วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. NACC Journal ISSN 1906-2087 ปที ี่ 12 ฉบบั ที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2562) เจ้าของ ท่ปี รกึ ษา สำ� นักงานคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปราม พลต�ำรวจเอก ดร.วชั รพล ประสารราชกจิ การทุจริตแห่งชาติ เลขท่ี 361 ถนนนนทบรุ ี ตำ� บลทา่ ทราย ส�ำนักงาน ป.ป.ช. อ�ำเภอเมืองนนทบรุ ี จงั หวดั นนทบรุ ี 11000 นางสุวณา สุวรรณจฑู ะ โทรศัพท์ 0 2528 4800 ตอ่ 5814 โทรสาร 0 2528 4703 สำ� นักงาน ป.ป.ช. E-mail: [email protected] รองศาสตราจารย์ ดร.มาณี ไชยธีรานุวฒั ศริ ิ Website: http://www.nacc.go.th บรรณาธิการ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. รองศาสตราจารย์ ดร.ประสิทธิ์ ลรี ะพนั ธ์ วัตถุประสงค์ เพอ่ื เปน็ แหลง่ รวบรวมความรแู้ ละเผยแพรผ่ ลงาน นกั วชิ าการอิสระ วจิ ยั และผลงานทางวชิ าการอนื่ ๆ ดา้ นการปอ้ งกนั และ กองบรรณาธกิ าร ปราบปรามการทุจริต ศาสตราจารย์ ดร.ศักดา ธนติ กลุ เพ่ือสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัย ผลงานวิชาการ และการสร้างความตระหนักร่วมกัน จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลยั ในการต่อตา้ นการทุจริต ศาสตราจารย์ ดร.ธวชั ชัย สวุ รรณพานชิ เพอ่ื สง่ เสรมิ เครอื ขา่ ยความรว่ มมอื และประสานงาน ในการบริการจัดการข้อมูลงานวิจัยด้านการป้องกัน มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช และปราบปรามการทุจริตระหว่างหน่วยงานและ รองศาสตราจารย์ ดร.อริศรา เล็กสรรเสริญ สถาบนั วจิ ยั ตา่ ง ๆ เพอื่ ใหม้ กี ารแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขา่ วสารและเอกสาร มหาวทิ ยาลยั มหิดล สงิ่ ตพี มิ พต์ า่ ง ๆ กบั หนว่ ยงานและเครอื ขา่ ยทเ่ี กยี่ วขอ้ ง ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวชิ ัย ชอ่ งทางการเผยแพร่ เลม่ วารสาร มหาวทิ ยาลัยหอการคา้ ไทย ดาวน์โหลดได้ที่ www.nacc.go.th นายอุทศิ บวั ศรี แผน่ ซดี ี ก�ำหนดพิมพเ์ ผยแพร่ ส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ปลี ะ 2 ครงั้ ดงั น้ี กองการจัดการ นางสาวพชั รี มีนสุข ฉบบั ที่ 1 มกราคม – มิถุนายน นางจฑุ ารัตน์ สวุ ารี ฉบบั ท่ี 2 กรกฎาคม – ธันวาคม นางสาวอนญั ญา แมน้ โชติ สถานทจี่ ัดพมิ พ์ นางสาวฉันทช์ นก เจนณรงค์ บริษัท ธนอรุณการพิมพ์ จ�ำกดั นายศักดินนั ท์ คุณเอนก จำ� นวนพมิ พ์ ผู้ขัดเกลาภาษาอังกฤษ 700 เลม่ นายภูมิดล ปรีชาชาติ เนอื้ หา/ข้อความในวารสารนเ้ี ป็นความคิดเห็นของผูเ้ ขียน ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งเปน็ ของส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ
(NISJAuSNClyC1-9JDo0eu6cr–nema2l0b8e7r,V2o0l.191)2 No. 2 TOFNE3WAPe-a6umofmefxl1bni:bp:c+atlNse+hih6isilotu6:a6ohen6rbrfe:2etuMtr2hh5shr5eta2uiet2ab8aPpNr8nur:c4o/agrh4/[email protected],antA..1bTang50chuot80icar.-ti10.Cs,hg4aooTar.htriuhaDpilisattinoridnctCommission AA PM osdrssl vo..GCOOCOCicsSoooefff.oufffPnmmmiiirwcccr.oeeemmmaWfn.oooiiiasssaMfffssstiiictttSaooohhhhunnnneeeawereNNNaapnaaaCotttjhuiiiloooatnnnaiPtaaaerlllaeAAAsraannnrntttniiiu---rCCCwaooojakrrritrrrtsuuu,irpppPi,htttiiiPooo.Dhnnn..D . AEdssiItonocdr.ePproefn. dPeranstitScLheoelraarpan, Ph.D. Objectives MPAAEPdrrssrooss.iSTCMOCCttoffU...ouhhoofcPafSTktreumm.irhiPichahotaliUreammkdoaflBo.dlnowtouoBfeiThas.ilnaavforshaAcUtseigtaiaoTcerrhkrnrTinihnhssodeihiaaavatrwayrneiNnamSriaaotUsuLttcimftinveuoPytaikalnhvh,nsteaeoahPprllnhisTavrAisa.nthiDecnytiahcr.tOiniha-C,Cpi,,hPoePPhanrhhrm..uD.DUDpb..n.teiivor enorfsity To serve as a knowledge center for MMMMMMssrrsas....n.SCPAaJaanhugkcaaetdhannriarniycaarahaetlnaeMBSnuKoMaohwankeurecadenhrneCaoeshntueeknknarong disseminating research findings and other EMnr.glPishhooLmanidgoulaPgereeEdchitaocrhart academic works on corruption prevention and suppression. fpci onurdbriTulniopcgtiaeoannwndc.aorauecrnaadegesesmttihcoewcuoosrlkelseocatfnivdtehtleoy recenosheuaannrtcceher To promote networking and cooperation among academic and technical agencies on countering corruption among the agencies and research institutions. To promote the exchange of information and documents among relative agencies and networks. Distributions Journal Download from www.nacc.go.th Compact Disk (CD) Publication Period Bi-annual: No.1 January – June No.2 July – December PPruinbtliisnhged 7b0y0 cTohpaiensaaroonkarnpim Co.,Ltd. Views expressed in the published articles in this Journal exclusively belong to the authors and do not necessarily reflect the official position of the NACC.
ผู้ทรงคณุ วุฒิประเมินบทความ 1. ศาสตราจารย์ ดร.ตีรณ พงศม์ ฆพฒั น ์ คณะเศรษฐศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั 2. ศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชยั สุวรรณพานิช สาขาวชิ านิตศิ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธริ าช 3. ศาสตราจารย์ ดร.บรรเจิด สงิ คะเนติ คณบดคี ณะนติ ศิ าสตร์ สถาบนั บณั ฑิตพฒั นบริหารศาสตร์ 4. ศาสตราจารยพ์ ิเศษ ดร.วิจติ ร ศรสี อา้ น มหาวิทยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช 5. ศาสตราจารย์ ดร.ศกั ดา ธนติ กลุ คณะนิตศิ าสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั 6. ศาสตราจารย์ ดร.ศริ ิชยั กาญจนวาสี คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั 7. ศาสตราจารย์ ดร.ศรรี าชา วงศารยางกรู สาขานิตศิ าสตร์ มหาวิทยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช 8. รองศาสตราจารย์ ดร.ศรสี มบัติ โชคประจักษช์ ัด คณะสังคมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหิดล 9. ศาสตราจารยก์ ิตตคิ ณุ ดร.สุจิต บญุ บงการ นายกสภามหาวทิ ยาลยั หาดใหญ่ 10. รองศาสตราจารย์ ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย 11. รองศาสตราจารย์ ดร.ประสิทธิ์ ลรี ะพันธ ์ นกั วิชาการอสิ ระ 12. รองศาสตราจารย์ พงษ์เทพ สนั ตกิ ลุ คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 13. รองศาสตราจารย์ ดร.ทศพล ปิน่ แก้ว คณะวศิ วกรรมศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย 14. รองศาสตราจารย์ ดร.มนตรี โสคตยิ านุรกั ษ์ คณะรฐั ประศาสนศาสตร์ สถาบันบัณฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร์ 15. รองศาสตราจารย์ ดร.มาณี ไชยธีรานวุ ฒั ศริ ิ สำ� นกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและ ปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ 16. รองศาสตราจารย์ ดร.โยธิน แสวงดี สถาบนั วิจยั ประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลัยมหิดล 17. รองศาสตราจารย์ ดร.ศิรวิ รรณ ไกรสรุ พงศ ์ นักวชิ าการอิสระ 18. รองศาสตราจารย์ ดร.อรศิ รา เลก็ สรรเสรญิ คณะสงั คมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล 19. รองศาสตราจารย์ ดร.อุทัยทิพย์ เจี่ยวิวรรธน์กุล คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล 20. ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ชชั พล ไชยพร คณะนติ ิศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย
21. ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.อัครเดช ไชยเพิ่ม คณะรฐั ศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย 22. ดร.ชวลิต หมน่ื นุช นกั วิชาการอิสระ 23. ดร.เดือนเด่น นคิ มบรริ กั ษ ์ สถาบนั วิจัยเพอื่ การพฒั นาประเทศไทย (ทดี อี าร์ไอ) 24. ดร.รฐั ศาสตร์ กรสูต กระทรวงดิจิทลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสังคม 25. ดร.ศกั ด์ิ เสกขนุ ทด อดตี ผู้อ�ำนวยการส�ำนกั งานพัฒนารัฐบาล ดิจิทัล (องคก์ ารมหาชน) 26. ดร.อุทยั ดลุ ยเกษม นกั วชิ าการอิสระ 27. นางกฤตกิ า ป้นั ประเสรฐิ กรมศลุ กากร 28. นางสาวจินตนา พลอยภทั รภิญโญ ส�ำนักงานคณะกรรมการปอ้ งกันและ ปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ 29. นางฉววี รรณ นลิ วงศ ์ สำ� นกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและ ปราบปรามการทจุ ริตในภาครฐั 30. นายดสุ ติ เขมะศกั ดช์ิ ยั สำ� นักงบประมาณ 31. นายธรรมนญู เรอื งดษิ ฐ์ สำ� นกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 32. นางสาวพสั สา วโรตมะวชิ ญ สำ� นักงานคณะกรรมการปอ้ งกนั และ ปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ 33. นายยทุ ธนา จาวรุง่ ฤทธ์ ิ ส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกนั และ ปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ 34. นายวรวทิ ย์ สุขบญุ สำ� นักงานคณะกรรมการปอ้ งกนั และ ปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติ 35. นายวันชยั รุจนวงศ์ สำ� นักงานอยั การคดศี าลแขวงราชบุรี 36. นายศกั ด์ิชยั เมทินพี ศิ าลกลุ ส�ำนกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 37. นางสาวศุภัค ลิขิตวัฒนานุรักษ์ สำ� นกั งานคณะกรรมการปอ้ งกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 38. นายสทุ ธนิ ันท์ สาริมาน ส�ำนักงานคณะกรรมการปอ้ งกนั และ ปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ 39. นายสรุ พงษ์ อินทรถาวร สำ� นกั งานคณะกรรมการป้องกนั และ ปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ 40. นายอภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ นกั วชิ าการอิสระ 41. นายอุทิศ บวั ศรี สำ� นกั งานคณะกรรมการปอ้ งกนั และ ปราบปรามการทุจรติ แห่งชาติ 42. นางสาวชุณหจิต สงั ขใ์ หม ่ ทปี่ รกึ ษาดา้ นพฒั นาระบบการเงนิ การคลงั กรมบญั ชีกลาง 43. นางสาวสมลกั ษณ์ จัดกระบวนพล อดีตกรรมการ ป.ป.ช.
สารบัญ บทบรรณาธกิ าร ตอนท่ี 1: บทความวชิ าการ: 1 การคอรร์ ัปชันในยุคเทคโนโลยผี ันผวน 2 ยทุ ธพร อิสรชัย 17 18 ตอนท่ี 2: บทความวิจัย 45 มาตรการเพอื่ ปอ้ งกนั การรว่ มมอื ของเครอื ขา่ ยอทิ ธพิ ลในการทุจรติ 71 อยา่ งเป็นระบบในเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษาที่ 24, 25 และ 26 105 พรอัมรนิ ทร์ พรหมเกดิ และคณะ เศรษฐกิจนอกกฎหมายกบั การฟอกเงนิ ในประเทศไทย 137 รตั พงษ์ สอนสภุ าพ 138 การสำ�รวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับสิทธิการรับรูข้ า่ วสาร การรับรู้การทจุ รติ ผลกระทบและความเสียหายทเ่ี กดิ จากการทุจริตตอ่ ประชาชน เสาวณีย์ ทิพอุต ตำ�แหนง่ เจา้ หนา้ ท่รี ัฐกับการเปิดเผยบญั ชแี สดงรายการทรัพยส์ นิ และหน้ีสนิ ตอ่ สาธารณะ เถกิงศักด์ิ ไชยา ตอนที่ 3: ป.ป.ช. ปกิณกะ รปู แบบการมสี ว่ นรว่ มของประชาชนในการต่อต้านการทจุ ริต: กรณศี กึ ษาองคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ สยาม ธรี ะบตุ ร
Contents Part I: Anti-Corruption Articles 1 Corruption in Disruptive Technology 2 Yuttaporn Issarachai Part II: Research Articles 17 Measures for Preventing the Influential Group Networks 18 and Organized Corruption in the Secondary Educational Service Area Office 24, 25 and 26 Pornamrin Promgird and others Illegal Economy and Money Laundering in Thailand 45 Rattaphong Sonsuphap Survey of Public Opinion about Right to Information Perception, 71 Perception of Corruption and the Impact and Damage caused by Public Corruption Saowanee Thip-ut State Officials’ Positions and Disclosure of Accounts Showing 105 Particular of Assets and Liabilities to the Public Thakoengsak Chaiya Part III: NACC Miscellaneous 137 Pattern of Citizen Participation in Countering Corruption: 138 the Case Study of Local Government Organizations Sayahm Dhiraputra
บทบรรณาธกิ าร วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ฉบบั นี้เปน็ ฉบบั ส่งท้ายปี พ.ศ. 2562 และเปน็ ฉบบั ครบรอบ 3 ปีของ ทมี งานกองบรรณาธกิ ารวารสาร ซงึ่ คาดวา่ ในปหี นา้ จะมกี ารปรบั เปลยี่ นกองบรรณาธกิ ารบางสว่ นและ การปรบั ระบบการบรหิ ารจดั การวารสาร เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ทมี งานทม่ี คี วามพรอ้ มมากทสี่ ดุ ในการจดั ทำ� วารสาร วิชาการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันท่ีมีคุณภาพและได้รับการยอมรับจาก ทกุ ภาคสว่ นของสงั คมไทย ควบคไู่ ปกบั การพฒั นาการดำ� เนนิ งานของสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ทงั้ ในเชงิ นโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และยทุ ธวธิ กี ารดำ� เนนิ งานทที่ ำ� อยา่ งตอ่ เนอ่ื งมาโดยตลอด เพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลงานทสี่ อดคลอ้ งกบั ความคาดหวัง ความพึงพอใจ และสร้างความเช่ือมั่นให้กับประชาชนและสังคมในฐานะท่ีส�ำนักงาน ป.ป.ช. เป็นองค์กรหลกั ในการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตคอรร์ ปั ชันของชาติ เน้ือหาสาระของวารสารวิชาการ ป.ป.ช. ฉบับน้ี ประกอบด้วย 3 ส่วนเหมือนเช่นเคย รวม 6 บทความ เปน็ บทความวชิ าการ บทความวจิ ยั และบทความปกณิ กะ จำ� นวน 1, 4 และ 1 บทความ ตามลำ� ดบั โดยบทความวชิ าการของรองศาสตราจารย์ ดร.ยทุ ธพร อิสรชัย เปน็ การวเิ คราะห์ใหเ้ หน็ วา่ ในโลกเทคโนโลยที ผ่ี นั ผวนอยา่ งรวดเรว็ มผี ลทำ� ใหเ้ รอ่ื งการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั มคี วามผนั ผวนเชน่ เดยี วกนั ท้ังในแง่ประเด็นปัญหารูปแบบ และกระบวนการของการทุจริตคอร์รัปชัน ส่วนบทความวิจัยนั้น รองศาสตราจารย์ ดร.พรอัมรินทร์ พรหมเกิด ได้น�ำเสนอผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ การก�ำหนด มาตรการปอ้ งกนั การทจุ รติ ในระบบการศกึ ษา โดยเฉพาะการทจุ รติ ทเ่ี ปน็ ความรว่ มมอื ของกลมุ่ อทิ ธพิ ล ตา่ ง ๆ ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร.รัตพงษ์ สอนสภุ าพ ไดน้ �ำเสนอผลวิจัยเก่ยี วกับเศรษฐกจิ นอกกฎหมาย กบั การฟอกเงนิ ในประเทศไทย ซง่ึ เปน็ ประเดน็ ปญั หาทส่ี งั คมใหค้ วามสนใจเปน็ อยา่ งมาก และเปน็ หว่ ง ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเพราะเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนและมีกลุ่มอิทธิพลเกี่ยวข้อง คุณเสาวณีย์ ทิพอุต ได้น�ำเสนอผลวิจัยเกี่ยวกับการส�ำรวจความเห็นของประชาชนเก่ียวกับสิทธิการรับรู้ ข่าวสาร การรับรู้การทุจริต ผลกระทบและความเสียหายท่ีเกิดจากการทุจริตของประชาชน และ คณุ เถกงิ ศกั ด์ิ ไชยา ได้วิเคราะหแ์ ละประเมินให้เห็นถึงประเด็นปญั หาและแนวปฏิบตั ิของการเปดิ เผยบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหน้ีสินสาธารณะของเจ้าหน้าที่รัฐต�ำแหน่งต่าง ๆ ที่ปัจจุบันก�ำหนดให้ เจ้าหน้าท่ีของรัฐต�ำแหน่งต่าง ๆ จ�ำนวนมากต้องแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และท�ำให้เกิด
ปญั หาขน้ึ จนตอ้ งมกี ารปรบั เปลยี่ นไปบางสว่ น สว่ นบทความปกณิ กะนนั้ คณุ สยาม ธรี ะบตุ ร ไดน้ ำ� เสนอ แนวคดิ และแนวทางใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มในการตอ่ ตา้ นการทจุ รติ โดยใชก้ รณศี กึ ษาขององคก์ รปกครอง สว่ นทอ้ งถน่ิ ซง่ึ เปน็ หนว่ ยงานหรอื องคก์ รทม่ี ปี ญั หาการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั เกดิ ขน้ึ จำ� นวนมากดว้ ยรปู แบบ และวธิ กี ารตา่ ง ๆ กองบรรณาธิการคาดหวงั เป็นอยา่ งยิง่ ว่า ประชาชน นกั วชิ าการ และหน่วยงานทกุ ภาคสว่ น จะมสี ่วนรว่ มในการพฒั นาวารสารฉบับน้รี ว่ มกนั ท่ีทำ� ได้ 2 ช่องทาง คือ ร่วมในการสง่ บทความเกี่ยวกับ การทุจริตคอร์รัปชันที่เป็นประโยชน์เพื่อการตีพิมพ์ในวารสาร และร่วมในการให้ความคิดเห็นและ ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาวารสารด้านต่าง ๆ ซึ่งต้องขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ตอ่ การมีสว่ นรว่ มของทกุ ทา่ นเปน็ การล่วงหนา้ มา ณ โอกาสนีด้ ้วยครับ รองศาสตราจารย์ ดร.ประสทิ ธ์ิ ลรี ะพนั ธ์ บรรณาธิการ
ตอนที่ 1 บทความวชิ าการ Anti-Corruption Articles
2 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปที ี่ 12 ฉบบั ที่ 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562) การคอร์รปั ชันในยุคเทคโนโลยีผันผวน Corruption in Disruptive Technology ยทุ ธพร อิสรชัยI Yuttaporn IssarachaiI บทคัดยอ่ การเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ และฉบั พลนั ทงั้ ทางการเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คมวฒั นธรรมใน “ยคุ โลกแหง่ ความผนั ผวน” ทที่ วคี วามรนุ แรงมากขน้ึ ทกุ วนั ทำ� ใหท้ กุ สว่ นของสงั คมตอ้ งหนั มาวเิ คราะห์ สถานการณ์ของตนเองเพื่อปรับมุมมอง เปลี่ยนกลยุทธ์ และความคิดในการท�ำงาน ให้ทันกับความ เปลยี่ นแปลงผนั ผวนนี้ และเพอ่ื ไมใ่ หถ้ กู กลนื กนิ หรอื ตดิ กบั ดกั ความคดิ ของตนเอง การคอรร์ ปั ชนั ซงึ่ เปน็ ปัญหาส�ำคัญประการหนึ่งในสังคมนับตั้งแต่อดีต ก็มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและฉับพลัน เช่นเดียวกัน ทั้งวิธีคิด กระบวนการ และผลกระทบท่ีเกิดขึ้น ในยุคเทคโนโลยีผันผวนการคอร์รัปชัน จึงมีทั้งการคอร์รัปชันท่ีเป็นเครือข่ายข้ามชาติมีตัวแสดงที่หลากหลาย การคอร์รัปชันท่ีใช้เทคโนโลยี ทนั สมัยเปน็ เครอ่ื งมอื การคอรร์ ปั ชนั ท่ีหลบเลย่ี งกฎเกณฑร์ ะเบยี บกฎหมายแบบดัง้ เดิมทม่ี ีมา เป็นตน้ ความผนั ผวนของการคอรร์ ปั ชนั ในโลกแหง่ เทคโนโลยผี นั ผวนเหลา่ น้ี จงึ มคี วามจำ� เปน็ อยา่ งยง่ิ ทจ่ี ะตอ้ ง มีการทบทวนความคิดเพ่ือน�ำไปสู่การสร้างองค์ความรู้และเคร่ืองมือในการป้องกันและปราบปราม การคอร์รัปชนั ตอ่ ไปในอนาคต การออกแบบระบบปอ้ งกนั และปราบปรามคอร์รัปชนั ใหม่ (Redesigning Anti-Corruption) จงึ ตอ้ งพิจารณาปจั จยั 3 ประการ 1) การออกแบบระบบปอ้ งกนั และปราบปรามคอร์รัปชนั ใหม่ จึงต้อง มีพ้ืนท่ีสาธารณะ (public sphere) ที่น�ำมาสู่การรวมตัวกันของผู้คนท่ีหลากหลาย มีการถกแถลง แลกเปลยี่ นเรียนรู้ ซ่งึ ไมจ่ ำ� กัดอยเู่ พยี งคนในกระบวนการภาครฐั หรอื คนในวงการกฎหมายเทา่ นนั้ 2) วธิ ีคดิ ของคนในกระบวนการป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชัน ต้องคิดอย่างรอบด้านเป็นระบบโดยยึดจาก ความต้องการของประชาชนเป็นหลัก 3) การน�ำเทคโนโลยีการเปิดเผยและแลกเปล่ียนข้อมูลดิจิทัล (open data) ปัญญาประดษิ ฐ์ (AI) และ Blockchain มาใช้ จะชว่ ยสง่ เสรมิ สนับสนุนให้เกิดการมี ส่วนร่วมจากผู้คนท่ีหลากหลาย เกิด “การกระจายอ�ำนาจการป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชัน” สู่ภาคประชาสงั คม (civil society) และลงสู่ประชาชน อันจะน�ำไปสภู่ าวะการตรวจสอบทางตรงจาก I รองศาสตราจารยป์ ระจ�ำสาขาวชิ ารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช Associate professor, Faculty of Political Science, Sukhothai Thammathirat Open University ได้รบั บทความ 16 กนั ยายน 2562 แกไ้ ขปรบั ปรุง 4 พฤศจกิ ายน 2562 อนุมัติให้ตพี มิ พ์ 8 พฤศจกิ ายน 2562
การคอรร์ ปั ชนั ในยุคเทคโนโลยีผันผวน 3 ภาคประชาชนในท่สี ุด 4) การแก้ปัญหาคอรร์ ปั ชนั ต้องเกดิ ภายใตร้ ะบอบประชาธปิ ไตย องค์กรทีต่ รวจสอบ การคอร์รัปชันต้องเป็นกลางและมีความเป็นอิสระอย่างแท้จริง ไม่ได้ด�ำเนินคดีเฉพาะกับนักการเมือง เท่านัน้ แต่รวมถงึ ผใู้ ชอ้ ำ� นาจสาธารณะในองคก์ รภาครฐั หรือระบบราชการดว้ ย เช่น ผู้พพิ ากษา ทหาร ตำ� รวจ เปน็ ตน้ โดยในสงั คมตอ้ งมสี อ่ื มวลชนทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ สรา้ งสรรค์ และมเี สรภี าพในการแสดงออก (Freedom of Expression) การแกป้ ญั หาคอรร์ ปั ชนั ตอ้ งมกี ารทำ� งานรว่ มกนั กบั หลายภาคสว่ นในสงั คม ได้คนท่มี คี วามรคู้ วามสามารถเขา้ รว่ ม ความสำ� เรจ็ จะเกดิ ข้นึ ได้เพราะการพฒั นาระบอบประชาธิปไตย ลดการผูกขาดอ�ำนาจการเมืองและอ�ำนาจทุน กระจายอ�ำนาจลดภาวะรัฐรวมศูนย์และลดภาวะ “รัฐราชการ” ปจั จยั เหลา่ นจ้ี ะเออ้ื ใหเ้ กิดการแกป้ ัญหาการคอรร์ ปั ชันอย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ค�ำส�ำคัญ: คอร์รัปชัน เทคโนโลยีผันผวน การป้องกันและปราบปรามการทุจริต การเปิดเผยและ แลกเปลย่ี นข้อมลู ดิจทิ ัล ปญั ญาประดิษฐ์ บลอ็ กเชน Abstract ncreasingly rapid and sudden changes in politic, economy, and cultural society in the age of ‘VUCA world’ – Volatility, Uncertainty, Complexity, and Ambiguity – cause all sectors in the society to re-analyze their own situation in order to adjust their perspectives, strategies and ideas to suit the volatility, not to be swallowed or trapped in one’s own thoughts. Since a long time ago, corruption has been one of the major problems in the society and shows rapid and sudden changes in terms of thought, process, and effect. In the era of disruptive technology, corruption appears in many forms, for example, transnational corruption with several actors, corruption with modern technology, and corruption that avoids existing rules and regulations. From this, it is important to review and recreate knowledge and tools to prevent and suppress corruption in the future. To redesign the anti-corruption system, four factors must be taken into account: firstly the design of the new anti-corruption system must have a public sphere leading to social integration of various people in order that there be discussion and exchange, not limited to those in the government sector or in the law industry. Secondly, thoughts of the anti-corruption people must be all-round and systematically based on the needs of people. Then, the use of ‘Open Data’, ‘Artificial Intelligence’ (AI) and ‘Blockchain’ will help promoting people’s participation, decentralize corruption prevention and
4 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562) suppression to people and civil society, and eventually lead to direct monitor by the people. Finally, solutions to corruption must be made under democratic regime with a neutral independent inspecting agency. Such agency must not only prosecute politicians, but also those in public sectors, such as the judge, the military, the police, etc. As well, there must be a competent constructive media along with freedom of expression. To stop corruption, a wide range of knowledge is essential and such sectors must take part. The achievement will then be presented as a result of democracy development: decentralization must be promoted so as to reduce the monopoly of political power as well as monopoly capital and to prevent ‘Bureaucratic Polity’. All of the above-mentioned factors are effective ways to solve the corruption problems accordingly. Keywords: Corruption, Disruptive Technology, Anti-Corruption, Open data, Artificial Intelligence, Blockchain การเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วและฉับพลันท้ังทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมวัฒนธรรม ใน “ยุคโลกแห่งความผันผวน” ท่ีทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ท�ำให้ทุกส่วนของสังคมต้องหันมา วิเคราะห์สถานการณ์ของตนเองเพื่อปรบั มมุ มอง เปล่ียนกลยุทธ์ และความคดิ ในการท�ำงาน ให้ทนั กบั ความเปลยี่ นแปลงผนั ผวนน้ี และเพอ่ื ไม่ให้ถกู กลนื กินหรอื ติดกบั ดักความคดิ ของตนเอง การคอร์รัปชัน ซง่ึ เปน็ ปญั หาสำ� คญั ประการหนง่ึ ในสงั คมนบั ตง้ั แตอ่ ดตี กม็ คี วามเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ และฉบั พลนั เช่นเดียวกัน ท้ังวิธีคิด กระบวนการ และผลกระทบท่ีเกิดข้ึน ในยุคเทคโนโลยีผันผวนการคอร์รัปชัน จึงมีทั้งการคอร์รัปชันที่เป็นเครือข่ายข้ามชาติมีตัวแสดงที่หลากหลาย การคอร์รัปชันที่ใช้เทคโนโลยี ทันสมยั เปน็ เคร่ืองมอื การคอร์รปั ชนั ทีห่ ลบเลี่ยงกฎเกณฑ์ระเบยี บกฎหมายแบบด้ังเดิมท่ีมมี า เป็นตน้ ความผนั ผวนของการคอรร์ ปั ชนั ในโลกแหง่ เทคโนโลยผี นั ผวนเหลา่ นี้ จงึ มคี วามจำ� เปน็ อยา่ งยง่ิ ทจ่ี ะตอ้ ง มีการทบทวนความคิดเพ่ือน�ำไปสู่การสร้างองค์ความรู้และเคร่ืองมือในการป้องกันและปราบปราม การคอรร์ ปั ชนั ตอ่ ไปในอนาคต เม่ือกล่าวถึงการคอร์รัปชัน หลายคนอาจสิ้นหวังว่าไม่ว่าจะท�ำอย่างไร ก็ไม่มีวันแก้ไขปัญหา คอร์รัปชันได้ เพราะการคอร์รัปชันฝังรากลึกในสังคมราวกับว่าต้นตอของมันมาจากพันธุกรรมหรือ ธรรมชาตขิ องมนุษย์ เชน่ นั้นแลว้ กฎหมายหรอื มาตรการใด ๆ ก็ยากทจ่ี ะก�ำจัดการคอร์รัปชนั ใหห้ มด สิน้ ไปอยู่ดี แต่น่นั อาจเป็นความคดิ ท่ไี มถ่ กู ตอ้ งเสยี ทีเดียว เรายงั มพี อมหี นทางที่จะแกป้ ญั หาคอร์รัปชัน ไดอ้ ยู่ สิ่งทต่ี ้องทำ� คอื เปลยี่ นระบบและวธิ ีคิดของสังคม ตวั อยา่ งทีเ่ กดิ ข้ึนแล้วในหลายประเทศ ดงั เชน่ บทเรียนจากประเทศอินโดนีเซีย ที่การต่อสู้คอร์รัปชันต้องเกิดจากความร่วมมือขององค์กรข้างบน ซึ่งก็คือ “หนว่ ยงานรัฐ” กับองค์กรขา้ งล่าง ซึง่ กค็ อื “ภาคประชาชน” การสรา้ งประชาธิปไตยกบั สงั คม
การคอรร์ ัปชนั ในยุคเทคโนโลยผี ันผวน 5 ปลอดคอร์รปั ชนั จึงเปน็ เรือ่ งเดียวกัน เราไม่สามารถละเลยส่งิ ใดสิง่ หน่ึงได้ เพราะแทจ้ รงิ แลว้ การสรา้ ง ทั้งสองส่ิง ก็คือ การสร้างระบบที่ไม่ให้ใครมาผูกขาดทั้งในการเมืองและเศรษฐกิจ และเป็นระบบท่ี ผมู้ ีอ�ำนาจทุกคนตอ้ งถกู ตรวจสอบได้โดยประชาชน (ประจกั ษ์ ก้องกรี ต.ิ (ก), 2017) อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจ�ำนวนมาตรการป้องกันและปราบปรามกับภาพลักษณ์ การคอรร์ ปั ชนั ในประเทศไทยกลบั ไมส่ มั พนั ธก์ นั ในระดบั สากลมดี ชั นชี วี้ ดั เรอื่ งการคอรร์ ปั ชนั ทยี่ อมรบั กนั ทว่ั ไป 2 แบบ ได้แก่ (1) Corruption Perceptions Index (CPI) จดั ท�ำโดยองค์กรความโปร่งใส ระหวา่ งประเทศ สำ� รวจจากทัศนคตขิ องประชาชน และ (2) Control of Corruption Index (CC) วดั จากมาตรการจดั การคอรร์ ปั ชนั ของรฐั บาลแตล่ ะประเทศ ผลการวดั คอรร์ ปั ชนั ทวั่ โลก ดชั นี CPI และ CC เป็นไปในทางบวก หมายความว่า เมื่อมีมาตรการแกป้ ัญหาคอร์รปั ชันเพ่ิมขนึ้ ทัศนคติของคนที่มี ต่อคอรร์ ปั ชันกด็ ีข้นึ ขณะที่ประเทศไทย ความสมั พนั ธ์ (correlation) ของ 2 ดัชนีนี้เปน็ ไปในทางลบ อกี นยั หนงึ่ คอื ดชั นี CPI กบั CC กลบั มที ศิ ทางทส่ี วนทางกนั กลา่ วคอื ประเทศไทยมมี าตรการแกป้ ญั หา คอรร์ ปั ชนั มากมาย แตท่ ศั นคตขิ องประชาชนทม่ี ตี อ่ การคอรร์ ปั ชนั กลบั ไมด่ ขี น้ึ ซงึ่ มไี มก่ ปี่ ระเทศในโลก ทมี่ คี วามสมั พันธ์ทางลบเชน่ นี้ ซ่ึงอาจมสี าเหตมุ าจาก (1) มาตรการแกป้ ัญหามีมากมายแต่ใชไ้ มไ่ ด้ผล และ (2) คนไม่เชือ่ วา่ มาตรการทีอ่ อกมาจะใชไ้ ดผ้ ล แต่คนกลบั เช่อื ส่อื ทบ่ี อกว่าคอร์รปั ชันไม่ดมี ากกว่า รัฐออกมาตรการมากมายอย่างไรประชาชนก็ไม่รู้สึกว่าดีขึ้น แต่เดิมผู้คนในสังคมไทยมักมองว่า การคอรร์ ปั ชนั หมายถงึ ความไมซ่ อื่ สตั ย์ จงึ ควรแกด้ ว้ ยการสอนใหค้ นซอ่ื สตั ยแ์ ละเปน็ คนดี แตใ่ นปจั จบุ นั สังคมไทยเร่ิมมองเห็นความซับซ้อนของการคอร์รัปชันมากขึ้น มีการน�ำเอาปัจจัยและบริบทแวดล้อม เข้ามาท�ำความเข้าใจปัญหา เช่น การต้องเผชิญกับสถานการณ์ท่ียากล�ำบากในการเลือกระหว่าง ความสัมพนั ธส์ ว่ นตัวและผลประโยชน์สาธารณะ ซึง่ หลายคร้ังกไ็ มไ่ ด้แบ่งกันชัด เป็นตน้ โครงการวิจัยสังคมไทยไร้คอร์รัปชัน โดย ธานี ชัยวัฒน์ ได้เสนอประเด็นข้อค้นพบใหม่ท่ี น่าสนใจว่า คนแต่ละช่วงอายุเข้าใจค�ำว่าคอร์รัปชันไม่เหมือนกัน โดยสังคมก็ไม่เคยให้ความชัดเจน คนอายุมากกว่า 30 ปี มองคอร์รปั ชันในความหมายแคบกวา่ คนอายนุ ้อยกวา่ 25 ปี เพราะมองเฉพาะ นกั การเมอื ง แต่ไมไ่ ดก้ ลา่ วถงึ ข้าราชการ ทหาร เจา้ หน้าท่ขี องรฐั ฯลฯ และมองวา่ ตอ้ งเป็นการ “โกงเงิน” เท่านั้น จงึ จะเรียกว่าเป็นการคอร์รัปชัน โดยไมไ่ ดก้ ลา่ วถึง การช่วยพวกพอ้ ง การใชอ้ ำ� นาจในทางที่ผดิ ฯลฯ กลุ่มคนอายุน้อยกว่า 25 ปี มองความหมายกว้างกว่าท้ังผู้กระท�ำคอร์รัปชัน และครอบคลุม ความผิดในหลายรูปแบบ สาเหตุท่ีอาจเป็นไปได้ที่ท�ำให้คนต่างช่วงอายุมองคอร์รัปชันต่างกัน คือ (1) คนทีอ่ ายุตำ�่ กว่า 25 ปีตอนนี้ ในชีวติ ยงั ไม่เคยเลือกตง้ั เลย ดังนนั้ จงึ มองไมเ่ ห็นภาพของนักการเมือง คอร์รัปชัน แต่คุ้นกับภาพการคอร์รัปชันของข้าราชการ ทหาร ต�ำรวจมากกว่า (2) คนอายุน้อยกว่า 25 ปี เพ่ิงเรยี นจบ ยังไมไ่ ด้เขา้ ทำ� งาน หรอื พบเจอกบั สภาพสังคมจรงิ ๆ จงึ อาจตีความไม่เหมอื นคนอายุ 30 ปี แตเ่ ม่ือเวลาผ่าน อาจมีการตคี วามท่ีต่างออกไป การจะแกป้ ัญหาได้จึงควรท�ำใหค้ นแตล่ ะช่วงอายุ เขา้ ใจค�ำว่าคอรร์ ปั ชนั ในความหมายเดียวกนั กอ่ น
6 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ปีท่ี 12 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562) นอกจากนี้ ภาษาท่ีเกี่ยวกับคอร์รัปชันมีความละมุนขึ้นจนกลมกลืนกับสังคมไทย สังคมไทย คุ้นเคยกับค�ำว่าคอร์รัปชันเพราะอยู่ในชีวิตประจ�ำวันมากขึ้น จากค�ำว่า “โกง” สู่ “ทุจริต” จนถึง “คอร์รัปชัน” ซ่ึงค�ำแต่ละค�ำส่งผลต่อความรู้สึกต่างกัน ปัจจุบันค�ำว่า “คอร์รัปชัน” ไม่ใช่ค�ำท่ีมี ความหมายรุนแรงที่สุด ยังมีอีกหลายค�ำท่ีถูกน�ำมาใช้เพ่ือให้ความหมายของการคอร์รัปชันบางเบาขึ้น เช่น สินบน สินน�้ำใจ ให้ความหมายในทางบวก ไม่ได้ท�ำให้รู้สึกผิดมาก หรือค�ำว่า ค่าน้�ำร้อนน้�ำชา ใหค้ วามหมายกลาง ๆ เปน็ ตน้ ขณะทคี่ ำ� วา่ คอรร์ ปั ชนั ใหค้ วามหมายถงึ การประพฤตมิ ชิ อบและเงนิ ใตโ้ ตะ๊ แต่ยังมีความหมายในทางลบไม่เท่ากับค�ำว่า “โกง” ซ่ึงหมายความในทางลบชัดเจนว่าเป็นการทุจริต ในหนา้ ที่ ดังนน้ั การใช้ค�ำวา่ “โกง” จะใหค้ วามร้สู กึ รุนแรงกว่าคอร์รัปชัน แตใ่ นบางสถานการณ์ บางค�ำ ก็สามารถเปลี่ยนจากความหมายลบมาเป็นความหมายบวกได้ เช่น ถ้านักธุรกิจขอให้ข้าราชการ ช่วยเหลือเพ่ือลัดขั้นตอน ท่ีหมายถึงความมีน้�ำใจ ช่วยเหลือกัน ซึ่งเป็นความหมายเดียวกับสินน�้ำใจ แตใ่ นความเปน็ จรงิ พฤตกิ รรมดงั กลา่ วเปน็ การใหเ้ งนิ พเิ ศษ แตก่ ลบั กลายเปน็ รปู แบบของการชว่ ยเหลอื และมบี ญุ คณุ ซงึ่ กนั และกนั กลมกลนื กบั สงั คมไทยจนแยกไมอ่ อก นอกจากน้ี ยงั มกี ารสรา้ งคำ� ทหี่ ลากหลาย มากข้ึน ท�ำให้ความเข้าใจต่อการโกง ทุจริตและคอร์รัปชันยากข้ึนไปด้วย เช่น การบอกว่าผู้มีอ�ำนาจ ปกปิดบญั ชที รพั ยส์ ิน มีผลประโยชน์ทับซ้อน (conflict of interest) ท�ำใหค้ นไมส่ ามารถตีความได้ว่า เปน็ การคอรร์ ปั ชนั หรอื ไม่ และรปู แบบของการกระทำ� ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การคอรร์ ปั ชนั กม็ คี วามหลากหลาย มากข้ึนด้วยเช่นกัน รวมทั้งคนต่างวัยกันมี “ค่านิยม” เรื่องความซ่ือสัตย์สุจริตและคอร์รัปชัน ทีไ่ มเ่ หมอื นกนั ขณะทกี่ ารเลอื กเครอื่ งมอื ทเ่ี หมาะสมในการแกไ้ ขปญั หา สงั คมไทยปจั จบุ นั ยงั มกี ารมองปญั หา คอรร์ ปั ชนั แบบใชว้ ธิ คี ดิ วธิ กี ารเดยี วเพอื่ แกป้ ญั หาทงั้ หมด (one size fits all) แตไ่ มไ่ ดม้ องวา่ เปน็ ปญั หา แบบไหน และแก้ให้ใคร ดังนั้น เครื่องมือท่ีเหมาะสมในการแกป้ ัญหาคอร์รปั ชนั จะตอ้ งเป็นเคร่ืองมอื ท่ี เหมาะกับคนบางกลุม่ ในบางเรือ่ ง คอรร์ ัปชนั แต่ละประเภทแก้ปญั หาได้ยากงา่ ยไมเ่ ทา่ กัน ตอ้ งจดั การ แกป้ ัญหาในเร่อื งงา่ ยก่อน ในภาคปฏิบัติของการแก้ไขปัญหา จะพบว่ารูปแบบของเครือข่ายความสัมพันธ์ทางการเมือง แต่ละพ้ืนที่ไม่เหมือนกัน ซ่ึงเม่ือดูความสัมพันธ์ทางการเมืองจะพบความแตกต่าง เช่น ในกรุงเทพฯ มีความ สัมพันธ์ของต�ำแหน่งทางการเมืองในเชิงตระกูลไม่มาก แต่ในต่างจังหวัด คนนามสกุลเดียวกันมีความ สัมพนั ธ์ในตำ� แหนง่ ทางการเมอื งมากมาย การที่ใครคนใดคนหนง่ึ ในตระกลู เข้าไปท�ำงานการเมอื งแล้ว จะสามารถพาคนอืน่ ๆ ตามเข้ามาได้ โครงสรา้ งความสัมพันธ์เช่นนส้ี ่งผลต่อรปู แบบการต่อสู้ในการแก้ ปญั หาคอรร์ ปั ชนั ของสงั คม เพราะการทค่ี นในตระกลู เดยี วกนั มคี วามสมั พนั ธไ์ ขวไ้ ปมาในตำ� แหนง่ ตา่ ง ๆ ทำ� ใหก้ ารตรวจสอบของระบบการเมืองทำ� ได้ไม่เต็มท่ี ซึ่งปญั หานอี้ าจจะดขี ้ึนเมื่อสังคมไทยพัฒนาและ มีการย้ายถิ่นท่ีสูงขึ้น นอกจากนี้ การท�ำงานภาคประชาสังคมซ่ึงควรเป็น “พลังนอกภาครัฐ” (extra bureaucratic force) ท่ีส�ำคัญในการป้องกันและปราบปรามการคอร์รัปชัน ยังมีลักษณะ การทำ� งานทเี่ ปน็ เร่ืองส่วนบุคคล และขาดระบบการจดั การ เปน็ กลมุ่ ทกี่ ระจดั กระจาย ท�ำงานรว่ มกนั ไมช่ ัด
การคอร์รปั ชันในยุคเทคโนโลยผี นั ผวน 7 ขณะท่ีคนที่รวมกลุ่มกันเพ่ือคอร์รัปชันกลับร่วมมือดีกว่าคนท่ีต่อต้านคอร์รัปชัน เพราะคนที่มีส่วนได้ สว่ นเสยี ประชมุ กนั ตกลงชดั เจน มคี วามสมั พนั ธท์ ดี่ กี วา่ ในปจั จบุ นั ภาคประชาสงั คมทต่ี อ่ ตา้ นคอรร์ ปั ชนั มปี ระมาณ 26 องคก์ ร แต่ไม่ไดท้ �ำงานด้วยกัน ยังเปน็ การท�ำงานรว่ มกนั ในระดับบคุ คล เพราะฉะน้นั การเชอ่ื มโยงสรา้ งพลงั ในการตอ่ สยู้ งั มไี มม่ าก จงึ ควรเนน้ การเชอ่ื มโยงใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ จดั กลมุ่ อปุ สรรค กบั ทรพั ยากรเพอ่ื สรา้ งความร่วมมือ เชน่ ภาคประชาสงั คมสามารถทำ� คดที ีม่ ีมลู ค่าสงู จำ� พวกการจดั ซ้ือ จดั จา้ งได้ แตใ่ นอดตี ทผี่ า่ นมาประสบปญั หาอปุ สรรคในการขาดขอ้ มลู และมตี น้ ทนุ ในการรวบรวมขอ้ มลู สงู แตห่ ากมกี ารใชเ้ ทคโนโลยี blockchain มาชว่ ยจะแกไ้ ขปญั หาเรอื่ งการแสวงหาขอ้ มลู และลดตน้ ทนุ การรวบรวมข้อมูลให้ต่�ำลงได้ ระบบการจัดซื้อจัดจ้างต้องการเทคโนโลยีเข้ามาช่วยวิเคราะห์ สินค้า ประเภทเดยี วกันต้องเทียบราคากันได้ ถา้ มีสว่ นเพิ่มพิเศษควรใช้ระบบ Machine Learning เข้ามาเรียนรู้ และก�ำหนดราคากลางเปรียบเทียบในอนาคต และในการจัดซื้อควรให้หน่วยงานด�ำเนินการตรงจาก กรมบัญชีกลางโดยใช้ blockchain เพ่ือให้มีบุคคลท่ีสามเข้ามาเป็นผู้จ่ายเงิน รวมทั้งปรับปรุงระบบ การปอ้ งกนั และปราบปรามการคอรร์ ปั ชนั ทม่ี อี ยใู่ หม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ลมากขนึ้ เชน่ การเปดิ เผยบญั ชี ทรัพย์สินและหนี้สิน ต้องการระบบอ่ืนมาท�ำงานร่วมกัน ระบบตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของผู้ด�ำรง ต�ำแหน่งในปัจจุบันจะย่ืนบัญชีทรัพย์สินหนี้สินก่อนรับต�ำแหน่ง และยื่นอีกครั้งหลังออกจากต�ำแหน่ง และหลงั ออกจากต�ำแหน่ง 1 ปี เพราะฉะน้ันหากจะคอรร์ ปั ชนั ก็สามารถเกบ็ เงินสดไวใ้ นบ้าน รอหลัง ออกจากตำ� แหนง่ ครบ 1 ปี ยน่ื บญั ชีทรัพยส์ ิน และหลัง 1 ปี คอ่ ยเอาเงนิ น้เี ข้าบญั ชีธนาคาร กไ็ มม่ ใี คร สามารถตรวจสอบไดห้ ากไมก่ ลบั มาดำ� รงตำ� แหนง่ อีก (ปาณิส โพธศิ์ รีวงั ชัย, 2018) Blockchain จงึ เปน็ ระบบจดั การฐานขอ้ มลู ท่ี “บญั ชกี ารทำ� ธรุ กรรม” (Ledger) จะถกู กระจาย ไปเก็บไว้ในเครือขา่ ยคอมพวิ เตอรเ์ ซฟิ เวอรส์ ่วนบคุ คลจ�ำนวนมหาศาล ที่ใครก็ตามในเครอื ขา่ ยสามารถ เหน็ ไดใ้ นเวลาทนั ทที นั ใดทธี่ รุ กรรมนน้ั เกดิ ขน้ึ โดยโหนดตา่ ง ๆ ของเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอรน์ ี้ จะเกบ็ บญั ชี ธุรกรรมที่เกิดข้ึนจะถูกเก็บในลักษณะ “บล็อก” (Block) และเชื่อมโยงกันต้ังแต่ธุรกรรมแรกท่ี ถอื กำ� เนดิ ขน้ึ มาเปน็ หว่ งโซ่ หรอื ทเี่ รยี กวา่ “เชน” (Chain) ซง่ึ แตล่ ะบลอ็ กในหว่ งโซจ่ ะถกู ปดิ ผนกึ อกี ครงั้ ด้วยการใช้สมการคณิตศาสตร์ช้ันสูงเพื่อความปลอดภัย เหมือนกับการปิดผนึกด้วยคร่ังประทับตรา เฉพาะบนซองจดหมาย ไว้ยนื ยันว่าธรุ กรรมน้นั เกิดขน้ึ จริงและยนื ยนั ธรุ กรรมหลังจากนนั้ วา่ ถูกต้อง ธรุ กรรมตา่ ง ๆ จึงสามารถเกดิ ข้ึนได้รวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ โปร่งใส จากระบบตัวกลาง แบบเดมิ ๆ ทต่ี อ้ งสง่ สำ� เนาขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ระหวา่ งกนั เพอื่ สรา้ งความไวว้ างใจ ดว้ ยระบบนกี้ ารปลอมแปลง ธุรกรรมในแต่ละบล็อกจึงท�ำได้ยาก เพราะแค่เปลี่ยนตัวอักษรเดียวก็จะรู้ได้ทันทีกระทบไปทั้งห่วงโซ่ แถมด้วยเครือข่ายของเซิฟเวอร์ที่ใหญ่โตมโหฬารท่ีช่วยกันเก็บและประมวลผล ยังเป็นไปได้ยากมากที่ แฮคเกอรจ์ ะแฮคบล็อกเชนเข้าไปได้ (สฤณี อาชวานนั ทกุล, 2016) เจน สมิธ (Jane Smith) ได้กล่าวถึงกรณีศึกษาในต่างประเทศที่น่าสนใจไว้ในเว็บไซต์ของ องค์กรเพ่ือความโปรง่ ใสนานาชาติ (Transparency International) ในบทความเรื่อง New Kid On The Blockchain. The Distributed Ledger and The Fight Against Corruption สรุปแนวทางท่ี
8 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2562) นวัตกรรม Blockchain จะเข้ามามีส่วนในการแก้ปัญหาคอร์รัปชันไว้ว่า Blockchain จะเข้ามาช่วย แกป้ ญั หา “การโกง” ในกระบวนการใหเ้ งนิ ชว่ ยเหลอื ตา่ ง ๆ ได้ ซง่ึ ในเรอื่ งน้ี บนั คมี นุ เลขาธกิ ารสหประชาชาติ เคยประมาณไวว้ า่ พวกเงนิ ชว่ ยเหลอื จากตา่ งประเทศท่ีส่งไปช่วยเหลือผู้คนท่ตี กทุกขไ์ ด้ยากในโครงการ ต่าง ๆ น้ัน มักจะสูญหายไปกว่าร้อยละ 30 ซงึ่ กม็ าจากจากการคอรร์ ปั ชนั ของ “ตวั กลาง” แตถ่ า้ นำ� Blockchain เขา้ มาใช้ กจ็ ะตดั ตวั กลาง เชน่ ผมู้ อี ำ� นาจในท้องถ่ิน คาดวา่ จะท�ำให้เงนิ ช่วยเหลอื ลงไปถงึ ผทู้ มี่ คี วามตอ้ งการเตม็ เมด็ เตม็ หนว่ ยไดม้ ากขน้ึ แมจ้ ะยงั อยใู่ นระยะทดลอง แตก่ ต็ วั อยา่ งรปู ธรรมใหเ้ หน็ แลว้ หลายแห่ง นอกจากน้ี Blockchain ช่วยแก้ปัญหาการเลือกต้ังได้ เนื่องจากการเลือกต้ังโดยการกา บตั รเลอื กตงั้ นน้ั ทำ� ใหม้ ชี อ่ งวา่ งมากมายทจ่ี ะทำ� ใหเ้ กดิ การโกง การใช้ Blockchain กบั ระบบการลงคะแนน อาจสามารถชว่ ยลดโอกาสในการโกงลง และทำ� ใหก้ ารเลอื กตงั้ เปน็ ธรรมมากขน้ึ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การ นับคะแนน เพราะไม่สามารถมีใครโกงคะแนนเลือกต้ังได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้ภายใต้ระบบ blockchain ในทางกลับกนั ยงั จะชว่ ยท�ำให้การเลอื กตง้ั สะดวกขน้ึ และเข้าถึงคนไดม้ ากขน้ึ เปน็ การส่งเสรมิ กระบวนการประชาธปิ ไตย ในแงค่ วามปลอดภยั และความเปน็ สว่ นตวั ของขอ้ มลู เทคโนโลยี blockchain สามารถออกแบบการเข้ารหัสเพ่ือปกปิดตัวตน รักษาความเป็นส่วนตัว และข้อมูลการมีส่วนร่วมทาง การเมืองได้อกี ด้วย ตวั อย่างการนำ� blockchain มาใชใ้ นทางการเมืองมีแลว้ ในบางประเทศ เชน่ ประเทศเอสโตเนีย ทดลองใชร้ ะบบ e-Voting หรอื การลงคะแนนออกเสยี งทางอเิ ลก็ ทรอนกิ สผ์ า่ นระบบ blockchain ดว้ ย การพัฒนาของบรษิ ทั Nasdaq ท่ไี ดใ้ ช้ได้ระบบน้สี �ำหรับผู้ถอื หุน้ บรษิ ทั จดทะเบียนในตลาดหลกั ทรัพย์ ใหส้ ามารถออกเสยี งออนไลน์ในการประชมุ ผถู้ ือหุ้นได้ เปน็ ตน้ (ภทั ชา ด้วงกลัด, 2017) blockchain จึงเป็นเทคโนโลยีส�ำคัญท่ีจะวางระบบการตรวจสอบการคอร์รัปชันท่ีผันผวนในโลกแห่งความผันผวน ท�ำใหเ้ กิดความ “โปร่งใส” ได้มากขึ้นอยา่ งทไี่ มเ่ คยเป็นมากอ่ น สอดคล้องกับงานวิจัยหลายช้ินมีข้อค้นพบตรงกันว่า ปัญหาคอร์รัปชันที่เร้ือรังในสังคมไทยมี สาเหตุพื้นฐานมาจากระบบท่ีล้มเหลวมากกว่าปัญหาตัวบุคคล ระบบที่ไม่ดีและล้มเหลวบังคับให้ผู้คน ตอ้ งจำ� ยอมจา่ ยสนิ บนเพอ่ื ความสะดวกสบายในชวี ติ ในสงั คมทรี่ ะบบราชการ ระบบเศรษฐกจิ การเมอื ง และระบบยตุ ธิ รรมลม้ เหลว สนิ บนและการคอรร์ ปั ชนั ในรปู แบบตา่ ง ๆ คอื “ตน้ ทนุ แฝง” ของชวี ติ ทท่ี กุ คน จ�ำยอมต้องจ่ายเพ่ือให้ชีวิตราบรื่นไม่ติดขัด ผลส�ำรวจช้ีชัดว่า กลุ่มคนท่ีมีฐานะยากจน คือกลุ่มคนที่ ไดร้ บั ผลกระทบมากทส่ี ดุ จากวฒั นธรรมคอรร์ ปั ชนั ฝงั ราก เพราะขาดทางเลอื กและไรอ้ ำ� นาจตอ่ รอง และ ทส่ี ำ� คญั สดั สว่ นเงนิ ทพี่ วกเขาตอ้ งจา่ ยเพอ่ื ใหช้ วี ติ ดำ� เนนิ ไปไดอ้ ยา่ งไมต่ ดิ ขดั คดิ เปน็ สดั สว่ นทสี่ งู มากเมอื่ เทียบกบั รายได้ การออกจากกับดักประเทศที่มีคอร์รัปชันสูง จึงต้องเร่ิมจากการเปลี่ยนความคิดและมุมมอง ทมี่ ตี ่อปญั หาคอรร์ ัปชัน หันมามองปญั หาจากตัวระบบมากกว่ามองไปท่ตี วั บุคคล หากเปลย่ี นระบบได้ กอ็ อกจากกบั ดกั คอรร์ ปั ชนั ได้ ในทางตรงขา้ ม หากเปลย่ี นระบบไมไ่ ด้ ระบบทไ่ี มด่ มี พี ลงั มหาศาลในการ
การคอรร์ ปั ชนั ในยุคเทคโนโลยผี ันผวน 9 เปลยี่ นคนดใี หก้ ลายเปน็ คนโกงไดเ้ สมอ และระบบทไี่ มด่ จี ะกกั ขงั ใหส้ งั คมตอ้ งตดิ อยใู่ นกบั ดกั คอรร์ ปั ชนั อย่างยาวนาน จนกระทั่งบน่ั ทอนเศรษฐกจิ คุณภาพชวี ิต และความหวังของผู้คน ความสำ� เร็จในการ ปอ้ งกนั และปราบปรามคอรร์ ัปชนั ของหลายประเทศ เชน่ ประเทศอนิ โดนเี ซีย และประเทศเกาหลีใต้ มาจากการรวมกลุ่มรวมพลังนอกภาครัฐอย่างต่อเนื่องและแข็งขันในการต่อสู้กับคอร์รัปชัน โดยภาค ประชาชนอนิ โดนเี ซยี รวมทง้ั เกาหลใี ตท้ ำ� งานรว่ มกบั สอ่ื ภาคธรุ กจิ และองคก์ รตอ่ ตา้ นคอรร์ ปั ชนั ในการ เปล่ียนระบบการเมืองและเศรษฐกิจให้มีความโปร่งใสและลดการผูกขาด ไม่ว่าชนช้ันน�ำกลุ่มใดขึ้นสู่ อ�ำนาจ กจ็ ะถูกตรวจสอบจากประชาชนอยา่ งเข้มขน้ ด้วยมาตรฐานเดียวกนั หมด ผมู้ ีอ�ำนาจไม่สามารถ ใช้อ�ำนาจได้ตามอ�ำเภอใจโดยปราศจากความพร้อมต่อการถูกตรวจสอบได้ (accountability) จาก ประชาชนคนเกาหลีใต้และอินโดนีเซียมิได้ฝากความหวังไว้ที่ตัวบุคคล แต่มุ่งสร้างระบบท่ีดี รวมทั้ง ไม่ได้ฝากความหวังไว้ที่ภาครัฐในการแก้ปัญหาคอร์รัปชันจากบนลงล่าง แต่ฝากความหวังไว้ที่ ภาคประชาชนในการร่วมกันต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชันจากล่างขึ้นบนเพื่อออกจากกับดักคอร์รัปชัน ทฝี่ ังรากลกึ มาอยา่ งยาวนาน (ประจักษ์ ก้องกีรต.ิ (ข), 2017) การแกป้ ญั หาความผนั ผวนของการคอรร์ ปั ชนั ในยคุ เทคโนโลยผี นั ผวน (disruptive corruption in disruptive technology) ของหลายประเทศ มเี ครอ่ื งมอื หนงึ่ ทนี่ ำ� มาใชใ้ นการตรวจหา ปอ้ งกนั และ ต่อตา้ นการคอร์รัปชันในภาครัฐและเอกชน คือ การเปิดเผยและแลกเปลยี่ นขอ้ มูลดิจทิ ัล (open data) ซงึ่ จะชว่ ยใหค้ นทวั่ ไปสามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ผลประโยชนส์ าธารณะ และชว่ ยกนั ตรวจสอบ ความผิดปกติหรือไม่ชอบมาพากลของข้อมูลเหล่าน้ันได้ ส�ำหรับประเทศไทยในปัจจุบันการเปิดเผย และแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ดจิ ทิ ลั นน้ั ถอื วา่ เพมิ่ จำ� นวนมากขน้ึ เรอื่ ย ๆ ตามกระแสของการเปลยี่ นแปลงทวั่ โลก ทว่าการเข้าถึงชุดข้อมูลดังกล่าวยังเป็นเร่ืองยากส�ำหรับประชาชนทั่วไป เนื่องจากข้อมูลเหล่าน้ัน กระจดั กระจายอยตู่ ามเวบ็ ไซตแ์ ละแหลง่ ขอ้ มลู บนโลกออนไลน์ อกี ทงั้ ยงั ไมม่ กี ารเกบ็ ขอ้ มลู ในมาตรฐาน เดียวกนั ทำ� ให้ไมส่ ามารถนำ� ขอ้ มลู เหล่านน้ั มาใช้งานได้จริง ขณะทกี่ ารนำ� ข้อมูลเปิดมาใช้ตรวจหาและ ป้องกนั การคอรร์ ปั ชันกย็ งั ไม่เป็นทแ่ี พรห่ ลายในประเทศไทยเช่นกนั ขณะท่ีในต่างประเทศเริ่มมีการใช้เคร่ืองมือดังกล่าวในการเชื่อมโยงกับภาคประชาสังคม มากขน้ึ ในประเทศฟลิ ปิ ปนิ สม์ กี ารใชข้ อ้ มลู ทางภมู ศิ าสตร์ (geotag) เพอ่ื บอกวา่ ภาครฐั กำ� ลงั ดำ� เนนิ การ โครงการตา่ ง ๆ อยทู่ ีใ่ ดและใหป้ ระชาชนเขา้ มีส่วนรว่ มตรวจสอบโครงการ ในไต้หวันมีการน�ำหลักการ ทีเ่ รยี กวา่ “Hacktivism” (Hack + Activism) หมายถงึ การใชเ้ ทคโนโลยเี พือ่ ผลักดนั ประเด็นทางการเมือง หรือการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เช่น การน�ำข้อมูลเปิดไปใช้ตรวจสอบธุรกรรมการเงินท่ีเก่ียวข้อง กบั การรณรงคท์ างการเมอื ง โดยในไตห้ วนั นน้ั จะมกี ฎหมายทก่ี ำ� หนดผสู้ มคั รทจ่ี ะลงสสู่ นามเลอื กตงั้ ใด ๆ ต้องส่งบัญชีไปให้กรรมการการเลือกต้ังตรวจสอบ กลุ่มคนที่เชี่ยวชาญเร่ืองเทคโนโลยีได้รวมตัวกัน ไปที่ กกต. เพื่อพิมพ์เอกสารการเงินเหล่าน้ีออกมาทั้งหมด จากนั้นก็แปลงไฟล์ภาพให้เป็นตัวอักษร ในคอมพวิ เตอรโ์ ดยใชว้ ิธี Optical Character Recognition (OCR) เพือ่ ให้ข้อมูลท้งั หมดสามารถถูกอ่าน ได้โดยคอมพิวเตอร์ (machine-readable) และใช้วิธีการ “แบ่งแยกและเอาชนะ” (divide and
10 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบบั ที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2562) conquer) แบ่งงานกนั ทำ� ในเวลา 24 ชัว่ โมง จนในทีส่ ดุ ไดอ้ อกมาเป็นชุดข้อมูลประมาณ 300,000 ชดุ หลังจากน้ันก็เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวในรูปแบบท่ีมีโครงสร้างชัดเจน หรือการร่างกฎหมายที่ประชาชน มีส่วนร่วมผา่ นกระบวนการ crowdsourcing ซงึ่ ประชาชนทกุ คนสามารถเขา้ ไปลบ เขียนใหม่ ทบทวน รว่ มกนั ได้ และสดุ ทา้ ยกส็ ง่ ไปทฝ่ี า่ ยกฎหมายเพอ่ื แกไ้ ขการใชถ้ อ้ ยคำ� ใหถ้ กู ตอ้ งตามหลกั กฎหมายจนออก บงั คับใชไ้ ดใ้ น ค.ศ. 2017 เป็นตน้ อย่างไรก็ตาม การท�ำระบบข้อมูลเปิดก็ไม่ได้แปลว่าความโปร่งใสจะตามมาทันที เช่น กรณี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมยี นมา แม้จะเปิดเผยข้อมูลแลว้ แต่กลับไม่มคี นเข้าไปดู จากปัญหาดังกล่าวจงึ ท�ำให้เกดิ โครงการ “Myanmar data tada” (tada ภาษาพมา่ แปลวา่ สะพาน) โดยเรม่ิ จากการไปคยุ กับหนว่ ยงานรฐั ต่าง ๆ ว่ามปี ัญหาอะไรบา้ ง จากน้นั จงึ ไปคน้ หาว่ามขี อ้ มูลอะไรบา้ งทมี่ อี ย่แู ล้ว แลว้ กใ็ ห้ นกั ขอ้ มลู วทิ ยาเขา้ ไปทำ� งานกับหนว่ ยงานหรือองคก์ รนั้นเพื่อชว่ ยแก้ไขปญั หา วิเคราะห์วา่ ขอ้ มูลทเี่ ปดิ ออกมาตอ้ งเปน็ ขอ้ มลู ทคี่ นอยากได้ ไมใ่ ชว่ า่ เปดิ ขอ้ มลู ทคี่ นไมส่ นใจหรอื ไมม่ คี วามสำ� คญั รวมถงึ ตอ้ งเพม่ิ ความรู้และศกั ยภาพในการใช้ขอ้ มูลของประชาชนด้วย มกี ารจัดอบรมเชิงปฏิบัตกิ าร (workshop) ให้ คนในหนว่ ยงานรฐั ไดม้ าเรยี นรกู้ ารจดั การขอ้ มลู ตา่ ง ๆ รวมถงึ การจดั กจิ กรรมเพอื่ สรา้ งความตนื่ ตวั และ ดงึ ใหค้ นรนุ่ ใหมห่ นั มาสนใจการใชข้ อ้ มลู การผลกั ดนั เรอ่ื งขอ้ มลู เปดิ ใหส้ ำ� เรจ็ ไดจ้ งึ ตอ้ งอาศยั ความรว่ มมอื ระหว่างหลากหลายหน่วยงาน ตั้งแต่รัฐบาล ภาคเอกชน สื่อมวลชน องค์กรพัฒนาเอกชน รวมถึง ภาคประชาชน (พนั ธวัฒน์ เศรษฐวไิ ล, 2019) จากกรณีตัวอย่างในต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าทิศทางท่ีหลายประเทศในโลกก�ำลังมุ่งไป คือ การเปดิ เผยและแลกเปลีย่ นขอ้ มลู ดิจิทลั (open data) ซ่ึงจะทำ� ให้ภาคส่วนทที่ �ำงานเกี่ยวข้องกบั ผลประโยชน์สาธารณะต้องท�ำงานอย่างโปร่งใส เมื่อคนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เก่ียวข้องกับ สาธารณะได้ โดยข้อมลู น้ันตอ้ งสามารถนำ� ไปประมวลผลไดผ้ ่านเครือ่ งมอื อย่างปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรอื AI) ที่เข้ามาช่วยวิเคราะห์ เชอ่ื มโยง และประมวลผลขอ้ มูลจำ� นวนมาก ให้ผู้ใช้นำ� ไปใช้ ประโยชนไ์ ดต้ ่อ แต่แนวคดิ นี้จะเกดิ ข้ึนไดต้ ้องเดินไปควบคกู่ ับเรื่องรฐั บาลเปิด (open government) ทรี่ ฐั บาลตอ้ งเปดิ เผยขอ้ มลู ทเี่ กบ็ ไว้ โดยตอ้ งแสดงความโปรง่ ใสและความรบั ผดิ ชอบ สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชน และหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาตรวจสอบได้ ซ่ึงข้อมูลท่ีได้มาจะสมบูรณ์ขึ้นเม่ือน�ำไปประกอบกับข้อมูล จากภาคส่วนตา่ ง ๆ ทงั้ ภาครฐั ระดับชาติ ระดับทอ้ งถ่นิ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชน ทว่ั ไป การเปิดเผยและแลกเปล่ียนข้อมูลดิจิทัล (open data) จึงต้องเป็นข้อมูลท่ีทุกคนสามารถ เขา้ ถึงใชง้ าน และเผยแพรต่ ่อไดโ้ ดยไมต่ อ้ งขออนุญาต โดยมอี งคป์ ระกอบ คอื 1) ข้อมลู ต้องมอี ย่แู ละต้องเขา้ ถงึ ได้ผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ โดยสะดวก 2) ข้อมูลต้องอยใู่ นรูปแบบทคี่ อมพวิ เตอร์อ่านได้ เพ่ือนำ� ข้อมูลไปแปลงหรือประมวลผลได้ 3) ข้อมูลต้องถูกเผยแพรใ่ นเง่ือนไขท่อี นุญาตให้น�ำไปใช้ เผยแพรต่ ่อ และดัดแปลงขอ้ มลู ได้ เชน่ การนำ� ไปผสมผสานกบั ฐานขอ้ มลู อน่ื เพอ่ื ใหก้ ารตคี วามขอ้ มลู มคี วามหมายและมปี ระโยชนม์ ากขน้ึ
การคอร์รัปชันในยุคเทคโนโลยีผนั ผวน 11 การเปิดเผยและแลกเปลี่ยนขอ้ มลู ดจิ ทิ ลั (open data) จงึ จะนำ� ไปสรู่ ัฐบาลเปดิ (open government) ทปี่ ระชาชนสามารถเขา้ ถงึ เอกสารและกระบวนการตา่ ง ๆ ของรฐั เพอ่ื ใหส้ ามารถตรวจสอบการทำ� งาน ของรฐั ได้ โดยมปี ัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นเครื่องมือวิธีวเิ คราะหข์ ้อมูลโดยใหโ้ ปรแกรมเรยี นร้จู ากข้อมูล ที่มีอยู่ แลว้ หารปู แบบ (pattern) เพ่ือนำ� มาสูก่ ารตดั สนิ ใจและข้อแนะน�ำ โดยท้งั กระบวนการให้มนุษย์ ยุ่งเก่ียวน้อยท่ีสุด เหมาะกับสถานการณ์ท่ีมีข้อมูลจ�ำนวนมาก โดยสูตรการค�ำนวณ (Algorithm) จะสามารถวเิ คราะห์และประมวลขอ้ มลู ไดด้ ีกวา่ มนษุ ย์ หลายกรณพี บว่ามีความแม่นย�ำสงู กวา่ มนษุ ย์ กระบวนการดังกล่าวจึงมีความเช่ือมโยงกับการพัฒนาประชาธิปไตยและการป้องกัน ปราบปรามคอรร์ ปั ชนั อยา่ งนา่ สนใจ กล่าวคอื ประการแรก ประชาธิปไตยแบบดิจิทัลเช่ือมโยงกับเรื่องรัฐบาลเปิด (Digital Democracy Open Government) เป็นกระแสทั่วโลกเมื่อมองว่ากระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยไม่ใช่แค่ การลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่เป็นการเข้ามามีส่วนร่วมท้ังหมดกับรัฐบาล ทั้งก�ำหนดนโยบาย และ เสนอความเห็นตอ่ เรอื่ งต่าง ๆ โดยมีทีป่ รกึ ษาที่มคี วามเชยี่ วชาญเข้ามาช่วยวเิ คราะห์ขอ้ เสนอประชาชน ตงั้ แตก่ ารออกกฎหมาย การตดิ ตามตรวจสอบการบริหารราชการแผน่ ดนิ ต่าง ๆ ประการท่ีสอง ความโปร่งใสสามารถจัดการให้เกิดข้ึนได้ได้โดยระบบกึ่งอัตโนมัติ (Smart Transparency/Open Access) เช่น โครงการทา่ อากาศยานในประเทศตรุ กี มีการทำ� แผนภาพเป็น ข้อมูลเปดิ (open data) ว่าบริษัทใดได้สมั ปทาน ใครเป็นกรรมการบรหิ าร สามารถดคู วามเชอื่ มโยง ไดว้ า่ ใครท�ำอะไรทใี่ ดบา้ ง เม่ือคอมพวิ เตอรท์ �ำแผนภาพออกมาทำ� ใหม้ นษุ ย์สามารถเขา้ ใจรปู แบบความ สมั พันธ์ของผคู้ นทเ่ี กย่ี วขอ้ งในเรื่องนไ้ี ดง้ ่ายข้นึ
12 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2562) แผนภาพที่ 1: โครงการกอ่ สรา้ งท่าอากาศยานในตุรกี ทม่ี า: วจนา วรรลยางกรู . (2018). “Open Data-AI เพ่มิ อำ� นาจประชาชน เปิดชอ่ งตรวจสอบดว้ ยขอ้ มลู .”, เว็บไซต์ 101world. https://www.the101.world/opendata-ai-for-justice/ สืบค้นเมอ่ื 10 Sep 2019 ประการทส่ี าม การใชภ้ าษาธรรมชาตใิ นการเชอ่ื มกบั เทคโนโลยี (Natural Language Interface) ทำ� ใหค้ นกบั เทคโนโลยเี ชอื่ มไดง้ า่ ยขน้ึ ซงึ่ จะเชอ่ื มโยงกบั ความรสู้ กึ ไมย่ ตุ ธิ รรมของคน ชว่ ยลดความรสู้ กึ ในการถูกเลือกปฏิบัติ (วจนา วรรลยางกูร, 2018) กรณีที่น่าสนใจคือ Joshua Browder นักศึกษา ชนั้ ปที ่ี 2 มหาวทิ ยาลยั สแตนฟอรด์ ไดเ้ ปดิ ตวั แชทบอท ชอ่ื วา่ “DoNotPay” ซงึ่ เปน็ แชทบอททนายความ ตัวแรกของโลก ใหบ้ รกิ ารใน 50 รฐั ในประเทศสหรฐั อเมรกิ าแบบไมค่ ิดค่าใชจ้ ่าย โดยแชทบอทตัวน้จี ะ ช่วยย่ืนค�ำร้องและให้ค�ำปรึกษาในคดีทางกฎหมายเกี่ยวกับการจอดรถกับลูกความท่ีเดือดร้อนจาก การถกู ปรบั อยา่ งไมเ่ ปน็ ธรรมจากการจอดของตวั เอง เชน่ คา่ ปรบั สงู เกนิ จรงิ หรอื โดนปรบั ทง้ั ๆ ทปี่ ฏบิ ตั ิ ถูกต้อง เป็นต้น ลูกความมีหน้าที่อัปโหลดใบส่ังให้กับแชทบอท พร้อมรายละเอียด จากนั้นระบบ แชทบอทจะให้ค�ำแนะน�ำในการเตรียมตัวต่าง ๆ ในการอุทธรณ์ และจะสร้างใบขออุทธรณ์ พร้อมรายละเอียดการอทุ ธรณเ์ พื่อใหล้ กู ความดาวน์โหลด พมิ พแ์ ละลงนาม แลว้ น�ำไปยืน่ ต่อศาลแตล่ ะ เมืองได้ทันที ในรอบ 21 เดอื นท่เี ปดิ ให้บรกิ ารแชทบอทตวั น้ี มคี ดที ่ชี นะการอุทธรณก์ ว่า 160,000 คดี จากจ�ำนวนที่ยนื่ อุทธรณ์ 250,000 คดี และชว่ ยใหล้ กู ความประหยัดคา่ ปรับไปแล้วกว่า 4 ล้านดอลลาร์ สหรฐั (Worawisut Pinyoyang, 2017)
การคอรร์ ัปชนั ในยุคเทคโนโลยีผนั ผวน 13 อย่างไรกต็ าม แม้ Open Data และ AI จะเป็นเครอื่ งมอื ทเ่ี ขา้ มาชว่ ยแก้ปญั หาคอรร์ ัปชันทีใ่ ห้ ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมไดม้ ากขน้ึ แตก่ ็ใชว่ า่ จะไม่มแี ง่ลบ เชน่ ระบบ China’s Social Credit Scoring ของประเทศจีน ท่ีท�ำให้ข้อมูลของประชาชนทุกคนอยู่บนระบบและมีการให้คะแนนโซเชียลที่ ถูกตั้งค�ำถามถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนและท�ำลายความเป็นส่วนตัว หรือกรณีเคมบริดจ์อนาไลติกา ท่ดี งึ ขอ้ มูลจากโซเชียลมีเดียมาวิเคราะห์ชว่ งเลือกตัง้ ประธานาธบิ ดีสหรฐั อเมรกิ า แล้วปลอ่ ยขา่ วปลอม (fake news) จนมผี ลต่อการตัดสินใจของประชาชน ทำ� ให้เกิดผลทไ่ี ม่ควรเป็น (วจนา วรรลยางกรู , อา้ งแล้ว) Cathy O’Neil ได้กล่าวไว้ในหนงั สือ Weapons of Math Destruction: How Big Data Increases Inequality and Threatens Democracy หรอื บกิ๊ ดาตา้ มหาประลยั ถงึ พษิ ภยั ของ Big Data หลายขอ้ ท่ีควรตระหนัก กล่าวคือ (Cathy O’Neil, ทีปกร วุฒิพิทยามงคล. (แปล), 2018) 1) Black Box Big Data และ AI เหมือนกล่องท่ีใสข่ ้อมูลเข้าไปดา้ นหนงึ่ แลว้ ขอ้ มลู ออกมา อกี ดา้ น โดยไมร่ ู้ว่าใชว้ ิธีคิดอยา่ งไร จงึ กอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาไดใ้ นระบบทซี่ บั ซ้อน 2) ในบางครั้งวิธกี ารคิดของ AI อาจสง่ ผลใหเ้ กดิ วธิ ีการคิดคะแนนผิดพลาด เชน่ ในประเทศ สหรัฐอเมริกา มีระบบประเมินครูที่หากนักเรียนในช้ันมีคะแนนเฉล่ียเพิ่มข้ึน ครูจะได้คะแนนดีด้วย แต่เม่อื คนเรยี นไม่เกง่ กลบั คะแนนขึน้ ง่าย แตค่ นเรียนดีอย่แู ล้วทำ� คะแนนเพิม่ ไม่ได้ ท�ำให้ระบบคะแนน ไม่ถูกต้อง ส่งผลให้ครูหลายร้อยคนถูกไล่ออก จนกระท่ังเป็นคดีความฟ้องร้องจากการท่ีคนคิดระบบ เอาสูตรท่ผี ดิ ไปใส่ AI เปน็ ต้น 3) ในกรณใี ชข้ อ้ มลู ทม่ี คี วามเป็นตวั แทน (Proxy) เมือ่ AI หรอื Big Data ไมส่ ามารถใหเ้ หตผุ ลได้ แต่ให้ความสัมพันธ์เชิงข้อมูลว่าเมื่อเกิดส่ิงนี้บ่อยครั้ง ค�ำตอบจึงต้องเป็นเช่นน้ัน ท�ำให้เกิดปัญหาข้ึน ดังกรณีระบบยุติธรรมในประเทศสหรัฐอเมริกาท่ีมีการประเมินอัตราการกระท�ำผิดซ�้ำ หากจ�ำเลย มีโอกาสกระท�ำผิดซ�้ำมากก็อาจถูกลงโทษสูงขึ้น เช่น สถิติพบว่าคนผิวด�ำในย่านบร็องซ์ (Bronx) นครนิวยอร์ก มักท�ำผิดซ้�ำบ่อย เมื่อมีจ�ำเลยคนอื่น ๆ ซึ่งเป็นคนผิวด�ำในย่านบร็องซ์กระท�ำความผิด จึงถูกลงโทษหนกั ไปด้วย ท�ำใหเ้ กิดความไม่เชอ่ื ถือต่อระบบน้ี ขอ้ มูลเชิงสถิตจิ ึงอาจใชใ้ นระดับนโยบายได้ แต่หากใชต้ ดั สนิ ในระดับบคุ คลก็อาจเกดิ ความผดิ พลาดได้เชน่ กนั 4) บุคลากรที่ควบคุมดูแลระบบ AI เม่ือรู้ว่าระบบจัดการอย่างไรก็ไปดัดแปลงแก้ไขระบบ เชน่ ระบบจัดอนั ดบั มหาวทิ ยาลยั ของ U.S. News ทีใ่ หค้ ะแนนจากปัจจยั หลายอยา่ ง เช่น มงี านวจิ ัยที่มี คนน�ำไปอ้างอิงจ�ำนวนมาก มหาวิทยาลัยบางแห่งจึงจ้างนักวิจัยท่ีมีคนอ้างอิงมากให้มาท�ำงานท่ี มหาวิทยาลัย 2 สปั ดาห์ เพอ่ื ทำ� ให้อันดบั มหาวิทยาลัยสูงขึ้น เป็นต้น 5) เมอ่ื ระบบ AI ใชล้ ำ� ดบั กอ่ นหนา้ มาตดั สนิ ลำ� ดบั ตอ่ ไปอาจเกดิ ปญั หาขอ้ มลู วนซำ�้ (Feedback Loop) เชน่ ระบบ U.S. News ท่ีตวั แปรชือ่ เสียงมหาวิทยาลัยปีน้ีจะถกู ใช้ในล�ำดบั ปตี ่อไป จะยิง่ สง่ ผล ให้ช่องว่างอันดับมหาวิทยาลัยที่มีคะแนนสูงให้ดีข้ึน ส่วนมหาวิทยาลัยที่คะแนนต�่ำจะย่ิงได้คะแนน ตำ่� ลงไปอกี
14 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2562) 6) การใช้ AI อย่างกว้างขวางในสังคมอาจก่อให้เกิดการท�ำงานเพื่อรับใช้อัลกอริทึม เช่น การใช้ AI อา่ นข้อมลู ภาครฐั จนเกิดการน�ำเข้าข้อมูลในกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของหน่วยงานภาครฐั เพื่อให้ AI ตรวจสอบแล้วไมพ่ บความผดิ ปกติ การไวว้ างใจเทคโนโลยสี มยั ใหมม่ ากเกนิ ไป แมจ้ ะเปน็ เครอ่ื งมอื ทม่ี ปี ระโยชนแ์ ตไ่ มไ่ ดใ้ หข้ อ้ มลู เชิงลึก ซึง่ ทา้ ยท่ีสุดอาจต้องอาศยั มนษุ ยใ์ นการน�ำเขา้ ข้อมลู จึงไม่สามารถหลีกเล่ยี งอคติการหาชอ่ งวา่ ง หรือแม้กระท่ังช่องทางในการคอร์รัปชันได้เช่นเดียวกัน การออกแบบระบบการตรวจสอบคอร์รัปชัน ด้วยเครื่องมือทันสมัยเหล่านี้จึงต้องค�ำนึงถึงสภาพแวดล้อมภายนอกให้มากขึ้น เช่น การตรวจสอบ คอร์รัปชันผ่านโซเชียลมีเดียที่มีผลกับคนจ�ำนวนมาก ผู้ออกแบบระบบควรมีความรู้เร่ืองสังคมด้วย เชน่ เดยี วกัน Redesigning Anti-Corruption หรอื การออกแบบระบบปอ้ งกนั และปราบปรามคอรร์ ปั ชันใหม่ ในยุคแห่งความผันผวนของเทคโนโลยี จึงจ�ำเป็นต้องน�ำนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาช่วยแก้ไขวิธีการ แบบเก่าที่เคยล้มเหลวในอดีต จึงต้องพิจารณาปัจจัยท่ีอาจก่อให้เกิดท้ังความส�ำเร็จและความล้มเหลว 3 ประการ ประการแรก การออกแบบระบบป้องกนั และปราบปรามคอรร์ ัปชนั ใหม่ โดยอาศยั ผเู้ ก่ียวข้อง ในกระบวนการภาครฐั เพยี งอยา่ งเดยี ว เชน่ คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ต�ำรวจ อัยการ ศาล องค์กรอิสระ เปน็ ต้น อาจทำ� ใหก้ ารปฏริ ูปอยา่ งจรงิ จังเกดิ ข้ึน ไดย้ าก เพราะขาดการมีสว่ นรว่ มจากภาคส่วนอน่ื ๆ โดยเฉพาะผ้ทู ไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากกระบวนการน้ี จงึ ตอ้ งมพี นื้ ทส่ี าธารณะ (public sphere) ทนี่ ำ� มาสกู่ ารรวมตวั กนั ของผคู้ นทหี่ ลากหลาย มกี ารถกแถลง แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ซง่ึ ไม่จำ� กดั อย่เู พยี งคนในกระบวนการภาครฐั หรอื คนในวงการกฎหมายเทา่ น้ัน ประการท่ีสอง วิธีคิดของคนในกระบวนการป้องกันและปราบปรามคอร์รปั ชนั ต้องคิดอย่าง รอบด้านเปน็ ระบบ โดยยดึ จากความต้องการของประชาชนเปน็ หลัก ประการทส่ี าม โอกาสใหมใ่ นยคุ เทคโนโลยผี นั ผวน (disruptive technology) ซงึ่ มอี ยมู่ ากมาย เชน่ การเปดิ เผยและแลกเปล่ียนข้อมลู ดจิ ทิ ลั (open data) ปญั ญาประดษิ ฐ์ (AI) และ blockchain การน�ำเทคโนโลยีเหล่าน้ีมาใช้ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว จะช่วยส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมจาก ผคู้ นทห่ี ลากหลาย เกดิ “การกระจายอำ� นาจการปอ้ งกนั และปราบปรามคอรร์ ปั ชนั ” สภู่ าคประชาสงั คม (civil society) และลงสปู่ ระชาชน อนั จะนำ� ไปสภู่ าวะการตรวจสอบทางตรงจากภาคประชาชนในทสี่ ดุ ประการสดุ ทา้ ย การแกป้ ญั หาคอรร์ ปั ชนั ตอ้ งเกดิ ภายใตร้ ะบอบประชาธปิ ไตย องคก์ รทต่ี รวจสอบ การคอร์รัปชันต้องเป็นกลางและมีความเป็นอิสระอย่างแท้จริง ไม่ได้ด�ำเนินคดีเฉพาะกับนักการเมือง เทา่ น้นั แต่รวมถึงผู้ใช้อำ� นาจสาธารณะในองค์กรภาครฐั หรอื ระบบราชการด้วย เช่น ผูพ้ พิ ากษา ทหาร ตำ� รวจ เปน็ ตน้ โดยในสงั คมตอ้ งมสี อื่ มวลชนทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ สรา้ งสรรค์ และมเี สรภี าพในการแสดงออก (Freedom of Expression) การแก้ปัญหาคอร์รัปชันต้องมีการท�ำงานร่วมกันกับหลายภาคส่วน
การคอรร์ ัปชนั ในยุคเทคโนโลยีผนั ผวน 15 ในสังคม ได้คนท่ีมีความรู้ความสามารถเข้าร่วม ความส�ำเร็จจะเกิดข้ึนได้เพราะการพัฒนาระบอบ ประชาธปิ ไตย ลดการผกู ขาดอ�ำนาจการเมอื งและอ�ำนาจทนุ กระจายอำ� นาจลดภาวะรฐั รวมศูนย์ และ ลดภาวะ “รฐั ราชการ” ปจั จัยเหลา่ น้ีจะเอื้อให้เกิดการแกป้ ญั หาการคอร์รปั ชนั อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ การน�ำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพ่ิมความโปร่งใสของภาครัฐ ด้วยการตรวจสอบจากประชาชนที่ จะนำ� ไปส่กู ารแก้ปญั หาคอร์รปั ชนั จึงจำ� เป็นต้องได้ข้อมูลจากหลายภาคสว่ น รวมถงึ ความรว่ มมอื จาก หนว่ ยงานภาครฐั เอง และตอ้ งทำ� ใหป้ ระชาชนเชอื่ มน่ั ไดว้ า่ เมอื่ มกี ารเปดิ เผยขอ้ มลู การทำ� งานทไี่ มโ่ ปรง่ ใส จะไมถ่ ูกเจา้ หน้าทีร่ ัฐหรอื ผูม้ อี ำ� นาจกล่ันแกล้ง เทคโนโลยีจึงไม่ใชค่ ำ� ตอบทัง้ หมด ในปจั จบุ นั แมภ้ าครฐั ของไทยมกี ารเปดิ เผยขอ้ มลู ตามมตคิ ณะรฐั มนตรใี นเวบ็ ไซต์ www.data.go.th เป็นแหล่งข้อมูล Open Data ท่ีรวบรวมโดยหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลไทย ภายใต้การดูแลของ สำ� นกั งานพฒั นารฐั บาลดิจทิ ัล (DGA) ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 อกี ทัง้ มีพระราชบัญญตั ิการบริหารงานและ การให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 หากแต่ความส�ำเร็จในการป้องกันและปราบปราม การคอร์รัปชันจะตอ้ งประกอบด้วยการมพี น้ื ท่ีสาธารณะ (public sphere) เป็นพืน้ ทเี่ ปิดใหค้ นทกุ กลุม่ เขา้ มามสี ่วนร่วมตรวจสอบตดิ ตามการใชอ้ ำ� นาจรฐั และการคอรร์ ปั ชนั พรอ้ มกระบวนการสรา้ งและพฒั นา ประชาธปิ ไตย (Democratization) จะสง่ ผลให้ผคู้ นทต่ี อนแรกไมร่ สู้ กึ ว่าตวั เองจะมีอำ� นาจเปลยี่ นแปลง อะไรได้ หรือไมร่ สู้ กึ ถึงการมีสมรรถนะทางการเมอื ง (political efficiency) กลบั ท�ำใหเ้ ขารูส้ ึกมีคุณคา่ และเข้าตรวจสอบตดิ ตามการคอร์รปั ชันเพราะเกดิ ความรู้สึกเปน็ เจ้าของรว่ ม (sense of belonging) จึงเป็นเร่ืองที่แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยยังมีโอกาสที่จะขจัดปัญหาการคอร์รัปชันให้เบาบางลงโดย ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งมนี กั เทคโนโลยจี ำ� นวนมาก แตต่ อ้ งดงึ เขา้ มาใกลป้ ระชาชนใหม้ ากขนึ้ จงึ เปน็ หวั ใจสำ� คญั ของ การแกป้ ญั หาคอรร์ ปั ชนั ผนั ผวนในยคุ แหง่ เทคโนโลยผี นั ผวนอยา่ งแทจ้ รงิ เอกสารอา้ งองิ ประจกั ษ์ กอ้ งกรี ต.ิ (ก) (2560). แก้เกมโกง. สบื ค้นเมือ่ วนั ที่ 31 สงิ หาคม 2561 จาก https://www. the101.world/lessons-from-corruption-battles-prajak ประจักษ์ ก้องกรี ต.ิ (ข) (2560). ทำ� ไมประเทศไทยติดกบั ดกั คอรร์ ปั ชนั . สืบคน้ เมื่อวันที่ 5 กนั ยายน 2561 จาก https://www.the101.world/corruption-trap/ ปาณิส โพธศิ์ รีวังชยั . (2561). มองคอรร์ ปั ชนั ดว้ ยสายตาใหม่ ‘โกงแบบไทย ๆ’ ที่ไม่เหมือนเดมิ . สบื คน้ เมอ่ื วนั ที่ 3 กนั ยายน 2561 จาก https://www.the101.world/new-corruption-in-thailand/ พันธวัฒน์ เศรษฐวไิ ล. (2562). Open Data กบั การต่อตา้ นคอร์รปั ชนั : ถอดบทเรียนจากฟิลปิ ปินส์ ไต้หวนั ถงึ ไทย. สบื ค้นเม่ือวนั ที่ 10 กันยายน 2562 จาก https://www.the101.world/ open-data-and- anti-corruption/
16 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ปีที่ 12 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2562) วจนา วรรลยางกรู . (2561). Open Data-AI เพมิ่ อำ� นาจประชาชน เปดิ ชอ่ งตรวจสอบดว้ ยขอ้ มลู . สบื คน้ เมอ่ื วนั ท่ี 10 กนั ยายน 2562 จาก https://www.the101.world/opendata-ai-for-justice/ วรวสิ ทุ ธิ ์ ภญิ โญยาง. (2560). AI และ Machine learning กับบทบาทส�ำคัญในโลกปจั จบุ ัน. สืบคน้ เมื่อ วันที่ 8 กนั ยายน 2562 จาก https://medium.com/@worawisut/ ภทั ชา ดว้ งกลดั . (2560). บลอ็ กเอย๋ บลอ็ กเชน จงมาจองเวรกบั คอรร์ ปั ชนั !. สบื คน้ เมอ่ื วนั ที่ 29 กนั ยายน 2562 จาก https://www.the101.world/blockchain-can-fix-corruption/ สฤณี อาชวานนั ทกลุ . (2559). รจู้ กั บลอ็ กเชน (Blockchain) เทคโนโลยปี ฏวิ ตั สิ งั คม. สบื คน้ เมอื่ วนั ท่ี 29 กนั ยายน 2562 จาก https://thaipublica.org/2016/07/blockchain-revolution/ Cathy O’Neil. (2561). Weapons of Math Destruction: How Big Data Increases Inequality and Threatens Democracy. บ๊ิกดาต้ามหาประลัย. แปลโดย ทีปกร วุฒิพิทยามงคล. กรงุ เทพมหานคร: สำ� นักพิมพ์ Salt.
ตอนที่ 2 บทความวิจัย Research Articles
18 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562) มาตรการเพื่อปอ้ งกนั การรว่ มมอื ของเครือข่ายอิทธิพลในการทุจริต อย่างเปน็ ระบบในเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาท่ี 24, 25 และ 26* Measures for Preventing the Influential Group Networks and Organized Corruption in the Secondary Educational Service Area Office 24, 25 and 26 พรอัมรนิ ทร์ พรหมเกดิ I วรญั ญา ศรรี ินII และเพ่ิม หลวงแกว้ III Pornamarin PromgirdI Warunya sririnII and Pherm LuangkaewIII บทคดั ย่อ บทความน้ีต้องการชี้ให้เห็นว่า การทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทยมีวิวัฒนาการมาตามล�ำดับ และมีความซับซ้อนมากย่ิงข้ึน มีการเตรียมการและมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอย่างย่ิง ในโครงการขนาดใหญข่ องรัฐมักมีนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง และนักธุรกิจเขา้ มาเกี่ยวขอ้ ง ที่เรยี กว่า เครอื ข่ายกล่มุ อทิ ธิพล ซงึ่ นำ� ไปสกู่ ารทุจริตคอร์รปั ชนั อย่างเป็นระบบ เชน่ เดียวกับการทจุ ริตคอรร์ ัปชนั อย่างเป็นระบบในภาคการศึกษา ซึ่งมีการรับรู้กันน้อยมากในทางสาธารณะ แท้จริงแล้วการทุจริต คอร์รัปชันอย่างเป็นระบบที่เกิดข้ึนในภาคการศึกษา กลับส่งผลกระทบในทางลบอย่างลึกซ้ึงต่อสังคม เปน็ อยา่ งมาก บทความนไี้ ดเ้ สนอมาตรการดา้ นตา่ ง ๆ เพอ่ื ปอ้ งกนั ความรว่ มมอื ของเครอื ขา่ ยกลมุ่ อทิ ธพิ ล ซง่ึ นำ� ไปสกู่ ารทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อยา่ งเปน็ ระบบในภาคการศกึ ษา คอื 1) ดา้ นการสรา้ งกลไกและสนบั สนนุ เครือข่ายภาคประชาสังคม 2) ด้านการป้องกันด้วยกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ 3) ด้านการก�ำหนด นโยบายทางการศึกษา 4) ด้านการบริหารงบประมาณ 5) ระเบียบการจัดซ้ือจัดจ้าง ด้านการบริหาร งานบุคคล และ 6) ข้อเสนอต่อส�ำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็น ระบบในภาคการศกึ ษาโดยเฉพาะ คำ� ส�ำคัญ: เครือข่ายกลมุ่ อิทธิพล การทจุ ริตคอร์รปั ชัน การทุจรติ คอรร์ ัปชันอย่างเปน็ ระบบ * บทความนีเ้ ป็นสว่ นหนง่ึ ของโครงการวจิ ัยเรื่อง “การศึกษาเครอื ขา่ ยกลมุ่ อทิ ธิพลซ่งึ น�ำไปสู่การทุจรติ คอรร์ ัปชันอย่างเป็นระบบของ ภาคการศกึ ษา: กรณศี กึ ษาโรงเรยี นสงั กดั สำ� นกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยม เขตท่ี 24, 25, 26 (กาฬสนิ ธ,์ุ ขอนแกน่ , มหาสารคาม)” ซ่งึ ได้ทนุ สนับสนนุ การวจิ ยั จากส�ำนักงานคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการทุจริตแหง่ ชาติ (ป.ป.ช.) ประจ�ำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 I รองศาสตราจารยป์ ระจำ� สาขาวชิ าสงั คมวิทยาและมานษุ ยวิทยา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (ดร.) Associate Professor, Pornamarin Promgird, Department of Sociology and Anthropology, Faculty of Humanities and Social Sciences, Khon Kaen University (Ph.D.) II นกั ศกึ ษาปริญญาเอกสาขาสังคมวิทยา คณะมนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น Ph.D. Student Program in Sociology, The Faculty of Humanities and Social Sciences, Khon Kaen University III อาจารยป์ ระจ�ำสาขาวิชานติ ิศาสตร์ คณะสงั คมบรู ณาการศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย (ดร.) Lecturer, Department of Law, Faculty of Integrated Social Sciences. Khon Kaen University Nongkhai Campus (Ph.D.) ไดร้ ับบทความ 12 กันยายน 2562 แกไ้ ขปรบั ปรงุ 6 พฤศจิกายน 2562 อนมุ ัตใิ หต้ ีพิมพ์ 8 พฤศจิกายน 2562
มาตรการเพ่อื ป้องกันการร่วมมือของเครือขา่ ยอิทธพิ ลในการทุจริต 19 อย่างเปน็ ระบบในเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษาท่ี 24, 25 และ 26 Abstract This article aims to point out how corruption in Thailand has been consecutively evolved and becoming more complicated with systematic preparation and plans. Mega-projects from the government are specifically monitored as they are always involved with politicians, senior government officials and businessmen known as an influential network in which the organized corruption occurs. Similarly, organized corruption also takes place in the education sector. The public, however, has rarely been aware of it. In fact, the organized corruption occurring in the education sector can negatively affect the society. Thus, this study presents the measures to prevent the cooperation of the influential network that can lead to the organized corruption in the education sector. The measures have been divided into six aspects: (1) building mechanism and supporting civil society networks; (2) preventing the corruption with law and regulations; (3) making the education policy; (4) managing the expenditure and monitoring the procurements; (5) managing human resources; and (6) submitting the National Anti-Corruption Commission (NACC) proposals to take part in solving the corruption problems in the education sector. Keywords: Influential network, Corruption, Organized corruption 1. บทนำ� การทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทยมีวิวัฒนาการมาตามล�ำดับ และมีความซับซ้อนมากย่ิงขึ้น มีการเตรียมการและมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ มีบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องสนับสนุนจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐที่มักมีนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง และนักธุรกิจเข้ามา เกีย่ วข้อง และมีการรว่ มมือกนั ทจุ รติ คอรร์ ปั ชัน ที่เรยี กกันวา่ “การทจุ รติ คอร์รปั ชนั อยา่ งเป็นระบบ”1 เราอาจกล่าวได้ว่า การทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ (Organized Corruption) ส่วนใหญ่เกิดจาก ความร่วมมือเป็นเครือข่ายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ระหว่างบรรดากลุ่มนักการเมือง กลุ่มข้าราชการ ระดบั สงู และกลมุ่ นกั ธรุ กจิ ทง้ั รายใหญแ่ ละเลก็ ภายในสงั คมบางราย ภายใตร้ ะบบอปุ ถมั ภอ์ ยา่ งฝงั รากลกึ โดยมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกันอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการ ที่เรียกว่า “เครอื ข่ายกลุม่ อทิ ธพิ ลซึ่งนำ� ไปสกู่ ารทจุ รติ คอร์รัปชนั อย่างเปน็ ระบบ” 1 ปรีชา อุยตระกูล และคณะ. (2560). โครงการประชาสังคมกับการเสรมิ สร้างธรรมาภบิ าลทอ้ งถิน่ เพ่ือพฒั นาระบบและกลไกในการ ปอ้ งกันการทจุ รติ คอร์รัปชัน: กรณศี กึ ษาจังหวดั นครราชสมี า. ส�ำนักงานกองทนุ สนบั สนุนการวจิ ยั แห่งชาต.ิ
20 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ปีที่ 12 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562) รปู แบบการทจุ รติ ประเภทน้ี มกั เกิดขึน้ ในสังคมปัจจบุ นั ซง่ึ มีกลวธิ ีทีซ่ ับซอ้ นมากข้ึน และมกี าร ทำ� งานเป็นกระบวนการเครือข่ายของกลุ่มอิทธพิ ล เพ่ือหวังผลประโยชนจ์ ากการทจุ รติ คอรร์ ัปชนั อยา่ ง เปน็ ระบบ จงึ ทำ� ใหก้ ารปราบปรามเป็นไปได้ยากย่ิง2 และเนอื่ งจากพฤตกิ ารณ์ทุจรติ คอรร์ ัปชันทมี่ ีความ สลบั ซบั ซอ้ นแยบยล และเปน็ เครือข่ายของกลมุ่ อิทธิพลนเี้ อง ดงั น้นั หากเกิดเครอื ข่ายกลุ่มอทิ ธพิ ลทม่ี ี พฤติการณ์ทจุ ริตเชน่ นใ้ี นสังคมไทยเพิ่มมากขนึ้ เรื่อย ๆ ผลกระทบที่ตามมาคือ เกิดความเสือ่ มทางสังคม และปญั หาพนื้ ฐานทางสงั คม ทง้ั ปญั หามติ ดิ า้ นเศรษฐกจิ การเมอื ง สงั คม และทรพั ยากรธรรมชาตจิ ะถกู กัดกร่อน อีกทั้งปัญหาสังคมด้านความยากจนที่เป็นปัญหาพ้ืนฐานก็จะเพ่ิมความเรื้อรัง และยากต่อ การแกไ้ ขและพฒั นา3 ในทา้ ยทส่ี ดุ ยอ่ มสง่ ผลกระทบโดยรวมตอ่ ความมนั่ คงของชาติ และการพฒั นาคณุ ภาพ ชีวติ ความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงความเจริญรุ่งเรอื งของประเทศเป็นอยา่ งมาก เช่นเดียวกับการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ (Organized Corruption) ท่ีเกิดข้ึนใน ภาคการศกึ ษาของไทยในรปู แบบตา่ ง ๆ ซงึ่ ยงั มกี ารรบั รกู้ นั นอ้ ยมากในทางสาธารณะ แทท้ จ่ี รงิ แลว้ ปญั หา การทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อยา่ งเปน็ ระบบทเ่ี กดิ ขน้ึ ในภาคการศกึ ษานี้ กลบั สง่ ผลกระทบในทางลบอยา่ งลกึ ซงึ้ ต่อสังคมเป็นอย่างมาก กล่าวคือ ส่งผลต่อการท�ำลายคุณภาพของเยาวชนในชาติ อันอาจจะน�ำไปสู่ ความถดถอยของคณุ ภาพสงั คมไทยในอนาคตทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ อยา่ งหลกี เลยี่ งไมไ่ ด้ หากปญั หานไี้ มไ่ ดร้ บั การแกไ้ ข อย่างเด็ดขาดและจริงจัง4 สถานการณ์ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในวงการศึกษาจึงเป็นเรื่องท่ีน่าวิตก กังวลและควรให้ความสนใจเป็นอย่างมาก5 ซึ่งความวิตกกังวลต่อปัญหานี้เห็นได้จากการประชุม เรื่อง “โลกการศึกษา”6 ซงึ่ จดั ขนึ้ ท่เี มืองดากา ประเทศเซเนกลั ในทวีปแอฟรกิ า ปี ค.ศ. 2000 ทีป่ ระชมุ สรุปว่า “การทจุ รติ คอร์รปั ชันในวงการศึกษากำ� ลงั ทำ� ลายประเทศ ท้ังในแง่สงั คม เศรษฐกจิ และระบบ การเมอื งการปกครองในอนาคต ดว้ ยเหตผุ ลทว่ี า่ การทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ในวงการศกึ ษาถอื เปน็ ตวั การทำ� ลาย สังคมและประเทศชาติมากกว่าการทุจริตคอร์รัปชันในรูปแบบอ่ืน ๆ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเยาวชน ในอนาคต เนอ่ื งจากการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั เปน็ ภยั คกุ คามตอ่ การเขา้ ถงึ ความเสมอภาค คณุ ภาพ และระดบั การศกึ ษา โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ คนจน ซง่ึ ตามปกตเิ ปน็ บคุ คลทม่ี โี อกาสเขา้ ถงึ ระบบการศกึ ษาไดน้ อ้ ยอยแู่ ลว้ ในท้ายท่ีสุดจะส่งผลให้กลุ่มคนเหล่านี้ไม่สามารถเปล่ียนสถานภาพหรือชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีข้ึนได้ เช่นเดียวกับประเทศท่ียอมรับการทุจริตคอร์รัปชันในภาคการศึกษา ย่อมไม่สามารถผลิตบุคลากรที่รัก 2 สงั ศิต พิริยะรังสรรค์. (2549). คอรร์ ัปชนั แบบเบด็ เสรจ็ . กรุงเทพฯ : สำ� นักพิมพร์ ่วมด้วยชว่ ยกัน. หนา้ 17. 3 ประกอบ กลุ เกลี้ยง เจือจนั ทร์ จงสถติ อยู่ และสมบตั ิ นพรัก. (2550). “รปู แบบการบรหิ ารจัดการความเสี่ยงเพื่อป้องกนั คอร์รปั ชนั ใน สถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน”. วารสารศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร. 9,14. 7-21. 4 เลิศพร อุดมพงษ.์ (2558). “รัฐธรรมนญู จะน�ำชาติสู่สันติสุขไดอ้ ยา่ งไร”. จลุ สารรฐั ธรรมนูญฉบับปฏิรปู เปน็ อยา่ งไร. ปีที่ 1 ฉบับท่ี 8 (ปักษ์หลงั เมษายน). หน้า 18-30. 5 กรรมการภาคประชาชน คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาต.ิ (2552). บทความในการประชมุ เรือ่ ง “โลกการศกึ ษา : คอรร์ ัปชนั ในวงการศกึ ษา เหลือบทำ� ลายคุณภาพของสังคม.” สืบค้นเมอื่ วนั ที่ 20 เมษายน 2560. จาก http://oknation.nationtv. tvblog/pacm/2009/03/21/entry- 6 สำ� นกั ความสมั พนั ธต์ า่ งประเทศ สำ� นกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2560). การศกึ ษาเปลยี่ นแปลงชวี ติ . สบื คน้ เมอ่ื วนั ที่ 4 พฤศจกิ ายน 2561, จาก https://www.bic.moe.go.th/index.php/component/k2/itemlist/category/71-menu-sara
มาตรการเพ่อื ป้องกันการร่วมมือของเครือขา่ ยอทิ ธิพลในการทจุ ริต 21 อยา่ งเป็นระบบในเขตพื้นท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษาท่ี 24, 25 และ 26 ในสิทธิมนษุ ยชน หรอื มีความเคารพต่อกฎหมายได้เลย เพราะหากเยาวชนมที ศั นคติโนม้ เอยี งไปในทาง การยอมรับความส�ำเร็จจากการคดโกง ฉ้อโกง การบังคับข่มขู่เสียแล้ว นั่นย่อมหมายความว่าอนาคต สงั คมของประเทศนน้ั ๆ ก�ำลังถกู สัน่ คลอนลงอยา่ งรุนแรง” การศึกษาของ Bettina Meier (2001)7 ไดช้ ้ใี หเ้ หน็ ว่า การทจุ ริตคอร์รปั ชนั ในภาคการศกึ ษา เปน็ ปญั หาสำ� คญั เพราะมนั สง่ ผลกระทบตอ่ ผคู้ นจำ� นวนมากทง้ั ในเขตเมอื งและชนบท มากกวา่ การทจุ รติ คอร์รัปชันในภาคส่วนอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันมีผลกระทบต่อคนยากจนเป็นอย่างมาก กล่าวคือ ท�ำให้คนยากจนไม่มีโอกาสในการเข้าถึงระบบการศึกษาท่ีดีได้ และไม่มีทางเลือกอย่างอ่ืนนอกจากระบบ การศึกษาที่มีคุณภาพต่�ำ ในท้ายที่สุดท�ำให้กลุ่มคนเหล่านี้ไม่อาจหลุดพ้นจากวงจรชีวิตของความยากจนได้ เพราะการศึกษาท�ำให้คนมีโอกาสในชีวิตท่ีดีข้ึน การศึกษายังส่งผลต่อความเป็นอยู่ในระยะยาวและ การขบั เคลอื่ นในทางสงั คม ทง้ั น้ี เพราะการศกึ ษาคอื ยทุ ธศาสตรส์ ำ� คญั ในการพฒั นาประเทศชาติ ไมเ่ ฉพาะ การสร้างภาวะผู้น�ำให้กับประเทศเท่านั้น หากแต่ยังช่วยสร้างทัศนคติและพฤติกรรมในเชิงจริยธรรม อีกด้วย ดังนั้น ภาคการศึกษาจึงถูกคาดหวังให้เป็นแบบอย่างท่ีดี โดยเฉพาะอย่างย่ิงด้านการเรียน การสอนทีต่ ้องช่วยทำ� ให้เกิดความถกู ตอ้ งขึน้ มา (particularly exemplary and schooling to be fair) หากระบบการศกึ ษาไมม่ คี ณุ ภาพ จะสง่ ผลเสียหายตอ่ ภาคส่วนอื่น ๆ ตามมา อยา่ งไรก็ดี ในโลก ของความเปน็ จริงกม็ คี วามแตกตา่ งจากส่งิ ทคี่ าดหวังไว้ในหลายสว่ นของโลก จากขอ้ เทจ็ จรงิ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ซง่ึ รฐั บาลไดจ้ ดั สรรงบประมาณจำ� นวนมากในแตล่ ะปี อาทิ งบประมาณในปี 2559 มีมากถึง 5.17 แสนล้านบาท ปีงบประมาณ 2560 ได้รับการจัดสรร งบประมาณเท่ากับ 5.14 แสนล้านบาท ปีงบประมาณ 2561 ได้รับการจัดสรรงบประมาณท้ังหมด 5.11 แสนลา้ นบาท และปงี บประมาณ 2562 ไดร้ บั การจดั สรรงบประมาณ 4.89 แสนลา้ นบาท8 ถงึ แมว้ า่ แนวโน้มการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารในภาพรวมจะลดลงบ้าง แต่โดยส่วนใหญก่ ็ยงั นับว่าได้รับการจัดสรรงบประมาณมากเป็นอันดับต้นอยู่ดี เมื่อเปรียบเทียบกับบรรดากระทรวงต่าง ๆ อย่างไรก็ดี งบประมาณตามภารกิจหรือโครงการเหล่านี้จะไม่สามารถบรรลุผลตามเป้าหมายท่ีวางไว้อย่าง มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลและตกถึงผู้เรียนได้เลย หากมีการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบจาก บรรดาข้าราชการระดับสูงหรือบุคลากรทางการศึกษา ที่มีการร่วมมือกันอย่างเป็นระบบและเป็นเครือข่าย กับกลุ่มอิทธิพลอ่ืน ๆ อันได้แก่ กลุ่มนักการเมือง และกลุ่มนักธุรกิจบางรายในเครือข่ายของตน ประการส�ำคัญคือ การทุจริตคอร์รัปชันประเภทนี้ “อาจน�ำไปสู่ความล้มเหลวทางการศึกษาได้ และ ความลม้ เหลวทางการศึกษาอาจน�ำไปสกู่ ารล่มสลายของชาติไดใ้ นท้ายทีส่ ดุ ” (The collapse of education is the collapse of the nation)9 ซง่ึ ขอ้ ความเหลา่ น้เี ปน็ สง่ิ ทไ่ี มน่ า่ จะมองขา้ มไปได้ 7 Meier, B. (2004). “Corruption in the Education Sector: An Introduction”. Transparency International. July, pp. 1 - 2. 8 สำ� นกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร, งบประมาณรายจา่ ยประจำ� ปียอ้ นหลัง 3 ปี พ.ศ. 2559 - 2561. กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). สืบคน้ เมอ่ื วนั ที่ 29 พฤษภาคม 2562, จาก http://www.moe.go.th 9 http://networkonnet.files.wordpress.com/2016/10/image001
22 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ปีที่ 12 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562) ผเู้ ขียนตระหนกั และมองเหน็ ถึงความสำ� คญั ของปญั หาเช่นนี้ และนจ่ี ึงเป็นเหตผุ ลสำ� คญั ในการ ใหค้ วามสนใจศกึ ษา เพอื่ หามาตรการทเ่ี หมาะสมเพอ่ื ปอ้ งกนั ความรว่ มมอื ระหวา่ งเครอื ขา่ ยกลมุ่ อทิ ธพิ ล ซง่ึ อาจนำ� ไปสกู่ ารทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อยา่ งเปน็ ระบบในภาคการศกึ ษาได้ ดงั นน้ั ในบทความนจ้ี ะเรมิ่ ตน้ ดว้ ย การน�ำเสนอให้เห็นถึงแนวคิดเร่ืองเครือข่ายกลุ่มอิทธิพล ตามด้วยการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ และข้อค้นพบท่ีได้จากการศึกษาวิจัย และในท้ายท่ีสุด จะได้น�ำเสนอให้เห็นถึงมาตรการที่เหมาะสม ในด้านต่าง ๆ เพื่อป้องกันความร่วมมือระหว่างเครือกลุ่มอิทธิพลซ่ึงน�ำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันอย่าง เป็นระบบในภาคการศึกษา อันเปน็ เน้อื หาส�ำคัญของบทความน้ี ดงั จะไดน้ �ำเสนอตามลำ� ดบั ตอ่ ไป 2. แนวคดิ เร่ืองเครือข่ายกลุ่มอทิ ธิพล (Influential Group Networks) “เครือข่ายกลุ่มอิทธิพล” ตามความหมายน้ี บ่งช้ีถึงอ�ำนาจแห่งการรวมตัวกันเป็นเครือข่าย ซ่ึงลักษณะของการรวมตัวกันนั้นย่อมเป็นบ่อเกิดแห่งอ�ำนาจ ทั้งท่ีเป็นพลังภายในกลุ่มเองและเป็นพลัง อิทธพิ ลต่อภายนอกด้วย10 เมอ่ื มกี ารรวมตวั กลายเปน็ เครอื ขา่ ยกลมุ่ อทิ ธพิ ล ก็มแี นวโนม้ ทจ่ี ะใชอ้ �ำนาจ ทุกรูปแบบและทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายของกลุ่มตน ซึ่งก็คือการได้ผลประโยชน์ในรูปแบบ ต่าง ๆ แม้ว่าการกระท�ำหรือการใช้อ�ำนาจนั้น ๆ จะผิดกฎหมายหรือละเมิดจริยธรรมของสังคมก็ตาม ซงึ่ สอ่ื ความหมายไดช้ ดั เจนว่า พฤตกิ รรมการใช้อำ� นาจของเครอื ข่ายกลุ่มผมู้ อี ิทธพิ ล มักกระทำ� การใด ๆ ทผี่ ิดกฎหมายหรอื อย่เู หนือกฎหมายเสมอ เนือ่ งจากกลุ่มผมู้ ีอิทธพิ ลมักเปน็ ผ้มู ีอ�ำนาจท่ีสามารถบันดาล ใหส้ ง่ิ ตา่ ง ๆ เปน็ ไปได้ตามทกี่ ลมุ่ ตนตอ้ งการ กล่มุ ผู้มีอทิ ธิพลจงึ มักร่วมมอื กนั เพ่ือแสวงหาผลประโยชน์ สว่ นตน โดยไม่ค�ำนึงถงึ ความถกู ต้องชอบธรรมใด ๆ11 เราอาจกลา่ วได้วา่ เครือข่ายกลุม่ อทิ ธิพลมักหากินกบั เรอ่ื งทีท่ จุ ริตและผิดกฎหมาย โดยเมอ่ื ได้เงนิ จากการกระทำ� ผิดกฎหมายแล้ว เช่น เงนิ จากการทุจรติ คอร์รัปชนั ก็จะนำ� เงนิ เหล่านัน้ ไปฟอกตอ่ (Money Laundering) ดงั นน้ั ความสลบั ซบั ซอ้ นของปญั หาการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ในยคุ ปจั จบุ นั โดยเฉพาะ ในกรณีรายใหญ่ จึงมักมีเร่ืองของเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลเข้ามาเก่ียวข้องอยู่ด้วยเสมอ12 อย่างไรก็ดี ผู้เขียนมขี ้อสงั เกตว่า การระบถุ ึงกลุ่มผูม้ อี ทิ ธพิ ลของหนว่ ยงานราชการไทย มักไม่สามารถระบุได้ถึงผมู้ อี ทิ ธพิ ลทเี่ ป็น นักการเมือง นักธุรกิจหรือพ่อค้า และข้าราชการระดบั สูงในเครือ่ งแบบราชการ ไม่วา่ จะเป็นนายทหาร นายตำ� รวจ หรอื ขา้ ราชการฝา่ ยพลเรอื นและฝา่ ยปกครองบางราย ทง้ั ๆ ทโี่ ดยขอ้ เทจ็ จรงิ แลว้ กลมุ่ บคุ คล เหลา่ น้บี างรายคอื “ผมู้ อี ทิ ธิพลตัวจริง” เนื่องจากมีการใช้อ�ำนาจกระท�ำการในสิง่ ใด ๆ ทผ่ี ิดกฎหมาย หรืออยู่เหนือกฎหมายเสมอ ขณะเดียวกันกลุ่มบุคคลเหล่าน้ีบางรายก็ยังเป็นรากแก้วใหญ่ท่ีเก้ือกูล หล่อเลี้ยงต่อผู้มีอิทธิพลอื่น ๆ ในเครือข่ายของตนทั้งในระดับชาติและท้องถ่ิน ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐที่มี 10 โอฬาร ถ่นิ บางเตยี ว และนครินทร์ เมฆไตรรตั น์. (2559). ผ้มู ีอทิ ธิพล. สืบค้นวันที่ 20 พฤษภาคม 2562, จาก http://wiki.kpi.ac.th/ 11 Dictionary_sanook.com/ผู้มอี ทิ ธิพล/influentialperson 12 Thaipublica.Org/2013/06/mafia_state
มาตรการเพ่ือป้องกนั การร่วมมอื ของเครอื ข่ายอิทธิพลในการทุจรติ 23 อย่างเปน็ ระบบในเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษาที่ 24, 25 และ 26 อ�ำนาจหน้าท่ีในการดูแลรักษากฎหมายไม่กล้าเข้าไปแตะต้อง และยากแก่การสืบสวนสอบสวนและ ดำ� เนินคดี เนื่องจากการมอี �ำนาจและอิทธพิ ล มีทรพั ย์สินเงนิ ทอง บริวาร และบารมี เป็นตน้ ปัญหาที่เกิดข้ึนเหล่านี้ ส่วนหน่ึงเกิดจากค่านิยมในระบบอุปถัมภ์ และการเล่นพรรคเล่นพวก ท�ำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาน้ีได้อย่างแท้จริง13 โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมของกลุ่มอิทธิพลที่เกิดข้ึน ในระบบราชการ อันถือว่าเป็นพฤติกรรมความชั่วร้ายของระบอบการปกครองท่ีเกิดข้ึนในบ้านเมือง14 เน่ืองจากเม่ือมีการรวมตัวกันเป็นเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลแล้ว ก็มักจะมีพฤติการณ์ทุจริตคอร์รัปชัน ในรูปแบบต่าง ๆ หรือมกี ารประพฤติมชิ อบอน่ื ๆ ตามมา ขณะทีใ่ นการด�ำเนินงานของเครือข่ายกลมุ่ อิทธิพล เหล่าน้ีอาจประกอบด้วยผู้มีอิทธิพล ทั้งท่ีอยู่เบื้องหน้าหรืออยู่เบื้องหลัง หรืออาจมีแนวร่วมหรือผู้สนับสนุน อนื่ ๆ (ศูนยป์ ฏบิ ัตกิ ารตอ่ สเู้ พื่อเอาชนะยาเสพติด, ม.ป.ป.) ภายใตส้ ภาพการณเ์ ชน่ น้ี การรกั ษากฎหมาย ย่อมมีความออ่ นแอ เพราะบางครัง้ ผ้รู ักษากฎหมายอาจกลายเปน็ ผู้มอี ิทธพิ ลเสียเอง หรืออาจเข้าไปอยู่ ในเครือข่ายกลุ่มอิทธิพล และแม้แต่การออกกฎหมายเองก็อาจมีอิทธิพลเข้าไปก�ำกับใน รายละเอยี ดของกฎหมาย เพื่อมใิ ห้พรรคพวกตนตอ้ งเสยี ผลประโยชนห์ รือไดป้ ระโยชน์ และพฤติกรรมของ กล่มุ ผู้มีอทิ ธิพลบางครง้ั อาจมกี ารใชอ้ ำ� นาจมดื หรอื การกระท�ำทอี่ ุกอาจหรือขม่ ขู่ผอู้ น่ื ได้ เปน็ ตน้ 15 การศึกษาของ Serguei Cheloukhine & M. R. Haberfeld (2011)16 ได้ชี้ใหเ้ ห็นว่า การจดั ต้ัง องค์การที่เป็นเครือข่ายกลุ่มอิทธิพล มักประกอบไปด้วยกลุ่มคนท่ีมารวมตัวกันภายในขอบเขต พ้ืนทห่ี นงึ่ โดยมีการดำ� เนินงานภายใตโ้ ครงสร้างที่แนน่ อนในระดบั หนงึ่ และมีการแบ่งหน้าทกี่ นั ทำ� ตาม กระบวนการของการแสวงหาประโยชน์เป็นการเฉพาะของกลุ่มตน โดยใช้วิธีการทุจริตคอร์รัปชันและ การผูกขาด อันเป็นเรื่องการวางแผนและการสมคบคิดกนั เพื่อกระทำ� ในสง่ิ ที่ไม่ถูกต้องหรอื ผดิ กฎหมาย (Conspiracy) ภารกิจในแต่ละครงั้ ของการเข้ารว่ มกับเครือข่ายกลมุ่ อทิ ธพิ ล มักเปน็ เรอ่ื งเกี่ยวข้องกับ สิ่งล่อใจและการเห็นแก่เงินหรือการเห็นแก่ได้ประโยชน์ (Mercency Temptations) ซ่ึงเหมือนกับ เปน็ “กฎอยา่ งหนง่ึ ” ของกลมุ่ คนเหลา่ นี้ โดยไดร้ บั ผลประโยชนต์ อบแทนจากการเขา้ รว่ มเปน็ เครอื ขา่ ย เราอาจกล่าวได้ว่า กลุ่มคนเหล่าน้ีถูกจัดต้ังข้ึนมาเพื่อเข้าร่วมในการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ดว้ ยกฎหมาย ดว้ ยการคดโกง ฉอ้ โกง ยกั ยอก เรยี กหรอื รบั สนิ บน หรอื ขม่ ขกู่ รรโชกเอาประโยชนท์ ง้ั หลาย จากการดำ� เนินกิจกรรมตา่ ง ๆ อยา่ งชัดเจน โดยสรุป “เครือขา่ ยกลุม่ อทิ ธิพล” ตามความหมายนี้ คือ เครือขา่ ยกลุ่มคนท่มี ีอ�ำนาจ สามารถ บันดาลใหส้ ิง่ ต่าง ๆ เป็นไปไดต้ ามทต่ี นตอ้ งการ เครอื ขา่ ยกลุ่มอทิ ธิพลมกั ใช้อำ� นาจดำ� เนินการในทางมชิ อบ ด้วยกฎหมาย เพือ่ การแสวงหาผลประโยชนใ์ หก้ ับตนเองหรอื พวกพอ้ งอยูเ่ สมอ อนั เป็นความผิดในทาง อาญาหรือไม่ค�ำนึงถึงความถูกต้องชอบธรรมใด ๆ ในการด�ำเนินงานอาจประกอบด้วยผู้มีอิทธิพล ทั้งท่ีอยู่เบื้องหน้าหรืออยู่เบื้องหลัง หรืออาจมีแนวร่วมหรือผู้สนับสนุน ได้แก่ ข้าราชการหรือบุคลากร 13 สายลอ่ ฟ้า. (2559). “การคอรร์ ัปชันในวงราชการ”. ไทยรฐั . วนั พฤหัสที่ 6 พฤศจกิ ายน. หน้า 6. 14 จรสั สวุ รรณมาลา. (2546). ธรรมาภบิ าลกบั คอรร์ ัปชนั ในสงั คมไทย. กรงุ เทพฯ : ร่วมดว้ ยชว่ ยกนั . 15 จรสั สุวรรณมาลา. (2546). อ้างแล้ว 16 Cheloukhine, S. & Haberfeld. M.R. (2011). Russian Organized Corruption Networks and their International Trajectories. Springer – Verlag: New York. pp. 12 – 13.
24 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ปีที่ 12 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562) ทางการศึกษา นักธุรกิจ และนักการเมืองในระดับต่าง ๆ เครือข่ายกลุ่มอิทธิพลมักเป็นขบวนการ ผดิ กฎหมาย ทมี่ กี ารด�ำเนนิ งานเป็นเครอื ข่ายกวา้ งขวาง สลบั ซบั ซอ้ น ยากแก่การสบื สวนสอบสวนและ ด�ำเนินคดี ซึ่งผลของการกระท�ำนั้นเป็นการบ่อนท�ำลายระบบเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และขัดต่อ ความสงบเรียบร้อยหรือศลี ธรรมอนั ดีของประชาชนโดยส่วนรวม 3. การทุจริตคอร์รัปชนั อย่างเปน็ ระบบ (Organized Corruption) เป็นลักษณะกิจกรรมหรือการกระท�ำที่สร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางให้กับองค์กร ต้ังแต่ ขนาดเลก็ ไปจนถึงขนาดใหญแ่ ละประเทศชาติ เพราะการทจุ ริตคอร์รัปชนั อย่างเป็นระบบเกี่ยวขอ้ งกับ บคุ คลหลายฝ่าย นับตง้ั แตร่ ะดบั ผกู้ �ำหนดนโยบายและวางแผน ไปจนถึงระดบั ผูป้ ฏบิ ัติงานในฝ่ายต่าง ๆ และผู้ทเี่ ก่ยี วข้องอืน่ ๆ ในเครอื ข่ายตน โดยมปี ัจจัยสนบั สนนุ ใหเ้ กิดการทุจรติ คอรร์ ัปชนั อย่างเป็นระบบ ได้แก่ แรงจูงใจในการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน การมีอ�ำนาจในการผูกขาดการตัดสินใจ ระบบ การทำ� งานขาดความโปรง่ ใส และขาดระบบการตรวจสอบทด่ี ีและมปี ระสทิ ธิภาพ คา่ แรงหรือค่าจ้างในการ ปฏบิ ตั งิ านทไ่ี ดร้ บั ตำ�่ กวา่ เกณฑม์ าตรฐาน ระบบของการทจุ รติ ถกู มองเปน็ เรอื่ งปกตมิ ากกวา่ เปน็ ขอ้ ยกเวน้ และมีวัฒนธรรมของการได้รับการยกเว้นเมื่อมีการกระท�ำผิด เป็นต้น ขณะที่รูปแบบของการทุจริต คอร์รัปชันประเภทนี้มีเร่ืองของพฤติกรรมในทางมิชอบด้วยกฎหมายรวมอยู่ด้วย เช่น การติดสินบน การข่มขู่กรรโชกเพ่ือเอาประโยชน์ทั้งหลาย การเรียกหรือรับเงินหรือทรัพย์สินใด ๆ และการคดโกง ฉ้อโกง17 เป็นต้น เราจึงเห็นได้วา่ การทจุ ริตคอร์รัปชันอยา่ งเปน็ ระบบมีความเชือ่ มโยงกบั เรือ่ งเครือข่าย กลมุ่ อทิ ธพิ ล เนอ่ื งจากมพี ฤตกิ ารณใ์ นทางมชิ อบดว้ ยกฎหมาย เพอื่ การแสวงหาผลประโยชนใ์ หก้ บั ตนเอง หรือพวกพ้องอยเู่ สมอ นกั วชิ าการบางคน เชน่ Cynado Cyril N.O. Ezeogidi (2013)18 เหน็ วา่ การทจุ รติ คอร์รัปชัน อย่างเป็นระบบ คือการทุจริตคอร์รัปชันท่ีมีประสิทธิภาพในระดับสูง เน่ืองจากการทุจริตคอร์รัปชัน ประเภทนจ้ี ะถกู บงการและถกู ควบคมุ โดยบคุ คลทมี่ ตี ำ� แหนง่ อยใู่ นรฐั บาลระดบั สงู (High Government Positions) ขณะเดยี วกนั เขาก็มอี ำ� นาจในการแตง่ ตั้งโยกย้ายข้าราชการระดบั สงู (High Government Officials) ได้เช่นกัน แต่ในท่ีสุดคนทั้งสองกลุ่มนี้ก็มีการแลกเปล่ียนผลประโยชน์บางอย่างจากการมี ความรว่ มมอื กนั (Collaboration) จนนำ� ไปสกู่ ารประสานงานเพอ่ื แสวงหาชอ่ งทางการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ดว้ ยกันอยา่ งเตม็ รูปแบบ สาเหตุอีกประการหนึ่งที่การทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจาก การทจุ ริตคอรร์ ปั ชันประเภทนมี้ ีการจัดระบบองค์กรไว้เปน็ อยา่ งดีเตม็ รูปแบบ ในสังคมยุคปัจจบุ ัน การทุจริต คอร์รัปชันประเภทน้ีมีการพัฒนามากข้ึนตามล�ำดับ ไม่ใช่เป็นเรื่องการเรียก หรือรับ หรือการให้สินบน 17 Heinzpeter, Z. (2009). “Deep Corruption in Indonesia, Discourses, Practices, Histories”. In Anders, Gerhard and Nuijten, Monique (eds.) Corruption and the Secret of Law: Law, Justice and Power. Burlington, VA: Ashgate. pp. 53 - 74. 18 Cynado Cyril N.O. Ezeogidi. (2013). “The Concept of Organized and Chaotic Corruption and the Impact on Nigeria Economy”. Journal of Humanities And Social Science. Volume 16, Issue 2 (September – October). pp. 73 - 77.
มาตรการเพื่อป้องกันการร่วมมอื ของเครอื ขา่ ยอิทธิพลในการทุจริต 25 อย่างเป็นระบบในเขตพื้นท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาที่ 24, 25 และ 26 อย่างเดียว19 หากแต่การทุจริตประเภทน้ี ถูกบริหารจัดการโดยองค์การท่ีมีการจัดต้ังเป็นอย่างดี โดยกลุม่ คนท่ีมอี �ำนาจท้ังทางการเมืองและเศรษฐกิจ มีการวางกลยุทธ์และวางแผนอย่างเปน็ ข้ันตอนไว้ อย่างชัดเจน มีการรวมศูนย์ข้อมูลข่าวสารโครงการต่าง ๆ ของรัฐ มีทีมปรึกษาที่มีความเช่ียวชาญ ดา้ นเทคนคิ สงู มกี ารบรู ณาการกนั อยา่ งพรอ้ มเพรยี ง การดำ� เนนิ งานไมใ่ ชเ่ ปน็ เรอ่ื งของคนตอ่ คนหรอื กลมุ่ ต่อกลุ่มอีกต่อไป แต่อยู่ในรูปเครือข่ายครอบคลุมถึงนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง และพ่อค้าหรือ นักธุรกิจ20 อันสะท้อนให้เห็นว่า การทุจริตคอร์รัปชันในสังคมยุคหลังโดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ มกั มกี ารด�ำเนินงานกนั อยา่ งเป็นระบบและเป็นเครือข่ายอย่างชัดเจน ไมเ่ วน้ แมก้ ระทงั่ ในภาคการศึกษา และโดยข้อเทจ็ จริงแล้ว สาเหตทุ ก่ี ารทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั รายใหญ่ ๆ รวมถงึ ในภาคการศกึ ษาทีแ่ กไ้ ขได้ยาก เน่ืองจากมีการร่วมมือกันเป็นเครือข่ายและเป็นระบบเต็มรูปแบบ ระหว่างนักการเมือง นักธุรกิจหรือ พอ่ ค้า และขา้ ราชการระดบั สงู ซึ่งมีความซับซอ้ นแยบยลมากจนยากแกก่ ารสบื สวนสอบสวน ขณะทกี่ ารทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อกี รปู แบบหนง่ึ คอื “การทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ทไี่ มเ่ ปน็ ระบบ” (Chaotic Corruption) หรอื ทบี่ างคนเรยี กวา่ “การทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อยา่ งงา่ ย” (Simple Corruption) อนั สะทอ้ น ให้เห็นถึงพฤติการณ์ทุจริตทม่ี ีประสิทธภิ าพต�่ำกว่า ซึง่ มกั เปน็ เรือ่ งการใช้โอกาส หรอื ช่องทางจากการที่ ตนมีอ�ำนาจในต�ำแหน่งแล้วแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ผิดหรือไม่ถูกต้อง (to Make Wrongful Profit) ดังตัวอย่างเช่น เมื่อข้าราชการคนหน่ึงมีข้อเสนอท่ีจะเร่งรัดข้ันตอนของการออกใบอนุญาตให้ เพอื่ แลกกับสินบนทจ่ี ะไดร้ ับ21 เปน็ ตน้ อย่างไรก็ดี Cynado Cyril N.O. Ezeogidi เหน็ วา่ แมก้ ารทุจริต ทั้งสองประเภทจะแตกต่างกัน แต่ทว่าการทุจริตทั้งสองรูปแบบมักเก่ียวข้องกับการละเลยบรรทัดฐาน ทางสงั คมทด่ี ี และการไมเ่ กรงกลวั ตอ่ กฎหมายหรอื ขอ้ ครหาใด ๆ และยงั เกย่ี วขอ้ งกบั การใหห้ รอื รบั สนิ บน อกี ดว้ ย จากท่ีกลา่ วมา สรปุ ไดว้ ่า “การทุจริตคอร์รัปชันอยา่ งเป็นระบบ” ตามความหมายนี้ หมายถงึ “ลกั ษณะของการรว่ มมอื ประสานงานกนั อยา่ งเหมาะเจาะลงตวั อยา่ งบรู ณาการกนั เปน็ ระบบเตม็ รปู แบบ และเป็นเครือข่ายของข้าราชการ อันได้แก่ บุคลากรทางการศึกษาที่ร่วมมือกับนักการเมือง นกั ธุรกิจ และกลมุ่ เครอื ข่ายของตน โดยมพี ฤติกรรมในทางมิชอบดว้ ยกฎหมาย ด้วยการคดโกง ฉอ้ โกง เรียกหรือรับสินบน หรือข่มขู่กรรโชกเอาประโยชน์ทั้งหลายของบุคคล โดยมุ่งประสงค์ให้ได้รับ ผลประโยชน์ส�ำหรับตนเองหรือผู้อ่ืน อันท�ำให้เกิดความเสื่อมเสียหายท้ังในระดับองค์กร และระดับ ประเทศชาตโิ ดยส่วนรวม” 4. ระเบียบวธิ ใี นการศกึ ษา ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยมุ่งหาหลักฐานและข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ จากวิธีการหลาย รปู แบบ ดังน้ี 19 อานนั ท์ ปันยารชุน. (2555). สืบคน้ เมอ่ื วันที่ 16 พฤษภาคม 2562, จาก http://www.facebook.com/serithai.net13/12/55 20 สงั ศิต พิริยะรงั สรรค์. (2549). คอร์รปั ชนั แบบเบ็ดเสรจ็ . กรุงเทพฯ: สำ� นกั พิมพ์รว่ มดว้ ยชว่ ยกนั . หน้า 17. 21 Alba de D. (2017). “What is the difference between corruption and organized corruption”. สืบค้นเมอื่ วนั ท่ี 15 พฤษภาคม 2562, จาก https://www.quora.com/What-is-the-difference-between-corruption-and-organized-corruption
26 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2562) 4.1 การกำ� หนดกลมุ่ เปา้ หมาย ไดก้ ำ� หนดกลมุ่ เปา้ หมายทเี่ ปน็ กลมุ่ โรงเรยี น จากการจำ� แนก ตามเกณฑม์ าตรฐานการบรหิ ารงบประมาณและบรหิ ารงานบคุ คลของ สพฐ. ซง่ึ จำ� แนกประเภทโรงเรยี น ออกเป็น 4 ระดับ คอื (1) โรงเรยี นขนาดเลก็ (จ�ำนวนนักเรยี นตงั้ แต่ 1- 499 คน) (2) โรงเรยี นขนาดกลาง (จำ� นวนนักเรยี นต้งั แต่ 500 - 1,499 คน) (3) โรงเรยี นขนาดใหญ่ (จ�ำนวนนกั เรยี นต้งั แต่ 1,500 - 2,499 คน) และ (4) โรงเรียนขนาดใหญ่พเิ ศษ (จำ� นวนนักเรียนตง้ั แต่ 2,500 คนข้นึ ไป) เนื่องจากจ�ำนวนนักเรียน มีความสัมพันธ์กับจ�ำนวนงบประมาณ ทรัพยากร และการบริหารงานบุคคล ขณะเดียวกันก็มักมี ข่าวอ้ือฉาวเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดข้ึนในสถานศึกษาท่ีเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ ในการศึกษาวิจัยน้ี คณะผู้วิจัยจึงให้ความส�ำคัญกับการทุจริตคอร์รัปชันในโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่และขนาดใหญ่พิเศษ เป็นกลุม่ เป้าหมายหลักของการศึกษา และได้ก�ำหนดขนาดกลุ่มตัวอยา่ งเป้าหมายไว้ เขตพนื้ ท่ีการศึกษาละ 12 โรงเรยี น รวมท้ังหมด 36 โรงเรียน 4.2 การเก็บรวบรวมขอ้ มูล แบง่ เปน็ 4.2.1 ขอ้ มลู ทตุ ยิ ภมู ิ ประกอบดว้ ย คำ� พพิ ากษาของศาล สำ� นวนคดที พี่ นกั งานอยั การ เป็นโจทก์ย่ืนฟ้อง ส�ำนวนคดีการถูกร้องเรียน ข้อกล่าวหาและการชี้มูลความผิดของหน่วยงานรัฐท่ีมี หน้าท่ีในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน และข้อกล่าวหาหรือข้อร้องเรียนเรื่องการทุจริตของบุคลากร ทางการศกึ ษาในเขตพนื้ ทีเ่ ปา้ หมาย เป็นตน้ 4.2.2 ขอ้ มลู ปฐมภมู ิ ใชเ้ ทคนคิ และวธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ดงั นี้ คอื (1) การสมั ภาษณ์ เชิงลึกเป็นรายบุคคล (In-depth Personal Interview) (2) การประชุมกลุ่มย่อย (Focus Group Discussion) และ (3) การจัดประชมุ วพิ ากษผ์ ลงานการวิจยั โดยผูท้ รงคุณวุฒิใน 3 จังหวดั เพื่อเตมิ เตม็ ใหผ้ ลงานการวจิ ยั มีความสมบรู ณถ์ กู ตอ้ งมากยิ่งข้นึ 4.3 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู โดยใชห้ ลกั การจดั ระเบยี บขอ้ มลู การหาขอ้ สรปุ การตคี วาม และ การตรวจสอบความถูกต้องแม่นตรงของผลการวิจัย ซึ่งอยู่ในรูปของค�ำอธิบายและการพรรณนา เชงิ วิเคราะห์ เพอื่ ตอบคำ� ถามตามวัตถปุ ระสงค์การวจิ ัยต่อไป 5. ข้อคน้ พบจากการศึกษาวจิ ยั จากการศึกษาของผู้เขียนเรือ่ ง “การศกึ ษาเครือขา่ ยกลมุ่ อิทธพิ ลซึง่ น�ำไปสูก่ ารทจุ รติ คอร์รปั ชนั อยา่ งเปน็ ระบบในภาคการศกึ ษา: กรณศี กึ ษาโรงเรยี นสงั กดั สำ� นกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยม เขตท่ี 24, 25 และ 26 (กาฬสินธุ์ ขอนแก่น มหาสารคาม) โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาวิจัยเชิงลึกและเพ่ือ ทำ� ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั รปู แบบและความรว่ มมอื ของการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อยา่ งเปน็ ระบบระหวา่ งเครอื ขา่ ย กลุ่มอิทธิพลที่ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นข้าราชการ นักการเมือง และนักธุรกิจ ผลการศึกษาพบว่า รูปแบบและลักษณะความร่วมมือของการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบในภาคการศึกษา สามารถ จำ� แนกออกไดเ้ ปน็ 2 รปู แบบหลกั ดังนี้
มาตรการเพอ่ื ปอ้ งกนั การรว่ มมือของเครือข่ายอทิ ธพิ ลในการทจุ รติ 27 อยา่ งเป็นระบบในเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษาที่ 24, 25 และ 26 5.1 รูปแบบและลักษณะความร่วมมือของการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบท่ีเกิดขึ้น ในสถานศึกษาโดยทวั่ ไป มีดงั นี้ 5.1.1 การทุจริตคอร์รัปชันจากการจัดซื้อจัดจ้าง – การก่อสร้าง และการจัดซ้ือวัสดุ และครภุ ัณฑ์ทางการศึกษา เช่น รูปแบบการทุจรติ จากการกอ่ สรา้ งและการตอ่ เตมิ อาคารเรียน เมือ่ มี งบประมาณจากสำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน (สพฐ.) ลงมา จะมฝี า่ ยวางแผนในสำ� นกั งาน เขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยม และผอู้ ำ� นวยการสำ� นกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาฯ บางแหง่ ทร่ี ว่ มมอื กบั ผบู้ รหิ าร สถานศกึ ษาบางรายในการทจุ รติ จากงบประมาณการก่อสร้างนนั้ หรือบางคร้ังอาจมีการตงั้ งบประมาณ เพื่อการซ่อมแซมต่อเติมอาคาร ผู้บริหารสถานศึกษาบางรายอาจมีการจัดหาผู้รับเหมางานมาเอง โดยบางครงั้ อาจเปน็ เครอื ญาตหิ รอื คนใกลช้ ดิ แลว้ จะมกี ารเรยี กรบั เงนิ อยา่ งตำ่� รอ้ ยละ 30 ของงบประมาณ ที่ตั้งไว้ สว่ นการทุจรติ จากการจัดซื้อจัดจ้าง หนังสอื ตำ� รา ครุภณั ฑท์ างการศึกษา ก็มรี ปู แบบการทจุ ริต ต่าง ๆ เช่น การฮ้ัวประมูลเต็มรูปแบบ การล็อกสเปคหนังสือ ต�ำรา วัสดุและครุภัณฑ์ทางการศึกษา การหาประโยชนจ์ ากสว่ นตา่ งของราคาการจดั ซอื้ หนงั สอื ตำ� รา วสั ดแุ ละครภุ ณั ฑท์ างการศกึ ษา โครงการ จัดซ้ือจัดจ้างอ�ำพราง และการซ้อื ใบเสรจ็ แลกกบั เงินสด เปน็ ต้น 5.1.2 การทุจริตคอร์รัปชันจากระบบการบริหารงานบุคคล เช่น การทุจริตจากระบบ การสรรหาและคดั เลอื ก อ.ก.ค.ศ. เขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษา (ในอดีต) การทุจรติ จากกระบวนการสรรหาและ สอบบรรจุแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การทุจริตเกณฑ์การพิจารณาเลื่อนขั้น เงนิ เดอื นขา้ ราชการในสงั กดั การทจุ รติ จากการโอนยา้ ยตำ� แหนง่ ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา การทจุ รติ การโอน ย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การทุจริตจากการขอเล่ือนต�ำแหน่งในระดับท่ีสูงขึ้น ในกรณีการเลอ่ื นวิทยาฐานะครู เป็นต้น 5.1.3 การทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั จากการรบั นกั เรยี นเขา้ สถานศกึ ษา เชน่ การเรยี กคา่ แปะ๊ เจยี๊ ะ การรับนักเรียนประเภทเงื่อนไขพิเศษ การรับฝากเด็กเข้าเรียนโดยกลุ่มอิทธิพล การน�ำเงินจาก การรบั บริจาคของผปู้ กครองนกั เรียนไปใชป้ ระโยชนส์ ่วนตนโดยมชิ อบ เปน็ ต้น 5.1.4 การทุจริตคอร์รัปชันจากการเบี่ยงเบนงบประมาณที่ได้รับจากส่วนกลาง และ เงินอุดหนนุ ประเภทต่าง ๆ เช่น การทุจริตจากเงินอุดหนุนรายหวั นกั เรียน การทจุ รติ คา่ อาหารกลางวัน รายการค่าปัจจัยพื้นฐานส�ำหรับนักเรียนยากจน การแจ้งรายช่ือจ�ำนวนนักเรียนเป็นเท็จเกินจาก ความเปน็ จริง การทจุ ริตจากการจัดทำ� โครงการ/กจิ กรรมต่าง ๆ ของผบู้ ริหารสถานศึกษา เปน็ ต้น 5.2 รูปแบบเฉพาะความร่วมมือการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบระหว่างเครือข่าย กล่มุ อิทธิพล ทป่ี ระกอบด้วยเจา้ หน้าท่รี ฐั หรอื ขา้ ราชการ นกั การเมือง และนกั ธุรกจิ ผลจากการศกึ ษา พบว่า มีกรณีการทุจริตคอร์รัปชันจากการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครู และการทุจริตคอร์รัปชัน จากการก่อสร้างสนามฟุตซอล ที่จัดได้ว่าเป็นรูปแบบเฉพาะและมลี ักษณะพิเศษ อนั เปน็ เรอ่ื งความร่วมมอื และมีการประสานงานเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายกลุ่มอิทธิพล ที่น�ำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็น ระบบอย่างชดั เจน ดังแผนภาพที่ 1
28 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ปีท่ี 12 ฉบับที่ 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562) แผนภาพท่ี 1: เครอื ขา่ ยกลมุ่ อทิ ธพิ ลทน่ี ำ� ไปสกู่ ารทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อยา่ งเปน็ ระบบในภาคการศกึ ษา กรณกี ารก่อสร้างสนามฟุตซอล และกรณสี หกรณ์ออมทรพั ย์ครู 6. มาตรการที่เหมาะสมเพ่ือป้องกันความร่วมมือของเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลซ่ึงน�ำไปสู่การทุจริต คอร์รัปชันอย่างเปน็ ระบบในภาคการศึกษา ข้อมลู จากผลการศึกษาของผเู้ ขียนพบวา่ เครอื ข่ายความรว่ มมอื ของกลุ่มอทิ ธพิ ลในการทุจรติ คอร์รัปชันอย่างเป็นระบบของภาคการศึกษานั้น บางประเภทมีลักษณะการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็น ระบบเตม็ รปู แบบ ตงั้ แตก่ ระบวนการตน้ นำ�้ จนถงึ ปลายนำ้� กลา่ วคอื ตง้ั แตน่ โยบายของนกั การเมอื ง และ ขา้ ราชการระดบั สงู ในกระทรวงและกรม ลงมาสบู่ คุ ลากรทางการศกึ ษา อนั ไดแ้ ก่ ขา้ ราชการระดบั หวั หนา้ ส�ำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาฯ ในระดบั จังหวัด ผอู้ ำ� นวยการสถานศกึ ษา ขา้ ราชการครู และบคุ ลากร ทางการศกึ ษา สังกัดส�ำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาระดบั มัธยมฯ บางราย ทม่ี ีความรว่ มมือและเชอื่ มโยงกัน อย่างเป็นระบบกับนักธุรกิจในเครือข่าย รวมเรียกว่า “เครือข่ายกลุ่มอิทธิพลซ่ึงน�ำไปสู่การทุจริต คอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ” เครือข่ายกลุ่มอิทธิพลเหล่าน้ีมักใช้อ�ำนาจกระท�ำการในทางท่ีทุจริตหรือ ผดิ กฎหมายอยู่เสมอ ดว้ ยการแสวงหาผลประโยชนใ์ นทางท่มี ิชอบดว้ ยกฎหมายใหก้ บั ตนเอง และพรรคพวก ดังตัวอย่างเชน่ ในปี พ.ศ. 2555 ทมี่ ีการขอแปรญตั ติงบประมาณของบรรดา ส.ส. โดยเฉพาะการอ้างวา่ เพอื่ ใหส้ ำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน (สพฐ.) นำ� ไปดำ� เนนิ การกอ่ สรา้ งปรบั ปรงุ ซอ่ มแซม อาคารเรียน และการก่อสร้างสนามฟุตซอล จนเกิดการทุจริตขนาดใหญ่ในภาคการศึกษาด้วยเงิน งบประมาณจำ� นวนมาก ทั้ง ๆ ท่รี ัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2550 และรฐั ธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2561 ได้บัญญัติ หา้ มมใิ ห้ ส.ส. หรือกรรมาธกิ ารแปรญตั ตริ ่าง พ.ร.บ. งบประมาณโดยมสี ่วนไดส้ ว่ นเสีย ไมว่ ่าโดยทางตรง หรือทางอ้อมในการใช้งบประมาณน้ัน เป็นต้น หากการทุจริตคอร์รัปชันร่วมกันใด ๆ ของเครือข่าย กลมุ่ อทิ ธพิ ลในภาคการศกึ ษานปี้ ระสบความสำ� เรจ็ ขน้ึ นน่ั ยอ่ มหมายถงึ ระบบการศกึ ษาภายในประเทศชาติ ถกู บ่อนทำ� ลายมากขน้ึ เท่าน้นั จากข้อคน้ พบในงานวจิ ยั ดงั กลา่ ว ผูเ้ ขียนจงึ มขี อ้ เสนอแนะมาตรการตา่ ง ๆ เพื่อป้องกนั ปญั หาดงั กลา่ ว ตามลำ� ดบั ดงั น้ี
มาตรการเพือ่ ปอ้ งกนั การรว่ มมือของเครือขา่ ยอิทธิพลในการทจุ ริต 29 อย่างเป็นระบบในเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษาท่ี 24, 25 และ 26 6.1 มาตรการป้องกนั โดยการสรา้ งกลไกและสนบั สนุนเครอื ข่ายภาคประชาสงั คม ภาคประชาสังคม เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันอย่างแข็งขันของประชาชนตามกลุ่มสาขาอาชีพ ตา่ ง ๆ เพอื่ วตั ถปุ ระสงคใ์ นการปกปอ้ งผลประโยชนส์ ว่ นรวมหรอื สาธารณะ อนั เกดิ ขน้ึ จากการดำ� เนนิ งาน ที่ทุจริตคอร์รัปชันของภาครัฐ ภาคการเมือง และการเอารัดเอาเปรียบจากภาคธุรกิจเอกชน ภาคประชาสังคมไดร้ บั การยอมรับมากขึน้ ในสงั คมยคุ หลงั ในการสร้างระบบสังคมใหม้ ี “ดุลยภาพและ มคี วามโปรง่ ใส” มากขนึ้ ดว้ ยการทำ� หนา้ ทต่ี รวจสอบถว่ งดลุ เพอื่ ใหก้ ารดำ� เนนิ งานภาครฐั ภาคการเมอื ง และภาคธรุ กจิ เอกชน มคี วามสจุ รติ และมธี รรมาภบิ าล แตใ่ นสงั คมไทยระเบยี บราชการมกั ไมเ่ ปดิ โอกาส ให้ภาคประชาสังคมหรือภาคประชาชนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันจาก การปฏบิ ตั งิ านของเจา้ หนา้ ทร่ี ฐั ดงั นน้ั มาตรการปอ้ งกนั การทจุ รติ โดยการสรา้ งกลไกและสนบั สนนุ ใหเ้ กดิ เครือข่ายภาคประชาสังคม เพื่อป้องกันความร่วมมือระหว่างเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลซึ่งนำ� ไปสู่การทุจริต คอรร์ ัปชนั อยา่ งเป็นระบบ จงึ มีเหตผุ ลและมคี วามชอบธรรมเพียงพอ ดงั มีข้อเสนอต่อไปน้ี 6.1.1 ควรสนับสนุนให้มีการสร้าง และขยายเครือข่ายความร่วมมือด้านการต่อต้าน การทจุ ริตคอรร์ ปั ชันของประชาชน หรือภาคประชาสงั คม ในเขตพนื้ ท่ีสำ� นกั งานการศึกษาตา่ ง ๆ เทา่ ทีเ่ ป็น ไปไดใ้ นทกุ จงั หวดั โดยกอ่ ตง้ั เปน็ องคก์ ร หรอื “ศนู ยป์ ระสานงานเครอื ขา่ ยภาคประชาสงั คมเพอื่ ปอ้ งกนั การทจุ รติ ในภาคการศกึ ษา” ซงึ่ มวี ตั ถปุ ระสงคแ์ ละภารกจิ ทช่ี ดั เจนในดา้ นการมสี ว่ นรว่ มในการตอ่ ตา้ น และขจัดเครือข่ายความร่วมมือของกลุ่มอิทธิพลซึ่งน�ำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบที่เกิดข้ึน ในภาคการศึกษา และมีการขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันท่ีเกิดข้ึน ในภาคการศกึ ษาใหไ้ ดผ้ ลอย่างเป็นรปู ธรรม เช่น การมีสว่ นรว่ มในการแจ้งเบาะแส ตรวจสอบ สอดสอ่ ง และ ให้ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในภาคการศึกษาแก่ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ส�ำนักงาน ป.ป.ท. ส�ำนักงาน ปอ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ส�ำนกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดิน (สตง.) และกองบังคบั การ ปอ้ งกันปราบปรามการทจุ ริตและประพฤติมชิ อบ (บก.ปปป.) ทั้งในส่วนกลางและภูมภิ าค แตก่ ารที่จะ สร้างกลไกนี้ให้มกี ารทำ� งานทีม่ ปี ระสิทธิภาพไดน้ ั้น ควรมีระเบียบของสำ� นกั งาน ป.ป.ช. ออกมารับรอง การปฏิบตั หิ นา้ ทข่ี องภาคประชาสังคมดังกลา่ ว อนั จะสง่ ผลใหเ้ กดิ กลไกและเครือข่ายภาคประชาสงั คม ทสี่ ามารถดำ� เนนิ กจิ กรรมเพอื่ การขบั เคลอื่ นตอ่ ตา้ นการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ในภาคการศกึ ษาไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ และเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพและยัง่ ยืนมากขึ้น 6.1.2 รัฐต้องให้การสนับสนุนงบประมาณบางส่วนแก่องค์กรภาคประชาสังคม และ สอ่ื มวลชน เพื่อให้กจิ กรรมต่อตา้ นการทุจริตคอรร์ ัปชนั ในภาคการศกึ ษาดำ� เนินไปไดอ้ ยา่ งเขม้ แข็ง และ เพื่อให้สอดคล้องตามท่ีมีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 63 ทบี่ ัญญัติวา่ “รัฐต้องสง่ เสริม สนบั สนุน และให้ความรแู้ กป่ ระชาชน ถงึ อันตรายท่ีเกดิ จากการทจุ ริต และประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน และจัดให้มีมาตรการและกลไกท่ีมีประสิทธิภาพ เพ่ือป้องกันและขจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบดังกล่าวอย่างเข้มงวด รวมทั้งมีกลไกในการ ส่งเสริมให้ประชาชนรวมตัวกันเพื่อมีส่วนร่วมในการรณรงค์ให้ความรู้ ต่อต้าน หรือชี้เบาะแส
30 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562) โดยได้รับความคุ้มครองจากรัฐตามท่ีกฎหมายบัญญัติ” อันเน่ืองจากกิจกรรมติดตาม ตรวจสอบ โครงการทจุ รติ ตา่ ง ๆ ของภาคการศึกษามคี ่าใช้จ่ายสูง ซง่ึ ขอ้ จำ� กดั ในการหาทุนทำ� ให้ภาคประชาสงั คม และสอื่ มวลชนไมส่ ามารถดำ� เนนิ กจิ กรรมตอ่ ตา้ นเครอื ขา่ ยกลมุ่ อทิ ธพิ ล ซง่ึ นำ� ไปสกู่ ารทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ได้ อยา่ งเตม็ รูปแบบ จึงทำ� ได้เพยี งแคก่ ารปลกุ กระแส และปลูกจติ สำ� นึกในการต่อตา้ นการทจุ รติ ฯ เพียงเลก็ น้อย ไม่สามารถกา้ วไปสกู่ ิจกรรมการตรวจสอบในเชิงลกึ ได้ ดังนั้น จึงมีความจำ� เปน็ ทต่ี ้องไดร้ บั การสนับสนุน งบประมาณจากภาครัฐในบางส่วน โดยภาคประชาสังคมที่เข้มแข็งควรประกอบไปด้วยกลุ่มผู้น�ำ และ ประชาชนที่มาจากหลากหลายภาคสว่ นและวชิ าชีพ ดงั ต่อไปนี้ 1) กลมุ่ ผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ทม่ี ปี ระสบการณด์ า้ นการบรหิ ารจดั การองคก์ รในภาคการศกึ ษา 2) กลุ่มผนู้ �ำในระดบั ชุมชน 3) กลมุ่ ประชาชนท่ัวไป 4) กลุม่ สื่อมวลชน 5) กลุ่มนักปราชญ์ชาวบา้ น 6) กลุ่มนกั วชิ าการในมหาวิทยาลัย และนกั วิชาการอิสระ 7) กลมุ่ ครทู ่ีมจี ิตสำ� นึกและอดุ มการณเ์ พือ่ ส่วนรวม 8) กลมุ่ ผู้ปกครองและนกั เรียน 6.1.3 ควรมีการเสนอร่างกฎหมายการคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของ เครือข่ายภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน เพื่อให้สอดคล้องตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 63 คอื “…ไดร้ บั ความคมุ้ ครองจากรฐั ตามทก่ี ฎหมายบญั ญตั .ิ ..” ทั้งนี้เพ่ือเป็นหลักประกันคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเครือข่ายภาคประชาสังคม และเพื่อให้ภาคประชาสังคมเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพ ในการรณรงค์ให้ความรู้ ต่อต้าน เฝ้าระวัง เครอื ข่ายกล่มุ อทิ ธพิ ลซง่ึ น�ำไปสู่การทจุ รติ คอร์รัปชันอย่างเปน็ ระบบของภาคการศกึ ษา และเปน็ องคก์ ร ทีใ่ ห้เบาะแสกบั เจา้ หน้าท่รี ัฐทีม่ อี �ำนาจหน้าทใี่ นการตรวจสอบการทุจรติ ฯ อันได้แก่ เจา้ หนา้ ทสี่ ำ� นกั งาน ป.ป.ช. ป.ป.ท. ปปง. สตง. และ บก.ปปป. อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพต่อไป 6.1.4 จากการศกึ ษาของผูเ้ ขยี นพบข้อเทจ็ จรงิ ว่า สมาคมผูป้ กครอง และสมาคมศษิ ยเ์ กา่ ของบางโรงเรยี น ไม่ใช่องค์กรทีเ่ ข้ามาชว่ ยดแู ลกจิ การของโรงเรยี น หรอื ท�ำหนา้ ทีต่ รวจสอบการบรหิ ารงาน ของผู้บริหารสถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ หากแต่เป็นองค์กรท่ีเข้ามารองรับอ�ำนาจของผู้บริหาร สถานศกึ ษา ดังน้ัน จึงควรสง่ เสริมใหภ้ าคประชาสงั คม ชุมชน สอ่ื มวลชน หรือภาคประชาชนท่เี ขม้ แขง็ ไดเ้ ขา้ มามบี ทบาทและเขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการแตง่ ตงั้ กลมุ่ สมาคมผปู้ กครอง และสมาคมศษิ ยเ์ กา่ และควร เขา้ มามบี ทบาทในการตรวจสอบการบรหิ ารงานภายในสถานศกึ ษา ในดา้ นการจดั ซอ้ื จดั จา้ ง การกอ่ สรา้ ง การบริหารงานบคุ คล และการรบั นักเรียนเข้าสถานศกึ ษา และในด้านอน่ื ๆ ใหม้ ากขึ้น ขณะเดียวกนั ก็ควรเพ่ิมจ�ำนวนสัดส่วนให้ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการเป็นกรรมการ สถานศกึ ษาในจ�ำนวนท่มี ากขนึ้ เพอ่ื เป็นตวั ถ่วงดุล ปอ้ งกัน และตรวจสอบการทจุ ริตคอร์รัปชันทอ่ี าจเกดิ ขึน้ ได้ ในสถานศกึ ษา
มาตรการเพื่อป้องกันการร่วมมอื ของเครือข่ายอทิ ธพิ ลในการทุจริต 31 อย่างเปน็ ระบบในเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษาท่ี 24, 25 และ 26 6.1.5 ควรเพ่ิมบทบาทภาคประชาสังคมและส่ือมวลชน ในการเข้ามามีส่วนร่วม ตรวจสอบตามบทบัญญตั ขิ องกฎหมายที่ก�ำหนดไว้ให้มากขนึ้ เช่น ตามพระราชบัญญตั กิ ารจัดซ้ือจดั จา้ ง และการบริหารพัสดภุ าครฐั พ.ศ. 2560 หมวด 2 เรอ่ื งการมสี ่วนรว่ มของภาคประชาชนและผู้ประกอบการ ในการป้องกันการทุจริต ในมาตรา 16 ท่ีบัญญัติว่า “เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ภาครัฐ ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการสังเกตการณ์ข้ันตอนหน่ึงข้ันตอนใด ของการจดั ซือ้ จดั จ้างของหนว่ ยงานของรฐั ตามท่ีกำ� หนดไวใ้ นหมวดนี”้ จะเหน็ ไดว้ า่ ตามมาตรา 16 น้ี ก�ำหนดให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการสังเกตการณ์เพียงข้ันตอนหนึ่งขั้นตอนใดเท่านั้น ซ่ึงถ้าหาก ใหม้ กี ารขจดั เครอื ขา่ ยกลมุ่ อทิ ธพิ ลทน่ี ำ� ไปสกู่ ารทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อยา่ งเปน็ ระบบในภาคการศกึ ษาไดจ้ รงิ ควรก�ำหนดให้ภาคประชาชนหรือภาคประชาสังคมได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วมในการสังเกตการณ์ ทุกข้ันตอนของการจัดซ้ือจัดจ้างอย่างเข้มข้นได้ด้วย อันจะท�ำให้มีกลไกในการขจัดเครือข่าย กลุม่ อทิ ธิพลท่ีนำ� ไปสกู่ ารทจุ รติ คอร์รัปชันอย่างเป็นระบบในภาคการศกึ ษาทม่ี ีประสิทธภิ าพได้ หรอื กรณมี าตรา 17 บัญญัตวิ ่า “ในการด�ำเนนิ การตามมาตรา 16 คณะกรรมการความร่วมมอื ป้องกันการทจุ รติ (ค.ป.ท.) อาจก�ำหนดให้มีการจัดทำ� ขอ้ ตกลงคณุ ธรรม ตามโครงการความรว่ มมอื ปอ้ งกนั การทจุ รติ ในการจดั ซอื้ จดั จา้ งภาครฐั ตามมาตรา 18 กไ็ ด้ ทงั้ นี้ การจดั ซอ้ื จดั จา้ งทตี่ อ้ งจดั ทำ� ขอ้ ตกลงคณุ ธรรมดงั กลา่ ว ใหเ้ ปน็ ไปตามทค่ี ณะกรรมการ ค.ป.ท. ประกาศกำ� หนดในราชกจิ จานเุ บกษา ฯลฯ คณะกรรมการ ค.ป.ท. อาจกำ� หนดวิธีการนอกเหนือจากวรรคหนงึ่ เพอื่ อำ� นวยความสะดวกให้ ภาคประชาชนมสี ว่ นร่วมในการจดั ซ้ือจดั จ้างภาครฐั ก็ได้ ทั้งน้ี ตามทีค่ ณะกรรมการ ค.ป.ท. ประกาศ ก�ำหนดในราชกิจจานเุ บกษา” จะเห็นได้ว่า ในมาตรา 17 มีข้ออ่อนตรงที่มีการก�ำหนดบทบาทการมีส่วนร่วมของ ภาคประชาชนในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันให้อยู่ในวงจ�ำกัด เน่ืองจากกฎหมายบัญญัติว่า “ให้ภาคประชาชนมสี ว่ นรว่ มในการจดั ซ้อื จัดจ้างภาครฐั ก็ได”้ ซ่งึ แทท้ ่จี รงิ หากจะให้ภาคประชาชน หรือภาคประชาสังคมได้มีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน โดยเฉพาะอย่างย่ิงการป้องกัน เครือข่ายกลุ่มอิทธิพลซ่ึงน�ำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบในภาคการศึกษาได้จริง จะต้อง บญั ญตั ิใหภ้ าคประชาชนหรอื ภาคประชาสังคมได้มสี ว่ นร่วมในการตรวจสอบการจัดซอื้ จัดจ้างภาครัฐ ไดอ้ ยา่ งเตม็ ทที่ กุ ขนั้ ตอนดว้ ย เพอ่ื ใหก้ ลไกกระบวนการตรวจสอบโดยภาคประชาสงั คมสามารถทำ� งาน ได้อย่างมปี ระสิทธิผลมากยิ่งข้นึ 6.1.6 ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ควรสนับสนุนให้มีการสร้าง “เครือข่ายครูดีป้องกันการทุจริต คอรร์ ปั ชนั ” โดยควรใหม้ หี นง่ึ เครอื ขา่ ยครดู ี ตอ่ หนง่ึ จงั หวดั ตอ่ หนงึ่ อำ� เภอ และตอ่ หนง่ึ ตำ� บล ตามลำ� ดบั โดยมบี ทบาท ดังนคี้ ือ 1) ผู้น�ำครูดี ควรมีบทบาทในการท�ำงานอย่างมีส่วนร่วมกับเครือข่ายภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน โดยท�ำหน้าที่ส�ำคัญในการต่อสู้กับคดีทุจริตที่เกิดข้ึนในภาคการศึกษา นับต้ังแต่ กระบวนการแจ้งเบาะแส - การช่วยหาพยานข้อเท็จจริง - การส่งข้อร้องเรียนถึงเจ้าหน้าท่ีส�ำนักงาน
32 วารสารวชิ าการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562) ป.ป.ช. ป.ป.ท. ปปง. สตง. และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และในการติดตามคดีในกระบวนการพิจารณาของศาล 2) เปน็ ผนู้ ำ� ในการฝกึ อบรม และพฒั นาใหค้ วามรใู้ หก้ บั บคุ ลากรครทู ง้ั ในระดบั ผบู้ รหิ ารและ สายผูส้ อน ในเรือ่ งเก่ียวกับระเบียบวินัย และการปฏิบัตติ ามหลักจรรยาบรรณวชิ าชพี ครู การประพฤติ ปฏิบัติท่ีชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งความรู้เร่ืองบทลงโทษหากมีการกระท�ำผิด และการปลูกฝังค่านิยม ตามหลกั คณุ ธรรม จริยธรรม เปน็ ต้น 6.2 มาตรการปอ้ งกนั ดา้ นกฎหมาย/ระเบียบต่าง ๆ 6.2.1 ตามประกาศส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เร่ือง ก�ำหนดต�ำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซ่ึงจะต้องยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหน้ีสินตาม พระราชบญั ญตั ิประกอบรฐั ธรรมนูญวา่ ด้วยการปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ พ.ศ. 2542 มาตรา 40 ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 ที่บัญญัติให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีอ�ำนาจ ก�ำหนดต�ำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งจะต้องย่ืนบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหน้ีสินเพ่ิมเติมจาก มาตรา 39 ได้โดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษานน้ั ผเู้ ขียนมีขอ้ เสนอวา่ (1) ควรให้มกี ารกำ� หนดตำ� แหนง่ เจ้าหนา้ ท่ีรฐั และบุคลากรทางการศึกษา ทจ่ี ะตอ้ งยื่น บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหน้ีสินของตนรวมถึงคู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ล่วงหน้า ก่อนเข้ารับต�ำแหน่งเพิ่มเติม คือ 1) ต�ำแหน่งผู้อ�ำนวยการส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และ รองผ้อู �ำนวยการส�ำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษา และหวั หนา้ ฝ่าย/กลมุ่ งานตา่ ง ๆ (2) ตำ� แหนง่ ผอู้ ำ� นวยการโรงเรยี น และรองผอู้ ำ� นวยการโรงเรยี น รวมถงึ เมอ่ื มกี ารโอนยา้ ย ต้องให้มีการแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินทุกคร้ังก่อนเข้ารับต�ำแหน่งใหม่ เพื่อลดช่องว่าง ในการทุจรติ ของบุคลากรทางการศกึ ษาระดับบรหิ ารเหลา่ นี้ (3) การก�ำหนดให้มีการแจ้งบัญชีรายการทรัพย์สินอย่างเดียวยังไม่เพียงพอ แต่ต้อง ก�ำหนดไว้ด้วยว่า ทรัพย์สินนั้นได้มาโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และได้เสียภาษีในแต่ละปีจ�ำนวน เท่าใด และหากมีการตรวจสอบพบว่ามีการหนีหรือหลบเล่ียงการเสียภาษี ให้มีโทษหนัก คือ จ�ำคุก ไมต่ ่ำ� กวา่ 20 ปี และทรพั ยส์ ินใดทไ่ี มส่ ามารถอธบิ ายท่ีมาได้ ใหร้ ิบเปน็ ของแผน่ ดินทั้งหมด (4) ผู้เขียนยังมีความเห็นเพิ่มเติมว่า มาตรการที่จะช่วยลดการทุจริตคอร์รัปชันได้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพทงั้ ในภาคการศึกษา รวมถึงภาครัฐสว่ นอนื่ ๆ คอื การกำ� หนดให้ขา้ ราชการทกุ ระดบั และ ทุกต�ำแหน่ง เมื่อเร่ิมเข้ารับราชการต้องมีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินทุกคน เพื่อแสดง ความบรสิ ทุ ธใิ์ จในการไดม้ าซงึ่ ทรพั ยส์ นิ และยงั เปน็ ประโยชนใ์ นการตรวจสอบถงึ ความรำ�่ รวยผดิ ปกตใิ นอนาคต ได้ง่ายอกี ดว้ ย 6.2.2 รฐั บาลควรจัดท�ำร่างกฎหมายคุ้มครองความปลอดภัยในชวี ติ และทรพั ย์สิน สำ� หรบั เจ้าหน้าที่ของรัฐท่ีให้ข้อมูล หรือเบาะแสเกี่ยวกับการใช้อ�ำนาจโดยมิชอบ หรือพฤติการณ์ทุจริตของ
มาตรการเพอ่ื ป้องกันการรว่ มมือของเครือข่ายอทิ ธิพลในการทจุ รติ 33 อย่างเป็นระบบในเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศึกษาที่ 24, 25 และ 26 เจา้ หนา้ ทร่ี ัฐดว้ ยกนั เองภายในองคก์ ร ทงั้ ผทู้ ร่ี ะบตุ วั ตนและไมร่ ะบตุ ัวตนดว้ ย ดงั ตวั อย่างในบางประเทศ เชน่ ประเทศสหรัฐอเมรกิ า ไดม้ ีกฎหมายทเี่ รยี กว่า Whistle blower’Act (กฎหมายท่เี ปดิ เผยการทุจรติ คอร์รัปชันของผู้มีอ�ำนาจเหนือกว่าในองค์กร) รวมถึงควรมีการจัดท�ำประมวลจริยธรรม (code of conducts) ใหแ้ ก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทกุ องค์กร และทกุ หน่วย/กรม/กอง/แผนก/ ในกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 6.2.3 กำ� หนดโทษและบทลงโทษ สำ� หรบั ผกู้ ระทำ� การทจุ ริตคอรร์ ัปชนั ทเ่ี ปน็ เจ้าหนา้ ที่รฐั หรือบุคลากรทางการศึกษาให้รุนแรงมากข้ึน เพราะครูต้องเป็นตัวอย่างที่ดี เพ่ือเป็นการก�ำราบให้เกิด ความเกรงกลัวต่อกฎหมาย และมิให้มีการกระท�ำผิดอีก และในการด�ำเนินคดีท่ีเกี่ยวข้องกับการทุจริต คอรร์ ปั ชนั ต้องไมม่ อี ายุความสน้ิ สุด 6.2.4 กำ� หนดบทลงโทษของนักธุรกิจ หรอื ผูร้ บั เหมากอ่ สร้างท่ีทจุ รติ ตามพระราชบัญญตั ิ การประกอบอาชพี งานกอ่ สร้าง พ.ศ. 2522 ให้หนกั ขนึ้ เช่น มาตราที่ 38 “ผ้ใู ดรบั หรือประกอบการ ก่อสรา้ งโดยไมจ่ ดทะเบยี นเปน็ ผรู้ ับงานกอ่ สร้างควบคุม ตามมาตรา 26 ต้องระวางโทษปรบั ไมเ่ กนิ 5 แสนบาท และให้ศาลสั่งระงับงานก่อสร้างน้ัน” ควรแก้ไขให้มีบทระวางโทษเพ่ิมมากขึ้นเป็น “ปรบั ขนั้ ตำ่� 2,000,000 บาท และใหศ้ าลสง่ั ระงบั งานกอ่ สรา้ งนนั้ ” เพอ่ื ใหผ้ รู้ บั เหมากอ่ สรา้ งเกดิ ความ เกรงกลวั ระมัดระวังในการกระท�ำความผดิ 6.2.5 ก�ำหนดบทลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเก่ียวกับการเสนอราคาต่อ หน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 ให้หนักขึ้น ทั้งน้ี เพ่ือให้ผู้กระทำ� ผิดมีความเกรงกลัวต่อกฎหมาย เช่น มาตรา 4 บัญญัติว่า “ผู้ใดตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพ่ือวัตถุประสงค์ท่ีจะให้ประโยชน์แก่ผู้ใด ผหู้ นงึ่ เปน็ ผมู้ สี ทิ ธทิ ำ� สญั ญากบั หนว่ ยงานของรฐั โดยหลกี เลยี่ งการแขง่ ขนั ราคาอยา่ งเปน็ ธรรม หรอื โดยการกีดกันมิให้มีการเสนอสินค้าหรือบริการอื่นต่อหน่วยงานของรัฐ หรือโดยการเอาเปรียบแก่ หน่วยงานของรัฐอันมิใช่เป็นไปในทางการประกอบธุรกิจปกติ ต้องระวางโทษจ�ำคุกต้ังแต่หนึ่งปีถึง สามปี และปรับร้อยละห้าสิบของจ�ำนวนเงินที่มีการเสนอราคาสูงสุดในระหว่างผู้ร่วมกระท�ำ ความผดิ นนั้ หรอื ของจำ� นวนเงนิ ทมี่ กี ารทำ� สญั ญากบั หนว่ ยงานของรฐั แลว้ แตจ่ ำ� นวนใดจะสงู กวา่ ” ควรปรบั แกเ้ ปน็ “ตอ้ งระวางโทษจำ� คกุ ตงั้ แตส่ บิ ปถี งึ สบิ หา้ ปี และปรบั รอ้ ยละแปดสบิ ของจำ� นวนเงนิ ท่ีมีการเสนอราคาสูงสุดในระหว่างผู้ร่วมกระท�ำความผิดน้ัน หรือของจำ� นวนเงินท่ีมีการท�ำสัญญา กบั หนว่ ยงานของรฐั แลว้ แตจ่ ำ� นวนใดจะสงู กวา่ รวมถงึ ใหม้ กี ารตดั สทิ ธผิ นู้ น้ั ตลอดไปในการเขา้ รว่ ม เสนอราคาอีกด้วย” ทั้งนี้ เพือ่ ให้ผู้กระทำ� ผดิ เกดิ ความเกรงกลวั ไม่กล้ากระทำ� ผดิ อกี ต่อไป 6.2.6 ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายการศึกษา โดยเฉพาะอย่างย่ิงกฎหมายเกี่ยวข้องกับ การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา อันได้แก่ พ.ร.บ. ระเบยี บขา้ ราชการครู และบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 (และทแี่ กไ้ ขเพมิ่ เตมิ ) โดยก�ำหนดให้มี “คณะกรรมการพิทกั ษ์ ระบบคณุ ธรรม” (ก.พ.ค.) ขน้ึ มาทำ� หนา้ ทส่ี ำ� หรบั พทิ กั ษร์ ะบบคณุ ธรรมในกระบวนการบรหิ ารงานบคุ คล ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งท�ำหน้าท่ีคล้ายกับอ�ำนาจหน้าที่ของส�ำนักงาน
34 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบบั ที่ 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2562) คณะกรรมการการเลอื กต้งั (กกต.) และสำ� นักงาน ป.ป.ช. รวมกนั กลา่ วคอื ท�ำหน้าท่ีในการเลอื กตัง้ และ กลั่นกรองบุคคลที่จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษาทุกระดับ (ท�ำหน้าท่ีคล้าย กกต.) ขณะเดียวกันก็มีอ�ำนาจหน้าท่ีในการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชัน หลงั จากขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาทกุ ระดบั เขา้ สตู่ ำ� แหนง่ แลว้ (ทำ� หนา้ ทค่ี ลา้ ยกบั ป.ป.ช.)22 6.3 มาตรการด้านการก�ำหนดนโยบายทางการศึกษา 6.3.1 ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ควรก�ำหนดนโยบายให้มี มาตรการและกลไกในการตรวจสอบภายในในเร่ืองการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในเรื่อง การกอ่ สร้างและการปรับปรงุ ซอ่ มแซมอาคารเรียน และการจดั ซือ้ หนังสือทางวิชาการ ต�ำรา แบบเรยี น ส่ือส่ิงพิมพ์ วัสดุอุปกรณ์ และครุภัณฑ์เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาอื่น ๆ ท้ังนี้ เพื่อลดช่องว่างการทุจริต คอร์รัปชันของเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ เช่น กลุ่มนักการเมือง ที่ร่วมมือกับ ข้าราชการระดับสูง และเครือข่ายนักธุรกิจท่ีท�ำการทุจริตในเร่ืองการก่อสร้าง หรือกลุ่มนักการเมือง บางรายทีเ่ ปิดบริษทั ผลติ และจ�ำหน่ายต�ำราแบบเรียน ส่อื สง่ิ พมิ พ์ วสั ดุอุปกรณท์ างการศึกษา ฯลฯ และ ข้าราชการระดับสูงในสังกัดส�ำนักงาน สพฐ. ที่เกี่ยวข้อง ซ่ึงได้ผลประโยชน์เป็นเปอร์เซ็นต์จากราคา สว่ นตา่ งของการจดั ซอื้ จดั จา้ งหนงั สอื ทางวชิ าการ ตำ� รา แบบเรยี น สอื่ สง่ิ พมิ พ์ วสั ดอุ ปุ กรณท์ างการศกึ ษา ขณะเดียวกันก็ควรมีมาตรการ และกลไกในการตรวจสอบบริษัทห้างร้านในเครือข่ายของกลุ่มอิทธิพล ทางการศึกษาท่ีชนะการประมูล แต่ผลิตและจ�ำหน่ายหนังสือ แบบเรียน และต�ำราด้อยคุณภาพให้กับ สถานศกึ ษา 6.3.2 จากการที่ สพฐ. ได้เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนเข้ามีส่วนร่วมเป็นคณะกรรมการ ในการก�ำหนดแนวทางการจัดซ้ือหนังสือเรียนและแบบฝึกหัดนั้น ควรมีการเพิ่มสัดส่วนจ�ำนวน ภาคประชาชน ในการเขา้ ไปมบี ทบาทตรวจสอบการทุจรติ ใหม้ ากกวา่ เดิม เชน่ จากเดิมสถานศกึ ษาทมี่ ี นักเรียนไมเ่ กิน 300 คน ก�ำหนดใหม้ ภี าคประชาชนไม่น้อยกวา่ 4 คน และกรณีสถานศึกษาท่มี ีนักเรียน ตงั้ แต่ 301 คนข้นึ ไป ก�ำหนดใหม้ ภี าคประชาชนไมน่ อ้ ยกวา่ 8 คน ข้อเสนอ คือ ควรมกี ารเพ่ิมจำ� นวน ภาคประชาชนมากกวา่ เดมิ ขนึ้ อกี 1 เทา่ ตามเกณฑจ์ ำ� นวนนกั เรยี นในแตล่ ะสถานศกึ ษา เพอื่ ใหเ้ ปน็ กลไก ในการตรวจสอบทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพมากยงิ่ ขนึ้ ในเรอื่ งการจดั ซอื้ หนงั สอื ตำ� รา แบบเรยี น ครภุ ณั ฑแ์ ละวสั ดุ การเรียนการสอน อันจะเกิดประโยชน์สงู สดุ ตอ่ สถานศึกษาได้ 6.3.3 กระทรวงศึกษาธิการควรก�ำหนดเป็นนโยบายให้ผู้บริหารสถานศึกษาจัดให้มี การประชมุ เพื่อระดมความคิดเหน็ เกี่ยวกบั นโยบายการจัดซื้อหนังสอื ต�ำรา สอื่ การเรยี นการสอน และวสั ดุ อปุ กรณท์ างการศกึ ษา รว่ มกบั กลมุ่ ครผู สู้ อนตามสาระการเรยี นรแู้ ละนกั เรยี น เพอ่ื ใหต้ รงตามความตอ้ งการ และเพยี งพอต่อจ�ำนวนนักเรยี น และควรมกี ระบวนการประชมุ ช้แี จงให้ผปู้ กครองและภาคประชาสังคม ไดร้ ับทราบเกี่ยวกบั นโยบายการจดั ซอื้ หนังสือ ตำ� รา วสั ดแุ ละอุปกรณก์ ารเรยี นการสอนอย่างมีสว่ นรว่ ม 22 เพ่มิ หลวงแกว้ . (2561). “กฎหมายคมุ้ ครองจริยธรรมในกระบวนการบรหิ ารงานบุคคลของข้าราชการครู.” วารสารวิชาการธรรมทัศน.์ 18,3 หน้า 351 – 362.
มาตรการเพือ่ ป้องกนั การร่วมมอื ของเครือขา่ ยอิทธพิ ลในการทจุ ริต 35 อย่างเปน็ ระบบในเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาท่ี 24, 25 และ 26 อกี ทง้ั ตอ้ งจดั ใหม้ กี ารตรวจสอบกระบวนการจดั ซอ้ื จดั จา้ ง การสง่ มอบหนงั สอื ตำ� รา จากบรษิ ทั /หา้ งรา้ น และใหม้ กี ารตรวจสอบคณุ ภาพของวสั ดุ อปุ กรณ์ และสอ่ื การเรยี นการสอน รวมถงึ หนงั สอื อยา่ งละเอยี ด ทุกขั้นตอนโดยกลไกภาคประชาสังคม หรือชุมชน ท้ังนี้ เพื่อป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันท่ีจะ เกิดขนึ้ ในสถานศกึ ษา 6.3.4 การประเมินการเล่อื นวทิ ยฐานะ ควรมกี ารปรบั เกณฑ์การประเมินใหม่ โดยไมต่ ้อง ผูกตดิ กับเอกสารการประเมนิ แต่ใหผ้ กู ตดิ กับผลงานของครู และควรใหค้ ่าคะแนนการประเมนิ ด้านผลงาน เชงิ ประจกั ษ์ เชน่ ผลสมั ฤทธด์ิ า้ นการสอนของครทู เี่ กดิ ขน้ึ กบั นกั เรยี น หรอื ผลสมั ฤทธก์ิ ารสอนในชน้ั เรยี น หรือการประกวดผลงานทางวิชาการ ฯลฯ มากกว่าการให้เขียนผลงานวิจัย เน่ืองจากโดยท่ัวไป ครูไมม่ คี วามถนัด และไม่มคี วามเช่ียวชาญดา้ นการวจิ ยั แนวทางการประเมินเช่นน้ียงั ช่วยป้องกันการทจุ ริต จากการจา้ งทำ� ผลงานทางวชิ าการของครผู ถู้ กู ประเมนิ รวมถงึ การเรยี ก หรอื รบั สนิ บนจากกลมุ่ ผมู้ อี ทิ ธพิ ล ในภาคการศึกษา ขณะเดียวกันก็ไม่จ�ำเป็นต้องจ้างผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกมาประเมิน เพราะเป็น ช่องทางหน่ึงที่ท�ำให้เกิดเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลซ่ึงน�ำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบในภาคการศึกษาได้ เช่น การเรยี ก หรอื รบั เงนิ ค่าอนมุ ตั ิการอา่ นผลงาน ฯลฯ แต่การประเมินโดยอาศยั ผลงานเชงิ ประจักษ์ ที่เกิดขึ้นกับนักเรียน สามารถหากรรมการประเมินได้จากหลายแหล่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถหา กรรมการประเมนิ ท่อี ยใู่ นชมุ ชน หรือบรเิ วณใกล้เคียงกับโรงเรียนได้ และยงั เปน็ การส่งเสริมให้มกี ารตรวจสอบ กนั เองภายในชุมชนได้อีกด้วย 6.3.5 กระทรวงศกึ ษาธกิ ารควรมนี โยบายยกเลกิ การแตง่ ตง้ั ขา้ ราชการระดบั สงู เพอ่ื เขา้ ไป ด�ำรงต�ำแหน่งเป็นกรรมการสถานศึกษา หรือเป็นที่ปรึกษาของสถานศึกษา โดยเฉพาะบุคคลท่ีมาจาก ขา้ ราชการหรอื เจ้าหน้าท่ีรฐั ซึ่งมีตำ� แหนง่ ระดบั สงู ในกระทรวงศกึ ษาธิการ เช่น ปลัดกระทรวง รองปลดั กระทรวง รองเลขาธิการส�ำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน (สพฐ.) อธิบดกี รม รองอธิบดฯี เนื่องจากบคุ คลเหล่าน้ีบางราย คือ “ผูม้ อี ทิ ธิพลตวั จรงิ ” ในวงการการศึกษา และบางรายยงั เปน็ ผอู้ ยูเ่ บื้องหลงั ของการทุจริตคอร์รัปชัน ในการเรียก หรือรับเงินจากการฝากเด็กนักเรียนเข้าสถานศึกษา และรวมถึง การทุจริตคอรร์ ปั ชนั ประเภทอื่น ๆ อีกด้วย 6.3.6 ควรมีการเปิดช่องทาง “สายด่วน” ถึงสำ� นกั งาน ป.ป.ช. โดยให้นกั เรยี นสามารถ โทรมารอ้ งเรยี นได้ แตท่ งั้ นต้ี อ้ งมหี ลกั ฐานขอ้ เทจ็ จรงิ มากเพยี งพอ และตอ้ งทำ� ใหม้ นั่ ใจไดว้ า่ ผโู้ ทรมารอ้ งเรยี น จะได้รับการคุ้มครองเพ่ือความปลอดภัยเป็นพิเศษ และเมื่อได้รับข้อร้องเรียนแล้ว ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ต้องไม่เพิกเฉยแต่ต้องเร่งรีบส่งเจ้าหน้าท่ีมาตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที โดยมีก�ำหนดเวลาที่ชัดเจน เชน่ ภายในเวลา 7 วนั หลงั รบั เรอื่ งรอ้ งเรยี นแลว้ และจะตอ้ งมกี ารตงั้ คณะกรรมการสอบสวนใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในระยะเวลาไมเ่ กนิ 30 วัน 6.3.7 ไม่ควรให้มีการขยายจ�ำนวนการรับนักเรียนแต่ละห้องท่ีมากไปกว่าตามเกณฑ์ ท่ีก�ำหนดไว้ เพราะการขยายจ�ำนวนนักเรียนแต่ละห้องเพ่ิมเติม คือ ช่องทางของการทุจริตคอร์รัปชัน จากการเรยี ก หรอื รบั เงนิ เขา้ สถานศกึ ษา และเปน็ ทมี่ าของรายไดโ้ ดยมชิ อบของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาและ เครอื ขา่ ยกลุม่ อทิ ธิพลในภาคการศึกษา
36 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบบั ที่ 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562) 6.3.8 สถานศกึ ษาทกุ แห่งควรมกี ารเปิดเผยข้อมลู ขา่ วสารใหส้ าธารณะ ส่ือมวลชน และ ชมุ ชนได้รับรู้ โดยเฉพาะในเร่ืองท่เี กยี่ วขอ้ งกับงบประมาณท่ไี ดร้ บั การจดั สรรในแต่ละปี ทั้งงบประมาณ จากสว่ นกลาง และเงินอดุ หนุนประเภทตา่ ง ๆ รวมถึงโครงการก่อสรา้ ง การจดั ซื้อจัดจา้ ง หนงั สือ ต�ำรา วสั ดุ ครุภณั ฑท์ างการศึกษา ระบบการบริหารงานบคุ คล และการรับสมคั รบุคลากรเข้าท�ำงาน เปน็ ต้น 6.3.9 กระทรวงศึกษาธิการควรร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ เช่น สถาบันพระปกเกล้า เพอื่ เรง่ สรา้ งจติ สำ� นกึ ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรมใหก้ บั บคุ ลากรทางการศกึ ษาทกุ ระดบั อยา่ งตอ่ เนอื่ ง เพอื่ ให้ บุคลากรเหล่าน้ีตระหนักและให้ความส�ำคัญกับการรักษาผลประโยชน์ของทางราชการและของประเทศชาติ และรักษาผลประโยชน์ตามสิทธิท่ีตนพึงมี เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบจากผู้บังคับบัญชา ขณะเดียวกันควรปลูกจิตส�ำนึกท่ีดีให้แก่เยาวชนรุ่นใหม่ ตลอดจนเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมด้าน ความซอื่ สตั ย์สุจริต เรื่อง “โตไปไมโ่ กง” เพื่อให้เยาวชนคนร่นุ ใหมเ่ ป็นแนวรว่ มในการรณรงค์ เฝ้าระวัง ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันท่ีเกิดข้ึนในสถานศึกษา และติดตามตรวจสอบการท�ำงานของบุคลากร ทางการศึกษาอย่างต่อเนือ่ ง 6.4 มาตรการดา้ นการบรหิ ารระบบงบประมาณ และระเบียบการจัดซ้ือจดั จา้ ง 6.4.1 กฎหมาย และระเบียบเกี่ยวกับงบประมาณ ตามพระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้าง และการบริหารพสั ดภุ าครัฐ พ.ศ. 2560 หมวด 12 กำ� หนดไว้วา่ “ผใู้ ดเปน็ เจ้าหนา้ ที่ หรอื ผู้มอี ำ� นาจ หนา้ ทใ่ี นการดำ� เนนิ การจดั ซอื้ จดั จา้ ง หรอื การบรหิ ารงานพสั ดตุ ามพระราชบญั ญตั นิ โ้ี ดยมชิ อบ ทำ� ให้ เกิดความเสียหายแก่ผหู้ นง่ึ ผู้ใดหรอื ปฏิบตั ิหรอื ละเวน้ การปฏบิ ตั ิ มีโทษตามกฎหมาย คือ โทษจ�ำคุก 1 - 10 ปี ปรับ 20,000 - 200,000 บาท ผู้เขียนวิเคราะห์ว่า ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 เป็นการลงโทษเจ้าหนา้ ท่ีรฐั ทม่ี อี ำ� นาจหนา้ ที่ในการจดั ซ้ือจัดจา้ ง หรือบรหิ ารงานพสั ดุทีก่ ระทำ� ผดิ ในสถานเบาเกนิ ไป เมื่อประเมินจากความเสียหายของงบประมาณแผ่นดนิ จำ� นวนมาก ดังนนั้ จึงควรมี กฎหมายท่ีมีบทลงโทษเจ้าหน้าท่ีรัฐให้หนักข้ึน กล่าวคือ ส�ำหรับผู้กระท�ำความผิดควรระบุโทษจ�ำคุก ขั้นต�่ำต้ังแต่ 10 - 15 ปี และปรับข้ันต�่ำต้ังแต่ 500,000 - 1,000,000 บาท หรือทั้งจ�ำท้ังปรับ ในกรณีผู้ใดเป็นผู้ใช้หรือสนับสนุนในการกระท�ำความผิด ผู้น้ันต้องระวางโทษตามที่กฎหมายก�ำหนด ทง้ั นเี้ พื่อปอ้ งกันความรว่ มมือของเครอื ข่ายกลมุ่ อิทธิพล อันประกอบด้วย เจา้ หน้าทีร่ ัฐที่เปน็ ขา้ ราชการ นกั การเมอื ง และนกั ธุรกจิ อนั อาจจะนำ� ไปส่กู ารทจุ ริตคอร์รัปชันได้ 6.4.2 ควรใหอ้ งคก์ รภาคประชาสงั คมและกลุ่มผมู้ ีสว่ นไดเ้ สยี อนั ได้แก่ ชุมชน สอ่ื มวลชน สมาคมครู สมาคมผปู้ กครอง และตวั แทนนกั เรยี น ไดเ้ ขา้ มาชว่ ยตรวจสอบการทำ� งานในขนั้ ตอนการตกลง ราคาซื้อขาย การจ้างเหมา ระหวา่ งผู้บรหิ ารสถานศกึ ษาและบริษัทก่อสรา้ ง ท้งั นี้ เพ่ือปอ้ งกนั ความร่วมมือ ของเครือข่ายกลุ่มอิทธิพล อันประกอบด้วย เจ้าหน้าท่ีรัฐท่ีเป็นข้าราชการ นักการเมือง และนักธุรกิจ อันอาจจะน�ำไปส่กู ารทุจรติ คอรร์ ัปชันได้ 6.4.3 ให้มีกระบวนการสรรหาคณะกรรมการตรวจจ้างงานท่ีเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความเชยี่ วชาญในเรอ่ื งงานการกอ่ สรา้ ง หรอื ผคู้ มุ งานกอ่ สรา้ งทม่ี คี วามเชยี่ วชาญทางดา้ นเทคนคิ ทง้ั จาก
มาตรการเพ่อื ป้องกันการรว่ มมือของเครือขา่ ยอทิ ธิพลในการทจุ รติ 37 อยา่ งเปน็ ระบบในเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษาท่ี 24, 25 และ 26 ภาควชิ าการและภาคส่วนอน่ื ๆ มาเปน็ คณะกรรมการตรวจจ้างงานร่วมกบั นกั วชิ าการพสั ดุ โดยเฉพาะ อยา่ งย่งิ ควรมาจากภาควชิ าการในหลายมหาวทิ ยาลัย และผ้เู ชีย่ วชาญจากสมาคมวศิ วกรรมสถาน ทัง้ นี้ เพ่ือป้องกันความร่วมมือของเครือข่ายกลุ่มอิทธิพล ซึ่งอาจเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจาก การก่อสร้าง 6.4.4 เพือ่ ปอ้ งกันการที่นักการเมอื งเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากนโยบายของตน เชน่ การร่วมมือกับเครือข่ายผู้รับเหมาก่อสร้างในการประมูลงาน และการเรียกรับสินบนจากงบประมาณ โครงการกอ่ สรา้ งในสถานศกึ ษา จงึ ควรมกี ารพฒั นาใหค้ วามรแู้ กบ่ คุ ลากรทางการศกึ ษาทเ่ี ปน็ ขา้ ราชการ ประจ�ำ นับตั้งแตฝ่ ่ายบริหารการศกึ ษา ผู้บรหิ ารสถานศึกษา และครูอาจารย์ เพ่อื ให้ทราบถึงกลโกงของ กระบวนการทุจริตระบบงบประมาณแผ่นดิน และการบริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล รวมถึง การให้ภาคประชาสงั คมและสื่อมวลชนไดม้ บี ทบาทในการตรวจสอบการดำ� เนินงานตามนโยบายของรัฐ ทุกข้ันตอน เพ่ือป้องกันการทุจริตท่ีอาจจะเกิดขึ้นได้ อีกทั้งควรสร้างให้ภาคประชาสังคมเป็นเครือข่าย พนั ธมิตรร่วมกับหนว่ ยงานอิสระของรัฐ อันได้แก่ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ป.ป.ท. และ สตง. เพอ่ื เฝ้าระวังและ เปน็ กลไกสำ� คญั ในการรายงานการดำ� เนนิ งานของรฐั เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความความโปรง่ ใส และเกดิ ประสทิ ธภิ าพ สูงสดุ ในการต่อต้านการทุจรติ คอร์รัปชัน 6.5 มาตรการดา้ นการบรหิ ารงานบคุ คล 6.5.1 ใหม้ กี ารกำ� หนดคณุ สมบตั เิ บอ้ื งตน้ ของคณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั (กศจ.) วา่ ตอ้ งไมเ่ คยเปน็ บคุ คลทมี่ ปี ระวตั ดิ า่ งพรอ้ ย หรอื มขี อ้ กลา่ วหาเรอื่ งการทจุ รติ หรอื ประพฤตมิ ชิ อบ และตอ้ ง เป็นบุคคลที่มีประวัติการท�ำงานด้านความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรมและจริยธรรมจนเป็นท่ียอมรับ ในวงการศึกษา ** ท่มี าของคณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั (กศจ.) ต้องถูกสรรหาคดั เลอื กอยา่ งโปรง่ ใส มากทส่ี ดุ โดยตอ้ งมคี ณุ สมบตั ทิ คี่ รบถว้ น กลา่ วคอื ตอ้ งเปน็ ผทู้ รงคณุ วฒุ แิ ละมปี ระสบการณใ์ นงานบรหิ าร การศึกษา รวมถึงต้องมีการตรวจสอบประวัติการท�ำงาน ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน และต้องมีตัวชี้วัด ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ความซอื่ สตั ยส์ จุ รติ เปน็ ดา้ นหลัก อีกท้งั ตอ้ งใหม้ ีกลมุ่ ผนู้ �ำองค์กรครู และกลุม่ ภาคประชาสงั คม เขา้ ไปมสี ่วนร่วมในการตรวจสอบการท�ำงานของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวดั (กศจ.) ดงั กลา่ ว หากพบเบาะแสการทจุ รติ หรอื บรหิ ารงานทไ่ี มโ่ ปรง่ ใส ใหส้ ามารถดำ� เนนิ การฟอ้ งรอ้ งเพอื่ ตรวจสอบ ข้อเท็จจริงทันที และมีสิทธิย่ืนข้อเสนอเพ่ือถอดถอนออกจากต�ำแหน่งดังกล่าว ตามหลักความมี คุณธรรม จริยธรรม และกระบวนการทางกฎหมาย 6.5.2 ที่มาของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ต้องมีสัดส่วนตัวแทนของ กลุ่มครู ตัวแทนภาควิชาการจากมหาวิทยาลัย และตัวแทนภาคประชาสังคมไม่น้อยกว่าคร่ึงหน่ึงของ คณะกรรมการทงั้ หมด ทงั้ น้ี เพอ่ื ตอ้ งการลดอทิ ธพิ ลของเครอื ขา่ ยกลมุ่ อทิ ธพิ ลทอ่ี าจนำ� ไปสกู่ ารทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อยา่ งเป็นระบบในภาคการศึกษาได้ 6.5.3 ในโครงสรา้ งของคณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั (กศจ.) หากพบวา่ มคี ณะกรรมการ คนใดมีเบาะแสเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบ หรือบริหารงานขาดความโปร่งใส ให้พ้นจากการเป็น
38 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปที ่ี 12 ฉบบั ท่ี 2 (กรกฎาคม – ธนั วาคม 2562) กรรมการไว้ก่อน จนกว่าผลการสืบสวนสอบสวนได้ข้อเท็จจริงเป็นท่ียุติว่าเป็นผู้บริสุทธ์ิ จึงสามารถ กลับมาเข้ารับต�ำแหน่งและปฏิบัติงานได้ดังเดิม แต่ถ้าผลการสอบสวนพบว่า มีความผิดร้ายแรงต้อง ถูกลงโทษอยา่ งเดด็ ขาด ทงั้ ในทางวนิ ัยและทางอาญา 6.5.4 ห้ามมิให้คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ซึ่งเป็นองค์กรที่จัดตั้งข้ึนใหม่ โดยเฉพาะกรรมการที่เป็นตัวแทนมาจากบุคลากรทางการศึกษา เข้าไปเป็นประธานกรรมการฯ หรือ คณะกรรมการด�ำเนนิ งาน หรอื ผ้จู ัดการสหกรณอ์ อมทรัพยค์ รู ทง้ั นี้ เพอ่ื ตดั ชอ่ งทางของการใช้อทิ ธิพล และการร่วมมือกันทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ ในระบบการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ และ ยังเป็นการตัดช่องทางของการทุจริตด้วยการใช้อ�ำนาจและต�ำแหน่งเพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ ด้วยกฎหมายอ่ืน ๆ ของกลุ่มคนเหล่านด้ี ้วย 6.5.5 คดีการทุจริตคอรร์ ปั ชันในกระทรวงศึกษาธกิ าร โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ท่เี ก่ยี วขอ้ งกับ ขา้ ราชการระดบั สงู ไมค่ วรใหม้ กี ารสอบสวนกนั เองภายในหนว่ ยงาน เนอื่ งจากหนว่ ยงานตรวจสอบภายใน ของกระทรวงศึกษาธิการยังไม่เข้มแข็งพอ เพราะยังต้องอยู่ภายใต้การส่ังการและอิทธิพลของผู้บริหาร ระดบั สงู ท�ำใหร้ ะบบการตรวจสอบการทุจรติ คอร์รัปชนั ไม่มีประสิทธภิ าพ และบางครงั้ เมอื่ มีเร่อื งรอ้ งเรยี น กจ็ ะมกี ารชว่ ยเหลอื ในบรรดาขา้ ราชการดว้ ยกนั ทำ� ใหไ้ มไ่ ดค้ วามเปน็ จรงิ จงึ ควรมกี ารแตง่ ตงั้ คณะกรรมการ สอบสวนท่ีมาจากหนว่ ยงานภายนอก หรือท่ีเป็นองค์กรอิสระ เชน่ สำ� นกั งาน ป.ป.ช. สำ� นกั งาน ป.ป.ท. สำ� นักงาน สตง. สำ� นักงาน ปปง. กรมสอบสวนคดพี เิ ศษ บก.ปปป. และภาคประชาสงั คม เขา้ มาร่วมเปน็ กรรมการตรวจสอบด้วย เป็นต้น 6.6 ขอ้ เสนอมาตรการปอ้ งกนั การทุจรติ คอรร์ ัปชันในภาคการศึกษาตอ่ สำ� นกั งาน ป.ป.ช. 6.6.1 ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ควรสร้างเครือข่ายความร่วมมือและบูรณาการการปฏิบัติงาน ระหวา่ งองคก์ รหรอื หนว่ ยงานรฐั ดว้ ยกนั ทมี่ อี ำ� นาจหนา้ ทใ่ี นการตรวจสอบและการปอ้ งกนั การทจุ รติ ของ ภาครฐั อนั ได้แก่ สำ� นกั งาน ป.ป.ท. สำ� นักงาน สตง. ส�ำนกั งาน ปปง. และ บก.ปปป. ฯลฯ เพ่อื ชว่ ยเปน็ กลไกในการเฝา้ ระวงั และแจง้ เบาะแส แบง่ ปนั ขอ้ มลู ขา่ วสารการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ในภาคการศกึ ษาระหวา่ งกนั รวมทั้งควรมีการร่วมมือกันท�ำงานด้านการตรวจสอบ การป้องกันและปราบปรามการทุจริตใน ภาคการศกึ ษาอยา่ งบรู ณาการของทกุ องคก์ ร อนั จะทำ� ใหก้ ารปอ้ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ในภาคการศกึ ษาเปน็ ไปอย่างมีประสิทธิภาพมากย่ิงขึ้น 6.6.2 ควรเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลในการบรหิ ารจดั การคดที จุ รติ ทคี่ า้ งสะสมอยู่ เป็นจ�ำนวนมาก โดยส�ำนักงาน ป.ป.ช. ต้องก�ำหนดแผนปฏิบัติการในการจัดการกับคดีคั่งค้างให้อยู่ ในระดบั ทค่ี วบคมุ ไดภ้ ายใน 2 ปี และสำ� นกั งาน ป.ป.ช. สว่ นกลางควรมหี นา้ ทใ่ี นการกำ� กบั ดแู ลเรอื่ งนโยบาย เป็นหลัก แล้วกระจายอ�ำนาจให้กับส�ำนักงาน ป.ป.ช. ในพ้ืนที่แต่ละจังหวัด ได้มีอ�ำนาจอิสระในการ สืบสวนสอบสวนกันเอง โดยที่ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับส�ำนวนคดี อันจะท�ำใหก้ ารดำ� เนนิ คดเี ปน็ ไปได้อยา่ งรวดเร็ว ไม่คั่งคา้ งอย่เู ป็นจ�ำนวนมาก
มาตรการเพื่อป้องกันการรว่ มมอื ของเครือขา่ ยอทิ ธพิ ลในการทจุ ริต 39 อยา่ งเป็นระบบในเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษาที่ 24, 25 และ 26 6.6.3 ส่งเสรมิ กระบวนการผชู้ ้เี บาะแส และคุ้มครองพยานในการปราบปรามการทุจริต อาทิ ออกมาตรการทเี่ ปน็ รปู ธรรมในการคมุ้ ครองดแู ลความปลอดภยั และรบั ผดิ ชอบคา่ ใชจ้ า่ ย คา่ ยงั ชพี ขนั้ พ้ืนฐานสำ� หรับผู้กล่าวหา ผู้ท�ำค�ำร้อง หรือผชู้ ีเ้ บาะแส หรือพยานในคดีทจุ ริตทกุ คดีอยา่ งเหมาะสม 6.6.4 สำ� นักงาน ป.ป.ช. ทงั้ สว่ นกลางและส่วนภูมิภาค ตอ้ งพฒั นาใหค้ วามรู้ความเข้าใจ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับกระบวนการร้องทุกข์ และการกล่าวโทษถึงข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษาท่ี กระท�ำความผิดฐานทุจริตประพฤติมิชอบต่อหน้าท่ี อีกท้ังต้องมีการคุ้มครองผู้ร้องทุกข์ พยาน และ ผกู้ ลา่ วโทษ เพอื่ ปอ้ งกนั มใิ หถ้ กู ขม่ ขใู่ หเ้ กดิ ความเกรงกลวั หรอื ถกู กลนั่ แกลง้ ใหเ้ กดิ ความเสยี หาย หรอื เปน็ อันตรายตอ่ ชวี ติ ทรพั ยส์ นิ และตำ� แหนง่ หนา้ ทีท่ างราชการ อนั เปน็ ผลมาจากการรอ้ งทกุ ข์ หรือการกล่าวโทษ เร่อื งการทุจริตนนั้ 6.6.5 ขา้ ราชการครสู ายผสู้ อน หรือบุคลากรทางการศึกษาท่เี ป็นผ้เู สียหาย เมื่อรอ้ งทกุ ข์ หรอื กลา่ วโทษเกย่ี วกบั พฤตกิ ารณก์ ารทจุ รติ ของขา้ ราชการครู และบคุ ลากรทางการศกึ ษาหรอื ฝา่ ยบรหิ าร ในระดับตา่ ง ๆ กบั ส�ำนักงาน ป.ป.ช. แล้วน้นั เจ้าหน้าที่ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ตอ้ งท�ำงานเชงิ รกุ โดยตอ้ งรบี รับเร่ือง และไต่สวนข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน อีกท้ังต้องชี้แจงผลการด�ำเนินงานให้ผู้เสียหายน้ันทราบ ภายในระยะเวลาทรี่ วดเร็วเหมาะสมภายใน 1 เดือน 6.6.6 ในคดีท่ีเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน ไม่ควรให้ผู้เสียหายเป็นผู้ฟ้องร้องคดีเอง เนอื่ งจากมกั ถกู กดดนั จากผบู้ รหิ าร และเจา้ หนา้ ทรี่ ฐั ในระดบั ตา่ ง ๆ จนทำ� ใหค้ ดดี งั กลา่ วอาจถกู ไกลเ่ กลย่ี ถกู ระงบั หรอื ถกู ถอดถอนลม้ เลกิ ไปในทสี่ ดุ แตค่ วรมารอ้ งทกุ ขท์ ส่ี ำ� นกั งาน ป.ป.ช. หรอื สำ� นกั งาน ป.ป.ท. หรือ บก.ปปป. แล้วแตก่ รณี เพื่อใหส้ ำ� นกั งาน ป.ป.ช. หรอื สำ� นกั งาน ป.ป.ท. หรือ บก.ปปป. รับเป็น ผดู้ ำ� เนินคดเี สยี เอง แล้วควรให้สำ� นกั งานอยั การเขา้ มาเป็นโจทก์รว่ ม เพ่อื ให้คดสี ามารถดำ� เนินไปไดต้ าม กระบวนการทางกฎหมาย 6.6.7 สำ� นกั งาน ป.ป.ช. ควรเปน็ องคก์ รทเ่ี ขา้ มามบี ทบาทในการใหค้ วามรแู้ กข่ า้ ราชการครู และบคุ ลากรทางการศึกษาทัง้ หลาย เก่ยี วกบั ขนั้ ตอนและกระบวนการดำ� เนินคดที างกฎหมาย ทั้งเร่ือง การฟ้องร้อง การให้ความช่วยเหลือด้วยการจัดหาทนายและอัยการ ท้ังนี้ เพ่ือให้คดีสามารถขึ้นสู่ การพจิ ารณาของศาลได้ และเพือ่ เปน็ การเอาผดิ กับผู้กระท�ำการทจุ ริตประพฤตมิ ิชอบทพี่ ยายามหลบหลกี กระบวนการทางกฎหมายไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพมากย่ิงข้นึ 6.6.8 ต�ำแหน่งคณะกรรมการ ป.ป.จ. ประจ�ำจังหวัด ไม่ควรให้ข้าราชการระดับสูง ในจังหวดั นั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขา้ ราชการในหน่วยงานฝา่ ยปกครอง เชน่ อดตี ผวู้ ่าราชการจงั หวัด รองผวู้ า่ ราชการจงั หวดั หรอื หวั หนา้ สว่ นราชการในทางการปกครองอนื่ ๆ มาเปน็ คณะกรรมการ เนอ่ื งจาก ประการแรก ขา้ ราชการเหลา่ นม้ี กั รจู้ กั คนุ้ เคยกบั บคุ คลตา่ ง ๆ จำ� นวนมากภายในจงั หวดั นนั้ ๆ ทำ� ใหข้ าด ความคดิ ทเ่ี ปน็ อสิ ระ เพราะเคยตกอยใู่ นวฒั นธรรมการทำ� งานทไี่ มอ่ สิ ระมากอ่ น และในกรณที มี่ ขี า้ ราชการ ระดับสูงถูกกล่าวหาในเร่ืองของการทุจริตคอร์รัปชัน ข้าราชการในสายงานปกครองเหล่านี้มักเป็น ผู้ท�ำหน้าที่ในการเจรจาไกล่เกลี่ยเสียเอง ในท้ายที่สุด ท�ำให้คดีการทุจริตคอร์รัปชันถูกระงับยับยั้งหรือ
40 วารสารวิชาการ ป.ป.ช. ปที ี่ 12 ฉบับท่ี 2 (กรกฎาคม – ธันวาคม 2562) ถูกเพกิ ถอนไป ประการท่ีสอง ข้าราชการฝ่ายปกครองทม่ี าดำ� รงต�ำแหน่งคณะกรรมการ ป.ป.จ. ประจำ� จังหวัดต่าง ๆ หลายรายขาดอุดมการณ์และความมุ่งม่ันอย่างแท้จริงในการปฏิบัติงานเพื่อต่อต้านการทุจริต คอร์รปั ชัน ขณะทีอ่ ดตี ข้าราชการทเี่ กษยี ณอายุซ่ึงมาด�ำรงต�ำแหน่งน้ี บางรายมปี ญั หาในเรือ่ งคุณธรรม จริยธรรม ขาดความซ่ือสัตย์สุจริต และความบริสุทธิ์ใจในการเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เพ่ือแก้ไขปัญหาของ บ้านเมือง แต่ได้ต�ำแหน่งมาเพราะระบบอุปถัมภ์พรรคพวกและเส้นสาย ด้วยเหตุผลน้ี จึงไม่ควรให้ ข้าราชการระดับสูง หรือข้าราชการฝ่ายปกครองในจังหวัดนั้นมาด�ำรงต�ำแหน่ง แต่ควรแสวงหา นักอุดมการณ์จากภาคประชาสังคมที่มีความกล้าหาญ และมีประวัติในการท�ำงานต่อต้าน การทุจริตคอร์รัปชัน เข้ามาท�ำหน้าที่เป็นคณะกรรมการ ป.ป.จ. ประจ�ำจังหวัด ในสัดส่วนท่ีมากท่ีสุด อนั จะเป็นผลใหก้ ารตอ่ ตา้ นการทจุ ริตคอรร์ ัปชันในภาคการศกึ ษา และภาคส่วนอื่น ๆ เปน็ ไปได้อย่างมี ประสทิ ธิผลมากย่งิ ขน้ึ 6.6.9 กระทรวงศึกษาธกิ าร และส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ต้องร่วมมือกันเพ่ือพฒั นาความรใู้ หก้ บั ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา และผบู้ รหิ ารทกุ ระดบั เพอื่ ใหท้ ราบเกยี่ วกบั ขอ้ บง่ ชข้ี องโครงการ และงบประมาณการกอ่ สรา้ งทผ่ี ดิ ประเภทหรอื สอ่ แววการทจุ รติ เพอื่ ปอ้ งกนั กระบวนการทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ทีอ่ าจจะเกดิ ขึน้ ในภาคการศกึ ษาในอนาคตตอ่ ไป 6.6.10 ขา้ ราชการและพนักงานของรฐั ในส�ำนกั งาน ป.ป.ช. ไมค่ วรท�ำงานตามแบบระบบ ราชการปกติอย่างท่ีเป็นมาในอดีต กล่าวคือ ไม่ควรเป็นหน่วยงานรอรับเร่ืองราวร้องทุกข์ในส�ำนักงาน แต่เพยี งอย่างเดียว แตใ่ นฐานะทีเ่ ปน็ องค์กรอิสระ ตอ้ งมีวิธกี ารท�ำงานเชงิ รกุ ในพื้นทแี่ ละลงสูช่ ุมชนให้มากขน้ึ และควรยดึ โยงอยู่กับภาคประชาสงั คมให้มากข้นึ เพ่ือเปน็ ชอ่ งทางในการส่ือสารและสร้างความรว่ มมอื กัน อันจะท�ำให้ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับข้อมูลข่าวสารเชิงลึกที่ทันเหตุการณ์ ในเร่ืองการทุจริตคอร์รัปชัน ในภาคการศึกษา หรือประเดน็ การทุจรติ คอร์รัปชนั ในภาคส่วนอ่นื ๆ ทีเ่ ปน็ จริงมากข้ึน 6.6.11 ควรเพมิ่ บทบาทเจา้ หนา้ ทอี่ งคก์ รอสิ ระในแตล่ ะจงั หวดั อนั ไดแ้ ก่ เจา้ หนา้ ทสี่ ำ� นกั งาน ป.ป.ช. ป.ป.ท. สตง. ปปง. และ บก.ปปป. ในการท�ำงานเชงิ รุกดา้ นการเฝ้าระวงั กำ� กับดูแล และคอย ตดิ ตามตรวจสอบการทำ� งานของสำ� นกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา คณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั (กศจ.) ผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรทางการศึกษาอย่างใกล้ชิด ในลักษณะการลงพื้นท่ีปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อให้ได้ข้อมูลข่าวสารเร่ืองการทุจริต และเพ่ือป้องกันการทุจริตท่ีจะเกิดข้ึนในสถานศึกษา ซ่ึงอาจ เกิดขึ้นได้ทกุ ระยะ 6.6.12 ควรใหส้ �ำนักงาน ป.ป.ช. ปปท. สตง. ปปง. และ บก.ปปป. รว่ มกับองคก์ รเครอื ขา่ ย ภาคประชาสังคม มีอ�ำนาจเข้าไปตรวจสอบโครงการก่อสร้าง การจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุ และครุภัณฑ์ ทางการศึกษาทเี่ ปน็ โครงการขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงการทม่ี ีการอนุมัติการก่อสรา้ ง หรอื การจดั ซ้อื จดั จ้าง จากข้าราชการระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการในส่วนกลาง เหตุผลเพราะโครงการก่อสร้างหรือ การจัดซื้อจัดจ้างขนาดใหญ่เหล่าน้ีมีแนวโน้มของการทุจริตอันเกิดจากเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลที่มีการร่วมมือกัน หลายฝ่าย และมักน�ำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบที่มีการด�ำเนินงานเป็นขบวนการเต็มรูปแบบ อยู่เสมอ
มาตรการเพือ่ ปอ้ งกันการร่วมมือของเครือขา่ ยอิทธิพลในการทจุ รติ 41 อยา่ งเปน็ ระบบในเขตพนื้ ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษาที่ 24, 25 และ 26 6.6.13 ควรใหห้ นว่ ยงานของรฐั ทม่ี อี ำ� นาจหนา้ ทใ่ี นการตรวจสอบและปอ้ งกนั การทจุ รติ คอร์รปั ชัน เชน่ ส�ำนักงาน ป.ป.ช. ป.ป.ท. ปปง. สตง. และ บก.ปปป. มอี ำ� นาจในการเรยี กตวั ขา้ ราชการ หรือบุคลากรทางการศึกษาทุกระดับมาสอบสวน ทั้งที่ก�ำลังรับราชการอยู่ในปัจจุบันและท่ีเกษียณอายุ ราชการแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ ณ ท่ีใด หากเห็นว่าผู้ใดมีพฤติการณ์ร่�ำรวยผิดปกติจากการใช้ชีวิตประจ�ำวัน ถา้ หากผนู้ นั้ ไมส่ ามารถอธบิ ายไดว้ า่ รายได้ และทรพั ยส์ นิ เหลา่ นน้ั ไดม้ าดว้ ยวธิ กี ารใดใหเ้ สนอตอ่ ศาลเพอ่ื ยดึ ทรพั ยท์ อ่ี ธบิ ายไมไ่ ดท้ งั้ หมด และให้มีความผดิ ฐานทุจริตประพฤตมิ ิชอบมโี ทษจำ� คุกสูงสุดไม่เกนิ 25 ปี 7. บทสรปุ และข้อเสนอแนะ 7.1 บทสรุป ในบทความนี้ ได้น�ำเสนอให้เห็นว่าการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทย มีวิวัฒนาการมาตาม ล�ำดับและมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐท่ีมักมีนักการเมือง ขา้ ราชการระดบั สูง และนกั ธรุ กจิ เข้ามาเกยี่ วขอ้ ง แล้วมีการรว่ มมอื กันทจุ รติ คอรร์ ปั ชันอย่างเปน็ ระบบ ดังท่ีเรียกว่า “เครือข่ายกลุ่มอิทธิพลซ่ึงน�ำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบ” เช่นเดียวกับ การทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อยา่ งเปน็ ระบบทเี่ กดิ ขนึ้ ในภาคการศกึ ษา ซงึ่ ยงั มกี ารรบั รกู้ นั นอ้ ยมากในทางสาธารณะ ขณะท่ีปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเป็นระบบที่เกิดข้ึนในภาคการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ กลบั สง่ ผลกระทบในทางลบอยา่ งลกึ ซง้ึ ตอ่ สงั คมเปน็ อยา่ งมาก กลา่ วคอื สง่ ผลตอ่ การทำ� ลายคณุ ภาพของเยาวชน ในชาติ อันอาจน�ำไปสู่สภาวะถดถอยของคุณภาพสังคมไทยในอนาคตท่ีจะเกิดข้ึนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากปญั หานไ้ี ม่ไดร้ ับการแกไ้ ขอยา่ งเด็ดขาดและจรงิ จัง ในบทความน้ี ไดน้ �ำเสนอแนวคดิ สำ� คญั สองเรอื่ ง คอื หนงึ่ “เครอื ขา่ ยกลมุ่ อทิ ธิพล” อันบง่ ชี้ถงึ อ�ำนาจแห่งการรวมตัวกันเป็นเครือข่าย ซ่ึงลักษณะของการรวมตัวกันนั้นย่อมเป็นบ่อเกิดแห่งอ�ำนาจ ทั้งท่ีเป็นพลังภายในกลุ่มเองและเป็นพลังอิทธิพลต่อภายนอกด้วย และเมื่อมีการรวมตัวกันกลายเป็น กลุ่มอิทธิพล ก็มีแนวโน้มท่ีจะใช้อ�ำนาจทุกรูปแบบและทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายของกลุ่มตน ซ่ึงก็คือการแสวงหาผลประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ แม้ว่าการกระท�ำนั้นจะผิดกฎหมายหรือละเมิด จริยธรรมของสังคมก็ตาม ซึ่งสื่อความหมายได้ชัดเจนว่าพฤติกรรมของเครือข่ายกลุ่มอิทธิพลมักร่วมมือกัน เพือ่ แสวงหาผลประโยชนส์ ว่ นตนโดยมชิ อบ ดว้ ยการคดโกง ฉอ้ โกง เรียกหรือรบั สินบน ฯลฯ กล่าวอีกนัย หนึง่ พฤตกิ รรมการใชอ้ ำ� นาจของเครอื ข่ายกลมุ่ อิทธิพลมกั กระทำ� การใด ๆ ท่ีผิดกฎหมายหรืออยูเ่ หนอื กฎหมายอยู่เสมอ สอง “การทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อยา่ งเปน็ ระบบ” อนั เปน็ เรอื่ งการทจุ รติ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั บคุ คลหลายฝา่ ย นับตั้งแต่ระดับผู้ก�ำหนดนโยบายและวางแผน ไปจนถึงระดับผู้ปฏิบัติงานในฝ่ายต่าง ๆ และกลุ่ม คนอน่ื ๆ ในเครอื ขา่ ยของตน การทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั อยา่ งเปน็ ระบบจดั ไดว้ า่ เปน็ การทจุ รติ ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ ในระดับสูง เนื่องจากบางคร้ังอาจถูกบงการและถูกควบคุมโดยบุคคลท่ีมีอ�ำนาจอยู่ในต�ำแหน่งรัฐบาล ระดับสูง และมีการร่วมมือกับข้าราชการระดับสูง ในสังคมยุคปัจจุบันการทุจริตคอร์รัปชันประเภทนี้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162