Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Mbu003-หนังสือชนต่างวัฒนธรรม

Mbu003-หนังสือชนต่างวัฒนธรรม

Description: Mbu003-หนังสือชนต่างวัฒนธรรม

Search

Read the Text Version

โครงการหลวง : การแก้ปญั หาและพฒั นาชาวเขาทย่ี งั่ ยนื 199 ปัจจุบัน สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง ได้ทดลองปลูกไม้ผลเมืองหนาว โดยเร่ิมจากการปลูก แอปเปิ้ล และพันธ์ุไมอ้ ื่น ๆ ตามมา วันน้ีดอยอ่างขางมีสีสันของสภาพพื้นท่ี ที่ได้รับการพัฒนา ด้วยการใช้พื้นท่ีอย่างเหมาะสม บางส่วนท่ีเคยโล่งเตียน อันเป็นผลมาจากถูกท�ำลายในอดีต ก็ได้กลับกลายเป็นพ้ืนที่เกษตรกรรม ในส่วนพื้นที่ที่เคยเป็นป่าก็ได้รับการฟื้นฟู ท้ังด้วยการปลูกป่าด้วยไม้โตเร็ว และปล่อยทิ้งพื้นที่ที่เคย เปน็ ป่า ให้เกดิ เปน็ ป่าใหม่โดยวิธีธรรมชาติ สถานเี กษตรหลวงอา่ งขางใชเ้ ป็นสถานทีท่ ดลอง ค้นคว้าวิจยั พืชผลเมอื งหนาวที่สามารถปลกู ได้ดีในพืน้ ที่ ทั้งนเ้ี พื่อน�ำผลการทดลอง คน้ คว้าและวิจัยไปส่งเสรมิ ใหช้ าวไทยภเู ขาในพ้ืนท่ีไปปลูกเพ่อื ทดแทนการปลกู ฝน่ิ เพอ่ื ชาวเขาจะไดต้ ง้ั หลกั แหลง่ ทอี่ ยู่ ในการอนรุ กั ษท์ รพั ยากรปา่ ไมแ้ ละตน้ นำ�้ ลำ� ธาร ผลการวิจัยไปส่งเสรมิ ใหก้ บั เกษตรกร สามารถสง่ ให้ผลผลิตทางด้านการเกษตร ออกส่ตู ลาด ภายใตเ้ ครื่องหมายการค้า “ดอยคำ� ” หลายรปู แบบ การด�ำเนนิ งานคน้ คว้าวจิ ัยได้แบง่ ขน้ั ตอน ดงั น้ี ๑. สำ� รวจหาขอ้ มลู เกย่ี วกบั การทดลองปลกู ไมผ้ ลเขตหนาวตา่ ง ๆ ทนี่ ำ� เขา้ มาและทป่ี ลกู ตาม พ้นื ที่ตา่ ง ๆ บนที่สงู ๒. ดำ� เนินการเก็บขอ้ มลู ทาง อุตุนิยมวทิ ยาในพ้นื ท่ี ๓. นำ� พนั ธ์ุไมเ้ ขตหนาวจากตา่ งประเทศ เขา้ มาทดลองปลูกพรอ้ มการศกึ ษา วิจยั ผลผลิตที่ได้จากการศกึ ษาวิจัย ๑. ไม้ผล มีการศึกษาวิจัยทดลองปลูกบ๊วย ท้อ พลัม แอปเปิ้ล สาล่ี พลับ กีวี นอกจากน้ีมี การทดลองปลูกกาแฟพันธุ์อราบิก้า นัท พันธุ์ต่าง ๆ องุ่นและที่อยู่ในระหว่างการศึกษาพัฒนา ก็คือ ราสเบอรร์ ี่ ๒. ไม้ดอก ศึกษาวิจัยและทดลองปลูกแกลดิโอลัส (ท้ังการใช้พันธุ์ด้วยหัว และด้วยดอก) เยอร์บีร่าพนั ธย์ุ โุ รป สแตติส จบิ โซฟลิ ลา่ คาร์เนชนั่ แอลสโตรมีเรยี ลลิ ่ี ไอรสิ แดฟโฟดิล ฟรีเซีย เป็นตน้ ๓. ผัก ศึกษาวิจัย และทดลองผักนอก และในฤดูกาล เช่น ซุกินี เบบ้ีแครอท กระเทียมต้น หอมญป่ี นุ่ ผักกาดฝร่ัง แรดชิ เฟนเนล เทอร์นพิ เอน็ ไดว์ อะติโช็ค เหด็ มันฝรง่ั ถัว่ แดงหลวง และถ่ัว อน่ื ๆ เพ่อื ผลิตเป็นพนั ธ์ุ

200 ชนต่างวัฒนธรรมในประเทศไทย นอกจากน้ี ยังมีการวิจัยการปลูกลินิน เพ่ือน�ำเมล็ดไปสกัดน้�ำมัน และเอาเส้นใยล�ำต้นไป ทอผ้าลินินงานวิจัยไม้ผล ไม้ดอก และพืชผักเมืองหนาว เป็นงานท่ีจ�ำเป็นจะต้องด�ำเนินต่อไปอย่างไม่ สิ้นสดุ การปลกู พืชเศรษฐกิจบนทส่ี ูงนนั้ ดว้ ยวัตถปุ ระสงค์ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ได้ ๔ ประการ ๑. ปลูกพืชเมืองหนาวทีไ่ มส่ ามารถปลูกท่ีอ่ืนได้ ๒. ปลูกพืชท่ที ำ� ให้ไดค้ ณุ ภาพของผลิตผลและผลประโยชน์ดขี ้นึ ๓. ปลูกพชื นอกฤดู ซึง่ ทำ� ใหจ้ �ำหน่ายไดร้ าคาสูงขึ้น ๔. เป็นการปลกู พืชเพอื่ ผลิตเมลด็ หรอื หัวพนั ธ์ุ งานปลกู ปา่ เพอ่ื ฟืน้ ฟสู ภาพพ้นื ที่ ทแี่ มไ้ ม้ผลปลูกจะท�ำหนา้ ทเ่ี สมือนไมใ้ นป่า ในลกั ษณะต้น ของไมย้ ืนทม่ี รี ะบบรากลกึ ที่สรา้ ง ความชมุ่ ชนื้ ใหผ้ นื ดนิ และกอ่ กำ� เนดิ ตน้ นำ�้ ลำ� ธารกต็ าม แตใ่ นระบบธรรมชาตอิ นั ยาวนาน และยง่ั ยนื นนั้ จ�ำเป็นอย่างยิ่ง ท่ีจะต้องมีการฟื้นฟูสภาพป่าโดยตรงท้ังพ้ืนท่ีป่า ให้พันธุ์ไม้เกิดและเติบโตเองโดย โตธรรมชาติ ซง่ึ ตอ้ งใช้ระยะเวลานานทีเดียว ดงั นนั้ ในพนื้ ทด่ี อยอา่ งขาง จงึ ไดด้ ำ� เนนิ การปลกู ปา่ ดว้ ยอกี ทางหนง่ึ ซงึ่ ในการฟน้ื ฟสู ภาพพนื้ ท่ี น้ัน ด�ำเนินการโดยกรมป่าไม้ ส�ำหรับงานด้านป่าไม้ ของสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จะเป็นการศึกษา ปลกู พนั ธไ์ุ มท้ อ้ งถน่ิ และพนั ธไ์ุ มโ้ ตเรว็ จากตา่ งประเทศ ซงึ่ จะเนน้ การปลกู ปา่ สาธติ ในพน้ื ทร่ี อบ ๆ สถานี พันธุ์ไม้ชนิดใดท่ีได้ผล หน่วยอนุรักษ์ต้นน้�ำก็จะ น�ำไปปลูกป่าในพื้นท่ีต้นล�ำธาร พ.ศ. ๒๕๒๔ ได้เร่ิม ศึกษาพันธุ์ไม้โตเร็วจากต่างประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ไต้หวัน จนถึงปีพ.ศ. ๒๕๓๐ สามารถคัดเลอื กพันธ์ทุ เ่ี หมาะสม ในการปลกู ทีด่ อยอา่ งขาง และพน้ื ทีส่ งู อนื่ ๆ รวม ๕ ชนิดพันธ์ุ คอื ๑. กระถนิ ดอย (Acacia confusa) ๒. เมเปลิ้ หอม (Liquidambar formosana) ๓. การบูร (Cinnamomum camphora) ๔. จนั ทร์ทอง (Fraxinus griffithii) ๕. เพาโลเนีย (Paulownia taiwaniana) สว่ นไมท้ อ้ งถิน่ ทีใ่ ชป้ ลกู เสริม มีไม้ไผ่ ไมก้ อ่ แอปเปล้ิ ปา่ นางพญาเสือโคร่ง เปน็ ไม้ผลัดใบใน ช่วงฤดฝู นใบจะเขียวชะอุ่ม แปลงสาธิตปลกู ป่าประมาณ ๕๐๐ ไร่ ในสถานีจะใชก้ ารปลกู แบบขน้ั บนั ใด เพอ่ื ใหเ้ หมาะสมกับความลาดชันของพน้ื ท่ี ท้งั นเี้ พือ่ ลดการชะล้างของหนา้ ดนิ ปี ๒๕๒๙ ไดส้ ่งเสริมให้ ชาวไทยภูเขา ในหมู่บ้านสมาชิกของสถานี ด�ำเนินการปลูกป่าด้วยต้นไผ่ พญาเสือโคร่ง และไม้โตเร็ว

โครงการหลวง : การแกป้ ัญหาและพฒั นาชาวเขาทีย่ ั่งยืน 201 จากไตห้ วนั ซง่ึ สามารถนำ� มาใชป้ ระโยชน์ ในครวั เรอื น และไดส้ ง่ เสรมิ ใหป้ ลกู ตน้ กระถนิ ดอย ผสมผสาน กับพืชเกษตรอ่ืน ๆ ในพ้ืนท่ีของชาวบ้านการให้ค�ำแนะน�ำแก่ชาวบ้าน เร่ิมด้วยการแนะน�ำให้ชาวบ้าน ปลกู ตน้ ไม้ ในพนื้ ทอ่ี าศยั กอ่ น แลว้ จากนน้ั จงึ ใหป้ ลกู ในพน้ื ทที่ ำ� กนิ ซงึ่ จะมที งั้ พชื ไร่ และไมผ้ ล โครงการ สาธิตปลูกป่าดังกล่าว ในระยะแรกได้ผลดีใน ๒ หมู่บ้าน คือ บ้านนอแล และบ้านขอบด้งส่วนอีก ๔ หมู่บ้าน ไดส้ ่งเสริมใหป้ ลูกเป็นปา่ ระยะตอ่ มาได้มกี ารปลูกไม้ดอกโดยอาศัยรม่ เงา และการบงั ลมจาก ไมใ้ หญ่ ซึ่งชว่ ยเสริมรายไดอ้ ีกทางหนึ่งใหแ้ ก่ชาวบ้าน การปลกู ตน้ ไม้ผสมผสาน กบั การปลกู พืชเกษตร ดังกล่าว ก็คือแนวทางการปฏิบัติตามแนวพระราชด�ำริ เก่ียวกับการอนุรักษ์ดิน โดยใช้วิธีการปลูกพืช ตามระบบธรรมชาติ เชน่ การปลกู ไมใ้ ชส้ อย รวมกบั การปลกู พชื ไร่ ซงึ่ จะชว่ ยใหพ้ ชื อาศยั รม่ เงาของไมใ้ หญ่ และไดร้ บั ความช่มุ ชืน้ จากดินเพิม่ ข้ึน ภาพของไรฝ่ น่ิ ไรเ่ ลอื่ นลอยในอดตี ทเี่ คย สรา้ งความเสยี หายใหแ้ กช่ วี ติ และทรพั ยากรธรรมชาติ ธรรมชาตขิ องประเทศ และชาวบา้ นบนพน้ื ดนิ แหง่ น้ี จงึ ไมไ่ ดท้ ง้ิ รอ่ งรอยใหใ้ ครไดเ้ หน็ อกี แลว้ เพราะใน วันน้ีดอยอ่างขาง ได้กลับฟื้นกลายเป็นผืนแผ่นดินแห่งพืชพันธุ์อันอุดม ชาวบ้านมีบ้านเรือนอาศัยเป็น หลักแหลง่ มที ี่ท�ำกนิ ทีถ่ าวร มอี าชีพและรายไดท้ ีม่ น่ั คง ชาวไทยภูเขา ๖ หมู่บ้าน ประกอบด้วยจีนฮ่อ มูเซอด�ำ ลีซอ ปะหล่อง ประมาณ ๖๐๑ ครวั เรือน ประมาณ ๒,๖๙๗ คน เปน็ สมาชิกท่ีได้รบั การสง่ เสรมิ การท�ำเกษตร จากสถานเี กษตรหลวง อ่างขาง ท่ีมีอาชีพม่ันคง มีรายได้ดีและมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง ท่ีสามารถด�ำเนินชีวิตได้อย่างมี ความสุข ดังเช่น ประชาชนชาวไทยทั่วไปนั้น นอกจากจะเป็นการศึกษาดังวิจัยและทดลองน�ำพืช เมอื งหนาวเพอื่ สนบั สนนุ ไปยงั ศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวง แลว้ ผลจากการศกึ ษาวจิ ยั ดา้ นอน่ื เกษตรกรรม บางประเภท จะนำ� มาสง่ เสรมิ ใหก้ บั ชาวไทยภเู ขาใน พนื้ ทรี่ อบ ๆ สถานที ง้ั ๖ หมบู่ า้ นเรมิ่ ดว้ ยการพฒั นา แหล่งน�ำ้ โดยมกี ารสร้างอา่ งเกบ็ น�ำ้ ที่บา้ นขอบด้ง ๔ อ่าง ซ่งึ สามารถทดน้ำ� ลงมายงั พน้ื ท่ีต�่ำได้ ๒. โครงการหลวงดอยอนิ ทนนท์ ในพนื้ ทซี่ ง่ึ เปน็ หบุ เขาสงู ชนั ทมี่ คี วามลาดชนั ตง้ั แต่ ๑๐-๖๐% สงู จากระดบั นำ�้ ทะเล ๑,๒๖๐- ๑,๔๐๐ เมตร ตั้งอยู่ในเขตต�ำบลบ้านหลวง อ�ำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีแนวเขาทอดตัวไป ในแนวสันปันน�้ำ ที่แบ่งพ้ืนที่ออกเป็นสองทิศทาง โดยทางทิศตะวันออกจะผันน้�ำสู่แม่น้�ำปิง และทิศ ตะวันตกลงสแู่ มน่ ำ�้ แมแ่ จ่ม ราษฎรท่ีอาศัยอยใู่ นพ้ืนทส่ี ว่ นใหญเ่ ป็นชาวไทยภเู ขา เผา่ กะเหร่ียงและเผา่ มง้ เปน็ บางสว่ น ทบ่ี กุ รกุ พนื้ ทป่ี า่ ไมเ้ พอ่ื ทำ� ไรเ่ ลอื่ นลอย ปลกู ขา้ วไร่ ขา้ วโพด และฝน่ิ จนกลายสภาพเปน็ ป่าสภาพเสื่อมโทรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตระหนักถึงภัยคุกคาม ต่อความม่ันคงของ ประเทศ การทำ� ไรเ่ ล่อื นลอย การปลกู ฝนิ่ และการตดั ไม้ทำ� ลายปา่ ทำ� ใหเ้ กิดปัญหาตา่ ง ๆ ตดิ ตามมา ไม่เฉพาะในท้องถิ่นแห่งน้ัน เท่านั้น แต่ยังขยายความเสียหาย ให้แก่บริเวณเกษตรกรรมตอนใต้ลงมา อกี ดว้ ย เพราะการท�ำลายปา่ และต้นน้ำ� ล�ำธาร ส่งผลใหเ้ กิดนำ้� ท่วมตามมา จงึ ทรงมพี ระราชประสงค์ที่

202 ชนต่างวฒั นธรรมในประเทศไทย จะช่วยเหลือชาวเขา ให้มีพ้ืนที่ท�ำกินเป็นหลักแหล่ง ส่งเสริมการปลูกพืชทดแทนฝิ่น ถ่ายทอดวิชา ความรู้ทางด้านการเกษตรแผนใหม่ เพ่ือเพ่ิมผลผลิตทางการเกษตรให้สูงข้ึน ปรับปรุงฐานะความเป็น อยู่ของชาวเขาให้ดีขึ้น ตลอดจนป้องกันการบุกรุกท�ำลายป่าไม้ ต้นน้�ำล�ำธาร โดยให้เกษตรกรหันมา ท�ำการเกษตรแบบถาวร๕ ปี ๒๕๒๒ มูลนิธิโครงการหลวงจึงได้จัดตั้ง “สถานีโครงการหลวงอินทนนท์” ขึ้น บนพื้นท่ี ๑๕๐ ไร่ ในเขตหมบู่ า้ นขนุ กลาง ตำ� บลบา้ นหลวงซง่ึ เปน็ สถานวี จิ ยั อกี แหง่ หนง่ึ ของมลู นธิ โิ ครงการหลวง ทด่ี ำ� เนนิ งานดา้ นการวจิ ยั คน้ ควา้ หาขอ้ มลู เปน็ แนวทางทจี่ ะนำ� เอาผลจากการวจิ ยั นนั้ มาสง่ เสรมิ อาชพี เปน็ รายไดข้ องครอบครวั เกษตรกร ชาวกะเหรย่ี ง และมง้ ในหมบู่ า้ น การพฒั นาปจั จยั พน้ื ฐาน การพฒั นา ทางสงั คมและการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยมวี ตั ถุประสงค์ ๕ ประการดงั น้ี ๑. เพอ่ื จดั ต้งั ถน่ิ ฐานชาวเขาใหเ้ หมาะสม ๒. เพอ่ื ส่งเสรมิ การปลูกพืชทดแทนฝิ่นใหช้ าวเขา ๓. เพอ่ื เพม่ิ รายได้ และปรับปรงุ ความเปน็ อย่ขู องชาวเขา ๔. เพ่ือรกั ษาเอกลกั ษณข์ องชาวเขาใหค้ งอยู่ไว้ ๕. เพอื่ อนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และดดั แปลงใหเ้ ป็นแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วของประเทศ สถานโี ครงการหลวงอินทนนท์ ใหก้ ารส่งเสรมิ และพัฒนาอาชพี การเกษตรแกเ่ กษตรกรชาว เขาเผ่า กะเหรี่ยง ๑๔ หมู่บ้านและม้ง ๒ หมู่บ้านท่ีอยู่ในบริเวณใกล้เคียงรวม ๑๖ หมู่บ้าน ๕๑๐ ครอบครัว ประชากร ๒,๗๙๓ คน ในปลูกพืชทดแทนการปลูกฝิ่นในพื้นที่เพื่อการเกษตร ๓,๕๐๐ ไร่ โดยได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน ในการด�ำเนินกิจกรรมด้านต่าง ๆ เช่น กรมพัฒนาท่ีดิน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมชลประธาน กรมป่าไม้ ส�ำนักเกษตรภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ฯลฯ ลกั ษณะการด�ำเนนิ การ ๑. การวิจัยและส่งเสริมการเกษตร สถานีโครงการหลวงอินทนนท์ ร่วมกับมหาวิทยาลัย เชยี งใหม่ และมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ไดด้ ำ� เนนิ การวจิ ยั ประยกุ ตท์ างการเกษตรกอ่ นนำ� ไปสง่ เสรมิ ใหแ้ ก่ เกษตรกร ได้แก่ ๕ สถานวี จิ ัยโครงการหลวงอินทนนท์ http://www.doikhacom/general/project-plan/reacarch/index-reacarch- center-main.htm เขา้ ถงึ เมอื่ วันที่ ๑๗ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๔๘

โครงการหลวง : การแก้ปัญหาและพฒั นาชาวเขาท่ียงั่ ยนื 203 ๑) โครงการวิจัยสตรอเบอร่ี ๒) โครงการวิจัยไม้ดอกชนิดต่าง ๆ เช่น แกลดิโอลัส เยอร์บีร่า จิปโซฟิลล่า อัลสโตรมีเรีย สแตติส เบญจมาศ ๓) โครงการศึกษาและรวบรวมพนั ธ์อุ งนุ่ ไม่มเี มล็ด ๔) โครงการ ศกึ ษาและรวบรวมพันธุ์ทับทมิ เมล็ดนิม่ ๕) โครงการศกึ ษาพนั ธรุ์ าสเบอร่ี กวี ีฟรตุ ๖) โครงการ ศึกษาและรวบรวมพันธ์เุ ฟินชนดิ ตา่ งๆ ๗) โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการเลี้ยงโคนมพนั ธ์ุแท้บนท่สี ูง ๘) โครงการวจิ ยั กาแฟ ๙) โครงการ วิจัยพชื นำ้� มัน (ลนิ ิน) ๑๐) โครงการวจิ ัยเก๊กฮวย ๑๑) โครงกาารฝรง่ั คัน้ น้ำ� โครงการวจิ ยั เหล่านี้ มุ่งสง่ เสริมใหเ้ กษตรกรทุกคน นำ� เอาผลท่ีไดจ้ ากการวจิ ัย ไปด�ำเนนิ การ ประกอบเปน็ อาชพี หารายได้เลย้ี งตนเองและครอบครัว การส่งเสริม : สถานีโครงการหลวงอนิ ทนนท์ ไดก้ ำ� หนดการปลกู พชื เมอื งหนาวไว้ตามฤดกู าล เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลผลติ ดมี คี ณุ ภาพชว่ งฤดรู อ้ น โดยเฉพาะการสง่ เสรมิ ไมต้ ดั ดอก ซงึ่ ไดม้ กี ารจดั ทำ� แปลงสาธติ ข้ึนภายใน สถานีโครงการหลวงอินทนนท์ และท�ำการฝึกสอน ให้แก่เกษตรกรทุกข้ันตอน ตั้งแต่การ เรม่ิ ปลกู จนกระทง่ั ถงึ วธิ กี ารเกบ็ ผลผลติ และสถานโี ครงการหลวงอนิ ทนนทใ์ หก้ ารสนบั สนนุ ตน้ กลา้ พนั ธ์ุ ให้เกษตรกรปลูกในพ้ืนท่ีทำ� กนิ ของตนเอง พรอ้ มท้งั ป๋ยุ และยาปราบศัตรพู ชื ๒. การพัฒนาสังคมและการศึกษา ปัจจุบันในพื้นท่ีความรับผิดชอบของสถานีฯ มีโรงเรียน ประถมศึกษารวม ๒ แห่ง และมีศูนย์การศึกษาเพ่ือชุมชน ในเขตภูเขาของศูนย์การศึกษาผู้ใหญ่ และเดก็ กอ่ นวยั เรยี น การอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม ในด้านการปลูกป่าเพื่อปรับปรุงต้นน้�ำล�ำธาร หน่วยปรับปรุงต้นน�้ำปิง หน่วยท่ี ๒ และ หน่วยที่ ๔ กรมป่าไม้ ได้ก�ำหนดพ้ืนท่ีป่า และปลูกป่าบริเวณพื้นท่ีสูงชัน ซ่ึงมีพื้นท่ีที่เหมาะสมต่อการ เปน็ แหล่งตน้ น�ำ้ ล�ำธาร รวมพ้ืนท่ปี ระมาณ ๕,๑๘๕ ไร่ พรอ้ มกับปลูกไมโ้ ตเรว็ ในบรเิ วณที่กอ่ สร้างฝาย เก็บน�ำ้ ตามแนวพระราชด�ำริ เพ่อื เพ่ิมความชุม่ ช้นื บริเวณรอบน�้ำตกสิรภิ ูมิ ทั้ง ๘ แหง่

204 ชนต่างวฒั นธรรมในประเทศไทย การพฒั นาปจั จยั พน้ื ฐาน และการสง่ เสรมิ อาชพี ใหแ้ กร่ าษฎรชาวไทยภเู ขา ของสถานโี ครงการ หลวงอินทนนท์ ได้มีส่วนช่วยชาวเขาให้มีรายได้ท่ีมั่นคง สามารถประกอบอาชีพสุจริต และต้ังถ่ินฐาน ได้อย่างถาวรเลิกปลูกฝิ่น พร้อมกับได้ปรับปรุง และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม พัฒนาท้องถ่ินของตนเอง และรกั ษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของชาวเขา ใหค้ งอยดู่ งั เชน่ อดตี กาล ดงั นน้ั นอกจากนกั ทอ่ งเทย่ี วทเ่ี พม่ิ มากขน้ึ ในแตล่ ะปี จะไดช้ น่ื ชมกบั ธรรมชาติ และความงดงาม บนดอยทสี่ งู ทส่ี ดุ ในประเทศไทย ณ อทุ ยานแหง่ ชาตดิ อยอนิ ทนนท์ แลว้ กม็ โี อกาสทจี่ ะไดเ้ ขา้ ชมกจิ กรรม ต่าง ๆ ของสถานโี ครงการหลวงอินทนนท์ และศกึ ษาชวี ติ ขนบธรรมเนียมประเพณขี องชาวไทยภูเขา ท่สี บื ทอดกันมาจาก บรรพชนในหมูบ่ า้ นบริวารของสถานโี ครงการหลวงอินทนนทไ์ ปพรอ้ มๆ กันด้วย ๓. สถานีเกษตรหลวงปางดะ ในปี ๒๕๒๒ มูลนิธิโครงการหลวง ได้เลอื กพ้ืนท่ีในสถานีทดลองขา้ วไร่ และธญั พชื เมอื งหนาว สะเมิง ของ กรมวิชาการเกษตร หมู่บ้านปางดะ ต�ำบลสะเมิงใต้ อ�ำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ เปน็ แหลง่ ทำ� การขยายพนั ธพ์ุ ชื เมอื่ ปรมิ าณความตอ้ งการดา้ นพชื เพมิ่ มากขน้ึ ทำ� ใหส้ ถานแี หง่ นที้ ำ� การ ผลิตต้นพันธุ์ได้ไม่เพียงพอ มูลนิธิโครงการหลวงจึงเปิดสถานท่ีแห่งใหม่ บนพ้ืนที่ประมาณ ๒๕ ไร่ ตดิ อา่ งเกบ็ นำ้� โครงการพระราชดำ� ริ หว้ ยปลากา้ ง ไมไ่ กลจากบรเิ วณเดมิ มากนกั ซง่ึ สรา้ งเสรจ็ ในปี ๒๕๒๖ และในปี ๒๕๒๘-๒๕๒๙ ได้ซ้ือท่ีดินเพิ่มขยายพื้นที่ ส�ำหรับการขยายพันธุ์พืชอย่างถาวรเพิ่มข้ึนอีก ประมาณ ๖๕ ไร่ โดยด�ำเนนิ งานภายใตช้ ่ือ “ศนู ยข์ ยายพนั ธุ์พืชปางดะโครงการหลวง” ๑๒ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๓๐ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ไดเ้ สดจ็ พระราชดำ� เนนิ พรอ้ มดว้ ย สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ ทรงเยย่ี มศนู ยข์ ยายพนั ธพ์ุ ชื ปางดะ โครงการหลวงแหง่ น้ี เปน็ ครง้ั แรก โดยทอด พระเนตรกิจการต่าง ๆ ของศูนย์ขยายพันธุ์พืชปางดะ โครงการหลวง และในวโรกาสนี้หม่อมเจ้า ภคี เดช รชั นี องคป์ ระธานมลู นธิ โิ ครงการหลวง ไดท้ ลู ขอพระราชทานชอื่ ใหมว่ า่ “สถานเี กษตรปางดะ” ซ่ึงพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ไดท้ รงพระกรณุ าพระราชทานให้ใช้ชอื่ น้ี พร้อมกบั ไดข้ ยายพื้นทีเ่ พิม่ เติมรวมประมาณ ๑๕๐ ไรใ่ นปีเดียวกัน สถานเี กษตรหลวงปางดะ จัดตัง้ ขน้ึ ด้วยวตั ถุประสงค์ ๖ ประการ คอื ๑. เพอ่ื ผลติ ตน้ พนั ธ์ุไมผ้ ลไม้ดอกเขตหนาว และเมลด็ พันธ์ุพชื ผกั ส�ำหรับใช้ในการสง่ เสรมิ ให้ ชาวเขาปลกู ทดแทนฝน่ิ และเพ่อื ให้เกดิ การฟนื้ ฟทู างด้านตน้ น�้ำ ล�ำธารและนิเวศ บนทสี่ ูง ๒. เพ่ือสนับสนนุ งานขยายพนั ธุ์พืชอนื่ ๆ ท่จี ะสง่ เสริมใหป้ ลกู บนทส่ี ูง เช่น การผลิตตน้ พนั ธ์ุ ปลอดโรคของมันฝรงั่ สตรอเบอรี่ และไพรธี รัม เป็นการทำ� งานดา้ นการใช้เทคโนโลยีที่กา้ วหนา้ ๓. เพ่ือคน้ ควา้ ทดลองเรอื่ งการขยายพันธุ์พืชเขตหนาว และเขตกง่ึ รอ้ นใหไ้ ด้ผลดยี ่งิ ขึ้น

