Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

Published by Forest Ecosystem, 2023-02-24 06:27:55

Description: พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืชในวนอุทยานนครไชยบวร

Search

Read the Text Version

พรรณไมแ้ ละองคป์ ระกอบสังคมพืช ในวนอทุ ยานนครไชยบวร ภาณุมาศ ลาดปาละ สำนักวจิ ยั กำรอนรุ ักษ์ป่ำไม้และพันธพ์ุ ืช กรมอุทยำนแหง่ ชำติ สัตว์ปำ่ และพันธ์พุ ชื พ.ศ. 2566

พรรณไม้และองค์ประกอบสงั คมพืช ในวนอทุ ยานนครไชยบวร ภาณุมาศ ลาดปาละ สำนกั วจิ ยั กำรอนุรกั ษ์ปำ่ ไม้และพนั ธุ์พืช กรมอทุ ยำนแหง่ ชำติ สัตวป์ ำ่ และพันธุพ์ ืช

คานา หนังสือพรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืชในวนอุทยำนนครไชยบวร เป็นผลงำนส่วนหน่ึง ของโครงกำรวจิ ัยกำรศกึ ษำควำมทรุดโทรมและกำรฟื้นฟูไม้ยำงนำธรรมชำตใิ นพืน้ ทว่ี นอุทยำนนครไชยบวร ระหว่ำงปีงบประมำณ พ.ศ. 2561-2562 และโครงกำรวิจัยกำรศึกษำองค์ประกอบของสังคมพืช และผลผลิตปฐมภูมิสุทธิ เพื่อกำรฟื้นฟูไม้ยำงนำ ณ วนอุทยำนนครไชยบวร ระหว่ำงปีงบประมำณ พ.ศ. 2563-2565 ที่สำนักวิจัยกำรอนุรักษ์ป่ำไม้และพันธ์ุพืชได้รับงบประมำณของกรมอุทยำนแห่งชำติ สตั วป์ ่ำ และพันธ์พุ ืช จำกแผนงำนพ้ืนฐำนด้ำนกำรสร้ำงกำรเตบิ โตบนคณุ ภำพชวี ิตท่เี ปน็ มติ รต่อสิ่งแวดล้อม ผลผลิตที่ 1 พื้นท่ีป่ำอนุรักษ์ได้รับกำรบริหำรจัดกำร กิจกรรมองค์ควำมรู้ด้ำนกำรอนุรักษ์ทรัพยำกรป่ำไม้ และสัตว์ป่ำ กิจกรรมกำรวิจัยด้ำนป่ำไม้และสัตว์ป่ำ ระหว่ำงกำรดำเนินโครงกำรดังกล่ำว ได้มีกำรศึกษำ ควำมหลำกหลำย ข้อมูลกำรกระจำยพันธ์ุ รวมไปถึงข้อมูลด้ำนอ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวข้อง ของพรรณพืช ในวนอุทยำนนครไชยบวร ต.ท่ำเสำ อ.โพทะเล จ.พิจติ ร เน้ือหำของหนังสือนำเสนอเกี่ยวกับ รำยช่ือพรรณไม้ตำมเส้นทำงศึกษำธรรมชำติ ในวนอุทยำนนครไชยบวรและกำรใช้ประโยชน์ องค์ประกอบสังคมพืชในวนอุทยำนนครไชยบวร และข้อเสนอแนะเพื่อกำรศึกษำธรรมชำติวิทยำ โดยบรรยำยถึงลักษณะทำงพฤกษศำสตร์ของแต่ละชนิด ตำมรูปแบบมำตรฐำนทำงพฤกษศำสตร์ป่ำไม้ ข้อมูลกำรใช้ประโยชน์จำกภูมิปัญญำพื้นบ้ำน ข้อมูลอ่ืน ๆ ทีเ่ กยี่ วข้อง พรอ้ มรูปภำพประกอบและจดั ทำ ในรปู แบบทเี่ ขำ้ ใจง่ำยและนำไปใชป้ ระโยชน์ได้ ท้ังนี้ หวังเป็นอย่ำงยิ่งว่ำข้อมูลรำยละเอียดในเน้ือหำของหนังสือเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อ โรงเรยี นโดยรอบพื้นทีว่ นอุทยำนนครไชยบวร ในกำรนำขอ้ มูลไปใช้ เพ่ือศึกษำสิ่งแวดลอ้ มและประกอบกำร จัดทำสวนพฤกษศำสตร์ของโรงเรียน อีกทั้งหน่วยงำนในพ้ืนที่ หน่วยงำนระดับท้องถ่ินหรือหน่วยงำน ระดบั จงั หวัด สำมำรถนำขอ้ มูลไปใช้ในกำรพฒั นำเส้นทำงศกึ ษำธรรมชำติและภูมิปัญญำท้องถ่ินด้ำนกำรใช้ ประโยชน์พรรณไม้ รวมไปถึงกำรนำข้อมูลกำรค้นพบต้นรวงผ้ึงในพ้ืนท่ีวนอุทยำนนครไชยบวร ซ่ึงเป็นกำร ค้นพบในป่ำธรรมชำติ ข้อมูลกำรค้นพบพืชหำยำกและพืชที่ไม่เคยพบมำก่อนในพ้ืนที่นี้ไปใช้ในกำรจัดทำ แผนบริหำรจัดกำรพ้ืนที่ และจะเป็นประโยชน์สำหรับนักวิจัย นักวิชำกำร หรือผู้ท่ีสนใจได้นำไปใช้ ประโยชนต์ ่อไป ภาณมุ าศ ลาดปาละ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 1

2 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

สารบญั คานา 8 วธิ กี ารศึกษา 11 ผลและวิจารณ์ผล 12 • พรรณไม้ท่ีพบ 13 • วิสยั ของพรรณไม้ 19 • การใช้ประโยชนพ์ รรณไม้ 20 • ลักษณะสงั คมพืช 21 สรปุ และขอ้ เสนอแนะ 23 รายชื่อพรรณไม้และการใชป้ ระโยชน์ 25 กติ ตกิ รรมประกาศ 201 บรรณานุกรม 202 ดรรชนชี ื่อพรรณไม้ 203 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 3

สารบัญช่ือพรรณไม้ กรวยป่า 26 กระดูกอึ่ง 28 กระท่มุ นา 30 กระเทียมชา้ ง 32 กระเบาใหญ่ 34 กรุงเขมา 36 กลงึ กล่อม 38 ก้างปลาเครือ 40 การเวก 42 กาแพงเจ็ดชน้ั 44 กาลงั ควายถกึ 46 ขนาน 48 ข่อย 50 ข่อยดา 52 ข่อยนา้ 54 ข้าวสารป่า 56 ขแี้ รด 58 เขม็ นา้ 60 เขยตาย 62 เขือง 64 คล้า 66 คัดเค้าเครือ 68 คาง 70 เครือเขามวก 72 เครอื ตายดิบ 74 เครือปลอก 76 เครือไพสง 78 โคคลาน 80 จามจรุ ี 82 จกิ นา 84 4 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

สารบัญช่อื พรรณไม้ ฉนวนนา้ 86 ชงิ ชี่ 88 แดงนา้ 90 แดงสะแง 92 ตดหมตู ดหมา ต่อไส้ 94 ตะโกนา 96 ตะโกสวน 98 ตะเข้คมุ วงั 100 102 ตะแบกนา 104 ตานหม่อน 106 ถอบแถบ 108 ถอบแถบนา้ ถั่วพรา้ 110 เถาย่านาง 112 เถาวัลยเ์ ปรียง 114 นมแมว 116 บุก 118 ประคาไก่ 120 ประยงค์ป่า 122 ฝ้ายนา้ 124 พลองข้ีนก 126 พพี วนนอ้ ย 128 130 พดุ ป่า 132 แฟบน้า 134 มะกาใบหนา 136 มะขามไก่ มะเด่ือปลอ้ ง 138 มนั ดา 140 มันพาด 142 144 โมกเครอื 146 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 5

สารบัญชื่อพรรณไม้ ยอน้า 148 ยางนา 150 ยู 152 รวงผง้ึ 154 รสสคุ นธ์ 156 ระกาปา่ 158 รักขาว 160 รักดา 162 รางแดง 164 ลิเภาใหญ่ 166 เลบ็ เหยย่ี ว 168 ส้มป่อย 170 สะแกดนิ 172 สะแกนา 174 สะเดา 176 สาโรง 178 หนามดา 180 หนามพรม 182 หนามพงุ ดอ 184 หนามหางนกกะลงิ 186 หมากขีอ้ น้ 188 หมากวอ้ 190 หว้า 192 หวายขม 194 อบเชยเถา 196 อตุ พดิ เลก็ 198 6 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 7

คานา จำกขอ้ เสนอแนะดงั กล่ำวและเพื่อประโยชน์ จำกกรณีที่สำนักบริหำรพ้ืนท่ีอนุรักษ์ที่ 12 ในกำรศึกษำธรรมชำติวิทยำสำหรับโรงเรียน (นครสวรรค์) ได้แจ้งให้สำนักวิจัยกำรอนุรักษ์ป่ำไม้และ รอบพื้นที่วนอุทยำนนครไชยบวร สำนักวิจัยกำร พันธ์ุพืช เข้ำตรวจสอบปัญหำกำรตำยของไม้ยำงนำ อ นุ รั ก ษ์ ป่ ำ ไ ม้ แ ล ะ พั น ธ์ุ พื ช จึ ง ไ ด้ ด ำ เ นิ น ตำมธรรมชำติ ในพ้นื ท่ีวนอทุ ยำนนครไชยบวร ตำบลทำ่ เสำ โครงกำรวิจัยกำรศึกษำควำมทรุดโทรมและกำร อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร ซ่ึงมีนกปำกห่ำงมำอำศัยอยู่ ฟ้ืนฟูไม้ยำงนำธรรมชำติในพ้ืนที่วนอุทยำนนคร เปน็ จำนวนมำก สร้ำงควำมเดือดร้อนให้กับชุมชนโดยรอบ ไชยบวร ระหวำ่ งปีงบประมำณ พ.ศ. 2561-2562 พื้นที่วนอุทยำนนครไชยบวรจำกกลิ่นและควำมกลัว และโครงกำรวิจัยกำรศึกษำองค์ประกอบของ จำกโรคหวัดนก หรือเช้ือโรคท่ีติดมำกับนกปำกห่ำง เดือน สังคมพืชและผลผลิตปฐมภูมิสุทธิ เพ่ือกำรฟ้ืนฟู ธันวำคม 2558 สำนักวิจัยกำรอนุรักษ์ป่ำไม้และพันธุ์พืช ไม้ยำงนำ ณ วนอุทยำนนครไชยบวร ระหว่ำง จึงได้ดำเนินกำรสำรวจและเก็บข้อมูลและจัดทำเป็น ปีงบประมำณ พ.ศ. 2563-2565 ข้อมูลท่ีนำมำ รำยงำนกำรแก้ไขปัญหำ กำรทรุดโทรมของไม้ยำงนำ เขียนหรือวิเครำะห์เพิ่มเติมน้ี เป็นส่วนหน่ึงของ ท่ียืนต้นตำยตำมธรรมชำติ ณ วนอุทยำนนครไชยบวร โครงกำรวจิ ัยดังกลำ่ วข้ำงต้น เพ่ือใหเ้ ห็นถงึ คุณค่ำ ตำบลท่ำเสำ อำเภอโพทะเล จังหวัดพิจิตร (ชิงชัย และ ของกำรศึกษำดำ้ นนิเวศวิทยำและผลกระทบของ คณะ, 2559) เพื่อแจ้งให้สำนักบริหำรพ้ืนที่อนุรักษ์ที่ 12 มูลนกปำกห่ำงต่อกำรตำยของต้นยำงนำในพ้ืนท่ี (นครสวรรค์) ได้ทรำบและใช้ประโยชน์ต่อไป จำกรำยงำน ศึกษำ ซึ่งเป็นป่ำที่พื้นที่ระบบนิเวศท่ีรำบลุ่ม ดังกล่ำวได้มีข้อเสนอแนะเพื่อกำรดำเนินกำรต่อเน่ืองว่ำ น้ ำ ท่ ว ม ถึ ง ริ ม แ ม่ น้ ำ ย ม ท่ี มี พ ร ร ณ ไ ม้ อั น วนอุทยำนไชยบวร มีควำมสำคัญในหลำยด้ำน เช่น หลำกหลำย และมีเอกลักษณเ์ ฉพำะตวั หลำยชนดิ เป็นพ้ืนท่ีป่ำไม้ธรรมชำติหย่อมสุดท้ำยของจังหวัดพิจิตร เป็นแหล่งพันธุกรรมของไม้ยำงนำท่ีกรมป่ำไม้ขึ้นบัญชีไว้ ประกอบกับชุมชนโดยรอบเร่ิมเล็งเห็น สำหรับเก็บรวบรวมเมล็ดไม้เพ่ือใช้ในกำรเพำะชำกล้ำไม้ คุณค่ำของป่ำยำงนำนครไชยบวร และพรรณไม้ พันธ์ุดี เป็นพ้ืนที่มีมูลค่ำทำงเศรษศำสตร์ค่อนข้ำงสูง จำนวนมำกท่ีในอดีตชำวบ้ำนเคยเข้ำมำเก็บหำ เม่ือคำนวณเฉพำะมูลค่ำของเน้ือไม้ของไม้ยำงนำท้ังหมด ของป่ำ สมนุ ไพร อำหำร เหด็ ตำ่ ง ๆ ได้จำกป่ำผืน รวมทั้งต้นที่ยังมีชีวิตและต้นที่ตำยจะมีมูลค่ำประมำณ นี้ ทวำ่ ในปจั จบุ นั องคค์ วำมรู้ดำ้ นกำรใช้ประโยชน์ 105 ล้ำนบำท ทั้งน้ียังไม่ได้รวมมูลค่ำผลตอบแทนด้ำน เหล่ำนั้นกำลังจะสูญหำยไปจำกชุมชน โดยขำด ระบบนิเวศของป่ำแห่งน้ีในแง่ของกำรรักษำสมดุลของ กำรสืบทอดหรือกำรรวบรวมองค์ควำมรู้ต่ำง ๆ ธรรมชำติและสิ่งแวดล้อมให้กับพ้ืนที่ข้ำงเคียงและใช้เป็น เอำไว้คู่กับชุมชน กำรศึกษำควำมหลำกหลำย แหลง่ เรียนรู้ ศึกษำวิจัยทำงด้ำนนิเวศวิทยำป่ำไม้ และกำร ของพรรณไม้และพฤกษศำสตร์พ้ืนบ้ำนจึงเป็น จัดกำรพื้นที่ป่ำไม้ของเจ้ำหน้ำที่ในสังกัด กรมอุทยำน ส่ิงท่ีควรดำเนินกำรเร่งด่วน ก่อนท่ีปรำชญ์ แหง่ ชำติ สัตว์ป่ำ และพันธ์ุพืช มหำวิทยำลัยต่ำง ๆ รวมถึง ชำวบ้ำนจะสูญหำยไปจำกพื้นท่ีและระบบนิเวศ เยำวชนในพื้นที่เพ่ือให้เกิดจิตสำนึกและตระหนักถึงกำร ป่ำไม้อันบอบบำงน้ีจะเปล่ียนแปลงไปเพรำะ อนุรักษ์และดูแลทรัพยำกรธรรมชำติ นอกจำกน้ัน ปัจจัยแวดล้อมต่ำง ๆ ท่ีเปล่ียนแปลงไปและกำร สำนกั วิจัยกำรอนรุ ักษ์ปำ่ ไม้และพนั ธุ์พืชยังได้มีกำรรำยงำน รบกวนจำกนกปำกห่ำงและมนุษย์ที่กำลังคุกคำม ผลกำรศึกษำให้กับโรงเรียนท่ำเสำได้รับทรำบข้อมูล อยโู่ ดยรอบ นอกจำกน้ันยงั เปน็ กำรศึกษำเพื่อเปน็ เก่ียวกับวนอุทยำนนครไชยบวร จึงทำให้ทำงโรงเรียน ข้อมูลให้องค์กำรบริหำรส่วนตำบลท่ำเสำได้มี มี ค ว ำ ม ส น ใ จ ที่ จ ะ ใ ช้ ป ร ะ โ ย ช น์ พื้ น ท่ี ข อ ง ว น อุ ท ย ำ น ข้อมลู ทรัพยำกรธรรมชำติในพนื้ ที่เพอื่ กำรอนรุ กั ษ์ นครไชยบวรเปน็ แหลง่ ศกึ ษำธรรมชำติ และโรงเรียนในพื้นที่โดยรอบได้ใช้เป็นแหล่ง เรียนร้ธู รรมชำติวิทยำตอ่ ไป 8 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

วนอุทยำนนครไชยบวร อยู่ในท้องท่ีหมู่ท่ี 2 และต่อมำในปี พ.ศ. 2547 ได้ปรับโอนมำอยู่ใน บ้ำนหนองดง ตำบลท่ำเสำ อำเภอโพทะเล จังหวัด ควำมดูแลของสำนักบริหำรพื้นท่ีอนุรักษ์ท่ี 12 พิจิตร อยู่ในเขตป่ำสงวนแห่งชำติป่ำหนองดง ตำม (นครสวรรค์) กรมอุทยำนแห่งชำติ สัตว์ป่ำและ กฎกระทรวงฉบับท่ี 155 (พ.ศ.2509) เป็นป่ำดงไม้ พั น ธ์ุ พื ช ก ร ะ ท ร ว ง ท รั พ ย ำ ก ร ธ ร ร ม ช ำ ติ ยำงนำธรรมชำติท่ีสวยงำม มีขนำดใหญ่และข้ึนอยู่ และส่ิงแวดล้อม ในปัจจุบันเป็นป่ำผืนเดียว อย่ำงหนำแน่น กรมป่ำไม้ได้จัดตั้งเป็นวนอุทยำน และผนื สุดทำ้ ยของจังหวดั พิจติ ร มีอำณำเขตติดต่อ เมื่อวันที่ 25 กรกฎำคม พ.ศ. 2532 มีเน้ือท่ี ดังนี้ ทิศเหนือ จดคลองท่ำมะไฟ ทิศใต้ จดถนน ประมำณ 1,080 ไร่อยู่ในสังกัดงำนป่ำไม้เขต สำยโพทะเล-ย่ีมุ่ย ทิศตะวันออก จดที่นำ (ที่ดิน พิษณุโลก กรมปำ่ ไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น.ส.3) ทศิ ตะวนั ตก จดทน่ี ำ (ที่ดิน น.ส.3) ภาพท่ี 1 แผนท่ีสภำพภูมิประเทศ มำตรำ ส่วน 1:50000 แสดงขอบเขตและ ท่ีตั้งวนอุทยำนนครไชยบวร ท้องท่ี หมู่ท่ี 2 บ้ำนหนองดง ตำบลท่ำเสำ อำเภอโพทะเล จงั หวดั พจิ ิตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นพ้ืนท่ีรำบถึงท่ีรำบลุ่ม มีน้ำท่วมขังในฤดูน้ำหลำก ปกคลุมด้วยพันธ์ุไม้หลำยชนิด มีไม้เด่น คือ ไม้ยำงนำธรรมชำติท่ีค่อนข้ำงสมบูรณ์ ไม้พื้นล่ำงเป็นไม้ไผ่ และวัชพืชมำกมำย ภำยในพื้นท่ี ประกอบด้วยหนองน้ำและลำห้วยหลำยสำยกระจำยท่ัวพื้นท่ี หนองน้ำสำคัญได้แก่ หนองมำบคล้ำและ หนองสะตือ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 9

วนอุทยำนนครไชยบวร เป็นป่ำไม้ยำงนำ ธรรมชำติที่ค่อนข้ำงสมบูรณ์ ไม้ยำงมีขนำดใหญ่ เส้นรอบวงที่ระดับอกส่วนใหญ่ 200 - 300 เซนติเมตร กระจำยทั่วพื้นที่ ไม้พื้นล่ำงเป็นไม้ไผ่ ชนดิ ตำ่ ง ๆ โดยมพี ชื พรรณและสัตว์ปำ่ ดงั น้ี ไม้ยางนา (Dipterocarpus alatus Roxb. Ex G. Don) เปน็ ไม้ต้นขนำดใหญ่ ปกคลุมพ้ืนที่อย่ำงหนำแน่น เป็นกลุ่มแนวเหนือ-ใต้ สำมำรถมองเห็นเป็น ทิวแต่ไกล ภำยในบริเวณมีควำมชุ่มชื้น ร่มรื่น ร่มเย็น ประกอบไป ด้ วย ห นองน้ำ ล ำ ธำ ร เ ป็ นท่ีพักผ่ อนห ย่ อนใ จ โดยมีเส้นทำงเดินเท้ำสำหรับชมธรรมชำติ (natural trails) สำมำรถกล่ำวได้ว่ำเป็นป่ำอนุรักษ์ผืนเดียว และผืนสดุ ท้ำยทอี่ ุดมสมบูรณ์ทสี่ ุดของจังหวัดพจิ ิตร ไก่ป่า (Red jungle fowl) มีลักษณะคล้ำยไก่บ้ำน แต่ตัวเล็กกว่ำเล็กน้อย ตัวผู้จะสวยกว่ำตัวเมีย พบกระจำยอยู่ทั่วไปในพื้นที่ ชอบออกหำกินเป็นฝูง ฝูงละ 6-7 ตัว หำกินในเวลำเช้ำตรู่และตอนพลบค่ำ ในฤดูฝนจะเข้ำไปอยใู่ นป่ำลึก เมื่อหมดฤดูฝนจะออกมำ หำกินตำมชำยป่ำใกล้บ้ำนคนหรือชำยป่ำท่ีติดกับพื้นท่ี เกษตรกรรม นกชนิดต่าง ๆ (Birds) ในเขตวนอุทยำนฯ พบนก ชนิดต่ำง ๆ มำกมำย แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ นกประจำถ่ิน เช่น นกแขกเต้ำ นกตะขำบทุ่ง นกแขวก นกกระยำง และนกปรอท เปน็ ต้น อีกประเภท คือ นกอพยพ โดยเฉพำะฤดหู นำวจะมมี ำก เชน่ นกขม้นิ นกนำงแอ่น นกเป็ดน้ำ นกเหย่ียว และนกปำกห่ำง เปน็ ตน้ 10 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

วธิ ีการศึกษา กำรเก็บข้อมูลเพ่ือศึกษำควำมหลำกชนิดของพรรณไม้และกำรใช้ประโยชน์ในพื้นท่ีวนอุทยำนนครไชยบวร จังหวัดพิจิตร เป็นส่วนหนึ่งของกำรดำเนินโครงกำรวิจัยกำรศึกษำควำมทรุดโทรมและกำรฟ้ืนฟูไม้ยำงนำ ธรรมชำติในพ้ืนที่วนอุทยำนนครไชยบวร ระหว่ำงปีงบประมำณ พ.ศ. 2561-2562 และโครงกำรวิจัยกำรศึกษำ องค์ประกอบของสังคมพืชและผลผลิตปฐมภูมิสุทธิ เพื่อกำรฟื้นฟูไม้ยำงนำ ณ วนอุทยำนนครไชยบวร ระหว่ำง ปงี บประมำณ พ.ศ. 2563-2565 โดยดำเนินกำรดังน้ี 1. คัดเลือกเส้นทางศึกษาโดยธรรมชาติ ในพ้ืนที่วนอุทยำนนครไชยบวรเป็นเส้นทำงศึกษำ ธรรมชำติที่ผ่ำนระบบนิเวศป่ำไม้แต่ละชนิด (Forest types) และให้ครอบคลุมทุกระบบนิเวศ ซ่งึ เลอื กได้ระยะทำงประมำณ 2 กิโลเมตร 2 . เ ดิ น ส า ร ว จ พ รร ณ ไ ม้ โ ดย ใ ช้ วิ ธี Line transect ตำมเส้นทำงศึกษำธรรมชำติ ทำกำร สำรวจตรวจสอบพรรณไม้ทุกวิสัย (Habit) ที่พบ สองขำ้ งเสน้ ทำงทส่ี ำมำรถเดินเข้ำถึงได้ในระยะไม่ เกิน 10 เมตร จำกเส้นทำงเดิน และสำรวจพรรณ ไม้บำงชนิดจำกนอกเส้นทำงเดิน เพื่อให้ได้บัญชี รำยช่ือพรรณไม้อย่ำงครอบคลุม พร้อมบันทึก ข้อมูลชนิดท่ีพบในตำรำงบันทึกข้อมูล ถ่ำยภำพ พร้อมเก็บตัวอย่ำงทั้งใบ ดอก ผล เพื่อนำมำทำ เปน็ ตวั อย่ำงพรรณไม้แห้งหรอื ตวั อย่ำงดอง และใช้ ในกำรจำแนกชนดิ และเกบ็ ตัวอย่ำงพรรณไม้แบบ สดเพื่อนำมำสอบถำมปรำชญ์ชำวบ้ำนในภำยหลงั 3. เกบ็ ข้อมูลนเิ วศวิทยาป่าไม้ สภำพภูมิประเทศ ชนิดดิน และโครงสร้ำงป่ำ จำกกำรสำรวจและ จำกข้อมูลแผนท่ีภูมิศำสตร์ เก็บข้อมูลช่วงเวลำ กำรท่วมของน้ำ ชีพลักษณ์ของป่ำจำกกำรสำรวจ และจำกกำรสอบถำมเจ้ำหนำ้ ทหี่ รือชำวบ้ำนท่ีเข้ำ มำใช้พ้ืนที่แล้วทำกำรวิเครำะห์ชนิดป่ำ ระบบ นิเวศป่ำไม้ และองค์ประกอบชนิดพันธุ์ไม้ 4. สอบถามข้อมูลการใช้ประโยชน์พรรณพืช 11 จากปราชญช์ าวบา้ น ทอ่ี ำศยั อยบู่ รเิ วณรอบพืน้ ท่ี วนอุทยำนนครไชยบวร โดยบันทึกลงในแบบเก็บ ข้อมูลกำรใชป้ ระโยชนพ์ รรณพชื พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

ผลและวิจารณ์ผล • พรรณไม้ท่ีพบ • วสิ ัยของพรรณไม้ • การใชป้ ระโยชน์พรรณไม้ • ลกั ษณะสงั คมพชื 12 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

พรรณไม้ทีพ่ บ ถอบแถบน้ำ (Derristrifoliata Lour.) จำกกำรสำรวจพบพรรณไม้ท้ังหมด 39 วงศ์ 72 สกุล 87 ชนิด โดยวงศ์ท่ีมีจำนวนชนดิ มำกทส่ี ดุ ไดแ้ ก่ ขีแ้ รด (Acacia megaladena Desv. var. วงศถ์ ่วั (Fabaceae) จานวน 11 ชนดิ ไดแ้ ก่ - ถอบแถบนำ้ (Derris trifoliata Lour.) indo-chinensis I. C. Nielsen) - ถ่ัวพรำ้ (Canavalia gladiata (Jacq.) DC.) - กระดกู องึ่ (Dendrolobium triangulare (Retz.) Schindl. subsp. triangulare) - คำง (Albizia lebbekoides (DC.) Benth.) - จำมจรุ ี (Albizia saman (Jacq.) Merr.) - ขแี้ รด (Acacia megaladena Desv. var. indo-chinensis I. C. Nielsen) - เถำวัลย์เปรียง (Derris scandens (Roxb.) Benth.) - ระกำป่ำ (Cathormion umbellatum (Vahl) Kosterm.) - ฉนวนน้ำ (Dalbergia godefroyi Prain) - ส้มปอ่ ย (Acacia concinna (Willd.) DC.) - มะขำมไก่ (Dalbergia thorelii Gagnep.) วงศ์เข็ม (Rubiaceae) จานวน 7 ชนิด ได้แก่ - เขม็ น้ำ (Ixora nigricans R. Br. ex Wight & Arn.) - พุดปำ่ (Kailarsenia hygrophila (Kurz) Tirveng.) - กระท่มุ นำ (Mitragyna diversifolia (Wall. ex G. Don) Havil.) - ยอน้ำ (Morinda pandurifolia Kuntze) - คัดเค้ำเครอื (Oxyceros horridus Lour.) - ตดหมตู ดหมำ (Paederia linearis Hook. f.) - ข้ำวสำรป่ำ (Pavetta sp.) คดั เคำ้ เครอื (Oxyceros horridus Lour.) วงศ์ชบา (Malvaceae) จานวน 6 ชนิด ไดแ้ ก่ - ยู (Brownlowia emarginata Pierre) รวงผ้งึ - หมำกข้อี น้ (Byttneria crenulata Wall. ex Mast.) (Schoutenia glomerata King subsp. - ขนำน (Pterospermum littorale Craib var. littorale) - สำโรง (Sterculia foetida L.) Peregrina (Craib) Roekm.) - รวงผึ้ง (Schoutenia glomerata King subsp. peregrina (Craib) Roekm.) - แดงสะแง (Schoutenia ovata Korth.) พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 13

พรรณไม้ทพ่ี บ (ตอ่ ) โมกเครอื (Amphineurion marginatum (Roxb.) D. J. Middleton) วงศโ์ มก (Apocynaceae) จานวน 5 ชนิด ไดแ้ ก่ - โมกเครอื (Amphineurion marginatum (Roxb.) D. J. Middleton) - หนำมพรม (Carissa spinarum L.) - อบเชยเถำ (Finlaysonia pierrei (Costantin) Venter) - เครอื เขำมวก (Parameria laevigata (Juss.) Moldenke) - เครือไพสง (Streptocaulon kleinii Wight & Arn.) วงศ์มะขามป้อม (Phyllanthaceae) จานวน 5 ชนิด ไดแ้ ก่ - มะกำใบหนำ (Bridelia curtisii Hook. f.) - แดงน้ำ (Glochidion lanceolarium (Roxb.) Voigt) - แฟบน้ำ (Hymenocardia punctata Wall. ex Lindl.) - เครือตำยดิบ (Phyllanthus harmandii Beille) - กำ้ งปลำเครือ (Phyllanthus reticulatus Poir.) วงศ์กระดังงา (Annonaceae) จานวน 4 ชนดิ ไดแ้ ก่ ก้ำงปลำเครอื (Phyllanthus reticulatus Poir.) - กำรเวก (Artabotrys siamensis Miq.) - กลึงกล่อม (Polyalthia suberosa (Roxb.) Thwaites) - พพี วนน้อย (Uvaria rufa Blume) - นมแมว (Uvaria siamensis (Scheff.) L. L. Zhou, Y. C. F. Su & R. M. K. Saunders) วงศ์ชงิ ช่ี (Capparaceae) จานวน 3 ชนดิ ได้แก่ - ชงิ ชี่ (Capparis micracantha DC.) - หนำมหำงนกกะลิง (Capparis pyrifolia Lam.) - หนำมดำ (Capparis radula Gagnep.) วงศม์ ะเกลือ (Ebenaceae) จานวน 3 ชนิด ได้แก่ ชิงชี่ (Capparis micracantha DC.) - รักดำ (Diospyros curranii Merr.) - ตะโกสวน (Diospyros malabarica (Desr.) Kostel.) - ตะโกนำ (Diospyros rhodocalyx Kurz) วงศ์เปลา้ (Euphorbiaceae) จานวน 3 ชนดิ ไดแ้ ก่ - ฝำ้ ยนำ้ (Mallotus thorelii Gagnep.) - ตะเขค้ มุ วงั (Mallotus coudercii (Gagnep.) Airy Shaw) - โคคลำน (Mallotus repandus (Willd.) Müll. Arg.) 14 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร ตะเข้คมุ วงั (Mallotus coudercii (Gagnep.) Airy Shaw)

มะเด่อื ปล้อง (Ficus hispida L. f.) พรรณไมท้ ่ีพบ (ตอ่ ) อุตพดิ เล็ก (Typhonium sp.) อุตพิดเลก็ (Typhonium sp.) วงศ์ขนนุ (Moraceae) จานวน 3 ชนดิ ไดแ้ ก่ - ข่อย (Streblus asper Lour.) - มะเดอ่ื ปล้อง (Ficus hispida L. f.) - ข่อยนำ้ (Streblus taxoides (B. Heyne ex Roth) Kurz) วงศพ์ ทุ รา (Rhamnaceae) จานวน 3 ชนิด ไดแ้ ก่ - รำงแดง (Ventilago denticulata Willd.) - เครอื ปลอก (Ventilago harmandiana Pierre) - เล็บเหย่ยี ว (Ziziphus oenoplia (L.) Mill. var. oenoplia) วงศบ์ อน (Araceae) จานวน 2 ชนิด ได้แก่ - บุก (Amorphophallus sp.) - อตุ พดิ เลก็ (Typhonium sp.) วงศ์สะแก (Combretaceae) จานวน 2 ชนดิ ไดแ้ ก่ - สะแกดนิ (Quisqualis prostrata Craib) - สะแกนำ (Combretum quadrangulare Kurz) วงศ์กลอย (Dioscoreaceae) จานวน 2 ชนิด ได้แก่ - มันนก (Dioscorea oryzetorum Prain & Burkill) - มันพำด (Dioscorea birmanica Prain & Burkill) วงศส์ ะเดา (Meliaceae) จานวน 2 ชนดิ ไดแ้ ก่ - ประยงค์ป่ำ (Aglaia odoratissima Blume) - สะเดำ (Azadirachta indica A. Juss.) วงศ์บอระเพด็ (Menispermaceae) จานวน 2 ชนิด ไดแ้ ก่ - กรุงเขมำ (Cissampelos pareira L. var. hirsuta (Buch. ex DC.) Forman) - เถำย่ำนำง (Tiliacora triandra (Colebr.) Diels) วงศล์ าไย (Sapindaceae) จานวน 2 ชนดิ ได้แก่ - ตอ่ ไส้ (Allophylus cobbe (L.) Raeusch.) - หมำกวอ้ (Lepisanthes senegalensis (Poir.) Leenh.) ตอ่ ไส้ (Allophylus cobbe (L.) Raeusch.) พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 15

พรรณไมท้ ี่พบ (ตอ่ ) วงศก์ ระเบา (Achariaceae) จานวน 1 ชนดิ ได้แก่ - กระเบำใหญ่ (Hydnocarpus castanea Hook. f. & Thomson) วงศ์พลบั พลึง (Amaryllidaceae) จานวน 1 ชนดิ ได้แก่ กระเบำใหญ่ (Hydnocarpus castanea Hook. f. & Thomson) - กระเทยี มชำ้ ง (Crinum amoenum Roxb. ex Ker Gawl.) วงศม์ ะม่วง (Anacardiaceae) จานวน 1 ชนดิ ได้แก่ - รักขำว (Semecarpus cochinchinensis Engl.) วงศห์ มาก (Arecaceae) จานวน 1 ชนิด ได้แก่ - หวำยขม (Calamus siamensis Becc.) วงศท์ านตะวนั (Asteraceae) จานวน 1 ชนดิ ได้แก่ รักขำว (Semecarpus cochinchinensis Engl.) - ตำนหม่อน (Tarlmounia elliptica (DC.) H. Rob., S. C. Keeley, Skvarla & R. Chan) วงศม์ ะดกู (Celastraceae) จานวน 1 ชนิด ได้แก่ - กำแพงเจด็ ชน้ั (Salacia chinensis L.) วงศถ์ อบแถบ (Connaraceae) จานวน 1 ชนดิ ได้แก่ - ถอบแถบ (Connarus cochinchinensis (Baill.) Pierre) วงศ์ส้าน (Dilleniaceae) จานวน 1 ชนิด ได้แก่ - รสสคุ นธ์ (Tetracera loureiri (Finet & Gagnep.) Pierre ex Craib) วงศ์ยาง (Dipterocarpaceae) จานวน 1 ชนิด ไดแ้ ก่ กำแพงเจ็ดชน้ั (Salacia chinensis L.) - ยำงนำ (Dipterocarpus alatus Roxb. ex G. Don) วงศก์ ะเพรา (Lamiaceae) จานวน 1 ชนิด ได้แก่ - ขอ่ ยดำ (Clerodendrum longisepalum Dop) วงศจ์ ิก (Lecythidaceae) จานวน 1 ชนิด ไดแ้ ก่ - จกิ นำ (Barringtonia acutangula (L.) Gaertn.) 16 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร ข่อยดำ (Clerodendrum longisepalum Dop)

ลิเภำใหญ่ (Lygodium salicifolium C. Presl) พรรณไม้ทีพ่ บ (ต่อ) ประคำไก่ (Putranjiva roxburghii Wall.) กรวยป่ำ (Casearia grewiifolia Vent.) วงศ์ลิเภา (Lygodiaceae) จานวน 1 ชนดิ ไดแ้ ก่ - ลิเภำใหญ่ (Lygodium salicifolium C. Presl) วงศ์ตะแบก (Lythraceae) จานวน 1 ชนดิ ได้แก่ - ตะแบก (Lagerstroemia floribunda Jack var. floribunda) วงศ์คลา้ (Marantaceae) จานวน 1 ชนดิ ไดแ้ ก่ - คล้ำ (Schumannianthus dichotomus (Roxb.) Gagnep.) วงศ์โคลงเคลง (Melastomataceae) จานวน 1 ชนิด ไดแ้ ก่ - พลองขีน้ ก (Memecylon caeruleum Jack var. floribundum (Blume) Kurz) วงศห์ ว้า (Myrtaceae) จานวน 1 ชนิด ได้แก่ - หวำ้ (Syzygium cumini (L.) Skeels) วงศป์ ระคาไก่ (Putranjivaceae) จานวน 1 ชนิด ได้แก่ - ประคำไก่ (Putranjiva roxburghii Wall.) วงศ์สม้ (Rutaceae) จานวน 1 ชนิด ไดแ้ ก่ - เขยตำย (Glycosmis pentaphylla (Retz.) DC.) วงศ์สนนุ่ (Salicaceae) จานวน 1 ชนดิ ได้แก่ - กรวยป่ำ (Casearia grewiifolia Vent.) วงศห์ นามพุงดอ (Salvadoraceae) จานวน 1 ชนดิ ไดแ้ ก่ - หนำมพงุ ดอ (Azima sarmentosa (Blume) Benth. & Hook. f.) วงศ์หวั ขา้ วเยน็ (Smilacaceae) จานวน 1 ชนดิ ได้แก่ - กำลงั ควำยถึก (Smilax perfoliata Lour.) วงศ์องุ่น (Vitaceae) จานวน 1 ชนดิ ไดแ้ ก่ - เขอื ง (Leea rubra Blume ex Spreng.) กำลงั ควำยถกึ (Smilax perfoliata Lour.) พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 17

Ml12 ll10 8 M6 Ml4 M2 ll0 l llภาพที่ 2 จำนวนชนดิ ของพรรณไม้ในแต่ละวงศใ์ นเสน้ ทำงศกึ ษำธรรมชำติ วนอทุ ยำนนครไชยบวร M Mlนอกจำกนี้พรรณไม้บำงชนิดมีสถำนภำพหำยำก (Rear species) ตำมบัญชี Red list data (ปี ค.ศ. 2001) 6 ชนิด Mได้แก่ ฉนวนน้ำ (D. godefroyi Prain), แดงสะแง (S. ovata Korth.), พุดป่ำ (K. hygrophila (Kurz) Tirveng.), ยู (B. emarginata Pierre), สะแกดิน Q. prostrata Craib) ขนำน (P. littorale Craib var. littorale) และ รวงผึ้ง l(S. glomerata King subsp. peregrina (Craib) Roekm.) ซึง่ พบไดย้ ำกในปำ่ ธรรมชำติ l นอกจากน้นั ยงั พบพืชที่ยังไม่มีการรายงานว่าพบในประเทศไทยมาก่อน (New record) แต่เคยมีการบันทึกการ lพบมาก่อนในประเทศกัมพูชา (First Publication Journal: Notulae Systematicae. Herbier du Museum de Paris (1912) 1 ชนดิ ไดแ้ ก่ มะขามไก่ (Dalbergia thorelii Gagnap.) 18 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

วสิ ัย (Habit) ของพรรณไม้ จำกกำรจำแนกวิสยั ของพรรณไม้ที่พบ • ไมเ้ ถา (C=Climber) พบมำกทส่ี ุดจำนวน 28 ชนิด • ไมพ้ ุ่ม (S=Shrub) จำนวน 16 ชนิด • ไม้ต้น (T=Tree) จำนวน 16 ชนิด • ไม้ต้นขนาดเลก็ (ST=Shrub/Shrubby Tree) จำนวน 15 ชนดิ • ไมพ้ มุ่ รอเลื้อย (ScanS=Scandent Shrub) จำนวน 7 ชนดิ • ไม้ล้มลุก (H=Herb) จำนวน 4 ชนิด • ไมต้ ้นต่างประเทศ (ExT=Exotic Tree) จำนวน 1 ชนิด โดยจำนวนชนิดของไม้พุม่ และไมต้ ้นพบมำกกวำ่ กำรศึกษำของ เตชธร (2559) ท่ีพบไม้พุ่ม 9 ชนิด และไม้ต้น 13 ชนิด Species 30 25 20 15 10 5 0 C S T ST ScanS H ExT ภาพที่ 3 วสิ ยั ของพรรณไมใ้ นเส้นทำงศกึ ษำธรรมชำติ วนอทุ ยำนนครไชยบวร จ.พิจิตร (C=Climber, S=Shrub, T=Tree, ST=Shrub/Shrubby Tree, ScanS=Scandent Shrub, H=Herb, ExT=Exotic Tree ) พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 19

การใชป้ ระโยชน์พรรณไม้ กำรศึกษำได้สำรวจพบพรรณไม้ทั้งหมด 87 ชนิด เม่ือนำไปสอบถำมปรำชญ์ชำวบ้ำนหนองดง ต.ท่ำเสำ อ.โพทะเล จ.พิจิตร นำยเทียม เอี่ยมอบ อำยุ 82 ปี และนำยจำลอง กลิน่ เกลยี้ ง อำยุ 85 ปี อำชีพเดิมทำนำ ท่ีอยู่ 63 หมู่ 2 บ้ำนหนองดง ต.ท่ำเสำ อ.โพทะเล จ.พิจิตร ได้ให้ข้อมูลกำรใช้ประโยชน์ 44 ชนิด และไม่ ทรำบข้อมูลกำรใช้ประโยชน์ 43 ชนิด โดยมีรูปแบบ กำรใช้ประโยชน์ เป็นสมุนไพรอำหำร ผลไม้ ไม้ใช้สอย ทำถ่ำนหรือเช้ือเพลิง ใช้ในพิธีมงคล และพืชมีพิษ ยกตัวอย่ำงทส่ี ำคญั ดังน้ี สมุนไพร เช่น เถำวัลย์เปรียง รำงแดง เถำย่ำนำง ชิงช่ี ขี้แรด หนำมหำงนกกะลิง สะเดำ คัดเค้ำเครือ หนำมพรม และเขือง ไม้ใช้สอย เช่น คำง ตะโกนำ ตะแบกนำ ยู สำโรง กรวยป่ำ กระทมุ่ นำ ขอ่ ย ทาถา่ นหรือเช้อื เพลงิ เชน่ คำง ตะโกนำ ยู กรวยป่ำ กระทุ่มนำ สะแกนำ รกั ดำ ระกำป่ำ อาหาร เช่น ถ่ัวคล้ำ กำลังควำยถึก จิกนำ บุก มนั นก หวำยขม และมะเดอื่ ปล้อง ผลไม้ เชน่ พลองข้ีนก หมำกว้อ เล็บเหย่ียว นมแมว พีพวนนอ้ ย ไมด้ อกไม้ประดบั เชน่ จิกนำ กำรเวก ใช้ในพิธีมงคล เชน่ สม้ ป่อย พืชมีพิษ เช่น รักขำว (ยำงมีพิษ) และหนำมพุงดอ (หนำมมีพิษ) 20 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

ลักษณะสังคมพชื จำกกำรสำรวจสภำพแวดล้อมทำงกำยภำพ องค์ประกอบพรรณไม้ และโครงสร้ำงป่ำ โดยเปรียบเทียบกับ ผลกำรศึกษำของ มำนพและคณะ (2562) ในหนังสือป่ำบุ่งป่ำทำมภำคอีสำน พบว่ำสังคมพืชในพื้นท่ีศึกษำ พบสังคมพืช 2 ชนิด คือ สังคมพืชแบบ “ป่าบุ่งทาม (Lowland floodplain forest)” และ “ป่าดิบแล้งก่ึง ป่าบุ่งทาม (Semi-evergreen floodplain forest)” โดยสังคมพืชส่วนใหญ่กว่ำร้อยละ 80 เป็นสังคมพืช แบบท่ี 2 รำยละเอียดดงั ตอ่ ไปนี้ เป็นป่ำท่ีปกคลุมอยู่บนท่ีรำบน้ำท่วมถึง แต่ระดับ คัดเค้ำเครือ พลองข้ีนก ประยงค์ป่ำ มะกำใบหนำ ควำมสูงของพ้ืนดินค่อนข้ำงสูงหรือเป็นเนินตะกอน แฟบน้ำ แดงน้ำ ตะขบน้ำ เขยตำย นมแมว น้ำพัดพำ ท่ีมีระดับน้ำท่วมจำกระดับน้ำที่ล้นตล่ิง พีพวนน้อย กำรเวก รสสุคนธ์ กำแพงเจ็ดช้ัน ข้ีแรด ในช่วงฤดูน้ำหลำก ปกติสูงไม่เกิน 1 เมตร และน้ำ เถำวัลย์เปรียง ถอบแถบน้ำ หมำกขี้อ้น โคคลำน แช่ขังอยู่ไม่นำนเกินกว่ำ 1 เดือน เป็นประจำหรือ กำ้ งปลำเครือ หนำมพุงดอ เกือบทุกปี ระดับเรือนยอดและโครงสร้ำงป่ำสูง 30-50 เมตร โครงสร้ำงช้ันเรือนยอดป่ำ แบ่งได้เป็น 5) เรอื นยอดช้ันพื้นปา่ (Ground layer) 5 ช้ัน ได้แก่ ชั้นเด่น ชั้นเด่นรอง ช้ันกลำง ช้ันไม้พุ่ม สูงน้อยกว่ำ 2 เมตร มีพรรณไม้เด่น ได้แก่ ข่อยดำ และชน้ั พน้ื ปำ่ เขือง ตะเข้คุมวัง เข็มน้ำ ยอน้ำ หนำมพรม พุดป่ำ ต่อไส้ ข้ำวสำรป่ำ อุตพิดเล็ก บุก มันนก มันพำด 1) เรอื นยอดชั้นเดน่ (Dominant layer) กำลังควำยถึก กรุงเขมำ เถำย่ำนำง ตดหมูตดหมำ สงู 30-50 เมตร มีพรรณไมเ้ ดน่ ได้แก่ ยำงนำ เครอื ไพสง 2) เรือนยอดช้ันเด่นรอง (Co-dominant สังคมพืชแบบป่ำดิบแล้งก่ึงป่ำบุ่งทำมแห่งน้ีมี layer) สูง 15-30 เมตร มีพรรณไมเ้ ด่น ได้แก่ สำโรง จุดเด่นพรรณไม้ต้นและไม้พุ่มท่ีปรำกฏในเรือนยอด หว้ำ จำมจุรี ประคำไก่ คำง รักดำ ตะโกนำ ตะโก ชนั้ เดน่ ช้ันเดน่ รอง ช้นั กลำง และชน้ั ไม้พุ่ม คล้ำยป่ำ สวน ตะแบกนำ รกั ขำว ดิบแล้งในเขตที่รำบน้ำท่วมถึงท่ัวไป ได้แก่ ยำงนำ สำโรง หว้ำ ประคำไก่ ข่อย ตะโกนำ ตะโกสวน รัก 3) เรือนยอดช้ันกลาง (Intermediate layer) ขำว คำง กรวยป่ำ สะเดำ ตะแบกนำ แต่จะมีพรรณ สูง 7-15 เมตร มีพรรณไม้เด่น ได้แก่ มะเดื่อปล้อง ไม้ป่ำบุ่งทำม ที่ค่อนข้ำงขึ้นเฉพำะในพื้นที่น้ำท่วมขัง กรวยป่ำ ข่อย สะเดำ จิกนำ กระทุ่มนำ ตะโกนำ ซ้ำซำกเข้ำมำปรำกฏปะปน เนื่องจำกสภำพปัจจัย แดงสะแง ฝำ้ ยน้ำ กระเบำใหญ่ สะแกนำ แ ว ด ล้ อ ม ตั้ ง อ ยู่ ใ น ช่ ว ง ค ว ำ ม ท น ท ำ น ท ำ ง นิ เ ว ศ (Ecological amplitude) ของพรรณพืชซ้อนทับกัน 4) เรอื นยอดชนั้ ไม้พ่มุ (Shrub layer) ไดแ้ ก่ จกิ นำ ฝ้ำยน้ำ กระเบำใหญ่ สะแกนำ กระทุ่ม สูง 2-7 เมตร มีพรรณไม้เด่น ได้แก่ ข่อย ข่อยน้ำ นำ รวงผึ้ง แฟบนำ้ พุดป่ำ ยอน้ำ หมำกว้อ สะแกดิน หมำกว้อ ยู กลึงกล่อม ชิงชี่ หนำมหำงนกกะลิง หนำมดำ ถอบแถบนำ้ ขอ่ ยดำ เล็บเหยย่ี ว พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 21

ป่าบ่งุ ทาม (Lowland floodplain forest) ระดับน้ำที่ท่วมในพื้นท่ีวนอุทยำนนครไชยบวรบริเวณท่ี เป็นป่ำบุ่งทำม น้ำในแม่น้ำยมจะเร่ิมล้นตลิ่งเข้ำท่วม สังคมพืชน้ีต้ังอยู่ในพื้นท่ีลุ่มต่ำริมแม่น้ำหรือ ระดับพ้ืนดินในเดือนสิงหำคม และสูงสุดในเดือน ลำคลองบริเวณท่ีมีน้ำท่วมซ้ำซำกเป็นประจำเกือบ กนั ยำยน จนกระทัง่ ระดับน้ำตำ่ กว่ำตลิ่งในเดือนตุลำคม ทุ ก ปี เ รี ย ก พื้ น ท่ี ลั ก ษ ณ ะ น้ี ว่ ำ พ้ื น ที่ บุ่ งท ำ ม รวม ระย ะเ วลำ ที่น้ำท่วมปร ะม ำณ 1- 2 เ ดือน (Lowland floodplain) โดยปกติมีระดับน้ำท่วมสูง โดยหลังจำกนี้ไปจนถึงเดือนพฤศจิกำยน ชั้นดินยังคง มำกกว่ำ 1 เมตร เป็นเวลำยำวนำน 1-3 เดือน เป็น ควำมเปียกช้ืนต่อไปอีก หลังจำกนั้นดินท่ีเหนียวจัดของ สังคมพืชชนิดหน่ึงท่ีไม่มีโครงสร้ำงป่ำที่สูงหรือ ในพื้นที่จะเริ่มแห้งแข็ง และแตกระแหงในฤดูแล้ง แต่ ซับซ้อนมำก ปกติไม้ต้นจะสูงไม่เกิน 15 เมตร พรรณไม้ส่วนใหญ่ท่ีเป็นไม้พุ่ม ไม้ต้นและไม้เถำยังคงมี เนอื่ งจำกพรรณไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้เล้ือย ไม้พุ่ม และ ชีวิตอยู่ได้จำกควำมชื้นใต้ช้ันดินเหนียวด้ำนล่ำง ยกเว้น ไม้ล้มลุก เพรำะปัจจัยแวดล้อมที่จำกัดกำรตั้งตัวได้ พืชล้มลุกและพืชน้ำที่ข้ึนบนท่ีสูงและน้ำแห้งไปแล้วจะ ของพชื ที่มวี สิ ยั เป็นไมต้ น้ หรอื ไม้พ่มุ ที่เจรญิ เติบโตช้ำ ยนื ต้นตำย คงเหลือแต่ต้นที่อำศัยอยู่ก้นแอ่งน้ำหรือร่อง ไม่สำมำรถยืดลำต้นและใบให้สูงพ้นระดับน้ำท่วมได้ คลองที่ยังคงมีควำมเปียกช้ืนคงอยู่ พรรณไม้อันเป็น ทันและไม่ทนทำนต่อกำรแช่ขังน้ำและดินท่ีเปียก เอกลักษณ์ของ ป่ำบุ่ง-ทำม ในพื้นที่ศึกษำแบ่งตำม แฉะได้ยำวนำนได้ เรือนยอดของป่ำบุ่งทำม ลักษณะวสิ ัยได้ดงั นี้ จะไม่ต่อเนื่อง ข้ึนกับระดับควำมสูงของพ้ืนดินและ กำรแช่ขงั นำ้ ทีย่ ำวนำนไม่เท่ำกนั กล่ำวคอื พืน้ ทล่ี มุ่ ตำ่ ไม้ต้น ได้แก่ จิกนำ สะแกนำ กระทุ่มนำ ฝ้ำยน้ำ มำกที่มีน้ำท่วมขังเกือบตลอดปี (Marsh/Swamp) กระเบำใหญ่ รวงผงึ้ เช่น บึง หนอง แอ่งน้ำ หรือร่องน้ำเก่ำ บริเวณนี้ ถู ก ป ก ค ลุ ม ด้ ว ย สั ง ค ม พื ช น้ ำ ( Freshwater ไม้พุ่ม ได้แก่ พุดป่ำ แฟบน้ำ หมำกว้อ ระกำป่ำ vegetation) มีลักษณะคล้ำยทุ่งหญ้ำและบึงน้ำที่ มะขำมไก่ ยู ข่อยดำ ประกอบด้วยพืชน้ำล้มลุก เช่น หญ้ำ กก บัว จอก แหน และสำหร่ำย โดยมีไม้เถำ และไม้พุ่มข้ึนอยู่ ไม้พุ่มเล้ือยและไม้เถา ได้แก่ หนำมดำ สะแกดิน ตำมริมบึง สำหรับในพื้นที่ที่อยู่ระดับสูงขึ้นไปถูกปก ฉนวนนำ้ เครอื ตำยดิบ มนั นก ถอบแถบน้ำ ยอน้ำ คลุมด้วยไม้พุ่ม ไม้ต้นและเถำวัลย์หนำแน่นมำกข้ึน มลี กั ษณะเปน็ ปำ่ ไม้ ไม้ต้นมักจะขน้ึ อยู่ประปรำยหรอื ไมล้ ้มลุก ไดแ้ ก่ คลำ้ เปน็ หมู่ไม้เพียงไม่กี่ชนิด ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นพืชที่โตเร็ว บำงชนิดต้นกล้ำสำมำรถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยกำรจมอยู่ ใต้ระดับน้ำได้อยำ่ งยำวนำน 22 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

สรปุ และขอ้ เสนอแนะ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 23

สรุปและขอ้ เสนอแนะ พรรณไม้ท่ีสำรวจพบในวนอุทยำนนครไชยบวรทั้งหมด 39 วงศ์ 72 สกุล 87 ชนิด โดยวงศ์ท่ีมีจำนวน ชนิดมำกที่สุด 5 วงศ์แรก ได้แก่ วงศ์ถั่ว (Fabaceae) จำนวน 11 ชนิด รองลงมำได้แก่ วงศ์เข็ม (Rubiaceae) จำนวน 7 ชนิด วงศ์ชบำ (Malvaceae) จำนวน 6 ชนิด วงศ์โมก (Apocynaceae) และวงศ์ มะขำมป้อม (Phyllanthaceae) 5 ชนิด และพบพืชทม่ี ีสถำนภำพหำยำก (rare species) 6 ชนดิ ได้แก่ - ฉนวนน้า (Dalbergia godefroyi Prain) - รวงผงึ้ (Schoutenia glomerata King subsp. peregrina (Craib) Roekm.) - แดงสะแง (Schoutenia ovata Korth.) - พุดปา่ (Kailarsenia hygrophila (Kurz) Tirveng.) - ยู (Brownlowia emarginata Pierre) - สะแกดนิ (Quisqualis prostrata Craib) - ขนาน (Pterospermum littorale Craib var. littorale) และอีก 1 ชนดิ ท่ยี ังไม่มกี ำรรำยงำนวำ่ พบในประเทศไทยมำก่อน (New record) ไดแ้ ก่ - มะขามไก่ (Dalbergia thorelii Gagnep.) พรรณไม้ท่ีมกี ำรใช้ประโยชนพ์ น้ื บำ้ น จำกชำวบำ้ นรอบป่ำพบจำนวน 44 ชนดิ และไม่ทรำบข้อมูลกำรใช้ ประโยชน์จำนวน 43 ชนิด กำรใช้ประโยชน์ส่วนใหญ่ ใช้เป็นสมุนไพร ไม้ใช้สอย ทำถ่ำน อำหำร ผลไม้ ไมด้ อกไมป้ ระดบั และใช้ในพิธมี งคล ลักษณะสังคมพืชส่วนใหญ่เป็นป่ำดิบแล้งก่ึงป่ำบุ่งทำม ท่ีมีไม้เด่นได้แก่ ยำงนำ สำโรง หว้ำ ประคำไก่ ขอ่ ย ตะโกนำ ตะโกสวน รกั ขำว คำง กรวยปำ่ สะเดำ ตะแบกนำ ขอ้ มูลควำมหลำกหลำยของพรรณไม้ในวนอุทยำนนครไชยบวรและกำรใช้ประโยชน์ ยังเป็นข้อมูลในเชิง วชิ ำกำรทีค่ วรนำควำมรูไ้ ปถ่ำยทอดให้กบั โรงเรียนโดยรอบพืน้ ทศี่ กึ ษำเพอ่ื รักษำองค์ควำมรู้เก่ียวกับพรรณไม้ และขอ้ มูลกำรใช้ประโยชนซ์ ึ่งมำจำกปรำชญ์ชำวบำ้ นที่ยังมีชวี ิตแต่มีควำมชรำภำพไม่สะดวกต่อกำรให้ข้อมูล จึงทำใหอ้ งคค์ วำมรู้ดงั กลำ่ วจะเลือนหำยไป ดังน้ันควรมีกำรจัดกระบวนกำรถ่ำยทอดควำมรู้ให้ประชำชนรุ่น ตอ่ ไปมิให้สูญหำย 24 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

รายชื่อพรรณไม้ และการใชป้ ระโยชน์ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 25

กรวยปา่ Casearia grewiifolia Vent. 26 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

กรวยป่ า Casearia grewiifolia Vent. วงศ์ Salicaceae ชอื่ พืน้ เมอื ง ก้วย ผเี ส้อื เหลือง สีเสือ้ หลวง ขนุ เหยิง บุนเหยิง ค้อแลน ตวย ตวยใหญ่ ตำนเส้ยี น ผ่ำสำม ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไม้ต้น ไม่ผลดั ใบขนำดเลก็ ถึงกลำง ควำมสงู 5-15 ม. รปู ทรงโปร่ง ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ ปลำยแหลม โคนมนกว้ำง มกั เวำ้ เลก็ นอ้ ยทีร่ อยต่อก้ำนใบ ขอบจักฟันเล่ือยถ่ี แผ่นใบ ด้ำนบนเกลี้ยงหรือมีขนเล็กน้อยท่ีเส้นกลำงใบ ด้ำนล่ำงมี ขนนมุ่ ทั่วไป ดอก สีขำวหรือสเี หลืองอมเขยี ว มจี ำนวนมำก ออกเป็น กระจกุ เล็ก ๆ ตำมง่ำมใบทใี่ บร่วงไปแล้ว ดอกสมบูรณ์เพศ กลีบเลี้ยง 5 กลบี ไม่มีกลีบดอก เกสรเพศผู้ 8-10 เกสร ผล มีเน้ือ รูปไข่ ผิวเรียบ ผนังหนำ เม่ือสุกเป็นสีเหลือง แตกอ้ำ 3 ซีก มเี ยอื่ หมุ้ เมลด็ สแี ดง การกระจายพนั ธ์ุ พบขนึ้ ทกุ ภำคของประเทศไทย ตำมปำ่ เบญจพรรณ ป่ำ เต็งรัง ป่ำดิบ และป่ำทุ่งท่ัวไปจนถึงพ้ืนที่ควำมสูงจำก ระดับน้ำทะเลประมำณ 1,200 ม. การใชป้ ระโยชน์ ราก แกท้ ้องเสีย ทอ้ งรว่ ง ตบั พกิ ำร เปลอื ก บำรุงกำลัง แก้ท้องเสีย ใบ รักษำโรคพษิ กำฬ รักษำโรคผวิ หนัง ดอก รักษำโรคพษิ กำฬ แก้ไข้ เมล็ด รักษำริดสีดวงทวำร ใชเ้ บอ่ื ปลำ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 27

กระดูกอ่งึ Dendrolobium triangulare (Retz.) Schindl. subsp. triangulare. 28 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

กระดกู อง่ึ Dendrolobium triangulare (Retz.) Schindl. subsp. triangulare วงศ์ Fabaceae ชือ่ พ้นื เมอื ง กำพี ขมิ้นนำง ขำมผี มะแฮด อีเหนียว ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พุ่ม สูง 0.5-2 ม. แตกก่ิงมำก กิ่งอ่อน ก้ำนใบ และกำ้ นชอ่ ดอกเป็นสันและมีขนยำวสีขำวเป็นมันเงำ มีหู ใบรูปสำมเหลย่ี มทซี่ อกใบ ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกมี 3 ใบย่อยเรียงสลับ ก้ำนใบยำว 2-6 ซม. หูใบย่อยรูปใบหอก กว้ำง 1.5-5 ซม. ยำว 5-10 ซม. ปลำยใบแหลม โคนใบแหลมหรือมน ด้ำนบนเกลี้ยงหรือมีขนประปรำยด้ำนล่ำงมีขนยำวสีขำว เป็นมัน เสน้ แขนงใบ ข้ำงละ 7-10 เสน้ ดอก เป็นช่อกระจุก ช่อดอกส้ัน ออกตำมซอกใบ และปลำยกิง่ ดอกรูปดอกถว่ั กลีบเลยี้ ง 4 กลบี โคนตดิ กัน เป็นหลอดส้ัน ๆ ปลำยแยกจำกกัน มกี ลีบดอกสขี ำว ผล เปน็ ฝักแบนดำ้ นข้ำง มีขนยำวสีขำวเป็นมันปกคลุม กว้ำงประมำณ 5 มม. ยำว 2-3 ซม. มีรอยคอดลึกตำม ตำแหนง่ เมล็ด 3-5 เมลด็ เมล็ดเล็ก สีนำ้ ตำล รปู ไต การออกดอกและผล ออกดอกเดือนมิถุนำยน-กันยำยน และออกผลเดือน กนั ยำยน-มกรำคม การกระจายพนั ธุ์ พบท่ัวไปตำมป่ำเต็งรังและป่ำเบญจพรรณ ควำมสูง 10-600 ม. การใชป้ ระโยชน์ ท้งั ตน้ เป็นอำหำรสตั ว์ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 1289

กระทุ่มนา Mitragyna diversifolia (Wall. ex G. Don) Havil. 30 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

กระทมุ่ นา Mitragyna diversifolia (Wall. ex G. Don) Havil. วงศ์ Rubiaceae ช่ือพืน้ เมือง กระทอ่ มขหี้ มู ตุ้มน้ำ ถ่มพำย ทม ทุ่ม ท่อมขห้ี มู ทอ่ มนำ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไม้ตน้ ขนำดกลำง-ใหญ่ สงู ไดถ้ ึง 15 ม. ทรงพุม่ กลม แตกกิง่ กำ้ นจำนวนมำก ใบ เป็นใบเด่ยี ว เรยี งตรงขำ้ ม รูปไขห่ รือรปู รี ยำว 5-16 ซม. ปลำยใบมนหรอื กลม โคนใบมนหรือเวำ้ เลก็ น้อย แผ่น ใบด้ำนล่ำงมขี นตำมเสน้ แขนงใบ ดอก เปน็ ช่อดอกแบบชอ่ กระจุกแยกแขนง หรือช่อย่อย แบบกระจุกทรงกลม ออกตำมปลำยก่ิง ใบประดับ มี 1 คู่ ลักษณะคล้ำยใบ ติดบนก้ำนชอ่ ด้ำนล่ำง ผล แบบแห้งแตก ช่อผลเส้นผ่ำนศูนย์กลำง 1.3-1.8 ซม. ผลย่อย รูปไข่ ยำวประมำณ 5 มม. ผิวเกลี้ยง เมล็ด จำนวนมำก ขนำดเลก็ การออกดอกและผล ออกดอกเดอื นมถิ ุนำยน-กรกฎำคม การกระจายพนั ธุ์ พบท่ัวไปตำมพ้ืนทช่ี มุ่ น้ำ และพื้นที่ชำยนำ้ ในเขตที่รำบ น้ำท่วมถงึ การใชป้ ระโยชน์ เปลือก รักษำโรคผิวหนัง แก้บิดมูกเลือด และรักษำ มะเรง็ คดุ ทะรำด ใบ แก้ท้องเสีย แก้ปวดมวนท้อง แก้ท้องร่วง ช่วยลด ควำมดันโลหิต พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 2301

กระเทยี มช้าง Crinum amoenum Roxb. ex Ker Gawl. 32 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

กระเทยี มช้าง Crinum amoenum Roxb. ex Ker Gawl. วงศ์ Amaryllidaceae ชื่อพ้ืนเมือง พลบั พลงึ พลับพลงึ ปำ่ กำพรงึ นงิ งอย ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้ล้มลุก มีอำยุหลำยปี มีหัวใต้ดินคล้ำยหัวหอม พักตัวในฤดแู ล้ง หัวกลมสีขำว ใบ เรียงเวียนรอบเป็นกระจุกชิดผิวดินและแผ่กว้ำง ใบรูปแถบ ปลำยใบเรียวแหลม โคนใบแผ่เป็นกำบ เชอื่ มต่อกบั หวั ผิวใบเกลีย้ ง เนื้อในอ่อนน่มุ ดอก เป็นช่อคล้ำยซี่ร่ม ก้ำนช่อดอกกลม ยำว 30-80 ซม. มีกล่ินหอม กลีบดอกเป็นหลอด ปลำยกลีบแยก 6 แฉก รปู แถบสขี ำว ก้ำนชเู กสรเพศผ้สู ีแดงอมม่วง ผล ค่อนข้ำงกลม ติดเป็นกลุ่มอยู่ที่ปลำยก้ำนช่อดอก เกำ่ ภำยในมเี มล็ดรปู หลำยเหลยี่ ม 1-3 เมลด็ การออกดอกและผล ออกดอกเดือนธันวำคม-กรกฎำคม และออกผลเดือน มีนำคม-กันยำยน การกระจายพนั ธ์ุ มักข้ึนตำมทงุ่ หญำ้ ปำ่ ผลัดใบ หรือชำยป่ำดงดิบ พบได้ ทวั่ ประเทศไทย ตำ่ งประเทศพบทีอ่ นิ เดีย เนปำล ศรีลังกำ เมียนมำร์ ลำว กัมพูชำ และเวยี ดนำม การใชป้ ระโยชน์ อาหาร ผลสกุ กนิ เป็นผลไม้ สมุนไพร ใบนำมำรองแคร่ไม้ไผ่ แล้วก่อไฟใต้แคร่ นอนทับลงไป ชว่ ยรกั ษำอำกำรฟกชำ้ ช้ำใน ด้านอื่น หัวเป็นพิษ เมื่อสัมผัสอำจทำให้คันและทำน ไมไ่ ด้ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 2323

กระเบาใหญ่ Hydnocarpus castanea Hook. f. & Thomson 34 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

กระเบาใหญ่ Hydnocarpus castanea Hook. f. & Thomson วงศ์ Achariaceae ช่ือพนื้ เมอื ง กระเบำ กระเบำน้ำ กระเบำเบ้ำแขง็ กำหลง เบำ ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไมต้ ้น สูง 10-20 ม. ใบ เป็นใบเด่ียว เรียงสลับ รูปหอกแกมรูปไข่หรือรูป ขอบขนำน กว้ำง 3-6 ซม. ยำว 10-20 ซม. ดอก เป็นดอกเดี่ยวหรือดอกช่อสั้น ๆ ออกท่ีซอกใบ แยกเพศอยู่ต่ำงต้น ต้นเพศผู้เรียกว่ำ แก้วกำหลง ต้นเพศ เมียเรียกว่ำ กระเบำ กลีบดอกและกลีบเล้ียงอย่ำงละ 5 กลบี กลบี ดอกสีเหลอื งอมเขยี ว ดอกเพศผูม้ ีกล่ินหอมมำก ผล เป็นแบบผลสด รูปกลม เส้นผ่ำนศูนย์กลำง 8-12 ซม. เปลือกหนำแข็ง มีขนกำมะหย่ีสีน้ำตำล เมล็ด มจี ำนวนมำก เน้ือในมีสขี ำว การออกดอกและผล ออกดอกและผลเดอื นธนั วำคม-เดือนมนี ำคม การกระจายพันธ์ุ พบทัว่ ไปในประเทศไทย ตำมป่ำบงุ่ ทำม หรือชำยแม่น้ำ ลำคลองในเขตที่รำบนำ้ ทว่ มถึง การใช้ประโยชน์ เปลอื ก ขบั ปสั สำวะ น้ามันจากเมล็ด เรียกน้ำมันกระเบำ รักษำโรคเรื้อน ชนั นะตุ หดิ แก้ปวดบวมตำมข้อ แกป้ วดทอ้ ง รากและเน้ือไม้ แก้โรคผิวหนัง ฆ่ำพยำธิผิวหนังต่ำง ๆ รกั ษำแผล แก้เสมหะ ดับพิษท้งั ปวง ใบ แก้พษิ บำดแผลสด แก้กลำกเกลอ้ื น ฆำ่ พยำธิ ผล แกโ้ รคผวิ หนัง โรคเรอ้ื น มะเรง็ คดุ ทะรำด เมล็ด น้ำมันที่บีบจำกเมล็ดโดยไม่ใช้ควำมร้อน มีฤทธ์ิ ฆำ่ เชอื้ โรคเรอื้ นและวัณโรค ยำถำ่ ยพยำธิ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 2345

กรุงเขมา Cissampelos pareira L. var. hirsuta (Buch. ex DC.) Forman 36 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

กรุงเขมา Cissampelos pareira L. var. hirsuta (Buch. ex DC.) Forman วงศ์ Menispermaceae ชือ่ พ้นื เมือง วุ้นหม้อน้อย ขงเขมำ พระพำย หมำ น้อย สีฟัน เครือหมำน้อย ก้นปิด เปล้ำเลือด อะกำมินเยำะ ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไม้เถา ตำมเถำ กิ่งใบ ใบ และช่อดอกมีขนอ่อนนุ่ม มีหวั ยำวใต้ดนิ ใบ เป็นใบเด่ียว รูปหัวใจ ใบกว้ำง 5.6–6.6 ซม. ยำว 6.9–7.6 ซม. โคนใบแบบก้นปิด ปลำยใบเรียวแหลม หน้ำใบและหลังใบมขี นสนี ้ำตำลปกคลุม ดอก ออกดอกที่ซอกใบหรือปลำยก่ิงแบบช่อกระจะ แยกแขนง ยำว 3-6 ซม. ชอ่ ดอกยอ่ ยแบบซ่ีร่มมี 4-5 ดอก มขี นำดเล็กสีเขียว ผล ก้ำนผลอวบโต ยำวประมำณ 1 ซม. ผลทรงกลมรี เม่ือสุกมีสีเหลืองส้ม-แดง เมล็ดกลมแบน มีกระดูกโค้งงอ รปู พระจนั ทร์คร่ึงซีก การกระจายพนั ธุ์ พบข้นึ ริมแม่น้ำป่ำผลัดใบและป่ำดงดิบทั่วประเทศไทย ต่ำงประเทศ พบในประเทศอินเดีย มำเลเซีย อินโดนีเซีย แอฟริกำ และอเมริกำ การใชป้ ระโยชน์ ใบ มีสำรเพกทิน เม่ือนำมำขยำกับน้ำจะเกิดเป็นวุ้นใส ใชร้ บั ประทำนได้ ราก มีสำรแอลคำลอยด์ท่ีมีคุณสมบัติหลำยอย่ำง เช่น แก้ปวด ห้ำมเลือด รักษำโรคระบบทำงเดินอำหำร เป็นยำสมำน และในทำงกำรแพทย์แผนไทยใช้รำกแก้ไข้ ดีซำ่ น พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 2367

กลึงกลอ่ ม Polyalthia suberosa (Roxb.) Thwaites 38 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

กลึงกลอ่ ม Polyalthia suberosa (Roxb.) Thwaites วงศ์ Annonaceae ช่ือพ้นื เมอื ง กระทมุ่ กลอง กระทมุ่ คลอง ช่งั กลอง ทอ้ งคลอง ชอ่ งคลอง กำจำย ไครน้ ำ้ นำ้ นอง นำ้ นอ้ ย มงจำม ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้พมุ่ สูง 2-5 ม. แตกกิง่ ตำ่ ใบ เป็นใบเด่ียว เรียงสลับระนำบเดียว แผ่นใบเกลี้ยง ทง้ั สองดำ้ น หรืออำจมขี นสั้น ๆ เลก็ น้อยตำมเส้นกลำงใบ ดอก ออกเดี่ยว ๆ ตำมซอกใบ ตรงข้ำมหรือเย้ืองกับใบ กำ้ นดอกยำว 1-2 ซม. กลบี เลีย้ ง 3 กลีบ รูปไข่ ดำ้ นนอกมี ขน กลีบดอกสีเหลืองอมเขียว เรียงสลับกัน 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ ขนำดใหญก่ วำ่ กลีบเล้ียง เกสรเพศผู้เล็ก มีจำนวน มำก อยู่ชิดกันแน่นเป็นพ่มุ กลม ผล เป็นผลกลุ่ม มีผลย่อยจำนวนมำก อยู่บนแกนตุ้ม กลม ผลกลม ผิวเรียบ สีเขียว เม่ือสุกสีแดงหรือดำ มี 1-2 เมลด็ ตอ่ ผล การกระจายพนั ธุ์ ในประเทศไทยพบได้ท่ัวไปตำมพื้นท่ีรำบลุ่มที่มีควำม ชุ่มชน้ื หรอื ริมแมน่ ำ้ ลำคลอง การใช้ประโยชน์ รากและเนื้อไม้ แก้ไข้ แก้ร้อนในกระหำยน้ำ แกน้ ำ้ เหลืองเสยี ช่วยขับพษิ ภำยในรำ่ งกำย ใบและกิ่ง พบสำร Suberosol ซึ่งมีฤทธ์ิต้ำนเช้ือ HIV ทีเ่ ปน็ สำเหตขุ องโรคเอดส์ในหลอดทดลอง พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 2389

กา้ งปลาเครือ Phyllanthus reticulatus Poir. 40 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

ก้างปลาเครือ Phyllanthus reticulatus Poir. วงศ์ Phyllanthaceae ชอื่ พืน้ เมอื ง อำไอ่ ก้ำงปลำขำว กระออง ฟันฟมื มะกำ้ กำ้ งปลำแดง ตะไครห้ ำงนำค ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้เล้ือยหรือไม้พุ่มรอเล้ือย ยำว 2-10 ม. เปลือก เถำแกเ่ รียบ หรอื แตกสะเก็ดเลก็ น้อย สนี ำ้ ตำล ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับระนำบเดียว รูปไข่ ยำว 1.5-3 ซม. ปลำยใบมนหรือแหลม ผิวใบด้ำนบนมันเงำ ดำ้ นลำ่ งสเี ขียวนวล มขี นสั้นเลก็ น้อย เนอื้ ใบบำงและนุ่ม ดอก แยกเพศแต่อยู่บนต้นเดียวกัน ออกเป็นกระจุก ตำมซอกใบใกล้ปลำยกิ่ง ดอกห้อยลง มีขนำดเล็กมำก สีแดง-ชมพู ปลำยกลบี สีขำว ผล รูปทรงกลมแป้น กว้ำง 5-9 มม. ยำว 4-6 มม. ปลำยทัง้ สองด้ำนบุ๋ม ผิวเรียบเกลี้ยง กลีบเลี้ยงติดคงทนที่ ข้ัวผล ผลแก่มีเน้ือนุ่มฉ่ำน้ำ สีดำอมม่วง มักมีนวลขำว เมลด็ รปู สำมเหลย่ี ม มี 8-16 เมล็ดต่อผล การออกดอกและผล ออกดอกและติดผลตลอดทง้ั ปี การกระจายพนั ธุ์ มักข้ึนตำมท่ีโล่งแจ้ง ทุ่งนำ ริมน้ำ ในเขตท่ีรำบ น้ำท่วมถึง ที่ควำมสูงจำกระดับทะเลปำนกลำงไม่เกิน 800 ม. พบไดง้ ำ่ ย กระจำยทว่ั ประเทศ การใชป้ ระโยชน์ อาหาร ยอดอ่อน รสขมเล็กน้อย เป็นผักสด จ้ิมกับ นำ้ พริก ผลสุก เปน็ ผลไม้ รสหวำนอมฝำด สมุนไพร ทุกส่วน ตำกแห้ง ต้มน้ำด่ืมแก้กินผิดสำแดง ในแมล่ กู ออ่ น วสั ดุ ลำตน้ หรอื เถำใช้ทำขอบเครื่องจักสำน ดา้ นอนื่ ผลสุกเปน็ อำหำรนก พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 3401

การเวก Artabotrys siamensis Miq. 42 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

การเวก Artabotrys siamensis Miq. วงศ์ Annonaceae ชือ่ พ้ืนเมือง กระดังงำเถำ กระดังงำปำ่ ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง ตำมกิ่ง ก้ำน และใบมีขนส้ัน สนี ำ้ ตำล ลาต้น มีหนำมแข็ง มีมือจับรูปตะขออยู่ช่วงปลำยกิ่ง เปลอื กต้นช้นั นอกเรียบ สเี ทำดำ ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับระนำบเดียว ใบรูปไข่กลับ แกมรูปขอบขนำน กว้ำง 3-6 ซม. ยำว 6-18 ซม. ปลำยแหลม ขอบเรยี บ ผิวใบด้ำนบนมันเงำ ด้ำนล่ำงมีขน หนำนุ่ม กำ้ นใบยำว 1-1.5 ซม. ดอก เป็นดอกเด่ียว ออกบนส่วนโค้งสุดของตะขอ ดอกสีเขียวอ่อน เม่ือแก่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง มีกล่ินหอม เกสรเพศผู้ขนำดเล็กจำนวนมำก อัดแน่นเป็นวงกลม ลอ้ มรอบเกสรเพศเมีย ผล เป็นผลกลุ่ม มีผลย่อย 4-15 ผล รูปกลมรี ปลำย แหลม กว้ำงประมำณ 1.8 ซม. ยำวประมำณ 2 ซม. ผวิ เกลย้ี ง ผลออ่ นสเี ขยี ว ผลแกส่ ีเหลอื งออกดำ มี 2 เมล็ด ตอ่ ผล การออกดอกและผล ออกดอกเดือนมีนำคม-เมษำยน และออกผลเดือน เมษำยน-พฤษภำคม การกระจายพันธ์ุ ภำคตะวันตก ภำคกลำงและภำคตะวนั ออก พบตำมปำ่ เบญจพรรณและป่ำดงดิบ ควำมสูงจำกระดับทะเล ปำนกลำงถึงประมำณ 100 ม. ภำพ: Vichai Khusakul การใชป้ ระโยชน์ ใบ เป็นยำขับปัสสำวะ ดอก ปรงุ เป็นยำหอม แกล้ มวิงเวยี น และทำนำ้ หอม 3423 ท้ังตน้ เป็นไม้ประดับ พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

กาแพงเจด็ ชั้น Salacia chinensis L. 44 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร

กาแพงเจด็ ช้ นั Salacia chinensis L. วงศ์ Celastraceae ชอ่ื พ้นื เมือง ตะลมุ่ นก ตำไก้ ขอบกระดง้ สำมชนั้ กระดมุ นก มะตอ่ มไก่ ขำวไก่ นำ้ นอง ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ เปน็ ไมเ้ ถาเนอื้ แข็ง เปลือกลำต้นเรียบสีเทำนวล เนื้อไม้ มวี งปสี ีน้ำตำลแดงเขม้ จำนวนหลำยช้ันเรียงซอ้ นกัน ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงตรงข้ำม รูปรี กว้ำง 2-4 ซม. ยำว 4-8 ซม. ปลำยใบแหลมหรือมน โคนใบสอบ ขอบ เป็นหยักเลก็ นอ้ ย แผ่นใบคอ่ นข้ำงหนำ เรียบเกล้ียง ดอก เปน็ ช่อกระจุก ออกตำมซอกใบหรือก่ิง มีสีเหลือง หรือสีเขียวอมเหลือง ผล ทรงกลม ผิวเกลี้ยง ผลอ่อนสีเขียว เม่ือสุก เปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีแดงอมส้ม สำมำรถรับประทำนได้ การออกดอกและผล ออกดอกเดือนมกรำคม-มีนำคม และออกผลเดือน มนี ำคม-เมษำยน การกระจายพันธ์ุ ขนึ้ ตำมปำ่ เบญจพรรณ ป่ำดงดิบ หรือที่โล่ง ท่ัวประเทศ ทคี่ วำมสงู จำกระดบั ทะเลปำนกลำงถงึ 1,500 ม. การใชป้ ระโยชน์ ราก แก้ประจำเดือนมำไม่ปกติ ขับลม รักษำโรคตำ บำรุงน้ำเหลือง ลาต้น แก้ปวดเมื่อย เป็นยำระบำย ขับลม ขับโลหิต ระดู แกไ้ ข้ แก้ปวดบวมตำมข้อ แก้ประดง ใบ ขับโลหิตระดู ขับน้ำคำวปลำ มวนบุหรี่สูบ รกั ษำโรครดิ สีดวงจมูก ดอก แกบ้ ดิ มกู เลอื ด พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร 3445

กาลังควายถกึ Smilax perfoliata Lour. 46 พรรณไม้และองค์ประกอบสังคมพืช ในวนอุทยานนครไชยบวร