คำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 การเขยี นโปรแกรมโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ และวเิ คราะหข์ ้อผดิ พลาดทีเ่ กดิ ขึ้น จากการเขยี นโปรแกรมพร้อมอธบิ ายแนวทางการแก้ไขข้อผิดพลาดไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ซ่ึงนักเรียนสามารถค้นหาขอ้ มลู จาก อนิ เทอรเ์ นต็ บนเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ของตนเอง วา่ โปรแกรม Scratch มแี นวทางการแกไ้ ขข้อผิดพลาดอยา่ งไร 2. นกั เรยี นบนั ทึกข้ันตอนการตรวจสอบข้อผดิ พลาด รายละเอยี ดความผิดพลาด และ แนวทางการแก้ไขข้อผิดพลาดลงในสมุดประจำตวั โดยละเอยี ด 3. ครสู ุ่มนกั เรยี น 2-3 คน ออกมาอธบิ ายขอ้ มูลที่นักเรยี นได้บนั ทกึ บริเวณหนา้ ชน้ั เรยี น โดย ครคู อยให้คำแนะนำเพมิ่ เติมตามความเหมาะสม 4. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสืบค้นเกย่ี วกบั ขอ้ ผิดพลาดต่าง ๆ ที่อาจเกดิ ขนึ้ จากการเขยี น โปรแกรม และแนวทางการแก้ไขเมื่อพบปญั หานนั้ ๆ 5. ครใู ห้นกั เรยี นออกมาเขียนข้อผิดพลาดท่ีอาจเกิดข้นึ บนกระดานหนา้ ชนั้ เรียน โดยคำตอบ ของนกั เรยี นแตล่ ะคนจะต้องไมซ่ ้ำกัน ขนั้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 6. ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมเกย่ี วกบั ความผิดพลาดว่า“ความผดิ พลาดท่ีเกิดขน้ึ จากการเขียน โปรแกรมโดยท่ัวไปมกั จะมอี ยู่ 3 ประเภท ได้แก่ 1) ความผิดพลาดทางไวยากรณ์ (Syntax Error) 2) ความผิดพลาดทางการประมวลผล (Runtime Error) 3) ความผิดพลาดทางตรรกะ (Logic Error) เมอ่ื มขี อ้ ผิดพลาดเกิดข้ึนวิธีการตรวจสอบที่ง่ายท่ีสุด คอื การพิจารณาคำส่งั ควบคมุ การทำงานของโปรแกรมควบคูก่ ับผังงาน หรือจะเรียกไดว้ า่ เป็นการพิจารณาควบคู่กันทีละบรรทดั ระหว่างผังงานทีใ่ ช้ ออกแบบกบั การเขยี นโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch และเมอ่ื เจอขอ้ ผิดพลาด จึงจะสามารถลงมอื แกไ้ ขคำสงั่ ใน โปรแกรมให้ถูกต้อง” ชั่วโมงท่ี 2 ขน้ั สอน ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 7. นักเรียนจับคู่กับเพือ่ นทน่ี ่งั ขา้ ง ๆ เพอื่ ทำกิจกรรมฝกึ ทกั ษะ โดยให้นักเรยี นพจิ ารณา โปรแกรมและตรวจสอบว่ามขี ้อผิดพลาดหรอื ไม่ ถ้าพบใหน้ ักเรียนดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง 8. ครูสมุ่ นักเรียน 3-4 คู่ออกมานำเสนอผลงานการแกไ้ ขบรเิ วณหนา้ ชั้นเรยี น 9. นักเรยี นทำใบงานท่ี 2.4.1 เรื่อง การตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรม 10. ครูสุ่มนักเรียนแตล่ ะคนออกมาวาดภาพผลลัพธ์ทีไ่ ด้จากการเขยี นโปรแกรมรว่ มกนั ภายใต้สถานการณ์ที่กำหนด และรว่ มกันอภปิ รายภายในหอ้ งเรียน โดยครูคอยตรวจสอบความถูกต้อง และให้คำแนะนำ ตามความเหมาะสม จนไดผ้ ลลพั ธก์ ารเขยี นโปรแกรมน้นั จะสมบรู ณ์
Note วัตถุประสงค์ของกิจกรรมเพ่อื ใหน้ กั เรียน - มที กั ษะการสบื คน้ ข้อมูล โดยให้นกั เรยี นสืบคน้ ข้อมูลทีส่ ำคญั จากอนิ เทอรเ์ น็ต เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม ขนั้ ตอนการตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาด รายละเอียดความผดิ พลาด และแนวทางการแก้ไขขอ้ ผิดพลาด - มที ักษะการแก้ปัญหา โดยนกั เรยี นสามารถแกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ ทเ่ี กิดขึน้ จาก การเขยี นโปรแกรมโดยใชโ้ ปแกรม Scratch ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - มที ักษะการคดิ วิเคราะห์ โดยให้นักเรยี นพจิ ารณาสถานการณ์และเง่ือนไขทีก่ ำหนด การออกแบบด้วยผงั งาน และการเขยี นโปรแกรมว่ามีความสอดคล้องตรงตามความต้องการ หรือไม่ - มีทักษะการทำงานรว่ มกนั โดยให้นักเรยี นจบั คูก่ บั เพ่ือนทน่ี ่งั ขา้ ง ๆ และทำกิจกรรม ฝึกทกั ษะ ซึง่ เปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนได้สือ่ สาร แลกเปล่ยี นข้อมลู รว่ มกนั ภายในชน้ั เรียนอย่าง อสิ ระ ข้ันสรุป ขัน้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครนู ำนกั เรยี นสร้างเกมสัตวห์ รรษาจาก Scratch โดยครอู ธิบายคำส่งั และเง่อื นไขแก่ นักเรยี นอย่างชัดเจน จากนนั้ ใหน้ กั เรียนประเมินผลตนเองหลังเรียนจบหนว่ ยให้ตรงกับระดับความสามารถของตนเอง 2. ครูประเมนิ ผลนักเรยี น จากการสงั เกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมดุ ประจำตวั 3. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานท่ี 2.4.1 และกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ 4. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรุปเกี่ยวกับการออกแบบโปรแกรม วธิ ีการตรวจสอบ การเขียน โปรแกรมโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ และการปฏิบตั ิเมอื่ ตรวจสอบพบข้อผดิ พลาดของโปรแกรม 5. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมโดยใช้ เหตผุ ลเชิงตรรกะ 6. นกั เรียนทำกิจกรรมเสริมสรา้ งการเรียนรู้ โดยนกั เรยี นพจิ ารณาสถานการณ์จากนั้นนำไป ออกแบบผงั งานพรอ้ มเขียนคำสัง่ ควบคุมการทำงานให้สมบูรณ์ และทำช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)เรอ่ื ง การเขยี น โปรแกรมโดยใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะ จากนน้ั นำมาสง่ ในช่ัวโมงถดั ไป
12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ กี ารวัด เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. นกั เรยี นบอกขอ้ ผดิ พลาดท่ี 1. การตอบคำถามใน - แบบฝกึ หดั แบบฝึกหดั สามารถตอบคำถามใน เกดิ ขน้ึ จากการเขียนโปรแกรมได้ แบบฝึกหดั ไดถ้ กู ตอ้ ง ตามหลักการ 80 % ขึน้ อย่างถูกต้อง (K) ไป 2. นกั เรียนอธิบายวธิ กี าร ตรวจสอบข้อผดิ พลาดของ โปรแกรมได้ (K) 3. นกั เรยี นตรวจสอบข้อผดิ พลาด 2. ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบประเมนิ สามารถตอบคำถามใน ใบงานได้ 80 % ขน้ึ ไป ที่เกิดขึน้ จากการเขยี นโปรแกรม แบบฝึกหดั ได้ (P) 4. นักเรียนตรวจสอบข้อผดิ พลาด ของโปรแกรมควบคู่กบั ผังงานได้ (P) 3. สังเกตพฤติกรรมใน - แบบประเมิน นกั เรียนมีคุณลกั ษณะ 5. นักเรียนเป็นผู้ที่มวี ินยั ใฝ่ คุณลักษณะอนั พึง อนั พงึ ประสงค์ ได้ 80% เรียนรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน การทำแบบฝกึ หัด ประสงค์ ขน้ึ ไป (A) คณุ ธรรม จริยธรรมทีส่ อดแทรก การตรงตอ่ เวลา เชน่ การเขา้ ช้นั เรียน การสง่ การบา้ น และการปฏิบัตติ ามที่ ได้รับมอบหมาย 13. หนังสอื / เอกสารอ้างองิ - หนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรือ่ ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 ลงชอื่ .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครูผู้สอน
การบันทกึ ผลหลังการสอน กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ รหัสวชิ า ว 15102 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 สปั ดาหท์ ี่ 15-16 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมโดยใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะ จำนวน 10 ชวั่ โมง แผนการเรยี นรู้ท่ี 6 เรอื่ ง การตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม เวลา 2 ช่ัวโมง ครผู สู้ อน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ การบันทกึ ผลหลังการสอน 1. บันทึกผลการเรียนรู้ตามจดุ ประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นักเรยี นบอกขอ้ ผดิ พลาดท่ีเกิดข้ึนจากการเขียนโปรแกรมได้อยา่ งถกู ต้อง (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ…….…ของจำนวนนักเรยี นท้งั หมด 1.2 นกั เรียนบอกขอ้ ผิดพลาดท่เี กิดข้นึ จากการเขยี นโปรแกรมไม่ได้ (K) จำนวน….……คน คดิ เป็นรอ้ ยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด 1.3 นกั เรยี นอธบิ ายวธิ ีการตรวจสอบข้อผิดพลาดของโปรแกรมได้ (K) จำนวน….……คน คดิ เป็นรอ้ ยละ…….…ของจำนวนนักเรียนทง้ั หมด 1.4 นกั เรยี นอธบิ ายวธิ กี ารตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรมไม่ได้ (K) จำนวน….……คน คดิ เปน็ ร้อยละ…….…ของจำนวนนกั เรียนทง้ั หมด 2. บันทึกทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรยี นตรวจสอบข้อผดิ พลาดทเี่ กิดข้นึ จากการเขยี นโปรแกรมได้ (P) จำนวน……..คน คดิ เป็นรอ้ ยละ….…… ของจำนวนนักเรียนท้งั หมด 2.2 นักเรียนตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดทเ่ี กิดขน้ึ จากการเขียนโปรแกรมไม่ได้ (P) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อย ละ……...ของจำนวนนักเรยี นท้ังหมด 2.3 นกั เรยี นตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรมควบคู่กบั ผงั งานได้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ……... ของจำนวนนกั เรียนทัง้ หมด 2.4 นกั เรยี นตรวจสอบขอ้ ผิดพลาดของโปรแกรมควบคกู่ ับผงั งานไม่ได้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ……... ของจำนวนนกั เรยี นทั้งหมด 3. บนั ทึกคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นกั เรยี นเปน็ ผ้ทู ี่มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเป็นรอ้ ยละ….……ของ จำนวนนักเรียนทัง้ หมด 3.2 นักเรยี นไม่เป็นผทู้ ่ีมวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ และม่งุ มน่ั ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คดิ เปน็ ร้อยละ……...ของ จำนวนนักเรียนทงั้ หมด
ปัญหาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ัญหา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผู้สอน
แผนการจดั การเรียนรู้ รหัสวิชา ว 15102 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาการคำนวณ สปั ดาห์ที่ 17-18 ระดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 จำนวน 10 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรื่อง ขอ้ มูลสารสนเทศ เวลา 2 ช่วั โมง แผนการเรียนรทู้ ่ี 7 เรือ่ ง รจู้ กั ข้อมูล ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ 1. สาระ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาทีพ่ บในชวี ติ จริงอยา่ งเปน็ ข้ันตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ร้เู ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม 3. ตวั ชวี้ ัด / ผลการเรียนรู้ ป.5/3 ใชอ้ นิ เทอร์เน็ตค้นหาข้อมลู ติดตอ่ ส่อื สารและทำงานรว่ มกัน ประเมินความน่าเช่อื ถอื ของข้อมูล ป.5/4 รวบรวม ประเมิน นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือบริการบน อนิ เทอรเ์ น็ตทห่ี ลากหลาย เพอ่ื แก้ปญั หาในชีวติ ประจำวัน 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นอธบิ ายความหมายของขอ้ มลู ไดถ้ กู ต้อง (K) 2. นกั เรียนบอกประเภทของข้อมูลได้ถูกตอ้ ง (K) 3. นกั เรยี นยกตัวอย่างข้อมลู ทอ่ี ยรู่ อบ ๆ ตัวได้ (K) 4. นกั เรยี นจำแนกขอ้ มูลตามประเภทของขอ้ มลู ได้อย่างถูกต้อง (P) 5. นกั เรียนเขียนขอ้ มูลต่าง ๆ ท่พี บภายในโรงเรยี นและในชีวติ ประจำวนั ได้ (P) 6. นักเรียนเปน็ ผ้ทู มี่ วี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน (A)
5. สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ด้านความรู้ ด้านทักษะ ดา้ นคณุ ลักษณะ (K: Knowledge) กระบวนการ อันพึงประสงค์ ตวั ชวี้ ัด (P: Process) (A: Attitude) ป.5/3 ใช้อนิ เทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล 1. นกั เรยี นอธิบาย 4. นกั เรียนจำแนก 6. นักเรียนเป็นผทู้ ่ี ติดตอ่ สื่อสารและทำงานรว่ มกัน ประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถือของข้อมลู ความหมายของขอ้ มลู ได้ ข้อมูลตามประเภท มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ ป.5/4รวบรวม ประเมิน นำเสนอ ข้อมลู และสารสนเทศตาม ถกู ต้อง ของข้อมูลไดอ้ ยา่ ง และมุ่งมัน่ ในการ วตั ถุประสงคโ์ ดยใช้ซอฟต์แวรห์ รอื บรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็ ท่ีหลากหลาย 2. นกั เรียนบอกประเภท ถกู ต้อง ทำงาน เพื่อแก้ปัญหาในชวี ิตประจำวนั ของขอ้ มูลไดถ้ กู ต้อง 5. นกั เรียนเขยี นข้อมูล 3. นักเรยี นยกตัวอย่าง ตา่ ง ๆ ทพ่ี บภายใน ข้อมูลทีอ่ ย่รู อบ ๆ ตัวได้ โรงเรยี นและใน ชีวติ ประจำวนั ได้ 6. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอดหนว่ ยการเรียนรู้ ขอ้ มูล คือ ข้อเท็จจรงิ ที่เกีย่ วข้องกับสิ่งต่าง ๆ ไมว่ า่ จะเป็นคน สัตว์ สง่ิ ของ หรอื เหตกุ ารณ์ โดยอาจจะเกดิ ข้ึน จากการสงั เกต การจดบันทกึ การสัมภาษณ์ การสอบถาม นอกจากน้นั ขอ้ มูลยังแบง่ ออกเปน็ 5 ประเภท คือ ข้อมลู ตวั อกั ขระ ข้อมูลภาพ ขอ้ มูลตวั เลข ขอ้ มลู เสยี ง และขอ้ มูลอนื่ ๆ 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - มวี นิ ยั - ใฝ่เรยี นรู้ - มุง่ ม่ันในการทำงาน
9. สอ่ื และ แหลง่ การเรียนรู้ สือ่ - หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพนื้ ฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง ข้อมลู สารสนเทศ - ใบงานที่ 3.1.1 เรอื่ ง ประเภทของขอ้ มลู แหลง่ เรียนรู้ - ห้องปฏบิ ัตกิ ารคอมพิวเตอร์ 10. การจัดการเรยี นรู้ เรอื่ ง จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดับ 2 1 รู้จกั ข้อมูล 11. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ เรอื่ ง รจู้ กั ขอ้ มลู จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรยี นอธิบายความหมายของข้อมูลไดถ้ ูกต้อง (K) 2. นักเรยี นบอกประเภทของขอ้ มลู ไดถ้ กู ต้อง (K) 3. นักเรยี นยกตวั อยา่ งข้อมลู ทอ่ี ยรู่ อบ ๆ ตวั ได้ (K) 4. นักเรยี นจำแนกข้อมูลตามประเภทของขอ้ มูลได้อยา่ งถกู ต้อง (P) 5. นกั เรียนเขียนขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ท่พี บภายในโรงเรียนและในชวี ิตประจำวนั ได้ (P) 6. นักเรยี นเป็นผทู้ ีม่ วี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ มนั่ ในการทำงาน (A) ชวั่ โมงท่ี 1 ข้ันนำ 1. นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 3 เรือ่ ง ข้อมูลสารสนเทศ เพอ่ื วดั ความรเู้ ดิม ของนกั เรยี น 2. ครถู ามคำถามกระตนุ้ ความคดิ ของนักเรียนวา่ “ขอ้ มูลทอ่ี ยู่รอบ ๆ ตวั นกั เรียนมอี ะไรบ้าง” (แนวคำตอบ : นกั เรยี นแสดงความคิดเหน็ ตามความคดิ ของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอยู่กับดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน เชน่ ชอื่ -นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ภาพถ่าย คะแนนสอบวชิ าตา่ ง ๆ เป็นตน้ ) 3. ครูอธบิ ายกับนกั เรยี นเพอื่ เช่อื มโยงเข้าสู่บทเรียนวา่ “นักเรียนจะเป็นไดว้ า่ ในการดำรงชวี ติ ประจำวนั ของมนษุ ยจ์ ะต้องเกยี่ วขอ้ งกบั ข้อมลู ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็น ชอ่ื -นามสกุล น้ำหนกั สว่ นสงู ทอี่ ยู่ ภาพถ่าย ภาพจาก โทรทัศน์ ขา่ วสารจากวิทยุ”
ข้นั สอน ขั้นที่ 1 กำหนดปญั หา 1. ครูถามคำถามประจำหัวขอ้ วา่ “นกั เรยี นคดิ ว่าขอ้ มลู ที่ดคี วรมลี กั ษณะอย่างไร” ขัน้ ท่ี 2 ทำความเขา้ ใจกับปัญหา 2. ครใู หน้ ักเรียนสบื คน้ ความหมายของข้อมูลจากอินเทอรเ์ นต็ ที่เครอื่ งคอมพิวเตอร์ของ ตนเอง 3. ครอู ธิบายขอ้ สรุปกบั นักเรยี นเก่ยี วกับความหมายของข้อมลู จากหนงั สือเรยี นรายวิชา พนื้ ฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง ขอ้ มลู สารสนเทศ วา่ “ข้อมูล คอื ข้อเท็จจรงิ ทเี่ ก่ยี วข้องกบั สิง่ ต่าง ๆ ไมว่ ่าจะเป็นคน สตั ว์ สง่ิ ของ หรอื เหตุการณต์ ่าง ๆ โดยอาจจะเกดิ ข้ึนจากการสงั เกต การจด บันทึก การสมั ภาษณ์ การสอบถาม และมีการรวบรวมไว”้ ข้ันที่ 3 ดำเนินการศึกษาค้นคว้า 4. นักเรยี นสังเกตและศึกษาการจดบนั ทึกเร่ืองราวการไปทอ่ งเทีย่ วจากตัวอยา่ งใน หนงั สอื เรยี น 5. ครูถามนักเรียนวา่ “จากการศกึ ษาตวั อยา่ งสถานการณน์ กั เรยี นพบข้อมลู ใดบา้ ง” (แนวคำตอบ : ขอ้ มลู วันที่ สถานท่ที ่องเทีย่ ว เปน็ ตน้ ) 6. นกั เรยี นทำกิจกรรมฝึกทกั ษะในหนงั สอื เรียน โดยให้นกั เรยี นสำรวจตนเองและบนั ทกึ ข้อมลู ส่วนตวั ลงในสมดุ แล้วนำขอ้ มูลไปจัดทำประวัติส่วนตัว พรอ้ มตกแตง่ ให้สวยงามโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ด ช่ัวโมงท่ี 2 ขน้ั สอน ขนั้ ท่ี 3 ดำเนนิ การศึกษาค้นคว้า 7. ครูทบทวนเน้ือหาการเรยี นเม่ือชัว่ โมงทแี่ ล้วเกยี่ วกบั ความหมายของข้อมูล 8. ครสู มุ่ นักเรยี น 2-3 คน ออกมานำเสนอประวตั ิส่วนตัวทจ่ี ัดทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว 9. นกั เรียนศกึ ษาเน้ือหา เร่ือง ประเภทของข้อมูลจากหนังสอื เรยี นหรอื สบื คน้ จากอินเทอร์เน็ต ขั้นที่ 4 สังเคราะห์ความรู้ 10. นักเรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน โดยใหน้ กั เรียนแตล่ ะกล่มุ ช่วยกันเขียนข้อมลู ทีพ่ บ ภายในโรงเรยี นให้มากทสี่ ุด และให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนออกมาเติมคำตอบบนกระดานหนา้ ชั้นเรียน โดยแตล่ ะ กลุม่ จะตอ้ งตอบไม่ซ้ำกัน 11. ครูใช้ปากกาสีต่าง ๆ วาดรปู วงกลมบนกระดานหนา้ ช้นั เรยี นจำนวน 5 รปู 12. จากนน้ั ให้นักเรียนภายในชั้นเรยี นร่วมกนั แยกข้อมลู บนกระดานและนำไปใส่ในวงกลม ตา่ ง ๆ ตามประเภทของขอ้ มลู ในหนงั สือเรียน 13. ครอู ธบิ ายกบั นกั เรยี นว่า“ข้อมลู ทีอ่ ยู่รอบตัวเราสามารถแบง่ ออกได้เป็น 5 ประเภท ได้แก่ 1) ข้อมูลตวั อักขระ 2) ข้อมูลภาพ
3) ข้อมูลตัวเลข 4) ข้อมูลเสียง 5) ขอ้ มลู อ่ืน ๆ แต่ข้อมูลบางอย่างไมค่ วรเผยแพร่ให้บุคคลอน่ื รับรู้ เพราะอาจมีผู้ทไ่ี ม่หวงั ดีนำไปใช้ และสรา้ งความเสียหายให้แกเ่ รา เช่น เลขบตั รประจำตวั ประชาชน เบอร์โทรศัพท์ รหัสบัตร ATM เป็นต้น” 14. นกั เรยี นทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะ โดยให้นกั เรียนพิจารณาภาพ และสามารถบอกได้วา่ งส่งิ นัน้ จดั เปน็ ขอ้ มลู ประเภทใด พรอ้ มลงมอื ทำใบงานที่ 3.1.1 เรื่อง ประเภทของข้อมูล ข้ันท่ี 5 สรุปและประเมินคา่ ของคำตอบ 15. ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรียนซักถามขอ้ สงสยั และครใู ห้ความรเู้ พิ่มเตมิ ในสว่ นน้นั หรอื อาจจะให้ นกั เรียนศึกษาเพม่ิ เตมิ จากอนิ เทอร์เนต็ 16. จากนั้นครถู ามคำถามประจำหวั ขอ้ กับนักเรียนว่า“นกั เรียนคิดวา่ ข้อมลู ที่ดีควรมีลกั ษณะ อย่างไร” (แนวคำตอบ : นักเรียนตอบตามความคดิ เหน็ ของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอย่กู บั ดุลยพนิ ิจของครูผ้สู อน เชน่ ขอ้ มลู มีความ ถูกตอ้ ง ข้อมลู สามารถเชื่อถอื ได้ ข้อมูลมีความทนั สมัย เปน็ ต้น) ขัน้ ที่ 6 นำเสนอและประเมนิ ผลงาน 17. ครูประเมินผลนกั เรยี น จากการสงั เกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุดประจำตวั ของนกั เรียน 18. ครตู รวจสอบความถูกตอ้ ง ของผลงานการทำใบงานท่ี 3.1.1 และกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ Note วตั ถุประสงคข์ องกจิ กรรมเพอื่ ใหน้ กั เรียน - มที ักษะการสบื คน้ ขอ้ มูล โดยใหน้ ักเรียนสบื คน้ ข้อมูลจากทางอนิ เทอรเ์ นต็ เพ่อื สบื เสาะหาความรเู้ พ่มิ เติมภายใต้หัวขอ้ ที่ไดร้ ับมอบหมาย - มที กั ษะการสงั เกต โดยใหน้ กั เรียนสังเกตและศกึ ษาตัวอยา่ งสถานการณ์จากหนังสอื เรียน เพื่อเป็นแนวทางในการทำความเข้าใจ - มที ักษะการสำรวจ โดยใหน้ ักเรียนสำรวจข้อมลู ส่วนตัวของตนเอง และบนั ทกึ พรอ้ ม นำมาจัดทำประวตั ิสว่ นตัวพร้อมตกแตง่ ให้สวยงามผ่านโปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วริ ด์ โดยใช้ ทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยแี ละทักษะกระบวนการคิดอยา่ งสร้างสรรค์ - มที ักษะการทำงานรว่ มกนั โดยให้นกั เรียนใชก้ ระบวนการกลุ่มในการทำงาน เพอ่ื ให้ นกั เรยี นแลกเปล่ยี นขอ้ มลู และสื่อสารรว่ มกนั ผา่ นการคดิ วิเคราะห์และบนั ทึกข้อมูลทพี่ บ ภายในโรงเรยี น รวมถงึ การแยกขอ้ มูลตา่ ง ๆ ตามประเภทไดอ้ ย่างเหมาะสม
ข้ันสรปุ นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปเก่ียวกับขอ้ มลู ที่นิยมใช้ในชวี ิตประจำวนั ความหมายของข้อมูลและ ประเภทของข้อมลู ว่า“ข้อมลู เกดิ จากการสงั เกต การจดบนั ทกึ การสัมภาษณ์ การสอบถาม และข้อมูลที่อยู่รอบ ๆ ตัว สามารถแบง่ ออกได้เป็น 5 ประเภท ไดแ้ ก่ ขอ้ มูลตัวอักขระ , ข้อมูลภาพ ข้อมลู ตวั เลข , ขอ้ มูลเสยี ง และขอ้ มูลอน่ื ๆ” 12. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ 1. นกั เรียนอธบิ ายความหมาย 1. การตอบคำถามใน - แบบฝึกหดั แบบฝึกหัด สามารถตอบคำถามใน ของข้อมลู ได้ถกู ตอ้ ง (K) แบบฝึกหดั ได้ถกู ตอ้ ง ตามหลกั การ 80 % ขน้ึ 2. นักเรยี นบอกประเภทของ ไป ข้อมูลได้ถูกต้อง (K) 3. นักเรยี นยกตัวอยา่ งข้อมูลที่อยู่ รอบ ๆ ตวั ได้ (K) 4. นักเรียนจำแนกข้อมูลตาม 2. ตรวจแบบฝึกหดั - แบบประเมนิ สามารถตอบคำถามใน ประเภทของข้อมูลได้อยา่ ง แบบฝึกหัด ใบงานได้ 80 % ข้นึ ไป ถูกต้อง (P) 5. นกั เรียนเขียนขอ้ มลู ต่าง ๆ ที่ พบภายในโรงเรียนและใน ชีวติ ประจำวันได้ (P) 3. สังเกตพฤตกิ รรมใน - แบบประเมิน นกั เรยี นมีคุณลกั ษณะ 6. นกั เรยี นเปน็ ผ้ทู ่มี ีวนิ ัย ใฝ่ คณุ ลกั ษณะอันพงึ อนั พึงประสงค์ ได้ 80% เรียนรู้ และมุง่ ม่ันในการทำงาน การทำแบบฝึกหดั ประสงค์ ขน้ึ ไป (A) คุณธรรม จรยิ ธรรมทส่ี อดแทรก การตรงต่อเวลา เชน่ การเข้าชั้นเรยี น การสง่ การบ้าน และการปฏิบตั ิตามท่ี ได้รับมอบหมาย 13. หนังสอื / เอกสารอ้างองิ - หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ เรอื่ ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครูผู้สอน
การบันทกึ ผลหลังการสอน รหัสวิชา ว 15102 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ ระดับช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 สัปดาหท์ ่ี 17-18 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ข้อมูลสารสนเทศ จำนวน 10 ชว่ั โมง แผนการเรยี นรู้ที่ 7 เรอ่ื ง รูจ้ ักข้อมลู เวลา 2 ช่ัวโมง ครูผู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ การบนั ทกึ ผลหลงั การสอน 1. บนั ทกึ ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นักเรยี นอธบิ ายความหมายของขอ้ มลู ไดถ้ ูกต้อง (K) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ…….…ของจำนวน นกั เรียนท้งั หมด 1.2 นกั เรยี นอธบิ ายความหมายของข้อมลู ไมถ่ ูกต้อง (K) จำนวน….……คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวน นักเรียนทัง้ หมด 1.3 นักเรียนบอกประเภทของข้อมลู ไดถ้ กู ต้อง (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี น ทง้ั หมด 1.4 นกั เรยี นบอกประเภทของขอ้ มลู ไม่ถกู ต้อง (K) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี น ทัง้ หมด 1.5 นักเรียนยกตัวอยา่ งขอ้ มูลทอี่ ยู่รอบ ๆ ตวั ได้ (K) จำนวน….……คน คดิ เปน็ ร้อยละ…….…ของจำนวนนกั เรยี น ท้งั หมด 1.6 นกั เรยี นยกตัวอยา่ งข้อมูลท่อี ยู่รอบ ๆ ตัวไม่ได้ (K) จำนวน….……คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวนนักเรยี น ทง้ั หมด 2. บนั ทกึ ทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นักเรยี นจำแนกขอ้ มลู ตามประเภทของข้อมลู ได้อย่างถกู ต้อง (P) จำนวน……..คน คิดเป็นร้อยละ….……ของ จำนวนนักเรยี นทั้งหมด 2.2 นกั เรียนจำแนกขอ้ มูลตามประเภทของขอ้ มูลไม่ถกู ต้อง (P) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ……...ของจำนวน นกั เรยี นทั้งหมด 2.3 นักเรยี นเขียนขอ้ มูลตา่ ง ๆ ทีพ่ บภายในโรงเรียนและในชวี ิตประจำวนั ได้ (P) จำนวน….……คน คดิ เปน็ ร้อยละ……...ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด 2.4 นกั เรยี นเขียนขอ้ มูลตา่ ง ๆ ที่พบภายในโรงเรียนและในชีวติ ประจำวนั ไมไ่ ด้ (P) จำนวน….……คน คดิ เป็นรอ้ ย ละ……...ของจำนวนนกั เรยี นทั้งหมด 3. บนั ทึกคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นกั เรยี นเปน็ ผทู้ ม่ี ีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่นั ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเปน็ รอ้ ยละ….……ของ จำนวนนักเรยี นทง้ั หมด 3.2 นักเรียนไม่เป็นผู้ท่ีมีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ มัน่ ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คิดเปน็ ร้อยละ……...ของ จำนวนนกั เรียนทงั้ หมด
ปญั หาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงชือ่ .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผูส้ อน
แผนการจัดการเรยี นรู้ รหัสวชิ า ว 15102 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ สัปดาห์ที่ 19-20 ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 จำนวน 10 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่อื ง ข้อมูลสารสนเทศ เวลา 2 ชัว่ โมง แผนการเรียนรู้ที่ 8 เร่ือง ลกั ษณะของข้อมลู ที่ดี ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ 1. สาระ สาระที่ 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวติ จริงอย่างเป็นข้นั ตอนและเป็น ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รเู้ ท่าทันและมจี รยิ ธรรม 3. ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ ป.5/3 ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ คน้ หาข้อมูล ติดตอ่ ส่อื สารและทำงานรว่ มกัน ประเมินความนา่ เชื่อถอื ของข้อมูล ป.5/4 รวบรวม ประเมนิ นำเสนอขอ้ มูลและสารสนเทศตามวัตถปุ ระสงคโ์ ดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รือบริการบน อินเทอรเ์ น็ตทห่ี ลากหลาย เพ่อื แกป้ ัญหาในชวี ติ ประจำวัน 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรียนบอกลกั ษณะของข้อมลู ท่ดี ีได้ถกู ตอ้ ง (K) 2. นักเรียนอธิบายประโยชน์ท่ไี ด้รบั จากการนำขอ้ มลู มาใช้งานได้ (K) 3. นักเรียนสบื ค้นขอ้ มูลเกี่ยวกบั ลกั ษณะของขอ้ มูลทด่ี แี ละประโยชน์ท่ีไดจ้ ากการนำขอ้ มลู มาใชง้ าน (P) 4. นกั เรยี นเป็นผู้ทมี่ ีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A)
5. สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ด้านความรู้ ดา้ นทักษะ ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (K: Knowledge) กระบวนการ อนั พงึ ประสงค์ ตวั ชีว้ ัด (P: Process) (A: Attitude) ป.5/3 ใช้อนิ เทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล 1. นักเรยี นบอกลักษณะ 3. นกั เรยี นสืบคน้ 4. นกั เรียนเป็นผ้ทู ่ี ตดิ ตอ่ ส่ือสารและทำงานร่วมกนั ประเมนิ ความน่าเชือ่ ถอื ของข้อมูล ของขอ้ มูลท่ดี ีไดถ้ ูกตอ้ ง ขอ้ มูลเกีย่ วกับลกั ษณะ มีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ ป.5/4รวบรวม ประเมิน นำเสนอ ข้อมลู และสารสนเทศตาม 2. นักเรียนอธบิ าย ของข้อมูลที่ดแี ละ และมุ่งมนั่ ในการ วตั ถุประสงค์โดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื บริการบนอินเทอรเ์ น็ตท่ีหลากหลาย ประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจาก ประโยชนท์ ่ไี ด้จากการ ทำงาน เพ่อื แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั การนำข้อมูลมาใชง้ านได้ นำข้อมูลมาใชง้ าน 6. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดหนว่ ยการเรียนรู้ การคน้ หาข้อมลู เพอ่ื ทำการสง่ิ ใดสง่ิ หน่ึงจะต้องพิจารณาขอ้ มูลทดี่ ีท่ีสดุ ซ่งึ ขอ้ มลู ทีด่ ีควรมีความถกู ตอ้ งเชอ่ื ถือได้ มคี วามสมบูรณ์ครบถ้วน สามารถนำไปใชง้ านได้ ตรงตามความตอ้ งการของผ้ใู ช้ มคี วามทนั สมัย และ มคี วามสอดคล้อง กันของข้อมูล นอกจากนน้ั ข้อมูลต่าง ๆ ยงั สามารถนำมาใช้ประโยชนไ์ ด้อยา่ งหลากหลาย 7. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - มีวนิ ยั - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมน่ั ในการทำงาน 9. ส่อื และ แหลง่ การเรยี นรู้ สอ่ื - หนงั สอื เรียนรายวิชาพนื้ ฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่ือง ข้อมลู สารสนเทศ
- ใบงานท่ี 3.2.1 เรือ่ ง ลักษณะของข้อมลู ท่ีดี แหลง่ เรยี นรู้ - ห้องปฏิบตั กิ ารคอมพวิ เตอร์ 10. การจัดการเรียนรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดับ เรื่อง 2 1 ลักษณะของข้อมูลท่ดี ี 11. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ เรอื่ ง ลักษณะของข้อมลู ทด่ี ี จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นบอกลกั ษณะของข้อมูลทีด่ ีได้ถูกตอ้ ง (K) 2. นักเรยี นอธิบายประโยชนท์ ่ีไดร้ บั จากการนำข้อมูลมาใช้งานได้ (K) 3. นักเรียนสบื คน้ ขอ้ มูลเกี่ยวกับลกั ษณะของข้อมลู ท่ีดีและประโยชน์ที่ไดจ้ ากการนำขอ้ มลู มาใชง้ าน (P) 4. นักเรียนเป็นผทู้ มี่ ีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มั่นในการทำงาน (A) ชัว่ โมงท่ี 1 ขน้ั นำ ขนั้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูทบทวนความรูเ้ ดมิ ของนกั เรียนเก่ยี วกบั ความหมายและประเภทของข้อมลู พร้อมให้ นักเรยี นยกตวั อย่างข้อมลู ที่อยู่บริเวณบ้านของตนเอง 2. นกั เรยี นแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 5 คน หรอื ตามความเหมาะสม จากนน้ั ครเู ขียนประเภทของ ข้อมลู บนกระดานแบง่ เป็นคอลัมน์ของแต่ละประเภท และให้นกั เรียนทีเ่ ป็นตวั แทนของแตล่ ะกลุ่มออกมาเขียนส่งิ อยู่ บริเวณบ้านของตนเองบนกระดานหน้าชน้ั เรียน 3. นักเรยี นและครูร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมลู บนกระดานหน้าช้ันเรยี น 4. ครถู ามนกั เรยี นวา่ “นกั เรยี นคดิ วา่ ข้อมูลบนกระดานมคี วามสมบูรณ์หรอื ไม่ ถา้ ยงั ไม่ สมบรู ณ์และนำข้อมูลเหลา่ น้ไี ปใช้จะเกิดผลอย่างไร” (แนวคำตอบ : นกั เรียนตอบตามความคดิ เห็นของตนเอง โดยคำตอบขน้ึ อยกู่ ับดุลยพินจิ ของครูผ้สู อน เชน่ ขอ้ มลู เกิด ความผิดพลาด ขอ้ มลู ขาดความนา่ เชอื่ ถือ เปน็ ตน้ )
ขัน้ สอน ข้ันที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. นกั เรยี นศึกษาลักษณะของขอ้ มลู ท่ีดีจากหนงั สือเรียนรายวิชาพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรื่อง ข้อมูลสารสนเทศ หรือสืบค้นจากอินเทอร์เน็ต 2. ครสู ุม่ นักเรียน 2-3 คน ออกมาอภปิ รายหน้าชั้นเรียนเกย่ี วกบั ข้อมูลท่ีได้ดำเนนิ การศึกษา หน้าชน้ั เรยี น ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 3. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมกบั นักเรยี นเกี่ยวกับลกั ษณะของข้อมูลทีด่ ีวา่ “นอกเหนอื จากลักษณะ ของข้อมลู ทดี่ ีจะต้องมี 1) มีความถูกตอ้ งเช่ือถอื ได้ 2) มีความสมบูรณค์ รบถ้วน สามารถนำไปใช้งานได้ 3) ตรงตามความตอ้ งการของผใู้ ช้ 4) มคี วามทันสมยั 5) มคี วามสอดคลอ้ งกันของขอ้ มูล ข้อมลู ทด่ี ีจะต้องมคี วามกระชับ เขา้ ใจงา่ ย และสอ่ื ความหมายไดช้ ดั เจน” 4. นักเรยี นทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะในหนงั สอื เรียน โดยใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาขอ้ มลู ทีส่ ามารถ นำมาใชง้ านได้ และข้อมูลที่ไมส่ ามารถนำมาใชง้ านได้ 5. นักเรียนทำใบงานที่ 3.2.1 เรื่อง ลักษณะของขอ้ มลู ทดี่ ี โดยให้พิจารณาขอ้ ความท่ี กำหนดให้และทำเคร่ืองหมายถกู หนา้ ขอ้ ทสี่ ามารถนำมาใชง้ านได้ จากนั้นครสู มุ่ นักเรียน 2-3 ออกมานำเสนอ พรอ้ ม อภปิ รายร่วมกันภายในหอ้ งเรียน ชวั่ โมงท่ี 2 ขน้ั สอน ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 6. ครูทบทวนเน้ือหาการเรียนเมือ่ ชั่วโมงท่ีแล้ว 7. นักเรยี นศกึ ษาเนื้อหา เร่ือง ประโยชน์ของข้อมลู จากหนังสอื เรยี น หรอื สบื คน้ ข้อมูล เพม่ิ เติมจากอนิ เทอรเ์ นต็ ในเครือ่ งคอมพวิ เตอร์ของตนเอง จากนั้นสุ่มนักเรยี นออกมาอภปิ รายเนื้อหาหน้าช้ันเรียนโดย ครูคอยให้คำแนะนำเพ่มิ เตมิ 8. ครูอธิบายกับนักเรยี นเก่ียวกบั ประโยชน์ของข้อมลู ทสี่ ามารถนำมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้หลาย ด้านดงั นี้ “1) ด้านการตัดสินใจหรือแก้ไขปัญหา เช่น การเลือกซอ้ื ผกั การเลอื กเส้นทางการ เดนิ ทางท่ีเร็วที่สุด เปน็ ตน้ 2) ด้านการตดิ ต่อสอ่ื สาร เช่น การพดู คุย การแลกเปล่ยี นข้อมูลซ่ึงกันและกัน การดูการ์ตูน (เป็นการรบั ข้อมูลอยา่ งเดียว) การเล่นเกม (เปน็ การรับและส่งขอ้ มลู ) เป็นต้น
3) ด้านการเรียนหรอื การทำงาน เช่น การหาข้อมูลผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต เพ่ือนำมาพฒั นา ความรู้ของตนเอง เป็นต้น 4) ดา้ นการพฒั นาชมุ ชนและสงั คม เช่น จำนวนนักเรียนในห้องเรยี นท่ชี อบเลน่ เกม ซง่ึ ขอ้ มลู เหลา่ นจ้ี ะนำไปใชส้ ำหรบั การแก้ปญั หา นักเรียนชอบเล่นเกมต่อไปได้ เป็นตน้ ” ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 9. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน เพือ่ ทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะในหนังสือเรียน โดยให้นักเรียน พิจารณาและสื่อสาร แลกเปล่ียนความคิดเห็นร่วมกันเกยี่ วกบั ขอ้ มูลที่ไดจ้ ากภาพและครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมา นำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น Note วตั ถปุ ระสงค์ของกจิ กรรมเพ่อื ให้นกั เรยี น - มีทักษะการทำงานรว่ มกัน โดยใชก้ ระบวนการกล่มุ ในการทำงาน ทำกิจกรรม ภายในหอ้ งเรียน และเปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนได้ส่ือสารและและเปลย่ี นความคิดเหน็ ร่วมกัน อยา่ งเหมาะสม - มีทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ โดยใหน้ ักเรยี นพิจารณาเกีย่ วกบั ข้อมูลต่าง ๆ วา่ ขอ้ ใดเปน็ ขอ้ มูลท่ีสามารถนำมาใช้งานได้ และขอ้ มูลใดไมส่ ามารถนำมาใชง้ านได้ - มีทกั ษะการสืบคน้ ขอ้ มลู โดยให้นักเรยี นสบื ค้นข้อมลู จากอินเทอร์เน็ตในเครื่อง คอมพิวเตอร์ของตนเองตามหัวข้อที่นักเรยี นได้รบั มอบหมายเพอ่ื พฒั นาองค์ความรขู้ องตนเอง ขั้นสรปุ ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมินผลนกั เรยี น จากการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุดประจำตวั ของนักเรยี น 2. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทำใบงานและกิจกรรมฝกึ ทักษะ 3. นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรปุ เก่ียวกับลักษณะของขอ้ มูลทดี่ ีและขอ้ มลู ที่สามารถนำมาใช้ ประโยชนไ์ ดใ้ นดา้ นต่าง ๆ และในชีวติ ประจำวันประโยชน์ของข้อมูล 12. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ กี ารวัด เครื่องมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ 1. นกั เรยี นบอกลกั ษณะของ 1. การตอบคำถามใน - แบบฝึกหดั แบบฝึกหดั สามารถตอบคำถามใน ขอ้ มูลท่ีดไี ด้ถูกต้อง (K) แบบฝกึ หัดไดถ้ กู ต้อง ตามหลกั การ 80 % ขึ้น 2. นักเรียนอธบิ ายประโยชนท์ ี่ ไป ไดร้ ับจากการนำขอ้ มลู มาใชง้ าน ได้ (K)
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน - แบบประเมิน สามารถตอบคำถามใน 3. นกั เรยี นสบื ค้นขอ้ มลู เกี่ยวกับ 2. ตรวจแบบฝกึ หดั แบบฝึกหดั ใบงานได้ 80 % ข้นึ ไป ลักษณะของขอ้ มูลที่ดีและ ประโยชน์ทไี่ ด้จากการนำข้อมูล มาใชง้ าน (P) 4. นักเรยี นเป็นผู้ท่ีมวี นิ ยั ใฝ่ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมใน - แบบประเมนิ นักเรยี นมีคุณลักษณะ เรยี นรู้ และมุง่ มน่ั ในการทำงาน คุณลกั ษณะอนั พงึ อันพงึ ประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝึกหัด ประสงค์ ขึน้ ไป คณุ ธรรม จรยิ ธรรมทส่ี อดแทรก การตรงต่อเวลา เชน่ การเขา้ ชัน้ เรียน การสง่ การบ้าน และการปฏิบัตติ ามที่ ได้รบั มอบหมาย 13. หนังสือ / เอกสารอา้ งอิง - หนังสอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เรือ่ ง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 ลงช่ือ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผู้สอน
การบันทกึ ผลหลังการสอน รหสั วชิ า ว 15102 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 สปั ดาหท์ ่ี 19-20 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง ขอ้ มลู สารสนเทศ จำนวน 10 ชัว่ โมง แผนการเรยี นรทู้ ี่ 8 เรอื่ ง ลกั ษณะของข้อมลู ท่ดี ี เวลา 2 ชว่ั โมง ครูผูส้ อน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ การบนั ทกึ ผลหลังการสอน 1. บนั ทกึ ผลการเรยี นรู้ตามจุดประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นกั เรยี นบอกลักษณะของขอ้ มูลที่ดไี ด้ถกู ต้อง (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวนนักเรยี น ท้ังหมด 1.2 นักเรียนบอกลกั ษณะของขอ้ มลู ที่ดีไม่ถูกต้อง (K) จำนวน….……คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวนนกั เรียน ทง้ั หมด 1.3 นกั เรียนอธิบายประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับจากการนำขอ้ มูลมาใช้งานได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…….…ของ จำนวนนักเรียนทัง้ หมด 1.4 นกั เรยี นอธิบายประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจากการนำขอ้ มลู มาใช้งานไม่ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นรอ้ ยละ…….… ของจำนวนนักเรียนทง้ั หมด 2. บันทกึ ทักษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรียนสืบค้นข้อมูลเกีย่ วกับลักษณะของข้อมูลที่ดแี ละประโยชน์ท่ีได้จากการนำข้อมลู มาใชง้ าน (P) จำนวน……..คน คดิ เปน็ ร้อยละ….……ของจำนวนนกั เรยี นทง้ั หมด 2.2 นกั เรียนสบื ค้นข้อมูลเกยี่ วกับลกั ษณะของข้อมลู ทด่ี ีและประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากการนำขอ้ มลู มาใช้งานไมไ่ ด้ (P) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ……...ของจำนวนนักเรยี นทงั้ หมด 3. บนั ทกึ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นักเรียนเปน็ ผู้ท่มี ีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมนั่ ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเปน็ ร้อยละ….……ของ จำนวนนักเรียนทง้ั หมด 3.2 นกั เรียนไม่เปน็ ผู้ทม่ี วี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คดิ เป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนกั เรียนทัง้ หมด
ปัญหาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ัญหา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผู้สอน
แผนการจดั การเรยี นรู้ รหสั วชิ า ว 15102 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาการคำนวณ สัปดาห์ท่ี 22 ระดับช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5 จำนวน 10 ชัว่ โมง หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรื่อง ขอ้ มูลสารสนเทศ เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการเรียนรู้ที่ 9 เรื่อง แหลง่ ข้อมลู ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ 1. สาระ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาทีพ่ บในชวี ติ จรงิ อย่างเปน็ ขัน้ ตอนและเป็น ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมีจรยิ ธรรม 3. ตวั ชี้วัด / ผลการเรยี นรู้ ป.5/3 ใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ค้นหาขอ้ มลู ติดตอ่ ส่อื สารและทำงานร่วมกัน ประเมินความนา่ เชอ่ื ถือของข้อมูล ป.5/4 รวบรวม ประเมนิ นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศตามวัตถุประสงคโ์ ดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรอื บรกิ ารบน อนิ เทอรเ์ น็ตที่หลากหลาย เพอื่ แกป้ ญั หาในชีวติ ประจำวัน 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรียนอธบิ ายประเภทของแหล่งข้อมูลไดถ้ ูกต้อง (K) 2. นักเรียนจำแนกขอ้ มลู ตามแหลง่ ข้อมลู ได้อย่างถูกต้อง (K) 3. นักเรยี นสบื ค้นข้อมูลเกีย่ วกับแหลง่ ขอ้ มลู จากทางอนิ เทอร์เน็ตได้ (P) 4. นักเรียนเปน็ ผู้ท่ีมีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน (A)
5. สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ดา้ นความรู้ ดา้ นทกั ษะ ดา้ นคุณลกั ษณะ (K: Knowledge) กระบวนการ อันพึงประสงค์ ตัวช้วี ัด (P: Process) (A: Attitude) 4. นกั เรยี นเปน็ ผ้ทู ี่ ป.5/3 ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ค้นหาขอ้ มลู 1. นกั เรียนอธบิ าย 3. นักเรยี นสบื ค้น มีวินัย ใฝเ่ รยี นรู้ ตดิ ตอ่ สอ่ื สารและทำงานร่วมกัน และม่งุ ม่นั ในการ ประเมนิ ความนา่ เช่ือถอื ของขอ้ มลู ประเภทของแหล่งข้อมลู ข้อมลู เกยี่ วกับ ทำงาน ป.5/4รวบรวม ประเมิน นำเสนอ ขอ้ มลู และสารสนเทศตาม ได้ถกู ต้อง แหลง่ ข้อมลู จากทาง วตั ถปุ ระสงคโ์ ดยใชซ้ อฟตแ์ วรห์ รือ บรกิ ารบนอนิ เทอร์เน็ตท่ีหลากหลาย 2. นักเรียนจำแนกขอ้ มูล อินเทอร์เน็ตได้ เพ่ือแกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวนั ตามแหล่งข้อมูลได้อย่าง ถูกต้อง 6. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอดหนว่ ยการเรียนรู้ แหล่งขอ้ มลู ถอื วา่ เป็นต้นกำเนดิ ของขอ้ มลู ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเปน็ หนังสอื อนิ เทอร์เน็ต บคุ คล และสถานทต่ี ่าง ๆ ท่ี สามารถให้ข้อมลู ไดไ้ ม่วา่ จะเป็นพพิ ิธภณั ฑห์ รือแหล่งท่องเท่ยี ว โดยแหล่งขอ้ มลู สามารถ แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 2 ประเภท คือ แหล่งขอ้ มูลปฐมภูมแิ ละแหลง่ ข้อมูลทุติยภมู ิ 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ - มวี ินยั - ใฝ่เรยี นรู้ - มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 9. ส่อื และ แหลง่ การเรยี นรู้ สื่อ - หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง ขอ้ มลู สารสนเทศ - ใบงานที่ 3.3.1 เรื่อง แหลง่ ขอ้ มลู
แหลง่ เรียนรู้ - ห้องปฏิบัตกิ ารคอมพิวเตอร์ 10. การจัดการเรียนรู้ เรอ่ื ง จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดบั 2 1 แหล่งข้อมลู 11. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง แหล่งขอ้ มูล จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนอธบิ ายประเภทของแหล่งข้อมูลไดถ้ กู ต้อง (K) 2. นักเรียนจำแนกข้อมลู ตามแหลง่ ข้อมลู ได้อยา่ งถูกตอ้ ง (K) 3. นักเรยี นสืบคน้ ขอ้ มลู เก่ียวกับแหล่งข้อมลู จากทางอินเทอร์เน็ตได้ (P) 4. นกั เรียนเปน็ ผ้ทู มี่ ีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมัน่ ในการทำงาน (A) ช่ัวโมงท่ี 1 ขั้นนำ ขนั้ ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 1. ครทู บทวนความรเู้ ดิมของนักเรียนเก่ยี วกับลักษณะของข้อมูลทด่ี ี และประโยชนข์ องการ นำข้อมูลไปใช้ 2. ครถู ามคำถามกระตุ้นความสนใจของนกั เรยี นวา่ “ถ้าต้องการขอ้ มูลต่าง ๆ มาจัดทำรายงาน จะสามารถสืบคน้ ขอ้ มลู จากท่ีใดไดบ้ ้าง” (แนวคำตอบ : นักเรียนแสดงความคิดเหน็ ตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบขนึ้ อย่กู ับดุลยพินิจของครูผู้สอน เชน่ หนงั สอื อินเทอร์เน็ต หอ้ งสมุด เปน็ ต้น) ขน้ั สอน ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. นักเรียนแตล่ ะคนสบื ค้นความหมายของแหลง่ ข้อมลู จากอินเทอร์เนต็ ทเ่ี ครื่องคอมพวิ เตอร์ ของตนเอง 2. ครสู มุ่ นักเรียน 2-3 คน มานำเสนอหน้าช้ันเรยี น พรอ้ มกับอภิปรายรว่ มกนั ในห้องเรียน 3. นกั เรียนศกึ ษาเน้อื หาเกีย่ วกบั ประเภทของแหล่งขอ้ มูลจากหนังสือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่ือง ขอ้ มูลสารสนเทศ และสงั เกตสถานการณ์ตวั อยา่ ง การหาขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูลปฐมภมู ิและแหลง่ ขอ้ มูลทุติยภูมิ
ขน้ั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 4. ครสู มุ่ นกั เรยี น 2-3 คน ออกมาอภปิ รายหนา้ ช้ันเรียนเกยี่ วกบั ความแตกตา่ งของ แหลง่ ข้อมูลปฐมภูมแิ ละแหลง่ ขอ้ มูลทุตยิ ภูมิ 5. ครอู ธบิ ายเกย่ี วกบั ประเภทของแหล่งขอ้ มูลแบ่งเปน็ 2 ประเภทเพือ่ ใหน้ กั เรยี นเข้าใจมาก ย่งิ ขึ้นว่า“แหลง่ ข้อมูลสามารถแบง่ ออกเป็น 2 ประเภทซ่ึงมีความแตกต่างกนั ดงั น้ี 1) แหล่งขอ้ มลู ปฐมภูมิ เปน็ แหลง่ ข้อมูลทใ่ี ห้ข้อมลู โดยตรงกบั ผ้รู ับข้อมูล ซง่ึ พบได้ จากการไดย้ ิน การเหน็ การได้กล่ิน เปน็ ต้น 2) แหล่งขอ้ มลู ทตุ ิยภูมิ เปน็ แหลง่ ข้อมูลท่ไี ด้จากการนำขอ้ มูลที่ผ้อู นื่ รวบรวมไว้มาใช้ เชน่ จำนวนนักเรียนแตล่ ะหอ้ ง อณุ หภูมแิ ตล่ ะวนั เปน็ ต้น แต่การหาขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มลู ทตุ ยภูมิ ทำให้สะดวกสบาย และประหยัดคา่ ใชจ้ ่ายสำหรบั การเดนิ ทางไปหาข้อมลู แตม่ ขี อ้ ระวัง คือ ข้อมูลบางสว่ นอาจคลาดเคลือ่ นหรอื เป็นข้อมลู ทลี่ า้ สมยั ขาดความครบถ้วนสมบูรณ์และความนา่ เชื่อถอื ” 6. ครูชีแ้ จงกับนกั เรียนวา่ “คำที่มกั จะมีคนอา่ นผิดอยเู่ สมอ ได้แกค่ ำว่า ปฐมภมู ิ ดงั นัน้ การ อา่ นท่ถี ูกตอ้ ง จะต้องอ่านว่า ปะ-ถม-มะ-พูม” 7. นกั เรยี นทำกิจกรรมฝกึ ทักษะ โดยใหน้ กั เรยี นพิจารณาภาพทกี่ ำหนดให้ และบอกไดว้ า่ เปน็ แหลง่ ขอ้ มลู ประเภทใด จากน้นั บนั ทกึ ลงในสมุดประจำตัว 8. ครูสุ่มนกั เรยี น 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชัน้ เรยี น พรอ้ มกบั อภปิ รายรว่ มกนั ใน ห้องเรียน ขนั้ ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration) 9. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 3.3.1 เรื่อง แหลง่ ขอ้ มลู Note วตั ถุประสงคข์ องกิจกรรมเพอ่ื ให้นักเรยี น - มีทกั ษะการสืบค้นข้อมลู โดยให้นกั เรียนสืบคน้ ข้อมูลจากทางอนิ เทอรเ์ น็ต เพือ่ สบื เสาะหาความรูเ้ พ่มิ เตมิ ภายใต้หัวข้อทีไ่ ด้รบั มอบหมาย - มีทกั ษะการสงั เกต โดยใหน้ ักเรยี นสังเกตสถานการณต์ วั อยา่ งการหาขอ้ มูลจาก แหล่งขอ้ มลู ปฐมภมู ิและแหล่งข้อมลู ทุตยิ ภมู ใิ นหนังสือเรียน - มีทักษะการคิดวเิ คราะห์ โดยใหน้ ักเรียนพจิ ารณาภาพที่กำหนดให้และบอกไดว้ ่า ข้อมูลน้นั เป็นแหลง่ ข้อมูลประเภทใด
ข้นั สรปุ ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมนิ ผลนกั เรยี น จากการสงั เกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมดุ ประจำตวั ของนกั เรียน 2. ครูตรวจสอบผลการทำใบงานที่ 3.3.1 และกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ 3. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ เก่ียวกบั ข้อมลู และแหลง่ ขอ้ มูลต่าง ๆ ที่พบได้ในชีวติ ประจำวนั ไม่ว่าจะเป็นแหล่งขอ้ มูลปฐมภมู ิหรอื แหลง่ ขอ้ มลู ทุติยภูมิ 12. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการวดั เครอ่ื งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ 1. นักเรยี นอธบิ ายประเภทของ 1. การตอบคำถามใน - แบบฝกึ หัด แบบฝึกหดั สามารถตอบคำถามใน แหล่งข้อมูลได้ถกู ต้อง (K) แบบฝกึ หัดได้ถูกตอ้ ง ตามหลกั การ 80 % ข้ึน 2. นกั เรียนจำแนกข้อมูลตาม ไป แหล่งขอ้ มลู ได้อย่างถกู ตอ้ ง (K) 3. นกั เรียนสบื คน้ ข้อมลู เกยี่ วกบั 2. ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบประเมิน สามารถตอบคำถามใน ใบงานได้ 80 % ขน้ึ ไป แหลง่ ข้อมูลจากทางอนิ เทอรเ์ นต็ แบบฝกึ หดั ได้ (P) 4. นกั เรยี นเปน็ ผทู้ ี่มีวนิ ัย ใฝ่ 3. สงั เกตพฤติกรรมใน - แบบประเมนิ นกั เรียนมีคณุ ลกั ษณะ เรยี นรู้ และมุง่ มน่ั ในการทำงาน คณุ ลักษณะอันพึง อันพงึ ประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝกึ หัด ประสงค์ ข้ึนไป คุณธรรม จริยธรรมที่สอดแทรก การตรงต่อเวลา เช่น การเข้าชั้นเรียน การสง่ การบ้าน และการปฏิบัติตามที่ ได้รบั มอบหมาย 13. หนงั สือ / เอกสารอา้ งองิ - หนังสือเรียนรายวิชาพ้นื ฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ เรื่อง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ลงชือ่ .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครผู ู้สอน
การบันทกึ ผลหลงั การสอน รหัสวชิ า ว 15102 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 สปั ดาหท์ ี่ 22 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง ขอ้ มูลสารสนเทศ จำนวน 10 ช่วั โมง แผนการเรียนรู้ท่ี 9 เรือ่ ง แหล่งข้อมลู เวลา 1 ชว่ั โมง ครผู สู้ อน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ การบนั ทกึ ผลหลังการสอน 1. บนั ทึกผลการเรียนรตู้ ามจดุ ประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นกั เรียนอธิบายประเภทของแหลง่ ขอ้ มลู ได้ถูกต้อง (K) จำนวน….……คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวน นักเรยี นทงั้ หมด 1.2 นักเรียนอธิบายประเภทของแหล่งขอ้ มูลไม่ถกู ตอ้ ง (K) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ…….…ของจำนวน นกั เรยี นทง้ั หมด 1.3 นกั เรียนจำแนกขอ้ มลู ตามแหลง่ ขอ้ มูลได้อยา่ งถกู ตอ้ ง (K) จำนวน….……คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวน นักเรยี นทั้งหมด 1.4 นักเรยี นจำแนกข้อมลู ตามแหลง่ ข้อมูลไม่ถกู ตอ้ ง (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวน นักเรียนทัง้ หมด 2. บนั ทกึ ทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นักเรยี นสืบคน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกับแหลง่ ขอ้ มูลจากทางอนิ เทอรเ์ น็ตได้ (P) จำนวน……..คน คิดเป็นรอ้ ยละ….…… ของจำนวนนกั เรียนทัง้ หมด 2.2 นกั เรยี นสบื ค้นขอ้ มลู เกี่ยวกับแหลง่ ขอ้ มูลจากทางอินเทอรเ์ น็ตไม่ได้ (P) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อย ละ……...ของจำนวนนักเรียนทงั้ หมด 3. บนั ทึกคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นักเรียนเปน็ ผทู้ ีม่ ีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเป็นรอ้ ยละ….……ของ จำนวนนกั เรยี นทงั้ หมด 3.2 นักเรยี นไม่เป็นผู้ท่มี วี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คดิ เป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนักเรยี นทั้งหมด
ปัญหาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ัญหา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงชอ่ื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผู้สอน
แผนการจดั การเรยี นรู้ รหัสวชิ า ว 15102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ สัปดาห์ที่ 23 ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 จำนวน 10 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง ข้อมลู สารสนเทศ เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการเรยี นรู้ที่ 10 เรื่อง การรวบรวมขอ้ มลู ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ 1. สาระ สาระที่ 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ญั หาทพี่ บในชีวิตจริงอย่างเปน็ ขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจริยธรรม 3. ตวั ชี้วัด / ผลการเรียนรู้ ป.5/3 ใช้อินเทอรเ์ นต็ ค้นหาข้อมูล ตดิ ตอ่ สือ่ สารและทำงานรว่ มกัน ประเมินความนา่ เชอื่ ถอื ของขอ้ มลู ป.5/4 รวบรวม ประเมนิ นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศตามวตั ถุประสงคโ์ ดยใช้ซอฟต์แวรห์ รือบรกิ ารบน อินเทอรเ์ นต็ ทหี่ ลากหลาย เพอ่ื แก้ปัญหาในชวี ิตประจำวนั 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรียนอธบิ ายข้นั ตอนการรวบรวมข้อมลู ไดถ้ กู ตอ้ ง (K) 2. นกั เรียนบอกวิธีการรวบรวมข้อมูลได้ (K) 3. นักเรยี นเขยี นการวางแผนรวบรวมขอ้ มูลตามข้ันตอนตา่ ง ๆ ได้ (P) 4. นักเรยี นเปน็ ผู้ทีม่ วี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน (A)
5. สาระการเรยี นร้แู กนกลาง ตวั ชีว้ ัด ดา้ นความรู้ ดา้ นทกั ษะ ดา้ นคุณลกั ษณะ (K: Knowledge) กระบวนการ อันพึงประสงค์ (P: Process) (A: Attitude) ป.5/3 ใช้อินเทอรเ์ น็ตคน้ หาขอ้ มลู 1. นกั เรียนอธิบาย 3. นกั เรียนเขยี นการ 4. นักเรียนเป็นผูท้ ี่ ติดต่อส่ือสารและทำงานร่วมกัน ขนั้ ตอนการรวบรวม วางแผนรวบรวม มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ ประเมินความนา่ เชื่อถือของขอ้ มลู ขอ้ มูลไดถ้ ูกตอ้ ง ข้อมูลตามข้ันตอนตา่ ง และมุ่งมัน่ ในการ ป.5/4รวบรวม ประเมิน นำเสนอ 2. นกั เรยี นบอกวธิ กี าร ๆ ได้ ทำงาน ข้อมลู และสารสนเทศตาม รวบรวมขอ้ มูลได้ วัตถปุ ระสงค์โดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รอื บรกิ ารบนอนิ เทอร์เนต็ ที่หลากหลาย เพือ่ แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั 6. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดหน่วยการเรียนรู้ การรวบรวมข้อมลู เปน็ การดำเนินการดว้ ยวธิ ตี ่าง ๆ เพอ่ื ใหไ้ ด้ข้อมลู ซึง่ ขัน้ ตอนในการรวบรวมข้อมูลนน้ั จะ ประกอบด้วย 5 ขน้ั ตอน คอื กำหนดวัตถุประสงคแ์ ละความต้องการของสงิ่ ทสี่ นใจ วางแผน และพิจารณาเลือก แหล่งข้อมลู กำหนดวธิ กี ารรวบรวมข้อมลู ค้นหาและรวบรวมข้อมลู และสรุปผลข้อมูล ส่วนวธิ ีการในการรวบรวมข้อมลู แบ่งเปน็ 4 วิธี คือ การสังเกต สำรวจและจดบนั ทึก การสอบถาม หรือ การสัมภาษณ์ การสำรวจโดยใช้แบบสอบถาม และการรวบรวมข้อมลู จากเอกสาร 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ - มวี ินยั - ใฝ่เรียนรู้ - มุง่ มัน่ ในการทำงาน
9. ส่อื และ แหล่งการเรียนรู้ ส่ือ - หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง ข้อมูลสารสนเทศ - ใบงานที่ 3.4.1 เร่อื ง การรวบรวมขอ้ มูล แหลง่ เรยี นรู้ - หอ้ งปฏบิ ตั ิการคอมพิวเตอร์ 10. การจัดการเรียนรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดบั เรอื่ ง 2 1 การรวบรวมขอ้ มลู 11. กระบวนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การรวบรวมขอ้ มูล จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นกั เรยี นอธิบายขัน้ ตอนการรวบรวมข้อมลู ได้ถกู ตอ้ ง (K) 2. นักเรียนบอกวิธกี ารรวบรวมข้อมลู ได้ (K) 3. นกั เรยี นเขียนการวางแผนรวบรวมขอ้ มลู ตามข้ันตอนตา่ ง ๆ ได้ (P) 4. นักเรยี นเป็นผู้ท่มี ีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A) ชว่ั โมงที่ 1 ขน้ั นำ ขัน้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูทบทวนความรู้เดมิ เกี่ยวกับแหล่งข้อมูล พรอ้ มกบั ให้นกั เรียนยกตัวอย่างของแหล่งข้อมลู แตล่ ะประเภท 2. นกั เรียนออกมาเขียนแหลง่ ข้อมลู บนกระดานคนละ 1 ตวั อย่าง ระหวา่ งแหลง่ ขอ้ มูลปฐม ภมู ิ และแหลง่ ข้อมูลทุตยิ ภูมิ พร้อมอภิปรายกบั เพอ่ื นร่วมช้ันทหี่ นา้ ชน้ั เรยี น 3. ครูถามนักเรียนว่า“ขอ้ มูลท่นี ักเรยี นแตล่ ะคนมานำเสนอหน้าช้ันเรียนนนั้ นักเรียนไดม้ า ดว้ ยวธิ ีใด” (แนวคำตอบ : นกั เรียนตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบข้ึนอยู่กับดุลยพินจิ ของครผู ้สู อน เชน่ การสงั เกต จากการมองเห็น การได้ยิน การจดบันทึก เป็นต้น) 4. ครูถามคำถามประจำหวั ข้อกบั นักเรียนวา่ “ถา้ นกั เรียนตอ้ งการทำรายงานนักเรียนจะมี วธิ กี ารรวบรวมข้อมูลอย่างไร”
(แนวคำตอบ : นกั เรยี นตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบขนึ้ อยู่กบั ดุลยพนิ จิ ของครูผูส้ อน เช่น การสืบค้น จากอนิ เทอรเ์ นต็ การสอบถามผูร้ ู้ การสังเกต การสำรวจ และการจดบนั ทกึ เปน็ ตน้ ) ข้ันสอน ข้นั ท่ี 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. นกั เรยี นสืบคน้ ความหมายของการรวบรวมขอ้ มูลจากอินเทอรเ์ น็ตท่ีเครื่องคอมพิวเตอร์ ของตนเอง 2. ครสู ุ่มนกั เรยี น 2-3 คน มานำเสนอหนา้ ช้ันเรียน พร้อมกบั อภปิ รายร่วมกันในห้องเรียน 3. นกั เรยี นศกึ ษาการรวบรวมข้อมูลจากหนังสอื เรยี นรายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 เรื่อง ข้อมูลสารสนเทศ หรอื สบื คน้ เพม่ิ เติมเพ่อื ขยายความเข้าใจจาก ทางอินเทอรเ์ นต็ ขัน้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 4. ครอู ธบิ ายถงึ ขั้นตอนการรวบรวมขอ้ มูลวา่ ประกอบด้วย 5 ข้นั ตอน ดงั นี้ 1) กำหนดวัตถปุ ระสงคแ์ ละความต้องการของสง่ิ ท่ีสนใจ 2) วางแผนและพจิ ารณาเลือกแหลง่ ข้อมูล 3) กำหนดวิธกี ารรวบรวมขอ้ มลู 4) ค้นหาและรวบรวมข้อมลู 5) สรปุ ผลข้อมูล 5. นักเรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 3-4 คนหรือตามความเหมาะสม เพ่อื รวบรวมข้อมูลในประเดน็ ทีน่ กั เรยี นสนใจตามขัน้ ตอนการรวบรวมขอ้ มลู ท้งั 5 ขน้ั ตอน และบันทกึ ลงในใบงานท่ี 3.4.1 เร่อื ง การรวบรวมข้อมลู 6. ครอู ธบิ ายวิธกี ารรวบรวมข้อมลู ซ่งึ มที ั้งหมด 4 วิธี ดังน้ี 1) การสงั เกต สำรวจ และจดบันทกึ 2) การสอบถาม หรือสัมภาษณ์ผู้ท่ีเก่ียวข้อง 3) การสำรวจ โดยการใช้แบบสอบถาม แบบทดสอบ 4) การรวบรวมข้อมลู จากเอกสาร หรอื ขอ้ มลู ทผี่ ูอ้ ื่นรวบรวมไวแ้ ลว้ 7. ครูอธิบายเก่ยี วกบั การรวบรวมข้อมลู เพ่มิ เตมิ ว่า“วธิ ีการรวบรวมขอ้ มูล จดั เปน็ ข้นั ตอนหนง่ึ ของการดำเนนิ งานท่เี กีย่ วกบั การศกึ ษาสิ่งใดสิ่งหนึง่ เพ่อื ใหบ้ รรลวุ ตั ถุประสงคท์ ี่ตง้ั ไว้ ดังน้นั ก่อนการรวบรวมขอ้ มูล ผทู้ ่ี ทำการรวบรวมขอ้ มลู จึงตอ้ งทราบถึงวัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ เพือ่ ให้ได้ขอ้ มลู ที่ถูกต้อง ชัดเจน ตรงประเดน็ และใชเ้ วลาไดน้ ้อยลง” 8. ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นทำกจิ กรรมกลุม่ อยา่ งอสิ ระ และให้แต่ละกลุม่ สง่ ตวั แทนออกมา นำเสนอหน้าชั้นเรยี น 9. ครถู ามคำถามทา้ ทายการคิดข้นั สงู วา่ “ในการรวบรวมขอ้ มูล ถา้ ขาดขน้ั ตอนการวางแผน และพิจารณาเลือกแหลง่ ขอ้ มูลจะส่งผลอย่างไรบ้าง”
(แนวคำตอบ : นกั เรยี นตอบตามประสบการณ์ของตนเอง โดยคำตอบขน้ึ อยู่กบั ดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน เช่น จะสง่ ผลให้ แหลง่ ขอ้ มูลทไ่ี ดม้ านั้นขาดความนา่ เช่ือถอื เป็นตน้ ) ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 10. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในหนังสอื เรยี น 11. ใหน้ ักเรยี นแต่ละออกมานำเสนอแนวทางการรวบรวมขอ้ มูลเพื่อจดั ทำแบบสำรวจ ความคดิ เห็นหนา้ ชน้ั เรยี น เพื่อสำรวจความคิดเห็นของนักเรียนภายในโรงเรยี นเกย่ี วกบั กีฬาที่ช่ืนชอบ จากนั้นให้ นกั เรยี นแต่ละกลุ่มกลบั ไปทำเป็นการบ้านและนำมาสง่ ในชัว่ โมงถัดไป Note วัตถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรมเพื่อใหน้ กั เรียน - มีทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มลู โดยให้นกั เรียนสบื คน้ ข้อมลู จากทางอินเทอร์เน็ต เพ่อื สบื เสาะหาความรเู้ พิม่ เติม ภายใต้หัวข้อท่ีได้รับมอบหมาย - มีทักษะการทำงานรว่ มกนั โดยใช้กระบวนการกลุ่มในการทำงาน เพื่อเปดิ โอกาส ใหน้ กั เรียนได้ส่ือสาร และแลกเปลี่ยนขอ้ มูลรว่ มกันขณะทำงานกล่มุ - มีทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ ในการรวบรวมขอ้ มลู ตามขั้นตอนการเลอื กใช้ข้อมูล ได้อย่างเหมาะสม ประจำตวั ขน้ั สรปุ ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครปู ระเมินผลงานของนกั เรยี น จากการสงั เกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุด 2. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทำใบงานและกิจกรรมฝึกทักษะ 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรปุ เก่ียวกับขั้นตอนการรวบรวมขอ้ มลู 12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธกี ารวัด เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนอธิบายขัน้ ตอนการ 1. การตอบคำถามใน - แบบฝกึ หดั สามารถตอบคำถามใน แบบฝกึ หดั แบบฝกึ หัดได้ถกู ต้อง รวบรวมขอ้ มูลได้ถูกต้อง (K) - แบบประเมิน ตามหลกั การ 80 % ขึ้น แบบฝึกหดั ไป 2. นกั เรยี นบอกวธิ กี ารรวบรวม สามารถตอบคำถามใน ข้อมูลได้ (K) ใบงานได้ 80 % ขึ้นไป 3. นกั เรียนเขียนการวางแผน 2. ตรวจแบบฝึกหดั รวบรวมข้อมูลตามขนั้ ตอนต่าง ๆ ได้ (P)
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการวัด เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมิน 4. นกั เรียนเปน็ ผู้ท่ีมีวนิ ยั ใฝ่ 3. สังเกตพฤติกรรมใน - แบบประเมิน นักเรียนมคี ุณลกั ษณะ การทำแบบฝกึ หัด คุณลักษณะอันพึง เรยี นรู้ และมุง่ มน่ั ในการทำงาน ประสงค์ อนั พึงประสงค์ ได้ 80% (A) ข้ึนไป คุณธรรม จริยธรรมทส่ี อดแทรก การตรงตอ่ เวลา เช่น การเข้าชนั้ เรียน การสง่ การบา้ น และการปฏิบัติตามท่ี ได้รบั มอบหมาย 13. หนังสอื / เอกสารอา้ งองิ - หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ เรื่อง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5 ลงช่อื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผู้สอน
การบันทึกผลหลงั การสอน รหัสวิชา ว 15102 กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วทิ ยาการคำนวณ ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 สปั ดาหท์ ่ี 23 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง ข้อมูลสารสนเทศ จำนวน 10 ชวั่ โมง แผนการเรียนรทู้ ่ี 10 เรอื่ ง การรวบรวมขอ้ มูล เวลา 1 ชว่ั โมง ครผู สู้ อน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ การบนั ทึกผลหลังการสอน 1. บันทึกผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นกั เรียนอธิบายขั้นตอนการรวบรวมขอ้ มลู ได้ถูกตอ้ ง (K) จำนวน….……คน คดิ เป็นร้อยละ…….…ของจำนวน นกั เรยี นทง้ั หมด 1.2 นักเรียนอธิบายขั้นตอนการรวบรวมขอ้ มลู ไม่ถกู ตอ้ ง (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ…….…ของจำนวน นักเรียนทั้งหมด 1.3 นักเรียนบอกวธิ ีการรวบรวมขอ้ มลู ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ…….…ของจำนวนนักเรยี นทั้งหมด 1.4 นกั เรียนบอกวิธีการรวบรวมข้อมลู ไมไ่ ด้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…….…ของจำนวนนักเรยี น ทง้ั หมด 2. บันทึกทักษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรยี นเขยี นการวางแผนรวบรวมขอ้ มลู ตามขัน้ ตอนต่าง ๆ ได้ (P) จำนวน……..คน คิดเป็นรอ้ ยละ….……ของ จำนวนนักเรยี นทงั้ หมด 2.2 นกั เรยี นเขยี นการวางแผนรวบรวมข้อมลู ตามขัน้ ตอนต่าง ๆ ไม่ได้ (P) จำนวน….……คน คิดเปน็ ร้อยละ……... ของจำนวนนักเรียนท้ังหมด 3. บนั ทกึ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นักเรียนเปน็ ผู้ที่มีวินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุง่ มั่นในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเป็นรอ้ ยละ….……ของ จำนวนนกั เรียนทั้งหมด 3.2 นักเรยี นไม่เปน็ ผ้ทู ี่มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คิดเป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนักเรยี นทงั้ หมด
ปญั หาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงช่อื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู สู้ อน
แผนการจัดการเรยี นรู้ รหสั วชิ า ว 15102 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวิชา วิทยาการคำนวณ สัปดาห์ท่ี 24-25 ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 จำนวน 10 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรอื่ ง ขอ้ มูลสารสนเทศ เวลา 2 ช่ัวโมง แผนการเรยี นรู้ท่ี 11 เรื่อง การประมวลผลขอ้ มูล ครผู ู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ 1. สาระ สาระที่ 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่พี บในชีวติ จรงิ อย่างเป็นขัน้ ตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทันและมจี ริยธรรม 3. ตัวชี้วัด / ผลการเรียนรู้ ป.5/3 ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ค้นหาขอ้ มลู ตดิ ตอ่ ส่อื สารและทำงานร่วมกัน ประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถอื ของขอ้ มูล ป.5/4 รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมลู และสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟตแ์ วรห์ รือบริการบน อนิ เทอรเ์ น็ตทีห่ ลากหลาย เพอ่ื แก้ปัญหาในชีวติ ประจำวนั 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นอธิบายความหมายของการประมวลผลข้อมลู ได้ (K) 2. นกั เรียนบอกวิธกี ารประมวลผลข้อมูลได้อยา่ งถูกต้อง (K) 3. นักเรียนสรา้ งทางเลือกในการประมวลผลข้อมูลได้ (P) 4. นักเรยี นเป็นผู้ที่มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งมน่ั ในการทำงาน (A)
5. สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ตัวชี้วัด ด้านความรู้ ด้านทกั ษะ ด้านคุณลักษณะ (K: Knowledge) กระบวนการ อนั พงึ ประสงค์ (P: Process) (A: Attitude) ป.5/3 ใช้อนิ เทอร์เนต็ ค้นหาขอ้ มลู 1. นักเรยี นอธบิ าย 3. นักเรยี นสรา้ ง 4. นกั เรียนเป็นผู้ท่ี ติดตอ่ ส่ือสารและทำงานรว่ มกนั ความหมายของการ ทางเลอื กในการ มวี ินัย ใฝเ่ รยี นรู้ ประเมินความน่าเชอ่ื ถอื ของข้อมลู ประมวลผลขอ้ มูลได้ ประมวลผลขอ้ มูลได้ และมุง่ มัน่ ในการ ป.5/4รวบรวม ประเมิน นำเสนอ 2. นกั เรียนบอกวธิ ีการ ทำงาน ขอ้ มูลและสารสนเทศตาม ประมวลผลขอ้ มูลได้ วัตถปุ ระสงคโ์ ดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รือ อย่างถกู ต้อง (K) บริการบนอนิ เทอรเ์ นต็ ทหี่ ลากหลาย เพอ่ื แก้ปญั หาในชวี ิตประจำวนั 6. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอดหน่วยการเรียนรู้ ข้อมลู ที่อยรู่ อบตวั เรามีจำนวนมาก ๆ มีข้อมลู บางอย่างทส่ี ามารถนำมาใชไ้ ดท้ นั ที และมีข้อมูลบางอย่างที่ จะต้องนำไปประมวลผลทำให้เป็นขอ้ มูลสารสนเทศก่อนนำมาใชง้ าน เพื่อใหส้ ามารถนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างสะดวกและ เกิดประโยชนอ์ ยา่ งสงู สุด สำหรับการประมวลผลขอ้ มลู นั้นสามารถเลือกทำไดห้ ลากหลายวิธี ไมว่ ่าจะเป็นการ เปรยี บเทียบขอ้ มูล การจัดกลมุ่ ขอ้ มูล การแยกแยะข้อมลู และการเรียงลำดบั ข้อมูล 7. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ - มวี นิ ยั - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมนั่ ในการทำงาน
9. ส่อื และ แหล่งการเรียนรู้ สอื่ - หนังสอื เรียนรายวชิ าพน้ื ฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง ข้อมลู สารสนเทศ - ใบงานที่ 3.5.1 เรอื่ ง การประมวลผลข้อมูล แหล่งเรยี นรู้ - ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 10. การจัดการเรยี นรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดบั เรอ่ื ง 2 1 การประมวลผลขอ้ มูล 11. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ เร่ือง การประมวลผลขอ้ มลู จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรยี นอธบิ ายความหมายของการประมวลผลขอ้ มูลได้ (K) 2. นกั เรียนบอกวธิ ีการประมวลผลขอ้ มลู ได้อย่างถูกตอ้ ง (K) 3. นกั เรยี นสรา้ งทางเลอื กในการประมวลผลขอ้ มลู ได้ (P) 4. นกั เรียนเป็นผู้ที่มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ ม่ันในการทำงาน (A) ช่วั โมงท่ี 1 ขั้นนำ ขน้ั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement) 1. เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ สง่ ตวั แทนออกมานำเสนอผลการจัดทำแบบสำรวจ ความคดิ เหน็ ของนักเรียนแต่ละกล่มุ 2. ครูซักถามเพ่อื กระตุ้นความคดิ ของนักเรียนวา่ “นกั เรียนมวี ธิ ีการจดั การกับขอ้ มลู อย่างไร” (แนวคำตอบ : นักเรยี นตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบข้ึนอยกู่ บั ดุลยพินิจของครผู สู้ อน เช่น การ วิเคราะหข์ อ้ มูล การจัดกลุม่ ขอ้ มูล การคำนวณขอ้ มูล การแยกแยะข้อมลู และการประเมินผลข้อมูล เป็นตน้ ) 3. ครูใช้คำถามกระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนวา่ “การเลือกรบั ประทานอาหารกลางวัน ในโรงอาหาร นกั เรียนจะต้องมขี อ้ มูลใดบ้างเพ่ือชว่ ยในการตดั สินใจ” (แนวคำตอบ : นกั เรียนตอบตามความคดิ เหน็ ของตนเอง โดยคำตอบขึ้นอย่กู บั ดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน เช่น รายการ อาหาร รสชาตอิ าหาร ราคาอาหาร เปน็ ต้น)
4. ครอู ธบิ ายเพือ่ เช่ือมโยงเขา้ ส่บู ทเรียนวา่ “จากคำตอบของนักเรยี นจะเลอื กบอกไดว้ า่ ก่อนท่ี นกั เรียนจะซื้ออาหารรับประทานนนั้ สมองของนกั เรยี นตอ้ งประมวลผลกอ่ นว่าตอ้ งการเลอื กทานอะไร รา้ นใด เพราะ เหตุผลอะไร ถ้าเปน็ เช่นน้นั แสดงวา่ การประมวลผลหรือการประมวลขอ้ มูลนั้นมคี วามสำคญั กับเราตลอดเวลา ดังน้นั จงึ ตอ้ งมกี ารประมวลผลขอ้ มลู อยู่เสมอเพ่ือใหไ้ ด้ข้อมูลที่ถกู ต้องอยูเ่ สมอ” ข้นั สอน ข้นั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration) 1. นกั เรยี นแต่ละคนคน้ หาความหมายของการประมวลผลข้อมูลจากอนิ เทอรเ์ น็ตทเ่ี คร่ือง คอมพวิ เตอร์ของตนเอง จากนั้นครสู ่มุ นกั เรยี น 2-3 คน ออกมานำเสนอขอ้ มลู หน้าชน้ั เรียน พรอ้ มกบั อภิปรายร่วมกนั ใน หอ้ งเรยี น ข้ันท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 2. นักเรียนศึกษาการประมวลผลข้อมลู จากสถานการณต์ ัวอยา่ งการประมวลผลข้อมูล โดย การวเิ คราะหข์ ้อมลู นำ้ หนกั และส่วนสูงของนกั เรียนในหนงั สอื เรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป. 5 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรอื่ ง ข้อมูลสารสนเทศ โดยเปรยี บเทียบขอ้ มูลกับเกณฑ์มาตรฐานว่า นักเรยี นคนใดมีนำ้ หนัก สว่ นสูงท่ีสูงกว่า หรือตำ่ กวา่ เกณฑ์มาตรฐานจากตารางแสดงเกณฑ์มาตรฐานของนำ้ หนกั และสว่ นสูงตามอายุ 3. ครอู ธิบายเพิม่ เติมเกี่ยวกบั การประมวลผลข้อมูลวา่ “การประมวลผลข้อมูลเป็นการ เปลย่ี นแปลงหรือการจดั ระเบียบข้อมลู ให้อย่ใู นรูปแบบทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ ผ้ใู ชง้ าน ขอ้ มลู โดยท่วั ไปเกดิ ขึน้ อยา่ งไม่เป็น ระเบยี บจากกระบวนการนับหรอื การวัดโดยไม่สามารถส่อื ความหมายให้เข้าใจหรือนำมาใช้ประโยชน์ได้ ดังนั้น การ ประมวลผลจงึ เป็นวธิ ีการนำข้อมลู ให้เป็นสารสนเทศท่ีมปี ระสิทธิภาพและนำไปใช้ประโยชนต์ อ่ ไปได้อยา่ งเหมาะสม” 4. ครูอธบิ ายกับนกั เรียนวา่ “ในการดำเนินชีวิตประจำวันของนักเรียน บางครงั้ นกั เรยี นอาจจะ พบปัญหาท่ีตอ้ งเลอื กสิ่งใดสงิ่ หนง่ึ อยา่ งใดอย่างหนึ่ง ดงั นนั้ เพ่ือการเลือกทีถ่ กู ต้อง นักเรยี นจะต้องมกี ารประมวลผลจาก ทางเลือกทม่ี อี ย่างละเอยี ด” 5. นักเรียนดูตวั อยา่ งแนวทางการสรา้ งทางเลอื กในการประมวลผลจากสถานการณ์ท่ีโป้กำลัง พจิ ารณาเลือกซอื้ สินคา้ ท่ซี เู ปอร์มารเ์ ก็ตในหนงั สือเรยี น ชัว่ โมงที่ 2 ขน้ั สอน ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 6. นกั เรียนจับค่กู ับเพ่ือนที่นัง่ ขา้ ง ๆ เพอ่ื ทำกจิ กรรมฝึกทักษะการสำรวจรา้ นค้าในโรงเรยี น แล้วพจิ ารณาเลือกซ้ืออาหารให้ตรงกับความตอ้ งการของนกั เรยี น จากนั้นบันทึกลงในสมุดประจำตวั และใหน้ ักเรยี นแต่ ละคูอ่ อกมานำเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น 7. นักเรยี นแต่ละคนทำใบงานท่ี 3.5.1 เร่ือง การประมวลผลขอ้ มูล โดยให้นักเรยี นแตล่ ะคน พิจารณาตารางขอ้ มูลคะแนนสอบกลางภาคทง้ั 4 รายวิชา และตอบคำถามใหถ้ กู ต้องผ่านการประมวลผลขอ้ มูล จากนั้น นำมาสง่ ในชวั่ โมงถดั ไป
Note วตั ถุประสงคข์ องกิจกรรมเพอื่ ใหน้ ักเรยี น - มที ักษะการสืบค้นขอ้ มูล โดยให้นักเรยี นแตล่ ะคนสืบค้นขอ้ มลู จากทางอินเทอรเ์ น็ต เพื่อสืบเสาะหาความรูเ้ พ่มิ เติมภายใต้หัวข้อทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย - มที กั ษะการคดิ วิเคราะห์ โดยใหน้ ักเรยี นคิดวิเคราะห์ข้อมลู จากสถานการณ์ตวั อย่าง การประมวลผลข้อมลู ทีน่ กั เรยี นพิจารณาข้อมลู เพื่อเปรียบเทยี บข้อมูลกบั เกณฑม์ าตรฐาน ท่กี ำหนดไว้ได้อยา่ งถูกตอ้ ง - มีทักษะการทำงานร่วมกนั โดยให้นักเรยี นจับคกู่ บั เพ่ือนทน่ี ่ังข้าง ๆ และส่ือสาร หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลรว่ มกนั ในการทำกิจกรรมฝึกทักษะการสำรวจร้านคา้ ในโรงเรยี น แล้วพจิ ารณาเลอื กซ้อื อาหารใหต้ รงกบั ความตอ้ งการของนกั เรยี น ขน้ั สรุป ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครูประเมนิ ผลงานนักเรยี นจากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุด ประจำตัวของนักเรยี น 2. ครตู รวจสอบผลงาน จากการทำใบงานและกจิ กรรมฝกึ ทักษะ 3. นกั เรยี นและครูร่วมกนั สรปุ เน้อื หาเก่ียวกบั ขนั้ ตอนการประมวลผลขอ้ มลู การพิจารณา และการเปรยี บเทียบข้อมูล 12. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวดั เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรยี นอธบิ ายความหมาย 1. การตอบคำถามใน - แบบฝกึ หัด สามารถตอบคำถามใน แบบฝกึ หดั แบบฝึกหัดไดถ้ ูกต้อง ของการประมวลผลข้อมูลได้ (K) - แบบประเมนิ ตามหลักการ 80 % ขึ้น แบบฝกึ หดั ไป 2. นักเรยี นบอกวิธกี าร - แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึง สามารถตอบคำถามใน ประมวลผลขอ้ มูลไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ประสงค์ ใบงานได้ 80 % ขน้ึ ไป นักเรียนมคี ณุ ลกั ษณะ (K) อันพงึ ประสงค์ ได้ 80% ขึ้นไป 3. นกั เรยี นสร้างทางเลอื กในการ 2. ตรวจแบบฝึกหดั ประมวลผลข้อมูลได้ (P) 4. นักเรียนเป็นผู้ท่มี ีวินัย ใฝ่ 3. สังเกตพฤติกรรมใน เรียนรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน การทำแบบฝกึ หดั (A)
คณุ ธรรม จรยิ ธรรมท่สี อดแทรก การตรงต่อเวลา เช่น การเขา้ ช้ันเรยี น การสง่ การบ้าน และการปฏิบัตติ ามท่ี ได้รบั มอบหมาย 13. หนังสอื / เอกสารอ้างองิ - หนงั สอื เรียนรายวชิ าพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ เรือ่ ง เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5 ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานุจำ) ครูผู้สอน
การบนั ทึกผลหลังการสอน รหสั วชิ า ว 15102 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วิทยาการคำนวณ ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 สปั ดาหท์ ่ี 24-25 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่อื ง ขอ้ มูลสารสนเทศ จำนวน 10 ชว่ั โมง แผนการเรยี นร้ทู ี่ 11 เร่ือง การประมวลผลขอ้ มูล เวลา 2 ชัว่ โมง ครูผู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ การบันทึกผลหลงั การสอน 1. บันทึกผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์ (K: Knowledge) 1.1 นกั เรยี นอธิบายความหมายของการประมวลผลข้อมูลได้ (K) จำนวน….……คน คิดเปน็ รอ้ ยละ…….…ของ จำนวนนกั เรียนทง้ั หมด 1.2 นักเรยี นอธิบายความหมายของการประมวลผลขอ้ มูลไม่ได้ (K) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ…….…ของ จำนวนนักเรียนทงั้ หมด 1.3 นักเรียนบอกวิธีการประมวลผลข้อมูลไดอ้ ยา่ งถูกต้อง (K) จำนวน….……คน คดิ เป็นรอ้ ยละ…….…ของจำนวน นกั เรยี นทง้ั หมด 1.4 นกั เรยี นบอกวิธีการประมวลผลขอ้ มลู ไม่ถกู ต้อง (K) จำนวน….……คน คิดเป็นร้อยละ…….…ของจำนวน นักเรียนทั้งหมด 2. บันทึกทกั ษะ / กระบวนการ (P: Process) 2.1 นกั เรยี นสรา้ งทางเลือกในการประมวลผลข้อมลู ได้ (P) จำนวน……..คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ….……ของจำนวน นักเรยี นทั้งหมด 2.2 นักเรียนสร้างทางเลอื กในการประมวลผลขอ้ มูลไม่ได้ (P) จำนวน….……คน คดิ เปน็ ร้อยละ……...ของจำนวน นกั เรยี นทง้ั หมด 3. บนั ทึกคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A: Attitude) 3.1 นักเรียนเปน็ ผ้ทู ่ีมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่นั ในการทำงาน (A) จำนวน…..…..คน คิดเปน็ ร้อยละ….……ของ จำนวนนักเรียนทง้ั หมด 3.2 นกั เรยี นไม่เป็นผู้ทม่ี วี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน (A) จำนวน….…...คน คิดเป็นร้อยละ……...ของ จำนวนนักเรียนทงั้ หมด
ปญั หาและอุปสรรค ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ แนวทางการแกป้ ญั หา ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ลงช่อื .................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู สู้ อน
แผนการจดั การเรียนรู้ รหัสวิชา ว 15102 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาการคำนวณ สปั ดาห์ที่ 26-27 ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 จำนวน 10 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรอ่ื ง ขอ้ มูลสารสนเทศ เวลา 2 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 12 เร่อื ง การสืบค้นขอ้ มูลโดยใช้อินเทอร์เนต็ ครูผู้สอน นางสาวกนกวรรณ มานุจำ 1. สาระ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาทพี่ บในชีวติ จรงิ อยา่ งเปน็ ข้ันตอนและเป็น ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ รูเ้ ทา่ ทนั และมจี รยิ ธรรม 3. ตัวชีว้ ัด / ผลการเรยี นรู้ ป.5/3 ใช้อินเทอรเ์ นต็ คน้ หาขอ้ มลู ตดิ ตอ่ สอ่ื สารและทำงานรว่ มกนั ประเมินความน่าเชอื่ ถือของข้อมูล ป.5/4 รวบรวม ประเมนิ นำเสนอขอ้ มลู และสารสนเทศตามวัตถปุ ระสงคโ์ ดยใชซ้ อฟต์แวรห์ รอื บริการบน อินเทอรเ์ นต็ ที่หลากหลาย เพ่อื แกป้ ัญหาในชวี ติ ประจำวนั 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนอธบิ ายวิธกี ารสืบค้นข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ตได้ (K) 2. นกั เรยี นบอกหลกั ในการประเมินความนา่ เชอ่ื ถอื ของขอ้ มลู จากการสืบคน้ ได้ (K) 3. นกั เรียนสบื คน้ ข้อมูลโดยใชอ้ ินเทอร์เน็ตตามวธิ ีการต่าง ๆ ได้ (P) 4. นักเรยี นตรวจสอบความนา่ เช่อื ถือของขอ้ มลู จากอนิ เทอรเ์ น็ตได้ (P) 5. นกั เรยี นเป็นผทู้ มี่ ีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่นั ในการทำงาน (A)
5. สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ด้านความรู้ ด้านทักษะ ด้านคุณลักษณะ (K: Knowledge) ตัวชีว้ ัด กระบวนการ อันพงึ ประสงค์ 1. นักเรยี นอธิบาย ป.5/3 ใช้อินเทอร์เนต็ คน้ หาข้อมลู วธิ ีการสืบค้นขอ้ มลู โดย (P: Process) (A: Attitude) ตดิ ตอ่ สอื่ สารและทำงานรว่ มกัน ใชอ้ ินเทอร์เนต็ ได้ ประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถอื ของข้อมูล 2. นกั เรียนบอกหลักใน 3. นกั เรยี นสืบค้น 5. นกั เรยี นเป็นผูท้ ี่ ป.5/4รวบรวม ประเมนิ นำเสนอ การประเมินความ ขอ้ มลู และสารสนเทศตาม น่าเช่ือถอื ของขอ้ มูลจาก ขอ้ มูลโดยใช้ มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ วตั ถุประสงค์โดยใชซ้ อฟต์แวร์หรือ การสืบค้นได้ บรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ น็ตท่ีหลากหลาย อนิ เทอรเ์ น็ตตาม และม่งุ มัน่ ในการ เพ่อื แก้ปัญหาในชีวติ ประจำวัน วธิ กี ารต่าง ๆ ได้ ทำงาน 4. นกั เรียนตรวจสอบ ความนา่ เชื่อถือของ ข้อมลู จากอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ 6. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอดหนว่ ยการเรยี นรู้ การค้นหาข้อมลู ในอนิ เทอรเ์ น็ตโดยใช้เวบ็ ไซตท์ ่เี รียกว่า Search Engine สามารถคน้ หาได้หลายวธิ ีไมว่ ่าจะเปน็ การค้นหาขอ้ มลู โดยใช้คีย์เวิร์ด การค้นหาขอ้ มลู ตามหมวดหมู่ หรือการค้นหาขอ้ มูลจากหลายแหลง่ และในการสืบคน้ ข้อมูลจากแหล่งข้อมลู ต่าง ๆ จะต้องมกี ารประเมินความน่าเชอื่ ถอื ของข้อมูลเพ่อื ให้ไดข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกต้องและตรงตามความ ตอ้ งการของผู้ใช้งาน 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - มวี ินัย - ใฝ่เรยี นรู้ - มุง่ มน่ั ในการทำงาน
9. สือ่ และ แหลง่ การเรยี นรู้ สือ่ - หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง ข้อมลู สารสนเทศ - ใบงานที่ 3.6.1 เรอ่ื ง การสบื ค้นข้อมูลด้วยอินเทอร์เนต็ แหลง่ เรยี นรู้ - หอ้ งปฏิบัตกิ ารคอมพิวเตอร์ 10. การจัดการเรยี นรู้ จำนวนคาบ หมายเหตุ ลำดบั เรอ่ื ง 2 1 การสืบคน้ ข้อมูลโดยใช้อนิ เทอร์เน็ต 11. กระบวนการจัดการเรียนรู้ เรอื่ ง การสบื คน้ ขอ้ มลู โดยใชอ้ นิ เทอร์เน็ต จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. นักเรยี นอธิบายวธิ กี ารสืบคน้ ข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เนต็ ได้ (K) 2. นักเรยี นบอกหลกั ในการประเมนิ ความนา่ เชอื่ ถอื ของขอ้ มลู จากการสืบค้นได้ (K) 3. นักเรยี นสืบค้นขอ้ มูลโดยใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ ตามวธิ ีการต่าง ๆ ได้ (P) 4. นักเรยี นตรวจสอบความน่าเชอ่ื ถือของขอ้ มูลจากอินเทอร์เน็ตได้ (P) 5. นักเรียนเปน็ ผ้ทู ม่ี วี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่ันในการทำงาน (A) ชั่วโมงท่ี 1 ขน้ั นำ ขัน้ ท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูถามกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นว่า“โดยปกตแิ ล้วถา้ นักเรยี นตอ้ งการจัดทำรายงาน หรือต้องการสบื คน้ ขอ้ มูล นกั เรียนสามารถหาข้อมูลไดจ้ ากท่ีใดบา้ ง” (แนวคำตอบ : นักเรียนตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขน้ึ อยูก่ ับดุลยพินจิ ของครูผู้สอน เช่น หนงั สือเรยี น หอ้ งสมดุ อนิ เทอรเ์ นต็ เป็นต้น) 2. ครูอธบิ ายเพ่ือเชอื่ มโยงเขา้ สบู่ ทเรยี นว่า“ปัจจบุ ันวธิ ีการท่นี ิยมใชส้ ำหรับการคน้ หาข้อมูล คือ การค้นหาข้อมูลผ่านอินเทอรเ์ น็ต โดยใช้เว็บไซต์ต่าง ๆ ในการสบื ค้นข้อมูล หรอื ที่เรียกวา่ Search Engine เช่น www.google.com”
ขัน้ สอน ขน้ั ที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration) 1. ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะคนสบื ค้นขอ้ มูลเกยี่ วกบั เร่ือง ทมี่ าของคอมพิวเตอร์ โดยเปิดโอกาส ให้นักเรียนสืบค้นจากเครอื่ งคอมพิวเตอรข์ องตนเอง 2. จากนนั้ ครสู ุ่มถามนกั เรยี น 5-6 คน เกีย่ วกับคำทใ่ี ช้ค้นหาในเว็บ Search Engine (แนวคำตอบ : ประวัตขิ องคอมพิวเตอร์ ทีม่ าของคอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอร์เกิดขน้ึ ไดอ้ ย่างไรผูก้ อ่ ตงั้ คอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์ เปน็ ต้น) 3. นกั เรยี นศกึ ษาเนื้อหา เร่ือง การสืบคน้ ข้อมูลโดยใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตจากหนังสอื เรยี นรายวิชา พนื้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ข้อมูลสารสนเทศโดยครูอธิบายกับนักเรยี น ว่า“การค้นหาขอ้ มลู จากเวบ็ ไซต์ Search Engine ว่ามหี ลายวิธีได้แก่ 1) การค้นหาข้อมูลโดยใช้คีย์เวิร์ด 2) การค้นหาขอ้ มูลตามหมวดหมู่ 3) การค้นหาข้อมูลจากหลายแหล่ง” ข้นั ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 4. ครชู แี้ จงกับนักเรยี นว่า“เว็บไซต์ Search Engine ทไ่ี ด้รับความนิยมในปจั จุบันได้แก่ www.google.com , www.sanook.com , www.yahoo.com เปน็ ต้น” 5. นักเรียนจับคกู่ บั เพื่อนทนี่ ่งั ข้าง ๆ และทำใบงานที่ 3.6.1 เร่อื ง การสบื คน้ ขอ้ มูล ด้วยอินเทอร์เนต็ และใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน โดยครูแนะนำกับนักเรยี นวา่ “การคน้ หา ขอ้ มลู บนอนิ เทอรเ์ นต็ ผู้ใช้จะต้องสืบคน้ และนำข้อมลู มาเปรียบเทยี บกันเพ่ือคัดเลือกเน้ือหาทม่ี ีความถกู ต้องและมีความ นา่ เชอ่ื ถือ และมารยาทในการนำขอ้ มลู มาใช้งาน คอื ผใู้ ช้จะต้องมกี ารอ้างอิงถึงแหลง่ ทม่ี าของข้อมลู เพ่ือเป็นการยืนยัน ว่าขอ้ มลู มแี หล่งทีม่ าชัดเจน น่าเชอื่ ถือ เปน็ ต้น” 6. ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนทำกจิ กรรมฝึกทักษะโดยค้นหาข้อมูลบนอนิ เทอรเ์ นต็ เกีย่ วกับสถานทีท่ อ่ งเท่ียวในประเทศไทยและนำมาส่งในชวั่ โมงถัดไป ชั่วโมงที่ 2 ขนั้ สอน ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation) 7. ครูทบทวนเนื้อหาการเรียนเมือ่ ชวั่ โมงท่ีแล้วเกย่ี วกับการสบื ค้นข้อมูลโดยใช้อินเทอร์เน็ต 8. ครูทำการสุม่ นักเรียน 2-3 คนออกมานำเสนอหนา้ ชนั้ เรียนเกยี่ วกบั ข้อมลู ทไี่ ดส้ ืบค้นจาก การทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ 9. ครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ เกย่ี วกบั การสืบค้นข้อมูลวา่ “ในการสืบค้นข้อมลู ใด ๆ มาใช้งานน้ัน ผูท้ ี่ ค้นหาขอ้ มูลจะตอ้ งมีการอ้างองิ ถึงแหลง่ ที่มาของข้อมูล เพ่ือยืนยันวา่ ขอ้ มูลนน้ั มีแหล่งที่มาชัดเจน น่าเชอ่ื ถอื และเพื่อ เป็นการใหเ้ กียรติแก่เจ้าของขอ้ มูล”
10. นกั เรยี นศึกษาเนอื้ หาเก่ียวกบั การประเมนิ ความน่าเช่อื ถือของขอ้ มลู จากหนงั สอื เรยี น และอภปิ รายรว่ มกันภายในช้ันเรียน 11. ครูอธบิ ายกบั นักเรียนถงึ ข้อควรพจิ ารณาในการประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถอื ของข้อมลู ว่าควร พจิ ารณาดงั นี้ 1) มกี ารบอกวัตถุประสงค์ในการจดั ทำข้อมูล 2) มีการระบชุ ่อื ผู้เขยี นหรือผู้ใหข้ อ้ มูล 3) มกี ารระบวุ นั ท่พี มิ พ์ และครงั้ ที่ปรบั ปรุง 4) มีการอา้ งองิ แหล่งที่มา 5) พจิ ารณาข้อมลู จากแหล่งขอ้ มูลท่เี ชือ่ ถือได้ ขั้นที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 12. นักเรียนจบั คกู่ บั เพ่ือนท่นี งั่ ข้าง ๆ (คเู่ ดมิ ) และทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะการสบื คน้ ขอ้ มลู จาก เว็บไซตจ์ ากนั้นทำการรวบรวมขอ้ มูล และจดั ทำรายงาน สุดทา้ ยใหน้ กั เรียนวิเคราะห์วา่ ขอ้ มลู ที่ได้มามีความน่าเชือ่ ถอื หรอื ไมอ่ ย่างไร 13. นักเรยี นแตล่ ะคอู่ อกมานำเสนอข้อมูลทไ่ี ด้สบื คน้ หน้าช้ันเรยี น โดยครูคอยให้คำแนะนำ เพ่มิ เติมตามความเหมาะสม Note วตั ถุประสงคข์ องกจิ กรรมเพ่ือให้นักเรียน - มีทักษะการทำงานร่วมกนั โดยใหน้ ักเรยี นจับคกู่ นั เพ่อื ทำกิจกรรมภายในชนั้ เรียน เพ่ือเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นส่ือสารและแลกเปลยี่ นความคิดเหน็ รว่ มกนั - มีทักษะการสบื ค้นขอ้ มลู โดยใหน้ กั เรยี นสบื ค้นข้อมลู ตา่ ง ๆ จากอนิ เทอร์เน็ต ตามหัวข้อท่ไี ด้รับมอบหมาย - มที กั ษะการคิดวเิ คราะห์ และการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณในการพิจารณาขอ้ มูลท่ีได้ ทำการสบื คน้ โดยการเปรียบเทยี บเพ่ือตรวจสอบความถกู ตอ้ งและความนา่ เชือ่ ถือของขอ้ มูล ข้นั สรปุ ข้ันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation) 1. ครนู ำนักเรียนเลน่ เกมแยกหมวดหม่ขู องข้อมูล โดยให้นักเรยี นแบง่ กล่มุ และรว่ มกัน แยกประเภทของขอ้ มลู ต่าง ๆ ตามทีไ่ ดก้ ำหนด จากนัน้ ให้นกั เรยี นประเมินผลตนเองหลงั เรียนจบหน่วยให้ตรงกับระดับ ความสามารถของตนเอง 2. ครูประเมนิ ผลนกั เรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมดุ ประจำตัว 3. ครูตรวจสอบความถูกต้องของผลงานการทำใบงานและกจิ กรรมฝึกทกั ษะ 4. นักเรียนและครูรว่ มกันสรุปเกยี่ วกบั การสบื คน้ ขอ้ มูลจากอนิ เทอรเ์ นต็ และการประเมนิ ความน่าเชอื่ ถอื ของข้อมูล 5. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นท่ี 3 เรอื่ ง ข้อมลู สารสนเทศ
6. นกั เรียนทำกิจกรรมเสรมิ สรา้ งการเรียนรจู้ ากหนังสอื เรยี น และทำช้ินงาน/ภาระงาน (รวบ ยอด) เรื่อง ขอ้ มลู สารสนเทศ และนำมาสง่ ในชว่ั โมงถดั ไป 12. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวัด เครือ่ งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ 1. นักเรียนอธบิ ายวธิ กี ารสืบค้น 1. การตอบคำถามใน - แบบฝึกหดั สามารถตอบคำถามใน แบบฝกึ หดั แบบฝึกหัดได้ถกู ตอ้ ง ขอ้ มลู โดยใชอ้ นิ เทอร์เน็ตได้ (K) ตามหลกั การ 80 % ขน้ึ ไป 2. นักเรยี นบอกหลกั ในการ ประเมินความน่าเชอ่ื ถอื ของ ขอ้ มลู จากการสบื ค้นได้ (K) 3. นักเรียนสบื คน้ ข้อมลู โดยใช้ 2. ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบประเมนิ สามารถตอบคำถามใน ใบงานได้ 80 % ขนึ้ ไป อินเทอรเ์ นต็ ตามวธิ ีการต่าง ๆ ได้ แบบฝกึ หดั (P) 4. นกั เรียนตรวจสอบความ นา่ เช่ือถอื ของขอ้ มูลจาก อนิ เทอรเ์ น็ตได้ (P) 5. นกั เรยี นเปน็ ผทู้ มี่ วี ินยั ใฝ่ 3. สงั เกตพฤตกิ รรมใน - แบบประเมนิ นักเรียนมคี ุณลักษณะ เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน คณุ ลักษณะอนั พึง อนั พงึ ประสงค์ ได้ 80% (A) การทำแบบฝกึ หัด ประสงค์ ขนึ้ ไป คุณธรรม จริยธรรมท่ีสอดแทรก การตรงต่อเวลา เชน่ การเขา้ ช้ันเรียน การสง่ การบ้าน และการปฏิบัตติ ามที่ ได้รับมอบหมาย 13. หนงั สือ / เอกสารอา้ งอิง - หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ เร่อื ง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 ลงชื่อ.................................................. (นางสาวกนกวรรณ มานจุ ำ) ครผู ู้สอน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223