การจัดทำรายงานแผนพัฒนางานนิเทศการศึกษาส่วนบุคคล

๑๔๘ เครอื่ งมอื รปู แบบศึกษานเทศก์แบบตอ่ ยอดรูปแบบต่ืนรู้ (BMA Supervisor) ผ่านการนเิ ทศแบบพระนคร (PRANAKHON model) ท่ีผลตอ่ การสง่ เสรมิ การจัดการเรียน การสอนทเี่ นน้ ใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดการคดิ วเิ คราะหใ์ นทุกกลุ่มสาระการเรยี นรู้ โรงเรียน..............................................................สำนกั งานเขต..........................................สอนชั้น.................. กลุ่มสาระการเรียนรู้ o ภาษาไทย o คณิตศาสตร์ o วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี o สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม o สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา o ศิลปะ o การงานอาชีพ o ภาษาองั กฤษ คำชแ้ี จง โปรดเขยี นเคร่อื งหมาย ü ลงในช่องระดับคณุ ภาพ ดังนี้ ระดบั ๕ หมายถงึ พฤตกิ รรมที่แสดงออก ในระดบั มากทีส่ ดุ ระดับ ๔ หมายถึง พฤตกิ รรมท่ีแสดงออก ในระดับมาก ระดับ ๓ หมายถึง พฤติกรรมทแ่ี สดงออก ในระดบั ปานกลาง ระดบั ๒ หมายถึง พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออก ในระดบั นอ้ ย ระดบั ๑ หมายถึง พฤติกรรมที่แสดงออก ในระดับน้อยท่สี ุด ขอ้ ประเดน็ สังเกตการสอน ระดบั คุณภาพ ขอ้ เสนอแนะ ๕๔๓๒๑ ด้านการเตรียมความพร้อม ๑ โรงเรียนสง่ เสริมการศึกษาคน้ ควา้ ข้อมลู จากรายการประเมนิ ตนเอง ของสถานศกึ ษา (SAR) ๒ โรงเรียนมีการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้วิธีการจดั การเรียนการสอน ๓ โรงเรยี นสง่ เสริมการวเิ คราะห์ และสังเคราะหว์ ธิ ีการจดั การเรียนการ สอน ๔ โรงเรียนรวบรวมข้อคน้ พบกำหนดความต้องการจำเปน็ ดว้ ย การรับความคิดเหน็ ทุกภาคสว่ น

๑๔๙ ขอ้ ประเด็นสงั เกตการสอน ระดับคณุ ภาพ ข้อเสนอแนะ ๕๔๓๒๑ ด้านการนำข้อมูลท่ีค้นพบมาใช้ ๕ โรงเรยี นใช้ข้อมลู ท่ีคน้ พบจากรายการประเมินตนเองของสถานศกึ ษา (SAR) เพื่อพฒั นาการจัดการศกึ ษา ๖ โรงเรยี นใช้ขอ้ มลู การสังเคราะห์รายการประเมินตนเองของ สถานศึกษา (SAR) ในสังกดั สำนกั งานเขตเพือ่ พัฒนาการจดั การศึกษา ด้านการวเิ คราะห์ขอ้ มูลทีค่ ้นพบ ๗ โรงเรียนมีการสนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการตรวจสอบ ความถูกต้องของขอ้ มลู ที่สังเคราะหจ์ ากรายผลการประเมินตนเอง ของสถานศึกษาอยา่ งสร้างสรรค์ ๘ โรงเรียนมีการวเิ คราะหค์ วามถกู ตอ้ งของข้อมูลที่สังเคราะหจ์ าก รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาในสงั กดั สำนักงานเขต อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ดา้ นการสำรวจความต้องการจำเปน็ ๙ โรงเรียนสำรวจความต้องการจำเปน็ จากผมู้ สี ว่ นร่วมทกุ ภาคสว่ น ๑๐ โรงเรยี นมีข้อมูลความต้องการจำเปน็ ท่ีรบั รู้ร่วมกันในการจดั การเรียนการสอนทเ่ี นน้ ใหผ้ ู้เรยี นเกิดการคดิ วิเคราะห์ในทกุ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ๑๑ โรงเรียนมีการกำหนดเปา้ หมายรว่ มตามความต้องการจำเป็นทคี่ ้นพบ ด้านการสรา้ งบทเรียน หรือองค์ความรู้องค์กร ๑๒ ผู้บริหารสถานศกึ ษา มีแนวทางสง่ เสรมิ และสนับสนนุ การจัดทำ แผนการเรยี นการสอนทเี่ น้นให้ผู้เรยี นเกิดการคิดวิเคราะห์ ๑๓ ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา มีแนวทางกำกับ และตดิ ตามการจดั ทำแผน การเรียนการสอนที่เนน้ ให้ผเู้ รยี นเกดิ การคิดวิเคราะห์ ๑๔ ท่าน มสี ่วนร่วมในการวิเคราะหห์ ลักสูตรสถานศึกษาเพ่อื การจัดทำ แผนการเรียนการสอนท่ีเนน้ ใหผ้ เู้ รียนเกดิ การคดิ วเิ คราะห์ ๑๕ ทา่ น มสี ว่ นรว่ มในการวิเคราะหเ์ อกสารประกอบหลกั สตู ร เพอื่ การจัดทำแผนการเรียนการสอนที่เน้นให้ผ้เู รียนเกดิ การคดิ วเิ คราะห์ ๑๖ ท่าน มกี ารจัดทำแผนการเรยี นการสอนทีเ่ น้นใหผ้ ู้เรียนเกดิ การคิด วิเคราะห์ ๑๗ ท่าน ไดร้ ับคำปรึกษาทางวิชาการเกย่ี วกับ การจดั ทำแผนการเรยี นการสอนท่เี นน้ ให้ผู้เรยี นเกดิ การคดิ วเิ คราะหจ์ าก ศึกษานเิ ทศก์ ๑๘ ท่าน ไดร้ บั การสนับสนนุ ข้อมูลทางวิชาการเกีย่ วกับการจดั ทำ แผนการเรยี นการสอนทีเ่ น้นใหผ้ ้เู รียนเกดิ การคดิ วเิ คราะห์ จากศกึ ษานเิ ทศก์

๑๕๐ ข้อ ประเด็นสงั เกตการสอน ระดับคณุ ภาพ ขอ้ เสนอแนะ ๕๔๓๒๑ ด้านการดำเนนิ การแสวงหาขอ้ คน้ พบ แนวทางแกไ้ ข และพฒั นาในระหว่างการดำเนนิ งาน ๑๙ โรงเรยี นมีการอภิปรายปัญหาหรอื สถานการณ์ทม่ี ีความสำคญั ต่อ ผู้เรียนในการจดั การการเรียนการสอนทีเ่ นน้ ให้ผู้เรยี นเกิดการคิด วเิ คราะห์อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ๒๐ โรงเรียนมีการจดั การการเรยี นการสอนทเี่ น้นให้ผเู้ รียนเกิดการคดิ วเิ คราะห์ทกุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ๒๑ ผู้เรียนไดร้ บั การพัฒนาทกั ษะแบบวเิ คราะห์เน้ือหาเหมาะสม ๒๒ ผ้เู รยี นได้รบั การพัฒนาทกั ษะแบบวเิ คราะหค์ วามสมั พันธ์เหมาะสม ๒๓ ผู้เรียนได้รับการพฒั นาทักษะแบบวเิ คราะห์หลกั การเหมาะสม ๒๔ โรงเรยี นได้สะท้อนคิดการจดั การการเรยี นการสอนที่เน้นให้ผู้เรียนเกดิ การคิดวเิ คราะห์อย่างอิสระ ด้านการตรวจสอบความสอดคล้อง ๒๕ โรงเรียนนำบันทึกผลการจดั การเรยี นการสอนและบันทกึ ผล การปฏิบัติการนเิ ทศตรวจสอบประมวลความรู้อย่างมีประสทิ ธิภาพ ๒๖ โรงเรยี นมกี ารตรวจสอบความสอดคล้องของการจดั การเรยี นการสอนท่ี เนน้ ใหผ้ ้เู รยี นเกิดการคิดวเิ คราะห์อยา่ งเหมาะสม ดา้ นการเชือ่ มโยงความรู้ ๒๗ โรงเรียนมีการอภิปรายผลเพ่ือปรบั ปรุงการจดั การเรยี นการสอนท่เี นน้ ให้ ผเู้ รียนเกิดการคิดวิเคราะห์ในทกุ กลุ่มสาะการเรียนรู้ ๒๘ โรงเรียนมกี ารจดั ทำรายงานข้อมูล เปน็ ขอ้ ค้นพบ จุดเด่น จุดควรพัฒนา โอกาส และอุปสรรค การจดั การเรียนการสอนทีเ่ นน้ ให้ผเู้ รยี นเกิดการคดิ วิเคราะห์ในทกุ กลมุ่ สาะการเรยี นรู้ ๒๙ โรงเรยี นมกี ารสรา้ งบทเรียนการเรยี นรู้เกย่ี วกับการจัดการเรียนการสอนท่ี เนน้ ให้ผ้เู รยี นเกิดการคดิ วเิ คราะห์ในทกุ กล่มุ สาะการเรียนรู้ ๓๐ โรงเรียนมกี ารสรา้ งระบบผดุงคุณภาพด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ของโรงเรยี นสังกดั สำนกั งานเขตพระนคร (PRANAKHON model) ต่อเนือ่ ง