Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิทยาการคำนวณ ป.5

วิทยาการคำนวณ ป.5

Published by Kanokwan M., 2021-09-25 17:58:57

Description: วิทยาการคำนวณ ป.5

Search

Read the Text Version

การบันทกึ ผลหลงั การสอน รหัสวชิ า ว 15102 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 สปั ดาห์ที่ 26-27 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง ขอ้ มลู สารสนเทศ จำนวน 10 ชัว่ โมง แผนการเรยี นร้ทู ่ี 12 เรือ่ ง การสืบคน้ ขอ้ มูลโดยใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ เวลา 2 ชัว่ โมง ครูผสู้ อน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ การบันทึกผลหลังการสอน 1. บนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ตามจุดประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นักเรยี นอธบิ ายวธิ ีการสืบค้นขอ้ มลู โดยใช้อนิ เทอรเ์ น็ตได้ (K) จำนวน….……คน คดิ เป็นร้อยละ…….…ของ จำนวนนกั เรียนท้งั หมด 1.2 นักเรียนอธิบายวธิ กี ารสบื คน้ ข้อมลู โดยใช้อนิ เทอร์เนต็ ไม่ได้ (K) จำนวน….……คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ…….…ของ จำนวนนักเรียนทั้งหมด 1.3 นักเรยี นบอกหลกั ในการประเมินความนา่ เชอ่ื ถอื ของขอ้ มลู จากการสืบค้นได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นทั้งหมด 1.4 นักเรียนบอกหลกั ในการประเมนิ ความน่าเช่อื ถือของขอ้ มูลจากการสบื ค้นไม่ได้ (K) จำนวน….……คน คดิ เป็น ร้อยละ…….…ของจำนวนนักเรยี นทง้ั หมด 2. บันทึกทักษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรยี นสบื ค้นข้อมูลโดยใชอ้ ินเทอร์เน็ตตามวิธกี ารต่าง ๆ ได้ (P) จำนวน……..คน คิดเป็นร้อยละ….……ของ จำนวนนกั เรียนทั้งหมด 2.2 นกั เรียนสบื คน้ ขอ้ มูลโดยใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตตามวิธีการตา่ ง ๆ ไม่ได้ (P) จำนวน….……คน คดิ เป็นรอ้ ยละ……... ของจำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด 2.3 นักเรียนตรวจสอบความนา่ เชอื่ ถอื ของขอ้ มลู จากอินเทอร์เนต็ ได้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ……... ของจำนวนนักเรียนทง้ั หมด 2.4 นกั เรียนตรวจสอบความน่าเชอื่ ถือของขอ้ มลู จากอินเทอร์เน็ตไม่ได้ (P) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ……... ของจำนวนนักเรียนทัง้ หมด 3. บันทกึ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นกั เรยี นเป็นผูท้ ม่ี วี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเปน็ รอ้ ยละ….……ของ จำนวนนักเรยี นทัง้ หมด 3.2 นักเรียนไม่เป็นผทู้ ่มี ีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และม่งุ มัน่ ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คดิ เปน็ ร้อยละ……...ของ จำนวนนกั เรียนทง้ั หมด

ปญั หาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงชือ่ .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู สู้ อน

แผนการจัดการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ว 15102 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ สปั ดาห์ท่ี 28-31 ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 จำนวน 12 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่ือง การใชอ้ ินเทอร์เนต็ อย่างปลอดภัย เวลา 4 ชั่วโมง แผนการเรียนรทู้ ี่ 13 เร่อื ง การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เนต็ ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ 1. สาระ สาระที่ 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวติ จรงิ อยา่ งเปน็ ขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รูเ้ ท่าทันและมีจริยธรรม 3. ตัวชวี้ ัด / ผลการเรียนรู้ ป.5/3 ใช้อนิ เทอรเ์ น็ตคน้ หาข้อมลู ตดิ ตอ่ สอื่ สารและทำงานร่วมกัน ประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของขอ้ มูล 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรียนอธิบายเกีย่ วกบั การตดิ ตอ่ สื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตไดถ้ ูกตอ้ ง (K) 2. นกั เรียนเขยี นอเี มลเบอ้ื งตน้ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง (P) 3. นกั เรยี นสืบคน้ ขอ้ มูลเก่ยี วกับโปรแกรมสนทนาและบลอ็ กได้ (P) 4. นกั เรียนเป็นผทู้ มี่ ีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน (A)

5. สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตัวชีว้ ัด ด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ด้านคุณลักษณะ (K: Knowledge) (P: Process) อันพงึ ประสงค์ (A: Attitude) ป.5/3 ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตค้นหา 1. นักเรยี นอธบิ าย 2. นักเรยี นเขยี นอีเมลเบ้ืองต้น 4. นักเรียนเปน็ ผทู้ ี่ ข้อมลู ติดต่อสื่อสารและ เกยี่ วกบั การตดิ ตอ่ ส่ือสาร ได้อยา่ งถกู ต้อง มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ ทำงานรว่ มกนั ประเมนิ ผ่านอินเทอร์เนต็ ได้ 3. นกั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มูล และมุ่งม่นั ในการ ความนา่ เช่อื ถือของขอ้ มูล ถกู ตอ้ ง เกยี่ วกบั โปรแกรมสนทนาและ ทำงาน บลอ็ กได้ 6. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอดหน่วยการเรยี นรู้ ในปจั จุบนั การตดิ ตอ่ สือ่ สารผ่านอนิ เทอร์เนต็ ถือว่าเป็นบรกิ ารทีช่ ว่ ยตอบสนองความต้องการในการสื่อสารของ มนษุ ยใ์ หม้ คี วามสะดวกสบายมากยง่ิ ข้นึ โดยเฉพาะการตดิ ต่อสือ่ สารผ่านอินเทอรเ์ น็ต ในปจั จุบนั สามารถทำได้ หลากหลายรปู แบบ ไม่ว่าจะเปน็ การสอ่ื สารผา่ นไปรษณยี อ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ หรอื อีเมล โปรแกรมสนทนา และบล็อก 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - มวี นิ ยั - ใฝ่เรียนรู้ - ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 9. สอ่ื และ แหลง่ การเรยี นรู้ ส่ือ - หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เร่ือง การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภัย - ใบงานท่ี 4.1.1 เร่ือง โปรแกรมสนทนาออนไลน์

แหล่งเรียนรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ - หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ 4 10. การจัดการเรียนรู้ ลำดับ เรื่อง 1 การติดต่อสอ่ื สารผา่ นอินเทอร์เนต็ 11. กระบวนการจัดการเรียนรู้ เร่ือง การตดิ ต่อส่อื สารผา่ นอนิ เทอร์เนต็ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนอธิบายเกยี่ วกับการติดตอ่ ส่ือสารผ่านอินเทอรเ์ นต็ ได้ถูกตอ้ ง (K) 2. นกั เรียนเขยี นอีเมลเบือ้ งตน้ ได้อย่างถูกตอ้ ง (P) 3. นักเรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกับโปรแกรมสนทนาและบลอ็ กได้ (P) 4. นักเรยี นเป็นผู้ทมี่ ีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน (A) ชั่วโมงที่ 1 ข้นั นำ ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภยั เพื่อวัดความรเู้ ดมิ ของนกั เรยี นกอ่ นเขา้ สกู่ ิจกรรม 2. ครถู ามคำถามกระตุ้นความสนใจของนกั เรยี นวา่ “ปัจจบุ นั นกั เรียนได้ใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ทำสิง่ ใดบา้ ง” (แนวคำตอบ : เลน่ เกม ดูคลิปวิดโี อ สอื่ สารกบั เพ่ือน ๆ สืบค้นข้อมูล เป็นตน้ ) 3. จากน้นั ครถู ามคำถามประจำหนว่ ยการเรียนรกู้ ับนกั เรียนว่า“นกั เรยี นมีวธิ ีการใช้งาน อนิ เทอร์เนต็ อยา่ งไรให้ปลอดภัย” (แนวคำตอบ : นักเรยี นตอบตามประสบการณข์ องตนเอง โดยคำตอบข้ึนอยกู่ บั ดุลยพินิจของครผู ู้สอน เช่น ปอ้ งกัน ข้อมูลสว่ นตัวของตนเอง ตรวจสอบทุกคร้งั ก่อนนำข้อความหรอื รูปภาพลงบนอนิ เทอร์เนต็ เปน็ ตน้ ) 4. ครูถามคำถามประจำหัวข้อกบั นักเรียนวา่ “นกั เรียนคดิ วา่ การนำอนิ เทอรเ์ น็ตเขา้ มาใช้ ในการตดิ ตอ่ สอ่ื สารมีประโยชน์อยา่ งไร” (แนวคำตอบ : การติดต่อสื่อสารผา่ นอินเทอร์เน็ต เป็นบรกิ ารทีช่ ่วยตอบสนองความต้องการในการสอ่ื สารของมนษุ ยใ์ ห้ มคี วามสะดวกสบายยง่ิ ข้ึน เปน็ ตน้ )

ข้นั สอน ขัน้ ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. ครซู ักถามนักเรยี นว่า“นกั เรียนรู้จกั การตดิ ตอ่ ส่ือสารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ แบบใดบ้าง” (แนวคำตอบ : นกั เรยี นตอบตามประสบการณข์ องนักเรียน โดยคำตอบข้นึ อยูก่ ับดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน เชน่ ไปรษณีย์ อิเล็กทรอนกิ ส์ Facebook Line Messenger เป็นต้น) 2. นักเรียนศึกษา เรอ่ื ง การตดิ ต่อสอ่ื สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ในปจั จุบันจากหนงั สือเรยี น รายวชิ าพื้นฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง การใช้อินเทอรเ์ น็ตอยา่ งปลอดภยั หรอื สืบคน้ จากอนิ เทอร์เน็ต 3. ครูเปดิ เว็บไซต์ www.gmail.com เพอ่ื เข้าใช้งานไปรษณยี ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์หรืออเี มล จากนนั้ ใหน้ กั เรยี นเข้าสู่เว็บไซตต์ ามในเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง โดยครอู ธิบายความหมายของไปรษณยี ์ อิเลก็ ทรอนกิ สว์ ่า“ไปรษณยี อ์ ิเล็กทรอนกิ สเ์ ป็นบริการรบั -สง่ จดหมายผ่านเครือข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ จากบุคคลหน่งึ ไปยัง บคุ คลอื่น ๆ ซ่งึ สามารถสง่ ได้ทง้ั ขอ้ ความ เสยี ง รปู ภาพ และวดิ โี อ เป็นตน้ ” 4. นกั เรยี นสำรวจตนเองวา่ มบี ญั ชผี ู้ใช้ของเวบ็ ไซต์ www.gmail.com หรือไม่ หากไมม่ ีให้ นกั เรยี นสร้างบญั ชผี ู้ใชต้ ามขัน้ ตอนในหนังสือเรียน ดังน้ี 1. เขา้ สู่เว็บไซต์ทีใ่ ห้บริการอีเมล คือ www.gmail.com 2. คลิกเลือกสรา้ งบญั ชีเพอื่ สรา้ งบญั ชใี หม่ 3. กรอกขอ้ มลู ผู้ใช้งาน เช่น ช่อื นามสกุล ช่อื ผู้ใช้ รหสั ผ่าน เปน็ ต้น 4. คลิกเลือก ถัดไป 5. กรอกขอ้ มูลผู้ใชง้ านเพมิ่ เติม 6. คลกิ เลือก ถดั ไป 5. ครชู แี้ จงกับนักเรยี นวา่ “หากนกั เรยี นมีบญั ชผี ใู้ ช้แลว้ นกั เรยี นสามารถเขา้ ใช้งานอเี มล โดยการกรอกชอ่ื ผ้ใู ชแ้ ละรหสั ผ่านที่หนา้ ลงชือ่ เข้าใชง้ าน เพอ่ื ใชง้ านไปรษณีย์อเิ ลก็ ทรอนิกสห์ รอื อเี มลของตนเอง” ชั่วโมงท่ี 2 ข้นั สอน ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 6. นักเรยี นศึกษาข้ันตอนการเขยี นอีเมลเบ้อื งตน้ จากหนังสอื เรียน จากนัน้ ครูส่มุ นักเรียน ออกมาเขยี นสรุปขนั้ ตอนการเขยี นอีเมลบนกระดานหน้าชั้นเรยี น โดยครคู อยตรวจสอบความถูกต้องและให้ ข้อเสนอแนะเพมิ่ เติมแกน่ ักเรียน 7. ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ กับนักเรียนเก่ียวกบั หลกั การเขยี นชอื่ เรอ่ื งวา่ “การเขียนชื่อเรอ่ื งทใ่ี ชใ้ น การส่งอเี มล ควรเลือกใชข้ อ้ ความที่กระชบั ได้ใจความเขา้ ใจง่าย และใช้ถอ้ ยคำทส่ี ภุ าพ” 8. นกั เรียนศึกษาตวั อย่างการเขยี นอเี มลจากสถานการณ์ในหนงั สือเรยี น 9. ครูซกั ถามเพื่อกระตุ้นความคดิ ของนักเรยี นวา่ “การเขยี นอเี มลต้องพิมพ์ในส่วนใดบ้าง”

(แนวคำตอบ : พิมพท์ อี่ ยอู่ ีเมลของผูร้ บั พมิ พช์ อ่ื เรอื่ ง และพิมพร์ ายละเอียดเน้ือหา) 10. ครูมอบหมายให้นักเรียนเขียนอเี มลภายใต้ช่ือเรอื่ งการแนะนำตนเอง และส่งมายังท่ีอยู่ อีเมลของครู ช่วั โมงท่ี 3 ข้ันสอน ข้นั ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 11. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 3-4 คน เพื่อสบื คน้ และศึกษาเก่ยี วกบั โปรแกรมสนทนา และ ตวั อย่างการใช้โปรแกรมสนทนาจากสถานการณใ์ นหนังสือเรียนหรืออนิ เทอร์เน็ต พร้อมเปิดโอกาสให้นักเรยี นไดส้ อ่ื สาร และแลกเปล่ยี นขอ้ มลู รว่ มกนั 12. ครอู ธิบายกับนกั เรียนเกี่ยวกบั โปรแกรมสนทนาว่า“โปรแกรมสนทนาเปน็ โปรแกรมการ สนทนาออนไลน์ทีส่ ือ่ สารผ่านเครือข่ายอนิ เทอร์เน็ต ซ่ึงในปัจจุบนั มกี ารส่ือสารทผ่ี ู้ใช้งานสามารถเหน็ ใบหน้ากนั ได้ เช่น Line Facebook Messenger Skype เป็นตน้ ” 13. ครเู ปดิ โอกาสให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาขอ้ มูลเกย่ี วกับบลอ็ ก (Blog) โดยอธิบายวา่ “บลอ็ ก คือ เว็บไซต์รูปแบบหนึ่งทเี่ ปน็ การเขยี นเว็บไซต์ทีเ่ น้นการนำเสนอขอ้ มลู ในดา้ นทต่ี นเองสนใจ เช่น บลอ็ กการ ทอ่ งเทย่ี ว บล็อกขายสินคา้ บล็อกทำอาหาร เปน็ ตน้ ซึ่งผูท้ ีส่ นใจสามารถทำไดโ้ ดยไมเ่ สยี ค่าใช้จ่าย” 14. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ สบื คน้ และคัดเลือกบลอ็ กท่ีสนใจ พรอ้ มออกมาอภิปรายหน้าชน้ั เรยี น 15. ครูอธบิ ายเพ่มิ เตมิ ให้นักเรียนเขา้ ใจวา่ “ผู้ท่มี ีความชำนาญในการเขยี นบล็อกหรือผทู้ ่ีเขยี น บลอ็ กเป็นอาชีพเรามักจะเรียกคนเหล่าน้ีวา่ บลอ็ กเกอร์ (Blogger)” 16. นักเรยี นศึกษาตัวอยา่ งการใช้บลอ็ กจากสถานการณท์ ี่กำหนดไว้ในหนงั สือเรยี น พรอ้ ม ถามคำถามท้าทายการคิดขัน้ สูงกับนกั เรยี นว่า“นอกจากการสรา้ งสื่อการเรียนการสอนแลว้ นักเรียนคิดว่าบล็อกสามารถ นำมาใชป้ ระโยชนใ์ นด้านการเรยี นการสอนได้อย่างไรบ้าง” (แนวคำตอบ : ใชบ้ ล็อกในการขยายความเข้าใจในเน้ือหาตา่ ง ๆ เพ่ือเผยแพร่เน้อื หาทีน่ ่าสนใจใหน้ ักเรียนได้มีความ เขา้ ใจมากยง่ิ ขึ้นหรือสรา้ งเป็นชอ่ งทางในการสอื่ สาร เพอ่ื ให้ผู้ทสี่ นใจในเรือ่ งเดยี วกนั ได้แลกเปลย่ี นความรรู้ ว่ มกัน) ชวั่ โมงท่ี 4 ขน้ั สอน ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 17. นักเรียนทำกิจกรรมฝึกทักษะในหนงั สอื เรยี นและทำใบงานท่ี 4.1.1 เร่ือง โปรแกรม สนทนาออนไลน์

Note วตั ถุประสงคข์ องกิจกรรมเพือ่ ใหน้ กั เรียน - มีทักษะการสืบคน้ ข้อมลู โดยใชก้ ระบวนการทางเทคโนโลยสี ืบค้นขอ้ มูลเก่ยี วกับ การตดิ ต่อสือ่ สารผ่านอนิ เทอร์เน็ต - มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี ในการสร้างบญั ชีผ้ใู ช้ในเวบ็ ไซตเ์ พือ่ การเรียนรู้ และการพฒั นาตนเองในการเรียนรู้ การสื่อสาร และการทำงาน - มีทักษะการทำงานร่วมกนั โดยใช้ทกั ษะกระบวนการกลุม่ ในการทำกิจกรรมเพ่อื ให้ นักเรียนไดศ้ ึกษา สื่อสาร และแลกเปล่ียนขอ้ มลู รว่ มกันผา่ นการคิดวเิ คราะหเ์ กีย่ วกับโปรแกรม สนทนาออนไลน์และบลอ็ ก - มที ักษะการแก้ปญั หาในการแก้ไขปญั หาเฉพาะหน้าได้อยา่ งเหมาะสม ขณะเขยี นจดหมายจากไปรษณีย์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ข้นั สรปุ ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลนกั เรยี น จากการสงั เกตการตอบคำถาม การร่วมกันทำผลงาน และการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ 2. ครูตรวจสอบความถกู ต้องจากผลงานการทำใบงานที่ 4.1.1 และกจิ กรรมฝึกทักษะของ นกั เรยี น 3. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ เกีย่ วกบั การตดิ ตอ่ สอ่ื สารผ่านอินเทอรเ์ นต็ วา่ “ปัจจบุ นั คนนิยม สือ่ สารผ่านเครอื ข่ายอนิ เทอร์เนต็ เป็นจำนวนมาก เพราะถอื ว่าเปน็ บรกิ ารท่ชี ว่ ยตอบสนองความต้องการในดา้ นการ ส่ือสาร เพราะเปน็ การสือ่ สารท่ีสะดวก รวดเรว็ และสามารถทำไดห้ ลากหลายรปู แบบ” 12. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธกี ารวัด เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ - แบบฝึกหัด สามารถตอบคำถามใน 1. นักเรียนอธบิ ายเกยี่ วกบั การ 1. การตอบคำถามใน แบบฝกึ หดั ได้ถกู ต้อง ตามหลักการ 80 % ข้นึ ติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอรเ์ นต็ ได้ แบบฝกึ หัด ไป ถกู ตอ้ ง (K) สามารถตอบคำถามใน ใบงานได้ 80 % ขนึ้ ไป 2. นักเรยี นเขยี นอเี มลเบือ้ งตน้ ได้ 2. ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบประเมิน อย่างถกู ต้อง (P) แบบฝึกหัด

จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการวัด เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน 3. นักเรียนสืบคน้ ข้อมูลเกยี่ วกับ โปรแกรมสนทนาและบล็อกได้ (P) 4. นกั เรียนเป็นผูท้ ่ีมวี ินัย ใฝ่ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมใน - แบบประเมนิ นักเรียนมีคุณลักษณะ เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน คณุ ลกั ษณะอันพึง อนั พึงประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝกึ หดั ประสงค์ ขึ้นไป คุณธรรม จริยธรรมที่สอดแทรก การตรงตอ่ เวลา เชน่ การเขา้ ช้ันเรียน การส่งการบา้ น และการปฏิบตั ิตามท่ี ได้รับมอบหมาย 13. หนังสอื / เอกสารอ้างองิ - หนงั สอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครผู ู้สอน

การบันทึกผลหลังการสอน รหสั วชิ า ว 15102 กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 สปั ดาหท์ ี่ 28-31 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เร่ือง การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั จำนวน 12 ชวั่ โมง แผนการเรียนรทู้ ี่ 13 เรื่อง การติดตอ่ สอ่ื สารผ่านอินเทอร์เนต็ เวลา 4 ชั่วโมง ครูผสู้ อน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ การบันทึกผลหลังการสอน 1. บันทกึ ผลการเรยี นรู้ตามจุดประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นักเรียนอธิบายเก่ียวกับการตดิ ตอ่ สื่อสารผา่ นอนิ เทอร์เนต็ ไดถ้ กู ต้อง (K) จำนวน….……คน คดิ เปน็ รอ้ ย ละ…….…ของจำนวนนกั เรียนทงั้ หมด 1.2 นกั เรียนอธบิ ายเกีย่ วกบั การติดตอ่ สอ่ื สารผ่านอนิ เทอร์เน็ตไมถ่ ูกต้อง (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ย ละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นท้งั หมด 2. บนั ทกึ ทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นักเรยี นเขียนอเี มลเบอ้ื งต้นไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง (P) จำนวน……..คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ….……ของจำนวนนกั เรียน ท้ังหมด 2.2 นักเรียนเขยี นอีเมลเบือ้ งต้นไม่อย่างถกู ตอ้ ง (P) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ……...ของจำนวนนักเรยี น ท้งั หมด 2.3 นักเรียนสืบคน้ ข้อมลู เกีย่ วกับโปรแกรมสนทนาและบลอ็ กได้ (P) จำนวน….……คน คดิ เป็นรอ้ ยละ……...ของ จำนวนนักเรียนทั้งหมด 2.4 นักเรยี นสืบคน้ ข้อมูลเกี่ยวกบั โปรแกรมสนทนาและบลอ็ กไม่ได้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ……...ของ จำนวนนักเรยี นท้งั หมด 3. บนั ทกึ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นักเรยี นเป็นผู้ท่มี วี ินยั ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเป็นร้อยละ….……ของ จำนวนนักเรยี นทงั้ หมด 3.2 นกั เรยี นไม่เปน็ ผทู้ มี่ ีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คิดเป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนักเรียนทัง้ หมด

ปญั หาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงช่อื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู สู้ อน

แผนการจดั การเรียนรู้ รหัสวชิ า ว 15102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ สัปดาห์ท่ี 32-33 ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 12 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 เร่ือง การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั เวลา 2 ชัว่ โมง แผนการเรยี นรู้ท่ี 14 เร่ือง อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ 1. สาระ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ญั หาทพ่ี บในชีวติ จรงิ อย่างเป็นขั้นตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ท่าทันและมีจริยธรรม 3. ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ ป.5/3 ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตค้นหาขอ้ มูล ติดต่อส่อื สารและทำงานรว่ มกัน ประเมินความนา่ เชอ่ื ถอื ของขอ้ มลู ป.5/5 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั มีมารยาท เข้าใจสทิ ธิและหน้าทขี่ องตน เคารพในสิทธขิ องผูอ้ ื่น แจ้งผู้เกี่ยวขอ้ งเมอ่ื พบข้อมูลหรอื บุคคลทีไ่ มเ่ หมาะสม 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนอธิบายความหมายของอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ตไดถ้ ูกตอ้ ง (K) 2. นกั เรยี นยกตัวอยา่ งอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ตได้ (K) 3. นักเรียนสืบค้นขอ้ มลู เกยี่ วกบั แนวทางการปอ้ งกันการเกิดปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ (P) 4. นักเรียนเป็นผู้ท่มี วี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ ม่ันในการทำงาน (A)

5. สาระการเรียนร้แู กนกลาง ด้านความรู้ ด้านทักษะ ด้านคณุ ลักษณะ (K: Knowledge) กระบวนการ อนั พงึ ประสงค์ ตัวชว้ี ัด (P: Process) (A: Attitude) 4. นักเรยี นเปน็ ผู้ท่ี ป.5/3 ใช้อินเทอร์เน็ตคน้ หาข้อมูล 1. นกั เรียนอธบิ าย 3. นักเรยี นสบื คน้ มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ ติดตอ่ ส่อื สารและทำงานร่วมกนั และมุ่งม่นั ในการ ประเมินความนา่ เชอื่ ถอื ของข้อมลู ความหมายของ ขอ้ มูลเกยี่ วกับแนว ทำงาน ป.5/5 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง ปลอดภัย มมี ารยาท เข้าใจสิทธแิ ละ อาชญากรรมทาง ทางการป้องกันการ หนา้ ท่ีของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผูเ้ กี่ยวข้องเมอื่ พบขอ้ มูลหรือบุคคล อินเทอรเ์ น็ตไดถ้ กู ตอ้ ง เกิดปัญหา ทีไ่ ม่เหมาะสม 2. นักเรยี นยกตัวอยา่ ง อาชญากรรมทาง อาชญากรรมทาง อินเทอร์เนต็ ได้ อินเทอร์เนต็ ได้ 6. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดหนว่ ยการเรียนรู้ ในปจั จบุ นั ปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ มจี ำนวนเพ่มิ มากขนึ้ เร่ือย ๆ โดยเฉพาะการใช้คอมพิวเตอร์และ เครือขา่ ยคอมพวิ เตอรเ์ ป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดเพือ่ ใหผ้ ู้อนื่ เกิดความเสยี หาย ความเดอื ดร้อน และเส่ือมเสยี ช่ือเสยี ง ดังนนั้ ผูใ้ ชง้ านทีด่ ีควรปฏบิ ัติตนตามแนวทางปอ้ งกันการเกิดปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต เพือ่ ป้องกัน อันตรายท่อี าจเกดิ ขึ้นจากการใชง้ านอินเทอรเ์ นต็ 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - มีวินยั - ใฝ่เรยี นรู้ - มุ่งมน่ั ในการทำงาน

9. ส่อื และ แหล่งการเรียนรู้ ส่ือ - หนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 เรอื่ ง การใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ อยา่ งปลอดภยั - ใบงานท่ี 4.2.1 เรือ่ ง การป้องกันการเกดิ ปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ แหลง่ เรียนรู้ - ห้องปฏบิ ตั ิการคอมพวิ เตอร์ 10. การจัดการเรียนรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดบั เรื่อง 2 1 อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต 11. กระบวนการจัดการเรียนรู้ เรอื่ ง อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนอธิบายความหมายของอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ได้ถกู ตอ้ ง (K) 2. นักเรียนยกตวั อยา่ งอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ได้ (K) 3. นกั เรยี นสืบคน้ ข้อมลู เกี่ยวกับแนวทางการปอ้ งกันการเกิดปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ตได้ (P) 4. นักเรียนเปน็ ผู้ท่ีมวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน (A) ชั่วโมงท่ี 1 ข้นั นำ 1. ครูทบทวนการเรียนจากชัว่ โมงที่แล้วเกย่ี วกบั ข้ันตอนการเขยี นอเี มลเบอื้ งต้น 2. ครูกระตนุ้ ความสนใจของนักเรียนโดยถามคำถามประจำหัวข้อว่า“นักเรยี นมวี ธิ ีปอ้ งกนั การเกดิ อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ตทอ่ี าจจะเกดิ ขน้ึ กับตนเองอย่างไร” (แนวคำตอบ : ตัดการเชือ่ มตอ่ อินเทอรเ์ นต็ ทุกครั้งหลงั เลกิ ใชง้ าน ติดตัง้ โปรแกรมสแกนไวรสั ไมเ่ ปิดเผยข้อมูลสว่ นตัวลง บนเว็บไซตต์ ่าง ๆ)

ขน้ั สอน ขัน้ ที่ 1 กำหนดปัญหา 1. ครตู ั้งคำถามร่วมกับนักเรียนภายในห้องเรยี นวา่ “นกั เรยี นคดิ ว่าการเกิดปัญหาอาชญากรรม ทางอนิ เทอรเ์ น็ตมีอะไรบ้าง” (แนวคำตอบ : นักเรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขน้ึ อยกู่ ับดุลยพนิ จิ ของครูผ้สู อน เช่น การแพร่ ภาพอนาจารทางออนไลน์ การละเมดิ ลขิ สทิ ธ์ิ เปน็ ต้น) ขั้นที่ 2 ทำความเข้าใจปญั หา 2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 2-3 คน หรือตามความเหมาะสม เพ่ือทำความเข้าใจเก่ียวกบั อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ จากหนังสือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการ เรยี นรูท้ ี่ 4 เรอื่ ง การใช้อนิ เทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภัย ขนั้ ที่ 3 ดำเนินการศึกษาคน้ ควา้ 3. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนสืบคน้ ข้อมูลเกย่ี วกบั การก่ออาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ในรปู แบบ ต่าง ๆ จากหนงั สอื เรยี นหรือเคร่ืองคอมพวิ เตอรข์ องตนเอง 4. ครูอธบิ ายกบั นักเรียนวา่ “ในปจั จุบนั ปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ มีจำนวนเพ่มิ มาก ขึน้ และเพือ่ เปน็ การป้องกนั ตนเองจากปัญหาดงั กล่าวเราจงึ ควรปฏิบตั ิตนตามแนวทางป้องกันการเกดิ ปัญหา อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ ” 5. นกั เรยี นศึกษาแนวทางการป้องกนั การเกิดปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ จาก หนงั สือเรยี นและแหล่งขอ้ มูลตา่ ง ๆ เช่น อินเทอรเ์ น็ต หอ้ งสมุด เป็นต้น 6. ครูถามคำถามทา้ ทายการคิดข้ันสงู วา่ “นักเรียนคิดว่าอะไรเปน็ สาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ ” (แนวคำตอบ : นกั เรียนตอบตามความคดิ เห็นของตนเอง โดยคำตอบข้ึนอย่กู ับดุลยพินิจของครผู สู้ อน เช่น เปิดเผย ข้อมูลสว่ นตวั ของตนเองลงบนอินเทอร์เนต็ ตงั้ รหัสผา่ นท่ีคาดเดาไดง้ ่าย ดาวน์โหลดไฟลห์ รอื ขอ้ มลู จากแหลง่ ตา่ ง ๆ ที่ ติดไวรัส เป็นต้น) 7. นักเรียนสงั เกตการใชง้ านอินเทอรเ์ น็ตทอี่ าจกอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ และแนวทางการป้องกันเมื่อพบปัญหาจากหนงั สอื เรียน ข้นั ที่ 4 สงั เคราะห์ความรู้ 8. ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอขอ้ มูลตามท่ีนักเรยี นได้สบื ค้นเกีย่ วกับหวั ขอ้ ดังต่อไปนี้ 1) ความหมายของอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ 2) การกอ่ อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต 3) แนวทางการปอ้ งกนั การเกดิ ปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็

ช่วั โมงที่ 2 9. นักเรยี นทำกิจกรรมฝกึ ทกั ษะและใบงานท่ี 4.2.1 เรอื่ ง การป้องกันการเกดิ อาชญากรรม ทางอินเทอรเ์ นต็ โดยเปิดโอกาสให้นกั เรียนสืบคน้ ขอ้ มูลจากอนิ เทอร์เน็ต เก่ียวกับปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต และแนวทางการปอ้ งกัน ขั้นที่ 5 สรุปและประเมนิ ค่าของคำตอบ 10. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสยั โดยครูให้ความรูเ้ พิ่มเตมิ ในส่วนท่นี ักเรยี นไม่ เข้าใจ ขั้นท่ี 6 นำเสนอและประเมนิ ผลงาน 11. ครูประเมนิ ผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และการบันทึก ภายในสมุดประจำตวั 12. ครตู รวจสอบความถกู ต้องของผลงานการทำใบงานที่ 4.2.1 และกจิ กรรมฝึกทกั ษะ Note วัตถุประสงค์ของกจิ กรรมเพ่ือให้นักเรยี น - มีทักษะการสบื ค้นข้อมลู โดยนกั เรยี นสามารถสืบคน้ ข้อมูลในหัวข้อท่ีได้รบั มอบหมาย และประเมนิ ความน่าเช่ือถือของข้อมลู โดยใช้ทกั ษะการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ - มที กั ษะการทำงานรว่ มกนั โดยใช้กระบวนการกลุม่ ในการทำงานเพือ่ ให้นักเรยี น ไดส้ ่ือสาร และแลกเปลย่ี นความคิดเห็นรว่ มกนั ในการทำกิจกรรม - มที ักษะการสังเกต โดยใหน้ ักเรยี นสังเกตการใช้อินเทอร์เนต็ ของตนเองท่อี าจกอ่ ให้เกิดปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ และแนวทางการป้องกนั เมือ่ พบปัญหา จากหนงั สือเรียน ขั้นสรปุ นกั เรียนและครรู ่วมกันสรุปเกย่ี วกบั อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ วา่ “ปจั จบุ ันปญั หาท่ีเกดิ จาก อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ มีจำนวนมากข้ึนเรอ่ื ย ๆ ไมว่ ่าจะเป็นการใช้อินเทอรเ์ น็ตในทางที่ไม่เหมาะสม การคดั ลอกผลงานของผ้อู ่นื และนำมาเป็นผลงานของตนเอง การเผยแพร่ภาพลามก อนาจาร เป็นตน้ ดงั นัน้ เราจึงควรปฏิบตั ติ นตามแนวทางปอ้ งกันการเปิดปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ เพอื่ ความปลอดภยั จากปัญหาท่จี ะเกิดข้นึ ต่อไป”

12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการวัด เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. นักเรียนอธิบายความหมาย 1. การตอบคำถามใน - แบบฝึกหดั แบบฝกึ หดั สามารถตอบคำถามใน ของอาชญากรรมทาง แบบฝกึ หดั ได้ถกู ตอ้ ง ตามหลกั การ 80 % ขน้ึ อนิ เทอรเ์ นต็ ไดถ้ กู ตอ้ ง (K) ไป 2. นกั เรียนยกตวั อย่าง อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ตได้ (K) 3. นักเรยี นสบื ค้นขอ้ มูลเกย่ี วกับ 2. ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบประเมิน สามารถตอบคำถามใน ใบงานได้ 80 % ขึน้ ไป แนวทางการป้องกนั การเกดิ แบบฝกึ หดั ปญั หาอาชญากรรมทาง อนิ เทอร์เนต็ ได้ (P) 4. นักเรยี นเปน็ ผทู้ ีม่ ีวนิ ัย ใฝ่ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมใน - แบบประเมิน นักเรียนมีคุณลกั ษณะ เรยี นรู้ และม่งุ ม่นั ในการทำงาน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ อันพึงประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝึกหัด ประสงค์ ขึ้นไป คุณธรรม จรยิ ธรรมท่ีสอดแทรก การตรงต่อเวลา เช่น การเขา้ ช้ันเรียน การส่งการบา้ น และการปฏิบัติตามท่ี ไดร้ ับมอบหมาย 13. หนงั สอื / เอกสารอา้ งอิง - หนังสือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรอ่ื ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครูผู้สอน

การบันทึกผลหลังการสอน รหัสวิชา ว 15102 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 สปั ดาห์ที่ 32-33 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรื่อง การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั จำนวน 12 ชัว่ โมง แผนการเรยี นรทู้ ่ี 14 เร่อื ง อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ต เวลา 2 ชว่ั โมง ครผู ้สู อน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ การบนั ทึกผลหลงั การสอน 1. บนั ทกึ ผลการเรยี นรูต้ ามจุดประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นักเรยี นอธบิ ายความหมายของอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ ไดถ้ ูกต้อง (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อย ละ…….…ของจำนวนนกั เรียนทั้งหมด 1.2 นักเรยี นอธบิ ายความหมายของอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ตไมถ่ กู ต้อง (K) จำนวน….……คน คดิ เป็นร้อย ละ…….…ของจำนวนนกั เรียนทงั้ หมด 1.3 นกั เรียนยกตัวอย่างอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ น็ตได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวน นักเรยี นทัง้ หมด 1.4 นกั เรยี นยกตัวอย่างอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ ไม่ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ…….…ของจำนวน นกั เรียนท้ังหมด 2. บนั ทึกทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นักเรียนสืบคน้ ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการปอ้ งกันการเกดิ ปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ ได้ (P) จำนวน……..คน คิดเป็นรอ้ ยละ….……ของจำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด 2.2 นกั เรียนสบื ค้นขอ้ มูลเก่ียวกบั แนวทางการปอ้ งกนั การเกดิ ปญั หาอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ ไม่ได้ (P) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ……...ของจำนวนนักเรยี นทง้ั หมด 3. บันทึกคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นกั เรียนเป็นผทู้ ม่ี วี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเปน็ รอ้ ยละ….……ของ จำนวนนกั เรียนท้งั หมด 3.2 นักเรยี นไม่เป็นผู้ที่มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คดิ เป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนกั เรียนทงั้ หมด

ปญั หาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงช่อื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู สู้ อน

แผนการจัดการเรียนรู้ รหสั วชิ า ว 15102 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ สปั ดาห์ที่ 34-35 ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5 จำนวน 12 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั เวลา 2 ช่วั โมง แผนการเรียนร้ทู ี่ 15 เรือ่ ง มารยาทในการติดตอ่ ส่ือสารผ่านอินเทอรเ์ น็ต ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ 1. สาระ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชวี ิตจรงิ อยา่ งเป็นข้ันตอนและเป็น ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ร้เู ทา่ ทันและมีจริยธรรม 3. ตวั ชีว้ ัด / ผลการเรียนรู้ ป.5/3 ใชอ้ ินเทอร์เน็ตคน้ หาขอ้ มูล ตดิ ต่อสอ่ื สารและทำงานรว่ มกัน ประเมินความนา่ เชือ่ ถือของขอ้ มูล ป.5/5 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหนา้ ท่ขี องตน เคารพในสทิ ธิของผ้อู ่นื แจ้งผู้เก่ยี วข้องเมอื่ พบขอ้ มูลหรือบุคคลทไี่ มเ่ หมาะสม 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรยี นบอกมารยาทในการตดิ ตอ่ สื่อสารผ่านอินเทอรเ์ นต็ ได้ (K) 2. นักเรยี นสบื คน้ ข้อมลู จากแหล่งสารสนเทศเก่ยี วกบั มารยาทในการติดตอ่ สื่อสารผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ตได้ (P) 3. นกั เรยี นเปน็ ผู้ที่มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน (A)

5. สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ดา้ นความรู้ ดา้ นทักษะ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (K: Knowledge) กระบวนการ อันพึงประสงค์ ตวั ช้ีวัด (P: Process) (A: Attitude) 1. นกั เรียนบอก 2. นักเรยี นสืบคน้ 3. นักเรียนเปน็ ผ้ทู ี่ ป.5/3 ใช้อินเทอรเ์ น็ตคน้ หาข้อมูล มารยาทในการ ข้อมลู จากแหล่ง มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ ติดต่อสือ่ สารและทำงานรว่ มกนั ตดิ ต่อส่ือสารผ่าน สารสนเทศเกย่ี วกบั และมงุ่ มั่นในการ ประเมินความน่าเชอ่ื ถอื ของขอ้ มูล อนิ เทอรเ์ นต็ ได้ มารยาทในการ ทำงาน ป.5/5 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง ตดิ ต่อส่ือสารผ่าน ปลอดภยั มีมารยาท เขา้ ใจสิทธิและ อินเทอรเ์ นต็ ได้ หน้าที่ของตน เคารพในสิทธขิ องผู้อืน่ แจง้ ผ้เู ก่ยี วขอ้ งเมื่อพบข้อมลู หรือบุคคล ทไี่ ม่เหมาะสม 6. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดหนว่ ยการเรยี นรู้ ปัจจุบนั การติดตอ่ สอื่ สารผ่านอนิ เทอร์เน็ตไดร้ บั ความนิยมเปน็ อย่างมาก เพราะสามารถตดิ ต่อสื่อสารกันได้ อยา่ งทั่วถงึ และทัว่ โลก แตก่ ารติดตอ่ สอ่ื สารที่ดนี ้ันจะต้องสอ่ื สารอยา่ งมีมารยาท ไม่ว่าจะเป็นการใช้ภาษาทส่ี ภุ าพ การ ตรวจสอบขอ้ มูลให้ถกู ตอ้ งก่อนส่งตอ่ ให้ผู้อ่ืน และไมเ่ ผยแพร่ขอ้ ความหรอื ภาพที่ผิดกฎหมาย 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - มีวนิ ยั - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมน่ั ในการทำงาน

9. สือ่ และ แหล่งการเรยี นรู้ ส่อื - หนังสือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 การใช้อนิ เทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภัย แหล่งเรียนรู้ - ห้องปฏิบัติการคอมพวิ เตอร์ 10. การจัดการเรียนรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดับ เร่ือง 2 1 มารยาทในการติดต่อส่อื สารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต 11. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ เรือ่ ง มารยาทในการติดต่อสอ่ื สารผ่านอินเทอร์เน็ต จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นบอกมารยาทในการติดต่อส่ือสารผ่านอินเทอรเ์ น็ตได้ (K) 2. นกั เรียนสืบคน้ ขอ้ มูลจากแหล่งสารสนเทศเกย่ี วกับมารยาทในการตดิ ตอ่ สื่อสารผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ตได้ (P) 3. นกั เรียนเปน็ ผู้ท่มี วี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ ม่ันในการทำงาน (A) ชั่วโมงท่ี 1 ขั้นนำ ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามคำถามกระตุน้ ความสนใจของนักเรยี นวา่ “ปัจจุบนั น้เี ราตดิ ตอ่ สือ่ สารกนั ผ่านทาง ชอ่ งทางใดได้บ้าง” (แนวคำตอบ : โทรศัพทม์ ือถือ สังคมออนไลน์ตา่ ง ๆ เชน่ Facebook Line Twitter เป็นต้น) 2. ครูถามคำถามประจำหัวขอ้ วา่ “การตดิ ต่อสอ่ื สารที่ดผี า่ นอินเทอรเ์ นต็ ควรทำอย่างไร” (แนวคำตอบ : ใช้ภาษาสภุ าพและถกู ต้องตามหลกั ไวยากรณ์ หลกี เลย่ี งการใชภ้ าษาที่ดูถูกเหยียดหยามผู้อืน่ ไม่เผยแพร่ ข้อความหรอื ภาพที่ผดิ กฎหมายหรือขัดกบั ศีลธรรมอนั ดงี ามของสังคมไทย) ขนั้ สอน ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. นักเรียนแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ 2-3 คน หรือตามความเหมาะสม เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นสำรวจตนเอง เก่ียวกับการใชช้ ่องทางการติดตอ่ สอื่ สารผา่ นทางอินเทอรเ์ นต็ หรอื สบื คน้ ชอ่ งทางที่นยิ มตดิ ต่อสอื่ สารในปัจจบุ นั จาก เครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเอง 2. ครูเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นไดส้ อ่ื สารและแลกเปล่ียนข้อมลู ร่วมกนั ภายในกลุ่ม

3. นกั เรียนศึกษามารยาทในการติดตอ่ สื่อสารผา่ นอินเทอรเ์ น็ตจากหนังสือเรยี นรายวชิ า พืน้ ฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง การใชอ้ ินเทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั 4. ครถู ามคำถามท้าทายการคิดขน้ั สงู ของนกั เรียนวา่ “ถ้าทกุ คนบนโลกไมเ่ ขา้ ใจเร่อื งมารยาท ในการใช้อนิ เทอรเ์ นต็ จะเป็นอยา่ งไร” (แนวคำตอบ : การละเมิดสิทธิข์ องผูอ้ ื่นอาจเกดิ การทะเลาะเบาะแวง้ มีการฟอ้ งร้องหมิ่นประมาททำใหผ้ ูอ้ ่ืนไดร้ ับความ เสยี หาย ความเดือดรอ้ น หรือเสอื่ มเสยี ชื่อเสยี งจากการเผยแพรข่ อ้ ความ และภาพนง่ิ ที่ผิดกฎหมายหรอื ขดั กบั ศลี ธรรม อันดีงามของสงั คมไทย) ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 5. นักเรยี นสังเกตตวั อยา่ งมารยาทในการตดิ ตอ่ สื่อสารผา่ นเครอื ข่ายอนิ เทอร์เน็ตจาก สถานการณ์ในหนงั สอื เรยี น 6. นกั เรียนภายในกลมุ่ รว่ มกนั วิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกบั ตวั อยา่ งสถานการณ์ จากหนงั สอื เรียน 7. ครอู ธิบายเพม่ิ เติมให้นักเรียนฟงั เกย่ี วกับส่ิงทคี่ วรกระทำและไมค่ วรกระทำในการ ตดิ ตอ่ สอ่ื สารผ่านเครอื ขา่ ยอินเทอรเ์ น็ตวา่ “สิง่ ท่ีควรระวงั ในการตดิ ต่อสอ่ื สารผ่านอนิ เทอร์เนต็ คอื คำพดู การเลอื กใช้ คำพดู ควรเลือกใหเ้ หมาะสมตามกาลเทศะ เชน่ พูดกบั ผู้ใหญค่ วรจะมีคำลงท้าย เช่น สวัสดคี ่ะ ขอบคณุ ครบั รบกวน สอบถามหนอ่ ยครับ เป็นตน้ และสิ่งไม่ควรกระทำ คอื การตำหนผิ ู้อา่ นโดยใชค้ ำหยาบคายทำให้ผอู้ ่ืนเสื่อมเสียชือ่ เสยี ง” ชวั่ โมงที่ 2 ขนั้ สอน ข้นั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 8. นกั เรยี นทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะในหนงั สอื เรียนโดยใหน้ กั เรียนสร้างผังความคดิ เก่ียวกบั มารยาทในการติดต่อสอื่ สารผ่านอนิ เทอร์เนต็ และบนั ทึกลงในสมุดประจำตัว 9. ครูสุม่ นกั เรียน 2-3 คน ออกมานำเสนอผังความคิดเกี่ยวกบั มารยาทในการ ตดิ ต่อสือ่ สารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ตหน้าชัน้ เรียน พร้อมอภิปรายรว่ มกนั ภายในห้องเรียน Note วัตถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรมเพือ่ ใหน้ ักเรยี น - มที ักษะการสบื ค้นข้อมลู เกย่ี วกบั การตดิ ต่อสื่อสารผ่านทางอนิ เทอรเ์ น็ตในปัจจบุ นั หรือในหวั ข้อทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย พรอ้ มประเมินความน่าเช่อื ถือของข้อมูลโดยใช้ทักษะการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ - มที ักษะการทำงานรว่ มกัน โดยใช้กระบวนการกลมุ่ ในการส่อื สารและและเปล่ียน ข้อมลู รว่ มกนั ในการทำกิจกรรม - มที ักษะการสำรวจ โดยให้นักเรยี นสำรวจตนเองเก่ยี วกับการใชช้ อ่ งทางการตดิ ตอ่ สอ่ื สารผ่านทางอนิ เทอร์เนต็ และการมมี ารยาทของตนเองเมอ่ื ติดต่อส่อื สารผ่านอินเทอรเ์ น็ต - มีทกั ษะการสังเกต โดยสังเกตแนวทางการปฏิบัตติ นให้มีมารยาทในการติดต่อ สอื่ สารผ่านเครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ ในหนังสือเรียน

ขั้นสรุป ขน้ั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมนิ ผลนักเรียน โดยการสงั เกตการตอบคำถาม การทำกิจกรรม และสมุดประจำตัว ของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ งของผลงานการทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ 3. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสรุปเนอื้ หาโดยภาพรวมเกยี่ วกบั มารยาทในการตดิ ต่อส่อื สาร ผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ว่า“ในปจั จุบันการตดิ ต่อส่ือสารผ่านอนิ เทอร์เนต็ ได้รบั ความนิยมเป็นอยา่ งมาก ดังน้นั เราจึงควรมี มารยาทที่ดีในการติดต่อส่อื สาร ไม่ว่าจะเป็น การใช้คำพดู การตรวจสอบความถูกตอ้ งก่อนที่จะส่งต่อขอ้ มลู ไมพ่ ดู คุย หรือนินทาผอู้ นื่ จนไดร้ บั ความเสียหาย หรอื ทำใหผ้ ู้อ่ืนเกิดความเสื่อมเสยี เปน็ ตน้ ” 12. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการวัด เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. นักเรยี นบอกมารยาทในการ 1. การตอบคำถามใน - แบบฝึกหัด แบบฝกึ หัด สามารถตอบคำถามใน ติดต่อสอื่ สารผ่านอนิ เทอร์เน็ตได้ แบบฝกึ หัดไดถ้ กู ต้อง ตามหลกั การ 80 % ขนึ้ (K) ไป สามารถตอบคำถามใน 2. นกั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู จากแหล่ง 2. ตรวจแบบฝึกหัด - แบบประเมนิ ใบงานได้ 80 % ขนึ้ ไป สารสนเทศเกี่ยวกับมารยาทใน แบบฝกึ หัด การติดต่อสอ่ื สารผา่ น อนิ เทอรเ์ น็ตได้ (P) 3. นกั เรียนเปน็ ผ้ทู ่ีมีวินัย ใฝ่ 3. สงั เกตพฤติกรรมใน - แบบประเมิน นกั เรยี นมีคณุ ลกั ษณะ เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน คณุ ลักษณะอันพงึ อนั พึงประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝกึ หดั ประสงค์ ข้นึ ไป คุณธรรม จรยิ ธรรมท่ีสอดแทรก การตรงต่อเวลา เชน่ การเข้าชัน้ เรียน การสง่ การบ้าน และการปฏิบตั ติ ามที่ ไดร้ บั มอบหมาย 13. หนังสือ / เอกสารอา้ งอิง - หนงั สือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เร่ือง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครูผู้สอน

การบันทกึ ผลหลังการสอน รหสั วิชา ว 15102 กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 สปั ดาห์ท่ี 34-35 หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรอ่ื ง การใช้อนิ เทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย จำนวน 12 ชั่วโมง แผนการเรยี นรูท้ ่ี 15 เร่ือง มารยาทในการตดิ ต่อส่อื สารผ่านอนิ เทอร์เน็ต เวลา 2 ช่ัวโมง ครูผสู้ อน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ การบนั ทกึ ผลหลงั การสอน 1. บนั ทกึ ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นักเรียนบอกมารยาทในการติดต่อสื่อสารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ…….…ของ จำนวนนักเรียนทัง้ หมด 1.2 นักเรยี นบอกมารยาทในการตดิ ตอ่ สอ่ื สารผ่านอนิ เทอร์เน็ตไม่ได้ (K) จำนวน….……คน คดิ เป็นร้อยละ…….… ของจำนวนนกั เรยี นท้งั หมด 2. บนั ทกึ ทักษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นักเรยี นสืบค้นข้อมูลจากแหลง่ สารสนเทศเกีย่ วกับมารยาทในการตดิ ต่อสอ่ื สารผ่านอินเทอรเ์ น็ตได้ (P) จำนวน……..คน คดิ เป็นรอ้ ยละ….……ของจำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด 2.2 นกั เรยี นสืบคน้ ขอ้ มูลจากแหล่งสารสนเทศเก่ียวกับมารยาทในการติดต่อส่ือสารผ่านอนิ เทอร์เน็ตไม่ได้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ……...ของจำนวนนักเรียนทงั้ หมด 3. บันทึกคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นกั เรยี นเปน็ ผทู้ ม่ี ีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเป็นร้อยละ….……ของ จำนวนนกั เรียนทง้ั หมด 3.2 นักเรียนไม่เป็นผทู้ ่ีมวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คดิ เปน็ ร้อยละ……...ของ จำนวนนักเรยี นทงั้ หมด ปญั หาและอปุ สรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแก้ปัญหา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครูผ้สู อน

แผนการจดั การเรียนรู้ รหัสวิชา ว 15102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ สปั ดาห์ที่ 36-37 ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 จำนวน 12 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภัย เวลา 2 ชัว่ โมง แผนการเรียนร้ทู ี่ 16 เร่อื ง ขอ้ มูลเพอื่ การตัดสนิ ใจ ครูผู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ 1. สาระ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาทพี่ บในชวี ติ จริงอยา่ งเปน็ ข้นั ตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ร้เู ท่าทันและมีจรยิ ธรรม 3. ตวั ช้วี ัด / ผลการเรยี นรู้ ป.5/4 รวบรวม ประเมนิ นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศตามวตั ถุประสงคโ์ ดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรอื บริการบน อนิ เทอร์เน็ตท่หี ลากหลาย เพือ่ แก้ปัญหาในชวี ติ ประจำวัน 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนอธบิ ายความหมายของการวิเคราะห์ข้อมลู ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนบอกวิธกี ารนำข้อมลู มาตดั สนิ ใจได้อย่างเหมาะสม (K) 3. นักเรยี นเขียนเงือ่ นไขในซอฟต์แวร์กระดานคำนวณได้อยา่ งถกู ตอ้ ง (P) 4. นกั เรียนเป็นผ้ทู ่มี ีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ ม่นั ในการทำงาน (A)

5. สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ด้านความรู้ ดา้ นทกั ษะ ดา้ นคุณลักษณะ (K: Knowledge) กระบวนการ อนั พงึ ประสงค์ ตัวช้ีวัด (P: Process) (A: Attitude) 1. นักเรียนอธบิ าย 3. นักเรียนเขียน 4. นักเรยี นเป็นผทู้ ่ี ป.5/4 รวบรวม ประเมนิ นำเสนอ ความหมายของการ เงอ่ื นไขในซอฟตแ์ วร์ มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ ข้อมูลและสารสนเทศตาม วิเคราะห์ขอ้ มลู ได้ถูกต้อง กระดานคำนวณได้ และม่งุ มัน่ ในการ วัตถปุ ระสงคโ์ ดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือ 2. นักเรยี นบอกวธิ ีการนำ อย่างถกู ต้อง ทำงาน บริการบนอนิ เทอร์เนต็ ที่ ขอ้ มูลมาตัดสินใจได้อย่าง หลากหลาย เพ่อื แกป้ ัญหาใน เหมาะสม ชีวิตประจำวนั 6. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอดหน่วยการเรียนรู้ การพิจารณาข้อมูลโดยการจำแนก แยกแยะ จัดเรียง คำนวณ แล้วนำเสนอในรูปแบบของกราฟ หรือแผนภูมิ เปน็ การวเิ คราะห์ขอ้ มลู เพื่อพจิ ารณาทางเลือกที่เป็นไปไดแ้ ละเหมาะสมทีส่ ดุ ซงึ่ ซอฟตแ์ วร์ที่นยิ มใช้เพ่ือรวบรวม ประมวลผล และตัดสนิ ใจ คอื ซอฟต์แวรก์ ระดานคำนวณ เช่น ไมโครซอฟตเ์ อ็กเซล กเู กลิ ชีต 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - มีวนิ ยั - ใฝ่เรยี นรู้ - มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 9. สอ่ื และ แหลง่ การเรียนรู้ ส่ือ - หนงั สือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เรื่อง การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อยา่ งปลอดภัย - บตั รภาพ เรอื่ ง ซอฟต์แวรก์ ระดานคำนวณ

แหลง่ เรียนรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ - ห้องปฏิบตั กิ ารคอมพิวเตอร์ 2 10. การจัดการเรยี นรู้ ลำดบั เรอื่ ง 1 ข้อมลู เพื่อการตัดสินใจ 11. กระบวนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ขอ้ มูลเพ่ือการตัดสนิ ใจ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นอธบิ ายความหมายของการวเิ คราะหข์ ้อมลู ได้ถกู ต้อง (K) 2. นกั เรยี นบอกวธิ กี ารนำขอ้ มูลมาตดั สินใจไดอ้ ย่างเหมาะสม (K) 3. นกั เรียนเขียนเง่ือนไขในซอฟตแ์ วรก์ ระดานคำนวณได้อยา่ งถูกต้อง (P) 4. นักเรยี นเป็นผทู้ ม่ี ีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ ม่ันในการทำงาน (A) ช่วั โมงท่ี 1 ข้ันนำ ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนว่า“ข้อมลู ทีน่ ักเรียนพบเห็นในชีวิตประจำวนั มี ข้อมูลเก่ียวกับอะไรบ้าง” (แนวคำตอบ : นกั เรียนตอบตามความคดิ เห็นของตนเอง โดยคำตอบข้ึนอยกู่ ับดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน เช่น ขอ้ มลู เกี่ยวกับตวั เลข ขอ้ มูลเกีย่ วกับตัวอกั ษร ข้อมูลเกี่ยวกับเสียง และขอ้ มลู เก่ียวกับภาพ เปน็ ตน้ ) 2. ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อกบั นกั เรยี นว่า“นักเรียนคดิ ว่าการนำขอ้ มลู มาวิเคราะหม์ ี ประโยชน์อยา่ งไรต่อการตัดสนิ ใจ” (แนวคำตอบ : การวเิ คราะห์ขอ้ มูลเป็นการพจิ ารณาทางเลอื กทเี่ ปน็ ไปไดท้ ั้งหมด และตัดสินใจเลอื กทางเลอื กที่เหมาะสม ทีส่ ดุ ) ขน้ั สอน ข้นั ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. ครถู ามกระตนุ้ ความคดิ ของนกั เรยี นว่า“การวเิ คราะหข์ อ้ มูลคอื อะไร” (แนวคำตอบ : การพิจารณาข้อมูล การจำแนกขอ้ มลู การแยกแยะขอ้ มูล การคำนวณข้อมูลการนำเสนอข้อมูล) 2. ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรยี นสบื ค้นข้อมูลจากอนิ เทอร์เนต็ โดยใช้เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ของ ตนเองภายใต้หัวขอ้ เรื่อง ซอฟต์แวรท์ ่ีนำมาชว่ ยในการรวบรวมข้อมลู ประมวลผลข้อมูล และนำเสนอข้อมลู พรอ้ ม อภิปรายรว่ มกันในหอ้ งเรยี น

3. จากนั้นครยู กตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่นยิ มใช้ในการรวบรวมขอ้ มูล ประมวลผลขอ้ มูล และ นำเสนอข้อมลู จากบัตรภาพ เรอื่ ง ซอฟต์แวร์กระดานคำนวณ ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 4. ครูอธบิ ายกบั นกั เรียนวา่ “กระดานคำนวณสามารถใส่สตู รหรอื ฟงั กช์ นั คำนวณได้” 5. ครูยกตวั อยา่ งฟังก์ชันท่ีใชใ้ นการตัดสินใจในหนังสอื เรยี น พร้อมอธิบายรายละเอยี ดตา่ ง ๆ ของฟงั ก์ชันเพ่อื ให้นักเรยี นเข้าใจมากย่งิ ขึ้นว่า“ฟังก์ชันทีใ่ ชใ้ นการตดั สนิ ใจหรอื ฟังกช์ นั ทใี่ ช้ สำหรบั ตรวจสอบ เงื่อนไข ไดแ้ ก่ ฟงั ก์ชนั IF โดยการใช้ฟังก์ชนั IF นอกจากจะต้องระบุเง่ือนไขยงั ตอ้ งระบุข้อมูลอีก 2 สว่ นดว้ ยกัน คือ การระบุคา่ ที่ได้เมื่อเงื่อนไขเป็น“จริง” และค่าท่ีได้เม่อื เงอ่ื นไขเป็น“เทจ็ ” โดยการระบุค่าที่ไดห้ ากเปน็ ตวั อักษร ผใู้ ช้งานจะต้องใส่เคร่ืองหมายอัญประกาศครอ่ มทีต่ วั อักษร เพื่อให้ตวั อกั ษรน้ันสามารถแสดงคา่ ได้อยา่ ง ถกู ต้อง” 6. นักเรียนสังเกตการนำข้อมูลมาใช้ในการตัดสินใจ จากตวั อย่างประสบการณใ์ นหนังสือ เรยี นรายวิชาพน้ื ฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรอ่ื ง การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ อยา่ ง ปลอดภัย และคดิ วเิ คราะห์ตามอย่างมเี หตุผลวา่ บุคคลใดควรได้รับแสตมป์ 7. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 3-4 คน หรอื ตามความเหมาะสม จากน้นั ให้แต่ละกลมุ่ ลงมอื ใช้ งาน Google Sheets และรว่ มกันกรอกขอ้ มลู ตามตวั อยา่ งจากหนังสอื เรียน 8. ใหน้ กั เรยี นหายอดรวมการชำระสนิ คา้ ของลกู ค้าแต่ละรายตามวิธีการในหนงั สือเรยี น 9. ครูอธิบายเพม่ิ เติมกับนักเรยี นว่า“เพอ่ื การหาผลรวมของขอ้ มลู ที่รวดเร็วใหน้ ักเรยี นหา ผลลพั ธ์ของลูกค้าคนแรก และนำเมาสว์ างมมุ ล่างขวาของเซลจะปรากฏสญั ลกั ษณ์รปู บวก จากนน้ั ใหน้ กั เรียนคลิกเลือก สญั ลกั ษณ์รปู บวกและลากลงมาเพอ่ื ทำการคัดลอกสตู ร และจะปรากฏยอดรวมของลูกค้าทัง้ หมดท่ีตารางข้อมูล” 10. ครใู ห้นกั เรียนเพ่ิมฟงั กช์ นั ท่ีใช้ในการตัดสนิ ใจหรอื ฟงั ก์ชนั IF เขา้ สู่ตารางข้อมูลตาม ขั้นตอนในหนงั สอื เรยี นภายใต้เงอ่ื นไขการตรวจสอบว่า“ยอดชำระเกนิ 50 บาทใช่หรอื ไม่ ถา้ เงื่อนไขเปน็ จริงให้แสดงคำ วา่ “Yes” แตถ่ า้ เงอ่ื นไขเป็นเทจ็ ใหแ้ สดงคำว่า “No” จากน้นั ให้นกั เรยี นทดลองทำวธิ ลี ดั เพ่ือให้ได้ผลลัพธอ์ ยา่ งรวดเรว็ ตามท่ีกำหนดในหนงั สือเรยี น ชั่วโมงที่ 2 ขนั้ สอน ขัน้ ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 11. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะจากหนงั สือเรียน โดยเลอื กใช้โปรแกรม กระดานคำนวณในการหาคำตอบ และบนั ทึกผลในสมดุ ประจำตวั 12. ครูส่มุ นักเรยี น 2-3 กลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานหน้าชน้ั เรียน พรอ้ มอภปิ รายร่วมกับ เพ่อื นในชนั้ เรียน

Note วัตถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมเพื่อให้นกั เรียน - มที กั ษะการสบื ค้นข้อมลู โดยนกั เรียนสามารถสืบค้นขอ้ มลู จากอินเทอร์เนต็ โดยใช้เคร่อื งคอมพิวเตอร์ของตนเองภายใตห้ วั ข้อเรื่องท่ีนักเรยี นได้รับมอบหมาย - มที กั ษะการสังเกต โดยนกั เรยี นสงั เกตการนำข้อมลู มาใชใ้ นการตัดสนิ ใจ จากตัวอยา่ งสถานการณ์ในหนังสือเรยี น และคิดวิเคราะหต์ ามอย่างมีเหตุผล - มที กั ษะการทำงานรว่ มกัน โดยใช้กระบวนการกลุม่ เพอื่ ให้นักเรียนได้สื่อสาร และแลกเปล่ียนขอ้ มลู รว่ มกนั จากการทำกจิ กรรม ข้ันสรปุ ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมนิ ผลนกั เรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม การทำกิจกรรม และสมุดประจำตวั ของนักเรียน 2. ครูตรวจสอบความถกู ต้องของผลงานการทำกิจกรรมฝึกทกั ษะ 3. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุปโดยภาพรวมเก่ียวกบั การวเิ คราะหข์ ้อมลู และการใช้ซอฟต์แวร์ กระดานคำนวณเขา้ มาช่วยในการตัดสินใจว่า“การวเิ คราะหข์ อ้ มูลเป็นการพิจารณาข้อมลู และตัดสินใจเลอื กทางที่ เหมาะสมที่สุด โดยซอฟตแ์ วร์ทน่ี ิยมใชใ้ นการรวบรวม ประมวลผล และตัดสนิ ใจ คือ ซอฟต์แวร์กระดานคำนวณ เชน่ ไมโครซอฟต์เอ็กเซล กูเกิลชีต เป็นต้น เพราะมีส่วนชว่ ยในการอำนวยความสะดวกในการใช้งาน” 12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธกี ารวดั เคร่อื งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน - แบบฝกึ หัด สามารถตอบคำถามใน 1. นกั เรียนอธิบายความหมาย 1. การตอบคำถามใน แบบฝึกหดั ได้ถูกต้อง - แบบประเมนิ ตามหลกั การ 80 % ขึน้ ของการวิเคราะหข์ ้อมูลได้ถกู ต้อง แบบฝกึ หดั แบบฝึกหดั ไป - แบบประเมนิ (K) คุณลักษณะอันพงึ สามารถตอบคำถามใน ประสงค์ ใบงานได้ 80 % ขนึ้ ไป 2. นักเรียนบอกวิธกี ารนำขอ้ มูล นักเรียนมคี ณุ ลักษณะ มาตดั สินใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (K) อันพงึ ประสงค์ ได้ 80% ข้นึ ไป 3. นักเรยี นเขยี นเง่ือนไขใน 2. ตรวจแบบฝกึ หัด ซอฟต์แวรก์ ระดานคำนวณได้ อย่างถกู ตอ้ ง (P) 4. นักเรยี นเป็นผ้ทู ี่มีวนิ ัย ใฝ่ 3. สงั เกตพฤติกรรมใน เรยี นรู้ และมุ่งมนั่ ในการทำงาน การทำแบบฝึกหัด (A)

คณุ ธรรม จรยิ ธรรมท่สี อดแทรก การตรงต่อเวลา เช่น การเขา้ ช้ันเรยี น การสง่ การบ้าน และการปฏิบัตติ ามท่ี ได้รบั มอบหมาย 13. หนังสอื / เอกสารอ้างองิ - หนงั สอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เรือ่ ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5 ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผู้สอน

การบันทึกผลหลังการสอน รหัสวชิ า ว 15102 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 สัปดาหท์ ี่ 36-37 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เรื่อง การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภยั จำนวน 12 ชว่ั โมง แผนการเรียนรู้ท่ี 16 เร่อื ง ข้อมูลเพือ่ การตัดสนิ ใจ เวลา 2 ช่ัวโมง ครผู ูส้ อน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ การบันทึกผลหลังการสอน 1. บนั ทกึ ผลการเรียนรูต้ ามจดุ ประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นักเรยี นอธบิ ายความหมายของการวิเคราะห์ขอ้ มลู ไดถ้ กู ต้อง (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ…….…ของ จำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด 1.2 นกั เรียนอธบิ ายความหมายของการวเิ คราะห์ข้อมลู ไมถ่ กู ตอ้ ง (K) จำนวน….……คน คดิ เป็นร้อยละ…….…ของ จำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด 1.3 นกั เรยี นบอกวิธกี ารนำข้อมูลมาตดั สนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม (K) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ…….…ของ จำนวนนักเรยี นทง้ั หมด 1.4 นักเรียนบอกวิธกี ารนำข้อมลู มาตัดสนิ ใจไม่ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ…….…ของจำนวนนักเรียน ทั้งหมด 2. บันทึกทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรียนเขียนเงื่อนไขในซอฟตแ์ วร์กระดานคำนวณไดอ้ ย่างถกู ต้อง (P) จำนวน……..คน คดิ เปน็ ร้อยละ….…… ของจำนวนนักเรียนทง้ั หมด 2.2 นักเรียนเขยี นเง่ือนไขในซอฟต์แวรก์ ระดานคำนวณไม่ถูกตอ้ ง (P) จำนวน….……คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ……...ของ จำนวนนักเรยี นท้ังหมด 3. บันทึกคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นกั เรียนเปน็ ผ้ทู ่มี ีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และม่งุ ม่นั ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเป็นรอ้ ยละ….……ของ จำนวนนกั เรยี นทัง้ หมด 3.2 นักเรียนไม่เป็นผทู้ ม่ี ีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ ม่ันในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คิดเปน็ ร้อยละ……...ของ จำนวนนักเรียนทง้ั หมด

ปัญหาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ัญหา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผู้สอน

แผนการจัดการเรียนรู้ รหัสวิชา ว 15102 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ สปั ดาห์ท่ี 38-39 ระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 จำนวน 12 ชั่วโมง หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4 เรือ่ ง การใช้อินเทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภัย เวลา 2 ชั่วโมง แผนการเรยี นร้ทู ่ี 17 เรอื่ ง การนำเสนอขอ้ มูลและการทำแบบสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ ครูผู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ 1. สาระ สาระที่ 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาทพ่ี บในชวี ติ จรงิ อย่างเปน็ ขน้ั ตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจริยธรรม 3. ตวั ช้ีวัด / ผลการเรยี นรู้ ป.5/4 รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวตั ถปุ ระสงคโ์ ดยใช้ซอฟตแ์ วร์ หรอื บรกิ ารบน อนิ เทอรเ์ นต็ ท่หี ลากหลาย เพอ่ื แก้ปัญหาในชวี ิตประจำวนั 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรยี นอธิบายวธิ กี ารนำเสนอข้อมลู สารสนเทศโดยใช้ blog ได้อยา่ งถูกต้อง (K) 2. นกั เรียนอธิบายขั้นตอนการสรา้ งแบบสำรวจความคดิ เหน็ ออนไลน์ได้ (K) 3. นกั เรยี นเขยี นบลอ็ กจากหวั ข้อที่ได้รบั มอบหมายไดถ้ ูกตอ้ ง (P) 4. นกั เรยี นสร้างแบบสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ได้ (P) 5. นกั เรียนเปน็ ผู้ทีม่ ีวนิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่ันในการทำงาน (A)

5. สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ ด้านคณุ ลักษณะ (K: Knowledge) (P: Process) อนั พึงประสงค์ ตัวชี้วัด (A: Attitude) ป.5/4 รวบรวม ประเมิน 1. นกั เรยี นอธบิ ายวธิ ีการ 3. นักเรียนเขียนบล็อกจาก 5. นักเรยี นเป็นผู้ท่ี นำเสนอข้อมลู และ สารสนเทศตาม นำเสนอขอ้ มลู สารสนเทศโดย หัวขอ้ ทไ่ี ด้รับมอบหมายได้ มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ วตั ถปุ ระสงค์โดยใช้ ซอฟตแ์ วร์ หรอื บริการบน ใช้ blog ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ถูกต้อง และม่งุ มั่นในการ อนิ เทอรเ์ นต็ ทหี่ ลากหลาย เพ่อื แก้ปัญหาใน 2. นกั เรียนอธบิ ายขนั้ ตอนการ 4. นักเรียนสร้างแบบ ทำงาน ชีวิตประจำวัน สร้างแบบสำรวจความคิดเหน็ สำรวจความคิดเหน็ ออนไลนไ์ ด้ ออนไลน์ได้ 6. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดหน่วยการเรียนรู้ เมอ่ื ต้องการเก็บขอ้ มูลจากคนจำนวนมาก เปน็ สงิ่ ท่สี ามารถทำได้ยาก และในบางครงั้ ก็ไมส่ ามารถทำการสำรวจ ได้ครบทกุ คน เน่อื งจากบริเวณท่ที ำการสำรวจมคี วามกวา้ งและมคี วามซับซอ้ น ดงั นั้น จงึ ควรมกี ารทำแบบสำรวจ ความคิดเห็น โดยใช้อนิ เทอรเ์ นต็ เข้ามามีส่วนเก่ยี วขอ้ ง เพือ่ ทำการสำรวจทค่ี รอบคลุม ชัดเจน และแม่นยำ 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งม่นั ในการทำงาน

9. สอ่ื และ แหล่งการเรียนรู้ สอื่ - หนังสอื เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง การใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภยั - สลากหัวข้อภมู ภิ าคในการเขยี นบลอ็ ก แหลง่ เรียนรู้ - ห้องปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร์ 10. การจัดการเรยี นรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดับ เรือ่ ง 2 1 การนำเสนอข้อมูลและการทำแบบสำรวจ ความคดิ เหน็ ออนไลน์ 11. กระบวนการจัดการเรียนรู้ เรอื่ ง การนำเสนอข้อมูลและการทำแบบสำรวจความคิดเหน็ ออนไลน์ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนอธิบายวธิ กี ารนำเสนอข้อมลู สารสนเทศโดยใช้ blog ได้อย่างถูกตอ้ ง (K) 2. นกั เรียนอธบิ ายข้นั ตอนการสรา้ งแบบสำรวจความคดิ เหน็ ออนไลนไ์ ด้ (K) 3. นักเรยี นเขียนบล็อกจากหวั ข้อท่ไี ดร้ ับมอบหมายไดถ้ ูกต้อง (P) 4. นักเรียนสร้างแบบสำรวจความคิดเหน็ ออนไลน์ได้ (P) 5. นักเรยี นเปน็ ผูท้ มี่ วี ินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน (A) ชัว่ โมงท่ี 1 ขัน้ นำ ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามกระตุน้ ความคิดของนกั เรยี นว่า“ปจั จุบันการนำเสนอข้อมูลมีวิธีการอยา่ งไรบา้ ง” (แนวคำตอบ : การนำเสนอข้อมูลมหี ลายรูปแบบ ได้แก่ การนำเสนอข้อมลู ดว้ ยข้อความ รูปภาพ ภาพเคล่ือนไหว เพลง วิดโี อ เป็นต้น) 2. ครอู ธบิ ายกบั นักเรียนเพือ่ เช่ือมโยงเขา้ สบู่ ทเรยี นวา่ “ปัจจบุ ันมีการนำเสนอข้อมลู และ สารสนเทศที่นา่ สนใจ คือ การนำเสนอข้อมูลด้วยบลอ็ ก (Blog) ซงึ่ บลอ็ กเป็นคำรวมมาจากคำว่าเว็บบล็อกซึ่งเปน็ รปู แบบของเว็บไซต์ประเภทหนงึ่ ซ่ึงผ้เู ขยี นสามารถบนั ทกึ ส่งิ ทตี่ ้องการ นำเสนอไดง้ า่ ย สะดวก และรวดเรว็ ”

ขน้ั สอน ขนั้ ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน หรือตามความเหมาะสม เพ่ือศึกษาข้อมูลเกย่ี วกบั ความหมายของบลอ็ ก จากหนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เร่อื ง การใชอ้ ินเทอร์เนต็ อยา่ งปลอดภัย หรือสบื คน้ จากอนิ เทอรเ์ น็ตในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ของตนเอง 2. ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อกบั นักเรียนวา่ “การนำเสนอขอ้ มลู ดว้ ยบลอ็ กมปี ระโยชน์ อย่างไร” (แนวคำตอบ : สามารถนำเสนอไดห้ ลากหลายรูปแบบ ใชง้ านงา่ ย เผยแพร่ข้อมูลไดอ้ ย่างรวดเร็ว) 3. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกนั ศึกษาวธิ ีการเขยี นบลอ็ กจากหนงั สอื เรยี นและอินเทอร์เนต็ เร่มิ ตง้ั แตก่ ารสมัครบญั ชีของ Gmail เพ่อื นำไปสร้าง Blog จนถงึ การไดล้ งิ คส์ ำหรับเผยแพร่ขอ้ มูล ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 4. ครูอธบิ ายกบั นักเรยี นว่า“ในการจดั ทำ Blog นั้น ส่งิ ที่ควรคำนึงอยูเ่ สมอ คือ มารยาทท่ี ควรปฏบิ ัติในการเขียนบล็อก ได้แก่ ไมค่ ัดลอกขอ้ ความทงั้ หมดของผู้อ่ืนมาใช้งาน ควรอ้างองิ จากแหลง่ ขอ้ มลู ทน่ี ำมาใช้ งานอยเู่ สมอ และก่อนนำมาเผยแพร่ควรตรวจสอบความถูกต้องของผลงานกอ่ นทุกครั้ง เปน็ ตน้ ” 5. ครูมอบหมายหวั ขอ้ เร่ืองในการเขียนบลอ็ กใหแ้ ก่นกั เรียน คือ สถานที่ท่องเท่ียวที่น่าสนใจ โดยให้แต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมาจบั สลากหัวข้อภมู ภิ าคในการเขยี นบลอ็ ก ดงั น้ี หวั ขอ้ ท่ี 1 ภาคเหนือ หัวขอ้ ท่ี 2 ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื หัวข้อท่ี 3 ภาคกลาง หวั ขอ้ ที่ 4 ภาคตะวันออก หวั ขอ้ ที่ 5 ภาคตะวนั ตก หวั ขอ้ ที่ 6 ภาคใต้ 6. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มไดเ้ ขยี นบล็อกอย่างอิสระตามข้นั ตอนจากหนงั สอื เรียน 7. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอบล็อกเกย่ี วกบั สถานท่ีทอ่ งเที่ยวที่นา่ สนใจตามภมู ภิ าค ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายหน้าช้ันเรยี น 8. จากนน้ั ครูถามนกั เรยี นว่า“ถา้ จะสำรวจความสนใจในการไปทอ่ งเทีย่ วของนักเรยี นทงั้ โรงเรยี นตามภูมิภาคทนี่ กั เรยี นแต่ละกลุม่ ได้นำเสนอจะมีวิธีการอย่างไรบ้าง” (แนวคำตอบ : นักเรียนตอบตามความคดิ เห็นของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยกู่ บั ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน เช่น การทำ แบบสอบถามแจกนกั เรยี นท้ังโรงเรียน สมั ภาษณ์ความคิดเหน็ ของนกั เรยี นภายในโรงเรยี น เป็นตน้ ) 9. ครอู ธบิ ายกบั นกั เรียนวา่ “ปจั จุบนั ไดม้ กี ารทำแบบสำรวจออนไลนท์ ี่จะทำให้สามารถสำรวจ และเกบ็ ข้อมูลได้ครบตามจำนวน และไม่ซับซ้อน ทำใหไ้ ด้ผลลพั ธท์ ่ีถกู ต้อง ไมค่ ลาดเคลอื่ น”

ช่ัวโมงท่ี 2 ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 10. นักเรยี นศึกษาตัวอย่างการทำแบบสำรวจความคดิ เห็นออนไลน์โดยใช้ Google Form จากสถานการณ์ในหนงั สอื เรยี นทีละขนั้ ตอนตัง้ แตก่ ารเข้าสู่ Google Form การสร้างแบบสำรวจออนไลน์ การเพิ่ม คำถาม และการจัดสง่ แบบสำรวจ เปน็ ต้น ซง่ึ นกั เรียนอาจจะศึกษาเพ่มิ เติมไดจ้ ากอนิ เทอรเ์ นต็ 11. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ สรา้ งแบบสำรวจออนไลน์เกี่ยวกบั บลอ็ กของสถานทท่ี อ่ งเทย่ี วท่ี นักเรียนได้เผยแพรล่ งบนอินเทอรเ์ นต็ 12. ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมกับนักเรยี นว่า“เมอื่ วิเคราะหผ์ ลสำรวจเสรจ็ แลว้ สามารถเผยแพร่ ข้อมลู ผ่านทางบลอ็ กหรอื เว็บเพจ เพอื่ ให้รับทราบผลสำรวจร่วมกัน” 13. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะ โดยใหน้ กั เรยี นจดั ทำแบบสำรวจ ออนไลนเ์ ก่ยี วกับโรงเรยี นและสรปุ ผล โดยใหน้ ักเรียนบอกขนั้ ตอนการสร้างแบบสำรวจ จากน้นั บนั ทึกผลการทำแบบ สำรวจลงในสมุดประจำตวั Note วัตถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรมเพ่ือให้นักเรียน - มที ักษะการสืบค้นข้อมูล เกย่ี วกับหัวข้อเรื่องที่ได้รับมอบหมายโดยใชก้ ารคิด วิเคราะหใ์ นการพิจารณาถงึ ความถูกตอ้ งของข้อมลู กอ่ นนำมาใช้งาน - มีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยีในการเขียนบลอ็ กและจัดทำแบบสำรวจ ความคิเหน็ ออนไลน์เพ่อื พัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรยี นรู้ การส่อื สาร และการทำงาน - มีทกั ษะการทำงานรว่ มกัน โดยใชก้ ระบวนการกลุ่มในการสอื่ สาร และแลกเปล่ยี น ขอ้ มูลร่วมกัน - มที กั ษะการสงั เกตตวั อยา่ งการเขยี นบล็อกและการจัดทำแบบสำรวจความคดิ เห็น ออนไลน์จากหนงั สอื เรียนและนำมาปรบั ใชใ้ นการเรียนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ขน้ั สรุป ข้นั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูนำนักเรยี นเล่นเกม Mail Blog Chat Game ในหนงั สือเรยี น พรอ้ มบอกกติกาการเล่น เกมท่ีชัดเจนเพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจ จากน้ันใหน้ กั เรียนประเมนิ ผลตนเองหลงั เรียนจบหนว่ ยใหต้ รงกับระดับ ความสามารถของตนเอง 2. ครูประเมินผลนกั เรยี น โดยการสงั เกตการตอบคำถาม การทำกิจกรรม และสมดุ ประจำตวั ของนกั เรยี น 3. ครตู รวจสอบความถกู ต้องของผลงานการทำกิจกรรมฝึกทักษะในหนังสือเรยี น

4. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุปเก่ียวกบั ลำดับขั้นตอนการเขยี นบล็อกและการสรา้ งแบบสำรวจ ความคดิ เหน็ ออนไลน์ 5. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เร่ือง การใช้อนิ เทอรเ์ นต็ อย่าง ปลอดภยั 6. นักเรยี นทำกจิ กรรมเสรมิ สรา้ งการเรยี นร้จู ากหนงั สอื เรยี น และทำช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบ ยอด) เรื่อง การใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภัย โดยใหน้ กั เรียนตอบคำถามให้ถูกต้อง และนำมาส่งในช่ัวโมงถดั ไป 12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ กี ารวดั เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ ารประเมนิ - แบบฝึกหดั สามารถตอบคำถามใน 1. นักเรียนอธบิ ายวธิ ีการนำเสนอ 1. การตอบคำถามใน แบบฝึกหัดได้ถูกต้อง ตามหลกั การ 80 % ขึ้น ข้อมูลสารสนเทศโดยใช้ blog ได้ แบบฝกึ หัด ไป อยา่ งถูกตอ้ ง (K) 2. นักเรยี นอธิบายขน้ั ตอนการ สร้างแบบสำรวจความคิดเห็น ออนไลนไ์ ด้ (K) 3. นักเรยี นเขยี นบล็อกจากหวั ขอ้ 2. ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบประเมิน สามารถตอบคำถามใน ใบงานได้ 80 % ข้ึนไป ท่ไี ดร้ ับมอบหมายไดถ้ กู ต้อง (P) แบบฝึกหัด 4. นกั เรยี นสรา้ งแบบสำรวจ ความคิดเหน็ ออนไลนไ์ ด้ (P) 3. สงั เกตพฤติกรรมใน - แบบประเมิน นักเรียนมีคุณลักษณะ 5. นกั เรยี นเป็นผู้ที่มวี นิ ยั ใฝ่ คุณลักษณะอนั พึง อนั พึงประสงค์ ได้ 80% เรียนรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน การทำแบบฝกึ หดั ประสงค์ ข้ึนไป (A) คุณธรรม จริยธรรมทสี่ อดแทรก การตรงตอ่ เวลา เช่น การเขา้ ชั้นเรยี น การส่งการบา้ น และการปฏิบตั ติ ามท่ี ได้รับมอบหมาย 13. หนงั สอื / เอกสารอ้างองิ - หนงั สือเรียนรายวิชาพื้นฐาน กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ เรอ่ื ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5 ลงชอื่ .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู ู้สอน

การบนั ทกึ ผลหลังการสอน รหัสวิชา ว 15102 กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5 สปั ดาห์ที่ 38-39 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง การใช้อินเทอรเ์ นต็ อยา่ งปลอดภัย จำนวน 12 ช่วั โมง แผนการเรยี นร้ทู ่ี 17 เร่ือง การนำเสนอข้อมูลและการทำแบบสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ เวลา 2 ชว่ั โมง ครผู สู้ อน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ การบันทึกผลหลงั การสอน 1. บันทึกผลการเรียนรู้ตามจดุ ประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นกั เรียนอธิบายวิธกี ารนำเสนอขอ้ มูลสารสนเทศโดยใช้ blog ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง (K) จำนวน….……คน คิดเป็น รอ้ ยละ…….…ของจำนวนนักเรียนทง้ั หมด 1.2 นกั เรียนอธบิ ายวธิ กี ารนำเสนอข้อมูลสารสนเทศโดยใช้ blog ไมถ่ ูกตอ้ ง (K) จำนวน….……คน คดิ เป็นร้อย ละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นทั้งหมด 1.3 นกั เรียนอธิบายขั้นตอนการสร้างแบบสำรวจความคิดเหน็ ออนไลน์ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ย ละ…….…ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 1.4 นักเรยี นอธบิ ายขนั้ ตอนการสร้างแบบสำรวจความคดิ เหน็ ออนไลน์ไม่ได้ (K) จำนวน….……คน คดิ เป็นรอ้ ย ละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด 2. บนั ทกึ ทักษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นักเรียนเขยี นบลอ็ กจากหวั ข้อที่ได้รบั มอบหมายได้ถูกตอ้ ง (P) จำนวน……..คน คิดเป็นร้อยละ….……ของ จำนวนนักเรียนท้งั หมด 2.2 นกั เรียนเขียนบลอ็ กจากหัวข้อที่ได้รับมอบหมายไม่ถูกตอ้ ง (P) จำนวน….……คน คดิ เป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนกั เรยี นทั้งหมด 2.3 นักเรียนสรา้ งแบบสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ได้ (P) จำนวน….……คน คดิ เป็นรอ้ ยละ……...ของจำนวน นักเรียนทั้งหมด 2.4 นักเรยี นสรา้ งแบบสำรวจความคดิ เห็นออนไลน์ไมไ้ ด้ (P) จำนวน….……คน คดิ เป็นร้อยละ……...ของจำนวน นกั เรียนท้ังหมด 3. บนั ทึกคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นกั เรียนเปน็ ผทู้ ่ีมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ ม่นั ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเป็นร้อยละ….……ของ จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด 3.2 นกั เรียนไม่เป็นผ้ทู ่ีมีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมัน่ ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คดิ เปน็ ร้อยละ……...ของ จำนวนนักเรียนทั้งหมด

ปญั หาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงช่อื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู สู้ อน

ใบงานที่ 1.1.1 เรอ่ื ง การแกป้ ัญหาดว้ ยเหตุผลเชงิ ตรรกะ คำชแ้ี จง : ให้นกั เรียนอ่านสถานการณ์ทก่ี ำหนดใหแ้ ละเขยี นวิธกี ารแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ สถานการณ์ : ในวันหยดุ นักขัตฤกษ์ญาญ่าวางแผนว่าจะอย่บู ้านเพือ่ ชมการ์ตนู ออนไลน์ ดังนี้ รายชอื่ การ์ตูน ระยะเวลาในการรบั ชม เดอะ บอส เบบี้ 60 นาที ทอมแอนด์เจอร์รี่ เดอะมฟู วี่ 20 นาที มนิ เนียน 60 นาที กังฟูแพนดา้ 3 90 นาที ผจญภัยแดนคำสาปราชนิ ีหิมะ 90 นาที โดราเอมอน ตอน วนุ้ แปลภาษา 20 นาที ยอดคนพทิ กั ษ์โลก 90 นาที โดยญาญ่าต้องการรับชมการ์ตูนออนไลนใ์ หค้ รบทกุ เรือ่ งภายใน 1 วัน โดยเรมิ่ ตง้ั แต่เวลา 08.00 น.จนถงึ 17.00 น. ซ่งึ ญาญา่ จะต้องพักเบรกใน 3 ช่วงเวลา ดังนี้ 1) 10.20 น. – 10.30 น. พักเบรกเขา้ หอ้ งน้ำ 2) 12.00 น. – 13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน 3) 14.20 น. – 14.30 น. พักเบรกเขา้ ห้องน้ำ จากสถานการณ์ดงั กลา่ ว ญาญ่าควรจะวางแผนการรบั ชมการต์ ูนออนไลน์อยา่ งไร จงึ จะสามารถรับชมไดค้ รบทกุ เร่อื งภายใน 1 วนั การวางแผนระยะเวลา รายชื่อการ์ตนู 10.20 น. – 10.30 น. พกั เบรค 12.00 น. – 13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวนั 14.20 น. – 14.30 น. พกั เบรค

ใบงานที่ 1.1.1 เฉลย เรือ่ ง การแก้ปญั หาด้วยเหตผุ ลเชิงตรรกะ คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนอา่ นสถานการณ์ทก่ี ำหนดใหแ้ ละเขยี นวธิ กี ารแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ สถานการณ์ : ในวันหยดุ นักขัตฤกษ์ญาญ่าวางแผนวา่ จะอยูบ่ ้านเพอ่ื ชมการต์ ูนออนไลน์ ดังน้ี รายชอื่ การ์ตูน ระยะเวลาในการรบั ชม เดอะ บอส เบบี้ 60 นาที ทอมแอนด์เจอร์ร่ี เดอะมูฟว่ี 20 นาที มินเนียน 60 นาที กงั ฟูแพนดา้ 3 90 นาที ผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ 90 นาที โดราเอมอน ตอน ว้นุ แปลภาษา 20 นาที ยอดคนพิทักษโ์ ลก 90 นาที โดยญาญา่ ตอ้ งการรบั ชมการ์ตนู ออนไลน์ใหค้ รบทุกเรอ่ื งภายใน 1 วัน โดยเริม่ ต้งั แต่เวลา 08.00 น.จนถึง 17.00 น. ซึ่งญาญ่าจะต้องพักเบรกใน 3 ชว่ งเวลา ดังน้ี 1) 10.20 น. – 10.30 น. พกั เบรกเข้าหอ้ งนำ้ 2) 12.00 น. – 13.00 น. พกั รับประทานอาหารกลางวัน 3) 14.20 น. – 14.30 น. พกั เบรกเขา้ ห้องน้ำ จากสถานการณด์ งั กลา่ ว ญาญา่ ควรจะวางแผนการรบั ชมการต์ ูนออนไลนอ์ ยา่ งไร จงึ จะสามารถรับชมได้ครบทุก เรือ่ งภายใน 1 วัน การวางแผนระยะเวลา รายช่อื การ์ตูน 08.30 น. – 10.00 น. ผจญภัยแดนคำสาปราชินหี มิ ะ 10.00 น. – 10.20 น. ทอมแอนด์เจอรร์ ่ี เดอะมูฟว่ี 10.20 น. – 10.30 น. พกั เบรค 10.30 น. – 12.00 น. ยอดคนพทิ ักษโ์ ลก 12.00 น. – 13.00 น. พักรบั ประทานอาหารกลางวนั 13.00 น. – 14.00 น. มนิ เนยี น 14.00 น. – 14.20 น. โดราเอมอน ตอน วุ้นแปลภาษา 14.20 น. – 14.30 น. พกั เบรค 14.30 น. – 16.00 น. กังฟูแพนดา้ 3 16.00 น. – 17.00 น. เดอะ บอส เบบ้ี

ใบงานที่ 1.2.1 เร่อื ง การทำนายผลลพั ธจ์ ากปัญหาอย่างง่าย คำช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนพิจารณาภาพและสถานการณท์ ่ีกำหนดให้ พรอ้ มหาเสน้ ทางจากบา้ นไปยังสวนสนุก ให้ถูกต้อง สถานการณ์ คุณพ่อและคุณแมข่ องโหน่งจะพาโหนง่ ไปสวนสนกุ แต่ก่อนจะออกจากบา้ นคุณพอ่ ของโหนง่ ได้คน้ หาการ เดินทางไปสวนสนุกจากแผนทดี่ ้านล่าง ดังนนั้ คุณพอ่ จะเลือกเสน้ ทางใด เพอื่ ให้เดินทางจากบา้ นไปยัง สวนสนุกได้โดยใชร้ ะยะทางทีส่ ้นั ที่สดุ โดยใช้การทำนายผลลัพธ์จากปัญหาอย่างง่าย 4 กม. 5 กม. 6 กม. 8 กม. 1 กม. 2 กม. 2 กม. 10 กม. 3 กม. เส้นทางท่ี ระยะทาง ระยะทางรวม เลอื กเสน้ ทางใด …………………………………………………………………………………..

ใบงานที่ 1.2.1 เฉลย เรื่อง การทำนายผลลัพธ์จากปญั หาอย่างง่าย คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นพิจารณาภาพและสถานการณ์ที่กำหนดให้ พรอ้ มหาเสน้ ทางจากบา้ นไปยงั สวนสนุก ใหถ้ กู ต้อง สถานการณ์ คุณพ่อและคุณแมข่ องโหน่งจะพาโหน่งไปสวนสนกุ แตก่ ่อนจะออกจากบ้านคณุ พ่อของโหน่งได้คน้ หาการ เดินทางไปสวนสนกุ จากแผนทด่ี ้านล่าง ดังนนั้ คณุ พ่อจะเลอื กเส้นทางใด เพ่อื ใหเ้ ดนิ ทางจากบ้านไปยงั สวนสนุกได้โดยใช้ระยะทางทสี่ ัน้ ที่สดุ โดยใช้การทำนายผลลพั ธ์จากปญั หาอยา่ งง่าย 5 กม. 6 กม. 4 กม. 1 กม. 8 กม. 2 กม. 2 กม. 10 กม. 3 กม. เสน้ ทางท่ี ระยะทาง ระยะทางรวม 1 4 กิโลเมตร + 5 กโิ ลเมตร + 6 กโิ ลเมตร 15 กโิ ลเมตร 2 4 กโิ ลเมตร + 1 กโิ ลเมตร + 10 กิโลเมตร + 3 กโิ ลเมตร 18 กโิ ลเมตร 3 4 กโิ ลเมตร + 8 กิโลเมตร + 3 กโิ ลเมตร 15 กิโลเมตร 4 4 กิโลเมตร + 5 กิโลเมตร + 2 กโิ ลเมตร + 3 กิโลเมตร 14 กิโลเมตร 5 2 กิโลเมตร + 10 กิโลเมตร + 3 กโิ ลเมตร 15 กิโลเมตร 6 2 กโิ ลเมตร + 1 กิโลเมตร + 8 กิโลเมตร + 3 กโิ ลเมตร 14 กโิ ลเมตร 7 2 กิโลเมตร + 1 กโิ ลเมตร + 5 กโิ ลเมตร + 6 กิโลเมตร 14 กิโลเมตร 8 2 กิโลเมตร + 1 กโิ ลเมตร + 5 กิโลเมตร + 2 กโิ ลเมตร + 3 กโิ ลเมตร 13 กิโลเมตร เลอื กเส้นทางใด ………………………………เส…น้ …ท…า…งท…ี่ 8……………………………………..

ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง การแกป้ ัญหาด้วยเหตุผลเชงิ ตรรกะ คำชี้แจง : ใหน้ ักเรียนนำเศษของรงั ผง้ึ จากดา้ นล่างมาประกอบเปน็ รังผึง้ ทส่ี มบรู ณ์ ซึ่งนกั เรียนอาจจะใช้ วิธีการระบายสีลงไปในรงั ผึ้งตามเศษของรงั ผ้ึงที่นักเรยี นต้องการนำมาประกอบ

เฉลย ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การแก้ปญั หาดว้ ยเหตุผลเชงิ ตรรกะ คำชี้แจง : ให้นักเรียนนำเศษของรังผง้ึ จากดา้ นล่างมาประกอบเปน็ รังผึ้งท่สี มบรู ณ์ ซ่ึงนักเรยี นอาจจะใช้ วิธีการระบายสลี งไปในรังผง้ึ ตามเศษของรังผ้ึงที่นักเรยี นต้องการนำมาประกอบ

ใบงานที่ 2.1.1 เรอ่ื ง การออกแบบโปรแกรมดว้ ยการเขยี นขอ้ ความ คำชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นพจิ ารณาสถานการณ์ตอ่ ไปนแี้ ล้วออกแบบโปรแกรมดว้ ยการเขยี นขอ้ ความใหถ้ กู ตอ้ ง สถานการณ์ : หนูนาต้องการเขยี นโปรแกรมคำนวณราคาสินคา้ จำนวน 4 รายการ โดยใหร้ บั ค่าของราคาสินค้าท้ัง 4 ครงั้ จากน้นั ใหโ้ ปรแกรมคำนวณหาผลรวมของราคาสินค้าทั้งหมด 4 รายการ และแสดงผลรวมของราคาสินคา้ ว่าเปน็ เลขคู่หรอื เลขค่ี

ใบงานท่ี 2.1.1 เฉลย เร่ือง การออกแบบโปรแกรมดว้ ยการเขยี นข้อความ คำชแี้ จง : ใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาสถานการณต์ อ่ ไปนแี้ ล้วออกแบบโปรแกรมดว้ ยการเขยี นข้อความใหถ้ กู ตอ้ ง สถานการณ์ : หนูนาตอ้ งการเขยี นโปรแกรมคำนวณราคาสนิ คา้ จำนวน 4 รายการ โดยใหร้ ับค่าของราคาสนิ ค้าทั้ง 4 คร้งั จากนั้นให้โปรแกรมคำนวณหาผลรวมของราคาสินค้าท้ังหมด 4 รายการและแสดงผลรวมของราคาสินคา้ วา่ เป็น เลขคู่หรือเลขคี่ 1. โปรแกรมรบั คา่ ของราคาสินคา้ 4 ชิ้นจากผู้ใชง้ าน 2. โปรแกรมคำนวณราคาสินคา้ ช้ินท่ี 1 + ชน้ิ ที่ 2 + ชิ้นท่ี 3 + ช้นิ ที่ 4 3. โปรแกรมนำผลที่ได้จากการคำนวณราคาสนิ ค้ารวมทงั้ 4 ชนิ้ หารดว้ ย 2 4. ถ้าราคาสินคา้ รวมท่หี ารดว้ ย 2 ลงตวั “เปน็ เลขค”ู่ 5. ถ้าราคาสินค้ารวมท่หี ารด้วย 2 ไมล่ งตวั “เปน็ เลขค”ี่ 6. แสดงผลทางหน้าจอ

ใบงานท่ี 2.2.1 เรือ่ ง การออกแบบโปรแกรมดว้ ยการเขียนผงั งาน คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนพิจารณาสถานการณ์ที่กำหนดใหอ้ ยา่ งละเอียด และออกแบบโปรแกรมการทำงาน ด้วยการเขียนผงั งานเพอ่ื อธบิ ายลกั ษณะการทำงานของโปรแกรม สถานการณ์ : หนนู าต้องการเขียนโปรแกรมคำนวณราคาสินคา้ จำนวน 3 รายการ โดยใหร้ ับค่าของราคาสินค้าท้งั 3 คร้ัง จากน้นั ใหโ้ ปรแกรมคำนวณหาผลรวมของราคาสินคา้ ทั้งหมด 3 รายการ และแสดงผลรวมของราคาสนิ คา้ วา่ เป็น เลขคู่หรอื เลขคี่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook