แผนการสอน ม4 เทอม 1 64 ปกใหม่

๔. แต่งโคลงประเภทใดกไ็ ด้ ๒ บท ใหม้ ีเน้ือหำเก่ียวกบั ควำมสำมคั คี สำมคั คีเท่ียงแท้ คือพลงั ใครบ่หำญยบั ยงั้ หยดุ ได้ ร่วมแรงแข่งกับใจ อำจต่อ เติมได้ เติมแต่งฝันนั้นไซร้ ยิ่งใกล้ ทุกที ในแรงใจที่นี้ มอบให้ คนที่ใจรักษำ ต่อไว้ พลงั เก่งวำงใจ อย่คู ู่ ธำนี ทุกที่ล้วนส่ งให้ เกี่ยวไซร้ สำมคั คี ๕. ขีดเส้นใตค้ ำที่เป็นสมั ผสั ในของกลอนสุภำพต่อไปน้ี อนั ขำ้ ไทไดพ้ ่งึ เขำจึงรัก แมน้ ถอยศกั ด์ิสิ้นอำนำจวำสนำ เขำหน่ำยหนีมิไดอ้ ยคู่ ู่ชีวำ แต่วชิ ำช่วยกำยจนวำยปรำณ ๖. แต่งกลอนสุภำพใหม้ ีเน้ือหำเก่ียวกบั ควำมซื่อสตั ย์ จำนวน ๒ บท ซื่อสัตย์คือคณุ ธรรมอันมคี ่ำ จงรักษำให้ติดเป็นนิสัย อย่ำกลบั กลอกหลอกลวงต่อผ้ใู ด ต้องจริงใจในคำพดู ของตน รับปำกแล้วควรทำอย่ำงท่ีว่ำ เม่ือผิดกล้ำชีแ้ จงแจ้งเหตผุ ล ยอมรับกำรกระทำของตน ย่อมส่ งผลคนช่ืนชมยินดี

ใบงานท่ี ๑๕ เรื่อง วเิ คราะห์ตวั ละคร แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๓๑ เร่ือง การอ่านนิทานเวตาลเร่ืองที่ ๑๐ คาชี้แจง วิเคราะห์ลกั ษณะนิสัยของตัวละครที่กาหนดให้ พร้อมทั้งบอกข้อคิดท่ีได้จากตัวละครบนั ทึก ลงในตาราง ตวั ละคร ลกั ษณะนิสัย ข้อคดิ ท่ีได้จากตัวละคร เวตาล • มสี ติปัญญาหลกั แหลม • มนษุ ย์ท่ีฉลาดน้ันไม่อาจทนฟัง • มคี วามสามารถในการพูดจาดูหม่ิน ยวั่ ยผุ ้ฟู ัง ความคิดที่โง่เขลาและการพดู จา ดหู ม่ินได้ พระวกิ รมาทิตย์ • เป็นพระมหากษตั ริย์ท่ีทรงพระปรีชาสามารถ • การใช้ความเพยี รพยายามย่อมนา และกล้าหาญ มาซึ่งความสาเร็จ • มคี วามอดทนและเพียรพยายาม • การใช้สติและปัญญาควบคู่กนั คือ • มพี ระปัญญาเป็นเลิศ หลกั สาคัญของการแก้ปัญหาให้ • มคี วามหย่ิงทะนงในพระองค์ สาเร็จ ท้าวจนั ทรเสน • เป็นกษัตริย์ท่ีรักษาคาสัตย์ กระทาตามคาสัญญา • การไม่ใช้สติปัญญาตริตรอง • ขาดการพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อน พิจารณาสิ่งต่าง ๆ ให้ถ่ีถ้วน ที่จะพูดหรื อทาส่ิ งใด ย่อมนาปัญหาตามมาในภายหลงั พระราชบุตร • ขาดการพิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อน • การไม่ใช้สติปัญญาตริตรอง ท่ีจะพูดหรื อทาสิ่ งใด พิจารณาส่ิงต่าง ๆ ให้ถถี่ ้วน ย่อมนาปัญหาตามมาในภายหลงั

๒. แบบบันทกึ และแบบประเมินต่าง ๆ เคร่ืองมือประเมนิ สมรรถนะทางภาษาไทยและภาระงานของนักเรียนโดยใช้มิติคุณภาพ (Rubrics) ตวั อย่างแบบประเมินการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว เร่ือง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมนิ ที่ ชื่อ–สกลุ ่ทวงทำนอง ูถกต้องตำมอักขรวิ ีธ (๕ คะแนน) กำรแ ่บงวรรคตอนในกำรอ่ำน (๕ คะแนน) ้นำเ ีสยง ีลลำ อำรม ์ณ สอดคล้องกับเ ้ืนอเ ื่รอง (๕ คะแนน) ุบค ิลกภำพในกำรอ่ำน (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๒๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๑๖ – ๒๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๒ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๘ – ๑๑ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๗ คะแนน

ตัวอย่างแบบประเมนิ การอ่านออกเสียงร้อยกรอง เรื่อง ช้ัน วนั ท่ี เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมนิ ที่ ชื่อ–สกลุ ่ทวงทำนอง ูถกต้องตำมอักขรวิ ีธ (๕ คะแนน) ออกเ ีสยงชัดเจน ูถกต้องตำมอักขร ิว ีธ (๕ คะแนน) กำรแ ่บงวรรคตอนในกำรอ่ำน (๕ คะแนน) ควำมคล่องแคล่วชัดเจน (๕ คะแนน) ้นำเ ีสยง ีลลำ จังหวะ อำรม ์ณ (๕ คะแนน) ุบค ิลกภำพในกำรอ่ำน (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๓๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๒๓ – ๓๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๖ – ๒๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๙ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๘ คะแนน

ตัวอย่างแบบประเมนิ การท่องจาบทร้อยกรอง เร่ือง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมนิ ที่ ชื่อ–สกลุ ่ทวงทำนอง ูถกต้องตำมอักขรวิ ีธ (๕ คะแนน) ออกเ ีสยงชัดเจน ูถกต้องตำมอักขร ิว ีธ (๕ คะแนน) ่ทองจำครบถ้วน (๕ คะแนน) กำรแ ่บงวรรคตอนในกำรอ่ำน (๕ คะแนน) กำรใช้ ้นำเ ีสยง ีลลำ อำรม ์ณควำม ู้ร ึสก (๕ คะแนน) ุบค ิลกภำพในกำรอ่ำน (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๓๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๒๓ – ๓๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๖ – ๒๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๙ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๘ คะแนน

ตัวอย่างแบบประเมนิ การอ่านสรุปความ (จบั ใจความ วเิ คราะห์ ตีความ) เรื่อง วนั ที่ เดือน พ.ศ. ช้ัน รายการประเมนิ ผลการ ที่ ประเมิน ชื่อ–สกลุ ควำมสำมำรถในกำรวิเครำะ ์หแยกแยะเ ื่รอง (๕ คะแนน) จับประเด็นสำคัญของเ ้ืนอเ ่ืรอง (๕ คะแนน) แสดงควำม ิคดเ ็หนอย่ำง ีมเห ุตผล (๕ คะแนน) กำรเ ีรยงลำดับเห ุตกำร ์ณ/เ ้ืนอเ ่ืรอง (๕ คะแนน) ควำม ูถกต้องของเ ้ืนอหำ (๕ คะแนน) กำรใช้ภำษำ ูถกต้อง (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๓๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๒๓ – ๓๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๖ – ๒๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๙ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๘ คะแนน

ตวั อย่างแบบประเมินทกั ษะการเขยี น เร่ือง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมิน ท่ี ช่ือ–สกลุ ูรปแบบ/ควำม ูถกต้อง (๕ คะแนน) เ ้ืนอหำสำระ (๑๐ คะแนน) กำรใช้ภำษำ (๕ คะแนน) ควำมสะอำดเ ีรยบ ้รอย (๕ คะแนน) ควำม ิคดส ้รำงสรรค์ (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๓๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๒๓ – ๓๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๖ – ๒๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๙ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๘ คะแนน

ตวั อย่างแบบประเมนิ การเขียนเรียงความ เร่ือง วนั ที่ เดือน พ.ศ. ช้ัน รายการประเมนิ ผลการ ท่ี ประเมนิ ชื่อ–สกลุ องค์ประกอบ (๕ คะแนน) เ ้ืนอหำสำระ (๕ คะแนน) กำรใช้สำนวนโวหำร (๕ คะแนน) อักขร ิว ีธ (๕ คะแนน) ควำม ิคด ิรเ ิ่รมส ้รำงสรรค์ (๕ คะแนน) ควำมสะอำดเ ีรยบ ้รอย (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๓๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๒๓ – ๓๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๖ – ๒๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๙ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๘ คะแนน

ตวั อย่างแบบประเมนิ การเขียนจดหมาย พ.ศ. เรื่อง ช้ัน วนั ท่ี เดือน ผลการ ประเมิน รายการประเมนิ ที่ ชื่อ–สกลุ ควำม ูถกต้องของ ูรปแบบ (๕ คะแนน) กำรใช้ภำษำเหมำะสมกับระดับ ุบคคล และควำม ินยม (๕ คะแนน) เ ้ืนอหำของจดหมำยตรงตำม ุจดประสงค์ (๑๐ คะแนน) สำนวน โวหำร ควำมสละสลวย (๕ คะแนน) ควำมสะอำดเ ีรยบ ้รอย (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๓๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๒๓ – ๓๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๖ – ๒๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๙ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๘ คะแนน

ตวั อย่างแบบประเมนิ การเขียนบันทกึ เร่ือง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมนิ ท่ี ชื่อ–สกลุ ควำม ูถกต้องตำม ูรปแบบ (๕ คะแนน) กำรลำดับเ ้ืนอควำมห ืรอเ ่ืรองรำว (๕ คะแนน) กำรใช้สำนวนภำษำ (๕ คะแนน) ควำมสะอำดเ ีรยบ ้รอย (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๒๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๑๖ – ๒๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๒ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๘ – ๑๑ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๗ คะแนน

ตวั อย่างแบบประเมินการเขียนย่อความ เรื่อง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมนิ ท่ี ชื่อ–สกลุ ควำม ูถกต้องของเ ้ืนอเ ื่รอง (๕ คะแนน) ประเ ็ดนสำคัญของเ ่ืรอง (๕ คะแนน) กำรใช้สำนวนภำษำ (๕ คะแนน) ควำมเ ็ปนระเ ีบยบเ ีรยบ ้รอย (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๒๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๑๖ – ๒๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๒ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๘ – ๑๑ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๗ คะแนน

ตวั อย่างแบบประเมนิ การกรอกแบบรายการ เรื่อง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมิน ท่ี ช่ือ–สกลุ ควำมเ ็ปนระเ ีบยบเ ีรยบ ้รอย (๕ คะแนน) ควำมสะอำด (๕ คะแนน) ควำม ูถกต้อง (๕ คะแนน) ควำมครบถ้วน (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๒๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๑๖ – ๒๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๒ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๘ – ๑๑ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๗ คะแนน

เรื่อง ตวั อย่างแบบประเมนิ การเขยี นรายงาน พ.ศ. ช้ัน วนั ท่ี เดือน รายการประเมนิ ผลการ ที่ ช่ือ–สกลุ ประเมนิ ูรปแบบ ูถกต้อง (๕ คะแนน) เ ้ืนอหำสอดคล้องกับเ ่ืรอง (๕ คะแนน) กำรนำเสนอ กำรเ ีรยงลำดับเ ้ืนอเ ่ืรอง (๕ คะแนน) กำรใช้ภำษำสละสลวย ูถกต้อง (๕ คะแนน) กำรอ้ำง ิอง ูถกต้อง (๕ คะแนน) ูรปเล่มครบถ้วน สะอำดสวยงำม (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๓๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๒๓ – ๓๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๖ – ๒๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๙ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๘ คะแนน

เรื่อง ตัวอย่างแบบประเมินการเขียนรายงานโครงงาน พ.ศ. ช้ัน วนั ท่ี เดือน ผลการ ที่ รายการประเมนิ ประเมนิ ชื่อ–สกลุ ูรปแบบ ูถกต้อง (๕ คะแนน) ดำเ ินนงำนตำม ้ขันตอน (๕ คะแนน) หลักฐำนสอดคล้องกับข้อ ูมล (๕ คะแนน) ควำม ิคด ิรเ ิ่รมส ้รำงสรรค์ (๕ คะแนน) ีมควำม ัรบผิดชอบ (๕ คะแนน) ควำมสะอำดเ ีรยบ ้รอย (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๓๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๒๓ – ๓๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๖ – ๒๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๙ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๘ คะแนน

ตวั อย่างแบบประเมินการแต่งคาประพนั ธ์ เรื่อง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมนิ ที่ ช่ือ–สกลุ ูรปแบบฉันทลักษ ์ณ (๕ คะแนน) กำรเ ืลอกสรรถ้อยคำ (๓ คะแนน) ควำมหมำย/เ ้ืนอหำ (๕ คะแนน) ควำมไพเรำะ (๓ คะแนน) ควำม ิคด ิรเ ิ่รมส ้รำงสรรค์ (๔ คะแนน) รวมคะแนน (๒๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๑๖ – ๒๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๒ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๘ – ๑๑ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๗ คะแนน

ตวั อย่างแบบประเมนิ การเขียนแผนภาพโครงเร่ือง/แผนภาพความคดิ เร่ือง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมิน ท่ี ช่ือ–สกลุ กำรกำหนดหัวข้อ (๖ คะแนน) ประเด็นสำคัญของเ ่ืรอง (๖ คะแนน) กำรลำดับควำม ิคด (๖ คะแนน) กำรใช้สำนวนภำษำ (๖ คะแนน) ควำมเ ็ปนระเ ีบยบเ ีรยบ ้รอย (๖ คะแนน) รวมคะแนน (๓๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๒๓ – ๓๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๖ – ๒๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๙ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๘ คะแนน

ตัวอย่างแบบประเมนิ การพูดในโอกาสต่าง ๆ เรื่อง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมนิ ที่ ช่ือ–สกลุ กำรเต ีรยมตัว (๕ คะแนน) เ ้ืนอหำสำระ (๕ คะแนน) กำรใช้ภำษำ (๕ คะแนน) ุบค ิลกภำพ (๓ คะแนน) มำรยำท (๒ คะแนน) รวมคะแนน (๒๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๑๖ – ๒๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๒ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๘ – ๑๑ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๗ คะแนน

ตัวอย่างแบบประเมินการพูดเล่าเร่ือง (เล่าเหตุการณ์ เล่านิทาน) เรื่อง วนั ที่ เดือน พ.ศ. ช้ัน รายการประเมนิ ผลการ ท่ี ประเมนิ ช่ือ–สกลุ เ ้ืนอหำเ ่ืรอง ่ีทเล่ำ (๕ คะแนน) กำรลำดับใจควำม (๕ คะแนน) กำรใช้ ้นำเ ีสยง อำรม ์ณ (๕ คะแนน) กำรใช้ภำษำ (๕ คะแนน) ุบค ิลกภำพ (๕ คะแนน) มำรยำทในกำรพูด (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๓๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๒๓ – ๓๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๖ – ๒๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๙ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๘ คะแนน

ตัวอย่างแบบประเมินการพูดแสดงความคดิ เห็น เรื่อง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมนิ ที่ ชื่อ–สกลุ พูดตรงตำมวัต ุถประสงค์ (๕ คะแนน) พูดอย่ำง ีมเห ุตผลและส ้รำงสรรค์ (๕ คะแนน) ลำดับเ ้ืนอเ ่ืรองและควำม ิคดเ ็หนได้ ่ตอเ ่ืนอง (๕ คะแนน) พูดเ ีสยงดังชัดเจน ้นำเ ีสยง ุ่นมนวล (๕ คะแนน) ใช้ภำษำ ุสภำพ (๕ คะแนน) กำรเก ิ่รนนำ–ส ุรปเ ่ืรอง (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๓๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๒๓ – ๓๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๖ – ๒๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๙ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๘ คะแนน

ตวั อย่างแบบประเมินทักษะการฟังและการดู เร่ือง ช้ัน วนั ท่ี เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมนิ ท่ี ชื่อ–สกลุ ควำมกระ ืตอ ืรอ ้รน ่ีทจะ ัฟงห ืรอ ูด (๔ คะแนน) ้ตังใจในกำร ัฟงห ืรอ ูด (๔ คะแนน) แสดงควำมพอใจในกำร ัฟงห ืรอ ูด (๔ คะแนน) ถำม–ตอบเ ่ืรอง ี่ท ัฟงห ืรอ ูด (๔ คะแนน) ่รวม ิกจกรรมกำร ัฟงห ืรอกำร ูด (๔ คะแนน) รวมคะแนน (๒๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๑๖ – ๒๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๒ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๘ – ๑๑ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๗ คะแนน

๑ เร่ือง ๒ ช้ัน ๓ ๔ ท่ี ชื่อ–สกลุ ๕ ๖ จบั หนงั สือหรือบทอ่ำนไดถ้ ูกตอ้ ง ตวั อย่างแบบสังเกตพฤติกรรมการอ่าน ๗ (๕ คะแนน) วนั ท่ี เดือน ๘ วำงระยะห่ำงจำกสำยตำไดเ้ หมำะสม รายการประเมนิ ๙ (๕ คะแนน) ๑๐ อ่ำนในท่ีที่มีแสงสวำ่ งเพียงพอ (๕ คะแนน) ๑๑ ๑๒ อ่ำนในท่ำท่ีสบำย ผอ่ นคลำย ไม่เกร็ง ๑๓ (๕ คะแนน) ๑๔ มีสมำธิในกำรอ่ำน (๕ คะแนน) ๑๕ อ่ำนคำถูกตอ้ งตำมอกั ขรวิธี (๕ คะแนน) เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น เวน้ วรรคตอนถูกตอ้ ง (๕ คะแนน) อ่ำนคล่องไม่ตะกกุ ตะกกั (๕ คะแนน) พ.ศ. รวมคะแนน (๔๐ คะแนน) ผลการ ประเมนิ ผ่าน ไม่ผ่าน

๑ ที่ ช่ือ–สกลุ ตัวอย่างแบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขยี น ๒ เรื่อง ๓ ท่ำทำงในกำรนงั่ ถูกตอ้ ง รายการประเมนิ ช้ัน วนั ที่ เดือน ๔ จบั ดินสอ ปำกกำถูกวธิ ี ๕ วำงสมุดถูกตอ้ ง ๖ วำงแขนถูกตอ้ ง ๗ เขียนพยญั ชนะ สระ ตวั สะกดถูกตอ้ ง ๘ มีควำมเป็ นระเบียบเรี ยบร้อย ๙ เสร็จทนั ตำมกำหนดเวลำ ๑๐ ต้งั ใจ มีควำมเพลิดเพลินในกำรเขียน ๑๑ ๑๒ ผ่าน ๑๓ ๑๔ ไม่ผ่าน ๑๕ เกณฑ์การประเมนิ กำรผำ่ นกำรประเมินตอ้ งผำ่ นทุกรำยกำร พ.ศ. ผลการประเมนิ

๑ ที่ ชื่อ–สกลุ ช้ัน เร่ือง ๒ ๓ ไม่อ่ำนเสียงดงั รบกวนผอู้ ื่น (๕ คะแนน) รายการประเมนิ วนั ท่ี เดือน ตวั อย่างแบบประเมินมารยาทในการอ่านและนิสัยรักการอ่าน ๔ ไม่เล่นขณะที่อ่ำน (๕ คะแนน) ๕ ต้งั ใจอ่ำน (๕ คะแนน) ๖ ใชเ้ วลำวำ่ งในกำรอ่ำนหนงั สือ (๕ คะแนน) ๗ เขำ้ ร่วมกิจกรรมในกำรอ่ำน (๕ คะแนน) ๘ ยอมรับฟังคำแนะนำในกำรอ่ำน (๕ คะแนน) ๙ ปรับปรุงกำรอ่ำนตำมคำแนะนำ (๕ คะแนน) ๑๐ ใฝ่ หำควำมรู้เกี่ยวกบั กำรอ่ำน (๕ คะแนน) ๑๑ ๑๒ รวมคะแนน (๔๐ คะแนน) ๑๓ ผ่าน ๑๔ ไม่ผ่าน ๑๕ เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น พ.ศ. ผลการ ประเมนิ

๑ ที่ ชื่อ–สกลุ ช้ัน เรื่อง ๒ ๓ เขียนใหอ้ ่ำนง่ำย สะอำด ไม่ขีดฆ่ำ (๔ คะแนน) รายการประเมนิ วนั ที่ เดือน ตวั อย่างแบบประเมนิ มารยาทในการเขยี นและนสิ ัยรักการเขยี น ๔ ไม่ขีดเขียนในท่ีสำธำรณะ (๔ คะแนน) ๕ ใชภ้ ำษำเหมำะสมกบั เวลำ สถำนที่ และบุคคล ๖ (๔ คะแนน) ๗ ๘ ไม่เขียนลอ้ เลียนผอู้ ่ืนหรือทำใหผ้ อู้ ื่นเสียหำย ๙ (๔ คะแนน) ๑๐ ต้งั ใจเขียน (๔ คะแนน) ๑๑ ใชเ้ วลำวำ่ งในกำรเขียนหนงั สือ (๔ คะแนน) ๑๒ เขำ้ ร่วมกิจกรรมในกำรเขียน (๔ คะแนน) ๑๓ ยอมรับฟังคำแนะนำในกำรเขียน (๔ คะแนน) ๑๔ ปรับปรุงกำรเขียนตำมคำแนะนำ (๔ คะแนน) ใฝ่ หำควำมรู้เก่ียวกบั กำรเขียน (๔ คะแนน) เกณฑ์การประเมนิ ไดค้ ะแนนร้อยละ ๘๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น รวมคะแนน (๔๐ คะแนน) ผ่าน พ.ศ. ไม่ผ่าน ผลการ ประเมนิ

๑ เร่ือง ๒ ช้ัน ๓ ๔ ท่ี ๕ ๖ ชื่อ–สกลุ ๗ ๘ ต้งั ใจฟัง มองผพู้ ดู อยำ่ งสนใจ รายการประเมนิ ตวั อย่างแบบประเมนิ มารยาทในการฟังและการดู ๙ ไม่ส่งเสียงดงั รบกวนผอู้ ่ืน วนั ที่ เดือน ๑๐ ไม่นำงำนอ่ืนข้ึนมำทำ ๑๑ ไม่พดู สอดแทรก ๑๒ ซกั ถำมในเวลำที่เหมำะสม ๑๓ ขออนุญำตหรือเคำรพผพู้ ดู ๑๔ ปรบมือเม่ือชอบใจ ๑๕ ไม่แสดงกิริยำท่ีไม่เหมำะสม เกณฑ์การประเมนิ กำรผำ่ นกำรประเมินตอ้ งผำ่ นทุกรำยกำร ผ่าน ไม่ผ่าน พ.ศ. ผลการ ประเมนิ

๑ ท่ี ชื่อ–สกลุ ช้ัน เร่ือง ๒ ๓ มองผฟู้ ังอยำ่ งสนใจ รายการประเมนิ วนั ที่ เดือน ตวั อย่างแบบประเมินมารยาทในการพดู ๔ พดู ใหไ้ ดย้ นิ อยำ่ งทวั่ ถึง ๕ พดู ดว้ ยถอ้ ยคำสุภำพ ชดั เจน ๖ ใชท้ ่ำทำงประกอบกำรพดู ๗ พดู ดว้ ยน้ำเสียงท่ีน่ำฟัง เหมำะสม ๘ ขออนุญำตซกั ถำมอยำ่ งสุภำพ ๙ ไม่พดู ขดั จงั หวะผอู้ ื่น ๑๐ ๑๑ ผ่าน ๑๒ ไม่ผ่าน ๑๓ ๑๔ ๑๕ เกณฑ์การประเมนิ กำรผำ่ นกำรประเมินตอ้ งผำ่ นทุกรำยกำร พ.ศ. ผลการ ประเมนิ

ตวั อย่างแบบประเมินผลงานกล่มุ เรื่อง ช้ัน วนั ท่ี เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมิน ที่ ชื่อ–สกลุ ควำม ูถกต้องชัดเจน (๕ คะแนน) ควำม ิคด ิรเ ิ่รมส ้รำงสรรค์ (๕ คะแนน) วิ ีธกำรนำเสนอ (๕ คะแนน) กำรนำไปใช้ (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๒๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๑๖ – ๒๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๒ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๘ – ๑๑ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๗ คะแนน

ตวั อย่างแบบประเมินผลงาน/กจิ กรรมเป็ นรายบุคคล เร่ือง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมนิ ท่ี ชื่อ–สกลุ ควำม ูถกต้องของผลงำน/ ิกจกรรม (๕ คะแนน) ควำม ิคด ิรเ ิ่รมส ้รำงสรรค์ (๕ คะแนน) ูรปแบบกำรนำเสนอ (๕ คะแนน) กำรนำไปใช้ประโยช ์น (๕ คะแนน) รวมคะแนน (๒๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๑๖ – ๒๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๒ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๘ – ๑๑ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๗ คะแนน

ตวั อย่างแบบประเมนิ พฤติกรรมในการทางานเป็ นรายบุคคล เรื่อง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการประเมนิ ที่ ช่ือ–สกลุ ควำมสนใจในกำรทำงำน (๒ คะแนน) ๔๓๒๑ กำรตอบคำถำม (๒ คะแนน) กำรให้ควำม ่ชวยเห ืลอผู้ ื่อน (๒ คะแนน) กำรแสดงควำม ิคดเ ็หน (๒ คะแนน) กำร ัรบ ัฟงควำม ิคดเ ็หน (๒ คะแนน) กำรทำงำนตำม ี่ทได้ ัรบมอบหมำย (๒ คะแนน) ุ่มงมั่นทำงำนให้สำเ ็รจ (๒ คะแนน) พอใจกับควำมสำเ ็รจของงำน (๒ คะแนน) รวมคะแนน (๑๖ คะแนน) ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๑๓ – ๑๖ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๐ – ๑๒ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๖ – ๙ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๕ คะแนน

ตวั อย่างแบบประเมินพฤตกิ รรมรายบุคคล เร่ือง ช้ัน วนั ที่ เดือน พ.ศ. รายการประเมนิ ผลการ ประเมนิ ที่ ช่ือ–สกลุ ควำมสนใจ (๔ คะแนน) กำรตอบคำถำม (๔ คะแนน) กำรแสดงควำม ิคดเ ็หน (๔ คะแนน) กำร ัรบ ัฟงควำม ิคดเ ็หน (๔ คะแนน) ทำงำนตำม ่ีทได้ ัรบมอบหมำย (๔ คะแนน) รวมคะแนน (๒๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๑๖ – ๒๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๒ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๘ – ๑๑ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๗ คะแนน

๑ เร่ือง ๒ ช้ัน ๓ ๔ ที่ ชื่อ–สกลุ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๗ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๘ – ๑๑ คะแนน ระดบั ๓ ดี ระดบั ๔ ดีมำก ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี เกณฑ์การประเมิน คะแนน ๑๒ – ๑๕ คะแนน คะแนน ๑๖ – ๒๐ คะแนน ควำมสนใจในกำรทำงำน (๒ คะแนน) รายการประเมนิ วนั ที่ เดือน ตัวอย่างแบบประเมนิ พฤตกิ รรมในการทางานกล่มุ กำรแบ่งหนำ้ ที่ในงำนที่ทำ (๒ คะแนน) กำรรับฟังควำมคิดเห็น (๒ คะแนน) พ.ศ. กำรตดั สินใจร่วมกนั (๒ คะแนน) บรรยำกำศในกำรทำงำน (๒ คะแนน) ผลการ กำรใหค้ วำมช่วยเหลือ (๒ คะแนน) ประเมนิ กำรเคำรพขอ้ ตกลงของกลุ่ม (๒ คะแนน) กำรทำตำมหนำ้ ที่ที่ไดร้ ับมอบหมำย (๒ คะแนน) กำรปรับปรุงแกไ้ ขดว้ ยควำมเตม็ ใจ (๒ คะแนน) ควำมพอใจกบั ควำมสำเร็จของงำน (๒ คะแนน) รวมคะแนน (๒๐ คะแนน) ผ่าน ไม่ผ่าน

ตวั อย่างแบบประเมนิ การตรวจผลงาน เรื่อง วนั ท่ี เดือน พ.ศ. ช้ัน รายการประเมนิ ผลการ ที่ ประเมนิ ช่ือ–สกลุ ควำม ูถกต้อง (๔ คะแนน) ลำย ืมอสวยงำม อ่ำน ่งำย (๔ คะแนน) ควำมสะอำด (๔ คะแนน) ควำม ิคด ิรเ ิ่รมส ้รำงสรรค์ (๔ คะแนน) ควำม ัรบผิดชอบ (๔ คะแนน) รวมคะแนน (๒๐ คะแนน) ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การประเมิน ไดค้ ะแนนร้อยละ ๖๐ ข้ึนไปถือวำ่ ผำ่ น หรืออำจใชเ้ กณฑเ์ ป็นระดบั คุณภำพ ๔, ๓, ๒, ๑ ดงั น้ี ระดบั ๔ ดีมำก คะแนน ๑๖ – ๒๐ คะแนน ระดบั ๓ ดี คะแนน ๑๒ – ๑๕ คะแนน ระดบั ๒ พอใช้ คะแนน ๘ – ๑๑ คะแนน ระดบั ๑ ควรปรับปรุง คะแนน ๐ – ๗ คะแนน

ช่ือโครงงาน ตวั อย่างแบบประเมินโครงงาน ภาคเรียนท่ี กลุ่มที่ ช้ัน รายการประเมนิ ผลการ ประเมนิ ควำมสำคัญของกำรจัดทำโครงงำน ท่ี ช่ือ–สกลุ เ ้ืนอหำของโครงงำน กระบวนกำรทำงำน กำรนำเสนอโครงงำน รวมรายการท่ี ่ผานเกณ ์ฑ ้ขัน ่ตา ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕

เกณฑ์การประเมนิ รายการประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ ความสาคญั ของ การจดั ทาโครงงาน ระดบั ๔ ดมี าก ระดบั ๓ ดี ระดบั ๒ พอใช้ ระดบั ๑ ควรปรับปรุง เนื้อหาของโครงงาน มีกำรทำงำนเป็ นกระบวนกำร มีกำรทำงำนเป็ นกระบวนกำร มีกำรทำงำนเป็ นกระบวน มีกำรทำงำนเป็ นกระบวน กลุ่มมีควำมคิดริ เร่ิ มสร้ ำง กลุ่ม มีควำมคิดริ เร่ิ มสร้ำง กำรกลุ่ม มีควำมคิดริ เริ่ ม กำรกลุ่ม แต่ขำดควำมคิด กระบวนการทางาน สรรค์ สอดคล้องกับเน้ือหำ สรรค์ บำงส่วนไม่สอดคลอ้ ง สร้ำงสรรค์ ไม่สอดคล้อง ริ เร่ิ มสร้ำงสรรค์ ไม่สอด และมีประโยชน์ในชีวิตจริง กับเน้ือหำ แต่มีประโยชน์ใน กับเน้ือหำ ไม่มีประโยชน์ คล้องกับเน้ือหำ และไม่มี การนาเสนอ ชีวิตจริง ในชีวติ จริง ประโยชน์ในชีวิตจริง โครงงาน เน้ือหำถูกต้องครบถ้วน ใช้ เน้ือหำส่วนใหญ่ไม่ถูกต้อง แนวคิดและข้อมูลข่ำวสำรท่ี เ น้ื อ ห ำ เ กื อ บ ท้ ัง ห ม ด ถู ก ต้อ ง เน้ื อหำบำงส่ วนถูกต้อง แนวคิดและข้อมูลข่ำวสำร เหมำะสม และมีกำรสรุปไดด้ ี ใชแ้ นวคิดที่เหมำะสม มีขอ้ มลู แนวคิดและขอ้ มูลข่ำวสำร ส่วนใหญ่ตอ้ งแกไ้ ข และกำร ข่ำวสำรบำงเร่ืองไม่เหมำะสม บำงส่วนตอ้ งแกไ้ ข และกำร สรุปตอ้ งแกไ้ ขท้งั หมด มีกำรวำงแผนอย่ำงเป็ นระบบ และกำรสรุปตอ้ งแกไ้ ข สรุปตอ้ งแกไ้ ข มีกำรวำงแผนไม่เป็ นระบบ มีกำรดำเนินงำนตำมแผน ลง ก ำ ร ด ำ เ นิ น ง ำ น ไ ม่ ป ร ะ ส บ มื อ ป ฏิ บัติ จ น ป ร ะ ส บ ค ว ำ ม มีกำรวำงแผนอย่ำงเป็ นระบบ มีกำรวำงแผนอย่ำงเป็ น ควำมสำเร็จ สำเร็ จ มีกำรประเมินและ มีกำรดำเนินงำนตำมแผน ลง ระบบ แต่ไม่ไดด้ ำเนินงำน ปรับปรุงกำรดำเนินงำน มื อ ป ฏิ บัติ จ น ป ร ะ ส บ ค ว ำ ม ตำมแผน แม้จะปฏิบัติจน ส่ื อควำมหมำยไม่ชัดเจน สำเร็จ แตข่ ำดกำรประเมินและ ประสบควำมสำเร็จ และมี ข้อมูลส่วนใหญ่ไม่สมบูรณ์ ส่ื อค วำมหมำย ได้ชัดเ จ น ปรับปรุงกำรดำเนินงำน กำรประเมิ นและปรั บปรุ ง ใช้รู ปแบบท่ีไม่เหมำะสม ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ ใช้ กำรดำเนินงำนก็ตำม ข้อสรุ ปของโครงงำนไม่ รู ปแบบท่ีเหมำะสม และ บรรลวุ ตั ถุประสงคท์ ี่ต้งั ไว้ ข้อ สรุ ปข อ งโค รงงำนบร ร ลุ สื่ อค วำมหมำย ได้ชัด เ จ น สื่ อ ค ว ำ ม ห ม ำ ย ไ ม่ ค่ อ ย วตั ถปุ ระสงคท์ ี่ต้งั ไว้ ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ ใช้ ชัดเจน ขอ้ มูลบำงส่วนขำด รูปแบบที่ไม่คอ่ ยเหมำะสม แต่ ควำมสมบูรณ์ ใช้รูปแบบท่ี ข้อ สรุ ปข อ งโค รงง ำน บ ร ร ลุ ไม่เหมำะสม ข้อสรุปของ วตั ถปุ ระสงคท์ ่ีต้งั ไว้ โ ค ร ง ง ำ น ไ ม่ บ ร ร ลุ วั ต ถุ ประสงคท์ ่ีต้งั ไวท้ ้งั หมด เกณฑ์การตัดสินผลการเรียน นกั เรียนตอ้ งมีพฤติกรรมอยำ่ งนอ้ ยระดบั ๓ ข้ึนไปในแต่ละรำยกำร จำนวน ๓ ใน ๔ รำยกำร

ช่ือโครงงาน ตัวอย่าง กล่มุ ที่ ภาคเรียนท่ี แบบประเมินโครงงาน (ทวั่ ไป) ผลการ ช้ัน ประเมิน รายการประเมนิ กำหนดประเด็น ัปญหำ ที่ ชื่อ–สกลุ ชัดเจน วำงแผนกำหนด ้ขันตอน กำรแก้ ัปญหำได้เหมำะสม ลง ืมอป ิฏบั ิตตำมแผน สำมำรถนำไปใช้แก้ ัปญหำ ใน ีช ิวตประจำวัน เ ีขยนรำยงำนนำเสนอ รวมจานวนรายการท่ี ่ผานเกณ ์ฑ ้ขัน ่ตา ่ผาน ไ ่ม ่ผาน ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ เกณฑ์การประเมนิ แยกตามองค์ประกอบย่อย ๕ ด้าน ๑. กาหนดประเดน็ ปัญหาชัดเจน ๔ หมำยถึง กำหนดประเดน็ ปัญหำไดด้ ว้ ยตนเอง ปัญหำท่ีกำหนดมีควำมเฉพำะเจำะจงชดั เจนดีมำก ๓ หมำยถึง กำหนดประเดน็ ปัญหำไดด้ ว้ ยตนเอง ปัญหำท่ีกำหนดมีควำมเฉพำะเจำะจงชดั เจนดี ๒ หมำยถึง กำหนดประเดน็ ปัญหำไดด้ ว้ ยตนเองเป็นบำงส่วน ปัญหำท่ีกำหนดมีควำมเฉพำะเจำะจง ชดั เจนพอใช้ ๑ หมำยถึง กำหนดประเดน็ ปัญหำดว้ ยตนเองไม่ได้ ๒. วางแผนกาหนดข้นั ตอนการแก้ปัญหาได้เหมาะสม ๔ หมำยถึง ออกแบบวิธีกำร ข้นั ตอนกำรแกป้ ัญหำ ระบุควบคุมตวั แปรไดถ้ ูกตอ้ งเหมำะสม ๓ หมำยถึง ออกแบบวธิ ีกำร ข้นั ตอนกำรแกป้ ัญหำ ระบุควบคุมตวั แปรไดค้ อ่ นขำ้ งเหมำะสม ๒ หมำยถึง ออกแบบวิธีกำร ข้นั ตอนกำรแกป้ ัญหำ ระบุควบคุมตวั แปรไดเ้ หมำะสมพอใช้ ๑ หมำยถึง ออกแบบวธิ ีกำร ข้นั ตอนกำรแกป้ ัญหำ ระบุควบคุมตวั แปรไดไ้ ม่เหมำะสม ๓. ลงมือปฏบิ ตั ติ ามแผน ๔ หมำยถึง ลงมือแกป้ ัญหำตำมข้นั ตอนที่กำหนดไวอ้ ยำ่ งครบถว้ นจริงจงั สำมำรถคน้ พบควำมรู้ ขอ้ คดิ แนวทำงกำรปฏิบตั ิตำมประเดน็ ปัญหำที่ต้งั ไวด้ ว้ ยตนเองท้งั หมด

๓ หมำยถึง ลงมือแกป้ ัญหำตำมข้นั ตอนท่ีกำหนดไวอ้ ยำ่ งครบถว้ นจริงจงั สำมำรถคน้ พบควำมรู้ ขอ้ คิด แนวทำงกำรปฏิบตั ิตำมประเดน็ ปัญหำท่ีต้งั ไวด้ ว้ ยตนเองเป็นส่วนใหญ่ ๒ หมำยถึง ลงมือปฏิบตั ิตำมข้นั ตอนท่ีกำหนดบำ้ ง แต่ไมค่ รบถว้ น สำมำรถคน้ พบควำมรู้ ขอ้ คิด แนวทำงกำรปฏิบตั ิตำมประเดน็ ปัญหำที่ต้งั ไวด้ ว้ ยตนเองเป็นบำงส่วน ๑ หมำยถึง ลงมือปฏิบตั ิตำมข้นั ตอนท่ีกำหนดไดน้ อ้ ยมำก ไม่สำมำรถคน้ พบควำมรู้ ขอ้ คิด แนว ทำงกำรปฏิบตั ิตำมประเดน็ ปัญหำท่ีต้งั ไว้ ๔. สามารถนาไปใช้แก้ปัญหาในชีวติ ประจาวนั ๔ หมำยถึง นำขอ้ คน้ พบ วธิ ีปฏิบตั ิไปใชแ้ กป้ ัญหำในชีวิตประจำวนั ไดค้ รบถว้ น ถูกตอ้ ง และ ต่อเนื่อง ๓ หมำยถึง นำขอ้ คน้ พบ วธิ ีปฏิบตั ิไปใชแ้ กป้ ัญหำในชีวิตประจำวนั ไดค้ รบถว้ น ถูกตอ้ งแต่ขำด ควำมต่อเนื่อง ๒ หมำยถึง นำขอ้ คน้ พบ วธิ ีปฏิบตั ิไปใชแ้ กป้ ัญหำในชีวติ ประจำวนั ไดเ้ ป็นบำงส่วน และตอ้ ง กระตุน้ เตือนใหป้ ฏิบตั ิอยำ่ งต่อเน่ือง ๑ หมำยถึง นำขอ้ คน้ พบ วธิ ีปฏิบตั ิไปใชแ้ กป้ ัญหำในชีวิตประจำวนั ไดน้ อ้ ยมำก หรือไม่นำไปใช้ เลย ๕. เขียนรายงานนาเสนอ ๔ หมำยถึง บันทึกผลกำรศึกษำค้นควำ้ และนำเสนอข้อมูลได้ถูกต้องชัดเจน แสดงให้เห็นถึง ข้นั ตอนกำรวำงแผน กำรลงมือแกป้ ัญหำ และขอ้ คน้ พบที่ไดค้ รบถว้ น ๓ หมำยถึง บนั ทึกผลกำรศึกษำคน้ ควำ้ และนำเสนอขอ้ มลู ไดถ้ ูกตอ้ งชดั เจน แสดงใหเ้ ห็นถึง ข้นั ตอนกำรวำงแผน กำรลงมือแกป้ ัญหำ และขอ้ คน้ พบท่ีไดค้ อ่ นขำ้ งครบถว้ น ๒ หมำยถึง บนั ทึกผลกำรศึกษำคน้ ควำ้ และนำเสนอขอ้ มูลไดบ้ ำ้ ง แสดงใหเ้ ห็นถึงข้นั ตอนกำร วำงแผน กำรลงมือแกป้ ัญหำ และขอ้ คน้ พบที่ไดเ้ พียงบำงส่วน ๑ หมำยถึง บนั ทึกผลกำรศึกษำคน้ ควำ้ และนำเสนอขอ้ มูลไดน้ อ้ ยมำก แสดงใหเ้ ห็นถึงข้นั ตอน กำร วำงแผน กำรลงมือแกป้ ัญหำ และขอ้ คน้ พบที่ไดไ้ มช่ ดั เจน เกณฑ์การตัดสินผลการเรียน นกั เรียนตอ้ งมีพฤติกรรมในแต่ละรำยกำรอยำ่ งนอ้ ยระดบั ๓ ข้ึนไป จำนวน ๓ ใน ๕ รำยกำร