Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต

การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต

Published by suklittha24, 2020-10-05 23:55:03

Description: การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต

Search

Read the Text Version

ระบบสืบพนั ธ์ุของมนุษย์ อวยั วะสืบพนั ธ์ุเพศหญงิ ภายนอก (external female genetial organ) อวยั วะสบื พนั ธุภ์ ำยนอก (Valva) ไดแ้ กข หวั หนำข ว แคมหหญข แคมเลก็ คลติ อรสิ และรูเปิดึองทอข ปัสสำวะ มีหนำ้ ท่ี ปกคลมุ อวยั วะเพศึองหญิงไวท้ งัน หมด 51

1. หวั หน่ำว (Mons Pubis) อยหขู ตท้ อ้ งนอ้ ยบนกระดกู หวั หนำวระหวำข งึำหนีบทงัน สองึำ้ ง มีลกั ษณะเป็นผวิ หนงั นนู ประกอบดว้ ย ไึมนั เป็นจำนวนมำก เม่ือยำข งเึำ้ สวขู ยั รุนข จะเกิดึนปกคลมุ ึนมลี กั ษณะ หยิกงอ สดี ำ เสน้ หหญข ยำว มีลกั ษณะกำรปกคลมุ รูปสำมเหล่ยี มตำมลกั ษณะึอง หวั หนำข ว แตลข กั ษณะึน และปรมิ ำณแตกตำข งกนั หนแตลข ะคน ึนึน อยกขู บั พนั ธกุ รรม 2. แคมใหญ่ (Labia Majora) เป็นสวข นึองผิวหนงั ท่ีมีชนัน ไึมนั อยขู มีลกั ษณะเป็นเนือน นนู สองกลีบ ปิดชอข งคลอด และ อวยั วะภำยหนเป็นสวข นท่ีเจรญิ มำเชนข เดียวกบั ถงุ อณั ฑะึองเพศชำย 3. แคมเลก็ (Labia Minora) เป็นกลบี เลก็ ๆ อยดขู ำ้ นหนึองแคมหหญข มีหนำ้ ท่ีปอ้ งกนั กำรตดิ เชือน จำกภำยนอกเึำ้ สขู ชอข งคลอด มีตอข มไึมนั จำนวนมำกเพ่ือชขวยหนกำรหลอข ล่นื และกนั กำรเสยี ดสีระหวำข ง กำรรวข มเพศ 06/10/63 ชวี วิทยำ : กำรสบื พนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 52

4. เมด็ ละมุด/คลิตอริส (Clitoris) หรอื ปข มุ กระสนั เป็นอวยั วะท่ีเทียบกบั อวยั วะเพศชำย คือ องคชำต ตงัน อยเขู หนือรูเปิดทขอปัสสำวะ มี ลกั ษณะเป็นตมขุ เนือน ึนำดเลก็ ึนำดประมำณ 0.5-1 ซม. เป็นสวข นท่ีมีเสน้ เลอื ดมำเลยีน ง จำนวนมำก มีควำมไวตอข กำรสมั ผสั และทำหหเ้ กิดควำมรูส้ กึ ทำงเพศ 5. รูเปิ ดของท่อปัสสำวะ (Urethra) รูเปิดึองทอข ปัสสำวะ ตงัน อยบขู รเิ วณดำ้ นบน ึองปำกชของคลอด มีลกั ษณะเป็นตมขุ ย่ืน ึนำดเลก็ บรเิ วณตรงกลำงมีรูท่ีเป็นรูเปิด ึองทอข ปัสสำวะสำหรบั ถำข ยปัสสำวะออก นอกรำข งกำย 06/10/63 ชวี วทิ ยำ : กำรสืบพนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เติบโตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 53

อวยั วะสืบพนั ธ์ุเพศหญงิ ภายใน (internal female genetial organ) 54

04/10/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 55

2.1 รงั ไข่ (ovary) - สรำ้ งไึข (ovum หรอื egg cell) โดยหลงั จำกตกไึข ไึขจะคงสภำพเพ่ือ กำรปฏิสนธิไดไ้ มเข กิน 10-15 ช่วั โมง แมว้ ำข ไึขจะมีอำยุ 1 วนั ก็ตำม - สรำ้ งฮอรโ์ มน 2 ชนิดคือ 1) Estrogen สรำ้ งจำก Graafian follicle 2) Progesterone สรำ้ งจำก corpus leuteum ควบคมุ กำรตงัน ครรภ์ และยบั ยงัน กำรเจรญิ ึองฟอลลเิ คลิ 04/10/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 56

รงั ไึข เป็นอวยั วะึนำดเลก็ สีึำวมนั มี รูปรำข งคลำ้ ยเมด็ มะมวข งหมิ พำนต์ ึนำด เทำข เมลด็ มะปรำง มี 2 อนั อยบขู รเิ วณปีก มดลกู ซำ้ ย-ึวำ ทงัน สองึำ้ ง เช่ือมติดกบั มดลกู ดว้ ยปีกมดลกู หรอื ทอข นำไึข สรุปหน้ำทขี่ องรังไข่ • สรำ้ งเซลลส์ บื พนั ธุ์ ไดแ้ กข เซลลไ์ ึข (egg cell/Ovum) • สรำ้ งฮอรโ์ มนเพศ ไดแ้ กข ฮอรโ์ มนเอสโตรเจน โปรเจสเตอรโ์ รน แตทข ่ีสำคญั มำกสำหรบั เพศหญิง คือ ฮอรโ์ มน เอสโตรเจน (Estrogen) ทำหนำ้ ท่ีกระตนุ้ หหร้ ำข งกำยมีกำรเปล่ยี นแปลงทำงอวยั วะสืบพนั ธุห์ หเ้ จริญเตบิ โต รวมถงึ พฒั นำลกั ษณะึองเพศหญิงหหเ้ ดนข ชดั ึนึน เชขน กำรเกิดเตำ้ นมโต กำรมีึนท่ีอวยั วะสืบพนั ธุ์ และเสียง เป็นตน้ 06/10/63 ชีววิทยำ : กำรสบื พนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เติบโตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 57

เซลลไ์ ึข ((egg cell/Ovum) หรอื ไึึข องเพศหญิงจะสกุ และเคล่อื นออกมำท่ีทอข นำไึข ท่ีเรยี กวำข กำรตกไึข เดือนละ 1 หบ โดยสกุ สลบั กนั จำกรงั ไึแข ตลข ะึำ้ ง แตหข นบำงครงัน อำจพบกำรเจรญิ และสกุ ึองไึขเกิดึนึน พรอ้ ม กนั ทงัน 2 ึำ้ ง และหำกมีกำรปฏิสนธิพรอ้ มกนั กจ็ ะเกิดเป็นตวั ออข นทงัน 2 ฟอง หรือท่ีเรยี กวำข กำรตงั้ ครรภแ์ ฝด 06/10/63 ชีววิทยำ : กำรสบื พนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 58

- รงั ไึจข ะมีไึข (Ovum) ท่ียงั ไมเข จรญิ เตม็ ท่ีหลำยพนั ฟอง เม่ือเดก็ เติบโตเึำ้ อำยุ 12 – 13 ปี ไึจข ะเรม่ิ สกุ เพรำะเกิดกำรกระตนุ้ จำกฮอรโ์ มนึองตอข มพทิ อู ิตำรี (Pituitary grand) ไึทข ่ีสกุ แลว้ จะตกจำกรงั ไึขเดอื น ละ 1 หบ ึองแตลข ะึำ้ งสลบั กนั และจะเคล่อื นเึำ้ สทขู อข นำไึข และหำกมีกำรปฏิสนธิจำกตวั อสจุ ิกเ็ ึำ้ ฝังตวั หน เย่ือบมุ ดลกู ซง่ึ ึณะท่ีไึขเคล่อื นผำข นทอข นำไึข ตอข มรงั ไึขจะสรำ้ งฮอรโ์ มนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) กระตนุ้ หหเ้ กิดกำรเปล่ยี นแปลงึองเย่ือบมุ ดลกู เพ่ือเตรียมกำรฝังตวั ึองไึข - คนเรำจะมีประมำณ 4 แสนเซลลแ์ ตจข ะตกไึเข พียง 400 เซลล์ • รงั ไึข จะเส่อื มสภำพ และฝขอไป เม่ือผหู้ ญิงมีอำยุ ประมำณ 50 ปี ทำหหเ้ พศหญิงเึำ้ สวขู ยั หมด ประจำเดือนหรอื บำงครงัน เรยี กวำข วัยทอง 06/10/63 ชวี วิทยำ : กำรสบื พนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 59

2.2 มดลกู (uterus) - เป็นท่ีเจรญิ ึองตวั ออข น และเป็นแหลงข ท่ีทำหหม้ ีประจำเดือนหนแตลข ะรอบ ตงัน แตอข ำยุ 12-13 ปี จนถงึ 45-50 ปี 04/10/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 60

มดลูก(uterus) ทาหนา้ ท่ีเป็นท่ีฝังตวั ของไขท่ ่ีไดร้ ับการผสมและเป็นแหล่งใหก้ าเนิดประจาเดือน และ ประกอบดว้ ยปากมดลูก(cervix) ตวั มดลูก(body) ส่วนบนมดลูก (fundus) โดยผนงั มดลูกแบ่งออกเป็น 3 ช้นั ช้นั ในมีช่ือวา่ endometrium 06/10/63 ชีววิทยำ : กำรสืบพนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 61

• มดลกู เป็นอวยั วะสืบพนั ธุเ์ พศหญิงท่ีมีึนำดหหญขท่ีสดุ มีรูปรำข งลกั ษณะคลำ้ ยผลชมพขู ตงัน อยหขู นองุ้ เชิงกรำน และอยขู ระหวำข งกระเพำะปัสสำวะซง่ึ อยดขู ำ้ นหนำ้ และทวำรหนกั ซง่ึ อยดขู ำ้ นหลงั มีสวข นท่ีติดตอข กบั ชของคลอดทีเป็นปำกมดลกู เรยี กวำข เซอวิก (Cervix) ภำยหนมดลกู มีลกั ษณะเป็นโพรงแคบๆ มีเย่ือบโุ พรงมดลกู ท่ีเป็นกลำ้ มเนือน หนำ และมี ควำมแึ็งแรง มีเสน้ เลอื ดมำเลยีน งจำนวนมำก และสำมำรถเปล่ยี นแปลงไดต้ ลอดทกุ รอบเดือนจำกอิทธิพลึอง ฮอรโ์ มนเพศเอสโตรเจน และโปรเจสเตอรโ์ รน เย่ือผนงั มดลกู จะหลดุ ลอกึณะมีประจำเดือน แตเข ม่ือตงัน ครรภจ์ ะ ึยำยตวั หหญขเป็นท่ีฝังตวั ึองไึทข ่ีปฏสิ นธิจำกเชือน อสจุ ิแลว้ และคอข ยๆเจรญิ เติบโตเป็นทำรกหนครรภ์ หลงั กำรคลอด ผนงั มดลกู จะกลบั คืนสสขู ภำพเดิมภำยหน 45 วนั หน้ำทขี่ องมดลูก • กำรมีประจำเดือน ท่ีเกิดจำกกำรหลดุ ลอกึองเย่ือบมุ ดลกู ภำยหลงั ท่ีไมมข ีไึมข ำฝังตวั ซง่ึ จะมีกำรฉีกึำดึองเสน้ เลือด ทำหหเ้ ลอื ดไหลออก หรอื ท่ีเรยี กท่วั ไปวำข กำรเป็นประจำเดือน • กำรตงัน ครรภ์ เป็นท่ีฝังึองไึขท่ีปฏสิ นธิแลว้ และพฒั นำเป็นตวั ออข นจนกระท่งั เจรญิ เติบโตเป็นทำรก • กำรคลอด อนั มำจำกกำรครบกำหนดึองกำรเติบโตึองทำรกหนครรภ์ ึณะคลอดผนงั มดลกู จะมีกำรหดตวั เป็น ระยะๆ เพ่ือหหท้ ำรกเคล่อื นออกผขำนมำถงึ ชอข งคลอด 06/10/63 ชวี วิทยำ : กำรสืบพนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 62

ระดบั ฮอรโ์ มนและควำมหนำของผนังมดลูกชัน้ ใน ในรอบเดอื น 04/10/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 63

กำรปฏิสนธิ(Fertilization) 64

กำรปฏิสนธิและกำรฝังตวั ของเอมบริโอทผ่ี นังมดลูก 65

(1) ไึขระยะ secondary oocyte ซง่ึ พรอ้ มท่ีจะผสมพนั ธุห์ ลดุ ออกจำกรงั ไึข (ovulation) เึำ้ ไปอยหู นทอข นำไึข (oviduct) กำรปฏสิ นธิเกิดึนึน ภำยหนทอข นำไึไข ดเ้ ป็นไซโกต (zygote) (3) cleavage เรม่ิ เกิดึนึน ึณะท่ีเอมบรโิ อเคล่อื นตวั มำสมขู ดลกู (4) ึณะท่ีมำถึงมดลกู เอมบรโิ อจะมีกำรเคล่อื นท่ีึองกลมขุ เซลลแ์ ยกเป็น 2 กลมขุ ไดแ้ กข 1. trophoblast เป็นกลมขุ เซลลท์ ่ีเรยี งตวั กนั ชนัน เดียวอยรขู อบนอก ซง่ึ ตอข ไปจะเจรญิ รวมกบั เนือน เย่ือึองผนงั มดลกู กลำยเป็นรก (placenta) 2. กลมขุ เซลลท์ ่ีอยภขู ำยหน เรียกวำข inner cell mass เป็นสวข นท่ีจะเจรญิ ตอข ไปเป็นเอมบรโิ อ เรยี กเอมบรโิ อระยะนีวน ำข blastocyst (5) blastocyst จะฝังตวั หนผนงั มดลกู ซง่ึ เอมบรโิ อเจรญิ มำไดป้ ระมำณ 7 วนั หลงั กำร ปฏิสนธิ 66

กระบวนกำรปฏสิ นธิของสัตวเ์ ลีย้ งลูกดว้ ยนำ้ นม Fertilization in Mammals 1. Capacitation (enhanced sperm function) เป็ นจำก secretion ของท่อระบบสบื พนั ธุ์ ของตวั เมยี - เปลยี่ นโมเลกุลบำงชนิดทห่ี ัวของ sperm ทำให้ sperm เคลอ่ื นทเ่ี ร็วขนึ้ 2. sperm จะตอ้ งผ่ำน Zona pellucida (extracellular matrix of the egg) เพอื่ เกดิ กระบวนกำรต่อไปได้ 67

กระบวนกำรปฏสิ นธิของสัตวเ์ ลยี้ งลูกดว้ ยนำ้ นม (1) สเปิ รม์ ผ่ำนเข้ำไปในชัน้ ของ follicle cells และรวมกับ receptor melecules ทอ่ี ยทู่ ชี่ ัน้ zona pellucida (ในทน่ี ีไ้ ม่ไดแ้ สดง receptor molecule) (2) acrosomal reaction เกดิ ขนึ้ โดยสเปิ รม์ ปล่อยเอนไซมย์ อ่ ยชัน้ zona pellucida (3) ทำใหส้ เปิ รม์ สำมำรถเขำ้ ไปถงึ plasma membrane ของไข่ได้ และ membrane proteins ของสเปิ ร์ มรวมกับ receptor ที่ plasma membrane ของไข่ (4) plasma membrane ของสเปิ รม์ และไข่เชื่อมตดิ กัน ดงั นั้นนิวเคลียสของสเปิ รม์ เข้ำไปในไซโตพลำสซมึ ของไข่ (5) เกดิ cortical reaction โดยเอนไซมท์ ป่ี ล่อยออกมำจำก cortical granules ทำใหช้ ั้น zona pellucida มลี ักษณะแขง็ ทำหน้ำทป่ี ้องกันไม่ใหส้ เปิ รม์ ตวั อน่ื เข้ำไปในไขอ่ กี (กำรที่ สเปิ รม์ เขำ้ ไปในไข่หลำยตวั เรียกว่ำ polyspermy) 68

1stand 2nd polar Sperm Enter Egg mbaoledpiersonucleus prfoenmuaclleeus (n) (n) a. c. female pronucleus fBiresgtindnivinisgioonf replicating its DNA 69 b. d. male pronucleus replicating its DNA fFsrpuoesmrimonegogfannudclei

กำรปฏสิ นธิของเม่นทะเล : acrosomal and cortical reactions 70

กำรปฏสิ นธิของเม่นทะเล : acrosomal and cortical reactions เป็ นกระบวนกำรทสี่ เปิ รม์ เพยี งตวั เดยี วเข้ำไปในไข่ (1) สเปิ รม์ เข้ำไปแตะกบั jelly coat ของไข่ (2) acrosomal reaction เร่ิมเกดิ ขึน้ เมอื่ สเปิ รม์ ปล่อย hydrolytic enzyme จำกส่วนของ acrosome เอนไซมจ์ ะย่อย jelly coat ขณะเดยี วกนั actin filament ในหวั ของสเปิ รม์ จะยน่ื ยำวออกเป็ น acrosomal process (3) ส่วน acrosomal process แทรกเข้ำไปใน jelly coat และรวมกบั protein receptors ทอี่ ยบู่ น vitelline layer ของไข่ เอนไซมย์ ่อย vitelline layer ใหเ้ ป็ นรู ทำให้ acrosomal process แตะกับ plasma membrane ของไข่ (4) plasma membrane ของสเปิ รม์ และไข่เชอ่ื มตดิ กัน (5) นิวเคลยี สของสเปิ รม์ เข้ำไปในไซโตพลำสซมึ และรวมกับนิวเคลยี สของไข่ กำรรวมกันของนิวเคลยี สทงั้ สองนีท้ ำใหเ้ กดิ กำร เปล่ียนแปลงประจุไฟฟ้ำทบ่ี ริเวณ plasma membrane ของไข่ เกดิ cortical reaction ตำมมำ ป้องกันไม่ใหส้ เปิ รม์ ตัวอนื่ เข้ำไปใน ไข่อกี (6) กำรเกดิ cortical reaction Cortical granules ในไข่รวมกับ plasma membrane ปล่อยเอนไซมแ์ ละสำรอน่ื ๆ ทำใหช้ ั้น vitelline membrane และ plasma membrane แยกจำกกันและมีลักษณะแข็ง เรียกว่ำ fertilization membrane ป้องกันไม่ใหส้ เปิ รม์ ตัวอนื่ เข้ำมำได้อกี 71

รูปลักษณะของไข่ รูปร่ำงและขนำดของไข่สัตวป์ ระเภทต่ำงๆแตกต่ำงกันไป รอบๆไข่อำจมีเยื่อป้องกันอยู่ เช่น vitelline membrane หรือไข่บำงชนิดมวี ุ้นหุ้ม เช่น ไข่ของสัตวส์ ะเทนิ นำ้ สะเทนิ บกหรือมีไข่ขำวและเปลอื ก หุ้ม เช่นไข่พวกสัตวป์ ี ก ภำยในไซโตพลำสซมึ ของไข่มักจะมอี ำหำรหรือไข่แดงสะสมอยู่ ไข่แบ่งออกได้เป็ น ชนิดต่ำงๆ ดังนี้ 1. แบ่งตำมปริมำณของไข่แดง(amount of egg) มี 4 แบบ คอื 1.1 Alecithal egg ได้แก่ไข่ทไ่ี ม่มอี ำหำรสะสมอย่เู ลย เช่น ไข่ของพวกสัตวเ์ ลยี้ งลูกดว้ ยนำ้ นม 1.2 Microlecithal egg ไดแ้ ก่ไข่ทม่ี ไี ข่แดงอยูบ่ ำ้ งเลก็ น้อย เช่น ไข่พวกดำวทะเล หรือ หอยเม่น 1.3 Mesolecithal egg ได้แก่ไข่ทม่ี อี ำหำรอยู่ในไซโตพลำสซมึ บ้ำงพอสมควร เชน่ ไขก่ บ คำงคก 1.4 Polylecithal egg ไดแ้ ก่ไข่ทม่ี ไี ข่แดงเป็ นจำนวนมำก ได้แก่สัตวเ์ ลอื้ ยคลำน และสัตวป์ ี ก 72

73

74

เซลลไ์ ข่ของสัตวป์ ระเภทตำ่ งๆพร้อมทจ่ี ะเกดิ fertilization ในระยะต่ำงๆ กัน เช่น 1. ตัง้ แตย่ งั ไม่เกดิ meiosis เชน่ หนอน 2. ระยะ meiosis I เช่น Ascaris (หนอนพยำธิไส้เดอื นตัวกลม) 3. ระยะ meiosis II เช่น สัตวเ์ ลยี้ งลูกดว้ ยนำ้ นม คน 4. เมอ่ื เกดิ meiosis สมบูรณ์ เช่น สัตวพ์ วก echinoderms 2. แบง่ โดยกำรกระจำยของอำหำรในไซโตพลำสซมึ (distribution of yolk) 2.1 Isolecithal egg ในไซโตพลำสซมึ มไี ข่แดงกระจำยอยทู่ ่ัวไปอยำ่ งสม่ำเสมอ เช่น ไข่ปลำดำวและหอยเม่น 2.2 Telolecithal egg กำรกระจำยของไข่แดงอยคู่ ่อนไปทำงส่วนใดส่วนหน่ึงของไซโตพลำสซมึ แยกออกเป็ นพวก ตำ่ งๆ ดงั นี้ 2.2.1 Moderately telolecithal egg ไข่แดงอยูค่ ่อนไปทำงดำ้ นล่ำง เช่น ไข่กบ ไข่คำงคก 2.2.2 Heavily telolecithal egg ไข่แดงอยู่รวมกันเป็ นก้อนแยกจำกไซโตพลำสซมึ เช่น ไข่สัตวเ์ ลอื้ ยคลำน และสัตวป์ ี ก 2.2.3 Centrolecithal egg ไข่แดงรวมกันเป็ นก้อนอยตู่ รงกลำง มไี ซโตพลำสซมึ อยู่ล้อมรอบ เช่นไข่แมลง 75

2.3 ชอ่ งคลอด (vagina) - เป็นชของทำงท่ีสเปิรม์ จะเึำ้ ไปปฏิสนธิกบั ไึข - เป็นชอข งท่ีทำรกจะคลอดออกมำตำมธรรมชำติ 04/10/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 76

ช่องคลอด(vagina/Vaginal Canal) เป็นช่องอวยั วะภายในท่ีต้งั อยรู่ ะหวา่ งช่องปัสสาวะกบั ช่องทวารหนกั ยาวประมาณ 7 –8 เซนติเมตร เป็นช่อง สาหรับผา่ นของตวั อสุจิเพ่อื เขา้ ไปปฏิสนธิกบั ไขบ่ ริเวณปี กมดลูกหรือท่อนาไข่ รวมถึงเป็นทางออกของทารก ในขณะคลอด ผนงั ภายในของช่องคลอดเป็นเยอ่ื เกือบติดกนั และสามารถแยกออกจากกนั ได้ สามารถยดื หดไดม้ าก และบริเวณปากช่องคลอดมีตอ่ มขนาดเลก็ ทาหนา้ ที่ขบั น้าเมือกมาเล้ียงช่องคลอด เรียกวา่ ตอ่ มบาร์โทลิน (Bartholin Grand) หนภำวะปกติ ชของคลอดจะมีมีสภำพเป็นกรดท่ีมำจำกกำรเปล่ียนไกลโคเจนหหเ้ ป็นกรดแลกติก (Lactic Acid) แบคทีเรยี ชนิดหน่งึ จงึ เป็นสภำวะท่ีชขวยปอ้ งกนั กำรตดิ เชือน จลุ ินทรยี ไ์ ด้ และท่ีปำกชอข งคลอดเย่ือบำงๆ เรยี กวำข เยอ่ื พรหมจำรี (Hymen) ปกคลมุ อยขู เย่ือนีน จะึำดไปเม่ือมีเพศสมั พนั ธค์ รงัน แรกหรอื กรณีอ่ืนๆ เชนข กำรเลนข กีฬำ กำรทำงำนหนกั ท่ีทำหหเ้ กิดกำรฉีกึำดึองเย่ือพรหมจำรี แตหข นบำงคนอำจจะึำดมำแลว้ ตงัน แตกข ำเนิด 77

 โปรโตซวั ท่ีพบหนชของคลอดไดแ้ กข Trichomonas vaginalis ซง่ึ ทำหหผ้ นงั ชอข งคลอดอกั เสบเกิดกำรตกึำวได้ 2.4 ทอ่ นำไข่/ปี กมดลูก (oviduct หรอื fallopian tube) เป็นทำงเช่ือมตอข ระหวำข งรงั ไึทข งัน สองึำ้ งกบั มดลกู ทำหนำ้ ท่ีเป็นทำงผำข นึองไึทข ่ีออกจำกรงั ไึขเึำ้ สมขู ดลกู และเป็นบรเิ วณท่ีอสจุ ิจะเึำ้ ปฏิสนธิกบั ไึข 06/10/63 ชวี วิทยำ : กำรสบื พนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 78

กำรพัฒนำของเซลลไ์ ข่ (Reproduction) - เดก็ หญิงจะเจรญิ เติบโตเึำ้ สวขู ยั รุนข เม่ืออำยปุ ระมำณ 12 – 15 ปี เซลลเ์ พศหญิงหรือไึจข ะถกู กระตนุ้ โดยฮอรโ์ มนจำกตอข มพทิ อู ิตำรี เป็นผลหหเ้ ซลลเ์ พศหญิงสกุ แกพข รอ้ มท่ีจะสืบพนั ธุไ์ ด้ - ปกตไิ ึขจะหลดุ ลอยเึำ้ ไปหนหลอดรงั ไึข (Follopian Tube) โดยไึทข ่ีสกุ จะหลดุ ออกมำเดือนละ 1 ฟองจำกรงั ไึข ซำ้ ย-ึวำ สลบั กนั ไึทข ่ีสกุ แลว้ จะมีึนำดเลก็ มำก แตสข ำมำรถมองเห็นดว้ ยตำเปลำข มี รูปรำข งกลม เสน้ ผขำศนู ยก์ ลำงประมำณ 0.1 มลิ ลเิ มตร ซง่ึ จะโตกวำข อสจุ ิหลำยเทำข - ภำยหนไึขประกอบดว้ ยนิวเคลยี ส 1 อนั มีหนำ้ ท่ีเกบ็ อำหำร ไึไข มสข ำมำรถเคล่อื นท่ีเองได้ - ภำยหนหลอดรงั ไึหข รอื ปีกมดลกู มีึนละเอยี ดอยจขู ะพดั ไึขหหเ้ คล่อื นท่ีไปตำมทอข นำไึข เึำ้ สมขู ดลกู ได้ ถำ้ ไึไข มไข ดร้ บั กำรผสมกบั อสจุ ิจะสลำยตวั ไป 06/10/63 ชีววทิ ยำ : กำรสบื พนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เติบโตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 79

06/10/63 ชีววทิ ยำ : กำรสบื พนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 80

06/10/63 ชีววทิ ยำ : กำรสบื พนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 81

พฒั นำกำรทำงเพศจำกฮอรโ์ มน – มีกำรเปล่ยี นแปลงึนำด และลกั ษณะึองอวยั วะเพศ และรำข งกำย จนสำมำรถสบื พนั ธุไ์ ด้ อยำข งสมบรู ณ์ – กระตนุ้ กำรเจรญิ เตบิ โต และพฒั นำรำข งกำยหหเ้ ป็นผหู้ หญข โดยกระตนุ้ กำรทำงำน และกำร เจรญิ เติบโตึองอวยั วะตำข งๆ – ชขวยรกั ษำสมดลุ ภำยหนรำข งกำย โดยฮอรโ์ มนจะชวข ยปรบั สมดลุ ึองระบบนำน เกลอื แรข ควำม เป็นกรด ควำมดนั โลหติ กำรเตน้ ึองหวั หจ อณุ หภมู ิ ตลอดจนกำรเจรญิ มวลสำรึองกระดกู กลำ้ มเนือน และไึมนั หหส้ มดลุ 06/10/63 ชีววทิ ยำ : กำรสบื พนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 82

กำรตกไข่ (Ovulation) กำรตกไึข คือ กำรท่ีไึสข กุ และออกจำกรงั ไึขเึำ้ สทขู อข นำไึข กำรตกไึขจะเกิดึนึน หลงั จำกวนั ท่ีมีรอบเดือนวนั แรก ประมำณ 13-15 วนั 06/10/63 ชีววิทยำ : กำรสืบพนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 83

The reproductive cycle of the human female รอบประจำเดอื น(menstrual cycle) 1.ระยะก่อนตกไข่(follicle stage) FSH กระตุ้น ใหฟ้ อลลิเคลิ ขยำยตวั เป็ นแกรเฟี ยนฟอล ลเิ คลิ และมกี ำรสร้ำอสี โทนเจนเพอื่ กระตุน้ ใหผ้ นังดำ้ นในมดลูกหนำขึน้ 2.ระยะตกไข่(ovulation stage) LH เพม่ิ ขนึ้ อย่ำง มำกมผี ลตอ่ แกรเฟี ยนฟอลลิเคลิ ทำให้ แตกออกไข่จงึ หลุดออกมำ และเคลื่อนที่ เข้ำสู่ปี กมดลูก 3.ระยะหลังตกไข่(corpusluteum stage) ส่วน ฟอลลิเคลิ ทแี่ ตกออกจะเปล่ียนเป็ น คอลพสั ลูเทยี ม และส่วนนีส้ ร้ำงฮอรโ์ มน โพรเจสเทอโรนและฮสี โทรเจนกระต้นุ ให้ ผนังมดลูกหนำมำกขนึ้ พร้อมสำหรับกำร ฝังตวั ของไข่ 84

06/10/63 ชีววทิ ยำ : กำรสบื พนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 85

แผนภำพสรุประดบั ฮอรโ์ มนในเพศหญงิ 06/10/63 ชวี วทิ ยำ : กำรสบื พนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เติบโตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 86

 กำรมปี ระจำเดอื น (Menstruation)  หลงั จำกกำรตกไึข ท่ีไึขเคล่อื นลงสขทู อข นำ ไึข มดลกู จะึยำยึนำดจำกกำรกระตนุ้ ึองฮอรโ์ มนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอ โรน ทำหหผ้ นงั มดลกู ดำ้ นหนหนำตวั ึึนน และมีหลอดเลอื ดมำหลอข เลยีน งมำกึึนน เพ่ือ เตรียมพรอ้ มสำหรบั กำรฝังตวั ึองไึขท่ี ผสมแลว้ แตหข ำกไึไข มไข ดร้ บั กำรผสม ไึขก็ จะสลำยตวั ไป ทำหหผ้ นงั มดลกู ดำ้ นหน และหลอดเลอื ดเกิดกำรสลำยตวั ตำมมำ และไหลออกมำทำงชอข งคลอดเป็นเลอื ด เสียหรอื อำจมีกอ้ นเลือดหลดุ ออกมำดว้ ย ซง่ึ เรยี กวำข กำรเป็นประจำเดือน 06/10/63 ชวี วิทยำ : กำรสืบพนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 87

• กำรมปี ระจำเดอื น (Menses) หมำยถึง กำรท่ีหลอดเลอื ดหนผนงั มดลกู ชนัน หนเกิดกำรแตกออกเน่ืองจำก อิทธิพลึองฮอรโ์ มนจำกตอข มหตส้ มองและรงั ไึข ดงั นนัน เม่ือมีประจำเดือนจงึ มีกำรึบั เย่ือเมือกและึองเสยี จำกเซลลท์ ่ีเย่ือบชุ นัน หนึองมดลกู ออกสภขู ำยนอก หนกำรนีจน ะ เสยี เลอื ดประมำณ 25 cm3 ตอข 1 รอบประจำเดือน • ระยะเวลำท่ีเพศหญิงจะมีบตุ รได้ คือชขวงอำยุ 15-45 ปี เน่ืองจำกมีกำรตกไึข ดงั นนัน กำรมีประจำเดือนกจ็ ะเกิดหน ชวข งอำยนุ ีดน ว้ ย • รอบประจำเดอื น (Menstrual cycle) จะหชเ้ วลำรอบละ ประมำณ 25-35 วนั แตลข ะรอบประกอบดว้ ยกำรตกไึแข ละ กำรมีประจำเดือน 04/10/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 88

06/10/63 ชีววทิ ยำ : กำรสบื พนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เตบิ โตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 89

วนั แรกึองกำรมีประจำเดอื น 13-15 วนั ตอข มำ ไึสข ลำยตวั (ระยะท่ีมีประจำเดอื น 2-5 วนั ) (24 ช่วั โมงตอข มำ) รอบประจำเดอื น 26-28 วัน 04/10/63 90 ไึขตก (ovulation) (13-15 วนั ตอข มำ) จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล

ข้อควรปฏบิ ตั ขิ ณะมปี ระจำเดอื น • ตอ้ งมีผำ้ อนำมยั อยำข งเพียงพอ และ เปล่ยี นถขำยทกุ 2-3 ช่วั โมง • อำบนำน และทำควำมสะอำดอวยั วะเพศ หหส้ ะอำด เชด็ หหแ้ หง้ ควรหชแ้ ปง้ ทำ เพ่ือ ปอ้ งกนั ควำมอบั ชืนน • หำกมีอำกำรปวดทอ้ งนอ้ ย หหอ้ อกกำลงั กำยเบำๆ หำกมีอำกำรปวดมำก หหห้ ช้ กระเป๋ ำนำน รอ้ นหรอื ผำ้ สะอำดชบุ นำน อนขุ วำง ประคบหนำ้ ทอ้ ง • ควรบนั ทกึ วนั มำ วนั หมดึองประจำเดือน เพ่ือทำหหท้ รำบถงึ ชขวงเวลำกำรมำึอง ประจำเดือน 06/10/63 ชีววทิ ยำ : กำรสืบพนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เติบโตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 91

สุขปฏบิ ัตเิ กย่ี วกับอวัยวะเพศหญิง • ควรอำบนำน อยำข งนอ้ ยวนั ละ 2 ครงัน ดว้ ยสบขู และสำรทำควำมสะอำดเป็นประจำ • สวมชดุ ชนัน หนท่ีสะอำด ไมอข บั ชืนน หรอื มีกลิ่นอบั โดยเฉพำะึณะมีประจำเดือน • สวมหสผข ำ้ อนำมยั ทกุ ครงัน ึณะมีประจำเดือน • ไมสข วมเสอืน ผำ้ ชดุ ชนัน หน กำงเกงหนท่ีรดั แนขนจนเกินไป • ไมหข ชเ้ สอืน ผำ้ ผำ้ เช็ดตวั เสอืน คลมุ ปะปนคนอ่ืน • ไมคข ลกุ คลีหรอื หชส้ ง่ิ ึองรวข มกบั ผปู้ ขวยท่ีอำจเป็นกำมโรคหรอื โรคผิวหนงั • หม่นั ซกั ทำควำมสะอำดเสอืน ผำ้ ชดุ ชนัน หน กำงเกงอยำข งสม่ำเสมอ 06/10/63 ชีววทิ ยำ : กำรสืบพนั ธุแ์ ละกำรเจรญิ เติบโตึองสตั ว์ โดยครูสกุ ฤตำ โสมล 92

การเจริญเตบิ โตและกราฟการเตบิ โตของส่ิงมชี ีวติ • กำรเตบิ โตของสง่ิ มชี วี ติ (growth) หมำยถงึ กระบวนกำรท่ีรำข งกำยมีกำรเพ่มิ ปรมิ ำณึอง โพรโทพลำสซมึ จำกกำรสงั เครำะหส์ ำรอินทรยี ์ (assimilation) ทำหหึ้ นำดึองเซลลึ์ ยำยหหญขึึนน (cell expansion) และเพ่ิมจำนวนเซลลโ์ ดยกำร แบงข เซลล์ (cell multiplication) กำรเติบโตึอง สิ่งมีชีวิตหลำยเซลลโ์ ดยท่วั ไปจงึ ประกอบดว้ ย กระบวนกำรพืนน ฐำน 3 ประกำร ดงั นีน * กำรเตบิ โตของสง่ิ มชี วี ติ (growth) = กำรเพ่มิ ปรมิ ำณโพรโทพลำสซมึ (assimilation) + กำรึยำยึนำดึองเซลล์ (cell expansion) + กำรเพ่มิ จำนวนเซลล์ (cell multiplication) 04/10/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 93

การเตบิ โตในโพรโทซัว • กำรเติบโตหนโพรโทซวั จะประกอบดว้ ยกระบวนกำรพืนน ฐำน 2 ประกำรเทำข นนัน คอื กำรเพ่มิ ปรมิ ำณ โพรโทพลำสซมึ และกำรึยำยึนำดึองเซลลโ์ ดยไมมข ีกำรเพ่มิ จำนวนเซลล์ เชนข หนอะมีบำ จำกแผนภำพพอสรุปไดว้ ำข 1) เม่ืออะมีบำโตเตม็ ท่ีจะมีกำรแบงข เซลลอ์ อกเป็น 2 สวข น (binary fission) เพ่ือเพ่ิมจำนวนเซลล์ หนระยะนีไน มมข ีกำรเพ่มิ ึนำดึองเซลล์ (13) ระยะกำรเพ่ิมเซลลจ์ ำก 1 เซลล์ เป็น 2 เซลล์ จดั เป็นกำรสบื พนั ธุ์ ไมหข ชขกำรเติบโต 2) จำกระยะ 34 จะเป็นกำรสรำ้ งไซโทพลำสซมึ และึยำยึนำดึองเซลล์ จดั เป็นกำรเติบโต 04/10/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 94

กราฟแสดงการเตบิ โตของสิ่งมีชีวติ 1. กรำฟรูปตวั เอส (s-shave curve) 2. กรำฟรูปตัวเอสตอ่ เนื่อง 3. กรำฟรูปขนั้ บนั ได (Intermittent growth) • พบหนสตั วท์ ่วั ๆ ไป (ยกเวน้ อำรโ์ ทรพอด) และ • พบหนไมย้ ืนตน้ ท่ีมีเนือน ไม้ พบหนพืชลม้ ลกุ โดยแบงข กำรเจรญิ เติบโตเป็น (perennial woody • พบหนอำรโ์ ทรพอดทกุ ชนิด เชขน 3 ระยะตำมแผนภำพ คือ plant) ซง่ึ มีกำรเจรญิ เตบิ โตหน แมลง กงุ้ กงัน ปู ตะึำบ และกิงน กือ 1) ระยะ I มีอตั รำกำรเตบิ โตต่ำ แตลข ะฤดกู ำลไมเข ทำข กนั ซง่ึ มีกำรลอกครำบเพ่ือกำรเติบโต 2) ระยะ II มีอตั รำกำรเตบิ โตสงู สดุ 3) ระยะ III มีอตั รำกำรเติบโตต่ำสดุ • โดยหนฤดนู ำน มำกจะมีอตั รำเติบโต สงู สวข นฤดแู ลง้ จะมีอตั รำเติบโตต่ำ 04/10/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 95

04/10/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 96

การเจริญของสิ่งมชี ีวติ (Development) • กำรเจริญึองสิ่งมีชีวิต เป็นกระบวนกำรท่ีรำข งกำย ึองส่ิงมีชีวิตเปล่ียนแปลงไป โดยกำรเพ่ิมจำนวน เซลล์ เพ่ิมึนำดึองเซลล์ หรือเปล่ียนแปลงสภำพ ึองเซลล์ (differentiation) อยขำงหดอยขำง หน่ึง หรือหลำยอยขำงพรอ้ มๆ กนั ทำหหเ้ กิดเนือน เย่ือ และอวยั วะตำข งๆ (organogenesis) กำรเจรญิ ึองส่งิ มีชีวติ (Development) = กำรเตบิ โต (growth) + กำรเปล่ยี นแปลงสภำพึองเซลล์ (differentiation) + กำรเกิดอวยั วะและรูปรำข งึองส่งิ มีชีวติ (organogenesis and morphogenesis) 04/10/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 97

04/10/63 จดั ทำโดย ครูสกุ ฤตำ โสมล 98

Embryonic development เป็ นกำรศกึ ษำช่วงระยะกำรเจริญของเอมบริโอ ซง่ึ จะเร่ิมต้นหลังจำกไข่เกดิ กำรปฏสิ นธิแล้ว เอมบริ โอระยะแรกคอื ไซโกต ระยะเอมบริโอจะสนิ้ สุดเมอ่ื เกดิ อวัยวะตำ่ งๆครบ ในสัตวช์ นิดตำ่ งๆจะมชี ่วงเวลำของกำรเกดิ เอมบริโอแตกตำ่ งกัน เช่นในคน ประมำณ 8-10 สัปดำห์ ไกป่ ระมำณ 4 วัน และกบประมำณ 2 วัน เป็ นตน้ จำกไซโกตซง่ึ เป็ นเซลลเ์ ดยี่ วไปสู่สภำพทซี่ ับซ้อนขนึ้ โดยเกดิ ขนึ้ เป็ นลำดับขัน้ ตอนต่ำงๆดังนี้ 1. Cleavage 2. Blastula 3. Gastrulation 4. Organogenesis 99

1 2 34 1. Cleavage 2. Blastula 3. Gastrulation 4. Organogenesis 100


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook