Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore powepoint MG

powepoint MG

Published by kanthikasaeng2561, 2018-11-20 09:19:34

Description: powepoint MG

Search

Read the Text Version

การจงู ใจ มีต่อหนา้ ถดั ไป

การจูงใจมีต่อหนา้ ถดั ไป

การจงู ใจ• ทฤษฏกี ารจงู ใจดว้ ยการใชก้ ารบรหิ ารงานโดยมี เป้ าหมายกระบวนการบรหิ ารงานโดยมเี ป้ าหมายหรอื วตั ถุ มี ลกั ษณะดงั นี้ 1. กาหนดโดยผูบ้ รหิ ารระดบั สงู ขององคก์ าร 2. ในทางปฏบิ ตั หิ รอื การลงมอื ทาตามแผน 3. การตดิ ตามผลงาน วดั ผลเป็ นระยะ

การเป็ นผูน้ า• ภาวะผูน้ า (Leadership) คอื การทบี่ คุ คลสามารถ ใชศ้ ลิ ปะในการโนม้ นา้ วจติ ใจผูอ้ นื่ ใหร้ ว่ มมอื รว่ มใจกนั ปฏบิ ตั งิ านใหบ้ รรลเุ ป้ าหมายทกี่ าหนดไวอ้ ย่างมี ประสทิ ธภิ าพ มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

การเป็ นผูน้ าแบบของผูน้ าตามแนวความคดิ ของ Edwiu B Fiippoไดข้ อ้ คดิ เห็นวา่ ควรแยกออกได ้ 2 ประเภทใหญ่ๆ คอื 1. ผูน้ าประเภทบวก (Positive Leadership) 2. ผูน้ าประเภทลบ (Negative Leadership) มีต่อหนา้ ถดั ไป

การเป็ นผูน้ า• 1. ผูน้ าเผด็จการ (Autocratic Leadership) มีต่อหนา้ ถดั ไป

การเป็ นผูน้ า• 2. ผนู้ าแบบประชาธปิ ไตย (Democratic Leadership) มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

การเป็ นผูน้ า• 3. ผูน้ าแบบเสรนี ิยม (Laissez – faire Leaders) มีต่อหนา้ ถดั ไป

การเป็ นผูน้ า มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

การเป็ นผูน้ า1. แบบเผด็จการหาผลประโยชน์2. แบบเผด็จการมศี ลิ ปะหรอื มเี มตตากรณุ า3. แบบปรกึ ษาหารอื4. แบบใหม้ สี ว่ นรว่ ม มีต่อหนา้ ถดั ไป

การเป็ นผูน้ า• แบบของผนู้ าตามความคดิ ของ William J. Reddin มีต่อหนา้ ถดั ไป

การเป็ นผูน้ า• แบบของผูน้ าตามแนวความคดิ ของ Tannenisaum & Scjomodt 1. ผูน้ าตดั สนิ ใจแลว้ แจง้ ใหผ้ ูใ้ ตบ้ งั คบั บญั ชาทราบ2. ผูน้ าใหผ้ ูใ้ ตบ้ งั คบั บญั ชายอมรบั ผลการตดั สนิ ใจของ ตน 3. ผูน้ าตดั สนิ ใจใหผ้ ูใ้ ตบ้ งั คบั บญั ชายอมรบั 4. ผูน้ าใหผ้ ูใ้ ตบ้ งั คบั บญั ชามสี ว่ นรว่ มบา้ งในการ ตดั สนิ ใจ 5. ผูน้ าใหผ้ ใู ้ ตบ้มีตงั อ่คหบันา้บถดัญั ไปชาเสนอความคดิ 6. ผูน้ าใหผ้ ูใ้ ตบ้ งั คบั บญั ชาเป็ นผตู้ กั สนิ ใจแกป้ ัญหา

การเป็ นผูน้ า• นักวชิ าการสมยั ใหม่ไดใ้ หร้ ปู แบบของผูน้ าเพมิ่ เตมิ ไว ้ ดงั นี้ มีต่อหนา้ ถดั ไป

การเป็ นผูน้ า• คณุ สมบตั ขิ องการเป็ นผนู ้ าทดี่ ี

การตดิ ตอ่ สอื่ สาร • ความหมายของการตดิ ตอ่ สอื่ สารการตดิ ตอ่ สอื่ สาร คอื กระบวนการนาความหมายในรปู ของความคดิ หรอื ขา่ วสาร การประชาสมั พนั ธ ์ จาก บคุ คลหนึ่งไปยงั บคุ คลอนื่ มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

