Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Management2

Management2

Published by kanthikasaeng2561, 2018-11-21 10:37:44

Description: Management2

Search

Read the Text Version

บุคคลท่เี ก่ยี วข้องกับการวางแผน1.การวางแผนเป็นเรื่องท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั ผบู้ ริหารทุกคน2.เจา้ หนา้ ที่ฝ่ ายวางแผน3.ประโยชนท์ ี่จะไดจ้ ากการอาศยั ผอู้ ยใู่ ตบ้ งั คบั บญั ชาในการวางแผน

ส่วนประกอบของโครงการ1.ช่ือโครงการ 7.สถานที่ดาเนินงาน2.ช่ือหน่วยงานเจา้ ของโครงการ 8.วิธีดาเนินการ3.หลกั การและเหตูผล 9.แผนปฏิบตั ิการ4.จุดมุ่งหมายหรือวตั ถุประสงค์ 10.งบประมาณ5.เป้าหมาย6.ระยะเวลา 11.การประเมินผลโครงการ 12.ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ

ข้อแนะนาสาหรับการวางแผน ท่มี ปี ระสิทธิภาพ1. ตอ้ งพยายามระบุจุดมุ่งหมายใหช้ ดั เจน เขา้ ใจง่าย2. ตอ้ งมีการกาหนดวตั ถุประสงคใ์ หช้ ดั เจน3. ตอ้ งมีการทาท้งั แผนระยะยาวและแผนระยะส้นั4. พยายามใหท้ ุกฝ่ ายมีส่วนร่วมในการวางแผนใหม้ ากที่สุดเท่าท่ีจะทาได้5. พยายามคน้ หาทางเลือกท่ีจะเป็นแผนที่ดี6. หมน่ั พิจารณาตรวจสอบปัญหา7. รับรู้ขอ้ จากดั และความไม่แน่นอน

ขข้อ้อแแนนะะนนาาสสาาหหรรับับกกาารรววาางงแแผผนน ทท่มี ่มี ีปปี รระะสสทิ ทิ ธธิภิภาาพพ8. พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมรายละเอียดในแผน9. ตอ้ งมีการประสานแผนงานอยา่ งดีระหวา่ งหน่วยงาน10. กาหนดมาตรการที่จะใชว้ ดั และติดตามผลการปฏิบตั ิตามแผน11. ตอ้ งใหแ้ ผนงานมีความคล่องตวั และเปล่ียนแปลงไดต้ ามสภาวะ

โชคดที กุ คนค่ะ

หนว่ ยที่ 4 การจดั องคก์ าร (Organizing)

ความหมายองค์กร การจัดองค์การ โครงสร้างองค์กรประเภทองค์กร หลกั การจดั องค์กร การจดั แผนกงาน ความหมาย ขนั้ ตอนการ การมอบหมายงาน การจดั องค์กร จดั องค์กร การรวมและการ ความสาคญั แผนภมู ิองค์กร กระจายอานาจของการจดั องค์กร

..ความหมายขององคก์ าร.. องคก์ าร คอื การที่บคุ คลรวมกลมุ่ กนั เพ่ือทากจิ กรรมหรืองานของหนว่ ยงานเพ่อื ใหก้ ารดาเนนิ การบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคท์ ก่ี าหนดไว้

..ประเภทขององคก์ าร..• สามารถแบ่งออกเป็ น 2 ลกั ษณะ ดงั น้ี 1. องคก์ ารขน้ั ปฐม และมธั ยม 1.1 องคก์ ารขนั้ ปฐม (Primary Organization)คือ การท่ี เกดิ ขน้ึ โดยธรรมชาติ ทมี่ ใิ ชเ่ กดิ จากการจดั ตงั้ ขนั้ โดย มนษุ ย์ 1.2 องคก์ ารขนั้ มธั ยม (Secondary Organization) คอื องคก์ ารที่จดั ขน้ั มาเพอื่ สนองความตอ้ งการของ สมาชกิ และบคุ คลภายนอก

..ประเภทขององคก์ าร..(ต่อ)• 2. องคก์ ารเป็ นทางการและไมเ่ ป็ นทางการ 2.1 องคก์ ารเป็ นทางการ (Formal Organization) คอื องคก์ ารทม่ี โี ครงสรา้ งมกี ฎเกณฑ์ ระเบียบ 2.2 องคก์ ารที่ไมเ่ ป็ นทางการ (Informal Organization) คอื องคก์ ารทีเ่ กดิ ขน้ึ ดว้ ยความสมคั รใจของสมาชกิ ไมม่ ี กฎเกณฑ์

..ความหมายของการจดั องคก์ าร.. การจดั องคก์ าร คือ ความพยายามของผบู้ ริหารท่จี ะกาหนดแนวทางการปฏิบตั งิ านตา่ งๆ ภายในองคก์ ารใหม้ ีระบบงานอยา่ งตอ่ เนอื่ ง เพ่ือที่จะดาเนนิ การปฏิบตั งิ านให้บรรลผุ ลตามวตั ถปุ ระสงคท์ ีก่ าหนดไว้

ความสาคญั ของการจดั การองคก์ าร1. โครงสรา้ งอานาจหนา้ ท่ี และความรบั ผดิ ชอบ ซ่ึงเป็ นกลยทุ ธใ์ หม้ นษุ ยร์ จู้ กั หนา้ ทต่ี นเอง2. แนวทางในการดาเนนิ งาน และเอื้ออานวยการใหแ้ ผนที่ ที่วางไวส้ มั ฤทธ์ิผล3. ชว่ ยใหผ้ ปู้ ฏิบตั งิ านทราบขอบเขตที่ตนเองปฏิบตั ิ4. ป้ องกนั การทางานซา้ ซอ้ นและขจดั ขอ้ ขดั แยง้ ในหนา้ ท่งี าน5. ชว่ ยในการประสานหนา้ ที่งานตา่ งๆ โดยการกาหนดขอบเขต และจดั กลมุ่ งานใหม้ ี ความสมั พนั ธก์ นั ในสว่ นงานยอ่ ยเดยี วกนั 6. ชว่ ยในการจดั วางชอ่ งทางในการตดิ ตอ่ สือ่ สาร และการตดั สินใจ 7. ชว่ ยลดความสบั สนตา่ งๆ

..บทบาทของการจดั การองคก์ าร..1. จดุ ประสงคข์ ององคก์ ารและการวางแผนงาน2. กจิ กรรมที่องคก์ ารตอ้ งปฏิบตั แิ ละหนา้ ที่หลกั ขององคก์ าร3. ทาความเขา้ ใจเกยี่ วกบั ขอบเขตของอานาจ หนา้ ที่ กฎ ระเบียบ4. พยายามปรบั เปลีย่ นองคก์ ารใหเ้ ป็ นไปตามสมยั โลกาภวิ ฒั น์

..หลกั การจดั องคก์ าร..- การกาหนดหนา้ ที่- การแบ่งงาน- สายงานหลกั หรือสายงานทีป่ รกึ ษา- สายงานบงั คบั บญั ชา- ชว่ งการควบคมุ

..ขนั้ ตอนการจดั องคก์ าร..1. การกาหนดรายละเอียดงาน2. การแบง่ งานใหบ้ คุ คลในองคก์ ารทาตามความรู้3. การประสานงาน

..แผนภมู ิองคก์ าร.. เป็ นเครื่องมอื ทีช่ ว่ ยใหเ้ ขา้ ใจโครงสรา้ งของ องคก์ ารอานาจหนา้ ที่ความรบั ผดิ ชอบ ตลอดจนสายงานบงั คบั บญั ชาในองคก์ ารนน้ั ๆ แผนภมู อิ งคก์ ารแสดงใหเ้ ห็นถึงหนว่ ยงานย่อยๆ ในองคก์ าร รวมทง้ั ความสาคญั ของหนว่ ยงานย่อยๆตา่ งๆ ในองคก์ ารทีเ่ กย่ี วขอ้ งกนั

..ประโยชนข์ องแผนภมู ิ..1. ทาใหพ้ นกั งานในองคก์ ารทราบวา่ ตนอยู่ ณ ตาแหนง่ ใด ทา หนา้ ทอี่ ะไร2. ทาใหท้ ราบสายการบงั คบั บญั ชา และการตดิ ตอ่ สื่อสารวา่ ใครเป็ นผสู้ งั่ การ3. แสดงใหเ้ ห็นถึงลกั ษณะการจดั แผนกงานในองคก์ าร 4. ทาใหผ้ มู้ าตดิ ตอ่ กบั องคก์ าร ทราบขอ้ มลู วา่ จะตอ้ งไป ตดิ ตอ่ แผนกใด อย่ตู รงไหน

..ประโยชนข์ องแผนภมู ิ..(ต่อ)5. ลดความสบั สนตา่ ง ๆ ใหก้ บั ผปู้ ฏิบตั งิ านในองคก์ าร6. มปี ระโยชนต์ อ่ ผบู้ ริหาร ผปู้ ฏิบตั งิ าน และองคก์ าร7. ชว่ ยในการจดั ชอ่ งทางในการตดิ ตอ่ ส่ือสารและการตดั สินใจ8. กอ่ ใหเ้ กดิ ความพงึ พอใจในการปฏิบตั งิ านและลดความขดั แยง้9. ทาใหท้ ราบถึงกระบวนการในการประสานงานไดด้ ี

..ประเภทของแผนภมู ิองคก์ าร..แบ่งออกเป็ น 3 ประเภท คือ 1.แผนภมู อิ งคก์ ารแนวดงิ่ 2.แผนภมู อิ งคก์ ารแนวราบ 3.แผนภมู อิ งคก์ ารแบบวงกลม

..ประเภทของแผนภมู ิองคก์ าร..• แผนภมู ิองคก์ ารแนวดิ่ง ท่ีประชุมผ้ถู อื หุ้น คณะกรรมการบริษัท กรรมการผู้จดั การ สานักผู้จดั การ รองกรรมการผู้จดั การฝ่ ายบริหาร ฝ่ ายผลติ ฝ่ ายการตลาด ฝ่ ายการเงิน ฝ่ายบคุ คลแผนกตา่ ง ๆ วศิ วกรรม เคมี สง่ เสริม ขาย บญั ชี รับ-จ่าย สรรหา คา่ จ้างพนกั งาน พนกั งาน พนกั งาน พนกั งาน พนกั งาน

..ประเภทของแผนภมู ิองคก์ าร..• แผนภมู ิองคก์ ารแนวราบ การเงนิ ผลติ ภณั ฑ์ การเงนิ โรงงาน ผู้จัดการ เคมี บุคคล ขายคณะกรรมการ บริหาร บุคคล ผลติ ภณั ฑ์ การเงนิ โรงงาน โลหะ บุคคล ขาย

..ประเภทของแผนภมู ิองคก์ าร..• แผนภมู ิองคก์ ารแบบวงกลม โลหะ บญั ชี พลาสตกิเคมี ฝ่ ายการเงนิ ฝ่ ายผลิต รองผ้จู ดั การ รับ-จ่าย รองผู้จัดการ ผู้จัดการ ฝ่ ายบุคคล ฝ่ ายการตลาดขาย วิจัย บริการ

..โครงสรา้ งขององคก์ าร..1. โครงสรา้ งองคก์ ารแบบงานหลกั2. โครงสรา้ งองคก์ ารแบบงานหลกั และงานที่ปรึกษา3. โครงสรา้ งองคก์ ารแบบหนา้ ทง่ี านเฉพาะ4. การจดั โครงสรา้ งขององคก์ ารแบบคณะกรรมการ5. โครงสรา้ งองคก์ ารแบบแมทริกซ์

..โครงสรา้ งขององคก์ าร..• 1. โครงสรา้ งองคก์ ารแบบงานหลกั ผู้อานวยการฝ่ ายผลิต ฝ่ ายการเงนิ ฝ่ ายขาย ฝ่ ายบุคคลพนักงาน พนักงาน พนักงาน พนักงาน

..โครงสรา้ งขององคก์ าร..• 2. โครงสรา้ งองคก์ ารแบบงานหลกั และงานที่ปรึกษา ผู้จัดการใหญ่ฝ่ ายตรวจสอบ ฝ่ ายวางแผนและวจิ ัยฝ่ ายผลิต ฝ่ ายการตลาด ฝ่ ายการเงนิ ฝ่ ายบุคคลวศิ วกรรม เคมี โกดงั รับ-จ่าย บัญชีภาคกลาง ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคใต้ สรรหา ค่าจ้าง แรงงานสัมพนั ธ์

..โครงสรา้ งขององคก์ าร..• 3. โครงสรา้ งองคก์ ารแบบหนา้ ท่ีงานเฉพาะ ผู้จัดการใหญ่ผู้จัดการฝ่ ายผลิต ผู้จัดการฝ่ ายการตลาดฝ่ ายโรงงาน ฝ่ ายการเงนิ ฝ่ ายจัดซือ้ วจิ ัยตลาด ฝ่ ายจัดซือ้ ฝ่ ายขาย

..โครงสรา้ งขององคก์ าร..• 4. การจดั โครงสรา้ งขององคก์ ารแบบคณะกรรมการ ท่ปี ระชุมผู้ถอื หุ้น คณะกรรมการบริษัท กรรมการผู้จดั การ สานักผ้จู ัดการ รองกรรมการผ้จู ัดการฝ่ ายบริหาร ฝ่ ายผลติ ฝ่ ายการตลาด ฝ่ ายการเงิน ฝ่ายบคุ คลแผนกตา่ ง ๆ วิศวกรรม เคมี สง่ เสริม ขาย บญั ชี รับ-จ่าย สรรหา คา่ จ้างพนกั งาน พนกั งาน พนกั งาน พนกั งาน พนกั งาน

..โครงสรา้ งขององคก์ าร..• 5. โครงสรา้ งองคก์ ารแบบแมทริกซ์ คณะกรรมการอานวยการ กรรมการผู้จดั การ หน่วยตรวจสอบภายใน ผู้อานวยการ ผู้อานวยการ ผู้อานวยการ ผ้อู านวยการ ฝ่ ายการเงนิ ฝ่ ายการผลิต ฝ่ ายการตลาด ฝ่ ายการบุคคล ผ้จู ัด ผู้จัด ผ้จู ัดการ ผู้จดั การ ผู้จัดการ ผู้จดั การ การ การ ควบคุม เขต เขต เขต ฝ่ ายซือ้ โรงงาน คุณภาพ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคเหนือหวั หน้า หวั หน้า หวั หน้า หวั หน้า หวั หน้า หวั หน้าแผนก แผนก แผนก แผนก แผนก แผนกบัญชี งบประมาณ สนิ เช่อื สรรหาบุคคล พฒั นาบุคคล ความปลอดภยั

การจดั แผนกงาน การจดั แผนกงานเป็ นการจดั หมวดหมขู่ องงานหรือกิจกรรมการทางานต่าง ๆ ที่เหมือนกันเขา้ มารวมกันเพ่ือใหง้ านดาเนินไปอย่างเป็ นระบบตามสายงาน ต้องคานงึ ถึงในการจดั แผนกงานดงั นี้

ประโยชนอ์ นั พึงได้* การพจิ ารณาดา้ นค่าใชจ้ า่ ย* การทาใหบ้ คุ คลสนใจตอ่ หนา้ ที่การงาน* ความสะดวกในการประสานงาน* การแบง่ หนา้ ท่ีความรบั ผดิ ชอบโดยชดั เจน

ประเภทของการจดั แผนกงาน1. การจดั แผนกงานโดยการแบ่งหนา้ ที่จานวนคนงานใหเ้ ทา่ กัน2. การจดั แผนกงานโดยแบ่งตามหนา้ ที่ปฏิบตั ิ3. การจดั แผนกงานโดยพิจารณาถึงผลติ ภณั ฑ์4. การจดั แผนกงานโดยพิจารณาพ้ืนทีต่ ง้ั5. การจดั แผนกงานตามกระบวนการผลิต6. การจดั แผนกงานตามประเภทลกู คา้ 7. การจดั แผนกงานตามแผนงานหรือโครงการ 8. การจดั แผนกงานแบบผสม

การมอบหมายงาน การมอบหมายงาน คอื วิธกี ารท่ีผบู้ ริหารกาหนดอานาจหนา้ ท่ีและความรบั ผดิ ชอบใหแ้ ผู้ใตบ้ งั คบั บญั ชาถดั ไป และเป็ นการสรา้ งภาระหนา้ ที่ดา้ นการปฏิบตั งิ าน

หลกั ในการมอบหมายงาน*การกาหนดขอบเขตและอานาจหนา้ ที่* ควรกาหนดวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเป้ าหมาย* การรวมอานาจและกระจายอานาจ* อานาจหนา้ ที่ ภาระหนา้ ที่

ประโยชนข์ องการมอบหมายงาน* ชว่ ยลดภาระของผบู้ ริหารระดบั สงู* ชว่ ยในการพฒั นาผใู้ ตบ้ งั คบั บัญชา* เป็ นการสรา้ งขวญั และกาลงั ใจทด่ี แี กพ่ นกั งาน* ชว่ ยใหม้ กี ารกระจายอานาจในการปฏบิ ตั ิงาน* เป็ นการสรา้ งความรบั ผดิ ชอบใหก้ บั พนกั งาน* ชว่ ยสรา้ งความสาเร็จในการปฏบิ ตั ิงาน

การมอบอานาจหนา้ ที่ การมอบอานาจหนา้ ท่ี หมายถึง การที่หวั หนา้ งานหรือผบู้ งั คบั บญั ชามอบหมายหนา้ ที่ความรบั ผดิ ชอบ ตลอดจนอานาจหนา้ ทท่ี ่ีจาเป็ นใหแ้ กผ่ ปู้ ฏิบตั ิ

การรวมอานาจและการกระจายอานาจ• การรวมอานาจหนา้ ท่ี หมายถึง การบริหารแบบ การตดั สนิ ใจในสว่ นใหญ่กระทาโดยผบู้ ริหารระดบั รองๆ ลงไป• การกระจายอานาจ หมายถึง การพิจารณา เก่ยี วกบั ขนาดของการมอบหมายอานาจหนา้ ท่ีกระทา โดยผบู้ ริหารระดบั สงู ไปสรู่ ะดบั ทตี่ า่ กว่าในองคก์ าร

…สวสั ดีคะ่ ...

บทท5ี่ การบรหิ ารทรพั ยากรมนุษย ์<Human Resource Management>



ความหมายของการบรหิ ารทรพั ยากรมนุษย ์ การบริหารทรัพยากร หมายถึง กระบวนการในการตัดสินใจเก่ียวกับการบริหารบุคคลทุกระดับในองค์การ เพ่ือให้ได้มาซึ่ งทรัพยากรบุคคลที่มีคณุ ภาพโดยเริ่มตน้ ตั้งแต่การสรรหา คัดเลือกบรรจแุ ต่งตั้ง การเล่ือนขน้ั เล่ือนตาแหน่งของบคุ คลในองค์การ การฝึ กอบรมและการพัฒนาบุคลากรเพิ่มความรเู้ พื่อการปฏิบัติงานให้บรรลเุ ป้ าหมายโดยรวมถึงพน้ ออกจากงาน พรอ้ มทั้งดแู ลผลประโยชน์ตอบแทนของบคุ ลากรในองคก์ าร

วตั ถปุ ระสงคข์ องการบรหิ ารทรพั ยากรมนุษย ์1. เพ่ือใหไ้ ดบ้ คุ คลเขา้ มาทางานในตาแหนง่ งานนนั้ ๆ2. เพื่อเป็ นการจดั บคุ คลเขา้ ทางานใหเ้ หมาะสมกบั งาน3. เพ่ือใหก้ ารดาเนนิ งานขององคก์ ารบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคห์ รือ เป้ าหมายตามท่ีกาหนดไว้

การวางแผนทรพั ยากรมนุษย ์การวางแผนทรัพยากรมนษุ ย์ คือ กระบวนการท่ีกาหนดหรือระบุความตอ้ งการกาลังคน รวมทั้งวิธีการท่ีจะทาใหไ้ ดม้ าซ่ึงกาลังคนท่ีตอ้ งการ โดยมสี ว่ นประกอบสาคญั 4 ประการ คือ1. กระบวนการ2. การคาดการณ์3. วิธีปฏิบตั ิ4. องคก์ ารและบคุ ลากร

ความสาคญั ของการวางแผนทรพั ยากรมนุษย ์โดยจาแนกเหตผุ ลความจาเป็ นในการวางแผนทรพั ยากรมนษุ ย์ออกเป็ น4 ประการคอื1. เพ่ือรองรบั การเปลย่ี นแปลง ปัจจบุ นั การปฏิบตั งิ านในองคก์ ารตา่ งๆ2. เพ่ือใหอ้ งคก์ ารมคี วามพรอ้ มในเม่ือมกี ารเปลย่ี นแปลง3. เพื่อใหอ้ งคก์ ารมแี นวทางในการปฏิบตั งิ าน ในการบริหารทรพั ยากรมนษุ ยจ์ ะเป็ นกจิ กรรมตา่ งๆที่เกีย่ วขอ้ งกบั บคุ ลากร4. เพ่ือใหไ้ ดบ้ คุ ลากรท่ีมคี ณุ ภาพ

ประโยชนข์ องการวางแผนทรพั ยากรมนุษย ์• 1. ชว่ ยใหผ้ บู้ ริหารสามารถใชค้ นใหเ้ หมาะกบั งาน• 2. ผบู้ ริหารสามารถสงั่ การใหป้ ฏิบัติตามแนวทางอันเดียวกันในดา้ น บคุ คล• 3. ผู้บริหารสามารถพัฒนาบุคคลได้ตามความจาเป็ นของงาน ความกา้ วหนา้• 4. ผบู้ ริหารสามารถท่ีจะขยายงานตามความจาเป็ นและสามารถ ปรบั ปรงุ การดาเนนิ งานขององคก์ ารไดอ้ ย่างคลอ่ งตวั• 5. ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชา สามารถปฏิบตั งิ านไดต้ ามภาระความรบั ผดิ ชอบที่ตนไดร้ บั

กระบวนการในการบรหิ ารทรพั ยากรมนุษย ์• 1. ศึกษานโยบายและแผนขององคก์ าร กาลงั คนเป็ นทรพั ยากร อยา่ งหนงึ่ ท่ีจะทาใหอ้ งคก์ ารมผี ลงานตามวตั ถปุ ระสงคข์ ององคก์ าร ดงั นน้ั การท่จี ะสามารถวางแผนกาลงั คนจะตอ้ งใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายและแผนงานขององคก์ าร• 2. การตรวจสภาพกาลงั คน หมายถึง การคน้ หาอยา่ งเป็ นระบบ เกีย่ วกบั สภาพกาลงั ทมี่ อี ยใู่ นองคก์ าร 2.1.การวิเคราะหง์ านแตล่ ะตาแหนง่ 2.2.การทาบญั ชรี ายการทกั ษะ 2.3.ศึกษาสภาพของความเคล่อื นไหวภายใน มตี อ่ หนา้ ถดั ไป

• 3.การพยากรณค์ วามตอ้ งการของกาลงั คน การพยากรณค์ วาม ตอ้ งการกาลงั คนคลา้ ยคลงึ กบั การตรวจสภาพกาลงั คน 3.1.ปริมาณการผลติ 3.2.การเปลยี่ นแปลงทางเทคโนโลยี 3.3.อปุ สงคแ์ ละอปุ ทานของแรงงาน 3.4.การวางแผนอาชพี ใหแ้ กพ่ นกั งาน• 4.การเตรียมหาคนสาหรบั อนาคต การเตรียมหาคนเพ่ือสนองตอบ ความตอ้ งการในอนาคต อาจจะทาไดห้ ลายทาง ดงั น้ี 4.1.การฝึ กอบรมและพฒั นาพนกั งานท่ีมอี ยู่ 4.2.การสรรหาและการคดั เลือก

การสรรหาบคุ คลเขา้ งานการสรรหาบคุ คล หมายถึง กระบวนการในการสรา้ งความดงึ ดดู ใจหรือสรา้ งความสนใจใหก้ บั บคุ คล ท่ีมคี ณุ สมบตั เิ หมาะสม1. จากแหล่งภายในองคก์ าร ภายในองคก์ ารจะมบี คุ คลมากมาย บางคนมคี วามรคู้ วามสามารถสงู กว่าตาแหนง่ ดงั นน้ั การเสาะหาคนเขา้ ทางานในตาแหนง่ ว่างก็อาจพิจารณาจากพนกั งานท่ีมอี ยแู่ ลว้2. จากแหลง่ ภายนอกองคก์ าร การสรรหาบคุ คลจากแหลง่ ตา่ งๆที่อย่นู อกองคก์ ารเขา้ ทางานไดแ้ ก่ มตี อ่ หนา้ ถัดไป

2.1. จากหนว่ ยงานที่มคี นงานทาอย่แู ลว้ ในหนว่ ยงานตา่ งๆก็จะมีคนท่มี ีความสามารถทางานอยู่ ถา้ หากเห็นว่ามผี ทู้ ่ีเหมาะสมอย่ใู นหน่วยงานนน้ั เราก็อาจจะชกั จงู โดยการเสนอตาแหนง่ และเงนิ เดอื น2.2. จากสถาบนั การศึกษาทง้ั ภายในและตา่ งประเทศ เพราะสถาบนั การศึกษาเป็ นแหลง่ ผลิตคนในงานสายอาชพี ตา่ งๆ ดงั นนั้ เมื่อเราตอ้ งการคนในสายงานอาชพี ใด ก็อาจจะเขา้ ไปตดิ ตอ่ เสาะหาจากสถาบนั การศึกษาตา่ งๆ2.3. แหลง่ จดั หางาน มที งั้ องคก์ ารที่เป็ นของเอกชนและรฐั บาลท่ีทาหนา้ ท่ีจดั หางาน ใหแ้ กป่ ระชาชนทา บางประเทศอาจมสี หภาพแรงงานท่ีทาหนา้ ท่ีในการจดั หางาน2.4.กลมุ่ คนที่ว่างงาน มีต่อหนา้ ถดั ไป

ในการสรรหาบคุ คลภายนอก ผบู้ ริหารจะตอ้ งพิจารณาลกั ษณะของตลาดแรงงานเป็ นปัจจยั ในประเด็นตา่ งๆดงั น้ี 1. ขอบเขตของตลาดแรงงาน 2. แรงงานที่มอี ยแู่ ละหาได้ 3. เงอ่ื นไขทางเศรษฐกิจ 4. ความนา่ สนใจขององคก์ าร 5. แรงงานใหมท่ เ่ี พง่ิ จบการศึกษาและเพง่ิ ทางานครงั้ แรก มกั จะเปลยี่ นงานบ่อย 6. บคุ คลทีม่ งี านอย่แู ลว้ และไมพ่ อใจในงานของตน 7. การสรรหาบคุ คลโดยอาศยั หนว่ ยงานหรือบบริษทั ที่ ปรึกษาดา้ นแรงงาน มีต่อหนา้ ถดั ไป

วธิ กี ารสรรหาหรอื การแสวงหาบุคคล1. ประกาศหรือโฆษณา เมอ่ื มตี าแหนง่ ว่างก็อาจทาไดโ้ ดยการประกาศหรือโฆษณาทางวิทยโุ ทรทศั น์ หนงั สอื พิมพ์ และอาจจะปิ ดประกาศตามสถานท่ีตา่ งๆ2. การตดิ ตอ่ โดยตรง ทาไดโ้ ดยสง่ คนขององคก์ ารเขา้ ไปตดิ ตอ่ โดยตรงตามแหลง่ ตา่ งๆ3. ใชว้ ิธีใหพ้ นกั งานท่ีทางานอยใู่ นองคก์ ารเป็ นผแู้ นะนาให้ เพราะพนกั งานในองคก์ ารยอ่ มมอี ยเู่ ป็ นจานวนมาก4. ตดิ ตอ่ องคก์ ารธรุ กจิ ที่ทาหนา้ ท่ีในการจดั หาคนใหแ้ กอ่ งคก์ ารตา่ งๆ มีตอ่ หนา้ ถดั ไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook