ภาพป้ายนเิ ทศ ครง้ั ท่ี 9 เร่อื ง Comparative and Superlative of Adjectives . . จดั แสดงเมอื่ วนั ท่ี 13 กันยายน 2564 ถงึ วันที่ - สรุปเน้ือหาของป้ายนิเทศ หลักการใช้ Comparative และ Superlative ในการเปรยี บเทยี บข้ันกว่าและขน้ั สุด มวี ิธีการเปลย่ี น รปู คาคุณศัพท์ (Adjective) ใหเ้ ปน็ Comparative และ Superlative of Adjective ได้ดังนี้ . 1. คาพยางคเ์ ดียว - ในขัน้ กวา่ +er และในขั้นสดุ +est เชน่ long – longer - the longest . 2. คา 2 พยางค์ - ในขนั้ กวา่ i+er/ more+ และในขัน้ สดุ i+est/ the most+ เชน่ heavy – heavier – . the heaviest / famous - more famous - the most famous . 3. กลมุ่ คาพเิ ศษ – ในขั้นกวา่ และในขน้ั สุดจะเปลี่ยนรูป เชน่ good – better – the best . หมายเหตุ ผลงานรายบุคคลเทา่ นน้ั บันทึกรายงานการปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศึกษา 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนา้ | 53
ภาพป้ายนเิ ทศ ครง้ั ที่ 10 เรื่อง อาหารไทย 4 ภาค . . จัดแสดงเมื่อวนั ท่ี 16 กนั ยายน 2564 ถงึ วันที่ - สรุปเนอ้ื หาของป้ายนิเทศ อาหารไทย เป็นอาหารท่ใี ชส้ มุนไพรมาปรงุ อาหาร มีเนอ้ื สัตว์ และผกั การปรงุ รสทม่ี คี รบทุกรสชาติ . ทงั้ เปร้ยี ว หวาน มนั เคม็ และเผ็ด มีประโยชน์ทางสขุ ภาพ อาหารไทย แบง่ ออกเปน็ 4 ภาคใหญ่ๆ คอื . 1.ภาคกลาง มคี วามหลากหลายในเรอ่ื งของรสชาติ เชน่ ต้มยากงุ้ . 2.ภาคเหนือ เปน็ อาหารทีม่ ีรสชาติกลาง มรี สเปรี้ยว หวาน และเคม็ เช่น น้าพริกหนุ่ม . 3.ภาคใต้ มลี กั ษณะผสมผสานระหวา่ งอาหารไทยพืน้ บ้านกบั อาหารของอนิ เดีย เชน่ คั่วกลิ้ง นา้ บดู ู . 4.ภาคอีสาน อาหารจะมลี กั ษณะแห้ง ข้น มรี สเคม็ จากนา้ ปลารา้ เผ็ดจากพรกิ สดและแหง้ เชน่ สม้ ตา . หมายเหตุ ผลงานรายบุคคลเท่านัน้ บันทึกรายงานการปฏิบัติการสอนในสถานศกึ ษา 2 ปีการศึกษา 2564 หนา้ | 54
การวิจัยปฏิบตั ิการในช้ันเรียนเพ่ือพฒั นาผเู้ รยี น การวิจัยปฏิบัติการในชั้นเรียน (Classroom Action Research: CAR) เป็นการวิจัยที่จัดทาโดย ครผู ู้สอนในชั้นเรยี น เพอ่ื แกไ้ ขปัญหาที่เกิดข้ึนในชั้นเรียนและนาผลจากการวจิ ัย/ ศึกษาค้นคว้าอยา่ งเปน็ ระบบ มาใช้ในการปรับปรุงการเรียนการสอน พัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ ตลอดจนส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ของ ผู้เรียนให้ดียิ่งขึ้น การวิจัยปฏิบัติการในช้ันเรียนจึงจัดทาขึ้นเพื่อมุ่งแก้ปัญหาท่ีเกิดขึ้นกับผู้เรียนหรือปัญหาที่ เกดิ ขนึ้ ในการจดั การเรียนรู้ การศกึ ษาเพื่อทาความเข้าใจสภาพการณ์ที่เกดิ ขนึ้ ในบริบทชน้ั เรยี นใหเ้ ขา้ ใจชัดเจน ตลอดจนการหาวธิ กี ารเพอื่ ส่งเสริมพฒั นาการของผ้เู รียน โดยมุ่งดาเนนิ การเพอื่ ใหเ้ กิดประโยชน์สงู สุดแก่ผู้เรียน รายบุคคลหรือทั้งชั้น มากกว่าการศึกษาค้นคว้าเพ่ือพิสูจน์ทฤษฎีหรือวิจัยเพื่อสร้างองค์ความรู้เช่นการวิจัยเชงิ วิชาการ (Academic Research) ทว่ั ไป สาหรับการปฏิบัติงานสอนในสถานศึกษาในภาคเรียนที่สองน้ี ให้นักศึกษาจัดทาวิจัยปฏิบัติการในช้ัน เรยี นเพอ่ื พัฒนาผ้เู รยี นอย่างนอ้ ย 1 เรือ่ ง โดยแสดงรายละเอียดดังนี้ 1. การวางแผนการวิจัย 1.1 วิเคราะห์ความเปน็ มาและความสาคญั ของปญั หา 1.2 กาหนดวิธกี ารแก้ไขปญั หา 1.3 กาหนดและนิยามตวั แปรสาคญั ในการวิจยั 1.4 กาหนดกรอบแนวคิด ระเบียบวิธวี ิจัย แบบแผนการวจิ ยั และออกแบบการวิจยั 1.5 การเตรยี มการดาเนินการวิจัย 2. การดาเนนิ การ 2.1 วิธกี ารดาเนินการวิจัย (ประชากรในการวิจยั และความสัมพันธข์ องตัวแปร ตามกรอบแนวคิดการวจิ ยั ) 2.2 การเลอื กกลมุ่ ตวั อย่าง (Sampling Design) 2.3 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู (Measurement Design) 2.4 การวิเคราะห์ข้อมูล (Analysis Design) 3. การสรุปผลและการเผยแพร่ 3.1 สรุปผลการวิจยั และการสะท้อนกลบั 3.2 การเผยแพรผ่ ลการวจิ ัย 4. นาเสนอรายงานการวิจัย (Research Paper) ท่ีดาเนนิ การ ความยาวไม่รวมปกประมาณ 7-15 หน้ากระดาษ A4 ประกอบด้วยรายละเอยี ดตอ่ ไปนี้ 4.1 ช่ือเร่ือง 4.2 ชื่อผู้วจิ ยั 4.3 ปีที่ทาวจิ ัย บันทึกรายงานการปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศึกษา 2 ปีการศึกษา 2564 หนา้ | 55
4.4 บทนา (ระบุท่ีมา ความเป็นมาของปัญหา/ ความต้องการพัฒนา และแนวคิดพื้นฐานใน การวจิ ัย 4.5 วัตถปุ ระสงค์การวิจยั (ระบุวา่ นกั วิจัยจะดาเนินการอะไร เชน่ เพอื่ ศึกษาพัฒนาการ ผ้เู รยี นในด้าน...... เพือ่ เปรยี บเทียบความสามารถด้าน......ก่อนและหลังเรียน เพ่อื พัฒนาสือ่ การเรียนรู้ 4.6 ขอบเขตการวิจัย ประกอบด้วย 4.6.1 ประชากร/ กลุม่ ตวั อยา่ ง (ระบกุ ลุ่มเป้าหมาย ผู้ใหข้ อ้ มูลสาคัญในการวจิ ยั ) 4.6.2 ตัวแปร (ระบวุ ่ามตี วั แปรอะไรบ้าง ชนิดของตวั แปรเปน็ ตวั แปรอสิ ระ/ตวั แปรต้น ตวั แปรตาม ตวั แปรแต่ละตัวมีองคป์ ระกอบยอ่ ยหรอื ไม่ อะไร 4.6.3 เนอื้ หา (ระบวุ า่ การวิจัยน้ดี าเนินการในหนว่ ยการเรียนรู้/สาระทคี่ วรรู้ใด) 4.7 นิยามศพั ท์เฉพาะในการวิจยั (กาหนดนยิ ามเชิงปฏิบตั กิ ารของคาสาคัญที่ใชเ้ ฉพาะใน งานวิจัยน้ีรวมท้ังวิธีการวัดตัวแปรน้ันๆ เช่น นิยามความหมายของตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม และวิธีวัดตัวแปร น้ัน ๆ คาซ่ึงเป็นคาท่ัวไปท่ีส่วนใหญ่รับรู้รับทราบกันอยู่แล้ว เช่น เด็กปฐมวัย ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้ดูแลเด็ก ไมใ่ ช่คาศัพทเ์ ฉพาะในการวจิ ัย จึงไม่ตอ้ งนยิ าม) 4.8 กรอบแนวคิดในการวจิ ัย (แสดงความสัมพนั ธ์ของตวั แปรในการวจิ ัยวา่ เกย่ี วข้องกัน อย่างไร ความสัมพันธ์ดังกล่าวอยู่บนพ้ืนฐานแนวคิด/ ทฤษฎี/ หลักวิซาการใด ควรมีการอ้างอิงแนวคิดทฤษฎี งานวิจัยในอดีต และเขียนอธิบายความสัมพันธ์ของตัวแปรตามทฤษฎี/ แนวคิดดังกล่าวพอสังเขป โดยอาจ แสดงแผนภาพความสัมพนั ธข์ องตวั แปรประกอบคาอธิบายดว้ ยก็ได้) 4.9 วธิ ีการเก็บรวบรวมข้อมูลและเครือ่ งมือท่ีใช้ในการศึกษา (อธบิ ายถงึ วิธีการเกบ็ รวบรวมข้อมูลอย่าง เป็นข้ันตอน กระบวนการและระยะเวลาการเก็บข้อมูล ประเภทเครื่องมือที่ใช้ วิธีการสร้างเคร่ืองมือ และการ ตรวจสอบคณุ ภาพเคร่ืองมือเบอ้ื งต้น) 4.10 สถิติและการวิเคราะห์ข้อมูล (ระบุถึงวิธีวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ เช่น การนับ ความถ่ี การ หาสดั ส่วน ร้อยละ คา่ เฉลีย่ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน คะแนนการเปล่ยี นแปลง คะแนนพฒั นาการ 4.11 ผลการวิจัย (Results) และการสะท้อนกลับ (Reflection) (รายงานผลการวิจัยเพื่อตอบ วัตถุประสงค์การวิจัยทีละข้อ รวมท้ังการสะท้อนกลับอันเป็นผลจากการเรียนรู้ร่วมกัน (Lesson Learned/ Good Practice) ระหวา่ งการดาเนินการวจิ ัย) 4.12 รายการอา้ งอิง (ตามรปู แบบการเขียนรายการอา้ งองิ มาตรฐาน) 4.13 ภาคผนวก (แนบเคร่ืองมือวิจยั / ภาพกิจกรรม/ ข้อมลู อื่นๆ) บนั ทกึ รายงานการปฏบิ ัติการสอนในสถานศึกษา 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนา้ | 56
รายงานการวจิ ยั ปฏิบตั กิ ารในช้นั เรยี น เร่อื ง การพัฒนาทกั ษะการออกเสียงคาศัพท์ภาษาอังกฤษ ของนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4/1 โดยใช้กิจกรรมเพลงเพื่อสง่ เสรมิ ความร้ดู ้านคาศพั ท์ ผู้วิจัย นางสาวธวลั รัตน์ แสงรตั น์ รายงานการวจิ ัยปฏบิ ัติการในช้นั เรียนฉบับน้ีเป็นสว่ นหน่งึ ของการศึกษา รายวชิ า การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั สวนดุสติ ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 บันทกึ รายงานการปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศึกษา 2 ปีการศึกษา 2564 หนา้ | 57
รายงานการวิจัยปฏิบัตกิ ารในชนั้ เรียน เรื่อง การพัฒนาทกั ษะการออกเสยี งคาศพั ทภ์ าษาองั กฤษ ของนักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4/1 โดยใช้กจิ กรรมเพลงเพ่อื ส่งเสรมิ ความรู้ดา้ นคาศพั ท์ ผวู้ ิจยั นางสาวธวลั รตั น์ แสงรตั น์ รายงานการวิจัยปฏิบัติการในชน้ั เรียนฉบบั นเ้ี ปน็ ส่วนหนง่ึ ของการศึกษา รายวชิ า การปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา 2 หลกั สตู รศกึ ษาศาสตรบัณฑติ สาขาวชิ าการประถมศกึ ษา คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดสุ ติ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 บันทกึ รายงานการปฏบิ ัติการสอนในสถานศกึ ษา 2 ปีการศึกษา 2564 หน้า | 58
การพฒั นาทักษะการออกเสยี งคาศพั ท์ภาษาอังกฤษ ของนกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4/1 โดยใชก้ ิจกรรมเพลงเพือ่ สง่ เสรมิ ความรู้ดา้ นคาศพั ท์ ชอื่ ผูว้ ิจัย นางสาวธวลั รัตน์ แสงรตั น์ ปที ่ีทาวิจยั พ.ศ 2564 บทนา ในสังคมโลกปัจจุบันการรู้ภาษาต่างประเทศโดยเฉพาะภาษาอังกฤษเป็นสิ่งจาเป็นและสาคัญเพราะ ภาษาใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่ต้องการและเพ่ือการประกอบอาชีพและยังใช้เป็นเครื่องมือใน การติดต่อส่ือสารการเจรจาต่อรองเพ่ือการแข่งขันและความร่วมมือท้ังทางด้าน เศรษฐกิจและการเมืองได้อย่างมี ประสิทธิภาพ การรู้ภาษาอังกฤษยังช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผู้คนเพราะมีความเข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่าง กันของแต่ละเช้ือชาติปฏิบัติตนต่อกันได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมสามารถถ่ายทอดวัฒนธรรมไทยไปสู่สังคมโลก และเนอ่ื งจากความเป็นสากลของภาษาอังกฤษในยคุ ของขอ้ มูลขา่ วสารและเทคโนโลยี รวมทัง้ การปฏิรปู การศกึ ษาใน ประเทศไทย จึงส่งผลให้วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาบังคับในหลักสูตรของชาติตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อย่างเป็น ทางการนับแต่ปีการศึกษา 2546 เป็นต้นไป (ศรีภูมิ อัครมาส,2545) โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเสริมสร้างพ้ืนฐานความ เปน็ มนุษยแ์ ละสร้างศักยภาพในการคดิ และทางานอย่างสรา้ งสรรค์ เพ่อื พฒั นาผเู้ รียนให้มีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ตามจุดหมายของหลักสูตร การเรียนภาษาต่างประเทศและช่วยให้ผเู้ รียนมีวสิ ัยทัศน์กว้างไกลและเกิดความม่ันใจใน การท่ีจะส่ือสารกับชาวต่างประเทศ รวมท้ังเกิดเจตคติที่ดีต่อภาษาและวัฒนธรรมต่างประเทศ โดยยังคงความ ภาคภูมิใจในภาษาและวัฒนธรรมไทย (อัจฉรีย์ คงอมรสายชล,2552:1 อ้างอิงจาก กระทรวงศึกษาธิการ, 2544) ภาษาอังกฤษด้านการออกเสียงมีอิทธิพลอย่างย่ิงต่อประสิทธิภาพในการใชภ้ าษาในการส่ือสารของมนุษย์ จึงเป็นสิ่ง สาคัญที่ผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองหรือภาษาต่างประเทศจะต้องมีความเข้าใจในระบบเสียงของภาษา ผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองส่วนใหญ่ตระหนักว่า ปัญหาท่ีสาคัญในการพูดภาษาอังกฤษสืบเนื่องมาจากการ ออกเสยี ง ซง่ึ ถือเปน็ สาเหตทุ ่สี าคัญของปัญหาในการส่ือสารทเ่ี กิดขึ้น การออกเสียงท่ีถกู ต้องจึงทาให้ม่นั ใจได้ว่าสารท่ี ส่งออกไปมีประสิทธิภาพ (วารสารภาษาและภาษาศาสตร์, 2555:82) จากการศึกษาพบว่านักเรียนไทยส่วนใหญ่มี ความรู้ด้านคาศัพท์ไม่เพียงพอจึงไม่สามารถส่ือสารเป็นภาษาอังกฤษได้ กล่าวถึงปัญหาน้ีว่าเป็นปัญหาที่สาคัญที่สุด เพราะถ้าผู้เรียนไม่รู้ความหมายของคาศัพท์ก็จะทาให้ไม่สามารถสื่อสารได้ ดังน้ันผู้สอนจึงจาเป็นต้องใหค้ วามสาคญั ต่อความร้ดู า้ นคาศัพท์ของผู้เรียน โดยผ้สู อนได้เล็งเหน็ ถึงความสาคญั ของการเรยี นรคู้ าศพั ท์และได้ศึกษาในเรื่องของ การเรียนรู้คาศัพท์ภาษาอังกฤษ ในเรื่องของการเรียนรู้คาศัพท์แบบไม่ตั้งใจ และการเรียนรู้คาศัพท์แบบต้ังใจ พบว่า เด็กก่อนวัยเรียนจะเรียนรู้ภาษาท่ีหน่ึงได้จากภาษาพูดท่ีได้ยินได้ฟังซ่ึงการเรียนรู้ภาษานี้จะเกิดข้ึนก่อนท่ีจะสามารถ อ่านได้และเป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีการเรียนการสอนโดยตรงใดใดทั้งสิ้น (อัจฉรีย์ คงอมรสายชล,2552:2 อ้างอิงจาก Nagy & Herman, 1987) จากเหตุผลข้างต้นผู้สอนจึงเห็นว่าการอ่านออกเสียงคาศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้กิจกรรมเพลงเพ่ือ ส่งเสริมความรู้ด้านคาศัพท์ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 4/1 ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียน สาธิตละอออุทิศ จะช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนมีความสนใจในการเรียนภาษาอังกฤษ และทาให้การออกเสียงคาศัพท์ ภาษาอังกฤษดขี ึ้น มคี วามจาเก่ยี วกบั คาศัพทม์ ากขน้ึ และยังอาจสามารถพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนไดด้ ยี ่ิงข้ึน บนั ทกึ รายงานการปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศึกษา 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน้า | 59
วตั ถุประสงค์การวจิ ัย 1. เพ่ือศึกษาทักษะการออกเสียงคาศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 หลังการ จดั การเรยี นรู้ โดยใชก้ ิจกรรมเพลง 2. เพ่ือพัฒนาทักษะการออกเสียงคาศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4/1 หลังการ จดั การเรียนรู้ โดยใช้กจิ กรรมเพลง ขอบเขตการวจิ ยั 1. ขอบเขตด้านประชากร/ กลุ่มตวั อย่าง ประชากรในการวิจัยได้แก่ นักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4/1 โรงเรียนสาธติ ละอออุทิศ จานวน 22 คน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นกั เรียนชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4/1 โรงเรียนสาธติ ละอออุทศิ จานวน 6 คน การได้มาของตัวอยา่ งด้วยวิธี แบบเจาะจงรายบคุ คล ซึ่งจะสงั เกตจากพฤติกรรมการเรียน ภาษาองั กฤษของนักเรยี นในแตล่ ะครั้ง 2. ดา้ นตวั แปร ตัวแปรในการวจิ ยั ประกอบด้วย ตวั แปรตาม ได้แก่ ทักษะการออกเสยี งภาษาองั กฤษ ตวั แปรต้น ไดแ้ ก่ กจิ กรรมเพลง 3. ดา้ นเน้อื หา การวิจัยนีด้ าเนนิ การในหนว่ ยการเรียนรู้เร่ือง Comparative and superlative of long adjectives และเรียนรเู้ ก่ียวกับคาศัพทท์ วั่ ไป โดยมีสาระท่ีควรรู้ คอื คาศัพทใ์ นเพลง ใช้เวลาในการจัดกจิ กรรมในคาบ เรยี นและช่วงพักระหวา่ งคาบเรียน นิยามศพั ทเ์ ฉพาะในการวิจยั 1. การสอนโดยการใชก้ จิ กรรมเพลง หมายถงึ การจัดการเรยี นการสอนภาษาองั กฤษ โดยการนาเพลง ภาษาอังกฤษจาก YouTube หรอื เว็ปไซต์ออนไลน์ มาใช้ในการประกอบการเรยี นการสอนในชนั้ เรียน 2. การพัฒนาทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษ หมายถงึ การศึกษาปญั หา การจดั การเรียนการสอน โดยใช้ กิจกรรมเพลง เพ่ือพฒั นาทักษะด้านการออกเสยี งทถี่ ูกต้อง 3. ความรู้ด้านคาศัพทภ์ าษาอังกฤษ หมายถงึ ความรขู้ องผเู้ รียนดา้ นคาศัพท์ ทัง้ การสะกดคา การออกเสียง การบอกความหมายของคาศัพท์ และการนาคาศัพท์ไปใช้ในประโยคได้อยา่ งถกู ต้อง โดยทาการทดสอบก่อนการ ทดลองสอนและหลังการทดลองสอนเสร็จสิ้นทนั ที ซึ่งวัดจากแบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ดา้ นคาศัพท์ทผี่ วู้ จิ ยั สรา้ งขน้ึ กรอบแนวคดิ เฉพาะในการวจิ ยั ตวั แปรตน้ ตัวแปรตาม กจิ กรรมเพลง ทกั ษะการออกเสียง - เพลง Big Bigger Biggest ภาษาองั กฤษ - เพลง Head Shoulders Knees & Toes บันทึกรายงานการปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา 2 ปกี ารศึกษา 2564 หน้า | 60
การเกบ็ รวบรวมข้อมูล ผวู้ ิจยั ดาเนนิ การเก็บรวบรวมขอ้ มูล จากการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ โดยใชก้ จิ กรรมเพลง เพ่อื ศกึ ษาพัฒนาการ ออกเสียงคาศัพท์และสง่ เสรมิ ความรู้ด้านคาศพั ท์ของนกั เรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4/1 จานวน 6 คน ตามข้นั ตอนดังนี้ 1. ชี้แจงจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้และการวดั ผลประเมินผล 2. ดาเนินการก่อนการจัดการเรียนรู้ โดยการอธิบายบทเรียนและคาศัพท์พอสังเขป เพือ่ ศกึ ษาพฒั นาการออก เสียงคาศัพท์และสง่ เสรมิ ความรู้ด้านคาศัพท์ของผเู้ รยี น 3. ดาเนินการจดั การเรยี นรู้ โดยใช้กจิ กรรมเพลง เพื่อศึกษาพฒั นาการออกเสียงคาศัพท์และส่งเสรมิ ความรู้ ดา้ นคาศัพท์ของนักเรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4/1 4. ดาเนนิ การหลงั การจัดการเรียนรู้ โดยทบทวนความรคู้ าศัพท์ จากกจิ กรรมเพลง ด้วยการสังเกต ถามตอบ และประเมินพฤตกิ รรมของนักเรยี น เพ่ือศึกษาการพัฒนาการออกเสยี งคาศพั ท์และส่งเสริมความรูด้ า้ นคาศัพท์ของผู้เรียน 5. นาขอ้ มลู ท่ีไดม้ าวิเคราะห์ข้อมลู และสรปุ ผล การวเิ คราะหข์ ้อมูล วเิ คราะห์ทักษะการออกเสียงคาศัพท์ภาษาองั กฤษทีไ่ ดจ้ ากการจดั การเรียนรู้ โดยใชก้ จิ กรรมเพลง โดยใช้ โปรแกรรมสาเร็จรปู ทางการศึกษา เพ่ือหาค่าร้อยละ และคะแนนเฉล่ยี ผู้วิจัยเลือกใช้สถติ ิในการวิเคราะห์เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะของข้อมูลและตอบวตั ถปุ ระสงค์ ดังนี้ 1) การวิเคราะหก์ ารออกเสยี งคาศัพทภ์ าษาองั กฤษของนกั เรยี นช้ันประถมศึกษาปีที่ 4/1 หลังการจัดการ เรยี นรู้ โดยใช้กจิ กรรมเพลง เพอ่ื ศึกษาทกั ษะการออกเสียงคาศัพท์ภาษาองั กฤษของนกั เรยี น 2) การวเิ คราะห์พฒั นาการด้านทักษะการออกเสียงคาศัพท์ภาษาองั กฤษของนกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4/1 หลงั การจดั การเรยี นรู้ โดยใชก้ จิ กรรมเพลง ดว้ ยการทดสอบทางสถิติพน้ื ฐาน รอ้ ยละ สถติ ิทใี่ ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูลดงั นี้ ผู้วจิ ัยใช้คา่ ร้อยละในการวิเคราะห์ข้อมูลสถติ ิท่ีใช้ ได้แก้ คา่ รอ้ ยละ (%) ค่ารอ้ ยละ ใชส้ ัญลกั ษณ์ % เขียนเปน็ สูตรในการคานวณได้ดงั น้ี % = จานวนนักเรยี นท่ไี ด้คะแนนจานวนหน่งึ × 100 จานวนนกั เรยี นทงั้ หมด บันทึกรายงานการปฏิบัติการสอนในสถานศกึ ษา 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนา้ | 61
สรุปผลการวิเคราะห์ ตารางแสดงผลการออกเสียงคาศพั ทภ์ าษาอังกฤษ รายการประเมิน 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 1. ความถกู ต้องในการออกเสยี ง = ดีมาก = ดี = พอใช้ = ปรบั ปรุง จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ คน จานวน ร้อยละ คน คน คน 2 33 1 17 -- 3 50 2. น้าเสยี งและสาเนยี ง 2 33 3 50 1 17 - - จากแบบประเมนิ การออกเสยี งคาศัพทภ์ าษาอังกฤษของนักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4/1 จานวน 6 คน สามารถสรุปได้ดังนี้ นักเรียนออกเสียงคาศัพท์ได้ถูกต้องเกินคร่ึงหนึง่ ของจานวนคาศัพท์ อยใู่ นเกณฑ์ดี มากที่สดุ คิดเปน็ ร้อยละ 50 นกั เรียนมนี า้ เสียงและสาเนยี งชัดเจน ออกเสยี งสูงต่าในระดับ อยูใ่ นเกณฑด์ ี มากท่สี ดุ คิดเป็นรอ้ ยละ 50 นกั เรียนออกเสียงคาศพั ท์ได้ถูกตอ้ งทง้ั หมด อยใู่ นเกณฑด์ มี าก คิดเปน็ ร้อยละ 33 นกั เรียนมนี า้ เสยี งและสาเนยี งชดั เจน ออกเสียงสูงตา่ ในระดับ อยใู่ นเกณฑด์ มี าก คดิ เปน็ ร้อยละ 33 นักเรยี นออกเสยี งคาศัพทภ์ าษาองั กฤษได้ถูกต้องไม่น้อยกว่าครงึ่ หนึ่งของจานวนคาศัพท์ อยู่ในเกณฑ์พอใช้ น้อยท่ีสดุ คิดเป็นรอ้ ยละ 17 นักเรียนมีนา้ เสียงและสาเนยี งคอ่ นขา้ งชัดเจน ออกเสียงสงู ต่าในระดบั อยู่ในเกณฑ์พอใช้ นอ้ ยท่ีสุด คิดเปน็ รอ้ ยละ 17 จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการประเมินการออกเสียงคาศัพท์ภาษาอังกฤษของนักเรียน พบว่า นักเรียนให้ความรว่ มมือเป็นอย่างดี ทาให้มีการพัฒนาการออกเสยี งคาศัพท์ภาษาอังกฤษและมีความมั่นใจมาก ขน้ึ ในการทาวิจัยในคร้ังน้ีปรากฏว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 จานวน 6 คน มีทักษะการออก เสียงคาศัพท์ภาษาอังกฤษ มีน้าเสียงและสาเนียงชัดเจน ออกเสียงสูงต่าในระดับ อยู่ในเกณฑ์ดี มากที่สุด และ ยังมีพื้นฐานความรู้คาศัพท์ภาษาอังกฤษที่ดีอีกด้วย นักเรียนมีความพยายามในการออกเสียงคาศัพท์ ภาษาอังกฤษไดด้ ี มีการฝึกฝนและอยากทจ่ี ะลองออกเสยี งดว้ ยตนเอง มีความมัน่ ใจในการออกเสียงมากขึ้นและ ยงั สามารถพัฒนาทักษะการออกเสยี งภาษาอังกฤษของนักเรยี นใหด้ ีข้ึน บันทึกรายงานการปฏบิ ัติการสอนในสถานศกึ ษา 2 ปีการศึกษา 2564 หน้า | 62
สรุปผลการวจิ ัย 1. การออกเสียงคาศัพทภ์ าษาองั กฤษของนักเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4/1 หลังการจดั การเรียนรู้ โดยใชก้ ิจกรรมเพลง มพี ัฒนาและพ้นื ฐานความรู้คาศพั ท์ภาษาอังกฤษทดี่ ี 2. การพฒั นาการออกเสียงคาศัพทภ์ าษาองั กฤษของนักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4/1 หลังการจัด การเรยี นรู้ โดยใชก้ จิ กรรมเพลง รอ้ ยละ 50 อยใู่ นเกณฑ์ดี การเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะในการนาไปใช้ 1.1 ครคู วรมีการตดิ ตามพัฒนาการทักษะการออกเสยี งของนักเรยี นอยา่ งตอ่ เนื่อง 1.2 ครูควรมกี จิ กรรมเพลงทีห่ ลากหลาย เพ่ือไมใ่ หเ้ กิดความซ้าหรือจาเจ และดึงดดู ความสนใจของนักเรียน ได้มากขึน้ 1.3 ครคู วรศึกษารายละเอียดของการจัดการเรยี นรโู้ ดยใช้กจิ กรรมเพลง จัดเตรยี มส่อื การเรียนรใู้ หพ้ ร้อม และจัดบรรยากาศให้เออื้ ต่อการเรยี นรู้ เพ่ือให้การจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ ปน็ ไปตามขน้ั ตอนและบรรลวุ ัตถุประสงค์ บันทึกรายงานการปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศึกษา 2 ปีการศกึ ษา 2564 หน้า | 63
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ า English Grammar ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นที่ 1 สัปดาห์ท่ี 10 หนว่ ยการเรียนรู้ Comparative and superlative of long adjectives เวลา 14.00 – 14.40 น. มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 ตัวชี้วัด ต 1.1 (ป.4/1, 4/2, 4/3) ช่ือครผู สู้ อน นางสาวธวลั รตั น์ แสงรัตน์ 1. ผลการเรยี นรู้ นักเรยี นไดเ้ รียนรู้เร่ือง Comparative and superlative of long adjectives คาคณุ ศัพท์ทใ่ี ชใ้ นการ เปรียบเทียบคน, สตั ว์, หรอื สิ่งของที่มีตั้งแต่ 3 สิง่ หรอื มากกวา่ นั้น ทาให้ผเู้ รยี นสามารถพูดและส่ือสารให้ข้อมูล ได้ 2. สาระการเรียนรู้ / เนอ้ื หา Comparative adjectives are used to compare differences between the two objects they modify. In this pattern: Noun + verb + comparative adjective + than + noun. For example: - This hotel is more expensive than the last hotel we stayed at. - Reading is more interesting than watching television. Superlative adjectives are used to describe an object which is at the upper or lower limit of a quality. In this pattern: Noun + verb + the + superlative adjective + noun. For example: - That shade of blue is the most beautiful color. - It’s the most difficult part of my job. 3. เทคนิควิธกี ารสอน / รปู แบบการสอน 1. วธิ ีการสอนแบบบรรยาย 4. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 6. มุ่งม่นั ในการทางาน 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 7. รกั ความเปน็ ไทย 2. ซอื่ สตั ย์สจุ ริต 3. มีวนิ ยั 8. มีจติ สาธารณะ 4. ใฝเ่ รียนรู้ 9. เช่อื มั่นและกล้าแสดงออก 5. อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง บันทกึ รายงานการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน้า | 64
5. สมรรถนะ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) - นักเรยี นสามารถเข้าใจหลกั การใช้คาคณุ ศพั ท์ท่ใี ชใ้ นการเปรยี บเทยี บข้ันกว่าและขัน้ สุด ดา้ นทักษะ (Skill) - นกั เรียนสามารถบอกประโยคที่ใช้คาคณุ ศัพท์ทใ่ี ชใ้ นการเปรียบเทยี บข้นั กว่าและข้ันสุดได้ ด้านเจตคติ (Attitude) - นกั เรียนมีสว่ นรว่ มในการปฏิบัตกิ จิ กรรม 7. กระบวนการเรียนรู้ ข้นั นา 1. ครใู ห้นักเรียนดคู ลิปวิดโี อเกยี่ วกับ Comparative and superlative จากนน้ั ถามคาถามนักเรยี น จากการดวู ดิ โี อเกี่ยวกบั Comparative and superlative เพอ่ื กระตนุ้ ใหน้ กั เรียนตอบ ข้ันสอน 2. ครูใชก้ จิ กรรมเพลง โดยเพลงที่ 1 เพลง Big Bigger Biggest ให้นกั เรียนฟงั 1 รอบ ครูอา่ นออก เสยี งคาศัพท์ให้ฟัง 1 รอบ และใหน้ กั เรยี นอ่านออกเสียงคาศัพทด์ ้วยตัวเอง โดยสุ่มนกั เรียนทลี ะคน พรอ้ ม สังเกตพฤติกรรม จากนน้ั เปดิ เพลงท่ี 2 เพลง Head Shoulders Knees & Toes ให้นกั เรียนฟงั 1 รอบ ครู อา่ นออกเสยี งคาศัพท์ใหฟ้ งั 1 รอบ และให้นักเรยี นอ่านออกเสยี งคาศัพท์ด้วยตวั เอง โดยสุม่ นกั เรียนทีละคน พรอ้ มสังเกตพฤติกรรม 3. ครอู ธบิ ายการหลักใช้ Comparative and superlative of long adjectives และให้นกั เรียนอ่าน คาและประโยคเกย่ี วกบั Comparative and superlative เชน่ - This hotel is more expensive than the last hotel we stayed at. - Reading is more interesting than watching television. - That shade of blue is the most beautiful color. - It’s the most difficult part of my job. 4. ให้นักเรียนดภู าพและบอกประโยคท่ีใชค้ าคณุ ศัพท์ทใ่ี ชใ้ นการเปรยี บเทยี บขั้นกวา่ และขนั้ สุดได้ บนั ทึกรายงานการปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา 2 ปีการศกึ ษา 2564 หน้า | 65
ข้นั สรปุ 5. ครูและนักเรยี นรวบรวมความรู้ ทบทวนคาศัพท์และสรุปร่วมกนั ใหน้ กั เรยี นวิเคราะหโ์ ดยให้เลน่ เกม เรียงคาเป็นประโยค Comparative and superlative 8. สอื่ การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรู้ 1. PowerPoint 2. วิดโี อ Youtube 3. เพลง Big Bigger Biggest/ เพลง Head Shoulders Knees & Toes 4. เกมเรยี งคาเป็นประโยค Wordwall บนั ทกึ รายงานการปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา 2 ปีการศึกษา 2564 หน้า | 66
9. การวัดและประเมนิ ผล จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารวดั ประเมิน การประเมิน และการประเมนิ ดา้ นความรู้ การตอบ นกั เรยี นสามารถเขา้ ใจหลักการ คาถาม แบบสังเกต คุณภาพคะแนนระดับ 2 ขนึ้ ไป ใช้คาคณุ ศัพทท์ ่ใี ช้ในการ เปรยี บเทียบข้ันกวา่ และขน้ั สุด การตอบ พฤติกรรมการ ผา่ นเกณฑ คาถาม ด้านทักษะ เรยี นรู้ 3 : บอกการใช้คาคุณศพั ท์ที่ใชใ้ นการเปรยี บเทยี บ นักเรยี นสามารถบอกประโยคท่ี สงั เกต ใช้คาคณุ ศพั ท์ท่ใี ชใ้ นการ พฤติกรรม ขนั้ กวา่ และขัน้ สุดได้ = ดี เปรยี บเทยี บขัน้ กวา่ และขัน้ สุด ได้ 2 : บอกการใช้คาคุณศัพท์ที่ใช้ในการเปรียบเทยี บ ด้านเจตคติ ขน้ั กวา่ หรอื ขัน้ สดุ ได้ = พอใช้ นักเรียนมีส่วนรว่ มในการปฏิบตั ิ กิจกรรม 1 : บอกการใช้คาคุณศัพท์ทใ่ี ช้ในการเปรยี บเทยี บ ข้นั กว่าและขั้นสุดไมไ่ ด้ = ปรับปรงุ เกมเรียงคา คณุ ภาพคะแนนระดบั 2 ขึ้นไป เปน็ ประโยค ผา่ นเกณฑ 3 : บอกประโยคทใี่ ช้คาคณุ ศัพท์ท่ีใชใ้ นการ เปรียบเทยี บข้ันกวา่ และขั้นสุดได้ 10 ข้อ = ดี 2 : บอกประโยคที่ใช้คาคุณศัพทท์ ่ีใชใ้ นการ เปรียบเทียบข้ันกว่าและข้นั สุดได้ 4-9 ข้อ = พอใช้ 1 : บอกประโยคที่ใช้คาคุณศัพท์ท่ีใชใ้ นการ เปรยี บเทยี บขัน้ กวา่ และข้นั สุดได้นอ้ ยกวา่ 3 ข้อ = ปรับปรุง แบบสงั เกต คุณภาพคะแนนระดบั 2 ข้ึนไป พฤติกรรมการ ผ่านเกณฑ เรยี นรู้ 3 : มีสว่ นร่วมในการปฏบิ ัติกจิ กรรมเปน็ อย่างดี = ดี 2 : มสี ว่ นร่วมในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมบางคร้ัง = พอใช้ 1 : ไมม่ ีส่วนร่วมในการปฏิบตั ิกิจกรรมเลย = ปรบั ปรงุ บันทึกรายงานการปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา 2 ปีการศกึ ษา 2564 หน้า | 67
10. ผลของการใช้วิธีสอน พรอ้ มข้อเสนอแนะ นกั เรียนมีความต้งั ใจ และสนใจในกจิ กรรมทีแ่ ทรกในการสอน ท้ังวิดีโอ เพลงและเกม นักเรียนบางคน อาจยงั ไมใ่ ห้ความสนใจกับเนื้อหาเทา่ ที่ควร เพราะเนอ้ื หาอาจใช้คาอธบิ ายหรือใชค้ าทยี่ ากมากเกนิ ไปท่นี กั เรยี น จะเขา้ ใจ 11. การบันทึกหลงั การเรียนการสอนท่คี วรปรับปรงุ การใช้คาอธิบายท่ีนักเรียนอาจจะเข้าใจยาก 12. แนวทางปรบั ปรุงแกไ้ ข กระชบั เน้ือหาให้มีความพอดี ไม่นานจนเกินไป บางครั้งครูอาจจะชว่ ยแปลความหมายของคาอธิบาย 00 ................................................................. ................................................................. (ครูภลดา มว่ งศริ ิ) ครปู ระจาวิชา (นางสาวธวลั รัตน์ แสงรตั น์) นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพครู ................................................................. (อาจารยพ์ ัชรพร ศภุ กิจ) อาจารยน์ เิ ทศก์ บันทกึ รายงานการปฏบิ ัติการสอนในสถานศกึ ษา 2 ปีการศึกษา 2564 หน้า | 68
แบบสงั เกตความรว่ มมือในการทากิจกรรม คาช้แี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งจดั กจิ กรรมการเรยี นรแู้ ลว้ ขีด √ ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดับคะแนน จดุ ประสงค์การเรียนรู้: 1) นกั เรียนสามารถเขา้ ใจหลกั การใช้คาคุณศัพท์ท่ีใชใ้ นการเปรียบเทียบข้นั กว่าและขั้นสุด (K) 2) นักเรยี นสามารถบอกประโยคท่ใี ชค้ าคณุ ศัพท์ทีใ่ ชใ้ นการเปรียบเทียบขัน้ กวา่ และขน้ั สุดได้ (P) 3) นกั เรยี นมีสว่ นรว่ มในการปฏิบตั ิกจิ กรรม (A) รายการประเมนิ ลาดบั ชือ่ - นามสกลุ ันกเ ีรยนสามารถเข้าใจหลักการ รวม เกณฑ์การ ที่ ใช้คาคุณ ัศพท์ ี่ทใช้ในการ 9 ประเมิน เป ีรยบเทียบขั้นก ่วาและข้ันสุด คะแนน (K) นักเรียนสามารถบอก ประโยคที่ใ ้ชคาคุณศัพท์ ่ีทใช้ในการเปรียบเทียบ ัข้นก ่วาและ ้ัขน ุสดได้ (P) นักเรียนมี ่สวนร่วมใน การปฏิ ับ ิต ิกจกรรม (A) 321 3 2 1 321 ผา่ น ไม่ ผ่าน 1 เดก็ ชายธนจิ สัตตะรจุ าวงษ์ ✓ ✓ ✓ 9 ✓ ✓ 8 ✓ 2 เดก็ ชายภูรณิ ัฐ จาลอง ✓ ✓ 5 ✓ ✓ 9 ✓ 3 เดก็ ชายโมกข์ สริ วิ ิชยั ✓ ✓ ✓ 5 ✓ ✓ 5 ✓ 4 เดก็ ชายกวณิ ปภัสสร์ เลือดไทย ✓ ✓ ✓ 9 ✓ ✓ 6 ✓ 5 เดก็ ชายธนพร สกุลพลอย ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 7 6 เด็กชายณฐกฤต บุญธรรม ✓ 7 ลากิจ ✓ ✓ 5 7 เด็กชายพิชญุตม์ วรรณทรัพย์ ✓ ✓ ✓ 7 ✓ ✓ 9 ✓ 8 เด็กชายศวิ ฒั น์ วฒั นาวงศ์ ✓ ✓ 7 ✓ ✓ ✓ 9 ✓ 9 เดก็ ชายชลนริศย์ กลุ ธรรจุ โิ รจน์ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ ✓ 10 เด็กชายภรู ิ แกว้ ประเสรฐิ ✓ ✓ ✓ ✓ 11 เด็กชายภมู ิพัฒน์ เมืองยาม ✓ 12 เด็กชายอภิภมู ิ อนิ พลบั ✓ 13 เด็กหญิงชัญญารัตน์ นพพรพรหม ✓ 14 เดก็ หญงิ อณั ณ์ญาดา เล้าพรพิชยานุวัฒน์ ✓ 15 เด็กหญิงณฐั ณชิ าช์ โชตกิ ุลธนชยั ✓ 16 เดก็ หญงิ พัชรน์ รินทร์ อยูพ่ ูล ✓ บันทกึ รายงานการปฏบิ ัติการสอนในสถานศึกษา 2 ปีการศกึ ษา 2564 หน้า | 69
ชอ่ื - นามสกลุ รายการประเมิน ันกเ ีรยนสามารถเข้าใจหลักการ รวม เกณฑ์การ ใช้คา ุคณ ัศพ ์ท ่ีทใช้ในการ ลาดบั เป ีรยบเทียบข้ันก ่วาและข้ัน ุสด 9 ประเมิน ท่ี (K) คะแนน นักเรียนสามารถบอก ประโยคท่ีใ ้ชคาคุณศัพท์ ท่ี ใ ้ชในการเปรียบเทียบ ั้ขกกนันา่วกเรารีแปยลฏินะบั ีม้ัข ิต ่สนกิว ุสจนดกร่ไรว้ดรม(มใP()นA) 321 3 2 1 321 ผ่าน ไม่ ผา่ น 17 เดก็ หญงิ กัญจริ า จริ านุกรสกุล ✓ ✓ ✓ 7✓ 18 เด็กหญิงรวิภา ต้ังตรงกิจเจรญิ ✓ ✓ ✓ 9✓ 19 เดก็ หญงิ สลลิ อชั ชะ ✓ ✓✓ 7✓ 20 เดก็ หญิงณรดา เอ่ยี มประดษิ ฐ์ ลาป่วย 21 เดก็ หญงิ ภคพร ย่ภี ู่ ✓ ✓✓ 7✓ 22 เดก็ หญิงวรณัน ดาสี ✓ ✓✓ 7✓ เกณฑก์ ารให้คะแนน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ : 2) นักเรยี นสามารถบอกประโยคท่ีใช้คาคณุ ศัพท์ทีใ่ ชใ้ นการเปรียบเทียบขั้น กวา่ และขั้นสุดได้ (P) ระดบั 1 ระดับคะแนน 3 เกณฑ์การประเมนิ สามารถบอกประโยคทีใ่ ช้ 2 สามารถบอกประโยคที่ใช้ 1. ความถูกต้อง คาคณุ ศัพท์ท่ีใช้ในการ สามารถบอกประโยคทใ่ี ช้ คาคณุ ศัพทท์ ี่ใชใ้ นการ เปรียบเทยี บขัน้ กวา่ และข้ันสุด คาคณุ ศัพทท์ ่ใี ชใ้ นการ เปรียบเทียบขน้ั กว่าและขั้น เปรยี บเทียบขั้นกว่าและขัน้ สุด ได้น้อยกวา่ 3 ขอ้ สดุ ได้ 10 ข้อ ได้ 4-9 ข้อ เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ หมายถึง ดี ระดบั คะแนน 3 หมายถงึ พอใช้ 2 หมายถึง ปรบั ปรงุ 1 หมายถงึ ผา่ น เกณฑก์ ารประเมิน หมายถึง ไม่ผา่ น คะแนนตั้งแต่ 5 – 9 คะแนนต่ากวา่ 4 บันทกึ รายงานการปฏิบัติการสอนในสถานศกึ ษา 2 ปกี ารศึกษา 2564 หน้า | 70
แบบประเมนิ การออกเสียงคาศพั ทภ์ าษาอังกฤษ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมินการออกเสียงคาศัพท์ภาษาองั กฤษของนักเรียนและใส่คะแนนในชอ่ งรายการ ประเมิน 4 = ดมี าก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรบั ปรุง ลาดบั รายการประเมิน ความถกู ตอ้ งใน นา้ เสียงและ รวมคะแนน ระดับ การออกเสียง สาเนยี ง (8) คณุ ภาพ ชือ่ -สกลุ (4) (4) 1. เดก็ ชายธนจิ สัตตะรจุ าวงษ์ 4 4 8 ดีมาก 2. เด็กชายกวนิ ปภัสสร์ เลอื ดไทย 3 3 6 ดี 2 3 5 พอใช้ 3. เดก็ ชายภรู ิ แก้วประเสริฐ 4 4 8 ดีมาก 3 2 5 พอใช้ 4. เด็กหญงิ รวิภา ต้ังตรงเจรญิ 3 3 6 ดี 5. เด็กหญงิ สลิล อัชชะ 6. เด็กหญงิ ภคพร ยีภ่ ู่ เกณฑ์การประเมิน ระดับคุณภาพ ดมี าก 8 คะแนน ระดบั คุณภาพ ดี ระดบั คุณภาพ พอใช้ 6-7 คะแนน ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง 4-5 คะแนน 0-3 คะแนน ลงชือ่ ผปู้ ระเมนิ ( นางสาวธวลั รัตน์ แสงรตั น์ ) บันทึกรายงานการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน้า | 71
เกณฑ์การใหค้ ะแนนการออกเสยี ง ระดบั คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน คะแนน รายการประเมิน รวม ความถูกตอ้ งในการออก 4 3 2 1 4 ออกเสยี งคาศพั ท์ เสยี ง ไดถ้ ูกต้องทั้งหมด ออกเสียงคาศัพท์ ออกเสยี งคาศพั ท์ ออกเสียงคาศพั ท์ 4 ไดถ้ ูกตอ้ งเกนิ ไดถ้ ูกต้องไม่น้อย ไดถ้ ูกตอ้ งน้อย นา้ เสยี งและสาเนยี ง น้าเสียงและ ครง่ึ หนึ่งของ กวา่ ครงึ่ หนง่ึ ของ กว่าคร่ึงหน่งึ ของ 8 สาเนียงชัดเจน จานวนคาศพั ท์ จานวนคาศัพท์ จานวนคาศัพท์ ออกเสียงสงู ต่า น้าเสียงและ น้าเสียงเบาและ สาเนียงชดั เจน น้าเสียงและ สาเนียงไมช่ ดั เจน ในระดับ ออกเสยี งสงู ต่า สาเนยี งค่อนข้าง ออกเสียงสงู ตา่ ในระดับ ชดั เจน ในระดบั ออกเสียงสงู ต่า รวม ในระดบั บนั ทกึ รายงานการปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศึกษา 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน้า | 72
บนั ทกึ สรุปกจิ กรรมการปฐมนิเทศ วนั เดือน ปี 12 พฤษภาคม 2564 สรุปสาระทีไ่ ด้จากการปฐมนิเทศ - เอกสารปฏบิ ัติการสอนในสถานศึกษา 1 - ค่มู ือการปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 และภาคเรยี นที่ 2 - บันทึกรายงานการปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศึกษา - ประกาศรายชื่ออาจารยน์ ิเทศก์ ภาพการเขา้ รว่ มกิจกรรม ลงชอื่ .............................................................นกั ศึกษา (นางสาวธวลั รัตน์ แสงรัตน์) วันที่ 12 พฤษภาคม 2564 . บันทกึ รายงานการปฏิบัติการสอนในสถานศกึ ษา 2 ปีการศึกษา 2564 หน้า | 73
บนั ทึกสรปุ กจิ กรรม การสมั มนาระหว่างปฏบิ ตั งิ านสอนในสถานศกึ ษา 2 ครั้งท่ี 1 เร่อื ง มติ คิ มความคิด สะท้อนชวี ติ ครฝู ึกสอน วนั เดือน ปี 18 มถิ นุ ายน 2564 . สรุปสาระท่ีไดจ้ ากการสัมมนา . แลกเปลี่ยนประสบการณร์ ะหวา่ งฝึก ในเรื่องของงานในชนั้ เรียนของแตล่ ะสายช้ัน . . ในชว่ งหนง่ึ เดอื น วา่ มีอุปสรรคในการทางานหรือการควบคมุ ฉนั เรยี นเป็นอย่างไร และไดม้ โี อกาส ทางานรว่ มกบั ครูประจาชัน้ อะไรบ้าง เช่น โฮมรูม ทาส่ือ Power point และการพูดคุยกับนกั เรียน ในเรอ่ื งต่าง ๆ ภาพการเข้าร่วมกิจกรรม ลงช่ือ .............................................................นกั ศกึ ษา (นางสาวธวลั รตั น์ แสงรตั น์) วันท่ี 18 มิถุนายน 2564 . บนั ทึกรายงานการปฏบิ ัติการสอนในสถานศกึ ษา 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน้า | 74
บันทึกสรุปกจิ กรรม การสัมมนาระหว่างปฏบิ ัติงานสอนในสถานศกึ ษา 2 ครงั้ ที่ 2 เร่อื ง 1. สกดั แนวคิด สะกดิ ครูฝึกสอน วัน เดือน ปี 16 กรกฎาคม 2564 . 2. การวัดประเมินผลสาหรบั เด็กประถมศึกษา . สรุปสาระทไ่ี ด้จากการสมั มนา - การสร้างคลปิ วดิ ีโอ อยากให้มีตวั ตน แสดงความเป็นเจ้าของ “ - อยากให้ครูได้ใช้สื่อนกั ศึกษาจะได้ใหน้ ักศึกษามีสว่ นร่วม “ - ตั้งเป้าหมาย/ ทาคลปิ เสริมความรู้ ซึง่ ต้องสอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ ให้มขี ั้นนา ข้นั สอน ข้นั สรปุ “ - การสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียน ใหเ้ ลือกสังเกตนักเรียนเพยี งหนึ่งคน “ - สอ่ื สามารถนาใสใ่ นเล่มไดเ้ ลย “ - ปา้ ยนเิ ทศ ประสานงานกับครูประจาชน้ั ศกึ ษาวนั สาคัญ ความรูท้ ัว่ ไป อย่างละ 5 ป้าย “ - กจิ กรรม 4D Idea Design Doing Done “ - การทาเว็บ Google Sites “ - การทาไฟล์เป็น PDF หรือ E-port “ ภาพการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ลงชอื่ .............................................................นกั ศกึ ษา (นางสาวธวัลรตั น์ แสงรตั น์) วันท่ี 16 กรกฎาคม 2564 . บันทึกรายงานการปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา 2 ปีการศึกษา 2564 หน้า | 75
บันทึกสรปุ กจิ กรรม การสัมมนาระหว่างปฏบิ ัติงานสอนในสถานศกึ ษา 2 ครัง้ ท่ี 3 เรื่อง 1. เสรมิ พลงั สรา้ งวคั ซนี ศาสตรแ์ ละศลิ ปแ์ ห่งการสอน วัน เดอื น ปี 20 สิงหาคม 2564 . 2. การวดั ประเมนิ ผลสาหรับเดก็ ประถมศึกษา . สรุปสาระท่ไี ดจ้ ากการสัมมนา การจัดนทิ รรศการออนไลน์ โดยใช้ google site ในการจัดนิทรรศการออนไลน์ โดยมรี ายละเอยี ด ดงั น้ี - วดิ ีโอแนะนาโรงเรยี น / งานทท่ี าตลอดการฝกึ ท่ีผ่านมา “ “ การแลกเปลยี่ นการเรียนรู้ การทางานของนักเรียนในแตล่ ะวชิ า มารวบรวม ให้นกั ศึกษาวิเคราะห์ รวมถึงขอ้ สอบในรายวิชาภาษาไทย ใหช้ ่วยกันวเิ คราะห์และประเมนิ การให้คะแนนของนักเรียน “ “ “ “ “ ภาพการเขา้ ร่วมกิจกรรม ลงช่อื .............................................................นกั ศึกษา (นางสาวธวัลรัตน์ แสงรตั น์) วันท่ี 20 สิงหาคม 2564 . บนั ทกึ รายงานการปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศึกษา 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน้า | 76
บนั ทกึ สรุปกจิ กรรม การปจั ฉมิ นเิ ทศและจดั แสดงนิทรรศการผลงานของนักศึกษา วัน เดอื น ปี 15 ตุลาคม 2564 สรปุ สาระท่ไี ดจ้ ากการจัดแสดงนิทรรศการผลงาน 1. การจดั แสดงนิทรรศการผลงานออนไลน์ เข้าชมผลงานของเพื่อนและไดร้ บั เกียรตบิ ัตรออนไลน์ . 2. การเสวนา 3 ประเดน็ ดงั นี้ . - รปู แบบการสอนออนไลน์ . - Application ท่ใี ชใ้ นการสอนออนไลน์ . - แลกเปลี่ยนประสบการณท์ ่ีทบั ใจ . “ “ ภาพการเข้ารว่ มกิจกรรม ลงช่ือ .............................................................นักศึกษา (นางสาวธวัลรัตน์ แสงรัตน์) วันที่ 5 กันยายน 2564 บันทกึ รายงานการปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนา้ | 77
การนาเสนอประสบการณ์เพือ่ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ การนาเสนอประสบการณ์จากการปฏิบัติการสอนในแต่ละสถานศึกษาเป็นการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ที่ดีท่ีนักศึกษาต้องนาข้อมูลท่ีปฏิบัติมานาเสนอระหว่างการเข้ามาสัมมนาในแต่ละคร้ังท่ีมหาวิทยาลัย กาหนด ตามรายละเอยี ดดังน้ี 1. ชอื่ นักศกึ ษา นางสาวธวลั รตั น์ แสงรตั น์ รหัสประจาตัว 5911011340069 . 2. สถานศกึ ษาท่ีปฏบิ ัตงิ าน โรงเรยี นสาธติ ละอออทุ ศิ . 3. ประสบการณท์ ี่ไดร้ ับจากการปฏบิ ัตกิ ารสอน ด้านการทาแผนการจดั การเรยี นรู้ ไดเ้ รยี นรู้การเขยี นแผนการจัดการเรียนรู้ ทง้ั แบบโครงสรา้ งแผนและแผนแบบสมบรู ณ์ การปรบั . กระบวนการคิด การวางแผน และเคร่ืองมือในการสอื่ สาร ได้จดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้ตามองค์ประกอบใน . แผนและสอดคลอ้ งสัมพนั ธก์ ัน ซงึ่ สามารถนาไปใชจ้ ัดทาแผนการจัดการเรยี นรไู้ ดเ้ กิดประโยชนส์ ูงสดุ . . ด้านการผลิตสอื่ การเรียนรู้ การวางแผนและจดั ทาสือ่ การเรียนรทู้ สี่ อดคล้องกบั บทเรยี นและสามารถถ่ายทอดความร้กู บั . นกั เรยี นไดโ้ ดยงา่ ย ซ่ึงมีเทคนิคตา่ ง ๆในการจัดทาสื่อการเรียนรู้ การทาส่ือท่ีน่าสนใจ สามารถดงึ ดูดความสนใจ ของนักเรยี นได้ดี . . ด้านการวิเคราะหพ์ ฤติกรรมนักเรยี น การปรบั เปล่ยี นมมุ มองการสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น ได้ศึกษาและเขา้ ใจในพฤติกรรมนัน้ ๆของ . นกั เรียน และนามาวเิ คราะห์โดยผา่ นกระบวนการคดิ และแก้ไขปัญหาที่พบเจอได้ ทาให้เข้าใจนักเรียนมากขึ้น เนอ่ื งจากนักเรยี นแตล่ ะคน มีความแตกต่างท้งั ดา้ นการเรียนรู้ การเขา้ สงั คม พฤตกิ รรมต่าง ๆและคนรอบข้าง . . ดา้ นการปรับตวั . ได้เรียนรแู้ ละปรบั ตัวในแต่ละครงั้ มกี ารปรับเปลย่ี นการคิดและแก้ไขปัญหาได้มากขนึ้ . . . บนั ทกึ รายงานการปฏบิ ัติการสอนในสถานศึกษา 2 ปีการศึกษา 2564 หนา้ | 78
4. ปญั หา อปุ สรรค และแนวทางแก้ไข ความคิดและทัศนคตติ ่าง ๆ เมอื่ มปี ัญหามกั จะไมค่ ่อยพูด และแก้ไขปัญหาไม่ถกู วิธี ดังน้ันจงึ ต้อง . เปิดใจและทาความเข้าใจกับสถานการณ์ท่ีเกดิ ขน้ึ และค่อยๆคิดหาวธิ ีแก้ปัญหาทดี่ แี ละถูกต้อง . . 5. อื่นๆ . - . . . บนั ทึกรายงานการปฏบิ ัติการสอนในสถานศึกษา 2 ปีการศกึ ษา 2564 หน้า | 79
รายงานการปฏบิ ตั กิ ารสอนในสถานศึกษา 2 ชื่อนกั ศึกษา นางสาวธวัลรตั น์ แสงรัตน์ รหัสนกั ศึกษา 5911011340069 สถานศกึ ษาทป่ี ฏิบตั ิงาน โรงเรียนสาธิตละอออทุ ศิ 1. ประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างการปฏิบัตกิ ารสอน งานสอน การปรบั เทคนิคการสอนแบบออนไซต์ให้สามารถนามาใชส้ อนแบบออนไลน์ โดย . ศึกษาจากเทคนิคการสอนของครพู เ่ี ลีย้ งและครูท่านอนื่ ๆ มกี ารปรับเปล่ียนการสอนตลอดเวลา มีความไม่ . แนน่ อน การเรยี นรู้และศึกษาการใชเ้ ทคโนโลยที ่ีสามารถนามาประยุกตใ์ ชใ้ นการจดั การเรียนรใู้ นชัน้ เรยี นได้ . . งานกจิ การนกั เรยี น เรียนรภู้ าระงานของครปู ระจาชัน้ การมีส่วนรว่ มในการจดั ทา Portfolio . ของนักเรียน จดบนั ทกึ ชว่ ยจาในช้นั เรยี น การสงั เกตและบันทกึ พฤติกรรมของนกั เรยี น . . งานแนะแนว การโฮมรมู นกั เรยี นในตอนเช้า การแนะนาป้ายนิเทศความร้ตู ่าง ๆ ทง้ั วันสาคญั และความรูใ้ นเร่ืองอ่ืน ๆ การแลกเปลี่ยนความคิดและความรู้ในชั้นเรียนกบั นักเรยี นในช่วงเวลาพัก หรอื ก่อน . เข้าเรียน . . งานธรุ การ - . . . งานวิจยั ปฏิบตั ิการในชั้นเรยี น การจัดทาโครงการสง่ เสริมคุณธรรม โดยการทาคลปิ วดิ ีโอท่สี อ่ื ถึง . คุณธรรมในดา้ นต่าง ๆ ตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย และเรยี นรู้การทางานรว่ มกับผู้อืน่ . การจดั ทาวจิ ยั ในชั้นเรียน การพัฒนาทกั ษะการออกเสยี งคาศพั ทภ์ าษาอังกฤษ ซึ่งทาใหท้ ราบจานวน . นกั เรียนทใี่ หค้ วามสนใจในวชิ าภาษาองั กฤษ และจานวนนักเรียนที่มีระดับการเรยี นรูใ้ นวิชาภาษาองั กฤษท่ี . แตกต่างกันไป โดยทาการเลือกนักเรียนดว้ ยการสังเกตพฤติกรรมในการเรียนภาษาอังกฤษและการโตต้ อบของ .นักเรยี นกับครูผสู้ อนในช้นั เรียน . งานอน่ื ๆ - . . . . บนั ทกึ รายงานการปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา 2 ปีการศกึ ษา 2564 หน้า | 80
2. อุปสรรคทพ่ี บ - . เพื่อนนกั ศึกษา . . . นกั เรียน มคี วามแตกต่างในแต่ละด้านไม่เหมอื นกัน ทัง้ ดา้ นการเรียนรู้ การคดิ พฤตกิ รรมและลักษณะ นสิ ัยของนกั เรียน . . . อาจารยพ์ เ่ี ล้ยี ง - . . . . อาจารยน์ เิ ทศก์ - . . . . 3. ขอ้ เสนอแนะและความคดิ เห็นอนื่ ๆ . - . . . ลงชือ่ .............................................................นักศึกษา (นางสาวธวลั รัตน์ แสงรัตน์) วันท่ี 5 กนั ยายน 2564 บนั ทกึ รายงานการปฏิบัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หน้า | 81
แผนการจดั การเรียนรู้
แผนการจดั การเรียนรู้นิเทศ
นเิ ทศครั้งท่ี 1 วชิ า English CEFR วนั จันทรท์ ่ี 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 10.00 - 10.40 น. เร่ือง What is the weather like?
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา English CEFR ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 สัปดาหท์ ี่ 1 เวลา 10.00 – 10.40 น. หนว่ ยการเรียนรู้ What’s the weather like? ช่ือครผู สู้ อน นางสาวธวัลรตั น์ แสงรตั น์ มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 ตวั ช้วี ดั ต 1.1 (ป.4/1, 4/2) 1. ผลการเรียนรู้ นักเรียนไดเ้ รียนรู้เร่ือง What’s the weather like? สภาพอากาศเปน็ อย่างไร ไดเ้ รียนร้คู าศัพท์เก่ียวกบั สภาพ อากาศ ทาใหผ้ ้เู รยี นสามารถพูดและสื่อสารให้ข้อมูลเกย่ี วกับสภาพอากาศได้ 2. สาระการเรยี นรู้ / เนื้อหา Vocabulary – sunny, cloudy, windy, rainy, snowy, hot, warm, cool, cold, very cold. Sentence – Question: What’s the weather like? Answer: It’s sunny. It’s hot. / It’s cloudy. It’s warm. / It’s windy. It’s cool. / It’s rainy. It’s cold. / It’s snowy. It’s very cold. 3. เทคนิควธิ กี ารสอน / รูปแบบการสอน 1. วิธีการสอนแบบบรรยาย 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6. ม่งุ มน่ั ในการทางาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 8. มีจติ สาธารณะ 2. ซือ่ สตั ย์สจุ รติ 9. เช่ือมนั่ และกล้าแสดงออก 3. มวี ินัย 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อย่อู ย่างพอเพยี ง 5. สมรรถนะ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) - นกั เรียนสามารถบอกสภาพอากาศได้ ดา้ นทกั ษะ (Skill) - นักเรียนสามารถอา่ นออกเสยี งคาศพั ท์เก่ียวกับสภาพอากาศได้ ดา้ นเจตคติ (Attitude) - นกั เรียนมีสว่ นร่วมในการปฏิบตั ิกจิ กรรม 7. กระบวนการเรียนรู้ ข้นั นา 1. ครูให้นักเรียนดูคลิปวดิ ีโอและถามนกั เรยี นวา่ What’s the weather like? ขนั้ สอน 2. ครูให้นักเรยี นดรู ปู สภาพอากาศและถามนักเรียนวา่ What’s the weather like? 3. ครพู ดู คาศัพท์ทบ่ี อกสภาพอากาศนน้ั พร้อมแสดงคาใหด้ ูและสะกดบนสไลด์ Power point เช่น Sunny = S-u-n-n-y Cloudy = C-l-o-u-d-y Windy = W-i-n-d-y Rainy = R-a-i-n-y Snowy = S-n-o-w-y 4. ครูใหน้ ักเรียนดภู าพและสอนรปู แบบประโยคที่ใชบ้ อกสภาพอากาศ เชน่ ประโยคคาถาม What’s the weather like? ประโยคคาตอบ It’s sunny. It’s hot. ขน้ั สรุป 5. ครใู ห้นักเรียนวิเคราะห์ โดยใหเ้ ลน่ เกมสลบั อกั ษร What’s the weather like? 8. สอ่ื การเรียนรู้และแหล่งการเรียนรู้ 1. PowerPoint 2. วิดีโอ Youtube 3. เกมสลบั อกั ษร Wordwall
9. การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการ เครอื่ งมอื เกณฑ์การวัด ประเมิน การประเมิน และการประเมิน จุดประสงค์การเรียนรู้ การตอบ คาถาม แบบสังเกต คุณภาพคะแนนระดบั 2 ขนึ้ ไป ดา้ นความรู้ นักเรียนสามารถบอกสภาพ การตอบ พฤติกรรมการ ผา่ นเกณฑ์ อากาศได้ คาถาม เรยี นรู้ 3 : บอกคาศัพท์ได้ทุกคา = ดี ด้านทักษะ สงั เกต 2 : บอกคาศพั ทไ์ ด้ 2-3 คา = พอใช้ นกั เรยี นสามารถอา่ นออกเสียง พฤติกรรม คาศัพทเ์ ก่ียวกบั สภาพอากาศได้ 1 : บอกคาศพั ท์ไดน้ ้อยกวา่ 1 คา = ปรับปรุง ด้านเจตคติ เกมสลบั อักษร คณุ ภาพคะแนนระดบั 2 ข้ึนไป นักเรียนมสี ่วนร่วมในการปฏิบัติ กิจกรรม ผา่ นเกณฑ์ 3 : อา่ นออกเสยี งคาศัพทไ์ ดท้ ุกคา = ดี 2 : อ่านออกเสยี งคาศพั ทไ์ ด้ 2-3 คา= พอใช้ 1 : อ่านออกเสียงคาศพั ทไ์ ด้น้อยกว่า 1 คาหรือไมไ่ ดเ้ ลย = ปรับปรุง แบบสังเกต คณุ ภาพคะแนนระดบั 2 ขน้ึ ไป พฤติกรรมการ ผ่านเกณฑ์ เรียนรู้ 3 : มสี ่วนรว่ มในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเป็นอยา่ งดี = ดี 2 : มสี ว่ นร่วมในการปฏิบตั ิกจิ กรรมบางครั้ง = พอใช้ 1 : ไม่มสี ่วนร่วมในการปฏบิ ตั ิกิจกรรมเลย = ปรบั ปรุง
10. ผลของการใชว้ ธิ ีสอน พรอ้ มข้อเสนอแนะ 11. การบนั ทึกหลังการเรยี นการสอนท่ีควรปรับปรุง 12. แนวทางปรบั ปรุงแกไ้ ข 00 ................................................................. ................................................................. (ครศู ศิ ริ า ชาตตระกลู ) ครูประจาวชิ า (นางสาวธวลั รัตน์ แสงรตั น์) นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ครู ................................................................. (อาจารยพ์ ัชรพร ศุภกิจ) อาจารยน์ เิ ทศก์
นิเทศครง้ั ที่ 2 วชิ า English CEFR วันจันทร์ท่ี 2 สงิ หาคม พ.ศ. 2564 เวลา 10.00 - 10.40 น. เรื่อง Apostrophe and Possession
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า English CEFR ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 สปั ดาหท์ ่ี 5 เวลา 10.00 – 10.40 น. หน่วยการเรยี นรู้ Apostrophe and possession ช่ือครูผสู้ อน นางสาวธวลั รัตน์ แสงรัตน์ มาตรฐานการเรยี นรู้ ต 1.1 ตวั ช้ีวัด ต 1.1 (ป.4/1, 4/2, 4/4) 1. ผลการเรียนรู้ นักเรียนได้เรยี นร้เู ก่ยี วกับการใช้ Apostrophe หรือ ’s ใชเ้ พอ่ื แสดงความเป็นเจา้ ของ (Possession) ของ คานามท้ังเอกพจน์และพหูพจนใ์ นรปู แบบท่ีตา่ งกัน ทาใหผ้ ู้เรียนสามารถพูดและให้ข้อมลู เกีย่ วกบั การแสดงความเป็น เจา้ ของ โดยใช้ apostrophe ได้ 2. สาระการเรยี นรู้ / เนื้อหา Apostrophes are used to show “Possession” or “ownership”. We can use apostrophes to show singular & plural possession. To show possession, we add an apostrophe. For singular nouns, we add an apostrophe before the s. For plural nouns (regular), we add an apostrophe after the s and for plural nouns (irregular), we add an apostrophe before the s. 3. เทคนิควิธีการสอน / รปู แบบการสอน 1. วิธกี ารสอนแบบบรรยาย 4. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 6. ม่งุ ม่ันในการทางาน 7. รกั ความเปน็ ไทย 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 8. มจี ิตสาธารณะ 2. ซ่อื สตั ย์สจุ ริต 9. เชอ่ื มัน่ และกล้าแสดงออก 3. มีวินัย 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง 5. สมรรถนะ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) - นกั เรยี นสามารถบอกการใช้ Apostrophe and possession ได้ ดา้ นทกั ษะ (Skill) - นักเรยี นสามารถวิเคราะห์ประโยคเกย่ี วกับการใช้ Apostrophe and possession ได้ ดา้ นเจตคติ (Attitude) - นกั เรยี นมีสว่ นร่วมในการปฏิบัติกจิ กรรม 7. กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั นา 1. ครใู ห้นักเรียนดคู ลิปวดิ โี อเก่ียวกับ Apostrophe and possession ขน้ั สอน 2. ครถู ามคาถามนักเรยี น จากการดวู ดิ โี อ เพื่อกระตนุ้ ใหน้ ักเรียนตอบและอธิบายความรู้การใช้ Apostrophe and possession 3. ครยู กตวั อย่างคาทีใ่ ช้ Apostrophe เพ่ือแสดงความเป็นเจา้ ของ โดยใช้บัตรคา เช่น customer = customer’s/ customers’ 4. ครใู ห้นักเรียนอา่ นประโยคท่ีใช้ Apostrophe เช่น The house of my uncle. = My uncle’s house. ขั้นสรุป 5. รวบรวมความรแู้ ละสรปุ ร่วมกนั ใหน้ ักเรยี นวิเคราะห์ โดยให้เลน่ เกมแบบทดสอบ Apostrophe and possession 8. สอ่ื การเรียนรูแ้ ละแหลง่ การเรียนรู้ 1. PowerPoint 2. วดิ โี อ Youtube 3. เกมแบบทดสอบ Wordwall
9. การวัดและประเมินผล วธิ กี าร เครื่องมอื เกณฑก์ ารวดั ประเมิน การประเมนิ และการประเมิน จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ การตอบ คาถาม แบบสังเกต คณุ ภาพคะแนนระดบั 2 ข้นึ ไป ดา้ นความรู้ นกั เรียนสามารถบอกการใช้ การตอบ พฤติกรรมการ ผา่ นเกณฑ์ Apostrophe and คาถาม possession ได้ เรียนรู้ 3 : บอกการใช้ Apostrophe and possession ได้ = ดี สังเกต ดา้ นทกั ษะ พฤติกรรม 2 : บอกการใช้ Apostrophe and possession ได้บ้าง = นักเรยี นสามารถวิเคราะห์ ประโยคเกย่ี วกับการใช้ พอใช้ Apostrophe and possession ได้ 1 : บอกการใช้ Apostrophe and possession ไม่ไดเ้ ลย ดา้ นเจตคติ = ปรับปรงุ นกั เรยี นมีส่วนรว่ มในการปฏิบัติ กจิ กรรม เกม คุณภาพคะแนนระดับ 2 ขึ้นไป แบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์ 3 : วเิ คราะหป์ ระโยคเก่ยี วกับการใช้ Apostrophe and possession ได้ = ดี 2 : วิเคราะหป์ ระโยคเกี่ยวกับการใช้ Apostrophe and possession ไดบ้ า้ ง = พอใช้ 1 : วเิ คราะห์ประโยคเก่ียวกับการใช้ Apostrophe and possession ไม่ไดเ้ ลย = ปรบั ปรุง แบบสงั เกต คุณภาพคะแนนระดับ 2 ขน้ึ ไป พฤติกรรมการ ผา่ นเกณฑ์ เรียนรู้ 3 : มีสว่ นร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมเป็นอย่างดี = ดี 2 : มสี ่วนร่วมในการปฏิบตั กิ จิ กรรมบางคร้ัง = พอใช้ 1 : ไม่มสี ว่ นร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมเลย = ปรบั ปรุง
10. ผลของการใช้วธิ ีสอน พร้อมข้อเสนอแนะ 11. การบนั ทึกหลังการเรยี นการสอนท่ีควรปรบั ปรุง 12. แนวทางปรบั ปรุงแกไ้ ข 00 .................................................................. ................................................................. (ครูศศิ ิรา ชาตตระกลู ) ครปู ระจาวิชา (นางสาวธวลั รตั น์ แสงรตั น์) นักศกึ ษาฝกึ ประสบการณ์วิชาชพี ครู ................................................................. (อาจารยพ์ ัชรพร ศภุ กิจ) อาจารยน์ เิ ทศก์
นเิ ทศคร้ังท่ี 3 วิชา English Grammar วนั พธุ ที่ 8 กนั ยายน พ.ศ. 2564 เวลา 14.00 - 14.40 น. เรอ่ื ง Comparative and Superlative of long adjectives
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า English Grammar ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 สปั ดาหท์ ่ี 10 หน่วยการเรยี นรู้ Comparative and superlative of long adjectives เวลา 14.00 – 14.40 น. มาตรฐานการเรยี นรู้ ต 1.1 ตัวช้ีวัด ต 1.1 (ป.4/1, 4/2, 4/3) ชื่อครผู ูส้ อน นางสาวธวัลรัตน์ แสงรตั น์ 1. ผลการเรยี นรู้ นักเรียนได้เรียนรู้เรื่อง Comparative and superlative of long adjectives คำคุณศัพท์ที่ใช้ในกำร เปรยี บเทียบคน, สัตว์, หรอื ส่ิงของท่มี ตี ั้งแต่ 3 ส่งิ หรอื มำกกวำ่ นัน้ ทำให้ผูเ้ รียนสำมำรถพูดและส่ือสำรใหข้ ้อมลู ได้ 2. สาระการเรียนรู้ / เนื้อหา Comparative adjectives are used to compare differences between the two objects they modify. In this pattern: Noun + verb + comparative adjective + than + noun. For example: - This hotel is more expensive than the last hotel we stayed at. - Reading is more interesting than watching television. Superlative adjectives are used to describe an object which is at the upper or lower limit of a quality. In this pattern: Noun + verb + the + superlative adjective + noun. For example: - That shade of blue is the most beautiful color. - It’s the most difficult part of my job. 3. เทคนคิ วธิ กี ารสอน / รูปแบบการสอน 1. วธิ ีกำรสอนแบบบรรยำย 4. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 6. มุ่งม่ันในกำรทำงำน 7. รักควำมเปน็ ไทย 1. รกั ชำติ ศำสน์ กษัตริย์ 8. มจี ติ สำธำรณะ 2. ซอื่ สัตยส์ ุจรติ 9. เชอ่ื มั่นและกลำ้ แสดงออก 3. มวี ินัย 4. ใฝเ่ รียนรู้ 5. อยูอ่ ย่ำงพอเพยี ง
5. สมรรถนะ 1. ควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด 3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ 4. ควำมสำมำรถในกำรใช้ทกั ษะชีวิต 5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี 6. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) - นกั เรยี นสำมำรถเขำ้ ใจหลกั กำรใช้คำคณุ ศัพท์ทีใ่ ช้ในกำรเปรยี บเทียบข้นั กวำ่ และขั้นสุด ดา้ นทักษะ (Skill) - นกั เรียนสำมำรถบอกประโยคทใี่ ช้คำคุณศัพท์ทใ่ี ชใ้ นกำรเปรียบเทียบขน้ั กว่ำและขั้นสุดได้ ด้านเจตคติ (Attitude) - นักเรียนมีสว่ นร่วมในกำรปฏบิ ตั ิกิจกรรม 7. กระบวนการเรียนรู้ ขน้ั นา 1. ครูใหน้ กั เรียนดูคลปิ วิดโี อเกยี่ วกับ Comparative and superlative จำกน้นั ถามคาถามนกั เรยี น จากการดู วิดีโอเก่ียวกบั Comparative and superlative เพื่อกระตุ้นให้นกั เรียนตอบ ข้นั สอน 2. ครใู ชก้ ิจกรรมเพลง โดยเปิดใหน้ ักเรียนฟัง 1 รอบ จำกนั้นครูอ่ำนออกเสียงคำศพั ท์ให้ฟัง 1 รอบ และให้ นักเรยี นอำ่ นออกเสยี งคำศัพท์ด้วยตวั เอง โดยส่มุ นักเรยี นทลี ะคน พร้อมสังเกตพฤติกรรม 3. ครอู ธบิ ายการหลักใช้ Comparative and superlative of long adjectives และให้นกั เรียนอา่ นคาและ ประโยคเก่ียวกบั Comparative and superlative เชน่ - This hotel is more expensive than the last hotel we stayed at. - Reading is more interesting than watching television. - That shade of blue is the most beautiful color. - It’s the most difficult part of my job. 4. ให้นักเรียนดูภำพและบอกประโยคท่ใี ช้คำคณุ ศพั ทท์ ใี่ ชใ้ นกำรเปรยี บเทียบขน้ั กว่ำและขัน้ สดุ ได้
ข้นั สรปุ 5. ครแู ละนักเรียนรวบรวมความรู้ ทบทวนคาศัพท์และสรุปรว่ มกัน ให้นักเรียนวิเคราะห์โดยให้เลน่ เกมเรยี งคา เปน็ ประโยค Comparative and superlative 8. ส่ือการเรยี นรู้และแหลง่ การเรียนรู้ 1. PowerPoint 2. วดิ โี อ Youtube 3. เพลง Big Bigger Biggest 4. เกมเรียงคำเปน็ ประโยค Wordwall 9. การวัดและประเมนิ ผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารวดั ประเมิน การประเมิน และการประเมิน ดา้ นความรู้ กำรตอบ นกั เรยี นสำมำรถเขำ้ ใจหลักกำร คำถำม แบบสงั เกต คณุ ภำพคะแนนระดับ 2 ขน้ึ ไป ใช้คำคณุ ศัพท์ทใ่ี ช้ในกำร เปรยี บเทยี บขน้ั กว่ำและข้ันสุด กำรตอบ พฤติกรรมกำร ผ่ำนเกณฑ คำถำม ด้านทกั ษะ เรียนรู้ 3 : บอกกำรใช้คำคุณศพั ท์ทใ่ี ชใ้ นกำรเปรยี บเทียบข้นั กวำ่ นกั เรยี นสำมำรถบอกประโยคที่ สงั เกต และขน้ั สดุ ได้ = ดี ใช้คำคณุ ศพั ท์ทใ่ี ช้ในกำร พฤติกรรม เปรียบเทียบขัน้ กวำ่ และข้ันสุด 2 : บอกกำรใช้คำคุณศพั ทท์ ใี่ ชใ้ นกำรเปรยี บเทยี บขั้นกวำ่ ได้ หรอื ขนั้ สุดได้ = พอใช้ ด้านเจตคติ นกั เรียนมีสว่ นร่วมในกำรปฏิบตั ิ 1 : บอกกำรใช้คำคุณศพั ท์ทใ่ี ชใ้ นกำรเปรยี บเทยี บข้ันกว่ำ กจิ กรรม และขน้ั สดุ ไมไ่ ด้ = ปรบั ปรุง เกมเรียงคำ คณุ ภำพคะแนนระดบั 2 ขึ้นไป เป็นประโยค ผำ่ นเกณฑ 3 : บอกประโยคที่ใช้คำคณุ ศัพท์ทใ่ี ชใ้ นกำรเปรียบเทยี บ ขั้นกวำ่ และขน้ั สดุ ได้ 10 ข้อ = ดี 2 : บอกประโยคทใ่ี ช้คำคณุ ศพั ทท์ ใี่ ช้ในกำรเปรียบเทยี บ ขั้นกวำ่ และข้ันสดุ ได้ 4-9 ข้อ = พอใช้ 1 : บอกประโยคที่ใช้คำคณุ ศัพทท์ ใี่ ชใ้ นกำรเปรียบเทียบ ขัน้ กว่ำและขั้นสดุ ได้น้อยกว่ำ 3 ขอ้ = ปรบั ปรุง แบบสงั เกต คณุ ภำพคะแนนระดับ 2 ขึ้นไป พฤติกรรมกำร ผำ่ นเกณฑ เรียนรู้ 3 : มีสว่ นร่วมในกำรปฏิบัตกิ ิจกรรมเป็นอยำ่ งดี = ดี 2 : มสี ่วนรว่ มในกำรปฏบิ ัตกิ จิ กรรมบำงคร้ัง = พอใช้ 1 : ไม่มีสว่ นรว่ มในกำรปฏิบัตกิ ิจกรรมเลย = ปรบั ปรุง
10. ผลของการใช้วิธีสอน พร้อมข้อเสนอแนะ นักเรยี นมีควำมตั้งใจ และสนใจในกิจกรรมท่แี ทรกในกำรสอน ทัง้ วิดโี อ เพลงและเกม นักเรยี นบำงคนอำจยัง ไมใ่ หค้ วำมสนใจกบั เน้ือหำเท่ำทค่ี วร เพรำะเนอ้ื หำอำจใชค้ ำอธิบำยหรือใช้คำทีย่ ำกมำกเกินไปทีน่ ักเรียนจะเข้ำใจ 11. การบนั ทึกหลงั การเรียนการสอนท่ีควรปรับปรงุ กำรใชค้ ำอธบิ ำยทน่ี ักเรียนอำจจะเขำ้ ใจยำก 12. แนวทางปรบั ปรุงแกไ้ ข กระชบั เนอ้ื หำใหม้ คี วำมพอดี ไม่นำนจนเกินไป บำงครง้ั ครูอำจจะช่วยแปลควำมหมำยของคำอธิบำย 00 ................................................................. ................................................................. (ครูภลดา ม่วงศริ ิ) ครปู ระจาวชิ า (นางสาวธวัลรัตน์ แสงรตั น์) นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์วชิ าชีพครู ................................................................. (อาจารยพ์ ัชรพร ศภุ กิจ) อาจารยน์ เิ ทศก์
นเิ ทศครง้ั ที่ 4 วชิ า English Grammar วนั พุธท่ี 15 กนั ยายน พ.ศ. 2564 เวลา 14.00 - 14.40 น. เร่อื ง ทบทวน Comparative and Superlative of long adjectives
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชา English Grammar ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 สปั ดาห์ท่ี 10 หน่วยการเรยี นรู้ ทบทวน Comparative and superlative of long adjectives เวลา 14.00 – 14.40 น. มาตรฐานการเรยี นรู้ ต 1.1 ตวั ช้วี ัด ต 1.1 (ป.4/1, 4/2), ต 1.2 (ป.4/1) ชอ่ื ครผู สู้ อน นางสาวธวลั รตั น์ แสงรัตน์ 1. ผลการเรียนรู้ นักเรียนทบทวนความรู้เรื่อง Comparative and superlative of long adjectives คาคุณศัพท์ที่ใช้ในการ เปรียบเทียบคน, สัตว์, หรือส่ิงของที่มีตั้งแต่ 3 ส่ิงหรือมากกว่าน้ัน เป็นการสรุปทบเรียนและเน้นย้าความรขู้ องนักเรียน ทั้งบทเรียนที่เป็นเนื้อหา กิจกรรมเกม แบบฝึกหัดและแบบทดสอบ เพื่อวัดความรู้ความเข้าใจในบทเรียนและ ทาให้ ผ้เู รยี นสามารถพูดและสอื่ สารใหข้ อ้ มูลได้ 2. สาระการเรียนรู้ / เนอ้ื หา Using comparatives and superlatives to say how people or things are different. A comparative adjective to express how two people or things are different. A superlative adjective to show how one person or thing is different to all the others of its kind. Comparatives and Superlatives are used to compare people, places, or things. Show the table of comparative and superlative of long adjectives. 3. เทคนิควิธีการสอน / รูปแบบการสอน 1. วิธกี ารสอนแบบบรรยาย 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6. มุ่งม่ันในการทางาน 7. รักความเปน็ ไทย 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 8. มจี ติ สาธารณะ 2. ซือ่ สัตย์สุจรติ 9. เชอื่ ม่นั และกล้าแสดงออก 3. มวี นิ ยั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง
5. สมรรถนะ 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ดา้ นความรู้ (Knowledge) - นักเรียนสามารถอธิบายการใช้คาคณุ ศพั ท์ท่ีใช้ในการเปรียบเทียบขั้นกวา่ และข้นั สุด ด้านทกั ษะ (Skill) - นักเรยี นสามารถทาแบบทดสอบการเปรียบเทียบขั้นกว่าและขัน้ สุดได้สาเรจ็ ด้วยตนเอง ด้านเจตคติ (Attitude) - นกั เรียนมีส่วนรว่ มในการปฏิบตั กิ ิจกรรม 7. กระบวนการเรยี นรู้ ขน้ั นา 1. ครูให้นักเรียนดูวิดีโอเพลงเก่ียวกับ Comparative and superlative และให้นักเรียนเล่นเกมเติมคาที่ขาด หายไป Comparative and Superlative Adjectives ขั้นสอน 2. ครูถามคาถามนักเรียน จากการดูวิดีโอเพลงและเล่นเกม เร่ือง Comparative and superlative เพ่ือ กระตุน้ ให้นักเรียนตอบ 3. ครูอธิบายการหลักใช้ Comparative and superlative of long adjectives และแสดงตารางการใช้ Comparative and superlative of long adjectives เพ่ือทบทวนความรู้ 4. ครูยกตวั อยา่ งประโยคใชค้ าคุณศัพทท์ ่ีใช้ในการเปรียบเทียบข้ันกว่าและขั้นสุด และให้นักเรยี นทาแบบฝึกหัด ออนไลนร์ ว่ มกนั ข้ันสรปุ 5. ครูและนักเรียนรวบรวมความรู้และสรุปร่วมกัน ให้นักเรียนวิเคราะห์โดยให้ทาแบบทดสอบ เร่ือง Comparative and superlative of long adjectives ใน Google form
8. สื่อการเรยี นร้แู ละแหล่งการเรยี นรู้ 1. PowerPoint 2. วดิ ีโอเพลง Youtube 3. เกมเติมคาที่หายไป Wordwall 4. แบบฝึกหดั ออนไลน์ 5. แบบทดสอบ ใน Google form 9. การวัดและประเมนิ ผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์การวดั ประเมิน การประเมนิ และการประเมนิ ดา้ นความรู้ การตอบ แบบสงั เกต นกั เรียนสามารถอธบิ ายการใช้ คาถาม พฤติกรรมการ คุณภาพคะแนนระดับ 2 ขึ้นไป คาคุณศพั ท์ที่ใชใ้ นการ ผา่ นเกณฑ เปรียบเทียบข้นั กว่าและขนั้ สุด ทา เรียนรู้ แบบทดสอบ 3 : อธิบายการใชค้ าคุณศัพทท์ ่ใี ชใ้ นการเปรยี บเทียบขั้น ด้านทักษะ แบบทดสอบ กวา่ และข้นั สดุ ได้ = ดี นักเรียนสามารถทา สังเกต ใน Google 2 : อธบิ ายการใชค้ าคุณศพั ท์ทใ่ี ชใ้ นการเปรยี บเทยี บขั้น แบบทดสอบการเปรียบเทยี บ พฤติกรรม กวา่ หรือขนั้ สดุ ได้ = พอใช้ ขน้ั กวา่ และขนั้ สุดได้สาเรจ็ ด้วย form 1 : อธบิ ายการใชค้ าคุณศพั ท์ท่ใี ชใ้ นการเปรยี บเทยี บข้นั ตนเอง กว่าและขั้นสดุ ไม่ได้ = ปรบั ปรุง แบบสงั เกต ดา้ นเจตคติ พฤติกรรมการ คุณภาพคะแนนระดบั 2 ข้นึ ไป นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในการปฏิบตั ิ ผา่ นเกณฑ กิจกรรม เรยี นรู้ 3 : ทาแบบทดสอบการเปรียบเทียบขน้ั กว่าและขั้นสดุ ได้ สาเรจ็ ดว้ ยตนเองได้ 8-10 ขอ้ = ดี 2 : ทาแบบทดสอบการเปรียบเทยี บข้นั กวา่ และขน้ั สดุ ได้ สาเรจ็ ดว้ ยตนเองได้ 5-7 ข้อ = พอใช้ 1 : ทาแบบทดสอบการเปรยี บเทียบขั้นกวา่ และข้ันสดุ ได้ สาเรจ็ ดว้ ยตนเองได้นอ้ ยกวา่ 4 ขอ้ = ปรับปรุง คุณภาพคะแนนระดับ 2 ขน้ึ ไป ผ่านเกณฑ 3 : มสี ว่ นรว่ มในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเปน็ อยา่ งดี = ดี 2 : มีสว่ นร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมบางคร้ัง = พอใช้ 1 : ไม่มสี ่วนรว่ มในการปฏิบัติกจิ กรรมเลย = ปรบั ปรงุ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216