- 220 - กรณีพิพาทระหวา่ งรัฐไดก้ วา่ 10 กรณี เช่น กรณีพพิ าทระหวา่ งฟินแลนดก์ บั สวีเดนเกี่ยวกบั หม่เู กาะ ออร์ลนั ในปี ค.ศ.1920 กรณีพพิ าทระหวา่ งโปแลนดก์ บั ลิธวั เนีย เก่ียวกบั เมืองวลิ นาในปี ค.ศ.1920 กรณีพพิ าทระหวา่ งอิตาลี กรีซ และยโู กสลาเวยี เก่ียวกบั ปัญหาชายแดนแอลเบเนีย ในปี ค.ศ.1921 กรณีพพิ าทระหวา่ งองั กฤษกบั ตรุ กีเก่ียวกบั แควน้ โมซุล ในปี ค.ศ.1924 กรณีพพิ าทระหวา่ งกรีซ กลบั บลั แกเรียในปัญหาชายแดนปี ค.ศ.1925 และกรณีพิพาทระหว่างโปลเิ วยี กบั ปารากวยั เก่ียวกบั ดินแดนกรานชาโก ในปี ค.ศ.1928 เป็นตน้ นบั ต้งั แต่ปี ค.ศ.1932 จนถึงสงครามโลกคร้งั ที่ 2 เป็นยคุ ทีส่ นั นิบาตชาตปิ ระสบความ ลม้ เหลวในการดาเนินการ เนื่องจากมหาอานาจท่ีเป็นสมาชิกของคณะมนตรีเองเป็นผลู้ ะเมิดกติกา สญั ญาโดยทาการรุกรานประเทศอนื่ และสันนิบาตชาติไมส่ ามารถแกไ้ ขปัญหาได้ เช่น กรณีญป่ี ่ นุ รุกรานดินแดนแมนจูเรียของจีน ในปี ค.ศ.1932 กรณีอิตาลรี ุกรานเอธิโอเปี ย ในปี ค.ศ.1936 และ กรณีสหภาพโซเวียตรุกรานฟินแลนด์ ในปี ค.ศ.1939 เป็นตน้ การดาเนินงานที่สาคญั อกี ดา้ นหน่ึงของสันนิบาตชาติ คอื การจดั ต้งั ระบบอาณัตเิ พ่ือ ช่วยเหลือดินแดนอาณานิคมและดินแดนที่ยงั ไมส่ ามารถปกครองตนเองให้มีระดบั การพฒั นาทาง การเมอื ง เศรษฐกิจ และสงั คมกา้ วหนา้ พอทจี่ ะสามารถรบั ผดิ ชอบการปกครองตนเองได้ เช่น ดินแดนทีเ่ คยเป็นอาณานิคมของตุรกี และเยอรมนี ดินแดนลา้ หลงั ในทวีปแอฟริกาและหม่เู กาะใน มหาสมุทรแปซิฟิ ก การส่งเสริมความร่วมมือระหวา่ งประเทศทางเศรษฐกิจและสงั คม เป็นจุดมุง่ หมายรองของ สนั นิบาตชาติ แต่ในทางสังคมสนั นิบาตชาตมิ ีจุดม่งุ หมายทจ่ี ะสร้างสรรคแ์ ละธารงรกั ษาความ ยตุ ธิ รรมและมนุษยธรรมในสงั คมของทกุ ประเทศโดยกาหนดเงื่อนไขการใชแ้ รงงานชาย หญงิ และ เด็ก ขจดั การคา้ ทาสและการคา้ ยาเสพตดิ องคก์ รต่างๆ ท่สี นั นิบาตชาตไิ ดจ้ ดั ต้งั ข้ึนเพือ่ วตั ถุประสงค์ ทางสังคมมมี ากมายเช่น องคก์ ารอนามยั คณะกรรมาธิการทีป่ รึกษาเก่ียวกบั ปัญหาสังคม คณะกรรมาธิการที่ปรึกษาเกี่ยวกบั ปัญหาการคา้ ทาส คณะกรรมาธิการที่ปรึกษาเก่ียวกบั การคา้ ฝ่ิน และยาเสพติดให้โทษ เป็นตน้ กิจกรรมดา้ นสังคมของสนั นิบาตชาตินบั ว่าประสบผลสาเร็จมากกวา่ ดา้ นใดๆ และมกี ิจกรรมสืบต่อมาจนถงึ การดาเนินงานของสหประชาชาติ กิจกรรมเพอื่ ส่งเสริมสนั นิบาตและรักษาความมนั่ คงระหว่างประเทศของสันนิบาตชาติ ประสบผลสาเร็จในรายดา้ น โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ทางดา้ นอนามยั ซ่ึงผิดกบั การดาเนินงานทาง การเมืองและเศรษฐกิจ ทีร่ ฐั ส่วนใหญย่ งั ยึดมนั่ ในผลประโยชน์ของตนเหนือผลประโยชน์ของ สังคมโลกโดยส่วนรวมจึงตา่ งมุง่ ทจ่ี ะแขง่ ขนั และตกั ตวงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากกว่าทจี่ ะ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศอยา่ งจริงจงั จนไมส่ ามารถมสี ถาบนั หรือสนธิสญั ญาทาง เศรษฐกิจเกิดข้ึนได้ ในทางการเมอื งกเ็ ช่นเดียวกนั ภายหลงั สงครามโลกคร้งั ท่ี 1 ลทั ธิชาตนิ ิยมและ
- 221 - การมงุ่ ขยายอานาจโดยการรุกรานกย็ งั คงมตี ่อมาและรุนแรงข้ึนเรื่อยๆ รฐั ตา่ งๆ ท้งั ทีเ่ ป็นสมาชิกและ ไม่ใช่สมาชิกของสนั นิบาตชาติต่างไมเ่ ห็นความสาคญั ของสันนิบาตชาติ เน่ืองจากมหาอานาจทีเ่ ป็น สมาชิกประจาในคณะมนตรีเองเป็นผลู้ ะเมิดกตกิ าสัญญาโดยการรุกรานรฐั อน่ื มหี ลายรัฐทลี่ าออก จากสมาชิกภาพ ในท่ีสุดสนั นิบาตชาติก็ไมส่ ามารถดาเนินงานในทางการเมืองเพ่อื รกั ษาสนั ตภิ าพ และความมน่ั คงระหว่างประเทศได้ จึงตอ้ งหยดุ กิจกรรมตา่ งๆ โรงเมอ่ื เกิดสงครามโลกคร้ังที่ 2 ในปี ค.ศ.1939 สหประชาชาตกิ บั บทบาทในการรักษาสันติภาพและความม่นั คงระหว่างประเทศ ความลม้ เหลวในการรักษาสนั ตภิ าพและความมนั่ คงระหว่างประเทศของสนั นิบาตชาติจน เกิดสงครามโลกคร้ังที่ 2 ไดก้ ่อใหเ้ กิดแนวความคิดในการสถาปนาองคก์ ารระหวา่ งประเทศระดบั โลกแห่งใหม่ เพอ่ื ทาหนา้ ทแี่ ทนสนั นิบาตชาติให้สมบูรณย์ ิง่ ข้นึ เจตนารมณข์ องสหประชาชาติคือ ป้องกนั และขจดั การกระทาใดๆ ทเี่ ป็นภยั ตอ่ สันตภิ าพ นบั ต้งั แตก่ ารคกุ คามดา้ นตา่ งๆ จนถึงการทา สงคราม สนบั สนุนให้มีการเคารพกฎหมายระหวา่ งประเทศและพนั ธกรณีในสนธิสญั ญาระหวา่ ง ประเทศส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศทางดา้ นเศรษฐกิจ สังคมและวฒั นธรรมบนพ้นื ฐาน ของความเท่าเทยี มกนั และส่งเสริมสิทธิมนุษยชนของประชาชาติท้งั มวล เพ่อื บรรลุเจตนารมณ์ ดงั กล่าว สหประชาชาตไิ ดด้ าเนินการในลกั ษณะของระบบความมนั่ คงร่วมกนั เช่นเดียวกบั สนั นิบาต ชาติ แต่กฎบตั รของสหประชาชาติไดใ้ ห้อานาจแก่คณะมนตรีความมน่ั คงซ่ึงประกอบดว้ ย มหาอานาจ 5 ชาติ คือ สหรัฐอเมริกา องั กฤษ ฝรง่ั เศส จีน และสหภาพโซเวยี ต ในการดาเนินการเพ่ือ ขจดั การคุกคามตอ่ สันตภิ าพอยา่ งจริงจงั ต้งั แตก่ ารกาหนดมาตรการจนถึงการดาเนินการบงั คบั ดว้ ย กาลงั สหประชาชาตไิ ดม้ ุ่งส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสงั คมอยา่ งจริงจงั มากข้นึ ท้งั น้ี เน่ืองจากเศรษฐกิจการคา้ ระหวา่ งประเทศไดข้ ยายตวั มากข้ึนและการตดิ ตอ่ ส่ือสารคมนาคมกเ็ จริญ ข้นึ เง่ือนไขทางเศรษฐกิจและสงั คมทดี่ ีจะมีบทบาทอยา่ งมากตอ่ การรักษาสันติภาพและป้องกนั ขอ้ ขดั แยง้ ไมใ่ ห้เกิดข้ึนการดาเนินการทส่ี าคญั อีกประการหน่ึง คือ การแกไ้ ขปัญหาอาณานิคม โดย สนบั สนุนใหด้ ินแดนอาณานิคมไดร้ ับเอกราช ตามหลกั การแห่งความเทา่ เทยี มกนั ในสิทธิและความ เคารพในเกียรติของประชาชาติท้งั มวล องคก์ รหลกั ทจี่ ะทาหนา้ ท่รี ะงบั กรณีพิพาทคอื สมชั ชาใหญ่และคณะมนตรีความมน่ั คง ซ่ึง ถา้ เป็นการระงบั กรณีพิพาทโดยสนั ติวธิ ีกอ็ ยใู่ นอานาจหนา้ ท่ขี ององคก์ รท้งั สอง แต่ถา้ เป็นการระงบั กรณีพิพาทโดยการบบี บงั คบั ต่างๆ จะเป็นอานาจหนา้ ทีข่ องคณะมนตรีความมนั่ คง การระงบั กรณีพพิ าทโดยสันติวธิ ีน้นั สหประชาชาติจะปล่อยใหค้ กู่ รณีหาทางแกไ้ ขกนั เอง ตามหลกั ของกฎหมายระหวา่ งประเทศเสียก่อน ซ่ึงตามกฎบตั รขอ้ 33 วรรค 1 ไดร้ ะบวุ ธิ ีการไว้
- 222 - หลายอยา่ ง คือ การเจรจา (negotiation) การสอบสวนหาขอ้ เทจ็ จริง (enquiry) การไกลเ่ กลีย่ (mediation) การประนีประนอม (conciliation) อนุญาโตตุลาการ (arbitration) กระบวนการทางศาล (judicial settlement) และการแกไ้ ขในระดบั ภมู ภิ าค (regional arrangement) ถา้ ค่กู รณียงั ไมไ่ ด้ ดาเนินการใดๆ คณะมนตรีความมน่ั คงก็จะเรียกร้องให้คูก่ รณีระงบั กา ถา้ คกู่ รณียงั ไมไ่ ดด้ าเนินการ ใดๆ คณะมนตรีความมนั่ คงก็จะเรียกร้องใหค้ ่กู รณีระงบั กรณีพพิ าทดว้ ยวธิ ีการเหล่าน้ี ในบางคร้ังกรณีพิพาททเี่ กิดข้ึนไม่สามารถระงบั ไดโ้ ดยสันติวธิ ีเนื่องจากรฐั ค่กู รณีไม่ ดาเนินการใดๆ ทีจ่ ะแกไ้ ขขอ้ ขดั แยง้ หรือดาเนินการไม่ไดผ้ ล คณะมนตรีความมนั่ คงก็จาเป็นท่ี จะตอ้ งดาเนินมาตรการบบี บงั คบั ให้เกิดสนั ติภาพและความมน่ั คงระหวา่ งประเทศตามกฎบตั รขอ้ ที่ 41 โดยอาจเร่ิมตน้ ต้งั แตก่ ารใชม้ าตรการบีบบงั คบั ทางเศรษฐกิจ เช่น เรียกร้องให้สมาชิกของ สหประชาชาตงิ ดส่งสินคา้ บางชนิดไปยงั ประเทศค่กู รณี เป็นตน้ จนถึงการตดั สัมพนั ธ์ทางเศรษฐกิจ การตดั ความสัมพนั ธ์ทางการสื่อสารคมนาคม และการจดั ความสมั พนั ธท์ างการทูตแต่ถา้ ยงั ไมไ่ ดผ้ ล หรือคณะมนตรีความมนั่ คงเห็นวา่ จาเป็นก็อาจดาเนินการบีบบงั คบั โดยการใชก้ าลงั ทางพ้ืนดิน ทาง ทะเลและทางอากาศตามกฎบตั รขอ้ ท่ี 42 ตวั อยา่ งของการดาเนินมาตรการบบี บงั คบั ของคณะมนตรี ความมนั่ คง คอื การเรียกร้องให้ทกุ รัฐงดส่งอาวธุ ยทุ โธปกรณ์ทางทหารให้แก่โรดีเซียใต้ และให้จดั ความสมั พนั ธท์ างเศรษฐกิจกบั โรตเี สียใตใ้ นปี ค.ศ.1965 เนื่องจากประเทศดงั กลา่ วมีรฐั บาลท่เี ป็น ชนกล่มุ นอ้ ยชาวผิวขาว ซ่ึงใชน้ โยบายกดขี่เหยยี ดผิวประชาชนส่วนใหญ่ทเี่ ป็นชาวผิวดาจนเกิด ความไมส่ งบข้นึ ภายในโรดีเซียใต้ และเกิดความตงึ เครียดภายในทวีปแอฟริกา นอกจากการระงบั กรณีพิพาทแลว้ สหประชาชาติยงั ดาเนินการป้องกนั การทาลายสนั ตภิ าพ และความมนั่ คงระหวา่ งประเทศโดยการลดอาวุธและควบคุมอาวุธท้งั การวางกฎเกณฑเ์ ก่ียวกบั อาวุธสงครามตามรูปแบบ (conventional) และอาวธุ ปรมาณู โดยสมชั ชาใหญไ่ ดจ้ ดั ต้งั คณะกรรมาธิการเก่ียวกบั อนุสัญญาว่าดว้ ยอาวธุ ยทุ โธปกรณ์ในปี ค.ศ.1947 และในปี ตอ่ มา คณะกรรมาธิการดงั กลา่ วไดเ้ สนอใหม้ หาอานาจท้งั หลายลดกาลงั ลง 1 ใน 3 ท้งั กาลงั ทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ รวมท้งั อาวุธปรมาณู แต่ไม่ประสบผลสาเร็จเนื่องจากมหาอานาจคดั คา้ น ต่อมาในทศวรรษ 1950 มหาอานาจหลายประเทศเร่ิมมีอาวุธปรมาณูไวใ้ นครอบครอง สหประชาชาติจึงไดใ้ หค้ วามสนใจอยา่ งจริงจงั ดา้ นการควบคมุ อาวธุ ปรมาณูโดยเฉพาะแคนาดา ญปี่ ่ นุ และนอร์เวย์ ไดเ้ สนอให้มีการควบคุมการทดลองและหยดุ ทดลอง สหรัฐอเมริกาไดเ้ สนอใหม้ ี การควบคมุ การผลติ และสหภาพโซเวยี ตไดเ้ สนอใหห้ ยดุ ทดลองโดยทนั ที ในปี ค.ศ.1957 ไดม้ กี าร จดั ต้งั คณะอนุกรรมการเพอ่ื พจิ ารณาเรื่องการป้องกนั การเผยแพร่อาวุธปรมาณูและการป้องกนั การ โจมตดี ว้ ยอาวธุ ปรมาณูอยา่ งทนั ทที นั ใด การควบคมุ อาวธุ ตามรูปแบบและกาลงั รบ การลดอาวธุ การควบคมุ ขีปนาวุธและวตั ถทุ ลี่ อยอยนู่ อกอวกาศ และการใชอ้ วกาศโดยสนั ติ ต่อมาในปี ค.ศ.1959
- 223 - สมชั ชาใหญไ่ ดต้ ้งั คณะกรรมการ 10 ชาติเพื่อการลดอาวุธ และอกี 2 ปี ต่อมาก็จดั ต้งั คณะกรรมการ 18 ชาติ เพ่ือการลดอาวธุ อีกแตไ่ ม่ประสบผลสาเร็จในการดาเนินงาน อยา่ งไรกต็ ามสมชั ชาใหญก่ ็ประสบผลสาเร็จในการอนุมตั สิ นธิสัญญาสาคญั ตา่ งๆ เช่น สนธิสัญญาหา้ มทดลองอาวธุ ปรมาณูในบรรยากาศ ในอวกาศ และใตน้ ้าในปี ค.ศ.1963 สนธิสญั ญา วา่ ดว้ ยหลกั การเกี่ยวกบั กิจกรรมในอวกาศปี ค.ศ.1966 สนธิสญั ญาหา้ มแพร่ขยายอาวุธปรมาณูปี ค.ศ.1968 อนุสญั ญาห้ามใชอ้ าวธุ เช้ือโรคและยาพิษปี ค.ศ.1971 เป็นตน้ การพยายามลดอาวุธและควบคุมอาวุธไมป่ ระสบผลสาเร็จเน่ืองจากมหาอานาจการแข่งขนั การพฒั นาและสะสมอาวุธเพ่ือสร้างดุลอานาจ นอกจากน้นั การคา้ อาวุธยงั เป็นนโยบายสาคญั ใน การหารายไดข้ องประเทศมหาอานาจอกี ดว้ ย สหรฐั อเมริกาและสหภาพโซเวียตไดจ้ ดั “การเจรจา ทาสนธิสัญญาวา่ ดว้ ยการจากดั อาวธุ ทางยทุ ธศาสตร์” หรือท่รี ู้จกั ในนามของซอลท์ (SALT) หลาย คร้งั คร้ังที่ 1 ในปี ค.ศ.1972 คร้งั ท่ี 2 ในปี ค.ศ.1979 แต่กม็ มี หาอานาจระดบั กลางหลายประเทศที่ กาลงั มุ่งพฒั นาอาวุธปรมาณูไมย่ อมรับขอ้ ตกลงของซอลท์ เพราะจะเป็นอุปสรรคในความกา้ วหนา้ ดา้ นอาวธุ ปรมาณูของตนจึงมุ่งทดลองอาวธุ ปรมาณูอยตู่ ่อไป เช่น การทดลองอาวธุ ปรมาณูของ ฝร่ังเศสในหมู่เกาะของมหาสมุทรแปซิฟิก เป็นตน้ การส่งเสริมสนั ติภาพและความมน่ั คงระหว่างประเทศของสหประชาชาตทิ ี่สาคญั ตอ่ มาก็ คือ การส่งเสริมความร่วมมอื ทางเศรษฐกิจและสงั คมระหวา่ งประเทศ เพ่อื สร้างเสถยี รภาพและ ความมน่ั คงทางเศรษฐกิจ เป็นการใหค้ วามช่วยเหลอื แกร่ ฐั สมาชิกในดา้ นต่างๆ ไดแ้ ก่ ดา้ นการเงิน เช่น การดาเนินงานของสมาคมเพ่อื การพฒั นาระหว่างประเทศ (Association of International Development) เป็นตน้ ดา้ นการคา้ และการพฒั นา เช่น การดาเนินงานขององคก์ ารเพอ่ื การพฒั นา อตุ สาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Industrial Development Organization) เป็นตน้ ดา้ นอาหาร เช่น การดาเนินงานขององคก์ ารอาหารและเกษตร (Food and Agriculture Organization) เป็นตน้ ดา้ นเทคนิค เช่น การดาเนินงานของหน่วยงานบริการความช่วยเหลอื ทางเทคนิค (Technical Assistance Administration) เป็นตน้ ดา้ นสวสั ดิการสังคม เช่น การดาเนินงานของกองทุนสาหรับ เด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) เป็นตน้ ดา้ นการให้ความคมุ้ ครองผูล้ ้ีภยั เช่น การดาเนินงานของ สานกั งานขา้ หลวงใหญ่ผลู้ ้ภี ยั แห่งสหประชาชาติ (The United Nations High Commissioner for Refugees) เป็นตน้ และดา้ นการคมุ้ ครองสิทธิมนุษยชน เช่น การทางานของคณะกรรมการสิทธิ มนุษยชน (Human Rights Committee) และการทสี่ มชั ชาใหญ่มีมติ “ปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสิทธิ มนุษยชน” เป็นตน้ การดาเนินงานทส่ี าคญั ย่งิ ต่อหลกั การแห่งความเสมอภาคและหลกั สิทธิมนุษยชนของ สหประชาชาติ คอื การจดั สร้างระบบภาวะทรัสตีเพือ่ ส่งเสริมดินแดนต่างๆ ที่ยงั ไม่สามารถปกครอง
- 224 - ตนเองได้ ซ่ึงไดแ้ ก่ ดินแดนอาณานิคมและดินแดนท่ีลา้ หลงั อยา่ งมาก ให้ไดร้ บั การพฒั นาจนถงึ ระดบั ท่มี คี วามมน่ั คงและเจริญกา้ วหนา้ ทางการเมืองเศรษฐกิจ และสังคมพอทจี่ ะรบั ผิดชอบ ปกครองตนเองไดแ้ ลว้ สหประชาชาติกจ็ ะสนบั สนุนให้ดินแดนเหล่าน้ีไดร้ ับเอกราชโดยเร็ว ดินแดน ในระบบภาวะทรสั ตีประกอบดว้ ยดินแดนทีเ่ คยเป็นดินแดนในอาณัติของสนั นิบาตชาติดินแดนที่ โอนมาจากรฐั ผูแ้ พส้ งครามโลกคร้งั ท่ี 2 และดินแดนทรี่ ัฐผรู้ บั ผิดชอบปกครองไดน้ าเขา้ มาอยใู่ น ระบบภาวะทรสั ตโี ดยสมคั รใจ ในปัจจบุ นั ดินแดนในระบบภาวะทรสั ตที ี่ไดร้ บั เอกราชแลว้ ไดแ้ ก่ โตโกขององั กฤษ โตโก ของฝร่ังเศส แคเมอรูนขององั กฤษ แคเมอรูนของฝรงั่ เศส โซมาลีแลนด์ แทนแกนยิกา รวนั ดา บุรุนดี ซามวั ตะวนั ตก เนารู และนิวกินี ส่วนดินแดนหม่เู กาะในมหาสมทุ รแปซิฟิกทีเ่ คยอยภู่ ายใต้ ระบบอาณตั ทิ ญี่ ปี่ ่ ุนดแู ลน้นั ปัจจบุ นั ยงั อยภู่ ายใตก้ ารปกครองของสหรัฐอเมริกา สาหรับดินแดน อาณานิคมของมหาอานาจต่างๆ ในทวีปแอฟริกาเอเชีย และอเมริกาใตน้ ้นั สมชั ชาใหญก่ ส็ นบั สนุนให้เจา้ อาณานิคมใหเ้ อกราชโดยเร็ว กิจกรรมท้งั หมดทีก่ ลา่ วมาน้ีแสดงให้เห็นว่าสหประชาชาติไดด้ าเนินการอยา่ งจริงจงั เพอื่ รกั ษาสันติภาพและความมน่ั คงระหว่างประเทศ ตลอดจนความร่วมมอื ทางดา้ นเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมระหว่างประชาชาตทิ ้งั มวล โดยเฉพาะการพยายามแกไ้ ขความขดั แยง้ ระหว่างประเทศน้นั ระหวา่ งปี ค.ศ.1946-1986 สหประชาชาติไดม้ บี ทบาทในการรักษาสนั ตภิ าพตามภมู ิภาคตา่ งๆ ของ โลกถึง 172 กรณี โดยสามารถแกไ้ ขไดส้ าเร็จภายในเวลาอนั รวดเร็ว คือ ภายในระยะเวลา 1 ถงึ 5 ปี เป็นจานวน 135 กรณี และมีกรณีที่การแกไ้ ขขอ้ ขดั แยง้ ยดื เยือ้ เกินกว่า 5 ปี หรือไม่ประสบผลสาเร็จ อกี 37 กรณี นบั เป็นความสาเร็จในการดาเนินงานของสหประชาชาติทนี่ ่าพงึ พอใจย่ิง อาเซียนกับบทบาทในการส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ อาเซียนหรือสมาคมประชาชาตเิ อเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (Association of Southeast Asian Nation) ซ่ึงกอ่ ต้งั ข้นึ ในปี ค.ศ.1967 เป็นการแสดงเจตนารมณข์ องประเทศสมาชิกที่จะร่วมมอื กนั รักษาผลประโยชน์และขจดั ปัญหาต่างๆ ในภมู ภิ าค เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพและความมนั่ คงทาง เศรษฐกิจและสงั คมในภูมิภาคใหพ้ น้ จากอทิ ธิพลและการแทรกแซงของภายนอก ประเทศสมาชิก แรกเริ่มก่อต้งั 5 ประเทศ คือ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อนิ โดนีเซีย และฟิลปิ ปิ นส์ มุ่งทีจ่ ะส่งเสริม สนั ติภาพและความมนั่ คงในภมู ิภาคโดยยึดมน่ั ในหลกั การของสหประชาชาติ ส่งเสริมความร่วมมือ กนั อยา่ งจริงจงั ในดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม วิชาการและวิทยาศาสตร์ ช่วยเหลอื ซ่ึงกนั และกนั ในบรรดาประเทศสมาชิกเมื่อเกิดภยั พิบตั ิต่างๆ ม่งุ ขจดั ภยั ทีค่ กุ คามเสถียรภาพขององคก์ ารและของ แตล่ ะประเทศร่วมมือกนั ทางดา้ นการผลติ ผลติ ภณั ฑข์ ้นั มลู ฐาน โดยเฉพาะอาหารและพลงั งาน
- 225 - ร่วมมือกนั ในการพฒั นาอุตสาหกรรม ปรับปรุงโครงสร้างทางการคา้ เพ่อื ขจดั อุปสรรคในการติดต่อ คา้ ขาย ร่วมกนั ป้องกนั ยาเสพตดิ และส่ิงผดิ กฎหมาย ตลอดจนขยายความร่วมมอื ระหว่างประเทศ สมาชิกและองคก์ ารระหว่างประเทศอ่ืนๆ เมือ่ ความร่วมมอื ของประเทศในกลุม่ อาเซียนเนน้ หนกั ไปทางดา้ นเศรษฐกิจและสังคม องคก์ รทีม่ ีช่ือว่าทปี่ ระชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนจึงไดจ้ ดั ต้งั คณะกรรมการเพ่ือทาหนา้ ทรี่ ่วมมือ ทางดา้ นเศรษฐกิจในเร่ืองตา่ งๆ หลายคณะ คือ คณะกรรมการว่าดว้ ยอาหาร เกษตร และป่ าไม้ คณะกรรมการวา่ ดว้ ยการคลงั และการธนาคาร คณะกรรมการวา่ ดว้ ยอุตสาหกรรม พลงั งาน และแร่ ธาตุ คณะกรรมการวา่ ดว้ ยการขนส่งและคมนาคม คณะกรรมการวา่ ดว้ ยการคา้ และการท่องเท่ียว คณะกรรมการว่าดว้ ยการพฒั นาสังคม คณะกรรมการว่าดว้ ยวฒั นธรรมและสนเทศ และ คณะกรรมการวา่ ดว้ ยวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี นอกจากความร่วมมือภายในกลมุ่ แลว้ อาเซียนยงั ร่วมมอื ทางเศรษฐกิจและสังคมกบั ประเทศนอกกลมุ่ และองคก์ ารระหว่างประเทศอน่ื ๆ อกี มาก โดยนบั ต้งั แต่เดือนกรกฎาคม ค.ศ.1985 เป็นตน้ ไป อินโดนีเซียจะทาหนา้ ที่เป็นตวั แทนของกล่มุ อาเซียนในการเจรจาติดต่อกบั กลุ่ม ประชาคมยโุ รป มาเลเซียเจรจาติดตอ่ กบั ญ่ีป่ ุนบรูไน เจรจาติดต่อกบั นิวซีแลนด์ ฟิลิปปิ นส์เจรจา ตดิ ตอ่ กบั ออสเตรเลยี สิงคโปร์เจรจาติดตอ่ กบั สหรฐั อเมริกา และไทยเจรจาติดตอ่ กบั แคนาดา นอกจากน้นั กลมุ่ อาเซียนก็ยงั ร่วมมือกบั ประเทศในภมู ภิ าคอื่นๆ และองคก์ ารระหว่างประเทศตา่ งๆ โดยเฉพาะหน่วยงานทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั สหประชาชาติอกี ดว้ ย ความร่วมมือกนั ดงั กล่าวกอ่ ให้เกิด หน่วยงานและโครงการทเี่ ป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมตอ่ ประเทศในกลุ่มอาเซียนและ สงั คมระหว่างประเทศมากมาย เช่น กองทุนวฒั นธรรมอาเซียน คณะกรรมการความร่วมมอื ระหว่าง อาเซียนและแคนาดา ศนู ยส์ ่งเสริมการคา้ การลงทนุ และการทอ่ งเทีย่ วอาเซียน เป็นตน้ แมว้ ่าอาเซียนจะเป็นองคก์ ารระหวา่ งประเทศส่วนภมู ิภาคท่ีมวี ตั ถปุ ระสงคท์ เี่ นน้ ทางดา้ น เศรษฐกิจและสงั คมแต่อาเซียนก็มีเจตนารมณท์ างการเมอื งร่วมอยดู่ ว้ ย อาเซียนไดอ้ อกปฏญิ ญาและ สนธิสัญญาหลายฉบบั เช่น ปฏิญญาว่าดว้ ยการกาหนดใหภ้ มู ภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตเ้ ป็นเขต สนั ตภิ าพเสรีภาพ และความเป็นกลางในปี ค.ศ.1971 ปฏิญญาว่าดว้ ยความสมานฉันทข์ องอาเซียน และสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตใ้ นปี ค.ศ.1976 เป็นตน้ ซ่ึง ลว้ นแตม่ ีเจตจานงทางการเมืองอยา่ ง ชดั แจง้ ปฏิญญาว่าดว้ ยการกาหนดใหภ้ มู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตเ้ ป็นเขตสนั ติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลางไดก้ ล่าวถงึ ความปรารถนาของอาเซียนทีจ่ ะรักษาสันตภิ าพและผ่อนคลายความ ตึงเครียดในเอเชียอาคเนย์ โดยเคารพต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของรัฐตา่ งๆ ตอ่ ตา้ นการ คกุ คามและการใชก้ าลงั ระงบั ขอ้ พพิ าทระหว่างประเทศโดยสันติวธิ ี ยดึ มนั่ ในหลกั การของความ
- 226 - เสมอภาคของรฐั สิทธิในการกาหนดใจตนเอง และการไม่แทรกแซงกิจการภายในของรัฐอื่น ตลอดจนมุ่งสร้างสรรคภ์ ูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตใ้ ห้เป็นเขตเป็นกลางและเสรีภาพโดย ปราศจากอิทธิพลจากภายนอก สาหรบั ปฏิญญาวา่ ดว้ ยความสมานฉนั ทข์ องอาเซียนไดก้ าหนด หลกั การความร่วมมอื ระหวา่ งประเทศสมาชิกไวห้ ลายประการ คือ ใหม้ กี ารประชุมหวั หนา้ คณะรฐั มนตรีของประเทศสมาชิกเมอ่ื มคี วามจาเป็น ใหร้ ่วมมอื การระงบั กรณีพพิ าทภายในภูมภิ าค โดยสันติวิธีอยา่ งเร็วทส่ี ุด ให้ปรบั ปรุงกลไกของอาเซียนเพือ่ กระชบั ความร่วมมือกนั ในทาง การเมอื ง และใหเ้ สริมสร้างความเป็นปึ กแผ่นโดยประสานทา่ ทแี ละการกระทาร่วมกนั ท้งั น้ีเพือ่ ความมน่ั คงและเขม้ แข็งขององคก์ ารและของแตล่ ะประเทศ บทบาทความร่วมมือทางเศรษฐกิจทอี่ าเซียนไดท้ ามมี ากมาย เช่น การทาขอ้ ตกลงว่าดว้ ย สิทธิพิเศษทางการคา้ ในปี ค.ศ.1977 เพือ่ กาหนดพิกดั อตั ราศุลกากรต่าและการป้องกนั การทุ่มตลาด การทาโครงการอุตสาหกรรมอาเซียนโดยให้แตล่ ะประเทศรับผิดชอบ 1 โครงการ ซ่ึงเจา้ ของ ประเทศจะถอื หุ้นร้อยละ 60 ประเทศสมาชิกอืน่ ๆ ถือหุน้ รวมกนั ร้อยละ 40 การแบ่งการผลติ ทาง อตุ สาหกรรมของอาเซียนเร่ิมต้งั แต่ปี ค.ศ.1981 การจดั ต้งั สถาบนั ดา้ นการคลงั และการธนาคารเพ่อื จดั หาทนุ และส่งเสริมการลงทุน การเร่ิมโครงการสารองอาหารเพื่อความมนั่ คงไวใ้ ชใ้ นยามฉุกเฉิน ในปี ค.ศ.1981 และการร่วมมือดา้ นพลงั งานปิ โตรเลยี มต้งั แตป่ ี ค.ศ.1975 เป็นตน้ บทบาทความร่วมมือทางสงั คม กไ็ ดม้ โี ครงการแลกเปลีย่ นผเู้ ชี่ยวชาญนกั วิชาการ และการ ช้ีสถานศึกษาเพอื่ ประโยชน์ของประเทศสมาชิก โครงการวางแผนครอบครวั หลายโครงการ มีการ ร่วมมือปราบปรามยาเสพตดิ ตามปฏิญญาอาเซียนว่าดว้ ยหลกั การในการตอ่ ตา้ นยาเสพติดปี ค.ศ. 1976 มคี วามร่วมมอื ดา้ นเยาวชนต้งั แตใ่ นปี ค.ศ.1983 นอกจากน้นั ยงั มคี วามร่วมมือทางดา้ น วฒั นธรรมแรงงาน สวสั ดิการสงั คม และสาธารณสุขอีกดว้ ย บทบาทความร่วมมอื ทางดา้ นการเมืองของอาเซียนไดป้ ระสบผลสาเร็จหลายประการ ผล ของการพยายามแกไ้ ขขอ้ ขดั แยง้ และการสร้างความเขา้ ใจซ่ึงกนั และกนั ทาให้ประเทศสมาชิกทเ่ี คยมี กรณีพิพาทกนั สามารถหันมาปรองดองกนั ได้ ปัญหาต่างๆ ท่ีไดย้ ตุ ลิ งไป คอื ความขดั แยง้ ระหว่าง มาเลเซียกบั อนิ โดนีเซียเก่ียวกบั ดินแดนบนเกาะบอร์เนียวเหนือและช่องแคบมะละกา ความขดั แยง้ ระหว่างมาเลเซียกบั สิงคโปร์เนื่องจากการหวาดระแวงกนั ความขดั แยง้ ระหวา่ งมาเลเซียกบั ฟิลปิ ปิ นส์เกี่ยวกบั ปัญหารัฐซาบาห์ และความไมส่ งบบริเวณชายแดนไทยมาเลเซียในดา้ นความ ร่วมมือเพือ่ รักษาสนั ติภาพและความมน่ั คงระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตน้ ้นั อาเซียนไดพ้ ยายามท่ีจะใหด้ ินแดนบริเวณน้ีเป็นเขตสนั ติภาพเสรีภาพ และมีความเป็นกลาง ปลอด จากการแทรกแซงของมหาอานาจท้งั ทางดา้ นเศรษฐกิจและการเมือง เมอ่ื เกิดกรณีเวยี ดนามรุกราน กมั พูชา ในปลายปี ค.ศ.1978 อาเซียนกไ็ ดแ้ สดงทา่ ทสี นบั สนุนให้ประชาชนกมั พชู ามสี ิทธิทีจ่ ะ
- 227 - ตดั สินอนาคตดว้ ยตนเองโดยปราศจากการแทรกแซงจากภายนอก ให้ถอนทหารตา่ งชาติออกจาก กมั พชู าท้งั หมดโดยเร็ว และไดเ้ สนอเรื่องปัญหากมั พชู าต่อคณะรฐั มนตรีความมน่ั คงของ สหประชาชาติ เม่อื สหภาพโซเวยี ตซ่ึงเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมน่ั คงไดย้ บั ย้งั อาเซียนก็ ไดน้ าเร่ืองเสนอตอ่ สมชั ชาใหญเ่ พ่ือให้ท่ีประชุมมีมตเิ รียกร้องให้ประเทศทีเ่ ก่ียวขอ้ งยตุ กิ ารสู้รบใน กมั พชู า และมมี ติใหค้ งที่นงั่ ของรฐั บาลกมั พูชาประชาธิปไตยในสมชั ชาใหญ่ไว้ การดาเนินการของ อาเซียนเพ่อื นาสนั ตภิ าพและความมน่ั คงกลบั มาสู่กมั พูชาเป็นเรื่องท่สี าคญั ยง่ิ เพราะกมั พชู ามี ดินแดนตดิ ต่อกบั ไทยซ่ึงเป็นประเทศในกลุม่ อาเซียน ดงั น้นั ความพยายามแกไ้ ขปัญหากมั พูชาจึงมี ตอ่ มาจนถึงปัจจุบนั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208