5. กิจกรรม “ลมิ้ รส เปรยี้ ว หวาน เค็ม” - ฝึกใหเ้ ด็กใชแ้ ว่นขยายส่องดสู งิ่ ตา่ งๆ ทม่ี ขี นาดเลก็ รอบๆ ตวั 77

แผนการจดั ประสบการณ์ ระดบั อนุบาล 1 ภาคเรยี นท่ี 1 วนั ท่ี 1 ความสาคญั ของประสาทสมั ผสั หน่วย ประสาทสมั ผสั วนั ท่ี เดอื น พ.ศ. กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระที่ควรเรียนรู้ ประสาทสมั ผสั ของเรามี 5 สว่ น ไดแ้ ก่ ตา หู จมกู ลนิ้ และผวิ หนงั ประสาทสมั ผสั ทงั้ 5 สว่ นนี้ ช่วยใหเ้ รา รบั รูส้ ิ่งต่างๆ รอบตวั สาระสาคญั เด็กไดเ้ รียนรูเ้ ก่ียวกบั หนา้ ท่ีของตาท่ีใชใ้ นการมองเห็นส่ิงต่างๆ รอบตวั วิธีการดแู ลรกั ษาดวงตา และการ สงั เกตเปรียบเทยี บความแตกต่างของสดี วงตาตามลกั ษณะของพ่อ แม่ และตามความแตกต่างของเชอื้ ชาติ  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.2 12.1, 12.2 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.3 การรักษา 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบตั กิ จิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา - การพดู อธิบายเก่ียวกบั สงิ่ ของ เหตกุ ารณ์ สุขภาพอนามยั - การฟังเพลง รอ้ งเพลง และ ประจาวนั และความสมั พนั ธข์ องสิ่งตา่ งๆ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล ส่วนตน การแสดงปฏกิ ริ ยิ าโตต้ อบ - การชว่ ยเหลือตนเองใน การตดั สนิ ใจและแก้ปัญหา - การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การ - การปฏิบตั ติ นตาม เสยี งดนตรี กิจวตั รประจาวนั เปลีย่ นแปลง และความสมั พนั ธข์ องสิ่งตา่ งๆ โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อย่างเหมาะสม สขุ อนามยั สขุ นิสยั - การรอ้ งเพลง 1.3.4 การปฏิสัมพันธ์ - การจบั คู่ การเปรยี บเทยี บ และการ เรียงลาดบั ส่ิงตา่ งๆ ตามลกั ษณะคามยาว/ ท่ดี ใี นกจิ วตั ร 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ มีวินัย มีส่วนร่วม และ ประจาวนั เฉพาะตนและเช่ือว่า บทบาทสมาชกิ ของ ตนเองมคี วามสามารถ สังคม - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ - การใหค้ วามรว่ มมือใน ตามความสามารถของตนเอง การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ ความสงู นา้ หนกั ปรมิ าตร  จดุ ประสงค์ 1. บอกอวยั วะท่ใี ชใ้ นการมองสงั เกตภาพต่างๆ ได้ 2. สงั เกตรายละเอียดของภาพเปรยี บเทยี บความเหมือนและความแตกต่างของภาพได้ 78

 กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ครูและเด็กรว่ มกนั รอ้ งเพลง ประสาทสมั ผสั โดยใหเ้ ด็กช่วยกนั คิดทาท่าทางเคลอ่ื นไหวประกอบเพลง ตามจินตนาการ ขนั้ สอน 1. ครูใหเ้ ด็กสงั เกตบตั รภาพอวยั วะตา่ งๆ แลว้ ชว่ ยกนั บอกช่ืออวยั วะบนใบหนา้ ว่า มีอวยั วะใดบา้ ง เม่อื ครูกล่าวถึงอวยั วะใดใหเ้ ด็กสมั ผสั อวยั วะสว่ นนนั้ เบาๆ 2. ครูใหค้ วามรูเ้ พ่ิมเตมิ เก่ียวกบั อวยั วะอ่นื ๆ บนรา่ งกายท่ีทาหนา้ ท่รี บั รูค้ วามรูส้ กึ ต่างๆ มี 5 สว่ นสาคญั ไดแ้ ก่ ตา หู จมกู ลนิ้ และผวิ หนงั เราเรียกอวยั วะทงั้ 5 สว่ นนวี้ ่า ประสาทสมั ผสั ซง่ึ อวยั วะทงั้ 5 สว่ นนี้ ทางาน ประสานสมั พนั ธก์ นั ช่วยใหเ้ รารบั รูส้ ง่ิ ต่างๆ รอบตวั ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 3. ครูใหเ้ ด็กสงั เกตบตั รภาพอวยั วะตา และแนะนาเพม่ิ เตมิ ว่า ตาเป็นอวยั วะท่ที าใหเ้ รามองเห็นส่งิ ต่างๆ รอบตวั 4. ครูใหเ้ ดก็ ทดลองหลบั ตาเดนิ ในบรเิ วณหอ้ งเรยี นและลองลืมตาเดิน แลว้ ใหบ้ อกความรูส้ กึ เปรยี บเทียบ ระหวา่ งการเดนิ หลบั ตากบั การเดนิ แบบไมห่ ลบั ตาว่าเป็นอยา่ งไร ขนั้ สรปุ 1. ครูใหเ้ ดก็ รว่ มกนั สรุปหนา้ ท่ขี องตาในการมองเหน็ และบอกวธิ ีการดแู ลรกั ษาดวงตาใหป้ ลอดภยั โดยครู แนะนาความรูเ้ พมิ่ เตมิ ตามความตอ้ งการของเด็ก 2. ครูใหเ้ ดก็ ทากจิ กรรมในหนงั สอื เสรมิ ฯ เร่ืองราวเกี่ยวกบั ตวั เด็ก อ.1 กิจกรรม ตามองหาจุดต่าง หนา้ 9 3. ครูใหเ้ ด็กนาภาพการบนั ทกึ สีตามาสงั เกตเปรียบเทยี บกบั เพ่อื น แลว้ ใหด้ คู วามแตกตา่ ง 4. ครูใหค้ วามรูเ้ พ่ิมเตมิ เกี่ยวกบั สีของดวงตาแต่ละคนวา่ มีความแตกต่างกนั เพราะดวงตาของเราจะมี ลกั ษณะเหมอื นกบั พอ่ แมข่ องเรา และแตกตา่ งกนั เพราะเชือ้ ชาติ เช่น ชาวตา่ งชาตทิ ่มี ีดวงตาสฟี ้า สเี ขียว โดยครูนาภาพตวั อยา่ งดวงตาของชาวตา่ งชาตมิ าใหเ้ ด็กสงั เกตเปรียบเทยี บ  ประเมินผล 1. สงั เกตการปฏิบตั ิตามคาส่งั และขอ้ ตกลง 2. สงั เกตการตอบคาถามและการทากิจกรรมรว่ มกนั 3. สงั เกตผลงานการทากิจกรรม ตามองหาจุดต่าง  ส่ือการเรียนรู้ 2. ภาพอวยั วะต่างๆ 3. ภาพดวงตาของชาวตา่ งชาติ 1. เพลง ประสาทสมั ผสั 4. หนงั สือเสรมิ ฯ เร่ืองราวเก่ียวกบั ตวั เด็ก อ.1 กจิ กรรม ตามองหาจุดตา่ ง หนา้ 9 79

 ภาคผนวก  เพลง ประสาทสมั ผสั เพลง ประสาทสัมผสั คารอ้ ง-ทานอง กมั ปนาท โนนศรี ประสาทสมั ผสั ทงั้ หา้ เพ่อื นๆ จ๋าควรจาเอาไว้ ตามองเห็นใกลแ้ ละไกล หชู ่วยใหฟ้ ังเสียงรอบกาย จมกู ดมกล่ินมากมาย ลนิ้ รบั รสได้ หวาน เค็ม เปรยี้ ว ขม สดุ ทา้ ยผิวหนงั รบั รูส้ มั ผสั ใหเ้ รารูจ้ กั เรยี บ และขรุขระ เจ็บ เยน็ รอ้ น หนาว ตา หู จมกู ลิน้ ผวิ หนงั (ซ้า 2 ครงั้ ) ดาวนโ์ หลดเพลงท่ีมีสญั ลกั ษณ์น้ีไดท้ ี่ www.aksorn.com  บตั รภาพอวยั วะ  บตั รภาพดวงตาชาวต่างชาติ 80

กิจกรรมเคลื่อนไหวและจงั หวะ  สาระที่ควรเรยี นรู้ การเคล่ือนไหวรา่ งกายตามขอ้ ตกลง  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 10.3 11.2 12.1 8.3 1.1.1 การใช้ 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี ประสบการณส์ าคัญ 1.4.1 การใชภ้ าษา กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การฟังเพลง การรอ้ งเพลง 1.3.4 การมีปฏิสมั พันธ์ - การฟังและปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา - การเคลอื่ นไหวอยู่ มวี ินัย มีสว่ นร่วม และ และการแสดงปฏกิ ริ ยิ า บทบาทสมาชกิ ของ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ กบั ท่ี สังคม - การแสดงความคดิ สรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา โตต้ อบเสยี งดนตรี - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง - การเคลื่อนไหว - การเคลอ่ื นไหวตาม ทา่ ทาง การเคลอื่ นไหว ของหอ้ งเรียน 1.4.4 เจตคติทด่ี ตี อ่ การเรยี นรู้และการ เคล่อื นท่ี เสียงเพลง/ดนตรี แสวงหาความรู้ 1.2.4 การแสดงออกทาง - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน - การสารวจส่ิงตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั 1.1.5 การ อารมณ์ ตระหนักรู้ - การเคล่ือนไหวตาม การปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ เก่ียวกบั ร่างกาย ตนเอง เสยี งเพลง/ดนตรี 1.3.7 การยอมรับใน - การเคลอื่ นไหว ความเหมือนและความ - การรอ้ งเพลง แตกตา่ งระหว่างบคุ คล โดยควบคมุ ตนเอง 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ - การเล่นหรือทากิจกรรม เฉพาะตนและเช่ือว่า ไปในทิศทาง ระดบั ตนเองมคี วามสามารถ รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ และพนื้ ท่ี ตามความสามารถของตนเอง  จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่ เลก็ และตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. พฒั นาทกั ษะการเคลื่อนไหวตามขอ้ ตกลง 3. เพ่อื ใหเ้ กิดความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์ 81

 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ เคล่ือนไหวร่างกายโดยไมใ่ หช้ นกนั ตามจงั หวะท่ีครูกาหนด 2. ครูใหเ้ ดก็ อาสาสมคั รออกมานาเคลื่อนไหวรา่ งกายในท่าต่างๆ ใหเ้ พ่อื นทาท่าตาม 3. ครูสรา้ งขอ้ ตกลงในการเคลอ่ื นไหวรา่ งกายกบั เด็ก แลว้ ใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวตามขอ้ ตกลง ดงั นี้ - เม่อื ครูเคาะเครอื่ งเคาะจงั หวะ 1 ครงั้ ใหเ้ ดก็ กระโดดไปขา้ งหนา้ 1 ครงั้ - เม่อื ครูเคาะเครื่องเคาะจงั หวะ 2 ครงั้ ใหเ้ ดก็ กระโดดไปขา้ งหนา้ 2 ครงั้ 4. ครูเคาะเคร่ืองเคาะจงั หวะ ใหเ้ ด็กเคล่อื นไหวรา่ งกายตามขอ้ ตกลงร่วมกนั  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ ใหญ่เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. สงั เกตการเคลื่อนไหวตามขอ้ ตกลง 3. สงั เกตความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์  ส่ือการเรยี นรู้ 2. เคร่ืองเคาะจงั หวะ 1. ขอ้ ตกลง 82

กิจกรรมสรา้ งสรรค์  สาระที่ควรเรียนรู้ การวาดภาพต่อเติมอวยั วะบนใบหนา้ คน  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2,6.3 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏบิ ตั กิ จิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ กลา้ มเนือ้ เลก็ - การทากิจกรรมศิลปะตา่ งๆ ประจาวนั ความตอ้ งการ - การเขยี นภาพและ - การสรา้ งสรรคส์ ่ิงสวยงาม - การชว่ ยเหลือตนเองใน 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ การเล่นกบั สี 1.2.4 การแสดงออกทาง กจิ วตั รประจาวนั - การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ า่ นภาษา 1.1.3 การรักษา อารมณ์ 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ ท่าทาง การเคลื่อนไหว และศลิ ปะ 1.4.4 เจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรียนรูแ้ ละการ สุขภาพอนามยั - การทางานศลิ ปะ มวี นิ ัย มีสว่ นร่วม และ แสวงหาความรู้ - การสารวจสงิ่ ต่างๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั ส่วนตน 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ บทบาทสมาชกิ ของ - การปฏิบตั ิตนตาม เฉพาะตนและเชอ่ื ว่า สงั คม สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั ตนเองมีความสามารถ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง ท่ดี ีในกจิ วตั ร - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ของหอ้ งเรยี น ประจาวนั ตามความสามารถของตนเอง - การใหค้ วามรว่ มมือใน การปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ 1.3.7 การยอมรับใน ความเหมือนและความ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล - การเล่นหรือทากจิ กรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น  จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการกลา้ มเนือ้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจินตนาการ 3. สามารถบอกเลา่ เกี่ยวกบั ผลงานของตนเองได้ 83

 กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ น่งั เป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน แลว้ แจกอปุ กรณใ์ นการทากจิ กรรมใหเ้ ด็กทกุ กลมุ่ 2. ครูบอกช่ืออวยั วะ เชน่ ตา หู จมกู ปาก แลว้ ใหเ้ ด็กชที้ ่ีอวยั วะสว่ นต่างๆ ของรา่ งกายตนเองตามท่ีครูบอก 3. ครูใหเ้ ด็กภาพโครงร่างใบหนา้ คนท่ีครูแจกให้ แลว้ ใหเ้ ด็กวาดต่อเตมิ อวยั วะ ตา หู จมกู ปาก ในภาพโครงรา่ ง ใบหนา้ ใหค้ รบถว้ นสมบรู ณ์ 4. เด็กบอกเลา่ ผลงานใหเ้ พ่อื นฟัง และครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงาน 5. เด็กๆ ชว่ ยกนั เกบ็ วสั ดอุ ปุ กรณเ์ ขา้ ท่ี และทาความสะอาดโต๊ะกจิ กรรม  ประเมินผล 2. สงั เกตผลงาน 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 3. สงั เกตการบอกเลา่ เกี่ยวกบั ผลงานของตนเอง  ส่ือการเรยี นรู้ 2. อวยั วะบนใบหนา้ ของเด็กๆ 3. สีเทียน 1. ภาพโครงรา่ งใบหนา้ คน 84

กิจกรรมเสรี  สาระที่ควรเรยี นรู้ การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ด็กเลน่ อิสระตามมมุ ประสบการณห์ รือศนู ยก์ ารเรียน ท่จี ดั ไวใ้ น หอ้ งเรียน เชน่ มมุ บลอ็ ก มมุ วทิ ยาศาสตรห์ รือมมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา มมุ คณิตศาสตร์ มมุ บา้ น มมุ หนงั สือ มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็นตน้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ บทบาทสมมติ ประจาวัน - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา - การเลน่ เครอื่ งเล่น 1.2.2 การเลน่ - การปฏบิ ตั ติ นตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ สมั ผสั และการสรา้ ง - การเลน่ อสิ ระ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ สงิ่ ต่างๆ จากแท่งไม้ - การเล่นรายบคุ คล กล่มุ ยอ่ ย เศรษฐกจิ พอเพียง - การพดู อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการเลน่ และการ บล็อก และกล่มุ ใหญ่ 1.3.2 การดูแลรักษา กระทาตา่ งๆ - การหยิบจบั สง่ิ - การเลน่ ตามมมุ ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล ต่างๆ การรอ้ ยวสั ดุ ประสบการณ/์ มมุ เล่นตา่ งๆ - การใชว้ สั ดแุ ละสิ่งของ การตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา 1.2.3 คุณธรรม จรยิ ธรรม เครอ่ื งใชอ้ ย่างคมุ้ คา่ 1.1.5 การ - การเลน่ กบั ส่อื ตา่ งๆ ท่เี ป็นทรงกลม ทรง ตระหนกั รู้ - การปฏิบตั ิตนตามหลกั 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ สี่เหลีย่ มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย เกี่ยวกบั ร่างกาย ศาสนาท่ีนบั ถือ มวี ินัย มีส่วนร่วม และ - การตดั สินใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ ตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสังคม แกป้ ัญหา - การเคลอื่ นไหว 1.2.4 การแสดงออกทาง - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง 1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ โดยควบคมุ ตนเอง อารมณ์ ของหอ้ งเรียน ไปในทิศทาง ระดบั - การเลน่ บทบาทสมมติ - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผ่าน และพนื้ ท่ี - การใหค้ วามรว่ มมือใน สอื่ วสั ดุ ของเล่น และชิน้ งาน 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ 1.4.4 เจตคติทด่ี ีตอ่ การเรยี นรู้และการ เฉพาะตนและเช่ือว่า 1.3.7 การยอมรับใน แสวงหาความรู้ ตนเองมีความสามารถ ความเหมือนและความ - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั - การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล ตามความสามารถของตนเอง - การเลน่ หรือทากิจกรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น 85

 จดุ ประสงค์ 2. มีทกั ษะทางดา้ นสงั คมเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้ 1. สง่ เสรมิ พฒั นาการ 4 ดา้ นผา่ นการเลน่ 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มีความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั ทบทวนมมุ ประสบการณต์ า่ งๆ ในหอ้ งเรยี น และใหค้ ิดวางแผนการเลน่ วา่ จะเลน่ อะไร ตามลาดบั ความสนใจของตนเอง 2. เด็กและครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - เด็กไม่สง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - เม่อื เลน่ เสรจ็ เก็บของเลน่ เขา้ ท่ี - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ ของเลน่ อย่างทะนุถนอม ไมท่ าลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นช่วยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรอื เดอื ดรอ้ น - เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครงั้ ) ใหเ้ กบ็ ของเลน่ ทนั ที และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. เดก็ ๆ เลือกเลน่ ตามท่ีคิดไวอ้ ยา่ งอิสระ ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยุดใหเ้ ก็บของเขา้ ท่ีให้ เรียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงส่ิงท่ีตนเองเล่น ความรูส้ กึ และปัญหาท่ีพบ รวมถึงวธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตพฒั นาการ 4 ดา้ น 2. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 3. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื 2. เคร่ืองเคาะจงั หวะ  ส่ือการเรียนรู้ 1. ของเลน่ ในมมุ ประสบการณต์ ่างๆ 86

กิจกรรมกลางแจ้ง  สาระท่ีควรเรียนรู้ การเลน่ เครือ่ งเลน่ สนาม เด็กไดม้ ีโอกาสออกไปนอกหอ้ งเรยี นเพ่อื ออกกาลงั เคลื่อนไหวรา่ งกายและ แสดงออกอย่างอิสระในการเลน่ เครอื่ งเลน่ สนาม โดยยดึ ความสนใจและความสามารถของเด็กเป็นหลกั  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.1,6.2 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.1.1 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.2 การดแู ลรักษา 1.4.1 การใชภ้ าษา กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา - การเคลื่อนไหว - การเลน่ อิสระ ธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ อย่กู บั ท่ี ความตอ้ งการ - การเล่นรายบคุ คล กล่มุ ย่อย - การมีสว่ นรว่ มรบั ผดิ ชอบ - การพดู อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการเล่น และการ - การเคลอ่ื นไหว กระทาตา่ งๆ และกลมุ่ ใหญ่ ดแู ลรกั ษาสงิ่ แวดลอ้ มทง้ั 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตผุ ล เคล่อื นท่ี การตัดสนิ ใจและแกป้ ัญหา - การเล่นนอกหอ้ งเรยี น ภายในและภายนอกหอ้ งเรยี น - การตดั สนิ ใจและมีส่วนรว่ มในกระบวนการ - การเล่นเครอื่ งเล่น แกป้ ัญหา สนามอย่างอิสระ 1.2.3 คณุ ธรรม จริยธรรม - การใชว้ สั ดแุ ละสง่ิ ของ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ 1.1.4 การรักษา - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผา่ น ความปลอดภยั - การปฏิบตั ติ นตามหลกั เคร่ืองใชอ้ ย่างคมุ้ ค่า ส่ือ วสั ดุ ของเล่น และชิน้ งาน - การเล่นเครอื่ งเล่น 1.4.4 เจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรยี นรู้และการ ศาสนาท่นี บั ถือ 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพันธ์ แสวงหาความรู้ อยา่ งปลอดภยั - การสารวจส่งิ ต่างๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั 1.1.5 การ 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ มวี นิ ัย มสี ว่ นร่วม และ ตระหนกั รู้ เฉพาะตนและเช่อื ว่า บทบาทสมาชกิ ของสังคม เกี่ยวกับร่างกาย ตนเองมคี วามสามารถ - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง ตนเอง - การเคลอ่ื นไหว - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ ของหอ้ งเรียน โดยควบคมุ ตนเอง ตามความสามารถของตนเอง - การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชกิ ไปในทศิ ทาง ระดบั ท่ดี ีของหอ้ งเรียน และพนื้ ท่ี - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ 1.3.7 การยอมรับใน ความเหมอื นและความ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล - การเลน่ หรือทากิจกรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น 87

 จดุ ประสงค์ 2. พฒั นาทกั ษะการเลน่ ร่วมกบั ผอู้ ่ืน 1. พฒั นาทกั ษะการเคลอื่ นไหวและการทรงตวั 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม มคี วามอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย 4. การปลกู ฝังทศั นคติท่ดี ใี นการออกกาลงั กาย  กิจกรรมการเรียนรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั อบอนุ่ ร่างกายดว้ ยการออกกายบรหิ ารในการเคล่ือนไหวอย่กู บั ท่ี 2. ครูแนะนาการเลน่ เครื่องเลน่ สนามอย่างถกู วิธี และปลอดภยั ใหเ้ ดก็ ฟังพรอ้ มสาธิตใหด้ ู แลว้ รว่ มกนั สรา้ ง ขอ้ ตกลงในการเลน่ เคร่ืองเลน่ สนาม เช่น - เลน่ อยา่ งถกู วธิ ี ไม่เลน่ โลดโผน - เขา้ แถวรอคอยเลน่ ตอ่ จากเพ่อื น - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ เคร่ืองเลน่ อย่างทะนถุ นอม ไมท่ าลายใหเ้ สยี หาย - เลน่ รว่ มกนั ไม่ทะเลาะกนั - ไมเ่ ดด็ ใบไม้ ดอกไมม้ าเลน่ - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลอื ขอบใจเม่ือเพ่อื นช่วยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจบ็ หรือเดือดรอ้ น - เม่อื ไดย้ ินเสียงนกหวีดใหห้ ยดุ เลน่ ทนั ที เตรียมเขา้ แถวท่หี นา้ สนามเดก็ เลน่ 3. ครูใหเ้ ดก็ คิดวางแผนการเล่นเคร่ืองเลน่ สนามตามลาดบั ความสนใจ จากนนั้ ใหเ้ ลน่ ตามท่ีคดิ วางแผนไว้ อย่างอสิ ระ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ นิ เสียงนกหวีดใหห้ ยุดเลน่ แลว้ มาเขา้ แถวท่หี นา้ สนามเดก็ เลน่ 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงส่ิงท่ตี นเองเลน่ ความรูส้ กึ และปัญหาท่พี บ รวมถงึ วธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตการเคลื่อนไหวและการทรงตวั 2. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่ืน 3. สงั เกตการแสดงความอดทน เอือ้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั รอคอย 4. สงั เกตทศั นคติท่ดี ใี นการออกกาลงั กาย  ส่ือการเรยี นรู้ 1. นกหวีด 2. เคร่ืองเลน่ สนาม 88

กิจกรรมเกมการศึกษา  สาระที่ควรเรียนรู้ การเลน่ เกม จบั คู่ภาพอวยั วะกบั บตั รคา  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1,9.2 10.1,10.3 12.1 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.1.2 การใช้ 1.2.2 การเลน่ 1.3.1 การปฏบิ ตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา กลา้ มเนือ้ เลก็ - การหยิบจบั สง่ิ - การเลน่ อิสระ ประจาวนั - การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา ต่างๆ - การเลน่ รายบคุ คล กล่มุ ย่อย - การปฏิบตั ิตนตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ และกล่มุ ใหญ่ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ 1.2.3 คณุ ธรรม จริยธรรม เศรษฐกิจพอเพยี ง - การพดู อยา่ งสรา้ งสรรคใ์ นการเล่น และการ - การปฏิบตั ติ นตามหลกั 1.3.2 การดแู ลรักษา กระทาตา่ งๆ ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม - การเล่นเกมทางภาษา ศาสนาท่นี บั ถือ - การใชว้ สั ดแุ ละส่ิงของ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตผุ ล 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ การตัดสนิ ใจและแกป้ ัญหา เฉพาะตนและเช่อื ว่า เครื่องใชอ้ ย่างคมุ้ คา่ ตนเองมคี วามสามารถ 1.3.4 การมปี ฏิสมั พนั ธ์ - การสงั เกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ การ - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆ มีวินัย มีส่วนร่วม และ เปลย่ี นแปลง และความสมั พนั ธข์ องส่ิงตา่ งๆ ตามความสามารถของตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสงั คม โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อย่างเหมาะสม - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง - การจบั คู่ ของหอ้ งเรียน - การตดั สนิ ใจและมีส่วนรว่ มในกระบวนการ - การปฏิบตั ติ นเป็นสมาชิก ท่ดี ีของหอ้ งเรียน แกป้ ัญหา 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ - การใหค้ วามรว่ มมือใน - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผา่ น การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ ส่อื วสั ดุ ของเลน่ และชิน้ งาน 1.3.7 การยอมรับใน 1.4.4 เจตคติทด่ี ีตอ่ การเรียนรู้และการ ความเหมือนและความ แสวงหาความรู้ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล - การสารวจสิ่งตา่ งๆ และแหลง่ เรยี นรูร้ อบตวั - การเลน่ หรือทากิจกรรม รว่ มกบั กล่มุ เพ่อื น 89

 จดุ ประสงค์ 1. พฒั นากลา้ มเนอื้ มดั เล็กและตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 2. ฝึกทกั ษะกระบวนการแกไ้ ขปัญหาได้ 3. พฒั นาทกั ษะทางสติปัญญา เช่น การสงั เกต การเปรียบเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเร่ืองตา่ งๆ 4. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูแนะนาเกม จบั คู่ภาพอวยั วะกบั บตั รคา และสาธิตวธิ ีการเลน่ ใหเ้ ด็กดู พรอ้ มใหเ้ ดก็ มสี ว่ นรว่ มดว้ ย 2. ครูทบทวนเกมเก่าท่เี คยเลน่ มาแลว้ และรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - ไมส่ ง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - รูจ้ กั แบง่ ปันกนั เลน่ - เลน่ อย่างทะนถุ นอม ไมท่ าลายใหเ้ สียหาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลอื ขอบใจเม่ือเพ่อื นช่วยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจบ็ หรือเดอื ดรอ้ น - เม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครงั้ ) ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ี และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. ครูแบง่ เด็กเป็นกลมุ่ ย่อย กลมุ่ ละ 4 คน ใหก้ ลมุ่ แรกเลน่ เกม จบั คู่ภาพอวยั วะกบั บตั รคา กลมุ่ ท่ีเหลอื เลน่ เกมท่ี เคยเลน่ มาแลว้ เม่อื เล่นเสรจ็ ใหห้ มนุ เวยี นกนั เลน่ จนครบทกุ เกม เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ ใหเ้ ก็บเกมเขา้ ท่ี ใหเ้ รียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเลา่ ถึงเกมท่ีตนเองเล่น ความรูส้ กึ และปัญหาท่พี บ รวมถึงวิธีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 2. สงั เกตกระบวนการแกไ้ ขปัญหา 2. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนอื้ มดั เล็กและตาใหป้ ระสานสมั พนั ธก์ นั 3. สงั เกตทกั ษะทางสติปัญญา เช่น การสงั เกต การเปรยี บเทียบ ความรู้ ความเขา้ ใจในเรื่องต่างๆ 4. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อแบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  สื่อการเรียนรู้ 2. เกมเก่าท่เี คยเลน่ มาแลว้ 1. เกม จบั คู่ภาพอวยั วะกบั บตั รคา 3. เครอื่ งเคาะจงั หวะ 90

 ภาคผนวก  เกม จบั คู่ภาพอวยั วะกบั บตั รคา ตา หู จมูก ปาก มือ 91

แผนการจดั ประสบการณ์ ระดบั อนุบาล 1 ภาคเรยี นท่ี 1 วนั ท่ี 2 ตามองดู เดอื น หน่วย ประสาทสมั ผสั วนั ท่ี พ.ศ. กิจกรรมเสริมประสบการณ์  สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสาทสมั ผสั ของเรามี 5 สว่ น ไดแ้ ก่ ตา หู จมกู ลิน้ และผิวหนงั ประสาทสมั ผสั ทงั้ 5 ส่วนนี้ ช่วยใหเ้ รา รบั รูส้ ิ่งต่างๆ รอบตวั สาระสาคญั เด็กไดเ้ รียนรูเ้ ก่ียวกับความสาคญั ของดวงตาท่ีใชส้ าหรบั รบั รูข้ อ้ มลู ท่ีเป็นภาพ จาแนก แยกแยะ ส่ิงต่างๆ ว่ามลี กั ษณะคลา้ ยกนั เหมือนกนั หรือตา่ งกนั อยา่ งไร  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคม สติปัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1, 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.4 6.1 7.2 8.2, 8.3 9.1,9.2 10.1,10.3 11.1,11.2 12.1, 12.2 ประสบการณส์ าคญั 1.1.3 การรักษา 1.2.1 สุนทรยี ภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบตั กิ จิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา - การพดู อธิบายเก่ียวกบั สง่ิ ของ เหตกุ ารณ์ สุขภาพอนามัย - การฟังเพลง รอ้ งเพลง และ ประจาวนั และความสมั พนั ธข์ องสิ่งตา่ งๆ 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตผุ ล สว่ นตน การแสดงปฏิกิรยิ าโตต้ อบ - การชว่ ยเหลอื ตนเองใน การตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา กิจวตั รประจาวนั - การสงั เกตลกั ษณะ ส่วนประกอบ การ - การปฏบิ ตั ติ นตาม เสียงดนตรี 1.3.4 การปฏิสมั พนั ธ์ เปล่ยี นแปลง และความสมั พนั ธข์ องสิ่งตา่ งๆ สขุ อนามยั สขุ นสิ ยั - การรอ้ งเพลง โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อย่างเหมาะสม ท่ดี ใี นกจิ วตั ร 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ มีวินัย มสี ว่ นร่วม และ - การจบั คู่ การเปรยี บเทยี บ และการ ประจาวนั บทบาทสมาชกิ ของ เรยี งลาดบั ส่งิ ตา่ งๆ ตามลกั ษณะคามยาว/ เฉพาะตนและเชื่อวา่ ตนเองมีความสามารถ สงั คม - การปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ - การใหค้ วามรว่ มมือใน ตามความสามารถของตนเอง การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ ความสงู นา้ หนกั ปรมิ าตร 92

 จดุ ประสงค์ 1. บอกอวยั วะท่ีใชใ้ นการมองสงั เกตภาพสง่ิ ตา่ งๆ ได้ 2. สงั เกตรายละเอียดของภาพเปรยี บเทยี บความเหมือนความแตกต่างของส่งิ ของเครอื่ งใชไ้ ด้  กิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ นา ครูและเด็กรว่ มกนั รอ้ งเพลง ตาและหู พรอ้ มกบั ทาทา่ ทางประกอบเพลง ขนั้ สอน 1. ครูสนทนากบั เด็กเก่ียวกบั หนา้ ท่ขี องดวงตา ดงั นี้  เด็กๆ คิดว่าดวงตามีหนา้ ท่ีอะไรบา้ ง  ถา้ เราไม่มดี วงตา เราจะเป็นอย่างไร  เราควรดแู ลรกั ษาตาใหส้ ะอาด ปลอดภยั ไดอ้ ย่างไรบา้ ง 2. ครูใหเ้ ด็กทากิจกรรมแยกส่ิงของตา่ งๆ ท่มี ีลกั ษณะเดยี วกนั ไวใ้ นกลมุ่ เดยี วกนั โดยแบ่งเป็น 3 กลมุ่ ไดแ้ ก่ กลมุ่ ท่ีมีสเี ดียวกนั กลมุ่ ท่ีมขี นาดเทา่ กนั และกลมุ่ ท่ีมรี ูปรา่ งเหมอื นกนั 3. ครูอธิบายเก่ียวกบั หนา้ ท่ขี องดวงตา ว่ามีความสาคญั กบั การมองเหน็ ของคนเรา ดวงตาจะชว่ ยรบั ขอ้ มลู ท่ี เป็นภาพ และแยกแยะลกั ษณะของส่งิ ตา่ งๆ ท่ีเรามองเห็น ขนั้ สรปุ 1. ครูและเด็กรว่ มกนั สรุปเก่ียวกบั กิจกรรมแยกสง่ิ ของ อีกครงั้ หน่ึง 2. ครูใหเ้ ดก็ ดภู าพในหนงั สอื เสรมิ ฯ เรอื่ งราวเกี่ยวกบั ตวั เด็ก อ.1 กิจกรรม ตาจาแนกสง่ิ ของ หนา้ 10 ใหเ้ ดก็ สงั เกตภาพ ออกเสยี งคาศพั ท์ แลว้ เขยี น รอบภาพเงาท่ตี รงกนั  ประเมินผล 1. สงั เกตการสนทนาและการตอบคาถาม 2. สงั เกตความสนใจในการรว่ มกิจกรรม 3. สงั เกตผลงานการทากจิ กรรม ตาจาแนกสง่ิ ของ  สื่อการเรียนรู้ 1. เพลง ตาและหู 2. หนงั สอื เสรมิ ประสบการณ์ เรื่องราวเก่ียวกบั ตวั เดก็ อ.1 กิจกรรม ตาจาแนกสง่ิ ของ หนา้ 10 93

 ภาคผนวก  เพลง ตาและหู ตา ตา ตา เพลง ตาและหู หู หู หู คารอ้ ง-ทานอง สาลี รกั สทุ ธี ตาและหู ฉนั มตี าอย่เู พียงสองตา ฉนั มหี อู ยเู่ พยี งสองหู ฉนั มีอย่ใู หป้ ระโยชนเ์ อย 94

กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจงั หวะ  สาระท่ีควรเรียนรู้ การเคลื่อนไหวรา่ งกายประกอบเพลง ตาและหู  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สตปิ ัญญา มาตรฐานคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.2, 1.3 2.1 3.1, 3.2 4.1 8.1,8.2, 10.3 11.2 12.1 8.3 1.1.1 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี ประสบการณส์ าคญั 1.4.1 การใช้ภาษา กล้ามเนือ้ ใหญ่ - การฟังเพลง การรอ้ งเพลง 1.3.4 การมปี ฏิสัมพนั ธ์ - การฟังเพลง - การเคล่อื นไหว มวี ินัย มสี ว่ นร่วม และ และการแสดงปฏิกริ ยิ า บทบาทสมาชกิ ของ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ เคลอ่ื นท่ี สงั คม - การแสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา โตต้ อบเสยี งดนตรี - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง 1.1.5 การ - การเคลือ่ นไหวตาม ทา่ ทาง การเคลอ่ื นไหว ตระหนกั รู้ ของหอ้ งเรียน 1.4.4 เจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรียนรู้และการ เกย่ี วกบั ร่างกาย เสียงเพลง/ดนตรี แสวงหาความรู้ ตนเอง 1.2.4 การแสดงออกทาง - การใหค้ วามรว่ มมอื ใน - การสารวจส่ิงตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั - การเคล่อื นไหว อารมณ์ - การเคล่ือนไหวตาม การปฏิบตั ิกิจกรรมตา่ งๆ โดยควบคมุ ตนเอง เสียงเพลง/ดนตรี 1.3.7 การยอมรับใน ไปในทิศทาง ระดบั ความเหมอื นและความ - การรอ้ งเพลง แตกตา่ งระหว่างบคุ คล และพนื้ ท่ี 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ - การเล่นหรือทากิจกรรม เฉพาะตนและเช่อื วา่ ตนเองมคี วามสามารถ รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น - การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ตามความสามารถของตนเอง  จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการใชก้ ลา้ มเนอื้ ใหญ่ เลก็ และตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. พฒั นาทกั ษะการเคล่ือนไหวประกอบเพลง 3. เพ่ือใหเ้ กิดความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์ 95

 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวร่างกายอยา่ งอสิ ระโดยไมใ่ หช้ นกนั ตามจงั หวะท่คี รูกาหนด 2. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาเป็นผกู้ าหนดจงั หวะ และใหเ้ พ่ือนๆ เคล่ือนไหวร่างกายอย่างอิสระโดยไมใ่ หช้ นกนั 3. ครูรอ้ งเพลง ตาและหู ใหเ้ ด็กฟังกอ่ น 1 รอบ แลว้ ใหเ้ ด็กรอ้ งตามทีละวรรค จนเด็กสามารถรอ้ งเพลงได้ 4. เด็กและครูรว่ มกนั รอ้ งเพลง ตาและหู พรอ้ มกนั และทาท่าทางประกอบเพลงตามจนิ ตนาการ  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ ใหญ่ เล็ก และตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. สงั เกตการเคล่ือนไหวประกอบเพลงตามจินตนาการ 3. สงั เกตความสนกุ สนานและผ่อนคลายอารมณ์  ส่ือการเรียนรู้ 2. เครื่องเคาะจงั หวะ 1. เพลง ตาและหู  ภาคผนวก เพลง ตาและหู (คารอ้ ง-ทานอง สาลี รกั สทุ ธี)  เพลง ตาและหู ฉนั มีตาอยเู่ พยี งสองตา ฉนั มหี อู ย่เู พยี งสองหู ตา ตา ตา ฉนั มีอย่ใู หป้ ระโยชนเ์ อย หู หู หู ตาและหู 96

กิจกรรมสร้างสรรค์  สาระท่ีควรเรยี นรู้ การระบายสีภาพเดก็ ฟังเพลง  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คม สติปัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.2,5.4 6.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.1 12.1 8.3 ประสบการณส์ าคญั 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.4 การมปี ฏิสัมพนั ธ์ 1.4.1 การใช้ภาษา - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ กลา้ มเนือ้ เลก็ - การทากิจกรรมศิลปะตา่ งๆ มีวนิ ัย มีสว่ นร่วม และ ความตอ้ งการ - การเขยี นภาพและ - การสรา้ งสรรคส์ ิง่ สวยงาม บทบาทสมาชกิ ของ สังคม 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ การเลน่ กบั สี 1.2.4 การแสดงออกทาง - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง - การแสดงความคดิ สรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา อารมณ์ ทา่ ทาง การเคลือ่ นไหว และศิลปะ 1.4.4 เจตคติทดี่ ีตอ่ การเรยี นรู้และการ - การทางานศิลปะ ของหอ้ งเรยี น แสวงหาความรู้ - การสารวจสิ่งตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั 1.2.5 การมีอตั ลกั ษณ์ - การใหค้ วามรว่ มมือใน เฉพาะตนและเช่ือว่า การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ตนเองมคี วามสามารถ 1.3.7 การยอมรับใน - การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมต่างๆ ความเหมอื นและความ ตามความสามารถของตนเอง แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล - การเล่นหรอื ทากิจกรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น  จดุ ประสงค์ 1. พฒั นาการกลา้ มเนือ้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. การสรา้ งสรรคผ์ ลงานตามจินตนาการ 3. สามารถบอกเลา่ เกี่ยวกบั ผลงานของตนเองได้ 97

 กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครูใหเ้ ด็กน่งั เป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน แลว้ แจกอปุ กรณใ์ นการทากจิ กรรมใหเ้ ด็กทกุ กลมุ่ 2. ครูใหเ้ ด็กช่วยกนั บอกหนา้ ท่ี และประโยชนข์ องอวยั วะสว่ นต่างๆ ของรา่ งกาย เช่น ตา-มองดสู งิ่ ต่างๆ ห-ู ฟังเสียงตา่ งๆ รอบตวั จมกู -ดมกลน่ิ ส่ิงตา่ งๆ ลิน้ -รบั รูร้ สชาติอาหาร เป็นตน้ จากนนั้ ครูใหเ้ ดก็ ดู ภาพเดก็ ฟังเพลงท่คี รูแจกให้ แลว้ ระบายสีภาพใหส้ วยงาม 3. เดก็ บอกเล่าผลงานใหเ้ พ่อื นฟัง และครูจดบนั ทกึ ลงบนผลงาน 4. เด็กๆ ช่วยกนั เก็บวสั ดอุ ปุ กรณเ์ ขา้ ท่ี และทาความสะอาดโต๊ะกจิ กรรม  ประเมินผล 1. สงั เกตการใชก้ ลา้ มเนือ้ มดั เล็กและตาใหส้ มั พนั ธก์ นั 2. สงั เกตผลงาน 3. สงั เกตการบอกเลา่ เกี่ยวกบั ผลงานของตนเอง  ส่ือการเรยี นรู้ 2. สเี ทยี น 1. ภาพเดก็ ฟังเพลง 98

กิจกรรมเสรี  สาระที่ควรเรยี นรู้ การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ เปิดโอกาสใหเ้ ด็กเลน่ อิสระตามมมุ ประสบการณห์ รือศนู ยก์ ารเรียน ท่จี ดั ไวใ้ น หอ้ งเรียน เชน่ มมุ บลอ็ ก มมุ วทิ ยาศาสตรห์ รือมมุ ธรรมชาตศิ กึ ษา มมุ คณิตศาสตร์ มมุ บา้ น มมุ หนงั สือ มมุ ศิลปะ มมุ ดนตรี มมุ บทบาทสมมติ เป็นตน้  มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ / ประสบการณ์สาคญั ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม สตปิ ัญญา มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ.1 มฐ.2 มฐ.3 มฐ.4 มฐ.5 มฐ.6 มฐ.7 มฐ.8 มฐ.9 มฐ.10 มฐ.11 มฐ.12 1.3 2.2 3.1, 3.2 4.1 5.1,5.2, 6.2,6.3 7.2 8.1,8.2, 9.1 10.3 11.2 12.1,12.2 5.3 8.3 ประสบการณส์ าคัญ 1.1.2 การใช้ 1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี 1.3.1 การปฏิบตั ิกจิ วตั ร 1.4.1 การใชภ้ าษา กล้ามเนือ้ เลก็ - การเลน่ บทบาทสมมติ ประจาวัน - การฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา - การเลน่ เครอื่ งเล่น 1.2.2 การเลน่ - การปฏบิ ตั ติ นตาม - การพดู แสดงความคดิ ความรูส้ กึ และ สมั ผสั และการสรา้ ง - การเลน่ อสิ ระ แนวทางหลกั ปรชั ญาของ ความตอ้ งการ สงิ่ ต่างๆ จากแท่งไม้ - การเล่นรายบคุ คล กล่มุ ยอ่ ย เศรษฐกจิ พอเพียง - การพดู อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการเลน่ และการ บล็อก และกล่มุ ใหญ่ 1.3.2 การดูแลรักษา กระทาตา่ งๆ - การหยิบจบั สง่ิ - การเลน่ ตามมมุ ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล ต่างๆ การรอ้ ยวสั ดุ ประสบการณ/์ มมุ เล่นตา่ งๆ - การใชว้ สั ดแุ ละสิ่งของ การตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหา 1.2.3 คุณธรรม จรยิ ธรรม เครอ่ื งใชอ้ ย่างคมุ้ คา่ 1.1.5 การ - การเลน่ กบั ส่อื ตา่ งๆ ท่เี ป็นทรงกลม ทรง ตระหนกั รู้ - การปฏิบตั ิตนตามหลกั 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ สี่เหลีย่ มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย เกี่ยวกบั ร่างกาย ศาสนาท่ีนบั ถือ มวี ินัย มีส่วนร่วม และ - การตดั สินใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ ตนเอง บทบาทสมาชกิ ของสังคม แกป้ ัญหา - การเคลอื่ นไหว 1.2.4 การแสดงออกทาง - การรว่ มกาหนดขอ้ ตกลง 1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ โดยควบคมุ ตนเอง อารมณ์ ของหอ้ งเรียน ไปในทิศทาง ระดบั - การเลน่ บทบาทสมมติ - การรบั รู้ และแสดงความคดิ ความรูส้ กึ ผ่าน และพนื้ ท่ี - การใหค้ วามรว่ มมือใน สอื่ วสั ดุ ของเล่น และชิน้ งาน 1.2.5 การมอี ตั ลกั ษณ์ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ 1.4.4 เจตคติทด่ี ีตอ่ การเรยี นรู้และการ เฉพาะตนและเช่ือว่า 1.3.7 การยอมรับใน แสวงหาความรู้ ตนเองมีความสามารถ ความเหมือนและความ - การสารวจสงิ่ ตา่ งๆ และแหล่งเรยี นรูร้ อบตวั - การปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ แตกตา่ งระหว่างบคุ คล ตามความสามารถของตนเอง - การเลน่ หรือทากิจกรรม รว่ มกบั กลมุ่ เพ่อื น 99

 จดุ ประสงค์ 2. มีทกั ษะทางดา้ นสงั คมเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้ 1. สง่ เสรมิ พฒั นาการ 4 ดา้ นผ่านการเลน่ 3. สง่ เสรมิ คณุ ธรรม จริยธรรม มคี วามอดทน เอือ้ เฟื้อ แบ่งปัน และรูจ้ กั การรอคอย  กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. เดก็ และครูรว่ มกนั ทบทวนมมุ ประสบการณต์ ่างๆ ในหอ้ งเรียน และใหค้ ิดวางแผนการเลน่ ว่าจะเลน่ อะไร ตามลาดบั ความสนใจของตนเอง 2. เดก็ และครูรว่ มกนั สรา้ งขอ้ ตกลงในการเลน่ เชน่ - เด็กไมส่ ง่ เสยี งดงั ขณะเลน่ - เม่อื เลน่ เสรจ็ เก็บของเลน่ เขา้ ท่ี - รูจ้ กั แบ่งปันกนั เลน่ - เลน่ ของเลน่ อย่างทะนุถนอม ไมท่ าลายใหเ้ สยี หาย - รูจ้ กั ขอบคณุ เม่อื ครูช่วยเหลือ ขอบใจเม่ือเพ่อื นชว่ ยเหลือ และขอโทษเม่ือทาใหผ้ อู้ ่ืนเจ็บหรือเดือดรอ้ น - เม่อื ไดย้ นิ สญั ญาณหยดุ (เคาะจงั หวะ 2 ครง้ั ) ใหเ้ ก็บของเลน่ ทนั ที และมาน่งั รวมกนั ท่หี นา้ หอ้ ง 3. เด็กๆ เลือกเลน่ ตามท่ีคดิ ไวอ้ ยา่ งอิสระ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง และเม่อื ไดย้ ินสญั ญาณหยุดใหเ้ ก็บของเขา้ ท่ีให้ เรียบรอ้ ย และมาน่งั รวมกนั ท่ีหนา้ หอ้ ง 4. ครูใหเ้ ด็กอาสาสมคั รออกมาบอกเล่าถึงส่ิงท่ีตนเองเลน่ ความรูส้ กึ และปัญหาท่ีพบ รวมถึงวธิ ีแกป้ ัญหาอย่างไร  ประเมินผล 1. สงั เกตพฒั นาการ 4 ดา้ น 2. สงั เกตการแสดงความเอือ้ เฟื้อ แบง่ ปัน และรูจ้ กั การรอคอย 3. สงั เกตการเลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่นื 2. เคร่ืองเคาะจงั หวะ  สื่อการเรียนรู้ 1. ของเลน่ ในมมุ ประสบการณต์ า่ งๆ 100


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook