Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ปุ๋ยเคมี

ปุ๋ยเคมี

Description: ปุ๋ยเคมี

Search

Read the Text Version

ศนู ยเ์ รียนร้เู ศรษฐกจิ พอเพียงเพือ่ นพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ต้ังอยบู่ า้ นเลขที่ 55/2 หมู่ที่ 2 ตาบล บา้ นแห อาเภอเมือง จงั หวดั อ่างทอง ปุ๋ยหมักสตู รมูลสตั ว์ วตั ถุดิบ 1. ขี้ววั 1 สว่ น 2. วัชพชื สด + แห้ง 1 สว่ น 3. แกลบดา 1 สว่ น 4. แกลบดิน 1 ส่วน 5. ราละเอยี ด 1 ส่วน 6. นา้ จุลินทรยี ์ 2 ชอ้ น / 20 ลิตร 7. นา้ สะอาด ความชื้นพอเหมาะ วิธีทา 1. นาขี้วัว แกลบดา วัชพืชสด + แห้ง แกลบดิน มาผสมให้เข้ากัน ใส่น้าให้ความช้ืน พอเหมาะ (ลองกาดู ปุ๋ยจะเป็นก้อน และใช้มอื ตเี บาๆ ก็จะแตก) 2. นารามาโรยบนกองวัสดใุ ห้ทว่ั บางๆ 3. นาน้าจลุ นิ ทรีย์ท่ีผสมเสร็จแล้ว มาราดแลว้ ผสมให้เขา้ กันข้อท่ี 1 4. นาแผน่ พลาสติก มาปิด ให้ใช้เวลา 2 วัน นาไปใช้ได้ วิธีใช้ ปริมาณในการใช้ ไรล่ ะ 200 กิโลกรัม

ศูนย์ศรียวง ตง้ั อยู่เลขท่ี 91/1 หมู่ท่ี 7 ตาบลราษฎร์นยิ ม อาเภอไทรน้อย จังหวดั นนทบุรี การทาปยุ๋ หมัก พ้นื ทีจ่ ังหวัดนนทบรุ ี เปน็ พ้นื ที่ทาการเกษตรมาแตด่ ัง้ เดมิ ซงึ่ มีการใช้ปุ๋ยเคมีเป็นจานวน มาก เพ่ือเป็นการลดรายจ่ายจึงได้มีการจัดทาปุ๋ยหมักขึ้น ซ่ึงเกิดจากการนาปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ย ธรรมชาติชนิดหนึ่ง ท่ีได้จากการนาเอาเศษวัสดุต่างๆ เช่น เศษพืชท่ีเหลือใช้จากไร่นาหลังจากการ เก็บเกี่ยว เศษขยะมลู ฝอยจากครัวเรือนหรือของเหลือท้ิงจากโรงงานอุตสาหกรรม มาหมักพร้อมกับ มูลสัตว์ ในการเตรียมกองปุ๋ยหมักอาจใส่ปุ๋ยเคมีลงไปเพ่ือช่วยเร่งกิจกรรมของจุลินทรีย์ดินและเป็น การเพ่ิมคุณค่าด้านธาตุอาหารของปุ๋ยหมักด้วย(บางที่เรียกว่าปุ๋ยคอกเทียม) ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เศษพืชเศษขยะเหล่านี้จะเปล่ียนไปจากรูปเดิม อันเป็นผลมาจากการเปล่ียนแปลงทางเคมีของ จุลินทรีย์เป็นผงเปื่อยยุ่ย มีสีน้าตาลปนดา และเรียกว่า ปุ๋ยหมักซึ่งสามารถนาเอาปุ๋ยหมักนี้ไปใช้ใน การปรับปรุงดนิ ไดด้ ี มีคณุ สมบตั ิในการปรบั ปรงุ ดนิ ทาให้ดนิ โปรง่ เพมิ่ ความพรุนใหแ้ ก่ดนิ ทาให้การ ระบายน้าและอากาศในดินดีขึ้นท้ังช่วยให้ดินอุ้มน้าและดูดซึมธาตุอาหารพืชดีข้ึน ช่วยเพิ่มปริมาณ ธาตุอาหารให้แก่พืช ท้ังธาตุอาหารหลัก ธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริมให้แก่ดิน ให้พืชและ จลุ นิ ทรีย์เจริญเติบโตและส่งเสริมกิจกรรมตา่ งๆ ไดด้ ขี ้นึ วสั ดุอปุ กรณ์ 1) คราด มีด จอบ เพื่อเกบ็ เศษวสั ดุหรอื ซากพืชทีจ่ ะนามากองรวมกัน 2) รถเข็น บุ้งก๋ี หรือเข่งไม้ไผ่ สาหรับใช้ขนซากสัตว์และสารเร่งเคมีท่ีจะนามากอง รวมกนั 3) จอบ เสียม พลั่ว สาหรับปรับพื้นท่ีหรือขุดหลุมที่จะใช้เป็นที่กองซากสัตว์และใช้ สาหรับพลิกกลบั กองปุ๋ยหมกั น้นั 4) ถังน้า บัวรดนา้ และสายยางสาหรบั ใชร้ ดนา้ ให้กับกองปยุ๋ หมัก การเตรียมเชอื้ จุลนิ ทรยี ์ (พด.-1) 1) ละลายเช้ือ พด.-1 จานวน 1 ซอง ตอ่ น้า 20 ลติ ร 2) ต้ังทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที โดยคนอยู่เสมอเพ่ือให้เช้ือจุลินทรีย์กระจายอย่าง ท่ัวถงึ และ เปน็ การกระตุ้นเช้ือจุลินทรยี ์ดว้ ย

การเตรยี มเศษพชื ถา้ เปน็ เศษพืชชิ้นเลก็ ๆ เชน่ แกลบ ขี่เล่ือย ขยุ มะพร้าว กากชานอ้อย ซังข้าวโพด หรือ เศษพืชชน้ิ เลก็ ๆ พวกน้ีไม่ตอ้ งเตรียมก่อนแต่ถ้าเป็นเศษพืชช้ินใหญ่ๆ หรือเป็นเส้นๆ ต้องเตรียมก่อน หมัก กล่าวคือ ต้องรดน้าให้ชุ่มแล้วท้ิงไว้ 1 คืน เพ่ือให้วัสดุดูดความชื่นไว้ก่อนทาปุ๋ยจะดีกว่าเพราะ ถ้าไมท่ าเช่นน้ี เวลาทาปุ๋ยหมักจะตอ้ งใช้น้ารดมาก และน้าจะชะล้างมูลสัตว์และจุลินทรีย์ท่ีโรยไว้ทิ้ง ไปดว้ ย แต่ถ้าวสั ดเุ หลา่ น้ีดดู ความชื่นไวแ้ ล้วเพยี งพรมนา้ อกี เลก็ น้อยได้ สิง่ ท่ีควรคานึงในการทาปุย๋ หมัก ถ้าให้ปุ๋ยหมักมีคุณภาพดี ควรเลือกสถานท่ีกองปุ๋ยในที่มีน้าไม่ท่วมขังและอยู่ในท่ีร่ม หรอื มหี ลังคาคลมุ แต่ถา้ หากกองปุ๋ยใหญ่มากแบบที่ต้องใช้รถแทรกเตอร์กลับกองน้ัน อาจกองปุ๋ยไว้ กลางแจ้ง โดยไม่มีหลังคาคุลมก็ได้เนื่องจากผิวช้ันนอกของกองปุ๋ยเท่านั้นท่ีถูกแสงแดด ถูกฝน แต่ ส่วนท่อี ยู่ดา้ นในจะถกู คลุมทับไว้อกี ที .ข้ันตอนการทาปยุ๋ หมัก 1) การเลือกสถานที่ที่จะใช้ผลิตปุ๋ยหมัก มีความสาคัญทั้งน้ีเพ่ือเป็นการประหยัด แรงงานและเวลา จึงควรพจิ ารณาดังน้ี คอื - ควรเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้กับแหล่งที่มีซากพืชและซากสัตว์มากท่ีสุด เพ่ือความ สะดวกในการขนยา้ ย - ควรเป็นบริเวณที่อยู่ใกล้แหล่งน้า ทั้งนี้เพ่ือความสะดวกในการรดน้าให้กองปุ๋ย หมัก - ควรเปน็ บริเวณท่ดี อนน้าท่วมไม่ถงึ และมรี ะดบั พน้ื ราบเสมอกนั ให้มากที่สดุ 2) การเตรียมวัสดุทใี่ นการทาปุ๋ยหมัก - วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร จาพวกเศษพืชต่างๆท่ีเหลือทิ้งไว้ในไร่นา เช่น ฟาง ข้าว เปลือกถ่ัว ต้นข้าวโพด ซังข้าวโพด ใบอ้อย ไส้ปอ ใบไม้ใบหญ้าทุกชนิด ก่อนนาไปกองปุ๋ยหมัก ควรสับใหเ้ ป็นชนิ้ เลก็ ลงและตากให้แหง้ - วัสดุทางการเกษตรท่ีเหลือใช้จากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น กากอ้อย สับปะรด แกลบ ขี่เล่ือย ขุยมะพร้าว กากเส้นใยปอ กากมันสาปะหลัง เปลือกผลไม้ กากปลาจากโรงงานทา นา้ ปลา - เศษขยะมูลฝอยทีม่ ีอยูท่ ุกครัวเรือนท่ีไมม่ ีพลาสตกิ - วชั พืชนา้ เชน่ ผักตบชวา จอก แหน ท่ีมอี ยู่ในแม่น้าลาคลองวัชพืชบกทุกชนิดท่ีมี อยู่ตามไร่นาและสวนถ้าชน้ิ ใหญ่หรือยาวเกินไปก่อนนาไปใชค้ วรสบั ใหเ้ ปน็ ชิ้นเล็กลงและตากใหแ้ หง้

- มูลสตั ว์ ได้แกม่ ูลไก่ (มวี สั ดุรองพื้นมูลไก่ เชน่ ข้ีเล่ือย แกลบ ) มูลไก่ไข่ (มีมูลไก่เพียง อยา่ งเดียว) มลู สุกร มูลวัว มลู ควาย ฯลฯ - ปุ๋ยเคมี การเพ่ิมป๋ยุ เคมเี พอ่ื เพ่ิมธาตไุ นโตรเจนลงในกองปุ๋ยมีความสาคัญต่อการหมัก ซากพืชทีม่ ีสดั สว่ นของคาร์บอน/ไนโตรเจนกวา้ ง เชน่ ฟางข้าวและตอซงั ขา้ วโพด ดังน้ันการนาปุ๋ยหมักควรมีการใช้อัตราส่วนของซากพืช ปุ๋ยคอกและปุ๋ยแอมโมเนีย ซลั เฟตเท่ากับ 100:10:2 การเพิ่มปุ๋ยฟอสเฟตและโปรแตสเซียมลงไปด้วยจะช่วยให้คุณภาพของปุ๋ย หมักนน้ั ดียงิ่ ขนึ้ สาหรับปูนขาวควรใชป้ ระมาณ 20 กิโลกรัมต่อซากพืชแห้ง 1 ตัน ปุ๋ยไนโตรเจนจาก ปุ๋ยเคมีซึ่งใส่ลงในกองปุ๋ย จุลินทรีย์นาไปใช้ และแปรสภาพให้เป็นสารอินทรีย์ไนโตรเจน กล่าวคือ ประมาณ 1 เดือน หลังจากเริ่มหมักปรากฏว่ามีกรดอะมีโนในรูปน้าตาลและกรดอะมิโนต่างๆ ใน กองปยุ๋ มากขนึ้ ตอ่ จากน้นั กาแลคโตซามีนก็เพ่มิ ปรมิ าณขึ้นด้วย สารประกอบเหล่าน้ีข้ึนโดยจุลินทรีย์ ทเ่ี จรญิ เติบโตในกองปยุ๋ และจะแปรรปู ไปเปน็ ประโยชน์ตอ่ พชื - สารเร่งเป็นแหล่งจลุ ินทรยี ์ทมี่ ปี ระสิทธิภาพในการยอ่ ยสลายสงู จะเป็นตวั เร่งการเกิด การย่อยสลายใหเ้ รว็ ข้นึ ซึง่ เป็นการชว่ ยรน่ ระยะเวลาการทาปุ๋ยหมัก จุลินทรีย์ที่เกี่ยวข้องในการย่อย สลายอินทรียวัตถุในกองปุ๋ยหมักนั้นมีหลายชนิด แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ได้ เชื้อรา, แอนติโนมัยซิส และ แบคทีเรยี หรือ เช้ือ หรอื ใช้เชื้อ พด.-1 หมายถงึ เช้อื จลุ ินทรีย์ท่ีใชใ้ นการทาปยุ๋ หมกั ซึ่งจะเป็นตัวเร่ง การย่อยสลายของปุ๋ยหมัก ซึ่งผลิตโดยกรมที่ดิน แต่อย่างไรก็ตามถ้าเกษตรกร ไม่สามารถหาพด.-1 ได้ ก็สามารถทาปุ๋ยหมักได้เช่นกันเนื่องจากเช้ือจุลินทรีย์ดังกล่าวมีอยู่ในซากพืชและซากสัตว์ ธรรมชาติ สาหรับเศษพืชและมูลสัตว์ สามารถนาไปใช้ทาปุ๋ยหมักได้ในอัตราส่วนท่ีต่างกัน ตวั อย่างตอ่ ไปนี้เป็นสูตรป๋ยุ หมักได้ผลดี สตู รที่ 1 ขยุ มะพร้าว 1 สว่ น มลู ไก่เนอ้ื 1 ส่วน เชอื้ พด.-1 1 ซอง(ต่อวสั ดุ 1 ตนั ) สตู รท่ี 2 กากชานออ้ ย 2 สว่ น มูลไก่เนื้อ 1 ส่วน เช้ือ พด.-1 1 ซอง(ต่อวสั ดุ 1 ตนั )

สตู รที่ 3 เศษหญ้า หรอื ฟางขา้ วหรอื เศษพืช 4 ส่วน มลู ไก่เนื้อ 1 ส่วน เชอ้ื พด.-1 1 ซอง(ต่อวสั ดุ 1 ตัน) หมายเหตุ 1. ถ้าใชม้ ลู ไก่ไข่ ใหใ้ ชค้ ร่ึงหนึ่งของมลู ไกเน้อื 2. เศษพืชที่ยบุ ตวั นอ้ ย ให้ใช้ 1 สว่ น เช่น ขุยมะพร้าว 3. เศษพชื ทย่ี ุบตวั มาก ให้ใช้ 4 สว่ น เช่น ฟาง และหญา้ ประโยชนข์ องป๋ยุ หมัก 1) ปุ๋ยหมกั ช่วยปรบั ปรุงบารุงดนิ โดยชว่ ยเพิม่ ปยุ๋ อนิ ทรยี วัตถแุ ละธาตุอาหาร ทาให้ดิน มีคุณสมบัติเหมาะต่อการเจริญเติบโตของพืช ส่งผลผลิตสูงขึ้น ปุ๋ยหมักช่วยทาให้ดินมีคุณสมบัติ เหมาะแกก่ ารเพาะปลกู ดงั นี้ - ดินที่การจับตัวกันอย่างพอเหมาะต่อการเก็บและระบายน้าและมี อากาศถ่ายเท - ดนิ มีความรว่ นซุย - ดนิ มธี าตอุ าหารครบถว้ นท้งั ธาตอุ าหารหลกั และธาตอุ าหารรอง - ดินมีอนิ ทรยี ส์ ารต่างๆอยอู่ ย่างครบถว้ น - เปน็ แหล่งอาหารของจลุ นิ ทรีย์ในดนิ - ชว่ ยชะลอปรมิ าณเช้ือโรคพชื บางชนิดในดิน - ช่วยตา้ นทานการเปลีย่ นแปลง ค่า pH ของดิน 2) เพ่ิมปริมาณอินทรียวตั ถใุ หแ้ กด่ นิ และรกั ษาความอุดมสมบรณู ข์ องดินอยเู่ สมอ 3) เปลยี่ นสภาพจากดินเหนียวหรอื ดินทรายใหเ้ ปน็ ดนิ ร่วน สะดวกแกก่ ารไถพรวนและ เหมาะสมแกก่ ารเจรญิ เตบิ โต 4) ช่วยรักษาความชุ่มชน่ื ในดนิ 5) ทาให้การถา่ ยเทอากาศในดนิ ไดด้ ขี ้นึ 6) เพิม่ ธาตไุ นโตรเจนใหก้ บั ดิน เป็นธาตอุ าหารที่สาคัญอย่างหนึง่ ทาใหพ้ ืชมใี บเขียวงา 7) ไมเ่ ป็นอนั ตรายตอ่ ดินแมจ้ ะใชป้ รมิ าณมากติดตอ่ กันนาน ๆ 8) ช่วยเพ่ิมประสทิ ธิภาพในการใช้ป๋ยุ เคมี และสามารถลดอตั ราการใชป้ ยุ๋ เคมี 9) กระต้นุ ให้ธาตุอาหารพืชบางอย่างในดินที่ละลายน้าได้ยากให้ละลายน้าเป็นอาหาร พชื ไดด้ ขี ้ึน 10) ปรับสภาพสิง่ แวดลอ้ ม ชว่ ยกาจดั ขยะมูลฝอยและวชั พืชน้าทงั้ หลายให้หมดไป