โครงการหลวง : การแก้ปัญหาและพฒั นาชาวเขาทยี่ ัง่ ยนื 205 ๔. เพือ่ ให้เปน็ สถานที่ฝกึ งานในเรื่องการขยายพันธุพ์ ืช และงานในด้านการเล้ยี งดพู ืช ๕. เพือ่ สนบั สนนุ และชกั จงู ให้เกษตรกรในอำ� เภอสะเมิง ท�ำการผลติ ต้นพืชสำ� หรับท่สี ูง ใหม้ ี คณุ ภาพมาตรฐาน ถงึ ขนั้ จะเปน็ พนั ธพ์ุ ชื รับรอง ๖. เพ่ือให้เป็นศูนย์ขยายพันธุ์พืชตัวอย่าง ส�ำหรับเรือนเพาะช�ำต่าง ๆ ในประเทศ และเพ่ือ เปน็ การเปิดธุรกจิ ให้ถงึ ระดับมาตรฐานสากล พันธุ์ไม้ผลที่สถานีเกษตรหลวงปางดะแจกจ่าย เพ่ือการส่งเสริมให้มูลนิธิโครงการหลวง และจ�ำหน่ายท่ัวไปได้แก่ แอปเปิ้ล สาลี่ ท้อ พลับ บ๊วย ทัมทิม อโวคาโด กาแฟ สตรอเบอรี่ ตังกุย พลมั ไพรีธรมั หนอ่ ไม้ฝร่ัง และกหุ ลาบ การผลติ ผกั นอกระบบโควตา้ เกง็ กำ� ไรและเพ่ือการผลติ ผัก พรอ้ มการทดลองสภาพแวดลอ้ ม ของพืชที่ผลิต ซึ่งได้แก่ แตงกวาญี่ปุ่น แคนตาลูป หน่อไม้ฝรั่ง พริกยักษ์เขียว มะระเขียว มะระขาว เฟนเนล บตั เตอรเ์ ฮดแดง สลดั แดง หอมญ่ีปุน่ แครอท บรอ๊ คโคลี่ เซเลอรี่ ปวยเหล็ง เทอรน์ พิ และผกั สวนครวั การอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดล้อม สถานเี กษตรหลวงปางดะ ไดด้ ำ� เนนิ งานขยายพนั ธพ์ุ ชื และสง่ เสรมิ ชพี ใหแ้ กเ่ กษตรกร ชาวไทย ภูเขาในพ้ืนท่ี ควบคกู่ บั การอนุรักษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม ด้วยหลักการดงั นี้ ๑. สง่ เสรมิ ให้เกษตรกร ปลูกป่าตามโครงการปลูกป่าชาวบ้าน ๒. ส่งเสรมิ ให้เกษตรกรปลูกหญา้ แฝก เพ่ือป้องกนั การพงั ทลายของดินในพื้นที่สงู โดยไดด้ �ำเนนิ การปลกู ป่า ภายในพนื้ ท่ขี องสถานเี กษตรหลวงปางดะ บริเวณเหนอื อา่ งเก็บน้�ำ และพ้ืนท่ีลาดชันประมาณ ๓๐ ไร่ ซ่ึงไม้ที่ปลูกมีทั้งไม้ป่า และไม้โตเร็ว ได้แก่ เพาโลเนีย มะเยาว์ จนั ทรท์ อง เมเปิ้ล และไผ่หมาจู๋ ๔. สถานวี จิ ยั และสง่ เสรมิ กาแฟอราบกิ า้ แม่หลอด ศูนย์วิจัยและส่งเสริมกาแฟอราบิก้าแม่หลอด เป็นสถานีวิจัยหลักอีกแห่งหน่ึง ของมูลนิธิ โครงการหลวงท่ีตั้งข้ึนเมื่อปี ๒๕๑๗ บนพ้ืนที่ ๕๐ ไร่ ในเขตหมู่บ้านแม่หลอด ต�ำบลสบเปิง อ�ำเภอ แม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี ๒๕๑๗ ครอบคลุมพื้นท่ีโครงการรวม ๑๐๐ ไร่ และพื้นท่ีส่วนใหญ่ มีลักษณะเป็นภูเขาสลับกับท่ีราบระหว่างหุบเขา มีหมู่บ้านในเขตรับผิดชอบจ�ำนวน ๒ หมู่บ้านคือ หมู่บ้านแม่หลอดเหนือ เป็นท่ีอยู่อาศัยของชาวพ้ืนเมือง และหมู่บ้านแม่หลอดใต้ ราษฎรท่ีอาศัยเป็น

206 ชนตา่ งวัฒนธรรมในประเทศไทย ชาวเขาเผ่ากะเหร่ียง รวมประชากรทั้งสิ้น ๗๒ ครอบครัว ซ่ึงพ้ืนท่ีแห่งนี้เป็นแหล่งปลูกกาแฟพันธุ์ พื้นเมือง ชื่อพันธุ์แม่หลอด ท่ีเกิดโรคราสนิมระบาดมาก นอกจากนี้ราษฎรยังมีอาชีพ ท�ำนา ท�ำไร่ สวนเม่ียง ปลูกผัก และรบั จ้างเก็บเม่ียงหรอื จักตอก ชวี ติ ความเปน็ อยคู่ ่อนข้างยากจน๖ ศนู ยว์ จิ ยั และสง่ เสรมิ กาแฟอราบกิ า้ แมห่ ลอด ดำ� เนนิ งาน โดยกรมวชิ าการเกษตร ซงึ่ ไดพ้ ฒั นา พน้ื ทใี่ ห้เกษตรกร ด้วยการปรับพื้นทเ่ี ปน็ ขัน้ บนั ได และจดั สรา้ งระบบน�้ำ ซงึ่ กระทรวงเกษตร ประเทศ สหรัฐอเมริกา ใหก้ ารสนบั สนุน ผา่ นมลู นิธิโครงการหลวง โดยได้น�ำกาแฟอราบิก้า สายพันธุ์ลูกผสมช่วงที่ ๒ จ�ำนวน ๒๘ สายพันธุ์ ท่ีเช่ือว่าสามารถ ตา้ นทานตอ่ โรคราสนมิ ไปปลกู ในระยะแรก และนกั วชิ าการจากกรมวชิ าการเกษตร ไดท้ ำ� การวจิ ยั ขยาย พนั ธก์ุ าแฟทเ่ี หมาะสม และตา้ นทานตอ่ โรคราสนมิ พรอ้ มๆ กบั การศกึ ษาเกย่ี วกบั แมลงศตั รกู าแฟ ควบคู่ กันไปด้วย เนื่องจากกาแฟในช่วงนั้นมีราคาสูง การขยายพันธุ์ไม่เพียงพอต่อความต้องการ จนกระทั่ว ถึงปี ๒๕๒๓ การสนับสนุนจากกระทรวงเกษตร ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ส้ินสุดลงตามข้อตกลง กรมวิชาการเกษตรขาดงบประมาณ ในการด�ำเนินงาน ศูนย์วิจัยและส่งเสริมกาแฟอราบิก้าแม่หลอด จึงอยูใ่ นความดแู ลของมูลนิธิโครงการหลวง ต้งั แตป่ ี ๒๕๒๗ เปน็ ต้นมา ศูนย์วิจัยและส่งเสริมกาแฟอราบิก้าแม่หลอด ด�ำเนินงานส่งเสริม ในระยะแรก ด้านการแบ่ง พนื้ ทใ่ี หเ้ กษตรกรทำ� กนิ ตามความสามารถ โดยการสง่ เสรมิ ใหป้ ลกู พชื ผกั หมนุ เวยี น ใหเ้ ฉพาะเกษตรกร ทมี่ คี วามสนใจ ในลกั ษณะคอ่ ยเปน็ คอ่ ยไป จนกระทง่ั เกษตรกรในหมบู่ า้ นแมท่ าเหนอื และแมท่ าใตเ้ กดิ การยอมรบั และใหค้ วามรว่ มมือดว้ ยดีในทีส่ ดุ การอนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อม ส�ำหรับงานด้านการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตินั้น ได้มีการก�ำหนดเขต ห้ามราษฎรบุกรุก เข้าไปในพื้นท่ีป่า เหนือท่อส่งน้�ำจากฝายกั้นน�้ำขึ้นไป ส่งเสริมการอนุรักษ์ดิน และน�้ำด้วยการปลูก หญ้าแฝก และร่วมกับสถาบันแมคเคน จังหวัดเชียงใหม่ ส่งเสริมเรื่องการอนุรักษ์ดิน ด้วยการปลูก มะแฮะตามแนวคนั ดนิ เพอ่ื กนั ดนิ พงั ทลาย ตลอดจนรว่ มมอื กบั หนว่ ยอนรุ กั ษต์ น้ นำ้� กรมปา่ ไม้ สง่ เสรมิ การปลกู ไมใ้ ช้สอย เช่น กระถินเทพา และการปลูกป่าดว้ ยตน้ สักทอง เป็นตัวอยา่ งใหแ้ ก่ราษฎร โดยให้ ราษฎรชว่ ยกนั ดแู ลรักษา และรว่ มกัน อนรุ ักษไ์ ว้ ๖ สถานีวิจัยและส่งเสริมกาแฟอราบิกาhttp://www.doikhacom/general/project-plan/reacarch/index- reacarch-center-main.htm เขา้ ถงึ เม่ือวันที่ ๑๗ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๔๘

โครงการหลวง : การแกป้ ญั หาและพัฒนาชาวเขาท่ียง่ั ยืน 207 การแปรรปู ผลผลติ การเกษตร งานส�ำคญั อกี เรอื่ งหนง่ึ ทีโ่ ครงการฯ ได้เปน็ ผ้รู เิ ร่มิ ขนึ้ คือการตง้ั โรงงานหลวงอาหารส�ำเรจ็ รูป ซึ่งจะรับผลผลิตบางอย่าง ผลผลิตท่ีมีมากเกินไป หรือผลผลิตที่ไม่ได้ ขนาดส�ำหรับการ ขายสดน�ำมา แปรรูป เพื่อจัดจ�ำหน่ายต่อไป ท�ำให้เกษตรกรชาวเขา ได้รับรายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ขึ้นจากผลผลิต ของคน อีกท้ังโรงงานนี้ จะเปน็ โรงงานทีค่ อย พยุงราคาพชื ผลปอ้ งกนั การเอารัดเอาเปรียบ จากโรงงาน อนื่ อกี ดว้ ย ในคร้งั แรกทางโครงการฯ ไดต้ ้ังโรงงานแปรรูปขึ้นท่ี มหาวิทยาลยั เชียงใหม่ เป็นเชงิ งานวจิ ัย ไปด้วยในตัว และต่อมาได้ตัง้ โรงงาน ขนาดธุรกิจข้ันอกี ๒ โรง คือทอี่ ำ� เภอฝาง จังหวดั เชียงใหม่ และที่ อำ� เภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย๗ ในระยะเวลาใกล้เคียง กับการด�ำเนิน โครงการอาหารส�ำเร็จ รูปในพระบรมราชานุเคราะห์ ในปีพ.ศ. ๒๕๑๖ ท่ีหมู่บ้านยาง อ�ำเภอฝาง ม.จ. ภีศเดช รัชนี ทรงเป็นผู้ควบคุม และศาสตราจารย์ อมร ภูมิรตั น เปน็ ผ้ดู ำ� เนินการจัดตั้ง โครงการอาหารส�ำเรจ็ รปู ในพระบรมราชานเุ คราะห์ อกี แห่งหนึ่ง ทห่ี มูบ่ า้ นป่าห้า ต�ำบลปา่ ซาง อำ� เภอแม่จนั จังหวดั เชียงราย เม่ือวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ โดยให้ เปน็ หนว่ ยรบั ซ้อื ผลติ ผลทางเกษตรจากหมบู่ ้าน ชาวเขา เช่น หมบู่ า้ นแม้ว กระเหรยี่ ง มเู ซอ อกี ้อ เยา้ ซง่ึ ไดร้ บั การสง่ เสรมิ ทางเกษตร ใหป้ ลกู ผกั ผลไม้ ถว่ั เพอ่ื ขจดั ปญั หาการสญู เสยี ของผลผลติ ทางการเกษตร และการถกู กดราคาจาก พอ่ ค้าคนกลาง โรงงานหลวงฯ แม่จัน ได้เปิดการทำ� การทดลอง ผลิตขา้ วโพด ฝกั ออ่ น นำ้� นมถว่ั เหลอื ง เมอ่ื วนั ท่ี ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๗ ไดร้ บั พระราชทานทนุ ทรพั ยส์ ว่ นพระองค์ ๑๐๐,๐๐๐ บาท เพ่อื เปน็ ทุนหมุนเวยี น ของโรงงานฯ และได้ ทลู นอ้ มเกลา้ ถวายโรงงาน เม่ือวนั ท่ี ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มิได้เพียงพระราชทานโรงงานหลวงอาหารส�ำเร็จรูปเท่านั้น ยังได้พระราชทานส�ำนักงานสหกรณ์การเกษตร เพื่อเป็นท่ีจ�ำหน่ายปุ๋ย สารเคมี เคร่ืองอุปโภค และอปุ กรณ์การเกษตร เพ่ือเกษตรกรทง้ั ชาวบ้าน ชาวเขา ไดใ้ ช้ของราคาถกู และรู้จักการด�ำเนินการ แบบสหกรณ์ พระราชทานศูนย์โภชนาการเด็ก เพ่อื เด็กทจ่ี ะเตบิ โต ในภายหนา้ ได้กินอาหารที่ ถกู หลัก โภชนาการ และเตบิ โตเปน็ ประชาชน ทส่ี มบรู ณท์ ง้ั กำ� ลงั กาย และสมอง และพระราชทานสถานอี นามยั ชน้ั สองเพอ่ื ใหช้ าวบา้ นไดร้ บั การแนะนำ� ในดา้ นสขุ ภาพอนามยั ไดร้ จู้ กั ปอ้ งกนั และระวงั ตวั ในเรอ่ื งการ เจ็บป่วย และรับการรักษาพยาบาลในขั้นต้น โครงการน้ีได้รับพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์มา ดำ� เนนิ การ และดว้ ยพระบารมเี ปน็ ทย่ี ง่ิ ไดม้ ปี ระชาชน บรษิ ทั รฐั บาลตา่ งประเทศ โดยเสดจ็ พระราชกศุ ล ถวายเงนิ ทด่ี นิ เครอื่ งจกั รอปุ กรณ์ และสงิ่ ปลกู สรา้ ง นอกเหนอื จากการเปน็ หนว่ ย รบั ซอ้ื ผลติ ผลเกษตร ๗ การก่อตั้งโรงงานอาหารสำ�เร็จรูป http://www.doikham.com/general/history/decade๒/index-build- factory.htm. เข้าถึงเมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๘

208 ชนตา่ งวัฒนธรรมในประเทศไทย ชาวเขา แลว้ ต่อมาโรงงานหลวงฯ ที่อ�ำเภอแม่จัน ได้สง่ เสรมิ การปลูกพชื ในระบบเกษตรอตุ สาหกรรม เชน่ เดยี วกบั โรงงานหลวงฯ ทอ่ี ำ� เภอฝาง โรงงานหลวงฯ แหง่ นร้ี บั ซอ้ื ผลผลติ สว่ นใหญจ่ ากอำ� เภอแมจ่ นั อ�ำเภอแม่สาย อำ� เภอเชียงแสน และอำ� เภอเมือง ในจงั หวดั เชียงราย การดำ� เนนิ การดา้ นการตลาด นอกจากจะน�ำเอาผลงานวิจัย มาขยายผลให้เกษตรกร ชาวเขาปฏบิ ัติเป็นการคา้ อยา่ งได้ผล แลว้ โครงการฯ ยังไดด้ แู ลเรื่องการขายพชื ผล ใหอ้ ีกด้วย ท้งั นเ้ี พราะในระยะเร่ิมแรก ชาวเขาไม่มีความ สามารถท่ี จะขยายผลิตผลของตน อย่างมีประสิทธิภาพได้ นอกจากน้ันถนนหนทาง ท่ีจะล�ำเลียงพืช ผลสตู่ ลาดกอ็ ยู่ ในสภาพทรุ กนั ดารเปน็ อยา่ งย่ิง บางแห่งต้อง ใช้คนแบกหาม หรือใช้ม้าต่าง ๆ ก่อนท่ี จะมาถึงศูนย์ฯ ซึ่งเป็นท่ีรวบรวมผลผลิต การท่ีชาวเขาจะน�ำพืชผล ไปขายเองในเมือง จึงเป็น เร่ืองท่ี ทำ� ได้ยากยง่ิ ในระยะแรกโครงการฯ ได้อาศัยเอกชนเป็นผู้จัดการจ�ำหน่าย แต่ในที่สุดก็ได้พบว่าวิธีการนั้น ไม่คอ่ ยจะได้ผล เมอื่ ปี พ.ศ. ๒๕๒๖ โครงการฯ จงึ ไดข้ อความรว่ มมอื มายงั หาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ เพื่อขอใช้ที่ดินในบริเวณแปลง ๑ ของภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร เพ่ือก่อต้ังหน่วยตลาดของ โครงการฯ ขึ้น ซึ่งทางมหาวิทยาลัย ก็ได้ให้ความอนุเคราะห์ เป็นอย่างดีเช่นเคยหน่วยตลาดของ โครงการฯ จึงเกิดข้ึนมาภายใต้ การควบคุมดูแลของงานเกษตรท่ีสูงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และภายในเวลาเพยี งประมาณ ๒๘ เดอื น งานด้านการตลาดนี้กไ็ ด้ประสบผลส�ำเร็จเปน็ ทนี่ า่ พอใจ๘ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้น�ำผลิตผลออกสู่ตลาด ส�ำคัญต่าง ๆ เช่น ซุปเปอร์มาเก็ต โรงแรม ร้านอาหาร ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ ของราชการ ธนาคาร ฯลฯ นอกจากน้ันยังได้พยายามท�ำการ จำ� หนา่ ยผลติ ผลตา่ ง เปน็ รายการพเิ ศษอยเู่ สมอ เชน่ การออกรา้ นตามหา้ งสรรพสนิ คา้ การออกรา้ นใน งานต่าง ๆ ประจ�ำปี เป็นต้น ผู้ท่ีควบคุมอยู่อย่างใกล้ชิดคือ นายสืบศักด์ิ นวจินดา ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร และผทู้ ี่ใหค้ �ำแนะน�ำอยู่เสมอก็คอื รศ.ดร.อภสิ ิทธิ์ อสิ ริยานุกลู คณะเศรษฐศาสตร์ นอกจากนนั้ คณะทำ� งานทางดา้ น กจิ กรรมหลงั การเกบ็ เกยี่ ว และอาจารยท์ เ่ี กยี่ วขอ้ งอกี หลาย ท่านก็ได้ ให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอ เพ่ือให้ผลิตผลของโครงการฯ ซึ่งจ�ำหน่ายภายใต้ชื่อ “ดอยค�ำ” มีคณุ ภาพดขี นึ้ ใหเ้ ป็น ทเี่ ชอื่ ถือแก่ผบู้ รโิ ภคมากยง่ิ ขึน้ ในขณะน้กี ารตลาดของโครงการฯ ไดก้ า้ วหนา้ ไป มากถึงขนาดท่ี มีความสามารถในการจัด การส่งออกไดบ้ ้างแลว้ เชน่ สตรอเบอรี และผกั สด ซง่ึ ส่งไป ยังสิงคโปร์ และญปี่ ุ่น และไมด้ อกไม้ประดบั แห้ง ส่งไปยงั สาธารณรฐั จีน เป็นต้น ๘ กำ�เนดิ ฝ่ายการตลาด http://www.doikham.com/general/history/decace๒/index-born-sale.htm. เข้าถงึ เมื่อ วนั ที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๘

โครงการหลวง : การแก้ปญั หาและพฒั นาชาวเขาทย่ี ั่งยืน 209 ในการรวบรวมผลผลิต และขนส่งผลผลิตไปสู่ ตลาดท่ีเชียงใหม่ และกรุงเทพฯ น้ัน โครงการฯ ได้เริ่มงานการจัดการหลัง การเก็บเกี่ยวข้ึน ซ่ึงถือว่า เป็นงานที่ส�ำคัญมาก พืชผลแต่ละชนิดต้องผ่าน การวิจยั อยา่ งถถี่ ว้ น วา่ จะต้องไดร้ บั การจดั การ อย่างไรจงึ จะสญู เสยี น้อยที่สุด ในระหว่างที่เกบ็ เกยี่ ว แลว้ ไปจนถงึ การวางขายในทอ้ งตลาด นอกจากนนั้ ยงั ไดท้ ำ� การทดลอง เรอ่ื งวสั ดุ และภาชนะ บรรจพุ ชื ผลต่าง ๆ ส�ำหรับการขนส่ง และส�ำหรับการจ�ำหน่ายอีกด้วย มีการพัฒนางานด้านคัดบรรจุ และ ผลิตภัณฑ์อันได้แก่ ผัก ดอกไม้ ผลิตภัณฑ์แห้ง และเคร่ืองกระป๋อง ซ่ึงนับวันจะทวีมากขึ้นตามล�ำดับ ด้วยการให้มีการตรวจ สอบคุณภาพผลิตผลแต่ละชนิดตาม หลักวิชาการให้เป็นมาตรฐานสากล มากข้ึนโดยใช้พ้ืนฐานการก�ำหนดมาตรฐานของ Codex ซ่ึงเป็นมาตรฐานเป็นที่ยอมรับกันท่ัวโลก ปัจจุบันแบ่งเป็น ๒ งาน คือ งานคัดบรรจุ และงานวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว ท�ำหน้าที่วิจัยผลผลิต เพื่อการส่งออก ให้มีคุณภาพทัดเทียมต่างประเทศ มีรถห้องเย็นควบคุมคุณภาพของ ผลผลิตให้ดีอยู่ เสมอมีสถานทที่ ำ� งาน ถาวรแล้วในบรเิ วณมหาวทิ ยาลัย เชยี งใหม่ การเผยแพร่ผลงานและผลิตภัณฑ์ โครงการฯ ยังมีอีกวิธีหน่ึง คือ การ เปิดร้านค้าจ�ำหน่าย ผลติ ภณั ฑ์ ของโครงการ ในกรงุ เทพมหานครเรยี กชอื่ วา่ “รา้ น ศาลาโครงการหลวง” ปจั จบุ นั มอี ยู่ ๔ แหง่ คือ ที่ตลาด อ.ต.ก. ทมี่ หาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ทศี่ นู ยก์ ารคา้ ดโิ อลดส์ ยาม วังบรู พา และที่ การไฟฟา้ ส่วนภูมิภาค ส่วนท่จี งั หวดั เชยี งใหม่ เรยี กชอื่ วา่ “ร้าน ดอยคำ� โครงการหลวง” ปจั จุบนั มี ๓ แหง่ คอื ทสี่ นามบนิ เชยี งใหม่ ทเี่ ชยี งอนิ ทรพ์ ลาซา่ และทบ่ี รเิ วณคณะเกษตร มหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่ อกี ประการหน่ึงที่มีผู้นิยมกันมากก็คือ การเปิดให้ชมสถานที่ของโครงการฯ ซ่ึงเป็นท่ีปฏิบัติงานจริงของ สถานวี จิ ยั และศนู ยส์ ง่ เสรมิ สถานทที่ เี่ ปดิ ใหเ้ ขา้ ชมได้ คอื สถานเี กษตรหลวงอา่ งขาง อ.ฝาง จ.เชยี งใหม่ สถานวี จิ ยั โครงการหลวงอนิ ทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชยี งใหม่ ศนู ยพ์ ฒั นาโครงการหลวงหนองหอย อ.แมร่ นิ จ.เชียงใหม่ ศนู ย์พฒั นาโครงการหลวงห้วยลึก อ.เชียงดาว จ.เชยี งใหม่ และสวนกหุ ลาบโครงการหลวง หว้ ยผักไผ่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ การกอ่ ตงั้ มูลนธิ โิ ครงการหลวง เมือ่ ตน้ ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว โปรดเกลา้ ฯ ให้เปลย่ี นสถานะภาพของ โครงการฯ มาเป็นมูลนิธิ เรียกว่า “มูลนิธิ โครงการหลวง” และพระราชทานเงินก้นถุง เพ่ือใช้เป็น ทรพั ยส์ นิ เรมิ่ แรก จำ� นวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท เพอ่ื จะไดเ้ ปน็ องคก์ รนติ บิ คุ คล มกี ฎหมายรองรบั และดำ� เนนิ งานด้วยความมั่นคง เป็นปึกแผ่นสืบไป นับเป็นก้าวใหม่ของโครงการฯ ที่ก้าวขึ้นเป็นองค์กรเพ่ือ สาธารณะประโยชน์ ทถี่ าวรมรี ะบบงานทแี่ นน่ อน คลอ่ งตวั และมปี ระสทิ ธภิ าพมากยง่ิ ขน้ึ เพอื่ ความรว่ ม มอื และการประสานงาน กบั ส่วนราชการและเอกชนตา่ ง ๆ ในรปู แบบทเี่ ปน็ เอกลกั ษณะ ของการริเร่มิ งานวจิ ยั ใหม่ ๆ ทไ่ี ปสกู่ ารพฒั นาและการผลติ ทแ่ี นน่ อนมตี ลาดรองรบั รวมทง้ั โครงการนำ� รอ่ ง และการ

210 ชนต่างวฒั นธรรมในประเทศไทย ถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ท่ีส�ำคญั แก่การพฒั นาในท่สี งู การสร้างมลู ค่าเพิม่ กับผลติ ผล และผลิตภัณฑ์ ของโครงการฯ โดยมกี ารอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม และรกั ษาสภาพตน้ นำ�้ ลำ� ธาร ทส่ี ำ� คญั ๆ ของประเทศเอาไว้ ความส�ำเรจ็ ของโครงการหลวง การก้าวไปข้างหน้าของโครงการหลวง น้นั มคี วามมนั่ คงในระดับหน่งึ เมื่อโปรดเกล้าฯ ให้เปน็ มลู นิธโิ ครงการหลวง และรัฐบาลได้ก�ำหนดงบประมาณ มาเพ่อื สนบั สนุนการปฏบิ ัติงาน ของโครงการ หลวง สง่ิ ทพ่ี งึ ปฏิบัตแิ ละสรา้ งฐาน ให้มัน่ คงในฐานะมูลนธิ โิ ครงการหลวงกค็ อื ๙ ๑. รกั ษาแนวทางปฏบิ ตั ติ ามวตั ถปุ ระสงคเ์ ดมิ ทงั้ ๕ ขอ้ ซง่ึ ถอื วา่ ปฏบิ ตั จิ นประสบความสำ� เรจ็ มาไดร้ ะดบั หนงึ่ และคงตอ้ งปฏบิ ตั ติ อ่ ไป เพยี งแตป่ รบั ใหเ้ ขา้ กบั สถานการณ์ และสถานทตี่ า่ ง ๆ บนพนื้ ที่ สงู ตลอดจนประเภทของเผ่าต่าง ๆ ของชาวเขาบนพนื้ ที่สูง ๒. การก�ำหนดรปู แบบของโครงการหลวง ๒.๑ รปู แบบของหมบู่ า้ นโครงการหลวงการพฒั นาหมบู่ า้ นในเขตโครงการหลวง มคี วามแตก ต่างกับหมู่บ้านในที่อ่ืน ๆ เนื่องจากว่า หมู่บ้านเหล่านี้อยู่ ในเขตต้นน้�ำล�ำธาร (Watershed) ทั้งส้ิน ผปู้ ฏบิ ตั งิ านในโครงการหลวง ลว้ นแตเ่ ปน็ ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ใหเ้ ปน็ ผดู้ แู ลรกั ษาปา่ ทไ่ี ด้ รบั มอบหมาย มาจากกรมป่าไม้ ผู้ซ่ึงมีหน้าท่ีดูแลป่าไม้ และพ้ืนท่ี ต้นน�้ำล�ำธารให้รัฐ ชาวเขาหรือผู้ใด ก็ตามที่อยู่ ในเขตลมุ่ นำ้� ลำ� ธาร ถา้ จะสามารถอยไู่ ด้ จะตอ้ งอยภู่ ายใตก้ ารควบคมุ ดแู ล ของผไู้ ดร้ บั มอบหมาย ดงั นน้ั การสร้างจิตส�ำนึกให้บุคคลเหล่าน้ี ทราบว่าการใช้ชีวิตของเขา ในพื้นท่ีดังกล่าวจ�ำต้องมีความส�ำนึก และปฏิบัติตามก�ำหนดกฎเกณฑ์ ท่ีวางไว้ โดยรวมบุคคลเหล่าน้ี ต้องอยู่กับต้นไม้ ต้องรักษาดูแล ใชป้ ระโยชนไ์ ดแ้ ต่ต้อง ไม่ท�ำอันตรายตอ่ พื้นท่ี และทรพั ยากร ทอ่ี ยใู่ นพนื้ ที่น้นั ๆ โครงการหลวงมคี วามสำ� นกึ ในหนา้ ท่ดี ังกลา่ วจงึ เสาะหาลทู่ าง ในการปฏิบัติเพื่อให้เกดิ ความ เหมาะสม และความพอดใี นการใช้พื้นท่เี หล่าน้นั โดยจะใช้ข้อก�ำหนดหลักดงั ต่อไปนี้ ๑. การจัดการพน้ื ทม่ี ุ่งเน้นการรักษาสมดลุ ย์ ใน การใชบ้ นพน้ื ท่สี งู เน้นการอนรุ กั ษท์ ีม่ ีการใช้ ในระดบั ทไ่ี มเ่ กนิ พกิ ดั และความสามารถในการปอ้ งกนั หรอื สรา้ งกลบั คนื สงิ่ ทใี่ ช้ ในกระบวนการน้ี คอื สมดุลย์แบบเคลือ่ นท่ี (Moving equilibium) ๒. การจดั การชมุ ชน การปรับตัวให้เขา้ กบั ความเชอ่ื ถอื ตามประเพณี และเข้ากบั ความถกู ตอ้ ง ของการใชพ้ น้ื ทใี่ นทสี่ งู มจี ติ สำ� นกึ ตอ่ ความมนั่ คง ของชาติ ละเวน้ การปลกู พชื เสพตดิ และกจิ กรรม ๙ ความสำ�เรจ็ ในอดีตเป็นทางของวิธีการปฏบิ ตั ิในอนาคต http://www.doikham.com/general/history/decade๓/ index-future.htm เข้าถึงเมื่อวันท่ี ๑๙ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๔๘

โครงการหลวง : การแกป้ ญั หาและพฒั นาชาวเขาท่ยี ่ังยนื 211 ที่ไม่เป็นผลดตี อ่ ประเทศโดยเนน้ การพงึ่ ตนเอง และพฒั นาให้พฤติกรรมเป็น กระบวนการสมดลุ แบบ เคล่ือนท่ี (Moving equilibium) การก�ำหนดตัวแบบของหมูบ่ ้าน ประกอบดว้ ยกระบวนการดังตอ่ ไปนี้ - การศึกษาข้อมูลเบ้ืองต้น ของพื้นท่ีนั้น ๆ จากการส�ำรวจ หรือจากภาพถ่าย ทางอากาศ ภาพถ่ายดาวเทียม - กำ� หนดการใชพ้ นื้ ทใ่ี หเ้ ปน็ ไปตาม ศกั ยภาพ พน้ื ทเี่ กษตรกรรม, ไมผ้ ล, ไมใ้ ชส้ อย, ปา่ ไม,้ พนื้ ท่ี แมน่ ำ�้ และอนื่ ๆ หลกั การของ GIS - มุ่งเน้นการพัฒนาท่ีย่ังยืน โดยมุ่งเน้นอนุรักษ์ ต้นน้�ำล�ำธาร และรักษาสมดุลย์ ของการใช้ พืน้ ดินบนทีส่ ูง การอย่รู ่วมของคนกบั ป่า - มงุ่ เนน้ ความเขา้ ใจ ในการทำ� งานรว่ มกนั สอดแทรก การขยายผลไปสู่ บรเิ วณอน่ื ๆ เปน็ หลกั - มงุ่ เนน้ ความอยดู่ ี กนิ ดใี หม้ ี อาชพี ของผทู้ อ่ี ยใู่ นสงู สรา้ งคณุ ภาพชวี ติ ทดี่ กี วา่ และมจี ติ สำ� นกึ ทช่ี ดั เจนวา่ ตัวเอง อยูใ่ นเขตที่ เป็นความมั่นคงของชาติ ๒.๒ การสรา้ งระบบทเี่ หมาะสม การปฏิบัติงาน ในโครงการหลวง จะมีการประสานงานท่ีดี พร้อมท้ังการก�ำหนดการปฏิบัติ ก่อนหลงั ทชี่ ดั เจน จงึ สมควรเนน้ การปฏิบัติ งาน ด้านนใี้ หม้ ีทง้ั ประสทิ ธิภาพ และประสิทธิผล โครงการหลวง มีการปฏิบัติงานในปัจจุบันที่ เบ็ดเสร็จและครบวงจร คือ จากการผลิต การขนสง่ การคดั บรรจุ จนถึงการตลาด ระบบต่าง ๆ เหลา่ นี้จ�ำเป็นต้องมี การจัดการท่ปี ระสานและ สอดคลอ้ ง ตามกำ� หนดเวลา และมคี วามฉบั ไวใน การปรบั เปลยี่ นแผนตามตอ้ งการ การปฏบิ ตั ิ สว่ นท่ี จะมีประสิทธิภาพ ได้จ�ำเป็นต้องมีข้อมูล ท่ีถูกต้องทันสมัยและครบถ้วน ดังน้ันการมีศูนย์ข้อมูลท่ี มีประสทิ ธิภาพจึงเป็นสง่ิ จ�ำเป็นอยา่ งยิ่ง ๒.๓ เนน้ การวจิ ยั ประยุกตท์ ี่ปรบั ปรุง กระบวนการเลอื กและ วิธวี ิจยั ทเ่ี หมาะสม มีการเลือกโครงการวิจยั โดยเนน้ ความจ�ำเป็นกอ่ นหลงั มกี ารก�ำหนด วัตถุประสงค์ ทชี่ ัดเจน และมีการวิเคราะห์ ก�ำไร-ขาดทุนของโครงการ และไม่จ�ำเป็นต้องเป็นก�ำไรขาดทุน ทางการเงินแต่ อย่างเดียว คุณภาพในการส่งเสริมยังจ�ำเป็น ต้องมีในกิจการของโครงการหลวง โครงการวิจัยต่าง ๆ จ�ำเปน็ ต้องมกี ารตดิ ตามผล อยา่ งใกล้ชิด เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์ ทวี่ างไว้ เนอื่ งจากเราจะตอ้ ง

212 ชนต่างวัฒนธรรมในประเทศไทย ทำ� กจิ การนใ้ี หเ้ ปน็ รายไดก้ บั เกษตรกร ดงั นนั้ จงึ จำ� เปน็ ตอ้ งมสี ภาวะ ของดา้ นเศรษฐกจิ เขา้ มาเกยี่ วขอ้ งนนั่ คือชาวเขา ควรจะดีข้ึน ในการ มีชีวิตอยู่ ดังนั้นการ ปฏิบัติตามแบบ อย่างของ โครงการหลวง สิ่งที่ จ�ำเป็น ต้องเนน้ คือ วิธีการตรวจสอบ โครงการวจิ ยั ใหไ้ ด้ผลคุ้มคา่ การวจิ ยั นำ� มา ซง่ึ ความรใู้ หม่ ๆ ซงึ่ ตอ้ งมกี ารถา่ ยทอด และรบั ไปใชท้ ชี่ ดั เจนและถกู ตอ้ ง ดงั นน้ั การตรวจสอบ เพอื่ รบั ทราบถงึ ความรแู้ ละ วธิ ปี ฏบิ ตั วิ า่ ไปถงึ ชาวเขามากนอ้ ยเพยี งใด จงึ เปน็ สง่ิ ทจ่ี ำ� เปน็ กลุ่มวิจัยต้องมีความชัดเจน ในการปฏิบัติ มีผู้ดูแลเต็มเวลา เป็นการสร้างผู้ดูแลประจ�ำ และหัวหน้าโครงการ ท่ีมีความสามารถในระดับต่าง ๆ กัน การวางแผนงานเพื่อ ท�ำวิจัยล่วงหน้า เป็นส่ิงท่ีส�ำคัญในการ ปฏิบัติงานบนพ้ืนที่สูง ผลกระทบทางด้านลบ จะมีอย่างต่อเนื่อง และทวีคูณ หากไมม่ ีการดูแลตง้ั แตต่ น้ งานวจิ ยั ในทส่ี งู ของโครงการหลวง มคี วามแตกตา่ งกบั งานอนื่ ใด ในโลกอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั ดงั นน้ั งานวิจัยของเรา จึงจะเจาะลึกเข้าไปในแหล่งความรู้ ที่จะสามารถน�ำไปถ่ายทอดในที่สูงอ่ืน ๆ นอก ประเทศไทย และจะเปน็ ศูนยว์ ิจยั ในทส่ี งู ทีส่ ามารถเป็นศูนยร์ ะดับนานาชาติได้ ๒.๔ งานถา่ ยทอดกับผลผลิตจากงานพฒั นา โครงการหลวง ดำ� เนนิ การผลติ รว่ มกบั ชาวเขาในดา้ นไมผ้ ล ไมด้ อก และผกั มาโดยตลอด ทงั้ นี้ รวมทง้ั การคดั บรรจุ และการขนสง่ ไปสตู่ ลาด งานเหลา่ นตี้ อ้ งการคนท่ี มคี วามสามารถทางวชิ าการและ การติดต่อกับชาวบ้านมาก เพราะจะต้องปฏิบัติร่วมกับ ชาวเขาตลอดเวลา เพ่ือให้ได้ผลผลิตตาม ตอ้ งการทง้ั คณุ ภาพและปรมิ าณ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านตรงนม้ี คี วามสำ� คญั มาก ตอ่ ความสำ� เรจ็ ของโครงการหลวง กจิ กรรมทส่ี ำ� คญั ยงิ่ ในการสรา้ ง การผลติ ระดบั ทเ่ี ปน็ การคา้ ได้ นน่ั คอื การถา่ ยทอดเทคโนโลย,ี กิจกรรมที่ต้องมีความชัดเจน ท้ังผู้ถ่ายทอดและผู้รับถ่ายทอด จ�ำเป็นท่ีจะต้องมีการผลักดัน ด้านการ ฝกึ อบรม และผปู้ ฏบิ ตั ทิ ม่ี คี วามสนใจจรงิ ๆ ทางดา้ นนตี้ อ้ งมมี ากขนึ้ และทำ� งานสง่ เสรมิ ใหด้ ี ขนึ้ กวา่ เดมิ งานสง่ เสรมิ คงตอ้ งไปเนน้ ในพน้ื ทห่ี า่ งไกล งานฝากทสี่ ำ� คญั มากกบั พนกั งานสง่ เสรมิ กค็ อื การดแู ลรกั ษา ทรพั ยากรธรรมชาตใิ นพื้นทีส่ งู การถา่ ยโอน ภาระหนา้ ทใี่ นการผลติ การพฒั นาและการอยดู่ กี นิ ดี ของชาวเขาไปใหแ้ กห่ นว่ ยงาน ที่ต้องมีหน้าที่ปฏิบัติบนท่ีสูง เป็นส่วนหน่ึงของงานในอนาคต ท่ีโครงการหลวงจะต้องยึดปฏิบัติ หาก งานถา่ ยโอนดงั กล่าว ท่ีมปี ระสทิ ธิภาพ จะชว่ ยสรา้ งความเจรญิ ในหมู่บา้ นชาวเขา ในบริเวณอนื่ ๆ ท่ี โครงการหลวงไมส่ ามารถไปถงึ ได้

โครงการหลวง : การแก้ปญั หาและพฒั นาชาวเขาท่ียงั่ ยนื 213 ๒.๕ งานการตลาดของผลผลิตโครงการหลวง งานการตลาด เป็นสิ่งหน่ึงที่ โครงการหลวงจ�ำเป็นจะต้องท�ำ หลังจากการส่งเสริมให้เกิด การผลิตข้ึนในโครงการหลวงในแงข่ องการขาย โครงการหลวงจะตอ้ งมองวา่ กิจกรรมดังกลา่ วนน้ั ภาค เอกชน เหมาะทส่ี ดุ ทจี่ ะเปน็ ผทู้ ำ� เพยี งแตโ่ ครงการหลวงจำ� เปน็ จะตอ้ งให้ ความสำ� คญั ใน การตดิ ตามงาน และดูแลในแงข่ องการตรวจสอบราคา และจะเขา้ แทรกแซงราคาเมอ่ื มีความไมย่ ุตธิ รรมเกิดข้ึน ในแง่ ของโครงการหลวงอาจจำ� เปน็ ท่ี จะตอ้ งไปสง่ เสรมิ ในบรเิ วณทห่ี า่ งไกล รวมทงั้ การดดั แปลง และปรบั ปรงุ งานดา้ นหลงั เกบ็ เกยี่ ว ใหด้ กี วา่ เดมิ อกี ประการหนง่ึ ทจี่ ำ� เปน็ ก็ คอื การวเิ คราะหต์ ลาด และสรา้ งงานตลาด ใหเ้ ปน็ งานขายสง่ สำ� หรบั โครงการหลวง โดยใหเ้ ปน็ งานของเอกชนใหม้ ากทส่ี ดุ ในทสี่ ดุ สง่ิ ทส่ี มควรเนน้ ให้มากคือ ความม่ันคงของการผลิตท้ังใน แง่คุณภาพและปริมาณ ทั้งนี้เพ่ือให้ สามารถตอบสนอง ตลาดได้ตามความต้องการท้งั ใน ระยะส้ันและระยะยาว และในทสี่ ดุ การผลิตท้งั ปริมาณ และคณุ ภาพ สมควรเป็นไป ตามความตอ้ งการของตลาด และควรมีความสามารถใน การ วางแผนระยะยาวในการ ผลติ ได้ล่วงหนา้ หากการปฏบิ ตั งิ านสามารถเปน็ ไปไดต้ ามแผนงานทว่ี างไว้ เราคงจะกลา่ วไดว้ า่ เปน็ การปฏบิ ตั ิ ตามเบื้องพระยุคลบาท อย่างถูกต้อง จนเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืนบนที่สูง ชาวเขาได้รับการพัฒนา เทคโนโลยใี หม่ ๆ จนสามารถรบั รู้ และพฒั นาการทำ� มาหาเลย้ี งชพี ไดค้ อ่ นขา้ งดใี นระดบั หนง่ึ แลว้ บคุ คล เหล่านจี้ ะเป็นพลเมอื งท่ีดี ของประเทศไทย มคี วามรกั เมืองไทย และเข้าใจถึงสภาวะที่ตนเองปฏิบตั อิ ยู่ มีความภูมิใจท่ีได้ท�ำ และมองเห็น และมีส�ำนึกว่า ด้วยบารมีปกเกล้าฯท�ำให้อยู่ในพื้นที่ได้ (เขตลุ่มน้�ำ ชนั้ ๑) ไดร้ บั การฝกึ ปรอื ในเรอื่ งของการทำ� มาคา้ ขาย ในการปลกู พชื ดา้ นตา่ ง ๆ ซง่ึ ขายไดใ้ นตลาดทำ� ให้ อยู่ดีกินดีขึ้น และรักพ้ืนแผ่นดินน้ี ที่ให้ที่ท�ำกินและ ให้ความร่มเย็นแก ่ตนเองและลูกหลานต่อไปใน อนาคต รางวัลแมกไซไซ การดำ� เนินงานระยะนเ้ี ปน็ ที่ยอมรับอยา่ ง แพร่หลาย และ ประสบความส�ำเรจ็ ท�ำใหช้ าวเขา หันมาปลูกพืช ทดแทนฝิ่น ประกอบอาชีพด้านการเกษตรท่ีม่ันคง ด�ำรงชีวิตได้อย่างมีความสุขตาม สมควร การใหค้ วามชว่ ยเหลอื พสกนิกร ซึ่งเป็น ชาวเขา ท่ีเคยด�ำรงชีวติ ยากไร้ บนดอยสงู จากการ ปลกู ฝ่ิน ท่ีเปน็ ยาเสพตดิ ร้ายแรง ของชาวโลก เช่นนี้ ไดล้ ว่ งรู้ ไปไม่เฉพาะ แต่ใน ประเทศไทย เท่านัน้ แตเ่ ปน็ ทกี่ ลา่ วขวญั กนั ทวั่ โลก ในหลายตอ่ หลายประเทศ โดยผา่ น ทงั้ ทาง เอกอคั รราชทตู และ สอื่ สาร มวลชน ต่าง ๆ ดังจะเห็นได้ จาก ความช่วยเหลือของนานามิตรประเทศ เช่น ไต้หวัน สหรัฐอเมริกา ญ่ีปุ่น เยอรมันตะวันตก ออสเตรเลีย อิสราเอล และเนเธอร์แลนด์ ท่ีหล่ังไหลเข้ามา อย่างต่อเนื่อง และในทสี่ ดุ ผลงานของโครงการฯ กไ็ ดเ้ ปน็ ทร่ี จู้ กั กนั แพรห่ ลายในบรรดาประเทศตา่ ง ๆ วา่ เปน็ การรว่ ม

214 ชนตา่ งวัฒนธรรมในประเทศไทย มือก�ำจัดพชื เสพติด โดยสนั ติวธิ เี ป็นโครงการสร้างสรรค์และส่งเสริมความเขา้ ใจ อันดรี ะหวา่ งประเทศ จึงได้รับ“รางวัล แมกไซไซ” ในสาขา International Understanding เม่ือวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ ดังแสดงให้เห็น ในตอนท้าย ของค�ำประกาศ เกียรติคุณ ว่า จากการให้ความร่วมมือ ชว่ ยเหลอื เกอ้ื กลู ของนานาประเทศและ รว่ มกนั ประสานงาน โดยหลายหนว่ ยงานในชาติ โครงการหลวง ได้มีส่วนช่วยลด ยาเสพติดพิษร้ายแรง ของโลกลงและยังช่วย ยกระดับความม่ันคง อยู่ดีกินดีแก่ชน ชาวเขาทัง้ หลายด้วย

บรรณานุกรม กฤษณา เจริญวงศ์. เอกสารสมั มนาทางวิชาการ เรือ่ ง ลัวะในลา้ นนา. ๗-๘ มนี าคม ๒๕๓๑ คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ วิทยาลยั ครูเชียงใหม่ สหวทิ ยาลัยลา้ นนา. กองสงเคราะหช์ าวเขา, กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานและสวสั ดกิ ารสงั คม ทำ� เนยี บ ชุมชนบนพน้ื ท่ีสงู ๒๐ จังหวัดในประเทศไทย ปี พ.ศ. ๒๕๔๐. นนทบรุ ี : สหพริน้ ต้ิงการพิมพ,์ ๒๕๔๑ ไกรศรี นิมมานเหมินท์. กาพย์เจ้ีย จามเทวี และวิลังคะ. พิมพ์คร้ังที่ ๒. กรุงเทพ : บริษัท พี.เอ.ลสิ วงิ่ จำ� กดั . ม.ป.ป. ขจดั ภยั บรุ ษุ พฒั น,์ “ขอ้ คดิ บางประการเกย่ี วกบั นโนบายตอ่ ชาวเขาและการพฒั นาชาวเขา” ชีวิตบนดอย รวบรวมโดยชมรมศึกษาและวิจัยชาวเขา, จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย, ๒๕๑๗. ขจดั ภยั บรุ ุษพัฒน.์ ชาวเขา. กรุงเทพฯ : แพรพ่ ทิ ยา. ๒๕๒๘. ขจัดภัย บุรษุ พัฒน.์ ชาวเขาในประเทศไทย. กรงุ เทพฯ : แพร่พทิ ยา. ๒๕๓๙. ขจดั ภัย บุรษุ พัฒน,์ ปญั หาชนกลุ่มน้อยในประเทศไทย, พระนคร : แพรพ่ ิทยา, ๒๕๑๕. คณะกรรมการปฏิบัติการจิตวิทยาแห่งชาติ. ชาวเขาเผ่าม้ง. โรงเรียนสงครามจิตวิทยา กรมยทุ ธการทหาร, ๒๕๑๘. ชดิ พงษ์ สยามเนตร, การบรหิ ารงานพฒั นาและสงเคราะหช์ าวเขาของกรมประชาสงเคราะห์ (วทิ ยานพิ นธ)์ , คณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๐๘. จันทบูรณ์ สุทธิและคณะ. จ�ำลอง. “เพลงและการละเล่นพื้นบ้านของชาวเขาเผ่าเย้า”. ขา่ วสารศูนย์วิจัยชาวเขา. ๑๒ (ฉบับที่ ๑,๒ มกราคม-มถิ นุ ายน ๒๕๓๑) : ๘๕–๙๔. จันทบูรณ์ สุทธิ และสมเกียรติ จ�ำลอง. “ลัวะ และวัน เดือน ปี“ ข่าวสารสถาบันวิจัยชาว เขา๑๓.๓-๔ (กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๓๒) ชอบ คชาอนันต์. “เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเย้า.” ข่าวสารศูนย์วิจัยชาวเขา. ๒ (ฉบับท่ี ๒ เมษายน-มถิ ุนายน ๒๕๒๑) : ๒๑–๒๓. ---------. “ระบบการเรียกชื่อเครือญาติของเย้า.” ข่าวสารศูนย์วิจัยชาวเขา. ๔ (ฉบับที่ ๑, ๒๕๒๓) : ๓๗–๓๙. ---------. “เยา้ กบั ความเชอื่ เรอื่ งผ”ี . ขา่ วสารศนู ยว์ จิ ยั ชาวเขา. ๑ (ฉบบั ที่ ๓ มกราคม-เมษายน ๒๕๒๒) : ๓๕–๓๙.

ชดิ พงษ์ สยามเนตร, การบรหิ ารงานพฒั นาและสงเคราะหช์ าวเขาของกรมประชาสงเคราะห์ (วทิ ยานพิ นธ์), คณะรฐั ประศาสนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร,์ ๒๕๐๘. ชูพินิจ เกษมณี. “แม้ว : ถิ่นก�ำเนิดและการอพยพลงใต้.” ข่าวสารศูนย์วิจัยชาวเขา. ๖ (เมษายน-มิถุนายน ๒๕๒๕) : ๑๙-๒๓. ณฏั ฐวี ทศรฐ วรี ะพงศ์ มสี ถาน. สารานกุ รมกลุ่มชาติพันธ์ุเมี่ยน (เยา้ ). กรงุ เทพ : โรงพมิ พ์ สหธรรมมิก จ�ำกัด, ๒๕๔๐. ณฏั ฐวี ทศรฐ, สุริยา รัตนกุล. สารานุกรมกลุ่มชาติพันธ์ุละว้า. กรงุ เทพ : โรงพมิ พ์สหธรรมิก จ�ำกัด , ๒๕๔๑. เตือนใจ ดีเทศน์ (กญุ ชร ณ อยธุ ยา). คู่มือการทำ� งานกับชาวเขาเผา่ ลีซอ. ล�ำปาง : โครงการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาต่อเนอื่ งเพื่อชุมชนในเขตภูเขา กรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น. ๒๕๒๗. นิพัทธเวช สืบแสง. “ปี เดือน วันของแม้ว.” ข่าวสารสถาบันวิจัยชาวเขา. ๑๔ (เมษายน- มถิ ุนายน ๒๕๓๓): ๖๑-๖๓. ประเสรฐิ ชยั พกิ ุสติ . บ้านลซี อ. เชียงใหม่ : ศูนยว์ จิ ัยชาวเขา. ๒๕๒๖. ประเสรฐิ ชยั พกิ สุ ติ และทวชิ จตวุ รพฤกษ.์ สอื่ ประเพณดี งั้ เดมิ ของชาวเขาเผา่ ลซี อ เชยี งใหม่ : สถาบนั วจิ ัยชาวเขา. ๒๕๓๑. ประจวบ ประเสรฐิ สงั ข,์ เอกสารบรรยาย วชิ าชนกลมุ่ นอ้ ยในประเทศไทย, คณะสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวิทยาลยั . ๒๕๔๘. ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี. ภูมิปัญญานิเวศวิทยาชนพื้นเมือง : ศึกษากรณีชุมชนกะเหร่ียง ในทงุ่ ปา่ ใหญ่นเรศวร. นนทบุรี : ส�ำนกั พมิ พ์โลกดลุ ยภาพ. ๒๕๓๙. พิมุข ชาญธนะวัฒน์. “ฉลองปีใหม่ มูเซอแดงที่แม่ฮ่องสอน” สยามอารยะ ๒, ๒๔ (ธนั วาคม๒๕๓๗) หนา้ ๖๑-๖๔. -----------. “พธิ ศี พมูเซอแดง” ศิลปวฒั นธรรม ๑๖,๗ (พ.ค. ๒๕๓๘) หนา้ ๑๖๔-๑๖๖. -----------. “พิธสี ง่ ผีของมูเซอด�ำ” สยามอารยะ ๓, ๓๓ (ตุลาคม ๒๕๓๘) หน้า ๓๕-๓๖. -----------. “มีอะไรบนดวงจันทร์ตามความเชื่อของชาวมูเซอแดง”. ศิลปวัฒนธรรม ๑๖, ๙ (ก.ค.) หน้า ๔๒-๔๓. มงคล จันทร์บ�ำรุง. เย้าไทย-เย้ากวางสี. โครงการวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเย้าไทยและ เยา้ กวางส,ี หนว่ ยปฏบิ ัตกิ ารทางภาษาศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๓๕.

---------. เรอื่ งของชาวเขา (เผา่ เยา้ ). เอกสารทางวชิ าการประกอบการแตง่ ตง้ั ใหด้ ำ� รงตำ� แหนง่ ผชู้ �ำนาญการพเิ ศษ, สถาบันวจิ ัยชาวเขา จงั หวดั เชยี งใหม่, ๒๕๓๕. ---------. ประเพณกี ารแต่งงานของชาวเขาเผ่าเยา้ . เชยี งใหม่ : สถาบันวิจัยชาวเขา, ๒๕๒๘. หน้า ๓๔–๔๗. (โรเนยี ว) ---------. เยา้ ไทย-เยา้ กวางสี เสือ้ ผ้าและเครอ่ื งประดับ. พมิ พ์ครง้ั ท่ี ๑. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , ๒๕๓๔. ๗๙ หน้า. มนสั มณปี ระเสรฐิ . การใชป้ ระโยชนท์ ดี่ นิ ของชาวลซี อ. เชยี งใหม่ : ศนู ยว์ จิ ยั ชาวเขา. ๒๕๒๕. โรงเรยี นสงครามจิตวทิ ยา กรมยุทธการทหารสงู สดุ . ชาวเขาเผา่ มูเซอ. กรุงเทพ : ส�ำนกั งาน เลขานกุ ารปฏบิ ตั ิการจิตวิทยาแห่งชาต.ิ ๒๕๑๘. โรงเรยี นสงครามจติ วทิ ยา กรมยทุ ธศาสตรท์ หาร กองบญั ชาการทหารสงู สดุ . ชาวเขาเผา่ อกี อ้ . กรงุ เทพ : ส�ำนกั งานคณะกรรมการปฏบิ ัตกิ ารจิตวิทยาแห่งชาต,ิ ๒๕๑๘. ลักขณา ดาวรัตนหงษ์. “พิธีไหว้ผีของชาวลีซอ” ภาษาและวัฒนธรรม ปีที่ ๘ ฉบับที่ ๒ (นครปฐม : สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนา ชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล ๒๕๓๒). หน้า ๑๐๔-๑๒๙. ----------. “พิธีไหว้ผีของบรรพบุรุษของชาวลีซอ” ภาษาและวัฒนธรรม ปีท่ี ๑๓ ฉบับท่ี ๑. (๒๕๓๗).หนา้ ๘๒-๙๑ วสันต์ ณ ถลาง. ความเชื่องเร่ือง ”ผี” และพิธีกรรมของสังคมอีก้อในหมู่บ้านเผาหมี ต�ำบล แม่สาย เชยี งราย โบราณคดี : ๕(มกราคม-มนี าคม ๒๕๑๗), หน้า ๒๕๕-๒๗๓ วจิ ยั ชาวเขา, ศนู ย.์ บรรณนทิ ศั น์ ๕ สภาพของชาวเขาในประเทศไทย. กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย, ๒๕๒๖. เวชชวุฒิ บุญชูวิทย์. เงื่อนไขทางวัฒนธรรมท่ีมีอิทธิพลต่อการยอมรับส่ิงใหม่ของชาวเขา เผ่าอีก้อ : ศึกษาเฉพาะกรณีหมู่บ้านแสนเจริญใหม่ อ�ำเภอสรวย จังหวัดเชียงราย. วิทยานิพนธ์สาขา มานุษยวิทยา ภาควชิ ามานุษยวทิ ยา บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร, ๒๕๓๒. ศรศี กั ร วลั ลโิ ภดม. ลวั ะ ละวา้ และกะเหรยี่ ง : ชนเผา่ ในทสี่ งู กบั ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกจิ - การเมอื ง กับรฐั ในทรี่ าบ .เมอื งโบราณ ๑๒,๑ (ม.ค.-ม.ี ค. ๒๕๒๙) หนา้ ๕๔-๖๔. ศุภชัย สถีรศิลปิน. ชนเผ่าล่าหู่ หรือ มูเซอในประเทศไทย. ข่าวสารศูนย์วิจัยชาวเขา ๗, ๑ (ม.ค.-มี.ค.๒๕๒๖) ; หน้า ๑๓-๒๒.

-----------. รายงานการวจิ ยั เรอ่ื งปญั หาการศกึ ษาของชาวเขาเผา่ มเู ซอในบรเิ วณดอยมเู ซอ จงั หวัดตาก. ม.ป.ท. : สถาบนั วิจัยชาวเขา กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย, ๒๕๒๗. -----------. มเู ซอ. ข่าวสารศนู ยว์ ิจยั ชาวเขา ๘, ๔ (ตุลาคม-ธนั วาคม ๒๕๒๗) ; หนา้ ๑๔-๑๗. สงเคราะหช์ าวเขา, กอง. กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานและสวสั ดกิ ารสงั คม. ทำ� เนยี บ ชุมชนบนพื้นท่สี งู ๒๐ จังหวดั ในประเทศไทย ปี พ.ศ. ๒๕๔๐. นนทบรุ ี : สหพร้ินตง้ิ การพมิ พ์, ๒๕๔๑ สถาบันวจิ ัยชาวเขา. แม้ว. กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย, ๒๕๓๒ สนทิ วงศ์ประเสริฐ. มูเซออยู่ไฟ. วารสารไตรมาส ๑,๒ (ม.ค.-มี.ค.๒๕๒๑) สมยั สทุ ธธิ รรม. สารคดชี วี ติ ของชนกลมุ่ นอ้ ยบนดอยสงู มเู ซอ. กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั เลฟแอนด์ ลิบเเพรส จำ� กดั , ๒๕๔๑. ๖๙ หน้า สมภพ ลาชโรจน.์ ความรูท้ ่วั ไปเกย่ี วกบั ชาวเขาเผ่ากะเหรย่ี ง. เอกสารเผยแพร่ สถาบนั วิจัย ชาวเขา, อดั สำ� เนา. ส�ำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาคเหนือ ส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามยาเสพติด ส�ำนักนายกรัฐมนตรี. รายงานการสัมมนา แนวคิดในการรณรงค์ป้องกันและ แก้ไขปัญหายาเสพติด. ระหว่างวันที่ ๕-๖ มิถุนายน ๒๕๔๓ ณ โรงแรมเชียงใหม่ฮิลล์ อ�ำเภอเมือง จังหวดั เชยี งใหม่ สจุ รติ ลกั ษณ์ ดผี ดงุ , อรนชุ นยิ มธรรม และคณะ. มง้ นำ้� เงนิ บา้ นหว้ ยหอย อำ� เภอแมแ่ จม่ และ มง้ ขาวบา้ นมอ่ นยะเหนอื อำ� เภอสนั ปา่ ตอง จงั หวดั เชยี งใหม.่ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล, ๒๕๓๔. (อดั สำ� เนา) สจุ รติ ลกั ษณ์ ดผี ดงุ . สารานกุ รมกลมุ่ ชาตพิ นั ธม์ุ ง้ . สถาบนั วจิ ยั ภาษาและวฒั นธรรมเพอื่ พฒั นา ชนบท มหาวิทยาลัยมหดิ ล. นครปฐม : โรงพมิ พ์สถาบนั พฒั นาการสาธารณสขุ อาเซยี น มหาวิทยาลยั มหดิ ล, ๒๕๓๘ สุจริตลักษณ์ ดีผดุง, สรินยา ค�ำเมือง. สารานุกรมกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงโป. สถาบันวิจัย ภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพฒั นาชนบท มหาวิทยาลยั มหดิ ล. กรุงเทพ : สหธรรมกิ , ๒๕๔๐ สุจริตลักษณ์ ดีผดุง. เย้า. นครปฐม : สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพ่ือพัฒนาชนบท มหาวทิ ยาลัยมหิดล, ๒๕๓๙. ๑๘ หน้า. (อดั สำ� เนา) สุรยิ า รัตนกุล. พจนานุกรมไทย-มง้ . กรุงเทพ: โรงพิมพ์เกษมสมั พันธก์ ารพมิ พ,์ ๒๕๑๕. สุริยา รัตนกุล. “วรรณกรรมที่ไม่ได้จดลงเป็นตัวหนังสือของละว้า” บทความเสนอในการ สัมมนาเร่ือง ภาษาของชนกลุ่มน้อยใน ในประเทศไทย ท่ีหอประชุมจงจินต์ มหาวิทยาลัยมหิดล ๓-๕ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๒๐.

สรุ สั วดี ออ๋ งสกลุ . “ลวั ะในตำ� นานลานนาไทยหายไปไหน” เอกสารการสมั มนาลา้ นนาศกึ ษา ประวตั ศิ าสตร์ และโบราณคดี ณ วทิ ยาลยั ครูเชยี งใหม,่ ๒๘-๓๑ มกราคม ๒๕๒๘. สุเทพ สุนทรเภสัช, สังคมและวัฒนธรรมลานนาไทย รวมผลงานวิจัยทางสังคมศาสตร์ใน ภาคเหนือของประเทศไทย, เชยี งใหม่ : สยามการพมิ พ,์ ๒๕๑๓. สุริยา รัตนกุล, สมทรง บุรุษพัฒน์. สารานุกรมกลุ่มชาติพันธุ์กะเหร่ียงสะกอ. สถาบันวิจัย ภาษาและวัฒนธรรมเพอื่ พฒั นาชนบท มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล. กรุงเทพ : สหธรรมิก, ๒๕๓๘ สุวิทย์ สุทธานุกูล, การพัฒนาชาวเขาทางภาคเหนือของไทยกับความมั่นคงแห่งชาติ (วทิ ยานพิ นธ)์ , วิทยาลยั การทพั บก, กองทพั บก, พระนคร, ๒๕๑๒. โสฬส ศริ ไิ สย.์ สารานกุ รมกลุ่มชาตพิ ันธล์ุ าฮ.ู กรุงเทพฯ: บริษัท สหธรรมิก จำ� กัด, ๒๕๓๙. ๓๒ หน้า. -----------. บทบาทผนู้ ำ� ศาสนากบั การเปลยี่ นแปลงทางวฒั นธรรมของชาวเขาเผา่ มเู ซอแดง. นครปฐม : สถาบันวจิ ยั ภาษาและวฒั นธรรมเพ่ือพฒั นาชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล. ๒๕๓๒. โสฬส ศิรไิ สย์. รายงานผลการส�ำรวจจ�ำนวนประชาการของชนเผ่าละวา้ . เอกสารการวิจยั ของสถาบนั วจิ ยั ภาษาและวัฒนธรรมเพอ่ื พัฒนาชนบท มหาวิทยาลัยมหดิ ล, ๒๕๒๗. (ยงั ไม่ไดต้ ีพมิ พ์) เหยา ซนุ่ อนั . “เสน้ ทางอพยพของชาตเิ ยา้ .” ขา่ วสารศนู ยว์ จิ ยั ชาวเขา. ๙ (ฉบบั ที่ ๔. ๒๕๒๘) : ๒๙–๓๘ อรษา เรืองศิลป์, การด�ำเนินงานกับชาวเขาโดยหน่วยพัฒนาและสงเคราะห์เคลื่อนที่ (วิทยานิพนธ)์ , คณะสงั คมสงเคราะห์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๑๕. อานันท์ กาญจนพันธุ์, แนวความคิดพ้ืนฐานทางสังคมและวัฒนธรรม, เชียงใหม่: คณะสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่, ๒๕๔๘) น. ๔๓ อุไรวรรณ แสงศร. รายงานภูมิปัญญาพื้นบ้านและการรักษาความเจ็บป่วยของชาวอีก้อ. เชยี งใหม่ : สถาบนั วจิ ยั ชาวเขา มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม,่ ๒๕๔๒ อธิตา สุนทโรทก. มูเซอด�ำมูเซอเหลือง : การรักษาเอกลักษณ์และพรมแดนชาติพันธุ์ใน บริบทของ การพฒั นาท่บี า้ นบาหลา อ�ำเภอแมส่ รวย จงั หวดั เชียงราย. กรุงเทพ : สาขามนุษยวทิ ยา คณะสังคมวิทยาและมานุษยวทิ ยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร,์ ๒๕๓๙.

อรษา เรืองศิลป์, การด�ำเนินงานกับชาวเขาโดยหน่วยพัฒนาและสงเคราะห์เคล่ือนท่ี (วทิ ยานพิ นธ์), คณะสงั คมสงเคราะห์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๑๕. คณะส�ำรวจสหประชาชาติ, รายงานการส�ำรวจความต้องการทางเศรษฐกิจและสังคมใน อาณาบรเิ วณที่ปลูกฝิ่นของประเทศไทย, พระนคร : โรงพิมพส์ ำ� นักทำ� เนียบนายกรัฐมนตร,ี ๒๕๐๙. เวบ็ ไซต์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ “การส่งเสริมสหกรณ์ในโครงการหลวง” http://web.ku.ac.th/king๗๒/๒๕๒๖/rproject.htm . เข้าถึงเม่ือวันท่ี ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๘ โครงการหลวง, http://www.doikham.com/general/history/decade๑/index- objective.htm . เขา้ ถึงเม่อื วันท่ี ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๘. การจัดสรรงบประมาณ, http://www.doikham.com/general/history/decade๓/ index-build.htm. เขา้ ถึงเม่ือวนั ท่ี ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๘. สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง. http://www.doikham.com/general/project-plan/ research/index-research-center-main.htm, เข้าถึงเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๘. สถานวี จิ ยั โครงการหลวงอนิ ทนนท.์ http://www.doikham.com/general/project-plan/ research/index-research-center-main.htm, เขา้ ถงึ เม่อื วันที่ ๑๗ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๘. สถานีวิจัยและส่งเสริมกาแฟอราบิกา http://www.doikham.com/general/project- plan/research/index-research-center-main.htm, เขา้ ถงึ เมอื่ วันท่ี ๑๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๘. การก่อตั้งโรงงานอาหารส�ำเร็จรูป, http://www.doikham.com/general/history/ decade๒/index-build-factory.htm. เข้าถึงเม่อื วันที่ ๑๖ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๘ ความส�ำเร็จในอดีตเป็นทางของวิธีปฏิบัติในอนาคต, http://www.doikham.com/ general/history/decade๓/index-future.htm, เขา้ ถึงเมือ่ วนั ท่ี ๑๙ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๘.

บรรณานกุ รรม กรมยุทธการทหารสูงสุด,โรงเรียนสงครามจิตวิทยา. ชาวเขาเผ่ามูเซอ. กรุงเทพ : ส�ำนักงาน เลขานกุ ารปฏิบตั กิ ารจิตวิทยาแหง่ ชาต.ิ ๒๕๑๕. กองสงเคราะหช์ าวเขา, กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานและสวสั ดกิ ารสงั คม ทำ� เนยี บ ชุมชนบนพ้ืนทส่ี ูง ๒๐ จังหวัดในประเทศไทย ปี พ.ศ. ๒๕๔๐. นนทบรุ ี : สหพรน้ิ ตงิ้ การพิมพ์, ๒๕๔๑ ขจัดภัย บุรุษพัฒน์, “ข้อคิดบางประการเกี่ยวกับนโนบายต่อชาวเขาและการพัฒนา ชาวเขา” ชีวติ บนดอย รวบรวมโดยชมรมศกึ ษาและวจิ ัยชาวเขา, จฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลัย, ๒๕๑๗. ขจัดภัย บุรุษพฒั น.์ ชาวเขา. กรุงเทพฯ: แพร่พิทยา. ๒๕๒๘. ขจดั ภยั บุรุษพฒั น.์ ชาวเขาในประเทศไทย. กรงุ เทพฯ: แพรพ่ ทิ ยา. ๒๕๓๘. ขจดั ภยั บรุ ุษพฒั น,์ ปัญหาชนกลุ่มน้อยในประเทศไทย, พระนคร : แพรพ่ ทิ ยา, ๒๕๑๕. คณะส�ำรวจสหประชาชาติ, รายงานการส�ำรวจความต้องการทางเศรษฐกิจและสังคมใน อาณาบรเิ วณที่ปลกู ฝิน่ ของประเทศไทย, พระนคร : โรงพิมพส์ ำ� นกั ทำ� เนยี บนายกรัฐมนตร,ี ๒๕๐๙. จันทบูรณ์ สุทธิและคณะ. จ�ำลอง. “เพลงและการละเล่นพื้นบ้านของชาวเขาเผ่าเย้า”. ขา่ วสารศูนย์วิจยั ชาวเขา. ๑๒ (ฉบับที่ ๑,๒ มกราคม-มิถุนายน ๒๕๓๑) : ๘๕–๙๔. ชอบ คชาอนันต์. “เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเย้า.” ข่าวสารศูนย์วิจัยชาวเขา. ๒ (ฉบับท่ี ๒ เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๒๑) : ๒๑–๒๓. ---------. “ระบบการเรียกชื่อเครือญาติของเย้า.” ข่าวสารศูนย์วิจัยชาวเขา. ๔ (ฉบับท่ี ๑, ๒๕๒๓) : ๓๗–๓๙. ---------. “เยา้ กบั ความเชอ่ื เรอ่ื งผ”ี . ขา่ วสารศนู ยว์ จิ ยั ชาวเขา. ๑ (ฉบบั ที่ ๓ มกราคม-เมษายน ๒๕๒๒) : ๓๕–๓๙. ชาวเขาเผา่ อีก้อ โรงเรยี นสงครามจิตวิทยา กรมยทุ ธศาสตร์ทหาร กองบัญชาการทหารสูงสดุ . กรงุ เทพ : สำ� นกั งานคณะกรรมการปฏบิ ตั ิการจติ วิทยาแหง่ ชาติ,๒๕๑๘. ชดิ พงษ์ สยามเนตร, การบรหิ ารงานพฒั นาและสงเคราะหช์ าวเขาของกรมประชาสงเคราะห์ (วิทยานพิ นธ)์ , คณะรฐั ประศาสนศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, ๒๕๐๘. ชดิ พงษ์ สยามเนตร, การบรหิ ารงานพฒั นาและสงเคราะหช์ าวเขาของกรมประชาสงเคราะห์

ณัฏฐวี ทศรฐ และ วีระพงศ์ มีสถาน. สารานุกรมกลุ่มชาติพันธุ์เมี่ยน (เย้า). กรุงเทพ : โรงพมิ พ์ สหธรรมมกิ จำ� กัด, ๒๕๔๐. ประจวบ ประเสริฐสังข์. เอกสารค�ำบรรยายวิชาชนกลุมน้อยในประเทศไทย. คณะ สังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย. ๒๕๔๘. ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี. ภูมิปัญญานิเวศวิทยาชนพื้นเมือง : ศึกษากรณีชุมชนกะเหร่ียงใน ทงุ่ ปา่ ใหญน่ เรศวร. นนทบุรี : ส�ำนักพมิ พโ์ ลกดลุ ยภาพ. ๒๕๓๙. ปี เดอื น วนั เยา้ . เชียงใหม่ : สถาบนั วิจยั ชาวเขาจังหวัดเชียงใหม่. มปป. (อดั สำ� เนา) พมิ ขุ ชาญธนะวฒั น.์ “พธิ ศี พมเู ซอแดง” ศลิ ปวฒั นธรรม ๑๖, ๗ (พ.ค. ๒๕๓๕) หนา้ ๑๖๔-๑๖๖. -----------. “พิธสี ง่ ผขี องมเู ซอดำ� ” สยามอารยะ ๓, ๓๓ (ตุลาคม๒๕๓๕) หน้า ๓๕-๓๖. มงคล จันทร์บ�ำรุง. เย้าไทย-เย้ากวางสี. โครงการวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเย้าไทยและ เยา้ กวางส,ี หน่วยปฏิบัติการทางภาษาศาสตร์ คณะอกั ษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั , ๒๕๓๕. ---------. เรอ่ื งของชาวเขา (เผา่ เยา้ ). เอกสารทางวชิ าการประกอบการแตง่ ตง้ั ใหด้ ำ� รงตำ� แหนง่ ผู้ช�ำนาญการพเิ ศษ, สถาบันวิจยั ชาวเขา จังหวัดเชียงใหม่, ๒๕๓๕. ---------. ประเพณกี ารแตง่ งานของชาวเขาเผ่าเย้า. เชยี งใหม่ : สถาบันวจิ ยั ชาวเขา, ๒๕๒๘. หนา้ ๓๔–๔๗. (โรเนยี ว) ---------. เย้าไทย-เยา้ กวางสี เสื้อผา้ และเครอ่ื งประดบั . พิมพค์ รั้งที่ ๑. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๓๔. ๗๙หนา้ . มนสั มณปี ระเสรฐิ . การใชป้ ระโยชนท์ ดี่ นิ ของชาวลซี อ. เชยี งใหม่ : ศนู ยว์ จิ ยั ชาวเขา. ๒๕๒๕. รายงานการสัมมนา แนวคิดในการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด .ระหว่าง วนั ท่ี ๕-๖ มิถนุ ายน ๒๕๔๓ ณ โรงแรมเชียงใหม่ฮลิ ล์ อำ� เภอเมือง จังหวดั เชียงใหม่ รายงานการศึกษาวิจยั เร่ือง “Middle Generation on Hmong Couples and Daily Life Concerns” โดยศกึ ษาแบบแผนประพฤตปิ ฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั ประเพณี พธิ กี รรมของชาวมง้ รนุ่ กลาง ทอ่ี าศยั อยใู่ นสหรัฐอเมรกิ า. http://cyfc.umn.edu/diversity/middle.html. แรงงานและสวัสดิการสังคม, กระทรวง. กรมประชาสงเคราะห์.กองสงเคราะห์ชาวเขา. ท�ำเนียบชุมชนบนพื้นท่ีสูง ๒๐ จังหวัดในประเทศไทย ปี พ.ศ. ๒๕๔๐. นนทบุรี : สหพริ้นติ้ง การพิมพ,์ ๒๕๔๑ วสันต์ ณ ถลาง. ความเชื่องเร่ือง “ผี” และพิธีกรรมของสังคมอีก้อในหมู่บ้านเผาหมี ต�ำบล แม่สาย เชียงราย โบราณคดี : ๕ (มกราคม-มีนาคม ๒๕๑๗), หน้า ๒๕๕-๒๗๓

วจิ ยั ชาวเขา, ศนู ย.์ บรรณนทิ ศั น์ ๕ สภาพของชาวเขาในประเทศไทย. กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย, ๒๕๒๖. เวชชวุฒิ บุญชูวิทย์. เง่ือนไขทางวัฒนธรรมท่ีมีอิทธิพลต่อการยอมรับสิ่งใหม่ของชาวเขา เผา่ อกี อ้ : ศกึ ษาเฉพาะกรณหี มบู่ า้ นแสนเจรญิ ใหม่ อำ� เภอแมส่ รวย จงั หวดั เชยี งราย. วทิ ยานพิ นธส์ าขา มานษุ ยวิทยา ภาควชิ ามานษุ ยวทิ ยา บัณฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยศิลปากร, ๒๕๓๒. ศรศี กั ร วลั ลโิ ภดม. ลวั ะ ละวา้ และกะเหรย่ี ง : ชนเผา่ ในทสี่ งู กบั ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกจิ - การเมอื ง กับรัฐในท่ีราบ นติ ยสารเมืองโบราณ ๑๒,๑ (ม.ค.-มี.ค. ๒๕๒๙)หนา้ ๕๔-๖๔. ศุภชัย สถีรศิลปิน. ชนเผ่าล่าหู่ หรือ มูเซอในประเทศไทย. ข่าวสารศูนย์วิจัยชาวเขา ๗, ๑ (ม.ค.-มี.ค.๒๕๒๖) ; หนา้ ๑๓-๒๒. -----------. รายงานการวจิ ยั เรอื่ งปญั หาการศกึ ษาของชาวเขาเผา่ มเู ซอในบรเิ วณดอยมเู ซอ จงั หวัดตาก. ม.ป.ท. : สถาบันวิจยั ชาวเขา กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทย, ๒๕๒๗. -----------. มูเซอ. ขา่ วสารศนู ยว์ ิจยั ชาวเขา ๕, ๔ (ตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๒๗) ; หน้า ๑๔-๑๗. สมยั สทุ ธิธรรม. อกี อ้ . กรงุ เทพ : บริษทั ๒๐๒๐ เวลิ ด์ มีเดีย, ๒๕๔๑. สงเคราะห์ชาวเขา, กอง. กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม. ท�ำเนียบชุมชนบนพ้ืนท่ีสูง ๒๐ จังหวัดในประเทศไทย ปี พ.ศ. ๒๕๔๐. นนทบุรี : สหพร้ินติ้ง การพิมพ,์ ๒๕๔๑. สจุ รติ ลกั ษณ์ ดผี ดงุ . สารานกุ รมกลมุ่ ชาตพิ นั ธม์ุ ง้ . สถาบนั วจิ ยั ภาษาและวฒั นธรรมเพอื่ พฒั นา ชนบท มหาวิทยาลัยมหิดล. นครปฐม : โรงพมิ พ์สถาบันพฒั นาการสาธารณสุขอาเซียน มหาวิทยาลัย มหิดล, ๒๕๓๘ สุจริตลักษณ์ ดีผดุง. เย้า. นครปฐม : สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาชนบท มหาวิทยาลยั มหิดล, ๒๕๓๙. ๑๘ หนา้ . (อดั ส�ำเนา) สุเทพ สุนทรเภสัช, สังคมและวัฒนธรรมลานนาไทย รวมผลงานวิจัยทางสังคมศาสตร์ใน ภาคเหนอื ของประเทศไทย, เชียงใหม่ : สยามการพมิ พ,์ ๒๕๑๓. สุวิทย์ สุทธานุกูล, การพัฒนาชาวเขาทางภาคเหนือของไทยกับความม่ันคงแห่งชาติ (วิทยานิพนธ)์ , วิทยาลัยการทพั บก, กองทัพบก, พระนคร, ๒๕๑๒. โสฬส สริ ไิ สย.์ “ทม่ี าของคำ� วา่ มเู ซอ” ภาษาและวฒั นธรรม. ปที ี่ ๕ ฉบบั ท่ี ๒ หนา้ ๙๕-๑๐๒. ๒๕๒๕ -----------.สารานุกรมกลุ่มชาติพันธุ์ลาฮู. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั สหธรรมิก จ�ำกัด, ๒๕๓๙

เหยา ซนุ่ อนั . “เสน้ ทางอพยพของชาตเิ ยา้ .” ขา่ วสารศนู ยว์ จิ ยั ชาวเขา. ๙ (ฉบบั ที่ ๔. ๒๕๒๘) : ๒๙–๓๘ อรษา เรืองศิลป์, การด�ำเนินงานกับชาวเขาโดยหน่วยพัฒนาและสงเคราะห์เคลื่อนที่ (วทิ ยานพิ นธ)์ , คณะสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร,์ ๒๕๑๕. อานันท์ กาญจนพันธุ์, แนวความคิดพื้นฐานทางสังคมและวัฒนธรรม, เชียงใหม่: คณะสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เชียงใหม,่ ๒๕๔๘)   เว็บไซต์ การจัดสรรงบประมาณ, http://www.doikham.com/general/history/decade๓/ index-build.htm. เข้าถึงเมื่อวนั ที่ ๑๖ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๘. การก่อตั้งโรงงานอาหารส�ำเร็จรูป, http://www.doikham.com/general/history/ decade๒/index-build-factory.htm. เข้าถึงเมื่อวนั ท่ี ๑๖ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๘ ความส�ำเร็จในอดีตเป็นทางของวิธีปฏิบัติในอนาคต, http://www.doikham.com/ general/history/decade๓/index-future.htm, เข้าถึงเม่อื วนั ที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๘. โครงการหลวง, http://www.doikham.com/general/history/decade๑/index- objective.htm เขา้ ถึงเมื่อวนั ท่ี ๑๖ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๘. มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ “การสง่ เสรมิ สหกรณใ์ นโครงการหลวง” http://web.ku.ac.th/ king๗๒/๒๕๒๖/rproject.htm . เข้าถึงเมื่อวนั ที่ ๑๖ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๘ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง. http://www.doikham.com/general/project-plan/ research/index-research-center-main.htm, เข้าถึงเมื่อวันท่ี ๑๘ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๘. สถานภาพชาวเขา. http://hadf.org/thai/hilltribe/satatus.html เข้าถึงเมื่อวันท่ี ๑๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๘. สถานวี จิ ยั โครงการหลวงอนิ ทนนท.์ http://www.doikham.com/general/project-plan/ research/index-research-center-main.htm, เขา้ ถึงเมือ่ วันที่ ๑๗ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๘. สถานีวิจัยและส่งเสริมกาแฟอราบิกา http://www.doikham.com/general/project- plan/research/index-research-center-main.htm, เข้าถึงเมอ่ื วันท่ี ๑๖ กนั ยายน พ.ศ.๒๕๔๘.




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook