รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่ ลุม่ นก และกลมุ่ สัตว์เลย้ี ง ตล่ ะกลุ่มจะมีลักษณะ นธ์ระหว่างสมบัติของสสารกบั โครงสรา้ งและแรงยึดเหนย่ี วระหวา่ งอนุภาค รเกดิ ปฏิกริ ิยาเคมี รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่ิน สมบตั ทิ างกายภาพแตกต่าง - สำรวจ ขยะทพ่ี บบรเิ วณชายหาด และ แขง็ จะทนต่อแรงขดู ขดี วัสดุ เปรยี บเทยี บสมบัติของวสั ดุ จะเปลีย่ นแปลงรปู รา่ งเมอื่ มี กลับสภาพเดมิ ได้ วัสดุทน่ี ำ ด้เรว็ เมือ่ ไดร้ ับความรอ้ น าได้ จะใหก้ ระแสไฟฟ้าไหล าจนำสมบตั ติ ่าง ๆ มา กระบวนการออกแบบ โยชน์ในชีวิตประจำวนั ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๗๕ เฉลิมพระเกยี รติ
รหสั ตวั ช้ีวดั ตวั ช้วี ัด สาระการ ว 2.1 ป 4/3 3. เปรียบเทยี บสมบัตขิ องสสารท้ัง 3 - วสั ดเุ ปน็ สสารเพร ว 2.1 ป 4/4 สถานะ จากขอ้ มูลที่ไดจ้ ากการสงั เกต มวล สสารมีสถานะเปน็ ข การต้องการทีอ่ ยู่ รูปรา่ งและปริมาตรของ แก๊ส ของแขง็ มีปร สสาร ของเหลวมีปรมิ าตร 4. ใช้เคร่ืองมือเพอ่ื วัดมวล และปรมิ าตรของ ตามภาชนะเฉพาะส สสารทง้ั 3 สถานะ แก๊สมปี ริมาตรและ ภาชนะทบ่ี รรจุ สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงทก่ี ระ ประโยชน์ รหัสตัวช้ีวัด ตัวชว้ี ัด สาระการ ว 2.2 ป 4/1 1. ระบผุ ลของแรงโน้มถว่ งท่มี ีต่อวัตถจุ าก - แรงโนม้ ถว่ งของ หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ กระทำตอ่ วัตถุ มีทิ ว 2.2 ป 4/2 2. ใชเ้ ครอ่ื งช่งั สปริงในการวดั น้ำหนักของ และเป็นแรงไมส่ มั ผ วตั ถุ กับวัตถุหนง่ึ ๆ ทำใ ทำให้วัตถุมีนำ้ หนัก เครอ่ื งชงั่ สปริง นำ้ ห ของวัตถุ โดยวัตถทุ มาก วัตถุที่มมี วลน ว 2.2 ป 4/3 3. บรรยายมวลของวตั ถุทีม่ ผี ลต่อการ - มวล คือ ปรมิ าณ เปล่ียนแปลงการเคล่อื นทข่ี องวัตถุจาก ประกอบกนั เปน็ วัต หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ในการเปล่ยี นแปลง หลักสูตรกลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทย
รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถนิ่ ราะมมี วลและตอ้ งการทีอ่ ยู่ ของแขง็ ของเหลว หรอื ริมาตรและรปู รา่ งคงที่ รคงที่ แต่มรี ูปรา่ งเปลย่ี นไป สว่ นท่บี รรจขุ องเหลว ส่วน ะรูปร่างเปลยี่ นไปตาม ะทำตอ่ วัตถุ ลักษณะการเคลื่อนทีแ่ บบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น - งโลกเปน็ แรงดงึ ดูดที่โลก ทศทางเข้าสูศ่ ูนย์กลางโลก - ผสั แรงดึงดูดทีโ่ ลกกระทำ ใหว้ ัตถุตกลงสพู่ ืน้ โลก และ ก วดั น้ำหนกั ของวัตถุไดจ้ าก หนกั ของวตั ถุขน้ึ กบั มวล ทม่ี ีมวลมากจะมีน้ำหนัก น้อยจะมีน้ำหนักนอ้ ย ณเนื้อของสารทง้ั หมดที่ ตถุ ซง่ึ มผี ลตอ่ ความยากงา่ ย งการเคลอ่ื นทขี่ องวตั ถุ วตั ถุ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลิมพระเกยี รติ
รหัสตวั ชี้วดั ตัวช้ีวัด สาระการ ทีม่ ีมวลมากจะเปล ยากกว่าวตั ถุทีม่ มี ว นอกจากจะหมายถ แล้วยังหมายถึงการ เคล่อื นทขี่ องวัตถนุ สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลงั งาน การเปลย่ี นแปลงและการถ ชวี ิตประจำวนั ธรรมชาติของคล่นื ปรากฏการณท์ ่ีเกย่ี วขอ้ งกับเสียง แสง และคล่นื แม่เ รหัสตวั ช้ีวดั ตัวชีว้ ัด สาระการ ว 2.3 ป 4/1 1. จำแนกวตั ถเุ ปน็ ตัวกลางโปรง่ ใส - เมอื่ มองสง่ิ ตา่ ง ๆ ตวั กลางโปรง่ แสง และวัตถุทึบแสง จาก กนั้ แสง จะทำให้ลัก ลักษณะ การมองเห็นส่ิงต่าง ๆ ผ่านวัตถนุ นั้ ชัดเจนตา่ งกนั จึงจำ เปน็ เกณฑโ์ ดยใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์ ตวั กลางโปรง่ ใส ซ่ึง ชดั เจน ตวั กลางโปร ต่าง ๆ ได้ไม่ชดั เจน มองไม่เหน็ ส่ิงตา่ ง ๆ หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนร้วู ิทย
รเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ ล่ยี นแปลงการเคลอ่ื นทไ่ี ด้ วลนอ้ ย ดงั นนั้ มวลของวัตถุ ถึงเนื้อทัง้ หมดของวัตถนุ ้นั รตา้ นการเปลย่ี นแปลง การ นน้ั ด้วย ถ่ายโอนพลังงาน ปฏสิ ัมพนั ธ์ระหวา่ งสสารและพลังงาน พลงั งานใน เหลก็ ไฟฟา้ รวมท้ังนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ รเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น โดยมวี ัตถุตา่ งชนดิ กันมา - กษณะการมองเหน็ ส่งิ นน้ั ๆ จำแนกวตั ถุท่มี ากัน้ ออกเปน็ งทำให้มองเห็นสง่ิ ตา่ ง ๆ ได้ ร่งแสงทำใหม้ องเหน็ สงิ่ น และ วตั ถุทึบแสงทำให้ ๆ นนั้ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนไทยรัฐวทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิว ภายในระบบสุริยะที่ส่งผลต่อสิ่งมชี ีวติ และการประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยีอวกาศ รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวชว้ี ัด สาระการ ว 3.1 ป 4/1 1. อธิบายแบบรูปเสน้ ทางการข้นึ และตก - ดวงจันทร์เป็นบริว ของดวงจนั ทร์ โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ หมุนรอบตัวเองขณ ก็หมนุ รอบตวั เองด ตวั เองของโลกจากท ตะวนั ออกในทศิ ทา จากข้วั โลกเหนอื ท ปรากฏขึน้ ทางด้าน ทางด้านทศิ ตะวันต ๆ ว 3.1 ป 4/2 2. สรา้ งแบบจำลองทอ่ี ธบิ ายแบบรปู การ - ดวงจันทร์เป็นวัต เปลี่ยนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ รูปร่างของดวงจันท และพยากรณ์รูปร่างปรากฏของดวงจนั ทร์ ปรากฏของดวงจนั ท ไปในแต่ละวนั โดย รูปรา่ งปรากฏเป็นเ ตอ่ เนอ่ื งจนเต็มดวง ดวงจนั ทร์จะแหวง่ แ ตอ่ เน่อื งจนมองไม่เ รปู รา่ งปรากฏของด หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทย
วฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุรยิ ะ รวมทั้งปฏสิ ัมพนั ธ์ รเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่ - วารของโลก โดยดวงจันทร์ ณะโคจรรอบโลก ขณะที่โลก ดว้ ยเชน่ กัน การหมนุ รอบ ทศิ ตะวันตกไปทิศ างทวนเข็มนาฬกิ าเมอ่ื มอง ทำใหม้ องเหน็ ดวงจันทร์ นทิศตะวันออกและตก ตกหมุนเวยี นเป็นแบบรปู ซำ้ ตถทุ ่ีเปน็ ทรงกลม แต่ - ทรท์ ีม่ องเหน็ หรอื รูปรา่ ง ทร์บนทอ้ งฟ้าแตกตา่ งกัน ยในแต่ละวนั ดวงจันทรจ์ ะมี เสีย้ วท่ีมีขนาดเพมิ่ ข้ึนอย่าง ง จากน้นั รูปร่างปรากฏของ และมีขนาดลดลง อย่าง เหน็ ดวงจนั ทร์ จากนนั้ ดวงจนั ทร์จะเปน็ เส้ียวใหญ่ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรยี นไทยรัฐวทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชวี้ ัด สาระการ ว 3.1 ป 4/3 3. สร้างแบบจำลองแสดงองค์ประกอบของ ข้นึ จนเตม็ ดวงอกี คร ระบบสุริยะ และอธบิ ายเปรียบเทียบคาบ เป็นแบบรูปซำ้ กนั ท การโคจรของดาวเคราะห์ต่าง ๆ จาก แบบจำลอง - ระบบสุริยะเปน็ ระ ศูนยก์ ลางและมบี ร เคราะห์แปดดวงแล แตล่ ะดวงมขี นาดแล อาทติ ยแ์ ตกตา่ งกนั เคราะหแ์ คระ ดาวเ วัตถุขนาดเลก็ อื่น ๆ วัตถขุ นาดเลก็ อื่น ๆ บรรยากาศเน่ืองจา ใหเ้ กดิ เปน็ ดาวตกห สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ และความสมั พันธข์ องระบบโลก กร เปลยี่ นแปลงลมฟา้ อากาศและภูมิอากาศโลกรวมทั้งผลต่อสง่ิ มชี ีวิตและส่งิ แวดลอ้ ม รหัสตวั ชี้วัด ตัวชี้วัด สาระการ -- หลักสูตรกล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทย
รเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถนิ่ - ร้ัง การเปลีย่ นแปลงเช่นน้ี ทกุ เดอื น ะบบท่มี ีดวงอาทติ ยเ์ ป็น ริวารประกอบดว้ ย ดาว ละบริวาร ซึ่งดาวเคราะห์ ละระยะหา่ งจากดวง น และยงั ประกอบดว้ ย ดาว เคราะหน์ อ้ ย ดาวหาง และ ๆ โคจรอยูร่ อบดวงอาทิตย์ ๆ เม่อื เขา้ มาในช้นั ากแรงโน้มถ่วงของโลก ทำ หรอื ผพี งุ่ ไตแ้ ละอกุ กาบาต ระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผวิ โลก ธรณีพบิ ตั ภิ ยั กระบวนการ รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่ - - ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลิมพระเกียรติ
สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพือ่ การดำรงชีวิตในสงั ค คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ื่น ๆ เพื่อแกป้ ญั หา หรอื พัฒนางานอย่างมคี วามคดิ สรา้ งสรร โดยคำนึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชีวติ สงั คม และสิ่งแวดล้อม รหัสตวั ชี้วดั ตวั ช้ีวัด สาระการ -- สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบใน ส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ร้เู ทา่ ทัน แล รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชวี้ ัด สาระการ ว 4.2 ป 4/1 1. ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหา - การใชเ้ หตุผลเชงิ ต การอธบิ ายการทำงาน การคาดการณ์ กฎเกณฑ์ หรือเง่อื น ผลลพั ธ์ จากปัญหาอย่างงา่ ย ใชพ้ ิจารณาในการแ ทำงาน หรอื การคา - สถานะเรมิ่ ต้นของ จะให้ผลลัพธ์ทีแ่ ตก - ตัวอย่างปญั หา เช การคำนวณ, โปรแก และ มกี ารสัง่ งานท ระหวา่ งกนั , การเด วิธีการตา่ ง ๆ หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ย
คมท่มี กี ารเปลยี่ นแปลงอย่างรวดเร็วใช้ความร้แู ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ รคด์ ว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม รเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่ิน - - นชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ ละมีจรยิ ธรรม รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถน่ิ ตรรกะเปน็ การนำ - นไขทีค่ รอบคลุมทกุ กรณีมา แก้ปัญหา การอธิบายการ าดการณ์ผลลัพธ์ งการทำงานท่แี ตกตา่ งกัน กต่างกัน ชน่ เกม OX, โปรแกรมท่ีมี กรมท่มี ีตัวละครหลายตัว ทแ่ี ตกต่าง หรอื มกี ารสื่อสาร ดินทางไปโรงเรียนโดย ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรัฐวทิ ยา ๗๕ เฉลิมพระเกียรติ
รหสั ตวั ชี้วดั ตัวช้วี ัด สาระการ ว 4.2 ป 4/2 2. ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมอย่างงา่ ย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ หรือสื่อ และตรวจหา - การออกแบบโปร ขอ้ ผิดพลาดและแก้ไข ออกแบบโดยใช้ sto ออกแบบอัลกอรทิ มึ 3. ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตคน้ หาความรู้ และ - การเขียนโปรแกร ประเมินความน่าเชอื่ ถอื ของข้อมลู คำส่ัง ให้คอมพวิ เต ผลลพั ธ์ตาม ความต ใหต้ รวจสอบ การท ทที่ ำให้ผลลัพธ์ ไมถ่ จนกวา่ จะไดผ้ ลลัพธ - ตวั อย่างโปรแกรม มี การตอบโต้กบั ผใู้ ประจำวัน ภาพเคล การฝกึ ตรวจหาขอ้ ผ ผอู้ น่ื จะชว่ ยพฒั นาท ปญั หาไดด้ ยี ิ่งขนึ้ -ซอฟตแ์ วร์ทีใ่ ช้ในก Scratch, logo - การใช้คำค้นท่ีตรง ได้ ผลลพั ธท์ ่รี วดเร็ว ตอ้ งการ - การประเมนิ ความ พจิ ารณาประเภทข เผยแพรข่ อ้ มูล การ หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ย
รเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น รแกรมอย่างงา่ ย เชน่ การ oryboard หรือการ ม รมเป็นการสรา้ งลำดับของ ตอรท์ ำงาน เพอื่ ให้ได้ ตอ้ งการ หากมขี อ้ ผิดพลาด ทำงานทีละคำสั่ง เม่อื พบจดุ ถกู ตอ้ ง ให้ทำการแก้ไข ธ์ท่ถี ูกตอ้ ง มทมี่ ีเรอ่ื งราว เชน่ นิทานที่ ใช้ การ์ตนู ส้ัน เล่ากจิ วตั ร ล่อื นไหว ผิดพลาดจากโปรแกรมของ ทักษะการหาสำเหตขุ อง การเขียนโปรแกรม เช่น งประเด็น กระชบั จะทำให้ วและตรงตามความ มนา่ เชือ่ ถอื ของขอ้ มูล เชน่ ของเวบ็ ไซต์ ผูเ้ ขียน วันที่ รอ้างองิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรยี นไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
รหสั ตวั ชี้วดั ตวั ชวี้ ัด สาระการ 4. รวบรวม ประเมนิ นำเสนอขอ้ มลู และ - เม่อื ได้ขอ้ มลู ท่ีตอ้ ง สารสนเทศ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ท่ีหลากหลาย จะตอ้ งนำเน้อื หามา เพอื่ แกป้ ัญหาในชีวติ ประจำวนั แล้วเลือกข้อมูล ทีม่ สัมพันธก์ ัน - การทำรายงานหร จะตอ้ ง นำข้อมูลมา ของตนเอง ทีเ่ หมาะ วิธกี ารนำเสนอ (บรู - การรวบรวมข้อมลู ที่ต้องการ เตรยี มอ - การประมวลผลอ จดั กลุ่ม เรยี งลำดบั - วเิ คราะหผ์ ลและส ประเมนิ ทางเลอื ก ( - การนำเสนอขอ้ มลู ความเหมาะสม เช่น เอกสารรายงาน โป - การใชซ้ อฟตแ์ วร์เ ชีวิตประจำวนั เชน่ กลางวนั โดยใช้ซอฟ และเก็บข้อมลู ใช้ซ ประมวลผลขอ้ มลู ร คุณค่าทางโภชนาก หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ย
รเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น งการจากเวบ็ ไซต์ต่าง ๆ าพิจารณา เปรยี บเทียบ มีความสอดคล้องและ รือการนำเสนอข้อมลู าเรยี บเรียง สรุป เปน็ ภาษา ะสมกับกลุ่มเปา้ หมายและ รณาการกบั วชิ าภาษไทย) ล ทำได้โดยกำหนดหวั ขอ้ อปุ กรณใ์ นการจดบนั ทกึ อย่างงา่ ย เช่น เปรียบเทียบ บ การหาผลรวม สร้างทางเลือกทเ่ี ปน็ ไปได้ (เปรยี บเทียบ ตัดสิน) ลทำได้หลายลักษณะตาม น การบอกเล่า ปสเตอร์ โปรแกรมนำเสนอ เพ่ือแก้ปญั หาใน น การสำรวจเมนูอาหาร ฟตแ์ วรส์ ร้างแบบสอบถาม ซอฟต์แวรต์ ารางทำงานเพอื่ รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกับ การและสรา้ งรายการ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
รหัสตัวช้ีวดั ตวั ชีว้ ัด สาระการ อาหารสำหรบั 5 ว การสำรวจ รายการ และขอ้ มูลด้านโภช 5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั - การใชเ้ ทคโนโลยีส เขา้ ใจสิทธิและหน้าทข่ี องตน เคารพในสิทธิ เขา้ ใจสทิ ธิและหน้า ของผู้อื่น แจ้งผูเ้ กี่ยวข้องเม่ือพบขอ้ มลู หรอื ของผู้อื่น เชน่ ไมส่ ร บคุ คลที่ไมเ่ หมาะสม ผ้อู ื่น ไม่สร้าง ความ สง่ สแปม ข้อความล ส่วนตวั ของผอู้ น่ื สง่ ข้อมลู ส่วนตัวหรอื ก ไมไ่ ด้รับอนญุ าต ไม บญั ชีของผู้อืน่ - การสือ่ สารอยา่ งม - การปกป้องข้อมูล ระบบเมอ่ื เลกิ ใช้งาน เลขประจำตวั ประช หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ย
รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่ิน วัน ใชซ้ อฟตแ์ วร์นำเสนอผล รอาหารทเี่ ปน็ ทางเลอื ก ชนาการ สารสนเทศอยา่ งปลอดภัย าที่ของตน เคารพในสิทธิ รา้ งข้อความเท็จและส่งให้ มเดือดรอ้ นต่อผู้อ่นื โดยการ ลูกโซ่ ส่งต่อโพสต์ที่มีขอ้ มูล งคำเชญิ เลน่ เกม ไมเ่ ข้าถึง การบา้ นของบคุ คลอ่นื โดย ม่ใช้เคร่ืองคอมพวิ เตอร์/ ชอ่ื มีมารยาทและรูก้ าลเทศะ ลส่วนตวั เช่น การออกจาก น ไมบ่ อกรหสั ผ่าน ไมบ่ อก ชำชน ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลิมพระเกยี รติ
ตวั ชว้ี ดั และสาระการเร ชัน้ ประถมศึกษา สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระ ตา่ ง ๆ ในระบบนเิ วศ การถา่ ยทอดพลงั งาน การเปลีย่ นแปลงแทนท่ีในระบบนเิ วศ คว สิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการแกไ้ ขปัญหาสงิ่ แวดลอ้ ม รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ชว้ี ัด สาระการ ว 1.1 ป 5/1 1. บรรยายโครงสรา้ งและลักษณะของ - สง่ิ มีชีวติ ท้งั พชื แล สิง่ มีชวี ติ ทเี่ หมาะสมกบั การดำรงชีวติ ซงึ่ เป็น ลักษณะ ท่ีเหมาะส ผลมาจากการปรับตวั ของสง่ิ มชี ีวิตในแต่ละ เปน็ ผลมาจาก การ แหล่งท่ีอยู่ เพือ่ ใหด้ ำรงชีวติ แล ที่อยู่ เชน่ ผกั ตบชว ช่วยให้ลอยน้ำได้ ต ชายเลนมีรากค้ำจุน ครีบช่วยในการเคล ว 1.1 ป 5/2 2. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ระหว่างสิ่งมีชวี ติ - ในแหล่งทีอ่ ยหู่ นึ่ง กบั ส่งิ มชี วี ิต และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ความสัมพนั ธ์ ซ่ึงกัน สิง่ มชี ีวติ กบั สง่ิ ไม่มชี ีวติ เพ่อื ปร ว 1.1 ป 5/3 3. เขยี นโซ่อาหารและระบุบทบาทหนา้ ท่ี เชน่ ความสมั พนั ธก์ ของสิ่งมีชวี ิตทเ่ี ปน็ ผู้ผลิตและผบู้ รโิ ภคในโซ่ อาหาร เปน็ แหล่งท อาหาร เลี้ยงดลู กู อ่อน ใชอ้ หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทย
รยี นรแู้ กนกลาง าปีท่ี 5 ะหว่างสงิ่ ไม่มีชีวิตกับสง่ิ มีชีวิตและความสัมพนั ธร์ ะหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต วามหมายของประชากรปญั หาและผลกระทบที่มีตอ่ ทรัพยากรธรรมชาติและ มรวมทัง้ นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ รเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถนิ่ ละสัตวม์ ีโครงสร้างและ - สมในแต่ละแหลง่ ท่อี ยู่ ซง่ึ รปรบั ตัวของสิ่งมชี ีวิต ละอยู่รอดได้ในแต่ละแหล่ง วามชี อ่ งอากาศในกา้ นใบ ต้นโกงกางท่ีขนึ้ อยูใ่ น ป่า นทำให้ลำต้นไมล่ ้ม ปลามี ลอื่ นท่ใี นน้ำ ง ๆ ส่งิ มีชีวติ จะมี - สำรวจ และอธบิ ายความสมั พนั ธข์ อง นและกนั และสัมพันธ์กับ สิ่งมีชีวิตท่พี บในโรงเรยี น และชายฝง่ั ทะเล ระโยชนต์ อ่ การดำรงชีวติ กนั ด้านการกนิ กนั เปน็ - เขยี นโซอ่ าหารแสดงความสัมพันธข์ อง ทอ่ี ยอู่ าศยั หลบภัยและ สิ่งมีชวี ิตภายในโรงเรียน และบรเิ วณชายหาด อากาศในการหายใจ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษา โรงเรยี นไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ชีว้ ัด สาระการ ว 1.1 ป 5/4 4. ตระหนกั ในคุณคา่ ของสิง่ แวดล้อมทม่ี ตี อ่ - ส่ิงมีชวี ิตมกี ารกนิ การดำรงชวี ิตของส่ิงมีชวี ิต โดยมีส่วนรว่ ม กัน เป็นทอด ๆ ในร ในการดแู ลรักษาสิง่ แวดลอ้ ม สามารถระบุบทบา ผ้ผู ลิตและผู้บริโภค สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ก ต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และห ประโยชน์ รหสั ตัวช้ีวัด ตัวชวี้ ัด สาระการ -- หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทย
รเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถนิ่ นกันเปน็ อาหารโดยกินตอ่ รูปแบบของโซ่อาหารทำให้ าทหน้าทขี่ องสิง่ มชี ีวิตเป็น ค การลำเลียงสารผ่านเซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสรา้ ง และหน้าที่ของระบบ หน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กันรวมท้ั งนำความรู้ไปใช้ รเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถน่ิ - - ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลิมพระเกียรติ
สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคัญของการถา่ ยทอดลกั ษ สงิ่ มีชวี ิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสงิ่ มีชีวิต รวมท้ังนำความรู้ไ รหัสตัวช้ีวัด ตวั ช้ีวัด สาระการ ว 1.3 ป 5/1 1. อธบิ ายลกั ษณะทางพันธกุ รรมทีม่ กี าร - สิ่งมีชวี ิตทง้ั พชื สตั ถา่ ยทอดจากพ่อแม่สู่ลกู ของพืช สัตว์ และ เตม็ ท่จี ะมกี ารสบื พ มนษุ ย์ ดำรงพนั ธุ์ โดยลกู ท ว 1.3 ป 5/2 2. แสดงความอยากร้อู ยากเห็นโดยการถาม ถา่ ยทอดลักษณะทา คำถามเกย่ี วกับลกั ษณะท่ีคล้ายคลงึ กันของ ให้มีลกั ษณะทางพัน จากสงิ่ มชี ีวติ ชนิดอ ตนเองกบั พอ่ แม่ - พืชมกี ารถา่ ยทอด เชน่ ลกั ษณะของใบ - สัตว์มีการถ่ายทอ เช่น สีขน ลกั ษณะข - มนษุ ย์มีการถ่ายท เช่น เชงิ ผมท่ีหนา้ ผ การหอ่ ลน้ิ ลกั ษณะ หลักสูตรกล่มุ สาระการเรียนรู้วิทย
ษณะทางพนั ธกุ รรม สารพนั ธุกรรม การเปล่ยี นแปลงทางพนั ธุกรรมท่มี ผี ลตอ่ ไปใชป้ ระโยชน์ รเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่ิน ตว์ และมนษุ ย์ เมอื่ โต - พนั ธุ์เพ่ือเพิม่ จำนวนและ ทเ่ี กิดมาจะได้รบั การ ทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ทำ - นธกุ รรมทเี่ ฉพาะแตกตา่ ง อื่น ดลกั ษณะทางพันธกุ รรม บ สดี อก อดลักษณะทางพนั ธุกรรม ของขน ลกั ษณะของหู ทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม ผาก ลกั ยม้ิ ลักษณะหนังตำ ะของต่งิ หู ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๗๕ เฉลิมพระเกียรติ
สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพ หลักและธรรมชาตขิ องการเปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการ รหสั ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด สาระการ ว 2.1 ป 5/1 1. อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อ - การเปล่ยี นสถานะ ทำให้สสารร้อนขน้ึ หรือเยน็ ลง โดยใช้ เปลยี่ นแปลงทางกา หลักฐานเชงิ ประจักษ์ ใหก้ บั สสารถงึ ระดบั ของแข็งเปล่ยี นสถา การหลอมเหลว แล จนถึงอีกระดับหนง่ึ แก๊ส เรียกวา่ การก ความร้อนลงถงึ ระด สถานะเปน็ ของเหล และถ้าลดความรอ้ น ของเหลวจะเปลย่ี น เรยี กวา่ การแข็งตัว เปลี่ยนสถานะจากข ผ่านการเป็น ของเห ส่วนแกส๊ บางชนิดส ของแขง็ โดยไมผ่ ่าน เรียกว่า การะเหิดก ว 2.1 ป 5/2 2. อธิบายการละลายของสารในน้ำ โดยใช้ - เมือ่ ใสส่ ารลงในน หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ เดียวกันกบั น้ำทวั่ ท การละลาย เรียกสา หลักสตู รกลุม่ สาระการเรียนรู้วิทย
พนั ธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค รเกดิ ปฏิกิริยาเคมี รเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน ะของสสารเปน็ การ - ทดลอง และอธิบายการเปล่ียนสถานะของ ายภาพ เมอื่ เพม่ิ ความรอ้ น นำ้ ทะเล เมื่อได้รับความรอ้ น บหน่ึงจะทำให้สสารที่เป็น - วิเคราะหผ์ ลผลติ ท่ีได้ เมอื่ ให้ความร้อนกบั านะเป็นของเหลว เรียกวา่ น้ำทะเลจนนำ้ ระเหยออกหมด ละเมอ่ื เพม่ิ ความร้อนตอ่ ไป งของเหลวจะเปลยี่ นเปน็ กลายเป็นไอ แต่เมื่อลด ดับหนงึ่ แก๊สจะเปล่ียน ลว เรียกวา่ การควบแนน่ นตอ่ ไปอีกจนถึงระดบั หนึ่ง นสถานะเป็นของแข็ง ว สสารบางชนิดสามารถ ของแขง็ เปน็ แก๊สโดยไม่ หลว เรยี กว่า การระเหิด สามารถเปลย่ี นสถานะเปน็ น การเป็นของเหลว กลับ นำ้ แล้วสารนัน้ รวมเป็นเนื้อ - ทุกส่วน แสดงว่าสารเกดิ ารผสมท่ไี ดว้ ่าสารละลาย ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
รหสั ตัวชี้วดั ตวั ชวี้ ัด สาระการ ว 2.1 ป 5/3 3. วิเคราะห์การเปลยี่ นแปลงของสาร เมอ่ื เกิดการเปล่ียนแปลงทางเคมี โดยใช้ - เมื่อผสมสาร 2 ช ว 2.1 ป 5/4 หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ เกดิ ขึน้ ซึง่ มีสมบัตติ สารชนิดเดียว เกดิ ก 4. วิเคราะหแ์ ละระบกุ ารเปล่ียนแปลงที่ผนั ใหม่เกิดขึน้ การเปล กลับไดแ้ ละการเปลี่ยนแปลงทีผ่ นั กลับไมไ่ ด้ เปล่ียนแปลงทางเค หรือกลิ่นตา่ งจากสา หรือมตี ะกอนเกดิ ข ลดลงของอุณหภมู ิ เมอ่ื สารเกดิ การเปล สามารถเปลยี่ นกลับ เปลยี่ นแปลงที่ผนั ก หลอมเหลว การกล สารบางอยา่ งเกิดกา สามารถเปลย่ี นกลบั เปลย่ี นแปลงท่ีผันก การเกิดสนมิ หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทย
รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น ชนดิ ขน้ึ ไปแลว้ มีสารใหม่ - ต่างจากสารเดิม หรือเมอื่ การเปล่ียนแปลงแลว้ มีสาร - ล่ยี นแปลงนี้เรยี กวา่ การ คมี ซง่ึ สงั เกตได้จากมีสี ารเดิม หรอื มฟี องแก๊ส ขน้ึ หรอื มกี ารเพมิ่ ขนึ้ หรอื ลี่ยนแปลงแล้ว สาร บเป็นสารเดมิ ได้ เป็นการ กลบั ได้ เชน่ การ ลายเปน็ ไอ การละลาย แต่ ารเปลยี่ นแปลง แล้วไม่ บเปน็ สารเดมิ ได้ เป็นการ กลับไมไ่ ด้ เช่น การเผาไหม้ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงทีก่ ระ ประโยชน์ รหสั ตวั ชี้วัด ตัวชวี้ ัด สาระการ ว 2.1 ป 5/1 1. อธบิ ายวธิ กี ารหาแรงลัพธ์ของแรงหลาย - แรงลัพธเ์ ปน็ ผลรว แรงในแนวเดยี วกนั ท่ีกระทำต่อวตั ถุในกรณี โดยแรงลัพธ์ของแร ทีว่ ตั ถอุ ยนู่ ่งิ จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ เดียวกนั จะมขี นาดเ ว 2.1 ป 5/2 2. เขยี นแผนภาพแสดงแรงที่กระทำตอ่ วตั ถุ สองเมือ่ แรงทั้งสอง ที่อยู่ในแนวเดยี วกันและแรงลพั ธ์ทีก่ ระทำ ทศิ ทางเดยี วกนั แต ตอ่ วตั ถุ ของแรงท้ังสองเมอื่ ว 2.1 ป 5/3 3. ใช้เครอ่ื งช่งั สปริงในการวัดแรงทกี่ ระทำ เดียวกนั แตม่ ีทิศทา ตอ่ วัตถุ อยนู่ ่ิง แรงลพั ธท์ ีก่ ร - การเขียนแผนภาพ สามารถเขียนไดโ้ ดย แสดงทิศทางของแร แสดงขนาดของแรง ว 2.1 ป 5/4 4. ระบุผลของแรงเสียดทานทม่ี ีตอ่ การ - แรงเสยี ดทานเป็น เปลี่ยนแปลงการเคลอื่ นทีข่ องวตั ถุจาก ผวิ สมั ผัสของวตั ถุ เ หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ วัตถุนนั้ โดยถา้ ออก ว 2.1 ป 5/5 5. เขยี นแผนภาพแสดงแรงเสียดทานและ บนพน้ื ผิวหน่งึ ใหเ้ ค แรง ท่อี ย่ใู นแนวเดียวกนั ท่ีกระทำตอ่ วตั ถุ พ้นื ผวิ นน้ั ก็จะต้านก ถ้ำวตั ถกุ ำลังเคลื่อน วัตถนุ ้ันเคลอ่ื นทช่ี ำ้ หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทย
ะทำต่อวัตถุ ลักษณะการเคลอื่ นทแ่ี บบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทง้ั นำความรไู้ ปใช้ รเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิน่ - วมของแรงท่กี ระทำต่อวัตถุ รง 2 แรงทีก่ ระทำตอ่ วัตถุ เทา่ กบั ผลรวมของแรงทงั้ ง อยู่ในแนวเดยี วกันและมี ตจ่ ะมีขนาดเท่ากับผลต่าง อแรงทง้ั สอง อยใู่ นแนว างตรงข้ามกนั สำหรบั วัตถุท่ี ระทำตอ่ วัตถมุ คี า่ เป็นศนู ย์ พของแรงทก่ี ระทำต่อวตั ถุ ยใชล้ ูกศร โดยหัวลกู ศร รง และความยาวของลูกศร งทกี่ ระทำตอ่ วตั ถุ นแรงทีเ่ กดิ ขนึ้ ระหว่าง เพือ่ ต้านการเคลือ่ นที่ของ กแรงกระทำตอ่ วัตถุท่ีอยู่นิ่ง คลือ่ นที่ แรงเสยี ดทานจาก การเคล่ือนที่ของวัตถุ แต่ นท่ี แรงเสียดทานก็จะทำให้ ำลง หรือหยดุ นง่ิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๗๕ เฉลิมพระเกียรติ
สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถา่ ชีวิตประจำวนั ธรรมชาตขิ องคล่นื ปรากฏการณท์ ่ีเก่ยี วขอ้ งกับเสียง แสง และคลื่นแมเ่ รหัสตัวช้ีวดั ตัวช้วี ัด สาระกา ว 2.3 ป 5/1 1. อธิบายการได้ยนิ เสยี งผา่ นตัวกลาง จาก - การไดย้ นิ เสยี งน้นั หลักฐานเชงิ ประจักษ์ เปน็ ของแข็ง ของเห สง่ ผา่ นตวั กลางมาย ว 2.3 ป 5/2 2. ระบุตวั แปร ทดลองและอธบิ าย - เสยี งทไี่ ดย้ นิ มีระด ลักษณะและการเกิดเสยี งสงู เสยี งตำ่ ความถี่ของการส่ันข ว 2.3 ป 5/3 3. ออกแบบกำรทดลองและอธิบาย แหล่งกำเนดิ เสียงส ลกั ษณะและการเกิดเสียงดงั เสียงคอ่ ย แตถ่ ำ้ สนั่ ด้วยความถ ว 2.3 ป 5/4 4. วดั ระดับเสยี งโดยใช้เครือ่ งมือวดั ระดบั ดงั ค่อยท่ีได้ยินขึน้ ก เสยี ง แหล่งกำเนดิ เสยี ง โ ว 2.3 ป 5/5 5. ตระหนักในคณุ คำ่ ของความรเู้ รอ่ื งระดบั พลงั งานมากจะเกดิ เสยี งโดยเสนอแนะแนวทางในการหลีกเลย่ี ง เสยี งส่ันด้วยพลังงา - เสยี งดังมาก ๆ เป และลดมลพิษทางเสียง เสียงท่ีกอ่ ให้เกิดคว เดซเิ บลเป็นหนว่ ยท หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ย
ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างสสารและพลังงาน พลงั งานใน เหล็กไฟฟ้า รวมท้งั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ารเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่ นต้องอาศยั ตวั กลางโดยอาจ - หลว หรืออากาศ เสยี งจะ ยังหู ดับสงู ตำ่ ของเสยี งต่างกนั ขน้ึ กบั - ของแหล่งกำเนดิ เสียง โดยเม่อื ส่นั ด้วยความถ่ตี ่ำจะเกดิ เสยี งตำ่ ถ่สี งู จะเกดิ เสยี งสงู ส่วนเสียง กับพลงั งานการส่นั ของ โดยเม่ือแหล่งกำเนิดเสยี งส่ัน ดเสยี งดงั แตถ่ ้าแหลง่ กำเนิด านน้อยจะเกิดเสียงค่อย ป็นอันตรายตอ่ การได้ยนิ และ วามรำคาญเป็นมลพษิ ทางเสยี ง ทบ่ี อกถงึ ความดงั ของเสยี ง ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรัฐวทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
สาระที่ 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒ ภายในระบบสรุ ยิ ะท่สี ่งผลต่อสิง่ มีชีวติ และการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ รหัสตัวชี้วัด ตัวชวี้ ัด สาระกา ว 3.1 ป 5/1 1. เปรียบเทียบความแตกต่างของดาว - ดาวทม่ี องเห็นบน เคราะหแ์ ละดาวฤกษ์จากแบบจำลอง บริเวณทอี่ ยนู่ อกบร และดาวเคราะห์ ดา สามารถมองเห็นได แหล่งกำเนิดแสง แ แสงจากดวงอาทิตย สะท้อนเข้าสู่ตำ ว 3.1 ป 5/2 2. ใชแ้ ผนท่ดี าวระบุตำแหนง่ และเส้นทาง - การมองเห็นกลุม่ ด การขึน้ และตกของกลุม่ ดาวฤกษ์บนท้องฟา้ จากจินตนาการของ และอธิบายแบบรูปเส้นทางการข้ึนและตก ที่ปรากฏในทอ้ งฟ้า ของกลุม่ ดาวฤกษ์บนท้องฟ้าในรอบปี เรียงกันทต่ี ำแหน่งค ตกตามเส้นทางเดิม เดมิ การสังเกตตำแห ดาวฤกษแ์ ละกลุม่ ด แผนที่ดาว ซึง่ ระบุม ปรากฏ ผ้สู งั เกตสา ของมุมเงยเมอื่ สังเก หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ย
ฒนาการของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ ารเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่ - นท้องฟา้ อยู่ในอวกาศซง่ึ เปน็ รรยากาศของโลกมที ัง้ ดาวฤกษ์ าวฤกษเ์ ปน็ แหลง่ กำเนดิ แสงจงึ ด้ ส่วนดาวเคราะห์ ไม่ใช่ แต่สามารถมองเหน็ ได้เนอ่ื งจาก ย์ตกกระทบดาวเคราะหแ์ ล้ว ดาวฤกษม์ ีรปู รา่ งต่าง ๆ เกดิ - งผ้สู ังเกต กลุ่มดาวฤกษ์ตา่ ง ๆ าแต่ละกลุม่ มีดาวฤกษ์แต่ละดวง คงท่ี และมีเสน้ ทางการขึน้ และ มทกุ คืน ซึ่งจะปรากฏตำแหนง่ หน่งและการขึน้ และตกของ ดาวฤกษส์ ามารถทำได้โดยใช้ มมุ ทศิ และมุมเงยท่ีกลมุ่ ดาวนน้ั ามารถใช้มือในการประมาณค่า กตดาวในทอ้ งฟา้ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ และความสมั พันธข์ องระบบโลก กร เปลย่ี นแปลงลมฟ้าอากาศและภมู ิอากาศโลกรวมทงั้ ผลตอ่ สง่ิ มีชีวติ และสงิ่ แวดลอ้ ม รหสั ตวั ชี้วัด ตวั ชี้วัด สาระกา ว 3.2 ป 5/1 1. เปรยี บเทยี บปริมาณนำ้ ในแตล่ ะแหลง่ - โลกมีทงั้ นำ้ จืดและ และระบุปริมาณน้ำทีม่ นุษย์สามารถ ๆ ทม่ี ที ั้งแหล่งนำ้ ผวิ นำมาใช้ประโยชน์ได้ จากข้อมูลท่ีรวบรวม แม่น้ำ และแหล่งน้ำ ได้ บาดาล น้ำทั้งหมดข ประมาณร้อยละ 9 แหล่งนำ้ อื่น ๆ และ 2.5 เปน็ นำ้ จดื ถำ้ เ มากไปน้อยจะอยูท่ ใต้ดนิ ชน้ั ดนิ เยือกแ ทะเลสาบ ความชน้ื บึง แม่น้ำ และน้ำใน ว 3.2 ป 5/2 2. ตระหนักถึงคณุ ค่าของนำ้ โดยนำเสนอ - นำ้ จืดที่มนษุ ย์นำม แนวทาง การใชน้ ้ำอย่างประหยดั และการ ควรใชน้ ้ำอยา่ งประ อนรุ กั ษ์นำ้ ว 3.2 ป 5/3 3. สรา้ งแบบจำลองทอี่ ธิบายการหมุนเวียน - วัฏจักรน้ำ เป็นกา ของน้ำในวฏั จักรนำ้ ซำ้ เดมิ และตอ่ เนอ่ื ง ผิวดิน และนำ้ ใต้ดิน ของพืชและสัตว์ส่งผ ว 3.2 ป 5/4 4. เปรียบเทียบกระบวนการเกิดเมฆ หมอก - ไอน้ำในอากาศจะ นำ้ คา้ ง และนำ้ คา้ งแข็ง จากแบบจำลอง โดยมลี ะอองลอย เช หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทย
ระบวนการเปลีย่ นแปลงภายในโลกและบนผวิ โลก ธรณพี บิ ตั ิภัย กระบวนการ ารเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ - ละนำ้ เคม็ ซง่ึ อย่ใู นแหลง่ นำ้ ตา่ ง วดิน เชน่ ทะเล มหาสมทุ ร บึง ำใต้ดนิ เชน่ น้ำในดนิ และนำ้ ของโลกแบง่ เปน็ นำ้ เค็ม 97.5ซึ่งอยใู่ นมหาสมทุ รและ ะท่เี หลืออีกประมาณรอ้ ยละ เรียงลำดบั ปริมาณนำ้ จืดจาก ที่ ธารน้ำแข็งและพืดนำ้ แข็ง น้ำ แข็งคงตัวและน้ำแข็งใต้ดนิ นในดนิ ความชื้นในบรรยากาศ นสิง่ มีชีวิต มาใชไ้ ดม้ ปี รมิ าณน้อยมาก จงึ ะหยัดและร่วมกนั อนุรกั ษน์ ้ำ ารหมนุ เวียนของนำ้ ท่ีมแี บบรูป งระหวา่ งน้ำในบรรยากาศ นำ้ น โดยพฤตกิ รรมการดำรงชีวติ ผลตอ่ วัฏจกั รนำ้ ะควบแนน่ เปน็ ละอองนำ้ เลก็ ๆ ชน่ เกลอื ฝนุ่ ละออง เกสร ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรัฐวทิ ยา ๗๕ เฉลิมพระเกยี รติ
รหัสตัวชี้วดั ตัวช้วี ัด สาระกา ว 3.2 ป 5/5 5. เปรียบเทยี บกระบวนการเกิดฝน หิมะ ดอกไม้ เปน็ อนุภาค และลูกเหบ็ จากขอ้ มูลที่รวบรวมได้ จำนวนมากเกาะกล มาก เรยี กวา่ เมฆ แ รวมกันอย่ใู กล้พ้นื ด ควบแนน่ เป็นละออ พ้นื ดิน เรียกว่า น้ำค กวา่ จุดเยือกแขง็ น - ฝน หิมะ ลูกเหบ็ สถานะต่าง ๆ ทต่ี ก ละอองน้ำในเมฆท่รี หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ย
ารเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถน่ิ คแกนกลาง เมอื่ ละอองนำ้ ลุม่ รวมกนั ลอยอยสู่ ูงจากพ้นื ดิน แต่ละอองน้ำทเ่ี กาะกล่มุ ดิน เรียกวา่ หมอก ส่วนไอนำ้ ที่ องนำ้ เกาะอยูบ่ นพนื้ ผวิ วัตถุใกล้ คา้ ง ถำ้ อุณหภูมิ ใกลพ้ ้นื ดนิ ต่ำ นำ้ คา้ งก็จะกลายเป็นนำ้ คา้ งแข็ง เป็นหยาดน้ำฟ้าซง่ึ เป็นน้ำทม่ี ี กจากฟา้ ถึงพ้ืนดนิ ฝน เกิดจาก รวมตัวกนั จนอากาศไม่สามารถ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลกั ของเทคโนโลยเี พื่อการดำรงชีวิตในสงั ค คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพือ่ แกป้ ัญหา หรือพฒั นางานอย่างมีความคิดสร้างสรร โดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวติ สงั คม และส่ิงแวดล้อม รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชี้วัด สาระการ -- สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบใน ส่ือสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทัน แล รหสั ตวั ชี้วดั ตวั ช้วี ัด สาระการ ว 4.2 ป 5/1 1. ใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา - การใช้เหตผุ ลเชงิ ต การอธบิ ายการทำงาน การคาดการณ์ กฎเกณฑ์ หรือเงอ่ื น ผลลัพธ์ จากปญั หาอย่างงา่ ย ใช้พจิ ารณา ในการ ทำงาน หรือ การคา - สถานะเร่ิมตน้ ของ จะใหผ้ ลลัพธ์ท่แี ตก - ตวั อยา่ งปญั หา เช โปรแกรมทำนายตัว เรขาคณิตตามคา่ ขอ้ ทำงานบา้ นในช่วงว หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทย
คมท่มี ีการเปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ใช้ความรู้และทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ รคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างเหมาะสม รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ - - นชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการ ละมจี ริยธรรม รเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ - ตรรกะเปน็ การนำ นไขทค่ี รอบคลุมทุกกรณีมา รแกป้ ญั หา การอธิบายการ าดการณ์ผลลพั ธ์ งการทำงานที่แตกต่างกนั กต่างกนั ช่น เกม Sudoku , วเลข, โปรแกรมสร้างรูป อมูลเข้า, การจดั ลำดบั การ วันหยดุ , จัดวางของในครวั ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศึกษา โรงเรียนไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
รหัสตวั ช้ีวดั ตัวช้ีวัด สาระการ ว 4.2 ป 5/2 2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมทม่ี กี ารใช้ เหตผุ ลเชิงตรรกะอย่างงา่ ย ตรวจหา - การออกแบบโปร ว 4.2 ป 5/3 ขอ้ ผิดพลาดและแก้ไข เขียน เปน็ ขอ้ ความ - การออกแบบและ 3. ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตค้นหาขอ้ มลู ตรวจสอบเงอ่ื นไขท ติดตอ่ สือ่ สารและทำงานร่วมกัน ประเมนิ ไดผ้ ลลพั ธ์ที่ถูกต้อง ความน่าเชอื่ ถอื ของข้อมูล - หากมีข้อผิดพลาด ทลี ะคำสัง่ เม่อื พบจ ให้ทำการแก้ไขจนก - การฝึกตรวจหาขอ้ ของผู้อ่ืนจะช่วยพฒั ของปญั หาได้ดีย่งิ ข - ตวั อย่างโปรแกรม เลขคู่เลขค่ี โปรแกร สว่ นสงู แลว้ แสดงผล โปรแกรมส่ังให้ ตวั ล กำหนด - ซอฟตแ์ วร์ทใี่ ช้ในก Scratch, logo - การค้นหาข้อมูลใน พจิ ารณาผลการคน้ - การตดิ ต่อสื่อสารผ อเี มล บล็อก โปรแก หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ย
รเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถ่นิ รแกรมสามารถทำได้โดย ม หรือผงั งาน ะเขยี นโปรแกรมทีม่ กี าร ท่คี รอบคลุมทกุ กรณเี พอ่ื ให้ งตรงตามความต้องการ ดใหต้ รวจสอบการทำงาน จุดทท่ี ำใหผ้ ลลพั ธไ์ ม่ถกู ต้อง กวา่ จะไดผ้ ลลัพธ์ทถ่ี ูกต้อง อผดิ พลาดจากโปรแกรม ฒนาทักษะการหาสาเหตุ ขึ้น ม เช่น โปรแกรมตรวจสอบ รมรบั ขอ้ มูลน้ำหนักหรือ ลความสมสว่ นของร่างกาย, ละครทำตามเง่ือนไขที่ การเขียนโปรแกรม เช่น นอนิ เทอรเ์ นต็ และการ นหา ผ่านอินเทอร์เนต็ เชน่ กรมสนทนา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลิมพระเกยี รติ
รหสั ตวั ชี้วดั ตวั ชี้วัด สาระการ ว 4.2 ป 5/4 - การเขียนจดหมาย ภาษาไทย) - การใชอ้ ินเทอรเ์ น ทำงานรว่ มกัน เช่น กลุ่ม ประชำสัมพัน แลกเปลีย่ นความรู้ ภายใตก้ ารดแู ลของ - การประเมนิ ความ เปรยี บเทยี บความส ข้อมูลจากหลายแห ผเู้ ขียน วันทเี่ ผยแพ - ขอ้ มูลท่ีดตี อ้ งมีรา ขอ้ ดีและข้อเสีย ปร 4. รวบรวม ประเมนิ นำเสนอ ขอ้ มลู และ - การรวบรวมข้อมลู สารสนเทศ ตามวัตถุประสงคโ์ ดยใช้ ทางเลอื ก ประเมนิ ผ ซอฟต์แวรห์ รอื บริการบนอนิ เทอรเ์ น็ตท่ี เพื่อใช้ในการแกป้ ญั หลากหลาย เพือ่ แก้ปญั หาในชีวิตประจำวัน อยา่ งมีประสิทธภิ าพ - การใช้ซอฟต์แวร์ห ทหี่ ลากหลายในการ สร้างทางเลอื ก ประ ให้การแกป้ ญั หาทำ และแมน่ ยำ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ย
รเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรูท้ ้องถ่นิ ย (บรู ณาการกับวชิ า นต็ ในการตดิ ต่อสอื่ สารและ น ใช้นัดหมายในการประชุม นธก์ ิจกรรมในห้องเรยี น การ ความคิดเห็นในการเรียน งครู มนา่ เชอ่ื ถือของขอ้ มูล เช่น สอดคลอ้ ง สมบรู ณ์ของ หลง่ แหล่งตน้ ตอของข้อมูล พรข่ ้อมูล ายละเอยี ดครบทุกด้าน เชน่ ระโยชนแ์ ละโทษ ล ประมวลผล สร้าง ผล จะทำให้ได้สารสนเทศ ญหาหรือการตัดสินใจได้ พ หรอื บรกิ ารบนอนิ เทอรเ์ น็ต รรวบรวม ประมวลผล ะเมนิ ผล นำเสนอ จะช่วย ำไดอ้ ย่างรวดเรว็ ถกู ตอ้ ง ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรียนไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลิมพระเกยี รติ
รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ช้ีวัด สาระการ ว 4.2 ป 5/5 5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย - ตวั อยา่ งปญั หา เช มมี ารยาท เข้าใจสิทธิและหนา้ ท่ีของตน แผนที่ ในท้องถ่นิ เพ เคารพในสิทธิของผอู้ ่นื แจ้งผเู้ กี่ยวขอ้ งเมอื่ จดั การพืน้ ทีว่ ่างใหเ้ พบขอ้ มลู หรือบคุ คลทไ่ี มเ่ หมาะสม สำรวจความคดิ เห็น ข้อมลู นำเสนอข้อม web page อนั ตรายจากการใช อินเทอร์เนต็ - มารยาทในการติด อนิ เทอร์เน็ต (บรู ณ หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ย
รเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถนิ่ ช่น ถา่ ยภาพและสำรวจ พอื่ นำเสนอแนวทางในการ เกิดประโยชน์ ทำแบบ นออนไลน์ และวเิ คราะห์ มลู โดยการใช้ Blog หรอื ช้งานและอาชญากรรม ทาง ดต่อส่ือสารผ่าน ณาการกบั วิชาทีเ่ กีย่ วข้อง) ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรยี นไทยรฐั วิทยา ๗๕ เฉลิมพระเกยี รติ
ตัวชี้วัดและสาระการเร ช้นั ประถมศึกษา สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพนั ธร์ ะ ตา่ ง ๆ ในระบบนเิ วศ การถา่ ยทอดพลงั งาน การเปล่ียนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ คว สงิ่ แวดลอ้ ม แนวทางในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและการแกไ้ ขปัญหาสงิ่ แวดล้อม รหสั ตวั ชี้วดั ตวั ช้ีวัด สาระการ -- สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต ก ต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และห ประโยชน์ รหสั ตัวชี้วดั ตัวชวี้ ัด สาระการ ว 1.2 ป 6/1 1. ระบสุ ารอาหารและบอกประโยชนข์ อง - สารอาหารทอี่ ยูใ่ นอ สารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารท่ี คาร์โบไฮเดรต โปรต ตนเองรับประทาน และน้ำ ว 1.2 ป 6/2 2. บอกแนวทางในการเลือกรับประทาน - อาหารแต่ละชนิดป อาหารให้ได้สารอาหารครบถว้ นในสัดสว่ น แตกตา่ งกนั อาหารบ ทเ่ี หมาะสมกบั เพศและวยั รวมทั้งความ สารอาหารประเภทเ ปลอดภัยต่อสขุ ภาพ ประกอบดว้ ยสารอา ว 1.2 ป 6/3 3. ตระหนกั ถงึ ความสำคญั ของสารอาหาร - สารอาหารแตล่ ะป โดยการเลือกรบั ประทานอาหารที่มีสารอำ รา่ งกายแตกตา่ งกนั และไขมนั เป็นสารอ หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทย
รยี นรแู้ กนกลาง าปีท่ี 6 ะหว่างส่งิ ไมม่ ชี วี ิตกับสิ่งมีชีวิตและความสัมพันธร์ ะหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต วามหมายของประชากรปญั หาและผลกระทบท่มี ีตอ่ ทรัพยากรธรรมชาติและ มรวมท้ังนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์ รเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่ -- การลาเลียงสารผ่านเซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสรา้ ง และหน้าที่ของระบบ หน้าที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทางานสัมพันธ์กันรวมท้ั งนำความรู้ไปใช้ รเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ - อาหารมี 6 ประเภท ได้แก่ ตีน ไขมนั เกลอื แร่ วติ ามนิ ประกอบด้วยสารอาหาร ที่ - บางอยา่ งประกอบด้วย - เดียว อาหารบางย่าง าหารมากกว่าหนง่ึ ประเภท ประเภทมีประโยชนต์ อ่ โดยคารโ์ บไฮเดรต โปรตนี อาหารที่ให้พลงั งานแก่ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดบั ประถมศกึ ษา โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๗๕ เฉลมิ พระเกยี รติ
รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชี้วัด สาระการ ว 1.2 ป 6/4 หารครบถว้ นในสัดสว่ นท่ีเหมาะสมกบั เพศ ร่างกาย สว่ นเกลอื แร และวัย รวมท้งั ปลอดภยั ต่อสุขภาพ สารอาหารที่ไม่ใหพ้ ล ร่างกายทำงานไดเ้ ป็น อาหารเพอ่ื ใหร้ า่ งกาย เปลี่ยนแปลงของร่าง สุขภาพดี จำเปน็ ตอ้ ง เพียงพอกบั ความตอ้ สารอาหารครบถ้วนใ เพศ และวัย รวมทง้ั ต ปริมาณของวัตถุ เจือ ปลอดภัยตอ่ สขุ ภาพ 4. สร้างแบบจำลองระบบยอ่ ยอาหาร และ - ระบบย่อยอาหารป บรรยายหน้าท่ขี องอวยั วะในระบบย่อย ไดแ้ ก่ ปาก หลอดอา อาหาร รวมทั้งอธบิ ายการย่อยอาหารและ เล็ก ลำไส้ใหญ่ ทวาร การดดู ซมึ สารอาหาร หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ย
รเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ ร่ วติ ามนิ และนำ้ เปน็ - ลงั งานแก่รา่ งกาย แตช่ ว่ ยให้ นปกติ – การรับประทาน ยเจริญ เติบโต มีการ งกายตามเพศและวยั และ มี งรบั ประทานใหไ้ ด้พลงั งาน องการของรา่ งกาย และให้ได้ ในสดั สว่ นทีเ่ หมาะสมกับ ตอ้ งคำนงึ ถึงชนดิ และ อปนในอาหารเพ่ือความ ประกอบด้วยอวัยวะตา่ ง ๆ าหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้ รหนกั ตับ และตับอ่อน ซง่ึ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระดับประถมศึกษา โรงเรียนไทยรฐั วทิ ยา ๗๕ เฉลมิ พระเกียรติ
รหัสตวั ชี้วัด ตัวช้ีวัด สาระการ ว 1.2 ป 6/5 5. ตระหนักถึงความสำคัญของระบบยอ่ ย ทำหนา้ ทร่ี ว่ มกันในก อาหาร โดยการบอกแนวทางในการดูแล สารอาหาร รกั ษาอวยั วะในระบบยอ่ ยอาหารใหท้ ำงาน - ปาก มีฟันชว่ ยบดเ เปน็ ปกติ และมีล้ินชว่ ยคลกุ เค นำ้ ลาย มเี อนไซมย์ อ่ – หลอดอาหาร ทำห ปาก ไปยงั กระเพาะอ อาหารมกี ารย่อยโปร สร้างจากกระเพาะอ - ลำไสเ้ ล็กมเี อนไซม เองและจากตบั อ่อนท คาร์โบไฮเดรต และไ คาร์โบไฮเดรต และไ สารอาหารขนาดเลก็ นำ้ เกลอื แร่ และวิตา ลำไส้เลก็ เข้าสูก่ ระแส ส่วนตา่ ง ๆ ของร่างก คาร์โบไฮเดรต และไ แหลง่ พลงั งานสำหรับ นำ้ เกลือแร่ และวิตา ทำงานได้เปน็ ปกติ - ตับสร้างนำ้ ดีแลว้ ส ไขมันแตกตัว หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209