99 บันทึกผลการจดั การเรียนรู้ 1. ความสาเร็จในการจัดการเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจัดการเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. ส่ิงทีไ่ ม่ได้ปฏิบัตติ ามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ ผ้สู อน / /
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 18 100 หลกั ทัว่ ไปของการพูด ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 รหัสวชิ า ท 31101 รายวชิ า ภาษาไทย ภาคเรียนท่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การฟังการดู และการพดู ใหส้ มั ฤทธ์ิผล เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง หลกั ทวั่ ไปของการพดู 1. สาระสาคัญ การพูดเป็ นท้ังศาสตร์และศิลป์ ท่ีมีบทบาทสาคัญในการติดต่อส่ือสารในชีวิตประจาวนั จึง จาเป็นตอ้ งมีหลกั ในการพดู ที่ดี และใชภ้ าษาในการพดู ใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมดว้ ย 2. ตัวชี้วดั ช่วงช้ัน 1. พูดในโอกาสต่าง ๆ พูดแสดงทรรศนะ โตแ้ ยง้ โน้มนา้ วใจ และเสนอแนวคิดใหม่ดว้ ยภาษา ถูกตอ้ งเหมาะสม ท 3.1 (ม.4–6/5) 2. ใชภ้ าษาเหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ และบุคคล รวมท้งั คาราชาศพั ทอ์ ยา่ งเหมาะสม ท 4.1 (ม.4–6/3) 3. วเิ คราะห์อิทธิพลของภาษาต่างประเทศและภาษาถิ่น ท 4.1 (ม.4–6/5) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความสาคญั วิธีการส่งสาร และหลกั การพดู ที่มีประสิทธิภาพได้ (K) 2. อธิบายการเลือกใชภ้ าษาท่ีเหมาะสมกบั การพดู ได้ (K) 3. เลือกใชภ้ าษาไดเ้ หมาะสมตามหลกั การพดู และระดบั ของบุคคล (K , P) 4. เลือกใชส้ านวนภาษาต่างประเทศไดเ้ หมาะสม (K , P) 5. เห็นความสาคญั ของการใชภ้ าษาพดู ที่ถูกตอ้ งและเหมาะสมกบั กาลเทศะ (A) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถาม 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็ น 1. ประเมินทกั ษะการฟังและการดู แ ล ะ ก าร แ ส ด ง ค ว าม รายบุคคลในด้านความสนใจและต้ังใจ 2. ประเมินทักษะการแสวงหา คิดเห็น เรียน ความรับผิดชอบในการทากิจกรรม ความรู้ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม ความมีระเบียบวนิ ยั ในการทางาน ฯลฯ 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการคิด 3. ตรวจแบบทดสอบก่อน 2. ประเมินมารยาทในการพดู 4. ประเมินทกั ษะกระบวนการกลุ่ม เรียน 3. ประเมินเจตคติท่ีดีต่อการเรียนภาษาไทย
101 5. สาระการเรียนรู้ 1. การส่งสารดว้ ยการพดู 2. ความสาคญั ของการพดู 3. หลกั การพดู ที่มีประสิทธิภาพ 4. การใชภ้ าษาที่เหมาะสมตามหลกั การพดู 6. แนวทางบูรณาการ เขียนแผนภาพความคดิ หลกั ทวั่ ไปของการพดู คณิตศาสตร์ ศึกษาเร่ือง การอนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ มภายในโรงเรียน สงั คมศึกษาฯ อภิปรายเก่ียวกบั อิทธิพลของภาษาต่างประเทศในการพดู ภาษาต่างประเทศ จดั ป้ายนิเทศ การงานอาชีพฯ 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2. ครูสนทนาซกั ถามนกั เรียนวา่ การพดู มีความสาคญั ต่อชีวติ ประจาวนั มากนอ้ ยเพยี งใด 3. นกั เรียนดูวีดิทศั น์เก่ียวกบั การพูดในโอกาสต่าง ๆ แลว้ ร่วมสนทนาเกี่ยวกบั หลกั การพูด และการใชภ้ าษาในการพดู ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ความสาคญั ของการพูด แลว้ หาขอ้ สรุปร่วมกนั โดยให้ครู อธิบายประกอบการซกั ถามเพมิ่ เติม 2. แบ่งนักเรียนออกเป็ น 3 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มศึกษาคน้ ควา้ จากหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 หรือแหลง่ การเรียนรู้อื่น ตามหวั ขอ้ ที่กาหนดให้ 1) การส่งสารดว้ ยการพดู 2) หลกั การพดู ท่ีมีประสิทธิภาพ 3) การใชภ้ าษาที่เหมาะสมตามหลกั การพดู 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาสรุปความรู้ท่ีไดจ้ ากการศึกษาคน้ ควา้ โดยใหค้ รูสรุปปิ ด ทา้ ยเมื่อจบการรายงาน 4. ครูติดแผนภูมิกระบวนการติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคล แลว้ ให้นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายและ สรุปสาระสาคญั จากแผนภูมิ
102 แผนภูมกิ ระบวนการตดิ ต่อสื่อสารระหว่างบุคคล พ้นื ฐานของผพู้ ดู พ้นื ฐานของผฟู้ ัง – ความรู้ – ความรู้ – ประสบการณ์ – ประสบการณ์ – ค่านิยม – ค่านิยม – ความรู้สึก – ความรู้สึก – ทศั นคติ – ทศั นคติ – ทกั ษะการสื่อสาร – ทกั ษะการส่ือสาร ฯลฯ ฯลฯ 5. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นตามแนวคาถามที่กาหนดให้ 1) บุคคลทวั่ ไปจาเป็นตอ้ งใชค้ าพดู เหมือนกนั ทุกคนหรือไม่ อยา่ งไร 2) การพูดของคนไทยในปัจจุบัน ซ่ึงนิยมพูดภาษาไทยคา ภาษาอังกฤษคา นกั เรียนคิดวา่ มีความเหมาะสมหรือไม่ และมีผลต่อภาษาไทยอยา่ งไรบา้ ง 6. ครูสุ่มเรียกใหน้ กั เรียน 4 – 5 คนออกมาแสดงความคิดเห็น แลว้ ครูสรุปซ้าอีกคร้ัง ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั หลกั ทวั่ ไปของการพดู แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 2. นกั เรียนเล่าข่าวคนละ 1 ข่าว แลว้ ให้เพื่อนช่วยกนั ประเมินว่าพูดไดต้ รงตามหลกั การพูดหรือไม่ อยา่ งไร 3. แบ่งนักเรียนออกเป็ น 5 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มพูดแสดงความคิดเห็นว่าการที่มีสานวน สุภาษิต คา พงั เพย หรือคาประพนั ธ์ท่ีเกี่ยวกับการพูดน้ัน แสดงถึงความสาคัญของการพูดอย่างไร แล้ว ร่วมกนั สรุป 4. นักเรียนทาใบงานที่ 6 เรื่อง การใช้ภาษาท่ีเหมาะสมตามหลักการพูด แล้วช่วยกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ 1. นักเรียนอธิบายหลกั ท่ัวไปของการพูดให้ผูอ้ ื่นฟัง และนาไปใช้พูดได้ถูกต้องเหมาะสมตาม หลกั การ 2. นกั เรียนเลือกใชค้ าในการพดู ถูกตอ้ งเหมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล ข้นั ท่ี 5 สรุป 1. นกั เรียนช่วยกนั สรุปหลกั ทว่ั ไปของการพูด โดยเขียนเป็นแผนภาพความคดิ
103 2. ครูให้นักเรียนศึกษาหลกั การพูดแนะนาตนเองและพูดทกั ทาย เพ่ือเป็ นการทบทวนความรู้เป็ น การบา้ นเพื่อเตรียมจดั การเรียนรู้คร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนรวบรวมสานวน สุภาษิต คาพงั เพย บทร้อยกรอง หรือเพลงท่ีเก่ียวกบั การพดู แลว้ นามาติด ป้ายนิเทศเป็นขอ้ คดิ ในการพดู 2. แบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันคิดบทพูด ในการพูดรณรงค์ให้ช่วยกนั รักษา สิ่งแวดลอ้ มภายในโรงเรียน ร่างบทพดู แลว้ ส่งตวั แทนออกไปพดู หนา้ ช้นั เรียน 3. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายเกี่ยวกบั อิทธิพลของภาษาต่างประเทศในการพดู 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน 2. วดี ิทศั น์เก่ียวกบั การพดู ในโอกาสต่าง ๆ 3. แผนภูมิกระบวนการติดต่อสื่อสารระหวา่ งบุคคล 4. ขา่ ว 5. ใบงาน เรื่อง การใชภ้ าษาท่ีเหมาะสมตามหลกั การพดู 6. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 7. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 8. คูม่ ือการสอน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จากดั 9. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 10. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ บันทึกผลการจดั การเรียนรู้ 1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. สิ่งทีไ่ ม่ได้ปฏิบตั ติ ามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ ลงชื่อ ผ้สู อน / /
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 19 104 การพูดในโอกาสต่าง ๆ ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 รหัสวิชา ท 31101 รายวชิ า ภาษาไทย ภาคเรียนท่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การฟังการดู และการพดู ใหส้ มั ฤทธ์ิผล เวลา 2 ชั่วโมง เร่ือง การพดู ในโอกาสต่าง ๆ 1. สาระสาคญั การพูดแบ่งออกเป็ น 2 ลกั ษณะ คือ การพูดแบบไม่เป็ นทางการและการพูดแบบเป็ นทางการ การ พูดแบบไม่เป็ นทางการ เป็ นการพูดจากนั ในชีวิตประจาวนั ท่ีใชภ้ าษาระดบั ก่ึงทางการหรือภาษาระดบั ไม่ เป็นทางการ ซ่ึงข้ึนอยกู่ บั ระดบั ของบุคคล การพดู ใหส้ มั ฤทธิผลตอ้ งพูดใหเ้ หมาะสมกบั โอกาส กาลเทศะ และระดบั ของบุคคล ซ่ึงตอ้ งอาศยั การฝึกฝนการพดู อยา่ งสม่าเสมอ 2. ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน 1. พูดในโอกาสต่าง ๆ พูดแสดงทรรศนะ โตแ้ ยง้ โนม้ นา้ วใจ และเสนอแนวคิดใหม่ดว้ ยภาษา ถูกตอ้ งเหมาะสม ท 3.1 (ม.4–6/5) 2. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู ท 3.1 (ม.4–6/6) 3. ใชภ้ าษาเหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ และบุคคล รวมท้งั คาราชาศพั ทอ์ ยา่ งเหมาะสม ท 4.1 (ม.4–6/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกหลกั การพดู ในโอกาสต่าง ๆ ได้ (K) 2. ใชห้ ลกั การพูดประกอบการพูดในโอกาสต่าง ๆ ไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล (K , P) 3. ใชท้ กั ษะทางภาษาในการเรียน และการดาเนินชีวิตร่วมกนั ในสงั คม (P) 4. มีมารยาทในการพดู (A)
105 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม (A) ด้านทักษะและกระบวนการ (P) 1. . สังเกตการตอบคาถาม 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางานเป็ น 1. ประเมินทกั ษะการพดู แล ะการแส ดงค วาม รายบุคคลในด้านความสนใจและ 2. ประเมินทักษะการแสวงหา คดิ เห็น ต้งั ใจเรียน ความรับผิดชอบในการทา ความรู้ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม กิจกรรม ความมีระเบียบวินัยในการ 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการคดิ ทางาน ฯลฯ 4. ประเมินทักษะกระบวนการ 2. ประเมินมารยาทในการพดู กลุม่ 5. สาระการเรียนรู้ 1. การพดู แนะนาตนเอง 2. การพดู ทกั ทาย 3. การพดู ขอบคณุ 4. การพดู ใหก้ าลงั ใจ 6. แนวทางบูรณาการ คณิตศาสตร์ เขียนแผนภาพความคิดสรุปหลกั การพดู แบบไม่เป็นทางการและการ พดู แบบเป็นทางการ ภาษาต่างประเทศ ฝึกพดู ในโอกาสต่าง ๆ เป็นภาษาองั กฤษ ศิลปะ แสดงบทบาทสมมุติตามสถานการณ์ในการพดู 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน ช่ัวโมงที่ 1 1. ครูนดั แนะกบั นกั เรียนอาสาสมคั ร 2 คน ให้ออกมาพูดแนะนาตนเองและพูดทกั ทายให้ เพอื่ นในช้นั เรียนฟัง 2. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาอภิปรายเก่ียวกบั การพดู ของเพ่ือนตามหลกั การพดู ที่เคยศึกษามา ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับลักษณะของการพูดในโอกาสต่าง ๆ ว่ามีอะไรบ้าง จากน้นั ครูอธิบายการพดู แบบไม่เป็นทางการใหน้ กั เรียนฟังประกอบการซกั ถามเพมิ่ เติม 2. แบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มระดมสมองคิดหลกั ในการพูดแนะนาตนเอง และการพดู ทกั ทาย
106 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มนาขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการระดมสมองในขอ้ 2 มาเปรียบเทียบกบั หลกั การ พูดแนะนาตนเองและการพูดทกั ทาย ในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 แลว้ ช่วยกนั สรุปหลกั การพดู แนะนาตนเองและหลกั การพดู ทกั ทาย 4. นกั เรียนแต่ละคนออกมาพูดแนะนาตนเองหนา้ ช้นั เรียนตามหลกั การที่ศึกษามา โดยให้ เพ่ือนในช้นั เรียนช่วยกนั ประเมินการพดู 5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มจบั สลากเลือกสถานการณ์การพูดทกั ทายแบบเป็ นพิธีการและไม่เป็ น พิธีการตามท่ีครูกาหนดให้ แล้วส่งตัวแทนออกมาพูดให้เพื่อนฟังหน้าช้ันเรียน ครู ประเมินการพดู ของทุกกลุม่ 6. นักเรียนช่วยกนั สรุปประโยชน์และความสาคญั ของการพูดทกั ทายและการพูดแนะนา ตนเองในชีวติ ประจาวนั ครูตรวจสอบความถกู ตอ้ ง นกั เรียนบนั ทึกลงสมุด 7. ครูอธิบายความรู้เพ่ิมเติมให้นกั เรียนฟังว่า การพูดแนะนาตนเองในภาษาไทยส่วนใหญ่ จะแนะนาวา่ ผมชื่อ...ครับ ดิฉนั ช่ือ...ค่ะ และครูยกตวั อยา่ งการพดู แนะนาตนเองในภาษา อาเซียนบางภาษา เช่น ภาษาลาว ข่อยซ่ือ... ภาษาเขมร ขยมฉมวก... ภาษาเวียดนาม โตย เติน ลา... ภาษาอินโดนีเซีย นามา ซายา... แลว้ ครูให้นกั เรียนคน้ หาการพูดแนะนาตนเองในภาษาต่างประเทศอื่น ๆ เป็นความรู้นอกเวลา เรียน ช่ัวโมงที่ 2 1. นกั เรียนช่วยกนั บอกลกั ษณะของการพดู แบบเป็นทางการ พร้อมยกตวั อยา่ ง 2. นกั เรียนเขา้ กลุ่มเดิมศึกษาเรื่อง การพูดขอบคุณและการพูดให้กาลงั ใจ ในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ภายในเวลาท่ีครูกาหนด แลว้ ครูซกั ถาม ประกอบการอธิบายเพิม่ เติม 3. ครูสมมุติสถานการณ์ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มเขียนบทพดู ขอบคุณและพดู ใหก้ าลงั ใจตามที่ ไดศ้ ึกษา และส่งตวั แทนออกมานาเสนอใหเ้ พ่ือนฟังหนา้ ช้นั เรียน แลว้ ร่วมกนั สนทนาวา่ เหมาะสมหรือไม่ อยา่ งไร 4. ครูสรุปและอธิบายประกอบการซกั ถามเพิ่มเติม ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมที่เกี่ยวกบั การพดู ในโอกาสต่าง ๆ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 2. แบ่งนกั เรียนออกเป็น 5 กลุ่ม ใหแ้ ต่ละกลุ่มระดมสมองคิดสถานการณ์ในการพดู โดยใหม้ ีการ พูดแนะนาตนเอง การพูดทกั ทาย การพูดขอบคุณ และการพูดให้กาลงั ใจ อยใู่ นเรื่องเดียวกนั แลว้ แสดงบทบาทสมมุติใหเ้ พอื่ นดูหนา้ ช้นั เรียน
107 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ติชมและใหก้ าลงั ใจ ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนบอกหลกั การพูดในโอกาสต่าง ๆ ให้ผูอ้ ื่นฟังและสามารถนาไปพูดในโอกาสต่าง ๆ ได้ 2. นกั เรียนพดู แนะนาตนเอง พูดทกั ทาย พูดขอบคุณ และพูดใหก้ าลงั ใจไดถ้ ูกตอ้ งตามหลกั การ และเหมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล ข้นั ที่ 5 สรุป 1. นกั เรียนช่วยกนั สรุปการพดู ในโอกาสต่าง ๆ แลว้ บนั ทึกลงสมุด 2. นักเรียนสรุปหลกั การพูดแบบไม่เป็ นทางการและการพูดแบบเป็ นทางการ โดยเขียนเป็ น แผนภาพความคดิ 3. ครูให้นักเรียนศึกษาวิธีการเล่าเร่ืองให้ผูอ้ ่ืนประทบั ใจ เป็ นการบา้ นเพ่ือเตรียมจดั การเรียนรู้ คร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นักเรียนรวบรวมตัวอย่างบทพูดในโอกาสต่าง ๆ แล้วทาเป็ นสมุดตัวอย่างการพูดเพื่อใช้ใน การศึกษา 2. นกั เรียนฝึกพดู ในโอกาสต่าง ๆ เป็นภาษาองั กฤษ 3. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ่ือนสมมุติสถานการณ์ในการพูด พูดแสดงบทบาทสมมุติ แลว้ ประเมินการพูด ของตนเอง 4. นกั เรียนฝึกพดู แนะนาตวั พดู ทกั ทาย พดู ขอบคุณ หรือพดู ใหก้ าลงั ใจเป็นภาษาอาเซียน 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. สลาก 2. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 3. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 4. คูม่ ือการสอน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั 5. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 10. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
108 บันทึกผลการจดั การเรียนรู้ 1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจัดการเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. สิ่งที่ไม่ได้ปฏิบัติตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ ผู้สอน / /
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 20 109 การพูดในโอกาสต่าง ๆ (ต่อ) ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 รหัสวิชา ท 31101 รายวชิ า ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 การฟังการดู และการพดู ใหส้ มั ฤทธ์ิผล เวลา 2 ชั่วโมง เร่ือง การพดู ในโอกาสต่าง ๆ (ต่อ) 1. สาระสาคัญ การพดู แบบเป็นทางการ เป็นการพดู ในโอกาสต่าง ๆ ท่ีตอ้ งใชภ้ าษาท่ีเป็นทางการหรือภาษาระดบั ก่ึงทางการ โดยคานึงถึงกาลเทศะและระดบั ของบุคคล การพูดใหส้ ัมฤทธิผลตอ้ งพูดใหเ้ หมาะสมกบั โอกาส กาลเทศะ และระดบั ของบุคคล ซ่ึงตอ้ งอาศยั การฝึ กฝนการพูดอย่างสม่าเสมอ การพูดดว้ ยกิริยางดงาม สุภาพเรียบร้อย ยกย่องให้เกียรติผูฟ้ ัง จดั เป็ น มารยาทท่ีดีในการพดู ซ่ึงจะทาใหผ้ ฟู้ ังยกยอ่ งและชื่นชมในตวั ผพู้ ูด 2. ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน 1. พูดในโอกาสต่าง ๆ พูดแสดงทรรศนะ โตแ้ ยง้ โนม้ นา้ วใจ และเสนอแนวคิดใหม่ดว้ ยภาษา ถูกตอ้ งเหมาะสม ท 3.1 (ม.4–6/5) 2. มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู ท 3.1 (ม.4–6/6) 3. ใชภ้ าษาเหมาะสมแก่โอกาส กาลเทศะ และบุคคล รวมท้งั คาราชาศพั ทอ์ ยา่ งเหมาะสม ท 4.1 (ม.4–6/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกหลกั การพดู ในโอกาสต่าง ๆ ได้ (K) 2. ใชห้ ลกั การพูดประกอบการพูดในโอกาสต่าง ๆ ไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล (K , P) 3. ใชท้ กั ษะทางภาษาในการเรียนและการดาเนินชีวิตร่วมกนั ในสงั คม (P) 4. ปฏิบตั ิตนเป็นผมู้ ีมารยาทในการพดู (A)
110 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยม (A) ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางาน 1. ประเมินทกั ษะการพดู การแสดงความคิดเห็น เป็ นรายบุคคลในดา้ นความสนใจ 2. ประเมินทักษะกระบวน 2. ตรวจผลการทากิจกรรม และต้งั ใจเรียน ความรับผดิ ชอบใน การคิด 3. ตรวจแบบทดสอบหลัง การทากิจกรรม ความมีระเบียบ 3. ประเมินทักษะกระบวน เรียน วนิ ยั ในการทางาน ฯลฯ การกลุ่ม 2. ประเมินมารยาทในการพดู 5. สาระการเรียนรู้ 1. การพดู เล่าเรื่อง 2. การพดู เล่าเหตุการณ์ 3. การพดู โนม้ นา้ วใจ 4. การพดู แสดงความคิดเห็น 5. มารยาทในการพดู 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาเร่ือง ดวงดาวในทอ้ งฟ้าจาลอง วทิ ยาศาสตร์ ตอบคาถามเกี่ยวกบั คณิตศาสตร์/ต่อแผนภาพความคิดเร่ือง คณิตศาสตร์ มารยาทในการพดู สงั คมศึกษาฯ ศึกษาเรื่อง มารยาทในการพดู ภาษาต่างประเทศ พดู แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ความจาเป็นในการเรียนรู้ สุขศึกษาฯ ภาษาต่างประเทศและภาษาอาเซียน การงานอาชีพฯ ศึกษาเรื่อง การป้องกนั โรคไขห้ วดั ศึกษาเร่ือง วิธีการทาเบเกอรี่ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นาเข้าสู่บทเรียน ชั่วโมงท่ี 1 1. ครูให้นักเรียนอาสาสมัครออกมาเล่าเรื่องท่ีครูกาหนดให้ โดยคนที่ 1 เล่าโดยใช้น้าเสียง เหมาะสมกบั เน้ือเรื่อง และคนที่ 2 เล่าโดยใชน้ ้าเสียงราบเรียบ 2. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นและเปรียบเทียบการเล่าเรื่องของเพอ่ื น
111 ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. แบ่งนกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม ใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาจบั สลากเร่ืองที่จะศึกษา กลุ่มละ 1 เรื่อง ดงั น้ี 1) การพดู เลา่ เรื่อง 2) การพดู เล่าเหตุการณ์ 3) การพดู โนม้ นา้ วใจ 4) การพดู แสดงความคิดเห็น 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเรื่องที่จบั สลากได้ แลว้ สรุปให้เพื่อนฟังหน้าช้ันเรียน ครูอธิบาย ประกอบการซกั ถามเพิ่มเติมเมื่อจบการรายงานในแต่ละกลุม่ 3. ครูให้นกั เรียนดูตวั อยา่ งการพูดแต่ละหัวขอ้ จากวีดิทศั น์ หรือครูสาธิตใหด้ ู แลว้ ร่วมกนั แสดง ความคิดเห็น 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มเตรียมบทพูดตามหัวขอ้ ที่จบั สลากได้ โดยให้มีเน้ือหาเกี่ยวกบั ประเทศ สมาชิกอาเซียน แลว้ ออกมาพดู หนา้ ช้นั เรียนในชว่ั โมงต่อไป 5. นักเรียนช่วยกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั มารยาทในการพูด แลว้ นามาศึกษาประกอบกบั เร่ือง มารยาทในการพูด ในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 ครู และนกั เรียนช่วยกนั สรุปลกั ษณะของผทู้ ่ีมีมารยาทในการพดู ช่ัวโมงที่ 2 1. ครูซกั ถามนกั เรียนเก่ียวกบั งานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาพูดให้เพ่ือนฟังหนา้ ช้นั เรียน ครูประเมินการพูดของแต่ ละกลุ่ม 3. ครูให้นกั เรียนสังเกตมารยาทในการพูดของนกั เรียนแต่ละกลุ่ม ติชม แลว้ ร่วมกนั แสดงความ คดิ เห็น 4. ครูกาหนดสถานการณ์ในการพูด โดยให้มีตวั อย่างของการพูดที่ผูพ้ ูดมีมารยาทในการพูด และผพู้ ดู ไม่มีมารยาทในการพดู แลว้ ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น และร่วมกนั สรุป 5. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ การพดู ที่ดี นอกจากจะมีความรู้เก่ียวกบั หลกั การพูด และฝึ กพูด บ่อยๆ แลว้ การมีมารยาทในการพูด พูดถูกกาลเทศะ และเหมาะสมกบั ฐานะของบุคคล มี ส่วนช่วยให้การพูดประสบความสาเร็จได้ ซ่ึงสอดคล้องกับเงื่อนไขคุณธรรมตามหลัก เศรษฐกิจพอเพียง ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมที่เกี่ยวกบั การพูดในโอกาสต่าง ๆ แลว้ ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 2. นกั เรียนจบั สลากเลือกหวั ขอ้ การพูดในโอกาสต่าง ๆ ท่ีไดศ้ ึกษามา แลว้ สมมุติสถานการณ์ใน การพดู ในหวั ขอ้ ที่ตนจบั สลากได้ โดยใหค้ รูและเพอื่ น ๆ ช่วยกนั ประเมินการพดู
112 3. นักเรียนเลือกหัวขอ้ ใดหัวขอ้ หน่ึง แลว้ พูดตามหลกั การที่เคยเรียน แลว้ ให้เพ่ือนในช้นั เรียน ประเมินมารยาทในการพดู พร้อมบอกขอ้ เสนอแนะในการปรับปรุงการพูดใหด้ ียง่ิ ข้ึน 1) ความประทบั ใจในการศึกษาเรื่องดวงดาวในทอ้ งฟ้าจาลอง 2) ประสบการณ์ในการแขง่ ขนั ตอบคาถามเก่ียวกบั คณิตศาสตร์ 3) แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ความจาเป็นในการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศและภาษาอาเซียน 4) แนะนาใหร้ ู้จกั ป้องกนั ไขห้ วดั 5) อธิบายวิธีการทาเบเกอร่ี 4. นกั เรียนทาใบงาน เร่ือง มารยาทในการพดู แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ข้นั ท่ี 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนพดู ในโอกาสต่าง ๆ ไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล 2. นกั เรียนบอกแนวทางในการเป็นผพู้ ดู ที่มีมารยาทใหผ้ อู้ ่ืนนาไปปฏิบตั ิได้ 3. นกั เรียนปฏิบตั ิตนเป็นผทู้ ่ีมีมารยาทในการพดู ข้นั ที่ 5 สรุป 1. นกั เรียนช่วยกนั สรุปการพดู ในโอกาสต่าง ๆ แลว้ บนั ทึกลงสมุด 2. นกั เรียนต่อแผนภาพความคิดเร่ือง มารยาทในการพดู 3. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียน แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 4. ครูใหน้ กั เรียนร่วมแสดงความคิดเห็นในประเดน็ ที่วา่ ➢ นกั เรียนคิดวา่ เราสามารถนาวธิ ีการพดู แบบใดไปใชใ้ นการอ่านใหผ้ อู้ ่ืนสนใจฟังและ อยากติดตามเรื่องที่อ่านไดบ้ า้ ง ➢ ในแต่ละวนั เรามีวิธีรับสารและส่งสารดว้ ยการอ่านอย่างไรบ้างแลว้ มอบหมายให้ นกั เรียนศึกษาเน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่ือง ส่งสารดว้ ยการเขียน ในหนงั สือ เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 เป็ นการบา้ นเพ่ือเตรียมจดั การ เรียนรู้คร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นักเรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับปัญหาท่ีพบในการพูดของแต่ละบุคคลแล้วเสนอแนะวิธี แกป้ ัญหาอยา่ งมีเหตุผล 2. นกั เรียนเล่าประสบการณ์ของตนเองท่ีเคยเสียมารยาทในการพูด และเสนอแนะแนวทางในการ ปรับปรุงแกไ้ ข 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน 2. สลาก
113 3. วดี ิทศั นเ์ กี่ยวกบั การพดู 4. ใบงาน เรื่อง มารยาทในการพดู 5. ชุดแผนภาพความคดิ เร่ือง มารยาทในการพดู 6. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 7. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 8. คูม่ ือการสอน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จากดั 9. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 10. บนั ทึกหลงั การจดั การเรียนรู้ บันทึกผลการจดั การเรียนรู้ 1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจัดการเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. สิ่งท่ีไม่ได้ปฏบิ ัติตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ ผู้สอน / /
114 แผนการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ส่งสารด้วยการเขียน เวลา 10 ช่ัวโมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 21 กระบวนการเขียนและกระบวนการคิด เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 22 การเขียนเพอื่ กิจธุระ เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 23 การเขียนเชิงวิชาการ เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 24 การเขียนเชิงสร้างสรรค์ เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 25 การเขียนเชิงสร้างสรรค์ (ต่อ) เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 26 การเขียนเชิงสร้างสรรค์ (ต่อ) เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 27 การเขียนเชิงสร้างสรรค์ (ต่อ) เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 28 การเขียนเชิงสร้างสรรค์ (ต่อ) เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 29การเขียนเชิงสร้างสรรค์ (ต่อ) เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 30 การเขียนเชิงสร้างสรรค์ (ต่อ) เวลา 1 ชว่ั โมง
115 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21 กระบวนการเขยี นและกระบวนการคดิ รหัสวชิ า ท 31101 รายวชิ า ภาษาไทย ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ส่งสารดว้ ยการเขียน ภาคเรียนที่ 1 เรื่อง กระบวนการเขียนและกระบวนการคดิ เวลา 1 ชั่วโมง 1. สาระสาคัญ กระบวนการเขียนและกระบวนการคิดมีความสัมพนั ธ์กนั อยา่ งแยกไม่ได้ กล่าวคือ เมื่อจะ เขียนเร่ืองใดเร่ืองหน่ึงต้องเรียงลาดับความคิดให้เป็ นระบบก่อน แล้วจึงลงมือเขียน การเข้าใจ กระบวนการเขียนและกระบวนการคิด จะช่วยใหล้ าดบั ความคิดเป็นระบบและเขียนอยา่ งมีข้นั ตอน 2. ตัวชี้วดั ช่วงช้ัน 1. เขียนส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ โดยใชภ้ าษาเรียบเรียงถูกตอ้ ง มีขอ้ มูลและสาระสาคญั ชดั เจน ท 2.1 (ม.4–6/1) 2. ประเมินงานเขียนของผอู้ ่ืน แลว้ นามาพฒั นางานเขียนของตนเอง ท 2.1 (ม.4–6/5) 3. บนั ทึกการศึกษาคน้ ควา้ เพอ่ื นาไปพฒั นาตนเองอยา่ งสม่าเสมอ ท 2.1 (ม.4–6/7) 4. มีมารยาทในการเขียน ท ๒.๑ (ม.4–6/8) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายความสมั พนั ธ์ของกระบวนการเขียนและกระบวนการคดิ ได้ (K) 2. บอกกระบวนการเขียนและกระบวนการคิดไดถ้ ูกตอ้ ง (K) 3. ใชก้ ระบวนการเขียนและกระบวนการคดิ สร้างงานเขียนของตนเอง (K, P) 4. ใชท้ กั ษะทางภาษาในการเขียน และการดาเนินชีวิตร่วมกนั ในสงั คม (P) 5. มีนิสยั รักการเขียนและมีมารยาทในการเขียน (A)
116 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทักษะและกระบวนการ (P) และค่านิยม (A) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพ ฤติกรรมในการ 1. ประเมินทกั ษะการเขียน การแสดงความคิดเห็น ทางานเป็ นรายบุคคลในดา้ น 2. ประเมินทกั ษะกระบวนการ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม ความสนใจและต้ังใจเรี ยน คิด 3. ตรวจแบบทดสอบ ก่อน ความรับผิดชอบในการทา 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการ เรียน กิจกรรม ความมีระเบียบวินยั กลุม่ ในการทางาน ฯลฯ 2. ประเมินมารยาทในการเขียน และนิสยั รักการเขียน 5. สาระการเรียนรู้ 1. กระบวนการเขียนและกระบวนการคิด 2. มารยาทในการเขียน 6. แนวทางบูรณาการ เขียนแผนภูมิแสดงความสัมพันธ์ของกระบวนการเขียนและ คณิตศาสตร์ กระบวนการคิด/เขียนแผนภาพความคิดเร่ือง มารยาทในการ เขียน การงานอาชีพฯ ทาสมุดตวั อยา่ งงานเขียน 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน 2. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การเขียนว่า เม่ือตอ้ งการเขียน เร่ืองใดเรื่องหน่ึง นกั เรียนมีการวางแผนการเขียนหรือไม่ อยา่ งไร และมีวิธีเขียน อยา่ งไร
117 ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสนทนากบั นักเรียนเกี่ยวกบั ลกั ษณะของการเขียนว่า เป็ นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด หรือความรู้สึกไปยงั ผูร้ ับสารที่เป็ นลายลกั ษณ์อกั ษรแทนการพูดแบบ ปากต่อปาก 2. นักเรียนศึกษาเร่ือง กระบวนการเขียนและกระบวนการคิด ในหนังสือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 3. แบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มสนทนาแสดงความคิดเห็นตามแนว คาถามท่ีกาหนดให้ แลว้ นาเสนอขอ้ สรุปท่ีไดจ้ ากการสนทนาหนา้ ช้นั เรียน คาถาม 1) กระบวนการเขียนประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง 2) งานเขียนท่ีดีจาเป็นตอ้ งมีกลวิธีการเขียนท่ีหลากหลายหรือไม่ อยา่ งไร 3) การวางโครงเร่ืองในการเขียนตอ้ งคานึงถึงอะไรบา้ ง 4) กระบวนการคิดมีความสมั พนั ธ์กบั กระบวนการเขียนหรือไม่ อยา่ งไร 5) การเรียนรู้เร่ือง กระบวนการเขียนและกระบวนการคิด มีประโยชน์ต่อ การเขียนงานอยา่ งไร 4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั อภิปรายขอ้ สรุปท่ีไดจ้ ากคาถามในขอ้ 3 โดยให้ครูเป็ น ผดู้ าเนินการอภิปรายและซกั ถามประกอบการอธิบายเพิม่ เติม 5. ครูกาหนดให้นักเรียนทุกกลุ่มเขียนจดหมายประเภทใดก็ได้ 1 ฉบับ โดยใช้ กระบวนการเขียนและกระบวนการคิดที่เรียนไปประกอบ 6. นกั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาอ่านจดหมายท่ีเขียนให้เพ่ือนฟัง แลว้ ร่วมกนั วิเคราะห์ตามหวั ขอ้ ดงั น้ี 1) จุดมุ่งหมาย 2) โครงเร่ือง 3) การใชภ้ าษา 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มฟังตวั อย่างพฤติกรรมการเขียนที่ครูอ่านให้ฟัง แลว้ ร่วมกัน สนทนาแสดงความคิดเห็นตามแนวคาถามท่ีกาหนดให้ ตัวอย่าง – นกเขียนตวั อยา่ งขอ้ ความในรายงานโดยไมบ่ อกแหล่งที่มาของขอ้ มูล – นิดใหภ้ าษาปากในการเขียนจดหมายถึงเพอื่ น – นุชเขียนตาหนิเพอ่ื นดว้ ยความโกรธ – นดั แกไ้ ขงานเขียน เม่ือเห็นวา่ ขอ้ มูลท่ีเขียนไม่ถูกตอ้ ง
118 คาถาม 1) ใครมีมารยาทในการเขียน 2) ผทู้ ่ีขาดมารยาทในการเขียนควรแกไ้ ขอยา่ งไร 3) พฤติกรรมของใครที่เป็นการพฒั นาการเขียนงาน 4) พฤติกรรมของใครที่แสดงถึงการใชภ้ าษาในการเขียนที่ไม่เหมาะสม ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นักเรียนทากิจกรรมที่เกี่ยวกบั กระบวนการเขียนและกระบวนการคิด และ มารยาทในการเขียน แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 2. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม ครูแจกตวั อยา่ งงานเขียนประเภทต่าง ๆ ใหน้ กั เรียน แต่ละกลุ่มร่วมกนั วิเคราะห์จุดมุ่งหมาย การวางโครงเรื่อง และกลวิธีการเขียน แลว้ ช่วยกนั สรุป 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มเขา้ หอ้ งสมุด รวบรวมตวั อยา่ งงานเขียนที่ใชโ้ วหารต่าง ๆ ท่ี กาหนดให้อย่างละ 1 ตวั อย่าง นามาอ่านให้เพ่ือนฟัง แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง โวหารทก่ี าหนดให้ 3) อุปมาโวหาร 5) สาธกโวหาร 1) บรรยายโวหาร 4) เทศนาโวหาร 2) พรรณนาโวหาร 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มสร้างสรรค์งานเขียน 1 เรื่องส้ัน ๆ ตามความคิด ให้มี มารยาทในการเขียน แลว้ นาเสนอให้เพื่อนฟังหนา้ ช้นั เรียน พร้อมอธิบายการ ใชก้ ระบวนการเขียนและกระบวนการคิดท่ีใชป้ ระกอบการเขียน 5. นักเรียนทาใบงาน เรื่อง เขียนใหม่ให้ชดั เจน แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูก ตอ้ ง 6. ครูอธิบายให้นักเรียนรู้ว่า การใช้กระบวนการคิดและกระบวนการเขียน ประกอบการเขียน จะทาใหง้ านเขียนส่ือสารกบั ผูอ้ ่านไดเ้ ขา้ ใจง่าย เนื่องจากมี การลาดบั ความคิดเป็นลาดบั ข้นั ตอน ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั หลกั ความมีเหตุผลตาม หลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง
119 ข้นั ท่ี 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนบอกจุดมุ่งหมาย โครงเรื่อง และกลวิธีการเขียนงานเขียนแต่ละชิ้นท่ี พบในชีวติ ประจาวนั ได้ 2. นกั เรียนนากระบวนการเขียนและกระบวนการคิดไปใชส้ ร้างสรรคง์ านเขียน ในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งมีมารยาท ข้นั ท่ี 5 สรุป 1. นักเรียนช่วยกันสรุปกระบวนการเขียนและกระบวนการคิด โดยการเขียน แผนภูมิความสัมพนั ธ์ของกระบวนการเขียนและกระบวนการคิด และเขียน สรุปตามความเขา้ ใจของตนเอง 2. นกั เรียนช่วยกนั สรุปเรื่องมารยาทในการเขียน โดยเขียนเป็นแผนภาพความคิด 3. ครูให้นกั เรียนศึกษาความหมายของคาว่า กิจธุระ และ ธุรกิจ เป็ นการบา้ นเพื่อ เตรียม จดั การเรียนรู้คร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นักเรียนรวบรวมตวั อย่างงานเขียนรูปแบบต่าง ๆ เพ่ือเป็ นแนวทางในการสร้างสรรค์ งานเขียนของตนเอง ทาเป็นสมุดตวั อยา่ งเขียน 2. นกั เรียนจบั คู่กบั เพื่อนหาบทความคนละ 1 บทความ แลว้ ช่วยกนั วิเคราะห์จุดมุ่งหมาย โครงเรื่อง และกลวธิ ีในการเขยี น 3. นกั เรียนเลือกงานเขียนท่ีเกี่ยวกบั ประเทศสมาชิกอาเซียนคนละ 1 บทความ แลว้ นามา สนทนากบั เพื่อนในช้นั เรียนเกี่ยวกบั การใชก้ ระบวนการคิดและกระบวนการเขียนท่ี ผเู้ ขียนใชป้ ระกอบการเขียน 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน 2. ตวั อยา่ งพฤติกรรมการเขียน 3. ตวั อยา่ งงานเขียน 4. หอ้ งสมุด 5. ใบงาน เรื่อง เขียนใหม่ใหช้ ดั เจน 6. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4
120 7. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 8. คูม่ ือการสอน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั 9. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 10. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้ บันทึกผลการจดั การเรียนรู้ 1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจัดการเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. ส่ิงที่ไม่ได้ปฏิบัติตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ ผู้สอน / /
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 22 121 การเขยี นเพ่ือกจิ ธุระ ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 รหัสวชิ า ท 31101 รายวชิ า ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ส่งสารดว้ ยการเขียน เวลา 1 ช่ัวโมง เรื่อง การเขียนเพื่อกิจธุระ 1. สาระสาคัญ การเขียนเพื่อกิจธุระ เป็ นการเขียนท่ีมีความสาคญั ในการประกอบกิจธุระประจาวนั และ สามารถช่วยให้การประกอบกิจธุระดาเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจาเป็ นตอ้ งฝึ กเขียนให้ ชานาญและเลือกใชร้ ูปแบบการเขียนใหเ้ หมาะสมกบั จุดมุ่งหมายในการติดต่อกิจธุระน้นั ดว้ ย 2. ตัวชี้วดั ช่วงช้ัน 1. เขียนส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ โดยใชภ้ าษาเรียบเรียงถูกตอ้ ง ขอ้ มูลและสาระสาคญั ชดั เจน ท 2.1 (ม.4–6/1) 2. ผลิตงานเขียนของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ ท 2.1 (ม.4–6/4) 3. ประเมินงานเขียนของผอู้ ่ืน แลว้ นามาพฒั นางานเขียนของตนเอง ท 2.1 (ม.4–6/5) 4. บนั ทึกการศึกษาคน้ ควา้ เพื่อนาไปพฒั นาตนเองอยา่ งสม่าเสมอ ท 2.1 (ม.4–6/7) 5. มีมารยาทในการเขียน ท 2.1 (ม.4–6/8) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกจุดมุ่งหมายของการเขียนและเขียนตามรูปแบบต่าง ๆ ไดส้ าเร็จตามวตั ถุประสงค์ (K , P) 2. บอกลกั ษณะทวั่ ไปของงานเขียนเพ่ือกิจธุระได้ (K) 3. เขียนเพ่ือกิจธุระไดถ้ ูกตอ้ งตามรูปแบบ (P) 4. มีมารยาทในการเขียน (A)
122 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทักษะและกระบวนการ (P) และค่านิยม (A) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการ 1. ประเมินทักษะการเขียน การแสดงความคิดเห็น ทางานเป็ นรายบุคคลในดา้ น จดหมาย 2. ตรวจผลการทากิจกรรม ความสนใจและต้ังใจเรี ยน 2. ประเมินทักษะกระบวน ความรับผิดชอบในการทา การคิด กิจกรรม ความมีระเบียบวินยั 3. ประเมินทักษะกระบวน ในการทางาน ฯลฯ การกลุม่ 2. ประเมินมารยาทในการเขียน และนิสยั รักการเขียน 5. สาระการเรียน การเขียนเพ่อื กิจธุระ 6. แนวทางบูรณาการ คณิตศาสตร์ เขียนแผนภาพความคิดเร่ือง การเขียนเพอ่ื กิจธุระ สงั คมศึกษาฯ นาความรู้เรื่อง การเขียนเพื่อกิจธุระ ไปใชใ้ นการติดต่อกิจธุระใน ชีวิตประจาวนั /ศึกษาแนวทางในการอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม ภาษาต่างประเทศ ใชภ้ าษาองั กฤษเขียนจดหมาย ศิลปะ แสดงบทบาทสมมุติ การงานอาชีพฯ ทาสมุดตวั อยา่ งงานเขียนเพ่ือกิจธุระ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั คาวา่ “กิจธุระ” กบั “ธุรกิจ” ว่า มีความหมายเหมือนกนั หรือแตกต่างกนั อยา่ งไร 2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปผลจากการสนทนาในขอ้ 1 ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูสนทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกบั ประเภทของการเขียนวา่ มีอะไรบา้ ง
123 2. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุม่ ละ 4 คน ใหท้ ากิจกรรม ดงั น้ี คิดเดยี่ ว ให้แต่ละคนศึกษาเร่ือง การเขียนเพื่อกิจธุระ ในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี 4 แล้วสรุปความคิดของ ตนเอง คดิ คู่ จบั คู่สรุปเร่ือง การเขียนเพอื่ กิจธุระ เพ่มิ เติมจากท่ีคิดเด่ียว ร่วมกนั คดิ ร่วมกนั สรุปเรื่อง การเขียนเพ่อื กิจธุระ 3. นักเรียนนาผลสรุปของกลุ่มมาเขียนเป็ นแผนภาพความคิด แล้วอธิบายตาม แผนภาพความคดิ ใหเ้ พอื่ นฟังหนา้ ช้นั เรียน 4. ครูนาตวั อยา่ งจดหมายประเภทต่าง ๆ มาให้นกั เรียนดู แลว้ แบ่งนกั เรียนออกเป็ น 5 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มเขียนจดหมายแต่ละประเภทที่กาหนดให้ โดยสมมุติ สถานการณ์ข้ึนเองประเภทละ 1 ฉบบั แลว้ นาเสนอหนา้ ช้นั เรียน 1) จดหมายส่วนตวั 3) จดหมายธุรกิจ 2) จดหมายกิจธุระ 4) จดหมายราชการ 5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 6. ครูนาตวั อย่างขอ้ ความมาอ่านให้นกั เรียนฟัง แลว้ ให้นกั เรียนจดบนั ทึกจากเร่ืองที่ ฟัง ครูสุ่มเรียกให้นกั เรียนอ่านบนั ทึกที่จดไว้ แลว้ ร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การจด บนั ทึก 7. นักเรียนช่วยกันบอกวิธีการจดบันทึกขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูลต่าง ๆ แลว้ ช่วยกัน สรุปเป็นหลกั เกณฑใ์ นการจดบนั ทึก 8. นักเรียนนาข้อสรุปหลักเกณฑ์ในการจดบันทึกจากข้อ 7 มาเปรียบเทียบกับ หลักเกณฑ์ในการจดบันทึก ในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 แลว้ ร่วมกนั สรุปผล ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมท่ีเก่ียวกบั การเขียนเพ่อื กิจธุระ แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาตอบ 2. นกั เรียนจบั สลากเพื่อเขียนจดหมายตามสถานการณ์ที่ครูกาหนดให้ แลว้ ให้เพ่ือน ช่วยประเมินงานเขียนเพือ่ เป็นแนวทางในการพฒั นางานเขียนของตนเอง 1) เชิญน้าชายท่ีทางานอยู่ต่างจงั หวดั มาร่วมงานครบรอบวนั เกิดของคุณ ตา
124 2) สมคั รทางานหารายไดพ้ ิเศษ 3) สงั่ ซ้ือหนงั สือวรรณคดีมรดกจากสานกั พมิ พ์ 4) ขอความร่วมมือจากตารวจจราจรเพ่ืออานวยความสะดวกในการจดั งานแห่เทียพรรษาของโรงเรียน 3. แบ่งนักเรียนออกเป็ น 4 กลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มสมมุติสถานการณ์แลว้ แสดงบทบาท สมมุติใหเ้ พอื่ นฝึกจดบนั ทึกการฟัง ดงั น้ี 1) กลุ่มที่ 1 สมั ภาษณ์เพ่อื แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ข่าวที่กาลงั เป็นท่ีสนใจ 2) กลุ่มท่ี 2 อภิปรายกลุม่ เก่ียวกบั แนวทางการอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม 3) กลุม่ ที่ 3 ประชุมเพอ่ื จดั งานวนั วชิ าการ 4) กลุ่มท่ี 4 รายงานขา่ วเกี่ยวกบั ประเทศสมาชิกอาเซียน ข้นั ท่ี 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนเขียนเพอ่ื กิจธุระถูกตอ้ งตามรูปแบบ 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมใหน้ กั เรียนรู้วา่ การเขียนเพื่อกิจธุระไดถ้ ูกตอ้ งตามรูปแบบ แสดง ถึงความมีมารยาทในการเขียนของผเู้ ขียน สอดคลอ้ งกบั เง่ือนไขคุณธรรมตามหลกั เศรษฐกิจพอเพียง 3. นกั เรียนนาความรู้เรื่องการเขียนเพื่อกิจธุระไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั ข้นั ท่ี 5 สรุป 1. นกั เรียนช่วยกนั สรุปเรื่อง การเขียนเพ่อื กิจธุระ แลว้ บนั ทึกลงสมุด 2. ครูให้นกั เรียนศึกษาการเขียนเชิงวิชาการ เป็ นการบา้ นเพ่ือเตรียมจดั การเรียนรู้คร้ัง ต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนรวบรวมตวั อยา่ งงานเขียนเพ่ือกิจธุระ ทาเป็นสมุดตวั อยา่ งงานเขียนเพ่ือกิจธุระ เพอ่ื ใชเ้ ป็นแนวทางในการศึกษารูปแบบและวิธีการเขียน 2. นกั เรียนเขียนจดหมายเพ่ือกิจธุระเป็นภาษาองั กฤษ 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ตวั อยา่ งจดหมายประเภทต่าง ๆ 2. ตวั อยา่ งขอ้ ความ
125 3. สลาก 4. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 6. คูม่ ือการสอน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั 7. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 10. บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ 1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. ส่ิงท่ีไม่ได้ปฏบิ ัตติ ามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ ผู้สอน / /
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 23 126 การเขียนเชิงวชิ าการ ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 รหัสวชิ า ท 31101 รายวชิ า ภาษาไทย ภาคเรียนท่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ส่งสารดว้ ยการเขียน เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง การเขียนเชิงวิชาการ 1. สาระสาคัญ การเขียนเชิงวชิ าการ เป็ นการเขียนท่ีเนน้ ความรู้ซ่ึงผเู้ ขียนจาเป็ นตอ้ งมีขอ้ มูลและมีความรู้ท่ี ชัดเจนเก่ียวกับเน้ือหาที่เขียน โดยใช้ภาษาที่เป็ นทางการและมีการอ้างอิงถึงแหล่งข้อมูลที่ใช้ ประกอบการเขียนเพอ่ื เป็นเกียรติแก่เจา้ ของขอ้ มูลน้นั ดว้ ย 2. ตัวชี้วดั ช่วงช้ัน 1. เขียนส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ โดยใชภ้ าษาเรียบเรียงถูกตอ้ ง มี ขอ้ มูลและสาระสาคญั ชดั เจน ท 2.1 (ม.4–6/1) 2. ผลิตงานเขียนของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ ท 2.1 (ม.4–6/4) 3. ประเมินงานเขียนของผอู้ ่ืน แลว้ นามาพฒั นางานเขียนของตนเอง ท 2.1 (ม.4–6/5) 4. เขียนรายงานการศึกษาคน้ ควา้ เรื่องที่สนใจตามหลกั การเขียนเชิงวิชาการ และใชข้ อ้ มูล สารสนเทศอา้ งอิงอยา่ งถูกตอ้ ง ท 2.1 (ม.4–6/6) 5. บนั ทึกการศึกษาคน้ ควา้ เพอ่ื นาไปพฒั นาตนเองอยา่ งสม่าเสมอ ท 2.1 (ม.4–6/7) 6. มีมารยาทในการเขียน ท. 2.1 (ม.4–6/8) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกจุดมุ่งหมายของการเขียนเชิงวชิ าการได้ (K , P) 2. บอกลกั ษณะของงานเขียนเชิงวชิ าการได้ (K) 3. เขียนรายงานเชิงวิชาการไดถ้ ูกตอ้ งตามรูปแบบ (P) 4. มีมารยาทในการเขียน (A)
127 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) (A) 1. สังเกตการตอบคาถาม 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางาน 1. ป ร ะ เมิ น ทั ก ษ ะ ก าร เขี ย น แล ะก ารแส ด งค วาม เป็ นรายบุคคลในดา้ นความสนใจ รายงาน คิดเห็น และต้งั ใจเรียน ความรับผิดชอบ 2. ประเมินทักษะการแสวงหา 2. ตรวจผลการทากิจกรรม ใน ก าร ท ากิ จ ก ร ร ม ค ว าม มี ความรู้ ระเบียบวินยั ในการทางาน ฯลฯ 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการคดิ 2. ประเมินมารยาทในการเขียนและ 4. ประเมินทักษะกระบวนการ นิสยั รักการเขียน กลุม่ 5. สาระการเรียนรู้ การเขียนเชิงวิชาการ 6. แนวทางบูรณาการ คณิตศาสตร์ เขียนแผนภาพความคิดเรื่อง การเขียนเชิงวิชาการ การงานอาชีพฯ ทาสมุดตวั อยา่ งงานเขียนเชิงวชิ าการ 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนาตัวอย่างรายงานมาให้นักเรียนดู แล้วให้นักเรียนสนทนาเก่ียวกับตัวอย่าง รายงานที่ดู 2. นักเรียนช่วยกันบอกว่าเมื่อนักเรียนทารายงานในวิชาต่าง ๆ ส่งครู นักเรียนมี หลกั การและข้นั ตอนในการทาอยา่ งไรบา้ ง ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม ใหแ้ ต่ละกลุ่มศึกษาเร่ือง การเขียนเชิงวิชาการ ในหนงั สือ เรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 แลว้ สรุปความรู้ที่ได้
128 2. ครูนาตวั อยา่ งการเขียนเชิงวชิ าการท่ีเป็นบทความในหนงั สือพิมพห์ รือวารสารต่าง ๆ มาให้นกั เรียนดู โดยให้นกั เรียนร่วมกนั พิจารณารูปแบบของงานเขียนตามหลกั การ ท่ีไดศ้ ึกษา 3. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุป แลว้ ใหค้ รูอธิบายประกอบการซกั ถามเพมิ่ เติม 4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มเขา้ ห้องสมุดเพื่อหาตวั อยา่ งงานเขียนเชิงวิชาการกลุ่มละ 2 เรื่อง ไม่ให้ซ้ากนั นามาระดมสมองพิจารณารูปแบบของงานเขียนตามที่ไดศ้ ึกษา แลว้ นาเสนอใหเ้ พ่อื นฟังหนา้ ช้นั เรียน 5. ครูกาหนดหวั ขอ้ ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มฝึ กเขียนรายงานเชิงวิชาการตามหลกั การและ ข้นั ตอนที่ไดศ้ ึกษามา โดยให้เขียนบนั ทึกข้นั ตอนในการเขียนรายงานของกลุ่มไว้ ดว้ ย ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั การเขียนเชิงวิชาการ แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูก ตอ้ ง 2. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายเก่ียวกบั การเขียนเชิงวิชาการ ตามหวั ขอ้ ดงั น้ี 1) การใชร้ ูปแบบ เน้ือหา ระดบั ภาษา และกลวธิ ีในการเขยี น 2) ความจาเป็นในการบอกแหล่งขอ้ มูลที่ใชใ้ นการอา้ งอิง 3. นักเรียนเลือกหัวขอ้ เขียนรายงานเชิงวิชาการตามที่ไดศ้ ึกษาคนละ 1 เรื่อง นาเสนอ ใหเ้ พื่อนฟังหนา้ ช้นั เรียน โดยใหค้ รูและเพอ่ื น ๆ ช่วยกนั ติชมและเสนอแนะ ข้นั ท่ี 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนอา่ นงานเขียนเชิงวิชาการ แลว้ เขา้ ใจจุดมุ่งหมายที่ผเู้ ขียนนาเสนอ 2. นกั เรียนนาหลกั การและข้นั ตอนในการเขียนเชิงวิชาการไปใชเ้ ขียนรายงานในกลุ่ม สาระการเรียนรู้อื่น และในชีวิตประจาวนั ข้นั ท่ี 5 สรุป 1. นกั เรียนช่วยกนั สรุปการเขียนรายงานเชิงวิชาการ โดยเขียนเป็นแผนภาพความคิด 2. ครูให้นกั เรียนศึกษาลกั ษณะและประเภทของงานเขียนเชิงสร้างสรรค์ เป็ นการบา้ น เพ่อื เตรียมจดั การเรียนรู้คร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ
129 1. นักเรียนช่วยกนั รวบรวมตวั อย่างงานเขียนเชิงวิชาการ แลว้ รวบรวมทาเป็ นสมุดตวั อย่าง งานเขียนเชิงวิชาการ ไวใ้ ชเ้ ป็นแนวทางในการเขียนงานของตนเอง 2. นกั เรียนรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกบั ประชาคมอาเซียน แลว้ เขียนรายงานเชิงวิชาการนาเสนอ เป็นความรู้ของช้นั เรียน 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ตวั อยา่ งรายงาน 2. ตวั อยา่ งบทความเชิงวิชาการ 3. หอ้ งสมุด 4. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 6. คูม่ ือการสอน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จากดั 7. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 10. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ บันทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ 1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. สิ่งที่ไม่ได้ปฏิบัตติ ามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ ลงชื่อ ผู้สอน / /
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 24 130 การเขยี นเชิงสร้างสรรค์ ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 รหัสวชิ า ท 31101 รายวชิ า ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ส่งสารดว้ ยการเขียน เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง การเขียนเชิงสร้างสรรค์ 1. สาระสาคัญ การเขียนเชิงสร้างสรรค์ประเภทร้อยแก้ว เป็ นงานเขียนท่ีผูเ้ ขียนอาศยั ขอ้ มูลที่ได้จากการ สงั เกต การฟัง การดู และการอ่าน นามาเรียบเรียงเป็นเรื่องราวใหผ้ อู้ า่ นไดร้ ับความรู้และความบนั เทิง 2. ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน 1. เขียนส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ โดยใชภ้ าษาเรียบเรียงถูกตอ้ ง มี ขอ้ มูลและสาระสาคญั ชดั เจน ท 2.1 (ม.4–6/1) 2. ผลิตงานเขียนของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ ท 2.1 (ม.4–6/4) 3. ประเมินงานเขียนของผอู้ ่ืน แลว้ นามาพฒั นางานเขียนของตนเอง ท 2.1 (ม.4–6/5) 4. มีมารยาทในการเขียน ท 2.1 (ม.4–6/8) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกจุดมุ่งหมายของการเขียนอธิบายและการเขียนช้ีแจงได้ (K) 2. บอกลกั ษณะของงานเขียนอธิบายและงานเขียนช้ีแจงได้ (K) 3. เขียนอธิบายและเขยี นช้ีแจงได้ (P) 4. มีมารยาทในการเขียน (A) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทกั ษะ และค่านิยม (A) และกระบวนการ (P) 1. สงั เกตการตอบคาถามและ 1. ประเมินพฤติกรรมในการทางาน 1. ประเมินทกั ษะการเขียน การแสดงความคิดเห็น เป็นรายบุคคลในดา้ นความสนใจ 2. ประเมินทักษะการแสวง
131 2. ตรวจผลการทากิจกรรม และต้งั ใจเรียน ความรับผิดชอบ หาความรู้ ใน ก ารท ากิ จ ก รรม ค ว าม มี 3. ประเมินทักษะกระบวน ระเบียบวินยั ในการทางาน ฯลฯ การคดิ 2. ประเมินมารยาทในการเขียนและ 4. ประเมินทักษะกระบวน นิสยั รักการเขียน การกลุ่ม 5. สาระการเรียนรู้ 1. การเขียนอธิบาย 2. การเขียนช้ีแจง 6. แนวทางบูรณาการ ภาษาต่างประเทศ ใชภ้ าษาองั กฤษในการเขียนอธิบายเส้นทางการเดินทางไปสถานท่ี ท่องเที่ยวที่สาคญั ของทอ้ งถ่ิน การงานอาชีพฯ ทาสมุดตวั อยา่ งงานเขียนอธิบายและงานเขียนช้ีแจง 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ท่ี 1 นาเข้าสู่บทเรียน ครูนาตวั อย่างงานเขียนอธิบายและเขียนช้ีแจงมาให้นักเรียนอ่าน แลว้ ให้นักเรียน ร่วมกันสนทนาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับตวั อย่างงานเขียนท่ีอ่านว่าเหมือนหรือต่างกนั อยา่ งไร และใหค้ รูสรุปใหฟ้ ัง ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. แบ่งนักเรียนออกเป็ นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มระดมสมองบอกจุดมุ่งหมายของการ อธิบายและการช้ีแจง สรุปเป็ นความคิดของกลุ่ม แลว้ นาเสนอให้เพื่อนฟังหนา้ ช้นั เรียน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มแบ่งกนั ศึกษาเรื่อง การเขียนอธิบายและการเขียนช้ีแจง ใน หนงั สือเรียนรายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 ภายในเวลาท่ีครู กาหนด 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มสนทนาตอบคาถามตามแนวคาถามท่ีกาหนดให้ แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
132 1) การเขียนอธิบายมีหลายวิธี ได้แก่อะไรบ้าง และแต่ละวิธีมีลักษณะ เฉพาะอยา่ งไร 2) นกั เรียนมีหลกั ในการเลือกวิธีเขียนอธิบายอยา่ งไร 3) การเขียนอธิบายแตกต่างจากการเขียนช้ีแจงอยา่ งไร 4. ครูแจกตวั อย่างบทความที่เป็ นการเขียนอธิบายและการเขียนช้ีแจงให้นักเรียน แต่ละกลุ่ม แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มช่วยกนั อ่านและพิจารณาบทความที่ครูแจกว่าเป็ น การเขียนประเภทใด พร้อมให้เหตุผลประกอบ นาเสนอให้เพ่ือนฟังหน้าช้ัน เรียน แลว้ ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั การเขียนอธิบายและการเขียนช้ีแจง แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มจบั สลากเลือกวิธีเขียนอธิบายท่ีกาหนดให้ แลว้ เขียนอธิบาย โดยคดิ หวั ขอ้ ท่ีจะเขียนข้ึนเองและใชว้ ิธีการเขียนอธิบายท่ีจบั สลากได้ 1) อธิบายตามลาดบั ข้นั ตอน 2) อธิบายโดยใชต้ วั อยา่ งประกอบ 3) อธิบายโดยเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่าง 4) อธิบายโดยช้ีใหเ้ ห็นเหตุและผลท่ีสมั พนั ธ์กนั 5) อธิบายโดยการนิยามใหค้ าจากดั ความ 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มส่งงานเขียนใหค้ รูตรวจสอบความถูกตอ้ ง แลว้ นาไปติดป้าย แสดงผลงานของช้นั เรียน 4. นกั เรียนร่วมกนั เสนอหวั ขอ้ ในการเขียนช้ีแจง แลว้ เลือกเขียนตามหวั ขอ้ ท่ีเสนอ คนละ 1หวั ขอ้ ครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง แลว้ เลือกผลงานของนกั เรียนท่ีเขียน ไดด้ ีให้เจา้ ของผลงานอ่านให้เพ่ือนฟังหน้าช้ันเรียน โดยให้ครูอธิบายจุดเด่น ของผลงานเพ่อื เป็นแนวทางใหน้ กั เรียนคนอื่นนาไปพฒั นาการเขยี น ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ นกั เรียนนาความรู้เรื่อง การเขียนอธิบายและการเขียนช้ีแจง ไปใชเ้ ขียนอธิบายและ เขียนช้ีแจงในชีวติ ประจาวนั
133 ข้นั ที่ 5 สรุป 1. นกั เรียนช่วยกนั สรุปเร่ือง การเขียนอธิบายและการเขียนช้ีแจง แลว้ บนั ทึกลง สมุด 2. ครูให้นักเรียนศึกษาการเขียนแสดงทรรศนะ การเขียนโตแ้ ยง้ และการเขียน เชิญชวนเป็นการบา้ นเพอ่ื เตรียมจดั การเรียนรู้คร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นักเรียนรวบรวมตัวอย่างงานเขียนอธิบายและงานเขียนช้ีแจงประเภทต่าง ๆ จาก หนงั สือพิมพ์ วารสาร หรือแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ นามาจดั แยกตามหมวดหมู่ แลว้ ทาเป็ น สมุดตวั อยา่ งงานเขียนไวท้ ี่มุมหนงั สือของช้นั เรียน 2. นกั เรียนจดั อภิปรายกลุ่มยอ่ ยเพ่ือหาแนวทางในการเขียนอธิบายและเขียนช้ีแจงให้บรรลุ จุดมุ่งหมายตามที่ตอ้ งการ 3. นักเรียนสมมุติสถานท่ีท่องเท่ียวท่ีสาคัญของท้องถ่ิน แล้วเขียนอธิบายเส้นทางการ เดินทางเป็นภาษาองั กฤษ 4. นกั เรียนเลือกสถานท่ีสาคญั ในประเทศสมาชิกอาเซียนที่ชอบมาเขียนอธิบายความสาคญั ของสถานที่ แลว้ รวบรวมเป็นเล่มความรู้ไวใ้ นมุมหนงั สือของช้นั เรียน 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ตวั อยา่ งงานเขียนอธิบายและงานเขียนช้ีแจง 2. ตวั อยา่ งบทความท่ีเป็นการเขียนอธิบายและการเขียนช้ีแจง 3. สลาก 4. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 6. คูม่ ือการสอน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 บริษทั สานกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จากดั 7. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 10. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
134 บันทึกผลการจดั การเรียนรู้ 1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจัดการเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. สิ่งที่ไม่ได้ปฏิบัติตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ ผู้สอน / /
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 25 135 การเขียนเชิงสร้างสรรค์ (ต่อ) ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 รหัสวิชา ท 31101 รายวชิ า ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ส่งสารดว้ ยการเขียน เวลา 1 ชั่วโมง เร่ือง การเขียนเชิงสร้างสรรค์ (ต่อ) 1. สาระสาคญั งานเขียนที่เป็ นการเขียนแสดงความคิดเห็น ผูเ้ ขียนจะต้องมีข้อมูลหลักฐาน ข้อเท็จจริง ความรู้ทางวิชาการ และเหตุผลประกอบการเขียนที่น่าเช่ือถือ เพ่ือให้ผอู้ ่านไดร้ ับความรู้ท่ีถูกตอ้ งและ มีขอ้ มูลท่ีน่าเช่ือถือในการศึกษาคน้ ควา้ ต่อไป 2. ตัวชี้วดั ช่วงช้ัน 1. เขียนสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ โดยใชภ้ าษาเรียบเรียงถูกตอ้ งมี ขอ้ มูลและสาระสาคญั ชดั เจน ท 2.1 (ม.4–6/1) 2. ผลิตงานเขียนของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ ท 2.1 (ม.4–6/4) 3. ประเมินงานเขียนของผอู้ ่ืน แลว้ นามาพฒั นางานเขียนของตนเอง ท 2.1 (ม.4–6/5) 4. มีมารยาทในการเขียน ท 2.1 (ม.4–6/8) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกจุดมุ่งหมายและประโยชน์ของการเขียนแสดงทรรศนะ การเขียนโตแ้ ยง้ และการ เขียนเชิญชวนได้ (K) 2. บอกลกั ษณะของงานเขียนแสดงทรรศนะ งานเขียนโตแ้ ยง้ และงานเขียนเชิญชวนได้ (K) 3. เขียนแสดงทรรศนะและเขียนโตแ้ ยง้ ไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล (P) 4. เขียนเชิญชวนไดถ้ ูกตอ้ งตามรูปแบบ (P) 5. มีมารยาทในการเขียน (A)
136 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) และค่านิยม (A) 1. สังเกตการตอบคาถาม 1. ประเมินพฤติกรรมในการ 1. ประเมินทกั ษะการเขียน และการแสดงความ ทางานเป็ นรายบุคคลในดา้ น 2. ประเมินทกั ษะกระบวนการคดิ คิดเห็น ความสนใจและต้ังใจเรียน 3. ประเมินทกั ษะกระบวนการกลุ่ม 2. ตรวจผลการทากิจกรรม ความรับผิดชอบในการทา กิจกรรม ความมีระเบียบ วนิ ยั ในการทางาน ฯลฯ 2. ประเมินมารยาทในการเขียน และนิสยั รักการเขียน 5. สาระการเรียนรู้ 1. การเขียนแสดงทรรศนะ 2. การเขียนโตแ้ ยง้ 3. การเขียนเชิญชวน 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาวธิ ีการประหยดั พลงั งาน วทิ ยาศาสตร์ ศึกษาการใชช้ ีวิตอยา่ งพอเพยี งในยคุ ทุนนิยม/ศึกษาเก่ียวกบั สงั คมศึกษาฯ การดาเนินชีวติ อยา่ งพอเพยี ง/ศึกษาวิธีการอนุรักษภ์ าษา และวฒั นธรรมไทย ภาษาต่างประเทศ ศึกษาการใชภ้ าษาต่างประเทศในภาษาไทย เลน่ เกมหาทรรศนะ/ศึกษาวิธีการออกกาลงั กาย สุขศึกษาฯ ศึกษาวิธีการปลูกตน้ ไมแ้ ละประโยชนข์ องตน้ ไม้ การงานอาชีพฯ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน
137 1. ครูสนทนาซักถามนักเรียนว่า นักเรียนเคยเขียนแสดงทรรศนะ เขียนโตแ้ ยง้ หรือ เขียนเชิญชวน หรือไม่ ถา้ เคย ให้นักเรียนช่วยกนั อธิบายลกั ษณะคร่าว ๆ ของการ เขียนท้งั 3 ประเภท 2. ครูนาสนทนาเกี่ยวกบั การเขียนแสดงทรรศนะ การเขียนโตแ้ ยง้ และการเขียนเชิญ ชวน ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นักเรียนศึกษาเรื่อง การเขียนแสดงทรรศนะและการเขียนโตแ้ ยง้ ในหนังสือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมให้นกั เรียนรู้ว่า การเขียนแสดงทรรศนะและการเขียนโตแ้ ยง้ เป็ น การฝึกใชเ้ หตุผลของผเู้ ขียน 3. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุม่ ใหแ้ ต่ละกลุม่ เลน่ เกมหาทรรศนะ โดยครูแจกตวั อยา่ งงาน เขียนแสดงทรรศนะให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 2 ตวั อย่างเหมือนกนั ทุกกลุ่ม นกั เรียนในแต่ละกลุ่มอ่านแลว้ ช่วยกนั วิเคราะห์วา่ งานเขียนท่ีอ่านน้นั ผเู้ ขียนตอ้ งการ แสดงทรรศนะเกี่ยวกบั เรื่องใด กลุ่มใดทาเสร็จก่อนและถูกตอ้ งเป็นผชู้ นะ 4. ครูสรุปทรรศนะของผูเ้ ขียนจากตัวอย่างงานเขียนในการเล่นเกมหาทรรศนะให้ นักเรียนฟัง และอธิบายวิธีการหาทรรศนะของผูเ้ ขียนให้นักเรียนฟังประกอบการ ซกั ถามเพ่ิมเติม 5. นกั เรียนร่วมกนั อภิปรายกลุ่มยอ่ ยเกี่ยวกบั การเขียนโตแ้ ยง้ ในหวั ขอ้ ท่ีกาหนดให้ แลว้ ร่วมกนั สรุปผลการอภิปราย 1) จุดมุ่งหมายในการเขียน 2) วิธีเขียนโตแ้ ยง้ 6. ครูนาตวั อยา่ งงานเขียนโตแ้ ยง้ ท่ีดีและไม่ดีมาใหน้ กั เรียนอาสาสมคั รอ่านใหเ้ พ่ือนฟัง แลว้ ร่วมกนั พิจารณาวา่ งานเขียนชิ้นใดดีและไม่ดีอยา่ งไร 7. นักเรียนศึกษาเรื่อง การเขียนเชิญชวน ในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 แลว้ ครูสอบถามนักเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกบั จุดประสงคข์ องการ เขียนเชิญชวน จากน้นั ครูให้นักเรียนเขา้ กลุ่มเดิมและหาตวั อย่างงานเขียนเชิญชวน จากหนงั สือพมิ พห์ รือวารสารต่าง ๆ แลว้ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ข้นั ท่ี 3 ฝึ กฝนผู้เรียน
138 1. นักเรียนทากิจกรรมที่เกี่ยวกับการเขียนแสดงทรรศนะ การเขียนโต้แยง้ และการ เขียนเชิญชวน แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 2. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ่ือนแลว้ เลือกเขียนแสดงทรรศนะจากหวั ขอ้ ท่ีกาหนดให้ 1 หวั ขอ้ ส่งครู 1) การใชช้ ีวิตอยา่ งพอเพยี งในยคุ ทุนนิยม 2) การใชภ้ าษาต่างประเทศในภาษาไทย 3. นกั เรียนรวบรวมตวั อยา่ งงานเขียนโตแ้ ยง้ จากบทความในหนงั สือพิมพห์ รือวารสาร มาศึกษา แลว้ ร่วมกนั กาหนดหวั ขอ้ เขียนโตแ้ ยง้ 4. นักเรียนทาใบงาน เรื่อง การเขียนแสดงทรรศนะและโตแ้ ยง้ แลว้ ส่งครูตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง 5. นักเรียนเขียนเชิญชวนชาวต่างชาติในประเทศสมาชิกอาเซียนเขา้ มาท่องเท่ียวใน ประเทศไทย 6. นกั เรียนทาใบงาน เร่ือง การเขียนเชิญชวน แลว้ ส่งครูตรวจสอบความถูกตอ้ ง ข้นั ท่ี 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนเขียนแสดงทรรศนะและเขียนโตแ้ ยง้ ในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งมีเหตุผลและ น่าเช่ือถือ 2. นกั เรียนเขียนเชิญชวนไดอ้ ยา่ งสร้างสรรคแ์ ละถูกตอ้ ง ข้นั ที่ 5 สรุป 1. นักเรียนช่วยกนั สรุปเร่ือง การเขียนแสดงทรรศนะ การเขียนโตแ้ ยง้ และการเขียน เชิญชวนแลว้ บนั ทึกลงสมุด 2. ครูให้นักเรียนทบทวนการเขียนเรียงความตามความรู้เดิม เป็ นการบา้ นเพื่อเตรียม จดั การเรียนรู้คร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. นกั เรียนเขียนแสดงทรรศนะเกี่ยวกบั ขา่ วประจาวนั 2. นกั เรียนจบั คู่กบั เพอ่ื นฝึกการใชเ้ หตุผลในการเขียนโตแ้ ยง้ 3. นักเรียนจับคู่เขียนเชิญชวนตามหัวขอ้ ที่กาหนดให้ คู่ละ 1 หัวขอ้ เสร็จแลว้ ส่งให้ครู ตรวจสอบความถูกต้อง และช่วยกันคัดเลือกผลงานไปติดตามที่ต่าง ๆ ในบริเวณ โรงเรียน
139 1) เชิญชวนใหป้ ระหยดั พลงั งาน 2) เชิญชวนใหอ้ อกกาลงั กาย 3) เชิญชวนใหด้ ารงชีวิตอยอู่ ยา่ งพอเพียง 4) เชิญชวนใหอ้ นุรักษภ์ าษาและวฒั นธรรมไทย 5) เชิญชวนใหป้ ลูกตน้ ไม้ แลว้ ครูอธิบายเพิม่ เติมใหน้ กั เรียนรู้วา่ ➢ การรู้จกั ใช้พลงั งานอย่างประหยดั สอดคลอ้ งกบั หลกั ความพอประมาณตาม หลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ➢ การออกกาลงั กายจะทาให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สอดคลอ้ งกบั หลกั การมี ภูมิคุม้ กนั ในตวั ที่ดีตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ➢ การดารงชีวิตอยู่อย่างพอเพียง สอดคลอ้ งกบั หลกั ความพอประมาณตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ➢ การอนุรักษภ์ าษาและวฒั นธรรมไทยใหค้ งอยู่ สอดคลอ้ งกบั หลกั ความมีเหตุผล ตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ➢ การปลูกตน้ ไมจ้ ะช่วยลดมลพิษ ทาให้มีอากาศบริสุทธ์ิเพิ่มข้ึน สอดคลอ้ งกบั หลกั การมีภูมิคุม้ กนั ในตวั ที่ดีตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง 9. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ตวั อยา่ งงานเขียนแสดงทรรศนะ 2. ตวั อยา่ งงานเขียนโตแ้ ยง้ ท่ีดีและไม่ดี 3. บทความในหนงั สือพมิ พห์ รือวารสาร 4. ใบงาน เรื่อง การเขียนแสดงทรรศนะและโตแ้ ยง้ 5. ใบงาน เร่ือง การเขียนเชิญชวน 6. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 7. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 8. คู่มือการสอน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั 9. สื่อการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 10. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้
140 บันทึกผลการจดั การเรียนรู้ 1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจัดการเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. สิ่งที่ไม่ได้ปฏิบัติตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ ผู้สอน / /
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 26 141 การเขยี นเชิงสร้างสรรค์ (ต่อ) ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 รหัสวชิ า ท 31101 รายวชิ า ภาษาไทย ภาคเรียนที่ 1 หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ส่งสารดว้ ยการเขียน เวลา 1 ช่ัวโมง เร่ือง การเขียนเชิงวชิ าการ (ต่อ) 1. สาระสาคัญ การเขียนงานในรูปแบบต่าง ๆ ผูเ้ ขียนจะตอ้ งมีวิธีนาเสนอเน้ือหาให้เป็ นลาดบั ข้นั ตอน และ ใชก้ ลวิธีนาเสนอใหน้ ่าสนใจ ซ่ึงส่ิงต่าง ๆ เหลา่ น้ีเป็นทกั ษะท่ีตอ้ งฝึกฝนเพอื่ ใหเ้ กิดความชานาญ 2. ตวั ชี้วดั ช่วงช้ัน 1. เขียนส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ โดยใชภ้ าษาเรียบเรียงถูกตอ้ งมี ขอ้ มูลและสาระสาคญั ชดั เจน ท 2.1 (ม.4–6/๑) 2. เขียนเรียงความ ท 2.1 (ม.4–6/๒) 3. ผลิตงานเขียนของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ ท 2.1 (ม.4–6/๔) 4. ประเมินงานเขียนของผอู้ ่ืน แลว้ นามาพฒั นางานเขียนของตนเอง ท 2.1 (ม.4–6/๕) 5. มีมารยาทในการเขียน ท 2.1 (ม.4–6/๘) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกรูปแบบและลกั ษณะทวั่ ไปของเรียงความได้ (K) 2. เขียนเรียงความไดถ้ ูกตอ้ งตามรูปแบบ (K , P) 3. ใชท้ กั ษะทางภาษาในการเรียน การแสวงหาความรู้ และการดาเนินชีวติ ร่วมกนั ในสงั คม (P) 4. มีมารยาทในการเขียน (A)
142 4. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทักษะ และค่านิยม (A) และกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ป ระเมิ น พ ฤ ติ กรรม ใน การ 1. ประเมินทักษะการเขียน การแสดงความคิดเห็น ทางานเป็ นรายบุคคลในด้าน เรียงความ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม ความสนใจและต้ังใจเรี ยน 2. ประเมินทักษะการแสวง ความรับผิดชอบในการทา หาความรู้ กิจกรรม ความมีระเบียบวินัย 3. ประเมินทักษะกระบวน ในการทางาน ฯลฯ การคิด 2. ประเมินมารยาทในการเขียน 4. ประเมินทักษะกระบวน และนิสยั รักการเขียน การกลุ่ม 5. สาระการเรียนรู้ การเขียนเรียงความ 6. แนวทางบูรณาการ สงั คมศึกษาฯ ศึกษาเรื่อง การใชช้ ีวิตอยา่ งพอเพยี ง/นาแนวคิดเกี่ยวกบั เรื่อง ความกตญั ญู ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวนั ภาษาต่างประเทศ ศึกษาการเขียนเรียงความในภาษาองั กฤษเพือ่ เปรียบเทียบรูปแบบ กบั การเขียนเรียงความในภาษาไทย การงานอาชีพฯ จดั ป้ายแสดงผลงาน 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน ครูนาตัวอย่างเรียงความมาให้นักเรียนดู แล้วร่วมกันสนทนากลุ่มย่อยเกี่ยวกับ ลกั ษณะและรูปแบบของเรียงความ ข้นั ท่ี 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ่ือนเขียนเรียงความ 1 เร่ืองในหวั ขอ้ ความกตญั ญู ตามความรู้ เดิมท่ีเคยเรียนมา 2. นกั เรียนแต่ละคู่ศึกษาเรื่อง การเขียนเรียงความ ในหนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 แลว้ นาเรียงความที่เขียนในขอ้ 1 มาพิจารณา
143 ความถูกตอ้ งตามหลกั การเขียนเรียงความที่ไดศ้ ึกษา สรุปผลและนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน 3. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม ใหแ้ ต่ละกลุ่มร่วมกนั อภิปรายตามหวั ขอ้ ท่ีกาหนดให้ แลว้ นาเสนอผลการอภิปรายหนา้ ช้นั เรียน 1) ส่วนประกอบของเรียงความ 2) กลวธิ ีการเขียนเรียงความ 3) เอกภาพ สมั พนั ธภาพ และสารัตถภาพ หมายถึงอะไร และมี ความสาคญั อยา่ งไรต่อการเขียนเรียงความ 4. ครูนาตวั อยา่ งเรียงความที่ไดร้ ับรางวลั มาติดบนกระดานให้นกั เรียนอ่านภายใน เวลา 5 นาที แล้วให้นักเรี ยนแต่ละกลุ่มพิจารณาเรี ยงความที่อ่านตาม ส่วนประกอบของเรียงความ ดงั น้ี 1) หวั ขอ้ 4) สรุป 2) คานา 5) วธิ ีการเขียน 3) เน้ือเรื่อง 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปให้ครูฟัง เม่ือจบทุกกลุ่มให้ครูอธิบายประกอบการ ซกั ถามเพ่ิมเติม ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นักเรียนทากิจกรรมท่ีเก่ียวกับการเขียนเรียงความ แล้วช่วยกันตรวจสอบ ความถูกตอ้ ง 2. แบ่งนกั เรียนออกเป็ นกลุ่ม ให้แต่ละคนในกลุ่มคิดหัวขอ้ ในการเขียนเรียงความ กลุ่มละ 1 เรื่อง แล้วทาโครงเร่ืองของหัวข้อที่คิด ส่งให้ครูตรวจสอบความ ถูกตอ้ ง แลว้ เขียนเรียงความตามโครงเร่ืองท่ีเขียน ส่งครู 3. นกั เรียนเขียนเรียงความตามความสนใจแลว้ แลกเปลี่ยนกนั อ่านกบั เพ่ือนในช้นั เรียนจนครบ ช่วยกนั คดั เลือกผลงานที่ดีไปจดั ป้ายแสดงผลงานในช้นั เรียน ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ 1. นักเรียนนาความรู้เร่ือง การเขียนเรียงความ ไปประยุกต์ใช้ในการเขียนใน ชีวิตประจาวนั 2. นักเรียนนาความรู้เรื่อง การเขียนเรียงความ ไปปรับใช้พฒั นาการเขียนของ ตนเอง
144 ข้นั ท่ี 5 สรุป 1. นกั เรียนช่วยกนั สรุปเรื่อง การเขียนเรียงความ แลว้ บนั ทึกลงสมุด 2. ครูให้นกั เรียนศึกษาการเขียนยอ่ ความ เป็ นการบา้ นเพ่ือเตรียมจดั การเรียนรู้คร้ัง ต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ 1. จดั ประกวดการเขียนเรียงความโดยใชห้ วั ขอ้ ความตามโอกาสต่าง ๆ ของการจดั กิจกรรม ภายในโรงเรียน 2. นกั เรียนศึกษาการเขียนเรียงความในภาษาองั กฤษเพ่ือเปรียบเทียบรูปแบบกบั การเขียน เรียงความในภาษาไทย 3. นักเรียนเขียนเรียงความหัวขอ้ การใชช้ ีวิตอย่างพอเพียงหรือความสาคญั ของการศึกษา ภาษาอาเซียนของนักเรียน จากน้ันครูอธิบายเพ่ิมเติมให้นักเรียนรู้ว่า การใช้ชีวิตอย่าง พอเพยี ง สอดคลอ้ งกบั หลกั ความพอประมาณตามหลกั เศรษฐกิจพอเพียง 9. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 1. ตวั อยา่ งเรียงความ 2. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 3. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 4. คู่มือการสอน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี 4 บริษทั สานกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จากดั 5. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 10. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้
145 บันทกึ ผลการจดั การเรียนรู้ 1. ความสาเร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อปุ สรรคในการจัดการเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. สิ่งที่ไม่ได้ปฏิบัติตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ ผู้สอน / /
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 27 146 การเขียนเชิงสร้างสรรค์ (ต่อ) ช้ัน มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 รหัสวชิ า ท 31101 รายวชิ า ภาษาไทย ภาคเรียนท่ี 1 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ส่งสารดว้ ยการเขียน เวลา 1 ชั่วโมง เรื่อง การเขียนเชิงสร้างสรรค์ (ต่อ) 1. สาระสาคญั การเขียนเป็ นทกั ษะทางภาษาท่ียากและมีความซบั ซอ้ น ผทู้ ่ีจะเขียนได้ดีและส่ือสารให้ผอู้ ่าน เขา้ ใจได้น้ัน จาเป็ นจะตอ้ งมีความรู้เก่ียวกับทกั ษะการเขียนอย่างรอบด้าน และต้องฝึ กเขียนอย่าง สม่าเสมอ 2. ตัวชี้วดั ช่วงช้ัน 1. เขียนส่ือสารในรูปแบบต่าง ๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ โดยใชภ้ าษาเรียบเรียงถูกตอ้ งมี ขอ้ มูลและสาระสาคญั ชดั เจน ท 2.1 (ม.4–6/1) 2. เขียนยอ่ ความจากส่ือที่มีรูปแบบและเน้ือหาหลากหลาย ท 2.1 (ม.4–6/3) 3. ผลิตงานเขียนของตนเองในรูปแบบต่าง ๆ ท 2.1 (ม.4–6/4) 4. ประเมินงานเขียนของผอู้ ่ืน แลว้ นามาพฒั นางานเขียนของตนเอง ท 2.1 (ม.4–6/5) 5. มีมารยาทในการเขียน ท 2.1 (ม.4–6/8) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกหลกั การเขียนและรูปแบบของการเขียนยอ่ ความได้ (K) 2. เขียนยอ่ ความไดถ้ ูกตอ้ งตามรูปแบบ (K , P) 3. ใชท้ กั ษะทางภาษาในการเรียน การแสวงหาความรู้ และการดาเนินชีวิตร่วมกนั ในสังคม (P) 4. เห็นคุณค่าของการเขียนและมีมารยาทในการเขียน (A)
147 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทักษะ และค่านิยม (A) และกระบวนการ (P) 1. สังเกตการตอบคาถามและ 1. ป ระเมิ น พ ฤ ติ กรรม ใน การ 1. ประเมินทกั ษะการเขียน การแสดงความคิดเห็น ทางานเป็ นรายบุคคลในด้าน ยอ่ ความ 2. ตรวจผลการทากิจกรรม ความสนใจและต้ังใจเรี ยน 2. ประเมินทกั ษะการแสวง ความรับผิดชอบในการทา หาความรู้ กิจกรรม ความมีระเบียบวินัย 3. ประเมินทกั ษะกระบวน ในการทางาน ฯลฯ การคิด 2. ประเมินมารยาทในการเขียน 4. ประเมินทกั ษะกระบวน และนิสยั รักการเขียน การกลุ่ม 5. สาระการเรียนรู้ การเขียนยอ่ ความ 6. แนวทางบูรณาการ ศึกษาบทความท่ีเป็นความรู้เก่ียวกบั วิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ศึกษาบทความท่ีเป็นความรู้เกี่ยวกบั คณิตศาสตร์ คณิตศาสตร์ ศึกษาบทความที่เป็นความรู้เกี่ยวกบั สงั คมศาสตร์ สงั คมศึกษาฯ ศึกษาบทความที่เป็นความรู้เกี่ยวกบั ภาษาต่างประเทศ ภาษาต่างประเทศ ศึกษาบทความท่ีเป็นความรู้เก่ียวกบั ศิลปะ ศิลปะ ศึกษาบทความท่ีเป็นความรู้เก่ียวกบั สุขภาพ สุขศึกษาฯ ศึกษาบทความท่ีเป็นความรู้เก่ียวกบั การงานอาชีพฯ/ใช้ การงานอาชีพฯ อินเทอร์เน็ตในการศึกษาคน้ ควา้ 7. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นาเข้าสู่บทเรียน 1. ครูนานกั เรียนสนทนาเก่ียวกบั ประโยชน์ของการยอ่ ความ 2. นกั เรียนช่วยกนั บอกลกั ษณะของการเขียนยอ่ ความตามความรู้เดิมท่ีเคยเรียนมา ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้
148 1. นักเรียนศึกษาเรื่อง การเขียนย่อความ ในหนังสือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 4 แลว้ ร่วมกนั สรุปความรู้ 2. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มร่วมกนั สนทนาตอบคาถามตามแนวคาถาม ที่กาหนดให้ แลว้ ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 1) การเขียนยอ่ ความมีวิธีการเขียนอยา่ งไร 2) การจับประเด็นของเร่ืองมีความสาคัญต่อการเขียนย่อความหรือไม่ อยา่ งไร 3) นกั เรียนสามารถนาความรู้จากการเรียนเร่ือง การเขียนยอ่ ความ ไปใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง 4) การเขียนยอ่ ความใชภ้ าษาลกั ษณะใด 3. ครูแจกบทความให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 บทความ ให้นักเรียนอ่านและ ช่วยกนั เขียนยอ่ ความ แลว้ นาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 1. นกั เรียนทากิจกรรมที่เกี่ยวกบั การเขียนยอ่ ความ แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง 2. นักเรี ยนเลือกบทความท่ีเป็ นความรู้ใน กลุ่มสาระการเรี ยนรู้วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษาฯ ภาษาต่างประเทศ ศิลปะ สุขศึกษาฯ หรือการงานอาชีพฯ จากส่ืออินเทอร์เน็ตตามความสนใจคนละ 1 บทความ แลว้ นามาเขียนยอ่ ความตาม หลกั การท่ีไดศ้ ึกษา 3. ครูสุ่มเลือกตัวอย่างงานเขียนย่อความของนักเรียนจากข้อ 2 มาเป็ นตัวอย่างให้ นกั เรียนร่วมกนั พิจารณาตามหลกั การเขียนยอ่ ความ และเสนอแนะแนวทางในการ พฒั นางานเขียน 4. ครูนาประวัตกิ ารก่อต้ังอาเซียนมาให้นักเรียนอ่าน แล้วให้นักเรียนเขียนย่อความตาม รูปแบบการย่อความ 5. นกั เรียนทาใบงาน เรื่อง การเขียนยอ่ ความ แลว้ ร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ข้นั ที่ 4 นาไปใช้ 1. นกั เรียนนาความรู้เรื่อง การเขียนยอ่ ความ ไปใชใ้ นการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้ อื่น 2. นกั เรียนนาความรู้เรื่อง การเขียนยอ่ ความ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236