ศูนย์เรียนร้ปู ราชญช์ าวบ้าน กลมุ่ เกษตรอนิ ทรยี ์บ้านเหลา่ มะละกอ ต้งั อยู่ที่ 21 หมู่ 15 ตาบลทุ่งหลวง อาเภอปากทอ่ จังหวดั ราชบุรี การทาปยุ๋ หมักชีวภาพ วัสดุ / อุปกรณ์ - มลู สตั ว์ (มลู โค มูลหมู มูลไก่) - ละอองข้าว หรือ กากออ้ ย - แกลบดา - ราละเอยี ด - กรดซลิ คิ อน - กากก้งุ - กากนา้ ตาล , เชอ้ื พด. 1 - EM ขยายจากน้าซาวข้าว , น้ามะพร้าว - ปยุ๋ อินทรียน์ า้ (ปุ๋ยปลา , ฮอร์โมนไข่) ส่วนผสมทางกลุ่มไม่ได้กาหนดปริมาณใช้ คานวณให้มีอินทรียวัตถุประมาณ 60% เพราะทาจานวนมากครงั้ ละ 60 - 80 ตัน วิธีทา / ข้นั ตอน 1) นาวัสดุทม่ี ปี ระมาณมากเขา้ กองชนิดละ 1 ชั้น ในโรงเรือน ราดน้าทาความช้ืน ราด ด้วยเชื้อสารเร่ง (พด. 1) EM ขยาย , อาหารเสริม ให้ความช้ืนประมาณ 60 % ทาอย่างน้ีจนหมด วสั ดุ ชนั้ สุดท้ายโรยด้วยราละเอียด 2) คลุกเคลา้ ส่วนผสมให้เขา้ กนั โดยใชค้ ราด ถา้ ความช่ืนไม่ไดใ้ หร้ าดน้าทาความชนื้ เพิ่ม ถา้ แฉะให้เพ่มิ วัสดุจนมีความช้ืนประมาณ 60 % ใช้มอื กาวัสดุบีบนา้ ไม่ไหล 3) คลมุ ดว้ ยกระสอบป่าน หรือ แกลบดา 4) กลับกองปุ๋ยวันเว้นวัน จานวน 7 ครั้ง หมักไว้ 1 เดือน สังเกตวัสดุเปล่ียนเป็นสี นา้ ตาลปนดา ไมม่ ีกลนิ่ เหม็น ความร้อนในกองปุ๋ยใกลเ้ คยี งกบั อุณหภมู ภิ ายนอก นาไปใช้ได้.

วธิ ีใช้ ใช้ไดก้ บั พืชผัก ไม้ยืนตน้ ทุกชนดิ ใชร้ องพ้ืนปลูกพืชผัก อัตราการใช้ ไร่ละ 2 ตัน ไม้ยืน ต้นคร้ังละ 10 กิโลกรัม ปีละ 3 - 4 ครั้ง นาข้าว ไร่ละ 500 กิโลกรัม หรือตามความเหมาะสมของ สภาพดนิ ประโยชน์ 1) ปรบั ปรุงบารุงดิน อน่ื ๆ 2) เพ่ิมอนิ ทรียวัตถุ เพ่มิ ธาตอุ าหารของพชื 3) เพิม่ จลุ ินทรีย์ทมี่ ปี ระโยชนใ์ นดนิ 4) ปลดปล่อยธาตุอาหารจากปุ๋ยเคมีทต่ี กค้างในดนิ ให้พืชนาไปใชไ้ ด้ 1) ลดต้นทุนในการทาการเกษตร 2) สร้างความสมดุลของธรรมชาติ อนรุ ักษส์ ิง่ แวดลอ้ ม

ศูนย์การเรยี นรเู้ กษตรธรรมชาติวังสมบูรณ์ 109 หมู่ 4 ตาบลวังใหม่ อาเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว ป๋ยุ หมักชวี ภาพ สว่ นประกอบ 1) ดนิ ร่วน 1 สว่ น 2) ราออ่ น 1 ส่วน 3) อนิ ทรียวตั ถุ 8 ส่วน (อินทรียวัตถุ ได้แก่ มูลสัตว์ ซาก พืช ซากสัตว์ ใบไม้ใบหญ้าท้ังสดและแห้ง กากอ้อย กากถ่ัว คายข้าว แกลบดา แกลบขาว และ อนื่ ๆ เท่าทจ่ี ะได้รวมกนั ใหไ้ ด้ 8 ส่วน เฉพาะแกลบดา และแกลบขาว ใชไ้ ด้ไมเ่ กนิ อย่างละ 1 สว่ น) 4) น้าหมกั ชีวภาพ 3 ชอ้ นโต๊ะ ผสมกากน้าตาล 3 ช้อนโตะ๊ ผสมน้า 20 ลติ ร 5) นา้ หมกั ชวี ภาพสูตรเสรมิ ประสทิ ธภิ าพปยุ๋ หมกั วิธที า เอาข้อ 1 - 3 คลุกเคล้าเข้าด้วยกัน รดด้วยข้อ 4 ให้มีความชื้นพอหมาดๆ (50%) ถา้ ตอ้ งการใหป้ ยุ๋ หมกั มีประสทิ ธิภาพสูง พืชเจรญิ เติบโตรวดเรว็ และแข็งแรง ให้ใช้ข้อ5 แทนข้อ 4 ต้งั กองสงู 15- 30 เซนตเิ มตร คลุมด้วยฟางหรือใบไม้ใบหญ้า หรือกระสอบหรือวัสดุอื่นๆท่ีคลุมได้ กลับกองทุกวัน 4 วันข้ึนไปก็ใช้ได้ ถ้าไม่กลับกอง ต้องรอจนกว่าปุ๋ยจะเย็น ประมาณ 1 - 2 สัปดาห์จึงใชไ้ ด้ วธิ ใี ช้ 1) ใช้นาข้าว 50 - 200 กิโลกรัม/ไร่ 2) ใชใ้ นแปลงผกั 1 - 10 กโิ ลกรมั /ตารางเมตร 3) ใช้ในหลมุ ปลกู ตน้ ไม้ 1 - 5 กโิ ลกรัม/หลุม จะใช้มากหรอื น้อย ขึ้นอยู่กบั ความอุดมสมบูรณข์ องพน้ื ท่ี

รายละเอียด : น้าหมักสูตรเสริมประสิทธิภาพปุ๋ยหมัก เมืองฮันซา ประเทศปากีสถาน เป็นเมอื งท่ีมีคนอายุยืนท่ีสุดในโลก เฉลี่ย 110 ปี ประชาชนส่วนใหญ่ รับประทานพืช ผัก ผลไม้เป็น อาหารหลกั จากการสารวจพบว่าดินมธี าตุอาหารอดุ มสมบรู ณท์ ส่ี ดุ ในโลก ประชาชนชาวฮันซาใช้ปุ๋ย มูลคนในการทากสิกรรม ประเทศจีน อินเดีย และเวียดนาม ก็ใช้ปุ๋ยมูลคนมาเป็นเวลาหลายพันปี จนปัจจบุ นั ประเทศดงั กล่าวมผี ลผลติ ทางการเกษตรทีไ่ รส้ ารพิษ และมีคุณภาพมากกว่าประเทศอ่ืนๆ ปยุ๋ มลู คนกค็ อื อาหารทค่ี นรับประทานเข้าไปแลว้ เหลอื เปน็ กากเปน็ เศษออกมา มูลคนและเศษอาหาร มีแร่ธาตุที่มีคุณค่าต่อพืชเป็นอย่างมาก เพราะคนกินส่ิงท่ีมีคุณค่าและสะอาดกว่าท่ีสัตว์กิน ถ้า สามารถหมุนเวยี นกลับมาเป็นปุ๋ยบารุงดิน บารุงพืช ก็จะได้พืชที่มีธาตุอาหารและเอนไซม์ท่ีสมบูรณ์ คนบริโภคกจ็ ะมีสขุ ภาพท่ดี ี นอกจากนก้ี ย็ งั เป็นการกาจดั ขยะได้อีกทางหนึ่ง เพียงแต่เศษอาหารและ มูลคนต้องผ่านการหมักสกัดธาตุอาหารทาลายเชื้อโรค และพยาธิก่อนนามาใช้ก็จะปลอดภัย และ เป็นประโยชน์อย่างยง่ิ ดร.อรรถ บุญนิธิ อดีตอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ บรรยายที่หมู่บ้านราชธานีอโศก ในงานกสิกรรมเพื่อฟ้าดิน เมื่อ พ.ศ. 2544 ว่า “ได้มีการทดลอง หมกั มูลคนดว้ ยระบบจุลินทรีย์ พบว่าสามารถกาจัดเช้ือและพยาธิที่ก่อโรคในคนได้” บางคนอาจจะ มีความรู้สึกไม่ดีกับเศษอาหาร และมูลคน ท้ังๆที่ก็เป็นเพียงอินทรียวัตถุที่หมุนเวียนกับสิ่งมีชีวิตใน โลก แปรเปลย่ี นหมุนวนกลับไปมาเป็นธรรมดาๆ แตก่ ลบั ไม่กลวั ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าหญ้า และ สารเคมีอ่ืน ซ่ึงเป็นอันตราย ทาลายชีวิตมนุษย์และส่ิงแวดล้อม สาหรับท่านท่ีรักและห่วงใยสุขภาพ ก็ลองศึกษาวธิ หี มกั สกดั ธาตอุ าหาร ทาลายเชื้อโรค และพยาธิจากเศษอาหารและมูลคน แล้วนามา เป็นปยุ๋ ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จา่ ย ไดพ้ ืชทแ่ี ข็งแรง ปลอดภยั ไร้สารพิษ ซึ่งจะเป็นอาหารท่ีมีคุณค่า ตอ่ สุขภาพอย่างดยี ่งิ

ศนู ย์การเรยี นรเู้ กษตรธรรมชาตวิ ังสมบูรณ์ 109 หมู่ 4 ตาบลวังใหม่ อาเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว การหมักปยุ๋ มหัศจรรย์ ส่วนประกอบ 40 ส่วน 1) เคก้ ออ้ ย 25 สว่ น 2) ละอองขา้ ว 10 สว่ น 3) ขีเ้ ถา้ ดาจากแกลบ 10 ส่วน 4) ขี้เถ้าดาจาก 10 สว่ น 5) มูลสตั ว์ 5 สว่ น 6) ราออ่ นหรือราละเอียด 5 ส่วน 7) แร่หินธรรมชาติเพอร์ไลท์ 1 ปีบ 8) ยูเรยี จากคน (นา้ ปสั สาวะ) ครงึ่ กระปอ๋ งนม ตอ่ นา้ 1 ปบี 9) นา้ จุลนิ ทรีย์หรือนา้ สกดั ชีวภาพ 8 ช้อนโตะ๊ ต่อน้า 8 ชอ้ นโตะ๊ ตอ่ นา้ 1 ปีบ 10) โมลาส 11) น้าสะอาดมากนอ้ ยตามจานวนกองป๋ยุ วิธที า นาวัตถดุ ิบทัง้ หมดคลุกเคล้าให้เข้ากัน พรมด้วยน้าสกัดชีวภาพที่ผสมน้าปัสสาวะ และ โมลาสตามอตั ราสว่ นข้างต้นแลว้ รวมกองประมาณดูความชื้นพอหมาดๆ ลองกาดูอย่าให้น้าไหลตาม งา่ มน้ิว และเม่ือคลายน้ิวมือออกดินจะแตกไม่เป็นก้อนจึงใช้ได้ กองปุ๋ยสูงประมาณ 1 ศอกแล้วคลุม ด้วยถุงปุ๋ยหรอื เต็นท์เกา่ ๆ แลว้ กลับกองป๋ยุ ทุก 2 วนั จนกวา่ ปยุ๋ เย็น เท่าอุณหภูมภิ ายนอก จากนั้นนาปุ๋ยที่หมักได้น้าแล้ว มาผสมกับแร่เพอร์ไลท์ปุ๋ยหมัก 1 ตัน หรือหนึ่งพัน กิโลกรัม ต่อแร่เพอร์ไลท์ 200 กิโลกรัม (20%) คลุกเคล้าให้เข้ากัน นาไปใช้กับต้นไม้ไม่ได้ โดยใส่ท่ี โคนตน้ บรเิ วณทรงพมุ่ ของตน้ ไม้ ใชพ้ อประมาณ

ศนู ย์เรยี นรูพ้ ฒั นาที่ดนิ ตามแนวเศรษฐกจิ พอเพียง เลขท่ี 16/1 หมู่ที่ 2 ตาบลบางนางล่ี อาเภออมั พวา จงั หวัดสมุทรสงคราม ความเปน็ มา การผลติ ปุ๋ยหมักชวี ภาพ ปัจจุบันการทาสวนผลไม้มีต้นทุนการผลิตสูงและไม่ปลอดภัยจากสารเคมี สภาพของ ดินไมม่ ีจุลนิ ทรยี ์จากธรรมชาติ ดนิ เสอื่ มโทรมทาใหผ้ ลผลิตนอ้ ยลง มีโรคยางไหล จึงเน้นให้เกษตรกร ลดการใชส้ ารเคมีและมาเรียนรกู้ ารปรบั ปรุงดนิ โดยวธิ ที างธรรมชาติ เปน็ การอนรุ กั ษ์ส่งิ แวดลอ้ ม วสั ดุอปุ กรณ์ 1. เศษพืช เชน่ ฟางข้าว เศษหญ้า ผกั ตบชวา มูลสตั ว์ ปยุ๋ ยูเรีย สารเรง่ พด. 1 วิธที า/ขน้ั ตอน 1. นาเศษพืช เช่น ฟางข้าว เศษหญ้า ผักตบชวา ต้นข้าวโพด ต้นอ้อย มากอง 1,000 กโิ ลกรัม มูลสัตว์ 200 กิโลกรมั ปยุ๋ ยูเรยี 2 กิโลกรมั สารเร่ง พด. 1 1 ซอง 2. นาเศษพืชสบั ให้ละเอียดมากอง (ใน 1 ตจั ะมขี นาด 2 x 3 x 1.50 เมตร) เป็น 3 ช้ัน ชั้นแรก นาเศษพชื กองและรองพื้นด้วยมูลสัตว์ ตามด้วยปุ๋ยยูเรีย ละลายสารเร่ง พด.1 คนให้เข้ากัน ในนา้ 5 ลติ ร ราดลงท่กี องปุ๋ย ทาเหมือนกันท้ัง 3 ช้ัน คลุมด้วยวัสดุ ไว้ในที่ร่ม รดน้าให้ชุ่ม กลับกอง ปุย๋ ทุก 7 - 10 วัน ประมาณ 45 วนั นาไปใชไ้ ด้ วิธใี ช้ 1. พชื ผัก 2 ตนั /ไร่ 2. ไม้ผล 20 กโิ ลกรัม/ต้น 3. ไมด้ อกไม้ประดบั 2 ตนั /ไร่ ประโยชน์ 1. ดินรว่ นซุย การจับตัวเปน็ ก้อนอุ้มน้าได้ดี 2. เพิม่ แหลง่ อาหารของจุลินทรีย์ในดิน 3. ควบคุมเชอ้ื สาเหตขุ องโรคพชื 4. ปรบั สภาพดนิ และน้าใหเ้ หมาะสม

ศนู ย์การเรยี นร้เู กษตรธรรมชาติวังสมบรู ณ์ 109 หมู่ 4 ตาบลวังใหม่ อาเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว ปุ๋ยหมักชีวภาพ (ใชเ้ วลา 5 วัน นาไปใช้ได้เลย) ส่วนประกอบ 1) แกลบดา (ข้เี ถา้ ) 1 สว่ น 2) แกลบสด 1 สว่ น 3) มูลสตั ว์ 1 ส่วน 4) ราหยาบ ½ สว่ น 5) ราออ่ น ½ ส่วน 6) ดินดี ¾ สว่ น 7) หัวเชอ้ื นา้ แม่-พอ่ 0.5 ลิตร 8) นา้ ตาลทรายแดง 2 ขีด 9) น้า 10 ลติ ร วธิ ีทา นาวัตถุดิบข้อ 1 - 6 มาผสมคลุกจนเป็นเน้ือเดียวกัน ผสมหัวเชื้อน้าพ่อ-แม่ น้าตาล ทรายแดงและน้า 10 ลิตร คนจนเข้ากัน แล้วนาไปรดกองปุ๋ย คลุกเคล้าให้เข้ากันพร้อมกับใส่น้าไป เรอื่ ยๆ จนกระท่งั หมาดๆ เกล่ียกองปุ๋ยให้ทั่วความสูงไม่เกิน 30 ซม. นากระสอบป่าน หรือซาแลนสี ดามาคลุม อย่าให้กองปุ๋ยร้อนจัด จุลินทรีย์จะตาย กลับกองปุ๋ยทุก 1 หรือ 2 วัน ครบ 5 - 7 วัน นาไปใชไ้ ดเ้ ลย

ปยุ๋ หมักแหง้ อนิ ทรยี ์ชีวภาพ (ชนิดผง) เปน็ ปุ๋ยทไ่ี ดจ้ ากจากนามลู สัตว์ต่างๆ มาผสมคลุกเคลา้ กับข้ีเถ้า แกลบ กากออ้ ย ราข้าว เศษซากพืชต่างๆ โดยใช้น้าตาล และหัวเชื้อจุลินทรีย์เข้มข้น เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการย่อยสลาย เม่ือ หมักและย่อยสลายจนสมบูรณ์แล้ว จะได้ปุ๋ยหมักแห้งอินทรีย์ชีวภาพท่ีมีคุณภาพซ่ึงส่วนผสมต่างๆ สามารถดดั แปลงไดต้ ามวัสดทุ ี่มีอยูใ่ นท้องถนิ่ นนั้ ๆ สูตรมูลสตั ว์ ส่วนประกอบ 1) มูลสัตว์ 1 กระสอบ 2) แกลบ เศษใบไม้ หรอื ซังขา้ วโพด 1 กระสอบ 3) ขีเ้ ถ้าแกลบ 1 กระสอบ 4) ราออ่ น 1 กระสอบ 5) นา้ สะอาด 10 ลิตร (ถ้าวัตถุดิบแห้งมาก สามารถเพม่ิ ปริมาณได้) 6) หวั เช้อื จลุ นิ ทรยี ์เขม้ ข้น 1 ลิตร วิธที า 1) มลู สตั ว์ แกลบ ข้เี ถา้ แกลบ และราออ่ นมาผสมคลุกเคล้าให้เป็นเนื้อเดยี วกัน 2) ผสมน้ากับหัวเช้ือจุลินทรีย์เข้มข้นให้เข้ากันรดลงบนกองวัสดุผสมให้เข้ากันจนมี ความชื้นประมาณ 35% (โดยทดลองกาดู จะสามารถ เกาะกนั เป็นกอ้ น แตไ่ มเ่ หนยี ว และเม่ือปล่อย ลงพืน้ จากความสูงประมาณ 1 เมตร กอ้ นปุ๋ยจะแตก แต่ยงั มีรอยน้ิวมืออยู่) 3) คลกุ เคลา้ ให้เข้ากันดี ตกั ปยุ๋ ใส่กระสอบแล้วมัดปากถุงใหแ้ น่น 4) กองกระสอบปุ๋ยซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ และควรวางกระสอบแต่ละตั้งห่างกันเพื่อให้ ความรอ้ นสามารถระบายออกไดท้ ัง้ 4 ดา้ น (เพ่ือไมต่ ้องกลับกระสอบทุกวัน) 5) ทงิ้ ไวป้ ระมาณ 5 - 7 วัน ตรวจดู ถ้ามีกล่ินหอม และไม่มีไอร้อน ก็สามารถนาไปใช้ งานได้ และสามารถเกบ็ รกั ษาไว้ไดน้ าน วธิ ใี ช้ ควรใช้ตง้ั แต่ในขน้ั ตอนของการเตรียมดิน โดยผสมคลกุ เคลา้ กับดินในแปลง เสร็จแล้ว คลุมดินด้วยฟาง เศษหญ้าหรือเศษใบไม้ต่างๆ จากน้ันใช้ปุ๋ยน้าหมักอินทรีย์ชีวภาพ รดราดลงไปใน อัตราสว่ น 1 : 200 จะช่วยใหด้ ินรว่ นซยุ และฟขู ้นึ ทาให้รากพืชเตบิ โตไดด้ ี

ศูนยเ์ รียนรู้เศรษฐกจิ พอเพียงชุมชนปลกั ไม้ลาย ต้ังอยู่เลขท่ี 54 หม1ู่ 0 บา้ นหนองไขก่ า ตาบลทุ่งขวาง อาเภอกาแพงแสน จังหวัดนครปฐม การทาปุย๋ หมกั และปุย๋ หมักเรง่ ดว่ น ส่วนผสม 1. มลู สตั ว์ 1 ตนั 2. แกลบ 1 ตนั 3. ราละเอยี ด 100 กโิ ลกรมั 4. น้าสกัดชีวภาพ / จุลินทรยี ์ 10 ลติ ร + สาร พด.1 1 ซอง (เชน่ กอกอ้อย ขเ้ี ลอ่ื ย แกลบ เปลอื กถ่ัวลิสง ถว่ั เขยี ว ขยุ มะพร้าว ฯลฯ) วิธีทา ทา ผสมวัสดุเขา้ ดว้ ยกนั รดน้าผสมน้าสกัดชีวภาพและกากน้าตาล ( ใช้น้าตาลทราย แดงแทนกากนา้ ตาลได้ ) วิธีใช้ 1 - 2 ตนั ต่อไร่ตอ่ ปี ประโยชน์ ปรบั ปรงุ บารุงดิน ทดแทนการใชป้ ุ๋ยเคมี ทาให้ดินร่วนซยุ เกบ็ ความชุม่ ชน้ื ไดด้ ี

ศนู ย์กสิกรรมธรรมชาตทิ ่ามะขาม เลขท่ี 213 หมู่ 2 ซอยพัฒนา 1 ตาบลทา่ มะขาม อาเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ปุ๋ยหมกั ชวี ภาพ ปุ๋ยหมักชีวภาพ คือ ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผ่านกระบวนการหมักกับน้าเอนไซม์ ช่วยในการ ปรบั ปรงุ ดิน ยอ่ ยสลายอินทรียวัตถุในดนิ ให้เป็นอาหารแก่พชื ส่วนประกอบ 1 กิโลกรัม 1) แกลบสด 1 กิโลกรัม 2) แกลบดา 3 กโิ ลกรมั 3) มลู สตั ว์ กากถ่วั ขเ้ี ลื่อย ขยุ มะพร้าว 1 กิโลกรัม 4) ราละเอยี ด 1 กิโลกรมั 5) ขยะสดตา่ ง ๆ 1 กโิ ลกรัม 6) อนิ ทรียวัตถุทหี่ าได้ในพื้นท่ี หญ้าแหง้ ฟาง ใบไม้ วธิ ีทา 1) ผสมน้าเอนไซม์ 1 + น้าตาล 1 + น้า 100 ส่วน แล้วใช้บัวรดน้ารดบนกองปุ๋ยทีละ ชั้นให้ได้ความชนื้ 30% 2) เกล่ียกองปุ๋ยหมักบนพ้ืนให้หนาประมาณ 1 ศอก คลุมด้วยกระสอบป่าน หรือ กระสอบปุ๋ย หรอื คลุมดว้ ยแกลบสดหรอื ฟาง เพื่อไม่ใหถ้ กู แสงแดดประมาณ 5 วัน ตรวจดูความร้อน วนั ที่ 2 หรอื 3 ไมต่ ้องกลบั กองปุ๋ย ถ้าปยุ๋ กองใหญม่ ากใชเ้ วลา 20 วัน 3) บรรจปุ ุย๋ หมกั ชีวภาพทคี่ ลุกเคล้ากันดีแล้วในกระสอบปุ๋ย สามารถเก็บได้นานเป็นปี ปุ๋ยหมักชีวภาพท่ีได้ประกอบด้วย จุลินทรีย์ สารอินทรีย์ต่างๆ ท่ีมีสารอาหารเหมาะ สาหรับพืช นาไปใชไ้ ดท้ นั ที ปยุ๋ หมกั ชวี ภาพทด่ี ีจะมีกล่นิ หอม มีใยสีขาวของเช้อื รา ในระหวา่ งการหมกั ถ้าไม่เกิด ความร้อนแสดงว่ามขี ้อผิดพลาด อุณหภมู ใิ นการหมกั ที่เหมาะสม อย่รู ะหว่าง 40 - 50๐C ถา้ ให้ความ รอ้ นสูงเกินไป จะเกดิ ความรอ้ นนานเกนิ ไป ฉะนั้นใหค้ วามช้ืนทพี่ อดีประมาณ 30% วิธีใช้ 1) ผสมปยุ๋ หมกั ชวี ภาพกับดนิ ในแปลงผักทุกชนดิ ในอัตรา 1 กโิ ลกรัม : 1 ตร.ม. 2) พืชผักอายุเกิน 2 เดือน เช่น กะหล่าปลี ถ่ัวฝักยาว แตง ฟักทอง ควรใช้ปุ๋ยหมัก ชีวภาพคลกุ กับดินรองกน้ หลุมก่อนปลูกกล้าผกั ประมาณ 2 กามือ รดนา้ ใหช้ ่มุ

3) ไม้ผลควรรองก้นหลมุ ด้วยเศษหญ้า ใบไมแ้ ห้ง ฟาง และปุ๋ยหมักชีวภาพ 1 กิโลกรัม สาหรบั ไม้ผลทีป่ ลกู แลว้ ใสป่ ุ๋ยหมักชวี ภาพ แนวทรงพุ่ม 2 กามือ ต่อ 1 ตร.ม. แล้วคลุมด้วยหญ้าแห้ง ใบไมแ้ หง้ ฟาง แล้วรดนา้ ใหช้ ุ่ม 4) ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้กระถาง ควรใส่ปุ๋ยหมักชีวภาพ เดือนละ 1 ครั้ง ต่อ 1 กามือ ใช้ 1 กโิ ลกรมั ตอ่ 6 ตร.ม. ปุ๋ยหมักชีวภาพใช้เวลาสลายสารอาหารพืชเร็วกว่า ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก เมื่อใส่ลงดินท่ีมี ความชน้ื พอเหมาะ เช้อื จุลินทรียท์ ีไ่ ดป้ ยุ๋ หมักชีวภาพจะทาหนา้ ที่ยอ่ ยสลายอินทรียวัตถุในดิน ให้เป็น ประโยชนต์ อ่ ต้นไม้ จึงไม่จาเป็นต้องใหใ้ นปริมาณมากๆ และในดินควรมีอนิ ทรยี วตั ถุพวกปุ๋ยหมัก ปุ๋ย คอก หญ้าแหง้ ใบไมแ้ ห้ง ฟาง และมคี วามช้นื เพยี งพอ ต้นพชื จึงจะได้ประโยชน์เต็มท่ี จากการใส่ปุ๋ย หมักชีวภาพ แต่ถ้าใส่ครั้งละมากเกินไปอาจทาให้ต้นไม้ตายได้ ส่วนจะให้ปริมาณครั้งละเท่าไร บ่อยครั้งเท่าไร เพอื่ ใหไ้ ด้ประโยชน์สูงสดุ น้ัน กรณุ าประมาณและสังเกตความเหมาะสมด้วย

ศนู ยก์ สกิ รรมธรรมชาตทิ ่ามะขาม เลขท่ี 213 หมู่ 2 ซอยพัฒนา 1 ตาบลทา่ มะขาม อาเภอเมือง จังหวดั กาญจนบุรี ปยุ๋ ดินหมักชวี ภาพสาหรับเพราะต้นกลา้ ส่วนประกอบ 5 ส่วน 1) ดนิ แห้งทบุ ใหล้ ะเอียด ใช้ดินได้ทกุ ชนดิ 2 สว่ น 2) ปยุ๋ คอกแห้งทบุ ละเอยี ด 2 ส่วน 3) แกลบดา 2 สว่ น 4) ราละเอยี ด 2 สว่ น 5) ขุยมะพรา้ วหรอื ขเ้ี คก้ ออ้ ย 6) นา้ เอนไซม์ 1 + น้าตาล 1 + น้า 100 สว่ น คนให้เขา้ กนั วิธีทา 1) ผสมวสั ดุท้งั หมด คลกุ เคล้าจนเข้ากนั ดี 2) รดดว้ ยน้าเอนไซม์ที่ผสมแล้วบนกองวัสดุ ให้ความช้ืนพอประมาณ กาแล้วใช้นิ้วดีด แตก ไม่ให้แฉะเกินไป 3) เกลี่ยบนพื้นซีเมนต์ให้กองหนาประมาณ 1 ศอก คลุมด้วยพลาสติก หรือกระสอบ ป่าน หมักไว้ 5 วนั จงึ นาไปใช้ได้ 4) ปุ๋ยดนิ หมกั ชีวภาพทด่ี จี ะมีราสีขาวเกิดขน้ึ มกี ลนิ่ หอม สามารถเกบ็ ไว้ใช้ได้นาน วิธีใช้ 1) ผสมปุ๋ยดินหมักชีวภาพกับดินแห้งทุบละเอียด และแกลบดา อย่างละเท่าๆ กัน คลุกจนเข้ากันดี เพ่ือนาไปกรอกถุง หรือถาดเพาะกล้า หรือนาไปใส่ในแปลงเพาะกล้า จะช่วยให้ได้ ตน้ กล้าทเ่ี จรญิ เตบิ โตสมบูรณแ์ ขง็ แรง 2) นาไปเตมิ ในกระถางตน้ ไม้ดอกไม้ประดับไดด้ ี กระถางละ 2 กามือ

ศนู ย์เครอื ข่ายปราชญช์ าวบ้าน นายถวิล เสียงแจ๋ว ตั้งอยหู่ มทู่ ่ี หมู่ 6 ตาบลบอ่ เงิน อาเภอลาดหลมุ แก้ว จงั หวดั ปทมุ ธานี การทาปุย๋ หมกั แหง้ ส่วนผสม 1. แกลบขาว 400 กโิ ลกรัม 2. แกลบดา 300 กิโลกรัม 3. มลู สตั ว์ 200 กิโลกรมั 4. ราละเอียด 30 กิโลกรัม 5. โดโลไมท์ 30 กโิ ลกรมั 6. ยเู รยี 2 กิโลกรมั 7. สาร พ.ด.1 1 ซอง 8. สาร พ.ด.3 10 ซอง 9. กากน้าตาล 10 ลิตร 10. นา้ 150 ลติ ร 11. เค้กออ้ ย 60 กโิ ลกรัม วิธีทา 1. นาส่วนผสม แกลบขาว แกลบดา มลู สตั ว์ ราละเอยี ด โดโลไมท์ ยเู รีย และเคก้ อ้อย รวมกัน 2. ผสม พ.ด.1 และพ.ด.3 กากนา้ ตาล และน้า ลงในถัง ประมาณ 200 ลิตร 3. นาน้าทีผ่ สมเตรยี มไวต้ ามขอ้ 2 ราดลงบนสว่ นผสม ของวสั ดใุ นขอ้ 1 ทเี่ ตรียมไว้ 4. ท้งิ ไว้ประมาณ 1 เดือน โดยกลับหนา้ ทุก 1 สัปดาห์

ศนู ย์เรยี นรเู้ ศรษฐกจิ พอเพียงชุมชน รวมใจหนองมะโมง 165 ม.1 ตาบลสะพานหนิ อาเภอหนองมะโมง จังหวดั ชยั นาท ปุ๋ยชีวภาพแบบแหง้ (มลู สัตว์) สว่ นประกอบ - มูลสตั ว์ 40 กโิ ลกรัม - ขเี้ ถา้ แกลบ 10 กโิ ลกรัม - ราละเอียด 5 กโิ ลกรัม - กากน้าตาล , น้าตาลทรายแดง 3 กิโลกรมั - นา้ สะอาด 20 ลติ ร - หวั เชือ้ จลุ ินทรยี ์ 2 - 3 ลิตร นาส่วนประกอบท้ังหมดมาคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วกองส่วนผสมให้สูงประมาณ 30 ซม. ใช้กระสอบป่านชุบนา้ คลมุ ทง้ิ ไว้ 3 - 7 วัน กลับกองปุ๋ยทุกวันใน 7 วันแรก จนกว่าความร้อนจะ ลดลง ไมม่ ีกลิน่ เหม็นฉนุ เปน็ กลน่ิ ของเช้ือราเหด็ และมีเสน้ ใยราสขี าวกระจายทัว่ กอง วธิ ีใช้ - สาหรับพชื ผกั โดยคลกุ เคลา้ กบั ดนิ ในระยะเตรยี มแปลงปลกู อัตรา 2 กิโลกรมั / ตารางเมตร - สาหรบั ผักกนิ ผล โดยใช้โรยบริเวณโคนต้น 5 - 10 กโิ ลกรัม/ตน้ อย่างนอ้ ย 2 คร้ัง

ศนู ย์กสิกรรมธรรมชาติสมนุ ไพรไท วังจันทร์ 99 หมู่ 1 ตาบลป่ายบุ ใน อาเภอวังจันทร์ จังหวดั ระยอง ปุ๋ยชีวภาพ ในปัจจบุ ันเกษตรนิยมใช้ปุ๋ยเคมีเพราะสะดวกและพืชเจริญเติบโตเร็วในระยะหนึ่ง แต่ ปุ๋ยเคมีมักมรี าคาแพง และทาลายสุขภาพดินให้เส่ือมโทรมเร็ว ดังน้ันหากเกษตรกรจะลดต้นทุนการ ผลิตโดยการทาปุ๋ยหมักจากธรรมชาติจะทาให้คุณค่าทางอาหารและปรับสภาพดินให้ดีข้ึนอีกด้วย ปุ๋ยหมักชีวภาพ หรือปุ๋ยธรรมชาติชนิดหนึ่งท่ีมีประโยชน์ในการปรับปรุงดิน สามารถผลิตได้ง่ายโดย การนาเศษวัสดเุ หลอื ใชม้ าผสมคลุกเคล้าหมักกับมูลสัตว์ แกลบดา ราละเอียด คลุมด้วยกระสอบปุ๋ย เยบ็ ติดกนั ใช้เวลา 7 วนั สามารถนาไปใชไ้ ด้ ปุย๋ หมักชวี ภาพ วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1) มูลสตั วแ์ หง้ ละเอยี ด 2 ปีบ๊ 2) แกลบดา 1 ปี๊บ 3) แกลบ 3 ปีบ๊ 4) ราละเอียด ½ ปี๊บ 5) น้าจุลนิ ทรยี ์ ½ ป๊บี ขั้นตอนการทา 1) นาแกลบดา แกลบ มาเทใหเ้ ป็นแถวยาว ๆ 2) นามลู สัตว์ท่ีเตรยี มไวม้ าใส่ เตมิ ราละเอยี ด แลว้ คลกุ เคล้าใหเ้ ข้ากัน 3) รดน้าท่ีผสมจุลินทรีย์ โดยมีอัตราส่วน น้าจุลินทรีย์ 1 ส่วน ต่อน้า 100 ส่วน คลุกเคลา้ ผสมใหเ้ ข้ากัน ทดสอบดูวา่ สามารถปน้ั เป็นก้อนกลมไดห้ รือไม่ อยา่ ให้แฉะจนเกนิ ไป 4) บรรจุใสก่ ระสอบ ๆ ละ 25 กิโลกรมั เพ่อื คานวณปรมิ าณท่ผี ลิตได้ในแตล่ ะครงั้ 5) ลกั ษณะของปุย๋ ทดี่ ี จะมีราสีขาว มกี ลิน่ ของราหรือเหด็ ไม่ร้อน น้าหนักเบา

ประโยชนข์ องการใชป้ ยุ๋ หมกั ชีวภาพ 1) ช่วยลดตน้ ทุนการผลติ 2) รักษาความชุ่มชื้นในดนิ และช่วยถ่ายเทอากาศภายในดิน 3) ไมเ่ ป็นอันตรายต่อดนิ และพชื 4) ลดการใช้ปุ๋ยเคมี 5) ปรับสภาพแวดล้อมและรักษาสภาพแวดลอ้ ม 6) ผลิตง่าย ตน้ ทนุ ตา่ ใชเ้ วลาน้อย 7) เพ่ิมปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ทาให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ และรักษาความอุดม สมบูรณ์ของดิน การทาปุ๋ยหมักชีวภาพอย่างง่าย ลดต้นทุน การทาปุ๋ยหมักชีวภาพแบบอย่างง่ายนี้ สามารถลดต้นทนุ ได้มาก วสั ดกุ ็หาได้งา่ ย โดยเนน้ วสั ดุในทอ้ งถิ่นของตนเอง วสั ดอุ ปุ กรณ์ 1) ไมไ้ ผ่สาหรับทาคอกปุ๋ย ขนาด 4 x 2 เมตร สงู 1 - 1.5 เมตร 2) มลู สัตว์ 3) ใบไม้ หรือเศษหญ้าแห้ง 4) นา้ หมกั ชวี ภาพ 5) เชอื ก ข้ันตอนการทา 1) ตัดไม้ไผ่ทาคอกปุ๋ยหมัก ขนาด 4 x 2 เมตร สูง 1 - 1.5 เมตร ใช้เชือกมัดแต่ละมุม ทไ่ี ม้ประกบกันให้แนน่ 2) ตัดไม้ไผ่ เลือกลาใหญ่ ๆ ขนาดยาว 1 - 1.5 เมตร เจาะให้ทะลุทุกลางปล้อง จากนั้นเจาะใหเ้ ป็นช่องตามปล้องเพอ่ื ใช้ระบายอากาศ 3) เม่ือทาคอกเสร็จแล้ว ให้นาใบไม้ หรือเศษหญ้าแห้ง มาใส่สูงประมาณ 1 คืบ จากนั้นเทมลู สัตว์ลงไปสงู ประมาณ 1 คบื ทาเปน็ ชน้ั สูงประมาร 1 เมตร 4) นาไม้ไผ่ที่เจาะรูไว้มาปักลงไปในกองปุ๋ยหมัก ประมาณ 4 -5 อัน เพื่อใช้ระบาย อากาศ 5) ราดน้าหมักชวี ภาพใหท้ ่ัวกองปุย๋ ทง้ิ ไว้ประมาณ 1 - 2 เดือน ก็สามารถใช้ได้

การใช้ประโยชน์ 1) ทาให้โครงสรา้ งของดินดขี ึ้น มีความอุดมสมบูรณ์ 2) เพิม่ ธาตุอาหารในดนิ 3) การระบายอากาศของดินและรากพชื แผก่ ระจายไดด้ ขี ้นึ

ศูนยก์ ารเรียนรูเ้ กษตรธรรมชาติวังสมบูรณ์ 109 หมู่ 4 ตาบลวังใหม่ อาเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว ปุ๋ยหมกั ชวี ภาพ ปุ๋ยหมักชีวภาพ คือ ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผ่านกระบวนการหมักกับน้าสกัดชีวภาพ ช่วยในการ ปรุงดิน ย่อยสลายอินทรยี วตั ถุในดินทีเ่ ป็นอาหารแกพ่ ชื วสั ดทุ าปุย๋ หมกั ชวี ภาพ 1) มูลสัตว์แห้งละเอยี ด 3 ส่วน 2) แกลบดา 1 ส่วน 3) อินทรียวัตถุอื่นๆ ที่หาได้ง่าย เช่น แกลบ ชานอ้อย ขี้เล่ือย เปลือกถ่ัวลิสง เปลือก ถวั่ เขยี ว และขุยมะพร้าว เป็นตน้ อย่างใดอย่างหนึ่งหรอื หลายอย่างรวมกัน 3 ส่วน 4) ราละเอียด 3 ส่วน 5) นา้ สกัดชีวภาพ 1 ส่วน + นา้ ตาล 1 สว่ น + น้า 100 ส่วน คนจนละลายเขา้ กันดี วธิ ีทา 1) นาวสั ดตุ ่างๆ มากองเปน็ ช้นั ๆ แล้วคลุกเคลา้ จนเขา้ กนั ดี 2) เอาส่วนผสมของน้าสกัดชีวภาพกับน้าตาลและน้าใส่บัวราดบนกองวัสดุปุ๋ยหมัก คลกุ ใหเ้ ขา้ กันท่วั ให้ไดค้ วามช้ืนพอหมาดๆ อยา่ ใหแ้ ห้งหรอื ชืน้ เกนิ ไป (ประมาณ 30 - 40%) 3) กองปยุ๋ หมักไว้ 4 - 5 วัน กน็ าไปใชไ้ ด้ 4) วธิ หี มักทาได้ 2 วิธีคอื 4.1) เกล่ียกองปุ๋ยหมักบนพื้นซีเมนต์หนาประมาณ 1-2 คืบ คลุมด้วยกระสอบป่าน ท้ิงไว้ 4-5 วัน ตรวจดูความร้อน ในวันที่ 2-3 ถ้าร้อนมากอาจต้องเอากระสอบท่ีคลุมออก แล้วกลับ กองปุ๋ยเพอ่ื ระบายความร้อน หลงั จากนนั้ กองปุย๋ จะคอ่ ยๆเย็นลง นาลงบรรจกุ ระสอบไวใ้ ช้ต่อไป 4.2) บรรจุปุ๋ยหมักท่ีคลุกเข้ากันดีแล้วลงในกระสอบปุ๋ย ไม่ต้องมักปากถุง ตั้งท้ิงไว้ บนท่อนไม้ หรอื ไม้กระดานทสี่ ามารถถ่ายเทอากาศใต้พน้ื ถงุ ได้ ท้ิงไว้ 5-7 วัน จะได้ปุ๋ยหมักชีวภาพที่ ประกอบด้วย จุลินทรีย์และสารอินทรีย์ต่างๆ เช่นเดียวกับน้าสกัดชีวภาพในรูปแห้ง ปุ๋ยหมักชีวภาพ ที่ดีจะมีกลิ่นหอม มีใยสีขาวเชื้อราเกาะกันเป็นก้อนในระหว่างการหมัก ถ้าไม่เกิดความร้อนเลย แสดงว่าการหมักไม่ได้ผล อุณหภูมิในระหว่างการหมักท่ีเหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 40-50 องศา เซลเซียส ถ้าเราให้ความช้ืนสูงเกินไปฉะนั้นความชื้นที่ให้ต้องพอดี ประมาณ 30% ปุ๋ยหมักชีวภาพ เมอื่ แหง้ ดแี ล้ว สามารถเกบ็ ไวไ้ ด้นานหลายเดือน เก็บไวใ้ นทแ่ี ห้งและรม่

วิธีใช้ 1) ผสมปุ๋ยหมักชีวภาพกับดินลงในแปลงปลูกผักทุกชนิดในอัตรา 1 กิโลกรัม ต่อพ้ืนที่ 1 ตารางเมตร 2) พืชผักอายุเกิน 2 เดือน เช่น กะหล่าปลี ถั่วฝักยาว แตง และฟักทอง ใช้ปุ๋ยมัก ชวี ภาพคลุกกับดินรองกน้ หลมุ ก่อนปลูกกลา้ ผักประมาณ 1 กามือ 3) ผลไม้ควรรองก้นหลุมด้วยเศษหญ้า ใบไม้แห้งฟางและปุ๋ยหมักชีวภาพ 1 - 2 กิโลกรมั สาหรบั ไม้ผลทป่ี ลกู แล้วใสป่ ุ๋ยหมกั ชวี ภาพ แนวทรงพุ่ม ½ กิโลกรัม ต่อ 1 ตารางเมตร แล้ว คลุมดว้ ยหญา้ แหง้ ใบไม้แห้งหรอื ฟาง แล้วรดนา้ สกดั ชวี ภาพให้ชุม่ 4) ไมด้ อกไมป้ ระดับกระถาง ควรใสป่ ๋ยุ หมกั ชีวภาพเดอื นละ 1 ครั้งๆ ละ 1 กามอื หมายเหตุ : ปุ๋ยหมักชีวภาพไม่ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกแต่เป็นปุ๋ยหมักจุลินทรีย์ เม่ือใส่ลงดินที่มี ความชื้นพอเชื้อจุลินทรีย์ที่ได้จากสารสกัดชีวภาพ จะทาหน้าท่ีย่อยสลายอินทรียวัตถุให้เป็น สารอินทรยี ์ ทเ่ี ป็นประโยชนต์ ่อตน้ ไม้ จึงไม้จาเป็นต้องให้ในปรมิ าณมากและในดิน ต้องมอี นิ ทรยี วัตถุ พวกปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกหญ้าแห้ง และใบไม้แห้งท่ีมีความช้ืนเพียงพอต้นพืชจึงได้ประโยชน์เต็มที่จาก การใส่ป๋ยุ หมักชีวภาพตรงกันข้าม ถา้ ให้คร้ังละมากเกินไป อาจทาให้ต้นไม้ตายได้ ส่วนจะให้ปริมาณ เท่าใด และบ่อยครั้งเท่าไร เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดเท่านั้น ท่านต้องใช้ความสังเกตเอาเอง เพราะ พืชแต่ละชนิดในพืน้ ทม่ี ีการตอบสนองต่อปยุ๋ หมักชวี ภาพไมเ่ หมอื นกัน การนาปุ๋ยหมักไปใช้อย่างประหยัดและได้ผลอีกวิธีหน่ึงคือ ก่อนนาไปใช้ควรผสมปุ๋ย หมักชีวภาพกับปุ๋ยหมกั หรอื ปยุ๋ คอกเสียก่อน ในอัตราส่วนปุ๋ยหมักชีวภาพ 1 ส่วนต่อปุ๋ยหมักหรือปุ๋ย คอก 10 ส่วนคลุกให้เขา้ กันดี แลว้ นาไปใช้เชน่ เดียวกับการใชป้ ุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก โดยวิธีนี้จะใช้มาก เท่าไรกไ็ มเ่ ปน็ ผลเสยี อยา่ ลมื วา่ ด้วยเทคนิคจลุ นิ ทรีย์ เราไมจ่ าเปน็ ตอ้ งใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกปริมาณ มาก เช่น ท่ีเราเคยปฏิบตั มิ า ใชเ้ พียง 1 ใน 4 ก็พอแล้ว หรอื ข้ึนอยู่กับปริมาณอินทรียวัตถุท่ีอยู่ในดิน ถ้ามีอยู่มากเรากใ็ สแ่ ต่นอ้ ย ถ้ามอี ยนู่ อ้ ยเรากใ็ สม่ ากหน่อยหรอื บอ่ ยหน่อย ปยุ๋ หมักดนิ ชวี ภาพสาหรบั เพราะต้นกล้า วสั ดทุ ีใ่ ช้ 1) ดินแห้งทบุ ให้ละเอียดใช้ดินได้ทุกชนิด แตด่ ินดาเชิงเขาหรือดินขยุ ไผจ่ ะดี 5 ส่วน 2) ปยุ๋ คอกแหง้ ทบุ ละเอยี ด 2 ส่วน 3) แกลบดา 2 ส่วน 4) ราละเอยี ด 1 - 2 สว่ น 5) ขยุ มะพร้าว หรือ ขเ้ี ค๊กกากอ้อย 2 ส่วน 6) นา้ สกัดชีวภาพ 1 ส่วน + น้าตาล 1 สว่ น +น้า 100 สว่ น คนใหเ้ ขา้ กันดี

วิธีทา 1) ผสมวสั ดุท้ังหมด คลกุ เคลา้ จนเขา้ กนั ดี 2) ราดน้าสกัดชีวภาพผสมลงบนกองดิน ผสมคลุกเคล้าจนได้ความช้ืนพอหมาดๆ พอ ป้ันเป็นก้อนได้ไมแ่ ฉะ 3) เกล่ียบนพ้ืนซีเมนต์ให้กองหนาประมาณ 1 - 2 ฝ่ามือ คลุมด้วยกระสอบป่าน หมัก ไว้ 4 - 5 วนั นาไปใช้ได้ 4) ป๋ยุ ดินหมักชีวภาพทดี่ ี จะมีราสขี าวเกิดขน้ึ มกี ลิ่นหอม สามารถเกบ็ ไว้ใชไ้ ด้นานๆ วธิ ใี ช้ 1) ผสมปยุ๋ ดินหมักชีวภาพกับดินแห้งทุบละเอียดและแกลบดาอย่างละเท่าๆ กันคลุก จนเขา้ กนั ดี เพอื่ นาไปกรอกถุงหรือถาดเพราะกลา้ หรอื นาไปใส่ในแปลงสาหรบั เพราะกล้า จะช่วยให้ ไดต้ ้นกล้าทีเ่ จริญเตบิ โตสมบูรณ์แข็งแรง 2) นาไปเติมในกระถางตน้ ไม้ดอก ไม้ประดับได้ดกี ระถางละ 1 - 2 กามือ

ศูนยเ์ รียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงชมุ ชน บ้าน บชท. ตั้งอย่เู ลขที่ 64 หมู่ 6 ฝายนา้ ลน้ ตาบลบา้ นกลว้ ย อาเภอเมือง จังหวัดชยั นาท ปยุ๋ หมกั แห้งอนิ ทรยี ์ชีวภาพ ปุ๋ยหมักคือปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยธรรมชาติชนิดหน่ึงที่ได้จากการนาเอาเศษซากพืช เช่น ฟางข้าว ต้นข้าวโพด ต้นถ่ัวต่าง ๆ ชังข้าวโพด หญ้าแห้ง ผักตบชวา ขยะมูลฝอยตามบ้านเรือนมา หมกั รวมกับมูลสตั ว์ ปยุ๋ อินทรยี ห์ รือสารเรง่ ประเภทจุลินทรีย์ เมื่อหมกั โดยใช้ระยะเวลาหนึ่งแล้วเศษ พืชจะเปลยี่ นสภาพจากเดิมเป็นผงเปื่อยยุ่ย มีสีน้าตาลปนดา นาไปใส่ในไร่นาหรือพืชสวน เช่น สวน ไม้ผล พชื ผกั หรอื ไมด้ อกไมป้ ระดับ ประโยชนข์ องปุ๋ยหมกั 1) ช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้ดิน โดยจะเป็นแหล่งแร่ธาตุอาหารท่ีปลดปล่อยออกมา ให้แก่ตน้ พชื อย่างชา้ ๆ และสม่าเสมอ 2) ใหธ้ าตอุ าหารรอง ธาตุอาหารเสรมิ ท่มี ีประโยชน์ตอ่ พชื 3) ทาให้คณุ สมบตั ขิ องดนิ ดีข้ึน โดยทาให้ดนิ อุ้มนา้ หรอื ดดู ความชนื้ ใหพ้ ชื ได้มากขึน้ 4) ทาใหด้ ินมีการระบายนา้ และถา่ ยเทอากาศไดด้ ี 5) ช่วยลดการจับตัวเป็นแผ่นแข็งของหน้าดิน ทาให้การงอกของเมล็ดหรือการซึมของ นา้ ลงไปในดินสะดวกขนึ้ ตลอดจนช่วยการไหลของน้าเวลาฝนตก 6) ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมโดยเป็นการนาเศษวัสดุทางการเกษตรท่ีเหลือท้ิงแล้ว กลับมาใชป้ ระโยชน์ได้อกี

ปยุ๋ หมกั แห้งอินทรียช์ วี ภาพ เป็นปุย๋ ทไี่ ด้จากการนามูลสตั ว์ต่าง ๆ มาผสมคลุกเคล้ากับขีเ้ ถ้าแกลบ กากอ้อย ราข้าว เศษซากพชื ตา่ ง ๆ โดยใช้น้าตาล และหัวเชือ้ จลุ นิ ทรยี ์เข้มข้น เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการย่อยสลาย เม่ือ หมักและย่อยสลายจนสมบูรณ์แล้ว จะได้ปุ๋ยแห้งอินทรีย์ชีวภาพท่ีมีคุณภาพ ซึ่งส่วนผสมต่าง ๆ สามารถดดั แปลงได้ตามวัสดทุ ีม่ ใี นท้องถ่ินนนั้ ๆ สตู รมลู สัตว์ สว่ นประกอบ 1) มลู สตั ว์ 1 กระสอบ 2) แกลบ เศษใบไม้ หรือซังข้าวโพด 1 กระสอบ 3) ข้เี ถ้าแกลบ 1 กระสอบ 4) ราออ่ น 1 กระสอบ 5) นา้ สะอาด 10 ลติ ร (ถ้าวตั ถุดบิ แห้งมากสามารถเพิ่มปริมาณนา้ ได้อกี ) 6) หัวเช้อื จลุ ินทร์เขม้ ขน้ 1 ลิตร วิธีทา 1) นามลู สัตว์ แกลบ ขเี้ ถ้าแกลบ และราอ่อนมาผสมคลกุ เคล้าให้เป็นเนื้อเดยี วกนั 2) ผสมน้ากับหัวเช้ือจุลินทรีย์เข้มข้นให้เข้ากัน รดลงบนกองวัสดุผสมให้เข้ากันจนมี ความชื้นประมาณ 35%(โดยทดลองกาดู จะสามารถเกาะกันเป็นก้อน แต่ไม่เหนียว และเมื่อปล่อย ลงพืน้ จากความสูงประมาณ 1 เมตร กอ้ นปุ๋ยจะแตก แต่ยงั มรี อยน้ิวมืออยู่) 3) คลุกเคลา้ ให้เขา้ กนั ดี ตักป๋ยุ ใส่กระสอบ แล้วมดั ปากถงุ ให้แน่น 4) กองกระสอบปุย๋ ทับกนั เป็นช้นั ๆ แต่ควรวางกระสอบแต่ละต้ังให้ห่าง ๆ กัน เพ่ือให้ ความรอ้ นสามารถระบายออกไดท้ ั้ง 4 ด้านเพ่อื ไม่ต้องกลบั กระสอบทุกวนั (แต่ถ้าไม่มีกระสอบจะทา เปน็ กองไว้ก็ไดแ้ ต่ต้องมากลับดนิ ที่ผสมไว้ทกุ วนั เพอ่ื ใหค้ วามร้อนระบายใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน ใช้ มือกาดถู ้าไมม่ คี วามร้อนก็สามารถนาไปใช้ได้ 5) ท้ิงไว้ประมาณ 5-7 วันตรวจดูถ้ามีกล่ินหอมและไม่มีไอร้อนก็สามารถนาไปใช้งาน ได้ และสามารถเกบ็ รกั ษาไว้ไดน้ าน

วิธใี ช้ ควรใชต้ ้ังแต่ในขั้นตอนของการเตรียมดิน โดยผสมคลุกเคล้ากับดินในแปลง เสร็จแล้ว คลุมด้วยฟาง ใบไม้ หรือก่ิงไม้ และควรหมักท้ิงไว้ประมาณ 7 วัน จึงลงมือปลูกพืช(ในกรณีที่เป็นนา ขา้ ว พืชไร่ และพชื ผัก) อัตราการใช้ 200 กก/ไร่ 1) นาขา้ ว 2 กามือ/ 1 ตารางเมตร 2) พชื ไร่ พืชผัก 1 กก/1ตารางเมตร 3) ไมย้ ืนต้น พืชสวน ในการใช้ปุ๋ยหมักแห้งอินทรีย์ชีวภาพให้ได้ผลดีนั้น หลังจากหว่านหรือคลุกผสมปุ๋ย หมักแห้งกับดนิ แลว้ ควรคลุมดินด้วยฟาง เศษหญ้าหรอื เศษใบไมต้ า่ ง ๆ จากนน้ั ใช้ปยุ๋ น้าหมกั อินทรยี ์ ชวี ภาพราดรดลงไปในอัตราสว่ น 1: 200 จะชว่ ยใหด้ นิ รว่ นซยุ และฟขู น้ึ ทาให้รากพืชเติบโตได้ดี

ศูนย์เรยี นร้เู กษตรธรรมชาตเิ อ็มโอเอ ตัง้ อยเู่ ลขที่ 273 หมู่ 2 ตาบลทา่ ศาลา อาเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ปยุ๋ น้าชีวภาพ ป๋ยุ นา้ ชวี ภาพ เป็นปุ๋ยอินทรีย์ชนิดหนึ่งที่ทาจากการหมักซากพืช ซากสัตว์ ในน้าโดยมี จุลินทรีย์ช่วยย่อยสลาย เป็นปุ๋ยเสริมธาตุอาหารให้กับพืชในขณะท่ีพืชกาลังเจริญเติบโต การทาปุ๋ย น้าชวี ภาพสามารถทาไดจ้ ากวสั ดุหลายชนดิ แตท่ ่ีนิยมและไดผ้ ลดมี ากมีดังน้ี วัสดุทีใ่ ช้ 1) ราละเอียด 60 กโิ ลกรัม 2) มูลไกไ่ ข่ 40 กิโลกรัม 3) เชอ้ื พ.ด.-1 1 ซอง หมายเหตุ 1. เชื้อ พ.ด.-1 เป็นเช้ือจุลินทรีย์ที่ใช้ทาปุ๋ยหมักซึ่งกรมพัฒนาที่ดินผลิตข้ึนซ่ึงนามาใช้ทา ปยุ๋ น้าได้ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ หรืออาจใช้น้าสกัดชีวภาพ 1 ลิตร แทน หรือ ปุ๋ยหมัก 5กิโลกรัม แทน หรอื ปุย๋ น้าชีวภาพ(แห้ง) 1 กก(จะใช้แบบน้ากไ็ ด)้ แทนก็ได้ 2. เน่ืองจากรามีราคาแพงอาจใช้น้อยลงหรอื ถา้ หาไม่ได้กไ็ มใ่ ชก้ ็ได้ 3. เนื่องจากมูลไก่ไข่มีธาตุอาหารค่อนข้างสูงกว่ามูลสัตว์ชนิดอ่ืนจึงใช้มูลไก่ไข่ แต่ถ้าไม่มีก็ใช้มูลสัตว์ ชนดิ อ่นื แทนได้ วิธกี ารทา นาวัสดุท้ังหมดมาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันโดยพรมน้าให้มีความชื้นขนาดใช้มือกาแล้ว ปลอ่ ยมอื ก้อนวสั ดกุ ย็ ังคงรูปอยกู่ ใ็ ช้ได้ เมื่อคลกุ เคล้าวัสดดุ แี ลว้ ใหท้ ากองแล้วคลุมด้วยกระสอบ คลุม กองไว้ 7-10 วัน โดยระหว่างนตี้ ้องกลบั กองทุกวันๆ ละ 1 คร้งั หลงั กลับกองต้องคลุมกองไว้เช่นเดิม เมือ่ ครบกาหนดให้แผ่กองปยุ๋ ออกผงึ่ ให้แห้งในที่ร่ม เม่ือปุ๋ยแห้งแล้วให้เก็บรักษาโดยตักใส่กระสอบท่ี สามารถระบายอากาศได้ และเกบ็ ไวใ้ นทรี่ ่มอากาศถ่ายเทสะดวกจะเก็บไวไ้ ด้นาน

วธิ กี ารใช้ 1.เตรียมปยุ๋ น้าชีวภาพเพื่อนาไปใชท้ าไดโ้ ดยใช้ปุ๋ยแห้ง 1 กิโลกรัม ผสมน้า 20 ลิตร ใส่ ลงไปใน ถังหรือโอ่ง แล้วปั๊มอากาศเข้าไปหรือใช้ไม้คนบ่อย ๆ อย่างน้อย วันละ 3-4 คร้ัง เป็นเวลา 5-7 วันจะได้ปุ๋ยน้าชีวภาพที่เข้มข้น ดังน้ันก่อนนา ไปใช้จะต้องผสมน้า 20-40 เท่า(ปุ๋ยแห้ง 1 กโิ ลกรัม จะทาเปน็ ป๋ยุ น้าชวี ภาพ ได้ 400-800 ลิตร) 2. การนาป๋ยุ นา้ ชวี ภาพไปใช้กับต้นพืชทาได้ 3 วธิ ีคอื 2.1 รดท่ีโคนหรือปล่อยตามรอ่ ง โดย - ใช้ทกุ ๆ 3 วนั สาหรับผกั อายสุ น้ั เช่น ผักบุ้ง - ใชท้ ุก ๆ 7 วนั สาหรบั ผักทัว่ ไป - ใช้เดอื นละ 1 คร้ัง สาหรบั ไมผ้ ล 2.2 ใช้อัดลงดินโดยใช้หัวอัดต่อกับรถไถเดินตาม วิธีนี้จะช่วยนาปุ๋ยน้าไปสู่บริเวณ รา และแรงอดั จะช่วยทาให้ดนิ โปร่งขึ้น ถ้าใชว้ ิธีอดั ลงดินจะทา ทุก ๆ 15-20 วัน 2.3 ฉดี พ่นทางใบ โดยอาจผสมกับยาสมุนไพรฉีดไปพรอ้ มกนั เลยก็ได้ การให้ปุย๋ น้าจะใหม้ ากนอ้ ยเพียงใดขึ้นอยูก่ บั ความอุดมสมบูรณ์ของดินและความต้องการของพืช ซ่ึง สังเกตได้จากลักษณะของใบพืช ถ้าใบพืชมีสีเหลืองซีดแสดงว่าได้รับธาตุอาหารไม่พอ ถ้าใบพืชมีสี เขยี วเข้มเกนิ ไปแสดงว่าได้รับธาตุอาหารมากเกนิ แตถ่ า้ ใบพืชเป็นสีเขียวแต่ไม่เขียวเข้มจนเกินไป ใบ แผ่กว้าง เห็นเส้นใบชัดเจน ก้านใบชูรับแสงเต็มที่แสดงว่าพืชได้รับธาตุอาหารเหมาะสมดีแล้ว พืชท่ี ได้รับธาตุอาหารมากหรือน้อยเกินไปจะอ่อนแอต่อการเข้าทาลายของโรคและแมลง แต่ถ้าพืชได้รับ ธาตุอาหารพอเหมาะจะแข็งแรงสามารถตา้ นทานโรคและแมลงไดด้ ีกว่า นอกจากนี้แล้วการใช้ปุ๋ยน้าชีวภาพควรใช้ร่วมกับปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยคอก โดยจะใช้ปุ๋ย หมักหรือปุ๋ยคอกคลุกลงในดินขณะเตรียมดินปลูก และใช้ปุ๋ยน้าชีวภาพเสริมธาตุอาหารให้แก่พืชใน ขณะท่พี ืชกาลังเจรญิ เติบโต ปุ๋ยน้าชีวภาพสามารถนามาใช้ได้ทั้งกบั พชื ผกั ไมด้ อก ไม้ประดับ และไม้ ผล

ป๋ยุ หมกั ปุ๋ยหมัก เป็นปัจจัยที่สาคัญอย่างหนึ่งของการทาเกษตรธรรมชาติ เนื่องจากปุ๋ยหมักมี คณุ สมบตั ทิ เ่ี หมาะสมหลายประการต่อการปรับปรุงโครงสร้างของดินให้ดีข้ึนและดินก็เป็นปัจจัยที่มี ความสาคัญที่สุดในการทาการเกษตร โมกิจิ โอกาดะ (เกษตรธรรมชาติ MOA) ได้ริเร่ิมการเกษตร ธรรมชาติมาต้งั แต่ ปี พ.ศ. 2478 และได้กลา่ วไว้ว่า “การที่จะทาใหพ้ ลังของดินแข็งแกรง่ ข้ึนไดน้ น้ั มีวธิ กี ารอยู่ คอื การไมใ่ ส่หรือผสมสงิ่ ไม่ บริสุทธิ์ใดๆ นอกเหนือจากปุ๋ยหมักลงดิน ต้องพยามทาให้ดินนั้นสะอาดที่สุดเท่าท่ีจะทาได้ เพียง เทา่ น้ีก็จะสามารถให้ผลการเก็บเกี่ยวได้อยา่ งวิเศษ ขอให้ลองพิจารณาดูสภาพของธรรมชาติว่าใบไม้ หรอื ใบหญ้าแห้งท่ีรว่ งลงสู่พน้ื ดินทกุ ปเี มือ่ ถงึ ฤดูใบไม้ร่วงนั้น จะทับถมและฝังตัวลงดิน ปรากฏการณ์ น้ีคอื ขบวนการที่ทาให้ดนิ มีความอุดมสมบูรณ์เพ่มิ ขนึ้ เปน็ การบอกของธรรมชาติว่าสิ่งนี้จะเป็นปุ๋ยใน ดิน ผลท่ีได้จากปุ๋ยหมักโดยแทจ้ ริงคอื เพ่ือมิให้ดินน้ันแห้ง เพื่อให้เกิดความอบอุ่นในดิน และเพ่ือมิให้ ดินแข็งตัวเป็นก้อน กล่าวคือปุ๋ยหมักจะทาการดูดซึมความชื้น ดูดซึมความร้อน และทาให้ดินไม่ แขง็ ตัวเปน็ ก้อนนน่ั เอง” (5 พฤษภาคม 2496) ประโยชนข์ องปยุ๋ หมัก ปุ๋ยหมักช่วยปรับปรุงบารุงดินโดยช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุ และธาตุอาหารพชื ดนิ มีการจบั ตวั กันอยา่ งพอเหมาะตอ่ การเกบ็ และระบายน้าและมีอากาศถ่ายเทดี ดนิ มคี วามรว่ มซุยดี ดนิ มอี นิ ทรยี วัตถุอย่างเพียงพอ มีธาตุอาหารพืชครบถว้ นท้ังธาตุอาหารหลัก ธาตุ อาหารรองและจุลธาตุ นอกจากน้ปี ุ๋ยหมักยงั ชว่ ยลดปริมาณเชื้อโรคพชื บางชนดิ ในดนิ และช่วยรกั ษา ความเป็นกรดเป็นด่างของดินให้อยู่ในระดับที่เป็นกลาง ซ่ึงทั้งหมดนี้ทาให้ดินมีคุณสมบัติเหมาะต่อ การเจรญิ เตบิ โตของพืชและใหไ้ ดผ้ ลผลติ สงู ขึน้ วัสดุท่ีใช้ทาป๋ยุ หมกั ได้แก่ เศษพชื และมูลสัตว์ทมี่ ใี นไร่นาและในคอกสตั ว์ โดยมสี ดั สว่ นดังน้ี 1. เศษพืช 2 สว่ น 2. มูลสัตว์ 1 ส่วน 3. เชอื้ จลุ นิ ทรยี ์ พ.ด.-1 1 ซอง(ต่อวัสดุ 1 ตัน) หมายเหตุ 1) เศษพืชท่ียุบตัวน้อยให้ใช้ 1 ส่วน เช่น ขุยมะพร้าว 2) เศษพืชท่ียุบตัวมากให้ใช้ 4 ส่วน เช่น ฟาง หญ้า 3) สัดสว่ นของเศษพชื และมูลสัตว์อาจปรับใชไ้ ดต้ ามวัสดุทเ่ี กษตรกรมอี ยู่ เศษพืช : เศษพืชต่างๆ จากไร่นา เช่น ฟางข้าว ต้นข้าวโพด ต้นข้าวฟ่าง ต้นมันสาปะหลัง ใบอ้อย ต้นถั่วเขียว ต้นถั่วเหลือง ต้นถั่วลิสง เปลือกทุเรียน วัชพืชต่างๆ ที่ข้ึนอยู่ในไร่นา วัชพืชน้า เช่น ผักตบชวา ตลอดจนเศษพืชท่ีเป็นวัสดุเหลือทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น แกลบ กากอ้อย ขุย มะพร้าว เปลือกสบั ปะรด ฯลฯ

มูลสัตว์ : มูลไก่ มูลเป็ด มูลห่าน มูลนกกระทา มูลหมู มูลโค มูลกระบือ มูลม้า มูลแพะ มูลแกะ มูล ค้างคาว เปน็ ต้น เชื้อ พด.-1 : หมายถึง เช้ือจุลินทรีย์ที่ใช้ในการทาปุ๋ยหมักซ่ึงจะช่วยเร่งการย่อยสลายของปุ๋ยหมัก ผลิตโดยการพัฒนาทดี่ นิ แต่อย่างไรก็ตามถ้าไม่มี ก็ทาปุ๋ยหมักได้เน่ืองจากเช้ือจุลินทรีย์ดังกล่าวมีอยู่ แล้วในมลู สัตว์และเศษพชื หรอื อาจใชจ้ ุลินทรีย์จากแหลง่ อน่ื แทนก็ได้ เช่น ใช้ปุ๋ยหมักเก่า หรือใช้ปุ๋ย นา้ ชีวภาพ หรือใช้น้าสกดั ชวี ภาพแทนเช้อื พ.ด. -1 - การเตรยี มเช้ือจุลนิ ทรยี ์ (พด.-1) ใหล้ ะลายเช้ือ พด.-1 จานวน 1 ซองต่อน้า 20 ลิตร ตั้งท้ิงไว้ประมาณ 15 - 20 นาที โดยคนอยู่เสมอ เพ่ือให้เชื้อจุลินทรีย์กระจายอย่างทั่ว ถึงและเป็น การกระตนุ้ เชื้อจุลินทรยี ์ด้วย วธิ ที าปยุ๋ หมักควรเลือกสถานท่ีสาหรับกองปุ๋ยต้องเป็นท่ีน้าไม่ท่วมขัง จะเป็นใต้ร่มไม้ หรือท่ีมีหลังคาคลุม หรือกองปุ๋ยไว้กลางแจ้งโดยไม่มีหลังคาคลุมก็ได้ การทาปุ๋ยหมักสามารถทาได้ โดยใช้เศษพืชและมูลสัตว์มาทากองหมักไว้ โดยที่ถ้าเป็นเศษพืชช้ินใหญ่หรือเป็นเส้นยาว เช่น ฟาง ตน้ ขา้ วโพด ผกั ตบชวา ต้นถวั่ เศษเหลอื ทง้ิ หลงั จากการเก็บเกีย่ ว เชน่ ตน้ มะเขือ เถาฟกั ทอง เปน็ ต้น ก็จะวางซอ้ นๆกันเปน็ ชนั้ ๆ รดน้า พรอ้ มกับข้นึ ไปย่าใหแ้ น่นพอสมควร แต่ละช้ันของเศษพืชอาจหนา ประมาณ 20-30 ซม. สลับด้วยช้ันของมูลสัตว์ หนาประมาณ 5-10 ซม. และรดเชื้อ พด. 1 ในแต่ ละช้นั หรือถ้าเปน็ เศษพชื ชิ้นเล็กๆ เชน่ ขุยมะพร้าว แกลบ กากอ้อย ก็สามารถผสมคลุกเคล้ากับมูล สัตว์ให้เข้ากัน รดเช้ือ พ.ด.1 และรดน้าให้ความชื้นจนกระทั่งมีความชื้น 60 % ซึ่งทดสอบความชื้น ในกองปยุ๋ ได้โดยใชม้ ือกาเศษวัสดุแน่นๆ แล้วมีน้าไหลออกมาตามร่องน้ิวมือเล็กน้อยก็ใช้ได้ เม่ือกอง ปุ๋ยเสรจ็ ควรหาวสั ดุเชน่ ทางมะพร้าว ฟาง หญา้ เปน็ ตน้ มาคลุมกอง การดูแลกองปุ๋ย ขณะที่หมักปุ๋ยน้ันกิจกรรมของจุลินทรีย์ในกองปุ๋ยจะทาให้อุณหภูมิ ในกองจะสูงขนึ้ ประมาณ 60 องศาเซลเซียส ดงั นัน้ การดูแลกองปุ๋ยจึงต้องกลับกองปุ๋ย 3-4 สัปดาห์/ คร้ัง เพื่อลดอุณหภูมิภายในกองปุ๋ย และเพิ่มอากาศให้กับจุลินทรีย์ในกองปุ๋ย และเพื่อให้วัสดุ คลุกเคล้ากันได้เป็นอย่างดี ระหว่างที่กลับกองถ้ากองปุ๋ยแห้งเกินไปก็ให้รดน้า ประมาณ 3 เดือนปุ๋ย หมกั จะสกุ หรอื วสั ดุย่อยสลายตัวดซี ่งึ สามารถนาไปใช้เพาะปลกู พืชได้ ปุ๋ยหมักทส่ี กุ แลว้ มีลกั ษณะ คอื อุณหภูมิภายในกองปุ๋ยเย็นลงเท่าอุณหภูมิภายนอกกอง วัสดุท่ีนามาใช้ทาปุ๋ยจะเปื่อยยุ่ยและมีสี นา้ ตาลคล้าหรือดา มีกล่นิ หอมเหมือนกลิ่นดินไม่มีกล่ินเหมน็ เหมอื นมูลสตั ว์อย่างครง้ั เมอื่ เร่ิมทากอง

การใช้ปุ๋ยหมกั 1. กรณีพืชผกั หรอื ไมด้ อกท่ปี ลูกเป็นแปลง จะใช้ปุ๋ยหมักใช้เป็นปุ๋ยรองพื้น ซึ่งมีเทคนิค การใช้ปยุ๋ คือผสมคลุกเคลา้ ปุ๋ยกบั ดนิ ให้เข้ากันเป็นอยา่ งดีก่อนแลว้ จึงปลกู พชื วิธกี ารคอื เตรยี มแปลง ตามขนาดท่ีต้องการ แล้วโรยปุ๋ยหมักให้ทั่วแปลงหนาประมาณ 2 - 4 ซม. ใช้ จอบสับคลุกเคล้าปุ๋ย ให้เข้ากับเน้ือดินเป็นอย่างดี โดยคลุกให้ลึกประมาณ 20 ซม. หรือใช้รถพรวน แล้วก็ปลูกพืชหรือ เพาะกล้า ได้เลย(เมื่อทาเกษตรธรรมชาติไปหลายๆ ปี ดินจะดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าดินดีแล้วอาจโรยปุ๋ย หมักหนาเพยี ง 0.5-1.0 ซม.) 2. กรณีปลูกไม้ผล ถ้าเป็นการเตรียมหลุมปลูกไม้ผล ให้ผสมปุ๋ยหมักลงในหลุมปลูก อัตราสว่ น ป๋ยุ หมัก : ดิน เท่ากับ 1 : 5 คลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วจึงนาก่ิงพันธ์ุไม้ผลลงปลูก เมื่อปลูก เสร็จแล้วควรคลุมดินบริเวณโคนต้นด้วยฟาง หรือหญ้าแห้ง หลังจากปลูกไม้ผลแล้วควรใส่ปุ๋ยหมัก อย่างน้อยปีละ 1 คร้ัง ในอัตรา 15-25 กิโลกรัม/ต้น(สาหรับต้นขนาดเล็ก) 25-50 กิโลกรัม/ต้น (สาหรบั ตน้ ขนาดใหญ่) โดยขุดรอบตน้ ตามแนวทรงพุ่มเมื่อใส่ปุ๋ยหมักแล้วก็กลบดิน และควรแบ่งปุ๋ย หมกั 1ใน 4 ส่วนหวา่ นในทรงพุ่มดว้ ย 3. กรณีปลูกไม้ดอก ไม้ประดับหรือพืชผักในกระถาง หรือเพ่ือใช้ในการเพาะกล้าใน กระบะน้นั ให้ผสมปุ๋ยหมกั ดนิ ร่วน และ ขุยมะพรา้ ว ในอตั ราส่วน1 :1 :1 ผสมให้เขา้ กันดี แล้วนาไป บรรจุในภาชนะปลูกได้ ข้อจากดั ในการใชป้ ุ๋ยหมักท่ยี งั ไม่ย่อยสลายตัวดีลงในดินแล้วกลบจะเกิดผลเสียต่อราก พืช ดงั น้ี 1) เกดิ การแยง่ อากาศในดนิ 2) เกิดการแยง่ ธาตไุ นโตรเจนซึ่งเป็นอาหารของพืชทาใหพ้ ืชขาดไนโตรเจน 3) เกิดก๊าซท่เี ป็นอันตรายตอ่ รากพืช 4) เกดิ ความร้อนเป็นโทษต่อรากพืช 5) การใช้ป๋ยุ หมักควรใชร้ ่วมกับป๋ยุ น้าชวี ภาพ

ศูนยเ์ รยี นรปู้ ราชญช์ าวบ้านอาเภอเขาสมงิ 230/1 หมู่ 6 ตาบลเขาสมิง จังหวดั ตราด ปุ๋ยชวี ภาพ ในทางวิชาการ ปุ๋ย หมายถึง “ส่ิงท่ีใส่ลงในดิน หรือฉีดพ่นต้นพืช เพื่อท่ีจะเพิ่มธาตุ อาหารใหแ้ ก่พชื ” โดยแบง่ ไดเ้ ป็น 3 ประเภท คอื 1) ป๋ยุ เคมี หรือปุ๋ยอนนิ ทรีย์ ไดจ้ ากแรธ่ าตุ และสงิ่ ไมม่ ชี วี ิต 2) ปุ๋ยอินทรีย์ ได้จากส่ิงที่มีชีวิต เช่น จากมูลสัตว์ เรียก ปุ๋ยคอก, จากการย่อยสลาย ซากพืชซากสัตว์ เรียก ปุ๋ยหมัก, จากการไถกลบส่วนต่าง ๆ ของพืชโดยเฉพาะพืชตระกูลถ่ัว เรียก ปุ๋ยพืชสด 3) ปุ๋ยชีวภาพ ได้จากการนาจุลินทรีย์กลุม่ สร้างสรรค์มาเพาะเล้ยี ง เพอ่ื เพ่มิ ใหม้ ีจานวน มาก ๆ จุลินทรีย์แต่ละสายพันธุ์จะมีคุณสมบัติต่างกันบางสายพันธ์ุให้ฮอร์โมนแก่ต้นพืช เมื่อนา จลุ ินทรีย์เหล่าน้มี ารวมกนั แล้วนาไปทาปุ๋ยโดยใหม้ ลู สตั ว์,แกลบ,ราเปน็ วตั ถุรองรับ เม่อื ใสป่ ุ๋ยชีวภาพ ลงสดู่ ินจะทาใหพ้ ืชไดร้ ับธาตุอาหารหลัก อาหารรอง อาหารเสรมิ ครบถว้ น ประโยชนข์ องปุย๋ ชวี ภาพ 1) ช่วยปรบั โครงสร้างดิน ให้เหมาะแกก่ ารเจรญิ เติบโตของพชื 2) ช่วยสรา้ งระบบรากพืชใหแ้ ขง็ แรง ทนทานตอ่ ความแห้งแล้งได้ดี 3) ชว่ ยใหผ้ ลผลิตมีคุณภาพดีขนึ้ 4) สร้างฮอรโ์ มนทก่ี ระต้นุ การเจริญเติบโตและแขง็ แรง มคี วามตา้ นทานโรคและ แมลง 5) มรี าคาถกู สามารถผลติ เองได้ ไมต่ อ้ งนาเขา้ จากตา่ งประเทศ การทาปยุ๋ หมกั ชวี ภาพ วสั ดอุ ปุ กรณท์ ี่ใชท้ า - มูลสตั ว์แหง้ ละเอยี ด 1 กระสอบปุ๋ย - แกลบ 1 กระสอบปยุ๋ (อาจเป็นวัสดอุ ่ืน ๆ ในพน้ื ท่ี เชน่ กากอ้อย) - รา 1 กระสอบปยุ๋ - นา้ หมกั ชีวภาพ 2-3 ชอ้ น - กากน้าตาล หรือ น้าตาลทรายแดง หรือ นา้ ออ้ ย 2-3 ชอ้ น - น้าสะอาด 20 ลิตร

ขั้นตอนการทา - ผสมมูลสัตว์ - แกลบ - รา เข้าดว้ ยกันบนพืน้ ปนู - ผสมน้าหมัก, น้าตาล และน้าเข้าด้วยกัน แล้วราดบนกองปุ๋ยคลุกเคล้าให้ท่ัวจนปุ๋ย ชน้ื พอป้นั เปน็ ก้อนได้ แต่ไมใ่ หเ้ ปยี ก - กรอกปุ๋ยใส่กระสอบ 3 ใน 4 ส่วน ของกระสอบ มัดปากกระสอบให้แน่น วางไว้ในที่ ร่ม 7 - 10 วนั โดยคอยพลกิ กระสอบป๋ยุ เพ่ือระบายความรอ้ นทกุ วนั จนปุ๋ยเยน็ จงึ นาไปใชไ้ ด้ หมายเหตุ : ลักษณะปุ๋ยที่ดี ต้องมีราสีขาวมีกลิ่นหอมของราหรือเห็ด ไม่ร้อน น้าหนักเบา ปุ๋ยหมัก สามารถเกบ็ ไวใ้ ชไ้ ดถ้ งึ 1 ปี โดยเกบ็ ไว้ในทร่ี ่มและแห้ง ปริมาณธาตอุ าหารพืชในวัสดุท่ีนามาทาปยุ๋ ชวี ภาพ ชนิดของวัสดุ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส โปตัสเซยี ม (P) (K) มูลโค 1.10 0.40 1.60 มูลควาย 0.97 0.60 1.66 มลู สกุ ร 1.30 2.40 1.00 มลู ไก่ 2.42 6.29 2.11 มูลเป็ด 1.02 1.84 0.52 มูลค้างคาว 1.54 14.28 0.60 กากอ้อย 0.62 0.99 0.46 ใบยูคาลิปตสั 0.65 0.07 0.03 ผกั ตบชวา 1.55 0.46 0.49 ฟางข้าว 0.59 0.80 1.72 แกลบ 0.09 0.26 0.72 กากละห่งุ 5.26 1.12 0.58

ศนู ยเ์ กษตรพยุงขวัญ ท่ีอยู่ 226 หมู่ 6 ตาบล ตลกุ อาเภอสรรพยา จงั หวดั ชยั นาท ปุ๋ยชีวภาพแบบแห้ง ( มลู สตั ว์ ) สว่ นประกอบ - มลู สัตว์ 40 กิโลกรมั - ขี้เถา้ แกลบ 10 กโิ ลกรมั - ราละเอียด 5 กิโลกรัม - กากน้าตาล(ทรายแดง) 3 กิโลกรมั - นา้ สะอาด 30 กิโลกรัม -หวั เชอ้ื จุลนิ ทรยี ์ 2 - 3 กิโลกรัม วธิ ีทา นาสว่ นประกอบทง้ั หมดมาคลุกเคลา้ ใหเ้ ขา้ กนั แลว้ กองสว่ นผสมใหส้ งู ประมาณ 30 ซม. ใชก้ ระสอบป่านชบุ น้าคลุมทง้ิ ไว้ 3 - 7 วนั กลบั กองปยุ๋ ทกุ วนั ใน 7 วันแรก จนกวา่ ความรอ้ นจะ ลดลงไมม่ กี ลิ่นเหมน็ ฉนุ เปน็ กลิน่ ของเช้อื ราเหด็ และมเี ส้นใยราสขี าว กระจายทวั่ กอง วธิ ีใช้ - สาหรบั พืชผัก โดยคลกุ เคลา้ กบั ดนิ ในระยะเตรียมแปลงปลูก อตั รา 2 กโิ ลกรมั ตอ่ ตารางเมตร - สาหรบั ผกั กินผล โดยใช้โรยบรเิ วณโคนต้น 5 - 10 กโิ ลกรมั ต่อต้นอย่างน้อย 2 ครั้ง

ศูนย์การเรยี นรเู้ กษตรธรรมชาตวิ ังสมบรู ณ์ 109 หมู่ 4 ตาบลวังใหม่ อาเภอวังสมบูรณ์ จงั หวัดสระแก้ว ปุย๋ คน ส่วนประกอบ 1) เศษอาหารในครัวเรือนทุกชนิด รวมท้ังน้าแกง น้าพริกเปลือกผลไม้ เปลือกหอย เปลือกกุง้ ก้างปลา หวั ปลา นา้ ล้างจานจานวน 3 กิโลกรัม 2) นา้ ตาลแดง หรอื กากน้าตาล 1 กโิ ลกรัม 3) นา้ สะอาด 1 - 10 ลิตร (แล้วแต่เศษอาหารมีน้ามากหรอื ไม่) 4) หวั เช่อื จุลนิ ทรีย์เขม้ ขน้ 1 ลิตร วิธที า 1) นาเศษอาหาร 3 กิโลกรมั ใสล่ งในถงั พลาสติก 2) ผสมน้ากับน้าตาลให้เขา้ กนั เป็นเนือ้ เดยี ว 3) เตมิ หัวเช้ือจุลนิ ทรยี ์เข้มขน้ ผสมในน้าและน้าตาล 4) เททบั ลงในถงั ทใ่ี สเ่ ศษอาหารให้ทัว่ 5) ปดิ ฝาใหส้ นิท (ไม่ให้แสงและอากาศเข้าได้) 6) บ่มท้งิ ไว้ประมาณ 90 วัน จะได้ป๋ยุ นา้ คุณภาพดี กลิน่ หอม รสเปรย้ี ว หมายเหตุ : สว่ นปริมาณสว่ นผสมต่างๆ ปรับได้ตามสว่ น วธิ ีใช้ 1) ผสมนา้ 1 : 100 - 400 รดราดโคน 2) ผสมน้า 1 : 200 - 1,000 ฉีดพน่ ลาต้นและใบ

ศนู ย์การเรียนรเู้ กษตรธรรมชาตวิ ังสมบูรณ์ 109 หมู่ 4 ตาบลวังใหม่ อาเภอวังสมบูรณ์ จงั หวัดสระแก้ว สูตรหญ้าผสมขไี้ ก่ สว่ นประกอบ 1) หญา้ สด 50 กโิ ลกรัม 2) ข้ีไก่ 5 กิโลกรัม (ควรเลือกไก่ท่ีไม่กินยาปฏิชีวนะ เพราะจะทาให้มีกล่ินเหม็นเน่า และเปน็ อนั ตรายต่อจลุ นิ ทรีย์ในดิน และทป่ี ลายรากพชื ) วิธที า 1) นาหญ้าสด 1 กิโลกรัมลงในถังหมักพลาสติกขนาด 200 ลิตร ย่าให้แน่น (สูง ประมาณ 20 ซม.) 2) โรยข้ไี กห่ มาดๆ 1 กโิ ลกรมั ทบั ลงบนหญ้า 3) ทาซ้าเชน่ เดมิ อกี 4 ชน้ั 4) ปดิ ฝาเก็บไวใ้ นที่ร่ม 5) บ่มไว้ประมาณ 45 วันขน้ึ ไป จะได้ปยุ๋ น้าเขม้ ข้นคณุ ภาพดี วิธีใช้ 1) ผสมน้า 1: 200 - 500 รดราดดนิ 2) ผสมน้า 1: 300 - 1,000 ฉีดพน่ ลาตน้ และใบ

ศนู ย์เรยี นรู้ชมุ ชนคนพอเพยี งบ้านสายเพชร ต้ังอย่เู ลขที่ 159/4 หม9ู่ ตาบลทองมงคล อาเภอบางสะพาน จังหวดั ประจวบคีรขี นั ธ์ ปุ๋ยอินทรยี ์คุณภาพสงู เปน็ ปุ๋ยอินทรียท์ ีไ่ ด้จากการนาวัสดุอินทรีย์และหรืออนินทรีย์ธรรมชาติทางการเกษตร ท่ีมีธาตุอาหารสูงมาผ่านการหมักจนสลายตัวสมบูรณ์ หรือการนาปุ๋ยอินทรีย์ท่ีผ่านการสลายตัว สมบรู ณแ์ ลว้ ผสมกบั วสั ดุอินทรยี แ์ ละหรอื อนินทรยี ์ธรรมชาติทางการเกษตรที่มธี าตอุ าหารสงู ปจั จัยที่สาคัญในการผลติ ปุย๋ อินทรียค์ ุณภาพสงู วัตถุดบิ ตารางแสดงปริมาณธาตุอาหารของวตั ถขุ องวัตถดุ บิ ชนิดตา่ งๆ วัตถุดบิ ไนโตรเจน ปริมาณธาตอุ าหาร (เปอร์เซน็ ต์) โพแทสเซียม 7-10 ฟอสฟอรัส 1.12-2.70 กากถวั่ เหลือง 8-10 2.13 ปลาป่ น 3-13 5-6 3.8 เลือดแห้ง 1.9-2.3 1.5 0.8 ราข้าว 1.2-3.3 4-6 1.09 มลู สกุ ร/ไก/่ ววั 3-4 1.2-3.3 1.3-2.0 กระดกู ป่ น 1-3 15-23 0.68 มลู ค้างคาว 0.15 12-15 1.84 หินฟอสเฟต 1.13 15-17 0.10 ขีเ้ ถ้ าไม้ ยาง 0.93 0.06 13.48 เปลือกเมล็ดกาแฟ 0.14 6.22 เทคโนโลยกี ารผลติ สารเร่งซุปเปอร์ พด.1 สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 สารเร่งซุปเปอร์ พด.3 และสารเร่ง ซปุ เปอร์ พด.9

การผลิตปยุ๋ อินทรีย์คุณภาพสูง ปริมาณไนโตรเจน ฟอสฟอรสั โพแทสเซยี ม ในปุ๋ยอินทรยี ค์ ณุ ภาพสูง เทา่ กบั 3-4 ,5- 9 ,1-2 เปอร์เซ็นต์ ซง่ึ วัตถุดบิ ทใ่ี ช้ในการผลิตปยุ๋ อินทรยี ์คุณภาพสงู แตล่ ะสูตรขนึ้ อยกู่ ับแหล่งวตั ถุดบิ ในแต่ละพืน้ ที่ ส่วนผสมที่ใชใ้ นการผลิต ปรมิ าณ 100 กิโลกรัม ปุ๋ยอินทรยี ์คณุ ภาพสูง สูตร 1 - กากถว่ั เหลือง 40 กิโลกรัม - ราละเอียด 10 กิโลกรมั - มูลสตั ว์ 10 กโิ ลกรมั - หินฟอสเฟต 24 กิโลกรัม - กระดกู ปน่ 8 กิโลกรมั - มูลคา้ งคาว 8 กโิ ลกรัม - สารเรง่ ซปุ เปอร์ พด.1 สารเรง่ ซุปเปอร์ พด.3 และสารเร่งซปุ เปอร์ พด.9 อย่างละ 1 ซอง - สารเรง่ ซุปเปอร์ พด. ทีข่ ยายเชือ้ ในกากน้าตาลจานวน 26-30 ลติ ร วธิ ีการขยายเชอื้ สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 -เจือจางกากน้าตาล ต่อนา้ อัตราส่วน กากนา้ ตาล 5กโิ ลกรัมตอ่ นา้ 50 ลติ ร -ใสส่ ารเร่งซุปเปอร์ พด.2 จานวน 1 ซอง คนให้เข้ากนั -ปิดฝาตั้งไว้ในท่รี ่ม โดยขยายเชือ้ เป็นเวลา 3 วัน ข้ันตอนการผลิตปุ๋ยอนิ ทรยี ์คุณภาพสูง 1. ผสมวัตถุดบิ ใหเ้ ข้ากัน ตามส่วนผสมของปยุ๋ อินทรีย์คณุ ภาพสงู แตล่ ะสูตร 2. นาสารเร่งซปุ เปอร์ พด.1 จานวน 1 ซอง ใส่ลงในสารเร่งซุปเปอร์ พด.2 ที่ขยายเชอ้ื แล้ว จานวน 26-30 ลติ ร คน10-15 นาที เทลงในวตั ถดุ ิบโดยคลกุ เคล้าให้ท่วั วัตถุดิบอยา่ งสม่าเสมอ 3. ต้งั กองปยุ๋ หมักเป็นสเ่ี หลย่ี มผนื ผา้ ใหม้ คี วามสงู 20-30 เซนติเมตร และใชว้ สั ดคุ ลุม เพอื่ กันความชื้น 4. ในระหว่างการหมักจะสงั เกตเหน็ เชอื้ จุลนิ ทรยี เ์ จรญิ ในกองปุ๋ยและอณุ หภูมจิ ะสูงขึน้ 45-55 องศาเซลเซียส หลังจากการหมักประมาณ 3 วัน 5. กองปุ๋ยไว้จนกระทงั่ อุณหภมู ภิ ายในกองป๋ยุ ลดลงเท่ากบั อณุ หภมู ิภายนอก ใช้เวลา ประมาณ 9-12 วัน 6. ใส่สารเรง่ ซุปเปอร์ พด.3 และสารซปุ เปอร์ พด.9 อยา่ งละ 1 ซอง คลกุ เคล้าให้ทวี กองปุ๋ยและหมกั ไว้เป็นเวลา 3 วัน

ประโยชน์ของปุ๋ยอนิ ทรียค์ ณุ ภาพสูง 1. เป็นแหล่งธาตุอาหารหลักม่ีมีความเพียงพอต่อความต้องการของพืชในการ เจริญเติบโตและให้ผลผลิต 2. เปน็ แหลง่ ธาตอุ าหารรองและจลุ ธาตแุ กพ่ ืช 3. มจี ุลินทรยี ์ทม่ี ปี ระโยชน์ตอ่ ดนิ และพชื 4. เปน็ การปลดปลอ่ ยธาตอุ าหารใหแ้ ก่พืชแบบชา้ ๆ ทาใหล้ ดการสญู เสียธาตอุ าหาร 5. เปน็ ทางเลอื กให้กับเกษตรกรในการทดแทนปุ๋ยเคมี 6. เกษตรกรสามารถจะผลติ ใช้เองไดง้ า่ ย

ศนู ย์เครอื ขา่ ยปราชญ์ชาวบ้าน นายถวิล เสียงแจ๋ว ต้ังอยู่หมทู่ ี่ หมู่ 6 ตาบลบ่อเงนิ อาเภอลาดหลมุ แก้ว จังหวัดปทมุ ธานี การทาปยุ๋ อดั เม็ด สว่ นผสม 1. แกลบขาว 400 กิโลกรมั 2. แกลบดา 300 กิโลกรัม 3. มูลสัตว์ 200 กิโลกรัม 4. ราละเอียด 30 กโิ ลกรัม 5. โดโลไมท์ 30 กโิ ลกรัม 6. ยเู รยี 2 กโิ ลกรัม 7. สาร พ.ด.1 1 ซอง 8. สาร พ.ด.3 10 ซอง 9. กากนา้ ตาล 10 ลิตร 10. นา้ 150 ลิตร 11. เคก้ ออ้ ย 60 กโิ ลกรมั วธิ ที า 1. นาสว่ นผสม แกลบขาว แกลบดา มูลสัตว์ ราละเอยี ด โดโลไมท์ ยเู รีย และเคก้ อ้อย เขา้ ด้วยกนั 2. ผสม สาร พ.ด.1 สาร พ.ด.3 กากน้าตาล และนา้ ลงในถงั ประมาณ 200 ลิตร 3. นานา้ ที่ผสมเตรียมไวต้ ามขอ้ 2 ราดลงบนสว่ นผสมของวสั ดทุ เี่ ตรียมไว้ 4. หมกั ทง้ิ ไว้ประมาณ 1 เดอื น โดยกลับหน้าทุก 1 สัปดาห์ 5. นาปุย๋ ทีไ่ ด้มาตีปน่ จานวน 2 ครั้ง 6. นากากนา้ ตาลผสมนา้ โรยบนปยุ๋ ท่ตี ีปน่ แล้ว โดยมคี วามชื้น 50% 7. นาปุ๋ยท่ีไดไ้ ปอดั เมด็

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลนธิ ิพัฒนาชมุ ชนอยา่ งยงั่ ยืน เพอ่ื คณุ ภาพชวี ิตทดี่ ี จังหวัดขอนแกน่ เลขที่ 175 หม่ทู ่ี 2 ถนนสุขาภิบาล ตาบลเขื่อนอบุ ลรตั น์ อาเภออบุ ลรตั น์ จงั หวัดขอนแก่น ป๋ยุ หมกั ชวี ภาพจากพชื สดและเศษอาหาร อปุ กรณ์ (1) เศษพืชผกั หรือเศษอาหาร 3 กิโลกรัม (2) กากน้าตาล 1 กโิ ลกรัม (3) นา้ เปล่า 10 ลิตร (4) ถังสาหรบั หมัก 1 ถงั วิธีการผสม นาเศษอาหาร หรือเศษพืชผักท่ีเก็บได้ลงในถังสาหรับหมัก เทกากน้าตาลใส่ หลังจาก นั้น อีกประมาณ 7 วัน เทน้าเปล่าลงแล้วกวนส่วนผสมให้เข้ากัน (น้าท่ีเตรียมไว้ 10 ลิตร ไม่ จาเป็นต้องใช้ท้งั หมด ใส่นา้ พอเหมาะ เมื่อเศษอาหารหรือเศษผักย่อยสลายน้าหมักก็จะมีน้าเอง) ถ้า มีกลิ่นเหม็นให้เติมกากน้าตาลเพ่ิมแล้วคนให้เข้ากัน หลังจากนั้นหมักไว้ประมาณ 15 - 30 วัน สามารถกรองเอาส่วนที่เป็นน้าไว้ฉีดพ่นพืชผัก โดยวิธีการผสมคือน้า 10 ลิตร ผสมน้าหมักชีวภาพ ประมาณ 2 - 3 ช้อนโตะ๊ ใชฉ้ ดี พ่นหรือรดก็ได้ ควรเก็บนา้ หมัก หรอื ถังหมกั ในทร่ี ม่ แดดไมถ่ ึง

ศนู ยเ์ รยี นร้กู ลมุ่ ฟืน้ ฟูเกษตรพ้ืนบ้านอาเภอแวงนอ้ ย ทอี่ ยู่ ตัง้ อยู่เลขที่ 108 หมทู่ ่ี 6 บ้านโสกนา้ ขาว ตาบลก้านเหลือง อาเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแกน่ การทาปุย๋ หมกั แบบเผาแกลบ อปุ กรณ์ (1) แกลบดา (2) ราอ่อน (3) กากน้าตาล (4) ถงั สาหรับใสป่ ุ๋ยหมัก วธิ ที า ต้องเผาแกลบดิบให้เป็นแกลบดาเสียก่อน เมื่อเผาแกลบเสร็จแล้ว ใช้น้าดับให้มอด สนิท นาแกลบท่ีเผาเสร็จแล้วในอัตราแกลบ 3 ส่วน มูลสัตว์ 1 ส่วน และราอ่อน 1 ส่วน แล้วนามา ผสมกันคลุกเคล้าใหเ้ ขา้ กนั แลว้ นากากน้าตาลผสมนา้ ใหเ้ ปน็ สีชาแก่ ๆ นาบัวมาใส่น้าคือกากน้าตาล ท่ีผสมไว้แล้ว เทลาดกองปุ๋ยแล้วนา พด.1 ละลายกับน้าไว้ 5 นาที แล้วนามาเทลาดกองปุ๋ยหมักพอ หมาดๆ แล้วนาผ้ายางดาสีใดก็ได้ ถ้ามี หมักไว้ 7 - 15 วัน แล้วเอามือล้วงเข้าไปในกอง ถ้าหากว่ามี ความเย็น กน็ าไปใช้ไดแ้ ล้ว

ศนู ยเ์ รียนรู้ชมุ ชนบา้ นดงบงั ต้ังอยู่เลขท่ี 68 หมูท่ ี่ 4 บา้ นดงบงั ตาบลคอนฉมิ อาเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแกน่ การทาป๋ยุ หมกั ชีวภาพแบบแหง้ สว่ นผสม (1) มลู สัตว์ 6 สว่ น (2) แกลบดา แกลบดนิ ใบไม้แหง้ หญ้าแห้ง ฟาง 3 ส่วน วิธกี ารทา (3) รา 1 สว่ น สรรพคุณ (4) นา้ หมักชวี ภาพ 2 ช้อน (อยา่ งนอ้ ย) (5) กากนา้ ตาล 2 ช้อน (6) นา้ (1) เอาวัสดุทกุ อยา่ งมาผสมคลุกเคล้าใหเ้ ขา้ กนั แลว้ เอาน้าเปลา่ คลกุ พอใหม้ คี วามชื้น (2) ผสมนา้ หมักชีวภาพและกากนา้ ตาลในน้ารดให้ชน้ื 60 % (3) กองในรม่ กลับกองทุก 3 วัน หรอื บรรจุกระสอบไว้ท่ีรม่ ไมต่ ้องมดั ปาก 7 - 15 วัน ใชท้ ดแทนปุ๋ยเคมี อตั รา 100 กิโลกรมั /ไร่ ถ้าจะใหด้ ีใชห้ ว่านกอ่ นไถดะ ไถแปร

ศูนยเ์ รียนรูก้ ลมุ่ พฒั นาชีวิตและอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม ต้ังอยูเ่ ลขที่ 17 หมู่ 5 บา้ นสาราญ ตาบลหนองแคน อาเภอปทมุ รตั ต์ จงั หวดั รอ้ ยเอ็ด การผลติ ปยุ๋ หมกั ชีวภาพ สว่ นผสมและวสั ดอุ ุปกรณ์ 1) น้าหมกั ชีวภาพ 5 ช้อนโตะ๊ 2) กากน้าตาล 5 ชอ้ นโตะ๊ 3) นา้ สะอาด 20 ลติ ร 4) แกลบดบิ 10 ป๊ปี 5) ขีเ้ ถา้ แกลบ 10 ปป๊ี 6) มูลสตั ว์ (ใชไ้ ดห้ ลายชนดิ ) 10 ปป๊ี 7) ราขา้ ว 10 ปป๊ี 8) กระสอบปา่ นหรอื ถุงหวั อาหาร สาหรบั คลมุ กองปุ๋ย 9) ถัง หรอื บัวรดน้า สาหรับผสม 10) กระสอบหัวอาหารหมู/ไก่ สาหรับเกบ็ ปุ๋ยหมักไว้ใช้งาน วิธีทา 1) เตรยี มสถานท่สี าหรบั คลกุ ผสมปุย๋ หมกั (ควรเป็นทร่ี ่มหรือใต้ต้นไม้) 2) นาส่วนผสมทั้งหมดลาดับท่ี 1 - 7 คนให้เข้ากันและเกล่ียให้ส่วนผสมออกเป็น วงกลม แล้วนาน้าหมักที่ผสมไวแ้ ล้ว ราดลงไปใหท้ ่วั กองป๋ยุ หมกั โดยให้เปียกพอประมาณ (ประมาณ 60%) 3) เกลยี่ ใหไ้ ดค้ วามหนาประมาณ 15 ซ.ม. คลุกด้วยกระสอบป่านหรือผ้าใบ แล้วพลิก กลบั วนั ละ 1 ครงั้ ท้ิงไวป้ ระมาณ 3 - 5 วัน อุณหภมู จิ ะลดลงเท่ากบั อณุ หภูมปิ กติ 4) บรรจุใสก่ ระสอบป๋ยุ เกบ็ ไวใ้ นรม่ รอนาไปใช้งาน วิธีใช้ 1) ใช้ไดก้ บั นาปหี รือนาปรัง อตั รา 30 - 50 กโิ ลกรัม/ไร่ ใส่ 2 - 3 ครงั้ 2) ใช้ได้กับไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ยืนต้นไม้ผลทุกชนิด ในอัตรา 2 - 4 กิโลกรัม/ต้น ถ้า ตน้ ไม้อายุ 3 ปีขึน้ ไป ใช้ในอัตรา 5 กโิ ลกรัม/ต้น

ประโยชน์ ทาให้ดินโปร่งและร่วนซุย กบเขียน ปู ปลา หอย กุ้ง คืนสู่ธรรมชาติ และลดปริมาณ การใชป้ ยุ๋ หมกั ชวี ภาพลงไดใ้ นปีที่ 3 4 5 สามารถเว้นการใช้ปุ๋ยหมักได้ในปีที่ 6 แล้วเร่ิมใส่ใหม่ในปีที่ 7 ลดปัญหาการเกดิ โรคของตน้ ขา้ ว ซงึ่ จะคอ่ ยๆ หมดไป ผลผลิตสงู ข้นึ ลดค่าใช้จ่าย ลดหนี้สิน และ พง่ึ พาตนเองได้อยา่ งยั่งยืน

ศนู ย์เรยี นรู้กลมุ่ พฒั นาชีวติ และอนรุ ักษส์ ิ่งแวดล้อม ตง้ั อย่เู ลขที่ 17 หมู่ 5 บ้านสาราญ ตาบลหนองแคน อาเภอปทุมรัตต์ จงั หวัดร้อยเอ็ด การทาปยุ๋ หมัก วสั ดอุ ปุ กรณ์ 2 เขง่ 1. ละอองขา้ ว 1 เขง่ 2. ราอ่อน 1 เข่ง 3. แกลบดา วิธีทา นาวสั ดดุ ังกล่าวมาผสมคลกุ เคลา้ ใหเ้ ข้ากันหมักกองไว้อย่างน้อย 15 วัน กลับกองทุกๆ 3 หรอื 4 วัน จากน้นั นาไปใช้ได้ทนั ที ขั้นตอนการทานา 1. เตรยี มกระสอบป๋ยุ หมักชวี ภาพทห่ี มักไว้วางกระจายตามจุดตา่ งๆ ในพนื้ นา 2. ผสมจุลินทรยี ์ 20 ลิตร กากน้าตาล 20 ลติ ร และน้า 100 ลติ ร เข้าด้วยกัน 3. หว่านปุ๋ยหมักให้ทัว่ แปลงนาอตั รา 250 กิโลกรัม/ไร่ (ใชล้ ดลงทกุ ปี) 4. ฉีดนา้ จลุ นิ ทรยี ์ทผ่ี สมไวใ้ หท้ ัว่ แปลง 5. ไถกลบตามปกติเป็นการหมักดินให้จุลินทรีย์ทางาน เพ่ือปรับโครงสร้างของดินไป จนถงึ หน้าดานา 6. เมื่อถึงช่วงปักดานาไถ - คราด ตามปกติการปักดาควรให้ห่างกัน 40 ซ.ม. เพื่อการ แตกกอ (ปักดากอละไม่เกิน 3 ต้น) 7. ฉีดพน่ ดว้ ยนา้ แม่ (น้าสกัดชีวภาพ) ผสมน้าในอัตราส่วน 1500 ทุกๆ 10 วัน เพ่ือเร่ง การแตกกอ 8. นา 40 ไร่ ใชป้ ยุ๋ เคมีปีละ 12,000 บาท หนั มาใช้ปุ๋ยชวี ภาพหมดไปแค่ 3,000 บาทเอง ผลผลติ ท่ีได้ ปีที่ 1 550 กโิ ลกรมั /ไร่ ปที ี่ 2 600 กิโลกรัม/ไร่ ปีท่ี 3 800 กิโลกรมั /ไร่ ปีที่ 5 1,080 กโิ ลกรมั /ไร่ ขา้ วดี ขา้ วสวย เกยี่ วง่าย เม็ดเต็ม ไม่หัก น้าหนักดี เปอร์เซ็นต์ขา้ วสงู

ศูนยเ์ รียนร้เู ศรษฐกิจพอเพียงชมุ ชน ร้อยเอด็ อโศก ตั้งอยู่เลขที่ 110 หมู่ 6 ตาบลเกาะแก้ว อาเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด การทาปุ๋ยอัดเม็ดอินทรยี ช์ วี ภาพ ส่วนผสมและวสั ดุอปุ กรณ์ 700 กโิ ลกรัม 1. ป๋ยุ หมักชีวภาพบดละเอียด 100 กิโลกรัม 2. มลู ไก,่ มูลววั , มลู ค้างคาว หรอื อย่างใดอย่างหนึง่ 200 กโิ ลกรมั 3. ดินฟอสเฟต 1:1:100 4. น้าหมกั จุลนิ ทรีย์ผสมกากน้าตาล และน้าเปลา่ วิธีทา 1. เอาส่วนผสมท้งั หมดผสมกันใหม้ ีความช้ืนพอเหมาะสาหรบั การปั้นเม็ด 2. นาส่วนผสมท้ังหมดเข้าเครื่องป้ันเม็ดปุ๋ย อบด้วยความร้อนหรือตากแดด จนมี ความช้ืนประมาณร้อยละ 9 - 12 3. บรรจลุ งกระสอบเกบ็ ไว้ในท่ีร่ม ให้อากาศถ่ายเทสะดวก วธิ ใี ช้ 1. นาขา้ ว 50 กิโลกรมั /ไร่ 2. พชื ไร่, พชื ลม้ ลุก 100 - 200 กรัม/หลมุ 3. ไม้ยืนต้น, พืชสวน 1 กโิ ลกรัม/ต้น (หรือตามอายตุ ้นไม้) ประโยชน์ การป้ันเป็นเม็ด เพ่ือยืดอายุการเก็บรักษา และสะดวกต่อการใช้งาน คุณภาพไม่แตกต่างจาก ปุ๋ยชวี ภาพ

ชมุ ชนบญุ นยิ มสกลอโศก ต้ังอยเู่ ลขที่ 168 หมู่ 5 บา้ นโคกตาดทอง ตาบลคอ้ เขียว อาเภอวารชิ ภมู ิ จังหวัดสกลนคร ปุย๋ ดนิ อนิ ทรยี ์สาเรจ็ รูป วัสดอุ ุปกรณ์ 10 กระสอบ (1) ดินปา่ (หน้าดินชั้นบน) 2 กระสอบ (2) แกลบดา 1 กระสอบ (3) แกลบดนิ (คายข้าว) 20 กระสอบ (4) ราละเอียด 1 ลิตร (ความเขม้ ขน้ =นา้ หมกั ฯ (5) น้าหมักจลุ นิ ทรยี (์ นา้ แม่ 1 ลิตรต่อ น้า 5 ลิตร) (6) พลว่ั 1 ด้าม (7) บวั รดนา้ 1 อนั วธิ ีทา (1) นาวตั ถดุ บิ ข้อ 1 - 4 มาคลุกเขา้ กนั (2) ขณะคลุกใหใ้ ชน้ า้ หมกั ฯ ข้อ 5 ราดรดกองป๋ยุ ใหช้ ุม่ (3) หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 15 วัน จนกองปุ๋ยเยน็ และแห้ง วธิ ีใช้ ตักดนิ ใสถ่ ุงเพาะ กระถาง หรือแปลงปลกู และเพาะปลกู พนั ธ์พุ ืชได้ทนั ที สรรพคณุ (1) เตรียมแปลงเพาะปลกู โดยไมต่ ้องขุด และหมกั ดนิ ประหยดั เวลา (2) ปุ๋ยดินมธี าตอุ าหาร และมีจลุ นิ ทรยี ์ที่มีประสทิ ธิภาพสูง ทาให้พืชโตเรียว


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook