Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือโรงเรียนคำพ่อสอน (ebook)

คู่มือโรงเรียนคำพ่อสอน (ebook)

Published by pisanc.on18, 2022-06-02 12:48:17

Description: คู่มือโรงเรียนคำพ่อสอน (ebook)

Search

Read the Text Version

อาศริ พจน์ ทลู ถวายภักดดี ้วย พรวิศษิ ฏ์ เอาศิรพจน์ลขิ ิต ถอดถ้อย แดพ่ ระมอบบูชิต ภวู นารถ ไทยเฮย เชญิ ท่วั ชนร่วมรอ้ ย จติ เฝ้าสดดุ ี พร้อมพลใี จเทา่ ฟา้ มหาภพ ไทยทกุ ผนู้ อบนบ สุดเกลา้ กรานกราบซาบซง้ึ ซบ เศียรใส่ พระบาทเลย หาอริยะยิ่งเจ้า จบฟ้าหาไหน ด้วยสำ� นึกในพระกรณุ าธคิ ุณหาท่ีสดุ มไิ ด้ ขา้ พระพุทธเจา้ คณะท�ำงานโรงเรียนค�ำพอ่ สอน “สไมย์ จ�ำปาแพง” ประพันธ์

คูม่ ือ โรงเรยี นคำ� พอ่ สอน เลขมาตรฐานหนังสอื ๙๗๘-๖๑๖-๓๙๓-๑๑๓-๙ พมิ พค์ รั้งแรก : กันยายน ๒๕๖๐ จำ� นวนพิมพ ์ : ๑,๕๐๐ เล่ม แรงบนั ดาลใจ : ความสูญเสยี จากนำ�้ เมา คนตน้ เร่อื ง : อภศิ า มะหะมาน และคณุ ครูคณะทำ� งานโรงเรียนค�ำพอ่ สอน ทป่ี รกึ ษา : เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ดร.ใจเพชร กลา้ จน รุจเิ รขสามน แสงจติ ต์พนั ธุ์ จดั ท�ำโดย : ส�ำนักงานเครือขา่ ยองค์กรงดเหล้า (สคล.) พมิ พท์ ่ ี : โรงพิมพ์สามลดา สงานสิทธ์ิ โดยสำ� นกั งานเครือขา่ ยองคก์ รงดเหลา้ (สคล.) หา้ มลอกเลยี นทำ� ซ้ำ� หรือดดั แปลงเพอ่ื จดั จำ� หน่าย โดยมิได้รับอนุญาต แต่สามารถทำ� ซ้ำ� เพือ่ เผยแพร่เปน็ วทิ ยาทาน โดยการขออนุญาตจากเจา้ ของลิขสทิ ธ์ิ (ส�ำนักงานเครอื ขา่ ยองค์กรงดเหลา้ ) โทรศัพท์ : ๐๒ ๙๔๘ ๓๓๐๐, ๐๘๙ ๒๗๔ ๘๘๒๔ email : [email protected] ผสู้ นบั สนุนการจดั ท�ำหนังสือ

คำ� ปรารภ คู่มือโรงเรียนค�ำพ่อสอนเป็นแนวทางเพ่ือป้องกันแก้ไขปัญหาการเสพติด เหล้า เบียร์ เคร่ืองดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ทุกชนิด และเหล้าบุหร่ี ในสังคมไทย ท่ี นับวันจะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วจากผู้ใหญ่มาถึงเด็กเล็กและวัยรุ่น โดย พฤติกรรมการดื่ม การสูบมีจุดเริ่มต้นจากครอบครัว ซ่ึงเด็กๆ เรียนรู้และยอมรับ พฤติกรรมการดื่มเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ทุกชนิด และบุหร่ี จาก ครอบครัว จากโฆษณาทางส่ือต่างๆ และส่ิงแวดล้อมรอบตัวโดยไม่ทันรู้สึกตัว ซึ่งเกิดจากกลไกการท�ำงานตามธรรมชาติของจิตใต้ส�ำนึกและจติ สำ� นกึ จึงจ�ำเป็นอย่างย่ิงที่ต้องสร้างการเรียนรู้เพ่ือเป็นภูมิคุ้มกันให้กับเด็กๆ ไป พร้อมกับการสร้างส่ิงแวดล้อมท่ีปลอดเหล้า เบียร์ เคร่ืองด่ืมที่มีแอลกอฮอล์ ทุกชนิด และบุหรี่ โดยเรมิ่ ตน้ ทโ่ี รงเรียน โครงการโรงเรียนค�ำพ่อสอน ได้ออกแบบคู่มือเพื่อเติมข้อมูลด้านบวกใน จิตส�ำนึกแก่นักเรียน ต้ังแต่ระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา โดยคุณครู สามารถประยุกต์ให้เหมาะสมกับวัย เพื่อการละช่ัวจากเคร่ืองดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทุกชนิด และบหุ ร่ี ทำ� ดีเพิ่มโดยเร่มิ จากการมีจติ อาสา, มีศีล ๕ พึ่งตนด้านสขุ ภาพ, ให้เกดิ ความภาคภมู ิใจในตนเอง (Self esteem) ซ่ึงเป็นภูมิคุ้มกนั อันทรงพลังและ ยงั่ ยืน โดยมีคุณครูเป็นปัจจัยสำ� คัญที่จะเป็นผ้สู ร้างการเรียนร้ผู า่ นกจิ กรรมในค่มู ือ นับเป็นการร่วมสร้างพลเมืองดีมีศีลธรรมปลอดอบายมุข ตามพระราชปณิธาน ของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ด้วยส�ำนึกในพระสหมกรณุ าธิคณุ อนั หาที่สุดมิได้ สำ� นักงานเครือข่ายองคก์ รงดเหล้า (สคล.)

คำ� นยิ ม บวร เป็นทางออกจากปัญหา ตามค�ำพ่อสอนที่แท้จริง พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จ- พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงพระราชทานในเร่ืองให้คนไทยออกจากอบายมุข ในหลายวโรกาส ซ่ึงสอดคล้องกับค�ำสอนในพระพุทธศาสนา ย่อมเป็นท่ีแน่ชัดว่า คนจะแก้ปัญหาและพัฒนาต่อไม่ได้ หาก ไม่พ้นไปจากอบายมุข โดยเฉพาะน�้ำเมาเป็นอบายมุขส�ำคัญท่ีน�ำไปสู่อบายมุขและการผิดศีลข้ออื่นๆ (เนอื่ งจากการขาดสตสิ ปั ชญั ญะ ท�ำผดิ ไดท้ กุ เรื่อง) และปญั หาจามมาอีกมากมาย น้ำ� เมา เป็นตน้ เหตขุ อง ๒๐๐ โรค และการบาดเจ็บตา่ งๆ ซงึ่ ท�ำใหค้ นทวั่ โลกเสียชีวิต ๓.๓ ลา้ นคน ตามท่ีองค์การอนามัยโลกระบุ (http://www.who.int/mediacentre/factsheets/fs349/en/) เฉพาะ คนไทยก็เสียชวี ิตปลี ะไมต่ ำ่� กว่า ๕๐,๐๐๐ คน (เฉลีย่ เสยี ชวี ติ ทุก ๑๐ นาที) ทีส่ �ำคญั คือ สรา้ งปญั หาให้ เยาวชนตามมาอีกมากมาย เช่น มีเพศสัมพันธ์ไม่เหมาะสมอันเป็นเหตุให้ท้องก่อนวัยอันควร, ติดเช้ือเอดส์ (HIV. พระอาจารย์อลงกต วัดพระบาทน้�ำพุ ระบุว่าคนติดเอดส์กว่าครึ่ง มีน�้ำเมาเป็นเหตุ), อุบัติเหตุ ทางถนน (เยาวชนดื่มน้ำ� เมาข่มี อเตอร์ไซด์เสียชีวติ บนถนนมากท่สี ุด), ถกู จองจ�ำ (กรมพินจิ และคุ้มครองเดก็ มีงานวิจัยระบุว่า เยาวชนท่ีต้องไปอยู่ในสถานพินิจฯ กว่า ๔๐% ท�ำผิดหลังดื่มน้�ำเมาภายใน ๕ ชม.), ขาดเรียน, เสยี อนาคต, ความรุนแรงในครอบครวั เพ่มิ ข้นึ ๓-๔ เท่า ในครอบครัวทม่ี ีคนดม่ื ฯลฯ

หลายภาคส่วนในสังคมพยายามแก้ปัญหาให้เยาวชน และครอบครัว โดยเฉพาะปัญหาจากการ ดื่มน�้ำเมา แต่ก็เหมือนยังไม่สามารถหาทางออกท่ีดีพอได้ การท่ีกระทรวงศึกษาธิการได้ร่วมกับส�ำนัก เครอื ข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และส�ำนกั งานกองทุนสนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.) ได้รเิ รม่ิ ทำ� “โครงการโรงเรียนปลอดเหล้าปลอดบุหร่ีตามค�ำพ่อสอน” และพัฒนาเป็น “คู่มือค�ำพ่อสอน” ฉบับนี้ นบั วา่ เปน็ แนวทางหน่งึ ท่มี ีพลังมาก ซ่งึ ไดน้ ำ� พระบรมราโชวาทของพระเจ้าอยู่หวั ฯ รชั กาลท่ี ๙ มาปรับใช้ สรา้ งกิจกรรมทีพ่ ฒั นานกั เรียนให้กลายเป็นผู้กระท�ำ (แทนการเป็นเหยอื่ ของธุรกจิ น�้ำเมา) กจิ กรรมสรรสรา้ ง ร่วมกับครู (โรงเรียน) ผู้ปกครองและชุมชน (บ้าน) และพระสงฆ์ (วัด) หรือคือแนวทาง บวร. ที่แม้จะ ได้ยินกันมานาน และไม่ค่อยเห็นรูปธรรมของงานที่ชัดเจนเท่าโครงการนี้ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้จริง ทั้งกับตัวเยาวชนเอง เพื่อนๆ ตลอดจนไปถึงช่วยลดปัญหาของครูและผู้ปกครอง รวมท้ังคนในชุมชน ให้ ลด ละ เลกิ การบริโภคนำ้� เท่าได้ดว้ ย ก่อให้เกดิ ผลดตี ามมาอกี มากมาย ใน “คู่มือค�ำพ่อสอน” มีข้ันตอนรายละเอียดท่ีคุณครูแต่ละโรงเรียนสามารถเรียนรู้ได้ไม่ยากนัก ซึ่งน่าจะเป็นเครื่องมือส�ำคัญท่ีแต่ละโรงเรียนสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ได้ และอาจพัฒนาต่อยอด ให้เกิด นวัตกรรมการน�ำค�ำพอ่ สอนไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนก์ ับนักเรยี น โรงเรยี น ชุมชน วดั และสงั คมไทย จงึ นับได้ วา่ ได้ปฏิบัติบชู าตามคำ� พ่อสอน ซ่งึ ถือเป็นบุญกุศลท่ีสงู สุด ตามหลกั การพระพุทธศาสนา หากเราได้นอ้ มจติ ถวายบุญกุศลนี้ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ก็จะเป็นบุญกุศลที่ย่ิงใหญ่ และเป็น การสืบทอดค�ำพ่อสอนใหด้ ำ� รงอยใู่ นสังคมไทยต่อไปอีกยาวนานดว้ ย เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี สำ� นักงานเครือขา่ ยองคก์ รงดเหลา้ (สคล.)

ค�ำนยิ ม ทกุ ชีวติ ตอ้ งการความมคี ุณค่าและผาสุกแห่งชวี ติ ซ่งึ กค็ อื สภาพการดำ� รงชวี ิตทพี่ อเพยี งเรยี บงา่ ย ร่างกายแข็งแรง จิตใจดีงาม และจิตใจเป็นสุข ถ้าชีวิตเรายังไม่พ้นทุกข์ การจะเข้าถึงสภาพดังกล่าว ก็ต้องศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติมจากที่เคยเรียนรู้มา และพิสูจน์ความจริงว่าความรู้นั้นเป็นประโยชน์หรือ เปน็ โทษ สงิ่ ใดเปน็ ประโยชน์กย็ ดึ อาศัย ส่ิงใดเป็นโทษกล็ ะเสีย ผู้ที่ต้องการเข้าถึงความมีคุณค่าและผาสุกแห่งชีวิตนั้นอบายมุขเป็นส่ิงแลกที่ชีวิตต้องลดละเลิก เพราะเป็นภัยต่อชีวิตมากที่สุด ฝึกด�ำรงชีวิตอย่างพอเพียงเรียบง่าย พ่ึงตนในการดูแลสุขภาพให้ดี ขยัน ท�ำกิจกรรมการงานที่ดีงาม ถือศลี ๕ เปน็ อย่างน้อย มนี ้ำ� ใจช่วยเหลือเก้ือกูลผอู้ น่ื ด้วยความยินดเี ต็มใจ ผาสุกบริสุทธ์ิผ่องใส โดยสานพลังกับหมู่มิตรดีในการบ�ำเพ็ญบุญ (ลดกิเลส) และกุศล (ช่วยเหลือผู้อื่น) ชีวติ กจ็ ะเข้าถงึ ความผาสกุ ที่แทจ้ รงิ สาระจากหนังสือเล่มน้ี จะมีคุณค่าประโยชน์ต่อตัวท่านเองและคนที่ท่านปรารถนาดี เมื่อท่านท�ำ ความเขา้ ใจ ฝึกฝนปฏบิ ัติ และช่วยเหลอื เกอื้ กูลผู้อ่ืนต่อไป ดร.ใจเพชร กลา้ จน (หมอเขียว) ประธานเครอื ขา่ ยแพทยว์ ถิ ีธรรมแหง่ ประเทศไทย ตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

คำ� นิยม หนังสือประมวลพระบรมราโชวาทและพระราชด�ำรัสเกี่ยวกับเด็กและเยาวชน “ค�ำพ่อสอน” ได้ จัดพิมพ์คร้ังแรกในโอกาสการจัดงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้สังคมไทยได้น้อมน�ำพระบรมราโชวาท พระราชด�ำรัสเกี่ยวกับการ พัฒนาเดก็ และเยาวชนไปประพฤติปฏิบัตอิ ยา่ งกวา้ งขวาง ผา่ นมาแล้ว ๑๘ ปี “คำ� พ่อสอน” ไดถ้ ูกเผยแพรไ่ ปอย่างกว้างขวางเปน็ หลกั ของการด�ำเนินการใน หลากหลายหนว่ ยงาน โรงเรยี นค�ำพอ่ สอนก็เชน่ กนั เปน็ กลุม่ ครูท่รี วมตัวกนั เพือ่ นอ้ มน�ำพระบรมราโชวาท และพระราชด�ำรัสมาประพฤติปฏิบัติ โดยเฉพาะเน้นการป้องกันแก้ไขปัญหาการเสพติด เหล้า เบียร์ เครื่องด่ืมท่ีมีแอลกอฮอล์ทุกชนิด และบุหรี่ ซึ่งบางครั้งไม่ใช่เป็นการแก้ไขปัญหาของนักเรียนในโรงเรียน โดยตรง หากแต่เป็นปัญหาของพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ที่ติดเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ บุหร่ี ยาเสพติด แล้วส่งผลกระทบต่อความสุขในการด�ำเนินชีวิตของนักเรียน กลุ่มครูได้เล็งเห็นปัญหาน้ีแล้ว รวมตัวกัน ร่วมกับส�ำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) โดยการสนับสนุนของส�ำนักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีน่าสนใจถึง ๗ กิจกรรม อันจะ เปน็ แนวทาง เปน็ แบบอยา่ งใหแ้ ก่ครูและหรือครโู รงเรียนอื่นๆ กจิ กรรมทงั้ ๗ กจิ กรรม ไดอ้ อกแบบอยา่ งเป็นรูปธรรม มขี นั้ การเรยี นรู้ ๔ ขน้ั ซง่ึ ท้าทายใหค้ รู และเด็กได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะส�ำคัญ ท่ีส�ำคัญมีการขยายผลความรู้สู่ความดีคือการน�ำความรู้ไป ช่วยเหลือผู้อื่นอีกด้วย อย่างไรก็ตามเม่ือครูเข้าใจหลักการของโรงเรียนค�ำพ่อสอนแล้ว ครูย่อมสามารถ ออกแบบกิจกรรมการเรยี นรูไ้ ดเ้ องทจี่ ะเขา้ กับปัญหาและบรบิ ทของนกั เรียน โดยสุดทา้ ยปลายทางเช่ือมัน่ ว่าการเรียนรู้ร่วมกันใน “โรงเรียนค�ำพ่อสอน” จะส่งผลให้ท้ังครู พ่อ แม่ ผู้ปกครองและนักเรียน มี ความสขุ ร่วมกนั ดร.บรรเจอดพร สแู่ สนสุข รองผ้อู �ำนวยการสำ� นักพฒั นานวตั กรรมการจดั การศึกษา

บทนำ� ๑๒ บทที่ ๑ มาท�ำความเขา้ ใจหลกั ปฏิบัตกิ ารโรงเรียนคำ� พ่อสอน ๑๔ บทท่ี ๒ การเรียนรู้ ๔ ข้ัน ชุดกจิ กรรมในโรงเรยี นคำ� พอ่ สอน ๑๙ บทท่ี ๓ ข้นั ตอนปฏิบตั กิ ารสคู่ วามเปน็ เครือข่ายโรงเรยี นคำ� พอ่ สอน ๒๑ บทที่ ๔ บูรณาการกับกิจกรรม ลดเวลาเรยี น เพ่ิมเวลารู้ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน ๓๔ ด้วยกระบวนการเรยี นรูแ้ บบ - Active Learning - นโี อฮวิ แมนนสิ ● กจิ กรรมท่ี ๑ “เราเปน็ ลกู ของพ่อ” ๓๖ บทความ - “ทำ� ดตี อ้ งชม” ๓๙ - คนท่ีสมบรู ณ์คอื ทรัพยากรท่ีมีของสงั คม ๔๐ ● กจิ กรรมที่ ๒ อะไรซ่อนอยใู่ นขวด...เรารทู้ ันนะ ๔๒ ● กิจกรรมท่ี ๓ เบือ้ งหลงั ...ควัน (บหุ รี่) ๔๘ ● กิจกรรมท่ี ๔ ปากไรค้ วนั ดว้ ยลกู อมหญา้ หมอน้อย ๕๔ ● กิจกรรมท่ี ๕ ทำ� ไมบา้ นนี้มเี งนิ ออมพรอ้ มท�ำบุญ ๕๘ บทความ - การใช้วิธีการดา้ นบวกพฒั นานักเรียน อมาตยกลุ & โลมาโมเดล ๖๐ ● กจิ กรรมท่ี ๖ จิตอาสา “สานตอ่ ค�ำพ่อสอน” ๖๓ บทความ - Neo Humanist Education การศึกษาแบบนีโอฮิวแมนนิส ๖๘ บทท่ี ๕ ด้านการพึง่ ตนตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง โพธิสตั วน์ ้อยยวุ แพทย์วถิ ธี รรม ๘๐ ● กจิ กรรมที่ ๗ โพธสิ ตั วน์ ้อยยุวแพทย์วิถธี รรม ๘๒ ยาเมด็ ที่ ๑ น้ำ� สมนุ ไพรปรบั สมดุล ๘๒ ยาเมด็ ที่ ๒ กัวซาหรอื ขดู ซาหรือขดู พษิ หรือขูดลม ๘๙ ยาเมด็ ที่ ๔ การแช่มอื แชเ่ ท้าในน้ำ� สมุนไพร ๙๘ ยาเมด็ ท่ี ๕ การพอก ทา ประคบ ด้วยสมุนไพร ๑๐๕ รายนามคณะท�ำงาน คู่มอื โรงเรียนคำ� พ่อสอน ๑๑๐

คูม่ ือ โรงเรยี น คำ� พ่อสอน

บทน�ำ ค�ำพ่อสอน คือพระบรมราโชวาทและกระแสพระราชด�ำรัส ที่พระบาทสมเด็จพระ- ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่พสกนิกรชาวไทย ในหลายวาระหลายโอกาส เพื่อให้คนไทยน้อมน�ำสู่การปฏิบัติในการด�ำเนินชีวิตอย่างมีสติสัมปชัญญะ โดยเฉพาะในยามท่ี บ้านเมืองต้องเผชิญกับวิกฤต พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล- อดุลยเดช ทพี่ ระราชทานแก่ผนู้ ำ� ประเทศ ก็สามารถน�ำพาบ้านเมืองออกจากวกิ ฤตได้ ถ้าน�ำไป ปฏบิ ตั อิ ย่างแทจ้ ริง ปัจจุบัน อบายมุขเป็นวิกฤตท่ีคนไทยต้องเผชิญร่วมกันอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ภายใต้ ความรุนแรงของทนุ นยิ ม ทมี่ ุง่ เนน้ ให้เสพ ใหบ้ รโิ ภคโดยไม่คำ� นึงถงึ ผลร้ายท่ตี ามมา “ค�ำพอ่ สอน” จงึ เปน็ ส่ิงทคี่ นไทยควรน้อมนำ� มาปฏิบัติเป็นเครอื่ งเตอื นใจ และครองสติ ใหอ้ ยบู่ นเส้นทางของ การดำ� เนนิ ชวี ติ ทีป่ ลอดภัยและดงี าม เหลา้ เบยี ร์ เครอื่ งดืม่ ท่ีมแี อลกอฮอลท์ ุกชนิด และบุหรี่ เป็นอบายมุขท่ีสง่ ผลกระทบตอ่ การพัฒนาคุณภาพพลเมืองของประเทศชาติ ตั้งแต่เด็กปฐมวัยกระทั่งถึงวัยท�ำงาน อีกท้ังเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด และบุหรี่ ยังเป็นประตูที่น�ำเยาวชนไปสู่ยาเสพติดซ่ึง ก่อใหเ้ กิดปญั หาซบั ซ้อนยิง่ ขนึ้ โรงเรียนค�ำพ่อสอน เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาอบายมุข เหล้า เบียร์ เครอ่ื งดื่มทม่ี แี อลกอฮอลท์ กุ ชนดิ และบุหรี่ ด้วยการบรู ณาการเข้าสรู่ ะบบการศกึ ษา โดยน้อมน�ำค�ำสอนท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานให้แก่ ปวงชนชาวไทย มาสูภ่ าคปฏบิ ัติ และเปน็ กลไกสำ� คัญในการขับเคล่ือนใหเ้ ยาวชนไทยเติบโตเป็น พลเมืองท่ีมีความภาคภูมิใจในตนเอง (Self esteem) มีศีลธรรมเป็นภูมิคุ้มกันมิให้ตกเป็นทาส เหล้า เบียร์ เครื่องด่ืมท่ีมีแอลกอฮอล์ทุกชนิด และบุหรี่ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่าง หาที่สุดมิได้ โครงการโรงเรียนค�ำพ่อสอน ได้อัญเชิญค�ำสอนหรือพระบรมราโชวาทท่ีพระบาท- สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย มาเป็นหลักการ และกลไก ประกอบดว้ ย 12 โรงเรียนค�ำ พ่อสอน

๑. บ ว ร ๒. กระแสพระราชดำ� รสั ที่ทรงเนน้ ย้ำ� ...“ให้ครรู กั เด็กและเดก็ รกั คร”ู ๓. พระบรมราโชวาทเกยี่ วกบั เยาวชน และการด�ำเนนิ ชีวิต โดยโครงการโรงเรียนค�ำพ่อสอนได้ออกแบบแนวทาง ให้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ใน โรงเรียนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้นักเรียนไว้รับมือกับสภาพปัญหาอบายมุขล้นเมือง ท่ี ล่อหลอกใหเ้ ยาวชนเปน็ เหย่ือต้ังแต่อายนุ อ้ ย เพื่อใหเ้ สพตดิ ไว และกลายเป็นลูกคา้ ระยะยาว นอกจากน้ันโรงเรียนค�ำพ่อสอน ยังบูรณาการกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับ Active Learning และนีโอฮิวแมนนิส เพ่ือให้เกดิ ประโยชนส์ ูงสุดกับเด็กๆ นับเป็นโอกาสดีของประเทศชาติที่บุคลากรการศึกษาจะได้รวมพลังสามัคคี พลังความ จงรักภักดี ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยน้อมน�ำค�ำสอนท่ี พระองค์ท่านพระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย มาวางรากฐานให้เยาวชนภาคภูมิใจในตนเอง (Self esteem) มีศีลธรรมคุ้มกันภัยจากเครื่องด่ืมท่ีมีแอลกอฮอล์ทุกชนิด และบุหร่ี โดย ในคู่มือโรงเรียนค�ำพ่อสอนประกอบด้วยวิธีการให้โรงเรียนด�ำเนินกิจกรรมตามหลัก บ ว ร ให้ นักเรียนได้ท�ำความดี ตระหนักรู้พิษภัยจากเหล้า เบียร์ เคร่ืองดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด และ บหุ ร่ี การพึง่ ตนดา้ นสขุ ภาพด้วยยา ๙ เม็ด ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งและองค์ความรู้ ในแนวทางการศึกษาตามหลกั จติ วิทยานโี อฮิวแมนนสิ แม้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะเสด็จสู่สวรรคาลัย แต่โรงเรียน ท่ีร่วมโครงการโรงเรยี นค�ำพ่อสอน ขอสานต่อพระราชปณิธาน “พ่อ” ให้คนไทยได้พบความสุข อันประเสริฐตามเหตุปจั จัยของแตล่ ะคน 13

บทที่ ๑ มาท�ำความเขา้ ใจหลักปฏบิ ตั กิ าร โรงเรยี นค�ำพ่อสอน โรงเรียนค�ำพอ่ สอนได้นอ้ มนำ� บ ว ร มาเป็นหลักการและกลไก โดยยอ่ ยเปน็ ภาคปฏบิ ตั ใิ ห้กับ โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ ก่อนที่โรงเรียนจะเร่ิมปฏิบัติการเรามาท�ำความเข้าใจแนวทาง บ ว ร ไปด้วยกนั ๑. บ ว ร บ เปน็ กจิ กรรมสรา้ งสังคม สงิ่ แวดล้อม ให้เปน็ แบบอย่างท่ีดขี องนกั เรียน บา้ น โดยเร่มิ ต้นทีโ่ รงเรยี น ซึ่งเปน็ จุดเริม่ ตน้ ภูมิค้มุ กนั ใหแ้ กน่ กั เรยี น เพราะโรงเรยี นเปน็ บา้ นหลงั ท่ี ๒ ของเดก็ ๆ (มภี าคปฏบิ ัติ ๑๐ ข้อ) ว เป็นกจิ กรรมทางศีลธรรม สามารถเรม่ิ ไดท้ ีโ่ รงเรียนดว้ ยศีล ๕ วัด (ซง่ึ ผลจะเชอ่ื มโยงกบั บ “บา้ น”) ทต่ี ้องเร่งบม่ เพาะอย่างตอ่ เนือ่ งจนงอกงาม เปน็ ปัจจัยการเกดิ “สต”ิ ไวป้ ้องกันตนตลอดชพี (มภี าคปฏบิ ัติ ๔ ขอ้ ) ร เป็นกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่ือใหท้ �ำดี ละช่วั (เหลา้ เบียร์ บุหร่)ี และความเสอื่ มอ่ืนๆ (ซง่ึ ผลเชือ่ มโยงกบั ว “วัด”) คอื สติทเี่ กดิ จากการปฏิบัติศีล ๕ อยา่ งต่อเน่อื ง จนเปน็ โรงเรยี น ปัจจัยใหเ้ กดิ “ปญั ญา” ไว้ปอ้ งกนั ตนตลอดชีพอย่างย่ังยนื (มีภาคปฏบิ ัติ ๓ ขอ้ ) สรปุ บ ว ร ต้องท�ำควบคู่ไป ขาดอยา่ งใดอย่างหนึ่งมิได้ 14 โรงเรียนค�ำ พอ่ สอน

๑ บ ว ร บ ว ร (บา้ น วดั โรงเรียน) จึงเปน็ โครงสร้างความสมั พนั ธ์ของสงั คมไทยซง่ึ มีมาชา้ นาน เป็นพน้ื ฐานของการพฒั นาใหเ้ กิดการพฒั นาทางจิตใจ พฤตกิ รรม และส่ิงแวดล้อม 15

๒. กระแสพระราชดำ� รสั ที่ทรงเน้นยำ�้ “...ให้ครรู กั เดก็ และเด็กรกั คร.ู .. ให้ครสู อนเดก็ ใหม้ นี ำ้� ใจตอ่ เพอื่ น ไม่ให้แขง่ ขันกัน แต่ให้แข่งกับตวั เอง ใหเ้ ด็กทีเ่ รียนเก่งกวา่ ชว่ ยสอนเพ่อื ทเ่ี รียนช้ากว่า ...ให้ครูจดั กจิ กรรมให้นักเรียนท�ำงานร่วมกัน เพือ่ ใหเ้ ห็นคณุ คา่ ของความสามัคคี...” พระบรมราโชวาทพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ด้วยส�ำนกึ ในพระมหากรณุ าธิคณุ อนั หาทีส่ ดุ มไิ ด้ นอ้ มน�ำสกู่ ารปฏบิ ัตใิ นการเรียนรู้ข้ันท่ี ๑ และบรรยากาศการเรียนรู้ คอื รอยย้ิม ช่นื ชม สบตา ทักทายนักเรียนดว้ ยการสวสัดี การท�ำสมาธิ ลมหายใจเข้าออกยาว เพือ่ ลดภาวะความวา้ ว่นุ และการพูดดา้ นบวกพร้อมกนั กอ่ นเรยี น (ตามท่รี ะบุไวใ้ นการเรียนรูข้ ้นั ที่ ๑ 16 โรงเรียนค�ำ พ่อสอน

๓. พระบรมราโชวาทเกย่ี วกบั เยาวชน และการดำ� เนนิ ชวี ิต “...ในการดำ� รงตนในภายหน้านนั้ ทา่ นจะต้องประพฤติใหด้ ี ใหเ้ หมาะสมแกฐ่ านะ รูจ้ ักผิดและชอบ ประกอบอาชพี โดยสมั มาอาชวี ะ ไมเ่ สเพลและไมป่ ลอ่ ยตนให้เปน็ ทาสแหง่ อบายมุขตา่ งๆ ดังนแ้ี ล้ว ท่านกจ็ ะสามารถเปน็ ที่พง่ึ แกต่ นเองและครอบครวั ของทา่ น และจะเป็นทน่ี บั ถอื ของบุคคลอื่น...” พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช ในพธิ พี ระราชทานปริญญาบัตรของจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ๒๕ มิถนุ ายน ๒๔๙๖ ดว้ ยสำ� นกึ ในพระมหากรณุ าธิคุณอนั หาทีส่ ดุ มไิ ด้ เป็นพระบรมราโชวาทท่ีอญั เชญิ มาเพ่ือสนองตามพระราชประสงค์ และเปน็ เปา้ หมายของโรงเรยี นคำ� พอ่ สอน 17

๑ แผนภูมิที่ ๑ : หลกั การและกลไก โรงเรียนคำ� พ่อสอน ● พระบรมราโชวาท ● พระบรมราโชวาท ● กระแสพระราชดำ� รัส ● กระแสพระราชด�ำรัส ...ให้ครรู ักเดก็ และเด็กรกั ครู... ...ให้ครูรักเด็กและเด็กรกั ครู... บ (บ้าน) ปฏบิ ัตกิ าร ร (การเรยี นรู้) การเรยี นรแู้ ละ สรา้ งสง่ิ แวดลอ้ ม กจิ กรรมสรา้ งความตระหนกั รู้ แบบอยา่ งท่ีดีของโรงเรียน และเท่าทนั เพื่อหลอมรวมกบั “สต”ิ เพือ่ เป็นเกราะคุ้มครองท่ี ๑ ทเ่ี กดิ จากศลี ๕ (เกราะค้มุ ครองที่ ๒) (ในทนี่ ีน้ บั โรงเรยี นเปน็ บ้านหลงั ท่ี ๒) ใหเ้ ปน็ “ปัญญา” ไวป้ อ้ งกันตนตลอดชีพอย่างย่งั ยนื ● Active Learning โรงเรยี น ● Active Learning ● นโี อฮิวแมนนิส คำ� พ่อสอน ● นีโอฮวิ แมนนสิ ● Active Learning ● นโี อฮวิ แมนนิส ว (วดั ) ปฏิบัตกิ ารศีลธรรมเร่มิ ต้นทโี่ รงเรยี นดว้ ยศีล ๕ เป็นเกราะคุม้ ครองท่ี ๒ ทีต่ ้องเรง่ บม่ เพาะอยา่ งต่อเน่ืองใหง้ อกงามเป็น “สติ” ไว้ป้องกนั ตนตลอดชพี ● พระบรมราโชวาท ● กระแสพระราชดำ� รัส ...ใหค้ รรู กั เด็กและเดก็ รกั คร.ู .. 18 โรงเรียนค�ำ พ่อสอน

การเรยี นรู้ ๔ ขัน้ บทที่ ๒ ชุดกิจกรรมโรงเรยี นค�ำพ่อสอน ชุดกิจกรรมโรงเรียนค�ำพ่อสอน เป็นกิจกรรมที่ออกแบบให้โรงเรียนได้น�ำไปสู่การเรียนรู้ของ นักเรียนในด้าน ร (โรงเรียน/การเรียนรู้) เป็นการสร้างความตระหนักรู้ในคุณค่าชีวิต เท่าทันพิษภัยจาก เหลา้ เบยี ร์ เครือ่ งด่มื ทีม่ ีแอลกอฮอล์ บุหรี่ ขนั้ ที่ ๑ ...ใหค้ รรู กั เดก็ และเด็กรักคร.ู .. เป็นการน้อมน�ำกระแสพระราชด�ำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มา เปิดประตูใจท้ังครแู ละเดก็ โดยใช้วธิ ีการตามแนวนีโอฮิวแมนนสิ คอื ใชค้ ำ� พูดด้านบวก การยิม้ ชม สบตา สัมผัส สวัสดี และลมหายใจที่ยาว ซ่ึงมีผลต่อคลื่นสมอง อารมณ์ และการเรียนรู้ และการพูดด้านบวก พร้อมกันทุกคร้ัง ก่อนการเรียนรู้เป็นการใส่ข้อมูลเพ่ือบันทึกเป็นข้อมูลไปท่ีจิตใต้ส�ำนึก โดยครูเป็นปัจจัย ส�ำคัญและถา้ มีการทำ� อย่างตอ่ เนอื่ งจะมผี ลต่อพฤตกิ รรมนักเรยี น ขน้ั ที่ ๒ การเรยี นรู้ เป็นการเรียนรู้ในลักษณะของ Active Learning เช่น นักเรียนได้คิด วิเคราะห์ แสดงความ คดิ เห็น ส�ำรวจ แสวงหาความรู้ ไดฝ้ ึกทักษะการแก้ปญั หา แผง่ ปัน จิตอาสา และเปน็ การแกป้ ัญหาจริง ในชีวิตประจ�ำวัน ขน้ั ท่ี ๓ คำ� ถามตอ่ ยอดการเรียนรู้ เป็นการใช้ค�ำถามปลายเปิดเพ่ือกระตถ้นการเรียนรู้ในด้านต่างๆ เช่น ความรู้สึก ความคิดเห็น ความรู้ ค�ำถามเพ่ือวิเคราะห์ สังเคราะห์การเรียนรู้และฝึกให้เด็กตั้งค�ำถาม เพื่อไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ ตามหลกั กาลามสูตรของพระพทุ ธเจา้ ครตู ้องพรอ้ มเรียนรู้ ไตรต่ รองค�ำถามของเด็กอยา่ งจรงิ ใจ แมเ้ ปน็ ค�ำถามที่แปลกๆ ซึ่งอาจมีค�ำตอบจากส่วนลึกของความคิด จิตใจของเด็ก จากค�ำถามน้ันๆ ก็ได้ และ ชืน่ ชมในค�ำถามของเด็กๆ ขน้ั ที่ ๔ ขยายผลความร้สู คู่ วามดี เป็นการน�ำสิ่งท่ีได้เรียนรู้ไปสู่ภาคปฏิบัติการจริง เช่น น�ำความรู้ไปแก้ปัญหา สอนน้อง หรือไป ชว่ ยเหลือผ้อู ่ืน จะท�ำให้เดก็ ๆ เกดิ ความภาคภมู ใิ จ โดยเฉพาะเม่ือไดร้ ับความชน่ื ชมจากครู 19

๒ แผนภูมิท่ี ๒ : การเรยี นรู้ ๔ ขนั้ ชดุ กจิ กรรมโรงเรียนค�ำพอ่ สอน ข้ันท่ี ๑ ● กระแสพระราชด�ำรัส ...ใหค้ รรู กั เด็กและเดก็ รักคร.ู .. ● นีโอฮวิ แมนนิส ข้ันที่ ๔ ข้นั ที่ ๒ ขยายผลความรสู้ ่คู วามดี การเรยี นรู้ Active Learning ขั้นท่ี ๓ ค�ำถามตอ่ ยอดการเรียนรู้ 20 โรงเรียนค�ำ พอ่ สอน

ขัน้ ตอนปฏบิ ัตกิ ารสคู่ วามเป็นเครอื ข่าย โรงเรยี นค�ำพอ่ สอน บทที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุยเดช ยังประทับอยู่กับคนไทย ถ้าเราร่วมกันสานต่อ ค�ำสอนของพระองค์ท่าน เพื่อช่วยกันบ่มเพาะพัฒนาลูกหลานไทย คนไทยให้มีคุณภาพชีวิตท่ีดีข้ึน ตามพระราชปณิธานของพระองค์ท่านที่ทรงงานเพ่ือประชาชนตลอด ๗๐ ปีแห่งการครองราชย์ โดยมี ขนั้ ตอนเบอื้ งต้นการขับเคลื่อนโรงเรยี นค�ำพอ่ สอน ดงั นี้ ๑. ระเบิดมาจากขา้ งใน ๑.๑ ประชุมชี้แจง แลกเปล่ียนความคิดเห็นคณะครู ผู้ปกครอง นักเรียน สมัครเป็น คณะท�ำงานดว้ ยความสมคั รใจ ๒. ปฏิบตั ิเปน็ องค์รวมต่อเนือ่ งเปน็ วถิ ขี องโรงเรียน ๒.๑ ส�ำรวจข้อมลู สภาพปัญหาเหลา้ เบยี ร์ เครือ่ งดื่มท่ีมแี อลกอฮอล์ทุกชนดิ บุหรี่ ในโรงเรียน และครอบครวั นกั เรยี น เช่น ส�ำรวจจ�ำนวนคนท่ีมพี ฤตกิ รรมการดื่ม สูบ ในครู บุคลากร ในโรงเรยี น นักเรยี น ผปู้ กครอง ๒.๒ ประชาสมั พนั ธ์ให้สมาชิกในโรงเรียนทุกภาคสว่ นรบั รู้ และรว่ มมือกัน ๒.๓ เปิดเพลงชดุ “เพลงดีดที ่ีโรงเรยี นค�ำพ่อสอน” ในชว่ งเชา้ -พักกลางวันหรอื เวลาทเี่ หมาะสม โดยขอใหม้ ีความถี่ เพือ่ สร้างการเรียนรผู้ ่านเสยี งเพลง (โครงการจะส่งแผน่ ซดี เี พลงไปให)้ ๒.๔ ติดป้ายโรงเรียนค�ำพ่อสอน (ที่โครงการส่งไปให้) บริเวณหน้าโรงเรียนให้บุคคลภายนอก รบั รู้ชัดเจน ๒.๕ ปฏิบัติตามแนวทางกจิ กรรมคมู่ อื โรงเรียนค�ำพอ่ สอน ๓ ดา้ น ตามหลัก บ ว ร ๓. สรุปบทเรียนเพอ่ื พัฒนาต่อ ๓.๑ เม่ือสิ้นปีการศึกษา มีการประชุมสรุปบทเรียนการด�ำเนินงาน โดยน�ำข้อมูลก่อน-หลัง ดำ� เนินโครงการมาประกอบ เพ่อื ศึกษาผลท่ปี รากฏตามสภาพจริง ๔. “..สรา้ งความสุขรว่ มกนั ในการท�ำประโยชน์ใหก้ ับผู้อน่ื ..” ๔.๑ ประชาสัมพันธ์ผลการด�ำเนินงานโครงการให้ภายในโรงเรียนและชุมชนรับรู้ แม้ยังไม่เกิดผล แต่เป็นความรับผิดชอบตอ่ สังคมรว่ มกันของสมาชิกในโรงเรียน ชมุ ชน ๔.๒ แบง่ ปันก�ำลงั ใจซ่ึงกันและกนั ให้กบั คณะทำ� งานท่อี าสาขบั เคลื่อนโรงเรยี นคำ� พอ่ สอน ๕. จัดท�ำรายงานตามแนวทางท่ีโครงการก�ำหนด ส่งมายังโครงการ และทางโครงการจะ พิจารณาเชิญโรงเรียน เพ่ือมาประชุมสรุปบทเรียน แลกเปล่ียนประสบการณ์ และน�ำเสนอผลที่เกิดขึ้น ตามสภาพจรงิ 21

“ท�ำงานกับฉัน ฉันไม่มอี ะไรจะให้นอกจากการมคี วามสขุ รว่ มกัน ในการท�ำประโยชน์ให้กบั ผูอ้ น่ื ” พระราชดำ� รัสพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช ด้วยส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาทีส่ ุดมไิ ด้ 22 โรงเรียนค�ำ พ่อสอน

บ เป็นกจิ กรรมสร้างสงั คม สง่ิ แวดล้อม ใหเ้ ป็นแบบอยา่ งทีด่ ี ๓ ของนักเรยี นโดยเรมิ่ ต้นทีโ่ รงเรียน ซงึ่ เปน็ จดุ เร่มิ ต้นภูมิคุ้มกนั บ้าน ให้แกน่ ักเรียนเพราะโรงเรียนเปน็ บา้ นหลงั ที่ ๒ ของเดก็ ๆ (มภี าคปฏิบัติ ๑๐ ขอ้ ) ปฏิบัติการ ๑๐ ขอ้ ในด้าน บ ๑. งดรับการสนับสนุนทุกรูปแบบจากธุรกิจเหล้า เบียร์ บุหร่ี เพราะเป็นการโฆษณาแฝง ต่อเยาวชน ๒. ประกาศเปน็ นโยบานของโรงเรยี น โรงเรียนคำ� พ่อสอน โดยใหน้ ักเรียน ครู ผปู้ กครอง ชุมชน รับรู้ ๓. มีคณะกรรมการขบั เคล่ือนโรงเรยี นค�ำพอ่ สอน ซ่งึ ประกอบดว้ ยผู้บรหิ ารโรงเรยี น พระ ครู ผปู้ กครอง ผ้นู ำ� ชมุ ชน และตวั แทนนกั เรยี น ๔. การจดั กจิ กรรมของโรงเรยี นหรือการขอใช้สถานท่โี รงเรียนจัดงานต่างๆ ตอ้ งปลอดเหลา้ เบียร์ บหุ รี่ ๑๐๐% ๕. ตดิ ป้ายโรงเรยี นคำ� พอ่ สอนท่ีหนา้ โรงเรียนให้ชมุ ชนรับรู้ (สคล. จัดสง่ ให้) ๖. ขอความร่วมมือร้านค้าในชุมชนเป็น “เครือข่ายร้านค้าโรงเรียนค�ำพ่อสอน” ขอให้ งดขายเหลา้ เบยี ร์ บุหรี่ ในวันพระ และปฏิบัติตามกฎหมายคือไม่ขายใหเ้ ด็ก อย่างนอ้ ย ๑ รา้ น (สคล. มปี ้ายให้รา้ น) ๗. การประชุมผู้ปกครอง แต่ละภาคเรียนมีกิจกรรมให้ความรู้ รณรงค์และยกย่อง ผู้ปกครองทลี่ ด ละ เลิก เหล้า เบียร์ เครื่องด่มื ท่ีมีแอลกอฮอล์ทกุ ชนดิ และบหุ รี่ และ รา้ นค้าทงี่ ดขายเหลา้ เบียร์ เครือ่ งดมื่ ที่มแี อลกอฮอลท์ ุกชนดิ และบุหร่ี ในวนั พระ และ ท่ีไม่ขายให้เด็กตามกฎหมาย ท�ำเป็นวัฒนธรรมของโรงเรียนทุกปีการศึกษาเพื่อเป็น แบบอยา่ งทดี่ ใี ห้ลูกๆ ๘. รณรงค์ให้ผู้ปกครองรับประทานอาหารมังสวิรัติในวันพระ เพ่ือถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ๙. รณรงค์ยกยอ่ งครู บุคลากรในโรงเรียน เชน่ ครู นกั การภารโรง หรอื อื่นๆ ทล่ี ด ละ เลิก เหล้า เบียร์ บหุ ร่ี อบายมุขอน่ื ๆ ได้ ใหเ้ ป็นแบบอยา่ งต่อนักเรยี นทุกปีการศึกษา ๑๐. มีกิจกรรมรณรงค์ และยกย่องนักเรียนที่ประพฤติตนละ เลิก หรือปลอดเหล้า เบียร์ บหุ ร่ี ทกุ ปีการศกึ ษา บ = บา้ น (สงิ่ แวดล้อมในโรงเรียน/ชุมชน) 23

๓ ว เป็นกิจกรรมทางศีลธรรม สามารถเรม่ิ ไดท้ โี่ รงเรียนด้วยศลี ๕ (ซ่งึ ผลจะเชอื่ มโยงกับ บ “บ้าน”) ท่ตี อ้ งเร่งบม่ เพาะอยา่ งตอ่ เน่ือง วัด จนงอกงามเปน็ ปัจจยั การเกิด “สติ” ไวป้ อ้ งกนั ตนตลอดชีพ (มีภาคปฏบิ ัติ ๔ ข้อ) ปฏิบตั ิการ ๔ ข้อ ในด้าน ว ๑. มกี ิจกรรมส่งเสรมิ การปฏิบัตศิ ลี ๕ ในคณะครู นกั เรียน ผู้ปกครอง ดว้ ยวิธกี ารทบทวน ศีล ๕ อย่างน้อยวันละ ๑ คร้ัง เพื่อให้ศีล ๕ เป็นสติด�ำเนินชีวิตของแต่ละวัน โดย สามารถนำ� ตารางทบทวนศีล ๕ เปน็ เครอ่ื งมอื (ดังตวั อย่างหน้าถัดไป) ๒. สง่ เสริมใหร้ ับประทานอาหารมงั สวริ ตั ใิ นวนั พระ เพื่อรักษาศีลข้อ ๑ และเพ่อื สุขภาพ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช ๓. มีกิจกรรมรณรงค์ให้ผู้ปกครองงดเหล้า เบียร์ บุหรี่ ทุกวันพระ และน�ำเงินน้ันออม เป็นทุนการศึกษาใหล้ กู ๔. มกี ิจกรรมพส่ี อนนอ้ ง ๒ กจิ กรรม หรอื ตามความเหมาะสมท่ที �ำไดจ้ ริง ● ใหพ้ ่สี อนน้องเรื่องพษิ ภยั เหล้า บหุ รี่ เกม การพนัน โดยใหพ้ อี่ อกแบบกิจกรรมโดยมี ครเู ป็นทปี่ รกึ ษา ● ใหพ้ ี่สอนการบ้านนอ้ ง ● หรอื อ่นื ๆ ท่ที �ำใหเ้ กดิ ความเกือ้ กูลกนั ระหว่างรุ่นพี่และรุน่ น้อง ว = วัด (ศีลธรรม) 24 โรงเรียนค�ำ พอ่ สอน

๓ ตวั อยา่ ง เครื่องมอื ทำ� กจิ กรรม ด้าน ว ตารางบันทึกศลี ๕ ศลี มนั่ คงประกันภัย ศลี ขอ้ ที่ ๑ ศีลข้อที่ ๒ ศลี ข้อท่ี ๓ ศีลขอ้ ท่ี ๔ ศีลขอ้ ท่ี ๕ รวม ส่ิงทต่ี ้ังใจ ความดี วนั /เดอื น/ปี ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ คะแนน จะแก้ไข ทีจ่ ะ ท�ำเพ่มิ คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน คะแนน ๕๐ คะแนน ตวั อย่าง ๑๐ ๑๐ ๑๐ - ๑๐ ๔๐ หยุดโกหก ชว่ ยแม่ ๑๗ ก.ค. (โกหกแม)่ ถูบ้าน ๖๐ 25

เราอาจเคยสงสัยถึงความมหัศจรรย์ของศูนย์ธรรมชาติบ�ำบัดหลายๆ แห่ง ทั้งในประเทศไทย และท่ัวโลก ที่สามารถรักษาโรคที่ไม่ได้เกิดจากเช้ือโรคท่ีร้ายแรงต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคไต โรคหัวใจ โรคความดัน ฯลฯ ให้หายได้ดว้ ยวิธีการคลา้ ยๆ กัน คอื การบริโภคอาหารจากธรรมชาตทิ มี่ ีพลังชีวิตสงู (อาหารสดท่ียังไม่ได้มีการแปรสภาพอาหารจากความร้อน) และเป็นอาหารธรรมชาติท่ีปราศจากเน้ือสัตว์ จึงเปรียบเสมือนยาอายุวัฒนะท่ีสามารถรักษาความเป็นหนุ่มสาว ความแข็งแรงของร่างกาย และใช้ใน การบ�ำบัดโรคร้ายแรงตา่ งๆ (โรคทไี่ มไ่ ดเ้ กิดจากเช้ือโรค) ไดม้ ากมาย คนท่ัวไปมีความเชื่อว่าเน้ือสัตว์มีประโยชน์อย่างย่ิงต่อร่างกาย เน้ือสัตว์มีโปรตีนท่ีจะช่วย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ท�ำให้ร่างกานเจริญเติบโต ถ้าใครไม่บริโภคเน้ือสัตว์จะมีร่างกายอ่อนแอ ซูบซีด ถ้าเด็กไม่ทานเน้ือสัตว์ในปริมาณท่ีมากพอก็จะแคระแกรน ไม่เจริญเติบโต เน้ือสัตว์จึงเหมือนกับเป็น สุดยอดของอาหารท่ีบ�ำรุงร่างกายของคนเรา ความเช่ือต่างๆ เหล่าน้ีสวนทางกับงานวิจัยใหม่ๆ ทาง วิทยาศาสตรก์ ารแพทยอ์ ยา่ งชนดิ หน้ามือเปน็ หลังมือ ผลงานวิจัยใหม่ๆ เป็นจ�ำนวนมากสนับสนุนว่าเนื้อสัตว์ต่างๆ มีอันตรายอย่างย่ิงต่อร่างกายของ มนุษย์ โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่ๆ ที่มีเผ่าพันธุ์ (Species) ใกล้เคียงกับมนุษย์ เช่น คนทานเนื้อคน หรือ เน้ือลิง หรือเน้ือวัว หรือเน้ือหมู (สัตว์ที่มีเผ่าพันธุ์ใกล้กับมนุษย์จะมีจิตส�ำนึกค่อนข้างสูง) จะมีอันตราย มากกว่าการบริโภคเน้ือสัตว์ที่มีเผ่าพันธุ์ห่างกว่า เช่น ไก่ กุ้ง ปู ปลา ฯลฯ งานวิจัยใหม่ๆ เหล่าน้ียัง สนับสนุนอีกว่าโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคท่ีคุกคามชีวิตคนส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะเกิดจากการบริโภค อาหารทไ่ี ม่ถกู ต้อง หรือพดู งา่ ยๆ กค็ อื การบรโิ ภคเนอ้ื สตั วเ์ ปน็ สาเหตหุ ลักของโรคภยั ไข้เจบ็ ตา่ งๆ นั่นเอง ดังนั้นเมื่อคนเราเปล่ียนแปลงนิสัยในการรับประทานอาหารโดยลดหรือเลิกบริโภคเน้ือสัตว์ซ่ึง เป็นต้นเหตุของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ร่างกายของคนเราก็จะแข็งแรงขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะร่างกาย ไม่ต้องใช้พลังงานไปในการขจัดพิษร้ายต่างๆ ออกจากร่างกาย และโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ก็จะหายไปเอง ตามธรรมชาติ เรามาดกู ันดีกวา่ ว่างานวจิ ยั ใหมๆ่ เก่ยี วกับอันตรายของเนอ้ื สัตวม์ อี ะไรบ้าง 26 โรงเรียนคำ�พอ่ สอน

๓ การเน่าเสียรวดเรว็ ในทันทีที่สัตว์เสียชีวิต ร่างกายของสัตว์จะมีการเปล่ียนแปลงสภาพไปอย่าง มากมาย โปรตีนในตัวจะจับกันเป็นก้อน พร้อมกับปล่อยเอ็นไซม์ท่ีมีพิษออกมาท�ำให้ เนื้อสัตว์มีการเน่าเสียอย่างรวดเร็ว ผิดกับพวกพืชท่ีมีผนังเซลล์ม่ันคง และมี ส่วนประกอบภายในที่ไม่สลับซับซ้อน จึงมีการเน่าเสียช้ากว่ามาก เราสามารถพิสูจน์ ด้วยตนเองง่ายๆ ด้วยการทิ้งเน้ือสัตว์หรือตอกไข่ท้ิงไว้นอกตู้เย็น ซ่ึงไม่นานก็จะได้ กลิ่นบูดเน่า ส่วนผักหรือผลไม้ท่ีถูกตัดออกจากต้นจะใช้เวลานานกว่าเป็นหลายๆ เท่า กวา่ จะเนา่ หรือเสยี เราลองนกึ ภาพต่อไปกแ็ ลว้ กนั วา่ กวา่ ท่เี ราจะไดร้ ับประทานอาหาร พวกเนื้อสัตว์นั้นจะต้องผ่านกระบวนการต่างๆ อีกยาวนานเพียงใด กระบวนการน้ี เริ่มจากสัตว์ถูกฆ่า เก็บเนื้อสัตว์ไว้ในตู้เย็น ขนไปท่ีโรงช�ำแหละเน้ือ ต้ังขายท่ีตลาด หรือซุปเปอร์มาเก็ต เก็บไว้ในตู้เย็นท่ีบ้านเตรียมเป็นอาหารบริโภค ลองนึกดูเถอะว่า เนื้อสตั วท์ ่เี รารับประทานในแต่ละคร้ังนน้ั จะอยใู่ นสภาพใด? เมื่อเรารับประทานเน้ือสัตว์ ระบบย่อยอาหารของเราจะพยายามย่อยเนื้อให้ เร็วท่ีสุด แต่ก็เป็นไปไม่ได้เพราะธรรมชาติได้สร้างร่างกายของเราให้เหมาะกับการ ยอ่ ยเนอื้ สัตว์ เหมือนกบั ร่างกายของสัตวท์ ก่ี นิ เนื้อ ดังนั้นกว่าที่ร่างกายจะขับถ่ายเนื้อสัตว์ออกจากร่างกายได้ ก็กินเวลาประมาณ ๕ วัน (อาหารพชื ใช้เวลา ๒ ๑/๒ วัน) และในระหว่างนน้ั เนือ้ สัตว์ทีก่ �ำลงั เนา่ เสียก็ได้ สัมผัสกับอวัยวะย่อยอาหารของเราอยู่ตลอดเวลา การรับประทานเนื้ออยู่เสมอจึงเป็น การท�ำให้ล�ำไสใ้ หญ่และทางเดนิ อาหารในล�ำไส้เลก็ ต้องทำ� งานผิดปกติอยู่ตลอดเวลา นอกจากน้ีเนื้อดิบๆ ของสัตว์ที่ตายแล้ว กจะอยู่ในสภาวะของการเน่าเสียซึ่ง สภาวะน้ีเองเป็นสภาวะท่ีเหมาะแก่กสนเกิดเช้ือโรค และแพร่เช้ือโรคทั้งหลาย ซ่ึง เชื้อโรคเหล่าน้ี สามารถเปื้อนมือพ่อครัว และทุกอย่างท่ีสัมผัสได้ ในอังกฤษหลังจาก มีโรคอาหารเป็นพิษระบาดซ่ึงเร่ิมขึ้นที่โรงฆ่าสัตว์ เจ้าหน้าท่ีได้เตือนแม่บ้านว่า “โปรด ท�ำความสะอาดมือที่สัมผัสกับเนื้อสัตว์ดิบๆ ให้เหมือนกับท่ีท�ำความสะอาดมือที่ สัมผัสกับมูลสัตว์” สิ่งท่ีเราควรทราบอีกอย่างก็คือ แบคทีเรียท่ีมีพิษอันเกิดจากเน้ือท่ี กำ� ลังเน่านีม้ ักไมถ่ ูกทำ� ลายง่าย แม้ด้วยการต้มในว้ ลาสัน้ ๆ ดังนน้ั เน้อื ทถี่ ูกตม้ นอ้ ยไป เนอ้ื ที่ถูกย่างท้ังชิ้น หรือเน้ือท่ีถูกปิ้งแบบเสียบไม้จึงเป็นแหล่งก�ำเนิดของการติดเชื้อโรค ตา่ งๆ ไปเปน็ อยา่ งดี 27

๓ สารเคมี การกินเนื้อมักจะถูกเรียกว่า “การกินบนยอดสุดของวิวัฒนาการของอาหาร” ซ่ึงปรากฏการณ์น้ี เป็นเร่ืองธรรมดาท่ีส่ิงมีชีวิตใหญ่กว่ามักจะบริโภคส่ิงมีชีวิตที่เล็กกว่าต่อเนื่องกันมา พวกพืชได้รับพลังงาน มาจากแสงแดด อากาศ น้�ำ ฯลฯ สัตว์บางประเภทกินพืชเป็นอาหาร และพวกสัตว์ใหญ่รวมทั้งพวก มนุษย์กก็ ินพืชและกนิ สตั ว์ทเ่ี ล็กกว่า ในโลกปัจจุบันนี้แทบจะกล่าวได้ว่า พ้ืนดินท่ีใช้ในการเพาะปลูกทั้งหลาย อุดมไปด้วยสารเคมีท่ี มีพษิ เช่น จากปยุ๋ เคมี ยาฆ่าแมลง ฯลฯ สารเคมีต่างๆ เหล่านี้ถกู ถา่ ยทอดไปสพู่ ืชและเมื่อสตั วก์ ินพืชผกั และหญ้าต่างๆ สารเคมีท่ีทีพิษน้ีจะถูกเก็บไว้ในไขมันของสัตว์ซ่ึงเป็นการยากต่อการที่จะขจัดให้ออกไป จากตัวสัตว์ได้ จากการทดลองทางวิทยาศาสตร์พบว่า ความสามารถในการเก็บกักสารเคมีต่างๆ ไว้ใน ตัวของสัตว์มีสูงกว่าพืชมาก เช่น เนื้อสัตว์สามารถเก็บกักปริมาณ DDT ได้เป็น ๑๓ เท่าของพวกผัก ผลไม้และหญ้า ด้วยเหตุน้ีเองเมื่อพวกสัตว์เช่นวัวกินหญ้าท่ีมี DDT ปนอยู่เรื่อยๆ จนกว่าจะเติบโตเต็มท่ี จนสามารถเป็นอาหารของคนได้ ปริมาณ DDT ที่ถูกสะสมอยู่ในเน้ือวัวก็จะมีความเข้มข้นสูงจนน่ากลัว อยา่ งย่ิง (DDT เป็นสารพษิ ท่ีมอี านุภาพยง่ิ ชนดิ หนึ่ง และสามารถเป็นตน้ เหตขุ องโรคมะเรง็ การเปน็ หมนั โรคตับอย่างร้ายแรง และโรคอื่นๆ อีกมาก) คนท่ีบริโภคเนื้อซ่ึงเป็นผู้บริโภคบนยอดสุดของวิวัฒนาการ ของอาหาร หรือเปน็ ผบู้ รโิ ภคลำ� ดับสุดท้าย จึงเปน็ ผู้ท่รี บั สารเคมที ม่ี ีความเขม้ ขันสูงสุดไป จากการทดลอง ของมหาวิทยาลัยไอโอวา พบว่า DDT ในรา่ งกายของคนสว่ นใหญ่น้ันได้รับจากเนือ้ สัตว์ นอกจากสารเคมีท่ีสัตว์ได้รับโดยตรงจากพืชแล้ว สัตว์เป็นจ�ำนวนมากยังได้รับสารเคมีชนิดอ่ืนๆ อีกจากผู้เล้ียงสัตว์ท่ีหวังผลก�ำไรสูงสุด เช่น สารเคมีท่ีเร่งการเจริญเติบโต สารเคมีที่ท�ำให้สัตว์อ้วนท้วน สารเคมีทที่ �ำให้สตั ว์มเี น้อื ดนู ่ารับประทานย่งิ ขนึ้ ฯลฯ 28 โรงเรียนค�ำ พอ่ สอน

๓ ในประเทศที่มีความเจริญทางอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก เช่น ในสหรัฐอเมริกา ได้มีการเปล่ียน สภาพคอกปศุสัตว์ให้กลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรมปศุสัตว์ซึ่งมีสภาพที่น่าตกใจยิ่ง ดังที่หนังสือพิมพ์ Chicago Tribune ได้เสนอข่าวไว้ว่า “พวกสัตว์จ�ำนวนมากท่ีถูกเล้ียงอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรมปศุสัตว์ ไม่มีโอกาสได้เห็นเดือนเห็นตะวันเลย ชีวิตสัตว์เหล่าน้ีจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คับแคบน่าสงสาร ฟาร์ม เลี้ยงไก่ที่ทันสมัยจะมีบันไดหลายชั้นเล่ืนขึ้นลงได้ พวกไข่จะถูกฟักอยู่ช้ันบนสุด แล้วเหล่าลูกไก่เกิดใหม่ บนช้ันน้ีก็จะถูกกระตุ้นด้วยยา สารเคมี อาหารเคมีท่ีบ�ำรุงแบบต่างๆ โดยไก่ทั้งหมดจะมีชีวิตอยู่ภายใน กรงขนาดจิ๋วของพวกเขาตลอดเวลา โดยไม่เคยมีการออกก�ำลังกาย หรือได้รับอากาศท่ีบริสุทธ์ิเลย ขณะทีไ่ กเ่ ตบิ โตขนึ้ ช้นั ที่เคยอยู่กถ็ ูกเลือ่ นให้ตำ�่ ลงทลี ะช้ันๆ เมอื่ ถงึ ชั้นลา่ งสดุ ไก่กจ็ ะอยใู่ นสภาพทีเ่ หมาะ กับการน�ำมาท�ำเป็นอาหาร” การเลี้ยงดูอย่างผิดธรรมชาติเช่นน้ีหาใช่แต่เป็นการท�ำลายสมดุล สารเคมี และความแข็งแรงตามธรรมชาติของไก่เท่าน้ัน ยังท�ำให้เกิดโรคเนื้องอกที่ร้ายแรงและเกิดความวิปริต ขน้ึ กบั รปู รา่ งตา่ งๆ ของไก้อกี เปน็ จำ� นวนมาก โรคของสตั ว์ อันตรายร้ายแรงอีกอย่างของผู้บริโภคเนื้อสัตว์ก็คือ พวกสัตว์มักมีการติดโรคต่างๆ อยู่เสมอ ซ่ึง ผตู้ รวจสอบคณุ ภาพเนอื้ หรอื ผบู้ รโิ ภคเองอาจไมท่ ราบวา่ บอ่ ยครง้ั เมอ่ื มกี ารพบมะเรง็ หรอื เนอื้ งอกในบรเิ วณ ส่วนใดของสัตว์ที่ถูกฆ่า ก็จะมีการตัดเน้ือร้ายเฉพาะส่วนนั้น และยังน�ำส่วนท่ีเหลือออกจ�ำหน่ายเป็นเนื้อ ส�ำหรับบริโภคต่อไป หรือร้ายย่ิงไปกว่านั้น พวกเนื้องอกดังกล่าวยังอาจถูกพ่อค้าท่ีหวังผลก�ำไรน�ำไป รวมเข้ากับพวกเน้ือผสม เช่น ไส้กรอก แล้วติดฉลากช่ืออย่างสละสลวยว่าเป็นพวกเศษเน้ือ ได้มีการ ทดลองนักวิทยาศาสตร์ที่แสดงให้เห็นถึงอันตรายของการบริโภคเน้ือท่ีเป็นโรค โดยน�ำตับของสัตว์ที่ตาย เฉพาะทเี่ ป็นโรคไปเล้ียงปลา ผลก็คือปลาที่ถูกทดลองได้เปน็ โรคมะเรง็ นายแพทย์ผู้เลิกทานเน้ือสัตว์ท่ีมีช่ือเสียงผู้หน่ึงกล่าวถึงเหตุผล ในการเลิกทานเน้ือสัตว์ว่า “เป็นการดีท่ีจะรับประทานอาหารด้วยความ สบายใจ โดยไมต่ ้องกงั วลวา่ อาหารนน้ั มาจากสตั ว์ท่เี ป็นโรคหรอื ไม่” 29

๓ร เปน็ กิจกรรมการเรียนรูเ้ พอ่ื ใหท้ �ำดี ละชว่ั (เหล้า เบียร์ บุหรี)่ โรงเรยี น และความเสอ่ื มอน่ื ๆ (ซึง่ ผลเช่อื มโยงกับ ว “วดั ”) คือสติทเ่ี กิดจาก การปฏิบัตศิ ีล ๕ อย่างตอ่ เนอื่ ง จนเปน็ ปัจจยั ใหเ้ กิด “ปัญญา” ไว้ปอ้ งกนั ตนตลอดชีพอย่างย่งั ยืน (มีภาคปฏิบตั ิ ๓ ข้อ) ปฏบิ ัติการ ๓ ข้อ ในดา้ น ร ๑. บูรณาการกับวันส�ำคัญในโรงเรียน เช่น วันเปิดเทอม/วันเข้าพรรษา/วันแม่วันพ่อ/ วนั เยาวชนแหง่ ชาต/ิ วนั เดก็ ๒. บรู ณาการกบั ลดเวลาเรียนเพ่มิ เวลารู้ ตามกิจกรรมจากคูม่ ือโรงเรยี นคำ� พอ่ สอน ๓. โครงงานคุณธรรม โดยเป็นโครงงานคุณธรรมท่ีมีเป้าหมายเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหา เหล้า เบยี ร์ เคร่อื งดื่มทม่ี ีแอลกอฮอล์ทกุ ชนดิ และบุหร่ี ในโรงเรียน ครอบครัว ชมุ ชน อย่างใดอย่างหนงึ่ โดยดบู รบิ ทความพร้อมของโรงเรยี น ร = โรงเรยี น (การเรยี นรู้) 30 โรงเรียนค�ำ พอ่ สอน

๓ กจิ กรรมบูรณาการกับวนั ส�ำคัญวถิ ีชวี ิตของโรงเรยี น วันส�ำคญั ชือ่ กิจกรรม วธิ ีการ หมายเหตุ ๑. วันเปดิ เทอม ใหค้ รรู ักเด็ก กิจกรรม ๑. ใหร้ ุ่นพท่ี �ำกิจกรรมตอ้ นรบั และเดก็ รักครู ๒. วันเขา้ พรรษา/ (ตามกระแส วันงดดืม่ สรุ า เปดิ เทอมสรา้ งสุข น้องอย่างสรา้ งสรรค์ พระราชดำ� รัส แหง่ ชาติ พระบาทสมเด็จ- ให้ความรัก ๒. ใหค้ วามรูร้ ่นุ น้องในเรอื่ ง พระปรมินทร- มหาภูมิพลอดุลยเดช ก่อนใหค้ วามรู้ พษิ ภยั เหลา้ เบยี ร์ บุหรี่ ใหน้ ักเรียนท�ำหนา้ ที่ ซ่งึ ท�ำให้เสียอนาคต ลกู กตัญญู ด้วยการ ชว่ ยพอ่ แม่พ้นจาก ๓. คณะผบู้ รหิ าร ครู บคุ ลากร อบายมขุ ในโรงเรียน ผกู ข้อมือ ใชค้ �ำพดู อวยพร ตอ้ นรบั นกั เรียนสู่โรงเรยี น (บา้ นหลังที่ ๒) และสัมผสั นกั เรียนอยา่ งเหมาะสม เช่น กอด ตบไลห่เบาๆ ลูบศรี ษะ ฯลฯ กิจกรรม ๑. สำ� รวจจ�ำนวนผูป้ กครอง นกั เรยี นทด่ี มื่ เหลา้ ในชว่ ง โพธสิ ตั วน์ ้อย ก่อนเขา้ พรรษา “ลกู ขอพอ่ แม่ ๒. ให้นักเรยี นทำ� โครงงาน เลิกเหลา้ ” โพธสิ ัตว์น้อย “ลูกขอพ่อแมเ่ ลิกเหลา้ ” โดยใหน้ กั เรียนคดิ ค้นวธิ ี ให้พ่อแม่ลด ละ เลิก เหล้า 31

๓ วันส�ำคญั ช่ือกิจกรรม วธิ ีการ หมายเหตุ ๓. วนั แม่แหง่ ชาติ กจิ กรรม ๑. ให้นกั เรยี นเขยี นจดหมาย สรา้ งความภาคภมู ใิ จ ใหแ้ มแ่ ละแบบอย่าง “ฟ้ืนพลงั แม”่ (จดหมายสือ่ รกั ) ทด่ี ีต่อลกู ๆ ยกยอ่ งแมท่ ่ี แสดงความรักตอ่ แม่ ปลอดเหล้า ความในใจทีเ่ ห็นแม่ด่มื เหลา้ ปลอดบุหร่ี สบู บุหร่ี และขอใหแ้ ม่ (ไมด่ ่ืม ไม่สูบ เลิกเหล้าเพ่อื ลกู กบั เคยดื่ม เคยสบู โดยลูกแสดงความกตญั ญู แตเ่ ลิกส�ำเรจ็ ดว้ ยการกอด เพือ่ ลูก) กราบเท้ากอ่ นนอน ช่วยท�ำงานบ้าน ฯลฯ ๒. มอบเกยี รตบิ ตั รฟืน้ พลังแม่ “ปลอดเหลา้ ปลอดบุหร”่ี ๔. วนั เยาวชนแหง่ ชาติ กจิ กรรม ๑. โรงเรยี นพิจารณาคดั กรอง ๑. เกยี รติบตั ร ห้องเรียนเดก็ ดี นกั เรียนเป็นหอ้ งเรียน ๒. ธงห้องเรยี นเด็กดี เพ่อื ยกยอ่ งนักเรยี นเป็น สคล. จะจัดส่งไปท่ี หมูค่ ณะในการรับเกยี รตบิ ัตร โรงเรยี นทีส่ ่งขอ้ มูล ๒. มอบเกียรติบัตร นักเรยี นกลับมา ในวนั เยาวชนแหง่ ชาติ ๓. มอบธงห้องเรยี นเดก็ ดี 32 โรงเรียนคำ�พ่อสอน

๓ วันสำ� คญั ช่ือกจิ กรรม วิธกี าร หมายเหตุ ๕. วนั พ่อแหง่ ชาติ กจิ กรรม ๑. ให้นกั เรียนเขียนจดหมาย สรา้ งความภาคภูมิใจ ๔. วนั เด็กแห่งชาติ ให้แมแ่ ละแบบอย่าง “ฟนื้ พลังพ่อ” (จดหมายส่อื รกั ) ท่ีดตี อ่ ลกู ๆ ยกย่องพ่อท่ี แสดงความรักต่อพ่อ ปลอดเหลา้ ความในใจทีเ่ หน็ พ่อดม่ื เหลา้ ปลอดบหุ ร่ี สูบบุหร่ี และขอใหพ้ ่อ (ไมด่ มื่ ไมส่ ูบ เลกิ เหลา้ เพือ่ ลกู กับเคยดืม่ เคยสบู โดยลูกแสดงความกตญั ญู แตเ่ ลกิ ส�ำเรจ็ ด้วยการกอด เพื่อลูก) กราบเท้าก่อนนอน ชว่ ยทำ� งานบ้าน ฯลฯ ๒. มอบเกียรติบัตรฟ้นื พลังพ่อ “ปลอดเหล้า ปลอดบุหร่”ี กิจกรรม ให้นักเรียนร่วมกนั ทำ� กิจกรรม สรา้ งนิสัยการเปน็ ๗๐ ปี ที่แสดงถงึ การเป็นผูใ้ ห/้ ผู้แบ่งปนั ผู้ให้และผู้รับ พอ่ สอนใหแ้ บง่ ปนั เพ่อื สานตอ่ คำ� พ่อสอน (ลดความโลภ) เน่ืองในวนั เด็กแห่งชาติ ไมต่ ิดวัตถุ โดยไมเ่ น้นเรื่องวตั ถุ เช่น กจิ กรรมพส่ี อนนอ้ งใหพ้ น่ี ำ� ความรู้ ทีต่ นเองมอี ยพู่ าน้องเรยี นรู้ หรืออ่นื ๆ โดยสร้างกระบวนการ ใหน้ กั เรียนมสี ่วนรว่ มในการคิด ออกแบบกจิ กรรมและได้ทำ� จรงิ ในวนั เดก็ ทโ่ี รงเรยี น หรอื ทอ่ี ืน่ 33

บทท่ี ๔ กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ดว้ ยกระบวนการเรียนรู้แบบ ✎ Active Learning ✎ นโี อฮวิ แมนนิส 34 โรงเรียนค�ำ พอ่ สอน

ค�ำพ่อสอน (๑) “...เดก็ ๆ นอกจากจะต้องเรยี นความร้แู ลว้ ยงั ต้องหัดท�ำการงานและทำ� ความดดี ้วย เพราะการทำ� งานจะช่วยใหม้ คี วามสามารถมคี วามขยนั อดทนพึง่ ตนเองได้ และการทำ� ดีนนั้ จะช่วยใหม้ ีความสุขความเจรญิ ทง้ั ปอ้ งกันตนไวไ้ มใ่ ห้ตกตำ่� ...” ความตอนหน่งึ ในพระบรมราโชวาทพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช พระราชทานเนื่องในวันเดก็ แหง่ ชาติ ประจ�ำปี ๒๕๓๐ ดว้ ยสำ� นึกในพระมหากรณุ าธิคณุ อนั หาที่สุดมิได้ 35

กิจกรรมที่ ๑ “เราเป็นลกู ของพอ่ ” วัตถปุ ระสงค์ เข้าใจความหมายพระบรมราโชวาท/พระราชด�ำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล- อดุลยเดช และสามารถนอ้ มนำ� มาสภู่ าคปฏบิ ัติได้ ขั้นท่ี ๑ ให้ครรู กั เดก็ และเดก็ รกั ครู ๑. ครูยิ้มและใช้ค�ำพูดด้านบวกชื่นชมนักเรียนด้วยความจริงใจ เช่น “สวัสดีเด็กๆ ทุกคน วันน้ีทุกคนน่ารักมาก ท่ีช่วยกันกวาดห้องเรียนได้สะอาด ยอดเยยี่ ม ครูขอบคุณเดก็ ๆ ทุกคนนะ” ๒. ครูพานักเรียนหลับตาลงเบาๆ นั่งท่าสบายๆ หายใจเข้าออกยาวๆ อย่างผ่อนคลายสัก ๑๐ ครั้ง (ลมหายใจยาวมีผลต่อคล่ืนสมอง จิตใจ อารมณ์ และการเรียนร)ู้ และค่อยๆ ลืมตา ๓. จากน้ันครพู านกั เรียนพดู พรอ้ มกนั วา่ “เราทุกคนเปน็ คนดี มีนำ�้ ใจ ต้ังใจเรียน เรารกั คณุ ครู รกั คณุ พอ่ คณุ แม่ และเพ่ือนๆ ทุกคน พวกเราทุกคนเป็นคนน่ารักจริงๆ นะครับ/คะ ถ้าพวกเรา ท�ำอะไรผิดไปเราขอโทษคุณครูด้วยนะครับ/คะ พวกเราจะแก้ไขให้ดีขึ้นและ เราจะท�ำตามคำ� สอนของในหลวงรัชกาลท่ี ๙ คือเวน้ ขาดจากเหลา้ เบียร์ บหุ ร่ี ยาเสพติดทุกชนิด เพราะเป็นการท�ำลายชีวิตตัวเอง ขอบคุณคุณครูนะครับ/คะ ที่รักผม/หนู (ครอู าจเขียนขอ้ ความดังกลา่ วไวท้ กี่ ระดานก่อน) ๔. นักเรียนสวัสดีเพ่ือนที่อยู่ด้านซ้าย ขวา พูดชื่นชมเพื่อนด้านซ้าย และขวา คนละ ๑ ประโยค เช่น “เธอเป็นคนเก่งที่มีน�้ำใจนะ” ครูน�ำเข้าสู่ การเรยี นรู้ “เราเป็นลกู ของพ่อ” 36 โรงเรียนคำ�พ่อสอน

๔ ขั้นท่ี ๒ การเรยี นรู้ “เราเปน็ ลกู ของพอ่ ” ๑. นักเรียนอ่านพระบรมราโชวาท ค�ำพ่อสอน (๑) ของพระบาท- สมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ท่ีอญั เชิญมาขา้ งต้น ๒. นักเรียนชมวีดิทัศน์พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระ- ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์ “ความฝันอัน สงู สดุ ” ๓. จับคู่สนทนาแลกเปล่ียนความรู้สึก/ความเข้าใจจากการชมวีดิทัศน์ และฟงั เพลงในประเด็น ● เพราะอะไรพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถึงทรงงานหนกั อยา่ งต่อเนอื่ งตลอด ๗๐ ปขี องการครองราชย์ ● จากพระบรมราโชวาทท่ีอัญเชิญมาข้างต้น พระองค์ท่านมีพระ- ราชประสงค์ให้นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมอยา่ งไร ทำ� ไมพระองคถ์ งึ มพี ระราชประสงค์ เช่นนัน้ ๔. นักเรียนรวมกลุ่มกัน ๔-๕ คน (หรือตามความเหมาะสม) ท�ำ กจิ กรรม “เราเปน็ ลูกของพอ่ ” โดย ๓ ● ช่วยกันออกแบบกิจกรรมตามพระราชประสงค์ในพระบรมราโชวาท ขา้ งตน้ และปฏบิ ตั กิ ารจริง ๑-๒ คร้ัง (เร่มิ จากทำ� สิง่ เลก็ ๆ ท่ีทำ� ได้จรงิ ดว้ ยใจ ทพ่ี ากเพยี ร กล้าหาญ มคี รูเปน็ ทปี่ รกึ ษาและเปน็ กำ� ลงั ใจ) รอสยง่ิ ทย่ีเิม้ดก็ ๆคำ�อชยา่นื กชไดมเ้ มแือ่ จลบะกกาำ� รลเรงั ยี ในจรจคู้ าอื ก ....คุณคร.ู ... 37

๔ นักเรยี นรวมกลุ่มกันกลมุ่ ละ ๔-๕ คน ช่วยกนั อภปิ ราย ขั้นท่ี ๓ คห้ าค�ำตอบและทำ� Mind Map หรือวาดภาพ คำ� ถามตอ่ ยอดการเรยี นรู้ (พิจารณาเลือกตามความเหมาะสมกบั เนอ้ื หา/กลมุ่ นักเรียน) นำ� เสนอเปน้ กล่มุ ในประเดน็ ค�ำถามต่อไปนี้ ๑. นักเรียนรูส้ ึกอย่างไรท่ไี ด้เกิดบนแผ่นดินในหลวงรัชกาลที่ ๙ เพราะอะไร ๒. รู้สึกอย่างไรในการทำ� กิจกรรม “เราเปน็ ลูกของพ่อ” ๓. ผลจากการทำ� กจิ กรรม “เราเป็นลกู ของพอ่ ” เปน็ อยา่ งไรบา้ ง ๔. นักเรียนคิดว่าพระบรมราโชวาทที่อัญเชิญมาข้างต้น มีประโยชน์ต่อการด�ำเนิน ชีวิตของนักเรยี นอย่างไรบา้ ง ๕. นักเรียนทบทวนตนเองว่ามีคุณลักษณะตามพระบรมราโชวาทที่ได้อัญเชิญมา ข้างต้นหรือไม่อย่างไร และควรท�ำอะไรเพิ่มเติม เพ่ือให้นักเรียนมีคุณลักษณะตามน้ัน สมกบั “เราเปน็ ลกู ของพอ่ ” ๖. นักเรียนฝึกต้ังค�ำถามจากกิจกรรม “เราเป็นลูกของพ่อ” เช่น ท�ำไมในถึง ทรงงานหนักตลอด ๗๐ ปี เป็นต้น เพ่ือขยายผลและต่อยอดการเรียนรู้อย่างน้อยคนละ ๑-๒ คำ� ถาม (ครูช่วยต่อยอดใหน้ กั เรียนเกดิ ความมัน่ ใจทจี่ ะสนกุ กับการต้งั ค�ำถามตอ่ ไป) ขัน้ ที่ ๔ ขยายผลความร้สู ู่ความดี ๑. นักเรียนจัดนทิ รรศการยอ่ ย “เราเปน็ ลูกของพ่อ” เพือ่ แสดงผลการท�ำกิจกรรม “เราเปน็ ลูกของพอ่ ” ๒. เชญิ ชวนนกั เรียนในโรงเรียนเขยี นและปฏิญาณตน “เราจะทำ� ตามค�ำสอน ของในหลวงรัชกาลท่ี ๙ คือ เว้นขาดจากเหล้า เบียร์ บุหรี่ ยาเสพติดทุกชนิด เพราะเป็นการท�ำลายชีวิตตัวเองและประเทศชาติ และน�ำสัจอธิษฐานนั้นไปจัดบอร์ด หรือติดไว้ที่ปกแฟ้มสะสมผลงานของเด็กแต่ละคน เป็นอนุสรณ์ความดีถวาย “พ่อ ของแผน่ ดิน” (พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช) ๓. นักเรยี นเขียนสรุปการเรยี นรู้ อยา่ งน้อยคนละ ๗ บรรทัด หรอื มากกว่านั้น (วาดภาพประกอบ) 38 โรงเรียนคำ�พ่อสอน

สืบเนื่องมาจากวันทีเ่ ราไปด�ำนาดว้ ยกนั อาจารยเ์ หน็ ไอซ์ เอ้าท์ ฮปิ โป และหมอก อยู่ด�ำนาในนาเปน็ กลุ่มสุดท้าย กว่าจะเลกิ ก็ใกลเ้ ทย่ี ง พวกเราคงคิดว่าส่ิงที่ได้ท�ำลงไปนั้นเป็นเร่ืองธรรมดาเล็กๆ แต่อาจารยืเองคิดว่าเป็น เร่ืองย่ิงใหญ่ท่ีน่ายกย่องมาก และได้น�ำเรื่องนี้กลับมาเล่าให้ครูกบและครูอีกหล่ยๆ คนฟัง ด้วยความชื่นชม ว่าทั้ง ๔ คนเป็นคนที่มุ่งม่ัน จริงจัง มีน�้ำใจ ไม่ท้อถอย เข้มแข็ง และ นา่ รกั จริงๆ การท�ำอะไรดีๆ จนสุดความสามารถ หรือจ�ำจนจบด้วยตัวของตัวเองโดยไม่มี ใครบังคับ ในขณะที่คนอ่ืนไม่ได้ท�ำงานแล้ว หรือหยุดท�ำไปแล้ว เป็นเร่ืองที่ยิ่งใหญ่และ นา่ สรรเสริญมาก ขอให้ทงั้ ๔ คน รักษาความดี ความมนั่ คงของจิตใจน้ีไว้ตลอดไปนะครบั อาจารย์เชื่อว่าพลังแห่งความดี ความมุ่งม่ันและจริงจังนี้ ถ้าน�ำไปใช้กับการเรียน การดหุ นังสอื การสอบด้วย จะต้องทำ� ให้ทั้ง ๔ คน สอบเขา้ มหาวิทยาลัยทมี่ ุ่งหวังได้อย่าง แนน่ อน และขอใหท้ ้ัง ๔ คน ไดเ้ ปน็ ผนู้ ำ� นักศึกษาและประเทศชาตขิ องเราตอ่ ไปขา้ งหน้าครบั ดว้ ยความรกั ยง่ิ เกยี รติวรรณ อมาตยกลุ ป.ล. พ่ีๆ ทไ่ี ร่อมาตก็ช่ืนชมพวกเราทัง้ ๔ คนมากครับ ฝากเลา่ ความชืน่ ชมของอาจารยใ์ ห้คณุ พอ่ คณุ แมฟ่ ังดว้ ยนะครับ คำ� ช่นื ชมของครู คอื องคป์ ระกอบ ของภูมคิ มุ้ กัน... โรงเรยี นค�ำพ่อสอนมุง่ หวงั ให้โรงเรียน ให้นักเรยี น ใชว้ ิธกี ารดา้ นบวกกับนักเรยี นโดยเรมิ่ ที่ค�ำพดู ด้านบวก คำ� ชื่นชมของครู มผี ลตอ่ จติ ใจของนกั เรยี น และเปน็ องค์ประกอบส�ำคัญ ทีส่ ่งผลตอ่ อนาคตของเด็กๆ เป็นจดุ เริม่ ตน้ ให้ “ครรู ักเดก็ เดก็ รกั คร”ู ตามกระแสพระราชด�ำรสั พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช ที่ทรงพระราชทานไว้ ซง่ึ เปน็ การบม่ เพาะให้เดก็ ๆ มีความภาคภมู ใิ จเห็นคา่ ในตนเอง (Self esteem) ในทีน่ ข้ี อยกต้วอยา่ ง โรงเรยี นอมาตยกลุ ซง่ึ ศ.ดร.เกยี รตวิ รรณ อมาตยกุล (ผอู้ �ำนวยการโรงเรียนอมาตยกลุ ) ได้ใช้คพวา่ “ทำ� ดตี ้องชม” ครคู วรพยายามมองหา “ข้อดขี องนักเรียน” แลว้ รีบช่ืนชม “เราจะไดพ้ บความมหศั จรรย์ ของค�ำพูดชน่ื ชมเดก็ ๆ ท่มี าจากคร”ู เรามาทดลองด้วยกัน 39

คนท่สี มบูรณค์ อื ทรพั ยากรท่ีมคี ่าของสังคม เราจะพบว่า มนุษย์เรานั้นทีช่วงของการเจริญเติบโตท่ีค่อนข้างยาวนาน จากวัยเด็กเล็ก จนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ คนเราจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนามาหลายข้ันตอน ในแต่ละข้ันตอน หรือในแต่ละวัย จะมีความต้องการท่ีแตกต่างกัน การจัดการศึกษาส�ำหรับมนุษย์จึงควรได้รับการ ออกแบบอยา่ งพถิ ีพิถนั เพื่อใหส้ อดคล้องกับความตอ้ งการในแตล่ ะขั้นตอนของชีวติ ในวัยแรก เด็กควรได้รบั การเลย้ี งดดู ว้ ยความรกั ความเมตตา ความอบอ่นุ และความห่วงใย ในวัยทีส่ อง เด็กควรไดเ้ รียนรู้สง่ิ ตา่ งๆ จากประสบการณ์ทต่ี นื่ เตน้ ท้าทาย ในวยั ทีส่ าม เด็กเริ่มเป็นวัยรุ่นซึ่งเปน็ วัยแห่งความคร่นุ คิด ใฝ่รเู้ ดก็ จงึ ควรไดร้ ับการสง่ เสริมด้านสตปิ ัญญา ไหวพริบ ความสามารถในการพิจารณาสิ่งทีถ่ กู ตอ้ งเหมาะสม ในวยั ทสี่ ่ี เปน็ วยั ทเี่ ร่ิมเปน็ ผ้ใู หญ่ การสง่ เสริมใหแ้ สดงออกถงึ ความมคี ณุ ธรรม ความรบั ผิดชอบท่มี ีตอ่ ตนเองและผอู้ ืน่ เป็นสิ่งที่จ�ำเป็นอยา่ งยง่ิ ของคนในวัยนี้ ถา้ เด็กไดร้ บั การเลยี้ งดอู ย่างถกู ตอ้ งในแต่ละวยั กจ็ ะค่อยๆ ซึมซาบความรสู้ ึกและคณุ ลกั ษณะ ท่ีดีงามต่างๆ ความรัก ความเมตตา จะก่อตัวขึ้นจากการเล้ียงดูด้วยบรรยากาศของความรัก ความห่วงใย ความอบอุ่น เม่ือเด็กโตข้ึนก็จะมีความกล้าหาญ เข้มแข็ง มีความต้ังใจแน่วแน่อันเกิด จากการเล้ียงดูแบบท่ีให้เด็กมีวินัยในตนเอง เม่ือย่างเข้าสู่วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ พวกเขาก็จะมีความ เชือ่ มัน่ พร้อมท่จี ะเผชญิ กบั ปญั หาตา่ งๆ ท่ผี า่ นเขา้ มาในชีวิต และมีความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม เมื่อเป็นเช่นนี้ เด็กน้อยก็จะค่อยๆ เติบโตขึ้นเป็นคนที่สมบูรณ์พร้อมท่ีจะด�ำเนินชีวิตใน บทบาทของผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคม เขาจะเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่ดีงามต่างๆ ในตัวเอง มีความอ่อนน้อม ถ่อมตน ไม่เย่อหยิ่ง มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความเมตตากรุณา มีความกล้าหาญ เข้มแข็ง ซื่อสัตย์ เสียสละ มีความคิดสร้างสรรค์ และมีอุดมคติอันสูงส่ง ดังน้ัน เป้าหมายสูงสุดของการศึกษานีโอฮิวแมนนิส ก็คือการผลิต “คนที่สมบูรณ์” หรือคนท่ีมีร่างกาย แข็งแรง มีสติปัญญาหลักแหลม เฉลียวฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์เพียบพร้อมด้วยคุณธรรม ความรัก ความเมตตากรณุ า และพรอ้ มที่จะอุทิศตนเพ่ือความสันตสิ ขุ ของส่งิ มีชวี ติ ท้งั มวล 40 โรงเรียนค�ำ พอ่ สอน

ค�ำพอ่ สอน (๒) “...โดยมากการเสพยาเสพตดิ เร่มิ ดว้ ยความกดดัน หรือความทอ้ ใจ และบงั เอิญมผี ู้ที่แนะทางบอกว่าลองเสพเสยี นิดหน่อยท�ำให้สบายดี ผู้ท่ฟี งั ก็บอกวา่ เราเปน็ ผูท้ ่ีมีความร้เู ราเป็นคนฉลาด เรากท็ ดลองถ้าใชไ้ ดก้ ็ใชไ้ ป ถ้าใชไ้ มไ่ ดก้ เ็ ลกิ ได้ แต่ขอ้ ส�ำคญั หารูไ้ มว่ า่ เลิกล�ำบากเหมอื นกันแล้วจะติดจริงๆ และจะทำ� ใหเ้ กดิ ผลไม่ดีสำ� หรับรา่ งกายของตน ส�ำหรบั สงั คมของตนและสถาบนั ของตน...” พระบรมราโชวาทพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช 41 เน่ืองในโอกาสเสด็จฯ ทรงดนตรีเปน็ การสว่ นพระองค์ ณ หอประชมุ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั วันท่ี ๒๐ กันยายน ๒๕๑๔ ดว้ ยส�ำนึกในพระมหากรณุ าธคิ ณุ อนั หาทส่ี ดุ มไิ ด้

กจิ กรรมท่ี ๒ อะไรซอ่ นอย่ใู นขวด... เราร้ทู ันนะ วัตถุประสงค์ ตระหนักรู้พิษภัยของเหล้า เบยี ร์ เครอื่ งด่ืมที่มีแอลกอฮอล์ ท่ีมตี อ่ สุขภาพ ครอบครวั และประเทศชาติ ขัน้ ที่ ๑ ให้ครรู กั เด็กและเด็กรกั ครู ๑. ครูยิ้มและใช้ค�ำพูดด้านบวกช่ืนชมนักเรียนด้วยความจริงใจ เชน่ “สวสั ดเี ด็กๆ ทกุ คน วนั นีท้ กุ คนน่ารักมาก ทชี่ ว่ ยกันกวาดห้องเรยี น ไดส้ ะอาด ยอดเยีย่ ม ครูขอบคณุ เด็กๆ ทกุ คนนะ” ๒. ครูพานักเรียนหลับตาลงเบาๆ น่ังท่าสบายๆ หายใจเข้าออก ยาวๆ อย่างผ่อนคลายสัก ๑๐ ครั้ง (ลมหายใจยาวมีผลต่อคลื่นสมอง จิตใจ อารมณ์ และการเรียนรู้) และค่อยๆ ลืมตา ๓. จากนนั้ ครูพานกั เรียนพูดพรอ้ มกันว่า “เราทุกคนเป็นคนดี มนี ้ำ� ใจ ตง้ั ใจเรยี น เรารกั คณุ ครู รกั คุณพ่อ คณุ แม่ และเพื่อนๆ ทุกคน พวกเราทกุ คนเป็นคนนา่ รักจรงิ ๆ นะครับ/คะ ถ้าพวกเราท�ำอะไรผิดไปเราขอโทษคุณครูด้วยนะครับ/คะ พวกเราจะ แก้ไขให้ดีขึ้นและเราจะท�ำตามค�ำสอนของในหลวงรัชกาลท่ี ๙ คือ เวน้ ขาดจากเหล้า เบียร์ บุหร่ี ยาเสพตดิ ทุกชนดิ เพราะเปน็ การทำ� ลาย ชีวติ ตวั เอง ขอบคุณคณุ ครูนะครับ/ค่ะ ทรี่ ัก (ผม/หน)ู (ครูอาจเขยี นขอ้ ความดงั กลา่ วไว้ที่กระดานกอ่ น) ๔. นักเรียนสวัสดีเพื่อนท่ีอยู่ด้านซ้าย ขวา พูดชื่นชมเพื่อน ด้านซ้ายและขวา คนละ ๑ ประโยค เชน่ “เธอเป็นคนเก่งทม่ี นี �้ำใจนะ” ครนู ำ� เข้าสู่การเรียนรู้ “อะไรซอ่ นอยใู่ นขวด...เรารูท้ ันนะ” 42 โรงเรียนค�ำ พ่อสอน

๔ ขัน้ ท่ี ๒ การเรยี นรู้ ......อะไรซ่อนอย่ใู นขวด เรารทู้ ันนะ สอ่ื /อุปกรณ์ ๑. ถว้ ยสีขาว ๒ ใบ ๒. เหล้าขาว, เหล้าแดง, เบียร์ (อย่างใด อย่างหนึง่ หรอื จะท�ำทัง้ ๓ ตัวอยา่ งก็ได)้ ๓. ตบั หมู, ตบั ไกด่ บิ ขัน้ ตอนและวธิ ีการท�ำ ๑. เขียนหมายเลข ๑ และ ๒ ติดทถี่ ้วย ๒. น�ำตับหมูหรือตับไก่ดิบ ใส่ลงไปในถ้วย หมายเลข ๑ และ ๒ ในสัดส่วนเท่ากัน (ถ้าเป็น ตับหมูห่ันให้มีขนาดใกล้เคียงตับไก่ เพื่อไม่ต้องใช้ เคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์มาก) สังเกตและจดบันทึกสี และลักษณะของตับในถ้วยหมายเลข ๑ และ หมายเลข ๒ ๓. นำ� เหลา้ เบยี ร์ หรอื เครอ่ื งดมื่ ทมี่ แี อลกอฮอลท์ เี่ ตรยี มไวเ้ ทลงในถว้ ย หมายเลข ๑ ใหท้ ่วมตบั ทงิ้ ไวป้ ระมาณ ๑๕-๒๐ นาที ตบั ในถว้ ยหมายเลข ๒ ไม่ต้องเทใส่ สังเกตการเปลี่ยนแปลง เปรียบเทียบสีและลักษณะเนื้อของตับ ท้ัง ๒ ตัวอยา่ ง ก่อนแชแ่ ละหลังแช่ด้วยเคร่ืองด่มื ที่มแี อลกอฮอล์ 43

๔ ขัน้ ท่ี ๓ นกั เรยี นรวมกลมุ่ กันกล่มุ ละ ๔-๕ คน ชว่ ยกนั คำ� ถามต่อยอดการเรยี นรู้ อภิปรายค้นหาคำ� ตอบและท�ำ Mind Map/วาดภาพ หรอื ตามความเหมาะสมของนักเรียน น�ำเสนอเป็นกลุ่ม ในประเด็นค�ำถามตอ่ ไปน้ี ๑. นักเรยี นรู้สึกอยา่ งไรบา้ งตอ่ การทดลองนี้ ๒. การเปลีย่ นแปลงของตบั ในถ้วยหมายเลข ๑ กบั ตับใน ถ้วยหมายเลข ๒ เหมือนหรือต่างกันอย่างไร เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น ๓. ถ้าแช่ตับในเหล้า เบียร์ หรือเครื่องดื่มท่ีมีแอลกอฮอล์ นานกวา่ นี้ นกั เรียนคิดว่าตบั จะเป็นอยา่ งไร ๔. คนที่ดื่มเหล้า เบียร์ หรือเคร่ืองด่ืมท่ีมีแอลกอฮอล์ทุกชนิดจะได้รับผลเสีย ต่อสุขภาพเช่นเดยี วกบั ตบั ในการทดลองหรือไม่ อยา่ งไร ๕. ในครอบครัวของนักเรียนมีคนด่ืมเหล้า เบียร์ เคร่ืองดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ชนิดอื่นหรือไม่ ถ้ามี/หรือไม่มี รู้สึกอย่างไร พร้อมท้ังระบุผลกระทบท่ีนักเรียนและ ครอบครัวได้รบั ๖. ท�ำไมโฆษณาเหล้า เบยี ร์ และเคร่อื งด่มื ทมี่ ีแอลกอฮอลท์ กุ ชนดิ จึงไม่ระบุ สรรพคณุ ของสินค้า แตใ่ ชค้ นหนา้ ตาดี หรอื ภาพลกั ษณข์ องความสวยงามความสดช่ืนแทน ๗. นักเรียนคิดว่าการดื่มเคร่ืองด่ืมที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด จะท�ำให้มีความสุข สวยงาม สดชนื่ เป็นจรงิ ตามโฆษณาหรือไม่ อย่างไร ๘. ท�ำไมเคร่ืองด่ืมท่ีมีแอลกอฮอล์ทุกชนิด และบุหรี่จึงเป็นประตูน�ำเยาวชน ไปสู่ยาเสพติด ๙. นักเรียนช่วยกันสืบค้นผลเสียจากเครื่องด่ืมท่ีมีแอลกอฮอล์ทุกชนิด ท่ีมีต่อ สุขภาพ ครอบครัว สังคม ประเทศชาติ ๑๐. มีวิธีการอย่างไรบ้าง ท่ีจะปฏิเสธการดื่มถ้ามีเพื่อนมาชวนดื่มเครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอลท์ กุ ชนิด ๑๑. นักเรียนฝึกต้ังค�ำถามจากกิจกรรม อะไรซ่อนอยู่ในขวด เรารู้ทันนะ เพื่อ ขยายผล และต่อยอดการเรียนรู้อย่างน้อยคนละ ๑-๒ ค�ำถาม (ครูช่วยต่อยอดให้ นกั เรียนมน่ั ใจท่จี ะสนกุ กับการตั้งค�ำถามตอ่ ไป) ๑ ๒. นักเรียนชว่ ยกนั สรุปประเดน็ ทีไ่ ด้เรียนรูจ้ ากพระบรมราโชวาท คำ� พอ่ สอน (๒) ท่ีอัญเชญิ มาข้างต้น 44 โรงเรียนค�ำ พอ่ สอน

๔ ขัน้ ท่ี ๔ ขยายผลความร้สู ูค่ วามดี ๑. แต่ละกลุม่ นำ� ความรจู้ ากกจิ กรรม อะไรซอ่ นอยใู่ นขวด เรารู้ทนั นะ มาออกแบบวธิ กี ารสอนน้องหรือเพอ่ื น อยา่ งน้อย ๑ ห้องเรียนหรืออาจเป็นกิจกรรมรูปแบบเกม ละคร หรืออ่ืนๆ ตามความคิดสร้างสรรค์ อย่างน้อย ๑ ห้องเรียนหรือตามความ เหมาะสม ๑-๒ คร้ัง ๒. เขียนจดหมายถึงพ่อแม่ บอกให้ท่านรู้ถึงความรักและ ปรารถนาดีท่ีนักเรียนมีต่อท่าน พร้อมท้ังบอกพิษของเครื่องดื่ม ทม่ี ีแอลกอฮอลท์ กุ ชนดิ และขอร้องใหท้ ่านลด เลกิ ดม่ื ๓. นักเรียนเขียนสรุปการเรียนรู้ อย่างน้อยคนละ ๗ บรรทัด หรอื มากกว่านน้ั (วาดภาพประกอบ) รอสยิง่ ทย่ีเ้ิมด็กๆค�ำอชยา่นื กชไดมเ้ มแอ่ื จลบะกกาำ� รลเรงั ยี ในจรจคู้ าือก ....คุณคร.ู ...

ท้องกอ่ นวัยอันควร/ไม่พรอ้ ม/ เยาวชนตาย นำ้� เมาเปน็ เหตุ มีงานวจิ ัยมากมายว่า ท�ำแท้ง จนเสยี ชวติ เสียอนาคต/ เพราะอุบตั เิ หตุ ของ ๒๐๐ โรค alcohol ท�ำลายสมอง = และการบาดเจบ็ โรคเอดส์ (วดั พระบาทนำ้� พุ มากทส่ี ดุ ท�ำลาย IQ, EQ บอกว่า คนติดเชือ้ HIV จากการดืม่ น้�ำเมา (WHO) เยาวชน/ประเทศ เพราะน�ำ้ เมาเกินครง่ึ ) กอ่ นขับมอร์เตอร์ไซค์ ทำ� ลาย ตดิ คกุ (สถานพนิ จิ ) ทำ� ลายชีวติ / สุขภาพ เปน็ เหตขุ อง กรมพนิ ิจและคมุ้ ครองเดก็ อนาคต มะเร็งไมน่ ้อยกว่า เยาวชน มีงานวิจยั เยาวชนเกอื บครง่ึ ๗ อวัยวะ ทำ� ผดิ หลังด่มื ใน ๕ ชม. alcohol และรนุ แรงกวา่ เยาวชนที่ไมด่ ืม่ ทำ� ลายทุกอวยั วะ ที่ผา่ นไป น้ำ� เมา (หลังดืม่ ถูกดูดซมึ สรา้ งปัญหา ผา่ นกระแสเลอื ด) อุบตั ิเหตุบนทอ้ งถนน ตายปลี ะกว่า อะไร ๒ หม่ืนคน (อันดับ ๒ ของโลก) ฆา่ คนทุก มีน้ำ� เมาเปน็ เหตเุ กอื บครง่ึ ๑๐ วินาที WHO บอกวา่ ความรนุ แรง สรา้ ง มคี นเสียชวี ิต ในครอบครัว ปญั หาสงั คม จากน�ำ้ เมา เพ่ิม ๓-๔ เทา่ ๑.๑ ล้านคน/ปี ถ้ามีคนด่มื ขา่ วร้ายแรง อาชญากรรม คนไทยตายจากน้ำ� เมา ทุกวัน ร้ายแรง แม้แต่ ๒๖,๐๐๐ คน/ปี = ฆา่ พ่อแมต่ ัวเอง มักมีน�้ำเมา มนี ำ�้ เมาเปน็ เหตุ ทุกๆ ๒๐ นาที เปน็ เหตุ คา่ น้ำ� เมากว่า ทำ� ลายเศรษฐกิจ คา่ รกั ษาโรค ๑ แสนลา้ นบาท/ปี ๔.๕ แสนล้านบาท/ปี แรงงาน แต่ละครอบครัวถา้ คา่ นำ�้ เมาวันละ ความสูญเสยี ดอ้ ยประสิทธิภาพ ๕๐ บาท x ๓๖๕ วนั = ๑๘,๒๕๐ บาท x ๑๐ ปี = ตามมาอีกกวา่ ตายก่อนวัยอนั ควร ๑.๕ แสนล้านบาท/ปี เกือบ ๒ แสนบาท สรา้ งบ้านได้ ฯลฯ สูญเสยี จากอบุ ัติเหตุ

ค�ำพอ่ สอน (๓) “...เด็กๆ ตอ้ งฝึกหัดอบรมทัง้ กายท้งั ใจให้เขม้ แขง็ เป็นระเบียบ และสจุ ริต เพ่ือประโยชน์ของตนในภายหนา้ เพราะคนที่ไมเ่ ขม้ แขง็ ไม่สามารถควบคมุ กายใจใหอ้ ยู่ระเบยี บและความดี ยากนักท่จี ะได้ประสบความส�ำเรจ็ และความเจริญอยา่ งแทจ้ ริงในชวี ติ ...” พระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานเนอ่ื งในวันเด็กแหง่ ชาติ ประจำ� ปี ๒๕๒๖ ด้วยสำ� นึกในพระมหากรณุ าธิคุณอนั หาทีส่ ดุ มไิ ด้

กิจกรรมท่ี ๓ เบอ้ื งหลงั ... ควัน (บหุ ร่)ี วัตถุประสงค์ รูถ้ ึงข้อดขี องการเว้นขาดจากบหุ รี่ และสามารถปฏิเสธการสูบได้ถา้ ถูกชกั ชวน ขัน้ ท่ี ๑ ใหค้ รรู กั เดก็ และเด็กรกั ครู ๑. ครูยิ้มและใช้ค�ำพูดด้านบวกชื่นชมนักเรียนด้วยความจริงใจ เช่น “สวัสดีเด็กๆ ทุกคน วันน้ีทุกคนน่ารักมาก ท่ีช่วยกันกวาดห้องเรียนได้สะอาด ยอดเยี่ยม ครูขอบคณุ เดก็ ๆ ทุกคนนะ” ๒. ครูพานักเรียนหลับตาลงเบาๆ น่ังท่าสบายๆ หายใจเข้าออกยาวๆ อย่างผ่อนคลายสัก ๑๐ ครัง้ (ลมหายใจยาวมีผลตอ่ คลื่นสมอง จิตใจ อารมณ์ และการเรียนรู้) และค่อยๆ ลืมตา ๓. จากนน้ั ครพู านกั เรียนพดู พร้อมกันว่า “เราทุกคนเป็นคนดี มนี ้�ำใจ ตั้งใจเรียน เรารักคณุ ครู รกั คณุ พอ่ คณุ แม่ และเพอื่ นๆ ทุกคน พวกเราทกุ คนเป็นคนน่ารักจริงๆ นะครบั /คะ ถ้าพวกเรา ท�ำอะไรผิดไปเราขอโทษคุณครูด้วยนะครับ/คะ พวกเราจะแก้ไขให้ดีข้ึนและ เราจะทำ� ตามคำ� สอนของในหลวงรชั กาลที่ ๙ คอื เว้นขาดจากเหล้า เบียร์ บหุ รี่ ยาเสพติดทกุ ชนดิ เพราะเปน็ การท�ำลายชวี ติ ตัวเอง ขอบคุณคุณครนู ะครบั /ค่ะ ทรี่ ัก (ผม/หนู) (ครอู าจเขียนขอ้ ความดังกล่าวไว้ที่กระดานกอ่ น) ๔. นักเรียนสวัสดีเพ่ือนท่ีอยู่ด้านซ้าย ขวา พูดชื่นชมเพ่ือนด้านซ้าย และขวา คนละ ๑ ประโยค เช่น “เธอเป็นคนเก่งที่มีน้�ำใจนะ” ครูน�ำเข้าสู่ การเรียนรู้ เบ้ืองหลงั ...ควัน (บหุ ร)่ี 48 โรงเรียนคำ�พอ่ สอน

๔ ขัน้ ที่ ๒ การเรยี นรู้ เบ้อื งหลัง...ควัน (บหุ ร)่ี สอื่ /อุปกรณ์ ส�ำหรบั ทำ� ปอดสาธิต ๑. ขวดน้ำ� อดั ลม ขนาด ๑.๕ ลติ ร ๒. กาวแท่ง ๓. ปนื กาว ๔. สายยาง ๕. สวา่ น วธิ ีการ/ข้ันตอนการท�ำปอดสาธติ ๑. น�ำสวา่ นเจาะรูที่ฝาขวดของน�้ำอดั ลม ให้มขี นาดเทา่ มวนบุหรี่ ๒. น�ำสวา่ นเจาะรทู ีข่ า้ งขวดของน้�ำอดั ลม วัดจากก้นขวดขึน้ มาประมาณ ๑ ใน ๓ ของความสงู ขวดโดยประมาณ ให้รมู ีขนาดเทา่ สายยางท่ีเตรยี มไว้ ๓. นำ� สายยางทเ่ี ตรียมไว้มาใสใ่ นรูที่เจาะไว้ ตามข้อ ๒ ๔. ใช้กาวแท่งปิดรอยต่อระหวา่ งรูขวดน้�ำอดั ลมกับสายยางให้สนิท อุปกรณ์ในการสาธติ ๑. ปอดสาธิต ทที่ �ำจากขวดนำ�้ พลาสติก ๒. บหุ รี่ ๔. ถังนำ้� ๖. ไฟแชค็ หรอื ไม้ขดี ๓. ผ้าปดิ จมกู ๕. กระดาษทิชชูแบบหนา ๗. ท่ีสบู ลมยาง วิธกี ารสาธิต ๑. เตมิ น้ำ� ลงไปให้ถึงระดับปากขวด ๒. นำ� บหุ ร่ีใสเ่ ขา้ ไปในรูท่ีเจาะไว้ทฝี่ าขวด ๓. จุดบหุ รี่ พรอ้ มกบั ปลอ่ ยนำ้� ออกทางสายยางทลี ะนอ้ ย ๔. ปลอ่ ยน้ำ� ไปเร่ือยๆ จนกวา่ น�้ำจะอยู่ในปรมิ าณที่สงู กว่าที่เจาะรูกน้ ชวด ๕. หยดุ การปลอ่ ยน�้ำ เปดิ ฝาขวดแลว้ เอากระดาษทิชชูปิดไว้ ๖. เอาท่ีสบู ลมยางใส่เข้าไปท่ีปลายสายยางแล้วเป่าลมออกมา ๗. หลงั จากเปา่ ลมจนควนั บหุ รที่ อี่ ยใู่ นขวดออกหมดแลว้ กเ็ อากระดาษทชิ ชอู อกจาก ปากขวด 49

๔ ขัน้ ที่ ๓ คำ� ถามต่อยอดการเรยี นรู้ นักเรียนรวมกลุ่มกันกลุ่มละ ๔-๕ คน ช่วยกันอภิปรายค้นหาค�ำตอบ และทำ� Mind Map/วาดภาพ หรือตามความเหมาะสมของนักเรยี น น�ำเสนอ เปน็ กลุ่ม ในประเด็นคำ� ถามตอ่ ไปนี้ ๑. นักเรยี นเห็นอะไรทกี่ ระดาษทิชชบู ้าง สิ่งท่ีเหน็ นัน้ คอื อะไร มาจากไหน ๒. ถ้าเราจุดบุหรี่ต่อเน่ืองหลายๆ มวน นักเรียนคิดว่า กระดาษทิชชูที่ ปิดปากขวดจะเป็นอยา่ งไร ๓. นักเรยี นคดิ ว่าอวัยวะของคนสูบบหุ รี่ จะได้รบั ส่งิ เดียวกับที่ตดิ กระดาษทชิ ชู หรอื ไม่ และจะมีผลอยา่ งไรต่อสขุ ภาพคนสูบ และคนทไ่ี ด้รับควนั โดยตัวเองไม่ได้สบู ๔. ในครอบครัวของนักเรียนมีคนสูบบุหร่ีหรือไม่ ถ้ามี นักเรียนรู้สึกอย่างไร และอยากบอกอะไรกบั เขา ๕. นักเรียนคิดว่าการสูบบุหร่ี มีผลเสียหายมาถึงนักเรียน ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ อย่างไรบา้ ง ๖. นักเรียนมีวิธีการอย่างไรให้ตัวเองห่างไกลบุหรี่ทุกชนิด และถ้ามีคนชวนสูบ จะปฏิเสธอยา่ งไร ๗. นักเรียนฝึกตั้งค�ำถามจากกิจกรรม เบ้ืองหลัง...ควัน (บุหรี่) เพ่ือขยายผล และต่อยอดการเรียนรู้ อย่างน้อยคนละ ๑-๒ ค�ำถาม (ครูช่วยต่อยอดให้นักเรียน มั่นใจทจ่ี ะสนุกกับการตงั้ คำ� ถามต่อไป) ๘. นักเรียนช่วยกันสรุปประเด็นท่ีได้เรียนรู้จากพระบรมราโชวาท คำ� พ่อสอน (๒) ทอ่ี ญั เชิญมาขา้ งตน้ 50 โรงเรียนค�ำ พ่อสอน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook