วชิ าหลักการสง่ เสริมการเกษตร รหัสวิชา 3501-2001 หลกั สตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพชน้ั สูง (ปวส.) พทุ ธศกั ราช 2557 นางอังสนา หะยีหะเต็ง ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ แผนกวิชาสามัญสัมพนั ธ์ วิทยาลยั ประมงติณสลู านนท์ สำนกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ เอกสารประกอบการเรียน วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร รหัสวชิ า 3501-2001เป็ น เอกสารที่เรียบเรียงข้ึนเพื่อให้นักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) ได้ใช้เป็ น เอกสารประกอบการเรียนในรายวชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตรท้งั ภาคทฤษฎีและปฏิบตั ิ ซ่ึงมีสาระ สาคญั ตรงกับมาตรฐานและคาอธิบายรายวิชาในหลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) พุทธศกั ราช 2557ของสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีจุด มุ่ง หมายใหน้ ักศึกษาไดม้ ีความรูค้ วามเขา้ ใจดา้ นหลกั การและกระบวนการในการส่งเสริมการ เกษตร เพอ่ื ให้นกั ศกึ ษาสามารถนาความรู้และประสบการณ์ท่ีไดร้ ับจากการศึกษาวชิ าน้ีไปประยกุ ต์ ใชใ้ น การพฒั นาอาชีพทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั การเกษตรต่อไป โดยไดแ้ บ่งเน้ือหาภาคทฤษฎีออกเป็ น 8 หน่วยการ เรียน ได้แก่ หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร เทคนิคและวิธีการส่งเสริมการ เกษตร การติดต่อสื่อสารในการส่งเสริมการเกษตรโสตทศั นูปกรณ์ในการส่งเสริมการเกษตร การ ดาเนินงานและการประสานงานในการส่งเสริมการเกษตร การวางแผนโครงการส่งเสริมการเกษตร การประเมนิ ผลการส่งเสริมการเกษตร และปัญหาการส่งเสริมการเกษตรและแนวทางแก้ไข ส่วน ภาคปฏบิ ตั ิน้นั ไดแ้ บง่ ออกเป็น 8 บทปฏิบตั ิการ คือ การผลติ แผ่นโปร่งใสและการใชเ้ คร่ืองฉายภาพ ขา้ มศรี ษะ เครื่องฉายภาพดจิ ติ อล (LCD Projector) เคร่ืองเล่นดวี ีดี (DVD Player) การถา่ ยภาพดว้ ย กลอ้ งดจิ ิตอล การผลิตแผ่นพบั การสาธิตทางการเกษตรการจดั นทิ รรศการ และการเขยี นโครงการ ถา่ ยทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร ผเู้ ขียนขอขอบคุณผเู้ กี่ยวขอ้ งทุกทา่ นที่ไดใ้ ห้การสนบั สนุน ช่วยเหลือ ให้คาแนะนา และชว่ ยตรวจสอบแกไ้ ขความถูกตอ้ งจนเอกสารประกอบการเรียนน้ีมีความถูกตอ้ งสมบูรณ์ และ ขอขอบคุณผทู้ ่ใี ห้กาลงั ใจทุกท่าน ผเู้ ขยี นหวงั วา่ เอกสารประกอบการเรียนเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์ต่อ การเรียนการสอน และสามารถพฒั นาผูเ้ รียนให้มีความรู้และทกั ษะเพ่ือนาไปใช้เป็ นแนวทางใน การบูรณาการกบั วชิ าอนื่ และเพือ่ ประกอบอาชีพทเี่ กี่ยวขอ้ งตอ่ ไป องั สนา หะยหี ะเต็ง กรกฎาคม 2561 (1)
สารบญั หน้า ก คำนำ ข สำรบญั ซ สำรบญั ภำพ ญ สำรบญั ตำรำง ฎ แผนบริหำรจดั กำรเรียนรู้ประจำรำยวิชำ 1 บทที่ 1 หลกั กำรและควำมสำคญั และของกำรส่งเสริมกำรเกษตร 1 1 จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 2 บทนำ 2 เน้ือหำ 4 6 ควำมหมำยของกำรส่งเสริมกำรเกษตร 8 หลกั กำรส่งเสริมกำรเกษตร 10 ควำมสำคญั ของกำรส่งเสริมกำรเกษตร 10 ควำมจำเป็นทต่ี อ้ งมีกำรส่งเสริมกำรเกษตร 11 จดุ มุง่ หมำยของกำรส่งเสริมกำรเกษตร 11 วตั ถปุ ระสงคข์ องกำรส่งเสริมกำรเกษตร 12 เป้ำหมำยของกำรส่งเสริมกำรเกษตร 16 ปรัชญำของกำรส่งเสริมกำรเกษตร 16 กระบวนกำรส่งเสริมกำรเกษตร 17 สรุป 18 คำถำมทำ้ ยบท 18 เอกสำรอำ้ งองิ 18 บทท่ี 2 เทคนิคและวธิ ีกำรส่งเสริมกำรเกษตร 18 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม บทนำ ญ เน้ือหำ
สารบญั (ต่อ) หน้า 18 ควำมหมำยของวิธีกำรส่งเสริมกำรเกษตร 19 วิธีกำรส่งเสริมกำรเกษตร 27 เทคนิคกำรส่งเสริมกำรเกษตร 44 กำรยอมรบั นวตั กรรมหรือเทคโนโลยีทำงกำรเกษตรของเกษตรกร 47 ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงกระบวนกำรยอมรบั กบั วิธีกำรส่งเสริมกำรเกษตร 48 ประเภทของเกษตรกรในงำนส่งเสริมกำรเกษตร 51 สรุป 52 คำถำมทำ้ ยบท 53 เอกสำรอำ้ งอิง 54 บทที่ 3 กำรติดต่อส่ือสำรในกำรส่งเสริมกำรเกษตร 54 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 54 บทนำ 55 เน้ือหำ 55 ควำมหมำยของกำรตดิ ต่อส่ือสำร 55 หนำ้ ทีข่ องกำรติดตอ่ ส่ือสำร 56 ควำมสำคญั ของกำรติดต่อส่ือสำร 57 วตั ถปุ ระสงคข์ องกำรตดิ ตอ่ ส่ือสำร 58 ประเภทของกำรตดิ ตอ่ ส่ือสำร 59 วิธีกำรตดิ ตอ่ ส่ือสำรกบั เกษตรกรในงำนส่งเสริมกำรเกษตร 60 องคป์ ระกอบพ้ืนฐำนของกำรตดิ ตอ่ ส่ือสำร 61 กระบวนกำรติดต่อส่ือสำร 64 ปัจจยั ทท่ี ำให้กำรตดิ ต่อสื่อสำรประสบผลสำเร็จ 65 ปัญหำอุปสรรคในกำรตดิ ตอ่ ส่ือสำร 66 สรุป 67 คำถำมทำ้ ยบท 68 เอกสำรอำ้ งอิง ญ
สารบัญ(ต่อ) หน้า 69 บทท่ี 4 กำรใชส้ ่ือและโสตทศั นูปกรณใ์ นกำรส่งเสริมกำรเกษตร 69 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 69 บทนำ 69 เน้ือหำ 69 ควำมหมำยของโสตทศั นูปกรณ์ 70 ประโยชนข์ องโสตทศั นูปกรณ์ 72 ประเภทของโสตทศั นูปกรณ์ 76 โสตทศั นูปกรณ์ทีส่ ำคญั ในงำนส่งเสริมกำรเกษตร 79 ขอ้ ดแี ละขอ้ จำกดั ของโสตทศั นูปกรณ์ชนิดตำ่ งๆ 83 หลกั ในกำรเลอื กใชโ้ สตทศั นูปกรณส์ ำหรบั งำนส่งเสริมกำรเกษตร 83 วิธีกำรใชโ้ สตทศั นูปกรณใ์ นงำนส่งเสริมกำรเกษตร 85 ขอ้ ควรคำนึงบำงประกำรในกำรใชโ้ สตทศั นูปกรณ์ 85 สรุป 86 คำถำมทำ้ ยบท 87 เอกสำรอำ้ งองิ 88 88 บทที่ 5 กำรดำเนนิ งำนและกำรประสำนงำนในกำรส่งเสริมกำรเกษตร 88 จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 89 บทนำ 89 เน้ือหำ 89 กำรดำเนนิ งำนในกำรส่งเสริมกำรเกษตร 93 ประเภทของหน่วยงำนที่มีส่วนเก่ยี วขอ้ งกบั งำนส่งเสริมกำรเกษตร 93 สถำบนั กำรเกษตร 98 หน่วยงำนของรฐั ทร่ี บั ผิดชอบโดยตรงในกำรส่งเสริมกำรเกษตร 104 บทบำทกำรดำเนนิ งำนส่งเสริมกำรเกษตรของหน่วยงำนอน่ื ๆ 107 กำรประสำนงำนในกำรส่งเสริมกำรเกษตร วิธีสร้ำงควำมร่วมมือในกำรประสำนงำน ญ
สารบญั (ต่อ) หน้า 108 เทคนิคกำรประสำนงำน 108 ขอ้ จำกดั ทเ่ี ป็นอุปสรรคของกำรประสำนงำน 109 สรุป 110 คำถำมทำ้ ยบท 111 เอกสำรอำ้ งองิ 112 บทที่ 6 กำรวำงแผนโครงกำรในกำรส่งเสริมกำรเกษตร 112 จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 112 บทนำ 112 เน้ือหำ 112 ควำมหมำยของกำรวำงแผนโครงกำรส่งเสริมกำรเกษตร 114 ควำมสมั พนั ธ์ของนโยบำย แผน และโครงกำร 115 ประโยชนข์ องกำรวำงแผนโครงกำรส่งเสริมกำรเกษตร 116 ลกั ษณะทดี่ ขี องกำรวำงแผนโครงกำรส่งเสริมกำรเกษตร 118 ข้นั ตอนกำรวำงแผนโครงกำรส่งเสริมกำรเกษตร 125 องคป์ ระกอบและแนวทำงกำรเขยี นโครงกำร 127 ตวั อยำ่ งกำรเขียนโครงกำร 131 สรุป 131 คำถำมทำ้ ยบท 132 เอกสำรอำ้ งอิง 133 บทท่ี 7 กำรประเมินผลกำรส่งเสริมกำรเกษตร 133 จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 133 บทนำ 133 เน้ือหำ 133 ควำมหมำยของกำรประเมินผลงำนส่งเสริมกำรเกษตร 136 ควำมสำคญั ของกำรประเมินผลงำนส่งเสริมกำรเกษตร 137 ประเภทของกำรประเมนิ ผลงำนส่งเสริมกำรเกษตร ญ
สารบัญ(ต่อ) หน้า 139 องคป์ ระกอบของกำรประเมินผลงำนส่งเสริมกำรเกษตร 143 ข้นั ตอนกำรประเมินผลงำนส่งเสริมกำรเกษตร 147 แนวทำงกำรประเมนิ ผลงำนส่งเสริมกำรเกษตร 150 สรุป 151 คำถำมทำ้ ยบท 152 เอกสำรอำ้ งองิ 153 บทท่ี 8 ปัญหำกำรส่งเสริมกำรเกษตรและแนวทำงแกไ้ ข 153 จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 153 บทนำ 153 เน้ือหำ 153 ปัญหำกำรส่งเสริมกำรเกษตร 159 แนวทำงกำรแกไ้ ขปัญหำกำรส่งเสริมกำรเกษตร 161 สรุป 162 คำถำมทำ้ ยบท 163 เอกสำรอำ้ งอิง 164 ภำคผนวก 164 ใบมอบหมำยงำนที่ 1.1 165 ใบมอบหมำยงำนท่ี 1.2 166 ใบมอบหมำยงำนที่ 2.1 167 ใบมอบหมำยงำนท่ี 3.1 168 ใบมอบหมำยงำนท่ี 3.2 169 ใบมอบหมำยงำนท่ี 3.3 170 ใบมอบหมำยงำนที่ 4.1 171 ใบมอบหมำยงำนที่ 5.1 172 ใบมอบหมำยงำนที่ 6.1 173 ใบมอบหมำยงำนท่ี 6.2 ญ
สารบัญ(ต่อ) หน้า 175 ใบมอบหมำยงำนท่ี 7.1 176 ใบมอบหมำยงำนท่ี 7.2 177 ใบมอบหมำยงำนที่ 8.1 ญ
สารบัญภาพ ภำพท่ี 1.1 ลกั ษณะของกระบวนกำรจำกควำมหมำยของกำรส่งเสริมกำรเกษตร หน้า ภำพท่ี 1.2 ตวั อย่ำงกำรปลกู หญำ้ แฝกของเกษตรกรเพ่ือป้องกนั กำรพงั ทลำยของ 4 9 หนำ้ ดนิ ภำพท่ี 1.3 ตวั อย่ำงรถแทรกเตอร์ทีเ่ ป็นกำรพฒั นำประสิทธิภำพเพือ่ ใชใ้ นกำร 9 ภำพที่ 1.4 กระบวนกำรส่งเสริมกำรเกษตรแบบยคุ ลวิถี 13 ภำพท่ี 1.5 วงจรกำรส่งเสริมกำรเกษตร 14 ภำพท่ี 1.6 กำรไหลของควำมรูแ้ ละปัญหำในกระบวนกำรส่งเสริมกำรเกษตร 15 ภำพท่ี 2.1 นกั ส่งเสริมกำรเกษตรออกไปเยี่ยมเยียนเกษตรกรทบี่ ำ้ นและไร่นำ 29 ภำพท่ี 2.2 กำรท่เี กษตรกรมำพบนกั ส่งเสริมกำรเกษตรท่สี ำนกั งำน 30 ภำพท่ี 2.3 แสดงกำรสำธิตกำรทำป๋ ยุ หมกั ชีวภำพเพื่อใชใ้ นกำรเกษตร 34 ภำพที่ 2.4 แสดงใหเ้ หน็ ลกั ษณะของกำรนำเกษตรกรไปทศั นศกึ ษำ 36 ภำพที่ 2.5 แสดงกำรจดั รำยกำรวทิ ยแุ บบกำรสัมภำษณ์สดออกอำกำศจำก 41 ห้องจดั รำยกำร 42 ภำพที่ 2.6 กำรมอบเกยี รติบตั รเพือ่ เป็นเกียรตสิ ำหรบั ผชู้ นะกำรประกวด 46 พชื ผลทำงกำรเกษตร 47 ภำพที่ 2.7 สรุปข้นั ตอนของกระบวนกำรยอมรบั นวตั กรรมทำงกำรเกษตร 50 ภำพท่ี 2.8 ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงกระบวนกำรยอมรับกบั วิธีกำรส่งเสริมกำรเกษตร ภำพท่ี 2.9 เปรียบเทยี บค่ำรอ้ ยละของเกษตรกรแต่ละประเภทเป็นเส้นกรำฟ 50 61 รูประฆงั ควำ่ 62 ภำพท่ี 2.10 ลกั ษณะของเกษตรกรท้งั 6 จำพวกทน่ี กั ส่งเสริมตอ้ งพบเจออยู่เสมอ 63 ภำพท่ี 3.1 องคป์ ระกอบพ้นื ฐำนของกำรติดต่อสื่อสำร 65 ภำพที่ 3.2 กำรตดิ ต่อส่ือสำรแบบทำงเดยี วหรือแบบเอกวิถี (one-way communication) 72 ภำพที่ 3.3 กำรติดต่อสื่อสำรแบบสองทำงหรือแบบยุคลวถิ ี (two-way communication) 74 ภำพที่ 3.4 แสดงกรอบแห่งกำรอำ้ งองิ (frame of reference) ภำพที่ 4.1 ประโยชนข์ องโสตทศั นูปกรณต์ อ่ เกษตรกรในงำนส่งเสริมกำรเกษตร ภำพที่ 4.2 กรวยประสบกำรณ์ของ Edgar Dale ญ
สารบัญภาพ(ต่อ) หน้า 92 ภำพท่ี 5.1 แผนภูมกิ ำรแบ่งส่วนรำชกำรและองคก์ ำรรัฐวิสำหกิจของ กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ 95 115 ภำพท่ี 5.2 แผนภูมิโครงสรำ้ งกำรแบ่งส่วนรำชกำรของกรมส่งเสริมกำรเกษตร 118 ภำพที่ 6.1 ควำมสัมพนั ธ์ของนโยบำย แผน แผนงำน โครงกำรและกจิ กรรม 137 ภำพท่ี 6.2 วงจรกำรวำงแผนโครงกำรส่งเสริมกำรเกษตร 142 ภำพท่ี 7.1 ประเภทของกำรประเมินผลท่ใี ชร้ ะยะเวลำเป็นตวั กำหนด 147 ภำพท่ี 7.2 ควำมสมั พนั ธ์ของส่วนประกอบในกระบวนกำรประเมินผล ภำพท่ี 7.3 องคป์ ระกอบของกำรจดั ทำรำยงำนกำรประเมินผล ญ
สารบญั ตาราง ตำรำงที่ 2.1 เปรียบเทียบขอ้ ดแี ละขอ้ จำกดั ของวิธีกำรส่งเสริมแบบรำยบคุ คล หน้า ตำรำงท่ี 2.2 เปรียบเทยี บกำรสำธิตวธิ ีและกำรสำธิตผลในงำนส่งเสริมกำรเกษตร 20 ตำรำงท่ี 2.3 เปรียบเทยี บขอ้ ดแี ละขอ้ จำกดั ของวธิ กี ำรส่งเสริมแบบกลุ่ม 22 ตำรำงท่ี 2.4 เปรียบเทียบขอ้ ดีและขอ้ จำกดั ของวิธกี ำรส่งเสริมแบบมวลชน 23 ตำรำงที่ 2.5 เปรียบเทยี บวธิ ีกำรส่งเสริมกำรเกษตรแบบรำยบุคคล แบบกลมุ่ 26 และแบบมวลชน 26 ตำรำงท่ี 3.1 กำรเปรียบเทยี บวตั ถปุ ระสงคใ์ นกำรตดิ ตอ่ ส่ือสำรของ ผสู้ ่งสำรและผรู้ ับสำร 57 ตำรำงท่ี 3.2 กำรเปรียบเทยี บควำมแตกต่ำงระหวำ่ งกำรส่ือสำร แบบทำงเดยี วและแบบสองทำง 63 ตำรำงที่ 4.1 ขอ้ ดีและขอ้ จำกดั ของโสตทศั นูปกรณ์ชนิดตำ่ งๆ 80 ญ
สารบญั ภาพ หนา้ 8 ภาพท่ี 1.1 ลกั ษณะของกระบวนการจากความหมายของการ ส่งเสริมการเกษตร 12 ภาพที่ 1.2 ตวั อย่างการประกอบอาชีพทางดา้ นการเกษตรของ 13 เกษตรกรไทย 13 ภาพท่ี 1.3 ตวั อย่างประเทศท่ไี ม่สามารถผลิตอาหารเล้ยี ง ประชากรในประเทศไดอ้ ยา่ ง เพียงพอ 14 ภาพท่ี 1.4 ตวั อย่างผลผลติ ทางการเกษตรทมี่ กี ารแขง่ ขนั กนั ท้งั 15 ชนิดและคณุ ภาพ 19 ภาพที่ 1.5 ตวั อย่างการปลกู หญา้ แฝกเพ่อื พฒั นาและอนุรกั ษ์ 20 ทรัพยากรดนิ 21 ภาพที่ 1.6 ตวั อยา่ งความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยกี ารผลิตทาง 42 การเกษตร 45 46 ภาพที่ 1.7 กระบวนการส่งเสริมการเกษตรแบบยุคลวิถี 50 ภาพที่ 1.8 วงจรการส่งเสริมการเกษตร 51 ภาพที่ 1.9 การไหลของความรูแ้ ละปัญหาในกระบวนการส่งเสริม 54 57 การเกษตร 58 ภาพที่ 2.1 วธิ ีการส่งเสริมการเกษตรแบบตา่ งๆ 58 ภาพท่ี 2.2 การไปเย่ียมเยียนเกษตรกรท่บี า้ นและไร่นา 61 ภาพท่ี 2.3 การทเี่ กษตรกรมาพบนกั ส่งเสริมที่สานกั งาน 63 ภาพท่ี 2.4 การจดั ประชมุ เกษตรกร ภาพท่ี 2.5 การสาธิตทางการเกษตร (8) ภาพที่ 2.6 การนาเกษตรกรไปทศั นศกึ ษา ภาพที่ 2.7 ตวั อย่างใบปลิว หรือแผน่ ปลิว ภาพที่ 2.8 ตวั อย่างแผ่นพบั ภาพท่ี 2.9 ตวั อยา่ งวารสารทางการเกษตร ภาพที่ 2.10 การเผยแพร่ความรู้ดว้ ยวทิ ยกุ ระจายเสียง ภาพที่ 2.11 การประกวดพชื ผลทางการเกษตร
สารบัญภาพ (ตอ่ ) หนา้ 67 ภาพท่ี 2.12 สรุปข้นั ตอนกระบวนการยอมรบั นวตั กรรมทาง การเกษตร 69 ภาพที่ 2.13 ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกระบวนการยอมรับกบั วธิ ีการ 72 ส่งเสริมการเกษตร 72 ภาพที่ 2.14 ประเภทของเกษตรกรในงานส่งเสริมการเกษตร 91 ภาพที่ 2.15 ลกั ษณะของเกษตรกรท้งั 6 จาพวก ทน่ี กั ส่งเสริมตอ้ ง 92 92 พบอย่เู สมอ 94 ภาพท่ี 3.1 แผนภูมกิ ระบวนการตดิ ต่อสื่อสาร 110 ภาพท่ี 3.2 การตดิ ต่อส่ือสารแบบทางเดยี วหรือแบบเอกวิถี ภาพท่ี 3.3 การตดิ ตอ่ สื่อสารแบบสองทางหรือแบบยคุ ลวิถี 112 ภาพท่ี 3.4 แสดงกรอบแห่งการอา้ งองิ (Frame of Reference) 138 ภาพที่ 4.1 สรุปประโยชน์ของโสตทศั นูปกรณ์ตอ่ เกษตรกรในงาน 141 ส่งเสริมการเกษตร ภาพที่ 4.2 กรวยประสบการณ์ของ Edgar Dale 173 ภาพที่ 5.1 แผนภูมิการแบ่งส่วนราชการและองคก์ ารรัฐวสิ าหกิจ 177 ของกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ 207 ภาพท่ี 5.2 แผนภูมโิ ครงสร้างการแบง่ ส่วนราชการของกรม 212 ส่งเสริมการเกษตร 218 ภาพที่ 6.1 ความสมั พนั ธ์ของนโยบาย แผน แผนงาน โครงการ (8) และกิจกรรม ภาพที่ 6.2 วงจรการวางแผนโครงการส่งเสริมการเกษตร ภาพที่ 7.1 ประเภทของการประเมินผลท่ีใชร้ ะยะเวลาเป็นตวั กาหนด ภาพที่ 7.2 ความสมั พนั ธ์ของส่วนประกอบในกระบวนการ ประเมินผล ภาพท่ี 7.3 องคป์ ระกอบของการจดั ทารายงานการประเมินผล
สารบญั ตาราง ตารางท่ี 2.1 เปรียบเทยี บขอ้ ดีและขอ้ จากดั ของวธิ กี าร หน้า ตารางท่ี 2.2 ส่งเสริมแบบรายบคุ คล 36 ตารางท่ี 2.3 เปรียบเทียบการสาธิตวิธีและการสาธิตผลใน 37 ตารางที่ 2.4 งานส่งเสริมการเกษตร 38 ตารางที่ 2.5 เปรียบเทยี บขอ้ ดแี ละขอ้ จากดั ของวิธีการ 41 ตารางท่ี 3.1 ส่งเสริมแบบกลุ่ม 41 ตารางที่ 3.2 เปรียบเทียบขอ้ ดีและขอ้ จากดั ของวธิ ีการ 87 ตารางท่ี 4.1 ส่งเสริมแบบมวลชน 93 เปรียบเทยี บวิธีการส่งเสริมการเกษตรแบบ 118 รายบุคคล แบบกล่มุ และแบบ มวลชน การเปรียบเทียบวตั ถปุ ระสงคใ์ นการ ตดิ ต่อส่ือสารของผสู้ ่งสารและผรู้ ับสาร การเปรียบเทียบความแตกตา่ งระหวา่ งการ ส่ือสารแบบทางเดียวและแบบสองทาง ขอ้ ดีและขอ้ จากดั ของโสตทศั นูปกรณ์ชนิดตา่ งๆ ( 10 )
บทท่ี 1 หลักการและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร
บทท่ี 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร บทที่ 1 หลกั กำรและควำมสำคญั ของกำรส่งเสริมกำรเกษตร จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม เมอ่ื นกั ศึกษาเรียนจบบทเรียนน้ีแลว้ นกั ศกึ ษาสามารถ 1. บอกความหมายของการส่งเสริมการเกษตรไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 2. อธิบายหลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตรไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง 3. อธิบายความจาเป็นท่ตี อ้ งมกี ารส่งเสริมการเกษตรไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 4. ระบวุ ตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้าหมายของการส่งเสริมการเกษตรไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 5. บอกปรัชญาของการส่งเสริมการเกษตรไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง 6. อธิบายกระบวนการและเขยี นวงจรการส่งเสริมการเกษตรไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง บทนำ ประเทศไทยประกอบไปดว้ ยประชากรส่วนใหญ่ ท่ีประกอบอาชีพทางดา้ นการเกษตร ซ่ึง อาชีพเกษตรกรรมถือว่าเป็ นรากฐานสาคญั ของการพฒั นาประเทศ เน่ืองจากเศรษฐกิจของประเทศ ยงั ตอ้ งพ่งึ ผลผลิตทางการเกษตรเป็นหลกั เพราะภาคการเกษตรยงั ทาหนา้ ทีผ่ ลติ อาหารเล้ียงประชากร ภายในประเทศและของโลก ซ่ึงประชากรมีแนวโนม้ เพมิ่ ข้ึนทุกปี แต่ในขณะเดยี วกนั ในชว่ งระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา อตั ราส่วนของความเจริญทางด้านภาคการเกษตรยงั คงต่ากว่าอตั ราส่วนของความ เจริญในสาขาอ่นื ๆ เชน่ สาขาอตุ สาหกรรม สาขาพาณิชยกรรม และสาขาการบริการ เป็นตน้ แสดง ว่าไดม้ ีการกระจายการผลิตไปยงั สาขาเศรษฐกิจอ่ืนๆมากข้ึน ดงั น้นั แนวทางการพฒั นาเศรษฐกิจ โดยรวม จึงตอ้ งมงุ่ ไปในการพฒั นาภาคการเกษตรให้เจริญข้นึ กอ่ น ท้งั ทางดา้ นปริมาณ คุณภาพและ ประเภทของการผลติ และตอ้ งใหผ้ ลประโยชน์จากการผลติ น้นั ตกอยู่กบั เกษตรกรให้มากท่ีสุด อนั จะ ชว่ ยยกฐานะการครองชีพของเกษตรกรให้สูงข้นึ มีความเป็นอย่ทู ี่ดขี ้ึน อนั จะเป็นแนวทางไปสู่การลด ความเหลอ่ื มล้าทางสังคมและการขจดั ความยากจนในประเทศตอ่ ไป นอกจากน้ียงั สามารถพฒั นาและ สนบั สนุนใหส้ าขาอื่นเจริญตามไปดว้ ยเน่ืองจากสินคา้ ภาคการเกษตรเป็ นพ้ืนฐานการผลิตสินคา้ ใน ภาคอ่ืนๆ และจะทาให้เศรษฐกิจของประเทศกา้ วหนา้ ตอ่ ไป วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 1
บทท่ี 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร เนื้อหำ 1. ควำมหมำยของกำรส่งเสริมกำรเกษตร ตามพจนานุกรมราชบณั ฑิตยสถาน (2546) ไดน้ ิยามว่า “การส่งเสริม แปลว่า การเก้ือ หนุน การชว่ ยเหลือสนบั สนุนใหด้ ขี ้ึน” ตรงกับภาษาองั กฤษ คาว่า “extension” โดย พฒั นา สุขประเสริฐ (2557) ได้กล่าวไวว้ ่า “การส่งเสริม” เป็ นศาสตร์ที่เก่ียวขอ้ งกบั การให้ความช่วยเหลือ สนบั สนุน และ/ หรือการสร้างการมสี ่วนร่วมในลกั ษณะตา่ งๆ เพอื่ ตอ้ งการท่ีจะทาให้บุคคลเป้าหมายและครอบครัว รวมถึงชมุ ชนและสังคมไดม้ ีความเขม้ แข็งเพิ่มมากย่งิ ข้นึ หรือเป็นศาสตร์ทจ่ี ะชว่ ยทาใหไ้ ดม้ กี ารเพ่ิม จานวนของบคุ คลเป้าหมายหรือว่ามีการขยายขอบเขตของพ้ืนท่เี ป้าหมายทีม่ สี ภาพชีวิตความเป็นอยู่ ทีด่ ีข้นึ กวา่ เดมิ ซ่ึงบคุ คลเป้าหมายในท่นี ้ีก็ย่อมทจ่ี ะหมายถงึ เกษตรกรนนั่ เอง ส่วนคาว่า เกษตร พจนานุกรมราชบณั ฑติ ยสถาน (2546) ไดน้ ิยามวา่ “เกษตร แปลว่า ท่ีดนิ ทงุ่ , นา, ไร่,” ซ่ึงตรงกบั ภาษาองั กฤษ คาวา่ “agriculture”ดงั น้นั คาว่า การส่งเสริมการเกษตรจึงมา จากคาในภาษาองั กฤษ คอื “agricultural extension” หากแปลตรงความหมาย การส่งเสริมการเกษตร จงึ ควรไดค้ รอบคลุมในเรื่องท่ีเก่ียวกบั การทากจิ กรรมการผลิต การให้บริการและ/หรือการใชป้ ระ โยชน์ในมิตดิ า้ นพืช สตั ว์ ประมง ป่ าไม้ และกย็ งั รวมถึงเศรษฐศาสตร์เกษตร หรือการจดั การฟาร์ม กบั เคหะกจิ เกษตร และอตุ สาหกรรมเกษตร เพื่อให้นักศกึ ษาได้มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกับความ หมายของการส่งเสริมการเกษตรได้ดีย่ิงข้ึน จึงขอนาความหมายของการส่งเสริมการเกษตรท่ีนัก วชิ าการหลายทา่ นไดใ้ หค้ วามหมายไวต้ า่ งๆกนั ดงั น้ี ดิเรก ฤกษห์ ร่าย (2554) กล่าวว่า การส่งเสริมการเกษตรเป็นกระบวนการศึกษานอกโรง เรียน ซ่ึงรวมถึงการให้บริการบุคคลเป้าหมายและครอบครัว โดยให้บคุ คลเป้าหมายเหลา่ น้ันเรียนรู้ ดว้ ยการกระทาของตนเอง เพ่ือให้บรรลุถึงความกินดีอยู่ดีของคนในชุมชนโดยส่วนรวม ท้ังน้ีมีพ้ืน ฐานอยู่บนการพฒั นาของคนในชมุ ชน บุญสม วราเอกศิริ (2539) กล่าวว่า การส่งเสริมการเกษตร (agricultural extension) คือ กระบวนการให้การศกึ ษานอกโรงเรียน และการบริการแก่บุคคลเป้าหมายอนั หมายถงึ เกษตรกรและ ครอบครวั เกษตรกรโดยวธิ ีการปฏิบตั จิ ริง (learning by doing) และเนน้ ถึงการช่วยเหลือให้เกษตรกร ช่วยเหลือตนเอง (help them to help them selves) เพื่อปรับปรุงความเป็ นอยู่ให้ดีข้ึน ท้ังทางด้าน เศรษฐกจิ และสงั คม บุญธรรม จิตต์อนนั ต์ (2540) กล่าวว่า การส่งเสริมการเกษตร หมายถงึ การนาความรู้ วิธี การและเทคนิคใหม่ๆทางการเกษตรไปแนะนาเผยแพร่ให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างย่ิง วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 2
บทที่ 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร เกษตรกรแลว้ ติดตามให้คาแนะนาช่วยเหลือจนบงั เกิดผลสาเร็จ ขณะเดียวกนั ก็นาเอาปัญหาต่างๆ ทางการเกษตรมาวเิ คราะห์หาหนทางแกไ้ ข กองวิเทศสัมพนั ธ์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ (2542) กลา่ ววา่ การส่งเสริมการเกษตร คือ กระบวนการเผยแพร่ความรู้ ขอ้ มูลข่าวสารและเทคโนโลยีให้แก่เกษตรกร โดยใช้การศึกษานอก ระบบและการศึกษาแบบมีส่วนร่วมเพื่อใหเ้ กษตรกรคิดเป็น ทาเป็น และแกป้ ัญหาเป็น มกี ารตดั สินใจได้ อย่างถูกตอ้ งเพ่ือการปรบั ปรุงกระบวนการผลิตและคุณภาพชีวติ โดยไม่ทาลายระบบนิเวศในปัจจุบนั และไมก่ อ่ ให้เกิดเป็นความเสียหายตามมาในอนาคต ท้งั น้ีเพ่อื มุ่งหวงั ใหเ้ กิดการพฒั นาทย่ี ง่ั ยืน จากความหมายของการส่งเสริมการเกษตรของบุคคลขา้ งตน้ จึงพอสรุปความหมายของ การส่งเสริมการเกษตรได้ว่า การส่งเสริมการเกษตร หมายถึง กระบวนการพัฒนาความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์ เทคนิคและวธิ ีการใหม่ๆ หรือเทคโนโลยีทเ่ี หมาะสมผสมผสานกบั ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน เพื่อมุ่งพัฒนาผลผลิตทางการเกษตร โดยอาศัยการให้การศึกษาแบบนอกระบบโรงเรียนแเก่ เกษตรกร ครอบครวั เกษตรกรและบคุ คลอืน่ ทส่ี นใจ โดยวธิ ีการฝึกปฏิบตั จิ ริงและตดิ ตามให้คาแนะ นาช่วยเหลือ เพ่ือให้เกษตรกรสามารถช่วยเหลือตนเองได้ ขณะเดียวกนั ก็นาปัญหาต่างๆ ทางการ เกษตรมาวิเคราะห์ วิจยั หาหนทางแกไ้ ขเพ่ือปรับปรุงพฒั นาประสิทธิภาพในการผลิตให้เหมาะสม กับภูมิศาสตร์ของพ้ืนที่ เพื่อให้บุคคลเป้าหมายมีชีวิตความเป็ นอยู่ท่ีดีข้ึนอย่างยง่ั ยืนท้ังทางดา้ น เศรษฐกิจและสังคม โดย พงษศ์ กั ด์ิ องั กสิทธ์ (2554) ไดส้ รุปความหมายของการส่งเสริมการเกษตร เพื่อความหมายที่ชัดเจนยิ่งข้ึน ไวว้ ่า การส่งเสริมการเกษตรเป็ นกระบวนการ (process) ในการ พฒั นาความรูไ้ ปสู่เกษตรกรซ่ึงประกอบดว้ ย 1.1 กระบวนการทางการศึกษา (education process) การส่งเสริมการเกษตรจะเป็ นกระ บวนการทางการศึกษา ให้ความรู้และแนวทางในการผลิตแก่เกษตรกร ตลอดจนนวตั กรรมหรือ เทคโนโลยกี ารผลิต ซ่ึงเกษตรกรจะตอ้ งเรียนรู้ตามข้นั ตอนอนั จะนาไปสู่ความรู้ ความเขา้ ใจ การตดั สินใจและปฏบิ ตั ิ 1.2 กระบวนการตอ่ เน่ืองไม่สิ้นสุดและยงั่ ยืนได้ (continuous and sustainability process) การส่งเสริมจะมีลักษณะของการพัฒนา การพฒั นาความรู้ใหม่ เทคโนโลยีที่เหมาะสมกบั สถาน การณ์การผลติ และสภาพของภูมิศาสตร์ของพ้ืนที่ ดงั น้ันการพฒั นาการเกษตร จะตอ้ งดาเนิน การ ตอ่ ไปอยา่ งต่อเนื่องไม่สิ้นสุด และมคี วามยงั่ ยืนในการพฒั นาการผลิตได้ (sustainable development) ซ่ึงจะทาให้เกษตรกรกระตอื รือรน้ และมีการพฒั นาการผลิตอย่างมปี ระสิทธิภาพได้ 1.3 กระบวนการประชาธิปไตยหรือการมีส่วนร่วม (demarcation or participatory pro cess) การส่งเสริมการเกษตรจะประสบผลสาเร็จในการพฒั นาไดจ้ าเป็ นตอ้ งไดร้ ับความร่วมมือจาก เกษตรกรอย่างเสรี มีอิสระในการเขา้ ร่วมดว้ ยความสมคั รใจของเขาเอง อนั จะเป็นผลตอ่ การทางาน วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 3
บทที่ 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร กันในการแลกเปล่ียนความรู้ (knowledge exchange) ในสภาวะจากเทคโนโลยีอนั ทันสมัยหรือ เหมาะสมกบั ภมู ิปัญญาของเกษตรกร หรือภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ อนั จะเป็นผลทาใหเ้ กิดการยอมรับและ นาไปปฏบิ ตั ิอยา่ งเหมาะสมตามสภาพของทอ้ งถน่ิ ไดด้ ี และสามารถนาไปสู่การพฒั นาท่ยี ง่ั ยืนไดด้ งั ภาพที่ 1.1 ซ่ึงไดแ้ สดงลกั ษณะของกระบวนการจากความหมายของการส่งเสริมการเกษตร กำรวิจยั เทคโนโลยี กำรส่งเสริม กำรมีส่วนร่วม ภำพท่ี 1.1 ลกั ษณะของกระบวนการจากความหมายของการส่งเสริมการเกษตร ทีม่ ำ: ดดั แปลงจาก Watts, L.H. (1984) 2. หลกั กำรส่งเสริมกำรเกษตร หลกั การส่งเสริมการเกษตร (principle of agricultural extension) คือ สาระสาคญั ทยี่ ดึ ถือ เป็ นแนวปฏิบตั ิเพื่อให้การส่งเสริมการเกษตรดาเนินการไปไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ หรือโดยนยั ท่ี เป็นสากล ก็คอื ขอ้ กาหนดที่เจา้ หนา้ ท่ีส่งเสริมการเกษตรนามาใช้เป็นแนวทางในการสร้างเสริมขีด ความสามารถให้แก่เกษตรกรในการใชท้ รพั ยากรและสิ่งที่มีอยู่ได้อย่างเหมาะสมกบั ศกั ยภาพ และ ความพร้อมท่ีมีอยู่จริง เพื่อที่จะทาให้ได้รับผลตอบแทนท่ีมีความคุม้ ค่า ดงั น้นั เพ่ือให้การส่งเสริม การเกษตรสามารถดาเนินงานบรรลเุ ป้าหมายอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ควรดาเนินการตามท่ี ยุพา แซ่ซ้ือ (2559) เสนอแนะ ดงั ต่อไปน้ี วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 4
บทที่ 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร 2.1 งานส่งเสริมการเกษตรตอ้ งทาร่วมกบั เกษตรกร การส่งเสริมการเกษตรเป็นการสอน เกษตรกรในชนบท ไม่ใช่เป็นการใหบ้ ริการแกเ่ กษตรกรเทา่ น้นั แต่เป็นการทางานร่วมกบั เกษตรกร เพอื่ ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจและสามารถปฏิบตั ิในส่ิงทไ่ี ดร้ ับจากเจา้ หนา้ ท่สี ่งเสริมไดด้ ว้ ยตนเอง การ ตดั สินใจต่างๆในการทาการเกษตรควรเป็ นการตดั สินใจของเกษตรกรเอง เจ้าหน้าท่ีส่งเสริมการ เกษตรไม่ใช่ผูท้ ่ีมีบทบาทในการเป็ นผูน้ าการเปลี่ยนแปลง เกษตรกรตอ้ งเป็ นผูน้ าในการเปล่ียน แปลงบทบาทของเจา้ หนา้ ที่ส่งเสริม กค็ ือการให้ขอ้ มูลขา่ วสารแก่เกษตรกร ให้คาแนะนาแกเ่ กษตร กรในการทากิจกรรมต่างๆในทิศทางที่ถูกตอ้ ง เกษตรกรจะเป็ นผูก้ าหนดวิธีการต่างๆ ท่ีจะทาให้ สามารถบรรลุเป้าหมายและวตั ถุประสงคท์ ตี่ อ้ งการ ตวั อย่างเช่น ถา้ เจา้ หนา้ ทส่ี ่งเสริมประชุมร่วมกบั เกษตรกรในการวเิ คราะหป์ ัญหาของเกษตรกร ตอ้ งให้เกษตรกรระบุปัญหา วเิ คราะหป์ ัญหา และกา หนดแนวทางแกไ้ ขปัญหาดว้ ยตนเอง เพื่อใหเ้ กษตรกรเกดิ ความมนั่ ใจในตนเอง 2.2 การส่งเสริมการเกษตรตอ้ งทางานร่วมกับองคก์ รพัฒนาอื่นๆในชนบท ถา้ การส่ง เสริมการเกษตรเป็ นการให้ความรู้ตามความจาเป็ นและความต้องการ ตลอดจนเป้าหมายของ เกษตรกรในชนบท จงึ มคี วามจาเป็นอยา่ งย่งิ ท่ีจะตอ้ งร่วมมือและประสานงานกบั องคก์ รพฒั นาอื่นๆ ท้งั องคก์ รของรัฐและเอกชนที่ให้บริการ ซ่ึงหน่วยงานดงั กลา่ วมีความชานาญและมีทรัพยากรตา่ งๆ ท่ีสามารถช่วยเกษตรกรได้ ตวั อย่างเช่น เจา้ หน้าท่ีปกครอง พฒั นากร สาธารณสุข ประมง ปศุสัตว์ องคก์ รพฒั นาของเอกชน ตลอดจนหน่วยวชิ าการท่ที าหนา้ ที่สรา้ งความรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ 2.3 การส่งเสริมการเกษตรเป็ นการแลกเปล่ียนขอ้ มูลข่าวสารแบบยคุ ลวิถี เทคโนโลยีที่ เก่ยี วกบั การผลิตพืชและสตั ว์ มคี วามสาคญั อย่างย่ิงตอ่ การแกป้ ัญหาในการทาการเกษตรของเกษตรกร แต่ ในขณะเดียวกันภูมิปัญญาของเกษตรกรก็มีความสาคญั ต่อเจา้ หน้าที่ส่งเสริมการเกษตรและนกั วิจยั ดงั น้นั การแลกเปลี่ยนขอ้ มูลขา่ วสารซ่ึงกนั และกนั ระหว่างนกั วิจยั เจา้ หนา้ ท่ีส่งเสริม และเกษตรกร จะทาใหง้ านส่งเสริมเป็นไปอย่างผสมกลมกลืนกนั วิธีการแบบน้ีอาจเรียกวา่ เป็นการแลกเปล่ียนขอ้ มูลขา่ วสารแบบยุคลวถิ ี 2.4 การส่งเสริมการเกษตรทางานกบั กลุ่มเป้าหมายท่ีแตกตา่ งกนั การทางานส่งเสริมใน พ้นื ท่ีตา่ งๆ ตอ้ งเผชิญกบั ปัญหาของเกษตรกรมากมายหลายอย่าง ตามกลุ่มเกษตรกรเป้าหมาย เช่น เกษตรกรกลุ่มท่ีมีทด่ี ินมาก ปานกลาง น้อย ทาให้เกิดความแตกต่างกันในการท่ีจะทางานส่งเสริม ดงั น้ันการส่งเสริมในพ้ืนท่ใี ดๆจึงไม่ควรจะกาหนดรูปแบบของการส่งเสริมเพยี งแบบเดียว เพื่อนา ไปใชก้ บั เกษตรกรทกุ คนเหมอื นๆกนั เกษตรกรกลุ่มตา่ งๆ มีปัญหาและความจาเป็นแตกต่างกันไป เจ้าหน้าท่ีส่งเสริมจึงควรจะพฒั นาโครงการส่งเสริมให้เหมาะสมกับปัญหา ความต้องการ และ ทรพั ยากรทเ่ี กษตรกรแต่ละกลมุ่ มคี วามแตกตา่ งกนั ไป วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 5
บทที่ 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร 2.5 เกษตรกรควรมีส่วนร่วมในทุกข้นั ตอนของงานส่งเสริม เพื่อให้วตั ถุประสงค์ระยะ ยาวของการช่วยเหลือและฝึ กอบรมเกษตรกรให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ หลงั จากท่ีโครงการ ส่งเสริมส้ินสุดลง เกษตรกรไม่ควรเป็ นเพียงผูร้ ับการส่งเสริมเท่าน้ัน แต่ควรจะมีส่วนร่วมในทุก กจิ กรรมของการส่งเสริม เช่น การวเิ คราะห์ปัญหา การกาหนดแผนงาน และโครงการ การทดสอบ และการปฏิบตั ิงานตามแผน ในขณะเดียวกนั เกษตรกรควรจะมสี ่วนร่วมในการเลอื กใชเ้ ทคโนโลยที ่ี เหมาะสมกบั ศกั ยภาพของตนเองดว้ ย นอกจากน้ีการมีส่วนร่วมของเกษตรกรยงั เป็นการเสริมสรา้ ง เกษตรกรให้ใช้สติปัญญาของตนเอง คิดเป็ น ตดั สินใจไดด้ ว้ ยตนเอง และสามารถปฏบิ ตั ไิ ดด้ ว้ ยตน เอง การทางานของเจา้ หนา้ ที่ส่งเสริมและเกษตรกรตอ้ งทาร่วมกันไปในทุกข้นั ตอน ไม่ควรใหเ้ จ้า หนา้ ทส่ี ่งเสริมเป็นเพียงผถู้ ่ายทอด และเกษตรกรเป็นเพยี งผูร้ ับการส่งเสริมเท่าน้นั 2.6 การนาปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดาเนินงาน การพัฒนาตามหลกั เศรษฐกิจพอเพียง คือ การพฒั นาท่ีต้งั อยู่บนพ้ืนฐานของทางสายกลาง และความไม่ประมาท โดย คานึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุม้ กนั ท่ีดีในตวั ตลอดจนใชค้ วามรู้ความ รอบคอบและคุณธรรมประกอบการวางแผนการตดั สินใจ และกระทาการขบั เคลื่อนหลกั ปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง เช่น การผ่านการจดั กระบวนการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างปราชญ์ชาวบา้ น อาสาสมคั รเกษตร วิทยากร เกษตรกร และนกั ส่งเสริมการเกษตร เพื่อสรา้ งความรู้ความเขา้ ใจ เทค โนโลยีการเกษตร เนน้ การพ่งึ พาตนเอง โดยเลือกกิจกรรมการเกษตรที่เหมาะสมกับพ้ืนท่ีและแรง งานในครัวเรือน ตามความรู้ความสามารถของตนเอง เพื่อการบริโภคในครัวเรือนและลดรายจ่าย ควรเลือกกิจกรรมการเกษตรท่ีหลากหลาย เพ่ือลดความเส่ียงจากภยั ธรรมชาติ และภาวะราคาผล ผลติ ที่มคี วามผนั ผวน เพื่อใหเ้ กษตรกรและชมุ ชนการเกษตรมีความยง่ั ยืนตอ่ ไป 3. ควำมสำคัญของกำรส่งเสริมกำรเกษตร การส่งเสริมการเกษตรมีบทบาทสาคญั ต่อการเปลีย่ นแปลงพฤติกรรมของเกษตรกรมาก โดยการถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยที ี่เหมาะสมไปสู่เกษตรกร ก่อใหเ้ กิดการพฒั นาความรู้ที่สามารถ นาไปสู่การพฒั นาผลผลิตทางการเกษตรได้ โดยสามารถสรา้ งรายได้ พฒั นาสภาวะเศรษฐกจิ สงั คม ชนบทและครอบครัวเกษตรกรใหม้ ีสภาวะที่ดีได้ โดยท่ีเป้าหมายสาคญั ของการพฒั นาอยู่ท่ีครอบ ครัวเกษตรกร และการพฒั นาชุมชนในชนบทให้มีการกินดอี ยู่ดีและมีความสุขภายในสภาวะของ ส่ิงแวดลอ้ มที่ดี ดงั น้ัน พงษศ์ กั ด์ิ องั กสิทธ์ (2554) กล่าวว่า การส่งเสริมการเกษตรจึงมีความสาคญั ดงั น้ี 3.1 การเกษตรเป็ นพ้ืนฐานของการผลิตอาหารเพ่ือเล้ียงประชากรของโลก ปัจจุบัน ประชากรของประเทศเพม่ิ ข้นึ อยา่ งรวดเร็ว โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ประเทศดอ้ ยพฒั นา ซ่ึงตอ้ งการอาหาร วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 6
บทท่ี 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร เพอ่ื ดารงชีวติ ดงั น้นั โลกจงึ จาเป็นตอ้ งอาศยั ความมนั่ คงทางอาหาร คือความสามารถในการมอี าหาร เล้ยี งประชากรเหล่าน้นั ได้ และตอ้ งมีการพฒั นาปรบั ปรุงประสิทธิภาพการผลิตที่เหมาะสม และคุม้ คา่ ในการลงทนุ จึงจาเป็นตอ้ งอาศยั การพฒั นาเทคโนโลยีผสมผสานกบั ภูมปิ ัญญาเกษตรกร สามารถ ทาให้เกษตรกรนาไปใชใ้ นการผลิตไดเ้ ป็ นอย่างดี การส่งเสริมการเกษตรมบี ทบาทในการเป็นส่วน ประสานเชื่อมโยง และถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยไี ปสู่การพฒั นาไดอ้ ย่างดีย่งิ เช่น ประเทศไทยซ่ึง เป็นประเทศเกษตรกรรม การพฒั นาการผลติ ที่มีคณุ ภาพและปริมาณเพือ่ เป็นรายไดย้ อ่ มมคี วามสาคญั ตอ่ การพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศเป็นอย่างย่งิ 3.2 การพฒั นาความรู้แก่เกษตรกร การสรา้ งความรูค้ วามเขา้ ใจในการดาเนินการผลิตจาก ผลการพฒั นาความรู้ผสมผสานกับภูมิปัญญาของตนเองท่ีชาญฉลาด และมีความสมดุลกับสภาพ ธรรมชาติส่ิงแวดลอ้ มและตน้ ทนุ ของการผลิต ซ่ึงจะสามารถดาเนินการผลิตไดบ้ รรลุผลอย่างมีประ สิทธิภาพและมีคณุ ภาพ 3.3 การพฒั นารายไดแ้ ละสภาวะเศรษฐกิจของเกษตรกรและครอบครัว ตลอดจนชุมชน ชนบท ผลของการส่งเสริมการเกษตรย่อมกอ่ ใหเ้ กิดการพฒั นาอยา่ งมีประสิทธิภาพ 3.4 การพฒั นาชีวติ เกษตรกรและครอบครัวเกษตรกรถือวา่ เป็ นเป้าหมายสาคญั เนื่องจาก เกษตรกรและครอบครัวจะเป็ นเป้าหมายของการพฒั นาในชนบท การส่งเสริมการเกษตรจะมีบท บาทสาคญั ในการพฒั นาสภาวะชีวติ ความเป็นอยขู่ องเกษตรกร ให้อยู่ในสภาวะท่ดี ีได้อนั เป็ นผลต่อ การพฒั นาสังคมชนบทท่ีดไี ดใ้ นท่สี ุด 3.5 การพฒั นาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม การส่งเสริมการเกษตรท่ีดีย่อมจะ ตอ้ งคานึงถงึ การใชท้ รัพยากรธรรมชาตอิ ยา่ งชาญฉลาดเหมาะสม และคมุ้ ค่ากบั การผลติ ทางการเกษตร 3.6 การพฒั นาประเทศ โดยเฉพาะอย่างย่ิงประเทศเกษตรกรรม ซ่ึงพบว่ามักจะเป็ น ประเทศดอ้ ยพฒั นาหรือกาลงั พฒั นาจาเป็นตอ้ งอาศยั การเกษตรเป็นพ้นื ฐานของการพฒั นาเศรษฐกิจ สังคมและความมน่ั คงของประเทศ ประเทศไทยเป็ นประเทศเกษตรกรรม ประชากรส่วนใหญ่ยงั ตอ้ งทาการเกษตรเพือ่ ยงั ชีพและเป็ นรายได้หลกั หากประชากรกลุม่ น้ีได้รับการพฒั นาที่ดี มสี ภาวะ เศรษฐกจิ สังคมท่ดี ี มคี วามมน่ั คง ย่อมจะสะทอ้ นต่อผลของการพฒั นาประเทศไทย ดงั น้นั การพฒั นาการเกษตรจงึ เป็นพ้ืนฐานสาคญั เบ้ืองตน้ ของการพฒั นาความมนั่ คงทาง เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ โดยอาศยั การพฒั นาเทคโนโลยกี ารผลติ เพ่ือพฒั นาผลผลิตสูงสุด ท้งั ปริมาณและคุณภาพ โดยจาเป็ นตอ้ งคานึงถึงการใชท้ รัพยากรอยา่ งคุม้ ค่า แลว้ นาไปถ่ายทอดและ ส่งเสริมแก่เกษตรกรในการนาไปปฏบิ ตั ิ ซ่ึงถือว่าเป็นข้นั ตอนทสี่ าคญั ท่สี ุด วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 7
บทที่ 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร 4. ควำมจำเป็ นทต่ี ้องมกี ำรส่งเสริมกำรเกษตร สุรพลเศรษฐบุตร(2547)กล่าวว่างานส่งเสริมการเกษตรของไทยไดม้ ีการพัฒนามาอย่าง ต่อเนื่อง เนื่องจากเป็ นอาชีพหลกั ของคนไทยส่วนใหญ่ท่ีสามารถสร้างการพัฒนาประเทศในด้าน เศรษฐกจิ สังคม และความมนั่ คงอนั ถือว่าเป็นสาขาพฒั นาทมี่ ีความสาคญั เป็นอย่างยิ่ง การส่งเสริมให้ เกษตรกรไดม้ ีความรู้จนสามารถพฒั นาการผลิตไดน้ ้นั นบั ว่าเป็นปัจจยั ที่สาคญั ดังน้นั จาเป็ นตอ้ งมีการ ส่งเสริมการเกษตรดว้ ยเหตุผลดงั ต่อไปน้ี 4.1 ประเทศไทยมีพ้ืนฐานทางเศรษฐกิจที่ตอ้ งพ่ึงพิงระบบเกษตรกรรมและประชากร ส่วนใหญ่ของประเทศประกอบอาชีพทางดา้ นการเกษตร หรือเก่ยี วขอ้ งกบั กิจกรรมดา้ นการเกษตร 4.2 ปัจจุบนั จานวนประชากรท้งั ของประเทศและของโลกเพ่ิมข้ึนทาให้ความตอ้ งการ อาหารมีมากข้ึน จึงมคี วามจาเป็นที่จะตอ้ งมกี ารเพ่ิมปริมาณและคณุ ภาพทางดา้ นการผลิตให้เพียงพอ กบั ความตอ้ งการของประชากรโลกท่เี พ่ิมข้นึ โดยตอ้ งมีการพฒั นาเทคโนโลยีตา่ งๆ มาใชใ้ นการผลติ ท้งั ทเี่ ป็นปัจจยั การผลติ และวิธีการผลติ 4.3 การผลติ ทางด้านการเกษตรมีการแข่งขนั กันมากข้ึนท้งั ชนิด ปริมาณ คุณภาพ และ ราคา ซ่ึงเราจะตอ้ งมกี ารพฒั นาการผลติ ให้มศี กั ยภาพในการแข่งขนั กบั ประเทศอน่ื ๆในตลาดโลกได้ 4.4 เกษตรกรมีพ้นื ฐานการศึกษาค่อนขา้ งตา่ ซ่ึงส่วนใหญ่สาเร็จการศึกษาภาคบงั คบั คือ ช้นั ประถมศึกษาจึงทาให้มีขอ้ จากัดในการรับรู้และเขา้ ใจขอ้ มูลข่าวสารในเชิงวิชาการเทคโนโลยี สมยั ใหมท่ ีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั การผลติ จงึ จาเป็นที่จะตอ้ งถ่ายทอดความรูเ้ หลา่ น้นั ให้กบั เกษตรกร 4.5 การดาเนินการผลิต การแปรรูป และการจาหน่ายผลผลิตของเกษตรกรยงั ขาดการ รวมกลุม่ กนั ทาให้ขาดพลงั การตอ่ รอง เร่ิมต้งั แต่การซ้ือปัจจยั การผลติ ตลอดจนการจาหน่ายผลผลิต ทตี่ า่ งคนต่างซ้ือ ต่างคนตา่ งจาหน่าย ทาใหบ้ างคร้ังตอ้ งตดั ราคากนั เอง ดงั น้นั การส่งเสริมการเกษตร จะช่วยกระตนุ้ และส่งเสริมใหเ้ กษตรกรไดส้ รา้ งเครือขา่ ยในการผลิตและการจาหน่าย 4.6 ปัจจุบนั เกษตรกรใช้ปัจจยั การผลิตที่เป็ นทรัพยากรธรรมชาติ ได้แก่ ทรัพยากรดิน ทรพั ยากรน้า และทรัพยากรป่ าไมอ้ ย่างไม่ชาญฉลาด ขาดการบารุงรักษา ปราศจากการอนุรักษแ์ ละพฒั นา งานส่งเสริมการเกษตรจะชว่ ยกระตนุ้ และสร้างองคค์ วามรูใ้ ห้เกษตรกรนาทรพั ยากรธรรมชาติท่มี อี ยู่ ในทอ้ งถ่นิ ของตนเองมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด ควบคู่ไปกบั การพฒั นาและการอนุรักษ์ ดัง ภาพที่ 1.2 ซ่ึงแสดงตวั อย่างการปลกู หญา้ แฝกของเกษตรกรเพื่อป้องกันการชะลา้ งและการพงั ทลาย ของหนา้ ดนิ ซ่ึงวธิ ีการเชน่ น้ีเป็นวธิ ีการหน่ึงในการอนุรักษท์ รัพยากรดิน เป็นการใชป้ ัจจยั การผลติ ท่ี เป็นทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งชาญฉลาด วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 8
บทท่ี 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร ภำพที่ 1.2 ตวั อยา่ งการปลูกหญา้ แฝกของเกษตรกรเพ่ือป้องกนั การพงั ทลายของหนา้ ดนิ ถ่ำยภำพโดย องั สนา หะยหี ะเต็ง (2558) 4.7 ในสถานการณ์ปัจจบุ นั การผลิตทางการเกษตรมีประสิทธิภาพค่อนขา้ งต่า ทาให้ไม่ คมุ้ ค่ากบั การลงทุน ไมว่ ่าจะเป็นการผลติ ท้งั พืช สัตวแ์ ละประมง งานส่งเสริมการเกษตรจะใหค้ วาม รูใ้ นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของเกษตรกร 4.8 เทคโนโลยีการเกษตรไดร้ ับการพฒั นาให้กา้ วหนา้ อย่างรวดเร็ว มีการคน้ ควา้ วิจยั สิ่ง ใหม่ๆท่ีเก่ียวข้องกับการผลิตมากข้ึน ทาให้ต้องมีการส่งเสริมเผยแพร่เพื่อให้เกษตรกรสามารถ นาไปใชป้ ระโยชน์ในการผลิตไดอ้ ย่างเต็มศกั ยภาพ และตรงตามความจาเป็ นเพื่อตอบสนองความ ตอ้ งการของผบู้ ริโภคท้งั ในประเทศและต่างประเทศ ดงั ภาพท่ี 1.3 ซ่ึงแสดงตวั อย่างรถแทรกเตอร์ที่ เป็นการพฒั นาประสิทธิภาพของเคร่ืองมือที่ใชใ้ นการผลติ ทางการเกษตร ภำพท่ี 1.3 ตวั อยา่ งรถแทรกเตอร์ที่เป็นการพฒั นาประสิทธิภาพเพื่อใชใ้ นการผลิตทางการเกษตร ถ่ำยภำพโดย องั สนา หะยหี ะเต็ง (2558) วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 9
บทที่ 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร 5. จดุ ม่งุ หมำยของกำรส่งเสริมกำรเกษตร การส่งเสริมการเกษตร มีจุดมุ่งหมายที่จะเผยแพร่ความรู้ตา่ งๆทางการเกษตร หรือที่เกยี่ ว ขอ้ งกบั การเกษตรให้เกดิ ประโยชน์ต่อบคุ คลเป้าหมายอนั ไดแ้ ก่ เกษตรกร แม่บา้ นเกษตรกร และยุว เกษตรกร โดยมกี ารกระตนุ้ แนะนาให้เกิดการปฏิบตั ิ ใหค้ วามช่วยเหลือแกไ้ ขในปัญหาตา่ งๆ จนบงั เกดิ ผลสาเร็จและมีความกา้ วหนา้ ในอาชีพ ซ่ึงเป็นการยกระดบั ความเป็นอยใู่ นครอบครวั ให้สูงข้ึนมี คุณภาพชีวิตที่ดขี ้นึ ซ่ึงจะสรุปจุดมงุ่ หมายของการส่งเสริมการเกษตร เพ่ือความเขา้ ใจทช่ี ดั เจนไดด้ งั น้ี 5.1 เป็นการใหก้ ารศึกษาเพ่ือมุ่งที่จะเปลี่ยนแปลงพฤตกิ รรมของบุคคลเป้าหมาย ให้เขามี ความรู้มากข้ึนในวิทยาการต่างๆทางการเกษตร หรือทเ่ี ก่ียวขอ้ งซ่ึงมีการเปลี่ยนแปลงและวิวฒั นา การตลอดเวลา 5.2 เพื่อให้บุคคลเป้าหมายมีทศั นคติที่ดีต่ออาชีพการเกษตรที่ทาอยู่ มีความเต็มใจท่ีจะ เรียนรูส้ ่ิงใหมๆ่ และมที กั ษะหรือความสามารถในการประกอบอาชีพ การพฒั นาทรัพยากรการผลิต การจดั การกบั ผลผลิต และพฒั นาครอบครวั ให้มชี ีวิตความเป็นอยทู่ ด่ี ีข้นึ 5.3 บริการสนบั สนุนดา้ นปัจจยั การผลติ บริการนาตวั อยา่ งมาใหศ้ ึกษาหรือนาไปทดลอง เช่น พนั ธุ์พชื พนั ธุส์ ตั ว์ เครื่องมอื การเกษตร ป๋ ุย ยาปราบศตั รูพชื และบริการป้องกนั และกาจดั ศตั รู พชื ท่รี ะบาดทาความเสียหายแกพ่ ชื ผลของเกษตรกร 6. วตั ถปุ ระสงค์ของกำรส่งเสริมกำรเกษตร การส่งเสริมการเกษตรเป็ นการจดั การศึกษานอกระบบโรงเรียน โดยไม่จากัดเพศ อายุ ระดบั การศึกษา ฐานะและลกั ษณะทางสงั คมอน่ื ๆ เพื่อให้บุคคลเป้าหมายเหลา่ น้นั มีสภาพชีวติ ความ เป็นอยู่ดขี ้ึน วตั ถปุ ระสงคข์ องการส่งเสริมการเกษตรสรุปเป็นขอ้ ๆ ไดด้ งั น้ี 6.1 เพื่อให้บริการเผยแพร่ความรู้ทางวชิ าการและเทคโนโลยีทางการเกษตรสมยั ใหม่ที่ ผ่านการทดลอง คน้ ควา้ วิจยั ให้เหมาะสมกบั สภาพของแต่ละพ้ืนที่แลว้ เพ่ือให้บุคคลเป้าหมายท่ี เป็ นตวั เกษตรกรแม่บา้ นเกษตรกร เยาวชนเกษตร และผูท้ ่ีสนใจทวั่ ไปสามารถนาไปปฏิบตั ิไดจ้ ริง 6.2 เพ่อื เพ่ิมประสิทธิภาพการผลิต และกาไรสุทธิดา้ นการเกษตรอย่างยงั่ ยนื โดยใช้เทค นิควิธีการผลติ ที่เหมาะสมในดา้ นพนั ธุพ์ ืช พนั ธุ์สัตว์ การเตรียมดิน การเพาะปลูก การบารุงดแู ลรัก ษา การเก็บเกย่ี ว การจดั การผลผลติ และการตลาด 6.3 เพ่ือพฒั นามาตรฐานความเป็นอย่ขู องครอบครัวของบุคคลเป้าหมายและของประเทศ ชาติในดา้ นอาหาร เคหะกิจในครวั เรือน รายได้ การออมและความสัมพนั ธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกใน ครอบครวั วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 10
บทที่ 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร 6.4 เพื่อผลิตอาหารให้เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ และมีเหลือส่งไปจาหน่าย ยงั ตา่ งประเทศ เพ่ือนาเงินตราตา่ งประเทศเขา้ ประเทศ 6.5 เพ่ือพฒั นาชุมชนเกษตรให้เจริญกา้ วหนา้ ในด้านจิตใจ สังคม วฒั นธรรม นันทนา การและชีวิตชุมชนชนบท ความสัมพนั ธ์ระหว่างคนในชุมชน การมีอานาจต่อรองการเขา้ ถึงการ บริการจากรัฐ สภาพแวดลอ้ มของชุมชนท่ีสามารถพ่งึ ตนเองได้ 6.6 เพอ่ื ใหเ้ กษตรกรไดร้ ับขา่ วสารขอ้ มลู และการบริการสนบั สนุนท่ีจาเป็น และเพยี งพอ ตอ่ การผลติ ดา้ นการเกษตรท้งั หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในดา้ นวิชาการ ดา้ นเทคโนโลยีการผลิต ดา้ นการตลาด ดา้ นการแปรรูป แหล่งสินเช่ือเงินทนุ และการบริการให้คาปรึกษา ชว่ ยเหลอื ดา้ นโรค แมลงศตั รูพชื และดา้ นอื่นๆ 6.7 เพื่อส่งเสริมและกระตุน้ เตือนใหเ้ กษตรกรรู้จกั การอนุรกั ษ์ และการใชป้ ระโยชนจ์ าก ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ มที่มีอยู่ในทอ้ งถ่ินของตนเองอย่างชาญฉลาด ได้แก่ ทรัพยากร ดิน ทรัพยากรน้า ทรพั ยากรป่ าไม้ และทรพั ยากรสัตวป์ ่ า 7. เป้ำหมำยของกำรส่งเสริมกำรเกษตร การส่งเสริมการเกษตร มีเป้าหมายในการท่ีจะยกระดบั มาตรฐานชีวติ ความเป็ นอยู่ของ เกษตรกร รวมท้ังแม่บ้านเกษตรกรและยุวเกษตรกรให้ดีข้ึน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรที่ด้อย โอกาสกว่าบุคคลอ่นื ในชุมชน หรือเกษตรกรรายยอ่ ย (small farmer) ซ่ึงเป็นเกษตรกรที่มกี ารศกึ ษา ค่อนขา้ งน้อย ฐานะยากจน ถือครองที่ดินทากินขนาดเลก็ และใช้แรงงานในครอบครัวในการประ กอบอาชีพ ดงั น้นั เป้าหมายสุดทา้ ยของการส่งเสริมการเกษตร คอื การพฒั นาให้เกษตรกรในชนบท ซ่ึงเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ ใหม้ ชี ีวิตความเป็นอยูท่ ี่ดขี ้ึน ดงั น้นั เป้าหมายในการปฏิบตั ิ คือ จะตอ้ งดาเนินการเพ่ือพฒั นาชีวิตความเป็ นอยูข่ องเกษตรกรให้ดีข้นึ โดยเน้นหนกั ในการปรับ ปรุงในเร่ือง การเพ่มิ ผลผลิตตอ่ พ้นื ที่ การเพ่ิมรายไดแ้ ละการกระจายรายไดข้ องประชาชน การสรา้ ง งานในชนบท การสรา้ งโครงสรา้ งพ้ืนฐานทางเศรษฐกิจและสังคม เพ่ือให้เกษตรกรหรือประชาชน ไดร้ บั ประโยชนอ์ ยา่ งเทา่ เทียมกนั ให้มากท่สี ุด และการกระตนุ้ ให้เกษตรกรหรือประชาชนมีบทบาท และมีส่วนร่วมในการตดั สินใจ รวมท้งั การบริหาร และการพฒั นาทอ้ งถิ่นหรือชมุ ชนของตนเอง 8. ปรัชญำของกำรส่งเสริมกำรเกษตร คาวา่ ปรชั ญา (philosophy) หมายถงึ หลกั นาในการคิดและการปฏบิ ตั ิ หรือความรู้สึกนกึ คดิ อนั ดงี ามของบคุ คลทที่ าใหบ้ ุคคลเกดิ แนวปฏิบตั ิ วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 11
บทที่ 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร คาว่า ปรัชญาของการส่งเสริมการเกษตร คอื การสอนใหเ้ กษตรกรรูจ้ กั ช่วยเหลือตนเอง (teach them to help them selves) ซ่ึงจะนาไปสู่การพ่งึ ตนเองของเกษตรกร และมีความยงั่ ยืนในการ พฒั นาเป็นสาคญั ซ่ึงตรงกบั คาพงั เพยหรือคติทว่ี ่า “ให้ปลาแกเ่ ขาเขาจะมปี ลากินในหน่ึงวนั สอนให้ เขาตกปลาเขาจะมีปลากินไปตลอดชีวิต” ดงั น้นั เพ่ือให้นักศึกษาได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ ปรัชญาของการส่งเสริมการเกษตรไดด้ ีย่งิ ข้นึ จงึ ขอนาปรชั ญาของการส่งเสริมการเกษตร ท่ีนกั วิชา การบางท่านไดก้ ลา่ วไว้ มานาเสนอ ดงั น้ี บญุ สม วราเอกศิริ (2539) กลา่ วว่า ปรัชญาของการส่งเสริมการเกษตรหมายถึง การช่วย ให้คนทไี่ ดร้ บั การส่งเสริมมีการศกึ ษา มคี วามรู้เพ่อื พฒั นาตนเอง โดยให้มกี ารปรับปรุงเปล่ียนแปลง ตนเองในทางความรู้ ความคดิ ทกั ษะในการปฏิบตั ิ รู้จกั ตดั สินใจ มคี วามเชื่อมน่ั ในตนเอง รวมท้งั มี ทศั นคติคา่ นิยมทถี่ ูกตอ้ ง และมฝี ี มือในการประกอบอาชีพเกษตรตามความตอ้ งการ ตามความถนดั และสนใจของแต่ละคน แต่ละกล่มุ ในสังคม หากเราไม่ให้การศึกษาไม่สอนให้เกษตรกรประกอบ อาชีพได้ หรือทาเป็นดว้ ยตนเอง ม่งุ แต่การให้ความชว่ ยเหลือตลอดไปแลว้ เกษตรกรกจ็ ะกลบั มาขอ ความชว่ ยเหลืออกี เชน่ น้นั ตลอดไป จะเป็นการสร้างนิสัยคอยแต่รบั ความช่วยเหลือ รับแจก รบั การ สงเคราะห์อยู่ตลอดไป ช่วยตนเองไม่ไดต้ ลอดชีวติ การใชว้ ิธีช่วยคนให้ชว่ ยตนเองจะช่วยทาใหเ้ กิด ผลดหี ลายประการ คือ 8.1 เมอื่ ไดร้ บั ความชว่ ยเหลือเพียงเล็กนอ้ ย กส็ ามารถพฒั นาใหเ้ จริญก้าวหนา้ ไปไดอ้ ย่าง รวดเร็ว 8.2 สามารถพฒั นาตนเองดว้ ยการพิจารณาปัญหา ทางานด้วยสติปัญญาความสามารถ ของตนเอง ไม่ตอ้ งคอยให้ใครมาช่วยเหลือให้เป็นภาระของสังคม 8.3 ชว่ ยใหเ้ กิดความเช่ือมน่ั และเคารพในเกยี รตกิ ารทางานของตนเอง 8.4 สรา้ งนิสยั การทางานเป็นคนเอาจริงเอาจงั มใิ ช่หวงั แตร่ อคอยความช่วยเหลอื จากผใู้ ด ผูห้ น่ึง โดยปราศจากการเริ่มตน้ กระทาดว้ ยตนเอง 9. กระบวนกำรส่งเสริมกำรเกษตร การเขา้ ถึงเกษตรกรในงานส่งเสริมการเกษตร วิจิตร อาวะกุล (2535) กล่าวว่า นกั ส่ง เสริมเป็ นผทู้ ่ีมีบทบาทมากที่สุด เปรียบเสมือนสะพานที่เช่ือมช่องว่างระหว่างเกษตรกรกับนักวิชา การหรือแหล่งความรู้วิจยั ต่างๆ โดยจะตอ้ งนาความรู้และวิทยาการใหม่ๆ จากแหล่งวิชาการหรือ สถาบนั คน้ ควา้ วิจยั ที่ดกี ว่าและไดผ้ ลกว่าเดมิ มาดดั แปลงเป็ นภาษาง่ายๆ เป็ นข้นั ตอน แลว้ นาไปเผย แพร่ให้เกษตรกร ในขณะเดยี วกนั ก็จะนาเอาปัญหาท่เี กษตรกรประสบมาประมวลหาทางแกไ้ ข หาก เกนิ ความสามารถของนกั ส่งเสริม ก็จะนาเอาปัญหาอุปสรรคน้นั ไปให้แหลง่ วิชาการหรือสถาบนั คน้ วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 12
บทที่ 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร ควา้ วิจยั ซ่ึงมีนักวิชาการแต่ละสาขาอยู่เพ่ือทดลอง คน้ ควา้ วิจยั หาทางแก้ไขปัญหาน้ัน เมื่อได้ผล แลว้ ก็จะนามาดดั แปลงเป็ นภาษาง่ายๆ ที่ง่ายต่อการเขา้ ใจไปให้เกษตรกรอีกคร้ังหน่ึง ซ่ึงกระบวน การเช่นน้ีเราเรียกว่า two-way communication หรือ แบบยุคลวิถี ดงั ภาพท่ี 1.4 ซ่ึงแสดงกระบวน การส่งเสริมการเกษตรแบบยุคลวิถี แหล่งควำมรู้วิชำกำร เจ้ำหน้ ำท่ีส่ งเสริม เนื้อหำ ส่ือกำรส่งเสริม บุคคลเป้ำหมำย สถาบนั นำวิชำกำร วชิ าการ กำรสอน เกษตรกร คน้ ควา้ วจิ ยั เทคโนโลยี เทคนิค การอบรม แม่บา้ น สถาบนั การ วิธีการ การพดู เกษตรกร ศกึ ษา ไปสู่ แนวความ การประชุม ยวุ เกษตรกร กระทรวง เกษตรกร คดิ การสาธิต บคุ คลที่ เกษตรฯ การวาง ส่ิงพิมพ์ สนใจ มหาวทิ ยาลยั แผน เอกสาร นักธุรกจิ วิทยาลยั เผยแพร่ เกษตร เกษตร โปสเตอร์ สื่อมวลชน ฯลฯ กจิ กรรม ฯลฯ ปัญหำจำกเกษตรกรผ่ำนนักส่ งเสริมกำรเกษตร กำรเกษตร ภำพท่ี 1.4 กระบวนการส่งเสริมการเกษตรแบบยุคลวิถี ที่มำ: ดดั แปลงจาก วิจติ ร อาวะกุล (2535) 9.1 วงจรการส่งเสริมการเกษตร การส่งเสริมการเกษตร มีการถ่ายทอดความรู้ไปยงั เกษตรกรหรือบุคคลเป้าหมายเป็นวงจรดงั ต่อไปน้ี เริ่มจากนกั วชิ าการในสถาบนั วิจยั แหล่งความรู้ ตา่ งๆ ได้ทาการศึกษาคน้ ควา้ วิจยั วทิ ยาการและเทคโนโลยีใหม่ๆทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั การเกษตร หลงั จาก น้นั ก็นาผลการวิจยั น้นั ไปทาการทดลองเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพของแต่ละทอ้ งถิ่น เม่ือเห็นว่า เหมาะสมสามารถนาไปใชไ้ ดแ้ ลว้ เจา้ หนา้ ที่ส่งเสริมจะเป็นผูน้ าวิทยาการเหลา่ น้นั ไปถ่ายทอดใหก้ ับ เกษตรกรในทอ้ งถิ่นท่ีตนเองรบั ผิดชอบ โดยเลือกวธิ ีการส่งเสริมทเี่ หมาะสมกับเกษตรกรมากท่สี ุด วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 13
บทที่ 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร แต่ก่อนที่จะนาวิทยาการเหล่า น้นั ไปถา่ ยทอดให้กับเกษตรกร เจา้ หนา้ ที่ส่งเสริมการเกษตรจะตอ้ ง ทาการแปลภาษาจากภาษาวิชา การให้เป็นภาษาที่ง่ายต่อการเขา้ ใจ ถา้ เป็นภาษาถิ่นก็ยิ่งดี แลว้ นาไป ถ่ายทอดให้กบั เกษตรกร เมือ่ เกษตรนาไปปฏบิ ตั ิ อาจเกดิ ปัญหาต่างๆข้นึ เกษตรกรกจ็ ะนาปัญหาน้นั กลบั ไปปรึกษากบั เจ้าหนา้ ที่ส่งเสริมการเกษตร เจ้าหน้าท่ีส่งเสริมการเกษตรจะตอ้ งวนิ ิจฉัยปัญหา น้นั หากสามารถให้คาปรึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาน้นั ไดก้ ็แกไ้ ขทนั ที แต่ถา้ พิจารณาแลว้ ไมส่ ามารถแก้ ไขได้ก็จะตอ้ งจดั ลาดบั ความ สาคญั ของปัญหาแลว้ ส่งกลบั ไปยงั สถาบนั วิจยั ท่ีคิดคน้ วิทยาการน้ัน แต่ก่อนท่ีจะนาปัญหาเหลา่ น้นั กลบั ไปยงั แหล่งวชิ าการ เจา้ หนา้ ที่ส่งเสริมการเกษตรจะตอ้ งทาการ แปลภาษาจากภาษาถิ่นให้เป็นภาษาวิชาการเสียกอ่ น ดงั น้นั จะเหน็ ไดว้ า่ ในกระบวนการส่งเสริมการ เกษตร เจา้ หนา้ ทีส่ ่งเสริมการเกษตรจะมบี ทบาทมากที่สุด ดงั ภาพท่ี 1.5 ซ่ึงแสดงให้เห็นถึงวงจรใน การส่งเสริมการเกษตร 1.กำรค้ นคว้ ำ วิจัย 7. จัดลำดับ 2.กำรทดลอง ค ว ำ ม สำ คั ญ เพ่ื อควำม ของปั ญหำ เหมำะสม 6.วินิจฉั ย 3.กำรเผย ปั ญหำ แพร่ โดยวิธี กำร ต่ ำงๆ 5.ปั ญหำ 4.เกษตรกร ต่ ำงๆ นำ ไ ป ป ฏิ บั ติ ภำพที่ 1.5 วงจรการส่งเสริมการเกษตร ท่มี ำ: ดดั แปลงจาก บญุ สม วราเอกศริ ิ (2539) วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 14
บทท่ี 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร 9.2 การไหลของความรูแ้ ละปัญหาในกระบวนการส่งเสริมการเกษตร กระบวนการทาง การส่งเสริมการเกษตรในปัจจบุ นั มีความแตกตา่ งออกไปจากเดิมเล็กนอ้ ย แต่ยงั ถอื วา่ ยงั เป็นแบบยุค วิถอี ยู่ ท้งั น้ีเน่ืองจากปัจจบุ นั หน่วยงานการคน้ ควา้ วิจยั แหลง่ วิชา การทางการเกษตรมีมากข้ึน โดย เฉพาะมอี ยูท่ วั่ ไปในทอ้ งถิ่น รวมท้งั การคมนาคมก็สะดวกข้นึ เกษตรกรบางส่วนอาจจะไม่ผ่านเจ้า หนา้ ท่ีส่งเสริมในการนาปัญหาไปสู่แหล่งวิชาการเหล่าน้นั เกษตรกรอาจนาปัญหาไปปรึกษาแหล่ง วิชาการโดยตรงเลยกไ็ ด้ อีกท้งั ในปัจจบุ นั ระบบการส่งเสริมการเกษตรได้ใชเ้ กษตรกรผนู้ าและกลุ่ม เกษตรกรเป็ นประโยชน์ในการส่งเสริมการเกษตรเป็ นผูช้ ่วยเหลืองานในหน้าที่ของเจ้าหนา้ ท่ีส่ง เสริมการเกษตรใหบ้ รรลผุ ลและรวดเร็วยิง่ ข้ึน เกษตรกรและกลมุ่ อาจจะเป็นส่ือกลางแทนเจ้าหนา้ ท่ี ส่งเสริมเลยก็ได้ หรืออาจจะเป็นส่ือกลางนาปัญหาน้นั ไปสู่เจา้ หนา้ ทสี่ ่งเสริมเลยก็ไดเ้ ช่นกนั ดงั ภาพ ที่ 1.6 ทแ่ี สดงใหเ้ ห็นการไหลของความรู้และปัญหาในกระบวนการส่งเสริมการเกษตร เจ้ำหน้ำทสี่ ่งเสริม ความรู้ ปัญหา ปัญหา ปัญหา แหล่งวิชำกำร ความรู้ ความรู้ ความรู้ ปัญหา เกษตรกรผ้นู ำ ปัญหา ความรู้ เกษตรกร ความรู้ ปัญหา ภำพท่ี 1.6 การไหลของความรูแ้ ละปัญหาในกระบวนการส่งเสริมการเกษตร ทมี่ ำ: ดดั แปลงจาก บุญสม วราเอกศริ ิ (2539) วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 15
บทที่ 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร สรุป การส่งเสริมการเกษตร หมายถึง กระบวนการพฒั นาความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์ เทคนิค และวธิ ีการใหม่ๆ หรือเทคโนโลยที ่เี หมาะสม เพอ่ื มุง่ พฒั นาผลผลิตทางการเกษตร โดยอาศยั การให้ การศึกษาแบบนอกระบบโรงเรียนแก่เกษตรกร ครอบครวั เกษตรกรและบุคคลที่สนใจ โดยวิธีการ ปฏิบัติจริง และติดตามให้คาแนะนาช่วยเหลือ เพ่ือให้เกษตรกรสามารถช่วยเหลือตนเองได้ ขณะเดียวกนั ก็นาปัญหาตา่ งๆทางการเกษตรมาวิเคราะห์ วิจยั หาหนทางแกไ้ ขเพ่ือปรับปรุงพฒั นา ประสิทธิภาพในการผลิตให้เหมาะสมกับภูมิศาสตร์ของพ้ืนท่ี เพ่ือให้บุคคลเป้าหมายมีชีวิตความ เป็นอยู่ท่ีดีข้ึนอย่างยง่ั ยนื ท้งั ทางดา้ นเศรษฐกิจและสังคม โดยการส่งเสริมการเกษตรจะตอ้ งอาศยั การมีส่วนร่วมของเกษตรกรในทุกข้นั ตอน โดยมีปรัชญา คอื การสอนใหเ้ กษตรกรรู้จกั ชว่ ยเหลือ ตนเองไดด้ ว้ ยตวั ของเขาเอง และมีหลกั การที่สาคญั คือ ตอ้ งทางานร่วมกบั เกษตรกรและองค์กร พฒั นาอื่นๆในชนบท โดยจะตอ้ งมีการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสารแบบยุคลวิถี ดังน้ัน การ พฒั นาการเกษตรจึงเป็ นพ้ืนฐานสาคญั เบ้ืองตน้ ของการพฒั นาความมน่ั คงทางเศรษฐกิจและสงั คม ของประเทศ คำถำมท้ำยบท ให้นกั ศึกษำตอบคำถำมต่อไปนใ้ี ห้ได้ใจควำมสมบรู ณ์ 1. การส่งเสริมการเกษตร คืออะไร และมคี วามหมายอยา่ งไร 2. จงอธิบายหลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตรมาใหถ้ ูกตอ้ ง 3. จงอธิบายความจาเป็นทตี่ อ้ งมกี ารส่งเสริมการเกษตรมาให้ถูกตอ้ ง 4. ในการส่งเสริมการเกษตรมวี ตั ถุประสงคแ์ ละจดุ ม่งุ หมายอยา่ งไร 5. จงบอกปรัชญาของการส่งเสริมการเกษตรมาให้ถกู ตอ้ ง 6. จงอธิบายกระบวนการในการส่งเสริมการเกษตรและเขยี นวงจรการส่งเสริม การเกษตรมาให้ถูกตอ้ ง วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 16
บทท่ี 1 หลกั การและความสาคญั ของการส่งเสริมการเกษตร เอกสำรอ้ำงองิ กองวเิ ทศสัมพนั ธ์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. 2542. ประเมินผลโครงกำรฝึ กอบรม. โครงการนา ร่องเพื่อสร้างเครือขา่ ยงานส่งเสริมการเกษตรในประเทศไทย. วนั ท่ี 21 มถิ ุนายน- 1 กรกฎาคม 2542. ณ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ดิเรก ฤกษห์ ร่าย. 2554. หลกั กำรส่งเสริมกำรเกษตร. กรุงเทพฯ: จงเจริญพานิช. บญุ ธรรม จติ ตอ์ นนั ต.์ 2540. ส่งเสริมกำรเกษตร. พมิ พค์ ร้งั ที่ 2. กรุงเทพฯ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. บุญสม วราเอกศริ ิ. 2539. หลกั และวธิ กี ำรส่งเสริมกำรเกษตร. พิมพค์ ร้งั ที่ 4. เชียงใหม่: สถาบนั เทคโนโลยกี ารเกษตรแมโ่ จ.้ พงษศ์ กั ด์ิ องั กสิทธ์ิ. 2554. แนวคดิ เชิงวิเคราะหเ์ กยี่ วกบั การส่งเสริมการเกษตร เอกสำรกำรสอนชดุ วชิ ำกำรส่งเสริมกำรเกษตรเพอ่ื กำรพฒั นำ หน่วยที่ 4. พมิ พค์ ร้งั ที่ 2. นนทบรุ ี: มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. พฒั นา สุขประเสริฐ. 2557. ศำสตร์เพอื่ กำรส่งเสริมกำรเกษตร. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. ยพุ า แซ่ซ้ือ. 2559. การเสริมสรา้ งสมรรถนะนกั ส่งเสริมการเกษตรระดบั ปฏิบตั กิ าร. ชุดวิชำกำร ถ่ำยทอดเทคโนโลยีกำรเกษตร. กรุงเทพฯ: ศนู ยเ์ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร กรม ส่งเสริมการเกษตร. ราชบณั ฑิตยสถาน. 2546. พจนำนกุ รมฉบับรำชบัณฑติ ยสถำน พ.ศ.2542. กรุงเทพฯ: นานมีบคุ๊ ส์ พบั ลเิ คชน่ั ส์. สุรพล เศรษฐบุตร. 2547. หลกั การพฒั นาการเกษตร. เอกสำรประกอบกำรสอนวชิ ำหลกั กำรพัฒนำ กำรเกษตร. กรุงเทพฯ: สถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจา้ คุณทหารลาดกระบงั . วจิ ติ ร อาวะกุล. 2535. หลกั กำรส่งเสริมกำรเกษตร. กรุงเทพฯ: ไทยวฒั นาพานิช. Watts, L.H. 1984. The Organization Setting for Agricultural Extension In Swanson, B.F. Agricultural Organization: A Reference Manual. Rome: FAO. วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 17
บทที่ 2 เทคนิคและวธิ กี ารส่งเสริมการเกษตร
บทที่ 2 เทคนิคและวธิ ีการส่งเสริมการเกษตร บทท่ี 2 เทคนิคและวิธกี ำรส่งเสริมกำรเกษตร จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม เมอื่ นกั ศึกษาเรียนจบบทเรียนน้ีแลว้ นกั ศกึ ษาสามารถ 1. จาแนกวธิ ีการส่งเสริมการเกษตรในแบบต่างๆไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 2. บอกขอ้ ดแี ละขอ้ จากดั ของการส่งเสริมการเกษตรแต่ละวธิ ไี ดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 3. อธิบายเทคนิคของการส่งเสริมการเกษตรแตล่ ะวิธีไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 4. จาแนกประเภทของเกษตรกรในงานส่งเสริมการเกษตรไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 5. เรียงลาดบั ข้นั ตอนของกระบวนการยอมรบั ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง 6. อธิบายความสัมพนั ธ์ระหว่างกระบวนการยอมรับกับวิธีการส่งเสริมการเกษตรได้ อยา่ งถูกตอ้ ง บทนำ วิธีการส่งเสริมการเกษตร เป็นเคร่ืองมอื หน่ึงในการทน่ี ักส่งเสริมการเกษตรจะเขา้ ปฏิบตั ิ งานร่วมกบั เกษตรกร โดยที่ทกุ วิธีการส่งเสริมการเกษตรย่อมมีขอ้ ดแี ละขอ้ จากดั ทีแ่ ตกต่างกนั จาเป็ น อย่างยิ่งที่นักส่งเสริมจะตอ้ งมีกระบวนการเลือกวิธีส่งเสริมการเกษตรให้เหมาะสมกบั กลุ่มคนเป้า หมายและเหมาะกบั สภาพของชุมชน นอกจากน้ีในการถ่ายทอดความรูไ้ ปสู่เกษตรกร นกั ส่งเสริมจะ ตอ้ งมีเทคนิควิธีการตา่ งๆ ในการจูงใจใหเ้ กษตรกรหนั มายอมรับนวตั กรรมใหม่ๆ ดงั น้นั นกั ส่งเสริม ก็จะตอ้ งหาวิธีการชนะใจเกษตรกรแต่ละประเภทให้ได้ เพื่อเกษตรกรจะไดน้ านวตั กรรมน้นั ไปปรับ ใชก้ บั การประกอบอาชีพ ทาให้ไดผ้ ลผลิตที่ดีและมีคุณภาพมากข้ึน เม่ือได้ผลผลิตเพิ่มข้ึนก็ทาให้ เกษตรกรมีรายไดม้ ากข้นึ เม่ือรายไดม้ ากข้ึนกจ็ ะทาใหช้ ีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรดีข้นึ ซ่ึงจะนาไป สู่การเปลีย่ นแปลงทม่ี ศี กั ยภาพของคนในชมุ ชน เนื้อหำ 1. ควำมหมำยของวิธีกำรส่งเสริมกำรเกษตร บญุ ธรรม จิตตอ์ นนั ต์ (2540) กลา่ ววา่ วิธีการส่งเสริมการเกษตร หมายถึง วิธีการทนี่ กั ส่ง เสริมการเกษตรติดต่อกบั บุคคลเป้าหมาย โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์เพื่อสอน ให้ความรู้ แจง้ ขา่ วสาร แนะ วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 18
บทท่ี 2 เทคนิคและวิธีการส่งเสริมการเกษตร นาจงู ใจใหป้ ฏิบตั ิ หรือรับฟังปัญหาขอ้ คิดเหน็ ตา่ งๆ วธิ ีการส่งเสริม แบง่ ไดเ้ ป็น 3 วิธี คือ ในกรณีท่นี ัก ส่งเสริมติดต่อกับบุคคลคนเดียว ก็เรียกการส่งเสริมแบบน้ีว่า วิธีการส่งเสริมแบบรายบุคคลแต่ใน บางคร้ังกม็ กี ารสอน พบปะ หรือใหค้ วามรู้กนั เป็นกลมุ่ เชน่ การฝีกอบรมเกษตรกรหรือแม่บา้ นเกษตร กรแบบน้ีเรียกว่า วิธีการส่งเสริมแบบกลุ่ม นอกจากน้ียงั มีความจาเป็นท่ีตอ้ งทางานให้เขา้ ถึงชนกลุ่ม ใหญต่ อ้ งใชส้ ื่อ เช่น เอกสารเผยแพร่ หนงั สือพมิ พ์ วิทยุ โทรทศั น์ หรือการจดั นิทรรศการเขา้ ชว่ ย วิธี การทเี่ ขา้ ถึงชนกลุ่มใหญ่น้ี เรียกวา่ วธิ ีการส่งเสริมแบบมวลชน 2. วิธีกำรส่งเสริมกำรเกษตร รุจ ศิริสญั ลกั ษณ์ (2550) กลา่ วว่า การแบ่งวิธีการส่งเสริมการเกษตรโดยพจิ ารณาจากกลุม่ เป้าหมายในการส่งเสริม เป็นการแบง่ วธิ ีการส่งเสริมตามจานวนมากนอ้ ยของบุคคลเป้าหมายที่นัก ส่งเสริมตอ้ งการติดตอ่ เพ่ือเผยแพร่ข่าวสารความรู้ สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 3 ประเภทใหญๆ่ คอื 2.1 วิธีการส่งเสริมแบบรายบุคคล (individual methods, personal method) เป็ นวิธีการ ส่งเสริมหรือถา่ ยทอดความรูใ้ หเ้ กษตรกรแต่ละคร้งั แคเ่ พยี งคนเดยี วหรือแบบตวั ตอ่ ตวั จึงทาให้ผรู้ ับ การส่งเสริมไดม้ ีโอกาสรับฟังคาแนะนาเผยแพร่โดยตรงจากนักส่งเสริมทาให้เกษตรกรเกิดความ เชื่อมน่ั และสนใจท่ีจะรับเอาความรูห้ รือขอ้ ปฏิบตั ิใหม่ๆ ไปปฏิบัติไดม้ าก ในขณะเดียวกันนกั ส่ง เสริมก็จะไดร้ ู้จกั กบั ผูร้ ับการส่งเสริม รวมท้งั สภาพความเป็ นอยู่ที่แทจ้ ริงของเขามากข้ึน ซ่ึงจะอา นวยประโยชน์ให้นักส่งเสริมตดั สินใจแนะนาส่ิงใหม่ๆที่เป็ นประโยชน์แก่ผูร้ ับการส่งเสริมจริงๆ และสมั พนั ธ์กบั สิ่งเดมิ ทเี่ ขามีอยู่ ซ่ึงมอี ยู่ 5 วิธี ไดแ้ ก่ 2.1.1 การเยีย่ มเยยี นเกษตรกรท่บี า้ นและไร่นา (farm and home visits) เป็นวิธีการท่ี ใชม้ ากที่สุดสาหรับนกั ส่งเสริมการเกษตรระดบั ตาบลหรือเกษตรตาบล ในการถ่ายทอดความรูไ้ ปยงั เกษตรกร 2.1.2 การที่เกษตรกรมาพบนกั ส่งเสริมท่สี านกั งาน (office calls) บางคร้ังเกษตรกร อาจมาพบนักส่งเสริมที่สานักงานเพราะมีปัญหาเร่งด่วน ตอ้ งการคาแนะนาในการแกป้ ัญหาหรือ เพ่ือตอ้ งการความรู้เพิ่มเตมิ ในระบบการส่งเสริมการเกษตรของประเทศไทย มีสานกั งานส่งเสริม การเกษตรในระดบั ภาค ระดบั จงั หวดั และระดับอาเภอ เพ่ือให้บริการความรูแ้ ก่เกษตรกรและประ ชาชนทว่ั ไป 2.1.3 การตดิ ต่อกบั เกษตรกรทางจดหมาย (personal letters)ใชไ้ ดผ้ ลในกรณีเกษตร กรสามารถอ่านออกเขียนได้ อาจเป็ นเกษตรกรเขียนมาซักถามปัญหาหรือนกั ส่งเสริมเขียนไปถึง เกษตรกรก็ได้ แตป่ ัจจบุ นั นิยมใชน้ อ้ ยมาก วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 19
บทท่ี 2 เทคนิคและวธิ ีการส่งเสริมการเกษตร 2.1.4 การตดิ ต่อกับเกษตรกรทางโทรศพั ท์ (telephone calls) มีการใชม้ ากข้นึ เน่ือง จากการขยายเครือขา่ ยโทรศพั ทก์ วา้ งขวางข้นึ 2.1.5 การติดตอ่ อย่างไม่เป็นทางการหรือการพบปะกนั โดยบงั เอญิ (informal contact) เป็นการพบปะแบบไม่ไดม้ ีการนดั หมาย แตส่ ามารถใหข้ อ้ มูลขา่ วสารกนั ได้ เชน่ พบกนั ในงานหรือ เทศกาลต่างๆ พบกนั ที่ตลาด ถนนหนทาง ฯลฯโดยวิธีการส่งเสริมแบบรายบุคคลตามทกี่ ลา่ วมาน้นั รุจ ศิริสญั ลกั ษณ์ (2550) ไดเ้ ปรียบเทยี บขอ้ ดแี ละขอ้ จากดั ไวต้ ามตารางท่ี 2.1 ดงั น้ี ตำรำงท่ี 2.1 เปรียบเทียบขอ้ ดแี ละขอ้ จากดั ของวิธีการส่งเสริมแบบรายบุคคล ข้อดี ข้อจำกดั 1. ไดผ้ ลแน่นอน เนื่องจากเกษตรกรเขา้ ใจ 1. ค่าใชจ้ า่ สูง ในเน้ือหาวิชาการไดล้ กึ ซ้ึง 2. เสียเวลามาก 2. สามารถเขา้ ใจ แกไ้ ขปัญหาไดถ้ กู ตอ้ ง 3. ทาใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจผดิ ไดง้ ่ายถา้ ให้ 3. สรา้ งความคนุ้ เคยไดม้ าก และทราบปัญหา ความสนใจเกษตรกรไม่ทวั่ ถงึ ของเกษตรกรทกุ คน 4. รศั มีการทางานของเจา้ หนา้ ที่อยู่ในวงแคบ 4. มีเวลาที่จะปรึกษาหารือกนั ไดอ้ ย่างใกลช้ ิด ทม่ี ำ: รุจ ศริ ิสญั ลกั ษณ์ (2550) 2.2 วิธีการส่งเสริมแบบกลุ่ม (group methods) เป็ นการถ่ายทอดความรู้หรือการแลกเปล่ียน ความคิดระหว่างนกั ส่งเสริมกบั บุคคลเป้าหมายคร้ังละต้งั แต่ 2 คนข้ึนไป แต่ไม่มากเกนิ ไปจนนับ จานวนไมไ่ ด้ วธิ ีน้ีจะถ่ายทอดความรูข้ า่ วสารให้กบั บุคคลเป้าหมายได้คร้ังละหลายๆคน ซ่ึงเป็ นการ ประหยดั เวลาและงบประมาณ การส่งเสริมแบบกลมุ่ ทใ่ี ชใ้ นงานส่งเสริมการเกษตรมีหลายวธิ ี ดงั น้ี 2.2.1 การประชุมเกี่ยวกับงานส่งเสริม (extension meeting) การประชมุ เป็นวิธีการ ส่งเสริมที่เจา้ หนา้ ท่ีส่งเสริมนดั หมายหรือนาบุคคลเป้าหมายมารวมกลมุ่ กนั เพอ่ื ถ่ายทอดวิชาความรู้ ทางการเกษตร รวมท้งั เป็นการรบั ทราบปัญหาและหาทางแกไ้ ขปัญหาดว้ ยวิธีการถ่ายทอดความรู้ทีใ่ ช้ กบั การประชมุ มีหลายรูปแบบ ไดแ้ ก่ การบรรยาย การอภปิ รายกลุ่ม การอภปิ รายเป็ นคณะ และการ ประชุมเชิงปฏิบตั ิการ 2.2.2 การสาธิต (demonstration) เป็ นวิธีการส่งเสริมการเกษตรท่ีใชก้ ันอย่างแพร่ หลายและได้ผลดี เนื่องจากเกษตรกรไดเ้ ห็นข้นั ตอนของการปฏิบตั ิต้งั แต่ตน้ จนจบ จนทาให้เกิด ความมนั่ ใจที่จะนาไปปฏิบัติ โดยท่ีนกั ส่งเสริมจะถ่ายทอดความรู้ด้วยการอธิบายและแสดงการ วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 20
บทท่ี 2 เทคนิคและวธิ ีการส่งเสริมการเกษตร ปฏิบตั ไิ ปพร้อมๆกัน ผชู้ มหรือเกษตรกรสามารถสอบถามและร่วมปฏบิ ตั ไิ ด้ โดย วลั ลภ พรหมทอง (2541) ไดจ้ าแนกรูปแบบของการสาธิตออกเป็น 2 รูปแบบ ดงั น้ี 2.2.2.1 การสาธิตวธิ ี (method demonstration) หมายถึง การแสดงการปฏิบตั ิ ตามข้นั ตอนในกจิ กรรมต่างๆใหผ้ ูช้ มไดเ้ ห็น ขณะเดยี วกนั กบ็ รรยายประกอบตามข้นั ตอนการแสดงน้นั เพ่ือให้ผูช้ มมีความรู้ความเขา้ ใจในส่ิงท่ีสาธิตน้นั เช่น การสาธิตการตอนก่ิงพืช การสาธิตการผสม เทยี มปลา การสาธิตการทาอาหาร ฯลฯ 2.2.2.2 การสาธิตผล (result demonstration) หมายถึง การนาผลการสาธิตมา แสดงให้กลมุ่ บุคคลเป้าหมายไดร้ ู้และเขา้ ใจ โดยการนาผลของวิทยาการใหมๆ่ มาแสดงเปรียบเทียบ กบั วิธีการด้ังเดิม เชน่ แปลงสาธิตการทานาดาตามวิทยาการแผนใหม่ แปลงสาธิตการปลูกมะม่วง ระยะชิดบอ่ การสาธิตการเล้ียงปลาในนาขา้ ว เป็ นตน้ นอกจากน้ี บุญธรรม จิตตอ์ นันต์ (2540) ได้ เปรียบเทียบขอ้ แตกต่างระหว่างการสาธิตวิธีและการสาธิตผลในงานส่งเสริมการเกษตรเพื่อความ เขา้ ใจทช่ี ดั เจน ตามตารางที่ 2.2 ดงั น้ี วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 21
บทท่ี 2 เทคนิคและวธิ ีการส่งเสริมการเกษตร ตำรำงท่ี 2.2 เปรียบเทียบการสาธิตวิธีและการสาธิตผลในงานส่งเสริมการเกษตร หัวข้อ กำรสำธิตวธิ ี กำรสำธติ ผล เปรียบเทียบ (method demonstration) (result demonstration) วตั ถุประสงค์ เพื่อสอนวิธีการหรือทกั ษะในการ เพื่อเป็นการพสิ ูจนโ์ ดยใหเ้ หน็ ปฏิบตั ิงานอย่างใดอย่างหน่ึงเป็น จริงหรือเหน็ ผลวา่ วธิ ีการท่ไี ดแ้ นะ ผดู้ าเนินการสาธิต ข้นั ๆไปตามลาดบั นาไปสามารถกระทาไดใ้ นทอ้ งถ่ิน ผชู้ มการแสดง หรือ เห็นผลทีด่ กี วา่ ทป่ี ฏบิ ตั ิอย่เู ดิม บุคคลเป้าหมาย นกั ส่งเสริม วิทยากร หรือผนู้ าท่มี ี เพอื่ สร้างความเช่ือถือในตวั นกั สถานที่ ประสบการณ์ ส่งเสริมและงานส่งเสริการเกษตร ผมู้ าประชมุ อบรม เชน่ เกษตรกร ทาให้บุคคลเป้าหมายสนใจเสาะ ระยะเวลา แมบ่ า้ นเกษตรกร ยุวเกษตรกร หาความรู้เพม่ิ เตมิ และปฏิบตั ิตาม การใชป้ ระโยชน์อนื่ ๆ อาจเป็นห้องประชุม บริเวณบา้ น หัวหนา้ กลมุ่ ฯ เกษตรกร เกษตรกร สถานีโทรทศั น์ หรือท่ีอ่นื แม่บา้ นเกษตรกร ยุวเกษตรกร เกษตรกร แมบ่ า้ นเกษตรกร ยวุ อาจเป็น 20 นาที 30 นาที หรือ เกษตรกร นกั เรียน หรือผสู้ นใจ มากกว่าโดยทว่ั ไปไม่เกนิ 1 ช.ม. ไร่นาหรือฟาร์มของเกษตรกร บริเวณสานกั งานส่งเสริม สถานี - ทดลองการเกษตร หลายสัปดาห์ หรือหลายเดอื น เป็นตวั อย่างของวิธีการแผนใหม่ ในการประชุม ทศั นศกึ ษา โฆษณา หรือเป็ นส่ือเผยแพร่ ทม่ี ำ: บุญธรรม จติ ตอ์ นนั ต์ (2540) 2.2.3 ทศั นศกึ ษา(fieldtrip) คือ การนาเกษตรกรหรือกลุ่มบุคคลไปศึกษากิจกรรมตา่ ง ๆนอกสถานท่ี เช่น ในไร่นา หรือฟาร์มตวั อย่างตา่ งๆเก่ียวกบั การปลูกพืช เล้ียงสตั ว์ เป็นวิธีการส่งเสริม วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 22
บทท่ี 2 เทคนิคและวิธีการส่งเสริมการเกษตร แบบกลมุ่ ท่มี บี รรยากาศการศกึ ษาที่น่าสนใจ นิยมใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายท้งั ในงานส่งเสริมการเกษตร และในวงการศึกษาทวั่ ไป 2.2.4 การจัดฝึ กอบรมพิเศษ (special training course ) หมายถึง การจัดอบรมในหลัก สูตรระยะส้ันๆ 1-3 วนั หรือ 5-7 วนั เพ่ือฝึ กอบรมเกษตรกร แม่บ้าน หรือกลุ่มผูส้ นใจเฉพาะเรื่อง หวั ขอ้ การอบรมตอ้ งเป็ นท่ีสนใจ ตรงกับความตอ้ งการของกลุม่ อาจมกี ารฝึกปฏิบตั ริ ่วมดว้ ยเพื่อให้ เกิดความเขา้ ใจและเชื่อมนั่ ว่าสามารถนาไปปฏบิ ตั ิตามได้ 2.2.5 การทดสอบในทอ้ งถน่ิ (verification trials) เป็นกระบวนการวจิ ยั ท่ที ดลองทา ส่ิงหน่ึงส่ิงใดหลายๆวธิ ีในไร่นาของเกษตรกรในทอ้ งถิ่น เพื่อจะคน้ หาวา่ วิธีไหนดีท่สี ุดหรือให้ผลดีที่สุด เชน่ การทดลองปลูกพชื โดยใชเ้ มล็ดพนั ธุ์ต่างกนั การใชป้ ๋ ยุ ตา่ งกนั หรือการเลอื กวนั ปลูกตา่ งกนั โดยวิธี การส่งเสริมแบบกลมุ่ ตามที่กล่าวมาน้นั รุจ ศริ ิสัญลกั ษณ์ (2550)ไดเ้ ปรียบเทยี บขอ้ ดีและขอ้ จากดั ไว้ ตามตารางท่ี 2.3 ดงั น้ี ตำรำงท่ี 2.3 เปรียบเทยี บขอ้ ดแี ละขอ้ จากดั ของวธิ ีการส่งเสริมแบบกล่มุ ข้อดี ข้อจำกดั 1. สามารถตดิ ตอ่ เกษตรกรไดค้ ร้ังละมากๆ 1. ไมส่ ามารถอธิบายให้เขา้ ใจไดท้ ว่ั ทุกคน 2. ก่อให้เกิดความสามคั คใี นกลมุ่ 2. ตอ้ งมกี ารวางแผนนดั หมายล่วงหนา้ 3. ประหยดั เวลาและคา่ ใชจ้ ่าย หากเลอ่ื นการประชุม การนดั หมายใหพ้ รอ้ ม 4. ทราบความคดิ เห็นของเกษตรกรไดอ้ ย่าง เพรียงกนั ทาไดย้ าก กวา้ งขวาง 3. การกาหนดหัวขอ้ ในการประชมุ หรืออบรม 5. มโี อกาสเลอื กบคุ คลทีจ่ ะทาหนา้ ทเ่ี ป็น เพ่อื ให้ทุกคนสนใจทาไดย้ าก ตวั แทน หรือผนู้ าของกลุ่มไดโ้ ดยการลง 4. การแกป้ ัญหาอาจไมต่ รงกบั ความตอ้ งการ ประชามติ ของเกษตรกรท้งั หมด ท่ีมำ: รุจ ศริ ิสญั ลกั ษณ์ (2550) 2.3 วธิ ีการส่งเสริมแบบมวลชน (mass methods) เป็ นวิธีการท่ีสามารถเผยแพร่ข่าวสาร ไปยงั กลมุ่ บคุ คลเป็นจานวนมากๆไดส้ ะดวกและรวดเร็ว เหมาะสาหรบั ในกรณีท่มี ีเร่ืองเร่งด่วน โดย ใชส้ ่ือมวลชนช่วยในการส่งเสริมเผยแพร่วิทยาการใหมๆ่ หรือข่าวความรู้ใหม่ให้บุคคลเป้าหมายได้ ทราบ และมโี อกาสท่ีจะศึกษาหารายละเอียดเพ่ิมเตมิ ต่อไปได้ จานวนบคุ คลเป้าหมายในการส่งเสริม วิธีน้ี เราไม่สามารถทราบจานวนได้ สื่อมวลชนท่ีนามาใชไ้ ดด้ ีกบั วธิ ีการส่งเสริมวธิ ีน้ี ไดแ้ ก่ วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 23
บทที่ 2 เทคนิคและวธิ ีการส่งเสริมการเกษตร 2.3.1 หนงั สือพมิ พ์ (newspaper ) การเผยแพร่ข่าวสารหรือความรูท้ างการเกษตรใน หนงั สือพิมพไ์ ปสู่เกษตรกรและประชาชนทว่ั ไปทาให้เกิดการรบั รูข้ า่ วสารและวิชาการเกษตรใหม่ๆ ทนั เหตุการณ์ ถา้ เกษตรกรมีความสนใจก็สามารถติดตามรายละเอียดเพ่ิมเติมไดจ้ ากนักวิชาการ เกษตรในทอ้ งถน่ิ 2.3.2 นิทรรศการ (exhibits) หมายถึง การจดั แสดงส่ิงของ ซ่ึงอาจจะเป็ นของจริง ของจาลอง วสั ดอุ ุปกรณต์ ่างๆ สัตว์ พืช ฯลฯ หรือแสดงแนวคิดความเหน็ ทม่ี ีความมุ่งหมายเพื่อสร้าง ความสนใจ ให้ความรูค้ วามเขา้ ใจ หรืออาจเพ่ือเป็นการประชาสมั พนั ธก์ จิ กรรมของหน่วยงาน หรือ เพอื่ โฆษณาขายสินคา้ อย่างใดอยา่ งหน่ึง นิทรรศการเป็ นวิธีการส่งเสริมอีกวิธีหน่ึงที่สามารถเขา้ ถึง มวลชนส่วนใหญ่ท่ีเป็นเกษตรกรและประชาชนทว่ั ไปได้ เพราะนอกจากจะจดั นิทรรศการที่สานัก งานเพ่ือเผยแพร่ความรู้แลว้ ยงั สามารถจดั นิทรรศการในงานเทศกาลต่างๆ งานประกวดพืชผล เป็ น การเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตรไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง ถึงแมจ้ ะไดร้ ับรายละเอยี ดไม่มากนกั แตเ่ ป็ น การกระตนุ้ ให้เกษตรกรและประชาชนทว่ั ไปเกิดความสนใจไดอ้ ย่างดี 2.3.3 เอกสารส่ิงพิมพ์ (materials) เป็ นสื่อท่ีสามารถใช้ในการเผยแพร่ความรู้สู่ เกษตรกรทมี่ ีประสิทธิภาพสูงชนิดหน่ึง เนื่องจากสามารถผลติ ไดง้ า่ ย ราคาต่า และสามารถเกบ็ ไวไ้ ด้ นาน แต่มีขอ้ จากดั กค็ ือ ถา้ หากบุคคลเป้าหมายอ่านหนงั สือไมอ่ อก จะทาให้เขา้ ใจไดย้ ากไมส่ ามารถ นาวิชาความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ เอกสารสิ่งพิมพท์ ่ีใช้เผยแพร่ขา่ วสารความรู้หรือวิชา การเกษตร ไดแ้ ก่ หนงั สือพิมพ์ วารสารวิชาการ เอกสารคาแนะนา จดหมายเวียน แผ่นพบั ใบปลิว โปสเตอร์ ฯลฯ 2.3.4 วิทยุ (radio) วทิ ยุเป็ นส่ือมวลชนทีน่ าความรู้วิชาการต่างๆ และสาระบนั เทิง ไปสู่ประชาชนได้อย่างกวา้ งขวาง เขา้ ถึงทุกจุดท้งั ใกลแ้ ละไกลทว่ั ประเทศได้รวดเร็ว เน่ืองจาก เกษตรกรแทบทุกครัวเรือนมีวิทยุของตวั เอง และเกษตรกรนิยมรับฟังรายการวิทยุกนั เป็ นจานวน มาก เพราะรายการวทิ ยใุ นปัจจุบนั น้ีมีท้งั รายการบนั เทิง รายการความรู้ท่เี ป็ นเน้ือหาสาระ และการ จดั รายการความรูท้ างการเกษตรผา่ นทางสถานีวิทยุ สามารถกระทาไดท้ กุ วนั ตลอดเวลาท้งั กลางวนั กลางคนื แต่มีขอ้ จากดั ก็คือ ตอ้ งเลือกชว่ งเวลาท่เี หมาะสมท่ีเกษตรกรสามารถฟังได้ มฉิ ะน้นั จะไม่ ไดผ้ ลตามท่ีคาดหวงั นอกจากน้ีถา้ หากเกษตรกรไมเ่ ขา้ ใจกไ็ มส่ ามารถสอบถามได้ เน่ืองจากเป็นการ ส่ือสารแบบทางเดียว รวมท้งั เจ้าหน้าที่ส่งเสริมเองก็ไม่สามารถทราบผลตอบสนองจากบุคคลเป้า หมายเชน่ กนั วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 24
บทท่ี 2 เทคนิคและวิธีการส่งเสริมการเกษตร 2.3.5 ภาพยนตร์และวีดีทศั น์ (films & video tape ) เมื่อก่อนมกี ารใชภ้ าพยนตร์กัน มากในงานส่งเสริมการเกษตร เพื่อเป็นสื่อเผยแพร่ความรูแ้ กเ่ กษตรกร โดยจะฉายสลบั กบั ภาพยนตร์ บนั เทิง แต่ปัจจบุ นั นิยมใชว้ ีดีทศั น์ซ่ึงผลติ ไดง้ า่ ย ตน้ ทุนไมส่ ูง ใชง้ านไดส้ ะดวกกวา่ ภาพยนตร์ 2.3.6 โทรทศั น์ ( television ) บทบาทโทรทศั น์ในงานส่งเสริมการเกษตรคลา้ ยกับ วทิ ยุ เพราะสามารถเขา้ ถึงมวลชนไดจ้ านวนมากในวงกวา้ ง โทรทศั นเ์ หน็ ท้งั ภาพและเสียงจงึ เป็ นท่ี นิยมและสร้างความสนใจใหก้ ับบุคคลเป้าหมายไดด้ ี แต่มีขอ้ จากัดอย่บู า้ งสาหรับชนบทห่างไกลที่ ยงั ไมม่ ีไฟฟ้า หรืออยนู่ อกเขตการส่งสญั ญาณ และราคาโทรทศั นค์ ่อนขา้ งแพง การใชเ้ คร่ืองรบั โทร ทศั นใ์ นงานส่งเสริมการเกษตรมีหลายรูปแบบ เช่น จดั ทาเป็นเทปโทรทศั นเ์ ฉพาะเร่ือง เก่ยี วกบั การ แนะนาต่างๆ ในการปลูกพืช หรือเล้ียงสัตว์ หรืออุตสาหกรรมในครัวเรือน แลว้ นามาเผยแพร่ทาง สถานีโทรทศั น์ หรือจดั ทาเป็นรายการสดออกอากาศ หรือทาเป็นข่าวส้นั ๆ เผยแพร่เป็นประจา 2.3.7 การประกวด (contest) เป็นการชกั ชวนให้บุคคลเป้าหมายหรือเกษตรกร นา ผลติ ผลทไ่ี ดม้ าประกวดหรือแขง่ ขนั กนั เป็นกจิ กรรมที่กระตนุ้ ให้เกดิ การตื่นตวั ทจี่ ะเรียนรู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ เพ่ือให้ได้ผลผลิตท่ีดีมีคุณภาพ เพื่อนามาประกวดกนั นอกจากน้ียงั สามารถสร้างความสนใจ และความต่ืนเตน้ ให้กบั ผูท้ ีม่ าร่วมงาน และผชู้ มได้อีกด้วย เช่น งานวนั ประกวดผลิตผลการเกษตร ประจาจงั หวดั ตา่ งๆ 2.3.8 การรณรงคท์ างการเกษตร ( campaign ) เป็นการจดั กิจกรรมทีม่ ีวตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ สร้างจติ สานึกร่วมกนั ในการทากจิ กรรมทางการเกษตรในเรื่องใดเร่ืองหน่ึง หรือร่วมกนั แกไ้ ข ปัญหาในการประกอบอาชีพอย่างพร้อมเพรียงกันในช่วงเวลาใดเวลาหน่ึง เช่น การรณรงคป์ ้องกัน กาจดั หอยเชอร่ีในนาขา้ วการรณรงคก์ ารใชป้ ๋ ยุ อนิ ทรีย์ การรณรงคท์ าการเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยวิธีการ ส่งเสริมแบบมวลชนตามทก่ี ลา่ วมาน้นั รุจ ศริ ิสญั ลกั ษณ์ (2550) ไดเ้ ปรียบเทียบขอ้ ดแี ละขอ้ จากดั ไว้ ตามตารางท่ี 2.4 และไดเ้ ปรียบเทยี บขอ้ แตกต่างระหวา่ งวิธีการส่งเสริมการเกษตรท้งั 3 วธิ ี ไดแ้ ก่ วิธี การส่งเสริมแบบรายบคุ คล วิธีการส่งเสริมแบบกลุ่ม และวิธีการส่งเสริมแบบมวลชน ไวต้ ามตาราง ที่ 2.5 ดงั น้ี วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 25
บทท่ี 2 เทคนิคและวธิ ีการส่งเสริมการเกษตร ตำรำงที่ 2.4 เปรียบเทยี บขอ้ ดีและขอ้ จากดั ของวิธีการส่งเสริมแบบมวลชน ข้อดี ข้อจำกดั 1. สามารถส่งขา่ วสารถงึ เกษตรกรเป็น 1. ไมส่ ามารถทราบจานวนเกษตรกร จานวนมากไดท้ กุ แห่งในเวลาอนั รวดเร็ว ผรู้ ับขา่ วสาร 2. สามารถแกป้ ัญหาเร่งด่วนได้ 2. ไม่สามารถช้ีแจงรายละเอยี ดปลกี ย่อยได้ 3. สื่อมวลชนบางชนิดมคี วามคงทนสามารถ 3. ตอ้ งมีการวางแผนนดั หมายลว่ งหนา้ ทบทวนและอา้ งอิงขา่ วสารได้ 4. ไมส่ ามารถทราบไดว้ ่าเกษตรกรเขา้ ใจ 4. ประหยดั เวลาและค่าใชจ้ ่าย ข่าวสารท่สี ่งไปหรือไม่ 5. มีอทิ ธิพลในการเปล่ียนแปลงความเชื่อ ความคดิ และการปฏบิ ตั ิของเกษตรกรไดน้ อ้ ย ทีม่ ำ: รุจ ศิริสัญลกั ษณ์ (2550) ตำรำงที่ 2.5 เปรียบเทยี บวธิ ีการส่งเสริมการเกษตรแบบรายบคุ คล แบบกลุ่ม และแบบมวลชน ส่ิงที่ได้จำกกำรปฏบิ ตั ิ วธิ ีกำรส่งเสริมกำรเกษตร 1.จานวนเกษตรกรในการ แบบรำยบุคคล แบบกล่มุ แบบมวลชน รับการส่งเสริ มแต่ละคร้ งั คร้งั ละ 1 คน 2.การแกป้ ัญหาตรงกบั ความ ต้งั แต่ 2 คนข้ึนไป มากจนไม่สามารถ ตอ้ งการ มาก ทราบจานวนได้ 3.การส้ินเปลอื งเวลาและค่า มาก ใชจ้ า่ ย มาก คอ่ นขา้ งมาก นอ้ ย 4.อทิ ธิพลในการเปล่ียนแปลง ความคดิ และความเชื่อ นอ้ ย นอ้ ยที่สุด คอ่ นขา้ งมาก นอ้ ย ทีม่ ำ: รุจ ศริ ิสัญลกั ษณ์ (2550) วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 26
บทที่ 2 เทคนิคและวธิ ีการส่งเสริมการเกษตร 3. เทคนิคกำรส่งเสริมกำรเกษตร งานส่งเสริมการเกษตร เป็นงานที่ให้ความรูด้ ้านการเกษตรเพอ่ื ตอ้ งการให้เกษตรกรเกิด การเปล่ียนแปลงความรู้ ความเขา้ ใจ เจตคติ ทกั ษะ จนยอมรับและนาวิชาการเทคโนโลยีใหม่ๆไป ปฏิบตั ิเพื่อเพิ่มผลผลิตและรายได้ ทาให้ฐานะความเป็ นอยู่ของครอบครัวดีข้ึน ส่งผลให้เกิดความ เจริญกา้ วหนา้ ต่อประเทศชาตใิ นที่สุด กรมส่งเสริมการเกษตร (2556) กล่าวว่า งานส่งเสริมการเกษตรหากเปรียบเทียบกบั งาน ดา้ นธุรกจิ จะเปรียบได้กบั ธุรกจิ ในการขายความรู้ โดยมีนกั ส่งเสริมเป็นพนกั งานขาย ซ่ึงจะตอ้ งทา ทุกวิถีทางที่จะให้บุคคลเป้าหมายสนใจสินคา้ ของตน ซ่ึงก็คือความรูแ้ ละเทคโนโลยีใหมๆ่ น่นั เอง แลว้ นาความรู้น้นั ไปปฏบิ ตั ติ ามให้บงั เกดิ ผล การทีจ่ ะขายความรูไ้ ดน้ ้นั นกั ส่งเสริมตอ้ งอาศยั เทคนิค การส่งเสริมซ่ึงก็คอื รายละเอียดการปฏิบตั ิและวิธีการที่จะนาการส่งเสริมแบบต่างๆไปใช้ ซ่ึงการ ส่งเสริมแตล่ ะวิธีมีเทคนิควิธีการปฏบิ ตั เิ พื่อให้งานประสบความสาเร็จท่แี ตกต่างกนั ซ่ึงรายละเอียด มดี งั ตอ่ ไปน้ี 3.1 เทคนิคการส่งเสริมแบบรายบุคคล (individual methods) มีเทคนิควิธีการที่ควร ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 3.1.1 เทคนิคการเยี่ยมเยียนเกษตรกรที่บา้ นและไร่นา (farm and home visits)การ เยยี่ มเยยี นเกษตรกรที่บา้ นและไร่นา เป็ นการพบปะกนั ตวั ต่อตวั ระหวา่ ง นกั ส่ง เสริมกบั เกษตรกร การเย่ียมเยียนเป็ นสิ่งหน่ึงที่สามารถสร้างความคุน้ เคยกับเกษตรกรรวมท้งั สมาชิกในครอบครัว สามารถสงั เกตและศึกษาปัญหาต่างๆของครอบครัวเกษตรกร เพื่อนาขอ้ มลู ที่ได้ไปวางแผนในการ ส่งเสริมต่อไป นอกจากน้ีนกั ส่งเสริมยงั สามารถใชโ้ อกาสน้ีตอบปัญหาด้านการประกอบอาชีพ ให้ ความรู้ทางการเกษตรและปัญหาดา้ นอ่นื พรอ้ มท้งั การติดตามงานท่ีนกั ส่งเสริมเคยแนะนาใหป้ ฏบิ ตั วิ ่า การดาเนินงานมีความก้าวหน้าอย่างไร มีปัญหาอุปสรรคหรือไม่อย่างไร ซ่ึงการส่ง เสริมแบบน้ี สามารถสรา้ งศรัทธาต่อเกษตรกรไดอ้ ย่างดีย่ิง ดงั น้นั การออกไปเย่ยี มเยียนเกษตรกรที่บา้ นและไร่นา ตอ้ งมเี ทคนิควิธีการต่างๆ คอื มีการนดั หมายล่วงหน้า โดยเลือกเวลาทเี่ หมาะสมและไปตรงเวลานดั ศึกษาถงึ วฒั นธรรมประเพณี ความเชื่อต่างๆ ของคนในทอ้ งถน่ิ กระทาตนเป็นกนั เอง ใหค้ วามสนิท สนมกบั เกษตรกรและแสดงความเหน็ อกเห็นใจตอ่ การประกอบอาชีพ หรือปัญหาท่ีเกษตรกรไดร้ ับ ถา้ มีโอกาสช่วยเหลือได้ก็ควรทาทนั ที นอกจากน้ีนกั ส่งเสริมจะตอ้ งเป็นผูม้ ีสัมมาคารวะในบุคคล และสถานที่ ไม่ควรแสดงท่าทางดูถูกเหยียดหยามเกษตรกรท้ังทางกายและวาจา การพูดคุยกับ เกษตรกรก็ไม่สมควรใช้สานวนโวหารที่แสดงว่าเป็ นผูร้ ู้มากเกินไปและควรใช้ภาษางา่ ยๆ ถา้ พูด ภาษาทอ้ งถ่นิ ไดย้ ง่ิ ดี ระหว่างการพูดคยุ อาจแทรกบทตลกบา้ งบางตอน แตไ่ มค่ วรใหพ้ ร่าเพรื่อ ท้งั น้ี วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 27
บทที่ 2 เทคนิคและวธิ ีการส่งเสริมการเกษตร เพื่อให้การคุยออกรส และเกิดความเป็ นกันเอง โดยพยามยามช้ีแจงให้เกษตรกรเขา้ ใจถึงวตั ถุ ประสงคข์ องการเย่ียมเยียน และหวา่ นลอ้ มช้ีแจงให้เกษตรกรเกิดความสนใจที่รับคา แนะนาส่งเสริม และในบางกรณีตอ้ งใชค้ วามอดทนเพอื่ ใหเ้ กษตรกรคลอ้ ยตามความคดิ เหน็ ดงั น้ันนกั ส่งเสริมจงึ ไม่ ควรเป็นคนใจร้อน ตอ้ งคดิ ถงึ ประโยชน์ของงานที่ตอ้ งการเป็นหลกั และควรแต่งกายใหพ้ ร้อมทจ่ี ะ ปฏิบตั งิ านไดท้ นั ที ระหว่างการเย่ียมเยียนพึงงดการเรียกร้องสิ่งหน่ึงสิ่งใดจากเกษตรกรอนั จะเป็ น การทาให้เกษตรกรเขา้ ใจผิดคดิ ว่านกั ส่งเสริมหวงั ผลประโยชนส์ ่วนตวั ในระหวา่ งการเยี่ยมเยยี น ถา้ ไดร้ ับการขอร้องหรือเชิญชวนอนั จะเป็ นการเพ่ิมความสนิทสนม และเป็ นกนั เองได้มากข้ึนก็ควร กระทาโดยไม่ปฏิเสธ หากจะมีการปฏิเสธก็ควรจะกระทาอย่างนุ่มนวลอยา่ ให้เกษตรกรเขา้ ใจว่ามี ความรงั เกยี จ บางคร้งั ในการเย่ียมเยยี น เกษตรกรอาจขอความชว่ ยเหลือบางอย่างท่เี กย่ี วกบั ปัญหาใน การประกอบอาชีพ นกั ส่งเสริมไม่ควรรับปากอนั เป็นการผูกมดั ตนเอง หรือให้คาสญั ญามากเกนิ ไป ควรหาโอกาสในการแนะแนวทางใหเ้ กษตรกรไดช้ ่วยตนเองให้มากท่ีสุด และไมค่ วรใชเ้ วลามากจน เกินไปและควรกล่าวคาอาลาในเวลาที่เหมาะสม และในการเยยี่ มเยียนแต่ละคร้ังนกั ส่งเสริมจะตอ้ ง ทาบนั ทึกกาหนด วนั เวลา ท่ีไดใ้ ห้การแนะนาส่งเสริม ตลอดท้งั คารอ้ งขอของเกษตรกร และปัญหา ทพี่ บเมอ่ื ไดใ้ หค้ าแนะนาช่วยเหลือไปแลว้ ควรจดบนั ทกึ รายละเอยี ดไวเ้ พือ่ การติดตามผลในโอกาส ตอ่ ไป ซ่ึงการไปเย่ยี มเกษตรกรถึงทบ่ี า้ นและไร่นา จดั ไดว้ ่าเป็นวิธีการส่งเสริมท่ีไดผ้ ลมากที่สุดวิธีหน่ึง และใชก้ นั อย่างแพร่หลายในประเทศทกี่ าลงั พฒั นา ซ่ึงใหป้ ระโยชน์หลายประการ คือไดค้ วามรูแ้ ละ ขอ้ มูลเก่ียวกบั ปัญหาการเกษตรตามสถานการณ์ท่ีเป็ นจริง สามารถสร้างความเช่ือมนั่ และความ เขา้ ใจระหวา่ งนกั ส่งเสริมกบั เกษตรกรได้ดี ช่วยในการคดั เลือกผูน้ าทอ้ งถิ่นที่เหมาะสมสาหรับมา ช่วยงานส่งเสริมได้ ช่วยให้เขา้ ถึงเกษตรกรท่ีไม่สามารถเขา้ ถึงได้โดยวิธีอ่ืนๆ และช่วยให้นักส่ง เสริมการเกษตรได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ นอกจากน้ีการเย่ียมเยียนเกษตรกรท่ีบา้ นและไร่นา สามารถติดตามวธิ ีการส่งเสริมวิธีอนื่ ได้ เช่น สอบถามการรบั ฟังรายการวทิ ยุ การไปชมนิทรรศการ วา่ สิ่งทเี่ กษตรกรไดร้ ับฟังหรือไดเ้ ห็นมาน้นั เกษตรกรมีความเขา้ ใจหรือสามารถนาไปใช้ปฏิบตั จิ ริง มากน้อยเพียงใด ดงั ภาพท่ี 2.1 นกั ส่งเสริมการเกษตรไปเยย่ี มเยยี นเพ่ือให้ความรูเ้ กี่ยวกับการทาป๋ ุย หมกั แก่เกษตรกรถงึ บา้ นและไร่นา วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 28
บทที่ 2 เทคนิคและวิธีการส่งเสริมการเกษตร ภำพที่ 2.1 นกั ส่งเสริมการเกษตรออกไปเย่ียมเยยี นเกษตรกรทบ่ี า้ นและไร่นา ถ่ำยภำพโดย องั สนา หะยหี ะเต็ง (2558) 3.1.2 เทคนิคการทเี่ กษตรกรมาพบนกั ส่งเสริมท่ีสานกั งาน (office call) เกษตรกรผู้ ท่ีมาพบนักส่งเสริมถึงสานักงานจดั ว่าเป็ นเกษตรกรท่ีมีความกระตือรือร้น ในการแสวงหาความรู้ ใหมๆ่ และเชื่อวา่ นกั ส่งเสริมการเกษตรจะตอ้ งช่วยเหลือเขาได้ ดังน้นั นกั ส่ง เสริมตอ้ งมีเทคนิควิธี การ คอื สร้างความเป็นกันเองกบั เกษตรกรเพอ่ื ให้เกิดความคนุ้ เคยและมีความกลา้ ท่จี ะมาพบกบั นัก ส่งเสริมที่สานกั งานเพ่อื พดู คุยปัญหาหรือความรูต้ า่ งๆ มกี ารกาหนดวนั เวลา ทนี่ ักส่งเสริมอยู่สานัก งานให้ชดั เจนในแผนปฏบิ ตั ิงานและแจง้ ใหเ้ กษตรกรทราบ มีการจดั สานกั งานใหส้ ะอาดสวยงามน่า เยย่ี มชม เกษตรกรจะประทบั ใจและมคี วามรูส้ ึกอยากมาพบอีกในภายหลงั นอกจากน้ีควรจดั เตรียม เอกสารเผยแพร่ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั ความรู้ทางการเกษตรตา่ งๆ ที่จะเป็ นประโยชน์กบั เกษตรกรท่ีมาติดต่อ และท่ีสาคญั ควรมีการบนั ทึกช่ือ ท่ีอยู่ และปัญหาต่างๆ ที่เกษตรกรมาสอบถาม เพ่ือการติดตามผล ในโอกาสต่อไป ดงั ภาพที่ 2.2 เกษตรกรได้มาพบนกั ส่งเสริมการเกษตรที่สานักงานเพื่อสอบถาม วิธีการตรวจสอบคณุ ภาพของดนิ เพ่ือใชก้ ารเพาะปลูกพืช วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 29
บทท่ี 2 เทคนิคและวธิ ีการส่งเสริมการเกษตร . ภำพท่ี 2.2 การท่ีเกษตรกรมาพบนกั ส่งเสริมการเกษตรที่สานกั งาน ถ่ำยภำพโดย องั สนา หะยหี ะเต็ง (2558) 3.1.3 เทคนิคการตดิ ตอ่ เกษตรกรทางจดหมาย (personal letter ) ท่ผี า่ นมาการตดิ ตอ่ สื่อสารระหว่างบุคคลยงั ไม่สะดวกรวดเร็วเหมือนปัจจุบนั น้ี โดย เฉพาะอย่างยิง่ การใช้โทรศพั ทย์ งั ไม่แพร่หลายเหมือนปัจจุบนั น้ี การเขยี นจดหมายตดิ ตอ่ กนั ระหวา่ งนกั ส่งเสริมการเกษตรกบั เกษตรกร เป็ นวิธีการส่งเสริมท่ีให้ประโยชน์วิธีหน่ึง แต่ในปัจจุบันเกษตรกรสามารถติดต่อกบั นักส่งเสริมได้ หลายวิธี การเขียนจดหมายจึงลดความสาคญั ลง แต่การติดต่อทางจดหมายระหว่างนักส่งเสริมกับ เกษตรกรยงั มกี ารใชอ้ ยู่ ในกรณีท่นี กั ส่งเสริมมกี ารนดั หมายให้เกษตรกรเขา้ ร่วมกจิ กรรมใดกจิ กรรม หน่ึงทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั การส่งเสริมการเกษตร เช่น เชิญเกษตรกรเขา้ ร่วมประชุมหรือเขา้ รับการฝึกอบ รม การร่วมเดินทางไปทศั นศึกษา ฯลฯ การใชจ้ ดหมายติดต่อไปยงั เกษตรกรมีเทคนิควิธีการ คือ เขียนจดหมายย้าถึงเรื่องทไ่ี ดส้ ่งเสริมพูดคุยไปแลว้ ในการเยีย่ มเขาที่บา้ นเม่ือคร้ังก่อนเพื่อให้เขาเกิด การปฏิบตั ิตาม ใชข้ อ้ ความเขียนท่ีเป็นกันเอง จ่าหน้าซองจดหมายระบุชื่อของเกษตรกรให้ชัดเจน จะทาให้เกษตรกรเกิดความรู้สึกวา่ เขาได้รับเกียรตแิ ละให้ความเป็นกนั เอง ซ่ึงดกี วา่ การส่งจดหมาย ไปในนามกลมุ่ ตา่ งๆ ทเ่ี ขาเป็นสมาชิกอยู่ 3.1.4 เทคนิคการติดตอ่ กบั เกษตรกรทางโทรศพั ท์ (telephone calls) ปัจจุบนั การติด ต่อส่ือสารทางโทรศพั ท์ไดพ้ ฒั นาไปมาก โทรศพั ท์มือถือเกษตรกรสามารถซ้ือหาได้สะดวกและ ราคาไม่แพง การท่ีเกษตรกรจะติดต่อกับนักส่งเสริมทางโทรศัพท์จึงสามารถปฏิบัติได้อย่างมี ประสิทธิภาพ นกั ส่งเสริมควรมเี ทคนิควิธีการ ดงั น้ีคือ ควรพูดคุยกบั เกษตรกรดว้ ยความเป็นกนั เอง ใช้ภาษาง่ายๆ ถา้ เป็ นภาษาทอ้ งถิ่นได้ก็ยงิ่ ดี หากเกษตรกรมีคาถาม ควรตอบคาถามให้ชัดเจนหาก วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 30
บทท่ี 2 เทคนิคและวธิ ีการส่งเสริมการเกษตร ตอบไม่ไดค้ วรนดั หมายการใหค้ าตอบ ไม่ควรทิ้งปัญหาไวเ้ นิ่นนานจนเกนิ ไป ควรจดั บริการตอบ ปัญหาเกษตรกรทางโทรศพั ท์ไว้ ณ สานักงานส่งเสริมการเกษตรประจาทอ้ งถน่ิ โดยจดั เจา้ หนา้ ท่ี ผลดั เปล่ียนหมนุ เวยี นกนั คอยตอบปัญหาทางโทรศพั ทจ์ ากเกษตรกร 3.1.5 เทคนิคการพบปะเกษตรกรอย่างไมเ่ ป็นทางการ (informal contact) การทน่ี ัก ส่งเสริมได้มโี อกาสพบปะพดู คุยกบั เกษตรกรในงานพิธีต่างๆ ของชุมชนทอ้ งถ่ิน เช่น งานบวช งาน แต่งงาน หรืองานประเพณีอยา่ งอ่ืนในทอ้ งถิ่น โดย บุญสม วราเอกศิริ (2539) กล่าวว่า นกั ส่งเสริม สามารถใชโ้ อกาสน้ีพดู คุยแลกเปลี่ยนแนวความคดิ หรือบอกข่าวเกยี่ วกบั ความ กา้ วหนา้ ทางเทคโน โลยีทางการเกษตรหรือนดั หมายเกย่ี วกบั กจิ กรรมงานส่งเสริมการเกษตรที่จดั ข้ึน นกั ส่งเสริมจะได้ ทาความรู้จกั และสรา้ งความคุน้ เคยกบั เกษตรกรตลอดจนผูน้ าทอ้ งถ่นิ การพบ ปะกับเกษตรกรใน งานพิธีดังกล่าวนบั ว่าเป็ นประโยชน์อย่างมากต่องานส่งเสริมการเกษตร เพราะเป็ นการพบกันใน บรรยากาศที่ไม่เป็ นทางการมากนกั นักส่งเสริมควรมีเทคนิควิธีการ ดงั น้ีคือ ปฏิบตั ิตนให้เหมือน สมาชิกคนหน่ึงของชมุ ชนทอ้ งถน่ิ ดว้ ยการรับเชิญการเขา้ ร่วมงานประเพณีต่างๆ ดว้ ยความจริงใจ มี สัมมาคารวะ ทกั ทายดว้ ยหนา้ ตายิม้ แยม้ แจม่ ใส ทาความคนุ้ เคยกบั เกษตรกร แลกเปลยี่ นแนวคดิ การ พฒั นาการเกษตรในแง่มมุ ต่างๆ ใชโ้ อกาสน้ีแจง้ ขอ้ มลู ขา่ วสารทางการเกษตร และตอบปัญหาท่ีเกษตร กรมขี อ้ สงสัย 3.2 เทคนิคการส่งเสริมแบบกลุ่ม (group methods) เป็ นการส่งเสริมการเกษตรที่นกั ส่ง เสริมนาความรู้และเทคโนโลยีทางการเกษตรท่ีเหมาะสมไปเผยแพร่สู่เกษตรกรเป้าหมายเป็ นราย กลมุ่ เช่น กลุ่มเกษตรกร กลุม่ แมบ่ า้ นเกษตรกร และกลุ่มยวุ เกษตรกร ไดแ้ ก่ 3.2.1 เทคนิคการประชมุ กล่มุ (group meeting) การประชุมเป็นวิธีการส่งเสริมท่ีนกั ส่งเสริมนดั หมาย หรือนาบุคคลเป้าหมายมารวมกลมุ่ กนั เพอื่ ถ่ายทอดวชิ าความรูท้ างการเกษตรรวม ท้งั เป็ นการรับทราบปัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาดว้ ย โดย วลั ลภ พรหมทอง (2541) กล่าวว่า วธิ ีการถา่ ยทอดความรูท้ ี่ใชก้ บั การประชมุ มรี ูปแบบดงั น้ี 3.2.1.1 การบรรยาย (lecture) การบรรยายเป็นวิธีการถ่ายทอดความรู้ที่ใชไ้ ด้ อยา่ งกวา้ งขวาง เพราะวา่ การบรรยายสามารถใชร้ ่วมกบั การถา่ ยทอดความรูแ้ บบอ่นื ๆ ไมว่ ่าจะเป็ น การสาธิต หรือการฝึกอบรม ในการบรรยายน้นั นกั ส่งเสริมจะตอ้ งพิจารณาวา่ ตอ้ งการให้บคุ คลเป้า หมายรู้เร่ืองอะไร จะมีการบรรยายในลกั ษณะใด รวมท้งั จะตอ้ งศึกษาพ้ืนฐานความรู้ของบุคคลเป้า หมายดว้ ย การบรรยายเป็นวธิ ีการส่งเสริมท่ีทาไดส้ ะดวก โดยการใช้คาพูดเป็ นสื่อเพอื่ ให้บุคคลเป้า หมายเกดิ ความรูแ้ ละความเขา้ ใจ นอกจากน้ี การบรรยายยงั สามารถใชไ้ ดก้ บั ผฟู้ ังที่มีจานวนมากและ ประหยดั เวลาดว้ ย วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 31
บทที่ 2 เทคนิคและวธิ ีการส่งเสริมการเกษตร 3.2.1.2 การอภปิ รายกลุ่ม (group discussion) การอภิปรายกลุ่มเป็นวธิ ีการท่ี จดั ข้ึน ให้บุคคลเป้าหมายหรือสมาชิกทีม่ าร่วมประชุมได้แลกเปล่ียนความคดิ เห็นและประสบการณ์กัน โดย ที่ผูน้ ากลุ่มเป็ นผูอ้ านวยความสะดวกและช้ีนาหรือชักชวนให้สมาชิกแสดงความคิดเห็น จากน้นั จึงหาขอ้ สรุปร่วมกนั 3.2.1.3 การอภิปรายเป็ นคณะ (panal discussion) การอภิปรายเป็นคณะเป็ น การประชมุ แบบหน่ึง มีลกั ษณะเหมอื นการบรรยาย แตม่ ีผบู้ รรยายเกนิ กว่า 1 คน ผลดั กันบรรยายและ ตอบคาถามโดยมีประธานเป็ นผูช้ ้ีให้บรรยาย การอภิปรายแบบน้ี ประกอบด้วยบุคคล 3 ฝ่าย คอื ผู้ ดาเนินการอภิปราย ทาหน้าที่เป็ นประธานหรือผูป้ ระสานงาน ผูอ้ ภิปรายถือว่าเป็ นวิทยากรหรือผู้ เช่ียวชาญในแต่ละสาขาและผฟู้ ังการอภปิ ราย ซ่ึงหมายถงึ บุคคลเป้าหมายในการรบั การถา่ ยทอดความรู้ 3.2.1.4 การประชุมเชิงปฏิบัติการ (workshop) เป็ นวิธีการส่งเสริมท่ีเปิ ด โอกาสให้บคุ คลมสี ่วนร่วมอย่างเตม็ ท่ี ต้งั แตเ่ ร่ิมตน้ จนเสร็จส้ินข้นั ตอน โดยมากมกั จะแบ่งออกเป็ น กลุ่มย่อยๆ เพ่ือให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการทางาน เช่น การวิเคราะห์ปัญหา และการหาทางแกไ้ ขปัญหา ร่วมกนั อน่ึง การที่จะทาให้การประชุมประสบความสาเร็จน้ัน ควรใช้เทคนิควธิ ีการที่จะทาให้ การประชุมประสบความสาเร็จ คอื มกี ารกาหนดวตั ถุประสงค์ของการประชมุ ให้ชดั เจน โดยเลอื ก แบบการประชุมใหเ้ หมาะสม เช่น จะใชก้ ารบรรยาย การอภิปรายกลุ่ม การอภิปรายเป็ นคณะ การ ประชมุ เชิงปฏิบตั กิ าร อย่างใดอยา่ งหน่ึงเพียงอยา่ งเดียวหรือมีกิจกรรมอน่ื รวมอยูด่ ้วย เชน่ เพื่อแจง้ ข่าวสาร หรือซักถามปัญหาจะจดั เป็ นทางการหรือแบบง่ายๆ ท้งั น้ีเพื่อให้บรรลตุ ามวตั ถุประสงค์ที่ กาหนดไว้ ควรจดั เวลาท่สี ะดวกกบั ผมู้ าประชมุ และเลือกชว่ งเวลาทเ่ี หมาะสม ส่วนสถานที่ท่ปี ระชุม ตอ้ งกวา้ งขวางเพียงพอกบั จานวนผูเ้ ขา้ ร่วมประชุม และมีการเตรียมการต่างๆให้พร้อม เช่น การกา หนดนัดหมายตอ้ งประกาศให้ทราบทว่ั กัน สถานท่ีประชุมควรจดั เตรียมท่ีนง่ั ให้พร้อม ควรจดั ให้ เหมาะสมกบั ผพู้ ดู ผฟู้ ังหรือผรู้ บั เชิญ ไมค่ วรบงั คบั ท่นี งั่ ของผูเ้ ขา้ ร่วมประชุม และผนู้ งั่ แถวหนา้ ไมค่ วร จดั ไวใ้ กลผ้ ูบ้ รรยาย จนเกินไปนัก แสงสว่างในที่ประชุมควรมีพียงพอ ไม่ส่องตาผูเ้ ขา้ ร่วมประชุม ส่วนประธานของที่ประชุมควรเป็นผูท้ ่ีเหมาะสมกบั หวั ขอ้ การประชมุ และตอ้ งเขา้ ใจวตั ถุประสงค์ ของการประชุมดีพอ ควรมีอุปกรณ์สื่อโสตทศั นูปกรณ์ประกอบการบรรยาย เพราะการใช้โสต ทศั นูปกรณ์จะช่วยกระตุ้นความสนใจให้กับผูเ้ ข้าร่วมประชุมเป็ นอย่างดี ควรเตรียมเอกสาร หรือส่ิงพิมพ์ที่เกี่ยวขอ้ งกับการบรรยายหรือกิจกรรมในการประชุมให้กบั ผูเ้ ขา้ ร่วมประชุม ควรมี อาหารและเคร่ืองดมื่ ไวบ้ ริการผู้ เขา้ ร่วมประชมุ ตามความเหมาะสม เมื่อเริ่มดาเนินการประชุม ควร ให้เป็นไปตามระเบยี บวาระทจี่ ดั ไวต้ ามลาดบั คอื เริ่มประชุมตามเวลา กล่าวตอ้ นรับผมู้ าประชมุ และ วชิ าหลกั การส่งเสริมการเกษตร 32
บทที่ 2 เทคนิคและวิธีการส่งเสริมการเกษตร ขอบคุณเจา้ ของสถานที่ แนะนานักวิชาการหรือผทู้ ี่มาบรรยาย แจง้ วตั ถุประสงคข์ องการประชุมและ ดาเนินการประชุมตามระเบียบวาระท่ีจดั ไว้ ในขณะท่ีทาการประชุมควรกระตุ้นให้เกิดการซักถาม ปัญหา โดยเปิ ดโอกาสให้ผเู้ ขา้ ร่วมประชมุ ไดป้ รึกษาหารือกนั บา้ ง มกี ารสรุปประเด็นสาคญั ๆ และมี การบนั ทึกมติการประชุม เมื่อถึงกาหนดเวลาก็ปิ ดการประชุมและขอบคุณผูเ้ ก่ียวข้อง ส่วนการ ติดตามผล มติการประชมุ ต่างๆ ตอ้ งนามาดาเนินการ โดยจดั พิมพร์ ายงานการประชมุ และแจง้ มตแิ ก่ ผูเ้ กยี่ วขอ้ งเพ่อื ดาเนินการทนั ที จากน้นั จงึ คอ่ ยตดิ ตามผล 3.2.2 เทคนิคการสาธิต (demonstration) การสาธิตเป็นวิธีส่งเสริมอย่างหน่ึงที่ใชก้ นั อยา่ งแพร่หลาย แบง่ ออกเป็น 2 รูปแบบ คือ การสาธิตวิธี และการสาธิตผล ซ่ึงแต่ละวธิ ีมีเทคนิควธิ ี การปฏิบตั ิทีแ่ ตกตา่ งกนั ดงั น้ี 3.2.2.1 เทคนิคการสาธิตวิธี (method demonstration) การสาธิตวิธีเป็ นการ สอนเกษตรกรโดยนกั ส่งเสริมเป็ นผูแ้ สดงวิธีการทาส่ิงต่างๆ ให้เกษตรกรได้เห็น ไดฟ้ ัง และสอบ ถามได้ บางคร้ังนักส่งเสริมอาจให้ผูน้ าทอ้ งถ่ิน หรือผูเ้ ชี่ยวชาญเป็ นผูแ้ สดงให้ดูต่อหน้ากลุ่มผูฟ้ ัง การสาธิตวิธีนิยมแทรกเขา้ ไปในการประชมุ กลุ่มผูน้ าทอ้ งถิ่น การฝึกอบรม หรือการประชุมอ่ืนๆมี ข้นั ตอน ดงั น้ีคอื ข้นั การเตรียมการสาธิต ควรเลอื กเรื่องทจี่ ะสาธิตใหเ้ หมาะสมและเป็นเร่ืองท่สี นใจ ของเกษตรกร มีการกาหนดรายละเอียดข้นั ตอนของการสาธิตให้ชัดเจน เช่น จะสาธิตเร่ืองอะไร พูด อะไรก่อนหลงั วสั ดุอุปกรณ์ท่ีใช้มีอะไรบา้ ง ใช้เวลาเท่าไหร่ เตรียมสถานที่และตรียมวสั ดุอุปกรณ์ประ กอบการสาธิตให้พร้อม จากน้นั ก็ฝึกซ้อมการสาธิตตามข้นั ตอนเพ่ือให้เกิดความมนั่ ใจ และการฝึ ก ซ้อมจะสามารถปรับเวลาใหเ้ หมาะสมเม่อื สาธิตจริงได้ ส่วนข้นั ดาเนินการสาธิต ก็เริ่มจากกลา่ วทกั ทายผชู้ ม ระบุกล่มุ บคุ คลเป้าหมายให้ชดั เจน แนะนาตวั บอกชื่อ สกลุ ทท่ี างานของผสู้ าธิต พร้อมท้งั บอกเรื่องทสี่ าธิต จุดมงุ่ หมายของการสาธิตและขอ้ ดที ่ีผูช้ มนาไปปฏิบตั ไิ ด้ จากน้นั ก็ให้แนะนาวสั ดุ อุปกรณ์ที่ใชใ้ นการสาธิต และเร่ิมแสดงการสาธิตตามลาดบั ข้นั ตอน ขณะท่ีดาเนินการสาธิตควร เนน้ ย้าจดุ ที่สาคญั (key point) หรือขอ้ ควรระวงั เม่ือการสาธิตจบลงควรเปิ ดโอกาสให้ผูช้ มมีส่วน ร่วม และถามขอ้ สงสัย หลงั จากน้ันก็ให้สรุปข้นั ตอนของการสาธิตอีกคร้ังหน่ึง และแจกเอกสาร ประกอบการสาธิตแก่ผูช้ ม แลว้ กล่าวคาอาลาพร้อมกล่าวคาขอบคุณ เป็ นการจบข้นั ตอนของการ สาธิต ดงั ภาพท่ี 2.3 เป็ นการสาธิตวิธีการทาป๋ ุยหมกั ชีวภาพแก่เกษตรกร ซ่ึงในขณะท่ีมีการสาธิต เจา้ หนา้ ท่ีส่งเสริมได้เปิ ดโอกาสให้เกษตรกรไดถ้ ามขอ้ สงสัย เพอ่ื ความเขา้ ใจท่ีชัดเจน ซ่ึงจะทาให้ เกษตรกรสามารถนาความรูท้ ไ่ี ดร้ บั กลบั ไปปฏิบตั จิ ริงได้ วิชาหลกั การส่งเสริมการเกษตร 33
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186