3 การจดั การสง่ิ แวดลอ มในจงั หวดั ทรัพยากรและสิ่งแวดลอมท่ีมีในจังหวัดเปนส่ิงท่ีทุกคนควรใหความสําคัญ โดยจดั การดแู ลและใชใหเ กดิ ประโยชนม ากท่ีสดุ 1. แนวทางการจัดการสิ�งแวดลอมในจงั หวัด การใชท รพั ยากรและสงิ่ แวดลอ มอยา งถกู หลกั จะชว ยใหเ รามที รพั ยากรและ สง่ิ แวดลอมไวใ ชอยา งยงั่ ยืน มแี นวทาง ดงั นี้ • การใชอยางประหยัด • การนาํ กลับมาใชใหม • การใชอ ยา งคุมคา • การบําบดั และการฟนฟู • การใชส ง่ิ อน่ื ทดแทน • การดูแลและปองกัน • การปฏเิ สธการใช 2. วิธีฟน ฟทู รัพยากรและสิ�งแวดลอ ม เฉฉบลับย การฟนฟูทรัพยากรและส่ิงแวดลอมในจังหวัด เปนแนวทางแกไขปญหา ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ มทเี่ สอ่ื มโทรมหรอื เสยี หาย ใหก ลบั มามสี ภาพ ดงั เดิม ตวั อยา่ ง แนวทางการฟ้ ืนฟูดนิ แนวทางการฟ้ ืนฟูน้ํา ปลูกพชื คลุมดนิ รักษาแหลง ตน นาํ้ ปลูกพชื หมนุ เวียน นาํ น้ําที่ใชแลวกลบั มาใหม ไมเ ผาทําลายพืชหรอื วัชพืช ลดการใชสารเคมีในการเพาะปลูก 196
3. การมสี วนรว มในการอนรุ ักษท รัพยากรและส�ิงแวดลอ ม การอนรุ กั ษท รพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ ม เปน สงิ่ ทที่ กุ คนสามารถทาํ ได ดังน้ี การอนรุ ักษท รัพยากรและส่ิงแวดลอ ม 1 รณรงคใหคนในจังหวัดเห็นความสําคัญ และมีจิตสํานึกเปนเจาของ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ มรว มกนั เชน ประชาสมั พนั ธข อ มลู ขาวสารตาง ๆ โดยติดประกาศที่กระดานขาวของชุมชน ใชส่อื สังคม ออนไลน หรอื ใชวทิ ยุชุมชน 2 เฉฉบลบั ย จัดกิจกรรมอนุรักษทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม โดยรวมตวั กนั เปน จติ อาสาอนรุ กั ษท รพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สงิ่ แวดลอ ม เชน กจิ กรรมทาํ ความสะอาดพน้ื ทส่ี าธารณะใน ชุมชน รวมกันปลกู ตน ไมใ นชุมชน 3 มสี ว นรว มในการนาํ เสนอแนวทาง และกาํ หนดนโยบายดา นการอนรุ กั ษ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอมในชุมชน ดวยการเขารวมรับฟง แนวทางการดแู ลรกั ษาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ มจากเจา หนา ที่ และนํามาปฏบิ ัติ 197
กิจกรรม 3พฒั นาการเรยี นรทู ่ี 1 ค…1…ิด.…Ãก…‹Ç…จิ Á…ก…¡ร…¹Ñร…ม…»…อÅ…น¡Ù……µรุ …กั Œ¹…ษ…äÁ…ท …Œ ãร…¹พั…ª…ยØÁ…า…ªก…¹…ร…ธ…ร…ร…ม……ช…า…ต……แิ …ล…ะ…ส……ิ่ง…แ…ว…ด……ล…อ …ม……ม…า……5(…µ…ก…ÑÇ…จิÍ…กÂ…ร‹Ò…§ร…¤ม……íÒ…µ…Í……º…). 2. ÃÇ‹ Á¡¹Ñ à¡çº¢ÂзÕè·Ôé§äÁà‹ »š¹·Õè…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …3….…Ã…³……Ã…§…¤…… ã…Ë…Œ¤……¹…ã…¹…ª…ØÁ……ª…¹…ã…ª…Œ·…ÅѾ……Â…Ò…¡……Ã…Í…Â…‹Ò…§…»……Ã…Ð…Ë……Â…Ñ´…á……Å…Ð…¤……ŒØÁ…¤…Ò‹……………………………………… …4….…Ã…³……Ã…§…¤……¡ …Ò…Ã…¹……Òí …¢…Â…Ð…º…Ò…§……ª…¹…´Ô …Á……Ò…Ã…Õä«……à…¤…ÔÅ…Ë……Ã…×Í…»……Ã…Ð…Â…Ø¡…µ…… ã…ª…Œ ã…Ë…àŒ…¡……Ô´…»…Ã……Ð…âÂ……ª…¹… …………… …5….…Ã…‹Ç…Á……¡…ѹ……º…ÙÃ…³……Ð…«…Í‹……Á…á…«…Á……·…ÅѾ……Â…Ò…¡……Ã…á…Å……Ð…Ê…§èÔ …á…Ç…´……Å…ŒÍ…Á……·…Õèà…Ê…ÂÕ……Ë…Ò…Â……à…Ê…Íè× …Á……Ê…À…Ò……¾…………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2 คิดโครงการอนรุ ักษท รพั ยากรและสง่ิ แวดลอมในจังหวดั มา 1(µตÇÑ Íวั Âอ‹Òย§า ¤งÒí µÍº) เฉฉบลบั ย ชอ่ื โครงการ ÃÑ¡ÊÒ¹íÒé ºŒÒ¹à¡´Ô…………………………………………………………………………………………………………………………………………… หลักการและเหตผุ ล …á…Á……‹¹…éíÒ…à…»…š¹……á…Ë…Å……‹§…¹…Òéí…¸……Ã…Ã…Á…ª…Ò…µ……Ôã…¹…·……ŒÍ…§…¶…èÔ¹………Ë…Ò…¡……ä´……ŒÃ…Ѻ…¡……Ò…Ã…´…áÙ ……Å…Í…Â……Ò‹ …§…´…¨Õ …Ð…·……Òí …ã…Ë…ŒÁ.. Õ áËÅ‹§¹éíÒäÇÍŒ Ø»âÀ¤ºÃÔâÀ¤ä´¹Œ Ò¹ æ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. วัตถปุ ระสงค/เปา หมาย …྅…è×Í…Í…¹……ÃØ …Ñ¡…É……á …Ë……Å…§‹ …¹……Òéí …¢…Í…§…ª…ØÁ……ª…¹…ä…Ç…Œ ã…ª…ŒÍ…»Ø ……âÀ……¤…º……Ã…Ôâ…À…¤………………………………………………………………. วธิ ดี าํ เนินการ …1…. …¤……¹…ã…¹…ª…ØÁ……ª…¹…Ã…Ç‹…Á……¡…ѹ……àÊ……¹…Í……Ç…Ò‹ …»……˜Þ……Ë…Ò…à…¡…ÕèÂ……Ç…¡…ºÑ ……á…Ë…Å……§‹ …¹…éÒí…ª…ØÁ……ª…¹…Á……ÍÕ …Ð…ä…Ã…………………… áÅФÇÃÁÕá¹Ç·Ò§á¡äŒ ¢ÍÂÒ‹ §äÃ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. ÃÇ‹ Á¡¹Ñ àÅÍ× ¡á¹Ç·Ò§á¡äŒ ¢»Þ˜ ËÒ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …3….…´……í҅ๅ…¹Ô …¡…Ò…Ã……á…¡…Œä…¢…»……Þ˜ …Ë……Ò…µ…Ò…Á……á…¹…Ç……·…Ò…§…·……èÕàÅ……Í× …¡…ä…Ç…Œ ……………………………………………………………. …4….…»……Ã…Ð…à…Á…¹Ô ……¼…Å…á……Å…Ð…»…Ã……Ѻ…á……¹…Ç…·…Ò…§……྅…èÍ× …ã…Ë…Œº…Ã……Ã…Å…ØÇ…ѵ……¶…Ø»……Ã…Ð…Ê…§…¤…… ……………………………………. 198
กจิ กรรม Ge�-L�te���y แบง กลมุ สาํ รวจทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ มทเ่ี สอ่ื มโทรมในจงั หวดั ตนเอง โดยทํากิจกรรมตามขั้นตอน ดงั นี้ 1 คาํ ถามเชงิ ภมู ศิ าสตรข์ องนกั เรยี น คอื อะไร 2 การรวบรวมข้อมลู ของนักเรียนใช้ …¨…ѧ…Ë…Ç…Ñ´……¢…Í…§…àÃ…Ò…»……Ã…Ð…Ê…º……»…˜Þ……Ë…Ò…·……ÅѾ…Â…Ò…¡……Ã. เทคนิคอย่างไร …¸…Ã…Ã…Á…ª…Ò……µ…Ôá…Å……Ð…Ê…Ôè§…á……Ç…´…Å…ŒÍ……Á…à…Ê…è×Í…Á……â…·…Ã…Á… …• …Ë…Ò…¢……Œ Í…Á…Ù Å……à…¡…èÕ Â…Ç…¡……Ñ º…¡…Ò…Ã……à Ê……×è Í…Á…â…·……Ã…Á…¢…Í……§ ÍÐäúҌ §……………………………………………………………………………………. ……·…ÅѾ……Â…Ò…¡…Ã…á……Å…Ð…Ê…§èÔ …á…Ç…´…Å…ÍŒ …Á……ã¹…¨……ѧ…Ë…Ç…´Ñ …¨…Ò…¡… ……¢…Ò‹ …Ç…Ê…Ò…Ã…á…Å…Ð…Ê…Í…º……¶…Ò…Á…Ë…¹…Ç‹…Â…§…Ò…¹…·……èÕà¡……ÂÕè …Ç…¢…ÍŒ …§ ……………………………………………………………………………………. …•…È…¡Ö …É……Ò…¢…ÍŒ …Á…ÅÙ …¨…Ò…¡…á…¼……¹…·…Õèà…¾…Íè× …Ë…Ò…µ……Òí …á…Ë…¹…§‹ …….. …•…¶…Ò‹ …Â…À…Ò…¾……྅Íè×……ãË…àŒ…Ë…¹ç …Ê……À…Ò…¾…¨…Ã…Ô§…ã…¹…»…¨˜…¨……غ…¹Ñ ….. 3 นักเรยี นมวี ิธกี ารจดั การกบั ข้อมลู 4 นักเรียนได้วิเคราะห์และแปลผล เฉฉบลับย ทไี่ ดม้ าอย่างไร ขอ้ มลู อย่างไร •……¨…Ñ´…¢…ŒÍ…Á……ÅÙ …Í…Í…¡…à…»…¹š ……¡…Å…Ø‹Á……慅྅èÍ×……§…‹Ò…Â…µ…Í‹ …¡…Ò…Ã… È¡Ö ÉÒ……………………………………………………………………………………… •……ÇÔà…¤…Ã…ÒÐ…Ë…Ë…Ò…Ê…Ò…àË…µ…·Ø…·èÕ……Òí ã…Ë…àŒ ¡…´Ô…»…Þ˜……Ë…Ò¡…Ò…Ã…àÊ…Íè×…Á…â…·…Ã…Á •……¾…¨Ô …Ò…Ã…³……Ò…¤…Ç…Ò…Á…¶…¡Ù …µ……ÍŒ …§…¢…Í…§…¢…ŒÍ…Á…ÙÅ……á…Å……Ð……… ……¤…´Ñ …¡…Ã…Í……§…¢…ŒÍ…Á…ÅÙ …·……èÕà»……š¹…»…˜¨…¨……غ…¹Ñ …Á…Ò…¡……·…ÕèÊ…´Ø ……… ……¢Í…§…·…ÅѾ…Â…Ò…¡…Ã…¸…Ã…ÃÁ…ª…Ò…µ…áÔ …Å…Ð…Ê…§èÔ …á…Ç´…Å…ÍŒ…Á…¹……¹Ñé ………… •……ÃÐ…º…µØ…Òí…á…Ë…¹…§‹…¡…Ò…Ã…àÊ…Íè× …Á…â…·…Ã…Á…ã¹…á…¼…¹…·……Õè ¾…Ã…ÍŒ …Á…·…Ñé§…… ……Å…Òí ´…ºÑ…¤…Ç…Ò…Á…Åع…á…Ã…§………………………………………………….. •……¹…Òí à…Ê…¹…Í…á…¹…Ç…·…Ò…§á…¡…䌅¢…á…Ņз……Òí ¤…Å…»Ô…Ç…Ô´…âՅͅ༅…ᅾ…Ã…‹ .. 5 สรุปส่ิงที่ได้สามารถตอบคําถามขอ้ 1 ได้ ดงั น้ี …¢…éÖ¹…Í…Â…‹Ù¡…Ѻ……´…ØÅ…Â……¾…Ô¹…¨Ô ……ãË……µŒ …Í…º……µ…Ò…Á…Ê…À……Ò…¾…¨…Ã…Ô§…¢…Í…§…¨…Ñ…§…Ë…Ç…´Ñ …µ……¹…à…Í…§……………………………………………………………………….. ÃÒ¡ÒûáÐàÅÁØ‹ÁÔ¹¡Ò÷Òí §Ò¹ ÃдºÑ ¤Ðá¹¹ ÃÒµ¡Ò¹Ãà»ÍçÐàÁÔ¹ ÃдºÑ ¤Ðá¹¹ 1. ความเขา ใจในโจทยปญหา 1. ความเขาใจในเน้ือหาทีเ่ รียน 2. ความสามารถในการแกป ญ หา 3. ความคดิ สรางสรรค 2. การทาํ งานไดค รบทกุ ขอ 4. ความรว มมอื ในการทาํ งานกลมุ 3. ความพงึ พอใจในการทํางาน 5. ความภาคภมู ิใจในผลงาน กบั เพ่ือน 199
íÊÃ»Ø ÊÒÃÐÊÒ¤ÞÑ เขียนสรปุ ใจความสาํ คญั ใหส มบรู ณ ¹Ñ¡àÃÕ¹䴌àÃÕ¹ÃÙŒÍÐäà ¨Ò¡º·àÃÕ¹¹éÕ สิ่งแวดลอมในจงั หวัด สิ่งแวดลอมทางกายภาพกับการดําเนนิ ชวี ิตของคนในจังหวัด …Ê…Ôè§…á……Ç…´…Å……ŒÍ…Á…·……Ò…§…¡…Ò……Â…À…Ò…¾……ã…¹…¨…Ñ…§…Ë…Ç…Ñ´………Á…Õ¼……Å…µ……‹Í…¡…Ò…Ã……´…íÒ…à…¹…Ô¹……ª…Õ Ç…Ô µ……¢…Í…§…¤……¹…ã…¹…¨……Ñ §…Ë……Ç…Ñ´.. …´…ÒŒ …¹…µ……Ò‹ …§…æ……à…ª…¹‹ ……´…ÒŒ…¹……·…ÕèÍ………͋٠…Ò…È…ÂÑ……´……ÒŒ …¹…¡…Ò…Ã…¤……Á…¹…Ò…¤……Á……´…ÒŒ …¹……¡…Ò…Ã…»…Ã…Ð……¡…Í…º…Í……Ò…ª…Õ¾……à»……¹š …µ……¹Œ .. เฉฉบลับย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. การเปลีย่ นแปลงสิง่ แวดลอมในจงั หวัด …Ê…Ôè§…á……Ç…´…Å……ŒÍ…Á…Á……Õ¡…Ò…Ã…à…»……Å…ÕèÂ…¹……á…»……Å…§…µ……Å…Í……´…à…Ç…Å…Ò……Í……Ò…¨…à…¡…Ô´…¨……Ò…¡…¸…Ã……Ã…Á…ª…Ò…µ……ÔË……Ã…×Í…Á……¹…ØÉ……Â.. …«…§èÖ …¡…Ò…Ã…à…»……Å…ÂèÕ …¹……á…»…Å……§…¹…¹Ñé……·……Òí …ã…Ë…ÁŒ …¹……ÉØ …Â……µ …ÍŒ…§……Á…¡Õ …Ò…Ã…»……ÅѺ……µ…ÇÑ …µ……Ò…Á…ä…»…´……ÇŒ …Â……á…Å…Ð…Á……¡Ñ …Ê…§‹…¼……Å.. …µ…Í‹ …¡……Ò…Ã…µ…§éÑ…¶……èÔ¹…°……Ò…¹…á……Å…Ð…¡…Ò…Ã……Â…ŒÒ…Â…¶……Ôè¹…Í…Â……Ù‹à…Ê…Á…Í…………………………………………………………………………………….. การจดั การสิง่ แวดลอมในจังหวดั …Ê…§Ôè …á…Ç…´……Å…ÍŒ …Á……á…Å…Ð…·……ÅѾ……Â…Ò…¡…Ã…·……èÕÁ…Õ…ã¹……¨…ѧ…Ë……Ç…´Ñ …à…»…¹š ……Ê…§Ôè …·…èÕ…µ…ÍŒ …§…ã…Ë…¤Œ……Ç…Ò…Á…Ê…Òí…¤……ÞÑ ……á……Å…Ð…¨…Ñ´……¡…Ò…Ã.. …´…Ùá……Å…ã…ª…ŒÊ…èÔ§…á……Ç…´…Å……ŒÍ…Á…á……Å…Ð…·……ÅѾ……Â…Ò…¡……Ã…ã…Ë…Œà…¡…Ô´……»…Ã……Ð…â…Â…ª…¹……Ê…Ù§…Ê…Ø…´……Ã…Ç…Á……¶…Ö§…¡……Ò…Ã…Í…¹……ØÃ…Ñ¡…É….. …Ê…Ôè§…á…Ç……´…Å…ÍŒ …Á……á…Å……Ð…·…ÅѾ……Â…Ò…¡……Ã…ãË……ÁŒ …ÕÊ……À…Ò…¾…¤……§…à…´…ÔÁ………………………………………………………………………………….. 200
Ẻ·´Êͺ·èÕ 3 วง ลอ มรอบตวั เลขหนาคาํ ตอบทถี่ กู ตอ ง 1 ครอบครวั ของนดิ อาศยั อยบู นภเู ขาสงู พอ ของนดิ ตอ งการสรา งบา นหลงั ใหม ควรสรางบา นอยา งไร เพราะอะไร 1. มผี นังบา นมดิ ชดิ หนาตา งนอ ย เพ่ือปอ งกันลมหนาว 2. ตวั บานโปรงโลง หนา ตา งรอบดา น เพอ่ื ปองกนั กลิ่นอับชน้ื 3. ตวั บานยกสูง หนา ตางบานใหญ เพ่ือใหล มพดั ผา นสะดวก 4. มีหลังคาเรยี บแบน ผนังโปรงโลง เพือ่ ใหน า้ํ ฝนไหลไดส ะดวก 2 เหตใุ ดชาวบา นท่อี าศยั อยูใกลร ิมนาํ้ จึงนิยมสรางบา นเรือนท่มี ีใตถนุ สงู 1. ใชทาํ คอกสัตว 2. ปอ งกนั สัตวป า 3. ปอ งกนั น้ําทว ม 4. ใชเกบ็ ขา วเปลอื ก 3 ในพน้ื ท่ที ่ดี ินมคี วามอุดมสมบูรณ ผคู นมักประกอบอาชพี ใดมากทสี่ ุด เฉฉบลับย 1. คา ขาย 2. ประมง 3. เล้ยี งสตั ว 4. เพาะปลกู 4 ปญ หาดนิ เส่อื มคุณภาพ ทําใหเ กดิ ผลกระทบอยางไร 1. เพาะปลกู ไมได 2. ในนาํ้ ไมมีปลา 3. นาํ้ ทวมหนกั 4. สัตวปา ตาย 5 ภูเขาหัวโลน อาจทําใหเกิดผลกระทบกับชุมชนท่ีอาศัยอยูใกลบริเวณน้ัน อยา งไร 1. ไฟไหมป า 2. น้ําปา ไหลหลาก 3. ทําใหเ กิดนํ้าเสยี 4. ทําใหอ ากาศเปนพิษ 201
6 ประเพณีบญุ บัง้ ไฟ เกิดขนึ้ จากสาเหตใุ ด 1. สภาพพนื้ ท่ีทอ่ี ยูใกลแหลง นาํ้ 2. การสง ขา วสารใหช ุมชนอื่น 3. สภาพพื้นทแี่ หงแลง 4. ความเชือ่ เรือ่ งภูตผี 7 ขอใดไมใชสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดลอ มทเี่ กดิ จากธรรมชาติ 1. แผน ดนิ ไหว 2. การสรา งเข่อื น 3. น้ํากัดเซาะตล่งิ 4. การทรดุ ตัวของแผนดนิ 8 การทาํ ลายปาชายเลน มีผลกระทบตอทรพั ยากรใดมากทสี่ ดุ 1. สตั วน ํ้า 2. สตั วป า เฉฉบลับย 3. ดนิ 4. นาํ้ 9 ขอ ใดเปน วธิ กี ารอนุรักษป าไมท ี่ดที สี่ ุด 1. ไมเ ขา ไปเท่ียวปา 2. ทาํ ปายประกาศหา มตดั ไม 3. เห็นใครทาํ ลายปากเ็ ขา ไปตักเตอื น 4. ปลูกตนไมทดแทนตน ไมทีถ่ ูกตดั ไป 10 กิจกรรมใดชวยสง เสริมการอนุรักษส ง่ิ แวดลอ ม 1. ชว ยกันเผาปาท่รี ก ๆ 2. จดั งานสงั สรรคในปา 3. รวมทาํ ความสะอาดแหลง นํ้า 4. ปลกู พชื ผกั สวนครัวดวยสารเคมี 202
ÇÑ´¼ÅÊÑÁÄ·¸ÔìẺ·´Êͺ ไดค ะแนน ªØ´·Õè 1 ใหนักเรยี นทาํ กจิ กรรมตอไปน้ี ˹Nj ·Õè 4 40คะแนนเตม็ 1 อานแผนท่ี แลววิเคราะหแ ละตอบคาํ ถาม (10 คะแนน) (µÇÑ Í‹ҧ¤Òí µÍº) แผนทภี่ ูมปิ ระเทศภาคเหน�อของประเทศไทย ิทวเข เชียงราย าแด ทิ ว เ ข า ีผ ป น ํ้น า นลาว แมฮอ งสอน ทิ ว เ ข า ห ล ว ง พ ร ะ บ า งทิวเขาผี ปน ้ํนาพะเยา ลาวทิ ว เ ข า ีผ ป น ํ้น า เมยี นมา แมน้ำยม มน้ำนาน ดอยx อ2,นิ58ทเ0ชนเยีมนตงทรให ม นาน คำอธบิ ายสัญลกั ษณ แมน ำ้ ปงเข่อื นภตูมากพิ ล อำเภอเมอื ง เขตจังหวัด เฉฉบลบั ย ทิ ว เ ข า ถ น น ธ ง ชั ย เขตประเทศ แ ม ้นำ ัวงลำปาง แพร แ ทางนำ้ แหลงน้ำ เข่ือนสิรกิ ิต์ิ ระดับความสูง น อุตรดิตถ 11,,2845000000000000 (เมตร) ตต ตอ สโุ ขทยั ต พิษณโุ ลก มาตราสว น 1 : 4,000,000 0 15 30 60 กม. 1. สภาพทางภูมศิ าสตรโดยรวมของพนื้ ท่ีในแผนท่ีเปนอยา งไร ¾……×¹é …·……èÕÊ…Ç‹…¹……Á…Ò…¡……à»……¹š …À…Ùà…¢…Ò…Ê……§Ù …Á……áÕ …Á…‹¹……íÒé …ä…Ë…Å…¼……Ò‹ …¹…Ë……Å…Ò…Â…Ê……Ò…Â……á…Å……Ð…Á…Õ·……èÕÃ…Ò…º…Ã…Ð…Ë……Ç…‹Ò…§……. ËØºà¢ÒÊÅѺ¡¹Ñ ä»……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. แหลง ทรพั ยากรและสง่ิ ตา ง ๆ มคี วามสมั พนั ธก นั อยา งไร และมผี ลตอ คนใน พ้นื ท่อี ยา งไร à…¹……Íè× …§…¨…Ò…¡…¾……¹é× …·……èÕÊ…Ç‹ …¹…Á……Ò…¡…à…»…¹š …·……ÇÔ …à…¢…Ò…Ê…§Ù …¨……§Ö …Í…´Ø …Á……Ê…Á…º……ÃÙ …³……ä»……´…ÇŒ …Â……·…ÅѾ……Â…Ò…¡…Ã…»……Ò† …ä…Á…Œ …. á……Å…Ð…à…»…š¹……á…Ë……Å…‹§…µ…¹Œ……¹…íéÒ…Ë……Å…Ò…Â…Ê……Ò…Â……¼…¤ÙŒ ……¹…Ê…‹Ç…¹……Á…Ò…¡……µ…Ñ§é …¶……èÔ¹…°…Ò…¹……….. ไดค ะแนน คะแนนเตม็ 10Í……Â…º‹Ù …Ã…Ôà…Ç…³……·…èÕÃ…Ò…º……Ã…Ð…Ë…Ç…Ò‹ …§…Ë…ºØ……ࢅ҅…º…Ò…§…Ê…Ç…‹ …¹…µ…§éÑ…¶……èÔ¹…°…Ò…¹……Í…Â…º‹Ù……¹…À…àÙ …¢…Ò.. ......................... 203
2 สํารวจสภาพแวดลอมในจังหวดั ตนเองที่มีการเปลย่ี นแปลงไปจากเดมิ แลวถายภาพมาติดกรอบขา งลา งและตอบคาํ ถาม (5 คะแนน) (µÑÇÍ‹ҧ¤Òí µÍº) (ตดิ ภาพ) เฉฉบลับย สภาพการเปล่ียนแปลงนี้เกิดจากสาเหตุใด และสงผลตอการดําเนินชีวิตของ คนในจังหวัดอยางไรบา ง …ã…¹…¨…ѧ…Ë……Ç…Ñ´…¢…Í……§…©…ѹ……Á…Õ¡…Ò…Ã……Ê…Ã…ŒÒ…§…¾……×é¹…·……Õèࢅ…µ…ͅص……Ê…Ò…Ë……¡…Ã…Ã…Á……¢…¹…Ò…´……ãË……Þ……‹ …µ…Ò…Á…À……Ò…¾…¢…ŒÒ……§…º…¹…. …Í…Ò…¨…·……íÒ…ã…Ë…Œª…ØÁ……ª…¹…ã…¡…Å……Œà…¤…ÕÂ…§……»…Ã…Ð…Ê……º…¡……Ѻ…»……˜Þ……Ë…Ò…Á……Å…¾…ÔÉ……·…Ò……§…¹…íéÒ……á……Å…Ð…Í…Ò…¡……Ò…È…¨……Ò…¡…¡…Ò…Ã…. …»…Å……‹Í…Â…¢…Í…§……àÊ……ÕÂ…á…Å……Ð…¤…Džѹ……¢…Í…§…â…Ã…§…§…Ò…¹…Í……µØ …Ê…Ò…Ë……¡…Ã…Ã…Á……á……Å…Ð…¼……¤ŒÙ …¹….. …Ê…‹Ç…¹……Ë…¹……§èÖ …Í…Ò…¨…à…¢…ÒŒ …ä…»…·……Òí …§…Ò…¹…·……èÕ â…Ã…§…§…Ò…¹…Í……µØ …Ê…Ò…Ë……¡…Ã…Ã…Á……………………….. ไดคะแนน คะแนนเตม็ ......................... 5 3 ในจังหวัดนักเรียนมีปญหาเกี่ยวกับส่ิงแวดลอมธรรมชาติหรือไม นักเรียน มแี นวทางชวยอนรุ กั ษส งิ่ แวดลอ มทางธรรมชาตอิ ยางไร (5 คะแนน) (µÑÇÍÂÒ‹ §¤íҵͺ)……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …¨…Ñ §…Ë……Ç…Ñ´…·……èÕ ©…ѹ……Í…Ò…È……ÑÂ…Í……Â…Ù‹Á…Õ…»…˜Þ……Ë……Ò…àÃ…×è…Í…§……¤…Ø…³…À……Ò…¾…¢…Í……§…´…Ô¹………´…Ô¹……ã…¹…¨…Ñ …§…Ë…Ç…Ñ´……Ê…‹Ç…¹……Á…Ò…¡….. …྅…Ò…Ð…»…Å……Ù¡…ä…Á…‹¤……Í‹ …Â…ä…´…Œ…ๅ…èÍ× …§…¨…Ò……¡…à…¡…É…µ……Ã…¡…Ã……㪅ʌ …Ò……Åअ…Á…Õ …ã¹……¡…Ò…Ã…à…¾…Ò…Ð…»……Å…¡Ù …¨……Òí …¹…Ç…¹……Á…Ò…¡….. …¨…¹…·……Òí …ã…Ë…´Œ …¹Ô……à…Ê…Íè× …Á……Ê…À…Ò…¾……«……èÖ§…à¡……É…µ……Ã…¡…Ã…¤……Ç…Ã…Ë…¹Ñ……Á…Ò…»……ÅѺ…»……Åا…….. 204 …¤…³Ø ……À…Ò…¾……¢…Í…§…´…Ô¹……á…Å……ÇŒ …Á…Ò…»…Å……¡Ù …¾……ª× …â´……Â…ä…Á…‹ ã…ª…ÊŒ …Ò…Ã……अ…Á…Õ ……………………….. ไดคะแนน คะแนนเต็ม ......................... 5
ªØ´·Õè 2 วง ลอ มรอบตวั เลขหนา คําตอบทีถ่ กู ตอง 1 สัญลักษณข อใดใชแสดงถึงแหลง นา้ํ ใน 6 ขอ ใดไมใ ชส าเหตขุ องการเปลยี่ นแปลง เฉฉบลับย แผนที่ สภาพแวดลอ มท่เี กิดจากธรรมชาติ 1. 2. 1. การสรา งถนน 3. 4. 2. แผนดินทรดุ ตวั 3. นํ้าตกเหือดแหง 2 ตําแหนงท่ีตั้งของส่ิงตาง ๆ ในจังหวัด 4. สายน้าํ เปล่ียนทิศทาง จะทาํ ใหร ขู อ มลู หลายอยา ง ยกเวน ขอ ใด 1. จํานวนอําเภอในจังหวดั 7 ถา ในแผนท่ีมีสัญลักษณแ หลง น้าํ 2. สถานทสี่ าํ คญั ในจงั หวดั และทร่ี าบลมุ คนทอี่ าศยั อยบู รเิ วณนนั้ 3. ความคดิ เหน็ ของคนในจงั หวดั มกั ประกอบอาชีพใด 4. ลักษณะทางกายภาพของจงั หวดั 1. บริการ 2. คาขาย 3. เกษตรกรรม 4. อุตสาหกรรม 3 สัญลักษณสีนํ้าตาลแทนความสงู ของ พน้ื ท่ีนา จะพบมากในบรเิ วณจังหวดั ใด ดภู าพ แลวตอบคาํ ถาม ขอ 8-9 1. ลพบรุ ี 2. นครปฐม 8 ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศแบบใด สอดคลอ ง 3. เพชรบูรณ 4. พระนครศรอี ยธุ ยา กับภาพ 4 ขอใดมีอิทธิพลตอการประกอบอาชีพ 1. ชายฝงทะเล 2. ทวิ เขาสงู ของคนในจงั หวัดมากท่สี ดุ 3. ปา ชายเลน 4. ที่ราบลมุ 1. อุปนิสยั สว นตวั 9 จากภาพ จะปรากฏบริเวณจังหวัดใด 2. นโยบายของรฐั มากทสี่ ุด 3. วัฒนธรรมประเพณี 1. จงั หวัดนครศรธี รรมราช 4. ลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ 2. จงั หวดั สพุ รรณบุรี 3. จังหวดั ปต ตานี 5 ภาพถายขอ ใดใชอางองิ ลักษณะทาง 4. จงั หวดั ภูเกต็ กายภาพได 1. 2. 3. 4. 205
10 ลักษณะภมู ปิ ระเทศแบบใดทีม่ นษุ ย 16 ขอใดไมใชสาเหตุของการลดจํานวน เลือกตั้งถ่ินฐานมากที่สุด ลงของสัตวป า 1. ภูเขา 1. การตัดไมท ําลายปา 2. ที่ราบสูง 2. การลาสัตวเ พือ่ การคา 3. ทร่ี าบหบุ เขา 3. การขยายพันธุสัตวหายาก 4. ทร่ี าบลมุ แมนาํ้ 4. การนาํ สัตวป ามาเปน สตั วเ ลยี้ ง 11 การทํานาแบบขนั้ บันได มกั ทําใน 17 ขอ ใดทําใหสง่ิ แวดลอ มเสื่อมโทรม ลักษณะภมู ปิ ระเทศแบบใด 1. การพฒั นาทางดานการศึกษา 1. พน้ื ทด่ี อน 2. พ้นื ที่ภูเขา 2. การเพ่ิมจํานวนของประชากร 3. พืน้ ทร่ี าบลมุ 4. พ้นื ทีช่ ายทะเล 3. การอนุรักษท รพั ยากรธรรมชาติ 12 การทาํ ลายปา ไมม กั จะเกดิ ภยั ธรรมชาติ 4. ความเจรญิ รุงเรืองทางดานศาสนา ในขอ ใด 18 ในจงั หวดั ทมี่ ีสภาพพื้นทแ่ี หง แลง 1. นํ้าทวม 2. พายฤุ ดรู อน ควรปลกู พชื ชนิดใด 3. แผน ดนิ ไหว 4. คลนื่ สนึ ามิ 1. เงาะ มังคดุ ทเุ รยี น เฉฉบลับย 13 การตัดตน ไมบ รเิ วณเชงิ เขา สง ผล 2. ยางพารา พริกไทย สม 3. สตรอวเ บอรรี ลิน้ จี่ ลกู ทอ ดงั ตอ ไปน้ี ยกเวนขอใด 4. มนั สําปะหลงั ขาวโพด ออย 1. ดนิ ถลม 2. แหลง นํ้าแหง 3. สัตวไมมีท่ีอยู 4. สตั วป าเพม่ิ ขน้ึ 19 การท้งิ ขยะลงในแมน ้าํ จะทําใหเกดิ 14 ใครชว ยอนุรกั ษส ่ิงแวดลอ มได ผลอยางไร อยางเหมาะสม 1. บนถนนไมมขี ยะ 1. กงุ เผาวัชพืชในแปลงเพาะปลูก 2. เกิดมลพษิ ทางนาํ้ 2. ปอ มนาํ ขวดแกว ทใี่ ชแ ลว มาใชซ าํ้ อกี 3. มีสัตวนํ้าเพิม่ มากข้ึน 3. กอ ยนาํ นา้ํ จากการซกั ผา มาลา งจาน 4. มวี ัชพชื น้าํ เพิ่มมากข้ึน 4. หนงิ นาํ สตั วป า มาเลย้ี งเพอ่ื ขยายพนั ธุ 20 นกั เรียนมสี วนรวมในการอนุรักษ 15 การปลูกตนไมขางถนนในเมืองใหญ ส่งิ แวดลอมไดอยางไร เพอ่ื ประโยชนในขอใดเปน หลกั 1. ใชถ งุ ผา แทนถุงพลาสตกิ 1. เพ่ือใหร ม เงาขางถนน 2. ใชเ คร่ืองปรบั อากาศมากขึน้ 2. เพื่อความสวยงามของถนน 3. งดใชน า้ํ จากแมน า้ํ สายสําคัญ 3. เพื่อใหเปนแหลงทอ งเท่ยี ว 4. ใชผลติ ภณั ฑที่ไมบ รรจุหบี หอ 4. เพ่ือชว ยลดปรมิ าณอากาศเสยี ไดคะแนน คะแนนเตม็ 206 ......................... 20
¡ÒäԴ¢ŒÍÊͺ์¹ quiz ªØ´·Õè 1 50 ¤Ðá¹¹ 50ไดคะแนน คะแนนเต็ม วง ลอมรอบตัวเลขหนาคาํ ตอบทถ่ี กู ตอง 1 ขอใดกลาวถกู ตอง 5 “จงนบั ถอื บดิ ามารดาของตน” จาก เฉฉบลับย 1. ทุกศาสนาสอนใหบูชาพระเจา บัญญัติ 10 ประการ ของศาสนาครสิ ต 2. ทุกศาสนาสอนใหเ กรงกลัวภตู ผี มีความสมั พนั ธก ับขอใด 3. ทุกศาสนามรี ปู เคารพของศาสดา 1. แอนเห็นเพอื่ นดกี วาแมเสมอ 4. ทกุ ศาสนาสอนใหศ าสนกิ ชนเปน คนดี 2. ปอมเช่ือฟง คาํ ส่ังสอนของพอ แม 3. กงุ ไมก ลา คุยเรื่องสว นตวั กับพอแม 2 ขอ ใดสอดคลอ งกบั เทวทตู ทงั้ 4ทเี่ จา ชาย 4. หนองไมท าํ ความเคารพพอแมของ สทิ ธัตถะไดท อดพระเนตรเห็น เพ่อื น 1. ความรกั 2. ความจรงิ 3. ความทุกข 4. ความยากจน 6 หากมีเพ่ือนที่ไมไดนับถือศาสนาเดียว กับเรา เราควรปฏิบัตติ อ เพื่อนอยางไร 3 การบําเพ็ญเพียรทางจิตของเจาชาย 1. เลิกคบเพือ่ นคนนน้ั สทิ ธตั ถะ เกยี่ วของกับคุณธรรมขอ ใด 2. ไมทาํ ตัวสนิทสนมดวย 1. วริ ิยอุตสาหะ 3. ไมพ ูดลบหลูศาสนาท่ีเพอื่ นนับถือ 2. ซ่อื สัตยส ุจริต 4. โนม นา วใหน บั ถอื ศาสนาเดยี วกบั ตน 3. อดทนอดกลนั้ 4. มรี ะเบยี บวนิ ยั 7 คนทบ่ี รหิ ารจติ และเจรญิ ปญ ญาสมาํ่ เสมอ จะมลี กั ษณะอยา งไร 4 “เอ็มรสู ึกยินดีกบั เพ่ือนทชี่ นะเลิศการ 1. สามารถแกป ญ หาไดด ี แขง ขันรองเพลง” สอดคลอ งกบั 2. ชอบเกบ็ ตวั ไมค อ ยพูด คุณธรรมขอใด 3. จิตใจสับสนวุนวาย 1. กายทุจรติ 2. กายสจุ รติ 4. ยดึ มั่นในตนเอง 3. มโนทุจริต 4. มโนสุจริต 207
8 “ฝนแบง อาหารใหเ พอ่ื นเพราะเพอ่ื นไมม ี 12 ใครปฏบิ ัติตนเปน พลเมืองดีตามวิถี เงนิ ซือ้ ขา วกนิ ” ตรงกบั สุภาษติ ขอใด ประชาธิปไตย 1. คนจะลวงทกุ ขไดเพราะความเพยี ร 1. นดิ ลอกการบา นเพ่ือน 2. เมตตาธรรมค้าํ จนุ โลก 2. นา้ํ เดินขามถนนใตสะพานลอย 3. น้าํ พง่ึ เรือ เสอื พึ่งปา 3. นองไมค ืนหนังสอื ของหอ งสมุด 4. หวา นพชื หวงั ผล 4. นอ ยยอมรับฟงความเห็นของผอู ่ืน 9 ขอใดเปน การนําหลกั ธรรมมาใชเพอื่ 13 ใครปฏิบตั ิตนเปน พลเมอื งดีในฐานะ การอยรู ว มกันอยา งสมานฉนั ท สมาชกิ ของชุมชน 1. เขา รวมปฏิบัตกิ ิจกรรมกบั ผอู ืน่ 1. ปรชี าและเพอ่ื นทาํ ความสะอาดรอบๆ โดยไมเ ตม็ ใจทํา บริเวณโบราณสถานในชมุ ชน 2. คอยจบั ผิดเพ่อื นรวมงาน 2. สมพรเรียกเก็บคาเชาแผงในตลาด แลว รายงานหวั หนา เพิ่มเพ่อื จะไดเ งนิ มากขึ้น 3. วางตวั เปนกลางไมเขาขา งฝายใด 3. บญุ เตมิ เขา รว มกจิ กรรมของชมุ ชน เฉฉบลับย ฝา ยหนงึ่ เพ่ือหวังคะแนนเลอื กต้งั 4. ชว ยเหลอื ผอู ื่นเพ่ือหวงั ชอ่ื เสยี ง 4. กิ่งแกวรับฟงเฉพาะความคิดเห็นท่ี เกียรตยิ ศ ตรงกับตนเทา น้นั 10 วิธกี ารพฒั นาศาสนสถานขอ ใดเหมาะ 14 ขอ ใดคือจดุ มงุ หมายที่สําคญั ของการ กับวัยของนักเรยี นมากท่ีสดุ มีผนู าํ ชุมชน 1. จา งยามดแู ลทรพั ยส นิ ในศาสนสถาน 1. เพอื่ ใหค นในชมุ ชนมีชอื่ เสยี ง 2. ชว ยสรา งกาํ แพงลอ มรอบศาสนสถาน 2. เพอ่ื ใหค นในชุมชนสามัคคกี ัน 3. บรจิ าคเงนิ สรา งอาคารในศาสนสถาน 3. เพ่อื ใหช มุ ชนมีความสงบเรยี บรอ ย 4. ชว ยเก็บกวาดบริเวณศาสนสถาน 4. เพอ่ื ใหช มุ ชนมอี าํ นาจตอ รองกบั รฐั บาล 11 ขอ ใดเปน การปฏบิ ตั ติ าม “สามคั คธี รรม” 15 ใครคือผูน ําของโรงเรยี น 1. เคารพสถาบันชาติ 1. หวั หนา หอ ง 2. เคารพสิทธขิ องผูอ นื่ 2. ครฝู า ยปกครอง 3. ตัดสนิ ใจอยางมเี หตผุ ล 3. ผอู าํ นวยการโรงเรียน 4. ทาํ งานเพอื่ ประโยชนสวนรวม 4. หวั หนา กลมุ สาระภาษาไทย 208
16 ผตู ามท่ีดีควรมีคณุ สมบตั ิอยา งไร 20 ขอใดเปนการใชสิทธิที่จะมีสวนรวมใน 1. รบั ผดิ ชอบเฉพาะงานเล็ก ๆ สงั คมทถ่ี กู ตอ ง 2. ปฏบิ ตั หิ นา ทตี่ ามท่ีไดร บั มอบหมาย 1. เจมสว างถงั ขยะบนทางเทา 3. ใหค วามรว มมอื กบั ผนู าํ เปน บางครง้ั 2. แหมม ชวนเพ่อื นไปเลน ท่หี อ งสมดุ 4. งดแสดงความคดิ เหน็ ระหวา งทาํ งาน 3. โดมเก็บขยะบริเวณรอบ ๆ หมูบาน 17 ใครสามารถสรางความขัดแยงใหเกิด 4. ตม้ั เปด เพลงเสียงดังใหเ พอ่ื นบาน ข้ึนได ฟง ดว ย 1. แกวคาํ นึงถึงผลประโยชนส ว นรวม 21 หากนกั เรยี นพบเหน็ เดก็ ถกู ทาํ รา ยควรทาํ 2. แกมปฏิบตั ติ ามกฎกตกิ า อยา งไร 3. กรไมปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย 1. ยนื ดูเหตุการณอยูหา ง ๆ 4. กุง มีมารยาทในการฟง 2. ตามเพอื่ น ๆ มาชวยเหลอื 18 “ไมถูกบังคับใหเปนขอทาน” เปนการ 3. อยเู ฉย ๆ เพราะไมใชเ รอื่ งของตน ไดร บั สทิ ธพิ ้นื ฐานดานใด 4. แจงคุณครูหรือตาํ รวจใหชว ยเหลอื 1. สทิ ธทิ ี่จะมชี วี ิต 22 การตดั สินคดีความเปนอํานาจของ เฉฉบลับย 2. สทิ ธิที่จะมีสวนรวม ฝา ยใด 3. สทิ ธิท่ีจะไดร ับการพัฒนา 1. อาํ นาจบริหาร 4. สิทธิท่ีจะไดรับการปกปองคุมครอง 2. อํานาจตุลาการ 19 หลกั ภราดรภาพ มคี วามสาํ คญั อยา งไร 3. อํานาจอธปิ ไตย 1. ประชาชนทกุ คนจะไดร บั การคมุ ครอง 4. อาํ นาจนติ ิบญั ญัติ สทิ ธิเสรีภาพ 23 ขอ ใดจับคอู าํ นาจอธปิ ไตยไมถ กู ตอง 2. มีความสมั พันธเปนพ่นี องรว มโลก 1. อาํ นาจบรหิ าร-ศาล เออ้ื เฟอ พึง่ พาอาศัยกนั 2. อาํ นาจตุลาการ -ศาล 3. ทกุ คนมีศกั ด์ิศรีความเปน มนุษย 3. อํานาจบริหาร-คณะรฐั มนตรี เทาเทยี มกัน 4. อํานาจนติ ิบญั ญัติ-รัฐสภา 4. การตัดสนิ ใจใด ๆ จะตอ งยึดเสียง ขา งมากเปน หลกั 209
24 บคุ คลใดปฏิบัตติ นไดเ หมาะสม 28 ใครเลือกซอื้ สินคาไดเหมาะสม 1. ปนซื้อสบเู พราะชอบโฆษณา ในวันเลอื กตง้ั สมาชกิ ทองถนิ่ 2. ปานซอื้ นาฬกาเพราะกลองใสส วย 1. ยา แกว ไปลงคะแนนเลอื กตงั้ 2. เด็กหญงิ ไกไ ปลงคะแนนเลอื กต้ัง 3. เปลซือ้ นา้ํ ยาลา งจานเพราะราคา 3. ลงุ กั้งผูสมคั รใหเงินคนในหมูบ าน ถกู มาก 4. ปา กงุ เดนิ ทางไปเยย่ี มญาตติ า งจงั หวดั 4. แปง ซ้อื ตูเยน็ เพราะมีใบรับประกัน คณุ ภาพ 25 ขอ ใดไมใ ชความสําคญั ของ พระมหากษตั ริยไทย 29 “แกมซื้อแชมพสู ระผม เมือ่ นํามาใช 1. สง เสริมความมัน่ คงของประเทศ ปรากฏวาผมรวง จึงฟองคาเสียหาย 2. ดแู ลบาํ บดั ทุกขบาํ รุงสุขประชาชน จากผผู ลิต” จากขอ ความนีแ้ สดง 3. บรหิ ารงานในสาํ นักนายกรฐั มนตรี ใหเ หน็ ถึงสทิ ธพิ น้ื ฐานผบู ริโภคขอ ใด 4. สง เสรมิ และสนบั สนนุ ดา นการศกึ ษา 1. สทิ ธิที่มีอสิ ระในการเลอื กซ้อื สนิ คา 2. สิทธิท่จี ะไดร บั การพจิ ารณาและ เฉฉบลับย 26 “น้าํ พริกหนมุ ลําขะหนาดเจา” คาํ พูดน้ี ชดเชยความเสียหาย สมั พนั ธกับขอ ใด 1. แปงคุยกบั เพ่อื นที่เปน คนพัทลุง 3. สทิ ธทิ จ่ี ะไดร บั ความเปน ธรรมในการ 2. รงุ กระซบิ กบั เพอื่ นทเ่ี ปน คนสพุ รรณ ทําสัญญา 3. โดโดต ะโกนถามทางลงุ ทเี่ ปน คนอสี าน 4. บอลบอกเพอ่ื นทเี่ ปน คนเชยี งรายวา 4. สิทธทิ จี่ ะไดรบั ขาวสารทีถ่ ูกตอง และเพียงพอเก่ยี วกับสินคา อาหารอรอย 30 ปอนดเลอื กซ้อื สินคา จากอาชพี เกษตรกรรมในงาน OTOP แสดงวา 27 แมคาควรมีความรับผิดชอบตอสังคม ปอนดเ ลอื กซือ้ สนิ คาขอ ใด อยา งไร 1. สรอยเงินแท 1. ไมร ับคืนสนิ คาท่มี ีการชาํ รดุ 2. มะมวงแชอ ่ิม 2. เลือกขายสินคา ท่ีมคี ณุ ภาพดี 3. แจกันดอกไม 3. ขายสินคา ใหไ ดก าํ ไรมากทีส่ ดุ 4. เครอ่ื งปน ดินเผา 4. กาํ หนดราคาสนิ คาตามความพอใจ 210
31 กรณตองการซื้อไมโครเวฟ กรณตอง 34 ใครกูเงนิ จากธนาคารสมเหตุสมผล พจิ ารณาเครอ่ื งหมายขอ ใด มากที่สุด 1. 2. 1. กมลกูเงินเพ่ือขยายโรงงานผลิต ปลากระปอ ง 2. ไชยวัฒนกูเงินเพ่ือซ้ือโทรทัศน เครื่องใหม 3. 4. 3. ทินกรกูเงินเพื่อขยายแปลงผัก สวนครวั ในบาน 4. ณเดชนกูเงินเพื่อซื้อรถจักรยานมา 32 “การะเกดเก็บออมเงนิ จากการ ขี่เลน ใชจ ายในแตละวนั ” การปฏบิ ตั ขิ อง การะเกดสอดคลอ งกบั หลกั เศรษฐกจิ 35 “กรรชัยไดรับเงินเดือน 15,000 บาท พอเพียงในขอ ใด ส้ินเดือนนําเงินไปชําระบัตรเครดิต 3,000 บาท และซอ้ื เสอื้ ผา 1,500 บาท” 1. การมเี หตผุ ล ขอความดังกลาวไมไดกลาวถึงหนาที่ เฉฉบลับย 2. การพง่ึ ตนเอง 3. การรูจกั พอประมาณ เงินในขอ ใด 1. เปน มาตรฐานในการวดั คา 4. การมีภูมคิ มุ กนั ท่ีดีในตน เปรยี บเทยี บคา 2. เปนส่อื กลางในการแลกเปลีย่ น 33 ใครไมป ฏบิ ัติตามหลกั เศรษฐกิจ 3. เปน มาตรฐานชําระหน้ีภายหนา พอเพียง 4. เปน เครอื่ งรกั ษามูลคา ของสนิ คา 1. มานพไมลงทุนทํารานคาเกินความ 36 วธิ ีการผลิตสนิ คาในขอ ใด ทําใหชุมชน สามารถตนเอง เขม แข็ง 2. กนกเลอื กซอื้ สนิ คา จากความจาํ เปน 1. ผลติ สนิ คา เลยี นแบบสนิ คา ยห่ี อ ดงั ๆ ทตี่ องใช 2. ผลติ สนิ คา เพอ่ื การสง ออกอยา งเดยี ว 3. นิชคุณซื้ออาหารมารับประทานแต 3. ผลติ สนิ คา โดยใชว ตั ถดุ บิ ทม่ี ใี นชมุ ชน พออ่มิ 4. ผลิตสินคาท่ีเนนปริมาณมากกวา 4. วานิชไมพึ่งพาความชวยเหลือจาก ใครเลย คณุ ภาพ 211
37 ใครควรไปขอกูเงนิ จากธนาคารมาก 41 ถา ในจงั หวดั ของเรามแี มน า้ํ เราสามารถ ท่ีสดุ แสดงดวยสัญลักษณใดในแผนที่ 1. นกตองการซอ้ื เครือ่ งเขยี น 1. 2. 2. หนอ ยตองการซ้อื รถบังคับวิทยุ 3. นดิ ตอ งการซอื้ โทรศพั ทม อื ถอื รนุ ใหม 3. 4. 4. นาํ้ ตอ งการขยายกจิ การผลติ เสอื้ ยดื 42 แผนท่ีลักษณะภูมิประเทศไมไดแสดง 38 ขอ ใดเปนการผลติ สินคาทสี่ งเสรมิ ขอมลู ในขอใด เศรษฐกจิ ของชมุ ชน 1. แสดงบรเิ วณท่รี าบลมุ 1. เนนการสง ออก 2. แสดงประเภทปาไม 2. ใชวัสดทุ ม่ี ภี ายในชมุ ชน 3. แสดงทตี่ ั้งทวิ เขา 3. เนนปริมาณมากกวาคุณภาพ 4. แสดงแหลง นํา้ 4. เลียนแบบสนิ คาจากชมุ ชนอ่ืน 43 ขอ มลู ใดไมบอกในแผนทจ่ี ังหวัด 39 ผปู ระกอบอาชพี คา ขาย ควรปฏบิ ตั ิ 1. ระยะทางของสงิ่ ตาง ๆ ในจังหวัด เฉฉบลับย ตามขอใด 2. ลกั ษณะทางกายภาพของจงั หวัด 1. ขายสินคา หนีภาษี 3. ความสะอาดของแมน้าํ ในจังหวดั 2. ขายสนิ คา คุณภาพตา่ํ 4. ตาํ แหนง ของสิ่งตา ง ๆ ในจังหวดั 3. ขายสนิ คามีคุณภาพ 44 ใครอนุรักษปาไดดที ่ีสุด 4. ขายสินคามตี าํ หนิ 1. กุงรวมกลุม ปลกู ปา 40 รปู ถายในขอใดไมจ ดั เปนรปู ถาย 2. แกว ไมเขา ไปเทยี่ วปา ทางภมู ิศาสตร 3. กอ งเขา ไปตอ วาคนทาํ ลายปา 1. รูปถา ยเกาะชาง 4. ก่งิ นาํ ไมห ายากไปแปรรูปสงออก 2. รปู ถา ยภูกระดงึ 3. รปู ถายสนุ ัขตวั โปรด 45 สัญลักษณ ในแผนท่ี แสดงถงึ สิง่ ใด 1. หลมุ บอ 4. รูปถายทา เรอื นา้ํ ลึก 2. แหลง นา้ํ 3. ทตี่ งั้ จังหวัด 4. ทางหลวงแผนดนิ 212
46 การกระทาํ ในขอ ใดทาํ ใหด นิ เสอ่ื มคณุ ภาพ 47 การทําลายปาชายเลน มผี ลกระทบ มากทส่ี ุด ตอ ทรัพยากรใดมากทีส่ ดุ 1. ไถกลบซากสัตว 1. นา้ํ 2. ปลูกพืชตระกลู ถ่วั 2. ดนิ 3. ใชป ุยเคมปี รมิ าณมาก 3. สตั วนา้ํ 4. ปลูกพืชหลายชนิดบริเวณเดยี วกนั 4. สัตวปา ดูภาพแผนทจ่ี ังหวดั ระยอง แลว ตอบคาํ ถาม ขอ 48-50 แผนที่แสดงลกั ษณะภูมปิ ระเทศของจังหวดั ระยอง คำอธบิ ายสญั ลกั ษณ ชลบรุ ี อคาลงอเงกใ็บหนญ้ำ เอขา างหเกอนิ ็บุทดนายดำ้านแหง ชาติเขาชะเมา อำเภอเมือง หนออา งงเปกลบ็ านไห้ำล อำเภอ อ.ปลวกแดง อ.เขาชะเมา จันทบุรี ทแหา อลาง กทาอศงยเทาน่ียว อทุ ยานแหงชาติ อดา องกเกก็บลานยำ้ อ.วังจนั ทร วัดเขาวงกตรุจิรวงศาราม วเขดั ตจังหวัด ถนน อ.นคิ มพฒั นา ระยอง วดั สารนารถธรรมาราม ททาางงนรถำ้ ไฟ แหลง น้ำ สวนสภุ ัทรา อ.บานคาย อ.แกลง ระด(ับเมคตวารม) สูง อ.บานฉาง เฉฉบลับย 11,,750251255005050000000000 สนามบนิ อูตะเภหาาดพยูน อำเภอเมืองระยอง อนสุ าวรียส นุ ทรภู อาวไข หาดทรายทอง บา นเพ แหลมแมพ มิ พ ก.มนั ใน น หาดแมรำพงึ สวนสน ก.มนั กลาง ต มาตราสว น 1 : 1,000,000 ก.มันนอก ตต ตอ 0 5 10 20 กม. ก.เสม็ด 48 อางเกบ็ นา้ํ สําคญั ของจังหวัดระยอง 49 ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดระยอง ตงั้ อยูทิศใด ทาํ ใหเ กดิ แหลง ทอ งเทยี่ วทส่ี าํ คญั ขอ ใด 1. ทิศตะวนั ออก 1. ชายหาดและเกาะกลางทะเล 2. ทิศตะวนั ตก 2. บึงนา้ํ จดื ขนาดใหญ 3. ทศิ เหนือ 3. ภเู ขาสูงและถํ้าลกึ 4. ทศิ ใต 4. ทะเลสาปนา้ํ จดื 50 สถานทส่ี าํ คญั ทม่ี นษุ ยส รา งขน้ึ ทม่ี คี วามสาํ คญั ตอ การพฒั นาเศรษฐกจิ ในจงั หวดั และ ภูมภิ าคคือขอใด 1. อา งเก็บนา้ํ หนองปลาไหล 2. อา งเกบ็ นํา้ เขาหินดาด 3. สนามบนิ อูต ะเภา 4. อนสุ าวรียสุนทรภู 213
¡ÒäԴ¢ŒÍÊͺ์¹ quiz ªØ´·Õè 2 50 ¤Ðá¹¹ 50ไดค ะแนน คะแนนเต็ม วง ลอมรอบตวั เลขหนาคาํ ตอบทถ่ี กู ตอ ง 1 ขอใดเปนผลดีของการใชศาสนสถาน 5 ใครปฏิบัตติ นตามหลักพรหมวหิ าร 4 เปนศนู ยก ลางชมุ ชน 1. ไกไมเ ขาขา งเพ่ือนคนใดคนหนึ่ง 1. เกดิ ความสามคั คีในชุมชน 2. กานตประกอบอาชีพสุจริต 2. เปน สถานทีท่ อ งเทยี่ ว 3. แปงฝกน่งั สมาธิประจาํ 3. ทําใหช มุ ชนมีช่อื เสยี ง 4. สมซอื้ ขนมใหเพ่อื น 4. สรา งงานในชุมชน 6 การน่งั สมาธิมีประโยชนอ ยางไร 2 ใครปฏิบตั ติ นไมถ กู ตองตามหลกั 1. ทาํ ใหจติ ใจสงบ ศาสนา 2. ทาํ ใหมีความรบั ผิดชอบ เฉฉบลับย 1. ทนิ ใสบ าตรทุกเชา 3. ทาํ ใหม ีความขยนั หม่ันเพยี ร 2. หยงพูดความจริงกบั เพ่ือน 4. ทาํ ใหม ีระเบยี บวินยั ในการทาํ งาน 3. แกม บริจาคสิ่งของให เด็กดอยโอกาส 7 ใครปฏิบัตติ นเปน คนดี 4. ฝา ยชอบรงั แกคนทอี่ อนแอกวา 1. ตรีพดู สุภาพเฉพาะกบั เพือ่ นสนทิ 2. โตงปฏิเสธเพ่ือนทีช่ วนดื่มสุรา 3 การละหมาด มจี ุดมุงหมายอยา งไร 3. ตอ มนาํ เงินทีเ่ กบ็ ไดไปบรจิ าค 1. เพ่ือนมสั การอลั ลอฮ 4. ตุกเชอ่ื ฟง เพอื่ นมากกวา พอ แม 2. เพ่อื สรา งบารมีใหตนเอง 3. เพื่อขัดเกลาจติ ใจใหเ บิกบาน 8 เมตตาธรรมค้ําจุนโลก สอดคลองกับ 4. เพอื่ บาํ เพญ็ เพียรภาวนาใหแกกลา ขอใด 1. จูนเขารบั ราชการเปนครู 4 ใครถอื วามวี จสี ุจรติ 2. ขวญั จบั ปลาในแมนาํ้ มาเลี้ยง 1. แตวพูดไมต รงความจรงิ 3. ปองเรียนจบคณะวิศวกรรมศาสตร 2. อั้มพูดเอาดีเขา ตัว 4. แกม บรจิ าคเงนิ เพอ่ื สราง 3. ฝนพูดจาไพเราะ โรงพยาบาล 4. มวิ พูดจาฉะฉาน 214
9 ใครปฏิบตั ิถูกตอ งเมอ่ื ยนื ตอ หนา 13 ขอใดแสดงถึง “เครื่องยึดเหนี่ยวทาง พระภกิ ษุ จิตใจ” ในทางพระพทุ ธศาสนา 1. แปว ยืนกมศรี ษะ มือประสาน 1. เช่ือโชคลาง ดานหนา 2. ดูดวงกับพระ 2. พลอยยนื กมหลงั มอื ไขวหลัง 3. พกเครอ่ื งราง 3. กอลฟยนื ตวั ตรง มือเทาเอว 4. สวดมนตท ุกเชา 4. ปจู ายืนตวั ตรง มือไขวห ลงั 14 ขอใดมีความสัมพันธกับพุทธศาสน- 10 ใครแกป ญหาดวยสนั ติวธิ ี สุภาษิต โลโกปตถฺ มภฺ กิ า เมตตฺ า 1. แกว รบั ฟง เฉพาะเสียงคนสวนใหญ 1. จนั ทรเพญ็ เอาไมไลต ีสุนขั จรจดั 2. ตาลเหน็ แกประโยชนส ว นรวม 2. สิทธชิ ัยจอดรถขวางรถชาวบาน 3. บอยเอาตวั เองมากอ นคนอื่น 3. เรอื งฤทธชิ์ วยซอ มรถเพอื่ นบาน 4. แกมเอาใจคนสวนนอ ย 4. วีรภาพแบงเศษอาหารใหข อทาน 11 การตง้ั ใจเรียนหนงั สือ สอดคลอ ง 15 ใครไมไดปฏิบัติตนเปนพลเมืองดีตาม เฉฉบลับย หลักธรรมใด วิถปี ระชาธิปไตย 1. สจุ รติ 3 1. เจนยอมรบั ฟง ความคดิ เหน็ ของผอู น่ื 2. เบญจศลี 2. จมุ ทาํ ตกุ ตาโดยลอกเลยี นแบบเพอื่ น 3. มงคล 38 3. จติ รเต็มใจทาํ กจิ กรรมเพอ่ื สว นรวม 4. พรหมวหิ าร 4 4. แปง ทาํ งานอยา งเตม็ ความสามารถ 12 ใครปฏิบัติตนแสดงถึงกตัญูกตเวที 16 ใครมหี ลกั ธรรมาภบิ าล ตอ ประเทศชาติมากทส่ี ดุ 1. ปง ไมฟ งความคดิ เหน็ ของผอู นื่ 1. แปงใชภาษาไทยมาตรฐานแทน ภาษาถิ่น 2. ปนทําเพอื่ ตนเองมากกวา สวนรวม 3. ปน คดิ สรา งสรรคย ดึ ตนเองเปน หลกั 2. บอยเคารพบูชาบรรพบุรษุ ของไทย 4. เปาทาํ หนา ทดี่ ว ยความซอื่ สตั ยส จุ รติ 3. โอช อบฟง เพลงชาติทกุ เชา 4. ตูนเปน อาสาสมัครจราจร 215
17 เมอ่ื เกดิ ปญหาการทํางานกลมุ ควรทาํ 21 ใครไดร บั สิทธิทจ่ี ะไดร บั การพัฒนา อยา งไร 1. แมพานอ งนํา้ มนตไปรับวัคซนี 1. เลิกทํางานนั้นทนั ที 2. พอ พานอ งน้าํ ฝนไปเขา โรงเรยี น 2. ทาํ งานใหมท ีง่ า ยกวา 3. ยาพานอ งเจยี๊ บไปเที่ยวสวนสตั ว 3. แกปญ หาโดยใชเ หตุผล 4. ตาพานอ งแดนไปปลูกปาชายเลน 4. ยา ยสมาชกิ ในกลมุ ทม่ี ปี ญ หาออกไป 22 วลั ยาถกู ปฏเิ สธไมใ หท ดลองเปด โทรทศั น 18 ผนู ําทดี่ ี ควรเลอื กบคุ คลทีม่ ีลกั ษณะใด กอ นซ้อื เปนการละเมิดสทิ ธิใด 1. บุคลกิ ดี 1. สิทธิท่ีจะไดรับการพิจารณาและ 2. การศึกษาสูง ชดเชยความเสียหาย 3. มั่นใจตนเองสงู 2. สิทธิที่จะไดรับความปลอดภัยจาก 4. มีเหตุผล เสยี สละ การใชสนิ คาและการบรกิ าร 3. สทิ ธทิ จี่ ะไดร บั ความเปน ธรรมในการ 19 ใครปฏิบัติตนในการเลือกตง้ั ไดถ ูกตอง ทําสญั ญา 1. แตวรบั เงนิ จากหัวคะแนน เฉฉบลับย 2. เติลดูนโยบายของพรรคการเมือง 4. สิทธทิ ม่ี อี ิสระในการเลอื กซื้อสนิ คา กอนเลือก 23 “เกง ซื้ออาหารไปฝากเพ่อื นมุสลมิ ” 3. กงุ เปดรา นขายสรุ าในวันเลือกต้ัง มีความสมั พันธก บั ภาพใด 4. เกง ใหเ พอ่ื นเลอื กผสู มคั รทตี่ นเลอื ก 1. 20 ใครเปนผูตามท่ดี ี 1. กรณทํางานท่ีไดรับมอบหมายดวย ความรับผิดชอบ 2. 2. แปงใชอารมณม ากกวา เหตผุ ล ในการทํางาน 3. จูนไมฟง ความคดิ เห็นคนอ่ืน 3. 4. จมุ มคี วามเชอ่ื ม่ันตนเองสงู 4. 216
24 ใครปฏิบตั ิตนตามหลักเศรษฐกจิ 28 ใครไมท าํ ตามหลักเศรษฐกจิ พอเพียง พอเพยี ง 1. จากินอาหารตามความเหมาะสม 1. สิงหป ลกู ผักเพ่ือขายในราคาแพง 2. เอกใหเ พอ่ื นเล้ียงขาวเพ่อื ประหยัด 2. แปง ไมก นิ มอ้ื เยน็ ประหยดั คา ใชจ า ย 3. แกว พูดจาดแี ละพูดแตส ่ิงทคี่ วรพดู 3. แพทเลอื กซอ้ื สนิ คา ตามความจาํ เปน 4. ปาลม ใชข องหรหู ราเพราะมฐี านะดี 4. จอมซอ้ื ของทลี ะมากๆ แตใ ชไ มห มด 29 การพึ่งพากันทางเศรษฐกิจชุมชนมี 25 โทรศัพทมือถือของสุเชาวระเบิดขณะ ประโยชนด า นใดมากทสี่ ุด ใชง าน สุเชาวถูกละเมดิ สิทธิขอ ใด 1. ทาํ ใหผ ูป ระกอบการราํ่ รวยมากข้ึน 1. สิทธิทีม่ อี สิ ระในการเลอื กสินคา 2. มีการใชทรัพยากรเพิ่มมากขึน้ 2. สทิ ธิที่จะไดร บั ความเปน ธรรมใน 3. เกดิ หางสรรพสินคา ทที่ นั สมยั การทําสัญญา 4. ทาํ ใหช มุ ชนมีความเขมแขง็ 3. สทิ ธทิ จี่ ะไดร บั ความปลอดภยั จาก 30 ขอ ใดเปนความสัมพันธร ะหวา งผซู อ้ื การใชสินคา และบรกิ าร และผูข ายทเ่ี หมาะสม 4. สทิ ธทิ ีจ่ ะไดรบั การพิจารณาและ 1. โอขายผักปลอดสารพิษราคาถูก เฉฉบลับย ชดเชยความเสยี หาย 2. มวิ ตอรองกบั แมค าเพื่อขอของแถม 26 การเลอื กซอ้ื สนิ คา ขอ ใดเหมาะสมทส่ี ดุ 3. บอยซอ้ื นํา้ ยางจากชาวสวนในราคา 1. ซ้ือสินคา ยหี่ อ ดัง ๆ ราคาแพง ถกู กวา ตลาด 2. ซือ้ สินคาทีผ่ ูคนนยิ มซอ้ื กนั มาก 4. กฟิ๊ นาํ อาหารกระปอ งทหี่ มดอายมุ า 3. ซ้ือสินคา ที่มกี ารโฆษณาโดง ดงั ขายในราคาถกู 4. ซอื้ สินคาทมี่ เี ครือ่ งหมายรบั รอง 31 การเลอื กซอื้ ผลไม ควรซอ้ื อยา งไรจงึ ได 27 ใครเลือกซอื้ สินคาไดอ ยา งเหมาะสม ผลไมร าคาถกู และมีคุณภาพ 1. มานพซื้อสนิ คาทลี่ ดราคา 1. ซื้อผลไมท ป่ี ลูกในประเทศไทย 2. มิ่งขวญั ซื้อสินคา ตามแฟชัน่ 2. ซื้อผลไมท ่ีมีการลดแลกแจกแถม 3. ปองพลซ้อื สินคา ที่มีของแถม 3. ซอ้ื ผลไมต ามฤดกู าลทม่ี ผี ลผลติ มาก 4. วทิ ยาซือ้ สนิ คาท่จี าํ เปนตองใช 4. ซอ้ื ผลไมต น ฤดกู าลทเี่ รมิ่ ผลผลติ ขาย 217
32 ขอ ใดเปน การใชจ า ยทส่ี มเหตสุ มผลมาก 36 ขอ ใดกลา วถึงเงนิ ไดถ กู ตองท่สี ุด ทสี่ ดุ 1. เปน สือ่ กลางในการแลกเปล่ยี น 1. บอลซือ้ นาฬกาเรอื นใหม โดยที่ สนิ คาและบริการ นาฬก าเรอื นเกา ยังไมเ สีย 2. เปน ปจ จัยที่ใชทาํ กิจกรรมทาง 2. ปง ซื้อรองเทา หรรู าคาแพงทัง้ ทม่ี ี เศรษฐกิจ เงินไมม าก 3. เปน สญั ลกั ษณแ สดงฐานะทางสงั คม 3. ปองซอ้ื เครอื่ งเลนเกมยี่หอดงั 4. เปน เครื่องมอื ในการคา ขาย เพื่อไปอวดเพอ่ื น 37 การสรา งชมุ ชนเขม แขง็ ไมเ กย่ี วขอ งกบั 4. โอใชเ งินคาขนมซอ้ื นมดม่ื ตอนเชา ขอใด 33 ขอ ใดมีความสัมพันธก ับเคร่อื งหมาย 1. การอุดหนุนผลิตภัณฑในชมุ ชน มอก. 2. การกเู งนิ จากธนาคารมาลงทนุ สรา ง 1. สินคาประหยดั ไฟ สินคา OTOP 2. สินคา ดีมีคุณภาพ 3. การกูเ งินนอกระบบมาหมุนเวียน เฉฉบลับย 3. สนิ คาในชุมชน ธรุ กจิ 4. สินคาสะอาด 4. การผลติ สนิ คา OTOP ใหม คี ณุ ภาพดี 34 ขอใดไมเ กี่ยวของกับหลกั เศรษฐกิจ 38 ขอใดสมั พันธก นั พอเพยี ง 1. ภาคเหนอื -ท่ีราบชายฝงทะเล 2. ภาคกลาง-ทรี่ าบลมุ 1. ใชจา ยเทา ทีจ่ าํ เปน 3. ภาคอีสาน-ภเู ขาสูง 2. ใชเ ส้ือผา เกา ทช่ี ํารดุ 4. ภาคใต- ท่ีราบสูง 3. ใชส ิ่งของท่มี คี ุณภาพ 4. ใชส ิ่งของท่ีมีความปลอดภัย 39 ถา ในแผนทจ่ี งั หวดั แสดงพน้ื ทท่ี เี่ ปน สฟี า 35 หากนกั เรยี นมรี ายไดน อ ย จะมวี ธิ กี ารใช หมายถึงขอ ใด จา ยอยา งไร 1. ภูเขาสงู 2. หบุ เขา 1. ไมใชจา ยเลย 3. ทะเล 2. ใชจา ยเกินจรงิ 4. เกาะ 3. ใชจายเทา ทีจ่ ําเปน 4. ใชจ ายโดยใชบัตรเครดติ 218
40 ถาในแผนท่ีจังหวัดแสดงสัญลกั ษณ 44 ผูคนมอี าชพี แกะสลักไมเปนสว นมาก เฉฉบลับย แหลง นา้ํ และที่ราบลมุ จํานวนมาก เปนคําพูดท่ีกลาวถึงคนในภูมิประเทศ สนั นิษฐานวา คนในพ้นื ทีท่ ําอาชพี ใด แบบใด มากทส่ี ุด 1. ชายฝง ทะเล 1. อุตสาหกรรม 2. ที่ราบลุม 2. เกษตรกรรม 3. ที่ดอน 3. คาขาย 4. ภเู ขา 4. บริการ 45 เพราะเหตุใดจงึ มปี ระชากรยา ยถิน่ 41 นาข้นั บันได มคี วามสมั พันธกับขอ ใด เขา มาอาศยั ในกรุงเทพฯ จาํ นวนมาก 1. ภเู ขาสูง 1. มพี นื้ ทีท่ าํ การเกษตรมาก 2. ทีร่ าบลมุ 2. มีอาคารบา นเรอื นทที่ นั สมยั 3. ท่รี าบสงู 3. มคี วามเจริญทางดา นเศรษฐกิจ 4. ชายฝง ทะเล 4. มคี วามปลอดภัยจากอาชญากรรม 42 ขอ ใดมคี วามสัมพนั ธก บั จงั หวัดท่มี ี 46 แผนที่ที่นาํ มาใชค วรมลี ักษณะใด ภูมิประเทศสวนใหญเปนท่รี าบชายฝง 1. สวยงาม ทะเล 2. นา เชอ่ื ถือ 1. มีอากาศหนาวเยน็ ตลอดป 3. ขนาดใหญ 2. สว นใหญป ระกอบอาชพี ทาํ นา 4. มีขอมลู เยอะ 3. สวนใหญป ระกอบอาชีพประมง 4. ปลูกสรา งบานเรือนทที่ ําจากไม 47 รูปถา ยใดใชเปนขอ มลู อา งองิ ทาง ภูมศิ าสตรได 43 อาชพี ปลกู ยางพาราสัมพนั ธก ับขอใด 1. รูปคน 1. พน้ื ท่ีลาดชนั 2. รปู นํ้าตก 2. อากาศรอ นชน้ื 3. รูปรถไฟ 3. ดินเปนดินทราย 4. รปู เงินตรา 4. อากาศหนาวตลอดป 219
ดภู าพแผนท่ีจังหวัดราชบุรี แลว ตอบคาํ ถาม ขอ 48-50 แผนท่แี สดงลกั ษณะภมู ปิ ระเทศของจงั หวดั ราชบุรี 11,,225150750550005000000000 ระด(บั เมคตวารม) สงู กาญจนบรุ ี พิพธิ ภัณฑสระโกสินารายณ นครปฐม อ.บา นโปง แ ม ้นำแ มกลอง เหมืองผาปกคา งคาว พพิ ิธภัณฑห นงั ใหญว ดั ขนอนอ.โพธาราม อ.บางแพ บา นหวยน้ำใส ถ้ำจอมพล ไรก ุหลาบอษุ าวดี นำ้ ตกเกา โจน อ.จอมบงึ ถ้ำเขาบนิ ธารนำ้ รอนบอคลงึ ราชบรุ ี อ.เมเือมงอื รงาโบชรบารุณี บา แนมคนูบ้ำวั แมก ลตอลงาอด.นดำ้ ำดเำนเนนิ นิ สสะะดดววกกสมุทรสาคร อ.สวนผงึ้ โปงยบุ เมยี นมา อา งเกบ็ น้ำ เขื่อนไมเตง็ อ.บานคา อ.วัดเพลง สมทุ รสงคราม พิพธิ ภัณฑภ โวทยั อ.ปากทอ อา วไทย บา นโปง กระทงิ เฉฉบลับย เอฉุทลไทยิมายพนปรแระหะเกงจชยีนั ราตติิ เพชรบรุ ี คำอธบิ ายสญั ลกั ษณ น 0มาตร5าสว น110 : 800,00020 กม. อำเภอเมอื ง เขตจังหวดั ตต ตอ อำเภอ ถนน อแทุหยลาง ทนแอ หงเงทชีย่ าวติ ททาางงรนถำ้ ไฟ ต เขตประเทศ แหลงน้ำ 48 จังหวดั ราชบรุ ีไมไดมพี ืน้ ที่ติดกบั 49 หากตองการไปแหลง ทอ งเทย่ี วทาง จงั หวดั ใด ธรรมชาติในจงั หวดั ราชบรุ คี วรไปท่ีใด 1. จังหวดั สมทุ รปราการ 1. พิพธิ ภณั ฑห นงั ใหญวดั ขนอน 2. จังหวดั สมทุ รสงคราม 2. ตลาดน้าํ ดาํ เนินสะดวก 3. จงั หวัดสมุทรสาคร 3. เมืองโบราณคบู ัว 4. จังหวัดนครปฐม 4. โปงยุบ 50 หากตอ งการเดินทางไปจังหวดั กาญจนบุรีตองไปทางทิศใด 1. ทิศตะวันออก 2. ทศิ ตะวนั ตก 3. ทศิ เหนอื 4. ทศิ ใต 220
à©ÅÂÅÐàÍÂÕ ´ ¢ÍŒ Êͺ๹Œ ¡Òä´Ô ¾ÔàÈÉ วชิ า สงั คมศึกษาฯ ป.4 1 ขอ คาํ ตอบ เหตผุ ล KYE ชุดท่ี 1 (50 คะแนน) 1. 4. ทกุ ศาสนาลว นมหี ลกั คาํ สอนทมี่ งุ ใหผูท นี่ ับถอื ศาสนา ทาํ ดแี ละเปน คนดีในสังคม ดงั น้ัน ขอ 4. จึงเปน คาํ ตอบทีถ่ ูกตอ ง 2. 3. เจาชายสิทธัตถะทรงทอดพระเนตรความทุกขของประชาชน หรือเทวทูตทั้ง 4 ไดแก คนแก คนเจ็บ คนตาย และสมณะ ขณะทรงรถมาประพาสอุทยาน ซ่ึงเปนสาเหตุ ทาํ ใหพ ระองคออกผนวชเพือ่ หาทางพนทุกข ดงั น้นั ขอ 3. จึงเปนคําตอบท่ีถกู ตอ ง 3. 1. หลงั จากเจา ชายสทิ ธตั ถะออกผนวชแลว ทรงพยายามแสวงหาทางดบั ทกุ ขโ ดยใชว ธิ กี าร ตา ง ๆ ทงั้ สาํ นกั อาฬารดาบส บาํ เพญ็ ทกุ รกริ ยิ า นง่ั สมาธจิ นตรสั รู ถอื วา เจา ชายสทิ ธตั ถะ มีความวริ ยิ ะอตุ สาหะ ดงั นน้ั ขอ 1. จึงเปน คําตอบท่ถี ูกตอง 4. 4. การแสดงความรูสึกยินดีกับเพื่อน ถือเปนการคิดในทางท่ีดี เปนความประพฤติชอบ ดวยใจ ดงั น้นั ขอ 4. จึงเปนคําตอบทถี่ ูกตอง 5. 2. การเชอื่ ฟง คาํ สง่ั สอนของพอ แม ถอื เปน การแสดงความนบั ถอื บดิ ามารดาของตน ดงั นนั้ ขอ 2. จึงเปนคาํ ตอบทีถ่ ูกตอ ง 6. 3. การอยูรวมกับคนท่ีนับถือศาสนาอื่น ๆ เราไมควรไปลบหลูดูหมิ่น เพราะอาจทําใหเกิด ความขดั แยง ในสงั คมทเี่ ราอยู ควรปฏบิ ตั เิ ปน ปกตกิ บั เพอื่ น โดยดมู ารยาทและระมดั ระวงั ผลกระทบทางศาสนา ดังนน้ั ขอ 3. จงึ เปน คําตอบทถี่ ูกตอ ง 7. 1. การบริหารจิตและเจริญปญญา จะชวยทําใหเรามีจิตใจสงบ มีสมาธิ ทําใหเกิดปญญา ในการแกป ญ หาตาง ๆ ไดดี ดังนนั้ ขอ 1. จึงเปนคําตอบท่ีถกู ตอง 8. 2. การแบง ปน อาหาร บรจิ าคสง่ิ ของใหค นอน่ื สอดคลอ งกบั คณุ ธรรมเมตตาธรรมคาํ้ จนุ โลก สวนขออื่นไมเก่ียวของกับความเมตตาธรรมค้ําจุนโลก ดังนั้น ขอ 2. จึงเปนคําตอบ ท่ีถูกตอ ง 9. 3. การวางตัวเปนกลางไมเขาขางฝายใดฝายหนึ่ง เปนการปฏิบัติตนไมใหเกิดความขัด แยง มากขึน้ ไปอกี และทําใหอ ยูรว มกนั อยา งสมานฉนั ทไ ด ดงั นัน้ ขอ 3. จึงเปน คาํ ตอบ ทถ่ี ูกตอง
ขอ คาํ ตอบ เหตุผล 2¾àÔ ÈÉ 10. 4. การชวยเก็บกวาดบริเวณศาสนสถาน เปนการชวยดูแลรักษาศาสนสถานวิธีหนึ่งท่ี นกั เรยี นสามารถทําได และเหมาะสมกับวยั ของนกั เรียน สวนขออน่ื ไมเหมาะสมกับวยั ของนักเรียน ดงั น้นั ขอ 4. จงึ เปนคําตอบทถี่ ูกตอ ง 11. 4. การทํางานเพ่ือประโยชนสวนรวม เปนการปฏิบัติตนสอดคลองกับหลักสามัคคีธรรม สว นขอ อนื่ ไมเกย่ี วขอ งกับหลักสามคั คีธรรม ดังนั้น ขอ 4. จงึ เปนคําตอบที่ถกู ตอ ง 12. 4. การรับฟงความคิดเห็นของผูอ่ืนเปนการปฏิบัติตนเปนพลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย ดงั นน้ั ขอ 4. จงึ เปน คําตอบทถี่ ูกตอ ง 13. 1. การทําความสะอาดโบราณสถานเปนส่ิงที่สมาชิกของชุมชนควรทํา เพราะชวยอนุรักษ โบราณสถานในชมุ ชน ดงั นัน้ ขอ 1. จึงเปน คาํ ตอบท่ถี ูกตอง 14. 3. ผูนําชุมชนที่ดี จะตองดูแลชุมชนของตนเองใหมีความสงบสุข ไมมีความขัดแยงหรือ ปญหาใด ๆ เกดิ ขึ้น ดงั น้นั ขอ 3. จึงเปนคําตอบทีถ่ ูกตอง KYE 15. 3. ผูอํานวยการโรงเรียน เปนตําแหนงสูงสุดของโรงเรียน มีหนาท่ีคอยดูแลความสงบ เรยี บรอ ยในโรงเรียน ขอ 3. จึงเปนคําตอบทถ่ี ูกตอ ง 16. 2. ผูตามที่ดี ควรปฏิบัติหนาที่ตามท่ีไดรับมอบหมายใหสําเร็จ สวนขออ่ืนไมใชลักษณะ ผูต ามทด่ี ี ดังน้ัน ขอ 2. จึงเปน คาํ ตอบท่ีถูกตอง 17. 3. การอยูรวมกันในสังคมจําเปนตองมีกฎหมายใหคนในสังคมปฏิบัติตามเพ่ือใหสังคม สงบสุข การไมปฏบิ ตั ิตามกฎหมายอาจทาํ ใหเกดิ ความขัดแยงได ดงั นน้ั ขอ 3. จึงเปน คาํ ตอบทถ่ี กู ตอง 18. 4. การไมถกู บังคบั ใหเ ปน ขอทาน ถอื เปน การไดรบั สทิ ธิท่ีจะไดร ับการปกปองคมุ ครองตาม กฎหมาย ดงั น้นั ขอ 4. จงึ เปน คําตอบท่ีถกู ตอง 19. 2. หลักภราดรภาพเปนหลักการสําคัญของการปกครองแบบประชาธิปไตย วาดวยเร่ือง ความสัมพันธเปนพี่นองรวมโลก มีความเอื้อเฟอเผื่อแผ มีนํ้าใจ เปนมิตรและพ่ึงพา อาศัยกนั ดงั น้ัน ขอ 2. จึงเปน คําตอบที่ถูกตอ ง 20. 3. การใชส ทิ ธทิ จ่ี ะมสี ว นรว มในสงั คมทถี่ กู ตอ ง ไมค วรใหผ อู นื่ เดอื ดรอ น หรอื ผดิ กฎระเบยี บ หรือกฎหมาย เหมอื นการกระทาํ ในขอท่ี 3. ดังน้ัน ขอ 3. จึงเปนคําตอบทีถ่ ูกตอ ง
ขอ คาํ ตอบ เหตุผล 21. 4. หากพบเห็นเด็กถูกทําราย ควรแจงคุณครูหรือตํารวจใหความชวยเหลือ เพราะถือวา ¾ÔàÈÉ 3เปน การละเมิดสทิ ธิพน้ื ฐานและผิดกฎหมาย พรบ. คุมครองเด็ก ดงั น้ัน ขอ 4. จงึ เปน คําตอบท่ีถูกตอง 22. 2. อํานาจตุลาการเปนอํานาจในการวินิจฉัยตัดสินคดีความตาง ๆ เพื่อรักษาสิทธิเสรีภาพ ของประชาชน ใหความยุติธรรม ดังน้นั ขอ 2. จึงเปนคาํ ตอบทถ่ี กู ตอง 23. 1. อาํ นาจบรหิ ารเปน อาํ นาจในการบรหิ ารประเทศใหเ ปน ไปตามกฎหมาย ซงึ่ พระมหากษตั รยิ เปนผูใชอํานาจน้ีผานทางคณะรัฐมนตรี จึงไมเก่ียวของกับศาล ดังน้ัน ขอ 1. จึงเปน คาํ ตอบทถี่ ูกตอง 24. 1. การไปใชส ทิ ธเิ ลอื กตง้ั สมาชกิ ทอ งถนิ่ เปน หนา ทข่ี องทกุ คนในทอ งถนิ่ ยา แกว ไปลงคะแนน เลือกตง้ั จงึ เปนการปฏิบตั ิตนที่เหมาะสม ดังน้ัน ขอ 1. จึงเปน คาํ ตอบทถ่ี ูกตอง 25. 3. พระมหากษัตริยไทยมีความสําคัญดานตาง ๆ เชน ดูแลบําบัดทุกขบํารุงสุขประชาชน KYE สง เสริมการศึกษา แตไ มไ ดบริหารประเทศ ดงั น้ัน ขอ 3. จงึ เปนคาํ ตอบทถ่ี ูกตอ ง 26. 4. “น้าํ พริกหนุมลาํ ขะหนาดเจา” เปน ภาษาถน่ิ ภาคเหนอื แปลวา น้ําพรกิ หนมุ อรอยมาก จงึ มคี วามสําพนั ธกับขอ 4. ดังน้ัน ขอ 4. จึงเปน คําตอบท่ีถกู ตอง 27. 2. ผูท่ีเปนแมคาไมควรเอารัดเอาเปรียบลูกคาโดยการขายสินคาท่ีไมมีคุณภาพ เพราะ จะทาํ ใหลูกคา เสยี สิทธิในการใชส นิ คา ทมี่ ีคุณภาพ ดงั น้นั ขอ 2. จึงเปนคาํ ตอบที่ถกู ตอ ง 28. 4. การเลือกซ้ือสินคาท่ีดีตองพิจารณาหลายอยาง จึงจะไดสินคาท่ีดีมีคุณภาพ เชน มใี บรับประกนั มเี ครือ่ งหมายรบั รองคณุ ภาพ ดงั นน้ั ขอ 4. จึงเปน คําตอบที่ถูกตอง 29. 2. ถาหากลูกคาไดรับความเสียหายเนื่องจากการใชสินคา ลูกคาสามารถใชสิทธิท่ีจะไดรับ การพิจารณาและชดเชยความเสยี หาย ดงั นน้ั ขอ 2. จงึ เปนคําตอบท่ถี กู ตอ ง 30. 2. มะมว งแชอ ม่ิ เปน สนิ คา ทไ่ี ดม าจากอาชพี เกษตรกรรม สว นขอ อน่ื ไมไ ดเ ปน สนิ คา มาจาก อาชีพเกษตรกรรม ดังน้นั ขอ 2. จงึ เปน คาํ ตอบท่ถี กู ตอง
ขอ คาํ ตอบ เหตุผล 4¾ÔàÈÉ 31. 3. หากตองการซื้อเครอื่ งใชไฟฟา ผซู ้ือควรดูวามีฉลากประหยัดไฟหรือไม เพราะแสดงวา เคร่อื งใชไฟฟาชนิดนัน้ ผานการตรวจสอบระดบั การใชไฟมาแลว ดงั นน้ั ขอ 3. จงึ เปน คาํ ตอบทถ่ี ูกตอ ง 32. 4. การเกบ็ ออมเงนิ ถอื เปน การสรา งภมู คิ มุ กนั ตนเองวธิ หี นง่ึ หากวนั ขา งหนา มคี วามจาํ เปน หรือเดือดรอนสามารถนําเงินออมมาใชแกปญหาได ดังน้ัน ขอ 4. จึงเปนคําตอบท่ี ถูกตอ ง 33. 4. การลงทนุ เทาท่ีจําเปน การซื้อสินคา ตามความจาํ เปน การซ้ืออาหารแตพออมิ่ เปน การ ปฏิบัติตนอยางพอประมาณตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง แตในบางครั้งก็ตองพึ่งพา ความชวยเหลือจากคนอน่ื ดงั นน้ั ขอ 4. จึงเปน คําตอบที่ถูกตอ ง 34. 1. เงินท่ีกจู ากธนาคารควรนาํ ไปใชในกจิ กรรมทจี่ าํ เปน เชน ขยายโรงงาน ไมใ ชใ นกิจการ เล็ก ๆ นอย ๆ จะกอ หน้ีโดยไมจําเปน ดังน้ัน ขอ 1. จึงเปนคาํ ตอบทถ่ี กู ตอ ง KYE 35. 1. จากโจทยกลาวถึงการใชเงินดานตาง ๆ ไมไดกลาวถึงการเปรียบเทียบเทียบคาของเงิน ดงั นัน้ ขอ 1.จงึ เปน คาํ ตอบทถ่ี กู ตอง 36. 3. การใชวัตถุดิบในชุมชนผลิตสินคาเปนพึ่งพาทรัพยากรในทองถ่ิน ไมตองซ้ือวัตถุดิบ จากทอ่ี นื่ ทาํ ใหช มุ ชนมีความเขมแข็ง ดงั นน้ั ขอ 3. จงึ เปน คําตอบทถ่ี ูกตอ ง 37. 4. การขยายกิจการผลิตเส้ือยืดของน้ํา เปนการลงทุนที่ตองใชเงินจํานวนมาก จําเปน ตองกูเงินจากธนาคาร สวนขออื่นเปนการใชเงินจํานวนไมมาก จึงไมจําเปนตองกูเงิน จากธนาคาร ดงั นั้น ขอ 4. จงึ เปน คาํ ตอบทถ่ี กู ตอง 38. 2. การผลิตสินคาของชุมชนหากใชวัสดุในชุมชนดวย จะทําใหมีเงินหมุนเวียนในชุมชน เปนการสง เสรมิ เศรษฐกจิ ในชมุ ชนวธิ ีหนงึ่ ดงั นัน้ ขอ 2. จงึ เปนคาํ ตอบทถี่ ูกตอ ง 39. 3. ผปู ระกอบการคา ขาย ควรมคี ณุ ธรรมควรขายแตส นิ คา ทม่ี คี ณุ ภาพ ไมข ายสนิ คา หนภี าษี สนิ คา ทม่ี คี ณุ ภาพต่ํา หรือสินคามีตาํ หนิ เพราะเปน การเอาเปรยี บลูกคา ดงั นนั้ ขอ 3. จึงเปน คําตอบทถ่ี กู ตอ ง 40. 3. ภาพถายทางภูมิศาสตรเปนภาพถายท่ีแสดงใหเห็นถึงสถานที่ตาง ๆ เพื่อใชอางอิง ประกอบแผนที่ เชน ภาพเกาะชาง ภูกระดึง ทาเรอื สวนภาพสุนัขไมใชภาพถา ยทาง ภมู ิศาสตร ดังนน้ั ขอ 3. จึงเปน คําตอบท่ีถูกตอ ง
ขอ คาํ ตอบ เหตุผล 41. 2. ภาพในขอ 2. เปน สญั ลกั ษณท แ่ี สดงถงึ แมน าํ้ ในแผนท่ี สว นขอ อนื่ ไมใ ชส ญั ลกั ษณท แ่ี สดง ¾ÔàÈÉ 5เปน แมน า้ํ ดงั นน้ั ขอ 2. จงึ เปนคําตอบท่ีถูกตอง 42. 2. แผนท่ีลกั ษณะภมู ิประเทศแสดงขอมลู ตา ง ๆ เชน ทร่ี าบลุม ทิวเขา แหลง น้าํ แตไ มไ ด แสดงประเภทปาไม เพราะเปนแผนที่เฉพาะเรือ่ ง ดังนนั้ ขอ 2. จงึ เปน คาํ ตอบท่ีถกู ตอง 43. 3. แผนท่ีจังหวัดแสดงขอมูลลักษณะทางกายภาพ หรือตําแหนงของสถานท่ีสําคัญตาง ๆ แตไ มไดแสดงขอ มูลความสะอาดของแมนํ้าได ดงั นัน้ ขอ 3. จึงเปน คําตอบท่ีถูกตอง 44. 1. การปลูกปาเปนการอนุรักษปาไดดีท่ีสุด เพราะทําใหพื้นท่ีปาไมเพิ่มปริมาณมากขึ้น ดังนนั้ ขอ 1. จึงเปน คาํ ตอบทถ่ี กู ตอ ง 45. 3. สัญลกั ษณ เปน สัญลักษณท ่แี สดงทีต่ งั้ จังหวัด ดังนนั้ ขอ 3. จงึ เปนคาํ ตอบทีถ่ กู ตอ ง 46. 3. การใชปุยเคมีปริมาณมากเปนการทําลายหนาดิน ทําใหธาตุอาหารสําหรับพืชหายไป KYE และโครงสรางดินเปลย่ี นสภาพ เชน ไมร ว นซยุ ดังนนั้ ขอ 3. จงึ เปนคาํ ตอบทถ่ี กู ตอง 47. 3. ปา ชายเลนเปน ทอี่ ยอู าศยั ของสตั วน าํ้ หลายชนดิ หากปา ชายเลนถกู ทาํ ลาย สตั วน าํ้ กไ็ มม ี ทอี่ ยู และไมสามารถดํารงชวี ติ อยูไ ด ดงั นั้น ขอ 3. จงึ เปนคาํ ตอบที่ถูกตอง 48. 3. จังหวัดระยองมีแหลงน้ําที่สําคัญหลายแหลง เชน อางเก็บนํ้าหินดาด อางเก็บน้ํา คลองใหญ ซงึ่ ตง้ั อยทู างพน้ื ทต่ี อนเหนอื ของจงั หวดั ดงั นน้ั ขอ 3. จงึ เปน คาํ ตอบทถี่ กู ตอ ง 49. 1. จังหวัดระยองเปนจังหวัดท่ีมีพื้นที่จดทะเลทําใหมีชายหาดและเกาะกลางทะเล ซ่ึงเปน แหลงทองเทย่ี วสาํ คัญของจงั หวดั ดังนั้น ขอ 1. จึงเปน คําตอบที่ถูกตอง 50. 3. สนามบินอูตะเภาถือเปนโครงสรางพ้ืนฐานที่ชวยสงเสริมการทองเที่ยว อุตสาหกรรม พัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคใหเจริญกาวหนาเร็วข้ึน ดังน้ัน ขอ 3. จึงเปนคําตอบ ท่ีถกู ตอง
ขอ คาํ ตอบ เหตผุ ล 6¾àÔ ÈÉ ชดุ ท่ี 2 (50 คะแนน) 1. 1. การใชศาสนาเปนศูนยกลางชุมชน ทําใหสมาชิกในชุมชนไดมีโอกาสพบปะ และทํา กิจกรรมรว มกัน ทาํ ใหเกิดความสามคั คีในชุมชนข้ึนได ดังนัน้ ขอ 1. จงึ เปน คําตอบท่ี ถกู ตอง 2. 4. การรังแกคนอ่ืนไมใชหลักการปฏิบัติในทุกศาสนา ทุกศาสนาสอนใหเปนคนดี ดังนั้น ขอ 4. จงึ เปนคาํ ตอบทถี่ กู ตอ ง 3. 1. การละหมาด เปน การปฏบิ ตั ศิ าสนกจิ ของศาสนาอสิ ลาม จดุ ประสงคเ พอื่ นมสั การอลั ลอฮ ซ่ึงเปน พระเจา ของศาสนาอิสลาม ดงั นั้น ขอ 1. จึงเปน คาํ ตอบท่ถี กู ตอง 4. 3. วจสี จุ รติ คอื การพดู ความจรงิ พดู สภุ าพไพเราะ พดู เรอื่ งดมี ปี ระโยชน ดงั นนั้ ขอ 3. จงึ เปน คาํ ตอบทถี่ ูกตอง 5. 1. พรหมวหิ าร 4 เปน หลักประพฤติทีป่ ระเสรฐิ 4 ประการ ไดแก เมตตา กรณุ า มทุ ติ า อุเบกขา ซง่ึ การกระทาํ ในขอ 1 ตรงกบั อุเบกขา คือ การวางเฉยเปน กลาง มใี จยุติธรรม KYE ไมล ําเอยี ง สวนตวั เลือกอน่ื ไมเกี่ยวขอ งกับพรหมวิหาร 4 ดังน้ัน ขอ 1. จึงเปน คาํ ตอบ ท่ถี กู ตอ ง 6. 1. การน่ังสมาธิเปนการฝกควบคุมจิตใจใหจดจอกับส่ิงท่ีทําและมีความสงบน่ิง ดังนั้น ขอ 1. จงึ เปนคาํ ตอบที่ถกู ตอง 7. 2. การทีโ่ ตง ปฏิเสธเพอ่ื นท่ชี วนด่ืมสุรา แสดงวาโตง ปฏบิ ัติตามหลกั เบญจศลี ดังนนั้ ขอ 2. จึงเปน คาํ ตอบทถี่ กู ตอง 8. 4. การบรจิ าคเงนิ เพ่อื สรางโรงพยาบาล ถือเปนคนท่ีมเี มตตา เพราะการสรา งโรงพยาบาล เปน บญุ กุศลท่ีสามารถชวยเหลอื คนทเ่ี จ็บปวยไดห ลายคน ดังนน้ั ขอ 4. จึงเปน คาํ ตอบ ทีถ่ ูกตอ ง 9. 1. การยนื ตอ หนา พระภกิ ษตุ อ มคี วามสมั มาคารวะ คอื ยนื ตรงกม ศรี ษะเลก็ นอ ย มอื ประสาน กนั ดาน ดงั นนั้ ขอ 1. จงึ เปน คําตอบทถ่ี กู ตอง 10. 2. การแกไ ขปญ หา ควรคาํ นงึ ถงึ ผลประโยชนสวนเปนหลกั โดยไมเ ขาขางฝายใดฝา ยหนึง่ ดังนัน้ ขอ 2.จึงเปนคําตอบทถี่ ูกตอ ง
ขอ คาํ ตอบ เหตุผล 11. 3. การตง้ั ใจเรยี นหนงั สอื สอดคลอ งกบั หลกั ธรรม มงคล 38 ขอ ทวี่ า การทาํ ความดใี หพ รอ ม ¾ÔàÈÉ ไวกอน นั่นหมายถึงการเรียนเปนการเตรียมพรอมในการใชชีวิตในวันขางหนา ดังน้ัน 7ขอ 3. จงึ เปน คําตอบทถ่ี ูกตอง 12. 4. การปฏบิ ัติตนแสดงความกตัญูกตเวทีตอชาติ สามารถทาํ ไดหลายวธิ ี การอาสาสมัคร จราจรก็เปนอีกวิธีหนึ่งท่ีสามารถทําได เพราะเปนการชวยเหลือสังคม ดังน้ัน ขอ 4. จงึ เปนคําตอบที่ถกู ตอ ง 13. 4. การสวดมนตทุกเชา เปนการปฏิบัติศาสนกิจของพระพุทธศาสนา ชวยใหจิตใจสบาย มีความสงบ ซ่ึงแสดงออกถึงพระพุทธศาสนาเปนเคร่ืองยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ดังน้ัน ขอ 4. จึงเปนคาํ ตอบที่ถูกตอ ง 14. 3. การท่ีเรืองฤทธ์ิชวยซอมรถเพื่อนบาน ถือเปนที่มีความเมตตา ซึ่งมีความสัมพันธกับ พุทธศาสนสุภาษิตดังกลาว สวนขออ่ืนไมแสดงออกถึงความมีเมตตา ดังนั้น ขอ 3. จงึ เปนคําตอบท่ีถูกตอง 15. 2. การรบั ฟง ความคดิ เหน็ ผอู นื่ การทาํ กจิ กรรมเพอื่ สว นรวม การทาํ งานเตม็ ความสามารถ KYE เปนการปฏบิ ตั ติ นเปนพลเมอื งดีตามวถิ ปี ระชาธิปไตย สวนการทําตุกตาลอกเลียนแบบ เพ่อื นไมใช ดังน้นั ขอ 2. จึงเปน คาํ ตอบท่ีถูกตอ ง 16. 4. การทําหนาท่ีตนเองดวยความซื่อสัตยสุจริตเปนการปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล คือมี คณุ ธรรมในการทาํ งานใหเ กดิ ประโยชนต อ สว นรวม ดงั นนั้ ขอ 4. จงึ เปน คาํ ตอบทถ่ี กู ตอ ง 17. 3. เม่ือเกิดปญหาการทํางานกลุม ควรใชเหตุผลในการแกปญหา เพ่ือไมใหเกิดความ ขดั แยงและมคี วามยุตธิ รรม ดงั นัน้ ขอ 3. จงึ เปนคําตอบท่ีถกู ตอง 18. 4. ผูนําท่ีดีตองเปนคนท่ีมีเหตุผล เสียสละ ซึ่งจะทําใหเกิดประโยชนตอสวนรวม มีความ ยุตธิ รรม สามารถแกป ญหาของสมาชกิ ได ดงั นัน้ ขอ 4. จงึ เปน คําตอบทีถ่ กู ตอ ง 19. 2. กอ นทจ่ี ะไปเลอื กตงั้ ผูมีสทิ ธเิ์ ลือกต้ังควรดนู โยบายของพรรคการเมืองกอ น เพราะจะได เลือกพรรคไดเหมาะสม ดังน้ัน ขอ 2. จึงเปนคาํ ตอบทถี่ กู ตอง 20. 1. การเปนผูตามท่ีดีตองมีคุณสมบัติหลายอยาง เชน รับผิดชอบทํางานตามที่ไดรับมอบ หมาย ใชเหตุผลมากกวาอารมณ ฟงความคิดเห็นของผูอื่น ดังนั้น ขอ 1. จึงเปน คาํ ตอบที่ถูกตอง
ขอ คาํ ตอบ เหตผุ ล 8¾ÔàÈÉ 21. 2. การพาเด็กไปเรียนหนังสือถือเปนการใชสิทธิท่ีจะไดรับการพัฒนาอยางหน่ึงเพราะจะ ทาํ ใหเ ดก็ มกี ารเจรญิ เตบิ โตที่มคี ณุ ภาพ ดังนน้ั ขอ 2. จึงเปน คําตอบทีถ่ กู ตอ ง 22. 3. การทดลองใชสินคา กอ นซอื้ เปน สิทธขิ องลูกคาท่ีควรจะไดรบั หากถกู ปฏิเสธถือเปน การ เสยี สทิ ธทิ จี่ ะไดร บั ความเปน ธรรมในการทาํ สญั ญา ดงั นนั้ ขอ 3. จงึ เปน คาํ ตอบทถี่ กู ตอ ง 23. 1. ขา วหมกไก เปน อาหารของมสุ ลมิ ชนดิ หนงึ่ สว นกว ยเตยี๋ วนา้ํ ตกหมู ขา วผดั หมู ขา วตม หมู ไมใ ชอาหารของมุสลิม ขอ 1. จงึ เปนคําตอบท่ีถกู ตอง 24. 3. การซอื้ สินคา ตามความจาํ เปน เปน การใชจา ยอยางพอดี ไมฟ มุ เฟอ ย เขา หลกั เศรษฐกจิ พอเพียง ดงั นนั้ ขอ 3. จึงเปน คาํ ตอบทีถ่ ูกตอง 25. 3. เม่ือใชสินคาแลวไดรับอันตรายจากตัวสินคาเอง แสดงวาไดสินคาท่ีไมมีคุณภาพ ถือเปนการละเมิดท่ีจะไดรับความปลอดภัยจากการใชสินคาและบริการ ดังนั้น ขอ 3. KYE จงึ เปน คําตอบที่ถูกตอง 26. 4. การเลือกซื้อสินคาทีด่ ี ตองเลือกซ้อื สนิ คา ท่มี ีคุณภาพ ราคาเหมาะสม โดยเฉพาะสินคา ทีม่ ีเครื่องหมายมาตรฐานรับรอง ดงั น้นั ขอ 4. จึงเปนคําตอบที่ถูกตอง 27. 4. การเลอื กซอ้ื สนิ คา ไปใช ควรซอ้ื เฉพาะสงิ่ ทจ่ี าํ เปน ตอ งใช ไมซ อ้ื เพราะเหน็ วา ลดราคาซอ้ื ตามแฟชั่น หรอื ซอ้ื เพราะมขี องแถม ดังนน้ั ขอ 4. จึงเปนคําตอบทถี่ ูกตอง 28. 2. การใหเพ่ือนเล้ียงขาวไมถือวาเปนการปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เพราะเปน การเบียดเบยี นผูอ นื่ ดังน้ัน ขอ 2. จงึ เปน คําตอบที่ถูกตอ ง 29. 4. การพงึ่ พากนั ทางเศรษฐกจิ ชมุ ชน ทาํ ใหค นในชมุ ชนมชี วี ติ ความเปน อยทู ดี่ ี ซง่ึ จะทาํ ให ชุมชนมีความเขม แข็ง ดงั นน้ั ขอ 4. จงึ เปนคําตอบทถ่ี กู ตอง 30. 1. ผซู อ้ื และผขู ายควรมคี วามซอ่ื สตั ยต อ กนั ไมเ อารดั เอาเปรยี บกนั ดงั นนั้ การทโี่ อขายผกั ปลอดสารพษิ ในราคาถกู ถอื วา เหมาะสม เพราะไมม ตี น ทนุ ทส่ี งู มากนกั ดงั นนั้ ขอ 1. จงึ เปน คาํ ตอบทีถ่ กู ตอ ง
ขอ คาํ ตอบ เหตผุ ล ¾ÔàÈÉ 31. 3. การซื้อผลไมท่ีดีควรซื้อตามฤดูกาล เพราะชาวสวนจะปลูกกันปริมาณมาก ทําใหเรามี 9 โอกาสเลือกซื้อ และไดราคาถูกกวาการซ้ือนอกฤดูกาล ดังน้ัน ขอ 3. จึงเปนคําตอบ KYE ท่ีถูกตอ ง 32. 4. การซอ้ื นมดมื่ ตอนเชา ถอื วา สมเหตสุ มผล เพราะนมมปี ระโยชนแ ละใหค ณุ คา ทางอาหาร เยอะ สวนขออ่นื ไมใชการซือ้ ท่ีสมเหตสุ มผล ดังนั้น ขอ 4. จงึ เปนคาํ ตอบท่ีถูกตอง 33. 2. เคร่ืองหมาย มอก. ทแ่ี สดงสินคาทไ่ี ดรบั มาตรฐานการผลิต แสดงถงึ สนิ คาทีม่ คี ณุ ภาพ ตามขอ กาํ หนดการผลิตสนิ คา ดงั น้นั ขอ 2. จงึ เปนคําตอบทถี่ กู ตอง 34. 2. การปฏบิ ัติตนตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี งสามารถทําไดหลายประการ เชน ใชจ า ยเทา ท่ี จําเปน ใชข องมคี ณุ ภาพและปลอดภยั สว นการใชเสอ้ื ผาเกาที่ชํารุดไมใ ชการปฏิบตั ิตน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพยี ง ดังนน้ั ขอ 2. จึงเปนคาํ ตอบทถี่ ูกตอ ง 35. 3. หากมีรายไดนอยใหใชจายตามความจําเปน ไมฟุมเฟอย ไมกอหนี้สิน ดังน้ัน ขอ 3. จึงเปนคาํ ตอบท่ถี กู ตอง 36. 1. เงนิ เปน สง่ิ ทถี่ กู กาํ หนดขน้ึ มาเพอื่ ใชเ ปน สอื่ กลางในการแลกเปลยี่ นสนิ คา และใชช าํ ระหนี้ ตามกฎหมาย ดังนนั้ ขอ 1. จงึ เปนคาํ ตอบท่ถี ูกตอง 37. 3. การกูเงินนอกระบบกอใหเกิดหนี้สิน เกิดความไมม่ันคงในชีวิต และไมชวยใหชุมชน เขมแขง็ ดงั นน้ั ขอ 3. จงึ เปน คําตอบทถ่ี ูกตอง 38. 2. พ้ืนที่ภาคกลางเปนพ้ืนที่ราบลุมเปนสวนใหญ ไมคอยมีภูเขา ชายทะเล หรือเกาะ ดงั น้ัน ขอ 2. จงึ เปนคาํ ตอบท่ีถกู ตอ ง 39. 3. สฟี า ทม่ี ีในแผนทีใ่ ชเ ปนสญั ลกั ษณแทนแหลงนํ้า เชน แมนา้ํ ทะเล เข่อื น ดงั นั้น ขอ 3. จงึ เปน คาํ ตอบที่ถกู ตอ ง 40. 2. พื้นที่ท่ีมีแหลงนํ้าและที่ราบลุมจํานวนมาก เปนพ้ืนที่ที่เหมาะแกการเพาะปลูก เพราะ การเพาะปลูกตองใชนํ้าและพื้นท่ีราบ ผูคนที่อยูในพื้นท่ีนี้จึงทําอาชีพเกษตรกรรมเปน สวนใหญ ดังน้นั ขอ 2. จึงเปนคําตอบทถ่ี กู ตอ ง
ขอ คาํ ตอบ เหตผุ ล 10¾àÔ ÈÉ 41. 1. นาขั้นบันได เปนวิธีเพาะปลูกขาวท่ีใชกับพ้ืนที่ท่ีเปนภูเขาสูง เพื่อไมใหน้ําที่ใชในการ เพาะปลูกไหลลงมาขางลา ง ดงั นั้น ขอ 1. จงึ เปน คาํ ตอบที่ถูกตอง 42. 3. ผูคนที่อาศัยอยูในจังหวัดที่มีภูมิประเทศเปนที่ราบชายฝงทะเลเปนสวนใหญ มักจะ ประกอบอาชีพประมง เนื่องจากมีสภาพแวดลอมเหมาะสมกับการปลาอาหารทะเล สะดวก ดังนัน้ ขอ 3. จงึ เปน คําตอบท่ถี กู ตอ ง 43. 2. ตนยางพาราเปนพืชที่เหมาะกับสภาพอากาศรอนชื้น ทําใหยางพาราเจริญเติบโตไดดี มนี ํา้ ยางมาก ดงั นัน้ ขอ 2. จึงเปน คาํ ตอบท่ถี กู ตอ ง 44. 4. บนภูเขามีทรัพยากรปาไมจํานวนมาก คนท่ีอาศัยบนภูเขาจึงชอบมีอาชีพแกะสลักไม เนอื่ งจากมตี น ไมเ หมาะนาํ มาแกะสลกั จาํ นวนมาก ดงั นน้ั ขอ 4. จงึ เปน คาํ ตอบทถี่ กู ตอ ง 45. 3. กรุงเทพฯ เปนเมืองใหญ มีความเจริญรุงเรืองมาก ผูคนมักจะยายเขามาอาศัยเพราะ สามารถประกอบอาชีพไดหลากหลายและไดรับคาตอบแทนสูง ดังน้ัน ขอ 3. จึงเปน KYE คาํ ตอบที่ถูกตอง 46. 2. แผนทท่ี ค่ี วรนาํ มาใชอ า งองิ ควรเปน แผนทท่ี นี่ า เชอ่ื ถอื เพราะตอ งใชอ า งองิ เปรยี บเทยี บ ขอมูลตา ง ๆ จะไดข อมลู ทใี่ กลเ คยี งความเปน จรงิ ดังนัน้ ขอ 2. จงึ เปน คําตอบท่ีถกู ตอง 47. 2. รูปถายท่ีใชอางอิงขอมูลทางภูมิศาสตรได ตองเปนรูปสถานที่ตางๆ เชน น้ําตก ทะเล ภูเขา เพื่อใชเ ปรยี บเทยี บกบั แผนท่ี ดงั นนั้ ขอ 2. จงึ เปนคาํ ตอบทถ่ี ูกตอง 48. 1. จังหวัดราชบุรีไมมีพ้ืนท่ีติดกับจังหวัดสมุทรปราการ ตามแผนที่ในภาพ ดังนั้น ขอ 1. จึงเปน คําตอบทถ่ี กู ตอง 49. 4. โปง ยบุ เปน แหลง ทอ งเทย่ี วตามธรรมชาตทิ ห่ี นงึ่ ของจงั หวดั ราชบรุ ี สว นขอ อนื่ เปน แหลง ทองเท่ยี วทีม่ นุษยส รางขน้ึ ดงั น้นั ขอ 4. จงึ เปน คําตอบท่ีถูกตอ ง 50. 3. จงั หวดั กาญจนบรุ เี ปน จงั หวดั ทตี่ ดิ กบั จงั หวดั ราชบรุ ที างตอนเหนอื หากตอ งการไปจงั หวดั กาญจนบุรีตองเดนิ ทางไปทางทิศเหนือ ดังนั้น ขอ 3. จงึ เปนคําตอบท่ถี กู ตอ ง
Ẻº¹Ñ ·Ö¡¼Å¡ÒûÃÐàÁÔ¹ÃдѺ¤³Ø ÀÒ¾¢Í§¼àÙŒ ÃÂÕ ¹µÒÁµÇÑ ªÕéÇ´Ñ ตาราง 1 ÊÒÃСÒÃàÃÂÕ ¹ÃáŒÙ ¡¹¡ÅÒ§Ï Êѧ¤ÁÈ¡Ö ÉÒ ÈÒÊ¹Ò áÅÐÇ²Ñ ¹¸ÃÃÁ ».4 พิเศษ คําชแี้ จง 1. ใหผ ูสอนประเมนิ ผลการศึกษาของผเู รียนเปน รายบคุ คล โดยขีด ✓ ลงใน ตามระดบั คณุ ภาพ 112. ใหผ สู อนประเมนิ ผลความกา วหนา ทางการเรยี นตามลาํ ดบั มาตรฐานตวั ชว้ี ดั ชนั้ ป โดยแสดงผลเปน ระดบั 1-4 (4 = ดีเยย่ี ม, 3 = ดี, 2 = พอใช, 1 = ไมผา นเกณฑ) ทผ่ี ูเ รยี นปฏิบตั ิได ความกา วหนา ของนกั เรียนแตล ะคนตามเกณฑใ นมาตรฐาน ไดแ ก ดีมาก ดี ผานมาตรฐาน ปรับปรุง สาระ มาตรฐาน ตัวชว้ี ัด ชัน้ ป.4 ระดบั คณุ ภาพ สรุปการประเมิน การเรยี นรู การเรยี นรู ของผเู รยี น ระดบั ความ กาวหนา ตาม มาตรฐาน 4321 การเรียนรู 1. อธิบายความสําคัญของพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาทตี่ นนบั ถอื ในฐานะเปน ศนู ยร วมจติ ใจ ของศาสนิกชน 2. สรุปพุทธประวัติต้ังแตบรรลุธรรม จนถึง KYE ประกาศธรรมหรือประวัติศาสดาท่ตี นนับถือ ตามทก่ี าํ หนด สาระท่ี 1 3. เหน็ คุณคาและปฏิบตั ติ นตามแบบอยา งการ ดําเนนิ ชีวติ และขอคดิ จากประวตั สิ าวก ศาสนา ชาดก เร่อื งเลา และศาสนกิ ชนตวั อยา งตาม ศลี ธรรม มฐ. ส 1.1 ที่กาํ หนด ส 1.1 จรยิ ธรรม 4. แสดงความเคารพพระรัตนตรัย ปฏบิ ตั ติ าม ไตรสิกขาและหลกั ธรรมโอวาท 3 ในพระพุทธศาสนา หรอื หลักธรรมของ ศาสนาทีต่ นนบั ถือตามทีก่ ําหนด 5. ชนื่ ชมการทาํ ความดีของตนเอง บุคคลใน ครอบครวั โรงเรยน และชุมชนตามหลกั ศาสนา พรอมท้งั บอกแนวปฏบิ ตั ใิ นการ ดําเนนิ ชีวติ หมายเหตุ ในกรณ�ทีผ่ ูเรียนไมผานตวั ช้ีวดั ใด ใหผูสอนจดั การซอมเสริมจนกวาผูเรียนจะผานตวั ชี้วดั นัน้
พิเศษ 1ตาราง (ตอ ) 12 สาระ มาตรฐาน ตวั ชีว้ ดั ชัน้ ป.4 ระดบั คุณภาพ สรุปการประเมนิ ของผูเรียน ระดับความ กาวหนาตาม การเรยี นรู การเรยี นรู มาตรฐาน 4321 การเรยี นรู 6. เหน็ คณุ คา และสวดมนตแ ผเ มตตา มสี ตทิ เ่ี ปน ส 1.1 พ้ืนฐานของสมาธิในพระพุทธศาสนา หรือ การพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาท่ีตน นบั ถือตามทกี่ ําหนด มฐ. ส 1.1 7. ปฏิบัติตนตามหลักธรรมของศาสนาที่ตน นับถือเพ่ือการอยูรวมกันเปนชาติไดอยาง สมานฉันท สาระที่ 1 8. อธิบายประวัติศาสดาของศาสนาอ่ืน ๆ โดย KYE (ตอ) สงั เขป 1. อภิปรายความสําคัญและมีสวนรวมในการ บาํ รงุ รกั ษาศาสนสถานของศาสนาทตี่ นนบั ถอื 2. มีมรรยาทของความเปนศาสนิกชนท่ีดีตาม ส 1.2 มฐ. ส 1.2 ที่กาํ หนด 3. ปฏิบัติตนในศาสนาพิธี พิธีกรรม และวัน สําคัญทางพระพุทธศาสนาตามท่ีกําหนดได ถูกตอ ง สาระที่ 2 1. ปฏบิ ตั ติ นเปน พลเมอื งดตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย หนา ที่ ในฐานะสมาชิกทีด่ ีของชุมชน พลเมอื ง วฒั นธรรม มฐ. ส 2.1 2. ปฏบิ ตั ติ นในการเปน ผูนําและผูตามทีด่ ี ส 2.1 และการ 3. วิเคราะหสิทธิพ้ืนฐานที่เด็กทุกคนพึงไดรับ ดําเนนิ ชวี ติ ตามกฎหมาย ในสงั คม
สรุปการประเมิน พิเศษ ระดบั ความ กา วหนาตาม สาระ มาตรฐาน ตวั ชี้วดั ชน้ั ป.4 13ระดับคุณภาพ การเรยี นรู การเรยี นรู ของผูเ รียน 4321 มาตรฐาน การเรยี นรู 4. อธิบายความแตกตางทางวัฒนธรรมของ มฐ. ส 2.1 กลมุ คนในทองถนิ� ส 2.1 5. เสนอวิธีการที่จะอยูรวมกันอยางสันติสุข ในชีวติ ประจาํ วัน สาระท่ี 2 1. อธิบายอํานาจอธิปไตยและความสําคัญ (ตอ ) ของระบอบประชาธิปไตย 2. อธิบายบทบาท หนา ทีข่ องพลเมอื งใน ส 2.2 มฐ. ส 2.2 กระบวนการเลอื กตั้ง 3. อธิบายความสาํ คัญของสถาบนั KYE พระมหากษตั รยิ ต ามระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษตั ริยทรงเปนประมขุ 1. ระบปุ จ จยั ทม่ี ผี ลตอ การเลอื กซอ้ื สนิ คา และ บริการ มฐ. ส 3.1 2. บอกสิทธิพ้ืนฐานและรักษาผลประโยชน ส 3.1 ของตนเองในฐานะผบู ริโภค สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร 3. อธิบายหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง และนําไปใชใ นชวี ติ ประจําวนั ของตนเอง 1. อธิบายความสัมพันธทางเศรษฐกิจของ ส 3.2 มฐ. ส 3.2 คนในชุมชน 2. อธบิ ายหนา ทีเ่ บอื้ งตนของเงิน
พิเศษ 1ตาราง (ตอ ) 14 สาระ มาตรฐาน ตวั ช้วี ดั ช้นั ป.4 ระดับคณุ ภาพ สรุปการประเมิน ของผเู รียน ระดบั ความ กาวหนาตาม การเรยี นรู การเรยี นรู มาตรฐาน 4321 การเรียนรู 1. ใชแผนท่ี ภาพถาย ระบุลักษณะสําคัญทาง กายภาพของจังหวดั ตนเอง มฐ. ส 5.1 2. ระบุแหลงทรัพยากรและส�ิงตาง ๆ ในจังหวัด ส 5.1 ของตนเองดว ยแผนท์ี่ 3. ใชแผนท่ีอธิบายความสัมพันธของสิ�งตาง ๆ สาระที่ 5 ทมี่ ีอยูในจังหวดั ภมู ิศาสตร KYE 1. อธิบายสภาพแวดลอมทางกายภาพของ ชุมชนท่ีสงผลตอการดําเนินชีวิตของคนใน จังหวัด มฐ. ส 5.2 2. อธิบายการเปล่ียนแปลงสภาพแวดลอมใน ส 5.2 จังหวดั และผลท่ีเกดิ จากการเปลยี่ นแปลงนัน้ 3. มสี ว นรวมในการอนรุ กั ษสงิ� แวดลอมใน จงั หวัด ฉ
แบบบันทึกผลการประเมนิ สมรรถนะดา นการอา น คดิ วิเคราะห และเขียนใหเหตผุ ล แบบบนั ทึกผลการประเมนิ ดานสมรรถนะสาํ คญั ของผูเรียน รายวิชา สงั คมศกึ ษาฯ ป. 4 ประจําปการศึกษา…………………….. รายวิชา สังคมศึกษาฯ ป. 4 ประจําปก ารศึกษา……………………… คาํ ชี้แจง 1. ใหผ ูสอนและนักเรยี นรวมกันพจิ ารณาเลือกช้นิ งานจากผลงาน คําช้แี จง 1. ใหผ สู อนสงั เกตพฤติกรรมและประเมินสมรรถนะสาํ คญั ของผูเรียน ระหวา งเรียน หรือผลงานทีค่ รูกําหนดจํานวน 3-5 ช้นิ เพื่อสะทอน โดยใสร ะดบั คณุ ภาพ 1-3 ลงในชอ งระดับปฏิบตั ิ (3 = ดเี ย่ียม, ความสามารถ และใชเ ปนหลกั ฐานการประเมนิ 2 = ด,ี 1 = พอใช) โดยประเมนิ ใหสมั พันธกับการเรยี นการสอน 2. ใหผ ูสอนประเมนิ ผลโดยขีด ✓ ลงในชอ งระดับคุณภาพ และสรุปผล 2. ถา สมรรถนะขอใดตรงกบั การเรยี นการสอนทั้ง 2 ภาคเรยี น การประเมนิ ใหป ระเมนิ ท้ัง 2 ภาคเรียน แบบบันทกึ ผลการประเมนิ สมรรถนะดา นการอานฯ ระดบั และแบบบนั ทกึ ผลการประเมินดา นสมรรถนะสาํ คัญของผูเ รียน สมรรถนะ หลกั ฐาน/ช้นิ งาน คุณภาพ สรุปผลการประเมนิ ผลการซอ ม สมรรถนะ พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก ระดบั ปฏบิ ตั ิ ดาน ภาระงาน 321 ทปี่ ระเมิน ดีเยี่ยม ไม ภาคเรยี น ภาคเรียน การอาน ดี ผาน 1. การสอ่ื สาร ท่ี 1 ที่ 2 คิดวิเคราะห ควรปรบั ปรงุ ผาน การเขียน 2. การคดิ 1. บอกความรู ความคดิ ความเขาใจของตนเองโดยใช ภาษาที่เหมาะสม 2. บอกเหตผุ ลของการเลือกทีจ่ ะรับหรอื ไมร บั ขาวสารตา งๆ อยา งถกู ตอ ง 3. ใชว ิธีการส่อื สารท่ดี โี ดยคาํ นงึ ถึงผลกระทบตอตนเองและ ผอู ่ืน 1. สามารถสรุปความคิดรวบยอดหรอื สาระสําคญั ของเรือ่ ง ที่ศึกษา ลงช่อื ผปู ระเมนิ …………………………………………………. ………………. / …………………….. / ………………. 2. มีความคิดเปน ระบบเพื่อสรา งองคค วามรู เกณฑก ารประเมนิ - อานถกู ตองตามอกั ขรวิธี 3. การแกป ญ หา 1. นาํ ความรูท่ีมอี ยไู ปใชแ กป ญ หาตางๆ อยา งมเี หตผุ ล ดานการอาน - อานจบั ใจความสาํ คัญ และมีคุณธรรม - มนี สิ ัยรกั การอา น 2. แสวงหาความรู ประยกุ ตใ ชความรูในการปอ งกนั ดา นการคิดวเิ คราะห - แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่อื งทอี่ านได และแกไขปญ หา - ระบุประเดน็ สําคัญของเรือ่ งทอี่ านได - อธบิ ายเหตผุ ลสนบั สนนุ หรอื คดั คานเรอ่ื งที่อานได 3. ตดั สนิ ใจในเรอื่ งตางๆ โดยคํานึงถึงผลกระทบทจ่ี ะเกดิ กบั ตนเองและสังคม 4. การใชทักษะชีวิต 1. นํากระบวนการที่เรยี นรไู ปใชในชวี ิตประจําวัน 2. มีวิธีจัดการปญ หาและแกไขความขดั แยงอยา งเหมาะสม ดานการเขยี น - เขยี นขอความแสดงความรู ความคิด และประสบการณไ ด 3. ปรบั ตัวใหท นั กับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพ 2ตาราง - เลือกใชค าํ ในการเขยี นไดอ ยา งเหมาะสม แวดลอม พิเศษ - มีนสิ ัยรักการเขยี น และมมี ารยาทในการเขียน 15 5. การใชเทคโนโลยี 1. เลือกใชเทคโนโลยีใกลตัว ในการพฒั นาตนเองในดา น การเรยี นรแู ละการทํางาน ลงช่อื ผปู ระเมิน …………………………………………………. ………………. / …………………….. / ………………. KYE
3ตาราง พิเศษ 16 KYE Ẻº¹Ñ ·Ö¡¼Å¡ÒûÃÐàÁ¹Ô ´ŒÒ¹¤Ø³¸ÃÃÁ¢Í§¼àŒÙ ÃÂÕ ¹ »ÃШÒí »¡‚ ÒÃÈÖ¡ÉÒ....................................... คาํ ชี้แจง 1. ใหผูสอนสงั เกตพฤตกิ รรมและประเมนิ คณุ ธรรมของนกั เรียนในแตละภาคเรียน โดยใสระดบั คะแนน 1-4 ลงในชองระดบั คะแนน* (4 = ดีเยี่ยม, 3 = ดี, 2 = ผานเกณฑ, 1 = ไมผ า นเกณฑ) 2. ใหผ สู อนสรปุ ผลการประเมินในแตละภาคเรียน โดยทาํ เครื่องหมาย ✓ลงในชอ งระดับผลการประเมิน** ซง่ึ ใชเกณฑต ามเกณฑการประเมิน คณุ ธรรมของแตล ะกลมุ คณุ ธรรม*** 3. คณุ ธรรมท่ีมเี คร่ืองหมาย* กํากบั เปนคณุ ธรรมอนั พงึ ประสงคท ่กี ําหนดไวใ นหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พ.ศ. 2551 ภาคเรยี นที่ 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 ระดบั คะแนน* แบบบันทึกผลการประเมินดานคุณธรรมของผเู รียน คุณธรรม คะแนนรวม รกั ชาติ ศาสน กษัตรยิ * มจี ิตสาธารณะ* ความเปนประชาธิปไตย ความมมี นุษยสัมพันธ ความสามคั คี ความกตญั ูกตเวที คะแนนรวม ความมนี ้าํ ใจ ความซอ่ื สตั ยสจุ รติ * ความรับผิดชอบ ความมงุ มน่ั ในการ ทาํ งาน* ความมวี ินัย* ความประหยดั คะแนนรวม รกั ความเปนไทย* การรกั ษาศลี ๕ หรือ หลักธรรมขน้ั พนื้ ฐาน การอยูอ ยางพอเพียง* ความมเี หตผุ ลและ การเชือ่ มั่นในตนเอง ความสนใจใฝเรยี นร*ู รกั สะอาด กลุมคณุ ธรรม คณุ ธร(รLมeเaพr่ือnกtาoรพbeัฒ)นาตน คุณธรรมเ(พL่อื eกaาrnรพtoัฒนdoาก)ารทํางาน คณุ ธรรม(เพLeื่อaกrาnรtพoฒั liนveากwาiรthอยoรู tวhมerกsนั )ในสงั คม ผลการประเมนิ ภาคเรยี นท่ี ดเี ยี่ยม ดี ผาน ไมผ าน ดเี ยยี่ ม ดี ผา น ไมผ าน ดีเยีย่ ม ดี ผาน ไมผาน 12 เกณฑ เกณฑ เกณฑ เกณฑ เกณฑ เกณฑ 12 1212 12121212 12121212 ระดับผล การประเมิน** เกณฑก ารประเมินคณุ ธรรมของแตล ะกลมุ คณุ ธรรม*** ชว งคะแนน ระดับผลการประเมนิ ลงชอื่ ผปู ระเมนิ ……………………………………………………………….. (ผสู อน) 21-24 ดเี ยย่ี ม ลงช่อื ผปู กครอง ……………………………………………………………….. (………………………………………………………………) ช (………………………………………………………………) 15-20 ดี ………………. /………………………… /……………….. 9-14 ผา นเกณฑ 6-7 ไมผานเกณฑ ………………. /………………………… /………………..
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242