การตดิ ตอ่ สอื่ สาร• ประเภทของการตดิ ตอ่ สอื่ สาร มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

การตดิ ตอ่ สอื่ สาร• ประเภทของการตดิ ตอ่ สอื่ สาร มีต่อหนา้ ถดั ไป

การตดิ ตอ่ สอื่ สาร มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

การตดิ ตอ่ สอื่ สาร มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

การติดต่อสื่อสาร• รูปแบบของสายใยการตดิ ตอ่ สื่อสาร มีต่อหนา้ ถดั ไป

การตดิ ตอ่ สอื่ สาร• อปุ สรรคของการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

การตดิ ตอ่ สอื่ สาร • ประโยชนข์ องการตดิ ตอ่ สอื่ สาร1.ชว่ ยใหก้ ารวนิ ิจฉัยสง่ั การเป็ นไปอยา่ งรวดเรว็ 2.ชว่ ยใหเ้ กดิ การประสานงานทดี่ ี 3.ชว่ ยใหก้ ารควบคมุ งานไดผ้ ลดยี งิ่ ขนึ้ 4.ชว่ ยใหเ้ กดิ ความสามคั คใี นหมู่คณะ5.สามารถเก็บขอ้ มูลและขา่ วสารไวเ้ ป็ นหลกั ฐาน มีต่อหนา้ ถดั ไป

การตดิ ตอ่ สอื่ สาร• หลกั ในการตดิ ตอ่ สอื่ สารอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ1.จะมรี ะบบ ระเบยี บของการสอื่ สารในองคก์ าร 2.สายการตดิ ตอ่ ระหวา่ งผูส้ ง่ และผูร้ บั ควรมี ลกั ษณะตรงและสน้ั 3.ถา้ เป็ นเรอื่ งสาคญั ใหใ้ ชส้ อื่ ทเี่ ป็ นลายลกั ษณ์ อกั ษร 4.ใชก้ ารตดิ ตอ่ แบบสองทาง ถา้ แลกเปลยี่ น ขา่ วสารทงั้ ผูส้ ง่ และรบั 5.องคก์ ารชว่ ยอานวยความสะดวก ในเรอื่ ง

การประสารงาน • ความหมายการประสานงานการประสานงาน (Coordinating) คอื การจดั ระเบยี บ การทางานและการตดิ ตอ่ กนั เพอื่ ใหพ้ นักงานและเจา้ หนา้ ทฝี่ ่ ายตา่ ง ๆ รว่ มมอื ปฏบิ ตั งิ าน ไมท่ าใหง้ าน ซอ้ นกนั เพอื่ ใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านดาเนินไปโดยรวดเรว็ ประหยดั และมปี ระสทิ ธภิ าพ มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

การประสารงาน • ลกั ษณะของการประสานงาน 1.เรอื่ งทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ความรว่ มมอื รว่ มใจ2.เรอื่ งทเี่ กยี่ วกบั การจดั งานใหส้ อดคลอ้ งกนั 3.เรอื่ งเกยี่ วกบั เทคนิคการบรหิ าร มีต่อหนา้ ถดั ไป

การประสานงาน• วธิ กี ารประสานงาน มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

การประสานงาน• หลกั สาคญั ในการประสานงาน

หน่วยที่ 7 การควบคมุ (Controlling)



ความหมายของการควบคมุ • เป็ นกจิ กรรมอยา่ งหนึ่งในการจดั การ และเป็ นกจิ กรรมทขี่ าดเสยี มไิ ดเ้ พราะถา้ ไม่มกี ารควบคมุ แลว้ งานอาจไม่สาเรจ็ ได ้ โดยมกี ารเปรยี บเทยี บว่า การควบคมุ งานเปรยี บเสมอื นนายทา้ ยเรอื จบั หางเสอื ให ้เรอื ไปตามจดุ หมาย หรอื การทคี่ นขบั รถจบั พวงมาลยั ใหร้ ถเลยี้ วไปตามถนน การควบคมุ จะเกยี่ วขอ้ งกบั แผนงานอยา่ งใกลช้ ดิ

วตั ถปุ ระสงคใ์ นการควบคมุ เพอื่ ใหง้ านมมี าตรฐาน เพอื่ ป้ องกนั ทรพั ยส์ นิ และอปุ กรณส์ านักงาน เพอื่ จงู ใจและกระตนุ ้ ใหพ้ นักงานในหน่วยงานเพอื่ การตรวจสอบการบรหิ ารหน่วยงานในเรอื่ งตา่ ง เพอื่ วดั ผลการปฏบิ ตั งิ านใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพและเกดิ ประสทิ ธผิ ล

กระบวนการในการควบคมุ 1. การพจิ ารณาวตั ถปุ ระสงค ์(objectives) 2. การกาหนดมาตรฐาน (standards) 3. การวดั ผลงาน (measuring) 4. การเปรยี บเทยี บ (comparing) 5. การดาเนินการแกไ้ ข (correcting)

ความสาคญั ของการควบคมุ• การควบคมุ เป็ นสงิ่ จาเป็ นและเป็ นสงิ่ สรา้ งสรรคส์ งั คม• การควบคมุ เป็ นสงิ่ ชแี้ นวทางใหก้ บั พฤตกิ รรมของคน• ทาหนา้ ทชี่ ว่ ยชบี้ อกปัญหาโดยเป็ นเครอื่ งมอื ในการ วดั และตรวจสอบผลงานอยา่ งสม่าเสมอ• ระบบการควบคมุ ชว่ ยใหอ้ งคก์ ารสามารถแกไ้ ข ปัญหา ความไม่แน่นอนทอี่ งคก์ ารทเี่ ผชญิ อยไู่ ด ้



ลกั ษณะของการควบคมุ ทดี่ ี 1. การควบคมุ ควรจะตอ้ งประหยดั 2. การควบคมุ จะตอ้ งสามารถถา่ ยงานได ้ รวดเรว็ 3. การควบคมุ จะตอ้ งเนน้ ถงึ สว่ นสาคญั ของผลงาน 4. การควบคมุ จะตอ้ งสามารถเขา้ ใจง่าย 5. การควบคมุ จะตอ้ งเป็ นทยี่ อมรบั

ประโยชนข์ องการควบคมุ ทดี่ ี 1.การควบคมุ ทาใหผ้ งั งานมมี าตรฐาน 2.การควบคมุ ชว่ ยใหท้ รพั ยากรขององคก์ รไม่ตอ้ งสญู หาย3.การควบคมุ ชว่ ยรกั ษาสภาพงานใหต้ รงตามทกี่ าหนด ไว ้4.การควบคมุ ชว่ ยใหผ้ บู้ รหิ ารสามารถใชว้ ธิ มี อบหมาย งานไดม้ ากขนึ้ 5.การควบคมุ ชว่ ยใหอ้ งคก์ รสามารถวดั ประสทิ ธภิ าพ ของการปฏบิ ตั งิ าน ่

เครอื่ งมอื ในการควบคมุ• 1.การควบคมุ โดยงบประมาณการควบคมุ โดยงบประมาณ คอื การควบคมุ เกยี่ วกบัประมาณการรายไดแ้ ละประมาณการรายจา่ ยตามที่กาหนดไวใ้ นงบประมาณ มหี ลายวธิ ี ดงั นี้

1.1 วธิ กี ารควบคมุ โดยงบประมาณ 1.2 การควบคมุ โดยใช ้ PERT 1.3 การควบคมุ โดยใชแ้ กนทช์ ารท์ 1.4 การควบคมุ โดยใชแ้ บบฟอรม์ 1.5 การควบคมุ โดยใชร้ ายงาน 1.6 การใชก้ ลมุ่ คณุ ภาพ (QCC) ในการควบคมุ งาน มีต่อหนา้ ถดั ไป

1.1 วธิ กี ารควบคมุ โดยงบประมาณ• การควบคมุ โดยงบประมาณมวี ธิ กี าร และเครอื่ งมอื ดาเนินการดงั นี้ งบประมาณการเงนิ การวเิ คราะหอ์ ตั ราสว่ น การวเิ คราะหจ์ ดุ คมุ ้ ทนุ มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

1.งบประมาณการเงนิงบประมาณการเงนิ จะควบคมุ เกยี่ วกบั สภาพคลอ่ งตวัทางการเงนิ และฐานะทางการเงนิ ของกจิ การ ไดแ้ ก่ 1.1 งบดลุ 1.2 งบกาไรขาดทนุ 1.3งบกระแสเงนิ สด มีต่อหนา้ ถดั ไป

2. การวเิ คราะหอ์ ตั ราสว่ นเป็ นกระบวนการเปรยี บเทยี บการทางานขององคก์ ารดว้ ยการอาศยั การทางานทผี่ ่านมาของคแู่ ขง่ ขนัวเิ คราะหส์ งิ่ ทแี่ ตกตา่ งทางการเงนิ ทสี่ าคญั คอื 2.1 อตั ราสว่ นสภาพคล่อง 2.2 อตั ราสว่ นหนีส้ นิ 2.3 อตั ราสว่ นในการทากาไร 2.4 ระบบการควบคมุ สนิ คา้ คงคลงั มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

3.การวเิ คราะหจ์ ดุ คมุ้ ทนุคอื จดุ ทรี่ ายไดต้ ดั กบั จดุ ตน้ ทนุ เป็ นการแสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคา่ ใชจ้ า่ ย ยอดขาย และกาไรการวเิ คราะหจ์ ดุ คมุ ้ ทนุ เป็ นเครอื่ งมอื ใชท้ ง้ั ดา้ นการวางแผนและการควบคมุ งาน มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

2. การควบคมุ โดยใช ้ PERTวธิ กี าร PERT ตงั้ อยบู่ นแนวความคดิ ทสี่ าคญั 2 ประการ คอื2.1 แผนงานหรอื โครงการใดก็ตามมตี วั แปรเปลยี่ นอยู่ 3 ประการ คอื เวลา ทรพั ยากรอนื่ และรายละเอยี ดของงาน มีต่อหนา้ ถดั ไป

• 2.2 ขน้ั ตอนการดาเนินงานของ PERT - กาหนดวตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการใหแ้ น่ชดั - จดั ทาโครงรา่ งการจาแนกงาน - นางานทจี่ าแนกไวเ้ รยี งลาดบั กจิ กรรมให ้สมั พนั ธก์ นั - ประมาณเวลาทง้ั 3 ประการแลว้ เสรจ็ - ใหเ้ ลขรหสั แกเ่ หตกุ ารณเ์ รยี งตามลาดบั - คานวณหาเวลาทคี่ าดหวงั วา่ กจิ กรรมจะ มีต่อหนา้ ถดั ไป

3.การควบคมุ โดยใชแ้ กนทช์ ารท์ การควบคมุ โดยใชแ้ กนทช์ ารท์ ตารางแกนท ์ เป็ น เครอื่ งมอื ในการควบคมุ ซงึ่มลี กั ษณะเป็ นตารางเสน้ ตรง กาหนดเวลาในอนาคตไว ้ ตามแนวนอน มีต่อหนา้ ถดั ไป

4. การควบคมุ โดยใชแ้ บบฟอรม์การควบคมุ โดยการใชแ้ กนทช์ ารท์ สามารถนาไปใช ้ประโยชนเ์ พอื่ เป็ นแนวทางในการควบคมุ คาสง่ั ตา่ ง ให ้ไดร้ บั การปฏบิ ตั ติ าม และเพอื่ ใชใ้ นการสารวจงานคา่ ใชจ้ า่ ยของงานนั้น ตลอดจนเป็ นหลกั ฐานในการประเมนิ ผลงานของพนักงานแตล่ ะคนดว้ ย มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

5.การควบคมุ โดยใชร้ ายงานการควบคมุ โดยใชร้ ายงาน เป็ นสงิ่ จาเป็ นของผูบ้ รหิ ารใน การชว่ ยปรบั ปรงุ และตดิ ตามการปฏบิ ตั งิ านของผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชา มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

6.การใชก้ ลมุ่ คณุ ภาพ (QCC) ในการ ควบคมุ งาน QCC หมายถงึ พนักงานกลมุ่ เล็ก ซงึ่ สงั กดั ในหน่วยงานเดยี วกนั ประชมุ ปรกึ ษาหารอื กนั เป็ นประจา มีตอ่ หนา้ ถดั ไป

6.1 แนวความคดิ พนื้ ฐานของ QCC มี ดงั นี้ • เพอื่ ใหท้ กุ คนมสี ว่ นชว่ ยเหลอื ในการพฒั นา • เพอื่ ทจี่ ะสรา้ งสรรคห์ น่วยงานในเป็ นสถานที่• เพอื่ ใหค้ วามสามารถของมนุษยไ์ ดถ้ กู แสดงใหอ้ อกมา อยา่ งเต็มที่ มีต่อหนา้ ถดั ไป

6.2กจิ กรรมกลมุ่ 4 อยา่ ง • สมาชกิ ตอ้ งมารวมกลมุ่ กนั • สมาชกิ เขา้ ใจซงึ่ กนั และกนั • สมาชกิ ตอ้ งทางานรว่ มกนั • สมาชกิ มคี วามสมั พนั ธก์ นั มีตอ่ หนา้ ถดั ไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook